แผนการจดั การเรยี นรู้
วชิ า การบัญชรี ว่ มคา้ และฝากขาย รหสั วิชา 20201-2104
หลักสูตร ประกาศนยี บตั รวชิ าชพี
ประเภทวชิ า พาณชิ ยกรรม
สาขาวชิ า การบัญชี สาขางาน การบัญชี
จดั ทำโดย
นางรชั ดาวลั ย์ พรหมปลดั
วทิ ยาลัยการอาชีพปะเหลยี น
อำเภอ ปะเหลยี น จงั หวดั ตรัง
สำนักงานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา
แผนการเรียนรทู้ ี่ 1
หนว่ ยท่ี 1 จำนวน 8 ชวั่ โมง สปั ดาห์ 1 - 2
ชอื่ วชิ า การบญั ชรี ว่ มคา้ และฝากขาย รหัส 20201 - 2104
ชอื่ หนว่ ย ความรทู้ ว่ั ไปเกยี่ วกบั การรว่ มคา้
1. สาระสำคญั
การร่วมคา้ เป็นการประกอบกิจการรว่ มกนั ตัง้ แต่สองคน หรือสองกิจการขึน้ ไป โดยมีวัตถุประสงค์
เฉพาะเจาะจง เมื่อการคา้ เสร็จสิน้ ถือว่าการร่วมค้าสน้ิ สดุ ลงรูปแบบของการร่วมค้ามี 3 รูปแบบ คือ การ
ดำเนินงานที่ควบคมุ รว่ มกนั สินทรัพยท์ ่ีควบคุมรว่ มกนั และกจิ การที่ควบคุมรว่ มกันหรือกิจการร่วมค้า
วิธีการบญั ชีของการร่วมค้ามี 2 วธิ ี คอื วิธีการบนั ทึกบญั ชีการรว่ มคา้ โดยไมเ่ ปดิ สมุดบญั ชีกิจการ
รว่ มคา้ แยกตา่ งหากและวิธกี ารบันทึกบัญชกี ารรว่ มคา้ โดยเปิดสมุดบญั ชีกจิ การรว่ มค้าแยกตา่ งหาก
2. สมรรถนะประจำหนว่ ย
2.1 แสดงความรเู้ ก่ียวกบั ความหมายและลกั ษณะของการรว่ มค้า
2.2 แสดงความร้เู ก่ยี วกบั รปู แบบของการร่วมค้า
2.3 แสดงความรู้เกี่ยวกับวิธกี ารบัญชีของการรว่ มค้า
2.4 แสดงพฤติกรรมความมีมนุษยสมั พนั ธ์ ความสนใจใฝร่ ู้ ความรับผดิ ชอบ ความมวี ินัย
3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
3.1 จดุ ประสงคท์ วั่ ไป
1. เพอ่ื ใหร้ ูแ้ ละเข้าใจเกี่ยวกบั ความหมายและลักษณะของการรว่ มค้าได้
2. เพือ่ ให้รู้และเข้าใจเกี่ยวกบั รปู แบบของการรว่ มคา้ ได้
3. เพอ่ื ใหร้ แู้ ละเข้าใจเกี่ยวกบั วิธีการบัญชีของการรว่ มคา้ ได้
4. เพอ่ื ให้มมี นุษยสมั พนั ธ์ ความสนใจใฝ่รู้ ความรบั ผดิ ชอบ ความมวี นิ ัย
3.2 จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม
1. อธบิ ายความหมายและลกั ษณะของการรว่ มค้าได้
2. อธิบายรปู แบบของการรว่ มค้าได้
3. อธบิ ายรูปแบบของการรว่ มคา้ ได้
4. บอกคำศัพท์ได้อย่างน้อย 7 คำ
5. มกี ารพฒั นาคณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคุณลักษณะอนั พงึ ประสงคท์ ี่ครูสามารถ
สังเกตเหน็ ได้ในด้านความมมี นุษยสมั พนั ธ์ ความมีวินัย ความรับผิดชอบ ความเชอ่ื มน่ั
ในตนเอง ความสนใจใฝ่รู้ ความรกั สามคั คี ความกตัญญูกตเวที
4. สาระการเรยี นรู้
1. ความหมายและลักษณะของการร่วมคา้
2. รปู แบบของการร่วมค้า
3. วธิ ีการบญั ชขี องการร่วมคา้
4. ศัพท์บัญชที ีค่ วรเรียนรใู้ นหน่วยท่ี 1
5. กจิ กรรมการเรยี นรู้
1. ขน้ั นำ
1.1 ผู้เรียนยกตัวอย่างกจิ การท่ีประกอบธรุ กจิ กจิ การร่วมค้า และอภปิ รายลักษณะโดยท่วั ๆ ไป
ถงึ การจดั ทำบญั ชี เพ่ือให้ผู้เรียนเกดิ การเรยี นรู้ และเป็นแนวทางในการศกึ ษาเนือ้ หาของ
สปั ดาห์น้ีตอ่ ไป
1.2 แจง้ ผลการเรยี นรู้ทคี่ าดหวงั เพอื่ ให้ผเู้ รยี นประเมินตนเองและวางแผนการศึกษาเนอื้ หาใน
สัปดาหไ์ ด้
2. ขั้นสอน
2.1 แบง่ กลุ่มผเู้ รยี นออกเป็น 3 กลมุ่ เพือ่ ศกึ ษาค้นควา้ รายละเอยี ดดังนี้
- ความหมายและลกั ษณะของการรว่ มคา้
- รปู แบบของการร่วมค้า
- วธิ กี ารบญั ชขี องการรว่ มค้า
2.2 เมื่อไดข้ ้อสรุปเป็นองคค์ วามรู้แลว้ ใหน้ ำมาอภปิ รายหน้าชั้นเรยี นโดยอาจเลือกกิจกรรม
นำเสนอตามความถนัด
2.3 ผเู้ รียนกลมุ่ อ่ืนๆ ชว่ ยกนั แสดงความคิดเหน็ วิจารณผ์ ลงาน และยอมรบั ฟังความคิดเหน็ ของ
ผอู้ นื่ เพื่อการพฒั นาทีด่ ีข้นึ ต่อไป
2.4 นำผลงานสง่ ผสู้ อนเพื่อประเมินผล
3. ขนั้ สรปุ
3.1 ผู้เรียนสรุปผลการทำกิจกรรม โดยผสู้ อนคอยให้ความช่วยเหลอื และแนะนำ
3.2 ผูเ้ รียนจดั ทำรายงานผลการทำกิจกรรม ตอบคำถามท้ายกิจกรรม สง่ ในสัปดาห์ถัดไป
6. สอื่ การเรยี นรู้
1. สอ่ื เพาเวอร์พอยเรอื่ งความรู้ท่ัวไปเกย่ี วกับการร่วมคา้
2. วสั ดอุ ุปกรณใ์ นการทำกิจกรรม
7. หลกั ฐานการเรยี นรู้
7.1 หลกั ฐานความรู้
1. ผลการทดสอบ
2. ผลการทำแบบฝึกหัด
3. ผลการตอบคำถามท้ายกจิ กรรม
7.2 หลกั ฐานการปฏบิ ัตงิ าน
1. แบบรายงานผลการทำกจิ กรรม
8. การวดั ผลประเมนิ ผล
การวดั ผล
1. สังเกตพฤติกรรมรับฟงั ความคิดเหน็ ของผู้อื่น ใหค้ วามรว่ มมอื ในการปฏิบตั ิงาน การมคี วาม
กระตือรือร้น การปฏิบัติงานตามขน้ั ตอน และมีความสะอาด โดยใช้แบบสังเกตพฤตกิ รรม
2. สงั เกตการณน์ ำเสนอผลงาน โดยใช้แบบประเมนิ กิจกรรม
3. ตรวจแบบฝึกหัด โดยใช้ใบเฉลยแบบฝึกหดั
4. ตรวจรายงานผลการทำกจิ กรรม โดยใชแ้ บบตรวจบนั ทกึ กิจกรรม
5. ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน โดยใชใ้ บเฉลยแบบทดสอบ
การประเมนิ ผล
นักเรียนที่ได้คะแนนรอ้ ยละ 60 ขนึ้ ไปถือว่าผ่านการประเมนิ
9. บนั ทกึ ผลหลังการจดั การเรยี นรู้
1 ขอ้ สรปุ หลงั การจดั การเรยี นรู้
2 ปญั หาทพี่ บ
3 แนวทางแกป้ ัญหา
ผลทจ่ี ะเกดิ ขน้ึ กับนกั ศกึ ษาจากการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ทบ่ี รู ณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
1. นักศกึ ษาจะไดฝ้ กึ คดิ และฝกึ ปฏบิ ตั ติ ามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
เงอื่ นไขความรู้ เงอื่ นไขคุณธรรม
ความร้ทู ่ผี เู้ รียนตอ้ งมกี ่อนการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ คุณธรรมของนกั เรียนในการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้
- ผ้เู รียนมีความร้คู วามเข้าใจรปู แบบของ - ความมมี นุษยสมั พันธ์
การรว่ มคา้ - ความสนใจใฝร่ ู้
- ความรับผิดชอบ
- ความสามคั คี
ความพอประมาณ ความมเี หตผุ ล ความมภี มู คิ ุม้ กันในตวั ทดี่ ี
1. ผูเ้ รียนจัดเตรยี มวสั ดุ 3. ผเู้ รยี นวเิ คราะห์รปู แบบของ 4. ผู้เรยี นปฏิบัตกิ ารทำ
อปุ กรณ์ได้เหมาะสมกับ การร่วมค้า กจิ กรรมโดยคำนึงถงึ ความ
การเรยี นการสอน ประหยัด
2. ผ้เู รยี นปฏิบตั ิการทำ
กิจกรรมตามแผน
2. ผเู้ รยี นจะไดเ้ รยี นรกู้ ารใชช้ วี ติ ทสี่ มดลุ และพรอ้ มรบั การเปลยี่ นแปลง 4 มติ ติ ามหลกั ปรัชญาของ
เศรษฐกจิ พอเพยี ง
จดุ มงุ่ หมาย สมดลุ และพรอ้ มรบั การเปลยี่ นแปลง
การเรยี นรู้ ด้านเศรษฐกจิ ดา้ นสงั คม ด้านสง่ิ แวดลอ้ ม ดา้ นวฒั นธรรม
ดา้ นพุทธพิ สิ ยั (K) 1,2,3 1,4 4 4
ด้านทักษะพสิ ยั (P) 1,2,3 1,4 4 4
ด้านจติ พสิ ยั (A) 1,2,3 1,4 4 4
แผนการเรียนรทู้ ่ี 2
หน่วยที่ 2 จำนวน 12 ชั่วโมง สปั ดาห์ 3 - 5
ชอื่ วชิ า การบญั ชรี ่วมคา้ และฝากขาย รหสั 20201 - 2104
ชอ่ื หนว่ ย วิธกี ารบญั ชกี ารรว่ มค้าโดยไมเ่ ปดิ สมดุ บญั ชกี ิจการร่วมคา้ แยกต่างหาก
1. สาระสำคญั
การบัญชีการรว่ มค้าโดยไมเ่ ปิดสมุดบัญชีกจิ การร่วมค้าแยกต่างหาก เปน็ วธิ กี ารท่ีผู้ร่วมคา้ แต่ละคนจะ
บนั ทึกรายการเกยี่ วกบั การร่วมคา้ ทุกรายการ ถึงแม้บางรายการจะไม่เก่ยี วข้องกับตนเอง โดยผู้ร่วมค้าแต่ละคน
จะทำการเปดิ บัญชีรว่ มค้าและบัญชผี ูร้ ่วมค้าคนอ่ืนๆ ในสมุดบัญชีของตนเอง ซึ่งบญั ชีร่วมคา้ ท่ผี ูร้ ่วมค้าแต่ละ
คนเปิดขนึ้ จะมีรายการบญั ชีที่เหมอื นกัน
วธิ ีการบญั ชีการร่วมค้าโดยไม่เปดิ สมุดบญั ชกี ิจการร่วมค้าแยกตา่ งหาก จะแบง่ เป็น 2 กรณี คือ กรณี
การดำเนินการร่วมคา้ เสร็จสนิ้ มีการชำระเงินระหว่างผู้ร่วมค้าดว้ ยกนั และกรณกี ารดำเนนิ การร่วมคา้ ไม่เสร็จ
สนิ้ แต่ผู้รว่ มคา้ ทุกคนต้องการแบง่ กำไรหรือขาดทนุ กอ่ น โดยทีย่ ังไม่มกี ารชำระเงินระหวา่ งกนั
2. สมรรถนะประจำหนว่ ย
2.1 แสดงความรู้เกีย่ วกบั หลักการบันทึกบัญชกี ารร่วมคา้ โดยไม่เปิดสมุดบญั ชีกจิ การร่วมค้าแยก
ต่างหากแสดงความรู้เกย่ี วกับการบนั ทกึ บัญชกี ารรว่ มคา้ โดยไม่เปดิ สมดุ บัญชีกิจการร่วมค้าแยกต่างหาก กรณี
การดำเนินการร่วมคา้ เสร็จส้ิน
2.2 แสดงความรูเ้ กี่ยวกับการบันทกึ บัญชีการรว่ มค้าโดยไม่เปิดสมุดบญั ชกี จิ การร่วมค้าแยกต่างหาก
กรณีการดำเนนิ การรว่ มคา้ ไม่เสร็จสิน้
2.3 แสดงพฤติกรรมความมีมนุษยสัมพันธ์ ความสนใจใฝ่รู้ ความรับผิดชอบ ความมีวนิ ยั
3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
3.1 จดุ ประสงคท์ ว่ั ไป
1. เพ่อื ใหร้ แู้ ละเข้าใจเก่ียวกับหลักการบันทึกบัญชกี ารรว่ มค้าโดยไม่เปดิ สมุดบญั ชกี ิจการร่วม
คา้ แยกต่างหากได้
2. เพ่ือให้รู้และเขา้ ใจเกย่ี วกับการบนั ทึกบัญชีการร่วมคา้ โดยไม่เปิดสมดุ บัญชีกจิ การรว่ มค้า
แยกตา่ งหาก กรณีการดำเนนิ การร่วมค้าเสร็จสิน้ ได้
3. เพอ่ื ให้รูแ้ ละเขา้ ใจเก่ยี วกบั การบันทึกบญั ชกี ารร่วมคา้ โดยไมเ่ ปดิ สมดุ บญั ชีกจิ การร่วมค้า
แยกต่างหาก กรณีการดำเนนิ การร่วมค้าไม่เสรจ็ สน้ิ ได้
4. เพื่อให้มมี นุษยสมั พันธ์ ความสนใจใฝ่รู้ ความรับผดิ ชอบ ความมีวินัย
3.2 จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม
1. อธบิ ายหลกั การบนั ทกึ บญั ชีการรว่ มค้าโดยไมเ่ ปดิ สมุดบญั ชีกิจการรว่ มคา้ แยกตา่ งหากได้
2. สามารถบันทึกบญั ชกี ารรว่ มค้าโดยไมเ่ ปดิ สมุดบัญชีกิจการร่วมค้าแยกต่างหาก กรณกี าร
ดำเนนิ การร่วมคา้ เสร็จสิ้นได้
3. สามารถบันทึกบัญชีการร่วมค้าโดยไม่เปิดสมดุ บัญชีกิจการร่วมคา้ แยกต่างหาก กรณกี าร
ดำเนินการรว่ มค้าไมเ่ สรจ็ สนิ้ ได้
4. บอกคำศัพท์ไดอ้ ย่างน้อย 7 คำ
5. มีการพฒั นาคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ท่ีครูสามารถ
สงั เกตเหน็ ได้ในด้านความมมี นุษยสมั พนั ธ์ ความมีวินัย ความรบั ผิดชอบ ความเชอ่ื ม่ัน
ในตนเอง ความสนใจใฝร่ ู้ ความรักสามัคคี ความกตญั ญูกตเวที
4. สาระการเรยี นรู้
1. หลักการบันทึกบัญชีการรว่ มคา้
2. การบญั ชกี ารรว่ มค้าโดยไมเ่ ปิดสมดุ บัญชกี ิจการร่วมคา้ แยกตา่ งหาก กรณีการดำเนนิ การรว่ มค้า
เสร็จสิน้
3. การบญั ชีการร่วมค้าโดยไม่เปิดสมุดบญั ชกี ิจการร่วมค้าแยกตา่ งหาก กรณีการดำเนินการรว่ มคา้
ไม่
เสร็จส้ิน
4. ศัพทบ์ ัญชที ่ีควรเรียนรูใ้ นหน่วยที่ 2
5. กจิ กรรมการเรยี นรู้
1. ขนั้ นำ
1.1 ทบทวนหลักการบนั ทึกบัญชรี ายการซือ้ ขายสนิ คา้ แบบปกติกจิ การเจ้าของคนเดยี วและห้าง
ห้นุ ส่วน โดยกำหนดรายการค้าให้ผู้เรียนทำการบันทึกรายการ เพื่อฝึกทักษะในการศึกษา
เนอ้ื หาสัปดาห์นีต้ ่อไป
2. ขน้ั สอน
2.1 ผูส้ อนนำหลกั การบนั ทกึ บัญชีการร่วมค้าโดยไมเ่ ปิดสมุดบัญชีการร่วมคา้ แยกต่างหาก ซ่ึงมี
การบันทึกบัญชีสองดา้ น คือ ดา้ นของผู้รว่ มค้าทีเ่ กดิ รายการ และด้านผู้รว่ มค้าคนอื่น
2.2 ผสู้ อนอภปิ รายโดยการให้ผเู้ รียนมสี ว่ นร่วม คือ กำหนดรายการค้าใหผ้ ูเ้ รยี นทำการบันทกึ
รายการ โดยสุ่มเรยี กตามรายชอื่ ที่ปรากฏในทะเบียนห้องเรียน
2.3 หากผู้เรียนคนใดบันทกึ รายการบัญชไี ด้ถกู ต้องตามหลักการบญั ชีร่วมค้า ผสู้ อนจะทำการ
บวกคะแนนเพิ่มให้รายการละ 1 คะแนน เพือ่ นำไปเปน็ คะแนนเก็บต่อไป
2.4 เปดิ โอกาสใหผ้ เู้ รียนมสี ว่ นร่วมแสดงความคิดเหน็
2.5 ผเู้ รียนปฏิบตั ิตามใบงาน
3. ขั้นสรปุ
3.1 ผ้เู รียนและผสู้ อนสรปุ หลกั การบันทกึ บัญชกี ารร่วมคา้ โดยใหผ้ เู้ รียนแสดงรายการค้าและทำ
การบนั ทกึ รายการบัญชตี ามลำดบั
3.2 ทำแบบฝกึ ปฏิบัติหน่วยท่ี 2
6. สอื่ การเรยี นรู้
1. สื่อเพาเวอรพ์ อยต์เรอ่ื งวิธกี ารบัญชีการรว่ มคา้ โดยไม่เปดิ สมุดบัญชีกิจการร่วมค้าแยกต่างหาก
2. วสั ดุอุปกรณใ์ นการทำกจิ กรรม
7. หลกั ฐานการเรยี นรู้
7.1 หลกั ฐานความรู้
1. ผลการทดสอบ
2. ผลการทำแบบฝึกหัด
7.2 หลกั ฐานการปฏบิ ตั งิ าน
1. แบบรายงานผลการทำกิจกรรม
8. การวดั ผลประเมนิ ผล
การวดั ผล
1. สังเกตพฤติกรรมรับฟงั ความคิดเหน็ ของผู้อน่ื ให้ความรว่ มมอื ในการปฏิบัตงิ าน การมีความ
กระตือรอื รน้ การปฏบิ ัติงานตามข้ันตอน และมีความสะอาด โดยใชแ้ บบสังเกตพฤตกิ รรม
2. สังเกตการณ์นำเสนอผลงาน โดยใชแ้ บบประเมนิ กิจกรรม
3. ตรวจแบบฝกึ หัด โดยใช้ใบเฉลยแบบฝกึ หดั
4. ตรวจรายงานผลการทำกิจกรรม โดยใชแ้ บบตรวจบันทกึ กิจกรรม
5. ตรวจแบบทดสอบหลงั เรียน โดยใช้ใบเฉลยแบบทดสอบ
การประเมนิ ผล
นักเรียนทไี่ ด้คะแนนรอ้ ยละ 60 ขน้ึ ไปถอื ว่าผา่ นการประเมิน
9. บนั ทกึ ผลหลังการจดั การเรยี นรู้
1 ขอ้ สรปุ หลงั การจดั การเรยี นรู้
2 ปญั หาทพี่ บ
3 แนวทางแกป้ ัญหา
ผลทจ่ี ะเกดิ ขน้ึ กบั นกั ศกึ ษาจากการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ทบ่ี รู ณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
1. นกั ศกึ ษาจะไดฝ้ กึ คดิ และฝกึ ปฏบิ ตั ติ ามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
เงอื่ นไขความรู้ เงอ่ื นไขคณุ ธรรม
ความรู้ท่ผี ู้เรียนตอ้ งมกี ่อนการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ คณุ ธรรมของนกั เรียนในการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้
- ผูเ้ รยี นมีความรู้ความเขา้ ใจหลักการ - ความมีมนษุ ยสัมพันธ์
บนั ทึกบญั ชกี ารร่วมคา้ - ความสนใจใฝร่ ู้
- ความรบั ผดิ ชอบ
- ความสามคั คี
ความพอประมาณ ความมเี หตผุ ล ความมภี มู คิ ุ้มกนั ในตวั ทด่ี ี
3. ผู้เรยี นจัดเตรยี มวัสดุ 3. ผ้เู รยี นวิเคราะห์หลักการ 4. ผูเ้ รียนปฏบิ ัติการทำ
อุปกรณ์ได้เหมาะสมกับ บันทึกบญั ชีการร่วมคา้ กิจกรรมโดยคำนึงถงึ ความ
การเรยี นการสอน ประหยัด
4. ผ้เู รียนปฏบิ ตั ิการทำ
กิจกรรมตามแผน
2. ผเู้ รยี นจะไดเ้ รยี นรกู้ ารใชช้ วี ติ ทส่ี มดลุ และพรอ้ มรับการเปลย่ี นแปลง 4 มติ ิตามหลกั ปรชั ญาของ
เศรษฐกจิ พอเพยี ง
จดุ มงุ่ หมาย สมดลุ และพรอ้ มรบั การเปลยี่ นแปลง
การเรยี นรู้ ด้านเศรษฐกิจ ด้านสงั คม ด้านสง่ิ แวดลอ้ ม ด้านวฒั นธรรม
ดา้ นพุทธพิ สิ ยั (K) 1,2,3 1,4 4 4
ด้านทักษะพสิ ยั (P) 1,2,3 1,4 4 4
ด้านจติ พสิ ยั (A) 1,2,3 1,4 4 4
แผนการเรียนรทู้ ี่ 3
หน่วยที่ 3 จำนวน 12 ชว่ั โมง สปั ดาห์ 6 - 8
ชอ่ื วชิ า การบญั ชรี ว่ มคา้ และฝากขาย รหัส 2201 - 2104
ชอ่ื หนว่ ย วธิ กี ารบญั ชกี ารรว่ มค้าโดยเปดิ สมดุ บัญชกี จิ การร่วมคา้ แยกต่างหาก
1. สาระสำคญั
การบัญชีการรว่ มค้าโดยเปดิ สมดุ บญั ชกี จิ การรว่ มคา้ แยกต่างหาก เปน็ วิธที ีม่ กี ารเปิดสมุดบญั ชขี อง
กจิ การร่วมคา้ ขึ้นชดุ หนง่ึ โดยเฉพาะเพื่อทำการจดบนั ทึกรายการคา้ ของกจิ การร่วมคา้ ซ่งึ การจัดทำบญั ชีของ
กิจการรว่ มค้าจะปฏิบตั ิตามมาตรฐานการบญั ชีเชน่ เดียวกับกิจการค้าท่ัวๆ ไป โดยจะมบี ัญชีกำไรขาดทุนเป็น
บญั ชสี รุปผลการดำเนินงาน
วธิ กี ารบัญชรี ่วมค้าโดยเปดิ สมุดบญั ชีกจิ การรว่ มค้าแยกต่างหากจะแบ่งเป็น 2 กรณี คือ กรณกี าร
ดำเนินการร่วมคา้ เสร็จสน้ิ ผูร้ ่วมคา้ แต่ละคนจะไดร้ บั คืนเงินรวมถึงส่วนแบ่งกำไรหรอื ขาดทุน และกรณกี าร
ดำเนนิ การ ร่วมค้าไมเ่ สรจ็ สนิ้ ผู้รว่ มค้าแตล่ ะ
2. สมรรถนะประจำหนว่ ย
1. แสดงความรู้เกี่ยวกบั การบันทกึ บญั ชีการรว่ มคา้ โดยเปดิ สมุดบญั ชีกิจการร่วมคา้ แยกต่างหาก
2. แสดงความรูเ้ กี่ยวกบั การบันทึกบัญชกี ารรว่ มคา้ โดยเปดิ สมุดบัญชกี ิจการรว่ มคา้ แยกการบันทกึ
บัญชกี ารรว่ มค้าโดยเปดิ สมุดบญั ชีกจิ การร่วมคา้ แยก
3. แสดงความรูเ้ กี่ยวกับการบันทึกบญั ชกี ารรว่ มค้าโดยเปดิ สมุดบญั ชีกิจการร่วมค้าแยกต่างหาก กรณี
การดาเนินการร่วมค้าไมเ่ สร็จสนิ ้
4. แสดงพฤติกรรมความมีมนุษยสัมพนั ธ์ ความสนใจใฝร่ ู้ ความรบั ผดิ ชอบ ความมวี นิ ยั
3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
3.1 จดุ ประสงคท์ ว่ั ไป
1. เพ่ือใหร้ ้แู ละเขา้ ใจเกี่ยวกับการบันทึกบญั ชีการร่วมค้าโดยเปิดสมดุ บญั ชกี จิ การร่วมค้าแยก
ตา่ งหากได้
2. เพ่ือให้รแู้ ละเข้าใจเกี่ยวกบั การบนั ทกึ บัญชกี ารรว่ มคา้ โดยเปดิ สมดุ บญั ชีกจิ การร่วมคา้ แยก
การบนั ทกึ บัญชีการรว่ มคา้ โดยเปดิ สมดุ บัญชกี ิจการร่วมคา้ แยกได้
3. เพ่อื ให้รูแ้ ละเขา้ ใจเกีย่ วกบั การบนั ทกึ บญั ชีการร่วมค้าโดยเปิดสมุดบญั ชีกจิ การร่วมค้าแยก
ตา่ งหาก กรณีการดำเนนิ การรว่ มคา้ ไม่เสรจ็ ส้นิ ได้
4. เพื่อใหม้ มี นุษยสัมพนั ธ์ ความสนใจใฝร่ ู้ ความรบั ผดิ ชอบ ความมวี นิ ยั
3.2 จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม
1. อธบิ ายหลักการบนั ทกึ บัญชีการรว่ มคา้ โดยเปดิ สมดุ บัญชีกิจการร่วมคา้ แยกต่างหากได้
2. สามารถบันทึกบัญชีการร่วมค้าโดยเปิดสมุดบญั ชกี จิ การรว่ มคา้ แยกต่างหาก กรณีการ
ดำเนนิ การ
ร่วมค้าเสร็จส้ินได้
3. สามารถบันทึกบัญชีการรว่ มค้าโดยเปดิ สมุดบญั ชกี ิจการร่วมค้าแยกต่างหาก กรณกี าร
ดำเนนิ การ
รว่ มค้าไม่เสร็จสน้ิ ได้
4. บอกคำศัพท์ไดอ้ ยา่ งน้อย 7 คำ
5. มกี ารพฒั นาคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ทค่ี รสู ามารถ
สงั เกตเห็นไดใ้ นดา้ นความมีมนุษยสัมพนั ธ์ ความมวี ินัย ความรับผิดชอบ ความเช่ือม่นั
ในตนเอง ความสนใจใฝร่ ู้ ความรกั สามัคคี ความกตัญญูกตเวที
4. สาระการเรยี นรู้
1. หลักการบันทึกบัญชกี ารรว่ มค้าโดยเปิดสมดุ บัญชกี ิจการรว่ มคา้ แยกตา่ งหาก
2. การบัญชกี ารร่วมคา้ โดยเปิดสมดุ บัญชีกจิ การร่วมค้าแยกตา่ งหาก กรณีการดำเนนิ การร่วม
ค้าเสรจ็ สน้ิ
3. การบัญชีการรว่ มคา้ โดยเปดิ สมุดบญั ชกี ิจการร่วมค้าแยกต่างหากกรณีการดำเนินการร่วม
ค้าไม่เสรจ็ ส้ิน
4. ศพั ทบ์ ัญชีท่ีควรเรยี นรใู้ นหน่วยที่ 2
5. กจิ กรรมการเรยี นรู้
1. ขนั้ นำ
1.1 ทบทวนหลักการบนั ทึกบัญชีรายการซือ้ ขายสินคา้ แบบปกติกจิ การเจา้ ของคนเดียวและห้าง
หุ้นส่วน โดยกำหนดรายการค้าใหผ้ เู้ รียนทำการบนั ทึกรายการ เพ่อื ฝึกทักษะในการศึกษา
เนื้อหาสปั ดาหน์ ี้ต่อไป
2. ขนั้ สอน
2.1 ผูส้ อนนำหลกั การบันทกึ บัญชีการรว่ มคา้ โดยเปิดสมดุ บัญชีการร่วมค้าแยกตา่ งหาก ซง่ึ มีการ
บนั ทึกบัญชสี องดา้ น คือ ดา้ นของผู้รว่ มคา้ ท่ีเกิดรายการ และด้านผ้รู ่วมค้าคนอื่น
2.2 ผ้สู อนอภิปรายโดยการใหผ้ ้เู รียนมีสว่ นร่วม คอื กำหนดรายการคา้ ให้ผเู้ รียนทำการบันทึก
รายการ โดยสมุ่ เรียกตามรายชื่อทป่ี รากฏในทะเบียนห้องเรียน
2.3 หากผู้เรยี นคนใดบนั ทกึ รายการบัญชไี ดถ้ กู ต้องตามหลักการบัญชีรว่ มคา้ ผูส้ อนจะทำการ
บวกคะแนนเพิ่มใหร้ ายการละ 1 คะแนน เพื่อนำไปเป็นคะแนนเกบ็ ต่อไป
2.4 เปิดโอกาสใหผ้ ้เู รยี นมีสว่ นร่วมแสดงความคิดเหน็
2.5 ผู้เรยี นปฏบิ ัติตามใบงาน
3. ขน้ั สรุป
2.6 ผู้เรยี นและผูส้ อนสรุปหลักการบนั ทกึ บัญชกี ารรว่ มคา้ โดยให้ผ้เู รยี นแสดงรายการค้าและทำ
การบันทกึ รายการบัญชตี ามลำดบั
2.7 ทำแบบฝึกปฏิบัตหิ นว่ ยที่ 3
6. สอ่ื การเรยี นรู้
1. สอ่ื เพาเวอร์พอยตเ์ รอื่ งวิธีการบัญชกี ารร่วมค้าโดยปิดสมุดบัญชีกจิ การร่วมค้าแยกตา่ งหาก
2. วัสดอุ ุปกรณ์ในการทำกิจกรรม
7. หลักฐานการเรยี นรู้
7.1 หลกั ฐานความรู้
1. ผลการทดสอบ
2. ผลการทำแบบฝึกหดั
3. ผลการตอบคำถามทา้ ยกจิ กรรม
7.2 หลกั ฐานการปฏบิ ัตงิ าน
1. แบบรายงานผลการทำกิจกรรม
8. การวดั ผลประเมนิ ผล
การวดั ผล
1. สงั เกตพฤติกรรมรับฟงั ความคิดเหน็ ของผู้อืน่ ใหค้ วามรว่ มมือในการปฏบิ ตั งิ าน การมคี วาม
กระตือรอื ร้น การปฏิบตั ิงานตามข้ันตอน และมีความสะอาด โดยใชแ้ บบสงั เกตพฤตกิ รรม
2. สงั เกตการณ์นำเสนอผลงาน โดยใช้แบบประเมินกิจกรรม
3. ตรวจแบบฝกึ หัด โดยใช้ใบเฉลยแบบฝกึ หัด
4. ตรวจรายงานผลการทำกจิ กรรม โดยใชแ้ บบตรวจบนั ทกึ กิจกรรม
5. ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น โดยใช้ใบเฉลยแบบทดสอบ
การประเมนิ ผล
นักเรยี นทไ่ี ด้คะแนนร้อยละ 60 ขน้ึ ไปถือว่าผ่านการประเมนิ
9. บนั ทกึ ผลหลังการจดั การเรยี นรู้
1 ขอ้ สรปุ หลงั การจดั การเรยี นรู้
2 ปญั หาทพี่ บ
3 แนวทางแกป้ ัญหา
ผลทจี่ ะเกดิ ขนึ้ กบั นกั ศึกษาจากการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ทบี่ รู ณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
1. นักศกึ ษาจะไดฝ้ กึ คดิ และฝกึ ปฏบิ ตั ติ ามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
เงอื่ นไขความรู้ เงอื่ นไขคุณธรรม
ความรู้ท่ผี เู้ รียนต้องมกี ่อนการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ คณุ ธรรมของนักเรียนในการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้
- ผู้เรยี นมีความรู้ความเข้าใจหลกั การ - ความมมี นุษยสัมพันธ์
บนั ทึกบญั ชกี ารรว่ มคา้ โดยเปิดสมุดบัญชีกิจการร่วม - ความสนใจใฝร่ ู้
ค้าแยกต่างหาก - ความรบั ผดิ ชอบ
- ความสามคั คี
ความพอประมาณ ความมเี หตผุ ล ความมภี มู คิ ุ้มกันในตวั ทดี่ ี
5. ผ้เู รียนจัดเตรยี มวสั ดุ 3. ผู้เรยี นวิเคราะห์หลกั การ 4. ผเู้ รียนปฏิบัติการทำ
บนั ทกึ บญั ชกี ารรว่ มค้าโดยเปิด กจิ กรรมโดยคำนึงถึงความ
อุปกรณ์ได้เหมาะสมกบั สมุดบญั ชีกิจการร่วมคา้ แยก ประหยัด
การเรยี นการสอน ตา่ งหาก
6. ผเู้ รียนปฏิบัติการทำ
กจิ กรรมตามแผน
2. ผเู้ รยี นจะไดเ้ รยี นรูก้ ารใชช้ วี ติ ทส่ี มดลุ และพรอ้ มรับการเปลยี่ นแปลง 4 มติ ิตามหลักปรชั ญาของ
เศรษฐกจิ พอเพยี ง
จดุ มงุ่ หมาย สมดลุ และพรอ้ มรบั การเปลย่ี นแปลง
การเรยี นรู้ ด้านเศรษฐกจิ ดา้ นสงั คม ด้านสงิ่ แวดลอ้ ม ดา้ นวฒั นธรรม
ดา้ นพุทธพิ สิ ยั (K) 1,2,3 1,4 4 4
ด้านทกั ษะพสิ ยั (P) 1,2,3 1,4 4 4
ดา้ นจติ พสิ ยั (A) 1,2,3 1,4 4 4
แผนการเรียนรทู้ ี่ 4
หนว่ ยท่ี 4 จำนวน 4 ชั่วโมง สัปดาห์ 9
ชอ่ื วชิ า การบญั ชรี ่วมคา้ และฝากขาย รหัส 20201 - 2104
ชอ่ื หนว่ ย ความรทู้ วั่ ไปของการฝากขาย
1. สาระสำคญั
การฝากขายจะหมายถึง การที่บุคคลที่เปน็ เจา้ ของสนิ คา้ ซ่ึงเรียกวา่ ผ้ฝู ากขาย สง่ สนิ ค้าของตนไปให้
บคุ คลอีกฝา่ ยหนึง่ ซึ่งเรยี กว่า ผูร้ บั ฝากขาย เป็นผูข้ ายสินคา้ ให้ โดยที่กรรมสิทธิ์ในสินคา้ ยังคงเปน็ ของผฝู้ ากขาย
จนกระท่ังสินค้านั้นขายได้ กรรมสิทธิ์ในสินค้าจึงจะโอนเป็นของผู้ซื้อสินค้า ผู้รับฝากขายจะได้รับผลประโยชน์
ตอบแทนเป็นค่านายหน้าตามทีต่ กลงกัน ผู้รบั ฝากขายจะต้องมหี น้าที่ในการดแู ลสินคา้ ทร่ี บั ฝากขาย ขายสนิ ค้า
ตามราคาท่ีกำหนด พิจารณาใหเ้ ครดิตลกู ค้าสำหรับการขายสนิ ค้าเป็นเงนิ เช่ือ และสง่ เงินคา่ ขายสินคา้ พร้อม
รายงานการขายสนิ ค้าใหแ้ ก่ผู้ฝากขาย
2. สมรรถนะประจำหนว่ ย
2.1 แสดงความรเู้ กย่ี วกับความหมายของการฝากขาย
2.2 แสดงความรู้เก่ยี วกบั ข้อแตกต่างระหว่างการขายสนิ ค้ากับการฝากขายสินคา้
2.3 แสดงความรู้เกีย่ วกบั รายละเอียดข้อมลู ในสัญญาฝากขายสินค้า
2.4 แสดงความรเู้ กี่ยวกับประโยชน์ของการฝากขาย
2.5 แสดงความรู้เกย่ี วกับสิทธแิ ละหน้าท่ขี องผู้ฝากขายและผู้รับฝากขาย
2.6 แสดงพฤติกรรมความมีมนุษยสมั พนั ธ์ ความสนใจใฝ่รู้ ความรับผิดชอบ ความมีวนิ ัย
3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
3.1 จดุ ประสงคท์ วั่ ไป
1. เพื่อใหร้ แู้ ละเข้าใจเกย่ี วกับความหมายของการฝากขายได้
2. เพอ่ื ให้รู้และเขา้ ใจเกีย่ วกบั ข้อแตกต่างระหวา่ งการขายสินค้ากับการฝากขายสินค้าได้
3. เพอื่ ใหร้ ู้และเขา้ ใจเก่ียวกับรายละเอยี ดข้อมลู ในสัญญาฝากขายสนิ ค้าได้
4. เพอ่ื ใหร้ ู้และเขา้ ใจเก่ียวกบั ประโยชน์ของการฝากขายได้
5. เพื่อให้รแู้ ละเขา้ ใจเก่ยี วกบั สทิ ธแิ ละหนา้ ทีข่ องผู้ฝากขายและผู้รบั ฝากขายได้
6. เพอ่ื ใหม้ ีมนุษยสัมพันธ์ ความสนใจใฝร่ ู้ ความรบั ผิดชอบ ความมีวินัย
3.2 จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม
1. อธบิ ายความหมายของการฝากขายได้
2. อธบิ ายข้อแตกต่างระหวา่ งการขายสนิ คา้ กบั การฝากขายสินค้าได้
3. อธิบายรายละเอยี ดข้อมูลในสัญญาฝากขายสินคา้ ได้
4. อธบิ ายประโยชนข์ องการฝากขายได้
5. อธบิ ายสิทธแิ ละหนา้ ท่ีของผ้ฝู ากขายและผู้รับฝากขายได้
6. บอกคำศัพท์ได้อยา่ งน้อย 7 คำ
7. มีการพฒั นาคณุ ธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ทคี่ รูสามารถ
สังเกตเหน็ ได้ในดา้ นความมมี นุษยสมั พนั ธ์ ความมีวินัย ความรบั ผิดชอบ ความเชอื่ มนั่
ในตนเอง ความสนใจใฝร่ ู้ ความรักสามัคคี ความกตัญญูกตเวที
4. สาระการเรยี นรู้
1. ความหมายของการฝากขาย
2. ข้อแตกตา่ งระหวา่ งการขายสินค้ากบั การฝากขายสินค้า
3. สัญญาในการฝากขาย
4. ประโยชนข์ องการฝากขาย
5. สิทธแิ ละหนา้ ท่ีของผูฝ้ ากขายและผูร้ บั ฝากขาย
6. ศัพท์บัญชที ่คี วรเรียนรใู้ นหน่วยท่ี 4
5. กจิ กรรมการเรยี นรู้
1. ขนั้ นำ
1.1 ผู้สอนทบทวนความรู้ท่ีได้ศกึ ษาผ่านมาแลว้ โดยการต้ังคำถามใหผ้ ู้เรียนช่วยกันตอบเป็น
กลุม่ หรือรายบุคคลเกีย่ วกับการฝากขาย ผู้สอนกลา่ วถงึ การนำปุ๋ยเคมีซง่ึ มผี ู้ผลติ ที่
กรุงเทพฯ และนำไปจำหน่ายท่ีจงั หวดั จันทบรุ ี โดยการขายในลกั ษณะฝากขาย ซึ่งไดร้ ับ
ค่าตอบแทนเป็นคา่ นายหน้า
1.2 ผสู้ อนแจ้งผลการเรียนรทู้ ่คี าดหวงั ในสัปดาหน์ ี้
2. ขน้ั สอน
2.1 แบง่ ผู้เรียนเป็นกล่มุ ๆ ละ 5-6 คน ให้ศกึ ษาค้นคว้ากจิ การที่ดำเนนิ ธรุ กิจฝากขายกล่มุ ละ 1
กจิ การ โดยศกึ ษาเกยี่ วกับความหมายของการฝากขาย ข้อแตกต่างระหวา่ งการขายสินค้า
กับการบริการฝากขายสินค้า สัญญาในการฝากขาย ประโยชน์ของการฝากขาย สิทธิและ
หน้าทขี่ องผู้ฝากขายและผ้รู บั ฝากขาย
2.2 นำรายละเอยี ดข้อ 2.1 มาเสนอหน้าชน้ั เรยี น
2.3 ผสู้ อนอภิปรายเพิ่มเตมิ โดยใช้สือ่ แผน่ ใส เพ่ือให้ผู้เรียนเขา้ ใจยงิ่ ขนึ้
2.4 ปฏบิ ัติตามใบงาน
3. ขนั้ สรปุ
ผู้เรยี นและผสู้ อนชว่ ยกันสรุปเป็นขอ้ ความรจู้ ากการฝากขาย โดยการซักถามดว้ ยข้อคำถามท่ี
ผู้สอนเปน็ ผู้กำหนดข้นึ เองตามความเหมาะสมต่อผลการเรียนร้ทู ี่คาดหวัง
ทำแบบฝกึ ปฏิบัตหิ น่วยที่ 4
6. สอื่ การเรยี นรู้
1. สือ่ เพาเวอร์พอยต์เร่อื งการฝากขาย
2. วัสดอุ ุปกรณ์ในการทำกิจกรรม
7. หลกั ฐานการเรยี นรู้
7.1 หลกั ฐานความรู้
1. ผลการทดสอบ
2. ผลการทำแบบฝึกหัด
3. ผลการตอบคำถามทา้ ยกจิ กรรม
7.2 หลกั ฐานการปฏบิ ตั งิ าน
1. แบบรายงานผลการทำกิจกรรม
8. การวดั ผลประเมนิ ผล
การวดั ผล
1. สงั เกตพฤติกรรมรับฟังความคิดเห็นของผู้อนื่ ให้ความรว่ มมอื ในการปฏิบตั ิงาน การมีความ
กระตือรอื รน้ การปฏิบัติงานตามข้นั ตอน และมีความสะอาด โดยใช้แบบสังเกตพฤตกิ รรม
2. สงั เกตการณ์นำเสนอผลงาน โดยใชแ้ บบประเมนิ กิจกรรม
3. ตรวจแบบฝกึ หดั โดยใชใ้ บเฉลยแบบฝกึ หัด
4. ตรวจรายงานผลการทำกจิ กรรม โดยใชแ้ บบตรวจบันทึกกิจกรรม
5. ตรวจแบบทดสอบหลงั เรียน โดยใช้ใบเฉลยแบบทดสอบ
การประเมนิ ผล
นกั เรยี นทไ่ี ด้คะแนนร้อยละ 60 ข้ึนไปถือวา่ ผา่ นการประเมนิ
9. บนั ทกึ ผลหลังการจดั การเรยี นรู้
1 ขอ้ สรปุ หลงั การจดั การเรยี นรู้
2 ปญั หาทพี่ บ
3 แนวทางแกป้ ัญหา
ผลทจี่ ะเกดิ ขน้ึ กบั นกั ศกึ ษาจากการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ทบ่ี รู ณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
1. นกั ศึกษาจะไดฝ้ กึ คดิ และฝกึ ปฏบิ ตั ติ ามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
เงอ่ื นไขความรู้ เงอื่ นไขคุณธรรม
ความร้ทู ผ่ี ูเ้ รียนต้องมีก่อนการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ คณุ ธรรมของนกั เรยี นในการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้
- ผู้เรียนมคี วามร้คู วามเขา้ ใจข้อแตกตา่ ง - ความมีมนษุ ยสัมพันธ์
ระหว่างการขายสนิ คา้ กบั การฝากขายสินคา้ - ความสนใจใฝร่ ู้
- ความรับผิดชอบ
- ความสามัคคี
ความพอประมาณ ความมเี หตผุ ล ความมภี มู คิ ุ้มกนั ในตวั ทดี่ ี
7. ผู้เรียนจัดเตรยี มวัสดุ 3.ผเู้ รยี นวเิ คราะหข์ อ้ แตกต่าง 4. ผูเ้ รยี นปฏิบัตกิ ารทำ
อุปกรณ์ไดเ้ หมาะสมกบั ระหวา่ งการขายสินค้ากบั การฝาก กิจกรรมโดยคำนึงถึงความ
การเรียนการสอน ขายสินค้า ประหยัด
8. ผู้เรยี นปฏบิ ตั ิการทำ
กิจกรรมตามแผน
2. ผเู้ รยี นจะไดเ้ รยี นรกู้ ารใชช้ วี ติ ทส่ี มดลุ และพรอ้ มรบั การเปลย่ี นแปลง 4 มติ ติ ามหลกั ปรชั ญาของ
เศรษฐกจิ พอเพยี ง
จดุ มงุ่ หมาย สมดลุ และพรอ้ มรบั การเปลย่ี นแปลง
การเรยี นรู้ ดา้ นเศรษฐกิจ ดา้ นสงั คม ด้านสง่ิ แวดลอ้ ม ด้านวฒั นธรรม
ดา้ นพุทธพิ สิ ยั (K) 1,2,3 1,4 4 4
ดา้ นทักษะพสิ ยั (P) 1,2,3 1,4 4 4
ดา้ นจติ พสิ ยั (A) 1,2,3 1,4 4 4
แผนการเรยี นรทู้ ่ี 5
หน่วยท่ี 5 จำนวน 12 ชว่ั โมง สัปดาห์ 10-12
ชอ่ื วชิ า การบญั ชรี ว่ มคา้ และฝากขาย รหัส 20201 - 2104
ชอื่ หนว่ ย การบันทกึ บัญชดี ้านผ้ฝู ากขาย
1. สาระสำคญั
วธิ ีการบันทกึ บญั ชดี า้ นผูฝ้ ากขายมี 2 วธิ ี คอื วิธกี ารบันทึกบัญชเี กย่ี วกับสินค้าฝากขายแยกไวต้ ่างหาก
จากการขายปกติของกจิ การ และวิธีการบันทึกบญั ชเี ก่ียวกับสินค้าฝากขายรวมกับการขายปกติของกจิ การ
ซ่ึงทัง้ 2 วิธนี ีต้ อ้ งคำนึงถงึ ระบบบัญชีเกี่ยวกับสินค้าที่ใช้ด้วยว่าใช้ระบบใด วธิ ีบันทึกรายการสนิ คา้ มี 2 ระบบ
คือ ระบบการบนั ทึกบัญชสี นิ ค้าแบบต่อเน่อื ง และระบบการบันทึกบัญชีสินคา้ เมื่อสิน้ งวด
2. สมรรถนะประจำหนว่ ย
2.1 แสดงความรูเ้ กย่ี วกับการบันทึกบญั ชเี กี่ยวกบั สินค้าฝากขาย
2.2 แสดงความรเู้ กยี่ วกบั การบนั ทกึ บัญชีเกี่ยวกับสินคา้ ฝากขายแยกไวต้ า่ งหากจากการขายปกติของ
กิจการ และใชร้ ะบบการบนั ทึกบญั ชสี นิ ค้าแบบต่อเน่ือง และระบบการบันทึกบญั ชสี นิ ค้าเมอ่ื สิ้นงวด
2.3 แสดงความรเู้ กี่ยวกับการบนั ทกึ บญั ชเี กี่ยวกับสนิ ค้าฝากขายรวมกบั การขายปกติของกิจการ และใช้
ระบบการบันทกึ บัญชีสนิ คา้ แบบตอ่ เน่ือง และระบบการบันทกึ บญั ชีสินคา้ เมื่อส้นิ งวด
2.4 แสดงพฤติกรรมความมมี นษุ ยสัมพนั ธ์ ความสนใจใฝ่รู้ ความรับผิดชอบ ความมีวินัย
3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
3.1 จดุ ประสงคท์ ว่ั ไป
1. เพื่อใหร้ ู้และเข้าใจเกีย่ วกับการบนั ทกึ บญั ชเี กย่ี วกับสินค้าฝากได้
2. เพอื่ ใหร้ แู้ ละเข้าใจเกี่ยวกบั การบนั ทึกบัญชีเกีย่ วกับสนิ ค้าฝากขายแยกไวต้ ่างหากจากการ
ขายปกติของกิจการ และใชร้ ะบบการบนั ทึกบญั ชสี ินค้าแบบตอ่ เนอื่ ง และระบบการ
บันทกึ บัญชสี นิ คา้ เมอื่ สนิ้ งวดได้
3. เพอื่ ให้รแู้ ละเข้าใจเกยี่ วกบั การบนั ทกึ บญั ชีเก่ียวกับสนิ ค้าฝากขายรวมกับการขายปกติของ
กจิ การ และใชร้ ะบบการบันทึกบญั ชสี ินค้าแบบต่อเนื่อง และระบบการบนั ทึกบัญชีสินค้า
เมื่อสน้ิ งวดได้
4. เพือ่ ใหม้ ีมนุษยสัมพนั ธ์ ความสนใจใฝร่ ู้ ความรับผดิ ชอบ ความมีวนิ ัย
3.2 จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม
1. สามารถบนั ทึกบญั ชเี กย่ี วกบั สินคา้ ฝากขายแยกไว้ตา่ งหากจากการขายปกติของกจิ การ
และใชร้ ะบบการบันทึกบัญชสี นิ ค้าแบบต่อเนื่อง และระบบการบนั ทึกบญั ชีสนิ คา้ เมื่อสิ้น
งวดได้
2. สามารถบันทึกบัญชเี กีย่ วกับสินคา้ ฝากขายรวมกับการขายปกติของกจิ การ และใช้ระบบ
การบันทกึ บัญชีสินคา้ แบบต่อเนื่อง และระบบการบนั ทกึ บัญชสี นิ ค้าเมอ่ื สิ้นงวดได้
3. บอกคำศัพท์ไดอ้ ยา่ งนอ้ ย 7 คำ
4. มกี ารพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม คา่ นยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ท่คี รูสามารถ
สงั เกตเหน็ ได้ในด้านความมีมนุษยสัมพนั ธ์ ความมวี นิ ยั ความรับผดิ ชอบ ความ เชื่อมน่ั ในตนเอง
ความสนใจใฝร่ ู้ ความรักสามัคคี ความกตัญญูกตเวที
4. สาระการเรยี นรู้
1. การบันทึกบัญชีเกีย่ วกบั สินค้าฝากขาย
1.1 บันทกึ รายการบญั ชเี กย่ี วกบั สินค้าฝากขายแยกไว้ต่างหากจากการขายปกติของกิจการ
1.2 บันทกึ รายการบญั ชีเกี่ยวกับสินคา้ ฝากขายรวมกับการขายปกตขิ องกิจการ
2. การบันทกึ บัญชีเกี่ยวกับสนิ คา้ ฝากขายแยกไวต้ ่างหากจากการขายปกติของกิจการ และใชร้ ะบบ
การบันทกึ บัญชีสินค้าแบบต่อเน่อื ง
3. การบันทกึ บัญชเี กย่ี วกับสนิ คา้ ฝากขายแยกไว้ต่างหากจากการขายปกติของกจิ การ และใชร้ ะบบ
การบนั ทกึ บัญชีสนิ ค้าเมื่อสิน้ งวด
4. บนั ทึกรายการบญั ชเี กยี่ วกับสินคา้ ฝากขายรวมกบั การขายปกติของกจิ การ และใชร้ ะบบการ
บันทกึ บญั ชสี นิ ค้าแบบต่อเนื่อง
5. บนั ทึกรายการบญั ชเี กย่ี วกับสินค้าฝากขายรวมกับการขายปกติของกจิ การ และใชร้ ะบบการ
บันทกึ บัญชีสินค้าเม่อื สิ้นงวด
6. ศพั ท์บัญชีทค่ี วรเรยี นรู้ในหนว่ ยที่ 5
5. กจิ กรรมการเรยี นรู้
1. ขนั้ นำ
ผสู้ อนกลา่ วถึงการบัญชีเกยี่ วกับการฝากสนิ คา้ ฝากขายของกิจการรา้ นค้าโดยท่ัวๆ ไป ซ่ึงมีการบันทึก Memo
เปรยี บเทยี บกบั กจิ การหา้ งหุ้นส่วน หรือบรษิ ัทจำกัด เพ่อื ให้ผเู้ รียนไดร้ บั ประสบการณ์ตรง
ผู้สอนแจ้งผลการเรยี นรู้ที่คาดหวงั ในสปั ดาห์นี้
2. ขนั้ สอน
2.1 แบ่งกล่มุ ผู้เรยี นออกเป็น 4 กลมุ่ ให้ 2 กลมุ่ แรกเปน็ ดา้ นผฝู้ ากขาย และอีก 2 กล่มุ หลงั เป็น
ดา้ น ผรู้ ับฝากขาย
2.2 ผู้สอนจัดสถานการณก์ ารบันทกึ บัญชเี ก่ยี วกบั การฝากขาย ซงึ่ แบง่ ออกเปน็ 2 ด้าน แล้วให้
ผู้เรยี นปฏิบัตติ ามกลมุ่ ที่กำหนดให้
2.3 นำรายละเอียดข้อ 2.2 มาเสนอหนา้ ชั้นเรยี น และเปิดโอกาสให้ผู้เรียนทุกคนรว่ มแสดง
ความคิดเหน็
2.4 ปฏิบัตติ ามใบงาน
3. ขนั้ สรปุ
3.1 ผู้เรยี นและผสู้ อนชว่ ยกันสรุปเป็นข้อความรู้จากการฝากขาย โดยการซักถามด้วยข้อคำถาม
ท่ีผู้สอนเป็นผู้กำหนดข้นึ เองตามความเหมาะสมต่อผลการเรียนร้ทู ่ีคาดหวงั
3.2 ทำแบบฝึกปฏิบตั หิ นว่ ยท่ี 5
6. สอื่ การเรยี นรู้
1. สื่อเพาเวอร์พอยต์เร่ืองการบันทกึ บัญชเี กีย่ วกับสินค้าฝาก
2. วัสดอุ ปุ กรณ์ในการทำกิจกรรม
7. หลกั ฐานการเรยี นรู้
7.1 หลกั ฐานความรู้
1. ผลการทดสอบ
2. ผลการทำแบบฝึกหัด
3. ผลการตอบคำถามท้ายกิจกรรม
7.2 หลกั ฐานการปฏบิ ัตงิ าน
1. แบบรายงานผลการทำกิจกรรม
8. การวดั ผลประเมนิ ผล
การวดั ผล
1. สังเกตพฤติกรรมรับฟังความคิดเหน็ ของผู้อื่น ให้ความรว่ มมอื ในการปฏิบัติงาน การมคี วาม
กระตือรือรน้ การปฏบิ ตั ิงานตามข้นั ตอน และมีความสะอาด โดยใชแ้ บบสังเกตพฤติกรรม
2. สงั เกตการณน์ ำเสนอผลงาน โดยใช้แบบประเมนิ กจิ กรรม
3. ตรวจแบบฝึกหัด โดยใช้ใบเฉลยแบบฝกึ หดั
4. ตรวจรายงานผลการทำกิจกรรม โดยใช้แบบตรวจบันทึกกิจกรรม
5. ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน โดยใชใ้ บเฉลยแบบทดสอบ
การประเมนิ ผล
นักเรยี นทไี่ ด้คะแนนร้อยละ 60 ขึ้นไปถอื ว่าผา่ นการประเมนิ
9. บนั ทกึ ผลหลังการจดั การเรยี นรู้
1 ขอ้ สรปุ หลงั การจดั การเรยี นรู้
2 ปญั หาทพี่ บ
3 แนวทางแกป้ ัญหา
ผลทจ่ี ะเกดิ ขน้ึ กบั นกั ศึกษาจากการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ทบี่ รู ณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
1. นักศึกษาจะไดฝ้ กึ คดิ และฝกึ ปฏิบตั ติ ามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
เงอ่ื นไขความรู้ เงอื่ นไขคณุ ธรรม
ความรู้ท่ผี ้เู รยี นตอ้ งมกี ่อนการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ คุณธรรมของนักเรยี นในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
- ผูเ้ รียนมีความร้คู วามเข้าใจการบนั ทึก - ความมีมนษุ ยสมั พันธ์
บัญชีเกี่ยวกบั สินค้าฝาก - ความสนใจใฝ่รู้
- ความรบั ผดิ ชอบ
- ความสามคั คี
ความพอประมาณ ความมเี หตผุ ล ความมภี มู คิ ุ้มกนั ในตวั ทด่ี ี
9. ผูเ้ รยี นจดั เตรยี มวสั ดุ 3. ผเู้ รยี นวิเคราะห์การบันทึก 4. ผู้เรยี นปฏบิ ัตกิ ารทำ
อุปกรณ์ไดเ้ หมาะสมกับ บญั ชีเกย่ี วกับสินคา้ ฝาก กจิ กรรมโดยคำนึงถึงความ
การเรียนการสอน ประหยัด
10. ผเู้ รียนปฏิบัติการทำ
กิจกรรมตามแผน
2. ผเู้ รยี นจะไดเ้ รยี นรูก้ ารใชช้ วี ติ ทสี่ มดลุ และพรอ้ มรบั การเปลยี่ นแปลง 4 มติ ิตามหลกั ปรชั ญาของ
เศรษฐกจิ พอเพยี ง
จดุ มงุ่ หมาย สมดลุ และพรอ้ มรบั การเปลย่ี นแปลง
การเรยี นรู้ ดา้ นเศรษฐกจิ ด้านสงั คม ด้านสงิ่ แวดลอ้ ม ด้านวฒั นธรรม
ด้านพุทธพิ สิ ยั (K) 1,2,3 1,4 4 4
ดา้ นทกั ษะพสิ ยั (P) 1,2,3 1,4 4 4
ด้านจติ พสิ ยั (A) 1,2,3 1,4 4 4
แผนการเรยี นรทู้ ่ี 6
หน่วยที่ 6 จำนวน 8 ช่วั โมง สปั ดาห์ 13-14
ชอื่ วชิ า การบญั ชรี ว่ มคา้ และฝากขาย รหัส 20201 - 2104
ชอ่ื หนว่ ย การบันทกึ บญั ชดี ้านผรู้ ับฝากขาย
1. สาระสำคญั
วธิ กี ารบันทึกบญั ชดี า้ นผรู้ ับฝากขายมี 2 วธิ ี คือ การบนั ทึกรายการบัญชีเกี่ยวกบั สินค้ารบั ฝากขายแยก
ไวต้ า่ งหากจากการขายปกตขิ องกจิ การ และการบันทึกรายการบญั ชีเกยี่ วกับสนิ ค้ารับฝากขายรวมกับรายการ
ขายปกติของกจิ การ
2. สมรรถนะประจำหนว่ ย
2.1 แสดงความรเู้ กีย่ วกับการบนั ทกึ รายการบัญชเี กี่ยวกับสนิ ค้ารับฝากขายแยกไว้ต่างหากจากการ
ขายปกติของกิจการ
2.2 แสดงความรเู้ ก่ยี วกบั การบนั ทึกรายการบัญชเี ก่ยี วกับสนิ คา้ รบั ฝากขายรวมกับรายการขายปกติ
ของกจิ การ
2.3 แสดงพฤตกิ รรมความมีมนษุ ยสมั พนั ธ์ ความสนใจใฝ่รู้ ความรับผดิ ชอบ ความมีวนิ ัย
3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
3.1 จดุ ประสงคท์ ว่ั ไป
1. เพ่ือใหร้ แู้ ละเขา้ ใจเกย่ี วกบั การบนั ทึกรายการบญั ชเี กี่ยวกบั สนิ ค้ารบั ฝากขายแยกไว้ต่างหาก
จากการขายปกติของกิจการได้
2. เพ่ือใหร้ ูแ้ ละเข้าใจเกีย่ วกับการบนั ทกึ รายการบญั ชีเก่ียวกับสินค้ารบั ฝากขายรวมกับรายการ
ขายปกติของกิจการได้
3. เพ่อื ให้มมี นุษยสัมพันธ์ ความสนใจใฝร่ ู้ ความรับผดิ ชอบ ความมีวินยั
3.2 จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม
1. สามารถบันทึกรายการบัญชีเกยี่ วกับสนิ ค้ารบั ฝากขายแยกไว้ต่างหากจากการขายปกตขิ อง
กจิ การได้
2. สามารถบันทึกรายการบัญชีเกย่ี วกบั สนิ ค้ารบั ฝากขายรวมกับรายการขายปกติของกจิ การ
ได้
3. บอกคำศัพท์ไดอ้ ยา่ งน้อย 7 คำ
4. มกี ารพัฒนาคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ทคี่ รสู ามารถ
สังเกตเห็นได้ในด้านความมมี นุษยสมั พนั ธ์ ความมีวนิ ัย ความรับผดิ ชอบ ความเชอื่ มั่น
ในตนเอง ความสนใจใฝร่ ู้ ความรกั สามัคคี ความกตัญญูกตเวที
4. สาระการเรยี นรู้
1. การบนั ทึกบัญชีเกีย่ วกบั สินคา้ ดา้ นผรู้ บั ฝากขาย
1.1 บันทึกรายการบัญชเี ก่ยี วกับสินคา้ ฝากขายแยกไวต้ ่างหากจากการขายปกติของกิจการ
1.2 บนั ทกึ รายการบัญชีเก่ียวกับสนิ คา้ ฝากขายรวมกับการขายปกตขิ องกิจการ
2. การบันทกึ รายการบญั ชเี ก่ียวกับสินค้ารบั ฝากขายแยกไวต้ ่างหากจากการขายปกตขิ องกจิ การ
3. บนั ทึกรายการบญั ชีเกี่ยวกับสินค้าฝากขายรวมกบั การขายปกติของกิจการ
4. ศัพท์บัญชีท่ีควรเรยี นรใู้ นหน่วยที่ 6
5. กจิ กรรมการเรยี นรู้
1. ขนั้ นำ
ผู้สอนยกตัวอย่างการรบั ฝากขายเคร่อื งซกั ผ้าของบริษทั แหง่ หนง่ึ และใหผ้ เู้ รียนช่วยกนั วิเคราะหว์ า่ ควรใช้
ลกั ษณะการบันทึกบญั ชีในสมุดเลม่ ใด ซึ่งผเู้ รียนร่วมแสดงความคดิ เห็นอย่างหลากหลายเป็นการแลกเปลี่ยน
ความรู้ซึ่งกันและกัน
แจ้งผลการเรยี นรู้ทคี่ าดหวังในสปั ดาหน์ ้ี
2. ขนั้ สอน
2.1 ผสู้ อนอภิปรายหลกั การบนั ทึกบัญชีเกีย่ วกับการบนั ทกึ รายการบัญชีสินค้ารับฝากขายแยกไว้
ต่างหากจากการขายปกติของกิจการ โดยใชส้ อ่ื แผน่ ใสประกอบการอภปิ รายและ
ยกตวั อยา่ งกรณศี ึกษา เพ่ือให้ผ้เู รยี นร่วมกันวิเคราะห์
2.2 ผูเ้ รียนจับคู่จัดทำโจทยก์ รณีศึกษาทผ่ี ูส้ อนกำหนดให้ พรอ้ มเฉลย
2.3 สมุ่ ผ้เู รียนบางคู่ให้ออกมาอภิปรายหนา้ ชัน้ เรียนพร้อมสื่อความหมายทท่ี ำใหเ้ พ่ือนๆ ใน
หอ้ งเรยี นเข้าใจไดง้ ่ายข้นึ กว่าการอภปิ รายอย่างเดยี ว
2.4 ผู้เรียนคนอืน่ ๆ ร่วมแสดงความคดิ เหน็ และเสนอแนะ
2.5 ปฏบิ ัติตามใบงาน
2.6 นำผลงานสง่ ผูส้ อนเพ่ือประเมินผลงาน
3. ขนั้ สรปุ
3.1 ผสู้ อนและผูเ้ รียนช่วยกนั สรุป โดยกำหนดรายการค้าขน้ึ มาแล้วช่วยกันวิเคราะหเ์ พือ่ นำไป
บันทึกบัญชีและแสดงการคำนวณประกอบ เพื่อนำไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นการศกึ ษาและการ
ทำงานต่อไป
3.2 ทำแบบฝึกปฏิบัตหิ น่วยท่ี 6
6. สอ่ื การเรยี นรู้
1. สอ่ื เพาเวอรพ์ อยต์เรื่องการบนั ทึกบญั ชเี กี่ยวกับสินคา้ ด้านผู้รับฝากขาย
2. วัสดุอุปกรณใ์ นการทำกจิ กรรม
7. หลกั ฐานการเรยี นรู้
7.1 หลกั ฐานความรู้
1. ผลการทดสอบ
2. ผลการทำแบบฝกึ หัด
3. ผลการตอบคำถามท้ายกิจกรรม
7.2 หลกั ฐานการปฏบิ ัตงิ าน
1. แบบรายงานผลการทำกิจกรรม
8. การวดั ผลประเมนิ ผล
การวดั ผล
1. สงั เกตพฤตกิ รรมรับฟงั ความคิดเหน็ ของผู้อื่น ใหค้ วามรว่ มมอื ในการปฏิบตั ิงาน การมคี วาม
กระตือรือรน้ การปฏิบตั ิงานตามขั้นตอน และมีความสะอาด โดยใช้แบบสังเกตพฤตกิ รรม
2. สังเกตการณน์ ำเสนอผลงาน โดยใช้แบบประเมนิ กิจกรรม
3. ตรวจแบบฝึกหัด โดยใช้ใบเฉลยแบบฝึกหดั
4. ตรวจรายงานผลการทำกจิ กรรม โดยใชแ้ บบตรวจบนั ทกึ กิจกรรม
5. ตรวจแบบทดสอบหลังเรยี น โดยใชใ้ บเฉลยแบบทดสอบ
การประเมนิ ผล
นักเรียนท่ีได้คะแนนร้อยละ 60 ข้นึ ไปถอื ว่าผ่านการประเมนิ
9. บนั ทกึ ผลหลังการจดั การเรยี นรู้
1 ขอ้ สรปุ หลงั การจดั การเรยี นรู้
2 ปญั หาทพี่ บ
3 แนวทางแกป้ ัญหา
ผลทจี่ ะเกดิ ขน้ึ กบั นกั ศกึ ษาจากการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ทบี่ รู ณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
1. นักศึกษาจะไดฝ้ กึ คดิ และฝกึ ปฏบิ ตั ติ ามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
เงอ่ื นไขความรู้ เงอ่ื นไขคุณธรรม
ความรูท้ ี่ผเู้ รยี นต้องมีก่อนการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ คณุ ธรรมของนักเรียนในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
- ผเู้ รยี นมีความรคู้ วามเขา้ ใจการบนั ทึก - ความมมี นษุ ยสมั พันธ์
บัญชีเกี่ยวกับสนิ คา้ ด้านผรู้ บั ฝากขาย - ความสนใจใฝร่ ู้
- ความรบั ผดิ ชอบ
- ความสามัคคี
ความพอประมาณ ความมเี หตผุ ล ความมภี มู คิ ้มุ กันในตวั ทด่ี ี
11. ผู้เรียนจัดเตรยี มวัสดุ 3. ผู้เรียนวเิ คราะหก์ ารบนั ทึก 4. ผู้เรยี นปฏบิ ตั ิการทำ
อปุ กรณ์ไดเ้ หมาะสมกับ บัญชีเกี่ยวกบั สินค้าดา้ นผรู้ บั ฝาก กิจกรรมโดยคำนึงถงึ ความ
การเรียนการสอน ขาย ประหยดั
12. ผูเ้ รยี นปฏบิ ตั ิการทำ
กิจกรรมตามแผน
2. ผเู้ รยี นจะไดเ้ รยี นรู้การใชช้ วี ติ ทสี่ มดลุ และพรอ้ มรับการเปลยี่ นแปลง 4 มติ ิตามหลกั ปรชั ญาของ
เศรษฐกจิ พอเพยี ง
จดุ มงุ่ หมาย สมดลุ และพรอ้ มรบั การเปลยี่ นแปลง
การเรยี นรู้ ด้านเศรษฐกจิ ดา้ นสงั คม ดา้ นสง่ิ แวดลอ้ ม ดา้ นวฒั นธรรม
ดา้ นพทุ ธพิ สิ ยั (K) 1,2,3 1,4 4 4
ด้านทักษะพสิ ยั (P) 1,2,3 1,4 4 4
ด้านจติ พสิ ยั (A) 1,2,3 1,4 4 4
แผนการเรียนรทู้ ี่ 7
หน่วยที่ 7 จำนวน 8 ชว่ั โมง สปั ดาห์ 15-16
ชอื่ วชิ า การบญั ชรี ว่ มคา้ และฝากขาย รหัส 20201 - 2104
ชอ่ื หนว่ ย การบัญชอี น่ื ๆ เกย่ี วกับการฝากขาย
1. สาระสำคญั
ถา้ ผ้รู บั ฝากขายขายสินคา้ ไดเ้ พียงบางส่วน ผ้รู บั ฝากขายสามารถนำคา่ ใช้จา่ ยในการรบั ฝากขายหกั จาก
เงินงวดแรกท่ีได้รับจากการขาย โดยเฉลีย่ ค่าใช้จ่ายส่วนที่อาจถอื เปน็ ตน้ ทุนของสนิ คา้ ที่ยังขายไม่ได้ยกยอดต่อไป
เป็นตน้ ทุนสินคา้ ทีย่ ังขายไมไ่ ด้ และแสดงรวมเปน็ สนิ ค้าคงเหลอื ในมือของผ้รู ับฝากขาย ซึ่งวธิ กี ารบันทึกบญั ชี
เกย่ี วกับการขายสนิ ค้าได้บางส่วนสามารถทำได้ 2 วธิ ี คือ บนั ทกึ บัญชีการฝากขายแยกจากการขายปกติของ
กิจการและบันทึกบัญชีการฝากขายรวมกับการขายปกติของกจิ การ
การฝากขายกรณีอ่ืนๆ ไดแ้ ก่ การบัญชีเก่ยี วกบั สินค้าฝากขายรบั คนื การบญั ชเี กี่ยวกับเงินทดรอง
และการบญั ชีเกี่ยวกบั หน้ีสนิ ระหวา่ งผู้ฝากขายและผรู้ ับฝากขาย
2. สมรรถนะประจำหนว่ ย
2.1 แสดงความรู้เกีย่ วกับการขายสนิ คา้ ฝากขายไดบ้ างสว่ น
2.2 แสดงความรเู้ กี่ยวกับสนิ ค้าคงเหลือของผูฝ้ ากขาย
2.3 แสดงความรเู้ กี่ยวกบั การฝากขายกรณอี นื่ ๆ
2.4 แสดงพฤติกรรมความมมี นุษยสัมพันธ์ ความสนใจใฝร่ ู้ ความรับผดิ ชอบ ความมวี นิ ัย
3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
3.1 จดุ ประสงคท์ วั่ ไป
1. เพอ่ื ใหร้ ้แู ละเข้าใจเก่ยี วกบั การขายสนิ ค้าฝากขายได้บางสว่ นได้
2. เพอ่ื ให้รแู้ ละเขา้ ใจเก่ยี วกบั สินค้าคงเหลือของผู้ฝากขายได้
3. เพ่ือใหร้ แู้ ละเขา้ ใจเกี่ยวกับการฝากขายกรณอี ่นื ๆได้
4. เพ่อื ใหม้ ีมนุษยสัมพนั ธ์ ความสนใจใฝ่รู้ ความรบั ผดิ ชอบ ความมวี นิ ัย
3.2 จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม
1. สามารถบนั ทึกบญั ชเี กยี่ วกบั การฝากขายกรณีขายสนิ ค้าฝากขายได้บางสว่ นได้
2. สามารถบนั ทึกบญั ชีเก่ยี วกบั สินคา้ คงเหลือของผู้ฝากขายได้
3. สามารถบันทึกบญั ชเี กี่ยวกับสินคา้ ฝากขายรับคนื เงินทดรอง และการบญั ชเี กยี่ วกบั
หน้ีสนิ ระหว่างผูฝ้ ากขายและผรู้ ับฝากขายได้
4. บอกคำศัพท์ไดอ้ ย่างนอ้ ย 7 คำ
5. มีการพฒั นาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ทคี่ รูสามารถ
6. สังเกตเห็นไดใ้ นด้านความมมี นุษยสัมพนั ธ์ ความมวี ินัย ความรับผดิ ชอบ ความ
เช่ือมนั่ ในตนเอง ความสนใจใฝร่ ู้ ความรกั สามคั คี ความกตัญญกู ตเวที
4. สาระการเรยี นรู้
1. การขายสินคา้ ฝากขายไดบ้ างส่วน
1.1 บันทกึ บัญชีการฝากขายแยกจากการขายปกติของกจิ การ
1.2 บนั ทกึ บญั ชีการฝากขายรวมกับการขายปกตขิ องกิจการ
2. สนิ คา้ คงเหลอื ของผ้ฝู ากขาย
2.1 บันทึกบญั ชีการฝากขายแยกจากการขายปกติของกิจการ
2.2 บันทกึ บัญชีการฝากขายรวมกับการขายปกติของกจิ การ
3. การฝากขายกรณีอน่ื ๆ
3.1 การบัญชีเกยี่ วกบั สินค้าฝากขายรับคืน
3.2 การบัญชีเกยี่ วกบั เงินทดรอง
3.3 การบัญชเี ก่ียวกับหนส้ี ินระหว่างผู้ฝากขายและผู้รับฝากขาย
4. ศพั ท์บัญชที ่ีควรเรียนรู้ในหน่วยที่ 7
5. กจิ กรรมการเรยี นรู้
1. ขน้ั นำ
1.1 ผูส้ อนกลา่ วถึงกรณีศึกษาการนำปุ๋ยเคมจี ากกรุงเทพมหานครไปขายจงั หวัดจนั ทบุรี
จำเป็นต้องมีค่าใช้จ่ายอ่นื เพ่ิมข้นึ มาอีก เช่น ค่าขนสง่ ค่าเก็บรักษา หรอื อืน่ ๆ ที่เก่ยี วข้อง
กบั การจำหน่ายปุ๋ย และควรนำรายการใดมาบนั ทึกบัญชี จงึ ได้ร่วมกนั อภปิ รายกับผ้เู รยี น
ถงึ ความนา่ จะเป็นในการบนั ทึกบญั ชีอน่ื ๆ เพื่อใหผ้ ู้เรียนเกิดการเรยี นรูแ้ ละสรา้ งทกั ษะใน
การวเิ คราะห์รายการคา้ ปจั จุบันได้
1.2 ผสู้ อนแจง้ ผลการเรยี นรู้ทคี่ าดหวังในสปั ดาห์น้ี
2. ขนั้ สอน
2.1 ผสู้ อนอภิปรายเสนอแนะการขายสนิ ค้าฝากขายไดบ้ างสว่ น และสินคา้ คงเหลือของผูฝ้ าก
ขาย โดยใชส้ ื่อเพาเวอร์พอยต์ประกอบการอภิปราย และยกตวั อย่างกรณศี ึกษาทส่ี ะทอ้ น
ใหเ้ หน็ สภาพจรงิ ในการฝากขายโดยทัว่ ไป
2.2 ผู้เรยี นศึกษาหาความรเู้ กย่ี วกับการขายสินค้าบางส่วน และศึกษาการคำนวณสนิ ค้า
คงเหลือของ ผู้ฝากขาย จากตัวอยา่ งการเรียนการสอนทผ่ี สู้ อนไดน้ ำเสนอโดยการ
อภปิ รายไปแลว้ นอกจากนน้ั สามารถค้นควา้ ไดจ้ ากแหลง่ ความร้อู ่ืนๆ เชน่ ห้องสมุด
อินเทอรเ์ น็ต ฯลฯ เปน็ ตน้
2.3 นำความรู้ทไ่ี ด้ศึกษาตามข้อ 2.2 มาสรุปเปน็ ข้อความรู้ และนำเสนอหนา้ ชน้ั เรยี น
2.4 ผู้เรยี นทกุ คนรว่ มเสนอแนะและแสดงข้อคิดเห็น
2.5 นำผลงานสง่ ผู้สอนเพ่ือประเมินผลงาน
3. ขน้ั สรปุ
3.1 ผู้สอนและผู้เรยี นสรปุ ร่วมกัน โดยใหผ้ เู้ รียนช่วยกันตั้งคำถามแล้วครสู ่มุ เลอื กผู้เรียนคน
อ่ืนๆ ตอบ เป็นการแลกเปล่ียนขอ้ คิดเหน็ ซ่งึ กันและกนั เพ่ือสามารถนำไปประยกุ ต์ใชง้ าน
ไดต้ ่อไป
3.2 ทำแบบฝกึ ปฏบิ ัติหนว่ ยท่ี 7
6. สอื่ การเรยี นรู้
1. สอื่ เพาเวอรพ์ อยตเ์ รอ่ื งการบัญชอี ื่น ๆ เกีย่ วกบั การฝากขาย
2. วสั ดอุ ุปกรณ์ในการทำกจิ กรรม
7. หลกั ฐานการเรยี นรู้
7.1 หลกั ฐานความรู้
1. ผลการทดสอบ
2. ผลการทำแบบฝกึ หัด
3. ผลการตอบคำถามทา้ ยกิจกรรม
7.2 หลกั ฐานการปฏบิ ตั งิ าน
1. แบบรายงานผลการทำกิจกรรม
8. การวดั ผลประเมนิ ผล
การวดั ผล
1. สงั เกตพฤตกิ รรมรับฟงั ความคิดเห็นของผู้อืน่ ใหค้ วามรว่ มมอื ในการปฏิบตั งิ าน การมคี วาม
กระตือรือรน้ การปฏบิ ัติงานตามข้ันตอน และมีความสะอาด โดยใชแ้ บบสงั เกตพฤติกรรม
2. สังเกตการณน์ ำเสนอผลงาน โดยใช้แบบประเมินกิจกรรม
3. ตรวจแบบฝึกหัด โดยใชใ้ บเฉลยแบบฝกึ หดั
4. ตรวจรายงานผลการทำกจิ กรรม โดยใชแ้ บบตรวจบันทกึ กิจกรรม
5. ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น โดยใช้ใบเฉลยแบบทดสอบ
การประเมนิ ผล
นักเรยี นทไ่ี ด้คะแนนรอ้ ยละ 60 ขน้ึ ไปถือว่าผ่านการประเมนิ
9. บนั ทกึ ผลหลังการจดั การเรยี นรู้
1 ขอ้ สรปุ หลงั การจดั การเรยี นรู้
2 ปญั หาทพี่ บ
3 แนวทางแกป้ ัญหา
ผลทจี่ ะเกดิ ขน้ึ กบั นกั ศกึ ษาจากการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ทบี่ รู ณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
1. นกั ศกึ ษาจะไดฝ้ กึ คดิ และฝกึ ปฏบิ ตั ติ ามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
เงอ่ื นไขความรู้ เงอื่ นไขคุณธรรม
ความรู้ทผี่ ู้เรยี นตอ้ งมีก่อนการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ คณุ ธรรมของนกั เรียนในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
- ผ้เู รียนมคี วามรูค้ วามเข้าใจการบัญชีอ่นื ๆ - ความมมี นษุ ยสมั พันธ์
เกย่ี วกบั การฝากขาย - ความสนใจใฝร่ ู้
- ความรบั ผดิ ชอบ
- ความสามัคคี
ความพอประมาณ ความมเี หตผุ ล ความมภี มู คิ ุม้ กันในตวั ทดี่ ี
13. ผู้เรยี นจัดเตรยี มวัสดุ 3. ผูเ้ รียนวิเคราะห์การบัญชีอื่น ๆ 4. ผูเ้ รยี นปฏบิ ัตกิ ารทำ
อุปกรณ์ไดเ้ หมาะสมกบั เก่ยี วกับการฝากขาย กิจกรรมโดยคำนึงถงึ ความ
การเรยี นการสอน ประหยดั
14. ผเู้ รียนปฏบิ ตั ิการทำ
กจิ กรรมตามแผน
2. ผเู้ รยี นจะไดเ้ รยี นร้กู ารใชช้ วี ติ ทส่ี มดลุ และพรอ้ มรบั การเปลย่ี นแปลง 4 มติ ติ ามหลักปรชั ญาของ
เศรษฐกจิ พอเพยี ง
จดุ มงุ่ หมาย สมดลุ และพรอ้ มรบั การเปลย่ี นแปลง
การเรยี นรู้ ดา้ นเศรษฐกิจ ด้านสงั คม ดา้ นสง่ิ แวดลอ้ ม ด้านวฒั นธรรม
ด้านพุทธพิ สิ ยั (K) 1,2,3 1,4 4 4
ดา้ นทกั ษะพสิ ยั (P) 1,2,3 1,4 4 4
ดา้ นจติ พสิ ยั (A) 1,2,3 1,4 4 4
แผนการเรียนรทู้ ่ี 8
หนว่ ยที่ 8 จำนวน 4 ชั่วโมง สปั ดาห์ 17
ชอ่ื วชิ า การบญั ชรี ่วมคา้ และฝากขาย รหสั 2201 - 2104
ชอ่ื หนว่ ย การแสดงรายงานฝากขายในงบการเงนิ
1. สาระสำคญั
กำไรหรือขาดทุนจากการฝากขายสามารถแสดงในงบการเงินได้ 2 วธิ ี คอื แสดงไว้ในงบกำไรขาดทุน
หรอื แสดงไวใ้ นหมายเหตปุ ระกอบงบการเงินกไ็ ด้
การรายงานการฝากขายในงบดุลแบ่งเป็น 2 ด้าน คือ ด้านผูร้ ับฝากขายจะแสดงในบญั ชีรับฝากขาย
และดา้ นผ้ฝู ากขายจะแสดงในบัญชีสินคา้ คงเหลือฝากขาย
2. สมรรถนะประจำหนว่ ย
1. แสดงความรเู้ ก่ยี วกับการรายงานกำไรขาดทนุ จากการฝากขาย
2. แสดงความรู้เก่ียวกบั การรายงานรายการฝากขายในงบดลุ
3. แสดงพฤติกรรมความมมี นุษยสัมพนั ธ์ ความสนใจใฝร่ ู้ ความรบั ผดิ ชอบ ความมวี นิ ัย
3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
3.1 จดุ ประสงคท์ วั่ ไป
1. เพือ่ ให้รู้และเข้าใจเกี่ยวกบั การรายงานกำไรขาดทุนจากการฝากขายได้
2. เพอ่ื ให้รู้และเขา้ ใจเก่ยี วกับการรายงานรายการฝากขายในงบดุลได้
3. เพ่ือให้มีมนุษยสมั พนั ธ์ ความสนใจใฝ่รู้ ความรับผดิ ชอบ ความมีวินัย
3.2 จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม
1. สามารถแสดงกำไรหรอื ขาดทนุ ในงบการเงินได้
2. สามารถแสดงรายการฝากขายในงบดลุ ได้
3. บอกคำศพั ท์ได้อยา่ งน้อย 7 คำ
4. มกี ารพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงคท์ ค่ี รู
สามารถสงั เกตเห็นได้ในดา้ นความมีมนษุ ยสัมพันธ์ ความมีวินัย ความรบั ผิดชอบ
ความเช่อื ม่นั ในตนเอง ความสนใจใฝ่รู้ ความรกั สามคั คี ความกตัญญูกตเวที
4. สาระการเรยี นรู้
1. การรายงานกำไรขาดทุนจากการฝากขาย
2. การรายงานรายการฝากขายในงบดลุ
2.1 ด้านผฝู้ ากขาย แสดงบญั ชสี ินค้าคงเหลือฝากขาย
2.2 ด้านผู้รับฝากขาย แสดงบัญชีรับฝากขาย
3. ศพั ท์บัญชที ค่ี วรเรยี นรูใ้ นหน่วยท่ี 8
5. กจิ กรรมการเรยี นรู้
1. ขนั้ นำ
1.1 ผู้สอนกลา่ วถึงการจดั ทำงบการเงนิ โดยทัว่ ไปทผี่ เู้ รยี นเคยศกึ ษามาบา้ งแล้ว ประกอบด้วย
งบกำไร-ขาดทนุ งบดลุ ซ่งึ เป็นงบการเงนิ ท่ผี ู้เรยี นคุ้นเคยและร้จู กั กนั เป็นอยา่ งดี ผู้สอน
และผเู้ รยี นรว่ มอภปิ รายเกีย่ วกบั องคป์ ระกอบของงบการเงิน เพื่อใหผ้ ู้เรยี นเกดิ การ
เรียนรู้ และเข้าใจได้ง่ายขึน้ กว่าเดมิ
1.2 ผู้สอนแจง้ ผลการเรียนรู้ที่คาดหวงั ในสปั ดาหน์ ้ี
2. ขนั้ สอน
2.1 ผู้สอนแสดงแบบฟอร์มงบกำไรขาดทนุ และงบดลุ ตามมาตรฐานการบญั ชที ่ียอมรับ
โดยทัว่ ไป เปรียบเทยี บกับงบการเงินตามพระราชบญั ญัติการบญั ชี พ.ศ. 2543 ด้วยสือ่
แผน่ ใส และช้ีใหเ้ ห็นถงึ ข้อแตกต่างพร้อมเหตุผลในการเปล่ียนแปลงแบบฟอร์มงบการเงิน
ของสมาคมนักบัญชีและผ้สู อบ-บัญชีรบั อนุญาตแห่งประเทศไทย เพื่อใหเ้ ป็นสากลเท่า
เทียมกับนานาประเทศ
2.2 ผู้เรียนกรอกแบบฟอร์มรายละเอยี ดเกี่ยวกบั งบการเงนิ และนำมาวิพากษว์ จิ ารณ์ร่วมกนั
2.3 ผสู้ อนกำหนดโจทย์กรณีศึกษาใหผ้ เู้ รียนปฏิบตั ติ าม โดยผู้เรยี นจบั คเู่ พ่ือนคู่คิดแลกเปลย่ี น
ประสบ-การณซ์ ่ึงกนั และกัน
2.4 ผู้เรยี นทุกคนร่วมเสนอแนะและแสดงข้อคดิ เหน็
2.5 นำผลงานสง่ ผู้สอนเพ่ือประเมินผลงาน
3. ขน้ั สรปุ
3.1 ผสู้ อนและผเู้ รยี นสรปุ รว่ มกัน โดยใหผ้ ูเ้ รียนช่วยกันต้งั คำถามแลว้ ครูส่มุ เลือกผเู้ รียนคน
อืน่ ๆ ตอบ เป็นการแลกเปล่ยี นข้อคิดเหน็ ซง่ึ กันและกนั เพ่ือสามารถนำไปประยุกต์ใช้งาน
ไดต้ อ่ ไป
3.2 ทำแบบฝกึ ปฏบิ ตั หิ น่วยที่ 8
6. สอื่ การเรยี นรู้
1. ส่อื เพาเวอร์พอยตเ์ รือ่ งการแสดงรายงานฝากขายในงบการเงิน
2. วัสดอุ ปุ กรณใ์ นการทำกิจกรรม
7. หลักฐานการเรยี นรู้
7.1 หลกั ฐานความรู้
1. ผลการทดสอบ
2. ผลการทำแบบฝึกหดั
3. ผลการตอบคำถามทา้ ยกจิ กรรม
7.2 หลกั ฐานการปฏบิ ัตงิ าน
1. แบบรายงานผลการทำกิจกรรม
8. การวดั ผลประเมนิ ผล
การวดั ผล
1. สังเกตพฤตกิ รรมรับฟงั ความคิดเห็นของผู้อน่ื ให้ความร่วมมอื ในการปฏิบัติงาน การมีความ
กระตือรือรน้ การปฏิบตั ิงานตามข้ันตอน และมีความสะอาด โดยใชแ้ บบสงั เกตพฤตกิ รรม
2. สงั เกตการณ์นำเสนอผลงาน โดยใช้แบบประเมนิ กจิ กรรม
3. ตรวจแบบฝกึ หดั โดยใชใ้ บเฉลยแบบฝึกหัด
4. ตรวจรายงานผลการทำกจิ กรรม โดยใชแ้ บบตรวจบันทกึ กิจกรรม
5. ตรวจแบบทดสอบหลังเรยี น โดยใช้ใบเฉลยแบบทดสอบ
การประเมนิ ผล
นกั เรียนทไ่ี ด้คะแนนร้อยละ 60 ขน้ึ ไปถอื ว่าผา่ นการประเมนิ
9. บนั ทกึ ผลหลังการจดั การเรยี นรู้
1 ขอ้ สรปุ หลงั การจดั การเรยี นรู้
2 ปญั หาทพี่ บ
3 แนวทางแกป้ ัญหา
ผลทจ่ี ะเกดิ ขน้ึ กบั นกั ศกึ ษาจากการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ทบ่ี รู ณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
1. นกั ศกึ ษาจะไดฝ้ กึ คดิ และฝกึ ปฏบิ ตั ติ ามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
เงอื่ นไขความรู้ เงอ่ื นไขคณุ ธรรม
ความรทู้ ผี่ ู้เรยี นต้องมีก่อนการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ คณุ ธรรมของนกั เรยี นในการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้
- ผูเ้ รยี นมีความรูค้ วามเขา้ ใจการแสดง - ความมมี นษุ ยสัมพันธ์
รายงานฝากขายในงบการเงิน - ความสนใจใฝร่ ู้
- ความรบั ผดิ ชอบ
- ความสามัคคี
ความพอประมาณ ความมเี หตผุ ล ความมภี มู คิ มุ้ กนั ในตวั ทด่ี ี
15. ผู้เรียนจดั เตรียมวัสดุ 3. ผู้เรยี นวิเคราะห์การแสดง 4. ผู้เรยี นปฏบิ ตั ิการทำ
อุปกรณ์ไดเ้ หมาะสมกับ รายงานฝากขายในงบการเงิน กิจกรรมโดยคำนึงถงึ ความ
การเรยี นการสอน ประหยัด
16. ผเู้ รยี นปฏิบัตกิ ารทำ
กิจกรรมตามแผน
2. ผเู้ รยี นจะไดเ้ รยี นรูก้ ารใชช้ วี ติ ทส่ี มดลุ และพรอ้ มรบั การเปลย่ี นแปลง 4 มติ ติ ามหลักปรชั ญาของ
เศรษฐกจิ พอเพยี ง
จดุ มงุ่ หมาย สมดลุ และพรอ้ มรบั การเปลย่ี นแปลง
การเรยี นรู้ ดา้ นเศรษฐกจิ ดา้ นสงั คม ด้านสงิ่ แวดลอ้ ม ดา้ นวฒั นธรรม
ดา้ นพุทธพิ สิ ยั (K) 1,2,3 1,4 4 4
ดา้ นทกั ษะพสิ ยั (P) 1,2,3 1,4 4 4
ดา้ นจติ พสิ ยั (A) 1,2,3 1,4 4 4