The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

การพัฒนาบุคลิกภาพ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by , 2022-04-17 22:50:49

การพัฒนาบุคลิกภาพ

การพัฒนาบุคลิกภาพ

1

การพัฒนาบคุ ลกิ ภาพ

cr.www.freepik.com

2

การพัฒนาบคุ ลกิ ภาพ

1. ความหมายของบคุ ลกิ ภาพ
บคุ ลกิ ภาพ (Personality) มาจากรากศพั ทภ์ าษากรกี คอื Persona
(Per+Sonare) ซง่ึ หมายถงึ Mask ทแ่ี ปลวา่ หนา้ กากทต่ี วั ละคร ใชส้ วมใส่
ในการเลน่ เป็ น บทบาทแตกตา่ งกนั ไปตามทไ่ี ดร้ ับฮารด์ แมน (Hartman) ได ้
ใหค้ วามหมายของบคุ ลกิ ภาพวา่ หมายถงึ สว่ นรวม ทงั้ หมดทบี่ คุ คล
แสดงออกโดยกรยิ าอาการ ความนกึ คดิ อารมณ์ นสิ ยั ใจคอ ความสนใจ การ

ตดิ ตอ่ กบั ผอู ้ นื่ ตลอดจนรปู รา่ งหนา้ ตา การแตง่ กายและความสามารถในการ
อยรู่ วมกบั บคุ คล อนื่ เออรเ์ นส อาร.์ ฮลิ การด์ (Hilgard) กลา่ ววา่ บคุ ลกิ ภาพ
เป็ นลกั ษณะสว่ นรวมของบคุ คล และการแสดงออกของพฤตกิ รรม ซง่ึ ชใี้ ห ้
เห็นความเป็ นปัจเจกบคุ คล ในการปรับตวั ตอ่ สงิ่ แวดลอ้ ม รวมถงึ ลกั ษณะท่ี
สง่ ผลสกู่ ารตดิ ตอ่ สมั พันธก์ บั ผอู ้ น่ื ไดแ้ ก่ ความรสู ้ กึ นับถอื ตนเอง ความ
สามารถ แรงจงู ใจปฏกิ ริ ยิ าในการเกดิ อารมณ์ และลกั ษณะนสิ ยั ทสี่ ะสมจาก
ประสบการณช์ วี ติ อลั ชลี แจม่ เจรญิ ใหค้ วามหมายวา่ บคุ ลกิ ภาพ หมายถงึ
ลกั ษณะสว่ นรวม ของบคุ คลทงั้ หมดทแี่ สดงออกมาปรากฎ ใหค้ นอน่ื ไดร้ ไู ้ ด ้
เห็น ซงึ่ แตกตา่ งกนั เพราะภาวะ สงิ่ แวดลอ้ มทส่ี รา้ งตวั บคุ คลนัน้ แตกตา่ งกนั

ประการหนง่ึ และพันธกุ รรม ทแี่ ตล่ ะบคุ คล ไดม้ าก็ แตกตา่ งกนั ไปอกี ประการ
หนงึ่ (อลั ชลี แจม่ เจรญิ ,2530)
จากความหมายของ "บคุ ลกิ ภาพ" สรปุ ไดว้ า่ บคุ ลกิ ภาพ หมายถงึ ลกั ษณะตวั
บคุ คล โดยสว่ นรวม ทงั้ ลกั ษณะทางกาย รปู รา่ งหนา้ ตากริ ยิ าทา่ ทาง นาํ้ เสยี ง

คําพดู ความสามารถ ทางสมองทกั ษะการท กจิ กรรมตา่ งๆ และลกั ษณะทาง
จติ ความรสู ้ กึ นกึ คดิ เจตคตคิ า่ นยิ ม ความสนใจ ความมงุ่ หวงั อดุ มคติ
เป้าหมาย ความสามารถในการปรับตวั ใหเ้ ขา้ กบั สงิ่ แวดลอ้ มของแตล่ ะคน

3

2. ความสําคญั ของบคุ ลกิ ภาพ
บคุ ลกิ ภาพของแตล่ ะคนเป็ นสงิ่ ประจําตวั ของคนทที่ ําใหแ้ ตกตา่ งจากคนอน่ื
แตล่ ะคน มบี คุ ลกิ ภาพเป็ นของตวั เอง ซง่ึ เป็ นผลมาจากการ
ทํางานประสานกนั ของสมองทข่ี น้ึ อยกู่ บั พันธกุ รรมและประสบการณท์ ไี่ ดร้ ับจ
ากสงิ่ แวดลอ้ มโดยทวั่ ไปบคุ ลกิ ภาพมคี วามสําคญั ตอ่ บคุ คลดงั นี้

2.1 ประสทิ ธภิ าพการปฏบิ ตั งิ าน ถา้ บคุ คลมแี รงจงู ใจใฝ่ สมั ฤทธสิ์ งู จะเป็ นแรง
พลงั กระตนุ ้ ใหม้ านะพยายาม ดําเนนิ งานสคู่ วามสําเร็จ
ทําใหบ้ คุ คลมคี วามอดทน ตอ่ สบู ้ าก บน่ั ใชค้ วามสามารถลงทนุ ลงแรง สนใจ
ใฝ่ รใู ้ นทกุ สงิ่ ทเี่ กย่ี วขอ้ งเพอื่ พัฒนางานให ้ เจรญิ กา้ วหนา้ แตถ่ า้ บคุ คลมแี รง
จงู ใจใฝ่ สมั ฤทธต์ิ ่ำ กจ็ ะลงทนุ ลงแรงนอ้ ยเพอ่ื ใหง้ านบรรลุ เป้าหมายนอ้ ยลง
ไป ทําใหง้ านขาดประสทิ ธภิ าพ

2.2 กําหนดทศิ ทางการดําเนนิ งาน ไดแ้ ก่ ความคดิ รเิ รม่ิ กลา้ ไดก้ ลา้ เสยี
1) บคุ คลมคี วามคดิ รเิ รม่ิ สรา้ งสรรคส์ งู มกั ดําเนนิ งานโดยคดิ คน้ ความแปลก
ใหมใ่ หก้ บั ผลผลติ หรอื การใหบ้ รกิ ารรวมทงั้ การใชก้ ลยทุ ธห์ ลากหลายเพอื่
การตลาดและการ
โฆษณาประชาสมั พันธเ์ พอ่ื เอาชนะคแู่ ขง่ ขนั และ
ดํารงงานใหค้ งอยหู่ รอื กา้ วหนา้ ตอ่ ไป

2) บคุ ลกิ ภาพแบบกลา้ ไดก้ ลา้ เสยี บคุ คลนมี้ กั จะยอมลงทนุ เสยี่ ง กลา้ เผชญิ
กบั ความลม้ เหลว เพราะถา้ ไดก้ จ็ ะไดม้ ากจนขนั้ พลกิ ผันชวี ติ ของตนเองได ้
3) บคุ คลทมี่ คี วามระมดั ระวงั รอบคอบสงู มกั จะไมล่ งทนุ กบั สง่ิ ทไี่ มแ่ น่นอน
และจะทํางานประเภททก่ี า้ วไดเ้ รอื่ ยๆ คอื กา้ วชา้ แตต่ นเองรสู ้ กึ วา่ มนั่ คง

2.3 ความน่าเชอื่ ถอื บคุ ลกิ ภาพบางดา้ น เชน่ บคุ คลทร่ี ักษาคําพดู อารมณ์
มน่ั คง มเี หตผุ ลวางตนไดถ้ กู ตอ้ งตามกาลเทศะ มนี าํ้ ใจ
ทําอะไรโดยนกึ ถงึ ใจเขาใจเรา เป็ นตน้ ถา้ เป็ นหวั หนา้ กจ็ ะเป็ นทยี่ อมรับของ
ลกู นอ้ ง เป็ นมติ รทดี่ ี และสรา้ งความรสู ้ กึ ไวว้ างใจใหแ้ ก่ ลกู คา้ ได ้ แตถ่ า้ บคุ คล
มลี กั ษณะไมน่ ่าเชอื่ ถอื มกั เกดิ ปัญหาอปุ สรรคในการดําเนนิ งาน ผอู ้ นื่ อาจไม่
ไวว้ างใจ ไมเ่ ชอ่ื ถอื ศรัทธา ไมย่ อมรับไมร่ ว่ มงานดว้ ย ซง่ึ อาจสรา้ งความ
เสยี หายใหก้ บั งานได ้ เป็ นตน้ (อลั ชลี แจม่ เจรญิ ,2530)

4

3. องคป์ ระกอบของบคุ ลกิ ภาพ
บคุ ลกิ ภาพเป็ นภาพรวมทตี่ วั เราแสดงออกทงั้ ทรี่ ตู ้ วั และไมร่ ตู ้ วั โดยมคี นอนื่
มองอยู่ หรอื รสู ้ กึ กบั สง่ิ ทเ่ี ราแสดงออก ดงั นัน้ จงึ ตอ้ งมกี ารระมดั ระวงั และ
ตกแตง่ เสรมิ เตมิ ให ้ บคุ ลกิ ภาพของเรายงิ่ น่ามอง และเป็ นทปี่ ระทบั ใจของคน
รอบตวั องคป์ ระกอบของบคุ ลกิ ภาพ ทจี่ ะกลา่ วถงึ ในทนี่ ป้ี ระกอบดว้ ย 4
องคป์ ระกอบ ไดแ้ ก่ บคุ ลกิ ภาพทางกาย บคุ ลกิ ภาพทาง อารมณแ์ ละ
จติ วทิ ยา บคุ ลกิ ภาพทางสงั คม และบคุ ลกิ ภาพทางสตปิ ัญญา

3.1 บคุ ลกิ ภาพทางกาย หมายถงึ รปู ลกั ษณภ์ ายนอกของบคุ ล เพราะเป็ นสงิ่
แรก ทปี่ รากฏแกส่ ายตาผคู ้ น ดงั นัน้ ความสะอาดของรา่ งกายกายทเ่ี รยี บรอ้ ย
เหมาะสมกบั ตําแหน่ง วยั และสถานการณ์ ทงั้ สองสว่ นนจ้ี ะเป็ นตวั สอื่ สารให ้
คนภายนอกรจู ้ ักตวั คณุ เอง ไมว่ า่ จะเป็ น ระดบั การศกึ ษา ฐานะ ตําแหน่ง ฯลฯ

3.2 บคุ ลกิ ภาพทางอารมณแ์ ละจติ วทิ ยา หมายถงึ อารมณเ์ ป็ นสงิ่ ทแ่ี สดงให ้
คน รจู ้ ักเราไดอ้ ยา่ งชดั เจน ผนู ้ ําทม่ี บี คุ ลกิ ภาพดตี อ้ งมคี วามมนั่ คงทางอารมณ์
ทนตอ่ ความกดดนั ได ้ ระงับอารมณโ์ กรธไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว ไมห่ งดุ หงดิ บน่ วา่
ตลอดเวลา ตอ้ งกลา้ เผชญิ อปุ สรรค อยา่ งไมย่ อ่ ทอ้ เคารพสทิ ธผิ อู ้ น่ื รับฟัง
ความคดิ เห็นของผอู ้ นื่ และตอ้ งมจี ติ วทิ ยาในการพดู พดู จาชมเชย โนม้ นา้ ว
จงู ใจใหค้ นทํางานเพอื่ ความเจรญิ กา้ วหนา้ ของหน่วยงานได ้ รวมทงั้ ไมตรี
จติ ใจทจ่ี ะสง่ เสรมิ ความกา้ วหนา้ ดว้ ย

3.3 บคุ ลกิ ภาพทางสงั คม หมายถงึ ความเป็ นผู ้
นําในการศกึ ษาหาความรใู ้ นพธิ ี การตา่ งๆตามบรรทดั ฐาน (Norms) ของ
สงั คมเพอื่ จะไดป้ ฏบิ ตั ติ ามมารยาทสากลไดอ้ ยา่ ง ถกู ตอ้ ง สามารถเป็ น
ตวั อยา่ งใหค้ ําแนะนําแกผ่ ใู ้ ตบ้ งั คบั บญั ชา

5

3.4 บคุ ลกิ ภาพทางสตปิ ัญญา หมายถงึ ความรอบรแู ้ ละมองการณไ์ กลเป็ นสง่ิ
สําคญั กบั ผทู ้ อ่ี ยใู่ นสถานะ“ผบู ้ รหิ าร”ผบู ้ รหิ ารทม่ี บี คุ ลกิ ภาพทด่ี จี ะตอ้ งมคี วาม
คดิ รเิ รมิ่ สรา้ งสรรคพ์ อทจี่ ะเป็ นผนู ้ ํากลมุ่ ได ้ สามารถสรา้ งสงิ่ ทกี่ อ่ ใหเ้ กดิ
ประโยชนต์ อ่ องคก์ รได ้ อกี ทงั้ การมบี คุ ลกิ ภาพทด่ี ที างสตปิ ัญญาจงึ เป็ นสงิ่
สําคญั รองลงมาคอื การแตง่
แนวทางการพัฒนาบคุ ลกิ ภาพ
บคุ ลกิ ภาพของบคุ คล สามารถพัฒนาเปลย่ี นแปลงไดต้ ามบทบาท และอาชพี
ที่ ดําเนนิ การอยกู่ ารพัฒนาบคุ ลกิ ภาพในการทํางาน ทนี่ จ้ี ะกลา่ วถงึ การ
พัฒนาบคุ ลกิ ภาพ โดยทว่ั ไปและบคุ ลกิ ภาพดา้ นความเป็ นผใู ้ หญ่ ซง่ึ มี
แนวทางการพัฒนา ดงั ตอ่ ไปนี้

1. การพัฒนาบคุ ลกิ ภาพโดยทว่ั ไป

1.1 การพัฒนาบคุ ลกิ ภาพทางกาย ควรใชเ้ ครอื่ งแตง่ กายทส่ี ะอาดเรยี บรอ้ ย
ให ้ เหมาะสมกบั รปู รา่ งของตน ไมฟ่ ่ ฟู ่ าหรอื นามยั จนเกนิ ไป บคุ ลกิ ภาพทาง
กายเป็ นสง่ิ ประทบั ใจ ครัง้ แรกนอกจากการดแู ลตนเอง เรอ่ื งการแตง่ กายและ
ความสะอาด ควรตรวจสอบตนเอง เกยี่ วกบั ภาษาและกริ ยิ าทา่ ทาง

1.2 การพัฒนาบคุ ลกิ ภาพทางสตปิ ัญญา ความรสู ้ กึ นกึ คดิ เจตคติ และความ
สนใจเมอื่ บคุ คลคดิ วา่ ตนเองมคี วามสามารถดา้ นใดเป็ นพเิ ศษกพ็ ัฒนาดา้ นนัน้
รวมทงั้ สะสม ความรอบรหู ้ รอื ความสนใจดา้ นอนื่ ๆ ดว้ ย เชน่ มสี ว่ นรว่ มในการ
ทํางานของสโมสร สมาคมและองคก์ ารตา่ งๆ รว่ มในการกฬี าการละเลน่ หรอื
ในกจิ กรรมตา่ งๆเป็ นตน้ เพราะจะทําใหม้ ี ความคดิ และความสนใจทกี่ วา้ งขน้ึ
ทําใหม้ เี พอื่ นใหมเ่ พมิ่ ความมนั่ ใจในตนเอง

1.3 การพัฒนาบคุ ลกิ ภาพทางอารมณ์ วธิ กี ารทดี่ กี ค็ อื ไมป่ ลอ่ ยใหม้ อี ารมณ์
พลงุ่ พลา่ นเพราะจะทําใหบ้ คุ คลกา้ วรา้ วหยาบคายตอ่ เพอ่ื นรว่ มงาน ตอ่ ผู ้
บรหิ าร ลกู คา้ และบคุ คล ทว่ั ไป หรอื แมแ้ ตก่ ารแสดงออกซง่ึ ความรัก
ความชอบกค็ วรจะสํารวมใหอ้ ยใู่ นระดบั ทพี่ อดใี ห ้ เป็ นทยี่ อมรับของบคุ คล
ทวั่ ไป

6

1.4 การพัฒนาบคุ ลกิ ภาพทางสงั คม ปัจจัยเบอื้ งตน้ ทจ่ี งู ใจ ใหบ้ คุ คลอนื่ ๆ
อยาก คบหาสมาคมดว้ ย เชน่ กริ ยิ าทา่ ทาง นา้ํ เสยี ง ภาษาพดู การแตง่ กาย
และการวางตน เป็ นตน้ ปัจจัยทจี่ ะ
ทําใหม้ ติ รภาพยงั่ ยนื มาจากคณุ สมบตั ทิ อี่ ยภู่ ายในตวั บคุ คล เชน่ นาํ้ ใจทใี่ หผ้ ู ้
อน่ื ความไมเ่ ห็นแกต่ วั ความซอื่ สตั ย์ ความบรสิ ทุ ธใ์ิ จ การรจู ้ ักใจเขาใจเรา
ความเป็ นคนตรงตอ่ เวลา เป็ นตน้ ซง่ึ สงิ่ เหลา่ นบ้ี คุ คลควบคมุ ตนเองให ้
ประพฤตปิ ฏบิ ตั ไิ ด ้ และเมอื่ ทําไปนานๆ ก็ จะเกดิ ความเคยชนิ และกลายเป็ น
ลกั ษณะประจําตวั

2. การเสรมิ สรา้ งบคุ ลกิ ภาพ

2.1 การมองตอ้ งพยายามใชส้ ายตาดว้ ยความสภุ าพเรยี บรอ้ ย เพราะสายตา
สามารถบอกถงึ ความรัก ความเกลยี ดชงั ความเมตตาปรานี ความโกรธแคน้
ความเคารพนับ ถอื หรอื ความเหยยี ดหยาม ดหู มนิ่ ดแู คลนไดร้ ะวงั ในการใช ้
สายตาอยา่ ใหเ้ กดิ ความเขา้ ใจผดิ หรอื รสู ้ กึ ตดิ ลบได

2.2 การแตง่ กาย ตอ้ งคํานงึ ถงึ ความสะอาดเรยี บรอ้ ย ทกุ ครัง้ ทเี่ ลอื กเครอื่ ง
แตง่ กายหรอื กําลงั จะแตง่ กาย ถกู ตอ้ งและเหมาะสมกบั กาลเทศะ แตง่ กาย
ใหพ้ อดี อยา่ ใหม้ าก เกนิ ไปหรอื นอ้ ยเกนิ ไป

2.3 การพดู ศลิ ปะในการพดู ตอ้ งพดู ใหช้ นะใจผฟู ้ ัง ใชค้ ําพดู ทม่ี เี หตผุ ล
สภุ าพ ไพเราะมนี า้ํ เสยี งชวนฟัง เสยี งดงั ฟังชดั ฉะฉาน และใช ้
คําพดู ทเี่ หมาะสมกบั ผฟู ้ ังโดยคํานงึ ถงึ เพศ อายุ ระดบั การศกึ ษา อาชพี
ความสนใจพเิ ศษของผฟู ้ ัง สถานท่ี เวลา และโอกาสเพราะ การแตง่ กายบง่
บอกความพถิ พี ถิ นั และเอาใจใสต่ วั เอง ชว่ ยทําใหด้ ดู หี รอื ดแู ยไ่ ด ้

2.4 การเดนิ เดนิ ใหม้ ที า่ ทางสงา่ และเรยี บรอ้ ย โดยเดนิ ใหต้ วั ตรง อกผาย
ไหลผ่ งึ่ เพอ่ื ใหด้ สู งา่ เวลาเดนิ ใหก้ า้ วเทา้ ยาวพอประมาณและสอดคลอ้ งกบั
เสอ้ื ผา้ หรอื รองเทา้ ทสี่ วม ใส่ วา่ กา้ วแคไ่ หนจงึ ดคู ลอ่ งแคลว่ และปลอดภยั

7

ตอ้ งระมดั ระวงั ไมใ่ หเ้ กดิ เสยี งดงั จนเกนิ ไป เพราะเสยี งฝี เทา้ จะไปรบกวนผอู ้ น่ื
ไมเ่ ดนิ ผา่ กลางผอู ้ นื่ ทย่ี นื สนทนากนั 2.5 การแสดงทา่ ทางใหเ้ ป็ นธรรมชาติ
สงา่ ทา่ ทางทดี่ จี ะตอ้ งมาจากพนื้ ฐานของ ความสงบ
สํารวมใหเ้ กยี รตทิ งั้ แกต่ นเองและผอู ้ น่ื ควรมที า่ ทางประกอบเพอื่ ใหด้ ู
ผอ่ นคลาย และเสรมิ ในสง่ิ ทพี่ ดู หรอื เลา่ ตอ้ งระวงั ทา่ ทางทไ่ี มส่ วยงาม เวลา
พดู หรอื ทําอะไรกต็ าม อยา่ มี การแสดงทา่ ประกอบมากเกนิ ไปจนน่าเกลยี ด
หรอื แสดงทา่ ทไ่ี มส่ ภุ าพ

2.6 การทํางาน ตอ้ งทําดว้ ยทา่ ทางคลอ่ งแคลว่ ดว้ ยความ
ชาํ นาญและใหไ้ ดผ้ ล งานดเี ดน่ ทําดว้ ยความมงุ่ มน่ั ตงั้ ใจ อยา่ ใหน้ อ้ ยไปกวา่
ความสามารถทเี่ รามหี รอื ทําไดค้ วามน่า ชนื่ ใจของผรู ้ ว่ มงานหรอื หวั หนา้ งาน
ทกุ คนกค็ อื การมเี พอื่ นรว่ มงานหรอื ลกู นอ้ งทท่ี ํางาน"เต็ม ความสามารถ"อยู่
ตลอดเวลาน่ันคอื บคุ ลกิ แหง่ ความสําเร็จ

2.7 การรักษาสขุ ภาพรา่ งกาย ตอ้ งระวงั สขุ ภาพใหด้ อี ยา่ ใหม้ โี รค ผทู ้ ปี่ ่ วย
ออดๆ แอดๆจะดเู ป็ นคนขโี้ รค ซงึ่ น่าเป็ นหว่ งมากกวา่ น่าชนื่ ชม ดอู อ่ นแอ ไม่
คลอ่ งแคลว่ โรคบางโรค สง่ ผลถงึ ความซดี เซยี ว หอ่ เหยี่ ว หมน่ หมอง จงึ ขาด
สงา่ ราศกี ารดแู ลสขุ ภาพใหด้ คี อื ตน้ ทนุ ของ การพัฒนาบคุ ลกิ ภาพที่
สําคญั ทส่ี ดุ

3.การพัฒนาบคุ ลกิ ภาพในการพดู
ในการพดู นัน้ ผพู ้ ดู จําเป็ นตอ้ งแสดงออกถงึ บคุ ลกิ ภาพของตนเอง อนั ไดแ้ ก่
การแตง่ กาย การใชภ้ าษา การใชน้ าํ้ เสยี ง การใชส้ ายตา การแสดงออกทาง
สหี นา้ อากปั กริ ยิ าทา่ ทาง ปฏภิ าณไหวพรบิ ความจํา อารมณข์ นั ฯลฯ สงิ่
เหลา่ นเ้ี ป็ นเสมอื นเครอื่ งมอื ในการสอ่ื ความรู ้ ความคดิ ตลอดจน ความรสู ้ กึ ไป
ยงั ผฟู ้ ัง นักพดู ทด่ี จี งึ จําเป็ นตอ้ งสํารวจบคุ ลกิ ภาพของตนวา่ มี อะไรเดน่ อะไร
ตอ้ ย พยายาม รักษาบคุ ลกิ ภาพสว่ นทด่ี ใี หค้ งอยตู่ ลอดไป บคุ ลกิ ภาพสว่ นใด
ดอ้ ยกพ็ ยายามปรับปรงุ แกไ้ ขดงั ที่ ทนิ วฒั น์ มฤคพทิ กั ษ์ กลา่ วไวว้ า่
“บคุ ลกิ ภาพเป็ นสมบตั ิ เฉพาะตวั ของบคุ คล ยงั ไมเ่ คยมี ใครมบี คุ ลกิ ภาพ
เหมอื นกนั ทกุ ประการ บคุ ลกิ ภาพทด่ี ที สี่ ดุ ไม่ มี มแี ตว่ า่ จะ
ทําใหบ้ คุ ลกิ ภาพดขี นึ้ ได ้ อยา่ งไร”บคุ ลกิ ภาพ แบง่ ออกเป็ น 2 ลกั ษณะ ดงั น้ี
คอื

3.1 บคุ ลกิ ภาพภายนอก ไดแ้ ก่ ลกั ษณะเฉพาะของบคุ คลใดบคุ คลหนงึ่ ที่
สงั เกตเห็นไดช้ ดั สามารถสมั ผัสดว้ ย ประสาททงั้ 5 คอื ตา หู จมกู ลนิ้ กาย

8

เมอื่ ผพู ้ ดู ปรากฏ กายตอ่ หนา้ ผฟู ้ ัง บคุ ลกิ ภาพภายนอกจะแสดงออกใหผ้ ฟู ้ ัง
สมั ผัสได ้ ไดแ้ กล่ กั ษณะตา่ งๆ ดงั นี้

1) รปู รา่ งหนา้ ตาของผพู ้ ดู ไดแ้ ก่ รปู โฉมโนมพรรณของผพู ้ ดู แตล่ ะคนทม่ี ี
ลกั ษณะ ตา่ งจากคนอนื่ เชน่ เคา้ หนา้ เป็ นอยา่ งไร ลกั ษณะสงู ตาํ่ ดําขาว อว้ น
ผอม เป็ นตน้ ผู ้ พดู ทมี่ รี ปู รา่ ง หนา้ ตาดจี ะชว่ ยดงึ ดดู ความสนใจของผฟู ้ ังไดด้ ี
กวา่ ผพู ้ ดู ทม่ี รี ปู รา่ งหนา้ ไมด่ ี แต่ ทงั้ นไ้ี มไ่ ดห้ มายความ วา่ ผพู ้ ดู คนนัน้ จะไดร้ ับ
ความสนใจจากผฟู ้ ังดเี สมอตลอดไป หากพดู ไมด่ หี รอื บคุ ลกิ ดา้ นอน่ื ดอ้ ย ก็
อาจ ดงึ ดดู ความสนใจของผฟู ้ ังสผู ้ ทู ้ มี่ คี วามสามารถทางการพดู ดา้ น
อน่ื ไมไ่ ด ้

2) การแตง่ กาย เป็ นบคุ ลกิ ภาพทสี่ ําคญั อยา่ งหนงึ่ ชว่ ยใหผ้ พู ้ ดู มเี สน่ห์ ชวน
มอง การแตง่ กายสภุ าพ ถกู ตามกาลเทศะและวฒั นธรรมอนั ดงี าม จะ
ทําใหผ้ ฟู ้ ังเลอื่ มใส ศรัทธา อยากพดู และสมาคมดว้ ย ผแู ้ ตง่ กายดี หมายถงึ
แตง่ ดว้ ยเสอ้ื ผา้ ทส่ี ะอาดเรยี บรอ้ ย ไม่ คบั ไมห่ ลวมจนเกนิ ไป ทรงผมสภุ าพ
ตามสมยั นยิ ม ไมท่ นั สมยั จนเกนิ ไป

3) การปรากฏตวั เป็ นเครอ่ื งแสดงถงึ บคุ ลกิ ภาพสําคญั อยา่ งหนงึ่ ของผพู ้ ดู ให ้
ปรากฏ ออกมา ถา้ ผพู ้ ดู ปรากฏตวั ตอ่ หนา้ ผฟู ้ ังอยา่ งปกติ ไมล่ กุ ลลี้ กุ ลน ไม่
เกร็ง ไมเ่ ครยี ด ยนื หรอื น่ังใน ทา่ ปกติ อยใู่ นอาการเป็ นธรรมชาติ
ทําจติ ใจใหป้ กตเิ หมอื นกําลงั สนทากบั เพอ่ื น หรอื ผทู ้ ค่ี นุ ้ เคย ไมแ่ สดง อาการ
ประหมา่ ผพู ้ ดู ควรวางตวั ใหเ้ ป็ นปกติ สงบเสงย่ี มกจ็ ะทําให ้ ผฟู ้ ังเกดิ ความ
เลอื่ มใสศรัทธาได ้

4) สหี นา้ และสายตา ในขณะทพี่ ดู ผฟู ้ ังยอ่ มเห็นและมองหนา้ ผพู ้ ดู ไปดว้ ย ผู ้
พดู ควร วางสหี นา้ ใหส้ ดชนื่ อยเู่ สมอ เพอ่ื แสดงใหเ้ ห็นวา่ ยนิ ดที ไ่ี ดม้ าพดู กบั ผู ้
ฟังทกุ คน การมอง ควรกวาดสายตา มองผฟู ้ ังใหท้ วั่ ถงึ เพอื่ ใหผ้ ฟู ้ ังรสู ้ กึ วา่ ผู ้
พดู กําลงั พดู กบั ตนอยตู่ ลอดเวลา การ ใชส้ ายตามองผฟู ้ ัง จะชว่ ยให ้ ผพู ้ ดู รู ้
ปฏกิ ริ ยิ าของผฟู ้ ังทมี่ ตี อ่ ผพู ้ ดู ดว้ ย เพอ่ื จะไดป้ รับการพดู ให ้ สอดคลอ้ ง
เหมาะสมกบั สถานการณไ์ ดด้ ี

5) การใชท้ า่ ทางประกอบการพดู กริ ยิ าทา่ ทางประกอบการพดู มผี ลตอ่ การ
สอื่ ความหมายมาก เป็ นสงิ่ ทชี่ ว่ ยใหผ้ ฟู ้ ังเขา้ ใจความหมายงา่ ยขนึ้ และ

9

ทําใหก้ ารพดู ไมน่ ่าเบอื่ หน่าย ผพู ้ ดู ควรเคลอื่ นไหวและแสดงทา่ ทาง
ประกอบพอสมควร โดยใชอ้ วยั วะ เชน่ ศรี ษะ สี หนา้ แขน มอื นว้ิ ลําตวั
อยา่ งกลมกลนื และเป็ นธรรมชาติ

6) การใชน้ าํ้ เสยี ง เสยี งและนาํ้ เสยี งเป็ นบคุ ลกิ ภาพสําคญั ประการหนงึ่ ของผู ้
พดู การพดู โดยใชน้ า้ํ เสยี งทเ่ี หมาะสม เสยี งดงั พอเหมาะกบั จํานวนผฟู ้ ัง เนน้
เสยี งในตอนที่ ควรเนน้ เบาในตอนทค่ี วรเบา ไมพ่ ดู เสยี งระดบั เดยี วกนั ตลอด
ไมพ่ ดู เร็วหรอื ชา้ จนเกนิ ไป ทํา นา้ํ เสยี งใหก้ ระฉับกระเฉง ออกเสยี งถกู ตอ้ ง
ชดั เจนจะชว่ ยใหผ้ ฟู ้ ังสนใจและตดิ ตามเรอ่ื งทพ่ี ดู ไปโดยตลอด

7) การใชถ้ อ้ ยคําภาษา การใชถ้ อ้ ยคําภาษาเป็ นสอ่ื สําคญั ประการหนงึ่ ใน การ
พดู ผพู ้ ดู ควรใชถ้ อ้ ยคําสภุ าพ เหมาะสมกบั เรอ่ื งทพี่ ดู และผฟู ้ ัง ใช ้
คําทผ่ี ฟู ้ ังสามารถรับรู ้ และเขา้ ใจได ้ ใช ้ถอ้ ยคํารัดกมุ ไมใ่ ชค้ ําพดู กํากวม
หลายแงห่ ลายสรปุ ไดว้ า่ บคุ ลกิ ภาพภายนอก เป็ นทสี่ งั เกตไดช้ ดั ผฟู ้ ังรับรไู ้ ด ้
งา่ ย บางอยา่ งเพยี งปรากฏตวั ตอ่ หนา้ ผฟู ้ ังก็
ทําใหผ้ ฟู ้ ังรับรบู ้ คุ ลกิ ภาพของผพู ้ ดู ไดแ้ ลว้ การแกไ้ ขปรับปรงุ กส็ ามารถ
ทําไดไ้ มย่ าก จนเกนิ ไป เพยี งใชเ้ วลาฝึกฝนกส็ ามารถแกไ้ ขได ้ และสามารถ
วดั ผลไดง้ า่ ย

3.2 บคุ ลกิ ภาพภายใน ไดแ้ ก่ ลกั ษณะของบคุ คลใดบคุ คลหนง่ึ ซง่ึ ประ
จําอยใู่ นตวั จนกลาย เป็ นอปุ นสิ ยั ประจําของบคุ คลนัน้ บคุ ลกิ ภาพภายในไม่
สามารถมองเห็นไดง้ า่ ยอยา่ ง บคุ ลกิ ภาพภายนอก สมั ผัสไดย้ ากแตเ่ มอื่ อยู่
รว่ มกนั นานๆจงึ จะคอ่ ยๆ แสดงพฤตกิ รรมออกมา ใหเ้ ห็นการแกไ้ ข
เปลย่ี นแปลงทําไดค้ อ่ นขา้ งยากและตอ้ งใชเ้ วลานาน บคุ ลกิ ภาพภายใน
ไดแ้ ก่ ลกั ษณะดงั ตอ่ ไปน้ี

1) ความเชอื่ มนั่ ในตนเอง เป็ นบคุ ลกิ ภาพสําคญั อยา่ งหนงึ่ ทจ่ี ะทําใหก้ ารพดู
สําเร็จ ลลุ ว่ งลงไดด้ ว้ ยดี ผมู ้ คี วามเชอื่ มนั่ ในตนเองจะแสดงออกใหเ้ ห็นได ้
จากบคุ ลกิ ในการพดู เรมิ่ จาก การปรากฏตวั อยา่ งสงา่ หนา้ ตายม้ิ แยม้ แจม่ ใส
ไมแ่ สดงอาการประหมา่ การพดู ชดั ถอ้ ยชดั คําแสดง ถงึ ความมนั่ ใจในการพดู
ทําใหก้ ารพดู เป็ นไปอยา่ งธรรมชาตแิ ละบรรลตุ าม วตั ถปุ ระสงคท์ กี่ ําหนดไว ้
ความเชอื่ มน่ั ในตนเองสามารถปรับปรงุ และเสรมิ สรา้ งได ้ จาก การศกึ ษา
หาความรใู ้ นสงิ่ ทพี่ ดู ใหเ้ กดิ ความแมน่ ยําและมนั่ ใจวา่ สามารถพดู เรอ่ื งนัน้ ได ้

10

อยา่ ง แน่นอน มคี วามรใู ้ นเรอื่ งทจี่ ะพดู ได ้ อยา่ งเพยี งพอ กจ็ ะชว่ ยให ้
บคุ ลกิ ภาพดา้ นอน่ื ๆ ดไี ปดว้ ย

2) ความกระตอื รอื รน้ ไดแ้ ก่ ความคดิ ความรสู ้ กึ ของบคุ คลในความอยากรู ้
อยากเรยี น ความสนใจใฝ่ ศกึ ษา โดยไมห่ ยดุ นง่ิ และเฉอ่ื ยชา ผมู ้ คี วาม
กระตอื รอื รน้ กระฉับกระเฉง จะชว่ ยใหเ้ ตรยี มตวั พรอ้ มและออกมาพดู ดว้ ย
ความสดชนื่ ยมิ้ แยม้ แจม่ ใส ชว่ ย ใหผ้ ฟู ้ ังเกดิ ความประทบั ใจได ้

3) ความรอบรู ้ ผพู ้ ดู ทด่ี ี จะตอ้ งเป็ นผทู ้ ม่ี คี วามรอบรใู ้ นเรอ่ื งตา่ งๆ สนใจ
ตดิ ตามขา่ วสารเหตกุ ารณข์ องสงั คม เป็ นผทู ้ นั ตอ่ เหตกุ ารณ์ และวชิ าการ
สาขาตา่ งๆ สามารถ นําความรมู ้ าประกอบการพดู ของตนได ้ ชว่ ยใหผ้ ฟู ้ ังเกดิ
ความเลอ่ื มใสศรัทธา และตดิ ตามฟัง โดยไม่ เบอ่ื หน่าย
ทําใหก้ ารพดู มคี วามสนุกและมรี สชาติ

4) ความคดิ รเิ รมิ่ เกดิ จากนสิ ยั เป็ นคนชอบคดิ ชอบทําไมห่ ยดุ นง่ิ มคี วาม
สนใจ ใฝ่ หาความรู ้ และวเิ คราะหว์ จิ ารณส์ งิ่ ตา่ งๆรอบตวั หาขอ้ มลู และ
ปรับปรงุ สงิ่ ตา่ งๆ ดว้ ย วธิ ใี หมๆ่ อยเู่ สมอทําใหเ้ กดิ เป็ นนสิ ยั ขนึ้ ได ้ ผพู ้ ดู ทมี่ คี
วามคดิ รเิ รม่ิ สรา้ งสรรคจ์ ะดงึ ดดู ใหผ้ ฟู ้ ังมี ความสนใจ และศรัทธาไดเ้ ป็ นอยา่ ง
มาก

5) ไหวพรบิ ปฏภิ าณ เป็ นคณุ สมบตั ทิ ช่ี ว่ ยแกป้ ัญหาตา่ งๆ ในการพดู ได ้ ผพู ้ ดู
ที่ มปี ฏภิ าณดจี ะชว่ ยใหก้ ารพดู น่าสนใจ และบรรลวุ ตั ถปุ ระสงคใ์ นการพดู ไดด้ ี
ขนึ้ ไหวพรบิ ปฏภิ าณ เกดิ ขนึ้ ไดจ้ ากการมนี สิ ยั ชา่ งสงั เกต ฝึกแยกแยะ
วเิ คราะหร์ ายละเอยี ดตา่ ง ๆ ในสงิ่ ที่ พบเห็น

6) ความจรงิ ใจเป็ นบคุ ลกิ ภาพสําคญั อยา่ งหนง่ึ ของผพู ้ ดู คอื ผพู ้ ดู ควรพดู ดว้ ย
ความจรงิ ใจ ไมเ่ สแสรง้ พดู ดว้ ยความประสงคท์ จี่ ะถา่ ยทอดความรคู ้ วามคดิ
ใหผ้ ฟู ้ ังดว้ ยความ บรสิ ทุ ธใ์ิ จ ไมป่ ิดบงั ซอ่ นเรน้ แอบแฝง หรอื หลอกลวงใหผ้ ู ้
ฟังเขา้ ใจผดิ หรอื ไขวเ้ ขวได ้ ควรพดู ดว้ ยถอ้ ยคํางา่ ยๆ ตรงไปตรงมา

11

7) ความรับผดิ ชอบ เป็ นคณุ ธรรมสําคญั ทผี่ พู ้ ดู ควรยดึ ถอื ความรับผดิ ชอบ จะ
ทําใหผ้ พู ้ ดู ไดร้ ับความศรัทธาจากผฟู ้ ัง เชน่ รับผดิ ชอบตอ่ หนา้ ทโ่ี ดยการเตรี
ยมตวั ใหพ้ รอ้ ม ทสี่ ดุ ทจี่ ะพดู ออกไปตอ่ คํามน่ั สญั ญาทใ่ี หไ้ วก้ บั ผฟู ้ ัง ตลอดจน
คํานงึ สงั คมวฒั นธรรมทอ้ งถนิ่ ที่ ตนพดู ไม่
ทําใหเ้ กดิ ความวนุ่ วายเสยี หายหรอื ขดั ตอ่ ศลี ธรรมอนั ดที จ่ี ะเกดิ ขน้ึ จากการพดู
ของตน

8) ความจํา ผพู ้ ดู ทด่ี จี ะตอ้ งเป็ นนักสะสมจดจําขอ้ มลู ตา่ งๆ ไวใ้ ช ้ประกอบการ
พดู ของตน โดยการจดบนั ทกึ และทอ่ งจําไว ้ เชน่ ขอ้ มลู สถติ ติ า่ งๆ สํานวน
สภุ าษิตจากวรรณคดี เหตกุ ารณท์ เี่ กดิ ขน้ึ ในสงั คม ในโลกวนั เวลาทเี่ กดิ
เหตกุ ารณส์ ําคญั ๆ ชอ่ื และตําแหน่งบคุ คลทเ่ี กยี่ วขอ้ ง กบั เหตกุ ารณน์ ัน้ ๆ
เพอ่ื นํามาอา้ งองิ การพดู ใหม้ นี า้ํ หนักชดั เจน ขน้ึ ผพู ้ ดู ทจ่ี ดจําสงิ่ ตา่ งๆ ไดม้ าก
จะพดู ไดช้ ดั เจนมตี วั อยา่ งประกอบมากทําใหผ้ ฟู ้ ังเกดิ ความ ศรัทธาและ
สนใจตดิ ตามมากยง่ิ ขนึ้

9) อารมณข์ นั เป็ นสง่ิ ทช่ี ว่ ยใหก้ ารพดู ไมเ่ ครยี ด ชว่ ยใหผ้ พู ้ ดู และผฟู ้ ังผอ่ น
คลาย อารมณ์ ในสถานการณบ์ างอยา่ งทเ่ี กดิ ความเครยี ดเฉือ่ ยชา อารมณข์ นั
ชว่ ยผอ่ นคลาย และกระตนุ ้ ใหเ้ กดิ ความกระฉับกระเฉงขนึ้ ได ้ อารมณข์ นั
สามารถสรา้ งใหเ้ กดิ ขน้ึ ในจติ ใจผพู ้ ดู ได ้ เชน่ อยา่
ทําตนเป็ นคนจรงิ จังตลอดเวลา ควรมอี ารมณส์ นุกสนานในบางโอกาส และ
สะสม อารมณข์ นั ใหเ้ กดิ อยู่ ในจติ ใตส้ ํานกึ เวลาพดู กจ็ ะเกดิ อารมณข์ นั ขน้ึ เอง

4. กระบวนการพัฒนาบคุ ลกิ ภาพในการพดู
บคุ ลกิ ภาพมคี วามสําคญั ตอ่ การพดู เป็ นอยา่ งมาก ผพู ้ ดู ทม่ี บี คุ ลกิ ภาพดมี สี ว่ น
ชว่ ยให ้ ประสบความสําเร็จในการพดู ผทู ้ ตี่ อ้ งการจะเป็ นนักพดู ทดี่ จี งึ ตอ้ ง
พัฒนาบคุ ลกิ ภาพของ ตนเองอยเู่ สมอ โดยปฏบิ ตั ติ ามขนั้ ตอนกระบวนการ
พัฒนาบคุ ลกิ ภาพ ดงั น้ี

4.1 การวเิ คราะหต์ นเอง เป็ นการ
สํารวจบคุ ลกิ ภาพของตนเองเพอื่ จะหาจดุ ออ่ น หรอื จดุ บกพรอ่ งในการพดู
ของตนเอง การวเิ คราะหอ์ าจเปรยี บเทยี บพฤตกิ รรมของตนกบั พฤตกิ รรมของ
นักพดู ทดี่ หี รอื อาจฟังเสยี งวจิ ารณข์ องผอู ้ น่ื แลว้ บนั ทกึ ไวเ้ ป็ นขอ้ ๆ ตามลําดบั
ความสําคญั

12

4.2 การปรับปรงุ แกไ้ ข ขนั้ นเ้ี ป็ นการนําจดุ บกพรอ่ งทบี่ นั ทกึ ไวใ้ นขนั้ ที่ 1 มา
ปรับปรงุ แกไ้ ขตนเองทลี่ ะขอ้ ๆพยายามใหเ้ วลากบั ตนเองในการปรับปรงุ
แกไ้ ข โดยไมต่ อ้ งรบี รอ้ น และไมท่ อ้ ถอยเพราะบคุ ลกิ ภาพบางอยา่ งตอ้ งใช ้
เวลาในการแกไ้ ขนานจงึ จะเห็นผล

4.3 การแสดงออกเมอื่ ไดป้ รับปรงุ แกไ้ ขพฤตกิ รรมทเี่ ป็ นจดุ บกพรอ่ งของตน
เอง จนได ้ ดแี ลว้ เมอ่ื มโี อกาสไดพ้ ดู กค็ วรแสดงออกมาเป็ นพฤตกิ รรมใหม่
ปฏบิ ตั ติ วั ตามแนวใหม่ ใหเ้ คยชนิ จนตดิ เป็ นนสิ ยั

4.4 การประเมนิ ผล หลงั จากทไ่ี ดแ้ สดงออกเป็ นพฤตกิ รรมใหมต่ ามทป่ี รับปรงุ
แกไ้ ขแลว้ ลองประเมนิ ดวู า่ พฤตกิ รรมใหมน่ ัน้ ดแี ลว้ หรอื ยงั ประสบผล
สําเร็จตามทตี่ งั้ ใจไว ้ หรอื ไม่ มลี กั ษณะใดทตี่ อ้ งปรับปรงุ แกไ้ ขเพม่ิ เตมิ
พฤตกิ รรมใดประเมนิ ผลวา่ ดแี ลว้ กถ็ อื ปฏบิ ตั ิ ใหเ้ คยชนิ จนเป็ นนสิ ยั พฤตกิ รรม
ใดแสดงออกแลว้ ยงั ไมด่ ไี มป่ ระสบความสําเร็จกท็ ําการ วเิ คราะหต์ นเอง แลว้
ปฏบิ ตั ติ ามกระบวนการพัฒนาบคุ ลกิ ภาพในการพดู ใหมเ่ ป็ นรอบท่ี 2
กระบวนการนหี้ มนุ เป็ นรปู วงจร ไมม่ ี วนั สน้ิ สดุ
แนวทางการพัฒนาบคุ ลกิ ภาพดา้ นตา่ งๆทส่ี ําคญั
แนวทางการพัฒนาบคุ ลกิ ภาพดา้ นตา่ งๆ ทสี่ ําคญั มรี ายละเอยี ดดงั นี้

1. รปู รา่ งหนา้ ตา
รปู รา่ งหนา้ ตาของผพู ้ ดู เป็ นลกั ษณะภายนอกทปี่ รากฏใหผ้ ฟู ้ ังเห็นเดน่ ชดั จงึ
เป็ นสงิ่ เรา้ เบอื้ งตน้ ตอ่ ผฟู ้ ัง ผพู ้ ดู แตล่ ะคนจะมรี ปู รา่ งหนา้ ตาทแ่ี ตกตา่ งกนั ใน
ดา้ นตา่ งๆ เชน่ เคา้ หนา้ ความสงู ตา่ํ ดําขาว อว้ นผอมฯลฯ ผพู ้ ดู ทมี่ รี ปู รา่ ง
หนา้ ตาดจี ะชว่ ยดงึ ดดู ความสนใจของผฟู ้ ังได ้ แตร่ ปู รา่ งหนา้ ตาบางสว่ นเป็ น
มาแตก่ ําเนดิ เนอ่ื งจากชาตพิ ันธทุ์ แ่ี ตกตา่ งกนั (ทนิ วฒั น์ มฤค พทิ กั ษ,์ 2548)
เชน่ ผวิ พรรณ สผี ม สี นัยนต์ าฯลฯ แมว้ า่ ปัจจบุ นั สามารถใชว้ ทิ ยาการ
สมยั ใหม่ เปลย่ี นแปลงสงิ่ เหลา่ นไ้ี ด ้ กถ็ อื วา่ ไม่
จําเป็ นตอ้ งปรับปรงุ เปลยี่ นแปลงมากนัก เพยี งพยายาม รักษาสขุ ภาพใหด้ ี
หนา้ ตาสะอาดสะอา้ นกค็ งเพยี งพอ เพราะเรายงั มบี คุ ลกิ ภาพดา้ นอนื่ มา เสรมิ
อกี รปู รา่ งหนา้ ตาเป็ นเพยี งจดุ สนใจเบอ้ื งตน้ เทา่ นัน้

2. การแตง่ กายการแตง่ กายเป็ นบคุ ลกิ ภาพที่
สําคญั อยา่ งหนง่ึ ทมี่ สี ว่ นชว่ ยสอื่ สารใหผ้ ฟู ้ ังรับรเู ้ ป็ น เบอื้ งตน้ วา่ ผพู ้ ดู มอี ปุ นสิ ยั
ใจคอและรสนยิ มอยา่ งไร การแตง่ กายมสี ว่ นชว่ ยใหผ้ ฟู ้ ังเกดิ ความ เลอ่ื มใส

13

ศรัทธาในตวั ผพู ้ ดู การแตง่ กายทเ่ี หมาะสมแสดงถงึ การใหเ้ กยี รตติ อ่ ผฟู ้ ังและ
เป็ นการ เคารพตอ่ สถานท่ี การแตง่ กายทดี่ ี คอื การแตง่ กายทส่ี ภุ าพ ดสู ะอาด
เรยี บรอ้ ย ตงั้ แตท่ รงผม ใบหนา้ เสอื้ ผา้ เครอ่ื งประดบั ถงุ เทา้ รองเทา้ การ
แตง่ กายไมเ่ ดน่ ไมฉ่ ูดฉาดหรอื หรหู รา จนเกนิ ไปจนทําให ้ ผฟู ้ ังสนใจการแตง่
กายมากกวา่ เรอ่ื งทพ่ี ดู โดยทวั่ ไปการแตง่ กายทดี่ คี วร คํานงถึ งึ สงิ่ ตอ่ ไปนี้

1) ความสะอาดเรยี บรอ้ ย ผพู ้ ดู ทด่ี คี วรจะตอ้ งแตง่ กายดว้ ยเสอื้ ผา้ ทรงผม
เครอ่ื งประดบั ตา่ งๆ ทมี่ คี วามสะอาดเรยี บรอ้ ย

2) รปู รา่ งหนา้ ตา การแตง่ กายทดี่ จี ะตอ้ งเหมาะสมกบั รปู รา่ งหนา้ ตาของตน
เอง เชน่ คนทรี่ ปู รา่ งผอมเล็กควรสวมเสอ้ื ผา้ ทมี่ ลี ายนวิ้ ทางขวาง ถา้ เป็ นผา้
ดอกกไ็ มค่ วรเป็ นดอก เล็ก ๆ และ ควรแตง่ ตวั ดว้ ยเสอ้ื ผา้ สอี อ่ นจะ
ทําใหร้ ปู รา่ งดไู มผ่ อมจนเกนิ ไป

3) วยั การแตง่ กายทด่ี คี วรจะเหมาะสมกบั วยั คอื จะตอ้ งพจิ ารณาตวั เองวา่ อยู่
ใน วยั ใด ทรงผม รปู แบบเสอื้ ผา้ และเครอื่ งประดบั ควรเหมาะสมกบั วยั ของตน
อยา่ งเชน่ ผสู ้ งู อายุ ควรแตง่ ตวั ใหม้ คี วามสงา่ งามกวา่ ผอู ้ อ่ นอายุ

4) ฐานะ การแตง่ กายทดี่ คี วรคํานงึ ถงึ ฐานะทางสงั คมของตนดว้ ย เชน่ คนท่ี
เป็ น ครไู มค่ วรไวผ้ มยาวรงุ รัง หรอื ใชเ้ สอื้ ผา้ แบบแปลก

5) สมยั นยิ ม การแตง่ กายควรพอเหมาะพอดกี บั สมยั นยิ ม ไมล่ า้ํ สมยั หรอื
ลา้ สมยั จนเกนิ ไป การแตง่ กายลาํ้ สมยั จนเกนิ ไปผฟู ้ ังอาจดเู ป็ นแฟชน่ั โชว์
หรอื การแตง่ กายลา้ สมยั จนเกนิ ไปผฟู ้ ังอาจดเู ป็ นตวั ตลกได ้

6) กาลเทศะ การแตง่ กายทด่ี ตี อ้ งเหมาะสมกบั กาลเทศะคอื เหมาะสมกบั
โอกาส และสถานทที่ ไี่ ดร้ ับเชญิ ไปพดู อยา่ งเชน่ ไดร้ ับเชญิ ไปปาฐกถาพเิ ศษ
ในพธิ เี ปิดการ ประชมุ สมั มนา ทางวชิ าการ ณ หอ้ งประชมุ โรงแรมชนั้ หนงึ่ ผู ้
พดู ควรสวมชดุ สากลใหเ้ รยี บรอ้ ย แตถ่ า้ ไดร้ ับเชญิ ใหช้ าวบา้ นฟัง ณ ศาลา

14

การเปรยี ญในวดั แหง่ หนงึ่ ไมจ่ ําเป็ นตอ้ งสวมชดุ สากล เพยี งแตแ่ ตง่ กายให ้
สภุ าพเรยี บรอ้ ยดดู กี พ็ อแลว้
จากทกี่ ลา่ วมาแลว้ ชใ้ี หเ้ ห็นวา่ การแตง่ กายของผพู ้ ดู เป็ นเรอื่ งสําคญั ไมค่ วร
ปลอ่ ย ปละละเลย แมแ้ ตส่ ง่ิ เล็กๆ นอ้ ยๆ เชน่ การแตง่ หนา้ ทาปาก กอ็ ยใู่ น
สายตาผฟู ้ ังทงั้ สนิ้ เมอื่ ตอ้ งออกไปปรากฏกายตอ่ หนา้ ผฟู ้ ังจํานวนมากๆ ผู ้
พดู ตอ้ งเอาใจใสก่ ารแตง่ กายเป็ นพเิ ศษ

3. การปรากฏกาย
การปรากฏกายตอ่ หนา้ ผฟู ้ ังเป็ นสง่ิ ทแ่ี สดงถงึ บคุ ลกิ ภาพที่
สําคญั อยา่ งหนงึ่ ของผพู ้ ดู ถา้ เราปรากฏกายอยา่ งกระตอื รอื รน้ แสดงออกถงึ
ความสดชน่ื กระปรก้ี ระเปรา่ มคี วามสงา่ ไม่ วา่ จะ เป็ นการยนื พดู หรอื น่ังพดู
เป็ นการแสดงถงึ ความพรอ้ ม ความเต็มใจทจี่ ะพดู ทําใหผ้ ฟู ้ ัง เกดิ ศรัทธาใน
ตวั ผพู ้ ดู อกี สว่ นหนง่ึ ดว้ ย การปรากฏแสดงออกใหผ้ ฟู ้ ังเห็นตงั้ แตท่ า่ ทางการ
ลกุ จากทนี่ ั่ง เดนิ ขน้ึ เวทไี ปจนถงึ การยนื หรอื นั่งพดู ในทนี่ จ้ี ะแนะ
นําเฉพาะการเดนิ และการทรงตวั

1) การเดนิ เมอ่ื พธิ กี รเชญิ ใหเ้ ราไปพดู การเดนิ จะเป็ นสง่ิ แรกทเ่ี ป็ นจดุ สนใจ
ของ ผฟู ้ ังทกุ สายตาของผฟู ้ ังจะมองมายงั ผพู ้ ดู เมอ่ื ผพู ้ ดู ลกุ จากทน่ี ่ังควรทรง
ตวั อยา่ งสงา่ งาม แสดงออกดว้ ยความสดชนื่ ใบหนา้ ยม้ิ แยม้ แจม่ ใส กา้ วเดนิ
ดว้ ยฝี เทา้ พอเหมาะ ไมช่ า้ หรอื เร็ว จนเกนิ ไป แกวง่ แขนตามสบาย ไมแ่ สดง
อาการกระมดิ กระเมยี้ นเอยี งอาย เมอ่ื ถงึ แทน่ พดู ควร หยดุ สกั อดึ ใจหนงึ่ กวาด
สายตาไปทว่ั ๆ ผฟู ้ ัง แลว้ จงึ เรมิ่ ปฏสิ นั ถารหรอื กลา่ วทกั ทายผฟู ้ ัง

2) การทรงตวั การทรงตวั หรอื การยนื ทดี่ ใี นการพดู นัน้ ควรยนื อยา่ งสงา่ เทา้
ทงั้ สองหา่ งกนั พอสมควร ทง้ิ นาํ้ หนักลงบนเทา้ ทงั้ สอง เทา้ ซา้ ยหรอื เทา้ ขวา
อาจจะกา้ วเฉยี งไป ขา้ งหนา้ เล็กนอ้ ยพอสบายไมเ่ ครยี ด

3. การใชส้ ายตา
การใชส้ ายตาเป็ นสง่ิ สําคญั อยา่ งหนงึ่ ในการพดู เมอื่ ผพู ้ ดู มโี อกาสสบตาผฟู ้ ัง
การสอื่ ความหมายในการพดู กเ็ ป็ นไปโดยสะดวกและสรา้ งความเขา้ ใจกนั
ไดโ้ ดยรวดเร็วยง่ิ ขน้ึ มผี ู ้ กลา่ ววา่ “ดวงตาเป็ นหนา้ ตา่ งของดวงใจ”ทงั้ นเี้ พราะ
สายตาสามารถบอกอารมณค์ วามรสู ้ กึ ของผพู ้ ดู ได ้ ผฟู ้ ังสามารถวเิ คราะหไ์ ด ้
วา่ คําพดู ทพี่ ดู ออกไปวา่ เป็ นการพดู ดว้ ยความจรงิ ใจหรอื เสแสรง้ สายตาจงึ
สามารถสรา้ งความสมั พันธร์ ะหวา่ งผพู ้ ดู และผฟู ้ ังไดด้ ี การใชส้ ายตาในการ
พดู

15

4. การใชเ้ สยี ง
เสยี งเป็ นองคป์ ระกอบสําคญั ยงิ่ ในการพดู เสยี งเป็ นตวั ถา่ ยทอดความรสู ้ กึ
นกึ คดิ ของ ผพู ้ ดู ไปยงั ผฟู ้ ัง ถา้ ผพู ้ ดู รจู ้ ักใชเ้ สยี งใหม้ พี ลงั มชี วี ติ ชวี าสามารถ
ดงึ ดดู ความสนใจจากผฟู ้ ังและ มสี ว่ นชว่ ยใหผ้ ฟู ้ ังมคี วามรสู ้ กึ คลอ้ ยตาม
ไดเ้ สยี งพดู ของคนเรายอ่ มเปลย่ี นแปลงไดน้ ั่น หมายความวา่ ถา้ ผพู ้ ดู เสยี งไม่
ดกี ส็ ามารถปรังปรงุ เสยี งใหด้ ขี นึ้ ได ้ เสยี งของนักพดู ทดี่ มี ไิ ดห้ มายความวา่ จะ
ตอ้ งมเี สยี งหวาน กงั วานเหมอื นนักรอ้ ง หากเป็ นเสยี งของตวั เองทไี่ ด ้
ปรับปรงุ ใหด้ ขี นึ้ โดยการรจู ้ ักใชเ้ สยี งหนักเบา สงู ตา่ํ หรอื รจู ้ ักทอดจังหวะ
อยา่ งเหมาะสม ถา้ ผู ้ พดู รจู ้ ักปรับปรงุ เสยี งใหด้ ี การพดู จะสอื่ ความหมายไดด้ ี
และมี ประสทิ ธภิ าพยง่ิ ขน้ึ เสยี งพดู ที่ ดคี วรมลี กั ษณะดงั ตอ่ ไปนี้

1) เสยี งดงั พอเหมาะ ผพู ้ ดู ตอ้ งพดู ใหผ้ ฟู ้ ังไดย้ นิ ชดั เจนทกุ คน จะพดู เสยี งเบา
เสยี งดงั แคไ่ หนนัน้ ขนึ้ อยกู่ บั สถานทท่ี พี่ ดู วา่ เป็ นหอ้ งเกบ็ เสยี งหรอื ไม่ มเี ครอ่ื ง
ขยายเสยี งหรอื ไม่ อยา่ งไร และ จํานวนผฟู ้ ังมมี ากนอ้ ยเพยี งใด

2) จังหวะการพดู ไมช่ า้ หรอื เร็วเกนิ ไป การพดู ชา้ เกนิ ไปเป็ นบรรยากาศการพดู
ที่ ไมม่ ชี วี ติ ชวี า ทําใหผ้ ฟู ้ ังเบอื่ หน่าย งว่ งเหงาหาวนอน ถา้ พดู เร็วเกนิ ไปผฟู ้ ัง
อาจฟังไมท่ นั จับ ใจความ ไมไ่ ด ้ ผดิ พลาดไดง้ า่ ย แตจ่ ะบอกวา่ พดู เร็วหรอื ชา้
เทา่ ใดนัน้ กําหนดตายตวั ไดย้ าก ยอ่ มขนึ้ อยกู่ บั เนอื้ หาสาระและบรรยากาศใน
การพดู เชน่ การพดู การแขง่ ขนั ชกมวยบาง จังหวะตอ้ งพดู เร็วเพอ่ื ใหท้ นั
เหตกุ ารณแ์ ละสรา้ งความตน่ื เตน้ ดว้ ย

3) เสยี งพดู เป็ นเสยี งทแ่ี จม่ ใสนุ่มนวลชวนฟัง โดยปกตแิ ลว้ นาํ้ เสยี งของผพู ้ ดู
สามารถบอกถงึ อารมณแ์ ละความรสู ้ กึ ของผพู ้ ดู ไดด้ ี ผพู ้ ดู จงึ ควรแสดงถงึ
ความเคารพหรอื ให ้ เกยี รตผิ ฟู ้ ังทางนา้ํ เสยี งดว้ ยโดยพยายามปรับปรงุ การใช ้
เสยี งใหไ้ พเราะ นุ่มนวล ไมพ่ ดู อกึ อกั เออ้ อา้ ใหน้ ่ารําคาญ เสน่หข์ องนา้ํ เสยี ง
อกี อยา่ งหนงึ่ อยทู่ ผ่ี พู ้ ดู รจู ้ ักใชห้ างเสยี งดว้ ยคําวา่ “คะ่ ” “นะคะ”“ครับ”“นะครับ”
ใหเ้ หมาะสมกบั ประโยคทพ่ี ดู

16

4) เสยี งทพี่ ดู จะตอ้ งถกู ตอ้ งและชดั เจน ถา้ ผพู ้ ดู ออกเสยี งคําตา่ งๆ ไมช่ ดั เจน
แลว้ จะมอี ปุ สรรคตอ่ การพดู และทําใหเ้ สยี บคุ ลกิ มาก ผทู ้ ต่ี อ้ งการจะเป็ นนัก
พดู ทดี่ จี งึ จําเป็ นจะตอ้ ง ศกึ ษา และฝึกฝนการออกเสยี งหน่วยเสยี งทเี่ ป็ น
ปัญหา เชน่ เสยี ง ร ล เสยี งควบกลาํ้ เป็ นตน้ การฝึก ออกเสยี งใหถ้ กู ตอ้ ง
ชดั เจน นอกจากเป็ นการสรา้ งบคุ ลกิ ภาพทด่ี แี ลว้ ยงั เป็ นการเพม่ิ
ประสทิ ธภิ าพ ในการสอ่ื ความหมายระหวา่ งผพู ้ ดู กบั ผฟู ้ ัง

5) เสยี งพดู มลี ลี าน่าฟัง ลลี าหรอื ทว่ งทํานองการออกเสยี งในการพดู หมาย
ถงึ การรจู ้ ักใชเ้ สยี งสงู ตาํ่ เสยี งหนัก เสยี งเบา การลากเสยี ง ใหเ้ หมาะสมกบั
เรอื่ งทพี่ ดู ไมพ่ ดู เสยี ง เดยี วเนอื ยๆ ตลอดไป ไมพ่ ดู เหมอื นการอา่ นหนังสอื
หรอื ทอ่ งจํา การฝึกลลี าการออกเสยี งใน การพดู นัน้ พยายามใหเ้ ป็ นไปตาม
ธรรมชาตใิ หม้ ากทส่ี ดุ อยา่ เป็ นการเสแสรง้ เหมอื นการแสดง ละคร

6. การใชก้ ริ ยิ าทา่ ทาง
การใชก้ ริ ยิ าทา่ ทางประกอบการพดู เป็ นสง่ิ
สําคญั เพราะกริ ยิ าทา่ ทางเป็ นอวจั นภาษา ทม่ี ผี ลตอ่ การสอื่ ความหมายมาก ผู ้
พดู พงึ ระลกึ เสมอวา่ กริ ยิ าอาการของผพู ้ ดู ทผี่ ฟู ้ ังมองเห็น จะมสี ว่ นสอื่ ความ
หมายควบคไู่ ปกบั คําพดู ไดท้ งั้ สน้ิ จงึ พอสรปุ ไดว้ า่ การใชก้ ริ ยิ าทา่ ทางมี
ความสําคญั ตอ่ ผพู ้ ดู และผฟู ้ ังดงั ตอ่ ไปน้ี

1) กริ ยิ าทา่ ทางชว่ ยเสรมิ สรา้ งความหมายของคําพดู
2) กริ ยิ าทา่ ทางชว่ ยเรยี กความสนใจจากผฟู ้ ัง
3) กริ ยิ าทา่ ทางชว่ ยใหผ้ ฟู ้ ังเขา้ ถงึ ความรสู ้ กึ ของผพู ้ ดู ไดด้ ขี นึ้
4) กริ ยิ าทา่ ทางจะชว่ ยลดความเครง่ เครยี ดของผพู ้ ดู และสามารถปรับปรงุ ตวั
เขา้ กบั สถานการณก์ ารพดู ไดง้ า่ ยขน้ึ

5) กริ ยิ าทา่ ทางชว่ ย
ทําใหก้ ารพดู มคี วามเขม้ แข็งยงิ่ ขนึ้ การแสดงกริ ยิ าทา่ ทางใน
การพดู เป็ นการใชส้ ว่ นตา่ ง ๆ ของรา่ งกายของผพู ้ ดู ในการ สอื่ ความหมาย
หลายสว่ นประกอบ ดว้ ยกนั ในทน่ี จี้ ะกลา่ วเฉพาะสว่ นทส่ี ําคญั 3 ประการ ดงั นี้

(1) การใชศ้ รี ษะในขณะทพ่ี ดู ผพู ้ ดู ควรเคลอ่ื นไหวศรี ษะประกอบบา้ ง แตไ่ ม่
ควรมากจนเกนิ ไป การเคลอ่ื นไหวศรี ษะตอ้ งถกู จังหวะของการพดู จะ

17

ทําใหก้ ารพดู เป็ น ธรรมชาติ มชี วี ติ ชวี า ทา่ ศรี ษะที่
สําคญั ทนี่ ยิ มใชก้ นั ในสงั คมไทย เชน่ การพยกั หนา้ แสดงการ ยอมรับ การ
สา่ ยศรี ษะ แสดงการปฏเิ สธหรอื ไมเ่ ห็นดว้ ย

(2) การแสดงสหี นา้ สหี นา้ เป็ นสง่ิ แสดงอารมณแ์ ละความรสู ้ กึ ของผพู ้ ดู ผทู ้ ่ี
แสดง สหี นา้ ยมิ้ แยม้ แจม่ ใส รา่ เรงิ เบกิ บาน ยอ่ มไดเ้ ปรยี บในการพดู เพราะ
เป็ นการแสดงถงึ ความมี มนุษยส์ มั พันธ์ มคี วามสขุ ความพอใจในการพดู กบั ผู ้
ฟัง เป็ นเสน่หด์ งึ ดดู ใจผฟู ้ ังและ ผฟู ้ ังกส็ นองตอบ ดว้ ยความรสู ้ กึ อยา่ งเดยี วกนั
นอกจากฝึกตนใหเ้ ป็ นคนมใี บหนา้ ยม้ิ แยม้ แจม่ ใสแลว้ ผพู ้ ดู ทด่ี ตี อ้ งฝึก
แสดงออก ทางสหี นา้ ใหส้ อดคลอ้ งกบั เรอ่ื งทพ่ี ดู เชน่ เมอื่ พดู ถงึ เรอ่ื งทมี่ คี
วามสขุ สนุกสนานกค็ วรแสดงสหี นา้ รา่ เรงิ แจม่ ใส เมอื่ พดู ถงึ เรอื่ งความเศรา้
โศก เสยี ใจ กค็ วรแสดงสหี นา้ เศรา้ สรอ้ ย เป็ นตน้ สหี นา้ จะ ไดแ้ สดงออกตาม
อารมณแ์ ละความรสู ้ กึ เป็ นธรรมชาตขิ องผพู ้ ดู มใิ ชเ่ ป็ นการเสแสรง้

(3) การใชม้ อื การใชม้ อื ประกอบการพดู จะทําใหก้ ารพดู น่าสนใจ สามารถ สอ่ื
ความหมายใหผ้ ฟู ้ ังมองเห็นภาพและเขา้ ใจสงิ่ ทพ่ี ดู ไดด้ ยี งิ่ ขนึ้ ผพู ้ ดู จงึ นยิ มใช ้
มอื ประกอบการพดู มากกวา่ สว่ นอนื่ ๆ การใชม้ อื ประกอบการพดู นยิ มใชเ้ พอ่ื
จดุ มงุ่ หมาย
การสรา้ งความเชอ่ื มนั่ ในตนเอง
ความเชอื่ มน่ั ในตนเองเป็ นสงิ่
สําคญั ทจ่ี ะสรา้ งบคุ ลกิ ภาพของผพู ้ ดู ไดด้ มี ากเพราะถา้ ผู ้ พดู มคี วามเชอื่ มนั่ ใน
ตนเองแลว้ การพดู จะดําเนนิ ไปไดด้ ว้ ยดี (Hilgard, Ernest,1987) พดู จา
ไดอ ้ ยา่ งคลอ่ งแคลว่ ฉาดฉาน อาการสะทกสะทา้ นหรอื อาการประหมา่ กจ็ ะ
ไมเ่ กดิ ขน้ึ ผฝู ้ ึกหดั พดู ใหมๆ่ มกั จะมอี าการประหมา่ มอี าการผดิ ปกตทิ าง
รา่ งกาย เชน่ หวั ใจเตน้ แรง ขาสนั่ ปาก สนั่ หนา้ ซดี เหงอ่ื ไหล อาการเชน่ นี้
เรยี กวา่ “การตนื่ เวท”ี ซงึ่ มผี ลตอ่ การพดู เป็ นอยา่ งมาก ผู ้ พดู ตอ้ งขจัดสง่ิ เหลา่
นอ้ี อกไปใหไ้ ด ้ โดยการสรา้ งความเชอื่ มนั่ ในตนเอง ตามวธิ กี ารดงั ตอ่ ไปนี้

1. ตงั้ ใจใหแ้ น่วแน่ ในการพดู ทกุ ครัง้ ผพู ้ ดู ตอ้ งตงั้ ใจใหแ้ น่วแน่มน่ั คงวา่ จะตอ้ ง
พดู รู ้ เหตรุ ผู ้ ลวา่ พดู เพอื่ อะไร พดู ใหใ้ ครฟัง และพยายามพดู ใหด้ ที สี่ ดุ เทา่ ท่ี
จะทําได ้

18

2. เตรยี มเรอ่ื งทจ่ี ะพดู ใหพ้ รอ้ ม เมอื่ รวู ้ า่ ตอ้ งพดู เรอ่ื งอะไรแลว้ ผพู ้ ดู ควรจะมี
ระยะเวลา ในการเตรยี มเรอ่ื งใหพ้ รอ้ มทกุ ดา้ น เชน่ เนอ้ื หา ตวั อยา่ งประกอบ
ตวั เลขอา้ งองิ การลําดบั ความ การขน้ึ ตน้ การลงทา้ ย เป็ นตน้

3. ฝึกซอ้ มการพดู ผฝู ้ ึกพดู ใหมๆ่
จําเป็ นอยา่ งยง่ิ ทจ่ี ะตอ้ งฝึกซอ้ มการพดู กอ่ นขนึ้ เวที พดู จรงิ อาจฝึกพดู คน
เดยี วหนา้ กระจกหรอื ฝึกพดู ตอ่ หนา้ เพอื่ นๆ ใหเ้ กดิ ความมน่ั ใจ นอกจาก การ
ฝึกซอ้ มการพดู กอ่ นพดู จรงิ ในแตล่ ะครัง้ แลว้ นักพดู ทดี่ จี ะตอ้ งฝึกหดั การพดู
อยอู่ ยา่ ง สมาํ่ เสมอ

4. แสดงกริ ยิ าทา่ ทางอยา่ งกลา้ หาญ เมอ่ื ถงึ เวลาทจ่ี ะปรากฏกายบนเวทกี าร
พดู ควร สดู ลมหายใจเขา้ ปอดแรงๆ 3-5 ครัง้ ใช ้
กําลงั ใจทงั้ หมดสําหรับการเผชญิ หนา้ สถานการณ์ การพดู โดยไมล่ งั เล ยา่ ง
กา้ วดว้ ยความสงา่ เมอื่ ถงึ แทน่ พดู หยดุ นงิ่ สกั อดึ ใจ กวาดสายตามอง ผฟู ้ ัง
อยา่ งเป็ นมติ รทําจติ ใจใหส้ บายไรก้ งั วลแลว้ จงึ เรมิ่ พดู
การใชภ้ าษาในการพดู
ภาษานอกจะเป็ นเครอื่ งมอื สอื่ ความหมายที่
สําคญั แลว้ ยงั เป็ นสงิ่ ทแ่ี สดงออกถงึ รสนยิ มทด่ี ขี องผพู ้ ดู ดว้ ย ผพู ้ ดู ทด่ี จี งึ ตอ้ ง
รจู ้ ักเลอื กใชถ้ อ้ ยคําสํานวนภาษาในการพดู เพอ่ื จะพดู ใหผ้ ฟู ้ ังสนใจ เขา้ ใจ
ประทบั ใจหรอื คลอ้ ยตาม และบรรลวุ ตั ถปุ ระสงคใ์ นการพดู ครัง้ นัน้ ๆ การ เรยี ง
รอ้ ยถอ้ ยคํา เป็ นสํานวนภาษาพดู ทดี่ ไี ด ้ ผพู ้ ดู ควรปฏบิ ตั ติ ามหลกั เกณฑต์ อ่ ไป
น1้ี . พยายามสะสมถอ้ ยคําสํานวน หรอื คําคม คําพังเพย สภุ าษิต บทกวี
ตลอดจน โวหารตา่ งๆ โดยจด
จําใหแ้ มน่ ยําสามารถนําไปใชใ้ หส้ อดคลอ้ งกบั เนอื้ หาไดต้ ามตอ้ งการ

2. ใชภ้ าษาสภุ าพ ภาษาทใ่ี ชค้ วรเป็ นภาษาทส่ี ภุ าพซงึ่ เป็ นทนี่ ยิ มใชใ้ นการ
สนทนามใิ ช่ เป็ นภาษาเขยี นหรอื ภาษาราชการ

3. ใชภ้ าษาเรยี บงา่ ย ภาษาทใ่ี ชพ้ ดู ควรเป็ นภาษาทงี่ า่ ยๆ ประโยคเรยี บๆ และ
สนั้ ที่ คนสว่ นใหญฟ่ ังเขา้ ใจไมค่ วรใชศ้ พั ทแ์ ปลกๆ ศพั ทว์ ชิ าการหรอื ศพั ท์
ตา่ งประเทศโดยไมจ่ ําเป็ น

19

4. ใชภ้ าษาทม่ี คี วามหมายชดั เจน ถอ้ ย
คําภาษาทใ่ี ชค้ วรมคี วามชดั เจนแจม่ แจง้ ไม่ กํากวม ผฟู ้ ังไดฟ้ ังแลว้ เขา้ ใจได ้
ตรงตามเจตนาของผพู ้ ดู

5. สามารถแยกความหมายของคํากรณีทคี่ ําทใี่ ชม้ คี วามหมายใกลเ้ คยี ง
สามารถ จําแนก ความหมายของคําเพอ่ื ใชใ้ หต้ รงกบั ความหมายทแี่ ทจ้ รงิ ไม่
ทําใหเ้ กดิ ความสบั สนแก่ ผฟู ้ ัง

6. ใชภ้ าษาทส่ี อ่ื ความหมายใหเ้ กดิ ภาพพจน์ ภาษาทใ่ี ชค้ วร
ทําใหผ้ ฟู ้ ังมองเห็นภาพ หรอื เกดิ ความรสู ้ กึ มชี วี ติ ชวี าและกนิ ใจ

7. ใชภ้ าษาสมเหตสุ มผล มคี วามหมายทบ่ี รสิ ทุ ธิ์ เป็ นจรงิ ตามเจตนาของผพู ้ ู
คละเวน้ การพดู ประชดประชนั หรอื กระทบกระเทยี บเปรยี บเปรยดว้ ยอารมณ์

8. ใชภ้ าษาไมซ่ า้ํ ซากวกวน เพราะการใชค้ ํา วลี หรอื ประโยคเดยี วกนั ซา้ํ ๆ
ซาก ๆ เชน่ คําวา่ “ซง่ึ ”“แบบวา่ ”“แลว้ ก”็ “จะเห็นไดว้ า่ ”ฯลฯ อาจ
ทําใหผ้ ฟู ้ ังเบอื่ หน่ายและรําคาญใจ

9. ใชภ้ าษาทแ่ี สดงถงึ รสนยิ ม ภาษาทใี่ ชค้ วรแสดงออกถงึ รสนยิ มและ
วฒั นธรรมทด่ี ี ของผพู ้ ดู ไมใ่ ชค่ ําสบถสาบาน คําดา่ หรอื คําตลาดทแี่ สลงหู
เชน่ คําวา่ “เสอื ก”“แดก”“ฉบิ หาย”เป็ นตน้ เพราะอาจ
ทําใหผ้ ฟู ้ ังมที ศั นคตทิ ไี่ มด่ ตี อ่ ผพู ้ ดู ได ้

10. ใชภ้ าษาเหมาะสมกบั บคุ คล ภาษาทใี่ ชเ้ หมาะสมกบั บคุ คล โอกาสและ
สถานที่ ทงั้ นี้ โดยคํานงึ ลกั ษณะของผฟู ้ ัง โอกาส และสถานทซี่ ง่ึ ตอ้ ง
วเิ คราะหอ์ ยา่ งดที กุ ครัง้ กอ่ นพดู

11. ใชภ้ าษาทส่ี รา้ งความใกลช้ ดิ ภาษาทใี่ ชค้ วรสรา้ งความใกลช้ ดิ หรอื เป็ น
กนั เองกบั ผฟู ้ ังโดยการใชบ้ รุ ษุ สรรพนามแทนผพู ้ ดู หรอื ผฟู ้ ัง

12. ใชภ้ าษาถกู ตอ้ งตามหลกั ภาษาไทย ภาษาทใ่ี ชค้ วรถกู ตอ้ งตามหลกั
ภาษาไทย เชน่ การใชค้ ํานาม คําสรรพนาม คําลกั ษณะนาม คํากรยิ า
คําบพุ บท ฯลฯ ตอ้ งใชใ้ หถ้ กู ตอ้ ง ตามหลกั ภาษาไทย ไมค่ วรเลยี นแบบภาษา
ตา่ งประเทศ
บทสรปุ

20

บคุ ลกิ ภาพเป็ นพฤตกิ รรมทงั้ ปวงของมนุษยท์ แี่ สดงออกมาทงั้ ทางรา่ งกาย
และจติ ใจ เป็ นลกั ษณะเฉพาะของแตล่ ะบคุ คล จงึ แบง่ บคุ ลกิ ภาพออกได ้ 2
ลกั ษณะใหญๆ่ คอื บคุ ลกิ ภาพ ภายนอกอนั ไดแ้ ก่ การแตง่ กาย การปรากฏ
กาย กริ ยิ าทา่ ทาง การใชส้ ายตา การ ใชเ้ สยี ง ฯลฯ และบคุ ลกิ ภาพภายใน
ไดแ้ ก่ การสรา้ งความเชอ่ื มนั่ ในตนเอง ความสนใจ ความ กระตอื รอื รน้ ความ
คดิ รเิ รม่ิ ความรอบรู ้ บคุ ลกิ ภาพมคี วามสําคญั ตอ่ การพดู เป็ นอยา่ งมาก ผู ้ พดู
ทมี่ บี คุ ลกิ ภาพทดี่ มี สี ว่ นชว่ ยให ้ ประสบความสําเร็จในการพดู ผพู ้ ดู ตอ้ ง
พัฒนาบคุ ลกิ ภาพ ใหด้ ดี ว้ ยโดยการปฏบิ ตั ติ ามกระบวนการ พัฒนาบคุ ลกิ ภาพ
4 ขนั้ คอื วเิ คราะหต์ นเอง การ ปรับปรงุ แกไ้ ข การแสดงออก และการประเมนิ
ผล บคุ ลกิ ภาพดา้ นตา่ งๆ ทคี่ วรพัฒนาในการ พดู ไดแ้ ก่ รปู รา่ งหนา้ ตา การ
แตง่ กาย การปรากฏกาย การใชส้ ายตา การใชเ้ สยี ง การใช ้กริ ยิ าทา่ ทาง การ
สรา้ งความเชอ่ื มน่ั ในตนเองนอกจากพัฒนาบคุ ลกิ ภาพดา้ นดงั กลา่ วแลว้ การ
พัฒนาเกยี่ วกบั การใชภ้ าษาในการพดู กเ็ ป็ นสงิ่
จําเป็ นทตี่ อ้ งพัฒนาอยเู่ สมอเชน่ เดยี วกนั

21

เอกสารอา้ งองิ
ทนิ วฒั น์ มฤคพทิ กั ษ.์ (2548), พดู ได ้ พดู เป็ น. กรงุ เทพฯ : โอ.เอส.พรนิ้ ตง้ิ
เฮา้ ส.์
เสนาะ ผดงุ ฉัตร, (2540), วาทศาสตร์ ศลิ ปะเพอ่ื การพดู , กรงุ เทพฯ : โรง
พมิ พม์ หาวทิ ยาลยั
มหาจฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลยั .
อญั ชลี แจม่ เจรญิ , (2530), จติ วทิ ยาธรุ กจิ , พมิ พค์ รัง้ ท่ี 3, กรงุ เทพฯ:
วทิ ยาลยั ครสู วนสนุ ันทา. สภุ าวณิ ี โลหะประเสรฐิ . (2556), การพัฒนา
พฤตกิ รรมการกลา้ แสดงออกโดยใชว้ ธิ กี ารแสดง
บทบาทสมมตขิ องนักศกึ ษาชนั้ ปีท่ี 1 สาขาวชิ าการจัดการธรุ กจิ ทอ่ งเทย่ี วใน
รายวชิ า อตุ สาหกรรมการทอ่ งเทยี่ ว ภาคเรยี นท่ี 1/2556. รายงานวจิ ัยในชนั้
เรยี น.ภาควชิ า บรหิ ารธรุ กจิ และเศรษฐศาสตร:์ คณะวทิ ยาการจัดการ
มหาวทิ ยาลยั ราชภฎั ยะลา,
Hilgard, Ernest. (1962), R.Introduction to Psychology.rd. New York:
Marcourt,Brace & World
Inc.https://so06.tci-thaijo.org/index.php/mcjou/article/download/2481
13/168175/875023


Click to View FlipBook Version