The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดกิจกรรมลูกเสือ (Block Course) ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาล 3 วัดเกาะแก้วนครสวรรค์

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by julong.r88, 2022-06-07 22:38:35

แผนการจัดกิจกรรมลูกเสือ (Block Course) ป.5

แผนการจัดกิจกรรมลูกเสือ (Block Course) ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาล 3 วัดเกาะแก้วนครสวรรค์

Keywords: ลูกเสือ

101

แผนการจดั กจิ กรรมการเรียนร้ทู ่ี 25 การรจู้ กั ดแู ลตนเอง
เรือ่ ง การก่อไฟและปรงุ เครอื่ งด่มื ร้อน

1. สรปุ สาระสาคญั การรจู๎ กั กอํ ไฟและปรุงเครอ่ื งดมื่ ร๎อนดว๎ ยตนเองเปน็ ประโยชน์ตํอการดารงชวี ติ
2. จุดประสงค์

1. กอํ ไฟได๎
2. ปรงุ เครอ่ื งดมื่ ร๎อนสาหรบั ตนเองและผู๎อ่นื ได๎
3. ทักษะกระบวนการ
( ) 1. ตระหนักในปญั หาและความจาเปน็
( ) 2. คิดวิเคราะห์วจิ ารณ์
( ) 3. สร๎างทางเลือกหลากหลาย
( ) 4. ประเมินและเลอื กทางเลอื ก
( ) 5. กาหนดและลาดบั ขน้ั ตอนการปฏิบัติ
( ) 6. ปฏิบัตดิ ๎วยความช่นื ชม
( ) 7. ประเมินระหวาํ งปฏิบตั ิ
( ) 8. ปรบั ปรงุ ใหด๎ ขี ึ้นอยํูเสมอ
( ) 9. ประเมินผลรวมเพ่ือใหเ๎ กดิ ความภาคภมู ใิ จ

4. กิจกรรม และสือ่ / อุปกรณ์ ส่อื / อปุ กรณ์

กิจกรรม 1. แผนภมู เิ พลง
2. เตาประดิษฐ์ ถําน ไม๎ ไมข๎ ดี ไฟ
1. พธิ เี ปิดประชมุ กอง (ธงขึ้น สวดมนต์ สงบน่ิง ตรวจ แยก ) 3. อปุ กรณ์ในการปรงุ เคร่ืองดืม่ เชํน
2. เพลง - เกม
3 การสอนตามเนื้อหา หมอ๎ กาน้า ชา ผงมะตมู

3.1 ผก๎ู ากบั นาสนทนาถึงความปลอดภยั ในการกอํ ไฟและปรุงเครอื่ งดมื่
รอ๎ น เชนํ นา้ ชา น้ามะตมู

3.2 แบงํ หมูํลูกเสอื ฝกึ ปฏิบัตวิ ธิ กี อํ ไฟและปรุงเคร่ืองดื่มร๎อนโดยผก๎ู ากบั
อธิบายและสาธิต

3.3 ผู๎กากับสรุปเสนอแนะ
4. ผ๎กู ากบั เลาํ เร่อื งส้ันทีเ่ ปน็ ประโยชน์
5. พธิ ปี ดิ ประชมุ กอง (นัดหมาย ตรวจ ธงลง เลกิ )

การจัดกิจกรรมลูกเสอื สารอง ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 5
โรงเรยี นเทศบาล 3 วดั เกาะแก้วนครสวรรค์

102

5. การประเมนิ ผล ผา่ น ไม่ผา่ น
รายละเอียดการประเมนิ ผล
…………. …………..
1. ความสนใจในการเขา๎ รวํ มกจิ กรรม …………. …………..
2. ความต้งั ใจในการปฏิบัตกิ จิ กรรม …………. …………..
3. แสดงวิธีกอํ ไฟไดอ๎ ยาํ งปลอดภยั และสะอาดเรยี บร๎อย …………. …………..
4. แสดงวิธปี รงุ เคร่ืองด่ืมร๎อน

6. กิจกรรมเสนอแนะเพ่ิมเตมิ
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………

7. ปัญหาและข้อเสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………

การจัดกจิ กรรมลกู เสือสารอง ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 5
โรงเรียนเทศบาล 3 วัดเกาะแก้วนครสวรรค์

103

แผนการจัดกจิ กรรมการเรียนร้ทู ี่ 26 การดแู ลตนเอง
เร่ือง การปรงุ อาหาร

1. สรปุ สาระสาคญั การปรุงอาหารอยาํ งงาํ ย ๆ เปน็ ประโยชน์ตอํ การดารงชวี ิต และเปน็ การเดตรียมตวั เพ่ือการ

เดินทางไกล และอยูํคํายพักแรมของลูกเสือ

2. จดุ ประสงค์

ปรุงอาหารอยาํ งงําย ๆ ได๎

3. ทกั ษะกระบวนการ

( ) 1. ตระหนักในปญั หาและความจาเป็น

( ) 2. คดิ วิเคราะหว์ จิ ารณ์

( ) 3. สรา๎ งทางเลือกหลากหลาย

( ) 4. ประเมนิ และเลือกทางเลอื ก

( ) 5. กาหนดและลาดับขน้ั ตอนการปฏิบตั ิ

( ) 6. ปฏิบตั ิด๎วยความช่นื ชม

( ) 7. ประเมนิ ระหวํางปฏบิ ตั ิ

( ) 8. ปรบั ปรุงใหด๎ ีขนึ้ อยูํเสมอ

( ) 9. ประเมนิ ผลรวมเพือ่ ให๎เกิดความภาคภมู ิใจ

4. กิจกรรม และส่อื / อุปกรณ์

กิจกรรม สอ่ื / อปุ กรณ์

1. พธิ ีเปิดประชมุ กอง (ธงข้ึน สวดมนต์ สงบน่งิ ตรวจ แยก ) 1. แผนภมู เิ พลง

2. เพลง - เกม 2. เตาประดิษฐ์ ถําน ไม๎ ไมข๎ ดี ไฟ

3. การสอนตามเนื้อหา 3. ภาชนะสาหรบั ปรุงอาหาร เชนํ

3.1 ผูก๎ ากับนาสนทนาถึงวิธีการปรุงอาหารแบบชาวปุา เชนํ การปงิ้ หมอ๎ กระทะ ตะหลวิ ทัพพี

ยําง อบ เผา ทอด ต๎ม เปน็ ต๎น 4. เนื้อสตั วห์ รือผกั เคร่ืองปรงุ

3.2 รํวมกันอภิปรายถึงการปรุงอาหารอยาํ งงาํ ย ๆ โดยให๎ลกู เสอื แตํละ

หมํูคดิ รายการอาหารมา 1 อยํางแล๎วลงปฏิบตั ิ

3.3 ผูก๎ ากบั สรปุ เสนอแนะ

4. ผ๎กู ากบั เลาํ เรอ่ื งสัน้ ที่เปน็ ประโยชน์

5. พธิ ีปิดประชมุ กอง (นดั หมาย ตรวจ ธงลง เลกิ )

การจดั กจิ กรรมลกู เสือสารอง ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 5
โรงเรยี นเทศบาล 3 วดั เกาะแกว้ นครสวรรค์

104

5. การประเมนิ ผล ผา่ น ไม่ผา่ น
รายละเอยี ดการประเมนิ ผล
…………. …………..
1. ความสนใจในการเขา๎ รวํ มกจิ กรรม …………. …………..
2. ความตั้งใจในการปฏบิ ัตกิ จิ กรรม …………. …………..
3. ความรวํ มมือในการจัดเตรยี มและปรงุ อาหาร …………. …………..
4. แสดงวธิ ปี รงุ อาหารอยาํ งงาํ ยภายในหมตํู นเอง

6. กิจกรรมเสนอแนะเพิ่มเตมิ
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………

7. ปญั หาและขอ้ เสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………

การจัดกิจกรรมลกู เสอื สารอง ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 5
โรงเรยี นเทศบาล 3 วดั เกาะแกว้ นครสวรรค์

105

เนอื้ หา
การก่อไฟ ปรงุ เครอื่ งดม่ื ร้อน ปรงุ อาหารงา่ ย ๆ นอกสถานที่

การก่อไฟ
ในการไปอยูํคํายพกั แรม ลูกเสอื จะตอ๎ งรู๎จักการกํอไฟเพ่ือหงุ หาอาหาร ให๎ความอบอํนุ และแสงสวาํ ง และใช๎
ปูองกนั สตั วร์ า๎ ยในเวลาคา่ คืน การกอํ ไฟ ไมใํ ชํสิ่งยาก แตเํ พือ่ ความปลอดภยั ลกู เสือกค็ วรทจ่ี ะเรยี นรหู๎ ลกั การไว๎บา๎ งดงั น้ี
1. เตรยี มเชือ้ เพลิง เช้ือเพลิงท่ีจะนามาใช๎ในการกํอไฟ ได๎แกํ ไม๎ฟืน โดยลูกเสือควรเลือกไม๎ฟืนจากก่ิงไม๎
หรือต๎นไม๎แท๎ ๆ ท่ียืนต๎นตาย หรือจากขอนไม๎ท่ีวางอยูํบนพ้ืนดินไมํควรใช๎ไม๎สด ไม๎ที่สามารถนามาเป็นเชื้อเพลิงได๎ดี
เชํน ไมป๎ ระดํู สัก เต็งรัง กระถิน โกงกาง ไผํ แสม และไม๎อ่ืน ๆ
คุณลกั ษณะของไมท๎ ่นี ามาใชเ๎ ป็นเชือ้ เพลิงได๎ดี คอื
1.) เป็นไม๎แห๎งเม่อื เผาแล๎วมคี วันน๎อย รวมทั้งกลิ่นและควนั จะตอ๎ งไมํเป็นพิษ
2.) มเี นือ้ ไม๎แนนํ พอสมควร ให๎ความรอ๎ นสูง ติดไฟไดน๎ านไมํมอดเร็ว
3.) ไมแํ ตกสะเกด็ ไมํมลี ูกไฟและไมํมีเถา๎ มาก
4.) ไมํมนี า้ มนั หรือยางมากเกินไป
5.) เปน็ ไม๎ท่หี าไดง๎ ํายและไมํมคี ณุ คาํ ทางเศรษฐกจิ
เมื่อหาไม๎ฟืนได๎ตามต๎องการแล๎ว ให๎นาไม๎ฟืนมาผําซีกหรือตัดทอนให๎ส้ันลง เหลือราว ๆ 1 ศอกแล๎วนามา
เรียงซ๎อนกันไว๎เป็นเชิงตะกอนหรือนามากองรวมกันไว๎ (ในกรณีท่ีต๎องต้ังคํายพักแรมหลายวัน ควรหาไม๎ฟืนมาเก็บ
สารองไวด๎ ๎วย และหมน่ั นาเอาออกมาผึง่ แดดหรืออังไวก๎ บั เตาไฟเพ่ือไม๎จะไดแ๎ ห๎งสนิท

2. เตรียมเชอ้ื ตดิ ไฟ เพื่อให๎การกํอกองไฟด๎วยไม๎
ดว๎ ยไมฟ๎ นื ลกุ ตดิ งํายข้ึนลูกเสอื ควรหาเชื้อติดไฟ ซ่งึ อาจจะ
เปน็ เศษกระดาษ เศษใบไมแ๎ หง๎ หญ๎าแห๎งหรอื ถ๎าเปน็ ก่ิง
ไม๎ ก็ตอ๎ งเอามาจกั เป็นฝอยหรือผาํ เปน็ ชิน้ เลก็ ๆ แล๎ว
นามาวาํ งกํายกันเปน็ รปู กระโจม ใหม๎ ีขนาดโตพอสมควร
โดยตอ๎ งเว๎นชอํ งให๎มอี ากาศถาํ ยเทไดด๎ ว๎ ย

3. สถานทส่ี าหรับก่อกองไฟ ควรเป็นสถานทีแ่ ห๎ง มที ่ีกาบังลม ถา๎ เปน็ ฤดฝู นควรหาท่ีใต๎รมํ ไมห๎ รอื กางเต็นท์ครวั หรือ
อาจกอํ กองไฟไวบ๎ น กองไม๎หรือกอ๎ นหนิ ก็ได๎ สถานท่ีกํอไฟจะต๎องอยํูไกลจากเช้ือเพลิงตําง ๆ ลูกเสือจะต๎องจดจาเสมอ
วํา การกํอไฟจะต๎องทาอยํางผ๎ูที่อยูํปุาทุกคนทากันคือ เก็บกวาดบรรดากิ่งไม๎แห๎ง และต๎นไม๎เล็ก ๆ ท่ีอยํูโดยรอบออก
เสยี กอํ น เพอ่ื ปูองกนั ไมํใหไ๎ ฟลุกลามออกไปเกินขอบเขต ในกรณที ่ีมีต๎นหญ๎าขนึ้ อยูํด๎วยให๎เอาพลั่วแซะหญ๎าติดดินมากอง
ไว๎แล๎วเอาน้าพรมให๎ทัว่ เพือ่ จะไดเ๎ อาไวก๎ ลบเข๎าที่เดิมหลงั จากเสร็จภารกจิ นอกจากน้ลี ูกเสือควรเตรียมกงิ่ ไม๎สดทม่ี ใี บไม๎
ตดิ อยํูไวด๎ ว๎ ย เพอ่ื เอาไวต๎ บหรือตีไฟ ท่ีลกุ ลาม เมือ่ เกิดไฟไหม๎

4. วธิ ีก่อกองไฟ เอาเชอื้ ติดไฟกองเปน็ รปู กระโจม จากน้ันจุดไมข๎ ดี แหยเํ ขา๎ ไปตรงชํองฐานของกระโจม รอ
จนกระทัง่ ไฟลุกท่วั เชื้อตดิ ไฟดแี ล๎ว จงึ นาไมฟ๎ ืนคํอย ๆ วางซ๎อนกัน กะใหป๎ ลายหวั ไมฟ๎ นื ได๎รบั เปลวไฟพอดี คอํ ย ๆ เปุา
ลม (โดยใชท๎ ํอนไมไ๎ ผํทะลุปลอ๎ งท้ังหมดเปน็ กระบอกเปุาลม) ลงไปที่กองไฟ จนกระทั่งไมฟ๎ ืนติดลกุ ไหม๎ คํอย ๆ เตมิ ไม๎
ฟืนเป็นระยะ ๆ เพื่อใหก๎ องไฟลุกสม่าเสมอ ระวังอยําใสฟํ นื จนแนนํ เพราะอากาศจะถาํ ยเทเขา๎ ไมไํ ด๎ ทาให๎กองไฟดบั
และควรกอํ กองไฟให๎มขี นาดพอเหมาะ อยาํ ใหใ๎ หญจํ นเกินไปนัก

การจดั กิจกรรมลกู เสือสารอง ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 5
โรงเรียนเทศบาล 3 วัดเกาะแกว้ นครสวรรค์

106

การดบั ไฟ
เม่อื ลกู เสอื ประกอบอาหารเสรจ็ แลว๎ หรือจะเลิกใช๎กองไฟ ตอ๎ งปรบั กองไฟ ปรับพืน้ ท่ีและกลบเถ๎าถํานให๎
เรียบรอ๎ ยเสยี กอํ นจงึ จะออกจากพนื้ ทน่ี นั้ ได๎ การดับไฟใหด๎ งึ ไม๎ฟืนออกมาจากกองแลว๎ ใชด๎ นิ รวํ น ทราย นา้ โรยหรอื
พรมรอบ ๆ กํอน แล๎วจึงพรมเขา๎ ไปหากลางกองไฟจนไฟดับจากนน้ั ใช๎ไม๎ทบุ หรอื เทา๎ เหยยี บจนไมํมีประกายไฟหลงเหลอื
อยํู เสร็จแล๎วกลบรํองรอยโดยการเกลย่ี พื้นดิน เอาหญา๎ ทข่ี ดุ ออกไวก๎ อํ นกํอกองไฟวางแปะกลบั เขา๎ ที่เดิมแล๎วพยายาม
ปรบั พืน้ ทีน่ ัน้ ให๎เรยี บรอ๎ ยและคงสสูํ ภาพเดิม

การปรุงเคร่อื งด่มื รอ้ น
การปรุงเครอื่ งด่ืมให๎ปฏบิ ตั ิดังน้ี
1) การชงกาแฟ - เคร่ืองดืม่ บารุงราํ งกาย
1.1 ตม๎ น้าใหเ๎ ดือด
1.2 เทน้าร๎อนลงถว๎ ยกาแฟหรอื ถ๎วยแกว๎
1.3 ตักผงกาแฟหรอื โอวลั ตินลงไปประมาณ 1-2 ชอ๎ นชา แล๎วคนใหผ๎ งละลายให๎หมด
1.4 เตมิ นมขน๎ นมสด หรอื ครีมเทียม
1.5 เตมิ นา้ ตาล
1.6 คนใหเ๎ ข๎ากนั
2) การตม๎ นา้ มะตมู
1.1 ตม๎ นา้ ให๎เดอื ด
1.2 ใสํเปลือกมะตมู ลงไป
1.3 ใสํน้าตาลทรายลงไป กะให๎หวานตามที่ชอบ
1.4 ยกลงดื่มได๎

การปรงุ อาหารงา่ ย ๆ
การหลามขา้ ว
1. เอาไมไ๎ ผสํ ด ตดั เปน็ ปลอ๎ ง เปดิ ปลอ๎ งข๎างบนไวเ๎ พื่อใช๎บรรจขุ ๎าว
2. ซาวนา้ ดว๎ ยน้า 1 ครง้ั เพือ่ ล๎างสง่ิ สกปรกและละอองตาํ ง ๆ แล๎วแชนํ ้าไว๎ประมาณ 3 ชั่วโมง
3. กรอกขา๎ วลงในกระบอกไม๎ไผํ เตมิ นา้ ใหท๎ ํวมข๎าวประมาณครงึ่ นิว้ แลว๎ เอาใบตองแห๎งหอํ กาบมะพร๎าวอุด

ปากกระบอก ให๎มีชํองวํางตรงปากกระบอกไว๎พอสมควร เพ่ือใหน๎ า้ เดือดได๎
4. ขดุ เตารางกอํ กองไฟในเตารางใชเ๎ ชือ้ เพงิ เผาไหมเ๎ ป็นถาํ นยิง่ ดี เอาตน๎ กลว๎ ยเสียบข๎างทาเปน็ ขาหยาํ งตงั้ ไว๎

หัวทา๎ ยของต๎นกล๎วย (ใชท๎ ํอนเหล็กกไ็ ด)๎ เอากระบอกไมไ๎ ผพํ ิงไว๎กบั ตน๎ กล๎วยใหค๎ วามร๎อนจากกองไฟที่กอํ ไว๎ตรงกลางแผํ

การจดั กจิ กรรมลกู เสอื สารอง ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 5
โรงเรียนเทศบาล 3 วดั เกาะแกว้ นครสวรรค์

107

5. รงั สีไปถูกกระบอกไมไ๎ ผํทวี่ างพิงไว๎กบั ตน๎ กล๎วย หม่ันกลบั กระบอกไม๎ไผํใหไ๎ ดร๎ บั ความร๎อนจากกองไฟโดย
ท่ัวถึง เมื่อขา๎ วสกุ แลว๎ ปอกผิวกระบอกไมไ๎ ผํท่ีเกรยี มออก เพ่ือสะดวกแกํการรับประทาน

การป้ิง เปน็ วธิ ที าให๎เน้อื สัตวส์ ุก โดยต้ังขาหยํางเอาตะแกรงเหล็กวาง เอาเนอื้ สัตว์วางบนตะแกรงตง้ั อัง
ไฟท่ีเปน็ ถํานแดง คอยหมั่นพลกิ กลบั เน้อื ไปมาใหถ๎ ูกความร๎อน โดยทัว่ ๆ จนสกุ ทว่ั กันกเ็ อาออกใสจํ าน

การจัดกจิ กรรมลูกเสือสารอง ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 5
โรงเรียนเทศบาล 3 วดั เกาะแกว้ นครสวรรค์

108

แผนการจัดกิจกรรมการเรยี นรทู้ ี่ 27 การดูแลตนเอง
เรือ่ ง การบรรจุสง่ิ ของลงเครือ่ งหลงั

1. สรปุ สาระสาคญั การรู๎จกั จดั เตรียมส่งิ ของลงเครือ่ งหลงั อยาํ งมรี ะเบยี บชวํ ยให๎เกิดความสะดวกเมอื่ ตอ๎ งการ
ส่งิ ของนน้ั ๆ

2. จดุ ประสงค์
2. สามารถจัดเตรยี มส่งิ ของลงเคร่อื งหลงั ได๎อยาํ งมรี ะเบยี บ
3. สามารถจัดเตรียมอุปกรณ์พยาบาลสํวนตัวสาหรับเดินทางไกลได๎

3. ทกั ษะกระบวนการ
( ) 1. ตระหนักในปญั หาและความจาเปน็
( ) 2. คิดวเิ คราะห์วจิ ารณ์
( ) 3. สร๎างทางเลอื กหลากหลาย
( ) 4. ประเมินและเลือกทางเลอื ก
( ) 5. กาหนดและลาดับขัน้ ตอนการปฏิบตั ิ
( ) 6. ปฏิบัติด๎วยความชน่ื ชม
( ) 7. ประเมินระหวาํ งปฏบิ ตั ิ
( ) 8. ปรับปรงุ ใหด๎ ขี ้นึ อยูํเสมอ
( ) 9. ประเมนิ ผลรวมเพอ่ื ให๎เกิดความภาคภมู ิใจ

4. กจิ กรรม และสอื่ / อปุ กรณ์

กจิ กรรม สื่อ/ อุปกรณ์

1. พธิ เี ปดิ ประชุมกอง (ธงขึน้ สวดมนต์ สงบนง่ิ ตรวจ แยก ) 1. แผนภมู เิ พลง

2. เพลง - เกม 2. อุปกรณป์ จั จุบนั พยาบาล

3. การสอนตามเนอื้ หา 3. เครอื่ งหลัง หรือเปู

3.1 ผกู๎ ากบั นาสนทนาเก่ียวกบั การเตรยี มตวั เดินทางไกลและอยํู 4. สิง่ ของเคร่อื งใช๎ประจาตวั

คาํ ยพกั แรมแล๎วอภิปรายซกั ถามถงึ ของใชจ๎ าเปน็ ท่ตี ๎องนาไป

3.2 รํวมกันอภิปรายถึงวธิ บี รรจสุ ่ิงของลงเครื่องหลังหรือเปูแลว๎ ให๎

ลกู เสอื ฝึกปฏบิ ตั ิ

4. ผก๎ู ากับเลําเรื่องสนั้ ที่เป็นประโยชน์

5. พธิ ปี ิดประชุมกอง (นัดหมาย ตรวจ ธงลง เลกิ )

การจัดกจิ กรรมลกู เสือสารอง ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 5
โรงเรียนเทศบาล 3 วัดเกาะแกว้ นครสวรรค์

109

5. การประเมนิ ผล ผ่าน ไมผ่ า่ น
รายละเอยี ดการประเมนิ ผล
…………. …………..
1. ความสนใจในการเขา๎ รวํ มกจิ กรรม …………. …………..
2. ความต้งั ใจในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม …………. …………..
3. บอกชอ่ื อุปกรณท์ ี่สาคญั ในการจัดเตรยี มเพือ่ เดินทางไกล …………. …………..
4. อธิบายและแสดงวธิ บี รรจุสง่ิ ของลงเครอ่ื งหลัง

6. กิจกรรมเสนอแนะเพม่ิ เตมิ
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………

7. ปญั หาและขอ้ เสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………

การจดั กิจกรรมลูกเสือสารอง ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 5
โรงเรียนเทศบาล 3 วัดเกาะแก้วนครสวรรค์

110

แผนการจัดกจิ กรรมการเรียนร้ทู ่ี 28 การดูแลตนเอง
เรอ่ื ง การกางเตน็ ท์

1. สรปุ สาระสาคญั การกางเตน๎ เป็นการฝึกทักษะเพอ่ื ประโยชนใ์ นการอยูคํ าํ ยพกั แรม
2. จดุ ประสงค์

สามารถกางเต็นทแ์ ละเก็บเต็นทไ์ ด๎
3. ทกั ษะกระบวนการ

( ) 1. ตระหนกั ในปญั หาและความจาเปน็
( ) 2. คดิ วเิ คราะหว์ จิ ารณ์
( ) 3. สรา๎ งทางเลือกหลากหลาย
( ) 4. ประเมนิ และเลือกทางเลอื ก
( ) 5. กาหนดและลาดับข้ันตอนการปฏิบตั ิ
( ) 6. ปฏบิ ตั ิดว๎ ยความชน่ื ชม
( ) 7. ประเมนิ ระหวํางปฏิบตั ิ
( ) 8. ปรบั ปรุงใหด๎ ขี ้นึ อยูเํ สมอ
( ) 9. ประเมินผลรวมเพอื่ ใหเ๎ กิดความภาคภูมใิ จ

4. กิจกรรม และสอื่ / อุปกรณ์ สอ่ื / อปุ กรณ์

กจิ กรรม 1. แผนภูมเิ พลง
2. เต็นท์
1. พิธีเปิดประชุมกอง (ธงข้ึน สวดมนต์ สงบนง่ิ ตรวจ แยก ) 3. ภาพการกางเตน็ ท์
2. เพลง - เกม
3. การสอนตามเนือ้ หา

3.1 ผ๎กู ากับนาสนทนาถึงความสาคญั ของการกางเตน็ ทเ์ มือ่ ต๎อง
ไปอยํูคาํ ยพกั แรม
6.2 แบํงหมูํลูกเสือเรยี นตามฐาน โดยผูก๎ ากับอธิบายและสาธติ แล๎ว

ใหล๎ ูกเสือฝกึ ปฏิบตั ดิ ังนี้
ฐานท่ี 1 การกางเต็นท์
ฐานที่ 2 การเก็บเตน็ ท์
4. ผกู๎ ากบั เลําเรื่องสนั้ ท่เี ปน็ ประโยชน์
5. พิธีปิดประชุมกอง (นดั หมาย ตรวจ ธงลง เลกิ )

การจัดกจิ กรรมลกู เสือสารอง ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 5
โรงเรียนเทศบาล 3 วัดเกาะแก้วนครสวรรค์

111

5. การประเมนิ ผล ผ่าน ไมผ่ า่ น
รายละเอียดการประเมนิ ผล
…………. …………..
1. ความสนใจในการเข๎ารํวมกจิ กรรม …………. …………..
2. ความตง้ั ใจในการปฏบิ ัตกิ จิ กรรม …………. …………..
3. ขน้ั ตอนในการกางเต็นทแ์ ละเกบ็ เต็นท์ …………. …………..
4. ตรวจผลงาน

6. กจิ กรรมเสนอแนะเพมิ่ เติม
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………

7. ปัญหาและข้อเสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………

การจัดกิจกรรมลูกเสอื สารอง ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 5
โรงเรียนเทศบาล 3 วดั เกาะแกว้ นครสวรรค์

112

เนื้อหา
1. การบรรจสุ ิง่ ของตา่ ง ๆ ลงเครือ่ งหลัง

การไปอยูํคํายพักแรมปลายสัปดาห์ ลูกเสือจาเป็นต๎องเรียนร๎ูวําจะไปปฏิบัติกิจกรรมอะไรบ๎างและค๎างกี่คืน
เพ่ือจะได๎ร๎ูวําต๎องชํวยต๎องเองอยํางไรบ๎าง มีอะไรบ๎างที่ต๎องเตรียมไปนอกจาก เต็นท์ เครื่องนอน เส้ือผ๎า ซ่ึงอาจมี
อาหารแห๎ง ของใช๎ท่ีจาเป็นในการเดินทางและการค๎างคืน ตลอดจนอุปกรณ์ท่ีอาจต๎องผจญภัย ส่ิงสาคัญท่ีลูกเสือ
จะต๎องจัดหาคือ เครือ่ งหลงั ทีม่ ีความเหมาะสมไมใํ หญหํ รอื เล็กจนเกินไป

เคร่ืองใช้ทจ่ี าเป็นในการอยูค่ ่ายพกั แรม
1. ของใช๎สํวนตัว ควรเลือกเทําที่จาเป็นได๎แกํ
เครื่องแบบ ชุดลาลอง ผ๎าเช็ดตัว สบํู แปรงสีฟัน ยา
ประจาตัว รองเท๎าแตะ ขันน้า ไฟฉาย เชือก ไม๎ขีด
เทียนไข มดี พบั
2. เต็นท์ประจาตวั เคร่อื งนอน ไมพ๎ ลอง
3. อุปกรณ์สาหรับรับประทานอาหาร เชํน ช๎อนส๎อม
จาน กระตกิ น้า
4. เคร่ืองครัวท่ีใช๎ประกอบอาหาร เชํน หม๎อข๎าวสนาม
กระทะ ทพั พี เครอื่ งเปดิ กระปอ๋ ง
5. อปุ กรณอ์ ่นื ๆ เชนํ พล่ัว ขวาน ตะเกยี ง

หลักการบรรจเุ ครอื่ งหลัง
1. ของทีใ่ ช๎ทหี ลังใหบ๎ รรจลุ งกํอน
2. ควรแยกของเปน็ พวก ๆ ใสถํ ุงพลาสตกิ รวมกัน
3. นาถงุ พลาสติกสาหรับใสเํ สอ้ื ผ๎าทเ่ี ป้ือนหรอื เปียก

2. การเตรยี มตวั เคร่อื งปจั จบุ ันพยาบาลสาหรับการเดนิ ทางไกล
ในการเดินทางไกลของลูกเสือสวํ นใหญํจะออกเดินชํวงเช๎าและกลับในตอนบํายของวันเดียวกันโดยไมํมีการพัก

แรม การเดินทางอาจจะเดินไปในเส๎นทางธรรมชาตทิ มี่ ีตน๎ ไม๎ ปาุ เขา ชายทะเล หรือถนน ผลกระทบท่ีลูกเสือมีตั้งแตํ
ความร๎อนจากแสงแดดความเย็นจากฝนตก อันตรายที่เกิดขึ้นระหวํางเดินทาง รองเท๎ากัด เท๎าแพลง หรือจากสัตว์มี
พษิ กดั ตอํ ย อาการทจ่ี ะเกิดสวํ นใหญจํ ะเป็นอบุ ัตเิ หตุ คือเกดิ ขน้ึ โดยไมคํ าดฝนั ดงั น้ันสิ่งทล่ี กู เสือต๎องเตรยี มจึงประกอบไป
ด๎วย

1. ยาท่ใี ชส๎ าหรับอาการทเ่ี กิดจากความร๎อน เชํน แอมโมเนยี หรือยาลม
2. ยาทใ่ี ชส๎ าหรับอาการปวด ลดไข๎ ยาแก๎ปวดท๎อง
3. ยาที่ใช๎กบั บาดแผล เชํน ยาเหลอื ง ยาแดง ทงิ เจอร์ ข้ีผงึ้ ฯลฯ
4. อุปกรณ์การปฐมพยาบาล เชนํ ผา๎ พนั แผล สาลี ผ๎ายาปิดแผล
การเตรยี มยาและเคร่ืองปจั จุบนั พยาบาล ลูกเสือควรเตรยี มแตพํ อสมควร ไมคํ วรนาไปเกนิ ความจาเปน็
3. กางเตน็ ท์สาหรบั พกั แรม

เต็นท์มีอยูํหลายชนิดทั้งที่นอนได๎คนเดียว หลายคน หรือมากกวําข้ึนไปมีช่ือเรียกตําง ๆ กันไป เชํน
เตน็ ทก์ ระแบะ เต็นทก์ ระโจม หรอื เตน็ ท์ชาวคาํ ย เป็นต๎น สิ่งสาคัญในการเลือกเต็นท์เพ่ือไปอยูํคํายพักแรมน้ัน เต็นท์
จะต๎องมีน้าหนักเบา ไมหํ นักจนเกินไป เหมาะท่ีจะนาไปกับตวั เองหรอื หมูํลูกเสือของตนได๎

การจดั กิจกรรมลกู เสอื สารอง ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 5
โรงเรียนเทศบาล 3 วดั เกาะแก้วนครสวรรค์

113

อปุ กรณท์ ี่ใชป้ ระกอบเตน็ ท์
1. เสาหลกั อาจทาด๎วยไมห๎ รือโลหะก็ได๎ มีความสูงพอประมาณตามแตํลกั ษณะและขนาดของเต็นท์
2. สมอบกทาดว๎ ยไมห๎ รือโลหะขนาดยาวประมาณ 1 ฟตุ มีประมาณ 8-10 ตัวหรอื มากกวาํ น้นั กไ็ ด๎ ขน้ึ อยกูํ บั
ลกั ษณะและขนาดของเตน็ ท์
3. เชอื กร๎อยหเู ต็นท์ เป็นเชือกยาวขนาด 1-1 1/2 ฟุตสาหรับรอ๎ ยหเู ตน็ ทผ์ ูกติดกบั สมอบก
4. เชือกดึงเสาหลกั เปน็ เชือกขนาดยาวประมาณ 3 เมตร สาหรบั ผกู กับยอดเสาหลกั แลว๎ ดงึ ผกู กบั สมอบก
การเลอื กสถานทกี่ างเต็นท์
1. เป็นทุํงราบโปรงํ มหี ญ๎าขึ้นเขียวขจี ลาดเอียงบ๎างเล็กนอ๎ ย
2. อยํใู กล๎แหลํงนา้
3. ไมเํ ป็นแองํ หรือท่ีลมุํ หรือหุบเขา ทน่ี ้าขงั หรืออาจทํวมถงึ
4. ไมอํ ยใูํ ตต๎ น๎ ไมใ๎ หญํ เพราะจะเกดิ อันตรายเวลาเกดิ พายแุ ละอากาศไมํดีในตอนกลางคนื
5. พ้ืนต๎องราบเรยี บ ไมํขรุขระหรือมสี ิง่ แหลมคมอันอาจจะกอํ ใหเ๎ กดิ อนั ตราย
วธิ ีกางเตน็ ท์
1. ถา๎ เป็นฤดูหนาวหรอื ฤดฝู น ใหห๎ นั ดา๎ นหลัง
ของเต็นท์ใหก๎ บั ทศิ ทางลม ถ๎าเปน็ ฤดูรอ๎ นให๎ประตเู ตน็ ทส์ ูํ
ทศิ ทางลม
2. ตัง้ เสาหลักท้งั สองข้นึ
3. ใหเ๎ ชือกผูกเสาหลกั แล๎วดึงเชอื กขงึ ให๎ตึงผูก
กับสมอบก
4. ตอกสมอบกทม่ี มุ เต็นทท์ งั้ สี่
5. ใช๎เชอื กร๎อยหูเต็นทผ์ กู ดึงกบั สมอบกให๎ชาย
เตน็ ท์ตงึ
6. ตอกสมอบกทช่ี ายเต็นทแ์ ล๎วใช๎เชือกรอ๎ ย
เตน็ ท์ผูกดงึ กบั สมอบกให๎ตึง

การจัดกจิ กรรมลกู เสือสารอง ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 5
โรงเรียนเทศบาล 3 วัดเกาะแกว้ นครสวรรค์

114

แผนการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ที่ 29 การเดินทางไปยงั สถานทต่ี ่าง ๆ
เร่ือง การเดินทางโดยใชแ้ ผนที่เขม็ ทิศ

1. สรปุ สาระสาคญั การรจู๎ กั ใชแ๎ ผนทเี่ ข็มทิศ เปน็ ประโยชน์ตอํ การเดินทางและการปฏิบัตกิ ิจกรรมของลูกเสอื
2. จุดประสงค์

1. บอกเครอื่ งหมายตาํ ง ๆ บนแผนทไ่ี ด๎
2. บอกและแสดงวิธีใชเ๎ ขม็ ทิศได๎ถูกตอ๎ ง
3. วางแผนทใี่ ห๎ถูกทศิ โดยใชเ๎ ขม็ ทศิ ได๎
3. ทกั ษะกระบวนการ
( ) 1. ตระหนกั ในปญั หาและความจาเปน็
( ) 2. คิดวเิ คราะห์วจิ ารณ์
( ) 3. สร๎างทางเลอื กหลากหลาย
( ) 4. ประเมินและเลือกทางเลอื ก
( ) 5. กาหนดและลาดับข้ันตอนการปฏบิ ตั ิ
( ) 6. ปฏิบัตดิ ว๎ ยความชื่นชม
( ) 7. ประเมินระหวาํ งปฏิบตั ิ
( ) 8. ปรับปรุงใหด๎ ีขึ้นอยเูํ สมอ
( ) 9. ประเมนิ ผลรวมเพอื่ ใหเ๎ กดิ ความภาคภูมใิ จ

4. กิจกรรม และส่ือ/ อปุ กรณ์ สอื่ / อุปกรณ์

กจิ กรรม 1. แผนภมู ิเพลง
2. แผนที่ เขม็ ทศิ
1. พธิ ีเปดิ ประชุมกอง (ธงขน้ึ สวดมนต์ สงบนิ่ง ตรวจ แยก ) 3. แผนภมู ิ เครือ่ งหมายตําง ๆ
2. เพลง - เกม
3. การสอนตามเนือ้ หา บนแผนที่

3.1 ผูก๎ ากับสนทนาถงึ ทศิ ตําง ๆ และความสาคญั ในการใชแ๎ ผนทเ่ี ขม็ ทศิ ในการ
เดนิ ทางของลูกเสือ

3.2 รวํ มกนั อภิปรายเกยี่ วกบั เครอ่ื งหมายบนแผนท่แี ละสวํ นประกอบของเขม็
ทิศ

3.3 ผกู๎ ากบั อธิบายและสาธิตการวางแผนที่ให๎ถกู ทิศประกอบการใชเ๎ ขม็ ทศิ
3.4 ใหล๎ ูกเสอื ฝึกปฏิบตั ิ
4. ผูก๎ ากับเลาํ เรอื่ งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์
5. พิธปี ดิ ประชุมกอง (นดั หมาย ตรวจ ธงลง เลิก)

การจดั กิจกรรมลูกเสือสารอง ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 5
โรงเรยี นเทศบาล 3 วัดเกาะแกว้ นครสวรรค์

115

5. การประเมินผล ผ่าน ไมผ่ า่ น
รายละเอยี ดการประเมินผล
…………. …………..
1. ความสนใจในการเขา๎ รวํ มกจิ กรรม …………. …………..
2. ความตัง้ ใจในการปฏิบัตกิ จิ กรรม …………. …………..
3. บอกเครื่องหมายบนแผนท่ี …………. …………..
4. ทดสอบการหาทิศโดยการใชแ๎ ผนท่ีและเขม็ ทศิ

6. กจิ กรรมเสนอแนะเพ่มิ เติม
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………

7. ปญั หาและข้อเสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………

การจดั กจิ กรรมลูกเสือสารอง ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 5
โรงเรียนเทศบาล 3 วัดเกาะแกว้ นครสวรรค์

116

แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรทู้ ี่ 30 การเดนิ ทางไปยงั สถานทต่ี ่าง ๆ
เรอื่ ง การเดนิ ทางไกล

1. สรปุ สาระสาคญั การเดนิ ทางไกลเปน็ กจิ กรรมกลางแจ๎งซ่งึ ลกู เสอื ควรรจู๎ กั เตรยี มตัวเพ่อื ความพรอ๎ มในการปฏบิ ตั ิ
กจิ กรรม

2. จดุ ประสงค์
1. บอกประโยชน์ของการเดนิ ทางไกลได๎
2. เตรยี มตวั ในการเดินทางไกลและอยคํู าํ ยพกั แรมได๎

3. ทกั ษะกระบวนการ
( ) 1. ตระหนักในปญั หาและความจาเป็น
( ) 2. คดิ วิเคราะหว์ ิจารณ์
( ) 3. สร๎างทางเลอื กหลากหลาย
( ) 4. ประเมนิ และเลอื กทางเลอื ก
( ) 5. กาหนดและลาดบั ขัน้ ตอนการปฏิบัติ
( ) 6. ปฏิบตั ดิ ว๎ ยความช่ืนชม
( ) 7. ประเมนิ ระหวาํ งปฏิบตั ิ
( ) 8. ปรับปรงุ ใหด๎ ีข้ึนอยํูเสมอ
( ) 9. ประเมนิ ผลรวมเพ่อื ใหเ๎ กดิ ความภาคภมู ิใจ

4. กิจกรรม และสือ่ / อปุ กรณ์ สอ่ื / อปุ กรณ์

กจิ กรรม 1. แผนภูมเิ พลง
2. อุปกรณ์สาหรับเดินทางไกล
1. พิธีเปดิ ประชมุ กอง (ธงขึ้น สวดมนต์ สงบนิง่ ตรวจ แยก )
2. เพลง - เกม
3 การสอนตามเนอ้ื หา

3.1 ผูก๎ ากบั นาสนทนาถงึ การเตรยี มตวั เดนิ ทางไกลไป-กลับระยะทาง 10
กม.

3.2 รวํ มกนั อภปิ รายถึงความหมายและประโยชน์ของการเดนิ ทางไกล
3.3 รํวมกนั อภิปรายถงึ วธิ ีจดั เครอ่ื งหลงั สาหรบั เดนิ ทางไกลแลว๎ ใหแ๎ ตลํ ะหมํู
เขียนรายงาน
3.4 ผ๎กู ากับมอบหมายใหล๎ ูกเสอื เตรยี มตวั เดินทางไกลในวันหยดุ พรอ๎ มท้งั
วาดภาพทพ่ี บเห็นระหวาํ งการเดินทางด๎วย
4. ผูก๎ ากบั เลําเรอ่ื งสนั้ ท่ีเป็นประโยชน์
5. พธิ ปี ิดประชุมกอง (นัดหมาย ตรวจ ธงลง เลกิ )

การจดั กิจกรรมลูกเสอื สารอง ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 5
โรงเรียนเทศบาล 3 วดั เกาะแกว้ นครสวรรค์

117

5. การประเมินผล ผา่ น ไม่ผา่ น
รายละเอียดการประเมินผล
…………. …………..
1. ความสนใจในการเขา๎ รวํ มกจิ กรรม …………. …………..
2. ความตั้งใจในการปฏิบตั กิ จิ กรรม …………. …………..
3. บอกประโยชน์ของการเดินทางไกล …………. …………..
4. แสดงวิธจี ัดเครอ่ื งหลัง

6. กจิ กรรมเสนอแนะเพม่ิ เตมิ
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………

7. ปญั หาและข้อเสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………

การจัดกิจกรรมลูกเสือสารอง ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 5
โรงเรยี นเทศบาล 3 วัดเกาะแกว้ นครสวรรค์

118

แผนการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ที่ 31 การเดินทางไปยังสถานทตี่ ่าง ๆ
เร่อื ง การปฏบิ ัติตามกฎจราจร

1. สรุปสาระสาคญั การปฏบิ ตั ิตามกฎจราจรเป็นการรักษาวินยั เพ่อื ความปลอดภยั ในการเดนิ ทาง

2. จดุ ประสงค์

1. บอกกฎและเครอ่ื งหมายจราจรได๎

2. ปฏบิ ัติตามกฎจราจรไดถ๎ กู ต๎อง

3. ทักษะกระบวนการ

( ) 1. ตระหนกั ในปญั หาและความจาเปน็

( ) 2. คิดวิเคราะหว์ ิจารณ์

( ) 3. สร๎างทางเลอื กหลากหลาย

( ) 4. ประเมนิ และเลอื กทางเลอื ก

( ) 5. กาหนดและลาดบั ข้นั ตอนการปฏิบัติ

( ) 6. ปฏบิ ตั ิดว๎ ยความชน่ื ชม

( ) 7. ประเมินระหวํางปฏิบตั ิ

( ) 8. ปรับปรงุ ให๎ดขี น้ึ อยเํู สมอ

( ) 9. ประเมินผลรวมเพ่ือใหเ๎ กดิ ความภาคภูมิใจ

4. กจิ กรรม และสอื่ / อุปกรณ์

กจิ กรรม สื่อ/ อุปกรณ์

1. พิธีเปดิ ประชุมกอง (ธงขน้ึ สวดมนต์ สงบนิง่ ตรวจ แยก ) 1. แผนภูมเิ พลง

2. เพลง - เกม 2. เครอื่ งหมายจราจร หรือหุนํ จาลอง

3. การสอนตามเน้ือหา 3. แผนภมู ิเครอื่ งหมายจราจร

3.1 ผ๎ูกากับนาสนทนาถงึ ความสาคญั ในการปฏบิ ัติตามกฎจราจร

3.2 รวํ มกันอภิปรายเกี่ยวกบั ความร๎เู บอ้ื งต๎นเร่ืองกฎจราจรสญั ญาณไฟ

3.3 รํวมกันอภปิ รายถงึ ความปลอดภยั บนถนน การขา๎ มถนน การเดิน

ถนน การโดยสารรถยนต์ รถไฟ และเรือ

3.4 ผกู๎ ากับสรปุ เสนอแนะ

4. ผูก๎ ากับเลําเร่อื งส้ันที่เปน็ ประโยชน์

5. พิธีปดิ ประชุมกอง (นดั หมาย ตรวจ ธงลง เลิก)

การจดั กิจกรรมลูกเสือสารอง ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 5
โรงเรียนเทศบาล 3 วัดเกาะแกว้ นครสวรรค์

119

5. การประเมนิ ผล ผ่าน ไม่ผา่ น
รายละเอียดการประเมินผล
…………. …………..
1. ความสนใจในการเข๎ารวํ มกจิ กรรม …………. …………..
2. ความต้งั ใจในการปฏบิ ัตกิ จิ กรรม …………. …………..
3. บอกกฎและเครอื่ งหมายจราจร …………. …………..
4. แสดงวธิ ปี ฏบิ ตั ิตามกฎจราจร

6. กจิ กรรมเสนอแนะเพ่ิมเติม
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………

7. ปญั หาและขอ้ เสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………

การจดั กจิ กรรมลูกเสอื สารอง ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 5
โรงเรยี นเทศบาล 3 วัดเกาะแกว้ นครสวรรค์

120

แผนการจัดกจิ กรรมการเรยี นรทู้ ี่ 32 การเดินทางไปยงั สถานทต่ี ่าง ๆ
เรื่อง การเดนิ ทางไกลตา่ งประเทศ

1. สรุปสาระสาคญั การศกึ ษาเร่ืองราวเกยี่ วกับประเทศตาํ งๆ ชวํ ยใหม๎ คี วามรเู๎ กยี่ วกบั ประเทศนน้ั ๆ ท้ังทางด๎าน
ภมู ศิ าสตร์ เศรษฐกิจ การเมอื ง และสังคม

2. จดุ ประสงค์
1. บอกสง่ิ สาคญั ของประเทศทต่ี นสนใจได๎ 1 ดา๎ น
2. บอกความสัมพันธ์ระหวาํ งประเทศไทยกับตาํ งประเทศได๎

3. ทกั ษะกระบวนการ
( ) 1. ตระหนักในปญั หาและความจาเป็น
( ) 2. คิดวเิ คราะห์วจิ ารณ์
( ) 3. สรา๎ งทางเลอื กหลากหลาย
( ) 4. ประเมินและเลอื กทางเลอื ก
( ) 5. กาหนดและลาดบั ขัน้ ตอนการปฏิบัติ
( ) 6. ปฏิบัติด๎วยความชื่นชม
( ) 7. ประเมินระหวาํ งปฏบิ ตั ิ
( ) 8. ปรับปรงุ ให๎ดีขึน้ อยเํู สมอ
( ) 9. ประเมนิ ผลรวมเพอ่ื ใหเ๎ กดิ ความภาคภูมใิ จ

4. กิจกรรม และสอ่ื / อุปกรณ์ สอ่ื / อปุ กรณ์

กจิ กรรม 1. แผนภมู เิ พลง
2. แผนท่ปี ระเทศไทย
1. พธิ ีเปิดประชุมกอง (ธงขน้ึ สวดมนต์ สงบนงิ่ ตรวจ แยก ) 3. แผนท่ีโลกและประเทศตําง
2. เพลง - เกม
3. การสอนตามเนื้อหา

3.1 แบํงหมลูํ กู เสอื เลอื กศึกษาเรื่องราวของประเทศใดประเทศหนง่ึ ใน
ด๎านตาํ งๆ เชนํ ด๎านภมู ศิ าสตร์ การเมอื ง เศรษฐกิจ สังคม ศาสนาและ
วฒั นธรรม แล๎วทารายงานเสนอ

3.2 รํวมกันอภปิ รายถงึ ความสมั พันธข์ องประเทศน้นั ๆ กับประเทศไทย
4. ผูก๎ ากับเลาํ เรือ่ งสั้นท่เี ปน็ ประโยชน์
5. พธิ ปี ิดประชมุ กอง (นัดหมาย ตรวจ ธงลง เลกิ )

การจัดกจิ กรรมลกู เสอื สารอง ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 5
โรงเรียนเทศบาล 3 วัดเกาะแก้วนครสวรรค์

121

5. การประเมินผล ผ่าน ไมผ่ า่ น
รายละเอยี ดการประเมนิ ผล
…………. …………..
1. ความสนใจในการเข๎ารํวมกจิ กรรม …………. …………..
2. ความตั้งใจในการปฏบิ ัติกจิ กรรม …………. …………..
3. บอกสงิ่ สาคัญของประเทศท่นี าํ สนใจ …………. …………..
4. บอกความสมั พันธร์ ะหวาํ งประเทศไทยกบั ประเทศทสี่ นใจ

6. กิจกรรมเสนอแนะเพม่ิ เตมิ
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………

7. ปญั หาและข้อเสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………

การจัดกิจกรรมลูกเสอื สารอง ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 5
โรงเรยี นเทศบาล 3 วดั เกาะแกว้ นครสวรรค์

122

เน้ือหา

1. ทิศ
ทิศสาคญั มี 4 ทิศ นอกจากนี้ยังแบํงยํอยออกไปอีก 4 ทิศ รวมเปน็ 8 ทศิ

ทิศ 8 ทิศอาจบอกได๎เปน็ 2 ลักษณะ คอื บอกเป็นทิศและเป็นองศา เชํน

1. ทศิ เหนอื 0 (หรอื 360 องศา) อุดร =N

2. ทศิ ตะวนั ออกเฉียงเหนอื 45 องศา อสี าน = NE

3. ทศิ ระวันออก 90 องศา บรู พา = E

4. ทศิ ตะวันออกเฉยี งใต๎ 135 องศา อาคเนย์ = SE

5. ทิศใต๎ 190 องศา ทกั ษิณ =S

6. ทศิ ตะวนั ออกเฉียงใต๎ 225 องศา หรดี = SW

7. ทิศตะวนั ตก 270 องศา ประจิม =W

8. ทศิ ตะวนั ตกเฉียงเหนือ 315 องศา พายัพ = NW

2. เข็มทิศ
เข็มทศิ หมายถงึ เครื่องมือชบ้ี อกแนวทศิ ทม่ี ลี ูกศรเป็นเขม็ แมํเหล็กเป็นตัวช้ี เราสามารถใชเ๎ ขม็ ทิศได๎โดยวาง

เขม็ ทศิ บนพนื้ ราบ หรอื ถอื เขม็ ทิศใหอ๎ ยใํู นแนวระนาบใหถ๎ กู ตอ๎ งกํอนมองดทู หี่ นา๎ ปดั เขม็ ทศิ แล๎วคํอย ๆ หมนุ ให๎หัวลกู ศร
ตรงกับตวั อักษร N ซึง่ แสดงทิศเหนือ เพราะหัวลกู ศรทาจากแมเํ หล็กจะชไี้ ปทางทิศเหนอื (ทิศเหนอื แมเํ หลก็ ) เสมอเม่ือ
ปรับเขม็ ตรงกับทศิ เหนือแลว๎ เราจะอาํ นทิศตาํ ง ๆ ได๎จากหน๎าปดั เขม็ ทศิ เข็มทิศจงึ เปน็ เคร่อื งมอื ชที้ ิศทางได๎อยําง
ถกู ต๎อง ซง่ึ ลูกเสือสามารถนาเขม็ ทศิ ไปใช๎ในกจิ กรรมตาํ งๆ ไดเ๎ ชนํ การเดินทางไกล การสารวจปุา การผจญภยั การ
สารวจและการเยือนสถานท่ี เปน็ ต๎น

การศกึ ษาเรื่องเขม็ ทศิ จงึ เปน็ ประโยชนต์ ํอลกู เสอื เปน็ อยํางมาก เพราะสามารถนาไปใช๎ในกจิ กรรมตํางๆ ได๎
หลายอยําง

เข็มทิศทน่ี ยิ มใชใ๎ นวงการลูกเสอื เขม็ ทิศซลิ วาของประเทศสวเี ดน ลักษณะเขม็ ทิศทมี่ ีไมโ๎ ปรแทรกเตอรร์ วมอยูํ
ด๎วยใช๎งาํ ยและพกตดิ ตัวสะดวก

การจัดกิจกรรมลูกเสือสารอง ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 5
โรงเรียนเทศบาล 3 วดั เกาะแก้วนครสวรรค์

ส่วนประกอบของเข็มทศิ มดี งั น้ี 123
1. แผํนฐานเป็นวัตถโุ ปรงํ ใส
2. ท่ีขอบมมี าตราสํวนเปน็ นิ้วหรือเซนตเิ มตร 3
3. มลี กู ศรชท้ี ิศทาง
4. เลนส์ขยาย
5. ตลับเขม็ ทิศเปน็ วงกลมหมุนได๎ บนกรอบหน๎าปดั ของเข็มทิศมี 360 องศา
6. ปลายเขม็ ทศิ เป็นแมเํ หล็กสีแดง ซึง่ จะชไ้ี ปทางทิศเหนอื เสมอ
7. ช่อื ตาแหนํงสาหรับต้ังมมุ และอํานคํามุม

2

51

4

6
7

3. การหาทิศโดยใชแ้ ผนทแี่ ละเขม็ ทิศ
การเขียนแผนที่โดยทวั่ ไปนั้น ดา๎ นบนของแผนท่ีจะเปน็ ทิศเหนอื เสมอ ฉะนั้นดา๎ นขวามอื จงึ เป็นทิศตะวันออก

ด๎านซา๎ ยมอื เป็นทิศตะวนั ตก และด๎านลํางของแผนท่ีเปน็ ทิศใต๎
การหาทศิ โดยใชแ๎ ผนที่ ลูกเสอื จะต๎องปฏบิ ัตดิ งั นี้
1. วางแผนท่ี ให๎ทศิ ในแผนทตี่ รงกบั ทศิ จรงิ โดยการวางเขม็ ทศิ ลงบนแผนท่หี มนุ กรอบเข็มทศิ ให๎อักษรอยูํ

ตรงปลายเข็มดา๎ นท่ีรมดาหรือเปน็ หวั ลูกศร และปรับมุมสํวนบนของแผนทไี่ ปตามทิศทางนัน้
2. หาให๎ร๎ูวาํ ตาแหนงํ จริงทีล่ ูกเสอื ยนื อยูนํ ัน้ อยํูตรงจุดใดในแผนที่
3. หาสถานทหี่ รือจดุ ทลี่ ูกเสอื จะตอ๎ งเดนิ ทางไปวําอยูํตรงจุดใดในแผนที่ กส็ ามารถเดนิ ไปตามทิศทางนนั้ ได๎

โดยดสู ัญลกั ษณต์ าํ ง ๆ ในแผนทปี่ ระกอบกับของจริงในภมู ิประเทศ

การจดั กิจกรรมลกู เสอื สารอง ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 5
โรงเรยี นเทศบาล 3 วัดเกาะแกว้ นครสวรรค์

124

เครือ่ งหมายบนแผนท่ี คอื เสน๎ รูป สญั ลกั ษณ์
หรือสี ซึง่ กาหนดขนึ้ ใชแ๎ ทนส่งิ ตาํ ง ๆ ท่ีปรากฏอยูใํ นภูมิ
ประเทศ เครือ่ งหมายในแผนทม่ี ีอยมูํ ากมายตามลักษณะ
การจาแนกของผจู๎ ัดทา

ยกตัวอยาํ งเคร่อื งหมายทลี่ กู เสือพบเหน็ บํอย ๆ ใน
แผนท่เี ชํน

1. เคร่อื งหมายทเี่ ป็นจุด อาจมีลักษณะกลมหรือ
เปน็ เหลย่ี มกไ็ ดใ๎ ชแ๎ ทนส่ิงที่มขี นาดเลก็ หรือบรเิ วณที่มี
อาณาเขตไมํกวา๎ งขวางนกั เชํน บา๎ น ตาบล อาเภอ
จงั หวัด เมือง เปน็ ต๎น

2. เครอ่ื งหมายท่เี ป็นเสน้ ซงึ่ อาจมีลักษณะเป็นเส๎นตรง เส๎นโค๎ง เส๎นคด เส๎นประ เส๎นบาง เสน๎ หนาก็ได๎
ใชแ๎ ทนสงิ่ ทม่ี ีความยาว เชํน ทางรถยนต์ รถไฟ แมนํ า้ ลาคลอง เปน็ ตน๎

3. เครอื่ งหมายท่ีเป็นรูป ซ่ึงรปู ท่ีกาหนดในแผนท่นี ้ีไมํจาเปน็ ตอ๎ งเหมือนของจรงิ เชํน ใชแ๎ ทนอาคารที่อยูํ
อาศัย วัด สถานท่ีประวัตศิ าสตรห์ รือหมูํบา๎ น

4. เครอ่ื งหมายทใ่ี ชแ้ ทนบริเวณ ในบริเวณกว๎างท่มี ีลักษณะคล๎ายคลึงกันมาก เชํน ปาุ ไม๎ ทํงุ นา ทีโ่ ลงํ
มักนิยมใช๎สแี รเงาหรอื เครื่องหมายอน่ื ๆ

มาตราสว่ นบนแผนท่ี
มาตราสวํ นบนแผนท่ี เป็นการบอกอตั ราสํวนเปรียบเทยี บระหวาํ งระยะทางในแผนท่ีกับระยะทางในภมู ิ
ประเทศ มาตราสวํ นของแผนท่ีอาจแบํงเปน็ ชนดิ ตํางๆ ได๎ 3 ชนิด คอื
1. มาตราส่วนเศษส่วน คอื การบวกอตั ราสวํ นเปรียบเทยี บระหวํางระยะทางในแผนทก่ี ับระยะทางในภมู ิ
เทศในลกั ษณะเศษสํวนอยาํ งงําย ๆ โดยใหร๎ ะยะทางบนแผนทเี่ ทาํ กบั 1 หนวํ ย เชํน
1 : 50,000 หรอื 1/50,000 หรือ
หมายความวําระยะทางบนแผนท่ี 1 หนํวย จะแทนระยะในภูมปิ ระเทศ 50,000 หนํวย
2. มาตราสว่ นรปู ภาพหรือมาตราส่วนเส้นบรรทดั มาตราสวํ นแบบน้ีจะแสดงเป็นเส๎นตรง เส๎นที่แสดงนั้น
แบํงเป็นเส๎นเลก็ ๆ สํวนละเทํา ๆ กัน แตํละสวํ นมีตวั เลขกากับไว๎ หนํวยท่ีบอกระยะในมาตราสํวนแบบเสน๎ บรรทดั น้อี าจ
บอกท้ัง 4 หนวํ ยอยใูํ นแผนทฉี่ บบั เดยี วกนั กไ็ ด๎
3. มาตราส่วนคาพูด มาตราสวํ นแผนท่ีอาจบอกเป็นคาพูดธรรมดาก็ได๎ เชนํ มาตราสวํ น 1 นิ้ว ตํอ 10
ไมล์ หมายความวํา ระยะทางในแผนท่ี 1 นว้ิ เทํากับระยะทางจรงิ ในภมู ิประเทศ 10 ไมล์ มาตราสํวนชนดิ น้ีเหมาะ
สาหรับการทาแผนทสี่ งั เขป

การจัดกิจกรรมลูกเสือสารอง ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 5
โรงเรยี นเทศบาล 3 วัดเกาะแก้วนครสวรรค์

125

4. การเดนิ ทางไกล

การเดนิ ทางไกลไป-กลับ ของลกู เสือจะตอ๎ งไปพรอ๎ มกันทัง้ หมํู และจะต๎องกาหนดดว๎ ยวาํ แตลํ ะหมจูํ ะทา
อะไรบา๎ งตลอดระยะการเดินทาง เชนํ

1. ศึกษาธรรมชาติ สภาพพนื้ ท่โี ลงํ มีปาุ ละเมาะ ทาการเพาะปลูกอะไร หรอื เปน็ ทีเ่ นินชายเขา
2. นกหรอื สตั วอ์ น่ื ๆ ท่พี บบํอยตลอดระยะทาง
3. สะเกด็ ภาพทิวทัศน์ ความเป็นอยขํู องคนในท๎องถิ่น
4. ศึกษาหาความรจู๎ าก โบราณวัตถุ หรือสถานทท่ี ี่สาคญั
5. ความรูท๎ ่ไี ดร๎ ับจากประชาชนหรอื ชาวบ๎านในเรือ่ งตาํ ง ๆ
6. สถานการณ์ระหวาํ งการเดินทาง ราบรนื่ ลาบาก หรือมีอปุ สรรค
ตามหัวขอ๎ ดังกลําว ลกู เสอื จะต๎องบันทึกระหวาํ งการเดินทางท้งั ไปและกลบั เพ่อื จะได๎รายงานดว๎ ยวาจาตอํ ผ๎ู
กากับลูกเสอื ในหัวข๎อตําง ๆ
สิ่งท่ีลกู เสอื ต้องปฏบิ ตั ิขณะเดนิ ทางไกล
1. ตอ๎ งเชอ่ื ฟงั นายหมํแู ละรองนายหมอูํ ยํางเครงํ ครดั
2. ขณะเดนิ ทางและปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตอ๎ งรักษาวนิ ยั และระบบหมํู
3. มคี วามสามัคคแี ละชวํ ยเหลอื ซงึ่ กนั และกันระหวาํ งเดนิ ทาง
4. ไมํทาลายธรรมชาติ หรอื ทรพั ยส์ นิ สาธารณะให๎เสยี หายหรอื สกปรก
5. เปน็ มติ รกับทุกตน
6. ไมเํ ดนิ ทางดว๎ ยยานพาหนะ
5. กฎและเครื่องหมายจราจร
ลกู เสือจาเป็นจะต๎องเรียนรูแ๎ ละเขา๎ ใจเกีย่ วกบั กฎจราจรและเข๎าใจเครื่องหมายจราจรในฐานะผใู๎ ชร๎ ถใชถ๎ นน
ทัง้ นเ้ี พ่อื ปูองกันอุบตั ิเหตอุ นั อาจเกิดข้นึ ได๎
กฎจราจรทลี่ กู เสอื ควรทราบ
1. สญั ญาณไฟ จะเป็นสญั ญาณที่อยูตํ ามทางแยกและทางขา๎ มถนนซึ่งจะใช๎กับรถทผี่ าํ นไปมา และการข๎าม
ถนนตอ๎ งปฏิบัติอยาํ งเครํงครัด มฉิ ะนัน้ อาจเกิดอันตรายได๎
สญั ญาณไฟแดง คอื สญั ญาณใหร๎ ถหยุด
สญั ญาณไฟเหลือง คอื สัญญาณให๎ระมดั ระวงั หรือชะลอความเรว็
สัญญาณไฟเขียว คือสัญญาณใหผ๎ ํานไปได๎

การจดั กจิ กรรมลูกเสือสารอง ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 5
โรงเรยี นเทศบาล 3 วัดเกาะแก้วนครสวรรค์

126

การจดั กิจกรรมลกู เสือสารอง ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 5
โรงเรียนเทศบาล 3 วดั เกาะแก้วนครสวรรค์

127

2. สญั ญาณมอื จะใชก๎ รณีทมี่ ีการจราจรคบั ค่งั เจา๎ หนา๎ ท่ีตารวจหรอื ลกู เสอื ทไี่ ดร๎ ับการอบรมหลกั สูตรจราจระทา
หนา๎ ทจี่ ราจรใหร๎ ถและคนสญั จรได๎สะดวก ซ่ึงอยใํู นรถใช๎ถนนตอ๎ งปฏบิ ัตติ ามอยํางเครํงครดั เชนํ เดยี วกัน

ให้รถทกุ คันทแี่ ลน่ มาทางขวามือ ใหร้ ถทุกคนั ทีแ่ ล่นมาทางขวามอื ให้รถทกุ คนั ทแี่ ลน่ มาทางซา้ ยมอื
และด้านซ้ายมือ ต้องหยดุ ของเจ้าหน้าที่ ต้องหยดุ ของเจ้าหน้าท่ี ตอ้ งหยุด

ใหร้ ถทุกคนั ทแ่ี ล่นมาทางซ้ายมอื ใหร้ ถทุกคนั ทีแ่ ลน่ มาทางขวามือ ให้รถทกุ คนั ที่แลน่ มาทางด้านหนา้
ของเจา้ หน้าท่ี ไปได้ ของเจ้าหนา้ ท่ี ไปได้ ของเจ้าหนา้ ท่ี ต้องหยุด

ใหร้ ถทกุ คนั ทแ่ี ลน่ มาทางด้านหลงั ให้รถทกุ คันท่แี ลน่ มาหรือคนั ท่ีหยดุ รอ
ของเจา้ หนา้ ท่ี ต้องหยดุ ทางด้านหนา้ ของเจ้าหนา้ ที่ ไปได้

การจัดกจิ กรรมลูกเสือสารอง ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 5
โรงเรยี นเทศบาล 3 วดั เกาะแก้วนครสวรรค์

128

6. เร่อื งราวเกย่ี วกับต่างประเทศ
ให๎ลกู เสือศกึ ษาคน๎ คว๎าเกยี่ วกับที่ตง้ั การปกครอง การประกอบอาชีพ สภาพอากาศ โบราณสถาน

โบราณวัตถุ สถานท่ีทส่ี าคญั และนําสนใจที่จะทํองเทย่ี วของประเทศเพอ่ื นบา๎ นอยํางนอ๎ ย 1 ประเทศ

การจดั กจิ กรรมลูกเสอื สารอง ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 5
โรงเรียนเทศบาล 3 วัดเกาะแกว้ นครสวรรค์

129

แผนการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ท่ี 33 ศรัทธายึดมัน่ ในชาติ ศาสน์กษัตริยแ์ ละวฒั นธรรม
เร่อื ง วนั สถาปนาคณะลูกเสอื แหง่ ชาติ

1. สรปุ สาระสาคัญ ความสาคญั และปฏิบตั กิ จิ กรรมของวันคลา๎ ยวันสถาปนาคณะลูกเสอื แห่งชาติ

2. จดุ ประสงค์
1. สามารถบอกความสาคญั ของวันคลา๎ ยวนั สถาปนาคณะลกู เสือแหง่ ชาติได๎
2. สามารถปฏิบตั ิกจิ กรรมในวันคลา๎ ยวันสถาปนาคณะลกู เสอื แห่งชาติได๎

3. ทกั ษะกระบวนการ
( ) 1. ตระหนกั ในปญั หาและความจาเปน็
( ) 2. คดิ วิเคราะหว์ จิ ารณ์
( ) 3. สรา๎ งทางเลอื กหลากหลาย
( ) 4. ประเมินและเลือกทางเลอื ก
( ) 5. กาหนดและลาดับขนั้ ตอนการปฏิบัติ
( ) 6. ปฏิบตั ดิ ว๎ ยความช่ืนชม
( ) 7. ประเมินระหวํางปฏิบัติ
( ) 8. ปรบั ปรงุ ให๎ดขี ึ้นอยูเํ สมอ
( ) 9. ประเมนิ ผลรวมเพ่อื ให๎เกดิ ความภาคภูมิใจ

4. กิจกรรม และส่ือ/ อปุ กรณ์ ส่อื / อปุ กรณ์

กจิ กรรม 1. แผนภมู เิ พลง
2. เรื่องสนั้ ท่เี ปน็ ประโยชน์
1. พธิ เี ปดิ ประชมุ กอง (ธงขึ้น สวดมนต์ สงบน่ิง ตรวจ แยก )
2. เพลง - เกม
3. การสอนตามเนอ้ื หา

3.1 ผ๎กู ากบั ช้แี จงจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู๎ใหล๎ ูกเสอื ไดร๎ ับทราบ
3.2 ผกู๎ ากับอธบิ ายขัน้ ตอนในการฝึกใหล๎ กู เสอื ทราบในเรอื่ ง

3.2.1 เร่ืองทจ่ี ะฝกึ อบรม ประกอบด๎วย
- ความเป็นมาของวันคลา๎ ยวนั สถาปนาคณะลกู เสอื แห่งชาติ
- กิจกรรมในวนั คล๎ายวนั สถาปนาคณะลูกเสอื แห่งชาติ

3.2.2 วธิ ีการฝกึ อบรม ใช๎วิธกี ารบรรยาย สาธติ และฝึกปฏบิ ัตดิ งั น้ี
1) ผูก๎ ากับกองเลําประวตั แิ ละความเป็นมาของวนั สถาปนาคณะ

ลูกเสือแห่งชาติพอสงั เขป
2) ผู๎กากับกองแนะนากิจกรรมในวันคล๎ายวนั สถาปนาคณะลกู เสอื

แหง่ ชาติท้ังในสํวนกลางและสํวนจงั หวดั หรอื เขตพ้ืนทก่ี ารศึกษา

3) ฝกึ ปฏิบัตใิ นการทบทวนคาปฏญิ าณและการสวนสนาม ซงึ่ ควร
จดั ให๎มกี ารฝกึ ปฏบิ ตั นิ อกเวลาด๎วย ทง้ั นเ้ี พื่อเป็นการเตรยี มความพรอ๎ มในการจดั
กจิ กรรมในวนั ท่ี 1 กรกฎาคม ซ่ึงอาจจะจัด เองท่ีโรงเรียนหรอื จดั รวํ มกับโรงเรยี น
อนื่ หรอื ระดับสงู ข้ึนไป

3.3 ผกู๎ ากบั อธิบายสรุปเสนอแนะและชมเชย
4. ผ๎กู ากับเลาํ เรอ่ื งสน้ั ทเ่ี ปน็ ประโยชน์
5. พธิ ปี ิดประชมุ กอง (นดั หมาย ตรวจ ธงลง เลิก)

การจดั กิจกรรมลกู เสอื สารอง ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 5
โรงเรยี นเทศบาล 3 วัดเกาะแกว้ นครสวรรค์

130

5. การประเมินผล ผ่าน ไม่ผา่ น
รายละเอยี ดการประเมินผล
…………. …………..
1. ความสนใจในการเข๎ารํวมกิจกรรม …………. …………..
2. ความตง้ั ใจในการปฏบิ ตั กิ ิจกรรม …………. …………..
3. ความรํวมมอื ในการปฏิบตั ิกิจกรรม …………. …………..
4. ตรวจผลงาน

6. กิจกรรมเสนอแนะเพม่ิ เตมิ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………….…………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………….…………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………….…………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………….…………………………………………………

7. ปัญหาและข้อเสนอแนะ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………….…………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………….…………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………….…………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………….…………………………………………………

การจัดกจิ กรรมลกู เสือสารอง ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 5
โรงเรยี นเทศบาล 3 วัดเกาะแก้วนครสวรรค์

131

แผนการจดั กิจกรรมการเรยี นรูท้ ี่ 34 ศรัทธายึดมัน่ ในชาติ ศาสนก์ ษัตริย์และวัฒนธรรม
เรือ่ ง วนั วชิราวธุ ราลึก

1. สรุปสาระสาคญั ความสาคญั และปฏิบตั กิ จิ กรรมของวนั คลา๎ ยวันวชิราวุธราลกึ
2. จุดประสงค์

1. สามารถบอกความสาคญั ของวันคลา๎ ยวันวชิราวธุ ราลกึ ได๎
2. สามารถปฏิบตั กิ จิ กรรมในวันคลา๎ ยวันวชิราวุธราลึกได๎
3. ทกั ษะกระบวนการ
( ) 1. ตระหนกั ในปญั หาและความจาเป็น
( ) 2. คิดวเิ คราะหว์ ิจารณ์
( ) 3. สรา๎ งทางเลือกหลากหลาย
( ) 4. ประเมนิ และเลอื กทางเลอื ก
( ) 5. กาหนดและลาดบั ขั้นตอนการปฏบิ ตั ิ
( ) 6. ปฏบิ ัติด๎วยความชื่นชม
( ) 7. ประเมินระหวาํ งปฏบิ ัติ
( ) 8. ปรบั ปรงุ ให๎ดขี น้ึ อยเูํ สมอ
( ) 9. ประเมินผลรวมเพ่ือใหเ๎ กดิ ความภาคภูมใิ จ

4. กจิ กรรม และสือ่ / อปุ กรณ์ สอ่ื / อปุ กรณ์

กิจกรรม 1. แผนภมู เิ พลง
2. เรื่องส้ันทเี่ ป็นประโยชน์
1. พิธีเปิดประชุมกอง (ธงขนึ้ สวดมนต์ สงบน่ิง ตรวจ แยก )
2. เพลง - เกม
3. การสอนตามเน้ือหา

3.1 ผกู๎ ากบั ชี้แจงจุดประสงคก์ ารเรียนรูใ๎ หล๎ กู เสอื ไดร๎ บั ทราบ
3.2 ผ๎กู ากบั อธบิ ายขัน้ ตอนในการฝึกใหล๎ กู เสือทราบในเรื่อง

3.2.1 เรื่องที่จะฝึกอบรม ประกอบด๎วย
- ความเป็นมาของวนั คลา๎ ยวนั วชิราวธุ ราลกึ
- กิจกรรมในวนั คล๎ายวันวชิราวุธราลกึ

3.2.2 วธิ กี ารฝกึ อบรม ใช๎วิธีการบรรยาย สาธติ และฝกึ ปฏบิ ัติดังนี้
1) ผู๎กากบั กองเลําประวตั แิ ละความเป็นมาของวันวชริ าวุธราลกึ พอ

สงั เขป
2) ผก๎ู ากบั กองแนะนากจิ กรรมในวนั คล๎ายวันวชริ าวุธราลกึ ทง้ั ใน

สวํ นกลางและสํวนจังหวดั หรือเขตพ้นื ทีก่ ารศึกษา
3) ฝึกปฏบิ ตั ิในการประกอบพธิ ีถวายราชสดดุ ี ซึง่ ควรจดั ให๎มีการ

ฝกึ ปฏบิ ตั นิ อก เวลาด๎วย ท้งั นีเ้ พอื่ เปน็ การเตรยี มความพร๎อมในการจดั กิจกรรมใน
วันที่ 25 พฤศจกิ ายน ซึง่ อาจจะจดั เองที่โรงเรียนหรือจัดรํวมกับโรงเรียนอ่นื หรือ
ระดับสูงขน้ึ ไป

3.3 ผ๎กู ากบั อธบิ ายสรปุ เสนอแนะและชมเชย
4. ผูก๎ ากับเลําเรอ่ื งสั้นทีเ่ ป็นประโยชน์
5. พิธปี ิดประชมุ กอง (นดั หมาย ตรวจ ธงลง เลกิ )

การจดั กจิ กรรมลกู เสอื สารอง ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 5
โรงเรยี นเทศบาล 3 วัดเกาะแกว้ นครสวรรค์

132

5. การประเมินผล ผ่าน ไม่ผา่ น
รายละเอยี ดการประเมินผล
…………. …………..
5. ความสนใจในการเขา๎ รํวมกจิ กรรม …………. …………..
6. ความตง้ั ใจในการปฏบิ ตั กิ ิจกรรม …………. …………..
7. ความรวํ มมือในการปฏบิ ตั ิกจิ กรรม …………. …………..
8. ตรวจผลงาน

6. กจิ กรรมเสนอแนะเพม่ิ เติม
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………….…………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………….…………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………….…………………………………………………

7. ปัญหาและขอ้ เสนอแนะ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………….…………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………….…………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………….…………………………………………………

การจดั กจิ กรรมลูกเสอื สารอง ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 5
โรงเรยี นเทศบาล 3 วดั เกาะแกว้ นครสวรรค์

133

แผนการจัดกิจกรรมการเรยี นร้ทู ี่ 35 สนองพรระคณุ บดิ า มารดาและผมู้ พี ระคุณ
เรื่อง การปฏิบัตติ ํอบิดามารดาดว๎ ยความกตญั ญู กตเวที

1. สรปุ สาระสาคญั การปฏบิ ัติตํอบดิ ามารดาด๎วยความกตญั ญู กตเวที
2. จดุ ประสงค์

1. สามารถบอกถบอกความหมายและความสาคญั ของความกตญั ญู กตเวทีได๎
2. สามารถบอกหนา๎ ทีท่ พี่ ึงปฏบิ ตั ิตํอบดิ ามารดาได๎
3. ทกั ษะกระบวนการ
( ) 1. ตระหนักในปญั หาและความจาเป็น
( ) 2. คดิ วเิ คราะหว์ จิ ารณ์
( ) 3. สรา๎ งทางเลือกหลากหลาย
( ) 4. ประเมินและเลือกทางเลอื ก
( ) 5. กาหนดและลาดบั ข้ันตอนการปฏิบตั ิ
( ) 6. ปฏบิ ตั ดิ ๎วยความช่นื ชม
( ) 7. ประเมนิ ระหวาํ งปฏิบตั ิ
( ) 8. ปรบั ปรุงให๎ดีข้ึนอยเูํ สมอ
( ) 9. ประเมนิ ผลรวมเพ่อื ใหเ๎ กดิ ความภาคภมู ใิ จ

4. กิจกรรม และสอ่ื / อปุ กรณ์ ส่อื / อุปกรณ์

กจิ กรรม 1. แผนภมู เิ พลง
2. เร่อื งส้ันทเี่ ป็นประโยชน์
1. พธิ เี ปดิ ประชมุ กอง (ธงขึ้น สวดมนต์ สงบนงิ่ ตรวจ แยก )
2. เพลง - เกม
3. การสอนตามเน้ือหา

3.1 ผกู๎ ากับชี้แจงจดุ ประสงคก์ ารเรยี นร๎ใู หล๎ กู เสอื ไดร๎ บั ทราบ
3.2 ผกู๎ ากับอธิบายขั้นตอนในการฝึกใหล๎ ูกเสอื ทราบในเรอื่ ง

3.2.1 เรอื่ งท่ีจะฝึกอบรม ประกอบด๎วย
- ความหมายของความกตญั ญูกตเวที
- หน๎าท่ขี องลกู เสทพ่ี งึ ปฏิบัติตอํ บดิ ามารดา

3.2.2 วธิ ีการฝึกอบรม ใช๎วธิ ีการบรรยาย สาธติ และฝึกปฏิบตั ิดังน้ี
1) ผกู๎ ากบั กองเลําประวตั ิและความเปน็ มาของวนั วชริ าวธุ ราลึกพอ

สงั เขป
2) ผกู๎ ากับกองแนะนากิจกรรมในวันคล๎ายวันวชิราวธุ ราลึกท้ังใน

สวํ นกลางและสํวนจงั หวดั หรอื เขตพืน้ ท่กี ารศึกษา
3) ฝกึ ปฏิบตั ใิ นการประกอบพธิ ีถวายราชสดดุ ี ซงึ่ ควรจัดให๎มีการ

ฝกึ ปฏบิ ัตินอก เวลาด๎วย ท้งั นีเ้ พ่ือเป็นการเตรียมความพร๎อมในการจัดกจิ กรรมใน
วันที่ 25 พฤศจกิ ายน ซึ่งอาจจะจดั เองที่โรงเรียนหรือจดั รํวมกบั โรงเรียนอ่นื หรือ
ระดบั สูงข้ึนไป

3.3 ผู๎กากับอธบิ ายสรปุ เสนอแนะและชมเชย
4. ผูก๎ ากบั เลาํ เรอ่ื งส้นั ทเี่ ปน็ ประโยชน์
5. พิธปี ดิ ประชุมกอง (นดั หมาย ตรวจ ธงลง เลกิ )

การจัดกิจกรรมลกู เสอื สารอง ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 5
โรงเรยี นเทศบาล 3 วดั เกาะแกว้ นครสวรรค์

134

5. การประเมินผล ผา่ น ไมผ่ า่ น
รายละเอยี ดการประเมินผล
…………. …………..
9. ความสนใจในการเขา๎ รวํ มกิจกรรม …………. …………..
10. ความตั้งใจในการปฏิบตั กิ ิจกรรม …………. …………..
11. ความรวํ มมือในการปฏิบตั ิกิจกรรม …………. …………..
12. ตรวจผลงาน

6. กจิ กรรมเสนอแนะเพ่มิ เตมิ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………….…………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………….…………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………….…………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………….…………………………………………………

7. ปญั หาและข้อเสนอแนะ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………….…………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………….…………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………….…………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………….…………………………………………………

การจดั กิจกรรมลูกเสอื สารอง ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 5
โรงเรียนเทศบาล 3 วัดเกาะแก้วนครสวรรค์

135

แผนการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ที่ 28 งานอดเิ รกและเรอ่ื งท่ีนา่ สนใจ
เรอื่ ง งานอดิเรก

1. สรปุ สาระสาคญั การทางานอดเิ รกและเรื่องท่ีสนใจ เปน็ การรจ๎ู ักใชเ๎ วลาวาํ งใหเ๎ ปน็ ประโยชน์
2. จดุ ประสงค์

1. บอกความหมายของงานอดิเรกได๎
2. ทบทวนตัวเองแล๎วเลือกงานอดเิ รกทีล่ ูกเสือชอบและสนใจ
3. ทักษะกระบวนการ
( ) 1. ตระหนักในปญั หาและความจาเปน็
( ) 2. คดิ วเิ คราะห์วจิ ารณ์
( ) 3. สร๎างทางเลอื กหลากหลาย
( ) 4. ประเมินและเลอื กทางเลอื ก
( ) 5. กาหนดและลาดบั ข้ันตอนการปฏบิ ัติ
( ) 6. ปฏบิ ัติดว๎ ยความชื่นชม
( ) 7. ประเมินระหวํางปฏบิ ัติ
( ) 8. ปรบั ปรุงใหด๎ ขี ้นึ อยูํเสมอ
( ) 9. ประเมินผลรวมเพ่ือใหเ๎ กดิ ความภาคภมู ิใจ

4. กจิ กรรม และส่ือ/ อปุ กรณ์

กิจกรรม สือ่ / อุปกรณ์

1. พิธีเปิดประชมุ กอง (ธงข้ึน สวดมนต์ สงบนิง่ ตรวจ แยก ) 1. แผนภมู ิเพลง

2. เพลง - เกม 2. สมุดสะสมแสตมป์ หนุํ จาลอง

3. การสอนตามเน้ือหา ตําง ๆ

3.1 ผกู๎ ากบั นาสนทนาถึงประเภทของงานอดเิ รก

3.2 รวํ มกนั อภิปรายถึงความหมายของงานอดิเรก

3.3 ใหล๎ กู เสือเลําเรอ่ื งเกีย่ วกบั งานอดิเรกท่ตี นได๎ทาอยูํท่ีบา๎ นและทโ่ี รงเรียน

3.4 ใหล๎ กู เสอื เลอื กทางานอดเิ รกทต่ี นสนใจ เชํน การทาสวนครัว การ

สะสม การประดษิ ฐ์ การเลย้ี งสตั ว์ แลว๎ รายงาน

4. ผก๎ู ากับเลาํ เร่อื งสน้ั ท่ีเปน็ ประโยชน์

5. พธิ ีปิดประชมุ กอง (นัดหมาย ตรวจ ธงลง เลกิ )

การจัดกิจกรรมลูกเสอื สารอง ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 5
โรงเรียนเทศบาล 3 วดั เกาะแก้วนครสวรรค์

136

5. การประเมินผล ผา่ น ไม่ผา่ น
รายละเอยี ดการประเมนิ ผล
……….… …………..
1. ความสนใจในการเข๎ารวํ มกจิ กรรม …………. …………..
2. ความตั้งใจในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม …………. …………..
3. บอกประเภทของงานอดเิ รกทน่ี ําสนใจ …………. …………..
4. ตรวจผลงาน

6. กิจกรรมเสนอแนะเพม่ิ เตมิ
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………

7. ปัญหาและข้อเสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………

การจัดกิจกรรมลูกเสอื สารอง ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 5
โรงเรยี นเทศบาล 3 วดั เกาะแกว้ นครสวรรค์

137

เนื้อหา
1. การอนุรกั ษแ์ ละบารงุ รกั ษาหนงั สอื

การอนุรักษ์หนังสอื
ห๎องสมุดเปน็ แหลํงรวมหนงั สอื อันหลากหลายและสนับสนุนให๎เกิดการอําน เปน็ ประโยชน์ในการเรยี นรไ๎ู ด๎อยํางไมํ
จากัด การปอู งกนั และบารงุ รกั ษาหนงั สือซง่ึ เป็นวัสดทุ มี่ คี วามสาคญั ท่สี ุดของห๎องสมดุ จึงถอื เป็นเร่อื งทีจ่ าเปน็ เพ่ือให๎เกิด
การใชป๎ ระโยชนไ์ ดส๎ งู สดุ การอนรุ กั ษ์หนังสอื อาจทาได๎ ดังน้ี

1. ดแู ลครภุ ณั ฑ์ทเี่ กย่ี วขอ๎ งกบั หนงั สอื เชนํ ชั้นวางหนงั สือต๎องไมํวางหนังสอื หนาแนนํ จนเกินไปใช๎ท่ีกนั้ หนงั สือ
เพอื่ รักษารปู ทรงหนังสอื เป็นต๎น

2. ไมํวางหนงั สือ ซ๎อนกันเป็นกองๆ หรือสูงจนเกนิ ไป
3. ระวังมิให๎หนงั สอื ตกและมฝี ุนมากเกินไป
4. ระวงั สตั ว์ตาํ งๆ เชนํ แมลง มอด ปลวก หนู กัดแทะ
5. ชแี้ จงแนะนาผู๎ใช๎หนังสอื ให๎ระมัดระวังทั้งทางตรงและทางออ๎ ม
6. จัดทาหนงั สอื ใหมํใหม๎ น่ั คงแข็งแรงเพ่ือยืดอายุการใช๎งาน
7. ซอํ มแซมหนงั สือเกาํ หรือชารุดเพอ่ื ใช๎งานได๎อีก
การบารุงรักษาหนังสือ
เปน็ การระมดั ระวงั หนงั สอื ไมํใหช๎ ารุดจากสาเหตุตาํ ง ๆ เชนํ ปลวก แมลง แสงแดด ความช้ืน และจากการใช๎งานของ
คนทอี่ าํ นหนังสือ รวมถงึ การดแู ลรกั ษา และการทาให๎หนังสืออยํูในสภาพเรียบร๎อยแนนํ หนา แข็งแรง ทนทาน สามารถใช๎
งานได๎นาน และไมํชารดุ กอํ นถงึ เวลาอันควร
วธิ กี ารใชห๎ นังสอื มีขอ๎ ควรระวงั ดงั น้ี
1. ไม๎ขดี เขียนหรือทาเคร่ืองหมายใดๆ ลงในหนงั สอื จะทาใหห๎ นงั สอื สกปรก เลอะเทอะ ไมํนําใช๎
2. ไมํพบั มุมหนังสือ ควรใช๎ทีค่ นั่ หนังสอื หรือกระดาษบางๆ ค่นั ไว๎
3. ไมคํ วรวางหนังสือคว่าหน๎า จะทาให๎สนั หนังสือหักและขาดงาํ ย
4. หยิบหนงั สอื ควรจบั ทก่ี ลางตัวเลํม อยําดงึ สันหนงั สอื จะทาใหส๎ ันหลดุ ออกจากตวั เลมํ และฉกี ขาด
5. ใช๎หนงั สอื อยํางระมดั ระวัง อยาํ ใหห๎ นังสือโดนน้าฝน หรือทาให๎เปียกชื้น
การซํอมหนงั สือ
การซํอมหนังสอื เป็นการแกไ๎ ขสภาพหนังสอื ที่ชารุดเสยี หายให๎กลับคนื สํูสภาพดีดงั เดิม โดยไมํจาเป็นตอ๎ งซํอมหนงั สอื
ทชี่ ารดุ ทุกเลํม เพราะหนังสอื บางเลํมอาจไมํคุม๎ คําในการซํอม

การจัดกจิ กรรมลูกเสือสารอง ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 5
โรงเรยี นเทศบาล 3 วดั เกาะแกว้ นครสวรรค์

138

ลักษณะหนงั สอื ทค่ี วรซอํ ม
- หนงั สือทไ่ี มํขาดมากจนหมดสภาพ หรือเหลืองกรอบเพราะใช๎งานมาเปน็ เวลานาน
- ไมํมรี อยเป้ือนสกปรกจนดไู มนํ าํ อําน ไมํชารดุ มาก ไมํถกู ตัด ถกู ฉกี หรอื ถูกแมลงกดั กนิ
- เน้อื หาทันสมัยเปน็ ปจั จุบัน หนงั สอื ท่ีมีคุณคา และไมมํ ีหนงั สอื อืน่ มาแทนได๎
ลกั ษณะหนงั สอื ท่ไี มคํ วรซํอม
- หนงั สอื ทห่ี มดสภาพแล๎ว กลําวคอื กระดาษเหลืองกรอบ เข๎าเลํมกย็ งั กรอบฉีกขาดงาํ ย
- หนังสอื ทม่ี รี อยขีดเขียนด๎วยหมึก ดินสอ เลอะเทอะ สกปรกทัง้ เลํม จนไมํนําอําน
- หนงั สอื ท่ชี ารดุ มาก เชํน หน๎าขาดหายไปหลายหน๎า แมลงกดั กิน แตํสามารถซ้อื เลํมใหมํแทนได๎
- หนงั สือที่มคี ณุ คําน๎อย เน้อื หาลา้ สมัย ไมํมผี ๎ูสนใจอาํ น
- หนังสอื ท่ีมีอยํูหลายฉบับ จานวนทเ่ี หลือเพียงพอกบั ความต๎องการ
แยกประเภทหนงั สอื ทคี่ วรซํอม ดังนี้
- ซอํ มเลก็ น๎อย เชํน ขาดเล็กนอ๎ ย เปน็ ต๎น
- ปกขาดไปจากตวั หนังสอื แตํอน่ื ๆ อยํูในสภาพเรียบร๎อย
- ต๎องเข๎าปกใหมํ
- ต๎องสํงไปจ๎างซํอม
วัสดอุ ปุ กรณท์ ใ่ี ชใ๎ นการซํอมหนงั สอื
1. ประเภทผา๎ ได๎แกํ ผ๎าแลกซีน ผา๎ ดบิ ชนดิ ยาง ผา๎ ขาวบาง ผ๎าคว้ิ ผา๎ สาหรบั รีดและเช็ดทาความสะอาดหนังสอื
2. ประเภทกระดาษ ไดแ๎ กํ กระดาษแข็งทาปกเบอร์ 20-42 กระดาษแลคซีน กระดาษปอนด์อยาํ งหนา 100
แกรม หรอื 120 แกรม กระดาษปดิ สนั หนงั สอื กระดาษแก๎วหรือกระดาษสา กระดาษหนงั สือพิมพส์ าหรบั รองทากาว
3. อปุ กรณ์ทใ่ี ชเ๎ จาะและตดั ไดแ๎ กํ เครอ่ื งตัดกระดาษ กรรไกร คตั เตอร์ สวาํ นและดอกสวําน เหล็กหนบี เจาะหนังสือ
4. อืน่ ๆ คอื ค๎อน ด๎ายฟอกหรือด๎ายหลอดสาหรบั เย็บเลมํ หนังสอื กาวหรอื แปงู เปียก กระจกทากาวแปรงทากาว
เขม็ เย็บผา๎ ขนาดใหญํ ขนาด 2 3/4 - 3 1/2 นิ้ว ไม๎เนียน เครอ่ื งอัดหนังสือ ลูกกลงิ้ ปากกาไฟฟูาและเทปรองเขยี น
ภาชนะใสํกาว เทปใส
ลักษณะการชารดุ และวธิ กี ารแก๎ไข
1. หนา๎ หนงั สอื ท่ีมรี อยพับมากๆ หรอื ยบั ทาให๎เรยี บด๎วยการใช๎พกํู ันจมุํ นา้ เล็กนอ๎ ยทาบรเิ วณรอยยบั หรือถ๎ามีรอย
ยบั มาก ให๎ใช๎ทฉี่ ดี นา้ ฉีดใสํกระดาษซบั สขี าว 2 แผํนพอประมาณ แทรกระหวํางหนา๎ หนงั สือทีม่ ีรอยพบั นาเข๎าเครอ่ื งอัด
หรอื ใช๎ของหนกั ๆ ทับไวจ๎ นเรยี บและแห๎ง
2. หนา๎ หนงั สอื ทม่ี รี อยฉีกขาด ใช๎เทปกาวท่ีมีคณุ สมบตั ิเฉพาะในการซํอมหนังสอื ปดิ ตามรอยขาดทงั้ สองด๎าน หรอื ใช๎
กระดาษลอกลาย หรอื กระดาษท่ใี ช๎ทาวาํ ว ไมํควรใชเ๎ ทปกาวท่ขี ายตามท๎องตลาดท่ัวไปโดยตัดกระดาษลอกลายหรือ
กระดาษวาํ วตามรอยขาดในหนงั สอื กว๎างประมาณครง่ึ น้วิ ทากาวลาเท็กซเ์ หลวบนกระดาษท่ีตดั เตรียมไว๎ ปดิ ตามรอย
ขาดในหนา๎ หนังสือ ระวงั อยาํ ใหก๎ าวเลอะออกนอกแนวกระดาษท่ีซอํ ม รอใหก๎ าวแห๎งสนทิ กอํ นจึงปดิ หนงั สือได๎
3. หนังสอื ถูกตดั หรอื ฉกี ขาดหายไปบางสํวน ทง้ั แผํนหรือหลายแผํน ควรคัดลอกข๎อความจากหนังสอื เรอื่ งเดียวกัน
เลํมอ่ืนลงไปดว๎ ย
4. หนังสือหลุดออกท้ังยกหลายแผํน แตํสวํ นอ่ืนยังเรียบร๎อยดี เรยี งหน๎าใหถ๎ ูกตอ๎ ง เย็บปกที่หลดุ ใหต๎ ดิ กบั ตวั เลมํ
5. ตวั เลํมหนงั สือหลุดออกจากปก แตํท้ังปกและตวั เลมํ หนังสอื ยงั อยูํในสภาพดี ใชก๎ าวทารํองสันเพ่ือใหป๎ กตดิ กับตวั
เลํม
6. ปกหลดุ จากตัวเลํมซง่ึ เย็บเลํมแล๎วแตสํ นั หลวม สํวนตวั ปกยงั ดีอยูํ ใหเ๎ คาะสนั หนังสอื ใหเ๎ รยี บทากาวใหท๎ วั่ สัน
หนงั สอื ทิ้งไวใ๎ หแ๎ ห๎ง แลว๎ ทากาวรองสันเพื่อใหป๎ กกบั ตัวเลมํ ติดกนั
7. หนังสือท่ีมมุ ปกและสนั ปกชารดุ แก๎ไขดงั น้ี

การจดั กจิ กรรมลูกเสือสารอง ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 5
โรงเรยี นเทศบาล 3 วดั เกาะแกว้ นครสวรรค์

139

7.1 เลาะปกหนังสือออกจากตัวเลมํ ทาความสะอาดทัง้ สันปกและสันหนังสือ ใช๎มดี ขดู สันที่เป็นเศษกระดาษ
ออกใหส๎ ะอาดเรยี บร๎อย

7.2 ตดั เศษผา๎ หรอื กระดาษแลกซนี เปน็ รูปสเ่ี หลย่ี มคางหมู จานวน 4 ชน้ิ สาหรบั ปกหน๎า และปกหลงั อยํางละ
2 ชิ้น ขนาดฐานประมาณ 3” ด๎านตรงข๎ามและสํวนสูง 2” อาจใหญํหรอื เลก็ กวําน้ตี ามขนาดเลํมหนงั สอื

7.3 ทากาวดา๎ นในผ๎าหรือกระดาษท่ีตัดไว๎แล๎วนาไปตดิ เข๎ากบั มมุ ปกหนังสือท้ัง 4 มมุ ให๎แนนํ และเรยี บ โดยให๎
ด๎านฐานอยทูํ แยงมมุ กบั ปกหนงั สอื ด๎านบนอยเูํ ลยมมุ ปกออกไปประมาณ ครึง่ นว้ิ มมุ ท่ฐี าน 2 ดา๎ นอยพํู อดีรมิ ปกทงั้ 2
ดา๎ น

7.4 พบั ผา๎ หรอื กระดาษสํวนทเี่ หลอื เข๎ากับดา๎ นในของปกหนังสือใหก๎ ระชบั และเรียบ
7.5 ตดั ผา๎ เพอื่ ซอํ มสนั หนังสอื ให๎มขี นาดกวา๎ งกวาํ สันหนงั สือ ประมาณ 4 น้วิ และยาวกวาํ ความยาวของสนั
หนังสอื ประมาณ 3 นิว้ ทากาวบนผ๎าด๎านในทง้ั แผํน นาสันปกมาวางทาบบนผ๎าท่ีทากาวแล๎ว ใหส๎ ันปกอยกูํ ึงกลางของผ๎า
กรณสี ันปกชารดุ มากใช๎ไมํได๎ให๎ทาสันปกใหมํ โดยใช๎กระดาษการ๑ดตดั ใหม๎ ีขนาดเทาํ กับของเดิมใช๎มดี หรือกรรไกรตดั ผา๎
ออกใหเ๎ ปน็ รอยบาก
7.6 ทากาวบนผา๎ ท่ีเตรียมไว๎แลว๎ นาปกแขง็ ของหนงั สือท้ังสองแผํนติดเข๎ากับสันหนงั สอื โดยเว๎นระยะรํองสันทง้ั
สองขา๎ งระหวาํ งปกหนังสอื กบั สันหนงั สือ ประมาณ 1/4 นว้ิ เพอ่ื เป็นบานพับปดิ -เปดิ หนงั สอื พับผ๎าทัง้ ด๎านบนและด๎านลํง
เข๎าตดิ กับดา๎ นในของปกใหเ๎ รยี บรอ๎ ย ใชไ๎ ม๎เนยี นรดี ทบั ให๎แนนํ และเรยี บทง้ิ ไว๎จนแหง๎
7.7 นาปกหนงั สือท่ีผนกึ กบั สันปกหนังสอื เรียบร๎อยแลว๎ มาเข๎ากบั ตวั หนงั สอื ตํอไปตามวธิ ีเข๎าเลมํ หนงั สือ
การเขา๎ เลํมหนังสือ
1. นาปกและตัวเลํมหนงั สอื มาวดั ขนาดใหพ๎ อดีทั้ง 2 ด๎าน เช่ือมตวั หนงั สือเขา๎ กับปกโดยใช๎กาวลาเทก็ ซ์ผสมน้าให๎
เจือจางลง ทากาวลงบนใบรองปกท้งั 2 ด๎าน (ทาทีละดา๎ น) เพ่ือตดิ กับปกหนงั สอื จบั ใหแ๎ นนํ ใช๎ไม๎เนยี นรดี ตรงรํองสนั ทั้ง
ดา๎ นหนา๎ และด๎านหลัง
2. นาเข๎าเคร่ืองอัดหนังสอื ทงิ้ ไวเ๎ พอ่ื หนงั สอื และปกทีซ่ อํ มใหมํจะได๎ตดิ สนิทและแข็งแรง

สมุนไพร
พชื สมนุ ไพร หมายถงึ พืชทใี่ ช๎ทาเปน็ ยารกั ษาโรค โดยใช๎สวํ นตาํ ง ๆ ของพชื ชนดิ เดยี วหรือหลายชนิดพร๎อมกนั บาง

ชนดิ ใช๎รบั ประทาน บางชนดิ ใช๎ทาหรือทาเปน็ ลูกประคบ ตัวอยําง เชนํ ใบชะพลู มะขามปูอม มะระขน้ี ก ตะไคร๎ ขิง ขาํ
หวั หอม ฟาู ทะลายโจร ขมน้ิ ชนั ไพล เป็นต๎น

ยารักษาโรคปจั จุบันหลายขนานทผ่ี ลิตเป็นอตุ สาหกรรม มีที่มาจากการศกึ ษาวิจัยการใช๎พืชสมนุ ไพรพนื้ บา๎ น ของ
กลุํมชนพื้นเมอื งตามปาุ เขาหรอื ในชนบท ที่ได๎รบั การถํายทอดมาจากบรรพบรุ ุษทไ่ี ด๎สังเกตวําพืชใดนามาใช๎บาบดั โรคได๎ มี
สรรพคณุ อยํางไร รวมทง้ั จากการเรยี นรู๎ดว๎ ยประสบการณ๑และการทดลองแบบพนื้ บ๎านที่ได๎ทง้ั ขอ๎ ดแี ละข๎อผดิ พลาด
ความสาคญั ของพชื สมนุ ไพร

1. ความสาคญั ในดา๎ นสาธารณสุข
พชื สมุนไพร เป็นผลผลติ จากธรรมชาติ ท่มี นุษยร์ ๎ูจักนามาใช๎เปน็ ประโยชน์ เพือ่ การรักษาโรคภัยไขเ๎ จบ็ ต้ังแตํ

โบราณกาลแล๎ว เชนํ ในเอเชยี กม็ หี ลกั ฐานแสดงวาํ มนษุ ย์ รู๎จักใช๎พชื สมนุ ไพรมากกวาํ 6,000 ปี แตํหลงั จากทีค่ วามรด๎ู า๎ น
วทิ ยาศาสตร์ มกี ารพฒั นาเจรญิ ก๎าวหนา๎ มากขนึ้ มีการสังเคราะห์ และผลติ ยาจากสารเคมีในรปู ท่ีใช๎ประโยชน์ได๎งําย
สะดวกสบายในการใช๎มากกวาํ สมนุ ไพร ทาใหค๎ วามนยิ มใช๎ยาสมุนไพรลดลงอยาํ งมาก ความรู๎และวิทยาการดา๎ นสมุนไพร
จึงขาดชวํ งการพฒั นาไป

ในปจั จุบันท่ัวโลกตํางยอมรบั วํา สารสกดั สมนุ ไพรใหค๎ ณุ ประโยชน์ดกี วาํ ยาที่เป็นสารสงั เคราะห์ทางเคมี และ
ประเทศไทยเป็นแหลํงทรพั ยากรธรรมชาติอันอดุ มสมบรู ณ์ มีพชื ตํางๆ ทใ่ี ช๎เปน็ สมุนไพรไดอ๎ ยํางมากมายนบั หมื่นชนิด
ขาดแตํเพยี งการศกึ ษาและวจิ ยั ทางวิทยาศาสตรเ์ ทาํ น้นั ความตน่ื ตวั ทจ่ี ะพัฒนาความรดู๎ า๎ นพชื สมุนไพรจงึ เริ่มข้ึนอกี ครัง้
หน่งึ โดยมีกลวธิ ีการพฒั นาสมนุ ไพรและการแพทย์แผนไทยในงานสาธารณสขุ มลู ฐาน คือ

การจดั กจิ กรรมลูกเสอื สารอง ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 5
โรงเรียนเทศบาล 3 วัดเกาะแก้วนครสวรรค์

140

(1) สนบั สนุนและพัฒนาวิชาการและเทคโนโลยพี ้ืนบ๎านอันไดแ๎ กํ การแพทย์แผนไทยเภสชั กรรมแผนไทย การ
นวดไทย สมนุ ไพร และเทคโนโลยพี น้ื บ๎าน เพือ่ ใช๎ประโยชน์ในการแกไ๎ ขปัญหาสขุ ภาพของชมุ ชน

(2) สนับสนุนและสํงเสริมการดแู ลรักษาสขุ ภาพของตนเอง โดยใช๎สมนุ ไพร การแพทยพ์ ้นื บา๎ นการนวดไทย ใน
ระดับบคุ คล ครอบครวั และชมุ ชน ใหเ๎ ปน็ ไปอยํางถกู ต๎อง เปน็ ระบบ และสามารถประยุกต์เขา๎ กับการดแู ลสุขภาพแผน
ปจั จุบันได๎

จงึ อาจกลําวได๎วําสมุนไพรสาหรับสาธารณสขุ มูลฐาน คือสมนุ ไพรที่ใช๎ในการสํงเสรมิ สขุ ภาพและการรกั ษาโรคหรอื
อาการเจบ็ ปุวยเบ้ืองต๎น เพอ่ื ใหป๎ ระชาชนสามารถพ่ึงตนเองได๎มากขน้ึ
2. ความสาคญั ในดา้ นเศรษฐกจิ

พชื สมุนไพรเปน็ พืชเศรษฐกิจชนิดหนึง่ ท่ีหลายประเทศกาลงั ลงทนุ สกัดหาตัวยาเพอ่ื รักษาโรคตาํ งๆ และมหี ลาย
ประเทศทนี่ าสมุนไพรไทยไปปลูกและทาการค๎าขายแขงํ กบั ประเทศไทย สมุนไพรหลายชนิดทเ่ี ราสํงออกเปน็ รูปของ
วตั ถดุ บิ คอื กระวาน ขมิน้ ชนั เรํว เปล๎านอ๎ ย และมะขามเปียก เป็นตน๎ ซึง่ สมุนไพรเหลานี้ตลาดตาํ งประเทศยงั คงมีความ
ต๎องการอีกมาก กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จงึ มโี ครงการวิจัยเพื่อหาความเปน็ ไปได๎ ในการพฒั นาคุณภาพและแหลํง
ปลูกสมุนไพรเพอ่ื สํงออก โดยกาหนดชนิดของสมนุ ไพรท่มี ศี กั ยภาพ 13 ชนดิ คือ มะขามแขก กานพลู เทียนเกล็ดหอย
ดองดึง เรํว กระวาน ชะเอมเทศ ขม้ิน จนั ทร์เทศ ใบพลู พริกไทย ดีปลี และนา้ ผ้งึ
ประโยชนข์ องพชื สมุนไพร

1. สามารถรักษาโรคบางชนิดได๎ โดยไมตํ อ๎ งใช๎ยาแผนปจั จบุ นั ซง่ึ บางชนิดอาจมรี าคาแพง และตอ๎ ง
เสียคาใช๎จํายมาก อีกท้ังอาจหาซ้อื ได๎ยากในทอ๎ งถ่ินนน้ั

2. ใหผ๎ ลการรักษาไดด๎ ใี กล๎เคียงกบั ยาแผนปัจจบุ นั และใหค๎ วามปลอดภยั แกํผ๎ูใช๎มากกวาํ แผนปจั จุบนั
3. สามารถหาได๎งํายในทอ๎ งถิ่นเพราะสวํ นใหญํได๎จากพืชซง่ึ มอี ยทํู วั่ ไปท้ัง ในเมอื งและ ชนบท
4. มรี าคาถกู สามารถประหยดั คาใช๎จาํ ยในการซื้อยาแผนปจั จุบัน ทตี่ อ๎ งส่ังซือ้ จากตาํ งประเทศเป็นการลดการขาด
ดุลทางการค๎า
5. ใช๎เปน็ ยาบารงุ รักษาใหร๎ ํางกายมสี ขุ ภาพแข็งแรง
6. ใช๎เปน็ อาหารและปลกู เปน็ พชื ผกั สวนครวั ได๎ เชนํ กะเพรา โหระพา ขงิ ขา ตาลึง
7. ใช๎ในการถนอมอาหารเชํน ลูกจันทร์ ดอกจันทร์และกานพลู
8. ใช๎ปรุงแตงํ กลิ่น สี รส ของอาหาร เชํน ลกู จันทร์ อบเชย พริกไทย ใช๎ปรงุ แตงํ กล่นิ อาหารพวกขนมปงั เนย ไส๎
กรอก แฮม เบคอน
9. สามารถปลกู เป็นไม๎ประดับอาคารสถานทตี่ าํ งๆ ใหส๎ วยงาม เชนํ คูน ชุมเห็ดเทศ
10. ใช๎ปรุงเป็นเครื่องสาอางเพื่อเสริมความงาม เชํน วาํ นหางจระเข๎ ประคาดีควาย
11. ใช๎เปน็ ยาฆําแมลงในสวนผัก, ผลไม๎ เชนํ สะเดา ตะไคร๎หอม ยาสูบ
12. เป็นพชื ที่สามารถสํงออกทารายได๎ใหก๎ บั ประเทศ เชนํ กระวาน ขมิน้ ชนั กระชาย
13. เปน็ การอนรุ กั ษม์ รดกไทยใหป๎ ระชาชนในแตํละทอ๎ งถิ่น รู๎จักชํวยตนเองในการนาพชื สมนุ ไพรในทอ๎ งถน่ิ ของตน
มาใชใ๎ หเ๎ กิดประโยชน๑ตามแบบแผนโบราณ
14. ทาใหค๎ นเห็นคุณคาและกลับมาดาเนินชวี ิตใกล๎ชดิ ธรรมชาติยง่ิ ข้ึน

15. ทาใหเ๎ กดิ ความภูมใิ จในวัฒนธรรม และคณุ คาของความเปน็ ไทย

การจดั กจิ กรรมลูกเสอื สารอง ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 5
โรงเรียนเทศบาล 3 วดั เกาะแก้วนครสวรรค์

141

แผนการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ท่ี 37 งานอดเิ รกและเรอื่ งทน่ี า่ สนใจ
เรือ่ ง งานตามความสนใจ

1. สรุปสาระสาคัญ การทางานอดเิ รกและเรอื่ งท่สี นใจ เปน็ การรูจ๎ กั ใชเ๎ วลาวํางให๎เปน็ ประโยชน์
2. จดุ ประสงค์

สามารถนาเสนองานอดเิ รกที่ไดป๎ ฏบิ ตั ิ
3. ทักษะกระบวนการ

( ) 1. ตระหนกั ในปญั หาและความจาเป็น
( ) 2. คดิ วเิ คราะห์วจิ ารณ์
( ) 3. สรา๎ งทางเลือกหลากหลาย
( ) 4. ประเมินและเลอื กทางเลอื ก
( ) 5. กาหนดและลาดบั ข้นั ตอนการปฏบิ ัติ
( ) 6. ปฏิบัตดิ ว๎ ยความช่ืนชม
( ) 7. ประเมินระหวํางปฏิบตั ิ
( ) 8. ปรับปรุงใหด๎ ีขึน้ อยเํู สมอ
( ) 9. ประเมนิ ผลรวมเพ่อื ใหเ๎ กิดความภาคภูมใิ จ

4. กจิ กรรม และสอ่ื / อปุ กรณ์ แยก ) ส่อื / อุปกรณ์

กิจกรรม 1. แผนภูมเิ พลง
2. การนาเสนอผลงานงานอดเิ รก
1. พิธเี ปิดประชุมกอง (ธงข้ึน สวดมนต์ สงบนง่ิ ตรวจ ของลกู เสือเปน็ หมํู
2. เพลง - เกม 3. เรือ่ งสัน้ ทเี่ ป็นประโยชน์
3. การสอนตามเนอื้ หา

3.1 ผก๎ู ากบั นาสนทนาถงึ ประเภทของงานอดิเรก
3.2 ลกู เสอื นาเสนองานอดเิ รก
3.3 ผู๎กากับนาเสนองานอดิเรกท่ีไดป๎ ฏบิ ตั ริ ะบบหมูํ
4. ผก๎ู ากับเลาํ เรื่องสัน้ ท่ีเป็นประโยชน์
5. พธิ ปี ดิ ประชุมกอง (นดั หมาย ตรวจ ธงลง เลิก)

การจัดกิจกรรมลกู เสอื สารอง ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 5
โรงเรยี นเทศบาล 3 วัดเกาะแกว้ นครสวรรค์

142

5. การประเมนิ ผล ผ่าน ไม่ผ่าน
รายละเอียดการประเมนิ ผล
……….… …………..
1. ความสนใจในการเขา๎ รวํ มกจิ กรรม …………. …………..
2. ความตัง้ ใจในการปฏบิ ัตกิ จิ กรรม …………. …………..
3. บอกประเภทของงานอดเิ รกทนี่ าํ สนใจ …………. …………..
4. ตรวจผลงาน

6. กจิ กรรมเสนอแนะเพ่มิ เติม
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………

7. ปญั หาและขอ้ เสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………

การจัดกิจกรรมลกู เสือสารอง ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 5
โรงเรยี นเทศบาล 3 วัดเกาะแกว้ นครสวรรค์

143

แบบสอบถาม เรอื่ งการเลน่ เกม ช้นั ป.4 - ป.6

คาอธบิ าย : วงกลมรอบหัวข้อทตี่ รงกบั ความเห็นของตนเอง

1. เคยเลนํ เกมจากสือ่ อิเล็คทรอนิกสป์ ระเภทใดบ๎าง(เลือกตอบได๎หลายข๎อตามความเปน็ จริง)

ก. ไมเํ คยเลนํ เกม ข. เกมกด

ค. เกมวดี ีโอ ง. เกมคอมพวิ เตอร์

จ. เกมออนไลน์ ฉ. อืน่ ๆ .(ระบุ)

2. เลํนเกมชวํ งเวลาใดบา๎ ง (เลือกตอบได๎หลายข๎อตามความเปน็ จรงิ )

ก. กอํ นมาโรงเรยี น ข. เวลาเรยี น

ค. ชวงเยน็ หลังเลกิ เรียน ง. กลางคนื

จ. วนั หยดุ ฉ. อน่ื ๆ .(ระบ)ุ

3. เวลาเฉล่ยี ทใ่ี ช๎ในการเลํนเกมแตลํ ะครง้ั

ก. นอ๎ ยกวาํ 1 ช่วั โมง ข. 1 ชั่วโมง ถงึ 3 ช่ัวโมง

ค. มากกวาํ 3 ชัว่ โมง แตํไมํถงึ 5 ชั่วโมง ง. มากกวาํ 5 ช่ัวโมงขึน้ ไป

4. จานวนเงนิ ทใี่ ช๎ในการเลํนเกมแตํละคร้ัง

ก. น๎อยกวาํ 10 บาท ข. 10 บาท ถึง 30 บาท

ค. มากกวํา 30 บาท แตํไมถํ ึง 50 บาท ง. มากกวํา 50 บาทขน้ึ ไป

จ. อ่ืนๆ ระบุ

5. เหตุผลท่ชี อบเลนํ เกม (เลอื กตอบได๎หลายข๎อตามความเป็นจริง)

ก. สนกุ เพลดิ เพลนิ ข. อยากเอาชนะ

ค. จะไดเ๎ ข๎ากบั เพ่ือนได๎ ง. ชอบตรงความต่นื เต๎น หวาดเสยี ว

จ. เหงาไมรํ ู๎จะทาอะไร ฉ. อืน่ ๆ ระบุ

6. เกมทเี่ คยเลนํ มเี รื่องเกีย่ วกบั อะไรบา๎ ง(เลอื กตอบได๎หลายข๎อตามความเป็นจริง)

ก. ตํอส๎ู เอาชนะ ข. บลู๎ า๎ งผลาญ ด๎วยอาวุธนานาชนดิ

ค. แขํงขันประลองความเร็ว ง. ผจญภยั ต่นื เต๎น หวาดเสยี ว

จ. อื่นๆ ระบุ

7. เคยมีการกระทาใดบา๎ งในขอ๎ ตอํ ไปน้ี (เลือกตอบได๎หลายข๎อตามความเป็นจรงิ )

ก. เลนํ เกมเพลนิ จนลมื กินขา๎ ว ข. นอนดกึ เพราะเลํนเกมตดิ พัน

ค. เลํนเกมจนลมื ทาการบ๎าน ง. เลนํ เกมตืน่ เต๎นหวาดเสียวจนเกบ็ ไปฝัน

จ. อนื่ ๆ ระบุ

8. นกั เรยี นคดิ วาํ ตนเองตดิ เกมหรือไมํ เพราะอะไร

ก. ตดิ ข. ไมํติด

เหตุผล

การจัดกิจกรรมลกู เสือสารอง ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 5
โรงเรยี นเทศบาล 3 วดั เกาะแกว้ นครสวรรค์

144

แบบรายงานผลการสารวจ

ผลการสารวจนักเรยี นช้ัน จานวนทง้ั หมด คน

1. เคยเลํนเกมจากสื่ออเิ ลค็ ทรอนิกสป์ ระเภทใด

ก. ไมเํ คยเลํนเกมเลย คน ข. เคยเลนํ เกมกด คน

ค. เคยเลนํ เกมวดี ีโอ คน ง. เคยเลนํ เกมคอมพิวเตอร์ คน

จ. เคยเลนํ เกมออนไลน์ คน ฉ. อนื่ ๆ ระบุ จานวน คน
คน
2. เลนํ เกมชวํ งเวลาใดบา๎ ง
คน
ก. กํอนมาโรงเรยี น คน ข. เวลาเรยี น คน คน
คน
ค. ชํวงเยน็ หลัง เลิกเรยี น คน ง. กลางคนื คน

จ. วันหยุด คน ฉ. อน่ื ๆ ระบุ จานวน

3. เวลาเฉลี่ยทใ่ี ช๎ในการเลํนเกมแตลํ ะครั้ง

ก. นอ๎ ยกวํา 1 ชั่วโมง คน ข. 1 ชวั่ โมง ถึง 3 ชั่วโมง คน

ค. มากกวํา 3 ช่ัวโมงแตไํ มํถงึ 5 ช่ัวโมง คน ง. มากกวาํ 5 ช่วั โมงข้ึนไป .คน

4. จานวนเงินทใ่ี ช๎ในการเลํนเกมแตํละครงั้

ก. นอ๎ ยกวาํ 10 บาท คน ข. 10 บาท ถงึ 30 บาท คน

ค. มากกวํา 30 บาท แตํไมํถงึ 50 บาท คน ง. มากกวาํ 50 บาทขนึ้ ไป คน

จ. อน่ื ๆ ระบุ จานวน คน

5. เหตผุ ลทช่ี อบเลนํ เกม

ก. สนุก เพลิดเพลิน คน ข. อยากเอาชนะ คน

ค. จะไดเ๎ ข๎ากบั เพ่ือนได๎ คน ง. ชอบตรงความตน่ื เต๎น หวาดเสยี ว

จ. เหงาไมรํ ู๎จะทาอะไร คน ฉ. อืน่ ๆ ระบุ จานวน

6. เกมทเี่ คยเลํนมเี ร่ืองเก่ยี วกับอะไรบา๎ ง

ก. ตํอส๎ู เอาชนะ คน ข. บลู๎ า๎ งผลาญ ด๎วยอาวุธนานาชนดิ

ค. แขํงขันประลองความเร็ว................คน ง. ผจญภยั ต่ืนเต๎น หวาดเสยี ว

จ. อื่นๆ ระบุ จานวน คน

7. เคยมีการกระทาใดบา๎ งในขอ๎ ตอํ ไปนี้

ก. เลํนเกมเพลินจนลมื กินขา๎ ว คน

ข. นอนดกึ เพราะเลนํ เกมติดพัน คน

ค. เลํนเกมจนลมื ทาการบ๎าน คน

ง. เลํนเกมตนื่ เต๎นหวาดเสียว จนเก็บไปฝนั คน

จ. อน่ื ๆ ระบุ จานวน คน

8. คิดวาํ ตนเองตดิ เกม คน ไมตํ ดิ เกม คน

9. เหตผุ ลของคนทบ่ี อกวาํ ตดิ เกม ไดแ๎ กํ

10. เหตผุ ลของคนทบี่ อกวาํ ไมตํ ิดเกม ได๎แกํ

การจัดกจิ กรรมลูกเสอื สารอง ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 5
โรงเรยี นเทศบาล 3 วดั เกาะแก้วนครสวรรค์

145

แผนการจัดกจิ กรรมการเรียนรทู้ ่ี 38 คณุ ธรรม จริยธรรม
เรื่อง คนดใี นอุดมคติ

1. สรปุ สาระสาคัญ คุณสมบัติคนดีในอุดมคตขิ องลูกเสอื
2. จดุ ประสงค์

สามารถบอกคุณสมบตั ิของ “คนดี” ตามอุดมคติของลูกเสือ
3. ทักษะกระบวนการ

( ) 1. ตระหนกั ในปญั หาและความจาเป็น
( ) 2. คิดวเิ คราะห์วจิ ารณ์
( ) 3. สรา๎ งทางเลอื กหลากหลาย
( ) 4. ประเมินและเลอื กทางเลอื ก
( ) 5. กาหนดและลาดับขัน้ ตอนการปฏบิ ัติ
( ) 6. ปฏิบตั ิดว๎ ยความชนื่ ชม
( ) 7. ประเมินระหวํางปฏบิ ัติ
( ) 8. ปรบั ปรุงให๎ดีข้ึนอยเูํ สมอ
( ) 9. ประเมนิ ผลรวมเพ่ือให๎เกดิ ความภาคภมู ิใจ

4. กิจกรรม และส่ือ/ อุปกรณ์ สื่อ/ อุปกรณ์

กิจกรรม 1. แผนภมู ิเพลง
2. เร่อื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์
1. พิธเี ปิดประชุมกอง (ธงขึน้ สวดมนต์ สงบนิ่ง ตรวจ แยก )
2. เพลง - เกม
3. การสอนตามเนอื้ หา

3.1 ลูกเสอื นงั่ ล๎อมวงตามหมํู ใหส๎ มาชกิ แตํละคนผลดั กันเลําถงึ “คนดี” ท่ี
ตนเองรู๎จกั ใน 3 ประเด็น คอื

(1) บคุ คลนัน้ มีความดอี ยํางไร
(2) ลูกเสือรไู๎ ด๎อยาํ งไรวาํ เขาเป็นคนดี
(3) สรุปถึงคณุ สมบัตทิ คี่ ดิ วําดที ี่สดุ ของบุคคลนน้ั
3.2 ผู๎กากบั ลกู เสือแจกใบงานให๎ลกู เสือศึกษาและสํงตวั แทนนาเสนอใน
ประเดน็ ตํอไปนี้
(1) ลูกเสือคดิ วาํ การเปน็ “คนดี” นนั้ เปน็ ประโยชนต์ อํ ตนเอง และผ๎ูอ่นื
อยาํ งไร
(2) การเปน็ “คนด”ี จะทาให๎ “ลกู เสือเป็นผู๎มเี กยี รติ เช่ือถอื ได”๎ ดงั นัน้
ลูกเสือคดิ วําจะสร๎างคณุ สมบัตขิ องคนดใี ห๎เกดิ ขึ้นในตัวของลกู เสอื ให๎มากทีส่ ุด
อยํางไร
(3) ผู๎กากบั ลกู เสือรํวมการสรปุ คนดใี นอดุ ม
3.3 ผก๎ู ากบั อธิบายสรปุ เสนอแนะและชมเชย
4. ผก๎ู ากับเลาํ เร่อื งสน้ั ท่เี ป็นประโยชน์
5. พธิ ปี ิดประชมุ กอง (นดั หมาย ตรวจ ธงลง เลกิ )

การจัดกิจกรรมลูกเสอื สารอง ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 5
โรงเรยี นเทศบาล 3 วัดเกาะแก้วนครสวรรค์

146

5. การประเมินผล ผ่าน ไม่ผา่ น
รายละเอยี ดการประเมนิ ผล
…………. …………..
1. ความสนใจในการเขา๎ รํวมกิจกรรม …………. …………..
2. ความต้งั ใจในการปฏบิ ตั ิกิจกรรม …………. …………..
3. ความรวํ มมอื ในการปฏบิ ตั ิกจิ กรรม …………. …………..
4. ตรวจผลงาน

6. กิจกรรมเสนอแนะเพ่ิมเติม
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………

7. ปญั หาและข้อเสนอแนะ
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………
……………………………………………………………………………………………………………………….……………………………….………………

การจัดกิจกรรมลูกเสอื สารอง ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 5
โรงเรยี นเทศบาล 3 วดั เกาะแก้วนครสวรรค์

147

แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรูท้ ่ี 39 ประเมนิ ผล
เร่อื ง การประเมินผล

1. สรปุ สาระสาคญั การตัดสนิ กจิ กรรมพัฒนาผูเ๎ รยี นตามหลกั สตู รการศึกษาข้นั พน้ื ฐาน พ.ศ. 2551 และการ
ประเมินพฤติกรรมทักษะชวี ิต

2. จดุ ประสงค์
2.1 เพื่อใหล๎ กู เสือเข๎าใจการประเมนิ ผลเพ่อื การตดั สนิ ผลการผาํ น ไมํผาํ นกจิ กรรม
2.2 เพื่อใหล๎ ูกเสือเขา๎ ใจการประเมินพฤติกรรมทักษะชวี ิตทลี่ ูกเสอื ได๎รับการพัฒนา
2.3 เตรยี มความพรอ๎ มรับการประเมินตามวธิ ีการของผกู๎ ากับกองลกู เสือ

3. ทักษะกระบวนการ
( ) 1. ตระหนกั ในปญั หาและความจาเป็น
( ) 2. คดิ วิเคราะห์วจิ ารณ์
( ) 3. สรา๎ งทางเลอื กหลากหลาย
( ) 4. ประเมินและเลอื กทางเลอื ก
( ) 5. กาหนดและลาดับขนั้ ตอนการปฏิบัติ
( ) 6. ปฏบิ ัติด๎วยความชน่ื ชม
( ) 7. ประเมนิ ระหวํางปฏบิ ัติ
( ) 8. ปรบั ปรงุ ให๎ดขี ึ้นอยํเู สมอ
( ) 9. ประเมนิ ผลรวมเพ่อื ใหเ๎ กิดความภาคภมู ิใจ

4. กจิ กรรม และส่ือ/ อปุ กรณ์ ส่อื / อุปกรณ์

กิจกรรม 1. Flow Chart การประเมนิ เพ่ือ
ตัดสนิ ผลการเลือ่ นช้ันของลกู เสือ
1. ผกู๎ ากับลกู เสืออธิบายหลกั เกณฑ์ วิธกี ารประเมินผลการเรยี นรต๎ู ามท่ี และจบการศกึ ษา
หลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน พ.ศ. 2551 กาหนดเพ่ือตดั สินการจบ
การศึกษา 2. แบบประเมนิ ทกั ษะชีวิตของ
2. ผ๎ูกากับลูกเสอื อธิบายถงึ พฤตกิ รรมของลูกเสอื ทไ่ี ดร๎ บั การเสริมสรา๎ งทักษะ ลูกเสือรายบุคคลหรือรายหมูํ
ชีวติ ผาํ นกิจกรรมลกู เสอื ลกู เสอื
3. ลูกเสอื ประเมินความพรอ๎ มของตนเองเพอื่ รบั การประเมนิ และวางแผนพฒั นา
ตนเองในสํวนที่ไมมํ ัน่ ใจ 3. แบบประเมินตนเองของลูกเสือ
4. ผ๎กู ากับลูกเสอื และลกู เสอื กาหนดขอ๎ ตกลงรวํ มกนั ถึงชวํ งเวลาการประเมนิ ประจาปีการศึกษา
5. ผ๎ูกากับลกู เสอื นดั หมายและดาเนนิ การประเมนิ

การจัดกิจกรรมลูกเสือสารอง ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 5
โรงเรียนเทศบาล 3 วัดเกาะแก้วนครสวรรค์

148

5. การประเมินผล ผา่ น ไม่ผา่ น
รายละเอยี ดการประเมนิ ผล
……….… …………..
1. สงั เกตจากผลการประเมนิ ตนเองของลูกเสอื …………. …………..
2. สังเกตความมน่ั ใจและการยืนยนั ความพรอ๎ มของลกู เสอื

6. กิจกรรมเสนอแนะเพ่ิมเติม
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………….………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………….…………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………….…………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………….…………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………….…………………………………………………

7. ปญั หาและข้อเสนอแนะ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………….………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………….…………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………….…………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………….…………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………….…………………………………………………

การจัดกจิ กรรมลูกเสอื สารอง ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 5
โรงเรียนเทศบาล 3 วัดเกาะแก้วนครสวรรค์

149

การจดั กิจกรรมลกู เสือสารอง ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 5
โรงเรียนเทศบาล 3 วดั เกาะแก้วนครสวรรค์

150

การจดั กิจกรรมลกู เสือสารอง ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 5
โรงเรียนเทศบาล 3 วดั เกาะแก้วนครสวรรค์


Click to View FlipBook Version