วิชาภาษาไทย
ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๔/๘
วรรณคดีลานา
บทที่ ๑ การผจญภัยของสุดสาคร
นางวิรงรอง ศรีพอ
ครูผู้สอน
โรงเรียนกาฬสิ นธุ์พิทยาสั ย
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต ๑
วรรณคดแี ละวรรณกรรม ช้ันประถมศึกษาปี ที่ ๔
ตัวชวี้ ัด
• อ่านเรื่องส้ัน ๆ ตามเวลาท่ีกาหนดและตอบคาถามจากเร่ืองที่อ่าน (ท ๑.๑ ป. ๔/๓)
• คาดคะเนเหตกุ ารณ์จากเรื่องท่ีอ่านโดยระบเุ หตผุ ลประกอบ (ท ๑.๑ ป. ๔/๕)
• สรุปความรู้และขอ้ คิดจากเรื่องที่อ่านเพ่ือนาไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั (ท ๑.๑ ป. ๔/๖)
• อ่านหนังสือท่ีมคี ณุ ค่าตามความสนใจอยา่ งสม่าเสมอและแสดงความคดิ เหน็
เก่ียวกับเร่ืองท่ีอ่าน (ท ๑.๑ ป. ๔/๗)
• อธิบายข้อคิดจากการอ่านเพอ่ื นาไปใชใ้ นชวี ิตจริง (ท ๕.๑ ป. ๔/๒)
• ท่องจาบทอาขยานตามที่กาหนดและบทร้อยกรองที่มีคณุ ค่าตามความสนใจ
(ท ๕.๑ ป. ๔/๔)
วรรณคดแี ละวรรณกรรม ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี ๔
คลิกเลือกหัวข้อเพ่ือศึกษาเนื้อหา
ประวัติผูแ้ ต่ง บทนาเรื่อง
นิทานคากลอน เนื้อเรื่องย่อ
เรื่อง พระอภัยมณี
ตอน กาเนิดสุดสาคร ถ้อยคาสานวน
ล้วนต้องศึกษา
คาศัพท์น่ารู้
สรุ ปความรู ้
แบบพัฒนาทักษะ
ในการทาข้อสอบปรนัย
เพ่ือประเมนิ ผลตัวชวี้ ัด
วรรณคดแี ละวรรณกรรม ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี ๔
ประวัติผูแ้ ต่ง
วรรณคดแี ละวรรณกรรม ช้ันประถมศึกษาปี ที่ ๔
บทนาเร่ือง
วรรณคดแี ละวรรณกรรม ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี ๔
เน้ือเรื่องยอ่
พระอภัยมณี และศรี สุ วรรณเป็ นโอรสของท้าวสุ ทัศน์และ
นางประทุมเกสร แห่งกรุงรัตนา เมื่อโอรสท้งั สองเจริญวยั ข้ึน ไดไ้ ปเรียน
วิชากับอาจารย์ผูม้ ีความรู้ และมีชื่อเสียง พระอภัยมณีเรียนวิชาเป่ าปี่
ส่วนศรีสุวรรณเรียนวิชากระบี่กระบอง เมื่อโอรสท้งั สองเรียนสาเร็จและ
กลบั มายงั บา้ นเมือง ทา้ วสุทศั น์โกรธมากเพราะวิชาที่โอรสท้งั สองเรียน
ไม่เกี่ยวกบั การปกครองบา้ นเมือง จึงเนรเทศโอรสท้งั สอง ให้ออกจากเมือง
ไป ระหว่างทางโอรสท้ังสองไปพบกับพราหมณ์สามคน ซ่ึงแต่ละคน
ต่างก็มีความรู้ความสามารถมาก พระอภัยมณีเป่ าปี่ ให้ฟังจนพราหมณ์
ท้งั สาม และศรีสุวรรณหลบั ท้งั หมด
วรรณคดแี ละวรรณกรรม ช้ันประถมศึกษาปี ที่ ๔
ขณะน้นั นางผเี ส้ือสมุทรซ่ึงกาลงั ออกหาอาหาร ผา่ นมาไดย้ นิ เสียงป่ี
ของพระอภยั มณี จึงตามเสียงปี่ มาจนพบพระอภยั มณี เกิดหลงรัก จึงอุม้
พระอภัยมณีกลับมาที่ถ้าใต้น้ า ส่วนศรี สุวรรณกับพราหมณ์ท้ังสาม
ต่ืนมาไม่พบพระอภยั มณี จึงออกตามหา
พระอภยั มณีอยกู่ บั นางผเี ส้ือสมุทรจนมีโอรสช่ือ สินสมุทร วนั หน่ึง
นางผีเส้ือสมุทรออกไปหากิน พระอภยั มณีจึงให้เงือกที่สินสมุทรจบั มา
ช่วยพาพระอภัยมณีและสินสมุทรว่ายน้ าหนีนางผีเส้ื อสมุทรไปยัง
เกาะแกว้ พิสดาร ต่อมาพระอภยั มณีไดน้ างเงือกเป็นชายาดว้ ย
วรรณคดแี ละวรรณกรรม ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี ๔
ทา้ วสิลราชพาพระธิดาช่ือสุวรรณมาลีออกทะเลมาจนถึงเกาะแกว้ -
พิสดาร พระอภัยมณีและสินสมุทรขอโดยสารเรือกลับบ้านเมืองตน
ก่อนเดินทางพระอภยั มณีร่าลานางเงือก และมอบแหวนกับป่ิ นปักผม
ใหน้ างเงือกไว้
พอน างผีเส้ื อ สมุ ทรรู้ ข่าว ว่าพ ระอภัย มณี แ ละสิ นสมุทร โ ดย สาร
มากบั เรือสาเภาของทา้ วสิลราชก็ตามมา และล่มเรือสาเภาจนทา้ วสิลราช
จมน้าสิ้นพระชนม์ คนอื่น ๆ พลดั กนั ไปคนละทาง ส่วนพระอภยั มณีวา่ ยน้า
หนีไปติดบนเกาะ นางผีเส้ือสมุทรตามไปพบ พระอภัยมณีจึงเป่ าป่ี จน
นางขาดใจตาย
วรรณคดแี ละวรรณกรรม ช้ันประถมศึกษาปี ที่ ๔
เม่ือพระอภยั มณีจากนางเงือกไปแลว้ นางเงือกอาศยั อยกู่ บั
พระฤๅษีที่เกาะแก้วพิสดาร และให้กาเนิดลูกชายช่ือ สุดสาคร
ซ่ึงมีหน้าตาละม้ายเหมือนพระอภัยมณีผูเ้ ป็ นบิดา สุ ดสาคร
เป็ นเด็กท่ีมีร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงกว่าเด็กธรรมดาทวั่ ไป และ
เน่ืองจากมีแม่เป็นเงือกจึงชอบวา่ ยน้ามาก
วรรณคดแี ละวรรณกรรม ช้ันประถมศึกษาปี ที่ ๔
นักเรียนอ่านนิทานคากลอน
เรื่อง พระอภัยมณี
ตอน การผจญั ภัยของสุดสาคร
เป็นทานองเสนาะพร้อมกัน
คลิกลาโพงเพอื่ ฟังเสียง
จะกล่าวถึงเงือกน้อยกลอยสวาท
ซ่งึ รองบาทพระอภัยเมือ่ ไกลสถาน
อยู่วนวงั หลังเกาะแก้วพสิ ดาร
ประมาณกาลสิบเดือนไมเ่ คลื่อนคลา
วรรณคดแี ละวรรณกรรม ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี ๔
คาศัพท์น่ารู้
วรรณคดแี ละวรรณกรรม ช้ันประถมศึกษาปี ที่ ๔
คาศัพท์น่ารู้
วรรณคดแี ละวรรณกรรม ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี ๔
คาศัพท์น่ารู้
วรรณคดแี ละวรรณกรรม ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี ๔
คาศัพท์น่ารู้
วรรณคดแี ละวรรณกรรม ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี ๔
คาศัพท์น่ารู้
วรรณคดแี ละวรรณกรรม ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี ๔
คาศัพท์น่ารู้
วรรณคดแี ละวรรณกรรม ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี ๔
คาศัพท์น่ารู้
วรรณคดแี ละวรรณกรรม ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี ๔
ถ้อยคาสานวน ล้วนต้องศึกษา
นิทานคากลอน เร่ือง พระอภัยมณี
ตอนที่คัดมาให้เรียน มีสานวนท่ีน่าสนใจ ดังน้ี
วรรณคดแี ละวรรณกรรม ช้ันประถมศึกษาปี ที่ ๔
หมายความว่า หากสุ ดสาครได้พบพระบิดาก็ให้อยู่กับ
พระบิดา ใ ห้ สุ ข ส บา ย ไม่ต้ อ งกลั บมา ไม่ต้ อ งเป็นห่ ว งแม่
และช่วยทูลพระองค์ว่า แม้ชาตินี้แม่จะไม่ได้พบพระองค์อีก
ก็จะข อรั บใ ช้พระอ งค์ ทุกชา ติไป แต่ หากไม่พบพระบิดา
ขอให้ลูกกลับมา
วรรณคดแี ละวรรณกรรม ช้ันประถมศึกษาปี ที่ ๔
ถ้อยคาสานวน ล้วนต้องศึกษา
แมน้ ใครรักรักม่ังชงั ชงั ตอบ
ให้รอบคอบคิดอ่านนะหลานหนา
รู้ส่ิงไรไมส่ ู้รู้วชิ า
รู้รักษาตัวรอดเปน็ ยอดดี
หมายความว่า หากใครรักหรือเกลียดเรา เราจะรักหรือเกลียด
เขาตอบหรือไมจ่ งคิดให้รอบคอบ มคี วามรู้เร่ืองใดก็ไม่มคี ่าเท่ากับ
มีวชิ าความรู้และการรู้จกั รักษาตัวรอดได้เป็นสิ่งที่ดีที่สุด
วรรณคดแี ละวรรณกรรม ช้ันประถมศึกษาปี ที่ ๔
บทอาขยาน
ท่องบทอาขยานให้ได้
นะคะเด็กๆ
(อยูใ่ นหนังสือ
วรรณคดีลานาหน้า ๓๖)
วรรณคดแี ละวรรณกรรม ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี ๔
นิทานคากลอน เรื่อง พระอภัยมณี เปน็ วรรณคดีท่ีมี
เนื้อเรื่องสนุกสนาน ชวนติดตาม ส่งเสริมจินตนาการและ
ความคิดสร้างสรรค์ สอดแทรกขอ้ คิดและคณุ ธรรมต่าง ๆ
ผ่านตัวละครท่ีมคี วามคิดและความรู้สึกเชน่ เดียวกับคน
ในสังคมท่ัวไป จึงสามารถนามาประยุกต์ใชใ้ นชวี ติ จริง
ได้เป็นอย่างดี
วรรณคดแี ละวรรณกรรม ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี ๔
แบบพฒั นาทักษะในการทาขอ้ สอบปรนัย
เพื่อประเมินผลตัวชวี้ ัด
ตวั ชวี้ ดั
• อ่านเร่ืองส้ัน ๆ ตามเวลาที่กาหนดและตอบคาถามจากเร่ืองท่ีอ่าน (ท ๑.๑ ป. ๔/๓)
• คาดคะเนเหตุการณ์จากเร่ืองท่ีอ่านโดยระบุเหตุผลประกอบ (ท ๑.๑ ป. ๔/๕)
• สรุปความรู้และข้อคดิ จากเร่ืองท่ีอ่านเพอ่ื นาไปใชใ้ นชวี ิตประจาวัน (ท ๑.๑ ป. ๔/๖)
• อ่านหนังสือที่มีคณุ ค่าตามความสนใจอยา่ งสม่าเสมอและแสดงความคิดเหน็ เกี่ยวกับ
เร่ืองท่ีอ่าน (ท ๑.๑ ป. ๔/๗)
• อธิบายขอ้ คดิ จากการอ่านเพอื่ นาไปใชใ้ นชวี ิตจริง (ท ๕.๑ ป. ๔/๒)
• ท่องจาบทอาขยานตามท่ีกาหนดและบทร้อยกรองท่ีมคี ณุ ค่าตามความสนใจ
(ท ๕.๑ ป. ๔/๔)
วรรณคดแี ละวรรณกรรม ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี ๔ ทาแบบทดสอบ
๑ แต่มืดมัวกลัวปูไ่ มอ่ ยูร่ บ แฉลบหลบข้นึ ตลิ่งวิ่งถลา
ขอ้ ใดตรงกับความหมายหรือข้อคิดจากคาประพันธ์นี้
๑ การรู้จกั เวลา
๒ ความกตัญญูกตเวที
๓ ตนเป็นที่พ่งึ แห่งตน
๔ การเล่าเรื่องให้ผูใ้ หญ่รับทราบ
เฉลย
๒ ถึงโยคีดีใจไหว้วนั ทา บอกเจ้าตาตามจริงทุกสิ่ งอัน
ขอ้ ใดตรงกับความหมายหรือขอ้ คิดจากคาประพนั ธ์น้ี
๑ ตนเปน็ ที่พ่งึ แห่งตน
๒ ความเจา้ เล่ห์เพทบุ าย
๓ น้าลึกหยั่งได้ น้าใจหยั่งยาก
๔ การเล่าเร่ืองให้ผูใ้ หญ่รับทราบ
เฉลย
๓ สุดสาครนอนบน่ มนต์สาคัญ
ได้แมน้ ม่นั เหมอื นหน่ึงจติ ไม่ผิดเพย้ี น
ข้อใดตรงกับความหมายหรือขอ้ คิดจากคาประพันธ์น้ี
๑ ความกตัญญูกตเวที
๒ ความเอาใจใส่พากเพยี ร
๓ ความกล้าหาญเด็ดเดี่ยว
๔ การเล่าเรื่องให้ผูใ้ หญ่รับทราบ
เฉลย
๔ ถึงยังเด็กเหล็กเพชรไม่เข็ดขอน
จะเจาะชอนเชงิ ลาเนาภูเขาขุน
ขอ้ ใดตรงกับความหมายหรือข้อคิดจากคาประพนั ธ์น้ี
๑ ความกตัญญูกตเวที
๒ ความรู้เท่าไมถ่ ึงการณ์
๓ ความกล้าหาญเด็ดเด่ียว
๔ ความเอาใจใส่พากเพียร
เฉลย
๕ เป็นลูกท่านทิ้งบดิ าก็น่าอาย ถึงเป็นตายฉันจะลาเจา้ ตาตาม
พระบิดรอยู่ตาบลแห่งหนไหน คงจะไปตามเสด็จไม่เขด็ ขาม
ข้อใดตรงกับความหมายหรือข้อคิดจากคาประพนั ธ์น้ี
๑ ความเอาใจใส่พากเพยี ร
๒ ความเจา้ เล่ห์เพทุบาย
๓ ความกตัญญูกตเวที
๔ ความกังวลห่วงใย
เฉลย
๖ มนุษย์นี้ที่รักอยู่สองสถาน บิดามารดารักมกั เป็นผล
ที่พ่ึงหน่ึงพ่งึ ได้แต่กายตน เกิดเป็นคนคิดเห็นจึงเจรจา
ข้อใดตรงกับความหมายหรือข้อคิดจากคาประพนั ธ์น้ี
๑ ตนเป็นท่ีพ่งึ แห่งตน
๒ ความเจ้าเล่ห์เพทพุ าย
๓ ความกล้าหาญเด็ดเดี่ยว
๔ ความเอาใจใส่พากเพยี ร
เฉลย
๗ ทั้งย่อมเยาว์เบาความได้สามปี
เล็กเท่าน้ีน่ีจะไปกระไรเลย
ต้องลมแดดแผดเผาจะเศร้าสร้อย
ท้ังกล้วยอ้อยพ่อจะได้ไหนเสวย
ข้อใดตรงกับความหมายหรือขอ้ คิดจากคาประพันธ์นี้
๑ ความกังวลห่วงใย เฉลย
๒ ความกตัญญูกตเวที
๓ ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์
๔ น้าลึกหยั่งได้ นา้ ใจหยั่งยาก
๘ ส่วนชเี ปลือยเฉ่ือยชา้ หลับตาคิด
มันเรืองฤทธิ์รู้เวทวิเศษไฉน
จาจะลวงหน่วงถามถึงความใน
เห็นจะได้ดอกเด็กเล็กเท่านี้
ข้อใดตรงกับความหมายหรือขอ้ คิดจากคาประพนั ธ์น้ี
๑ การรู้จกั เวลา เฉลย
๒ ความรู้เท่าไมถ่ ึงการณ์
๓ ความเจ้าเล่ห์เพทุบาย
๔ การเล่าเรื่องให้ผู้ใหญร่ ับทราบ
๙ สุดสาครอ่อนศักด์ิไม่หนักหน่วง
ถกู ลมลวงเล่าแจง้ แถลงไข
ท่ีความรู ้ครู สอนแต่ก่อนไร
ราพันให้แจ้งจติ ไมป่ ิดบงั
ขอ้ ใดตรงกับความหมายหรือข้อคิดจากคาประพันธ์น้ี
๑ ความกังวลห่วงใย
๒ ความรู้เท่าไมถ่ ึงการณ์ เฉลย
๓ ความเอาใจใส่พากเพียร
๔ การเล่าเร่ืองให้ผู้ใหญร่ ับทราบ
๑๐ แล้วสอนว่าอย่าไวใ้ จมนุษย์
มันแสนสุดลึกล้าเหลือกาหนด
ถึงเถาวัลยพ์ ันเก่ียวท่ีเล้ียวลด
ก็ไม่คดเหมอื นหน่ึงในน้าใจคน
ขอ้ ใดตรงกับความหมายหรือขอ้ คิดจากคาประพนั ธ์น้ี
๑ ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์
๒ ความเจา้ เล่ห์เพทบุ าย เฉลย
๓ ความกล้าหาญเด็ดเดี่ยว
๔ น้าลึกหยง่ั ได้ น้าใจหย่งั ยาก
๑ แต่มืดมวั กลวั ป่ ูไม่อยู่รบ แฉลบหลบขนึ้ ตลง่ิ วง่ิ ถลา
ข้อใดตรงกบั ความหมายหรือข้อคดิ จากคาประพันธ์นี้
๑ การรู้จกั เวลา การรู้จกั เวลา เพราะ
๒ ความกตญั ญูกตเวที สุดสาครรีบกลบั ไปหาป่ ู
เพราะเห็นว่าเป็ นเวลา
๓ ตนเป็นที่พ่งึ แห่งตน มืดค่าแล้ว
๔ การเล่าเรื่องใหผ้ ใู้ หญ่รับทราบ
ไปยังข้อ ๒
๒ ถงึ โยคดี ใี จไหว้วนั ทา บอกเจ้าตาตามจริงทุกสิ่งอนั
ข้อใดตรงกบั ความหมายหรือข้อคดิ จากคาประพนั ธ์นี้
การเล่าเรื่องให้ผ้ใู หญ่
๑ ตนเป็ นที่พ่ึงแห่งตน รับทราบ เพราะสังเกต
จากคาประพนั ธ์ว่า
๒ ความเจา้ เล่ห์เพทุบาย บอกเจ้าตาตามจริงทุกส่ิงอนั
ซึ่งแสดงถงึ การพูดความจริง
๓ น้าลึกหยงั่ ได้ น้าใจหยงั่ ยาก
๔ การเล่าเร่ืองใหผ้ ใู้ หญร่ ับทราบ
ไปยงั ข้อ ๓
๓ สุดสาครนอนบ่นมนต์สาคญั
ได้แม้นมนั่ เหมือนหน่ึงจติ ไม่ผดิ เพีย้ น
ข้อใดตรงกบั ความหมายหรือข้อคดิ จากคาประพันธ์นี้
๑ ความกตญั ญูกตเวที ความเอาใจใส่พากเพยี ร
เพราะสุดสาคร
๒ ความเอาใจใส่พากเพียร มคี วามต้ังใจ
๓ ความกลา้ หาญเดด็ เด่ียว ในการท่องมนตร์
๔ การเล่าเร่ืองใหผ้ ใู้ หญ่รับทราบ
ไปยงั ข้อ ๔
๔ ถงึ ยงั เดก็ เหลก็ เพชรไม่เขด็ ขอน
จะเจาะชอนเชิงลาเนาภูเขาขุน
ข้อใดตรงกบั ความหมายหรือข้อคดิ จากคาประพันธ์นี้
๑ ความกตญั ญูกตเวที ความกล้าหาญเด็ดเดย่ี ว
เพราะแสดงถึงความ
๒ ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ กล้าหาญของสุดสาคร
๓ ความกลา้ หาญเดด็ เดี่ยว ท่พี ร้อมจะเผชิญอนั ตราย
๔ ความเอาใจใส่พากเพยี ร ระหว่างการเดนิ ทาง
ไปยังข้อ ๕
๕ เป็ นลูกท่านทงิ้ บดิ ากน็ ่าอาย ถงึ เป็ นตายฉันจะลาเจ้าตาตาม
พระบิดรอยู่ตาบลแห่งหนไหน คงจะไปตามเสดจ็ ไม่เข็ดขาม
ข้อใดตรงกบั ความหมายหรือข้อคดิ จากคาประพนั ธ์นี้
๑ ความเอาใจใส่พากเพยี ร ความกตญั ญูกตเวที
เพราะแสดงถึงความกตัญญู
๒ ความเจา้ เล่ห์เพทุบาย
๓ ความกตญั ญูกตเวที ของสุดสาครในการ
๔ ความกงั วลห่วงใย ออกตามหาพ่อ
ไปยังข้อ ๖
๖ มนุษย์นีท้ ร่ี ักอยู่สองสถาน บดิ ามารดารักมกั เป็ นผล
ทพี่ ง่ึ หน่ึงพงึ่ ได้แต่กายตน เกดิ เป็ นคนคดิ เห็นจงึ เจรจา
ข้อใดตรงกบั ความหมายหรือข้อคดิ จากคาประพนั ธ์นี้
๑ ตนเป็นที่พ่งึ แห่งตน ตนเป็ นทีพ่ ง่ึ แห่งตน
หมายถงึ การกระทาสิ่งใด
๒ ความเจา้ เล่ห์เพทุพาย ควรใช้ความสามารถของ
ตนเอง อย่ารอ
๓ ความกลา้ หาญเดด็ เดี่ยว ความช่วยเหลือจากคนอ่ืน
๔
ความเอาใจใส่พากเพียร
ไปยงั ข้อ ๗
๗ ท้งั ย่อมเยาว์เบาความได้สามปี
เลก็ เท่านีน้ ี่จะไปกระไรเลย
ต้องลมแดดแผดเผาจะเศร้าสร้อย
ท้งั กล้วยอ้อยพ่อจะได้ไหนเสวย
ข้อใดตรงกบั ความหมายหรือข้อคดิ จากคาประพนั ธ์นี้
๑ ความกงั วลห่วงใย ความกังวลห่วงใย เพราะ
แสดงถึงความห่วงใยของ
๒ ความกตญั ญูกตเวที แม่ทีม่ ีต่อลกู
๓
ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์
๔ น้าลึกหยงั่ ได้ น้าใจหยง่ั ยาก ไปยงั ข้อ ๘
ส่วนชีเปลือยเฉื่อยช้าหลบั ตาคดิ
๘ มันเรืองฤทธ์ิรู้เวทวเิ ศษไฉน
จาจะลวงหน่วงถามถึงความใน
เห็นจะได้ดอกเดก็ เลก็ เท่านี้
ข้อใดตรงกบั ความหมายหรือข้อคดิ จากคาประพนั ธ์นี้
๑ การรู้จกั เวลา ความเจ้าเล่ห์เพทุบาย สังเกต
๒ ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ได้จากคาประพนั ธ์ว่า
จา จะลวงห น่ วงถ ามถึงความใน
๓ ความเจา้ เล่ห์เพทุบาย ซึ่งแสดงถึงความเจ้าเล่ห์เพทุบาย
๔ การเลา่ เร่ืองใหผ้ ใู้ หญ่รับทราบ ไปยังข้อ ๙
สุดสาครอ่อนศักด์ไิ ม่หนักหน่วง
๙ ถูกลมลวงเล่าแจ้งแถลงไข
ทค่ี วามรู้ครูสอนแต่ก่อนไร
ราพนั ให้แจ้งจติ ไม่ปิ ดบัง
ข้อใดตรงกบั ความหมายหรือข้อคดิ จากคาประพนั ธ์นี้
๑ ความกงั วลห่วงใย ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์
สังเกตจากคาประพนั ธ์ว่า
๒ ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ถูกลมลวงเล่าแจ้งแถลงไข ซ่ึง
๓ หมายถงึ การถูกหลอกให้พดู
๔ ความเอาใจใส่พากเพยี ร ความจริง แสดงว่าผู้พดู พดู
ออกไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์
การเล่าเรื่องใหผ้ ใู้ หญ่รับทราบ
ไปยงั ข้อ ๑๐
๑๐ แล้วสอนว่าอย่าไว้ใจมนุษย์
มนั แสนสุดลกึ ลา้ เหลือกาหนด
ถงึ เถาวลั ย์พนั เกยี่ วทเ่ี ลยี้ วลด
กไ็ ม่คดเหมือนหนึ่งในนา้ ใจคน
ข้อใดตรงกบั ความหมายหรือข้อคดิ จากคาประพันธ์นี้
๑ ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ น้าลกึ หยัง่ ได้ นา้ ใจหยงั่ ยาก
หมายถงึ น้าลึกยงั สามารถ
๒ ความเจา้ เล่ห์เพทุบาย วดั ได้แต่น้าใจหรือจิตใจคน
๓ ความกลา้ หาญเดด็ เดี่ยว วดั ได้ยาก ดังน้ัน จงึ ไม่ควร
ไว้ใจใครง่าย ๆ
๔ น้าลึกหยงั่ ได้ น้าใจหยงั่ ยาก กลบั สู่หน้าหน่วยการเรียนรู้
หมดเวลาเรยี นแล้ว
ไวเ้ จอกันในชั่วโมงต่อไปนะคะ
นักเรียนทาแบบฝกึ หัดภาษาไทย
วรรณคดีและวรรณกรรม
หน่วยการเรียนรู้ที่ ๒ หน้า ๑๖๗-๑๗๑
และ
แบบฝึกหัดทักษะภาษา หน้า ๑๒-๑๔
วรรณคดแี ละวรรณกรรม ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี ๔