The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

F3 วารสารวิชาการป้องกันควบคุมโรค สำนักป้องกันควบคุมโรคที่ 2 จังหวัดพิษณุโลก

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by E-Library DAS, 2021-09-12 21:57:44

วารสารวิชาการป้องกันควบคุมโรค สำนักป้องกันควบคุมโรคที่ 2 จังหวัดพิษณุโลก

F3 วารสารวิชาการป้องกันควบคุมโรค สำนักป้องกันควบคุมโรคที่ 2 จังหวัดพิษณุโลก

Keywords: F3,วารสารวิชาการป้องกันควบคุมโรค สำนักป้องกันควบคุมโรคที่ 2 จังหวัดพิษณุโลก

2. ค่าเฉลียคะแนนพฤติกรรมการรับประทานยา 456
รักษาโรคเรือรังของผูส้ ูงอายุในกลุ่มทีไดร้ ับโปรแกรม
การมีส่วนร่วมของผดู้ ูแลในการกาํ กบั การรับประทานยา ยาเป็นผทู้ าํ หนา้ ทีในการกาํ กบั ติดตามการรับประทานยา
ภายหลงั เขา้ ร่วมโปรแกรมฯ สูงกวา่ กลุ่มทีไดร้ ับการดูแล รักษาโรคเรือรังของผสู้ ูงอายอุ ยา่ งสมาํ เสมอ
ตามปกติ
พฤติกรรมการรับประทานยารักษาโรคเรือรัง
นิยามศัพท์การวจิ ัย หมายถึง การปฏิบตั ิเกียวกบั การรับประทานยารักษาโรค
เรือรัง ในช่วง  เดือนทีผ่านมา ซึงผูว้ จิ ยั ประเมินโดยใช้
โปรแกรมการมสี ่วนร่วมของผ้ดู ูแลในการกาํ กับ แบบประเมินพฤติกรรมการรับประทานยารักษาโรค
การรับประทานยารักษาโรคเรือรัง หมายถึง กิจกรรมที เรือรังของผูส้ ูงอายุ ครอบคลุม 4 ดา้ น ไดแ้ ก่ 1.ดา้ นการ
ผูว้ ิจัยประยุกต์ใช้ทฤษฎีการมีส่วนร่วมในการดูแล ตรวจสอบยา 2. ด้านการรับประทานยา 3. ด้านการเก็บ
(Shared Care) ของ Sebern(11) เพือส่งเสริมให้ผู้ดูแลใน รักษายา และ 4. ด้านการสังเกตและการจัดการอาการ
ครอบครัวมี ส่ วนร่ วมในการจัดการปั ญ หาการ ขา้ งเคียงจากการใชย้ า
รับประทานยาของผสู้ ูงอายทุ ีเจ็บป่ วยเป็นโรคเรือรัง และ วธิ ีดาํ เนินการวจิ ัย
ฝึ กทกั ษะเกียวกบั การรับประทานยารักษาโรคเรือรังที
เหมาะสมของผู้สู งอายุ ในระยะเวลา 6 สั ปดาห์ การวิจยั ครังนีเป็ นการวิจยั กึงทดลอง (Quasi-
ประกอบด้วย ) การสือสาร ) การตัดสินใจ ) การ experimental research) แบบสองกลุ่มวดั ก่อนและหลัง
กระทาํ ร่วมกนั ซึงผูว้ จิ ยั มีการใหโ้ ปรแกรมอยา่ งต่อเนือง การทดลอง (Pretest - Posttest control group design)
3 สัปดาห์ ตลอดจนการให้ภาพโปสเตอร์วิธี การ ประชากรและกล่มุ ตัวอย่าง
รับประทานยารักษาโรคเรือรัง ไวศ้ ึกษาหรือทบทวน
และใหป้ ฏิทินบนั ทึกการรับประทานยาของผูส้ ูงอายุไว้ ประชากรทีใชใ้ นการศึกษาครังนี คือ ผสู้ ูงอายทุ ี
บนั ทึกการรับประทานยาในแต่ละมือต่อทีบา้ น และใน เจ็บป่ วยเป็ น โรคความดัน โลหิ ตสู ง และห รื อ
สัปดาห์ที  จะมีการติดตามเยยี มบา้ น เพือ ประเมินสภาพ โรคเบาหวาน ทีไดร้ ับการรักษาดว้ ยยารับประทาน และ
จริงในการรับประทานยาของผูส้ ูงอายุ สัปดาห์ที  เป็ น มี รายชื ออยู่ใน ท ะเบี ยน ผู้ป่ วยโรค เรื อรังขอ ง
การโทรศัพท์ติดตามเยียม เพือสอบถามปัญหาหรือ โรงพยาบาลและหน่วยบริการปฐมภูมิในเขตอาํ เภอ
ขอ้ ขดั ขอ้ งในการรับประทานยาใหค้ าํ ปรึกษา และพดู คุย เมือง จงั หวดั เพชรบูรณ์ และผูด้ ูแลผูส้ ูงอายซุ ึงอาศยั อยู่
ให้กาํ ลังใจแก่ผูส้ ูงอายุและผูด้ ูแลในครอบครัวทีดูแล ในอาํ เภอเมือง จงั หวดั เพชรบูรณ์ กลุ่มตวั อย่างทีใช้ใน
ผสู้ ูงอายดุ า้ นการรับประทานยา การศึกษาครังนี คือ ผูส้ ูงอายุทีเจ็บป่ วยเป็ นโรคความดนั
โลหิตสูง และหรือโรคเบาหวาน ทีไดร้ ับการรักษาดว้ ย
การกํากับการรับประทานยารักษาโรคเรือรัง ยารับประทาน และผูด้ ูแลผูส้ ูงอายุซึงอาศยั อยู่ในอาํ เภอ
หมายถึง การติดตามดูแลดา้ นการรับประทานยารักษา เมือง จงั หวดั เพชรบูรณ์ในเดือน กรกฎาคม  ถึง
โรคเรือรังของผูส้ ูงอายุทีเจ็บป่ วยเป็ นโรคเรือรัง โดยมี สิงหาคม พ.ศ. 2562 โดยใช้วธิ ีการสุ่มอยา่ งง่าย (Sample
ผูด้ ูแลในครอบครัวทีดูแลผูส้ ูงอายดุ า้ นการรับประทาน Random Sampling) จบั ฉลากแบบไม่ใส่คืน (Sampling
without Replacement) จากโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ
ตาํ บลตะเบาะ เขา้ กลุ่มทดลอง 30 คน และ โรงพยาบาล
ส่งเสริมสุขภาพตาํ บลห้วยสะแก เขา้ กลุ่มควบคุม 30 คน

วารสารวชิ าการป้องกนั ควบคุมโรค สคร.2 พษิ ณุโลก: ปี ที  ฉบบั ที  พฤษภาคม - สิงหาคม 

46 7

รวมมีกลุ่มตวั อย่างทงั สิน จาํ นวน 60 คน โดยมีเกณฑ์ ประเมินความถีในการปฏิบตั ิ จาํ แนกเป็ นรายด้านทงั 4
การคัดผู้เข้าร่วมการวิจัย (Inclusionsamplingcriteria) ใน ด้าน ดังต่อไปนี 1. ด้านการตรวจสอบยา 2. ด้านการ
การศึกษาครังนี ดงั นี รับประทานยา 3. ดา้ นการเก็บรักษายา และ 4. ดา้ นการ
สงั เกตและการจดั การอาการขา้ งเคียงจากการใชย้ า โดยมี
1. ผสู้ ูงอายุ โดยมีคุณสมบตั ิดงั นี มาตราส่วนประมาณค่า 4 ระดบั ดงั นี
1.1 ไดร้ ับการรักษาดว้ ยวธิ ีการรับประทาน
ยาเพยี งอยา่ งเดียว 3 ค ะ แ น น เท่ ากับ ป ฏิ บัติ ทุ ก ค รังที
1.2 สามารถปฏิบตั ิกิจวตั รประจาํ วนั และทาํ รับประทานยาใน 1 วนั
กิจกรรมดว้ ยตนเองได้ โดยใช้ ADL Index
1.3 ไมม่ ีความบกพร่องดา้ นการรับรู้ 2 คะแนน เท่ากบั ปฏิบตั ิบ่อยครัง ต่อการ
1.4 สามารถสือสารดว้ ยการพูด และการฟัง รับประทานยาใน 1 วนั
ดว้ ยภาษาไทยหรือภาษาถินได้
2. ผดู้ ูแล โดยมีคุณสมบตั ิดงั นี 1 คะแนน เท่ากบั ปฏิบตั ิบางครัง ต่อการ
2.1 บุคคลในครอบครัวทีมีอายุระหวา่ ง 20–59 รับประทานยาใน 1 วนั
ปี จาํ นวน 1 คน ทีอาศยั อยู่ร่วมกนั ในครอบครัวเดียวกบั
ผสู้ ูงอายุ แลว้ มีปฏิสัมพนั ธ์กนั มีการดาํ เนินชีวิตร่วมกนั 0 คะแนน เทา่ กบั ไม่เคยปฏิบตั ิเลย
และให้การดูแลผูส้ ูงอายุโรคความดันโลหิตสูง และ โดยผา่ นการตรวจสอบความตรงของเนือหาจาก
หรือโรคเบาหวานอยา่ งต่อเนือง ผูท้ รงคุณวุฒิ 5 ท่าน ได้ค่าดัชนีความตรงตามเนือหา
2.2 อา่ นออก เขียนได้ สามารถสือสารดว้ ยการ (CVI) ของแบบสอบถาม เท่ากับ 0.98 จากนัน นําไป
พูด และการฟังภาษาไทยหรือภาษาถินได้ ทดลองใช้ผู้สู งอายุโรคเรื อรังทีไม่ใช่กลุ่มตัวอย่าง
2.3 ไม่มีปัญหาความจาํ หรืออาการเจ็บป่ วยที จาํ นวน 30 ราย วิเคราะห์ค่าความเทียงของเครืองมือวจิ ยั
เป็นอุปสรรคตอ่ การใหข้ อ้ มูล โดยใช้ค่าสัมประสิทธิแอลฟา (α - Coefficient) ตามวิธี
เครืองมือทใี ช้ในการวจิ ัย ของครอนบคั (Cronbach) พบวา่ แบบประเมินพฤติกรรม
1. เครื องมือที ใช้ในการรวบรวมข้อมู ล การรับประทานยารักษาโรคเรือรังของผูส้ ูงอายุ ได้ค่า
ประกอบด้วย แบบสอบถามข้อมูลส่วนบุคคลของ ความเทียง เทา่ กบั 0.93
ผสู้ ูงอายุ แบบสอบถามขอ้ มูลส่วนบุคคลของผูด้ ูแล และ 2. เครืองมือทีใช้ดาํ เนินการวิจยั ประกอบด้วย
แบบประเมินพฤติกรรมการรับประทานยารักษาโรค โปรแกรมการมีส่วนร่วมของผูด้ ูแลในการกํากับการ
เรือรังของผูส้ ูงอายุ โดยแบบประเมินพฤติกรรมการ รั บประทานยารั กษาโรคเรื อรั งที ผู้วิจัยสร้ างขึ นโดย
รับประทานยาของผูส้ ูงอายุโรคเรือรัง ผูว้ ิจยั เป็ นผูส้ ร้าง ประยุกต์ใช้ทฤษฎีการมีส่วนร่วมในการดูแล (Shared
ขึนจากการทบทวนวรรณกรรมทีเกียวกบั พฤติกรรมการ Care) ของ Sebern(11) โดยมีภาพและสือประกอบโปรแกรม
รับประทานยารักษาโรคเรือรังของผูส้ ูงอายุ ลักษณะ ฯ ได้แก่ ภาพโปสเตอร์วิธีการรับประทานยารักษาโรค
คาํ ถามเป็ นข้อคาํ ถามเชิงบวก จาํ นวน 20 ข้อ เป็ นการ เรือรัง และปฏิทินบนั ทึกการรับประทานยาของผูส้ ูงอายุ
ที ผ่ านการตรวจสอบความเหมาะสมของเนื อหาจาก
ผทู้ รงคุณวฒุ ิ 5 ทา่ น

วารสารวชิ าการป้องกนั ควบคุมโรค สคร.2 พิษณุโลก: ปี ที  ฉบบั ที  พฤษภาคม - สิงหาคม 

การดําเนินการวจิ ัยและการเกบ็ ข้อมูล 478
ผูว้ ิจยั เริมดาํ เนินการวิจยั และเก็บขอ้ มูล โดยให้
รักษาโรคเรื อรังในผู้สู งอายุ ข้อควรระวังในการ
โปรแกรมการมีส่วนร่วมของผูด้ ูแลในการกํากับการ รับประทานยา และอาการขา้ งเคียงทีอาจพบภายหลงั
รับประทานยารักษาโรคเรือรัง ในกลุ่มทดลองก่อน จน การรับประทานยารักษาโรคเรือรังของผูส้ ูงอายุ ตาม
ครบ 30 คน จึงจะเริมดาํ เนินการวิจยั และเก็บขอ้ มูลใน แผนการดําเนินกิจกรรม พร้อมทบทวนหลักการ
กลุ่มควบคุมเป็ นลาํ ดบั ต่อไป ซึงมีรายละเอียดในการ รับประทานยาตามภาพโปสเตอร์วิธีการรับประทานยา
ดาํ เนินการวจิ ยั และเก็บขอ้ มูล ดงั นี รักษาโรคเรื อรัง และอธิบายวิธีการลงบันทึกการ
รับประทานยาในแต่ละมือ และบนั ทึกการเกิดอาการ
กลุ่มทดลอง ได้รับโปรแกรมการมีส่วนร่วม ขา้ งเคียงทีอาจพบหลงั จากรับประทานยาในแต่ละวนั
ของผดู้ ูแลในการกาํ กบั การรับประทานยารักษาโรคเรือรัง ลงในปฏิทินบนั ทึกการรับประทานยาของผสู้ ูงอายุ และ
ต่อเนือง 3 สัปดาห์ ติดตามการคงอยู่ของพฤติกรรม 2 แจกภาพโปสเตอร์วธิ ีการใชย้ ารักษาโรคเรือรัง กบั ปฏิทิน
สัปดาห์ และประเมินผล 1 สปั ดาห์ รวมทงั สิน 6 สัปดาห์ บนั ทึกการรับประทานยาให้ผูส้ ูงอายุและผูด้ ูแลผสู้ ูงอายุ
ดา้ นการรับประทานยา นาํ ไปใชป้ ระกอบกิจกรรมต่อที
สัปดาห์ที 1 ชีแจงวตั ถุประสงค์ และเก็บ บา้ น
ขอ้ มูลก่อนการทดลอง ผูส้ ูงอายแุ ละผูด้ ูแลในครอบครัว
ทีดูแลผูส้ ูงอายุดา้ นการรับประทานยา มีการแลกเปลียน สัปดาห์ ที 4 ผู้วิจัยติดตามเยียมบ้าน ให้
ขอ้ มูลดา้ นการรับประทานยาทีผา่ นมา ผูว้ ิจยั กระตุน้ ให้ คาํ แนะนาํ เพมิ เติม พดู คุยใหก้ าํ ลงั ใจ
มีการพูดคุยสือสารเพิมมากขึน และให้ความรู้เรืองยา
รักษาโรคเรือรัง (ความดนั โลหิตสูง, เบาหวาน) ตาม สัปดาห์ที 5 ผู้วิจัยโทรศัพท์ติดตามเยียม
แผนการดาํ เนินกิจกรรม สอบถามปัญหา ให้คาํ ปรึกษา กล่าวคาํ ชมเชย พูดคุย ให้
กาํ ลงั ใจ สัปดาห์ที 6 เก็บขอ้ มูลหลงั เสร็จสินการทดลอง
สัปดาห์ที 2 ให้ร่วมกันค้นหาข้อมูลและ
สาเหตุของการเกิดพฤติกรรมการรับประทานยาทีไม่ กลุ่มควบคุม
เหมาะสมทีผ่านมา ผูว้ ิจัยให้ความรู้เรืองสาเหตุและ สัปดาห์ที 1 ชีแจงวตั ถุประสงค์ เก็บข้อมูล
ผลกระทบของการมีพฤติกรรมการรับประทานยาทีไม่ ก่อนไดร้ ับการดูแลตามปกติ ต่อจากนนั กลุ่มควบคุมจะ
เหมาะสม ตามแผนการดําเนินกิจกรรม พร้อมทัง ได้รับการดูแลตามปกติจากพยาบาลประจาํ คลินิกโรค
กระตุ้นให้มีการตัดสิ นใจร่วมกันในการเลือกแนว เรือรังใน รพ.สต.
ทางการกาํ กบั การรับประทานยาของผสู้ ูงอายโุ รคเรือรัง สัปดาห์ที 2 – 5 ไดร้ ับการดูแลตามปกติ
สัปดาห์ที 6 เก็บขอ้ มูลหลงั เสร็จสินการดูแล
สัปดาห์ ที 3 ให้ผู้สู งอายุบอกเล่าความ ตามปกติ
ตอ้ งการการดูแลดา้ นการรับประทานยา และให้ผูด้ ูแล การวเิ คราะห์ข้อมูล
ในครอบครัวทีดูแลผูส้ ูงอายุด้านการรับประทานยา วเิ คราะห์ขอ้ มูลดว้ ยโปรแกรมสาํ เร็จรูป SPSS
บอกเล่าความตอ้ งการการมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือ กาํ หนดระดบั นยั สําคญั ที .05 ดงั นี
กํากับดู แลด้านการรับประทานยาของผู้สู งอายุโรค 1. ข้ อ มู ล ทั วไป แ ล ะ พ ฤ ติ ก รรม ก าร
เรือรัง ผูว้ ิจัยให้ความรู้เรือง หลักการรับประทานยา รับประทานยารักษาโรคเรื อรังของผู้สู งอายุนํามา

วารสารวชิ าการป้องกนั ควบคุมโรค สคร.2 พิษณุโลก: ปี ที  ฉบบั ที  พฤษภาคม - สิงหาคม 

48 9

วิเคราะห์โดยใช้การแจกแจงความถี ร้อยละ พิสัย เท่ากบั . ปี กลุ่มควบคุม เท่ากบั . ปี จาํ นวนยาที
คา่ เฉลีย และส่วนเบียงเบนมาตรฐาน รับประทานอยู่ในปัจจุบันเฉลีย เท่ากับ . ชนิด ใน
กลุ่มทดลอง ส่วนกลุ่มควบคุมเฉลีย เทา่ กบั . ชนิด
2. เปรียบเทียบความแตกต่างของลกั ษณะทาง
ประชากรของกลุ่มตัวอย่างระหว่างกลุ่มทดลองและ . คุณลักษณะทัวไปของผู้ดูแลผูส้ ูงอายุที
กลุ่มควบคุม นํามาทดสอบโดยใช้สถิติ Chi-square, เจบ็ ป่ วยดว้ ยโรคเรือรัง ในกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม
Fisher exact probability test และ t-test โดยภาพรวมไม่มีความแตกต่าง พบวา่ ส่วนใหญเ่ ป็นเพศ
ชายมากกวา่ เพศหญิง อายุเฉลียของกลุ่มทดลอง เท่ากบั
3. เปรียบเทียบพฤติกรรมการรับประทานยา . ปี กลุ่มควบคุม เท่ากบั . ปี ส่วนใหญ่สมรส
รักษาโรคเรือรังของผูส้ ูงอายุภายในกลุ่มทดลองและ แล้ว กลุ่มทดลองจบการศึกษาระดบั ปริญญาตรีสูงสุด
กลุ่มควบคุม ระหว่างก่อนและหลงั เข้าร่วมโปรแกรม กลุ่ มควบคุ มจบการศึ กษาระดับประถมศึ กษาสู งสุ ด
การมีส่วนร่วมของผูด้ ูแลในการกาํ กบั การรับประทาน กลุ่มทดลองส่วนใหญ่ประกอบอาชีพรับจา้ งทวั ไป กลุ่ม
ยา โดยใชส้ ถิติ Dependent t-test ควบคุมส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกร รายได้ต่อ
เดือน , – 14,999 บาท จาํ นวนสมาชิกในครอบครัว
4. เปรียบเทียบพฤติกรรมการรับประทานยา 3 – 4 คน ไม่มีโรคประจาํ ตวั ดูแลผูส้ ูงอายุในฐานะบุตร
รักษาโรคเรือรังของผูส้ ูงอายุระหว่างกลุ่มทดลองและ และหลาน ระยะเวลาในการดูแลผูส้ ูงอายุเฉลีย กลุ่ม
กลุ่มควบคุม ก่อนและหลงั เขา้ ร่วมโปรแกรมการมีส่วน ทดลอง เท่ากบั . ปี กลุ่มควบคุม เทา่ กบั . ปี
ร่วมของผูด้ ูแลในการกาํ กบั การรับประทานยา โดยใช้
สถิติ Independent t-test . ผลการเปรี ยบเที ยบค่าเฉลี ยคะแนน
ผลการศึกษา พฤติกรรมการรับประทานยารักษาโรคเรื อรังของ
ผูส้ ูงอายุ ก่อนและหลงั การทดลองของกลุ่มทดลอง ดว้ ย
. คุณลักษณะส่ วนบุคคลของผู้สู งอายุที สถิติ Dependent t-test พบวา่ คะแนนเฉลียพฤติกรรมการ
เจ็บป่ วยดว้ ยโรคเรือรัง ในกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม รับประทานยาภายหลังการทดลองของกลุ่มทดลองมี
โดยภาพรวมไมม่ ีความแตกต่าง พบวา่ ส่วนใหญ่เป็นเพศ คา่ เฉลีย x = 51.33, SD = 1.65 สูงกวา่ ก่อนเริมการทดลอง
หญิงมากกว่าเพศชาย อายุเฉลียของกลุ่มทดลอง เท่ากบั ซึงมีคา่ เฉลีย x= 41.87, SD = 2.84 อยา่ งมีนยั สาํ คญั ทาง
. ปี กลุ่มควบคุม เท่ากบั . ปี ส่วนใหญ่สมรส สถิติ ดงั ตารางที 
แล้ว จบการศึกษาระดบั ประถมศึกษา ไม่ได้ประกอบ
อาชีพ มีโรคประจาํ ตวั เป็นโรคความดนั โลหิตสูงร่วมกบั
โรคเบาหวาน กลุ่มทดลองมีระยะเวลาการเจบ็ ป่ วยเฉลีย

วารสารวชิ าการป้องกนั ควบคุมโรค สคร.2 พษิ ณุโลก: ปี ที  ฉบบั ที  พฤษภาคม - สิงหาคม 

4190

ตารางที  เปรียบเทียบค่าเฉลียคะแนนพฤติกรรมการรับประทานยารักษาโรคเรือรังของผสู้ ูงอายุ ก่อนและหลงั การทดลอง
ของกลุ่มทดลอง

กล่มุ ตวั อย่าง x SD t df p-value

n = 30 16.30 29 < .01
ก่อนการทดลอง
41.87 2.84

หลงั การทดลอง 51.33 1.65

.เปรียบเทียบค่าเฉลียคะแนนพฤติกรรมการรับประทานยารักษาโรคเรือรังของผูส้ ูงอายุ ภายหลงั การ
ทดลองระหวา่ งกลุ่มทดลองกบั กลุ่มควบคุม พบว่า กลุ่มทดลองมีค่าเฉลียคะแนนพฤติกรรมการรับประทานยาสูงขึน
x = 51.33 , SD = 1.65 มากกวา่ กลุ่มควบคุม x = 41.13 , SD = 2.66 อยา่ งมีนยั สาํ คญั ทางสถิติ ดงั ตารางที 

ตารางที  เปรียบเทียบคา่ เฉลียคะแนนพฤติกรรมการรับประทานยารักษาโรคเรือรังของผสู้ ูงอายุ ภายหลงั การทดลอง
ระหวา่ งกลุ่มทดลองกบั กลุ่มควบคุม

กล่มุ ตัวอย่าง x SD t df p-value

ก่อนการทดลอง 0.13 58 .45

กลุ่มทดลอง 41.87 2.84
กลุ่มควบคุม
41.77 2.96

หลงั การทดลอง 16.10 58 < .01

กลุ่มทดลอง 51.33 1.65
กลุ่มควบคุม
41.13 2.66

อภิปรายผล สู งกว่าก่อนเริ มการทดลอง ซึ งมีค่าเฉลีย (x= 41.87,
SD=2.84)อย่างมีนยั สําคญั ทางสถิติทีระดบั .01เนืองจาก
ผวู้ จิ ยั อภิปรายผลการศึกษาตามสมมติฐาน ดงั นี กลุ่มทดลองไดร้ ับโปรแกรมการมีส่วนร่วมของครอบครัว
สมมติฐานที 1ค่าเฉลียคะแนนพฤติกรรมการ ในการจัดการปั ญหาการรับประทานยา ทีผู้วิจัยได้
รับประทานยารักษาโรคเรือรังของผูส้ ูงอายุกลุ่มทีได้รับ ประยุกต์ใช้ทฤษฎีการมีส่วนร่วมในการดูแล (Shared
โปรแกรมการมี ส่ วนร่ วมของผู้ดู แลในการกํากับการ
รับประทานยาภายหลงั เขา้ ร่วมโปรแกรมฯสูงกวา่ ก่อนเขา้ Care)ของSebern(11)ซึงอธิบายไดว้ า่ อาจเป็ นผลจากแนวคิด
ร่วมโปรแกรมฯ การมีส่วนร่วมในการดูแลดงั กล่าว กิจกรรมทีส่งเสริมให้
ผลการศึกษาครังนี สนับสนุนสมมติฐานที 1 ครอบครัวมีส่วนร่วมในการจดั การปัญหาการรับประทาน
โดยพบว่า ค่าเฉลียคะแนนพฤติกรรมการรับประทานยา ยาของผูส้ ูงอายุทีเจ็บป่ วยเป็ นโรคเรือรัง 3ด้านหลักๆ มี
ของกลุ่มทดลองภายหลงั การทดลอง(x=51.33,SD=1.65) ความสอดคล้อง ดังนี 1) การสือสาร แลกเปลียนข้อมูล

วารสารวชิ าการป้องกนั ควบคุมโรค สคร.2 พิษณุโลก: ปี ที  ฉบบั ที  พฤษภาคม - สิงหาคม 

50 11

ระหวา่ งผูส้ ูงอายุ สมาชิกในครอบครัวทีดูแลผูส้ ูงอายุดา้ น ครอบครั วต่ อการดู แลสุ ขภาพเท้ าของผู้สู งอายุ
การรับประทานยาเกียวกบั ปัญหาทีเกิดขึนจากพฤติกรรม โรคเบาหวานพบวา่ กลุ่มทีไดร้ ับโปรแกรมมีคะแนนเฉลีย
การรับประทานยารูปแบบการช่วยเหลือความตอ้ งการการ ของสุ ขภาพเท้าสู งกว่าก่อนได้รับโปรแกรม อย่างมี
ดูแล 2)การตดั สินใจ พบวา่ ในระหวา่ งการสนทนาปรึกษา นยั สําคญั ทางสถิติ และสอดคลอ้ งกบั การศึกษาของ ทิพา
พบว่า ผูส้ ูงอายุและสมาชิกในครอบครัวทีดูแลผูส้ ูงอายุ รัตน์ คงนาวงั (8) ศึกษา เรือง ผลของการพฒั นารูปแบบการ
ด้านการรับประทานยา มีการนําข้อมูลปั ญหาการ ดูแลผู้ป่ วยเบาหวานชนิดที 2 โดยการมีส่วนร่วมของ
รับประทานยาและความตอ้ งการการดูแลช่วยเหลือของ ครอบครัวและชุมชนพบวา่ ผลเลือดผูป้ ่ วย (ค่าDTXและ
ผูส้ ูงอายุมาทบทวนร่วมกัน จนได้แนวทางการจัดการ ค่า HbA1C)ดีขึนอย่างมีนยั สําคญั ทางสถิติ แสดงให้เห็น
ปัญหาการรับประทานยา อย่างน้อย 2แนวทาง แลว้ มีการ ว่า ผลของโปรแกรมการมีส่วนร่วมของครอบครัวในการ
ตดั สินใจเลือกแนวทางการจดั การปัญหาการรับประทาน จัดการปั ญหาการรับประทานยา สามารถช่วยปรับ
ยาร่วมกนั อนั จะนาํ ไปสู่การการะทาํ ร่วมกนั เกียวกบั ดา้ น พฤติกรรมการรับประทานยาของผูส้ ูงอายุโรคทีเจ็บป่ วย
การรับประทานยาของผูส้ ูงอายุโรคเรือรัง 3) การกระทาํ เป็ นโรคเรื อรังให้มีพฤติกรรมการรับประทานยาที
ร่วมกนั เป็ นการฝึ กทกั ษะร่วมกนั ในเรืองการรับประทาน เหมาะสมได้
ยาให้ผูส้ ูงอายุและสมาชิกในครอบครัวทีดูแลผูส้ ูงอายุ
ดา้ นการรับประทานยาภายใตบ้ ริบทและขอ้ ตกลงร่วมกนั สมมติฐานที 2 ค่าเฉลียคะแนนพฤติกรรมการ
โดยผูว้ ิจยั จะให้ความรู้เรืองการรับประทานยารักษาโรค รับประทานยารักษาโรคเรือรังของผูส้ ูงอายุกลุ่มทีได้รับ
เรือรังทีถูกตอ้ งเป็ นระยะเวลาต่อเนืองกนั ในสัปดาห์ที 1– โปรแกรมการมีส่วนร่วมของผูด้ ูแลในการกํากับการ
ทาํ ให้กลุ่มทดลองมีความรู้เรืองการรับประทานยารักษา รับประทานยาภายหลงั เขา้ ร่วมโปรแกรมฯ สูงกวา่ กลุ่มที
โรคเรือรังมากขึนมีความมนั ใจในการปฏิบตั ิกิจกรรมการ ไดร้ ับการดูแลตามปกติ
รับประทานยาและจดั การปัญหาการรับประทานยาร่วมกนั
กบั สมาชิกในครอบครัวได้อย่างเหมาะสม ประกอบกับ ผลการศึ กษ าครั งนี ส นั บ ส นุ น
กลุ่มทดลองได้รับโปสเตอร์วิธีการรับประทานยา ทีมี สมมติฐานที 2โดยพบว่า ค่าเฉลียคะแนนพฤติกรรมการ
รายละเอียดขันตอนการรับประทานยา 4 ขนั ตอนหลัก ใช้ ยาของกลุ่ มทดลอง ภายหลังการทดลอง (x
พร้อมกบั ไดร้ ับปฏิทินการรับประทานยาเพอื ใชล้ งบนั ทึก =51.33,SD=1.65)มากกวา่ กลุ่มควบคุม(x=41.13,SD=2.66)
และตรวจสอบการรับประทานยาในแต่ละวนั และติดตาม อยา่ งมีนยั สาํ คญั ทางสถิติทีระดบั .01 ซึงสามารถอภิปราย
เยียมทางโทรศพั ท์ในสัปดาห์ที - เพือสอบถามปัญหา ไดด้ งั นี เนืองจากโปรแกรมการมีส่วนร่วมของครอบครัว
หรือขอ้ ขดั ข้องในการรับประทานยา ให้คาํ ปรึกษา และ ในการจัดการปั ญหาการรั บประทานยาที กลุ่ มทดลอง
พูดคุยให้กาํ ลงั ใจ จากรูปแบบกิจกรรมและเครืองมือวิจยั ได้รับครังนี มีรูปแบบกิจกรรมทีส่งเสริมการมีส่วนร่วม
ดงั กล่าว ส่งผลต่อการมีพฤติกรรมการรับประทานยาที ของครอบครั วในการจัดการปั ญหาการรั บประทานยา
เหมาะสมเพิมขึน สอดคลอ้ งกบั การศึกษาของ จงจิต บุญ ครอบคลุมประเด็นของการดูแลร่วมกนั ทีไดป้ ระยุกตจ์ าก
อินทร์(7) ศึกษาผลของโปรแกรมการมีส่ วนร่ วมของ ทฤษฎีการมีส่ วนร่ วมในการดูแล (Shared Care) ของ
Sebern(11) เพื อส่ งเสริ มให้ผู้สู งอายุมี พฤติ กรรมการ
รับประทานยาทีเหมาะสมเพมิ ขึนรวมทงั ใหภ้ าพโปสเตอร์

วารสารวชิ าการป้องกนั ควบคุมโรค สคร.2 พิษณุโลก: ปี ที  ฉบบั ที  พฤษภาคม - สิงหาคม 

วธิ ีการรับประทานยาไวศ้ ึกษาหรือทบทวนและให้ปฏิทิน 5112
การรับประทานยา ไวบ้ นั ทึกการรับประทานยาในแต่ละ
มือต่อทีบา้ น และส่งเสริมให้สมาชิกในครอบครัวทีดูแล รับประทานยาอยา่ งต่อเนืองเนืองจากการรับประทานยาใน
ผูส้ ูงอายุด้านการรับประทานยามีส่วนร่วมในการจดั การ ผู้สูงอายุมีข้อควรระวงั เป็ นพิเศษและเสียงต่อการเกิด
ปัญหาการรับประทานยาของผูส้ ูงอายุโรคเรือรังอย่าง อนั ตรายจากการรับประทานยาไดง้ ่ายกวา่ วยั อืนๆและจาก
ต่อเนืองด้วยการโทรศัพท์ติดตามเยียม เพือสอบถาม กระบวนการเปลียนแปลงทางร่างกายของผูส้ ูงอายุ ทาํ ให้
ประสิทธิภาพในการรับประทานยาดว้ ยตนเองลดลง
ปัญหาหรือขอ้ ขดั ขอ้ งในการรับประทานยา ให้คาํ ปรึกษา
และพูดคุยให้กําลังใจ ในสัปดาห์ที 4-5 จนสิ นสุ ด การมีส่วนร่วมของครอบครัวจึงเป็ น
โปรแกรมฯ ส่ วนของกลุ่มควบคุมจะได้รับการดูแล ปัจจยั สําคญั ทีจะช่วยจดั การปัญหาการรับประทานยา
ตามปกติ ซึงเป็ นการดูแลตามปกติจากพยาบาลประจาํ สอดคลอ้ งกบั การศึกษาของศศิพิมพ์ ไพโรจนก์ ิตระกูล(9)
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตาํ บลห้วยสะแก อาํ เภอเมือง ศึกษาผลของโปรแกรมการส่งเสริมการดูแลร่วมกนั ต่อ
จงั หวดั เพชรบูรณ์ ทีผูส้ ูงอายุในกลุ่มควบคุมใช้บริการ การดูแลร่ วมกันของผู้ป่ วยและครอบครัว ภาวะ
ตรวจรักษาตามนัดเป็ นประจํา ซึ งรู ปแบบการดูแล โภชนาการ และการติดเชือทีแผลช่องสายออก ในผูป้ ่ วย
ตามปกติ ประกอบดว้ ยกิจกรรมการประเมินภาวะสุขภาพ ลา้ งไตทางหน้าทอ้ งแบบต่อเนือง ผลการศึกษา พบว่า
โดยการชงั นาํ หนกั วดั ความดนั โลหิตและเจาะเลือดปลาย กลุ่มทดลองมีค่าเฉลียคะแนนการดูแลร่วมกนั ดา้ นการ
นิวตรวจดูระดบั นําตาลในเลือดในผูป้ ่ วยโรคเบาหวาน สือสาร ดา้ นการตดั สินใจ และดา้ นการมีสัมพนั ธ์ซึงกนั
และในระหว่างรอตรวจรักษาตามนัด จะมีพยาบาลหรือ และกนั เพิมขึนมากกว่าก่อนทดลองและมากกว่ากลุ่ม
เจา้ หน้าทีสาธารณสุข เป็ นผูใ้ ห้สุขศึกษาเกียวกบั วิธีการ ควบคุม และจากการศึกษาของ รัชมนภรณ์ เจริญ(10) ที
ดูแลตนเองเพือให้มีพฤติกรรมสุขภาพทีเหมาะสมกบั โรค ศึกษาผลของโปรแกรมพฒั นาความรู้และการมีส่วนร่วม
ความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวาน และได้รับข้อมูล ของครอบครัวต่อพฤติ กรรมสุ ขภาพและการควบคุ ม
เกียวกับการรักษาโรคเรือรังจากบุคลากรสาธารณสุ ข นําตาลในเลือดของผูส้ ูงอายุทีเป็ นเบาหวานชนิดที 2
อธิบายวิธีการรับประทานยาทีถูกต้องร่ วมด้วย ซึ ง พบว่า ผู้สู งอายุมีพฤติกรรมการรับประทานยาดีขึน
ผูส้ ูงอายุจะเป็ นผูท้ ีพูดคุยอาการกบั เจา้ หนา้ ที เพียงลาํ พงั ภายหลงั ได้รับโปรแกรม ซึงประกอบด้วยการให้ความรู้
เป็นส่วนใหญ่ จะพบวา่ มีสมาชิกในครอบครัวรออยูพ่ ร้อม เรืองโรคเบาหวานและการรับประทานยาทีถูกตอ้ งร่วมกบั
กบั ผูส้ ูงอายุดว้ ยนอ้ ย เนืองจากตอ้ งรีบกลบั ไปทาํ งานและ ศึกษาจากคู่มือโรคเบาหวานและมีบุคคลในครอบครัว
เมือผูส้ ูงอายุกลบั บ้าน สมาชิกในครอบครัวจะดูแลด้าน มาร่วมกระตุน้ เตือนหรือเตรียมยาไวใ้ ห้ ทาํ ให้พบวา่ การ
การรับประทานยาของผู้สูงอายุ เมือผู้สูงอายุขอความ รับประทานยารักษาเบาหวานตรงเวลาเพมิ ขึน
ช่วยเหลือเป็ นครังคราว และคอยช่วยเตือนเวลาในการ
รับประทานยา ซึ งแตกต่างจากกลุ่มทดลองทีได้รับ ดว้ ยเหตุผลขา้ งตน้ จึงสรุปไดว้ า่ ผล
โปรแกรมฯ ทีจะมีรูปแบบกิจกรรมทีส่งเสริมให้สมาชิก ของโปรแกรมการมี ส่ วนร่ วมของครอบครั วในการ
ในครอบครัวเขา้ มามีส่วนร่วมในการดูแลผสู้ ูงอายดุ า้ นการ จัดการปั ญหาการรับประทานยาของผู้สู งอายุ ที
ประยุกต์ใช้ทฤษฎีการมีส่วนร่วมในการดูแล (Shared
Care) ของ Sebern (11) โดยการมีส่วนร่วมของครอบครัว
ในการดูแลผูส้ ูงอายทุ ีเจ็บป่ วยเป็ นโรคเรือรังนนั จาํ เป็ น

วารสารวชิ าการป้องกนั ควบคุมโรค สคร.2 พิษณุโลก: ปี ที  ฉบบั ที  พฤษภาคม - สิงหาคม 

52 13

ต่อผลสําเร็จของการพยาบาล ประกอบด้วย 3 แนวคิด กติ ตกิ รรมประกาศ
หลัก ได้แก่ การสือสาร การตดั สินใจ และการกระทาํ ขอขอบคุณผศ.ดร.พฒั นาพรหมณี ผอู้ าํ นวยการ
ร่วมกนั นาํ ไปสู่การปฏิบตั ิกิจกรรมดา้ นการรับประทาน
ยาทีเหมาะสม มีประสิทธิภาพและส่งเสริมให้เกิดผล สํานักวิจยั สถาบนั เทคโนโลยีแห่งอโยธยา ผศ.ดร.อภิชัย
ลพั ธ์ทีดีต่อพฤติกรรมการรับประทานยาของผสู้ ูงอายใุ ห้ คุณีพงษ์ หวั หนา้ สํานกั งานคณบดีคณะสาธารณสุขศาสตร์
มีพฤติกรรมทีเหมาะสมเพมิ ขึน มหาวิทยาลยั ราชภฏั วไลยอลงกรณ์ในพระบรมราชูปถมั ภ์
ข้อจํากดั ของงานวจิ ัย ดร.บสพรอนุสรณ์พานิชกุล เภสัชกรชาํ นาญการกลุ่มงาน
คุ้มครองผู้บริ โภคและเภสัชสาธารณสุ ข สํานักงาน
การวิจัยในครังนี มีการวัดผลหลังให้ สาธารณสุ ขจังหวัดเพชรบูรณ์ พญ.ดวงดาว ศรี ยากูล
โปรแกรมฯ เพียงครังเดียวโดยใช้แบบสอบถามวดั รองผู้อํานวยการโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ ด้านปฐมภูมิ
พฤติกรรมการรับประทานยา แต่ไม่ได้ติดตาม (แพทย์ผู้เชี ยวชาญด้านเวชศาสตร์ ครอบครัว) และ
ผลการรักษาโดยตรงในทางคลินิก ดร.ดลรวี สิมคาํ พยาบาลวิชาชีพชํานาญการโรงพยาบาล
เพชรบูรณ์(พยาบาลเวชปฏิบตั ิ)ขอขอบคุณคณะวิทยากร
ข้อเสนอแนะในการนําผลการวจิ ัยไปใช้ เภสัชกรทอรุ่ง เหมสุวรรณ์ และทีมงานวิจยั ทุกท่านตลอด
สามารถนาํ โปรแกรมการมีส่วนร่วมของผูด้ ูแล รวมถึงคณะเจา้ หน้าทีโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตาํ บล
ตะเบาะ เจ้าหน้าทีโรงพยาบาลส่ งเสริ มสุ ขภาพตําบล
ในการกํากับการรับประทานยารักษาโรคเรื อรังของ ห้วยสะแก ผูส้ ูงอายุและผูด้ ูแลทุกครอบครัวทีเป็ นกลุ่ม
ผู้สู งอายุทีเจ็บป่ วยเป็ นโรคเรือรังในชุมชน เพือให้มี ตวั อยา่ งทุกทา่ น
พฤติกรรมการรับประทานยาทีเหมาะสมตามแผนการ
รักษาของแพทยเ์ พิมขึน

วารสารวชิ าการป้องกนั ควบคุมโรค สคร.2 พษิ ณุโลก: ปี ที  ฉบบั ที  พฤษภาคม - สิงหาคม 

เอกสารอ้างองิ 5134

1. สาํ นกั งานสาธารณสุขจงั หวดั เพชรบูรณ์. รายงานการ 7. จงจิต บุญอินทร์. ผลของโปรแกรมการมีส่วนร่วม
ป่ วยดว้ ยโรคไม่ติดต่อทีสาํ คญั ปี งบประมาณ 2560 ของครอบครัวต่อการดูแลสุขภาพเทา้ ของผสู้ ูงอายุ
[อินเตอร์เน็ต]. เพชรบูรณ์; 2560 [เขา้ ถึงเมือ 12 มี.ค. โรคเบาหวาน (วทิ ยานิพนธ์ปริญญามหาบณั ฑิต).
2560]. เขา้ ถึงได้ คณะพยาบาลศาสตร์: มหาวทิ ยาลยั บูรพา; 2552.
จาก:http://203.157.102.184/hdc/reports/page.php?cat_ 8. ทิพารัตน์ คงนาวงั . ผลของการพฒั นารูปแบบการ
id=6a1fdf282fd28180eed7d1cfe0155e11 ดูแลผปู้ ่ วยเบาหวานชนิดที 2 โดยการมีส่วนร่วมของ
2. จิตชนก ลีทวสี ุข, พชร เมฆี, พรทิพยพ์ า ถวี, พิชญส์ ินี ครอบครัว และชุมชน (วทิ ยานิพนธ์ปริญญา
ญาณะ, พิธาน จินดาวฒั นวงศ,์ ลลิตภ์ ทั ร ถิรธนั ยบูรณ์, มหาบณั ฑิต). คณะสาธารณสุขศาสตร์:
. . . ณฏั ฐนนั ท์ รัตนพาณิชย.์ พฤติกรรมการใชย้ าของ มหาวทิ ยาลยั ขอนแก่น; 2556.
9. ศศิพิมพ์ ไพโรจนก์ ิจตระกูล. ผลของโปรแกรมการ
ผปู้ ่ วยสูงอายุโรคเรือรังในชุมชนเชียงทอง ตาํ บล ส่งเสริมการดูแลร่วมกนั ต่อการดูแลร่วมกนั ของผปู้ ่ วย
ระแหง อาํ เภอเมือง จงั หวดั ตาก (วทิ ยานิพนธ์ปริญญา และครอบครัว ภาวะโภชนาการ และการติดเชือทีแผล
มหาบณั ฑิต). คณะแพทยศ์ าสตร์: มหาวทิ ยาลยั ช่องสายออกในผปู้ ่ วยลา้ งไตทางหนา้ ทอ้ ง
นเรศวร; 2556. แบบต่อเนือง (วทิ ยานิพนธ์ปริญญามหาบณั ฑิต). คณะ
3. วาสนา นยั พฒั น์. ปัญหาสุขภาพ ปัญหาการใชย้ า และ พยาบาลศาสตร์: มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์; 2556.
พฤติกรรมการใชย้ าของผสู้ ูงอายใุ นชุมชนบา้ นพกั 10. รัชมนภรณ์ เจริญและคณะ. ผลของโปรแกรมพฒั นา
ขา้ ราชการโรงพยาบาลพระมงกฎุ เกลา้ . วารสารการ ความรู้และการมีส่วนร่วมของครอบครัวต่อ
พยาบาลและการศึกษา 2553; 3: 2-14. พฤติกรรมสุขภาพและการควบคุมนาํ ตาลในเลือดของ
4. สาํ นกั งานสาธารณสุขอาํ เภอเมืองจงั หวดั เพชรบูรณ์. ผสู้ ูงอายทุ ีเป็ นเบาหวานชนิดที 2. Rama Nurse J. May
สรุปรายงานประจาํ ปี การป่ วยดว้ ยโรคไม่ติดต่อที – August 2010. 279 – 292.
สาํ คญั ปี งบประมาณ 2560. เพชรบูรณ์: ม.ป.ท.: ม. 11. Sebern, M. Shared Care elder and family member
ป.พ. skills used to manage burden. Journal of Advanced
5. แสงเดือน อภิรัตนวงศ.์ การจดั การดูแลตนเองเรือง Nursing 2005; 52(2): 170-179.
การใชย้ าในผสู้ ูงอายุ (วทิ ยานิพนธ์ปริญญา
มหาบณั ฑิต). คณะพยาบาลศาสตร์:
มหาวทิ ยาลยั มหิดล; 2551.
6. สรารัตน์ สุขสมสิน. ปัจจยั ทีมีผลต่อพฤติกรรมการใช้
ยาของผสู้ ูงอายใุ นชุมชนลาํ ลูกกา จงั หวดั นครปฐม

(วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบณั ฑิต). คณะพยาบาล
ศาสตร์: มหาวิทยาลยั คริสเตียน; 2551.

วารสารวชิ าการป้องกนั ควบคุมโรค สคร.2 พษิ ณุโลก: ปี ที  ฉบบั ที  พฤษภาคม - สิงหาคม 

54

รูปแบบการบริหารจดั การงานการดแู ลสุขภาพผู้สูงอายรุ ะยะยาว ของอาํ เภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์

ดิลก ออ่ นลา ศิลปศาสตรมหาบณั ฑิต สาขาพฒั นาสงั คม (ศศ.ม.)
สาํ นกั งานสาธารณสุขอาํ เภอเมืองเพชรบูรณ์
บทคดั ย่อ

การศึกษาวจิ ยั เรืองรูปแบบการบริหารจดั การงานการดูแลสุขภาพผสู้ ูงอายุระยะยาว ของอาํ เภอเมือง
จงั หวดั เพชรบูรณ์ รูปแบบการวิจยั เป็นการวิจยั แบบผสมผสาน วตั ถุประสงค์ เพือศึกษารูปแบบการบริหารงานและ
ปัจจยั ทางการบริหารในการดาํ เนินงานการดูแลสุขภาพผูส้ ูงอายุระยะยาวทีมีภาวะพึงพิง ประชากรทีศึกษา คือ
คณะกรรมการศูนยด์ ูแลผูส้ ูงอายุระยะยาว อาํ เภอเมือง จงั หวดั เพชรบูรณ์ กลุ่มตวั อย่างทีใชใ้ นการสัมภาษณ์และ
สนทนากลุ่ม ใช้วิธีการสุ่มอย่างง่าย 5 ตําบล จํานวน 30 คน เครืองมือทีใช้ในการเก็บข้อมูลเชิงปริมาณเป็ น
แบบสอบถาม วิเคราะห์ประมวลผลดว้ ยคอมพิวเตอร์โปรแกรมสาํ เร็จรูป ใชส้ ถิติเชิงพรรณนา ขอ้ มูลเชิงคุณภาพนาํ
ขอ้ มลู ทีไดจ้ ากการสนทนากล่มุ วิเคราะหข์ อ้ มูลคุณภาพใช้ tri-angular ผลการศึกษา พบวา่ รูปแบบการบริหารจดั การ
ดา้ นบุคลากร ควรมีการพฒั นาหลกั สูตรผูบ้ ริหาร ผูป้ ฏิบตั ิงาน ควรมีกาพฒั นาหลกั สูตรทีสอดคลอ้ งกบั ผูป้ ฏิบตั ิงาน
อย่างต่อเนือง และควรมีการจัดหาทรัพยากรทีเพียงพอในการดําเนินงาน เพือสร้างขวญั และกําลังใจให้เกิด
ประสิทธิภาพ
คําสําคัญ: รูปแบบการบริหารจดั การ ,การดูแลผสู้ ูงอายรุ ะยะยาว

วารสารวิชาการป้องกนั ควบคุมโรค สคร.2 พษิ ณุโลก: ปี ที  ฉบบั ที 2 พฤษภาคม - สิงหาคม 

55

The Management Model of the Elderly Long-term Health Care
in Mueang District, Phetchabun Province.

Dilok Onla Master of Arts Program in Social Development (M.A.)
Mueang Phetchabun District Public Health Office

Abstract
The study on the management model of the elderly long-term health care in Mueang District,

Phetchabun Province designed mix method by collecting both quantitative and qualitative data. The purposed was
to study long-term health care administration model for the elderly administrative factors on the operation of long-
term health care for dependent elderly in Mueang District, Phetchabun Province. The long-term elderly care
committee of 5 sub-districts in Mueang District, Phetchabun Province were selected by simple randomization using
unattended draw methods. Tools were created as quantitative questionnaire, structure interview and focus group
discussion guideline. The quantitative data was analyzed by descriptive statistics as Percentage, Frequency, Mean,
Median, Minimum and Maximum and qualitative data was analyzed by Tri-angular methods. The result found that
executive program was needed to develop for empower the operation driving. The curriculum should be developed
continuously in accordance with the operators. There should be the operation sufficient supply to create morale and
efficacy.
Key words: Management, Long-term health care

วารสารวิชาการป้องกนั ควบคมุ โรค สคร.2 พษิ ณุโลก: ปี ที  ฉบบั ที 2 พฤษภาคม - สิงหาคม 

56

บทนาํ ได้ไม่ทอดทิงกัน ปัญหาของแต่ละพืนทีโดยจะเป็ น
แนวทางทีนาํ มาพฒั นารูปแบบการบริหารงานการดูแล
ปัจจุบนั ประเทศไทยไดม้ ีความกา้ วหน้าด้าน สุขภาพผู้สูงอายุระยะยาว (Long Term Care: LTC)
การแพทยแ์ ละสาธารณสุขเป็นอยา่ งมาก ส่งผลใหข้ นาด ในกลุ่มติดบ้าน กลุ่มติดเตียงอย่างต่อเนืองทีมีการ
เชื อมโยงในชุมชนและท้องถินอย่างมีคุณภาพ
สัดส่วนของประชากรผูส้ ูงอายุเพิมขึนอย่างรวดเร็ว ได้ดาํ เนินงานตามแนวทางการดูแลสุขภาพผูส้ ูงอายุ
โดยจาํ เป็ นจะตอ้ งให้ความตระหนักถึงความสําคญั กบั ระยะยาว มีองค์ประกอบ 5 ด้าน คือ 1) การประเมิน
การสร้างกระบวนการในระบบสุขภาพของทุกภาค กิจวตั รประจาํ วนั (ADL) ของผูส้ ูงอายุ 2) การวางแผน
ส่วนในสังคม มุ่งเน้นการสร้างภาคีเครือข่ายสุขภาพ
ดูแลผสู้ ูงอายุ และการบริการทีครอบคลุม เห็นคณุ คา่ ใน ดูแลผูส้ ูงอายุเฉพาะราย 3) การให้บริการเยียมบ้าน
การสร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้ให้บริ การ และ ผู้สูงอายุ 4) การประเมินการให้บริ การเยียมบ้าน
ผูร้ ับบริการทีดี ภายใตก้ ารเขา้ สู่สังคมผูส้ ูงอายุ เพือให้มี ผู้สูงอายุ 5) การปรับปรุ งการให้บริ การเยียมบ้าน
สุขภาพดี มีระบบการสร้างเครื อข่ายดูแลสุขภาพ ผู้สูงอายุ (3) ซึงนโยบายและยุทธศาสตร์ได้กําหนด
ผูส้ ูงอายุ โดยมีเป้าประสงคอ์ ยทู่ ีผูส้ ูงอายทุ ีมีภาวะพงึ พงิ รูปแบบการบริหารงานการดูแลสุขภาพผูส้ ูงอายุระยะ
ยาวเป็ นหนึงในตวั ชีวดั ระดับจงั หวดั (4) รูปแบบการ
กลุ่มติดบา้ น กลุ่มติดเตียง ซึงชุมชน ทอ้ งถินและภาคี บริหารงานการดูแลสุขภาพผูส้ ูงอายุระยะยาว กลุ่มติด
เครือข่ายมีศกั ยภาพสามารถเสริมสร้างสุขภาพ ช่วยลด บา้ น กลุ่มติดเตียง ด้านของคุณลกั ษณะส่วนบุคคลถือ
อาการเจ็บป่ วยจากโรคทีป้องกนั ได้ หรือโรคทีเกิดจาก เป็ นส่วนหนึงทีมีผลต่อการปฏิบตั ิงานการดูแลสุขภาพ
พฤติกรรมด้านสุขภาพในการจดั การปัญหาสุขภาพ(1)
ผู้สู งอายุใ ห้สําเร็ จและมี ประ สิ ทธิ ภาพมากขึน
เพอื ใหบ้ รรลุวตั ถปุ ระสงคท์ ีตงั ไวต้ อ้ งอาศยั นโยบายต่าง ประกอบด้วย เพศ อายุ สถานภาพสมรส ระดับ
ๆในการดาํ เนินงาน กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบาย การศึกษา ตําแหน่ง ระยะเวลาของการปฏิบัติงาน
ส่งเสริมพฒั นาระบบบริการดูแลสุขภาพผูส้ ูงอายุโดยมี ป ร ะ ส บ ก า ร ณ์ ก า ร อ บ ร ม เ กี ย ว กับ ก า ร ดู แ ล ผู้สู ง อ า ยุ
กระบวนการ “การดูแลสุขภาพผสู้ ูงอายรุ ะยะยาว (Long ซึงเป็นขอ้ มลู ทีมีความสาํ คญั ทีทาํ ใหแ้ ตล่ ะบคุ คลมีความ
Term Care)” บุคลากรดา้ นสาธารณสุขในโรงพยาบาล เหมาะสมกบั ลกั ษณะงานของแต่ละบคุ คลทีแตกต่างกนั
ไป ดงั นันบุคลากรสาธารณสุขทีมีความเหมาะสมกบั
ส่ งเสริ มสุ ขภาพตําบลมี หน้าทีในการให้บริ การดูแล งาน ซึงคาดว่าน่าจะมีผลสัมฤทธิในทางทีดีต่อไป
ผู้สู งอายุระยะยาวด้านสุ ขภาพของแต่ละตําบล ซึงด้านคุณลักษณะส่วนบุคคล มีผู้ทําวิจัย พบว่า มี
ซึงถือเป็นแกนนาํ สําคญั ทีจะช่วยขบั เคลือนรูปแบบการ
บริหารงานการดูแลสุขภาพผสู้ ูงอายรุ ะยะยาว (2) ในกลุ่ม ค ว า ม สั ม พัน ธ์ กั บ ก า ร ป ฏิ บั ติ ง า น ข อ ง เ จ้ า ห น้ า ที
ติดบา้ น กลุ่มติดเตียง ร่วมกันดาํ เนินงานโดยไม่ยกให้ สาธารณสุขในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตาํ บล (5)
เป็ นหน้าทีของส่ วนใดส่ วนหนึ ง จึงจะสามารถ
ดําเนินงานไปถึงเป้าหมาย ซึงการดูแลสุขภาพของ และพบวา่ ระดบั การศึกษาทีมีผลต่อการปฏิบตั ิงานของ
ผสู้ ูงอายโุ ดยเกิดการพฒั นางานการดูแลสุขภาพผสู้ ูงอายุ เจา้ หนา้ ทีสาธารณสุข (6) นอกจากนี ยงั มีปัจจยั อยา่ งหนึง
ระยะยาว ทีสามารถเชือมต่อกับการดาํ เนินงานด้าน ทีทําให้เกิดความสําเร็จในงานทีปฏิบัติ คือ ปัจจัย
ทางการบริหารทีมีความสําคญั ต่อรูปแบบการบริหาร
สุขภาพผูส้ ูงอายุ ทีร่วมกนั ทุกภาคส่วนอย่างบูรณาการ ก า ร ดู แ ล สุ ข ภ า พ ผู้สู ง อ า ยุ ร ะ ย ะ ย า ว ใ ห้ บ ร ร ลุ
แบบองค์รวม มีการส่งเสริมให้ผูส้ ูงอายุมีการเรียนรู้
ร่วมกนั ในการดูแลสุขภาพและชุมชนสามารถพึงตนเอง

วารสารวิชาการป้องกนั ควบคุมโรค สคร.2 พษิ ณุโลก: ปี ที  ฉบบั ที 2 พฤษภาคม - สิงหาคม 

57

วตั ถุประสงคท์ ีจะช่วยสนบั สนุนให้การดาํ เนินงานได้ สิงของ ด้านเครืองจกั ร ด้านขวญั กาํ ลงั ใจ มีผลต่อการ
อยา่ งราบรืน โดยมี 7 ดา้ น ประกอบดว้ ย 1)ดา้ นบุคลากร ป ฏิ บั ติ ง า น ต า ม บ ท บ า ท ห น้ า ที ข อ ง ทั น ต แ พ ท ย์ใ น
2) ด้านงบประมาณ 3) ด้านการบริหารจดั การ 4)ด้าน โรงพยาบาลชุมชน จงั หวดั ขอนแก่น (11) และดา้ นการ
วสั ดุ อุปกรณ์ และยงั มีปัจจยั ทางการบริหารทีสําคญั ที บริหารจดั การ มีความสัมพนั ธ์ระดบั ปานกลางกบั การ
ช่วยส่งเสริมการดาํ เนินงานใหป้ ระสบความสาํ เร็จอีก 3 ปฏิบตั ิงานตามสมรรถนะหลกั ของพนกั งานเวชสถิติใน
ปัจจัย คือ 5)ด้านเทคโนโลยี 6)ด้านเวลาในการ โรงพยาบาลชุมชน และดา้ นขวญั กาํ ลงั ใจในการทาํ งาน
ดาํ เนินงาน 7)ด้านขวญั กาํ ลังใจในการดําเนินงาน (7) มีความสัมพนั ธ์ระดบั ปานกลางกบั การปฏิบตั ิงานของ
พยาบาลเวชปฏิบัติทัวไปในโรงพยาบาลส่งเสริ ม
ผ ล ก า ร ป ฏิ บัติ ง า น ( Job performance) เ กิ ด จ า ก สุขภาพตาํ บล จงั หวดั อดุ รธานี

ความสัมพนั ธ์ของหนา้ ที 3 ประการ คือ ความสามารถ จังหวัดเพชรบูรณ์ ประกอบด้วย 11 อําเภอ
(Capacity to perform) โอกาสทีจะทาํ งาน (Opportunity มีโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตาํ บล จาํ นวน 153 แห่ง
to performance) และความต้องการทีจะปฏิบัติงาน จากการสรุปและประเมินผลการดาํ เนินงานสาธารณสุข
(Willingness to perform) หรือการจูงใจในงานทีปฏิบตั ิ ระดับเครือข่ายบริการสุขภาพ (Contracting Unit for
(Work motivation) (8) มีผูว้ ิจัยได้ศึกษาเกียวกับปัจจัย Primary Care หรือ CUP) ประจําปี 2562 ตัวชีวัดการ
ทางการบริหาร การศึกษาวิจยั เรืองบรรยากาศองคก์ าร ดูแลสุขภาพผสู้ ูงอายรุ ะยะยาว (LTC) กลุม่ ติดบา้ น กลมุ่
และปัจจยั ทางการบริหารทีมีผลต่อการจดั การความรู้ ติดเตียง ทีเชือมโยงระบบบริการสุขภาพกบั ชุมชนและ
ของบุคลากรโรงพยาบาลบวั ใหญอ่ าํ เภอบวั ใหญ่จงั หวดั ทอ้ งถินอย่างมีคุณภาพ พบว่า การดูแลสุขภาพผูส้ ูงอายุ
นครราชสีมา พบวา่ ภาพรวมของปัจจยั ทางการบริหาร ระยะยาว กลุ่มติดบา้ น กลุ่มติดเตียง ในภาพรวมระดบั
จังหวดั มีผลการดําเนินงานน้อยกว่าเกณฑ์ตัวชีวัดที
มีความสัมพันธ์ระดับสูง กับการจัดการความรู้ของ กาํ หนดไว้ อาํ เภอเมืองเพชรบูรณ์ มี 17 ตาํ บล มีการ
บุคลากรโรงพยาบาลบัวใหญ่อาํ เภอบัวใหญ่จังหวดั ดํา เ นิ น ง า น ผู้สู ง อ า ยุ ร ะ ย ะ ย า ว ค ร อ บ ค ลุ ม ทุ ก ตํา บ ล
นครราชสีมา และยงั พบว่าปัจจัยทางการบริหารด้าน คิดเป็นร้อยละ 100 แต่เมือพิจารณาสัดส่วนผูส้ ูงอายุกบั
เทคโนโลยี และด้านการบริหารจัดการมีผลต่อการ ประชากร พบว่า อาํ เภอเมืองเพชรบูรณ์มีประชากร
จดั การความรู้ของบุคลากรโรงพยาบาลบวั ใหญ่อาํ เภอ ผู้สู ง อ า ยุจํา น ว น 33,587 ค น คิ ด เ ป็ น ร้ อ ย ล ะ 16
บวั ใหญ่ จงั หวดั นครราชสีมา (9)การศึกษาการสนบั สนุน ซึงมากกว่าทุกอาํ เภอในจังหวดั เพชรบูรณ์นอกจากนี
จ า ก อ ง ค์ก า ร มี ผ ล ต่ อ ก า ร ดํา เ นิ น ง า น ข อ ง เ จ้า ห น้ า ที แลว้ ประชากรผูส้ ูงอายุยงั มีแนวโน้มการเข้าสู่สังคม
สาธารณสุข จากการศึกษาภาพรวมการสนบั สนุนจาก
องคก์ าร พบวา่ ดา้ นวสั ดุอปุ กรณ์ และดา้ นกาํ ลงั คน มีผล ผสู้ ูงอายสุ ูงกวา่ ทกุ อาํ เภอในจงั หวดั เพชรบูรณ์ หากไม่มี
การบริหารจดั การทีดีจะส่งผลต่อคุณภาพชีวิตในดา้ น
ต่อการปฏิบัติงานคุ้มครองผู้บริ โภคของเจ้าหน้าที สุขภาพ สังคม และเศรษฐกิจ ฯลฯ ของผูส้ ูงอายุและ
สาธารณสุขในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตาํ บล (10) ประชากรกลุ่มอืน ๆตามมา จากสถานการณ์ดังกล่าว
ปัจจยั ทางการบริหารดา้ นเวลา มีผลต่อการปฏิบตั ิงาน อาํ เภอเมืองเพชรบูรณ์ไดม้ ีการดาํ เนินงานการจดั ทาํ แผน
ตามมาตรฐานงานระบาดวิทยาโรคไม่ติดต่อของ และการติดตามเยียมบ้านผูส้ ูงอายุ ผลการดาํ เนินงาน
เจา้ หน้าทีสาธารณสุขในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ พบว่า มีการเยีย มบา้ น ร้อยละ 27.9 ซึงนอ้ ยกว่าเกณฑท์ ี
ตาํ บล จงั หวดั มหาสารคาม และปัจจยั ทางการบริหาร
ด้านงบประมาณ ด้านการบริหารจัดการ ด้านวัสดุ

วารสารวชิ าการป้องกนั ควบคุมโรค สคร.2 พษิ ณุโลก: ปี ที  ฉบบั ที 2 พฤษภาคม - สิงหาคม 

58

กาํ หนดไว้ ไม่น้อยกว่า ร้อยละ 30 ด้านการคัดกรอง 5 ตาํ บล ของอาํ เภอเมือง จงั หวดั เพชรบูรณ์ ทงั หมด 30
ระบบสุขภาพของผูส้ ูงอายุโดยการประเมินกิจวตั ร คน ระยะเวลาในการศึกษาระหว่าง วนั ที 1 สิงหาคม
ประจาํ วนั (ADL)มีการบนั ทึกขอ้ มูลล่าช้าและการวาง
แผนการเยียมบา้ นผูส้ ูงอายุ กลุ่มติดบา้ น กลุ่มติดเตียง 2562 ถึง 28 กมุ ภาพนั ธ์ 2563
ซึงยงั ไม่ครอบคลุมและการดาํ เนินงานยงั ไม่ต่อเนือง
คิดเป็ นร้อยละ 73.1 ซึงน้อยกว่าเกณฑ์ทีกาํ หนดไวไ้ ม่ กรอบแนวคิดการวจิ ัย
น้อยกว่าร้อยละ 90 โดยมีสาเหตุจากการดําเนินงาน
ร่วมกบั ภาคีเครือข่ายยงั ไม่ชดั เจน เพือให้ผูส้ ูงอายุไดร้ ับ ตวั แปรตน้ ตวั แปรตาม

การดูแลอย่างครอบคลุมและต่อเนือง ควรมีการวาง ปัจจยั ทางการบริหาร การปฏิบตั งิ านการดูแลสุขภาพผ้สู ูงอายรุ ะยะ
แผนการพฒั นาระบบการใหบ้ ริการ ควรเสริมพลงั และ 1.ดา้ นบคุ ลากร ยาวกลุ่มติดบ้าน กลุ่มติดเตยี ง ของเจ้าหน้าที
พฒั นาศกั ยภาพในทีมการดูแลสุขภาพผสู้ ูงอายรุ ะยะยาว 2.ดา้ นงบประมาณ
(LTC) ระดบั ตาํ บลมงุ่ ใหเ้ กิดความยงั ยนื 3.ดา้ นวสั ดุอุปกรณ์ สาธารณสุ ขในโรงพยาบาลส่ งเสริมสุ ขภาพ
4.ดา้ นการบริหารจดั การ ตาํ บล จงั หวดั เพชรบรู ณ์
จากผลการประเมินและขอ้ เสนอแนะดงั กล่าว 5.ดา้ นเวลาในการ
ผูว้ ิจยั สนใจทีจะศึกษาเพือเป็ นขอ้ มูลในการพฒั นางาน 1. การประเมนิ กิจวตั รประจาํ วนั (ADL)
การดูแลสุขภาพผูส้ ูงอายรุ ะยะยาว กลุ่มติดบา้ น กลุ่มติด ปฏิบตั ิงาน 2. การวางแผนการดูแลผูส้ ูงอายเุ ฉพาะราย
เตียง มุ่งเน้นด้านสุขภาพ สังคม และสิงแวดล้อม 6.ดา้ นเทคโนโลยี 3. การใหบ้ ริการเยยี มบา้ นผูส้ ูงอายุ
ร่ วมกับทุกภาคส่ วนในระดับตําบลตามบริ บทแ ต่ละ 7.ดา้ นขวญั กาํ ลงั ใจในการ 4. การประเมินผลการใหบ้ ริการเยียมบา้ น

พนื ที ตอ่ ไป ปฏิบตั ิงาน ผูส้ ูงอายุ
5. การปรับปรุงในการให้บริการเยยี มบา้ น
วัตถุประสงค์การวิจยั
ผูส้ ูงอายุ
1. เพือศึกษารูปแบบการบริหารจัดการงานการ
ดูแลสุขภาพผูส้ ูงอายุระยะยาว ของอาํ เภอเมือง จงั หวดั ป ร ะ ช า ก ร แ ล ะ ก ลุ่ ม

เพชรบรู ณ์ ตัวอย่าง
2. เพือศึ ก ษ าปั จจัย ทางก า รบ ริ หา รใ น ก า ร
ประชากร
ดําเนินงานการดูแลสุขภาพผูส้ ูงอายุระยะยาว ของ ประชากรทีใช้ในการศึกษา คือ คณะกรรมการ
อาํ เภอเมือง จงั หวดั เพชรบรู ณ์
ศูนยด์ ูแลผูส้ ูงอายุระยะยาว 19 ศูนยใ์ นเขตอาํ เภอเมือง
ขอบเขตของการวิจยั จงั หวดั เพชรบรู ณ์

การศึกษาครังนีเป็ นการศึกษารูปแบบการจัดการ กลุ่มตวั อย่างและขนาดตวั อย่าง กลุ่มตวั อย่างที
และปัจจยั ทางการบริหาร ตามแนวคิดของ ทองหล่อ ใช้ในการสัมภาษณ์การวิจัยครังนีคือ คณะกรรมการ
เดชไทย (2545) และประจักร บัวผนั (2558) ในการ ศูนย์ดูแลผูส้ ูงอายุระยะยาว 5 ตาํ บลของอาํ เภอเมือง
ดําเนินงานการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุระยะยาว ของ จงั หวดั เพชรบูรณ์ จาํ นวน 30 คน โดยการเลือกเกณฑ์
อําเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ ประชากรทีใช้ใน คัดเข้า เกณฑ์คัดออกโดยการใส่ฉลากชือศูนย์ดูแล
การศึกษา คือ คณะกรรมการศนู ยด์ ูแลผสู้ ูงอายรุ ะยะยาว ผู้สูงอายุระยะยาว จํานวน 19 ศูนย์ สุ่มตัวอย่างโดย
วิธีการจบั ฉลากแบบไม่ใส่คืน ใส่ในภาชนะทีมีความ
ทึบแสงแลว้ นาํ มาจบั ฉลากโดยไม่ใส่คืนกลบั ให้ไดต้ าม
ขนาดของตวั อย่างทีคาํ นวณไว้ คือ ศูนยด์ ูแลผูส้ ูงอายุ

ระยะยาว 5 ตาํ บล
กลุ่มตัวอย่างทีใช้ในการสนทนากลุ่ม (Focus

group Discussion) ผู้วิ จัย พิ จ า ร ณ า คัด เ ลื อ ก จ า ก

วารสารวชิ าการป้องกนั ควบคุมโรค สคร.2 พษิ ณุโลก: ปี ที  ฉบบั ที 2 พฤษภาคม - สิงหาคม 

59

คณะกรรมการศูนยด์ ูแลผูส้ ูงอายุระยะยาว 5 ตาํ บลของ เครืองมือการวจิ ยั
อาํ เภอเมือง จงั หวดั เพชรบูรณ์ ศูนยล์ ะ 6 คน จาํ นวน 30
คน แบบเฉพาะเจาะจง ตามตาํ แหน่งและเป็นผทู้ ียนิ ดีให้ เครื องมือทีใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเพือการ
ความร่วมมือในการดาํ เนินการวิจยั ดงั นี ศึกษาวิจยั ในครังนี ผูว้ ิจยั ไดส้ ร้างขึนจากการทบทวน
การสุ่มตวั อยา่ ง แนวคิด ทฤษฎี งานวิจยั ทีเกียวข้อง โดยการกําหนด
แบบสอบถามให้สอดคล้องกับตัวแปรแต่ละตัวของ
การสุ่มตวั อยา่ งในการวจิ ยั กรอบแนวคิดในการวิจยั
กลุ่มตวั อย่างทีตอบแบบสอบถามใช้การสุ่มอย่างง่าย
(Simple random sampling) มีวธิ ีการสุ่มตวั อยา่ งดงั นี วธิ กี ารเกบ็ รวบรวม

สํารวจพืนทีดาํ เนินการ ตาํ บล Long Term Care เ มื อ ผู้วิ จัย ไ ด้รั บ ก า ร อ นุ มัติ จ ริ ย ธ ร ร ม ต่ อ
ในเขตอาํ เภอเมืองเพชรบูรณ์ คณะกรรมการศูนยด์ ูแล คณะกรรมการจริยธรรมการวิจยั ในมนุษย์ เมือวนั ที 
ผูส้ ูงอายุระยะยาว ของอาํ เภอเมือง จงั หวดั เพชรบูรณ์ มกราคม  และได้ดาํ เนินการเก็บข้อมูลระหว่าง
ทงั หมด 19 ศนู ย์
วนั ที  สิงหาคม  ถึง  กุมภาพนั ธ์ 
ใชว้ ิธีการสุ่มอยา่ งงา่ ย (Simple random sampling) โดยใชแ้ บบสอบถามและแนวทางการสนทนากลุ่ม ซึง
โดยการใส่ฉลากชือศูนยด์ ูแลผูส้ ูงอายรุ ะยะยาว จาํ นวน มีขนั ตอนในการเกบ็ รวบรวมขอ้ มูลดงั ต่อไปนี
19 ศูนย์ สุ่มตวั อย่างโดยวิธีการจบั ฉลากแบบไม่ใส่คืน
ใส่ในภาชนะทีมีความทึบแสงแลว้ นาํ มาจบั ฉลากโดย ผูว้ ิจัยขอความอนุเคราะห์จากท่านนายแพทย์
ไม่ใส่คืนกลบั ให้ไดต้ ามขนาดของตวั อยา่ งทีคาํ นวณไว้ สาธารณสุขจงั หวดั เพชรบูรณ์ ในการออกหนังสือขอ
อนุญาตการทาํ วิจยั และเกบ็ รวบรวมขอ้ มูลถึงนายอาํ เภอ
คือ ศนู ยด์ ูแลผสู้ ูงอายรุ ะยะยาว 5 ตาํ บล เมืองเพชรบูรณ์ในการเก็บขอ้ มูลของเจา้ หนา้ ทีองค์การ
กลุ่มตัวอย่างทีใช้ในการสนทนากลุ่ม (Focus บริหารส่วนตาํ บล ในอาํ เภอเมือง จงั หวดั เพชรบูรณ์

group discussion) ผู้วิจัยคัดเลือกจากผู้ทีสามารถให้ ผูว้ ิจยั นาํ แบบสอบถามและแนวทางการสนทนา
ขอ้ มูลการปฏิบตั ิงานการดูแลสุขภาพผูส้ ูงอายรุ ะยะยาว
ทีมีภาวะพึงพิง กลุ่มติดบา้ น กลุ่มติดเตียง อาํ เภอเมือง กลุ่ม พร้อมนําหนังสือจากนายแพทย์สาธารณสุข
จงั หวดั เพชรบูรณ์ ซึงประกอบดว้ ย คณะกรรมการศูนย์ จงั หวดั เพชรบรู ณ์ เขา้ พบนายอาํ เภอเมืองเพชรบรู ณ์ เพือ
ดูแลผูส้ ูงอายรุ ะยะยาว 5 ตาํ บลของอาํ เภอเมือง จงั หวดั ขอความร่วมมือในการเก็บรวบรวมขอ้ มูล โดยชีแจง
เพชรบูรณ์ ทังหมด 30 คน ซึงประกอบด้วย 1) นายก วัตถุประสงค์ในการวิจัย รายละเอียดในการเก็บ
องค์การบริหารส่วนตาํ บล/นายกเทศบาลตาํ บล 5 คน รวบรวมขอ้ มูลและลงนามในหนงั สือขอความยินยอม
จากกลุ่มตวั อยา่ ง
2) ผอู้ าํ นวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตาํ บล 5 คน
3) ผูจ้ ดั การการดูแลผูส้ ูงอายุ (CM) 5 คน 4) ผูช้ ่วยเหลือ การวิเคราะห์ข้อมูล
ดูแลผูส้ ูงอายุ 5 คน 6) อาสาสมคั รสาธารณสุข(อสม.) วิเคราะห์ขอ้ มูลจากโปรแกรมสําเร็จรูป โดยใชส้ ถิติใน
5 คน โดยการสนทนากลุม่ จะมีเพยี ง 1 ครัง/ 1 ชวั โมง การวิเคราะห์ ดงั นี

แบบสอบถาม (Questionnaire)
สถิติเชิงพรรณนา (Descriptive statistics)

วารสารวชิ าการป้องกนั ควบคุมโรค สคร.2 พษิ ณุโลก: ปี ที  ฉบบั ที 2 พฤษภาคม - สิงหาคม 

60

1) คุณลักษณะส่วนบุคคล ได้แก่ เพศ อายุ จะนำมาตรวจสอบขอมลู จดั ระเบียบขอมูล และ
สถานภาพสมรส ระดบั การศึกษา ตาํ แหน่ง ระยะเวลา วิเคราะหเ นอ้ื หา (content analysis) ตามประเดน็ ของ
ในการปฏิบตั ิงาน ประสบการณ์การอบรมเกียวกับการ การศกึ ษา ตามกรอบแนวคดิ ของการวิจัย
ดูแลผูส้ ูงอายุ กรณีตวั แปรแจงนับใชส้ ถิติการแจกแจง
ความถี (Frequency) ร้อยละ (Percentage) ในกรณีตัว ผลการวจิ ยั
แ ป ร ต่ อ เ นื อ ง แ ล ะ ข้อ มู ล มี ก า ร แ จ ก แ จ ง ป ก ติ ใ ช้ ส ถิ ติ 1.คณุ ลกั ษณะส่วนบคุ คลของคณะกรรมการศูนย์ดูแล
ค่าเฉลีย (Mean) ส่วนเบียงเบนมาตรฐาน (Standard
deviation) และในกรณีแจกแจงไม่ปกติใชส้ ถิติ ค่ามธั ย ผ้สู ูงอายรุ ะยะยาวอาํ เภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์
จ า ก ก า ร ศึ ก ษ า คุ ณ ลัก ษ ณ ะ ส่ ว น บุ ค ค ล ข อ ง
ฐาน (Median) ค่าตําสุ ด (Minimum) และค่าสูงสุด
(Maximum) คณะกรรมการศูนยด์ ูแลผูส้ ูงอายุระยะยาวอาํ เภอเมือง
จงั หวดั เพชรบูรณ์ พบว่า กลุ่มตวั อย่าง จาํ นวน 30 คน
2) ระดบั ปัจจยั ทางการบริหารในการปฏิบตั ิงาน ส่วนใหญเ่ ป็นเพศหญิง คิดเป็นร้อยละ 76.7 อายรุ ะหวา่ ง
การดูแลสุขภาพผูส้ ูงอายรุ ะยะยาว กลุ่มติดบา้ น กลุ่มติด 30-59 ปี คิดเป็ นร้อยละ 86.7 อายุเฉลีย 39.68 ปี (S.D.=
เตียง ของเจา้ หนา้ ทีสาธารณสุขในโรงพยาบาลส่งเสริม 9.30 ปี ) อายุตําสุด 23 ปี อายุสูงสุด 58 ปี การศึกษา
สุขภาพตาํ บล จงั หวดั เพชรบูรณ์ ในกรณีทีขอ้ มูลมีการ ระดับปริ ญญาตรี คิดเป็ นร้อยละ 60.0 ตําแหน่ง
แจกแจงแบบปกติจะใช้ ค่าเฉลีย (Mean) ส่วนเบียงเบน พยาบาลวิชาชีพ คิดเป็ นร้อยละ 59.8 ระยะเวลาในการ
มาตรฐาน (Standard deviation) ปฏิบัติงานระหว่าง 1-10 ปี คิดเป็ นร้อยละ 85.0
ระยะเวลาในการปฏิบตั ิงานเฉลีย 1.71 ปี (S.D.= 0.46
3) ข้อมูลระดับการปฏิบัติงานการดูแลสุขภาพ ปี ) และการไดร้ ับการอบรมเกียวกบั การดูแลผูส้ ูงอายุ
คิดเป็ นร้อยละ 70.9 ส่วนใหญ่เคยได้รับการอบรม 1
ผู้สูงอายุระยะยาวกลุ่มติดบ้าน กลุ่มติดเตียง ของ ครัง คิดเป็นร้อยละ 77.8
เจ้าหน้าทีสาธารณสุ ขในโรงพยาบาลส่ งเสริ มสุ ขภาพ
ตาํ บล จงั หวดั เพชรบูรณ์ ทาํ การวิเคราะห์สาํ หรับขอ้ มูล 2.ปัจจัยด้านการบริหารของคณะกรรมการศูนย์ดูแล
ต่อเนือง ในกรณีทีขอ้ มูลมีการแจกแจงแบบปกติ จะใช้ ผู้สูงอายรุ ะยะยาวอาํ เภอเมือง จงั หวดั เพชรบูรณ์
ค่าค่าเฉลีย (Mean) ส่วนเบียงเบนมาตรฐาน (Standard
deviation) ดา้ นบุคลากร พบวา่ ในภาพรวมกล่มุ ตวั อยา่ ง มีระดบั
ปัจจัยทางการบริ หารด้านบุคคล อยู่ในระดับมาก
4) ปั ญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะในการ ค่าเฉลีย 4.07 คะแนน (S.D.=0.78) ขอ้ ทีมีค่าเฉลียอย่ใู น
ปฏิบตั ิงานการดูแลสุขภาพผูส้ ูงอายุระยะยาว กลุ่มติด ระดับมาก ขอ้ ทีมีค่าเฉลียมากทีสุด คือ มีการวางแผน
บ้าน กลุ่มติดเตียงของเจ้าหน้าทีสาธารณสุ ขใน กาํ ลงั คนเพือช่วยในการขบั เคลือนการดาํ เนินงานดูแล
สุขภาพผูส้ ูงอายุระยะยาว มีการสรรหา คดั เลือก บุคคล
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตาํ บล จงั หวดั เพชรบูรณ์ ทีจะดําเนินงานการดําเนินงานดูแลสุขภาพผูส้ ูงอายุ
นาํ เสนอขอ้ มูลในรูปแบบตารางโดยวธิ ีพรรณนา ระยะยาวได้อย่างเหมาะสมอยู่ในระดับมาก ค่าเฉลีย
3.93 คะแนน (S.D.=0.74) ขอ้ ทีมีค่าเฉลียอยู่ในระดับ
ขอ้ มูลเชิงคุณภาพ น้อยทีสุด คือ ส่งเสริ มให้บุคลากรได้รับการเลือน
ตํา แ ห น่ ง ต า ม ผ ล ก า ร ป ร ะ เ มิ น ก า ร ดํา เ นิ น ง า น ต า ม
ขอ มลู ที่ไดจากการสนทนากลมุ และการถอด
บทเรียนรูปแบบปจจัยทางการบริหารทีศ่ ึกษามี 7 ดาน

วารสารวชิ าการป้องกนั ควบคมุ โรค สคร.2 พิษณุโลก: ปี ที  ฉบบั ที 2 พฤษภาคม - สิงหาคม 

61

บทบาทหนา้ ที ทีไดร้ ับมอบหมายค่าเฉลีย 3.70 คะแนน ไดม้ ีการวางแผนงานหรือกิจกรรมการดาํ เนินงานการ
(S.D.=0.84) ดูแลสุขภาพผสู้ ูงอายรุ ะยะยาวอยา่ งสอดคลอ้ งเหมาะสม
ค่าเฉลีย 3.93 คะแนน (S.D.=0.58)
ด้านงบประมาณ พบว่า ในภาพรวมกลุ่มตวั อยา่ ง ปัจจยั
ด้านเทคโนโลยี พบว่า ในภาพรวมกลุ่มตวั อย่างมีปัจจยั
ทางการบริหาร ดา้ นงบประมาณ ค่าเฉลีย 4.26 คะแนน
(S.D.=0.69) เมือพิจารณารายขอ้ พบว่า ทุกขอ้ มีค่าเฉลีย ทางการบริหาร ของคณะกรรมการศูนยด์ ูแลผูส้ ูงอายุ
อยู่ในระดับมาก ซึงขอ้ ทีมีค่าเฉลียมากทีสุดคือ ไดใ้ ช้
จ่ายงบประมาณสําหรับการดําเนินงาน เป็ นไปตาม ระยะยาวอาํ เภอเมือง จงั หวดั เพชรบูรณ์ ดา้ นเทคโนโลยี
ระเบียบการเบิกจ่ายของทางราชการ ค่าเฉลีย 4.20
คะแนน (S.D.=0.71) อยู่ในระดับปานกลาง ค่าเฉลีย . คะแนน (S.D.=

ด้านวัสดุอุปกรณ์ พบว่า ในภาพรวมกลุ่มตัวอย่างมี .) เมือพิจารณารายข้อ พบว่า ขอ้ มีค่าเฉลียอยู่ใน
ปัจจัยทางการบริหาร ของคณะกรรมการศูนย์ดูแล
ผูส้ ูงอายุระยะยาวอาํ เภอเมือง จงั หวดั เพชรบูรณ์ ด้าน ระดับมาก คือ ตาํ บลของท่านได้มีการสํารวจความ
วัสดุอุปกรณ์อยู่ในระดับมาก ค่าเฉลีย 3.68 คะแนน
(S.D.=0.87) เมือพิจารณารายขอ้ พบว่า ทุกขอ้ มีค่าเฉลีย ตอ้ งการใชเ้ ทคโนโลยที ีเหมาะสมกบั การดาํ เนินงานใน
อยู่ในระดบั มาก ขอ้ ทีมีค่าเฉลียมากทีสุดคือ ตาํ บลของ
ท่านมีการวางแผนในการจดั หา วสั ดุอุปกรณ์ทีจาํ เป็ น แต่ละปี คา่ เฉลีย . คะแนน (S.D.=0.63)

สาํ หรับการดาํ เนินงาน ใหต้ รงกบั ความตอ้ งการ ค่าเฉลีย ด้านขวัญกําลงั ใจในการทํางาน พบว่า ในภาพรวมกลุ่ม
3.83 คะแนน (S.D.= 0.95)
ตวั อย่างมีปัจจยั ทางการบริหาร ของคณะกรรมการศูนย์
ด้านการบริหารจัดการ พบวา่ ในภาพรวมกลุ่มตวั อย่าง ดูแลผูส้ ูงอายุระยะยาวอาํ เภอเมือง จงั หวดั เพชรบูรณ์
ด้านขวญั กาํ ลงั ใจในการทาํ งานค่าเฉลีย 3.63 คะแนน
มีจาํ นวน ร้อยละ ค่าเฉลีย ส่วนเบียงเบนมาตรฐานและ (S.D.=0.58) เมือพิจารณารายขอ้ พบว่า ขอ้ ทีมีค่าเฉลีย
อยู่ในระดับมาก คือ บุคลากรใน ตําบลของท่าน มี
การแปลผลเกียวกับปั จจัยทางการบริ หาร ของ สัมพันธภาพทีดีต่อผู้บังคับบัญชา เพือนร่ วมงาน
คณะกรรมการศูนยด์ ูแลผูส้ ูงอายุระยะยาวอาํ เภอเมือง
จงั หวดั เพชรบูรณ์ ดา้ นการบริหารจดั การ อยู่ในระดับ ค่าเฉลีย 3.72 คะแนน (S.D.=0.70)
มาก ค่าเฉลีย 3.67 คะแนน (S.D.=0.70) เมือพิจารณาราย
ขอ้ พบวา่ มีกระบวนการตรวจสอบ ควบคุม กาํ กบั การ ตารางที 1 คา่ สถิติการวิเคราะห์ถดถอยพหุคณู การ
ดาํ เนินงาน โดยมีระบบการประเมินผลการดาํ เนินงาน
ใหเ้ ป็นไปตามแผนงานทีกาํ หนดไว้ ค่าเฉลียอยใู่ นระดบั ดาํ เนินงานการดูแลสุขภาพผสู้ ูงอายรุ ะยะยาว กลุ่มติด
มาก คอื 3.83 คะแนน (S.D.= 0.85) บา้ น กลมุ่ ติดเตียง อาํ เภอเมืองจงั หวดั เพชรบูรณ์

ด้านเวลาในการปฏิบัติงาน พบว่า ในภาพรวมกลุ่ม ตวั แปร p-value

ตัว อ ย่ า ง มี เ ว ล า ใ น ก า ร ป ฏิ บัติ ง า น อ ยู่ ใ น ร ะ ดับ ม า ก 1. ดา้ นงบประมาณ 0.043
ค่าเฉลีย 3.75 คะแนน (S.D.=0.59) เมือพิจารณารายขอ้ 2. ดา้ นวสั ดุอปุ กรณ์ 0.005
พบวา่ ขอ้ ทีมีค่าเฉลียอยใู่ นระดบั มากคือ ตาํ บลของท่าน 3. ดา้ นการบริหารจดั การ 0.038
4. ดา้ นเทคโนโลยี 0.043
5. ด้านขวัญกําลังใจในการ 0.034
ทาํ งาน
6. ดา้ นเวลาในการปฏิบตั ิงาน 0.006

ค่าคงท=ี p-value <0.05

วารสารวชิ าการป้องกนั ควบคมุ โรค สคร.2 พษิ ณุโลก: ปี ที  ฉบบั ที 2 พฤษภาคม - สิงหาคม 

62

ตวั แปรทีมีผลต่อการปฏิบตั ิงานการดาํ เนินงานการดูแล ประโยชน์ในการดาํ เนินงานอยเู่ สมอ ไดใ้ ชเ้ ทคโนโลยี
สุขภาพผสู้ ูงอายรุ ะยะยาว กลมุ่ ติดบา้ น กลมุ่ ติดเตียง ทีทนั สมยั ในการดาํ เนินงาน
5) ปั จ จัย ด้า น ข วัญ กํา ลัง ใ จ ใ น ก า ร ทํา ง า น
อาํ เภอเมืองจงั หวดั เพชรบรู ณ์ มีรายละเอียด ดงั นี
1) ปัจจัยด้านงบประมาณ ซึงประกอบด้วย การ ซึงประกอบด้วย การพิจารณาเลือนเงินเดือนและ
วางแผนงบประมาณ การจัดสรรงบประมาณ การ ค่าตอบแทนทีเหมาะสม ไดร้ ับโอกาสความกา้ วหนา้ ใน
สนบั สนุนงบประมาณ การควบคุมการใช้งบประมาณ หน้าทีการงานการมอบหมายให้บุคลากรได้รับงานที
การใช้จ่ายงบประมาณสําหรับการดาํ เนินงาน เป็ นไป เหมาะสมกบั ความรู้ความสามารถ มีสัมพนั ธภาพทีดีต่อ
ผูบ้ งั คบั บญั ชา เพือนร่วมงาน ไดร้ ับการพิจารณาอย่าง
ตามระเบียบการเบิกจ่ายของทางราชการ
2) ปัจจัยด้านวสั ดุอุปกรณ์ ซึงประกอบด้วย การ เป็นธรรมเมือมีกรณีร้องทุกขเ์ กิดขึน
สํารวจความตอ้ งการใช้วสั ดุอุปกรณ์ในการดาํ เนินงาน 6) ปั จ จั ย ด้ า น เ ว ล า ใ น ก า ร ป ฏิ บั ติ ง า น
การวางแผนในการจดั หาวสั ดุอุปกรณ์ทีจาํ เป็ นสําหรับ ซึงประกอบด้วย การวางแผนงานหรือกิจกรรมการ
การดาํ เนินงาน ให้ตรงกบั ความตอ้ งการ การสนบั สนุน ดาํ เนินงาน การดูแลสุขภาพผูส้ ูงอายุระยะยาวอย่าง
จัดสรรวัสดุอุปกรณ์ มาใช้ในการดําเนินงานอย่าง สอดคล้องเหมาะสม จัดลําดับความสําคัญ ในการ
เพียงพอ การบาํ รุงรักษาวสั ดุอุปกรณ์ ให้มีอายุการใช้ ดําเนินงานการดูแลสุขภาพผูส้ ูงอายุระยะยาวอย่าง
งานไดน้ าน และมีประสิทธิภาพสูงสุด การวางแผนการ สอดคลอ้ งเหมาะสม การกาํ หนดเวลาอยา่ งเหมาะสมใน
จาํ หน่าย และการหาวสั ดุอุปกรณ์มาทดแทนเพือให้ทนั การดาํ เนินงานการดูแลสุขภาพผูส้ ูงอายุระยะยาวกับ
สถานการณ์ในพืนที การติดตามการดาํ เนินงานในดา้ น
ต่อการใชง้ าน
3) ปัจจยั ด้านการบริหารจัดการ ซึงประกอบด้วย ความทนั เวลาและประสิทธิภาพ ของการดาํ เนินงานการ
การวางแผนทรัพยากรกบั การดาํ เนินงานอยา่ งเหมาะสม ดูแลสุ ขภาพผู้สู งอายุระยะยาว การนิ เทศ การ
การจดั โครงสร้างองค์การได้เหมาะสมในดาํ เนินงาน ประเมินผลการดาํ เนินงานการดูแลสุขภาพผูส้ ูงอายุ
การคดั เลือกบคุ คลในพืนที ทีมีความเหมาะสม เสียสละ ระยะยาวตามเวลาทีกาํ หนด
ร่วมแรง ร่วมใจ ในการช่วยขบั เคลือน การดาํ เนินงาน การสนทนากลุ่ม (Focus group)คณะกรรมการศูนย์
ในพืนที คณะทาํ งานสามารถอาํ นวยการและร่วมแกไ้ ข
ปัญหาในพืนที ได้จนสําเร็จ กระบวนการตรวจสอบ ดูแลผู้สูงอายุ กลุ่มพึงพิง ของ อําเภอเมือง จังหวัด
ควบคุม กํากับการดําเนิ นงานโดยมีระบบการ
ประเมินผลการดาํ เนินงานให้เป็ นไปตามแผนงานที เพชรบูรณ์

กาํ หนดไว้ ด้านบุคลากร ดา้ นกาํ ลงั คน กลุ่มผูบ้ ริหาร ประกอบดว้ ย
4) ปัจจยั ดา้ นเทคโนโลยี ซึงประกอบดว้ ย การ นายก อปท. ปลดั อปท. ประธานศูนยฟ์ ื นฟูผสู้ ูงอายุ ผอ.
รพ.สต. ผบู้ ริหารในศนู ยด์ ูแลผสู้ ูงอายรุ ะยะยาวในระดบั
สาํ รวจความตอ้ งการใชเ้ ทคโนโลยที ีเหมาะสมกบั การ ตําบล ส่วนใหญ่มีแนวคิดด้านการวางแผนการเพิม
ดาํ เนินงานในแตล่ ะปี จดั ทาํ แผนพฒั นาเทคโนโลยที ี กาํ ลงั คนทังในส่วนของ care manager และ care giver
เกียวขอ้ งในการดาํ เนินงาน การสนบั สนุนดา้ นเทคโนโลยี เป็ นบทบาทหนา้ ทีของ ผูบ้ ริหารในระดบั อาํ เภอเป็ นผู้
เพือ นาํ มาใชใ้ นการดาํ เนินงานอยา่ งเพยี งพอสนบั สนุน กํา ห น ด แ ล ะ ว า ง แ ผ น ก า ร เ พิ ม กํ า ลั ง ค น ด้ า น ก า ร
ใหบ้ ุคลากรรับการอบรมการใชเ้ ทคโนโลยเี พอื ใหเ้ กิด ปฏิบัติงานการดูแลผูส้ ูงอายุระยะยาว มีบางแห่ง มี

วารสารวิชาการป้องกนั ควบคุมโรค สคร.2 พิษณุโลก: ปี ที  ฉบบั ที 2 พฤษภาคม - สิงหาคม 

63

แนวคิดวา่ การเพิมกาํ ลงั คนเป็ นบทบาทหนา้ ทีของ care การดูแลผูส้ ูงอายุกลุ่มพึงพิงใน อปท. มีความรู้ความ
managerใน รพ.สต. เป็ นผู้กําหนด กลุ่มผู้ปฏิบัติ เข้าใจโปรแกรมระบบการดูแลผู้สูงกลุ่มพึงพิงและ
ประกอบดว้ ย care manager และ care giver อสม. ระเบียบการเบิกจ่ายเงินไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกนั ทาํ
ผลการวิจยั พบวา่ จาํ นวน care manager ทีผา่ นการอบรม ให้บางพืนทีเกิดปัญหาการสือสารความเขา้ ใจในการ
ส่วนใหญ่ปฏิบัติงานใน รพ.สต. แต่ในภาพรวมมี ดาํ เนินงานการดูแลผูส้ ูงอายุระยะยาวดา้ นหลกั สูตรการ
สัดส่วนเพียงพอในการดูแล care giver แต่เนืองจาก อบรม care manager และ care giver พบว่า หลักสูตร
care manager ทีปฏิบตั ิงานใน รพ.สต. มีภาระงานมาก การอบรมเป็ นหลักสูตรต่อเนืองติดต่อกัน 10 วัน
เนืองจากรับผิดชอบงานหลายภารกิจจึงทาํ ให้มีบาง โดยเฉพาะหลักสูตร care manager ต้องเดินทางไป
พืนทีเกิดความล่าช้าในการปฏิบตั ิงาน ดา้ น care giver อบรมต่างจงั หวดั บางพืนทีผูร้ ับผดิ ชอบงานผูส้ ูงอายไุ ม่
ถึงแมว้ ่าจะมีผูส้ ูงอายกุ ลุ่มพึงพิงทีตอ้ งดูแลมีสัดส่วนไม่ สามารถไปอบรมได้ จึงส่งตวั แทนไปอบรม ผูท้ ีเขา้ รับ
เกินกลุ่มผู้สูงอายุกลุ่มพึงพิง แต่เมือพิจารณาใน การอบรม care manager ไม่ไดก้ ลบั มาปฏิบตั ิงานทาํ ให้
ภาพรวมพบว่า care giver มีไม่ครบทุกหมู่บา้ นทาํ ให้มี ผูร้ ับผิดชอบงานไม่เขา้ ใจกระบวนการดาํ เนินการดูแล
ปัญหาเรืองการเดินทางและเวลาในการเยียมผูส้ ูงอายุ ผูส้ ูงอายุระยะยาว ดา้ น care giver ส่วนใหญ่มีความรู้
กลุ่มพึงพิง โดยมีสาเหตุเนืองมาจาก ภาระงานและส่วน และทักษะในการประเมิน ความสามารถในการ
ใหญ่มีอาชีพเป็ นเกษตรกรทาํ ให้ไม่มีเวลาดูแลผูส้ ูงอายุ ประกอบกิจวตั รประจาํ วนั (ADL) นอ้ ย ส่วนใหญ่การ
กลุ่มพึงพิง และมีบางส่ วน ไปทํางานต่างพืนที ประเมินจะเป็ นบทบาทของ care manager ใน รพ.สต.
นอกจากนีแล้วการจัดการอบรมผูจ้ ัดการอบรมมีการ นอกจากนีแลว้ ความรู้เรืองเบืองตน้ การดูแลผูส้ ูงอายุ
จัดการอบรม ปี ละ 1 ครัง ซึงผูท้ ีสนใจจะเข้ารับการ กลุ่มพึงพิงทีตอ้ งดูแลตามบทบาทของ care manager ก็
อบรม care giver มีเวลาว่างไม่ตรงกบั ทีผูจ้ ดั การอบรม ยงั มีความรู้และทกั ษะน้อย เมือพิจารณาการติดตาม
และมีบางท่านทีสนใจเขา้ รับการอบรมแต่ไม่สามารถ เยียมบา้ นผูส้ ูงอายุของ care giver พบว่ามีความมุ่งมนั
เขา้ รับการอบรมได้จนครบหลกั สูตร 10 วนั ในส่วน ตงั ใจในการเยียมบา้ นผูส้ ูงอายุกลุ่มพึงพิงนอกจากนี
ศูนยฟ์ ื นฟูผูพ้ ิการและผูส้ ูงอายทุ ีมีการจดั กิจกรรมฟื นฟู แล้วยงั มีการบริจาคเงินส่วนตัวในการซือของเยียม
ผูส้ ูงอายุและผูพ้ ิการมีจาํ นวนจิตอาสาทีปฏิบตั ิงานการ ผูส้ ูงอายุกลุ่มพึงพิงทีรับผิดชอบ ด้านการบูรณาการ
ดูแลผสู้ ูงอายไุ มเ่ พยี งพอ ดา้ นการพฒั นาศกั ยภาพในการ เยียมบ้าน care giver ส่วนใหญ่การเยียมบ้าน ยงั Care
ดูแลผูส้ ูงอายุส่วนใหญ่กลุ่มผู้บริหารยงั ไม่เข้าใจถึง Plan ไปใช้ในการเยียมบา้ นค่อนขา้ งนอ้ ย ในดา้ นดา้ น
กระบวนการบริหารดา้ นดูแลผูส้ ูงอายุระยะยาว กลุ่มผู้ การนิเทศติดตามมีการนิเทศติดตามทงั ผูบ้ ริหารและ
ปฏิบตั ิประกอบดว้ ย care manager มีความรู้และทกั ษะ ผปู้ ฏิบตั ิงานการดูแลผสู้ ูงอายุระยะยาวมีความคิดเห็นวา่
ในการปฏิบตั ิงานการดูแลผสู้ ูงอายกุ ลุ่มพึงพิง แต่พบวา่
care manager ทีปฏิบตั ิงานใน รพ.สต. และผูป้ ฏิบตั ิงาน

วารสารวิชาการป้องกนั ควบคุมโรค สคร.2 พษิ ณุโลก: ปี ที  ฉบบั ที 2 พฤษภาคม - สิงหาคม 

64

การนิเทศติดตามมีความสําคัญมากในการพฒั นางาน ตรงกนั ทงั ในส่วนของ อปท.และ ระหวา่ ง อปท.กบั รพ.
สต.ข้อเสนอแนะปั จจัยทางการบริ หารในการ
การดาํ เนินงานการดูแลผสู้ ูงอายรุ ะยะยาวกลุ่มพึงพงิ ดาํ เนินงานการดูแลผูส้ ูงอายุระยะยาว ผูส้ ูงอายุกลุ่มติด
บา้ น กล่มุ ติดเตียง อาํ เภอเมืองเพชรบรู ณ์
ด้านงบประมาณ ปัญหา อุปสรรค ในการดาํ เนินงาน
การดูแลผูส้ ูงอายุระยะยาว ผูส้ ูงอายุกลุ่มติดบา้ น กลุ่ม ข้อเสนอแนะ
ติดเตียง อาํ เภอเมืองเพชรบูรณ์ งบประมาณทีในศูนย์
ดูแลผูส้ ูงอายุกลุ่มพึงพิงมีการใช้งบประมาณ ในการ ข้อเสนอแนะ ปัจจัยทางการบริหารในการ
เบิกจ่ายเป็ นค่าตองแทน care giver แต่การบริ หาร
งบประ มาณยังขาดประ สิ ทธิ ภาพ ทําใ ห้มี เงิ น ดาํ เนินงานการดูแลผูส้ ูงอายุระยะยาว ผูส้ ูงอายุกลุ่มติด
งบประมาณเหลือค้างในศูนยท์ ังนีเนืองจากไม่เข้าใจ
ระเบียบการเบิกจ่าย และการเบิกจ่ายงบประมาณตอ้ งใช้ บา้ น กลุ่มติดเตียง อาํ เภอเมืองเพชรบูรณ์ มีแนวทางใน
เอกสารมากประกอบกบั ขนั ตอนการเบิกจ่ายงบมีหลาย การพฒั นารูปแบบการดาํ เนินงานการดูแลผูส้ ูงอายกุ ลมุ่
ขันตอน ประกอบกับ care giver ยงั ขาดความรู้ความ พึงพิง ดงั นี
เข้าใจในการเก็บหลกั ฐานประกอบการเบิกจ่าย ด้าน
วสั ดุอุปกรณ์ปัญหา อุปสรรค ในการดาํ เนินการ พบวา่ ด้านบุคลากร ควรให้ทุก อปท.และ รพ.สต. มี care
ขาดเงินซืออุปกรณ์ทีจาํ เป็ นในการเยียมบา้ นผูส้ ูงอายุ manager ที รับผิดชอบดา้ นการดูแลผูส้ ูงอายุกลุ่มพึงพิง
กลุ่มพึงพิง โดยเฉพาะเครืองวดั ความดันโลหิตสูง โดยตรง ผูบ้ ริหารท้องถินและผอ.รพ.สต.ต้องผ่าน
ปรอทวดั ไข้ อุปกรณ์ทาํ แผล เครืองเจาะนาํ ตาล เครือง หลักสูตร care manager ตอ้ งผ่านการอบรมหลักสูตร
คอมพิวเตอร์ทีใช้ประมวลผลข้อมูลการดูแลผูส้ ูงอายุ ผู้บริ หารนอกจากนี แล้ว อปท.ควรมีทีมในการ
ระยะยาวในพืนทีเปิ ดใหบ้ ริการศูนยด์ ูแลผูส้ ูงอายุระยะ ดาํ เนินงานดูแลผูส้ ูงอายุระยะยาวตามภารกิจอยา่ งนอ้ ย
ยาว ทีมีการใหบ้ ริการในศนู ยท์ ีมีกิจกรรม การดูแลฟื นฟู 3-5 คน และควรสนับสนุนให้มี care giver ครอบคลุม
ผูส้ ูงอายุทีมีการให้บริการดา้ นการส่งเสริมดา้ นร่างกาย พืนทีทุกหมู่บา้ นพร้อมกบั พฒั นาศกั ยภาพบุคคลากรใน
ด้านจิตใจ วสั ดุ ปกรณ์ ตู้อบสมุนไพร ในการฟื นฟู การดูแลผสู้ ูงอายกุ ลุ่มพึงพิงโดยมีหลกั สูตร ดงั นี
ผูส้ ูงอายุในศูนยด์ ูแลผูส้ ูงอายุ และรถรับส่งผูส้ ูงอายุมา
ทีศูนยด์ ูแลผูส้ ูงอายุดา้ นการบริหารจดั การ การบริหาร . พัฒนาหลักสูตร ผู้จัดการดูแลผู้สูงอายุ
จดั การดูแลผูส้ ูงอายุระยะยาวยงั ขาดการบริหารจดั การ
ด้านการวางแผนการดาํ เนินงานอย่างมีส่วนร่วมของ ผบู้ ริหาร
คณะกรรมการและภาคีเครือข่ายทีเกียวข้องจึงทาํ ให้ . พฒั นาหลกั สูตร care giver ใหเ้ หมาะกบั การ
การบูรณาการและการบริหารจดั การดา้ นงบประมาณ
ได้แก่ การเบิกจ่ายค่าตอบแทนให้ care giver เงิน เรียนรู้และบริบทพนื ที
งบประมาณในการดาํ เนินการผ่านหน่วยงาน และกอง . พัฒนาหลักสูตร คณะกรรมการศูนย์ดูแล
ต่าง ๆใน อปท. ประกอบกับการสื อสารในการ
ดํา เ นิ น ก า ร ข า ด ป ร ะ สิ ท ธิ ภ า พ จึ ง เ กิ ด ค ว า ม เ ข้า ใ จ ไ ม่ ผสู้ ูงอายรุ ะยะยาว
. มีการนิเทศติดตามจากทีมพีเลียงระดับ

อาํ เภออยา่ งนอ้ ยปี ละ 1 ครัง
ด้านการบริหารจัดการ

1. ค ว ร มี ก ร ะ บ ว น ก า ร จั ด ทํา แ ผ น ก า ร ดู แ ล
ผูส้ ูงอายุกลุ่มพึงพิง อย่างมีส่วนร่วมกบั ภาคีเครือข่าย
เ พื อ ใ ห้ เ กิ ด ก า ร ดํา เ นิ น ง า น อ ย่ า ง บู ร ณ า ก า ร ใ น ก า ร
ดาํ เนินงานผสู้ ูงอายกุ ล่มุ พึงพงิ ในชุมชน

วารสารวิชาการป้องกนั ควบคุมโรค สคร.2 พษิ ณุโลก: ปี ที  ฉบบั ที 2 พฤษภาคม - สิงหาคม 

65

2. การบริหารจดั การขอ้ มูลการดูแลผูส้ ูง ควรมี 1. มี ก า ร จั ด ทํ า ร ะ เ บี ย บ ก า ร เ บิ ก จ่ า ย ใ ห้
ศู น ย์ ใ น ก า ร ร ว บ ร ว ม ข้ อ มู ล ด้ า น ส า ร ส น เ ท ศ แ ล ะ การปฏิบตั ิงานการดูแลผูส้ ูงอายุกลุ่มพึงพิงให้กบั Care
ผรู้ ับผดิ ชอบประจาํ ของทอ้ งถิน manager

3. ควรมีการพัฒนาโปรแกรมในการจัดเก็บ 2. ควรมีการ เสริมพลงั ให้กบั Care giver ในการ
ขอ้ มูล ปฏิบตั ิงานการดูแลผูส้ ูงอายกุ ลมุ่ พึงพิงโดยการการปรับ
ค่าตอบแทน CGให้ถูกตอ้ งตามระเบียบการ และการจดั
4. มีการส่งเสริมให้คณะกรรมการศูนย์ดูแล เวทีการแลกเปลียนเรียนรู้ในการดูแลผูส้ ูงอายรุ ะยะยาว
ผสู้ ูงอายมุ ีส่วนร่วมในการดาํ เนินงาน กลมุ่ พึงพิง

ด้านงบประมาณ การอภิปรายผลการวิจัย
1. จัดทําแนวทางระเบียบปฏิบัติการเบิกจ่าย
การอภิปรายผล
งบประมาณกองทุนโครงการดูแลผูส้ ูงอายุระยะยาว คุณลกั ษณะของคณะกรรมการศูนยด์ ูแลผูส้ ูงอายุ
กลุ่มพึงพิงระยะยาวมีงบ พม. ท้องถิน สปสช. โดยมี
การบูรณาการงบร่วมกัน ควรจดั สรรงบประมาณมี ระยะยาวอาํ เภอเมือง จงั หวดั เพชรบูรณ์ส่วนใหญ่เป็ น
พฒั นาศกั ยภาพคนในทอ้ งถิน มารับงานดา้ นการดูแล
ผสู้ ูงอายรุ ะยะยาวโดยตรง เพศหญิง อายุเฉลีย 39 ปี การศึกษา ระดบั ปริญญาตรี
ด้านวสั ดอุ ปุ กรณ์ ตําแหน่งพยาบาลวิชาชีพและผ่านการอบรมเป็ น
ผูจ้ ดั การดูแลผูส้ ูงอายุ และมีปัจจยั อยา่ งหนึงทีทาํ ใหเ้ กิด
1. ควรมีการจดั หาวสั ดุอุปกรณ์ ในการจดั ทาํ ศูนย์ ความสาํ เร็จในงานทีปฏิบตั ิ คือ ปัจจยั ทางการบริหารที
ขอ้ มูลผสู้ ูงอายุ มีความสําคัญต่อรู ปแบบการบริ หารการดูแลสุ ขภาพ
ผู้สู ง อ า ยุ ร ะ ย ะ ย า ว ใ ห้ บ ร ร ลุ วัต ถุ ป ร ะ ส ง ค์ ที จ ะ ช่ ว ย
2. อปท.ควรจดั หาวสั ดุอุปกรณ์อาทิเช่น กระเป๋ า สนับสนุนให้การดาํ เนินงานได้อย่างราบรืน โดยมี 7
เยยี มบา้ นใหเ้ ป็นมาตรฐานเดียวกนั ในระดบั อาํ เภอ ดา้ น ประกอบดว้ ย 1)ดา้ นบุคลากร 2)ดา้ นงบประมาณ
3)ดา้ นการบริหารจดั การ 4)ดา้ นวสั ดุ อุปกรณ์ และยงั มี
. ควรมีการสนบั สนุนรถเยยี มบา้ นใหก้ บั
ด้านเวลาในการปฏิบตั งิ าน ปัจจัยทางการบริ หารทีสําคัญทีช่วยส่งเสริ มการ
ดาํ เนินงานใหป้ ระสบความสาํ เร็จอีก 3 ปัจจยั คอื 5)ดา้ น
Care manager กบั Care giver ควรมีการจดั ทาํ Care เทคโนโลยี 6)ด้านเวลาในการดาํ เนินงาน 7)ด้านขวญั
plan ร่วมกัน เพือให้สามารถปฏิบัติงานได้ตรงตาม กําลังใจในการดาํ เนินงาน มีผูว้ ิจัยได้ศึกษาเกียวกับ
Care plan ตามเวลาทีกาํ หนดไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ปัจจยั ทางการบริหาร การศึกษาวิจัยเรืองบรรยากาศ
ด้านเทคโนโลยีและวสั ดอุ ุปกรณ์ องค์การและปัจจยั ทางการบริหารทีมีผลต่อการจดั การ
การพฒั นาการเยยี มบา้ นโดยใชโ้ ปรแกรม ช่องทางไลน์ ความรู้ของบุคลากรโรงพยาบาลบวั ใหญ่อาํ เภอบวั ใหญ่
โปรแกรมลงขอ้ มลู สปสช. ปัญหาการเขา้ รหสั ของ จงั หวดั นครราชสีมา พบวา่ ภาพรวมของปัจจยั ทางการ
สปสช ควรมีการพฒั นาระบบขอ้ มลู โดยทาํ เป็นศูนย์ บริหาร มีความสัมพนั ธ์ระดบั สูง กบั การจดั การความรู้
ขอ้ มูลการดูแลผสู้ ูงอายใุ น อปท.
ด้านขวัญและกาํ ลงั ใจในการทาํ งาน ของบุคลากรโรงพยาบาลบวั ใหญอ่ าํ เภอบวั ใหญ่จงั หวดั
นครราชสีมา และยงั พบว่าปัจจยั ทางการบริหารดา้ น
เทคโนโลยี และด้านการบริหารจัดการมีผลต่อการ

วารสารวชิ าการป้องกนั ควบคุมโรค สคร.2 พิษณุโลก: ปี ที  ฉบบั ที 2 พฤษภาคม - สิงหาคม 

66

จดั การความรู้ของบุคลากรโรงพยาบาลบวั ใหญ่อาํ เภอ กติ ตกิ รรมประกาศ
บวั ใหญ่จงั หวดั นครราชสีมา การศึกษา การสนบั สนุน
ผูว้ ิจัยขอขอบพระคุณนายแพทยส์ าธารณสุข
จากองค์การมีผลต่อการดําเนินงานของเจ้าหน้าที จงั หวดั เพชรบรู ณ์ สาํ หรับการสนบั สนุนงานวิจยั ในครัง
สาธารณสุข จากการศึกษาภาพรวมการสนบั สนุนจาก นี ขอขอบพระคณุ ท่านนายอาํ เภอเมืองเพชรบูรณ์ ทีให้
องคก์ าร พบวา่ ดา้ นวสั ดุอปุ กรณ์ และดา้ นกาํ ลงั คน มีผล ความอนุ เคราะ ห์ใ นการเก็บข้อมูลในก ารวิ จัย
ต่อการปฏิบัติงานคุ้มครองผู้บริ โภคของเจ้าหน้าที ขอขอบพระคุณ ท่านผู้อํานวยการโรงพยาบาล
สาธารณสุขในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตาํ บล ปัจจยั เ พ ช ร บู ร ณ์ ที ไ ด้ ส นั บ ส นุ น ทุ น วิ จั ย ค รั ง นี
ทางการบริหารด้านเวลา มีผลต่อการปฏิบตั ิงานตาม ขอขอบพระคุณ ดร.กุลรัตน์ บริรักษ์วาณิชย์ หัวหน้า
มาตรฐานงานระบาดวิทยาโรคไม่ติดต่อของเจา้ หน้าที ศูนยว์ ิจยั โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ ในการให้คาํ ปรึกษา
สาธารณสุขในโรงพยาบาลส่งเสริ มสุขภาพตําบล แนะนาํ การวิจยั ขอขอบพระคุณท่านสาธารณสุขอาํ เภอ
จังหวดั มหาสารคาม และปัจจัยทางการบริหารด้าน หนองไผ่ทีให้ความอนุเคราะห์ในการเก็บข้อมูลการ
งบประมาณ ด้านการบริหารจัดการ ด้านวสั ดุสิงของ ทดสอบแบบสอบถาม
ดา้ นเครืองจกั ร ดา้ นขวญั กาํ ลงั ใจ มีผลตอ่ การปฏิบตั ิงาน

ตามบทบาทหน้าทีของทันตแพทย์ในโรงพยาบาล เอกสารอ้างองิ
ชุมชน จังหวัดขอนแก่น และด้านบริหารจัดการ มี 1. กระทรวงสาธารณสุข. แผนพฒั นาสุขภาพแห่งชาติ
ความสัมพนั ธ์ระดับปานกลางกับการปฏิบตั ิงานตาม แผนพฒั นาเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติฉบบั ที .
สมรรถนะหลกั ของพนักงานเวชสถิติในโรงพยาบาล กรุงเทพฯ  – 2559;
ชุ มชน แล ะ ด้านขวัญกําลังใ จใ นก า รทํา ง า น มี 2. สาํ นกั งานหลกั ประกนั สุขภาพแห่งชาติ.
ความสัมพนั ธ์ระดับปานกลางกับการปฏิบตั ิงานของ การจดั บริการระบบสุขภาพ.กรุงเทพฯ:สาํ นกั งาน
พยาบาลเวชปฏิบัติทัวไปในโรงพยาบาลส่งเสริ ม หลกั ประกนั สุขภาพแห่งชาติ 2558;
สุขภาพตาํ บล จงั หวดั อุดรธานี
3. จันทิมา บันลือฤทธิ, ปรี ยากมล ข่าน. ปัจจัยทีมี
ข้อเสนอแนะสําหรับการทําวิจัยต่อไป
ความสัมพนั ธ์ต่อสมรรถนะการจัดการระบบการ
1. ควรศึกษาสมรรถนะของผูด้ ูแลผสู้ ูงอายุ care ดูแลระยะยาวในกลุ่มผูส้ ูงอายุของพยาบาลวิชาชีพ
giver เพอื พฒั นาตอ่ ยอดองคค์ วามรู้ทีเหมาะสม
ในโรงพยาบาลสังกดั กระทรวงสาธารณสุข จงั หวดั
2. ควรศึกษาสภาพการเปลียนแปลงด้าน ปทุมธานี.วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยอีสเทิร์น
ร่างกาย จิตใจและสภาพแวดล้อมของผูส้ ูงอายุหลัง เอเชีย ฉบบั วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ; 110-
ไดร้ ับการดูแลจากผดู้ ูแลผสู้ ูงอายุ
123.
3. ควรมีการสร้างนวตั กรรมการดูแลผูส้ ูงอายุ 4. วสันต์ บุญหลา้ , ประจกั ร บวั ผนั . ปัจจยั ทีมีผลต่อการ
กลุ่มพึงพิง
ปฏิบตั ิงานนักบริหารสาธารณสุขในเทศบาล เขต

12. วารสารวจิ ยั มข 2554; 16(6): 693-705.

วารสารวิชาการป้องกนั ควบคุมโรค สคร.2 พิษณุโลก: ปี ที  ฉบบั ที 2 พฤษภาคม - สิงหาคม 

67

5. อเุ ทน จิณโรจน,์ วทิ ศั น์ จนั ทรโพธิศรี. ลกั ษณะส่วน
บุคคลและปัจจัยในการบริ หารทีมีผลต่อการ
ปฏิบตั ิงานตามมาตรฐานงานระบาดวิทยาโรคติดต่อ
ของเจ้าหน้าทีสาธารณสุ ขในโรงพยาบาลส่ งเสริ ม
สุ ขภาพตําบลจังหวัดมหาสารคาม. วารสาร
สํานักงานป้องกันควบคุมโรคที 6 ของแก่น 2557;
21(1): 63-74.

6. ทองหลอ่ เดชไทย. หลกั การบริหารงานสาธารณสุข.

พมิ พค์ รังที 4. กรุงเทพฯ:สามเจริญพาณิชย;์ 2549.
7. ประจกั ร บวั ผนั . หลกั การบริหารสาธารณสุข. พมิ พ์

ครังที 3. ขอนแก่น: คณะสาธารณสุขศาสตร์
มหาวิทยาลยั ขอนแก่น; 2554.
8. Blumberg M, Pringle, C.D. The missing
opportunity in organizational research:

Some implications for a theory of work

performance. Academy of Management Review,

(1982);7(4), 560-569

9. กาญจนา พิทกั ษว์ าณิชย,์ ประจกั ร บวั ผนั . บรรยากาศ
องค์การและปั จจัยทางการบริ หารที มี ผลต่อการ
จัดการความรู้ของบุคลากรโรงพยาบาลบัวใหญ่
อาํ เภอบวั ใหญ่ จังหวดั นครราชสีมา. วารสารวิจยั
มข. ฉบบั บณั ฑิตศึกษา 2559; 16(1): 90-103.

10. สุมาลี ลารังสิต, ประจกั ร บัวผนั . การปฏิบตั ิงาน
คุ้มครองผู้บริโภคของเจ้าหน้าทีสาธารณสุข ใน
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตาํ บล จงั หวดั ขอนแก่น.
วารสารวิจยั มข. (ฉบบั บณั ฑิตศึกษา) 2557; 14(3):
67-80.

11. ละไม ศิริรัมย,์ วิทศั น์ จนั ทรโพธิศรี.ปัจจยั ทางการ
บริหารทีมีผลต่อการปฏิบตั ิงานตามบทบาทหน้าที
ของทันตแพทย์ในโรงพยาบาลชุมชน จังหวัด
ขอนแก่น. ใน:การประชุมวิชาการ เสนอผลงาน

ระดบั บณั ฑิตศึกษาแห่งชาติ; 2557. หนา้ 625-635

วารสารวชิ าการป้องกนั ควบคมุ โรค สคร.2 พิษณุโลก: ปี ที  ฉบบั ที 2 พฤษภาคม - สิงหาคม 

68

คาํ แนะนําสําหรับผ้เู ขียน

วารสารวิชาการป้องกนั ควบคุมโรค สคร.2 ยนิ ดีรับบบทความวิชาการหรือรายงานผลการวิจยั ทีเกียวกบั

โรคติดตอ่ โรคติดเชือและโรคไมต่ ิดตอ่ ตลอดจนผลงานการควบคมุ โรคตา่ ง ๆ กาํ หนดเผยแพร่ทุกรอบ 4 เดือน คอื
มกราคม- เมษายน, พฤษภาคม- สิงหาคม และ กันยายน-ธันวาคม งานทีส่งมาให้พิจารณาเพือลงตีพิมพ์ใน

วารสารวชิ าการป้องกนั ควบคมุ โรค สคร.2 จะตอ้ งไมเ่ คยลงตีพมิ พห์ รือกาํ ลงั รอพิมพใ์ นวารสารอืน

กองบรรณาธิการ ขอสงวนสิทธิในการ รายงานการสอบสวนโรค รายงานผลการ

ตรวจทานและแกไ้ ขตน้ ฉบบั โดยมีผูท้ รงคุณวุฒิ และ ปฏิบัติงาน ประกอบดว้ ย บทคดั ย่อ บทนาํ วิธีการ
ผูเ้ ชียวชาญเฉพาะสาขาอ่านให้มีคุณภาพและมีความ ดําเนินงานผลการดําเนินงาน วิจารณ์ กิตติกรรม
เหมาะสม ก่อนลงตีพิมพ์ ซึงขอ้ ความต่างๆ ทีผูเ้ ขียน เอกสารอ้างอิง ความยาวของเรืองไม่เกิน 14 หน้า
บทความนาํ เสนอ ถือเป็ นความเห็นส่วนตวั โดยกอง พิมพ์
บรรณาธิการไม่จาํ เป็ นต้องเห็นด้วยเสมอไป ผูท้ ีมี
บทความฟื นวิชา ควรเป็ นบทความทีให้
ความประสงค์ส่งผลงานเพือลงตีพิมพ์ ตอ้ งเตรียม ความรู้ใหม่ รวบรวมสิงทีตรวจพบใหม่ หรือเรืองที
ผลงานตน้ ฉบบั ให้ไดม้ าตรฐาน ตามขอ้ กาํ หนดของ น่าสนใจทีผูอ้ ่านนาํ ไปประยกุ ตไ์ ด้ หรือเป็นบทความ
ป ร ะ เ ภ ท บ ท ค ว า ม ดั ง คํ า แ น ะ นํ า ต่ อ ไ ป นี วิเคราะห์สถานการณ์โรคต่าง ๆประกอบด้วย
. จดั พมิ พ์ออกเผย แพร่ ปี ละ 3 ฉบบั
บทคัดย่อ บทนํา ความรู้หรือข้อมูลเกียวกับเรืองที
ฉบบั ที 1 ประจาํ เดือน ม.ค.-เม.ย. ตีพมิ พ์
นาํ มาเขียน วิจารณ์หรือวิเคราะห์ สรุป เอกสารอา้ งอิง
สมบรู ณ์ สัปดาห์แรก ของ เดือน พ.ค.
ทีทนั สมยั ไม่เกิน  ปี ความยาวไม่เกิน 14 หนา้ พมิ พ์
ฉบบั ที 2 ประจาํ เดือน พ.ค.-ส.ค. ตีพิมพ์
2. การเตรียมนพิ นธ์ต้นฉบับ
สมบรู ณ์ สัปดาหแ์ รก ของ เดือน ก.ย.
การเตรียมบทความ ให้เจา้ ของผลงานพมิ พ์
ฉบบั ที 3 ประจาํ เดือน ก.ย.-ธ.ค. ตี พิมพ์
ด้ว ย อัก ษ ร Angsana New ข น า ด อัก ษ ร 16 ใ น
สมบูรณ์ ตีพิมพ์ สมบูรณ์สปั ดาห์ แรกของ เดือน ม.ค.
Microsoft Word 97-2003 ขนึ ไป ใส่กระดาษหนา้ เดียว
. กาํ หนดขอบเขตเวลาของการรับเรืองตีพมิ พ์
ลงบนกระดาษขนาด A4 พิมพ์เนือหาแบบสองแถว
ฉบบั ที 1 ภายใน เดือน ม.ค. ฉบบั ที 2 ภายใน เดือน
(2Column)มีเลขกํากับหน้าทีมุมขวาบนทุกหน้า
พ.ค.ฉบบั ที 3 ภายในเดือน ก.ย.
ตังขอบกระดาษทุกด้าน 2 เซ็นติเมตร จาํ นวนหน้า
1.บทความทีรับตพี มิ พ์ แบ่งเป็ น 3 ประเภท
โดยรวมทังหมด ไม่เกิน 14 หน้าตามคําแนะนํา
นิพนธ์ต้นฉบับ การเขียนเป็ นบทหรือตอน เพิมเติมดงั นี
ตามลําดับ ดังนี บทคัดย่อ บทนํา วัสดุและวิธี
ชือเรือง อ่านเขา้ ใจง่าย มีทงั ภาษาไทยและ
การศึกษา ผลการศึกษา วิจารณ์ สรุป กิตติกรรม ภาษาองั กฤษ พิมพ์ดว้ ยอกั ษร Angsana New ขนาด
เอกสารอ้างอิง ความยาวของเรืองไม่เกิน 14 หน้า
พิมพ์ อกั ษร 18
ชื อผู้นิพ นธ์ และทีอยู่ผู้นิพนธ์ ให้มีทัง
ภาษาไทยและภาษาองั กฤษ เขียนชือ นามสกุล ตวั ยอ่

วุฒิการศึกษาสูงสุด พิมพ์ด้วยอักษร Angsana New 69

ขนาดอกั ษร 16 คําสําคัญ ควรเป็นคาํ ทีสือถึงงานวิจยั เพือให้
ผูท้ ีสนใจในบทความสามารถสืบคน้ ผลงานวิจยั -
บทคัดย่อ มีทงั ภาษาไทยและภาษาองั กฤษ คาํ คนั ด้วยจุลภาค (,) เช่น รูปแบบบทความ, ขนาด
การย่อเนือหาสําคัญ เฉพาะทีจําเป็ นเท่านัน ระบุ ตวั อกั ษร, รูปแบบตวั อกั ษร
ตวั เลขทางสถิติทีสําคญั ใช้ภาษารัดกุมเป็ นประโยค
สมบูรณ์ และเป็ นร้อยแก้ว ให้พิมพ์ใน 1 ย่อหน้า ไม่ บทนํา อธิบายถึงถึงทีมาของปัญหา ทฤษฏี
แบ่งเป็นขอ้ ๆ ความยาวไม่เกิน 15 บรรทดั หรือไมเ่ กิน และกรอบแนวคิด การยอ่ หนา้ ขอ้ ความทวั ไป เวน้ จาก
250 คาํ ประกอบด้วย บทนํา (ความสําคญั และความ เส้นขอบหนา้ .0 ซ.ม. ในส่วนนีแบง่ บทความเป็น 
เป็ นมา) วัตถุประสงค์ วัสดุและวิธีการศึกษา ผล คอลมั
การศึกษา วจิ ารณ์หรือขอ้ เสนอแนะ (อยา่ งยอ่ ) ไม่ตอ้ ง
มีโครงสร้างกํากับ ไม่ต้องมีเชิงอรรถอ้างอิงถึง วั ส ดุ แ ล ะ วิ ธี ก า ร ศึ ก ษ า อ ธิ บ า ย ถึ ง
เอกสารอยู่ในบทคัดย่อ บทคัดย่อต้องเขียนทัง วิธีดาํ เนินการวิจยั โดยกล่าวถึงแหล่งทีมาของขอ้ มูล
ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ คาํ สําคัญ หรือคาํ หลัก วิธีการรวบรวมขอ้ มูล วิธีการเลือกสุ่มตวั อย่างและ
(Keywords) ใส่ไวท้ า้ ยบทคดั ย่อสําหรับทาํ ดชั นีเรือง การใชเ้ ครืองมือช่วยในการวจิ ยั มาตรฐาน หรือวธิ ีการ
(Subject index) ทีใช้ ตลอดจนวิธีการวิเคราะห์ หรือใช้หลกั สถิติมา
ประยกุ ต์
Abstract วธิ ีการเขียนไวยากรยณ์
https://bit.ly/2lT7Hx1 ผลการศึกษาและการวิเคราะห์ผล อธิบายจาก
สิงทีไดพ้ บจากการวิจยั โดยเสนอหลกั ฐานและขอ้ มูล
บทความนีใชภ้ าษาองั กฤษ ถูกตอ้ งตาม อย่างเป็นระเบียบ พร้อมทงั แปลความหมายของผลที
ไวยากรณ์ ผสู้ ่งบทความสามารถเริมตน้ การเขยี น คน้ พบ หรือวิเคราะห์ แลว้ พยายามสรุปเปรียบเทียบ
บทความโดยใหใ้ หพ้ ิมพใ์ น 1 ยอ่ หนา้ ไม่แบ่งเป็น กบั สมมุติฐานทีวางไวอ้ ่านทาํ ความเขา้ ใจง่าย ผลตอ้ ง
ขอ้ ๆ ความยาวไมเ่ กิน 15 บรรทดั หรือไม่เกิน 250 สอดคลอ้ งกับวตั ถุประสงค์ของการศึกษา บรรยาย
คาํ ประกอบดว้ ย บทนาํ /ความสาํ คญั และความเป็นมา เป็นร้อยแกว้ ถา้ มีตวั เลขมาก ตวั แปรมากใหใ้ ชต้ าราง
Background information ใช้ present simple และแปลความหมายของผลทีพบ หรือวิเคราะห์จาก
tense/present perfect tense) วตั ถุประสงค์ วสั ดุ กลุม่ ตาราง แสดงเฉพาะทีสาํ คญั ๆ ตารางพิมพแ์ ยกตา่ งหาก
ตวั อยา่ ง Objectives ใช้ present simple tense/past เรียงลาํ ดบั ก่อน-หลงั ตามทีอา้ งอิงในเนือเรือง และมี
simple tense วธิ ีการศึกษา Methodology ใช้ past คาํ อธิบายเพิมเติมในตารางภาพประกอบ สามารถ
simple tense ผลการศึกษา Results past simple เตรียมส่งรูป
tense/present simple tense และบทสรุป หรือ Postcard สี/ขาว-ดาํ 3*5 นิว บนั ทึกรูป
ขอ้ เสนอแนะ Conclusions (อยา่ งยอ่ ) present simple นามสกลุ .JPEG
tense/tentative verbs/modal ไม่ตอ้ งมีโครงสร้าง
กาํ กบั ไม่ตอ้ งมีเชิงอรรถอา้ งอิงถึงเอกสารอยใู่ น วิจารณ์/อภิปรายผล (ถ้ามี) ควรเขียนการ
บทความ หา้ มใส่รูปหรือตารางในส่วนของบทคดั ยอ่ อภิปรายผลการวิจัยว่าเป็ นไปตามสมมุติฐาน/
นีบทความนี วัตถุประสงค์ทีตังไว้หรือไม่เพียงใด เหมือนหรือ

70 คําสําคัญ เขียนเป็ นคําหรื อวลีสันๆมีทัง
ภาษาไทยและองั กฤษ 3-5 คาํ ทีเกียวขอ้ งกบั งานของ
แตกต่างจากผูอ้ ืนหรือไม่ เหตุใดจึงเป็ นเช่นนนั เน้น ทา่ นเพือเพมิ คณุ ค่าทางวิชาการการอา้ งถึง (Citation)
เฉพาะสาํ คญั และใหมๆ่ ไม่ควรนาํ เนือหาใน 3. การเตรียมบทความเพือตีพมิ พ์
1. บทนํา
บทสรุป ควรเขียนสรุปเกียวกบั การวิจยั (ให้
ตรงประเด็น) ขอ้ จาํ กดั ในการศึกษาและขอ้ เสนอแนะ การย่อหน้าขอ้ ความทวั ไป เวน้ จากเส้นขอบ
ทีนาํ ผลการไปใชป้ ระโยชนห์ รือสาํ หรับวิจยั ต่อไป หน้า .0 ซ.ม. ในส่วนนีแบ่งบทความเป็ น  คอลมั
อธิบายความสําคญั ของปัญหา ผลการวิจยั จากแหล่ง
ข้ อเ สนอแนะหลัง บทสรุ ป ควรเขีย น อืนทีเกียวขอ้ ง ซึงไดข้ อ้ สรุปมาบา้ งแลว้ วตั ถปุ ระสงค์
ข้อเสนอแนะในการนําผลการศึกษาไปใช้ หรื อ สมมติฐาน(ถา้ มี) และขอบเขตการวิจยั จํานวนไม่เกนิ
ข้อเสนอแนะสําหรับการศึกษาครังต่อไป ควรสัน  หน้า
กะทดั รัด .วธิ ีการ

กิตติกรรมประกาศ(ถ้ามี) เขียนขอบคุณ ระบุรู ปแบบการวิจัย ประชากร กลุ่ม
สันๆ ต่อผูร้ ่วมวิจยั และขอบคุณหน่วยงานหรือบุคคล ตวั อย่าง วิธีการเลือกกลุ่มตวั อย่าง เครืองมือทีใช้ วิธี
ทีสนบั สนุนวิจยั ทงั ดา้ นวิชาการและทนุ วจิ ยั เกบ็ ขอ้ มูล วธิ ีวเิ คราะห์ขอ้ มลู สถิติทีใช้
. ผลการศึกษาและการวิเคราะห์ผล
เอกสารอ้างองิ
)สาํ หรับบทความทีตีพมิ พก์ องบรรณาธิการ อธิบายขอ้ คน้ พบ แปลผลจากการวิเคราะห์
กําหนดให้ผู้เขียนรวบรวมเอกสารอ้างอิงเฉพาะ มุ่งเนน้ ตามวตั ถุประสงค์ อาจมีตาราง ภาพประกอบ
รายการเอกสารทีถูกอา้ งไวใ้ นส่วนเนือเรืองเท่านัน ตามความจาํ เป็ น ไม่เกิน 4-6 ตารางหรือภาพ รูปภาพ
ภายใต้หัวข้อ“เอกสารอ้างอิง” สําหรับบทความ
ภาษาไทย และ “References” สําหรับบทความ ทังหมดควรมองเห็นชัดเจนเมือบทความถูกพิมพ์ด้วย
ภาษาอังกฤษ หลักเกณฑ์การเขียนเอกสารอ้างอิง
กาํ หนดให้ผูเ้ ขียนใชแ้ บบ The Vancouver style 2008 เครืองพิมพข์ าวดาํ
ขนึ ไป และผเู้ ขยี นตอ้ งรับผิดชอบในความถกู ตอ้ งของ 1.1 ภาษาให้ใช้ภาษาไทย อนุโลมให้ใช้
เอกสารอา้ งอิง
) การอ้างอิงเอกสารใดให้ใช้เครืองหมาย ภาษาองั กฤษไดเ้ ฉพาะทีไมม่ ีคาํ แปลในพจนานุกรม ฯ
เชิงอรรถเป็ นหมายเลข โดยใช้หมายเลข  สําหรับ โดยใช้ตวั พิมพ์เล็กทังหมด ยกเวน้ เป็ นชือเฉพาะที
เอกสารอา้ งอิงอนั ดบั แรก และเรียงต่อตามลาํ ดบั แต่ ขนึ ตน้ ดว้ ยตวั พมิ พใ์ หญ่
ถา้ ตอ้ งการอา้ งอิงซาํ ใหใ้ ชห้ มายเลขเดิม
 ) เ อ ก ส า ร อ้า ง อิ ง ห า ก เ ป็ น ว า ร ส า ร 1.2 ตวั เลข กรณีการเขียนค่าสถิติร้อยละ ให้
ภาษาองั กฤษให้ใช้ชือย่อวารสารตามหนังสือ index ใชท้ ศนิยม 1- ตาํ แหน่ง
medicushttp://www2.bg.am.poznan.pl/czasopisma/
medicus.php?lang=eng การใช้เอกสารอ้างอิงไม่ถูก . การพมิ พห์ วั ขอ้
แบบจะทาํ ใหเ้ รืองทีส่งมาเกิดความล่าชา้ ในการพิมพ์ พิมพห์ วั ขอ้ ใหญท่ ีนี
เพราะตอ้ งมีการติดต่อผูเ้ ขียน เพือขอขอ้ มูลเพิมเติม
ครบตามหลกั เกณฑ์ พิมพห์ วั ขอ้ รองทีนี โดยมีเลขกาํ กบั หวั ขอ้
หรือไมก่ ็ได้
หัวข้อย่อย ในกรณีทีหัวข้อรองมีเลขกาํ กับหัวข้อ
หัวขอ้ ย่อยให้เริมหัวขอ้ หรือเลขกาํ กบั หัวขอ้ ทีอกั ษร

71

ตัวแรกของหัวขอ้ รอง ดังนี (เครืองหมาย  แทน ตัวแรกของชือภาพส่วนของการแสดงภาพให้เวน้
การเวน้ 1 ช่วงตวั อกั ษร)
1.......................................................... บรรทดั 1.5 จากขอ้ ความส่วนบนและส่วนล่าง

1.1................................................... 1.4.2 การเขยี นสมการ
1.1.1.........................................
สมการทุกสมการต้องมีหมายเลขกาํ กบั อยู่
. ตารางและรูปภาพ ใหพ้ ิมพร์ วมในเนือหา
บทความ และให้มีความสมบูรณ์ในตวั อ่านเขา้ ใจง่าย ภายในวงเล็บ และเรียงลาํ ดบั ทีถูกตอ้ ง ตาํ แหน่งของ
ไม่ซาํ ซ้อนหรือมากเกินความจาํ เป็ น ระบุหมายเลข
กํากับ มีชือตารางและชือรู ปภาพ โดยสามารถ หมายเลขสมการตอ้ งอยู่ชิดขอบดา้ นขวาของคอลมั น์
เชือมโยงกบั เนือหาใหต้ รวจสอบไดส้ ะดวก
ดงั ตวั อยา่ งนี (1)
1.4.1 รูปภาพ
จะตอ้ งวางไวต้ าํ แหน่งกลางคอลมั น์ หรือใน a+b=c

กรณีจาํ เป็นจริงๆเพอื รักษารายละเอียดในภาพอาจยอม MERGEFORMAT เริ มเขียนคําอธิบายตังแต่
ให้มีความกวา้ งไดเ้ ต็มหนา้ กระดาษ ตวั อกั ษรทงั หมด บรรทดั นี
ในรูปภาพ จะตอ้ งมีขนาด  จุด เพอื ใหผ้ อู้ า่ นสามารถ 3.3 การจดั ทาํ ตาราง
อ่านไดส้ ะดวก โดยรูปภาพทุกรูปจะตอ้ งมีหมายเลข
แสดงลาํ ดบั และคาํ บรรยายได้ภาพ หมายเลขและคาํ ตารางควรมีจาํ นวนไม่เกิน-ตาราง ทุกตาราง
บรรยายรวมกันแล้วควรจะมีความยาวไม่เกิน 2
บรรทดั ควรจะเวน้ บรรทดั  บรรทดั เหนือขอบของ จะตอ้ งมีหมายเลข และคาํ บรรยายกาํ กบั เหนือตาราง
รูปภาพและใตค้ าํ อธิบายภาพ ตวั อยา่ งการจดั วางรูปดงั
แสดงในรูปที  และคาํ อธิบายเพมิ เติมใหเ้ ขียนเป็น footnote ใตต้ าราง
เช่น
ภาพที  นกั ศึกษามหาวิทยาลยั ขอนแก่นเขา้ ร่วมการ
ประชุมวิชาการ ตารางที 1 ความสัมพนั ธ์ระหว่าง

หมายเหตุ: ใส่หมายหตุ (ถา้ มี) * มีนยั ความสาํ คญั ทางสถิติทีระดบั .05
ทีมา: ใส่ทีมา (ถา้ มี) หมายเหตุ: ใส่หมายหตุ (ถา้ มี)
ทมี า: ใส่ทีมา (ถา้ มี)
กรณีชือภาพมีความยาวมากกว่า 1 บรรทัด
อกั ษรตวั แรกในบรรทดั ต่อๆ ไปให้วางตรงกบั อกั ษร โดยปกติให้ใช้ตวั อกั ษร Angsana New ขนาด 16 pt
โดยพิมพ์ตวั หนาสําหรับหัวเรืองและหมายเลขของ
ตาราง และตวั พิมพธ์ รรมดาสําหรับคาํ อธิบายตาราง
ถ้ามี ข้อมูล ฟุตโน็ตด้านล่างของตารางใ ห้ใ ช้
ตวั หนังสือเป็ นแบบเดียวกันหากแต่ขนาดตวั อกั ษร
เป็น 16 pt

ในกรณีทีจาํ นวนข้อมูลในตารางมีปริมาณ
น้อย ตารางควรมีขนาดความกว้างไม่เกิน 7 ซม.
ตารางขนาดใหญ่อาจยอมใหม้ ีความกวา้ งไดไ้ ม่เกิน 
หนา้ กระดาษ
หากเกินหนา้ กระดาษ ให้ พมิ พต์ ารางที (ต่อ)

72 *** การพิสู จ น์ อักษร เจ้าของผลงานต้องเป็ น
ผรู้ ับผิดชอบในการตรวจสอบความถกู ตอ้ ง
ตารางที 1 (ต่อ) 9. รู ปแบบการ เ อกสาร อ้ าง อิง (โปรดสังเก ต
เครืองหมายวรรคตอนในทุกตวั อยา่ ง)
หมายเหตุ: ใส่หมายหตุ (ถา้ มี)
ทมี า: ใส่ทีมา (ถา้ มี) 9.1 การอ้างองิ ในเนือหา
ใส่ตารางทงั หมดไวห้ ลงั หัวขอ้ รูปภาพ โดยทุกตาราง เอกสารอา้ งอิงตอ้ งมีภาษาองั กฤษ(reference)
ทีใส่ไวท้ า้ ยบทความจะตอ้ งมีการกล่าวอา้ งในเนือหา
บทความทกุ ตาราง ประกอบ ใชร้ ะบบThe Vancouver style 2008 ขึนไป
โปรดอ้างอิงวารสารวิชาการป้องกันควบคุมโรค
4.วจิ ารณ์ สคร. พิษณุโลกฉบบั ก่อนๆในเนือหาทีท่านทาํ วิจยั
อยู่ จกั ขอบคุณยิง เพราะช่วยใหว้ ารสารเป็นทีรู้จกั เป็น
เขียนอภิปรายผลการวิจัยว่าเป็ นไปตาม ประโยชน์ต่อวงการสาธารณสุขไทย และผูเ้ ขียนตอ้ ง
สมมุติฐานหรือไม่ สอดคลอ้ งกบั ทฤษฎี หรืองานวิจยั รับผิดชอบในความถูกตอ้ งของเอกสารอา้ งอิง โดยใส่
ทีผ่านมาอย่างไร ผสมผสานกับข้อเสนอแนะทาง ตัวเลขในวงเลบ็ เป็ นตัวยก() หลงั ขอ้ ความหรือหลงั ชือ
วิชาการ บุคคลเจา้ ของบทความทีอา้ งถึง โดยใชเ้ ลข 1 สาํ หรับ
5.สรุป เอกสารอา้ งอิงลาํ ดับแรกและเรียงต่อไปตามลาํ ดับ
สอดคลอ้ งกบั ลาํ ดบั การอา้ งอิงทา้ ยบทความและควร
เขียนสรุปเกียวกบั ความสาํ คญั ของปัญหาการ เป็นรายการทีมีการอา้ งอิงไวใ้ นเนือหาเท่านนั
วิจัย สรุปผลให้ตรงประเด็นตามคาํ ถามวิจัยและ . เอกสารอ้างอิง/บรรณานุกรม (โปรดสังเกต
วตั ถปุ ระสงคก์ ารวจิ ยั เครืองหมายวรรคตอนในทกุ ตวั อย่าง)
6.กติ ตกิ รรมประกาศ
รา ย ชื อผู้ นิ พนธ์ ภา ษ า อั ง กฤษ ให้ เ รี ย ง
เขียนขอบคุณบุคคลทีใหค้ วามช่วยเหลือเป็ น
กรณีพิเศษ หน่วยงานทีสนับสนุนทุนวิจัย ด้วย ตามลาํ ดับโดยเริมจาก นามสกุล แล้วตามด้วยชือ
เนือหาทีกระชบั ชดั เจน
7.บทสรุป ไม่ต้องใส่เครืองหมายวรรคตอนต่อท้ายนามสกุล

ผูเ้ ขียนบทความกรุณาตรวจบทความอย่าง ใชเ้ ครืองหมาย, หลงั ชือทกุ คน ถา้ ผูน้ ิพนธม์ ีมากกว่า
รอบคอบ ก่อนส่งให้กรรมการพิจารณา จะทําให้
บทความของท่านมีคุณภาพสูงและผ่านการพิจารณา 6 คน ให้ใส่ชือ 6 คนแรก ตามด้วยคําว่า“et al.”
ไดง้ า่ ยขนึ
(เครืองหมาย  แทนการเวน้ 1 ช่วงตวั อกั ษร)
8.กติ ติกรรมประกาศ .การอ้างองิ จากวารสาร

ขอขอบคุณผู้เขียนบทความทุกท่านทีให้ หมายเลข.ชือผแู้ ต่ง (Author). ชือบทความ
ความร่ วมมื อรั กษาระเบี ยบการเขียนบทค วาม อย่า ง (Title of the article).ชือวารสาร (Title
เคร่งครัด of the Journal)ปี พมิ พ์ (Year);เล่มทีของ
วารสาร (Volume):หนา้ แรก-หนา้
สุดทา้ ย (Page).

1.1 บทความจากวารสารมาตรฐาน (Standard journal 73

a r ticle) . การอ้างอิงหนังสือทังเล่ม
.วทิ ยา สวสั ดิภมู ิพงษ.์ การสาํ รวจความ หมายเลข.ชือผแู้ ต่ง (Author).ชือหนงั สือ (Title
ครอบคลุมและการใชบ้ ริการตรวจหามะเร็งปาก
มดลกู สตรีอาํ เภอแม่สอด จงั หวดั ตาก ปี 2540. of the book). ครังทีพิมพ์ (Edition).
วารสารวชิ าการสาธารณสุข 2541; 7: 20-26. เมืองทีพมิ พ์ (Place of Publication):
2.Fisschl MA, Dickinson GM, Scott GB. สาํ นกั พมิ พ์ (Publisher);ปี (Year).
Evaluation of heterosexual partners, Children
household contacts of adult with AIDS, JAMA .. หนงั สือทีผู้แต่งเป็ นบคุ คล
1987; 257: 640-644 . รังสรรค์ ปัญญาธญั ญะ. โรคติดเชือของ
ระบบ ประสาทกลางในประเทศไทย.
. บทความทผี ู้แต่งเป็ นหน่วยงานหรือสถาบัน กรุงเทพฯ:
เรือนแกว้ การพมิ พ;์ 2536.
(Organization as author)ให้ใส่ชือหน่วยงาน/
2.1.2 หนังสือทีผู้แต่งเป็ นบรรณาธิการหรือผู้
สถาบันนันๆในส่วนทเี ป็ นชือผู้เขยี น เช่น รวบรวม (Editor/Compiler)
1. World Health Organization. Surveillance of
2.Norman IJ, Redfern SJ, editors. Mental health
antibiotic resistance in Neisseria gonorrhoeae in care for elderly people. New York: Churchill
the WHOWestern Pacific Region. Commun Dis Livingstone; 1996.
Intell 2002; 26:541-5.
. สมาคมอรุ เวชชแ์ ห่งประเทศไทย. เกณฑก์ าร .. หนังสือทีผู้แต่งเป็ นหน่วยงานหรือสถาบัน
วินิจฉยั และ แนวทางการประเมินการสูญเสีย (Or ga n iza tion )
สมรรถภาพ ทางกายของโรคระบบการหายใจ
เนืองจากการประกอบอาชีพ. แพทยสภาสาร 2538; 3. Institute of Medicine (US). Looking at the
24: 190-204. future of the Medicaid program. Washington:
The Institute; 1992.
1.3 บทความทผี ู้แต่งมที งั เป็ นบุคคลและเป็ น
. บทหนงึ ในหนังสือหรือตํารา
หน่วยงาน หมายเลข.ชือผนู้ ิพนธ.์ ชือเรืองใน.ใน:ชือ
ใหใ้ ส่ชือผแู้ ต่งและหน่วยงานตามทีปรากฎใน
บรรณาธิการ,บรรณาธิการ.ชือ
เอกสารทีนาํ มาอา้ งอิง เช่น หนงั สือ.ครังทีพิมพ.์  เมืองทีพิมพ:์
4. Savva GM, Wharton SB, Ince PG, Forster G, สาํ นกั พมิ พ;์ 
Matthews FE, Brayne C; Medical Research ปี ทีพมิ พ.์ หนา้ (หนา้ แรก-หนา้ สุดทา้ ย).
CouncilCognitive Function and Ageing Study.
Age, neuropathology, and dementia. N Engl J 1. เกรียงศกั ดิ จีระแพทย.์ การใหส้ ารนาํ และเกลือแร่.
Med2009; 360: 2302-9. ใน: มนตรี ตูจ้ ินดา, บรรณาธิการ. กุมารเวชศาสตร์.
พิมพค์ รังที . กรุงเทพมหานคร:
. การอ้างองิ เอกสารทีเป็ นหนงั สือหรือตาํ รา แบ่งเป็น เรือนแกว้ การพิมพ;์ 2550. หนา้ -.
2 ลกั ษณะ 2. Phillpps SJ. Whisnant JP. Hypertension and
stroke. In: Laragh JH, Brenner BM,editors.

74 การใชเ้ อทธีฟอน กระตุน้ การสุกของพริก. ใน:
เอกสารการประชุมสมั มนาทางวิชาการ สถาบนั
Hypertension: pathophysio- logy, diagnosis, and เทคโนโลยรี าชมงคล ครังที 15 สถาบนั วจิ ยั และ
management. 2nded. New York: Raven Press; พฒั นา สถาบนั เทคโนโลยรี าชมงคล.
1995. pp. 465-78. กรุงเทพมหานคร: สถาบนั วิจยั และพฒั นา
. รายงานการประชุม/สัมมนา สถาบนั เทคโนโลยรี าชมงคล; 2541. หนา้ 142-9.
หมายเลข.ชือบรรณาธิการ, บรรณาธิการ.ชือ 2. Christensen S, Oppacher F. An analysis of Koza’s
computational effort statistic for enetic
เรือง.ชือการประชุม; วนั เดือน ปี programming. In: Foster JA, Lutton E, Miller J,
ประชุม;สถานทีจดั ประชุม.เมืองที Ryan C, Tettamanzi AG, editors.Genetic
พิมพ:์  สาํ นกั พมิ พ;์ ปี ทีพมิ พ.์ programming. EuroGP 2002: Proceedings of
the 5th European Conference on
1. อนุวฒั น์ ศภุ ชุติกุล, งามจิตต์ จนั ทรสาธิต, Genetic Programming; 2002 Apr 3-5; Kinsdale,
บรรณาธิการ. นโยบายสาธารณะเพือสุขภาพ.. Ireland. Berlin: Springer; 2002. pp.182-91.
เอกสารประกอบการประชุมวชิ าการสถาบนั วิจยั . รายงานการวจิ ัย พมิ พ์โดยผู้ให้ทุน
ระบบสาธารณสุข ครังที 2 เรือง ส่งเสริมสุขภาพ:
บทบาทใหมแ่ ห่งยคุ ของทุกคน; 6-8 พฤษภาคม หมายเลข.ชือผูน้ ิพนธ์.ชือเรือง.เมืองทีพิมพ์:
2551; ณ โรงแรมโบ๊เบท๊ าวเวอร์. กรุงเทพมหานคร: หน่วยงานทีพิมพ์/แหล่งทุน;ปี ที
ดีไซร์; 2551. พิมพ.์ เลขทีรายงาน.
2. Kimura J, Shibasaki H, editors. Recent advances
in clinical neurophysiology. Proceedings of the 1. ศุภชยั คณุ ารัตนพฤกษ,์ ศุภสิทธิ พรรณนารุโณทpั
10th Interna- tional congerss of EMG and clinical การพฒั นากลไกการจ่ายเงินทีมีประสิทธิภาพ ใน
Neurophysiology; 1995 Oct 15-19; Kyoto, Japan. ระบบสาธารณสุขดว้ ยกลุ่มวินิจฉยั โรคร่วม.
Amsterdam: Elsevier;1996. กรุงเทพมหานคร: กองโรงพยาบาลภูมิภาค/
สถาบนั วจิ ยั ระบบสาธารณสุขไทย/องคก์ าร อนามยั
3.1 บ ท ค ว า ม ใน ก า ร ป ร ะ ชุ ม สั ม ม น า โลก; 2540.
(Conference paper) 2. Smith P, Golladay K. Payment for durable
หมายเลข.ชือผรู้ ายงาน. ชือบทความ. ใน: medical equipment billed during skilled nursing
facility stays. Final report. Dallas (TX): Dept. of
ชือบรรณาธิการ, บรรณาธิการ. ชือ Health and Human Services (US). Office of
การประชุม;ครังทีประชุม.วนั เดือนปี Evaluation and Inspections;1994. Report No. :
หรือปี เดือนวนั พร้อมรายละเอียดอืนๆ (ถา้ HHSIGOEI69200860.
มี); สถานทีประชุม:ผรู้ ับผิดชอบในการ .วิทยานพิ นธ์
พิมพ;์
ปี ทีพิมพ.์ หนา้ .

1. พทิ กั ษ์ พุทธวรชยั , กิตติ บุญเลิศนิรันดร์, ทนง
ศกั ดิ มณีวรรณ, พองาม เดชคาํ รณ, นภา ขนั สุภา.

หมายเลข.ชือผู้นิพนธ์.ชือเรื อง (ประเภท 75
ปริ ญญา).ภาควิชา คณะ.เมือง:
มหาวทิ ยาลยั ;ปี ทีไดป้ ริญญา. 2. Preventive Health Amendments of 1993. Pub
L No. 103-188, 107 Stat. 2226. (Dec 14,
1. ชยมยั ชาลี. ตน้ ทนุ ในการรักษาพยาบาลของ 1993).
โรงพยาบาลรัฐบาล: ศึกษาเฉพาะกรณีตวั อยา่ ง 4
โรงพยาบาลในเขตกรุงเทพมหานคร (วทิ ยานิพนธ์ . พจนานุกรม
ปริญญาเศรษฐศาสตร์มหาบณั ฑิต). 1. พจนานุกรมราชบณั ฑิตสถาน พ.ศ. 2525. พิมพ์
ภาควชิ าเศรษฐศาสตร์. บณั ฑิตวิทยาลยั ครังที . กรุงเทพมหานคร: อกั ษรเจริญทศั น์ ;
กรุงเทพมหานคร: จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั ; 2538 . หนา้ .
2530. 2. Stedman’s medical dictionary. 26thed.
2. Kaplan SJ. Post-hospital hone health care: Baltimore: Williams & Wilkins; 1995.
the elderly’s access and utillzation (dissertation). Apraxia; p. 199-20.
St. Louis (MO): Washing- ton Univ.; 1995.
. สิงพมิ พ์อืนๆ . สืออเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ Web based / online Databases
. บทความในหนังสือพมิ พ์ หมายเลข.ชือผแู้ ต่ง (Author).ชือบทความ (Title

หมายเลข.ชือผเู้ ขียน.ชือเรือง.ชือ of the article)  [ประเภทของสือ].ปี
หนงั สือพมิ พ์ พมิ พ์ [เขา้ ถึงเมือ/cited ปี เดือน วนั ที].
วนั เดือนปี ทีพิมพ;์ ส่วนที : เลขหนา้ เขา้ ถึงไดจ้ าก/ Available from:
(เลขคอลมั น์). http://………….

1. เพลิงมรกต. หมอ. หนงั สือพิมพไ์ ทยรัฐ วนั ที 1.Fanti S, Farsad M, Mansi L. Atlas of PET/CT:
๓๐ สิงหาคม ; 23. (คอลมั น์ ). a quick guide to image interpretation [Internet].
Berlin Heidelberg: Springer-Verlag; 2009 [cited
2. Lee G. Hospitalizations tied to ozone 2011 Jun 15]. Available from:
pollution: study estimates 50,000 http://www.amazon.com/Atlas-PETCT-Quick
adminissions annually. The Washington Post Interpretation/dp/3540777717
1996 Jun 21; Sect.A:3 (col.5). #reader_3540777717

. กฎหมาย .จิราภรณ์ จนั ทร์จร. การเขยี นรายการอา้ งอิงใน
1. พระราชบญั ญตั ิเครืองสําอาง . ประกาศ เอกสารวชิ าการทางการแพทย์ [อินเทอร์เน็ต].
กรุงเทพฯ: คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์
กระทรวงสาธารณสุข ฉบบั ที  พ.ศ. 2532, มหาวทิ ยาลยั ; 2551 [เขา้ ถึงเมือ 18 ต.ค. 2554].
ราชกิจจานุเบกษาเล่มที , ตอนที . (ลง เขา้ ถึงไดจ้ าก: http://liblog.dpu.ac.th/
วนั ที  สิงหาคม ). analyresource/wp-content/uploads/2010/
06/reference08.pdf

76 http://www.nejm.org/doi/pdf/

7.1. กรณีทไี ม่ปรากฏชือผู้นิพนธ์ให้เริมต้นจากอ้างองิ 10.1056/NEJMp1010466
1. National Organization for Rore Disease 2. วนั ดี สนั ติวุฒิเมธี. การแพทยพ์ าณิชย์ อาชญากร
[online]. 1999 Aug 16 [cited 1999 Aug 21];
Available from: URL: http://rarediseases.org/ ทีมองไม่เห็น. สารคดี [อินเทอร์เน็ต]. 2553
[เขา้ ถึงเมือ 20 กมุ ภาพนั ธ์ 2556];188-9 เขา้ ถึงได้
. บทความวารสารบนอนิ เทอร์เน็ต (Journal จาก: http://www.sarakadee.com/ feature/
article on the Internet) 2000/10/doctor.htm

หมายเลข.ชือผแู้ ต่ง (Author).ชือบทความ 4. การจัดส่งบทความต้นฉบับ
(Title of the article).ชือวารสาร (Title
of the Journal)  [ประเภทของ 1.ส่งบทความต้นฉบับ  ฉบับ ทีเว็ปไซต์
สือ].ปี พมิ พ์ [เขา้ ถึงเมือ/cited ปี เดือน https://www.tci-thaijo.org/index.php/dpcphs
วนั ที];ปี ที:
เลขหนา้ แรก-หนา้ สุดทา้ ย.เขา้ ถึงได้ 2) เรืองทีรับไว้ บรรณาธิการจะแจง้ ตอบรับ
จาก/ Available from: http://…………. เบืองตน้ ใหเ้ จา้ ของผลงานทราบ

1. Annas GJ. Resurrection of a stem-cell funding 3. ขนั ตอนการส่งบทความ
barrier--Dickey-Wicker in court. N Engl J Med http://bit.ly/2uvkSYQ
[Internet]. 2010[cited 2011 Jun 15];363:1687-
9. Available from: 4) บรรณาธิการจะจดั ส่งบทความกลบั คนื
เจา้ ของผลงานกรณีทีมีการแกไ้ ข

5) การรับบทความลงตีพิมพจ์ ะอยใู่ นดุลพินิจ
ของกองบรรณาธิการ โดยผลงานทีไดร้ ับการ
พิจารณาตีพมิ พจ์ ะแจง้ ใหท้ ราบอีกครัง เป็นหนงั สือ
ราชการ และเมือตีพมิ พแ์ ลว้ ผเู้ ขียนจะไดร้ ับวารสาร
ฉบบั จริง 1 ฉบบั หรือเทา่ จาํ นวนผเู้ ขียนบทความโดย
จะส่งใหผ้ เู้ ขยี นคนแรก ในทางตรงกนั ขา้ มหาก
ผลงานพจิ ารณาแลว้ ไม่รับลงตีพิมพ์ จะแจง้ ใหท้ ราบ

ทางe-mail


Click to View FlipBook Version