The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรายวิชาภาษาอังกฤษในชีวิตจริง 1 ปีการศึกษา 2561

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by nongbest.nonggrace, 2018-08-28 21:22:47

แผนการสอนวิชาภาษาอังกฤษในชีวิตจริง

แผนการจัดการเรียนรายวิชาภาษาอังกฤษในชีวิตจริง 1 ปีการศึกษา 2561

แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี 1

ช่อื วชิ า ภาษาองั กฤษในชีวิตจริง 1 (Real Life English 1) รหสั วิชา 2000-1201

หน่วยท่ี 1 Making an Introduction เวลา 6 ชวั่ โมง

1. สาระสาคญั

การเรยี นรภู้ าษาองั กฤษถอื ว่าเป็นสง่ิ ทจ่ี าเป็นและมบี ทบาทสาคญั ต่อประเทศสมาชกิ ใน
ประชาคมอาเซยี นมากขน้ึ เน่อื งถกู นามาใชเ้ ป็นภาษากลางในการตดิ ต่อสอ่ื สาร การทางาน การ
ดาเนินธุรกจิ แลกเปลย่ี นแนวคดิ ความรู้ ตลอดจนวฒั นธรรมต่างๆ ของแต่ละประเทศ ดงั นนั้
ผเู้ รยี นภาษาองั กฤษควรศกึ ษาการใชค้ าศพั ทแ์ ละสานวนภาษาในการทกั ทาย การแนะนาตวั และ
การแสดงความยนิ ดที ไ่ี ดร้ จู้ กั ใหถ้ กู ตอ้ ง คลอ่ งแคลว่ และเหมาะสมตามวฒั นธรรมสงั คม รวมถงึ
เขา้ ใจความเหมอื นและความแตกต่างระหวา่ งวฒั นธรรมในการทกั ทายและดาเนนิ ชวี ติ ประจาวนั
ของกลุม่ ประเทศในประชาคมอาเซยี น

2. วตั ถปุ ระสงคก์ ารเรียนร้บู รู ณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง
1. เพ่อื ใหผ้ เู้ รยี นมคี วามรพู้ น้ื ฐานเกย่ี วกบั ประเทศสมาชกิ ในประชาคมอาเซยี น
2. เพ่อื ใหผ้ เู้ รยี นสามารถใชค้ าศพั ทห์ รอื สานวนภาษาในการทกั ทาย การแนะนาตวั และ

การแสดงความยนิ ดที ไ่ี ดร้ จู้ กั ไดถ้ ูกตอ้ งตามวฒั นธรรมสงั คม

3. เพ่อื ใหผ้ เู้ รยี นสามารถสะกดคาได้
4. เพ่อื ใหผ้ เู้ รยี นเขา้ ใจความเหมอื นและความแตกต่างระหวา่ งวฒั นธรรมการทกั ทาย

ของกลุ่มประเทศในประชาคมอาเซยี น

3. สาระการเรียนรู้
1. Countries in the ASEAN Community
2. Greeting
3. Introducing Oneself
4. Spelling Names

4. สมรรถนะประจาหน่วยการเรียนรู้
1. บอกชอ่ื เมอื งหลวงและประเทศสมาชกิ ในอาเซยี น
2. พดู ทกั ทายแนะนาตวั เองและผอู้ ่นื
3. สอบถามและใหข้ อ้ มลู ส่วนตวั
4. ใชภ้ าษาไดถ้ กู ตอ้ งตามหลกั ภาษา

5. ใชค้ าศพั ทแ์ ละสานวนภาษาในการสอ่ื สารตามสถานการณ์
6. แสดงบทบาทสมมตหิ รอื สถานการณ์จาลองทก่ี าหนด
7. เขยี นกรอกขอ้ มลู ต่างๆ ในแบบฟอรม์

5. กรอบการจดั การเรียนบรู ณาการหลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง

ความมเี หตผุ ล ความพอประมาณ การมภี มู ิค้มุ กนั ท่ีดี
Reasonableness Moderation Self-immunity
เรยี นรวู้ ฒั นธรรมสงั คมท่ี ยดึ ทางสายกลางเป็นแนวทาง
แตกต่างของแต่ละประเทศ ในการดารงตน เขา้ ใจความเหมอื นและความ
แตกต่างระหว่างวฒั นธรรมการ
ทกั ทายของกลุ่มประเทศใน
ประชาคมอาเซยี น

เง่ือนไขความรู้ Knowledge condition รอบรู้ เงื่อนไขคณุ ธรรม Moral condition ซื่อสตั ย์

Intelligence รอบคอบ Self–awareness สจุ ริต Loyalty ขยนั Diligence อดทน

ระมดั ระวงั Attentiveness Forbearance แบง่ ปัน sharing

1. 1. Countries in the ASEAN Community 1. มมี นุษยสมั พนั ธ์
2. ความมวี นิ ยั
2. 2. Greeting 3. ความรบั ผดิ ชอบ
3. 3. Introducing Oneself 4. ความซอ่ื สตั ยส์ ุจรติ
4. 4. Spelling Names 5. ความเช่อื มนั่ ในตนเอง

6. ความสนใจใฝร่ ู้

7. การละเวน้ สง่ิ เสพยต์ ดิ และการพนนั

8. ความรกั สามคั คี

9. ความคดิ รเิ รม่ิ สรา้ งสรรค์

10. การพง่ึ ตนเอง

มิติทางสงั คม เขา้ ใจความเหมอื นและความแตกต่างระหว่างวฒั นธรรม
การทกั ทายของกลุ่มประเทศในประชาคมอาเซยี น
มิติทางเศรษฐกิจ เขา้ ใจและรเู้ กย่ี วกบั ขอ้ มลู พน้ื ฐานของแต่ละประเทศในอาเซยี น
มิติทางวฒั นธรรม อนุรกั ษว์ ฒั นธรรมไทย พรอ้ มรบั กบั การเปลย่ี นแปลง
มิติทางสิ่งแวดล้อม อนุรกั ษ์สงิ่ แวดลอ้ มและทรพั ยากรธรรมชาติ

6. กิจกรรมการเรียนรู้
กิจกรรมก่อนเรียน

 ครสู ุ่มใหผ้ เู้ รยี นจบั ค่คู าศพั ทท์ ม่ี คี วามหมายเหมอื นกนั (synonym) หรอื คาตรงกนั ขา้ ม
(antonym) แลว้ บอกความหมาย เชน่
 North ทศิ เหนือ มคี วามหมายตรงขา้ มกบั South ทศิ ใต้
 Community มคี วามหมายเหมอื นกบั Society ( สงั คม)

กิจกรรมพฒั นาทกั ษะการใช้คาศพั ทแ์ ละการพดู

 ครใู หผ้ เู้ รยี นอ่านและศกึ ษาขอ้ มลู พน้ื ฐานเกย่ี วกบั ประเทศต่างๆ ในสมาชกิ ประชาคม
อาเซยี น การทกั ทายของแต่ละประเทศ ครสู ุ่มถามขอ้ มลู ทวั่ ไป เช่น
 How do you greet people in Thailand?
 What is the currency of Laos?
 What is the capital of Cambodia?

 ครตู รวจสอบความรคู้ วามเขา้ ใจของผเู้ รยี นในเรอ่ื งขอ้ มลู ทวั่ ไปของประเทศต่างๆ ใน
อาเซยี น โดยใหท้ าแบบฝึกหดั ท่ี 1 เตมิ คาลงในชอ่ งวา่ งเพ่อื ทาใหป้ ระโยคมใี จความท่ี
สมบรู ณ์ จากนนั้ ครแู ละผเู้ รยี นตรวจสอบคาตอบรว่ มกนั

 ครใู หอ้ ธบิ ายขอ้ มลู เพมิ่ เตมิ เกย่ี วประเทศในสมาชกิ อาเซยี น พรอ้ มทงั้ เปิดโอกาสให้
ผเู้ รยี นสอบถามและแลกเปลย่ี นความรใู้ นประเดน็ อ่นื ๆ ทส่ี นใจหรอื สงสยั หลงั จากนนั้
ครใู หผ้ เู้ รยี นทาแบบฝึกหดั โดยการอ่านศกึ ษาขอ้ มลู ทก่ี าหนดในหนงั สอื และตอบ
คาถาม จากนนั้ ครแู ละผเู้ รยี นตรวจสอบคาตอบรว่ มกนั

 ครใู หอ้ ธบิ ายและยกตวั อยา่ งการใชค้ าศพั ทแ์ ละสานวนภาษาในการพดู ทกั ทาย การพดู
แนะนาตวั เองหรอื เพอ่ื น และมรรยาทในการวางตวั ใหถ้ กู ตอ้ งเหมาะสมกบั วฒั นธรรม
ของแต่ละประเทศ แลว้ หลงั จากนนั้ ใหฝ้ ึกอ่านออกเสยี งตามตวั อยา่ งบทสนทนาใน
หนงั สอื เรยี น โดยครพู ดู เป็นตวั อยา่ งใหก้ บั ผูเ้ รยี นก่อน

 ครตู รวจสอบความรคู้ วามเขา้ ใจในการใชค้ าศพั ทแ์ ละสานวนในการพดู ทกั ทาย และ
แนะนานาตวั เองหรอื เพอ่ื น โดยใหผ้ เู้ รยี นผเู้ รยี นเตมิ คาลงในบทสนทนาทก่ี าหนด
ใหถ้ กู ตอ้ ง

แลว้ ใหผ้ เู้ รยี นจบั ค่ฝู ึกการสนทนาตามรปู แบบทก่ี าหนด และตรวจสอบความถกู ตอ้ ง
รว่ มกนั เชน่

A: Hello! May I introduce myself? My name is Komsan Sookjai.
B: Hello! I am Hanna Amira. I’m from Brunei.
A: Nice to meet you, Hanna.

B: Nice to meet you too. Where are you from, Komsan?
A: I’m from Bangkok, Thailand.

 ครใู หผ้ เู้ รยี นศกึ ษาตวั อยา่ งบทสนทนา เกย่ี วกบั การพดู คุยสอบถามขอ้ ทวั่ ไปของคู่
สนทนา และใหผ้ เู้ รยี นสรา้ งบทสนทนาโดยครคู อยให้คาชแ้ี นะ แลว้ หลงั จากนนั้ ครใู ห้
ผเู้ รยี นแสดงบทบาทสมมตติ ามบทสนทนาทไ่ี ดส้ รา้ งไว้ ตวั อยา่ งเชน่
A: How do you do, Mrs. Westwood?
Can you please spell your first name?
B: Celine. It’s C-E-L-I-N-E.
A: Thank you. Please call me Jeff.
B: Call me Celine. Nice talking with you.
A: Nice talking with you too.

 ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สรุปและทบทวนคาศพั ทแ์ ละสานวนภาษาทใ่ี ชใ้ นการพดู
ทกั ทาย แนะนาตวั เองและผอู้ ่นื รวมถงึ การสอบถามขอ้ มลู ส่วนตวั ต่างๆ เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี น
มคี วามเขา้ ใจมากยงิ่ ขน้ึ

 ครใู หน้ กั เรยี นสรา้ งบทสนทนาเกย่ี วกบั การทกั ทาย แนะนาตวั เองและเพอ่ื น โดยเขยี น
บทสนทนาลงในชอ่ งวา่ ง จากนนั้ ครใู หผ้ ู้เรยี นแสดงบทบาทสมมติ ตามบทสนทนาท่ี
เขยี นไว้ ครเู ป็นผปู้ ระเมนิ ทกั ษะการพดู ของผเู้ รยี น

กิจกรรมการเขียน

 ครใู หผ้ เู้ รยี นกรอกขอ้ มลู ส่วนตวั ลงในแบบฟอรม์ Personal Profile
 ครสู อดแทรกเรอ่ื ง Present Simple Tense แลว้ ใหน้ กั เรยี นเขยี นประวตั สิ ่วนตวั เช่น

ชอ่ื วนั เกดิ อายุ สถานทเ่ี รยี น สาขาวชิ า ทอ่ี ยู่ กจิ กรรมทช่ี อบทา ฯลฯ โดยแต่ง
ประโยคในรปู ของ Present Simple Tense
 ครใู หผ้ เู้ รยี นเขยี นบนั ทกึ การเรยี นรู้ (Learning Log) เพอ่ื สรปุ คาศพั ท์ สานวน
ภาษาองั กฤษและเรอ่ื งทไ่ี ดศ้ กึ ษามาจากในบทเรยี น

กิจกรรมประเมินผล

 ครใู หผ้ เู้ รยี นทาแบบทดสอบเพอ่ื ประเมนิ ความรคู้ วามเขา้ ใจ

7. ส่ือการเรียนรู้

 หนงั สอื เรยี น
 ใบงาน

 แผนการจดั การเรยี นรู้
 แบบทดสอบ

8. การวดั และประเมินผล

วิธีวดั
 วดั ทกั ษะการพดู
 วดั ความรคู้ วามเขา้ ใจ
 ประเมนิ ตนเองดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ มและคณุ ลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์

เครอื่ งมือวดั และประเมินผล
 แบบประเมนิ ทกั ษะการพดู
 แบบทดสอบผลสมั ฤทธทิ ์ างการเรยี น เพอ่ื วดั ความรคู้ วามเขา้ ใจ
 แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยมและคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

เกณฑก์ ารประเมิน
 เกณฑก์ ารพูดของผเู้ รยี นตอ้ งอยใู่ นระดบั 60 % ขน้ึ ไป
 ผลสมั ฤทธทิ ์ างการเรยี นของผเู้ รยี นตอ้ งอยใู่ นระดบั 60 % ขน้ึ ไป
 แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนน
ขน้ึ อยกู่ บั การประเมนิ ตามสภาพจรงิ

9. บนั ทึกผลหลงั สอน

ผลการสอน
..................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................

ปัญหา/ อปุ สรรค

..................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................

ข้อเสนอแนะ/ วิธีการแก้ไข

..................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................

แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี 2

ช่อื วชิ า ภาษาองั กฤษในชีวิตจริง 1 (Real Life English 1) รหสั วิชา 2000-1201

หน่วยท่ี 2 Getting to know เวลา 6 ชวั่ โมง

10. สาระสาคญั

ประชากรของประเทศต่างๆ ในประชาคมอาเซยี นประกอบดว้ ยผคู้ นจากหลายเชอ้ื ชาติ
ศาสนา ภาษา และวฒั นธรรม ดงั นนั้ การศกึ ษาเรยี นรเู้ รอ่ื งวฒั นธรรม วถิ กี ารดาเนินชวี ติ คนใน
แต่ละชาติ ตลอดจนการใช้คาศัพท์หรอื สานวนภาษาในการแนะนาผู้อ่ืนให้รู้จกั กัน การพูด

สอบถามและให้ข้อมูลบุคคลให้ถูกต้อง เหมาะสมตามบรบิ ททางสงั คม ซ่งึ ถอื เป็นพ้นื ฐานท่ี

จาเป็นและสาคญั ในการนาไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจาวนั และการทางาน

11.วตั ถปุ ระสงคก์ ารเรียนร้บู รู ณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง
1. เพ่อื ใหผ้ เู้ รยี นสามารถบอกสญั ชาตไิ ด้
2. เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นสามารถใชค้ าศพั ทห์ รอื สานวนภาษาในการแนะนาผอู้ ่นื ใหร้ จู้ กั กนั การ

สอบถามและใหข้ อ้ มลู บุคคล

3. เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นความรเู้ กย่ี วกบั ระหวา่ งวฒั นธรรมการจบั มอื (Shaking Hands)

12. สาระการเรียนรู้
1. Citizen & Nationalities in ASEAN Communities
2. Talking about nationalities
3. Introducing others
4. Asking for & Giving personal information

13. สมรรถนะประจาหน่ วยการเรียนรู้
1. บอกสญั ชาตขิ องคนในประเทศต่างๆ
2. พดู แนะนาผอู้ ่นื ใหร้ จู้ กั กนั
3. สอบถามและใหข้ อ้ มลู เกย่ี วกบั ขอ้ มลู ส่วนตวั
4. ใชค้ าศพั ทแ์ ละสานวนภาษาในการสอ่ื สารตามสถานการณ์
5. แสดงบทบาทสมมตหิ รอื สถานการณ์จาลองทก่ี าหนด
6. เขยี นบรรยายใหข้ อ้ มลู บคุ คล

14.กรอบการจดั การเรียนบรู ณาการหลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง

ความมเี หตผุ ล ความพอประมาณ การมภี มู ิค้มุ กนั ท่ีดี
Self-immunity
Reasonableness Moderation
รจู้ กั ปรบั ตวั ใหเ้ ขา้ กบั ผอู้ ่นื จาก
การปรบั ตวั ใหเ้ ขา้ กบั ผอู้ ่นื ตาม ยดึ ทางสายกลางเป็นแนวทาง การเรยี นรวู้ ฒั นธรรมท่ี
แตกต่างของแต่ละประเทศ
วฒั นธรรมทแ่ี ตกต่างของแต่ละ ในการดารงตน

ประเทศ

เงื่อนไขความรู้ Knowledge condition รอบรู้ เง่ือนไขคณุ ธรรม Moral condition ซื่อสตั ย์

Intelligence รอบคอบ Self–awareness สจุ ริต Loyalty ขยนั Diligence อดทน

ระมดั ระวงั Attentiveness Forbearance แบ่งปัน sharing

1.Citizen & Nationalities in ASEAN 11. มมี นุษยสมั พนั ธ์

Communities 12. ความมวี นิ ยั

2.Talking about nationalities 13. ความรบั ผดิ ชอบ
3.Introducing others 14. ความซอ่ื สตั ยส์ ุจรติ
4.Asking for & Giving personal 15. ความเช่อื มนั่ ในตนเอง
16. ความสนใจใฝร่ ู้
information 17. การละเวน้ สงิ่ เสพยต์ ดิ และการพนนั
18. ความรกั สามคั คี
1.

19. ความคดิ รเิ รม่ิ สรา้ งสรรค์

20. การพง่ึ ตนเอง

มิติทางสงั คม มมี นุษยส์ มั พนั ธท์ ด่ี ี รจู้ กั ปรบั ตวั ใหเ้ ขา้ กบั ผอู้ ่นื ตามวฒั นธรรม
ทแ่ี ตกต่างของแต่ละประเทศในประชาคมอาเซยี น
มิติทางเศรษฐกิจ มคี วามรบั ผดิ ชอบ ซ่อื สตั ยใ์ นในการประกอบอาชพี
มิติทางวฒั นธรรม อนุรกั ษว์ ฒั นธรรมไทย พรอ้ มรบั กบั การเปลย่ี นแปลง
มิติทางส่ิงแวดล้อม อนุรกั ษส์ ง่ิ แวดลอ้ มและทรพั ยากรธรรมชาติ

15. กิจกรรมการเรียนรู้
กิจกรรมก่อนเรียน

 ครใู หน้ กั เรยี นดรู ปู ภาพบุคคลชาตติ ่างๆ แลว้ ใหผ้ เู้ รยี นรว่ มกนั บอกคาศพั ทว์ ่าบุคคลใน
รปู ภาพมาจากประเทศอะไร โดยครูจะเขยี นสะกดคาท่ถี ูกต้องไว้บนกระดานและให้
ผู้เรยี นฝึกอ่านออกเสยี งคาศพั ท์ตาม หลงั จากนัน้ ครูจะมกี ารสุ่มถามผู้เรยี น แล้วให้
ตอบในรปู ประโยคตามโครงสรา้ งภาษาทก่ี าหนด เช่น

Q: Where is he/she from? หรอื Where are they from?
A: He/ She is from………….หรอื They are from…………..

กิจกรรมพฒั นาทกั ษะการใช้คาศพั ทแ์ ละการพดู

 ครใู หผ้ เู้ รยี นศกึ ษาคาศพั ทแ์ ละความหมายทเ่ี กย่ี วกบั เชอ้ื ชาตติ ่างๆ ในประเทศสมาชกิ
อาเซยี น และประเทศในทวปี ต่างๆ โดยไดอ้ ธบิ ายเพมิ่ เตมิ เกย่ี วกบั การใชส้ านวนและ
คาศพั ทเ์ พ่อื พดู บรรยายเชอ้ื ชาติ พรอ้ มทงั้ ไดส้ อดแทรกความรู้ เรอ่ื ง Nationality Suffix

 ครใู หน้ กั เรยี นดรู ปู ภาพ แลว้ เขยี นบรรยายว่าบคุ คลในภาพมเี ชอ้ื ชาติอะไร โดยเตมิ คา
ลงไปในประโยคทก่ี าหนดให้ แลว้ รว่ มกนั ตรวจสอบคาตอบทถ่ี ูกตอ้ งพรอ้ มกนั

 ครใู หผ้ เู้ รยี นศกึ ษาวธิ กี ารถาม-ตอบเชอ้ื ชาตแิ ละประเทศจากตวั อยา่ งบทสนทนา แลว้

ส่มุ ใหน้ กั เรยี นฝึกพดู ถามตอบ โดยครจู ะคอ่ ยชแ้ี นะและตรวจสอบความถูกตอ้ ง เช่น

Q: Are you Malaysian, Katrina? Q: Is she Vietnamese?

A: No, I’m not. I’m Filipino. A: Yes, she is. She is from Hanoi.

 ครูตรวจสอบความรู้ความเขา้ ใจของผู้เรยี นในด้านการใช้คาศพั ท์และโครงสร้างทาง
ภาษา โดยใหผ้ เู้ รยี นฝึกเขยี นประโยคบรรยายบุคคลว่าช่อื อะไร มาจากประเทศไหน มี
เชอ้ื ชาตอิ ะไรตามรปู ภาพทก่ี าหนดใหใ้ นแบบฝึกหดั

 ครใู หผ้ เู้ รยี นศกึ ษาคาศพั ทแ์ ละสานวนภาษาองั กฤษทใ่ี ชใ้ นการพูดแนะนาบุคคลอ่นื จาก
ตวั อย่างบทสนทนา จากนัน้ ครอู ธบิ ายใหค้ วามรู้เพม่ิ เตมิ พรอ้ มทงั้ อ่านออกเสยี งเป็น
ตวั อยา่ งเพ่อื ใหผ้ เู้ รยี นมคี วามเขา้ ใจมากยงิ่ ขน้ึ

 ครตู รวจสอบความเขา้ ใจของผเู้ รยี นโดยการใหท้ าแบบฝึกหดั ชนิดเตมิ คาลงในช่องว่าง
และบทสนทนา จากนนั้ ครแู ละผเู้ รยี นตรวจสอบคาตอบรว่ มกนั
.

 ครใู หผ้ เู้ รยี นศกึ ษาตวั อยา่ งบทสนทนาการพดู แนะนาเพ่อื นใหมใ่ หร้ จู้ กั กนั การสอบถาม
เชอ้ื ชาติ แลว้ ใหผ้ เู้ รยี นร่วมกลุ่มกนั 3 คน เพ่อื สรา้ งบทสนทนารว่ มกนั โดยครคู อยให้
คาชแ้ี นะ หลงั จากนนั้ ครใู หผ้ เู้ รยี นแสดงบทบาทสมมตติ ามบทสนทนาทไ่ี ดส้ รา้ งไว้

 ครูอธบิ ายยกตวั อยา่ งการใชค้ าถามเพ่อื สอบถามขอ้ มลู ส่วนตวั ต่างๆ เช่น อายุ ทอ่ี ยู่
ความชอบ ความสนใจ และสอดแทรกเรอ่ื งของวฒั นธรรมการจบั มอื กนั แลว้ ใหผ้ เู้ รยี น
ศึกษาเพิ่มเติมด้วยตนเองจากในบทเรียนเก่ียวกับการถามคาตอบแบบ Yes/No
question และ Wh-question

 ครูให้ผู้เรยี นทาแบบฝึกหดั ตอบคาถามจากบทสนทนาท่กี าหนด และจบั คู่คาถาม –
คาตอบทเ่ี ก่ยี วกบั การถามขอ้ มลู ส่วนตวั ต่างๆ ใหเ้ หมาะสม จากนนั้ รว่ มกนั ตรวจสอบ
คาตอบพรอ้ มกนั ในชนั้ เรยี น โดยครสู ุ่มใหน้ กั เรยี นเฉลยในแต่ละขอ้ หากขอ้ ใดตอบผดิ
ครจู ะชว่ ยอธบิ ายเพม่ิ เตมิ เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นเขา้ ใจมากขน้ึ

 ครูให้ผู้เรยี นจบั คู่สร้างบทสนทนาเก่ยี วกับการสอบถามข้อมูล เพ่อื ทาความรูจ้ กั กนั
โดยเขยี นบทสนทนาลงในช่องว่างตามหวั ข้อท่ีกาหนด จากนัน้ ครูให้ผู้เรยี นแสดง
บทบาทสมมติ ตามบทสนทนาทเ่ี ขยี นไว้ ครเู ป็นผปู้ ระเมนิ ทกั ษะการพดู ของผเู้ รยี น

กิจกรรมการเขียน

 ครใู หผ้ เู้ รยี นทาแบบฝึกหดั เขยี นเรยี งคาใหมเ่ พ่อื สรา้ งประโยคทเ่ี กย่ี วกบั การถามขอ้ มลู
ส่วนตวั ใหถ้ ูกตอ้ งตามโครงสรา้ งภาษา

 ครใู หผ้ เู้ รยี นศกึ ษาตวั อยา่ งการเขยี นบรรยายขอ้ มลู สว่ นตวั แลว้ ใหผ้ เู้ รยี นเขยี นประวตั ิ
สว่ นตวั ของตนเองและเพอ่ื นสนทิ 1 คน ตวั อยา่ งประโยค เช่น
- My name is Adirek Palajak.
- I’m 16 years old.
- I’m Thai.
- I was born on Thursday, December 15, 1995.
- Now I live in Muang District, Nakorn Ratchasrima.
- I’m a student at Nakorn Ratchasrima Vocational College.
- My major field of study is Accounting.
- My number is 08-7255-4133.
- I like watching science fiction movies.

 ครูให้ผู้เรยี นเขยี นบนั ทกึ การเรยี นรู้ (Learning Log) เพ่อื สรุปคาศพั ท์ สานวน
ภาษาองั กฤษและเรอ่ื งทไ่ี ดศ้ กึ ษามาจากในบทเรยี น

กิจกรรมประเมินผล

 ครใู หผ้ เู้ รยี นทาแบบทดสอบเพ่อื ประเมนิ ความรคู้ วามเขา้ ใจ

16. สื่อการเรียนรู้

 หนงั สอื เรยี น
 ใบงาน
 แผนการจดั การเรยี นรู้
 แบบทดสอบ

17.การวดั และประเมินผล

วิธีวดั
 วดั ทกั ษะการพดู
 วดั ความรคู้ วามเขา้ ใจ
 ประเมนิ ตนเองดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยมและคณุ ลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์

เครอื่ งมอื วดั และประเมินผล
 แบบประเมนิ ทกั ษะการพดู
 แบบทดสอบผลสมั ฤทธทิ ์ างการเรยี น เพ่อื วดั ความรคู้ วามเขา้ ใจ
 แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยมและคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

เกณฑก์ ารประเมิน
 เกณฑก์ ารพูดของผเู้ รยี นตอ้ งอยใู่ นระดบั 60 % ขน้ึ ไป
 ผลสมั ฤทธทิ ์ างการเรยี นของผเู้ รยี นตอ้ งอยใู่ นระดบั 60 % ขน้ึ ไป
 แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนน
ขน้ึ อยกู่ บั การประเมนิ ตามสภาพจรงิ

18.บนั ทึกผลหลงั สอน

ผลการสอน
..................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................

...............................................................................................................................................
ปัญหา/ อปุ สรรค

..................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................

ข้อเสนอแนะ/ วิธีการแก้ไข

..................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................

แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ 3

ช่อื วชิ า ภาษาองั กฤษในชีวิตจริง 1 (Real Life English 1) รหสั วิชา 2000-1201

หน่วยท่ี 3 Taking about routines เวลา 9 ชวั่ โมง

19. สาระสาคญั

การทากจิ วตั รประจาวนั หรอื กจิ กรรมยามว่างของละบุคคลนนั้ ย่อมมแี ตกต่างกนั ไปตาม
ความชอบ ความสนใจ สภาพภูมปิ ระเทศ วฒั นธรรมประจาชาติ และเวลา ซง่ึ ถือว่าเป็นสง่ิ ท่ี
สาคญั โดยในแต่ละประเทศจะมกี ารกาหนดเวลาแตกต่างกนั ไปตามการแบ่งโซนเวลาของโลก
ดงั นัน้ ผู้เรยี นต้องศึกษาเร่อื งดงั กล่าวและเรยี นรคู้ าศพั ทแ์ ละสานวนภาษาองั กฤษในสอบถาม
และให้ข้อมูลเก่ียวกับกิจวตั รประจาวัน การบอกเวลา วันเดือนปี การอ่านตารางต่างๆ ท่ี
เก่ียวข้องกบั เวลาให้ถูกต้อง เพ่ือให้สามารถนาความรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวันและ
การทางาน ตลอดจนการศกึ ษาต่อในระดบั ทส่ี งู ขน้ึ

20.วตั ถปุ ระสงคก์ ารเรียนร้บู รู ณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง
1. เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นสามารถบอกเวลาได้
2. เพ่อื ใหผ้ เู้ รยี นสามารถสอบถามและใหข้ อ้ มลู เกย่ี วกบั กจิ วตั รประจาวนั โดยใชค้ าศพั ท์

หรอื สานวนภาษาทถ่ี กู ตอ้ ง

3. เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นสามารถบอกความถค่ี วามบ่อยของการกระทาได้
4. เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นมคี วามรเู้ กย่ี วกบั การแบ่งโซนเวลาของโลกรวมทงั้ ความแตกต่างของ

เวลาในชาตอิ าเซยี น

21. สาระการเรียนรู้
1. Routine activities
2. Telling time
3. Talking about routines

22. สมรรถนะประจาหน่ วยการเรียนรู้
1. สอบถามและใหข้ อ้ มลู เกย่ี วกบั ชวี ติ ประจาวนั
2. บอกเวลาและแตกต่างของเวลาในชาตอิ าเซยี น
3. เขยี นบรรยายกจิ วตั รประจาวนั
4. ใชโ้ ครงสรา้ งภาษาถูกตอ้ ง
5. ใชค้ าศพั ทแ์ ละสานวนภาษาในการส่อื สารตามสถานการณ์
6. แสดงบทบาทสมมตหิ รอื สถานการณ์จาลองทก่ี าหนด

23.กรอบการจดั การเรียนบรู ณาการหลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง

ความมเี หตุผล ความพอประมาณ การมีภมู ิค้มุ กนั ที่ดี

Reasonableness Moderation Self-immunity

การบรหิ ารจดั การเวลาทด่ี แี ละ ยดึ ทางสายกลางเป็นแนวทาง รจู้ กั แบ่งและใชเ้ วลาใหเ้ กดิ

เหมาะสมจะทาใหป้ ระสบ ในการดารงตน ประโยชน์และคมุ้ ค่า

ความสาเรจ็ ในชวี ติ

เง่ือนไขความรู้ Knowledge condition รอบรู้ เง่ือนไขคณุ ธรรม Moral condition ซ่ือสตั ย์

Intelligence รอบคอบ Self–awareness สจุ ริต Loyalty ขยนั Diligence อดทน

ระมดั ระวงั Attentiveness Forbearance แบง่ ปัน sharing

1. 1. Countries in the ASEAN Community 21. มมี นุษยสมั พนั ธ์
22. ความมวี นิ ยั
2. 2. Greeting 23. ความรบั ผดิ ชอบ
3. 3. Introducing oneself 24. ความซอ่ื สตั ยส์ ุจรติ
4. 4. Spelling names 25. ความเช่อื มนั่ ในตนเอง
26. ความสนใจใฝร่ ู้

27. การละเวน้ สงิ่ เสพยต์ ดิ และการพนนั

28. ความรกั สามคั คี

29. ความคดิ รเิ รม่ิ สรา้ งสรรค์

30. การพง่ึ ตนเอง

มิติทางสงั คม เขา้ ใจความเหมอื นและความแตกต่างระหวา่ งวฒั นธรรม
การทกั ทายของกลมุ่ ประเทศในประชาคมอาเซยี น
มิติทางเศรษฐกิจ ใชเ้ วลาและสงิ่ ต่างๆ ทม่ี อี ยา่ งคุม้ ค่า
มิติทางวฒั นธรรม อนุรกั ษว์ ฒั นธรรมไทย พรอ้ มรบั กบั การเปลย่ี นแปลง
มิติทางสิ่งแวดล้อม อนุรกั ษ์สงิ่ แวดลอ้ มและทรพั ยากรธรรมชาติ

24. กิจกรรมการเรียนรู้
กิจกรรมก่อนเรียน

 ครใู หน้ กั เรยี นดรู ปู ภาพทเ่ี กย่ี วกบั กจิ วตั รประจาวนั แลว้ ใหผ้ เู้ รยี นเขยี นคาศพั ทว์ า่
บุคคลในรปู ภาพกาลงั ทากจิ กรรมอะไร ในรปู ของ Infinitive phrase หลงั จากนนั้ ครแู ละ
ผเู้ รยี นตรวจสอบคาตอบรว่ มกนั โดยครจู ะเป็นฝา่ ยถามคาถามเกย่ี วกจิ วตั รประจาวนั
ส่วนผเู้ รยี นใหบ้ อกคาศพั ท์ และสะกดคา เชน่

ครถู าม : What is the activity in this picture?
ผเู้ รยี นตอบ: have breakfast

H-A-V-E B-R-E-A-K-F-A-S-T

กิจกรรมพฒั นาทกั ษะการใช้คาศพั ทแ์ ละการพดู
 ครูให้ผู้เรยี นฟงั และอ่านบทสนทนาเก่ียวกบั เร่อื งการสอบถามเวลาในการทากจิ วตั ร

ประวนั จากนัน้ ครตู รวจสอบความเขา้ ใจโดยใหผ้ เู้ รยี นทาแบบฝึกหดั ระบุ TRUE or
FALSE จากขอ้ ความทก่ี าหนดให้ แลว้ ตรวจสอบคาตอบทถ่ี ูกต้องพรอ้ มกนั โดยครู

อ่านคาถามและนกั เรยี นอ่านคาตอบ

 ครูอธิบายและยกตัวอย่างคาศัพท์และสานวนภาษาอังกฤษท่ีใช้ในการบอกเวลา
สอบถามเวลา รวมถึงความแตกต่างของเวลาในแต่ละประเทศ แล้วให้ผู้เรยี นทา
แบบฝึกหดั เขยี นประโยคเพอ่ื บอกเวลาตามรปู ภาพทก่ี าหนด ใหถ้ ูกตอ้ งตามโครงสรา้ ง
ภาษา จากนัน้ ครจู ะสุ่มถามนักเรยี นเก่ยี วกบั เวลาตามรปู ภาพ แล้วใหน้ ักเรยี นฝึกพูด

เช่น Q: What time is it now?

A: It’s six oh nine in the morning. (6.09 a.m.)

 ครูตรวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรยี นโดยการใหน้ ักเรยี นอ่านประโยคภาษาองั กฤษท่ี
ใช้ในการบอกเวลาแล้วให้นักเรยี นวาดภาพเขม็ นาฬิกาให้ถูกต้องตรงตามทก่ี าหนด
แลว้ ตรวจสอบคาตอบพรอ้ มกนั

 ครูให้ผู้เรยี นศึกษาและหาความหมายของคาศัพท์ท่ีเก่ียวกับกิจวตั รประจาวันใน

แบบฝึกหดั หลงั จากนัน้ ฝึกอ่านออกเสยี งคาศพั ท์และบอกความหมายของคาศพั ท์ท่ี

ถูกต้องพรอ้ มกนั จากนัน้ ครูให้นักเรยี นระบุเวลาในการทากจิ วตั รประจาวนั ของแต่ละ

คนในตาราง โดยครจู ะสุ่มใหน้ ักเรยี นออกมาพูดหน้าชนั้ เก่ยี วกบั เวลาในการทา

กจิ วตั รของตนเอง เช่น

- I wake up at 7 o’clock. - I take a bath at 7.15 a.m.

- I get dress at 7.25 a.m. - I have breakfast at 7.30 am.

- I finish school at 4 pm. - I go to bed at 10.30 pm.

 ครใู หผ้ ู้เรยี นศกึ ษาตวั อย่างบทสนทนา เก่ยี วกบั การสอบถามเวลา บอกเวลา แลว้ ให้
ผเู้ รยี นจบั ค่กู นั สรา้ งบทสนทนาตามทก่ี าหนด โดยครคู อยให้คาชแ้ี นะ แลว้ หลงั จากนัน้
ครใู หผ้ เู้ รยี นแสดงบทบาทสมมตติ ามบทสนทนาทไ่ี ดส้ รา้ งไว้ ตวั อยา่ งเชน่

A: What time is it now?
B: It’s a quarter to nine.

Can you tell me what time the office opens?
A: Sure. It opens at half past nine.
B: When does the office close?
A: It closes at 5 in the afternoon.
B: Thank you so much.

 ครูทบทวนและตรวจสอบความเข้าใจของนักเรยี นในการบอกเวลา การทากิจวตั ร
ประจาวนั โดยการทาแบบฝึกหดั ชนิดเตมิ คาลงในช่องว่าง อ่านแบบสนทนาแล้วตอบ
คาถาม จากนนั้ ครแู ละนกั เรยี นตรวจสอบความถูกตอ้ งพรอ้ มกนั

 ครสู อดแทรกความรู้ Present Simple Tense และการใชค้ าวเิ ศษณ์แสดงความถ่ี–บ่อย
(Adverbs of Frequency) พรอ้ มกบั ยกตวั อยา่ งการประโยค เพ่อื เพมิ่ ความเขา้ ใจของ
ผู้เรยี น หลงั จากนัน้ ให้นักเรยี นทาแบบฝึกหดั ชนิดเติมคาลงในช่องว่าง โดยครูและ
ผเู้ รยี นรว่ มกนั ตรวจสอบคาตอบพรอ้ มกนั เมอ่ื ทาเสรจ็

 ครใู หผ้ เู้ รยี นศกึ ษาตวั อย่างบทสนทนา แล้วจบั ค่กู นั เขยี นบทสนทนาทเ่ี กย่ี วกับการพูด
สอบถามในเร่อื งกิจวตั รประจาวนั และเวลาท่ีมกั จะทา จากนัน้ ครูให้ผู้เรยี นแสดง
บทบาทสมมติตามบทสนทนาท่เี ขยี นไว้ ครูเป็นผู้ประเมนิ ทกั ษะการพูดของผู้เรยี น
ตวั อยา่ งเชน่
A: What do you usually do at free time?
B: I usually surf the internet and do homework. How about you?
A: I usually play football and do housework.
B: Do you jog in the evening?
A: Yes, I do.
B: Great. What time do you go to bed?
A: At 10.30.

กิจกรรมการเขียน

 ครใู หผ้ เู้ รยี นเขยี นกจิ วตั รประจาวนั ของตนเองและระบเุ วลาลงในตาราง

 ครใู หผ้ เู้ รยี นเขยี นประโยคโดยใชโ้ ครงสรา้ งประโยคในรปู ของ Present Simple Tense
ในการเขยี นบรรยายกจิ วตั รประจาวนั และกจิ กรรมยามว่าง พรอ้ มทงั้ บอกความถแ่ี ละ
เวลา 15 ประโยค

 ครูให้ผู้เรยี นเขยี นบนั ทกึ การเรยี นรู้ (Learning Log) เพ่อื สรุปคาศพั ท์ สานวน
ภาษาองั กฤษและเรอ่ื งทไ่ี ดศ้ กึ ษามาจากในบทเรยี น

กิจกรรมประเมินผล

 ครใู หผ้ เู้ รยี นทาแบบทดสอบเพอ่ื ประเมนิ ความรคู้ วามเขา้ ใจ

25. ส่ือการเรียนรู้

 หนงั สอื เรยี น
 ใบงาน
 แผนการจดั การเรยี นรู้
 แบบทดสอบ

26.การวดั และประเมินผล

วิธีวดั
 วดั ทกั ษะการพดู
 วดั ความรคู้ วามเขา้ ใจ
 ประเมนิ ตนเองดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ มและคุณลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์

เครอ่ื งมือวดั และประเมินผล
 แบบประเมนิ ทกั ษะการพดู
 แบบทดสอบผลสมั ฤทธทิ ์ างการเรยี น เพ่อื วดั ความรคู้ วามเขา้ ใจ
 แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยมและคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

เกณฑก์ ารประเมิน
 เกณฑก์ ารพดู ของผเู้ รยี นตอ้ งอยใู่ นระดบั 60 % ขน้ึ ไป
 ผลสมั ฤทธทิ ์ างการเรยี นของผเู้ รยี นตอ้ งอยใู่ นระดบั 60 % ขน้ึ ไป
 แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนน
ขน้ึ อยกู่ บั การประเมนิ ตามสภาพจรงิ

27.บนั ทึกผลหลงั สอน

ผลการสอน

..................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................

ปัญหา/ อปุ สรรค

..................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................

ข้อเสนอแนะ/ วิธีการแก้ไข

..................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................

แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี 4

ชอ่ื วชิ า ภาษาองั กฤษในชีวิตจริง 1 (Real Life English 1) รหสั วิชา 2000-1201

หน่วยที่ 4 Expressing Likes and Dislikes เวลา 6 ชวั่ โมง

28. สาระสาคญั

ในชวี ติ ประจาวนั หรอื การทางาน มกั จะมกี ารพดู คุย พบปะและแลกเปล่ยี นประสบการณ์
กนั ในเรอ่ื งกจิ กรรมยามว่าง งานอดเิ รก ความชอบ ความสนใจของแต่ละบุคคล ซง่ึ ประชากรใน
ประเทศสมาชกิ อาเซยี นต่างก็มกี ิจกรรม งานอดเิ รก และกฬี าท่ชี ่นื ชอบแตกต่างกนั ไป ดงั นัน้
ผเู้ รยี นจงึ ควรศกึ ษาเรยี นรคู้ าศพั ท์ สานวนและรปู ประโยคในการสอบถามและใหข้ อ้ มลู เก่ยี วกบั
งานอดเิ รก หรอื กิจกรรมยามว่าง รวมถึงส่งิ ท่ชี อบและไม่ชอบ เพ่อื ช่วยพฒั นาทกั ษะการใช้
ภาษาองั กฤษให้ถูกต้อง คล่องแคล่วและสามารถนาไปประยุกต์ใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั ไดอ้ ย่างมี
ประสทิ ธภิ าพ

29.วตั ถปุ ระสงคก์ ารเรียนร้บู รู ณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง
1. เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นสามารถจาแนกกจิ กรรมสนั ทนาการและงานอดเิ รกประเภทต่างๆได้
2. เพ่อื ใหผ้ เู้ รยี นสามารถสอบถามและใหข้ อ้ มลู เกย่ี วกบั สงิ่ ทช่ี อบและไมช่ อบโดยใช้

คาศพั ทห์ รอื สานวนภาษาทถ่ี กู ตอ้ ง

3. เพ่อื ใหผ้ เู้ รยี นสามารถสอบถามและใหข้ อ้ มลู เกย่ี วกบั งานอดเิ รกได้
4. เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นมคี วามรเู้ กย่ี วกบั กฬี าประจาชาตใิ นประชาคมอาเซยี น

30. สาระการเรียนรู้
1. Sports & Hobbies
2. Expressing Likes & Dislikes
3. Talking about Favorite Sports
4. Writing a personal letter

31. สมรรถนะประจาหน่ วยการเรียนรู้
1. บอกช่อื กฬี าประจาชาตใิ นประชาคมอาเซยี น
2. บอกและสะกดคาศพั ทท์ เ่ี กย่ี วกบั งานอดเิ รก
3. สอบถามและใหข้ อ้ มลู เกย่ี วกบั สง่ิ ทช่ี อบและไมช่ อบ
4. สอบถามและใหข้ อ้ มลู เกย่ี วกบั งานอดเิ รกได้
5. ใชค้ าศพั ทแ์ ละสานวนภาษาในการสอ่ื สารตามสถานการณ์
6. ใชโ้ ครงสรา้ งภาษาถูกตอ้ ง
7. แสดงบทบาทสมมตหิ รอื สถานการณ์จาลองทก่ี าหนด
8. เขยี นจดหมายส่วนตวั

32.กรอบการจดั การเรียนบรู ณาการหลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง

ความมีเหตุผล ความพอประมาณ การมภี มู ิค้มุ กนั ที่ดี
Reasonableness Moderation
ยดึ ทางสายกลางเป็นแนวทาง Self-immunity
มคี วามเช่อื มนั่ ในตนเอง ในการดารงตน
ทาสงิ่ ต่างๆ อยา่ งรอบคอบ มี รจู้ กั คดิ ตดั สนิ ใจในการเลอื ก
เหตุผล ทาสงิ่ ต่างๆ ตามความถนดั
ความสนใจ หรอื ความเหมาสม
ต่อตนเอง

เงื่อนไขความรู้ Knowledge condition รอบรู้ เงื่อนไขคณุ ธรรม Moral condition ซ่ือสตั ย์
Intelligence รอบคอบ Self–awareness สจุ ริต Loyalty ขยนั Diligence อดทน
Forbearance แบง่ ปัน sharing
ระมดั ระวงั Attentiveness
31. มมี นุษยสมั พนั ธ์
1. Sports & Hobbies 32. ความมวี นิ ยั
2. Expressing Likes & Dislikes 33. ความรบั ผดิ ชอบ
3. Talking about Favorite Sports 34. ความซ่อื สตั ยส์ ุจรติ
4. Writing a personal letter 35. ความเชอ่ื มนั่ ในตนเอง
36. ความสนใจใฝร่ ู้
37. การละเวน้ สงิ่ เสพยต์ ดิ และการพนนั
38. ความรกั สามคั คี
39. ความคดิ รเิ รม่ิ สรา้ งสรรค์
40. การพง่ึ ตนเอง

มิติทางสงั คม มคี วามเชอ่ื มนั่ ในตนเอง รจู้ กั คดิ และตดั สนิ ใจในการเลอื กทาสงิ่
ต่างๆ อยา่ งมเี หตุผลและเหมาะสม
มิติทางเศรษฐกิจ รจู้ กั วเิ คราะหข์ อ้ ดแี ละขอ้ เสยี ของตนเอง นาไปประยกุ ตใ์ ชใ้ น
การเรยี น การทางาน ธุรกจิ
มิติทางวฒั นธรรม อนุรกั ษ์วฒั นธรรมไทย พรอ้ มรบั กบั การเปลย่ี นแปลง
มิติทางสิ่งแวดล้อม อนุรกั ษส์ ง่ิ แวดลอ้ มและทรพั ยากรธรรมชาติ

33. กิจกรรมการเรียนรู้
กิจกรรมก่อนเรียน

 ครแู ละผเู้ รยี นรว่ มกนั อภปิ รายและบอกคาศพั ท์ทร่ี จู้ กั ทเ่ี กย่ี วกฬี าและกจิ กรรมต่างๆของ
แต่คนในแต่ละประเทศ รวมถงึ อาหาร ดนตรี ประเภทของหนงั จากนนั้ ครใู หผ้ เู้ รยี นดู
แผน่ ป้ายคาศพั ท์ แลว้ ใหผ้ เู้ รยี นอ่านออกเสยี งพรอ้ มกบั บอกความหมาย และเขยี นแยก
หมวดหมใู่ หถ้ ูกตอ้ งลงแบบฝึกหดั

 ครสู ุ่มถามผเู้ รยี นดว้ ยคาถามทเ่ี กย่ี วกบั การทากจิ กรรมในยามว่างหรอื ความชอบต่างๆ
เชน่
- What do you like to do in your free time?
- Do you like eating Thai food?
- Do you like watching movie?

กิจกรรมพฒั นาทกั ษะการใช้คาศพั ทแ์ ละการพดู

 ครใู หน้ กั เรยี นเขยี นคาศพั ท์และเขยี นประโยคใหถ้ กู ตอ้ งตามภาพทก่ี าหนดว่าบุคคลใน
ภาพชอบเล่นกฬี า หรอื ทากจิ กรรมอะไรในแบบฝึกหดั เพ่อื ทบทวนความรคู้ วามเขา้ ใจ
ของนกั เรยี น แลว้ ตรวจสอบคาตอบรว่ มกนั โดยครเู ป็นผถู้ ามและผเู้ รยี นเป็นผอู้ ่าน
คาตอบ เช่น
ครถู าม : What sport ….ช่อื คนในภาพ………like?
ผเู้ รยี น : Sophia likes playing golf.
ครถู าม : Does Sophia like playing golf?

ผเู้ รยี น : Yes, she does.

 ครใู หผ้ เู้ รยี นอ่านและศกึ ษาเกย่ี วกบั คาศพั ทแ์ ละสานวนทใ่ี ชใ้ นการพดู แสดงความรสู้ กึ
ชอบหรอื ไมช่ อบ พรอ้ มกบั ยกตวั อยา่ งอธบิ ายเพมิ่ เพ่อื ใหน้ กั เรยี นมคี วามเขา้ ใจมากข้ึน
จากนนั้ ครใู หผ้ เู้ รยี นทาแบบฝึกหดั เตมิ คาลงในบทสนทนาและประโยคทก่ี าหนดให้
แลว้ ตรวจสอบคาตอบพรอ้ มกนั ในชนั้ เรยี น

 ครูให้ผูเ้ รยี นศกึ ษาตวั อย่างวธิ กี ารถาม- ตอบในเร่อื งกจิ กรรมหรอื กีฬาทช่ี อบและไม่
ชอบทาจากบทสนทนา พรอ้ มอธบิ ายเพม่ิ เติมในเร่อื งการใช้สานวนการพูดทวน
ประโยค เช่น So do I แล้วใหผ้ เู้ รยี นสรา้ งบทสนทนาโดยครชู ่วยตรวจทานความ
ถูกตอ้ งและแสดงบทบาทสมมตุ ติ ามบททส่ี รา้ งไว้ ตวั อยา่ งเชน่
A: Kate, what do you do in your free time?
B: I play sports. I like playing tennis.
A: Do you like playing volleyball?
B: No, I don’t. But I like watching a match on TV.
A: So do I. I like swimming as well.

 ครสู อดแทรกเรอ่ื ง Present Continuous Tense พรอ้ มทงั้ ยกตวั อยา่ งประโยคและการ

ออกเสยี งให้ผู้เรยี น หลงั จากนัน้ ครตู รวจสอบความเขา้ ใจของผู้เรยี นเก่ยี วกบั การใช้

คาศพั ท์ สานวนในการพูดเก่ยี วกับงานอดเิ รก แล้วให้ผู้เรยี นเรยี นเขยี นบรรยาย

ประโยคดว้ ยโครงสรา้ ง Present Continuous Tense ตามภาพทก่ี าหนดให้ แล้ว

ตรวจสอบคาตอบรว่ มกนั เชน่

A: What is he doing? A: What are they doing?

B: He is reading a book. B: They are dancing.

 ครูให้ผู้เรยี นอ่านและฟงั บทสนทนา จากนัน้ ตรวจสอบความเข้าใจของผู้เรยี นโดยให้
ตอบคาถามเก่ียวกับบทสนทนา ครูอ่านคาถามและสุ่มผู้เรียนอ่านคาตอบเพ่ือ
ตรวจสอบความถูกตอ้ งรว่ มกนั

 ครใู หผ้ เู้ รยี นทาแบบฝึกหดั ชนิดเตมิ คาลงในช่องว่างเกย่ี วกบั ความชอบและไม่ชอบทา
สงิ่ ต่างๆ เพอ่ื ทบทวนความรคู้ วามเขา้ ใจใหเ้ พม่ิ ขน้ึ

 ครูให้ผู้เรียนศึกษาตัวอย่างบทสนทนาท่ีเก่ียวกับการสอบถามกิจกรรมยามว่าง
กจิ กรรมทช่ี ่นื ชอบ การพูดแสดงความรู้สกึ ต่างๆ และให้ผู้เรยี นสรา้ งบทสนทนาตาม
หวั ข้อท่กี าหนดโดยครูคอยให้คาช้แี นะ แล้วหลงั จากนัน้ ครูให้ผู้เรยี นแสดงบทบาท
สมมติตามบทสนทนาท่ไี ด้สร้างไว้ โดยครูเป็นผู้ประเมนิ ทกั ษะการพูดของผู้เรยี น
ตวั อยา่ งเช่น
A: Excuse me, Pat. Do you like playing sports?
B: Yes, I do. I like playing basketball and swimming.
A: Excellent. What do you do in your free time?
B: I surf the internet and read a magazine.
A: For me, I listen to music. I don’t like pop music.

กิจกรรมการเขียน

 ครใู หผ้ เู้ รยี นเขยี นจดหมายเพอ่ื เล่ากจิ กรรมยามวา่ งของตวั เอง โดยศกึ ษารปู แบบและ
ประโยคภาษาองั กฤษไดจ้ ากตวั อยา่ งในแบบฝึกหดั

 ครูให้ผู้เรยี นเขยี นบนั ทึกการเรยี นรู้ (Learning Log) เพ่อื สรุปคาศพั ท์ สานวน
ภาษาองั กฤษและเรอ่ื งทไ่ี ดศ้ กึ ษามาจากในบทเรยี น

กิจกรรมประเมินผล

 ครใู หผ้ เู้ รยี นทาแบบทดสอบเพอ่ื ประเมนิ ความรคู้ วามเขา้ ใจ

34. ส่ือการเรียนรู้

 หนงั สอื เรยี น
 ใบงาน
 แผนการจดั การเรยี นรู้
 แบบทดสอบ

35.การวดั และประเมินผล

วิธีวดั
 วดั ทกั ษะการพดู
 วดั ความรคู้ วามเขา้ ใจ
 ประเมนิ ตนเองดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยมและคณุ ลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์

เคร่ืองมอื วดั และประเมินผล
 แบบประเมนิ ทกั ษะการพดู
 แบบทดสอบผลสมั ฤทธทิ ์ างการเรยี น เพอ่ื วดั ความรคู้ วามเขา้ ใจ
 แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยมและคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

เกณฑก์ ารประเมิน
 เกณฑก์ ารพดู ของผเู้ รยี นตอ้ งอยใู่ นระดบั 60 % ขน้ึ ไป
 ผลสมั ฤทธทิ ์ างการเรยี นของผเู้ รยี นตอ้ งอยใู่ นระดบั 60 % ขน้ึ ไป
 แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนน
ขน้ึ อยกู่ บั การประเมนิ ตามสภาพจรงิ

36.บนั ทึกผลหลงั สอน

ผลการสอน
..................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................

...............................................................................................................................................
ปัญหา/ อปุ สรรค

..................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................

ข้อเสนอแนะ/ วิธีการแก้ไข

..................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................

แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี 5

ช่อื วชิ า ภาษาองั กฤษในชีวิตจริง 1 (Real Life English 1) รหสั วิชา 2000-1201

หน่วยที่ 5 Describing Weather เวลา 6 ชวั่ โมง

37. สาระสาคญั

สภาพภูมอิ ากาศ ฤดูกาลต่างๆ ในแต่ละประเทศมคี วามแตกต่างกนั ไปตามสภาพภูมิ
ประเทศ ซ่งึ มผี ลต่อวฒั นธรรมและความเป็นอยขู่ องประชากรในภูมภิ าคนัน้ ๆ การศกึ ษาสภาพ
อากาศของประเทศในแต่ละพน้ื ท่ี รวมถงึ การเรยี นรู้คาศพั ท์และและสานวนท่ใี ช้ในการบรรยาย
ภมู อิ ากาศ การบอกวนั เดอื น ปี และสภาพภูมอิ ากาศของแต่ประเทศ ถอื ว่ามคี วามจาเป็นและ
มปี ระโยชน์อยา่ งยงิ่ ต่อผเู้ รยี นในการนาไปประยกุ ต์ใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั การทางาน การเดนิ ทาง
และการตดิ ต่อธุรกจิ

38.วตั ถปุ ระสงคก์ ารเรียนร้บู รู ณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง

1. เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นสามารถอธบิ ายสญั ลกั ษณ์ทบ่ี อกลกั ษณะสภาพอากาศได้
2. เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นสามารถใชค้ าศพั ทห์ รอื สานวนภาษาในการบอกลกั ษณะสภาพอากาศ

ไดถ้ กู ตอ้ ง

3. เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นสามารถใชค้ าศพั ทห์ รอื สานวนภาษาในการบอกวนั ท่ี เดอื น และปีได้

ถกู ตอ้ ง

4. เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นความรเู้ กย่ี วกบั สภาพภูมอิ ากาศในชาตสิ มาชกิ อาเซยี น

39. สาระการเรียนรู้

1. Weather symbols
2. Describing weather
3. Telling dates, months, and years
4. Seasons and Weather

40. สมรรถนะประจาหน่ วยการเรียนรู้

1. พดู อธบิ ายลกั ษณะสภาพอากาศ
2. บอกวนั ท่ี เดอื น และปี
3. ใชโ้ ครงสรา้ งภาษาถกู ตอ้ ง
4. ใชค้ าศพั ทแ์ ละสานวนภาษาในการสอ่ื สารตามสถานการณ์
5. แสดงบทบาทสมมตหิ รอื สถานการณ์จาลองทก่ี าหนด
6. เขยี นบรรยายลกั ษณะภมู อิ ากาศในประเทศอาเซยี น

41.กรอบการจดั การเรียนบรู ณาการหลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง

ความมเี หตผุ ล ความพอประมาณ การมภี มู ิค้มุ กนั ที่ดี
Reasonableness Moderation Self-immunity
การเตรยี มความพรอ้ มเพอ่ื
รบั มอื กบั ปญั หา ยดึ ทางสายกลางเป็นแนวทาง รจู้ กั มกี ารวางแผน เตรยี มตวั
ในการดารงตน เพ่อื รบั มอื กบั สงิ่ ทเ่ี กดิ ขน้ึ ได้
อยา่ งเหมาะสม

เงื่อนไขความรู้ Knowledge condition รอบรู้ เง่ือนไขคณุ ธรรม Moral condition ซ่ือสตั ย์
สจุ ริต Loyalty ขยนั Diligence อดทน
Intelligence รอบคอบ Self–awareness Forbearance แบ่งปัน sharing
ระมดั ระวงั Attentiveness
41. มมี นุษยสมั พนั ธ์
1. Weather symbols 42. ความมวี นิ ยั
2. Describing weather 43. ความรบั ผดิ ชอบ
3. Telling dates, months, and 44. ความซ่อื สตั ยส์ ุจรติ
45. ความเชอ่ื มนั่ ในตนเอง
years 46. ความสนใจใฝร่ ู้
47. การละเวน้ สงิ่ เสพยต์ ดิ และการพนนั
4. Seasons and Weather 48. ความรกั สามคั คี
49. ความคดิ รเิ รม่ิ สรา้ งสรรค์
50. การพง่ึ ตนเอง

มิติทางสงั คม สามารถพง่ึ พาตนเองได้ รจู้ กั วางแผนและเตรยี มพรอ้ มเพ่อื
รบั มอื กบั สงิ่ ทเ่ี กดิ ขน้ึ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
มิติทางเศรษฐกิจ การวางแผนและเตรยี มตวั ทด่ี จี ะช่วยเพมิ่ ความสาเรจ็ ในการ
การทางานอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ
มิติทางวฒั นธรรม อนุรกั ษ์วฒั นธรรมไทย พรอ้ มรบั กบั การเปลย่ี นแปลง
มิติทางส่ิงแวดล้อม อนุรกั ษส์ ง่ิ แวดลอ้ มและทรพั ยากรธรรมชาติ

42. กิจกรรมการเรียนรู้
กิจกรรมก่อนเรียน

 ครแู ละผเู้ รยี นรว่ มกนั พดู คุยเกย่ี วกบั สภาพภมู อิ ากาศในประเทศไทยและประเทศเพ่อื น
บา้ น พรอ้ มทงั้ ใหผ้ เู้ รยี นบอกคาศพั ทฤ์ ดกู าลหรอื สภาพอากาศทน่ี กั เรยี นรจู้ กั

 ครใู หผ้ เู้ รยี นศกึ ษาคาศพั ทแ์ ละความหมายทเ่ี ก่ยี วกบั สภาพภูมอากาศในแต่ละฤดูกาล
แล้วให้นักเรยี นแบ่งประเภทของคาให้ตรงตามฤดูกาลต่างๆ หลงั จากนัน้ ร่วมกัน
ตรวจสอบคาตอบโดยใหผ้ เู้ รยี นอ่านออกเสยี งและบอกคาหมายของคาศพั ทพ์ รอ้ มกนั

กิจกรรมพฒั นาทกั ษะการใช้คาศพั ทแ์ ละการพดู

 ครูให้ผู้เรยี นศกึ ษาเร่อื งคาคุณศพั ท์ สานวนและรูปแบบประโยคท่ใี ช้ในการบรรยาย
สภาพอากาศ พรอ้ มให้ผูเ้ รยี นฝึกพูดยกตวั อย่างประโยค เพ่อื เพม่ิ ความรคู้ วามเขา้ ใจ
ใหก้ บั ผเู้ รยี นมากขน้ึ เชน่
A : How is the weather today?
B: It is rainy.
A : What is the weather look like today?
B: It is sunny.

 ครตู รวจสอบความรคู้ วามเขา้ ใจของผเู้ รยี นในเรอ่ื งการบรรยายสภาพอากาศ โดยให้ดู
รปู ภาพแลว้ เขยี นบรรยายประโยคใหถ้ ูกต้องตามโครงสรา้ งภาษา และแต่งประโยคใน
แบบฝึกหดั ตามท่กี าหนดได้ถูกต้อง จากนัน้ ครูและผู้เรยี นร่วมกนั ตรวจสอบคาตอบ
โดยครอู ธบิ ายเพมิ่ เตมิ ในกรณที ผ่ี เู้ รยี นสอบถามหรอื ยงั ไมเ่ ขา้ ใจ เชน่

mostly sunny 26°C in Istanbul
Q: How is the weather in Istanbul?
A: It is mostly sunny in Istanbul. It is twenty-six degrees Celsius.

 ครูให้อธบิ ายขอ้ มูลเพม่ิ เติมเก่ยี วกบั การอ่านพยากรณ์อากาศจากหนังสอื พมิ พ์หรอื
ขา่ ว แลว้ ใหผ้ ูเ้ รยี นทาแบบฝึกหดั โดยการอ่านบทความเกย่ี วกบั การพยาการณ์อากาศ
แลว้ ตอบคาถาม และจบั คู่คาศพั ทต์ ามท่กี าหนดใหถ้ ูกต้อง จากนัน้ ร่วมกนั ตรวจสอบ
คาตอบทถ่ี กู ตอ้ ง โดยครสู มุ่ ใหผ้ เู้ รยี นเป็นคนอ่านคาตอบ

 ครูให้ผู้เรยี นศึกษาและอ่านบทความเก่ยี วกบั สภาพอากาศต่างๆ ในประเทศสมาชกิ
อาเซียน แล้วจากนัน้ ฝึกแต่งบทสนทนาตามหัวข้อหรือข้อมูลท่ีกาหนดให้ โดยดู
ประโยคและสานวนภาษาท่ใี ช้ได้จากบทสนทนาตัวอย่าง จากนัน้ ครูสุ่มให้ตวั แทน
ออกไปนาเสนอผลงานหน้าชนั้ เรยี น ตวั อยา่ งเช่น
A: Where are you from?
B: I’m from Singapore.
A: Really? How is the weather in Singapore?
B: It is tropical rainforest climate.
The temperature ranges from 23°C to 32°C.
A: How’s the weather now?
B: It’s windy and rainy.

 ครใู ห้ผเู้ รยี นศกึ ษาคาศพั ทท์ เ่ี ก่ยี วกบั วนั วนั ท่ี เดอื น ปี พรอ้ มทงั้ อธบิ ายเพม่ิ เตมิ เกย่ี ว
วธิ กี ารอ่านออกเสยี งคาศพั ทแ์ ละสานวนต่างๆ หลงั จากนัน้ ครตู รวจสอบความเขา้ ใจ
ของผู้เรยี นโดยการทาแบบฝึกหดั ชนิดคาลงไปช่องว่างหรอื ประโยค และตอบคาถาม
จากเรอ่ื งทอ่ี ่าน แลว้ รว่ มกนั ตรวจสอบคาตอบทถ่ี กู ตอ้ งพรอ้ มกนั ในชนั้ เรยี น

 ครตู รวจสอบความเขา้ ใจของผเู้ รยี นเกย่ี วกบั การใชค้ าบุพบทบอกเวลา โดยใหผ้ ูเ้ รยี น
เตมิ คาลงในช่องว่างให้เหมาะสมถูกต้องตามโครงสรา้ งภาษา จากนัน้ ครูและผู้เรยี น
รว่ มกนั ตรวจสอบคาตอบ

 ครูให้ผู้เรยี นจบั คู่กนั แต่งบทสนทนาท่เี ก่ยี วกบั การพูดสอบถามวนั เดอื น ปี และ

ฤดกู าลต่างๆ โดยใหผ้ เู้ รยี นศกึ ษาคาศพั ทแ์ ละสานวนภาษาไดจ้ ากตวั อยา่ งบทสนทนา
แล้วใหผ้ ู้เรยี นออกมาแสดงบทบทสมมุตจิ ากบทสนทนาทส่ี รา้ งข้ึน ครเู ป็นผู้ประเมนิ
ทกั ษะการฟงั และพดู ของผเู้ รยี น เชน่

A: What day is it today?
B: It's Thursday, the twelfth of July, two thousand twelve.
A: I see. When were you born?
B: I was born on Sunday, the twenty-eighth of March,

nineteen seventy-one
A : How’s the weather in winter in your country?
B: In Thailand it is cool and misty at night. At daytime it is quite sunny.

กิจกรรมการเขียน

 ครใู หผ้ เู้ รยี นสบื คน้ ขอ้ มลู เกย่ี วกบั อากาศในประเทศไทย แลว้ นาคาศพั ทท์ เ่ี หมาะสมมา
เขยี นเตมิ ลงในประโยคใหส้ มบรู ณ์ ไดใ้ จความ และถูกต้องจตามหลกั ภาษา

 ครูให้ผู้เรยี นเขยี นบนั ทกึ การเรยี นรู้ (Learning Log) เพ่อื สรุปคาศพั ท์ สานวน
ภาษาองั กฤษและเรอ่ื งทไ่ี ดศ้ กึ ษามาจากในบทเรยี น

กิจกรรมประเมินผล

 ครใู หผ้ เู้ รยี นทาแบบทดสอบเพอ่ื ประเมนิ ความรคู้ วามเขา้ ใจ

43. ส่ือการเรียนรู้

 หนงั สอื เรยี น
 ใบงาน
 แผนการจดั การเรยี นรู้
 แบบทดสอบ

44.การวดั และประเมินผล

วิธีวดั
 วดั ทกั ษะการพดู
 วดั ความรคู้ วามเขา้ ใจ
 ประเมนิ ตนเองดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ มและคุณลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์

เครอ่ื งมือวดั และประเมินผล
 แบบประเมนิ ทกั ษะการพดู
 แบบทดสอบผลสมั ฤทธทิ ์ างการเรยี น เพอ่ื วดั ความรคู้ วามเขา้ ใจ
 แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยมและคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

เกณฑก์ ารประเมิน
 เกณฑก์ ารพูดของผเู้ รยี นตอ้ งอยใู่ นระดบั 60 % ขน้ึ ไป
 ผลสมั ฤทธทิ ์ างการเรยี นของผเู้ รยี นตอ้ งอยใู่ นระดบั 60 % ขน้ึ ไป
 แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนน
ขน้ึ อยกู่ บั การประเมนิ ตามสภาพจรงิ

45.บนั ทึกผลหลงั สอน

ผลการสอน
..................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
ปัญหา/ อปุ สรรค
..................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................

...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................

ข้อเสนอแนะ/ วิธีการแก้ไข

..................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................

แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ 6

ช่อื วชิ า ภาษาองั กฤษในชีวิตจริง 1 (Real Life English 1) รหสั วิชา 2000-1201

หน่วยที่ 6 Identifying Things เวลา 6 ชวั่ โมง

46. สาระสาคญั

การส่ือสารด้วยภาษาองั กฤษในชีวิตประจาวนั การทางานหรือต่อต่อทางธุรกิจใน
ปจั จุบนั น้ีถือว่าเป็นส่ิงท่ีสาคญั และจาเป็นต่อเราอย่างมาก ผู้เรยี นต้องเรยี นรู้คาศพั ท์สง่ิ ของ
เคร่อื งใช้ต่างๆ ท่อี ยู่รอบตวั เรา รวมถึงการใช้สานวนทางภาษาในการพูดขออนุญาต ร้องขอ
ความช่วยเหลอื กล่าวขอบคุณอย่างสภาพให้ถูกต้อง เหมาะสม เพ่อื นาไปประยุกต์ใชช้ วี ติ และ
การทางาน นอกจากน้ยี งั ใชเ้ ป็นพน้ื ฐานในการศกึ ษาต่อในระดบั ทส่ี งู ขน้ึ

47.วตั ถปุ ระสงคก์ ารเรียนร้บู รู ณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง
1. เพ่อื ใหผ้ เู้ รยี นสามารถเรยี กช่อื สไี ดถ้ ูกตอ้ ง
2. เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นสามารถถามและบอกชอ่ื สง่ิ ของโดยใชค้ าศพั ทแ์ ละสานวนภาษาท่ี

ถกู ตอ้ ง

3. เพ่อื ใหผ้ เู้ รยี นสามารถใชส้ านวนภาษาในการขออนุญาต อนุญาตและไมอ่ นุญาต

โดยใชโ้ ครงสรา้ งทางภาษาทถ่ี ูกตอ้ ง

4. เพ่อื ใหผ้ เู้ รยี นสามารถกลา่ วคาขอบคุณและตอบรบั คาขอบคณุ ไดเ้ หมาะสมตาม

สถานการณ์

5. เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นมคี วามรเู้ กย่ี วกบั สนิ คา้ ทท่ี ารายไดห้ ลกั ของชาตใิ นประชาคมอาเซยี น

48. สาระการเรียนรู้

1. Colors
2. Identifying things
3. Asking for & Giving Permission
4. Thanking & Replying to Thanks

49. สมรรถนะประจาหน่ วยการเรียนรู้

1. บอกความหมายของคาศพั ทท์ เ่ี กย่ี วกบั สี
2. ถามและบอกช่อื สงิ่ ของต่างๆ
3. พดู ขออนุญาต ตอบรบั และปฏเิ สธแบบสุภาพ
4. พดู คาขอบคณุ และตอบรบั คาขอบคณุ
5. ใชโ้ ครงสรา้ งภาษาถกู ตอ้ ง
6. ใชค้ าศพั ทแ์ ละสานวนภาษาในการสอ่ื สารตามสถานการณ์
7. แสดงบทบาทสมมตหิ รอื สถานการณ์จาลองทก่ี าหนด
8. เขยี นบรรยายขอ้ มลู ทวั่ ไปของสนิ คา้

50.กรอบการจดั การเรียนบรู ณาการหลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง

ความมีเหตผุ ล ความพอประมาณ การมภี มู ิค้มุ กนั ที่ดี
Reasonableness Moderation Self-immunity
รจู้ กั ประหยดั อดออม
การเลอื กใชส้ ง่ิ ต่างๆ อยา่ ง ยดึ ทางสายกลางเป็นแนวทาง
คุม้ คา่ และมเี หตุผล ในการดารงตน

เง่ือนไขความรู้ Knowledge condition รอบรู้ เง่ือนไขคณุ ธรรม Moral condition ซ่ือสตั ย์
สจุ ริต Loyalty ขยนั Diligence อดทน
Intelligence รอบคอบ Self–awareness Forbearance แบง่ ปัน sharing
ระมดั ระวงั Attentiveness
51. มมี นุษยสมั พนั ธ์
1. Colors 52. ความมวี นิ ยั
2. Identifying things 53. ความรบั ผดิ ชอบ
3. Asking for & Giving Permission 54. ความซ่อื สตั ยส์ ุจรติ
4. Thanking & Replying to Thanks 55. ความเช่อื มนั่ ในตนเอง
56. ความสนใจใฝร่ ู้
57. การละเวน้ สง่ิ เสพยต์ ดิ และการพนนั
58. ความรกั สามคั คี
59. ความคดิ รเิ รมิ่ สรา้ งสรรค์
60. การพง่ึ ตนเอง

มิติทางสงั คม การอย่รู ว่ มกนั ในสงั คม ตอ้ งมวี นิ ยั ความรบั ผดิ ชอบและปฏบิ ตั ิ
ตามกฎระเบยี บทางสงั คม
มิติทางเศรษฐกิจ รจู้ กั ประหยดั และการใชจ้ า่ ยอยา่ งมเี หตุผล
มิติทางวฒั นธรรม อนุรกั ษว์ ฒั นธรรมไทย พรอ้ มรบั กบั การเปลย่ี นแปลง
มิติทางสิ่งแวดล้อม อนุรกั ษส์ ง่ิ แวดลอ้ มและทรพั ยากรธรรมชาติ

51. กิจกรรมการเรียนรู้
กิจกรรมก่อนเรียน

 ครูให้ผู้เรยี นร่วมกนั ยกตัวอย่างคาศัพท์ส่งิ ของท่นี ักเรยี นรูจ้ กั เช่น กล้อง ทวี ี วิทยุ
โทรศพั ท์มอื ถอื กระเป๋ า เป็นต้น แลว้ หลงั จากนนั้ ครใู หน้ ักเรยี นศกึ ษาความหมายและ
และอ่านออกเสยี งคาศพั ทท์ เ่ี กย่ี วกบั สตี ่างๆ

กิจกรรมพฒั นาทกั ษะการใช้คาศพั ทแ์ ละการพดู
 ครูให้ผู้เรยี นอ่านและฟงั บทสนทนาเก่ียวกับสอบถามลกั ษณะของสง่ิ ของ จากนัน้

ตรวจสอบความเขา้ ใจโดยใหผ้ เู้ รยี นตอบคาถามเกย่ี วกบั บทสนทนา ครอู ่านคาถามและ
ผเู้ รยี นอ่านคาตอบ แลว้ หาคาตอบทถ่ี ูกตอ้ งพรอ้ มกนั

 ครูให้ผู้เรยี นศึกษาความหมายคาศัพท์เก่ียวกับสิ่งของเคร่อื งใช้ในครวั เรือน และ
คุณสมบตั ติ ่างๆ โดยตรวจสอบจากพจนานุกรม จากนัน้ ครตู รวจสอบความเขา้ ใจของ
ผเู้ รยี นโดยให้ทาแบบฝึกหดั จบั ค่คู าศพั ท์ และระบุการใช้งานของสงิ่ ของเคร่อื งใชว้ ่ามี

ประโยชน์อะไร ครแู ละผเู้ รยี นตรวจสอบคาตอบพรอ้ มกนั ในชนั้ เรยี น โดยครจู ะสุ่มถาม
แลว้ ใหน้ กั เรยี นอ่านคาตอบ เช่น

Q: What is it?
A: It is a camera.
Q: What is it used for?
A: It is used for taking photos.
 ครอู ธบิ ายเร่อื ง Demonstrative Pronouns for Identifying Things เช่น that, this,
these, those ว่าต้องใชอ้ ย่างไร แลว้ ตรวจสอบความรคู้ วามเขา้ ใจของผเู้ รยี นโดยการ
ใหท้ าแบบฝึกหดั ชนิดเตมิ คาลงในชอ่ งวา่ งใหถ้ ูกตอ้ ง จากนนั้ รว่ มกนั ตรวจสอบคาตอบ

 ครใู หผ้ เู้ รยี นศกึ ษาความหมายคาศพั ทเ์ ก่ยี วกบั สงิ่ ของเครอ่ื งใชต้ ่างๆ ทม่ี กั พบเจอตาม
สถานท่ตี ่าง โดยตรวจสอบจากพจนานุกรม จากนัน้ นาคาศพั ท์ตามท่กี าหนดให้ไป
เขยี นลงในช่องว่างตามสถานท่ที ม่ี กั พบ เช่น ห้องครวั ห้องรบั แขก ห้องน้า ในสวน
ครแู ละผเู้ รยี นตรวจสอบคาตอบทถ่ี ูกตอ้ งพรอ้ มกนั ในชนั้ เรยี น โดยครใู หน้ กั เรยี นอ่าน
ออกเสยี งและบอกความหมายของคา

 ครตู รวจสอบความรคู้ วามเขา้ ใจของผเู้ รยี น โดยการใหเ้ ขยี นคาศพั ทเ์ กย่ี วกบั สง่ิ ของท่ี
นกั เรยี นมกั พบเจอ 5 อยา่ งในสถานทต่ี ่างๆ ทก่ี าหนดใหใ้ นแบบฝึกหดั จากนนั้ ครสู ุ่ม
ถามนกั เรยี นเพ่อื ตรวจสอบคาตอบ โดยใหน้ กั เรยี นอ่านคาตอบ เชน่
Q: What are there in the bedroom?
A: There are a cushion, a bed, a lamp, a pillow, and a blanket.

 ครูให้ผู้เรยี นศกึ ษาหาความหมายคาศพั ท์และสานวนท่เี ก่ยี วกับการสอบถามสินค้า
ต่างๆ ในแบบฝึกหัด แล้วตรวจสอบความรู้ความเข้าใจของผู้เรียนโดยการทา
แบบฝึกหดั เติมคาลงในช่องว่างให้ถูกต้องและเหมาะสม จากนัน้ ครูและผู้เรยี น
ตรวจสอบคาตอบท่ีถูกต้องพร้อมกัน โดยครูให้ผู้เรียนฝึกอ่านประโยคและบอก
ความหมาย

 ครูใหผ้ ู้เรยี นศกึ ษาคาศพั ท์และสานวนภาษาทใ่ี ช้ในการอนุญาตและการปฏเิ สธคาขอ
อนุญาต การกล่าวตอบรบั และขอบคุณ แลว้ ครอู ธบิ ายเพมิ่ เตมิ พรอ้ มกบั ยกตวั อย่าง
ประโยคและโครงสรา้ งทใ่ี ชใ้ นการพดู ขออนุญาต ปฏเิ สธ และกล่าวขอบคุณอยา่ งสุภาพ
เพ่อื เพม่ิ ความรคู้ วามเขา้ ใจของผเู้ รยี นใหม้ ากขน้ึ หลงั จากนนั้ ครตู รวจสอบความเขา้ ใจ
ของผเู้ รยี นโดยจากการทาแบบฝึกหดั ชนิดเตมิ คาลงในช่องว่าง และฝึกเขยี นประโยค
ครแู ละผเู้ รยี นตรวจสอบคาตอบทถ่ี ูกตอ้ งรว่ มกนั

 ครูให้ผู้เรยี นอ่านและฟงั บทสนทนาเก่ียวกับการพูดขออนุญาตยืมสิ่งของ จากนัน้
ตรวจสอบความเขา้ ใจโดยใหผ้ เู้ รยี นตอบคาถามเกย่ี วกบั บทสนทนา ครอู ่านคาถามและ
ผเู้ รยี นอ่านคาตอบ แลว้ หาคาตอบทถ่ี กู ตอ้ งพรอ้ มกนั

 ครใู หผ้ เู้ รยี นศกึ ษาตวั อยา่ งบทสนทนา เกย่ี วกบั วธิ กี ารพดู ขออนุญาต และปฏเิ สธคาขอ
อนุญาตอยา่ งภาพ และใหผ้ เู้ รยี นสรา้ งบทสนทนาตามคาทก่ี าหนดให้ โดยครคู อยให้คา
ชแ้ี นะ แล้วหลงั จากนัน้ ครูให้ผู้เรยี นแสดงบทบาทสมมตติ ามบทสนทนาท่ไี ด้สรา้ งไว้
ครเู ป็นผปู้ ระเมนิ การพดู ของผเู้ รยี น ตวั อยา่ งเช่น
A: Excuse me! Would you mind if I borrowed your laptop today?
B: Certainly. Go ahead.
A: Thank you.
B: You’re welcome.

กิจกรรมการเขียน

 ครใู หผ้ เู้ รยี นทากจิ กรรมเขยี นคาศพั ทส์ ง่ิ ของเครอ่ื งใชแ้ ละวาดภาพประกอบ 20 คา
 ครใู ห้ผู้เรยี นเขยี นบรรยายเก่ยี วกบั บ้านและสง่ิ ของภายในบ้านของผู้เรยี น โดยศกึ ษา

ประโยคและสานวนภาษาเพมิ่ เตมิ ไดจ้ ากตวั อยา่ งในแบบฝึกหดั
 ครูให้ผู้เรยี นเขยี นบนั ทึกการเรยี นรู้ (Learning Log) เพ่อื สรุปคาศัพท์ สานวน

ภาษาองั กฤษและเรอ่ื งทไ่ี ดศ้ กึ ษามาจากในบทเรยี น

กิจกรรมประเมินผล

 ครใู หผ้ เู้ รยี นทาแบบทดสอบเพ่อื ประเมนิ ความรคู้ วามเขา้ ใจ

52. ส่ือการเรียนรู้

 หนงั สอื เรยี น
 ใบงาน
 แผนการจดั การเรยี นรู้
 แบบทดสอบ

53.การวดั และประเมินผล

วิธีวดั
 วดั ทกั ษะการพดู
 วดั ความรคู้ วามเขา้ ใจ

 ประเมนิ ตนเองดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ มและคุณลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์

เครอื่ งมอื วดั และประเมินผล
 แบบประเมนิ ทกั ษะการพดู
 แบบทดสอบผลสมั ฤทธทิ ์ างการเรยี น เพ่อื วดั ความรคู้ วามเขา้ ใจ
 แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยมและคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

เกณฑก์ ารประเมิน
 เกณฑก์ ารพูดของผเู้ รยี นตอ้ งอยใู่ นระดบั 60 % ขน้ึ ไป
 ผลสมั ฤทธทิ ์ างการเรยี นของผเู้ รยี นตอ้ งอยใู่ นระดบั 60 % ขน้ึ ไป
 แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนน
ขน้ึ อยกู่ บั การประเมนิ ตามสภาพจรงิ

54.บนั ทึกผลหลงั สอน

ผลการสอน
..................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
ปัญหา/ อปุ สรรค
..................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................

...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................

ข้อเสนอแนะ/ วิธีการแก้ไข

..................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................

แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 7

ชอ่ื วชิ า ภาษาองั กฤษในชีวิตจริง 2 (Real Life English 2) รหสั วิชา 2000-1202

หน่วยท่ี 7 Giving Wishes เวลา 7 ชวั่ โมง

55. สาระสาคญั

การเรยี นรูเ้ ทศกาลสาคญั ทม่ี ชี ่อื เสยี งทวั่ โลกและการอวยพรและการเช่ือเชญิ ในเทศกาล
ต่างๆและการเขยี นการด์ เชญิ เพ่อื อวยพรเพ่อื นในเทศกาลทก่ี าลงั จะมาเยอื น รวมถงึ เขา้ ใจความ
เหมอื นและความแตกต่างระหว่างประเพณแี ละวฒั นธรรมต่างๆ ทวั่ โลก

56.วตั ถปุ ระสงคก์ ารเรียนร้บู รู ณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง
1. เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นสามารถบอกช่อื เทศกาลทม่ี ชี ่อื เสยี งของโลกได้
2. เพ่อื ใหผ้ เู้ รยี นสามารถใชค้ าศพั ทห์ รอื สานวนภาษาในการอวยพรในเทศกาลหรอื

โอกาสพเิ ศษต่างๆได้

3. เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นสามารถใชค้ าศพั ทห์ รอื สานวนภาษาในการเชญิ ได้
4. เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นสามารถตอบรบั และตอบปฏเิ สธคาเชญิ ได้
5. เพ่อื ใหผ้ เู้ รยี นมคี วามรเู้ กย่ี วกบั เทศกาลสาคญั ของอาเซยี นได้

57. สาระการเรียนรู้

1. ASEAN Festivals
2. Giving Wishes
3. Making an Invitation
4. Accepting & Declining

58. สมรรถนะประจาหน่ วยการเรียนรู้

1. บอกช่อื เทศกาลทม่ี ชี ่อื เสยี งของโลก
2. อวยพรในเทศกาลหรอื โอกาสพเิ ศษ
3. กล่าวเชอ้ื เชญิ
4. ตอบรบั และปฏเิ สธคาเชญิ อยา่ งสุภาพ
5. ใชภ้ าษาไดถ้ กู ตอ้ งตามหลกั ภาษา
6. ใชค้ าศพั ทแ์ ละสานวนภาษาในการส่อื สารตามสถานการณ์
7. แสดงบทบาทสมมตหิ รอื สถานการณ์จาลองทก่ี าหนด
8. เขยี นบตั รเชญิ ในโอกาสต่างๆ

59.กรอบการจดั การเรียนบรู ณาการหลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง

ความมีเหตผุ ล ความพอประมาณ การมีภมู ิค้มุ กนั ท่ีดี
Reasonableness Moderation Self-immunity
ใชจ้ า่ ยเงนิ อย่างประหยดั และมี ยดึ ทางสายกลางเป็นแนวทาง รจู้ กั ประหยดั อดออม
เหตุผล ในการดารงตน

เงื่อนไขความรู้ Knowledge condition รอบรู้ เงื่อนไขคณุ ธรรม Moral condition ซ่ือสตั ย์
สจุ ริต Loyalty ขยนั Diligence อดทน
Intelligence รอบคอบ Self–awareness Forbearance แบ่งปัน sharing
ระมดั ระวงั Attentiveness
61. มมี นุษยสมั พนั ธ์
1. ASEAN Festivals 62. ความมวี นิ ยั
2. Giving Wishes 63. ความรบั ผดิ ชอบ
3. Making an Invitation 64. ความซ่อื สตั ยส์ ุจรติ
4. Accepting & Declining 65. ความเชอ่ื มนั่ ในตนเอง
66. ความสนใจใฝร่ ู้
67. การละเวน้ สงิ่ เสพยต์ ดิ และการพนนั
68. ความรกั สามคั คี
69. ความคดิ รเิ รม่ิ สรา้ งสรรค์

70. การพง่ึ ตนเอง

มิติทางสงั คม ชว่ ยเหลอื ผอู้ ่นื ตามอตั ภาพ
มิติทางเศรษฐกิจ ใชจ้ า่ ยอยา่ งประหยดั และสมเหตุสมผล
มิติทางวฒั นธรรม อนุรกั ษ์วฒั นธรรมไทย พรอ้ มรบั กบั การเปลย่ี นแปลง
มิติทางส่ิงแวดล้อม อนุรกั ษ์สงิ่ แวดลอ้ มและทรพั ยากรธรรมชาติ

60. กิจกรรมการเรียนรู้
กิจกรรมก่อนเรียน

 ครสู อบถามผเู้ รยี นเกย่ี วกบั เทศการทส่ี าคญั ในประเทศไทย ประเทศสมาชกิ อาเชย่ี น
และเทศการสาคญั ทวั่ โลกทผ่ี เู้ รยี นรจู้ กั

กิจกรรมพฒั นาทกั ษะการใช้คาศพั ทแ์ ละการพดู

 ครใู หผ้ เู้ รยี นอ่านและศกึ ษาขอ้ มลู พน้ื ฐานเกย่ี วกบั เทศการสาคญั ต่างๆ ในสมาชกิ
ประชาคมอาเซยี น ครสู ุ่มถามความเขา้ ใจ เช่น
 What is the Festival of Laos?

 ครตู รวจสอบความรคู้ วามเขา้ ใจของผเู้ รยี นในเทศการสาคญั ของประเทศต่างๆ โดยให้
ทาแบบฝึกหดั ท่ี 1 และ 2 จบั คเู่ ทศการทส่ี าคญั กบั การอธบิ ายชแ้ี จงลกั ษณะของเทศ
การนนั้ ๆใหถ้ ูกตอ้ งสมบรู ณ์ จากนนั้ ครแู ละผเู้ รยี นตรวจสอบคาตอบรว่ มกนั

 ครใู หอ้ ธบิ ายขอ้ มูลเพม่ิ เตมิ เกย่ี วการสาคญั ของประเทศต่างๆ พรอ้ มทงั้ เปิดโอกาสให้
ผเู้ รยี นสอบถามและแลกเปล่ยี นความรใู้ นประเดน็ อ่นื ๆ ท่สี นใจหรอื สงสยั หลงั จากนัน้

ครูให้ผู้เรยี นทาแบบฝึกหัดโดยการอ่านศึกษาข้อมูลท่ีกาหนดในหนังสือและตอบ
คาถาม จากนนั้ ครแู ละผเู้ รยี นตรวจสอบคาตอบรว่ มกนั

 ครูให้อธบิ ายและยกตวั อยา่ งการใช้คาศพั ท์และสานวนภาษาในการอวยพรและแสดง

ความยนิ ดใี นโอกาสต่าง แลว้ หลงั จากนนั้ ใหฝ้ ึกอ่านออกเสยี งตามตวั อย่างประโยคใน

หนงั สอื เรยี น โดยครพู ดู เป็นตวั อยา่ งใหก้ บั ผเู้ รยี นก่อน เชน่

a. Good luck in the year to come. ขอใหโ้ ชคดใี นปีทก่ี าลงั จะมาถงึ

b. You're everything in my life. คณุ คอื ทุกสงิ่ ทกุ อยา่ งในชวี ติ ฉนั

c. I hope all your birthday dreams and wishes come true.
ฉนั หวงั วา่ ทกุ ความฝนั และความปรารถนาในวนั เกดิ ของคุณเป็นความจรงิ

 ครตู รวจสอบความรคู้ วามเขา้ ใจดา้ นการใชค้ าศพั ทแ์ ละสานวนในการอวยพรและแสดง
ความยนิ ดใี นโอกาสต่างๆ โดยใหผ้ เู้ รยี นแปลความหมายของคาอวยพรในโอกาสต่าง
ในหนงั สอื เรยี นใหใ้ หถ้ ูกตอ้ ง

 ผู้เรยี นเขยี นการ์ดเชิญในโอกาสต่างท่ีกาหนดให้ในหนังสือเรยี น จากนัน้ แต่งบ ท
สนทนาเกย่ี วกบั เทศการทผ่ี ่านมาโดยดูตวั อย่างการสนทนาบทสนทนาทก่ี าหนดใหใ้ น
หนงั สอื เรยี น จากนนั้ นกั ศกึ ษาจบั คแู่ สดงบททาบสมมตุ ิ

 ครอู ธบิ ายเกย่ี วกบั การใชค้ าศพั ทแ์ ละสานวนภาษาทใ่ี ชใ้ นการกล่าวเชญิ ไปยงั งานเลย้ี ง
ต่างๆ Making an Invitation การตอบรบั คาเชญิ Accepting an Invitation การปฏเิ สธ
คาเชญิ พรอ้ มใหเ้ หตุผล Declining an Invitation จากนนั้ ใหฝ้ ึกอ่านออกเสยี งตาม
ตวั อยา่ งประโยคในหนงั สอื เรยี น

 ครแู ละผเู้ รยี นสรปุ การใชค้ าศพั ทแ์ ละสานวนภาษาทใ่ี ชใ้ นการกล่าวเชญิ ไปยงั งานเลย้ี ง
การตอบรบั คาเชญิ การปฏเิ สธคาเชญิ พรอ้ มใหเ้ หตุผล พรอ้ มทงั้ เปิดโอกาสใหผ้ เู้ รยี น
สอบถามและแลกเปล่ยี นความรใู้ นประเดน็ อ่นื ๆ ท่สี นใจหรอื สงสยั หลงั จากนัน้ ครใู ห้
ผเู้ รยี นทาแบบฝึกหดั ในหนงั สอื จากนนั้ ครแู ละผเู้ รยี นตรวจสอบคาตอบรว่ มกนั

กิจกรรมการเขียน เพ่อื สรุปคาศัพท์ สานวน

 ผเู้ รยี นเขยี นการด์ เชญิ ในโอกาสต่าง
 ครูให้ผู้เรยี นเขยี นบนั ทกึ การเรยี นรู้ (Learning Log)

ภาษาองั กฤษและเรอ่ื งทไ่ี ดศ้ กึ ษามาจากในบทเรยี น

กิจกรรมประเมินผล

 ครใู หผ้ เู้ รยี นทาแบบทดสอบเพอ่ื ประเมนิ ความรคู้ วามเขา้ ใจ

61. ส่ือการเรียนรู้

 หนงั สอื เรยี น
 ใบงาน
 แผนการจดั การเรยี นรู้
 แบบทดสอบ

62.การวดั และประเมินผล

วิธีวดั
 วดั ทกั ษะการพดู
 วดั ความรคู้ วามเขา้ ใจ
 ประเมนิ ตนเองดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ มและคุณลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์

เครอ่ื งมือวดั และประเมินผล
 แบบประเมนิ ทกั ษะการพดู
 แบบทดสอบผลสมั ฤทธทิ ์ างการเรยี น เพอ่ื วดั ความรคู้ วามเขา้ ใจ
 แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยมและคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

เกณฑก์ ารประเมิน
 เกณฑก์ ารพูดของผเู้ รยี นตอ้ งอยใู่ นระดบั 60 % ขน้ึ ไป
 ผลสมั ฤทธทิ ์ างการเรยี นของผเู้ รยี นตอ้ งอยใู่ นระดบั 60 % ขน้ึ ไป
 แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนน
ขน้ึ อยกู่ บั การประเมนิ ตามสภาพจรงิ

63.บนั ทึกผลหลงั สอน

ผลการสอน

..................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................

ปัญหา/ อปุ สรรค

..................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................

...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................

ข้อเสนอแนะ/ วิธีการแก้ไข

..................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...............................................................................................................................................


Click to View FlipBook Version