The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดกิจกรรมลูกเสือ (Block Course) ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาล 3 วัดเกาะแก้วนครสวรรค์

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by julong.r88, 2022-06-07 22:38:35

แผนการจัดกิจกรรมลูกเสือ (Block Course) ป.5

แผนการจัดกิจกรรมลูกเสือ (Block Course) ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาล 3 วัดเกาะแก้วนครสวรรค์

Keywords: ลูกเสือ

51

5. การประเมนิ ผล ผา่ น ไมผ่ า่ น
รายละเอียดการประเมินผล
…………. …………..
5. ความสนใจในการเขา๎ รํวมกิจกรรม …………. …………..
6. ความต้ังใจในการปฏบิ ตั ิกิจกรรม …………. …………..
7. ความมีระเบียบและความพรอ๎ มเพรียง …………. …………..
8. การเข๎าแถวตามสญั ญาณมือ

6. กิจกรรมเสนอแนะเพ่ิมเติม
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………

7. ปัญหาและขอ้ เสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………

การจัดกจิ กรรมลกู เสอื สารอง ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 5
โรงเรียนเทศบาล 3 วดั เกาะแกว้ นครสวรรค์

52

แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรทู้ ี่ 12 ระเบยี บแถว
เรือ่ ง สญั ญาณมือและรปู แถวครง่ึ วงกลม/วงกลม ก,ข/สีเ่ หลย่ี มเปิดดา้ นหน่ึง/รศั มี

1. สรุปสาระสาคญั การฝกึ ระเบยี บแถวเป็นการสรา๎ งความมรี ะเบียบวนิ ยั และความพร๎อมเพรียง
2. จดุ ประสงค์

ปฏบิ ัตติ นตามสญั ญาณมอื และเขา๎ แถวได๎ถูกต๎อง
3. ทกั ษะกระบวนการ

( ) 1. ตระหนักในปญั หาและความจาเป็น
( ) 2. คิดวเิ คราะห์วจิ ารณ์
( ) 3. สรา๎ งทางเลอื กหลากหลาย
( ) 4. ประเมนิ และเลอื กทางเลอื ก
( ) 5. กาหนดและลาดับข้นั ตอนการปฏบิ ตั ิ
( ) 6. ปฏิบตั ิด๎วยความช่นื ชม
( ) 7. ประเมนิ ระหวาํ งปฏิบัติ
( ) 8. ปรบั ปรุงให๎ดีข้นึ อยํูเสมอ
( ) 9. ประเมินผลรวมเพอ่ื ใหเ๎ กดิ ความภาคภมู ใิ จ

4. กิจกรรม และสือ่ / อุปกรณ์ ส่ือ/ อุปกรณ์

กจิ กรรม 1. แผนภมู เิ พลง
2. ภาพสัญญาณมือและรปู แถว
4. พธิ เี ปิดประชุมกอง (ธงขึน้ สวดมนต์ สงบนิง่ ตรวจ แยก )
5. เพลง - เกม - ครงึ่ วงกลม
6. การสอนตามเนื้อหา - วงกลม ก,ข
- สีเ่ หลี่ยมเปดิ ดา๎ นหน่ึง
3.1 ทบทวนการเขา๎ แถวหน๎ากระดานแถวเดยี ว - รศั มี
3.2 ผู๎กากับอธิบายและสาธิตการเข๎าแถว
- ครงึ่ วงกลม
- วงกลม ก,ข
- สีเ่ หล่ียมเปดิ ดา๎ นหนง่ึ
- รศั มี
3.3 แบงํ กลุํมลกู เสือปฏิบัติ
3.4 รวมกลํุมทบทวน
4. ผ๎กู ากับเลาํ เรอื่ งสน้ั ท่ีเปน็ ประโยชน์
5. พธิ ปี ดิ ประชุมกอง (นัดหมาย ตรวจ ธงลง เลิก)

การจดั กจิ กรรมลกู เสือสารอง ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 5
โรงเรยี นเทศบาล 3 วดั เกาะแก้วนครสวรรค์

53

5. การประเมินผล ผา่ น ไมผ่ า่ น
รายละเอียดการประเมนิ ผล
…………. …………..
1. ความสนใจในการเข๎ารํวมกจิ กรรม …………. …………..
2. ความตัง้ ใจในการปฏิบตั กิ จิ กรรม …………. …………..
3. ความมีระเบยี บและความพร๎อมเพรยี ง …………. …………..
4. การเขา๎ แถวตามสญั ญาณมือ

6. กิจกรรมเสนอแนะเพม่ิ เตมิ
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………

7. ปญั หาและข้อเสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………

การจัดกจิ กรรมลกู เสอื สารอง ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 5
โรงเรยี นเทศบาล 3 วดั เกาะแก้วนครสวรรค์

54

แผนการจัดกิจกรรมการเรยี นร้ทู ี่ 12 ระเบียบแถว
เร่ือง สัญญาณมือและรูปแถวคร่งึ วงกลม/วงกลม ก,ข/สเี่ หลย่ี มเปดิ ดา้ นหน่งึ /รศั มี (ตอ่ )

1. สรปุ สาระสาคัญ การฝึกระเบยี บแถวเป็นการสรา๎ งความมีระเบยี บวนิ ัยและความพร๎อมเพรียง
2. จดุ ประสงค์

ปฏิบตั ิตนตามสญั ญาณมือและเข๎าแถวได๎ถกู ตอ๎ ง
3. ทักษะกระบวนการ

( ) 1. ตระหนกั ในปญั หาและความจาเปน็
( ) 2. คิดวเิ คราะห์วิจารณ์
( ) 3. สรา๎ งทางเลอื กหลากหลาย
( ) 4. ประเมนิ และเลอื กทางเลอื ก
( ) 5. กาหนดและลาดับขนั้ ตอนการปฏิบัติ
( ) 6. ปฏิบตั ดิ ว๎ ยความชื่นชม
( ) 7. ประเมินระหวาํ งปฏบิ ตั ิ
( ) 8. ปรบั ปรุงใหด๎ ขี น้ึ อยูํเสมอ
( ) 9. ประเมินผลรวมเพือ่ ใหเ๎ กิดความภาคภูมิใจ

4. กจิ กรรม และสอื่ / อปุ กรณ์ สือ่ / อุปกรณ์

กิจกรรม 1. แผนภมู ิเพลง
2. ภาพสญั ญาณมอื และรปู แถว
7. พธิ ีเปดิ ประชุมกอง (ธงขน้ึ สวดมนต์ สงบนง่ิ ตรวจ แยก )
8. เพลง - เกม - ครงึ่ วงกลม
9. การสอนตามเนอ้ื หา - วงกลม ก,ข
- ส่ีเหล่ยี มเปิดด๎านหนึง่
3.1 ทบทวนการเข๎าแถวหน๎ากระดานแถวเดียว - รศั มี
3.2 ผ๎ูกากบั อธบิ ายและสาธิตการเขา๎ แถว
- คร่งึ วงกลม
- วงกลม ก,ข
- สี่เหลยี่ มเปดิ ด๎านหนง่ึ
- รศั มี
3.3 แบํงกลุมํ ลกู เสือปฏบิ ัติ
3.4 รวมกลมํุ ทบทวน
4. ผู๎กากับเลําเร่ืองสัน้ ที่เป็นประโยชน์
5. พธิ ปี ดิ ประชมุ กอง (นดั หมาย ตรวจ ธงลง เลิก)

การจดั กิจกรรมลกู เสือสารอง ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 5
โรงเรยี นเทศบาล 3 วัดเกาะแกว้ นครสวรรค์

55

5. การประเมินผล ผ่าน ไมผ่ า่ น
รายละเอยี ดการประเมินผล
…………. …………..
5. ความสนใจในการเข๎ารวํ มกจิ กรรม …………. …………..
6. ความตั้งใจในการปฏบิ ตั ิกิจกรรม …………. …………..
7. ความมีระเบียบและความพร๎อมเพรียง …………. …………..
8. การเข๎าแถวตามสญั ญาณมอื

6. กจิ กรรมเสนอแนะเพิ่มเตมิ
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………

7. ปัญหาและข้อเสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………

การจดั กิจกรรมลูกเสอื สารอง ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 5
โรงเรยี นเทศบาล 3 วดั เกาะแกว้ นครสวรรค์

56

แผนการจดั กจิ กรรมการเรยี นรทู้ ี่ 14 ระเบียบแถว
เรอ่ื ง สรุปและทบทวนระเบียบแถว

1. สรุปสาระสาคัญ การฝึกระเบียบแถวเปน็ การสรา๎ งความมรี ะเบยี บวินยั และความพร๎อมเพรยี ง
2. จุดประสงค์

ปฏบิ ตั ิตนตามระเบยี บแถวได๎
3. ทกั ษะกระบวนการ

( ) 1. ตระหนกั ในปญั หาและความจาเปน็
( ) 2. คดิ วเิ คราะหว์ จิ ารณ์
( ) 3. สรา๎ งทางเลอื กหลากหลาย
( ) 4. ประเมนิ และเลอื กทางเลอื ก
( ) 5. กาหนดและลาดบั ข้นั ตอนการปฏิบัติ
( ) 6. ปฏิบัติดว๎ ยความช่ืนชม
( ) 7. ประเมินระหวํางปฏิบัติ
( ) 8. ปรับปรุงใหด๎ ขี ึ้นอยํเู สมอ
( ) 9. ประเมนิ ผลรวมเพ่อื ให๎เกดิ ความภาคภมู ใิ จ

4. กิจกรรม และสอ่ื / อปุ กรณ์

กจิ กรรม สื่อ/ อปุ กรณ์

1. พธิ ีเปดิ ประชมุ กอง (ธงขน้ึ สวดมนต์ สงบน่งิ ตรวจ แยก ) 1. แผนภูมเิ พลง
แผนภมู ริ ะเบยี บแถวทาํ ตําง ๆ
2. เพลง - เกม 2. นกหวดี ไม๎พลอง

3. การสอนตามเน้ือหา 3.

3.1 ผู๎กากบั ใหล๎ กู เสอื ทบทวนการฝึกระเบียบแถวทาํ มือเปลาํ ทาํ ถือ

ไมพ๎ ลอง การใช๎สญั ญาณมือและสญั ญาณนกหวดี การต้งั แถวและการ

เรยี กแถว

3.2 ให๎นายหมลํู กู เสือทบทวนลกู เสอื ในหมูขํ องตน

4. ผ๎ูกากบั เลําเร่อื งสนั้ ท่เี ป็นประโยชน์

5. พธิ ีปิดประชมุ กอง (นดั หมาย ตรวจ ธงลง เลิก)

การจัดกิจกรรมลูกเสอื สารอง ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 5
โรงเรยี นเทศบาล 3 วดั เกาะแก้วนครสวรรค์

57

5. การประเมนิ ผล ผ่าน ไมผ่ า่ น
รายละเอียดการประเมนิ ผล
…………. …………..
1. ความสนใจในการเขา๎ รํวมกจิ กรรม …………. …………..
2. ความตง้ั ใจในการปฏบิ ัตกิ จิ กรรม …………. …………..
3. ความถูกตอ๎ งและพรอ๎ มเพรยี ง …………. …………..
4. การปฏบิ ตั ติ นตามระเบยี บแถวทํามือเปลํา ทาํ ถอื ไม๎พลอง …………. …………..
5. การเข๎าแถวตามสัญญาณมอื และสญั ญาณนกหวีด

6. กิจกรรมเสนอแนะเพ่ิมเติม
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………

7. ปญั หาและข้อเสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………

การจัดกจิ กรรมลูกเสอื สารอง ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 5
โรงเรียนเทศบาล 3 วัดเกาะแก้วนครสวรรค์

58

เน้อื หา
สญั ญาณมือและสญั ญาณนกหวีด

1. สญั ญาณมือ

ในการฝึกระเบียบแถว ผู๎กากับลูกเสืออาจส่ังด๎วยสัญญาณมือ
ลูกเสือจึงจาเป็นต๎องเรียนร๎ูสัญญาณมือเพ่ือจะได๎แปลสัญญาณมือท่ีได๎รับ
และปฏิบัติตามได๎อยํางถูกต๎องรวดเร็ว สัญญาณมือที่ลูกเสือจาเป็นต๎อง
เรียนรมู๎ ดี งั นี้

1) เตรียมคอยฟังคาสงั่ หรือหยุด
การให๎สัญญาณ ผู๎กากับจะเหยียดแขนขวาขึ้นตรงเหนือศีรษะ
มอื แบ นว้ิ ท้งั ห๎าเรยี งชิดติดกัน หันฝาุ มือไปขา๎ งหนา๎
เมื่อเห็นสัญญาณน้ีให๎ลูกเสือ หยุดการเคลื่อนไหว หรือหยุด
การกระทาการตําง ๆ ที่กาลังทาอยํูหันหน๎าไปทางผู๎บังคับบัญชาเพ่ือคอย
ฟงั คาสงั่ ถ๎าอยใูํ นแถวให๎ยนื อยใํู นทาํ ตรง

2) รวมหรอื กลับมา
การให๎สัญญาณ ผู๎กากับจะเหยียดแขนขวาขึ้นตรงเหนือศีรษะ
แบมอื ไปขา๎ งหนา๎ นว้ิ มือท้งั หา๎ นวิ้ ชิดติดกันและหมุนมือเป็นวงกลมจากซ๎าย
ไปขวา
เมอื่ เหน็ สัญญาณนี้ ใหล๎ กู เสือรวมกองรบี มาเขา๎ แถวรวมกนั

3) จดั แถวหน้ากระดาน
การให๎สัญญาณ ผู๎กากับจะเหยียดแขนทั้งสองออกไปด๎านข๎าง
เสมอไหลํ ฝาุ มือแบไปขา๎ งหนา๎ นว้ิ เรียงชดิ ตดิ กนั
เมอ่ื เหน็ สัญญาณนใ้ี ห๎ลูกเสือ เข๎าแถวหน๎ากระดาน หันหน๎าไป
หาผูใ๎ หส๎ ัญญาณ

การจดั กจิ กรรมลกู เสือสารอง ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 5
โรงเรียนเทศบาล 3 วดั เกาะแกว้ นครสวรรค์

59

4) จัดแถวตอน
การให๎สัญญาณ ผู๎กากับลูกเสือจะเหยียดแขนทั้งสองข๎างไป
ขา๎ งหนา๎ แนวเดียวกบั ไหลํ แขนขนานกัน ฝาุ มอื แบเขา๎ หากัน
เมือ่ เห็นสัญญาณนี้ ใหล๎ ูกเสือเข๎าแถวตอน

5) เคลือ่ นท่ไี ปยงั ทศิ ทตี่ ้องการ
การใหส๎ ญั ญาณ ผ๎ูกากบั จะหนั หนา๎ ไปยังทิศทต่ี ๎องการชแู ขนขวา
ข้ึนเหนือศีรษะสุดแขน ฝุามือแบไปข๎างหน๎า น้ิวชิดกันแล๎วลดแขนลง
เสมอไหลํ
เม่ือเห็นสัญญาณนี้ ให๎ลูกเสือ วิ่งไปยังทิศทางท่ีมือผ๎ูให๎
สัญญาณช้ไี ป

6) เรง่ จังหวะหรือทาให้เร็วขน้ึ
การให๎สัญญาณ ผู๎กากับจะงอแขนขวามือกาเสมอบําแล๎วชูข้ึน
ตรงเหนอื ศีรษะแลว๎ ลดลงหลาย ๆ ครั้งตดิ ตํอกนั
เมอื่ เหน็ สัญญาณนี้ ให๎ลูกเสือรีบวิ่งหรือเรํงจังหวะสิ่งที่ทาอยูํให๎
เร็วขนึ้

การจัดกิจกรรมลกู เสอื สารอง ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 5
โรงเรียนเทศบาล 3 วัดเกาะแกว้ นครสวรรค์

60

7) นอนลงหรอื เข้าที่กาบัง
การให๎สญั ญาณ ผก๎ู ากับจะเหยยี ดแขนขวาตรงไปขา๎ งหน๎าเสมอ
แนวไหลํฝุามอื แบคว่าลง น้ิวชิดกนั แล๎วลดแขนลงและยกขึ้นท่ีเดมิ หลาย ๆ
ครัง้
เมอ่ื ลูกเสอื เหน็ สญั ญาณนี้ใหร๎ บี นอนหรือเข๎าที่กาบงั ทันที
8) ลกุ ขึน้
การให๎สัญญาณ ผู๎กากับจะเหยียดแขนขวาตรงไปข๎างหน๎าเสมอ
ไหลํฝุามือแบหงายขน้ึ น้ิวชิดและลดลงท่เี ดมิ หลาย ๆ ครงั้
เมื่อลูกเสอื เหน็ สัญญาณนใี้ หร๎ ีบลกุ ข้นึ ทันที

2. การใช้สัญญาณมือเป็นคาสง่ั แถว
1) สญั ญาณมือพกั ตามระเบยี บ
การให๎สัญญาณในขณะที่ลกู เสอื อยูใํ นแถว หากผ๎ูกากับจะส่ังให๎
พกั จะทาสัญญาณมอื เปน็ 2 จังหวะดังนี้

จังหวะท่ี 1 กามือขวา งอแขนตรงข๎อศอกให๎มือที่กาอยํู
ประมาณตรงหวั เขม็ ขดั หันฝาุ มือทก่ี าเขา๎ หาเขม็ ขัด

จังหวะที่ 2 สลัดมือท่ีกาและหน๎าแขนออกไปทางขวา เป็น
มุม 180 องศาประมาณแนวเดียวกับเข็มขัดเมื่อเห็นสัญญาณน้ี
ให๎ลกู เสือพักตามระเบียบ

2) สัญญาณมอื ท่าตรง
การให๎สัญญาณ ขณะท่ีกาลังพักตามระเบียบ ผู๎กากับจะสั่งให๎
ตรงด๎วยการทาสญั ญาณมือเป็น 2 จงั หวะดงั น้ี
จังหวะที่ 1 กามือขวา แขนเหยียดตรงไปทางขวา ให๎มือกา
อยูํในระดบั เขม็ ขัด
จังหวะที่ 2 กระตุกหน๎าแขนเข๎าหาตัว ให๎มือที่กากลับมาอยูํ
ตรงหวั เข็มขดั
เม่ือเหน็ สญั ญาณน้ี ใหล๎ กู เสือชักเทา๎ ซา๎ ยมาชดิ เท๎าขวา ลดแขน
ทไ่ี ขว๎หลังมาอยูํในทําตรง

การจัดกจิ กรรมลกู เสือสารอง ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 5
โรงเรยี นเทศบาล 3 วัดเกาะแกว้ นครสวรรค์

61

2. สัญญาณนกหวดี
ในการออกคาสัง่ แกลํ ูกเสือ ผ๎ูกากบั ลกู เสอื อาจสง่ั ดว๎ ยสัญญาณนกหวีดก็ได๎ ลกู เสือจึงเข๎าใจความหมายของ
สัญญาณนกหวดี เพอื่ จะได๎ปฏบิ ตั ติ ามไดอ๎ ยาํ งถูกตอ๎ งและรวดเร็วสญั ญาณท่คี วรรม๎ู ีดงั นี้
1. สญั ญาณหยุดหรือฟัง เสียงหวดี ยาว 1 ครง้ั “หวดี ”(-)เป็นสญั ญาณใหล๎ ูกเสือหยุดกระทาการใด ๆ หรอื
เตรียมตัวคอยฟังคาส่งั ท่ีผก๎ู ากับลกู เสือจะส่งั ตํอไป
2. สญั ญาณทาตํอไป เสยี งหวดี ยาว 2 ครั้ง “หวีด…หวดี ” ( ) เป็นสญั ญาณให๎ลูกเสือทางานตํอ เดิน
ตอํ ไปหรือเคลอ่ื นท่ีตํอไป
3. สัญญาณเกดิ เหตุ เสียงหวีดสน้ั 1 ครั้งยาว 1 ครง้ั สลบั กนั ไปหลาย ๆ ครั้ง “วดิ …หวดี ” “วิด…หวดี ”
“วดิ …หวดี ”( . - . - . - )เป็นสญั ญาณให๎ลกู เสือระวงั ตัวเพราะเกดิ เหตฉุ ุกเฉนิ หรือเกดิ เหตุร๎ายข้นึ
4. สัญญาณรวมกอง เสียงหวดี สน้ั ติดกันหลาย ๆ ครง้ั “วดิ …วิด…วดิ …วิด…วดิ …วิด…วดิ …วิด…วิด..วดิ ” ( …. )
เป็นสญั ญาณให๎ลูกเสือรวมกอง หรือมาประชมุ
5. สัญญาณเรยี กนายหมูํ เสียงหวดี สน้ั 3 ครงั้ ยาว 1 ครง้ั สลบั กันไป “วดิ …วดิ …วดิ …หวดี ,วดิ …วิด…วิด…
หวีด,วดิ …วิด…วิด…วิด…หวีด” (…- …-) เปน็ สญั ญาณให๎นายหมํูหรอื รองนายหมํไู ปหาผ๎ูใหส๎ ัญญาณเพือ่ รอรบั คาสัง่
หมายเหตุ เมอื่ จะใช๎สัญญาณตามข๎า 2 3 4 และ 5 จะต๎องใช๎สัญญาณในข๎อ 1 กอํ น ทุกคร้งั

การจดั กิจกรรมลูกเสอื สารอง ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 5
โรงเรียนเทศบาล 3 วดั เกาะแก้วนครสวรรค์

62

3. การตง้ั แถวและการเรยี กแถว
ในการฝึกระเบียบแถวของลูกเสือ ผูก๎ ากบั ลูกเสอื มักจะใช๎สัญญาณมอื ซ่งึ เป็นสญั ญาณเงียบ ลกู เสือจะต๎อง

เข๎าใจ เพื่อจะได๎ปฏิบตั ติ ามไดถ๎ กู ตอ๎ ง รวดเรว็ การเขา๎ แถวของลกู เสอื นั้น มีหลกั การวาํ นายหมจูํ ะตอ๎ งอยูํหัวแถว และ
รองนายหมูจํ ะต๎องอยหูํ างแถวเสมอ รปู แบบของการตง้ั แถวมดี ังนี้

1. แถวหนา้ กระดานแถวเดีย่ ว
เมื่อไดย๎ นิ ผูก๎ ากบั ลูกเสือเรยี ก “กอง” และเหน็ ผเู๎ รยี กอยใํู นทาํ ตรง เหยียดแขนท้ังสองไปดา๎ นข๎างเสมอแนว
ไหลํ มือแบ หันฝาุ มือไปข๎างหน๎า นว้ิ มอื เรยี งชดิ ตดิ กัน
ใหล๎ ูกเสอื รบี ไปเขา๎ แถวหนา๎ กระดานแถวเดย่ี ว หันหนา๎ เขา๎ หาผเู๎ รียก โดยนายหมยูํ นื ทางซ๎ายมือของผู๎เรยี ก กะ
ใหผ๎ ๎ูเรยี กอยกํู ึ่งกลางแถวและหาํ งจากแถวประมาณ 6 กา๎ ว ลูกหมํยู นื ตํอกนั ไปทางซ๎ายมอื ของนายหมูํจนถงึ คนสุดทา๎ ย
คอื รองนายหมูํ

การจัดระยะเคียง ถ๎า “ปิดระยะ” ระยะเคยี งจะเป็น 1 ชํวงศอก คือ ให๎ยกมือซ๎ายทาบสะโพก นวิ้ เหยียด
ชิดตดิ กนั นิว้ เหยียดชิดตดิ กัน นว้ิ กลางอยํปู ระมาณแนวตะเข็บกางเกง แขนขวาแนบกบั ลาตวั จัดแถวให๎ตรงโดยสะบดั
หน๎าแลขวา ใหเ๎ หน็ หน๎าอกคนท่ี 4 นบั จากตวั ลกู เสือเองเมอื่ ผเ๎ู รียกตรวจแถวสัง่ วาํ “นิง่ ” ให๎ลดมือลงพรอ๎ มกบั สะบดั
หนา๎ มาอยํใู นทําตรงและน่ิง

ถ๎า “เปดิ ระยะ” ระยะเคียงจะเปน็ 1 ชวํ งแขนซา๎ ยขึน้ เสมอไหลํควา่ ฝาุ มอื ลง นิว้ ท้งั หา๎ ชดิ กัน ใหป๎ ลายนิ้ว
ซา๎ ยจดไหลขํ วาของคนตอํ ไป จัดแถวให๎ตรง โดยสะบัดหนา๎ แลขวาให๎เห็นหน๎าอกคนที่ 4 เมอื่ ไดย๎ ินคาส่ังวาํ “นง่ิ ” จึง
ลดมือลง สะบดั หนา๎ กลับมาอยใํู นทําตรงและนิ่ง

กรณมี หี ลายหมํู หมูํอ่นื เข๎าแถวหนา๎ กระดานแถวเดยี่ วเหมือนที่กลาํ วขา๎ งตน๎ ระยะเคียงระหวํางหมํเู ทาํ กับระยะ
เคียงระหวาํ งบุคคล (คอื 1 ศอก)

การจดั กจิ กรรมลูกเสอื สารอง ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 5
โรงเรยี นเทศบาล 3 วดั เกาะแกว้ นครสวรรค์

63

2. แถวตอนเรยี งหนงึ่
เมอ่ื ไดย๎ นิ ผกู๎ ากับลูกเสือเรยี ก “กอง” พรอ๎ มกับ
เหยยี ดแขนท้ังสองไปขา๎ งหน๎าเสมอแนวไหลมํ ือแบหนั ฝุามอื
เข๎าหากนั น้วิ เรยี งชดิ ตดิ กนั
ในกรณีหม่เู ดียว ให๎นายหมูยํ ืนตรงเป็นหลัก
ข๎างหนา๎ ผ๎ูเรยี ก กะใหห๎ ํางจากผเ๎ู รยี กประมาณ 6 กา๎ ว
ลูกหมํูเขา๎ แถวตํอหลงั นายหมูตํ อํ ๆ กนั ไปจัดแถวใหต๎ รงคอ
คนหน๎า ระยะตํอระหวาํ งบคุ คล 1 ชวํ งแขน (ไมตํ อ๎ งยก
แขน)

แถวตอนหมู่ กรณแี ถวตอนเรียงหน่งึ หลายหมํู
เรียก “แถวตอนหม”ํู สมมตุ ิวาํ มี 5 หมํู ให๎หมํทู ี่อยํตู รง
กลางคอื หมทํู ี่ 3 ยืนเปน็ หลกั ตรงหนา๎ ผ๎ูเรยี กหํางจาก
ผ๎ูเรยี กประมาณ 6 ก๎าว หมูทํ ่ี 2 และหมํูท่ี 1 เขา๎
แถวอยํูในแนวเดียวกันไปทางซ๎ายมอื เรยี กสวํ นหมํทู ี่ 4
และหมูทํ ี่ 5 กเ็ ขา๎ แถวอยใูํ นแนวเดียวกนั แตไํ ปทาง
ขวามือของผ๎ูเรียก ระยะเคียงระหวาํ งหมํปู ระมาณ 1
ชํวงศอก สํวนระยะตอํ ระหวํางบคุ คล 1 ชวํ งแขน(ไมํตอ๎ ง
ยกแขน)

3. แถวหน้ากระดานหมู่ปิดระยะ
เมือ่ ไดย๎ นิ เสยี งเรยี กวํา “กอง” และเห็นผ๎ูเรยี กยืนในทําตรง ยกแขนทงั้ สองข๎างเหยยี ดตรงไปขา๎ งหนา๎ ขนาน
กับพื้น งอขอ๎ ศอกขน้ึ เปน็ มมุ ฉาก กามือหันหนา๎ เขา๎ หากนั

ใหล๎ กู เสอื หมํแู รกเข๎าแถวตรงหน๎าผ๎เู รยี ก และอยํหู าํ งจากผเ๎ู รียกประมาณ 6 กา๎ วนายหมํูอยํูทางซา๎ ยมือของ
ผูเ๎ รยี ก กะให๎ก่ึงกลางของหมํูอยูตํ รงหน๎าผ๎ูเรียก ลูกหมยูํ ืนตอํ ๆ ไปทางซ๎ายของนายหมูํ เวน๎ ระยะเคยี ง 1 ชวํ งศอก

หมอํู นื่ ๆ เข๎าแถวหน๎ากระดานข๎างหลังหมูแํ รกซ๎อน ๆ กันไปตามลาดบั เวน๎ ระยะตํอระหวาํ งหมํูประมาณ
1 ชวํ งแขน

การจดั แถว เม่ือผส๎ู ่งั วาํ “จัดแถว” ใหท๎ กุ คน (ยกเวน๎ คนสุดท๎าย) ยกมือซ๎ายทาบสะโพก นว้ิ เหยยี ดชดิ กนั
นว้ิ กลางอยใํู นแนวตะเข็บกางเกง แขนขวาแนบลาตวั และสะบดั หนา๎ ไปทางขวา เมือ่ สัง่ “น่งิ ” ใหท๎ ุคนลดแขนลง
พรอ๎ มสะบดั หน๎าอยูใํ นทาํ ตรง

การจดั กิจกรรมลกู เสือสารอง ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 5
โรงเรียนเทศบาล 3 วัดเกาะแกว้ นครสวรรค์

64

4. แถวหนา้ กระดานหมู่เปิดระยะ
ผ๎ูเรยี กยืนในทาํ ตรงยกแขนท้ังสองข๎าง งอขอ๎ ศอกเปน็ มุมฉาก แบะแขนออกจนเปน็ แนวเดยี วกับไหลํ หนั หนา๎
มือไปขา๎ งหน๎า
ใหล๎ กู เสอื เขา๎ แถว เชํนเดียวกบั แถวหนา๎ กระดานปิดระยะ แตเํ ว๎นระยะตอํ ระหวํางหมํหู ํางกันหมูลํ ะประมาณ
3 ก๎าว
การจัดแถว ให๎ปฏิบตั เิ ชํนเดยี วกบั แถวหนา๎ กระดานหมํูปิดระยะ

5. แถวรปู คร่ึงวงกลม
เม่อื ไดย๎ ินเสียงเรยี ก “กอง” และเห็นผเ๎ู รยี กยืนอยํใู นทาํ ตรง แขนท้งั สองข๎างเหยยี ดตรงไปขา๎ งหนา๎ เสมอระดบั
เอว ฝุามือคว่า ข๎อมือขวากับข๎อมือซา๎ ย แลว๎ โบกผํานลาตวั ไขว๎กนั ตรงหนา๎ 3 ครัง้
ใหน๎ ายหมูํลูกเสอื หมํูแรกยืนอยใํู นแนวด๎านซา๎ ยของผเ๎ู รยี กหํางจากผเู๎ รียกพอสมควร ลูกหมยูํ นื ตํอ ๆ กนั ไปทาง
ซา๎ ยมือของนายหมูํ เว๎นระยะเคียง 1 ชวํ งศอก (มอื เทา๎ สะโพก) สะบัดหน๎าไปทางขวารอคาสั่ง “นิ่ง”

หมํูท่ี 2 และหมํูอ่ืน ๆ เขา๎ แถวตอํ จากดา๎ นซ๎ายของหมูแํ รก ตามลาดับ เวน๎ ระยะระหวาํ งหมูํ 1 ชํวงศอก รองนาย
หมูสํ ดุ ทา๎ ย จะยนื ตรงดา๎ นขวาของผ๎ูเรยี ก ในแนวเดียวกนั กับนายหมํูแรก จัดแถวให๎เป็นครึง่ รูปวงกลม ยกมอื ซ๎ายข้ึน
ทาบสะโพก สะบดั หนา๎ ไปทางขวา

การจดั แถว เมอ่ื ได๎ยินคาสั่งวาํ “นง่ิ ” ใหล๎ ูกเสือทุกคนลดแขนลงพรอ๎ มกับสะบดั หนา๎ กลบั มาอยใูํ นทาํ ตรง

การจดั กิจกรรมลกู เสือสารอง ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 5
โรงเรยี นเทศบาล 3 วดั เกาะแกว้ นครสวรรค์

65

6. แถวรปู วงกลม
การเรยี กแถวแบบผเู้ รยี กยนื อย่ทู จ่ี ดุ ศนู ยก์ ลาง
เมื่อไดย๎ ินเสยี งเรยี ก “กอง” และเหน็ ผูเ๎ รยี กยืนอยูใํ นทาํ ตรง เหยียดแขน ทั้งสองข๎างไปข๎างหนา๎ อยํูในระดบั

เอว ฝุามือแบคว่าไขวก๎ ัน ข๎อมอื ขวาทบั ข๎อมอื ซา๎ ย แลว๎ โบกผาํ นลาตวั จากด๎านหนา๎ ไปประสานกันทดี่ า๎ นหลงั โดยแบฝาุ
มอื ท้ังสองหงายขนึ้ หลงั จากมอื ขวาทบั มือซา๎ ย (โบกผํานลาตวั 3 ครงั้ )

ให๎ลกู เสือเขา๎ แถวเชนํ เดียวกบั แถวคร่งึ วงกลม แตใํ หค๎ นทา๎ ยแถว (ของนายหมํู) ของหมูสํ ุดท๎ายไปจดกับนายหมํขู องหมูํ
แรก ยกมือซ๎ายขึน้ ทาบสะโพก สะบัดหน๎าไปทางขวา

การจดั แถว เมื่อได๎ยินคาสั่งวํา “นิง่ ” ให๎สะบัดหน๎ากลบั มาอยํูในทําตรง
การเรียกแถวแบบผู้เรียกอยู่ทเ่ี สน้ รอบวง
เมือ่ ไดย๎ นิ เสยี งเรยี ก “กอง” และเหน็ ผู๎เรียกยนื อยํใู นทําตรง เหยยี ดแขนขวาตรงไปขา๎ งหน๎า มอื ขวากาขน้ึ
ขา๎ งบน หมนุ เลยไปดา๎ นหลังและหมุนกลบั มาดา๎ นหน๎า ทาเชํนน้อี ยํู 3 ครั้ง
ใหล๎ ูกเสือหมูแํ รกยืนชิดด๎านซา๎ ยมอื ของผูเ๎ รียก หมทํู ่ี 1 และหมูตํ อํ ๆ ไปอยูํทางซ๎ายมือของหมํแู รกตามลาดบั
จนรองนายหมูํของหมสํู ดุ ท๎ายไปจดขวามอื ของผ๎ูเรียกใหผ๎ ๎เู รียกอยูใํ นเส๎นรอบวง
7. แถวสเ่ี หลย่ี มเปดิ ดา้ นหน่ึง
ผู๎เรยี กแถวยืนอยดูํ ๎านหนึง่ (ซ่งึ เปน็ ด๎านเปิด) ศอกงอยกท้ังสองขน้ึ ขา๎ งหน๎า ใหห๎ น๎าแขนทั้งสองไขว๎กนั ตรงฝาุ
มอื ฝุามอื ท้งั สองแบเหยียดหันไปขา๎ งหนา๎ ฝุามือขวาไขว๎ทับฝาุ มอื ซา๎ ยประมาณแนวลูกคาง เปน็ สญั ญาณถ๎ามลี ูกเสอื 3
หมูํ ให๎เข๎าแถวในอกี 2 ดา๎ นที่เหลือ โดยมีนายหมูํ 1 เข๎าแถวหนา๎ กระดานแถวเดี่ยวทางด๎านซา๎ ยของผเ๎ู รียก หนั หน๎า
เข๎าในรูปสเ่ี หลย่ี ม หมํู 2 เขา๎ แถวหนา๎ กระดานแถวเดย่ี วด๎านตรงขา๎ มกับผ๎เู รยี ก หนั หนา๎ เข๎าหาผเู๎ รียกและหมํู 3 เข๎า
แถวหนา๎ กระดานแถวเด่ยี วตรงขา๎ มกับหมูํ 1 ทางด๎านขวาของผู๎เรยี ก
การเขา๎ แถวใหล๎ ูกเสือมากกวํา 3 หมํู ใหอ๎ ยูํในดลุ พินิจของผเู๎ รยี กแถว แตํควรให๎ดา๎ นซ๎ายมอื กบั ด๎านขวามือมี
จานวนเทํากัน
เม่อื ผเ๎ู รยี กแถวตรวจแถวเรยี บรอ๎ ยแล๎วสง่ั นิง่ ลูกเสือทกุ คนลดแขนลงพร๎อมสะบัดหนา๎ อยํใู นทาํ ตรง

การจดั กิจกรรมลกู เสือสารอง ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 5
โรงเรยี นเทศบาล 3 วัดเกาะแกว้ นครสวรรค์

66

8. แถวรศั มีหรอื ล้อเกวียน

ผเู๎ รียกแถวยืนอยูใํ นทําตรง มอื ขวาแบคว่ากางนิ้วออกทุกน้ิว ชูแขนไปข๎างหน๎าทามุมประมาณ 45 องศาให๎

มองเหน็ ได๎ แล๎ว เรียก “กอง”

ใหล๎ ูกเสอื ทุกหมูํมาเข๎าแถวเป็นรูปหมํูแถวตอนหน๎าผ๎ูเรียก หํางจากผ๎ูเรียกประมาณ 6 ก๎าว เป็นรูปรัศมีโดย

ให๎หมํูแรกอยํูด๎านหน๎าทางซ๎ายมือผ๎ูเรียกประมาณ 45 องศา หมํูท่ี 2 และหมํูตํอๆ ไปอยูํด๎านซ๎ายของหมํูแรก

ตามลาดับ ถือผ๎ูเรยี กเป็นจุดศนู ย์กลาง ระยะตอํ ของแตลํ ะหมํรู ะหวาํ งบคุ คลประมาณ 1 ชวํ งแขน ระยะเคยี งระหวาํ ง

นายหมตํู อํ นายหมํูพอสมควรและนายหมหูํ มสูํ ดุ ทา๎ ยจะอยดํุ ๎านหนา๎ ทางขวามอื ของผ๎ูเรยี กประมาณ 45 องศา

การเข๎าแถว ให๎ลกู เสอื ทกุ คน (เว๎นคนอยหํู ัวแถวของแตํละหมํู) เหยียดแขนซ๎ายไปข๎างหน๎า สูงเสมอแนวไหลํ

คว่าฝุามือให๎ปลายน้ิวมือจดหลังของคนหน๎าพอดี ผู๎เรียกแถวจัดแถวแล๎วส่ัง “นิ่ง” ลูกเสือทุกคนลดแขนลงพร๎อมกัน

และนงิ่

สญั ญาณนกหวดี

สาหรบั การฝึกประจาวนั หรอื ในโอกาสทผี่ บู๎ ังคบั บญั ชาอยูหํ ํางไกลลกู เสือ ใช๎สัญญาณ

ประเภทอ่นื ไมสํ ะดวกกใ็ ช๎สญั ญาณนกหวีดแทนคอื

1. หวีดยาว 1 ครั้ง ( ) ถ๎าเคลอ่ื นที่ใหห๎ ยดุ ถา๎ หยุดอยํูเตอื น, เตรยี มตัวหรอื คอยฟงั คาส่งั

2. หวีดยาว 2 คร้ัง ( ) เดนิ ตอํ ไป, เคลื่อนทต่ี ํอไป, ทางานตอํ ไป

3. หวีดสัน้ 1 ครง้ั , หวดี ยาว 1 ครั้ง สลับกันไป ( ) เกิดเหตุ

4. หวดี สน้ั 3 ครง้ั หวีดยาว 1 ครั้ง ติดตอํ กนั ไป ( ,

) เรียกนายหมมํู ารบั คาสัง่

5. หวีดส้นั ตดิ กันหลายๆ ครงั้ ( ) ประชุม, รวม

หมายเหตุ เม่ือจะใช๎สญั ญาณ (2) (3) (4) หรือ (5) ให๎ใชส๎ ญั ญาณ (1) กอํ นทกุ คร้ัง

การจัดกจิ กรรมลกู เสือสารอง ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 5
โรงเรียนเทศบาล 3 วัดเกาะแก้วนครสวรรค์

67

แผนการจดั กิจกรรมการเรยี นรทู้ ี่ 15 ทกั ษะในทางวชิ าลูกเสือ
เรือ่ ง การผูกเงอ่ื นที่ใชใ้ นชวี ิตประจาวัน

1. สรปุ สาระสาคญั การผกู เงอ่ื นไดถ๎ ูกตอ๎ ง สามารถนาไปใชป๎ ระโยชน์ในชวี ิตประจาวันได๎
2. จุดประสงค์

1. บอกประโยชนข์ องเงอื่ นประมงเงื่อนผกู รํน เงือ่ นบวํ งสายธนูและ เง่อื นผูกร้งั ได๎
2. แสดงวธิ ีการผูกเง่อื นประมงเงอ่ื นผกู รนํ เงอ่ื นบํวงสายธนูและ เงือ่ นผกู ร้ัง ได๎
3. ทกั ษะกระบวนการ
( ) 1. ตระหนักในปญั หาและความจาเปน็
( ) 2. คิดวิเคราะหว์ จิ ารณ์
( ) 3. สร๎างทางเลือกหลากหลาย
( ) 4. ประเมินและเลอื กทางเลอื ก
( ) 5. กาหนดและลาดบั ขน้ั ตอนการปฏิบตั ิ
( ) 6. ปฏิบตั ิด๎วยความชน่ื ชม
( ) 7. ประเมินระหวาํ งปฏบิ ตั ิ
( ) 8. ปรบั ปรุงใหด๎ ขี ้ึนอยเูํ สมอ
( ) 9. ประเมินผลรวมเพื่อใหเ๎ กิดความภาคภมู ใิ จ

4. กจิ กรรม และสือ่ / อปุ กรณ์ สือ่ / อปุ กรณ์

กจิ กรรม 1. แผนภมู เิ พลง
2. เชือก
1. พิธเี ปดิ ประชุมกอง (ธงขึน้ สวดมนต์ สงบน่ิง ตรวจ แยก ) 3. แผนภมู ิการผกู เงอื่ นผูกรั้ง
2. เพลง - เกม
3. การสอนตามเน้อื หา เงือ่ นผูกรนํ และเงอื่ นบวํ งสายธนู

3.1 แบงํ หมูํลูกเสือเรยี นตามฐาน โดยผก๎ู ากบั อธิบายและสาธติ
แล๎วใหล๎ กู เสือฝึกปฏบิ ัตดิ งั น้ี

ฐานท่ี 1 เง่ือนผูกผูกรง้ั และประโยชน์
ฐานท่ี 2 เงื่อนผกู รนํ และประโยชน์
ฐานท่ี 3 เง่ือนบํวงสายธนูและประโยชน์
3.2 ผก๎ู ากับมอบหมายให๎ทุกคนไปฝกึ ปฏบิ ตั ิใหช๎ านาญ
4. ผกู๎ ากับเลําเรอ่ื งส้นั ที่เป็นประโยชน์
5. พิธีปิดประชุมกอง (นัดหมาย ตรวจ ธงลง เลิก)

การจัดกจิ กรรมลูกเสอื สารอง ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 5
โรงเรยี นเทศบาล 3 วดั เกาะแก้วนครสวรรค์

68

5. การประเมนิ ผล ผา่ น ไมผ่ ่าน
รายละเอยี ดการประเมินผล
…………. …………..
1. ความสนใจในการเข๎ารวํ มกจิ กรรม …………. …………..
2. ความต้งั ใจในการปฏบิ ัตกิ จิ กรรม …………. …………..
3. บอกประโยชน์ของการผกู เง่อื นผูกร้งั เงือ่ นผกู รํนและเง่อื นบํวงสายธนู ……….… …………..
4. แสดงวธิ ผี ูกเงื่อนผูกรั้ง เงือ่ นผกู รนํ และเง่อื นบวํ งสายธนู

6. กิจกรรมเสนอแนะเพ่มิ เตมิ
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………

7. ปญั หาและข้อเสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………

การจัดกจิ กรรมลกู เสือสารอง ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 5
โรงเรียนเทศบาล 3 วัดเกาะแก้วนครสวรรค์

69

แผนการจดั กจิ กรรมการเรยี นรทู้ ี่ 16 ทักษะในทางวชิ าลูกเสอื
เรือ่ ง การผูกประกบ

1. สรุปสาระสาคญั การผกู เงอ่ื นได๎ถูกต๎อง สามารถนาไปใชป๎ ระโยชน์ในชวี ิตประจาวัน
2. จุดประสงค์

1. บอกประโยชนข์ องการผกู ประกบได๎
2. แสดงวธิ ีผกู ประกบ 2 ทํอนและ 3 ทํอนไดถ๎ กู ต๎อง
3. ทกั ษะกระบวนการ
( ) 1. ตระหนกั ในปญั หาและความจาเปน็
( ) 2. คิดวิเคราะหว์ ิจารณ์
( ) 3. สรา๎ งทางเลือกหลากหลาย
( ) 4. ประเมินและเลอื กทางเลอื ก
( ) 5. กาหนดและลาดบั ขน้ั ตอนการปฏบิ ัติ
( ) 6. ปฏิบัตดิ ว๎ ยความชน่ื ชม
( ) 7. ประเมนิ ระหวํางปฏบิ ตั ิ
( ) 8. ปรับปรุงให๎ดีข้นึ อยํูเสมอ
( ) 9. ประเมนิ ผลรวมเพอ่ื ให๎เกดิ ความภาคภมู ใิ จ

4. กิจกรรม และสอื่ / อปุ กรณ์

กจิ กรรม สื่อ/ อปุ กรณ์

1. พธิ เี ปดิ ประชุมกอง (ธงขนึ้ สวดมนต์ สงบนิ่ง ตรวจ แยก ) 1. แผนภมู ิเพลง

2. เพลง - เกม 2. เชือก

3. การสอนตามเนื้อหา 3. ไม๎พลอง

3.1 แบงํ หมลูํ กู เสอื เรียนตามฐาน โดยผ๎กู ากับอธบิ ายและสาธติ 4. แผนภมู แิ สดงการผกู ประกบ

แลว๎ ใหล๎ ูกเสอื ฝึกปฏิบัติดังนี้ 2 ทอํ นและผูกประกบ 3

ฐานท่ี 1 ผูกประกบ 2 ทํอนและประโยชน์ ทํอน

ฐานท่ี 2 ผกู ประกบ 3 ทํอนและประโยชน์

3.2 ผกู๎ ากบั เน๎นการผูกประกบต๎องมีการพับหักคอไกํและจบลงดว๎ ย

เงือ่ นตะกรุดเบด็

3.3 ผ๎ูกากับมอบหมายใหล๎ กู เสือไปฝึกปฏบิ ัตใิ หช๎ านาญ

4. ผ๎กู ากับเลาํ เร่ืองสนั้ ทเ่ี ปน็ ประโยชน์

5. พิธปี ดิ ประชมุ กอง (นัดหมาย ตรวจ ธงลง เลิก)

การจดั กจิ กรรมลกู เสอื สารอง ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 5
โรงเรยี นเทศบาล 3 วดั เกาะแกว้ นครสวรรค์

70

5. การประเมินผล ผา่ น ไมผ่ ่าน
รายละเอียดการประเมินผล
…………. …………..
1. ความสนใจในการเข๎ารํวมกจิ กรรม …………. …………..
2. ความตงั้ ใจในการปฏบิ ตั ิกจิ กรรม …………. …………..
3. บอกประโยชนข์ องเง่ือนผูกประกบ ……….… …………..
4. แสดงวิธีผูกประกบ 2 ทํอน และ 3 ทอํ น

6. กิจกรรมเสนอแนะเพิ่มเตมิ
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………

7. ปญั หาและข้อเสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………

การจัดกจิ กรรมลกู เสอื สารอง ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 5
โรงเรียนเทศบาล 3 วัดเกาะแก้วนครสวรรค์

71

แผนการจดั กจิ กรรมการเรียนรูท้ ี่ 17 ทักษะในทางวชิ าลูกเสือ
เร่อื ง การผกู ทแยง

1. สรปุ สาระสาคัญ การผกู เงอื่ นได๎ถกู ตอ๎ ง สามารถนาไปใชป๎ ระโยชน์ในชวี ติ ประจาวัน

2. จดุ ประสงค์

1. บอกประโยชน์ของการผกู ทแยงได๎

2. แสดงวธิ ผี ูกทแยงได๎ถกู ต๎อง

3. ทักษะกระบวนการ

( ) 1. ตระหนักในปญั หาและความจาเป็น

( ) 2. คดิ วิเคราะห์วจิ ารณ์

( ) 3. สร๎างทางเลือกหลากหลาย

( ) 4. ประเมินและเลอื กทางเลอื ก

( ) 5. กาหนดและลาดบั ขัน้ ตอนการปฏิบตั ิ

( ) 6. ปฏบิ ตั ิดว๎ ยความชืน่ ชม

( ) 7. ประเมนิ ระหวาํ งปฏิบัติ

( ) 8. ปรับปรุงให๎ดีข้นึ อยูเํ สมอ

( ) 9. ประเมินผลรวมเพอื่ ให๎เกิดความภาคภูมใิ จ

4. กิจกรรม และสอ่ื / อุปกรณ์

กจิ กรรม ส่อื / อุปกรณ์

1. พธิ เี ปิดประชุมกอง (ธงขนึ้ สวดมนต์ สงบน่ิง ตรวจ แยก ) 1. แผนภมู เิ พลง

2. เพลง - เกม 2. เชอื ก

3. การสอนตามเน้อื หา 3. ไมพ๎ ลอง

3.1 แบํงหมลูํ ูกเสอื ฝกึ ปฏบิ ตั ิ โดยผก๎ู ากับอธบิ ายและสาธติ วิธีผกู 4. แผนภูมิแสดงการผกู ทแยง

ทแยง หกั คอไกํ และจบลงด๎วยเงอ่ื นตะกรุดเบ็ด

3.2 รํวมกันอภปิ รายถงึ ประโยชน์ของการผกู ทแยง

3.3 ผู๎กากบั มอบหมายใหล๎ ูกเสือไปฝึกปฏิบตั จิ นชานาญ

4. ผู๎กากบั เลาํ เร่อื งสั้นทเ่ี ปน็ ประโยชน์

5. พธิ ปี ดิ ประชมุ กอง (นดั หมาย ตรวจ ธงลง เลิก)

การจดั กิจกรรมลกู เสือสารอง ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 5
โรงเรยี นเทศบาล 3 วัดเกาะแก้วนครสวรรค์

72

5. การประเมินผล ผ่าน ไม่ผา่ น
รายละเอียดการประเมนิ ผล
…………. …………..
1. ความสนใจในการเข๎ารํวมกจิ กรรม …………. …………..
2. ความตั้งใจในการปฏบิ ัติกจิ กรรม …………. …………..
3. บอกประโยชนข์ องการผกู ทแยง ……….… …………..
4. แสดงวิธผี กู ทแยง

6. กิจกรรมเสนอแนะเพ่ิมเติม
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………

7. ปญั หาและขอ้ เสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………

การจัดกจิ กรรมลกู เสอื สารอง ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 5
โรงเรยี นเทศบาล 3 วัดเกาะแก้วนครสวรรค์

73

แผนการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ที่ 18 ทักษะในทางวิชาลกู เสือ
เรอ่ื ง การผูกกากบาท

1. สรุปสาระสาคญั การผกู เงื่อนไดถ๎ ูกต๎อง สามารถนาไปใชป๎ ระโยชน์ในชีวิตประจาวัน

2. จดุ ประสงค์

1. บอกประโยชน์ของการผกู กากบาทได๎

2. แสดงวธิ ผี ูกกากบาทได๎

3. ทักษะกระบวนการ

( ) 1. ตระหนกั ในปญั หาและความจาเป็น

( ) 2. คิดวิเคราะหว์ จิ ารณ์

( ) 3. สรา๎ งทางเลอื กหลากหลาย

( ) 4. ประเมนิ และเลือกทางเลอื ก

( ) 5. กาหนดและลาดับขัน้ ตอนการปฏิบตั ิ

( ) 6. ปฏบิ ัตดิ ว๎ ยความช่นื ชม

( ) 7. ประเมินระหวาํ งปฏบิ ตั ิ

( ) 8. ปรับปรงุ ให๎ดีขน้ึ อยํูเสมอ

( ) 9. ประเมนิ ผลรวมเพ่ือให๎เกดิ ความภาคภูมิใจ

4. กิจกรรม และสื่อ/ อปุ กรณ์

กิจกรรม สอ่ื / อปุ กรณ์

1. พธิ ีเปดิ ประชุมกอง (ธงข้นึ สวดมนต์ สงบน่งิ ตรวจ แยก ) 1. แผนภมู เิ พลง

2. เพลง - เกม 2. เชอื ก

3. การสอนตามเน้อื หา 3. ไมพ๎ ลอง

3.1 แบงํ หมูลํ กู เสือฝกึ ปฏิบัติ โดยผ๎กู ากบั อธบิ ายและสาธติ วิธผี ูก 4. แผนภูมิแสดงการผกู กากบาท

ทแยง หักคอไกํ และจบลงด๎วยเงอื่ นตะกรุดเบ็ด

3.2 รํวมกันอภิปรายถงึ ประโยชน์ของการผูกกากบาท

3.3 ผู๎กากบั มอบหมายให๎ลูกเสือไปฝกึ ปฏบิ ตั จิ นชานาญ

4. ผู๎กากบั เลําเรื่องสั้นทเ่ี ป็นประโยชน์

5. พธิ ปี ิดประชมุ กอง (นัดหมาย ตรวจ ธงลง เลกิ )

การจดั กจิ กรรมลกู เสือสารอง ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 5
โรงเรียนเทศบาล 3 วดั เกาะแกว้ นครสวรรค์

74

5. การประเมินผล ผา่ น ไมผ่ า่ น
รายละเอยี ดการประเมนิ ผล
…………. …………..
1. ความสนใจในการเข๎ารวํ มกจิ กรรม …………. …………..
2. ความตงั้ ใจในการปฏบิ ัตกิ จิ กรรม …………. …………..
3. บอกประโยชนข์ องการผูกกากบาท ……….… …………..
4. แสดงวิธีผูกกากบาท

6. กจิ กรรมเสนอแนะเพ่มิ เติม
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………

7. ปญั หาและขอ้ เสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………

การจดั กิจกรรมลกู เสือสารอง ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 5
โรงเรยี นเทศบาล 3 วดั เกาะแก้วนครสวรรค์

75

แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 19 ทักษะในทางวชิ าลกู เสอื
เรอ่ื ง การใชม้ ดี และขวาน

1. สรปุ สาระสาคัญ การรูจ๎ กั ใช๎และเก็บรักษามีดและขวานใหถ๎ ูกวิธี เน๎นประโยชนแ์ ละความปลอดภยั ในการทางาน
2. จดุ ประสงค์

1. บอกชนิดของมีดและขวานได๎
2. บอกวิธใี ช๎และเก็บรักษามดี และขวานได๎
3. สามารถใช๎มดี และขวานได๎อยาํ งปลอดภัย
3. ทักษะกระบวนการ
( ) 1. ตระหนักในปญั หาและความจาเป็น
( ) 2. คดิ วเิ คราะหว์ ิจารณ์
( ) 3. สร๎างทางเลือกหลากหลาย
( ) 4. ประเมนิ และเลือกทางเลอื ก
( ) 5. กาหนดและลาดบั ขนั้ ตอนการปฏบิ ัติ
( ) 6. ปฏบิ ัตดิ ๎วยความชนื่ ชม
( ) 7. ประเมินระหวาํ งปฏบิ ตั ิ
( ) 8. ปรบั ปรงุ ใหด๎ ีขน้ึ อยูํเสมอ
( ) 9. ประเมนิ ผลรวมเพือ่ ให๎เกดิ ความภาคภมู ใิ จ

4. กิจกรรม และสอ่ื / อปุ กรณ์ สอื่ / อุปกรณ์

กิจกรรม 1. แผนภมู เิ พลง
2. ภาพหรอื ตวั อยํางมดี และขวาน
1. พิธีเปดิ ประชุมกอง (ธงขน้ึ สวดมนต์ สงบน่ิง ตรวจ แยก )
2. เพลง - เกม ชนดิ ตําง ๆ
3. การสอนตามเนอ้ื หา 3. แผนภมู หรือภาพการใช๎และการ

3.1 ผูก๎ ากบั นาสนทนาเกี่ยวกบั ชนิดของการใช๎มีดและขวาน เก็บรักษามดี และขวาน
3.2 รวํ มกนั อภิปรายถึงวิธใี ชแ๎ ละเกบ็ รักษามดี และขวานอยาํ ง
ปลอดภยั ในการปฏบิ ตั ิกจิ กรรม
3.3 ผูก๎ ากับอธบิ ายเก่ียวกบั การลับสมอบกด๎วยมีด และการใช๎
ขวานผาํ ไม๎ทาฝนื
4. ผูก๎ ากบั เลําเร่ืองสน้ั ที่เป็นประโยชน์
5. พิธีปิดประชุมกอง (นดั หมาย ตรวจ ธงลง เลกิ )

การจัดกิจกรรมลกู เสอื สารอง ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 5
โรงเรยี นเทศบาล 3 วัดเกาะแกว้ นครสวรรค์

76

5. การประเมินผล ผ่าน ไมผ่ ่าน
รายละเอียดการประเมินผล
…………. …………..
1. ความสนใจในการเขา๎ รวํ มกจิ กรรม …………. …………..
2. ความต้ังใจในการปฏบิ ัตกิ จิ กรรม …………. …………..
3. บอกชนิดของมดี และขวาน ……….… …………..
4. บอกวิธใี ชแ๎ ละเกบ็ รกั ษามดี และขวาน …………. …………..
5. แสดงวธิ ใี ชม๎ ีดและขวานอยาํ งปลอดภยั

6. กิจกรรมเสนอแนะเพมิ่ เตมิ
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………

7. ปญั หาและขอ้ เสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………

การจัดกจิ กรรมลูกเสอื สารอง ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 5
โรงเรียนเทศบาล 3 วัดเกาะแก้วนครสวรรค์

77

แผนการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ที่ 20 ทักษะในทางวชิ าลูกเสอื
เรอ่ื ง สัญญาณเกีย่ วกับกาลอากาศ

1. สรุปสาระสาคัญ การเรยี นรเ๎ู กย่ี วกับกาลอากาศ ชํวยใหส๎ ามารถปรบั ตวั ใหเ๎ ข๎ากับสภาพอากาศได๎
2. จุดประสงค์

1. บอกฤดูกาลตาํ ง ในทอ๎ งถน่ิ ได๎
2. บอกทศิ ทางลม และชอ่ื ลมประจาฤดูกาลท่พี ดั ผาํ นได๎
3. บอกลักษณะอากาศตามฤดูกาลนนั้ ๆ ได๎
3. ทกั ษะกระบวนการ
( ) 1. ตระหนกั ในปญั หาและความจาเป็น

( ) 2. คดิ วเิ คราะห์วจิ ารณ์
( ) 3. สร๎างทางเลอื กหลากหลาย

( ) 4. ประเมินและเลือกทางเลอื ก
( ) 5. กาหนดและลาดับขัน้ ตอนการปฏบิ ตั ิ

( ) 6. ปฏิบัติดว๎ ยความชน่ื ชม
( ) 7. ประเมนิ ระหวาํ งปฏิบัติ
( ) 8. ปรบั ปรงุ ใหด๎ ขี น้ึ อยเูํ สมอ
( ) 9. ประเมินผลรวมเพ่อื ให๎เกิดความภาคภูมิใจ

4. กจิ กรรม และสอ่ื / อปุ กรณ์

กจิ กรรม สอ่ื / อุปกรณ์

1. พิธีเปิดประชมุ กอง (ธงขนึ้ สวดมนต์ สงบนง่ิ ตรวจ แยก ) 1. แผนภมู ิเพลง
2. เพลง - เกม 2. ภาพหรอื เครื่องมอื ทบ่ี อก
3. การสอนตามเนือ้ หา
สญั ญาณเกยี่ วกับกาลอากาศ
3.1 ผกู๎ ากบั นาสนทนาถงึ ลักษณะอากาศท่เี กดิ ข้นึ ตามฤดกู าล เชํน เทอร์โมมเิ ตอร์

3.2 รวํ มกันอภปิ รายเกย่ี วกับเครอ่ื งมอื ท่ีใชบ๎ อกสญั ญาณเก่ยี วกับ ไฮโดรมิเตอร์ และบารอมิเตอร์
กาลอากาศ เชนํ เทอรโ์ มมเิ ตอร์ ไฮโดรมเิ ตอร์ และบารอมเิ ตอร์
3.3 ใหล๎ กู เสือดาเนนิ การอภปิ รายกลุํม ตามหัวขอ๎ ตอํ ไปนี้
กลมํุ ท่ี 1 ฤดรู อ๎ น ฤดฝู น ฤดูหนาว

กลมํุ ที่ 2 ลักษณะอากาศในแตลํ ะฤดูกาล
กลมุํ ที่ 3 ลมบก ลมทะเล ลมประจาฤดกู าล และลมประจาถิ่น

3.4 ผ๎กู ากับสรปุ เสนอแนะ
4. ผู๎กากบั เลําเรือ่ งสนั้ ทีเ่ ปน็ ประโยชน์

5. พธิ ปี ิดประชมุ กอง (นดั หมาย ตรวจ ธงลง เลิก)

การจัดกิจกรรมลกู เสอื สารอง ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 5
โรงเรยี นเทศบาล 3 วดั เกาะแก้วนครสวรรค์

78

5. การประเมินผล ผ่าน ไม่ผา่ น
รายละเอียดการประเมินผล
…………. …………..
1. ความสนใจในการเข๎ารํวมกจิ กรรม …………. …………..
2. ความตง้ั ใจในการปฏบิ ตั ิกจิ กรรม …………. …………..
3. บอกช่ือฤดกู าลในทอ๎ งถนิ่ ……….… …………..
4. บอกทศิ ทางลม หรอื ช่อื ลมประจาฤดกู าลท่พี ัดผําน …………. …………..
5. บอกลักษณะอากาศตามฤดกู าลในท๎องถิ่น

6. กจิ กรรมเสนอแนะเพมิ่ เตมิ
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………

7. ปัญหาและข้อเสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………

การจดั กิจกรรมลกู เสือสารอง ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 5
โรงเรียนเทศบาล 3 วดั เกาะแก้วนครสวรรค์

79

เน้ือหา
1. การผูกเง่อื น

ลกู เสือทกุ คนยอํ มสามารถผูกเง่ือนตําง ๆ ได๎ การผูกเงื่อนดูเหมือนจะเป็นของงาํ ยแตกํ พ็ บเหน็ อยเํู ป็นประจาวาํ
หลายคนผูกเงื่อนอยาํ งผิด ๆ ลกู เสอื จะต๎องเรียนรูแ๎ ละผกู เง่อื นให๎ถูกวิธีเพราะในบางโอกาส ชวี ิตของเราก็อาจฝากไว๎กับ
การผูกเง่ือนชนิดหน่งึ ก็เป็นไปได๎

เงือ่ นที่ถกู วิธี คือ เงื่อนซง่ึ แนํใจวําเมอื่ ผูกแลว๎ จะดึงไมํหลดุ ไมวํ ําจะออกแรงดึงแคํไหนกต็ าม ใน
ขณะเดียวกันถา๎ ตอ๎ งการจะแก๎ กส็ ามารถแกอ๎ อกได๎โดยงาํ ย

1.1 การผูกเงื่อนด้วยเชอื กทีม่ ีขนาดเดียวกัน
1.1.1 เงื่อนประมง เป็นเงื่อนท่ีใช๎ตอํ เชอื ก 2 เสน๎ ทีม่ ีขนาดเดยี วกนั อยํางงาํ ยทสี่ ุดและรับกาลงั ลากได๎ดี
รวมทงั้ สามารถใช๎ผกู ปากขวดท่มี ขี อบสาหรับหวิ้ หรอื ถือไป บางคนกเ็ รียกเงอื่ นชนดิ นี้วําเงือ่ นหัวลา๎ นชนกนั

วธิ ีผกู
1. นาเชือก 2 เส๎นวางใหป๎ ลายซอ๎ นกัน
2. ผูกปลายเชอื กเสน๎ หนึ่งรอบเชอื กอีกเส๎นหน่งึ
3. ผูกปลายเชือกเสน๎ ทเี่ หลอื รอบเชอื กอกี เส๎น
หนงึ่ เชํนเดียวกัน
4. ดึงเชอื กทงั้ สองให๎เงอ่ื นเล่ือนมาชนกัน
ประโยชน์ เป็นเง่อื นไขทใี่ ชต๎ อํ เชือกสองเส๎น
ขนาดเดยี วกัน อยํางงํายที่สดุ และรับกาลังลากไดอ๎ ยาํ งดี
บางคนเรยี กวําเง่อื นหวั ลา๎ นชนกัน

1.1.2 เง่อื นผกู ร่น ใชผ๎ ูกทบเชอื กสํวนทช่ี ารดุ เลก็ นอ๎ ย หรือทบเชอื กให๎มีกาลังลากจูงเพิ่มมากขน้ึ และเชือก
ที่หยอํ นใหส๎ ้นั และตึงข้ึน

วธิ ีผกู
1. ทบเชอื กตรงที่ชารุดหรือตรงสวํ นทต่ี ๎องการรํน ดงึ
เข๎ามาใหส๎ ั้น
2. ทาสํวนปลายเชือกท้ัง 2 ดา๎ นให๎เป็นบํวง
3. สอดปลายเชือกท่ีทบเข๎าไปในบวํ งทัง้ 2 บํวงแล๎ว
ดึงให๎ตึง
ประโยชน์
1. ใช๎ผูกรนํ ทบเชอื กทช่ี ารุดเล็กนอ๎ ยซ่ึงถ๎าใช๎กาลังมาก
อาจขาด เม่ือทบแล๎วจะใหก๎ าลังเทาํ เดมิ
2. ใชท๎ บเชอื กทยี่ าวมาก ๆ ให๎ส้นั ลงตามตอ๎ งการ

1.1.3 เงอ่ื นผูกคนลาก ประโยชนข์ องเงื่อนชนดิ นี้ คือ ใช๎ทาบํวงคล๎องไหลเํ พ่อื ลากสงิ่ ของจงู สตั ว์ ใชพ๎ นั
หลกั ใชผ๎ กู ลูกระนาด ผูกลูกบนั ได

การจัดกิจกรรมลกู เสอื สารอง ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 5
โรงเรียนเทศบาล 3 วัดเกาะแกว้ นครสวรรค์

80

วิธผี ูก
1. ใชม๎ ือท้ังสองจบั ตรงกลางเชือก พลิกมือขวา
จนเกิดเป็นบํวงโดยใหเ๎ ชือกด๎านทมี่ อื ซ๎ายจับถืออยูดํ า๎ นบน
2. จับเชอื กด๎านซา๎ ยออ๎ มใตบ๎ วํ ง
3. ดงึ ขอบบํวงลํางลอดใตเ๎ ส๎นเชือก (ขอ๎ 2)
4. (ทาตอํ เนื่องจากข๎อ 3) ดึงเชือกให๎ขา๎ มขอบ
บํวงบน จากน้ันดึงและจดั เงอื่ นใหเ๎ รียบร๎อย

1.2 การผูกเง่ือนดว้ ยเชือกท่มี ขี นาดตา่ งกนั

1.2.1 เงอื่ นขดั สมาธิ มีประโยชน์ใชต๎ ํอเชือกซง่ึ มีขนาด
ตํางกนั หรอื ใชผ๎ ูกกบั วตั ถทุ ม่ี ีลักษณะเปน็ ตะขอ หรือเป็นหวํ ง

วิธีผูก
1. ใช๎เชือกเสน๎ ท่ีใหญกํ วําหรอื แข็งกวาํ ทาเป็นบํวง
2. สอดปลายเชือกเสน๎ เล็กจากดา๎ นลํางเข๎าไปในบวํ ง
3. นาเชอื กเส๎นเลก็ จากดา๎ นลํางเขา๎ ไปในบํวง ดงึ ปลาย
เชือกเส๎นเล็กขนึ้ ไปลอดเส๎นตัวเองเป็นการขัดไว๎ จัดเงือ่ นให๎แนนํ
และเรียบร๎อย

1.2.2 เง่อื นขดั สมาธิ 2 ชัน้ ใช๎ผูกกบั สมอ ตะขอ
หรอื บวํ งใหต๎ ํอเชือกท่ีมขี นาดตาํ งกนั มาก หรอื ตอํ เชือกเปยี กตอํ
เชือกทท่ี าจากวสั ดุตํางกนั หรอื ตอ๎ งการตอํ เชอื กใหแ๎ นํนยิ่งขนึ้

วธิ ผี ูก
1. ใชเ๎ ชือกเส๎นใหญทํ าเปน็ บํวงแล๎วนาเชือกเสน๎ เลก็ หรือ
เสน๎ ท่อี อํ นกวําพนั เสน๎ ใหญหํ รอื เสน๎ แขง็ หลาย ๆรอบ
2. สอดปลายเชือกเสน๎ เลก็ เขา๎ ไปบวํ งแลว๎ ปฏิบตั ิ
ตํอเน่ืองกนั ไปเชํนเดยี วกับการผกู เง่อื นขัดสมาธิ ข๎อ 2.1 จน
เสร็จ

การจัดกิจกรรมลูกเสอื สารอง ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 5
โรงเรยี นเทศบาล 3 วดั เกาะแกว้ นครสวรรค์

81

1.3 การผกู เงอ่ื นดว้ ยเชือกกับวัสดุอยา่ งใดอยา่ งหนึง่
1.3.1 เงอ่ื นผกู ซุง เงื่อนแบบนี้เหมาะท่ีจะใชผ๎ กู กับวตั ถยุ าว ๆ เชนํ ต๎นซงุ วัตถทุ รงกระบอก เสา เพ่ือ
สะดวกแกกํ ารลากซุง เพราะวตั ถจุ ะไมเํ กะกะกดี ขวาง นอกจากนย้ี งั สามารถผกู สตั ว์ เรือ แพไวก๎ บั หลักได๎อยาํ งดี
เพราะเงอื่ นนจี้ ะกระชับแนํนเมอ่ื ถูกดึง เง่ือนผูกซุงถอื เปน็ เงือ่ นเรม่ิ ตน๎ ในการผกู ทแยง

วธิ ีผูก
1. สอดเชอื กใหค๎ ลอ๎ งรอบตน๎ ซุงหรอื เสา (ควร
คลอ๎ งเชอื กตรงบรเิ วณสวํ นปลายของทอํ นซงุ )
2. งอปลายเชือกคล๎องตวั เชือก
3. สอดปลายเชือกรอบตวั เอง 3-5 รอบแล๎วพับ
ปลายเชือกขัดไว๎ ดงึ ตัวเชือกใหเ๎ ง่อื นแนนํ
ในกรณที ีต่ อ๎ งการดงึ ลาก กเ็ อาเชอื กไปคลอ๎ ง
ปลายซุงหรือเสาอกี ข๎างหนง่ึ เปน็ แบบตราสัง (บางคนก็จะ
เรียกเงอ่ื นผกู ซงุ ทท่ี าตราสงั แล๎วน้วี าํ เง่อื นเจก๏ ลากซงุ )

ประโยชน์
1. ใช๎ผกู ซงุ หรือเสาหนกั ๆ เพอ่ื ลาก
2. ผูกสตั ว์ เรอื แพ ไวก๎ บั หลกั จะยง่ิ แนนํ เมอ่ื ถกู ดึง
3. ใช๎เปน็ เงอื่ นเร่มิ ต๎นในการผูกทแยง

1.3.2 เงื่อนตะกรุดเบด็ ใช๎ผกู กับเสาในงานบกุ เบกิ ผูกส่งิ ของยกขนึ้ -ลงในเวลาปจั จบุ ันทันดวํ น เงอ่ื นนี้ถอื
เป็นเงื่อนหัวใจของการเรยี นผูกเงอื่ น เพราะเป็นจดุ เรมิ่ ต๎นทจ่ี ะนาไปสกูํ ารผูกเงื่อนแบบตําง ๆ ไดอ๎ ีกหลายเงอ่ื น ข๎อควร
ระวังของการผกู เงอ่ื นตะกรุดเบ็ดกค็ ือควรผูกเง่ือนตรงบรเิ วณกลางเสน๎ เชือก เพราะถ๎าใช๎ปลายเชอื กผกู อาจจะไมํแนํน
เน่อื งจากเงอื่ นนถี้ า๎ หากถูกกระตุกบํอย ๆ ปมเชอื กจะคอํ ย ๆ คลายออกมา ทาให๎เชอื กหลดุ ได๎

การจดั กจิ กรรมลกู เสือสารอง ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 5
โรงเรยี นเทศบาล 3 วัดเกาะแก้วนครสวรรค์

82

วิธผี ูก
แบบท่ี 1 (ทาเป็นบํวงสวมหัวเสา)
1. พบั เชือกให๎เป็นบวํ ง 2 บวํ งสลบั กนั
2. เลอ่ื นบวํ งให๎เขา๎ ไปซ๎อนกนั จนทบั กนั เป็นบํวงเดียว
3. นาบํวงจากขอ๎ 2 สวมใสลํ งไปในเสาดึงเชือกให๎ตึงจัดเงื่อน
ใหแ๎ นนํ

แบบท่ี 2 (ใชผ๎ กู กบั หลกั เสา หรอื ตน๎ ไม)๎
1. พาดเชอื กออ๎ มเสาไปทางดา๎ นหลงั แล๎วดึงเชอื กวกกลบั
มาทางดา๎ นหน๎า
2. ดึงเชอื กอ๎อมเสาไปทางด๎านหลงั อีกครง้ั หน่ึงแล๎ววกกลบั
มาลอดตวั เอง
3. ดงึ เชอื กให๎ตึง จัดเงื่อนใหแ๎ นํน
ประโยชน์ เปน็ เงอ่ื นหัวใจของวิชาลูกเสอื เพราะใชเ๎ งือ่ นอืน่ ๆ
อีกหลายเงอื่ น เชนํ ผูกแนนํ ผูกประกบ ผกู กากบาท

1.3.3 เง่อื นผกู ร้งั ใชผ๎ กู สายเตน็ ท์ เสาธง เพงิ ตน๎ ไม๎ เพื่อกนั การโคนํ ล๎มรวมทั้งยงั สามารถใช๎ผกู กับบํวง
ตาํ ง ๆ ไดเ๎ ป็นอยํางดี เนอ่ื งจากเลอ่ื นเชอื กใหห๎ ยอํ นหรอื ตงึ ไดต๎ ามตอ๎ งการ

วธิ ผี ูก
1. ทาเปน็ บวํ งพาดด๎านบนตัวเชือกดงึ อ๎อมลงแล๎วสอดข้นึ
ด๎านบนใหป๎ ลายเชือกพาดทับตวั เชือก
2. จับปลายเชอื กสอดข้นึ และพันทบั ตวั เชอื กอกี 1 รอบ
3. จับปลายเชอื กพาดทบั ด๎านบนของตวั เชอื กอ๎อมหลังแล๎ว
สอดลงทางดา๎ นในของตัวบวํ ง
4. ดึงบํวงใหแ๎ นํนจัดเง่ือนให๎เรียบร๎อย

ประโยชน์
1. ใชส๎ าหรับผูกรัง้ ตน๎ ไม๎ เสาธง เตน็ ท์ เพิงกนั ลม๎
2. ผกู บวํ งตาํ ง ๆ เพราะเลือ่ นเชอื กใหห๎ ยอํ นหรือตึงได๎
1.4 การผกู แน่น
หลังจากทีล่ ูกเสอื ไดเ๎ รยี นรเู๎ รือ่ งการผูกเงื่อนแบบตําง ๆ มาแล๎ว ขั้นตํอไปท่ีลกู เสอื จะต๎องเรยี นรูก๎ ็คอื การผูก
แนนํ ซึ่งเปน็ การผกู วตั ถใุ ห๎ตดิ แนนํ เขา๎ ดว๎ ยกนั โดยใช๎เชือก การผูกแนํนจะมีประโยชน์อยํางมากเมอ่ื ลกู เสอื ไปเรียนวชิ า
บุกเบกิ ในโอกาสตอํ ไป การผูกแนนํ มีอยํู 3 ประเภท คือ

การจดั กิจกรรมลกู เสอื สารอง ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 5
โรงเรียนเทศบาล 3 วดั เกาะแกว้ นครสวรรค์

83

1.4.1 ผกู ประกบ ใชผ๎ กู ตํอไมห๎ ลาย ๆ ทอํ นเข๎าดว๎ ยกันให๎ยาว หรอื ใชม๎ ดั เขา๎ ดว๎ ยกัน ผกู ตอไม๎ในการ
กอํ สรา๎ ง หรือใชผ๎ ูกตอํ พลองเพอ่ื ทาเสาธงลอย การผกู ประกบท่ีนยิ มใชก๎ ันมากไดแ๎ กํ ผูกประกบ 2 ทํอนและผกู ประกบ
3 ทอํ น

วิธีผูกแบบที่ 1 ผูกประกบ 2 ทอ่ น
1. เอาไม๎ทจ่ี ะตํอมาวางซ๎อนให๎ขนานกันตรงปลายท่จี ะตํอ (การวางซ๎อนควรใหซ๎ อ๎ นกันประมาณ ¼ ของ
ความยาวของไมห๎ รือเสา) เอาเชอื กผูกเงอ่ื นตะกรดุ เบด็ ทเ่ี สาไมต๎ ๎นใดตน๎ หนึ่งแลว๎ บดิ พันปลายเชอื กเข๎ากับตวั เชือก (ให๎
เชือกบดิ คว่ันแตงํ งานกนั ) ใชล๎ ม่ิ ขนาดเทําเสน๎ เชอื กยึดระหวํางเสา
2. พนั เชอกรอบเสาไมท๎ ง้ั 2 ตน๎ ใหเ๎ ชอื กเรยี งกัน ความหนาของเชอื กที่พันกวา๎ งเทาํ กบั ความยาวของเสาไม๎
ท้งั 2 ต๎นรวมกัน
3. สอดเชือกเขา๎ ตรงกลางระหวาํ งไมท๎ ั้ง 2 แลว๎ เอาปลายเชอื กพันหกั คอไก(ํ พันรอบเชือกทอ่ี ยูํระหวํางไม2๎ -3
รอบดงึ ให๎ตงึ แนํน)
4. ผูกปลายเชอื กด๎วยเงื่อนตะกรดุ เบ็ดบนไมต๎ ๎นที่นามาตอํ หรือบนไมอ๎ กี ต๎นหนึ่งทีไ่ มํใช๎ต๎นทผี่ ูกเง่ือนน้มี าแลว๎
ตามข๎อ 2

การจัดกิจกรรมลกู เสอื สารอง ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 5
โรงเรยี นเทศบาล 3 วัดเกาะแกว้ นครสวรรค์

84

1.4.2 ผูกทแยง ใช๎ผูกนั่งร๎านในการกํอสรา๎ ง
ผูกไมค๎ า้ ยนั เสาหรือต๎นไม๎ปูองกนั มใิ ห๎ล๎มใช๎ผกู ตอมํอ
สะพาน การสรา๎ งท่พี กั อาศัยของชาวชนบทไกล ๆ ดว๎ ยไม๎
ไผํกม็ ักจะใชว๎ ิธกี ารผกู แนนํ แบบนี้

วิธผี ูก
1. ใช๎เชอื กพันรอบเสาท้งั 2 ตน๎ แลว๎ ผูกดว๎ ย
เงื่อนผกู ซงุ
2. เอาปลายเชือกพนั รอบเชือกแลว๎ พันทแยง
ไขว๎ไปมาขา๎ งละ 2-3 รอบ จากน้ันพันหกั คอไกํ (เอา
ปลายเชอื กพนั รอบเชอื กระหวาํ งเสาไม)๎ อกี 3 รอบ เอา
ปลายเชอื กผูกตะกรดุ เบด็ ท่เี สาไมต๎ น๎ ใดต๎นหน่งึ เก็บปลาย
ให๎เรยี บร๎อย

2.4.3 ผูกกากบาท ใชผ๎ ูกนง่ั ร๎านในการกํอสร๎าง ทาสอี าคาร ใช๎ในงานสร๎างคาํ ยพกั แรม ใชผ๎ กู อุปกรณ์
ตํางๆ การผกู แนํนแบบนี้คํอนขา๎ งมคี วามสาคญั มาก เพราะถา๎ หากผูกไมแํ นนํ เสาไมอ๎ ันทีพ่ าดขวางมักจะเล่ือนหลุดลงมา
ซึ่งบางคร้ังกเ็ ปน็ อันตรายถึงแกชีวติ ไดโ๎ ดยเฉพาะการผูกนั่งร๎านสงู ๆ การผูกกากบาทมีอยูํ 2 แบบ ไดแ๎ กํ แบบธรรมดา
และแบบญป่ี นุ

วิธผี กู แบบที่ 1 ผูกกากบาทแบบธรรมดา
1. ผกู เชอื กตะกรดุ เบด็ ทไ่ี มอ๎ นั ต้งั (หรือจะเป็นอันขวางกไ็ ด)๎ แล๎วเอาปลายเชือกบิดขวั้นกับตวั เชือก (แตงํ งาน)
ใหเ๎ รยี บร๎อย
2. ดงึ เชือกลอดใตไ๎ มอ๎ ันขวางของไม๎อันต้ัง ออ๎ มหลังไมอ๎ นั ขวางดงึ ขนึ้ ข๎างบนทางขวาของไม๎อนั ตง้ั ดงึ เชอื ก
ออ๎ มมาข๎างหน๎าไมอ๎ นั ตง้ั เปน็ อันครบรอบ พนั อยาํ งนส้ี ัก 3-4 รอบ และดึงเชอื กใหต๎ ึงทุก ๆ รอบ
3. หกั คอไกํ 2-3 รอบแล๎วเอาปลายเชือกผกู ตะกรดุ เบ็ดทไี่ มอ๎ ันขวาง เกบ็ ปลายเชอื กให๎เรยี บรอ๎ ย

การจัดกจิ กรรมลูกเสือสารอง ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 5
โรงเรียนเทศบาล 3 วดั เกาะแก้วนครสวรรค์

85

2. การใช้และการเกบ็ รกั ษามดี และขวาน
มีดและขวานเป็นอปุ กรณ์ที่จาเปน็ สาหรบั ลกู เสอื ในการอยูํคาํ ยพกั แรมและประกอบกิจกรรมการกางเตน็ ท์และ

กอํ กองไฟ เน่อื งจากเปน็ ของมคี ม ดังนัน้ การใช๎จาเป็นต๎องมคี วามระมัดระวังเพราะอาจเกิดอนั ตรายได๎
มีด ท่ใี ช๎ระหวํางการทากจิ กรรมและอยํคู าํ ยพักแรมสาหรับลกู เสือในระดับน้จี ะใชม๎ ีดพับหรือมีดเลก็ ทใี่ ชพ๎ กตดิ

ตัวได๎ โดยมีเคร่ืองหํอหมุ๎ ไมํใหม๎ ดี บาด หรอื เก็บในทเี่ หมาะสม เชํน มีดทาครวั สาหรบั มดี พับซงึ่ ถอื วาํ เปน็ มดี ประจาตวั
ของลูกเสือตอ๎ งพบั เก็บใหเ๎ รยี บร๎อย

ขวาน เป็นของมีคมทม่ี ีน้าหนักมากกวาํ มดี จะใชฟ๎ นั กับไม๎ที่มคี วามหนาและแข็งการใช๎จงึ ต๎องระมดั ระวังมากขน้ึ

การจดั กจิ กรรมลูกเสือสารอง ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 5
โรงเรียนเทศบาล 3 วดั เกาะแกว้ นครสวรรค์

86

การใช้มีดเหลาไมใ้ ห้เป็นสมอบก
การหาไมท๎ ่จี ะมาทาสมอบก ลกู เสอื ต๎องเตรยี มจาก
ก่ิงไม๎ทไ่ี มใํ หญนํ กั วธิ ีปฏิบตั ใิ ห๎ทาดังนี้
1. หากิง่ ไมเ๎ สน๎ ผําศูนยก์ ลางยาวประมาณ 1 น้ิว
ยาวประมาณ 1 ฟุต ตามจานวนทีต่ ๎องการ
2. ใช๎มดี พับหรอื มดี เลก็ ทมี่ ขี นาดพอเหมาะมอื
3. เสย้ี มปลายใหแ๎ หลม เหลาตวั สมอบกใหเ๎ กลีย้ ง
เกลา

การใชข้ วานผ่าไมเ้ พ่อื เตรียมก่อกองไฟ
เนอ่ื งจากขวานเปน็ ของมีคมขนาดใหญํและมนี ้าหนกั การใชข๎ วานผาํ ไมแ๎ ห๎งต๎องระมัดระวังอยําใหพ๎ ลาดเข๎าหา

ตัวหรอื เทา๎ ไม่ควรผ่าไม้สด เพราะนอกจากจะใชไ๎ มไํ ด๎แลว๎ ยังเป็นการทาลายธรรมชาติด๎วย
วธิ ผี าํ ไม๎ กํอนผาํ ใหห๎ าไม๎หนาทึบหรือขอนไมว๎ างรอง จับด๎ามขวานดว๎ ยมอื ทถี่ นดั จบั ไม๎ทจ่ี ะผาํ ดว๎ ยมอื ตรงข๎าม

วางไม๎ที่จะผาํ บนขอนไม๎ จับขวานให๎ส้นั สับไม๎ใหต๎ รงกับบรเิ วณทีม่ ขี อนไม๎รอง

การจัดกจิ กรรมลูกเสอื สารอง ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 5
โรงเรยี นเทศบาล 3 วดั เกาะแก้วนครสวรรค์

87

การเกบ็ รักษามดี และขวาน
มดี และขวานตํางก็เป็นอุปกรณ์ท่มี คี มและมีความจาเป็นสาหรับลูกเสอื ในการปฏิบตั ิกจิ กรรมการอยคูํ ํายพักแรม

ดงั นัน้ เมอื่ ใช๎แลว๎ จะตอ๎ งปฏบิ ตั ดิ งั นี้
1. เชด็ ใหส๎ ะอาดแล๎วทาน้ามันบาง ๆ
2. เกบ็ ไวใ๎ นทมี่ ิดชดิ หรอื ที่เก็บโดยเฉพาะ อยาํ วางกบั พ้ืน
3. เวลาเก็บให๎หันคมเขา๎ หาผนัง
4. กรณเี ปน็ มีดพับใหพ๎ บั เกบ็ ให๎เรยี บร๎อย

3. กาลอากาศ
กาลอากาศหมายถึง สภาพอากาศท่มี ีการเปลย่ี นแปลงตามเวลา แบํงออกเปน็ 2 ลกั ษณะ คือ
1. ภมู อิ ากาศ คือลักษณะอากาศทีม่ กี ารเปล่ยี นแปลงตามระยะเวลา และสภาพทอ๎ งถิ่นการเปล่ยี นแปลง

ดังกลาํ วจะหมายได๎จากการตรวจอากาศของท๎องถน่ิ
2. ลมฟาู อากาศ คอื สภาวะลมฟาู อากาศท่มี ีการเปล่ียนแปลงอยํางตํอเน่ืองตลอดเวลา ซง่ึ มอี ิทธิพลตอํ การ

ดารงชีวติ และภาระ กิจประจาวนั ของมนุษย์

อทิ ธิพลที่ทาใหอ้ ากาศแปรปรวน
1. อุณหภมู ิ หมายถงึ อณุ หภมู แิ ตํละชน้ั โลกได๎รับจากดวงอาทิตยไ์ มํเทํากัน ตามสภาพภมู ปิ ระเทศ
2. ความกดอากาศ สาเหตจุ ากการซับความรอ๎ นของพืน้ ผวิ โลกไมํเทาํ กนั บริเวณทรี่ บั ความรอ๎ นมากอากาศ
จะลอยตวั อากาศเยน็ จะเคลือ่ นไปแทนท่ีทเี่ ราเรียกวํากระแสลม
3. ความช้นื ขึ้นอยํูกบั ปริมาณไอนา้ ในอากาศ บริเวณใดมีปรมิ าณไอน้ามาก บรเิ วณน้นั จะชํุมช้นื บรเิ วณใด
มีนอ๎ ยจะแห๎งแลง๎
4. ลักษณะภูมปิ ระเทศ จะมีความสาคญั อยํางย่ิงตํอความชุมํ ช้ืน โดยเฉพาะเทอื กเขาทีก่ น้ั ทางลมบรเิ วณหลงั
เขาจะมฝี นตกนอ๎ ยกวําบริเวณดา๎ นหนา๎
ลมต่าง ๆ ท่เี กิดข้ึนในประเทศไทย
1. ลมตามฤดูกาล คือลมที่เกิดขึ้นตามฤดูกาลเป็นลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือจะมีแตํความแห๎งแล๎ง และ
ลมมรสมุ ตะวนั ตกเฉยี งใต๎ซง่ึ นาเอาความชุมํ ชืน้ จากทะเลมาสูแํ ผนํ ดนิ ใหญํ
2. ลมประจาถน่ิ หรือท่ีเรียกวํา ลมว่าว จะเกิดข้ึนในชํวงเดือนมีนาคมถึงเมษายนของทุก ๆ ปีเป็นลมที่พัด
จากอําวไทยไปแทนทีใ่ นภาคกลาง
3. ลมประจาเวลา คือลมท่ีพัดเป็นเวลาในกลางวันและกลางคืน เกิดข้ึนเฉพาะบริเวณ เชํน ตามชายฝั่ง
ทะเลในตอนกลางวนั จะมีลมจากทะเลพัดสํูบกเรียกวํา ลมทะเล และในตอนกลางคนื มีลมพดั จากบนบกสํทู ะเล เรียกวาํ
ลมบก

การจดั กจิ กรรมลกู เสอื สารอง ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 5
โรงเรยี นเทศบาล 3 วัดเกาะแกว้ นครสวรรค์

88

แผนการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ท่ี 21 การช่วยเหลอื ผ้อู นื่
เรอื่ ง การปฐมพยาบาล

1. สรุปสาระสาคญั การปฐมพยาบาลเป็นการชํวยเหลอื ผบ๎ู าดเจ็บขัน้ ตน๎ กํอนท่ีจะนาสํงแพทย์
2. จดุ ประสงค์

แสดงวิธปี ฐมพยาบาลบาดแผลแมงกดั ตอํ ย แดดเผา ไฟไหม๎ นา้ รอ๎ นลวกและเปน็ ลมได๎
3. ทักษะกระบวนการ

( ) 1. ตระหนักในปญั หาและความจาเป็น
( ) 2. คดิ วเิ คราะห์วจิ ารณ์
( ) 3. สร๎างทางเลือกหลากหลาย
( ) 4. ประเมินและเลือกทางเลอื ก
( ) 5. กาหนดและลาดับข้ันตอนการปฏบิ ตั ิ
( ) 6. ปฏิบัติดว๎ ยความชน่ื ชม
( ) 7. ประเมนิ ระหวาํ งปฏบิ ตั ิ
( ) 8. ปรับปรงุ ให๎ดขี นึ้ อยูํเสมอ
( ) 9. ประเมินผลรวมเพ่อื ให๎เกิดความภาคภมู ใิ จ

4. กิจกรรม และสือ่ / อปุ กรณ์ สอื่ / อุปกรณ์

กจิ กรรม 1. แผนภมู เิ พลง
2. ภาพหรอื บัตรคาชอื่ แมลงและสตั ว์
1. พิธีเปิดประชุมกอง (ธงขึ้น สวดมนต์ สงบน่ิง ตรวจ แยก )
2. เพลง - เกม ปีก
3. การสอนตามเน้ือหา 3. ภาพแสดงการปฐมพยาบาล
4. อปุ กรณใ์ นการปฐมพยาบาล เชนํ
3.1 ผูก๎ ากบั นาสนนทนาถงึ ความสาคญั ของการปฐมพยาบาลแลว๎
3.2 แบํงหมํลู ูกเสอื เรยี นตามฐานโดยผกู๎ ากับอธิบายและสาธติ แล๎ว ผ๎าพันแผล สาลี แอลกอฮอร์ และ
ให๎ลูกเสอื ฝกึ ปฏบิ ตั ิดงั นี้ ยาชนิดตํางๆ
ฐานท่ี 1 การปฐมพยาบาลบาดแผลแมลงกดั ตอํ ย
ฐานท่ี 2 การปฐมพยาบาลบาดแผลทเี่ กิดจากแดดเผา ไฟไหม๎ น้า
รอ๎ นลวก
ฐานที่ 3 การปฐมพยาบาลคนเปน็ ลม
4. ผูก๎ ากับเลําเรอ่ื งสนั้ ท่ีเป็นประโยชน์
5. พธิ ปี ดิ ประชุมกอง (นดั หมาย ตรวจ ธงลง เลิก)

การจดั กจิ กรรมลูกเสอื สารอง ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 5
โรงเรียนเทศบาล 3 วดั เกาะแก้วนครสวรรค์

89

5. การประเมนิ ผล ผ่าน ไมผ่ า่ น
รายละเอยี ดการประเมนิ ผล
…………. …………..
1. ความสนใจในการเขา๎ รวํ มกจิ กรรม …………. …………..
2. ความตง้ั ใจในการปฏิบัติกจิ กรรม …………. …………..
3. ข้ันตอนในการปฐมพยาบาล …………. …………..
4. บอกวิธีปฐมพยาบาลบาดแผลแมลงกัดตํอย แดดเผา ไฟไหม๎ น้าร๎อนลวก

และเปน็ ลม

6. กิจกรรมเสนอแนะเพม่ิ เตมิ
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………

7. ปญั หาและข้อเสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………

การจัดกิจกรรมลูกเสอื สารอง ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 5
โรงเรียนเทศบาล 3 วัดเกาะแก้วนครสวรรค์

90

เน้อื หา
1. การปฐมพยาบาลเม่อื ถกู แมลงหรือสตั ว์พิษกัดต่อย

โดยปกติแลว๎ แมลงและสัตว์มพี ษิ จะไมํทารา๎ ยผหู๎ น่งึ ผใู๎ ดงาํ ย ๆ นอกจากมนั ถูกรบกวนหรือถกู ทารา๎ ย ในการ
ประกอบกจิ กรรมตาํ ง ๆ ของลกู เสอื เชนํ การต้ังคํายพกั แรม การเดนิ สะกดรอยการปฏิบตั กิ ิจกรรมบุกเบิกและการผจญ
ภยั เปน็ ต๎น อาจมโี อกาสไปรบกวนหรอื ทารา๎ ยแมลงหรอื สัตว์มพี ษิ ชนดิ ใดชนดิ หนึง่ โดยไมํร๎ูตวั เชํน เดนิ ไปเหยียบถูกรัง
เข๎าไปใกลร๎ ังมากเกินไป บังเอิญไปสมั ผสั ถกู เปน็ ต๎น ก็อาจถกู แมลงหรอื สตั วม์ ีพิษนั้นทาร๎ายได๎ ซ่งึ จะทาใหไ๎ ดร๎ ับความ
เจบ็ ปวด สํวนจะเจบ็ ปวดรุนแรงมากนอ๎ ยแคไํ หน กแ็ ล๎วแตพํ ิษของแมลงชนิดนน้ั ๆ โดยเฉพาะในรายทแี่ พ๎จะมอี าการ
เจ็บปวดรนุ แรงมาก เกดิ อาการไข๎สูง คล่นื ไส๎ อาเจียน และบางรายถึงกับเปน็ ลมหรอื ชอ็ คและทถ่ี ึงกับเสยี ชีวิตไปเลยก็มี

วิธปี ฐมพยาบาลผูถ้ ูกผ้งึ ตอ่ แตนต่อย
พษิ ของแมลงเหลําน้มี ฤี ทธ์กิ รด มวี ิธีปฐมพยาบาลดังนี้
1. ใช๎รทู ล่ี ูกกญุ แจหรอื ท่ปี ลายปากกากดตรงแผล เพ่อื ใหเ๎ หล็กในโผลขํ ึน้ มาตรงกลางรแู ล๎วใชป๎ ากคีบอนั เลก็
ๆ ดงึ เหลก็ ในออก ไมํควรใชเ๎ ขม็ หรือของแหลมเข่ียเพราะจะทาให๎พษิ แพรกํ ระจายออกไปมากจะทาใหเ๎ จบ็ ปวดมากขนึ้
2. ใชน๎ า้ ยาทีม่ ฤี ทธิเ์ ป็นดาํ งออํ น เชนํ น้าแอมโมเนยี น้าโซดาไบคารบ์ อร์เนต น้าเกลอื นา้ ปนู ใส ทาบริเวณ
แผลให๎ท่วั
3. ใชน๎ า้ แข็งประคบตรงบรเิ วณแผลจะชวํ ยบรรเทาปวดได๎มาก
4. ถา๎ อาการปวดยังไมลํ ดลง ควรไปพบหมอ
2. การปฐมพยาบาลเมือ่ ถกู ไฟไหมห้ รอื น้าร้อนลวก
เมือ่ ถกู ไฟไหม๎หรอื นา้ รอ๎ นลวก ผไู๎ ด๎รบั อบุ ตั เิ หตจุ ะมอี าการเจ็บปวดมากเนอ่ื งจากผิวหนังถกู ทาลายลึกลงไปเปน็
บรเิ วณกวา๎ ง จาเปน็ ต๎องไดร๎ บั ความชํวยเหลอื โดยทันที กรณเี ปน็ มากอาจทาใหผ๎ ๎ูปุวยเสยี ชวี ิตได๎โดยเฉพาะผิวหนังท่ถี ูก
ไฟไหม๎
ลักษณะอาการ
1. บาดแผลจะมรี อยไหมเ๎ กรียมหรือพองบริเวณผิวหนงั
2. มอี าการปวดแสบปวดร๎อนบรเิ วณผิวหนังท่เี ป็นแผลและโดยรอบ ถา๎ เปน็ บริเวณกวา๎ งผ๎ูปวุ ยอาจหมดสติ
การปฐมพยาบาลควรปฏิบัติดังน้ี

การจดั กิจกรรมลกู เสอื สารอง ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 5
โรงเรียนเทศบาล 3 วัดเกาะแก้วนครสวรรค์

91

1. ใหน๎ าขผ้ี ึง้ วาสลินบริสุทธิ์หรอื น้ามนั พืชทาทรี่ อยแผลแลว๎ ปิดดว๎ ยผ๎าพันแผล
2. ถ๎ามียาแกไ๎ ฟไหม๎ น้าร๎อนลวกก็ให๎ใช๎ยานน้ั ทาบริเวณแผลให๎ดีแลว๎ จงึ พนั แผล
3. ใหร๎ บี นาสํงหมอ
3. การปฐมพยาบาลคนเป็นลม
3.1 การเปน็ ลมหน้ามดื เกิดขึ้นเนือ่ งจากออํ นเพลยี มาก หิว หรอื เหนอื่ ยมากอยูํในท่ีแออัดอากาศถาํ ยเท
นอ๎ ย หรือเน่ืองจากตนื่ เต๎นตกใจ เปน็ อาการชอ็ คอยาํ งอํอน
อาการ หน๎าซดี เหงื่อออกเปน็ เมด็ ๆ ตามหนา๎ และลาตัว เวียนศีรษะหนา๎ มืด ตาลาย ใจส่ัน หาวนอน ถ๎ายืนอยอูํ าจ
หมดแรงล๎มลงไปกองอยูกํ ับพืน้ ชีพจรเต๎นอํอนและเรว็ อาจมอี าการสั่นหรือกระตกุ ตามตวั แขนขา หายใจตน้ื ๆ
วธิ ปี ฐมพยาบาล
1. เมอ่ื รสู๎ ึกวาํ จะเปน็ ลมให๎รบี นอนราบลงกับพนื้
2. ขยายเครอื่ งแตํงกายใหห๎ ลวม ใหค๎ นเปน็ ลมนอนราบ อยาํ ใหน๎ งั่
3. ให๎รํางกายอบอนํุ
4. อยาํ ใหค๎ นมุง แยํงอากาศหายใจ
5. ใช๎ผา๎ ชบุ นา้ เยน็ บิดหมาด ๆ เช็ดตามใบหน๎า แขน ขา และลาตวั
6. ให๎สูดดมแอมโมเนยี หอม
3.2 การเปน็ ลมแดด เกดิ เน่ืองจากถูกแสงแดดแรง ๆ นาน ๆ โดยเฉพาะบรเิ วณดา๎ นหลงั ศีรษะท๎ายทอย
อาการ หนา๎ ตาแดงกลา่ คล่นื ไส๎ อาเจยี น หมดสติ ผิวหนงั แห๎ง ตัวรอ๎ นจัด หายใจหอบ อาจมอี าการชัก
กํอนหมดสติ
วธิ กี ารปฐมพยาบาล
1. ให๎นอนราบในทําพิง ยกศีรษะสงู ในทมี่ อี ากาศโปรํงและรมํ
2. ขยายเครื่องแตงํ กายใหห๎ ลวม
3. ใชก๎ ระเปา๋ นา้ แข็งวางบนศีรษะหรือเอานา้ ราดรดศีรษะและลาตวั
4. เม่ือเริ่มตัวเย็นลงจะคอํ ย ๆ รสู๎ กึ ตัว ให๎นอนราบและใหค๎ วามอบอนํุ แกรํ าํ งกาย
5. ใหด๎ มื่ เครือ่ งด่ืมบารุงหัวใจ เชํน กาแฟดารอ๎ น
6. ถ๎าหยดุ หายใจตอ๎ งผายปอด
3.3 การเป็นลมร้อน เกิดกบั ผ๎ทู อ่ี อํ นเพลยี แล๎วตอ๎ งทางานในที่ท่ีอบอ๎าวอากาศรอ๎ น การถาํ ยเทอากาศไมดํ ี
หรอื มีไอนา้ ร๎อนอบอยูํ ทาให๎เสยี เหง่อื มาก ออํ นเพลีย หมดสติ
อาการ เชํนเดียวกับการเปน็ ลมหนา๎ มดื
วิธกี ารปฐมพยาบาล เชํนเดยี วกบั การเปน็ ลมหนา๎ มดื ถา๎ หมดสติควรใหน๎ อนควา่ ตะแคงหน๎า

การจัดกจิ กรรมลกู เสือสารอง ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 5
โรงเรยี นเทศบาล 3 วดั เกาะแก้วนครสวรรค์

92

แผนการจัดกิจกรรมการเรียนร้ทู ี่ 22 การช่วยเหลือผอู้ ่นื
เร่ือง นาทวี กิ ฤต

1. สรุปสาระสาคญั การคิดวิเคราะห์และแกไ๎ ขปัญหาในนาทวี ิกฤติ
2. จดุ ประสงค์

มที กั ษะการคดิ วเิ คราะห์ และแกไ๎ ขปัญหาในนาทีวกิ ฤติได๎
3. ทกั ษะกระบวนการ

( ) 1. ตระหนกั ในปญั หาและความจาเป็น
( ) 2. คดิ วิเคราะหว์ ิจารณ์
( ) 3. สร๎างทางเลือกหลากหลาย
( ) 4. ประเมนิ และเลอื กทางเลอื ก
( ) 5. กาหนดและลาดับข้ันตอนการปฏบิ ตั ิ
( ) 6. ปฏบิ ตั ิด๎วยความชน่ื ชม
( ) 7. ประเมินระหวํางปฏบิ ัติ
( ) 8. ปรับปรุงให๎ดขี ้ึนอยํเู สมอ
( ) 9. ประเมินผลรวมเพ่อื ให๎เกดิ ความภาคภูมใิ จ

4. กจิ กรรม และสื่อ/ อปุ กรณ์ สอ่ื / อุปกรณ์

กจิ กรรม 1. แผนภูมิเพลง
2. ใบงาน
1. พิธเี ปิดประชุมกอง (ธงขึน้ สวดมนต์ สงบนิง่ ตรวจ แยก ) 3. เรื่องสัน้ ทีเ่ ป็นประโยชน์
2. เพลง - เกม
3. การสอนตามเนื้อหา

3.1 ผู๎กากับลกู เสือกาหนดประเดน็ กรณศี กึ ษาเร่อื ง “น้าทํวมบา๎ นใน
เวลากลางคนื ”

3.2 ผู๎กากับลกู เสือแจกใบงานให๎ลกู เสือแตํละหมูํรํวมกันคดิ วิเคราะห์
และแกไ๎ ขปญั หาตามประเดน็ ในใบงาน และสํงตัวแทนรายงานใน
กองลูกเสือ

4. ผก๎ู ากับเลาํ เร่ืองส้ันที่เปน็ ประโยชน์
5. พธิ ปี ิดประชมุ กอง (นัดหมาย ตรวจ ธงลง เลิก)

การจดั กจิ กรรมลูกเสือสารอง ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 5
โรงเรยี นเทศบาล 3 วัดเกาะแกว้ นครสวรรค์

93

5. การประเมนิ ผล ผ่าน ไม่ผา่ น
รายละเอียดการประเมินผล
…………. …………..
1. ความสนใจในการเขา๎ รํวมกจิ กรรม …………. …………..
2. ความตงั้ ใจในการปฏบิ ัติกจิ กรรม …………. …………..
3. ขั้นตอนในการปฐมพยาบาล …………. …………..
4. บอกวธิ ปี ฐมพยาบาลบาดแผลแมลงกัดตอํ ย แดดเผา ไฟไหม๎ น้าร๎อนลวก

และเปน็ ลม

6. กจิ กรรมเสนอแนะเพิม่ เติม
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………

7. ปัญหาและข้อเสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………

การจดั กจิ กรรมลูกเสอื สารอง ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 5
โรงเรยี นเทศบาล 3 วดั เกาะแกว้ นครสวรรค์

94

ใบความรู้

ชาวรมิ แม่น้า โก-ลก ทาอยา่ งไร ? เม่อื น้าทว่ มบ้าน

ในฤดฝู น ส่งิ ท่ีชาวริมฝั่งแมนํ ้าสุไหงโก-ลกกังวลอยํางมาก คือระดับน้าในฝ่ังแมนํ ้าสุไหงโก-ลก ซ่ึงเพิ่มสูงข้ึนจน

เอํอล๎นตลิ่ง เนื่องจากปริมาณน้าฝนบวกกับปริมาณน้าจาก อ.แว๎ง อ.สุคิริน และจากประเทศมาเลเซียไหลเข๎ามาสมทบ

ชาวริมฝง่ั แมํนา้ สุไหงโก-ลกที่อาศยั อยูํในพน้ื ทรี่ าบลํุม ต๎องคอยติดตามสถานการณ์น้าทํวมและการพยากรณ์อากาศอยําง

ใกล๎ชิด เพื่อเตรียมความพร๎อมรับมือกับปัญหาน้าทํวมท่ีต๎องประสบอยํางหลีกเล่ียงไมํได๎ แตํส่ิงหน่ึงท่ีพี่น๎องชาวริมฝ่ัง
แมํนา้ สไุ หงโก-ลก ถอื ปฏิบัติ ยามท่ีเกิดน้าทํวมฉับพลันและน้าทํวมขังคือ การรวบรวมสติสัมปชัญญะให๎มั่นคง ชาวริมฝ่ัง

แมํน้าสไุ หงโก-ลกมลี าดับความสาคญั ในการถอื ปฏิบตั เิ มือ่ เกดิ นา้ ทํวมดงั นี้

อยํางแรกสุด คือ สารวจวํา บ๎านท่ีอยูํ ยังอยํูได๎หรือไมํ? หากพบวําอยูํไมํได๎ รีบอพยพใหมํทันที โดยย๎ายไปยัง
ศูนยช์ วํ ยเหลือผู๎อพยพที่ได๎จดั ไว๎ และปฏิบตั ดิ งั นี้

1. ควบคุมสตใิ ห๎ม่ันคง รวบรวมคนในบ๎านให๎อยคูํ รบ ดแู ลผู๎สงู อายุ คนพิการและเด็ก
2. เก็บสิ่งของสาคัญๆ และจาเป็นติดตัวไปด๎วยเทําน้ัน เชํน ยาประจาตัว บัตรประชาชน แวํนตา โทรศัพท์มือถือ
ทรัพยส์ นิ มคี า สมดุ เงนิ ฝาก เสื้อผ๎าเทาํ ที่จาเปน็ เป็นต๎น
3. เก็บของสาคญั ที่เหลอื ใสํกญุ แจ ปิดบ๎านให๎เรียบร๎อยปลอดภัย เก็บสิ่งของในบ๎านข้ึนท่ีสูงตามให๎รวดเร็วตาม
ระยะเวลาท่มี ี
4. ปดิ นา้ แกส๏ ไฟฟูา ถอดปลัก๊ อปุ กรณ์ไฟฟูาทกุ ชนดิ ไม๎จับเครอื่ งใช๎ไฟฟูาในขณะตัวเปยี กหรอื เทา๎ แชํอยใํู นนา้
5. ในการอพยพออกจากบ๎านจะใช๎ไม๎เท๎าในการนาทาง เพ่ือให๎แนํใจวําไมํมีหลุมบํอ ในขณะเดียวกัน หาก
กระแสน้าไหลเช่ียว จะใช๎เรือหรือรอให๎มคี นมาชวํ ยในการอพยพ
6. ย๎ายรถข้ึนไปไว๎ทสี่ งู ไมํขับรถหากระดับน้าสงู เกินสองเมตร เพราะน้าอาจพดั ตัวรถให๎ลอยไปตามกระแสนา้ ได๎
7. คอยติดตาม สถานการณ์น้าทํวมอยํางตํอเน่ือง และย๎ายกลับเข๎าบ๎านเมื่อสถานการณ์เข๎าสูํภาวะปกติและ
ปลอดภยั แล๎ว แตํหากพบวาํ ยงั อยูไํ ด๎ ก็จะถอื ปฏิบตั ิ ดังน้ี

1) เคลอื่ นย๎ายสงิ่ ของท่อี ยํูตา่ ข้ึนไวท๎ สี่ งู หรือเกบ็ ในภาชนะทก่ี ันนา้ ได๎
2) สารวจน้าประปา นา้ ด่ืม ไฟฟูา หอ๎ งสุขา วาํ ยงั ใช๎ได๎หรอื ไมํ?
3) การตัดไฟฟูา ถอดปล๊ักอุปกรณ์ไฟฟูาทุกชนิด เพ่ือปูองกันกระแสไฟฟูากระจายไปตามน้าไมํจับ
เครอ่ื งใช๎ไฟฟูาในขณะตัวเปียกหรือเท๎าแชํอยใูํ นน้า
4) ติดตามสถานการณ์น้าทํวมในทุกชํองทางอยเูํ สมอ
5) ตดิ ตํอขอความชวํ ยเหลือในสิ่งท่ขี าดแคลน
6) แจง๎ สถานท่ีทางานหากไมสํ ามารถออกไปทางานได๎
7) จดั หาน้าไว๎อปุ โภคบรโิ ภคไว๎ใหเ๎ พียงพอ โดยประมาณ 2,000 ซีซี ตอํ คนตํอวนั
8) หากมีผู๎ท่ีประสบปัญหาสุขภาพในบ๎าน รีบขอความชํวยเหลือเม่ือต๎องการไปพบแพทย์เป็นการ
เรํงดํวน
9) เตรียมอาหารท่ีสามารถเก็บได๎นาน ไมํเนําเสีย ไมํต๎องแชํตู๎เย็น ไมํต๎องปรุงสุกกํอน เป็นอาหาร
พรอ๎ มทาน ผลไม๎ ผกั นมกลํอง น้าผลไม๎กลํอง อาหารกระป๋อง เตรียมท่ีเปิดกระป๋อง (หากไมํเป็นชนิดมี ฝากระป๋องเปิด
ได๎เอง) อยาํ เลือกอาหารทีก่ นิ แล๎วกระหายนา้ มาก เชนํ อาหารขนมทีม่ รี สเค็มจัด ควรเลอื กอาหารทใ่ี ห๎พลงั งานสงู ถา๎ มเี ด็ก
เล็กและผู๎สงู อายุ ใหเ๎ ตรียมอาหารสาหรบั เด็กและผ๎ูสงู อายุด๎วย
10) เตรยี ม ไฟฉาย ถาํ นไฟฉาย ตะเกียง ไม๎ขดี ไฟ เพื่อสํองสวาํ งในยามฉุกเฉนิ หากเกิดไมํมไี ฟฟูาใช๎
11) ดูแลสขุ อนามัย ปอู งกันการเจบ็ ปุวย หากไมํมนี ้าล๎างมือ ควรใชแ๎ อลกอฮอล์เช็ดกอํ นทานอาหาร
12) หากสุขาใช๎ไมํได๎ ทาสขุ าเคลอื่ นท่ีชั่วคราวหรือใช๎พลาสติกถงุ ดาหากติดอยูํนาน

การจดั กิจกรรมลกู เสอื สารอง ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 5
โรงเรียนเทศบาล 3 วดั เกาะแก้วนครสวรรค์

95

13) เมือ่ มบี าดแผล เกิดจากอุบัติเหตคุ วรทาแผลฆําเช้อื ทนั ที
14) เม่อื สถานการณ์น้าทํวมสํงผลกระทบตํอรํางกายและจติ ใจ ใหท๎ ากจิ กรรม พูดคุยใหก๎ าลังใจ ออก
กาลงั กาย เพอื่ ผํอนคลายความเครียด
15) หากไมํจาเปน็ ห๎ามสมั ผสั น้าทํวมขัง เพราะอาจปนเป้อื นสงิ่ ท่เี ป็นอันตราย สารเคมี หรอื เกดิ ไฟฟูา
รวั่ เพือ่ ความปลอดภัยหากต๎องประสบภยั
เคล็ดลับดีๆ ที่พี่น๎องชาวริมฝั่งแมํน้าอ.สุไหงโก-ลก ถือปฏิบัติกันตลอดมาเมื่อประสบภัยน้าทํวมทาให๎ความ
สูญเสียน๎อยลงกวําปีท่ีผํานๆ มาลงเรื่อยๆ สามารถใช๎เป็นแนวทางในการปฏิบัติหากทํานต๎องประสบปัญหาน้าทํวม เพื่อ
ความปลอดภัยท้ังชีวิตและทรัพย์สินของทํานและครอบครัว ขอขอบคุณข๎อมูลจาก พ่ีน๎องริมฝั่งแมํน้าสุไหงโก-ลก ทา
โรงเลอ่ื ย ทาประปา

บทความโดย ซาลีนี เจ๏ะอาแซ

การจดั กิจกรรมลกู เสือสารอง ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 5
โรงเรียนเทศบาล 3 วัดเกาะแกว้ นครสวรรค์

96

แผนการจดั กิจกรรมการเรียนรทู้ ่ี 23 การชว่ ยเหลอื ผอู้ ืน่
เร่อื ง Nothing but net “ไม่เอาอะไรนอกจากมุ้ง”

1. สรุปสาระสาคญั การคดิ วิเคราะห์และแกไ๎ ขปญั หาในนาทีวิกฤติ
2. จุดประสงค์

มีทักษะการคดิ วเิ คราะห์ และแก๎ไขปัญหาในนาทวี กิ ฤติได๎
3. ทกั ษะกระบวนการ

( ) 1. ตระหนักในปญั หาและความจาเปน็
( ) 2. คิดวเิ คราะห์วิจารณ์
( ) 3. สรา๎ งทางเลือกหลากหลาย
( ) 4. ประเมนิ และเลือกทางเลอื ก
( ) 5. กาหนดและลาดับข้ันตอนการปฏบิ ัติ
( ) 6. ปฏบิ ัติดว๎ ยความช่ืนชม
( ) 7. ประเมนิ ระหวาํ งปฏิบตั ิ
( ) 8. ปรบั ปรงุ ให๎ดขี นึ้ อยูเํ สมอ
( ) 9. ประเมนิ ผลรวมเพอ่ื ให๎เกดิ ความภาคภูมใิ จ

4. กิจกรรม และสือ่ / อปุ กรณ์ ส่ือ/ อปุ กรณ์

กิจกรรม 1. แผนภูมิเพลง
2. ใบงาน
1. พิธีเปดิ ประชุมกอง (ธงขน้ึ สวดมนต์ สงบน่งิ ตรวจ แยก ) 3. เรือ่ งสั้นท่เี ปน็ ประโยชน์
2. เพลง - เกม
3. การสอนตามเนื้อหา

3.1 ผ๎ูกากับลกู เสือกาหนดประเด็นกรณศี กึ ษาเร่อื ง “นา้ ทํวมบา๎ นใน
เวลากลางคนื ”

3.2 ผู๎กากับลกู เสอื แจกใบงานให๎ลูกเสือแตํละหมูํรํวมกนั คดิ วิเคราะห์
และแกไ๎ ขปญั หาตามประเด็นในใบงาน และสํงตัวแทนรายงานใน
กองลกู เสอื

4. ผู๎กากับเลําเร่อื งส้นั ท่ีเป็นประโยชน์
5. พธิ ีปิดประชมุ กอง (นัดหมาย ตรวจ ธงลง เลิก)

การจดั กจิ กรรมลกู เสอื สารอง ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 5
โรงเรียนเทศบาล 3 วดั เกาะแก้วนครสวรรค์

97

5. การประเมนิ ผล ผ่าน ไมผ่ า่ น
รายละเอยี ดการประเมนิ ผล
…………. …………..
1. ความสนใจในการเขา๎ รวํ มกจิ กรรม …………. …………..
2. ความตง้ั ใจในการปฏิบัติกจิ กรรม …………. …………..
3. ข้ันตอนในการปฐมพยาบาล …………. …………..
4. บอกวิธีปฐมพยาบาลบาดแผลแมลงกัดตํอย แดดเผา ไฟไหม๎ น้าร๎อนลวก

และเปน็ ลม

6. กิจกรรมเสนอแนะเพม่ิ เตมิ
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………

7. ปญั หาและข้อเสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………

การจัดกิจกรรมลูกเสอื สารอง ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 5
โรงเรียนเทศบาล 3 วัดเกาะแก้วนครสวรรค์

98

แผนการจดั กจิ กรรมการเรียนรทู้ ี่ 24 การชว่ ยเหลือผ้อู ่ืน
เร่ือง การแนะนาสถานท่ี

1. สรุปสาระสาคญั การแนะนาสถานท่หี รือนาทางใหผ๎ ๎อู น่ื เป็นการชํวยเหลือผ๎อู ่นื ซงึ่ เปน็ หนา๎ ทข่ี องลูกเสือ
2. จดุ ประสงค์

1. บอกช่ือสถานท่ีที่สาคัญในท๎องถน่ิ ได๎
2. แนะนาและนาทางไปยงั สถานท่ที ่สี าคัญในทอ๎ งถิน่ ได๎
3. ทกั ษะกระบวนการ
( ) 1. ตระหนักในปญั หาและความจาเปน็
( ) 2. คิดวเิ คราะหว์ จิ ารณ์
( ) 3. สร๎างทางเลอื กหลากหลาย
( ) 4. ประเมนิ และเลอื กทางเลอื ก
( ) 5. กาหนดและลาดบั ขน้ั ตอนการปฏบิ ัติ
( ) 6. ปฏบิ ตั ิดว๎ ยความชืน่ ชม
( ) 7. ประเมนิ ระหวาํ งปฏบิ ัติ
( ) 8. ปรับปรงุ ให๎ดขี น้ึ อยูเํ สมอ
( ) 9. ประเมินผลรวมเพ่ือให๎เกิดความภาคภูมใิ จ

4. กจิ กรรม และส่อื / อุปกรณ์

กิจกรรม สอ่ื / อปุ กรณ์

1. พธิ เี ปดิ ประชุมกอง (ธงขน้ึ สวดมนต์ สงบน่งิ ตรวจ แยก ) 1. แผนภมู ิเพลง

2. เพลง - เกม 2. แผนภมู ิหรือภาพสถานท่ที ่ี

3. การสอนตามเนือ้ หา สาคัญในท๎องถิ่น

3.1 ผก๎ู ากบั นาสนทนาถึงความสาคญั ของการนาทางหรอื แนะนา 3. กระดาษ ปากกาหรือดนิ สอ

สถานท่ที ีส่ าคญั และรํวมกนั อภิปรายถึงสถานทท่ี ี่สาคญั ใน เชํน

ทอ๎ งถิ่นวดั สถานีรถขนสงํ บ๎านกานัน ผ๎ใู หญํบ๎าน นายอาเภอ

อนามยั สถานีตารวจ สถานดี บั เพลงิ เป็นตน๎

3.2 ให๎ลูกเสอื แตลํ ะหมเูํ ขยี นชอ่ื สถานที่ทส่ี าคญั หมลูํ ะ 1 ช่ือแลว๎

อธิบายหรอื ชแี้ นะประโยชน์ที่จะได๎จากสถานทนี่ ัน้

4. ผ๎กู ากบั เลาํ เรอื่ งสน้ั ทีเ่ ปน็ ประโยชน์

5. พิธปี ดิ ประชมุ กอง (นัดหมาย ตรวจ ธงลง เลกิ )

การจัดกิจกรรมลูกเสือสารอง ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 5
โรงเรียนเทศบาล 3 วัดเกาะแก้วนครสวรรค์

99

5. การประเมินผล ผา่ น ไม่ผ่าน
รายละเอยี ดการประเมนิ ผล
…………. …………..
1. ความสนใจในการเข๎ารวํ มกจิ กรรม …………. …………..
2. ความตง้ั ใจในการปฏบิ ัตกิ จิ กรรม …………. …………..
3. บอกชื่อและประโยชน์ของสถานที่ที่สาคญั ในท๎องถน่ิ …………. …………..
4. ตรวจผลงาน

6. กจิ กรรมเสนอแนะเพม่ิ เตมิ
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………

7. ปญั หาและขอ้ เสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………

การจัดกิจกรรมลูกเสอื สารอง ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 5
โรงเรียนเทศบาล 3 วัดเกาะแกว้ นครสวรรค์

100

เน้อื หา
สถานที่สาคัญทีล่ ูกเสอื ควรรจู้ กั

1. สถานทีป่ ระกอบพธิ ีกรรมทางศาสนา เชนํ วดั
มสั ยดิ โบสถ์ครสิ ต์ ศาลเจา๎ ฯลฯ

2. สถานที่ราชการ เชํน ท่ีทาการสภาตาบล สถานี
อนามัย โรงพยาบาล สถานีตารวจ สถานีดับเพลิง อาเภอ
เทศบาล ไปรษณีย์ โทรศัพท์ การประปา การไฟฟูา โรงเรียน
ศาลเรอื นจา ศาลากลางจงั หวดั ฯลฯ

3. สถานทีส่ าคัญตาํ ง ๆ เชนํ สถานทีส่ าคญั ทาง
ประวตั ศิ าสตร์ โบราณสถาน สถานทที่ ํองเท่ียว ฯลฯ

4. สถานที่บริการอื่น ๆ เชนํ ทําเรือ สถานทจี่ อดรถ
โดยสาร สถานี รถไฟ ทําอากาศยาน ฯลฯ

5. ทพ่ี ักบคุ คลสาคญั ของทอ๎ งถ่นิ เชํน บ๎านพักกานัน
ผู๎ใหญํบ๎าน แพทยป์ ระจาตาบล นายอาเภอ จวนผูว๎ าํ ราชการ
จงั หวดั ฯลฯ

การจดั กิจกรรมลกู เสือสารอง ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 5
โรงเรยี นเทศบาล 3 วัดเกาะแก้วนครสวรรค์


Click to View FlipBook Version