ภาพพิมพ์ การพิมพ์ภาพ หมายถึงการถ่ายทอดรูปแบบจากแม่พิมพอ์อกมาเป็นผลงานที่มีลกัษณะ เหมือนกนักบัแม่พมิพท์ุกประการและไดภ้าพที่เหมือนกนั ที่มีจา นวนต้งัแต่2 ชิ้นข้ึนไป การพิมพภ์าพเป็นงานที่พฒันาต่อเนื่องมาจากการวาดภาพ ซ่ึงการวาดภาพไม่สามารถ สร้างผลงาน 2 ชิ้นที่มีลกัษณะเหมือนกนัทุกประการได้จึงได้มีการพฒันาการพมิพข์้ึนมา ชาวจีนถือ ว่าเป็นชาติแรกที่น าเอาวิธีการพิมพ์มาใช้อย่างแพร่หลายมานานนับพันปีหลังจากน้ันจึงได้ แพร่หลายออกไปในภูมิภาคต่างๆ ของโลก ชนชาติทางตะวนัตกไดพ้ฒันาการพมิพภ์าพข้ึนมาอยา่ง มากมาย มีการน าเอาวัสดุและเครื่องจกัรกลต่างๆ เข้ามาใช้ในการพิมพ์จึงท าให้การพิมพ์พัฒนาไป อยา่งรวดเร็วจวบจนถึงในปัจจุบัน (http://www.vattaka.com/printing/printing.htm) โยฮันน์กูเตนแบร์ก ช่างเหล็กและนกั ประดิษฐช์าวเยอรมัน ไดช้ื่อวา่เป็นผปู้ระดิษฐต์วัพมิพ์ ที่ถอดไดข้้ึนในยโุรปและมีชื่อเสียงจากการมีส่วนพฒันาเทคโนโลยการพิมพ์ ี ในช่วงราวค.ศ. 1450 ซ่ึงเป็นการพฒันาต่อจากการพมิพแ์บบบลอ็กที่ใชก้นัอยใู่นขณะน้นัเมื่อรวมส่วนประกอบต่าง ๆ ดงักล่าวเขา้ดว้ยกนั ในระบบการผลิตแลว้เขาไดท้า ใหก้ารพมิพอ์ยา่งรวดเร็วเป็นไปได้และท าให้ ข้อมูลข่าวสารแพร่กระจายออกไปอยา่งรวดเร็วในยคุฟ้ืนฟูศิลปวทิยาของยุโรป
ค.ศ.1495 Albrecht Dürer ศิลปินแกะไมช้าวเยอรมนัซ่ึงเคยเป็นจิตรกรช่างเขียนภาพไดค้ิด วธิีพมิพจ์ากแม่พมิพท์องแดง (Copper plate engraving) โดยการใช้ของแหลมขูดขีดให้เป็ นรูปรอย บนแผน่ทองแดงและใช้พิมพ์แบบ Gravure เป็นคร้ังแรกในเยอรมนั (กา ธร สถิรกุล: 189) ต่อมาในปีค.ศ.1793 ชาวเยอรมันชื่อ อะลัวร์เซเนเฟลเดอร์ (Alois Senefelder)ได้ค้นพบ วิธีการพิมพ์หิน (Lithography) ซ่ึงเป็นวธิีการพมิพแ์บบพ้นืราบ (Planographic printing) ข้ึนไดเ้ป็น คนแรกค.ศ.1904 และไอรา วอชิงตัน รูเบล (Ira Washington Rubel) ช่างพมิพช์าวอเมริกนัได้ สงัเกตเห็นวา่ ในการป้อนกระดาษเขา้พมิพโ์ดยแท่น Cylinder press บางคร้ังลืมป้อนกระดาษเขา้ไป หมึกจะพมิพต์ิดบนลูกกลิ้งแรงกด และเมื่อป้อนกระดาษแผน่ถดัไปหมึกบนตวัพมิพจ์ะ ติดบน กระดาษ หน้าหนึ่งแต่หมึกบนลูกกลิ้งก็จะติดกระดาษอีกหนา้หน่ึง เมื่อสงัเกตดูแลว้พบวา่ หมึกที่ติด
บนลูกกลิ้งก่อนที่จะติดบนกระดาษน้นัจะมีลกัษณะสวยงามกวา่ หมึกที่พิมพ์จากตัวพิมพ์ไปติด กระดาษโดยตรง จึงได้คิดวิธีพิมพ์ระบบ Off Set Printing ข้ึนมา (กา ธร สถิรกุล, 2515 : 194) ค.ศ. 1907 แซมมวล มิลตัน (Samuel Simon) แห่งเมือง Machester ได้ปรับปรุงการพิมพ์ ระบบ Silk Screen และ จดทะเบียนลิขสิทธิ์ ที่ประเทศอังกฤษ องค์ประกอบของการพิมพ์มีองค์ประกอบที่ส าคัญ ดงัน้ี 1.แม่พมิพ์ 2.วัสดุที่ใช้พิมพ์ 3. สีที่ใช้ในการพิมพ์ 4. แท่นพมิพ์ 5.ผู้ออกแบบ (ศิลปิ น, นักออกแบบ) / ผู้พิมพ์(ช่างพมิพ)์ ผลงานที่ได้จากการพิมพ์มีอยดู่ว้ยกนั 2 ชนิด คือ 1. ภาพพิมพ์เป็นผลงานพิมพท์ ี่เป็นภาพต่างๆ เพื่อความสวยงามหรือบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ อาจมีข้อความ ตวัอกัษรหรือตวัเลขประกอบหรือไม่มีก็ได้
2. สิ่งพมิพ์เป็นผลงานพมิพท์ ี่ใชบ้อกเล่าเรื่องราวต่างๆ เป็นตวัอกัษรข้อความ ตัวเลขอาจมี ภาพประกอบหรือไม่มีก็ได้ ประเภทของการพิมพ์การพมิพแ์บ่งออกไดห้ลายประเภทตามลกัษณะต่าง ดงัน้ี 1.แบ่งตามจุดมุ่งหมายในการพิมพ์แบ่งออกได้2 ประเภท คือ 1.1ศิลปะภาพพิมพ์(GRAPHIC ART) เป็นงานพมิพภ์าพเพอื่ใหเ้กิดความสวยงามเป็น งานวิจิตรศิลป์ 1.2การออกแบบเลขนศิลป์(GRAPHIC DESIGN) เป็ นงานพิมพ์ภาพที่ประกอบไปด้วย ประโยชน์ใชส้อยนอกเหนือไปจากความสวยงาม ไดแ้ก่หนงัสือต่าง บตัรต่างๆ ภาพโฆษณา ปฏิทิน ฯลฯ ซึ่งจัดเป็นสาขาหนึ่งในงานประยุกต์ศิลป์ 2.แบ่งตามกรรมวิธีในการพิมพ์แบ่งออกได้2 ประเภท คือ 2.1 ภาพพิมพ์ต้นแบบ (ORIGINAL PRINT) เป็นผลงานพิมพ์ที่สร้างจากแม่พิมพแ์ละ วิธีการพิมพ์ที่ถูกสร้างสรรคแ์ละกา หนดข้ึนโดยศิลปินเจา้ของผลงานจะตอ้งลงนามรับรองผลงาน ทุกชิ้น บอกล าดับที่ในการพิมพ์เทคนิคการพิมพ์และวันเดือนปี ที่พิมพ์ด้วย 2.2 ภาพพิมพ์จ าลองแบบ (REPRODUCTIVE PRINT) เป็ นผลงานพิมพ์ที่สร้างจาก แม่พมิพหรือวิธี ์ การพิมพ์วิธีอื่น ซ่ึงไม่ใช่วธิีการเดิมแต่ไดรู้ปแบบเหมือนเดิม 3.แบ่งตามจ านวนครั้งที่พิมพ์แบ่งออกได้2 ประเภท คือ 3.1 ภาพพิมพ์ถาวร เป็นภาพพิมพท์ ี่พิมพอ์อกมาจากแม่พิมพใ์ดๆ ที่ได้ผลงานออกมามี ลกัษณะเหมือนกนัทุกประการต้งัแต่2 ชิ้นข้ึนไป 3.2 ภาพพิมพค์ร้ังเดียวเป็ นภาพพิมพ์ที่พิมพ์ออกมาได้ผลงานเพียงภาพเดียว ถ้าพิมพ์อีก จะไดผ้ลงานที่ไม่เหมือนเดิม 4.แบ่งตามประเภทของแม่พิมพ์แบ่งออกได้4 ประเภท คือ 4.1แม่พิมพ์นูน (RELIEFPROCESS) เป็นการพิมพโ์ดยให้สีติดอยบู่นส่วนผิวหน้าที่ท า ให้นูนข้ึนมาของแม่พิมพ์ภาพที่ไดเ้กิดจากสีที่ติดอยใู่นส่วนบนน้ัน แม่พิมพน์ูนเป็นแม่พิมพท์ ี่ทา ข้ึนมาเป็นประเภทแรก ภาพพมิพช์นิดน้ีไดแ้ก่ o ภาพพิมพ์แกะไม้ (WOODCUT) o ภาพพิมพ์แกะยาง (LINOCUT) o ตรายาง (RUBBER STAMP) o ภาพพมิพจ์ากเศษวสัดุต่างๆ
ที่มา http://www.archive.feedblitz.com 4.2แม่พิมพ์ร่องลึก(INTAGLIO PROCESS) เป็นการพมิพโ์ดยใหส้ีอยใู่นร่องที่ทา ใหล้ึก ลงไปของแม่พิมพโ์ดยใช้แผ่นโลหะทา เป็นแม่พิมพ์ แม่พิมพร์่องลึกน้ีพฒันาข้ึนโดยชาวตะวันตก สามารถพิมพ์งานที่มีความละเอียดคมชัดสูง ในสมัยก่อนมักนิยมใช้ในการพิมพ์หนังสือ พระ
คัมภีร์แผนที่ เอกสารต่างๆ แสตมป์ธนบัตร เป็ นต้น ส่วนในปัจจุบันจะใช้เพียงการพิมพ์งานที่เป็ น ศิลปะและธนบัตรเท่าน้นั o ภาพพมิพก์ดักรด (ETCHING) o ภาพพิมพ์ (Aquatint) o ภาพพิมพ์ (Dry point) o ภาพพิมพ์ (Messotint)
ที่มา http://www.hyperallergic.com 4.3แม่พิมพ์พื้นราบ (PLANOGRAPHIC PROCESS) เป็นการพิมพ์โดยให้สีติดอยู่บน ผวิหน้าที่ราบเรียบของแม่พมิพ์โดยไม่ตอ้งขดุหรือแกะพ้นืผวิลงไป แต่ใชส้ารเคมีเขา้ช่วย ภาพพิมพ์ ชนิดน้ีไดแ้ก่ o ภาพพิมพ์หิน (LITHOGRAPH) o การพิมพ์ออฟเซท (OFFSET) o ภาพพิมพ์กระดาษ (PAPER-CUT) o ภาพพมิพค์ร้ังเดียว(MONOPRINT)
ที่มา http://www.faussetprinting.com 4.4แม่พิมพ์ฉลุ(STENCIL PROCESS) เป็ นการพมิพโ์ดยใหส้ีผ่านทะลุช่องของแม่พมิพ์ ลงไปสู่ผลงานที่อยดู่า้นหลงัเป็นการพมิพช์นิดเดียวที่ไดรู้ปที่มีดา้นเดียวกนักบัแม่พมิพ์ไม่กลบัซา้ย เป็ นขวา ภาพพมิพช์นิดน้ีไดแ้ก่ o ภาพพิมพ์ฉลุ (STENCIL) o ภาพพิมพ์ตะแกรงไหม (SILK SCREEN) o การพิมพ์อัดส าเนา (RONEO)
ที่มา http://www.curbly.com