พหุวัฒนธรรมสามจังหวัด ชายแดนภาคใต้
วันตรุษจีน ป็นหนึ่งในเทศกาลที่ส าคัญที่สุดของชาวจีน ถือเป็นวันขึ ้นปีใหม่ตามปฎิทิน จีน (คล้ายกับวันสงกรานต์ของไทย) ชาวจีนทุกคนให้ความส าคัญกับวันนี ้ อย่างมาก มีการหยุดงานเป็นเวลายาว โรงเรียนสถาบันการศึกษาปิดเทอม (ปิดเรียนฤดูหนาว)ในช่วงนี ้ เหลือเพียงแต่บางอาชีพที่ต้องท าหน้าที่พิเศษ ที่ไม่สามารถหยุดงานได้ ในวันตรุษจีนหน่วยงานห้างร้านต่างจะหยุดงาน เป็นเวลา 3-4 วัน เพื่อตระเตรียมจัดงานปีใหม่นี ้ว่ากันว่า 1 คืนก่อนวันปี ใหม่จีน คือวันสุดท้ายของปีนั่นเอง เป็นคืนที่ครึกครื ้นที่สุด ใครที่ไปท างาน ห่างจากบ้านเกิด ต่างก็พยายามอย่างสุดความสามารถที่จะกลับมาฉลอง วันปีใหม่ที่บ้าน ช่วงมื ้อค ่าคืนก่อนขึ ้นปีใหม่จีน ทุกคนในครอบครัวจะนั่งกัน พร้อมหน้าล้อมโต๊ะอาหารชนแก้วอวยพรปีใหม่กัน ในช่วงเวลานี ้ทุกบ้านจะ เต็มไปด้วยรอยยิ ้มและเสียงหัวเราะ พอถึงเที่ยงคืน คนจีนทางเหนือก็จะ เริ่มท าเกี๊ยว (เจี ้ยวจึ) คนจีนทางใต้ก็จะปั ้นลูกอี๋ท าน ้าเชื่อม ท าไปชิมไป ทานไปครึกครื ้นอย่างยิ่ง เช้าวันรุ่งขึ ้น ทุกคนจะตื่นแต่เช้าไปเยี่ยมเพื่อน บ้านเพื่อนฝูงเพื่ออวยพรปีใหม่
วันไหว้พระจันทร์ เป็นเทศกาลตามวัฒนธรรมจีนที่มีขึ ้นในกลางฤดูใบไม้ร่วง เพื่อ เฉลิมฉลองการเก็บเกี่ยว จะมีขึ ้นในคืนวันเพ็ญเดือน 8 ตาม ปฏิทินจันทรคติ วันไหว้พระจันทร์ 2565 ปีนี ้ตรงกับวันที่ 10 กันยายน 2565 และในเทศกาลไหว้พระจันทร์นี ้ ชาวจีนจะเฉลิม ฉลองด้วยการไหว้ดวงจันทร์ในเวลากลางคืน ในบางประเทศ จัดเป็นประเพณีใหญ่ มีการเฉลิมฉลองด้วยโคมไฟสีแดง เป็น สีสันยามค ่าคืน หรือบางแห่งอาจมีการเชิดมังกร ทั ้งนี ้จะมีชื่อ เรียกต่างกันออกไปตามแต่ท้องถิ่น
เทศกาลไหว้บ๊ะจ่าง เทศกาลบ๊ะจ่าง เป็นการระลึกถึงวันที่ คุดก้วน หรือ ซวียเหวียน กวีผู้ รักชาติและซื่อสัตย์แห่งรัฐฉู่ ถูกใส่ร้ายจนถูกปลดจากต าแหน่งและเนรเทศ ออกนอกเมือง ในเวลาต่อมารัฐฉู่ถูกโจมตีล่มสลายท าให้ ชวียเหวียน เสียใจมากจนกระโดดน ้าฆ่าตัวตายในวันขึ ้น 5 ค ่า เดือน 5 เมื่อชาวบ้าน ทราบเรื่องเลยพากันออกเรือเพื่อตามหาร่างของ ชวียเหวียน มาประกอบ พิธี ระหว่างทางก็ได้หย่อนอาหารลงในน ้าเพื่อไม่ให้สัตว์น ้ากัดกินร่างของ ชวียเหวียน ไปด้วย 2 ปีต่อมา มีชาวบ้านฝันว่า ชวียเหวียน มาขอบคุณ ชาวบ้านที่น าอาหารมาเซ่นไหว้ตน แต่ทว่าอาหารเหล่านั ้นกลับเป็นอาหาร ของบรรดาสัตว์น ้า ชวียเหวียน จึงแนะน าให้ชาวบ้านห่ออาหารด้วยใบไผ่ ก่อนโยนลงน ้า
ประเพณีชักพระ ประเพณีลากพระหรือชักพระเป็นประเพณีท้องถิ่นของชาวใต้ที่ยึดถือปฎิบัติกันมาอย่าง ยาวนานมาตั ้งแต่สมัยศรีวิชัย ซึ่งเป็นประเพณีที่สืบเนื่องด้วยพุทธศาสนาซึ่งจะมีขึ ้นหลัง วันปวารณาหรือวันออกพรรษาแล้ว ๑ วัน คือตรงกับวันแรม ๑ ค ่า เดือน ๑๑ โดยการที่ พุทธศาสนิกชนพร้อมใจกันอาราธนาพระพุทธรูปขึ ้นประดิษฐานบนบุษบกที่วางอยู่บน พาหนะ เช่น เรือ รถ หรือล้อเลื่อน ที่เรียกว่า “พนมพระ” แล้วพากันแห่แหนชักลากไปตาม ถนนหนทางหรือล าคลองโดยสันนิษฐานว่าได้เกิดมีขึ ้นครั ้งแรกในประเทศอินเดียด้วย สืบเนื่องจากการที่มีธรรมเนียมนิยมน าเอาเทวรูป เช่น พระอิศวร พระนารายณ ออกแห่ แหนในโอกาสต่าง ๆ เพื่อความเป็นสิริมงคลและอ านวยอวยพรให้อยู่สุขเป็นสุข ต่อมา พุทธศาสนาได้น าเอาคติความเชื่อดังกล่าวมาปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงให้สอดคล้องกับ มิติความเชื่อของพุทธศาสนา และเมื่อกาลที่พุทธศาสนาได้เผยแพร่ถึงภาคใต้ของประเทศ ไทย จึงได้น าประเพณีลากพระหรือชักพระเข้ามาด้วย ประเพณีลากพระหรือชักพระมี ความเป็นมาที่เล่ากันเป็นเชิงพุทธต านานว่า หลังจากพระพุทธองค์ทรงออกผนวชได้ ๗ พรรษา และในพรรษาที่ ๗ นั ้น ทรงกระท ายมกปาฏิหาริย์ปราบเดียรถีย์ ณ ป่ ามะม่วง กรุง สาวัตถี แล้วได้เสร็จไปจ าพรรษา ณ ดาวดึงส์เพื่อโปรดพุทธมารดา
วันลอยกระทง ประเพณีลอยกระทงเป็นประเพณีโบราณของอินเดียที่ประเทศไทยรับเข้ามา ปฏิบัติ แต่ไม่ปรากฏหลักฐานชัดเจนว่าท ากันมาตั ้งแต่เมื่อไหร่ เท่าที่ปรากฏกล่าวได้ ว่ามีมาตั ้งแต่สมัยสุโขทัยเป็นราชธานี พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสันนิษฐานว่า เดิมทีเดียวเห็นจะเป็นพิธีของพราหมณ์กระท าเพื่อบูชาพระผู้เป็น เจ้าทั ้งสาม คือ พระอิศวร พระนารายณ์ และพระพรหม ต่อมาได้ถือตามแนวทาง พระพุทธศาสนามีการปล่อยโคมลอยเพื่อบูชาพระบรมสารีริกธาตุพระจุฬามณีในชั ้น ดาวดึงส์ และลอยกระทงเพื่อบูชารอยพระพุทธบาท ซึ่งประดิษฐาน ณ หาดทราย แม่น ้านัมมทา (แม่น ้านัมมทา เป็นแม่น ้าที่คู่ขนานกับทิวเขาวินธัย ไหลลงภาค ตะวันตกของอินเดียแบ่งเขตอินเดียออกเป็นภาคเหนือและภาคใต้)
วันสงกรานต์ พิธีสงกรานต์ เป็นพิธีกรรมที่เกิดขึ ้นภายในครอบครัว หรือชุมชนบ้านใกล้เรือนเคียง แต่ในปัจจุบันได้มีการเปลี่ยนแปลงให้พิธีสงกรานต์นั ้นเป็นเทศกาลสงกรานต์ โดยได้ ขยายออกไปสู่คมเป็นวงกว้างมากขึ ้น และมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนทัศคติ ตลอดจน ความเชื่อไป แต่เดิมในพิธีสงกรานต์จะใช้ น ้า เป็นสัญลักษณ์ที่เป็นองค์ประกอบหลัก ของพิธี แก้กันกับความหมายของฤดูร้อน ช่วงเวลาที่พระอาทิตย์เคลื่อนเข้าสู่ราศีเมษ ในวันนี ้จะใช้น ้ารดให้แก่กันเพื่อความชุ่มชื่น มีการขอพรจากผู้ใหญ่ มีการร าลึกและ กตัญญูต่อบรรพบุรุษที่ล่วงลับ ต่อมาในสังคมไทยสมัยใหม่เกิดเป็นประเพณีกลับบ้าน ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ นับว่าวันสงกรานต์เป็นวันครอบครัว อีกทั ้งยังมีประเพณีที่ สืบทอดมาตั ้งแต่ดั ้งเดิม อย่าง การสรงน ้าพระที่น ามาซึ่งความเป็นสิริมงคล เพื่อให้ เป็นการเริ่มต้นปีใหม่ที่มีความสุข
ประเพณีสารทเดือนสิบ ประเพณีสารทเดือนสิบ เป็นประเพณีส าคัญที่จัดขึ ้นเพื่อท าบุญอุทิศแก่ บรรพบุรุษผู้ล่วงลับไปแล้ว ตรงกับวันสิ ้นเดือน 10 หรือ แรม 15 ค ่า เดือน 10 ซึ่งเป็นช่วงที่พืชพันธุ์ธัญญาหารก าลัพิธีสารทมีต้นก าเนิดมาจากพิธีของ พราหมณ์ เมื่อชาวนาเก็บเกี่ยวรวงข้าวสาลีอันเป็นผลผลิตแรก จะน ามาท า เป็นข้าวมธุปายาสและยาคูเพื่อเลี ้ยงพราหมณ์ เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ข้าวในนา และเพื่อเป็นการเซ่นไหว้บรรพบุรุษที่ล่วงลับไป ต่อมาเมื่อคนเปลี่ยนมานับถือ พระพุทธศาสนา จึงน าแนวคิดนี ้มาปฏิบัติด้วยงออกดอกออกผล
วันฮารีรายอ ฮารีรายอเป็นวันส าคัญของชาวมุสลิมทั่วโลกวันหนึ่ง ถือได้ว่าเป็นวันรื่นเริง ประจ าปีซึ่งชาวมุสลิมได้เดินทางกลับภูมิล าเนาของตนเอง เพื่อเข้าร่วมประกอบ พิธีกรรมทางศาสนาโดยพร้อมเพรียงกัน ได้พบปะสังสรรค์กับเพื่อน ญาติพี่น้องเพื่อ ขออภัยซึ่งกันและกัน ช่วงเวลาในรอบ 1 ปีของชาวมุสลิม มีวันฮารีรายอ 2 ครั ้ง 1. อีดิลฟิ ตรี2. อีดิลอัฏฮา โดยบรรยากาศในวันฮารีรายอของชาวมุสลิมทั่วโลกเต็มไปด้วยรอยยิ ้ม เสียงหัวเราะ เสียงความสุขเต็มเปี่ยม สิ่งที่น่าประทับใจในวันนี ้ คือ บรรดาลูกๆ ขออภัยต่อพ่อแม่ บรรดาภรรยาขออภัยต่อสามี และเพื่อนบ้านขออภัยต่อกันในเรื่องผิดพ้องหมองใจ กันตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา และมีการแสดงออกด้วยการสวมกอด การจูบมือ การหอมแก้มทั ้งสองของพ่อแม่ แสดงถึงความรักความเข้าใจที่มีต่อกัน ลูกหลานที่ อยู่ต่างถิ่นต่างก็กลับมารวมตัวกันที่บ้าน เพื่อได้อยู่ร่วมกันกับคนในครอบครัว ทุก ครอบครัวมีความอบอุ่นเต็มไปด้วยบรรดาลูกๆ หลานๆ กลับบ้านโดยพร้อมเพรียง กัน
วันนิกะห์ • นิกะห์เป็นพิธีแต่งงานของผู้ที่นับถือศาสนาอิสลาม เริ่มต้นเมื่อชายหญิงตกลงใจกัน และฝ่ายชายจะส่งผู้ใหญ่ไปสู่ขอเรียกว่า มาโซะมินตะ หรือมนีแน การสู่ขอนี ้จะตกลง กันระหว่างผู้ใหญ่ทั ้งสองฝ่าย เกี่ยวกับเรื่องมะฮัว สินสอดทองหมั ้น และตกลงเรื่อง ก าหนดวันแต่งงาน (นิกะห์) การท าพิธีนิกะห์จะต้องมีองค์ประกอบที่ส าคัญ คือ 1. ผู้ปกครองของฝ่ายเจ้าสาว เรียกว่า วะลี คือชายที่มีสิทธิในการประกอบพิธีนิกะห์ให้แก่ หญิง ซึ่งจะต้องเป็นชายที่นับถือศาสนาอิสลามที่ไม่เป็นคนวิกลจริต และไม่อยู่ในระหว่าง ประกอบพิธีฮัจญ์ 2. ผู้ท าพิธีนิกะห์ผู้ปกครองอาจท าพิธีนิกะห์เอง หรือมอบให้โต๊ะอิหม่าม โต๊ะครูก็ได้< 3. เจ้าบ่าว 4. พยาน 2 คน ต้องเป็นชายมุสลิมที่เชื่อถือได้ 5. ผู้อบรมหรืออ่านคุฎะฮ์นิกะห์ 6. มะฮัร คือ สินสอดทองหมั ้นที่จะมอบแก่เจ้าสาว