ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมในโลกปจ จบุ ัน ๒๘๕
พระมหามติ ร ฐติ ปฺโญ,ผศ.ดร.
บทที่ ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ
ในระดับจติ ใจนัน้ ความวิตกกังวลท่ีเรื้อรังทําใหเกิดอารมณฉุนเฉียวไดงาย มันจะ
ทําลายความสามารถในการตัดสนิ ใจและประสิทธิภาพในการทํางานใหลดลง ท้ังยังเปนเช้ือ
ที่จะนํามาซงึ่ ปญ หาสขุ ภาพอกี ดวย
การจัดการกับความวิตกกังวล ทานดาไลลามะไดแนะนําวา อันดับแรก เราตอง
พจิ ารณาใหช ัดเจนกอ นวาอะไรคือเหตุปจจัยท่ีทําใหเราเกิดความรูสึกหวาดวิตกกังวล ซ่ึงใน
บางกรณีความหวาดวิตกกังวลอาจเปนผลมาจากปญหาที่รุมเราทําใหจิตใจเกิดความกังวล
แตไ มว า มนั จะเกิดมาจากสาเหตุใดกส็ ามารถแกไขได ทางดา นรา งกายอาจจะตองไปพบหมอ
และใชย าชว ยในการบาํ บดั สวนทางดานจิตใจน้ันทานดาไลลามะไดแนะนําวา การบมเพาะ
ความกรุณาและการสรางความสัมพันธท่ีดีงามกับผูอ่ืนอยางสนิทสนม จะสามารถบํารุง
สุขภาพจติ และชว ยตอ สภู าวะหวาดวิตกได
ทานดาไลลามะไดแนะนําวิธีเผชิญหนากับความวิตกกังวลอีกวา ตามปกติแลว
ความกลัวมีหลายชนิด ซ่ึงความกลัวบางอยางก็เปนส่ิงที่สมเหตุสมผล เปนความกลัวท่ีเกิด
จากการหย่ังเห็นธรรมชาติอันเลวรายของภัยท่ีมีอยูในสังสารวัฏ เชน กลัวความโหดราย
ทารุณ กลัวการฆาฟน กลัวเปนทุกข กลัวอารมณดานลบ เปนตน ลวนแตเปนความกลัวท่ี
สมเหตุสมผล เพราะความกลัวเหลานี้จะทําใหเราเลือกเดินบนเสนทางท่ีถูกที่ควร กลอม
เกลาใหเรากลายเปนคนท่ีมจี ติ ใจอบอุน อาทร
ในทางกลับกันความกลั้วบางอยางเปนเพราะวาจิตของเราเปนผูปรุงแตงขึ้น เชน
เวลาเดินผานที่มืดๆ ก็จะรูสึกกลัว ทั้งๆ ที่ความเปนจริงแลวมันอาจจะไมมีอะไรเลยก็ได
นอกจากนนั้ ทา นดาไลลามะยงั ช้ีใหเห็นอีกวา หากสภาพจิตของเราไมดี หรือมีความรูสึกใน
แงล บ เราจะถายทอดความรูสึกดังกลาวไปยังผูอื่น ซึ่งพลอยจะทําใหคนอื่นกลายเปนคนไม
ดีและมีความคิดรายตามไปดวย ซ่ึงก็จะสงผลใหเรารูสึกกลัวความกลัวในลักษณะน้ีจึง
สมั พันธก บั ความเกลียด และเกิดข้ึนเพราะจิตปรุงแตง ฉะน้ัน วิธีการที่จะตอสูกับความกลัว
อันดับแรกตองใชความคิดหาเหตุผล และพยายามคนหาวาความกลัวของเรามีสาเหตุ
หรือไม หรือวา มีสาเหตุมาจากอะไร
คนในปจจุบันจํานวนไมนอยที่ถูกรุมเราดวยความวิตกกังวลนานาประการ มี
ปญหาท่ีทําใหเกิดความวิตกกังวลมากมาย หากคิดหาสาเหตุและพยายามกําจัดตนตอของ
ความกังวลไดก็จะทําใหจิตใจสงบมากข้ึน อีกวิธีหนึ่งท่ีทานดาไลลามะเห็นวาเปนประโยชน
มากท่ีจะชวยลดความกังวลใจคือ การปลูกฝงความคิดที่วาหากปญหาหรือสถานการณใดมี
ทางแกก็ไมจําเปนตองไปกังวลคือ ถาปญหาท่ีมีทางแกมีทางออก ยอมไมจําเปนตองปลอย
ใหมันครอบงําเรา การกระทําท่ีเหมาะสมคือการพยายามหาทางแกปญหาแทนที่จะเอาแต
๒๘๖ ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมในโลกปจ จุบนั
พระมหามติ ร ฐติ ปฺโญ,ผศ.ดร.
บทท่ี ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ
วติ กกงั วล สูเ อาพลงั ไปจดจอกบั การแกปญหาดีกวา เชน เรามีความกังวลเก่ียวกับปญหาใน
ท่ีทํางาน
วิธีที่ดีท่ีสุดก็คือ พยายามหาทางแกไข เอาใจจดจอหาวิธีแก ดีกวาที่จะมัวมานั่ง
กงั วล
อกี วิธีหนึ่งท่ีทานดาไลลามะแนะนําคือ ถาไมมีทางออก ไมมีทางแก ไมมีโอกาสที่
จะแกไข ปญหาในลกั ษณะนเี้ รากังวลไปกไ็ มมีประโยชน เพราะถึงอยางไรเราก็ทําอะไรไมได
อยูแลว ในกรณีเชนนี้เราทําไดเพียงรูจักยอมรับความจริง ย่ิงเรายอมรับความจริงไดมาก
เทา ใดเรากจ็ ะรสู ึกวาปญ หาน้งี ายดายยิ่งข้ึนเทานั้น
ฉะน้ัน วิธีที่ดีที่สุดก็คือ การเผชิญหนากับปญหาโดยตรงแลวพิจารณาหาทาง
แกไข หากคดิ พจิ ารณาจนถึงที่สุดแลวไมพบทางแกก็ยอมรับสภาพความเปนจริง ก็จะทําให
จิตใจปลอ ยวางไดงา ยไมเ กดิ ความวติ กกังวลตามมา
หากทาํ ตามวธิ ีดงั กลาวแลวยงั ไมประสบความสําเร็จ ยังแกปญหาความวิตกกังวล
ไมได ทานดาไลลามะก็แนะนําวา เราควรท่ีจะหมั่นไตรตรองตรวจสอบความคิดดังกลาวให
มากข้ึนและหากเรามีแรงจูงใจในการท่ีจะกระทําความดี ทําสิ่งที่เปนประโยชนแกผูอื่น ส่ิง
เหลา นี้จะเปนเกาะทคี่ อยคุมกันเราจากความรสู กึ กลัวและวิตกกังวลได
แรงจูงใจนั้นเปนสิ่งสําคัญมาก เพราะการกระทําทั้งหมดของมนุษยมีส่ิงท่ีอยู
เบื้องหลังก็คือ แรงจูงใจ ถาเรารูจักบมเพาะแรงจูงใจอันบริสุทธิ์และจริงใจ รูจักปลุกเรา
ความปรารถนาที่จะชวยผูอ่ืน มีการกระทําตางๆ ท่ีตั้งอยูบนพื้นฐานของความเมตตากรุณา
และความเคารพ ถาหากทําไดเชนนี้เราจะทํางานประเภทใด สาขาวิชาชีพใด ก็จะทําได
อยางมปี ระสทิ ธภิ าพมากขึ้นโดยปราศจากความกลัวหรือวิตกกังวล จะไมมีความรูสึกท่ีเกรง
วา คนอน่ื จะคดิ อยางไรกบั ส่ิงท่เี ราทํา จะไมก งั วลวาเราจะบรรลเุ ปาหมายหรือไมจะทําสําเร็จ
ไดมากนอยเพยี งใด เพราะแมวาเราอาจจะไมบรรลุเปาหมายที่ต้ังไวเลย แตเราก็จะยังรูสึกดี
ทไ่ี ดท ุมเทพยายามกระทําในส่งิ ทด่ี ีงาม
แตหากในจิตใจของเรามีเจตนาท่ีไมดี มีความคิดแตในแงลบ แมวาคนอ่ืนจะยก
ยองสรรเสรญิ เรา หรือเราอาจทํางานบรรลเุ ปา หมาย แตเรากจ็ ะยงั ไมม ีความสุขอยนู ัน่ เอง
ในทัศนะของทานดาไลลามะ ทานเห็นวา ย่ิงเรามีแรงจูงใจในการทํางานเพ่ือ
ประโยชนของผูอ่ืนมากเทาไหร เราก็ย่ิงปราศจากความกลัวในเวลาที่ตองเผชิญกับ
สถานการณที่สรางความวิตกกังวลอยางรุนแรง และหลักการเดียวกันน้ีก็สามารถนํามาใช
เรื่องเล็กนอยในชีวิตประจําวันไดเชนเดียวกัน ถึงแมวาแรงจูงใจเราอาจจะไมไดเปนไปเพ่ือ
ประโยชนสุขของผูอื่นท้ังหมด แตการหยุดคิดพิจารณาใครครวญอยางมีสติจนเราแนใจวา
เราไมไดมจี ิตคดิ รา ยตอใคร มีแตเจตนาที่บริสุทธิ์ที่ปรารถนาอยากจะชวยผูอ่ืน สิ่งเหลาน้ีจะ
ขบวนการพระพทุ ธศาสนาใหมใ นโลกปจจบุ ัน ๒๘๗
พระมหามติ ร ฐติ ปโฺ ญ,ผศ.ดร.
บทที่ ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ
ชวยลดความกังวลใจในสถานการณตางๆ ในชีวิตประจําวันลงได เจตนาของเราจึงเปนสิ่ง
สําคัญในการกระทําสิ่งตางๆ หากในจิตใจของเรามีแตส่ิงที่ดีงาม ในที่สุดส่ิงท่ีดีงามก็จะ
เกดิ ขึน้ ตามมา รอบขา งตัวเราก็จะมแี ตส ่งิ ทีด่ ีงาม
แตถาหากจิตของเราไมดีเสียแลว มองไปทางไหนก็จะเจอแตส่ิงท่ีไมดี ไม
นาช่ืนชม มีแตปญหา หากเราตองการที่จะพบกับความสุขและความสําเร็จในชีวิต ก็จง
เปล่ียนทัศนคติใหมใหรูจักมองสิ่งตางๆ อยางตรงไปตรงมา และสรางเจตจํานงท่ีดีงามให
เกิดมีข้ึนในจิตใจใหได เพียงเทาน้ีก็คิดวานาจะชวยทําใหความวิตกกังวลตางๆ ลดนอยลง
จนกระท่ังหายไปไดใ นทสี่ ดุ
ในชีวติ ประจาํ วนั ของเราแตละคนน้ัน ก็เปนธรรมดาท่ีจะตองมีความกังวลบางใน
บางคร้ัง แตสิ่งเหลาน้ีถามันไมมากเกินไปก็คงไมเปนสิ่งท่ีทําใหรางกายและจิตใจของเรา
สูญเสียความสมดุลไป ถาหากมีมากเกินไปก็คงจะไมดีเทาใดนัก การที่เราสามารถสราง
แรงจูงใจท่ีดีงาม หรือมีเจตนาดี มีความบริสุทธิ์ใจในการกระทําส่ิงตางๆ และพยายามทํา
ตามเจตนาน้นั อยางเต็มที่ แมวามันจะผดิ พลาดหรือลมเหลวก็ใหคิดวาไมมีเหตุผลใหตองนึก
เสียอกเสียใจเพราะเราไดทําดีที่สุดแลวความลมเหลวบางครั้งมันก็เปนสถานการณที่อยู
นอกเหนือกําลังความสามารถของเรา ก็ไมจําเปนตองไปกังวลหรือเสียใจใดๆ ทั้งส้ิน ดังนั้น
เจตนาท่ีแนวแนม่ันคงสามารถท่ีจะขจัดความกลัวและสรางความมั่นใจในตนเองใหเกิด
ขึ้นมาได
ในทางตรงกันขามหากเรามีเจตนาท่ีไมบริสุทธ์ิ เชน มีเจตนาที่จะคดโกงใครสัก
คนหน่ึง ถาเราทําลมเหลวเราก็ยอมกลุมอกกลุมใจ เพราะเขาอาจจะจับไดมีคนรูทันทําให
รูสึกอายท่ีไดกระทําส่ิงน้ันลงไป หรือถึงแมทําสําเร็จก็จะยังมีความรูสึกขุนเคืองอยูในใจอยู
น่ันเอง ยอ มหาความสุขไดยาก การมเี จตนาท่ีดเี ปยมไปดวยเมตตากรุณาจึงเปนหนทางที่จะ
สรางความสุขและขจัดความกังวลตางๆ ใหหมดส้ินไปจากหัวใจและจะทําใหเราแกปญหา
ตางๆ ไดเ ปนอยา งดี
คนท่ีมีจิตใจบริสุทธ์ิ มีเจตนาท่ีแนวแน เม่ือกระทําส่ิงใด จิตยอมเปนสมาธิจดจอ
อยกู บั สิ่งน้ัน ไมวอกแวก เหมือนกับคนทม่ี ีจิตคิดจะหลอกลวงคนอื่น ยอมหวาดระแวงกังวล
วาจะมีใครจับไดไลทัน จิตท่ีบริสุทธิ์มั่นคงทําใหเราทํางานไดอยางมีประสิทธิภาพ ความสุข
และความสําเร็จท่ีเกิดจากการทํางานก็ยอมเกิดข้ึนตามมา เมื่อเปนเชนนี้เราจึงควรหม่ัน
สํารวจตรวจสอบจิตใจของตนเองอยูเสมอวาในใจเรามีความคิดอะไรที่เปนอกุศลอยูหรือไม
หรือมีเจตนาทไ่ี มดีอยูห รือไม หากมเี รากค็ วรพยายามหาทางกําจดั มนั ใหห มดสิ้นไป
จิตใจที่เปนอกุศลและอารมณในดานลบ ไมวาจะเปนความโกรธ เกลียด อิจฉา
ริษยา ความวิตกกังวลตางๆ ส่ิงเหลานี้เปนเหมือนกับศัตรูท่ีคอยทิ่มแทงหัวใจของเราอยู
๒๘๘ ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมในโลกปจ จบุ นั
พระมหามิตร ฐติ ปโฺ ญ,ผศ.ดร.
บทที่ ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ
ตลอดเวลา เปนเหมือนกับวามีศัตรูคอยติดตามที่จะทํารายเราทุกขณะ ไมวาเราจะอยูในท่ี
ทํางานหรอื อยูทบ่ี า นกต็ าม หากสามารถกําจดั มันใหหมดสนิ้ ไปได เรากจ็ ะรสู กึ มีอิสรเสรีและ
มคี วามสุขอยา งหาทีเ่ ปรียบไมได
อารมณดา นลบตา งๆ น้ันมนั ไมเพียงทาํ ใหเ ราเปนทุกขเทาน้ัน มันยังเปนตัวท่ีคอย
ก้ันหรือคอยทําลายความสัมพันธของเรากับผูอ่ืนท่ีเราตองติดตอสัมพันธดวย นอกจากนั้น
มนั ยงั เปน ตัวคอยลดทอนประสิทธิภาพในการทํางานของเราใหลดนอยลง สติปญญาในการ
คิดพจิ ารณาและวเิ คราะหสง่ิ ตางๆ กจ็ ะนอยลงตามไปดวย นอกจากนนั้ แลว อารมณดานลบ
เหลานั้นก็ยังสงผลเสียตอสขุ ภาพรางกายของเรา ทําใหเราเจ็บไขไดปวยงาย จะเห็นวาเพียง
อารมณดานลบอยางหนึ่งอยางใดเกิดข้ึนกับเรา มันจะสงผลเสียตอเรามากมายหลาย
ประการดวยกัน แลวทําไมเราจึงตองเก็บอารมณดานลบเหลานั้นไวในจิตใจของเราดวย
ทําไมจงึ ไมหาทางกาํ จดั มันใหห มดสิ้นไป หากเราอยากมีความสุขอยางแทจริงส่ิงแรกที่ทําได
งายท่ีสุดคือ การปลูกฝงอารมณดานบวกใหเกิดมีข้ึนแทนอารมณดานลบ เชน ความเมตตา
กรณุ า การปรารถนาดีอยากจะใหผูอ่ืนเปนสุข และพยายามชวยหาทางใหเขาพนจากความ
ทุกข ซึ่งจิตใจท่ีมีความเมตตากรุณาอยูน้ันจะทําใหจิตใจของเราเกิดความสงบเย็น มีผูคน
อยากคบหาสมาคมดว ย ใครๆ กอ็ ยากเขามาใกลชิด จึงทําใหเราสามารถสรางความสัมพันธ
กับผูอ ืน่ ไดเ ปน อยา งดี
เมอ่ื ตอ งการขอรองใหใ ครชวยเหลือ หรอื ตองการขอความรว มมือจากใครจึงทําได
งายนอกจากน้ันแลว จติ ใจท่มี ีความเมตตากรุณายอมมั่นคง ไมหวั่นไหว ไมกวัดแกวง จึงทํา
ใหประสิทธิภาพในการทํางานมีเพ่ิมมากข้ึน ความวิตกกังวลตางๆ ก็ยอมไมเกิดข้ึน เมื่อทํา
สิง่ ใดจึงสามารถที่จะทาํ ใหบรรลเุ ปาหมายไดง ายกวาจิตใจทมี่ ีแตอารมณในดานลบ
ความสุขและความสําเร็จของเราอยูท่ีตัวเราไมมีใครสามารถสรางความสุขใหเรา
ไดเ ทากบั ตวั เราเอง เพียงเราเปลี่ยนทัศนคติ และมีจิตตั้งม่ันอยูในแนวทางท่ีถูกตองดีงามก็
จะสามารถกําจัดอารมณดานลบ เชน ความวิตกกังวล ความโกรธเกลียดตางๆ ได ซ่ึงการมี
จิตตั้งมั่นอยใู นสิ่งท่ดี งี ามน้ีจะเปน ปจ จยั สาํ คญั ที่จะนําความสุขและความสําเร็จมาสูตัวเราได
ในทสี่ ุด
๖.๖.๑๓ การสรางความเช่อื ม่ันและความนบั ถอื ตนเอง
การสรางความเช่ือมั่นและความนับถือตนเอง ตอหนาคนอ่ืนเราดุเหมือนวาเปน
คนดี แตลับหลัง เรากระทําส่ิงที่ไมดีไมงาม ตัวเราเองยอมไมมีความสุข และมักจะ
หวาดระแวงวา สักวนั หน่ึงจะตองมีคนจับไดไ ลท นั
ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมในโลกปจ จุบนั ๒๘๙
พระมหามติ ร ฐติ ปฺโญ,ผศ.ดร.
บทท่ี ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ
ความสาํ เร็จของชวี ิตนนั้ เกิดขนึ้ จากเหตุปจจยั หลายประการ แตส ่งิ หนง่ึ ท่ีสําคัญไม
นอยก็คือ การเชื่อมั่นและการใหความเคารพนับถือตนเอง หรือมีความเช่ือมั่นในตนเอง
อยา งพอเหมาะพอควร จึงจะทําใหเราสามารถบรรลุเปาหมายได ผูที่ไมมีความเคารพนับถือ
ในตนเองและมีความเช่ือม่ันในตนเองต่ํา จะมีความเพียรพยายามในการท่ีจะกาวตอไป
ขางหนานอยตามไปดวย คนท่ีไมมีความเช่ือม่ันในตนเองยอมไมกลาท่ีจะเผชิญกับส่ิงที่ทา
ทาย หรือความเสี่ยงตางๆ ที่จะทําใหกาวไปถึงเปาหมาย ในทางตรงกันขามคนท่ีมีความ
มน่ั ใจในตนเองสงู มากเกินไป กน็ ับวา เปนอนั ตรายพอๆ กนั เพราะคนเหลานี้จะผิดหวังและ
โกรธงา ย เม่อื โลกไมไ ดอ ยา งที่ตนเองตองการ และหากเขาไมสามารถทําชีวิตใหเปนไปตามที่
วาดฝนไวอ ยา งสวยงามได กจ็ ะเส่ียงตอการซึมเศรา และที่สําคัญคนที่ม่ันใจในตนเองสูงมาก
เกินไปก็มีโอกาสที่จะสําคัญตนผิดและทําใหเกิดความหยิ่งยโสโอหังไดมากขึ้น ซึ่งส่ิงเหลาน้ี
ลว นแตเ ปนอปุ สรรคตอ การสรา งสัมพันธภาพท่ีดีกับคนอ่ืนๆ ดวย
อยางไรก็ตาม การมีความม่ันใจในตนเองสูงนั้นมีท้ังแงลบ ในดานลบอาจทําให
เกดิ ความหย่ิงยโสไดง า ย ในดา นบวกอาจทาํ ใหเ กดิ ความเชื่อมน่ั และเกิดความมั่นใจ เชน คน
ท่ีไดปฏิญาณตนหรือต้ังจิตม่ันท่ีจะขจัดภาวะจิตทางลบ เพื่อชวยและยังความสุขสูงสุดให
เกิดขนึ้ แกส รรพชีวิตทัง้ ปวง ผทู ีท่ ศั นะและแรงบนั ดาลใจได เชนน้ี ตองอาศัยความเชื่อมั่นใน
แงนีจ้ งึ เปนส่งิ สําคญั เพราะทําใหมีจิตใจทก่ี ลา หาญ ชวยใหบรรลุเปาหมายที่ย่ิงใหญไ ด
แตส าํ หรบั คนทั่วไปแลว ความเช่อื มน่ั ในตนเองกลับกลายเปนสงิ่ ที่ตรงกันขาม คน
ทีม่ ีความมนั่ ใจในตนเองสูง มกั ถูกมองวา เปน คนท่ีมีความหยิ่งยโส มีความอหังการเพราะคน
เหลาน้ีมักจะมองวาตนเองเหนือกวาคนอื่นเสมอจึงเกิดความทะนงตน ตามปกติแลวความ
อวดดีจงึ ตา งจากความเช่ือมนั่ ในตนเองอยางพอเหมาะพอควรที่มักจะนําไปสูผลลัพธในดาน
บวก
ความเชื่อมั่นในตนเองมักจะเปนสิ่งท่ีอยูภายในใจ แตความอวดดี การลําพองตน
มักจะเปนกิริยาท่ีแสดงออกมาภายนอก และหากการเช่ือม่ันในตนเองทําใหเราตอง
กลายเปนคนหยิง่ ยโส ยอมไมใ ชสิ่งทด่ี ีแน ในทางตรงกันขามหากเรามีความเช่ือมั่นในตนเอง
ที่จะทําส่ิงตางๆ ในทางที่ดีงาม รูจักใหเกียรติและเคารพผูอ่ืน พฤติกรรมที่แสดงออกก็ยอม
เปนไปไดด ว ยความออ นนอมถอมตน
ทานดาไลลามะไดแนะนําวิธีท่ีจะชวยแกไขความอวดดีหรือความทะนงตนน้ันวา
สามารถทําไดหลายวิธี เชน ใหนึกถึงสาขาวิชาตางๆ มากมายท่ีเราไมรู ซ่ึงในระบอบ
การศกึ ษาสมยั ใหมน้ันมสี าขาวิชาหลากหลายมากมายการนึกถึงความหลากหลายของสาขา
ตางๆ ทตี่ นเองไมรูนัน้ จะชว ยทาํ ใหค วามทะนงตนลดลงไดบา ง
๒๙๐ ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมใ นโลกปจ จบุ นั
พระมหามิตร ฐติ ปฺโญ,ผศ.ดร.
บทท่ี ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ
สําหรับคนท่ีไมคอยมีความเชื่อมั่นในตนเอง หรือมีความเช่ือมั่นในตนเองนอย
ทานดาไลลามะแนะนําใหสํารวจตรวจสอบตนเองวา เรามีความรูความสามารถมากขนาด
ไหนในการกระทําส่ิงตางๆ เราตองรูจักประเมินตนเองเกิดข้ึน ทานดาไลลามะไดเนนยํ้าวา
การซ่ือตรงตอตนเองและตอผูอื่นในเรื่องท่ีวา คุณทําอะไรไดหรือไมได จะชวยลดทอน
ความรูส ึกขาดความเชอื่ ม่ันในตนเองลงได
การรูจักชื่นชมและยกยองตนเองอยางซ่ือสัตยและปราศจากความกลัว เปนสิ่ง
สําคัญท่ีจะชวยตอตานความรูสึกสงสัยในตนเองและการมีความเช่ือมั่นในตนเองตํ่า ฉะนั้น
เราตองรูจักวิเคราะหตนเองอยางตรงไปตรงมาถูกตองตามความเปนจริง โดยไมมีอคติใดๆ
เขามาเกี่ยวของ ไมหลงตนเอง หรือประเมินตนเองเกินความเปนจริง ซ่ึงการซื่อสัตยตอ
ตนเองน้นี อกจากจะทาํ ใหเราสามารถกําจดั สภาวะจิตในดานลบใหหมดไปไดแลว ก็ยังทําให
เกดิ ความรูส กึ เช่ือมน่ั ในตนเองขน้ึ มาอกี ดว ย
การวิเคราะหตนเอง อาจวเิ คราะหถึงสภาวะจิตตางๆ ที่อยูในตนเอง เชน อารมณ
ดานลบตางๆ มีอะไรบาง มีอะไรเปนสาเหตุ อารมณดานบวกมีอะไรบาง มันเกิดขึ้นมาจาก
สาเหตใุ ด ความรคู วามสามารถทเี่ รามีอยู มอี ะไรบาง มนั เกิดข้นึ มาไดอ ยางไร เปนตน
การวเิ คราะหต นเองอยูอยางนี้เปนประจําจะทําใหเราเขาใจตนเองอยางรอบคอบ
รอบดาน และจะชวยใหเรากําจัดสาเหตุแหงความทุกขทั้งหลายท้ังปวงไดดวย เชน ความ
หย่ิงยโส ความอหังการตางๆ ซึ่งนับวาเปนสวนหน่ึงของอารมณในดานลบ หากมันมีอยูใน
ตัวเรา เราก็พยายามหาสาเหตุวามันเกิดขึ้นมาจากอะไร และจะทําลายมันอยางไร ซ่ึงใน
ทส่ี ดุ เราจะสามารถทําใหมนั หมดสน้ิ ไปได
การหมั่นทําลายอารมณในดานลบท่ีมีอยูในตัวใหหมดไปท่ีละเล็กละนอยนั้น จะ
ทําใหเรารูสึกนับถือตนเองขึ้นมาได เพราะเรายอมรูดีวาตัวเราไดพัฒนาคุณงามความดีมาก
ขนึ้ เรื่อยๆ อยางไมห ยดุ ย้ัง พรอมทงั้ มีจติ มงุ มั่นที่จะกําจัดสิ่งท่ีไมดีงามทั้งหลายใหหมดส้ินไป
และพยายามสรางอุปนิสยั ที่ดงี ามข้นึ มาแทนท่ี
ความดีงามที่เราพยายามสรางขึ้นมานั้นจะทําใหเราเคารพตนเองไดอยางเต็ม
ภาคภูมิ ผูที่เคารพตนเองไดจึงไมกังวลวาจะมีใครเคารพเราบางหรือไมเพราะเราจะไดรับ
ความเคารพไปโดยปริยาย
หรอื ถึงแมวาคนอน่ื จะไมท ราบวา เราทําคณุ งามความดอี ะไร แตการที่เราพยายาม
กําจัดอารมณดานลบใหหมดไปอยางสิ้นเชิงจากตัวเรา ก็จะสงผลออกมาคือ ทําใหเรามี
พฤตกิ รรมทด่ี งี ามตามมาในแงน ผี้ ูค นท่ีเกย่ี วขอ งสมั พนั ธก ับเรากต็ อ งก็ยอมเกิดความสบายใจ
และรูสึกเปนมิตรกับเราไดงายมากข้ึน จิตใจภายในของเราจึงเปนสิ่งสําคัญอยางมากท่ีจะ
เปน ตวั กําหนดพฤตกิ รรมของเรา
ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมในโลกปจ จบุ นั ๒๙๑
พระมหามิตร ฐติ ปโฺ ญ,ผศ.ดร.
บทท่ี ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ
หากเรามีพฤตกิ รรมหนา ไหวหลังหลอกคือ ตอหนาคนอ่ืนเราดูเหมือนวาเปนคนดี
แตลับหลังเรากระทําส่ิงท่ีไมดีไมงาม ตัวเราเองยอมไมมีความสุขและมักจะหวาดระแวงวา
สักวันหนึ่งจะตองมีคนจับไดไลทัน ซึ่งการกระทําที่ไมดีเชนน้ันจะทําใหเรารูสึกเปนทุกขอยู
ตลอดเวลา และแนนอนเราคงไมสามารถทจ่ี ะเคารพตนเองไดลง
การพยายามฝก หัดขดั เกลาตนเองดวยการกําจัดสงิ่ ที่ไมดีงาม หรืออารมณทางลบ
ใหหมดส้ินไปจากดวงใจน้ัน นอกจากจะทําใหเรารูสึกเชื่อมั่นและเคารพตนเองมากข้ึนแลว
ยังทําใหเรารูจักเคารพผูอื่นดวยเพราะการหย่ิงยโส จองหอง การอวดดี เปนอารมณในดาน
ลบเชนเดียวกับอารมณอ่ืนๆ และเม่ือแสดงออกมาเปนพฤติกรรม ยอมเปนพฤติกรรมท่ีไมดี
งามตามไปดว ยการกาํ จัดอารมณทางลบทง้ั หลายก็จะชว ยใหเราสามารถกําจัดอารมณท่ีเปน
ความหย่ิงยโส ความทะนงตน การยกตนขมทานตางๆ ใหหมดส้ินไป ซ่ึงในท่ีสุดก็จะเหลือ
เพียงความออ นนอมถอ มตน อนั จะทาํ ใหเรากลายเปนทีร่ กั หรือเปน ผูท่ีคนอื่นอยากเขามาหา
มาชิดใกลไดงา ยขึ้น
ในสังคมไทยการออนนอมถอมตนเปนส่ิงสําคัญมากท่ีควรปลูกฝงใหกับอนุชนรุน
หลัง หากใครมีอุปนิสัยในลักษณะนี้จะทําใหเขาสามารถท่ีจะปฏิสัมพันธกับผูอื่นไดงายข้ึน
คือ สามารถที่จะสรางมิตรภาพใหเกิดข้ึนไดงาย และอุปนิสัยท่ีดีงามนี้ยอมสรางความสุข
และความสาํ เร็จใหเ กดิ ขึ้นได
ความออนนอมถอมตนกับความออนแอน้ันเปนคนละอยางกัน ผูที่ออนนอมถอม
ตนเปนผูท ีไ่ มวางทาขมผอู น่ื เพื่อทาํ ใหผ ูอ ่ืนเหน็ วา ตนเองนั้นเกงหรือมีอํานาจมากกวา แตจะ
วางตัวอยางเหมาะสมในสถานการณตางๆ รูจักกาลเวลา สถานท่ี และบุคคล วาในแตละ
สถานการณควรจะวางตัวอยางไรใหเหมาะสมกับสถานการณน้ันๆ และคนที่ออนนอมถอม
ตนจะไมรูสึกออนแอและหวั่นไหวไปกับส่ิงที่ยั่วยุ เชน เมื่อเห็นการกระทําใดที่ไมดีงาม เขา
พรอ มที่จะยนื หยดั รักษาความดงี ามนัน้ ใหค งอยู ไมวา จะเกดิ อะไรขน้ึ กต็ าม
บางคนอาจคิดวาความออนนอมถอมตนจะทําใหตนเองดูตํ่าตอย แตความจริง
ไมไดเปนเชนนนั้ เลย ย่ิงใครมีความออนนอมถอมตนมากเทาใด ก็ย่ิงดูสูงมากเทาน้ัน ในทาง
ตรงกันขาม ความหย่ิงยโส ความอหังการ การยกตนขมทานตางหากที่เปนส่ิงที่ดูตอยตํ่า
ถึงแมวาเขาจะอวดตนเอง ขมผูอื่นใหรูสึกวาตัวเขานั้นสูงสง แตคนทั่วไปจะมองวา
พฤตกิ รรมน้นั เปน พฤตกิ รรมทที่ าํ ใหเขาตํ่าลงย่งิ กวาเดิมเสียอกี
นอกจากน้ันแลว พฤติกรรมหย่ิงยโส อหังการเหลานี้ ยังเปนสิ่งท่ีจะทําใหเกิด
ความเกลียดชัง ความอิจฉาริษยาใหเกิดข้ึนไดงายดวย ซ่ึงจะสงผลตอสัมพันธภาพท่ีมีกับ
ผอู ่นื และเมอื่ เปน เชน น้ันกเ็ ทากบั วา คนท่ีหยิ่งยโส กจ็ ะมีอุปสรรคขวางก้ันไมใหกาวหนามาก
๒๙๒ ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมใ นโลกปจ จุบัน
พระมหามิตร ฐติ ปโฺ ญ,ผศ.ดร.
บทท่ี ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ
ขึ้นไปอีกเชน เพื่อรวมงานท่ีไมชอบเขา ก็จะคอยขัดขวางความเจริญกาวหนาของเขา เปน
ตน
พฤติกรรมที่ไมดีงามไมวาจะเปนความโลภ ความโกรธ ความเกลียด ความอิจฉา
ริษยาก็ตาม ส่ิงเหลาน้ีลวนแตสงผลไปในทางท่ีไมดีท้ังสิ้น และมันจะมีผลตอความ
เจริญกา วหนา ของเราโดยทเ่ี ราอาจไมรูตวั เพราะจิตใจทีไ่ มดงี ามยอมสงผลที่ไมดีงามออกมา
เปนเหตใุ หเ กิดความเกลียดชงั ตางๆ มากมายตอผูทมี่ าเก่ยี วของสัมพนั ธดว ย
ในสวนตัวของความรัก ความเมตตา ความปรารถนาดีที่จะเห็นผูอื่นมีความสุข
การมเี จตนาท่ีม่ันคงแนวแนในการกระทําความดีตางๆ ส่ิงเหลานี้นอกจากจะชวยเพ่ิมความ
เช่ือม่ันใหกับตัวเราในการท่ีจะทํางานเพ่ือสังคมแลวยังทําใหเรารูสึกเคารพนับถือในตนเอง
และเปนสิ่งท่ีจะชวยสรางสัมพันธภาพที่ดีงามใหเกิดข้ึนดวย คนที่จิตใจเต็มเปยมไปดวย
ความรักความเมตตาน้ันจะไมสรางความโกรธเกลียดหรือความอิจฉาริษยาใหเกิดข้ึน มีแต
มุงม่ันทาํ ความดี และย่ิงเห็นคนอ่ืนไดดีมีความสุขเพียงใด ก็ย่ิงทําใหเขารูสึกช่ืนชมอยางเต็ม
ใจมากขึ้นเทานนั้
ทานดาไลลามะไดกลาวไววา ธรรมชาติพื้นฐานด้ังเดิมของมนุษยน้ันคือความ
เมตตากรณุ า แตท่เี รามีความโกรธความเกลียดชังเกิดขึ้นกเ็ พราะกิเลสที่มาครอบงําจิตใจเรา
ไว หากเราสามารถทําลายกิเลสใหหมดส้ินไปไดในจิตใจของเราก็จะเหลือแตความเมตตา
กรุณา พรอมท่ีจะเสียสละเพ่ือความสุขของผูอ่ืนอยางไมมีท่ีสิ้นสุด ในแงน้ีจิตใจท่ีบริสุทธิ์
มองเห็นความเปนจริงของชีวิต จึงมีความมุงม่ันแนวแนในการท่ีจะรักษาความดีงาม และ
พรอ มทจ่ี ะดําเนินชวี ิตตามแนวทางนน้ั อยา งมนั่ คง ไมห วัน่ ไหวไปกับสิง่ ย่วั ยทุ ง้ั หลาย๔๙
ทานดาไลลามะไดใ หขอคิดไววา ส่ิงสําคัญอยางหน่ึงคือ เราตองหม่ันเตือนตนเอง
อยูเสมอ เชนเวลาท่ีเรากระทําอะไรผิดพลาดไป ก็เตือนตนเอง และดึงตนเองกลับมาสู
แนวทางที่ดีงามตอไปซึ่งผลที่เกิดข้ึนจากความดีงามท่ีเราไดกระทําไวน้ัน จะทําใหเราเกิด
ความเชื่อม่ันและเคารพตนเองอยางสุดใจ ทําใหเรากาวไปในทางธรรมไดอยางมั่นคง ไม
หวดหวัน่ และไมหวั่นไหวตออุปสรรคปญหาใดๆ ท้ังส้ิน ซ่ึงในท่ีสุดก็ยอมสามารถท่ีจะไปถึง
เปาหมายอันสูงสุดที่ตั้งไว ทําใหเราไดพบแตความสุขความเจริญในชีวิตตลอดไป “ความ
ออนนอ มถอ มตน กับความออนแอน้ันเปน คนละอยา งกนั ”
๖.๖.๑๔ การฝก จิตในชีวิตประจําวนั
อารมณดานลบตางๆ น้ัน ถือวาเปนพลังแหงความหายนะท่ีแทจริงของมวล
มนษุ ย และอาจกลาวไดว าปญ หาทัง้ หลายทงั้ ปวงทีเ่ กดิ ข้ึนกับตวั เราแตละคนนั้น เพราะเรามี
๔๙ ราช มามญั , the Holiness the Dalai Lama, หนา ๑๓๔.
ขบวนการพระพทุ ธศาสนาใหมใ นโลกปจจุบนั ๒๙๓
พระมหามิตร ฐติ ปโฺ ญ,ผศ.ดร.
บทที่ ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ
อารมณดานลบเหลานี้อยูในใจ การฝกจิตเปนสิ่งสําคัญอยางย่ิงที่จะทําใหเราสามารถกําจัด
ความทุกขไดอยางหมดส้ิน หรือถือแมวาเราจะไมสามารถทําความทุกขใหหมดส้ินไปตาม
อุดมคติทางพระพุทธศาสนา แตอยางนอยการฝกจิตเปนประจําในชีวิตประจําวันจะชวยทํา
ใหค วามทุกขท ีม่ อี ยใู นจติ ใจของเราลดนอยลง
ตามปกตแิ ลวคนเราทุกคนปรารถนาความสุข แตที่เรายังพบกับความทุกขอยูเปน
ประจําทุกวันอยางไมมีที่ส้ินสุดนั้น ก็เพราะวาเรายอมปลอยใจใหความคิดฝายอกุศลหรือ
ความคดิ ในแงลบตา งๆ เขาครอบงําจิตใจทําใหจิตใจของเราเกิดความมัวหมอง และจิตท่ีมัว
หมองน้ีเองท่ีเปนเหตุใหเราสรางความทุกขใหมใหเกิดข้ึนอยูรํ่าไปท้ังแกตนเองและผูอื่นท่ี
เกี่ยวของ การฝกจิตจะชวยใหเราสามารถปรับเปลี่ยนวงจรแหงความทุกขกลายเปน
ความสขุ เปลย่ี นจติ ทีไ่ มดีใหก ลายเปน ดไี ด
การฝกจิตท่ีเราเรียกวา การภาวนา เปนการใครครวญพิจารณาถึงธรรมชาติอัน
เปนทุกขของชีวิต และคิดหาวิธีที่จะกําจัดมันใหหมดสิ้นไป รวมไปถึงการสรางทัศนคติใหม
ตั้งจิตมุงม่ันเพ่ือจะกันไมใหเผลอไปคิดในสิ่งท่ีเปนอกุศล อันเปนการปองกันตนเองไมใหไป
กระทําส่ิงท่ีไมดีไมวาจะเปนทางกายหรือทางวาจาก็ตาม เพราะใจน้ันเปนใหญหากใจไมคิด
ในสิ่งทเี่ ปนอกุศลเลย การกระทําทางกายและทางวาจายอ มเปน ไปในทิศทางเดยี วกัน
การฝก จติ ในชีวิตประจําวนั นน้ั สามารถทาํ ไดห ลายวิธี เชน การพจิ ารณาถึงผลเสีย
ของอารมณในดานลบ มีความโกรธ ความไมพึงพอใจ การขาดความอดทนอดกลั้น ความ
กลัว และความเปนปฏิปกษ เปน ตน ท่ที ําใหเ ราเปนทุกข หากเราพิจารณาหาสาเหตุท่ีทําให
เกิดสิง่ เหลา น้ีแลวหาทางกาํ จดั สาเหตุเหลานนั้ ไปทีละเล็กละนอย ก็นับวาเปนการภาวานาที่
ดีแลว ในการฝกหัดขัดเกลาจิตใจน้ันทานดาไลลามะกลาววา ตองใชเวลาพอสมควร แต
เมื่อใดกต็ ามทเี่ ราฝกจิตไดสําเร็จความเบกิ บานท่ยี ิ่งใหญก จ็ ะบงั เกดิ ขนึ้
ในชีวิตประจําวันของเราน้ัน คนสวนใหญมักบมเพาะความคุนเคยท่ีไมเปนคุณ
เชน เวลาไมชอบใครขึน้ มา ก็จะเอาแตเพงจติ หาหาขอผิดขอ เสยี ของผูน้ันพอนานวันเขาก็ยิ่ง
ทาํ ใหเ ราเชื่อเชนน้ัน และดวยเหตุนี้ความขนุ เคอื งในจติ เราก็จะพอกพนู ขน้ึ ไปเรื่อยๆ๕๐
ทานดาไลลามะกลาววา การภาวนาน้ันมีหลายแบบ เราสามารถท่ีภาวนาไดทุก
ขณะ ไมวาตอนขับรถ หรือเดินอยูรถเมลรถไฟ แมในขณะที่กําลังอาบนํ้าอยูก็สามารถท่ี
ภาวนาได ดวยการประคองจิตเราใหคิดแตในส่ิงท่ีเปนกุศล ไมปลอยใหอกุศลจิตเขามา
ครอบงําจติ ใจ จิตท่ีเปนอกุศลน้ันสามารถที่จะเขามาครอบงําเราไดทุกท่ีทุกเวลา เราจึงตอง
มสี ตคิ อยรบั รมู นั อยเู สมอทกุ เสีย้ ววนิ าที
๕๐ บุญมี พวงเพชร, Happy Life พลังคําสอนของ ดาไล ลามะ เพื่อความสุขของชีวิต
อยางแทจ ริง, (นนทบุร:ี ธงิ ค บยี อนดบ คุ ส, ๒๕๕๖), หนา ๑๗๓.
๒๙๔ ขบวนการพระพทุ ธศาสนาใหมใ นโลกปจจุบัน
พระมหามติ ร ฐติ ปโฺ ญ,ผศ.ดร.
บทท่ี ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ
ในเบื้องตนของการภาวนาในชีวิตประจําวันสามารถกระทําไดโดยการฝกทํา
ความคุนเคยกับอารมณตางๆ ที่เกิดขึ้น ไมวาจะเปนความอยากไอยากมี หรือความเมตตา
กรุณาก็ตาม น่ันก็คือเมื่ออารมณใดเกิดข้ึนในใจของเรา เราก็พยามวิเคราะหวิเคราะห
อารมณนั้นอยางละเอียดถึงคุณถึงโทษของมัน รวมถึงเหตุปจจัยท่ีทําใหอารมณเหลานั้น
เกิดขึ้นดว ย หากเราแยกแยะอารมณตางๆ อยางละเอียดเปนประจําอยูเชนนี้ ก็จะทําใหเรา
คนุ เคยกบั อารมณต างๆ และสามารถทจ่ี ะรูวธิ กี ารที่จะกําจัดอารมณในดานลบใหหมดสิ้นไป
สรา งดา นบวกข้ึนมาแทนที่ได
อีกวิธีหนึ่งคือ การจับน่ิงอยูกับอารมณท่ีเกิดข้ึนโดยไมมีการวิเคราะหหรือใช
ความคิดเลยก็ไดเชนเดียวกัน ในบางคร้ังเราไมจําเปนตองรอใหอารมณตางๆเกิดข้ึน เรา
สามารถท่ีจะเลือกอารมณใดอารมณหนึ่งใหเกิดขึ้นได ตองการที่จะภาวนาความเมตตา
กรุณาเราก็นึกถึงความเห็นอกเห็นใจและระลึกรูในทุกขท่ีผูอ่ืนตองประสบพบเจอ เห็นวา
สรรพสัตวท้ังหลายที่อยูในสังสารวัฏนี้ลวนแตมีภัยอยูรอบตัว ไมวาจะเปนภัยคือ ความเกิด
ความแก ความเจบ็ ความตาย และยังมีภัยอันเกิดจากกเิ ลสตัณหาท้ังหลายท่ีเผาลนจิตใจอยู
ตลอดเวลา เชน ความโลภ ความโกรธ ความหลง เปนตน ตลอดถึงภัยอ่ืนๆ ที่เกิดจากการ
กระทําของมนุษยดวยกันเองก็มี ทุกคนลวนแตตองประสบพบเจอภัยเหลาน้ีดวยกันทั้งน้ัน
หากคิดพิจารณาอยูอยางนี้เปนประจํา ก็จะเกิดความรูสึกสงสารและเห็นใจ ซ่ึงความกรุณา
ตางๆ ก็จะเกิดขึ้นตามมาในแงน้ีการภาวนาก็จะชวยชักนําเราใหเกิดการเปลี่ยนแปลง
ทศั นคตติ อผูอ่ืนไปในทางบวก
ทานดาไลลามะกลาววา อารมณภาวนาไมจําเปนตองเปนส่ิงท่ีเห็นไดดวยตา เรา
สามารถนอมจิตใหต้ังอยูกับอารมณใดอารมณหนึ่งเพ่ือใหเกิดความคุนเคยได เราควรท่ีจะ
ปฏิบตั ิภาวนาอยางเปน ระบบ หม่ันเจริญใหเกิดความคุนเคยกับอารมณท่ีเลือกทีละเล็กทีละ
นอย จากนั้นก็ใหหม่ันฟงธรรมจากครูอาจารย อานหนังสือธรรมะแลวนําส่ิงที่ไดฟงไดอาน
น้ันมาคิดไตรตรองพิจารณา เพื่อขจัดความสับสน ความเขาใจผิด หรือขอสงสัยที่มี
กระบวนการเหลาน้ีจะสงผลตอจิตใจ จนกระทั่งเม่ือเราเพงจับอยูกับสิ่งใด จิตก็จะประสาน
แนบแนน อยกู ับสงิ่ นนั้ ตามความปรารถนา
ธรรมชาติของชีวิตนั้น สิ่งหนึ่งท่ีเราตองประสบอยางหลีกเล่ียงไมไดก็คือ อารมณ
ความรูสึกโกรธ ความทะยานอยาก เปนตน หากเราปลอยใจใหเปนไปตามอํานาจของ
อารมณดานลบเหลานั้น แนนอนวาในที่สุดผลที่จะไดรับก็คือ ความทุกขนั่นเอง เราจึงตอง
ฝกปฏิบัติจิตใจใหมีทาทีที่ชัดเจนไวคอยรับมือกับอารมณดานลบท่ีจะเกิดข้ึน และคอย
หาทางปอ งกันไมใหมันเกิดขึน้ มาไดอ ีก
ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมในโลกปจ จบุ ัน ๒๙๕
พระมหามติ ร ฐติ ปโฺ ญ,ผศ.ดร.
บทท่ี ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ
เพราะเมื่อใดก็ตามท่ีมันเกิดขึ้น จิตใจของเราก็จะขุนมัว เกิดความเรารอน
กระสับกระสาย และไมมีความสุข ซึ่งการฝกปฏิบัติภาวนาจะทําใหเราสามารถเอาชนะ
อารมณเหลานน้ั ได แมว า อาจจะตอ งใชเ วลานานสกั หนอยกต็ าม
สภาวะจิตท่ีเรารอน หรืออารมณดานลบที่เกิดที่เกิดข้ึนในจิตใจของเราน้ัน ไม
สามารถท่ีจะหมดไปดวยกาลเวลาแตมันจะหมดเชื้อลงก็ดวยความพยายามอยางมีสติของ
เราเองที่จะลดแรงตัดกําลัง และดับมันลงไปไดในท่ีสุด หากเราตองการท่ีจะมีชัยชนะเหนือ
มันเราตองฝก ปฏิบัตติ ามคําสอนของพระพทุ ธเจา หม่นั อานหนังสือธรรมะ ฟงเทศนาจากครู
บาอาจารยผ ูมากดวยประสบการณส่ิงเหลานี้จะทําใหเราขบวนการที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น และ
เกิดความคุนเคยในวิธีปฏบิ ตั ิตางๆ ทีอ่ าจชวยใหเราขามพนวงั วนแหง สงั สารวัฏได
การศึกษาหรอื การฟง ธรรมจากครูบาอาจารย จะชวยทําใหเกิดความเขาใจและมี
ปญญาจากการฟงท่ีเรียกวา สุตมยปญญา ซ่ึงนับวาเปนฐานสําคัญของการเจริญเติบโต
ในทางธรรม หลังจากน้ันเราคอยประมวลความรูที่ไดศึกษาเลาเรียนมาไปสูความศรัทธาที่
ลึกซ้ึงยิ่งขึ้น ส่ิงน้ีก็จะนําไปสูความเขาใจจากการใครครวญท่ีเรียกวา จินตมยปญญา เมื่อ
เขาถึงความรูอยางแทจริงระดับหน่ึงแลว เราก็ใชมันเปนธรรมารมณในการภาวนา เพื่อวา
จิตจะไดซาบซ้ึงอยางเต็มเปยม ส่ิงน้ีจะนําไปสูความรูที่ชัดแจง เปนความเขาใจจากการ
ภาวนาท่ีเรียกวา ภาวนามยปญ ญา
ความเขาใจทั้งสามระดับน้ีนับวาเปนหัวใจของการฝกหัดขัดเกลาจิตใจที่จะ
กอใหเกิดความเปลี่ยนแปลงที่แทจริงในชีวิต การเขาใจจากการศึกษาหาความรูจะทําให
ความเชอ่ื ของเรามัน่ คง และสงผลใหเกดิ ความตระหนักรูทีเ่ ปย มพลังในการภาวนา หากขาด
ความเขาใจไมมีการศึกษาใครครวญ ตอใหภาวนาอยางจดจอก็ยากท่ีจะทําใหเกิด
ความหมายรูในสิ่งท่ีเรากําลังภาวนา ไมวาจะเปนอารมณอกุศลมูลที่สลับซับซอน หรือ
ลกั ษณะอันแยบคายของความวา งก็ตาม
แนนอนวาในการภาวนาน้ัน สภาพแวดลอม ยอมมีอิทธิพลอยางมากตอเรา หาก
เราไดอยูในสถานที่ท่ีสงบเงียบก็ย่ิงจะชวยทําใหการภาวนาเปนไปไดงายข้ึน แตหากมีความ
จําเปนเราก็สามารถปฏบิ ัตไิ ดทุกที่ ขอเพยี งใหเรามีจิตใจที่ไมวอกแวก ม่ันคง ก็สามารถท่ีจะ
ภาวนาได
การฝกหัดขัดเกลาจิตใจของเราควรจะเปนความพยายามท่ีตองกระทําอยาง
ตอเนื่อง จนกระทั่งเขาถึงความหลุดพนจากความทุกขอยางสิ้นเชิง ไมควรท่ีจะกระทําแต
เพียงเร่ืองทางศีลธรรมหรือความพยายามหลีกเลยี่ งความช่วั และมุง หาความดีเทาน้ัน ในการ
ปฏิบัติธรรมน้ันทานดาไลลามะกลาววา เปนการมุงแสวงหาสภาวะท่ีตัวเราไมตกเปนเหยื่อ
ของอกุศลมูลของจิต ซ่ึงเปนศัตรูตัวฉกาจตอสันติและความสงบเย็นภายในจิตใจของเรา
๒๙๖ ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมในโลกปจจุบนั
พระมหามติ ร ฐติ ปโฺ ญ,ผศ.ดร.
บทที่ ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ
อกุศลมูลทั้งหลายไมวาจะเปนการยึดมั่นถือม่ัน ความเกลียดชัง ความทะนงตน ความโลภ
และอื่นๆ อีกมากมายที่เปนสภาวะจิตดานลบ ลวนแตจะเปนส่ิงที่ชักนําใหเราประพฤติ
ปฏิบัติไปในทางท่ีกอใหเกิดความเดือดรอนใจและเปนทุกข การฝกจิตภาวนาใน
ชีวิตประจาํ วัน เราตอ งมองเหน็ สภาวะจิตดา นลบเหลานั้นวาเปนด่ังปศาจรายท่ีสิงอยูภายใน
ใจของเรา มนั คอยตามหลอกหลอนเราอยูตลอดเวลาจึงทําใหเราไดพบแตเรื่องทุกขใจอยูร่ํา
ไป หากเราคิดพิจารณาไดอยางน้ีก็จะทําใหเกิดความมุงมั่นและความพยายามอยางเต็มที่ที่
จะหาทางกําจดั มนั ใหหมดสิ้นไป
ในการตอสูกับสภาวะจิตดานลบตางๆ นั้น ไมใชส่ิงที่ทําไดงายเราตองคอย
พยายามฝก ฝนพัฒนาไปเรอื่ ยๆ แบบคอยเปนคอ ยไป ในเบ้ืองแรกทานดาไลลามะแนะนําไป
วา ตอ งอาศัยวินยั รรู ะงับใจ ไมใหท วมทบั ดวยอารมณค วามคิดที่ไมดีท้งั หลาย
ซึ่งสามารถทีจ่ ะกระทาํ ไดโ ดยการดําเนินชีวิตอยูใ นศลี ธรรมนั่นก็คือ การละเวนซึ่ง
อกุศลกรรมบถ ๑๐ ประการ ไดแก การทําลายชีวิต การถือเอาของท่ีเขามิไดให การ
ประพฤติผิดในกาม การพูดเท็จ การพูดสอเสียด การพูดคําหยาบคาย การพูดเพอเจอ การ
ละโมบคอยจองอยากไดของเขา การคดิ รายเขา และการเห็นผิดจากคลองธรรมซ่ึงทั้งหมดน้ี
เปน การแสดงออกของจติ ทเี่ ปนอกุศล อนั ไดแก ความโลภ ความโกรธ ความหลงนน่ั เอง
อารมณดานลบตางๆ นั่นถือวาเปนพลังความหายนะท่ีแทจริงของมวลมนุษย
และอาจกลาวไดวา ปญหาท้ังหลายท้ังปวงท่ีเกิดข้ึนกับตัวเราแตละคนนั้น เพราะเรามี
อารมณดานลบเหลานี้อยูในใจทําใหการกระทําทางกายและการกระทําทางกายและทาง
วาจาตางๆ ที่แสดงออกเปนไปในทางท่ีกอใหเกิดความทุกขความเดือดรอนแมใจรอนเองก็
ไดรับความรอนรนอยูทุกขณะ ฉะนั้น จึงกลาวไดวา ความทุกขท้ังหลายทั้งปวงท่ีเราไดรับ
น้ันลว นแลวแตเ ปน ผลลัพธข องอารมณด า นลบท้งั ส้ิน
ในการฝกเริ่มแรกเราอาจจะไมสามารถกําจัดอารมณดานลบเหลาน้ันใหหมดสิ้น
ไปเสียทีเดียว แตอยางนอยก็จะทําใหเราไมปลอยใจเตลิดไปกับมัน หรือไมตกอยูในอํานาจ
ของมันซึ่งจุดนี้เองท่ีจะทําใหเราสามารถท่ีจะปลูกความเมตตากรุณาหรืออารมณดานบวก
อ่ืนๆ ใหเกิดขึ้นมาแทนที่ได ซึ่งก็จะทําใหจิตใจของเราสงบเย็นความทุกขตางๆ ก็จะคอยๆ
ลดนอ ยลงไป
การภาวนาในชีวิตประจําวัน เราจึงสามารถกระทําไดโดยการหมั่นคิด พิจารณา
ตรวจสอบดูอารมณตางๆ ที่เกิดข้ึนในจิตใจของเราอยางละเอียด ทุกคร้ังที่มันเกิดข้ึน
พยายามคิดวิเคราะหใหละเอียดวามันเกิดขึ้นมาไดอยางไร มีอะไรเปนเหตุปจจัย คอยๆ
แยกเหตุปจ จยั เหลานอ้ี อกมาใหละเอียด และพิจารณาตอไปวา แลวทําอยางไรจึงจะจัดการ
กับเหตุปจจัยที่ทําใหมันเกิดข้ึนได หลังจากนั้นจึงคอยๆ พยายามจัดการกับเหตุปจจัยที่ทํา
ขบวนการพระพทุ ธศาสนาใหมในโลกปจ จบุ นั ๒๙๗
พระมหามิตร ฐติ ปฺโญ,ผศ.ดร.
บทที่ ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ
ใหเกิดอารมณดานลบข้ึนมาทีละอยางๆ ไปเรื่อยๆ ซึ่งในที่สุดเชื่อแนวาจะสามารถทําให
อารมณดานลบน้ันหมดฤทธิ์หมดอํานาจที่จะทําลายเราอีกตอไป ชีวิตของเราก็จะพบแต
ความสงบสุขและเปน ความสขุ เปนความสุขอันแทจริงที่จะไมกลับกลายมาเปนความทุกขได
อกี เลย
๖.๖.๑๕ การสรางโพธจิ ติ
การสรางโพธิจิตน้ันเบ้ืองตนเราตองฝกปฏิบัติใหเกิดความเมตตากรุณาตอสรรพ
สัตว จนกระท่ังถึงจุดที่เรียกวา มีความรูสึกรับผิดชอบตอสรรพสัตวท้ังหลายทั้งปวง
หลงั จากผานขนั้ นแ้ี ลว เรากจ็ ะถูกโนม นาํ ใหค ิดทีจ่ ะเพ่มิ พนู ศักยภาพของตนเพื่อจะรับใชทุกข
ซึ่งปณิธานที่จะเขาถึงสภาวะดังกลาวน้ีเรียกวา โพธิจิต สวนผูท่ีบรรลุสภาวธรรมน้ีเรียกวา
พระชวยเหลอื สรรพสัตวใ หพนจากความโพธสิ ตั ว
ทานดาไลลามะไดแนะนําวา วิธีการอยางแรกท่ีจะทําใหเกิดโพธิจิตมาไดคือ การ
ระลกึ วา สรรพสตั วท้งั หลายลวนเคยเปนมารดาของเราในชาติใดชาติหน่ึง เพราะตามความ
เชื่อของพทุ ธศาสนานนั้ สรรพสตั วท ้ังหลายตองเวยี นวายตายเกิดชาติแลวชาติเลา แตละคน
จึงมอี ดตี ท่ียาวไกลมาก และทุกคนตางเคยเปน พอ แมพ่นี องกนั มาท้ังสนิ้
ในการสรางโพธิจิตใหเกิดขึ้นเราจึงควรระลึกวาอดีต และความรักความเมตตาที่
เราเคยไดรับจากมารดาบิดานนั้ ย่งิ ใหญเกินประเมิน เกินกวาที่เราจะตอบแทนใหหมดส้ินไป
ได ทานคอยทะนุถนอมเราต้ังแตเล็กจนโต ยอมแลกทุกส่ิงทุกอยางรวมท้ังชีวิตของตน
เพอ่ื ใหเ ราอยรู อด
ในขณะทเ่ี ราระลกึ ทบทวนถึงความรักที่มารดาเคยทุมเทใหกับเราอยางเต็มที่ เรา
ก็ควรจะตระหนักดวยวา สรรพสัตวทุกชีวิตในโลกน้ี ครั้งหนึ่งในอดีตก็เคยมอบความรัก
เชนเดียวกันนี้ใหกับเราดวย ไมเวนแมกระทั่งหมู หมา กา ไกท้ังหลาย คร้ังหน่ึงในอดีตชาติ
อันยาวไกลตางก็เคยเปนมารดาของเราและเคยมอบความรักความเมตตาใหกับเราอยาง
เต็มที่จนหาท่ีเปรยี บมไิ ด
การระลึกอยูเชนนี้เสมอจะทําใหเราเกิดความกตัญูรูคุณข้ึนมา และเมื่อเกิด
ความกตัญูก็จะทําใหเราเกิดความปรารถนาอยางแรงกลา ที่จะชวยเหลือพวกเขาให
สามารถแกไขหรือแกสภาพการณของตนไดความปรารถนาน้ีก็จะทําใหเกิดความรักอยาง
เต็มเปยมตอสรรพสัตวท ้ังหลายท้งั ปวง ความรักที่ยิ่งใหญน ้กี จ็ ะทําใหเกิดความกรุณาตามมา
ซ่ึงความกรุณานี้ก็คือ ความปรารถนาท่ีจะชวยเหลือสรรพสัตวหรือมารดาของเราใน
อดตี ชาติใหพ นจากความทกุ ข มีความปรารถนาทจ่ี ะทําไดพ บแตค วามสุข
๒๙๘ ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมใ นโลกปจจุบัน
พระมหามิตร ฐติ ปโฺ ญ,ผศ.ดร.
บทท่ี ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ
ทานดาไลลามะไดแนะนําวา ในขณะท่ีเราเจริญผานลําดับข้ันแหงความรูสึกผิด
ชอบเชน นี้จะทําใหเรากาวจากความปรารถนาที่จะใหสรรพสัตวพนจากความทุกข ไปสูการ
ปวารณาตนท่ีจะชวยเหลือพวกเขาใหพนจากความทุกขอยางเต็มกําลังสติปญญา
ความสามารถของเรา
การที่เราพิจารณาเห็นสรรพสัตวท้ังหลายวาเคยเปนบิดาของเรา และขณะนี้ยัง
เวยี นวา ยอยูใ นกองทุกขนนั้ จะทาํ ใหเ ราไมมงุ หวงั ทําเพื่อประโยชนสุขสวนตนแตจะแสวงหา
อุบายท่ีจะชวยใหผูอ่ืนหรือใหสรรพสัตวพนจากความทุกข ทานดาไลลามะกลาววา การ
แสวงหาความสุขสวนตนในขณะที่ผูอ่ืนยังเผชิญทุกขถือวาเปนเรื่องที่นาเศราย่ิงนัก ผูท่ี
บําเพญ็ โพธิจติ จึงตอ งมุงมน่ั ท่จี ะชวยใหผูอ่ืนพนจากทุกขใหได
วิธีการอยางท่ีสองท่ีทานดาไลลามะแนะนําคือ การคิดวา ชีวิตตองพ่ึงพาผูอื่น มี่
ชีวิตใดอยูไดตามลําพัง วิธีการนี้ตองตระหนักวา เราตองพึ่งพาอาศัยผูอื่นในทุกๆ สิ่งที่เรามี
อยู ไมวาจะเปนบานที่เราอยู ขาวท่ีเรากิน เส้ือผา หรืออะไรตางๆ ก็ลวนแตมีผูทําใหเรา
ท้ังน้นั
ปากกาท่ีเราเขยี นกต็ องมีผูผลิตให คอมพวิ เตอรที่เราใชก็ตองมีคนคิดคนประดิษฐ
ขน้ึ โทรศพั ทท เ่ี ราใชอยูในชีวิตประจําวันก็ตองมีคนขึ้นมา ทุกสิ่งทุกอยางรอบตัวเราลวนแต
เกดิ ขึ้นจากผอู น่ื กระทาํ ใหเราทง้ั ส้นิ หากไมมผี อู ่นื ส่งิ ตา งๆ ทอี่ ยรู อบตัวเรากค็ งมีไมไ ด
นอกจากวัตถุสิง่ ของตางๆ ทตี่ อ งมีผทู าํ ผผู ลติ ใหเ ราแลว แมแตคุณลักษณะท่ีดีงาม
ของเรา อยางเชน ความอดทน และศีลธรรมจรรยาทั้งหลายก็ลวนงอกงามข้ึนมาโดยการอิง
อาศัยผูอ่ืน เราสามารถที่จะชื่นชมไดแมกระท่ังคนที่กอปญหาใหกับเรา ก็เพราะถือวาเขา
เปนผูท่มี อบโอกาสอันลา้ํ คาใหกบั เรา ไดฝก ฝนความอดทนอดกลั้น การคิดพจิ ารณาเชนนี้จะ
ทําใหเราตระหนักวา เราตางตองพึ่งพาอาศัยผูอาศัยผูอื่นอยางมากในการดําเนินชีวิต
รวมถึงการพัฒนาคุณธรรมใหเกิดข้ึนภายในจิตใจดวย เหตุน้ีเองเราควรพัฒนาการระลึกรูน้ี
ในทกุ ขณะจิตของเรา ซ่งึ จะทําใหเราเกิดความรูสึกที่จะตอบแทนความเมตตาเหลาน้ันอยาง
เต็มความสามารถของเรา
นอกจากน้ัน ทานดาไลลามะไดแนะนําอีกวา เราควรพิจารณาดูผลจากการ
กระทําของเราดวยวา การกระทําของเราท่เี กิดจากความเหน็ แกต ัวน้นั มันไดกอใหเกิดความ
ทุกขความเดือดรอนท้ังกับตัวเราเองและผูอ่ืนการแสวงหาความสุขใสตนจากความเห็นแก
ตัว จึงเปน การกระทําไรสาระไมสมเหตุสมเหตุสมผล การอุทิศชีวิตเพ่ือผูอื่นตางหากที่ดูเปน
เหตุเปนผล เม่ือพิจารณาไดเชนน้ีก็จะทําใหเรากาวไปสูการกระทําที่ประเสริฐคือ การกาว
เดินไปในหนทางที่จะทําใหบรรลุซึ่งพุทธภาวะท่ีจะไดชวยเหลือเกื้อกูลสรรพสัตวใหพนจาก
ความทกุ ข
ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมในโลกปจจุบนั ๒๙๙
พระมหามติ ร ฐติ ปโฺ ญ,ผศ.ดร.
บทที่ ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ
สิ่งสําคัญอยางหนึ่งที่ทานดาไลลามะไดเนนย้ําในการฝกวิธีนี้คือ ความอดทนอด
กลนั้ ซงึ่ จะทาํ ใหเ รากา วขามอปุ สรรคปญ หาตางๆ ไปได เพราะการสรางโพธิจิตน้ันไมใชส่ิงที่
จะกระทําไดงาย การมีความอดทนอดกั้นจะชวยพยุงใหเรากาวเดินบนเสนทางประเสริฐได
อยางสงา งาม
หากเรามีความตั้งม่ันและบมเพาะใหเกิดปณิธานอันแรงกลาเปนประจําทุกวัน ก็
จะชว ยตอกยํ้าความตั้งอกตั้งใจ และชวยลดทอนสัญชาตญาณความเห็นแกตัวของเราลงไป
ได และคณุ ลกั ษณะท่ีประเสริฐจะเกิดขึน้ ตามมา คุณธรรมสําคัญที่ควรบมเพาะใหเกิดขึ้นอีก
คอื ความมีอเุ บกขาอนั แรงกลา และความเวทนาสารโดยไมแบงแยกตอสรรพชีวิต การปลอย
ใหความลําเอียงเขาครอบงํา จะทําใหเกิดอุปสรรคในการบําเพ็ญโพธิจิต เพราะใจจะคอย
เผื่อแผแตคนท่ีใกลชิด คนท่ีรักท่ีชอบเทานั้น การเดินบนเสนทางอันประเสริฐนี้ แนนอนวา
ตองมีอุปสรรคปญหามากมายเกิดขึ้นตามมา โดยเฉพาะอยางย่ิงความรูสึกยึดติดมักจะเขา
มาคอยขัดขวางความพากเพียรพยายามของเรา ทั้งหลอกลอใหเรากลับไปหากิจวัตรเกาๆ
คอยชกั นําใหเราออกจากเปาหมาย ผูฝก ปฏบิ ตั ติ องเตรยี มรับมือกบั สิ่งเหลานีใ้ หดี
ข้ันแรกทําไดโดยการระลึกถึงอารมณอันรุนแรงท่ีไมดี ใครครวญถึงโทษตางๆ
ของมัน ขั้นท่ีสองตองพิจารณาหาหนทางแกที่เหมาะสม และมีจิตใจตั้งมั่นที่จะไมหวั่นไหว
ไปกบั อารมณเ หลาน้ีอีก มีความมุงม่ันแนวแนท่ีจะชวยเหลือสรรพสัตวใหพนจากความทุกข
ความกรุณาจงึ นับวา เปนสง่ิ สําคัญอยา งมากในการฝกปฏบิ ตั หิ รือการเดินบนเสนทางธรรม
อุเบกขาจะชวยใหเ ราขจดั อคติ และหนุนนาํ ความเห็นแกป ระโยชนสุขของผูอ่ืนให
แผไปสูสรรพสัตวทั้งหลาย สวนโพธิจิตเปนเหมือนกับพันธสัญญาท่ีจะลงมือกระทําการ
ชว ยเหลอื พวกเขาใหพน จากความทุกขท ้ังหลายทง้ั ปวงดว ยจิตใจที่แนวแนมัน่ คง
วิธีการท่ีกลาวมาไมวาจะเปนการระลึกวา สรพสัตวลวนเคยเปนมารดาของเรา
ทั้งส้ิน หรือการระลึกวาชีวิตลวนแตไดรับการพึ่งพาอาศัยจากผูอื่น เราไมสามารถมีชีวิตอยู
ไดด วยตวั เราเอง วธิ ีการแรกนัน้ ชวยใหเ ราอยากจะปฏบิ ตั ติ อผูอ่ืนชีวติ อน่ื ๆ เสมือนหน่ึงวาได
ปฏบิ ัติตอมารดาของเราเอง เราอยากจะตอบแทนคุณงามความดีของทานดวยความกตัญู
กตเวทิตา จึงทําใหเกิดการขวนขวายชวยเหลือหาทางใหพนจากความทุกข มุงหวังเพื่อ
ประโยชนสุขของสรรพสัตวท้ังหลาย ไมไดกระทําส่ิงตางๆ เพ่ือตนเอง ส่ิงนี้นับวาเปน
ปณธิ านทยี่ ่งิ ใหญของการปฏิบตั ิธรรม
ในชีวิตธรรมดาของคนทั่วไปนั้น ถึงแมวาเราจะไมสามารถท่ีจะเสียสละมุงม่ัน
ปฏิบัติเหมือนกับคนที่ปฏิบัติเพ่ือบรรลุโพธิจิตก็ตาม แตถาเรานําวิธีการนี้มาใชใน
ชีวิตประจาํ วนั กน็ บั วา เปน ประโยชนอ ยูม ากเพราะอาจจะทําใหเราปฏิบัติตอผูอ่ืนดวยความ
๓๐๐ ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมใ นโลกปจจบุ นั
พระมหามิตร ฐติ ปฺโญ,ผศ.ดร.
บทที่ ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ
ออนนอมถอมตนมากขึ้น หากเราคิดวาเขาทุกคนไมวาจะเปนเจานายหรือลูกนอง คนรวบ
หรอื คนจนทั้งหลายกล็ ว นแตเ คยเปน บดิ าของเราในอดีตชาตทิ งั้ ส้ิน๕๑
การคิดพิจารณาเชนนี้จะทําใหเราไมดูถูกเหยียดหยามคนอื่น และจะปฏิบัติตอ
พวกเขาดวยความเคารพนอบนอ ม ซ่ึงแนน อนยอมสงผลดตี อ การสรางความสัมพันธกับผูอ่ืน
ไดเปนอยางดีและยอมทําใหจิตใจของเราเต็มไปดวยความรักความเมตตา พรอมท่ีจะ
ชวยเหลือเผ่อื แผไ ดอ ยางไมรูสกึ เสยี ดาย
สวนอีกวิธีการหนึ่งก็เชนเดียวกันคือ การท่ีเราระลึกวาชีวิตลวนตองพ่ึงพาอาศัย
ซ่งึ กันและกัน ไมม ีชีวิตใดอยูไดโ ดดเดย่ี วลําพงั โดยไมพง่ึ พาอาศยั ใครเลย ทุกส่ิงทุกอยางที่เรา
มีอยู ไมวาจะเปนเส้ือผา ที่นอน หมอนมุงทั้งหลายก็ลวนแตมีคนผลิตใหท้ังน้ัน ความระลึก
เหลานี้จะทําใหเกิดความรูสึกกตัญูขึ้นมา พรอมท้ังชวยลดอัตตาของเราลงไปได เพราะ
บางคนนั้นมักจะหยิ่งจองหองวาตนเองเกง ไมตองพ่ึงพาอาศัยใครก็ได เขาสามารถอยูได
ดวยตัวของเขาเอง แตความเปน จริงหาเปน เชนนน้ั ไม
เราทุกคนตางอาศัยซึ่งกันและกัน จึงควรท่ีจะเห็นอกเห็นใจกัน และใหความ
ชวยเหลือกันในชีวิตของเรานั้นหากเราไมไดรับการชวยเหลือจากใครเลย เราอาจจะไมมี
ชวี ติ อยมู านานถึงขนาดนี้
นอกจากนน้ั แลว ส่ิงสาํ คัญอยา งหน่ึงท่ีทานดาไลลามะสอนไวค ือวา นอกจากท่ีเรา
ไดพ่ึงพาอาศัยผูอื่นทางดานวัตถุสิ่งของทั้งหลายที่ทําใหเรามีอยูมีกิน มีที่นอน มีพาหนะท่ี
สะดวก มีเครอื่ งมือส่ือสารทีท่ ันสมัยแลว การท่เี ราอดทนอดกลนั้ มีความรักความเมตตาไดก็
เพราะคนอ่ืนสัตวอ่ืน หากไมมีคนอ่ืนเราจะไดฝกความอดทนอดกล้ันจากที่ไหน การท่ีมีคน
มาวา เราดา เรา ทําใหเ ราไดฝ ก ความอดทนอดกลนั้ การท่ีมีคนจนทําใหเราไดฝกความเมตตา
กรุณาใหเกิดข้ึน หากไมมีส่ิงเหลาน้ีคุณงามความดีตางๆ ก็อาจจะไมเกิดข้ึนในใจของเราก็
เปนได
จากการมีโลกทัศนเชนน้ีทําใหเราสามารถท่ีจะมีจิตที่มุงมั่นแนวแนที่จะหาทาง
ขวนขวายชวยเหลือใหทุกชีวิตมีความสุข และเราจะไมถือโทษโกรธใครเลยไมวาเขาจะนํา
ความทุกขมาใหเราอยางไรก็ตาม เขาทุกคนคือผูมีพระคุณของเรา ควรท่ีจะขอบคุณเขา
มากกวา ที่จะไปโกรธเกลียดการมีทัศนคตดิ า นบวกเชนนจ้ี ะทําใหใจของเรามีพลังเพิ่มมากข้ึน
เร่ือยๆ และไมหว่ันไหวไปกับอุปสรรคปญหาทั้งหลาย ท้ังยังพรอมที่จะยืนหยัดอยูบน
เสนทางอันประเสริฐคือ การตั้งปณิธานที่จะชวยเหลือสัตวท้ังหลายทั้งปวงใหพนจากความ
ทกุ ข สามารถท่จี ะขามสังสารวฏั ไปใหห มดสิน้ ไป
๕๑ เร่ืองเดียวกนั , หนา ๑๙๐.
ขบวนการพระพทุ ธศาสนาใหมใ นโลกปจจบุ ัน ๓๐๑
พระมหามิตร ฐติ ปโฺ ญ,ผศ.ดร.
บทท่ี ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ
ปณิธานอันย่ิงใหญน้ีจะสําเร็จไมไดหากวาเราขาดความอดทนอดกลั้น ฉะน้ัน ใน
การฝกโพธิจิตจึงตองมีความอดทนอดกล้ันตอปญหาตางๆ ที่จะเกิดข้ึนตามมาดวยจึงจะทํา
ใหการฝกฝนนี้บรรลุเปาหมายท่ีวางไวได “การสรางโพธิจิตนั้นไมใชสิ่งท่ีจะกระทําไดงาย
การมีความอดทนอดกล้ัน จะชวยพยุงเราใหกาวเดินไปบนเสนทางประเสริฐ ไดอยางสงา
งาม”
๖.๖.๑๖ ประโยชนข องจิตทีส่ งบละเอยี ดออ น
หากลองสังเกตชีวิตประจําวันของเราเอง จะเห็นวา วันไหนก็ตามที่จิตของเรา
ผองใส เบิกบัน เราจะรูสึกเปนสุข แตถาวันไหนก็ตามท่ีจิตของเราเศราสรอย โกรธเคือง
กระสับกระสาย เราจะรสู กึ เปน ทุกขอ ยา งมาก บางครงั้ อาจทําใหถ ึงกับนอนไมหลับตลอดทั้ง
คืน จิตท่ีด้ินรน กระสับกระสาย จึงมีแตความทุกข สวนจิตที่สงบละเอียดออนยอมมี
ความสขุ
ทานดาไลลามะไดกลาวไววา คนท่ีมีสันติในใจน้ันจะทําใหมีชีวิตยืนยาวและ
สุขภาพแข็งแรงและการท่ีมีสันติอยูในใจนั้นจะเปนปจจัยทําใหชีวิตคอนขางเรียบงาย ซึ่ง
ความเรียบงายน้ีเองทําใหจิตไมคอยถูกรบกวน อีกอยางหนึ่งคือจิตรอบรู ซึ่งเปนผลมาจาก
จิตท่ีสงบนั่นเอง เม่ือจิตเกิดความสงบแลว แนนอนวาเรายอมคิดอะไรไดงาย อยากจะคิดใน
เรือ่ งใดก็คดิ ไดอยา งละเอียดออน การมจี ติ ที่สงบจงึ ทําใหเราสามารถทาํ งานทําการงานตางๆ
ไดสําเร็จเปนอยางดีและสามารถใชสติปญญาในการพิจารณาเร่ืองตางๆ ไดอยางละเอียด
ลึกซ้งึ
นอกจากน้ันแลว จิตท่ีสงบยังมีผลตอสุขภาพกายและสุขภาพใจของเราดวย ใน
ดา นจติ ใจนนั้ จะทําใหเ ราไมเ ปน ทกุ ข ไมร สู ึกกระสับกระสาย ในแงนก้ี ท็ ําใหเราเปนสุขไดโดย
อตั โนมัติ สว นทางดา นรา งกายซ่งึ แนน อนวา จิตท่ีสงบและเปนสุขยอมสงผลดีตอรางกาย ทํา
ใหรางกายมีภูมิตานทานโรคที่ดีข้ึน กรณีเชนน้ีมีตัวอยางใหเราไดเห็นมากมายใน
ชวี ติ ประจาํ วนั บางคนทม่ี สี ขุ ภาพจิตไมดี เชน ไปหาหมอแลวหมอบอกวาเปนโรคราย จิตใจ
ของเรากจ็ ะรสู ึกหดหู และในที่สุดกท็ ําใหรา งกายทรุดโทรม และโรครายก็ย่ิงทวีความรุนแรง
มากขึ้นเร่ือยๆ ในทางตรงกันขามกับอีกคนหนึ่ง ท่ีเจอสถานการณแบบเดียวกัน แตเขา
สามารถที่จะประคองจิตของตนเองไมใหเศราหมองไปกับรางกายที่เจ็บปวยได ถึงแมวา
โรคภัยจะยังไมหาย แตเขาก็ยังเปนสุขไดอยูนั่นเอง การที่เขารูสึกเปนสุข แนนอนวายอม
ชว ยใหสุขภาพรา งกายไมท รุดโทรมและยอมภมู ิตา นทานที่ดีขึ้น
การฝกใหเกิดจิตท่ีสงบน้ัน ทานดาไลลามะสอนไววา ใหเพงอารมณเดียวอารมณ
ใดอารมณหนง่ึ จนเกดิ เปน สมาธิ ใหจิตจับนงิ่ อยูก บั อารมณน ัน้ เชน เราใชความเมตตาในการ
๓๐๒ ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมในโลกปจจุบัน
พระมหามิตร ฐติ ปฺโญ,ผศ.ดร.
บทท่ี ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ
ฝก เราก็ระลึกนึกถึงความเมตตาเพงอยูกับอารมณแหงความเมตตาน้ันจนเกิดเปนสมาธิ
แนนอนวาความน่ิงของจิตไมอาจเกิดขึ้นไดในการภาวนาเพียงครั้งเดียว เราตองหมั่นฝกฝน
ไปทีละเล็กทีละนอ ยซ่งึ ในไมช า เราจะพบวา จิตของเราสามารถทจ่ี ะจดจอไดดขี ึน้ นงิ่ ขน้ึ
ในลักษณะเชนนี้ทานดาไลลามะเนนวา เจตนาเปนส่ิงสําคัญอยางยิ่งเราตองมี
เจตนาท่ีแนวแน ตั้งมั่น ในระหวางท่ีฝกปฏิบัติบางครั้งจิตก็มักจะส่ันคลอนดวยความรูสึก
ต่ืนเตน ฟุงซาน วอกแวก ซ่ึงนั่นเปน อาการอยา งหนึ่งของความยึดติด จิตมักจะสัดสายไปมา
ดวยความคิดถึงส่ิงท่ีท่ีอยากไดอยากมี ความคิดเหลาน้ีคอยกีดขวางความต้ังมั่นของจิตและ
ทําใหค วามกระจา งถดถอย ไมสงบนงิ่ การฝกปฏิบัติเพอ่ื ใหจ ติ เกิดความสงบนิ่งน้ันตองอาศัย
ความพากเพียรจนกระท่ังเกิดความเช่ียวชาญ และในการฝกปฏิบัตินั้นสภาพแวดลอมที่สงบ
เงียบถือวาเปนส่ิงสําคัญอยางมาก เปนเสมือนหน่ึงวาเรามีกัลยาณมิตรที่ดี ที่จะชวยทําให
การฝกปฏิบตั ิของเราบรรลผุ ลไดงายขึ้น
สภาพแวดลอมท่ีอึกทึกครึกโครมยอมทําใหจิตเกิดสมาธิไดยาก โดยเฉพาะอยาง
ย่งิ ผทู ่ีฝกปฏิบัตใิ หมๆ เหตนุ เ้ี องผทู ี่กําลงั เรม่ิ ฝก ควรจะหาสถานท่ีที่เหมาะสม เงียบสงบ และ
ปลอดโปรง ซงึ่ จะชว ยใหจ ติ เกิดความสงบไดง า ยขึ้น
นอกจากสถานที่แลว เราตอ งปลอ ยวางความคิดท่ียุง เหยงิ ทางโลกใหหมด ไมวาจะ
เปนเรื่องครอบครัว ธุรกิจการงาน การติดตอสัมพันธตางๆ แลวอุทิศตนใหกับการเจริญ
สมาธิเพียงอยา งเดยี ว สําหรับผทู ่ปี ฏบิ ัติในชว งแรกน้นั ทานดาไลลามะแนะนําใหปฏิบัติสั่นๆ
เชน ๑๕-๒๐ นาที เมอื่ ปฏิบัตไิ ดม ัน่ คงแลว คอ ยขยายเวลาใหเพ่มิ มากข้นึ ในระหวางท่ีปฏิบัติ
น้ันสิ่งสําคัญคือ มักจะมีอุปสรรคท่ีมาขัดขวางไมใหจิตเกิดความสงบน่ิง ผูฝกปฏิบัติควรที่
เรียนรูวิธีการท่ีจะขจัดเคร่ืองกีดขวางทันทีท่ีมันผุดข้ึนมา เมื่อจิตของเราเร่ิมสัดสายหัน
กลับไปหาความทรงจําที่ร่ืนรมย หรือเกิดความคิดฟุงซานวอกแวกไปมาใหเรารีบดึงจิตนั้น
กลบั มาจดจออยกู ับอารมณภ าวนาซง่ึ ส่ิงทจ่ี ะชว ยดึงจิตกลับมาก็คือสตนิ น่ั เอง
สําหรับผูท่ีฝกปฏิบัติใหมๆ น้ัน เปนส่ิงที่ยากมากท่ีจะทําใหจิตจดจออยูกับสิ่งใด
ส่ิงหนึ่ง แตดวยการมีสติเราจะสามารถร้ังจิตครั้งแลวครั้งเลา คร้ันเม่ือจิตกลับมาจับอยูที่
อารมณแหงการภาวนาดวยการมีสติคอยกํากับอยูอยางนั้นนั่นเอง จิตจึงจะนิ่งอยูไดโดยไม
วอกแวก
การเฝาสํารวจความรูตัวท่ัวพรอม จะชวยใหเรามั่นใจไดวาจิตของเราจะไม
วอกแวก สติจึงเปนสิ่งสําคัญอยางมากในการฝกจิตใหเกิดความสงบ หากปราศจากสติแลว
เราก็ยอมจะคิดฟุงซานไปเร่ือยการรูตัวท่ัวพรอมยังมีประโยชนในการชวยปลุกจิตเวลาที่
เฉ่อื ย เหนื่อย หรอื เหงาหงอย ใหนอมนาํ กลบั มาสูการภาวนาเพราะบางครั้งในระหวางที่เรา
ฝกปฏิบัติไปน้ัน เราจะรูสึกเบื่อรูสึกเหน่ือย รูสึกวาไมอยากจะปฏิบัติตอไปอีก การเฝา
ขบวนการพระพทุ ธศาสนาใหมในโลกปจจุบัน ๓๐๓
พระมหามิตร ฐติ ปโฺ ญ,ผศ.ดร.
บทที่ ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ
สํารวจอยางตื่นตัวจะชวยปลุกจิตใหตื่นอยูในสัมผัสอันเบิกบาน อันจะชวยเพิ่มพูนความ
กระจา งและคมชดั ในจติ ใจมากยิ่งขน้ึ สติจึงมีคณุ ประโยชนอ ยางมหาศาล
การฝกใหจิตดึงสติกลับมาอยูบอยๆ อยางน้ีไมไดเปนประโยชนเฉพาะในการฝก
ภาวนาเทาน้ัน ในชีวิตประจําวันของเราก็สําคัญเชนเดียวกันหากปราศจากสติเสียแลวก็ทํา
ใหเราหลงลมื ไดง ายหรอื ทาํ ใหจิตใจของเราฟุงซานไมอยูกับท่ี ซึ่งส่ิงเหลาน้ีลวนเปนท่ีมาของ
ความทุกขท ้งั ส้นิ
การฝกใหจิตจดจออยูกับอารมณใดอารมณหน่ึงนั้นเปนสิ่งท่ีทาทายย่ิง ผูเร่ิมฝก
ปฏิบัติจึงไมควรทอใจหรือทอถอย ถาหากจิตไมเปนสมาธิอยางที่ต้ังใจอยางนอยที่สุดเราจะ
ไดเริ่มฝกดูจิตของเราที่มีความโลดแลนอยูตลอดเวลาดวยความอุตสาหพยายาม ประกอบ
กับมสี ติในการเฝา ดูอยา งเช่ียวชาญ ซงึ่ หากเราทําอยูเปนประจําก็ยอมทําใหจิตสามารถท่ีจะ
ดํารงอยูในสมาธิไดนาน ซ่ึงผลจากการฝกปฏิบัติเชนน้ีจะทําใหเกิดความต่ืนรู ความ
กระฉับกระเฉง และความคิดอันแจม กระจา งขน้ึ
ตามปกติธรรมชาติจิตของเราใสสวางกระจางแจง แตมันจะถูกปกคลุมไปดวย
ประสบการณในชีวิตประจําวัน เวลาท่ีเราฝกปฏิบัติจะตองเพงพิจารณาจิตตองพยายามคง
การสัมผสั รูอ ยูกบั ปจจุบันขณะ ตองพยายามไมใ หป ระสบการณในอดีตมารบกวนจิตของเรา
ใหวุนวาย จิตไมควรยอนไปหาอดีต เพราะโดยปกติแลวเวลาปฏิบัตินั้นจิตของเรามักจะนึก
ยอนไปถึงอดีตที่ผานๆ มา หรือไมก็นึกถึงอนาคตท่ีเราวาดฝนไวถาเราสามารถปองกัน
ความคดิ ไมใ หเอนเอียงไปในอดตี หรืออนาคตได กจ็ ะเหลือจดจออยูกับปจจุบันขณะหวงตรง
กลางระหวางอดตี กบั อนาคตน้ีเปรียบเสมือนดั่งสุญญากาศท่ีเราจะตองจดจอไวใหนานท่ีสุด
เทา ท่จี ะนานได ในตอนแรกการรูถึงพ้ืนที่วางตรงก่ึงกลางนี้จะผุดข้ึนมาเพียงชั่วขณะเทาน้ัน
แตเ มอ่ื ฝกปฏิบัติไปนานเขาเราก็จะสามารถยึดมันออกไปไดการกระทําเชนนี้อยูเปนประจํา
จะชวยขจัดความคิดกีดขวางการเผยออกของธรรมชาติท่ีแทของจิต การรูท่ีบริสุทธ์ิจะฉาย
ออกมาน่ันหมายถึงวา จิตของเราน้ันจะไมถูกปกคลุมดวยอะไร ความใสสวางจะสองไสว
ขึ้นมา
หากเราปฏิบัติพยายามใหจิตอยูตรงกึ่งกลางระหวางอดีตและอนาคตไดเชนน้ีอยู
เปนประจํา ชวงขณะก่ึงกลางน้ันจะคอยๆ กวางขึ้นจนกระท่ังเราสามารถสัมผัสรูไดวา
จิตสํานกึ รคู อื อะไร จิตสํานึกรูท่ีปลอดพนจากกระบวนการคิดท้ังปวงน้ันหาใชจิตที่วางเปลา
ไมใชเ กดิ เวลาท่หี ลบั ลึก หลับโดยไมฝน หรอื เหมอื นกับการเปน ลมหมดสติ
เม่ือเร่ิมตนฝกภาวนา เราควรท่ีจะต้ังใจมั่นวาจะไมปลอยใหจิตวอกแวกหรือถูก
รบกวนดวยความคิดในอดีต และไมก ังวลถงึ สิ่งท่ีจะเกดิ ขึ้นในอนาคตจะพยายามประคองจิต
ใหค งมัน่ อยกู บั ปจ จุบนั ใหน านท่สี ดุ เทา ทีจ่ ะทําได ซง่ึ เม่อื จิตตั้งม่ันอยูในปจจุบันความฟุงซาน
๓๐๔ ขบวนการพระพทุ ธศาสนาใหมใ นโลกปจจุบัน
พระมหามติ ร ฐติ ปโฺ ญ,ผศ.ดร.
บทท่ี ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ
ยอมไมเกิดขึ้น มีเพียงความเปนสมาธิท่ีแนวแนท่ีมีอยูและทําใหจิตดวงนั้นเกิดความสวาง
กระจา งใสข้นึ มา
สภาวะจิตที่เกิดความกระจา งสวา งไสวน้ันเปนสภาวะเบื้องแรกของการฝกปฏิบัติ
หากเราไดรบั สภาวะนี้แลวก็สามารถท่ีจะนําจิตที่สงบละเอียดน้ีพิจารณาถึงความเปนอนัตต
ลักษณะของจติ หรอื ความวา งเปลา ของจติ ๕๒
ซ่ึงเปนธรรมชาติที่วางเปลาจากความมีตัวตนของจิต หากกําหนดพิจารณาเห็น
อยางชัดเจนแลวก็จะปรากฏชัดวา จิตก็คือความวางเปลาหรือเปนสิ่งที่ไมมีคัวตนน่ันเอง
ฉะนัน้ จติ ทีล่ ะเอยี ดออนเทานน้ั ทจ่ี ะเขาถึงสภาวะท่ีวา งเปลา น้ีได
การฝก จิตใหส งบ ละเอยี ด จงึ นบั วาเปนประโยชนอยางมากแกชีวิตทั้งในทางโลก
และทางธรรม ในทางโลกน้ันจิตที่สงบจะชวยใหเราเผชิญกับปญหาตางๆ ไดอยางไม
หว่ันไหว สามารถท่ีจะคิดพิจารณาหาทางแกปญหาไดอยางงายดาย และแมวาบางปญหา
เราอาจจะไมส ามารถที่จะแกไขไดดวยตัวเราเอง เพราะอาจจะมีเหตุปจจัยตางๆ มากมายท่ี
เราไมสามารถควบคุมได
ผูท่ีมีจิตสงบจะสามารถเขาใจและปลอยวางในปญหาเหลานั้นไดดีและไมเปน
ทุกขเดอื ดรอน สวนผูทีม่ ีจติ ใจไมสงบก็เปน ธรรมดาท่จี ะตองกระสับกระสาย ด้ินรน กังวลใจ
ในส่ิงตางๆ ที่เกิดข้ึน การฝกจิตจึงเปนคุณประโยชนที่ย่ิงใหญที่จะชวยประคองชีวิตของเรา
ไมใหหลุดลงไปจมอยูกับอารมณดานลบท้ังหลาย ทําใหเราต้ังม่ันอยูไดในความสงบแมวา
สถานการณข องชีวิตจะเปน อยา งไรกต็ าม
สําหรับชีวิตในทางธรรม แนนอนวาสมาธิเปนสิ่งที่สําคัญย่ิงเพราะจะชวยใหเขา
เขาถึงความจริงตางๆ ที่ละเอียดออนได และสามารถทําใหเรากําจัดอารมณทางดานลบ
ท้ังหลายท่ีมีอยูในจิตใจใหหมดไปไดอยางส้ินเชิง ถาเราไมมีสมาธิเราคงไมสามารถท่ีจะ
พิจารณาเห็นคุณหรือโทษของอารมณดานลบ และไมสามารถที่จะพิจารณาใหเห็นถึงเหตุ
ปจจัยท่ีจะทําใหสิ่งเหลานั้นเกิดขึ้นได เมื่อไมทราบเหตุปจจัยที่ทําใหมันเกิดข้ึนก็ยอมไมรู
วิธีการท่ีจะกําจัดมัน ในทางตรงกันขามคนท่ีมีสมาธิแนวแน มั่นคง ยอมพิจารณาเห็นคุณ
เห็นโทษ และประโยชนข องอารมณด า นลบดานบวกรวมถงึ รเู หตุปจ จยั ทําใหมันเกิดข้ึน และ
รูวิธีการที่จะกําจัดมันใหหมดสิ้นไป ส่ิงสําคัญอยางหนึ่งคือ ทําใหเราเขาถึงธรรมชาติอัน
แทจรงิ ของสรรพสง่ิ วา ทุกสิง่ เปนของไมเ ทยี่ งเปน ทกุ ข และมีธรรมชาตวิ า งเปลา
การเขาถึงสภาวะดังกลาวอยางแจมแจงน้ีทําใหเราสามารถที่จะปลอยวางสิ่ง
ตางๆ รวมถึงตัวเราไดวามันเปนของไมเที่ยง เปนทุกข และมีธรรมชาติวางเปลา เม่ือเรา
๕๒ เร่อื งเดียวกัน, หนา ๒๐๒.
ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมใ นโลกปจ จุบัน ๓๐๕
พระมหามิตร ฐติ ปฺโญ,ผศ.ดร.
บทที่ ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ
สามารถปลอยวางไดความสุขที่ย่ิงใหญก็ยอมเกิดข้ึนตามมา ไมมีอะไรที่จะมาทําใหเราทุกข
ใจไดอ กี ตอไป “ผทู ีม่ จี ติ สงบจะสามารถเขาใจ และปลอยวางปญหาเหลานั้นไดดี และไมเปน
ทุกขเดือดรอน”
๖.๖.๑๗ การสรางสันตภิ าพท่ีแทจ ริง
สันติภาพเปนสิ่งท่ีจะทําใหทุกคนอยูรวมกันอยางมีความสุข ไมวาจะเปนชนชาติ
ใด สีผิวอะไร พูดภาษาอะไรก็ตาม หากสันติภาพเกิดขึ้นทุกคนยอมมีแตรอยย้ิม ในทาง
ตรงกันขามการทําสงครามไมเคยทําใหมนุษยชาติเกิดความสงบสุขอันแทจริงข้ึนมาได มีแต
รอยเลอื ด คราบนาํ้ ตา และเสยี งรอ งไหท่เี กดิ ขน้ึ
ทานดาไลลามะนับวาเปนบุคคลตัวอยางในการตอสูเพื่อใหไดมาซึ่งสันติภาพ ซ่ึง
จะเห็นไดชัดจากการท่ีทานไดรับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ เม่ือป พ.ศ. ๒๕๓๒ โดยใหตุ
ผลวา คณะกรรมการตองการเนนความเปนจริงท่ีองคดาไลลามะไดพยายามตอสูอยาง
ตอเน่ืองและอยางสันติ เพ่ือปลดปลอยทิเบต ทานไดเสนอหนทางแกไขปญหา โดยเนนใน
เร่ืองความอดทนและการเคารพซ่ึงกันและกัน เพ่ือคุมครองมรดกทางประวัติศาสตรและ
วัฒนธรรมของประชาชนชาวทเิ บต
ในยุคปจจุบันน้ีมนุษยชาติประสบกับปญหาตางๆ มากมาย ไมวาจะเปนปญหา
ความอดอยาก ปญ หาการไมมีงานทํา ความเหลื่อมล้ําทางสังคม ปญหาการคอรรับช่ัน เปน
ตน นอกจากนน้ั แลว มนษุ ยยงั มีการเบียดเบยี นซง่ึ กันและกันอกี มากมายหลายรูปแบบ ทาน
ดาไลลามะกลา ววา สงิ่ ตางๆ เหลานี้ลวนแตเปนส่ิงท่ีกําลังทาทายเพ่ือทําลายสันติภาพ และ
ชีวติ บนพน้ื พภิ พ เพราะกจิ กรรมนั้นๆ ไมคํานงึ ถงึ คุณคา ของความเปน มนษุ ย
ชีวิตทุกชีวิตน้ันมีคาและทุกคนตางรักสุขเกลียดทุกขทั้งน้ัน เราไมตองการใหคน
อื่นมาเบียดเบียนเราฉันใดคนอ่ืนก็ไมตองการฉันน้ันเหมือนกัน เมื่อเปนเชนนี้มนุษยจึงตอง
มารบราฆาฟนกัน เบียดเบียนกันดวยเลา ซ่ึงหากเราเบียดเบียนผูอ่ืน แนนอนวาคนท่ีถูก
เบียดเบียนยอมไมมีความสุขและสุดทายผลกรรมนั้นจะยอนกลับมาท่ีตัวของผูเบียดเบียน
เอง ซงึ่ จะทําใหต นเองไมมคี วามสขุ เชน เดียวกนั
ทานดาไลลามะกลาวไววา การทําลายลางในอดีตน้ันเราใหอภัยไดแตบัดนี้เรามี
ทางรับรูขาวสารขอมูลตางๆ มากขึ้น เราไมควรที่จะปลอยใหอดีตท่ีไมดีในประวัติศาสตร
เกิดข้ึนซํ้ารอยอีก เราจึงควรพิจารณาถึงจุดยืนทางจริยธรรมใหมั่นคง เพ่ือใหตกทอดไปถึง
อนชุ นคนรุนหลัง
ประวัติศาสตรท่ผี านมาในอดีตนั้น มนุษยชาติไดเรียนรูเกี่ยวกับความเจ็บปวดอัน
เกิดจากสงครามมากมายและส่ิงเหลานั้นไมไดชวยใหมนุษยชาติเราแกปญหาไดแตอยางใด
๓๐๖ ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมในโลกปจจบุ นั
พระมหามติ ร ฐติ ปฺโญ,ผศ.ดร.
บทท่ี ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ
มีแตจะสรา งปญ หาใหม ากขึ้นกวา เดมิ ท้ังปญ หาความอดอยากอันเกิดจาภัยสงคราม ปญหา
ดานการเมือง ทําใหเกิดความเกลียดชัง เคียดแคน ละยังมีปญหาอ่ืนๆ ตามมาอีกมากมาย
เราจึงควรที่จะรวมมือกันหาแนวทางในการปองกันความรุนแรงตางๆ ที่เกิดขึ้นน้ันใหหมด
ไป และรวมมือกันแกปญหาดวยสันติวิธี ดวยการเจรจา มีความอดทน และมีการใหเกียรติ
เคารพซึง่ กันและกนั ในฐานะท่ีเปน มนุษยคนหนึ่ง
ทานดาไลลามะกลาววา เรามีความสามารถพรอมกับความรับผิดชอบท่ีจะทะนุ
ถนอมโลกและสันติสุขในโลกน้ีไวโดยท่ีเราตองทําเดี๋ยวน้ีกอนท่ีจะสายเกินไป นั่นก็
หมายความวา มนุษยทุกคนน้ันมีศักยภาพเพียงพอท่ีจะรักษาโลกน้ีไว และสรางสันติสุขอัน
แทจริงใหเกิดข้ึนในโลกได ไมมีใครหรืออะไรในโลกนี้ที่จะสามารถทําลายมนุษยไดเทากับ
มนษุ ยเอง
ความทุกขความเจ็บปวดท้ังหลายท่ีเกิดข้ึนในโลกของเรา สวนใหญแลวลวนเกิด
จากการกระทําของมนุษยแทบท้ังสิ้น หากเราเปล่ียนมุมมองใหม เปล่ียนการกระทําใหม ก็
จะทําใหเราไดรวมกันสรางสิ่งท่ีดีงามใหกับคนในโลกนี้ได การแกปญหาจะตองแกที่ตัวเรา
แตละคน และเรม่ิ ตน เดยี๋ วนีเ้ วลาน้ีทันที๕๓
ทานดาไลลามะไดแนะนําวิธีการในการแกปญหาตางๆ ของโลกไววา เราแตละ
คนจะตองมีวินัยในตนเองมีหลักศีลธรรม เพราะศีลธรรมทําใหมีการควบคุมตนเองโลกของ
เราจะมีสันติสุขอยางแทจริงได เราจะตองใหการศึกษากับผูคน โดยเฉพาะจิตใจของคนแต
ละคน ในการแกปญหาก็ตองกระทํากันอยางจริงจัง เร่ืองศีลธรรมและจริยธรรมสมัยใหม
เปนแบบเร่ืองโลกวิสัยของฆราวาส และคิดแกปญหาไมใชความรุนแรง คนท่ัวโลกตองคิด
หาทางรวมกัน เพราะความรุนแรงตางๆ ไมเกิดผลอะไรเลย เหตุน้ีเองมนุษยเราจึงตองจับ
มอื กนั เพ่อื สรางสันตภิ าพ
แตกอนท่ีจะทําอยางนั้นได เราตองมีความสงบภายใน ซึ่งความสงบภายในเกิด
จากการคิดหาเหตุผลวา ทําอยางไรจะไมเกิดความรุนแรง ความรุนแรงเกิดจากความกลัว
ยงิ่ เราใหความสําคัญกบั มนั มากเพยี งใด มันกย็ ่งิ เพม่ิ มากขน้ึ หรอื ย่ิงเกิดความกลัวมากเทาใด
มนั ก็ยง่ิ จะเพม่ิ ปริมาณความหวาดกลวั มากข้นึ เทานั้น
จากคําสอนของทานดาไลลามะชึ้ใหเราเห็นวา การจะสรางสันติภาพท่ีแทจริง
ข้ึนมาในโลกไดน ัน้ จะตอ งเรม่ิ ตน ทต่ี วั ของเรากอ น โดยการเรมิ่ ตน จากสันติภายในใจของเรา
ใหได หากเราไมสามารถสรางสันติภายในขึ้นมาได ก็คงยากที่จะทําใหสันติภาพอันแทจริง
เกิดขึ้นมาในโลกได การที่จะมสี ันติภายในใจไดเราจะตองมีวินัย มีหลักศีลธรรมคอยควบคุม
๕๓ เรือ่ งเดยี วกนั , หนา ๒๑๐.
ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมในโลกปจจุบัน ๓๐๗
พระมหามิตร ฐติ ปโฺ ญ,ผศ.ดร.
บทที่ ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ
ตัวเราไมใหหลงไปกระทําในส่ิงท่ีเปนอันตรายหรือในส่ิงท่ีเปนดานลบ เพราะสิ่งเหลานั้นมัน
จะนาํ ความวุนวายมาสูจติ ใจของเรา
ในเบื้องแรกหากเรามีจิตต้ังมั่นที่จะดํารงอยูในกรอบของศีลธรรมความดีงาม
ทั้งหลาย อยางนอยก็จะทําใหจิตของเราไมกวัดแกวง ไมสัดสาย ซึ่งนี่ก็นับวาเปนจุดเร่ิมตน
ของการมีสันติภายในใจของเราเกิดข้ึน เมื่อเราเร่ิมมีความสงบภายในแลว ก็คอยพิจารณา
หาสาเหตุแหงความด้ินรนสัดสายของจิต วามันเกิดข้ึนจากสาเหตุอะไร แลวพยายามแยก
สาเหตุเหลานั้นออกมาใหชัดเจนพรอมกับหาทางกําจัดสาเหตุท่ีทําใหจิตสัดสายด้ินรน
ออกไปทีละสาเหตุ ซง่ึ ในทส่ี ดุ ความสงบสขุ ก็ยอมเกดิ ขึ้นตามมา
เมื่อจติ ของเราเกดิ ความสงบสุข แนนอนวาความอดทนอดกลั้นตอส่ิงท่ีมากระทบ
ยอมมีมากขึ้น และหากเราพิจาณาถึงคุณคาของความเปนมนุษยก็จะย่ิงทําใหเราเห็นวา
มนุษยทุกคนมีคุณคา ทุกคนตองการความสุขดวยกันท้ังน้ัน เราจึงไมควรที่จะสรางความ
ทกุ ขความเดอื ดรอ นใหก ับใคร เพราะตามปกติแลวถึงแมวาจะไมมีใครสรางความทุกขใหกับ
เขา เขาก็เปนทุกขพออยูแลว เชน ทุกขจากความหิว ทุกขจากความเกิด ทุกขจากความแก
ทุกขจากความเจ็บ ทุกขจากความตาย สิ่งตางๆ เหลานั้นมันเกิดข้ึนอยูทุกขณะ มนุษยทุก
คนตางมีความทกุ ขอยรู ายรอบตัว แลวทําไมเราจึงตองไปเพ่ิมความทุกขใหแกกันและกันอีก
ดวยเลา การคิดพิจารณาเชนนี้จะทําใหเกิดความเมตตากรุณาตอกันและกันขึ้นมา ซึ่งความ
เมตตาน้ียอมทําใหจิตเกิดความสงบขึ้นมาภายในใจ และแนนอนวาความเมตตาน้ียอมเปน
เหมือนกับแสงสวางที่จะทําใหเกิดสันติขึ้นมาในโลกนี้ หากโลกนี้ขาดความรักความเมตตา
โลกน้ีจะตองลุกเปนไฟอยางแนนอน ความรักความเมตตาที่ไมมีประมาณไมเลือกท่ีรักมักท่ี
ชัง จะชวยสรา งสันติภาพอันแทจรงิ ใหเ กิดขน้ึ ได
นอกจากนั้นแลว ทานดาไลลามะไดเนน ยาํ้ วา ในปจจุบันเราไมสามารถท่ีจะอยูได
ดวยตวั คนเดยี ว คนเราตองอาศัยพ่ึงพากัน เมื่อเราตองพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน เราจึงควร
ใหเ กียรตกิ ัน ใหค วามเคารพซึง่ กันและกนั ใหม าก
ในปจ จุบนั หากเราพิจารณาสง่ิ ท่ีดาไลลามะสอน ก็จะเห็นวาเปนเชนนั้นจริงเราไม
สามารถอยูไดโ ดยไมพึ่งพาอาศยั ใครเลย แมแ ตต ัวเราเมื่อตอนเปนเด็ก เราก็ตองพ่ึงคนอ่ืนใน
การกนิ การอยู เสือ้ ผา ท่ีอยอู าศัยตา งๆ กล็ ว นแตม ผี ูผลิตผสู รางใหเ ราทงั้ สิ้น จะมีสักกี่อยางท่ี
เราพึ่งตนเอง สวนใหญแลวเราพึ่งคนอื่นแทบทั้งส้ิน ในระดับที่ใหญข้ึนมาไมวาจะเปนสระ
ดับชาติหรือระดับโลก ตางก็ตองพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันบานเราไมมีน้ํามัน ก็ตองอาศัย
ประเทศที่มีน้ํามัน ประเทศที่มีน้ํามันมากแตปลูกขาวไมได ก็ตองอาศัยประเทศที่สามารถ
ปลูกขาวได เปน ตน ทุกประเทศตางตองพ่ึงพาอาศัยซึ่งกันและกัน เราจึงรวมมือกันสรางแต
ส่ิงท่ดี ีงามใหเกดิ ขึน้ ในโลก
๓๐๘ ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมในโลกปจ จุบนั
พระมหามิตร ฐติ ปฺโญ,ผศ.ดร.
บทท่ี ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ
การที่คิดวาตองพึ่งพาผูอ่ืน จะทําใหเราเกิดความรูสึกที่เคารพและใหเกียรติผูอ่ืน
ตองกตัญูตอบแทนผูอ่ืน ไมวาจะในระดับปจเจกบุคคลหรือในระดับประเทศก็ตาม หาก
เราคิดวาตองพึ่งพาอาศัยกัน ก็ตองชวยเหลือกันและกัน หากเราคิดวาเราเกงไมตองพึ่งพา
ใคร ความคิดแบบน้ีจะนําไปสูความขัดแยงและเกลียดชังไดงาย เมื่อเกิดความเกลียดชัง ก็
ยอมไมม ีทางที่จะทําใหเ กดิ สนั ตภิ าพขึ้นมาในโลกไดอยางแนน อน
ในความเปนจริงแลวสันติภาพมีหลายระดับ ไมใชเพียงแคไมทําสงครามตอกัน
เทาน้ัน ในระดับท่ีหยาบการเบียดเบียนซ่ึงกันและกันทางกาย ทางวาจา ก็นับวาไมมี
สันติภาพในแงน้ี หากเราตองการใหสันติภาพเกิดขึ้นในโลกอยางแทจริง ก็จะตองไม
เบียดเบียนกันทั้งทางกาย ทางวาจา และทางใจ น่ันก็คือตองเริ่มจากจิตใจของเราเสียกอน
ฝกจิตของเราไมใหมีความเบียดเบียน ไมคิดที่จะเบียดเบียนใครซึ่งเมื่อจิตไมคิดท่ีจะ
เบียดเบียนการกระทําตางๆ ที่จะเปนไปในรูปแบบการสรางความทุกขใหกับผูอ่ืนยอมไม
เกดิ ขน้ึ สนั ติสุขภายในนน้ั เราสามารถเรม่ิ สรา งไดเ ดี๋ยวน้ีเวลานี้ ทันทีท่เี ราเกิดความรูสึกหรือ
อารมณในดา นลบข้นึ มาในใจ เรากพ็ ยายามคิดวิเคราะหและหาทางกําจัดอารมณในดานลบ
เหลาน้ันใหหมดส้ินไป หรือหาทางตางๆที่ทําใหมันเกิดขึ้น และเหตุปจจัยตางๆ ที่ทําใหมัน
ดับไปแลว ก็ลงมอื กําจดั สาเหตุทีท่ ําใหมันเกิดขึน้ จติ ใจของเราก็จะเกิดความสงบสนั ตขิ นึ้ มา
เม่ือจิตเกิดความสงบสุขข้ึนมา ยอมไมคิดที่จะเบียดเบียน สันติภาพอันแทจริงก็
จะเริ่มเกิดขึ้นที่ใจของเราแลว เม่ือสันติภาพอันแทจริงเกิดข้ึนท่ีใจของเราแลวก็จงคอยๆ
พยายามขยายสันติภาพนั้นใหกวางขวางออกไปเร่ือยๆ คือชวยเหลือผูอื่นใหเกิดความสงบ
สุขดานจิตใจเหมือนกับท่ีเราไดรับ ในแงน้ียิ่งเราสามารถขยายสันติภาพดานจิตใจออกไปได
มากเทา ไร โลกของเราก็ยอ มมคี วามสงบเย็นมากข้นึ เทา นัน้
ความสขุ ดา นจิตใจจงึ ไมไ ดเปนประโยชนเฉพาะตวั เราเทา น้ัน แตจ ะเปนประโยชน
แกผ คู นรอบขา งทง้ั หมดของเราดวย มนั จะชว ยสรา งสมั พันธภาพท่ีดงี ามใหเกิดขึ้น พรอมกับ
ชวยใหเราปฏิบัติตอผูอื่นอยางเหมาะสม ซึ่งสิ่งเหลานี้ก็คือผลพวงที่เกิดจากสันติภาพอันมา
จากภายในน่นั เอง๕๔
จากที่กลาวมาก็จะเห็นวา สันติภาพอันแทจริงจะเกิดขึ้นไมได ถาหากวาเราไมมี
สันติภาพจากภายในใจของเรากอน หากเราตองการใหมีสันติภาพในโลกน้ีอยางแทจริงเรา
ตองเริ่มฝกฝนจากตัวเรา สรางสันติภาพในใจใหเกิดข้ึนกอน โดยอาศัยหลักศีลธรรม
จริยธรรม ในการฝกฝน และเม่อื เราไดพ บสนั ติภาพในใจแลวกค็ อยๆ ขยายสิ่งเหลาน้ีไปสูคน
อน่ื ๆ ในสังคม ก็จะทาํ ใหด อกไมแหง สนั ตภิ าพเบง บานขนึ้ ในโลกไดอยางแทจริง “เมื่อจิตเกิด
๕๔ อา งแลว .
ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมในโลกปจจบุ นั ๓๐๙
พระมหามติ ร ฐติ ปฺโญ,ผศ.ดร.
บทที่ ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ
ความสงบสุขข้ึนมา ยอมไมคิดที่จะเบียดเบียน สันติภาพอันแทจริงก็จะเร่ิมเกิดข้ึนในใจของ
เราแลว ”
๖.๖.๑๘ การแกป ญหาความรุนแรง
ความรุนแรงเปนอีกปญหาหน่ึงที่เกิดขึ้นมากมายในสังคมปจจุบัน และนับวา
ปญหานี้ก็ย่ิงทวีความรุนแรงมากข้ึนเรื่อยๆ เราจึงควรที่จะหาทางชวยกันกําจัดปญหาน้ีให
หมดส้นิ ไปจากสังคม ไมเชนน้ันแลวโลกของเราก็จะเต็มไปดวยความยุงเหยิงและความทุกข
อยางไมมีวันจบสิ้น
ทานดาไลลามะกลาวไววา การที่ความรุนแรงเกิดข้ึนมากในสังคมนั้นเปนเรื่องที่
นาละอายอยา งมาก และเราไมสามารถจะจัดการกบั ปญ หาเหลาน้ีได เบ้ืองแรกทานดาไลลา
มะแนะนาํ วา หากจะจัดการกับปญ หาความรนุ แรงเราจะตองรูจักแยกแยะความรุนแรงชนิด
ตางๆ ออกจากกัน เชน ความรุนแรงท่ีไมมีใครสนใจกับความรุนแรงท่ีทุกคนเห็นและพูดถึง
ซ่งึ ทัง้ สองประเภทน้ีเปนส่ิงทีไ่ มด ีดว ยกันทงั้ คู
ทา นดาไลลามะไดกลา วย้าํ อกี วา ในทศั นของพทุ ธศาสนกิ ชนน้ัน ความรุนแรงเปน
ความชวั่ รา ยเพราะมันทํารายเรา ไมคนก็ส่ิงของตองถูกโจมตี เพียงแตมีวิธีการมากกวาหน่ึง
วิธีในการทํารายคือ ไมจําเปนตองทํารายดวยอาวุธที่โหดรายทารุณก็ได เชน การย้ิมอยาง
สุภาพและอยางนารักน้ัน ถามีเจตนาประสงครายที่จะทําใหเกิดโทษ ใหเกิดความทุกขรอน
แลวก็ถือวาเปนความรุนแรงชนิดหนึ่ง ในแงนี้ความรุนแรงที่ทานดาไลลามะกลาวถึงนั้นมัน
ละเอยี ดลึกซึ้งเขาไปถึงดานจิตใจคือ ถาจิตใจของเรามเี จตนาทจี่ ะเบียดเบยี นก็นับวาเปนการ
สรางความรุนแรงข้ึนแลว ปญหาความรุนแรงจึงนับวาเริ่มเกิดขึ้นจากเจตนาท่ีคิดมุงรายตอ
ผูอ่ืน ซ่งึ เปนอารมณใ นดา นลบ หากเกดิ มขี ึ้นกบั ใครแลวก็ยอมสรางความทุกขใจใหกับผูเปน
เจาของทค่ี รอบครองอารมณนน้ั และยงั นาํ มาซงึ่ ความทุกขความเดอื ดรอนแกคนท่ีเกีย่ วของ
การมีเจตนาคิดท่ีจะมุงรายตอผูอื่นเปนสาเหตุหลักที่ทําใหเกิดความเบียดเบียน
และตนตอของเจตนาเหลา นัน้ ยอมมาจากความละโมบโลภมาก และความเกลียดชัง เปนตน
สงิ่ เหลา น้ีเม่ือมนั ครอบงาํ จติ ใจแลว ก็จะทําใหแสดงพฤติกรรมตางๆ ทไ่ี มด ีออกมา
ถาหากทุกคนพิจารณาเห็นวา สิ่งที่กําลังกระทําและความทุกขที่กําลังเผชิญอยู
นน้ั มีสาเหตุมาจากความโลภ ความโกรธเกลียดแลว เราตองหาทางกําจัดมันเพ่ือทําใหโลก
ของเราเกิดความสงบสุขขนึ้ มาได
ทานดาไลลามะไดเนนยํ้าเร่ืองการสรางความสงบและสันติสุขในใจนี้บอยครั้ง
เพราะทานเชื่อวา จะชวยทําใหสามารถบรรเทาความทุกขในโลกนี้ไดอยางย่ังยืน ซึ่งตางจาก
การแกป ญ หาท่ีต้ังอยบู นพ้ืนฐานของกเิ ลส ความโกรธ ความเกลยี ดชงั และความกลัว
๓๑๐ ขบวนการพระพทุ ธศาสนาใหมในโลกปจจุบัน
พระมหามติ ร ฐติ ปฺโญ,ผศ.ดร.
บทที่ ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ
จิตที่สงบสุขจากภายในน้ันยอมสรางแตส่ิงท่ีดีงามตอตนเองและผูอื่น ไมคิดท่ีจะ
เบยี ดเบยี นและไมก ระทําความรุนแรง
ไมวา จะเปนทางกายหรือทางวาจาก็ตาม การท่ีจะทําใหจิตใจเกิดความสงบสุขได
นั้น ทานดาไลลามะไดแนะนําวาเราตองฝกสมาธิภาวนา เพ่ือใหคนแตละคนมีสติและ
สัมปชัญญะ ท่ีจะทําใหรูเทาทันตอจิต อารมณ และกิเลสท้ังหลาย ซ่ึงมันเปลี่ยนแปลงได
รวดเร็วมาก สมาธิที่จะทําใหเกิดปญญาที่จะสามารถชวยใหเรารูวิธีที่จะกําจัดความรุนแรง
หรือการเบยี ดเบียนตนเองและผูอื่นในรปู แบบตางๆ และสําคัญมากย่ิงกวานั้นก็คือ สมาธิจะ
ชว ยใหเกดิ ความสงบและสันติในใจ ลดอารมณที่เปน ลบ ลดความกลัว เชน ความกลัวที่ตอง
เผชิญกับความไมแนนอนของชีวิต ซึ่งมักสงผลใหคนตองดิ้นรนแสวงหา จนนําไปสูการ
เบยี ดเบยี นตนเองและเบียดเบียนผูอืน่ เพยี งเพือ่ สรางหลักประกันใหก ับตนเอง
ประการตอมาที่ทานดาไลลามะเนนยํ้าก็คือ ความเมตตากรุณาหรือความ
ปรารถนาดีตอผูอ่ืน ตองการใหผูอ่ืนมีคุณภาพชีวิตที่ดีข้ึน ซ่ึงความเมตตากรุณาน้ีตองตั้งอยู
บนความเขา ใจอยา งแจมแจงวา ทุกคนและทุกสิ่งในโลกนี้ตองเก่ียวเน่ืองซ่ึงกันและกัน และ
ความเมตตากรุณาน้ีจะตองไมจํากัดอยูเฉพาะแตในครอบครัว เพ่ือนฝูง คนที่เปนพวก
เดียวกัน หรือคนเช้ือชาติเดียวกันเทาน้ัน แตจะตองเปนความเมตตากรุณาหรือความ
ปรารถนาดีสําหรบั ทุกคนที่อยรู วมกันบนโลกใบน้ี
นอกจากนั้นแลว ความเมตตากรุณาน้ีจะตองแผไปถึงแมกระท่ังศัตรูของเราดวย
ตองละวางความโกรธใหไดเพราะปญหาตางๆ ที่เรากําลังเผชิญอยูน้ีเปนปญหารวมกัน ไมมี
พรหมแดน ความทุกขและความรุนแรงจะลดลงไปมากถาเราพยายามเขาใจความจําเปน
ของคนอืน่ และไปชวยตอบโจทยความจําเปนของคนที่ขาดแคลน ในทางตรงกันขามถาหาก
วามนุษยใชชีวิตรวมกันดวยวิถีที่เบียดเบียนซ่ึงกันและกันมากย่ิงขึ้นแลว ก็จะไมมีทางท่ีจะ
ลดความรนุ แรงและแกป ญหาตางๆไดเลย
ทานดาไลลามะไดเนนย้ําอีกวา ถาหากเราใชชีวิตอยูดวยความเมตตากรุณา มี
ความปรารถนาดีตอกันและกัน มีความมุงมั่นที่จะลดการเบียดเบียนแลว สังคมโลกก็มี
โอกาสเปล่ยี นแปลงไปในทิศทางทด่ี ขี ึ้น ความรนุ แรงและความทกุ ขก ็จะลดลง
ฉะน้ัน สิ่งสําคัญคือตองสรางความเมตตากรุณาน้ีใหเกิดขึ้นใหได ความกรุณาจะ
เกิดขึ้นไดหากเราเจริญความรูสึกผูกพันหรือความใกลชิดกับผูอ่ืน ทั้งตระหนักและหย่ังเห็น
ความทกุ ขอ ยา งหนักหนว งของผูอื่น แลวเราใครครวญถึงกุศลแหงการเกื้อกูลใหผูอ่ืนเปนสุข
กจ็ ะทาํ ใหค วามกรุณาเกิดขึ้นได
ทานดาไลลามะไดแนะนําไวอีกวา การใครครวญถึงความเมตตาของผูอ่ืนก็เปนสิ่ง
สําคัญเชนเดียวกัน เชนรูสึกวาความอยูดีมีสุขของเรานั้นตองอาศัยความรวมมือและ
ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมในโลกปจ จุบนั ๓๑๑
พระมหามิตร ฐติ ปโฺ ญ,ผศ.ดร.
บทที่ ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ
คุณปู การของผอู ื่นเพียงไร ทุกแงมุมของความอยูดีมีสุขของเราลวนกําเนิดจากน้ําพักนํ้าแรง
ของผูอ่ืน ลองมองไปรอบๆ ตัวเรา ไมวาจะเปนที่พักอาศัย งานที่ทํางาน ถนนท่ีใชสัญจร
เส้ือผา ทีส่ วมใส อาหารท่ีกนิ เปน ตน ลว นแตม ีผสู รางผูผลิตใหเราท้ังส้ิน หากไมใชดวยความ
เมตตาของผคู นมากมายแลว ส่งิ เหลานค้ี งไมม อี ยใู หเราไดรน่ื รมยใ ชส อย
เมื่อเราใครครวญอยูอยางนี้เปนประจํา ความสํานึกรูคุณตอผูอ่ืนก็จะงอกงาม
ข้ึนมา รวมถึงความรูสึกผูกพันและใกลชิดตอพวกเขา พรอมที่จะรับผิดชอบตอความทุกข
ยากท้ังหลาย อยากจะชวยเหลือผูอื่นใหพนจาก เพื่อเปนการตอบแทนที่เขาท้ังหลายได
ชวยเหลือใหเ ราประสบความสุขอยา งทเี่ ปน อยู
ส่ิงสาํ คัญเราตอ งรูส กึ โยงใยอาศยั ผูคนทั้งหลายท่ีเขามีเมตตากรุณา เพราะจะชวย
เพิ่มพนู ความรรู สู ึกใกลช ดิ ขึ้นมาได ซึง่ สง่ิ นี้อาศัยการมองผูอื่นโดยละการถือตนเปนใหญ เรา
ตอ งหมน่ั ระลึกถงึ ผลอันใหญห ลวงที่พวกเขามีตอ ความอยเู ยน็ เปน สุขของเรา
เม่ือไมลุมหลงเอาแตตนเปนใหญเปนที่ต้ัง โลกทัศนท่ีเห็นถึงความสําคัญของทุก
ชีวิตก็จะเขามาแทนท่ีการแสดงออกซึ่งความกรุณาก็จะเกิดข้ึนตามมา ปญหาความรุนแรง
ท้งั หลายกจ็ ะไมมีอยใู นสังคมอีกตอ ไปจะมแี ตความสงบเย็น มีแตก ารชวยเหลือซึ่งกันและกัน
ท่จี ะเกดิ ขึ้นมาแทนท่ี
อีกสิ่งหน่ึงท่ีทานดาไลลามะเนนก็คือ การศึกษาภายในเราตองใหความสําคัญตอ
การสรางภูมิคุมกันทางใจ ใหรูจักความพอเพียง พอประมาณ และจะตองสอนใหเด็ก
สามารถที่จะเช่ือมโยงความเกี่ยวเน่ืองของคนอื่นๆ ในสังคมและโลกนี้ จึงจะทําใหความ
รุนแรงตางๆ ยุติลงได เด็กรุนใหมจําเปนท่ีจะตองมีหลักจริยธรรม ไมวาจะเปนการไมโกหก
ไมข โมย และไมเบียดเบียนผูอื่น สังคมโลกจึงจะเปนสังคมที่ลดความรุนแรงลงได การที่เด็ก
ไมกระทําสิ่งที่เปนแงลบตางๆ นั้น เขาจะตองมองคุณและโทษของมันอยางจริงจังเสียกอน
หากเขาไมเคยพจิ ารณาเห็นโทษของมันอยางจริงจัง ก็ยอมไมเห็นหนทางท่ีจะกําจัดมัน การ
พจิ ารณาเห็นโทษของการกระทําในดานลบท้ังตอตนเองและผูอ่ืนท่ีเกี่ยวของดวยปญญาอัน
บริสุทธ์ิ จะทําใหรูจักหาทางหลีกเล่ียงที่จะไมกระทําส่ิงเหลาน้ัน เพราะหากกระทําลงไปใน
ทสี่ ดุ มนั กจ็ ะยอนกลบั มาหาผกู ระทําน่นั เอง
หากจิตใจไดรับการพัฒนาอยางถกู ตอง รจู ักหม่ันสังเกตอารมณตางๆ ท่ีเกิดข้ึนใน
จิตใจ และพิจารณาเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงท่ีเกิดขึ้นภายในจิตใจอยางลึกซ่ึง และคอยเปน
คอยไปก็ทําใหเด็กมีทัศนคติและพฤติกรรมเปล่ียนไปในทางที่ถูกตองดีงามมากย่ิงข้ึน ความ
รุนแรงตา งๆ กจ็ ะคอ ยๆ ลดหายไปจากสงั คมไดในทสี่ ุด๕๕
๕๕ เรื่องเดียวกัน, หนา ๒๒๖.
๓๑๒ ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมในโลกปจจบุ นั
พระมหามิตร ฐติ ปโฺ ญ,ผศ.ดร.
บทท่ี ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ
อกี สง่ิ หน่ึงทท่ี า นดาไลลามะเนน ในการแกปญหาความรุนแรงก็คือ อหิงสา การไม
เบียดเบียน ซึ่งสิ่งสําคัญในการปฏิบัติตามหลักอหิงสาคือ การคิดที่จะไมเบียดเบียนผูอื่นไม
วาจะเปนทางกาย ทางวาจา หรือใจก็ตาม ตองมีเจตนาท่ีมุงในความถูกตอง ปราศจาก
ความเห็นแกตวั อยารูร ูส กึ ยินดีกบั การทาํ รา ยผอู น่ื หรือทาํ ใหผูอ นื่ เดือดรอน
ในบางกรณีหากไมมีทางเลือกอยางอ่ืน และมีความจําเปนที่ตองใชความรุนแรงก็
สามารถยอมได แตตองไมมีเจตนาที่จะไปทํารายเขา เชน เวลาพอแมตีลูก แมลูกจะเจ็บแต
ทานยังไมไดต้ังใจจะทํารายลูก และแมจะปรากฏออกมาวารุนแรง แตเบื้องลึกในจิตใจของ
แมแลวไมไดเปนเชนน้ัน หากแตเปนวิธีการชวยเหลือลูก เจตนาน้ันดีและยุติธรรม แตถามี
ทางเลอื กอน่ื ท่ไี มตอ งใชค วามรนุ แรงเลยกจ็ ะเปน การดกี วา
การแกปญหาความรุนแรงใหหมดส้ินไปจึงตองเร่ิมตนแกไขท่ีจิตใจกอน อันเปน
รากฐานสําคัญของปญหาทั้งหลายท้ังปวง หากจิตใจของมนุษยดีงามแลวยอมสรางส่ิงท่ีดี
งามใหเกิดข้ึนไดถึงแมวาเราไมสามารถทําใหมนุษยทุกคนเปนคนดีได แตหากเราชวยเหลือ
ซ่ึงกันและกันใหมีคนดีมากกวาคนชั่วแลวแตละคนก็คอยๆ ขยายความดีงามน้ันออกไป
เร่อื ยๆ กท็ าํ ใหส ังคมน้ีนาอยมู ากข้นึ
ปญหาความรุนแรงเปนปญหาใหญที่เกิดข้ึนอยางตอเน่ืองในสังคมปจจุบัน ทั้งใน
ระดบั ครอบครัวไปจนจนกระทง่ั ถึงระดับประเทศและระดับโลก การท่ีจะแกปญหาน้ีใหหมด
สิ้นไปไดจะตองปลูกฝงความเมตตากรุราอยางที่ทานดาไลลามะแนะนํา หากความเมตตา
กรุณาเกิดขึ้นเกิดข้ึนในจิตใจแลว ความรุนแรงทางกาย วาจา และใจ ยอมไมเกิดขึ้นอยาง
แนนอนโลกน้ีจะมีแตสันติสุขท่ียั่งยืนตลอดไป “จิตท่ีสงบสุขภายในน้ัน ยอมสรางแตสิ่งท่ีดี
งาม ตอ ตนเองและผูอ่ืน ไมค ิดท่ีจะเบียดเบียนและไมกระทําความรนุ แรง”
๖.๖.๑๙ ธรรมชาติของจิต
จิตของมนุษยเรานั้นมีความสลับซับซอน ยากแกการ เขาใจ ในโลกนี้ไมมีอะไรท่ี
จะอศั จรรยเทา กบั จติ ของมนษุ ยเรา มีความรวดเร็วย่ิงกวาส่ิงใด มีพลังท่ียิ่งใหญและท่ีสําคัญ
เปน ตัวกาํ หนดความสุขความทุกขของมนุษย
ทา นดาไลลามะกลา ววา ธรรมชาตขิ องจติ น้นั เปนแสงอันบริสุทธิ์ และวิชชาท่ีชวย
ใหสถานะเชนน้เี ปนไป จิตของมนุษยเ รานนั้ มอี าํ นาจหนาทส่ี ามารถแสดงออกไดในทางตางๆ
ไมวา จะเปน อะไรก็ตาม อาศยั พลังเพง ไปยังอารมณนั้นๆ ตามสภาพที่แทเปนแสงอันบริสุทธิ์
ท่ีประกอบไปดวยตัวรู ประกอบกับธรรมชาติท่ีเกิดจากประสบการณอันสะสมมา แตแลวก็
เปลย่ี นแปลงและดับสลายไปทกุ ขณะจิต๕๖
๕๖ อางแลว .
ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมในโลกปจ จบุ นั ๓๑๓
พระมหามิตร ฐติ ปฺโญ,ผศ.ดร.
บทที่ ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ
จิตของมนษุ ยเ ราเกดิ ๆ ดับๆ อยอู ยางนค้ี รง้ั แลว ครั้งเลา เกิดขึ้นอยางตอเนื่องและ
รวดเร็วแตละขณะจิตหน่ึง ยอมข้ึนอยูกับการกําหนดรูของอีกขณะจิตหนึ่ง ซ่ึงเปนตัวเหตุ
แลวตอเนื่องไปเชนนี้เร่ือยๆ จึงไมมีทางอ่ืนใดนอกจากที่รูปวา จิตใจเปนวัฏฏะโยงกัน
เรือ่ ยไปอยางไมม จี ุดเรมิ่ ตน
ยกตวั อยา งความคิดบางอยาง เชน เราอยากจะไดรถยนตสักคนหนึ่ง ถาเราไลไป
วาทําไมเราจึงอยากไดร ถยนต ก็อาจจะมีสาเหตุมากมายหลายประการที่สงผลใหเราตองคิด
อยากไดร ถยนต ในแงน้จี ึงยากทีห่ าจดุ เริ่มตน และจดุ สน้ิ สดุ ของดวงจติ ของเรา
อยา งไรก็ตาม ทานดาไลลามะไดเนนวา สิ่งท่ีเรียกวาจิตอันบริสุทธ์ิดวยความรูนั้น
ไมจําเปนตองไปพัวพันกับตนตอหรือปลายสุด แมจิตจะสลายไปในชวงขณะหน่ึงไปสูอีก
ขณะหนงึ่ แตก ารสืบเนื่องกเ็ ปน ไปอยา งไมจ ําเปน ตองมจี ดุ เรมิ่ แรก
ซ่ึงธรรมชาติของจิตอยางหนึ่งท่ีแปลก หากเราสังเกตเห็นก็คือวา จิตของเรานั้น
สามารถทจ่ี ะมองดูตัวมันเองได เชน เวลาท่ีเราเกิดความรูสึกตางๆ ไมวาจะเปนแงบวกหรือ
แงลบกต็ าม ก็สามารถทจ่ี ะแยกจติ ออกมายนื มองตวั มันเองได การที่มันสามารถมองดูตัวมัน
เองไดจะทําใหมันไมรูสึกสุขทุกขไปกับสิ่งท่ีกําลังเกิดขึ้น ยกตัวอยางเชน ในเวลาท่ีทุกขใจ
หากเราพยายามน่ังมองดูจิตที่กําลังทุกขอยูนั้น เราจะไมเปนทุกข เราจะรูสึกวาความทุกข
กับตัวเราเปนคนละอยางกัน ความทุกขก็คือความทุกข ตัวเราก็คือตัวเรา ในแงนี้จึง
เหมือนกับวามีคนสองคนอยูในคนคนเดียวกัน สามารถที่จะมองและวิเคราะหตนเองได
เหมือนกับวา เรากําลงั ดูละคร ดภู าพยนตรอยูนั่นเอง การท่ีจิตของเรามีความวิปริตผิดพลาด
นั้น ทานดาไลลามะกลาววา เปนเพราะอํานาจของอวิชชาทําใหมันมืดบอดจนไมเขาใจ
ปรากฏการณตางๆ ท่ีเกิดขึ้น และไมรูวิธีท่ีจะแกปญหา เราจึงหลงทําสิ่งผิดๆ มากมายใน
ชีวิตเปน เหตุใหเกิดความทกุ ขความเดือดรอ นแกต นเองและผูอนื่ ทเ่ี ก่ียวของทัง้ หมด
การที่จะเอาชนะอวิชชาไดน้ัน ทานดาไลลามะกลาววา ตองใหตัวรูภายในจิต
เพมิ่ ขน้ึ และเขา ใจสภาวะท่ีแท ใหรูเทาทันธรรมชาติของปรากฏการณตางๆ จึงจําตองรูวัตถุ
ตางๆ ทีม่ าปรากฏใหรบั รู เรอื่ งสาํ คญั ท่ีตอ งรับรูนั้นมอี ยู ๒ ประการดว ยกันคือ ชนิดแรกเปน
การรับรูตามสมมตทิ ี่บญั ญตั ขิ ้ึน สว นอีกชนดิ หนึง่ นั้นเปนการรบั รสู ภาพตามความเปนจริง
ยกตัวอยางเชน โตะ เกาอี้ทั้งหลายเปนส่ิงที่สังคมสมมติบัญญัติข้ึนมา เรียกช่ือ
อยางน้ันอยางนี้ นี่เรียกวาเปนส่ิงสมมติ หรือแมกระม่ังตัวเราเองก็ตามท่ีมีชื่อเรียกอยางน้ัน
อยางนี้ ก็เพราะวาเราใชส มมตเิ รียกกันหากไมส มมตแิ ลว ก็จะไมเขาใจกันวาใครช่ืออะไร การ
สมมตใิ นแงน ้ีกเ็ ปนความสําคญั เชน เดยี วกัน
๓๑๔ ขบวนการพระพทุ ธศาสนาใหมใ นโลกปจจุบนั
พระมหามิตร ฐติ ปฺโญ,ผศ.ดร.
บทท่ี ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ
สว นการรับรูตามสภาวะที่แทจ ริงน้นั กต็ อ งมองเลยสมมตลิ งไปอกี เชน โตะ เกาอี้
ตางๆ มีคุณสมบัติที่เหมือนกันคือ มีความไมคงที่เที่ยงแทแนนอน มีการเปล่ียนแปลงอยู
ตลอดเวลา ไมมีตัวตนที่แทจริง ซ่ึงหากวิเคราะหลงไปจะเห็นไดวา ไมวาจะเปนโตะ เกาอี้
ตางๆ หรือแมกระท่ังตัวเรา สุดทายแลวก็จะมีแตความวางเปลาซ่ึงน่ีเปนลักษณะสามัญท่ีมี
อยูในสรรพสิ่งในโลกน้ี การที่จิตจะสามารถรับรูถึงส่ิงตางๆ ตามความเปนจริงไดอยาง
ละเอียดออนและลึกซึ้งนั้น ตองอาศัยการฝกฝนพัฒนาใหจิตมีความสงบจนกระทั่งเกิด
ปญ ญาขน้ึ มา แตก ารฝก จิตนีท้ า นดาไลลามะกลาววา ตองใชเวลาพอสมควรเราไมสามารถท่ี
จะฝกมนั ไดอยางทันทีทนั ใด มันจะตองคอ ยๆ เปลยี่ นแปลงไปทีละเลก็ ทลี ะนอย
เหตุนี้เองในการฝกจิตจึงตองมีความอดทนและความตั้งใจม่ัน อยาทอแทกับ
ปญหาที่พบเจอ เพราะในการฝกจิตน้ันจะมีปญหาตางๆ มากมายท่ีมาทําใหเราเกิด
ความรูสึกทอใจข้ึนมา ไมวาจะเปนอารมณท่ีปรารถนา ความคิดฟุงซานตางๆ เปนตน ส่ิง
เหลาน้จี ะทําใหเราหนั เหออกนอกแนวทางของการปฏบิ ัตธิ รรม ในการจะพัฒนาจิตใหสําเร็จ
เราจึงตองมุงมนั่ ตัง้ ใจ และมีความพยายามอยางเต็มทท่ี ี่จะเปลย่ี นมนั ไปสูทางที่ดีงาม
จิตของคนตามปกติน้ันมักไหลไปสูท่ีตํ่าเหมือนกับนํ้า หากไมมีการฝกฝนพัฒนา
มันมักจะคิดไปในทางท่ีกอใหเกิดความทุกขความเดือดรอนและมักจะถูกความโกรธ ความ
เกลียด ความโลภ ความอจิ ฉารษิ ยาตา งๆ ครอบงําไดงาย เมื่อสิ่งเหลาน้ีครอบงําแลวก็จะทํา
ใหจิตตกอยูในอํานาจของความชั่วท้ังหลาย ซึ่งในท่ีสุดก็จะสงผลออกมาเปนพฤติกรรมใน
ดานลบ และผลลัพธสดุ ทา ยกค็ ือความทุกข ความเดอื ดรอ นน่นั เอง
ในทางตรงกนั ขา มหากเราสามารถที่จะพัฒนาดวงใจดว ยดวงจิตเดียวกันนี้ แทนที่
จะเปนท่ีมาแหลงความทุกขทั้งหลาย มันก็จะกลายเปนแหลงท่ีมาของความสุข เปนตนธาร
แหง ความกรุณา ความรกั ความเมตตา คุณธรรม และญาณหยั่งรูทั้งหลาย ฉะนั้น จิตที่ฝกดี
แลวยอมนําความสขุ มาให๕๗
การฝกจิตใหสงบจนกระทั่งเกิดปญญาญาณ เกิดความเขาใจแจมแจงถึงความไม
เที่ยงแทธรรมชาติอนั เปน ทกุ ขข องการเกดิ และความไมเปนไปของความไมมีตัวตนที่แทจริง
ส่ิงเหลาน้ีเปนประโยชนอยางมากตอการปลอยวางท้ังหลาย หากเราไมเขาใจ หรือมีความ
หลงอยูก็ไมส ามารถทจี่ ะปลอยวางได การขัดเกลาจติ ใจใหใสสวางเหมอื นกับสภาพจิตดั้งเดิม
น้ันเปนส่ิงสําคัญที่จะทําใหเราเห็นความเปนจริงของส่ิงท้ังหลาย แสงสวางอันเกิดจากดวง
จิตที่ไดทําลายอวิชชาไปแลว จะทําใหมองเห็นสิ่งตางๆ อยางชัดเจน การที่เรามองอะไรไม
๕๗ เรือ่ งเดียวกัน, หนา ๒๓๖.
ขบวนการพระพทุ ธศาสนาใหมในโลกปจ จบุ นั ๓๑๕
พระมหามติ ร ฐติ ปโฺ ญ,ผศ.ดร.
บทท่ี ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ
ชัดนั้นก็เพราะวา เราไมมีแสงสวางแหงดวงจิต ทุกส่ิงทุกอยางจึงเต็มไปดวยความไมรู ไม
เขา ใจ และความไมรูนี่เองเปนสาเหตุนําความทกุ ขท ั้งหลายมาใหต วั เรา
ในแงน้ีการขัดเกลาจิตของเราจึงเปนการชวยใหเราหลุดพนจากความทุกข ชวย
ใหเราทําลายอุปทานการยึดม่ันถือม่ันท้ังหลายท้ังปวง อุปทานเปนรากเหงาแหงความทุกข
ทัง้ หลายที่เรามอี ยู มันเปนแกน ของอารมณอกศุ ลทั้งหลาย เราจะสามารถขจัดอุปทานนี้ไดก็
ดวยปญญาเทา นัน้ ซง่ึ ปญญาจะทําใหเ ราเห็นสิ่งตางๆ ตามความเปนจรงิ อยางตรงไปตรงมา
ในเบื้องแรกทานดาไลลามะแนะนําวา เราตองรูเทาทันวิถีผิดๆ ที่เรารับรูตนเอง
และปรากฏการณทั้งหลายจากนั้นคอยๆ บมเพาะการรับรูตามความเปนจริง ซ่ึงในชวงแรก
น้ันมมุ มองใหมจะอยใู นระดบั สติปญ ญาเปน เหมอื นกบั ความเขาใจท้ังหลายที่เกิดขึ้น เวลาได
เรียนหรือไดฟงคําสอนใดๆ การรับรูนี้จะละเอียดลึกซึ้งข้ึนไดก็ตองอาศัยการปฏิบัติสมาธิ
ภาวนา
การปฏิบตั ิสมาธภิ าวนาจะทาํ ใหเกิดปญญาญาณท่ีจะมองเห็นสิ่งตางๆ ตามความ
เปนจรงิ ซึ่งสิ่งน้ีจะสงผลอยางแทจริงตอทัศนะของเราท่ีมีตอตนเองและสรรพส่ิง เพราะเรา
จะหยั่งเห็นความไมมีสภาวะที่แนนอนเราจึงสามารถที่จะถอนรากส่ิงที่เปนมูลเหตุของการ
ยึดตดิ ในตวั ตนได ซงึ่ มลู เหตนุ ั้นเปน แกน ของความทกุ ขท้งั หลายทั้งปวง
ทานดาไลลามะกลาวไววา การเจริญปญญา เปนกระบวนการนอมนําจิตให
สอดคลองกบั วิถที ีส่ ่งิ ท้งั หลายเปน ซ่ึงนั่นก็หมายถึงวา เปนการฝกจิตของเราใหเห็นสิ่งตางๆ
ตามที่มันเปน ไมมีการปรุงแตง เพราะโดยปกติน้ันคนเรามักจะปรุงแตง ทําใหมีความหลง
ผดิ อยรู ํา่ ไป
กระบวนการแหงการภาวนาจะชวยทําใหเราคอยๆ ขจัดความหลงท่ีเรามีนับแต
อดีตเปน ตนมา ซึ่งสง่ิ นีไ้ มใชสง่ิ ท่ที ําไดงายอยางแนนอน ตอ งอาศัยการใครครวญอยา งมาก
การตระหนักวา สรรพสิ่งไมไดดํารงอยูตามตัว ถือเปนญาณทัศนะท่ีลึกซ้ึงตอง
อาศัยการศึกษาและการภาวนานานนับปจึงจะมีความเขาใจถูกตองได เหตุนี้เองทานดา
ไลลามะจึงเนนย้ําใหเรามีความอดทนอดกลั้นในการฝกหัดภาวนา หากปราศจากความ
อดทนแลว ก็ยากที่จะฝกจิตใจใหสําเร็จได การฝกจิตใหเกิดสมาธิจะทําใหเราเขาถึงปญญา
หากไมม กี ารฝก ฝนแลวแตล ะขณะจิตของเรายอมขาดพลงั จิตที่สัดสายน้ันไมมีพลัง จิตท่ีเปน
สมาธิตางหากจึงมีพลังมหาศาล เปรียบเสมือนกับการเอาน้ํามารวมกันใสเขื่อนไวเปน
พลงั งานไฟฟา เพ่อื จะไดเกิดอทิ ธพิ ลอยา งมหาศาล
จิตจะเกดิ พลงั ไดก ็ดวยการฝกสมาธิ และเมื่อจิตสงบน่ิงกจ็ ะเกิดปญญามองเห็นสิ่ง
ตา งๆ ตามความเปน จรงิ เหมือนกบั น้าํ ทีข่ นุ ถาปลอยไวใหนิง่ กจ็ ะกลายเปน นํา้ ท่ีใสสะอาด
๓๑๖ ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมในโลกปจจบุ นั
พระมหามติ ร ฐติ ปโฺ ญ,ผศ.ดร.
บทท่ี ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ
ทา นดาไลลามะไดกลาวถึงผลจากการฝกจิตวา จะทําใหเราไมเกิดความยึดมั่นถือ
มั่นและส่ิงนีค้ อื ทม่ี าของความสขุ อันยง่ิ ใหญ ดงั ท่ที า นไดพ ดู เสมอวา แมค วามรูสึกท่ีกอใหเกิด
ความทุกขขึ้นนั้นถาเราไมไปติดยึดมันเสียแลว มันก็จะกวนจิตใหขุนไมได เพราะตาม
ธรรมชาติที่แทของจิตนั้นมันมีความสวางและความรูอยูในตัวอยูแลว การที่จิตเกิดความ
โกรธเกลียดน้ันมันมาทําลายธรรมชาติเดิมของจิตใหเสีย เพราะสภาวะท่ีแทของจิตนั้นโชติ
ชว งและเปนตัวรู
ทา นดาไลลามะแนะนาํ วา ขอใหส งั เกตวา เวลาเผชิญหนากับปญหาอยางใดอยาง
หน่ึง คนท่มี พี ลงั ภายใน ยอมสามารถทจี่ ะแกปญหาไดดกี วา ประเภทอื่นๆ ซ่ึงจิตท่ีมีพลังนี้จะ
ชวยใหเราสามารถจบั ประเดน็ ภายนอกได ทง้ั ยังชวยใหเรารูจักเผชญิ กับปญหานนั้ ๆ ได
การฝกจิตใหเปนหนึ่งเดียว จะทําใหจิตมีพลังและแกปญหาตางๆ ไดงายขึ้น
นอกจากน้ัน เปาหมายหลักของการฝกจิตอีกอยางก็คือ จะชวยใหเราควบคุมตนเองได ทํา
ใหเราสามารถใชปญญาพิจารณาตนเองอยางละเอียดถี่ถวนในทุกๆ ดาน ซ่ึงจะทําใหเขาถึง
ความโกรธของตนเองความยดึ ตดิ ความอิจฉา เคียดแคน หย่ิงยโส เปนตน วาจะทําอยางไร
จงึ จะสามารถเอาชนะส่งิ เหลาน้ีท่มี ีอยูในตัวได
ในการปฏิบัติฝกหัดขัดเกลาจิตใจน้ัน ขั้นพื้นฐานคือตองรูจักควบคุมตนเอง
พยายามใหมากที่สุดเทาที่จะสามารถกระทําได เพ่ือปองกันการทํารายผูอ่ืน จากนั้นจึงฝก
ขนั้ ตอ ไปคอื การมุงชวยเหลือเกื้อกูลผูอ่ืน
อยางไรก็ตาม ทานดาไลลามะไดเตือนวา ในการฝกแรกๆ น้ันอยาไปหวังผลให
มากนักเราตองคอยเปนคอยไป การฝกจิตไมสามารถท่ีจะกดปุมส่ังไดงายๆ เหมือนกับ
คอมพิวเตอร การพัฒนาภายในไมไดงายตองใชเวลานาน ตองมีความอดทน และมีความ
พยายามอยางตอเน่ืองจึงจะทําใหการฝกหัดขัดเกลาจิตบรรลุเปาหมายตามที่ต้ังเอาไว และ
ท่ีสําคัญอีกอยางคือ ไมสามารถท่ีจะฝกแทนกันได ทุกคนจะตองฝกหัดขัดเกลาจิตดวย
ตนเองเทานนั้ ตอ เม่ือฝก ไดแ ลวผลคือความสขุ อนั ย่งิ ใหญก็จะเกดิ ข้นึ กับตัวของเราเอง ทําให
เราไดพ บแตความสขุ ตลอดไป
๖.๖.๒๐ การเตรยี มตวั ตายอยา งสงบ
ความตายเปนสิ่งที่ไมมีใครสามารถจะหลีกเลี่ยงได ไมชาก็เร็ว เราทุกคนจะตอง
ประสบกับความตายอยางแนนอน การเตรียมตัวตายกอนที่ความตายจะมาถึง จึงเปนสิ่ง
สาํ คัญท่จี ะทาํ ใหเราไมห วาดหวั่นพร่ันพรงึ ตอ ความตาย
ในทางพระพุทธศาสนานั้น เช่ือวาชีวิตไมไดมีเพียงชาติน้ีชาติเดียว แตมีวัฏจักร
หมนุ เวยี นเปลีย่ นไปเร่ือยๆ เราตายจากชาตนิ ้แี ลวกจ็ ะไปเกดิ ในภพใหมชาติใหมตอไปเรื่อยๆ
ขบวนการพระพทุ ธศาสนาใหมในโลกปจ จุบัน ๓๑๗
พระมหามิตร ฐติ ปฺโญ,ผศ.ดร.
บทที่ ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ
ตราบใดท่ียังไมสามารถทําลายกิเลสใหหมดส้ินไป ก็ยังตองเวียนวายตายเกิดในสังสารวัฏ
อยางไมร จู กั จบส้นิ ๕๘
การท่เี ราตอ งเวียนวา ยตายเกิดอยใู นสังสารวัฏนี้ ทางพระพุทธศาสนาเชื่อวา ดวง
จิตขณะใกลตายนั้นมีความสําคัญยิ่งจะทําใหเราไปเกิดในภพภูมิที่ดีหรือไมไมดี เหตุน้ีเอง
การเตรียมตัวตายจึงเปนสิ่งท่ีมีประโยชนยิ่งที่จะทําใหเราตายอยางมีสติสัมปชัญญะ ซ่ึงจะ
ทาํ ใหไปเกดิ ในภพภมู ิท่ีดี ชวี ิตทีเ่ ราดํารงอยใู นปจ จุบันนเ้ี ปน เพียงสวนหน่ึงของวงจรแหงการ
เกิดและการตาย เมอื่ มเี กิดก็มีตายทา นดาไลลามะกลา วไวว า
คณุ ภาพของชวี ิตน้ขี นึ้ อยกู ับการดํารงชีวิตอยูในปจจุบัน การนึกถึงความตายและ
ความไมเท่ียงแทของชีวิต จะทําใหเราไมยึดม่ันถือมั่นและเห็นถึงธรรมชาติของทุกสรรพสิ่ง
อยางลึกซึง้ วา มันตอ งแตกสลายไปในที่สดุ
หากเราไมเตรียมตัวตาย มีชีวิตอยูเพียงวันๆ สนใจแตปญหาประจําวันของตน
คร้ันเม่ือวันท่ีจะตองตายมาถึงก็จะไมสามารถคิดถึงอะไรได นอกจากคิดถึงความทุกขและ
ความกลัว ซ่ึงความรูสึกนี้มีแตอาการเศราโศกเสียใจ แตถาคิดถึงความตายและความไม
เที่ยงแทอยูเนืองๆ เรายอมรูวา ความตายจะตองมาถึงเราแนและยอมเตรียมพรอมสําหรับ
การรับสภาพดังกลา วอยา งมีหวั ใจอนั สงบ
ทานดาไลลามะกลาวไววา ทานคิดทบทวนกระบวนการแตกสลายของธาตุอยู
ตลอดเวลา เพอ่ื เตรียมตัวเมอ่ื ความตายมาถงึ
สภาวะจิตตอนตายน้ันมีความสําคัญอยางมาก ในการเตรียมจิตสํานึกใหไปเกิด
ใหมในชาติหนา ฉะนั้น จึงจําเปนท่ีควรฝกจิตใจไวใหเหมาะสมตอนความตายคืบคลานเขา
มาใกล ไมวา ชาตินีเ้ ราจะไดทําความดีความช่ัวไวอยางไรก็ตาม สิ่งที่เกิดข้ึนขณะดวงจิตตอน
จะดับขันธน้ันมอี าํ นาจย่ิงนัก ดวยเหตุนี้จงึ สาํ คญั มากทจ่ี ะตองเรยี นรถู งึ กระบวนการแหงการ
ตาย และพรอมท่ีจะเผชิญกับความตาย ในเวลาที่เราปวยหนัก การเตรียมจิตไมใหยึดติดใน
ส่ิงตางๆ มีความสําคัญอยางมากแมวามีหลายสิ่งหลายอยางท่ีเราอยากจะทําแตยังทําไม
สําเร็จ มีครอบครัวที่เราตองดูแล อยางไรก็ตาม เราตองทําใจและยอมรับวาการงานและ
หนาที่เหลานี้ไมใชของเราอีกตอไป ในขณะนั้นส่ิงสําคัญก็คือ การดูแลรักษาจิตของตนให
ผอนคลายใหม ากทส่ี ุด ใหจติ ใจไมผูกพัน ไมเศราเสียใจ ไมโกรธอาฆาต ไมหมกมุนจมอยูกับ
ความทกุ ขทางใจ ใจท่ีผอ งใสเบกิ บาน สงบสุข เตม็ เปยมไปดวยความศรัทธาในพระรัตนตรัย
ในสิง่ ทีด่ งี ามทัง้ หลายจะเปนที่พ่งึ ของเราอยางแทจริง คนอื่นสิ่งอ่ืนไมสามารถเปนท่ีพึ่งใหเรา
ได ไมวา หมอจะเกงอยา งไรก็ไมสามารถทจี่ ะตานทานความตายเอาไวได
๕๘ อางแลว.
๓๑๘ ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมใ นโลกปจ จบุ ัน
พระมหามติ ร ฐติ ปโฺ ญ,ผศ.ดร.
บทท่ี ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ
ทานดาไลลามะกลาววา การภาวนามรณานุสสติ จะทําใหเราคุนเคยกับสภาพ
ตา งๆ ที่นาํ เราเขา สูมรณะ และเหตุผลสําคัญในการปฏิบัติธรรมเพ่ือเตรียมตัวตายก็เพราะมี
หนทาง ๒ ประการ ที่จะเล่ียงความทุกขหรือความทรมาน ประการแรก คือ ลืมหรือ
พยายามมองขา มแงลบตา งๆ จนไมค ิดถงึ มันเสียเลยก็จะทําใหไมเกิดทุกข วิธีการเชนน้ีไมใช
วิถีทางท่ีมีประสิทธิภาพ แตชวยไดเพียงช่ัวคร้ังช่ัวคราวเทาน้ันและไมไดจีรังย่ังยืนอะไร
เพราะปญหาจะยงั คงอยตู อ ไปโดยไมไ ดรบั การเยยี วยาเลย๕๙
อีกวิธีหนึ่งที่สามารถนํามาใชเพ่ือเอาชนะความทุกขคือ การเขาหาหัวใจของ
ปญหาเลย แลว วเิ คราะหอยา งถองแทใ หเหน็ ตนสายปลายเหตุของความทุกข รูวาความทุกข
เกิดมาจากสาเหตุอะไร แลวนํามาวิเคราะหและศึกษาหาแนวทางแกไข แลวปฏิบัติตาม
แนวทางน้ันก็จะทําใหพนจากความทุกขได การตายนับวาเปนความทุกขอยางยิ่งใหญของ
มนุษย ทุกคนจึงกลัวตาย กลัวความเจ็บปวดกอนจะตาย ทําใหความตายกลายเปนส่ิงที่นา
หวาดกลวั เพิ่มขึ้นไปอกี ถงึ แมว าเราจะรูวาความตายอาจเกิดข้ึนกับเราไดทุกวินาทีในขณะท่ี
เรานอนหลบั แตละคนื เราก็ยังหวงั วาเราจะต่ืนขนึ้ มามีชวี ิตในอีกวันใหม หลายคนรูวาสักวัน
หน่ึงจะตองตาย แตก็ไมอยากท่ีจะนึกถึงความตาย และยังคงใชชีวิตในแตละวันอยาง
ประมาท ปลอยใหจิตหวงแหน ผูกพัน สรางศัตรูอยูร่ําไป ซ่ึงเปนเหมือนการเติมเชื้อแหง
กิเลสใหต นเองตอ งมีภพชาติท่ียาวนานขึ้นไปอีก
ในทางพระพุทธศาสนานั้นเช่ือวา หากเราตายไปในขณะท่ียังเต็มไปดวยกิเลส
ตัณหา เราจะตองไปเกิดใหมแ ละเผชิญกับความทุกขอีกมากมายในสังสารวัฏ และไมมีส่ิงใด
ทจี่ ะรบั ประกันไดวา เราจะไดเกิดใหมเปนมนษุ ย โอกาสท่จี ะไดเกดิ ใหมเปนมนุษยนั้นมีเพียง
นอยนิดเทาน้ันเอง โดยเฉพาะอยางยิ่งไดเกิดเปนมนุษยท่ีมีอวัยวะครบถวน ไดเกิดในถิ่นท่ี
สงบสุข มีนักปราชญคอยช้ีแนะแนวทางใหเราไดขัดเกลากิเลสท่ีมีอยูในจิตใจใหเบาบางลง
เมือ่ สัญญาณแหงความตายมาถึง สิ่งสําคัญที่สุดท่ีเราจะตองประคับประคองก็คือ จิตใจของ
เรา ตองไมปลอยใหต่ืนตระหนกตกใจ ไมหวาดกลัว ไมมีความโกรธ ไมเศราเสียใจจากการ
ยึดติดผูกพัน ไมรูสึกนอยอกนอยใจหากไมไดรับการดูแลเอาใจใสที่ดีพอ ไมรูสึกโกรธหรือ
แคนเคืองผูใด ใหปลอยวางทุกส่ิงทุกอยาง ใหจิตเกิดความสงบเย็นและผอนคลายใหมาก
ที่สดุ เทาที่จะมากได
๕๙ กฤษดาวรรณ เมธาวิกุล, บารโด โทโดล: คัมภีรมรณศาสตรทิเบต, มูลนิธิพันดารา,
[ออนไลน]. แหลงท่ีมา: http://wisdom-update.blogspot.com/2013/08/2.html#!/2013/08/2.html.
[วนั ที่ ๒๐ มนี าคม ๒๕๖๐].
ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมใ นโลกปจ จบุ นั ๓๑๙
พระมหามติ ร ฐติ ปโฺ ญ,ผศ.ดร.
บทท่ี ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ
ซึ่งตามปกติแลวในเวลาที่กายคอยๆ หมดพละกําลังลงน้ัน จิตที่ไมไดรับการ
ฝก ฝนจะหดหูไ ดงาย มักดิ่งลงไปในความมืดมน ประดุจดั่งลงไปสูกันบึ้งของทะเลยามคํ่าคืน
เหตุนเี้ องเราจึงตองฝก จิตใหร ูตน่ื เบิกบานอยตู ลอดเวลา
การฝกจิตใหคุนเคยกับความตายนั้น เราจะตองฝกตั้งแตรางกายยังแข็งแรงอยู
เพราะถาไปรอฝกตอนที่ปวยหนัก ก็อาจจะลําบากที่จะทําได ธรรมดาจิตที่ไมเคยผานการ
ฝกฝนใหคิดในส่ิงท่ีดีงาม ใหรูจักอภัยหรือปลอยวาง มักจะเกิดความโกรธเกลียดความ
เจ็บปวย ซึ่งนับวาไมเปนผลดีตอสุขภาพกายและใจเทาใดนัก และแนนอนเมื่อลมหายใจ
สุดทา ยยา งกรายเขามาถงึ เรายอมจะจากไปอยา งทรุ นทรุ าย
วาระจิตดวงสุดทายน้ีมีผลตอการเดินทางไปเกิดใหม ภพใหม หากเราตายไป
อยางทุรนทุรายยอมทําใหไมไดไปเกิดในภพภูมิท่ีดี เหตุนี้เองชาวพุทธจํานวนมากจึง
พยายามที่จะเตรียมตัวเตรียมตัวตายเพื่อใหชวงเวลาสุดทายของชีวิตดับลงไปอยางสงบ
พรอ มกับจติ ที่ม่นั คงในพระรัตนตรัย
ชาวทเิ บตเชอื่ วา ดวงจิตเม่ืออกจากรางกายไปแลว จะประสบกับสภาวะที่เรียกวา
บารโด ซึ่งเปน รอยตอ ระหวา งการตายกับการเกดิ ใหม สภาวะนี้อาจกนิ เวลาถึง ๔๙ วัน หรือ
มากกวานั้นก็เปนได ในความเปนจริงแลว บารโดเกิดข้ึนแลวต้ังแตตอนท่ียังปวยหนักไป
จนกระทั่งถึงการจากไปอยางสมบูรณภายใน จึงเรียกบารโดน้ีวา บารโด แหงขณะกําลังจะ
ตาย สําหรับผูที่ปวยหนักเปนเวลานานก็เช่ือวา บารโด จะกินเวลานานดวย สวนผูปวยท่ี
เสียชีวิตอยางกะทันหันบารโดก็จะส้ันอาจเพียงแคเสี้ยววินาที ทําใหการแตกสลายของธาตุ
เกดิ ขนึ้ อยางรวดเร็ว บางคนคิดวา การทเ่ี ราจากไปอยางรวดเร็ว หรือตายอยางกะทันหันเปน
สิ่งทีด่ ี ไมตองทุกขทรมาน ซ่ึงก็อาจจะถูกตองในแงหน่ึง แคความตายท่ีเกิดขึ้นอยางรวดเร็ว
จะทําใหจ ิตของเราไมไ ดร บั การเตรียมตวั อาจทาํ ใหจติ ของเราเกิดความหวาดกลัวอยางที่สุด
และทาํ ใหจ ากไปอยา งไรส ติ๖๐
เนื่องจากการตายในพระพทุ ธศาสนาไมใ ชก ารการจบสิ้น เราจะตองเวียนวายตาย
เกดิ อกี บุญกศุ ลท่ีเราสงั่ สมไวใ นชาตินเี้ ปนเพยี งส่ิงเดยี วทหี่ วงั พงึ่ ได
สิง่ อื่นไมวา จะเปน ทรพั ยสมบัติ อํานาจ วาสนา ยศถาบรรดาศักด์ิตางๆ ก็ชวยเรา
ไมได ฉะนนั้ ในขณะท่ีเรายงั ดาํ เนนิ ชีวิตอยูในโลกน้ีจึงควรสรางแตส่ิงท่ีดีงาม ปฏิบัติตอผูอ่ืน
ดวยจิตใจท่ีออนโยน มีเมตตากรุณาตอกัน ซ่ึงจะทําใหเราไดพบแตส่ิงท่ีดีงามทุกภพทุกชาติ
ไป การเตรียมตัวตายกอนที่จะถึงชวงขณะใกลตายน้ันสามารถทําไดหลายวิธี เชน การ
ทาํ บญุ กุศล ดวยการบาํ เพญ็ ทาน ศลี ภาวนาอยูเ ปนประจํา จะทําใหเรารูสึกมีความม่ันใจใน
๖๐ อางแลว .
๓๒๐ ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมใ นโลกปจ จบุ นั
พระมหามติ ร ฐติ ปฺโญ,ผศ.ดร.
บทท่ี ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ
ความดีงาม และจะทําใหจิตใจไมหว่ันไหวเมื่อความตายเดินทางมาถึง การปฏิบัติธรรมใน
ชีวิตประจําวันเปนส่ิงสําคัญอยางมากท่ีจะทําใหเราสามารถละความยึดม่ันถือม่ันได
นอกจากนน้ั แลว เราควรทีจ่ ะฝก กาย วาจาของตนใหสะอาด ปราศจากการเบียดเบียนผูอ่ืน
หรือสัตวอ่ืน และฝกใจไมใหคิดรายตอผูอื่นหมั่นเพียรปฏิบัติตามหลักธรรมคําสอนของ
พระพทุ ธเจาดวยจิตใจทีม่ นั่ คง ซ่ึงจะทําใหจติ ใจของเราใสสะอาดอยูตลอดเวลา ในขณะใกล
ตายกย็ อมไมห วั่นไหว
ทานดาไลลามะพยายามสอนชาวพุทธใหหมั่นเจริญภาวนา โดยเฉพาะการเจริญ
มรณสติคือ การระลึกถึงความเปนอนิจจังของสรรพส่ิง รวมทั้งชีวิตของเราดวยซ่ึงชีวิตของ
เราน้นั มคี ณุ คามหาศาล กวาจะไดเกิดมาเปนมนุษยนั้นแสนยากเย็น และเม่ือมีโอกาสไดเกิด
มาแลวเราควรใชชีวิตที่มีอยูใหเกิดประโยชน เพราะเราเองก็ไมรูวาจะตายวันไหน เรา
อาจจะไมมีชวี ิตอยูยนื ยาวถึงตอนแกก เ็ ปนได ฉะน้ัน จึงควรใชเวลาในการดํารงชีวิตอยูอยาง
มีคุณคามากที่สุด ทําส่ิงท่ีประเสริฐใหคุมคากับชีวิตดวยการปฏิบัติธรรม เพราะการปฏิบัติ
ธรรมเปน กระบวนการทจ่ี ะชวยทําใหเ ราจดั การกบั ความทุกขไดอ ยา งถอนรากถอนโคน และ
เม่ือเราปฏิบัติธรรมอยางถูกวิธีและสม่ําเสมอก็จะสามารถพัฒนาจิตใจใหยกระดับสูงข้ึน
เร่ือยๆ มีศักยภาพที่เต็มเปยม สามารถที่จะแผความเมตตาท่ีเต็มเปยมน้ันไปสูผูอื่น และ
หาทางขวนขวายชว ยเหลอื ผูอ นื่ ใหพ นจากความทุกข๖๑
ความตายไมใชสิ่งทนี่ ากลวั อยา งท่หี ลายคนรูสึก เพียงแตวาเราไมคุนเคยกับความ
ตายเทานั้นเอง การระลึกถึงความตายอยูเสมอจะทําใหเราเกิดความคุนเคยและไมกลัว
ความตาย นอกจากน้ัน การนึกถึงความตายยังชวยใหคุณธรรมหลายอยางเกิดข้ึนในจิตใจ
ของเราโดยอตั โนมัติ เชน จะรูส ึกปลอยวาง ไมป ระมาทในการดาํ เนนิ ชีวิต เปน ตน
ฉะน้ัน เม่ือความตายเปนส่ิงท่ีเราไมสามารถที่จะหลีกเล่ียงได เราทั้งหลายจงมา
เรยี นรคู วามตายกอนทีจ่ ะตาย และเตรียมตัวตายดวยการทําคุณงามความดีพยายามหาทาง
กาํ จัดกเิ ลสใหหมดสน้ิ ไปจากดวงใจในขณะท่ียังมีชีวิตอยู เมื่อความตายคืบคลานมาถึงจะทํา
ใหเราตายอยางสงบ มีสติสัมปชัญญะ และจะทําใหเราไมตองกลับมาเวียนวายตายเกิดใน
สังสารวัฏอันเต็มไปดวยความทกุ ขอีกตอไป
วาระจิตดวงสุดทายนี้มีผลตอการเดินทางไปเกิดใหมภพภูมิใหม ศิลปะแหง
ความสุข การฝกจิตใหเปนสุข การสรางความพอใจจากภายใน คุณคาของความเมตตา
กรุณา การเผชิญหนากับ วามสุข การเปล่ียนมุมมองตอส่ิงตางๆ การสรางความ
เปลี่ยนแปลงทีดีงาม วิธีการจัดการกับความโกรธและ วามเกลียด ศิลปะแหงการสราง
๖๑ มรณสติแบบธิเบต, พุทธวิธีเพ่ือตอนรับความตายม, [ออนไลน]. แหลงท่ีมา:
http://www. sookjai.com/index.php?topic=13362.0;wap2 [๒๐ มนี าคม ๒๕๖๐].
ขบวนการพระพทุ ธศาสนาใหมในโลกปจ จบุ นั ๓๒๑
พระมหามติ ร ฐติ ปโฺ ญ,ผศ.ดร.
บทท่ี ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ
ความสุขในที่ทํางาน การเผชญิ หนากับความเบื้อหนายและความทา ทาย ทํางานอยางไรให
ประสบความสาํ เร็จ การลดความวิตกกังวล การสรางความเชื่อมั่นและนับถือตนเอง การฝก
จิตในชีวิตประจําวัน การสรางโพธิจิต ประโยชนของจิตท่ีสงบละเอียดออน การสราง
สันติภาพที่แทจริง การแกปญหาความรุนแรง ธรรมชาติของจิต การเตรียมตัวตายอยาง
สงบ๖๒
๖.๗ บทวิเคราะหองคความรูจากบทบาทของดาไล ลามะ
ประเทศทิเบตเปนประเทศที่มีลัทธิศาสนาเปนของตนเองเปนเวลานานมาแลว
กอนท่ีพระพุทธศาสนาจะเขาไปสูทิเบต ลัทธิศาสนาที่เกาแกของทิเบตก็คือ ลัทธิโบน
(Bonism)๖๓ ลัทธินี้มีลักษณะความเช่ือคือ บูชาสวรรค วิญญาณ ภูเขา แมน้ํา ตนไม และมี
ความเชอื่ ลักษณะทางธรรมชาติอื่น ๆ ในยุคโบราณลัทธิโบนเอามนุษยและสัตวบูชายัญ ทุก
วันนกี้ ็ยงั คงทําพธิ สี งั เวยแกด วงวญิ ญาณ เคารพนบั ถอื ธรรมชาติ ตามลทั ธทิ ี่ตนเองเคยปฏิบัติ
มา
ลัทธิโบนไดดําเนินสืบตอเรื่อยมาเปนเวลาชานานหลายศตวรรษ จนกระทั่งพระ
ธรรมคําสั่งสอนของพระพุทธเจาไดรับการยอมรับในประเทศทิเบต แตลัทธิโบนก็ยังคง
ประพฤติปฏิบัติมากระทั่งจนทุกวันนี้ และไดรวมมือกับพระพุทธศาสนากลายเปน
พระพุทธศาสนาแบบทิเบต กเ็ พื่อเปน การดาํ รงรักษาวฒั นธรรมอันเกา แกของทเิ บต
พุทธศาสนาไดความรุงเรืองในดินแดนทิเบตซ่ึงมีเอกลักษณเฉพาะ ตอมาในยุค
หลังพระพุทธศาสนาแบบทิเบตไดมีการผสมผสานระหวางพุทธศาสนานิกาย มหายานทั้ง
จากอินเดียและจีนซึ่งไดรับอิทธิพลจากพุทธศาสนานิกายตันตระของอินเดีย จนเกิดเปน
นกิ ายวัชรยานขน้ึ ประชาชนใฝธรรมะ ชอบเดินทางไปแสวงบุญตามพทุ ธสถาน ซึ่งปจจุบันก็
มีใหเห็นอยูมากมาย แตเม่ือตกอยูในการปกครองของจีนวัดนับพันแหงทั่วนครลาซา เหลือ
ไมถงึ หนงึ่ รอยแหงในปจ จบุ ัน จนแทบไมเหลอื ความเจรญิ รงุ เรอื งในอดตี
ปจจุบันผูนําชาวทิเบตคือ องคดาไลลามะองคท่ี ๑๔ (Lhamo Dhondup) เมื่อ
กองกําลังจีนบุกยึดทิเบตน้ันทานดาไลลามะไดหลบหนีล้ีภัยขามภูเขาหิมาลัยเขาไปใน
อนิ เดยี ใชเ วลาเดนิ ทางประมาณ ๑๔ วนั รัฐบาลอนิ เดียอนุญาตใหดาไลลามะและชาวทิเบต
พลัดถิ่นอาศัยอยูในอินเดียได เปนท่ีนาสังเกตวาในที่ประชุมขององคการสหประชาชาติมี
๖๒ Tenzin Gyatso, The Art of Happiness, (Howard Cutler Easton Press, 1998)
p. 5.
๖๓ The path of the Buddha by Kenneth W. Morgan, printed in India at Shri
Jainendra Press, p. ๒๓๗
๓๒๒ ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมในโลกปจจุบัน
พระมหามิตร ฐติ ปโฺ ญ,ผศ.ดร.
บทท่ี ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ
การพูดถึงกรณีผูล้ีภัยชาวทิเบตนอยครั้งมากและอินเดียก็ไมไดมีการพูดถึงปญหาผูอพยพ
ชาวทิเบตเลย
ประเทศทิเบตไดเปดตอนรับการทองเที่ยวนี้ก็เปนกลยุทธหนึ่งที่ทิเบตตองการให
นักทองเท่ียวที่เขาไปรับรูและเห็นความเปนไปของชาวทิเบตใหเปนที่ประจักษแกชาวโลก
ไดรับรวู า จนี ไดทําอะไรกบั ชาวทิเบตบา ง ในขณะเดยี วกันดาไลลามะองคที่ ๑๔ ผูนําผลัดถ่ิน
ของทิเบตก็ออกเดินสายแสดงปาฐกถา เคล่ือนไหวทางการเมืองเพื่อหาการสนับสนุนจาก
ภายนอกประเทศ ดาไลลามะนาํ ทิเบตใหกลายเปนจุดสนใจของชาวโลกทานพยายามทําทุก
วิถีทางที่จะปลดปลอยทิเบตจากจีนใหได จุดประสงคของดาไลลามะคือตองการให
นานาชาติกดดันจีนใหหันมาเจรจาเร่ืองสันติภาพในทิเบต แตจีนไมยอมเจรจาดวยท้ังยังไม
ยอมรับแผนสันติภาพของดาไลลามะ เปนการปดทางท่ีดาไลลามะจะใชเปนทางเรียกรอง
อิสรภาพใหทิเบต ดวยความพยายามในการตอสูเรียกรองใหจีนคืนอิสรภาพใหทิเบตดวย
สันติวิธีทําใหทานดาไลลามะองคท่ี ๑๔ ไดรับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพเม่ือป ค.ศ.
๑๙๘๙
ปจจุบันนี้ชาวที่ทิเบตมีสิทธิเสรีภาพในดานศาสนาในระดับหน่ึง แตไมมีวี่แวววา
สถานการณในทิเบตจะดขี ึ้นไปกวาเดิมมากนัก จีนปดปากสนิทเร่ืองแผนสันติภาพท่ีดาไลลา
มะพยายามรุกเราและจีนยังคงสงชาวจีนเขาไปในทิเบตอยางตอเนื่องพรอมกับการเปลี่ยน
วิถีชีวิตของชาวทิเบตใหเขาสูวังวนของอุตสาหกรรมสมัยใหมมากขึ้น มีการสงเสริมการ
ลงทุนในทเิ บตใหชาวตางชาติเขาไปลงทุนในดานการศึกษา จีนสงเสริมการเรียนภาษาแมน
ดารินและสนับสนนุ ผรู ูภ าษาแมนดารนิ ใหม ีตําแหนงสูงและมีความกา วหนาในการทํางาน
๖.๘ ผลกระทบตอ สงั คมและศาสนา
๑. การประกาศลดบทบาททางการเมืองขององคดาไล ลามะทําใหประชาชนชาว
ทิเบตตอ งอยูใ นสถานการณท ่ตี อ งสรางความสามัคคใี นชาติใหมาก
๒. องคดาไล ลามะ ยังคงเปนสัญญาลักของการตอสูเพ่ืออธิปไตยและยังเปนที่
ศูนยรวมจติ ใจของชาวทิเบตทง้ั ทอี่ ยตู างแดนและในแผน ดนิ เกิด
๓. บทบาทขององคดาไล ลามะถูกวิจารณถึงความเช่ือม่ันและการปฏิบัติศาสนา
ในสงั คมทิเบต
๔. การอธบิ ายธรรมเชงิ ปฏริ ปู มกั ทําใหส ังคมเขา ใจคลาดเคล่อื นในหลักธรรมได
๕. มักมีการการศึกษาเชิงเปรียบเทียบในขอวัตรปฏิบัติของพระพุทธศาสนาเถร
วาทและมหายาน
ขบวนการพระพทุ ธศาสนาใหมใ นโลกปจ จบุ ัน ๓๒๓
พระมหามติ ร ฐติ ปโฺ ญ,ผศ.ดร.
บทท่ี ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ
๖.๙ สรปุ ทายบท
ศาสนาพุทธในดินแดนแหงทิเบตมีเอกลักษณเฉพาะคือเปนการผสมผสาน
ระหวางพุทธศาสนานิกายมหายานทั้งจากอินเดียและจีน ท้ังหมดน้ีไดรับอิทธิพลจากพุทธ
ศาสนานิกายตันตระของอินเดียจนเกิดเปนนิกายวัชรยานข้ึน ถึงแมจะเปนนิกายตันตระ
ประชาชนก็ใฝธ รรมะ เม่อื มีงานบุญ ประชาชนจะเดินทางไปแสวงบุญแมจะไกลสักเพียงใดก็
ตาม ปจจุบันก็มีใหเห็นอยูมากมาย แตเม่ือตกอยูในการปกครองของจีนวัดนับพันแหงทั่ว
นครลาซา เหลอื ไมถึงหนึ่งรอ ยแหงในปจจุบนั จนแทบไมเ หลือความเจรญิ รุงเรืองในอดตี
พระพุทธศาสนาในทิเบตมีนิกายใหญๆ ๔ นิกาย คือ นิกายหมวกแดง นิกาย
หมวกขาว นิกายหมวกดํา นิกายหมวกเหลือง นิกายหมวกเหลืองคือผูนําในปจจุบันคือผู
ดํารงตําแหนงดาไล ลามะหรือทะไล ลามะ ซึ่งเปนผูนําทางจิตวิญญาณของทิเบตองคดาไล
ลามะมักจะกลาวาเตือนกับอนุชนคนรุนหลังวา ถาคุณปรารถนาจะอุทิศตนเพ่ืองานดาน
มนุษยธรรมในฐานะชาวพุทธคนหนึ่ง คุณกําลังทําส่ิงท่ีดี จงตรวจสอบวาเจตนาของคุณ
บริสุทธ์ิอยางแทจริงหรือไม แตการกระทําทางสังคมจะตองไมเปนรูปแบบหน่ึงของศาสนา
ถาไมไดเ ปน ไปดว ยความรักและความเมตตา และถากระทําไมปลีกวิเวกอยูในพระพุทธองค
นี่คือสาเหตุท่ีวาทําไมคุณควรอุทิศสวนหนึ่งของเวลาเพื่อการฝกฝนและทําสมาธิเพื่อ
พจิ ารณาถึงการเปลย่ี นแปลงความทกุ ขแ ละอนื่ ๆ
ตามหลักการของศาสนาพุทธ แมเราจะตองพยายามอยางถึงที่สุดท่ีจะชวย
บรรเทาความทุกขทรมานของผูอ่ืน ท้ังที่ในความเปนจริงไมมีใครสามารถหนีความทุกขท่ี
ตนเองกอ นจากการกระทําของตนเองได กลาวอีกนัยหนึ่งคือคนเราเปนทุกขจากการกระทํา
ของตนเองได (กรรม) และผลของการกระทําคือ สิ่งท่ีไมอาจหลีกหนีได ถากําลังจะตองตาย
ในที่ท่ีปราศจากความสะดวกสบายทางกาย หรือโดยไมมีคนดูแลความทุกขจะรุนแรงย่ิงข้ึน
เมอื่ ไมม คี นดูแลเขาในตอนน้ี เขาก็จะตอ งทนกบั ความทุกขในรา งปจจุบัน๖๔
ผูชายบางคนอยูตามลําพังท้ังท่ีปรารถนาเหลือเกินท่ีจะพบผูหญิงสักคน ผูหญิง
บางคนตอ งการอยางยง่ิ ทจ่ี ะไดพบผูช ายสนั คนในชวี ติ แตไมอาจทําความฝนใหเปนจริง บาง
ท่ีปญหาของพวกเขาอาจจะมาจากความจริงที่วาพวกเขาคิดถึงแตตนเองมากเกินไป และ
เรียกรองจากคนอื่นมากเกินไป ถาพวกเขายอมรับความคิดเห็นท่ีตรงขามบาง และเร่ิมเปด
ใจใหผูอ่ืนไปพรอมๆ กับใสใจในปญหาของตนเองใหนอยลง พวกเขาอาจจะดึงการ
ตอบสนองทางบวกจากคนอื่นๆ ได๖๕ เปนวจนะขององคดาไล ลามะ ท่ีไดนําหลักการหรือ
๖๔ สมลกั ษณ สวางโรจน, ดาไล ลามะ วจั นะจากใจ, (กรุงเทพมหานคร: แสงดาว, ๒๕๕๓),
หนา ๑๑๙
๖๕ เร่อื งเดียวกนั , หนา ๗๕.
๓๒๔ ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมใ นโลกปจ จุบัน
พระมหามิตร ฐติ ปฺโญ,ผศ.ดร.
บทที่ ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ
หลักธรรมทางพระพุทธมาอธิบายหรือ ตีความเกี่ยวกับความทุกวามนุษยทุกผูคนตางก็กลัว
ความทุกขทรมานเชนเดียวกัน และมนุษยทุกผูคนก็ตางแสวงหาความสุข ทุกผูคนมีสิทธิ์
เสมอกันท่ีจะมีความสุขและไมเปนทุกขเหมือนกัน ดังน้ันจงรวมกันใสใจตอผูอื่นดวยความ
เต็มใจ ไมวาคนผูนั้นจะเปนมิตรหรือศัตรู เพราะนี่คือพ้ืนฐานของความเมตตาที่แทจริง
เพ่อื ใหเ ขางายสําหรบั ในยคุ ใหม
ปจจุบันนี้ชาวที่ทิเบตมีสิทธิเสรีภาพในดานศาสนาในระดับหนึ่ง แตไมมีวี่แวววา
สถานการณใ นทิเบตจะดขี ้นึ ไปกวา เดมิ มากนกั จีนปดปากสนิทเร่ืองแผนสันติภาพที่ดาไลลา
มะพยายามรุกเราและจีนยังคงสงชาวจีนเขาไปในทิเบตอยางตอเน่ืองพรอมกับการเปล่ียน
วิถีชีวิตของชาวทิเบตใหเขาสูวังวนของอุตสาหกรรมสมัยใหมมากข้ึน มีการสงเสริมการ
ลงทนุ ในทิเบตใหชาวตางชาติเขาไปลงทุนในดานการศึกษา จีนสงเสริมการเรียนภาษาแมน
ดารินและสนบั สนุนผรู ภู าษาแมนดารนิ ใหมตี ําแหนง สงู และมีความกา วหนา ในการทํางาน
ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมใ นโลกปจ จุบัน ๓๒๕
พระมหามติ ร ฐติ ปโฺ ญ,ผศ.ดร.
บทที่ ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ
คาํ ถามประจาํ บท
ก. แบบประเมนิ แบบปรนยั ๑๑ ขอ
๑. ขอ ใดกลาวถึงบทบาทองคดาไล ลามะไดถูกตอ งท่สี ดุ
ก. เปน ผนู าํ ทางพระพทุ ธศาสนาในประเทศทิเบต
ข. เปน ผทู างการเมืองในประเทศทเิ บต
ค. เปน ผนู ําทงั้ ทางพระพุทธศาสนาและการเมอื งในประเทศทเิ บต
ง. เปน ผูน ําในการเรียกรอ งความเสมอของชาวโลก
๒. คุณลักษณะเดน ขององคดาไล ลามะคอื ขอใด
ก. เปน นกั ปฏิรปู พทุ ธศาสนา
ข. เปนนกั ปฏิวัตพิ ทุ ธศาสนา
ค. เปน นกั ตอสูด ว ยอหิงสา
ง. เปน ผเู สียสละตอ การประกาศาสนา
๓. ลัทธศิ าสนาดัง้ เดมิ ในประเทศทิเบต คอื ลัทธใิ ด
ก. ลัทธิโบน
ข. ลทั ธิงอน
ค. ลทั ธติ ันตระ
ง. มันตระยาน
๔. ขอใดกลาวถึงพระพทุ ธศาสนาในประเทศทิเบตได ไดถ ูกตองทสี่ ดุ
ก. พทุ ธศาสนาแบบผสมผสาน
ข. พระพทุ ธศาสนามหายานลว น
ค. พระพทุ ธศาสนาแบบนกิ ายจีน
ง. พทุ ธศาสนานกิ ายตนั ตระ
๕. ขอใดกลา วถึงผลกระทบทเ่ี กิดจากการประกาศลดบทบาททางการเมืองขององคดาไล
ลามะไดถกู ตอง
ก. ทําใหป ระชาชนชาวทิเบตตอ งอยูในสถานการณท ไี่ มม ันคง
ข. ทําใหป ระชาชนชาวทิเบตตอ งสรางความสามคั คใี นชาติมากขึ้น
ค. ทําใหเศรษฐกิจของชาวทิเบตไมม นั คง
ง. ทําใหก ารเมืองของทิเบตไมมั่นคง
๓๒๖ ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมในโลกปจจบุ นั
พระมหามติ ร ฐติ ปฺโญ,ผศ.ดร.
บทท่ี ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ
ข. แบบฝก หัดแบบอตั นัย
๑. วเิ คราะหห ลักการปฏิบัติของพระพทุ ธนกิ ายวชั รญานมาดอู ยา งละเอยี ด
๒. จงวิเคราะหหลักการและหลกั ธรรมของทั้ง ๔ นิกายมาดูอยางละเอียด
๓. จงวเิ คราะหแ นวคิดเรื่องสันติภาพอุดมคติของ องคดาไล ลามะ องค ท่ี ๑๙ มาดู
๔. วิเคราะหองคความรูใหมท่ีเกิดจากแตกนิกายของพระพุทธศาสนานิกายวัข
รญานมาดู
“ถา คณุ ปรารถนาจะอุทิศตนเพ่ืองานดานมนุษยธรรมในฐานะชาวพุทธคนหนึ่ง คุณกําลังทํา
ส่ิงท่ีดี จงตรวจสอบวาเจตนาของคุณบริสุทธิ์อยางแทจริงหรือไม แตการกระทําทางสังคม
จะตอ งไมเปนรูปแบบหนึ่งของศาสนา ถาไมไดเปนไปดวยความรักและความเมตตา และถา
กระทําไมปลีกวิเวกอยูในพระพุทธองคนี่คือสาเหตุที่วาทําไมคุณควรอุทิศสวนหน่ึงของเวลา
เพอื่ การฝกฝนและทาํ สมาธิเพอ่ื พิจารณาถึงการเปลย่ี นแปลงความทุกขและอนื่ ๆ”
บทท่ี ๗
สตั ยา นารายนั โกเอน็ กา กับ การปฏบิ ตั ิวปิ สสนากรรมฐาน
S.N. Goenka with Meditation
แผนบริหารการสอนประจาํ บทท่ี ๗
หวั เรือ่ ง
๗.๑ ความนาํ
๗.๒ ประวัตแิ ละการดําเนนิ ชวี ติ ของสัตยา นารายัน โกเอน็ กา (S.N. Goenka)
๗.๓ หลักและวิธีสอนวปิ ส สนา
๗.๔ การปฏบิ ัติวิปส สนากรรมฐาน
๗.๕ ปณิธานชีวติ ในการเปด สอนวปิ ส สนากรรมฐาน
๗.๖ วิเคราะหอ งคค วามรูจากแนวคิดเรื่องศาสนาของสตั ยา นารายนั โกเอ็นกา
๗.๗ ผลกระทบตอ สังคม
๗.๘ สรปุ ทายบท
คาํ ถามประจําบท
วัตถุประสงคประจาํ บท
เมื่อศึกษาบทท่ี ๗ จบแลว ผูเรยี นสามารถ
๑. ความนาํ
๒. ประวัตแิ ละการดาํ เนินชวี ิตของสตั ยา นารายนั โกเอ็นกา (S.N. Goenka)
๓. หลกั และวิธสี อนวิปส สนา
๔. การปฏบิ ตั ิวปิ สสนากรรมฐาน
๕. ปณธิ านชวี ติ ในการเปดสอนวปิ ส สนากรรมฐาน
๖. วเิ คราะหอ งคค วามรู
๗. ผลกระทบตอ สงั คม
๓๒๘ ขบวนการพระพทุ ธศาสนาใหมใ นโลกปจจบุ นั
บทท่ี ๗ สัตยา นารายัน โกเอ็นกา กับ การปฏิบัตวิ ปิ ส สนากรรมฐาน พระมหามิตร ฐติ ปฺโญ,ผศ.ดร.
กิจกรรมการเรียนการสอน
๑. วิธีสอน ใชวิธีการสอนแบบบรรยาย (Lecture) ประกอบกับการสอบถาม/
สัมภาษณเปนรายบุคคล
๒. กระบวนการเรียนการสอน
๑) ใหผูเรียนเขียนใบงานหัวขอ “องคความรูและผลกระบทที่เกิดจาก
หลักการสอนของสัตยา นารายัน โกเอน็ กา (S.N. Goenka) ทมี่ ีตอสังคม”
๒) ใหผูเรียนดูวีดีทัศนเก่ียวกับทานสัตยา นารายัน โกเอ็นกา (S.N.
Goenka) โดยสังเขป
๓) อาจารยบ รรยายสรปุ เชอ่ื มโยงเขาสบู ทเรยี นและบรรยายตามเนอื้ หา
๔) ใหผเู รยี นทําบททดสอบหลงั เรียน
สอื่ การเรียนการสอน
๑. เอกสารคาํ สอนวิชาขบวนการพุทธใหมใ นโลกปจจุบนั
๒. Power Point Presentation
๓. วีดทิ ัศนเก่ยี วกับสัตยา นารายนั โกเอ็นกา (S.N. Goenka)
๔. ส่อื ตามแหลงเรยี นรูตางๆ เชน ภาพประกอบในหอ งสมุด
การวดั และประเมินผล
๑. สังเกตจากความต้ังใจเรียนของผูเรียน/การมีสวนในการแสดงความคิดเห็น/
และการมสี วนรว มกบั กจิ กรรมในชน้ั เรยี น
๒. พิจารณาจากการเขียน/สงใบงานที่ตรงเวลาและตรงกับเนื้อหาสาระ/การ
แสดงความคดิ เหน็ ท่ีปรากฏในใบงาน
๓. พิจารณาใหค ะแนนจากการทําบททดสอบหลังเรียน
ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมในโลกปจจบุ ัน ๓๒๙
พระมหามติ ร ฐติ ปฺโญ,ผศ.ดร. บทท่ี ๗ สตั ยา นารายัน โกเอน็ กา กบั การปฏบิ ตั ิวิปส สนากรรมฐาน
๗.๑ ความนาํ
การปฏิบัติวิปสสนากรรมฐานตามแนวทาง ทานอาจารยโกเอ็นการถือวาเปน
แนวทางในการปฏิบัติท่ีมีความเหมาะสมกับสังคมในปจจุบัน เปนแนวทางที่ทําใหทุกคนใน
ทกุ ศาสนาๆ สามารถเขา มาปฏิบตั ิได การปฏิบตั ิทม่ี ีรูปแบบไรเขตเขตจํากัดดานศาสนา เนน
การปฏิบัติที่มีรูปแบบที่เปนสากลในเชิงสัญลักษณ สรางแรงศรัทธาใหเกิดกับบุคคลที่มี
ความสนใจ แนวทางการปฏิบัติของทาน สัตยา นารายัน โกเอ็นกาจึงเปนที่นิยมในปจจุบัน
อีกท้ังแนวทางในการบรรยายมีลักษณะเขาใจงาย สามารถนําไปประยุกตใชใน
ชีวิตประจําวันไดจริง ดวยเหตุนี้ รูปแบบในการปฏิบัติของทาน สัตยา นารายัน โกเอ็นการ
จึงเปนทนี่ ิยมของคนทุกชาตแิ ละทุกศาสนา
๗.๒ ประวัติและการดําเนินชีวิตของสัตยา นารายัน โกเอ็นกา (S.N.
Goenka)
ทานอาจารยสัตยา นารายัน โกเอ็นกา (S.N. Goenka) เปนชาวอินเดียที่ถือ
กําเนิดในประเทศพมา ในครอบครัวนักธุรกิจ เมื่อป พ.ศ.๒๔๖๗ ทานไดประกอบธุรกิจจน
ประสบความสําเร็จ มีชื่อเสียงมากต้ังแตยังอยูในวัยหนุม ท้ังไดรับเลือกใหเปนผูนําชุมชน
ชาวอินเดียในพมา รวมท้ัง เปนประธานองคกรตางๆ เชน หอการคามารวารีแหงพมา และ
สมาคมพาณิชยและอุตสาหกรรมแหงรางกุง นอกจากนี้ยังรวมเดินทางไปตางประเทศกับ
คณะผูแทนการคาของสหภาพพมาในฐานะ ท่ีปรึกษาอยูบอยๆ เม่ืออายุ ๓๑ ป ทานถูก
คุกคามดวยโรคไมเกรน แมจะไดรับการดแู ลบําบดั รักษาโดยแพทยผูเช่ียวชาญเฉพาะทางใน
หลายประเทศ แตอาการก็ไมดีข้ึน จนในท่ีสุด ทานสัตยา นารายันโกเอ็นกาไดทดลองเขา
ปฏิบัติวิปสสนากรรมฐานหลักสูตร ๑๐ วันเปนครั้งแรกกับ ทานอาจารยอูบาข่ิน (Sayagyi
U Ba Khin) วิปสสนาจารยผูมีชื่อเสียงท่ีชาวพมาใหความเคารพนับถืออยางย่ิงผูหนึ่ง โดย
การแนะนําของเพื่อนชาวพมาคือ ทานอูชันตุน อดีตประธานศาลฎีกาพมา ซึ่งตอมา
ภายหลัง ทานอูชันตุนไดเปนประธานคนแรกขององคการพุทธศาสนิกสัมพันธแหงโลกครั้ง
แรกทานก็ลังเลใจ แตดวยคําอธิบายของทานอาจารยอูบาขิ่น ถึงหลักของศีล สมาธิ ปญญา
อันเปนหลักการสากลท่ีจะชวยใหมนุษยชาติไดพบทางแหงการพนทุกขไดอยางถาวร ทาน
จึงตัดสินใจเขารับการอบรมเปนเวลา ๑๐ วัน ซ่ึงทานไดกลาวถึงชวงเวลาน้ันวา “ใน ๑๐
วันนั้น ทําใหขาพเจาไดเห็นวา วิธีการนี้เปนวิธีการที่มีเหตุมีผล ปฏิบัติไดจริง ทั้งยังเปน
วิทยาศาสตร และมุงประโยชนแ หง การปฏิบัติ มิไดมุงใหเราเกิดศรัทธาความเช่ืออันมืดบอด
อยางเดยี ว ทําให ขา พเจาเปน อสิ ระจากโรคภยั ไขเจบ็ รูส กึ เปนสขุ อยางย่ิงในความสงบ และ
ไดตระหนักวา สิ่งที่ทําใหหายจากโรคไมเกรนนั้น อันที่จริงก็คือ การที่ขาพเจาสามารถขุด
๓๓๐ ขบวนการพระพทุ ธศาสนาใหมใ นโลกปจจบุ นั
บทท่ี ๗ สตั ยา นารายัน โกเอน็ กา กับ การปฏิบตั ิวิปส สนากรรมฐาน พระมหามิตร ฐติ ปโฺ ญ,ผศ.ดร.
รากของกิเลสบางอยางในตัวขาพเจาได เดิมทีขาพเจาเปนคนที่มีโทสะมาก วูวาม และเปน
คนมีอัตตาสูง แตในการอบรม ๑๐ วันน้ี ไดทําใหขาพเจาสามารถที่จะควบคุมตัวเองได
อยางมีประสิทธิภาพมากขน้ึ ”
ทานไดเลาถึงวิธีการท่ีไดรับการอบรมวา “ตอน ท่ีเขารับการอบรมใหมๆ เขาใจ
วาคงจะมกี ารใหบ ริกรรมคาํ สวดบางอยาง แตอันที่จริงแลวไมมีเลย ไมมีการบริกรรมคําใดๆ
ทั้งส้ิน ไมมีแมการสรางภาพ เพียงแตใหเราเฝาสังเกตลมหายใจที่เขาออกอยางเปน
ธรรมชาติเทาน้ัน นี่คือสมาธิ ขั้นตอนตอไปเปนข้ันตอนท่ีสําคัญ คือวิปสสนาดวยการสังเกต
เวทนาหรือความรูสึกทางกายอันเปนหนทางนําไปสูปญญา คือ การรูแจงในความเปน
อนิจจังหรอื ความไมเ ท่ยี ง ซึง่ วิธกี ารสังเกตเวทนาน้ีเปนส่ิงที่พระพุทธองคทรงประทานใหแก
มนุษยชาติ เพ่ือใชเปนเครื่องมือในการนําตนใหพนทุกข” หลังจบจากการปฏิบัติ ตาม
หลกั สตู ร ๑๐ วนั แลว ทา นสัตยา นารายนั โกเอ็นกาเกิดความเล่ือมใสศรัทธาในเน้ือหาสาระ
ของคําสอนและในแนวทาง ปฏิบัติเปนอยางมาก จึงปวารณาตัวเขาปฏิบัติอยางตอเนื่อง
และจริงจัง ตอมาทา นอาจารยอ บู าขน่ิ ไดแ ตง ตั้งใหท า นทําหนา ทเี่ ปนอาจารยผ ชู ว ยสอน
ป พ.ศ. ๒๕๑๒ ทานไดเดินทางกลับไปยังประเทศอินเดียเพ่ือเยี่ยมมารดาท่ีลม
ปวย ระหวางที่อยูในอินเดีย ทานไดจัดอบรมวิปสสนาใหแกมารดาและญาติพี่นอง ซึ่ง
ปรากฏวามผี ใู หค วามสนใจเปน อันมาก นับจากนัน้ ขบวนการเอหิปสสิโกก็ไดเร่ิมตนจากปาก
ตอ ปากทีบ่ อกตอ ๆ กันไป ทําใหม ีผูม าขอเขาปฏิบัติกันมากข้ึน และจากการที่ทานอาจารยอู
บาขิน่ มคี วามฝง ใจอยูแตเดิมวา ประเทศอินเดียมีบุญคุณอยางลนเหลือที่ไดหยิบย่ืนธรรมอัน
บริสุทธ์ิขององค สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจาใหแกประเทศพมา ซ่ึงเปนบานเกิดเมืองนอน
ของทาน แตธรรมอันลํ้าคานี้กลับไดสูญหายไปจากประเทศอินเดียอันเปนตนกําเนิดจน
เกือบหมดสิ้นทานอาจารยโกเอ็นกาจึงมีความปรารถนาท่ีจะทดแทนคุณ ประเทศอินเดีย
ดวยการหาทางนําเอาธรรมะอันลํ้าคาน้ีกลับไปเผยแผอีกคร้ัง ซึ่งทานอาจารยอูบาข่ินก็ได
สงเสริมและสนับสนุนใหทานเปดการอบรม วิปสสนาในแนวทางนี้ข้ึนในประเทศอินเดีย
อยางตอเน่ือง หลังจาก ๑๔ ปของการปฏิบัติ ทานไดรับการแตงตั้งใหเปนวิปสสนาจารย
และไดเดินทางไปเผยแผการปฏิบัติ วิปสสนาที่ประเทศอินเดียตามความประสงคของ
อาจารยของทา นอาจารยอูบาข่นิ
ป พ.ศ. ๒๕๑๗ ทา นจงึ ไดกอตงั้ และเปน ประธานสถาบันวิปสสนานานาชาติศูนย
แรกช่ือ “ธรรมคีรี” ข้ึนที่เมืองอิกัตปุรี ใกลๆ กับเมืองบอมเบย รัฐมหาราษฎร ประเทศ
อินเดีย เพื่อปฏิบัติวิปสสนากรรมฐานตามแนวทางของทานอาจารยอูบาขิ่น ซึ่งดําเนินตาม
แนวทางของสมเด็จพระสมั มาสมั พุทธเจา ตามทีไ่ ดบ ันทึกไวในพระ ไตรปฏก นับจากน้ันมาก็
ไดม ีการจดั อบรมวปิ สสนาหลักสตู ร ๑๐ วันและหลักสตู รระยะยาวตอ เนื่องเร่อื ยมา
ขบวนการพระพทุ ธศาสนาใหมใ นโลกปจ จุบนั ๓๓๑
พระมหามิตร ฐติ ปโฺ ญ,ผศ.ดร. บทท่ี ๗ สัตยา นารายัน โกเอน็ กา กับ การปฏบิ ัตวิ ปิ ส สนากรรมฐาน
ป พ.ศ. ๒๕๒๒ ทานเริ่มเดินทางไปเผยแผวิปสสนาตามประเทศตางๆ ทั่วโลก
ทานไดอ าํ นวยการสอนวิปส สนาหลกั สตู ร ๑๐ วันในประเทศอินเดียและประเทศอ่ืนๆ ทั้งใน
ซีกโลกตะวันตกและตะวันออกกวา ๔๐๐ หลักสูตร หลักการสอนของทานโกเอ็นกาไดรับ
การยอมรับโดยทั่วไป ทั้งในอินเดีย ประเทศที่ยังคงมีความแตกตางทางดานชนช้ันและ
ศาสนาอยางมาก และจากทั่วโลก ทั้งนี้เพราะคําสอนท่ีมีลักษณะเปนสากล มิไดขัดตอหลัก
ศาสนาใด ทานเนนเสมอวามนุษยทุกคน ไมวาจะมีเชื้อชาติใด นับถือศาสนาใด และมีผิวสี
อะไร ตางก็มีความทุกขในรูปแบบเดียวกันท้ังส้ิน ในเม่ือความทุกขของมนุษยเปนสากล
วิธีการปฏิบัติเพ่ือใหพนจากความทุกขจึงตองเปนสากลเชนกัน ตอมาทานไดเริ่มแตงตั้ง
อาจารยผูชวยใหชวยดําเนินการอบรมแทนทาน โดยใชเทปและวิดีโอของทานเปนแนวทาง
ในการสอน เพือ่ รองรับกับความตองการทจ่ี ะเขาอบรมซึง่ เพิ่มสูงข้ึน ทุกวันน้ีมีอาจารยผูชวย
กวา ๗๐๐ ทา น และอาสาสมัครชวยงาน ตา งๆ อีกนับพนั ๆ คน มีการจัดอบรมวิปสสนาใน
ประเทศตางๆ กวา ๙๐ ประเทศท่ัวโลก ทั้งในอิหราน มัสกัตอาหรับอิมิเรสตอัฟริกาใต
ซิมบับเว จีน มองโกเลีย รัสเซีย เซอรเบีย ไตหวัน กัมพูชา เม็กซิโกและประเทศตางๆ ใน
อเมรกิ าใต โดยมีการ กอ สรางศูนยวิปสสนาท้ังส้ิน ๘๐ แหงใน ๒๑ ประเทศทั่วโลก ในแต
ละปจะมีการจัดอบรมหลักสูตรวิปสสนาท่ัวโลกกวาหนึ่งพัน หลักสูตร โดยไมมีการเรียก
เก็บเงินคาอบรม ที่พักหรือคาอาหารใด ๆ ขึ้นอยูกับความสมัครใจท่ีจะบริจาค ทั้งตัวทาน
อาจารยสัตยา นารายัน โกเอ็นกาเองและอาจารยผูชวยตางๆ ก็ไมไดรับคาตอบแทนใดๆ
จากการอบรมดังกลาวแมแตนอย ที่ผานมา ทานอาจารยสัตยา นารายันโกเอ็นกาไดรับ
เชิญใหไปแสดงปาฐกถาธรรมตามสถาบันตาง ๆ รวมท้ังในเวทีเศรษฐกิจโลกที่เมืองดาวอส
ประเทศสวิสเซอรแลนด และการประชุมสุดยอดสันติภาพโลกสหัสวรรษใหมท่ี
สหประชาชาติดวย
๗.๓ ปณิธานชวี ติ ในการเปด สอนวปิ ส สนากรรมฐาน
ทาน อาจารยสัตยา นารายัน โกเอ็นกา (S.N. Goenka) ไดใหคําแนะนําเกี่ยวกับ
วิธกี ารปฏิบัติไววา วิปสสนาเปนวิธีการปฏิบัติกรรมฐานท่ีเกาแกที่สุดวิธีหน่ึงของอินเดีย ซ่ึง
ไดสาบสูญไปจากมนุษยชาติมาเปนเวลานาน แตก็ไดกลับมาคนพบอีกคร้ังโดยองคสมเด็จ
พระสัมมาสัมพุทธเจา เม่ือกวา ๒๕๐๐ ปมาแลว วิปสสนาหมายถึง “การมองดูสิ่งตางๆ
ตามความเปนจริง” อันเปนกระบวนการในการทําจิตใหบริสุทธ์ิโดยการเฝาดูตนเอง เราจะ
เร่ิมตนดวยการเฝาสังเกตดูลมหายใจตามธรรมชาติ เพ่ือทําใหจิตมีสมาธิ เมื่อมีสติท่ีม่ันคง
เราก็จะกา วไปสูก ารเฝา สังเกตถงึ การเปล่ยี นแปลงตามธรรมชาตขิ องกายและจิต ซ่ึงจะทําให
ไดพบกับสัจธรรมที่เปนสากล คือ ไดเห็นความไมเท่ียง (อนิจจัง) ความทุกข (ทุกขัง) และ
๓๓๒ ขบวนการพระพทุ ธศาสนาใหมใ นโลกปจ จุบนั
บทที่ ๗ สัตยา นารายนั โกเอน็ กา กับ การปฏบิ ัตวิ ปิ ส สนากรรมฐาน พระมหามติ ร ฐติ ปฺโญ,ผศ.ดร.
ความไมมีตัวตน (อนัตตา) การท่ีไดรูเห็นถึงสภาพธรรมตามความเปนจริงเหลาน้ีจาก
ประสบการณของทานเองโดยตรง จึงเปนวิธีการในการชําระจิตใหบริสุทธ์ิ ธรรมะเปนเรื่อง
สากล มีไวสําหรับแกไขปญหาตางๆ ท่ีเปนสากล มิไดผูกขาดเฉพาะศาสนาใดศาสนาหน่ึง
หรือลัทธิใดลัทธิหน่ึง ดวยเหตุนี้คนทุกคนจึงสามารถจะปฏิบัติไดอยางเสรี โดยไมมีขอ
ขัดแยง ในเรอื่ งของเชื้อชาติ ชัน้ วรรณะ หรือศาสนา ท้ังในซีกโลกตะวันออกและตะวันตกทั่ว
ทกุ ทวปี ในที่ทุกสถาน ในกาลทกุ เมอ่ื และจะเปนประโยชนตอ ทุกๆ คนโดยทั่วถึงกันพื้นฐาน
ในการปฏิบัติ วิปสสนา คือ “ศีล” ศีลจะเปนพ้ืนฐานในการพัฒนาสมาธิ และกระบวนการ
ทําจิตใหบริสุทธิน์ ้นั จะเกิดขน้ึ จากปญ ญา คอื “การรแู จง เห็นจริง”
ชวี ติ คือการเดินทางท่ตี อ งเรยี นรอู ยา งไมม วี นั ส้นิ สุด แตละวันคนเรากาวไปบน
เสนทางท่ีเลือกเดินและเลือกท่ีจะเปนโดยไมมีใครรูวาทางขางหนาจะเปนยังไง คงไมมีใคร
อยากใหมันผิดพลาด มีแตอยากใหหนทางน้ันสวยงามไปในแบบที่ตนเองคิดบางวันคนเรา
กา วเดินอยา งรวดเรว็ จนแทบจะว่ิงดวยความเชื่อม่ันบางวันใจดวงเดิมของคนเรามันกลับฝอ
แทบจะหยุดน่ิง หมดแรง ไมเขาใจกับหลายๆ ส่ิงที่ไมไดคาดคิดเอาไวบางวันจึงจําเปนตอง
เดนิ ใหชาลงสกั นดิ เพื่อจะไดม เี วลาคิดทบทวน หรือช่ืนชมทิวทัศนขางทางบางจนบางทีก็มา
รูตัววาเราอาจจะไปผิดทางดวยซํ้า หรือสงสัยวาตัวเองกําลังหลงทางอยูหรือเปลาแตมัน
ไมไ ดหมายความวาเราจะไมไ ดเจอกับทางออก เพราะอยางนอยเราก็ไดลองไปในที่ ๆ เราไม
เคยไป หรือเราอาจจะกําลังไปในท่ีที่ไกลกวาเดิมก็ไดหากชีวิตคือการเดินทางจริง ๆ เม่ือมี
เริ่มตนก็ตองมีจุดหมายปลายทางและมีทางออกใหกับทุกเสนทางเสมอ ใหเวลากับหนทาง
แลวมันจะพาเราไปเจอกับเรื่องใหม ๆ แมบางคร้ัง หนทางจะพาคนเรายอนกลับมา เจอ
เร่ืองเดิม ๆ อยางหนีไมพนคนเราอาจจะตองหัวเราะและรองไหไปอีกซักกี่ครั้ง ก็ไมเปนไร
หรอกเพราะทุกขณะที่ผานไปเปนการใหบทเรียนใหกับพวกเขาเพิ่มข้ึน และจดจําความรู
และความสกึ จากประสบการณท ่ไี ดเ กดิ ขน้ึ กับตัวเองใหมากขน้ึ
๗.๔ หลกั และวธิ ีสอนวปิ ส สนา
หลักของการทําวิปสสนา ทานสัตยา นารายัน โกเอ็นกายํ้าอยูเสมอวาการทํา
วิปสสนาจะทําใหทานมีสุขภาพจิตท่ีดี จิตใจของทานจะสงบเย็น ทานจะมีชีวิตท่ี
เจริญรุงเรือง ราบร่ืน มีความสัมพันธอันดีกับสมาชิกในครอบครัว มีความสัมพันธอันดีกับ
คนอืน่ ๆ ในสังคม ดงั นั้น วิปสสนาจึงเปน วถิ ใี นการดําเนนิ ชีวิต
การสอนอบรมทา นยังใหค วามเหน็ เก่ียวการปฏิบัติโดยสากลวา ผมปฏิเสธท่ีจะใช
คําวา “พุทธศาสนา” ผมไมเคยใชคําวา “ศาสนา” กับเรื่องท่ีคําสอนของพระพุทธเจาเก่ียว
โยงไปถึงสําหรับผมแลว พระพุทธองคไมเคยกอตั้งสถาบันศาสนา พระพุทธเจาไมเคยสอน
ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมใ นโลกปจจุบนั ๓๓๓
พระมหามติ ร ฐติ ปโฺ ญ,ผศ.ดร. บทที่ ๗ สัตยา นารายัน โกเอน็ กา กับ การปฏิบตั ิวิปส สนากรรมฐาน
พุทธศาสนา พระองคไมเคยทําใหใครเปนพุทธศาสนิกชนแมแตคนเดียวคนทุกคนจะเห็น
พองกันวา ศาสนาทุกศาสนาในโลกตางก็มีองคประกอบทั่วไป ซ่ึงผมขอเรียกวา แกนสาร
ภายในของศาสนา กลาวคือ ศีลธรรม การเปนนายเหนือจิตใจ และการทําชําระจิตใจให
บริสุทธ์ิ ดังน้ัน ผมจึงขอบอกวานี่คือแกน เปนแกนอันดีงามของทุก ๆ ศาสนา และ
นอกจากน้ีก็ยงั มีเปลอื กนอก เปลือกนอกอนั นี้ผลจะแตกตางกันในแตละศาสนา จะปลอยให
ทุกคนมีความสุขกับพิธีกรรม และประเพณีของพวกเขา แตพวกเขาก็ไมควรหลงลืมแกนที่
อยูภายใน ถา เขาเหลานี้ละเลยแกนสารภายในและยังคงบอกวา ฉันเปนศาสนิกชนเพราะวา
ฉันทําพิธีกรรมมาตลอด เชนนี้แลวก็เทากับวา เขากําลังหลอกลวงตัวเอง และหลอกคนอื่น
ๆ ดวยตามความเขาใจตอสันติภาพภายในในความหมายน้ี ในวัฒนธรรมนี้ก็ยังคงมีความ
กลวั อนั หน่ึงกค็ อื คนทีม่ สี นั ติภาพอยา งยง่ิ กค็ ือคนท่ใี กลความตายนอย ๆ เขาไปแลว เราตาง
ก็ตองการสันติภาพ แตเราจินตนาการไมไดวา เราจะชวยโลกใหรอดไดอยางไร ใน
ความหมายเชิงระบบนิเวศโดยปราศจากความข้ึงโกรธ เราตองติดตอสัมพันธกับสรรพชีวิต
ดวยกิเลสประเภทตาง ๆ อยูดีผมตระหนักในขอนี้ ผมไมไดเห็นแยง ผูคนไมยอมเขาใจคํา
สอนของพระพุทธองคอ ยางถูกตอ ง ตัวอยางเชน มีคนมาทํารายผม และผมบอกเขาวา “ผม
เปนนักวิปสสนา เชนเดียวกับพืชผัก เขามาเลย เขามาเชือดผมเลย” …น่ีไมใชคําสอนของ
พระพุทธเจา เราสามารถจะแสดงออกถึงปฏิบัติการอยางเขมขนท่ีสุดในสถานการณท่ี
จาํ เปน ไมว าจะเปน ทางกายกรรมหรือวจีกรรมแตกอนที่จะทําเชนน้ัน เราตองตรวจสอบตัว
เราเองเสียกอนทั้งในระดบั รางกาย ความรสู ึก และจิตใจ ถาผมพบวาจิตใจของผมเปนกลาง
เต็มที่ ผมไมมีความโกรธตอคนผูน้ี ผมมีความรักตอคนผูนี้ แตเน่ืองจากเขาคนน้ี ไมยอม
เขาใจถอยคําอันนุมนวล ผมก็ตองใชถอยคําแบบแรง ๆ เขาไมเขาใจ การกระทําแบบ
ออ นโยน ผมกต็ อ งใชก ารกระทําแบบหยาบคาย ในความใสใจของเขาและเธอ ความรักยอม
มอี ยู ความกรณุ ายอมมีอยู แตถ าหากมีความโกรธเขามาแทน ผมก็ตองเปนทุกข คนทุกขจะ
ไปชว ยคนทกุ ขอ ีกคนหนง่ึ ไดอยางไร?
คําถามน้ีตองการคําตอบที่แจมชัดมาก เพราะวามันกําลังจะเกิดข้ึน คําถามท่ีวา
หากคุณไมโมโหแลวคุณจะปกปองตัวเองไดอยางไร? หากเราไมโกรธแลวเราจะประสบ
ความสาํ เรจ็ ในดา นนั้นดานน้ไี ดอ ยางไร อันนี้ก็เน่ืองจากผูคนสวนใหญมิไดใชชีวิตในลักษณะ
ท่ีเปนกลาง ไมลําเอียงแตกลับยึดมั่นอยางเหนียวแนน คนเรามักรูสึกวาดวยการยึดมั่น
เทา นน้ั จึงสามารถบรรลเุ ปาหมาย แตเมื่อพวกเขาเขาใจและหันมาปฏิบัติ ก็จะเห็นวาบุคคล
ที่ไมยดึ ติดถือมั่นตางหากท่ีประสบความสําเร็จมากกวา ในการไปใหถึงเปาหมาย น่ีก็เพราะ
สภาพจิตใจยังสงบอยางย่ิง แจมชัดอยางย่ิง และไมวาปญหาใดจะเกิดขึ้น คุณก็ตัดสินใจได
อยางรวดเร็ว และถูกตองถาเปนอยางนี้ รัฐบาลก็จะเสนอใหการทําวิปสสนาเขาไปอยูใน
๓๓๔ ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมใ นโลกปจ จบุ นั
บทท่ี ๗ สัตยา นารายนั โกเอ็นกา กบั การปฏบิ ตั ิวิปส สนากรรมฐาน พระมหามติ ร ฐติ ปโฺ ญ,ผศ.ดร.
หลักสูตรโรงเรยี นตํารวจ แมแตนักโทษหรืออาชญากรรมรุนแรงทั้งหลายก็จะเปล่ียนไป ทุก
รฐั บาลตอ งการใหน ักโทษเปล่ียนพฤตกิ รรมเมอ่ื มาอยใู นคุก แตแทนท่ีจะเปนเชนนี้ กลับเปน
วาเรามีกรมราชทัณฑ ไวเปนที่สําหรับอภิปรายเร่ืองประเภทของอาชญากรรม และคุณกอ
อาชญากรรมข้ึนไดอ ยางไร พวกเขาเรียนรูเ พิ่มขน้ึ มากมาย และผลออกมาก็คืออาชญากรรม
ท่ีใหญโตยิ่งข้ึน เดี๋ยวน้ี ดวยวิปสสนากรรมฐาน ทําใหเกิดการเปล่ียนแปลงคร้ังใหญ และนี่
ไมใชเ กิดโดยการพดู บรรยายพระสูตร หรือโดยการสวดมนตสรรเสริญพระพุทธองค แตเกิด
โดยเทคนิควิธีการ กลาวคือ เม่ือพวกเขาเร่ิมสังเกตพิจารณา (ตัวเอง) การอาศัยอยูใน
เรอื นจํา คนเหลานีเ้ ต็มไปดว ยโทสะ มีพยานใหผมพบเห็นนับจํานวนไมถวน เม่ือกูออกไป กู
จะฆามึง! นี่คอื การลางแคน แตเมอื่ พวกเขาหันมาสังเกตพิจารณา “โอ…ฉันกําลังทําอะไรอยู
หรือน่ี? ฉันกําลังเผาลนตัวเอง” ความโกรธก็จะหายไป โดยวิธีอื่น ๆ คนผูน้ีก็จะกอความ
รุนแรงเพ่ิมมากย่ิง ๆ ข้ึนไป แตเด๋ียวนี้เขาทําเชนน้ันไมได เขาเต็มไปดวยความรัก ความ
เมตตา และกลายเปนคนกระตือรือรนอยางยิ่ง อาชญากรท่ีกระทําอาชญากรรมรายแรง
จํานวนมากเมื่อพนโทษออกมา พวกเขาไดงานทําท่ีน่ันท่ีน่ี และพวกเขาไมตองการกลับไป
เหมือนเดิมอกี
คุณคิดวาในสังคมชาวพุทธ ซึ่งความรุนแรงเห็นไดอยางกลาดเกล่ือนอยูในตอนนี้
ผคู นทําหนาที่ดวยการไมยึดติดถือม่ันหรือเปลา? ถาใครบางคนมาบอกวา เขาเปนชาวพุทธ
และทัง้ หมดที่เขาทําก็คอื แคนี้ ผมก็จะบอกวา คุณเปนไดแคผูศรัทธาในพระพุทธเจา แตคุณ
ไมไดเปนสาวกของพระองค ซ่ึงแตกตางกันมาก คุณมีศรัทธาแรงกลาในพระพุทธเจา คุณ
พรํ่าพูดวา “พระพุทธองค โอ พระพุทธองค ผูเลิศประเสริฐแท” แตคุณไมไดปฏิบัติฝกฝน
ไมวาเราจะเรียกตัวเองวาเปนคริสเตียน เปนฮินดู หรือมุสลิม ไมมีอะไรแตกตางกันเลย
สาวกของพระพุทธเจาตองปฏิบัติตามคําสอนของพระองค คือ ศีล สมาธิ และปญญา สวน
คนทเี่ อาแตเ รียกตนเองวาชาวพุทธ ไมเห็นวาจะใชชีวิตเยี่ยงพุทธแตอยางใด น่ีคือเหตุผลวา
ทําไม ผมจึงไมใชคําวา “ชาวพุทธ” หรือ “พุทธศาสนา” พระพุทธเจาไมเคยสอนลัทธิหรือ
ศาสนาใด ๆ ในพุทธพจนทั้งหมด รวมท้ังอรรถกถาท้ังหลาย ซึ่งรวมแลวหลายพัน
หนากระดาษ ไมเห็นมีคําวา “พุทธศาสนา” คําทั้งหมดน้ีลวนเกิดขึ้นภายหลังเม่ือคําสอน
ของพระองคเร่ิมลงหลักปกฐานแลว ผมไมรูวาเริ่มมีการเรียกสิ่งน้ีวา “พุทธศาสนา” ตั้งแต
เมื่อไหร และอยางไร แตทันทีที่คําเรียกนี้เกิดข้ึน มันไดลดทอนคุณคาคําสอนของพระพุทธ
องคล งไป สิง่ เหลาน้ีเคยเปนคําสอนสากล แตคําเรียกเหลานี้ทําใหเกิดการแบงแยกเปนลัทธิ
นิกายศาสนา ราวกับจะบอกวา พุทธศาสนามีไวเพ่ือชาวพุทธเพียงเทาน้ัน เชนเดียวกับ
ศาสนาฮินดูก็เพ่ือชาวฮินดู ศาสนาอิสลามก็มีไวเพ่ือคนมุสลิมเทาน้ัน แตธรรมะนั้นมีไวเพ่ือ
มนษุ ยท ุกคน