The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ขบวนการพระพุทธศาสนาใหม่ในโลกปัจจุบัน

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

ขบวนการพระพุทธศาสนาใหม่ในโลกปัจจุบัน

ขบวนการพระพุทธศาสนาใหม่ในโลกปัจจุบัน

ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมในโลกปจ จบุ ัน ๒๘๕
พระมหามติ ร ฐติ ปฺโญ,ผศ.ดร.
บทที่ ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

ในระดับจติ ใจนัน้ ความวิตกกังวลท่ีเรื้อรังทําใหเกิดอารมณฉุนเฉียวไดงาย มันจะ
ทําลายความสามารถในการตัดสนิ ใจและประสิทธิภาพในการทํางานใหลดลง ท้ังยังเปนเช้ือ
ที่จะนํามาซงึ่ ปญ หาสขุ ภาพอกี ดวย

การจัดการกับความวิตกกังวล ทานดาไลลามะไดแนะนําวา อันดับแรก เราตอง
พจิ ารณาใหช ัดเจนกอ นวาอะไรคือเหตุปจจัยท่ีทําใหเราเกิดความรูสึกหวาดวิตกกังวล ซ่ึงใน
บางกรณีความหวาดวิตกกังวลอาจเปนผลมาจากปญหาที่รุมเราทําใหจิตใจเกิดความกังวล
แตไ มว า มนั จะเกิดมาจากสาเหตุใดกส็ ามารถแกไขได ทางดา นรา งกายอาจจะตองไปพบหมอ
และใชย าชว ยในการบาํ บดั สวนทางดานจิตใจน้ันทานดาไลลามะไดแนะนําวา การบมเพาะ
ความกรุณาและการสรางความสัมพันธท่ีดีงามกับผูอ่ืนอยางสนิทสนม จะสามารถบํารุง
สุขภาพจติ และชว ยตอ สภู าวะหวาดวิตกได

ทานดาไลลามะไดแนะนําวิธีเผชิญหนากับความวิตกกังวลอีกวา ตามปกติแลว
ความกลัวมีหลายชนิด ซ่ึงความกลัวบางอยางก็เปนส่ิงที่สมเหตุสมผล เปนความกลัวท่ีเกิด
จากการหย่ังเห็นธรรมชาติอันเลวรายของภัยท่ีมีอยูในสังสารวัฏ เชน กลัวความโหดราย
ทารุณ กลัวการฆาฟน กลัวเปนทุกข กลัวอารมณดานลบ เปนตน ลวนแตเปนความกลัวท่ี
สมเหตุสมผล เพราะความกลัวเหลานี้จะทําใหเราเลือกเดินบนเสนทางท่ีถูกที่ควร กลอม
เกลาใหเรากลายเปนคนท่ีมจี ติ ใจอบอุน อาทร

ในทางกลับกันความกลั้วบางอยางเปนเพราะวาจิตของเราเปนผูปรุงแตงขึ้น เชน
เวลาเดินผานที่มืดๆ ก็จะรูสึกกลัว ทั้งๆ ที่ความเปนจริงแลวมันอาจจะไมมีอะไรเลยก็ได
นอกจากนนั้ ทา นดาไลลามะยงั ช้ีใหเห็นอีกวา หากสภาพจิตของเราไมดี หรือมีความรูสึกใน
แงล บ เราจะถายทอดความรูสึกดังกลาวไปยังผูอื่น ซึ่งพลอยจะทําใหคนอื่นกลายเปนคนไม
ดีและมีความคิดรายตามไปดวย ซ่ึงก็จะสงผลใหเรารูสึกกลัวความกลัวในลักษณะน้ีจึง
สมั พันธก บั ความเกลียด และเกิดข้ึนเพราะจิตปรุงแตง ฉะน้ัน วิธีการที่จะตอสูกับความกลัว
อันดับแรกตองใชความคิดหาเหตุผล และพยายามคนหาวาความกลัวของเรามีสาเหตุ
หรือไม หรือวา มีสาเหตุมาจากอะไร

คนในปจจุบันจํานวนไมนอยที่ถูกรุมเราดวยความวิตกกังวลนานาประการ มี
ปญหาท่ีทําใหเกิดความวิตกกังวลมากมาย หากคิดหาสาเหตุและพยายามกําจัดตนตอของ
ความกังวลไดก็จะทําใหจิตใจสงบมากข้ึน อีกวิธีหนึ่งท่ีทานดาไลลามะเห็นวาเปนประโยชน
มากท่ีจะชวยลดความกังวลใจคือ การปลูกฝงความคิดที่วาหากปญหาหรือสถานการณใดมี
ทางแกก็ไมจําเปนตองไปกังวลคือ ถาปญหาท่ีมีทางแกมีทางออก ยอมไมจําเปนตองปลอย
ใหมันครอบงําเรา การกระทําท่ีเหมาะสมคือการพยายามหาทางแกปญหาแทนที่จะเอาแต

๒๘๖ ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมในโลกปจ จุบนั
พระมหามติ ร ฐติ ปฺโญ,ผศ.ดร.
บทท่ี ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

วติ กกงั วล สูเ อาพลงั ไปจดจอกบั การแกปญหาดีกวา เชน เรามีความกังวลเก่ียวกับปญหาใน
ท่ีทํางาน

วิธีที่ดีท่ีสุดก็คือ พยายามหาทางแกไข เอาใจจดจอหาวิธีแก ดีกวาที่จะมัวมานั่ง
กงั วล

อกี วิธีหนึ่งท่ีทานดาไลลามะแนะนําคือ ถาไมมีทางออก ไมมีทางแก ไมมีโอกาสที่
จะแกไข ปญหาในลกั ษณะนเี้ รากังวลไปกไ็ มมีประโยชน เพราะถึงอยางไรเราก็ทําอะไรไมได
อยูแลว ในกรณีเชนนี้เราทําไดเพียงรูจักยอมรับความจริง ย่ิงเรายอมรับความจริงไดมาก
เทา ใดเรากจ็ ะรสู ึกวาปญ หาน้งี ายดายยิ่งข้ึนเทานั้น

ฉะน้ัน วิธีที่ดีที่สุดก็คือ การเผชิญหนากับปญหาโดยตรงแลวพิจารณาหาทาง
แกไข หากคดิ พจิ ารณาจนถึงที่สุดแลวไมพบทางแกก็ยอมรับสภาพความเปนจริง ก็จะทําให
จิตใจปลอ ยวางไดงา ยไมเ กดิ ความวติ กกังวลตามมา

หากทาํ ตามวธิ ีดงั กลาวแลวยงั ไมประสบความสําเร็จ ยังแกปญหาความวิตกกังวล
ไมได ทานดาไลลามะก็แนะนําวา เราควรท่ีจะหมั่นไตรตรองตรวจสอบความคิดดังกลาวให
มากข้ึนและหากเรามีแรงจูงใจในการท่ีจะกระทําความดี ทําสิ่งที่เปนประโยชนแกผูอื่น ส่ิง
เหลา นี้จะเปนเกาะทคี่ อยคุมกันเราจากความรสู กึ กลัวและวิตกกังวลได

แรงจูงใจนั้นเปนสิ่งสําคัญมาก เพราะการกระทําทั้งหมดของมนุษยมีส่ิงท่ีอยู
เบื้องหลังก็คือ แรงจูงใจ ถาเรารูจักบมเพาะแรงจูงใจอันบริสุทธิ์และจริงใจ รูจักปลุกเรา
ความปรารถนาที่จะชวยผูอ่ืน มีการกระทําตางๆ ท่ีตั้งอยูบนพื้นฐานของความเมตตากรุณา
และความเคารพ ถาหากทําไดเชนนี้เราจะทํางานประเภทใด สาขาวิชาชีพใด ก็จะทําได
อยางมปี ระสทิ ธภิ าพมากขึ้นโดยปราศจากความกลัวหรือวิตกกังวล จะไมมีความรูสึกท่ีเกรง
วา คนอน่ื จะคดิ อยางไรกบั ส่ิงท่เี ราทํา จะไมก งั วลวาเราจะบรรลเุ ปาหมายหรือไมจะทําสําเร็จ
ไดมากนอยเพยี งใด เพราะแมวาเราอาจจะไมบรรลุเปาหมายที่ต้ังไวเลย แตเราก็จะยังรูสึกดี
ทไ่ี ดท ุมเทพยายามกระทําในส่งิ ทด่ี ีงาม

แตหากในจิตใจของเรามีเจตนาท่ีไมดี มีความคิดแตในแงลบ แมวาคนอ่ืนจะยก
ยองสรรเสรญิ เรา หรือเราอาจทํางานบรรลเุ ปา หมาย แตเรากจ็ ะยงั ไมม ีความสุขอยนู ัน่ เอง

ในทัศนะของทานดาไลลามะ ทานเห็นวา ย่ิงเรามีแรงจูงใจในการทํางานเพ่ือ
ประโยชนของผูอ่ืนมากเทาไหร เราก็ย่ิงปราศจากความกลัวในเวลาที่ตองเผชิญกับ
สถานการณที่สรางความวิตกกังวลอยางรุนแรง และหลักการเดียวกันน้ีก็สามารถนํามาใช
เรื่องเล็กนอยในชีวิตประจําวันไดเชนเดียวกัน ถึงแมวาแรงจูงใจเราอาจจะไมไดเปนไปเพ่ือ
ประโยชนสุขของผูอื่นท้ังหมด แตการหยุดคิดพิจารณาใครครวญอยางมีสติจนเราแนใจวา
เราไมไดมจี ิตคดิ รา ยตอใคร มีแตเจตนาที่บริสุทธิ์ที่ปรารถนาอยากจะชวยผูอ่ืน สิ่งเหลาน้ีจะ

ขบวนการพระพทุ ธศาสนาใหมใ นโลกปจจบุ ัน ๒๘๗
พระมหามติ ร ฐติ ปโฺ ญ,ผศ.ดร.
บทที่ ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

ชวยลดความกังวลใจในสถานการณตางๆ ในชีวิตประจําวันลงได เจตนาของเราจึงเปนสิ่ง
สําคัญในการกระทําสิ่งตางๆ หากในจิตใจของเรามีแตส่ิงที่ดีงาม ในที่สุดส่ิงท่ีดีงามก็จะ
เกดิ ขึน้ ตามมา รอบขา งตัวเราก็จะมแี ตส ่งิ ทีด่ ีงาม

แตถาหากจิตของเราไมดีเสียแลว มองไปทางไหนก็จะเจอแตส่ิงท่ีไมดี ไม
นาช่ืนชม มีแตปญหา หากเราตองการที่จะพบกับความสุขและความสําเร็จในชีวิต ก็จง
เปล่ียนทัศนคติใหมใหรูจักมองสิ่งตางๆ อยางตรงไปตรงมา และสรางเจตจํานงท่ีดีงามให
เกิดมีข้ึนในจิตใจใหได เพียงเทาน้ีก็คิดวานาจะชวยทําใหความวิตกกังวลตางๆ ลดนอยลง
จนกระท่ังหายไปไดใ นทสี่ ดุ

ในชีวติ ประจาํ วนั ของเราแตละคนน้ัน ก็เปนธรรมดาท่ีจะตองมีความกังวลบางใน
บางคร้ัง แตสิ่งเหลาน้ีถามันไมมากเกินไปก็คงไมเปนสิ่งท่ีทําใหรางกายและจิตใจของเรา
สูญเสียความสมดุลไป ถาหากมีมากเกินไปก็คงจะไมดีเทาใดนัก การที่เราสามารถสราง
แรงจูงใจท่ีดีงาม หรือมีเจตนาดี มีความบริสุทธิ์ใจในการกระทําส่ิงตางๆ และพยายามทํา
ตามเจตนาน้นั อยางเต็มที่ แมวามันจะผดิ พลาดหรือลมเหลวก็ใหคิดวาไมมีเหตุผลใหตองนึก
เสียอกเสียใจเพราะเราไดทําดีที่สุดแลวความลมเหลวบางครั้งมันก็เปนสถานการณที่อยู
นอกเหนือกําลังความสามารถของเรา ก็ไมจําเปนตองไปกังวลหรือเสียใจใดๆ ทั้งส้ิน ดังนั้น
เจตนาท่ีแนวแนม่ันคงสามารถท่ีจะขจัดความกลัวและสรางความมั่นใจในตนเองใหเกิด
ขึ้นมาได

ในทางตรงกันขามหากเรามีเจตนาท่ีไมบริสุทธ์ิ เชน มีเจตนาที่จะคดโกงใครสัก
คนหน่ึง ถาเราทําลมเหลวเราก็ยอมกลุมอกกลุมใจ เพราะเขาอาจจะจับไดมีคนรูทันทําให
รูสึกอายท่ีไดกระทําส่ิงน้ันลงไป หรือถึงแมทําสําเร็จก็จะยังมีความรูสึกขุนเคืองอยูในใจอยู
น่ันเอง ยอ มหาความสุขไดยาก การมเี จตนาท่ีดเี ปยมไปดวยเมตตากรุณาจึงเปนหนทางที่จะ
สรางความสุขและขจัดความกังวลตางๆ ใหหมดส้ินไปจากหัวใจและจะทําใหเราแกปญหา
ตางๆ ไดเ ปนอยา งดี

คนท่ีมีจิตใจบริสุทธ์ิ มีเจตนาท่ีแนวแน เม่ือกระทําส่ิงใด จิตยอมเปนสมาธิจดจอ
อยกู บั สิ่งน้ัน ไมวอกแวก เหมือนกับคนทม่ี ีจิตคิดจะหลอกลวงคนอื่น ยอมหวาดระแวงกังวล
วาจะมีใครจับไดไลทัน จิตท่ีบริสุทธิ์มั่นคงทําใหเราทํางานไดอยางมีประสิทธิภาพ ความสุข
และความสําเร็จท่ีเกิดจากการทํางานก็ยอมเกิดข้ึนตามมา เมื่อเปนเชนนี้เราจึงควรหม่ัน
สํารวจตรวจสอบจิตใจของตนเองอยูเสมอวาในใจเรามีความคิดอะไรที่เปนอกุศลอยูหรือไม
หรือมีเจตนาทไ่ี มดีอยูห รือไม หากมเี รากค็ วรพยายามหาทางกําจดั มนั ใหห มดสิ้นไป

จิตใจที่เปนอกุศลและอารมณในดานลบ ไมวาจะเปนความโกรธ เกลียด อิจฉา
ริษยา ความวิตกกังวลตางๆ ส่ิงเหลานี้เปนเหมือนกับศัตรูท่ีคอยทิ่มแทงหัวใจของเราอยู

๒๘๘ ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมในโลกปจ จบุ นั
พระมหามิตร ฐติ ปโฺ ญ,ผศ.ดร.
บทที่ ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

ตลอดเวลา เปนเหมือนกับวามีศัตรูคอยติดตามที่จะทํารายเราทุกขณะ ไมวาเราจะอยูในท่ี
ทํางานหรอื อยูทบ่ี า นกต็ าม หากสามารถกําจดั มันใหหมดสนิ้ ไปได เรากจ็ ะรสู กึ มีอิสรเสรีและ
มคี วามสุขอยา งหาทีเ่ ปรียบไมได

อารมณดา นลบตา งๆ น้ันมนั ไมเพียงทาํ ใหเ ราเปนทุกขเทาน้ัน มันยังเปนตัวท่ีคอย
ก้ันหรือคอยทําลายความสัมพันธของเรากับผูอ่ืนท่ีเราตองติดตอสัมพันธดวย นอกจากนั้น
มนั ยงั เปน ตัวคอยลดทอนประสิทธิภาพในการทํางานของเราใหลดนอยลง สติปญญาในการ
คิดพจิ ารณาและวเิ คราะหสง่ิ ตางๆ กจ็ ะนอยลงตามไปดวย นอกจากนนั้ แลว อารมณดานลบ
เหลานั้นก็ยังสงผลเสียตอสขุ ภาพรางกายของเรา ทําใหเราเจ็บไขไดปวยงาย จะเห็นวาเพียง
อารมณดานลบอยางหนึ่งอยางใดเกิดข้ึนกับเรา มันจะสงผลเสียตอเรามากมายหลาย
ประการดวยกัน แลวทําไมเราจึงตองเก็บอารมณดานลบเหลานั้นไวในจิตใจของเราดวย
ทําไมจงึ ไมหาทางกาํ จดั มันใหห มดสิ้นไป หากเราอยากมีความสุขอยางแทจริงส่ิงแรกที่ทําได
งายท่ีสุดคือ การปลูกฝงอารมณดานบวกใหเกิดมีข้ึนแทนอารมณดานลบ เชน ความเมตตา
กรณุ า การปรารถนาดีอยากจะใหผูอ่ืนเปนสุข และพยายามชวยหาทางใหเขาพนจากความ
ทุกข ซึ่งจิตใจท่ีมีความเมตตากรุณาอยูน้ันจะทําใหจิตใจของเราเกิดความสงบเย็น มีผูคน
อยากคบหาสมาคมดว ย ใครๆ กอ็ ยากเขามาใกลชิด จึงทําใหเราสามารถสรางความสัมพันธ
กับผูอ ืน่ ไดเ ปน อยา งดี

เมอ่ื ตอ งการขอรองใหใ ครชวยเหลือ หรอื ตองการขอความรว มมือจากใครจึงทําได
งายนอกจากน้ันแลว จติ ใจท่มี ีความเมตตากรุณายอมมั่นคง ไมหวั่นไหว ไมกวัดแกวง จึงทํา
ใหประสิทธิภาพในการทํางานมีเพ่ิมมากข้ึน ความวิตกกังวลตางๆ ก็ยอมไมเกิดข้ึน เมื่อทํา
สิง่ ใดจึงสามารถที่จะทาํ ใหบรรลเุ ปาหมายไดง ายกวาจิตใจทมี่ ีแตอารมณในดานลบ

ความสุขและความสําเร็จของเราอยูท่ีตัวเราไมมีใครสามารถสรางความสุขใหเรา
ไดเ ทากบั ตวั เราเอง เพียงเราเปลี่ยนทัศนคติ และมีจิตตั้งม่ันอยูในแนวทางท่ีถูกตองดีงามก็
จะสามารถกําจัดอารมณดานลบ เชน ความวิตกกังวล ความโกรธเกลียดตางๆ ได ซ่ึงการมี
จิตตั้งมั่นอยใู นสิ่งท่ดี งี ามน้ีจะเปน ปจ จยั สาํ คญั ที่จะนําความสุขและความสําเร็จมาสูตัวเราได
ในทสี่ ุด

๖.๖.๑๓ การสรางความเช่อื ม่ันและความนบั ถอื ตนเอง
การสรางความเช่ือมั่นและความนับถือตนเอง ตอหนาคนอ่ืนเราดุเหมือนวาเปน
คนดี แตลับหลัง เรากระทําส่ิงที่ไมดีไมงาม ตัวเราเองยอมไมมีความสุข และมักจะ
หวาดระแวงวา สักวนั หน่ึงจะตองมีคนจับไดไ ลท นั

ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมในโลกปจ จุบนั ๒๘๙
พระมหามติ ร ฐติ ปฺโญ,ผศ.ดร.
บทท่ี ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

ความสาํ เร็จของชวี ิตนนั้ เกิดขนึ้ จากเหตุปจจยั หลายประการ แตส ่งิ หนง่ึ ท่ีสําคัญไม
นอยก็คือ การเชื่อมั่นและการใหความเคารพนับถือตนเอง หรือมีความเช่ือมั่นในตนเอง
อยา งพอเหมาะพอควร จึงจะทําใหเราสามารถบรรลุเปาหมายได ผูที่ไมมีความเคารพนับถือ
ในตนเองและมีความเช่ือม่ันในตนเองต่ํา จะมีความเพียรพยายามในการท่ีจะกาวตอไป
ขางหนานอยตามไปดวย คนท่ีไมมีความเช่ือม่ันในตนเองยอมไมกลาท่ีจะเผชิญกับส่ิงที่ทา
ทาย หรือความเสี่ยงตางๆ ที่จะทําใหกาวไปถึงเปาหมาย ในทางตรงกันขามคนท่ีมีความ
มน่ั ใจในตนเองสงู มากเกินไป กน็ ับวา เปนอนั ตรายพอๆ กนั เพราะคนเหลานี้จะผิดหวังและ
โกรธงา ย เม่อื โลกไมไ ดอ ยา งที่ตนเองตองการ และหากเขาไมสามารถทําชีวิตใหเปนไปตามที่
วาดฝนไวอ ยา งสวยงามได กจ็ ะเส่ียงตอการซึมเศรา และที่สําคัญคนที่ม่ันใจในตนเองสูงมาก
เกินไปก็มีโอกาสที่จะสําคัญตนผิดและทําใหเกิดความหยิ่งยโสโอหังไดมากขึ้น ซึ่งส่ิงเหลาน้ี
ลว นแตเ ปนอปุ สรรคตอ การสรา งสัมพันธภาพท่ีดีกับคนอ่ืนๆ ดวย

อยางไรก็ตาม การมีความม่ันใจในตนเองสูงนั้นมีท้ังแงลบ ในดานลบอาจทําให
เกดิ ความหย่ิงยโสไดง า ย ในดา นบวกอาจทาํ ใหเ กดิ ความเชื่อมน่ั และเกิดความมั่นใจ เชน คน
ท่ีไดปฏิญาณตนหรือต้ังจิตม่ันท่ีจะขจัดภาวะจิตทางลบ เพื่อชวยและยังความสุขสูงสุดให
เกิดขนึ้ แกส รรพชีวิตทัง้ ปวง ผทู ีท่ ศั นะและแรงบนั ดาลใจได เชนน้ี ตองอาศัยความเชื่อมั่นใน
แงนีจ้ งึ เปนส่งิ สําคญั เพราะทําใหมีจิตใจทก่ี ลา หาญ ชวยใหบรรลุเปาหมายที่ย่ิงใหญไ ด

แตส าํ หรบั คนทั่วไปแลว ความเช่อื มน่ั ในตนเองกลับกลายเปนสงิ่ ที่ตรงกันขาม คน
ทีม่ ีความมนั่ ใจในตนเองสูง มกั ถูกมองวา เปน คนท่ีมีความหยิ่งยโส มีความอหังการเพราะคน
เหลาน้ีมักจะมองวาตนเองเหนือกวาคนอื่นเสมอจึงเกิดความทะนงตน ตามปกติแลวความ
อวดดีจงึ ตา งจากความเช่ือมนั่ ในตนเองอยางพอเหมาะพอควรที่มักจะนําไปสูผลลัพธในดาน
บวก

ความเชื่อมั่นในตนเองมักจะเปนสิ่งท่ีอยูภายในใจ แตความอวดดี การลําพองตน
มักจะเปนกิริยาท่ีแสดงออกมาภายนอก และหากการเช่ือม่ันในตนเองทําใหเราตอง
กลายเปนคนหยิง่ ยโส ยอมไมใ ชสิ่งทด่ี ีแน ในทางตรงกันขามหากเรามีความเช่ือมั่นในตนเอง
ที่จะทําส่ิงตางๆ ในทางที่ดีงาม รูจักใหเกียรติและเคารพผูอ่ืน พฤติกรรมที่แสดงออกก็ยอม
เปนไปไดด ว ยความออ นนอมถอมตน

ทานดาไลลามะไดแนะนําวิธีท่ีจะชวยแกไขความอวดดีหรือความทะนงตนน้ันวา
สามารถทําไดหลายวิธี เชน ใหนึกถึงสาขาวิชาตางๆ มากมายท่ีเราไมรู ซ่ึงในระบอบ
การศกึ ษาสมยั ใหมน้ันมสี าขาวิชาหลากหลายมากมายการนึกถึงความหลากหลายของสาขา
ตางๆ ทตี่ นเองไมรูนัน้ จะชว ยทาํ ใหค วามทะนงตนลดลงไดบา ง

๒๙๐ ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมใ นโลกปจ จบุ นั
พระมหามิตร ฐติ ปฺโญ,ผศ.ดร.
บทท่ี ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

สําหรับคนท่ีไมคอยมีความเชื่อมั่นในตนเอง หรือมีความเช่ือมั่นในตนเองนอย
ทานดาไลลามะแนะนําใหสํารวจตรวจสอบตนเองวา เรามีความรูความสามารถมากขนาด
ไหนในการกระทําส่ิงตางๆ เราตองรูจักประเมินตนเองเกิดข้ึน ทานดาไลลามะไดเนนยํ้าวา
การซ่ือตรงตอตนเองและตอผูอื่นในเรื่องท่ีวา คุณทําอะไรไดหรือไมได จะชวยลดทอน
ความรูส ึกขาดความเชอื่ ม่ันในตนเองลงได

การรูจักชื่นชมและยกยองตนเองอยางซ่ือสัตยและปราศจากความกลัว เปนสิ่ง
สําคัญท่ีจะชวยตอตานความรูสึกสงสัยในตนเองและการมีความเช่ือมั่นในตนเองตํ่า ฉะนั้น
เราตองรูจักวิเคราะหตนเองอยางตรงไปตรงมาถูกตองตามความเปนจริง โดยไมมีอคติใดๆ
เขามาเกี่ยวของ ไมหลงตนเอง หรือประเมินตนเองเกินความเปนจริง ซ่ึงการซื่อสัตยตอ
ตนเองน้นี อกจากจะทาํ ใหเราสามารถกําจดั สภาวะจิตในดานลบใหหมดไปไดแลว ก็ยังทําให
เกดิ ความรูส กึ เช่ือมน่ั ในตนเองขน้ึ มาอกี ดว ย

การวิเคราะหตนเอง อาจวเิ คราะหถึงสภาวะจิตตางๆ ที่อยูในตนเอง เชน อารมณ
ดานลบตางๆ มีอะไรบาง มีอะไรเปนสาเหตุ อารมณดานบวกมีอะไรบาง มันเกิดขึ้นมาจาก
สาเหตใุ ด ความรคู วามสามารถทเี่ รามีอยู มอี ะไรบาง มนั เกิดข้นึ มาไดอ ยางไร เปนตน

การวเิ คราะหต นเองอยูอยางนี้เปนประจําจะทําใหเราเขาใจตนเองอยางรอบคอบ
รอบดาน และจะชวยใหเรากําจัดสาเหตุแหงความทุกขทั้งหลายท้ังปวงไดดวย เชน ความ
หย่ิงยโส ความอหังการตางๆ ซึ่งนับวาเปนสวนหน่ึงของอารมณในดานลบ หากมันมีอยูใน
ตัวเรา เราก็พยายามหาสาเหตุวามันเกิดขึ้นมาจากอะไร และจะทําลายมันอยางไร ซ่ึงใน
ทส่ี ดุ เราจะสามารถทําใหมนั หมดสน้ิ ไปได

การหมั่นทําลายอารมณในดานลบท่ีมีอยูในตัวใหหมดไปท่ีละเล็กละนอยนั้น จะ
ทําใหเรารูสึกนับถือตนเองขึ้นมาได เพราะเรายอมรูดีวาตัวเราไดพัฒนาคุณงามความดีมาก
ขนึ้ เรื่อยๆ อยางไมห ยดุ ย้ัง พรอมทงั้ มีจติ มงุ มั่นที่จะกําจัดสิ่งท่ีไมดีงามทั้งหลายใหหมดส้ินไป
และพยายามสรางอุปนิสยั ที่ดงี ามข้นึ มาแทนท่ี

ความดีงามที่เราพยายามสรางขึ้นมานั้นจะทําใหเราเคารพตนเองไดอยางเต็ม
ภาคภูมิ ผูที่เคารพตนเองไดจึงไมกังวลวาจะมีใครเคารพเราบางหรือไมเพราะเราจะไดรับ
ความเคารพไปโดยปริยาย

หรอื ถึงแมวาคนอน่ื จะไมท ราบวา เราทําคณุ งามความดอี ะไร แตการที่เราพยายาม
กําจัดอารมณดานลบใหหมดไปอยางสิ้นเชิงจากตัวเรา ก็จะสงผลออกมาคือ ทําใหเรามี
พฤตกิ รรมทด่ี งี ามตามมาในแงน ผี้ ูค นท่ีเกย่ี วขอ งสมั พนั ธก ับเรากต็ อ งก็ยอมเกิดความสบายใจ
และรูสึกเปนมิตรกับเราไดงายมากข้ึน จิตใจภายในของเราจึงเปนสิ่งสําคัญอยางมากท่ีจะ
เปน ตวั กําหนดพฤตกิ รรมของเรา

ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมในโลกปจ จบุ นั ๒๙๑
พระมหามิตร ฐติ ปโฺ ญ,ผศ.ดร.
บทท่ี ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

หากเรามีพฤตกิ รรมหนา ไหวหลังหลอกคือ ตอหนาคนอ่ืนเราดูเหมือนวาเปนคนดี
แตลับหลังเรากระทําส่ิงท่ีไมดีไมงาม ตัวเราเองยอมไมมีความสุขและมักจะหวาดระแวงวา
สักวันหนึ่งจะตองมีคนจับไดไลทัน ซึ่งการกระทําที่ไมดีเชนน้ันจะทําใหเรารูสึกเปนทุกขอยู
ตลอดเวลา และแนนอนเราคงไมสามารถทจ่ี ะเคารพตนเองไดลง

การพยายามฝก หัดขดั เกลาตนเองดวยการกําจัดสงิ่ ที่ไมดีงาม หรืออารมณทางลบ
ใหหมดส้ินไปจากดวงใจน้ัน นอกจากจะทําใหเรารูสึกเชื่อมั่นและเคารพตนเองมากข้ึนแลว
ยังทําใหเรารูจักเคารพผูอื่นดวยเพราะการหย่ิงยโส จองหอง การอวดดี เปนอารมณในดาน
ลบเชนเดียวกับอารมณอ่ืนๆ และเม่ือแสดงออกมาเปนพฤติกรรม ยอมเปนพฤติกรรมท่ีไมดี
งามตามไปดว ยการกาํ จัดอารมณทางลบทง้ั หลายก็จะชว ยใหเราสามารถกําจัดอารมณท่ีเปน
ความหย่ิงยโส ความทะนงตน การยกตนขมทานตางๆ ใหหมดส้ินไป ซ่ึงในท่ีสุดก็จะเหลือ
เพียงความออ นนอมถอ มตน อนั จะทาํ ใหเรากลายเปนทีร่ กั หรือเปน ผูท่ีคนอื่นอยากเขามาหา
มาชิดใกลไดงา ยขึ้น

ในสังคมไทยการออนนอมถอมตนเปนส่ิงสําคัญมากท่ีควรปลูกฝงใหกับอนุชนรุน
หลัง หากใครมีอุปนิสัยในลักษณะนี้จะทําใหเขาสามารถท่ีจะปฏิสัมพันธกับผูอื่นไดงายข้ึน
คือ สามารถที่จะสรางมิตรภาพใหเกิดข้ึนไดงาย และอุปนิสัยท่ีดีงามนี้ยอมสรางความสุข
และความสาํ เร็จใหเ กดิ ขึ้นได

ความออนนอมถอมตนกับความออนแอน้ันเปนคนละอยางกัน ผูที่ออนนอมถอม
ตนเปนผูท ีไ่ มวางทาขมผอู น่ื เพื่อทาํ ใหผ ูอ ่ืนเหน็ วา ตนเองนั้นเกงหรือมีอํานาจมากกวา แตจะ
วางตัวอยางเหมาะสมในสถานการณตางๆ รูจักกาลเวลา สถานท่ี และบุคคล วาในแตละ
สถานการณควรจะวางตัวอยางไรใหเหมาะสมกับสถานการณน้ันๆ และคนที่ออนนอมถอม
ตนจะไมรูสึกออนแอและหวั่นไหวไปกับส่ิงที่ยั่วยุ เชน เมื่อเห็นการกระทําใดที่ไมดีงาม เขา
พรอ มที่จะยนื หยดั รักษาความดงี ามนัน้ ใหค งอยู ไมวา จะเกดิ อะไรขน้ึ กต็ าม

บางคนอาจคิดวาความออนนอมถอมตนจะทําใหตนเองดูตํ่าตอย แตความจริง
ไมไดเปนเชนนนั้ เลย ย่ิงใครมีความออนนอมถอมตนมากเทาใด ก็ย่ิงดูสูงมากเทาน้ัน ในทาง
ตรงกันขาม ความหย่ิงยโส ความอหังการ การยกตนขมทานตางหากที่เปนส่ิงที่ดูตอยตํ่า
ถึงแมวาเขาจะอวดตนเอง ขมผูอื่นใหรูสึกวาตัวเขานั้นสูงสง แตคนทั่วไปจะมองวา
พฤตกิ รรมน้นั เปน พฤตกิ รรมทที่ าํ ใหเขาตํ่าลงย่งิ กวาเดิมเสียอกี

นอกจากน้ันแลว พฤติกรรมหย่ิงยโส อหังการเหลานี้ ยังเปนสิ่งท่ีจะทําใหเกิด
ความเกลียดชัง ความอิจฉาริษยาใหเกิดข้ึนไดงายดวย ซ่ึงจะสงผลตอสัมพันธภาพท่ีมีกับ
ผอู ่นื และเมอื่ เปน เชน น้ันกเ็ ทากบั วา คนท่ีหยิ่งยโส กจ็ ะมีอุปสรรคขวางก้ันไมใหกาวหนามาก

๒๙๒ ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมใ นโลกปจ จุบัน
พระมหามิตร ฐติ ปโฺ ญ,ผศ.ดร.
บทท่ี ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

ขึ้นไปอีกเชน เพื่อรวมงานท่ีไมชอบเขา ก็จะคอยขัดขวางความเจริญกาวหนาของเขา เปน
ตน

พฤติกรรมที่ไมดีงามไมวาจะเปนความโลภ ความโกรธ ความเกลียด ความอิจฉา
ริษยาก็ตาม ส่ิงเหลาน้ีลวนแตสงผลไปในทางท่ีไมดีท้ังสิ้น และมันจะมีผลตอความ
เจริญกา วหนา ของเราโดยทเ่ี ราอาจไมรูตวั เพราะจิตใจทีไ่ มดงี ามยอมสงผลที่ไมดีงามออกมา
เปนเหตใุ หเ กิดความเกลียดชงั ตางๆ มากมายตอผูทมี่ าเก่ยี วของสัมพนั ธดว ย

ในสวนตัวของความรัก ความเมตตา ความปรารถนาดีที่จะเห็นผูอื่นมีความสุข
การมเี จตนาท่ีม่ันคงแนวแนในการกระทําความดีตางๆ ส่ิงเหลานี้นอกจากจะชวยเพ่ิมความ
เช่ือม่ันใหกับตัวเราในการท่ีจะทํางานเพ่ือสังคมแลวยังทําใหเรารูสึกเคารพนับถือในตนเอง
และเปนสิ่งท่ีจะชวยสรางสัมพันธภาพที่ดีงามใหเกิดข้ึนดวย คนที่จิตใจเต็มเปยมไปดวย
ความรักความเมตตาน้ันจะไมสรางความโกรธเกลียดหรือความอิจฉาริษยาใหเกิดข้ึน มีแต
มุงม่ันทาํ ความดี และย่ิงเห็นคนอ่ืนไดดีมีความสุขเพียงใด ก็ย่ิงทําใหเขารูสึกช่ืนชมอยางเต็ม
ใจมากขึ้นเทานนั้

ทานดาไลลามะไดกลาวไววา ธรรมชาติพื้นฐานด้ังเดิมของมนุษยน้ันคือความ
เมตตากรณุ า แตท่เี รามีความโกรธความเกลียดชังเกิดขึ้นกเ็ พราะกิเลสที่มาครอบงําจิตใจเรา
ไว หากเราสามารถทําลายกิเลสใหหมดส้ินไปไดในจิตใจของเราก็จะเหลือแตความเมตตา
กรุณา พรอมท่ีจะเสียสละเพ่ือความสุขของผูอ่ืนอยางไมมีท่ีสิ้นสุด ในแงน้ีจิตใจท่ีบริสุทธิ์
มองเห็นความเปนจริงของชีวิต จึงมีความมุงม่ันแนวแนในการท่ีจะรักษาความดีงาม และ
พรอ มทจ่ี ะดําเนินชวี ิตตามแนวทางนน้ั อยา งมนั่ คง ไมห วัน่ ไหวไปกับสิง่ ย่วั ยทุ ง้ั หลาย๔๙

ทานดาไลลามะไดใ หขอคิดไววา ส่ิงสําคัญอยางหน่ึงคือ เราตองหม่ันเตือนตนเอง
อยูเสมอ เชนเวลาท่ีเรากระทําอะไรผิดพลาดไป ก็เตือนตนเอง และดึงตนเองกลับมาสู
แนวทางที่ดีงามตอไปซึ่งผลที่เกิดข้ึนจากความดีงามท่ีเราไดกระทําไวน้ัน จะทําใหเราเกิด
ความเชื่อม่ันและเคารพตนเองอยางสุดใจ ทําใหเรากาวไปในทางธรรมไดอยางมั่นคง ไม
หวดหวัน่ และไมหวั่นไหวตออุปสรรคปญหาใดๆ ท้ังส้ิน ซ่ึงในท่ีสุดก็ยอมสามารถท่ีจะไปถึง
เปาหมายอันสูงสุดที่ตั้งไว ทําใหเราไดพบแตความสุขความเจริญในชีวิตตลอดไป “ความ
ออนนอ มถอ มตน กับความออนแอน้ันเปน คนละอยา งกนั ”

๖.๖.๑๔ การฝก จิตในชีวิตประจําวนั
อารมณดานลบตางๆ น้ัน ถือวาเปนพลังแหงความหายนะท่ีแทจริงของมวล
มนษุ ย และอาจกลาวไดว าปญ หาทัง้ หลายทงั้ ปวงทีเ่ กดิ ข้ึนกับตวั เราแตละคนนั้น เพราะเรามี

๔๙ ราช มามญั , the Holiness the Dalai Lama, หนา ๑๓๔.

ขบวนการพระพทุ ธศาสนาใหมใ นโลกปจจุบนั ๒๙๓
พระมหามิตร ฐติ ปโฺ ญ,ผศ.ดร.
บทที่ ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

อารมณดานลบเหลานี้อยูในใจ การฝกจิตเปนสิ่งสําคัญอยางย่ิงที่จะทําใหเราสามารถกําจัด
ความทุกขไดอยางหมดส้ิน หรือถือแมวาเราจะไมสามารถทําความทุกขใหหมดส้ินไปตาม
อุดมคติทางพระพุทธศาสนา แตอยางนอยการฝกจิตเปนประจําในชีวิตประจําวันจะชวยทํา
ใหค วามทุกขท ีม่ อี ยใู นจติ ใจของเราลดนอยลง

ตามปกตแิ ลวคนเราทุกคนปรารถนาความสุข แตที่เรายังพบกับความทุกขอยูเปน
ประจําทุกวันอยางไมมีที่ส้ินสุดนั้น ก็เพราะวาเรายอมปลอยใจใหความคิดฝายอกุศลหรือ
ความคดิ ในแงลบตา งๆ เขาครอบงําจิตใจทําใหจิตใจของเราเกิดความมัวหมอง และจิตท่ีมัว
หมองน้ีเองท่ีเปนเหตุใหเราสรางความทุกขใหมใหเกิดข้ึนอยูรํ่าไปท้ังแกตนเองและผูอื่นท่ี
เกี่ยวของ การฝกจิตจะชวยใหเราสามารถปรับเปลี่ยนวงจรแหงความทุกขกลายเปน
ความสขุ เปลย่ี นจติ ทีไ่ มดีใหก ลายเปน ดไี ด

การฝกจิตท่ีเราเรียกวา การภาวนา เปนการใครครวญพิจารณาถึงธรรมชาติอัน
เปนทุกขของชีวิต และคิดหาวิธีที่จะกําจัดมันใหหมดสิ้นไป รวมไปถึงการสรางทัศนคติใหม
ตั้งจิตมุงม่ันเพ่ือจะกันไมใหเผลอไปคิดในสิ่งท่ีเปนอกุศล อันเปนการปองกันตนเองไมใหไป
กระทําส่ิงท่ีไมดีไมวาจะเปนทางกายหรือทางวาจาก็ตาม เพราะใจน้ันเปนใหญหากใจไมคิด
ในสิ่งทเี่ ปนอกุศลเลย การกระทําทางกายและทางวาจายอ มเปน ไปในทิศทางเดยี วกัน

การฝก จติ ในชีวิตประจําวนั นน้ั สามารถทาํ ไดห ลายวิธี เชน การพจิ ารณาถึงผลเสีย
ของอารมณในดานลบ มีความโกรธ ความไมพึงพอใจ การขาดความอดทนอดกลั้น ความ
กลัว และความเปนปฏิปกษ เปน ตน ท่ที ําใหเ ราเปนทุกข หากเราพิจารณาหาสาเหตุท่ีทําให
เกิดสิง่ เหลา น้ีแลวหาทางกาํ จดั สาเหตุเหลานนั้ ไปทีละเล็กละนอย ก็นับวาเปนการภาวานาที่
ดีแลว ในการฝกหัดขัดเกลาจิตใจน้ันทานดาไลลามะกลาววา ตองใชเวลาพอสมควร แต
เมื่อใดกต็ ามทเี่ ราฝกจิตไดสําเร็จความเบกิ บานท่ยี ิ่งใหญก จ็ ะบงั เกดิ ขนึ้

ในชีวิตประจําวันของเราน้ัน คนสวนใหญมักบมเพาะความคุนเคยท่ีไมเปนคุณ
เชน เวลาไมชอบใครขึน้ มา ก็จะเอาแตเพงจติ หาหาขอผิดขอ เสยี ของผูน้ันพอนานวันเขาก็ยิ่ง
ทาํ ใหเ ราเชื่อเชนน้ัน และดวยเหตุนี้ความขนุ เคอื งในจติ เราก็จะพอกพนู ขน้ึ ไปเรื่อยๆ๕๐

ทานดาไลลามะกลาววา การภาวนาน้ันมีหลายแบบ เราสามารถท่ีภาวนาไดทุก
ขณะ ไมวาตอนขับรถ หรือเดินอยูรถเมลรถไฟ แมในขณะที่กําลังอาบนํ้าอยูก็สามารถท่ี
ภาวนาได ดวยการประคองจิตเราใหคิดแตในส่ิงท่ีเปนกุศล ไมปลอยใหอกุศลจิตเขามา
ครอบงําจติ ใจ จิตท่ีเปนอกุศลน้ันสามารถที่จะเขามาครอบงําเราไดทุกท่ีทุกเวลา เราจึงตอง
มสี ตคิ อยรบั รมู นั อยเู สมอทกุ เสีย้ ววนิ าที

๕๐ บุญมี พวงเพชร, Happy Life พลังคําสอนของ ดาไล ลามะ เพื่อความสุขของชีวิต
อยางแทจ ริง, (นนทบุร:ี ธงิ ค บยี อนดบ คุ ส, ๒๕๕๖), หนา ๑๗๓.

๒๙๔ ขบวนการพระพทุ ธศาสนาใหมใ นโลกปจจุบัน
พระมหามติ ร ฐติ ปโฺ ญ,ผศ.ดร.
บทท่ี ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

ในเบื้องตนของการภาวนาในชีวิตประจําวันสามารถกระทําไดโดยการฝกทํา
ความคุนเคยกับอารมณตางๆ ที่เกิดขึ้น ไมวาจะเปนความอยากไอยากมี หรือความเมตตา
กรุณาก็ตาม น่ันก็คือเมื่ออารมณใดเกิดข้ึนในใจของเรา เราก็พยามวิเคราะหวิเคราะห
อารมณนั้นอยางละเอียดถึงคุณถึงโทษของมัน รวมถึงเหตุปจจัยท่ีทําใหอารมณเหลานั้น
เกิดขึ้นดว ย หากเราแยกแยะอารมณตางๆ อยางละเอียดเปนประจําอยูเชนนี้ ก็จะทําใหเรา
คนุ เคยกบั อารมณต างๆ และสามารถทจ่ี ะรูวธิ กี ารที่จะกําจัดอารมณในดานลบใหหมดสิ้นไป
สรา งดา นบวกข้ึนมาแทนที่ได

อีกวิธีหนึ่งคือ การจับน่ิงอยูกับอารมณท่ีเกิดข้ึนโดยไมมีการวิเคราะหหรือใช
ความคิดเลยก็ไดเชนเดียวกัน ในบางคร้ังเราไมจําเปนตองรอใหอารมณตางๆเกิดข้ึน เรา
สามารถท่ีจะเลือกอารมณใดอารมณหนึ่งใหเกิดขึ้นได ตองการที่จะภาวนาความเมตตา
กรุณาเราก็นึกถึงความเห็นอกเห็นใจและระลึกรูในทุกขท่ีผูอ่ืนตองประสบพบเจอ เห็นวา
สรรพสัตวท้ังหลายที่อยูในสังสารวัฏนี้ลวนแตมีภัยอยูรอบตัว ไมวาจะเปนภัยคือ ความเกิด
ความแก ความเจบ็ ความตาย และยังมีภัยอันเกิดจากกเิ ลสตัณหาท้ังหลายท่ีเผาลนจิตใจอยู
ตลอดเวลา เชน ความโลภ ความโกรธ ความหลง เปนตน ตลอดถึงภัยอ่ืนๆ ที่เกิดจากการ
กระทําของมนุษยดวยกันเองก็มี ทุกคนลวนแตตองประสบพบเจอภัยเหลาน้ีดวยกันทั้งน้ัน
หากคิดพิจารณาอยูอยางนี้เปนประจํา ก็จะเกิดความรูสึกสงสารและเห็นใจ ซ่ึงความกรุณา
ตางๆ ก็จะเกิดขึ้นตามมาในแงน้ีการภาวนาก็จะชวยชักนําเราใหเกิดการเปลี่ยนแปลง
ทศั นคตติ อผูอ่ืนไปในทางบวก

ทานดาไลลามะกลาววา อารมณภาวนาไมจําเปนตองเปนส่ิงท่ีเห็นไดดวยตา เรา
สามารถนอมจิตใหต้ังอยูกับอารมณใดอารมณหนึ่งเพ่ือใหเกิดความคุนเคยได เราควรท่ีจะ
ปฏิบตั ิภาวนาอยางเปน ระบบ หม่ันเจริญใหเกิดความคุนเคยกับอารมณท่ีเลือกทีละเล็กทีละ
นอย จากนั้นก็ใหหม่ันฟงธรรมจากครูอาจารย อานหนังสือธรรมะแลวนําส่ิงที่ไดฟงไดอาน
น้ันมาคิดไตรตรองพิจารณา เพื่อขจัดความสับสน ความเขาใจผิด หรือขอสงสัยที่มี
กระบวนการเหลาน้ีจะสงผลตอจิตใจ จนกระทั่งเม่ือเราเพงจับอยูกับสิ่งใด จิตก็จะประสาน
แนบแนน อยกู ับสงิ่ นนั้ ตามความปรารถนา

ธรรมชาติของชีวิตนั้น สิ่งหนึ่งท่ีเราตองประสบอยางหลีกเล่ียงไมไดก็คือ อารมณ
ความรูสึกโกรธ ความทะยานอยาก เปนตน หากเราปลอยใจใหเปนไปตามอํานาจของ
อารมณดานลบเหลานั้น แนนอนวาในที่สุดผลที่จะไดรับก็คือ ความทุกขนั่นเอง เราจึงตอง
ฝกปฏิบัติจิตใจใหมีทาทีที่ชัดเจนไวคอยรับมือกับอารมณดานลบท่ีจะเกิดข้ึน และคอย
หาทางปอ งกันไมใหมันเกิดขึน้ มาไดอ ีก

ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมในโลกปจ จบุ ัน ๒๙๕
พระมหามติ ร ฐติ ปโฺ ญ,ผศ.ดร.
บทท่ี ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

เพราะเมื่อใดก็ตามท่ีมันเกิดขึ้น จิตใจของเราก็จะขุนมัว เกิดความเรารอน
กระสับกระสาย และไมมีความสุข ซึ่งการฝกปฏิบัติภาวนาจะทําใหเราสามารถเอาชนะ
อารมณเหลานน้ั ได แมว า อาจจะตอ งใชเ วลานานสกั หนอยกต็ าม

สภาวะจิตท่ีเรารอน หรืออารมณดานลบที่เกิดที่เกิดข้ึนในจิตใจของเราน้ัน ไม
สามารถท่ีจะหมดไปดวยกาลเวลาแตมันจะหมดเชื้อลงก็ดวยความพยายามอยางมีสติของ
เราเองที่จะลดแรงตัดกําลัง และดับมันลงไปไดในท่ีสุด หากเราตองการท่ีจะมีชัยชนะเหนือ
มันเราตองฝก ปฏิบัตติ ามคําสอนของพระพทุ ธเจา หม่นั อานหนังสือธรรมะ ฟงเทศนาจากครู
บาอาจารยผ ูมากดวยประสบการณส่ิงเหลานี้จะทําใหเราขบวนการที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น และ
เกิดความคุนเคยในวิธีปฏบิ ตั ิตางๆ ทีอ่ าจชวยใหเราขามพนวงั วนแหง สงั สารวัฏได

การศึกษาหรอื การฟง ธรรมจากครูบาอาจารย จะชวยทําใหเกิดความเขาใจและมี
ปญญาจากการฟงท่ีเรียกวา สุตมยปญญา ซ่ึงนับวาเปนฐานสําคัญของการเจริญเติบโต
ในทางธรรม หลังจากน้ันเราคอยประมวลความรูที่ไดศึกษาเลาเรียนมาไปสูความศรัทธาที่
ลึกซ้ึงยิ่งขึ้น ส่ิงน้ีก็จะนําไปสูความเขาใจจากการใครครวญท่ีเรียกวา จินตมยปญญา เมื่อ
เขาถึงความรูอยางแทจริงระดับหน่ึงแลว เราก็ใชมันเปนธรรมารมณในการภาวนา เพื่อวา
จิตจะไดซาบซ้ึงอยางเต็มเปยม ส่ิงน้ีจะนําไปสูความรูที่ชัดแจง เปนความเขาใจจากการ
ภาวนาท่ีเรียกวา ภาวนามยปญ ญา

ความเขาใจทั้งสามระดับน้ีนับวาเปนหัวใจของการฝกหัดขัดเกลาจิตใจที่จะ
กอใหเกิดความเปลี่ยนแปลงที่แทจริงในชีวิต การเขาใจจากการศึกษาหาความรูจะทําให
ความเชอ่ื ของเรามัน่ คง และสงผลใหเกดิ ความตระหนักรูทีเ่ ปย มพลังในการภาวนา หากขาด
ความเขาใจไมมีการศึกษาใครครวญ ตอใหภาวนาอยางจดจอก็ยากท่ีจะทําใหเกิด
ความหมายรูในสิ่งท่ีเรากําลังภาวนา ไมวาจะเปนอารมณอกุศลมูลที่สลับซับซอน หรือ
ลกั ษณะอันแยบคายของความวา งก็ตาม

แนนอนวาในการภาวนาน้ัน สภาพแวดลอม ยอมมีอิทธิพลอยางมากตอเรา หาก
เราไดอยูในสถานที่ท่ีสงบเงียบก็ย่ิงจะชวยทําใหการภาวนาเปนไปไดงายข้ึน แตหากมีความ
จําเปนเราก็สามารถปฏบิ ัตไิ ดทุกที่ ขอเพยี งใหเรามีจิตใจที่ไมวอกแวก ม่ันคง ก็สามารถท่ีจะ
ภาวนาได

การฝกหัดขัดเกลาจิตใจของเราควรจะเปนความพยายามท่ีตองกระทําอยาง
ตอเนื่อง จนกระทั่งเขาถึงความหลุดพนจากความทุกขอยางสิ้นเชิง ไมควรท่ีจะกระทําแต
เพียงเร่ืองทางศีลธรรมหรือความพยายามหลีกเลยี่ งความช่วั และมุง หาความดีเทาน้ัน ในการ
ปฏิบัติธรรมน้ันทานดาไลลามะกลาววา เปนการมุงแสวงหาสภาวะท่ีตัวเราไมตกเปนเหยื่อ
ของอกุศลมูลของจิต ซ่ึงเปนศัตรูตัวฉกาจตอสันติและความสงบเย็นภายในจิตใจของเรา

๒๙๖ ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมในโลกปจจุบนั
พระมหามติ ร ฐติ ปโฺ ญ,ผศ.ดร.
บทที่ ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

อกุศลมูลทั้งหลายไมวาจะเปนการยึดมั่นถือม่ัน ความเกลียดชัง ความทะนงตน ความโลภ
และอื่นๆ อีกมากมายที่เปนสภาวะจิตดานลบ ลวนแตจะเปนส่ิงที่ชักนําใหเราประพฤติ
ปฏิบัติไปในทางท่ีกอใหเกิดความเดือดรอนใจและเปนทุกข การฝกจิตภาวนาใน
ชีวิตประจาํ วัน เราตอ งมองเหน็ สภาวะจิตดา นลบเหลานั้นวาเปนด่ังปศาจรายท่ีสิงอยูภายใน
ใจของเรา มนั คอยตามหลอกหลอนเราอยูตลอดเวลาจึงทําใหเราไดพบแตเรื่องทุกขใจอยูร่ํา
ไป หากเราคิดพิจารณาไดอยางน้ีก็จะทําใหเกิดความมุงมั่นและความพยายามอยางเต็มที่ที่
จะหาทางกําจดั มนั ใหหมดสิ้นไป

ในการตอสูกับสภาวะจิตดานลบตางๆ นั้น ไมใชส่ิงที่ทําไดงายเราตองคอย
พยายามฝก ฝนพัฒนาไปเรอื่ ยๆ แบบคอยเปนคอ ยไป ในเบ้ืองแรกทานดาไลลามะแนะนําไป
วา ตอ งอาศัยวินยั รรู ะงับใจ ไมใหท วมทบั ดวยอารมณค วามคิดที่ไมดีท้งั หลาย

ซึ่งสามารถทีจ่ ะกระทาํ ไดโ ดยการดําเนินชีวิตอยูใ นศลี ธรรมนั่นก็คือ การละเวนซึ่ง
อกุศลกรรมบถ ๑๐ ประการ ไดแก การทําลายชีวิต การถือเอาของท่ีเขามิไดให การ
ประพฤติผิดในกาม การพูดเท็จ การพูดสอเสียด การพูดคําหยาบคาย การพูดเพอเจอ การ
ละโมบคอยจองอยากไดของเขา การคดิ รายเขา และการเห็นผิดจากคลองธรรมซ่ึงทั้งหมดน้ี
เปน การแสดงออกของจติ ทเี่ ปนอกุศล อนั ไดแก ความโลภ ความโกรธ ความหลงนน่ั เอง

อารมณดานลบตางๆ นั่นถือวาเปนพลังความหายนะท่ีแทจริงของมวลมนุษย
และอาจกลาวไดวา ปญหาท้ังหลายท้ังปวงท่ีเกิดข้ึนกับตัวเราแตละคนนั้น เพราะเรามี
อารมณดานลบเหลานี้อยูในใจทําใหการกระทําทางกายและการกระทําทางกายและทาง
วาจาตางๆ ที่แสดงออกเปนไปในทางท่ีกอใหเกิดความทุกขความเดือดรอนแมใจรอนเองก็
ไดรับความรอนรนอยูทุกขณะ ฉะนั้น จึงกลาวไดวา ความทุกขท้ังหลายทั้งปวงท่ีเราไดรับ
น้ันลว นแลวแตเ ปน ผลลัพธข องอารมณด า นลบท้งั ส้ิน

ในการฝกเริ่มแรกเราอาจจะไมสามารถกําจัดอารมณดานลบเหลาน้ันใหหมดสิ้น
ไปเสียทีเดียว แตอยางนอยก็จะทําใหเราไมปลอยใจเตลิดไปกับมัน หรือไมตกอยูในอํานาจ
ของมันซึ่งจุดนี้เองท่ีจะทําใหเราสามารถท่ีจะปลูกความเมตตากรุณาหรืออารมณดานบวก
อ่ืนๆ ใหเกิดขึ้นมาแทนที่ได ซึ่งก็จะทําใหจิตใจของเราสงบเย็นความทุกขตางๆ ก็จะคอยๆ
ลดนอ ยลงไป

การภาวนาในชีวิตประจําวัน เราจึงสามารถกระทําไดโดยการหมั่นคิด พิจารณา
ตรวจสอบดูอารมณตางๆ ที่เกิดข้ึนในจิตใจของเราอยางละเอียด ทุกคร้ังที่มันเกิดข้ึน
พยายามคิดวิเคราะหใหละเอียดวามันเกิดขึ้นมาไดอยางไร มีอะไรเปนเหตุปจจัย คอยๆ
แยกเหตุปจ จยั เหลานอ้ี อกมาใหละเอียด และพิจารณาตอไปวา แลวทําอยางไรจึงจะจัดการ
กับเหตุปจจัยที่ทําใหมันเกิดข้ึนได หลังจากนั้นจึงคอยๆ พยายามจัดการกับเหตุปจจัยที่ทํา

ขบวนการพระพทุ ธศาสนาใหมในโลกปจ จบุ นั ๒๙๗
พระมหามิตร ฐติ ปฺโญ,ผศ.ดร.
บทที่ ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

ใหเกิดอารมณดานลบข้ึนมาทีละอยางๆ ไปเรื่อยๆ ซึ่งในที่สุดเชื่อแนวาจะสามารถทําให
อารมณดานลบน้ันหมดฤทธิ์หมดอํานาจที่จะทําลายเราอีกตอไป ชีวิตของเราก็จะพบแต
ความสงบสุขและเปน ความสขุ เปนความสุขอันแทจริงที่จะไมกลับกลายมาเปนความทุกขได
อกี เลย

๖.๖.๑๕ การสรางโพธจิ ติ
การสรางโพธิจิตน้ันเบ้ืองตนเราตองฝกปฏิบัติใหเกิดความเมตตากรุณาตอสรรพ
สัตว จนกระท่ังถึงจุดที่เรียกวา มีความรูสึกรับผิดชอบตอสรรพสัตวท้ังหลายทั้งปวง
หลงั จากผานขนั้ นแ้ี ลว เรากจ็ ะถูกโนม นาํ ใหค ิดทีจ่ ะเพ่มิ พนู ศักยภาพของตนเพื่อจะรับใชทุกข
ซึ่งปณิธานที่จะเขาถึงสภาวะดังกลาวน้ีเรียกวา โพธิจิต สวนผูท่ีบรรลุสภาวธรรมน้ีเรียกวา
พระชวยเหลอื สรรพสัตวใ หพนจากความโพธสิ ตั ว
ทานดาไลลามะไดแนะนําวา วิธีการอยางแรกท่ีจะทําใหเกิดโพธิจิตมาไดคือ การ
ระลกึ วา สรรพสตั วท้งั หลายลวนเคยเปนมารดาของเราในชาติใดชาติหน่ึง เพราะตามความ
เชื่อของพทุ ธศาสนานนั้ สรรพสตั วท ้ังหลายตองเวยี นวายตายเกิดชาติแลวชาติเลา แตละคน
จึงมอี ดตี ท่ียาวไกลมาก และทุกคนตางเคยเปน พอ แมพ่นี องกนั มาท้ังสนิ้
ในการสรางโพธิจิตใหเกิดขึ้นเราจึงควรระลึกวาอดีต และความรักความเมตตาที่
เราเคยไดรับจากมารดาบิดานนั้ ย่งิ ใหญเกินประเมิน เกินกวาที่เราจะตอบแทนใหหมดส้ินไป
ได ทานคอยทะนุถนอมเราต้ังแตเล็กจนโต ยอมแลกทุกส่ิงทุกอยางรวมท้ังชีวิตของตน
เพอ่ื ใหเ ราอยรู อด
ในขณะทเ่ี ราระลกึ ทบทวนถึงความรักที่มารดาเคยทุมเทใหกับเราอยางเต็มที่ เรา
ก็ควรจะตระหนักดวยวา สรรพสัตวทุกชีวิตในโลกน้ี ครั้งหนึ่งในอดีตก็เคยมอบความรัก
เชนเดียวกันนี้ใหกับเราดวย ไมเวนแมกระทั่งหมู หมา กา ไกท้ังหลาย คร้ังหน่ึงในอดีตชาติ
อันยาวไกลตางก็เคยเปนมารดาของเราและเคยมอบความรักความเมตตาใหกับเราอยาง
เต็มที่จนหาท่ีเปรยี บมไิ ด
การระลึกอยูเชนนี้เสมอจะทําใหเราเกิดความกตัญูรูคุณข้ึนมา และเมื่อเกิด
ความกตัญูก็จะทําใหเราเกิดความปรารถนาอยางแรงกลา ที่จะชวยเหลือพวกเขาให
สามารถแกไขหรือแกสภาพการณของตนไดความปรารถนาน้ีก็จะทําใหเกิดความรักอยาง
เต็มเปยมตอสรรพสัตวท ้ังหลายท้งั ปวง ความรักที่ยิ่งใหญน ้กี จ็ ะทําใหเกิดความกรุณาตามมา
ซ่ึงความกรุณานี้ก็คือ ความปรารถนาท่ีจะชวยเหลือสรรพสัตวหรือมารดาของเราใน
อดตี ชาติใหพ นจากความทกุ ข มีความปรารถนาทจ่ี ะทําไดพ บแตค วามสุข

๒๙๘ ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมใ นโลกปจจุบัน
พระมหามิตร ฐติ ปโฺ ญ,ผศ.ดร.
บทท่ี ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

ทานดาไลลามะไดแนะนําวา ในขณะท่ีเราเจริญผานลําดับข้ันแหงความรูสึกผิด
ชอบเชน นี้จะทําใหเรากาวจากความปรารถนาที่จะใหสรรพสัตวพนจากความทุกข ไปสูการ
ปวารณาตนท่ีจะชวยเหลือพวกเขาใหพนจากความทุกขอยางเต็มกําลังสติปญญา
ความสามารถของเรา

การที่เราพิจารณาเห็นสรรพสัตวท้ังหลายวาเคยเปนบิดาของเรา และขณะนี้ยัง
เวยี นวา ยอยูใ นกองทุกขนนั้ จะทาํ ใหเ ราไมมงุ หวงั ทําเพื่อประโยชนสุขสวนตนแตจะแสวงหา
อุบายท่ีจะชวยใหผูอ่ืนหรือใหสรรพสัตวพนจากความทุกข ทานดาไลลามะกลาววา การ
แสวงหาความสุขสวนตนในขณะที่ผูอ่ืนยังเผชิญทุกขถือวาเปนเรื่องที่นาเศราย่ิงนัก ผูท่ี
บําเพญ็ โพธิจติ จึงตอ งมุงมน่ั ท่จี ะชวยใหผูอ่ืนพนจากทุกขใหได

วิธีการอยางท่ีสองท่ีทานดาไลลามะแนะนําคือ การคิดวา ชีวิตตองพ่ึงพาผูอื่น มี่
ชีวิตใดอยูไดตามลําพัง วิธีการนี้ตองตระหนักวา เราตองพึ่งพาอาศัยผูอื่นในทุกๆ สิ่งที่เรามี
อยู ไมวาจะเปนบานที่เราอยู ขาวท่ีเรากิน เส้ือผา หรืออะไรตางๆ ก็ลวนแตมีผูทําใหเรา
ท้ังน้นั

ปากกาท่ีเราเขยี นกต็ องมีผูผลิตให คอมพวิ เตอรที่เราใชก็ตองมีคนคิดคนประดิษฐ
ขน้ึ โทรศพั ทท เ่ี ราใชอยูในชีวิตประจําวันก็ตองมีคนขึ้นมา ทุกสิ่งทุกอยางรอบตัวเราลวนแต
เกดิ ขึ้นจากผอู น่ื กระทาํ ใหเราทง้ั ส้นิ หากไมมผี อู ่นื ส่งิ ตา งๆ ทอี่ ยรู อบตัวเรากค็ งมีไมไ ด

นอกจากวัตถุสิง่ ของตางๆ ทตี่ อ งมีผทู าํ ผผู ลติ ใหเ ราแลว แมแตคุณลักษณะท่ีดีงาม
ของเรา อยางเชน ความอดทน และศีลธรรมจรรยาทั้งหลายก็ลวนงอกงามข้ึนมาโดยการอิง
อาศัยผูอ่ืน เราสามารถที่จะชื่นชมไดแมกระท่ังคนที่กอปญหาใหกับเรา ก็เพราะถือวาเขา
เปนผูท่มี อบโอกาสอันลา้ํ คาใหกบั เรา ไดฝก ฝนความอดทนอดกลั้น การคิดพจิ ารณาเชนนี้จะ
ทําใหเราตระหนักวา เราตางตองพึ่งพาอาศัยผูอาศัยผูอื่นอยางมากในการดําเนินชีวิต
รวมถึงการพัฒนาคุณธรรมใหเกิดข้ึนภายในจิตใจดวย เหตุน้ีเองเราควรพัฒนาการระลึกรูน้ี
ในทกุ ขณะจิตของเรา ซ่งึ จะทําใหเราเกิดความรูสึกที่จะตอบแทนความเมตตาเหลาน้ันอยาง
เต็มความสามารถของเรา

นอกจากน้ัน ทานดาไลลามะไดแนะนําอีกวา เราควรพิจารณาดูผลจากการ
กระทําของเราดวยวา การกระทําของเราท่เี กิดจากความเหน็ แกต ัวน้นั มันไดกอใหเกิดความ
ทุกขความเดือดรอนท้ังกับตัวเราเองและผูอ่ืนการแสวงหาความสุขใสตนจากความเห็นแก
ตัว จึงเปน การกระทําไรสาระไมสมเหตุสมเหตุสมผล การอุทิศชีวิตเพ่ือผูอื่นตางหากที่ดูเปน
เหตุเปนผล เม่ือพิจารณาไดเชนน้ีก็จะทําใหเรากาวไปสูการกระทําที่ประเสริฐคือ การกาว
เดินไปในหนทางที่จะทําใหบรรลุซึ่งพุทธภาวะท่ีจะไดชวยเหลือเกื้อกูลสรรพสัตวใหพนจาก
ความทกุ ข

ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมในโลกปจจุบนั ๒๙๙
พระมหามติ ร ฐติ ปโฺ ญ,ผศ.ดร.
บทที่ ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

สิ่งสําคัญอยางหนึ่งที่ทานดาไลลามะไดเนนย้ําในการฝกวิธีนี้คือ ความอดทนอด
กลนั้ ซงึ่ จะทาํ ใหเ รากา วขามอปุ สรรคปญ หาตางๆ ไปได เพราะการสรางโพธิจิตน้ันไมใชส่ิงที่
จะกระทําไดงาย การมีความอดทนอดกั้นจะชวยพยุงใหเรากาวเดินบนเสนทางประเสริฐได
อยางสงา งาม

หากเรามีความตั้งม่ันและบมเพาะใหเกิดปณิธานอันแรงกลาเปนประจําทุกวัน ก็
จะชว ยตอกยํ้าความตั้งอกตั้งใจ และชวยลดทอนสัญชาตญาณความเห็นแกตัวของเราลงไป
ได และคณุ ลกั ษณะท่ีประเสริฐจะเกิดขึน้ ตามมา คุณธรรมสําคัญที่ควรบมเพาะใหเกิดขึ้นอีก
คอื ความมีอเุ บกขาอนั แรงกลา และความเวทนาสารโดยไมแบงแยกตอสรรพชีวิต การปลอย
ใหความลําเอียงเขาครอบงํา จะทําใหเกิดอุปสรรคในการบําเพ็ญโพธิจิต เพราะใจจะคอย
เผื่อแผแตคนท่ีใกลชิด คนท่ีรักท่ีชอบเทานั้น การเดินบนเสนทางอันประเสริฐนี้ แนนอนวา
ตองมีอุปสรรคปญหามากมายเกิดขึ้นตามมา โดยเฉพาะอยางย่ิงความรูสึกยึดติดมักจะเขา
มาคอยขัดขวางความพากเพียรพยายามของเรา ทั้งหลอกลอใหเรากลับไปหากิจวัตรเกาๆ
คอยชกั นําใหเราออกจากเปาหมาย ผูฝก ปฏบิ ตั ติ องเตรยี มรับมือกบั สิ่งเหลานีใ้ หดี

ข้ันแรกทําไดโดยการระลึกถึงอารมณอันรุนแรงท่ีไมดี ใครครวญถึงโทษตางๆ
ของมัน ขั้นท่ีสองตองพิจารณาหาหนทางแกที่เหมาะสม และมีจิตใจตั้งมั่นที่จะไมหวั่นไหว
ไปกบั อารมณเ หลาน้ีอีก มีความมุงม่ันแนวแนท่ีจะชวยเหลือสรรพสัตวใหพนจากความทุกข
ความกรุณาจงึ นับวา เปนสง่ิ สําคัญอยา งมากในการฝกปฏบิ ตั หิ รือการเดินบนเสนทางธรรม

อุเบกขาจะชวยใหเ ราขจดั อคติ และหนุนนาํ ความเห็นแกป ระโยชนสุขของผูอ่ืนให
แผไปสูสรรพสัตวทั้งหลาย สวนโพธิจิตเปนเหมือนกับพันธสัญญาท่ีจะลงมือกระทําการ
ชว ยเหลอื พวกเขาใหพน จากความทุกขท ้ังหลายทง้ั ปวงดว ยจิตใจที่แนวแนมัน่ คง

วิธีการท่ีกลาวมาไมวาจะเปนการระลึกวา สรพสัตวลวนเคยเปนมารดาของเรา
ทั้งส้ิน หรือการระลึกวาชีวิตลวนแตไดรับการพึ่งพาอาศัยจากผูอื่น เราไมสามารถมีชีวิตอยู
ไดด วยตวั เราเอง วธิ ีการแรกนัน้ ชวยใหเ ราอยากจะปฏบิ ตั ติ อผูอ่ืนชีวติ อน่ื ๆ เสมือนหน่ึงวาได
ปฏบิ ัติตอมารดาของเราเอง เราอยากจะตอบแทนคุณงามความดีของทานดวยความกตัญู
กตเวทิตา จึงทําใหเกิดการขวนขวายชวยเหลือหาทางใหพนจากความทุกข มุงหวังเพื่อ
ประโยชนสุขของสรรพสัตวท้ังหลาย ไมไดกระทําส่ิงตางๆ เพ่ือตนเอง ส่ิงนี้นับวาเปน
ปณธิ านทยี่ ่งิ ใหญของการปฏิบตั ิธรรม

ในชีวิตธรรมดาของคนทั่วไปนั้น ถึงแมวาเราจะไมสามารถท่ีจะเสียสละมุงม่ัน
ปฏิบัติเหมือนกับคนที่ปฏิบัติเพ่ือบรรลุโพธิจิตก็ตาม แตถาเรานําวิธีการนี้มาใชใน
ชีวิตประจาํ วนั กน็ บั วา เปน ประโยชนอ ยูม ากเพราะอาจจะทําใหเราปฏิบัติตอผูอ่ืนดวยความ

๓๐๐ ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมใ นโลกปจจบุ นั
พระมหามิตร ฐติ ปฺโญ,ผศ.ดร.
บทที่ ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

ออนนอมถอมตนมากขึ้น หากเราคิดวาเขาทุกคนไมวาจะเปนเจานายหรือลูกนอง คนรวบ
หรอื คนจนทั้งหลายกล็ ว นแตเ คยเปน บดิ าของเราในอดีตชาตทิ งั้ ส้ิน๕๑

การคิดพิจารณาเชนนี้จะทําใหเราไมดูถูกเหยียดหยามคนอื่น และจะปฏิบัติตอ
พวกเขาดวยความเคารพนอบนอ ม ซ่ึงแนน อนยอมสงผลดตี อ การสรางความสัมพันธกับผูอ่ืน
ไดเปนอยางดีและยอมทําใหจิตใจของเราเต็มไปดวยความรักความเมตตา พรอมท่ีจะ
ชวยเหลือเผ่อื แผไ ดอ ยางไมรูสกึ เสยี ดาย

สวนอีกวิธีการหนึ่งก็เชนเดียวกันคือ การท่ีเราระลึกวาชีวิตลวนตองพ่ึงพาอาศัย
ซ่งึ กันและกัน ไมม ีชีวิตใดอยูไดโ ดดเดย่ี วลําพงั โดยไมพง่ึ พาอาศยั ใครเลย ทุกส่ิงทุกอยางที่เรา
มีอยู ไมวาจะเปนเส้ือผา ที่นอน หมอนมุงทั้งหลายก็ลวนแตมีคนผลิตใหท้ังน้ัน ความระลึก
เหลานี้จะทําใหเกิดความรูสึกกตัญูขึ้นมา พรอมท้ังชวยลดอัตตาของเราลงไปได เพราะ
บางคนนั้นมักจะหยิ่งจองหองวาตนเองเกง ไมตองพ่ึงพาอาศัยใครก็ได เขาสามารถอยูได
ดวยตัวของเขาเอง แตความเปน จริงหาเปน เชนนน้ั ไม

เราทุกคนตางอาศัยซึ่งกันและกัน จึงควรท่ีจะเห็นอกเห็นใจกัน และใหความ
ชวยเหลือกันในชีวิตของเรานั้นหากเราไมไดรับการชวยเหลือจากใครเลย เราอาจจะไมมี
ชวี ติ อยมู านานถึงขนาดนี้

นอกจากนน้ั แลว ส่ิงสาํ คัญอยา งหน่ึงท่ีทานดาไลลามะสอนไวค ือวา นอกจากท่ีเรา
ไดพ่ึงพาอาศัยผูอื่นทางดานวัตถุสิ่งของทั้งหลายที่ทําใหเรามีอยูมีกิน มีที่นอน มีพาหนะท่ี
สะดวก มีเครอื่ งมือส่ือสารทีท่ ันสมัยแลว การท่เี ราอดทนอดกลนั้ มีความรักความเมตตาไดก็
เพราะคนอ่ืนสัตวอ่ืน หากไมมีคนอ่ืนเราจะไดฝกความอดทนอดกล้ันจากที่ไหน การท่ีมีคน
มาวา เราดา เรา ทําใหเ ราไดฝ ก ความอดทนอดกลนั้ การท่ีมีคนจนทําใหเราไดฝกความเมตตา
กรุณาใหเกิดข้ึน หากไมมีส่ิงเหลาน้ีคุณงามความดีตางๆ ก็อาจจะไมเกิดข้ึนในใจของเราก็
เปนได

จากการมีโลกทัศนเชนน้ีทําใหเราสามารถท่ีจะมีจิตที่มุงมั่นแนวแนที่จะหาทาง
ขวนขวายชวยเหลือใหทุกชีวิตมีความสุข และเราจะไมถือโทษโกรธใครเลยไมวาเขาจะนํา
ความทุกขมาใหเราอยางไรก็ตาม เขาทุกคนคือผูมีพระคุณของเรา ควรท่ีจะขอบคุณเขา
มากกวา ที่จะไปโกรธเกลียดการมีทัศนคตดิ า นบวกเชนนจ้ี ะทําใหใจของเรามีพลังเพิ่มมากข้ึน
เร่ือยๆ และไมหว่ันไหวไปกับอุปสรรคปญหาทั้งหลาย ท้ังยังพรอมที่จะยืนหยัดอยูบน
เสนทางอันประเสริฐคือ การตั้งปณิธานที่จะชวยเหลือสัตวท้ังหลายทั้งปวงใหพนจากความ
ทกุ ข สามารถท่จี ะขามสังสารวฏั ไปใหห มดสิน้ ไป

๕๑ เร่ืองเดียวกนั , หนา ๑๙๐.

ขบวนการพระพทุ ธศาสนาใหมใ นโลกปจจบุ ัน ๓๐๑
พระมหามิตร ฐติ ปโฺ ญ,ผศ.ดร.
บทท่ี ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

ปณิธานอันย่ิงใหญน้ีจะสําเร็จไมไดหากวาเราขาดความอดทนอดกลั้น ฉะน้ัน ใน
การฝกโพธิจิตจึงตองมีความอดทนอดกล้ันตอปญหาตางๆ ที่จะเกิดข้ึนตามมาดวยจึงจะทํา
ใหการฝกฝนนี้บรรลุเปาหมายท่ีวางไวได “การสรางโพธิจิตนั้นไมใชสิ่งท่ีจะกระทําไดงาย
การมีความอดทนอดกล้ัน จะชวยพยุงเราใหกาวเดินไปบนเสนทางประเสริฐ ไดอยางสงา
งาม”

๖.๖.๑๖ ประโยชนข องจิตทีส่ งบละเอยี ดออ น
หากลองสังเกตชีวิตประจําวันของเราเอง จะเห็นวา วันไหนก็ตามที่จิตของเรา
ผองใส เบิกบัน เราจะรูสึกเปนสุข แตถาวันไหนก็ตามท่ีจิตของเราเศราสรอย โกรธเคือง
กระสับกระสาย เราจะรสู กึ เปน ทุกขอ ยา งมาก บางครงั้ อาจทําใหถ ึงกับนอนไมหลับตลอดทั้ง
คืน จิตท่ีด้ินรน กระสับกระสาย จึงมีแตความทุกข สวนจิตที่สงบละเอียดออนยอมมี
ความสขุ
ทานดาไลลามะไดกลาวไววา คนท่ีมีสันติในใจน้ันจะทําใหมีชีวิตยืนยาวและ
สุขภาพแข็งแรงและการท่ีมีสันติอยูในใจนั้นจะเปนปจจัยทําใหชีวิตคอนขางเรียบงาย ซึ่ง
ความเรียบงายน้ีเองทําใหจิตไมคอยถูกรบกวน อีกอยางหนึ่งคือจิตรอบรู ซึ่งเปนผลมาจาก
จิตท่ีสงบนั่นเอง เม่ือจิตเกิดความสงบแลว แนนอนวาเรายอมคิดอะไรไดงาย อยากจะคิดใน
เรือ่ งใดก็คดิ ไดอยา งละเอียดออน การมจี ติ ที่สงบจงึ ทําใหเราสามารถทาํ งานทําการงานตางๆ
ไดสําเร็จเปนอยางดีและสามารถใชสติปญญาในการพิจารณาเร่ืองตางๆ ไดอยางละเอียด
ลึกซ้งึ
นอกจากน้ันแลว จิตท่ีสงบยังมีผลตอสุขภาพกายและสุขภาพใจของเราดวย ใน
ดา นจติ ใจนนั้ จะทําใหเ ราไมเ ปน ทกุ ข ไมร สู ึกกระสับกระสาย ในแงนก้ี ท็ ําใหเราเปนสุขไดโดย
อตั โนมัติ สว นทางดา นรา งกายซ่งึ แนน อนวา จิตท่ีสงบและเปนสุขยอมสงผลดีตอรางกาย ทํา
ใหรางกายมีภูมิตานทานโรคที่ดีข้ึน กรณีเชนน้ีมีตัวอยางใหเราไดเห็นมากมายใน
ชวี ติ ประจาํ วนั บางคนทม่ี สี ขุ ภาพจิตไมดี เชน ไปหาหมอแลวหมอบอกวาเปนโรคราย จิตใจ
ของเรากจ็ ะรสู ึกหดหู และในที่สุดกท็ ําใหรา งกายทรุดโทรม และโรครายก็ย่ิงทวีความรุนแรง
มากขึ้นเร่ือยๆ ในทางตรงกันขามกับอีกคนหนึ่ง ท่ีเจอสถานการณแบบเดียวกัน แตเขา
สามารถที่จะประคองจิตของตนเองไมใหเศราหมองไปกับรางกายที่เจ็บปวยได ถึงแมวา
โรคภัยจะยังไมหาย แตเขาก็ยังเปนสุขไดอยูนั่นเอง การที่เขารูสึกเปนสุข แนนอนวายอม
ชว ยใหสุขภาพรา งกายไมท รุดโทรมและยอมภมู ิตา นทานที่ดีขึ้น
การฝกใหเกิดจิตท่ีสงบน้ัน ทานดาไลลามะสอนไววา ใหเพงอารมณเดียวอารมณ
ใดอารมณหนง่ึ จนเกดิ เปน สมาธิ ใหจิตจับนงิ่ อยูก บั อารมณน ัน้ เชน เราใชความเมตตาในการ

๓๐๒ ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมในโลกปจจุบัน
พระมหามิตร ฐติ ปฺโญ,ผศ.ดร.
บทท่ี ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

ฝก เราก็ระลึกนึกถึงความเมตตาเพงอยูกับอารมณแหงความเมตตาน้ันจนเกิดเปนสมาธิ
แนนอนวาความน่ิงของจิตไมอาจเกิดขึ้นไดในการภาวนาเพียงครั้งเดียว เราตองหมั่นฝกฝน
ไปทีละเล็กทีละนอ ยซ่งึ ในไมช า เราจะพบวา จิตของเราสามารถทจ่ี ะจดจอไดดขี ึน้ นงิ่ ขน้ึ

ในลักษณะเชนนี้ทานดาไลลามะเนนวา เจตนาเปนส่ิงสําคัญอยางยิ่งเราตองมี
เจตนาท่ีแนวแน ตั้งมั่น ในระหวางท่ีฝกปฏิบัติบางครั้งจิตก็มักจะส่ันคลอนดวยความรูสึก
ต่ืนเตน ฟุงซาน วอกแวก ซ่ึงนั่นเปน อาการอยา งหนึ่งของความยึดติด จิตมักจะสัดสายไปมา
ดวยความคิดถึงส่ิงท่ีท่ีอยากไดอยากมี ความคิดเหลาน้ีคอยกีดขวางความต้ังมั่นของจิตและ
ทําใหค วามกระจา งถดถอย ไมสงบนงิ่ การฝกปฏิบัติเพอ่ื ใหจ ติ เกิดความสงบนิ่งน้ันตองอาศัย
ความพากเพียรจนกระท่ังเกิดความเช่ียวชาญ และในการฝกปฏิบัตินั้นสภาพแวดลอมที่สงบ
เงียบถือวาเปนส่ิงสําคัญอยางมาก เปนเสมือนหน่ึงวาเรามีกัลยาณมิตรที่ดี ที่จะชวยทําให
การฝกปฏิบตั ิของเราบรรลผุ ลไดงายขึ้น

สภาพแวดลอมท่ีอึกทึกครึกโครมยอมทําใหจิตเกิดสมาธิไดยาก โดยเฉพาะอยาง
ย่งิ ผทู ่ีฝกปฏิบัตใิ หมๆ เหตนุ เ้ี องผทู ี่กําลงั เรม่ิ ฝก ควรจะหาสถานท่ีที่เหมาะสม เงียบสงบ และ
ปลอดโปรง ซงึ่ จะชว ยใหจ ติ เกิดความสงบไดง า ยขึ้น

นอกจากสถานที่แลว เราตอ งปลอ ยวางความคิดท่ียุง เหยงิ ทางโลกใหหมด ไมวาจะ
เปนเรื่องครอบครัว ธุรกิจการงาน การติดตอสัมพันธตางๆ แลวอุทิศตนใหกับการเจริญ
สมาธิเพียงอยา งเดยี ว สําหรับผทู ่ปี ฏบิ ัติในชว งแรกน้นั ทานดาไลลามะแนะนําใหปฏิบัติสั่นๆ
เชน ๑๕-๒๐ นาที เมอื่ ปฏิบัตไิ ดม ัน่ คงแลว คอ ยขยายเวลาใหเพ่มิ มากข้นึ ในระหวางท่ีปฏิบัติ
น้ันสิ่งสําคัญคือ มักจะมีอุปสรรคท่ีมาขัดขวางไมใหจิตเกิดความสงบน่ิง ผูฝกปฏิบัติควรที่
เรียนรูวิธีการท่ีจะขจัดเคร่ืองกีดขวางทันทีท่ีมันผุดข้ึนมา เมื่อจิตของเราเร่ิมสัดสายหัน
กลับไปหาความทรงจําที่ร่ืนรมย หรือเกิดความคิดฟุงซานวอกแวกไปมาใหเรารีบดึงจิตนั้น
กลบั มาจดจออยกู ับอารมณภ าวนาซง่ึ ส่ิงทจ่ี ะชว ยดึงจิตกลับมาก็คือสตนิ น่ั เอง

สําหรับผูท่ีฝกปฏิบัติใหมๆ น้ัน เปนส่ิงที่ยากมากท่ีจะทําใหจิตจดจออยูกับสิ่งใด
ส่ิงหนึ่ง แตดวยการมีสติเราจะสามารถร้ังจิตครั้งแลวครั้งเลา คร้ันเม่ือจิตกลับมาจับอยูที่
อารมณแหงการภาวนาดวยการมีสติคอยกํากับอยูอยางนั้นนั่นเอง จิตจึงจะนิ่งอยูไดโดยไม
วอกแวก

การเฝาสํารวจความรูตัวท่ัวพรอม จะชวยใหเรามั่นใจไดวาจิตของเราจะไม
วอกแวก สติจึงเปนสิ่งสําคัญอยางมากในการฝกจิตใหเกิดความสงบ หากปราศจากสติแลว
เราก็ยอมจะคิดฟุงซานไปเร่ือยการรูตัวท่ัวพรอมยังมีประโยชนในการชวยปลุกจิตเวลาที่
เฉ่อื ย เหนื่อย หรอื เหงาหงอย ใหนอมนาํ กลบั มาสูการภาวนาเพราะบางครั้งในระหวางที่เรา
ฝกปฏิบัติไปน้ัน เราจะรูสึกเบื่อรูสึกเหน่ือย รูสึกวาไมอยากจะปฏิบัติตอไปอีก การเฝา

ขบวนการพระพทุ ธศาสนาใหมในโลกปจจุบัน ๓๐๓
พระมหามิตร ฐติ ปโฺ ญ,ผศ.ดร.
บทที่ ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

สํารวจอยางตื่นตัวจะชวยปลุกจิตใหตื่นอยูในสัมผัสอันเบิกบาน อันจะชวยเพิ่มพูนความ
กระจา งและคมชดั ในจติ ใจมากยิ่งขน้ึ สติจึงมีคณุ ประโยชนอ ยางมหาศาล

การฝกใหจิตดึงสติกลับมาอยูบอยๆ อยางน้ีไมไดเปนประโยชนเฉพาะในการฝก
ภาวนาเทาน้ัน ในชีวิตประจําวันของเราก็สําคัญเชนเดียวกันหากปราศจากสติเสียแลวก็ทํา
ใหเราหลงลมื ไดง ายหรอื ทาํ ใหจิตใจของเราฟุงซานไมอยูกับท่ี ซึ่งส่ิงเหลาน้ีลวนเปนท่ีมาของ
ความทุกขท ้งั ส้นิ

การฝกใหจิตจดจออยูกับอารมณใดอารมณหน่ึงนั้นเปนสิ่งท่ีทาทายย่ิง ผูเร่ิมฝก
ปฏิบัติจึงไมควรทอใจหรือทอถอย ถาหากจิตไมเปนสมาธิอยางที่ต้ังใจอยางนอยที่สุดเราจะ
ไดเริ่มฝกดูจิตของเราที่มีความโลดแลนอยูตลอดเวลาดวยความอุตสาหพยายาม ประกอบ
กับมสี ติในการเฝา ดูอยา งเช่ียวชาญ ซงึ่ หากเราทําอยูเปนประจําก็ยอมทําใหจิตสามารถท่ีจะ
ดํารงอยูในสมาธิไดนาน ซ่ึงผลจากการฝกปฏิบัติเชนน้ีจะทําใหเกิดความต่ืนรู ความ
กระฉับกระเฉง และความคิดอันแจม กระจา งขน้ึ

ตามปกติธรรมชาติจิตของเราใสสวางกระจางแจง แตมันจะถูกปกคลุมไปดวย
ประสบการณในชีวิตประจําวัน เวลาท่ีเราฝกปฏิบัติจะตองเพงพิจารณาจิตตองพยายามคง
การสัมผสั รูอ ยูกบั ปจจุบันขณะ ตองพยายามไมใ หป ระสบการณในอดีตมารบกวนจิตของเรา
ใหวุนวาย จิตไมควรยอนไปหาอดีต เพราะโดยปกติแลวเวลาปฏิบัตินั้นจิตของเรามักจะนึก
ยอนไปถึงอดีตที่ผานๆ มา หรือไมก็นึกถึงอนาคตท่ีเราวาดฝนไวถาเราสามารถปองกัน
ความคดิ ไมใ หเอนเอียงไปในอดตี หรืออนาคตได กจ็ ะเหลือจดจออยูกับปจจุบันขณะหวงตรง
กลางระหวางอดตี กบั อนาคตน้ีเปรียบเสมือนดั่งสุญญากาศท่ีเราจะตองจดจอไวใหนานท่ีสุด
เทา ท่จี ะนานได ในตอนแรกการรูถึงพ้ืนที่วางตรงก่ึงกลางนี้จะผุดข้ึนมาเพียงชั่วขณะเทาน้ัน
แตเ มอ่ื ฝกปฏิบัติไปนานเขาเราก็จะสามารถยึดมันออกไปไดการกระทําเชนนี้อยูเปนประจํา
จะชวยขจัดความคิดกีดขวางการเผยออกของธรรมชาติท่ีแทของจิต การรูท่ีบริสุทธ์ิจะฉาย
ออกมาน่ันหมายถึงวา จิตของเราน้ันจะไมถูกปกคลุมดวยอะไร ความใสสวางจะสองไสว
ขึ้นมา

หากเราปฏิบัติพยายามใหจิตอยูตรงกึ่งกลางระหวางอดีตและอนาคตไดเชนน้ีอยู
เปนประจํา ชวงขณะก่ึงกลางน้ันจะคอยๆ กวางขึ้นจนกระท่ังเราสามารถสัมผัสรูไดวา
จิตสํานกึ รคู อื อะไร จิตสํานึกรูท่ีปลอดพนจากกระบวนการคิดท้ังปวงน้ันหาใชจิตที่วางเปลา
ไมใชเ กดิ เวลาท่หี ลบั ลึก หลับโดยไมฝน หรอื เหมอื นกับการเปน ลมหมดสติ

เม่ือเร่ิมตนฝกภาวนา เราควรท่ีจะต้ังใจมั่นวาจะไมปลอยใหจิตวอกแวกหรือถูก
รบกวนดวยความคิดในอดีต และไมก ังวลถงึ สิ่งท่ีจะเกดิ ขึ้นในอนาคตจะพยายามประคองจิต
ใหค งมัน่ อยกู บั ปจ จุบนั ใหน านท่สี ดุ เทา ทีจ่ ะทําได ซง่ึ เม่อื จิตตั้งม่ันอยูในปจจุบันความฟุงซาน

๓๐๔ ขบวนการพระพทุ ธศาสนาใหมใ นโลกปจจุบัน
พระมหามติ ร ฐติ ปโฺ ญ,ผศ.ดร.
บทท่ี ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

ยอมไมเกิดขึ้น มีเพียงความเปนสมาธิท่ีแนวแนท่ีมีอยูและทําใหจิตดวงนั้นเกิดความสวาง
กระจา งใสข้นึ มา

สภาวะจิตที่เกิดความกระจา งสวา งไสวน้ันเปนสภาวะเบื้องแรกของการฝกปฏิบัติ
หากเราไดรบั สภาวะนี้แลวก็สามารถท่ีจะนําจิตที่สงบละเอียดน้ีพิจารณาถึงความเปนอนัตต
ลักษณะของจติ หรอื ความวา งเปลา ของจติ ๕๒

ซ่ึงเปนธรรมชาติที่วางเปลาจากความมีตัวตนของจิต หากกําหนดพิจารณาเห็น
อยางชัดเจนแลวก็จะปรากฏชัดวา จิตก็คือความวางเปลาหรือเปนสิ่งที่ไมมีคัวตนน่ันเอง
ฉะนัน้ จติ ทีล่ ะเอยี ดออนเทานน้ั ทจ่ี ะเขาถึงสภาวะท่ีวา งเปลา น้ีได

การฝก จิตใหส งบ ละเอยี ด จงึ นบั วาเปนประโยชนอยางมากแกชีวิตทั้งในทางโลก
และทางธรรม ในทางโลกน้ันจิตที่สงบจะชวยใหเราเผชิญกับปญหาตางๆ ไดอยางไม
หว่ันไหว สามารถท่ีจะคิดพิจารณาหาทางแกปญหาไดอยางงายดาย และแมวาบางปญหา
เราอาจจะไมส ามารถที่จะแกไขไดดวยตัวเราเอง เพราะอาจจะมีเหตุปจจัยตางๆ มากมายท่ี
เราไมสามารถควบคุมได

ผูท่ีมีจิตสงบจะสามารถเขาใจและปลอยวางในปญหาเหลานั้นไดดีและไมเปน
ทุกขเดอื ดรอน สวนผูทีม่ ีจติ ใจไมสงบก็เปน ธรรมดาท่จี ะตองกระสับกระสาย ด้ินรน กังวลใจ
ในส่ิงตางๆ ที่เกิดข้ึน การฝกจิตจึงเปนคุณประโยชนที่ย่ิงใหญที่จะชวยประคองชีวิตของเรา
ไมใหหลุดลงไปจมอยูกับอารมณดานลบท้ังหลาย ทําใหเราต้ังม่ันอยูไดในความสงบแมวา
สถานการณข องชีวิตจะเปน อยา งไรกต็ าม

สําหรับชีวิตในทางธรรม แนนอนวาสมาธิเปนสิ่งที่สําคัญย่ิงเพราะจะชวยใหเขา
เขาถึงความจริงตางๆ ที่ละเอียดออนได และสามารถทําใหเรากําจัดอารมณทางดานลบ
ท้ังหลายท่ีมีอยูในจิตใจใหหมดไปไดอยางส้ินเชิง ถาเราไมมีสมาธิเราคงไมสามารถท่ีจะ
พิจารณาเห็นคุณหรือโทษของอารมณดานลบ และไมสามารถที่จะพิจารณาใหเห็นถึงเหตุ
ปจจัยท่ีจะทําใหสิ่งเหลานั้นเกิดขึ้นได เมื่อไมทราบเหตุปจจัยที่ทําใหมันเกิดข้ึนก็ยอมไมรู
วิธีการท่ีจะกําจัดมัน ในทางตรงกันขามคนท่ีมีสมาธิแนวแน มั่นคง ยอมพิจารณาเห็นคุณ
เห็นโทษ และประโยชนข องอารมณด า นลบดานบวกรวมถงึ รเู หตุปจ จยั ทําใหมันเกิดข้ึน และ
รูวิธีการที่จะกําจัดมันใหหมดสิ้นไป ส่ิงสําคัญอยางหนึ่งคือ ทําใหเราเขาถึงธรรมชาติอัน
แทจรงิ ของสรรพสง่ิ วา ทุกสิง่ เปนของไมเ ทยี่ งเปน ทกุ ข และมีธรรมชาตวิ า งเปลา

การเขาถึงสภาวะดังกลาวอยางแจมแจงน้ีทําใหเราสามารถที่จะปลอยวางสิ่ง
ตางๆ รวมถึงตัวเราไดวามันเปนของไมเที่ยง เปนทุกข และมีธรรมชาติวางเปลา เม่ือเรา

๕๒ เร่อื งเดียวกัน, หนา ๒๐๒.

ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมใ นโลกปจ จุบัน ๓๐๕
พระมหามิตร ฐติ ปฺโญ,ผศ.ดร.
บทที่ ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

สามารถปลอยวางไดความสุขที่ย่ิงใหญก็ยอมเกิดข้ึนตามมา ไมมีอะไรที่จะมาทําใหเราทุกข
ใจไดอ กี ตอไป “ผทู ีม่ จี ติ สงบจะสามารถเขาใจ และปลอยวางปญหาเหลานั้นไดดี และไมเปน
ทุกขเดือดรอน”

๖.๖.๑๗ การสรางสันตภิ าพท่ีแทจ ริง
สันติภาพเปนสิ่งท่ีจะทําใหทุกคนอยูรวมกันอยางมีความสุข ไมวาจะเปนชนชาติ
ใด สีผิวอะไร พูดภาษาอะไรก็ตาม หากสันติภาพเกิดขึ้นทุกคนยอมมีแตรอยย้ิม ในทาง
ตรงกันขามการทําสงครามไมเคยทําใหมนุษยชาติเกิดความสงบสุขอันแทจริงข้ึนมาได มีแต
รอยเลอื ด คราบนาํ้ ตา และเสยี งรอ งไหท่เี กดิ ขน้ึ
ทานดาไลลามะนับวาเปนบุคคลตัวอยางในการตอสูเพื่อใหไดมาซึ่งสันติภาพ ซ่ึง
จะเห็นไดชัดจากการท่ีทานไดรับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ เม่ือป พ.ศ. ๒๕๓๒ โดยใหตุ
ผลวา คณะกรรมการตองการเนนความเปนจริงท่ีองคดาไลลามะไดพยายามตอสูอยาง
ตอเน่ืองและอยางสันติ เพ่ือปลดปลอยทิเบต ทานไดเสนอหนทางแกไขปญหา โดยเนนใน
เร่ืองความอดทนและการเคารพซ่ึงกันและกัน เพ่ือคุมครองมรดกทางประวัติศาสตรและ
วัฒนธรรมของประชาชนชาวทเิ บต
ในยุคปจจุบันน้ีมนุษยชาติประสบกับปญหาตางๆ มากมาย ไมวาจะเปนปญหา
ความอดอยาก ปญ หาการไมมีงานทํา ความเหลื่อมล้ําทางสังคม ปญหาการคอรรับช่ัน เปน
ตน นอกจากนน้ั แลว มนษุ ยยงั มีการเบียดเบยี นซง่ึ กันและกันอกี มากมายหลายรูปแบบ ทาน
ดาไลลามะกลา ววา สงิ่ ตางๆ เหลานี้ลวนแตเปนส่ิงท่ีกําลังทาทายเพ่ือทําลายสันติภาพ และ
ชีวติ บนพน้ื พภิ พ เพราะกจิ กรรมนั้นๆ ไมคํานงึ ถงึ คุณคา ของความเปน มนษุ ย
ชีวิตทุกชีวิตน้ันมีคาและทุกคนตางรักสุขเกลียดทุกขทั้งน้ัน เราไมตองการใหคน
อื่นมาเบียดเบียนเราฉันใดคนอ่ืนก็ไมตองการฉันน้ันเหมือนกัน เมื่อเปนเชนนี้มนุษยจึงตอง
มารบราฆาฟนกัน เบียดเบียนกันดวยเลา ซ่ึงหากเราเบียดเบียนผูอ่ืน แนนอนวาคนท่ีถูก
เบียดเบียนยอมไมมีความสุขและสุดทายผลกรรมนั้นจะยอนกลับมาท่ีตัวของผูเบียดเบียน
เอง ซงึ่ จะทําใหต นเองไมมคี วามสขุ เชน เดียวกนั
ทานดาไลลามะกลาวไววา การทําลายลางในอดีตน้ันเราใหอภัยไดแตบัดนี้เรามี
ทางรับรูขาวสารขอมูลตางๆ มากขึ้น เราไมควรที่จะปลอยใหอดีตท่ีไมดีในประวัติศาสตร
เกิดข้ึนซํ้ารอยอีก เราจึงควรพิจารณาถึงจุดยืนทางจริยธรรมใหมั่นคง เพ่ือใหตกทอดไปถึง
อนชุ นคนรุนหลัง
ประวัติศาสตรท่ผี านมาในอดีตนั้น มนุษยชาติไดเรียนรูเกี่ยวกับความเจ็บปวดอัน
เกิดจากสงครามมากมายและส่ิงเหลานั้นไมไดชวยใหมนุษยชาติเราแกปญหาไดแตอยางใด

๓๐๖ ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมในโลกปจจบุ นั
พระมหามติ ร ฐติ ปฺโญ,ผศ.ดร.
บทท่ี ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

มีแตจะสรา งปญ หาใหม ากขึ้นกวา เดมิ ท้ังปญ หาความอดอยากอันเกิดจาภัยสงคราม ปญหา
ดานการเมือง ทําใหเกิดความเกลียดชัง เคียดแคน ละยังมีปญหาอ่ืนๆ ตามมาอีกมากมาย
เราจึงควรที่จะรวมมือกันหาแนวทางในการปองกันความรุนแรงตางๆ ที่เกิดขึ้นน้ันใหหมด
ไป และรวมมือกันแกปญหาดวยสันติวิธี ดวยการเจรจา มีความอดทน และมีการใหเกียรติ
เคารพซึง่ กันและกนั ในฐานะท่ีเปน มนุษยคนหนึ่ง

ทานดาไลลามะกลาววา เรามีความสามารถพรอมกับความรับผิดชอบท่ีจะทะนุ
ถนอมโลกและสันติสุขในโลกน้ีไวโดยท่ีเราตองทําเดี๋ยวน้ีกอนท่ีจะสายเกินไป นั่นก็
หมายความวา มนุษยทุกคนน้ันมีศักยภาพเพียงพอท่ีจะรักษาโลกน้ีไว และสรางสันติสุขอัน
แทจริงใหเกิดข้ึนในโลกได ไมมีใครหรืออะไรในโลกนี้ที่จะสามารถทําลายมนุษยไดเทากับ
มนษุ ยเอง

ความทุกขความเจ็บปวดท้ังหลายท่ีเกิดข้ึนในโลกของเรา สวนใหญแลวลวนเกิด
จากการกระทําของมนุษยแทบท้ังสิ้น หากเราเปล่ียนมุมมองใหม เปล่ียนการกระทําใหม ก็
จะทําใหเราไดรวมกันสรางสิ่งท่ีดีงามใหกับคนในโลกนี้ได การแกปญหาจะตองแกที่ตัวเรา
แตละคน และเรม่ิ ตน เดยี๋ วนีเ้ วลาน้ีทันที๕๓

ทานดาไลลามะไดแนะนําวิธีการในการแกปญหาตางๆ ของโลกไววา เราแตละ
คนจะตองมีวินัยในตนเองมีหลักศีลธรรม เพราะศีลธรรมทําใหมีการควบคุมตนเองโลกของ
เราจะมีสันติสุขอยางแทจริงได เราจะตองใหการศึกษากับผูคน โดยเฉพาะจิตใจของคนแต
ละคน ในการแกปญหาก็ตองกระทํากันอยางจริงจัง เร่ืองศีลธรรมและจริยธรรมสมัยใหม
เปนแบบเร่ืองโลกวิสัยของฆราวาส และคิดแกปญหาไมใชความรุนแรง คนท่ัวโลกตองคิด
หาทางรวมกัน เพราะความรุนแรงตางๆ ไมเกิดผลอะไรเลย เหตุน้ีเองมนุษยเราจึงตองจับ
มอื กนั เพ่อื สรางสันตภิ าพ

แตกอนท่ีจะทําอยางนั้นได เราตองมีความสงบภายใน ซึ่งความสงบภายในเกิด
จากการคิดหาเหตุผลวา ทําอยางไรจะไมเกิดความรุนแรง ความรุนแรงเกิดจากความกลัว
ยงิ่ เราใหความสําคัญกบั มนั มากเพยี งใด มันกย็ ่งิ เพม่ิ มากขน้ึ หรอื ย่ิงเกิดความกลัวมากเทาใด
มนั ก็ยง่ิ จะเพม่ิ ปริมาณความหวาดกลวั มากข้นึ เทานั้น

จากคําสอนของทานดาไลลามะชึ้ใหเราเห็นวา การจะสรางสันติภาพท่ีแทจริง
ข้ึนมาในโลกไดน ัน้ จะตอ งเรม่ิ ตน ทต่ี วั ของเรากอ น โดยการเรมิ่ ตน จากสันติภายในใจของเรา
ใหได หากเราไมสามารถสรางสันติภายในขึ้นมาได ก็คงยากที่จะทําใหสันติภาพอันแทจริง
เกิดขึ้นมาในโลกได การที่จะมสี ันติภายในใจไดเราจะตองมีวินัย มีหลักศีลธรรมคอยควบคุม

๕๓ เรือ่ งเดยี วกนั , หนา ๒๑๐.

ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมในโลกปจจุบัน ๓๐๗
พระมหามิตร ฐติ ปโฺ ญ,ผศ.ดร.
บทที่ ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

ตัวเราไมใหหลงไปกระทําในส่ิงท่ีเปนอันตรายหรือในส่ิงท่ีเปนดานลบ เพราะสิ่งเหลานั้นมัน
จะนาํ ความวุนวายมาสูจติ ใจของเรา

ในเบื้องแรกหากเรามีจิตต้ังมั่นที่จะดํารงอยูในกรอบของศีลธรรมความดีงาม
ทั้งหลาย อยางนอยก็จะทําใหจิตของเราไมกวัดแกวง ไมสัดสาย ซึ่งนี่ก็นับวาเปนจุดเร่ิมตน
ของการมีสันติภายในใจของเราเกิดข้ึน เมื่อเราเร่ิมมีความสงบภายในแลว ก็คอยพิจารณา
หาสาเหตุแหงความด้ินรนสัดสายของจิต วามันเกิดข้ึนจากสาเหตุอะไร แลวพยายามแยก
สาเหตุเหลานั้นออกมาใหชัดเจนพรอมกับหาทางกําจัดสาเหตุท่ีทําใหจิตสัดสายด้ินรน
ออกไปทีละสาเหตุ ซง่ึ ในทส่ี ดุ ความสงบสขุ ก็ยอมเกดิ ขึ้นตามมา

เมื่อจติ ของเราเกดิ ความสงบสุข แนนอนวาความอดทนอดกลั้นตอส่ิงท่ีมากระทบ
ยอมมีมากขึ้น และหากเราพิจาณาถึงคุณคาของความเปนมนุษยก็จะย่ิงทําใหเราเห็นวา
มนุษยทุกคนมีคุณคา ทุกคนตองการความสุขดวยกันท้ังน้ัน เราจึงไมควรที่จะสรางความ
ทกุ ขความเดอื ดรอ นใหก ับใคร เพราะตามปกติแลวถึงแมวาจะไมมีใครสรางความทุกขใหกับ
เขา เขาก็เปนทุกขพออยูแลว เชน ทุกขจากความหิว ทุกขจากความเกิด ทุกขจากความแก
ทุกขจากความเจ็บ ทุกขจากความตาย สิ่งตางๆ เหลานั้นมันเกิดข้ึนอยูทุกขณะ มนุษยทุก
คนตางมีความทกุ ขอยรู ายรอบตัว แลวทําไมเราจึงตองไปเพ่ิมความทุกขใหแกกันและกันอีก
ดวยเลา การคิดพิจารณาเชนนี้จะทําใหเกิดความเมตตากรุณาตอกันและกันขึ้นมา ซึ่งความ
เมตตาน้ียอมทําใหจิตเกิดความสงบขึ้นมาภายในใจ และแนนอนวาความเมตตาน้ียอมเปน
เหมือนกับแสงสวางที่จะทําใหเกิดสันติขึ้นมาในโลกนี้ หากโลกนี้ขาดความรักความเมตตา
โลกน้ีจะตองลุกเปนไฟอยางแนนอน ความรักความเมตตาที่ไมมีประมาณไมเลือกท่ีรักมักท่ี
ชัง จะชวยสรา งสันติภาพอันแทจรงิ ใหเ กิดขน้ึ ได

นอกจากนั้นแลว ทานดาไลลามะไดเนน ยาํ้ วา ในปจจุบันเราไมสามารถท่ีจะอยูได
ดวยตวั คนเดยี ว คนเราตองอาศัยพ่ึงพากัน เมื่อเราตองพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน เราจึงควร
ใหเ กียรตกิ ัน ใหค วามเคารพซึง่ กันและกนั ใหม าก

ในปจ จุบนั หากเราพิจารณาสง่ิ ท่ีดาไลลามะสอน ก็จะเห็นวาเปนเชนนั้นจริงเราไม
สามารถอยูไดโ ดยไมพึ่งพาอาศยั ใครเลย แมแ ตต ัวเราเมื่อตอนเปนเด็ก เราก็ตองพ่ึงคนอ่ืนใน
การกนิ การอยู เสือ้ ผา ท่ีอยอู าศัยตา งๆ กล็ ว นแตม ผี ูผลิตผสู รางใหเ ราทงั้ สิ้น จะมีสักกี่อยางท่ี
เราพึ่งตนเอง สวนใหญแลวเราพึ่งคนอื่นแทบทั้งส้ิน ในระดับที่ใหญข้ึนมาไมวาจะเปนสระ
ดับชาติหรือระดับโลก ตางก็ตองพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันบานเราไมมีน้ํามัน ก็ตองอาศัย
ประเทศที่มีน้ํามัน ประเทศที่มีน้ํามันมากแตปลูกขาวไมได ก็ตองอาศัยประเทศที่สามารถ
ปลูกขาวได เปน ตน ทุกประเทศตางตองพ่ึงพาอาศัยซึ่งกันและกัน เราจึงรวมมือกันสรางแต
ส่ิงท่ดี ีงามใหเกดิ ขึน้ ในโลก

๓๐๘ ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมในโลกปจ จุบนั
พระมหามิตร ฐติ ปฺโญ,ผศ.ดร.
บทท่ี ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

การที่คิดวาตองพึ่งพาผูอ่ืน จะทําใหเราเกิดความรูสึกที่เคารพและใหเกียรติผูอ่ืน
ตองกตัญูตอบแทนผูอ่ืน ไมวาจะในระดับปจเจกบุคคลหรือในระดับประเทศก็ตาม หาก
เราคิดวาตองพึ่งพาอาศัยกัน ก็ตองชวยเหลือกันและกัน หากเราคิดวาเราเกงไมตองพึ่งพา
ใคร ความคิดแบบน้ีจะนําไปสูความขัดแยงและเกลียดชังไดงาย เมื่อเกิดความเกลียดชัง ก็
ยอมไมม ีทางที่จะทําใหเ กดิ สนั ตภิ าพขึ้นมาในโลกไดอยางแนน อน

ในความเปนจริงแลวสันติภาพมีหลายระดับ ไมใชเพียงแคไมทําสงครามตอกัน
เทาน้ัน ในระดับท่ีหยาบการเบียดเบียนซ่ึงกันและกันทางกาย ทางวาจา ก็นับวาไมมี
สันติภาพในแงน้ี หากเราตองการใหสันติภาพเกิดขึ้นในโลกอยางแทจริง ก็จะตองไม
เบียดเบียนกันทั้งทางกาย ทางวาจา และทางใจ น่ันก็คือตองเริ่มจากจิตใจของเราเสียกอน
ฝกจิตของเราไมใหมีความเบียดเบียน ไมคิดที่จะเบียดเบียนใครซึ่งเมื่อจิตไมคิดท่ีจะ
เบียดเบียนการกระทําตางๆ ที่จะเปนไปในรูปแบบการสรางความทุกขใหกับผูอ่ืนยอมไม
เกดิ ขน้ึ สนั ติสุขภายในนน้ั เราสามารถเรม่ิ สรา งไดเ ดี๋ยวน้ีเวลานี้ ทันทีท่เี ราเกิดความรูสึกหรือ
อารมณในดา นลบข้นึ มาในใจ เรากพ็ ยายามคิดวิเคราะหและหาทางกําจัดอารมณในดานลบ
เหลาน้ันใหหมดส้ินไป หรือหาทางตางๆที่ทําใหมันเกิดขึ้น และเหตุปจจัยตางๆ ที่ทําใหมัน
ดับไปแลว ก็ลงมอื กําจดั สาเหตุทีท่ ําใหมันเกิดขึน้ จติ ใจของเราก็จะเกิดความสงบสนั ตขิ นึ้ มา

เม่ือจิตเกิดความสงบสุขข้ึนมา ยอมไมคิดที่จะเบียดเบียน สันติภาพอันแทจริงก็
จะเริ่มเกิดขึ้นที่ใจของเราแลว เม่ือสันติภาพอันแทจริงเกิดข้ึนท่ีใจของเราแลวก็จงคอยๆ
พยายามขยายสันติภาพนั้นใหกวางขวางออกไปเร่ือยๆ คือชวยเหลือผูอื่นใหเกิดความสงบ
สุขดานจิตใจเหมือนกับท่ีเราไดรับ ในแงน้ียิ่งเราสามารถขยายสันติภาพดานจิตใจออกไปได
มากเทา ไร โลกของเราก็ยอ มมคี วามสงบเย็นมากข้นึ เทา นัน้

ความสขุ ดา นจิตใจจงึ ไมไ ดเปนประโยชนเฉพาะตวั เราเทา น้ัน แตจ ะเปนประโยชน
แกผ คู นรอบขา งทง้ั หมดของเราดวย มนั จะชว ยสรา งสมั พันธภาพท่ีดงี ามใหเกิดขึ้น พรอมกับ
ชวยใหเราปฏิบัติตอผูอื่นอยางเหมาะสม ซึ่งสิ่งเหลานี้ก็คือผลพวงที่เกิดจากสันติภาพอันมา
จากภายในน่นั เอง๕๔

จากที่กลาวมาก็จะเห็นวา สันติภาพอันแทจริงจะเกิดขึ้นไมได ถาหากวาเราไมมี
สันติภาพจากภายในใจของเรากอน หากเราตองการใหมีสันติภาพในโลกน้ีอยางแทจริงเรา
ตองเริ่มฝกฝนจากตัวเรา สรางสันติภาพในใจใหเกิดข้ึนกอน โดยอาศัยหลักศีลธรรม
จริยธรรม ในการฝกฝน และเม่อื เราไดพ บสนั ติภาพในใจแลวกค็ อยๆ ขยายสิ่งเหลาน้ีไปสูคน
อน่ื ๆ ในสังคม ก็จะทาํ ใหด อกไมแหง สนั ตภิ าพเบง บานขนึ้ ในโลกไดอยางแทจริง “เมื่อจิตเกิด

๕๔ อา งแลว .

ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมในโลกปจจบุ นั ๓๐๙
พระมหามติ ร ฐติ ปฺโญ,ผศ.ดร.
บทที่ ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

ความสงบสุขข้ึนมา ยอมไมคิดที่จะเบียดเบียน สันติภาพอันแทจริงก็จะเร่ิมเกิดข้ึนในใจของ
เราแลว ”

๖.๖.๑๘ การแกป ญหาความรุนแรง
ความรุนแรงเปนอีกปญหาหน่ึงที่เกิดขึ้นมากมายในสังคมปจจุบัน และนับวา
ปญหานี้ก็ย่ิงทวีความรุนแรงมากข้ึนเรื่อยๆ เราจึงควรที่จะหาทางชวยกันกําจัดปญหาน้ีให
หมดส้นิ ไปจากสังคม ไมเชนน้ันแลวโลกของเราก็จะเต็มไปดวยความยุงเหยิงและความทุกข
อยางไมมีวันจบสิ้น
ทานดาไลลามะกลาวไววา การที่ความรุนแรงเกิดข้ึนมากในสังคมนั้นเปนเรื่องที่
นาละอายอยา งมาก และเราไมสามารถจะจัดการกบั ปญ หาเหลาน้ีได เบ้ืองแรกทานดาไลลา
มะแนะนาํ วา หากจะจัดการกับปญ หาความรนุ แรงเราจะตองรูจักแยกแยะความรุนแรงชนิด
ตางๆ ออกจากกัน เชน ความรุนแรงท่ีไมมีใครสนใจกับความรุนแรงท่ีทุกคนเห็นและพูดถึง
ซ่งึ ทัง้ สองประเภทน้ีเปนส่ิงทีไ่ มด ีดว ยกันทงั้ คู
ทา นดาไลลามะไดกลา วย้าํ อกี วา ในทศั นของพทุ ธศาสนกิ ชนน้ัน ความรุนแรงเปน
ความชวั่ รา ยเพราะมันทํารายเรา ไมคนก็ส่ิงของตองถูกโจมตี เพียงแตมีวิธีการมากกวาหน่ึง
วิธีในการทํารายคือ ไมจําเปนตองทํารายดวยอาวุธที่โหดรายทารุณก็ได เชน การย้ิมอยาง
สุภาพและอยางนารักน้ัน ถามีเจตนาประสงครายที่จะทําใหเกิดโทษ ใหเกิดความทุกขรอน
แลวก็ถือวาเปนความรุนแรงชนิดหนึ่ง ในแงนี้ความรุนแรงที่ทานดาไลลามะกลาวถึงนั้นมัน
ละเอยี ดลึกซึ้งเขาไปถึงดานจิตใจคือ ถาจิตใจของเรามเี จตนาทจี่ ะเบียดเบยี นก็นับวาเปนการ
สรางความรุนแรงข้ึนแลว ปญหาความรุนแรงจึงนับวาเริ่มเกิดขึ้นจากเจตนาท่ีคิดมุงรายตอ
ผูอ่ืน ซ่งึ เปนอารมณใ นดา นลบ หากเกดิ มขี ึ้นกบั ใครแลวก็ยอมสรางความทุกขใจใหกับผูเปน
เจาของทค่ี รอบครองอารมณนน้ั และยงั นาํ มาซงึ่ ความทุกขความเดอื ดรอนแกคนท่ีเกีย่ วของ
การมีเจตนาคิดท่ีจะมุงรายตอผูอื่นเปนสาเหตุหลักที่ทําใหเกิดความเบียดเบียน
และตนตอของเจตนาเหลา นัน้ ยอมมาจากความละโมบโลภมาก และความเกลียดชัง เปนตน
สงิ่ เหลา น้ีเม่ือมนั ครอบงาํ จติ ใจแลว ก็จะทําใหแสดงพฤติกรรมตางๆ ทไ่ี มด ีออกมา
ถาหากทุกคนพิจารณาเห็นวา สิ่งที่กําลังกระทําและความทุกขที่กําลังเผชิญอยู
นน้ั มีสาเหตุมาจากความโลภ ความโกรธเกลียดแลว เราตองหาทางกําจัดมันเพ่ือทําใหโลก
ของเราเกิดความสงบสุขขนึ้ มาได
ทานดาไลลามะไดเนนยํ้าเร่ืองการสรางความสงบและสันติสุขในใจนี้บอยครั้ง
เพราะทานเชื่อวา จะชวยทําใหสามารถบรรเทาความทุกขในโลกนี้ไดอยางย่ังยืน ซึ่งตางจาก
การแกป ญ หาท่ีต้ังอยบู นพ้ืนฐานของกเิ ลส ความโกรธ ความเกลยี ดชงั และความกลัว

๓๑๐ ขบวนการพระพทุ ธศาสนาใหมในโลกปจจุบัน
พระมหามติ ร ฐติ ปฺโญ,ผศ.ดร.
บทที่ ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

จิตที่สงบสุขจากภายในน้ันยอมสรางแตส่ิงท่ีดีงามตอตนเองและผูอื่น ไมคิดท่ีจะ
เบยี ดเบยี นและไมก ระทําความรุนแรง

ไมวา จะเปนทางกายหรือทางวาจาก็ตาม การท่ีจะทําใหจิตใจเกิดความสงบสุขได
นั้น ทานดาไลลามะไดแนะนําวาเราตองฝกสมาธิภาวนา เพ่ือใหคนแตละคนมีสติและ
สัมปชัญญะ ท่ีจะทําใหรูเทาทันตอจิต อารมณ และกิเลสท้ังหลาย ซ่ึงมันเปลี่ยนแปลงได
รวดเร็วมาก สมาธิที่จะทําใหเกิดปญญาที่จะสามารถชวยใหเรารูวิธีที่จะกําจัดความรุนแรง
หรือการเบยี ดเบียนตนเองและผูอื่นในรปู แบบตางๆ และสําคัญมากย่ิงกวานั้นก็คือ สมาธิจะ
ชว ยใหเกดิ ความสงบและสันติในใจ ลดอารมณที่เปน ลบ ลดความกลัว เชน ความกลัวที่ตอง
เผชิญกับความไมแนนอนของชีวิต ซึ่งมักสงผลใหคนตองดิ้นรนแสวงหา จนนําไปสูการ
เบยี ดเบยี นตนเองและเบียดเบียนผูอืน่ เพยี งเพือ่ สรางหลักประกันใหก ับตนเอง

ประการตอมาที่ทานดาไลลามะเนนยํ้าก็คือ ความเมตตากรุณาหรือความ
ปรารถนาดีตอผูอ่ืน ตองการใหผูอ่ืนมีคุณภาพชีวิตที่ดีข้ึน ซ่ึงความเมตตากรุณาน้ีตองตั้งอยู
บนความเขา ใจอยา งแจมแจงวา ทุกคนและทุกสิ่งในโลกนี้ตองเก่ียวเน่ืองซ่ึงกันและกัน และ
ความเมตตากรุณาน้ีจะตองไมจํากัดอยูเฉพาะแตในครอบครัว เพ่ือนฝูง คนที่เปนพวก
เดียวกัน หรือคนเช้ือชาติเดียวกันเทาน้ัน แตจะตองเปนความเมตตากรุณาหรือความ
ปรารถนาดีสําหรบั ทุกคนที่อยรู วมกันบนโลกใบน้ี

นอกจากนั้นแลว ความเมตตากรุณาน้ีจะตองแผไปถึงแมกระท่ังศัตรูของเราดวย
ตองละวางความโกรธใหไดเพราะปญหาตางๆ ที่เรากําลังเผชิญอยูน้ีเปนปญหารวมกัน ไมมี
พรหมแดน ความทุกขและความรุนแรงจะลดลงไปมากถาเราพยายามเขาใจความจําเปน
ของคนอืน่ และไปชวยตอบโจทยความจําเปนของคนที่ขาดแคลน ในทางตรงกันขามถาหาก
วามนุษยใชชีวิตรวมกันดวยวิถีที่เบียดเบียนซ่ึงกันและกันมากย่ิงขึ้นแลว ก็จะไมมีทางท่ีจะ
ลดความรนุ แรงและแกป ญหาตางๆไดเลย

ทานดาไลลามะไดเนนย้ําอีกวา ถาหากเราใชชีวิตอยูดวยความเมตตากรุณา มี
ความปรารถนาดีตอกันและกัน มีความมุงมั่นที่จะลดการเบียดเบียนแลว สังคมโลกก็มี
โอกาสเปล่ยี นแปลงไปในทิศทางทด่ี ขี ึ้น ความรนุ แรงและความทกุ ขก ็จะลดลง

ฉะน้ัน สิ่งสําคัญคือตองสรางความเมตตากรุณาน้ีใหเกิดขึ้นใหได ความกรุณาจะ
เกิดขึ้นไดหากเราเจริญความรูสึกผูกพันหรือความใกลชิดกับผูอ่ืน ทั้งตระหนักและหย่ังเห็น
ความทกุ ขอ ยา งหนักหนว งของผูอื่น แลวเราใครครวญถึงกุศลแหงการเกื้อกูลใหผูอ่ืนเปนสุข
กจ็ ะทาํ ใหค วามกรุณาเกิดขึ้นได

ทานดาไลลามะไดแนะนําไวอีกวา การใครครวญถึงความเมตตาของผูอ่ืนก็เปนสิ่ง
สําคัญเชนเดียวกัน เชนรูสึกวาความอยูดีมีสุขของเรานั้นตองอาศัยความรวมมือและ

ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมในโลกปจ จุบนั ๓๑๑
พระมหามิตร ฐติ ปโฺ ญ,ผศ.ดร.
บทที่ ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

คุณปู การของผอู ื่นเพียงไร ทุกแงมุมของความอยูดีมีสุขของเราลวนกําเนิดจากน้ําพักนํ้าแรง
ของผูอ่ืน ลองมองไปรอบๆ ตัวเรา ไมวาจะเปนที่พักอาศัย งานที่ทํางาน ถนนท่ีใชสัญจร
เส้ือผา ทีส่ วมใส อาหารท่ีกนิ เปน ตน ลว นแตม ีผสู รางผูผลิตใหเราท้ังส้ิน หากไมใชดวยความ
เมตตาของผคู นมากมายแลว ส่งิ เหลานค้ี งไมม อี ยใู หเราไดรน่ื รมยใ ชส อย

เมื่อเราใครครวญอยูอยางนี้เปนประจํา ความสํานึกรูคุณตอผูอ่ืนก็จะงอกงาม
ข้ึนมา รวมถึงความรูสึกผูกพันและใกลชิดตอพวกเขา พรอมที่จะรับผิดชอบตอความทุกข
ยากท้ังหลาย อยากจะชวยเหลือผูอื่นใหพนจาก เพื่อเปนการตอบแทนที่เขาท้ังหลายได
ชวยเหลือใหเ ราประสบความสุขอยา งทเี่ ปน อยู

ส่ิงสาํ คัญเราตอ งรูส กึ โยงใยอาศยั ผูคนทั้งหลายท่ีเขามีเมตตากรุณา เพราะจะชวย
เพิ่มพนู ความรรู สู ึกใกลช ดิ ขึ้นมาได ซึง่ สง่ิ นี้อาศัยการมองผูอื่นโดยละการถือตนเปนใหญ เรา
ตอ งหมน่ั ระลึกถงึ ผลอันใหญห ลวงที่พวกเขามีตอ ความอยเู ยน็ เปน สุขของเรา

เม่ือไมลุมหลงเอาแตตนเปนใหญเปนที่ต้ัง โลกทัศนท่ีเห็นถึงความสําคัญของทุก
ชีวิตก็จะเขามาแทนท่ีการแสดงออกซึ่งความกรุณาก็จะเกิดข้ึนตามมา ปญหาความรุนแรง
ท้งั หลายกจ็ ะไมมีอยใู นสังคมอีกตอ ไปจะมแี ตความสงบเย็น มีแตก ารชวยเหลือซึ่งกันและกัน
ท่จี ะเกดิ ขึ้นมาแทนท่ี

อีกสิ่งหน่ึงท่ีทานดาไลลามะเนนก็คือ การศึกษาภายในเราตองใหความสําคัญตอ
การสรางภูมิคุมกันทางใจ ใหรูจักความพอเพียง พอประมาณ และจะตองสอนใหเด็ก
สามารถที่จะเช่ือมโยงความเกี่ยวเน่ืองของคนอื่นๆ ในสังคมและโลกนี้ จึงจะทําใหความ
รุนแรงตางๆ ยุติลงได เด็กรุนใหมจําเปนท่ีจะตองมีหลักจริยธรรม ไมวาจะเปนการไมโกหก
ไมข โมย และไมเบียดเบียนผูอื่น สังคมโลกจึงจะเปนสังคมที่ลดความรุนแรงลงได การที่เด็ก
ไมกระทําสิ่งที่เปนแงลบตางๆ นั้น เขาจะตองมองคุณและโทษของมันอยางจริงจังเสียกอน
หากเขาไมเคยพจิ ารณาเห็นโทษของมันอยางจริงจัง ก็ยอมไมเห็นหนทางท่ีจะกําจัดมัน การ
พจิ ารณาเห็นโทษของการกระทําในดานลบท้ังตอตนเองและผูอ่ืนท่ีเกี่ยวของดวยปญญาอัน
บริสุทธ์ิ จะทําใหรูจักหาทางหลีกเล่ียงที่จะไมกระทําส่ิงเหลาน้ัน เพราะหากกระทําลงไปใน
ทสี่ ดุ มนั กจ็ ะยอนกลบั มาหาผกู ระทําน่นั เอง

หากจิตใจไดรับการพัฒนาอยางถกู ตอง รจู ักหม่ันสังเกตอารมณตางๆ ท่ีเกิดข้ึนใน
จิตใจ และพิจารณาเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงท่ีเกิดขึ้นภายในจิตใจอยางลึกซ่ึง และคอยเปน
คอยไปก็ทําใหเด็กมีทัศนคติและพฤติกรรมเปล่ียนไปในทางที่ถูกตองดีงามมากย่ิงข้ึน ความ
รุนแรงตา งๆ กจ็ ะคอ ยๆ ลดหายไปจากสงั คมไดในทสี่ ุด๕๕

๕๕ เรื่องเดียวกัน, หนา ๒๒๖.

๓๑๒ ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมในโลกปจจบุ นั
พระมหามิตร ฐติ ปโฺ ญ,ผศ.ดร.
บทท่ี ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

อกี สง่ิ หน่ึงทท่ี า นดาไลลามะเนน ในการแกปญหาความรุนแรงก็คือ อหิงสา การไม
เบียดเบียน ซึ่งสิ่งสําคัญในการปฏิบัติตามหลักอหิงสาคือ การคิดที่จะไมเบียดเบียนผูอื่นไม
วาจะเปนทางกาย ทางวาจา หรือใจก็ตาม ตองมีเจตนาท่ีมุงในความถูกตอง ปราศจาก
ความเห็นแกตวั อยารูร ูส กึ ยินดีกบั การทาํ รา ยผอู น่ื หรือทาํ ใหผูอ นื่ เดือดรอน

ในบางกรณีหากไมมีทางเลือกอยางอ่ืน และมีความจําเปนที่ตองใชความรุนแรงก็
สามารถยอมได แตตองไมมีเจตนาที่จะไปทํารายเขา เชน เวลาพอแมตีลูก แมลูกจะเจ็บแต
ทานยังไมไดต้ังใจจะทํารายลูก และแมจะปรากฏออกมาวารุนแรง แตเบื้องลึกในจิตใจของ
แมแลวไมไดเปนเชนน้ัน หากแตเปนวิธีการชวยเหลือลูก เจตนาน้ันดีและยุติธรรม แตถามี
ทางเลอื กอน่ื ท่ไี มตอ งใชค วามรนุ แรงเลยกจ็ ะเปน การดกี วา

การแกปญหาความรุนแรงใหหมดส้ินไปจึงตองเร่ิมตนแกไขท่ีจิตใจกอน อันเปน
รากฐานสําคัญของปญหาทั้งหลายท้ังปวง หากจิตใจของมนุษยดีงามแลวยอมสรางส่ิงท่ีดี
งามใหเกิดข้ึนไดถึงแมวาเราไมสามารถทําใหมนุษยทุกคนเปนคนดีได แตหากเราชวยเหลือ
ซ่ึงกันและกันใหมีคนดีมากกวาคนชั่วแลวแตละคนก็คอยๆ ขยายความดีงามน้ันออกไป
เร่อื ยๆ กท็ าํ ใหส ังคมน้ีนาอยมู ากข้นึ

ปญหาความรุนแรงเปนปญหาใหญที่เกิดข้ึนอยางตอเน่ืองในสังคมปจจุบัน ทั้งใน
ระดบั ครอบครัวไปจนจนกระทง่ั ถึงระดับประเทศและระดับโลก การท่ีจะแกปญหาน้ีใหหมด
สิ้นไปไดจะตองปลูกฝงความเมตตากรุราอยางที่ทานดาไลลามะแนะนํา หากความเมตตา
กรุณาเกิดขึ้นเกิดข้ึนในจิตใจแลว ความรุนแรงทางกาย วาจา และใจ ยอมไมเกิดขึ้นอยาง
แนนอนโลกน้ีจะมีแตสันติสุขท่ียั่งยืนตลอดไป “จิตท่ีสงบสุขภายในน้ัน ยอมสรางแตสิ่งท่ีดี
งาม ตอ ตนเองและผูอ่ืน ไมค ิดท่ีจะเบียดเบียนและไมกระทําความรนุ แรง”

๖.๖.๑๙ ธรรมชาติของจิต
จิตของมนุษยเรานั้นมีความสลับซับซอน ยากแกการ เขาใจ ในโลกนี้ไมมีอะไรท่ี
จะอศั จรรยเทา กบั จติ ของมนษุ ยเรา มีความรวดเร็วย่ิงกวาส่ิงใด มีพลังท่ียิ่งใหญและท่ีสําคัญ
เปน ตัวกาํ หนดความสุขความทุกขของมนุษย
ทา นดาไลลามะกลา ววา ธรรมชาตขิ องจติ น้นั เปนแสงอันบริสุทธิ์ และวิชชาท่ีชวย
ใหสถานะเชนน้เี ปนไป จิตของมนุษยเ รานนั้ มอี าํ นาจหนาทส่ี ามารถแสดงออกไดในทางตางๆ
ไมวา จะเปน อะไรก็ตาม อาศยั พลังเพง ไปยังอารมณนั้นๆ ตามสภาพที่แทเปนแสงอันบริสุทธิ์
ท่ีประกอบไปดวยตัวรู ประกอบกับธรรมชาติท่ีเกิดจากประสบการณอันสะสมมา แตแลวก็
เปลย่ี นแปลงและดับสลายไปทกุ ขณะจิต๕๖

๕๖ อางแลว .

ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมในโลกปจ จบุ นั ๓๑๓
พระมหามิตร ฐติ ปฺโญ,ผศ.ดร.
บทที่ ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

จิตของมนษุ ยเ ราเกดิ ๆ ดับๆ อยอู ยางนค้ี รง้ั แลว ครั้งเลา เกิดขึ้นอยางตอเนื่องและ
รวดเร็วแตละขณะจิตหน่ึง ยอมข้ึนอยูกับการกําหนดรูของอีกขณะจิตหนึ่ง ซ่ึงเปนตัวเหตุ
แลวตอเนื่องไปเชนนี้เร่ือยๆ จึงไมมีทางอ่ืนใดนอกจากที่รูปวา จิตใจเปนวัฏฏะโยงกัน
เรือ่ ยไปอยางไมม จี ุดเรมิ่ ตน

ยกตวั อยา งความคิดบางอยาง เชน เราอยากจะไดรถยนตสักคนหนึ่ง ถาเราไลไป
วาทําไมเราจึงอยากไดร ถยนต ก็อาจจะมีสาเหตุมากมายหลายประการที่สงผลใหเราตองคิด
อยากไดร ถยนต ในแงน้จี ึงยากทีห่ าจดุ เริ่มตน และจดุ สน้ิ สดุ ของดวงจติ ของเรา

อยา งไรก็ตาม ทานดาไลลามะไดเนนวา สิ่งท่ีเรียกวาจิตอันบริสุทธ์ิดวยความรูนั้น
ไมจําเปนตองไปพัวพันกับตนตอหรือปลายสุด แมจิตจะสลายไปในชวงขณะหน่ึงไปสูอีก
ขณะหนงึ่ แตก ารสืบเนื่องกเ็ ปน ไปอยา งไมจ ําเปน ตองมจี ดุ เรมิ่ แรก

ซ่ึงธรรมชาติของจิตอยางหนึ่งท่ีแปลก หากเราสังเกตเห็นก็คือวา จิตของเรานั้น
สามารถทจ่ี ะมองดูตัวมันเองได เชน เวลาท่ีเราเกิดความรูสึกตางๆ ไมวาจะเปนแงบวกหรือ
แงลบกต็ าม ก็สามารถทจ่ี ะแยกจติ ออกมายนื มองตวั มันเองได การที่มันสามารถมองดูตัวมัน
เองไดจะทําใหมันไมรูสึกสุขทุกขไปกับสิ่งท่ีกําลังเกิดขึ้น ยกตัวอยางเชน ในเวลาท่ีทุกขใจ
หากเราพยายามน่ังมองดูจิตที่กําลังทุกขอยูนั้น เราจะไมเปนทุกข เราจะรูสึกวาความทุกข
กับตัวเราเปนคนละอยางกัน ความทุกขก็คือความทุกข ตัวเราก็คือตัวเรา ในแงนี้จึง
เหมือนกับวามีคนสองคนอยูในคนคนเดียวกัน สามารถที่จะมองและวิเคราะหตนเองได
เหมือนกับวา เรากําลงั ดูละคร ดภู าพยนตรอยูนั่นเอง การท่ีจิตของเรามีความวิปริตผิดพลาด
นั้น ทานดาไลลามะกลาววา เปนเพราะอํานาจของอวิชชาทําใหมันมืดบอดจนไมเขาใจ
ปรากฏการณตางๆ ท่ีเกิดขึ้น และไมรูวิธีท่ีจะแกปญหา เราจึงหลงทําสิ่งผิดๆ มากมายใน
ชีวิตเปน เหตุใหเกิดความทกุ ขความเดือดรอ นแกต นเองและผูอนื่ ทเ่ี ก่ียวของทัง้ หมด

การที่จะเอาชนะอวิชชาไดน้ัน ทานดาไลลามะกลาววา ตองใหตัวรูภายในจิต
เพมิ่ ขน้ึ และเขา ใจสภาวะท่ีแท ใหรูเทาทันธรรมชาติของปรากฏการณตางๆ จึงจําตองรูวัตถุ
ตางๆ ทีม่ าปรากฏใหรบั รู เรอื่ งสาํ คญั ท่ีตอ งรับรูนั้นมอี ยู ๒ ประการดว ยกันคือ ชนิดแรกเปน
การรับรูตามสมมตทิ ี่บญั ญตั ขิ ้ึน สว นอีกชนดิ หนึง่ นั้นเปนการรบั รสู ภาพตามความเปนจริง

ยกตัวอยางเชน โตะ เกาอี้ทั้งหลายเปนส่ิงที่สังคมสมมติบัญญัติข้ึนมา เรียกช่ือ
อยางน้ันอยางนี้ นี่เรียกวาเปนส่ิงสมมติ หรือแมกระม่ังตัวเราเองก็ตามท่ีมีชื่อเรียกอยางน้ัน
อยางนี้ ก็เพราะวาเราใชส มมตเิ รียกกันหากไมส มมตแิ ลว ก็จะไมเขาใจกันวาใครช่ืออะไร การ
สมมตใิ นแงน ้ีกเ็ ปนความสําคญั เชน เดยี วกัน

๓๑๔ ขบวนการพระพทุ ธศาสนาใหมใ นโลกปจจุบนั
พระมหามิตร ฐติ ปฺโญ,ผศ.ดร.
บทท่ี ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

สว นการรับรูตามสภาวะที่แทจ ริงน้นั กต็ อ งมองเลยสมมตลิ งไปอกี เชน โตะ เกาอี้
ตางๆ มีคุณสมบัติที่เหมือนกันคือ มีความไมคงที่เที่ยงแทแนนอน มีการเปล่ียนแปลงอยู
ตลอดเวลา ไมมีตัวตนที่แทจริง ซ่ึงหากวิเคราะหลงไปจะเห็นไดวา ไมวาจะเปนโตะ เกาอี้
ตางๆ หรือแมกระท่ังตัวเรา สุดทายแลวก็จะมีแตความวางเปลาซ่ึงน่ีเปนลักษณะสามัญท่ีมี
อยูในสรรพสิ่งในโลกน้ี การที่จิตจะสามารถรับรูถึงส่ิงตางๆ ตามความเปนจริงไดอยาง
ละเอียดออนและลึกซึ้งนั้น ตองอาศัยการฝกฝนพัฒนาใหจิตมีความสงบจนกระทั่งเกิด
ปญ ญาขน้ึ มา แตก ารฝก จิตนีท้ า นดาไลลามะกลาววา ตองใชเวลาพอสมควรเราไมสามารถท่ี
จะฝกมนั ไดอยางทันทีทนั ใด มันจะตองคอ ยๆ เปลยี่ นแปลงไปทีละเลก็ ทลี ะนอย

เหตุนี้เองในการฝกจิตจึงตองมีความอดทนและความตั้งใจม่ัน อยาทอแทกับ
ปญหาที่พบเจอ เพราะในการฝกจิตน้ันจะมีปญหาตางๆ มากมายท่ีมาทําใหเราเกิด
ความรูสึกทอใจข้ึนมา ไมวาจะเปนอารมณท่ีปรารถนา ความคิดฟุงซานตางๆ เปนตน ส่ิง
เหลาน้จี ะทําใหเราหนั เหออกนอกแนวทางของการปฏบิ ัตธิ รรม ในการจะพัฒนาจิตใหสําเร็จ
เราจึงตองมุงมนั่ ตัง้ ใจ และมีความพยายามอยางเต็มทท่ี ี่จะเปลย่ี นมนั ไปสูทางที่ดีงาม

จิตของคนตามปกติน้ันมักไหลไปสูท่ีตํ่าเหมือนกับนํ้า หากไมมีการฝกฝนพัฒนา
มันมักจะคิดไปในทางท่ีกอใหเกิดความทุกขความเดือดรอนและมักจะถูกความโกรธ ความ
เกลียด ความโลภ ความอจิ ฉารษิ ยาตา งๆ ครอบงําไดงาย เมื่อสิ่งเหลาน้ีครอบงําแลวก็จะทํา
ใหจิตตกอยูในอํานาจของความชั่วท้ังหลาย ซึ่งในท่ีสุดก็จะสงผลออกมาเปนพฤติกรรมใน
ดานลบ และผลลัพธสดุ ทา ยกค็ ือความทุกข ความเดอื ดรอ นน่นั เอง

ในทางตรงกนั ขา มหากเราสามารถที่จะพัฒนาดวงใจดว ยดวงจิตเดียวกันนี้ แทนที่
จะเปนท่ีมาแหลงความทุกขทั้งหลาย มันก็จะกลายเปนแหลงท่ีมาของความสุข เปนตนธาร
แหง ความกรุณา ความรกั ความเมตตา คุณธรรม และญาณหยั่งรูทั้งหลาย ฉะนั้น จิตที่ฝกดี
แลวยอมนําความสขุ มาให๕๗

การฝกจิตใหสงบจนกระทั่งเกิดปญญาญาณ เกิดความเขาใจแจมแจงถึงความไม
เที่ยงแทธรรมชาติอนั เปน ทกุ ขข องการเกดิ และความไมเปนไปของความไมมีตัวตนที่แทจริง
ส่ิงเหลาน้ีเปนประโยชนอยางมากตอการปลอยวางท้ังหลาย หากเราไมเขาใจ หรือมีความ
หลงอยูก็ไมส ามารถทจี่ ะปลอยวางได การขัดเกลาจติ ใจใหใสสวางเหมอื นกับสภาพจิตดั้งเดิม
น้ันเปนส่ิงสําคัญที่จะทําใหเราเห็นความเปนจริงของส่ิงท้ังหลาย แสงสวางอันเกิดจากดวง
จิตที่ไดทําลายอวิชชาไปแลว จะทําใหมองเห็นสิ่งตางๆ อยางชัดเจน การที่เรามองอะไรไม

๕๗ เรือ่ งเดียวกัน, หนา ๒๓๖.

ขบวนการพระพทุ ธศาสนาใหมในโลกปจ จบุ นั ๓๑๕
พระมหามติ ร ฐติ ปโฺ ญ,ผศ.ดร.
บทท่ี ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

ชัดนั้นก็เพราะวา เราไมมีแสงสวางแหงดวงจิต ทุกส่ิงทุกอยางจึงเต็มไปดวยความไมรู ไม
เขา ใจ และความไมรูนี่เองเปนสาเหตุนําความทกุ ขท ั้งหลายมาใหต วั เรา

ในแงน้ีการขัดเกลาจิตของเราจึงเปนการชวยใหเราหลุดพนจากความทุกข ชวย
ใหเราทําลายอุปทานการยึดม่ันถือม่ันท้ังหลายท้ังปวง อุปทานเปนรากเหงาแหงความทุกข
ทัง้ หลายที่เรามอี ยู มันเปนแกน ของอารมณอกศุ ลทั้งหลาย เราจะสามารถขจัดอุปทานนี้ไดก็
ดวยปญญาเทา นัน้ ซง่ึ ปญญาจะทําใหเ ราเห็นสิ่งตางๆ ตามความเปนจรงิ อยางตรงไปตรงมา

ในเบื้องแรกทานดาไลลามะแนะนําวา เราตองรูเทาทันวิถีผิดๆ ที่เรารับรูตนเอง
และปรากฏการณทั้งหลายจากนั้นคอยๆ บมเพาะการรับรูตามความเปนจริง ซ่ึงในชวงแรก
น้ันมมุ มองใหมจะอยใู นระดบั สติปญ ญาเปน เหมอื นกบั ความเขาใจท้ังหลายที่เกิดขึ้น เวลาได
เรียนหรือไดฟงคําสอนใดๆ การรับรูนี้จะละเอียดลึกซึ้งข้ึนไดก็ตองอาศัยการปฏิบัติสมาธิ
ภาวนา

การปฏิบตั ิสมาธภิ าวนาจะทาํ ใหเกิดปญญาญาณท่ีจะมองเห็นสิ่งตางๆ ตามความ
เปนจรงิ ซึ่งสิ่งน้ีจะสงผลอยางแทจริงตอทัศนะของเราท่ีมีตอตนเองและสรรพส่ิง เพราะเรา
จะหยั่งเห็นความไมมีสภาวะที่แนนอนเราจึงสามารถที่จะถอนรากส่ิงที่เปนมูลเหตุของการ
ยึดตดิ ในตวั ตนได ซงึ่ มลู เหตนุ ั้นเปน แกน ของความทกุ ขท้งั หลายทั้งปวง

ทานดาไลลามะกลาวไววา การเจริญปญญา เปนกระบวนการนอมนําจิตให
สอดคลองกบั วิถที ีส่ ่งิ ท้งั หลายเปน ซ่ึงนั่นก็หมายถึงวา เปนการฝกจิตของเราใหเห็นสิ่งตางๆ
ตามที่มันเปน ไมมีการปรุงแตง เพราะโดยปกติน้ันคนเรามักจะปรุงแตง ทําใหมีความหลง
ผดิ อยรู ํา่ ไป

กระบวนการแหงการภาวนาจะชวยทําใหเราคอยๆ ขจัดความหลงท่ีเรามีนับแต
อดีตเปน ตนมา ซึ่งสง่ิ นีไ้ มใชสง่ิ ท่ที ําไดงายอยางแนนอน ตอ งอาศัยการใครครวญอยา งมาก

การตระหนักวา สรรพสิ่งไมไดดํารงอยูตามตัว ถือเปนญาณทัศนะท่ีลึกซ้ึงตอง
อาศัยการศึกษาและการภาวนานานนับปจึงจะมีความเขาใจถูกตองได เหตุนี้เองทานดา
ไลลามะจึงเนนย้ําใหเรามีความอดทนอดกลั้นในการฝกหัดภาวนา หากปราศจากความ
อดทนแลว ก็ยากที่จะฝกจิตใจใหสําเร็จได การฝกจิตใหเกิดสมาธิจะทําใหเราเขาถึงปญญา
หากไมม กี ารฝก ฝนแลวแตล ะขณะจิตของเรายอมขาดพลงั จิตที่สัดสายน้ันไมมีพลัง จิตท่ีเปน
สมาธิตางหากจึงมีพลังมหาศาล เปรียบเสมือนกับการเอาน้ํามารวมกันใสเขื่อนไวเปน
พลงั งานไฟฟา เพ่อื จะไดเกิดอทิ ธพิ ลอยา งมหาศาล

จิตจะเกดิ พลงั ไดก ็ดวยการฝกสมาธิ และเมื่อจิตสงบน่ิงกจ็ ะเกิดปญญามองเห็นสิ่ง
ตา งๆ ตามความเปน จรงิ เหมือนกบั น้าํ ทีข่ นุ ถาปลอยไวใหนิง่ กจ็ ะกลายเปน นํา้ ท่ีใสสะอาด

๓๑๖ ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมในโลกปจจบุ นั
พระมหามติ ร ฐติ ปโฺ ญ,ผศ.ดร.
บทท่ี ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

ทา นดาไลลามะไดกลาวถึงผลจากการฝกจิตวา จะทําใหเราไมเกิดความยึดมั่นถือ
มั่นและส่ิงนีค้ อื ทม่ี าของความสขุ อันยง่ิ ใหญ ดงั ท่ที า นไดพ ดู เสมอวา แมค วามรูสึกท่ีกอใหเกิด
ความทุกขขึ้นนั้นถาเราไมไปติดยึดมันเสียแลว มันก็จะกวนจิตใหขุนไมได เพราะตาม
ธรรมชาติที่แทของจิตนั้นมันมีความสวางและความรูอยูในตัวอยูแลว การที่จิตเกิดความ
โกรธเกลียดน้ันมันมาทําลายธรรมชาติเดิมของจิตใหเสีย เพราะสภาวะท่ีแทของจิตนั้นโชติ
ชว งและเปนตัวรู

ทา นดาไลลามะแนะนาํ วา ขอใหส งั เกตวา เวลาเผชิญหนากับปญหาอยางใดอยาง
หน่ึง คนท่มี พี ลงั ภายใน ยอมสามารถทจี่ ะแกปญหาไดดกี วา ประเภทอื่นๆ ซ่ึงจิตท่ีมีพลังนี้จะ
ชวยใหเราสามารถจบั ประเดน็ ภายนอกได ทง้ั ยังชวยใหเรารูจักเผชญิ กับปญหานนั้ ๆ ได

การฝกจิตใหเปนหนึ่งเดียว จะทําใหจิตมีพลังและแกปญหาตางๆ ไดงายขึ้น
นอกจากน้ัน เปาหมายหลักของการฝกจิตอีกอยางก็คือ จะชวยใหเราควบคุมตนเองได ทํา
ใหเราสามารถใชปญญาพิจารณาตนเองอยางละเอียดถี่ถวนในทุกๆ ดาน ซ่ึงจะทําใหเขาถึง
ความโกรธของตนเองความยดึ ตดิ ความอิจฉา เคียดแคน หย่ิงยโส เปนตน วาจะทําอยางไร
จงึ จะสามารถเอาชนะส่งิ เหลาน้ีท่มี ีอยูในตัวได

ในการปฏิบัติฝกหัดขัดเกลาจิตใจน้ัน ขั้นพื้นฐานคือตองรูจักควบคุมตนเอง
พยายามใหมากที่สุดเทาที่จะสามารถกระทําได เพ่ือปองกันการทํารายผูอ่ืน จากนั้นจึงฝก
ขนั้ ตอ ไปคอื การมุงชวยเหลือเกื้อกูลผูอ่ืน

อยางไรก็ตาม ทานดาไลลามะไดเตือนวา ในการฝกแรกๆ น้ันอยาไปหวังผลให
มากนักเราตองคอยเปนคอยไป การฝกจิตไมสามารถท่ีจะกดปุมส่ังไดงายๆ เหมือนกับ
คอมพิวเตอร การพัฒนาภายในไมไดงายตองใชเวลานาน ตองมีความอดทน และมีความ
พยายามอยางตอเน่ืองจึงจะทําใหการฝกหัดขัดเกลาจิตบรรลุเปาหมายตามที่ต้ังเอาไว และ
ท่ีสําคัญอีกอยางคือ ไมสามารถท่ีจะฝกแทนกันได ทุกคนจะตองฝกหัดขัดเกลาจิตดวย
ตนเองเทานนั้ ตอ เม่ือฝก ไดแ ลวผลคือความสขุ อนั ย่งิ ใหญก็จะเกดิ ข้นึ กับตัวของเราเอง ทําให
เราไดพ บแตความสขุ ตลอดไป

๖.๖.๒๐ การเตรยี มตวั ตายอยา งสงบ
ความตายเปนสิ่งที่ไมมีใครสามารถจะหลีกเลี่ยงได ไมชาก็เร็ว เราทุกคนจะตอง
ประสบกับความตายอยางแนนอน การเตรียมตัวตายกอนที่ความตายจะมาถึง จึงเปนสิ่ง
สาํ คัญท่จี ะทาํ ใหเราไมห วาดหวั่นพร่ันพรงึ ตอ ความตาย
ในทางพระพุทธศาสนานั้น เช่ือวาชีวิตไมไดมีเพียงชาติน้ีชาติเดียว แตมีวัฏจักร
หมนุ เวยี นเปลีย่ นไปเร่ือยๆ เราตายจากชาตนิ ้แี ลวกจ็ ะไปเกดิ ในภพใหมชาติใหมตอไปเรื่อยๆ

ขบวนการพระพทุ ธศาสนาใหมในโลกปจ จุบัน ๓๑๗
พระมหามิตร ฐติ ปฺโญ,ผศ.ดร.
บทที่ ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

ตราบใดท่ียังไมสามารถทําลายกิเลสใหหมดส้ินไป ก็ยังตองเวียนวายตายเกิดในสังสารวัฏ
อยางไมร จู กั จบส้นิ ๕๘

การท่เี ราตอ งเวียนวา ยตายเกิดอยใู นสังสารวัฏนี้ ทางพระพุทธศาสนาเชื่อวา ดวง
จิตขณะใกลตายนั้นมีความสําคัญยิ่งจะทําใหเราไปเกิดในภพภูมิที่ดีหรือไมไมดี เหตุน้ีเอง
การเตรียมตัวตายจึงเปนสิ่งท่ีมีประโยชนยิ่งที่จะทําใหเราตายอยางมีสติสัมปชัญญะ ซ่ึงจะ
ทาํ ใหไปเกดิ ในภพภมู ิท่ีดี ชวี ิตทีเ่ ราดํารงอยใู นปจ จุบันนเ้ี ปน เพียงสวนหน่ึงของวงจรแหงการ
เกิดและการตาย เมอื่ มเี กิดก็มีตายทา นดาไลลามะกลา วไวว า

คณุ ภาพของชวี ิตน้ขี นึ้ อยกู ับการดํารงชีวิตอยูในปจจุบัน การนึกถึงความตายและ
ความไมเท่ียงแทของชีวิต จะทําใหเราไมยึดม่ันถือมั่นและเห็นถึงธรรมชาติของทุกสรรพสิ่ง
อยางลึกซึง้ วา มันตอ งแตกสลายไปในที่สดุ

หากเราไมเตรียมตัวตาย มีชีวิตอยูเพียงวันๆ สนใจแตปญหาประจําวันของตน
คร้ันเม่ือวันท่ีจะตองตายมาถึงก็จะไมสามารถคิดถึงอะไรได นอกจากคิดถึงความทุกขและ
ความกลัว ซ่ึงความรูสึกนี้มีแตอาการเศราโศกเสียใจ แตถาคิดถึงความตายและความไม
เที่ยงแทอยูเนืองๆ เรายอมรูวา ความตายจะตองมาถึงเราแนและยอมเตรียมพรอมสําหรับ
การรับสภาพดังกลา วอยา งมีหวั ใจอนั สงบ

ทานดาไลลามะกลาวไววา ทานคิดทบทวนกระบวนการแตกสลายของธาตุอยู
ตลอดเวลา เพอ่ื เตรียมตัวเมอ่ื ความตายมาถงึ

สภาวะจิตตอนตายน้ันมีความสําคัญอยางมาก ในการเตรียมจิตสํานึกใหไปเกิด
ใหมในชาติหนา ฉะนั้น จึงจําเปนท่ีควรฝกจิตใจไวใหเหมาะสมตอนความตายคืบคลานเขา
มาใกล ไมวา ชาตินีเ้ ราจะไดทําความดีความช่ัวไวอยางไรก็ตาม สิ่งที่เกิดข้ึนขณะดวงจิตตอน
จะดับขันธน้ันมอี าํ นาจย่ิงนัก ดวยเหตุนี้จงึ สาํ คญั มากทจ่ี ะตองเรยี นรถู งึ กระบวนการแหงการ
ตาย และพรอมท่ีจะเผชิญกับความตาย ในเวลาที่เราปวยหนัก การเตรียมจิตไมใหยึดติดใน
ส่ิงตางๆ มีความสําคัญอยางมากแมวามีหลายสิ่งหลายอยางท่ีเราอยากจะทําแตยังทําไม
สําเร็จ มีครอบครัวที่เราตองดูแล อยางไรก็ตาม เราตองทําใจและยอมรับวาการงานและ
หนาที่เหลานี้ไมใชของเราอีกตอไป ในขณะนั้นส่ิงสําคัญก็คือ การดูแลรักษาจิตของตนให
ผอนคลายใหม ากทส่ี ุด ใหจติ ใจไมผูกพัน ไมเศราเสียใจ ไมโกรธอาฆาต ไมหมกมุนจมอยูกับ
ความทกุ ขทางใจ ใจท่ีผอ งใสเบกิ บาน สงบสุข เตม็ เปยมไปดวยความศรัทธาในพระรัตนตรัย
ในสิง่ ทีด่ งี ามทัง้ หลายจะเปนที่พ่งึ ของเราอยางแทจริง คนอื่นสิ่งอ่ืนไมสามารถเปนท่ีพึ่งใหเรา
ได ไมวา หมอจะเกงอยา งไรก็ไมสามารถทจี่ ะตานทานความตายเอาไวได

๕๘ อางแลว.

๓๑๘ ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมใ นโลกปจ จบุ ัน
พระมหามติ ร ฐติ ปโฺ ญ,ผศ.ดร.
บทท่ี ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

ทานดาไลลามะกลาววา การภาวนามรณานุสสติ จะทําใหเราคุนเคยกับสภาพ
ตา งๆ ที่นาํ เราเขา สูมรณะ และเหตุผลสําคัญในการปฏิบัติธรรมเพ่ือเตรียมตัวตายก็เพราะมี
หนทาง ๒ ประการ ที่จะเล่ียงความทุกขหรือความทรมาน ประการแรก คือ ลืมหรือ
พยายามมองขา มแงลบตา งๆ จนไมค ิดถงึ มันเสียเลยก็จะทําใหไมเกิดทุกข วิธีการเชนน้ีไมใช
วิถีทางท่ีมีประสิทธิภาพ แตชวยไดเพียงช่ัวคร้ังช่ัวคราวเทาน้ันและไมไดจีรังย่ังยืนอะไร
เพราะปญหาจะยงั คงอยตู อ ไปโดยไมไ ดรบั การเยยี วยาเลย๕๙

อีกวิธีหนึ่งที่สามารถนํามาใชเพ่ือเอาชนะความทุกขคือ การเขาหาหัวใจของ
ปญหาเลย แลว วเิ คราะหอยา งถองแทใ หเหน็ ตนสายปลายเหตุของความทุกข รูวาความทุกข
เกิดมาจากสาเหตุอะไร แลวนํามาวิเคราะหและศึกษาหาแนวทางแกไข แลวปฏิบัติตาม
แนวทางน้ันก็จะทําใหพนจากความทุกขได การตายนับวาเปนความทุกขอยางยิ่งใหญของ
มนุษย ทุกคนจึงกลัวตาย กลัวความเจ็บปวดกอนจะตาย ทําใหความตายกลายเปนส่ิงที่นา
หวาดกลวั เพิ่มขึ้นไปอกี ถงึ แมว าเราจะรูวาความตายอาจเกิดข้ึนกับเราไดทุกวินาทีในขณะท่ี
เรานอนหลบั แตละคนื เราก็ยังหวงั วาเราจะต่ืนขนึ้ มามีชวี ิตในอีกวันใหม หลายคนรูวาสักวัน
หน่ึงจะตองตาย แตก็ไมอยากท่ีจะนึกถึงความตาย และยังคงใชชีวิตในแตละวันอยาง
ประมาท ปลอยใหจิตหวงแหน ผูกพัน สรางศัตรูอยูร่ําไป ซ่ึงเปนเหมือนการเติมเชื้อแหง
กิเลสใหต นเองตอ งมีภพชาติท่ียาวนานขึ้นไปอีก

ในทางพระพุทธศาสนานั้นเช่ือวา หากเราตายไปในขณะท่ียังเต็มไปดวยกิเลส
ตัณหา เราจะตองไปเกิดใหมแ ละเผชิญกับความทุกขอีกมากมายในสังสารวัฏ และไมมีส่ิงใด
ทจี่ ะรบั ประกันไดวา เราจะไดเกิดใหมเปนมนษุ ย โอกาสท่จี ะไดเกดิ ใหมเปนมนุษยนั้นมีเพียง
นอยนิดเทาน้ันเอง โดยเฉพาะอยางยิ่งไดเกิดเปนมนุษยท่ีมีอวัยวะครบถวน ไดเกิดในถิ่นท่ี
สงบสุข มีนักปราชญคอยช้ีแนะแนวทางใหเราไดขัดเกลากิเลสท่ีมีอยูในจิตใจใหเบาบางลง
เมือ่ สัญญาณแหงความตายมาถึง สิ่งสําคัญที่สุดท่ีเราจะตองประคับประคองก็คือ จิตใจของ
เรา ตองไมปลอยใหต่ืนตระหนกตกใจ ไมหวาดกลัว ไมมีความโกรธ ไมเศราเสียใจจากการ
ยึดติดผูกพัน ไมรูสึกนอยอกนอยใจหากไมไดรับการดูแลเอาใจใสที่ดีพอ ไมรูสึกโกรธหรือ
แคนเคืองผูใด ใหปลอยวางทุกส่ิงทุกอยาง ใหจิตเกิดความสงบเย็นและผอนคลายใหมาก
ที่สดุ เทาที่จะมากได

๕๙ กฤษดาวรรณ เมธาวิกุล, บารโด โทโดล: คัมภีรมรณศาสตรทิเบต, มูลนิธิพันดารา,
[ออนไลน]. แหลงท่ีมา: http://wisdom-update.blogspot.com/2013/08/2.html#!/2013/08/2.html.
[วนั ที่ ๒๐ มนี าคม ๒๕๖๐].

ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมใ นโลกปจ จบุ นั ๓๑๙
พระมหามติ ร ฐติ ปโฺ ญ,ผศ.ดร.
บทท่ี ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

ซึ่งตามปกติแลวในเวลาที่กายคอยๆ หมดพละกําลังลงน้ัน จิตที่ไมไดรับการ
ฝก ฝนจะหดหูไ ดงาย มักดิ่งลงไปในความมืดมน ประดุจดั่งลงไปสูกันบึ้งของทะเลยามคํ่าคืน
เหตุนเี้ องเราจึงตองฝก จิตใหร ูตน่ื เบิกบานอยตู ลอดเวลา

การฝกจิตใหคุนเคยกับความตายนั้น เราจะตองฝกตั้งแตรางกายยังแข็งแรงอยู
เพราะถาไปรอฝกตอนที่ปวยหนัก ก็อาจจะลําบากที่จะทําได ธรรมดาจิตที่ไมเคยผานการ
ฝกฝนใหคิดในส่ิงท่ีดีงาม ใหรูจักอภัยหรือปลอยวาง มักจะเกิดความโกรธเกลียดความ
เจ็บปวย ซึ่งนับวาไมเปนผลดีตอสุขภาพกายและใจเทาใดนัก และแนนอนเมื่อลมหายใจ
สุดทา ยยา งกรายเขามาถงึ เรายอมจะจากไปอยา งทรุ นทรุ าย

วาระจิตดวงสุดทายน้ีมีผลตอการเดินทางไปเกิดใหม ภพใหม หากเราตายไป
อยางทุรนทุรายยอมทําใหไมไดไปเกิดในภพภูมิท่ีดี เหตุนี้เองชาวพุทธจํานวนมากจึง
พยายามที่จะเตรียมตัวเตรียมตัวตายเพื่อใหชวงเวลาสุดทายของชีวิตดับลงไปอยางสงบ
พรอ มกับจติ ที่ม่นั คงในพระรัตนตรัย

ชาวทเิ บตเชอื่ วา ดวงจิตเม่ืออกจากรางกายไปแลว จะประสบกับสภาวะที่เรียกวา
บารโด ซึ่งเปน รอยตอ ระหวา งการตายกับการเกดิ ใหม สภาวะนี้อาจกนิ เวลาถึง ๔๙ วัน หรือ
มากกวานั้นก็เปนได ในความเปนจริงแลว บารโดเกิดข้ึนแลวต้ังแตตอนท่ียังปวยหนักไป
จนกระทั่งถึงการจากไปอยางสมบูรณภายใน จึงเรียกบารโดน้ีวา บารโด แหงขณะกําลังจะ
ตาย สําหรับผูที่ปวยหนักเปนเวลานานก็เช่ือวา บารโด จะกินเวลานานดวย สวนผูปวยท่ี
เสียชีวิตอยางกะทันหันบารโดก็จะส้ันอาจเพียงแคเสี้ยววินาที ทําใหการแตกสลายของธาตุ
เกดิ ขนึ้ อยางรวดเร็ว บางคนคิดวา การทเ่ี ราจากไปอยางรวดเร็ว หรือตายอยางกะทันหันเปน
สิ่งทีด่ ี ไมตองทุกขทรมาน ซ่ึงก็อาจจะถูกตองในแงหน่ึง แคความตายท่ีเกิดขึ้นอยางรวดเร็ว
จะทําใหจ ิตของเราไมไ ดร บั การเตรียมตวั อาจทาํ ใหจติ ของเราเกิดความหวาดกลัวอยางที่สุด
และทาํ ใหจ ากไปอยา งไรส ติ๖๐

เนื่องจากการตายในพระพทุ ธศาสนาไมใ ชก ารการจบสิ้น เราจะตองเวียนวายตาย
เกดิ อกี บุญกศุ ลท่ีเราสงั่ สมไวใ นชาตินเี้ ปนเพยี งส่ิงเดยี วทหี่ วงั พงึ่ ได

สิง่ อื่นไมวา จะเปน ทรพั ยสมบัติ อํานาจ วาสนา ยศถาบรรดาศักด์ิตางๆ ก็ชวยเรา
ไมได ฉะนนั้ ในขณะท่ีเรายงั ดาํ เนนิ ชีวิตอยูในโลกน้ีจึงควรสรางแตส่ิงท่ีดีงาม ปฏิบัติตอผูอ่ืน
ดวยจิตใจท่ีออนโยน มีเมตตากรุณาตอกัน ซ่ึงจะทําใหเราไดพบแตส่ิงท่ีดีงามทุกภพทุกชาติ
ไป การเตรียมตัวตายกอนที่จะถึงชวงขณะใกลตายน้ันสามารถทําไดหลายวิธี เชน การ
ทาํ บญุ กุศล ดวยการบาํ เพญ็ ทาน ศลี ภาวนาอยูเ ปนประจํา จะทําใหเรารูสึกมีความม่ันใจใน

๖๐ อางแลว .

๓๒๐ ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมใ นโลกปจ จบุ นั
พระมหามติ ร ฐติ ปฺโญ,ผศ.ดร.
บทท่ี ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

ความดีงาม และจะทําใหจิตใจไมหว่ันไหวเมื่อความตายเดินทางมาถึง การปฏิบัติธรรมใน
ชีวิตประจําวันเปนส่ิงสําคัญอยางมากท่ีจะทําใหเราสามารถละความยึดม่ันถือม่ันได
นอกจากนน้ั แลว เราควรทีจ่ ะฝก กาย วาจาของตนใหสะอาด ปราศจากการเบียดเบียนผูอ่ืน
หรือสัตวอ่ืน และฝกใจไมใหคิดรายตอผูอื่นหมั่นเพียรปฏิบัติตามหลักธรรมคําสอนของ
พระพทุ ธเจาดวยจิตใจทีม่ นั่ คง ซ่ึงจะทําใหจติ ใจของเราใสสะอาดอยูตลอดเวลา ในขณะใกล
ตายกย็ อมไมห วั่นไหว

ทานดาไลลามะพยายามสอนชาวพุทธใหหมั่นเจริญภาวนา โดยเฉพาะการเจริญ
มรณสติคือ การระลึกถึงความเปนอนิจจังของสรรพส่ิง รวมทั้งชีวิตของเราดวยซ่ึงชีวิตของ
เราน้นั มคี ณุ คามหาศาล กวาจะไดเกิดมาเปนมนุษยนั้นแสนยากเย็น และเม่ือมีโอกาสไดเกิด
มาแลวเราควรใชชีวิตที่มีอยูใหเกิดประโยชน เพราะเราเองก็ไมรูวาจะตายวันไหน เรา
อาจจะไมมีชวี ิตอยูยนื ยาวถึงตอนแกก เ็ ปนได ฉะน้ัน จึงควรใชเวลาในการดํารงชีวิตอยูอยาง
มีคุณคามากที่สุด ทําส่ิงท่ีประเสริฐใหคุมคากับชีวิตดวยการปฏิบัติธรรม เพราะการปฏิบัติ
ธรรมเปน กระบวนการทจ่ี ะชวยทําใหเ ราจดั การกบั ความทุกขไดอ ยา งถอนรากถอนโคน และ
เม่ือเราปฏิบัติธรรมอยางถูกวิธีและสม่ําเสมอก็จะสามารถพัฒนาจิตใจใหยกระดับสูงข้ึน
เร่ือยๆ มีศักยภาพที่เต็มเปยม สามารถที่จะแผความเมตตาท่ีเต็มเปยมน้ันไปสูผูอื่น และ
หาทางขวนขวายชว ยเหลอื ผูอ นื่ ใหพ นจากความทุกข๖๑

ความตายไมใชสิ่งทนี่ ากลวั อยา งท่หี ลายคนรูสึก เพียงแตวาเราไมคุนเคยกับความ
ตายเทานั้นเอง การระลึกถึงความตายอยูเสมอจะทําใหเราเกิดความคุนเคยและไมกลัว
ความตาย นอกจากน้ัน การนึกถึงความตายยังชวยใหคุณธรรมหลายอยางเกิดข้ึนในจิตใจ
ของเราโดยอตั โนมัติ เชน จะรูส ึกปลอยวาง ไมป ระมาทในการดาํ เนนิ ชีวิต เปน ตน

ฉะน้ัน เม่ือความตายเปนส่ิงท่ีเราไมสามารถที่จะหลีกเล่ียงได เราทั้งหลายจงมา
เรยี นรคู วามตายกอนทีจ่ ะตาย และเตรียมตัวตายดวยการทําคุณงามความดีพยายามหาทาง
กาํ จัดกเิ ลสใหหมดสน้ิ ไปจากดวงใจในขณะท่ียังมีชีวิตอยู เมื่อความตายคืบคลานมาถึงจะทํา
ใหเราตายอยางสงบ มีสติสัมปชัญญะ และจะทําใหเราไมตองกลับมาเวียนวายตายเกิดใน
สังสารวัฏอันเต็มไปดวยความทกุ ขอีกตอไป

วาระจิตดวงสุดทายนี้มีผลตอการเดินทางไปเกิดใหมภพภูมิใหม ศิลปะแหง
ความสุข การฝกจิตใหเปนสุข การสรางความพอใจจากภายใน คุณคาของความเมตตา
กรุณา การเผชิญหนากับ วามสุข การเปล่ียนมุมมองตอส่ิงตางๆ การสรางความ
เปลี่ยนแปลงทีดีงาม วิธีการจัดการกับความโกรธและ วามเกลียด ศิลปะแหงการสราง

๖๑ มรณสติแบบธิเบต, พุทธวิธีเพ่ือตอนรับความตายม, [ออนไลน]. แหลงท่ีมา:
http://www. sookjai.com/index.php?topic=13362.0;wap2 [๒๐ มนี าคม ๒๕๖๐].

ขบวนการพระพทุ ธศาสนาใหมในโลกปจ จบุ นั ๓๒๑
พระมหามติ ร ฐติ ปโฺ ญ,ผศ.ดร.
บทท่ี ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

ความสุขในที่ทํางาน การเผชญิ หนากับความเบื้อหนายและความทา ทาย ทํางานอยางไรให
ประสบความสาํ เร็จ การลดความวิตกกังวล การสรางความเชื่อมั่นและนับถือตนเอง การฝก
จิตในชีวิตประจําวัน การสรางโพธิจิต ประโยชนของจิตท่ีสงบละเอียดออน การสราง
สันติภาพที่แทจริง การแกปญหาความรุนแรง ธรรมชาติของจิต การเตรียมตัวตายอยาง
สงบ๖๒

๖.๗ บทวิเคราะหองคความรูจากบทบาทของดาไล ลามะ

ประเทศทิเบตเปนประเทศที่มีลัทธิศาสนาเปนของตนเองเปนเวลานานมาแลว
กอนท่ีพระพุทธศาสนาจะเขาไปสูทิเบต ลัทธิศาสนาที่เกาแกของทิเบตก็คือ ลัทธิโบน
(Bonism)๖๓ ลัทธินี้มีลักษณะความเช่ือคือ บูชาสวรรค วิญญาณ ภูเขา แมน้ํา ตนไม และมี
ความเชอื่ ลักษณะทางธรรมชาติอื่น ๆ ในยุคโบราณลัทธิโบนเอามนุษยและสัตวบูชายัญ ทุก
วันนกี้ ็ยงั คงทําพธิ สี งั เวยแกด วงวญิ ญาณ เคารพนบั ถอื ธรรมชาติ ตามลทั ธทิ ี่ตนเองเคยปฏิบัติ
มา

ลัทธิโบนไดดําเนินสืบตอเรื่อยมาเปนเวลาชานานหลายศตวรรษ จนกระทั่งพระ
ธรรมคําสั่งสอนของพระพุทธเจาไดรับการยอมรับในประเทศทิเบต แตลัทธิโบนก็ยังคง
ประพฤติปฏิบัติมากระทั่งจนทุกวันนี้ และไดรวมมือกับพระพุทธศาสนากลายเปน
พระพุทธศาสนาแบบทิเบต กเ็ พื่อเปน การดาํ รงรักษาวฒั นธรรมอันเกา แกของทเิ บต

พุทธศาสนาไดความรุงเรืองในดินแดนทิเบตซ่ึงมีเอกลักษณเฉพาะ ตอมาในยุค
หลังพระพุทธศาสนาแบบทิเบตไดมีการผสมผสานระหวางพุทธศาสนานิกาย มหายานทั้ง
จากอินเดียและจีนซึ่งไดรับอิทธิพลจากพุทธศาสนานิกายตันตระของอินเดีย จนเกิดเปน
นกิ ายวัชรยานขน้ึ ประชาชนใฝธรรมะ ชอบเดินทางไปแสวงบุญตามพทุ ธสถาน ซึ่งปจจุบันก็
มีใหเห็นอยูมากมาย แตเม่ือตกอยูในการปกครองของจีนวัดนับพันแหงทั่วนครลาซา เหลือ
ไมถงึ หนงึ่ รอยแหงในปจ จบุ ัน จนแทบไมเหลอื ความเจรญิ รงุ เรอื งในอดตี

ปจจุบันผูนําชาวทิเบตคือ องคดาไลลามะองคท่ี ๑๔ (Lhamo Dhondup) เมื่อ
กองกําลังจีนบุกยึดทิเบตน้ันทานดาไลลามะไดหลบหนีล้ีภัยขามภูเขาหิมาลัยเขาไปใน
อนิ เดยี ใชเ วลาเดนิ ทางประมาณ ๑๔ วนั รัฐบาลอนิ เดียอนุญาตใหดาไลลามะและชาวทิเบต
พลัดถิ่นอาศัยอยูในอินเดียได เปนท่ีนาสังเกตวาในที่ประชุมขององคการสหประชาชาติมี

๖๒ Tenzin Gyatso, The Art of Happiness, (Howard Cutler Easton Press, 1998)
p. 5.

๖๓ The path of the Buddha by Kenneth W. Morgan, printed in India at Shri
Jainendra Press, p. ๒๓๗

๓๒๒ ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมในโลกปจจุบัน
พระมหามิตร ฐติ ปโฺ ญ,ผศ.ดร.
บทท่ี ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

การพูดถึงกรณีผูล้ีภัยชาวทิเบตนอยครั้งมากและอินเดียก็ไมไดมีการพูดถึงปญหาผูอพยพ
ชาวทิเบตเลย

ประเทศทิเบตไดเปดตอนรับการทองเที่ยวนี้ก็เปนกลยุทธหนึ่งที่ทิเบตตองการให
นักทองเท่ียวที่เขาไปรับรูและเห็นความเปนไปของชาวทิเบตใหเปนที่ประจักษแกชาวโลก
ไดรับรวู า จนี ไดทําอะไรกบั ชาวทิเบตบา ง ในขณะเดยี วกันดาไลลามะองคที่ ๑๔ ผูนําผลัดถ่ิน
ของทิเบตก็ออกเดินสายแสดงปาฐกถา เคล่ือนไหวทางการเมืองเพื่อหาการสนับสนุนจาก
ภายนอกประเทศ ดาไลลามะนาํ ทิเบตใหกลายเปนจุดสนใจของชาวโลกทานพยายามทําทุก
วิถีทางที่จะปลดปลอยทิเบตจากจีนใหได จุดประสงคของดาไลลามะคือตองการให
นานาชาติกดดันจีนใหหันมาเจรจาเร่ืองสันติภาพในทิเบต แตจีนไมยอมเจรจาดวยท้ังยังไม
ยอมรับแผนสันติภาพของดาไลลามะ เปนการปดทางท่ีดาไลลามะจะใชเปนทางเรียกรอง
อิสรภาพใหทิเบต ดวยความพยายามในการตอสูเรียกรองใหจีนคืนอิสรภาพใหทิเบตดวย
สันติวิธีทําใหทานดาไลลามะองคท่ี ๑๔ ไดรับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพเม่ือป ค.ศ.
๑๙๘๙

ปจจุบันนี้ชาวที่ทิเบตมีสิทธิเสรีภาพในดานศาสนาในระดับหน่ึง แตไมมีวี่แวววา
สถานการณในทิเบตจะดขี ึ้นไปกวาเดิมมากนัก จีนปดปากสนิทเร่ืองแผนสันติภาพท่ีดาไลลา
มะพยายามรุกเราและจีนยังคงสงชาวจีนเขาไปในทิเบตอยางตอเนื่องพรอมกับการเปลี่ยน
วิถีชีวิตของชาวทิเบตใหเขาสูวังวนของอุตสาหกรรมสมัยใหมมากขึ้น มีการสงเสริมการ
ลงทุนในทเิ บตใหชาวตางชาติเขาไปลงทุนในดานการศึกษา จีนสงเสริมการเรียนภาษาแมน
ดารินและสนับสนนุ ผรู ูภ าษาแมนดารนิ ใหม ีตําแหนงสูงและมีความกา วหนาในการทํางาน

๖.๘ ผลกระทบตอ สงั คมและศาสนา

๑. การประกาศลดบทบาททางการเมืองขององคดาไล ลามะทําใหประชาชนชาว
ทิเบตตอ งอยูใ นสถานการณท ่ตี อ งสรางความสามัคคใี นชาติใหมาก

๒. องคดาไล ลามะ ยังคงเปนสัญญาลักของการตอสูเพ่ืออธิปไตยและยังเปนที่
ศูนยรวมจติ ใจของชาวทิเบตทง้ั ทอี่ ยตู างแดนและในแผน ดนิ เกิด

๓. บทบาทขององคดาไล ลามะถูกวิจารณถึงความเช่ือม่ันและการปฏิบัติศาสนา
ในสงั คมทิเบต

๔. การอธบิ ายธรรมเชงิ ปฏริ ปู มกั ทําใหส ังคมเขา ใจคลาดเคล่อื นในหลักธรรมได
๕. มักมีการการศึกษาเชิงเปรียบเทียบในขอวัตรปฏิบัติของพระพุทธศาสนาเถร
วาทและมหายาน

ขบวนการพระพทุ ธศาสนาใหมใ นโลกปจ จบุ ัน ๓๒๓
พระมหามติ ร ฐติ ปโฺ ญ,ผศ.ดร.
บทท่ี ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

๖.๙ สรปุ ทายบท

ศาสนาพุทธในดินแดนแหงทิเบตมีเอกลักษณเฉพาะคือเปนการผสมผสาน
ระหวางพุทธศาสนานิกายมหายานทั้งจากอินเดียและจีน ท้ังหมดน้ีไดรับอิทธิพลจากพุทธ
ศาสนานิกายตันตระของอินเดียจนเกิดเปนนิกายวัชรยานข้ึน ถึงแมจะเปนนิกายตันตระ
ประชาชนก็ใฝธ รรมะ เม่อื มีงานบุญ ประชาชนจะเดินทางไปแสวงบุญแมจะไกลสักเพียงใดก็
ตาม ปจจุบันก็มีใหเห็นอยูมากมาย แตเม่ือตกอยูในการปกครองของจีนวัดนับพันแหงทั่ว
นครลาซา เหลอื ไมถึงหนึ่งรอ ยแหงในปจจุบนั จนแทบไมเ หลือความเจรญิ รุงเรืองในอดตี

พระพุทธศาสนาในทิเบตมีนิกายใหญๆ ๔ นิกาย คือ นิกายหมวกแดง นิกาย
หมวกขาว นิกายหมวกดํา นิกายหมวกเหลือง นิกายหมวกเหลืองคือผูนําในปจจุบันคือผู
ดํารงตําแหนงดาไล ลามะหรือทะไล ลามะ ซึ่งเปนผูนําทางจิตวิญญาณของทิเบตองคดาไล
ลามะมักจะกลาวาเตือนกับอนุชนคนรุนหลังวา ถาคุณปรารถนาจะอุทิศตนเพ่ืองานดาน
มนุษยธรรมในฐานะชาวพุทธคนหนึ่ง คุณกําลังทําส่ิงท่ีดี จงตรวจสอบวาเจตนาของคุณ
บริสุทธ์ิอยางแทจริงหรือไม แตการกระทําทางสังคมจะตองไมเปนรูปแบบหน่ึงของศาสนา
ถาไมไดเ ปน ไปดว ยความรักและความเมตตา และถากระทําไมปลีกวิเวกอยูในพระพุทธองค
นี่คือสาเหตุท่ีวาทําไมคุณควรอุทิศสวนหนึ่งของเวลาเพื่อการฝกฝนและทําสมาธิเพื่อ
พจิ ารณาถึงการเปลย่ี นแปลงความทกุ ขแ ละอนื่ ๆ

ตามหลักการของศาสนาพุทธ แมเราจะตองพยายามอยางถึงที่สุดท่ีจะชวย
บรรเทาความทุกขทรมานของผูอ่ืน ท้ังที่ในความเปนจริงไมมีใครสามารถหนีความทุกขท่ี
ตนเองกอ นจากการกระทําของตนเองได กลาวอีกนัยหนึ่งคือคนเราเปนทุกขจากการกระทํา
ของตนเองได (กรรม) และผลของการกระทําคือ สิ่งท่ีไมอาจหลีกหนีได ถากําลังจะตองตาย
ในที่ท่ีปราศจากความสะดวกสบายทางกาย หรือโดยไมมีคนดูแลความทุกขจะรุนแรงย่ิงข้ึน
เมอื่ ไมม คี นดูแลเขาในตอนน้ี เขาก็จะตอ งทนกบั ความทุกขในรา งปจจุบัน๖๔

ผูชายบางคนอยูตามลําพังท้ังท่ีปรารถนาเหลือเกินท่ีจะพบผูหญิงสักคน ผูหญิง
บางคนตอ งการอยางยง่ิ ทจ่ี ะไดพบผูช ายสนั คนในชวี ติ แตไมอาจทําความฝนใหเปนจริง บาง
ท่ีปญหาของพวกเขาอาจจะมาจากความจริงที่วาพวกเขาคิดถึงแตตนเองมากเกินไป และ
เรียกรองจากคนอื่นมากเกินไป ถาพวกเขายอมรับความคิดเห็นท่ีตรงขามบาง และเร่ิมเปด
ใจใหผูอ่ืนไปพรอมๆ กับใสใจในปญหาของตนเองใหนอยลง พวกเขาอาจจะดึงการ
ตอบสนองทางบวกจากคนอื่นๆ ได๖๕ เปนวจนะขององคดาไล ลามะ ท่ีไดนําหลักการหรือ

๖๔ สมลกั ษณ สวางโรจน, ดาไล ลามะ วจั นะจากใจ, (กรุงเทพมหานคร: แสงดาว, ๒๕๕๓),
หนา ๑๑๙

๖๕ เร่อื งเดียวกนั , หนา ๗๕.

๓๒๔ ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมใ นโลกปจ จุบัน
พระมหามิตร ฐติ ปฺโญ,ผศ.ดร.
บทที่ ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

หลักธรรมทางพระพุทธมาอธิบายหรือ ตีความเกี่ยวกับความทุกวามนุษยทุกผูคนตางก็กลัว
ความทุกขทรมานเชนเดียวกัน และมนุษยทุกผูคนก็ตางแสวงหาความสุข ทุกผูคนมีสิทธิ์
เสมอกันท่ีจะมีความสุขและไมเปนทุกขเหมือนกัน ดังน้ันจงรวมกันใสใจตอผูอื่นดวยความ
เต็มใจ ไมวาคนผูนั้นจะเปนมิตรหรือศัตรู เพราะนี่คือพ้ืนฐานของความเมตตาที่แทจริง
เพ่อื ใหเ ขางายสําหรบั ในยคุ ใหม

ปจจุบันนี้ชาวที่ทิเบตมีสิทธิเสรีภาพในดานศาสนาในระดับหนึ่ง แตไมมีวี่แวววา
สถานการณใ นทิเบตจะดขี ้นึ ไปกวา เดมิ มากนกั จีนปดปากสนิทเร่ืองแผนสันติภาพที่ดาไลลา
มะพยายามรุกเราและจีนยังคงสงชาวจีนเขาไปในทิเบตอยางตอเน่ืองพรอมกับการเปล่ียน
วิถีชีวิตของชาวทิเบตใหเขาสูวังวนของอุตสาหกรรมสมัยใหมมากข้ึน มีการสงเสริมการ
ลงทนุ ในทิเบตใหชาวตางชาติเขาไปลงทุนในดานการศึกษา จีนสงเสริมการเรียนภาษาแมน
ดารินและสนบั สนุนผรู ภู าษาแมนดารนิ ใหมตี ําแหนง สงู และมีความกา วหนา ในการทํางาน

ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมใ นโลกปจ จุบัน ๓๒๕
พระมหามติ ร ฐติ ปโฺ ญ,ผศ.ดร.
บทที่ ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

คาํ ถามประจาํ บท

ก. แบบประเมนิ แบบปรนยั ๑๑ ขอ

๑. ขอ ใดกลาวถึงบทบาทองคดาไล ลามะไดถูกตอ งท่สี ดุ
ก. เปน ผนู าํ ทางพระพทุ ธศาสนาในประเทศทิเบต
ข. เปน ผทู างการเมืองในประเทศทเิ บต
ค. เปน ผนู ําทงั้ ทางพระพุทธศาสนาและการเมอื งในประเทศทเิ บต
ง. เปน ผูน ําในการเรียกรอ งความเสมอของชาวโลก

๒. คุณลักษณะเดน ขององคดาไล ลามะคอื ขอใด
ก. เปน นกั ปฏิรปู พทุ ธศาสนา
ข. เปนนกั ปฏิวัตพิ ทุ ธศาสนา
ค. เปน นกั ตอสูด ว ยอหิงสา
ง. เปน ผเู สียสละตอ การประกาศาสนา

๓. ลัทธศิ าสนาดัง้ เดมิ ในประเทศทิเบต คอื ลัทธใิ ด
ก. ลัทธิโบน
ข. ลทั ธิงอน
ค. ลทั ธติ ันตระ
ง. มันตระยาน

๔. ขอใดกลาวถึงพระพทุ ธศาสนาในประเทศทิเบตได ไดถ ูกตองทสี่ ดุ
ก. พทุ ธศาสนาแบบผสมผสาน
ข. พระพทุ ธศาสนามหายานลว น
ค. พระพทุ ธศาสนาแบบนกิ ายจีน
ง. พทุ ธศาสนานกิ ายตนั ตระ

๕. ขอใดกลา วถึงผลกระทบทเ่ี กิดจากการประกาศลดบทบาททางการเมืองขององคดาไล
ลามะไดถกู ตอง

ก. ทําใหป ระชาชนชาวทิเบตตอ งอยูในสถานการณท ไี่ มม ันคง
ข. ทําใหป ระชาชนชาวทิเบตตอ งสรางความสามคั คใี นชาติมากขึ้น
ค. ทําใหเศรษฐกิจของชาวทิเบตไมม นั คง
ง. ทําใหก ารเมืองของทิเบตไมมั่นคง

๓๒๖ ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมในโลกปจจบุ นั
พระมหามติ ร ฐติ ปฺโญ,ผศ.ดร.
บทท่ี ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

ข. แบบฝก หัดแบบอตั นัย

๑. วเิ คราะหห ลักการปฏิบัติของพระพทุ ธนกิ ายวชั รญานมาดอู ยา งละเอยี ด
๒. จงวิเคราะหหลักการและหลกั ธรรมของทั้ง ๔ นิกายมาดูอยางละเอียด
๓. จงวเิ คราะหแ นวคิดเรื่องสันติภาพอุดมคติของ องคดาไล ลามะ องค ท่ี ๑๙ มาดู
๔. วิเคราะหองคความรูใหมท่ีเกิดจากแตกนิกายของพระพุทธศาสนานิกายวัข
รญานมาดู

“ถา คณุ ปรารถนาจะอุทิศตนเพ่ืองานดานมนุษยธรรมในฐานะชาวพุทธคนหนึ่ง คุณกําลังทํา
ส่ิงท่ีดี จงตรวจสอบวาเจตนาของคุณบริสุทธิ์อยางแทจริงหรือไม แตการกระทําทางสังคม
จะตอ งไมเปนรูปแบบหนึ่งของศาสนา ถาไมไดเปนไปดวยความรักและความเมตตา และถา
กระทําไมปลีกวิเวกอยูในพระพุทธองคนี่คือสาเหตุที่วาทําไมคุณควรอุทิศสวนหน่ึงของเวลา
เพอื่ การฝกฝนและทาํ สมาธิเพอ่ื พิจารณาถึงการเปลย่ี นแปลงความทุกขและอนื่ ๆ”

บทท่ี ๗
สตั ยา นารายนั โกเอน็ กา กับ การปฏบิ ตั ิวปิ สสนากรรมฐาน

S.N. Goenka with Meditation

แผนบริหารการสอนประจาํ บทท่ี ๗
หวั เรือ่ ง

๗.๑ ความนาํ
๗.๒ ประวัตแิ ละการดําเนนิ ชวี ติ ของสัตยา นารายัน โกเอน็ กา (S.N. Goenka)
๗.๓ หลักและวิธีสอนวปิ ส สนา
๗.๔ การปฏบิ ัติวิปส สนากรรมฐาน
๗.๕ ปณิธานชีวติ ในการเปด สอนวปิ ส สนากรรมฐาน
๗.๖ วิเคราะหอ งคค วามรูจากแนวคิดเรื่องศาสนาของสตั ยา นารายนั โกเอ็นกา
๗.๗ ผลกระทบตอ สังคม
๗.๘ สรปุ ทายบท
คาํ ถามประจําบท

วัตถุประสงคประจาํ บท
เมื่อศึกษาบทท่ี ๗ จบแลว ผูเรยี นสามารถ

๑. ความนาํ
๒. ประวัตแิ ละการดาํ เนินชวี ิตของสตั ยา นารายนั โกเอ็นกา (S.N. Goenka)
๓. หลกั และวิธสี อนวิปส สนา
๔. การปฏบิ ตั ิวปิ สสนากรรมฐาน
๕. ปณธิ านชวี ติ ในการเปดสอนวปิ ส สนากรรมฐาน
๖. วเิ คราะหอ งคค วามรู
๗. ผลกระทบตอ สงั คม

๓๒๘ ขบวนการพระพทุ ธศาสนาใหมใ นโลกปจจบุ นั

บทท่ี ๗ สัตยา นารายัน โกเอ็นกา กับ การปฏิบัตวิ ปิ ส สนากรรมฐาน พระมหามิตร ฐติ ปฺโญ,ผศ.ดร.

กิจกรรมการเรียนการสอน

๑. วิธีสอน ใชวิธีการสอนแบบบรรยาย (Lecture) ประกอบกับการสอบถาม/
สัมภาษณเปนรายบุคคล

๒. กระบวนการเรียนการสอน
๑) ใหผูเรียนเขียนใบงานหัวขอ “องคความรูและผลกระบทที่เกิดจาก

หลักการสอนของสัตยา นารายัน โกเอน็ กา (S.N. Goenka) ทมี่ ีตอสังคม”
๒) ใหผูเรียนดูวีดีทัศนเก่ียวกับทานสัตยา นารายัน โกเอ็นกา (S.N.

Goenka) โดยสังเขป
๓) อาจารยบ รรยายสรปุ เชอ่ื มโยงเขาสบู ทเรยี นและบรรยายตามเนอื้ หา
๔) ใหผเู รยี นทําบททดสอบหลงั เรียน

สอื่ การเรียนการสอน

๑. เอกสารคาํ สอนวิชาขบวนการพุทธใหมใ นโลกปจจุบนั
๒. Power Point Presentation
๓. วีดทิ ัศนเก่ยี วกับสัตยา นารายนั โกเอ็นกา (S.N. Goenka)
๔. ส่อื ตามแหลงเรยี นรูตางๆ เชน ภาพประกอบในหอ งสมุด

การวดั และประเมินผล

๑. สังเกตจากความต้ังใจเรียนของผูเรียน/การมีสวนในการแสดงความคิดเห็น/
และการมสี วนรว มกบั กจิ กรรมในชน้ั เรยี น

๒. พิจารณาจากการเขียน/สงใบงานที่ตรงเวลาและตรงกับเนื้อหาสาระ/การ
แสดงความคดิ เหน็ ท่ีปรากฏในใบงาน

๓. พิจารณาใหค ะแนนจากการทําบททดสอบหลังเรียน

ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมในโลกปจจบุ ัน ๓๒๙

พระมหามติ ร ฐติ ปฺโญ,ผศ.ดร. บทท่ี ๗ สตั ยา นารายัน โกเอน็ กา กบั การปฏบิ ตั ิวิปส สนากรรมฐาน

๗.๑ ความนาํ

การปฏิบัติวิปสสนากรรมฐานตามแนวทาง ทานอาจารยโกเอ็นการถือวาเปน
แนวทางในการปฏิบัติท่ีมีความเหมาะสมกับสังคมในปจจุบัน เปนแนวทางที่ทําใหทุกคนใน
ทกุ ศาสนาๆ สามารถเขา มาปฏิบตั ิได การปฏิบตั ิทม่ี ีรูปแบบไรเขตเขตจํากัดดานศาสนา เนน
การปฏิบัติที่มีรูปแบบที่เปนสากลในเชิงสัญลักษณ สรางแรงศรัทธาใหเกิดกับบุคคลที่มี
ความสนใจ แนวทางการปฏิบัติของทาน สัตยา นารายัน โกเอ็นกาจึงเปนที่นิยมในปจจุบัน
อีกท้ังแนวทางในการบรรยายมีลักษณะเขาใจงาย สามารถนําไปประยุกตใชใน
ชีวิตประจําวันไดจริง ดวยเหตุนี้ รูปแบบในการปฏิบัติของทาน สัตยา นารายัน โกเอ็นการ
จึงเปนทนี่ ิยมของคนทุกชาตแิ ละทุกศาสนา

๗.๒ ประวัติและการดําเนินชีวิตของสัตยา นารายัน โกเอ็นกา (S.N.
Goenka)

ทานอาจารยสัตยา นารายัน โกเอ็นกา (S.N. Goenka) เปนชาวอินเดียที่ถือ
กําเนิดในประเทศพมา ในครอบครัวนักธุรกิจ เมื่อป พ.ศ.๒๔๖๗ ทานไดประกอบธุรกิจจน
ประสบความสําเร็จ มีชื่อเสียงมากต้ังแตยังอยูในวัยหนุม ท้ังไดรับเลือกใหเปนผูนําชุมชน
ชาวอินเดียในพมา รวมท้ัง เปนประธานองคกรตางๆ เชน หอการคามารวารีแหงพมา และ
สมาคมพาณิชยและอุตสาหกรรมแหงรางกุง นอกจากนี้ยังรวมเดินทางไปตางประเทศกับ
คณะผูแทนการคาของสหภาพพมาในฐานะ ท่ีปรึกษาอยูบอยๆ เม่ืออายุ ๓๑ ป ทานถูก
คุกคามดวยโรคไมเกรน แมจะไดรับการดแู ลบําบดั รักษาโดยแพทยผูเช่ียวชาญเฉพาะทางใน
หลายประเทศ แตอาการก็ไมดีข้ึน จนในท่ีสุด ทานสัตยา นารายันโกเอ็นกาไดทดลองเขา
ปฏิบัติวิปสสนากรรมฐานหลักสูตร ๑๐ วันเปนครั้งแรกกับ ทานอาจารยอูบาข่ิน (Sayagyi
U Ba Khin) วิปสสนาจารยผูมีชื่อเสียงท่ีชาวพมาใหความเคารพนับถืออยางย่ิงผูหนึ่ง โดย
การแนะนําของเพื่อนชาวพมาคือ ทานอูชันตุน อดีตประธานศาลฎีกาพมา ซึ่งตอมา
ภายหลัง ทานอูชันตุนไดเปนประธานคนแรกขององคการพุทธศาสนิกสัมพันธแหงโลกครั้ง
แรกทานก็ลังเลใจ แตดวยคําอธิบายของทานอาจารยอูบาขิ่น ถึงหลักของศีล สมาธิ ปญญา
อันเปนหลักการสากลท่ีจะชวยใหมนุษยชาติไดพบทางแหงการพนทุกขไดอยางถาวร ทาน
จึงตัดสินใจเขารับการอบรมเปนเวลา ๑๐ วัน ซ่ึงทานไดกลาวถึงชวงเวลาน้ันวา “ใน ๑๐
วันนั้น ทําใหขาพเจาไดเห็นวา วิธีการนี้เปนวิธีการที่มีเหตุมีผล ปฏิบัติไดจริง ทั้งยังเปน
วิทยาศาสตร และมุงประโยชนแ หง การปฏิบัติ มิไดมุงใหเราเกิดศรัทธาความเช่ืออันมืดบอด
อยางเดยี ว ทําให ขา พเจาเปน อสิ ระจากโรคภยั ไขเจบ็ รูส กึ เปนสขุ อยางย่ิงในความสงบ และ
ไดตระหนักวา สิ่งที่ทําใหหายจากโรคไมเกรนนั้น อันที่จริงก็คือ การที่ขาพเจาสามารถขุด

๓๓๐ ขบวนการพระพทุ ธศาสนาใหมใ นโลกปจจบุ นั

บทท่ี ๗ สตั ยา นารายัน โกเอน็ กา กับ การปฏิบตั ิวิปส สนากรรมฐาน พระมหามิตร ฐติ ปโฺ ญ,ผศ.ดร.

รากของกิเลสบางอยางในตัวขาพเจาได เดิมทีขาพเจาเปนคนที่มีโทสะมาก วูวาม และเปน
คนมีอัตตาสูง แตในการอบรม ๑๐ วันน้ี ไดทําใหขาพเจาสามารถที่จะควบคุมตัวเองได
อยางมีประสิทธิภาพมากขน้ึ ”

ทานไดเลาถึงวิธีการท่ีไดรับการอบรมวา “ตอน ท่ีเขารับการอบรมใหมๆ เขาใจ
วาคงจะมกี ารใหบ ริกรรมคาํ สวดบางอยาง แตอันที่จริงแลวไมมีเลย ไมมีการบริกรรมคําใดๆ
ทั้งส้ิน ไมมีแมการสรางภาพ เพียงแตใหเราเฝาสังเกตลมหายใจที่เขาออกอยางเปน
ธรรมชาติเทาน้ัน นี่คือสมาธิ ขั้นตอนตอไปเปนข้ันตอนท่ีสําคัญ คือวิปสสนาดวยการสังเกต
เวทนาหรือความรูสึกทางกายอันเปนหนทางนําไปสูปญญา คือ การรูแจงในความเปน
อนิจจังหรอื ความไมเ ท่ยี ง ซึง่ วิธกี ารสังเกตเวทนาน้ีเปนส่ิงที่พระพุทธองคทรงประทานใหแก
มนุษยชาติ เพ่ือใชเปนเครื่องมือในการนําตนใหพนทุกข” หลังจบจากการปฏิบัติ ตาม
หลกั สตู ร ๑๐ วนั แลว ทา นสัตยา นารายนั โกเอ็นกาเกิดความเล่ือมใสศรัทธาในเน้ือหาสาระ
ของคําสอนและในแนวทาง ปฏิบัติเปนอยางมาก จึงปวารณาตัวเขาปฏิบัติอยางตอเนื่อง
และจริงจัง ตอมาทา นอาจารยอ บู าขน่ิ ไดแ ตง ตั้งใหท า นทําหนา ทเี่ ปนอาจารยผ ชู ว ยสอน

ป พ.ศ. ๒๕๑๒ ทานไดเดินทางกลับไปยังประเทศอินเดียเพ่ือเยี่ยมมารดาท่ีลม
ปวย ระหวางที่อยูในอินเดีย ทานไดจัดอบรมวิปสสนาใหแกมารดาและญาติพี่นอง ซึ่ง
ปรากฏวามผี ใู หค วามสนใจเปน อันมาก นับจากนัน้ ขบวนการเอหิปสสิโกก็ไดเร่ิมตนจากปาก
ตอ ปากทีบ่ อกตอ ๆ กันไป ทําใหม ีผูม าขอเขาปฏิบัติกันมากข้ึน และจากการที่ทานอาจารยอู
บาขิน่ มคี วามฝง ใจอยูแตเดิมวา ประเทศอินเดียมีบุญคุณอยางลนเหลือที่ไดหยิบย่ืนธรรมอัน
บริสุทธ์ิขององค สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจาใหแกประเทศพมา ซ่ึงเปนบานเกิดเมืองนอน
ของทาน แตธรรมอันลํ้าคานี้กลับไดสูญหายไปจากประเทศอินเดียอันเปนตนกําเนิดจน
เกือบหมดสิ้นทานอาจารยโกเอ็นกาจึงมีความปรารถนาท่ีจะทดแทนคุณ ประเทศอินเดีย
ดวยการหาทางนําเอาธรรมะอันลํ้าคาน้ีกลับไปเผยแผอีกคร้ัง ซึ่งทานอาจารยอูบาข่ินก็ได
สงเสริมและสนับสนุนใหทานเปดการอบรม วิปสสนาในแนวทางนี้ข้ึนในประเทศอินเดีย
อยางตอเน่ือง หลังจาก ๑๔ ปของการปฏิบัติ ทานไดรับการแตงตั้งใหเปนวิปสสนาจารย
และไดเดินทางไปเผยแผการปฏิบัติ วิปสสนาที่ประเทศอินเดียตามความประสงคของ
อาจารยของทา นอาจารยอูบาข่นิ

ป พ.ศ. ๒๕๑๗ ทา นจงึ ไดกอตงั้ และเปน ประธานสถาบันวิปสสนานานาชาติศูนย
แรกช่ือ “ธรรมคีรี” ข้ึนที่เมืองอิกัตปุรี ใกลๆ กับเมืองบอมเบย รัฐมหาราษฎร ประเทศ
อินเดีย เพื่อปฏิบัติวิปสสนากรรมฐานตามแนวทางของทานอาจารยอูบาขิ่น ซึ่งดําเนินตาม
แนวทางของสมเด็จพระสมั มาสมั พุทธเจา ตามทีไ่ ดบ ันทึกไวในพระ ไตรปฏก นับจากน้ันมาก็
ไดม ีการจดั อบรมวปิ สสนาหลักสตู ร ๑๐ วันและหลักสตู รระยะยาวตอ เนื่องเร่อื ยมา

ขบวนการพระพทุ ธศาสนาใหมใ นโลกปจ จุบนั ๓๓๑

พระมหามิตร ฐติ ปโฺ ญ,ผศ.ดร. บทท่ี ๗ สัตยา นารายัน โกเอน็ กา กับ การปฏบิ ัตวิ ปิ ส สนากรรมฐาน

ป พ.ศ. ๒๕๒๒ ทานเริ่มเดินทางไปเผยแผวิปสสนาตามประเทศตางๆ ทั่วโลก
ทานไดอ าํ นวยการสอนวิปส สนาหลกั สตู ร ๑๐ วันในประเทศอินเดียและประเทศอ่ืนๆ ทั้งใน
ซีกโลกตะวันตกและตะวันออกกวา ๔๐๐ หลักสูตร หลักการสอนของทานโกเอ็นกาไดรับ
การยอมรับโดยทั่วไป ทั้งในอินเดีย ประเทศที่ยังคงมีความแตกตางทางดานชนช้ันและ
ศาสนาอยางมาก และจากทั่วโลก ทั้งนี้เพราะคําสอนท่ีมีลักษณะเปนสากล มิไดขัดตอหลัก
ศาสนาใด ทานเนนเสมอวามนุษยทุกคน ไมวาจะมีเชื้อชาติใด นับถือศาสนาใด และมีผิวสี
อะไร ตางก็มีความทุกขในรูปแบบเดียวกันท้ังส้ิน ในเม่ือความทุกขของมนุษยเปนสากล
วิธีการปฏิบัติเพ่ือใหพนจากความทุกขจึงตองเปนสากลเชนกัน ตอมาทานไดเริ่มแตงตั้ง
อาจารยผูชวยใหชวยดําเนินการอบรมแทนทาน โดยใชเทปและวิดีโอของทานเปนแนวทาง
ในการสอน เพือ่ รองรับกับความตองการทจ่ี ะเขาอบรมซึง่ เพิ่มสูงข้ึน ทุกวันน้ีมีอาจารยผูชวย
กวา ๗๐๐ ทา น และอาสาสมัครชวยงาน ตา งๆ อีกนับพนั ๆ คน มีการจัดอบรมวิปสสนาใน
ประเทศตางๆ กวา ๙๐ ประเทศท่ัวโลก ทั้งในอิหราน มัสกัตอาหรับอิมิเรสตอัฟริกาใต
ซิมบับเว จีน มองโกเลีย รัสเซีย เซอรเบีย ไตหวัน กัมพูชา เม็กซิโกและประเทศตางๆ ใน
อเมรกิ าใต โดยมีการ กอ สรางศูนยวิปสสนาท้ังส้ิน ๘๐ แหงใน ๒๑ ประเทศทั่วโลก ในแต
ละปจะมีการจัดอบรมหลักสูตรวิปสสนาท่ัวโลกกวาหนึ่งพัน หลักสูตร โดยไมมีการเรียก
เก็บเงินคาอบรม ที่พักหรือคาอาหารใด ๆ ขึ้นอยูกับความสมัครใจท่ีจะบริจาค ทั้งตัวทาน
อาจารยสัตยา นารายัน โกเอ็นกาเองและอาจารยผูชวยตางๆ ก็ไมไดรับคาตอบแทนใดๆ
จากการอบรมดังกลาวแมแตนอย ที่ผานมา ทานอาจารยสัตยา นารายันโกเอ็นกาไดรับ
เชิญใหไปแสดงปาฐกถาธรรมตามสถาบันตาง ๆ รวมท้ังในเวทีเศรษฐกิจโลกที่เมืองดาวอส
ประเทศสวิสเซอรแลนด และการประชุมสุดยอดสันติภาพโลกสหัสวรรษใหมท่ี
สหประชาชาติดวย

๗.๓ ปณิธานชวี ติ ในการเปด สอนวปิ ส สนากรรมฐาน

ทาน อาจารยสัตยา นารายัน โกเอ็นกา (S.N. Goenka) ไดใหคําแนะนําเกี่ยวกับ
วิธกี ารปฏิบัติไววา วิปสสนาเปนวิธีการปฏิบัติกรรมฐานท่ีเกาแกที่สุดวิธีหน่ึงของอินเดีย ซ่ึง
ไดสาบสูญไปจากมนุษยชาติมาเปนเวลานาน แตก็ไดกลับมาคนพบอีกคร้ังโดยองคสมเด็จ
พระสัมมาสัมพุทธเจา เม่ือกวา ๒๕๐๐ ปมาแลว วิปสสนาหมายถึง “การมองดูสิ่งตางๆ
ตามความเปนจริง” อันเปนกระบวนการในการทําจิตใหบริสุทธ์ิโดยการเฝาดูตนเอง เราจะ
เร่ิมตนดวยการเฝาสังเกตดูลมหายใจตามธรรมชาติ เพ่ือทําใหจิตมีสมาธิ เมื่อมีสติท่ีม่ันคง
เราก็จะกา วไปสูก ารเฝา สังเกตถงึ การเปล่ยี นแปลงตามธรรมชาตขิ องกายและจิต ซ่ึงจะทําให
ไดพบกับสัจธรรมที่เปนสากล คือ ไดเห็นความไมเท่ียง (อนิจจัง) ความทุกข (ทุกขัง) และ

๓๓๒ ขบวนการพระพทุ ธศาสนาใหมใ นโลกปจ จุบนั

บทที่ ๗ สัตยา นารายนั โกเอน็ กา กับ การปฏบิ ัตวิ ปิ ส สนากรรมฐาน พระมหามติ ร ฐติ ปฺโญ,ผศ.ดร.

ความไมมีตัวตน (อนัตตา) การท่ีไดรูเห็นถึงสภาพธรรมตามความเปนจริงเหลาน้ีจาก
ประสบการณของทานเองโดยตรง จึงเปนวิธีการในการชําระจิตใหบริสุทธ์ิ ธรรมะเปนเรื่อง
สากล มีไวสําหรับแกไขปญหาตางๆ ท่ีเปนสากล มิไดผูกขาดเฉพาะศาสนาใดศาสนาหน่ึง
หรือลัทธิใดลัทธิหน่ึง ดวยเหตุนี้คนทุกคนจึงสามารถจะปฏิบัติไดอยางเสรี โดยไมมีขอ
ขัดแยง ในเรอื่ งของเชื้อชาติ ชัน้ วรรณะ หรือศาสนา ท้ังในซีกโลกตะวันออกและตะวันตกทั่ว
ทกุ ทวปี ในที่ทุกสถาน ในกาลทกุ เมอ่ื และจะเปนประโยชนตอ ทุกๆ คนโดยทั่วถึงกันพื้นฐาน
ในการปฏิบัติ วิปสสนา คือ “ศีล” ศีลจะเปนพ้ืนฐานในการพัฒนาสมาธิ และกระบวนการ
ทําจิตใหบริสุทธิน์ ้นั จะเกิดขน้ึ จากปญ ญา คอื “การรแู จง เห็นจริง”

ชวี ติ คือการเดินทางท่ตี อ งเรยี นรอู ยา งไมม วี นั ส้นิ สุด แตละวันคนเรากาวไปบน
เสนทางท่ีเลือกเดินและเลือกท่ีจะเปนโดยไมมีใครรูวาทางขางหนาจะเปนยังไง คงไมมีใคร
อยากใหมันผิดพลาด มีแตอยากใหหนทางน้ันสวยงามไปในแบบที่ตนเองคิดบางวันคนเรา
กา วเดินอยา งรวดเรว็ จนแทบจะว่ิงดวยความเชื่อม่ันบางวันใจดวงเดิมของคนเรามันกลับฝอ
แทบจะหยุดน่ิง หมดแรง ไมเขาใจกับหลายๆ ส่ิงที่ไมไดคาดคิดเอาไวบางวันจึงจําเปนตอง
เดนิ ใหชาลงสกั นดิ เพื่อจะไดม เี วลาคิดทบทวน หรือช่ืนชมทิวทัศนขางทางบางจนบางทีก็มา
รูตัววาเราอาจจะไปผิดทางดวยซํ้า หรือสงสัยวาตัวเองกําลังหลงทางอยูหรือเปลาแตมัน
ไมไ ดหมายความวาเราจะไมไ ดเจอกับทางออก เพราะอยางนอยเราก็ไดลองไปในที่ ๆ เราไม
เคยไป หรือเราอาจจะกําลังไปในท่ีที่ไกลกวาเดิมก็ไดหากชีวิตคือการเดินทางจริง ๆ เม่ือมี
เริ่มตนก็ตองมีจุดหมายปลายทางและมีทางออกใหกับทุกเสนทางเสมอ ใหเวลากับหนทาง
แลวมันจะพาเราไปเจอกับเรื่องใหม ๆ แมบางคร้ัง หนทางจะพาคนเรายอนกลับมา เจอ
เร่ืองเดิม ๆ อยางหนีไมพนคนเราอาจจะตองหัวเราะและรองไหไปอีกซักกี่ครั้ง ก็ไมเปนไร
หรอกเพราะทุกขณะที่ผานไปเปนการใหบทเรียนใหกับพวกเขาเพิ่มข้ึน และจดจําความรู
และความสกึ จากประสบการณท ่ไี ดเ กดิ ขน้ึ กับตัวเองใหมากขน้ึ

๗.๔ หลกั และวธิ ีสอนวปิ ส สนา

หลักของการทําวิปสสนา ทานสัตยา นารายัน โกเอ็นกายํ้าอยูเสมอวาการทํา
วิปสสนาจะทําใหทานมีสุขภาพจิตท่ีดี จิตใจของทานจะสงบเย็น ทานจะมีชีวิตท่ี
เจริญรุงเรือง ราบร่ืน มีความสัมพันธอันดีกับสมาชิกในครอบครัว มีความสัมพันธอันดีกับ
คนอืน่ ๆ ในสังคม ดงั นั้น วิปสสนาจึงเปน วถิ ใี นการดําเนนิ ชีวิต

การสอนอบรมทา นยังใหค วามเหน็ เก่ียวการปฏิบัติโดยสากลวา ผมปฏิเสธท่ีจะใช
คําวา “พุทธศาสนา” ผมไมเคยใชคําวา “ศาสนา” กับเรื่องท่ีคําสอนของพระพุทธเจาเก่ียว
โยงไปถึงสําหรับผมแลว พระพุทธองคไมเคยกอตั้งสถาบันศาสนา พระพุทธเจาไมเคยสอน

ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมใ นโลกปจจุบนั ๓๓๓

พระมหามติ ร ฐติ ปโฺ ญ,ผศ.ดร. บทที่ ๗ สัตยา นารายัน โกเอน็ กา กับ การปฏิบตั ิวิปส สนากรรมฐาน

พุทธศาสนา พระองคไมเคยทําใหใครเปนพุทธศาสนิกชนแมแตคนเดียวคนทุกคนจะเห็น
พองกันวา ศาสนาทุกศาสนาในโลกตางก็มีองคประกอบทั่วไป ซ่ึงผมขอเรียกวา แกนสาร
ภายในของศาสนา กลาวคือ ศีลธรรม การเปนนายเหนือจิตใจ และการทําชําระจิตใจให
บริสุทธ์ิ ดังน้ัน ผมจึงขอบอกวานี่คือแกน เปนแกนอันดีงามของทุก ๆ ศาสนา และ
นอกจากน้ีก็ยงั มีเปลอื กนอก เปลือกนอกอนั นี้ผลจะแตกตางกันในแตละศาสนา จะปลอยให
ทุกคนมีความสุขกับพิธีกรรม และประเพณีของพวกเขา แตพวกเขาก็ไมควรหลงลืมแกนที่
อยูภายใน ถา เขาเหลานี้ละเลยแกนสารภายในและยังคงบอกวา ฉันเปนศาสนิกชนเพราะวา
ฉันทําพิธีกรรมมาตลอด เชนนี้แลวก็เทากับวา เขากําลังหลอกลวงตัวเอง และหลอกคนอื่น
ๆ ดวยตามความเขาใจตอสันติภาพภายในในความหมายน้ี ในวัฒนธรรมนี้ก็ยังคงมีความ
กลวั อนั หน่ึงกค็ อื คนทีม่ สี นั ติภาพอยา งยง่ิ กค็ ือคนท่ใี กลความตายนอย ๆ เขาไปแลว เราตาง
ก็ตองการสันติภาพ แตเราจินตนาการไมไดวา เราจะชวยโลกใหรอดไดอยางไร ใน
ความหมายเชิงระบบนิเวศโดยปราศจากความข้ึงโกรธ เราตองติดตอสัมพันธกับสรรพชีวิต
ดวยกิเลสประเภทตาง ๆ อยูดีผมตระหนักในขอนี้ ผมไมไดเห็นแยง ผูคนไมยอมเขาใจคํา
สอนของพระพุทธองคอ ยางถูกตอ ง ตัวอยางเชน มีคนมาทํารายผม และผมบอกเขาวา “ผม
เปนนักวิปสสนา เชนเดียวกับพืชผัก เขามาเลย เขามาเชือดผมเลย” …น่ีไมใชคําสอนของ
พระพุทธเจา เราสามารถจะแสดงออกถึงปฏิบัติการอยางเขมขนท่ีสุดในสถานการณท่ี
จาํ เปน ไมว าจะเปน ทางกายกรรมหรือวจีกรรมแตกอนที่จะทําเชนน้ัน เราตองตรวจสอบตัว
เราเองเสียกอนทั้งในระดบั รางกาย ความรสู ึก และจิตใจ ถาผมพบวาจิตใจของผมเปนกลาง
เต็มที่ ผมไมมีความโกรธตอคนผูน้ี ผมมีความรักตอคนผูนี้ แตเน่ืองจากเขาคนน้ี ไมยอม
เขาใจถอยคําอันนุมนวล ผมก็ตองใชถอยคําแบบแรง ๆ เขาไมเขาใจ การกระทําแบบ
ออ นโยน ผมกต็ อ งใชก ารกระทําแบบหยาบคาย ในความใสใจของเขาและเธอ ความรักยอม
มอี ยู ความกรณุ ายอมมีอยู แตถ าหากมีความโกรธเขามาแทน ผมก็ตองเปนทุกข คนทุกขจะ
ไปชว ยคนทกุ ขอ ีกคนหนง่ึ ไดอยางไร?

คําถามน้ีตองการคําตอบที่แจมชัดมาก เพราะวามันกําลังจะเกิดข้ึน คําถามท่ีวา
หากคุณไมโมโหแลวคุณจะปกปองตัวเองไดอยางไร? หากเราไมโกรธแลวเราจะประสบ
ความสาํ เรจ็ ในดา นนั้นดานน้ไี ดอ ยางไร อันนี้ก็เน่ืองจากผูคนสวนใหญมิไดใชชีวิตในลักษณะ
ท่ีเปนกลาง ไมลําเอียงแตกลับยึดมั่นอยางเหนียวแนน คนเรามักรูสึกวาดวยการยึดมั่น
เทา นน้ั จึงสามารถบรรลเุ ปาหมาย แตเมื่อพวกเขาเขาใจและหันมาปฏิบัติ ก็จะเห็นวาบุคคล
ที่ไมยดึ ติดถือมั่นตางหากท่ีประสบความสําเร็จมากกวา ในการไปใหถึงเปาหมาย น่ีก็เพราะ
สภาพจิตใจยังสงบอยางย่ิง แจมชัดอยางย่ิง และไมวาปญหาใดจะเกิดขึ้น คุณก็ตัดสินใจได
อยางรวดเร็ว และถูกตองถาเปนอยางนี้ รัฐบาลก็จะเสนอใหการทําวิปสสนาเขาไปอยูใน

๓๓๔ ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมใ นโลกปจ จบุ นั

บทท่ี ๗ สัตยา นารายนั โกเอ็นกา กบั การปฏบิ ตั ิวิปส สนากรรมฐาน พระมหามติ ร ฐติ ปโฺ ญ,ผศ.ดร.

หลักสูตรโรงเรยี นตํารวจ แมแตนักโทษหรืออาชญากรรมรุนแรงทั้งหลายก็จะเปล่ียนไป ทุก
รฐั บาลตอ งการใหน ักโทษเปล่ียนพฤตกิ รรมเมอ่ื มาอยใู นคุก แตแทนท่ีจะเปนเชนนี้ กลับเปน
วาเรามีกรมราชทัณฑ ไวเปนที่สําหรับอภิปรายเร่ืองประเภทของอาชญากรรม และคุณกอ
อาชญากรรมข้ึนไดอ ยางไร พวกเขาเรียนรูเ พิ่มขน้ึ มากมาย และผลออกมาก็คืออาชญากรรม
ท่ีใหญโตยิ่งข้ึน เดี๋ยวน้ี ดวยวิปสสนากรรมฐาน ทําใหเกิดการเปล่ียนแปลงคร้ังใหญ และนี่
ไมใชเ กิดโดยการพดู บรรยายพระสูตร หรือโดยการสวดมนตสรรเสริญพระพุทธองค แตเกิด
โดยเทคนิควิธีการ กลาวคือ เม่ือพวกเขาเร่ิมสังเกตพิจารณา (ตัวเอง) การอาศัยอยูใน
เรอื นจํา คนเหลานีเ้ ต็มไปดว ยโทสะ มีพยานใหผมพบเห็นนับจํานวนไมถวน เม่ือกูออกไป กู
จะฆามึง! นี่คอื การลางแคน แตเมอื่ พวกเขาหันมาสังเกตพิจารณา “โอ…ฉันกําลังทําอะไรอยู
หรือน่ี? ฉันกําลังเผาลนตัวเอง” ความโกรธก็จะหายไป โดยวิธีอื่น ๆ คนผูน้ีก็จะกอความ
รุนแรงเพ่ิมมากย่ิง ๆ ข้ึนไป แตเด๋ียวนี้เขาทําเชนน้ันไมได เขาเต็มไปดวยความรัก ความ
เมตตา และกลายเปนคนกระตือรือรนอยางยิ่ง อาชญากรท่ีกระทําอาชญากรรมรายแรง
จํานวนมากเมื่อพนโทษออกมา พวกเขาไดงานทําท่ีน่ันท่ีน่ี และพวกเขาไมตองการกลับไป
เหมือนเดิมอกี

คุณคิดวาในสังคมชาวพุทธ ซึ่งความรุนแรงเห็นไดอยางกลาดเกล่ือนอยูในตอนนี้
ผคู นทําหนาที่ดวยการไมยึดติดถือม่ันหรือเปลา? ถาใครบางคนมาบอกวา เขาเปนชาวพุทธ
และทัง้ หมดที่เขาทําก็คอื แคนี้ ผมก็จะบอกวา คุณเปนไดแคผูศรัทธาในพระพุทธเจา แตคุณ
ไมไดเปนสาวกของพระองค ซ่ึงแตกตางกันมาก คุณมีศรัทธาแรงกลาในพระพุทธเจา คุณ
พรํ่าพูดวา “พระพุทธองค โอ พระพุทธองค ผูเลิศประเสริฐแท” แตคุณไมไดปฏิบัติฝกฝน
ไมวาเราจะเรียกตัวเองวาเปนคริสเตียน เปนฮินดู หรือมุสลิม ไมมีอะไรแตกตางกันเลย
สาวกของพระพุทธเจาตองปฏิบัติตามคําสอนของพระองค คือ ศีล สมาธิ และปญญา สวน
คนทเี่ อาแตเ รียกตนเองวาชาวพุทธ ไมเห็นวาจะใชชีวิตเยี่ยงพุทธแตอยางใด น่ีคือเหตุผลวา
ทําไม ผมจึงไมใชคําวา “ชาวพุทธ” หรือ “พุทธศาสนา” พระพุทธเจาไมเคยสอนลัทธิหรือ
ศาสนาใด ๆ ในพุทธพจนทั้งหมด รวมท้ังอรรถกถาท้ังหลาย ซึ่งรวมแลวหลายพัน
หนากระดาษ ไมเห็นมีคําวา “พุทธศาสนา” คําทั้งหมดน้ีลวนเกิดขึ้นภายหลังเม่ือคําสอน
ของพระองคเร่ิมลงหลักปกฐานแลว ผมไมรูวาเริ่มมีการเรียกสิ่งน้ีวา “พุทธศาสนา” ตั้งแต
เมื่อไหร และอยางไร แตทันทีที่คําเรียกนี้เกิดข้ึน มันไดลดทอนคุณคาคําสอนของพระพุทธ
องคล งไป สิง่ เหลาน้ีเคยเปนคําสอนสากล แตคําเรียกเหลานี้ทําใหเกิดการแบงแยกเปนลัทธิ
นิกายศาสนา ราวกับจะบอกวา พุทธศาสนามีไวเพ่ือชาวพุทธเพียงเทาน้ัน เชนเดียวกับ
ศาสนาฮินดูก็เพ่ือชาวฮินดู ศาสนาอิสลามก็มีไวเพ่ือคนมุสลิมเทาน้ัน แตธรรมะนั้นมีไวเพ่ือ
มนษุ ยท ุกคน


Click to View FlipBook Version