หลักสูตร การสานปิ่นโตจากไม้ไผ่ การจักสานจากไม้ไผ่ทำกันมาตั้งแต่สมัยปู่ ย่า ตา ยาย โดยอาศัยไม้ไผ่ที่ขึ้นอยู่ทั่วไปในป่าเมืองไทยซึ่งมี อยู่ประมาณ ๑๐๐ ชนิด แต่ที่นิยมนำมาจักสานกัน ได้แก่ ไม้ไผ่ใหญ่ ที่คนนิยมนำมาปลูกไว้รอบ ๆ หมู่บ้าน เพื่อใช้ หน่อเป็นอาหารและใช้ลำต้นมาดัดแปลงทำเครื่องใช้ต่าง ๆ ที่จำเป็นภายในครอบครัวเช่น ปิ่นโต ตะกร้า ชะลอม กระออม กระด้ง ตะแกรง กระเชอ ลอบ ไซ กระติบข้าว หวด หรือมวยนึ่งข้าว ครุ เป็นต้น เครื่องใช้ต่าง ๆ ที่กล่าว มา ข้างต้น ในสมัยก่อนนิยมทำใช้กันเองภายในครอบครัว ตามความจ าเป็นของแต่ละท้องถิ่นและ การจักสานแต่ ละอย่างมีกรรมวิธีที่แตกต่างกัน ยากบ้างง่ายบ้าง ดังนั้นแต่ละคนจึงมีความถนัดใน การทำไม่เหมือนกัน จึงได้เกิดมี การผลิต เพื่อแลกเปลี่ยนกันขึ้น พอมาช่วงหลัง ๆ ไม้ไผ่หายากขึ้น และคนมีงานอื่นทำที่มีรายได้ดีกว่าก็หันไป ทำงานอย่างอื่น แทนจึงยังคงเหลืออยู่เพียงบางคนหรือบางกลุ่มเท่านั้นที่มีความถนัดทางจักสานเป็นพิเศษหันมายึด อาชีพทางการ จักสานเป็นอาชีพหลัก บางคนก็ยึดเป็นอาชีพพรองจากการทำไร่ ทำนา โดยอาศัยทำในเวลาว่าง ตอนเย็นหรือ กลางคืนที่กลับ จากไร่นาแล้ว เพื่อหารายได้มาจุนเจือครอบครัวอีกทางหนึ่ง การจักสานจากไม้ไผ่นั้น สามารถนำมา ดัดแปลงทำเครื่องใช้ได้หลายอย่าง ดังที่กล่าวมาแล้ว สาเหตุสำคัญที่นิยมนำเอาไม้ไผ่มา จักสานก็ เพราะว่าไม้ไผ่หา ง่าย ไม้แปรรูปได้ง่ายมีความเหนียวสามารถจักเหลา แต่ง ได้หลายขนาด ง่ายแก่การตัด แต่ง ง่าย ต่อการนำมา ประกอบกันเป็นรูปทรงตามที่ต้องการ ปิ่นโตสานจากไม้ไผ่คือ การนำไม้ไผ่มาจักเป็นตอกเส้นเล็กๆ กว้างยาวประมาณ 1 เมตร แล้วเอามา สานเป็นรูปทรงต่างๆ ใช้สำหรับใส่ของต่างๆ การสานมักจะทําเป็นรูปทรงกระบอกแล้วรวบตอกที่ปากมัดเข้า ด้วยกันเพื่อหิ้ว การสานขึ้นมาใช้ นอกจากจะทําเป็นภาชนะใส่ของที่มีความคงทนแข็งแรงแล้ว รูปทรงและลายสาน ที่สวยงาม ยังสะท้อนให้เห็นถึงคุณค่าของมรดกทางวัฒนธรรมอีกด้วย เป็นภาชนะจักรสานที่ใช้ไม้ไผ่สาน สำหรับใส่ ของเช่น ใส่เครื่องครัว ใส่ของต่างๆ เป็นภาชนะที่ใช้ไม้ไผ่ทำเป็นเส้น ๆ เพื่อนำมาจักรสาน ปิ่นโตจากไม้ไผ่เกิดขึ้นได้อย่างไร เมื่อก่อนปิ่นโตไม้ไผ่ เป็นสินค้าที่ขายดีมาก เนื่องจากความสวยงาม และความทนทาน จึงมีคนสนใจสั่งซื้อจำนวนมาก แต่เมื่อเวลาผ่านไป เริ่มมีวัสดุอุปกรณ์อื่นๆ ที่มีความสวยงาม ทนทาน และราคาถูกกว่า และยังสามารถนำไปใช้งานอย่างอื่นต่อได้ ทำให้ปิ่นโตสานไม้ไผ่ได้รับความนิยมน้อยลง จึงจำเป้นต้องมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบ จากที่เป็นชะลอมปิ่นโตสานไม้ไผ่ธรรมดา ก็นำลิบบิ้น และโบว์ มาประดับ ตกแต่งให้สวยงามยิ่งขึ้น จึงทำให้ชะลอมหรือปิ่นโตสานธรรมดา ดูสวยงาม น่าใช้มากยิ่งขึ้น
หลักการของหลักสูตร 1. เป็นหลักสูตรที่ตอบสนองความต้องการการเรียนรู้ของประชาชนในเรื่องศิลปะงานจักรสานปิ่นโตจากไม้ ไผ่ เพื่อการประกอบอาชีพ 2. เป็นหลักสูตรที่มุ่งเน้นให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจและทักษะรวมทั้งความคิดสร้างสรรค์ในการ ประดิษฐ์การสานปิ่นโตจากม้ไผ่ 3. เป็นหลักสูตรที่ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ส่งเสริมสนับสนุนและสืบทอดศิลปวัฒนธรรมของชาติ จุดหมาย 1. เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจและมีทักษะในการจัดทำศิลปะงานจักรสาน 2. เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการบริหารจัดการอาชีพการจัดทำปิ่นโตจากไม้ไผ่ 3. เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจตระหนักถึงการเป็นผู้ประกอบการที่ดี กลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเป้าหมายคือประชาชน นักเรียนนักศึกษา 1. ผู้ที่ไม่มีอาชีพ 2. ผู้ที่มีอาชีพและต้องการพัฒนาอาชีพ 3. ผู้ที่ต้องการเปลี่ยนอาชีพ 4.ผู้ที่ต้องการสร้างรายได้ โครงสร้างหลักสูตร 1. ช่องทางการประกอบอาชีพ 1.1 ความสำคัญของงานจักรสานปิ่นโตชะลอมไม้ไผ่ 1.2 ความเป็นไปได้ในการประกอบอาชีพ 1.3 แหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับงานจักรสานไม้ไผ่
1.4 การตัดสินใจเลือกอาชีพรับจัดทำงานจักรสานไม้ไผ่ 2. ทักษะการประกอบอาชีพ 2.1.ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับงานจักรสานปิ่นโตจากไม้ไผ่ 2.2 การประดิษฐ์งานจักรสานชะลอมไม้ไผ่ จำนวน 1 ชั่วโมง 2.2.1 การเลือกไม้ไผ่ 2.2.2 การจักตอก 2.2.3 การจักสานชะลอมไม้ไผ่ 2.2.4 การจักสานชะลอมปิ่นโต 3. การบริหารจัดการในการประกอบอาชีพ 3.1 องค์ประกอบการประกอบอาชีพ 3.2 การจัดการอาชีพ 3.3 การทำจัดทำบัญชีรายรับ – รายจ่าย 3.4 คุณลักษณะของผู้ประกอบธุรกิจที่ดี 4. โครงการประกอบอาชีพ 4.1 ความสำคัญของโครงการประกอบอาชีพ 4.2 ประโยชน์ของโครงการประกอบอาชีพ 4.3 องค์ประกอบของโครงการประกอบอาชีพ การจัดกระบวนการเรียนรู้ 1. บรรยายและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ความสำคัญของงานจักรสานปิ่นโตจากไม้ไผ่ 2. จัดกิจกรรมวิเคราะห์ข้อมูล ความเป็นไปได้ รวมทั้งการศึกษาดูงาน เพื่อการตัดสินใจ เลือกรูปแบบ
การประกอบอาชีพรับจัดทำงานจักรสานปิ่นโตจากไม้ไผ่ 3. ฝึกทักษะการประกอบอาชีพ - เรียนรู้จากวิทยากร - เรียนรู้ด้วยตนเอง จากสื่อต่าง ๆ แหล่งเรียนรู้ ผู้รู้ - เรียนรู้จากการลงมือปฏิบัติจริง - เรียนรู้จากกลุ่ม เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ กณฑ์การประเมิน ผู้เข้าร่วมอบรมต้องมีเวลาเรียนและทำแบบทดสอบไม่ต่ำกว่า 80% และทำกิจกรรมทุกหัวข้อของ หลักสูตรจึงจะได้รับวุฒิบัตรจากหลักสูตร ระยะเวลาของหลักสูตร จำนวน 1 วัน ฝึกอบรมวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 08.30-16.00 น. ค่าลงทะเบียน ฟรี สถานที่จัดสัมมนา ตึก 38 คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ห้องปฏิบัติการสาขาสังคมศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ คณะกรรมกามรบริหารหลักสูตร 1.ดร.ภัทระ อินทรกําแหง อาจารย์ผู้สอนรายวิชาการพัฒนาหลักสูตรสังคมศึกษา 2.นางสาวชมพูนุช สีวะสุทธิ์นักศึกษาชั้นปีที่ 2 สาขาสังคมศึกษา
วิธีการรับสมัคร 1.แบบลงทะเบียน ลิ้งแบบลงทะเบียน https://forms.gle/bDSQmVFS1bsAfmJP8 2.แบบประเมินความพึ่งพอใจ ลิ้งแบบประเมินความพึ่งพอใจ https://forms.gle/xnCAfwKVoA7p5JNp9 3.แบบทดสอบ ลิ้งแบบทดสอบ https://forms.gle/A52HLv9by2tWUkBR7
เกียรติบัตรสำหรับผู้ที่ผ่านการอบรม
ประวัติวิทยากร สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นางสาวชมพูนุช สีวะสุทธิ์ เบอร์ 0643971825 Line ID 0643971825 E-mail [email protected]