The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by supakrit33884, 2021-10-18 14:08:46

ใบความรู้ เรื่องการซ่อมแซมเสื้อผ้า

ใบความรทู้ ่ี ๓.๒
เรอ่ื ง การซ่อมแซมเสอื้ ผ้าเบ้อื งตน้
วิชาการงานอาชีพ ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี ๖

การซอ่ มแซมเสอื้ ผ้า

การซอ่ มแซมเสื้อผ้าท่ีชารุด เป็นการแก้ไขดัดแปลงเสื้อผ้าให้อยู่ในสภาพท่ีสามารถใช้งานได้ เช่น การซ่อมแซม
ตะเข็บ ปลายแขน ขอบขากางเกง ชายเสื้อและกระโปรง การซ่อมแซมเน้ือผ้าขาด การซ่อมแซมเคร่ืองตกแต่ง
ตา่ ง ๆ เชน่ ซิป ตะขอ กระดุม เป็นต้น การซ่อมแซมเสื้อผ้ามีความจาเป็นสาหรับครอบครัวเพราะเป็นการช่วย
ประหยัดรายจ่ายของครอบครัว และช่วยยืดเวลาให้สามารถสวมใส่เส้ือผ้าได้นาน เสื้อผ้าเม่ือใช้ไปนาน ๆ อา จ
ชารุด และมีข้อบกพร่องในการสวมใส่ เช่น คับ หลวม ชารุด ขาด ซึ่งส่วนท่ีชารุดบ่อย เช่น ตะเข็บ ซิป ตะขอ
เป็นต้น การตกแต่งเส้ือผ้าเป็นวิธีการที่ทาให้เส้ือผ้าเดิมดูแปลกใหม่ สวยงามขึ้นการซ่อมแซมและดัดแปลง
เส้ือผา้ มีหลักการสาคัญทคี่ วรพิจารณา ดังน้ี
๑.เลือกใชว้ ธิ ีการซอ่ มแซมและดัดแปลงใหเ้ หมาะสม
เส้ือผ้าที่ชารุดเป็นรอยขาด อาจถูกหนามเก่ียวขาดเป็นรูปปากฉลาม ถูกเตารีดร้อนจัดเป็นรอยไหม้ก่อนการ
ซ่อมแซมจะต้องตัดรอยขาดนั้นทิ้ง แล้วเปลี่ยนผ้าใหม่เข้าไปแทน เป็นการดัดแปลงท้ังน้ีควรดูตาแหน่งท่ีขาด
ประกอบการพจิ ารณาด้วย
๒.ออกแบบใหเ้ หมาะสมกบั วยั ของผใู้ ช้
การนาเสื้อผ้าเก่าหรือเส้ือผ้าชารุดมาดัดแปลง ควรคานึงถึงวัยของผู้สวมใส่ด้วย เช่น เสื้อผ้าผู้ใหญ่จากเดิมเป็น
เสื้อคอกลมแขนสั้นธรรมดา เมื่อนามาตัดแปลงเป็นเส้ือผ้าสาหรับเด็กก็ควรติดลูกไม้ จีบ ระบายเปลี่ยนแขน
ทรงกระบอกเปน็ แขนพอง ทาโบติดทีค่ อเสื้อ หรอื ผูกเอว จะชว่ ยใหแ้ ลดเู หมาะสมกับวยั เด็กมากข้นึ
๓.เลอื กใชอ้ ุปกรณต์ กแต่งให้เหมาะกบั เนอื้ ผ้า
ก่อนท่ีจะซ่อมแซมหรือตัดแปลงเส้ือผ้า ควรเลือกหาวัสดุอุปกรณ์ที่จาเป็นต้องใช้ให้เหมาะกับเน้ือผ้าที่ชารุด
เพ่อื ให้สว่ นท่ซี ่อมแซมหรือดัดแปลงขึ้นใหม่มีสภาพกลมกลืนกับเส้ือผ้าตัวเดิมมากที่สุด เช่น เลือกกระดุมสีและ
แบบเดียวกับเม็ดเดิมที่หลุดหายไป ใช้ด้ายสีเตียวกันกับผ้าท่ีจะซ่อม ใช้เศษผ้าที่มีเส้นใยชนิดเดียวกันมาปะกับ
รอยผา้ ทข่ี าด เป็นตน้
๔.เตรยี มเครอื่ งมอื ใหพ้ รอ้ ม
เครอื่ งมือท่ีใช้ในการซอ่ มแซมและดดั แปลงเสื้อผา้ เช่น เข็ม ด้าย จกั ร กรรไกร ควรเตรยี มไว้ให้พร้อม ตรวจดูให้
อยูใ่ นสภาพดี ใชง้ านได้ นาไปจดั วางไว้ใกล้บรเิ วณทีจ่ ะปฏิบัตงิ าน เพ่ือให้หยบิ ใชไ้ ดช้ ว่ ยให้การทางานรวดเร็วข้นึ
๕.คานึงถึงความคมุ้ คา่
ส่ิงสาคัญท่ีควรนามาพิจารณาก่อนท่ีจะซ่อมแซมหรือตัดแปลงเส้ือผ้าคือ ประโยชน์ท่ีจะได้รับจากการซ่อมแซม
ตัดแปลงเส้อื ผ้าชน้ิ นั้น ๆ คุม้ ค่ากับเวลา เงนิ แรงงาน ท่ตี อ้ งเสียไปหรอื ไม่ ถ้านาเส้ือผ้าท่ีซ่อมแล้วไปใส่เพียงคร้ัง
เดียวแล้วเลกิ ใช้ ก็ไม่คุ้มคา่ แต่ถ้านาไปใส่อีกนานนับปีถือว่าคุ้มค่าท่ีจะซ่อมแซม นอกจากน้ี ควรนาส่ิงที่มีอยู่ใน
เส้อื ผา้ หรือมีของเติมอยู่แล้วนามาตกแต่ง ไมค่ วรซ้ือของใหมท่ ีม่ รี าคาแพงจะช่วยประหยัดได้

ประโยชนข์ องการเยบ็ ผา้
๑.ประโยชนแ์ ละความสาคญั ของการซอ่ มแซม ดดั แปลงเส้อื ผา้ เครือ่ งแตง่ กาย
๑.๑ ประหยัดรายจา่ ยและทรัพยากรของตนเองและครอบครวั
๑.๒ ยดื อายกุ ารใชเ้ สอื้ ผา้ เคร่ืองแตง่ กาย
๑.๓ ใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ กิดประโยชน์
๑.๔ ส่งเสริมความมนี า้ ใจและช่วยเหลือซ่ึงกนั และกนั ระหวา่ งสมาชิกในครอบครวั ให้เกิดความภาคภูมใิ จร่วมกนั
๑.๕ สรา้ งเสรมิ ความอดทนความมีระเบียบวนิ ัยในการทางานให้กบั สมาชกิ ในครอบครวั
๒.หลักการซ่อมแซมและดัดแปลงเสอื้ ผา้ เคร่ืองแตง่ กาย
๒.๑ เลอื กวธิ ีใหเ้ หมาะสมกับรอยชารดุ และรูปแบบทต่ี ้องการดัดแปลง
๒.๒ ออกแบบดดั แปลงใหเ้ หมาะสมกบั วยั ของผใู้ ช้
๒.๓ เลอื กใช้วสั ดุอุปกรณ์ใหเ้ หมาะสมกบั รอยชารุดและแบบทตี่ ้องการดัดแปลง
๒.๔ เตรียมอปุ กรณเ์ ครื่องมือเครอื่ งใชใ้ ห้พร้อมก่อนปฏบิ ัติ
๒.๕ คานงึ ถงึ ความคุ้มค่าของเวลาแรงงานและทรัพยากรทีเ่ สียไปกบั การซ่อมแซมและดัดแปลง
๓.เครื่องมือในการดดั แปลงซ่อมแซมเส้อื ผา้ เครอ่ื งแต่งกาย
๓.๑ กรรไกร
กรรไกรเป็นสงิ่ จาเป็นและสาคัญมากในการตดั เยบ็ เสื้อผา้ อย่างนอ้ ยควรมีไว้ประมาณ ๒ เล่มไวส้ าหรบั ตดั
กระดาษและตัดผา้
๓.๒ เข็มจักรเข็มมือและเข็มหมดุ
เขม็ ทใี่ ช้เยบ็ มือมหี ลายขนาดควรเลือกใช้ดังนคี้ ือเบอร์ ๗ ใช้เยบ็ ผ้าหนาและใช้ติดกระดุมเบอร์ ๘ ใชง้ านท่ัวไป
เบอร์ ๙ ใชง้ านการฝีมือเช่นถักไหมและสอยบาง ๆ
3.3สายวดั
สายวดั ตวั ทดี่ ตี อ้ งไมห่ ด ไม่ยดื มมี าตราสว่ นเปน็ นวิ้ และเซนติเมตรชัดเจนปลายสายวัดหุม้ ดว้ ยโลหะเมอ่ื เลิกใช้
แลว้ ควรม้วนเกบ็ ใหเ้ รยี บรอ้ ย
3.4วัสดุสาหรับทาเคร่ืองหมายบนผ้า
เชน่ ดินสอดาชอลก์ เขียนผา้ ใชส้ าหรบั สรา้ งแบบลากเสน้ หรอื ทาเครื่องหมายต่างๆบนเนื้อผ้า
3.5ท่ีเลาะผ้า
ใชเ้ ลาะเส้นด้ายทเ่ี ป็นรอยเยบ็ เพือ่ แกไ้ ขการเยบ็ ใหม่
3.6ลกู กลง้ิ ชนดิ ฟนั เลอ่ื ย
ใชก้ ล้งิ กระดาษกดรอยใหส้ ีกระดาษติดผ้าชนิดปลายแหลมและคมใช้กล้ิงให้ทะลผุ ้า
3.7กระดาษกดรอย
เปน็ กระดาษสีที่อาบดว้ ยเทยี นไข ใชก้ ดแบบลงบนผา้ ควรใช้สใี กล้เคยี งกับสขี องผ้ากระดาษกดรอยสีขาวซักทา
ความสะอาดได้ง่ายกวา่ สีอน่ื ๆ
3.8ด้าย

มใี ห้เลือกหลากหลายเช่นขาวดานา้ เงินและแดงฯลฯ

ด้นถอยหลงั (Back Stitch)

ด้นถอยหลัง เปน็ การเย็บขั้นพ้ืนฐานทีส่ าคัญมาก เพราะใช้กันบอ่ ยและยังเป็นลายเยบ็ ทแี่ ข็งแรงมาก
เหมาะสาหรับเยบ็ ผา้ ให้ติดกนั แน่น ท้ังยงั ใชป้ กั ลายผ้าได้อีกดว้ ย
1. มดั ปมไหมเสยี กอ่ น จากน้ันแทงเข็มจากดา้ นล่างข้นึ มาด้านบน
2. ส่งเขม็ กลบั ด้านลา่ งผา้ ดว้ ยการแทงลงไป ห่างจากจดุ แรก ½ น้ิว และสามารถปรับความกว้างได้ตามต้องการ
เสมอ

3. แทงเข็มข้ึนจากด้านล่าง ห่างจากจุดที่แทงลงไป ½ น้ิวหรือขนาดเดียวกันกับรอยเย็บแรก ควรให้มีความ
กวา้ งยาวเทา่ ๆ กัน แนะนาให้ปกั เปน็ เส้นตรงก่อนสาหรับมอื ใหม่
4. ข้ันตอ่ ไป แทนท่ีจะปกั เขม็ เยบ็ ไปดา้ นหน้า เราจะปักกลับไปยงั จดุ เดมิ ทเี่ ราแทงเขม็ ลงไปก่อนหน้าน้ี

5. แทงเข็มขน้ึ มาบนผา้ อีกครง้ั ห่างจากจดุ แทงขึน้ คร้ังกอ่ น ½ นิว้ หรือเทา่ กับรอยเยบ็ ก่อนๆ
6. เย็บย้อนกลับ แทงเข็มกลับไปยังจุดเดิมที่เพิ่งแทงเข็มลงไปก่อนหน้า แล้วหลังจากน้ันก็ปักไปด้านหน้าด้วย
ขนาดความกว้างยาวเทา่ ๆ กนั

7. ทาแบบนี้ไปเร่ือยๆ ขนาดของรอยเย็บควรจะห่างเท่า ๆ กัน และแนะนาให้เย็บเป็นเส้นตรงก่อน แต่หาก
ตอ้ งการเยบ็ เปน็ เส้นโคง้ ๆ ก็ควรตะเย็บใหถ้ ่ถี งึ จะไดเ้ สน้ โค้งท่สี วยงาม

ประโยชนข์ องการดน้ ถอยหลัง
ใชแ้ ทนการเย็บจกั ร เพราะมีความหนาและแนน่ มาก
ใชเ้ ยบ็ ซอ่ มแซมกระเปา๋ เสอ้ื ท่ีขาด
ใชเ้ ยบ็ ซอ่ มแซมตะเขบ็ เส้ือท่ขี าด
ใช้เยบ็ ซอ่ มแซมตะเข็บวงแขนเสอื้ ท่ขี าด
ใช้เย็บซ่อมแซมตะเขบ็ เสื้อทข่ี าด
ใชใ้ นการเย็บสงิ่ ประดิษฐต์ ่างๆ เชน่ ตกุ๊ ตา ถุงผ้า
การเยบ็ ผา้ แบบด้นถอยหลัง ทม่ี า: https://www.youtube.com/watch?v=Izlm22DVIfU
ขอขอบคณุ แหลง่ ทมี่ า
http://www.blisby.com/blog/how-to-6-helpful-stitches/
https://www.gotoknow.org/posts/247545
http://chotirot130.blogspot.com/2017/02/how-to-back-stitch-1.html

ดน้ ถอยหลัง

ตะเข็บเย็บหมุ้ (Whip Stitch)

การเยบ็ ตะเขบ็ แบบน้ี สว่ นมากมกั ใชเ้ ย็บเกบ็ ขอบตา่ งๆ คล้ายการสอยแตว่ า่ จะเหน็ ด้ายชัดเจนกว่า
1. มดั ปมปลายไหมปักให้เรียบร้อย กอ่ นจะแทงเข็มจากตะเข็บผ้าดา้ นในขึน้ มา ปมจะได้ถูกซ่อนไว้ในผ้า แทงให้
หา่ งจากขอบผ้าเลก็ น้อย
2. แทงเข็มจากด้านล่างอีกครั้ง ให้ห่างจากจุดเดิมสัก ½ นิ้ว หรือแล้วแต่ว่าเราจะต้องการให้ห่างมากน้อยแค่
ไหน

3. ปกั เขม็ ขึ้น จากนนั้ กป็ ักข้นึ เช่นเดิม ทาซ้าๆ จนกว่าจะจบช้ินงาน

ขอขอบคณุ แหลง่ ท่ีมา:
http://www.blisby.com/blog/how-to-6-helpful-stitches/
http://chotirot130.blogspot.com/2017/02/how-to-whip-stitch-1.html

ตะเขบ็ เยบ็ หุม้

ลายปกั ริมผา้ ห่ม (Blanket stitch)

1. ประกบผ้า 2 ช้ินเข้าด้วยกนั ขอบควรพบั หรอื รดี ใหเ้ รียบรอ้ ยก่อนปกั ลาย
2. มัดปมไหมปักกอ่ น จากน้ันแทงเข็มขึ้นจากใต้ผ้าชิ้นบน ให้ปมซ่อนอยู่ตรงกลางระหว่างผ้าท้ัง 2 ช้ิน แทงเข้า
มาสัก 1 ซม. หรือแล้วแตว่ า่ ต้องการความสูงของลายมากแค่ไหน ดงึ เขม็ ข้นึ ด้านบนเลย

3. กลับไปแทงเข็มจากผา้ ชิน้ ลา่ งสุดขนึ้ มา และแทงตรงรทู ่เี ริม่
4. ค่อยๆ ดึงเข็มและไหมปัก พอไหมปักเริ่มกลายเป็นห่วงกลมเล็กๆ ให้สอดเข็มเข้าไปในห่วงน้ันแล้วจึงดึงให้
หว่ งปิดสนทิ

5. แทงเข็มจากดา้ นลา่ งผา้ ทั้ง 2 ชนิ้ ข้ึนมา แทงเขา้ มาลกึ เท่ารอยปกั แรก โดยให้ห่างจากรอยเดิม ¼ น้วิ
6. ค่อยๆ ดงึ เข็ม เพือ่ ใหไ้ หมกลายเป็นห่วงกลมเล็ก ๆ จากนัน้ ให้สอดเข็มเขา้ ไปในหว่ งแลว้ ดึงไหมให้ปดิ สนิท
7. จากนัน้ กข็ ยบั ไปแทงเข็มจากขา้ งลา่ งห่างไป ¼ นว้ิ

8. ทาซ้าวธิ เี ดิมกจ็ ะไดล้ ายนีย้ าวต่อกันไปเรอ่ื ย ๆ เท่าที่ต้องการ

ขอขอบคณุ แหลง่ ทม่ี า:
http://www.blisby.com/blog/how-to-6-helpful-stitches/
http://chotirot130.blogspot.com/2017/02/how-to-blanketstitch-1.html

ลายปักริมผ้าห่ม

สอยฟนั ปลา (Catch Stitch)

สอยฟนั ปลาสฟี า้ ที่เห็นดา้ นบนนี้ เป็นตะเขบ็ แบบเห็นเพียงครงึ่ เดียวตรงผา้ ด้านหน้า และยังเป็นตะเข็บ
ท่เี หมาะมากสาหรบั เยบ็ ขอบผ้า หรือใชก้ ับงานที่เปน็ วงกลมอย่างผ้าปูโต๊ะหรือโซฟา ท้ังยังเหมาะสาหรับเย็บผ้า
ซบั ในของผา้ มา่ นอีกดว้ ย

การสอยฟันปลา หรือตะเข็บสอยหกั มมุ ไข้วกลับ นิยมใช้สาหรับการสอยตะเข็บชายกระโปรงหรือสอย
สาบเสื้อ เป็นตะเข็บสอยอย่างหลวมท่ียึดให้อยู่ตามแนว โดยตะเข็บด้านใน(ด้านผิด) จะเห็นฝีเข็มเป็นเส้นด้าย
เยบ็ ไขว้ โดยแนวสอยดา้ นบนที่ติดรมิ ทับผา้ จะเปน็ แบบขวาทับซา้ ย และท่ผี ืนผา้ จะเปน็ แบบซา้ ยทกั ขวา
1. รดี ผ้าให้เรียบ จะช่วยใหเ้ ยบ็ ไดง้ า่ ยขึน้
2. เร่มิ เยบ็ จากดา้ นซา้ ยของผา้ ชิน้ ลา่ ง แทงเขม็ ขึ้นจากดา้ นลา่ ง ผูกปมซอ่ นไวด้ า้ นลา่ ง
3. ปกั เข็มลงบนผ้าอกี ช้นิ ทอ่ี ยู่ดา้ นบน แทงเข็มยอ้ นกลบั ไป ⅛ นิว้ แล้วดึงเข็มขึน้

4. ปักเข็มกลับมายังผ้าชิ้นล่าง โดยให้ไหมปักพาดทับไหมที่ปักไว้ก่อนหน้านี้ในแนวทแยง จากน้ันก็แทงเข็มขึ้น
หา่ งจากจดุ ทป่ี กั ⅛ นิว้ ก็จะไดล้ ายปกั สอยฟนั ปลาแล้ว

5. ปกั แบบเดิมซา้ ไปเรอื่ ย ๆ จนกว่าจะได้ความยาวตามต้องการ

ข้อแนะนาเพม่ิ เติมสาหรับการสอยผ้า
กอ่ นท่จี ะทาการสอยผา้ น้นั ควรทาการรดี สันทบผา้ ก่อนใหเ้ ปน็ แนว เพื่อสะดวกในการสอยผ้า และงาน

ดูเรียบร้อย แนวตะเขบ็ ตรงดูสวยงาม กรณีที่ผ้ามีความล่ืนไหล ไม่อยู่ตัวควรทาการกรัดด้วยเข็มหมุดก่อน หรือ
ทา การเนาผา้ ยึดเป็นแนวไวก้ อ่ น
การสอยแบบฟนั ปลา (ซกิ แซก) ทมี่ า: https://www.youtube.com/watch?v=RnMNyRzHUP4
ขอขอบคุณแหล่งทมี่ า
http://phanupong2.blogspot.com/p/stitch-45.html
http://www.blisby.com/blog/how-to-6-helpful-stitches/
http://chotirot130.blogspot.com/2017/02/how-to-catch-stitch-1.html

การสอยฟนั ปลา

การเนา (Running Stitch)

เนา คือ การเย็บแบบด้านเส้นสีเขียวทั้ง 2 เส้นด้านบน เป็นการเย็บแบบง่ายท่ีมักใช้เย็บขอบแบบ
ธรรมดาพ้ืนฐาน และเมือ่ ตอ้ งการยึดผา้ 2 ชิ้นเข้าด้วยกันแบบชว่ั คราวแล้วละก็ การเย็บเนาตะเข็บค่อนข้างห่าง
กนั กเ็ ป็นตวั เลอื กท่ีดี แต่หากตอ้ งการตะเข็บแนน่ หนากใ็ ห้เยบ็ ถีๆ่
1. รอ้ ยดา้ ยเขา้ ในเข็มแลว้ มัดปมทปี่ ลายดา้ นหน่งึ แทงเขม็ จากผา้ ดา้ นหลงั เพ่ือจะได้ซ่อนปมไว้ดา้ นหลงั ผ้า
2. แทงเข็มลงไปในผ้าจากจุดแทงข้ึนเมื่อก้ี ½ นิ้ว แล้วแทงเข็มกลับขึ้นมาอีกครั้งด้วยระยะห่างที่เท่ากันซ่ึงก็
คอื ½ น้ิว

3. ทาแบบเดิมไปเรื่อยๆ ให้ได้ระยะห่างเท่ากันจนสุดช้ินงาน เม่ือเนาเสร็จแล้วก็จะดูเหมือนเส้นประ จะปรับ
ขนาดความห่างหรือถี่ของตะเข็บยังไงก็ได้ เพยี งแค่เย็บใหเ้ ท่ากนั ก็พอ

การเน่าแบบเทา่ ทีม่ า: https://www.youtube.com/watch?v=omRJdh8_gjQ การเนาเทา่ กัน
การเน่าแบบไม่เท่า ทม่ี า: https://www.youtube.com/watch?v=lbWeR-fdAcw การเนาไม่เท่ากนั
ขอขอบคุณแหล่งที่มา : การเนาเฉลยี ง
http://www.blisby.com/blog/how-to-6-helpful-stitches/
http://chotirot130.blogspot.com/2017/02/how-to-running-stitch-2-2-1.html

การสอยซ่อนด้าย (Slip Stitch หรอื Ladder Stitch)

การสอย เป็นการเยบ็ ดว้ ยมอื ที่มองเห็นรอยเยบ็ ทางดา้ นนอกนอ้ ยทส่ี ุด นิยมใชส้ อยชายเส้ือ
ชายกระโปรง ชายขากางเกง หรือชายผ้าอ่นื ๆ ที่ต้องการความสวยงามประณีต
1. ร้อยด้ายเขา้ กบั เข็ม มดั ปมปลายด้ายดา้ นหนง่ึ จากนั้นกแ็ ทงเข็มตรงรอยพับขอบผ้าด้านใน
2. แทงเขม็ ลงบนผ้าอีกผนื ตรงข้ามกบั จดุ แรกที่เราแทงเขม็ ข้นึ ในขัน้ ตอนกอ่ นหนา้ แทงตรงรอยพับจากด้านนอกเข้า
ไปด้านใน ตรงจุดนี้จะเป็นจุดท่ีเช่ือมให้ผ้าทั้ง 2 ผืนติดกัน ต้องสอยให้ท้ัง 2 จุดตรงกันในแต่ละด้านเพ่ือจะได้
ซ่อนดา้ ยได้ แตอ่ ย่าเพิ่งดงึ เขม็ ให้สดุ คา้ งไว้อย่างนั้นก่อน

3. แทงเขม็ ขึน้ จากจุดเดิมบนผา้ ชิน้ เดมิ ไป ⅛ นิ้ว แลว้ ดงึ เขม็ ขนึ้ ใหส้ ดุ
4. แทงเข็มลงบนผ้าอกี ช้ินในจุดท่ตี รงกบั จดุ ท่ีเราแทงเข็มข้ึนมาในขัน้ ตอนก่อน แล้วก็แทงเขม็ ขนึ้ จากจดุ น้ีไป
อีก ⅛ นิ้วแลว้ ค่อยดึงเข็มขึน้ ให้สุด

5. ทาซ้าวิธีเดมิ นน่ั คือแทงเข็มลงบนผา้ ช้นิ ตรงข้ามในจุดเดยี วกบั ทีเ่ ราแทงเข็มขึ้น ทาซ้าไปเรอ่ื ย ๆ เลยจนสุด
ชน้ิ งาน

6. รอยสอยท่ีได้จะดูเหมือนข้ันบันไดของบันไดลงิ เป็นขัน้ ๆ เสมอกนั ข้อสาคญั ของการสอยกค็ ือต้องดงึ ด้ายให้
ตงึ และเลือกสีด้ายใหเ้ ป็นสีเดียวของผ้า

วิดโี อตวั อยา่ งการสอยผ้า ทีม่ า: https://www.youtube.com/watch?v=H-yO7CRw0eU
ขอขอบคุณแหลง่ ท่ีมา
http://www.blisby.com/blog/how-to-6-helpful-stitches/
http://www.trueplookpanya.com/learning/detail/652-000770
http://chotirot130.blogspot.com/2017/02/6.html

การเนาเฉลียง

การเยบ็ ผา้ ดว้ ยมอื

การเนา เป็นการเยบ็ ผ้าดว้ ยมอื ใหต้ ิดกันช่ัวคราวเพ่ือการเย็บถาวรหรือการสอยเช่นการเนาตะเข็บการ
เนาชายเส้ือและชายกระโปรงเนากระเปา๋ ใหต้ ิดกับตัวเสือ้ เป็นต้นการเนามหี ลายชนิดแต่ละชนิดมีประโยชน์และ
การใชง้ านแตกตา่ งกันการเนาส่วนใหญท่ าจากขวาไปซา้ ยเพราะคนทว่ั ไปถนดั ขวา

การเนาเท่ากัน คือ การเย็บด้วยมือท่ีช่วยยึดผ้า 2 ชิ้นหรือมากกว่าให้ติดกัน มีความถี่ห่างของฝีเข็ม
เสมอกนั ทั้งดา้ นบนและดา้ นล่าง ฝเี ข็มห่างประมาณ 1/4 ถงึ 1/2 น้วิ ซึง่ ถา้ เนาห่างกว่าน้ีจะไม่สามารถบังคับผ้า
ท้งั 2 ชนิ้ ใหอ้ ย่คู งท่ไี ด้ การเนาเทา่ กันเหมาะสาหรับเนาตะเข็บ ก่อนเย็บเนาชายเสื้อและชายกระโปรงก่อนสอย
เป็นตน้

การเนาไมเ่ ทา่ กัน เปน็ การเนาที่มีความถี่ห่างของฝีเข็มสลับกันฝีเข็มถ่ีอยู่ด้านบนฝีเข็มห่างอยู่ด้านล่าง
เป็นการเนาท่ีช่วยยดึ ผา้ ให้ติดกันแน่นกว่าการเนาเท่ากนั การเนาชนิดนใี้ ชเ้ ปน็ แนวในการเย็บจักรได้ดีหรือใช้เนา
เพือ่ ลองตวั เสอ้ื หรอื กระโปรงเป็นต้น

การดน้ เปน็ การเยบ็ ด้วยมอื ที่ใชแ้ ทนการเยบ็ ด้วยจักรมีความทนทานมาก การด้นทน่ี ยิ มทว่ั ไปมี ดังน้ี
การด้นตะลุย วธิ ที าคล้ายการเนาเปน็ การเย็บผา้ 2 ช้ินใหต้ ดิ กันอยา่ งถาวรโดยแทงเข็มขึ้นและลงให้ฝีเข็มถี่ท่ีสุด
ใชเ้ ยบ็ ทว่ั ไปทาแนวรดู ปะผา้ เป็นต้น

การด้นถอยหลัง เป็นการเย็บผ้า2ชนิดให้ติดกันโดยแทงเข็มข้ึนและย้อนกลับไปแทงเข็มด้านหลังให้มี
เข็มมีความยาวเพียง?ของฝีเข็มแรงแทงเข็มลงแล้วดึงด้ายข้ึนทาเช่นน้ีไปจนสิ้นสุดตะเข็บตะเข็บชนิดน้ีมีความ
ทนทานมากด้านหน้าจะมีลักษณะฝีเข็มเหมือนการเย็บด้วยจักรส่วนด้านห ลังด้ายเย็บซ้อนกันแน่นเหมาะ
สาหรบั เยบ็ ผา้ โดยทัว่ ไปทตี่ อ้ งการความทนทาน

การสอย เป็นการเย็บด้วยมือที่มองเห็นรอยเย็บทางด้านนอกน้อยท่ีสุดนิยมใช้สอยชายเส้ือ
ชายกระโปรงชายขากางเกงหรือชายผ้าอื่น ๆ ท่ีต้องการความสวยงามประณีตการสอยมีหลายชนิดท่ีนิยมใช้
ทว่ั ไป มดี งั นี้

การสอยซอ่ นด้าย เปน็ การสอยทีม่ องเห็นเส้นด้ายเย็บเพียงเล็กน้อย โดยแทงเข็มให้เข็มสอดในพับบท
ของผ้าให้กว้างช่วงละประมาณ 1 เซนติเมตร ก่อนแทงเข็มออกสะกิดเส้นด้ายจากผ้าช้ินล่างประมาณ 1 – 3
เส้นแล้วสอดเข็มเข้าไปในเส้นทบผ้าแทงเข็มออกสะกิดเส้นด้ายจากผ้าช้ินล่างทาเช่นนี้ เร่ือยไปจนส้ินสุดแนวที่
ต้องการสอย

การสอยฟันปลา เป็นการสอยที่มองเห็นเส้นด้ายทางด้านผิดมากกว่าทางด้านถูกโดยแทงเข็มสะกิด
เนื้อผ้าด้านบนและด้านลา่ งแลว้ ดงึ เข็มดึงด้ายตามทาเช่นนี้ไปจนส้ินสุดการเย็บการสอยชนิดน้ีเป็นการสอยท่ีให้
ความทนทานนยิ มใช้สอยชายกางเกงทัว่ ไปไวเ้ พ่อื ให้เยบ็ ตรงตาแหน่งใช้ด้ายเย็บตรงกลางฐานก้านกระดุมกับตัว
เส้อื ไม่ดึง
ทีม่ า : https://www.gotoknow.org/posts/497576


Click to View FlipBook Version