The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ประวัติคุณครูสุพัชรินทร์

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by sarayudh03, 2022-04-15 00:42:45

ประวัติคุณครูสุพัชรินทร์

ประวัติคุณครูสุพัชรินทร์

ประวตั ิครสู พุ ชั รนิ ทร์ วฒั นพนั ธุ์

ครูสุพชั รนิ ทร์ วัฒนพนั ธ์ุ
ที่มา : ครูสุพชั รินทร์ วัฒนพนั ธ์ุ
คุณครูสุพัชรินทร์ วัฒนพันธ์ุ เกิดเม่ือวันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2486
สกุลเดมิ “วิจติ รรตั นะ” สมรสกบั นายพสิ นฑ์ วัฒนพันธุ์ ไม่มบี ตุ รธดิ า

การศึกษา
คุณครูสุพัชรินทร์ วัฒนพันธุ์เข้าศึกษาชั้นประถมศึกษาปีท่ี 1 – 3 ท่ีโรงเรียน

ในอาเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เนื่องจากครอบครัวต้องย้ายตามบิดาซ่ึงในขณะน้ันรับ
ราชการทหาร และตอ้ งไปประจาการอยู่ท่ีจังหวดั สงขลา ตอ่ มาเมอื่ บิดาโอนย้ายมาเป็นนาย
ช่างอิเล็คทรอนิกส์ประจากรมโฆษณาการ ครอบครัวของท่านจึงย้ายติดตามเข้ามาอยู่ท่ี
กรุงเทพมหานคร ต่อมาท่านได้เข้ามาศึกษาต่อจนกระท่ังจบช้ันประถมศึกษาปีท่ี 4 ท่ี
โรงเรียนวดั ช่างเหล็ก เขตตลง่ิ ชัน

หลังจากคุณครสู ุพัชรินทร์ จบการศึกษาช้ันประถมศึกษาปีที่ 4 จากโรงเรียน วัด
ชา่ งเหล็ก เม่ือปพี ุทธศักราช 2497 ในขณะนั้นท่านมีอายรุ าว 10 ปเี ศษ บดิ าได้พาไปสมคั ร

เ ข้ า เ รี ย น โ ร ง เ รี ย น น า ฏ ศิ ล ป ก ร ม ศิ ล ป า ก ร แ ผ น ก
คีตศิลปไ์ ทยซึง่ ครเู ล่าใหฟ้ งั วา่

“ครไู ม่ทราบ และไม่รู้จักมาก่อนเลยว่าคีตศิลป์ไทยคืออะไร ร้องเพลงอะไรก็
ไม่เปน็ เลยสักเพลง แตค่ ุณพ่อครชู อบฟงั ดนตรีไทย ชอบฟังเพลงไทย สะสมแผ่นเสยี งเพลง
ไทยไว้เยอะ และสามารถบรรเลงเพลงไทยดว้ ยออร์แกนได้ คุณพ่ออยากใหล้ กู สาวเรยี นเป็น
นักรอ้ ง จึงพามาสมคั รเขา้ เรียนที่โรงเรียนนาฏศลิ ป กรมศลิ ปากร แผนกคตี ศิลป์ไทย”

เกณฑ์การสอบคัดเลือกนักเรียนเข้าเรียนคีตศิลป์ไทยของโรงเรียนนาฏศิลป
กรมศิลปากร ในคร้ังนั้นคุณครูสุพัชรินทร์ มีความคิดเห็นว่ากรรมการคงจะเลือกจาก
กระแสเสยี งของผู้เขา้ สอบเป็นหลัก ซ่ึงการสอบครง้ั นั้นเปน็ ความประทับใจทค่ี ุณครูยังจาได้
อยา่ งแจ่มชัดเหมอื นเหตกุ ารณเ์ กิดขนึ้ เมือ่ ไมน่ าน และเลา่ ใหฟ้ งั ดว้ ยความขบขันอย่เู สมอวา่

“...มีคุณครูท้วม ประสิทธิกุล เป็นกรรมการ ท่านถามว่าร้องเพลงอะไรได้
บ้าง ครูก็ตอบไปว่าร้องไม่ได้เลยค่ะ แต่ครูคิดว่าคุณครูท้วมคงต้องการฟัง
กระแสเสยี งของเรา ท่านจึงถามต่อวา่ แล้วเพลงชาติล่ะร้องไดไ้ หม ครูตอบไปว่า
ร้องได้ค่ะ ท่านก็ให้ร้องเพลงชาติให้ฟัง เป็นอันว่าครูสอบเข้าเรียนคีตศิลป์ไทย
ท่ีโรงเรียนนาฏศิลป ด้วยเพลงชาติและได้เรียนกับคุณครูท้วมตั้งแต่ต้นจนจบ
ประกาศนียบัตรนาฏศิลป์ชั้นสูง (คีตศิลป์ไทย) ในปี พ.ศ. 2508 เรียนอยู่เป็น
เวลา 11 ป.ี ..”

เพ่ือนนักเรียนร่วมรุ่นของคณุ ครสู ุพชั รินทร์ ที่จบออกมาเป็นนกั รอ้ งเพลงไทยท่ี
มชี อ่ื เสียง ไดแ้ ก่ คุณครลู อย รัตนทัศนยี ์ และครพู ฒั นีย์ พร้อมสมบัติ คุณครูใหล้ ายละเอียด
เพ่มิ เตมิ วา่

“ลอยเข้ามาเรียนรว่ มชั้นกับครูต้ังแต่ ม.1 คือ จบชัน้ ป.4 แล้วมาสอบเข้าที่นี่
เหมอื นครู ส่วนพัฒนีย์ เข้ามาทีหลัง เขาจบช้ัน ม.3 มาจากสตรมี หาพฤฒาราม แล้วจึงมา
เข้าเรยี นชั้น ม.4 ทน่ี ”ี่

คณุ ครทู ้วมเริ่มสอนด้วยตับต้นเพลงฉง่ิ สามช้ัน ใช้บทร้องจากกากีกลอนสุภาพ
ซึ่งแต่งโดยเจ้าพระยาคลัง (หน) ต่อด้วยตบั นางลอย เพลงโขน เพลงสามชั้น และเพลงเถา
คุณครูสุพชั รนิ ทรก์ ลา่ วถงึ วิธกี ารสอนของคุณครูท้วม ประสทิ ธกิ ลุ ว่า

“คุณครทู ้วมท่านสอนอย่างละเอยี ดลออ จ้าจจี้ ้าไช ค่อย ๆ สอนไปทีละ
วรรคของบทร้องทีละประโยคของท้านองเพลง จนจ้าได้แม่นย้าแล้วจึงค่อยต่อ
วรรคต่อไป โดยท่านสอนให้ปฏิบตั ิตามพรอ้ มกันทงั้ ชัน้ เรยี นกอ่ น แล้วจงึ คอ่ ยร้อง
เดีย่ วให้ท่านฟังทีละคน ในเบื้องตน้ คณุ ครทู ว้ มทา่ นเน้นให้ลกู ศิษย์จา้ เพลงไดก้ ่อน
แล้วค่อยเพิม่ ลายละเอยี ด ลีลา และกลวิธีตา่ ง ๆ ให้ภายหลงั เพือ่ ให้การขับร้อง
เพลงนั้น ๆ ไพเราะยงิ่ ข้ึน พวกครูตอ้ งเรียนขับร้องกับคณุ ครทู ้วมทุกวนั เรียนครั้ง
ละ 3 ช่ัวโมง ต่อเพลงได้แค่เพลงเดียว เรียกได้ว่าคุณครูท่านสอนแบบเน้น
คณุ ภาพมากกวา่ ปริมาณ ซงึ่ ครไู ดซ้ มึ ซบั เอาแบบอย่างวิธกี ารสอนของคุณครูทว้ ม
มาใช้ในการสอนลูกศิษยข์ องครู ท้ังกลุม่ ลูกศิษย์จากมหาวิทยาลยั ศิลปากร และ
สถาบนั บณั ฑติ พัฒนศิลป์”

ดว้ ยการวางรากฐานอย่างม่ันคง และถ่ายทอดวิชาคตี ศิลป์ไทยอย่างทุ่มเทท้ัง
กาลังกายและกาลังใจของคุณครูท้วม ประสิทธกิ ุล ส่งผลให้คุณครูสพุ ัชรินทร์ สามารถขับ
ร้องเพลงละครออกงานหลวงได้ตัง้ แตข่ ณะศึกษาอยใู่ นระดบั ชน้ั ม.ต้น โดยละครเรอื่ งแรกที่
คุณครูร่วมขับร้อง คือ ละครเร่ืองพญาผานอง และได้รับการสนับสนุนให้มีโอกาสฝึกฝน
เพ่ิมพนู ความรู้และประสบการณ์ ด้วยการได้รับคัดเลือกให้ทาหน้าที่ร้องเพลงประเภทเพลง
สามชั้นและเพลงเถา ออกอากาศทางสถานีวิทยุกระจายเสียงเดือนละ 1 เพลง รวมท้ังร่วม
ขับร้องในโอกาสพิเศษต่าง ๆ อาทิ งานพระราชทานเล้ียง ณ พระตาหนักเรือนต้น สวน
จิตรลดา งานข้นึ ปีใหม่ ณ สนามขา้ งวัดพระศรรี ัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง งาน
ฤดูหนาว ณ สวนลมุ พินี เปน็ ต้น

คุณครูสุพัชรินทร์ สาเร็จการศึกษา ระดับประกาศนียบัตรนาฏศิลป์ช้ันสูง
สาขาคีตศิลป์ไทย เม่ือวันที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2508 ต่อมาคุณครูสุพัชรินทร์ ต้ังใจจะ
ศึกษาหาความรู้เพิม่ เติมด้านภาษาไทยและภาษาศาสตร์ เพอื่ นาความรดู้ งั กลา่ วมาเขียน
ตาราและผลงานทางวิชาการด้านคีตศิลป์ไทยจึงได้เข้าศึกษาต่อในสถาบันอุดมศึกษาอ่ืน

จนกระทั่งสาเร็จครุศาสตรบัณฑิต จากสถาบันราชภัฏธนบุรี เมื่อวันที่ 13 มีนาคม
พ.ศ. 2532 และสาเร็จการศึกษาศิลปศาสตรมหาบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยศิลปากร เม่ือ
วันท่ี 10 มนี าคม พ.ศ. 2538

การเขา้ รบั ราชการ

ด้วยความสามารถในการขับร้องซ่ึงอยู่ในระดับดีเด่น กระแสเสียงท่ีไพเราะ และมี
เสียงสูงถึงคู่แปด ครูสุพัชรินทร์ จึงผ่านการคัดเลือกให้เข้ารับราชการในตาแหน่งศิลปิน
จตั วา กองการสังคีต กรมศิลปากร เม่อื วนั ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2506 ขณะกาลังศกึ ษาอยู่
ในระดับชนั้ สงู ปีที่ 1

ได้รับแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่ง ศิลปินตรี เมื่อวันท่ี 1 ตุลาคม พ.ศ. 2510 งาน
ดรุ ิยางคไ์ ทย กองการสงั คตี กรมศิลปากร

ได้รบั แต่งตั้งให้ดารงตาแหน่ง คีตศิลปิน ระดับ 4 เมอ่ื วันท่ี 4 ตุลาคม พ.ศ. 2520
งานดุริยางค์ไทย กองการสังคตี กรมศลิ ปากร

ได้รับแต่งตงั้ ให้ดารงตาแหน่ง คีตศิลปิน ระดับ 5 เม่อื วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2523
งานดุรยิ างคไ์ ทย กองการสงั คีต กรมศิลปากร

ได้รับแต่งต้ังให้ดารงตาแหน่ง คีตศิลปิน ระดับ 6 (ผู้ชานาญการด้านคีตศิลป์
ไทย) เม่ือวนั ที่ 2 ตลุ าคม พ.ศ. 2532 งานดรุ ยิ างค์ไทย กองการสงั คตี กรมศิลปากร

ได้รบั แต่งต้งั ใหด้ ารงตาแหน่ง คีตศลิ ปิน ระดับ 7ว. (ผู้ชานาญการด้านคีตศลิ ป์
ไทย) เมอื่ วันท่ี 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2534 งานดุริยางคไ์ ทย กองการสงั คตี กรมศลิ ปากร

ได้รับแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่ง คีตศิลปิน 8ว. (ทั่วไป) เมื่อวันท่ี 28 มิถุนายน
พ.ศ. 2539 สถาบนั นาฏดุริยางคศ์ ลิ ป์ กรมศิลปากร

ในช่วงระยะเวลาที่ครูสุพัชรินทร์ รับราชการในกองการสังคีต กรมศิลปากร
ครูมีโอกาสได้รับการถ่ายทอดความรู้ด้านคีตศิลป์ไทยเพิ่มเติมจากคุณครูอาวุโสอีกหลายท่าน
อาทิ คุณครูศรนี าฏ เสริมศิริ คณุ ครสู ุดา เขยี ววจิ ิตร และคุณครแู ชม่ ช้อย ดุริยพันธุ์

“...คุณครูจง (คณุ ครูศรีนาฏ เสริมศิริ) สอนครูทัง้ เพลงละครเร่ืองอิเหนา
พระลอ รวมท้ังเพลงละครดึกด้าบรรพ์และเพลงละครเรื่องอ่ืน ๆ เพลงที่ส้าคัญ ก็มี

เพลงปีนตล่ิงใน เพลงมาลีหวน เพลงขับไม้บัณเฑาะว์ เพลงเชิดนอก เพลงเชิดจีน
เพลงวิเวกเวหาแบบร้องห้าจังหวะ และเพลงกัลยาเย่ียมห้องแบบร้องหกจังหวะ
เปน็ ต้น เพลงสามชั้นและเพลงเถา เช่น เพลงดอกไม้ไทรสามช้ัน เพลงบงั ใบสาม
ชัน้ เพลงเขมรปี่แกว้ ทางสักวาสามช้ัน เพลงเขมรโพธสิ ตั วเ์ ถา เพลงแขกสาหร่าย
เถา เพลงถอนสมอเถา ฯลฯ รวมท้ังเพลงท่คี ุณครหู วงมาก ท่านกก็ รุณาถา่ ยทอด
ให้กับครู ต้องแอบต่อกันในห้องส่วนตัวบ้างหลังพุ่มไม้บ้างไม่ให้ใครได้ยินคือ
ตับนางนาคสามชั้น วิธีการสอนของคุณครูจะสอนเข้มงวดกวดขัน จ้าจี้จ้าไช
เหมอื นเรายังเป็นเดก็ เปน็ วิธีการสอนแบบเดยี วกบั คณุ ครูท้วม...”

ส่วนคุณครูสุดา เขียววิจิตร และคุณครูแช่มช้อย ดุริยพันธุ์ น้ัน ส่วนใหญ่ท่าน
ถ่ายทอดเพลงโขนละคร ให้แก่คุณครูสุพัชรินทร์ ซึ่งมีท้ังเพลงท่ีต่อใหม่กันทั้งเพลงและบอก
เทคนิค กลวิธี การขบั ร้องเพลงโขน ละคร ใหไ้ พเราะเป็นที่ตรงึ ใจผู้ชม

“...คุณครูเชื่อม (สุดา ดวงเขียว) และคุณครูเล็ก (แช่มช้อย ดุริยพันธ์)
ท่านสอนเราแบบคนโตแล้วไม่ได้จ้าจี้จ้าไชมาก ส่วนใหญ่คุณครูเล็กท่านจะบอก
เทคนิคการใช้เสียงร้องให้ไพเราะจับใจผู้ชมเช่น การใช้เสียงร้องเพลงโอ้ปี่
เพลงโอ้บชู ากญู ฑ์ เปน็ ตน้ คณุ ครูเลก็ ต่อเพลงให้ครูมากทเี ดียว และมีบางเพลงที่
ครูได้ฟังคุณครูเล็กร้องแล้วชั่งเพราะจับใจจริง ๆ ชอบมาก พร้อมกับต้ังใจว่าเราอยากจะ
รอ้ งให้ได้อย่างครูบ้าง ก็คลานเข้าไปขอต่อเพลงนั้นกับครูเล็ก ได้แก่เพลงลาวแพนและ
เกริ่นตอนพระลอเสี่ยงน้า โดยส่วนตัวครูมีความประทับใจวิธีการร้องเพลงละคร
ของคุณครูเล็กเป็นพิเศษ เป็นลีลาการร้องท่ีนุ่มนวลชวนฟัง จึงซึมซับเอาวิธีร้อง
เพลงละครแบบคุณครูมาใช้มากทีเดียว เคยมีผู้ชมมาถามครูด้วยนะว่าเป็นลูก
ศิษย์คุณครูแช่มช้อยหรือเปล่า ลีลาการร้องเหมือนคุณครูแช่มช้อยท้ังท่ีเสียงไม่
เหมือนกัน กับอีกคร้ังหนึ่งครูไปเยี่ยมน้าจิตต์ (คุณครูสุดจิตต์ ดุริยประณีต)
นา้ จิตต์ยังเอย่ ปากคุยกับครูว่า “หนูอะ ได้พี่เล็กไวแ้ ยะ” ส่วนคณุ ครูเชื่อมก็สอน
ครูท้านองเดียวกับคุณครูเล็ก มีท้ังบอกเทคนิคและต่อเพลง เพลงส้าคัญที่ครูต่อ
จากคุณครูเช่ือม เช่นเพลงพญาโศก 3 ชั้น เพลงตามกวาง ซึ่งเดิมครูร้องทาง
ครูท้วมได้อยแู่ ล้วจึงร้องทางครเู ชอื่ มได้อีกทางหน่ึง เพลงวเิ วกเวหาแบบร้องส่ีจังหวะ

และเพลงช้อนแท่นในละครดึกดา้ บรรพ์ เร่ืองรามเกียรติ์ ตอนศรู ปนขาตีสีดา เป็น
ตน้ ...”

เม่อื ใดอาจารย์มนตรี ตราโมท แต่งเพลงรวมทานองขับร้องขึน้ ใหม่ ท่านมกั จะ
ต่อทานองขับร้องให้กับครสู ุพัชรินทรเ์ ป็นคนแรก เชน่ ชื่นชุมนมุ กลุ่มดนตรี เพลงเทพสมภพเถา
รวมท้ังเพลง ชมดงกลาง ซึ่งเป็นเพลงท่ีท่านปรับปรุงข้ึนใหม่จากเพลงชมดงตัดของเก่าสาหรับใช้ร้อง
บทอศิรวาทราชสดุดี พระราชนิพนธ์ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
เฉลิมพระเกียรติ์พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย เม่ือวันที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ.
2533 ณ อทุ ยาน ร.2

“...มีอยู่คร้งั หน่ึงอาจารย์มนตรีบรรจเุ พลงแมลงวันทองในละคร ครูร้อง
ไม่ได้ เป็นเพลงโบราณท่ีไม่ค่อยได้ร้องแทบจะหายสาบสูญไปเสียแล้ว ท่านก็ต่อ
ใหค้ รูเอง...”

เม่ือครูศิลปี ตราโมท แต่งเพลงแขกตะโม๊ะเถาเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เลือก
ถา่ ยทอดทานองร้องให้แก่คุณครูสพุ ัชรินทร์เป็นคนแรก และมอบหมายให้ท่านเป็นผขู้ ับร้อง
บนั ทกึ เสยี งไวเ้ ป็นตน้ แบบ (สุพัชรนิ ทร์ วฒั นพนั ธุ์ สมั ภาษณ,์ 20 กันยายน พ.ศ. 2561)

ผลงานท่ภี าคภูมใิ จ

นอกเหนือจากการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะคีตศิลปิน กองการสังคีต กรมศิลปากร
ซ่ึงมีท้ังการขับร้องในโอกาสต่าง ๆ การบรรจุเพลงประกอบการแสดงโขน – ละคร
การถา่ ยทอดองค์ความรู้คีตศลิ ป์ไทยให้แก่คตี ศลิ ปนิ รุ่นหลังการควบคุมการขับร้องและการ
เป็ น หั วห น้ า ค ณ ะ น า ศิ ล ปิ น ก ร ม ศิ ล ป า ก ร ไป เผ ย แ พ ร่ศิ ล ป วั ฒ น ธรร ม ใน ต่ า งป ระ เท ศ
คุณครูสุพัชรินทร์ ได้รับเชิญให้เข้าไปช่วยราชการในราชสานัก ด้านคีตดุริยางค์ โดยรับ
หน้าทเ่ี ปน็ ผู้ขับร้องและบรรจุเพลงสาหรบั ขับร้องและบรรเลง ประกอบการแสดงพระราชทาน
ในโอกาสตา่ ง ๆ โดยพระราชเสาวนีย์ในสมเดจ็ พระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ อาทิ
งานพระราชทานเลี้ยงเน่ืองในวันครบรอบวนั ราชาภิเษกสมรส งานพระราชทานเล้ียงพระ
ราชอาคันตุกะระดับประมุขประเทศ ท้ังท่ีเป็นการพระราชทานเลี้ยงส่วนพระองค์และการ

พระราชทานเลี้ยงอย่างเปน็ ทางการ ซึ่งมีทัง้ ท่ีทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ให้จดั ขึ้น ณ พระ
ที่นง่ั จักรีมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง พระท่ีน่ังวมิ านเมฆ พระราชวังดุสิต พระท่ี
นั่งอุทยานภูมิเสถียร พระราชวังบางปะอิน พระท่ีน่ังเปี่ยมสุข พระราชวังไกลกังวล พระ
ตาหนักทักษิณราชนเิ วศน์ พระตาหนักภพู ิงค์ราชนิเวศน์ พระตาหนักภพู านราชนเิ วศน์และ
ศาลาดุสติ าลัย สวนจิตรลดา รวมท้งั การแสดงพระราชทานเน่ืองในโอกาสทส่ี มเด็จพระนาง
เจา้ สิรกิ ิต์ิ พระบรมราชินนี าถ เสด็จเยือนสาธารณรฐั ประชาชนจนี อย่างเปน็ ทางการ เมอ่ื ปี
พ.ศ. 2543 และเป็นผู้ที่ควบคุมการขับร้องในการแสดงเฉลิมพระเกียรติ เรื่องรามเกียรติ์
ตอนพรหมมาศ เนื่องในวโรกาสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระเจริญพระ
ชนมพรรษา 80 พรรษา

ผลงานทางวชิ าการ

ข้อเสนอแนะในการอ่านทานองเสนาะ ผลิต ปี พ.ศ. 2534 เป็นเอกสารสาหรับ
ประกอบการสอนและการบรรยายสาธิตในการอบรมเชิงปฏิบัติการแก่ครู – อาจารย์ และ
นักศกึ ษาในระหว่างปี พ.ศ. 2534 – 2538

จดั ทาคาบรรยายอธบิ ายลักษณะการขบั ร้องและบรรเลงเพลงมโหรีและป่ีพาทย์
ไม้แข็งและป่ชี วาหวั ข้อ “อธิบายเพลงโดยสงั เขป” เป็นเอกสารเผยแพรแ่ ก่ประชาชนในระหวา่ ง
ปี พ.ศ. 2536 – 2538

จัดทาเอกสารประกอบการสอนในรายวิชา “คีตนาฏดุริยางค์วิจารณ์” เป็น
เอกสารประกอบการสอนนักศกึ ษาคณะศิลปศึกษา สถาบนั บัณฑิตพฒั นศลิ ป์

การบรรจุเพลงสาหรับขับร้องและเพลงบรรเลงประกอบการแสดงนาฏศิลป์ในระหว่างปี
พ.ศ. 2536 – 2543 ใช้ในการแสดงละครนอก โขน ละครใน ละครเสภา ของกรมศิลปากร และ
การแสดงยุวศิลปนิ มูลนธิ ิ ร.2

เอกสารประกอบการสอน วิชาการบรรจุเพลงร้องและเพลงหน้าพาทย์
(Melodic Repertoire for Thai and Drama) ศึกษาหลักการบรรจุเพลงประเภทต่าง ๆ
เช่นเพลงสามชั้น เพลงเถา เพลงตับ เพลงในเรื่องละคร เพลงระบา เพลงชุด โขน ละคร
นอก ละครใน ละครดึกดาบรรพ์ ละครพันทาง ละครเสภา หุ่นกระบอก ตลอดจนความ

เหมาะสมในการใช้เพลงหน้าพาทย์ต่าง ๆ ที่บรรจุลงในบทโขนละคร และหลักการ
วเิ คราะหค์ วามแตกต่างของเพลงทใ่ี ชใ้ นบทโขน – ละคร

เรียบเรียงตารา คีตลักษณ์ไทย เป็นตาราท่ีใช้ในการสอนสาขาวชิ าคีตศิลป์ไทย
ได้เผยแพร่ ในสถาบันการศึกษา 3 แห่ง คือ สถาบันราชภัฏธนบุรี มหาวิทยาลัย
ศิลปากร และสถาบนั บณั ฑิตพัฒนศิลป์

เคร่อื งราชอิสรยิ าภรณ์

- เครื่องราชอิสรยิ าภรณอ์ ันมเี กยี รติยศย่ิงมงกุฎไทย ทวีตยิ าภรณ์มงกุฎไทย
(ท.ม.)

- เคร่ืองราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ทวีติยาภรณ์ช้างเผือก
(ท.ช.)

- เหรยี ญจกั รพรรดมิ าลา
- เหรียญสองพระองค์(รับพระราชทานจากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
พระบรมราชนิ ีนาถ)

การได้รบั การถ่ายทอดเพลงในบทพระราชนพิ นธ์เรอ่ื งเงาะป่า

ในระหว่างปี พ.ศ. 2517 – 2518 คุณครูสุพัชรินทร์ ได้รับโอกาสท่ีสาคัญอีก
ครั้งหนึ่งในการเพ่ิมพูนความรู้ด้านคีตศิลป์ไทย เหตุด้วยเจ้าจอมหม่อมราชวงศ์สดับใน
รัชกาลท่ี 5 ผู้เคยขับร้องเป็นต้นเสียงในการแสดงละครเรื่องเงาะป่า พระราชนิพนธ์ใน
รชั กาลที่ 5 โดยเฉพาะการขับร้องในบทบาทของนางลาหับมีความวิตกกังวลว่าวิธีการขับ
รอ้ งและการบรรเลงละครเรอ่ื งเงาะป่านั้น ตามแบบฉบับในสมัยรชั กาลที่ 5 จะสูญหายไป
จงึ ตดิ ต่อขอความรว่ มมือมายงั กองการสังคตี กรมศิลปากร ให้คดั เลือกนักร้องและนกั ดนตรี
เพ่ือเตรียมการบันทึกเสียงไว้เป็นหลักฐาน โดยท่านจะเป็นผู้หาทุนสนับสนุน และขอรับ
อาสาเป็นผ้ฝู ึกสอน และดูแลใหก้ ารขับรอ้ งและการบรรเลงให้มีความละม้ายแม้นเมื่อสมัย
แผ่นดินสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงมากที่สุด ในท่ีสุดได้บันทึกเสียงไว้เป็นหลักฐานสาเร็จ
ตลอดทง้ั เร่ือง เมอ่ื เดือนมกราคม พ.ศ. 2518

นักร้องท่ีได้รับการคัดเลือกให้เข้ารับการถ่ายทอดทางร้องบทละครเร่ือง
เงาะป่า จากเจ้าจอมหม่อมราชวงศ์สดับในรัชกาลท่ี 5 ในคร้ังน้ันประกอบด้วย คุณครูแช่มช้อย
ดุริยพันธ์ุ คุณครูพัฒนี พร้อมสมบัติ คุณครูสุพัชรินทร์ วัฒนพันธุ์ คุณครูกัญญา โรหิตาจล
คณุ ครูแจง้ คล้ายสที อง และคณุ ครูสมชาย ทับพร

“...เจ้าจอมสดับท่านเลอื กให้ครูร้องบทนางลา้ หับเกือบตลอดท้ังเรื่อง ใน
คราวนั้นครูมีโอกาสได้เรียนเพลงละครหายากหลายเพลง เช่น เพลงเขนง เพลง
น้าค้าง เพลงหอมหวน เพลงทยอยลาว เพลงแขกยามดึก เพลงยาวแหบ เพลงช้า
หวน เพลงโอ้ช้าหรือโอ้บูชากูญฑ์ใน ฯลฯ มีเพลงบางเพลงท่ีเราได้มาแล้ว แต่ก็ไม่
เหมือนทางร้องของเจา้ จอมสดับ ตอ้ งปรับแก้กันใหมก่ ็มี ตอนนั้นรู้สกึ ว่าทางร้อง
ของท่านซับซ้อน และยากมาก แต่ท่านก็ให้ก้าลังใจด้วยการชมเชยว่าครูมีน้าเสียง
ไพเราะ และเม่ือเสร็จงานครูได้รางวลั จากท่านเป็นกระดุมเส้ือตราประจ้าตัวท่าน
...” (หนังสือท่ีระลึกงานดนตรีไทยอุดมศึกษา (ครั้งที่ 39), 2555, น. 193 –
196)

ครูสุพัชรินทร์ วัฒนพันธุ์ ( 2540, น. 46) ได้ให้ข้อมูลด้านการขับร้องในสูจิบัตร
เรื่องเงาะป่า ไว้ว่า เม่ือปีพุทธศักราช 2518 เดือนมกราคม ข้าพเจ้าในฐานะนักร้องเพลง
ไทยในกรมศิลปากร เป็นผู้หนึ่งที่ได้รับการถ่ายทอดเพลงขับร้องในบทละครเร่ืองเงาะป่า
จากเจ้าจอมหม่อมราชวงศ์สดับ ลดาวัลย์ เจ้าจอมในรัชกาลที่ 5 ณ โรงละครแห่งชาติ ร่วมกับ
บรรดาคีตศิลปินชายหญิง 5 คน โดยครูแช่มช้อย ดุริยพันธุ์ เป็นผู้ควบคุมคีตศิลปิน ในการรับ
การถ่ายทอดครัง้ น้ีเท่ากบั เปน็ การเรมิ่ ต้นใหมเ่ พราะจะต้องขับรอ้ งเพลงในเรื่องเงาะป่าตาม
ทานองร้องที่เจา้ จอมสดับท่านสอนให้ เพราะมีหลายเพลงที่ทานองจะแตกต่างจากทานอง
ทเี่ คยร้องดงั นั้นนักร้องทเ่ี ข้ารับการถา่ ยทอดเพลงต้องจดจาทางเพลงของเจ้าจอมให้แม่นยา
เพ่ือมิให้ปะปนกับทานองเพลงที่เคยร้องมาแล้วจากเพลงเดียวกัน เชน่ เพลงนกจาก เพลงศัพท์
ไทย เพลงทะแย เพลงรา่ ยนอก เปน็ ต้น

ในการถา่ ยทอดเพลงละครเรอื่ งเงาะปา่ นี้ เจา้ จอมสดบั ได้แสดงเจตนาของท่าน
ใหบ้ ันทึกเทปเพื่ออนุรกั ษ์เพลงในบทละครไว้ และจัดเผยแพรอ่ อกไปให้เปน็ ประโยชนก์ ับผู้
ที่สนใจและอนุชนโดยทวั่ ไป โดยเฉพาะนักเรียนโรงเรียนนาฏศิลป์ซ่งึ เรียนขบั ร้อง ฟ้อนรา และ

ดนตรีกรมศิลปากรจึงทาการบันทึกเทปไว้อย่างละเอียด ตลอดทั้งเร่ือง โดยมีเจ้าจอมสดับเป็นผู้
ควบคุมการขับร้อง และอาจารย์มนตรี ตราโมท เป็นผู้ควบคุมการบรรเลง ระยะเวลาในการ
ถา่ ยทอดเพลงและบันทกึ เทปใชเ้ วลาประมาณ 4 เดอื นจึงสาเรจ็ อยา่ งสมบูรณ์

“...การทข่ี ้าพเจ้าได้เรียนทางขบั ร้องของเจ้าจอมสดบั นั้น ข้าพเจ้ารู้สึก
ดใี จและภูมิใจในโอกาสท่ีไดร้ ับทางร้อง ซ่งึ นับได้วา่ เป็นทางโบราณจริง ๆ จาก
เจ้าจอมสดับ ท่ีเติบโตและสืบทอดทางขับร้องมาจากราชส้านักโดยตรง
ระหว่างที่เรียนทางขับร้องกับเจ้าจอมท่านน้ัน ข้าพเจ้ารู้สึกเคารพเล่ือมใส
ศรัทธาในตัวท่าน เพราะท่านมีความแม่นย้าในทางขับรอ้ งและบทขับร้องโดย
ตลอดทั้งเรื่อง ท่านไดก้ รณุ าเล่าให้ฟงั ว่าท่านเปน็ ลกู ศษิ ย์ของ คุณพระประดิษฐ์
ไพเราะ(ตาด ตาตะวาทิต) หลวงเสนาะดุริยางค์ (แช่ม สุนทรวาทิน) ยศในขณะ
นน้ั และหมอ่ มส้มจีน ในบทละครเรอื่ งเงาะป่านี้เจ้าจอมสดบั จะร้องเป็นตวั นาง
ล้าหับทั้งเรื่อง การขับร้องเพลงในสมัยท่านทรงพระราชนิพนธ์ละครเร่ืองน้ี
เป็นไปอย่างพิถีพิถัน เพราะพระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจะทรง
ตรวจสอบด้วยพระองค์ท่าน บางครั้งพระราชทานชอ่ื เพลงส้าหรับขับร้องด้วย
พระองค์เอง ดังนั้นการขบั ร้องและการบรรเลงละครเรื่องเงาะปา่ จะต้องดีอย่าง
สมบูรณ์แบบทุกประการ...” (สุพัชรินทร์ วัฒนพันธ์ุ สัมภาษณ์, 20 กันยายน
พ.ศ. 2561)

มีหลายเพลงท่ีโบราณจารย์ทางคีตดุริยางค์ คือ พระประดิษฐ์ไพเราะ
(ตาด ตาตะวาทติ ) และพระยาเสนาะดรุ ิยางค์ (แช่ม สนุ ทรวาทนิ ) ซ่งึ ขณะนั้นได้รับราชทินนาม
วา่ ขนุ เสนาะดรุ ิยางค์ได้บรรจุเพลงไวอ้ ย่างวจิ ิตรพิสดารในเรอ่ื งเงาะป่า และปัจจุบันนแ้ี ทบจะ
มิมีผู้ใดผู้หน่ึงหยิบยกนาเพลงบางเพลงมาใช้บรรจุลงในบทละครสาหรับการร้องและ
บรรเลงเช่นเพลงหน้าพาทย์ เพลงเซ่นเหล้า เพลงหอมหวน เพลงน้าค้าง เพลงยาวแหบ
เพลงชา้ หวน เพลงเหล่านี้เป็นเพลงท่ีไพเราะทั้งท่วงทานองลีลาการขับร้องท่ีค่อนข้างยาก
ในการใช้เสียงเพลงท่ีใช้ขับร้องและบรรเลงในเรื่องเงาะป่านี้เป็นเพลงท่ีสาคัญโดดเด่นควร
แกก่ ารศกึ ษาดังน้ี

1. เงาะปา่ เป็นบทละครทร่ี วบรวมเพลงไทยที่สาคัญ ๆ ไว้เกอื บทั้งหมด
2. เพลงท่ขี ับร้องและบรรเลงมีความไพเราะความกลมกลนื สนทิ สนมต่อเนอ่ื ง
ของการดาเนินทานองเหมาะสมกบั บทพระราชนิพนธ์
3. เพลงขับร้องในบทละครเร่ืองเงาะป่า ควรยึดถือเป็นแบบแผนสาหรับใช้
บรรจุในบทโขนละครต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี
นับว่าเป็นเร่ืองที่น่ายินดีและเป็นท่ีน่าภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งต่อนักศึกษาท่ี
เรียนคีตศิลป์ไทย เม่ือคุณครสู ุพัชรินทร์ โอนย้ายมาประจาสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ และ
ได้รบั แตง่ ตง้ั ให้ดารงตาแหน่ง อาจารย์ 3 ระดับ 8 สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ กรมศิลปากร
เมอื่ วนั ที่ 16 มิถนุ ายน พ.ศ. 2544

ภายหลังเกษียณอายุราชการ เม่ือปี พ.ศ. 2546 คุณครูสุพัชรินทร์ ได้รับ
แต่งตั้งให้เป็นผู้เช่ียวชาญด้านการสอนคีตศิลป์ไทย สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ และยังคงสอน
นักศึกษาคณะศิลปศึกษา สถาบนั บัณฑิตพัฒนศิลป์มาจวบจนทุกวนั น้ี นับเป็นช่วงระยะเวลา
ทค่ี ุณครูสพุ ัชรินทร์ ไดถ้ ่ายทอดความรดู้ ้านคีตศิลป์ไทยและประสบการณ์ในฐานะคีตศิลปิน
ทป่ี ระสบความสาเรจ็ ในหนา้ ทกี่ ารงานอย่างดเี ย่ยี มให้แกล่ ูกศษิ ย์อยา่ งจริงจงั ท้งั ในลกั ษณะ
ของการสอนในรายวชิ าต่าง ๆ และเป็นอาจารย์นิเทศการฝกึ ประสบการณ์วิชาชีพครใู หแ้ ก่
นักศึกษาคณะศิลปศึกษา สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ การให้คาปรึกษาด้านคีตดุริยางค์
แก่นักศึกษาปริญญาตรี มหาวิทยาลัยศลิ ปากร สถาบันราชภัฏธนบรุ ี สถาบันบัณฑิตพัฒน
ศิลป์ และนักศึกษาปริญ ญ าโท มหาวิทยาลัยมหิ ดล การสอนคีตศิลป์ไทยใน
สถาบันอุดมศึกษาอ่ืน ๆ นอกเหนือจากสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ อาทิ มหาวิทยาลัย
ศิลปากร มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฏร์ธานี รวมท้ังเป็นกรรมการจัดทาหลักสูตร
ระดับอุดมศึกษา กรมศิลปากร ดา้ นนาฏดรุ ิยางคศิลป์ (วเิ คราะห์การขับร้องเพลงนางนาค
3 ช้ัน ของพระยาประสานดุรยิ ศพั ท,์ 2558, น. 41 – 46)


Click to View FlipBook Version