“แม้น ม้ ใครรัก รั รัก รั มั่ง มั่ ชัง ชั ชัง ชั ตอบ ให้รอบคอบคิดอ่านนะหลานหนา รู้สิ่ รู้ ง สิ่ไรไม่สู้ ม่ รู้สู้รู้ วิ รู้ ช วิ า รู้รั รู้ ก รั ษาตัวรอดเป็น ป็ ยอดดี” 26 มิถุ มิ นายน วันสุนทรภู่ จากเรื่อ รื่ งพระอภัยมณี ห้องสมุด มุ วิทยาลัยอาชีวศึกษาธนบุรี บุ รี Thonburi Vocational College Library
ท่านสุนทรภู่ ท่านเป็นกวีเอกคนหนึ่งของกรุง รัตนโกสินทร์ เกิดเมื่อวันจันทร์ เดือน 8 ขึ้น 1ค่ำ ปีมะเมีย ตรงกับวันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ.2329 ซึ่งตรงกับรัชสมัย ของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก (รัชกาลที่ 1) บิดาเป็นชาวบ้านกร่ำ อำ เภอแกลง จังหวัดระยอง มารดาเป็นคนจังหวัดไหนไม่ปรากฏ ตั้งแต่สุนทรภู่ยัง เด็ก บิดากลับไปบวชที่เมืองแกลง ส่วนมารดามีสามีใหม่มี ลูกผู้หญิงอีก 2 คน ชื่อฉิมกับนิ่ม ต่อมามารดาได้เป็น แม่นมของพระองค์เจ้าจงกล พระธิดาของกรมพระราชวัง หลัง สุนทรภู่จึงเข้าไปอยู่ในวังกับมารดา ตอนยังเป็นเด็ก สุนทรภู่ได้เล่าเรียนที่วัดชีปะขาว (วัดศรีสุดาราม) โตขึ้นก็ เข้ารับราชการเป็นนายระวางพระคลังสวน ไม่นานก็ลา ออกเพราะไม่ชอบงานนี้ ชอบแต่การแต่งกลอน และแต่ง สักวาเท่านั้น ประวัติสุนทรภู่ 1
ต่อมาสุนทรภู่มีสัมพันธ์รักกับสาวชาววัง ชื่อ "จัน" จึง ถูกจองจำ ทั้งคู่ ครั้นพ้นโทษ แล้วก็ได้แต่งงานกัน และ ถวายตัวเป็นมหาดเล็กของพระองค์เจ้าปฐมวงศ์ พระโอรส ของพระราชวังหลัง สุนทรภู่มีบุตรชายกับจันชื่อพัด ชีวิตคู่ ของสุนทรภู่ไม่ราบรื่นเลยมักระหองระแหงกันเสมอ จนใน ที่สุดก็เลิกร้างกัน แล้วสุนทรภู่ก็ได้เข้ารับราชการกับ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (รัชกาลที่ 2) เป็น ที่โปรดปรานมากจดได้รับการแต่งตั้งให้เป็น ขุนสุนทร โวหาร เวลาที่ทรงพระราชนิพนธ์บทกลอนติดขัดก็มักให้ สุนทรภู่แต่งต่อให้ ระยะนี้เองสุนทรภู่ก็ได้ภรรยาใหม่ชื่อ "นิ่ม" มีบุตรด้วยกันชื่อ "ตาบ" นิ่มเสียชีวิตไปตั้งแต่ตาบยัง เล็กอยู่ 4 คราวหนึ่งสุนทรภู่เมาสุรา แล้วทำ ร้ายญาติผู้ใหญ่ จนบาดเจ็บจึงถูกจำ คุก ในระหว่างต้องโทษนี้เอง ที่สุนทรภู่ แต่งนิทานเรื่อง พระอภัยมณี เพื่อขายเอาเงินมาเลี้ยงชีวิต จำ คุกได้ไม่นานก็พ้นโทษออกมารับราชการตามเดิม 2
พอสิ้นรัชกาลที่ 2 สุนทรภู่ก็ออกจากราชการเพราะไม่เป็นที่ โปรดปรานของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 3) ออกจากราชการแล้วสุนทรภู่ก็บวชเป็นพระ ภิกษุอยู่ในวัดราชบูรณะ บวชได้ราว 3 พรรษา ก็ต้อง อธิกรณ์ (โทษ) ถูกขับไล่ออกจากวัดในข้อหาเสพสุรา จึงไป อยู่ที่วัดอรุณราชวราราม ไม่นานก็ย้ายไปที่วัดพระเชตุพน วิมลมังคลาราม วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษดิ์ และวัดสุดท้าย คือวัดเทพธิดาราม แล้วก็สึกออกมา รวมเวลาบวชเป็นพระ ภิกษุประมาณ 18-20 ปี จากนั้นก็ตกยากจนไม่มีบ้านอยู่ ต้องลอยเรือร่อนเร่แต่งกลอนขาย ปลายรัชกาลที่ 3 เจ้าฟ้ากรมขุนอิศเรศรังสรรค์โปรด ฯ ให้สุนทรภู่ไปอยู่ที่ราชวังของพระองค์ ครั้นได้รับสถาปนา เป็นพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ในสมัยรัชกาล พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4) ก็ โปรดเกล้าให้สุนทรภู่เข้ารับราชการเป็นเจ้ากรมอาลักษณ์ มีบรรดาศักดิ์เป็นพระสุนทรโวหาร รับราชการเพียง 5 ปีก็ ถึงแก่กรรม พ.ศ. 2398 รวมอายุได้ 69 ปี 3
ผลงานนิราศของสุนทรภู่ นิราศ คือ บทประพันธ์ที่แต่งขึ้นเพื่อบรรยายถึงสภาพ การเดินทาง ด้วยสมัยก่อนการเดินทางค่อนข้าง ลำ บากและ ใช้เวลานาน นักเดินทางจึงแก้ความเหงาเบื่อด้วยการ ประพันธ์บทกวี พรรณนาถึงการเดินทาง และสภาพ ภูมิประเทศ โดยมากมักโยงเข้ากับความรัก สมเด็จฯ กรม พระยาดำ รงราชานุภาพ ทรงอธิบายที่มาของนิราศไว้ ดังนี้: "หนังสือจำ พวกที่เรียกว่านิราศ เป็นบทกลอนแต่งเวลาไป ทางไกล มูลเหตุจะเกิดหนังสือชนิดนี้ขึ้น สันนิษฐานว่า คง เป็นเพราะเวลาเดินทาง ที่มักต้องไปเรือหลายๆ วันมีเวลา ว่างมาก ได้แต่นั่งๆ นอนๆ ไป จนเกิดเบื่อ ก็ต้องคิดหาอะไร ทำ แก้รำ คาญ ผู้สันทัดในทางวรรณคดี จึงแก้รำ คาญโดย ทางกระบวนคิดแต่ง บทกลอน บทกลอนแต่งในเวลาเดิน ทางเช่นนั้น ก็เป็นธรรมดาที่จะพรรณนาว่าด้วยสิ่งซึ่งได้ พบเห็นในระยะ ทาง แต่มักแต่งประกอบกับครวญคิดถึง คู่รักซึ่งต้องพรากทิ้งไว้ทางบ้านเรือน กระบวนความใน หนังสือนิราศ จึงเป็นทำ นองอย่างว่านี้ทั้งนั้น ชอบแต่งกันมา แต่ครั้งกรุงรัตนโกสินทร์...นิราศที่แต่งกันในชั้นกรุง รัตนโกสินทร์ แต่งทั้งเป็นโคลงแลเป็นกลอนสุภาพ ดูเหมือน กวีที่แต่งนิราศ สุนทรภู่มีประวัติและผลงานที่น่ายกย่อง 4
ในครั้งรัชกาลที่ 1 รัชกาลที่ 2 จะถือคติต่างกันเป็น ๒ พวก พวกหนึ่งถือคติเดิมว่า โคลงฉันท์เป็นของสำ คัญ และ แต่งยากกว่ากลอน กวีพวกนี้แต่งนิราศเป็นโคลงตามเยี่ยง อย่างศรีปราชญ์ทั้งนั้น กวีอีกพวกหนึ่งชอบ เพลงยาว อย่างเช่นเล่นกันเมื่อปลายสมัยกรุงศรีอยุธยา กวีพวกนี้ แต่งนิราศเป็นกลอนสุภาพทั้งนั้น ถ้าว่าเฉพาะที่เป็นกวีคน สำ คัญในพวกหลังนี้ คือสุนทรภู่แต่งนิราศเป็นกลอนสุภาพ มากเรื่องกว่าใครๆ หมด กลอนของ สุนทรภู่คนชอบอ่าน กันแพร่หลาย ก็ถือเอานิราศของสุนทรภู่เป็นแบบอย่าง แต่งนิราศกันต่อมา ตั้งแต่รัชกาล ที่ 3 จนถึงรัชกาลที่ 5 นิราศของสุนทรภู่ นอกจากจะพรรณนาการเดินทางแล้ว ท่านยังสอดแทรกคติธรรม ข้อเตือนใจต่างๆ และเปรียบ เทียบถึงชีวิตของตัวท่านเองเข้าไว้ด้วย ทำ ให้นักศึกษา งานของท่านสืบเสาะประวัติของท่านจาก งานนิพนธ์ของ ท่านเองได้มาก ท่านสุนทรภู่แต่งนิราศไว้มาก สุนทรภู่มีประวัติและผลงานที่น่ายกย่อง 5
แต่เท่าที่พบในปัจจุบันมี 8 เรื่อง คือ นิราศเมือง แกลง นิราศพระบาท นิราศภูเขาทอง นิราศวัดเจ้าฟ้า นิราศอิเหนา นิราศสุพรรณ นิราศพระประธม และนิราศ เมืองเพชร ส่วน รำ พันพิลาป ก็มีเนื้อความรำ พึงรำ พัน ทำ นองเดียวกับนิราศ เนื้อหาเกี่ยวกับชีวประวัติของท่าน สุนทรภู่เป็น ส่วนใหญ่ นอกเหนือจากนี้ ในช่วงเวลาที่ ท่านบวชเป็นพระนั้น ท่านได้ธุดงค์ไปทั่ว จึงเชื่อว่ายังมี นิราศ เรื่องอื่นของท่านที่ยังมิได้ค้นพบ หรืออาจไม่มีวัน ค้นพบก็ได้ เพราะต้นฉบับอาจถูกทำ ลายไปเสียแล้วเมื่อ ครั้งปลวกขึ้นกุฏิของท่านที่วัดเทพธิดาราม สุนทรภู่มีประวัติและผลงานที่น่ายกย่อง 6
ปี พ.ศ. 2385 พระสุนทรภู่จำ พรรษาอยู่ที่วัดเทพธิดา ราม ท่านได้ประพันธ์บทกลอนเชิงนิราศเรื่อง "รำ พันพิลาป" ขึ้น เนื่องจากเกิดนิมิตฝันอันเป็นลางร้าย ว่าจะต้องถึงแก่ ชีวิต ในฝันนั้นท่านว่าได้พบเห็นนางฟ้านางสวรรค์มากมาย รวมถึงนางมณีเมขลา มาชักชวนให้ท่านละชมพูทวีป แล้วไปอยู่สวรรค์ด้วยกัน เรื่องนางสวรรค์นี้ สมเด็จฯ กรม พระยาดำ รงราชานุภาพ ทรงมีพระวินิจฉัยว่าน่าจะหมาย ถึง กรมหมื่นฯ อัปสรสุดาเทพ นัยว่าท่านสุนทรภู่มีจิต พิศวาสอยู่ จะเป็นจริงเช่นไร ท่านผู้อ่านต้องลองอ่าน บทกลอนของท่านสุนทรภู่เอง สำ หรับข้าพเจ้าเองเห็นว่า น่า จะหมายถึงนางฟ้าจริงๆ มิได้มีความหมายอื่น สุนทรภู่มีประวัติและผลงานที่น่ายกย่อง ผลงานบทร้อยกรองของสุนทรภู่ 7
ด้วยท่อนหนึ่งในนิราศบทนี้ ท่านยังอ้อนวอนนาง มณีเมขลา ว่าให้แก้วแล้ว ขอประโยชน์โพธิญาณถึง พระนิพพานเถิด เช่นเดียวกับที่ท่านได้เคยแสดงความ ปรารถนาพุทธภูมิไว้ในนิราศหลายๆ เรื่องการเกิดฝัน เช่นนี้ เมื่อท่านตื่นขึ้นจึงได้รีบแต่ง "รำ พันพิลาป" นี้ขึ้น แสดงความในใจและประวัติชีวิตของท่านในหลายๆ ส่วน รวมถึงประเพณีเทศกาลต่างๆ ที่ได้ประสบพบ ผ่านมา ซึ่งในส่วนนี้เองทำ ให้เราทราบว่า ยังมีนิราศ ของท่านอีกหลายเรื่องที่ท่านแต่งไว้ 12 แต่เรายังไม่มี โอกาสได้อ่าน เพราะปลวกขึ้นกุฏิของท่าน ทำ ให้ ต้นฉบับบทกลอนที่มีค่ายิ่งสูญสลายไปอย่างน่า เสียดาย เว้นเสียแต่จะมีผู้พบต้นฉบับคัดลอกจากที่อื่น เมื่อข้าพเจ้าอ่าน "รำ พันพิลาป" จบ ข้าพเจ้าอยากให้ผู้คนทั้งหลายที่เคยคิดว่าสุนทร ภู่เป็นคนเจ้าชู้ สุนทรภู่เป็นคนขี้เมา ได้มาอ่านนิราศ เรื่องนี้ด้วย ตลอดช่วงชีวิต 69 ปีของท่าน ได้มีห้วง เวลาแห่งความรุ่งโรจน์ เมื่อครั้งรับราชการในรัชกาล พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย เพียง 8 ปี ช่วงเวลาที่เหลือในชีวิตของท่านเป็นเช่นไร ขอท่านได้ โปรดอ่าน "รำ พันพิลาป" จนจบ และตรองดูเถิด สุนทรภู่มีประวัติและผลงานที่น่ายกย่อง ผลงานบทร้อยกรองของสุนทรภู่ 8
โคบุตร กลายเป็นวรรณกรรมแบบฉบับที่นักแต่ง กลอนทั้งหลายถือเป็นครู นับได้ว่าโคบุตรมีส่วนสำ คัญยิ่งใน ประวัติวรรณคดีของชาติไทย"คุณวิเศษของท่านสุนทรภู่ที่ ทำ ให้นิทานของท่านโดดเด่นกว่านิทานเรื่องอื่นๆนอกจาก ในกระบวนกลอนที่สันทัดจัดเจนเป็นอย่างยิ่งแล้ว ความเป็น ปราชญ์ของท่านก็แสดงให้เห็นอย่างชัดแจ้งโดยการสอด แทรกคติทั้งทางพุทธทางพราหมณ์ ความรู้ในวรรณกรรม โบราณ คัมภีร์ไตรเพท และความรู้อันน่าอัศจรรย์เกี่ยวกับ ภูมิศาสตร์ของโลกซึ่งกาญจนาคพันธุ์ (ขุวิจิตรมาตรา) ได้ กล่าวไว้อย่างละเอียดน่าสนใจอย่างยิ่งใน "ภูมิศาสตร์สุนทร ภู่" มีการวิจารณ์กันว่า กลอนนิทานเรื่องลักษณวงศ์ และ สิงหไตรภพนั้นสำ นวนอ่อนกว่าเรื่องพระอภัยมณีมากนัก ไม่ น่าที่ท่านสุนทรภู่จะแต่งเรื่องพระอภัยมณีก่อน สุนทรภู่มีประวัติและผลงานที่น่ายกย่อง ผลงานนิทานของสุนทรภู่ 9
สุนทรภู่มีประวัติและผลงานที่น่ายกย่อง ผลงานนิทานของสุนทรภู่ นิทานของสุนทรภู่ มี5 เรื่อง ได้แก่ 1. เรื่องโคบุตร (8 เล่มสมุดไทย) 2. เรื่องพระอภัยมณี(94 เล่มสมุดไทย) 3. เรื่องพระไชยสุริยา (แต่งเป็นกาพย์) (1 เล่มสมุดไทย) 4. เรื่องลักษณวงศ์ (9 เล่มสมุดไทย มีแต่งต่ออีก 10 เล่ม ด้วยสำ นวนผู้อื่น) 5. เรื่องสิงหไตรภพ (15 เล่มสมุดไทย) 10
สุนทรภู่มีประวัติและผลงานที่น่ายกย่อง สุภาษิตสอนหญิงของสุนทรภู่ มี 3 เรื่อง ได้แก่ 1. สวัสดิรักษา 2. เพลงยาวถวายโอวาท 3. สุภาษิตสอนหญิง บทละครของสุนทรภู่มี 1 เรื่อง ได้แก่ 1. เรื่องอภัยนุราช บทเสภาของสุนทรภู่มี 2 เรื่อง ได้แก่ 1. เรื่องขุนช้างขุนแผน ตอนกำ เนิดพลายงาม 2. เรื่องพระราชพงศาวดาร (8 เล่มสมุดไทย) บทเห่กล่อมของสุนทรภู่มี4 เรื่อง ได้แก่ 1. เห่เรื่องจับระบำ 2. เห่เรื่องกากี 3. เห่เรื่องพระอภัยมณี 4. เห่เรื่องโคบุตร 11