The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

การนำไม้เหลือใช้มาทำประโยชน์เพื่อสิ่งแวดล้อม

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by totong.eiei, 2021-10-21 01:46:53

การนำไม้เหลือใช้มาทำประโยชน์เพื่อสิ่งแวดล้อม

การนำไม้เหลือใช้มาทำประโยชน์เพื่อสิ่งแวดล้อม

การนำไม้เหลือใช้มาทำประโยชน์เพ่อื สง่ิ แวดล้อม

กฤษฎา รังปัญญา กลมุ่ ท่ี 31 เลขท่ี 25
อนนั ดา จนั ทร กลุ่มท่ี 31 เลขที่ 26

รายงงานน้เี ป็นส่วนหน่ึงของการศึกษาวชิ าการค้นควา้ และการเขียนรายงานเชิงวชิ าการ
สาขาการจัดการการโรงแรม คณะศลิ ปศาสตร์
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบรุ ี
ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2564



การนำไมเ้ หลือใช้มาทำประโยชน์เพ่อื สง่ิ แวดล้อม

กฤษฎา รงั ปญั ญา กลมุ่ ที่ 31 เลขท่ี 25
อนันดา จนั ทร กลมุ่ ที่ 31 เลขที่ 26

รายงงานน้ีเปน็ ส่วนหนึ่งของการศกึ ษาวชิ าการค้นควา้ และการเขยี นรายงานเชิงวิชาการ
สาขาการจดั การการโรงแรม คณะศลิ ปศาสตร์
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลธัญบรุ ี
ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2564





คำนำ

รายงานฉบับน้ีทำขึ้นเพื่อปฏิบัติการเขียนรายงานการค้นคว้าที่ถูกต้องอย่างเป็นระบบ อัน
เป็นสว่ นหนง่ึ ของการศึกษารายวชิ า 01-021-017 การค้นควา้ และการเขียนรายงานเชิงวิชาการ ซึ่งจะ
นำไปใช้ในการทำรายงานคน้ คว้าสำหรบั รายวชิ าอ่ืนไดอ้ ีกตอ่ ไป การท่ีผู้จดั ทำเลอื กทำเรื่อง “การนำไม้
เหลือใช้มาทำประโยชน์เพื่อสิ่งแวดล้อม” เน่ืองด้วยในปัจจุบันไม้เหลือใช้ถูกทำลายทิ้งโดยเปล่า
ประโยชน์ ทำให้ต้องมาดัดแปลงเป็นสิ่งของที่ใช้ประโยชน์ได้ ดังนั้น จึงมีความจำเป็นอย่างมากท่ี
จะตอ้ งนำเสนอความรคู้ วามเข้าใจที่ถูกต้องเก่ียวกบั การนำไมเ้ หลือใช้มาทำประโยชน์เพ่ือสิ่งแวดลอ้ ม

รายงานเล่มนี้กล่าวถึงเนื้อหาเกี่ยวกับความหมาย ประเภท ความสำคัญ วัตถุประสงค์ของ
การนำไม้เหลือใช้มาทำประโยชน์เพื่อสิ่งแวดล้อม เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรับรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ
การนำไม้เหลือใช้มาทำประโยชนเ์ พ่อื ส่ิงแวดลอ้ มที่ถูกต้องและทราบแนวทาง

ขอขอบคุณผู้ช่วยศาตราจารย์ ดร. พนิดา สมประจบ ที่กรุณาให้ความรู้และคำแนะนำโดย
ตลอด และขอขอบคณุ บรรณารักษแ์ ละเจา้ หน้าท่ีของสำนกั วิทยบรกิ ารและเทคโนโลยีสารสนเทศ และ
ห้องสมุดคณะวิศวกรรมศาสตร์ ที่ให้ความสะดวกในการค้นหาข้อมูล รวมไปถึงท่านเจ้าของหนังสือ
บทความ ที่ผู้เขียนใช้อ้างอิงทุกท่าน หากมีข้อบกพร่องประการใด ผู้เขียนขอน้อมรับไว้เพื่อปรับปรุง
ตอ่ ไป

กฤษฎา รังปัญญา เลขท่ี 25
อนนั ดา จนั ทร เลขที่ 26

18 ตุลาคม 2564



สารบัญ ข

คำนำ หน้า
บทท่ี ก

1 บทนำ 1
1.1 ท่มี าและความสำคัญ 1
1.2 วัตถปุ ระสงค์ 1
1.3 ประโยชน์ท่ไี ด้รบั 2
3
2 การศกึ ษาประเภทของไม้ 3
2.1 รูปแบบรายงานการดำเนินงาน 3
2.1.1 การศึกษารายละเอียด 8
2.1.2 การวางแผนการดำเนนิ งาน 8
2.1.3 การจดั เตรียมวสั ดุอปุ กรณ์ 10
2.1.4 ลงมอื ปฏบิ ตั ติ ามข้นั ตอนทว่ี างแผน 10
2.1.5 ความสมดุล 13
2.1.6 สัดส่วน 14
2.1.7 ความเขา้ กนั ระหว่างผลงาน 17
2.2 ประวัติแนวคิดของบคุ คลต้นแบบ 21
2.2.1 ทฤษฎีที่เกยี่ วขอ้ งกับการค้นคว้า 21
2.2.2 ความแตกตา่ งของคุณสมบัติ 23
2.2.3 การทำให้เกดิ จดุ เดน่

สารบัญ (ต่อ) ค
บทที่
หน้า
3 วิธกี ารดำเนนิ งาน 25
3.1 ประเภทของรายงานการประยกุ ต์ใช้ 25
3.1.1 ประเภทเครื่องใช้ 25
3.1.2 ประเภทเครอื่ งตกแตง่ 26
3.1.3 ประเภทเครื่องใช้ทางศาสนา 27
3.1.4 ประเภทงานยุทโธปกรณ์ 28
3.1.5 ประเภทงานเฉพาะทาง 30
3.1.6 ประเภทงานเพื่อซ่อมแซม 31
3.1.7 ประเภทงานเพ่ือใช้ประโยชน์ 32
37
4 สรปุ 37
4.1 สรปุ ผลการศึกษา 39
4.2 ประโยชนท์ ี่ไดร้ บั จากการทำรายงานวชิ าการ 41

บรรณานกุ รม

1

บทท่ี 1
บทนำ

1.1 ที่มาและความสำคัญ

ในช่วงปัจจุบันนี้มีการนำไม้มาใช้งานหลากหลาย บางที่ก็จะมีไม้ที่ใช้การรองรับสินค้าที่มี
น้ำหนักมาก เช่น ไม้พาเลท, ไม้อัด ต่าง ๆ ไม้ เป็นวัสดุแข็งที่ประกอบด้วยแกนลำต้นของต้นไม้ โดย
ส่วนใหญ่เป็นไม้ยืนต้น โดยแบ่งเป็นไม้เนื้อแข็ง เช่น ไม้เต็ง, ไม้แดง และไม้เนื้ออ่อน เช่น ไม้สัก, ไม้
ยางพารา, ไม้โอ๊ก ไม้สามารถใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย ประโยชน์อย่างหนึ่งคือ ใช้เป็นเชื้อเพลิง
เช่น ถ่านหรือฟืน บางครั้งก็ใช้ในงานศิลปะ ทำเฟอร์นิเจอร์ ทำอาวุธ หรือเป็นวัสดุก่อสร้าง ไม้ยังคง
เป็นส่วนประกอบสำคัญในการก่อสร้าง ต้งั แต่มนษุ ย์เริม่ สามารถสร้างบ้านท่ีอยู่อาศัย หรอื เรือ โดยเรือ
แทบทุกลำในช่วงปี 80 ทำมาจากไม้แทบทั้งสิ้น ซึ่งในปัจจุบันบ้านหรือเรือที่ทำจากไม้ เริ่มมีจำนวน
ลดลง โดยปัจจุบันมีการนำวัสดุอื่นมาใช้ในการสร้างแทน แต่ว่าไม้ยังคงมีส่วนสำคัญในด้านการเสริม
โครงสร้าง หรอื เปน็ วสั ดุเสริม โดยเฉพาะอย่างยง่ิ ในการสรา้ งหลังคา และของประดับนอกบ้าน ไม้ท่ีใช้
ในงานก่อสร้างรู้จักกันในชื่อ ไม้แปรรูป ความสำคัญของต้นไม้-ต้นไม้มีความสำคัญต่อการดำรงชีวิต
ของคนเราเป็นอย่างมาก เนื่องจากต้นไม้ได้สามารถช่วยดูดแก๊ซคาร์บอนไดออกไซด์และคลายแก๊ซอ
อกซิเจนมาให้เราหายใจในตอนกลางวันจึงทำให้เรารู้สึกเย็นสบายเมื่อเ วลาเราอยู่ในพื้นที่ที่มีต้นไม้
เยอะ และตน้ ไมย้ งั ช่วยใหร้ ่มเงาเวลาท่ีทม่ี ีแสงแดดจา้ ในเวลากลางวนั ฉะนน้ั เราควรช่วยกันดูแลรักษา
ต้นไม้ด้วยและต้นไม้ก็เป็นที่อยู่ของสัตว์ป่าต่าง ๆอีกด้วย ป่าสามารถช่วยในการอนุรักษ์ดินและน้ำ
ป้องกันภัยจากธรรมชาติอันเกิดจากน้ำท่วมและการพังทลายของดิน โดยเมื่อฝนตกลงมายงั พื้นที่ซึ่งมี
ต้นไม้ปกคลุมความรุนแรงของเม็ดฝนจะถูกสะกดกั้นโดยต้นไม้ไม่ให้ฝนตกกระแทกถึงผิวหน้าดิน
โดยตรง น้ำฝนท่ตี กลงมาบางส่วนจะถูกตน้ ไม้ในป่าดูดซับเอาไว้แลว้ ค่อยๆปลดปล่อยให้ไหลลงสู่ผิวดิน
จึงเป็นการรักษาหน้าดินและป้องกนการพังทลายของดินได้ นอกจากนี้ยังช่วยส่งผลไม่ให้เกิดน้ำท่วม
ฉับพลันอีกด้วยและเราก้สามารถได้เชื้อเพลิงจากป่าไม้ได้ด้วยเช่น ฟืน ถ่านและใช้ในโรงงานอุตสหกร
รมตา่ ง ๆ เปน็ ยาสมุนไพรตา่ ง ๆ

1.2 วตั ถปุ ระสงค์
1.2.1. เพอ่ื นำการค้นคว้าหาข้อมูล นำมาประยุกตใ์ ช้เป็นสิง่ ท่ใี ชง้ านได้
1.2.2. เพื่อนำสง่ิ ทเ่ี สียไปนำกลับมาใช้ใหม่
1.2.3. เพื่อเป็นการประหยัดงบประมาณ

2

1.3ประโยชนท์ ่ีได้รับ
1.3.1. สามารถนำมาเป็นความรู้เพ่ือศึกษาต่อไป
1.3.2. สามารถนำมาประยกุ ตใ์ ชเ้ ป็นงานฝีมอื ได้
1.3.3. สามารถนำทรพั ยากรมาใชใ้ หเ้ กิดประโยชนไ์ ด้
การศึกษาเพื่อเป็นส่วนช่วยในการพิจารณา เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการรักษาสมดุลของ

สง่ิ แวดลอ้ มทางธรรมชาติ การนำวสั ดุธรรมชาติหรือการนำไม้เก่าที่ไม่ได้ใช้งาน เพ่อื นำมาใช้ประโยชน์
การที่นำไม้เก่าไปทิ้งนั้นมันส่งผลต่อธรรมชาติ เพราะว่าไม้ที่นำมาใช้ในงานอุตสาหกรรมโดยไม้แต่ละ
ชนิดก็จะถูกใช้สารเคมีเป็นส่วนประกอบถึงแม้ว่าจะไม่ทุกชนิด แต่ส่วนที่ใช้สารเคมีนั้นมีมากว่าไม้ที่
ไม่ได้ผ่านกรรมวิธีทางเคมีหรือชีวภาพ แต่การที่ใช้กรรมวิธีในอุตสาหกรรมการผลิตนัน้ กม็ ีส่วนช่วยลด
การใชไ้ มแ้ ท้อยบู่ า้ ง แตก่ ็แลกมากบั การท่ี ถา้ เกิดว่ามนุษยบ์ างกลุ่มไมอ่ นรุ ักษธ์ รรมชาตหิ รือสง่ิ แวดล้อม
อาจจะส่งผลต่อสภาพอากาศและสิ่งมีชีวิตอื่นๆ จำพวก สัตว์ป่า, สัตว์น้ำ สัตว์ที่ใช้ชีวิตผ่านย่านฟ้า
อากาศ รวมถึงความเป็นอยู่ของมนุษย์ในอนาคตข้างหน้า สภาพอากาศ อาจเป็นพิเศษหรือ มีละออง
ฝุ่น เพราะการเผาไม้ทำลายป่า โดยมนุษย์เรา ส่งผลต่อสิ่งมีชีวิตไม่มีที่อยู่ เพราะว่าถิ่นที่อยู่น้ันถูก
ทำลายโดยมนุษย์ ทางผู้จัดทำจะยกตัวอย่างของ อุบัติเหตุที่ร้ายแรงที่สุดคือ ภัยพิบัติเชียร์โนบลี เป็น
อุบัติเหตุทางนวิ เคลียร์ขน้ั รา้ ยแรงที่เกิดขึน้ เมื่อวันท่ี 26 เมษายน ค.ศ. 1986 ท่ีโรงไฟฟา้ นิวเคลียร์เชียร์
โนบีล ตั้งอยู่ที่นิคมเชียร์โนบีล ริมฝั่งแม่น้ำนีเปอร์ ใกล้เมืองปรือเปียต แคว้นเคียฟ ทางตอนเหนือของ
ยูเครน ใกล้ชายแดนเบลารุส ในขณะนั้นยูเครนและเบลารุสยังเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียต
อุบัติเหตุที่เชียร์โนบีลนี้เป็นอุบัติเหตุที่เกิดกับโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ที่ร้ายแรงที่สุดใน
ประวตั ศิ าสตร์ในแง่ของค่าใช้จา่ ยและชีวติ ของคนจำนวนมากในชว่ ง 35 ปีก่อน โดยเกดิ เหตุการระเบิด
ของแกนในระหว่างที่กำลังปิดในภาวะฉุกเฉิน มีผู้เสียชีวิต 93,000จำนวนผู้เสียชีวิตโดยประมาณใน
ปจั จบุ ัน

3

บทท่2ี
การศกึ ษาประเภทของไม้

2.1 รปู แบบการดำเนนิ งาน

การศึกษาเป็นส่วนประกอบของ รายงานที่นำไม้เหลือใช้มาใช้ประโยชน์ เป็นการศึกษาที่นำ
ขอ้ มูลจากหลายแหล่งขอ้ มลู มาประยุกต์ใช้ในการศึกษาเพือ่ ทจี่ ะเป็นแนวทางในการศึกษาต่อยอดไปใน
ภายภาคหน้า ผู้จดั ทำได้ศกึ ษาค้นคว้าข้อมลู และเอกสารทเ่ี กย่ี วข้อง ดงั นี้

1.เอกสารที่เกย่ี วข้องกับการทำรายงาน
2.เอกสารที่เกีย่ วข้องกับการคิดวิเคราะห์
3.เอกสารที่เกย่ี วขอ้ งกบั ประเภทชนิดของไม้
2.1.1 การศกึ ษารายละเอียด

ไม้ เปน็ วัสดุเน้อื แขง็ ที่เกิดข้นึ จากกระบวนการธรรมชาติ โดยเป็นทรพั ยากรสำคญั ท่ีสง่ อทิ ธิพล
ตอ่ มนษุ ย์ทุกปัจจัย อาทิ งานโครงสร้างสถาปัตยกรรม งานตกแตง่ เฟอรน์ เิ จอรส์ นิ คา้ การแพทย์และ
การรกั ษา การผลิตเช้อื เพลิง เพื่อสรา้ งพลงั งานไม้ เปน็ ทรัพยากรคณุ ค่าท่ีมนษุ ย์นิยมใช้งานตั้งแต่ครงั้
อดตี เนือ่ งจากแปรรูปไดห้ ลากหลาย ยืดหยุ่น จำนวนมหาศาล สามารถพบเหน็ ได้ตามเขตพ้ืนที่ทั่วไป
ไม้ จากตน้ ไม้ 1 ตน้ สามารถใช้ประโยชนด์ ังนี้

ลำต้น คุณสมบัติแขง็ แกร่ง ทนทาน เหมาะสำหรับจดั ทำโครงสร้างตามอาคารบ้านเรือน หรือใช้
ต่อเป็นโครงพาหนะเปลือกไม้ คุณสมบัติเหนียว ยืดหยุ่น เมื่อนำไปฝานให้เป็นเส้นและตากแห้ง
สามารถใชถ้ ักเชือก เพื่อมดั หรือยดึ เหนย่ี วสงิ่ ของ อีกทัง้ สามารถแปรรปู เปน็ กระดาษวาดเขยี นได้

กิ่งไม้ คุณสมบัติทนทานต่ำ แตกหักง่าย หากนำมาเหลาเปลือก สามารถนำไปสานตะกร้า ตา
ข่าย หรือสิ่งของในครัวเรือน แต่การศึกษานี้เป็นการนำ ไม้ที่ถูกใช้งานแล้วนำกลับมาใช้ต่อ หรือจาก
การที่ ไม้ ชำรดุ แล้วแตย่ ังสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ เชน่ การทำเครื่องเรือน ตามความตอ้ งการของ
แต่ละบคุ คลได้ พันธ์ุไม้ยงั มีหลากหลายภาคในแต่ละจงั หวัดอกี ดว้ ย มดี งั นี้

ทำความรจู้ ักกับไม้ในภมู ภิ าค
ลักษณะพรรณไม้ที่พบเห็นได้ตามเขตภูมิภาคท่ีมีความแตกต่างกนั
ภาคเหนือ ภูมิศาสตร์เป็นเขตเทือกเขาสูงสลับทับซ้อน อากาศเย็น พรรณไม้

ส่วนใหญ่เป็น “สัก” ชื่อพื้นเมือง เคาะเยียโอ ปายี้ ปีฮือ ไม้ต้นใหญ่ สูงราว 50 เมตร เปลือกสีน้ำตาล
ปนเทา ใบเด่ียว ดอกเล็กสีขาวนวล ไม้พื้นถิ่นดั้งเดิมของไทยและพม่า เกิดขึ้นตามป่าเบญจพรรณ
ภาคเหนอื และกระจุกตัวเป็นหยอ่ มๆ ตามภาคตะวันตก

4

ภาคกลาง ภูมิศาสตร์เป็นพื้นที่ราบลุ่มริมน้ำ มีความอุดมสมบูรณ์ในระบบ
นิเวศน์ พรรณไม้ส่วนใหญ่เปน็ “ตะเคียนทอง” ชอ่ื พนื้ เมอื ง จะเคียน แคน ตะเคยี นใหญ่ ไมต้ ้น ไม่ผลดั
ใบ สูง 20-40 เมตร กระจายพันธุ์ตามป่าดิบใกล้ลำธาร หรือตามป่าที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเล
100-800 เมตร

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภูมิศาสตร์เป็นพื้นที่ราบสูง สลับเนินดินและหุบเขา
อากาศแล้ง พรรณไม้ส่วนใหญ่เป็น “พะยูง” ชื่อพื้นเมือง ขะยูง กระยูง ประดู่แสน ไม้ต้น สูง 10-25
เมตร เรือนยอดรูปทรงไข่ เปลือกสีเทาเรียบ เกิดกระจัดกระจายตามป่าดิบแล้งทางภาค
ตะวนั ออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวนั ออกไทย

ภาคตะวันออก ภูมิศาสตร์เป็นพื้นที่ราบลุ่ม อากาศชื้น ดินเค็ม พรรณไม้ส่วน
ใหญ่เป็น “เสลา” ไม้ต้นสูงราว 20 เมตร ทรงพุ่ม เปลือกสีดำมีรอยแตกยาวตามลำต้น เกิดขึ้นตามปา่
ดิบชน้ื บริเวณภาคตะวันออกและจังหวดั ประจวบคีรขี นั ธ์

ภาคตะวันตก ภูมิศาสตร์เป็นพื้นที่สูง มีแนวหุบเขาปิดกั้น พรรณไม้ส่วนใหญ่
เป็น “ไผ่รวก” ชื่อพื้นเมือง ฮวก แวปั่ง สะลอม ไม้พุ่มผลัดใบสูง 7-15 เมตร ลำต้นทรงกระบอก ไม้
เนือ้ แขง็ อาศัยในพน้ื ทแี่ ล้งหรือภเู ขาสงู พบมากสดุ ในจังหวดั กาญจนบุรี

ภาคใต้ ภูมศิ าสตรพ์ ื้นทต่ี ดิ ริมทะเล อากาศชนื้ ฝนตกตลอดปี พรรณไม้สว่ นใหญ่
เปน็ “กฤษณา” ชอื่ พ้นื เมือง ไมห้ อม พวมพร้าว กายกู าฮู ทรงไม้ต้นใหญ่ สูง 18-30 เมตร เปลือกเรียบ
เนื้ออ่อน กระจายพันธุ์ตามประเทศอินเดีย พม่าตอนใต้ คาบสมุทรมลายู และแถบพื้นที่จังหวัดตรัง
ยะลา นราธวิ าส

การแปรรปู ไมเ้ พอ่ื สร้างประโยชน์
การใชท้ รัพยากรไม้ถูกลดบทบาทลง เนื่องจากโลกกำลังได้รับผลกระทบจากสภาวะเรือน

กระจกขั้นรุนแรง จึงทำให้องค์กรรักษาสิ่งแวดล้อมและนักธรณีวิทยาในไทยและต่างประเทศ หัน
มาร่วมมือกันออกแคมเปญลดการตัดไม้ทำลายป่า เพื่อเป็นการสร้างเสริมออกซิเจนและลดมลพิษ
ปนเปื้อนอากาศทั่วโลก ทั้งนี้ บทบาทของวัสดุไม้ได้ถูกปรับเปลี่ยนให้อยู่ในรูปของงานต่อเติมทดแทน
เช่น งานตกแต่งภายใน-ภายนอกอาคาร งานจัดสวน งานเฟอร์นิเจอร์ โดยไม้ยอดนิยมส่วนใหญ่ท่ี
นำมาแปรรูป จะเป็นตระกูลไม้แท้ ไม้เทียม ปาติเกิล MDF HDF ไม้อัด เป็นต้น รวมถึงความแตกต่าง
ระหว่างไม้ผลิตเฟอร์นิเจอร์แต่ละชนิด ในเรื่องอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์และของประดับตกแต่ง วัสดุ
ไม้ จำต้องถูกกำหนดตามลักษณะเหมาะสมในแตล่ ะประเภทของชนิดไม้ โดยส่วนใหญ่แล้ว เราจะพบ
เจอไม้สังเคราะห์ เพราะว่าเป็นส่วนหนึ่งที่นำมาใช้ในการลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ โดยนำไม้เสีย
มาแปรรูปใหม่ ทไี่ ด้พบเหน็ ท่วั ไป ท่ีเรียกวา่ พวกไมอ้ ดั หรือไมส้ ังเคราะห์

5

ไมส้ ังเคราะหแ์ ปรรปู อืน่ ๆ
ไมป้ าติเกลิ (Particle Board) ผลิตจากเศษไมย้ างพาราขนาดเท่าขีเ้ ล่ือย ผ่านกระบวนการ

อัดบดแผ่น ผสมกาว และกระบวนการเคมีเฉพาะทาง ลักษณะของไม้เป็นแผ่นยาว 20×2.45 เมตร
ความหนามาตรฐานอยู่ท่ี 15-25 มลิ ลิเมตร นำ้ หนกั เบา ราคาถูก เปน็ ทน่ี ิยมในตลาดผลติ เฟอรน์ เิ จอร์
MDF (Medium-Density Fiberboard) หรือแผ่นใยไม้อัด รูปลักษณ์และกระบวนการผลิตมีความ
คล้ายคลึงกับไม้ปาติเกิล หากแต่ลักษณะต่างกนั ตรงท่ีการอัดดว้ ยแรงดันความรอ้ นสูง ความหนาแน่น
อย่ทู ่ี 500 กิโลกรัมตอ่ ลูกบาศก์เมตร ท้งั นี้ คุณภาพของ MDF ถูกแบ่งย่อยออกไปขึ้นอยู่กับวัสดทุ ่ีนำมา
บดอัด โดยมาตรฐานทัว่ ไป จะใช้เศษขี้เล่ือยของต้นยคู าลิปตัส ยางพารา หรือหากอยากได้คุณภาพสงู
ขึ้น จะนิยมนำท่อนไม้เนื้ออ่อนไปบดอัดแทน ซึ่ง MDF มีข้อดีตรงที่มีความหนาแน่นสูง ผิวละเอียด
สมำ่ เสมอ สามารถรองรับนำ้ หนกั ได้ดีกวา่ ไมป้ าติเกิลเกือบเทา่ ตัว
ฮาร์ดบอร์ด HDF (High-Density Fiberboard) แผ่นไม้อัดยอดนิยม มีความหนาแน่นมากว่าแผ่นไม้
MDF ในการอัดที่ 800 กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เหมาะสำหรับปิดผิวบริเวณพื้นที่จัดวางของหนัก
ทง้ั นี้ กต็ อ้ งแลกมาดว้ ยน้ำหนกั แผ่นในการขนยา้ ยและราคาสงู

ไมอ้ ัด (Plywood) เป็นไม้ท่มี ีคุณภาพสงู กว่าไม้ปาติเกลิ MDF HDF ซงึ่ กระบวนการผลิต
ไม้อัด ผลิตจากการนำไม้จริงมาลอกเปลือกชั้นนอกที่หยาบให้หมดจด จากนั้น ตัดแต่งให้บางและอัด
ชั้นจนแน่น แล้วเข้าสู่ขั้นตอนทางเคมีเฉพาะตามแตล่ ะโรงงาน สุดท้ายปิดผิวด้วยเย่ือบไุ ม้เป็นอันเสร็จ
สิ้น ทั้งนี้ การจำแนกประเภทไม้อัด ยังถูกแยกออกไปตามการใช้งานอื่นๆ เช่น ไม้อัดยาง ไม้อัดสัก ไม้
อัดแฟนซี ไม้อัดบีช ไม้อัดเชอรี่ ฯลฯ นอกจากคุณสมบัติที่มีความแข็งสูงแล้ว ผู้ผลิตบางรายยังเสริม
ฟงั กช์ นั การป้องกันนำ้ รา และปลวก

ลามิเนต (Laminate) ไม้สังเคราะห์ที่ถูกพัฒนาให้มีผิวสัมผัสเลียนแบบไม้จริง ทั้งสีและ
ลวดลาย เหมาะสำหรบั ปดิ ผวิ ตามโตะ๊ ตู้ เกา้ อี้ พน้ื โชวร์ ูมเครอื่ งสำอาง มาพรอ้ มกบั คณุ สมบตั ิแข็งแรง
ทนทานต่อรอยขีดข่วน ป้องกันความชื้นและน้ำ สีซีดจางยาก เมื่อใช้เป็นระยะเวลานาน (อายุการใช้
งาน 10-15 ปี ข้ึนไป)

ไม้ปาเก้ (Parquet) สำหรับปูพื้นขนาดเล็ก-กลาง ความยาวมาตรฐานไม่เกิน 1 เมตร
ผลิตด้วยวธิ ีการอบไม้และไสใหม้ ีลิ้นร่องสำหรบั ตดิ ตั้งรอบตวั ขอ้ ดขี องไมป้ าเก้สามารถติดตั้งไดง้ ่าย ลด
การจับและสะสมฝุ่นละอองทพี่ ้ืน เหมาะสำหรับบา้ นท่มี ีผสู้ งู อายุและเดก็ เล็กอยู่อาศยั

ไมป้ ระสาน (Finger joint board) แปรสภาพจากไมจ้ รงิ ขนาดเล็กทำการตัดแต่งตาม
ขนาดคำนวน และนำมาตดิ กาวต่อเปน็ แผน่ โดยข้อดีของไม้ประสานนน้ั มีผิวสมั ผัสสมจรงิ นำ้ หนกั เบา
ลายไมเ้ ปน็ เอกลกั ษณ์ ไมบ้ างชนดิ ยังมสี ่วนชว่ ยในการนำมาทำกระดาษอกี ดว้ ย กระดาษ 1 แผน่

6

อุตสาหกรรมผลิตกระดาษทั่วโลก ทรัพยากรไม้คือสิ่งสำคัญ กว่าจะมาเป็นกระดาษ 1
แผ่น สำหรับใช้งานได้ จะต้องผ่านกระบวนการคัดเยื่อไม้จากต้นยูคาลิปตัส ก่อนจะนำเข้าสู่
กระบวนการทางเคมีตามโรงงาน จากผลขอ้ มูลสำนักข่าวสิง่ แวดล้อม คนไทย 1 คน ใช้กระดาษถึงปลี ะ
60 กิโลกรัม และการผลิตกระดาษ 1 ตัน เท่ากับการตัดต้นไม้เฉลี่ย 17 ต้น และเพื่อตอบสนองให้
กระดาษสามารถพอใช้งาน จะต้องตัดต้นไม้มากกว่าปีละ 55 ล้านต้น โดยใช้น้ำมากกว่า 31500 ลิตร
พร้อมสญู เสยี กระแสไฟฟ้าในขั้นตอนการผลติ 4100 กโิ ลวตั ต์ ต่อชั่วโมง

การใชไ้ มเ้ พือ่ งานตกแต่งและการตอ่ เตมิ ขน้ั พนื้ ฐาน
ด้านงานโครงสร้าง การจำแนกไม้ จะถูกแบ่งตามคุณสมบัติแตกต่างกัน เช่นไม้เสาหลัก

สว่ นใหญจ่ ะเป็นการใช้แก่นของลำต้นไม้ใหญ่ เช่น มะค่า ยางพารา เต็ง หรือตะเคียน เน่อื งจากเป็นไม้
เนื้อแขง็ ทีม่ นี ้ำหนักสูง หนา้ ตดั กว้าง ผุพังยาก และทนต่อแรงกดทับ

ไม้พื้นภายใน ปัจจุบันนิยมใช้ทั้งไม้จริงและไม้เทียม สำหรับคนที่มีงบประมาณสูง จะ
เลือกใช้ไม้โอค๊ เนอื่ งจากมีคุณสมบัตชิ ว่ ยรักษาอุณหภูมิอบอ่นุ แก่พน้ื ผวิ เนยี นละเอียดชว่ ยรักษาฝ่าเท้า
ส่วนไม้เทียมจะนิยมใช้ไม้ปาเก้ หรือ MDF เนื่องจากราคาไม่สูงนักและยงั ทนต่อการใช้งานหลายสิบปี
ไมฝ้ า หรือไม้ผนังสำหรับปิดผิวโครงสรา้ ง ส่วนใหญ่นิยมใช้ไม้เทียม เนื่องจากมีคุณสมบัติทนไฟ กันน้ำ
ทนความชื้น ไม่หดตัวโก่ง หรือบิดงอ อีกทั้งสามารถป้องกันปลวกได้ ไม้ฝาส่วนใหญ่ที่นิยม จะเป็นไม้
ฝาเฌอรา่ ชายนไ์ ลท์ และไม้ฝาสมาร์ทวูด เอสซจี ี

ไม้พื้นภายนอก ไม้เทียมได้กลายเป็นตัวเลือกลำดับแรกสำหรับต่อเติมโครงสร้าง
เนื่องจากพื้นที่ภายนอกต้องเจอทั้งแดด ฝน และอุณหภูมิปรับเปลี่ยนตลอดวัน ดังนั้น การใช้ไม้เทียม
จะเป็นการแก้ปญั หาไดต้ รงจดุ มากท่สี ดุ ทงั้ ยงั ไม่ต้องดแู ลรกั ษาบ่อยเหมือนไมจ้ รงิ
ไม้ระแนง คุณสมบัติของไม้ระแนงอันดบั แรกนั้น ต้องทนทานต่อทุกสภาวะ ไม่ว่าจะเป็นแสงแดดหรือ
ฝน ดงั นนั้ การใช้ไม้เทียมดูจะเป็นทางเลอื กทต่ี อบโจทย์มากท่ีสุด

วิธีการดูแลรกั ษาไมใ้ หถ้ ูกวธิ ี
ไม้แต่ละชนิดย่อมมีวิธีดูแลรักษาแตกต่างกัน ดังนั้นผู้ใช้งาน จึงควรหมั่นสังเกตุ เมื่อใช้

งานเป็นระยะเวลานาน ท่วั ไปแลว้ วิธีการดูแลรักษาข้นั พื้นฐานก็ไม่ได้มขี ้ันตอนสิ่งใดมาก เพียงแต่ต้อง
ปฎิบัติอย่างเขา้ ใจ

เชือ้ ราบนเฟอรน์ เิ จอร์ (ไม้แท)้ วิธสี ังเกตคุ อื หากเน้อื ไม้มีคราบสีขาวเปน็ วงกว้างหรือเป็น
จุด ให้นำผ้าชุบน้ำหมาดๆ เช็ดทำความสะอาด หรือใช้กระดาษทรายถูเบาๆ เพื่อขจัดคราบเชื้อราได้
สดุ ท้ายใชน้ ้ำยาเคลือบผวิ ประเภทแลคเกอรท์ าทับ เพอ่ื ปอ้ งกนั เช้อื ราจากความชื้น

7

ปลวก (ไม้จริง) ศัตรูตัวฉกาจของไม้ ซึ่งวิธีการป้องปลวกที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดคือ
การขยันปัดกวาดเศษฝุ่นละออง พยายามไม่จัดวางเฟอร์นเิ จอร์ตามมุมอับของบา้ น หากปลวกขึ้นเนื้อ
ไม้แล้ว สามารถใชว้ ิธีนำน้ำส้มสายชูผสมกับน้ำมะนาวในสเปรย์ขนาดอัตราสว่ น 1 ถ้วยตวง จากนั้นฉีด
พ่นใส่รัง เพอื่ ขบั ไล่ (หากไมไ่ ด้ผลให้ใชน้ ำ้ ยากำจดั ปลวกโดยตรง หาซ้ือได้ตามรา้ นสะดวกซ้ือทวั่ ไป)
ไม้ช้ืนและส่งกลิน่ (ไมจ้ ริง) ปัญหาสว่ นใหญเ่ กดิ จากความช้ืน วิธแี ก้คอื นำเฟอรน์ ิเจอร์ไปตากแดด ช่วง
เช้าหรือบ่าย เพอ่ื ใหอ้ ากาศถ่ายเทเข้าสู่ภายใน และยงั เป็นการฆ่าเชอื้ โรคที่ติดอย่ตู ามผวิ ไม้ได้

ไม้พองตัว (ไม้เทียม) ปัญหายอดนิยมที่พบเจอทุกบ้าน ซึ่งอาจจะมาจากการทำน้ำหกใส่
และไม่ได้เช็ดคราบน้ำให้แห้งสนิท วิธีแก้คือ ใช้คัตเตอร์ปาดส่วนที่พองออก จากนั้นใช้กาวหยอดใน
ส่วนทเ่ี ป็นฟองอากาศภายใน สดุ ทา้ ยใชก้ ระดาษทรายขดั ให้ผิวเนียนเรียบ

รอยขีดข่วน (ไม้จริง) หลายท่านอาจจะเคยลองใช้กระดาษทรายขัดให้ผิวเรียบ แต่ก็มีวิธี
ที่ทำให้ไม่ต้องเสียพื้นผิวไม้ไป ด้วยวิธีง่ายๆ คือ การใช้น้ำมันพืชผสมน้ำส้มสายชูในอัตราส่วน 50:50
จากนั้น นำผา้ ขนหนไู ปชบุ ให้ชุม่ และนำไปเชด็ บรเิ วณท่เี ป็นรอยเพียงเท่านี้ พ้นื กจ็ ะกลบั มาเรียบเนียน
ดงั เดิม

ขจัดคราบฝังแน่น (ไม้จริง) สามารถขจัดคราบด้วยวิธีง่ายๆ เพียงแค่นำน้ำมันมะกอก
ผสมกับน้ำมะนาวเล็กน้อย จากนั้นชุบด้วยผา้ และนำไปเช็ดให้ทั่ว พื้นก็จะกลับมาสะอาดหมดจด น้ำ
มะนาวมีฤทธเิ์ ป็นกรด สามารถชว่ ยขจัดคราบและไขมัน

ไม้ดมี คี ณุ ภาพดูอย่างไร
การเลือกซื้อไม้ นอกจากจะดูที่ประเภทสกุลและลักษณะรูปฟอร์มแล้ว ปัจจัยความ

สมบรู ณข์ องเน้อื ผิวภายในกเ็ ปน็ สว่ นในการตัดสินใจเช่นกนั ท้ังน้ี ผู้ซ้ือจำต้องทราบด้วยว่าไม้ท่ีต้องการ
เป็นไม้เนือ้ ใด เช่น เนื้อแข็ง เนื้อแกร่ง เนื้ออ่อน เพื่อที่จะนำไปประยุกต์ใช้ได้อย่างสมบูรณ์ นอกจากนี้
หากซื้อไม้แปรรูปที่ร้านแล้ว ต้องสังเกตุให้ดีว่าไม้ที่เราเลือกผ่านการไสหรือปรับผิวเรียบร้อยหรือยัง
บ้างอาจจะไสเพียงหนึ่งหรือสองหน้า และต้องคำนวนขนาดของไม้ให้ดี หากไม้เกิดความชื้น จะ
ขยายตัวและเกิดอาการบวมพอง ข้อสังเกตุอีกอย่างที่ควรพิจารณาคือ ไม้ที่ดีต้องปราศจากเชื้อรา
คราบ รอยผพุ งั ไมแ่ ห้งกรอบ หรืออบั ช้นื สง่ กลิ่นเหม็น ผูซ้ ือ้ ควรเลอื กไม้ท่ีสภาพสมบรู ณ์ สีไม้ตรงตาม
ชนดิ ไม่ซีดจางหรอื เขม้ จนเกนิ ไป และทีส่ ำคญั ราคาตอ้ งสมเหตผุ ลสอดคลอ้ งกบั ตลาด

เทคนิคการขดั ผวิ ไมแ้ ละการเลื่อยไม้
การเล่อื ยไม้ท่ีถกู วิธี ตอ้ งเริ่มจากการคัดเลือกขนาดไม้ให้เหมาะสมกับอุปกรณเ์ ล่ือย เช่น

หากไม้มีขนาดหนาอาจจะเลือกใช้เลื่อยลันดาที่มีใบเลื่อยใหญ่แทน หรือหากไม้มีแผ่นบางขนาดเล็ก
อาจจะเลือกใช้เลื่อยฉลุ เนื่องจากมีน้ำหนักเบา ใบเล็ก เมื่อคัดเลือกขนาดเลื่อยเหมาะสมให้ทำการ
มาร์กตำแหน่งให้เรียบร้อย จบั ใบเลื่อยให้มัน่ คง จากนนั้ จรดใบเร่ือยที่ตำแหน่ง 45 องศา โดยห่างจาก
ตัวพอประมาณ แล้วเริ่มออกแรงเลื่อยช้าๆ ไม่แรงและไม่เบาจนเกินไป สำหรับการขัดผิวไม้ มี

8

หลากหลายวิธีใหเ้ ลือกตามอปุ กรณ์ หากใช้กบไสไม้แต่งผวิ ใหว้ างท่อนไม้ในตำแหนง่ เหมาะสมบนโต๊ะ
จากน้ันประกบอุปกรณ์ให้กระชับ เปดิ สวติ ซ์ และขดั ไสไปจนกวา่ ผิวไม้จะเนียนเรยี บ (ในกรณีท่ีเป็นกบ
ไสไม้ไฟฟา้ )

การใช้กระดาษทรายเป็นหนึ่งในวิธียอดนิยม เนื่องจากต้นทุนไม่สูงนัก ทั้งนี้ การเลือก
กระดาษทรายใช้งาน ก็ส่งผลต่อผิวไม้ด้วยเช่นกัน โดยมีตั้งแต่เบอร์ 0-5 (ตัวเลขมากผิวยิ่งหยาบ)
สำหรับวิธีการขัดให้ขัดตามลำดับขั้นตอนการทำ เช่น ขัดไม้ก่อนทำสี ให้เลือกขัดหยาบก่อน จากนั้น
ขัดเรียบ เพ่ือขจัดจดุ บกพร่องพื้นผวิ รว้ิ รอย เข้าสู่ข้ันตอนการขดั ละเอียดให้ผิวราบเรียบ สุดท้าย ขัดผิว
สเี คลอื บเกบ็ รายละเอยี ดงาน

2.1.2 การวางแผนการดำเนินงาน
การศึกษาหลังจากการศึกษา ผู้จัดทำได้วางแผนในการดำเนินงานว่า เพื่อที่จะรายงาน

นท้ี ี่ไดศ้ กึ ษา มาอธิบายว่า ผู้จัดทำมีไมพ้ าเลทที่ไม่ได้ใชง้ านมาเป็นเวลา3ปี โดยผ่านทกุ สภาพอากาศทำ
ให้ไม้เริม่ เขียว ซดี เปราะบาง เลยนำไม้เหลา่ น้ัน มาคดิ ว่าจะทำเปน็ เก้าอ้ีในแบบที่พวกเราชอบ เพราะ
การที่นำไม้ที่มีอยู่นั้นมาใช้ มันจะช่วยให้พวกเราประหยัดงบประมาณการใช้จ่ายได้มากเพราะว่า
เฟอร์นิเจอร์นั้นมีราคาที่สูงตามคุณภาพการออกแบบหรือวัสดุที่นำมาใช้ ที่พวกเรามองเห็นว่า การท่ี
นำไม้เก่ามาใช้เพื่อเป็นการใช้เวลาให้เกิดประโยชน์และฝึกความคิดว่าจะทำออกมาเป็นแบบไหน
แนวทางไหน โดยทางผู้จัดทำพวกเราทำ เก้าอี้ใหญ่สไตล์ ยุคเก่า โดยมีรวดลายเป็นลายไฟไหม้ ทำให้
รสู้ กึ เป็นสไตลเ์ ฉพาะกลมุ่ ผู้ศกึ ษาก็สามารถออกแบบให้เปน็ สไตล์ที่ชอบในแบบของตวั เองได้ ชนดิ ไม้ท่ี
พวกเราทำมาใช้นั้นเป็นไม้แปรรูป ไม้แปรรูปเราพบเห็นกันอย่างแพร่หลาย จำพวกไม้พาเลท,ไม้อัด
เพราะเป็นไม้ที่นำเศษชิ้นส่วนของไม้นำมาแปรรูป เพื่อเป็นการประหยัดต้นทุนในการผลิตในแต่ละท่ี
ทั่วโลก และยังมีความแข็งแรงทนทานใช้งานได้หลากหลายงานเล็ก,งานพื้นฐาน,งานใหญ่ก็นำมา
ประยุกต์ใช้ได้หลากหลาย ผู้จัดทำมีความประสงค์ให้มีการนำไม้ที่ไม่ได้ใช้นำมาใช้ประโยชน์เพื่อเป็น
การลดการใช้ทรัพยากรของธรรมชาติ เพอ่ื เปน็ การรณรงค์ ลดภาวะโลกร้อนอีกด้วย

2.1.3 การจัดเตรยี มวัสดอุ ปุ กรณ์
เคร่ืองมือช่างสำหรับทำงานไม้
การทำงานไม้ นอกจากจะมีความร้คู วามเข้าใจถงึ ลักษณะไม้แตล่ ะชนดิ แล้ว ยังตอ้ ง

มีทกั ษะความชำนาญในการใชเ้ ครื่องมือช่างดว้ ย และวนั นเ้ี รามาดกู ันว่าเครื่องมือสำคัญสำหรับทำงาน
ไมน้ ้ัน มอี ุปกรณป์ ระเภทใดบ้าง

กบไสไม้ ใช้สำหรบั ขัดผวิ และปรบั รปู ทรงให้ดสู วยงาม

เล่ือยลันดา ลักษณะใบเลอ่ื ยใหญย่ าวแต่บาง ฟนั เลอ่ื ยถ่ี ซ่ีเล็ก ใช้สำหรบั เล่ือยไม้แผน่ ที่
ไมห่ นามากนัก

9

ตลับเมตร อุปกรณ์พื้นฐานของงานช่างทุกชนิด ใช้สำหรับวัดระยะความกว้าง ยาว สูง
เพือ่ คำนวนระยะออกแบบ

ลิ่วปากแบน ใช้สำหรับขุดเจาะหรือขูดผิวไม้ในส่วนที่ต้องการตกแต่งรายละเอียด โดย
ปากส่ิวมหี ลายแบบหลายขนาดเช่น ปากแบนกว้าง แบนแคบ

สิ่วเจาะ ทรงปลายแหลมยาว ใช้เจาะชอ่ งหรอื ทำรทู ีไ่ ม่กว้างนัก วิธีใช้คือ จับสิ่วทีด่ ้ามให้
แนน่ แลว้ ใช้ค้อนไม้คอ่ ยๆ ตอกไปตามจดุ มาร์ก

เลื่อยฉลุ ใบเลื่อยฉลุเป็นเหล็กมีน้ำหนักเบา สามารถปรับระดับความตึงได้ การใช้งาน
ควรระมดั ระวงั ใบเลอื่ ยหกั เหมาะสำหรบั ใช้เล่ือยแผน่ ไมอ้ ัดที่ไมห่ นามาก

คอ้ น อุปกรณส์ ามญั ประจำบ้าน ควรเลอื กค้อนเหล็กน้ำหนักพอดีมือและมีหัวเก่ียวอีกฝั่ง
เพอื่ ใชง้ านยามตอ้ งดงึ เศษไมห้ รือตะปู

สว่านเฟือง ใช้งานเพื่อเจาะรูใส่น๊อตหรือสกรูขนาดต่างๆ หัวดอกสว่านมีหลายขนาดให้
เลือกใช้ตามความเหมาะสม

สว่านข้อเสือ ใช้เจาะรู เพื่อใส่สกรู หรือน๊อตขนาดเล็ก สามารถใช้งานด้วยวิธีวางดอก
สว่านบนผิวไม้ และทำการหมุนดอกสวา่ นไปเร่อื ยๆ เพ่ือเจาะเน้ือภายใน

ขอขีดไม้ ลักษณะรูปตัว L ใช้สำหรับวางบนแผ่นไม้ เพื่อวัดระยะมุมฉากหรือเส้นตรงใน
การมารก์ ตำแหนง่ ก่อนตัด

ไม้พาเลท มาทำเปน็ เฟอร์นเิ จอร์ ถอื ว่าเป็นหนงึ่ ในวัสดทุ ที่ นทาน และ แขง็ แรง เนื่องจาก
โครงสร้างของเนื้อไม้ ทำให้สามารถรองรับน้ำหนักได้ดี รวมถึงความยืดหยุ่นในการรองรับน้ำหนัก
เน่ืองจากไมพ้ าเลทจะมีขาของคาน ท่ีช่วยให้รองรับน้ำหนกั ท่หี นกั มากๆได้ นอกจากนำ้ หนกั แล้ว ไม้พา
เลทยังทนทานตอ่ สภาพอากาศ ทงั้ รอ้ น และ หนาว อกี ด้วย

เกี่ยวกับไมพ้ าเลทยงั มชี นิดตา่ งๆอีก
เราควรจะรู้จกั ชนดิ ของไมพ้ าเลทเสียก่อน เพราะว่าไมแ้ ต่ละชนิด ก็ล้วนแต่มีคณุ สมบัติ

คุณประโยชน์ในการนำไปใช้งานทีแ่ ตกต่างกัน บางชนิดแข็งแรงมาก บางชนิดไม่ค่อยแข็งแรงแตห่
ยืดหยุ่นกว่า บางชนิดทนทานต่อสภาพอากาศสูง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความชื้น การทนทานต่อ
แสงแดด ทนทานต่อแมลง บางชนดิ เป็นไม้เน้ืออ่อน หรือ ไม้เนอื้ แขง็ ซ่งึ การรจู้ ักชนิดของไม้ท่ี
เราจะเลือก หรือ นำมาทำเฟอร์นิเจอร์ จะทำให้เราสามารถเลือกได้เหมาะสมกับการนำไปใช้งาน
ของเรา เช่น หากเราต้องการนำไปใช้งานนอกบ้าน อาจจะต้องเลือกไม้ที่ทนทานต่อสภาพอากาศ
เปน็ ต้น ไมแ้ ต่ละชนดิ จะมคี ุณสมบตั ิอะไรบา้ งไปดกู นั เลย

ไม้ยางพารา คุณสมบัติของเนื้อไม้ที่มีสีค่อนข้างอ่อน ทำให้สามารถย้อมสีได้ง่าย อีกทั้งยังทำ
งา่ ยตอ่ การตัดแตง่ และมคี วามแขง็ แรง ทนทาน

10

ไม้ฉำฉา คุณสมบัติด้านความทนทานของเนื้อไม้ เนื่องจากเนื้อไม้มีความทนทานสูง
จึงทำให้นยิ มใช้ไม้มะคา่ ในงานไม้อืน่ ๆ เชน่ ทำคาน ทำหน้าตา่ ง เปน้ ตน้

ไม้ตะแบก คุณสมบัติเทียบเท่าไม้สัก เนื่องจากเนื้อไม้มีความคล้ายคลึงกับไม้สักที่มี
ราคาแพง อีกทั้งยังสามารถนำไปยอ้ มสีได้งา่ ยอีกดว้ ย

ไม้มะค่า คุณสมบตั ิเรื่องความแข็งแรงที่สูง ทนทาน และ สขี องไม้ที่สวยงาม ส่งผล
ใหส้ ขี องไม้ไม่เปล่ียนตามอุณหภมู ิ

ไม้สนนอก เช่น ไม้สนนิวซีแลนด์ ไม้สนแคนนาดา ไม้สนบราซิล คุณสมบัติเร่อื ง
ของกลิ่นยางไม้ทห่ี อมออ่ นๆ และ ลายไม้ทสี่ วยงาม
แตก่ ็ลว้ นแล้วนำมาใช้ประโยชนไ์ ดห้ ลากหลายงาน

2.1.4 ลงมอื ปฏบิ ัตติ ามขั้นตอนที่วางแผน
นำไม้พาเลทมาตรวจสอบและคัดสันส่วนที่จะนำมาทำเป็นโครงในส่วนของเก้าอี้เพราะ

ความคงทนของไมม้ ันไมเ่ ท่ากนั แต่ก็มีความแขง็ แรงคงทนเพราะถูกคัดมาเพ่ือลองรับส่ิงท่ีมีน้ำหนักมาก
ใช้เครื่องมือพื้นฐานคือตลับเมตรในการวัดหรือกะมุมตามความต้องการ หลังจากวัดมุมหรือ สรีระ
ออกมาตามที่ต้องการแล้วเริ่มตัดไม้ในส่วนที่ต้องการทำเป็นโครงหรือฐาน นำส่วนที่ตัดออกมาด้วย
เลอ่ื ยจ๊กิ ซอว์นนั้ มาทำการเจาะเพอ่ื ยดึ ไม้กบั สกรู ใช้สว่าน โดยใชต้ วั เจาะ เจาะนำก่อนแลว้ เปล่ียนเป็น
ตวั สกรขู ันเข้าไปตามสมี่ มุ ของแบบของเก้าอี้ ต่อมานำโครงที่เปน็ คานที่ใช้รับนำ้ หนกั มาตดั ดว้ ยเลื่อยจ๊ิก
ซอว์ เพื่อนำมาทำเป็นพนักพิงของเก่าอี้ ตัดและขัดด้วยกระดาษทรายหยาบ เพื่อขัด เสี้ยนหนามออก
ให้เรยี บ ตอ่ มานำไม้ที่เป็นสว่ นฐานลอง มาทำเป็นพนักพิงและท่ีลองนั่ง ตดั เปน็ ส่วนเทา่ ๆกนั สามสิบสี่
แผ่น รวมถงึ เผื่อไวท้ ำในสว่ นทีว่ างเทา้ ดว้ ย ตอ่ มานำกระดาษทรายมาขัดและใช้สว่านเจาะให้เป็นรูแล้ว
เปลย่ี นตวั สวา่ งเปน็ ตวั สกรู เพอ่ื ใช้เปน็ นอ็ ตยึด มาถึงสว่ นของการทำทร่ี องแขนหรือที่พิงแขน ใช้ไม้ส่วน
เดียวกันกับการทำที่รองนั่ง ส่วนน้ันจะเป็นส่วนที่ยาวกว่า แต่ใช้สกรูยดึ สามจุด ตรงกลางไม้และมุมไม้
สองมุม สุดท้ายเป็นการเกบ็ งานใช้กระดาษทรายขดั ให้เรียบ ต่อไปพวกเราจะแบ่งลวดลายด้วยการใช้
ไฟ อุปกรณ์คือแก๊สกระป๋องและหัวเผาไฟ ใช้ไฟจี้ที่ไม้ค่อยๆไล่ระดับไปตามต้องการให้ทั่วแล้วรอให้
อณุ หภูมิลดลง แล้วใช้ แลคเกอรไ์ ม้เงา เคลือบ หรืออาจจะใช้ เชลแลค เพ่อื ให้มคี วามละเอียดยง่ิ ขึ้น

2.1.5 ความสมดลุ
สิง่ ที่จำเปน็ เพอ่ื ให้ได้ภาพทสี่ มดลุ หากคุณต้องการให้เกดิ ความสมดลุ ของภาพในห้องคุณ

ตอ้ งคำนงึ ถงึ ลักษณะต่อไปนี้ในเฟอรน์ ิเจอร์
ขนาด: ยงิ่ เฟอรน์ ิเจอรช์ ้ินใหญ่เท่าไหร่ความสมดุลของภาพก็จะยิ่งน้อยลงเท่าน้ันเพราะ

มนั จะทำให้รู้สึก“ โหลด”
รูปแบบ: รปู รา่ งในเฟอร์นเิ จอร์ท่ีเราคุ้นเคยเช่นสเ่ี หล่ยี มและส่ีเหล่ยี มผนื ผา้ มักจะดูหนัก

กวา่ รูปทรงทีผ่ ดิ ปกติโดยมีส่วนโค้งหรือมุมทไ่ี ม่คาดคิด

11

ความใกล้เคียง: วัตถุขนาดใหญ่ที่ดูมีน้ำหนักมากสามารถทำให้ดูเบาขึ้นได้โดย
ล้อมรอบด้วยวัตถุอื่น ๆ การอยู่คนเดียวน้ำหนักภาพจะชัดเจนมากขึ้นดังนั้นจึงมีลักษณะที่สมดุล
น้อยลง

พื้นผิวและ / หรือความลึก: พื้นผิวที่เพิ่มเงามากสามารถทำให้วัตถุดูหนักขึ้นได้ ใน
ทำนองเดียวกันรายการท่ีมีความลึกมากกว่าจะดูหนักกว่าจึงให้ความสมดุลของภาพน้อยลง
ตัวอย่างเช่นตู้หนังสอื ทรงลกึ จะมนี ำ้ หนกั ภาพมากกว่าตตู้ ืน้ ท่ีมขี นาดและรปู ร่างเท่ากนั

ความใกลช้ ดิ กบั พ้ืน: ส่ิงของทีอ่ ยู่ใกล้พ้นื จะมีน้ำหนักมากกวา่ ของท่ียกขน้ึ และปล่อยให้
แสงสว่างอยดู่ ้านล่างเช่นเฟอรน์ เิ จอร์ท่มี ขี า

ความสมดุลของภาพเป็นส่งิ จำเป็นเมื่อตกแต่งหรือออกแบบห้องหรือพนื้ ที่ ไม่สำคัญว่าจะเป็น
ห้องนอนในบ้านห้องนั่งเล่นหรือสำนักงานสิ่งที่สำคัญคือต้องไม่ขาดความสมดุลของภาพ สายตาของ
มนุษย์จำเป็นต้องมองเห็นการทำงานร่วมกันและความสมดุลเพื่อให้ทุกอย่างมีการไหลตามธรรมชาติ
ในแง่นี้ช้ินส่วนจึงถูกเลอื กที่ชว่ ยใหพ้ ืน้ ทีใ่ หค้ วามรู้สึกที่ดี ในแง่นี้สิ่งสำคัญคือตอ้ งสร้างพื้นที่ที่ทำให้คุณ
หลงเสนห่ ท์ ันทที ่คี ุณเห็นมนั จะทำใหค้ ุณรสู้ กึ ดี ส่งิ น้สี ำเรจ็ ได้ดว้ ยความสมดลุ ของภาพ

ความสมดลุ ของภาพคอื อะไร
ความสมดุลของภาพเกี่ยวข้องกับวิธีที่วัตถุดึงดูดและโต้ตอบกับตาของเรา ในระยะส้ัน

ความสมดุลของภาพคือสิ่งที่ตาของคุณคิดว่าสมดุลของชิ้นส่วนในพื้นที่เฉพาะ ตัวอย่างเช่น
องค์ประกอบไม้เนื้อแข็งดูมีน้ำหนักมากและที่จริงแล้วมีน้ำหนักมาก แต่ความสมดุลของภาพและ
น้ำหนักจริงไม่ได้ไปด้วยกันเสมอไป ยกตัวอย่างเช่นโซฟา หากวางต่ำขวางขาหรือไม่มีขาจะทำให้
มองเห็นไม่สมดุลอยา่ งมาก อยา่ งไรกต็ ามหากคุณติดตั้งบนขาที่สูงขึน้ คณุ สามารถลดน้ำหนักท่ีมองเห็น
ไดอ้ ย่างมากและพบวา่ มีความสมดุลทีด่ ขี ้ึนกบั สว่ นประกอบอื่น ๆ

เหตใุ คความสมดุลของภาพจึงมีความสำคัญ
ความสมดุลของภาพเป็นกุญแจสำคัญในการตกแต่งหรือการออกแบบ กลับไปที่ห้องที่

คุณคิดไว้ก่อนหน้านี้ห้องที่คุณรักและห้องที่คุณเกลียด สาเหตุส่วนใหญ่ที่เราเกลียดห้องบางห้องก็
เพราะว่ามนั เต็มไปดว้ ยองค์ประกอบต่างๆ มักจะมนี ้อยมากท่ีจะสมดลุ เช่นในสำนักงานแพทย์ ผลลัพธ์
ที่ได้คือพื้นที่ที่รู้สึกหนักและเหนื่อยซึ่งการใช้เวลาทำให้คุณรู้สึกเหนื่อยล้า นักออกแบบตกแต่งภายใน
คิดถึงน้ำหนักของภาพเมื่อวางห้องไว้ด้วยกันเพื่อให้สายตาสามารถสแกนพื้นที่ได้อย่างสะดวกสบาย
คน้ หาช้ินสว่ นยึดได้ง่ายและ บรรเทาสิ่งของท่มี ีนำ้ หนักภาพน้อย คณุ ตอ้ งตระหนักถงึ น้ำหนักท่ีรับรู้ของ
วัตถุแต่ละชิ้นและวิธีที่จะช่วยให้คุณห่างไกลจากปัญหาต่างๆเช่นการเติมเฟอร์นิเจอร์ในห้องที่หนัก
เกินไปทำให้คุณรู้สึกคับแคบหรือลืมท่ีจะเพิ่มจุดยึดภาพ เม่อื จัดพนื้ ที่ใหม่ให้คำนึงถึงน้ำหนักและความ
สมดุลของภาพ ลองนึกภาพว่าห้องของคุณตั้งอยู่บนฐาน คุณไม่ต้องการย้ายสิ่งของที่มีน้ำหนักมากไป

12

ทางด้านใดด้านหนึ่ง จัดวางให้ทั่วทั้งห้องและแบ่งด้วยองค์ประกอบแสงทีม่ องเห็นได้และพืน้ ที่เปิดโล่ง
การจดั ห้องให้สมดลุ เปน็ กุญแจสำคญั ในการสร้างพืน้ ทีท่ ่ีออกแบบออกมา

การจัดองคป์ ระกอบความสมดุล
เป็น หลักสำคัญสำหรับผู้สร้างสรรค์ และผู้ศึกษางานศิลปะ เนื่องจากผลงานศิลปะใด ๆ

ก็ตาม ล้วนมีคุณค่าอยู่ 2 ประการ คือ คุณค่าทางด้านรูปทรง และ คุณค่าทางด้านเรื่องราวคุณค่า
ทางด้านรูปทรง เกิดจากการนำเอา องค์ประกอบต่าง ๆ ของ ศิลปะ อันได้แก่ เส้น สี แสงและเงา
รูปร่าง รูปทรง พื้นผิว ฯลฯ มาจัดเข้าด้วยกันเพื่อให้เกิดความงาม ซึ่งแนวทางในการนำองค์ประกอบ
ต่าง ๆ มาจัดรวมกันนั้น เรียกว่า การจัดองค์ ประกอบศิลป์ (Art Composition) โดยมีหลักการจัด
ตามที่จะกล่าวตอ่ ไป อีกคุณค่าหนึ่งของงานศลิ ปะ คือ คุณค่าทางด้านเนื้อหา เป็นเรื่องราว หรือสาระ
ของผลงานทศ่ี ลิ ปินผู้สร้าง สรรคต์ ้องการที่จะแสดงออกมา ให้ผู้ชมได้สมั ผสั รบั รู้ โดยอาศัยรูปลักษณะ
ที่เกิดจากการจัดองค์ประกอบศิลป์นั่นเองหรืออาจกล่าวได้ว่า ศิลปิน นำเสนอเนื้อหาเรื่องราวผ่าน
รูปลักษณะที่เกิดจากการจัดองค์ประกอบทางศิลปะ ถ้าองค์ประกอบที่จัดขึ้น ไม่สัมพันธ์กับเนื้อหา
เรื่องราวทีน่ ำเสนอ งานศิลปะน้นั ก็จะขาดคุณค่าทางความงามไป ดังนนั้ การจดั องค์ประกอบศิลป์ จึงมี
ความสำคญั ในการสรา้ งสรรค์งานศลิ ปะเป็นอย่างย่ิง เพราะจะทำให้งานศลิ ปะทรงคณุ คา่ ทางความงาม
อย่างสมบูรณ์

ความสมดุล (Balance)
ความสมดุล หรือ ดุลยภาพ (Balance) หมายถึง น้ำหนักที่เท่ากันขององค์ประกอบ ไม่

เอนเอียงไปข้างใดข้างหนึ่ง ในทางศิลปะยังรวมถึงความประสานกลมกลืน ความพอเหมาะพอดีของ
สว่ นตา่ ง ๆ ในรปู ทรงหน่งึ หรืองานศลิ ปะชน้ิ หนงึ่ การจดั วางองค์ประกอบตา่ ง ๆ ลงใน งานศลิ ปกรรม
นัน้ จะต้องคำนึงถึงจุดศนู ย์ถว่ ง ในธรรมชาตนิ น้ั ทกุ ส่ิงสง่ิ ทท่ี รงตวั อยู่ได้โดยไม่ล้มเพราะมีน้ำหนักเฉลี่ย
เทา่ กันทกุ ด้าน ฉะนน้ั ในงานศลิ ปะถา้ มองดูแล้วรสู้ ึกว่าบางสว่ นหนักไป แนน่ ไป หรือ เบา บางไปก็จะ
ทำให้ภาพนั้นดเู อนเอียง และเกิดความ รู้สึกไม่สมดุล เป็นการบกพร่องทางความงาม ดลุ ยภาพในงาน
ศิลปะ มี 2 ลักษณะ คอื

1. ดุลยภาพแบบสมมาตร (Symmetry Balance) หรือ ความสมดุลแบบซ้ายขวา
เหมือนกัน คือ การวางรูปทั้งสองข้างของแกนสมดุล เป็นการสมดุลแบบธรรมชาติลักษณะแบบนี้ใน
ทางศิลปะมีใช้น้อย ส่วนมากจะใช้ในลวดลายตกแต่ง ในงานสถาปัตยกรรมบางแบบ หรือ ในงานท่ี
ตอ้ งการดลุ ยภาพที่น่ิงและม่ันคงจริง ๆ

2. ดุลยภาพแบบอสมมาตร (Asymmetry Balance) หรือ ความสมดุลแบบซ้ายขวาไม่
เหมือน กัน มักเป็นการสมดุลที่เกิดจาการจัดใหม่ของมนุษย์ ซึ่งมีลักษณะที่ทางซ้ายและขวาจะไม่
เหมือนกัน ใช้องค์ประกอบที่ไม่เหมือนกัน แต่มีความสมดุลกัน อาจเป็นความสมดุลด้วย น้ำหนักของ
องค์ประกอบ หรือสมดุลด้วยความรู้สึกก็ได้ การจัดองค์ประกอบให้เกิดความ สมดุลแบบอสมมาตร

13

อาจทำได้โดย เลื่อนแกนสมดุลไปทางด้านที่มีน้ำหนักมากว่า หรือ เล่ือนรูปท่ีมีน้ำหนักมากว่าเข้าหา
แกน จะทำให้เกิดความสมดุลขึ้น หรือใช้หน่วยที่มีขนาดเล็กแต่มีรูปลักษณะที่น่าสนใจถ่วงดุลกับ
รปู ลักษณะทม่ี ีขนาดใหญแ่ ตม่ รี ปู แบบธรรมดา

เอกภาพ (Unity)
เอกภาพ (Unity) หมายถึง ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันขององค์ประกอบศิลป์ทั้งด้าน

รูปลักษณะและด้านเนื้อหาเรื่องราว เปน็ การประสานหรือจดั ระเบยี บของสว่ นต่าง ๆใหเ้ กิดความเป็น
หนึ่งเดียว เพื่อผลรวมอันไม่อาจแบ่งแยกส่วนใดส่วนหนึ่งออกไป การสร้างงานศิลปะ คือ การสร้าง
เอกภาพขึ้นจากความสับสน ความยุ่งเหยิง เป็นการจัดระเบียบ และดุลยภาพ ให้แก่สิ่งที่ขัดแย้งกัน
เพ่ือใหร้ วมตวั กนั ได้ โดยการเช่ือมโยงส่วนต่าง ๆใหส้ มั พนั ธ์กันเอกภาพของงานศลิ ปะ มีอยู่ 2 ประการ
คอื

1. เอกภาพของการแสดงออก หมายถึง การแสดงออกทมี จี ดุ ม่งุ หมายเดยี ว แนน่ อน และ
มี ความเรียบง่าย งานชิ้นเดียวจะแสดงออกหลายความคิด หลายอารมณ์ไม่ได้ จะทำให้สับสน ขาด
เอกภาพ และการแสดงออกดว้ ยลักษณะเฉพาตัวของศลิ ปินแตล่ ะคน กส็ ามารถทำให้ เกิดเอกภาพแก่
ผลงานได้

2. เอกภาพของรูปทรง คือ การรวมตัวกันอย่างมีดุลยภาพ และมีระเบียบของ
องค์ประกอบ ทางศิลปะ เพื่อให้เกิดเป็นรูปทรงหนึ่ง ที่สามารถแสดงความคิดเห็นหรืออารมณ์ของ
ศิลปิน ออกได้อย่างชัดเจน เอกภาพของรูปทรง เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดต่อความงามของผลงานศิลปะ
เพราะเป็นสิ่งท่ีศิลปินใช้เป็นส่ือในการแสดงออกถึงเรือ่ งราว ความคิด และอารมณ์ ดังนั้นกฎเกณฑ์ใน
การสรา้ งเอกภาพในงานศลิ ปะเปน็ กฎเกณฑ์เดียวกันกบั ธรรมชาติ

2.1.6 สดั ส่วน
การทำความรู้จักสัดส่วนเป็นที่เชื่อกันว่าตัวเลือกที่ดีที่สุดและใช้บ่อยที่สุดจะเป็นขนาด

ของเก้าอที้ มี่ ดี า้ นหลงั
ความสงู จากพืน้ ถงึ จุดบนของดา้ นหลงั - 800-900 มม.
ความสงู จากพ้ืนถงึ ท่นี ัง่ - 400-450 มม.
ความสงู ด้านหลัง - 400-450 มม.
ความกว้างของด้านหลังและทนี่ ัง่ - ประมาณ 430 มม.
ความลึกของอจุ จาระ - 500-550 มม.

แน่นอนวา่ มันมีขนาดโดยประมาณความสูงของพนักพงิ และความกว้างของตำแหน่งท่ีน่ัง
อาจแตกต่างกันตั้งแต่แรกเพราะปัจจัยเหล่านี้ไม่ส่งผลกระทบต่อความสะดวกสบายของท่านั่ง การ
สร้างภาพวาดเบื้องต้นของโครงสร้างทั้งหมดเป็นการดีที่สุดที่จะหุ้มแขนของคุณเองด้วยโครงร่าง

14

สำเร็จรูปซึ่งออกแบบโดยผู้ร่วมงานมืออาชีพเน่ืองจากผลิตแบบจำลองตามกฎทั้งหมด เก้าอี้ที่ดีไมค่ วร
เอียงหลังเดินโซเซตรงเกินไปต่ำหรือสูง พิจารณาเก้าอี้สตูลบาร์ยอดนิยมในขณะนี้ ขนาดของเก้าอี้ท่ี
เหมาะสมกบั ความสูงถงึ เคาน์เตอร์บาร์นน้ั แตกตา่ งอยา่ งส้ินเชงิ จากพารามเิ ตอร์ของคู่คลาสสิกของพวก
เขา ความสงู จากพื้นถึงที่น่ังคือ 75-85 ซม. สว่ นใหญ่สามารถปรับได้โดยใช้กลไกการยกพเิ ศษ มันเป็น
ส่ิงสำคัญทตี่ อ้ งจำไวว้ ่าเฟอร์นิเจอร์ดงั กล่าวอาจอย่ใู นรปู แบบของเก้าอห้ี รือเก้าอที้ ี่มดี ้านหลัง

เกย่ี วกบั ศรีระขนาดของแต่ละบคุ คล
ผู้อ่านหลายคนจะสนใจคำถามของทำอย่างไรถึงจะเป็นคนทีม่ ีความสูงหรือน้ำหนักไม่ได้

มาตรฐาน เก้าอ้ีธรรมดาทำในลกั ษณะท่ีจะตอ้ งทนต่อการโหลดของคนท่นี งั่ ไมห่ นกั กวา่ 100 กก. ความ
สูงเฉลี่ยอยู่ในช่วง 167 ซม. สำหรับผู้ชายและ 156 ซม. สำหรับผู้หญิง ผู้ที่ต่ำกว่าหรือสูงกว่าตัวชี้วัด
เหลา่ นสี้ ามารถส่งั หรือสร้างเก้าอ้ตี ามขนาดของแต่ละบคุ คล

2.1.7 ความเข้ากนั ระหว่างผลงาน
การศึกษาจากเศษไม้ที่ต่อเป็นลัง เหลือทิ้งในโรงงานอุตสาหกรรม ถูกนำมาแปรรูปเป็น

เฟอร์นิเจอรห์ ลากหลายประเภท ที่ทั้งสวยงามและใชง้ านไดอ้ ยา่ งดี จากฝีมือสร้างสรรค์ เพราะว่าการ
ทเ่ี รานำมาทำเป็นเก้าอ้จี ากไม้ทเี่ หลืออยู่นั้นเปน็ ส่ิงที่คุ้มค่า รูปแบบดูมคี วามเข้ากัน ดูเป็นของใหม่ตาม
สไตล์ที่พวกเราได้ออกแบบไว้ คือ vintage style ดูแล้วมันดูเข้ากันอย่างดี ขึ้นชื่อว่าไม้ ไม้มีความเข้า
กับสไตล์แบบเก่าอยู่แล้ว หรืออยู่ร่วมกับยุคทันสมัย ก็ได้กันดูดีอีกด้วย แต่ก็มีการคิดค้นเครื่องเรือน
ต่างๆ กันอย่างยาวนาน มนุษยชาติ เราทุกคนคุ้นเคยกับการหย่อนก้นลงบนเก้าอี้จนคิดว่าเป็นกิริยา
อาการแสนสามัญธรรมดา แต่นั่นอาจจะไม่ใช่สิ่งที่คนไทยสมัยกรุงศรีอยุธยาคิด 333 ปีผ่านมาแล้ว
ซมี ง เดอ ลา ลู แบร์ (Simon de La Loubère) ราชทูตจากสำนกั พระเจา้ หลยุ ส์ท่ี 14 สรุ ิยราชนั ย์แห่ง
ฝร่ังเศสเดินทางมาถึงกรุงศรีอยุธยา ราว 3 เดือนที่พำนักอยู่ในดินแดนที่ไม่คุ้นเคย เขาได้บันทึก
เรื่องราวหลายแง่มุมที่ประสบพบเจอในสยามไว้อย่างละเอียด ข้อเขียนของซีมง เดอ ลา ลู แบร์
รวบรวมส่ิงละอันพันละน้อยที่เปน็ ขอ้ สังเกตของเขาไว้ในหัวขอ้ ย่อยๆ เช่น เหตุไฉนราชอาณาจกั รนี้จงึ
ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักนัก ชาวสยามคนหนึ่งเปลืองค่าบริโภควันละเท่าไหร่ ชาวสยามมีความพยาบาท
รุนแรง เพราะเหตุไร ความร้อนจัดในประเทศสยามขัดกับการใช้สติปัญญาอย่างขะมักเขม้น แต่ละข้อ
ล้วนอา่ นสนุกและชวนใหค้ ิดวา่ 3 ศตวรรษทีผ่ ่านมา ชวนให้เราตระหนักว่า ชาวกรุงศรฯี ไม่เคยชินกับ
การนั่งเก้าอี้ และเก้าอี้ก็มิได้เป็นสิ่งสามัญในอยุธยา ด้วยเป็นเครื่องเรือนอิมพอร์ตมาจากชาติอ่ืน
หนังสืออภิธานศัพท์คำไทยที่มีต้นเค้าจากภาษาต่างประเทศ โดยกรมศิลปากร อธิบายเรื่องนี้ว่าคำว่า
‘เกา้ อ’้ี มที ่ีมาจากภาษาจนี แต้จว๋ิ แปลความตามตัวอักษรได้ว่า ‘ทนี่ งั่ สูง’ อย่างไรกด็ ี ชาวอยุธยาก็มิได้
ไม่รู้จักเก้าอี้เสียที่ไหน ในกรุงศรีฯ ที่ได้ชื่อว่าเป็นมหานครนานาชาติ ยังมีย่านช่างจีนที่ทำเคร่ืองเรือน
รวมไปถึงเก้าอี้ขายด้วย ความเข้ากันระหว่างเก้าอีก ทำให้ความรู้สึกเหมือนบรรยากาศมีการ

15

เปลี่ยนแปลงทางทัศนียภาพทางความรู้สึกเหมือนกับว่า วิวทิวทัศน์ที่เปลี่ยนไปขึ้นอยู่ กับ
สภาพแวดลอ้ ม รวมถงึ ทิศทางของแสงทำให้การมองเห็นเปลี่ยนไป ความเขากนั และความสวยงาม จะ
มีองค์ประกอบทาง ทัศนียภาพ สิ่งแวดล้อมมาเกี่ยวเนื่องกันด้วย เช่น แดดร้อนทำให้สีสันดูชัดเจน
สว่างดรู ้อน อากาศคร้มึ ทำให้สหี รือรวดลายทำให้ดโู ทนมืด ทำใหด้ มู ีความ อาร์ท ทำให้ดแู ลว้ เยน็ สบาย
มนษุ ย์เรามีความรู้สกึ ชอบหลากหลาย สไตล์ อาจมกี ลุ่มทชี่ อบสสี ันสว่าง,กลุ่มทเี่ รียบง่ายธรรมดา,กลุ่ม
ที่มีโทนเย็นครึ้มๆทำให้ดูลึกลับ ส่วนตัวผู้จัดทำเองชอบแบบครึ้มสีคราม ทำให้ดูสบาย ความเข้ากันมี
ความหลากหลายสไตล์ในแต่ละบุคคล หลายความคิด ทำให้มนุษย์เรามีความแตกกัน ทั้งการกระทำ
ความคิด สามารถสร้างสรรค์ผลงานต่างๆของตนเองได้แตกต่างกัน การสร้างผลงานควรคำนึงถึง
ความเหมาะสม งบประมาณ,การวางแผน,การระวงั ภัยอันตรายในตนเองหรือส่งิ รอบข้าง เพือ่ ไม่ให้เกิด
ปัญหากับผู้อื่นหรือตัวเราเอง ผู้ที่เป็นนักออกแบบมืออาชีพส่วนใหญ่มักจะคำนึงถึงความปลอดภัยตอ่
ผู้อื่นและความเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น จะต้องคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมด้วย เพราะเทคโนโลยียิ่งพัฒนา
สิ่งก่อสร้างก็ยิ่งมากขึ้นตามยุคสมัย ปัจจุบันจะมีการรณรงค์ เพื่อสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ เพื่อความ
เป็นอยู่ของสิ่งมีชีวิต ทำให้เป็นส่วนสำคัญท่ีสุด เพื่อสิ่งแวดล้อมและความเป็นอยู่ของคนและสัตว์ จะ
เป็นประโยชน์ในอนาคต การออกแบบ เป็นส่วนสำคัญไม่ว่าเราจะทำอะไรจะต้องคิดอยู่เสมอ การท่ี
มนุษย์เราจะทำอะไรสักอย่างหรืออะไรหลายอย่างก็จะต้องมีการคิดออกแบบรา่ งไว้ในหวั เสมอ เป็นสิ่ง
สำคัญมากๆ ในชีวิตประจำวันทำให้ชีวิตเรามีความหมาย แล้วในสมัยก่อนในประเทศไทยเราก็จะเร่ิม
การใช้เก้าอี้ จากที่นั่งบนพื้นมาเป็นเวลานานด้วยความเคยชินในสมัยก่อน ล่วงเข้าสู่สมัยรัชกาลที่ 5
การรับวัฒนธรรมตะวันตกยิ่งเข้มข้นขึ้น พระราชกรณียกิจแรกสุดของพระบาทสมเด็จพระ
จุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวที่เกิดข้ึนทันทีในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกครั้งที่ 2 เมื่อ พ.ศ. 2416 คือทรงมี
พระราชดำรัสยกเลิกธรรมเนียมการหมอบคลานกับพื้น โดยเปลี่ยนให้ผู้เข้าเฝ้าฯ ยืนเฝ้าฯ แทน ด้วย
ทรงมีพระราชดำรวิ ่า “การสิ่งไรทเี่ ปนการกดข่แี ก่กันให้ไดค้ วามยากลำบากนนั้ ทรงพระดำริจะไม่ให้มี
แก่ชนทั้งหลายในพระราชอาณาจักรต่อไป” สมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดวงศ์ผู้ทรงอยู่ร่วม
ในเหตุการณ์ครั้งนั้นทรงบรรยายไว้ใน พระนิพนธ์ประชุมละคอนดึกดำบรรพ์ ว่า “พออาลักษณ์อ่าน
ประกาศจบ เหล่าข้าเฝ้านับแต่กรมพระราชวังบวรฯ เป็นต้น บรรดาที่หมอบอยู่เต็มทั้งท้องพระโรงก็
ลกุ ขนึ้ ยนื ถวายคำนับพรอ้ มกันดเู หมือนกบั เปลย่ี นฉากรูปภาพอยา่ งหน่ึงเป็นอย่างอืน่ ๆ ไปในทนั ทอี ย่าง
น่าพิศวงอย่างยิ่ง” และในพระราชบัญญัติเข้าเฝ้าฯ ที่ออกในปีเดียวกันน้ันก็สั่งห้ามมิให้ผู้เข้าเฝา้ ฯ น่ัง
ลงพื้นอีกเป็นอันขาด โดยมีเนื้อความว่า “พระบรมวงศานุวงศ์และข้าทูลละอองธุลีพระบาทผู้น้อย
ผ้ใู หญท่ ้ังปวง ทไ่ี ด้มายืนเข้าเฝา้ เวลาเสด็จออกอยู่นน้ั ถ้ามพี ระบรมราชโองการโปรดพระราชทานเก้าอ้ี
ใหน้ ั่งจงึ นั่งได้ ห้ามมใิ หน้ ั่งลงกับพื้น” สมเดจ็ ฯ เจา้ ฟา้ กรมพระยานรศิ รานุวดั วงศ์ทรงสรปุ ไว้วา่ “ก็เป็น
อันเพกิ ถอนระเบยี บการเขา้ เฝ้าอย่างเก่าซ่ึงเคยใช้มาหลายร้อยป”ี ส่งิ ที่ในหลวงรชั กาลท่ี 5 ทรงกระทำ
ในครัง้ นน้ั เสมอื นการประกาศเข้าสโู้ ลกยคุ ใหมข่ องสยามอย่างเป็นทางกา แน่นอนว่าการเปลี่ยนแปลง

16

ขนานใหญ่ย่อมมิได้ง่ายดายเพียงดีดนิ้ว ในหนังสือ ศิลปวัฒนธรรมไทย เล่ม 3 ขนบธรรมเนียม
ประเพณีและวัฒนธรรมกรุงรัตนโกสินทร์ โดยกรมศิลปากร เล่าว่า “เมื่อราชสำนักเลิกหมอบเฝ้าและ
ใช้เก้าอี้ในระยะแรกๆ คนไทยยังคงนั่งเก้าอี้ไม่เป็น ผู้หญิงขึ้นไปนั่งพับเพียบ ส่วนชายนั่งขัดสมาธิบน
เก้าอี้ จนรัชกาลที่ 5 ต้องมีพระราชโองการแนะนำวิธีการนั่งเก้าอี้ โดยใช้วิธีหย่อนก้นเท่านั้นลงบน
เก้าอี้ ส่วนขาให้ห้อยลงไป” อิตาเลียน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวประทับพระราช
อาสน์งามหรอู ย่างมง่ั คงสงา่ งาม เคยี งข้างกบั สมเด็จพระบรมราชินีทีท่ รงประทบั โพสต์ท่าอย่างฟรสี ไตล์
และมีสไตล์เป็นพิเศษ ที่พระบาทของพระองค์ยังมีหมอนสำหรับรองพระบาท หากตัดภาพสลับไปยัง
ตน้ กรงุ รตั นโกสินทรท์ ี่ผู้คนยังนั่งอยู่พ้นื อากปั กรยิ าในภาพวาดน้ีคือจุดสูงสุดของอารยธรรม เก้าอ้ีแบบ
ตะวันตกได้กลายมาเป็นของช้ินสำคญั ในชีวิตประจำวนั ของชนชัน้ สูง ประโยชน์ใชส้ อยของเก้าอ้ีท่อี าจ
มีเพื่อโชว์มากหน่อย ใช้น้อยหน่อย ในสมัยรัชกาลที่ 4 ก็ได้ใช้จริงมากขึ้น ในจดหมายเหตุพระราชกิจ
รายวันของรัชกาลที่ 4 กล่าวว่าใน พ.ศ. 2423 พระองค์ทรงได้รับของขวัญปีใหม่เป็นเก้าอี้หลายตัว
“วันนี้เป็นวันปีใหม่รับก๊าศแจกก๊าศแจกขนมตามเคย เจ้านายข้าราชการถวายของต่างๆ ในวันปีใหม่
คอื … องค์ดิษฐถวายเก้าอ้ีเตรกะลิงแชหวาย ๑ เก้าอีอ้ ซี ีแชนง่ั ไดน้ อนได้ ๑ รวม ๒ กรมพิชิตถวายเก้าอี้
อีซีแ่ ชเหมือนเตยี งนอน ๑” แสดงให้เหน็ ค่านิยมของคนยุคน้ันที่เห็นวา่ เก้าอ้ฝี รงั่ เปน็ ของดีมีราคาอยู่ไม่
น้อย ราชสำนักสยามและความนิยมสูงสุดในการใช้เก้าอี้ปรากฏในการตกแต่งภายในพระที่นั่งสุทไธ
สวรรย์ปราสาท จอห์น ทอมสนั (John Thomson) ได้ถา่ ยภาพภายในพระทน่ี ัง่ องค์ไว้ในสมยั รัชกาลที่
4 พระสงฆ์ เจ้านายและข้าราชบริพารทั้งหมดนั่งลงกับพื้น ผ่านไปราว 40 ปี ภาพถ่ายในพิธีบำเพ็ญ
พระราชกุศลสมโภชพระอัฐิพระเจ้าลูกเธอ กรมขุนสุพรรณภาควดี พระธิดาในพระบาทสมเด็จพระ
จุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 แสดงให้การตกแต่งภายในที่มีความ ‘ฝรั่ง’ มากขึ้น มาถึงตอนนี้ไม่
การนั่งบนพื้นอีกต่อไป เก้าอี้หลายประเภทจัดวางเรียงรายอยู่ในพระที่นั่ง ทั้งเก้าอี้สำหรับพระสงฆ์ท่ี
ตั้งอยู่บนอาสนะอีกที พระราชอาสน์ของรัชกาลที่ 5 ที่ขนาบข้างด้วยโต๊ะเครื่องประกอบพระราช
อิสริยยศแสดงถึงความสำคัญสูงสุด และที่น่าสนใจที่สุดคือหมู่เก้าอี้ทางซ้ายมือของภาพ เก้าอี้ระดับ
ตำนานของวงการการออกแบบอย่างเก้าอี้โทเนท์ (Thonet Chair) ราว ค.ศ. 1836 ช่วงเวลารุ่งโรจน์
แหง่ การปฏิวตั ิอตุ สาหกรรม มิเชล โทเนท์ (Michael Thonet) ได้คดิ ค้นเทคโนโลยีการดัดไม้ให้โค้งงอ
ด้วยไอน้ำจนสำเร็จ เขานำเทคนิคน้ีมาผลิตไม้ทีโ่ ค้งงอเป็นทรวดทรงลงตัวและประกอบขึ้นเป็นเก้าอี้ท่ี
ทันสมยั นอกเหนือจากความโมเดิร์นในการออกแบบและวิธกี ารผลิตแลว้ เกา้ อีข้ องโทเนทย์ งั ใช้วัสดุไม่
มาก และถอดออกเปน็ ชิน้ ๆ เพ่อื แพก็ ลงในบรรจุภัณฑ์ทีสะดวกสำหรับการขนส่ง (เรียกไดว้ ่าเป็น IKEA
ยคุ แรก) ทกุ ปัจจัยทตี่ อบโจทย์ ประกอบกบั ขีดความสามารถของกลไกการผลิตด้วยระบบอตุ สาหกรรม
กับระลอกคลื่นแรกของโลกาภิวัตน์ ทำให้เก้าอี้โทเนท์โด่งดังขึ้นแท่นเก้าอี้ Best Seller ระดับโลก
ภายในพระที่นั่งสุทไธสวรรย์ปราสาท ได้รับการขนานนามว่าเป็นประธานของเก้าอี้ทั้งปวง (Chair of
Chairs) ในราวต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 กิจการของโทเนท์มีลูกจ้างกว่า 25,000 คน ทำงานใน 60

17

โรงงานทั่วยุโรป เพื่อส่งออกเก้าอ้ีโมเดลนี้ไปทั่วโลก ความโมเดิร์นนี้ได้กลายมาเป็นความคลาสสิก
สมยั ใหม่ กจิ การของโทเนท์ยังคงดำเนินต่อมาถึงปจั จุบันในทุกวันน้ี มีสถติ ิทีน่ ่าสนใจว่าเฉพาะ Coffee
Shop Chair ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันบริษัทได้ผลิตขายไปราวๆ 50 ล้านตัว ในปัจจุบันก็มีการคิดค้น
สิ่งอำนวยความสะดวกอย่างมากมากเพราะมนุษย์เรามีการวางแผนพัฒนาในด้านอุตสาหกรรมอยู่
เร่ือยๆ
2.2 ประวัติแนวคดิ ของบคุ คลต้นแบบ

เฟอร์นิเจอร์ที่เราใช้กันในชีวิตประจำวัน มีต้นกำเนิดมาแล้วถึง 7,000 ปี ผู้คนในยุคอดีตเอง
ก็ต้องการความสะดวกสบาย จึงได้ประดิษฐ์คิดค้นเฟอร์นิเจอร์รูปแบบต่างๆ พัฒนาตามกาลเวลา ยุค
สมัย จนมาถงึ ปัจจบุ ัน จากนั้นเฟอรน์ ิเจอร์กว็ ิวฒั นาการผ่านประวัตศิ าสตร์เรื่อยมาจนกระท่ังเป็นแบบ
ทีเ่ ราเหน็ กนั ในยคุ ปัจจบุ นั ในปัจจุบนั มีการออกแบบน้ีมีรากฐานมาจากความจำเปน็ หลายประการและ
เน้นทั้งรูปแบบและวัสดุ อังกฤษอาณานิคมอเมริกันยุคแรกเก้าอี้และโต๊ะมักสร้างด้วยแกนหมุนและ
หลังเก้าอี้มักสร้างด้วยการนึ่งเพื่องอไม้ การเลือกไม้มักจะเป็นไม้เนื้อแข็ง มีการพัฒนาต่างๆ Gerrit
Thomas Rietveld เกิดใน Utrecht เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2431 เป็นบุตรชายของก ช่างไม้.
เขาออกจากโรงเรียนเมื่ออายุ 11 ขวบเพื่อฝึกงานกับพ่อของเขาและเข้าเรียนที่โรงเรียนกลางคืน
ก่อนที่จะทำงานเป็น ผู้ร่าง สำหรับ C. J. Begeer พ่อค้าอัญมณีใน Utrecht เมื่อเขาเปิดเวิร์คช็อป
เฟอรน์ ิเจอร์ของตวั เองในปี 1917 Rietveld ไดส้ อนการวาดภาพระบายสแี ละการทำโมเดลด้วยตัวเอง
หลังจากน้นั เขาก็ตงั้ ธุรกจิ เปน็ ผผู้ ลิตตู้ Rietveld ไดอ้ อกแบบ เกา้ อสี้ แี ดงและสีน้ำเงนิ ในปี(พ.ศ. 2460)
ซึ่งได้กลายมาเป็นเฟอร์นิเจอร์สมยั ใหม่ท่ีโดดเด่น โดยหวังว่าในทีส่ ุดเฟอร์นเิ จอร์ของเขาจะถูกผลิตข้นึ
เป็นจำนวนมากแทนที่จะเป็นงานประดิษฐ์ด้วยมือ Rietveld มีเป้าหมายเพื่อความเรียบง่ายในการ
ก่อสร้าง ในปี(พ.ศ. 2461) เขาเริ่มโรงงานเฟอร์นิเจอร์ของตัวเองและเปลี่ยนสีเก้าอี้หลังจากได้รับ
อิทธพิ ลจาก De Stijl การท่ีเขาได้เข้าเป็นสมาชิกในปี 2462 ในปเี ดยี วกับที่เขากลายเป็นสถาปนิก ทำ
ใหเ้ ขามีโอกาสไปจดั แสดงในต่างประเทศดว้ ย ในป(ี พ.ศ. 2466) วอลเตอร์ Gropius เชญิ Rietveld มา
จดั แสดงท่ี Bauhaus ตงั้ แต่ช่วงปลายทศวรรษ 1920 เขากังวลกบั ทอี่ ยอู่ าศัยทางสังคมวธิ กี ารผลิตที่ไม่
แพงวัสดุใหม่การผลิตสำเร็จรูปและการกำหนดมาตรฐาน ในปี(พ.ศ. 2470) เขาได้ทดลองใช้แผ่น
คอนกรตี สำเร็จรูปซ่ึงเปน็ วัสดทุ แ่ี ปลกมากในเวลาน้นั อย่างไรกต็ ามในช่วงทศวรรษที่ 1920 และ 1930
ค่าคอมมิชช่นั ทัง้ หมดของเขามาจากบุคคลทั่วไปและไม่ถึงปี 1950 เขากส็ ามารถนำความคดิ ท่กี ้าวหน้า
เกี่ยวกับท่ีอย่อู าศัยเพื่อสงั คมไปสู่การปฏิบัติในโครงการใน Utrecht และ Reeuwijk เขาก็ได้ออกแบบ
เก้าอี้ซิกแซกในปี(พ.ศ. 2477) และเริ่มออกแบบ พิพิธภัณฑ์แวนโก๊ะ ใน อัมสเตอร์ดัมซึ่งเสร็จสิ้น
หลังจากการเสียชีวิตของเขา ในปี25 มิถุนายน 2507 (พระชนมายุ 76 พรรษา)สุสาน
Soestbergen,Utrecht, เนเธอรแ์ ลนด์ เร่ืองต่อมาจะเป็นผู้ออกแบบชาวไทย เฟอรน์ ิเจอร์แบรนด์ไทย
ของ ผศ.ดร.สิงห์ อินทรชูโต อาจารย์ประจำคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

18

สถาปนกิ ผู้สร้างงานการออกแบบอาคารเเละเฟอร์นิเจอร์ท่เี ป็นมิตรต่อส่ิงแวดล้อม การันตีด้วยผลงาน
เเละรางวัลมากมาย ที่มีจุดเริ่มต้นจากการนำวัสดุเหลือใช้อย่างเศษไม้จากโรงงานก่อสร้างอาคาร มา
ดดั แปลงประกอบขนึ้ เป็นเฟอร์นเิ จอรช์ นิ้ ใหมแ่ สนสวย จนมชี อื่ เสยี งท้งั ในและนอกประเทศ ผลิตภัณฑ์
Eco จากไม้คอร์กที่ใช้ไอเดียในการสร้างความแตกต่างอย่างมีเอกลักษณ์บนงานออกแบบผลิตภัณฑ์
โดย คุณพุฒิพงศ์ ทัศนมานะ หรือผู้ก่อตั้ง THAS ได้นำแนวคิดตามหลักวิทยาศาสตร์ในเรื่องของแรง
โน้มถ่วง หรือกฎของนิวตันมาเป็นตัวแปรสำคัญในการนำไม้คอร์กที่มีความอ่อนตัวมาบิดดัดให้อยู่ตัว
และคงรูป โดยใช้กระบวนการ “อัพไซเคิล (Upcycle)” ซึ่งเป็นคำประสมของคำว่าอัพเกรด รวมกับ
คำว่า รีไซคลิ่ง (Recycling) เข้ามาข้องเกี่ยวในส่วนของการผลิต ผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ THAS แบ่ง
ผลิตภัณฑอ์ อกเปน็ 2 กลุ่มหลักคือ 1. สินคา้ ในกลุ่มเฟอร์นเิ จอรต์ กแตง่ บ้าน และ 2. สินค้าในกลุ่มไลฟ์
สไตล์ สำหรับเฟอรน์ เิ จอร์ตกแต่งบ้านที่มีชื่อเสียงคือ “โคมไฟเสน่หา (SANEHA)” ที่ผลิตจากไม้คอรก์
โดยนำเทคนิกการบิด การดัด พร้อมคำนึงถึงแรงโน้มถ่วงของโลกมาสร้างรูปทรงของโคมไฟที่ดูพลิ้ว
ไหวตามธรรมชาติแต่ยังคงรูปกระบวนการ อัพไซเคิล โดยนำเศษวัสดุเหลือใช้กลับมาทำเป็นของใช้
ใหม่ให้มีมูลค่ามากขึ้น โดยไม่ต้องใช้พลังงานและกระบวนการทางเคมีใดๆ ซึ่งจะแตกต่างจากการรี
ไซเคิล ที่นำสิ่งที่ไม่สามารถใช้ซ้ำได้แล้วไปเข้ากระบวนการแปรรูปให้เป็นวัตถุดิบ โดยใช้วิธีหลอม
รวมกนั เพือ่ นำกลับมาใช้ใหม่ มาพดู ถึงประวตั ขิ องบุคคลสำคญั ที่ก่อนต้ังบริษทั เฟอรน์ ิเจอรใ์ นระดับโลก
จนถึงปัจจุบัน เพราะแนวคิดต่างการพัฒนาเครื่องเรือนต่างๆมาจากบุคคลที่ต่อตั้ง IKEA เป็นบริษัท
เฟอร์นิเจอร์รายใหญ่ที่เราได้ค้นคว้าข้อมูลจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ประวัติ IKEA บริษัทยักษ์ใหญ่ที่
เรม่ิ ตน้ มาจากการขายไม้ขีดไฟ ผู้กอ่ ตง้ั บรษิ ทั อิเกยี มีช่อื ว่า Ingvar Kamprad (องิ วาร์ แคมปราด) เป็น
เด็กชายที่เกิดในฟาร์มเอลทราด (Elmtaryd) ใกล้กับ Agunnaryd ซึ่งเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ซึ่งตอนนั้น
เปน็ หนงึ่ ในภูมิภาคท่ียากจนของประเทศสวีเดน แตก่ ว่าจะมาเป็นอเิ กียในปจั จบุ นั นั้นไมใ่ ชเ่ รื่องง่ายเลย
เพราะ Ingvar Kamprad ต้องผ่านอะไรมากมายในช่วงหลายทศวรรษ ประวัติบริษัท IKEA เริ่มขึ้นใน
ปี (ค.ศ.1920) ก่อนที่จะเกิดแบรนด์อิเกียขึ้นนั้น Ingvar Kamprad เป็นคนที่มีหัวการค้าตั้งแต่เด็กๆ
ตอนอายุเพียง 5 ขวบ เขายืมเงิน 1 โครนาจากป้าไปซื้อไม้ขีดไฟมาเป็นแพคใหญ่ขนาด 100 กล่อง
แล้วนำมาแบ่งขายเป็นกล่องๆ จากน้ันก็ปั่นจักรยานออกไปตะเวณขายรอบหมู่บ้านที่เขาอาศัยอยู่ใน
ราคาไม่แพงนักแต่ก็ทำให้เขามีกำไรถึงสองเท่า นอกจากน้ีอิงวาร์ก็หาอย่างอื่นมาขายด้วย เช่น ไปเก็บ
เบอรร์ ่ใี นปา่ หรือไปตกปลาในทะเลสาบมาขาย ซงึ่ ถือวา่ เปน็ จุดเริ่มตน้ ของอิเกยี เลยกว็ ่าได้ สิบปีต่อมา
องิ วารไ์ ดซ้ ้ือของจากผ้คู ้าส่ง แล้วนำมาขายใหก้ บั เกษตรกรท้องถิ่น เขาเรมิ่ จากไม้ขดี ไปสู่ของตกแต่งคริ
สมาสต์ ไปถึงปากกาและถุงมือไนล่อน อิงวาร์ได้กลายเป็นเซลล์แมนตั้งแต่อายุยังน้อย สินค้าที่มีมาก
ขึ้นเรื่อยอิงวาร์ยังได้ขายของโดยการห่อเป็นพัสดุจัดส่ง แต่ด้วยความที่ฟาร์มของเขาอยู่ห่างจากตัว
เมอื ง อิงวาร์จงึ ฝากใหค้ นที่มาส่งนมเอาพสั ดขุ องเขาไปสง่ ทส่ี ถานนีรถไฟให้ดว้ ย โดยเขาจะเอาห่อพัสดุ
มาวางไว้บนโต๊ะหน้าบ้าน ซึ่งกิจการก็ดำเนนิ ไปด้วยดี แต่วันไหนฝนตกก่อของนั้นก็จะเปียก ทำให้เขา

19

พฒั นามาเป็นหอ้ งเก็บของเลก็ ๆ ขนาด 2x2 เมตร ไว้ที่หนา้ บา้ น เวลาคนมาสง่ นมก็จะรู้กนั ว่าหยิบของ
ในห้องนั้นไปส่งที่สถานีรถไฟได้เลย ถือว่าศูนย์กระจายสินค้าแห่งแรกของ IKEA เลยก็ว่าได้ ที่มาของ
ชื่อ IKEA องิ วาร์ตั้งชื่ออิเกยี ครัง้ แรกตอนท่ีเขาเริม่ ขายปากกาหมึกซึม ชอ่ื IKEA นน้ั เป็นชอื่ ทไ่ี ด้มาจาก I
= Ingvar ซึ่งเป็นชื่อแรกของเขาK = Kamprad ซึ่งเป็นนามสกุลของเขา E = Elmtaryd เอลทราด
เป็นชือ่ ฟาร์มของเขาA = Agunnaryd อากนั ยาร์ด ชอื่ หม่บู า้ นหรือศูนย์การบริหารหมู่บ้านที่เขาอาศัย
อยู่ เมื่อนำมารวมกันก็กลายเป็นชื่อ "IKEA" ส่วนสีเหลืองกับสีน้ำเงินสดก็คือสีธงชาติของประเทศ
สวีเดน ในปี (ค.ศ.1943) อิงวาร์ แคมปราด มีอายุ 17 ปี เขาได้รับเงินรางวัลเรียนดีจากพ่อ จึงนำเงิน
ไปก่อตั้งธุรกิจอิเกีย และได้เริ่มขายสินค้แบบมีบริการสั่งซื้อของทางไปรษณีย์ โดยเขาได้ทำการ
รวบรวมสินค้าหลากหลายชนิดไว้ในแคตตาล็อกของตัวเองตั้งแต่เรียนอยู่มัธยม ไม่ว่าจะเป็น มีด เนค
ไท ผ้าห่ม ถุงเท้า มีดโกน และของใช้ประจำทุกอย่าง ถ้าเป็นบ้านเราก็เรียกว่ามีตั้งแต่สากกะเบือยัน
เรือรบเลยทีเดยี ว ตอ่ มาเขาเร่ิมสนใจที่จะมาขายเฟอรน์ เิ จอรต์ กแต่งบา้ น เนื่องยอดขายใหญ่สุดในแคต
ตาล็อกคือเก้าอี้และเก้าอี้วางมือ และในขณะน้ันเกษตรกรก็จะใช้เฟอร์นิเจอร์เรียบง่ายที่ทำกันขึ้นมา
เองและเป็นมรดกที่ตกทอดต่อๆกันมา คนรุ่นใหม่ก็ต้องการได้อะไรที่ใหม่ๆ ประกอบกับเขาได้ไปงาน
เฟอร์นิเจอร์แฟร์ที่อิตาลีที่มีแต่เฟอรน์ ิเจอร์สวยๆ เมื่อกลับมาเขาได้ไปซื้อโรงงานเฟอร์นิเจอร์เก่า เพื่อ
ทำเฟอร์นิเจอร์สวยราคาไม่แพงด้วยการลดต้นทุนการผลิต และเมื่อปีค.ศ.1948 Ingvar Kamprad ก็
ได้เริ่มขายเฟอร์นิเจอร์อย่างเป็นทางการ ผลิตโดยโรงงานที่อยู่ใกล้บ้านของเขาเอง เมื่อเขาได้เปิดตัว
โชว์รูมเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งสินค้าของเขานั้นสามารถขายได้แบบถล่มทลายกันเลยก็ว่าได้ กลยุทธ์ทาง
การตลาดก็คือการออกงานแฟร์เพื่อให้คนรู้จักอิเกีย รวมถึงการแจกจ่ายแคตตาล็อกซึ่งช่วยสร้าง
ยอดขายได้ดีทีเดียว แคตตาล็อกเล่มแรกของอิเกียถูกตีพิพม์ในปี 195 เวลาออกงานแฟร์ในตอนนี้ อี
เกียทำสิ่งที่ไม่เหมือนใครคือการติดป้ายบอกราคาอย่างชัดเจน รวมถึงราคาที่ย่อมเยาว์กว่าและ
พนักงานขายที่กระตือรือล้นทำให้อิเกียขายดีมาก สร้างความอิจฉาให้กับคู่แข่ง ปี 1953 มีการสร้าง
โชว์รูมสินค้าขึ้นที่เมือง Älmhult ต่อมาอิงวาร์พบกับปัญหาในการจัดส่งเฟอร์นิเจอร์ที่ต้องเพิ่มความ
ระมัดระวังและมคี า่ ใช้จ่ายสงู เขาจึงมีความคิดท่ีว่าเฟอร์นิเจอร์ควรถูกจัดส่งให้ลูกคา้ ในกลอ่ งสี่เหลีย่ ม
แบนเรียบโดยให้ลูกค้านำไปประกอบเอง ในปี 1956 ซึ่งการทำแบบนี้ราคาเฟอร์นิเจอร์ก็ยิ่งถูกลง ซ่ึง
สรา้ งความกดดันให้กับคูแ่ ข่งจนมีการรวมตวั กนั สงั่ หา้ มไมใ่ หผ้ ้ผู ลติ เฟอร์นิเจอร์ผลิตใหก้ ับอิเกีย ผู้ผลิต
จงึ เสนอให้อเิ กียออกแบบเองเฟอร์นิเจอร์จะได้ไม่เหมือนกันกับของคู่แขง่ และผู้ผลิตก็จะสามารถผลิต
ให้กับอิเกียได้ด้วย ปี 1953 มีการสร้างโชว์รูมสินค้าขึ้นที่เมือง Älmhult ปี 1955 อิเกียเริ่มออกแบบ
เฟอร์นิเจอร์ วิกฤตคือโอกาส เพราะเฟอร์นิเจอณของอิเกียนั้นมีดีไซน์ที่ไม่เหมือนใคร แถมต้นทุนยัง
ลดลงไปได้อีกการผลิตเฟอร์นิเจอร์แบบแยกชิ้นส่วน ก็สามารถทำการผลิตได้จากหลายแหล่ง และอิ
เกยี ยงั มกี ารส่งั ผลติ ในปริมาณทม่ี ากจนดึงดูดใจโรงงานผลติ อิเกียมนี ักออกแบบเฟอรน์ เิ จอรใ์ นสไตล์โม
เดิรน์ คนแรกคอื กลิ ลิส ลุนเกรน (Gillis Lundgren) ซึ่งชายคนนีเ้ องท่ีทำให้เกดิ เฟอร์นเิ จอร์สไตล์อิเกีย

20

เขารวบรวมเฟอร์นิเจอร์ที่ออกแบบไว้เป็นแคตตาล็อก แต่ลูกค้าก็อยากเห็นเฟอร์นิเจอร์จริงก่อน
ตัดสินใจซื้อ ดังนั้นในปีค.ศ.1958 โชว์รูมของอิเกียใน Älmhult ถูกแทนที่ด้วยร้านจำหน่ายสินค้า
ของอิเกียพื้นที่ 6700 ตารางเมตร ดึงดูดให้ผู้คนเดินทางมาซื้อเฟอร์นิเจอร์ที่ร้านจำหน่ายสินค้าแห่ง
แรก ทางตอนใต้ของสวีเดน ในปีค.ศ.1960 จึงมีการเปิดตัว IKEA Restaurant เป็นแห่งแรกใน
Älmhult มีการคืนค่าตั๋วรถไฟให้กับลูกค้าที่เดนิ ทางมาไกล พอมีข้อโต้แย้งว่าของถูกคุณภาพมักจะต่ำ
อิเกียก็เลยทำงานร่วมกับสถาบันติดฉลากสินค้าของสวีเดนทำให้สินค้าได้รับการรับรองคุณภาพ และ
ในชว่ งนี้เปน็ ช่วงท่อี ิเกียเริ่มขยายกิจการไปยงั ประเทศต่างๆ ที่อยู่ใกล้เคียงประเทศสวเี ดน เมื่อปี 1963
มีการไปเปิดสาขาแรกนอกสวีเดนคือทีอ่ อสโล ประเทศนอร์เวย์ ปี 1985 มีการเปิดอิเกียสาขาขาที่สดุ
ทส่ี ต็อคโฮม นอกจากนั้นทางอิเกยี ก็ได้มีการออกแบบเฟอร์เจอรต์ ่างๆ อย่างเชน่ ต้หู นังสือ BILLY ที่ใน
ปัจจุบันน้ียังมีวางจำหน่วยหรอื เรียกไดว้ ่าเป็นสินค้าในตำนานเลยก็ว่าได้ ในปี ค.ศ.1985 มีการไปเปดิ
สาขาในสหรัฐอเมริกา และทางอิเกียก็ไดเ้ ริ่มขยายกิจการไปยังประเทศใหญ่ๆ หลายประเทศอย่างเช่น
ประเทศฝรั่งเศส ประเทศเบลเยี่ยม ประเทศอิตาลี สหราชอาณาจักร เป็นต้น นอกจากนั้นในช่วงนี้อิ
เกียก็ได้มีการออกแบบสิ้นค้าใหม่ๆ หลายอย่างท่ีมมี าจนถงึ ปจั จบุ ันและได้รับความนยิ มเป็นอย่างมาก
นั้นก็คือ ชั้นวางของที่มีความทนทานสูงแต่มีน้ำหนักเบา เนื่องจากชั้นวางนี้จะติดเข้ากับตัวผนังห้อง
ของเราโดยตรงทำให้ช่วยประหยดั ในเรื่องของเนื้อท่แี ละมคี วามสวยงาม ในปีค.ศ.1990 ทางอิเกียก็ได้
มนี โยบายเกยี่ วกบั สิ่งแวดลอ้ มเพื่อในประชาชนเชือ่ มั่นวา่ สนิ ค้าของเขานนั้ จะไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมของ
โลกเราแตอ่ ย่างใด โดยมีกิจกรรมหลายกิจกรรมภายในบริษัทเพ่ือเป็นการอนุรักษ์สงิ่ แวดล้อมไว้ ต่อมา
เมื่อปีค.ศ.1997 อิเกียก็ได้เริ่มผลิตสินค้าที่เกี่ยวกับพัฒนาการของเด็ก เพื่อให้เด็กนั้นมีพัฒนาการท่ี
สมบรณู ์อีกด้วย และนั้นกท็ ำใหเ้ ห็นว่าอิเกยี นน้ั ใส่ใจกับทุกรายละเอียดของการใชช้ วี ิต ในปี ค.ศ.2000
จนเข้าถึงปัจจุบันทางอิเกียก็ได้ขยายกิจการไปยังประเทศอื่นๆ ทั่วโลกกว่า 44 ประเทศและมีสาขา
มากถึง 267 สาขา มีพนักงานมากกว่า 1,040,000 คน ซึ่งในประเทศไทยริษัท อิคาโน่ ก็เป็นตัวแทน
ของอิเกีย โดยบริษัทอิคาโน่ได้มีการลงนามร่วมกับสยามฟิวเจอร์ ดีเวลอปเมนท์ในการสร้าง
ศนู ย์การค้าเมกาบางนา ซ่งึ ในสว่ นของอิเกียน้นั อยูอ่ ยภู่ ายในเมกาบางนา มขี นาด 43,000 ตร.ม. เปน็ ส
โตร์อิเกียที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเปิดทำการเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554
ต่อมาอิเกียก็ได้มีการขยายสาขาแยกออกไปยังศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต และเมการังสิต
บริเวณทางแยกต่างระดับธัญบุรี Ingvar Kamprad ผู้ก่อตั้งอิเกีย เกษียณอายุไปเมื่อปี 1986 แม้จะ
ร่ำรวยขนาดไหนเขาก็ใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย เคยอ่านเจอว่าเวลาเดินทางเขามักเข้าพักโรงแรมไม่เกิน
สามดาวซะด้วยซ้ำ ประธานและ CEO คนล่าสุดคือ Anders Dahlvig ในปัจจุบันจึงถือได้ว่าอิเกียนั้น
เป็นบรษิ ทั ที่มีสินคา้ มากมายและมีคณุ ภาพทำให้คนทัว่ โลกรวมไปถึงคนไทยก็รู้จักและเช่ือว่าหลายคน
บนโลกก็ใช้สินค้าของทางอิเกียเช่นกัน แม้จะเป็นบริษัทที่ใหญ่โตขนาดไหน อิเกียก็ไม่เคยเข้าตลาด
หลักทรพั ย์หรือเปิดเป็นบริษัทมหาชน เพราะอเิ กียถอื วา่ ประสบความสำเร็จตนเอง

21

2.2.1 ทฤษฎีท่เี ก่ยี วข้องกับการค้นคว้า
เฟอรน์ เิ จอร์เพ่ือส่ิงแวดล้อม (Eco – Furniture) – ส่ิงแวดล้อมเปน็ ปจั จัยสำคัญที่ทัวโลก

ใหค้ วามสนใจ เนื่องจากปัจจบุ ันโลกเรม่ิ ประสบปัญหาสภาวะโลกร้อน จงึ ได้มกี ารออก มาตราการด้าน
ส่งิ แวดล้อมท่ีเข้มงวดทั้งในการผลิดและการนำ เข้าสินค้า รวมถงึ การนำ ขยะ หรอื วสั ดุเหลอื ใช้มาผลิต
เป็นของใช้เพิ่มยิ่งข้ึนเพื่อลดปัญหาขยะล้นโลก การวิจัยและพัฒนาวัตถุดิบการผลิต และกระบวนการ
ผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และการผลิตเฟอร์นิเจอร์ วัสดุรีไซเคิลซึ่งขั้นตอนจะไม่ยุงยากซับซ้อน
แต่ต้องอาศัยความคิดสร้างสรรค์ในการ ออกแบบเพื่อให้แปลกใหม่มีความน่าสนใจ หรือตามสไตล์ที่
ชื่นชอบและสามารถใชง้ านได้ดี

2.2.2 ความแตกต่างของคณุ สมบัติ
ความแข็งแรงทนทาน
ไม้สักเป็นไม้เนื้อแข็ง เฉลี่ยอายุการใช้งานไม่ต่ำกว่า 10 ปีโดยไม่เสื่อมคุณภาพ

แตกต่างจากไม้ชนิดอื่นเช่น ไม้สนที่มีความคงทนเพียง 2-6 ปีเท่านั้น และยังรับน้ำหนักได้ราว 1,000
กิโลกรัม/ลูกบาศก์เซนติเมตร จึงสามารถใช้สร้างเป็นเรือนพักอาศัยได้ ดังนั้นเมื่อนำมาทำเป็น
เฟอร์นิเจอรจ์ งึ ไม่ตอ้ งกงั วลเรอ่ื งความแข็งแรงทนทาน

สนี ้ำตาลเขม้ ภมู ฐิ าน
ไม้สักมีหลายเฉดสี ตั้งแต่สีน้ำตาลอมแดงสดใส สีน้ำตาลกลาง จนถึงสีน้ำตาลเข้ม

ซึ่งเป็นโทนสีที่สวยงามที่สุดของไม้สัก ให้ความรู้สึกเคร่งขรึม ภูมิฐาน เหมาะกับทำเป็นเฟอร์นิเจอร์
ประดับในบ้านหรือสถานที่ที่ต้องการความเป็นผู้ใหญ่ นอกจากนี้รอบวงปีของแกนในเนื้อไม้สักยัง
สวยงาม หากตอ้ งการทำเฟอร์นเิ จอร์ที่โชว์ลายไม้ก็จะสวยงามย่งิ ขนึ้

งา่ ยต่อการแปรรูปเปน็ เฟอรน์ เิ จอร์
เพราะสามารถตัด ไส ทำลวดลายแกะสลกั และตกแต่งทำสีได้งดงาม

ข้อดีและข้อเสียของเฟอรน์ เิ จอร์ไมแ้ ต่ละประเภท
เฟอร์นิเจอร์ไม้ในสมัยนี้มีการผลิตออกมามีมากมายหลากหลายประเภท คุณภาพ

ในการใช้งานก็มีความแตกต่างกันไปตามวัสดุแต่ละประเภท รวมถึงราคาที่สูงต่ำแตกต่างกันไป วันน้ี
เราจะมาพูดถึงข้อดีและข้อเสียของเฟอร์นเิ จอร์แต่ละประเภท เพือ่ ช่วยให้คุณสามารถพิจารณาในการ
เลือกซื้อเฟอร์นิเจอรไ์ ด้ง่ายขึ้น และแนะนำเกี่ยวกับการเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ไม้ประเภทต่าง ๆ ให้ตรง
กบั ความตอ้ งการในด้านของการใชง้ านในชีวิตประจำวนั ไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธิภาพ

22

ไม้จรงิ หรือไมธ้ รรมชาติ
เป็นไม้ที่ทำมาจากลำต้นของตน้ ไม้โดยตรง โดยผ่านกระบวนการผลิตแยกสว่ นและตัดมา

ประกอบกลายเปน็ เฟอร์นเิ จอร์ประเภทตา่ ง ๆ โดยสว่ นมากนิยมไปใชท้ ำเฟอรน์ เิ จอร์ เช่น ชนั้ วางของ
พารต์ ิช่ัน โต๊ะทำงาน

ขอ้ ดขี องไมจ้ ริงหรือไมธ้ รรมชาติ
มีความแข็งแรงทนทานสูง วัสดุไม้จริงเป็นไม้ที่ทนทานต่อการใช้งานมาก ส่วนมาก

เฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ไม้จริงในการผลิตจะไม่เสียหายและผุพัง ทนทานต่อการ ใช้งานไม่ว่าจะยก
เคลอื่ นยา้ ย กค็ งสภาพสมบูรณแ์ ขง็ แรงไดอ้ ยา่ งสมบูรณ์แบบ

– อายุใช้งานยาวนาน
- ใช้งานอย่างแพร่หลาย วัสดุที่ทำจากไม้เป็นที่นิยมมากในการใช้งานสำหรับผลิต
เฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ เชน่ คาน โครงหลงั คาบา้ น หน้าต่าง ประตู เป็นตน้
- เอกลักษณ์ความเป็นไทย ส่วนมากวัสดุไม้จริงจะมีลวดลายเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร
จะถกู นำไปผลิต เชน่ ของใชใ้ นครวั เรอื น เรือนไทย เครอ่ื งดนตรีไทย
ข้อเสยี ของไมจ้ รงิ หรอื ไม้ธรรมชาติ
เปน็ รอยขดี ข่วนไดง้ ่าย ดแู ลรักษาไดย้ าก เกดิ การกดั เทะจากปลวก เนื่องจากเปน็ อาหาร
ของปลวก ทำใหห้ ลีกเล่ยี งการปอ้ งกันจากปลอกกนิ ไมไ้ ดย้ าก
ไม้ปาร์ติเคลิ บอร์ด
เกิดจากการนำเศษไม้หรือขี้เลื้อยมาประสานกันโดยใช้สารเคมี นำมาบดอัดด้วยความ
ดนั สูง
ขอ้ ดขี องไมป้ ารต์ ิเคิลบอร์ด
- มนี ้ำหนกั ทคี่ ่อนข้างเบา สว่ นมากเฟอร์นิเจอรท์ ี่ใช้วสั ดปุ ารต์ ิเคิลบอร์ด นำไปใชผ้ ลิตเป็น
เฟอร์นิเจอร์ประเภทต่าง ๆ เช่น ตู้เสื้อผ้า ชั้นวางของ เพราะว่ามีน้ำหนักที่ค่อนข้างเบา เคลื่อนย้าย
สะดวก
- ตกแตง่ บา้ น เฟอรน์ ิเจอร์ท่ใี ชไ้ ม้ปาร์ติเคิลบอร์ดส่วนมากจะนำไปใชต้ กแต่งภายใน เชน่
บ้าน คอนโด ห้องพัก เป็นต้น เพราะว่าไม้ประเภทนี้มีความสวยงาม ทันสมัย ให้ความรู้สึกที่อบอุ่น ดู
สบายตาตา้ นทานแมลง ปลวก และความชืน้
ข้อเสยี ของไม้ปารต์ เิ คลิ บอร์ด
- อายุการใช้งานน้อย ไม้ประเภทน้มี คี วามแข็งแรงตำ่ เนือ่ งจากทำมาจากเศษไม้ ทำให้มี
อากาศแทรกผา่ นได้ ทำใหก้ ารยึดเกาะไมม่ ีคุณภาพ
- เมือ่ โดนนำ้ จะทำให้เกดิ การเป่อื ย ยุย่ ได้

23

ไม้เอม็ ดเี อฟ
เกิดจาการนำเศษมาชิ้นเล็กชัน้ เล็กมาผ่านกระบวนการอดั รวมกันเป็นแผ่นไม้ หลังจากน้ัน

นํามาปดิ ผิวไมด้ ว้ ยแผน่ ลามิเนตหรือกระดาษพลาสติก
ข้อดขี องไม้เอม็ เอฟ
- เนื้อไม้ใหค้ วามสัมผัสท่ีมีความระเอยี ดและเรียบเนยี น
- มีน้ำหนักเบา สามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวก เหมาะสาหรับคนที่ชอบเคลื่อนย้าย

เฟอร์นิเจอรบ์ ่อย ๆ
- ทาสแี ละขัดสงี ่าย

ข้อเสียของไมเ้ อ็มเอฟ
- มีความหนาแน่นของเนื้อไม้ค่อนข้างน้อย ทำให้รองรับน้ำหนักได้ไม่มากและมีโอกาส

ชํารุดและเสียหายได้งา่ ย
- เมื่อได้รับความชื้นหรือน้ำ จะทำให้พลาสติกที่เคลือบผิวหนังบวม และทำให้เกิดการ

เปือ่ ยยุ่ยได้
ไมอ้ ัด
เกิดจากนำแผ่นไมบ้ าง ๆ ทีไ่ ด้จากทอ่ นซุงขนิดเดียวกนั หรือหลายชนิดมาอัดติดกันโดยใช้

กาวเปน็ ตัวอัดแนน่ โดยให้แนวเสย้ี นตงั้ ฉากกันและนำไปอบแหง้
ข้อดีของไม้อดั
- มคี วามแขง็ แรง ทนทานสูง ไมย่ ดื หดเมอื่ เจอความชนื้
- ตกแต่งได้ง่าย สามารถเจาะรูหรอื ใช้ตะปูในการตกแตง่ ได้อยา่ งอสิ ระ
ข้อเสยี ของไม้อัด
- ไม้มีความหนาแนน่ มาก ทำใหม้ นี ้ำหนักค่อนข้างสูง เคลือ่ นยา้ ยได้ลําบาก
- ถึงแม้ว่าไม้อัดจะไมย่ ืดหดเมอื่ เจอความชืน้ แต่ถา้ โดนน้ำแล้วจะทำให้เกดิ การพองตัวและ

เสียรูปทรงไปจากเดิมได้
2.2.3 การทำให้เกิดจุดเด่น
ประเภทไม้มีให้เลือกทั้งไม้ในประเทศเอง หรือไม้จากต่างประเทศ โดยการเลือกไม้น้ัน

จำเป็นต้องเลอื กชนิดไม้ คุณภาพหรอื คณุ สมบัตขิ องไมใ้ ห้เหมาะกบั ประเภทงาน อย่างเชน่ การเลอื กไม้
เนื้ออ่อนมาใช้เป็นไม้โครงสร้างอาจจะเกิดการบิ่นหักได้ง่าย หรือการเลือกประเภทไม้ที่มีไม้ผิวสัมผัส
หยาบ ลายไม่สวยมาใช้เป็นส่วนตกแต่ง ก็คงดูไม่สวยงาม จึงควรเลือกนำไม้มาใช้อย่างเหมาะสมเพื่อ
ชว่ ยให้ไม้มีความคงทน ดแู ลรกั ษาง่าย และมอี ายกุ ารใชง้ านไดย้ าวนาน เพราะฉะน้ันก่อนท่ีจะเลือกไม้
มาใช้ในงาน ไม่ว่าจะเปน็ งานประเภทใดกต็ าม ควรศกึ ษาหาข้อมลู เก่ียวกบั ประเภทไมต้ ่าง ๆ ให้ถ่ีถ้วน
เสยี ก่อน ไม้ยางพารา ตน้ ยางพาราเปน็ ต้นไมโ้ ตเร็ว ในสมัยกอ่ นยงั ไม่ค่อยมีการนำมาใชใ้ นลักษณะของ

24

ไม้แปรรูป แต่จากการที่ไม้ยางโตเร็วและมีมาก ทำให้สามารถนำมาใช้ในระบบอุตสาหกรรมได้ แต่
เนื่องจากต้นยางนั้นจะมีสารอาหารของปลวกและเชื้อรา ทำให้เกิดการพัฒนากระบวนการปรับปรุง
คุณภาพของไม้ด้วยการอัดน้ำยากันปลวกและอบแห้งเพื่อให้เนื้อไม้คงทนแข็งแรง ทำให้สามารถ
นำมาใช้งานไดม้ ากย่ิงขึ้น เนอื่ งจากไม้ยางพาราน้ัน ราคาไม่แพง สามารถหาได้ง่าย และมขี อ้ ดีอีกอย่าง
คือ เป็นไม้สีอ่อน ทำให้สามารถนำไปทำสีได้ง่ายด้วย ดังนั้นจะเห็นว่าเดี๋ยวนี้มีการนำไม้ยางมาใช้งาน
กันอย่างกว้างขวาง และหลากหลายรูปแบบมากยิ่งขึ้น ไม้มะม่วง ทุเรียน ขนุน เรียกได้ว่าเป็นไม้หัวไร่
ปลายนา เกิดจากการที่หาได้ง่าย มีมากและราคาถูก แต่เป็นไม้เนื้ออ่อน ที่จำเป็นต้องนำมาผ่าน
กรรมวิธีอัดน้ำยากันปลวกและอบแห้ง จึงจะสามารถนำมาใช้งานได้ดี ส่วนใหญ่จึงนิยมนำไม้ มาทำ
เฟอร์นิเจอร์ เพราะเน้อื อ่อน สามารถ ไส ตัด ตกแตง่ ไดง้ า่ ย ไม้จำปา ลักษณะเนอ้ื ไม้มีสีน้ำตาลอ่อนจึง
สามารถย้อมทำสีได้ง่าย เนื้อไม้ละเอียด เสี้ยนน้อยแต่ไม่คงทนต่อความชื้น ดังนั้นควรใช้ในส่วนของ
งานภายในอาคาร เช่น ประตู ในสมัยก่อนไมน่ ิยมนำไม้จำปามาใช้ในส่วนประกอบของบ้าน เนื่องจาก
สมัยก่อนนิยมใช้ไม้จำปาเป็นไม้สำหรบั ต่อโลงศพ คนส่วนใหญท่ ่มี ีความเช่ือในเร่ืองนี้ ก็จะไม่นิยมใช้ไม้
ชนิดนส้ี ำหรับสรา้ งบา้ น แต่ปัจจุบันในอุตสหกรรมไมแ้ ปรรปู ก็จะเห็นว่ามกี ารใช้ไมจ้ ำปามากขึน้

25

บทท่ี 3
วธิ ีการดำเนนิ งาน
ในการจัดทำเพื่อการศึกษาการนำไม้เหลือใช้มาทำประโยชน์เพื่อสิ่งแวดล้อม ผู้จัดทำมีวิธี
ดำเนนิ งานตามขนั้ ตอนดังน้ี
3.1 ประเภทของรายงานการประยกุ ตใ์ ช้
3.1.1 ประเภทเครื่องใช้
ผนังหัวเตียงจากประตูไม้เก่า สามารถนำเอาประตูเก่าที่ไม่ได้ใช้ นำมาขัดให้สะอาดทาสี
ตกแต่งตามที่เราต้องการได้ หรือแนวยุคเก่าได้ยิงดูแล้วสวยงาม เหมาะสมกับการแต่งห้องนอน
ตกแตง่ ไดห้ ลากสี
ชั้นวางของโชว์ติดตั้งบนผนัง สามารถใช้ไม้พาเลทมาดัดแปลงเป็นชั้นว่าของได้อย่างแรก
ต้องขัดไม้ก่อนทุกครั้งเพราะว่าไม้นั้นจะมีเซี้ยนหลังจากนั้น ใช้แผ่นเหล็กเจาะรูเป็นหูยึดได้กับผนัง
ตกแต่งได้หลากหลาย ทำเป็นตะขอเกยี่ วสิ่งของได้
ม้านั่งสำหรับวางรองเท้าด้านล่าง สามารถนำไม้พาเลทมาใช้ได้โดยสว่ นใหญท่ ี่เราจะพบไม้
ชนิดนี้อย่างมากมายรวมถึงไม้พาเลทถูกผลิตออกมาจากไม้หลายชนิดเนื้ออ่อนหรือเนื้อแข็ง สามารถ
กำหนดเป็นม้านั่งยาวด้านลา่ งทำเป็นท่ีวางรองเท้าตกแต่งข้างประตูบ้านหรือหน้าประตูห้อง สามารถ
แต่งสีเป็นสีไม้เป็นธรรมชาติทำให้ดูคลาสสิค หรือทำสีขาว,สีเทา,สีดำจะทำให้ดูโมเดิร์นกับห้องสีขาว
ตามสไตลข์ องเราได้
กรอบรูปไมใ้ ส่ของ สามารถนำไม้เกา่ ต่างๆหลายชนิดมาใช้ไดท้ ำเป็นกรอบรปู ไดต้ ามแนวทาง
ของเราตามความต้องการได้ การต่อเศษไม้เข้าด้วยกันเป็นกรอบรูป ให้มีรูปทรงและขนาดเท่าท่ี
ต้องการ และทำความสะอาดให้เรียบร้อย ให้ลงสีกรอบรูปไม้ ออกจินตนาการ วาดลวดลายตามใจ
ชอบ เมอื่ สีแหง้ เรยี บร้อย เจาะตะขอเกลยี วลงบริเวณกรอบด้านในของกรอบรปู ไม้ ทง้ั 2 ดา้ น วดั ความ
ห่างใหพ้ อดีกบั ความสูงของรปู ท่จี ะนำมาใส่กรอบ
ตะแกรงวางขวดไวน์ การทำตะแกรงวางขวดไวน์นั้น วัสดุที่ใช้โดยสามารถนำไม้พาเลทมา
ใช้ได้ นำไม้มาตัดกันเป็นสี่เหลี่ยมตามมุมตามความต้องการใช้สกรูยึดทั้งสี่มุมแล้วใช้ไม้ที่เป็นฐาน
นำมาใช้เป็นท่ีกั้นขวดไวน์รวถึงการตกแต่งด้วยสีสันตามความต้องการ แต่ถ้าใช้สีทาลายไม้จะทำให้ดู
คลาสสิค ทำให้รู้สึกเหมือนบาร์ สไตล์ตะวันตกดูแล้วมีแสน่ สีของไม้นั้นทำให้ดูแล้วสงบทำให้นึกถึง
ความทรงจำเก่าได้หรือวา่ เปลี่ยนเป็น สไตลโ์ มเดิรน์ โดยใชส้ ีโทนเยน็
การทำโต๊ะไม้ การทำโต๊ะสามารถทำได้หลากหลายสไตล์ง่ายๆด้วยตัวเราได้โดยใช้ไม้พาเลท
เพราะตัวโครงของไม้พาเลทนั้นเป็นสีเหลี่ยมทำได้งานโดยนำไม้พาเลทมาใช้ 3 ตั้ง สามารถใช้ ไม้พา

26

เลท 2ตั้ง เพื่อทำเป็นข้าของโต๊ะได้ สามารถตัดไม้ตรงกลางแบ่งเป็นขึ้น 4 ขา โดยใช้เลื่อย ตัดไม้
กึ่งกลาง ของไม้พาเลททัง้ 2 ตั้ง นำมาประกอบกนั กับ ไม้พาเลท ตั้งที่1 และยังสามารถทำเป็นโต๊ะที่มี
ลน้ิ ชกั ไดอ้ กี โดยใช้ไมท้ ำเปน็ บล็อกสเี่ หลี่ยม หรือใชร้ างเหลก็ สำเรจ็ รปู แบบมีล้อเลอื่ น สำหรับการเลอื่ น
ลน้ิ ชักได้ รวมถึงใช้ไม้ท่ีตดั เหลือมาทำเป็นฝาล้ินชักไดอ้ กี ดว้ ย

ลิ้นชักเก็บของ การทำลิ้นชักอาจจะต้องใช้ไม้จำนวนหนึ่งสามารถใช้ไม้พาเลทมาเป็นลำตัว
ของต้ลู นิ้ ชักการทำน้ันไม่ซบั ซ้อน แตถ่ า้ ผู้ที่มีฝีมือด้านช่างไม้ก็สามารถทำเป็นรูปแบบท่ีละเอียดได้ตาม
ความคิดสร้างสรรค์ โดยทั่วไปแล้วนั้นจะมีหลากหลายแนวทาง ในการทำตู้ลิ้นชักพื้นฐาน การทำ
รูปแบบจะคล้ายกับการทำโต๊ะแต่ความกว้างความยาวหรือความสูงเป็นตามที่เรานั้นได้ออกแบบการ
ใช้งาน ตัดไม้อัดออกเป็นแผ่นตัดไม้อัดเพื่อทำเป็นส่วนแผงด้านข้างลิ้นชัก จากนั้นนำทั้งหมดมา
ประกอบเขา้ ด้วยกัน โดยประกอบใหแ้ ต่ละมุมชิดกันสนทิ ติดกาวใหฐ้ านลน้ิ ชักกบั ด้านข้างลิ้นชักติดกัน
โดยใหฐ้ านลิน้ ชกั ด้านล่างสูงจากพ้ืนขึ้นมา 1/4 น้วิ เพือ่ ความสะดวกในการเลื่อน และพอดี อุดรอยรั่ว
และความไมเ่ รียบเนียนของเน้ือไม้ ดว้ ยสโี ปว๊ ไม้ จากนนั้ ท้ิงไว้ให้แห้ง ใชก้ ระดาษทรายหยาบขัดเน้ือไม้
ให้เนียน และเก็บเหลี่ยมมุมท่ีเกินออกมา ทาสีที่ต้องการลงไป จะใช้สีทาไม้ทัว่ ไป หรือจะใช้สเปรยฉ์ ีด
พ่นเอาก็ได้ เจาะรูเพื่อติดหูจับลิ้นชักที่เลือกไว้ ไม้นั้นเป็นสิ่งที่นำมาใช้ประโยชน์ได้เป็นสิ่งที่มีค่าของ
ธรรมชาตทิ ีม่ อบใหพ้ วกเรา เพอ่ื เปน็ การดีทีจ่ ะนำมาใชใ้ หค้ ุม้ คา่ ดกี ว่าการท่ีจะต้องเสียไป

แผงใส่เอกสารติดผนัง สามารถนำไม้อัดมาทำได้เป็นฐานหลัง และกล่องใส่เอกสารตัดเป็น
สี่เหลี่ยมจัตุรัสมุมข้างให้ตัดเป็นสามเหลี่ยมสองข้าง ใช่สกรูยึดติดกับฐานหลังที่ติดกับผนังแล้วใช้แผน่
เหล็กรยู ดึ ตดิ กับผนังหรือใชต้ ะแกงเหล็กเก่ามาทำเป็นเปน็ แผงใส่ก็ได้ นำไม้มาทาสีเพื่อความสวยงาม

ถังใส่น้ำแข็ง สามารถนำไม้พาเลทมาทำถังใส่น้ำแข็งทีด่ ูมสี ไตล์ไดใ้ ช้ไมพ้ าเลทตัวฐานทำเป็น
ตัวทำมุมเป็นสีเหลี่ยม แล้วใช้ไม้ฐานอีกเป็นลำตัวของถังและฝาเปิดปิด นำเหล็กพับสำหรับการทำ
ประตูมาใช้เป็นการใช้เปิดปิดใช้สกรู เพื่อยึดติดในฝั่งเดียวกัน2ข้าง เตรียมไม้ฐานพาเลท มาประกอบ
ให้เป็น3เหลี่ยมเหมือนตัวลูกสอนใชก้ าวไม้ทาหวั เหลก็ แหลมท่ีเป็นเครื่องมือที่ใช้ยิดโครงไม้คือปืนตะปู
ยิง3-4จุด ตรงกลางและด้านข้างทง้ั สองด้านทำท้ัง4มุมแลว้ นำไม้อีก4ท่อนมายึดดามก่ึงกลางขาของถัง
ใสน่ ้ำแขขง็ ทง้ั 4ดา้ นหลังจากน้ันใช้แผ่นเหล็กหว่ งที่ใช้คล่องกับแม่กลุ แจโดยใชสกรูยึด4มุมใช้สกรูขนาด
เล็ก แล้วก็เหล็กที่ใช้สวมคล่องกับแม่กับแม่จุลแจอีก4มุม แล้วทำการขัดไม้โดยใช้เครื่องขัดหรือ
กระดาษทรายให้เรียบเนียนเช็ดออกแล้วใช้สีเคลือบไม้เพื่อทำให้มีลวดลายที่สวยเป็นสีที่ดูแล้วดึงให้
เหน็ ลายไมท้ ่ีดแู ลว้ สวยงามสามารถตกแตง่ ให้ดแู ล้วคลาสสคิ

3.1.2 ประเภทเครอื่ งตกแตง่
การแต่งผนังด้วยไม้ซุง การตกแต่งกำแพงผนังห้องด้วยไม้ซุงกลมนั้นสามารถทำได้

อย่างสวยงามโดยใช้กาวสำหลับใช้ติดผนังกับไม้ให้ติดเรียงกันตามแนวนอนให่ทั่งผนังแต่อาจจะต้องใช้

27

ไมเ้ ยอะสักหน่อยหรอื อาจจะใชไ้ ม้สเี หล่ียมยาวติดกนั เป็นแนวยาวก็ได้โดยเฉพาะถา้ ขัดไมใ้ ห้ดเู นยี นแล้ว
จะทำให้ดูสวยงามได้ไม้บางชนิดอาจจะทำให้เห็นร่องรอยไม้ชัดเจน ทำให้ดูสวยงานมากขึ้นโดยใช้สี
เคลอื บไมใ้ หเ้ งางามหรือใชส้ เี คลือบดา้ นก็ดคู ลาสสิคไปอีกแบบ

โคมไฟไม้ การทำโคมไฟสามารถทำเองโดยใช้ไม้เก่าที่บ้านก็เปน็ ตัวเลอื กที่ดี เราสามารถ
ใชค้ วามคดิ สร้างสรรค์ของเราได้หลากหลายแบบตามความต้องการของเรา หรอื เปน็ การออกแบบโคม
ไฟใช้แขวนกับผนังหรือโดมตั้งโต๊ะและโดมติดเพดาน ในที่นี้จะว่าถึงโดมที่ใช้ตั้งโต๊ะ ถ้าเรามีเครื่องมือ
และฝีมือสามารถทำรูปทรงที่แตกต่างที่ยากขึ้นได้ โดยพื้นฐานที่เราได้พบเห็นนั้นจะเป็นทรงที่มีมุม
เหลี่ยมเป็นส่วนใหญ่ เราต้องทำการตัดไม้ให้เป็นสีเหลี่ยมแนวตรงมาต่อเป็นแนวตั้งติดกันตามมุมสี
เหลี่ยมโดยให้วนมา ประกบติดต่อกันให้เป็นลำตัวและฐานให้ตัวเป็นสีเหลี่ยม จัตุรัส ติดด้านล่างด้วย
กาวในสว่ นลำตวั ทงั้ หมดก็ใช้กาวท่ีมีความยดื หยุ่นสูงแล้วเป็นกาวสำหรับงานไม้ หัวโคมไฟให้ติดตั้งเป็น
รูปแบบเว้นระยะ1นิ้วเป็นช่องให้แสงไฟได้ออกมาทำเป็นรูปแบบทั้งส่วนหัวเป็นสีเหลี่ยม ก่อนที่จะทำ
ช่องไว้สวมใส่หลอดไฟตัดไม้4ส่วนไวด้ ากับหัวโคมไฟ โดยลำตัวโคมไฟให้ใชไ้ ม้อัดติดภายใน3สว่ นส่วน
ล้างสุดที่เราได้ทำให้เจาะรูไว้สำหรับโยงสายไฟไม้อัดส่วนบนให้ตัดให้เป็นวงกลมที่สามารถสวม
หลอดไฟที่เป็นเต้าไฟได้แล้วใช้ไม้อัดตัดเจาะเป็นวงกลมอีกใช้ดามเต้าที่ไว้ใช้สวมใส่หลอดไฟหลังจาก
นั้นใหต้ กแต่งตามแบบท่ีต้องการขัดไม้ให้เรียบเนียนท่จี ะลงสีได้ง่ายและไม่มีขุยไม้หรือเราสามารถเจาะ
รทู ำเป็นทไ่ี วส้ วมใส่สวดิ ไฟไดเ้ สรจ็ แลว้ เราก็จะไดโ้ ดมไฟตามต้องการ

โคมไฟแขวนเพดาน การทำโคมไฟแขวนเพดานยังสามารถใช้เศษไม้ประเภทไม้แดงเก่า
หรือใช้ไมอ้ ัดหรอื ใช้เหมือนเปน็ เศษไมใ้ ช้เพื่อเปน็ การตกแต่งก็ได้ทำใหร้ ูปแบบเปน็ เกรียวเหมือนตะข่าย
ทำให้มีความสวยงาน สามารถใช้รากไม้หรือเถาวัลย์ มาทำเป็นใก็เป็นเหมือนวงกลม ใช้กาวเหนียว
สำหรับไม้ ให้ใช้เชือกหรือเถาวัลย์มัดตามด้วยกาว ใช้ไม้อันตัดเป็นสี่เหลี่ยมเล็กไว้สำหรับใส่เต้าไฟ
สำหรับใส่หลอดไฟ และเจาะรูเล็กไว้สำหรับใส่สายไฟหรือใช้สายไฟสำหรับที่มีสวิทช์ไฟฟ้าพร้อม
ขั้นตอนการทำที่เรียบง่ายสามารถนำมา ประดิษฐ์อย่างง่ายดายและสวยงามให้ดูดียิ่งขึ้นให้ใช้ไฟ
Warm light คอื ไฟสสี ้มทำใหด้ อู บอ่นุ

3.1.3 ประเภทเคร่อื งใชท้ างศาสนา
แทน่ บูชา ไมส่ ามารถนำมาทำเปน็ แท่นบูชาไดโ้ ดยสว่ นใหญจ่ ะใช้ไมเ้ น้ือแข็งที่เห็นกัน

บ่อยๆคือไม้แดงที่ใช้มาเป็นส่วนประกอบการสร้างบา้ นหรือสร้างบ้านไม้ในสมัยก่อนไม้ชนิดนี้เปน็ ไม้ที่
พิเศษแข็งแรงไม้ชนิดนี้อยู่ได้นานมาก อยู่เป็นศัตวรรษเลยก็ว่าได้ การสร้างแท่นบูชาทางศาสนานั้นมี
หลากหลายรูปแบบความหมายของแท่นบูชา เป็นโต๊ะอาหาร บาทหลวงในฐานะผู้แทนองค์พระเยซู
กระทำสิ่งซึ่งพระคริสต์ทรงกระทำในวันพฤหัสบดีศักดิ์สิทธิ์ และทรงสั่งให้เพื่อเป็นที่ระลึกถึงพระองค์
พระแทนของคริสตชนในสมัยแรกเปน็ โต๊ะไม้เคลื่อนทไี่ ด้ สร้างเป็นโครงขึน้ มาโดย ใหก้ ำหนดขนาดของ
โต๊ะ กว้าง 70 ซม. ยาว 150 ซม. สูง 80 ซม. นำขาทั้ง4ขามาทำเดือย โดยใช้เครื่องเลื่อย หรือใช้ส่ิว

28

และเลื่อยก็สามารถทำเดือยได้เช่นเดียวกัน เจาะรู12มม ที่ขาเพื่อร้อยน็อตยึดกับขา นำขาล่างมาแตง่
โค้งตามรูปทรงด้วยเครื่องขัดกระดาษทราย เมื่อได้เดือยและทำร่องเดือยแล้วก็นำมาประกอบเข้า
ด้วยกันและทากาวทาให้ทั่ว และไม่มากจนเลอะเทอะใช้กาวลาเท็กซ์ ตอกสลักเดือยเส้นผ่าศูนย์กลาง
10มม ทะลุผ่านและตัดออกด้วยเลื่อยเจีย จะได้แผงขาที่ประกอบแล้ว 2 แผง แล้วประกอบกับโครง
สว่ นบนของโตะ๊ ใช้กาวทานำก่อนแลว้ ใชส้ กรูยึดตามมุม ก็จะได้แทน่ บชู า

พระพุทธรูปไม้แกะสลัก ไม้ที่นิยมนำมาใช้ในงานแกะสลัก ได้แก่ ไม้สัก เป็นไม้ที่ไม่แข็ง
เกนิ ไป มลี ายไมส้ วยงาม สามารถแกะลายต่างๆได้ง่าย หดตวั น้อย ทนนานตอ่ สภาพดินฟ้าอากาศและ
ปลอดภยั จากปลวก มอดและแมลง ไม้ทน่ี ิยมรองลงมาคือ ไมโ้ มก ไมส้ น ท่สี ำคญั คือ ไม้ที่นำมาทำการ
แกะสลัก แต่การแกะสลักจะต้องใช้ฝีมือในการสร้างผลงานหรือฝึกฝน ถ้าการฝึกเริ่มต้น ให้ฝึก
แกะสลักเป็นรูปแบบภาพนูนต่ำก่อน ให้เรากำหนดรูปแบบง่าๆที่เหมาะสนกับเรา เช่น ภาพใบไม้,
ภาพการ์ตูนสัตว์ตัวเล็กที่ลายละเอียดไม่มากหรือการ์ตูนรูปแบบมนุษย์ การสร้างรูปแบบงานให้ใช้
อุปกรณ์ในการแกะสลักจำพวก มีดแกะสลักหรือสิ่งเล็กๆ มีดที่ใช้แกะให้เป็นรอยลึก โดยทำการแกะ
ตามรูปแบบท่ีเรานนั้ กำหนดขึ้นมา แต่กอ่ นท่จี ะแกะสลกั ให้ใช้ดินสอรา่ งภาพก่อนเพื่อความแมน่ ยำและ
เราสามารถกำหนดสัดส่วนได้ง่าย ทำการแกะตามรอยแกะให้ลึกถ้าแกะตามรอยแล้วให้ใช้มีดโค้งแกะ
ให้เปน็ นนู โคง้ เพือ่ ทำใหม้ ีมติ ิมากยง่ิ ขึ้น ถา้ ทำไดค้ ลอ่ งแล้วสามารถตอ่ ยอดทำให้เปน็ รูปร่างได้ทำให้เรา
ทำผลงานที่ยากขึ้นไปอีกได้หรือว่าสามารถนำมา ประยุกต์ใช้เป็นอาชีพเสริมได้ ที่สำคัญอีกอย่างคือ
เรื่องการลงสกี ารลงสีท่ีละเอียนจะยงึ ทำใหผ้ ลงานดูมีระดบั มากยง่ิ ขึ้นเราจะพบให้ในร้านแกะสลกั ทั่วไป
แต่ส่วนใหญ่จะพบเห็นเป็นงานสั่งทำเฉพาะทางศาสนาหรือตกแต่ง เช่นจำพวกใบหน้าพระพุทธรูป,
รวดลายที่ใชต้ กแต่งผนังห้องต่างๆ ตามรูปแบบของผู้ทีต่ ้องการบอกได้วา่ งานตกแตง่ แกะสลักนี้ทำเงิน
ได้ดีเลยที่เดียวเลยสำหรับผู้ที่มีฝีมือสูงด้านนี้ ไม่ใช่เพราะงานด้านศาสนา งานด้านศิลปะทั่วไปก็ด้วย
เช่นกันเพราะคนส่วนใหญ่มีความต้องการให้ที่อยู่ของตนดูน่าอยู่น่าหลงใหล ในความสวยงาม ที่ทำให้
รูส้ ึกว่าบา้ นของพวกเขาน่าอยูแ่ ละให้เครือญาติของเขาร้สู ึกช่นื ชอบ

3.1.4 ประเภทงานยทุ โธปกรณ์
ด้ามมือจับ เป็นอุปกรณ์ที่เรารู้กันดีมีการผลิตออกมาหลากหลายหน้าที่ เช่น มีดที่ใช้

สำหรับทำครัว, ดาบยาว, กรรไกรตัดหญ้า,เคียว, จอบ, ค้อนหรือขวาน ที่ถูกสร้างมาตามโอกาสต่างๆ
เพอื่ ความต้องการของวิถีของมนุษย์เรา โดยมีการถกู ใช้งานในการเกษตร, งานก่อสร้าง, งานครวั , การ
ทำสงครามในสมัยก่อน การสร้างด้ามจับโดยใช้ไม้ โดยมีการใช้ไม้หลากชนิด ประเภทของไม้ มีการใช้
ไม้เนื้อแข็ง, ไม้เนื้อแข็งระดับกลาง แต่ส่วนใหญ่แล้ว เขามันจะใช้ไม้เนื้อแข็งระดับกลางเพราะว่ามี
ความยดื หย่นุ หรือซบั แรงกระแทกได้ เช่น ไม้ยาง เปน็ ไม้ หยาบ และ อ่อน เหมาะกบั การใช้งานในท่ี

29

ร่ม เนื้อไม้สีแดงเข้ม จะแข็งแรงกว่าไม้สีอ่อน การออกแบบของมีดนั้นง่ายเพราะมันประกอบด้วย
โดยตรงจากใบมีด และมือจับ เมื่อซื้อเรามักใส่ใจกับวัสดุความคมชัดและรูปร่างของใบมีด มันมาจาก
รูปร่างที่เราเลอื กและขนาดของที่จับจะขึ้นอยู่กับความสะดวกในการใช้งานของวัสดุความคล่องแคลว่
และประสิทธิภาพของการทำงาน การเลือกวัสดุมีความสำคัญเท่าเทยี มกัน ตัวอย่างเช่นหากคุณกำลงั
จะใช้เครื่องมือ จะมีการทำจากวัสดุที่ทนทานและทนต่อการสึกหรอ เพื่อใช้สำหรับการใช้งานที่บ้าน
และด้ามจับจะเหมาะกับมือจับจากไม้และวัสดุที่มีน้ำหนักเบา รวมถึงเพื่อที่จะช่วยให้มีการใช้งานได้
นาน ประเภทของดา้ มจบั รปู ไข:่ แบบฟอรม์ นี้ถอื ว่าสะดวกสบายท่ีสุดเน่ืองจากมีความเหมาะมือท่ีง่าย
ที่จะจับสำหรับอุ้มมือจับจะสงั เกตได้ว่ารูปร่างของรูปไขน่ ั้นยงั มกี ารทำชอ้ นส้อมอีกดว้ ย ตรง: ลักษณะ
ของท่จี บั น้ันจะทำเปน็ มดี ครัว หรือสำหรับเครอื่ งมือล่าสัตว์ไมเ่ หมาะกบั การทจ่ี ะนำมาใช้ในการทำงาน
จะทำใหม้ ีอาการเมื่อยล้า กรวย: ท่จี บั จะมีความคลา้ ยกันมีรูปร่างตามพ้ืนฐานจะทำให้ไม่หลุดออกจาก
มือในระหว่างการใช้งาน สามารถนำไม้มาเหลาให้เป็นรูปร่างตามต้องการและตัดหรือแซ๊ะให้เป็นร่อง
สำหรับใส่แผนเดือยมีดแลว้ ให้เจาะรใู ห้ทะลุออกมาทั้ง2ฝ่ังไว้สำหรบั ใส่เดือยไว้ยดึ กับมีดที่จัดเตรยี มไว้
แตใ่ หท้ ากาวดำกอ่ น เรากจ็ ะไดด้ ้ามของมดี ออกมาใหข้ ดั ไม้แลว้ ลงดว้ ยการเคลอื บแลคเกอร์ไม้

คนั ธนไู ม้ ธนนู ัน้ ท่ีเราพบในประวัติศาสตร์นั้นมักจะถูกใชม้ ากท่ีสุดในชว่ งยุคกลางที่ถูกใช้ใน
กองทัพเป็นอาวธุ ที่มันประสิทธภิ าพในการโจมตีระยะไกลทีม่ ีความรนุ แรงอยา่ งสูง ไม้ที่จะใช้ทำปีกธนู
ใช้ไม้ที่มีเสี้ยนตรงยาว และอ่อนตัวสามารถดัดงอได้ ให้ความเป็นสปริง ไม่หักง่าย ส่วนลูกธนูนั้นใช้ไม้
อะไรกไ็ ด้ ทส่ี ามารถเหลาใหก้ ลม ยาวพอระยะลูกธนู ซ่ึงขน้ึ อยู่กบั ระยะน้าวสายธนู การกค็ อื เตรียมไม้
ก่อน ที่มีด้านหนาประมาณ 2 นิ้ว ในที่นี้ใช้ไม้ยางประสานแบบที่มี สองแผ่นมาประกบกันเพื่อความ
หนา เนื่องจากราคาถูกหาง่าย วาดแบบเข้าไป แล้วใช้เลื่อย Band saw ในการตัด แล้วการขัดต้อง
พยายามใหเ้ รียบทีส่ ุดเทา่ ทีจ่ ะเรยี บได้ เพือ่ ปอ้ งกนั การเกดิ ฟองอากาศ การทำ riser คือ ดา้ มจบั ของธนู
เราเรียกมันว่าอย่างนั้น บางคนเรียก grip บางคนเรียก handle ให้ร่างแบบแล้วก็นำแบบที่วาดใส่
กระดาษ 100 ปอนด์ มาตัดการทำธนู 1 คัน ไม่ใชเ่ รอ่ื งง่าย มนั จะมคี วามละเอยี ดอ่อนในเร่ืองของแรง
ดึงความยืดหยุน่ ต้องใช้ความ ปราณีต แล้วสามารถลองรบั แรงดึงมหาศาล ถ้าใช้ไม้เนื้อแข็งก็ไมเ่ หมาะ
เพราะว่ามนั ไมม่ คี วามยดื หย่นุ ของน้าวในการใช้งาน

อาวุธปืน ในสมัยก่อนก็มีการสร้างหรือคิดค้นอาวุธที่ใช้ดินดำที่เราเรียกกันว่าดินปืนท่ี
สามารถยิงลูกตะกัว่ ออกมา เป็นทีถ่ ูกใช้ในการยงิ ระยะไกล ท่ีมคี วามรวดเรว็ มกี ารทำลายสงู ในสมยั ยุค
กลางจะมีปืนที่เรียนว่า ปืนคาบศิลาเป็นปืนที่ใช้ดินปืน แรงดันต่ำ ตำกรอกทางปากกระบอกปืน
จากนั้นรอง หมอนนุ่น หรือผ้า แล้วใส่หัวกระสุนทรงกลม ปิดด้วยหมอนอีกชั้น ปืนชนิดนี้เมื่อบรรจุ
กระสุนไว้ต้องถอื ตั้งตรงตลอด ไม่งั้นกระสุนอาจไหลออกจากปากลำกล้อง เวลาจะยิงตอ้ งใช้ หิน คาบ
ศลิ าหนิ ไฟ ตอกกระทบโลหะ มักทำเป็น คอนกตดิ หินไฟ ผงกด้วยสปรงิ เพอ่ื จดุ ดินขับในถ้วยที่โคนปืน
ให้ไฟแล่บติดดินขับ วิ่งเข้าไปทางรูที่ท้ายลำกล้อง แล้วจึงเกิดการลุกไหม้ในดินปืน ระเบิดกระสุน

30

ออกไป ปืนชนิดนี้เป็นต้นแบบของปืนไรเฟิลในปัจจุบันด้วย ไม่มีผู้ทราบว่าใครประดิษฐ์ขึ้น ในช่วง
ปลายครสิ ต์ศตวรรษที่ 14 ในแรกเรมิ่ ปืนคาบศลิ าได้มีการออกแบบให้ใช้กับทหารราบเทา่ น้ัน และได้มี
การปรับปรุงขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 19 ซึ่งเป็นช่วงการปฏิวัติอุตสาหกรรม เช่นมีเกลียวในลำกล้อง
การมกี ลอ้ งเล็ง มีกระสนุ ปลายแหลมซ่ีงแตเ่ ดมิ น้นั เปน็ ลูกกลม และในชว่ งปลายศตวรรษที่ 19 ก็มีการ
ประดิษฐ์ปืนชนดิ ทีบ่ รรจุกระสุนทางท้ายรังเพลิงปนื ซึ่งแต่เดิมนั้นบรรจุกระสุนทางปากลำกลอ้ งเขา้ มา
แทนที่ ย้อนไปในช่วงคริสต์ศตวรรษที่15 ทหารราบของยุคกลางได้มีการใช้อาวุธดินปืนชนิดหนึ่ง
เรยี กว่า ปืนใหญ่ท่ียงิ ด้วยมือ ถึงอยา่ งไรอาวุธดงั กล่าวกย็ ุ่งยากในการใช้ซง่ึ ต้องใชเ้ วลานานในการบรรจุ
กระสุนปนื และไม่ค่อยจะมปี ระสทิ ธภิ าพในการยงิ เมอ่ื ครสิ ต์ศตวรรษที่ 16 ก็เริม่ มกี ารประดิษฐ์ปืนส้ัน
ขึ้นและในช่วงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 17 ปืนคาบศิลาก็ได้เข้ามาแทนที่หอกยาวซึ่งเคยเป็นอาวุธหลัก
ของทหารราบในสมัยน้ัน ปืนคาบศิลาในสมัยศตวรรษที่ 16 เรียกว่า อาร์กิวบัส หรือปืนคาบชุด กลไก
ของปืนชนิดนี้คือใส่ดินปืนลงบนจานดินปืนแล้วใส่กระสุนกลมๆ และดินปืนทางปากกระบอกปืนแล้ว
กระทุ้งให้ดินปืนและกระสุนไปอยู่ในรังดินปืนทางท้ายลำกล้อง เมื่อเหนี่ยวไกก็จะมีเหล็กรูปงูตีที่จาน
ดินปืนจะเป็นการจุดสายชนวนไปที่ท้ายลำกลอ้ งทำให้ดินปืนระเบิดขึ้น แรงระเบิดจะทำให้กระสุนพ่งุ
ออกไปทางปากลำกล้องอย่างรวดเร็ว

หอก ยุคแรก พบหอกเป็นเพียงไม้แหลม ต่อมา มีการเปลี่ยนเป็นหินปลายแหลมนำมาผกู
ติดกับท่อนไม้ ซึ่งจะพบในยุคหินเก่า ในขณะที่ในยุคหินใหม่นั้นจะมีการเหลาปลายหอกให้แหลมขึ้น
ใช้ในการล่าสัตว์ต่าง ๆ เเป็นส่วนใหญ่ หอกในสงครามมีหลายแบบ และใช้กันมากอย่างแพร่หลาย มี
ลักษณะคล้ายกับทวนแต่หอกจะมีความยาวด้ามจับสั้นกว่า และใช้ต่อสู้กันบนภาคพื้นดิน หอกนั้นมี
หลายแบบ เช่น หัวหอกแบบกางเขน หวั หอกแบบ L หวั หอกแบบกางเขน เรียกกัน ว่า หอกกางเขน มี
ลกั ษณะหวั หอกคลา้ ยสัญลักษณ์กางเขน เป็นอาวธุ ทีม่ ีอณภุ าพสูงกว่าหัวหอกแบบธรรมดามาก ทำให้มี
ประโยชนม์ ากในการรบ เพราะจดุ เสียเปรยี บของอาวุธประเภทหอกก็คือ หากใช้การโจมตโี ดยการแทง
จะสร้างบาดแผลกับคู่ต่อสู้ได้น้อยมาก หรือเพยี งคู่ต่อสปู้ ัดเบี่ยงการโจมตีได้เพยี งเล็กน้อยก็ไม่สามารถ
ทำอันตรายได้ จึงมีการพัฒนาหัวหอกแบบใหม่โดยการทำหัวหอกให้เป็นรูปสัญลักษณ์กางเขน ซึ่งทำ
ให้สามารถสร้างบาดแผลหรือความเสียหายได้มาก เพราะส่วนที่เพิ่มเติมเข้ามานั้นมีความคมพอๆกับ
มีด ทำให้สามารถแทงและสรา้ งบาดแผลได้มากมาย

3.1.5 ประเภทงานเฉพาะทาง
ขั้นบันไดไม้ บันไดนั้นเป็นส่วนประกอบการสร้างบา้ นหรือตึกอาคารสำหรับการทำที่

อยู่อาศัย สัดส่วนโดยรวมแล้ว บันได ความกว้างสุทธิไม่น้อยกว่า 80 เซนติเมตร ช่วงหนึ่งสูงไม่เกิน 3
เมตร ลูกตั้งสูงไม่เกิน 20 เซนติเมตร ลูกนอนเมื่อหักส่วนที่ขั้นบันไดเหลื่อมกันออกแล้วเหลือความ
กว้างไม่ น้อยกว่า 22 เซนติเมตร และต้องมีพื้นหน้าบนั ไดมคี วามกวา้ งและยาวไม่น้อยกว่าความกวา้ ง

31

ของบันได โดยส่วนใหญ่แล้วไม้ที่นิยมนำมาใช้ทำเป็นบันไดนั้น มักจะใช้ไม้เต็ง เพราะว่าเป็น เนื้อไม้สี
นำ้ ตาลอ่อน ค่อนข้างแห้งและละเอยี ด ทนตอ่ สภาพดินฟ้าอากาศ เมอื่ หดตวั มักแตกเป็นลายงา เลื่อย
ตัดยากเมื่อแห้ง เหมาะกับงานภายนอกและส่วนที่ใช้รับน้ำหนักหรือเป็นโครงสร้าง เช่น คาน, เสา,
สะพาน, บันได จนมีการนำ อิทหรือปูน ซึ่งนำมาใช้ทดแทนทรัพยากรธรรมชาติ ในปัจจุบัน ถึงอย่าง
นั้นเราก็ สามารถนำไม้ไผน่ ำมาใช้ทำบนั ไดยาวได้ปจั จุบันกย็ ังมีการใช้งานอยู่มากมาย ทัง้ การใชส้ ำหรบั
การทำไฟทางหลวงหรือตดิ ต้ังเครอื ขา่ ยสัญญาณ ตา่ งๆ

หน้าต่างไม้ การทำหน้าต่างมักจะนำไม้สักมาใช้งานเป็นไม้ ที่แข็งแรงพอประมาณ
และปลวกไม่กิน เหมาะสมกับการใช้ทำเครื่องเรือน เช่น ประตู, หน้าต่าง, ตู้, โต๊ะ, เก้าอ้ี เกี่ยวกับการ
ทำหนา้ ตา่ งตามแบบมาตรฐาน ขนาดของหน้าตา่ งบานเปดิ เดย่ี วนัน้ มีขนาดท่ีความ กวา้ ง 0.6 เมตร สูง
1.1 เมตร หรอื กวา้ ง 0.7 เมตร สูง1.2 เมตร แลว้ ก็ ขนาดของหน้าต่างบานเปิดแบบสองบาน มขี นาดที่
กว้าง 1.2 เมตร สูง 1.1 เมตร หรือกว้าง 1.4 เมตร สูง1.2 เมตร ในการใช้อุปกรณ์ในการทำหน้าต่าง
คือไขควง, สว่านเจาะ, กบไฟฟ้า, ค้อน, สิ่ว ให้ตัดไม้เป็นที่เหลี่ยมตามขนาดที่กำหนดเป็นโครงให้
กำหนด มุมให้ทำการ แกะมุมตามเหลี่ยมของไม้ที่ตัดระหว่างกึ่งกลาง เพื่อมีไว้สำหรับใส่บานหน้าตา่ ง
ต่อมาการทำบานหน้าต่าง กำหนดขนาดที่เตรียมไว้ให้ตัดมาต่อกันเป็นสี่เหลี่ยม แล้ว นำไม้ที่ตัดหรือ
เตรยี มไว้แล้วมาปดิ ทับกับโครงให้เข้ากบั ช่องของหน้าต่าง ใหใ้ ช้สว่านเจาะให้เป็นชอ่ งไว้สำหรับใส่เดือย
ไว้ยึดกัน ใช้กาวทาปิดรอยของไม้หรือที่ที่มีช่องว่างแล้วก็ทาสีเคลือบไม้อาจจะต้องทาทับ3-5 ครั้ง
เพราะว่าหน้าต่าง จะต้องรับกับสภาพแวดล้อมทางอากาศอยู่เสมอถ้าไม่ทาไม้อาจจะทนน้ำอากาศได้
ไมน่ าน เพื่อให้มคี วามคงทนจะตอ้ งใช้สารสกัดสงั เคราะหม์ าช่วย

ประตูไม้ การทำประตู ส่วนใหญ่นั้นมักจะใช้ไม้สักนำมาใช้ทำประตูเพราะปลวกไม่
กนิ มคี วามแข็งแรงพอประมาณกลางๆ ขนาดของประตบู านเปิดเด่ยี วกว้าง 0.8 เมตร สูง 2 เมตร กว้าง
0.9 เมตร สูง2.0เมตร และขนาดของประตูบานเปิดคู่กว้าง 1.6 เมตร สูง 2 เมตร กว้าง 1.8 เมตร สูง
2.1เมตร นำไม้มาตัดเป็นโครงที่กำหนดในทนี่ ี้ให้กำหนดการทำเป็นบานประตูก่อน หลังจากตัดไม้ตาม
มุมสี่ส่วนแล้ว ให้แกะไม้เป็นช่วงไว้ สำหรับใส่เดือน โดยส่วนใหญ่แล้วทัง้ ประตูและหน้าต่างจะไม่ค่อย
ไดใ้ ชส้ กรูสักเทา่ ไหร่ส่วนใหญ่มกั จะใช้เดือยเป็นตัวยึดแล้วต่อไปให้ตัวไมเ้ ปน็ แพ้งให้เขา้ กับขนาดทากาว
ไม้ปิดรอย ต่อมาสร้างโครงไว้สำหรับยึดติดกับประตูสีมุมต่อกันยึดด้วยเดือย สุดท้ายให้ทาสีเคลือบไม้
3-5 ครัง้

3.1.6 ประเภทงานเพอ่ื ซอ่ มแซม
ไม้ เป็นวัสดทุ ่ีถกู นำไปใชใ้ นการก่อสร้างมาอย่างยาวนาน ทัง้ ใช้เป็นโครงสร้างอาคาร

ส่วนตกแต่งอาคาร และใชท้ ำเฟอร์นเิ จอร์ต่างๆ ด้วยคุณสมบัติท่รี บั แรงได้ดี ตัดแตง่ ง่าย และมีผิวสมั ผสั
ที่ดี ให้ความรู้สึกอบอุ่น ทำให้ไม้ไดร้ บั ความนิยมไมเ่ สือ่ มคลาย แต่ทุกวันนี้ ไม้ กลายเป็นวัสดุท่หี ายาก
และมีราคาแพง การเลือกใช้ไม้เก่าจึงเป็นอีกทางหนึ่งที่จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายหรือเพื่อเป็นการใช้

32

ซ่อมแซมในสิ่งของต่างๆ ไม้เก่า คือไม้ที่ถูกใช้งานแล้ว อาจได้มาจากการรื้อถอนอาคาร หรือเป็นไม้
เหลือทิ้งจากการใช้งานด้านอื่น เช่น ไม้พาเลท ไม้ลัง ไม้เสาไฟฟ้าสมัยก่อน เป็นต้นไม้เก่าเหล่าน้ี
สามารถนำไปใช้ซ้ำได้ ซึ่งไม้เก่ามีข้อดีคือ ไม้จะไม่มีการยืดหด หรือบิดงออีกแล้ว อีกทั้งไม้เก่ายังมี
คุณภาพมากกว่าไม้ในปจั จุบนั ส่วนข้อเสียขอ้ ใหญ่คือ ไม้เหล่าน้มี ักมีตำหนจิ ากการใช้งาน ไม้ที่มีสภาพ
ดีจึงมีจำกัด อาจมีไม่เพียงพอต่อความต้องการ ยังต้องใช้เวลาในการคัดเลือก และใช้แรงงานในการ
ซ่อมแซมตดั แต่งไมอ้ กี ด้วย

แผ่นไม้กระดานเก่า หากมีไม้หลากหลายชนิดและหลายหลายสี เมื่อนำมาทำสีใหม่
และจดั เรียงแบบสุ่ม ก็สามารถนำไปทำเป็นผนังทม่ี ีความสวยงามได้บรรยากาศย้อนยุค เหมาะแก่การ
ทำมมุ นง่ั เลน่ หรือรา้ นกาแฟ

พน้ื ไมป้ ารเ์ ก้ ท่ีรอ้ื มาจากบา้ นเดิม เปน็ ไม้ที่ยังมคี ณุ ภาพดี หากนำมาทำความสะอาด
ลอกกาวออก และทำสีใหม่ ก็สามารถนำไปใช้ตกแต่งผนัง หรือฝ้าเพดานได้ โดยการแปะเข้ากับแผ่น
ไม้อัดที่กรเุ อาไว้เป็นพนื้ หลงั

ประตูไม้ และหน้าต่างไม้เก่า ที่เป็นบานไม้จริง สามารถนำไปดัดแปลงได้
หลากหลาย เช่น การนำประตูเก่ามาติดรางเลื่อนทำเป็นประตูบานเลื่อนการดัดแปลงเจาะลูกฟักไม้
ออกและใส่กระจกใสลงไปแทน การนำประตูไม้ และหน้าต่างไม้มาทำเป็นเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ เช่น ทำ
เปน็ โต๊ะ เคานเ์ ตอร์ ชั้นวางของฉากก้นั ห้อง และ กรอบบานกระจกเงา

ไม้พาเลท คือไม้ที่ใช้รองลังสินค้าต่างๆ สามารถหาซื้อได้ มีราคาไม่แพง โดยไม้พา
เลทมักจะเป็นไม้ที่มีคุณภาพไม่ดีนัก และมีเสี้ยนเยอะ แต่ก็สามารถนำไปใช้งานได้หลากหลาย เช่น
ตกแต่งฝ้าเพดาน ปูพื้น และทำเฟอร์นิเจอร์ โดยก่อนที่จะนำไปใช้จะต้องทำการคัดเลือกคุณภาพไม้
ขัดเสี้ยนไมอ้ อก และทาน้ำยารักษาเนื้อไม้ตา่ งๆ

ไม้ทุกชนิดที่ยังไม่ผ่านการตัดแต่งเป็นชิ้นสี่เหลี่ยม อาจจะได้มาทั้งต้น หรือ
เปน็ บางทอ่ น โดยไม้ประเภทนเี้ หมาะแก่การนำไปใช้กับบา้ นหรืออาคารทตี่ ้องการสไตลธ์ รรมชาติ หาก
ถ้าได้มาท้ังตน้ และต้นมขี นาดใหญ่ก็อาจเอาไปทำเสาหรือคาน แต่ถา้ ตน้ มขี นาดเล็ก เช่น ไมไ้ ผ่ หรือไม้
ยคู าลปิ ตัส ก็อาจจะนำไปทำเป็นระแนงบงั แดด ราวกนั ตก หรอื เฟอร์นิเจอรส์ ไตลธ์ รรมชาติได้

3.1.7 ประเภทงานเพอ่ื ใชป้ ระโยชน์
ไม้อัดเคลือบลาย เป็นแผน่ ไม้อัดและกระดาษอัดนำมาเคลือบลายโพลดี ว้ ยเครื่องจักร

มสี ีสนั และลวดลายให้เลือกทัง้ ชนิดมันเงาและชนดิ ผวิ ด้านเหมาะสำหรับ ตกแตง่ เฟอร์นิเจอร์ ก้ันห้อง
ทำฝ้าเพดาน

ชปิ บอรด์ ผนังกัน้ ห้องชิปบอร์ดมีลกั ษณะเป็นแผ่นประกบไส้ 3 ช้นั ผวิ หนา้ เป็นไม้บาง
ไส้กลางเป็นชิปบอร์ดหรือชิ้นไม้เล็กที่อัดกันแน่นประกบด้วยกาว เรซินสังเคาระห์ มีร่องรางลิ้นที่ขอบ

33

ทั้งสองข้างตลอดความยาวของแผ่น ไม้บางที่ใช้ประกบผิวหน้าทั้งสองข้าง ส่วนใหญ่เป็นไม้สักหรือไม้
ยางชิปบอรด์ มคี ณุ สมบัติไมบ่ ิดงอ

การปรับปรุงคุณภาพไม้เนื่องจากไม้ในปัจจุบันมีคุณภาพต่ำลง มีการหดตัว
แตกร้าว หรอื บดิ งองา่ ย ทำให้เกิดความเสยี หายในสงิ่ ก่อสร้าง ครัวเรือน จึงต้องมกี ารปรับปรุงคุณภาพ
ไม้เพื่อใหไ้ มม้ ีคุณภาพทีส่ ูงขน้ึ ซึง่ เป็นการปรับปรงุ ทางดา้ นสี ความแขง็ แรง การหดตัว การพองตัวและ
ความทนทาน ไมเ้ ป็นวัตถดุ บิ สำคัญอย่างหนึ่งที่มนุษย์เริ่มนำมาใช้ ต้ังแต่นน้ั เป็นต้นมามนั ก็เป็นตัวชูโรง
ในกระบวนการสำคญั หลายอยา่ งในสังคม ในปัจจบุ ันถูกนำไปใช้ในกระบวนการต่างๆเช่นวัสดุก่อสร้าง
การเคลอื บผวิ เฟอร์นิเจอร์สำหรบั รองเทา้ ชา่ งไม้ชา่ งไม้และเป็นเช้อื เพลงิ มไี ม้ประเภทตา่ งๆทมี่ ีลักษณะ
แตกต่างกนั ไมแ้ ตล่ ะชนดิ มคี ุณสมบัตพิ ิเศษในการใช้งาน

กล่องกระดาษ เยื่อกระดาษ คือเส้นใยของพืชบางชนิด รวมถึงเส้นใยของไม้เนื้ออ่อน
และไม้เนื้อแข็ง หลายชนิด ซึ่งผ่านการย่อยและแยกสกัดออกมาได้โดยวิธีทางเคมีและฟิสิกส์ให้เป็ น
ชนิ้ เล็กๆ ในรูปเย่ือแลว้ นำมาทบใหเ้ ปน็ เส้นใยเยือ่ กระดาษ โดยเย่อื กระดาษทีไ่ ดม้ ีคุณสมบัติพร้อมที่จะ
ผลติ เปน็ กระดาษ เป็นวสั ดสุ ำหรับผลติ บรรจุ กลอ่ งกระดาษลูกฟกู เพื่อใชเ้ ปน็ วสั ดุในการออกแบบและ
ผลิต บรรจภุ ัณฑ์ทเ่ี ป็นมติ รตอ่ สงิ่ แวดล้อม

วัตถุดิบทน่ี ิยมนำมาผลติ เย่ือกระดาษ การผลิตเยอื่ กระดาษด้วยการใช้กรดซลั ฟวิ รัส เป็น
พื้นฐานของการสกัดเยื่อกระดาษโดยวิธีทางเคมีที่ใช้กันในปัจจุบัน ได้ค้นพบโดยชาวอเมริกันซึ่งเป็น
การพัฒนามาจากกรรมวิธีของชาวจนี ที่รู้จักทำกระดาษจากเปลือกในของต้นหม่อน เร่ิมจากการนำต้น
หม่อนมาต้มแล้วลอกเอาเปลือกในและเน้ือออกมานำไปแช่ในด้าง จากนั้นตากแดดและล้างให้สะอาด
ก่อนนำไปต้มใช้เวลาประมาณ 8 วัน แล้วนำมาทุบหรือบดให้ละเอียด เมื่อนำเยื่อไปผสมกับน้ำแล้วใช้
ตะแกรงช้อนข้นึ มานำไปตากแดดใหแ้ หง้ กจ็ ะได้แผน่ กระดาษตามที่ตอ้ งการ

อุตสาหกรรมการผลิตกระดาษได้พัฒนามาโดยลำดับ ซ่ึงวัตถุดิบที่นิยมนำมาผลิตเย่ือ
กระดาษในปจั จุบนั มหี ลายชนดิ ทง้ั พชื ลม้ ลุกและไม้ สำหรับแหลง่ วัตถุดบิ ทส่ี ำคัญทส่ี ุดในอุตสาหกรรม
กระดาษ ไดแ้ ก่

1.ไม้ ถือเป็นวัตถุดิบที่นำมาใช้ผลิตเยื่อกระดาษมากที่สุด โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภท
ตามลักษณะของเส้นใย เช่น ไม้เนื้ออ่อน จะเป็นไม้ที่มีเส้นใยยาว ความยาวโดยเฉลี่ยประมาณ 3-4
มิลลิเมตร ได้แก่ ไม้สน ไม้เนื้อแข็ง จะเป็นไม้ที่มีเส้นใยสั้น ความยาวโดยเฉลี่ยประมาณ1–1.5
มิลลิเมตร ได้แก่ ไม้ผลัดใบในฤดูใบไม้ร่วง

2.ไม้ล้มลกุ เช่น ปอ ปา่ น ลินิน ฝา้ ยและไผ่
3.ชานอ้อย ถือเป็นวัตถุดิบสำคัญอีกชนิดหนึ่งของอุตสาหกรรมผลิตเยื่อกระดาษใน
ประเทศไทย

34

4.ฟางข้าว ฟางเปน็ วสั ดไุ รก้ รด เยอ่ื กระดาษและกระดาษทไ่ี ดจ้ ะมสี ีนำ้ ตาลตามธรรมชาติ

5.กระดาษใช้แลว้ เป็นวัตถุดิบรไี ซเคลิ ทชี่ ว่ ยใหก้ ารผลติ บรรจภุ ณั ฑ์บางชนิดมตี น้ ทุนทตี่ ่ำ

วัตถุดิบที่นิยมนำมาผลิตเย่ือกระดาษ จะเห็นได้ว่าการผลิตกระดาษรูปแบบเดมิ

เป็นการใช้วัตถุดิบที่หาได้ทั่วไป ต่อมาเมื่อการผลิตกระดาษมีบทบาทในอุตสาหกรรมมากข้ึน วิธีการ

สกัดเยื่อกระดาษจากไม้และวัตถุดิบอ่ืนๆ ด้วยวิธีการเคมี จนถึงขั้นตอนการผลิตกระดาษเพื่อใช้เป็น

วัสดุสำหรับออกแบบและผลิตเป็นบรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม บรรจุภัณฑ์อาหารรูปแบบต่างๆ

รวมทั้งบรรจุภัณฑ์เพื่อการขนส่ง เช่น กล่องกระดาษลูกฟูก พาเลทกระดาษ หรือกระดาษขึ้นรูป ได้มี

การพัฒนามาอย่างตอ่ เนื่อง จนเกิดเปน็ นวตั กรรมเยื่อกระดาษที่ใช้ในงานผลติ บรรจุภัณฑ์ จากพืชเสน้

ใยหลายชนดิ เชน่

1.เสน้ ใยจากเปลอื กในและลำตน้ ของ ปอสา กระเจ๊ยี บ และยคู าลปิ ตสั

2.เส้นใยจากใบหรือจากกาบใบของลำต้นเทียม เช่น กล้วย กล้วยป่า เฟริน และ

สบั ปะรด

3.เส้นใยจากพชื ตระกลู หญ้า เชน่ ไผ่ ชานออ้ ย ฟางข้าว ขา้ วโพด และข้าวสาลี

4.เส้นใยจากสว่ นท่ีหอ่ หุ้มรอบเมลด็ พชื เช่น ฝา้ ย และ นุน่

5.เส้นใยทไี่ ด้จากไมต้ ระกลู สน ซึ่งเป็นไมใ้ บแคบและไม้ใบกว้าง

โครงสร้างการผลิตในอุตสาหกรรมเยื่อและกระดาษ ตามลักษณะของผลิตภัณฑ์ และ

กระบวนการผลติ สามารถแบง่ ได้เป็น 3 ประเภท

อุตสาหกรรมกระดาษข้นั ต้น

อตุ สาหกรรมกระดาษข้นั กลาง

อตุ สาหกรรมกระดาษขนั้ ปลาย

อตุ สาหกรรมกระดาษขั้นต้น จะเกี่ยวข้องกบั การผลติ เยือ่ กระดาษ ซงึ่ เปน็ เยื่อบริสทุ ธแ์ิ ละเปน็

วตั ถดุ บิ สำคญั สำหรบั การผลติ กระดาษประเภทตา่ งๆของอุตสาหกรรมกระดาษขนั้ กลาง โดย

อุตสาหกรรมข้นั ต้นน้ไี มไ่ ด้เกยี่ วข้องเฉพาะการผลิตเยื่อกระดาษบริสทุ ธ์เท่าน้ัน แต่ยงั ครอบคลมุ ถึงการ

ปลูกปา่ เอกชนเพื่อนำไม้มาเป็นวตั ถดุ ิบในการผลติ เยื่อกระดาษ เพ่ือใชเ้ ป็นวัสดุบรรจุภัณฑ์อาหารและ

เครื่องด่ืม กลอ่ งกระดาษลูกฟูก และบรรจภุ ัณฑ์รักษโ์ ลกรูปแบบตา่ งๆ อีกดว้ ย

อุตสาหกรรมกระดาษขั้นกลาง จะครอบคลุมการผลิตกระดาษในรูปแบบต่างๆ เช่น กระดาษ

คราฟท์ กระดาษพิมพเ์ ขยี น กระดาษอนามัย และกระดาษหนงั สอื พิมพ์

อุตสาหกรรมกระดาษขั้นปลาย เป็นขั้นตอนที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการผลิตบรรจุภัณฑ์
ประเภทต่างๆ เนื่องจากอุตสาหกรรมขั้นนี้จะนำเอาผลผลิตจากอุตสาหกรรมกระดาษขั้นกลาง ได้แก่
กระดาษคราฟท์ กระดาษ มาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ประเภทกล่องและบรรจุภัณฑ์ต่างๆ ซึ่งนอกจากเป็น

35

การสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับกระดาษ ยังทำให้เกิดนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มประเภท
ต่างๆ ขึ้นมามากมาย ประโยชน์ก็คือสามารถใช้แทนบรรจุภัณฑ์ที่ก่อให้เกิดปัญหามลภาวะและ
ส่งิ แวดล้อมไดเ้ ปน็ อย่างดี



37

บทที่ 4
สรปุ

การศึกษาค้นคว้า เรื่อง ศึกษาการนำไม้เหลือใช้มาทำประโยชน์เพื่อสิ่งแวดล้อม ผู้จัดทำได้สรุป
ออกมาดงั น้ี

4.1 สรปุ ผลการศกึ ษา
ปัจจุบันนี้มีการนำไม้มาใช้งานหลากหลาย บางที่ก็จะมีไม้ที่ใช้การรองรับสินค้าที่มี

น้ำหนักมาก เช่น ไม้พาเลท, ไม้อัด ต่างๆ ไม้ เป็นวัสดุแข็งที่ประกอบด้วยแกนลำต้นของต้นไม้ โดย
ส่วนใหญ่เป็นไม้ยืนต้น โดยแบ่งเป็นไม้เนื้อแข็ง เช่น ไม้เต็ง, ไม้แดง และไม้เนื้ออ่อน เช่น ไม้สัก, ไม้
ยางพารา, ไม้โอ๊ก ไม้สามารถใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย ประโยชน์อย่างหนึ่งคือ ใช้เป็นเชื้อเพลิง
เช่น ถ่านหรือฟนื บางครง้ั กใ็ ช้ในงานศิลปะ ทำเฟอร์นเิ จอร์ ทำอาวธุ หรือเปน็ วัสดุก่อสร้าง โดยพรรณ
ไม้จะมีลักษณะพรรณไม้ที่พบเห็นได้ตามเขตภูมิภาคที่มีความแตกต่างกัน ภาคเหนือ ภูมิศาสตร์เป็น
เขตเทือกเขาสูงสลับทับซ้อน อากาศเย็น พรรณไม้ส่วนใหญ่เป็น “สัก” ชื่อพื้นเมือง ภาคกลาง
ภูมิศาสตร์เป็นพื้นที่ราบลุ่มริมน้ำ มีความอุดมสมบูรณ์ในระบบนิเวศน์ พรรณไม้ส่วนใหญ่เป็น
“ตะเคียนทอง” ชื่อพื้นเมือง จะเคียน แคน ตะเคียนใหญ่ ไม้ต้น ไม่ผลัดใบ ภาคตะวันออกเฉียงเหนอื
ภูมิศาสตร์เป็นพื้นที่ราบสูง สลับเนินดินและหุบเขา อากาศแล้ง พรรณไม้ส่วนใหญ่เป็น “พะยูง” ชื่อ
พื้นเมือง ขะยูง กระยูง ประดู่แสน ภาคตะวันออก ภูมิศาสตร์เป็นพื้นที่ราบลุ่ม อากาศชื้น ดินเค็ม
พรรณไม้ส่วนใหญ่เป็น “เสลา” ไม้ต้นสูงราว 20 เมตร ทรงพุ่ม เปลือกสีดำมีรอยแตกยาวตามลำต้น
เกิดขึ้นตามป่าดิบช้ืนบริเวณภาคตะวันออก ภาคตะวันตก ภูมิศาสตร์เปน็ พื้นที่สูง มีแนวหุบเขาปดิ กน้ั
พรรณไม้ส่วนใหญ่เป็น “ไผ่รวก” ชื่อพื้นเมือง ฮวก แวปั่ง สะลอม ไม้พุ่มผลัดใบสูง 7-15 เมตร ลำต้น
ทรงกระบอก ไม้เนอ้ื แขง็ อาศัยในพื้นที่แล้งหรอื ภูเขาสงู ภาคใต้ ภมู ศิ าสตร์พื้นที่ติดริมทะเล อากาศช้ืน
ฝนตกตลอดปี พรรณไม้ส่วนใหญเ่ ป็น “กฤษณา” ชื่อพื้นเมือง ไม้หอม พวมพร้าว กายูกาฮู ทรงไม้ต้น
ใหญ่ สงู 18-30 เมตร เปลือกเรยี บ เนื้ออ่อน กระจายพนั ธ์ุตามประเทศอินเดยี พมา่ ตอนใต้ คาบสมทุ ร
มาลายู แล้วมีการลดบทบาทของไม้ลง โดย ทรพั ยากรไม้น้ันถูกใช้มากเกนิ ไป เน่อื งจากโลกกำลังได้รับ
ผลกระทบจากสภาวะเรือนกระจกขั้นรุนแรง จึงทำให้องค์กรรักษาสิ่งแวดล้อมและนักธรณีวิทยาใน
ไทยและต่างประเทศ หันมาร่วมมือกันออกแคมเปญลดการตัดไม้ทำลายป่า เพื่อเป็นการสร้างเสริม
ออกซิเจนและลดมลพิษปนเปื้อนอากาศทั่วโลก ทั้งนี้ บทบาทของวัสดุไม้ได้ถูกปรับเปลี่ยนให้อยูใ่ นรปู
ของงานต่อเติมทดแทน เช่น งานตกแต่งภายใน-ภายนอกอาคาร งานจัดสวน งานเฟอร์นิเจอร์ โดยไม้
ยอดนยิ มส่วนใหญ่ที่นำมาแปรรูป จะเป็นตระกลู ไม้แท้ ไมเ้ ทียม, ปาตเิ กลิ , ไม้อัด เป็นต้น รวมถึงความ
แตกต่างระหว่างไม้ผลิตเฟอร์นิเจอร์แต่ละชนิด ในเรื่องอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์และของประดับ
ตกแต่ง วัสดุไม้ จำต้องถูกกำหนดตามลักษณะเหมาะสมในแต่ละประเภทของชนิดไม้ โดยส่วนใหญ่
แล้ว เราจะพบเจอไม้สังเคราะห์ เพราะว่าเป็นส่วนหนึง่ ที่นำมาใช้ในการลดการใชท้ รัพยากรธรรมชาติ

38

โดยนำไม้เสียมาแปรรูปใหม่ ท่ีได้พบเห็นทวั่ ไป ทีเ่ รียกวา่ พวกไม้อดั หรอื ไมส้ ังเคราะห์ ไม้แต่ละประเภท
ยังสามารถนำมาใช้เพ่ืองานตกแตง่ และงานก่อสรา้ งได้อีก ดา้ นงานโครงสรา้ ง การจำแนกไม้ จะถกู แบ่ง
ตามคุณสมบัติแตกต่างกัน เช่นไม้เสาหลัก ส่วนใหญ่จะเป็นการใช้แก่นของลำต้นไม้ใหญ่ เช่น มะค่า
ยางพารา เตง็ หรือตะเคยี น เนอื่ งจากเป็นไม้เนื้อแข็งท่ีมีน้ำหนักสูง หน้าตัดกว้าง ผพุ ังยาก และทนต่อ
แรงกดทับ วธิ ีการดูแลรกั ษาไมใ้ หถ้ กู วิธี ไมแ้ ต่ละชนิดย่อมมีวธิ ีดแู ลรกั ษาแตกต่างกนั ดังน้นั ผ้ใู ช้งาน จงึ
ควรหมัน่ สงั เกตุ เม่อื ใชง้ านเป็นระยะเวลานาน ทวั่ ไปแล้ว วธิ กี ารดูแลรักษาข้ันพืน้ ฐานก็ไม่ได้มีข้ันตอน
สิ่งใดมาก เพียงแต่ต้องปฎิบัติอย่างเข้าใจ เช่น เชื้อราบนเฟอร์นิเจอร์, ปลวก, ไม้ขึ้นและส่งกลิ่น, ไม้
พองตัว, รอยขีดข่วน, ขจัดคราบฝังแน่น เทคนคิ การขดั ผิวไมแ้ ละการเลื่อยไม้ การเล่ือยไมท้ ่ีถูกวิธี ต้องเร่ิมจาก

การคัดเลือกขนาดไมใ้ หเ้ หมาะสมกบั อปุ กรณเ์ ลอ่ื ย เชน่ หากไม้มขี นาดหนาอาจจะเลอื กใช้เล่อื ยลนั ดาท่ีมใี บเลอื่ ยใหญ่
แทน หรือหากไมม้ แี ผน่ บางขนาดเล็ก อาจจะเลือกใชเ้ ล่ือยฉลุ เนอื่ งจากมีนำ้ หนกั เบา ใบเลก็ เมอื่ คัดเลอื กขนาดเลื่อย
เหมาะสมใหท้ ำการมารก์ ตำแหน่งให้เรยี บรอ้ ย จบั ใบเลือ่ ยใหม้ น่ั คง จากนนั้ จรดใบเรอ่ื ยทีต่ ำแหนง่ 45 องศา โดยห่าง
จากตัวพอประมาณ แล้วเริม่ ออกแรงเลื่อยช้าๆ ไม่แรงและไม่เบาจนเกินไป สำหรับการขัดผิวไม้ มีหลากหลายวธิ ีให้
เลือกตามอุปกรณ์ หากใช้กบไสไม้แต่งผิว ให้วางท่อนไม้ในตำแหน่งเหมาะสมบนโต๊ะ การศึกษาหลังจากการศึกษา
ผูจ้ ัดทำได้วางแผนในการดำเนนิ งานวา่ เพือ่ ทจ่ี ะรายงานน้ีทีไ่ ด้ศึกษา มาอธิบายว่า ผู้จดั ทำมไี มพ้ าเลททไี่ มไ่ ด้ใช้งานมา
เปน็ เวลา3ปี โดยผา่ นทกุ สภาพอากาศทำใหไ้ ม้เร่ิมเขยี ว ซดี เปราะบาง เลยนำไมเ้ หลา่ นนั้ มาคิดวา่ จะทำเป็นเก้าอี้ใน
แบบที่พวกเราชอบ เพราะการที่นำไม้ที่มีอยู่นั้นมาใช้ มันจะช่วยให้พวกเราประหยัดงบประมาณการใช้จ่ายได้มาก
เพราะว่า เฟอร์นิเจอร์น้ันมีราคาท่ีสงู ตามคุณภาพการออกแบบหรือวัสดุท่ีนำมาใช้ ที่พวกเรามองเหน็ ว่า การที่นำไม้
เก่ามาใช้เพื่อเป็นการใช้เวลาให้เกิดประโยชน์ ทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับการคน้ คว้า เฟอร์นิเจอร์เพื่อสิ่งแวดล้อม (Eco –
Furniture) – สิ่งแวดล้อมเป็นปัจจัยสำคัญที่ทัวโลกให้ความสนใจ เนื่องจากปัจจุบันโลกเริ่มประสบปัญหาสภาวะโลก
ร้อน จึงได้มีการออก มาตราการด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดทั้งในการผลิดและการนำ เข้าสินค้า รวมถึงการนำ ขยะ
หรือวัสดุเหลือใช้มาผลิตเป็นของใช้เพิ่มยิ่งขึ้นเพื่อลดปัญหาขยะล้นโลก การวิจัยและพัฒนาวัตถุดิบการผลิต และ
กระบวนการผลิตท่ีเป็นมิตรกบั ส่ิงแวดลอ้ ม และการผลติ เฟอร์นิเจอร์ วัสดุรไี ซเคิลซ่งึ ข้นั ตอนจะไม่ยงุ ยากซับซ้อน แต่
ต้องอาศัยความคิดสร้างสรรคใ์ นการ ออกแบบเพือ่ ใหแ้ ปลกใหม่ องค์ประกอบความสมดุล เป็น หลักสำคัญสำหรับผู้
สร้างสรรค์ และผ้ศู ึกษางานศิลปะ เนือ่ งจากผลงานศิลปะใด ๆ กต็ าม ล้วนมีคณุ ค่าอยู่ 2 ประการ คอื คุณคา่ ทางดา้ น
รูปทรง และ คุณคา่ ทางด้านเรื่องราวคุณคา่ ทางด้านรูปทรง เกิดจากการนำเอา องค์ประกอบต่าง ๆ ของ ศิลปะ อัน
ได้แก่ เส้น สี แสงและเงา รูปร่าง รูปทรง พื้นผิว ฯลฯ ในสมัยก่อนยงั ไม่ค่อยมีการนำมาใช้ในลักษณะของไม้แปรรูป
แต่จากการที่ไม้ยางโตเร็วและมีมาก ทำให้สามารถนำมาใช้ในระบบทางดา้ นอุตสาหกรรมได้ แต่เนื่องจากต้นยางน้นั
จะมีสารอาหารของปลวกและเชื้อรา ทำให้เกิดการพฒั นากระบวนการปรับปรุงคณุ ภาพของไม้ด้วยการอัดน้ำยากัน
ปลวกและอบแห้งเพ่อื ให้เนือ้ ไม้คงทนแข็งแรง ทำให้สามารถนำมาใช้งานได้มากยิ่งขนึ้ เนือ่ งจากไม้ยางพาราน้ัน ราคา
ไมแ่ พง สามารถหาไดง้ า่ ย และมีข้อดอี ีกอยา่ งคือ เป็นไม้สีออ่ น ทำใหส้ ามารถนำไปทำสีได้ง่ายดว้ ย ประเภทเครื่องใช้
ผนังหัวเตียงจากประตูไม้เก่า, ชั้นวางของโชว์ติดตั้งบนผนัง, ม้านั่งสำหรับวางรองเท้าด้านล่าง, กรอบรูปไม้ใส่ของ,
ตะแกรงวางขวดไวน์, การทำโต๊ะไม้, ลิ้นชักเก็บของ, แผงใส่เอกสารติดผนัง, ถังใส่น้ำแข็ง, รวมถึงประเภทเครื่อง
ตกแต่งที่นำมาใช้ประโยชน์จากไม้หลากหลายรูปแบบ การแต่งผนงั ดว้ ยไมซ้ ุง, โคมไฟไม้ การทำโคมไฟสามารถทำเอง
โดยใช้ไมเ้ ก่าท่ีบ้านก็เป็นตัวเลอื กท่ีดี เราสามารถใชค้ วามคิดสร้างสรรค์ของเราได้หลากหลายแบบตามความต้องการ

39

ของเรา, โคมไฟแขวนเพดาน การทำโคมไฟแขวนเพดานยงั สามารถใช้เศษไม้ประเภทไม้แดงเกา่ หรอื ใช้ไมอ้ ัดหรือใช้
เหมือนเป็นเศษไม้ ต่อมาประเภทเคร่ืองใชท้ างศาสนา แท่นบูชา, พระพทุ ธรูปไม้แกะสลัก ไม้น้ันมบี ทบาทในสมยั กอ่ น
โดยนำมาใช้ในชว่ งสงครามโลกจำพวก งานยุทโธปกรณ์ ดา้ มมือจบั เช่น มดี ท่ใี ช้สำหรบั ทำครวั , ดาบยาว, กรรไกรตดั
หญ้า,เคียว, จอบ, ค้อนหรือขวาน ทถี่ กู สร้างมาตามโอกาสต่างๆ เพ่ือความตอ้ งการของวถิ ีของมนุษยเ์ รา โดยมกี ารถกู
ใช้งานในการเกษตร, งานก่อสร้าง คันธนไู ม้ ธนูนน้ั ทีเ่ ราพบในประวัติศาสตร์นั้นมกั จะถกู ใชม้ ากท่สี ุดในชว่ งยคุ กลางที่
ถูกใช้ในกองทพั เป็นอาวุธที่มันประสิทธิภาพในการโจมตีระยะไกลที่มีความรุนแรงอย่างสูง อาวุธปืน ในสมัยกอ่ นก็มี
การสร้างหรือคิดค้นอาวุธที่ใช้ดินดำที่เราเรียกกันว่าดินปืนที่สามารถยิงลูกตะกั่วออกมา เป็นที่ถูกใช้ในการยิ ง
ระยะไกล ทมี่ คี วามรวดเรว็ มีการทำลายสูง ในสมัยยคุ กลางจะมีปืนทเ่ี รียนวา่ ปนื คาบศิลาเปน็ ปืนท่ีใช้ดินปืน แรงดัน
ต่ำ หอก ยคุ แรก พบหอกเปน็ เพียงไมแ้ หลม ตอ่ มา มีการเปลยี่ นเปน็ หนิ ปลายแหลมนำมาผกู ตดิ กบั ท่อนไม้ ซึ่งจะพบ
ในยุคหินเก่า ในขณะที่ในยุคหินใหม่นั้นจะมีการเหลาปลายหอกให้แหลมขึ้น ใช้ในการล่าสัตว์ต่าง ๆ เเป็นส่วนใหญ่
หอกในสงครามมีหลายแบบ และใช้กนั มากอย่างแพร่หลาย มลี กั ษณะคลา้ ยกบั ทวนแตห่ อกจะมคี วามยาวด้ามจับสั้น
กว่า และใชต้ ่อสูก้ นั บนภาคพืน้ ดนิ อีกด้วย งานเฉพาะทางเปน็ งานจำพวกนำมาใชป้ ระโยชน์ในการกอ่ นสร้าง เชน่ การ
ทำข้นั บนั ไดนนั้ เปน็ สว่ นประกอบการสร้างบ้านหรอื ตึกอาคารสำหรับการทำที่อย่อู าศยั , การทำหน้าตา่ ง มักจะนำไม้
สักมาใช้งานเป็นไม้ ที่แข็งแรงพอประมาณ และปลวกไม่กิน เหมาะสมกับการใช้ทำเคร่ืองเรือน การทำประตู ส่วน
ใหญ่นั้นมักจะใช้ไม้สักนำมาใช้ทำประตูเพราะปลวกไม่กินมีความแข็งแรงพอประมาณกลางๆ งานเพื่อใช้ประโยชน์
การทำไม้อัดเคลอื บลาย, การทำผนังกัน้ ห้องชิปบอรด์ , การทำกล่องกระดาษ ใช้เส้นใยของพชื บางชนิด รวมถงึ เส้นใย
ของไม้เนื้ออ่อน และไม้เนื้อแข็ง หลายชนิด ซึ่งผ่านการย่อยและแยกสกัดออกมาได้โดยวิธีทางเคมี ทำให้เป็นช้ิน
เล็กๆ ในรูปเยอ่ื แล้วนำมาทบใหเ้ ปน็ เส้นใยเยอ่ื กระดาษ โดยเย่อื กระดาษทไ่ี ดม้ คี ณุ สมบัตพิ รอ้ มทจี่ ะผลิตเปน็ กระดาษ
เป็นวัสดุสำหรับผลิตบรรจุ กล่องกระดาษลกู ฟูก เพื่อใช้เป็นวัสดุในการออกแบบและผลิต บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อ
สิง่ แวดลอ้ ม

4.2 ประโยชน์ทไี่ ด้รบั จากการทำรายงานวชิ าการ
การศึกษาค้นคว้าผู้จัดทำเห็นถึงประโยชน์ ในสภาพแวดทำให้คำนึงถึงว่า การใช้

ทรัพยากรจาก ธรรมชาติมากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงปัจจุบันก็ยิ่งถูกใช้ไปอีก รวมถึงทำให้สภาพแวดล้อม
เปลี่ยนแปลงไปมากขึ้นสภาพอากาศร้อนขึ้น สถานที่ที่ยังได้รับการดูแลรักษามี แค่ในแถว อุทยาน
แห่งชาติในทางภาครัฐดูแลเพียงเท่านั้น ถึงเป็นส่วนน้อย พวกเราอยากเป็นส่วนหนึ่ง ในการร่วมมือ
เพื่อการศึกษา ในการนำไมเ้ ก่าที่ไม่ได้ใช้มาใช้ให้เปน็ ประโยชน์แทนทีจ่ ะทิง้ มนั ไปตามการเวลา ผู้จัดทำ
เห็นว่ามันมีประโยชน์ ต่อมนุษย์โดย เรายังสามารถประหยัดงบประมาณบางส่วนสามารถนำมา
สร้างสรรค์ผลงานตามที่เราต้องการได้จากไม้เก่าที่พวกเราพูดถึงเพื่อสิ่งแวดล้อม เพราะไม้แต่ละชนิด
นั้นเคยผ่านกรรมวิธีทางเคมีอาจจะส่งผลต่อธรรมชาติได้ เช่น สี, สารเคมี, กาวหรือกรรมวิธีในด้าน
อุตสาหกรรมการขึ้นรูป วัตถุหรือสารเคมีที่ใช้กันแมลงและ สารที่ใชค้ งสภาพของไม้ จำพวกแลคเกอร์
สารที่ใช้ตกแต่งลวดลาย ถ้านำสารเคมีด้านอุตสาหกรรมเทียม ไปทิ้งลงแม่น้ำสะสมเป็นเวลาจะทำให้
น้ำเนา่ เสียหรอื ส่งผลตอ่ สภาพแวดล้อมและส่ิงมชี ีวิตได้

40

40

บรรณานุกรม

“การนำขยะกลบั มาใชใ้ หม่” [ออนไลน์]. เขา้ ถงึ ได้จาก :
https://www.-reduce-re/, 2560. [สบื คน้ เม่ือ 29 กนั ยายน 2564].

“การศึกษารายละเอยี ด” [ออนไลน์]. เขา้ ถงึ ได้จาก :
https://craftnroll.net/craft-101/, 2560. [สบื ค้นเมื่อ 30 กันยายน 2564].

“การวางแผนการดำเนินงาน” [ออนไลน์]. เข้าถึงไดจ้ าก :
https://th.garynevillegasm.com/domashniy-uyut/, 2559.
[สืบคน้ เมื่อ 30 กันยายน 2564].

“การจดั เตรียมวัสดุอุปกรณ์” [ออนไลน]์ . เขา้ ถึงไดจ้ าก :
https://www.officeandtools.com, 2559. [สืบค้นเมื่อ 30 กันยายน 2564].

“การทำให้เกิดจดุ เดน่ ” [ออนไลน์]. เข้าถงึ ไดจ้ าก :
http://materiam.blogspot.com/2008/10/wood.html?m=1, 2559.
[สบื คน้ เมอื่ 1ตลุ าคม 2564].

“ความสมดลุ ” [ออนไลน]์ . เข้าถงึ ได้จาก :
https://www.decoora.com/th/como-equilibrar-visualmente-cualquier-
estancia/,2559. [สบื ค้นเม่ือ 30 กนั ยายน 2564].

“ความเข้ากนั ระหว่างผลงาน” [ออนไลน์]. เข้าถึงไดจ้ าก :
https://ofisu.co.th/, 2563. [สบื คน้ เมอ่ื 1ตุลาคม 2564].

“ความแตกตา่ งของคุณสมบัติ” [ออนไลน]์ . เขา้ ถึงไดจ้ าก :
https://www.furstudio-design.com/content/ ,2557. [สบื คน้ เม่ือ 1ตุลาคม 2564].

“เคร่อื งใชใ้ นพธิ กี รรมทางศาสนาคริสตป์ ระเภทงานยุทโธปกรณ”์ [ออนไลน]์ . เข้าถึงได้จาก :
https://hmong.in.th/wiki/History_of_weapon , 2560. [สืบค้นเม่อื 1ตุลาคม 2564].

“ทมี่ าและความสำคัญ” [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก :
https://www.srakrajom.go.th/home/, 2553. [สืบค้นเมื่อ 29 กนั ยายน 2564].

“ทฤษฎีที่เกีย่ วข้องกบั การค้นคว้า” [ออนไลน์]. เขา้ ถึงได้จาก :
https://poombkp.wordpress.com/ ,2564. [สบื คน้ เมื่อ 1ตลุ าคม 2564].

“ประโยชนท์ ไี่ ดร้ ับ” [ออนไลน์]. เขา้ ถงึ ได้จาก :
http://www.sc.chula.ac.th/courseware/2305103/add_topics/add3/3_useful.ht
ml,2561. [สืบคน้ เม่อื 29 กนั ยายน 2564].

40

“ประเภทเครื่องใช้” [ออนไลน]์ . เขา้ ถงึ ไดจ้ าก :
https://mebaan.com/40-genius-rustic-home-decor-ideas/ ,2560.
[สืบคน้ เมอื่ 1ตลุ าคม 2564].

“ประเภทเครื่องตกแต่ง” [ออนไลน์]. เขา้ ถงึ ได้จาก :
http://www.wanchaikarnchang.com/,2563. [สบื คน้ เมอื่ 1ตุลาคม 2564].

“ประเภทเคร่ืองใช้ทางศาสนา” [ออนไลน์]. เขา้ ถึงได้จาก :
https://th.m.wikipedia.org/wiki/,2560. [สบื คน้ เมอื่ 1ตุลาคม 2564].

“ประเภทงานเฉพาะทาง” [ออนไลน]์ . เข้าถงึ ได้จาก :
https://www.homify.co.th/ideabooks/2798733/%E2%80%8B7-,2557.
[สบื ค้นเมอื่ 1ตลุ าคม 2564].

“ประเภทงานเพ่ือซอ่ มแซม” [ออนไลน์]. เข้าถงึ ไดจ้ าก :
https://www.baanlaesuan.com/116829/maintenance/old_chair , 2560.
[สืบคน้ เม่อื 1ตลุ าคม 2564].

“ประเภทงานเพื่อใช้ประโยชน์” [ออนไลน]์ . เขา้ ถึงไดจ้ าก :
https://www.scgbuildingmaterials.com/th/ideas/design-ideas/FYI-, 2564.
[สืบคน้ เมื่อ 1ตุลาคม 2564].

“ลงมอื ปฏิบตั ิตามขั้นตอนทว่ี างแผน” [ออนไลน]์ . เขา้ ถึงได้จาก :
https://th.construct-yourself.com/repair-installation-and , 2557.
[สบื ค้นเม่ือ 30 กนั ยายน 2564].

“วัตถปุ ระสงค”์ [ออนไลน์]. เข้าถงึ ได้จาก :
http://dspace.bu.ac.th/bitstream/123456789/1901/1/piyaporn_kamy.pdf ,
2560. [สืบคน้ เม่ือ 29 กนั ยายน 2564].

“สดั ส่วนของไม”้ [ออนไลน]์ . เขา้ ถึงได้จาก :
http://km.intrachai.ac.th/km/external_newsblog.php?links=80
,2560. [สืบคน้ เมื่อ 30 กนั ยายน 2564].


Click to View FlipBook Version