อัลเบิร์ต เอลลิส

อลั เบิร์ต เอลลิส

จดั ทำโดย
นำงสำว เสำวลกั ษณ์ แสงสำ

6510409008

เสนอ
ดร.รอง ปัญสงั กำ

ภำคเรยี นนท่ี 2 ปีกำรศกึ ษำ 2565
วทิ ยำลยั สนั ตพล

คำนำ

รำยงำนเรอ่ื งนี้ เป็นส่วนหนง่ึ ของรำยวิชำ ED201 จติ วิทยำสำหรบั ครู
โดยมีจดุ ประสงคใ์ นกำรศกึ ษำท่ีทฤษฏีวำ่ ดว้ ยเหตผุ ล อำรมณ์ และพฤตกิ รรมของอลั เบิรต์
เอลลสิ (Albert Ellis)เรยี นรูเ้ ก่ียวกบั ชีวประวตั ขิ องอลั เบิรต์ เอลลสิ
ทง้ั นีเ้ นือ้ หำทงั้ หมดสืบคน้ ตำมแหลง่ ขอ้ มลู บนอนิ เทอรเ์ นต็ บทควำมเก่ียวกบั ทฤษฏีว่ำดว้ ย
เหตผุ ล อำรมณ์ และพฤติกรรมของอลั เบิรต์ เอลลิส ในกำรจดั ทำรำยงำนเล่มนีห้ วงั ว่ำมีขอ้ มลู
จะเป็นประโยชนต์ ่อผทู้ ่ีสนใจไม่มำกก็นอ้ ย
หำกผดิ พำดประกำรใด ขออภยั มำ ณ ท่ีนีด้ ว้ ย

นำงสำว เสำวลกั ษณ์ แสงสำ
6510409008

สำรบญั

เรอ่ื ง หนำ้
ก
คำนำ ข
1
สำรบญั 2
3
ชีวประวตั ขิ องอลั เบริ ต์ เอลลิส
แนวคิดที่สำคญั ของอลั เบิร์ต เอลลิส 4
ธรรมชำติพ้นื ฐำนของมนุษย์ 5
ค
ฐำนแนวคิดของกำรบำบดั แบบ

Rational Emotive Therapy(RET)

ทฤษฎีA-B-CและRET
จิตบำบดั แบบRET
อำ้ งอิง

ชีวประวตั ิ
อลั เบิรต์ เอลลสิ

เกิด: 27 กนั ยำยน 2456, พติ ตส์ เบิร์ก, เพนซิลเวเนีย, อเมริกำ เขำเป็นพี่ชำยคนโตในพน่ี อ้ ง3คน
ครอบครัวเอลลิสซ่ึงมีเช้ือสำยยวิ เสียชีวติ เม่ือ: 24 กรกฎำคม 2550, Albert Ellis Institute, นคร
นิวยอร์ก, นิวยอร์ก, อเมริกำ

แนวคิดที่สำคญั ของ
อลั เบิร์ต เอลลิส

อลั เบิร์ต เอลลิส(Albert Ellis) ผสู้ ร้ำงทฤษฎีบำบดั แบบกำรเนน้ เหตุผล อำรมณ์และพฤติกรรม
หรือท่ีเรียกวำ่ Rational Emotive Behavior Therapy (REBT).REBTมองวำ่ ควำมเชื่อ กำรประเมิน
ปรัชญำของบุคคลเป็นตวั ควบคุมควำมรู้สึกของบุคคลและก่อใหเ้ กิดปัญหำทำงอำรมณ์มำกกวำ่
สภำพแวดลอ้ มภำยนอก.เเอลลิสมองวำ่ กำรเปลี่ยนแปลงควำมคิดควำมเช่ือ และพฤติกรรมเป็น
หนทำงนำไปสู่กำรสุขภำพจิตดี ซ่ึงเขำไดน้ ำเเสนอหลกั กำรดงั กล่ำวน้ีเป็น คร้ังแรกในปี 1950
และกลำยมำเป็นพ้ืนฐำนของกำรบำบดั แบบเนน้ ควำมคิดท้งั มวลในปัจจุบนั .

ธรรมชำตพิ ืน้ ฐำนของมนษุ ย์ ฐำนแนวคิดของกำรบำบดั แบบ

Rational Emotive Therapy(RET)

ธรรมชำตพิ นื้ ฐำนของมนษุ ยส์ รุปได5้ ประกำรดงั นี้
1.มนษุ ยต์ ำ่ งจำกสตั วโ์ ลกทงั้ หลำยมีค่ำนิยมสสำมำรถคดิ สสำมำรถพฒั นำควำมรูค้ ดิ ของตน
ไดป้ รประเมนิ ค่ำนยิ มปรบั เปล่ียนคำ่ นิยมเเพ่อื กำรมีพฤติกรรมไหนท่ีเหมำะสมได้
2.มนษุ ยเ์ กิดมำพรอ้ มกบั ศกั ยภำพท่ีจะมีเหตผุ ลแต่ไมม่ ีเหตผุ ลเพรำะมีชีวิตท่ีไมม่ ีเหตผุ ลจงึ เป็น
คนท่ีมีปัญหำทำงอำรมณท์ ่ีไมเ่ หมำะสมดว้ ยเช่น ทอ้ แท้ สนิ้ หวงั ไรค้ ่ำ สว่ นบคุ คลท่ีมีเหตผุ ลมำก
มีควำมสขุ สดช่ืนรน่ื เรงิ
3.มนษุ ยเ์ ป็นผทู้ ่ีมีเหตผุ ลและไรเ้ หตผุ ลกำรท่ีมีอำรมณท์ ่ีไม่มีเหตผุ ลมีสำเหตมุ ำจำกควำมคดิ
ควำมเช่ือท่ีไรเ้ หตผุ ลแตถ่ ำ้ เคำ้ เรยี นรูว้ ธิ ีคิดท่ีมีเหตผุ ลมำกขนึ้ ลดกำรไรเ้ หตผุ ลจะเป็นสำเหตทุ ่ี
ประสบสขุ ควำมสำเรจ็ ในชีวิต
4.มมนษุ ยม์ ีควำมตอ้ งกำรส่งิ ท่ีดีงำมในชีวติ หำกบคุ คลไม่ไดร้ บั กำรตอบสนองในส่งิ ท่ีตอ้ งกำร
มกั กล่ำวโทษหรอื ตำหนิตนเองหรอื ผอู้ ่ืนหำกบคุ คลไดร้ บั กำรช่วยเหลือใหร้ ูจ้ กั ปรบั เปล่ียนวธิ ีคิด
เเละกำรบั รูท้ ่ีไม่มีเหตผุ ลก่อใหเ้ กิดพฤตกิ รรมในทำงท่ีเหมำะสมขนึ้
5.ควำมคดิ ควำมรูส้ กึ และพฤตกิ รรมของมนษุ ยม์ ีควำมสมั พนั ธก์ นั อยำ่ งใกลช้ ิดเม่ือบคุ คลแสดง
ควำมรูส้ กึ เคำ้ ก็จะคดิ และแสดงพฤตกิ รรมดว้ ยเม่ือเเสดงพฤตกิ รรมเคำ้ ก็ แสดงควำมรูส้ กึ ดว้ ย
เม่ือบคุ คลคดิ เขำ้ ก็จะแสดงควำมรูส้ กึ และพฤตกิ รรมดว้ ย

ทฤษฎีA-B-CและRET

ทฤษฎีABCโดยทฤษฎีนีเ้ ช่ือวำ่ เม่ือมีAเป็นควำมคดิ ตวั ตวั กระตนุ้ หรอื ส่ิงเรำ้ เเลว้ เกิดควำมรูส้ กึ
อำรมณ(์ B)และ(C)เป็นผลของอำรมณ์ ท่ีตอบสนองหรอื พฤตกิ รรมอำจมีไดท้ งั้ ท่ีเหมำะสมและ
ไมเ่ หมำะสม จำกทฤษฎีนีส้ รุปแนวคิดไดค้ ือ ควำมคดิ —>ควำมรูส้ กึ —>พฤตกิ รรม เช่นไดย้ ิน
เสียงระเบดิ ดงั จะมีควำมคิดเกิดขนึ้ วำ่ อะไรเป็นสำเหตุ ไดห้ ลำยอยำ่ ง เชน่ เกิดจำกผกู้ ่อกำรรำ้ ย
วำงระเบดิ ลกู โป่งระเบิด งำนฉลองจดุ พลุ เป็นตน้ แตล่ ะรำยกำรอำจรูส้ กึ กลวั เฉยๆหรอื คลืน้
เครง เป็นตน้ อำจจะก่อใหเ้ กิดพฤติกรรมว่งิ หลบไปในท่ีปลอดภยั ไปเตรยี มอำวธุ ออกไปดู เป็น
ตน้ จำกทฤษฎีสรุปไดว้ ำ่ สขุ ทกุ ข์ อยทู่ ่ีกำรคิด คิดอะไรไดอ้ ยำ่ งนน้ั แลว้ เรำจะคดิ ในทำง
สรำ้ งสรรค์ คดิ แตใ่ นส่ิงดีใหก้ บั ตนเอง ไมด่ ีกวำ่ หรอื เหมือนกบั ว่ำเม่ือท่ำนยิม้ ใหก้ บั โลก แลว้ โลก
จะยมิ้ กบั ทำ่ น

จิตบำบดั แบบRET

ทฤษฏีกำรใหค้ ำปรกึ ษำแบบพจิ ำรณำเหตผุ ลอำอำรมณแ์ ละพฤตกิ รรมเป็น4ขนั้ ตอน
1.แสดงใหผ้ ผู้ รู้ บั คำปรกึ ษำเห็นวำ่ เขำมีควำมคิดท่ีไม่มีเหตผุ ลจะตอ้ งชว่ ยใหเ้ ขำเขำ้ ใจทำไมจงึ มี
ควำมคดิ เชน่ นน้ั ทำใหเ้ ขำ้ ใจเร่อื งควำมสมั พนั ธร์ ะระหวำ่ งควำมคดิ ท่ีไมม่ ีเหตผุ ลกบั อำรมณท์ ่ีไม่
เป็นสขุ กบั พฤติกรรมท่ีเกิดขนึ้
2.ทำใหผ้ รู้ บั คำปรกึ ษำเขำ้ ใจวำ่ อำรมณไ์ ม่เป็นสขุ จะมีอยอู่ ีกตอ่ ไปเพรำะยงั มีควำมคดิ ท่ียงั ไมม่ ี
เหตผุ ลอยู่
3.ทำใหผ้ รู้ บั คำปรกึ ษำเปล่ียนควำมคดิ ของเขำ โดยขจดั ควำมคดิ ท่ีไมม่ ีเหตผุ ล แลว้ ทดแทนขึน้
ดว้ ยควำมคดิ ท่ีมีเหตผุ ล
4.วำงแผนในกำรพฒั นำปฏิกิรยิ ำโตต้ อบท่ีมีเหตผุ ลของผรู้ บั คำปรกึ ษำเพ่อื พฒั นำพฤตกิ รรมท่ีมี
เหตผุ ลหรอื พฤตกิ รรมท่ีพงึ ประสงคใ์ หม้ ่นั คงต่อไป

อำ้ งอิง

http://childhood281.blogspot.com/2010/01/albert-ellis.html
https://www.bloggang.com/m/mainblog.php?id=psychologis

t&month=17-11-2006&group=2&gblog=3