The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ขบวนการพระพุทธศาสนาใหม่ในโลกปัจจุบัน

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

ขบวนการพระพุทธศาสนาใหม่ในโลกปัจจุบัน

ขบวนการพระพุทธศาสนาใหม่ในโลกปัจจุบัน

ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมในโลกปจ จุบัน ๒๓๕
พระมหามติ ร ฐติ ปโฺ ญ,ผศ.ดร.
บทท่ี ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

๖.๔.๒ นกิ ายหมวกขาว (นกิ ายคากิว)
นกิ ายคากวิ เปนนกิ ายสําคัญนิกายหนึง่ ในตนศตวรรษท่ี ๑๑“คากิว” แปลวา การ
ถายทอดคําสอนดวยการบอกกลาวจากอาจารยสูศิษย ผูก อตงั้ คือมารปะผูสืบสายคําสอนมา
จากนาโรปะนกั ปราชญผูยิ่งใหญแหงมหาวิหารนาลันทา ผูรับสืบทอดคําสอนมาจากติโลปะ
ผูถือวารูแจงเองไมปรากฏวาทานไดรับคําสอนจากพระอาจารยทานใด แตไดมีบันทึกบอก
กลา วไววาทานไดรบั คําสอนโดย ตรงจากพทุ ธวัชรธารา มารปะเปนลามะปราชญผูแปลพระ
ธรรมท่ีมีชื่อเสียงมากทานหน่ึงของ ทิเบต ทานไดถายทอดคําสอนตอใหมิลาเรปะ โยคีผู
บรรลุความรูแจงในชีวิตน้ี นิกายคากิวได ช่ือวานิกายขาวก็สืบเนื่องจากการครองผาของมิ
ลาเรปะซึง่ ทานจะครองผา บางๆสขี าวหรอื อาจ จะมาจากสัญลักษณของวัดในคากิวปะซ่ึงจะ
ทาสีขาวท้ังหมด มารปะและมิลาเรปะถือวามีความ สําคัญมากในพุทธตันตระของทิเบต
ทานไดประพันธคําสอนไวมากมาย มิลาเรปะ มีศิษยท้ังหมด๒๑ทาน ทานท่ีมีชื่อเสียงท่ีสุด
คือกมั โปปะ คากิวปะเปน นิกายทมี่ ีชอ่ื เสยี งมากใน ศตวรรษท่ี ๑๓ เน่ืองดวยมิลาเรปะมีศิษย
หลายทานกัมโปปะเองก็มีศิษยหลายทานทําใหนิกาย คากิวไดมีการพัฒนาไปตามแนวทาง
คําสอนของศิษยแตละทานไดรับจึงเกิดกิวในสายตางๆขึ้น มามากมาย คําสอนของคากิวก็
ไมไดแตกตางไปจากนิกายอื่น คือเนนไปท่ีพุทธตันตระ คําสอน คําสอนตันตระของคากิว
เกย่ี วพันกับ ตนั ตระโยคะทัง้ ๖การสืบทอดวิญญาณและ การปฏิบตั ิ มหามทุ รา
๖.๔.๓ นกิ ายหมวกดาํ
นิกายนี้ไดมาจากชื่อของวัดสักกยะ คําวาสักกยะหรือสําเนียงทิเบตวา “สักเจีย”
แปลวา ดินชนิดหนงึ่ ในบริเวณจ้ัง ซึง่ อยูท างตอนใตข องแมน า้ํ ยาลงุ ซังโป๑๙
วัดของสักกยะมีเอกลักษณคือทาสีเปน ๓ แถบ คือแถบสีแดง สีขาว และสีดํา สี
ท้งั ๓ เปน สแี หง พระโพธิสัตว ๓ องค ซ่ึงนกิ ายสกั กยะใหค วามสาํ คญั มาก คือ
สีแดง เปน สีแหง พระมัญชุศรโี พธิสัตว ผูท รงปญ ญาคุณ
สีขาว เปนสีแหงพระอวโลกเิ ตศวรโพธสิ ตั ว ผูเมตตากรณุ าคณุ
สดี ํา เปนสแี หง พระวัชรปาณโี พธิสัตว ผทู รงพลาคณุ ในประเทศ
นิกายสักกยะไดตั้งข้ึนในศตวรรษท่ี ๑๑ ผูกอต้ังนิกายคือผูสืบเชื้อ สายขุนนางเกา
ตระกูล คอน คอนโซก เกียวโป ทานไดรับคําสอนตันตระกาลจักรจากบิดาซ่ึงรับคําสอนมาก
จากวิรูปะโยคีชาวอินเดีย คอน คอน โซกเกียวโปไดเดินทางไปเรียนตันตระจากอาจารยอีก
ทานคือโยมิโลซาวา คอน คอน โซกเกียวโปไดสรางวัดของนิกายสักกยะขึ้นใกลแมนํ้าถอม

๑๙ ผศ.ดร.สุวิญ รักสัตย, พระพุทธศาสนามหายาน, (กรุงเทพมหานคร: บางกอกบล็อก,
๒๕๕๕), หนา ๑๙๗.

๒๓๖ ขบวนการพระพทุ ธศาสนาใหมในโลกปจ จุบนั
พระมหามิตร ฐติ ปฺโญ,ผศ.ดร.
บทท่ี ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

เปนบัญญัติของคอนคอนโซกเกียว โปวาการสืบทอดในนิกายสักกยะจะสืบทอดเฉพาะคนใน
ตระกูลคอนเทาน้ันตําแหนงของเจานิ กายสักกยะเปนตําแหนงท่ีมีอํานาจท้ังในทางการเมือง
และการศาสนาความสําคัญในเชิงประวัติ ศาสตรไดบันทึกไววาผูสืบสายนิกายสักกยะทานท่ี
๔คือคุงกา เกยี วเจนหรือสักกยะบันฑิตและ หลานของทานท่ีช่ือวาพักปะโลดุปเกียวเจนท้ัง ๒
ทา นเปนผมู ชี ือ่ เสียงในการเมอื งของทิเบตมาก ท้ัง๒ทานไดร ับการเชิญจากโดยขานชาวมงโกล
ใหไปแผแพรพุทธตันตระในประเทศจีนเปนที่ เลื่อมใสแกขานมงโกลอยางมาก กุบไลขานได
แตงต้ังใหพักปะโลดุปเกียวเจนใหปกครองทิเบต และนี่เปนจุดเริ่มตนของการท่ีพระสงฆนั้น
ปกครองทง้ั อาณาจักรและศาสนะจกั ร

๖.๔.๔ นิกายหมวกเหลือง
นกิ ายหมวกเหลือง หรือนิกายเกลกุ เนน ความเครงครัดในวินัยเปนพื้นฐาน ลามะ
ของนิกายน้ีสวนใหญเปนพระสงฆ เนนการสอนทั้งทางพระสูตรที่เปนวิชาการและทาง
ตันตระท่ีเนนการปฏิบัติ และการวิเคราะหธรรมโดยตรรกวิภาษ หัวขอใหญท่ีศึกษาคือ
ปญญาบารมี ปรัชญามาธยมิก การรับรูท่ีถูกตอง ปรากฏการณวิทยา และพระวินัย ผูนํา
นิกายเกลุกในปจจุบันคือผูดํารงตําแหนงดาไล ลามะหรือทะไล ลามะ ซึ่งเปนผูนําทางจิต
วญิ ญาณของทเิ บตดวย
นิกายหมวกเหลือง เปนนิกายยอยนิกายหนึ่งของศาสนาพุทธนิกายทิเบต ผู
กอ ตั้งชื่อ หลัวปจู า ง จงเคอปา เรม่ิ บวชตงั้ แตอายุ ๘ ขวบ พออายุ ๑๗ ป ก็เดินทางไปทิเบต
เพ่ือศึกษาคัมภีรนิกายลามะ ตอมาไดเปนนิกายศาสนาพุทธท่ีปกครองทิเบต เน่ืองจาก
พระภิกษุของนิกายน้ีสวมจีวรสีเหลือง จึงไดช่ือวานิกายเหลือง พระลามะองคนี้มีคุณูปการ
สําคัญตอการปฏิรูปนิกายลามะ ท้ังพระทะไลลามะและพระปนเชนลามะลวนเปนลูกศิษย
ของทาน
นิกายเกลุก หรือ นิกายเกลุกปะ หรือ นิกายหมวกเหลือง พัฒนามาจาก
นิกายกดัมที่อาจารยอตีศะวางรากฐานและและอาจารยสองขะปะเปนผูปฏิรูปหลักคําสอน
ของนิกายหมวกแดงแลวตั้งนิกายใหมขึ้นเม่ือ นิกายเกลุกปะ หรือนิกายหมวกเหลือง เม่ือ
ทานมรณภาพไดสบื ทอดตาํ แหนงเจาอาวาสวัดกานเด็นให เจล ซับเจ ถือเปนจุดเริ่มตนการ
สืบทอดผูนําของสายนิกายเกลุก ผูนํานิกายเกลุกในปจจุบันคือผูดํารงตําแหนงดาไล ลามะ
หรือทะไล ลามะ ซง่ึ เปนผูนาํ ทางจติ วญิ ญาณของทิเบตดว ย
พระสงฆในนกิ ายนีไ้ ดรบั การยกยอ งนบั ถอื จากผปู กครองมองโกลวาเปนผูนําทางจิตวิญญาณ
และตอมาถอื วาเปน ผปู กครองบานเมอื งดวย

ขบวนการพระพทุ ธศาสนาใหมในโลกปจจบุ นั ๒๓๗
พระมหามิตร ฐติ ปฺโญ,ผศ.ดร.
บทท่ี ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

ในรัชสมัยของพระเจาอัลตันขาน พระองคไดพบประมุขสงฆองคท่ี ๓ ของนิกาย
เกลุกปะชื่อ สอดนัมยาโส พระองคเกิดความเชื่อวา พระสอดนัมยาโสนี้เปนอาจารยของ
พระองคในชาติกอนจึงเรียกพระสอดนัมยาโสวา ทะเล หรือทะไล (Dalai) ตั้งแตนั้นมา
ประมุขสงฆของทิเบตจะถกู เรียกวา ดาไลลามะ หรือทะไล ลามะ

ทะไลลามะบางองคไดรับมอบอํานาจจากผูนํามองโกลใหปกครองประเทศทิเบต
ทงั้ หมด ทาํ ใหพระพุทธศาสนาและวัฒนธรรมเจริญรุงเรือง จนถึงทะไลลามะองคท่ี ๗ (พ.ศ.
๒๓๕๑-๒๔๐๑) ทิเบตไดเขาสูยุคของการปดประตูอยูโดดเด่ียว เน่ืองจากประสบความผัน
ผวนและการเปลี่ยนแปลงตางๆ ตามเหตุการณของบานเมือง เชน มีนักบวชคริสตศาสนา
เดินทางเขา มาเผยแผศ าสนา ความสมั พันธก บั ประเทศอินเดียจางหาย จีนไดเขาครอบครอง
ทิเบตใน พ.ศ. ๒๔๙๔

ขณะนี้ทะไลลามะประมุขสงฆของทิเบตองคปจจุบัน เปนพระองคที่ ๑๔ ทรงนํา
นกั ลีภ้ ัยอยใู นประเทศอนิ เดีย ตง้ั แตท รงเดนิ ทางหลบหนีออกจากทิเบตใน พ.ศ. ๒๕๐๒ เปน
ตน มา

พระพุทธศาสนาในทิเบตมีหลายนิกาย นิกายเกาที่นับถือพระปทมสัมภวะน้ัน
ตอ มาไดชื่อวา นกิ ายหมวกแดง มีคําสอนท่ีผสมผสานระหวาหินยานกับมหายานเขาดวยกัน
บังคบั พระสงฆใหถ อื พรหมจรรยแ ละไมส นับสนนุ ไสยศาสตร

๖.๕ ดาไล ลามะ กบั การปกครอง

การปกครองในประเทศทิเบต ต้ังแตพระมหากษัตริยลงมาเปนลามะ๒๐ ทั้งสิ้น
ฐานนั ดรสูงสดุ ในทิเบตมีอยู ๒ ตําแหนง คือ ดาไล ลามะ, ตาชิ ลามะ ดาไล ลามะถืออํานาจ
ทางอาณาจักรคือเปนพระมหากษัตริย สวนตาชิ ลามะ ถืออํานาจทางศาสนาปกครอง
เนนหนักทางศาสนจักร ชาวทิเบตเชื่อระบบอวตาร ถือกันวา ดาไล ลามะ อวตารมาจาก
พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว และตาชิ ลามะ อวตารมาจากอาทิพุทธะ ดังน้ัน การสรรหา
บุคคลเขารับตําแหนงทั้ง ๒ น้ี จึงมีวิธีการที่แปลกประหลาดมากเมื่อดาไล ลามะ และตาชิ
ลามะ ส้ินชีพลง ก็ตองแสวงหาเด็กที่เชื่อวาอวตารลงมา พวกเราจึงรูกันวา ผูที่รับตําแหนง
ดาไล ลามะ ในทิเบตน้ัน เปน เดก็ ๆ ทั้งสิน้

วิธีการสรรหาเด็ก ก็ใชวิธีการสืบสวนและสดับตรับฟงวา มีเด็กคนไหนบางท่ีรู
ความลบั ของลามะทง้ั สอง มกี ารเสี่ยงทาย เชน นําสิ่งของเครื่องใชของดาไล ลามะองคกอน

๒๐ พลตรหี ลวงวจิ ติ รวาทการ, ศาสนาสากล เลม ๔, หนา ๕๐๙.

๒๓๘ ขบวนการพระพทุ ธศาสนาใหมในโลกปจ จบุ นั
พระมหามติ ร ฐติ ปฺโญ,ผศ.ดร.
บทท่ี ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

มาใหเดก็ เลือก เปน ตนวา สมุดคมั ภรี บา ง พวงประคํา หรือไมเทา นาํ มาปะปนกับของบุคคล
อน่ื ถาเด็กสามารถหยบิ เคร่ืองใชของดาไล ลามะองคเกา ไดถกู ตอ ง ก็เลอื กเด็กคนนน้ั

นี่เปนหลักการ แตโดยความเปนจริงการเลือกนั้น ก็พยายามเลือกสรรหาเด็กท่ีมี
ลักษณะดี มีแววแหงความเฉลียวฉลาดอยางมาก เม่ือเอามาต้ังขึ้นเปนลามะสูงสุดแลว ก็มี
คณะผูสําเร็จราชการแทนลามะวาราชการ การบานการเมืองแทนไปกอนจนกวาเด็กนั้นจะ
บรรลุนติ ภิ าวะ ในระหวางน้ี คณะผทู าํ งานแทนก็จะใหก ารฝกอบรมใหการศึกษาอยางดีที่สุด
แกเด็กคนน้ัน ดังน้ัน เราจะเห็นไดวาดาไล ลามะ เปนผูที่มีจรรยามารยาท มีความสงางาม
มีวิสัยทรรศนอยางดีมากทีเดียว ตําแหนงสูงสุด ๒ ตําแหนง คือดาไล ลามะ วาการทาง
อาณาจักร และตาชิ ลามะ วาการทางศาสนจักรนี้ ตอมาในภายหลังเหลือเพียงตําแหนง
เดยี ว คือ ดาไล ลามะ ซึ่งตอ งรับผดิ ชอบในการปกครองทัง้ อาณาจักรและศาสนจักร คือเปน
ท้ังพระมหากษัตริยและพระสังฆราชพรอมกันไปดวย ก็เปนอันวาการปกครองประเทศ
ทเิ บตเปน การปกครองโดยพุทธจกั รโดยแท

๖.๖ คําสอนสําคัญของดาไล ลามะขององคดาไล ลามะที่ ๑๔

๖.๖.๑ ศิลปะแหง ความสขุ
ความสุขเปนสิ่งที่มนุษยทุกคนปรารถนา แตการไดมาซ่ึงความสุขของแตละคน
อาจเหมือนหรือแตกตางกันก็ได บางคนสามารถหาความสุขกันไดงายๆ จากชีวิตประจําวัน
แตบางคนมีวัตถุส่ิงของและผูคนรอบขางมากมายก็ยังหาความสุขไมเจอ การไดมาซึ่ง
ความสุขจึงเปนศิลปะอยางหนึ่ง หรือเปนทักษะอยางหน่ึงท่ีควรจะสรางใหเกิดข้ึนในตัวเรา
เพราะถาหากเรามที กั ษะน้อี ยูป ระจาํ ตวั ยอ มสามารถทําใหพบกับความสุขไดงายๆ ทุกท่ีทุก
เวลา ไมวา จะอยใู นฐานะหรืออยูในสถานการณเชน ใดก็ตาม
ดาไลลามะ เปนพระสงฆท่ีมีชื่อเสียงเปนท่ีรูจักกันท่ัวโลก ทานไดสอนเร่ือง
เกี่ยวกับศิลปะแหงความสุขไวมากมาย ทานเคยกลาวไวตอนหน่ึงวา จุดมุงหมายท่ีแทจริง
ของมนุษยก็คือการแสวงหาความสุข ไมวาเขาคนน้ันจะนับถือศาสนาหรือไมก็ตาม และไม
วาเขาคนนั้นจะนับถอื ศาสนาใดก็ตาม มนุษยทุกคนลวนแลวแตตองการแสวงหาส่ิงท่ีตนเอง
คดิ วา ดใี หก บั ชวี ติ ฉะน้ัน ชีวติ ของมนษุ ยเรานนั้ มีความสุขเปน จุดหมายปลายทาง
การตองการความสุขของเรา ทําใหเราวางเปาหมายท่ีจะทําโนนทํานี่และ
พยายามทําตามความฝนของตนเองใหประสบความสําเร็จ เพราะเรามักเชื่อม่ันวาเมื่อเดิน
ไปถงึ เปาหมายแลวจะทาํ ใหเรามคี วามสุข แตพ อเราเดนิ ไปถงึ จุดหมายนนั้ จรงิ ๆ ก็มักปรากฏ
ชดั วามแี ตความวางเปลาความสขุ ทีเ่ กิดขึ้นเพียงประเดี๋ยวประดาวแลวก็จากไป หลังจากน้ัน
เราก็ตงั้ เปาหมายใหมและเรมิ่ ดาํ เนินไปสเู ปา หมายตามท่ีตงั้ ไวเปนอยอู ยางนี้วนซํา้ ไปซํ้ามา

ขบวนการพระพทุ ธศาสนาใหมใ นโลกปจ จบุ ัน ๒๓๙
พระมหามิตร ฐติ ปโฺ ญ,ผศ.ดร.
บทที่ ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

บางคนจึงไมรูเลยวาเปาหมายท่ีแทจริงของชีวิตอยูที่ไหน.....หรือคืออะไร
ความสขุ ทีแ่ ทจ รงิ เปนอยางไร ทําอยา งไรจึงจะไมห มนุ กลบั ไปสูการมีความทุกขอีก๒๑

ปญหาดังกลาวน้จี ะหมดไป ถาหากเราใชเวลาพิจารณาไตรตรองดูใหละเอียด ซึ่ง
จะพบวาเปาหมายจริงของมนุษยคือความสุข เราแสวงหาเงินทองก็เพื่อใหไดมาซึ่งความสุข
อยากไดบานอยากไดรถ ไดแฟนท่ีดี ก็เพื่อตองการใหตนเองมีความสุข แตการตองการ
ความสุขและการแสวงหาความสุขของเรานเ่ี องท่เี ปน ทมี่ าของความทกุ ขทัง้ หลายท้ังปวงของ
ชวี ติ ทเ่ี ปนเชนนี้กเ็ พราะเราขาดศลิ ปะแหงความสขุ นั่นเอง

การสรางศิลปะแหงความสุขไมใชเร่ืองยากเกินความสามารถของมนุษย เราทุก
คนสามารถสรา งใหเกดิ ข้นึ มขี ้นึ ได หากรูวิธกี าร

ดาไลลามะไดกลาวถึง ศิลปะแหงความสุขวา เราจะบรรลุความสุขไดก็โดยผาน
การฝกจิต ซ่ึงคําวา “ฝกจิต” ในที่น้ีไมไดหมายถึงเพียง “จิต” ท่ีเปนสติปญญา
ความสามารถในการคดิ อา นเทาน้ัน แตหมายถงึ “จติ วญิ ญาณ” ที่รวมทั้งปญญาและความรู
การฝก ฝนภายในนจ้ี ะทําใหเราสามารถเปลี่ยนแปลงทัศนคติและมุมมองตอส่ิงตางๆ รวมถึง
วธิ ีการดําเนนิ ชวี ิตทัง้ หมดไปสูทางท่ีถูกตองดีงาม ซ่ึงส่ิงเหลาน้ีจะหลอหลอมรวมเปนมาของ
ความสขุ อันย่ิงใหญของชวี ติ ๒๒

ดาไลลามะไดกลาวถึงการฝกฝนภายในไววา ในการฝกฝนภายในนั้นมีสิ่งท่ี
เกี่ยวของมากมายหลายอยาง แตโดยท่ัวไปแลวจะตองเริ่มจากการรูจักแยกแยะเหตุปจจัย
ตางๆ ท่จี ะนําความสขุ มาใหเ ราและเหตุปจจยั ตางๆ ทจี่ ะนาํ ความสุขมาให เมื่อแยกแยะเหตุ
ปจ จัยตา งๆ ไดดงั นี้แลว กค็ อยลงมอื กาํ จดั ปจ จยั ท่ีทําใหเกิดความทุกขและพยายามบมเพาะ
ปจ จยั ท่ที ําใหมคี วามสุข น่แี หละคือวธิ ีการสําคญั ท่ีจะทาํ ใหมนุษยพบความสขุ ดว ยตวั เอง

จากคําสอนของดาไลลามะก็จะเห็นวา การมีความสุขท่ีแทจริงไดเราจะตองมี
ปญญาเขาใจถึงเหตุปจจัยตางๆ อันเปนท่ีมาของความสุขและความทุกขเม่ือรูถึงเหตุปจจัย
อันแทจริงก็ยอมสามารถที่จะกําจัดเหตุแหงความทุกข และสรางเฉพาะเหตุปจจัยที่นํา
ความสุขมาใหเราได การรูและเขาใจเหตุปจจัยตางๆ จึงเปนสําคัญอยางย่ิง หากเราไมรูไม
เขาใจสาเหตุแหงทุกขและสุขอยางแทจริงก็ยอมทําใหเรากระทําสิ่งผิดๆ ตอไป และสิ่ง

๒๑ บุญมี พวงเพชร, Happy Life พลังคําสอนของ ดาไล ลามะ เพื่อความสุขของชีวิต
อยา งแทจ รงิ , (นนทบรุ :ี ธิงค บียอนดบุคส, ๒๕๕๖), หนา ๑๘-๑๙.

๒๒ ราช มามัญ, The Holiness the Dalai Lama, (นนทบุรี: สํานักพิมพ ปราชญ,
๒๕๕๕), หนา ๓๙-๔๔

๒๔๐ ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมในโลกปจจุบนั
พระมหามิตร ฐติ ปฺโญ,ผศ.ดร.
บทท่ี ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

เหลานั้นท่ีเรานึกวามันจะนําความสุขมาให แตสุดทายมันก็จะนําความทุกขมาสูตัวเรา
นน่ั เอง๒๓

ความสุขท่ีเราแตละคนไดรับในชีวิตประจําวันมักจะเปนความสุขท่ีเกิดจาก
ความสําเร็จเลก็ ๆ นอ ยๆ เชนไดเลอื่ นข้ันเงินเดือน ไดงานท่ีดี ไดรถคันใหม ไดพบคนที่ถูกใจ
เปนตน

แตสง่ิ เหลานี้กท็ าํ ใหเ ราแชม ชืน่ อยูชวั่ ขณะเทานน้ั ไมน านมันก็จะหวนไปสูความสุข
หรือความปกติทเี่ ราคนุ เคยอยเู ปนประจาํ ในทํานองเดยี วกบั ความทุกขเชนเดียวกันไมวาเรา
จะทุกขนอ ยหรือทุกขมากขนาดไหนก็ตาม ในที่สุดมันก็จะทุกขอยูชั่วขณะเทาน้ันไมนานนัก
จิตก็จะปรับเขามาสูสถานะเดิมๆ ที่เราคุนเคยซ่ึงเปนระดับความสุขที่เคยเปนในแตละวัน
หรือใกลเคียงกบั ระดบั ปกติ เปน อยูอยางน้หี มุนเวียนอยูเร่อื ยไป

สภาพจิตของมนุษยเรามีลักษณะขึ้นๆ ลงๆ และมักจะปรับหวนคืนสูพ้ืนฐาน
ระดับความสุขตามความเคยชินของเรา ไมวาสถานการณภายนอกจะเปนอยางไรก็ตาม ส่ิง
ท่สี ําคญั คอื เราสามารถปรบั ระดับความสขุ น้ีใหส ูงขนึ้ ไดห รือไม? หากไดจ ะปรับอยา งไร?

วิธกี ารอยา งหน่ึงที่จะชว ยปรบั ระดบั พน้ื ฐานของความสุขของเราใหสูงขึ้นคือ การ
เปล่ียนมมุ มองใหม ซึง่ โดยปกติมนุษยนั้นมักมีความทุกขจากการคิดผิด เชน คิดวาตนเองได
เงินเดือนนอยเม่ือเอาไปเทียบกับเพ่ือนรวมงาน คิดวาตนไมเกง ไมสวย ไมหลอ เม่ือเทียบ
กบั คนอื่นๆ ท่ีดีกวาตน การคดิ เชนนจี้ ะทําใหค วามสขุ ของเราลดนอ ยลง และทําใหเกิดความ
อจิ ฉารษิ ยาไดงาย ความขุนเคืองใจ และความทกุ ขยอ มเกิดตามมาในท่สี ดุ

ในทางตรงกันขามหากเราเอาตนเองไปเปรียบกับคนท่ีโชคดีนอยกวาเรา ไมเกง
เทาเรา ไมหลอเทาเรา ซึ่งมีอยูมากมาย พรอมกับนึกถึงส่ิงท่ีดีตางๆ ท่ีเรามีอยู ก็ยอมเกิด
ความสุขข้ึนมาได นอกจากน้ัน ความเมตตากรุณาตางๆ ก็ยังจะเกิดข้ึนตามมาอีก การรูจัก
เปลย่ี นมุมมองจงึ เปนศิลปะทส่ี ําคัญท่ีจะทาํ ใหเราสรา งความสขุ ใหเ กิดข้ึนไดอยา งงา ยๆ

ดาไลลามะไดอ ธบิ ายเพม่ิ เติมวา ถงึ แมวา เราจะสามารถบรรลุความสุขไดแตความ
จริงแลวความสุขเปนส่ิงที่ซับซอนมากและมีหลายระดับ เหตุปจจัยท่ีทําใหเกิดความสุขก็มี
มากมาย เชน ในศาสนาพุทธก็ไดกลาวถึงเหตุปจจัย ๔ ประการ ท่ีทําใหเกิดสุขขึ้นน่ันคือ
ความม่ังค่ัง ความพึงพอใจในทางโลก ความเจริญทางจิตวิญญาณ และความรูแจง ซ่ึงหาก
นาํ ทั้งหมดนีม้ าประกอบเขา ดว ยกันแลวกจ็ ะครอบคลุมท้งั หมดทค่ี นเราพยายามไขวค วา๒๔

๒๓ บุญมี พวงเพชร, Happy Life พลังคําสอนของ ดาไล ลามะ เพื่อความสุขของชีวิต
อยา งแทจ รงิ , หนา ๑๙.

๒๔ อา งแลว.

ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมในโลกปจจบุ นั ๒๔๑
พระมหามติ ร ฐติ ปฺโญ,ผศ.ดร.
บทที่ ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

จากคําสอนของทานดาไลลามะ หากเรายังไมกลาวถึงความเจริญทางจิตวิญญาณ
และความรูแจง กลาวถึงเฉพาะความสุขทางโลก ก็จะเห็นวา นอกจากคนเราจะมีความสุข
จากความมัง่ คัง่ แลว ยังมีสวนประกอบอื่นๆ ที่เปนสิ่งที่นําความสุขมาใหแกเรา ไมวาจะเปน
การมีสุขภาพดี การมีสิ่งอํานวยความสะดวกตางๆ มีทรัพยสมบัติท่ีเพียงพอตอการใชจาย
นอกจากนั้น ก็ยังมีเหตุปจจัยที่เพิ่มขึ้นจากวัตถุเหลาน้ันอีกคือ การมีเพื่อนที่ดี มีคูครองที่ดี
ส่ิงเหลา น้ลี วนเปนปจจัยท่ีกอเกิดความสุขทั้งสิ้น ความสุขจึงเปนส่ิงที่ซับซอนในแงน้ี เพราะ
แหลงที่มาของความสุขที่อยูร ายรอบตัวเรามีอยูมากมาย

แมวาแหลงท่ีมาของความสุขจะมีอยูมากมาย แตการท่ีคนเราจะสามารถนําส่ิง
เหลา นน้ั มาใชใ หช วี ิตสมบรู ณพ นู สขุ มากข้ึนไดห รอื ไม สงิ่ สําคญั ทีส่ ุดกค็ ือ สภาพจิตใจของเรา
น่นั เอง

หากสภาพจิตใจของเราดี ก็ยอมเสวยความสุขกับสิ่งท่ีอยูรายรอบตัวเราไดงายและ
สามารถท่ีจะเพ่ิมพูนความสุขใหกับตนเองไดงาย เชน การมีสุขภาพดี การม่ังคั่งรํ่ารวย หาก
นาํ ไปใชใ นทางทีช่ วยเหลือผูอ่นื ก็จะเปนปจจัยท่ีทาํ ใหเ ราไดรบั ความสุขเพ่ิมมากขนึ้ ไปอีก

ในทางตรงกันขามหากสภาพจิตใจของเราไมดี ไมวาเราจะรํ่ารวยขนาดไหน มี
สขุ ภาพดีอยางไร ก็คงจะหาความสุขไดยาก เชน ถาเรารํ่ารวย มีสุขภาพแข็งแรงดี แตในใจ
เต็มไปดวยความโกรธ ความเกลียด ความอิจฉาริษยา ความกังวลตางๆ ก็คงไมมีความสงบ
สุขจะมีแตความเรารอนคุกรุนอยูตลอดเวลา และจิตใจท่ีไมดีงามนั้นอาจจะสงผลเสียตอ
สุขภาพได แตถ าหากเรารจู กั รกั ษาสภาพจิตใจใหสงบเปน สุขก็ยอมสามารถกลับมาเปนคนที่
มคี วามสุขไดม ากข้ึนทง้ั ๆ ท่มี ีสขุ ภาพกายออนแอ

การม่ังมีทรัพยสินเงินทองและวัตถุท้ังหลาย จึงไมใชหลักประกันวาจะทําใหผู
ครอบครองมีความสุข ความเบิกบาน หรือการมีเพ่ือนที่ดี มีแฟนที่ดีก็เชนเดียวกัน หากใจ
ของเรากําลังโกรธเกลียดอยางเต็มท่ี เพ่ือนท่ีวาสนิทกันเพียงใดก็ดูเย็นชา เหินหาง นา
ราํ คาญได

สภาพจิตใจจึงเปนส่ิงสําคัญท่ีมีอิทธิพลตอความสุขที่จะเกิดขึ้นในชีวิตประจําวัน
ของเรา เราจึงควรท่ีจะหนั มาใหค วามสําคัญกับจิตใจอยางจริงจงั หากเรารูวิธีที่จะทําใหชีวิต
ของเรามีความสขุ และเบกิ บานได ยิ่งมีจิตใจท่ีสงบไดมากเทาไรใจก็จะย่ิงมีความสุขและเบิก
บานมากเทา น้นั

ดาไลลามะไดอธิบายเพ่ิมเติมวา เม่ือพูดถึงภาวะจิตที่สงบเราอยาไปสับสนกับจิต
ที่ไมรูสึกรูสาอะไร หรือภาวะจิตท่ีเฉยชา การมีจิตสงบทานไมไดหมายถึงการน่ิงอยูเฉยๆ
หรือวางเปลาโดยส้ินเชิง แตทานหมายถึง สภาวะจิตท่ีมีรากฐานมาจากความรักและความ
กรุณา ซ่ึงเปยมดวยความรูสึกท่ีไวมาก จิตท่ีสงบจึงไมใชเพียงแคการอยูน่ิงเฉยเทานั้น แต

๒๔๒ ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมในโลกปจจุบนั
พระมหามิตร ฐติ ปฺโญ,ผศ.ดร.
บทท่ี ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

หมายถึงการมีปญญารูเทาทันส่ิงตางๆ ตามความเปนจริงดวย จึงจะทําใหจิตละหรือสงบ
จากการยดึ มนั่ ถอื มั่นในสรรพสิง่ ได๒๕

ดาไลลามะยังไดอธบิ ายเพมิ่ เตมิ วา หากมนษุ ยเราขาดการฝกฝนเพ่อื ใหจิตสงบ ไม
วาเราจะมีสิ่งอํานวยความสะดวกมากมายหรือเหตุการณจะเปนอยางไร ส่ิงเหลาน้ันจะไมมี
วันท่ีจะใหความรูสึกเบิกบานและความสุขอยางที่เราตองการท่ีจะแสวงหาได แตในทางกับ
กันถาเรามีคุณลักษณะภายในคือ มีจิตใจท่ีสงบและมั่นคงระดับหน่ึง ไมวาเราจะขาดสิ่ง
อํานวยความสะดวกหรือเหตุการณจะเปนอยางไรก็ตาม เราก็จะยังคงสามารถมีชีวิตอยูอยู
ไดอ ยางเบกิ บานและเปย มไปดว ยความสขุ

การมคี วามสุขหรือไมม ีความสุขของคนเรา สภาพจิตใจจึงเปนส่ิงสําคัญอยางมาก
สภาพจิตใจท่ีดีงามมคี วามสงบม่งั ค่ังภายในยอ มเกดิ ความสุขไดตลอดเวลา ตรงกันขามจิตใจ
ที่ดิ้นรน กวัดแกวง ก็ยอมมีแตความทุกข การฝกจิตจึงเปนสิ่งสําคัญอยางย่ิงท่ีจะทําใหเรามี
ศิลปะแหงความสขุ

การฝกจิตใหสงบเปนทักษะท่ีสําคัญ หากฝกไดจนถึงระดับหนึ่งแลวจะสามารถ
บังคับจิตใหสงบไดตามที่ตองการคือ ปรารถนาอยากใหจิตเกิดความสงบเม่ือใดก็ทําไดเมื่อ
น้นั เมื่อจะคิดพิจารณาในเรื่องใด ก็สามารถคิดพิจารณาไดลึกซ้ึง ละเอียดออน ในแงนี้จิตที่
สงบนอกจากจะทําใหเรามีความสุขไดอยางายๆ โดยไมตองอาศัยวัตถุภายนอกแลว ก็ยัง
ชวยทําใหเราทํางานตางๆ ไดอยางมีประสิทธิภาพดวย การมีจิตที่สงบจึงมีคุณคามากมาย
มหาศาล ผูท่ีตองการความสงบสุขในชีวิตจึงควรท่ีจะหมั่นฝกฝนจิตใจอยูเสมอ ซ่ึงจะทําให
ไดพบกบั ความสุขอันแทจรงิ และพบกบั สนั ติสุขตลอดไป

๖.๖.๒ การฝก จติ ใหเปนสุข
การฝกจิตใหสงบสุขเปนทักษะที่สําคัญท่ีจะทําใหเราไดพบความสุขอันแทจริง
เพราะสภาพจิตของเราเปนสิ่งสําคัญท่ีจะบอกวาเรามีความทุกขหรือความสุข หากสภาพ
จิตใจดีมีความสงบก็ยอมมีความสุข ทานดาไลลามะไดสอนวิธีฝกจิตวา เม่ือพูดถึงคําวา จิต
หรือความสํานึกรับรูมันมีความแตกตางหลากหลาย เชนเดียวกับวัตถุทั้งหลายท่ีมีท้ังดีและ
ไมดี มีโทษบาง หากตองการจะนําวัตถุใดมาใชก็ตองตรวจสอบใหดีกอนวามันมีคุณมีโทษ
อยางไร ในการฝกจิตก็เชนเดียวกัน จิตนั้นประกอบดวยความคิดนับรอยนับพัน มีท้ังท่ีเปน
ประโยชนแ ละเปนโทษ๒๖

๒๕ เรอ่ื งเดยี วกนั , หนา ๒๔.
๒๖ เรื่องเดียวกัน, ๒๘.

ขบวนการพระพทุ ธศาสนาใหมใ นโลกปจ จุบัน ๒๔๓
พระมหามติ ร ฐติ ปโฺ ญ,ผศ.ดร.
บทที่ ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

ดังนั้นในข้ันตอนแรก เราจึงตองเรียนรูวาอารมณและพฤติกรรมทางลบทั้งหลาย
ทาํ รา ยเราอยา งไร และอารมณทางบวกใหประโยชนอ ยางไร นอกจากน้ัน ก็ตองพิจารณาให
ดีดวยวา อารมณทางลบไมเพียงทํารายเราเทานั้น ยังทํารายคนรอบขางรวมถึงคนในสังคม
โลกดว ย การตระหนักเชนน้จี ะทําใหเ รามคี วามพยายามท่จี ะเผชิญหนาและเอาชนะมัน

นอกจากน้ี เราตองเขาใจถึงประโยชนของอารมณและพฤติกรรมทางบวกตางๆ
วา จะเปนประโยชนตอตนเอง สังคม และโลกอยางไร เมื่อพิจารณาเห็นประโยชนอยาง
ชัดเจนแลวจะทําใหเรามุงม่ันที่จะถนอม รักษา พัฒนา และเพ่ิมพูนอารมณทางบวก
เหลา นัน้ ไว ไมว า มนั จะยากเย็นเพียงใดก็ตามนคี่ ือความมงุ มัน่ ตั้งใจท่เี กดิ ข้นึ จากภายใน

การูจักวิเคราะหความคิดและอารมณอยางไหนเปนคุณอยางไหนเปนโทษ จะทํา
ใหเราคอยๆ เกิดความมุงม่ันอยางแรงกลาที่จะเปล่ียนแปลงตัวเราเอง และรูวาท่ีมาของ
ความสุขและความสาํ เร็จในอนาคตของเราก็อยทู ่ตี วั เราน่เี อง

ในทางพระพุทธศาสนาถือวา หลักการของเหตุและผลเปนกฎของธรรมชาติ
มนษุ ยจะยอมรับหรือไมยอมรับก็ตาม แตทุกอยางยอมเปนไปตามกฎธรรมชาตินั่นก็คือ กฎ
ของเหตแุ ละผล

ในการเผชญิ หนากับความจริง หากมเี หตกุ ารณบางอยา งที่เราไมปรารถนาเกิดขึ้น
ในชีวิต วิธีท่ีดีท่ีสุดจะชวยประกันวา มันจะไมเกิดข้ึนอีกก็คือ เราจะตองกําจัดเหตุปจจัย
ตางๆ ที่เปนตัวนําใหเกิดเหตุการณดังกลาว ในทํานองเดียวกันถาเราอยากใหเหตุการณใด
เกดิ ขึน้ กับชวี ิตเรา ส่ิงท่เี ราจะกระทําไดค อื คนหาและสั่งสมเหตุปจจัยตางๆ ท่ีเปนตัวกอเกิด
มันขึน้ มาหรอื สรางเหตุปจจยั ใหม นั ถกู ตองน่นั เอง

ในเรอื่ งของสภาพจติ กเ็ ชน เดยี วกัน หากเราปรารถนาความสุขก็ตองคนหาสาเหตุ
ที่ทําใหความสุขเกิดขึ้น พยายามสรางเหตุปจจัยเหลานั้นใหมากที่สุด และพยายามหาทาง
กําจัดเหตุปจจัยท่ีจะทําใหเกิดความทุกขใหหมดส้ินไป ชีวิตก็จะมีแตความสุขน่ีคือกฎแหง
เหตุและผลที่ตองเขาใจใหชัดเจน หากเขาใจอยางน้ี ก็นับวาชีวิตไดเร่ิมท่ีจะกาวไปสูทางท่ีดี
งามแลว

ในการฝกหัดขดั เกลาจติ กต็ อ งหม่นั ตรวจสอบภาวะจิตตา งๆ ที่มีมากที่เราประสบ
แลวจําแนกแยกแยะภาวะจติ ที่แตกตา งเหลา นน้ั ออกมาใหชัดเจน และดูวาภาวะแตละอยาง
มนั นําไปสคู วามทุกขหรอื ความสขุ

ทา นดาไลลามะไดก ลา วถึงวิธกี ารฝกจติ เชนนี้ โดยยกตัวอยาง การท่ีเรามีจิตใจท่ีมี
ความโกรธ เกลียด อิจฉาริษยานั้นมันเปนโทษ เพราะภาวะเชนน้ีเราถือวาเปนภาวะจิตทาง
ลบ ซ่ึงมันจะคอยทําลายความสุขสงบภายในจิตใจของเราอยูตลอดเวลา หากเราเก็บเอา
ความเกลียดชังหรือเจตนารายที่มีตอใครบางคนไวในจิตใจตลอด ตัวเราก็จะมีแตความ

๒๔๔ ขบวนการพระพทุ ธศาสนาใหมในโลกปจ จุบัน
พระมหามิตร ฐติ ปโฺ ญ,ผศ.ดร.
บทที่ ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

เกลียดและอารมณทางลบ ซึ่งส่ิงเหลาน้ีจะทําใหเราเห็นคนอ่ืนๆ มีแตเจตนารายตอเรา
เหมือนกัน ผลท่ีเกิดขึ้นก็คือเราจะเกิดความกลัวมากขึ้น มีความหวาดระแวง รูสึกไม
ปลอดภยั และตอ งปกปด ตัวตนทีแ่ ทจรงิ ความรูส ึกเหลา นี้จะกอตัวข้ึนพรอมๆ กับความโดด
เดี่ยวเปลี่ยวเหงาทามกลางโลกที่โหดรายในสายตาของเรา ความรูสึกตางๆ ทางลบเหลาน้ี
เติบโตขนึ้ เพราะความเกลยี ดเปน ตนเหตุ ในทางกลบั กนั ภาวะทางจิตท่ีประกอบไปดวยความ
เมตตากรณุ า ยอ มใหผ ลในทางสรางสรรคและเปน ประโยชนม ากตอชวี ติ ของเรา

อารมณลบท่ีอยูในจิตของเรา ยังส่ังสมพอกพูนมากเทาใด ก็ยิ่งทําใหเราประสงบ
กับความทุกขมากเทา นั้น๒๗ ในทางกลบั กันอารมณบวก เชนความเมตตากรุณามีแตจะนําส่ิง
ท่ดี งี ามมาสตู วั เราและผูท ่ีเกี่ยวของกับเรา อยา งทที่ า นดาไลลามะไดกลาวเพ่ิมเติมไววา คนท่ี
มีจิตใจเมตตากรุณา มีความเอ้ืออารี คือคนท่ีมีสุขภาพจิตดีถาเราสามารถคงความรูสึก
เมตตากรุณาเอาไว บางส่ิงบางอยางจะเปดประตูภายในใจของเราออกมา เราจะสามารถ
สือ่ สารกับคนอืน่ ไดง า ยขน้ึ ผา นจิตที่มีสภาวะเชนน้ัน และความรูสึกอบอุนจะชักนําใหเปดใจ
เราจะพบวา มนุษยทกุ คนกเ็ หมอื นกันกับตัวเรานน่ั เอง

เราสามารถสรางสัมพันธกับผูอื่นไดงายขึ้น มันจะชวยเสริมสรางความรูสึกเปน
มิตรข้ึนในตัวเรา เมื่อเปนเชนนี้ก็ไมมีอะไรใหตองปดบังมากนัก ผลก็คือ ความรูสึกกลัว
ความรูสกึ ไมป ลอดภยั และสงสยั ในตนเองกจ็ ะอนั ตรธานหายไป ท้งั ยงั สามารถเรียกความไว
เนื้อเชื่อใจจากคนอ่ืนไดอ กี ดวย

คนเราจะเกงกาจขนาดไหนก็ตาม หากจิตใจไมดีงามก็ยอมหาความสุขไดยาก
และยอมกลายเปนที่หวาดระแวงของคนอ่ืนได ในทางตรงกันขามหากจิตใจมีแตความ
เมตตากรุณา ยอมเปน ที่ชักนาํ อยากใหผูอนื่ เขา ใกลมาสนทนามาเปนมิตรดวย เพราะเม่ืออยู
ใกลคนเหลา น้เี ราจะรูส ึกเย็นสบายและไมตองกังวลวาเขาจะโกหกหลอกลวงอะไรเรา การมี
ภาวะจิตทางบวก เชนความเมตตากรุณา จึงทําใหผูมีสภาวะจิตนี้มีแตความชื่นบานอยู
ภายในและสามารถสรางมติ รภาพใหเกิดขึน้ ไดงาย

ถึงแมวาการพัฒนาจติ ในทางบวกจะดเู หมือนวาเปนส่ิงที่กระทําอยางงายๆ แตใน
ความเปนจริงแลวก็ไมไดงายสักเทาใดนัก ตองอาศัยปจจัยหลายอยาง ดังท่ีทานดาไลลามะ
ไดกลาวไววา การบรรลุความสุขที่แทจริงตองอาศัยเหตุปจจัยตางๆ มากมายจากหลาย
แหลงหลายทาง เราไมท่ีจะไปคิดวามีการแกปญหาเพียงวิธีเดียวหรือมีเคล็ดลับขอเดียว
เทา นน้ั ซ่ึงหากจะเปรียบก็เหมือนการดูแลรางกายใหถูกสุขวิธีนั่นแหละ เราตองการวิตามิน
และแรธาตุมากมายหลากหลายชนิด ไมใชเพียงแคหนึ่งอยางหรือสองอยาง ในทํานอง

๒๗ สมลักษณ สวางโรจน, ๓๖๕ ดาไล ลามะ วจนะจากใจ, (กรุงเทพมหานคร: สํานักพิมพแสง
ดาว, ๒๕๕๓), หนา ๒๕๔.

ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมใ นโลกปจ จบุ นั ๒๔๕
พระมหามิตร ฐติ ปโฺ ญ,ผศ.ดร.
บทที่ ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

เดียวกันการจะบรรลุความสุขไดก็ตองอาศัยวิธีการที่หลากหลายเพ่ือเอาชนะจิตทางลบ ซ่ึง
ภาวะจิตทางลบเองก็มีความสลับซับซอนและหลากหลายดวยเชนกัน หากวาเรากําลัง
หาทางที่จะเอาชนะวิธีคิดในทางลบ มันคงจะสําเร็จไดยาก ถาหากเรานําเพียงขอคิดใด
ขอคิดหน่ึงมาใช หรือฝกฝนอยูวิธีเดียวเพียงหนึ่งหรือสองคร้ัง เพราะการเปล่ียนแปลงมัน
ตองใชเ วลา

การที่เราจะปรับสภาพจิตใจใหมีแตสภาวะทางบวกเทาน้ัน จึงเปนส่ิงท่ีทําไมได
งายนักตองใชเวลาและจิตของคนเรามักจะมีลักษณะในทางลบอยูคอนขางมาก ตองคอยๆ
เผชิญกับมันไปที่ละเล็กละนอย ใหเวลากับตัวเองใหมากขึ้น ซ่ึงพอฝกบอยๆ เมื่อเวลาผาน
ไปเราจะเห็นความเปล่ียนแปลงท่ีดีงามเกิดขึ้นในตัว ในแตละวันที่เราลืมตาขึ้นมาก็จะ
สามารถพัฒนาแรงจงู ใจในทางท่ีดไี ด๒๘

เชน คิดวาจะใชวันน้ีไปในทางท่ีสรางสรรคกวาเดิมจะไมปลอยใหวันน้ีสูญเปลา
เปนตนหากเราทําอยางนี้อยูเปนประจําทุกวันก็จะคอยๆ เสริมสรางภาวะจิตทางบวกไดใน
ท่ีสุด

เหตุนี้เองทานดาไลลามะจึงกลาวไววา การฝกปฏิบัติธรรมก็คือ การตอสูภายใน
ใจของตนเองอยางตอเนื่อง มันเปนการปรับเปลี่ยนนิสัยหรือสภาพทางลบดวยการสราง
สภาพใหมทีเ่ ปน บวกใหเกิดขึ้น ซึ่งในการที่จะทําอะไรใหสําเร็จเราตองกระทําอยางตอเนื่อง
ไมป ลอยท้ิงเสยี กลางคนั เพราะมนั จะทําใหเสยี เวลาเปลา

ทานดาไลลามะไดกลาวไวอีกวา ไมวาเรากําลังฝกปฏิบัติแบบไหน ไมมีอะไรท่ีจะ
ไมงายขึ้นหากเราฝกฝนหรือกระทําอยางสมํ่าเสมอจนเกิดความคุนเคย เราสามารถ
เปลย่ี นแปลงตวั เองไดด ว ยการฝก ฝน

ชาวพทุ ธมกี ารฝกอยูหลายวธิ ีเพื่อรักษาภาวะจิตใหสงบในเวลาที่มีเรื่องมารบกวน
จิต การฝก จติ ดว ยวิธตี างๆ ทีพ่ ระพุทธเจา แนะนําอยูไมขาดจะทําใหเ ราสามารถพัฒนาตนไป
จนถึงจดุ ที่เรียกวา ไมวาจะมเี หตกุ ารณว นุ วายใจอะไรเกดิ ขึ้นก็ตาม มันจะสงผลทางลบเพียง
ผวิ เผนิ เทา น้ัน

การฝกจิตวันละเล็กละนอย จึงเปนส่ิงที่มีประโยชนมากท่ีจะทําใหเราเผชิญกับ
ภาวะจิตในทางลบไดอยางชาญฉลาด เชน ในขณะท่ีใจวุนวายกระสับกระสาย หงุดหงิด
โกรธเคือง ก็จะทําใหส่ิงตางๆ เหลานี้หายไปไดเร็วข้ึน จากการที่เราหมั่นฝกฝนอยูเปน
ประจําอารมณลบเหลานี้จึงไมสามารถสงผลมากนักกับชีวิตเรา เม่ือเรารูเทาทันมัน
เหมือนกบั คลน่ื มหาสมุทรทีซ่ ดั ซาด จะไมสงผลอะไรมากตอเบื้องลางมันเปนเพียงผิวนํ้าท่ีอยู

๒๘ บุญมี พวงเพชร, Happy Life พลังคําสอนของ ดาไล ลามะ เพ่ือความสุขของชีวิต
อยางแทจ รงิ , หนา ๓๓.

๒๔๖ ขบวนการพระพทุ ธศาสนาใหมใ นโลกปจจุบัน
พระมหามติ ร ฐติ ปโฺ ญ,ผศ.ดร.
บทที่ ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

ดานบนเทาน้ัน เม่ือกระทบถึงฝงก็จะแตกสลายไปเองไมสงผลใดๆ ตอน้ําท่ีอยูดานลางเลย
การฝก ฝนพัฒนาจติ กเ็ ชนเดยี วกนั หากรูเทา ทนั กับอารมณท ่เี กดิ ขึ้นกับเราแลว ก็จะเปนเพียง
ท่ีพัดผา นมาแลวกแ็ ตกสลายไปอยางน้ีคร้ังแลวคร้ังเลา ซึ่งผูท่ีรูเทาทันยอมไมหวั่นไหวไปกับ
คล่ืนเหลานี้ จะเปนเพียงผูรู ผูเห็น ผูท่ีนั่งมองดูคลื่นนี้อยางเขาใจ เหมือนกับเรานั่งอยูริม
ทะเลแลวมองดูคลื่นดว ยความสขุ สบายใจ

ส่ิงสําคัญอยางหนึ่งในการฝกจิตก็คือ ความประพฤติท่ีถูกทํานองคลองธรรม ซ่ึง
เปนการฝก จิตใหมวี นิ ัยดังเชนที่ทานดาไลลามะไดสอนไววา ความประพฤติถูกทํานองคลอง
ธรรมเปนการฝกวินัยทางจิตอีกรูปแบบหน่ึงซึ่งจะชวยใหชีวิตของเรามีสุขมากขึ้น หรือเรียก
สิง่ น้วี า ธรรมวินัย

บรรดาบรมครูทางจิตวิญญาณหลายทานอยางเชนพระพุทธเจา ทรงแนะนําให
เราทํากุศลกรรมและหลีกเลี่ยงท่ีจะปลอยตัวปลอยใจในอกุศลกรรมทั้งหลาย การกระทํา
ของเราเปนกุศลหรืออกุศลนั้นก็ข้ึนอยูกับวา มาจากสภาวะจิตท่ีมีวินัยหรือไม จิตที่มีวินัย
ยอ มนําไปสคู วามสขุ จติ ทไ่ี รระเบียบวินยั ยอ มนําไปสูความทุกข

การฝกอบรมจิตใหมีวินัย จึงนับวาเปนแกนสําคัญในการพัฒนาจิต ซ่ึงคําวา วินัย
ในท่ีน้ีทานหมายถึงวินัยในตนเอง ที่เรานํามาใชปฏิบัติเพ่ือเอาชนะลักษณะนิสัยท่ีเปนโทษ
ไมใชวินัยท่ีมาจากคนอื่นบังคับใหทํา ซึ่งทานดาไลลามะไดเนนยํ้าวา จิตที่ไมถูกฝกและไร
วินัยมักกอเกิดการกระทําอกุศล เราจึงจําเปนตองฝกใหตนเองมีพฤติกรรมทางบวกมาก
ข้นึ ๒๙

ธรรมชาติของจิตน้ันมีความสลับซับซอนมาก ในการฝกฝนจึงตองอาศัยความ
พยายามเปนอยางมากระเบียบวินัยเปนส่ิงสําคัญท่ีจะทําใหจิตของเราคุนเคยอยูกับสิ่งท่ีดี
งาม เชนหากเราฝกคิดแตในทางบวก เม่ือเราเจอส่ิงใดก็คิดบวกไดงายข้ึน ย่ิงกระทําบอยๆ
ซ้ําๆ ก็ย่ิงทําใหเรากลายเปนคนคิดบวกไดมากเทานั้น หากทําสมาธิตรงเวลาทุกวัน เม่ือฝก
นานเขา ทนั ทีทถ่ี ึงเวลาท่เี ราเคยฝกจิตจะสงบไดเร็วมากยิ่งข้ึน การฝกจิตจึงตองกระทําอยาง
ตอเนื่องและมีระเบียบวินัย จึงจะชวยทําใหเราฝกฝนกาวหนาพัฒนาไปไดดีและบรรลุ
เปาหมายอยางที่เราตั้งใจเอาไว “คนเราจะเกงกาจขนาดไหนก็ตาม หากจิตใจไมดีงาม ก็ยอ
มหาความสขุ ไดยาก”

๖.๖.๓ การสรา งความพอใจจากภายใน
ความพอใจจากภายในใจของเรานั้นเปนที่มาของความสุขท่ีสําคัญ การไมรูจักพอ
เปนมาของความทุกขตางๆ นานา ความตองการภายในมนุษยน้ันยากท่ีจะเติมใหเต็มได ยิ่ง

๒๙ เร่อื งเดยี วกัน, หนา ๓๖.

ขบวนการพระพทุ ธศาสนาใหมในโลกปจจุบัน ๒๔๗
พระมหามิตร ฐติ ปฺโญ,ผศ.ดร.
บทท่ี ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

หาไดมากเทาไรก็ย่ิงอยากไดเพิ่มมากขึ้นไปเรื่อยๆ เชน ในตอนแรกท่ีเราอยากมีรถ เรา
พยายามแสวงหาเงินมาซ้ือรถเม่ือเราสามารถซ้ือไดแลว เราก็อยากไดรถคันใหมที่ดีกวาข้ึน
ไปอีก เปน อยางนี้อยูเรื่อยไปชีวิตของคนเราจึงมักไมรูจักพอและการท่ีไมรูจักพอนี้เองท่ีเปน
ทมี่ าของความทกุ ขท้ังหลาย

บางคนแยงวา การอยากไดโนนอยากไดนี่ถาสามารถหาเงินมาซ้ือไดก็นาจะไมมี
ปญ หาอะไรเลย ย่ิงเราสามารถหาซอื้ สิง่ ของไดตามที่เราตองการ ก็นาจะทําใหเรามีความสุข
ความรสู กึ พอใจและเพลดิ เพลินไปกับมัน

ทา นดาไลลามะกลาวไววา ความรูสึกพอใจเพียงอยางเดียวไมเพียงพอที่จะตัดสิน
ไดเลยวา ความปรารถนาหรือการกระทําอยางไรอยางหนึ่งน้ันเปนผลดีหรือผลเสีย สิ่งที่จะ
บอกไดวาความปรารถนาหรือการกระทําน้ันเปนคุณหรือโทษ ไมไดอยูท่ีวามันจะนํา
ความรูสึกพอใจมาใหเราในทันทีทันใด แตอยูท่ีวาในทายท่ีสุดแลว มันกอใหเกิดผลลัพธ
ในทางท่ีดีหรือไมตางหาก อยางเชน ในกรณีท่ีเราปรารถนาอยากจะเปนเจาของวัตถุที่มี
ราคาแพง ถาความอยากนัน้ มาจากจิตใจท่รี สู ึกอยากไดโ นน อยากไดน ีม่ ากขึ้นเร่ือยๆ เราก็จะ
ไมอยูกับความเปนจริง เมื่อเราไขวควาไปถึงจุดน้ันแลวก็จะส้ินหวังจมอยูในความเศราและ
อะไรตอ มอิ ะไรอีก น่นั คืออันตรายอยา งหนงึ่ ทแี่ ฝงอยูในความปรารถนาประเภทนัน้

ความปรารถนาตางๆ มักจะนําไปสูความโลภซ่ึงเปนความปรารถนาท่ีมากเกินไป
หากพจิ ารณาใหด ีถงึ ความโลภท่ีมีมากเกินขีดจํากัด ก็จะพบวามันทําใหคนคนน้ันรูสึกอึดอัด
คบั ของ ผิดหวัง สบั สน วุนวาย และมปี ญหามากมาย

ลักษณะอันเปนโทษของความโลภอยางหนึ่งท่ีเห็นไดชัดคือ แมวาเราจะไดส่ิงที่
ปรารถนาแตก็กับไมรูสึกพอใจจากการไดครอบครองมันเลยจึงกลายเปนส่ิงที่ไมมีขอบเขต
ไมมีที่สิ้นสุด มีแตจะนําไปสูปญหาเพราะโดยทั่วไปแลวเมื่อเราไดสิ่งที่ปรารถนาเราก็จะยัง
รสู ึกไมพ อใจอยนู ่นั เอง ส่ิงทจี่ ะสามารถชว ยกําจัดความโลภใหหมดสิ้นไปไดอยางส้ินเชิงก็คือ
ความพอใจจากภายในของเรานั่นเองถาเรามีความรูสึกพอใจกับสิ่งที่มีอยูเปนอยูแลว เราก็
ยอ มรสู กึ เต็มอ่ิมอยูภายในไดต ลอด ไมวาเราจะมีวัตถุมากมายหรอื ไมก ็ตาม

วธิ ีการที่ทาํ ใหบรรลคุ วามรูสึกพอใจไดมีอยู ๒ วิธี คอื
วิธีที่หน่ึง การไลลา ไขวควา ครอบครอง ในสิ่งที่เราปรารถนาครอบครอง ไมวา
จะเปนบาน รถ เงินทอง หรืออะไรก็ตาม แตทานดาไลลามะไดช้ีใหเห็นโทษของการใชวิธีนี้
วา ถาเราปลอยความตองการหรอื ความปรารถนาของเราไปโดยไมควบคุม ไมตรวจสอบ ไม
ชาไมน านเราก็อาจจะไปเจอะเจออะไรบางอยางที่ตองการ แตไ มส ามารถมไี ด
วิธีท่ีสอง ที่จะสามารถทําใหบรรลุความรูสึกพอใจไดคือ เราไมจําเปนตองมีสิ่งท่ี
เราตองการ แตใหเราเห็นคุณคาในส่ิงท่ีเรามีอยูเปนอยู เห็นคุณคาในตนเองซึ่งส่ิงเหลานี้จะ

๒๔๘ ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมในโลกปจ จุบนั
พระมหามติ ร ฐติ ปโฺ ญ,ผศ.ดร.
บทท่ี ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

ทําใหเราสามารถมีความสุขไดอยางเต็มที่ทั้งท่ีเราไมมีวัตถุส่ิงของ หรือสิ่งอํานวยความ
สะดวกอยางพรอมมูลก็ตาม๓๐

ตามหลกั ความเชื่อทางพระพุทธศาสนาน้ัน การที่เราเกิดมาเปนมนุษยไดนั้นไมใช
เร่ืองงายนัก เมื่อเราเกิดมาแลวควรจะภาคภูมิใจในความเปนมนุษยท่ีมีอยู แมวาเราจะเกิด
มายากจนหรือเกิดมาไมสมประกอบ อยางไรก็ตาม หากคิดพิจารณาใหละเอียดก็จะเห็นวา
เรายงั โชคดที ่ีไดเ กดิ มาเปน มนษุ ย จึงไมค วรไปทอแท ทอถอยหรอื หมดหวงั สิ้นกาํ ลังใจ การท่ี
มัวแตน่ังทอแทส้ินหวังจะไมชวยทําใหชีวิตของเราดีขึ้นแตประการใด การพยายามทําในสิ่ง
ที่ดีงามตางหากที่จะชวยเปล่ียนแปลงชีวิตของเราใหดีขึ้นได เราทุกคนจึงควรหม่ันสราง
ความรูสึกพอใจภายในตนใหมาก อยานําตนเองไปเปรียบเทียบกับคนที่ดีกวา เกงกวา รวย
กวาใหมากนัก เพราะมันจะทําใหจิตใจของเราหดหูไดงาย แตถาหากนําไปเปรียบเทียบกับ
คนทด่ี อยกวา ต่ํากวา จิตใจเรากจ็ ะแชม ช่นื เบิกบานข้ึน และยังรูสึกวาเรายังมีความโชคดีอีก
มากมาย

การสรางความพอใจจากภายใน จึงเปนการเติมชีวิตใหเต็มโดยไมตองไปไขวควา
ว่ิงหาเหมือนกับการแสวงหาวัตถุส่ิงของ แตเปนการกระทําโดยพัฒนาจิตใจและปญญาใหรู
และเขา ใจในส่ิงตางอยางถูกตอง

ทานดาไลลามะยกตัวอยางของการเห็นคุณคาภายในตนเอง และการสรางเสริม
ความรูสึกใหเห็นถึงคุณคาในตนเองวา เราตองเห็นคุณคาของความเปนมนุษยอยางลึกซึ้ง
และศักด์ิศรีของความเปนมนุษย เชนที่ทานดาไลลามะสอนไวตอนหนึ่งวา “แหลงที่มาของ
ความรูสึกมีคาและมีศักด์ิศรีมาจากการมีความสัมพันธกับเพ่ือนมนุษยคนอื่นๆ เราสามารถ
ของสัมพันธเกี่ยวกับพวกเขาในฐานะท่ีเราเปนมนุษยคนหนึ่งในสังคม เราเปนสวนหน่ึงใน
สายสัมพันธน้ันและความสัมพันธระหวางมนุษยดวยกันก็เพียงพอแลวที่จะทําใหเราเกิด
ความรูสึกมีคาและมีศักด์ิศรี สายใยนั้นกลายเปนตนกําเนิดของความอบอุนใจเม่ือเกิด
เหตุการณท เ่ี ราสูญเสยี ทุกสงิ่ ทกุ อยาง

คําสอนของทานดาไลลามะทําใหเราเห็นวาความพอใจท่ีเกิดข้ึนภายในนั้นจะชวย
ใหเ รารสู ึกมคี า และพบศักดศ์ิ รที ีอ่ ยใู นตนเองและผูอื่น ทาํ ใหเราสรา งสมั พันธภาพที่ดีงามกับ
ผูอ่ืนข้ึนมาไดดวย เชื่อแนวาสิ่งเหลาน้ีจะนําไปสูการปฏิบัติตอกันและกันอยางมีเกียรติมี
ศักดศ์ิ รี ไมดถู กู ดูหม่ินซ่ึงกันและกัน ไมก ลา ววาจาท่ีไปเหยียดหยาม แตปฏิบัติตอกันและกัน
ดวยความออนนอมถอมตน จากความพอใจในตนอยางลึกซึ้งจึงทําใหเกิดส่ิงท่ีดีงามตางๆ
มากมายตามมา

๓๐ เรือ่ งเดยี วกัน, ๔๒.

ขบวนการพระพทุ ธศาสนาใหมใ นโลกปจจุบัน ๒๔๙
พระมหามิตร ฐติ ปโฺ ญ,ผศ.ดร.
บทท่ี ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

บางคนเอาศกั ด์ิศรไี ปผูกตดิ ไวกับวตั ถสุ ่ิงของ เชน การท่ไี มม ีเงินไมมีทอง ไมมีบาน
ไมมีรถ ไมมีทรัพยสมบัติ ไมมียศถาบรรดาศักดิ์ทั้งหลาย ดูเหมือนวาจะไมมีศักด์ิศรีแต
ประการใด หากความรสู กึ เชน นเ้ี กิดขนึ้ ก็เทา กับเราทําลายศักด์ิศรีของความเปนมนุษยที่อยู
ในตัวไปดวยการเอาศักดิ์ศรีไปผูกติดอยูวัตถุ จะทําใหเรารักษาความรูสึกปลอดภัยมั่นคงไว
ไดตราบเทาที่มีทรัพยสินเงินทองเทาน้ัน แตเมื่อใดก็ตามที่ทรัพยสินเงินทองรอยหรอไป
ยศถาบรรดาศกั ดเิ์ สือ่ มส้ินไป ความทุกขระทมกจ็ ะเกิดขน้ึ เพราะไมมที ย่ี ึดเหน่ียว

ในทางตรงกันขามหากเราสามารถมีทรัพยสิน มียศถาบรรดาศักดิ์ และมีความ
เอ้ืออารี มีความรักความเมตตากรุณาอยูในตัว ทั้งยังมีความรูสึกถึงคุณคาในตัวตนดวย คน
ประเภทนี้จึงมีโอกาสนอยที่เขาจะหมดอาลัยตายอยาก หากทรัพยสมบัติหรือ
ยศถาบรรดาศกั ด์ิของเขาเส่ือมสิ้นไป

ฉะน้ัน ในแงนี้จะเห็นวา ความรัก ความอบอุน ความอาทรของมนุษย มีคาอยาง
แทจริงตอการพัฒนาความรสู กึ เห็นคณุ คาภายในตนเอง

ความรัก ความอบอุน หรือความเมตตากรุณาดาไลลามะกลาววา เปนพื้นฐาน
ด้งั เดิมของมนษุ ยท ่ีมีมาแตก ําเนดิ เราจงึ ควรใชช วี ิตประสานกลมกลืนกับธรรมชาติพื้นฐานนี้
ตัวอยางของความเชื่อนี้ ทานดาไลลามะไดเปรียบเทียบใหเห็นวา เริ่มแรก ถาเรามอง
รูปแบบชีวิตต้ังแตวัยเด็กจนถึงวันตาย จะเห็นวา เราไดรับการเล้ียงดูทะนุถนอมดวยความ
รักจาคนอื่นๆ ต้ังแตแรกเกิดเลยทีเดียวสิ่งแรกท่ีเราไดรับเม่ือลืมตาออกมาดูโลกคือ ดูดนม
แม น่ีคือการแสดงออกถึงความรัก ถาไมมีการกระทําแบบน้ัน เราก็อาจจะไมมีชีวิตรอดมา
ได จึงเห็นไดชัดวาการกระทําดังกลาวคงไมเกิดข้ึนหากปราศจากความรูสึกรักกันและกัน
สาํ หรบั เด็กถา หากไมมคี วามรสู ึกรกั ไมมีความหวงใยตอผูใหน้ํานม เด็กอาจจะไมดูดนมและ
หากปราศจากความรักจากแมหรือใครบางคนแลวละก็ น้ํานมอาจไมไหลออกมา น่ันคือวิถี
ของชีวติ นนั่ คอื ความเปน จริง ชีวติ ของมนุษยจ ึงนบั วา มีความรกั ความเมตตาเปน พ้นื ฐาน๓๑

แตที่เรามีความรูสึกโกรธ เกลียด มีความขัดแยงอยูภายในจิตใจน้ันเปนเพียง
ปรากฏการณท่ีเกิดข้ึนมาอยางผิวเผินเทาน้ัน ในจิตใจลึกๆ แลวมนุษยยอมมีความเมตตา
กรุณาอยูอยางแนนอน และดาไลลามะเชื่อมั่นวา ความขุนของหมองใจหรือความโกรธ
เกลียดที่เกิดข้ึนมักมาจากการที่ไมไดรับความรักความเมตตาจากคนอื่น มันไมไดเปนสวน
หนึ่งของธรรมชาตพิ นื้ ฐานหรือฝง ลึกอยูในธาตุแทของเรา

๓๑ ราช มามัญ, The Holiness the Dalai Lama, หนา ๘๒.

๒๕๐ ขบวนการพระพทุ ธศาสนาใหมในโลกปจ จบุ ัน
พระมหามติ ร ฐติ ปโฺ ญ,ผศ.ดร.
บทท่ี ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

ทานดาไลลามะไดเคยสอนไวอีกวา ถึงแมความกาวราวอันเกิดข้ึนได แตทานเชื่อ
วาความขัดแยงเหลาน้ีไมไดเปนเพราะธรรมชาติของมนุษย แตนาจะเปนผลมาจากสมอง
ของมนุษยมากกวา มาจากความรูสึกนึกคิดท่ีไมเหมาะไมสมควร การใชความฉลาดหลัก
แหลมไปในทางทผ่ี ดิ และการคดิ ฟุง ซา นทําใหเ กิดผลเสียตามมา

มนุษยมีความออนโยนอยูในเน้ือแทหรือในธรรมชาติด้ังเดิม แลวจึงคอยพัฒนา
ความฉลาดทีม่ นุษยพ ฒั นาใหเ กดิ ขนึ้ ในตัวนั้น หากไมมคี วามเมตตากรุณากํากับอยางถูกตอง
เหมาะสม มนุษยก็อาจจะใชความฉลาดไปในทางท่ีผิดที่เสียหายได และยิ่งมนุษยมีความ
ฉลาดมากเทา ใด กย็ ่ิงสามารถสรา งความเสยี หายใหแกส งั คมและโลกมากข้นึ เทา นั้น

อยางไรกต็ าม ทา นดาไลลามะไดก ลา วอีกวา มนั เปน เรือ่ งสําคัญท่ีจะตองตระหนัก
วา ถาความขัดแยงของมนุษยเกิดจากการใชความชาญฉลาดไปในทางทผี่ ิด มนุษยก็สามารถ
ใชความชาญฉลาดที่มีอยูหาหนทางและวิธีการท่ีจะเอาชนะความขัดแยงเหลานี้ไดดวย
เชนกัน เม่ือนําความฉลาดของมนุษยมาหลอมรวมเขากับความเมตตาหรือความดีทั้งหลาย
การกระทําท้งั หลายของมนษุ ยจะเปลย่ี นไปในทางทีส่ รา งสรรคขึน้

ดังนน้ั ทัง้ ความฉลาดและความเมตตากรุณานับวาเปนส่ิงท่ีสําคัญท้ังคู ที่จะทําให
เราใชทั้งสองอยางไปในทางท่ีถูกตองเหมาะสม หากมีเพียงความฉลาดอยางเดียวไมมีความ
เมตตากรุณาคอยกาํ กบั กอ็ าจจะทําใหเราใชค วามฉลาดไปในทางท่ีผิดได ในทางตรงกันขาม
เรามีแตความเมตตากรุณา ไมมีความฉลาดท่ีมาคอยกํากับ ก็จะทําใหเราใชความเมตตาไป
ในทางที่ผิด เชน เห็นโจรพยายามจะขโมยของแตขโมยยังไมได เราเมตตาโจรไปชวยโจร
ขโมยอยางนี้เปน ตน นับวาเปนความเมตตาที่ผิดซึ่งในชีวิตประจําวันของเรานั้นมีคนไมนอย
ทีใ่ ชค วามเมตตาไปในทางที่ผิด และใชค วามรไู ปในทางที่ผิด เพราะทั้งสองอยา งไมส มดุลกนั

เมอ่ื เราตองการพัฒนาตนเอง จึงตองสรางท้ังสองสิ่งใหสมดุลกันคือ พัฒนาความ
ฉลาดไปดวยและในขณะเดียวกันก็ตองมีความรักความเมตตาควบคูกันไปดวย จึงจะทําให
การกระทําตางๆ เปนไปอยางถูกตองเหมาะสม ความฉลาดในทางธรรม หรือความฉลาดใน
การที่จะเขา ใจเหตแุ ละผลของความทุกขค วามสุข จะสามารถทําใหสรางความพอใจใหเกิดมี
ในตัวได และสามารถมองเห็นคุณคาอันยิ่งใหญของตนเอง ไมหลงใหลหรือไปยึดติดกับวัตถุ
ส่ิงของทั้งหลาย หากเราพัฒนาไปถึงข้ันน้ีไดชีวิตก็จะพบความสุขไดอยางงายดาย ไมตองมี
วัตถุมาปรนเปรออะไรมาก เราก็สามารถอม่ิ เอมเปรมปรดี ์กิ บั ชวี ติ ทีม่ อี ยูไดอยา งเปนสุข

ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมในโลกปจจบุ ัน ๒๕๑
พระมหามิตร ฐติ ปโฺ ญ,ผศ.ดร.
บทที่ ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

๖.๖.๔ คุณคา ของความเมตตากรุณา
สิ่งสําคัญอยางหนึ่งของการมีชีวิตอยูในความเปนมนุษยก็คือ ความเมตตากรุณา
หากโลกน้ีปราศจากความเมตตากรุณาทุกคนก็คงเขนฆาซ่ึงกันและกัน โลกก็คงจะรอนเปน
ไฟอยางไมตองสงสยั
ความเมตตากรุณาจงึ เปรียบเสมือนเปนน้ําท่ีจะคอยดับไฟท่ีคุกรุนอยูในหัวใจของ
มนุษยใหสงบเย็นลง และย่ิงสามารถสรางความเมตตากรุณา๓๒ ใหเกิดข้ึน ในใจของมนุษย
ไดม ากเทาใด โลกของเราก็จะยิ่งสงบรมเย็นมากขึ้นเทาน้ัน ความเอื้ออาทรตอกันก็จะมีมาก
ขน้ึ แตป ญหาก็มีอยวู า ทําอยางไรจงึ จะปลูกความเมตตากรุณานใ้ี หเ กดิ ขึน้ ในจิตใจได
ทานดาไลลามะไดสอนไววา การเขาใจหัวอกของผูอ่ืนเปนสิ่งสําคัญมาก ไมใช
เพียงแคเปนวิธีการที่จะเพิ่มความกรุณาเทานั้น แตโดยท่ัวไปแลวเมื่อเราตองของเกี่ยว
สัมพันธกับผูอ่ืน ไมวาระดับไหนก็ตามแลวเรารูสึกวาเกิดปญหา ลําบากใจ มันจะเปน
ประโยชนอยางยิ่งถาเราลองสมมุติวา ตัวเราเองอยูในสภาพอยางเขา แลวดูซิวาเราจะทํา
อยางไรในสถานการณเชนน้ัน แมวาเราไมเคยมีประสบการณใดๆ แบบเดียวกับเขาเลย
หรอื มวี ิถีชีวติ ที่แตกตางกนั อยา งสิน้ เชิงกบั เขากต็ าม แตเราก็สามารถทจ่ี ะจินตนาการเอาได
โดยวิธีน้ีอาศัยความสามารถที่จะระงับความคิดเห็นของตนไวช่ัวคราว และลอง
มองมุมมองของอกี ฝายแทน ใหจิตนาการวา เราจะทําอยางไรถาตกอยูในสภาพเดียวกันกับ
เขา วิธีน้ีจะชวยใหเรารับรูและเขาใจความรูสึกของอีกฝายไดมากยิ่งขึ้น ซ่ึงนับวาเปนปจจัย
สาํ คัญทจ่ี ะชว ยลดปญ หาและความขัดแยง กับผูอ่นื
จากคําสอนน้ี หากเรารูจักเอาใจเขามาใสใจเราอยูเปนประจํา ก็จะสามารถสราง
ความเมตตากรุณาขน้ึ มาได เพียงหมัน่ ลองนึกอยูบ อยๆ ซ่งึ การนึกถึงหัวอกของคนอ่ืนน้ี ก็จะ
ทําใหเราไดเรียนรูตนเองไปดวย เม่ือเราพิจารณาเห็นวา ส่ิงใดที่เราไมตองการเราก็ไมควร
กระทาํ สิง่ นนั้ ตอ ผูอ ื่น เชน เราไมตองการใหใครโกรธหรือเกลียดเรา ไมตองการใหใครมาดา
เรา ไมตองการใหใครมานินทาเรา เราก็อยาทําสิ่งน้ันกับคนอ่ืนจงกระทําตอผูอ่ืนเหมือนกับ
ที่เราตองการใหเขาปฏิบัติตอเรา หากเราอยากใหผูอื่นปฏิบัติตอเราดวยความนอบนอม ไม
โกหกหลอกลวงเรา ไมนินทาลับหลัง ไมโกรธ ไมเกลียดเรา เราก็จงอยาปฏิบัติส่ิงเหลานั้น
กับผูอื่น ผูที่กระทําอยางน้ียอมเขาใจผูอื่นมากขึ้น ความเมตตากรุณายอมเกิดขึ้นไดโดยไม
ตองสงสัย เม่อื เห็นคนอืน่ กระทําในสงิ่ ทีไ่ มค วรกระทํา เราก็สามารถที่จะอภัยใหได เชน หาก
เราขับรถไปและรถของเรากําลงั ตอแถวยาวเพือ่ จะขึ้นสะพาน แตปรากฏวามีรถที่ขับมาจาก
เลนขวาแลว ก็ไปเสียบเขาดา นหนาใกลๆ กับทางข้ึนสะพาน ไมยอมตอคิวเหมือนคนอ่ืน เรา

๓๒ เรื่องเดยี วกัน, หนา ๕๘.

๒๕๒ ขบวนการพระพทุ ธศาสนาใหมใ นโลกปจจบุ ัน
พระมหามติ ร ฐติ ปฺโญ,ผศ.ดร.
บทที่ ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

ก็สามารถท่ีจะใหอภัยเขาได ซึ่งวันน้ันเขาอาจจะมีธุระดวนก็เปนได หรืออาจจะมีเหตุอ่ืนที่
ทําใหเขาตองกระทําอยางนั้น เพราะการเขาใจผูอ่ืนเปนสิ่งที่สลับซับซอน หากเราเขาใจ
สาเหตุทแี่ ทจ ริงวา ทาํ ไมเขาตองกระทําอยา งน้ัน เราก็อาจไมโ กรธเขากเ็ ปนได

ชีวิตของเรานน้ั ไมแตกตางไปจากผูอื่นเลย เราทุกคนก็อยากกินดีอยูดี อยากนอน
หลับสบาย อยากมีคนรัก อยากจะมีเพ่ือนท่ีดี อยากมีคนคอยเอาใจใสดูแล เปนตน การที่
เราพยายามนึกถึงสภาพทว่ี า ถาเราเปนเขาเราจะทําอะไร นึกถึงหัวอกของผูอ่ืนอยูเสมอ จะ
ทําใหความโกรธเกลียดที่มีอยูในใจของเราลดนอยลง และจะมีความเมตตากรุณาเกิดขึ้นมา
แทนท่ี

การมเี มตตากรณุ านอกจากจะทาํ ใหเ ราเขาใจผอู ื่นมากยิง่ ขน้ึ แลว ยังเปนส่ิงสําคัญ
ที่จะชวยสรางความสัมพันธท่ีย่ังยืน ซ่ึงปจจุบันนี้คนในสังคมสวนใหญมักมีปญหาเรื่อง
ความสมั พนั ธค อื มักมองกนั ทร่ี ูปรางหนาตา หากใครหนาตาดีกต็ ดิ ใจ ใหความชวยเหลือเอ้ือ
อารหี รือใหการบริการดี เห็นใครรูปรางหนาตาไมดี ก็จะรูสึกรังเกียจ อาจจะเปนเพราะเหตุ
นก้ี ระมงั ทที่ ําใหธ ุรกจิ การเสริมความงามเตบิ โตอยา งเต็มที่ในยุคน้ี

แตการปลอยใหความสัมพันธตั้งอยูบนพื้นฐานของรูปรางหนาตา หรือความงาม
ทางกายเพียงอยางเดียว ยอมเปนความสัมพันธท่ีไมย่ังยืน จะเปนเพียงความพึงพอใจชั่ว
ยาม๓๓

เหมือนกบั เวลาทเ่ี ราตกหลมุ รกั ใครสักคน หากเราตกหลมุ รักเพียงเพราะหนาตาดี
เทานน้ั กอ็ าจจะคบกับเขาไปไดไ มนาน หากเขามีอปุ นิสัยท่ีไมดีและการปฏิบัติตอกันเพียงพอ
ความพอใจทางรางกายเทานั้น ไมไดปฏิบัติตอกันและกันในฐานะมนุษย จะเปนเหมือน
ปฏบิ ตั ิตอ กันในฐานะเปน วตั ถุช้นิ หนึง่ มากกวา ซ่งึ ความสัมพันธแบบน้ีเปนความสัมพันธที่ไม
ปกตินัก ถาความสัมพันธต้ังอยูบนความปรารถนาทางเพศเพียงอยางเดียวโดยไมมีการ
เคารพนับถือกัน มันก็ไมตางกับการขายตัวซ่ึงตางฝายตางก็ไมใหเกียรติซ่ึงกันและกัน ไมได
นับถอื กันความสมั พันธอยา งนใี้ นทส่ี ดุ ก็พังลงไดงา ย

ทานดาไลลามะไดกลาวไววา ยังมีความสัมพันธอีกประเภทหน่ึงท่ีตั้งอยูบนความ
ปรารถนาทางเพศเชนกัน แตความติดเนื้อตองใจไมใชพื้นฐานสําคัญที่สุดในความสัมพันธ
หากแตก ารซาบซงึ้ ในคุณคา ของอกี ฝาย ซงึ่ มาจากความรูสึกวา เขาเปนคนดี มีเมตตา และมี
ความสุภาพออนโยน ความสัมพันธเกิดจากความรูสึกแบบนี้จะเปนความสัมพันธที่ยั่งยืน
มากกวา

๓๓ สมลักษณ สวา งโรจน, ๓๖๕ ดาไล ลามะ วจนะจากใจ, หนา ๓๙.

ขบวนการพระพทุ ธศาสนาใหมในโลกปจ จุบัน ๒๕๓
พระมหามติ ร ฐติ ปฺโญ,ผศ.ดร.
บทที่ ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

ความเมตตาจงึ เปน รากฐานสําคัญของชีวิตท่ีจะชวยใหเรามีความสัมพันธกับผูอ่ืน
ในทางสรางสรรคมากย่ิงข้ึน และนอกจากความเมตตาแลวเราก็ควรท่ีสรางความกรุณาตอ
เพื่อนมนุษยดวย ซ่ึงความเมตตาเปนความปรารถนาดีตอผูอ่ืน อยากเห็นผูอ่ืนมีความสุข
สวนความกรุณาเปนการลงมือชวยใหเขาพนจากความทุกข พนจากปญหาตางๆ ซึ่งท้ังสอง
อยางน้ีจะตอ งมคี วบคกู ันไป๓๔

ศาสนาพุทธถอื วา ความกรุณาเปนปจจัยสําคัญของการพัฒนาจิตวิญญาณ ความ
กรณุ าเปนสภาวะจิตที่ไมฝกใฝในความรุนแรง ไมทําราย และไมกาวราว เปนจิตที่ต้ังอยูบน
ความปรารถนาท่ีจะใหผูอ่ืนพนจากความทุกข กอปรดวยความรูสึกอุทิศตน ความ
รับผิดชอบและเคารพผูอน่ื และความกรณุ านี้ยังหมายถึงความปรารถนาสิ่งดีๆ ใหกับตนเอง
ดว ย

ในการสรางเสริมความกรุณา ตองเร่ิมจากการปรารถนาใหตนเองพนจากความ
ทกุ ข จากน้ันจึงบมเพาะความรูสึกอันเปนธรรมชาตินั้นไวกับตนเอง แลวคอยเพ่ิมพูนข้ึนจน
แผขยายออกไปสูคนใกลตัวและคนที่ไกลตัวออกไปเรื่อยๆ จนกระทั่งทั่วท้ังสรรพสัตวที่มี
ชวี ิตอยูร ว มโลกกบั เราทง้ั หมดทัง้ ปวง

ความกรุณาท่ีแทจริงตองไมเจือดวยความยึดม่ันถือม่ัน เชน เขาคนน้ันเปนเพ่ือน
เรา เปน ญาติของเรา เราจงึ มคี วามกรุณาตอเขา

ความกรุณาแบบน้ีเปนความกรุณาแบบธรรมดาที่มีความเอนเอียงเขามาแทรก
ซึ่งอาจทําใหความสัมพันธไมมั่นคงได เชน ถาเพ่ือนของเราเกิดทําใหเราโกรธขึ้นมาอยาง
หนกั สายสมั พนั ธน ั้นก็ขาดสะบ้นั ลง ความกรณุ าทีเ่ คยมีกจ็ ะคอ ยๆ จางหายไป

ความกรุณาท่ีแทจริงตองเปนความกรุณาท่ีเปนอิสระจากการยึดติดชอบพอ
เพราะไมไดข้ึนอยูกับวา คนน้ันคนน้ีเปนใคร เปนเพื่อนเราหรือไม ความกรุณาที่แทจริง
ตัง้ อยูบ นเหตผุ ลทวี่ า ในตัวมนุษยทุกคนตางปรารถนาความสุข ซ่ึงก็เหมือนกับตัวเราน่ันเอง
เมอื่ ไหรก็ตามทเี ราตระหนกั ถึงความเทาเทียมและความเปนเพื่อนรวมโลกท่ีมีอะไรเหมือนๆ
กนั เรากย็ อ มจะสรา งความกรณุ าและความใกลชิดกับผอู นื่ ข้ึนมาได เราจะสามารถสัมผัสกับ
ความกรุณาไดท ันที เม่ือเราตระหนักวาคนอื่นก็เหมอื นกบั เรา

ความรูสึกกรุณาท่ีแทจะมีพลังมากและครอบคลุมกวางขวาง ประกอบดวย
คณุ ลกั ษณะท่ลี กึ ซึง้ มาก ท้งั ยังมนั่ คงดวย เชน เราเดินไปเห็นปลาติดเบ็ดซ่ึงกําลังไดรับความ
ทกุ ขท รมานมาก เราก็เกิดความสงสารอยากจะชวยใหพ นทกุ ข เปน ตน

๓๔ มนตรา, “๔๐ คําสอนช้ีแนะหนทางแหงความสุข จาก องคดาไล ลามะ ผูนําจิตวิญญาณ
แหงทเิ บต”, นติ ยสารธรรมลีลา รายงานพิเศษ, ฉบบั ที่ ๑๘๑ (มกราคม ๒๕๕๙).

๒๕๔ ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมในโลกปจจุบัน
พระมหามติ ร ฐติ ปโฺ ญ,ผศ.ดร.
บทที่ ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

ความกรณุ านไ้ี มไ ดอ ยทู วี่ าเราเปนญาติกับหรือเปนเพื่อนกับปลา แตความกรุณาน่ี
ต้งั อยบู นความจริงธรรมดาที่วา ส่ิงมีชวี ิตตวั น่นั มีความรูสึกเหมือนกับเราน่ันเอง

ทานดาไลลามะไดก ลาวไวว า ความกรุณาเปนความรูสึกท่ีไมไดตองการเห็นความ
ทุกขทรมานของคนอ่ืนหรือของสรรพสัตว การจะส่ังสมความรูสึกดังกลาวไดเราจําเปนตอง
รับรถู งึ ความเจ็บปวดอันรนุ แรงทเ่ี ลวรา ยของอกี ฝายเสียกอน เหตนุ ี้เองทานดาไลลามะจึงคิด
วา ย่ิงเราเขาใจความทุกขความเจ็บปวดสารพัดสารพันชนิดที่เราตองประสบเจอ เราก็จะมี
ความกรณุ าทล่ี กึ ซึ้งมากยิ่งขน้ึ

การตระหนักรสู ึกสขุ ทุกขของผอู น่ื อยเู สมอ จะทาํ ใหจ ิตใจของเราเกิดความเมตตา
กรุณาและเปนจิตทีมีพลัง พรอมที่จะเสียสละอุทิศตนชวยเหลือผูอ่ืนใหพนจากความทุกข
ความรูสึกนี้เปนความรูสึกที่สดช่ืน จะไมซึมเซา “only the development of
compassion and understanding for other bring us the tranquility and
happiness we all seek.”๓๕

ประสบการณชวี ิตของเราแตละคนคงจะพสิ จู นใหเหน็ ไดชดั เจนวา ถามีใครปฏิบัติ
ตอเราดวยความรกั ความกรณุ า ยอมทําใหเ รามีความรูสึกเปน สุข ประสบการณดังกลาวชวย
ใหเขาตระหนักวา คนอ่ืนๆ ยอมรูสึกดีดวยเชนกันกับเรา ถาพวกเขาไดรับการปฏิบัติอยาง
อบอุนและกรุณา

นอกจากน้ัน เราก็จะพบอีกอยางหนึ่งวา ยิ่งเรามอบความอบอุนใหผูอื่นมาก
เพียงไร เราก็ย่ิงจะไดรับความอบอุนกลับมามากขึ้นเทานั้น น่ีคือกฎแหงความเปนเหตุและ
ผลทมี่ อี ยตู ามธรรมชาติ

ยังมีงานวิจัยของหลายมหาวิทยาลัยเก่ียวกับความกรุณาและการทําดีแกผูอื่นวา
มีผลตอสุขภาพทางกายและทางอารมณ เชน การวิจัยของศูนยวิจัยมหาวิทยาลัยมิชิแกน
พบวาการทําการทาํ งานอาสาสมัครเปน ประจาํ การปฏิสัมพันธกับผูอื่นดวยความกรุณาและ
หวงใยเอาใจใส สามารถยึดถืออายุไดอยางนาอัศจรรยและอาจเพิ่มพละกําลังและความมี
ความมีชวี ติ ชีวา

อีกตัวอยางหน่ึงคือ จอรจเวลแลนท จากมหาวิทยาลัยฮารวารด ไดศึกษาวิจัย
พบวา การดําเนนิ ชวี ติ เพอ่ื ประโยชนสุขของผอู น่ื คอื สวนประกอบสาํ คญั ของสขุ ภาพจติ ทด่ี ี

ความกรุณานับวาเปนกุญแจสําคัญอยางหนึ่งของการดําเนินชีวิต ใครท่ีมีกุญแจ
ดอกนี้อยูในมือยอมไขไปสูความสุขอันแทจริงได และยอมสรางจิตของตนเองใหมีพลัง
ย่ิงใหญ พรอมท่ีเสียสละแรงกายแรงใจทํางานเพื่อผูอ่ืนไดอยางไมรูจักเหน็ดเหนื่อย และผล

๓๕ Kiitdoo, คําคมจากองคดาไลลามะ ๑๒ ขอ …ที่จะเปล่ียนมุมมองของเราไปจากเดิม,
[ออนไลน] . แหลงท่มี า: http://www.kiitdoo.com. [๑๐ พฤษภาคม ๒๕๖๐].

ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมใ นโลกปจจบุ นั ๒๕๕
พระมหามิตร ฐติ ปฺโญ,ผศ.ดร.
บทที่ ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

จากการมีจิตที่ดีเชนน้ีก็ยอมทําใหกลายเปนที่รักของคนท้ังหลาย พรอมทั้งมีสุขภาพที่ดี
ตามมานนั่ เอง

ความกรุณาเปนส่ิงท่ีบมเพาะข้ึนไดทันที ไมตองไปหาซื้อเมล็ดพันธุที่ไหน เพียง
เราเริม่ ตระหนักวา เราตองการความทุกข และเราเองก็มีสิทธิ์ท่ีจะมีความสุข คร้ันแลวเราก็
ตระหนักตอ ไปอกี วา คนอ่ืนก็มีลักษณะเชนเดียวกันกับเราคือ รักสุขเกลียดทุกข พวกเขาไม
ตองการความทุกขและก็มีสิทธิ์มีความสุขเชนเดียวกับเรา หากคิดพิจารณาอยูอยางน้ีเปน
ประจํา เช่ือแนวาความกรณุ ายอมเจรญิ งอกงามขึน้ ในจิตใจอยา งแนน อน

๖.๖.๕ การเผชิญหนา กับความทกุ ข
ความทุกขเปนส่ิงท่ีมนุษยทุกคนไมปรารถนา แตเปนสิ่งท่ีเราหลีกเล่ียงไมไดคงไม
มใี ครในโลกนที้ เ่ี กิดมาแลวไมเ คยไดเผชญิ กบั ความทุกข ไมว าคนคนนัน้ จะเปนยาจกหรือเปน
มหาเศรษฐี ก็ลวนแตตองเคยมีความทุกขดวยกันทั้งสิ้น ความโชครายจึงไมไดเกิดข้ึนกับคน
ใดคนหนึ่งเพียงคนเดียว เปนส่ิงที่ทุกคนตางตองประสบเจออยูเรื่อยไปตราบเทาท่ียังมีลม
หายใจ ความเขา ใจอยา งแจมแจง น้ีถึงแมวามันอาจจะไมสามารถชวยขจัดความทุกขใหหมด
สิ้นไปได แตหากใครตระหนักรูอยางนี้ก็จะชวยลดความทุกขที่มีอยูใหนอยลงอยางมากเลย
ทีเดียว
การเผชิญหนากับความทุกข บางคร้ังก็ไมใชสิ่งที่ทําใหไดงายนัก โดยเฉพาะอยาง
ย่งิ คนทไ่ี มเคยฝกฝน เหตนุ ีเ้ องคนจงึ สรรหาวธิ ีมากมายเพอื่ หลีกเล่ียงการเผชิญหนากับความ
ทุกข เชน การใชวิธีการดื่มสุราเพื่อใหลืมความเจ็บปวดทางอารมณ ใชความบันเทิงใน
รูปแบบตางๆ เพื่อเบ่ียงเบนความสนใจไปจากความทุกข เปนตน การท่ีเราไมสามารถ
เผชิญหนายอมรับความจริงได บางครั้งก็ทําใหเราตองถายโอนความผิดไปใหคนอื่นโดยไม
รูตัวและโทษคนอื่นแทน เชน โทษวาคนอ่ืนตางหากที่เปนตัวปญหา โทษวาคนอื่นไมดีจึง
สรางแตความยงุ ยากใหกบั เรา
การหลีกเล่ียงความทุกขโดยไมยอมเผชิญหนากับมัน ก็เทากับเปนการเก็บรักษา
โรครา ยไวโดยท่ียังไมไดรับการรักษา เปรียบเสมือนใชยากดทับมันไวเทาน้ัน การใชสุราเมา
มาชวยระงับความเจ็บปวดเพียงชั่วครั้งชั่วคราว หากใชตอไปเร่ือยๆ ก็อาจจะสงผลตอ
รา งกายและชีวติ ทางสงั คมจนทาํ ใหเ ราทกุ ขห นักยงิ่ กวาเดิมกเ็ ปน ได
การจะแกไขความทุกขเบ้ืองตน เราตองเช่ือม่ันกอนวา มีความเปนไปไดท่ีเราจะ
เปน อสิ ระจากความทกุ ขไดอยางสิ้นเชิง หรือสามารถที่จะกําจัดความทุกขใหหมดสิ้นไปโดย
ท่ีความทุกขน้ันจะหวนกลับมาทํารายเราอีก ทานดาไลลามะไดแนะนําวิธีรับมือกับความ

๒๕๖ ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมใ นโลกปจจบุ นั
พระมหามิตร ฐติ ปโฺ ญ,ผศ.ดร.
บทที่ ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

ทุกขไวว า เริ่มแรกตองยอมรับวา ความทุกขเปนสวนหนึ่งของชีวิตเสียกอน แลวจึงเดินหนา
ฝา ฟนปญ หาอยา งกลาหาญ

ทานไดกลาวไววา ปญหายอมเกิดข้ึนไดเสมอในชีวิตประจําวันของเรา ปญหาขอ
ทใี่ หญท สี่ ดุ ในชีวิตคือ ปญ หาที่เราตอ งพบเจออยางหลีกเลี่ยงไมพน เชน ความแกชรา ความ
เจ็บไขไดปวย และความตาย การพยายามหนีปญหาหรือเพียงแคไมไปคิดถึงมันอาจชวย
บรรเทาไดเพียงช่ัวครู แตมันนาจะมีวิธีการท่ีดีกวาน้ัน ถาเรากลาเผชิญหนากับความทุกข
ซึ้งๆ หนา เราจะเปนผูท่ีไดเปรียบและอยูเหนือมัน เพราะเทากับไดรับรูถึงธรรมชาติและ
ความต้ืน ลึก หนา บางของปญหาน้ัน ถาเราอยูในสนามรบแตเราไมรูสถานภาพและกําลัง
ในการสูรบของขาศึกศัตรู เราก็จะไมพรอมรับมือและหวาดกลัวจนทําอะไรไมถูก แตถาเรา
ลวงรูความสามารถในการสรู บของฝา ยตรงขาม รูวาพวกเขาใชอาวุธชนิดไหนหรืออะไรตอมิ
อะไรเราก็ยอมไดเปรียบกวาเมื่อเขารวมสงคราม ในทํานองเดียวกันถาเราเผชิญหนากับ
ปญหาแทนทีจะหลีกหนี เราก็จะเปน ฝา ยทอ่ี ยเู หนอื กวา รูวา จะตอ งจัดการกับมันอยา งไร

เมื่อเรารูวาความทุกขเปนส่ิงที่หลีกเล่ียงไมไดจึงควรเตรียมตัวที่จะเผชิญหนามัน
เพือ่ ใหรูและเขาใจมันอยางลึกซึ้ง เชน ความแกและความตาย ซึ่งเปนสิ่งที่เราทุกคนจะตอง
ประสบอยางแนนอนไมวันใดก็วันหน่ึง หากเราหลีกเล่ียงที่จะไมนึกถึงมัน ไมพูดถึงมัน และ
พยายามที่จะลืมมัน แตในท่ีสุดสักวันหนึ่งส่ิงเหลาน้ีก็ยอมเกิดข้ึนกับตัวเราอยูดี การที่เรา
หลกี เลีย่ งท่ีจะนกึ ถงึ มันอยอู ยางน้ัน เม่อื วนั ท่ีเหตกุ ารณใดเหตุการณหน่ึงเกิดข้ึน มันจะทําให
เราสะดงุ หวาดกลัว สรา งความอึดอดั ไมส บายแกจ ิตใจจนไมอ าจทนได

ในทางตรงกันขามหากเราใชเวลาใครครวญถึงความแกและความตาย รวมถึง
เคราะหรายอ่นื ๆ อยเู ปนประจาํ จติ ของเราจะหวน่ั ไหวนอ ยลงเมื่อสิ่งเหลาน้ันเกิดข้ึน เพราะ
เราไดทําความคุนเคยกับปญหาและความทุกขในรูปแบบตางๆ มาแลวนั่นเอง ท้ังได
คาดการณไ วลว งหนา แลววามันจะเกดิ ขน้ึ ความหวัน่ ไหวของจติ จึงมีนอยลง

เหตุนี้เองพระพุทธเจาจึงทรงสอนใหเรามีมรณสติคือ การระลึกถึงความตายอยู
ตลอดเวลา เพราะเมอ่ื ความตายคืบคลานใกลเ ขา มา เราจะไดไ มหวาดหวนั่ พรัน่ พรึง๓๖

และนอกจากน้ัน การระลึกนึกถึงความตายอยเู ปน ประจํา ยังทําใหเราไมประมาท
ในการดําเนินชีวิตอีกดวย เราไมรูวาเราจะตายเมื่อใด เวลาไหน จึงตองรีบทําความดีและ

๓๖ องคดาไลลามะ, มรณสติแบบธิเบต พุทธวิธีเพื่อตอนรับความตาย, [ออนไลน].
แหลงท่ีมา: http://www.tairomdham.net/index.php/topic,4046.0.html. [๑๐ พฤษภาคม
๒๕๖๐].

ขบวนการพระพทุ ธศาสนาใหมในโลกปจ จุบนั ๒๕๗
พระมหามิตร ฐติ ปโฺ ญ,ผศ.ดร.
บทท่ี ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

ระมัดระวังตนจากความช่ัวอยูเสมอ ในแงน้ีเพียงนึกถึงความตาย ความดีงามก็จะเกิดขึ้นใน
จติ ใจไดโ ดยอัตโนมัติ

การระลึกถึงเคราะหรายอ่ืนๆ อยูตลอดเวลาก็เชนเดียวกัน หากเราพิจารณาวา
สักวันหนึ่งเราอาจประสบเคราะหราย เราก็พยายามเตรียมตัวทําสิ่งท่ีดีงามปองกันไว
เพื่อใหเคราะหรายน้ันเบาบางลง หรือไมใหมันเกิดขึ้นเลยยิ่งดี การเตรียมตัวท่ีจะเผชิญกับ
ความทกุ ขกอ นทีม่ ันจะเกดิ ข้ึนจึงเปนสิ่งสําคัญอยางมากท่ีจะทําใหเราผานพนจากความทุกข
ไปไดโดยทีจ่ ิตใจของเราไมเ ปนทุกข

ทานดาไลลามะไดสอนไววา การเตรียมตัวไวลวงหนาเปนส่ิงท่ีมีประโยชนอยาง
มาก เชน การทําตนเองใหค ุนเคยกับความทกุ ขน านาประการท่เี ราอาจตองเผชิญ เปรียบกับ
การสูรบอีกคร้ังก็คือ การพิจารณาใครครวญความทุกขเปรียบเหมือนการฝกปฏิบัติทาง
ทหาร คนทีไ่ มเคยไดย นิ เรอื่ งสงคราม ไมเคยไดยินเสียงปน เสียงระเบิดอะไรเลยอาจเปนลม
ลมตึงหากเขาตองเขาสูสนามรบ แตผูทีผานการฝกฝนทางทหารอยางชํ่าชองสามารถทํา
จิตใจใหคุนเคยกับส่งิ ทีอ่ าจเกดิ ข้นึ

ดังน้ัน หากเกิดสงครามมันก็ไมไดเปนเรื่องยากลําบากหนักหนาสําหรับผูท่ีเคย
ผานการฝกฝนมาเลย การเตรียมตัวเปนส่ิงท่ีมีคายิ่งที่จะเผชิญหนากับความทุกขไดโดยไม
สะทกสะทาน หากเราไมเคยฝกรบเลยเม่ือขาศึกศัตรูยกทัพมาประชิดประตูเมือง เราก็ยอม
รบไมเ ปน มีแตจะยอมแพ หรอื ถกู ฆาศึกศตั รฆู าตายอยา งงายดาย แตถาเราไดผานการฝกฝน
ในการสูรบไวอยางช่ําชองแลว ขาศึกจะยกทัพมาเม่ือไหรเราก็พรอมที่จะออกไปเผชิญหนา
กับขาศึกไดตลอดเวลา ถึงแมวาโดยธรรมชาติของมนุษย จะไมชอบความทุกขและปญหาก็
ตาม แตสกั วนั หนึง่ เราก็ตอ งเผชิญกับมนั จนไดไมว าเราจะบา ยเบ่ยี งเลีย่ งหนีไปทางก็ตาม มัน
กย็ อ มติดตามเราไปทุกท่ี

ทางที่ดีเราตองเผชิญกับมันอยางกลาหาญ และทําใหมันไมมีฤทธ์ิเดชที่จะทํา
อันตรายเราไดอีกตอไป หากเราเคยเฝาสังเกตความทุกขที่เกิดขึ้นในจิตใจของเราอยูเปน
ประจํา ก็จะเห็นวา ความทุกขท่ีเกิดข้ึนในใจน้ันเปนคนละอยางกับตัวเรา หรือตัวเรากับ
ความทุกขไมใ ชส งิ่ เดียวกัน

เราสามารถท่ีจะแยกตัวเราออกจากความทุกขได หากใจเรามีความทุกขเกิดข้ึน
แลวลองเฝามองดูจะเห็นวา เปนเหมือนกับเรากําลังดูหนังท่ีฉายอยู เราจะไมทุกขไปตาม
ภาพยนตรท่ีฉายในจอ จะสามารถมองดูมันดวยรอยยิ้มทั้งๆ ท่ีใจมันยังรูสึกทุกขอยูน่ันเอง

๒๕๘ ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมใ นโลกปจจบุ ัน
พระมหามิตร ฐติ ปฺโญ,ผศ.ดร.
บทที่ ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

น่ันก็คือดวงแหงปญญาที่เกิดข้ึน จะชวยทําใหเราอยูกับความทุกขโดยที่เราไมเปนทุกขอีก
ตอ ไป๓๗

ทานดาไลลามะไดกลาวไววา เน่ืองจากความทุกขคือ ความจริงในการดําเนินชีวิต
เราจึงจําเปนตองปรับเปล่ียนทัศนคติที่มีตอความทุกขเสียใหม ทาทีที่เรามีตอความทุกขเปน
เร่ืองสําคัญอยางยิ่ง เพราะมันสงผลวา เราจะตอสูกับความทุกขอยางไร ทาทีของคนโดยสวน
ใหญท่ีผานมาน้ันประกอบดวยความไมชอบพออยางรุนแรง ไมมีความอดทนอดกล้ันตอความ
ทุกขความเจ็บปวด เมื่อเจอความทุกขเราจึงทนไมคอยได ถาเราปรับเปลี่ยนทัศนะท่ีเรามีตอ
ความทุกขเสียใหม และนําเอาทัศนะท่ีเอ้ือใหเราอดทนอดกล้ันมากขึ้น จะสามารถชวยเราได
มากในการตานและลดทอนความรูสึกทุกขใจ ความไมพ อใจ และความไมอม่ิ เอิบใจ

วิธีฝกปฏิบัติที่สงผลมากท่ีสุดท่ีจะชวยใหเราอดทนตอความทุกขไดมากก็คือ การ
มองและทาํ ความเขาใจกบั ความทกุ ข วาเปน ธรรมชาติด้ังเดิมของสังสารวัฏของการดํารงอยู
เต็มไปดว ยความไมร ู น่นั กค็ อื หากเรารแู ละเขาใจ มีปญ ญามองเห็นสัจธรรมแลวก็ยอมสัมผัส
ไดวา ความทุกขเปนเร่ืองธรรมดาของชีวิตนั่นเอง การมีมุมมองท่ีถูกตองจึงเปนเร่ืองท่ีสําคัญ
อยางมาก หากเรามมี มุ มองพ้นื ฐานวา ความทกุ ขเปน สงิ่ ทไ่ี มด ตี องหลกี หนีทกุ วิถีทาง และใน
บางแงแลวยังสอใหเห็นถึงความลมเหลวออนแอ น่ันก็เทากับวาไดเพ่ิมความกังวลใจและ
ความไมอ ดกลนั้ ในยามเผชิญสถานการณยากลาํ บาก ก็จะรูสกึ เหมือนจมอยูในกองทุกข

ในทางตรงขามหากเรามีมุมมองพ้ืนฐานท่ียอมรับความทุกข วาเปนสวนหน่ึงอัน
เปนธรรมดาของชีวิตอยูแลว มุมมองน้ีจะชวยใหเราอดทนอดกล้ันตอความทุกขไดมากข้ึน
หากไมมคี วามอดกลนั้ ตอ ความทกุ ขในระดับหนง่ึ เสียแลว ชวี ติ ก็จะหาความสุขไมไดเ ลย

การเผชิญหนากับความทุกข หรือการพิจารณาความทุกขอยูเปนประจํา จึงเปน
ส่ิงจําเปนส่ิงที่สําคัญอยางมากท่ีจะทําใหเรามองเห็นหนทางท่ีจะหลุดพนไปจากความทุกข
หรือมีความเปน ไปไดทจี่ ะเปน อสิ ระจากความทกุ ข

หากเราไมรูจักความทุกขอยางแจมแจง เราจะแกไขความทุกขไดอยางไร การ
รูจกั ความทุกขทกุ แงท ุกมุมวามันคืออะไร มันเกิดขึ้นมาไดอยางไร ก็ยอมสามารถที่จะเขาใจ
สาเหตุ และหาทางกาํ จดั สาเหตแุ หงทุกขตา งๆ เหลานัน้ ใหห มดสิ้นไปได

รากเหงาสําคัญของความทุกขคือ ความไมรู ความด้ินรนทะเยอทะยานอยาก
ความโกรธเกลียด ส่ิงเหลานี้เปนเสมือนสนิมที่คอยเกาะกินหัวใจอยูตลอดเวลา ความไมรูนี้
ไมไดหมายถึง ไมรูขาวสารตามความหมายที่ใชกันท่ัวไป แตมันหมายถึง มีความคิดเห็น

๓๗ บุญมี พวงเพชร, Happy Life พลังคําสอนของ ดาไล ลามะ เพ่ือความสุขของชีวิต
อยา งแทจ รงิ , (นนทบุรี: ธิงค บยี อนดบคุ ส, ๒๕๕๖), หนา ๖๙.

ขบวนการพระพทุ ธศาสนาใหมในโลกปจจุบนั ๒๕๙
พระมหามิตร ฐติ ปโฺ ญ,ผศ.ดร.
บทที่ ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

ผิดเพ้ียน คลาดเคล่ือนจากสภาพธรรมชาติท่ีแทจริงของมนุษยและของปรากฏการณ
ทั้งหลายทั้งปวง

เราจะสามารถบรรลุสภาวะจิตอันบริสุทธิ์ และเปนอิสระจากความทุกขไดอยาง
สิ้นเชิง ก็ตอเม่ือไดทําความเขาใจธรรมชาติของสรรพส่ิงอยางกระจางแจง พรอมกับขจัด
ปจจัยท่ีสรางความทุกขใหแกจิต เชน ความดิ้นรน ความอยากได ความเกลียดชัง ใหหมด
สนิ้ ไป

หากเราไตรตรองตามความเปนจริงวา การมีชีวิตอยูในโลกแตละวันนั้นลวนเต็ม
ไปดวยความทุกข การตระหนักนี้จะชวยปลุกเราใหเราเกิดความพยายามท่ีจะฝกปฏิบัติ
เพอ่ื ทีจ่ ะถอนรากเหงาของความทกุ ขจนกระท่ังหมดส้นิ ไป หากเราไมมีความหวังใดๆ เลยวา
จะสามารถเปนอสิ ระจากความทุกขไ ด ก็จะทาํ ใหจ ิตใจหอเหี่ยว ความทุกขจะกลายเปนสิ่งที่
นาสะพรงึ กลัวของเราไปตลอดชีวิต

ถาเรากําจัดความทุกขใหมดสิ้นไป เราจึงตองตื่นขึ้นมาเผชิญหนากับมัน หมั่น
พจิ ารณามนั อยเู ปน ประจําใหรูใหเห็นความทุกขในทุกรูปแบบอยางแจมแจง ซึ่งในท่ีสุดก็จะ
เกิดปญญา รูวาจะแกไขความทุกขน้ันอยางไรและปญญาที่เกิดข้ึนก็ยังจะชวยทําใหจิตใจ
ของเราเกดิ ความสงบ ไมหวั่นไหวไปกับความทุกขที่เกิดขึ้นเลยแมแตนอย ชีวิตเราก็จะมีแต
ความสงบเยน็ ตลอดไป “วิธฝี ก ปฏบิ ตั ทิ ี่สงผลมากทีส่ ดุ ทีจ่ ะชวยใหเราอดทน ตอความทุกขได
มากก็คอื การมองและทาํ ความเขา ใจความทุกข” ๓๘

๖.๖.๖ การเปล่ียนมมุ มองตอสงิ่ ตา งๆ
มมุ มองตอสงิ่ ตา งๆ ท่ีผา นเขามาในชวี ิต เปนส่งิ สาํ คญั มากตอการมีความทุกขหรือ
ความสุขของเรา เชน หากมีคนดาเรา คนท่ีมีมุมมองดานลบก็จะโกรธเกลียดคนที่ดาทันที
และย่งิ โกรธมากถา หากยงิ่ ทาํ ใหตนเองมคี วามทุกขใจมาก หากอีกคนหน่ึงมองในทางตรงกัน
ขา มเม่อื ไดย นิ เสียงดาเขากลับคดิ สงสารคนท่ีดา เพราะคิดวาคนท่ีดาคนอ่ืนไดจะตองมีจิตใจ
ไมดี จิตใจที่ไมดีขุนมัวทําใหเขาเปนทุกขเอง และคําดาของเขาก็เปนธรรมดาที่คนมีชีวิตอยู
ในโลกจะตองประสบพบเจอ
หากเราไมมีอัตตา ไมคิดวาคําดาน้ันเขาดาเราเราก็จะไมมีความทุกข เพราะไมรู
วาตัวเราที่แทจริงอยูที่ไหน ที่มือก็ไมใช เสนผมก็ไมใช เขาดาตรงสวนไหนของเราก็ไมรู จึง
ไมเหน็ จําเปน ทต่ี องไปโกรธเกลียดเขาเลย ผูท่ีคิดไดเชนน้ีจะไมโกรธเกลียดคนที่ดาเขา กลับ
จะคดิ สงสารคนทดี่ าข้นึ มาแทน การรูจ กั เปลยี่ นมุมมองใหมจึงเปนส่ิงจําเปนที่จะทําใหเราไม
มคี วามทุกขในสถานการณตางๆ ท่ีผา นเขามาในชวี ิต

๓๘ เรอื่ งเดยี วกนั , หนา ๗๓.

๒๖๐ ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมใ นโลกปจจุบนั
พระมหามิตร ฐติ ปโฺ ญ,ผศ.ดร.
บทท่ี ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

ทานดาไลลามะไดกลาวสอนไววา ความสามารถที่จะมองเห็นการณจากมุมมอง
อ่ืนน้ันมีประโยชนอยางมากหากฝกไดเชนนี้ เราจะสามารถนําประสบการณบางอยางหรือ
เหตุการณเศราโศกมาชวยกลอมเกลาใหจิตใจเกิดความสงบได เราตองเขาใจวา
ปรากฏการณทุกๆ เหตุการณมันมีหลายดาน ทุกส่ิงทุกอยางมีธรรมชาติอันสัมพันธซึ่งกัน
และกันในเวลาที่เรามีความทุกขโศกหรือเผชิญหนากับปญหา หากเราคิดวาปญหาตางๆ
เปนท่ีมาของปญญา เราจะไมมีความทุกขและไมจมอยูกับปญหาทุกคร้ังท่ีปญหาเกิดข้ึนเรา
จะไดด ใี จทีไ่ ดท ดลองปญญาของตนเอง วาจะหาทางแกปญ หานนั้ ไดหรอื ไม

ผูคนโดยสวนใหญเม่ือเผชิญหนากับปญหา มักจะมีมุมมองท่ีแคบลง มัวแตทุมเท
ความสนใจทั้งหมดไปกับการวิตกกังวลและเศราโศกเสียใจกับสิ่งท่ีเกิดขึ้น จึงอาจรูสึกวามี
เราคนเดียวเทา น้ันท่ีตอ งผจญกับความยากลําบาก ซึ่งอาจนําไปสูการหมกมุนอยูกับตนเองก็
ยิ่งจะทําใหปญหาดูเหมือนจะรุนแรงมากขึ้นไปอีก เชน บางคนอกหักก็จะย่ิงคิดวนเวียนอยู
วา ทําไมเขาตองทิ้งเรา รูสึกนอยอกนอยใจตนเอง รูสึกวาตนเองไรคา และก็จะคิดวนเวียน
อยูอยางนั้นซ้ําไปซํ้ามาก็จะย่ิงทําใหตนเองทุกขหนักมากขึ้น แตหากเปล่ียนมุมมองใหมวา
ความจริงชีวิตไมมีใครเปนของใครไดจริง การท่ีเขาจากเราไปจึงเปนเร่ืองธรรมดาและก็
นาจะเปนเรื่องดีที่เราจะมีโอกาสไดเจอใครอีกมากมาย ซึ่งก็อาจจะดีกวาคนที่ทิ้งเราไปก็
เปนได

การฝกเปลี่ยนมุมมองจะชวยใหสถานการณท่ีเลวรายตางๆ ท่ีเผชิญอยูนั้น
กลายเปนสิ่งที่มีคณุ คาขึ้นมาได และจติ ใจของเราก็จะสงบเย็นสบาย

แตถ าเราเอาแตม องเหตุการณหนึ่งเหตุการณใดดวยมุมมองเดียวอยูอยางนั้น มัน
จะลกุ ลามใหญโ ตข้ึนเร่ือยๆ ถาจองมองปญหาใกลเกินไป มากเกินไป ปญหาจะดูใหญโตจน
ควบคลุมไมได แตถาเปรียบเหตุการณน้ันกับเหตุการณอื่นๆ ที่ใหญโตกวา หรือมองปญหา
เดียวกันจากระยะไกล ถาอยางนั้นปญหาจะดูเล็กลงและไมนาหนักอกหนักใจจนเกินไปนัก
การเปรียบเทยี บกับเหตุการณอื่นท่ีหนักกวานั้นจะชวยไดมาก เชนเราคิดวาปญหาท่ีเราเจอ
อยนู ี้เปนเพยี งเลก็ นอ ย คนอ่ืนเจอหนกั กวา เราก็มีมากมายถมเทไป เพียงคิดไดเทาน้ีก็เชื่อแน
วา จติ ใจทเี่ คยเศรา โศกเสียใจจะกลับมาต้ังอยูในความสงบได

ทานดาไลลามะไดกลาวถึงวิธีการที่จะชวยใหเราเปลี่ยนมุมมองไวตอนหน่ึงวา ใน
สถานการณใดๆ ท่ีเกิดข้ึน ในคร้ังแรกที่เรามองวามีแตผลรายท้ังรอยเปอรเซ็นตนั้นมันก็
อาจจะมผี ลดีอยดู ว ย แมวา เราจะคนพบแงมุมดีๆ ในสถานการณเลวราย แตเพียงเทาน้ันยัง
ไมพอเราควรจะเสรมิ ความคดิ ดังกลาวใหแนนหนกั ขึ้น เราอาจตอ งเตือนตนเองใหนึกถึงดาน
ดีไวมากๆ ครั้นจนกระท่ังเรารูสึกถึงความเปลี่ยนแปลง โดยท่ัวไปแลวเม่ือเราตกอยูใน
สถานการณที่ยุงยาก เปนไปไมไดเลยท่ีจะเปลี่ยนทัศนคติโดยอาศัยการนําความคิด

ขบวนการพระพทุ ธศาสนาใหมในโลกปจจบุ นั ๒๖๑
พระมหามติ ร ฐติ ปโฺ ญ,ผศ.ดร.
บทที่ ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

บางอยางมาใชเพียงครั้งเดียวหรือสองคร้ัง แตความเปนจริงแลวมันตองผานกระบวนการ
เรียนรู การฝกฝน การเคยชินกับมุมมองใหม ซ่ึงจะทําใหเราสามารถจัดการกับความยุงยาก
ตา งๆ ที่เกดิ ขน้ึ ได

การฝกมองในดา นที่ดจี งึ ตอ งฝก อยูบอยๆ หากทาํ เพียงครั้งสองคร้ังอาจไมเกิดการ
เปลี่ยนแปลงในตัวเราในชีวิตประจําวันของเรานั้นมีเหตุการณตางๆ ผานมามากมาย เรา
สามารถใชเหตุการณเหลานั้นมาเปนแบบฝกหัดใหกับตนเองไดตลอดเวลา เชน เห็นเพื่อน
รวมงานท่ีขี้หงุดหงิด ข้ีบน ข้ีโมโห เราก็พยายามเปล่ียนอะไรสักอยางอยูบาง แตถาเรา
พยายามแลวไมพบดานดีหรือมุมมองท่ีดีอันเกิดจากการกระทําของเขาคนนั้นเลย ดาไลลา
มะแนะนาํ วา ถาเปน อยา งนนั้ ทางทีด่ ที ีส่ ดุ สําหรับเวลาน้นั กค็ อื พยายามลืมมนั เสยี

การเล่ียนมุมมองของเราในการมองผูอื่น จะทําใหเราสุขใจมากข้ึน และยังทําให
ความเปนมิตรเกิดข้ึนไดงาย หากเรามองคนอ่ืนเปนศัตรูไปเสียหมด และแบกความรูสึกไม
เปนมิตรนั้นติดตัวไปตลอด ก็เทากับวาเราไดแบกเอาความทุกขไวทุกขณะ จึงไมเปน
ประโยชนอะไรแกช วี ิตของเราเลย

ในการเปลี่ยนมุมมองตอศัตรู ทานดาไลลามะไดแนะนําไววา ศาสนาพุทธไดให
ความสนใจในการมีทัศนคติตอศัตรูคอนขางมากทีเดียว ทั้งนี้เพราะความเกลียดเปน
อุปสรรคย่ิงใหญที่สุดท่ีกั้นขวางการบมเพาะความกรุณาและความสุข ถาเราสามารถเรียนรู
ที่จะอดทนอดกล้ันตอศัตรูไดส่ิงอ่ืนๆ ก็จะงายข้ึน ความกรุณาท่ีเรามีตอคนอ่ืนก็จะเร่ิม
หลง่ั ไหลออกมาอยา งเปน ธรรมชาติ

นั่นแสดงใหเห็นวา การมีความคิดในทางลบทําใหเราตองแบกความทุกขไปดวย
ทกุ ที่ทุกเวลา ผทู ี่มีปญ ญาจึงสามารถเปลี่ยนความทุกขนั้นใหเปนความสุข มีแตความเมตตา
กรุณา ซึ่งสิ่งนี้จะทําใหเรามีจิตใจท่ีมั่นคงสงบ และเปนสุขอยูทุกขณะ แตในการฝกความ
เมตตากรุณาใหเกิดข้ึน เราตองฝกความอดทนอดกล้ันดวย ไมมีความแข็งแกรงใดเสมอ
ความอดทน ไมมคี วามทุกขทรมานใดเลวรายย่ิงกวา ความเกลยี ด

ทานดาไลลามะไดกลาวไววา ตามความเปนจริงแลวศัตรูคือบุคคลท่ีจําเปนอยาง
ยิ่งสําหรับการฝกความอดทนอดกล้ัน ถาปราศจากการกระทําของศัตรู เราก็จะไมมีโอกาส
ใหความอดทนเกิดขึ้น โดยปกติเพ่ือนๆ ก็ไมไดทดสอบเรา หรือใหโอกาสเราไดสั่งสมความ
อดทนสกั เทาใดนัก มเี พียงศัตรูเทาน้ันที่ทําเชนน้ี จากมุมมองนี้เราอาจจะถือเอาศัตรูเปนครู
คนสําคัญ และใหความเคารพนับถือพวกเขาท่ีมอบโอกาสอันมีคาแกเราในการฝกฝนความ
อดทนอดกลั้น

๒๖๒ ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมใ นโลกปจจบุ ัน
พระมหามติ ร ฐติ ปโฺ ญ,ผศ.ดร.
บทท่ี ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

หากเราพิจารณาความเปนจริงในชีวิตจะเห็นวาในโลกนี้มีคนจํานวนมากมาย
มหาศาล และมีเพียงคนจํานวนไมกี่คนเทาน้ัน (หากเทียบกบคนท้ังโลก) ที่เราไปเก่ียวของ
สัมพนั ธดว ย โดยเฉพาะอยา งยงิ่ คนท่กี อปญหาใหกบั เรายิ่งมีจาํ นวนนอยลงไปอกี

ฉะนั้น เม่ือเราเจอคนท่ีกอปญหาใหกับเรา ก็เทากับวาไดเจอโอกาสท่ีจะไดฝกหัด
ความอดทนอดกลั้น เราควรท่ีจะนอมรับดวยความขอบคุณ เพราะเปนโอกาสท่ีหาไดยาก
เหมือนขุมทรัพยอยูภายในบานอยางไมคาดฝนเราควรที่จะขอบคุณศัตรูที่ไดใหโอกาสอันมี
คา น้ี เพราะวาความอดทนอดกลั้นเปน สิ่งสาํ คัญสาํ หรับตอ สูกับอารมณท างลบทั้งหลาย

การเปล่ยี นมมุ มองไมเพียงชวยใหเราเกิดความเมตตากรุณาเทาน้ัน ยังชวยใหเรา
รูจักจัดการกับปญหาตางๆ ท่ีเกิดขึ้นไดดวยใจท่ีสงบ และไมสรางความโกรธเกลียดใหเกิด
ข้ึนกับใครอีกเปนการขจัดปญหาไดอยางสิ้นซาก หากเราโกรธตอบตอคนที่โกรธเกลียดเรา
เชื่อแนวา ทั้งสองฝา ยก็ตอ งโกรธเกลยี ดกนั อยอู ยา งน้ันเรื่อยไปไมมีท่สี นิ้ สดุ ๓๙

ในการฝกหัดปฏิบัติ มีบทสวดที่พระชาวทิเบตชื่อ ลังรี ถังปะ ไดเขียนขึ้นใน
ศตวรรษที่ ๑๑ ซงึ่ เปนบทสวดเพือ่ ฝกอบรมพฒั นาจติ ในบทสวดน้นั มขี อ ความบางตอนวา

เม่ือใดก็ตามที่ฉันเกี่ยวของสัมพันธกับใครคนใด ขอใหฉันคิดวา ตนเองตอยต่ํา
ท่สี ุดในบรรดาคนท้งั ปวง และยกยองเขาผนู น้ั ไวส งู สดุ ในสว นลกึ ของใจฉนั ...

เม่ือฉันเห็นคนที่มีจิตใจช่ัวราย เต็มไปดวยทุกขเวทนาและบาป ขอใหฉันถือเอา
บุคคลที่หาไดย ากเหลา น้เี หมอื นหนึง่ ผูเปนท่ีรกั ราวกับวาฉนั ไดพบสมบตั ิลาํ้ คา ...

เม่ือคนอื่นปฏิบัติไมดีตอฉัน ดวยการขมเหงรังแก กลาวรายปายสี อันเนื่องจาก
ความอจิ ฉาริษยาขอใหฉ ันนอ มรบั ความพายแพ และหยิบยน่ื ชยั ชนะแกค นเหลา นั้น...

เม่ือคนท่ีฉันไดทําผลประโยชนแกเขาดวยความหวังอันยิ่งใหญ กลับทํารายฉัน
อยางเจ็บปวด ขอใหฉันมองเขาประหนึ่งองคปรมาจารยสงู สดุ ....

กลา วโดยสน่ั ขอใหฉันหยิบยน่ื ประโยชนแ ละความสุขทาํ ใหเ รากลายเปนที่รักเปน
ท่ีชอบใจของผูอ่ืนใหกับสรรพชีวิตท้ังปวง ทั้งทางตรงและทางออม ขอใหฉันนอมรับความ
เจ็บปวดและความทกุ ขแ ทนสรรพชีวิตท้ังหลาย...

การฝกปฏิบัติเชนน้ีอยูเปนประจําจะทําใหเราสามารถเปลี่ยนมุมมองใหมๆ ได
หลายประการ ไมวาจะเปนการสรางความสัมพันธกบั ผอู ื่น ซึ่งตามปกติเรามักจะอยากทําตัว
ใหโดดเดนกวาผูอ่ืนเพือ่ ใหดูดี แตในบทสวดนี้สอนใหเราออนนอมถอมตน ซึ่งน่ีเปนลักษณะ
สาํ คญั ทจ่ี ะทาํ ใหเรากลายเปน ทร่ี ักเปน ท่ีชอบใจของผูอน่ื

๓๙ เร่อื งเดียวกนั , หนา ๘๒.

ขบวนการพระพทุ ธศาสนาใหมใ นโลกปจจุบนั ๒๖๓
พระมหามติ ร ฐติ ปโฺ ญ,ผศ.ดร.
บทท่ี ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

เม่ือเราเห็นคนท่ีท่ีมีจิตใจชั่วราย ปกติแลวเรามักจะรูสึกโกรธเกลียดข้ึนมาทันที
อยากจะหลีกใหหางไกลจากคนเหลาน้ัน แตบทสวดน้ีชวยเปลี่ยนมุมมองของเราใหรักเขา
ราวกบั วาเราไดพ บสมบตั ิอันลํ้าคา เพราะจะเปนการชวยฝกหัดขัดเกลาตัวเราเองใหมีความ
อดทนอดกลน้ั และมีความเมตตากรุณา

หากพบเจอคนที่ปฏิบัติไมดีตอเรา ขมเหงรังแกเราปกติแลวคนท่ัวไปก็มักจะไม
ยอม และหาทางตอบแทนความช่ัวดวยความชั่ว แตในบทสวดน้ีสอนใหเราตอบแทนความ
ชั่วดวยความดี ใหเรายอมรับความพายแพ และหยิบยื่นชัยชนะใหแกเขา การชนะใดก็ไม
ย่ิงใหญเทากับการชนะใจ การที่เขาใสรายปายสีเรา อิจฉาริษยา ส่ิงเหลาน้ีมันลวนแตทําให
เราเกิดความทกุ ขใจท้ังสิ้น หากเราไปด้นิ รนตามคําที่เขาพูด เราก็จะทุกขใจไปดวยโดยเปลา
ประโยชน

เม่ือเรามุง หวงั ทาํ ความดใี หแกใครแลว เขากลับทําความชั่วตอบแทนเรา บทสวด
น้ีก็สอนใหเรามองเขาประหน่ึงองคปรมาจารยสูงสุด อยาไปถือโทษโกรธเคืองเขาส่ิงเหลานี้
จะเปน บทเรียนและเปนบททดสอบความอดทนอันย่ิงใหญใหกับเรา หากเราทําความดีแลว
ความดียอ มเปนความดี จงมองเขาดว ยความรักความเมตตา อยาเปลี่ยนความดีที่เราเคยทํา
ไวเ ปนความช่วั ตามเขา

ฉะน้ัน เม่ือเราพบเจอกับความทุกขความเจ็บปวดทั้งหลาย จงเปล่ียนเสียใหม
อยา ทําใหค วามทุกขน นั้ มาซาํ้ เตมิ ใหเราตอ งทุกขใจมากยงิ่ ขนึ้ จงเปล่ียนความทุกขน้ันใหเปน
พลังท่ียิ่งใหญท่ีจะชวยฝกเราใหมีทั้งความอดทนอดกล้ัน และมีความเมตตากรุณา ซ่ึงหาก
เราสามารถเปลี่ยนพลังดานลบใหเปนพลังดานบวกไดทุกคร้ังที่เราประสบกับความทุกข
ยากลําบาก เช่ือแนวาชีวิตของเราจะไมมีวันท่ีจะประสบกับความทุกขไดอยางแนนอนชีวิต
จะมแี ตความสุขสงบตลอดไป

๖.๖.๗ การสรางความเปลยี่ นแปลงท่ีดงี าม
ความเปล่ียนแปลงเปนกฎธรรมชาติอยางหน่ึงท่ีเราไมสามารถท่ีจะหลีกเลี่ยงได
แตการเปลี่ยนแปลงในชีวิตของเราจะเปนไปในทางใดน้ันข้ึนอยูกับการกระทําของเราเอง
หากเราพบเจอปญหา หรือเจอคนที่ไมท่ีดี เรามีมุมมองในแงลบ จิตของเราก็จะเล่ียนไปสู
การมีความทุกขในทันที ในขณะเดียวกันหากเรามีมุมมองในแงบวก จิตของเราก็จะ
เปล่ียนไปในทางที่ดีงาม การขจัดพฤติกรรมและภาวะจิตในทางลบจึงเปนการนําไปสูการ
บรรลุบรมสุขของชีวิต
วิธีการท่ีจะสรางความเปล่ียนแปลงที่ดีงามใหกับชีวิต ทานดาไลลามะแนะนําวา
ข้ันแรกเราจะตองเรียนรู เชน เรียนรูวาอารมณและพฤติกรรมทางลบเปนโทษตอการ

๒๖๔ ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมในโลกปจ จุบัน
พระมหามติ ร ฐติ ปโฺ ญ,ผศ.ดร.
บทท่ี ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

แสวงหาความสุข สวนอารมณและพฤติกรรมทางบวกเปนคุณประโยชนท่ีจะนําความสุขมา
ให และในการเรียนรูน้ียังมีสวนประกอบอื่นๆ ตามมาอีกดวย เชน ตองมีความเชื่อ ความ
มุง ม่ัน การลงมือทาํ และความเพียรพยายาม เปน ตน

ข้นั ตอ ไปคือการพัฒนาความเช่ือ ซึ่งการเรียนรูมีสวนสําคัญที่จะชวยใหเกิดความ
เช่ือวา เราจําเปนตองเปลี่ยนแปลง รวมท้ังชวยใหเรามีความมุงม่ันมากขึ้น ความเช่ือที่โนม
นาวใหเราอยากเปลี่ยนแปลงจะคอยๆกลายเปนความมุงมั่นตอไป แลวเราก็เปลี่ยนแปลง
ความมุงมั่นน้ันเปนการกระทํา ความมุงม่ันอยางแรงกลาที่จะเปล่ียนแปลงตนเองทําใหเรา
เกิดความเพียรพยายามจนกระท่ังบรรลุผลไดในที่สุด ซึ่งความเพียรพยายามนี้ถือวาเปน
ปจจยั ทีส่ ําคัญมากทจ่ี ะชว ยทําใหความมุงมน่ั ตงั้ ใจของเราเปน จรงิ ข้ึนมาได

ตัวอยางเชน ถาเราเปนคนชอบมาทํางานสาย เราก็ตองตระหนักกอนวา การมา
ทาํ งานสายเปนสง่ิ ทไี่ มดีทง้ั ตอ ตวั เราเองและตอองคกรท่ีเราทํางานดวย เม่ือเรียนรูถึงผลเสีย
ของมนั แลว กต็ องตระหนกั ใหม ากย่งิ ข้นึ มีความเชื่ออยางหนาแนนหนักถึงผลเสียของการมา
ทํางานสาย และเราก็มีความมุงมั่นที่จะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของตนเอง สุดทายก็ทุมเท
ความพยายามเพือ่ สรางนิสยั ใหมใหก ับตนเอง

น่ีคือกระบวนการสรางความเปล่ียนแปลงจากภายใน สําหรับเรื่องอื่นๆ ก็
เชนเดียวกัน หากเราพิจารณาเห็นวา สิ่งใดเปนสิ่งท่ีไมดีสําหรับชีวิต หรือพฤติกรรมใดเปน
สง่ิ ที่ไมดที เี่ ราอยากจะเปลย่ี นแปลง เรากใ็ ชวธิ กี ารแบบเดียวกันนี้ ซึ่งในที่สดุ เราก็จะสามารถ
เปลยี่ นแปลงสง่ิ ท่ไี มดที ้ังหลายใหก ลายเปนดไี ด

ทา นดาไลลามะไดสอนไววา ไมวาเรากาํ ลงั ท่จี ะหาหนทางเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม
ใด หรือทุมเทเพ่ือเปาหมายหรือการกระทําอยางหน่ึงอยางใดก็ตาม เราตองเริ่มตนจากการ
สรางสมเจตจํานงอันแนวแน หรือความปรารถนาที่จะทําสิ่งน่ันเสียกอน ตองสรางความ
กระตือรือรนอันแรงกลา และตรงจุดน้ีเองที่ความรูสึกเรงดวนเปนกุญแจดอกสําคัญเพราะ
ความเรงรีบหรือความกระตือรือรนเปนปจจัยทรงพลังท่ีชวยใหเราสามารถเอาชนะปญหา
ได๔ ๐

ตัวอยางเชน ความรูเก่ียวกับผลขางเคียงอันรายแรงของโรคเอดสไดเรงเราใหคน
จํานวนมากหันมาสํารวจพฤติกรรมทางเพศของตน ในแงน้ีถาเราไดรับขอมูลขาวสารท่ี
ถูกตอง ความรูสกึ วา มนั เปน เรือ่ งเรง ดว น ความกระตอื รือรน และจรงิ จังกย็ อ มเกิดขน้ึ ตามมา

คําสอนของทานดาไลลามะไดเนนถึงความรูสึกเรงดวนหรือเจตจํานงอันแนวแน
วาเปนพลังงานมหาศาลท่ีจะกอใหเกิดความเปลี่ยนแปลงแกเรา และความรูสึกเรงดวนมี

๔๐ เรอื่ งเดยี วกัน, หนา ๗๖.

ขบวนการพระพทุ ธศาสนาใหมในโลกปจจุบัน ๒๖๕
พระมหามิตร ฐติ ปฺโญ,ผศ.ดร.
บทท่ี ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

เจตจํานงท่ีแนวแนน้ีมันยังสามารถนํามาใชไดกับการเปล่ียนแปลงในระดับสังคมและโลก
ดวย เชน ประเทศไทยเกิดปญหาน้ําทวมใหญเมื่อปลายป ๒๕๕๔ (ปลายเดือนพฤศจิกายน
๒๕๕๔ ถึงตนป ๒๕๕๕) ทําใหทุกคนรูสึกวาเปนปญหาเรงดวนนี้ และไดชวยผลักดันให
ชาวบานตา งรว มมอื รว มใจกนั เปนอยางดี จนสามารถผา นพนวิกฤตน้ันมาไดคือ วิกฤตการณ
อยา งปจจบุ ันทันดวนชว ยผลักดนั ใหช าวบานตางรวมพลงั

ใ น ก า ร ที่ จ ะ พั ฒ น า ค ว า ม รู สึ ก ก ร ะ ตื อ รื อ ร น ที่ จ ะ เ ป ล่ี ย น แ ป ล ง ต น เ อ ง ใ น
ชีวิตประจําวันนั้นก็มีหลากหลายวิธี อยางเชน เราอาจจะตระหนักถึงคําสอนของ
พระพุทธเจา ท่ีวาการเกิดเปนมนุษยน้ันเปนเรื่องท่ียากมากเราควรใชเวลาอันมีคาท่ีอยูใน
โลกน้สี รางส่ิงทดี่ งี ามใหกับตนเอง และในทางพระพทุ ธศาสนาน้ันเนน เรอื่ งศักยภาพมากมาย
ท่มี อี ยูในตัวของมนษุ ยที่จะสามารถพัฒนาใหส งู สุด หากเราพิจารณาส่ิงตางๆ เหลาน้ีอยูเปน
ประจํากจ็ ะทําใหเ กดิ ความรสู กึ มงุ ม่นั ตั้งใจทีจ่ ะใชร างกายที่มีรางกายท่ีมีอยูของเราไปในทาง
ท่ีสรางสรรคไ ด

ทานดาไลลามะเคยสอนไวว า การปลกุ เราความรูสึกเรงดวนทําใหผูฝกปฏิบัติทาง
จิตวิญญาณตระหนกั ถงึ ความไมเที่ยงแทของชีวิต ตระหนักถึงความตาย เมื่อเรากําลังพูดถึง
ความไมเที่ยงแทในท่ีนี้ เรากําลังพูดถึงในแงสามัญธรรมดา ไมไดหมายถึงในดานท่ีซับซอน
ไปกวาน้ัน หรืออีกนัยหน่ึงเปนการเตือนตนวา วันหน่ึงเราจะไมมีชีวิตอยูในโลกน้ีอีกตอไป
เมื่อความรูสึกน้ีรวมกับการเห็นคุณคาในศักยภาพอันมหาศาลของการไดมีชีวิตเปนมนุษย
แลว มันจะปลุกเรา ใหเ ราเกิดสํานึกของความเรงดวนขึ้นมาเปนทํานองวา เราจะตองใชชีวิต
ในทกุ ๆ วนิ าทอี ยางมคี ุณคา

ชีวิตของคนเรานั้นไมรูวาจะตายวันไหน เวลาใด ความตายอาจมาถึงเราไดทุก
วินาที ไมจําเปนตองรอจนถึงแกเฒา การพิจารณาอยูอยางนี้เปนประจําจะทําใหเราเกิด
ความกระตือรือรนที่จะเรงรีบกระทําความดีตางๆ เชน ที่วิทยาลัยศาสนศึกษา
มหาวิทยาลัยมหิดล อาจารยและนักศึกษาเคยสนทนากันในการปฏิบัติธรรมประจําปวา
สมมตุ ิวา เราจะตายภายในอีก ๗ วัน เราควรจะทําอะไรดี ปรากฏวานักศึกษาทุกคนพูดเปน
เสียงเดียวกันวา เราจะเรงทําความดที ่ีสดุ เทา ท่เี ราจะทําได

หลายคนกลับไปท่ีบานขอโทษพอแมท่ีเคยกระทําไมดี และตั้งใจจะทําความดีกับ
พอแมทุกวัน การนึกถึงความตายจึงจะชวยกระตุนใหเราเกิดการเปล่ียนแปลงไปในทางที่ดี
งามได

๒๖๖ ขบวนการพระพทุ ธศาสนาใหมในโลกปจ จุบนั
พระมหามติ ร ฐติ ปโฺ ญ,ผศ.ดร.
บทที่ ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

นอกจากน้ันแลว ทานดาไลลามะยังไดกลาวถึงวิธีการกระตุนความกระตือรือรน
วา๔๑ การจะเอาชนะความเฉอื่ ยชาเพื่อกระตนุ การกระทําและความกระตือรือรนน้ัน วิธีที่จะ
ไดผลดีท่ีสุดและอาจเปนทางแกหนทางเดียวก็คือ ตองตระหนักถึงผลขางเคียงอันรายกาจ
ของพฤติกรรมทางลบอยูเสมอ เราตองหมั่นเตือนตนเองซํ้าแลวซํ้าอีกถึงผลรายของมันที่จะ
เกิดข้ึนตามมา น่ันก็คือนอกจากเราจะพิจารณาวา ชีวิตของเราไมแนนอนแลว เราก็อาจจะ
ตระหนักถึงพฤติกรรมท่ีไมดีทั้งหลายที่ทําใหเราประสบกับความยุงยากลําบากหรือความ
ทุกข และพยายามนึกซ้ําอยูบอยๆ ก็จะทําใหเราอยากเปล่ียนแปลงพฤติกรรมเหลานั้นให
กลายเปน พฤตกิ รรมทีด่ งี ามเขา มาแทนท่ี

ในชีวิตของคนเรานั้น ไมมีใครที่จะสามารถทํารายตัวเราไดมากเทากับตัวเราเอง
การท่ีเรามีความทุกขท้ังหลายท้ังปวงก็ลวนมาจากพฤติกรรมในแงลบของเราเอง หากเรา
หม่นั พิจารณาผลรายของมันและผลขา งเคยี งทีอ่ าจเกิดขึ้น ก็จะทําใหเราหาทางหลีกหนีจาก
พฤติกรรมเหลานั้นได คนเรามักจะติดอยูในพฤติกรรมท่ีเคยชิน หรืออุปนิสัยเดิมๆ ของตน
คนที่เคยทําชัว่ ครง้ั หนงึ่ ก็มกั จะทาํ ชวั่ ครงั้ ทส่ี องไดงา ยข้ึน ในทางตรงกนั ขามหากเราสามารถ
เปล่ียนพฤติกรรมเคยชินน้ีไปในทางที่ดีงาม หม่ันสรางความดีอยูเรื่อยๆ ซึ่งทุกครั้งจะทําให
เราสามารถสรา งความเคยชินแบบใหมขึ้นมาได

ทา นดาไลลามะไดกลา ไววา ฟากเรามีความพยายามอยางม่ันคงสม่ําเสมอ เราจะ
สามารถเอาชนะสภาพทางลบและเปลี่ยนแปลงชีวิตไปในทางท่ีดีงามได แตเราก็ตองเขาใจ
ดวยวา ความเปลี่ยนแปลงไมไดเกิดข้ึนเพียงชั่วขามคืนหรือเกิดข้ึนทันทีทันใด การ
เปล่ียนแปลงทุกอยางตองคอยเปนคอยไป ซ่ึงในตอนแรกๆ อาจจะยากสักหนอย แตเม่ือ
กระทาํ ไปบอ ยๆ ก็จะเกดิ ความเคยชินในท่ีสุด ซึ่งความเคยชินนี้เองก็จะกลายมาเปนวาสนา
ของเราคือ เปนวาสนาท่ีดีงาม ในแงน้ีเราจึงสามารถสรางวาสนาใหกับตนเองไดอยากมี
วาสนาดีกเ็ ลือกทาํ แตสงิ่ ที่ดีงาม เปนธรรมดาอีกอยางหนึ่งวา เมื่อเราต้ังใจท่ีจะเปลี่ยนแปลง
ตนเองไปในทางทด่ี ีงามแลว แตความดีงามหรือความเปล่ียนแปลงท้ังหลายจะคอยเปนคอย
ไป ตองใชระยะเวลายาวนาน สิ่งหน่ึงท่ีเราจะตองประสบพบเจออยางแนนอนก็คือ “ความ
ทอแท” ซ่ึงหากใจเราไมเด็ดเด่ียวม่ันคงพอก็อาจจะเลิกลมลงกลางคัน หรือถาเรามีทัศนคติ
ในแงลบก็อาจจะไมทําตอ เพราะจะรูสึกวาทําไปแลวก็ไมประสบความสําเร็จ แตหากเรามี
ทัศนะในแงบวกอยูเสมอ เวลาท่ีท่ีทอใจหรือกระทําสิ่งใดไปแลวและยังไมประสบ
ความสําเร็จสักที ถาเรามองสิ่งน้ันเปนบทเรียน หรือเปนบันไดที่จะกาวไปสูความสําเร็จ ก็
จะทาํ ใหเรามีกาํ ลงั มากยิง่ ขึน้

๔๑ เรื่องเดยี วกัน, หนา ๙๒.

ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมใ นโลกปจจบุ นั ๒๖๗
พระมหามติ ร ฐติ ปโฺ ญ,ผศ.ดร.
บทที่ ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

ความมุงม่ันและความกระตือรือรนจึงเปนส่ิงสําคัญท่ีจะทําใหเราสรางความ
เปล่ียนแปลงใหเกดิ ขน้ึ ได และท่ีสาํ คญั คือตอ งมคี วามพยายามอยูดวย ทานดาไลลามะกลาว
วา ความพยายามเปนสวนประกอบทีข่ าดไมไ ด ในการสรางภาวะใหมๆ พฤติกรรมทางลบที่
เราเคยกระทําจนเปนความเคยชินนั้น บางคร้ังก็ยากที่จะสลัดมันใหหมดสิ้นไป การอาศัย
ความพยายามและความมุง ม่นั กระทําความดีอยูอ ยา งสม่ําเสมอ จะชวยใหพฤติกรรมที่ดีงาม
มาแทนท่พี ฤตกิ รรมทไี่ มดีไดในท่สี ุด

ทานดาไลลามะไดกลาวเนนย้ําถึงความสําคัญของการพยายามอยางไมลดละ
คอ ยเปนคอยไป ความมุงมั่นต้ังใจของจิตใจ ซึ่งจิตของเราน้ันมีพลังมหาศาลและไรขีดจํากัด
หากไดร บั การอบรมฝก ฝนมาอยางเปน ระบบ

การทีจ่ ะจัดการกับลกั ษณะนิสยั ทางลบท้ังหลายของจติ อนั เปน สาเหตุแหงปญหา
นานาประการ ยอมใชเวลานาน เพราะจิตไดคุนเคยกับลักษณะนิสัยทางลบน้ันมานานมาก
ในขณะเดียวกันการปลูกฝงท่ีดีงามใหมๆ ท่ีจะนําความผาสุกมาใหก็ตองใชเวลานาน
เชน เดียวกนั ไมมีทางหลีกเล่ียงอ่ืนใดที่จะทําใหเราเปลี่ยนแปลงอุปนิสัยได มีแตความมุงม่ัน
ความเพยี ร และเวลาเทา นั้นทเี่ ปนเคล็ดลับอันแทจริงท่จี ะนาํ ไปสคู วามสุข

การเร่ิมตนเดินทางสูความเปลี่ยนแปลงท่ีดีงาม การคาดหวังอยางสมเหตุสมผล
เปนสิง่ ทส่ี ําคัญมาก ถา ตงั้ ความหวังไวสูงเกินไป หรือเกินความเปนจริงยอมทําใหเราผิดหวัง
ไดง าย และจะทําใหเ ราหมดกาํ ลงั ใจ ทา นดาไลลามะไดกลาวไววา เมื่อเราเร่ิมกาวเดินไปบน
เสนทางเพื่อไปสูเปาหมายสูงสุด เราตองไมลืมวา ทัศนะที่ตั้งอยูบนความจริง การมี
ความรูสึกละเอียดออนและเคารพตอความจริงของสถานการณเปนสําคัญ ใหตระหนักวา
จะตองพบอปุ สรรคตา งๆ ระหวางทาง รวมถึงความจริงท่ีวายอมตองใชเวลาและความเพียร
อยา งสมํา่ เสมอ จงึ เปน เร่อื งสําคัญท่ีเราจะตองแยกแยะไวในใจใหชัดเจนระหวางอุดมคติกับ
มาตรฐาน ท่เี ราจะนาํ มาวดั ความกา วหนา ของชวี ติ เรา

ชีวิตของคนเราตองมีอุดมคติท่ีสูงสง แตการจะบรรลุถึงอุดมคติท่ีสูงไดน้ันตองใช
เวลา ไมใชเด๋ียวน้ีเวลาน้ีหากเราตั้งอุดมคติสูงและอยากประสบความสําเร็จตอนนี้เด๋ียวน้ี
มันก็คงเปนไปไดยาก และจะทําใหเราทอแทหมดกําลังใจ เหตุน้ีเองเราจึงตองมีมุมมองท่ี
สมเหตุสมผล ดูวาส่ิงท่ีเราต้ังเปาหมายไวกับการกระทํามันสอดคลองกันหรือไม มัน
สมเหตุสมผลหรือยัง หม่ันพิจารณาเหตุผลและผลอยูอยางตอเนื่อง หากทํายังไมสําเร็จก็
พิจารณาหาหนทางท่ีจะปรับปรุงแกไขตอไป ทําอยางนี้เร่ือยไปโดยการมีมุมมองในแงบวก
และมคี วามสมเหตุสมผล ซ่งึ เชอื่ แนว า จะทําใหเราเดินทางไปถงึ เปา หมายไดในทสี่ ุด

การเปล่ียนแปลงตนเอง จึงไมใชสิ่งงายนักแตก็ไมไดยากเกินความพยายามของ
มนษุ ย ขอเพียงเรามีความมุงม่นั ตั้งใจท่จี ะเปล่ียนแปลงตนเองใหดีข้ึน มีความพยายามอยาง

๒๖๘ ขบวนการพระพทุ ธศาสนาใหมในโลกปจ จบุ ัน
พระมหามติ ร ฐติ ปฺโญ,ผศ.ดร.
บทท่ี ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

ตอเนือ่ งไมทอ ถอย กเ็ ช่อื แนว า เราทกุ คนสามารถทจ่ี ะเปล่ียนแปลงจิตใจ และพฤติกรรมดาน
ลบท่ีมีอยูภายในกลายเปนดานบวกได และสิ่งเหลานี้จะเปนท่ีมาของความสุขอันย่ิงใหญ
ใหก ับชวี ิตของเราอยา งแนนอน

๖.๖.๘ วธิ กี ารจดั การกับความโกรธและความเกลยี ด
อารมณค วามโกรธความเกลียดเปนอารมณดานลบท่ีคอยเผาใจเราใหเปนทุกขอยู
ตลอดเวลา ยิ่งใครมีอารมณเชนนี้อยูในตัวก็ย่ิงมีความทุกขมากเทานั้น อารมณเหลาน้ียังทํา
ใหความคิดของเราไมปลอดโปรงรูสึกอึดอัดไมสบายใจ ตลอดจนเปนบอนทําลาย
ความสัมพันธสวนตัวของเราดวย การศึกษาวิจัยสวนใหญยังพบอีกวา อารมณเกลียดเปน
ตนเหตุสําคัญของโรครายและการเสียชีวิตกอนวัย ผูที่ตองการความสงบเย็นใหกับชีวิตจึง
ตอ งจัดการกบั ความโกรธของเกลียดนใ้ี หหมดไป
วิธีการจะชวยกําจัดความโกรธเกลียดน้ัน เร่ิมตนเราตองสํารวจตรวจสอบ
ธรรมชาติอารมณอันเปนพิษภัยนี้ ตระหนักถึงมันอยางชัดเจนวามันเปนอันตรายตอตัวเรา
ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ รวมถึงความสัมพันธท่ีเรามีตอผูอื่นดวย เมื่อเราตระหนัก
เห็นชดั แลว กจ็ ะมีความเพยี รท่ีจะจดั การกับมันตอไป
ทานดาไลลามะไดสอนไววา อารมณทางลบหรืออารมณท่ีคอยบีบค้ันใหเราเปน
ทุกขนั้นมีอยูมากมายหลายชนิด ยกตัวอยางเชน ความหยิ่งจองหอง ความอหังการ ความ
อิจฉาริษยา ความปรารถนา ความใคร การมีจิตคับแคบ ความโกรธเกลียด เปนตน แตใน
จํานวนอารมณทางลบน้ีถือวา ความเกลียดและความโกรธเปนสิ่งเลวรายท่ีสุด เพราะเปน
อุปสรรคใหญที่คอยกั้นขวางการพัฒนาความเมตตากรุณาและการทําประโยชนใหแกผูอื่น
นอกจากนน้ั อารมณนี้ยงั ทําลายคุณธรรมและความสงบสุขของจติ ใจอีกดว ย๔๒
ความโกรธเมอื่ เกดิ ขนึ้ มนั ยอ มนาํ ไปสูความคิดรา ย ความเกลียด และการกระทําท่ี
ไมด ตี า งๆ ก็จะตามมาอกี มากมาย อารมณใ นแงลบทฝี่ งอยูในจิตใจของเรานั้นมันเปนเสมือน
ยาพิษทคี่ อยกดั กรอนจติ ใจของเราใหเปน ทุกขอยูรํ่าไป เราจึงควรหาทางกําจัดมันใหหมดไป
หรือทําใหมนั ไมมีอาํ นาจท่จี ะครอบงาํ จิตใจของเราไดอ ีกตอไป
ทานดาไลลามะกลาวถึงวิธีการกับความโกรธไววา เราไมสามารถเอาชนะความ
โกรธและความเกลียดไดดวยการเก็บกดเอาไว แตเราสามารถท่ีจะพัฒนาตัวสกัดกั้นความ
เกลียดชังใหเกิดข้ึนมาไดน่ันก็คือ ความอดทนอดกลั้น และความใจกวาง วิธีการที่จะบม

๔๒ เยาวลักษณ สุวรรณแข, “Book Review: The Art of Happiness: Handbook for
Living”, วารสารปาริชาต มหาวิทยาลัยทักษิณ, ปท่ี ๒๖ ฉบับท่ี ๒ (ตุลาคม ๒๕๕๖ – มีนาคม
๒๕๕๗): ๑๔๐.

ขบวนการพระพทุ ธศาสนาใหมในโลกปจ จบุ ัน ๒๖๙
พระมหามติ ร ฐติ ปโฺ ญ,ผศ.ดร.
บทท่ี ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

เพราะความอดทนอดกล้ันใหเกิดขึ้นได กอนอ่ืนตองสรางความกระตือรือรน ย่ิงใครมีความ
กระตือรือรนมากเทาไร ก็ยิ่งมีความอดทนตอความยากลําบากท่ีตองประสบพบเจอไดมาก
เทาน้นั

ความอดทนอดกลั้นตออารมณท่ีมากระทบใจเรา ทําใหเราสามารถระงับความ
โกรธได โดยเฉพาะอยางย่ิงการมสี ติท่ีจะรับรูมัน ทําใหมันหมดฤทธิ์อํานาจลงไปทันที การท่ี
หลายครัง้ เราปลอ ยใหความโกรธครอบงําจิตใจของเรา และนําพาพฤติกรรมของเราไปสูทาง
ทไี่ มดีงาม กเ็ พราะเราขาดสตนิ ่ันเอง

เมื่อใดท่ีเรามีสติ ความโกรธก็จะออนอํานาจลงทันที ยิ่งมีสติพิจารณามันมาก
เทาไร มนั กจ็ ะยง่ิ มอี ํานาจนอยลงเทา นั้น

ทานดาไลลามะไดเนนย้ําใหเห็นผลรายของการมีความโกรธเกลียดอยูในใจวา
ความเกลียดชงั มีผลรายท่ีเห็นไดชัดเจนมากและเห็นไดรวดเร็วทันตา ตัวอยางเชน ทันทีที่มี
ความโกรธเกลียดเคียดแคนเกิดข้ึนในจิตใจของเรามันก็จะเขามาครอบงําเราและทําลาย
ความสงบสขุ ของจิตใจ ทาํ ใหส ตปิ ญ ญาของเราหายไปหมด เม่ือรสู ึกโกรธเกลยี ดอยางรุนแรง
มั น จึ ง ก ร ะ ท บ ก ร ะ เ ทื อ น ไ ป ถึ ง ค ว า ม ส า ม า ร ถ ส ว น ท่ี ดี ท่ี สุ ด ข อ ง ส ม อ ง ด ว ย นั่ น ก็ คื อ
ความสามารถทีจ่ ะตัดสินวาอะไรถกู อะไรผดิ ที่จะตัดสนิ ผลการกระทําของเราท้ังในระยะสั้น
และระยะยาว ความสามารถในการคิดอานกลับหยุดไปดื้อๆ เหมือนกับวาเราไดเสียสติไป
แลว ความโกรธเกลียดจึงมักจะทําใหเราตกอยูในสภาพที่วุนวาย สับสน ยุงยากใจ และ
มักจะทาํ ใหปญหาตา งๆ เลวรา ยลงไปกวา เดิม

จะเห็นวา ความโกรธทําใหเราสูญเสียความสงบสุข และความสามารถในการคิด
พิจารณาตางๆทันที บางคนท่ีไมรูจักควบคุมมัน ทําใหมันมาเปนตัวควบคุมพฤติกรรมหรือ
การแสดงออกตอบสนองมันทันที เชน บางคนก็ดาออกไปโดยยังไมไดคิด บางคนถึงกับไป
ตบตคี นอื่นเลยก็มี เมื่อเปนเชนน้ันผลแหงกรรมท่ีเกิดจากการใชความโกรธเปนตัวนําก็ยอม
สง ผลเปน ความทกุ ข เปนความเลวรายตามมาในที่สดุ

ความโกรธท่ีเกิดขึ้นในจิตใจ ไมไดมีผลเพียงแคทําใหจิตใจเราสูญเสียความสุข
เทานั้น มันยังมีผลตอหนาตาของเราดวย เชน มันทําใหเรามีหนาตาทาทางที่นาเกลียด ไม
นา คบหา ทันทีทมี่ คี วามรูสึกโกรธเกลียดเกิดขึ้นไมวาคนคนนั้นจะพยายามวางทาใหสงางาม
เพียงไร ก็เห็นไดชัดวา ใบหนาของเขาจะดูบูดเบ้ียวและนาเกลียด มีสีหนาทาทางท่ีไมนา
มองเลย ทัง้ ยงั สงคลนื่ เจตนารายออกมา คนอ่ืนๆ ท่ีมองเห็นตางก็รับรูไดทันที เหมือนกับวา
มีไอรอนพวยพุงออกมาจากรางกายของเรา ซึ่งส่ิงนี้ไมเพียงแตมนุษยเทาน้ันที่สัมผัสได ผูท่ี
สะสมความโกรธเกลียด ความคิดเกลียดชังท้ังหลาย มันจะพอกพูนอยูขางในแลวสงผลให
เราไมเจริญอาหาร นอนไมหลับ และนํามาซึ่งความเครียดและความกังวลในที่สุด ในแงน้ี

๒๗๐ ขบวนการพระพทุ ธศาสนาใหมในโลกปจจุบนั
พระมหามิตร ฐติ ปฺโญ,ผศ.ดร.
บทที่ ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

ความเกลียดจึงเปนเหมือนศัตรูที่รายกาจของเรา ที่คอยจองทํารายเราอยูตลอดเวลาท้ัง
กลางวนั กลางคนื ท้ังในระยะสนั้ และระยะยาว

บางคนคิดวา เม่ือเราโกรธ ทางท่ีดีท่ีสุดก็คือการระบายความโกรธออกมา แลวมัน
จะหายไดในทีส่ ดุ เชน การตะโกนเสยี งดงั การดาออกไป ฯลฯ แตทานดาไลลามะเห็นวา ความ
โกรธและความเกลียดเปนอารมณที่เราไมควรปลอยปละละเลย เพราะถาเราปลอยปละละเลย
โดยไมใสใจตรวจสอบ มันมักจะพอกพูนและเลวรายข้ึนเร่ือยๆ ถาเราปลอยใหความโกรธ
เกดิ ขน้ึ บอยๆ และเคยชินกับการระบายมันออกมาบอยๆ เขาผลก็คือ ความโกรธมักจะลุกลาม
ใหญโ ตไมไดล ดนอยลง

ฉะนั้น ยิ่งเรามีทาทีคอยระมัดระวังไมใหความโกรธเกิดข้ึน และพยายามหม่ัน
ลดทอนพลงั อํานาจของมันลงไปใหไดมากเทา ใด กย็ งิ่ จะเปน ผลดมี ากข้ึนเทา นนั้

จากคําสอนนี้จะทราบไดวา การระบายความโกรธนั้นไมใชหนทางในการ
แกปญหา หรือไมสามารถแกไขความโกรธใหหมดสิ้นไปได เหมือนกับหมอตมนํ้าท่ีกําลัง
เดอื ดพลานเมอื่ น้ําเดือดเต็มท่ี หากเราเปดฝาหมอ นํ้าในหมอก็จะยังไมหายรอน แตมันเปน
เพียงการระบายช่ัวคร้ังชั่วคราวเทาน้ัน เพราะเราไมไดกําจัดท่ีตนเหตุของมัน ไฟดานลางที่
ลุกโชนอยูเต็มที่ทําใหนํ้ารอนอยูเสมอ ถึงแมวาเราจะเปดฝาหมอออกแลว แตน้ําในหมอก็
ยังคงรอนอยดู ีหากเราไมดบั ไฟอันเปนสาเหตสุ ําคญั ทท่ี ําใหน ้าํ ในหมอ รอน

ทานดาไลลามะไดกลาวถึงวิธีที่จะจัดการกับตนตอของความโกรธวา กอนอ่ืนเรา
ตองเขาใจกอนวา ความรูส ึกโกรธเกลียดนน้ั เกิดขนึ้ จากจิตที่เปน ทกุ ข ซ่ึงอาจเปนเพราะไมได
รับการสนอง เพราะไมพอใจ ดังนั้น ถาเราสามารถที่จะเตรียมตัวลวงหนาดวยการปลูกฝง
ความพอใจและความเมตตากรุณาไวกอน จิตยอมมีความสงบอยูบาง ซึ่งจะชวยปองกัน
ไมใหเกิดความโกรธขึ้นมาต้ังแตแรก หากเราไดเตรียมตัวไวอยางดีแลว ถามีสถานการณมา
ยว่ั ยใุ หโกรธ เราก็ควรทจ่ี ะประจันหนา กบั ความโกรธโดยตรง และวเิ คราะหต รวจสอบดูวา มี
สาเหตุอะไรบางที่ชักนําใหเราเกิดความโกรธหรือความเกลียดขึ้นในช่ัวขณะนั้น แลว
วเิ คราะหตอไปอีกวา เรามีปฏิกิริยาโตตอบตออารมณนั้นอยางไร มันเปนปฏิกิริยาโตตอบท่ี
ถกู ตอ งเหมาะสมแลวหรือไม เปนไปในทางเสียหายเลวรา ยหรอื ไม จากนั้นก็ฝกขมจิตและใช
ความคิดท่ีเปยมไปดวยความอดทนอดกลั้นเขากําราบอารมณท่ีเปนลบนั้นใหอยูภายใต
อาํ นาจของเรา๔๓

๔๓ Dalai L.and Culter, C.W. The Art of Happiness: A Handbook for Living.
(New York: Riverhead Book, 1998).

ขบวนการพระพทุ ธศาสนาใหมใ นโลกปจ จุบนั ๒๗๑
พระมหามิตร ฐติ ปโฺ ญ,ผศ.ดร.
บทท่ี ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

คําสอนของทานดาไลลามะไดพยายามเนนใหเราจัดการกับรากฐานของความโกรธ
ใหเราทําลายเช้ือไฟกอนท่ีมันจะลุกไหม และวิธีการกําจัดเช้ือไฟแหงความโกรธที่ดีที่สุดก็คือ
การปลูกฝงความเมตตากรุณาใหเกิดข้ึนหมั่นฝกอบรมมันอยูเสมอ อาจโดยแผเมตตา หรือคิด
เอาใจเขามาใสใจเราอยูตลอด ส่งิ เหลา นี้อาจชว ยใหเราเมตตากรุณาเกิดข้ึนได

แตก ็เปนธรรมดาวา ผทู ่ีฝกไดยังไมเ ตม็ ที่ยอ มมีความโกรธเกลียดเกิดข้ึนบาง ในแง
นี้ทานสอนใหเราเผชิญหนากับมันโดยตรงคือ ใหคิดพิจารณาหาเหตุที่ทําใหความโกรธ
เกลียดเกิดขึ้น แลวพิจารณาปฏิกิริยาที่เราใชตอบโตกับความโกรธเกลียดน้ันวาเปนไป
ในทางสรา งสรรคห รือทําลาย หากเราจะตอบโตมันในทางท่ีทําลายก็ควรท่ีจะฝกขมใจไมให
กระทาํ สง่ิ นนั้ เชน หากเราจะตอบสนองตอความโกรธดวยการดาคนที่โกรธออกไปทันที เรา
ก็ควรจะขมใจไว ไมใหพูดคําหยาบคายออกไป เพราะหากพูดออกไปแลวอาจนําไปสูการ
ทาํ ลายความสมั พนั ธท่ดี งี าม

ทานดาไลลามะไดกลาวเพิ่มเติมอีกวา ในการแสวงหาหนทางที่จะกําจัดอารมณ
ความโกรธเกลียดใหหมดส้ินไปนั้น ส่ิงสําคัญท่ีขาดไมไดเลยก็คือ การสั่งสมความอดทนอด
กลัน้ อยา งมน่ั ตงั้ ใจ

สัจธรรมอยางหน่ึงท่ีเราทุกคนตองประสบพบเจออยูในชีวิตประจําวันคือ ความ
โกรธเกลียดทงั้ หลายที่มาทาํ รายจิตใจเรานั้นเราไมสามารถที่จะกําจัดมันไดดวยเงินทอง แม
การศึกษาเองก็ไมไ ดเ ปน หลกั ประกันวา เราจะรอดพน จากอํานาจของความโกรธเกลยี ด

หรือแมวาเราจะมีอาวุธที่ดีอยูในมือขนาดไหน ก็ไมสามารถท่ีจะปองกันความ
โกรธไมใหเกิดขึ้นในใจได ทานดาไลลามะจึงแนะนําวา มีอยูเพียงส่ิงเดียวท่ีสามารถคุมครอง
เราจากผลรายแรงของความเกลียดความโกรธไดนัน่ กค็ อื การฝกความอดทนอดกลั้นและเปด
ใจกวาง ส่ิงน้ีไมจําเปนตองไปแสวงหาท่ีไหน มันอยูภายในตัวของเราเอง และเราสามารถที่
จะทําไดทันทีทุกที่ทุกเวลา หากเรามีความอดทนอดกล้ันนับวาเปนส่ิงท่ีมีประโยชนอยาง
มากตอการดําเนินชีวิตประจําวันของเราทุกคน เชน มันทําใหเรารักษาสติเอาไวไดไมวาเรา
จะอยูทามกลางความวุนวายขนาดไหน ถาเรามีความอดกล้ันก็ยอมที่จะไมมีอะไรมารบกวน
ความสงบของจิตเราได

ทานดาไลลามะไดกลาวไววา ประโยชนอีกอยางหนึ่งของการใชความอดทนเขา
ตอบโตตอสถานการณท ่ยี งุ ยากแทนท่ีจะยอมพายแกความโกรธคือ เราไดปองกันตนเองจาก
ผลอนั ไมนาพึงปรารถนาท่ีอาจจะเกิดข้ึนตามมา หายเราโตตอบสถานการณใดๆ ดวยความ
โกรธเกลียดนอกจากมนั จะไมไดปกปองเราจากอันตรายหรือความเสียหายที่เราเพิ่งไดรับไป
แลว แตซ้ํารายมันยังจะไปสรางเหตุแหงความทุกขในอนาคตข้ึนมาสมทบอีก อยางไรก็ตาม
ถา เราตอบโตค วามไมเปนธรรมท่ไี ดรบั ดว ยความอดทนอดกลนั้ ถงึ แมเราอาจตองประสบกับ

๒๗๒ ขบวนการพระพทุ ธศาสนาใหมในโลกปจจบุ นั
พระมหามติ ร ฐติ ปฺโญ,ผศ.ดร.
บทที่ ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

ความเจ็บปวดและความไมสบายใจอยูสักพักหนึ่ง แตเราก็จะสามารถหลีกเล่ียงผลอันเปน
อันตรายในระยะยาวไดดวยการยอมสละสิ่งเล็กๆ นอยๆ ดวยการอดทนตอความ
ยากลําบากหรือปญ หานดิ ๆ หนอยๆ เราแคลวคลาดจากประสบการณหรือความทุกข ซึ่งจะ
ขายใหญโตขึน้ อกี มากมายในอนาคต

สิ่งสําคัญของการมีความอดทนอดกล้ันคือ จะทําใหเราไมไปสรางเหตุแหงความ
ทุกขข้ึนมาอีก เชนหากเราโกรธตอบคนที่ดาเราและเราดาตอบ ก็จะสรางความบาดหมาง
ราวฉานหนักขึ้นไปอีก ทําใหในอนาคตเราก็ตองแบกความอึดอัดคับของใจไปตลอด การ
รูจกั อดทนอดกลัน้ จึงจะชวยใหเราสามารถทีจ่ ะกําจดั สาเหตแุ หงความทุกขในอนาคตไปได

ความโกรธมันคอยเผาผลาญจิตใจของมนุษยมายาวนาน คนท่ีสามารถระงับมัน
ไดจึงนับวาเปนผูมีโชค การเอาชนะความโกรธไมไดเปนสิ่งท่ีอยูเหนือวิสัยของเราเลย เพียง
เรามุงม่ันต้ังใจท่ีกําจัดมัน เปดใจใหกวางและเปดใจใหกวางและมีความอดทนอดกลั้น
เพียงพอ ก็สามารถท่ีจะปลูกฝงความเมตตากรุณาที่เปนเสมือนคูปรับของความโกรธเกลียด
ขึ้นมาได และความเมตตากรุณานจ้ี ะเปน ทมี่ าของความสงบสุขใหกบั ชีวติ ของเราตลอดไป

๖.๖.๙ ศิลปะแหงการสรางความสขุ ในทท่ี าํ งาน
การทํางานเปนส่ิงหน่ึงท่ีสําคัญมากสําหรับชีวิต บางคนใชเวลาอยูที่ทํางาน
มากกวาอยทู ี่บา นเสยี อีก ซึง่ บางคนอาจจะอยูเ พราะความจาํ เปน ท่ีจะตองอยดู วยเหตุผลทาง
เศรษฐกิจ แตไมวาเราจะอยูในท่ีทํางานดวยสาเหตุใดก็ตาม หากที่ทํางานเปนสถานที่ที่มี
ความสุข กจ็ ะทาํ ใหเราเปรียบเหมือนกับวาไดอยูบนสวรรค แตหากท่ีทํางานมีแตความทุกข
ความเดือดรอน มีปญหาวุนวายอยูตลอดก็จะเปรียบเหมือนการตกนรกทั้งเปน การสราง
ความสุขในท่ที าํ งานจึงเปนส่ิงจําเปนอยางยิง่ สาํ หรบั คนในยุคปจ จุบนั นี้
การสรางความสุขใหเกิดขึ้นในที่ทํางาน บางคนอาจจะบอกวาเปนการยาก
เพราะทที่ ํางานเปนรวมของคนจํานวนมาก เราไมมีทางไปควบคุมคนอื่นไดสาเหตุของความ
ทุกขในที่ทํางานมีหลายประการดวยกัน เชน ไดรับคาตอบแทนไมเปนธรรม บางก็แคเบื่อ
หนายกับงานประจําซํ้าไปซํ้ามา บางก็เพราะบรรยากาศทางสังคมที่เลวรายการขาดการ
ยอมรบั จากเพ่อื นรวมงาน ความไมยุตธิ รรม ความไมก าวหนา ในการทํางาน เปนตน
สงิ่ เหลา นล้ี ว นแตเปน สาเหตุของความทกุ ขท ้ังสิ้น แลวเราจะจัดการกับความทุกข
เหลานอ้ี ยา งไร เราจะสรางความสุขจากทีท่ าํ งานไดห รอื ไม
แนนอนวาการทํางานนั้นข้ึนอยูกับสภาพของแตละบุคคล วาเราทํางานอะไร
ตําแหนง อะไร และสภาพแวดลอมของคนแตละคนก็แตกตางกัน การสรางความสุขในที่นี้จึง

ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมใ นโลกปจจุบัน ๒๗๓
พระมหามิตร ฐติ ปโฺ ญ,ผศ.ดร.
บทที่ ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

อาจจะเปนเพียงภาพกวา งๆ ที่ใหแตละคนสามารถนําไปประยุกตใชใหเหมาะกับสภาพที่ตน
ประสบอยู

ทานดาไลลามะไดยกตวั อยา งของนักโทษคนหนึ่งที่ถูกคุมขังอยูในเรือนจํา ซึ่งการ
ถูกขังเชนนั้นยอมไมใชเรื่องดีอยูแลว แมวาจะอยูในสถานการณเชนนั้นท่ีเขาถูกจํากัด
อสิ รภาพ แตเขากย็ งั มาทางเลือกอะไรเหลืออยูบางและแมวาใครคนนั้นจะอยูในเรือนจําท่ีมี
กฎเขมงวดมากมาย แตเขาก็ยังคงสามารถปฏิบัติกิจในทางจิตวิญญาณ เพ่ือพยายามลด
ความกระวนกระวายใจลง หรือเพ่ือใหเกดิ สนั ติสขุ ขึน้ ไดภ ายในจิตใจ๔๔

นั่นหมายความวา เขาสามารถกระทําการเพ่ือบมเพาะตนเองจากภายในได คน
ทุกคนสามารถท่ีจะพัฒนาจิตวิญญาณของตนเองได ไมวาจะอยูในสภาพแวดลอมการ
ทํางานอยางไรก็ตาม เราสามารถเลือกมีทัศนคติในลักษณะใดลักษณะหนึ่ง เลือกวิธีการ
ปฏสิ มั พนั ธก บั เพ่ือนรว มงาน เลือกวา จะใชคุณสมบัติท่ีมีอยูภายในจิตใจหรือความแข็งแกรง
ทางดานจิตวิญญาณมาเปล่ียนแปลงทัศนคติในการทํางานไดหรือไม หากเราสามารถหา
หนทางฝก จติ ใจใหสงบและไมกระวนกระวาย เกลียดชัง หรือสิ้นหวังตอเพ่ือนรวมงานท่ีเรา
ปฏิสัมพนั ธดว ย กน็ า จะเปนทางออกท่จี ะทาํ ใหเรามีความสขุ มากย่งิ ขึน้

ในชีวิตของเรานั้นคงไมมีสถานการณใดที่จะดีหรือรายรอยเปอรเซ็นต ทุกอยางมี
ดาํ มขี าว ถา หากทุกคนเขา ใจความจรงิ ขัน้ พนื้ ฐานน้ี เราสามารถฝกมองสภาพการณตางๆใน
มุมมองที่กวางและหลากหลายยิ่งข้ึนจะสามารถวิเคราะหไดวา งานที่ดีกวาและเงินเดือนที่
สูงกวา ไมไดหมายความวาจะไมมีปญหาอะไรอีก งานบางอยางเงินอาจจะดีกวา แตก็มา
พรอมกบั ขอ เสยี ของมนั ซง่ึ อาจจะเปน ช่วั โมงการทํางานท่ียาวนานกวาความรับผิดชอบที่สูง
กวา และกอ็ าจจะมีความเสย่ี งตอการบาดเจบ็ หรือเสีย่ งตอการขาดทุนมากกวา เปน ตน

ทานดาไลลามะไดสอนไววา หากเรามีความพยายามและมีมุมมองท่ีกวางย่ิงข้ึน
เราสามารถที่จะเปล่ียนความรูสึกจากความไมพอใจเปนความพึงพอใจกับงานที่เรากระทํา
อยไู ด การมองในแงบ วกเปน ส่งิ สําคญั ที่จะทําใหเราเกิดความสุขในการทํางานข้ึนมาได หาก
เราฝกมองแตแงลบหรือมีโลกทัศนท่ีมองในดานลบบอยๆ เราก็จะเห็นแตปญหาเต็มท่ี
ทํางานไปหมด เม่ือเปนเชนนั้นที่ทํางานก็ไมตางจากนรก และเราก็ตองตกนรกทุกวัน
สุขภาพจติ ก็ยา้ํ แยสดุ ทา ยกย็ อ มสงผลตอ สุขภาพกายตามมาอีกดว ย

๔๔ Dalai L.and Culter, C.W. The Art of Happiness: A Handbook for Living,
(New
York: Riverhead Book, 1998), p. 19.

๒๗๔ ขบวนการพระพทุ ธศาสนาใหมในโลกปจ จุบนั
พระมหามติ ร ฐติ ปฺโญ,ผศ.ดร.
บทท่ี ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

ในทางตรงกันขามหากเราฝกมองในแงบวก ปญหาตางๆ ก็จะกลายเปนโอกาสที่
จะทาํ ใหเราไดฝ ก ฝนท้ังปญญาทงั้ การพัฒนาจติ ใจไปดวย เชน เพ่ือนรวมงานคนหน่ึงเปนคน
ขี้โมโห หงุดหงิดมาก หากคิดในแงลบ เขาก็คือคนที่สรางปญหา ทําใหคนอ่ืนพลอยอารมณ
เสียตามไปดวยบอ ยๆ แตถ ามองในแงบ วก เขาก็ชวยใหเราไดฝกความอดทนมากข้ึน ถาไมมี
เขาเราอาจจะไมรดู ว ยซ้ําไปวา เรามีขีดความอดทนมากนอยขนาดไหน แตการท่ีมีคนแบบน้ี
อยูม ันกช็ วยทาํ ใหเรารขู ดี ความอดทนของตนเองมากขนึ้

การปรับเปล่ียนทัศนคติและมุมมอง เปลี่ยนแปลงความเคยชินในการมองโลก
ปรับเปล่ียนการตีความ และตอบสนองตอสถานการณหรือเหตุการณตางๆ จึงเปน
กระบวนการสาํ คัญท่ีจะทําใหเ ราพบความสุขในที่ทาํ งาน๔๕

หากเราเอาแตบนหรือเอาแตโกรธเพื่อนรวมงานวาเปนอยางนั้นอยางน้ี เราก็ไม
สามารถท่ีจะแกปญหาได เราตองแกไ ขทีต่ ัวเราเอง เพราะในความเปนจริงน้ันเราไมสามารถ
เปลยี่ นแปลงคนอ่ืนได เราตองเปลี่ยนแปลงตนเองจากภายใน ซึ่งเปนสิ่งที่ทําไดงายกวาและ
สามารถทาํ ไดท นั ที และจะเกดิ ความเปล่ียนแปลงที่ดีงามข้นึ มาอยา งแทจริง เมื่ออยูที่ทํางาน
ถาเราสามารถเลี่ยนสภาพแวดลอ มในท่ีทาํ งานไดก ค็ วรจะเปล่ียน

แตถาเราเปลี่ยนไมได การเปล่ียนแปลงตนเองจึงเปนสิ่งสําคัญที่สุดท่ีเราจะตอง
กระทํา ไมเชน น้นั เราก็จะมคี วามทุกขอ ยูร าํ่ ไป

เม่ือเกิดปญหาขึ้นในท่ีทํางาน เราควรที่จะพิจารณาถึงที่มาของปญหาอยาง
แทจริง แลวก็พยายามมองปญหาตางๆ ในแงบวก มองในดานที่ดี หากทําไดอยางนี้แทนท่ี
เราจะเกิดความโกรธเคืองหรือหงุดหงิด เราจะโกรธเคืองหรือหงุดหงิด เราก็จะไดทุมเท
แรงใจไปในทิศทางที่สรางสรรคย่ิงกวาเดิม เจตนาของเราอาจเปลี่ยนไปไดดวยมุมมองท่ี
กวางย่ิงข้ึน แลวเราก็จะมีความกระตือรือรนที่จะทํางาน และสรางความเปลี่ยนแปลงเพื่อ
ประโยชนของสงั คมตอไป

ทานดาไลลามะไดช้ีใหเห็นสัจธรรมวา ชีวิตของคนเรานั้นไมวาอยางไรก็มักมี
ปญหาเสมอ เปนไปไมไดเลยท่ีใครสักคนจะใชชีวิตปแลวปเลาโดยที่ไมมีปญหาอะไรเลยไมมี
เหตกุ ารณใ ดท่จี ะทาํ ใหมนุษยเราไดรับความพึงพอใจรอ ยเปอรเซ็นต ไมวาจะอยางไรก็ตามก็
มักจะมีความไมพึงพอใจเจือปนอยูบาง ถาหากวาเราสามารถยอมรับความเปนจริงขอน้ีได
มากเพียงใด เราก็จะย่ิงสามารถรับมือกับความผิดหวังในชีวิตไดมากเทาน้ัน ความเปนจริง
ของชีวิตคือเราไมเผชิญหนากับมันอยางรูเทาทัน เพียงเรารูจักปรับเปลี่ยนทัศนคติและ

๔๕ บุญมี พวงเพชร, Happy Life พลังคําสอนของ ดาไล ลามะ เพ่ือความสุขของชีวิต
อยางแทจ ริง, (นนทบุร:ี ธงิ ค บยี อนดบ ุคส, ๒๕๕๖), หนา ๑๑๕.

ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมใ นโลกปจจบุ นั ๒๗๕
พระมหามติ ร ฐติ ปฺโญ,ผศ.ดร.
บทท่ี ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

มมุ มองของตัวเราเอง โดยอาศยั การฝก จิตใหร จู ักมองในแงบวกอยูสม่ําเสมอ ก็จะชวยใหเรา
มคี วามสขุ ในทีท่ าํ งานข้ึนมาได

ในการทํางานมีส่ิงที่เราตองสัมพันธเกี่ยวของหลักๆ อยู ๒ ประการคือ งานและ
คน (เพื่อนรวมงาน) อยา งแรก งานแรกท่ีเราทาํ นัน้ หากเราเห็นคุณคาของส่ิงที่กระทํา จะทํา
ใหเรารสู กึ เปนสขุ กบั การทํางานน้ัน ทานดาไลลามะใหขอสังเกตวาวัตถุประสงคของงานน้ัน
คืออะไร สิง่ ทเ่ี รามองหาจากงานไมต างจากส่ิงที่เรามองหาจากกิจกรรมอื่นๆ ของมนุษย น่ัน
ก็คอื ความรสู ึกเตมิ เตม็ ความพงึ พอใจและความสุขใชห รอื ไม. ..

ไมวา เราจะทาํ งานอะไรก็ตาม เราตองหาคุณคาของงานน้ันใหเจอ หากเราไมเห็น
คา เราจะทาํ ไปดวยความฝนใจ และรูสึกไมเปนสุขกับการกระทําน้ันในทางตรงกันขามหาก
เราเห็นคุณคาของงานที่จะเปนประโยชนกับตัวเราเองและเปนประโยชนแกผูอื่น เราก็จะ
ทํางานนน้ั อยา งเตม็ ท่โี ดยไมรูสึกเบ่อื หนา ย ความรักในงานท่ีทําจะทําใหเรากาวขามความไม
พอใจเลก็ ๆ นอยๆ ทม่ี ีอยหู รือบางครง้ั ก็สามารถกาวขามอุปสรรคทีย่ ิ่งใหญไ ปได

อยา งทีส่ องคือ คนหรอื เพื่อนรวมงาน สิ่งน้ีเราตองใหความสนใจเปนพิเศษในการ
ปฏิสัมพันธกับเพื่อนรวมงาน ทานดาไลลามะไดแนะนําใหเราปฏิบัติตนเปนคนดี มีความ
กรุณาเขาสัมพันธกับผูอ่ืนดวยความอบอุน ความรักเย่ียงมนุษย ความซ้ือสัตย ความจริงใจ
และความเมตตา ส่งิ เหลา นจี้ ะชวยเพม่ิ ความสขุ ในที่ทาํ งานของเราใหม ากข้ึนยง่ิ ข้นึ ไปอีก

ทานดาไลลามะไดกลาวไววา คนแตละคนมีศักยภาพในการเขาไปสัมพันธกับ
บุคคลอ่ืนดวยความอบอุน ดวยความรัก และความเปนมิตร ดังน้ัน เม่ือเราพูดถึงเร่ือง
ความสขุ และความพงึ พอใจในหนาท่ีการงานแลว ปจจัยที่เรียกวามนุษยนี้กลาวคือการที่เรา
เขาไปสัมพันธเก่ียวของกับคนรอบๆ ตัว ไมวาจะเปนเพ่ือนรวมงาน ลูกคาหรือเจานายของ
เราก็ตามมันมีความสําคัญยิ่งเชนเดียวกับกิจกรรมท้ังมวลมนุษย ซึ่งเชื่อแนวาหากเรา
พยายามสรางความสัมพันธท่ีดีกับผูคนในที่ทํางาน พยายามทําความรูจักผูอ่ืน และนํา
คุณลักษณะท่ีดขี องความเปน มนุษยของเราไปสกู ารทํางานแลว ก็จะสามารถกอใหเกิดความ
เปลีย่ นแปลงไดเ ปน อยางมากทเี ดยี ว๔๖

เมอ่ื เปน เชนน้ีแลวไมวาเราจะทํางานอะไรเราก็จะไดรับความพึงพอใจจากงานนั้น
เราจะตง้ั ตาอยากไปทํางาน และเมอ่ื อยใู นทีท่ ํางานแลว ก็จะมีความสุขยง่ิ กวาเดิม

ฉะน้ัน ส่ิงแรกท่ีเราสามารถทําไดทันทีคือ การปรับเปล่ียนตัวเราเองในการ
ปฏิสัมพันธกับเพื่อนรวมงาน หากเราเคยสรางความบาดหมางราวฉานหรือสิ่งท่ีไมดีใหกับ
เพอื่ นรวมงาน ก็ควรทจี่ ะเร่มิ ปรบั ตวั ใหม ซึง่ ในทีส่ ุดความสุขจากที่ทํางานจะเกิดขนึ้ ได

๔๖ Dalai L.and Culter, C.W. The Art of Happiness: Handbook for Living, p. 21.

๒๗๖ ขบวนการพระพทุ ธศาสนาใหมในโลกปจจุบัน
พระมหามติ ร ฐติ ปฺโญ,ผศ.ดร.
บทท่ี ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

นอกจากการสรางปฏิสัมพันธที่ดีกับเพื่อนรวมงานแลว ส่ิงท่ีสําคัญอยางหน่ึงคือ
เราตองรูจักควบคุมตนเองไมใหมีความโกรธ ความอิจฉาริษยา ตองมีความพยายามอยาง
เต็มท่ีท่ีจะรับผิดชอบตออารมณของตนเอง พยายามฝกฝนความอดทนอดกล้ันใหมากขึ้น
หากเราตระหนักอยูเสมอวา ชีวติ ของเราทุกคนน้นั ลวนแตตองพึ่งพาอาศัยซ่ึงกันและกัน เรา
ทุกคนจําเปนตองอาศัยผูอ่ืนในการดํารงชีพ ยิ่งเรามองเห็นน้ีมากเทาใด เราก็จะย่ิงมีความ
เต็มใจทํางานรวมกับผูอ่ืนมากข้ึนเทานั้น และจะมีความรูสึกอดทนอดกล้ันตอการกระทํา
ของผูอ ื่นไดมาก เพราะหากเราไมอดทน ก็อาจจะทําใหสัมพันธภาพขาดสะบ้ันลง ซ่ึงนั่นคือ
เปนการสรา งเหตุแหง ความทุกขใหมใ นอนาคตใหกบั เรานัน่ เอง

ในอกี แงหน่ึงเราอาจะใชสถานการณที่อยูรวมกับผูคนท่ีหลากหลายความรูสึกนึก
คิดน้ีในการฝกฝนพัฒนาจิตใหกับตนเอง ใชโอกาสน้ีบมเพาะคุณคาทางจิตวิญญาณ เชน
ความเมตตา ความอดทน ความอดกล้ัน และการใหอภัย เปนตน หากฝกกระทําอยูอยางน้ี
สม่ําเสมอกจ็ ะทาํ ใหคุณคา ทางจิตวญิ ญาณของเราแข็งแกรงมากยิ่งข้นึ

ฉะน้ัน การสรา งความสขุ ในท่ีทาํ งานเราสามารถทําไดหลายวิธี ไมวาจะเปนการมี
มุมมองตองานอยางถูกตอง มองหาประโยชนและคุณคาจากงานท่ีเรากระทํา และ
ปฏสิ ัมพันธกับเพ่ือนรวมงานอยางถูกตองเหมาะสม รูจักใหเกียรติและใหอภัยซ่ึงกันและกัน
พรอมกับพยายามกําจัดอารมณทางลบใหหมดสิ้นไปดวย เชน ความอิจฉาริษยา เปนตน
การปฏบิ ตั สิ มั พันธท กุ อยา งตอ เพอ่ื นรวมงานควรตั้งอยบู นฐานของความเมตตากรุณาหากทํา
ไดเชน นี้ก็เช่อื แนว าทที่ ํางานจะเปนสวรรคส ําหรบั ชวี ติ ของเราอยางแนนอน

๖.๖.๑๐ การเผชญิ หนากับความเบอ่ื หนายและความทา ทาย
ไมเชน นั้นเราจะรูสกึ ไมเปนสุขในการทํางาน เชน บางคนทํางานประจําซ้ําซากไป
มา ไมม คี วามทาทายอะไรใหมๆ เลย หรือมีความทาทายนอยจนเกินไป ก็จะรูสึกเบื่อหนาย
ในการทาํ งานไดงาย ในอกี มุมมองหนึ่งหากงานมีความทาทายมากจนเกินไป ก็จะทําใหรูสึก
ทอใจหรือบางครั้งก็อาจจะมีความเครียดเกิดขึ้นได เมื่อเปนเชนนี้ควรทําอยางไรที่จะทําให
ความเบ่ือหนายและความทาทายสมดุลกัน ท่ีจะทําใหเราทํางานไดอยางเปนสุขโดยไมรูสึก
เบ่ือหนาย และไมรูสกึ เครยี ดในการทาํ งาน
ทานดาไลลามะกลาวไววา เปนเร่ืองปกติธรรมดาสําหรับมนุษยที่จะรูสึกเบื่อ
หนายหากตองทํากิจกรรมเดิมซํ้าๆ เม่ือถึงจุดหน่ึงความเบื่อหนายจึงจะเกิดข้ึนเปน
ความรูสึกไมชอบ ไมเต็มใจ หรือไมกระตือรือรนในกิจกรรมนั้น แตหากเราพิจารณาเห็น
ประโยชนจากสิ่งที่เราทําวามันเปนประโยชนตอผูอื่น เปนประโยชนตอองคกร ก็จะชวยให
เราไมเกิดความเบื่อหนาย อยางแรกจึงตองพิจารณาวัตถุประสงคท่ีใหญยิ่งของงานที่เรา

ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมในโลกปจ จบุ ัน ๒๗๗
พระมหามติ ร ฐติ ปฺโญ,ผศ.ดร.
บทท่ี ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

กระทําแลวก็ทุมเททําหนาที่ของเราใหสมบูรณที่สุด คิดวาเรากําลังพยายามทําเพ่ือ
ประโยชนใหกับผูอื่นและองคกร ซง่ึ จะชว ยใหเ ราลืมความเบ่อื หนายได

สวนการทาทายท่ีเกิดมีขึ้นกับชีวิตน้ัน ทานดาไลลามะแนะนําวา เราควรเปล่ียน
ความทาทายท่ีมีอยูใหกลายเปนโอกาส ซ่ึงเปนโอกาสที่จะทําใหเกิดความสุขท่ียิ่งใหญ
กวาเดิม

ฉะนั้น เมื่อความทาทายเกิดข้ึน เราควรจะนอมรับมันไวดวยความเต็มอกเต็มใจ
และมองความทาทายน้ีวา เปนหนทางในการพัฒนาตนเอง เพ่ือความเจริญ เพ่ือการบรรลุ
ถงึ ความเปนอยทู ี่ดีและความสขุ ที่ยง่ิ ใหญก วา เดมิ

ความทาทายน้ันสามารถท่ีจะกระตุนหรือสงเสริมใหเกิดพัฒนาการหรือความคิด
สรา งสรรคไ ด หากมสี ถานการณท ีท่ าทายเกิดข้ึน ความคดิ สรางสรรคของเราจะปลุกเราและ
ใชประโยชนอยางเต็มท่ี แตหากสถานการณเปนปกติเน่ืองๆ ไมมีอะไรทาทายและความ
เฉื่อยชาก็อาจเขามาแทรกจะไมมีพัฒนาการอะไรอีก ยกตัวอยาง กรณีประเทศไทยเกิดน้ํา
ทวมใหญเมื่อปลายป ๒๕๕๔ (ชวงปลายเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๔ ถึงเดือนมกราคม
๒๕๕๕) น้ัน คนไทยเกดิ ความคดิ สรางสรรคมากมาย ไมวาจะเปนการสรางเรือท่ีสามารถลง
นํ้าไดและแลนไดบนบก การสรางเครื่องปองกันไฟฟาดูด สวมลอยนํ้า และอะไรตอมิอะไร
อีกสารพดั มากมาย ซึ่งนับวา เกดิ จากสถานการณท ่ีทาทายทัง้ สิ้น

ความจริงแลวชีวิตของคนเราน้ันมีความทาทายอยูตลอดเวลา ทานดาไลลามะ
กลาวไววา ความทาทายน้ันมาจากทุกๆ ดานของชีวิตเรา ยกตัวอยางเชน คนท่ีปฏิบัติจิต
วิญญาณหรือคนที่พยายามสรา งความรักความเมตตาใหเกิดข้ึนในจิตใจของตน เขาพยายาม
ตอบสนองตอศัตรูดวยความเขาอกเขาใจและความเมตตาอยางนี้ถือวาเปนความทาทาย
การมอบความกรุณาและแสดงออกซ่ึงความรักแกศัตรูของตนนั้นนับเปนเรื่องทาทายยิ่ง วา
เราจะสามารถกระทาํ ไดหรือไม

หากเรามีทัศนคติในทางบวกตอสิ่งที่มาทาทาย เราจะเกิดความพึงพอใจและ
ความสุขข้ึนมาได ทานดาไลลามะกลาวไวอีกวา สําหรับคนท่ีฝกความกรุณาแลว ความทา
ทายกค็ อื การตอบสนองตอความทกุ ขทนของผูท ยี่ ากไร ผูทีอ่ อ นแอ ผทู ่ีไมมีใครปกปอง และ
ผทู ีไ่ มส ามารถชวยอะไรตวั เองได ในแงน ค้ี วามทา ทายจงึ ไมจําเปนตองหมายถึงอุปสรรคหรือ
เปนเร่ืองรายเสมอไป ความทาทายจึงเกิดขึ้นกับเราไดเสมอข้ึนอยูกับวาเราจะใสใจกับสิ่ง
ที่มาทาทายหรือไม หรือเราคิดวาส่ิงนั้นเปนสิ่งที่ทาทายหรือไม บางคนคิดวาความโกรธ
ความเกลียดในตัว เปนสิ่งทาทายที่เขาตองจัดการใหหมดส้ินไป แตสําหรับบางคนก็อาจจะ
ไมส นใจไยดกี ับสง่ิ เหลา นี้กเ็ ปนได

๒๗๘ ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมในโลกปจ จุบัน
พระมหามติ ร ฐติ ปฺโญ,ผศ.ดร.
บทท่ี ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

ทานดาไลลามะไดยกตัวอยางขึ้นมาซ่ึงนาสนใจมาก เชน ความทุกขยากลําบาก
ของคนจน อาจไมใ ชเ ร่อื งทา ทายสาํ หรบั คนท่ีไมวาอยางไรก็ไมไดใสใจอยูแลว แตสําหรับผูที่
ฝกความกรณุ าแลว นยี่ อมถือเปนความทา ทายอยา งแนนอน ดงั นั้น แตละคนยอมคิดตางกัน
วา ส่ิงไหนเปนความทาทาย หรือไมไดเปนความทาทาย และระดับความทาทายที่แตละคน
ตองการก็ยอมไมเ ทากัน

ทานดาไลลามะไดกลาวเพ่ิมเติมวา หากเราพูดถึงเรื่องงานแลว คิดวาจําเปนตอง
ไมลืมวาคนเราน้ันมีมากมายหลายแบบ เราคงไมสามารถท่ีจะแบงแยกไดวางานที่ทาทาย
ดกี วา หรืองานท่ีไมทาทายดีกวา มันอาจจะขึ้นอยูกับคนแตละคนมากกวา โดยสวนตัวทาน
ดาไลลามะคิดวา ความไมทาทายจะดีกวา เพราะวาเมื่อเปนเชนนั้นแลวเราก็จะนอนหลับ
พักผอนได หรือสบายใจไดท ่ไี มตองมีอะไรมาใหค บคิดแกป ญ หา

งานวิจัยของนักสังคมศาสตรของ เอ็ดวินล็อค พบวา ความทาทายทางความคิด
เปน ปจ จัยสาํ คญั อนั จะนําไปสูความพึงพอใจในหนาท่ีการงาน ทง้ั นี้เขาไดสมมุติวา บุคคลน้ัน
มีความเต็มใจท่ีจะตอบสนองตอความทาทายดังกลาว เหตุนี้เองความทาทายและความพึง
พอใจในการทํางานจึงมีปฏิสัมพันธซ่ึงกันและกัน ความเต็มใจของบุคคลท่ีจะตอบสนองตอ
ความทา ทายกเ็ ปน ปจ จัยสําคญั เพราะบางคนอาจจะช่นื ชอบกับงานที่ทาทายมากๆ ในขณะ
ท่บี างคนอาจจะไมย ินดีกับงานที่ทา ทายเลย ดงั นั้น หากเราตองการที่จะเพิ่มความสุขในการ
ทํางาน เราแตละคนจะตองตัดสินใจเองวา ความทาทายในระดับใดจึงจะทําใหเราเติบโต
และพึงพอใจไดม ากทสี่ ุด๔๗

ทานดาไลลามะไดยกตัวอยางวา บางคนท่ีตองทํางานท่ีซํ้าไปซ้ํามา ซ่ึงดูแลว
ซ้ําซากนาเบื่อหนายทุกวันตั้งแตรุงเชาถึงดึกดื่น ถาคนท่ีทํางานแบบนี้มีแหลงที่มาของ
ความสุขเดียวคือจากงาน โดยท่ีไมมีชีวิตดานอ่ืนเลยนอกเหนือจากชีวิตการงาน ใชเวลาอยู
กับครอบครัวและเพื่อนฝูงเพียงนิดหนอย และไมเคยที่สรางมิตรภาพกับคนในที่ทํางานเลย
คนประเภทนี้เขามโี อกาสทีจ่ ะไมม ีความสขุ และในทีส่ ดุ ก็อาจจะมีปญ หาทางจิตก็เปน ได

แตถาดูตัวอยางคนทํางานอีกคนหนึ่ง ซึ่งทํางานซํ้าซากเชนเดียวกัน นาเบื่อ
เหมือนกัน แตวาเขามีความสนใจในส่ิงอื่นๆ นอกเหนือจากงาน ใชเวลาอยูกับครอบครัว
ออกไปเที่ยวกับเพ่ือน การใชชีวิตแบบน้ีเขาก็นาจะเปนคนท่ีมีความสุขมากกวา เขาอาจจะ
ไมไ ดม งี านท่นี าสนใจแตเ ขากย็ ังมีชวี ติ ที่นาสนใจได ดังน้ัน ในกรณีดังกลาวเขาอาจจะใชงาน
เปน เพยี งหนทางในการหาเงิน แตไดรับความพึงพอใจเติมเตม็ จากดานอ่ืนๆ ของชวี ิตแทน

๔๗ Edwin A. Locke and Gary P. Latham, 1990.

ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมใ นโลกปจ จุบนั ๒๗๙
พระมหามิตร ฐติ ปโฺ ญ,ผศ.ดร.
บทท่ี ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

แหลง ท่มี าของความสุขของคนเรานัน้ มีมากมายอยูรายรอบตัวเรา ถึงแมวาเราจะ
ไมเปนสุขมากนักกับการทํางาน แตก็มีแหลงท่ีมาอื่นๆ ท่ีจะมาชวยเติมเต็มชีวิตของเราอีก
มากมาย แนนอนวาหากเราสามารถมีความสุขในการทํางานไดก็ยิ่งดี และมีความสุขจาก
แหลงอ่ืนๆ ดวย ชีวิตก็มีโอกาสไดชื่นชมความสุขอยูตลอดเวลา ทานดาไลลามะไดชี้ใหเรา
เห็นแลววา ความเบ่ืองานชั่วคร้ังช่ัวคราวเปนธรรมชาติของมนุษยเปนเร่ืองปกติที่อาจจะ
เกิดขึน้ ได เพยี งเราเปลย่ี นมุมมองตองานเสียใหมก จ็ ะทําใหเ ราทาํ งานไดเปนสุขมากข้ึน น่ีคือ
หลักการปรับตัวในที่ทํางาน อยางนอยก็ตองมองเห็นคุณคาจากงานที่ทําซึ่งจะทําใหเรา
สามารถแปลงความเบอื่ หนายใหก ลบั มาเปน ความชอบได

คนเราน้ันไมวาจะพบกับความสําเร็จหรือความโชคดีมากเพียงใด หรือในทาง
กลบั กันไมว า เราจะพบเจอกบั ความโชครายหรือเรื่องทุกขโศกอยางแสนสาหัสเพียงไร ไมชา
ก็เร็วเราจะสามารถปรับตัวเขากับสภาพใหมน้ัน และกลับไปยังความสุขแบบวันตอวันแบบ
ช่วั ขณะหนง่ึ ๆ ของเราเหมอื นเดมิ

ทา นดาไลลามะไดย กตัวอยางวา เชน คนคนหนึ่งไดงานทําอาจเปน ชวงเวลาที่เบิก
บานยิง่ และความสําเร็จตรงจุดน้ันอาจทําใหเขารูสึกเติมเต็มเปนอยางมาก แตงานเดียวกัน
น้ันเองหากกลับไปดูในปท่ีสอง เขาอาจจะมีความรูสึกแตกตางกันโดยสิ้นเชิง หรือเขาจะ
กลับมามคี วามสุขแบบเดมิ แบบวนั ตอวนั อยา งทเ่ี คยเปน อยูน นั่ เอง

นักจิตวิทยาวิวัฒนาการเช่ือวา ถาใครสักคนหน่ึงจะมีความสุขอยางถาวรจาก
ความสําเรจ็ บางอยางจนตกอยใู นสภาวะทมี่ ีความสุขอยางลนพนเร่ือยไป ก็จะทําใหขาดแรง
กระตุนในการพัฒนาทักษะใหมๆ เพื่อการเติบโตและกาวหนาตอไป ในทางกลับกันหากคน
มีแนวโนมตามธรรมชาติที่จะหดหูหรือหมดไฟจากความลมเหลวหรือความสูญเสียแบบไม
จบสิ้น แมวาเวลาผานไปหลายเดือนหลายปก็ยังเจ็บปวดเหมือนวันแรกที่เหตุการณนั้น
เกิดข้นึ เขาก็ไมสามารถทําอะไรไดทําใหโอกาสที่จะมีชีวิตรอดลดลง เหตุนี้เองเราจึงตองทํา
ใหส มดุล ชวี ติ กต็ อ งมีความเบ่ือหนา ยบาง ทาทายบาง เปนเรื่องธรรมดา แตทั้งหลายทั้งปวง
น้ีก็อยูท่ีจิตของเราเอง หากเราฝกฝนพัฒนาจิตและมีทัศนคติในแงบวก ก็จะสามารถอยูกับ
ความเบื่อหนายและความทา ทายไดอ ยางเปน สขุ ทีเดยี ว

ชีวิตของคนเราน้ันมีแหลงท่ีมาของความสุขมากมาย เราสามารถใชความสุขจาก
แหลง อนื่ มาเตมิ เต็มในสว นที่ขาดได เชน หากเราเบื่อหนา ยตอการทํางานเราก็สามารถทําส่ิง
ที่เราชื่นชอบในวันหยุด เติมพลังใหเต็มอิ่มแลวคอยกลับมาลุยงานในวันจันทรตอไป

๒๘๐ ขบวนการพระพทุ ธศาสนาใหมในโลกปจจบุ นั
พระมหามติ ร ฐติ ปฺโญ,ผศ.ดร.
บทท่ี ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

นอกจากน้ัน การสรางสัมพันธภาพที่ดีกับเพื่อนรวมงานก็เปนสิ่งหน่ึงที่จะทําใหเรามี
ความสุขจากการทาํ งาน และอาจจะทาํ ใหการทํางานของเราไมนาเบอื่ หนายก็เปนได๔๘

ความรูสึกเบ่ือหนายเปนอารมณดานลบอยางหน่ึง หากเราเห็นอารมณน้ีเปนพิษ
เปนภัยแกตัวเรา มันทําใหจิตใจของเราตกตํ่าลง และทําใหการทํางานของเราไมกาวหนา
เราก็สามารถท่ีจะกําจัดมันดวยการเปลี่ยนมุมมองใหม และใหมองดูวา อารมณที่นาเบื่อ
หนา ยนนั่ แหละคอื ความทาทายของเราที่กําจัดมันและเราก็คอยๆ พยายามหาทางกําจัดมัน
อยางตอเนื่อง การตอสูกับอารมณลบจึงเปนความทาทายของเราอยูเสมอ ในแงนี้ชีวิตเรา
มักจะมีส่ิงใหตองคิดแกไขปรับปรุงอยูตลอด จึงไมมีอะไรที่จะทําใหเราเบ่ือหนายได จะเห็น
วา ผูทมี่ ีทศั นคติในทางบวกสามารถท่ีจะเปล่ยี นอารมณท างลบใหกลายเปนอารมณทางบวก
และเปนพลังที่จะพัฒนาจิตใจตนเองใหสูงย่ิงๆ ข้ึนไป ซ่ึงในที่สุดหากเราพัฒนาไดสมบูรณ
แลวก็จะมีแตความสงบรมเย็นเขามาแทนที่ ไมวาเราจะทําอะไรชีวิตก็จะมีแตความสันติสุข
ตลอดไป “ความเบือ่ หนา ยและความทา ทาย เปนสงิ่ ทเ่ี ราตองทําใหสมดุลในการทํางาน”

๖.๖.๑๑ ทาํ งานอยา งไรใหป ระสบความสาํ เร็จ
ความสําเร็จเปนความฝนที่ทุกคนปรารถนา เพราะเชื่อวาความสําเร็จจะนํา
ความสุขและความสะดวกสบายมาให โดยเฉพาะความสําเร็จในการแสวงหาเงินทองตางๆ
เหตนุ เี้ องแตละคนจงึ พยายามทํางานอยา งเหน็ดเหน่ือยเพื่อนําพาตนเองใหไปถึงเปาหมายที่
ฝนไว
การท่ีจะทํางานใหประสบความสําเร็จตามความฝนน้ัน อาจจะมีเหตุปจจัย
มากมายหลายประการและขึน้ อยูกับวา เรามองวาความสําเร็จน้ันคืออะไรเปาหมายของแต
ละคนจึงไมเหมือนกัน บางคนอาจมีเปาหมายอยูท่ีเงิน บางคนอาจมีเปาหมายอยูท่ีชื่อเสียง
เกียรติยศ และอํานาจ บางคนอาจจะเพียงแคตองการใหงานออกมาสําเร็จก็พอ ฉะน้ัน เมื่อ
พดู ถงึ ความสําเร็จก็ขึน้ อยูกบั วา เรามที ศั นะตอความสําเร็จอยา งไร
สิ่งแรกท่ีควรพิจารณาคือ สํารวจตัวเองวา เรามีทัศนะตอความสําเร็จอยางไร ซึ่ง
ทัศนะท่ีมีอยูนี้เปนสิ่งสําคัญที่จะเปนตัวบงบอกวา เราประสบความสําเร็จแลวหรือยัง
ยกตัวอยางจากคนที่ทํางาน ๓ กลุม ซ่ึงแตละกลุมตั้งเปาหมายแหงความสําเร็จไวไม
เหมือนกัน

๔๘ เยาวลักษณ สุวรรณแข, “Book Review : The Art of Happiness : A Handbook for
Living”, วารสารปาริชาต มหาวิทยาลัยทักษิณ, ปท่ี ๒๖ ฉบับที่ ๒ (ตุลาคม ๒๕๕๖ – มีนาคม
๒๕๕๗):๑๓๘.

ขบวนการพระพทุ ธศาสนาใหมในโลกปจจุบนั ๒๘๑
พระมหามิตร ฐติ ปฺโญ,ผศ.ดร.
บทท่ี ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

คนกลมุ แรก มองวา ความสาํ เร็จอยทู ่กี ารไดเงนิ มากๆ คนกลุมน้ีจึงมองวางานเปน
เพียงแคการรับจาง คนกลุม น้ีก็จะสนใจแตผลประโยชนต อบแทนในรูปแบบของเงินที่ไดจาก
การทํางาน หากรายไดของเขาไมไดอยางท่ีหวังเขาก็จะทุกขใจ และหากเขามีตําแหนงงาน
อืน่ ทีเ่ งนิ เดือนดีกวา เขากจ็ ะท้งิ งานทท่ี าํ อยแู ลวไปทํางานอืน่ แทน

คนกลุมท่ีสอง มองวาความสําเร็จอยูท่ีช่ือเสียง เกียรติยศ การมีฐานะทางสังคม
หรือการมีอํานาจท่ีมาพรอมกับตําแหนงและยศถาบรรดาศักดิ์ในท่ีทํางาน คนกลุมนี้จะไม
สนใจเรื่องเงินท่ีจะไดตอบแทนจากการทํางานเทาใด แตจะทุมเทใหกับงานเพ่ือใหไดเลื่อน
ยศเลอื่ นตาํ แหนง ใหมอี ํานาจวาสนา ซึ่งหากเขาไดอยางที่หวังเขาก็จะพอใจ แตถาหากไมได
ตามทค่ี าดหวังไวค วามสนใจในงานก็จะจางหายไป และอาจจะหางานใหมไปเลยก็เปนไดถา
หากวา งานใหมสามารถใหใ นสงิ่ ท่เี ขาตองการได

คนกลุมท่ีสาม มองวาความสําเร็จอยูที่งานคือมองเห็นวางานที่ทําอยูนั้นเปน
ประโยชนแกคนอนื่ หากงานของเขาออกมาดีเขาก็มีความสุข และถือวาประสบความสําเร็จ
แลว สวนผลตอบแทนอื่นๆ ถือวาเปนผลพลอยได ไมวาจะเปนเงินทอง ชื่อเสียง เกียรติยศ
หรืออะไรก็ตาม คนท่ีอยูในกลุมนี้มักจะรักงานของตน และถาสามารถทําไดเขาก็จะทํางาน
นั้นตอไปแมวา จะไมไ ดเงนิ ตอบแทนกต็ าม คนกลุมนี้มักมองวางานเปนสิ่งท่ีมีความหมาย จึง
มีเปาหมายสงู สงและเปน การกระทาํ สง่ิ ดีๆ ใหกบั สังคมหรือใหกับโลก

จากตัวอยางของคนท้ังสามกลุมท่ีมองความสําเร็จในทัศนะที่แตกตางกัน คนท่ี
มองความสําเร็จอยทู ่ีงาน นา จะมคี วามพึงพอใจในงานทีท่ าํ มากกวาคนที่มองงานเปนแคการ
รบั จางหรือเปน อาชีพ เปนแหลงทจ่ี ะทําใหมีชื่อเสียงมีอํานาจ และคนท่ีมีเปาหมายอยูท่ีงาน
ยอ มมีความพึงพอใจในชีวติ โดยรวมมากกวา คือ สามารถที่จะมคี วามสุขในชีวิตไดมากกวา

การมีทัศนคติตอความสําเร็จแตกตางกันน้ัน อาจมีเหตุปจจัยหลายประการทั้ง
ปจจัยภายในและปจจัยภายนอก ประสบการณของแตละบุคคลแตละวัฒนธรรมและการ
เล้ียงดู ส่ิงตางๆ ท้ังหมดน้ีลวนมีผลตอทัศนคติทั้งส้ิน ทัศนะเหลาน้ีสามารถเปล่ียนแปลงได
หากเรามปี ญ ญาอยางแทจริง

ทานดาไลลามะไดกลา ไววา ทศั นคติมีผลตอการทํางานของคนและความรูสึกเติม
เต็มที่เขาจะไดรับจากการทํางาน ทานไดยกตัวอยางพระรูปหน่ึงท่ีตองเริ่มเรียนศาสนาและ
ปรัชญา แรกๆ พระทา นกไ็ มช อบ เพราะถูกบังคับใหตื่นแตเชาทุกวัน ทานรูสึกเหน็ดเหนื่อย
กับส่ิงท่ีทํามาก จึงรูสึกหนักอึ้งและหงุดหงิดตลอด แตตอมาภายหลังทานคอยๆ เริ่มที่จะ
เขาใจความหมายเห็นประโยชนและคุณคาของส่ิงท่ีเรียน ทานจึงกระตือรือรนและยอมทํา
ในสง่ิ นน้ั อยางไมรูจักเหน็ดเหน่ือย ดวยเหตุนี้เองจึงทําใหพระรูปนั้นท้ังประสบความสุขและ

๒๘๒ ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมในโลกปจ จุบัน
พระมหามิตร ฐติ ปฺโญ,ผศ.ดร.
บทท่ี ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

ความสําเร็จในการเรียน ทานดาไลลามะจึงย้ําวา ไมวาคนคนหนึ่งจะทํางานอะไรทัศนคติท่ี
แตละคนมีนัน่ แหละท่ีจะสรางความแตกตา งได

ในการทํางานก็เชนเดียวกัน ผูท่ีทํางานเพราะเห็นคุณคาเห็นประโยชนจากงาน
ยอมสามารถสรา งความสุขและความสําเร็จจากงานไดไมย ากนกั เพราะเขาจะทุมเทแรงกาย
แรงใจในการทํางานอยางไมรูจักเหน็ดเหนื่อยและหมั่นพิจารณาตรวจสอบความบกพรอง
ของงานพรอ มกับหาทางพัฒนางานน้นั ใหก า วหนา ยิง่ ขน้ึ ไปเรือ่ ยๆ ผทู ่ีทํางานในลักษณะนี้จะ
มโี อกาสท่ีจะประสบความสําเร็จในการทํางานมากกวาคนอื่นและในท่ีสุด เงินทอง ช่ือเสียง
เกียรติยศ ยศถาบรรดาศักดิ์ ก็ยอมงอกเงยตามมา

ทานดาไลลามะชี้ใหเห็นวา หากใครก็ตามท่ีสนใจแตเรื่องของความกาวหนาใน
อาชีพ เรื่องการเล่อื นขั้นเงนิ เดอื น เร่ืองตําแหนง และยศถาบรรดาศักดิ์ตางๆ เขาก็จะตกอยู
ในภัยอันตรายของการแขงขัน และจะเกิดความกระวนกระวายใจไดงายเมื่อไมไดรับ
ความกาวหนาในการทํางาน ความอิจฉาริษยาที่มีตอผูอ่ืนก็จะเกิดข้ึนไดงาย เม่ือเปนเชนน้ี
จิตใจก็จะเต็มไปดวยความทุกขและยังเส่ียงท่ีจะมีศัตรูมากข้ึนดวย ในทางตรงกันขามหาก
เรามีเปาหมายอยูท่ีทํางาน หรือเปนคนกลุมท่ีสามเราก็จะมีความสุขไดงายจิตใจมั่นคง ไม
เกิดความอิจฉารษิ ยา และความเส่ียงทจี่ ะมศี ตั รูกน็ อย

การมองงานเปนเปาหมาย ทานดาไลลามะยังมองวา มีผลในทางบวกอ่ืนๆ อีก
ดวย เชน ในการทํางานใจของเราก็จะไมเหน่ือยงายๆ ความเบื่อหนายในการทํางานก็จะ
ลดลงคนกลุมน้ีจะมีจิตที่มีความมุงหมายและความมุงม่ัน ความเอาใจใสตองานและความ
กระตือรือรนตา งๆ จะเกิดข้นึ อยา งมาก แมว า เงินเดือนจะไมข้นึ หรอื ไมไดเล่ือนขน้ั เลยกต็ าม

วธิ กี ารทจ่ี ะทําใหเ ราสามารถเปลย่ี นแปลงมุมมองหรือทัศนคติที่ดีตองานนั้น ทาน
ดาไลลามะกลาววา ส่ิงแรกเราตองพยายามนึกถึงวัตถุประสงคท่ียิ่งใหญของงานวา งานท่ี
กําลังกระทําอยูนั้นมีประโยชนอยางไรตอผูอ่ืนหรือมีคุฯคาอยางไรบาง จะชวยเหลือผูอื่น
อยางไร เปน ตน ก็อาจจะชวยใหเ ปล่ยี นทัศนคตไิ ด นอกจากนั้น อาจมีวิธีอ่ืนๆ อีกหลายวิธีท่ี
จะชวยใหเราคนพบวัตถุประสงคที่ย่ิงใหญของงาน หรือความหมายของงานจนนําไปสูการ
เปลีย่ นแปลงทัศนคติ เชน บางคนอาจมีงานท่นี าเบือ่ แตเขาตอ งเลี้ยงดูครอบครัวหรือพอแม
ที่แกเฒา การเลย้ี งดูหรอื ชว ยเหลือครอบครวั ของเขาน้ีเอง อาจจะเปน วัตถุประสงคท่ียิ่งใหญ
ของเขา เมือ่ รสู กึ เบ่ือหรอื ไมพ อใจกบั งานก็สามารถบอกกับตนเองใหนึกถึงในสิ่งที่เขาจะตอง
นําความสุขความสบายมาใหแกครอบครัว ซ่ึงการคิดเชนนี้ก็จะชวยใหมีกําลังใจในการ
ทํางาน ทาํ งานอยา งกระตอื รือรน และในทส่ี ุดก็สามารถประสบความสําเรจ็ ในการงานได

คนเราแตละคนจึงสามารถคิดหาวัตถุประสงคท่ียิ่งใหญไดหลายวิธี ซ่ึง
วัตถุประสงคที่ย่ิงใหญนี้ก็จะทําใหเราทุมเทอยางไมรูสึกเหน็ดเหน่ือย มีกําลังใจ มีความ

ขบวนการพระพทุ ธศาสนาใหมใ นโลกปจ จบุ ัน ๒๘๓
พระมหามติ ร ฐติ ปฺโญ,ผศ.ดร.
บทที่ ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

มุงมั่นในการทํางานถึงแมวางานที่เราทําอยูนั้นบางคร้ังดูเหมือนวาเปนสิ่งเล็กๆ ก็ตาม เชน
ทหารที่คอยปกปองดูแลประเทศ หากเขาคิดวางานท่ีเขาทําอยูน้ันเปนสิ่งท่ีสําคัญมาก
สําหรับประเทศชาติ เปนประโยชนย่ิงใหญของประชาชน หากไมมีทหารเปนร้ัวของชาติ
ประเทศชาติก็จะอยูไมรอด หากคิดเชนนี้ก็จะมีความม่ันใจในจุดมุงหมายของตนและยอม
สละไดแมกระท่ังชีวิตของตน ผลตอบแทนที่จะไดจึงเปนเพียงเรื่องรองลงมาในแงน้ีหาก
ผูบังคับบัญชาเห็นถึงความมุงมั่นตั้งใจของเรา ก็เช่ือแนวาเขาจะไดรับผลตอบแทนท่ี
สมเหตุสมผลและมีชอื่ เสยี งเกียรติยศตามมาในท่ีสุด

ทานดาไลลามะจึงกลาวย้ําวา คนเราทุกคนนั้นสามารถมีวิธีการคนหา
วตั ถุประสงคท ี่ย่ิงใหญใ นงานของตนเสมอ เพียงเราตระหนักวา เปนสวนหนึ่งของสังคม เปน
สมาชิกและใชชีวิตอยูในสังคมของมนุษย เราจึงควรตระหนักวา การตั้งใจทํางานก็เปน
หนาท่ีของประชาชนพลเมืองท่ีดีของสังคมงานของเราจึงเปนสวนหนึ่งที่จะชวยสรางให
สังคมทเี่ ราอยนู น้ั ดงี ามมากขนึ้

ถึงแมวาการเปลี่ยนทัศนคติจะมีความสําคัญตอความสุขและความสําเร็จในการ
ทํางาน แตทา นดาไลลามะกเ็ นนยา้ํ วา สง่ิ สาํ คญั อีกอยางหนงึ่ คอื เราตองมีความเขาใจตนเอง
อยางถูกตองดวย เชน หากบางคนเปนคนที่มีคุณสมบัติสูงๆ แตกลับไดงานไมดี เขาก็มี
เหตุผลท่ีจะบนและพยายามหางานใหมท่ีดีกวา ซ่ึงน่ันก็นับวาเปนส่ิงท่ีชอบธรรมที่สุดแลว
เพราะวา เขามที กั ษะทจี่ ะกา วหนาไดเขาจงึ ควรไดก า วหนา แตสําหรับคนอีกคนหนึ่งท่ีรูสึกไม
พึงพอใจในงานเชนกัน เขาอยากไดงานท่ีดีกวา ที่ไดรับเงินเดือนมากกวาเดิม แตเดิม แต
ความสามารถและคุณสมบัติของเขายังไมดีนัก ดังนั้น ก็เทากับวาเขาตีคาใหกับตนเองสูง
เกนิ ไป เขาไมมีความเขาใจตนเองอยางถูกตอง แทนท่ีจะปรับเปลี่ยนทัศนคติแลวรูสึกพออก
พอใจกับงานที่กระทาํ อยู วางานน้ันสอดคลองกับระดับความรูความสามารถของตนอยูแลว
เขากลับมัวแตไปกลาวโทษผูอื่น อยากไดงานดีกวา ในแงน้ีงานท่ีเขาทําอยูก็จะกลายเปน
เพียงท่ีมาของความทุกขความไมพอใจยิ่งขึ้นกวาเดิม การจะประสบความสําเร็จในงานท่ี
กระทาํ อยกู ็คงจะเกิดข้นึ ไดย าก

การเขาใจตนเองบนพ้ืนฐานของความเปนจริงเปนส่ิงท่ีสําคัญมาก ท่ีจะทําใหเรา
ไมเพอ
เจอหรือ เพอฝนเกินความเปนจริง ในการทํางานใหประสบความสําเร็จเราจึงควรที่จะ
ตรวจสอบตนเองใหชัดเจนวา ตนเองมีความรูหรือทักษะในงานมากนอยเพียงใด เชน ดาน
เทคนิคในสาขาหรืออาชีพของตน เรามีความรูและประสิทธิภาพในการทําส่ิงนั้นมากนอย
เพียงใด ซึ่งอยางถูกตองตรงไปตรงมาจะทําใหเราประเมินไดวา เราจะประสบความสําเร็จ

๒๘๔ ขบวนการพระพุทธศาสนาใหมในโลกปจจบุ ัน
พระมหามติ ร ฐติ ปโฺ ญ,ผศ.ดร.
บทท่ี ๖ สถานภาพและบทบาทของดาไลลามะ

อยางไร ความสําเร็จในระดบั ไหนจงึ จะเหมาะสมสําหรับตัวเรา และท่ีสําคัญจะทําใหเรารูวา
เราจะพฒั นาตนเองใหมคี วามรูค วามสามารถท่ีสงู ข้นึ ไดอยางไร

ความเขาใจตนเองหรือการพิจารณาใหเห็นถึงคุณสมบัติที่ดี และความสามารถ
ตามธรรมชาติของเราอยางตรงไปตรงมา แลวใชความสามารถน้ันในการพัฒนางานของตน
หากเราคนพบพลังท่ีเปนเอกลักษณของตนเองแลว เราก็สามารถที่จะเพ่ิมพูนพลังนั้นไดอีก
ดวย ดวยการพิจารณาเชนน้ี จะทําใหเราเปล่ียนทัศนคติตองานได มองเห็นงานเปน
เปาหมายสูงสุด ทําใหงานชวยเติมเต็มชีวิตของเราไดงายขึ้น นาพึงพอใจมากขึ้น
ความสาํ เร็จจากการทํางานกจ็ ะเกิดขน้ึ ไดงายตามไปดว ย

นอกจากนัน้ แลว ทานดาไลลามะยังไดกลาไววา การเขาใจตนเองบนพ้ืนฐานแหง
ความเปนจริง เห็นความสามารถและคุณลักษณะของตนเองอยางไมผิดเพ้ียนเปนส่ิงสําคัญ
มาก เพราะการรับรูตนเองบนพ้ืนฐานของความเปนจริงจะชวยลดทอนโอกาสที่จะนําไปสู
ความทุกขทางจิตใจหรือทางอารมณไดดวย ซึ่งการเขาใจตนเองนอกจากจะกระทําใหเรา
มองเห็นหนทางท่ีจะพัฒนาตนไปสูความสําเร็จแลว ยังเปนส่ิงที่จะนําเราไปสูความสุข
ทางดานจติ ใจดวย การที่จะประสบความสําเร็จในงานไดนั้น เราจึงตองมีความเขาใจตนเอง
อยางถูกตอง ตรงไปตรงมา มีทัศนคติตองานอยางถูกตอง มีเปาหมายของการทํางานอยูที่
งาน มองเหน็ ประโยชนท ย่ี ่ิงใหญจ ากงานท่ีเราทํารูสึกวางานที่เราทําอยูน้ันมีคุณคาที่ยิ่งใหญ
ซง่ึ ส่ิงเหลานีจ้ ะทําใหเ ราทุม เททํางานอยางไมรูจักเหน็ดเหน่ือย มีความกระตือรือรน มีจิตใจ
ที่มุงม่ันแนวแน ซ่ึงสิ่งเหลานี้ก็จะเปนปจจัยที่จะนําความสําเร็จและความสุขมาสูตัวเราใน
ท่ีสดุ

๖.๖.๑๒ การลดความวติ กกังวล
จิตใจที่มีความเมตตากรุณายอมม่ันคง ไมหวั่นไหว ไมกวัดแกวง จึงทําใหมี
ประสิทธิภาพในการทาํ งานเพม่ิ มากขึ้น ความวติ กกงั วลตา งๆ กย็ อมไมเกดิ ข้นึ
ความวิตกกังวลเปน สิ่งหน่ึงท่ีหลายคนตองเผชิญโดยเฉพาะอยางยิ่งในยุคปจจุบัน
ที่ระบบเศรษฐกิจมีความผันผวนเปล่ียนแปลงอยูตลอดเวลา บางคนวิตกกังวลวาจะตกงาน
บางคนวติ กกังวลวา รายไดจะไมพอกับรายจา ยบางคนกว็ ิตกเกี่ยวกับปญ หาในชีวิตประจําวัน
และการทํางาน เปนตน
ความวิตกกังวลที่มากเกินไป ก็คงไมตางไปจากอารมณความโกรธเกลียดเทาใด
นัก เพราะมันจะจะสงผลรายท้ังตอรางกายและจิตใจ และมันก็เปนตนตอของความทุกข
ทางอารมณเ รอ่ื ยไปจนกระทั่งถงึ ความเจบ็ ปวยทางกาย


Click to View FlipBook Version