โครงสร้างรายวิชาวิทยาการคำนวณ ม2 ปี 65

บนั ทึกข้อความ
สว่ นราชการ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๔๗ อำเภอชะอำ จังหวดั เพชรบรุ ี
ที…่ …………………………… วันที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๖๕
เร่อื ง ขออนมุ ัติใช้โครงสร้างรายวิชา

เรียน ผู้อำนวยการโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๔๗ จงั หวัดเพชรบรุ ี
ตามทีข่ า้ พเจ้านางสาวนฐั ชญา ไอเลยว์ า ตำแหนง่ พนกั งานราชการ ได้รบั มอบหมายให้รบั ผิดชอบ

รายวิชาวิทยาการคำนวณ รหัส วิชา ว๒๒๑๐๓ จำนวน ๐.๕ หน่วยกติ เวลาเรียน ๒๐ ชว่ั โมง / สปั ดาห์
ได้จดั ทำโครงสร้างในรายวิชาดงั กล่าว เพือ่ ประกอบการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในระดับชนั้
มัธยมศึกษาปีที่ ๒ ภาคเรียนที่ ๑ ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๕ เปน็ ทเี่ รียบรอ้ ยแล้ว

จึงเรยี นมาเพื่อโปรดอนุมตั ิ

ลงชือ่ ................................................
( นางสาวนัฐชญา ไอเลยว์ า )
ตำแหนง่ พนักงานราชการ

ความเหน็ ของรองผอู้ ำนวยการกลุ่มบรหิ ารงานวิชาการ / ผู้ที่ไดร้ ับมอบหมาย
ได้ตรวจสอบแผนการจดั การเรียนรู้ดงั กล่าวแล้ว พบว่า
ครบถ้วน ครอบคลมุ และสอดคลอ้ งตามหัวข้อ เนือ้ หา สาระมาตรฐานตวั ช้ีวัด / ผลการเรียนรู้
ควรปรบั ปรุง เพิม่ เตมิ หรือแก้ไข ดังนี้ …………………………………………………………………………………….

ลงชื่อ ................................................
( นายชาญยทุ ธ สุทธธิ รานนท์ )

รองผอู้ ำนวยการกลุ่มบรหิ ารงานวิชาการ
............/............./.............

เรียนเสนอเพือ่ โปรดพิจารณา ไมอ่ นมุ ตั ิ เนื่องจาก .......................................................
อนุมตั ิตามเสนอ ลงชือ่ .....................................................
( นายวีระ แก้วกลั ยา )

ผู้อำนวยการโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 47 จงั หวัดเพชรบุรี
............/............./.............

โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ ๔๗ จังหวดั เพชรบุรี
ประมวลรายวิชา ( Course Syllabus)

๑. รหัสวิชา ว ๒๒๑๐๓
๒. จำนวนหน่วยกติ ๐.๕
๓. ชื่อวิชา วิทยาการคำนวณ
๔.ระดบั ช้ัน มธั ยมศึกษาปีที่ ๒
๕. ภาคการศึกษา ภาคเรียนที่ ๑
๖. ปีการศึกษา ๒๕๖๕
๗. ชือ่ ผู้สอน นางสาวนัฐชญา ไอเลย์วา
๘. สถานภาพของวิชา วิชาพืน้ ฐาน
๙.จำนวนคาบต่อสัปดาห์ ๑ ช่วั โมง/สัปดาห์
๑๐. เวลาเรียน ๒๐ สัปดาห์/ภาคเรียน
๑๑. เนือ้ หาที่เรยี น ตามคำอธิบายรายวิชา

คำอธิบายรายวิชา

รหสั วิชา ว ๒๒๑๐๓ วิชาวิทยาการคำนวณ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละ

เทคโนโลยี ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ ๒ เวลา ๒๐ ช่วั โมง/ภาคเรยี น

ระบบคอมพิวเตอร์ หมายถึง การทำงานของคอมพิวเตอร์ที่มีส่วนต่างๆ มาทำงานรว่ มกัน เพื่อให้
บรรลุเป้าหมายในการทำงานอย่างมีระบบ ประกอบไปด้วยหนว่ ยตา่ ง ๆ ทำงานรว่ มกันอย่างเป็นระบบ คือ
หน่วยรับข้อมลู หนว่ ยประมวลผลกลาง หน่วยความจำหลกั หนว่ ยความจำสำรอง และหน่วยแสดงผลข้อมลู
และในปัจจบุ นั เทคโนโลยีด้านการสอ่ื สารได้เข้ามามีบทบาทตอ่ การดำรงชีวิตของมนุษยม์ ากข้ึน ซึ่ง
องคป์ ระกอบของการส่อื สารข้อมูลประกอบไปดว้ ยขอ้ มลู ขา่ วสาร ผู้สง่ สาร สอ่ื กลาง ผู้รบั สาร และ
โปรโตคอล นอกจากน้ันระบบเครอื ข่ายในปจั จุบนั ยังแบง่ เปน็ เครอื ขา่ ยสว่ นบุคคล เครอื ขา่ ยท้องถิ่น
เครอื ขา่ ยระดบั เมือง และเครอื ข่ายระดบั ประเทศ

เทคโนโลยีสารสนเทศได้เข้ามามีบทบาทกบั ชีวิตของผู้คนในหลากหลายดา้ น และถอื เปน็ เครือ่ งมือทีม่ ี
ความสำคญั อยา่ งยิ่งต่อการดำเนนิ ชีวิตของคนในสงั คมปจั จุบนั เมื่อเทคโนโลยีสารสนเทศไดร้ ับการพฒั นาให้
มีรูปแบบทีม่ ีความน่าสนใจและอยใู่ กลช้ ิดกับมนษุ ยม์ ากข้นึ เทคโนโลยีจงึ สร้างทั้งคุณประโยชน์และโทษให้กับ
ผู้ใช้ ท้ังโดยต้ังใจหรือไม่ตั้งใจ

ตวั ชีว้ ัด
ว ๔.๒ ม.๒/๑ ม.๒/๒

รวม ๒ ตัวชีว้ ดั



โครงสรา้ งรายวชิ า
( ชนั้ มัธยมศึกษาป

ปีการศึกษา ๒๕๖๕ กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาส

เวลาเรียน ๑ ชั่วโมง / สัปดา

หน่วยที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ แผนการจดั การ ตวั ช้ีวัด
เรียนรู้

1 เรื่องแนวคดิ เชิงคำนวณ 1.แผนท่ี 1 แนวคดิ เชิง ออกแบบอัลกอรทิ ึมทใ่ี ช้ แน

กบั การแกป้ ญั หา คำนวณ แนวคดิ เชิงคำนวณในการ เปน็
แกป้ ญั หาหรือการทำงานท่ี ขน้ั

พบในชวี ิตจรงิ กร

เขา้

สำ

เพร

คำ

ไมต่

มา

กา

2.แผนท่ี 2 ตัวอย่าง ออกแบบอัลกอรทิ ึมท่ใี ช้ แน

การแกป้ ัญหาโดยใช้ แนวคิดเชงิ คำนวณในการ ถกู

แนวคิดเชิงคำนวณ แก้ปญั หาหรือการทำงานที่ อย

พบในชีวิตจริง คว

กา

วทิ ยาการคำนวณ
ปีที่ ๒ ) ภาคเรียนที่ 1

สตรแ์ ละเทคโนโลยี เวลา ๒0 ช่วั โมง / ภาคเรียน

าห์ จำนวน 0.๑ หนว่ ยกิต

สาระสำคญั เวลา น้ำหนักคะแนน
(ชม.) K A P รวม

นวคิดเชงิ คำนวณ คอื แนวคิดในการแก้ปญั หาตา่ งๆ อยา่ ง ๒ ๓ ๓ ๔ ๑๐
นระบบ และเปน็ กระบวนการทม่ี ีลำดบั ๒ ๒ ๓ ๕ ๑๐
นตอนชัดเจน โดยกระบวนการแกป้ ญั หาดงั กล่าวนเี้ ป็น
ระบวนการทมี่ นษุ ย์ และคอมพวิ เตอร์ สามารถ
าใจรว่ มกันได้ ซึง่ แนวคดิ เชงิ คำนวณน้ีเปน็ แนวคดิ ท่ีสำคัญ
ำหรับการพัฒนาซอฟต์แวร์คอมพวิ เตอร์
ราะการเขียนโปรแกรมถา้ ไม่ได้เกิดขนึ้ จากแนวคดิ เชงิ
ำนวณ จะทำให้โปรแกรมคอมพิวเตอรท์ ำงานชา้
ตรงตามท่ีตอ้ งการ ดังนั้นจงึ ควรนำแนวคดิ เชงิ คำนวณเข้า
าใชใ้ นการแก้ปัญหาเพ่ือให้เกิดผลลพั ธ์ของ
ารแกป้ ญั หาทีม่ ีประสทิ ธิภาพ

นวคิดเชิงคำนวณเป็นกระบวนการท่มี ลี ำดบั ขนั้ ตอนชัดเจน
กนำมาใช้เพอื่ แก้ปญั หาตา่ ง ๆ ทีเ่ กดิ ข้ึนในชวี ิตประจำวนั
ย่างเปน็ ระบบ ไมว่ ่าจะเป็นปญั หาการเขา้ แถวตามลำดับ
วามสูงของนกั เรยี น หรอื ปญั หา
ารจดั เรยี งเส้ือผ้า

หนว่ ย ชือ่ หนว่ ยการเรยี นรู้ แผนการจัดการ ตัวชีว้ ัด
ที่ เรยี นรู้

2 เรือ่ งการออกแบบ 1.แผนที่ 1 การออกแบบ ออกแบบและเขียน กา

ขัน้ ตอนการทำงานดว้ ย ขนั้ ตอนการทำงานของ โปรแกรมที่ใชต้ รรกะและ ออ
การเขยี นโปรแกรมดว้ ย โปรแกรม ฟงั กช์ ันในการแก้ปัญหา ทำ
ภาษา Python กา

2.แผนท่ี 2 ตวั แปรภาษา ออกแบบและเขียน กา

ไพทอน โปรแกรมที่ใช้ตรรกะและ ชว่
ฟังก์ชันในการแกป้ ัญหา ที่ใ

ตา

3.แผนที่ 3 รหสั ควบคุม ออกแบบและเขยี น รห

รหัส รปู แบบข้อมลู และ โปรแกรมที่ใชต้ รรกะและ ตวั
ตัวดำเนนิ การในภาษา ฟังกช์ ันในการแกป้ ัญหา (Ba
ไพทอน คือ

แส

โป

ใน

ทา

ดำ

แผนที่ 4 การเขียน ออกแบบและเขียน ภา

โปรแกรมดว้ ยภาษาไพ โปรแกรมท่ใี ช้ตรรกะและ เหม
ทอน(Python)
ฟังกช์ นั ในการแกป้ ญั หา

ภา

สาระสำคัญ เวลา น้ำหนักคะแนน
(ชม.) K A P รวม

ารออกแบบขั้นตอนการทำงานของโปรแกรมหรอื การ ๒ ๒ ๔ ๔ ๑๐
อกแบบอัลกอริทมึ เปน็ การออกแบบลำดบั ขนั้ ตอนการ
ำงานของโปรแกรม ซง่ึ สามารถแบง่ ได้เป็น 3 ลกั ษณะ คอื

ารใชภ้ าษาธรรมชาติ การใช้รหัส จำลอง และการใชผ้ ังงาน

ารเขยี นโปรแกรมในภาษาไพทอนน้นั จะต้องใชต้ วั แปรมา ๒ ๓ ๔ ๓ ๑๐
วยในการเก็บข้อมลู ต่างๆ โดยตัวแปรเปรยี บเสมือนภาชนะ ๒ ๒ ๓ ๕ ๑๐
ใชเ้ ก็บข้อมลู และขอ้ มลู เหล่านน้ั สามารถเปลย่ี นแปลงได้
ามความตอ้ งการของผู้เขยี น ๒ ๓ ๒ ๕ ๑๐

หัสควบคุม คอื รหัสพเิ ศษท่ใี ช้ควบคมุ การแสดงผลของ
วอกั ษรออกมาทางจอภาพ ซ่ึงจะตอ้ งมี เครื่องหมาย \
ack-Slash) นำหนา้ เสมอ สว่ นการใชร้ หัสรปู แบบข้อมลู
อ รหัสท่ีใช้แทนชนิดของข้อมูล ซงึ่ ใช้รว่ มกบั คำสง่ั ในการ
สดงผลและคำสัง่ ในการรับขอ้ มูล นอกจากนน้ั ในการเขยี น
ปรแกรมภาษาไพทอน ยังมกี ารนำตวั ดำเนินการมาชว่ ย
นการคำนวณหรอื ประมวลผลต่างๆ ได้แก่ ตวั ดำเนนิ การ
างคณติ ศาสตร์ ตวั ดำเนินการสำหรับกำหนดค่า ตวั
ำเนินการเปรยี บเทยี บ และตัวดำเนินการตรรกะ

าษาไพทอนเปน็ ภาษาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ชนิดหนงึ่ ท่ี
มาะสำหรบั ผ้เู ร่มิ ตน้ เขียนโปรแกรม
ไปจนถงึ การประยกุ ตใ์ ช้งานในระดบั สงู เนอ่ื งจากเปน็
าษาท่ีมโี ครงสร้างและไวยากรณ์ค่อนข้างง่าย
ไม่ซับซอ้ น ทำให้งา่ ยตอ่ ความเข้าใจ

หน่วย ชือ่ หนว่ ยการเรยี นรู้ แผนการจัดการ ตัวชี้วดั สา
ที่ เรยี นรู้

2 เรือ่ งการออกแบบ แผนที่ 5 การใช้งาน ออกแบบและเขียน ฟัง
ฟงั กช์ ันในโปรแกรมไพ
ขัน้ ตอนการทำงานด้วย ทอน โปรแกรมทใ่ี ช้ตรรกะและ คอื
การเขียนโปรแกรมด้วย ฟงั กช์ ันในการแกป้ ญั หา
ภาษา Python แผนท่ี 6 โครงสรา้ งการ แป
ออกแบบและเขยี น โคร
ทำงาน แบบเรยี งลำดบั โปรแกรมท่ใี ช้ตรรกะและ โป

ฟังกช์ นั ในการแกป้ ญั หา ไป

รปู

กำ

แล

แผนท่ี 7 โครงสร้างการ ออกแบบและเขียน โคร
ทำงาน แบบเลอื กทำ โปรแกรมทีใ่ ชต้ รรกะและ ขอ

ฟังก์ชันในการแกป้ ัญหา ตร

Sin

Mu

รวม เวลา / คะแนน หน่วยการเรยี น

สอบวัดผลปลายภาคเรียน

รวมเวลาเรยี น / คะแนน ตลอดภาคเรยี

าระสำคัญ เวลา น้ำหนักคะแนน
(ชม.) K A P รวม

งกช์ นั ในโปรแกรมภาษาไพทอนแบ่งออกเปน็ 2 ประเภท ๒ ๒ ๔ ๔ ๑๐

อ ฟงั ก์ชนั คำส่งั แสดงผลทางหน้าจอ

หรอื ฟงั ก์ชัน print( ) และฟังก์ชันคำสง่ั รบั ข้อมูลทาง

ป้นพิมพ์ หรือฟงั ก์ชนั input( )

รงสรา้ งการทำงานแบบเรียงลำดบั เป็นลักษณะของ ๓ ๓ ๓ ๔ ๑๐

ปรแกรมทม่ี ีการทำงานเป็นลำดับขน้ั ตอน ไล่เรียงลำดับกนั

ปเป็นเหมอื นเสน้ ตรง ไม่มีการข้ามข้นั ตอนการทำงาน

ปแบบการทำงานของโปรแกรม มักจะเปน็ เพียงแค่การ

ำหนดคา่ รบั ค่า คำนวณหรอื ประมวลผลทไี่ ม่สลับซบั ซ้อน

ละแสดงผล

รงสรา้ งการทำงานแบบเลือกทำ เป็นลักษณะการทำงาน ๒ ๒ ๔ ๔ ๑๐

องโปรแกรมทต่ี ้องมีการตัดสินใจ หรือ ตอ้ งมีการพสิ จู น์

รวจสอบผ่านเงือ่ นไข แบง่ ออกเป็น 3 แบบ คือ แบบ

ngle Selection แบบ Double Selection และแบบ

ultiple Selection

๑๙ ๑๗ ๒๔ ๒๙ ๗๐

๑ ๓๐

ยน ๒๐ ๑๐๐

เกณฑก์ ารวัดและประเมนิ ผล

1. อัตราส่วนคะแนน หน่วยการเรียน : กลางปีการศึกษา : ปลายปกี ารศกึ ษา ( ๗๐ : ๓๐ )

รายละเอียดของการใหค้ ะแนน
1.1 คะแนนหนว่ ยการเรียน

- งานท่ีได้รับมอบหมาย ๓๕ คะแนน

- แบบฝึกทกั ษะ ๑๕ คะแนน

- พัฒนาการการเรียนรู้ ๒0 คะแนน

1.2 คะแนนสอบปลายภาค ๓๐ คะแนน

รวมคะแนนทั้งหมด 100 คะแนน

2. การคดิ คะแนน คะแนน 0 - 49 คะแนน

ระดับคะแนน 0 คะแนน 50 - 54 คะแนน
ระดับคะแนน 1
ระดบั คะแนน 1.5 คะแนน 55 - 59 คะแนน
ระดบั คะแนน 2
ระดบั คะแนน 2.5 คะแนน 60 - 64 คะแนน
ระดับคะแนน 3
ระดับคะแนน 3.5 คะแนน 65 - 69 คะแนน

ระดับคะแนน 4 คะแนน 70 - 74 คะแนน

คะแนน 75 - 79 คะแนน

คะแนน 80 - 100 คะแนน