The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ใช้ในการอบรมภายในเท่านั้น

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by wuttichp, 2022-05-30 01:03:37

Art & Science for Storytelling_R1

ใช้ในการอบรมภายในเท่านั้น

Art & Sciences 1
for Storytelling

ศาสตร์และศลิ ป์ทักษะเรือ่ งเล่า
ท่ีสรา้ งการจดจํา

E-Learning

Art & Science of Storytelling

บทนํา

หลกั สตู ร ศาสตร์และศลิ ป์ ทกั ษะเร4ืองเลา่ ที4สร้างการจดจํา (Art and Sciences for Storytelling) เป็นหลกั สตู ร เรียนรู้แบบ e-Learning
ที4จะให้ผ้เู ข้าอบรมได้เรียนรู้ถงึ หลกั และเทคนิคตงัK แตก่ ารเตรียมการ ตลอดจนถงึ การเลา่ เรื4อง เพื4อให้เกิดความจดจําหรือเปลย4ี นแปลงพฤตกิ รรม โดยเน้นการ
นําไปใช้ได้จริง โดยมีเครื4องมือ พร้อมตวั อยา่ ง ประกอบ

หลกั การเรียนรู้ ซงึ4 เป็นหวั ใจสาํ คญั เพื4อให้หลกั สตู รประสบความสาํ เร็จสงู สดุ ประกอบด้วย ขนัK ตอนท4ีสาํ คญั 4 ขนัK ตอน

View Work 01 การรับชมคลปิ วิดีโอหลกั สตู ร (View) พร้อมทําแบบทดสอบ ให้เสร็จสนิ K ตลอดหลกั สตู ร
02 การนําเครื4องมือการเลา่ เรื4อง ศกึ ษากลมุ่ เปา้ หมาย จดั ทําโครงร่างของการเลา่ เรื4อง (Work)
Mirror Show 03 นําเสนอเรื4องเลา่ (Show)
04 ประเมินผลการเลา่ เร4ืองพร้อมปรับปรุงเพื4อปฏิบตั ใิ นครังK ตอ่ ไป (Mirror)

4 กุญแจสําคญั สู่ความสาํ เร็จของหลกั สตู ร
(4 Keys to success about this course)

AArrtt&&SScciieenncceefofrSSttoorryytteellliinngg 3

เนือ( หาหลักสูตร ระยะเวลา (นาท)ี

เนือ$ หาของหลักสูตร 10.00
บทนํา
แนะนําหลกั สตู รโดยผ้บู ริหารกระทรวงสาธารณสขุ 05.00
ภาพรวมหลกั สตู ร 05.00
บททีC 1 Why do we tell story? 14.30
1.1 ทําไมต้อง “เรCืองเลา่ ”
4
• รอบตวั เรา ล้วนมีเรCืองเลา่
• วตั ถปุ ระสงค์ของเรCืองเลา่
1.2 เรCืองเลา่ กบั งานนกั บริหารสาธารณสขุ
• เรCืองเลา่ ทCีดี ประกอบด้วย 4 มิติ (ความบนั เทิง, ความรู้, ความเป็นสากล, นา่ จดจํา)
• เรCืองเลา่ (Storytelling) เครCืองมือชว่ ยผ้บู ริหารสาธารณสขุ ด้านใดบ้าง

Art & Science for Storytelling

เนือ$ หาของหลักสูตร ระยะเวลา (นาท)ี
บทท;ี 2 What is storytelling? 12.30
2.1 ความหมายและความเข้าใจ เกCียวกบั เรCืองเลา่
22.30
• ความหมาย-ความเชืCอและเรืCองจริง ของเรCืองเลา่
• ข้อดีและข้อจํากดั ของเทคนิคการเลา่ เรืCอง 8.30
2.2 องค์ประกอบของเรCืองเลา่
• สงCิ สาํ คญั ทCีต้องมีของเรCืองเลา่ 5
• ประเภทของแก่นเรCืองหลกั (Theme) ทีCสามารถนํามาเป็นเรืCองเลา่
บทท;ี 3 The Storytelling process
3.1 ขนัj ตอนทีC 1 : รู้รอบก่อนเลา่ (Surround)
3.2 ขนัj ตอนทCี 2 : เลอื กแก่นเรCืองเลา่ (Task)
3.3 ขนัj ตอนทCี 3 : ปรุงสตู รเรCืองเลา่ (Element)
3.4 ขนัj ตอนทCี 4 : ซ้อมโครงเรืCอง (Prepare)
3.5 ขนัj ตอนทCี 5 : เลา่ เรCือง (Showtime)
บทท;ี 4 How to make a good story?
4.1 เทคนิคการเลา่ เรCืองทCีสะกดคนฟัง
4.2 4 เรCืองทีCต้องจดั การให้ได้ของ Storyteller

Art & Science for Storytelling

เนือ$ หาของหลักสูตร ระยะเวลา (นาท)ี
บทท;ี 5 Storytelling Resources 5.00
5.1 แหลง่ ข้อมลู ของเรืCองเลา่ 5.15

• คลงั เรืCองเลา่ = คลงั สมบตั ิ แบบประเมิน
• ขดุ หาทองของเรCืองเลา่
• การจดั ระบบข้อมลู เรืCองเลา่ เรืCองธรรมดาทีCไมธ่ รรมดา
• เครCืองมือชว่ ยในการเลา่ เรืCอง (Storytelling Canvas)
แบบทดสอบความรู้ก่อน-หลังการอบรม (Pre-Post Test)
แบบทดสอบความรู้ก่อน-หลงั การอบรม (Pre-Post Test)

======================================================

Art & Science for Storytelling 6

º·¹Ó 7

Art & Science for Storytelling

แนะนําหลกั สตู ร แนะนําหลักสูตรโดยผู้บริหาร จํานวน 1 คลปิ ความยาว 05.15นาที
โดยผ้บู ริหาร คุณ……
(ตําแหนง่ ……….)
ดร.สุดคะนึง ฤทธkิฤาชัย
ผ้อู ํานวยการวิทยาลยั บริหารสาธรณสขุ “ ”NONONONONONONONONONONONONONO
NONONONONONONONONONONONONONO
NONONONONONONONONONONONONONO
NONONONONONONONONONONONONONO
NONONONONONONONONONONONONONO
NONONONONONONONONONONONONO

Art & Science of Storytelling

ภาพรวมหลักสูตร จํานวน 1 คลปิ ความยาว 05.00 นาที

ภาพรวมหลกั สตู ร ภาพรวมเนือ$ หา
• แนะนําหลกั สตู ร เนือj หา 5 บทเรียน พร้อมจดุ นา่ สนใจของเนือj หา

• กญุ แจสาํ คญั สคู่ วามสาํ เร็จของหลกั สตู ร

ลาํ ดบั ภาพ / Storyboard เนือ$ หา เวลา (นาท)ี สไลด์
บทนํา 05.00 4-8

ภาพรวมหลักสูตร ภาพรวม : ทกั ทายและเกริCนให้เหน็ ภาพรวมเนือj หาทงัj หมดในหลกั สตู ร
1 ภาพ : Long Shot
เสียง : Fade In เสยี งบรรเลงเร้าใจและเปลยีC นเป็นดนตรีคลอเบาๆ
2
บทพดู :
สดุ ท้าย เตา่ ทCีแสนเชืCองช้า ก็สามารถเข้าเส้นชยั ได้ก่อน เจ้ากระตา่ ยทCีปราดเปรียว นิทานเรCืองนี j

สอนให้รู้วา่ ความประมาท ยอ่ มทําให้เกิดความเสยี หายและผิดพลาดได้ เหมือนนิทานกระดา่ ยกบั เตา่ ทีC
เลา่ มาแล้วนนCั เอง..

ภาพ : Medium Shot
เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงเร้าใจและคลอเบาๆ
บทพดู :

หลายๆทา่ นอาจจะเคยได้ยิน นิทานอิสป เรCือง กระตา่ ยกบั เตา่ ทีCต้องการจะสอCื กบั เราวา่ ให้
ดํารงตนอยดู่ ้วยความไมป่ ระมาท หลายๆทา่ นก็อาจจะนกึ วา่ นิทานคือวิธีการเลา่ เรืCองและ สรุปกลบั ไป
ยงั สงCิ ทีCเราต้องการจะสอCื สารกบั ผ้ฟู ัง ซงึC เป็นความคดิ ทCีไมผ่ ิดนะครับ แต.่ . ผมจะมาบอกวา่ เราสามารถทีC
จะมีเทคนิควิธีการเลา่ เรืCองได้อีกหลากหลายวิธี ทCีจะทําให้ผ้ฟู ังของเรา ทีมของเรา หรือลกู ค้าของเรา
สามารถเข้าใจ เข้าถงึ และปฏิบตั ติ าม สงCิ ทีCเราต้องการจะสอCื สารออกไปได้

Art & Science of Storytelling

ลาํ ดบั ภาพ เนือ$ หา เวลา (นาท)ี สไลด์
บทนํา 10 1-20

ภาพรวมหลักสูตร ภาพ : Medium Shot
3 เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงเร้าใจและคลอเบาๆ
บทพดู :
4
5 สวสั ดีครับ ผม ดร.วฒุ ิชยั ผาสขุ กานนท์ หรือ โค้ชเอกกี j– โค้ชและวิทยากรหลกั สตู รด้านการ
สอืC สาร, ทกั ษะผ้นู ํา, CEO ของสถาบนั ใบลานแหง่ การเรียนรู้

ในหลกั สตู รนี jผมจะพาพวกเรามาเรียนรู้ศาสตร์และศลิ ป์ ของ “เรืCองเลา่ ” หรือ Storytelling
เครืCองมือทCีเป็น ทกั ษะการนําเสนอของนกั บริหาร วิธีการทีCได้รับการยอมรับและนิยมใช้กนั อยา่ งมาก
กลา่ วกนั วา่ เรCืองเลา่ คือ ทกั ษะของผ้นู ําทCีต้องมีกนั เลยทีเดียวครับ

ภาพ : Medium Shot
เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงเร้าใจและคลอเบาๆ
บทพดู :

ในหลกั สตู ร “ศาสตร์และศลิ ป์ ทกั ษะเรืCองเลา่ ทีCสร้างการจดจํา" นี jได้รวมทกุ อยา่ งไว้ให้กบั นกั
บริหาร ผ้นู ํา ผ้ทู Cีสนใจด้านนีไj ว้อยา่ งครบถ้วน โดยหลกั สตู รนี jประกอบด้วยเนือj หา 5 บท

1) Why do we tell story? ทําไมต้อง เรCืองเลา่ : วา่ กนั ตงัj แตค่ วามสาํ คญั ของเรCืองเลา่ ทําไม
เรืCองเลา่ จงึ สาํ คญั ไมไ่ ด้เป็นสงCิ ไกลตวั เพราะสงCิ นี jความเป็นจริงอยรู่ อบตวั เรา หรือเรียกได้วา่ รอบตวั เรา
ล้วนมีแตเ่ รCืองเลา่ ทงัj สนิ j แล้วทําไมเราจะไมเ่ รียนรู้เทคนิควิธีการนี jแล้วนํามาใช้ให้เกิดประโยชน์

ภาพ : Medium Shot
เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงเร้าใจและคลอเบาๆ
บทพดู :

ทีCสาํ คญั เรCืองเลา่ จะเป็นเครCืองมือชว่ ยนกั บริหารสาธารณสขุ ด้านใดได้บ้าง เรียนเรียนรู้
หลกั สตู รนีแj ล้ว เอาไปใช้ในเรCืองใดได้บ้าง ในบทนี jก็จะบอกถงึ ข้อดี เพCือประโยชน์การนําไปใช้ของทา่ น
นกั บริหารอีกด้วย

Art & Science of Storytelling 10

ลาํ ดบั ภาพ เนือ$ หา เวลา (นาท)ี สไลด์
บทนํา 10 1-20

ภาพรวมหลักสูตร ภาพ : Medium Shot
6 เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงเร้าใจและคลอเบาๆ

บทพดู :
2) What is storytelling? : ความหมายและความเข้าใจเกีCยวกบั เรืCองเลา่ อะไรเป็นความเชCือ

อะไรเป็นความจริง ข้อดีและข้อจํากดั ของเรืCองเลา่ รวมถงึ องค์ประกอบของเรCืองเลา่ วา่ ต้องมี
สว่ นประกอบอะไรบ้าง ในบทนีจj ะมีตวั อยา่ งของแก่นเรCือง (Theme) สาํ หรับเป็นโครงเรCือง ทCีเราสามารถ
นํามาสร้างเป็นเรCืองเลา่ ของเราได้ สว่ นนีกj ็จะเป็นประโยชน์กบั นกั บริหารทกุ ทา่ นเป็นอยา่ งมากครับ

7 ภาพ : Medium Shot
8 เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงเร้าใจและคลอเบาๆ

บทพดู :
3) The Storytelling Process : ขนัj ตอนของการสร้าง เรืCองเลา่ ตงัj แตก่ ระบวนการศกึ ษากลมุ่

ผ้ฟู ังของเรา จนถงึ เมCือเราต้องขนึ j เวทีไปเลา่ เรืCอง บทนีเjป็นบทใหญ่ ทCีจะมีข้อมลู เทคนิค วิธีการ ทีCนกั
บริหารนําไปใช้ได้เป็นอยา่ งดี

ภาพ : Medium Shot
เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงเร้าใจและคลอเบาๆ

บทพดู :
4) How to Make a good Story? : เทคนิคและเครืCองมือสาํ หรับการเลา่ เรืCองทีCสะกดคนฟัง

และสงิC ทีCนกั เลา่ เรCืองหรือ Storyteller ต้องบริหารจดั การเพืCอให้เรCืองเลา่ ของเรา มีประสทิ ธิภาพมากทีCสดุ

Art & Science of Storytelling 11

ลาํ ดบั ภาพ เนือ$ หา เวลา (นาท)ี สไลด์
บทนํา 10 1-20

ภาพรวมหลักสูตร ภาพ : Medium Shot
9 เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงเร้าใจและคลอเบาๆ

บทพดู :
5) Storytelling Resources : แหลง่ ข้อมลู ของเรCืองเลา่ คลงั เรCืองเลา่ = คลงั สมบตั ิ เราจะหา

แหลง่ วตั ถดุ บิ เพืCอนํามาสร้างเรืCองเลา่ ได้จากไหนบ้าง ทีCสาํ คญั คือ เมืCอได้ข้อมลู ดบิ สาํ หรับการเลา่ เรCือง
แล้ว เราจะจดั การระบบข้อมลู เรCืองเลา่ ของเรา ทีCสามารถสบื ค้นและค้นหาได้เมCือยามทCีเราต้องการได้
อยา่ งรวดเร็วได้อยา่ งไร มีวิธีไหนได้บ้าง บทนีมj ีคําตอบให้

10 ภาพ : Medium Shot
11 เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงเร้าใจและคลอเบาๆ

บทพดู :
ในชว่ งท้ายของบทจะเป็นการสรุปเนือj หาทงัj หมดและมีเครCืองมือสาํ คญั คือ Storytelling

Canvas เครืCองมือทCีจะชว่ ยในการเขียนเรืCองเลา่ ด้วยกระดาษแผน่ เดียว รับรองยงั ไมม่ ีทีCไหนมาก่อน มี
ในหลกั สตู รนีทj Cีเดียว Storytelling Canvas จะชว่ ยผ้บู ริหาร รวบรวมความคดิ เขียนร่าง รวมถงึ การ
ทอ่ งจํา เพCือเข้าใจในเนือj หาก่อนจะนําเสนอได้อยา่ งมนCั ใจ

ภาพ : Medium Shot
เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงเร้าใจและคลอเบาๆ

บทพดู :
แนน่ อนวา่ ในหลกั สตู รนี jจะมีแบบทดสอบความรู้ความเข้าใจ ก่อนและหลงั การเรียนรู้ด้วย

เชน่ กนั ขอให้นกั บริหารและผ้นู ําทกุ ทา่ น เรามาเป็นเตา่ ทCีไมห่ ยดุ เดนิ ไมห่ ยดุ ทCีจะเรียนรู้เรCืองราวใหมๆ่
และเราจะเข้าเส้นชยั ด้วยความสาํ เร็จ ดงั นิทานอิสป เรCืองกระตา่ ยกบั เตา่ ทีCเป็นบทเรียนสอนเราได้เป็น
อยา่ งดีครับ

ถ้าพวกเราพร้อมแล้ว เรามาเรCิมกนั เลยครับ

Art & Science of Storytelling 12

º··่Õ1 Why do we tell story?

Art & Science for Storytelling 13

บทท;ี 1 Why do we tell story จํานวน 2 คลปิ ความยาว 10.30 นาที

1 Why do we tell story ภาพรวมเนือ$ หา
1.1 รอบตวั เรา ล้วนมีเรืCองเลา่
1.2 เรืCองเลา่ กบั งานผ้บู ริหารสาธารณสขุ

ลาํ ดบั ภาพ / Storyboard เนือ$ หา เวลา (นาท)ี สไลด์
1.1 ทาํ ไมต้อง ”เร;ืองเล่า” 14.30 1-20

1.1.1 รอบตวั เรา มีเร;ือเล่า ภาพ : Medium Shot ตวั สไลด์ ตดั สลบั หน้าวิทยากร
1 เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงเร้าใจและคลอเบาๆ
บทพดู :
2
เพลโต นกั ปรัชญาชาวกรีกโบราณ กลา่ วไว้ เมืCอกวา่ สองพนั ปีมาแล้ววา่ “ผ้เู ลา่ เรCืองครองโลก”
¥.qiY!É÷•{§¥ ซงึC หมายถงึ วา่ ใครก็ตามทีCสามารถเลา่ เรืCองได้ดี บคุ คลนนัj อาจสามารถครองโลกได้ และนีCจงึ ทําให้การ
เลา่ เรCือง ซงCึ เป็นหนงCึ ในวิชาวาทวิทยา ได้รับการบรรจใุ ห้เป็นทกั ษะทีCคนชนชนัj สงู หรือผ้นู ําต้องเรียนรู้ และ
☐ Inform ให้ความสาํ คญั จากอดีต จนถงึ ปัจจบุ นั และยCิงจะมีแนวโน้มสาํ คญั มากขนึ j ในยคุ Disruptive ตอ่ จากนีไj ป

ภาพ : Long Shot
เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงเร้าใจและคลอเบาๆ

storytellingบทพดู :
เรCืองเลา่ ขยายวงกว้างไปยงั เรCืองธรุ กิจ การขายสนิ ค้าและบริการ ทีCการบอกหรือพดู ถงึ จดุ ดี
แบบ Hard sale ไมใ่ ชอ่ ีกตอ่ ไป แตเ่ ป็นการขายด้วยการเลา่ เรืCอง ตวั อยา่ งเชน่ ร้านกาแฟ Starbucks เค้า
บอกวา่ เค้าไมไ่ ด้ขายกาแฟ แตเ่ ค้าขายบรรยากาศและกาแฟสาํ หรับคนรักกาแฟจริงๆ ผา่ นการเลา่ เรCือง
ตงัj แตก่ ารได้มาของเมลด็ พนั ธ์กาแฟ ทCีให้โอกาสประเทศโลกทCี3 การตกแตง่ ร้านทีCเน้น แสง สี ละเอียด
แม้กระทงัC กลนCิ และเพลงทCีเปิดในร้าน ทีCผา่ นการคดิ และวิจยั มาแล้วสาํ หรับการฟังเพืCอพกั ผอ่ นเพืCอลยุ
งานตอ่ ของคอกาแฟทงัj หลาย ทงัj หมดนี jคือ ผา่ นการเลา่ เรืCอง และแนน่ อนวา่ สงCิ เหลา่ นนัj ทําให้สาวก
ของร้านกาแฟนี jพร้อมจา่ ยในราคาทีCสงู ขนึ j

Art & Science of Storytelling

ลาํ ดบั ภาพ เนือ$ หา เวลา (นาท)ี สไลด์
1.1 ทาํ ไมต้อง ”เร;ืองเล่า” 14.30 1-20

1.1.1 รอบตวั เรา มีเร;ือเล่า ภาพ : medium Shot
3 เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงเร้าใจและคลอเบาๆ

บทพดู :
ผ้นู ําองค์กรอยา่ ง สตีฟจอบส์ คือนกั เลา่ เรืCองระดบั ตํานาน การเลา่ เรืCองของเค้า ทําให้การใช้

งานเครืCองคอมพิวเตอร์ดงู า่ ย สะดวก และนา่ ตืCนเต้น สง่ ผลให้ผ้คู นเชืCอและปฏิบตั ติ าม แนน่ อนวา่ ใน
เชิงธรู กิจยอ่ มสร้างยอดขายให้ได้อยา่ งมหาศาล

4 storytelling ภาพ : Medium Shot
เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงเร้าใจและคลอเบาๆ
Y!É÷•{§¥
บทพดู :
m โดยสรุปจะเหน็ ได้วา่ เรืCองเลา่ นี jอยรู่ อบตวั เราจริงๆ ผ้บู ริหารและผ้นู ํา ตา่ งใช้ เรืCองเลา่ มาชว่ ย

÷÷:dertain สร้างพลงั ของการนําเสนอ ได้ประสบความสาํ เร็จมาแล้ว ดงั นนัj ในหลกั สตู รวนั นี jก็จะทําให้เราได้เป็นนกั
เลา่ เรืCองหรือ Storyteller ทีCสร้างการจดจําด้วยกนั ขอเชิญตดิ ตามได้ครับ

Art & Science of Storytelling 15

.qiY!É÷•{§¥¥ลาํดบั ภาพ storyteเนือ$ lหlาing เวลา (นาท)ี สไลด์
14.30 1-20
1.1 ทาํ ไมต้อง ”เร;ืองเล่า”
1.1.2 วัตถุประสงค์ของเร;ืองเล่า ภาพ : Long Shot
5 เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงเร้าใจและคลอเบาๆ

☐ Inform บทพดู :
ทีนีเjรามาฟังกนั วา่ ในทกุ ๆเรืCองเลา่ มีวตั ถปุ ระสงค์อะไรกนั บ้าง ซงึC ผมจะบอกวา่ ในทกุ เรCือง
L÷÷:d☐ Entertain
☒⑧ ต้องมีวตั ถปุ ระสงค์ไมข่ ้อใด ข้อหนงึC ในนีอj ยา่ งแนน่ อน
1) ข้อแรกคือ เลา่ เรืCองเพCือให้ข้อมลู ความรู้ ข้อเทจ็ จริง การเลา่ เรืCองจะชว่ ยสร้างการจดจําได้

ยาวนานกวา่ มีอารมณ์ร่วมได้มากวา่ การพดู คยุ ให้ฟังกนั แบบเดมิ

6 ภาพ : Medium Shot
เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงเร้าใจและคลอเบาๆ

บทพดู :
2) เลา่ เรืCองเพCือชกั จงู ใจให้ทําสงิC ใด วตั ถปุ ระสงค์ข้อนี jต้องมีการจดั เตรียมองค์ประกอบของการ

เลา่ เรCืองให้ดี มีเหตผุ ลและความสมเหตสุ มผล จนผ้ฟู ังเรืCองเลา่ จากเรา พร้อมทีCจะลองเปลยีC นพฤตกิ รรม
3) เลา่ เรืCองเพCือความสนกุ บนั เทิง ไมเ่ น้นสาระ ข้อนีเjน้นเอาฮา ให้ยิมj ให้มีความสขุ การเลา่

เรCืองก็จะชว่ ยสร้างสสี นั ให้เรCืองทCีเลา่ ออกรสออกชาดได้ดียิCงขนึ j
แนน่ อนวา่ เรืCองเลา่ แตล่ ะเรCืองของเรา ไมจ่ ําเป็นต้องมีเพียงวตั ถปุ ระสงค์เดียว อาจรวมกนั

มากกวา่ 1 วตั ถปุ ระสงค์กนั ได้

7 ภาพ : Medium Shot

เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงเร้าใจและคลอเบาๆ

BAR ◦ BoQ บทพดู :
ตวั อยา่ งรอบตวั เราหลายเรCือง ล้วนเกิดจากเรCืองเลา่ เชน่ BBQ Plaza ก็เป็นตวั อยา่ งนงึ ทCีเลา่ ถงึ
6¥ -PLAZA
กวา่ จะมาเป็นนําj จิมj สตู รเดด็ ของร้าน มีทีมา-อยา่ งไร มีเครCืองปรุงกีCอยา่ งกนั บ้าง สตู รลบั นําj จิมj ทีเดด็ ซงึC

แนน่ อนวา่ นอกจากจะได้ทงัj ความรู้ ความบนั เทิงแล้ว เหนือสงิC อืCนใด เค้าต้องการให้เราลองไปชิมนําj จิมj

นีดj ู ซงึC แคมเปญนี jประสบความสาํ เร็จมาก จนกระทงัC ตอ่ ยอดแคมเปญสนัj ๆการขายนําj จิมj ตามมา

Art & Science of Storytelling 16

iY!É÷•{§¥¥ ลาํดบั storyภtาพelling เนือ$ หา เวลา (นาท)ี สไลด์
14.30 1-20
1.1 ทาํ ไมต้อง ”เร;ืองเล่า”

1.1.3 ข้อด-ี ข้อจาํ กัดของเทคนิคเร;ืองเล่า

rm 8 ภาพ : Long Shot
เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงและคลอเบาๆ
÷÷:dertain บทพดู :
☒⑧
เทคนิคเรCืองเลา่ มีทงัj ข้อดีและข้อจํากดั ผมจะพาพวกเราดกู นั ครับวา่ มีอะไรบ้าง
9 ข้อดีของเทคนิคการเลา่ เรืCอง
1) ถ่ายทอดความรู้ทีCมีอยใู่ นตวั เราออกมาได้ดี (Tacit Knowledge) เพราะเมCือเราเลา่ เรืCอง จะ
10 ประกอบด้วยบริบท เชน่ คน เหตกุ ารณ์ สถานทCี อาการ บรรยากาศตา่ งๆทCีเกีCยวข้อง แล้วมาผา่ นเรCืองเลา่
วิธีนีจj ะดีกวา่ วิธีอืCน เนืCองจากตวั เรามีประสบการณ์นนัj อยา่ งเชีCยวชาญแท้จริง
พดู งา่ ยๆคือ เราสามารถถ่ายทอดประสบการณ์ของเราทีCตกผลกึ แล้ว ด้วยเทคนิควิธีการนี jจะ
ทําได้ดี ทําให้เรCืองเลา่ ของเรามีชีวิต มีพลงั

ภาพ : Medium Shot
เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงเร้าใจและคลอเบาๆ
บทพดู :

2) สร้างความเป็นกนั เองได้ดี เพราะการเลา่ เรืCองเป็นการเลา่ ผา่ นข้อมลู สว่ นตวั ของตวั ผ้เู ลา่ มี
ปริมาณทีCมากพอหลากหลายมิติ ทําให้ผ้ฟู ังรู้จกั ตวั ตนของเรา ผา่ นเรCืองเลา่ เหน็ สหี น้า ทา่ ทาง อารมณ์
กระบวนการคดิ ตดั สนิ ใจ ทงัj หมดนีทj ําให้เค้าเหน็ ถงึ ตวั ตนและเกิดความไว้ใจขนึ j ระหวา่ งผ้เู ลา่ และผ้ฟู ัง

ภาพ : Medium Shot
เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงเร้าใจและคลอเบาๆ
บทพดู :

3) สร้างการมีสว่ นร่วมได้ดี เพราะผ้ฟู ังจะเรียนรู้ผา่ นประสบการณ์ของผ้เู ลา่ ผ้ฟู ังจะมีสว่ นร่วม
อยา่ งกระตือรือร้น เพราะได้เหน็ ภาพได้ชดั เจนทําให้วิเคราะห์เรืCองได้งา่ ย และเกิดการมีสว่ นร่วมกบั ผ้เู ลา่
เรCืองได้งา่ ยด้วยเชน่ กนั

Art & Science of Storytelling 17

ลาํ ดบั ภาพ เนือ$ หา เวลา (นาท)ี สไลด์
1.1 ทาํ ไมต้อง ”เร;ืองเล่า” 14.30 1-20

1.1.3 ข้อด-ี ข้อจาํ กัดของเทคนิคเร;ืองเล่า ภาพ : Medium Shot
11 เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงและคลอเบาๆ

12 บทพดู :
4) สร้างการเปลยีC นแปลงในตวั ผ้ฟู ัง เพราะเรืCองเลา่ สร้างตวามสนใจ หลงใหลให้กบั ผ้ฟู ัง
13
สามารถเข้าถงึ สมองสว่ นทีเป็นเหตเุ ป็นผลและสว่ นทีCเป็นอารมณ์ได้ดี สง่ ผลให้เรืCองเลา่ นนัj สามารถ
เปลยCี นแปลงกรอบแนวคดิ และพฤตกิ รรม กระต้นุ ให้เกิดการคดิ และความคดิ สร้างสรรค์ใหมข่ นึ j มาได้

ภาพ : Close Up
เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงและคลอเบาๆ

บทพดู :
เรืCองเลา่ (Storytelling) เป็นเทคนิคทCีสามารถนําไปใช้ในการนําเสนอได้อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ

แตอ่ ยา่ งไรก็ดี เรCืองเลา่ เปรียบเหมือนเหรียญ 2 ด้าน เนืCองจากแม้จะมีข้อดี แตก่ ็มีข้อจํากดั ของเทคนิค
เรCืองเลา่ ทีCต้องศกึ ษาและเรียนรู้อยเู่ ชน่ กนั และมีอยา่ งไรบ้าง จะขอสรุปให้เหน็ แนวทางได้ดงั นี j

ภาพ : Medium Shot
เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงและคลอเบาๆ

บทพดู :
เริCมจากข้อดี ของเทคนิคเรCืองเลา่

1) ถ่ายทอดความรู้ทCีมีอยใู่ นตวั เราออกมาได้ดี (Tacit Knowledge) เพราะเมืCอเราเลา่ จะ
ประกอบด้วยบริบท เชน่ เหตกุ ารณ์, อาการ, บรรยากาศตา่ งๆ ทีCเกCียวข้อง แล้วผา่ นมายงั เรCืองเลา่
ซงึC วิธีนีจj ะดีกวา่ วิธีอืCน เพราะตวั เรามีประสบการณ์ในเรืCองนนัj อยา่ งแท้จริง

Art & Science of Storytelling 18

ลาํ ดบั ภาพ เนือ$ หา เวลา (นาท)ี สไลด์
1.1 ทาํ ไมต้อง ”เร;ืองเล่า” 14.30 1-20

1.1.3 ข้อด-ี ข้อจาํ กัดของเทคนิคเร;ืองเล่า ภาพ : Medium Shot
14 เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงและคลอเบาๆ

15 บทพดู :
2) สร้างสายสมั พนั ธ์ทีCดี เพราะการเลา่ เรืCอง สร้างความเป็นกนั เอง ความไว้ใจระหวา่ งผ้เู ลา่ และ
16
ผ้ฟู ังได้ดี ก่อให้เกิดสายสมั พนั ธ์ทCีดีให้เกิดขนึ j ได้

ภาพ : Medium Shot
เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงและคลอเบาๆ
บทพดู :

3) สร้างการเปลยีC นแปลงในตวั ผ้ฟู ังได้ สามารถสร้างการเปลยีC นกรอบแนวความคดิ และ
พฤตกิ รรมของคน เป็นการกระต้นุ สมองสว่ นเหตผุ ล และอารณ์ ทําให้เกิดความคดิ สร้างสรรค์ได้ดี

ภาพ : Medium Shot
เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงและคลอเบาๆ
บทพดู :

4) สร้างการมีสว่ นร่วม เพราะเป็นการเรียนรู้จากประสบการณ์ ก่อให้เกิดการตืCนตวั เพราะเหน็
ภาพตวั อยา่ งและบรรยากาศภาพชดั เจน

Art & Science of Storytelling 19

ลาํ ดบั ภาพ เนือ$ หา เวลา (นาท)ี สไลด์
1.1 ทาํ ไมต้อง ”เร;ืองเล่า” 14.30 1-20

1.1.3 ข้อด-ี ข้อจาํ กัดของเทคนิคเร;ืองเล่า ภาพ : Long Shot
17 เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงและคลอเบาๆ
บทพดู :
!#" $%&(' )*+,+- )./#0 1)230
ข้อจํากดั ของเทคนิคเรืCองเลา่
q !"#$%&'$()*+,(%- 1) เทคนิคเรCืองเลา่ ต้องใช้เวลาในการเตรียมการก่อนนําไปใช้ เพราะต้องผา่ นการออกแบบ
q$&/. 00&12,35#4 6- วางแผนเพCือต้องการให้ออกมาได้ตามเปา้ หมายทCีตงัj ไว้ ซงึC บางครังj อาจจะถกู มองวา่ เป็นงานทCีเพิCมมาก
q$789:8;/63#4$&'2 $)/2. 6 ขนึ j โดยในความจริง ก็อาจจะเป็นเชน่ นนัj แตใ่ ห้มองถงึ ผลลพั ธ์ทCีออกมาจะมีประสทิ ธิผล ค้มุ คา่ อยา่ ง
18 แนน่ อน

19 ภาพ : Medium Shot
เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงและคลอเบาๆ
บทพดู :

2) เทคนิคการเลา่ เรCือง อาจจะไมเ่ หมาะกบั กลมุ่ ผ้ฟู ังในบางสไตล์ หากอ้างอิงหลกั การของ
VASK ก็จบวา่ สไตล์ของผ้ฟู ังก็จะแตง่ ตา่ งกนั ไป เชน่ บางทา่ นต้องการเรียนรู้แบบเหน็ เป็นภาพ Visual) ,
บางกลมุ่ ก็ชอบเรียนรู้ผา่ นการฟัง(Auditory) , บางกลมุ่ ชอบเรียนรู้ผา่ นการอา่ น (Read) และบางกลมุ่
ชอบเรียนรู้ด้วยการลงมือกระทํา (Kinesthetic) โดยกลมุ่ ทCีชอบเรียนรู้ผา่ นการฟัง ก็จะชอบเทคนิคเรืCอง
เลา่ เป็นพิเศษ หากสไตล์ผ้เู รียนถนดั เรืCองลงมือทํามากกวา่ ก็อาจจําทําให้เกิดความรู้สกึ ไมอ่ ยากฟังเรCือง
เลา่ นนัj ก็เป็นได้ ดงั นนัj การใช้เทคนิคเรืCองเลา่ ต้องสอดคล้องกบั การวิเคราะห์กลมุ่ ผ้ฟู ังของเราด้วย

ภาพ : Medium Shot
เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงและคลอเบาๆ
บทพดู :

3) เทคนิคเรืCองเลา่ เป็นเครืCองมือหรือเทคนิคของผ้เู ลา่ มากกวา่ ผ้เู รียน สง่ ผลให้การจดั การ
เรียนการสอนถกู มองวา่ ไมไ่ ด้เน้นทCีผ้เู รียนเป็นจดุ ศนู ย์กลางของการเรียนรู้ แตเ่ น้นทCีผ้สู อนหรือผ้เู ลา่
มากกวา่ โดยหากเลอื กเทคนิคนีไj มต่ รงกบั กลมุ่ เปา้ หมายทCีชอบแบบนี jทําให้เรCืองเลา่ ไมไ่ ด้ผลเทา่ ทCีควร

Art & Science of Storytelling 20

ลาํ ดบั ภาพ เนือ$ หา เวลา (นาท)ี สไลด์
1.2 เร;ืองเล่ากับงานผู้บริหารสาธารณสุข 14.30 1-20

1.2.1 เร;ืองเล่าท;ดี ี ประกอบด้วย 4 มติ ิ ภาพ : Long Shot สไลด์ภาพรวมของ 4 มิติ
20 4 !#" "$%'(& )$*+' เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงเร้าใจและคลอเบาๆ
บทพดู :
Entertain Education Universal Memorable
เรืCองเลา่ ทCีดี ทีCยอมรับกนั วา่ จะประสบความสาํ เร็จ หมายถงึ ประทบั ใจ จบั ใจ สร้างการจดจํา
izFWGÑg 7nÑ7ÑnN- no>guar - - ได้ดีนนัj ควรมี 4 มิตนิ ี jซงึC ประกอบด้วย
1. ความบนั เทิง (Entertain)
21 2. ให้ความรู้ (Education)
3. เรืCองทีCเลา่ มีความเป็นสากล (Universal)
22 4. สร้างการจดจํา (Memorable)

ภาพ : Medium Shot
เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงเร้าใจและคลอเบาๆ
บทพดู :

สาํ หรับมิตแิ รกทCีจะขอพดู ถงึ คือ เรืCองของความสนกุ ความบนั เทิง เพราะเป็นเรืCองทCีสร้างการ
ชวนตดิ ตามได้ดีมาก เนCืองจากคนเรามีนิสยั ขีเjบCือ หากเรืCองทCีเราถ่ายทอดเป็นไปเรืCอยๆ เรืCองดีนะ เนือj หา
ดีจริงนะครับ แตเ่ ลา่ ในแบบเรCือยๆ มาเรียงๆ แนน่ อนวา่ ไมน่ านครับ คอพบั หลบั นก สปั หงก หลบั ไก่ กนั
เป็นแถว ดงั นนัj เรCืองเลา่ ของเรา ควรจะมีความบนั เทิงรวมอยใู่ นนนัj ด้วย

บางครังj ความบนั เทิง อาจจะไมต่ ้องมีบทพดู เลยก็ยงั ได้ ยงั สร้างการตดิ ตามและชวนจดจํา

ภาพ : Close Up
เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลง แนวตลกขบขนั และคลอเบาๆ
บทพดู :

ตวั อยา่ งของการนําเสนอเรืCองเลา่ ในมิตคิ วามบนั เทิง ให้เหน็ แนวทาง เชน่ ภาพยนตร์ชดุ Me.
Bean เป็นเรืCองเลา่ ของชายหนมุ่ คนหนงึC ทCีชCือ ”บีน” เรืCองราวของเค้าก็จะเป็นเรCืองเลา่ ของเหตกุ ารณ์
ประจําวนั ทCีบางครังj สถานการณ์เหลา่ นนัj เราก็ผา่ นมนั ไปอยา่ งไมไ่ ด้ใสใ่ จเชน่ ในห้องนําj , ในรถยนต์ แต่
Mr.Bean กลบั นําเรืCองเหลา่ นนัj มาเลา่ ได้อยา่ งนา่ สนใจ ในมิตคิ วามบนั เทิงกบั ผ้คู น ได้เป็นอยา่ งดี

Art & Science of Storytelling 21

ลาํ ดบั ภาพ เนือ$ หา เวลา (นาท)ี สไลด์
1.2 เร;ืองเล่ากับงานผู้บริหารสาธารณสุข 14.30 1-20

1.2.1 เร;ืองเล่าท;ดี ี ประกอบด้วย 4 มติ ิ ภาพ : Long Shot
23 4 !#" $" %(&' )$*'+ เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงเร้าใจและคลอเบาๆ

Entertain Education Universal Memorable บทพดู :
ในมิตทิ Cีสอง เรCืองความรู้ (Education) ก็ขาดไมไ่ ด้เชน่ กนั ในบ้างครังj ได้จดั ให้เรืCองการให้
izFWGÑg 7nÑ7ÑnN- no>guar --
ความรู้ความเข้าใจ ไว้เป็นอนั ดบั แรกครับ
สาํ หรับ เรืCองเลา่ เป็นการนําเสนอทCีมีวตั ถปุ ระสงค์ทCีชดั เจน เป็นเปา้ หมายทCีตงัj ไว้ตงัj แตก่ ารวาง

โครงเรืCอง เพราะมิตเิ รCืองความรู้ ความเข้าใจ จะเป็นผลลพั ธ์ทCีเกิดขนึ j จากการนําเสนอเพCือประกอบการ
ตดั สนิ ใจ สกู่ ระบวนการลงมือทําของผ้ฟู ังในทCีสดุ

24 ภาพ : Medium Shot
เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงเร้าใจและคลอเบาๆ

บทพดู :
สาํ หรับมิตขิ ้อทีC 3 เรืCอง ความเป็นสากล (Universal) เรCืองเลา่ จะสามารถเข้าถงึ ผ้คู นได้ดี หาก

เรCืองทีCเลา่ มีความเป็นสากล นนัC คือเรืCองราวทีCเกCียวข้องกบั ชีวิตและวิถีการดําเนินชีวิตนนัC เอง เชน่ ความ
รัก โกรธ เกลยีC ด อาฆาต ความอดทน การล้มเหลว การประสบความสาํ เร็จ เรืCองตลก เป็นต้น เพราะทกุ
วฒั นธรรมตา่ งก็มีเรืCองราว ทกุ วฒั นธรรมในโลกตา่ งก็ใช้การเลา่ เรืCองสอCื ความหมาย เรCืองเลา่ ทCีมีความ
เป็นสากล จะไมม่ ีขอบเขตของการรับรู้และเข้าใจของผ้คู น

25 rin÷o+iÉ ภาพ : Long Shot
เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงเร้าใจและคลอเบาๆ
Barona . HEY
บทพดู :
----PLAZA-~ โรมิโอและจเู ลยี ต เรืCองเลา่ บนั ลอื โลก อนั โดง่ ดงั เป็นเรืCองราวไมซ่ บั ซ้อน ของความรักหนมุ่ สาว

ทา่ มกลางความขดั แย้งและโกรธแค้นของสองตะกลู ทCีทงัj สองไมไ่ ด้เป็นคนก่อ แตต่ ้องมารับผลทCีบีบคนัj
อยา่ งนา่ เหน็ ใจของคนรุ่นก่อน และจบด้วยโศกนาฏกรรมทCีไมม่ ีใครอยากให้เกิดขนึ j เรCืองเลา่ ของเชคส
เปียร์นี jก็จะถกู นํามาสอนเรCืองการรู้จกั ให้อภยั การปลอ่ ยวางความโกรธชงั และเรืCองนี jมีมานานเกือบ
500 ปี และเลา่ ขานกนั ไปทวCั ทงัj โลก!!

Art & Science of Storytelling 22

Barona ÷rino+iÉ เวลา (นาท)ี สไลด์
เนือ$ หา 14.30 1-20
ลาํ ดบั ¥.EE?---ภ-า-พPLAZA-~ . HEY

1.2 เร;ืองเล่ากับงานผู้บริหารสาธารณสุข ภาพ : Close Up
1.2.1 เร;ืองเล่าท;ดี ี ประกอบด้วย 4 มติ ิ เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงเร้าใจและคลอเบาๆ

26 บทพดู :
เรืCองราวของโทมสั อลั วาเอดสิ นั บคุ คลทีCล้มเหลวมาเกินกวา่ 1,000 ครังj แตท่ Cีสดุ ก็สามารถทีC
WOW
จะสร้างสงิC ยิCงใหญ่แหง่ ยคุ นนัC คือการประดษิ ฐ์หลอดไฟได้สาํ เร็จในทCีสดุ
H?i : เรCืองราวของ สตฟิ จอบส์ (Steve Jobs) CEO คนสาํ คญั ของแอลเปิลj พอ่ มดแหง่ วงการไอที ทCี

เรCืองราวความเนียj บ การใสใ่ จในรายละเอียด และกดั ไมป่ ลอ่ ยกบั สงิC ทีCทํา ยอ่ มนํามาซงCึ ผลสาํ เร็จทีCใครก็
ไมอ่ าจปฏิเสธได้

27 ภาพ : Close Up
เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงเร้าใจและคลอเบาๆ

บทพดู :
เรCืองราวเหลา่ นี jแทบจะทกุ วฒั นธรรมรับรู้และเข้าใจได้ในแทบจะทนั ที เพราะมิตขิ องเรืCองเลา่

มีความเป็นสากล ไร้กาลเวลา ขนึ j อยกู่ บั บริบทและวตั ถปุ ระสงค์ทีCเราจะนํามาใช้
ดงั นนัj มิตคิ วามเป็นสากล จงึ เป็นสงิC ทีCสร้างจิตนากร แรงบนั ดาลใจและทําให้เกิดการเข้าใจกนั

ได้ระหวา่ งผ้ฟู ังและผ้เู ลา่ เรืCอง
หรือพอจะพดู ได้วา่ การเลา่ เรCือง เป็นภาษาสากลของคนทวัC โลก

28 ภาพ : Medium Shot
เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงเร้าใจและคลอเบาๆ

บทพดู :
มิตสิ ดุ ท้ายเรCือง การนา่ จดจํา (Memorable) เรืCองเลา่ ของเราต้องสร้างการนา่ จดจําให้เกิดขนึ j

ในบ้างครังj เรียกวา่ WOW Moment ผ้คู นต้องเลา่ ขานเรืCองของเราในประเดน็ ประเดน็ หนงCึ แม้การ
นําเสนอหรือการเลา่ เรCืองของเราได้ผา่ นพ้นไปแล้ว

การสร้างการจดจํา หรือประหลาดใจนCีแหละ เป็นหวั ใจของเรืCองเลา่ อยา่ งหนงCึ ทCีทําให้เรCืองเลา่
ของเรามีประสทิ ธิภาพ นกั เลา่ เรืCองทCีดี ต้องศกึ ษาและสร้างมิตนิ ีใj ห้เกิดขนึ j ในทกุ เรCืองเลา่ ของเรา

Art & Science of Storytelling 23

ลาํ ดบั ภาพ เนือ$ หา เวลา (นาท)ี สไลด์
1.2 เร;ืองเล่ากับงานผู้บริหารสาธารณสุข 14.30 1-20

1.2.1 เร;ืองเล่าท;ดี ี ประกอบด้วย 4 มติ ิ ภาพ : Medium Shot
29 เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงเร้าใจและคลอเบาๆ

30 บทพดู :
ครังj นงึ ในเวที TED Talk บลิ ล์ เกตส์ (Bill Gates) ผ้กู ่อตงัj บริษัทไมโครซอฟท์ ผ้บู กุ เบกิ ด้าน
31
คอมพิวเตอร์สว่ นบคุ คล ได้ขนึ j ไปพดู บนเวที เพCือร่วมรําลกึ วนั ยงุ โลก ต้องการสร้างความตะหนกั เกCียวกบั
สถานการณ์โรคมาเลเรีย ทCีแพร่ระบาดไปทวัC โลก และแพร่ระบาดอยา่ งหนกั ในแอฟริกา

เขาขนึ j เวทีพร้อมนํายงุ ตวั เป็นๆ ทีCอยใู่ นขวดโหล และบอกคนฟังในห้องบรรยายทCีแนน่ ขนดั วา่

ภาพ : Long Shot
เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงเร้าใจและคลอเบาๆ

บทพดู :
ไข้มาเลเรียนนัj แนน่ อนตดิ ตอ่ กนั ผา่ นยงุ ผมเอายงุ มาด้วนจํานวนหนงึC เพCือให้คณุ ได้สมั ผสั

ประสบการณ์นี jเราจะปลอ่ ยให้มนั บนิ ไปรอบๆห้องประชมุ สกั พกั ไมม่ ีเหตผุ ลทีCประสบการณ์นี jต้องเกิด
กบั คนจนเทา่ นนัj

ภาพ : Medium Shot
เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงเร้าใจและคลอเบาๆ

บทพดู :
พวกเราคดิ วา่ นบั แตว่ ินาทีทีCบลิ เกตส์ ปลอ่ ยยงุ ออกมาจากขวดโหล จะเกิดอะไรขนึ j เรCืองราวทCี

เค้านําเสนอ แนน่ อนวา่ สร้างการจดจําได้ดี แตส่ งิC ทีCทกุ คนพดู ถงึ แม้การปาฐกถานนัj จบลงไปแล้ว แนน่ อน
วา่ หนีไมพ่ ้นเรCืองของการปลอ่ ยยงุ ของเค้าครับ

ชว่ งว้าวโมเมนท์ เป็นมิตทิ Cีนกั เลา่ เรืCอง ต้องพยายามสร้างให้เกิดขนึ j กบั เรCืองเลา่ ของเราครับ

Art & Science of Storytelling 24

ลาํ ดบั ภาพ เนือ$ หา เวลา (นาท)ี สไลด์

1.2 เร;ืองเล่ากับงานผู้บริหารสาธารณสุข 14.30 1-20

1.2.2 เร;ืองเล่า (Storytelling) เคร;ืองมือช่วยผู้บริหารสาธารณสุขด้านใดบ้าง

32 ภาพ : Medium Shot

)+./#0 14/#560 789:" .;- 3.<3=3.><!? เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงเร้าใจและคลอเบาๆ
บทพดู :
1. !"$# %&'(*)# +,-.# $//01$ เราตา่ งก็ยอมรับ ทกั ษะเรCืองเลา่ สามารถสร้างการจดจําได้ดี และสาํ หรับผ้บู ริหารสาธารณสขุ
2. 20+3-4 3$.
3. !564.56#$'!5+71 8 จะเกCียวข้องกบั เรCืองนีอj ยา่ งไรได้บ้าง บอกได้เลยดงั นีคj รับ
4. 9:/;<(#)=674 $6>*? @7.1
1) เข้าถงึ ผ้คู นได้มากกวา่ - หากผ้บู ริหารสาธารณสขุ นําเทคนิควิธีการ เรืCองเลา่ มาใช้ในการ

นําเสนอ ยอ่ มจะทําให้ผ้ฟู ังสนใจเรCืองทCีเราต้องการนําเสนอได้มากขนึ j กวา่ การเลา่ บรรยาย
ธรรมดาทวCั ๆไปอยา่ งแนน่ อน การทCีผ้ฟู ังสนใจเรามากขนึ j = เข้าถงึ ได้มากกวา่

33 ภาพ : Medium Shot
เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงและคลอเบาๆ

บทพดู :
2) ชวนตดิ ตาม / ไมน่ า่ เบCือ / สร้างความแตกตา่ งทCีโดดเดน่ – ดงั นนัj การวางโครงเรืCอง การเลอื ก

ตวั อยา่ งเรืCองทีCนํามาเลา่ หากเราจดั วางให้ดี ระยะเวลาการนําเสนอนานทา่ ใด แทบจะไมส่ ง่ ผลตอ่ ผ้ฟู ัง
เพราะเค้าจะ Flow ไหลลนCื ไปกบั เรืCองทCีเราเลา่ เค้าจะตดิ ตาม และมีความรู้สกึ ร่วมอยกู่ บั เราตลอดการ
นําเสนอนนCั เอง

34 ภาพ : Medium Shot
เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงและคลอเบาๆ

บทพดู :
3) เสริมสร้างเสนห่ ์ให้กบั ผ้บู ริหาร เราจะกลายเป็นนกั สอCื สารทีCดี มีคนคอยตดิ ตามเรืCองทีCจะพดู

หรือนําเสนอ อยเู่ สมอๆ หากมองในแงก่ ารสอืC สารองค์กร ด้วยเรืCองเลา่ องค์กรของเราก็จะมีชีวิต ชวน
ติดตาม

Art & Science of Storytelling 25

ลาํ ดบั ภาพ เนือ$ หา เวลา (นาท)ี สไลด์

1.2 เร;ืองเล่ากับงานผู้บริหารสาธารณสุข 14.30 1-20

1.2.2 เร;ืองเล่า (Storytelling) เคร;ืองมือช่วยผู้บริหารสาธารณสุขด้านใดบ้าง

35 ภาพ : Close Shot
เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงและคลอเบาๆ

บทพดู :
ตวั อยา่ งถ้าพวกเราจําได้ สวนสตั ว์เชียงใหม่ เมCือครังj ได้หมีแพนด้าสองตวั มาประจําสวนสตั ว์ มี

การประชาสมั พนั ธ์องค์กร ผา่ นการเลา่ เรCืองราว ชีวิต ความนา่ รัก นิสยั รวมถงึ สร้างการมีสว่ นร่วม ด้วย
การตงัj ชCือหมีแพนด้า “ชว่ งชว่ ง” ”หลนิ ฮยุ่ ” จนกระทงัC กลายเป็นกระแสทวCั บ้านทวCั เมือง มีการตดิ ตามทํา
ขา่ วและถ่ายทอด เรCืองของหมีแพนด้า กนั อยา่ งคกึ คกั เรียกได้วา่ ใครทCีไปเชียงใหม่ อดไมไ่ ด้ทCีจะต้องไป
เยีCยมชน หมีแสนนา่ รักสองตวั นี jถือเป็นเสนห่ ์อยา่ งหนงCึ ในชว่ งเวลานนัj เลยทีเดียว

36 ภาพ : Medium Shot
เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงและคลอเบาๆ

บทพดู :
4) ทกั ษะผ้บู ริหารยคุ ใหม่ - นกั เลา่ เรCืองถือเป็นทกั ษะ (Soft Skill) ของนกั บริหารและผ้นู ําทวCั

โลก ทCีจําเป็นต้องมี และได้รับการฝึกฝนให้ชํานาญ เพCือสร้างแรงจงู ใจกบั ทีมงาน และองค์กรของนกั
บริหารได้ตอ่ ไป

ภาพ : Medium Shot
เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงและคลอเบาๆ

บทพดู :
สาํ หรับในบททCี 1 นี jเราก็ได้เรียนรู้ถงึ ความสาํ คญั ของเรCืองเลา่ วตั ถปุ ระสงค์ของเรืCองเลา่

รวมถงึ เรืCองเลา่ กบั งานผ้บู ริหารสาธารสขุ กนั ไปแล้ว
ในบทตอ่ ไป เราจะมาทําความเข้าใจเกีCยวกบั เรCืองเลา่ วา่ เป็นอยา่ งไร ขอเชิญตดิ ตามครับ

Art & Science of Storytelling 26

º··่Õ2 What is storytelling?

Art & Science for Storytelling 27

บทท;ี 2 What is storytelling จํานวน 2 คลปิ ความยาว 10.30 นาที

2 What is storytelling? ภาพรวมเนือ$ หา
2.1 ความหมายและความเข้าใจ เกีCยวกบั เรCืองเลา่

2.2 องค์ประกอบของเรCืองเลา่

ลาํ ดบั ภาพ / Storyboard เนือ$ หา เวลา (นาท)ี สไลด์
2.1 ความหมายและความเข้าใจ เก;ียวกับเร;ืองเล่า 12.30 00-00

2.1.1 ความหมาย - ความเช;ือและเร;ืองจริง ของเร;ืองเล่า ภาพ : Medium Shot
1 เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงและคลอเบาๆ
บทพดู :
STORY TELLING
เรืCองเลา่ เป็นทงัj ศาสตร์และศลิ ป์ เป็นศาสตร์หรือ Science หมายถงึ เป็นระบบวิชาความรู้ มี
2 ทฤษฎี หลกั การ หลกั เกณฑ์ให้สามารถได้ศกึ ษาและเรียนรู้กนั ได้ แตเ่ ลา่ เรืCองได้ดี เพียงใดนนัj สงCิ นนัj เป็น
ศลิ ปะ เพราะไมไ่ ด้ใช้เพียงวธิ ีการ จินตนาการ ความคดิ สร้างสรรค์ ทกั ษะ เทา่ นนัj ยงั ต้องอาศยั การ
ฝึกฝน และทีสาํ คญั เรืCองเลา่ (Storytelling) ไมม่ ีสตู รสาํ เร็จ เราต้องมีการลองถกู – ลองผิด บางครังj อาจ
ต้องมีการด้นสด แก้ไขเหตกุ ารณ์เฉพาะหน้า ทีCเกิดขนึ j ได้ เชน่ กนั

ภาพ : Medium Shot
เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงและคลอเบาๆ
บทพดู :

สาํ หรับนิยามความหมายของ ”เรืCองเลา่ ” หรือ Storytelling หมายถงึ กระบวนการของการใช้
ข้อเทจ็ จริง และ การบรรยายเพืCอสอืC สารบางอยา่ งไปให้กบั ผ้ฟู ังของเรา

ทกั ษะเรCืองเลา่ บางเรCืองเป็นข้อเทจ็ จริง บางอยา่ งเป็นการเสริมสร้างเรCืองขนึ j มา เพCือให้สามารถ
อธิบาย แก่น/เปา้ หมายหลกั ของเรCืองทีCเราต้องการสอCื สารออกไป

Art & Science of Storytelling

ลาํ ดบั ภาพ เนือ$ หา เวลา (นาท)ี สไลด์
12.30 00-00
2.1 ความหมายและความเข้าใจ เก;ียวกับเร;ืองเล่า

2.1.1 ความหมาย - ความเช;ือและเร;ืองจริง ของเร;ืองเล่า

3 !"#$%&' vs #(%' &'!"#$ ภาพ : Long Shot
เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงและคลอเบาๆ
storytelling บทพดู :

Tai [ Is ] ☒Taiki [ Isn't ] เรามาสร้างความเข้าใจทCีตรงกนั วา่ “อะไรใช”่ และ “อะไรไมใ่ ช”่ สาํ หรับ เรืCองเลา่ (Storytelling)
สว่ นแรกคือ สวนทีCใช่ กนั ก่อนนะครับ
☐ 1) การพรรณนาทCีมีการกลนัC กรอง
2) การสร้างแรงบนั ดาลใจ
☐ nnaanssaoin'oTmonÉwnaog ☐ nimgnvnrsorsannqbsso:bÑI 3) อารมณ์ร่วมและความผกู พนั
4) มีจดุ เริCมต้น – จดุ วิกฤต- ตอนจบ
☐ ntoasbuosstrsoinntv ☐ 6297MW> WVOJM9N7U 5) มีจดุ เชืCอมโยง ระหวา่ งผ้ฟู ังกบั ประเดน็ ทCีนําเสนอ

☐ D-Fisoiiwrddowbbnt.no?AWgMhTW ☐ No> NqÑGWᵈ @ ภาพ : Medium Shot
☐ 8qnÑÑmis-qn%qm - Momon ☐ oToÑsbÑ%% " NO เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงและคลอเบาๆ
บทพดู :
☐ ÑqnTÑoÑwgs:uinsaTÑsñuW&mwÑniwwo rtaocdnsza.name/=b&osbD7
สว่ นทีCไมใ่ ชก่ ็มีเชน่ เดียวกนั และหลายคนก็ยงั มีความเชืCอทCีคลาดเคลอCื นเกีCยวกบั เรCืองนี jเรา
☐ มาศีกษากนั ตอ่ ครับ วา่ ข้อใดบ้าง ไมไ่ ด้จดั อยใู่ นเรCืองเลา่

BBB osñwsinowvosorosaos 1) คําพดู จํานวนมากๆ ขอให้เยอะเข้าไว้ก่อน เรCืองเลา่ ไมใ่ ชน่ วนิยาย ดงั นนัj ไมจ่ ําเป็นต้องมี
คําพดู จํานวนมากๆ บางครังj อาจจะไมใ่ ช้คําพดู ก็สามารถเลา่ เรCืองได้ เชน่ การใช้ภาพ หรือเพลง เพCือสอCื
B- Big Idea %→•&oso% > bonks ความหมาย ก็ได้

- ภาพ : Medium Shot
เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงและคลอเบาๆ
4 B- Beauty - bowstring บทพดู :

B- Behavior - onion > so :Ya 2) เปา้ หมายเพืCอการขาย - ในความจริง เรCืองเลา่ ชว่ ยก่อให้เกิดอารมณ์ร่วมและความรู้สกึ ได้ดี
จงึ มกั ถกู นําไปใช้ในการขาย แตเ่ ปา้ หมายเรืCองเลา่ ไมใ่ ชเ่ พCือการขายเพียงอยา่ งเดียวครับ อาจจะเพCือให้
5 เค้าเหน็ ด้วย คล้อยตามกบั เรืCองทีCเราพดู หรือสอCื ออกไป

Art & Science of Storytelling 29

ลาํ ดบั ภาพ เนือ$ หา เวลา (นาท)ี สไลด์
2.1 ความหมายและความเข้าใจ เก;ียวกับเร;ืองเล่า 12.30 00-00

2.1.1 ความหมาย - ความเช;ือและเร;ืองจริง ของเร;ืองเล่า ภาพ : Medium Shot
6 เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงและคลอเบาๆ

บทพดู :
3) ความนา่ เบCือ – เรCืองเลา่ จะไมใ่ ชก่ ารฟังทCีนา่ เบืCอ แตต่ รงกนั ข้ามคือการฟังเรCืองราวเพCือทCีมี

ทงัj ความบนั เทิง- ความรู้-มีอารมณ์ร่วมได้เพราะเป็นเรืCองทีCเข้าถงึ เป็นสากล และมีเหตกุ ารณ์ทCีผ้เู ลา่ เรCือง
ออกแบบมาให้มีเหตกุ ารณ์ทีCนา่ จดจํา ดงั มิตขิ องการเลา่ เรืCองทีCดี

ด้วยเหตนุ ี jเรืCองเลา่ จงึ ไมน่ า่ เบCือแนน่ อน เรCืองเลา่ ทีCดี หาเปรียบได้กบั ภาพยนตร์ ก็จะเป็น
ประเภทหนงั สยองขวญั ทีCเราจะเสยี วสยอง ได้ทกุ 2 นาที กนั เลยทีเดียว

7 ภาพ : Medium Shot
เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงและคลอเบาๆ

บทพดู :
4) ต้องฟังแล้ว ร้อง “ว้าว” เสมอ – ทงัj นีขj นึ j อยกู่ บั แก่นหรือ วตั ถปุ ระสงค์ของผ้เู ลา่ ทีCต้องการให้

เป็นแบบใด บางเรืCองอาจจะจบลงด้วยความรู้สกึ เศร้า เหน็ ใจหรือแม้กระทงCั เสยี นําj ตา เหมือนทCีเคยเสยี
ให้กบั ละครชีรีCย์เกาหลี ทีCเราอินไปกบั บททีCโดนบีบคนัj ของนางเอก

หรืออยากออกไปทานร้าน โอ้กระจู๋ อยากไปลองผกั ทีCปลกู เอง แบบสดใหม่ ไมม่ ีสารพิษ ด้วย
Concept ปลกู ผกั เพราะรักแม่ ตามเรืCองเลา่ ทCี เจ้าของผ้กู ่อตงัj ได้สร้าง Story ไว้และเราอยากลมิ j ลอง

8 ภาพ : Medium Shot
เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงและคลอเบาๆ

บทพดู :
5) ตวั อยา่ งประกอบ ไมใ่ ชเ่ รืCองเลา่ – บางครังj จะมีความใกล้เคียงกนั ของ การยกตวั อยา่ ง กบั

เรCืองเลา่ เชน่ การยกตวั อยา่ งของชีวิต เหตกุ ารณ์ของคนหรือสงิC ใดขนึ j มาเพCือเปรียบเทียบให้เหน็ ภาพ
อยา่ งการจะบอกวา่ คนเราทํากรรมใดไว้ ไมว่ า่ จะดีหรือชวCั สงิC นนัj ก็จะย้อนกลบั มาหาเรา เหมือนการปลกู
สงิC ใด ก็จะได้ผลของสงิC นนัj ปลกู มะมว่ ง ก็จะได้ผลมะมว่ ง, ปลกู ลาํ ไย ก็จะได้ ผลลาํ ไย (ปลกู ต้นถวCั เขียว
แตไ่ ด้ถวัC งอก) เหตกุ ารณ์นี jเป็นการยกตวั อยา่ งประกอบเพCือให้เข้าใจความหมายของ ผลกรรมครับ

Art & Science of Storytelling 30

ลาํ ดบั ภาพ เนือ$ หา เวลา (นาท)ี สไลด์
2.1 ความหมายและความเข้าใจ เก;ียวกับเร;ืองเล่า 12.30 00-00

2.1.1 ความหมาย - ความเช;ือและเร;ืองจริง ของเร;ืองเล่า ภาพ : Medium Shot
9 เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงและคลอเบาๆ

บทพดู :
ยงั ไมไ่ ด้เป็นเรCืองเลา่ เสยี ทีเดียว แตเ่ ป็นตวั อยา่ งประกอบเนือj หา
เพราะ “เรCืองเลา่ ” มีโครงสร้างของเรCือง ทีCแตกตา่ งจากนี jซงึC แนน่ อนวา่ เราจะได้เรียนกนั ในบททีC

3 กระบวนการสร้างเรCืองเลา่ โดยละเอียดกนั อีกครังj ครับ

Art & Science of Storytelling 31

Tai [ Is ] ☒Taiki [ Isn't ]



ลาํ ดบั ภาพ☐ nnaanssaoin'oTmonÉwnaog ☐ nimgnvnrsorsannqbsso:bÑI เนือ$ หา เวลา (นาท)ี สไลด์
12.30 00-00
☐ ntoasbuosstrsoinntv ☐ 6297MW> WVOJM9N7U

2.2 ส;งิ สาํ คัญ☐ท;ตีD-F้อisoงiiwมrddoีขwbอbntง.noเ?AรW;ือgMhงTWเล่า ☐ No> NqÑGWᵈ @

☐ 8qnÑÑmis-qn%qm - Momon ☐ oToÑsbÑ%% " NO
2.2.1 ส;งิ ☐สาํ ÑคqnTัญÑoÑทwg;ตีs:u้iอnsaงTÑมsñuีขW&อmwงÑเnรiw;ืwอo งเล☐่าทr;ดtี aoี c–dnsทza;คี .naวmรe/ม=bีใ&หos้bคDร7 บ

10 osñwsinowvosorosaos ภาพ : Long Shot
เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงและคลอเบาๆ
BBB
บทพดู :
B- Big Idea %→•&oso% > bonks องค์ประกอบของเรCืองเลา่ ทCีดี 3 ประการ ทCีเรียกวา่ หลกั 3B เป็นสงCิ ทCีขาดไมไ่ ด้ในเรืCองเลา่ ถ้า

B- Beauty - เราอยากให้เรCืองเลา่ ของเราเป็นเรCืองเลา่ ทCีนา่ ประทบั ใจและจดจํา ประกอบด้วย
B – Big Idea สอCื สารอะไร
B- Behavior - bowstring B – Beauty ชวนตดิ ตาม
B – Behavior ต้องการให้ทําอะไร
- onion > so :Ya

11 ภาพ : Medium Shot
เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงและคลอเบาๆ

บทพดู :
องค์ประกอบแรกคือ B –Big Idea สงิC นีสj าํ คญั ทCีสดุ นงัC คือ เราต้องการสอCื สารอะไรกบั ผ้ฟู ังของ

สงCิ นี jถ้าเปรียบก็จะเหมือน สาระสาํ คญั ทงัj หมดของเนือj หา แก่นของเรCือง วา่ คืออะไร เราต้องต้องผลกึ
เรCืองทCีเราจะเลา่ และพิจารณาวา่ สงCิ นี jคือสงCิ ทีCดี มีประโยชน์กบั คนฟัง ไมใ่ ชส่ งิC ทีCเราเทา่ นนัj อยากจะพดู
หรือเลา่ ถงึ โดยปกติ Big Idea จะมีอยู่ 1 -2 ประเดน็ ไมค่ วรมากกวา่ นนัj เพราะหากมีมากเกินไปเรืCอง
เลา่ ของเราจะไมโ่ ดดเดน่ และสดุ ท้าย ผ้ฟู ังจะจบั สาระสาํ คญั ของเรCืองเลา่ ไมไ่ ด้เพราะมีหลายประเดน็
เกินไป

12 ÷:¥÷÷÷÷÷÷:÷:÷ภาพ: MediumShot

เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงและคลอเบาๆ

บทพดู : no > WFM cloveTheme)

เหมือน เรากําลงั จะบอกวา่ สมนุ ไพรนนัC ดี สามารถรักษาโรคหวดั ได้ เราเลอื ก ฟา้ ทะลายโจรมา

เป็นพระเอกของเร6ืCอ6ง9น08ี jฟ9า้ ท( IะdลeaาliยsmโจTรhเปem็นeส) มนุ พร ในการรักษาโรคหวดั ได้

ไอเดียของเรCืองนีคj ือj สมนุ ไพรฟา้ ทะลายโจร รักษาโรคหวดั ได้ จดั เป็น Big Idea
i=ÉÉ.

Art & Science of Storytelling 32

Tai [ Is ] ☒Taiki [ Isn't ]



ลาํ ดบั ภาพ☐ nnaanssaoin'oTmonÉwnaog ☐ nimgnvnrsorsannqbsso:bÑI เนือ$ หา เวลา (นาท)ี สไลด์
12.30 00-00
☐ ntoasbuosstrsoinntv ☐ 6297MW> WVOJM9N7U

2.2 ส;งิ สาํ คัญ☐ท;ตีD-F้อisoงiiwมrddoีขwbอbntง.noเ?AรW;ือgMhงTWเล่า ☐ No> NqÑGWᵈ @

☐ 8qnÑÑmis-qn%qm - Momon ☐ oToÑsbÑ%% " NO
2.2.1 ส;งิ ☐สาํ ÑคqnTัญÑoÑทwg;ตีs:u้iอnsaงTÑมsñuีขW&อmwงÑเnรiw;ืwอo งเล☐่าทr;ดtี aoี c–dnsทza;คี .naวmรe/ม=bีใ&หos้bคDร7 บ

13 osñwsinowvosorosaos ภาพ : Medium Shot
เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงและคลอเบาๆ
BBB บทพดู :

B- Big Idea %→•&oso% > bonks องค์ประกอบทCีสองคือ B – Beauty เรCืองเลา่ ของเราต้องชวนตดิ ตาม มีการให้รายละเอียดของ
การปพู ืนj เรCือง การนําผ้ฟู ังเข้าสปู่ มวิกฤตขิ องเรCือง ให้ผ้ฟู ังล้นุ ตามด้วยกนั และแก้ปัญหาเรืCองนนัj ได้ใน
B- Beauty - ทีCสดุ

B- Behavior - bowstring ดงั ตวั อยา่ ง ฟา้ ทะลายโจรนนCั ดีแล้ว แตเ่ รานํามาใสแ่ คปซลู และเคลอื บนําj ตาลสสี วย จะได้ชวน
รับประทาน และมีรสชาดอร่อยทานงา่ ยกวา่ เดมิ
- onion > so :Ya
ภาพ : Medium Shot
14 เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงและคลอเบาๆ
บทพดู :
15
องค์ประกอบสดุ ท้าย คือ B - Behavior ต้องการให้ทําอะไร ขนัj ตอนนี jเป็นองค์ประกอบ
สดุ ท้ายชองเรCืองเลา่ ทีCนําเสนอมาทงัj หมด เราต้องการให้ผ้ฟู ังของเรา ทําอะไร ปฏิบตั อิ ะไร หรือเปลยCี น
ความคดิ เหน็ อยา่ งไร เป็นเปา้ หมายทีCแท้จริงของเรืCองเลา่ ทCีผ้ฟู ังจะปฏิบตั ติ ามได้

ตวั อยา่ งยาแคปซลู ฟา้ ทะลายโจรเคลอื บนําj ตาม เราก็จะบอกให้เค้าทานเข้าไปนะ ไมใ่ ชเ่ อาไว้
ทาถๆู หรือสดู ดม ต้องทานเข้าไป ทานเข้าไปครังj ละ 4 เมด็ 4 มือj 4 วนั เป็นการบอกวา่ ตอ้งปฏิบตั ิ
อยา่ งไร จากการทีCเค้าฟังเรCืองของเรามาทงัj หมดนี j

ภาพ : Medium Shot
เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงและคลอเบาๆ
บทพดู :

โดยสรุปจะเหน็ วา่ องค์ประกอบเรืCองเลา่ ควรจะต้องมี 3B ให้ครบ เราต้องนกึ ไว้เสมอวา่ เรCือง
เลา่ ของ แก่นเรืCองมีอะไร เราจะทําเรืCองให้สวยงามนา่ ตดิ ตามได้อยา่ งไร และสดุ ท้ายเมCือเค้าฟังเรCืองเลา่
ของเราแล้ว เราต้องการให้เค้าทําอะไรนนCั เองครับ

Art & Science of Storytelling 33

ลาํ ดบั ภาพ เนือ$ หา เวลา (นาท)ี สไลด์

2.2 ส;งิ สาํ คัญท;ตี ้องมีของเร;ืองเล่า 12.30 00-00

2.2.2 ประเภทของแก่นเร;ืองหลัก (Theme) สามารถนํามาเป็ นเร;ืองเล่า

:¥÷÷÷÷÷÷:÷:÷16 ภาพ : Medium Shot
no > WFM cloveTheme) เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงและคลอเบาๆ
÷ 669089 ( Idealism Theme)
i=ÉÉ. บทพดู :
ทีCนีพj อเราทราบถงึ องค์ประกอบทCีต้องมีของเรืCองเลา่ ลาํ ดบั ตอ่ ไปก็จะเป็นการค้นหาวา่ แก่น

เรCืองหลกั อะไรบ้างทีCนํามาเสนอเป็นเรืCองเลา่ ได้ แก่นเรCืองหลกั สาํ คญั เพราะ จะตอบคําถามได้วา่ ผ้ฟู ังเค้า
จะได้อะไร แก่นเรCืองแตล่ ะแบบจะก็จะสะท้อนแนวคดิ หลกั หรือสงCิ ทีCต้องการสอืC สารของเรา ไมเ่ หมือนกนั
พอสรุปได้ดงั นี j

wn'owbÑ717 ภาพ : Medium Shot
เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงและคลอเบาๆ
rround ].
บทพดู :
aio.no 1) แก่นเรืCองของความรัก (Love Theme) แนวเรCืองแบบนีไj มไ่ ด้หมายถงึ ความรักของชาย-หญิง

yng.gg, เทา่ นนัj แตร่ วมถงึ ความรักในครอบครัว เพืCอน หรือสงCิ ใดสงิC หนงึC เชน่ สตั ว์เลยี j ง รวมความวา่ เป็น
ความสมั พนั ธ์ในรูปแบบความรักในรูปแบบตา่ งๆ
7=1-↓ ÉÉÉÉ÷÷É¥±÷¥÷ñN7W.7WbMÑqgd
¥☒*

18 ภาพ : Medium Shot
เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงและคลอเบาๆ

บทพดู :
2) ศีลธรรมจรรยา (Moral Theme) นําเสนอเรืCองหลกั ศีลธรรมจรรยาของสงั คม คณุ คา่ ความดี

ความชวCั และผลจากการกระทําความดีและความชวัC เรCืองเลา่ นีมj กั พบกบั การเลา่ เรCืองในรูปแบบธรรมะ
การให้ข้อคดิ การประพฤตปิ ฏิบตั ติ นให้อยใู่ นทํานองคลองธรรม

Art & Science of Storytelling 34

ลาํ ดบั ภาพ เนือ$ หา เวลา (นาท)ี สไลด์

2.2 ส;งิ สาํ คัญท;ตี ้องมีของเร;ืองเล่า 10 1-20

2.2.2 ประเภทของแก่นเร;ืองหลัก (Theme) สามารถนํามาเป็ นเร;ืองเล่า

19 ภาพ : Medium Shot
เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงและคลอเบาๆ

บทพดู :
3) แนวคดิ (Idealism Theme) นําเสนอถงึ การตอ่ ส้ดู ินj รน การฝ่าฟันอปุ สรรคของบคุ คลหรือ

กลมุ่ คนทีCมีความเหน็ ตา่ งจากคนอืCนและต้องการทCีจะเปลยCี นแปลงบางสงCิ บางอยา่ ง หรือต้องการจะ
เปลยCี นแปลงสงิC ทีCมีอยเู่ ดมิ เพCือบรรลสุ งCิ ทCีเป็นเปา้ หมาย ถงึ ในตอนท้ายสามารถจบด้วยสงCิ ทีCสมหวงั หรือ
ผิดหวงั ได้ แตห่ ากจบในแงล่ บ มกั จะให้บทเรียนหรือแนวคดิ เพCือสอนไว้อยา่ งไร

20 ภาพ : Medium Shot
เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงและคลอเบาๆ

บทพดู :
4) อํานาจ (Power Theme) เป็นเรืCองราวความขดั แย้งของสองฝ่ายทีCต้องการได้มาซงCึ อํานาจ

หรือเรืCองราวเกีCยวกบั การฝ่าฟันเพืCอให้ได้มาซงึC อํานาจทCีต้องการ แนน่ อนวา่ ระหวา่ งการฝ่าฟันจะต้องมี
เรืCองทCีมีปมขดั แย้ง หรือจดุ วิกฤต จนทีCสดุ ได้มาซงึC อํานาจนนัj จนเป็นเรCืองทCีเป็นบทสรุปของเรCืองเลา่ นนัj

21 ภาพ : Medium Shot
เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงและคลอเบาๆ

บทพดู :
5) การทํางาน (Career Theme) แนวเรCืองเป็นการแสดงให้เหน็ ถงึ ความพยายามของบคุ คลทีC

มีชCือเสยี ง เป็นทCีรู้จกั หรือตวั เราเอง ทCีต้องการทํางานให้สาํ เร็จ และผา่ นเรืCองราวหรืออปุ สรรคอยา่ งไร
บ้าง ทงัj นีคj วามสาํ เร็จอาจจะเป็นเรCืองความสาํ เร็จสว่ นตวั หรือสาํ หรับองค์กร หรือสว่ นรวมก็ได้

Art & Science of Storytelling 35

º··Õ่3 The storytelling process

Art & Science for Storytelling 36

บทท;ี 3 The Storytelling process จํานวน 5 คลปิ ความยาว 28.30 นาที
ภาพรวมเนือ$ หา
The Storytelling 3.1 รู้รอบก่อนเลา่ ( Surround) เวลา (นาท)ี สไลด์
3.2 เลอื กแก่นเรCืองเลา่ (Task) 22.30 00-00
3 process 3.3 ปรุงสตู รเรCืองเลา่ ( Element)
3.4 ซ้อมเลา่ เรืCอง (Prepare)
ลาํ ดบั ภาพ / Storyboard 3.5 เลา่ เรCือง (Showtime)
3.1 รู้รอบก่อนเล่า (Surround)
เนือ$ หา
3.1 รู้รอบก่อนเล่า (Surround)
1 ภาพ : Medium Shot ตวั สไลด์ ตดั สลบั หน้าวิทยากร
เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงเร้าใจและคลอเบาๆ
2
บทพดู :
กระบวนการของเรืCองเลา่ มีอยดู่ ้วยกนั ทงัj หมด 5 ขนัj ตอน ประกอบด้วย
1) รู้รอบก่อนเลา่ เป็นการศกึ ษาข้อมลู ภาพรวมเบือj งต้นก่อนจะเตรียมเรืCองเลา่
2) เลอื กแก่นของเรืCองเลา่ ขนัj ตอนนีเjปรียบได้กบั การเลอื กแก่นของเรCืองเลา่
3) ปรุงสตู รเรืCองเลา่ การผสมผสมองค์ประกอบของเรCืองเลา่
4) ซ้อมเรืCองเลา่ ซ้อม-ซ้อม-ซ้อมเรCืองเลา่
5) เลา่ เรCือง เมCือถงึ เวลาทีCต้องขนึ j นําเสนอเรืCองเลา่

ภาพ : Medium Shot
เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงเร้าใจและคลอเบาๆ

บทพดู :
เริCมจากขนัj ตอนแรก คือ I. รู้รอบก่อนเลา่ เป็นการศกึ ษาข้อมลู ภาพรวมเบือj งต้นก่อนจะเตรียม

เลา่ เรCือง ขนัj ตอนนี jเป็นการตอบคําถามเหลา่ นี jประกอบด้วย
1) เปา้ หมายของเรืCองเลา่ ต้องการอะไร ซงCึ หากเราจําได้ในบททีC 1 เราได้พดู ถงึ วตั ถปุ ระสงค์ของ

เรCืองเลา่ นนัC คือ เรCืองเลา่ เราต้องการให้ความรู้/ ให้ความสนกุ / ต้องการให้ปฏิบตั ใิ นเรCืองใดเรืCองหนงึC เป็น
การตงัj คําถามกบั ผลลพั ธ์สดุ ท้ายของเรCืองเลา่ ทCีเราต้องการ

Art & Science of Storytelling

ลาํ ดบั ภาพ เนือ$ หา เวลา (นาท)ี สไลด์
3.1 รู้รอบก่อนเล่า (Surround) 22.30 00-00

3.1 รู้รอบก่อนเล่า (Surround) ภาพ : Medium Shot
3 เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงและคลอเบาๆ
บทพดู :
2. พูดใหใ้ ครฟง
2) กลมุ่ เปา้ หมาย (Audience) นนัC คือผ้ฟู ังของเราเป็นใคร มีรายละเอียดอะไรบ้างทีCเราต้องรู้
ขอ้ มูลทัวไป เชงิ จติ วทิ ยา ใน 2 มิติ นีคj ือ

จาํ นวน ก) ข้อมลู ทวัC ไป : จํานวน อายุ เพศ ตําแหนง่
อายุ ข) ข้อมลู เชิงจิตวิทยา : Lifestlye รูปแบบการใช้ชีวิต, Issue ประเดน็ ทCีชอบพดู คยุ , Hero-Hate
เพศ รักและเกลยี ดเรCืองอะไร หรือใคร

4 ภาพ : Medium Shot
เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงและคลอเบาๆ
บทพดู :

การทCีต้องเข้าใจข้อมลู เชิงจิตวิทยาเพืCอให้เรืCองเลา่ ของเรา สามารถเข้าถงึ อารมณ์ของผ้ฟู ัง เชน่
ผ้ฟู ังของเราเป็นกลมุ่ GenZ ทCีชอบนกั ร้องเกาหลคี นดงั เรียกวา่ ตงCิ เกาหลี หากเราศกึ ษาผ้ฟู ังของเรา นํา
เรืCองเกร็ดคนดงั คนนนัj มาเลา่ ก็จะทําให้เรCืองเลา่ ของเราเป็นทีCสนใจ เค้าพร้อมทีCจะรับฟัง เลา่ ได้ถกู อก
ถกู ใจ เรCืองเลา่ ของเราก็จะมีเสน่ ห์มากขนึ j

5 ภาพ : Medium Shot
เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงและคลอเบาๆ

บทพดู :
3) สถานทCี (Venue) สถานทีCไหนทีCเราจะไปเลา่ เรืCอง ภายในห้องประชมุ (Indoor) หรือ

กลางแจ้ง (Outdoor) ในโรงอาหาร หรือทCีไหน นอกจากนนัj การจดั วางรุปแบบทีCนงCั เป็นแบบใด เชน่ นงัC
แบบห้องเรียน, นงัC แบบมีโต๊ะร่วมด้วย เป็นต้น เพราะเราจะได้เตรียมตวั และอปุ กรณ์ ไปใช้ได้ถกู ต้อง เชน่
ในห้องประชมุ อาจะเตรียมเครCืองคอมพิวเตอร์ เครCืองฉาย คลปิ สนัj ได้ แตห่ ากต้องเลา่ เรืCองในโรงอาหาร
อาจะเตรียมตวั อยา่ งเพืCอเลา่ เพียงอยา่ งเดียว เป็นต้น

Art & Science of Storytelling 38

ลาํ ดบั ภาพ เนือ$ หา เวลา (นาท)ี สไลด์
3.1 รู้รอบก่อนเล่า (Surround) 22.30 00-00

3.1 รู้รอบก่อนเล่า (Surround) ภาพ : Long Shot
6
÷:¥÷÷÷÷÷÷:÷:÷เสียง : Fade In+เสยี งดนตรีบรรเลงและคลอเบาๆ
7
บทพดู :
g-•own'owbÑ7 4) ระยะnเoว>ลWาFMในcกloาvรeเTลhา่eเmรeืCอ)ง เพราะการทราบเวลาจะทําให้เราเตรียมเนือj หา ตวั อยา่ ง ไว้มาก

[Surround ] น้อยขนาดไหน
669089 ( Idealism Theme)
É◦: e. msn.aio.no
2. qq.jyng.gg, i=ÉÉ.

§7=1-↓%◦ "4. a:w÷:ñN7W.7WbMÑqgd ÉÉÉÉ÷÷É¥±÷¥ภาพ: MediumShot

เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงและคลอเบาๆ

บทพดู :
สรุป รู้รอบก่อนเลา่ คือข้อมลู ภาพรวมเบือj งต้นทCีต้องรู้
1 พดู เพืCออะไร
2 ใครเป็นค. นฟัง

3 พดู ทCีไหน ¥☒*
4 ระยะเวลานานเทา่ ไหร่

Art & Science of Storytelling 39

ลาํ ดบั ภาพ เนือ$ หา เวลา (นาท)ี สไลด์
22.30 00-00
3.2 เลือกแก่นเร;ืองเล่า (Task)
ภาพ : Medium Shot
3.2 เลือกแก่นเร;ืองเล่า (Task) เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงและคลอเบาๆ
บทพดู :
8
ขนัj ตอนทCี2 ของกระบวนการเลา่ เรCืองคือ เลอื กแก่นเรืCองเลา่ (Task) เป็นการตดั สนิ ใจเลอื กชนิด
:¥÷÷÷÷÷÷:÷:÷no>WFM cloveTheme) ของเรืCองเลา่ ทCีต้องการนําเสนอ

÷ 669089 ( Idealism Theme) เปรียบได้กบั แก่นของเรCืองเลา่ นนCั คือเราจะเลอื กคณุ คา่ อะไรทีCจะมอบให้ผ้ฟู ัง เป็นสงCิ ทCีผ้ฟู ังจะ
ได้จากเรา เป็นขนัj ตอนงานทีCต้องตดั สนิ ใจให้ดี เป็นกระดกู สนั หลงั ของเรCืองเลา่ ของเราทงัj หมด ซงึC ก็คือ
i=ÉÉ. Big Idea สาระสาํ คญั ของเรานนัC เอง

own'owbÑ79 ภาพ : Medium Shot
เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงและคลอเบาๆ
urround ]. บทพดู :

n.aio.no เปรียบได้กบั เชฟ เมCือเค้ารู้ความต้องการของลกู ค้า วา่ ต้องการอาหารทีCเป็น อาหารเป็นซบุ
yng.gg, ร้อนๆ รสเปรียj วๆ ออกเผด็ ๆ ไว้ทานกบั ข้าว เรามีเครCืองปรุงประกอบด้วย ก้งุ มะนาว ตะไคร้ พริกสดอยู่
แล้ว เราต้องตดั สนิ ใจวา่ เราจะปรุงอะไรไปเสริ«ฟลกู ค้าและให้โดนใจ ซงึC ทCีเรามี และสงCิ ทCีลกู ค้าต้องการ
7=1-↓ ÉÉÉÉ÷÷É¥±÷¥÷:ñN7W.7WbMÑqgd เพราะฉะนนัj อาหารหรืองานทCีต้องทํา ชินj นีนj า่ จะเป็น “ต้มยําก้งุ ” นนัC เอง
¥☒*
ยําj วา่ แตต่ อนนียj งั ไมไ่ ด้ลงมือทํา เพียงเป็นขนัj ตอนของการตดั สนิ ใจวา่ เราเลอื กจะปรุงอะไร

Art & Science of Storytelling 40

ลาํ ดบั ภาพ เนือ$ หา เวลา (นาท)ี สไลด์
3.3 ปรุงสูตรเร;ืองเล่า (Element) 22.30 00-00

3.3 ปรุงสูตรเร;ืองเล่า (Element) ภาพ : Medium Shot
10 เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงและคลอเบาๆ

บทพดู :
ขนัj ตอนทีC 3 ผสมองค์ประกอบทกุ อยา่ งให้ลงตวั ขนัj ตอนนีถj ือเป็นสตู รเดด็ ของเรืCองเลา่ ทCีสาํ คญั

ไมว่ า่ เรCืองเลา่ นนัj จะเป็นเรCืองเลา่ ทีCกินใจแบบเรียบงา่ ย หรือสลบั ซบั ซ้อนทCีล้นุ ไปด้วยแบบใจระทกึ แต่
พืนj ฐานก็จะประกอบด้วย 5 ประการนีทj งัj นนัj

11 '⑤ assign:nowÑÉs6Ñ7 ภาพ : Medium Shot
เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงและคลอเบาๆ
ñiÉg ☐é]i]÷÷I
บทพดู :
•a :* 5 องค์ประกอบเรCืองเลา่

k Element ÷:&:* 5 1) เปิด : โหมโรง - เปิดตวั เรืCองเลา่
, 2) ปู : เรCิมต้นเรCือง – ทีCมา - จดุ กําเนิด
wtiiogooiwngwngmgaobg.no ˢʰ° "

bññᵈog

3) ปม : จดุ วิกฤต, ความท้าทาย, ยากลาํ บาก, ข้อขดั แย้ง, ปมของเรCืองเลา่
4) ปลอ่ ย : ทางแก้ปัญหา, จดุ เฉลย, การคลคCี ลาย

M÷¥÷¥¥÷*¥¥÷T12 :;÷÷÷÷÷÷Climax 5) ปิด : สรุปเรCืองเลา่ แล้วเชCือมกลบั ไปประเดน็ ทCีต้องการ

N M ภาพ : Medium Shot
เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงและคลอเบาๆ
บทพดู :

สามารถนําเสนอเป็นกราฟ 5 องค์ประกอบของเรืCองเลา่ ได้ในภาพ

.

Art & Science of Storytelling 41

ลาํ ดบั ภาพ เนือ$ หา เวลา (นาท)ี สไลด์

3.3 ปรุงสูตรเร;ืองเล่า (Element) 22.30 00-00

3.3 ปรุงสูตรเร;ืองเล่า (Element)

13 ภาพ : Medium Shot

§ñiÉg เสียง : F: a'⑤de Inas+sเสigยี งnด:นnตoรwีบรÑรเÉลsงแ6ลÑะ7คลอเบาๆ
บทพดู
☐é]i]÷÷Iตวั อยา่ งการเลา่ เรCืองตามองค์ประกอบนี jผมมีอยเู่ รCืองนงึ ทCีให้คตสิ อนเกCียวกบั การไมย่ ดึ ตดิ
É¥→ a• a :*
รู้จกั การปลอ่ ยวาง เชCือเรืCองวา่ “แบกไว้ทําไม” (เปิด)
Surround Task Element ÷:&:* 5 (เปิด) ครังj นงึ มีพระในศาสนาพทุ ธ นิกายเซน็ 2 รูป
bifonbwiwtiiogooiwngwngmgaobg.no ,
Thrown'☐wbÑ' ˢʰ° " (ป)ู องค์แรกเป็นอาจารย์พรรษามากกวา่ และองค์ทCีสอง พระหนมุ่ อีกรูปพรรษาการบวชน้อย

bññᵈog

กวา่

14 _¥÷÷¥÷¥¥÷T☐Mé¥]i¥]*÷÷I'⑤assign:nowÑÉs6Ñ7 ภาพ : Medium Shot

ñiÉg :;÷÷¥÷÷÷÷¥เสียง:FadeIn+เสยี งดนตรีบรรเลงและคลอเบาๆ

•a :* บทพดู :
เช้าของวนั นงึ พระทงัj สองก็ออกไปเดนิ บณิ ฑบาต ระหวา่ งทาง ได้เดนิ มาถงึ ทCีลาดตCํา เป็นแอง่
Element ÷:&:* 5 N M
, มีโคลนเฉอะแฉะจะเดนิ ก็ไปไมไ่ ด้ บริเวณแอง่ นนัj เอ ก็เหน็ ผ้หู ญิงสาวคนหนีCงแตง่ ตวั สวยงาม ยืนเก้ๆ กงั ๆ
iiogooiwngwngmgaobg.no ˢʰ° " พยายามจะเดนิ ข้ามแอง่ โคลนทีCแฉะนนัj ไปแตไ่ มก่ ล้า เพราะกลวั ชดุ สวยๆ จะเปรอเปรCือน

bññᵈog พระหนมุ่ มองหญิงสาว โดยไมไ่ ด้ทนั คดิ อะไร แตท่ นั ใดนนัj เอง ก็ต้องตะลงึ
(ปม) เพราะเหน็ พระอาจารย์ เดนิ ก้าวเข้าไปหาผ้หู ญิงคนนนัj แล้วช้อนร่างเธอ อ้มุ เดนิ ข้ามแอง่
M÷¥÷¥¥÷*¥¥÷T15 โคลนไป แล้ววางไปอีกฝCังหนงึC เหมือนไมม่ ีอะไรเกิดขนึ j หญิงสาวกลา่ วขอบคณุ แล้วก็เดนิ จากไป

N M ภาพ : Medium Shot
เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงและคลอเบาๆ
บทพดู :

จากนนัj พระทงัj สองก็เดนิ บณิ ฑบาตตอ่ ไป จนกลบั วดั โดยไมไ่ ด้พดู อะไรกนั
ในใจของพระหนมุ่ ไมส่ บายใจทีCเหน็ พระอาจารย์ทีCตนนบั ถือ ทําพฤตกิ รรมแบบนนัj กงั วลใจอยู่
ทงัj วนั จนกระทงCั หยดุ พกั การฝึกสมาธิในตอนคCํา
พระหนมุ่ ได้เข้าไปหาพระอาจารย์

Art & Science of Storytelling 42

ลาํ ดบั ภาพ เนือ$ หา เวลา (นาท)ี สไลด์
3.3 ปรุงสูตรเร;ืองเล่า (Element) 22.30 00-00

3.3 ปรุงสูตรเร;ืองเล่า (Element) ภาพ : Medium Shot
16 เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงและคลอเบาๆ
บทพดู :
17
แล้วเอย่ ปากถาม ด้วยสหี น้าครํCาเคร่งวา่ เราเป็นพระ นา่ จะไมค่ วรเข้าใกล้อิสตรี จะดีกวา่ ยิCง
แตะเนือj ต้องตวั ด้วยแล้ว ยิCงไมส่ มควรใหญ่เลย เหตใุ ดพระอาจารย์จงึ ทําอยา่ งเมCือเช้านนัj ละ่ ?

(ปลอ่ ย) พระอาจารย์ไมไ่ ด้แสดงสหี น้าตกใจอะไร และตอบกลบั พระหนมุ่ วา่ ผมวางหญิงสาว
คนนนัj ลงตงัj แตต่ อนเช้าแล้ว ใยทา่ นยงั แบกนางไว้จนถงึ เดี¬ยวนีอj ยอู่ ีกหรือ?

ภาพ : Medium Shot
เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงและคลอเบาๆ
บทพดู :

(ปิด) เรCืองแบกไว้ทําไม นีบj างครังj ก็เป็นคตใิ ห้กบั ตวั เราได้วา่ เรืCองบางเรืCองเราก็อยา่ ไปแบกมนั
ไว้ให้หนกั ให้กงั วลใจ เราแคว่ างมนั ลง ก็จะทําให้เรา เบา และสบาย เพียงแคว่ างมนั ลง ก็เทา่ นนัj เอง

จากตวั อยา่ งเรCืองเลา่ นีจj ะเหน็ ได้วา่ เลา่ เรืCองผา่ นองค์ประกบอการเลา่ เรCือง ครบทงัj 5 ประเดน็
เลยทีเดียว ซงCึ เป็นขนัj ตอนมาตรฐาน เราสามารถทีCจะจดั สลบั องค์ประกอบของเรCืองให้มีความซบั ซ้อน
มากขนึ j เชน่ เพิCมปมยอ่ ยซ้อนเข้ามาอีกจากปมใหญ่ อยา่ งนีกj ็สามารถกระทําได้เชน่ กนั

Art & Science of Storytelling 43

ลาํ ดบั ภาพ เนือ$ หา เวลา (นาท)ี สไลด์
3.4 ซ้อมเร;ืองเล่า (Prepare) 22.30 00-00

3.4 ซ้อมเร;ืองเล่า (Prepare) ภาพ : Medium Shot
18 เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงและคลอเบาๆ
บทพดู :
19
เมืCอเราจดั วางองค์ประกอบของเรCืองเลา่ เรียบร้อยแล้ว ขนัj ตอนทีC 4 คือการซ้อมเลา่ เรืCอง โดย
20 ปกตวิ ิธีการซ้อมพดู สามารถกระทําได้ 4 วธิ ีการด้วยกนั

1) อา่ นจากต้นร่าง ( Extemporaneous)
2) ทอ่ งจํา (Memory)
3) พดู จากความเข้าใจ (Manuscript)
4) พดู แบบไมไ่ ด้เตรียมตวั ( Impromptu)

ภาพ : Medium Shot
เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงและคลอเบาๆ
บทพดู :

เรามาดแู บบแรก คือ การอา่ นจากต้นร่าง เป็นการอา่ นทกุ ตวั อกั ษร มกั ใช้ในการพดู แบบเป็น
พิธีการ ทางการมากๆ ข้อดีคือ พดู ไมผ่ ิดแนแ่ ต่ อารมณ์ความรู้สกึ ก็จะแข็งๆ เป็นพิธีการ ซงึC อาจจะไม่
เหมาะกบั การนํามาใช้ในเรืCองเลา่ ของเรา

ภาพ : Medium Shot
เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงและคลอเบาๆ

บทพดู :
แบบทีC 2 ทอ่ งจํา แบบนีเjป็นการอา่ นทกุ คํา จําเอามาพดู จะไมค่ อ่ ยมีการผิดเพียj นจากต้นฉบบั

ซงึC ทําให้การเลา่ เรCืองลกั ษณะแบบนี jก็ยงั ดแู ข็ง ไมม่ ีชีวิตชีวา แตบ่ างครังj การพดู ลกั ษณะแบบนียj งั จําเป็น
ตวั อยา่ ง เชน่ บทสวดมนต์ของพระนะ่ ครับ ผิดไมไ่ ด้ แม้แตอ่ กั ขระเดียว หรือบทกลอน ทCียกมากลา่ วถงึ

Art & Science of Storytelling 44

ลาํ ดบั ภาพ เนือ$ หา เวลา (นาท)ี สไลด์
3.4 ซ้อมเร;ืองเล่า (Prepare) 22.30 00-00

3.4 ซ้อมเร;ืองเล่า (Prepare) ภาพ : Medium Shot
21 เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงและคลอเบาๆ
บทพดู :
22
ขอข้ามมาดแู บบทีC 4 กนั ก่อน เป็นการพดู แบบไมไ่ ด้มีการเตรียมตวั เราอาจจะไมไ่ ด้เตรียมตวั
23 มาเลยวา่ จะต้องออกมาพดู แตจ่ ๆู่ นกั บริหารก็อาจจะได้รับเชิญให้ขนึ j มาพดู แบบกะทนั หนั ทําให้ต้องลนุ่
กนั สกั หนอ่ ย เพราะเราไมม่ ีเวลาเรียบเรียงเรCืองเลา่ ของเรามากนกั การพดู แบบนีไj ด้ดี ขนึ j อยกู่ บั การมี
คลงั สมบตั ขิ องเรCืองเลา่ ทีCจะมีและดงึ มาใช้ได้มากน้อยขนาดไหน

ภาพ : Medium Shot
เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงและคลอเบาๆ
บทพดู :

แบบสดุ ท้าย คือการพดู จากความเข้าใจ เป็นการจดั เฉพาะหวั ข้อสาํ คญั เลา่ เรืCองจากความ
เข้าใจของเรา ซงCึ จะทําให้เรCืองเลา่ มีความเป็นธรรมชาติ นา่ ฟัง ให้เลา่ เรืCองเหมือนกบั วา่ เราเจอ
เหตกุ ารณ์นีเjมCือเช้านีเjอง และเราก็นําเรCืองนีมj าเลา่ ให้เพCือนของเราฟัง

ภาพ : Medium Shot
เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงและคลอเบาๆ

บทพดู :
ข้อพงึ จําสาํ หรับการซ้อมเรCืองพดู คือ 1) การพดู จากความเข้าใจเป็นวิธีการดีทCีสดุ แตจ่ ะเลา่

เรืCองแบบนีไj ด้ ต้องมีการซ้อม ซ้อม และซ้อม มาเป็นอยา่ งดี ปัจจบุ นั ยงั ไมม่ ียาอะไรทCีกินเข้าไปแล้วจะ
ชว่ ยให้เราแมน่ ในทนั ที

2) การพดู ต้องมีชีวิตชีวา มีพลงั หรือการรู้จกั ใช้จงั หวะ และนําj เสยี ง 3) สดุ ท้ายหากเรCืองเลา่
เป็นเรืCองตลก อยา่ ตลกก่อนถงึ จดุ ขํา

Art & Science of Storytelling 46

ลาํ ดบั ภาพ เนือ$ หา เวลา (นาท)ี สไลด์
3.5 เล่าเร;ือง (Show) 22.30 00-00

3.5 เล่าเร;ือง (Show) ภาพ : Medium Shot
24 เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงและคลอเบาๆ
บทพดู :
25
26 เมืCอเราต้องเลา่ เรCือง มีหลกั สาํ คญั ทีCจะฝากไว้สาํ หรับนกั เลา่ เรCืองดงั นี j
1) มนัC ใจวา่ เราทําได้ – สร้างความมรู้สกึ มนCั ใจให้เกิดขนึ j เพราะบอ่ ยครังj เรามกั จะมีความ
ประหมา่ กลวั ทCีจะเลา่ เรCือง ต้องนกึ วา่ เรCืองทีCเราเลา่ เรารู้เรืCองนนัj ดีกวา่ ใคร ดงั นนัj จงมนCั ใจวา่ เรา
สามารถทีCจะเลา่ เรCืองได้ดีทีCสดุ เพราะเป็นเรืCองเลา่ ทCีเราออกแบบ และซ้อมเนือj หามาเป็นอยา่ งดี

ภาพ : Medium Shot
เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงและคลอเบาๆ
บทพดู :

2) ความเป็นตวั ของตวั เอง – ให้เลา่ เรCืองด้วยลลี า นําj เสยี ง รวมถงึ บคุ ลกิ ของตวั เรา บอ่ ยครัเj รา
ชอบใจใคร เราก็มีแนวโน้มในการอยากเป็นแบบนนัj รวมถงึ การเลยี นแบบเพืCอให้เป็นคนนนัj โดยไมร่ ู้ตวั
แตพ่ งึ จําไว้วา่ ให้เป็นตวั ของตวั เองนนัj ดีทCีสดุ เป็นตวั เราในรูปแบบของตวั เราเอง

ภาพ : Medium Shot
เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงและคลอเบาๆ

บทพดู :
3) เมืCอตืCนเต้น หรือตืCนเวที อาจจะใช้เทคนิคการลดความตCืนเต้นเหลา่ นีชj ว่ ยได้ เป็นเทคนิคทCีนกั

เลา่ เรืCองเค้าแอบใช้กนั มีวีธีไหนกนั บ้าง มาลองฟังกนั ครับ
3.1 หายใจไว้ ฟังไมผ่ ิดครับ ผมบอกวา่ ให้หายใจไว้ เพราะเหตวุ า่ เมCือเราตืCนเต้น จงั หวะการ

หายใจของเราจะเปลยีC นไป เราจะเริCมหายใจถCีขนึ j แตจ่ ะสนัj ขนึ j ออกซเิ จนเข้าไปในร่างกายน้อยลง

Art & Science of Storytelling 47

ลาํ ดบั ภาพ เนือ$ หา เวลา (นาท)ี สไลด์
3.5 เล่าเร;ือง (Show) 22.30 00-00

3.5 เล่าเร;ือง (Show) ภาพ : Medium Shot
27 เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงและคลอเบาๆ
บทพดู :
28
29 เมืCอถงึ จดุ หนงึC ร่างกายจะมีออกซเิ จนไมเ่ พียงพอ เราจะหน้ามืด ตาลาย คล้ายจะเป็นลม ดงั นนัj
เมืCอเรากงั วล หรือเครียด ขอให้เราสดู ลมหายใจเข้าไปช้าๆ ลกึ ๆ และคอ่ ยปลอ่ ยลมหายใจออกมาช้าๆ
ยาวๆ ทําอยา่ งนีสj กั สถีC งึ ห้าครังj จะทําให้ลดความตCืนเต้นและสดขืCนขนึ j ได้ทนั ที (แน๊ะๆๆ เชCือวา่ ถงึ ตรงนี j
ต้องมีใคร แอบสดู ลมหายใจ เข้าไว้บ้างละนะครับ ดีแล้วครับๆ)

ภาพ : Medium Shot
เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงและคลอเบาๆ
บทพดู :

2) ดCืมนําj สกั แก้ว เมCือเรากงั วลและเครียด คอจะแห้ง เสยี งทCีพดู ออกมาจะไมม่ ีพลงั หรือควบคมุ
พลงั เสยี งได้ไมด่ ี การดCืมนําj สกั แก้ว นําจะไหลผา่ นลาํ คอลงเข้าสรู่ ่างกาย จะชว่ ยให้เกิดความสดชCืน และ
ชว่ ยให้ชมุ่ ชCืนขนึ j ดืCมแบบคอ่ ยๆจิบ จะชว่ ยลดการระคายเคืองคอเวลาพดู นานๆ ได้อีกด้วยครับ

ภาพ : Medium Shot
เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงและคลอเบาๆ

บทพดู :
3) พดู ให้เสยี งดงั เข้าไว้ เวลาเลา่ เรCือง บอ่ ยครังj หากผ้ฟู ังจํานวนมาก สายตาทกุ คจู่ บั จ้องมาทCี

เรา เป็นเหมือนกําแพงทีCเริCมก่อตวั สงู ขนึ j ๆ พร้อมกบั ความมนCั ใจของเราคอ่ ยๆลดลง ความประหมา่ ก่อตวั
ใหญ่ขนึ j การพดู เรCิมต้นประโยค หรือคําสนทนา ด้วยนําj เสยี งทีCดงั เหมือนการทําลายกําแพงความ
ประหมา่ เรียกพลงั ในตวั ของเรากลบั คืนมาได้อยา่ งนา่ ประหลาด เราจะเหน็ ได้วา่ นกั พดู นกั กีฬามกั จะมี
คําพดู เสยี งดงั เพCือเรียกความมนCั ใจกลบั มา เชน่ นกั เทนนิส นกั ยกนําj หนกั ในประวตั ศิ าสตร์ไทยเป็นต้น

Art & Science of Storytelling 48

ลาํ ดบั ภาพ เนือ$ หา เวลา (นาท)ี สไลด์
3.5 เล่าเร;ือง (Show) 22.30 00-00

3.5 เล่าเร;ือง (Show) ภาพ : Medium Shot
30 เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงและคลอเบาๆ
บทพดู :
31
สรุป : ขนัj ตอนการเลา่ เรืCองประกอบด้วย 5 ขนัj ตอนทีCสาํ คญั
1) รู้รอบก่อนเลา่ เป็นการศกึ ษาข้อมลู ภาพรวมเบือj งต้นก่อนจะเตรียมเรืCองเลา่
2) เลอื กแก่นของเรCืองเลา่ ขนัj ตอนนีเjปรียบได้กบั การเลอื กแก่นของเรืCองเลา่
3) ปรุงสตู รเรืCองเลา่ การผสมผสมองค์ประกอบของเรCืองเลา่
4) ซ้อมเรืCองเลา่ ซ้อม-ซ้อม-ซ้อมเรCืองเลา่
5) เลา่ เรืCอง เมืCอถงึ เวลาทCีต้องขนึ j นําเสนอเรืCองเลา่

ภาพ : Medium Shot
เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงและคลอเบาๆ
บทพดู :

เมCือถงึ บทนี jเราก็เรียนรู้ศาสตร์ของการเลา่ เรืCองมาได้พอสมควรแล้วครับ ในบทหน้าจะพาเรา
ไปเพCิมเตมิ ศลิ ปะของเรCืองเลา่ กนั ด้วยเทคนิควิธีการทีCจะเลา่ เรืCองแล้วสะกดคนฟัง ด้วยวิธีการทําอยา่ งไร
ให้เรืCองเลา่ ของเรานา่ จดจํา ตดิ ตามกนั ได้เลยครับ

Art & Science of Storytelling 49

º··่Õ4 How to make a good story?

Art & Science for Storytelling 50

บทท;ี 4 How to make a good story จํานวน 2 คลปิ ความยาว 10.30 นาที

How to make ภาพรวมเนือ$ หา
4.1 เทคนิคการเลา่ เรCืองทีCสะกดคนฟัง
4 a good story
4.2 4 เรืCองทีCต้องจดั การให้ได้ของ Storytelling
ลาํ ดบั ภาพ / Storyboard
4.1 เทคนิคการเล่าเร;ืองท;สี ะกดคนฟัง เนือ$ หา เวลา (นาท)ี สไลด์
8.30 00-00
4.1 เทคนิคการเล่าเร;ืองท;สี ะกดคนฟัง
1 ภาพ : Medium Shot ตวั สไลด์ ตดั สลบั หน้าวิทยากร
เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงเร้าใจและคลอเบาๆ
2
บทพดู :
“เรืCองเลา่ ทีCดี ต้องก่อให้เกิดอีก 1 เรืCองเลา่ ” หมายความวา่ ผ้ฟู ังนําเรCืองไปเลา่ ตอ่ แตกหนอ่ ตอ่

ยอดความคดิ เรืCองเลา่ ของเราตอ่ ไปได้ ทีCนีเjรืCองเลา่ แบบไหนทCีจะสามารถเป็นเรCืองเลา่ ทCีดี
หลกั สตู รขอนําเสนอ 5 สตู รการเลา่ เรCืองทีCทําให้เรืCองเลา่ นา่ จดจํา

ภาพ : Medium Shot
เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงเร้าใจและคลอเบาๆ

บทพดู :
สําหรับสตู รแรกคือ
1) PAS : Problem – Agitate – Solve
• Problem - สตู รนีจj ะระบปุ ัญหาทCีพบก่อนตอนต้นเรCือง
• Agitate. - สงิC ทCีกวนใจ
• Solve. - วธิ ีแก้ปัญหาเหลา่ นนัj

Art & Science of Storytelling

ลาํ ดบั ภาพ เนือ$ หา เวลา (นาท)ี สไลด์
4.1 เทคนิคการเล่าเร;ืองท;สี ะกดคนฟัง 8.30 00-00

4.1 เทคนิคการเล่าเร;ืองท;สี ะกดคนฟัง ภาพ : Medium Shot
3 เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงและคลอเบาๆ

4 บทพดู :
เรืCองเลา่ ทีCใช้สตู รนีจj ะเป็นการเลา่ บรรยายถงึ สถานการณ์ทCีเป็นปัญหาหรือไมด่ ีทีCกําลงั ประสบ
5
อยู่ แตก่ ลบั ต้องเจอสถานการณ์ทีCดเู หมือนจะยิCงทําให้หนกั ใจ เพิCมมาขนึ j ไปอีก
หลงั จากนนัj จงึ คอ่ ยนําเสนอ หรือเฉลยวา่ สมารถผา่ นอปุ สรรคเหลา่ นนัj มาได้อยา่ งไร

ภาพ : Medium Shot
เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงและคลอเบาๆ
บทพดู :

Problem : เกิดมาในครอบครัวยากจน ไมม่ ีแม้แตเ่ งินซือj เสอื j ผ้า ข้าวกินไมค่ รบมือ
Agitate : เสยี พอ่ ผ้นู ําครอบครัวจากอบุ ตั เิ หตุ ต้องเรียนตอนกลางวนั ชว่ ยงานบ้านกลางคืน
Solve : ครูเหน็ ความตงัj ใจ เสนอมอบทนุ การศกึ ษา บวกกบั เป็นคนขยนั สดุ ท้าย เรียนจบ
เป็นหมอสาํ เร็จ

ภาพ : Medium Shot
เสียง : Fade In + เสยี งดนตรีบรรเลงและคลอเบาๆ
บทพดู :

เรืCองทีCนําเสนอจะเป็นการนําเสนอด้านลบ แล้วขยีดj ้วยด้วยปัญหาซําj เตมิ เข้าไป จากนนัj คอ่ ย
คลายด้วยทางแก้ไขปัญหา ทCีพาให้รอดจากอปุ สรรคนนัj

วธิ ีนีกj ็สร้างอารมณ์ร่วมแบบสะเทือนใจให้เกิดขนึ j กบั ผ้ฟู ังได้ดีครับ

Art & Science of Storytelling 52


Click to View FlipBook Version