The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

E3 รายงานประจำปี 2562 สถาบันวิทยาศาสตร์การแพทย์ทหาร

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by E-Library DAS, 2021-09-07 08:06:23

รายงานประจำปี 2562 สถาบันวิทยาศาสตร์การแพทย์ทหาร

E3 รายงานประจำปี 2562 สถาบันวิทยาศาสตร์การแพทย์ทหาร

Keywords: E3,รายงานประจำปี 2562 สถาบันวิทยาศาสตร์การแพทย์ทหาร

สถาบนั วิจยั วิทยาศาสตรก์ ารแพทยท์ หาร

ARMED FORCES RESEARCH INSTITUTE OF MEDICAL SCIENCES

วัน เดือน ป ี รายการ

10 มิถุนายน – นิสติ สาขาชีววทิ ยา คณะวทิ ยาศาสตร์ จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั เข้าฝกึ งาน ณ กองวจิ ัย
19 กรกฎาคม 62 สถาบนั วจิ ัยวทิ ยาศาสตร์การแพทย์ทหาร จำ� นวน 1 คน คือ นางสาวธัญนจิ เดชเป้า

24 มิถุนายน – นิสิต คณะวิทยาศาสตรก์ ารแพทย์ มหาวิทยาลัยนเรศวร เขา้ ฝึกงาน ณ กองวิจยั และ
11 ตลุ าคม 2562 กองวเิ คราะห์ สถาบนั วจิ ยั วทิ ยาศาสตรก์ ารแพทยท์ หาร จำ� นวน 4 คน คอื นางสาวปทั ตมิ า มาไร,
นางสาวชนดิ าภา สมสขุ , นางสาวสริ วิ รรณ ศริ ิขนั ธ์ และ นางสาวพรรษชล คำ� สุข

24 กรกฎาคม 2562 นกั เรยี นแพทยท์ หาร วทิ ยาลยั แพทยท์ หารกองกำ� ลงั ปอ้ งกนั ตนเอง ประเทศญป่ี นุ่ จำ� นวน 4 นาย
เขา้ เย่ยี มชมดงู าน ณ กองวิจยั และกองวเิ คราะห์ สถาบันวจิ ยั วทิ ยาศาสตร์การแพทยท์ หาร

28 สงิ หาคม 2562 นักศึกษาแพทยท์ หาร/นักศกึ ษาแพทย์ วทิ ยาลยั แพทยศาสตร์พระมงกุฎเกลา้ ช้ันปีที่ 3 ร่นุ ที่ 43
จ�ำนวน 100 นาย เขา้ ดงู านทางหอ้ งปฏิบตั ิการจุลชวี วิทยา และไวรสั วิทยา
ณ สถาบันวิจยั วิทยาศาสตร์การแพทยท์ หาร

15 – 23 สงิ หาคม 2562 ส�ำนักงานผู้ช่วยทตู ทหารญีป่ ุน่ สง่ รอ้ ยโทหญิง Sakiko Tabata สงั กัด โรงพยาบาลกลาง
กองก�ำลังป้องกันตนเองทางบกญี่ปุ่น เข้าศึกษาดูงาน ณ กองวิจัย และหน่วยวิจัยฝ่ายสหรัฐฯ
สถาบันวจิ ยั วิทยาศาสตร์การแพทย์ทหาร

40 รายงานประจำ�ปี 2562 ANNUAL REPORT 2019

สถาบันวจิ ยั วทิ ยาศาสตร์การแพทยท์ หาร

ARMED FORCES RESEARCH INSTITUTE OF MEDICAL SCIENCES

กองอ�ำนวยการ

ภารกจิ
วางแผน อำ� นวยการ ประสานงาน และกำ� กบั การดำ� เนนิ งานทง้ั ปวงของสถาบนั วจิ ยั วทิ ยาศาสตรก์ ารแพทยท์ หาร
ให้เป็นไปตามนโยบายทก่ี ำ� หนด
 
การแบ่งสว่ นราชการและหน้าท่ี
1. แผนกธุรการและก�ำลังพล
มีหน้าท่ี วางแผน ด�ำเนินการ ประสานงานในด้านสารบรรณและธุรการท้ังปวง งานด้านก�ำลังพล สวัสดิการ
เคร่อื งราชอิสริยาภรณ์ บ�ำเหนจ็ การรกั ษาความปลอดภัย และการรักษาความสะอาดสถานท่ี
2. แผนกแผนโครงการและงบประมาณ
มีหน้าที่ จัดท�ำแผนการด�ำเนินงานของสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์การแพทย์ทหาร ทั้งในด้านบริหารหน่วย
ดา้ นงบประมาณ และด้านวิชาการ รวมทั้งกำ� กับดแู ลและประสานงานให้เปน็ ไปตามแผนงานทก่ี ำ� หนด อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ
3. แผนกการเงิน
มีหน้าที่ ด�ำเนินงานเกี่ยวกับการเงิน การรับ-จ่ายเงิน การบัญชี ทั้งเงินในงบประมาณและนอกงบประมาณ
การเก็บรักษาเงนิ บัญชี หลักฐานประกอบบัญชี ตลอดจนหลกั ฐานอืน่ ๆ ในความรบั ผิดชอบ ให้เปน็ ไปตามระเบยี บของทาง
ราชการ
4. แผนกศกึ ษาและวิเทศสัมพันธ์
มีหน้าที่ จดั ทำ� แผน และอ�ำนวยการประสานงานเกี่ยวกบั การฝกึ ศกึ ษา อบรม ดูงาน ของข้าราชการในหนว่ ย
รวมถึงบคุ คลภายนอกท้งั ในประเทศและตา่ งประเทศ
5. แผนกสารสนเทศและเวชนิทศั น์
มหี นา้ ที่ ดำ� เนนิ งานสนบั สนนุ ดา้ นสารสนเทศ ดว้ ยการจดั ตงั้ และดแู ลระบบเครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอร์ การฝกึ อบรม
การพัฒนาโปรแกรมส�ำเร็จรูปเพื่อพัฒนาขีดความสามารถของหน่วย ตลอดจนจัดท�ำส่ือส่ิงพิมพ์ สื่ออิเล็กโทรนิกส์ เพื่อ
การเผยแพร่ผลงานของหนว่ ย
6. แผนกสนบั สนุน
มีหนา้ ท่ี ดำ� เนินงานด้านสง่ ก�ำลงั สายแพทย์ พลาธิการ ยทุ ธโยธา และการขนส่ง
 

รายงานประจ�ำ ปี 2562 ANNUAL REPORT 2019 41

สถาบนั วจิ ยั วิทยาศาสตรก์ ารแพทยท์ หาร

ARMED FORCES RESEARCH INSTITUTE OF MEDICAL SCIENCES

กองวิจัย

ภารกจิ
ศกึ ษาวจิ ัยพัฒนาโรคตดิ เชือ้ ทเี่ ป็นอปุ สรรคต่อการปฏิบัติการทางทหารและความมนั่ คงของชาติ

การแบ่งส่วนราชการและหน้าท่ี
1. แผนกจุลชวี วิทยา
มหี นา้ ที่ ศกึ ษาวจิ ยั โรคตดิ เชอ้ื ทส่ี ำ� คญั ตอ่ การปฏบิ ตั กิ ารทางทหาร โรคตดิ เชอื้ อบุ ตั ใิ หม่ อบุ ตั ซิ ำ�้ ผลติ ผลงานวจิ ยั
ส้รางองคค์ วามร้ใู หมเ่ ป็นขอ้ มูลข่าวกรองทางการแพทย์ เพื่อให้คำ� แนะน�ำ ใช้ในการเวชกรรมป้องกนั ควบคมุ การแพรก่ ระจาย
ของโรค
2. แผนกระบาดวิทยา
มีหน้าท่ี ดำ� เนนิ การศกึ ษาวจิ ยั เฝ้าระวังโรคตดิ เชื้อท่ีเป็นอุปสรรคตอ่ การปฏิบตั กิ ารทางทหาร และความม่นั คง
ของชาติ สบื สวนหาสาเหตขุ องการระบาดของโรคในพนื้ ทปี่ ฏบิ ตั กิ ารทางทหาร เพอ่ื หยดุ ยง้ั การแพรร่ ะบาดของโรค และพจิ ารณา
หามาตรการการปฏิบัติทีเ่ หมาะสมในการควบคุมป้องกันโรคเชงิ รกุ ให้แกก่ �ำลงั พล
3. แผนกพยาธิวิทยา
มีหน้าที่ ศึกษาวิจัย พัฒนาเทคนิควิธีการตรวจวินิจฉัยโรคติดเชื้อท่ีเป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติการทางทหาร
และความม่ันคงของชาติ น�ำองค์ความรู้ ผลงานวิจัยพัฒนามาให้บริการตรวจวินิจฉัยโรค ลดการสูญเสียด้านก�ำลังพล และ
ดา้ นเศรษฐกจิ ของชาติ

บทสรปุ ผู้บรหิ าร ปงี บประมาณ 2562 (Executive Summary Fiscal Year 2019)

กองวจิ ยั ไดร้ บั มอบภารกจิ ใหด้ ำ� เนนิ การศกึ ษาวจิ ยั พฒั นาดา้ นโรคตดิ เชอื้ ทเี่ ปน็ อปุ สรรคตอ่ ปฏบิ ตั กิ ารทางทหาร
และความมั่นคงของชาติ เพ่ือผลิตผลงานวิจัยพัฒนาเป็นองค์ความรู้ใหม่ ข่าวกรองทางการแพทย์ นวัตกรรม ส่ิงประดิษฐ์
น�ำมาใช้ประโยชน์ในการอนุรักษ์ก�ำลังรบ ลดความสูญเสียก�ำลังพลท่ีมีสาเหตุจากโรคติดเช้ือ ควบคุมการแพร่ระบาดของโรค
ในปงี บประมาณ 2562 กองวิจยั ดำ� เนนิ งานเฝา้ ระวังโรคเชิงรกุ ภัยคุกคามทางการแพทยใ์ นพืน้ ทีช่ ายแดน หาข้อมูลขา่ วกรอง
ทางการแพทยท์ ง้ั ในพนื้ ทป่ี ฏบิ ตั กิ ารทหารเพอ่ื ความมน่ั คง และพนื้ ทฝ่ี กึ ภาคสนาม การเตรยี มพรอ้ มรบั มอื โรคอบุ ตั ใิ หม่ อบุ ตั ซิ ำ�้
พลวัตรของงานวิจัย และงานบริการ ผลงานวิจัย 4.0 การพัฒนาบุคคลากรวิจัย แหล่งฝึกศึกษา การเผยแพร่ผลงานวิจัย
ในระดับชาติและนานาชาติ ด�ำเนินการโดยหน่วยขนึ้ ตรง 3 แผนก คอื แผนกจลุ ชีววิทยา แผนกระบาดวิทยา และแผนกพยาธิ
วิทยา สรุปผลการด�ำเนนิ งานท่ีสำ� คัญดงั นี้
1. กองวจิ ยั
1.1 การจัดชุดปฏิบัติการเคลื่อนที่ตรวจวินิจฉัยโรคภาคสนาม กวจ.สวพท. ได้จัดชุดปฏิบัติการเคลื่อนที่
ที่มีขีดความสามารถด�ำเนินงานภาคสนามเพ่ือตอบโต้ภัยคุกคามทางการแพทย์ ประกอบด้วยบุคลากรทางการแพทย์ 2 ชุด
ชดุ ละ 5 นาย ทปี่ ระกอบดว้ ย นกั เทคนคิ การแพทยห์ รอื นกั วทิ ยาศาสตรก์ ารแพทย์ พยาบาล เจา้ หนา้ ทหี่ อ้ งปฏบิ ตั กิ าร และพลขบั
สามารถออกพน้ื ทร่ี ะบาดของโรคไดภ้ ายใน 24 ชวั่ โมง เมอื่ มกี ารรอ้ งขอ โดยใชห้ อ้ งปฏบิ ตั กิ ารเคลอื่ นที่ สนบั สนนุ การปฏบิ ตั งิ าน
ในพ้ืนท่ีภาคสนาม ชุดปฏิบัติการเคล่ือนท่ีสามารถปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 10 วัน/ชุด ท�ำการจัดเก็บและเตรียม
ตวั อย่างนำ� ส่งห้องปฏิบตั กิ ารมาตรฐานได้อย่างปลอดภยั หรอื ทำ� การตรวจวินิจฉัยโรคในพ้ืนท่ีทันทีในห้องปฏิบตั ิการเคลือ่ นที่

42 รายงานประจำ�ปี 2562 ANNUAL REPORT 2019

สถาบันวจิ ยั วทิ ยาศาสตร์การแพทย์ทหาร

ARMED FORCES RESEARCH INSTITUTE OF MEDICAL SCIENCES

กวจ.สวพท. มเี ครอ่ื งมอื ทางการแพทย์ ทพี่ รอ้ มปฏบิ ตั กิ ารภาคสนาม ทปี่ ระกอบดว้ ย เครอ่ื ง Real-time PCR ตชู้ วี นริ ภยั ระดบั 2
ตแู้ ชแ่ ขง็ ลบ 20 องศาเซลเซยี ส และอปุ กรณส์ กดั สารพนั ธกุ รรม DNA/RNA พรอ้ มตรวจวนิ จิ ฉยั โรคภาคสนาม อาทิ ไขม้ าลาเรยี
ไขร้ ิคเค็ทเซีย ไขเ้ ลือดออก ไข้ซิกา และชิกนุ คุณยา
1.2 การส�ำรวจข่าวกรองทางการแพทย์ในพื้นที่ฝึก หน่วยทหารรักษาพระองค์/เหล่าทัพ (กฝร.รอ.62)
ในปี 2562 มกี ารฝกึ รว่ มหนว่ ยทหารรกั ษาพระองค/์ เหลา่ ทพั (กฝร.รอ.๖๒) ทม่ี กี ารฝกึ แลกเปลยี่ นและการฝกึ ภาคสนามในพนื้ ที่
จว.ลพบุรี ในหว้ งเดอื น กมุ ภาพันธ์ 2562 ผู้บงั คบั บัญชาของ พบ. มีขอ้ หว่ งใยในการดแู ลการป่วยเจ็บของกำ� ลังพลท่ีร่วมฝึก
ภาคสนามในสถานการณจ์ ริง จงึ ส่ังการให้ สวพท. ด�ำเนนิ การจัดชุดสำ� รวจ ประเมนิ ค่า ปัจจยั ต่าง ๆ จากพน้ื ท่ีฝึกท่ีอาจส่งผล
กระทบต่อสุขภาพก�ำลังพล โดยมุ่งเน้นการควบคุมโรคท่ีเกิดจากแมลงและสัตว์ที่เป็นพาหะน�ำโรคและแหล่งรังโรค แล้วให้
รายงานผลการดำ� เนนิ งานให้ พบ. (ทก.แพทยส์ นาม) ทราบขอ้ มลู ทไี่ ดม้ า เพอ่ื นำ� ขอ้ มลู ไปใชเ้ วชกรรมปอ้ งกนั กำ� ลงั พลระหวา่ งฝกึ
สวพท. โดย กวจ. ได้จดั ชดุ สำ� รวจเขา้ พ้ืนท่ีฝึก จังหวัดลพบรุ ี ระหวา่ ง วันท่ี 17 - 23 ธันวาคม 2561 เพ่ือส�ำรวจหาขา่ วกรอง
การแพทย์ จากการสำ� รวจพน้ื ทที่ ำ� ใหท้ ราบวา่ พน้ื ทฝี่ กึ มโี รคทร่ี ะบาดอยา่ งรนุ แรงอยใู่ นหมปู่ ระชาชนทอ่ี าศยั อยใู่ นพนื้ ทฝ่ี กึ ขณะนนั้
คือ โรคไข้เลือดออก โรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน และส�ำรวจพบแมลงพาหะน�ำโรคติดต่อดังกล่าวท่ีอาจน�ำโรคมาสู่ก�ำลังพลได้
คือ ยงุ ลายและแมลงวัน จำ� นวนมาก นอกจากน้ันทมี สำ� รวจยังตรวจพบ ไร่ปา่ เห็บ หมดั และหนู ในพน้ื ท่ตี ดิ เชือ้ รคิ เคท็ เซยี
ในอตั ราทสี่ งู มาก สำ� หรบั สตั วม์ พี ษิ ทเ่ี ปน็ ปญั หา พบวา่ ประชาชนในพนื้ ที่ ถกู แมงมมุ พษิ และงกู ะปะกดั ในดา้ นสง่ิ แวดลอ้ มพบวา่
น้�ำในพ้ืนที่มีการปนเปื้อนสารเคมีที่อาจส่งผลกับก�ำลังพลท่ีมีแผลที่อาจเกิดอาการอักเสพรุนแรงได้หากเหยียบย�่ำแหล่งน้�ำ
ขณะฝกึ หลังการสำ� รวจ กวจ.สวพท. ไดน้ �ำข้อมลู ข่าวกรองทางการแพทยท์ ี่ได้ รายงานให้ พบ. ทราบเพื่อนำ� ไปใช้ป้องกนั ภัย
คกุ คามทางการแพทย์ดงั กลา่ ว ให้กบั กำ� ลังพลทีฝ่ ึกภาคสนามตอ่ ไป

2. แผนกจลุ ชวี วทิ ยา
แผนกจุลชีววิทยา กวจ.สวพท. รับมอบภารกิจ ศึกษาวิจัยพัฒนาเทคนิคการตรวจวินิจฉัยโรคติดเช้ือท่ีเป็นภัย
คกุ คามทางทหาร ดำ� เนินการทางห้องปฏบิ ัตกิ ารสนบั สนนุ การสบื สวนควบคุมโรคระบาดในชมุ ชนทหาร พฒั นาเครือข่ายวิจยั
บูรณาการงบประมาณ ก�ำลังพล และวัสดุอุปกรณ์ในการวิจัย เพื่อให้ได้ผลงานไปใช้ประโยชน์อย่างสูงสุดต่อกองทัพบก และ
ประเทศชาติ รวมท้ังสนบั สนุนการฝึกอบรมด้านวิชาการใหก้ ับหนว่ ยงานท้งั ในประเทศ และนานาชาติ ในปีงบประมาณ 2562
ด�ำเนินโครงการวิจัยทางด้านวิทยาภูมิคุ้มกัน อณูชีวโมเลกุล ลักษณะยีนด้ือยาของเช้ือก่อโรค อุบัติใหม่ อุบัติซ้�ำ เพื่อให้ได้
องค์ความรู้ใหม่ มาใชใ้ นการเวชกรรมป้องกันควบคมุ รกั ษาโรค ดงั นี้
2.1 การสำ� รวจการดอื้ ยาระดบั โมเลกลุ ในหลอดทดลองของเชอ้ื มาลาเรยี ในประเทศไทย เปน็ ความรว่ มมอื
ระหวา่ งสถาบันวิจยั วทิ ยาศาสตรก์ ารแพทยท์ หาร ฝา่ ยไทยและฝา่ ยสหรฐั อเมริกา เร่ิมเกบ็ ตัวอยา่ งต้งั แต่วันที่ 3 มนี าคม 2562
ถงึ 16 มีนาคม 2563 ไดต้ วั อยา่ งจำ� นวนทั้งสิน้ 83 ราย แบง่ เป็นชนิด Pf 9 ราย (ร้อยละ 10.8) และ Pv 74 ราย (รอ้ ยละ 89.2)
ขณะนี้ก�ำลังด�ำเนินการตรวจวิเคราะห์ตัวอย่างดังกล่าวทางห้องปฏิบัติการ และโครงการจะด�ำเนินการเก็บตัวอย่างต่อเน่ือง
ไปจนถงึ ปี พ.ศ.2566
2.2 การศึกษาลักษณะแบบแผนการด้ือต่อยาปฏิชีวนะของเช้ือ N. gonorrheoae ในผู้ป่วยผู้ใหญ่ที่มา
รกั ษาทโ่ี รงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าและโรงพยาบาลทหารอนื่ ๆ เกบ็ ตวั อยา่ งไดจ้ �ำนวน 95 ราย ระหว่างวันท่ี 1 ตุลาคม
2561 ถึง 30 กันยายน 2562 สามารถแยกเชอ้ื ได้ 81 ราย (รอ้ ยละ 85.0) ด�ำเนนิ การศึกษา Multidrug Resistance พบวา่
รอ้ ยละ 100 ของ cefixime cefeprim spectinomycin และ cetriazone สามารถรกั ษาการตดิ เชอ้ื ไดท้ ง้ั หมด สว่ นยา azithromycin,
tetracycline, pencillin G และ ciprofloxacin พบว่า มเี ช้ือท่ดี ือ้ ยา ร้อยละ 2.5, 92.6, 91.4 และ 97.5 ตามล�ำดับ
2.3 การผลิตโมโนโคลนอลแอนติบอดีเพื่อการรักษาผู้ติดเช้ือเอชไอวี-1 เป็นโครงการผลิตและพัฒนา
โมโนโคลนอลแอนตบิ อดตี อ่ เชอ้ื เอชไอว-ี 1 จากผตู้ ดิ เชอื้ รายใหม่ ทเี่ ปน็ ความรว่ มมอื ของสองหนว่ ยงาน คอื กองวจิ ยั สถาบนั วจิ ยั
วทิ ยาศาสตรก์ ารแพทยท์ หารและศนู ยค์ วามเปน็ เลศิ ดา้ นการวจิ ยั แอนตบิ อดี คณะเวชศาสตรเ์ ขตรอ้ น มหาวทิ ยาลยั มหดิ ล โดย
น�ำตัวอย่างน้�ำเหลืองผู้ติดเชื้อเอชไอวี-1 รายใหม่ จ�ำนวน 20 คน มาศึกษาปฏิกิริยาการตอบสนองของภูมิคุ้มกันด้านสารน้�ำ
ของรา่ งกายต่อไวรสั ต่าง ๆ ท่ีมคี ณุ สมบัติท่ีแตกต่างกัน ท้ังสบั ทยั ป์และชนดิ ของไวรัส โดยวธิ ี Neutralization Assays อ่านค่า

รายงานประจ�ำ ปี 2562 ANNUAL REPORT 2019 43

สถาบันวิจัยวิทยาศาสตรก์ ารแพทยท์ หาร

ARMED FORCES RESEARCH INSTITUTE OF MEDICAL SCIENCES

Relative Light Unit (RLU) ดว้ ยเครอื่ ง Luminometer พรอ้ มทัง้ ทดสอบหาคา่ ID50 (inhibition reciprocal concentration)
ผลการวเิ คราะหข์ อ้ มูลท่ีไดจ้ ากการทดสอบ พบว่า มตี ัวอย่างทน่ี ำ� มาศกึ ษาจำ� นวน 6 ตัวอยา่ ง ใหค้ า่ NT สูง มีความเหมาะสม
ในการผลิตโมโนโคลนอลแอนติบอดี ผู้วิจัยจึงเก็บเม็ดเลือดขาวจากตัวอย่างดังกล่าว ส่งไปยังศูนย์ความเป็นเลิศด้านการวิจัย
แอนติบอดี เพอ่ื ดำ� เนินการผลติ โมโนโคลนอลแอนตบิ อดตี ่อไป

3. แผนกระบาดวทิ ยา
รับมอบภารกิจให้ด�ำเนินการศึกษาวิจัยเฝ้าระวังเชิงรุกภัยคุกคามทางการแพทย์พ้ืนที่ชายแดน ท่ีเป็นอุปสรรค
ต่อปฏิบัติการทางทหาร และความม่ันคงของชาติ การหาข้อมูลข่าวกรองทางการแพทย์ทั้งในพื้นท่ีปฏิบัติการทหารเพ่ือ
ความม่ันคง และพ้ืนที่ฝึกภาคสนาม ในปีงบประมาณ 2562 ด�ำเนินโครงการวิจัยเฝ้าระวังโรคไข้มาลาเรียที่เป็นปัญหาโรค
ตดิ เชอ้ื สำ� คญั ตามแนวชายแดน เพอ่ื ทราบสถานการณป์ ญั หา ใหไ้ ดอ้ งคค์ วามรใู้ หม่ มาใชใ้ นการเวชกรรมปอ้ งกนั ควบคมุ รกั ษา
โรค ดงั นี้
3.1 การเฝา้ ระวงั โรคมาลาเรยี สำ� หรบั ทหารทป่ี ฏบิ ตั หิ นา้ ทต่ี ามแนวชายแดน เปน็ โครงการเชงิ รกุ เพอื่ คน้ หา
กำ� ลงั พลทป่ี ว่ ยเปน็ ไขม้ าลาเรยี หรอื กอ่ นแสดงอาการ เพอื่ ใหก้ ารรกั ษา ตดั วงจรแพรร่ ะบาดของโรค รวมทงั้ เกบ็ ขอ้ มลู ขา่ วกรอง
ทางการแพทยโ์ รคไขม้ าลาเรียในพ้นื ทีม่ าใช้วางแผนเฝ้าระวงั ปอ้ งกนั ควบคมุ โรคใหก้ ับก�ำลังพลในปีต่อไป ปงี บประมาณ 2562
แผนกระบาดวทิ ยา ดำ� เนนิ การเชงิ รกุ ตรวจการตดิ เชอื้ มาลาเรยี ในกำ� ลงั พลทปี่ ฏบิ ตั หิ นา้ ทตี่ ามแนวชายแดน 6 กองกำ� ลงั จำ� นวน
ทง้ั สิ้น 7,131 นาย พบผ้ตู ดิ เชอื้ 22 นาย (รอ้ ยละ 0.3) เป็นเชอ้ื PF 4 นาย (ร้อยละ 18.2) PV 17 นาย (ร้อยละ 77.3) และ PF
รว่ มกับ PV 1 นาย (รอ้ ยละ 4.5) ผลจากการตรวจพบผูป้ ่วยดงั กล่าว แผนกระบาดวทิ ยา ได้ด�ำเนินการรักษาพยาบาลใหก้ บั
ผปู้ ว่ ยทนั ที เพอ่ื ตดั วงจรการระบาดของโรค ไมใ่ หแ้ พรก่ ระจายไปยงั เพอ่ื นรว่ มฐานปฏบิ ตั กิ ารตอ่ ไป เมอ่ื นำ� ขอ้ มลู การดำ� เนนิ งาน
มาจ�ำแนกเป็นพ้ืนท่ีชายแดนและกองก�ำลังต่าง ๆ ที่ปฎิบัติหน้าท่ีตามแนวชายแดน มีข้อมูลการด�ำเนินงานดังต่อไปนี้ พ้ืนที่
ชายแดนไทย-กัมพูชา กกล.สุรนารี ตรวจเลือดก�ำลังพล จำ� นวน 4,515 นาย พบผตู้ ิดเชอ้ื 22 นาย (ร้อยละ 0.5) เป็นเชอ้ื PF
4 นาย (รอ้ ยละ 18.2) PV 17 นาย (รอ้ ยละ 77.3) และ PF ร่วมกบั PV 1 นาย (รอ้ ยละ 4.5) กกล.บรู พา ตรวจเลือดกำ� ลงั พล
จ�ำนวน 625 นาย ไม่พบการติดเชอื้ พ้นื ทีช่ ายแดนไทย-เมยี นมา กกล.นเรศวร ตรวจเลอื ดก�ำลงั พล จำ� นวน 802 นาย ไมพ่ บ
การตดิ เช้อื กกล.สรุ สีห์ ตรวจเลอื ดกำ� ลังพล จ�ำนวน 228 นาย ไม่พบการติดเช้ือ กกล.ผาเมอื ง ตรวจเลือดก�ำลงั พล จ�ำนวน
790 นาย ไมพ่ บการตดิ เชอื้ กกล.เทพสตรี ตรวจเลอื ดกำ� ลงั พล จำ� นวน 171 นาย ไมพ่ บการตดิ เชอ้ื นอกจากการตรวจมาลาเรยี
เชิงรุกแล้ว แผนกระบาดวิทยา ได้เก็บข้อมูลการเจ็บป่วยโรคมาลาเรียของก�ำลังพล จากรายงานของหน่วยต่าง ๆ ท่ีปฏิบัติ
หนา้ ทตี่ ามแนวชายแดนตลอดปงี บประมาณ 2562 พบวา่ มกี ำ� ลงั พลปว่ ยโรคมาลาเรยี ทง้ั สนิ้ 146 นาย คดิ เปน็ รอ้ ยละ 3.2 พบวา่
มจี ำ� นวนเพ่มิ ขึ้นเมื่อเปรยี บเทียบกบั ปีงบประมาณ 2559, 2560, 2561 (รอ้ ยละ 4.3, 3.3 และ 7.5 ตามลำ� ดบั ) ผลการดำ� เนนิ
โครงการท�ำให้ สวพท. ได้ข้อมูลสถานการณ์ไข้มาลาเรียในทหารท่ีสามารถน�ำมาก�ำหนดพ้ืนที่เสี่ยง ใช้วางแผนการป้องกัน
ควบคุมโรคเฉพาะพ้ืนที่ได้เป็นอย่างดี ใช้วางแผนการส่งก�ำลังยุทธภัณฑ์ป้องกันควบคุมโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ ใช้เป็น
ข้อมูลพ้ืนฐานในการออกแบบงานวิจัยพัฒนาเฝ้าระวังโรคไข้มาลาเรียเพื่อลดอัตราการสูญเสียก�ำลังพล ใช้ควบคุมการระบาด
ของโรคในพ้นื ทตี่ ดิ เชื้อสูง พร้อมท้งั สามารถสนบั สนนุ ชดุ เจาะเลือด ชุดตรวจหาเช้อื มาลาเรียชนิดเรว็ ยารักษาโรค ให้ก�ำลังพล
สามารถท�ำการเจาะเลือดตรวจหาเชื้อมาลาเรีย รักษาพยาบาลตนเองได้ในเบื้องต้นขณะปฏิบัติหน้าที่หน้าแนว ก่อนเข้ารับ
การรักษาตัวในโรงพยาบาลต่อไป
3.2 โครงการเฝ้าระวังโรคที่เป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติการทางทหาร เป็นโครงการตามแผนยุทธศาสตร์
เสรมิ สรา้ งศักยภาพการป้องกันประเทศ พัฒนาขดี ความสามารถของกองทัพ แผนกระบาดวิทยา ด�ำเนินการรวบรวมรายงาน
การเจ็บป่วยของกำ� ลงั พลทีอ่ อกปฏบิ ัติหนา้ ท่ีราชการสนามชายแดน โดยไดร้ บั ขอ้ มลู จาก 4 กองทัพภาค เป็นประจำ� ทุกเดือน
การวเิ คราะหข์ อ้ มลู พบวา่ ปญั หาสขุ ภาพทส่ี ำ� คญั ของกำ� ลงั พลในแตล่ ะกองทพั ภาค ตามรายงาน มดี งั น ี้ ทภ.1 ปญั หาสขุ ภาพ
ที่พบใน 3 อันดับแรก คือ โรคติดเชื้อทางเดินหายใจ อาการปวดศีรษะ และโรคความดันโลหิตสูง ตามล�ำดับ ทภ.2 ปัญหา
สุขภาพทพี่ บใน 3 อันดับแรก คือ โรคกระดูกและกล้ามเนอื้ โรคติดเช้อื ทางเดินหายใจ และโรคมาลาเรยี ตามล�ำดบั สำ� หรบั
โรคมาลาเรีย ทพี่ บว่าก�ำลงั พลในพน้ื ท่ี ทภ.2 ป่วยด้วยโรคมาลาเรียค่อนขา้ งสูง มจี ำ� นวน 201 นาย แผนกระบาดวทิ ยา จงึ ได้

44 รายงานประจำ�ปี 2562 ANNUAL REPORT 2019

สถาบันวิจยั วิทยาศาสตรก์ ารแพทยท์ หาร

ARMED FORCES RESEARCH INSTITUTE OF MEDICAL SCIENCES

จดั ทำ� โครงการควบคมุ และกำ� จดั การตดิ เชอ้ื มาลาเรยี ในกำ� ลงั พลใหเ้ ปน็ 0 ในพนื้ ท่ี อำ� เภอกนั ทรลกั ษ์ จงั หวดั ศรสี ะเกศ เปน็ ตน้
แบบ ทภ.3 ปญั หาสุขภาพท่พี บใน 3 อนั ดบั แรกไดแ้ ก่ โรคตดิ เชอ้ื ระบบทางเดินหายใจ โรคกระดกู และกลา้ มเนอ้ื โรคกระเพาะ
อาหาร ตามลำ� ดับ เปน็ ทนี่ า่ สังเกตุวา่ ในพนื้ ที่ ทภ.3 ลกั ษณะปัญหาสุขภาพของก�ำลงั พล มคี วามหลากหลายมากจากข้อมูล
สภาวะสขุ ภาพ พบวา่ มกี ำ� ลงั พลปว่ ยอยใู่ นกลมุ่ โรคอน่ื ๆ จำ� นวนสงู ถงึ 133 นาย แตใ่ นพนื้ ทน่ี ้ี ไมพ่ บผปู้ ว่ ยโรคมาลาเรยี สวพท.
สามารถนำ� ขอ้ มลู การเจบ็ ปว่ ยของกำ� ลงั พลทไ่ี ดร้ บั รายงานนำ� มาวเิ คราะห์ ใชเ้ ปน็ ขา่ วกรองทางการแพทยป์ ระกอบการวางแผน
สนบั สนนุ ทางเวชภณั ฑ์ ใชเ้ ปน็ ขอ้ มลู พนื้ ฐานในการออกแบบงานวจิ ยั พฒั นาเฝา้ ระวงั โรคและการตรวจวนิ จิ ฉยั ทางหอ้ งปฏบิ ตั กิ าร
ต่าง ๆ ได้
3.3 โครงการตดิ อาวธุ ใหค้ วามรู้ ตอ่ ส้โู รคไข้มาลาเรยี ให้กบั ก�ำลังพลท่ีปฏิบัติหน้าทีภ่ าคสนาม ในพื้นที่
ระบาดตามแนวชายแดน โรคไข้มาลาเรยี ยังเปน็ ปัญหาท่ีส�ำคัญในพ้ืนทต่ี ามแนวชายแดนของประเทศไทย ในปี 2561 พ้นื ท่ี
ปฏบิ ตั กิ ารทางทหารตามแนวชายแดน ไทย-กมั พชู า ในความรบั ผดิ ชอบของกองกำ� ลงั สรุ นารี มกี ำ� ลงั พลตดิ เชอ้ื มาลาเรยี สงู สดุ
จำ� นวน 342 นาย เปน็ เชอ้ื พลาสโมเดยี มไวแวกซ์ 295 นาย พลาสโมเดยี มฟลั ชปิ ารมั 32 นาย ตดิ เชอ้ื รว่ ม 15 นาย สถาบนั วจิ ยั
วิทยาศาสตร์การแพทย์ทหาร โดย แผนกระบาดวิทยา ได้จัดท�ำโครงการเสริมสร้างความพร้อมต่อสู้โรคไข้มาลาเรีย ส�ำหรับ
ก�ำลังพลท่ีจะออกปฏิบัติหน้าท่ีในพื้นท่ีระบาดของโรคมาลาเรียตามแนวชายแดน โดยการให้ความรู้เกี่ยวกับโรคไข้มาลาเรีย
การสร้างวิทยากรในพ้ืนที่ การฝึกอบรมใช้ชุดตรวจด่วนตรวจหาเช้ือมาลาเรีย โดยด�ำเนินโครงการก่อนก�ำลังพลออกปฏิบัติ
หนา้ ทตี่ ามแนวชายแดน ในหว้ งเดอื นตลุ าคม และเมษายน ของทกุ ปี แผนกระบาดวทิ ยา ไดจ้ ดั อบรมใหค้ วามรโู้ รคไขม้ าลาเรยี
ใหก้ ับกำ� ลงั พล ในหว้ งที่ 1 ในเดอื น มนี าคม ห้วงที่ 2 เดือน กนั ยายน 2562 ณ กรมทหารราบที่ 6 จังหวัดอุบลราชธานี โดยมี
ตัวช้ีวดั หลังการดำ� เนนิ โครงการใน 3 หัวขอ้ คอื การติดเชื้อมาลาเรยี รายใหม่ในก�ำลงั พลที่เขา้ รว่ มโครงการกำ� หนดเปา้ หมาย
ไม่เกินร้อยละ 10 การประเมินความรู้ของก�ำลังพลท่ีเข้าร่วมโครงการให้มีความรู้เรื่องโรคไข้มาลาเรียเพ่ิมข้ึนหลังการอบรม
ในโครงการอยา่ งน้อย 1 ระดับ กำ� หนดเป้าหมาย ร้อยละ 75 และความพึงพอใจของกำ� ลงั พลที่มตี อ่ โครงการระดบั ดีถงึ ดีมาก
ก�ำหนดเป้าหมาย ร้อยละ 80 ผลการด�ำเนินงาน พบว่า ก�ำลังพลเข้าร่วมอบรม จ�ำนวน 650 นาย ก�ำลังพลมีความรู้เร่ือง
โรคไขม้ าลาเรยี เพิม่ ขนึ้ อยา่ งน้อย 1 ระดับเมื่อเทียบกับกอ่ นอบรม รอ้ ยละ 80.16 และมีความพงึ พอใจตอ่ โครงการ ระดับดถี ึง
ดีมาก ร้อยละ 86.98 ผลการตรวจเลอื ดก�ำลงั พลระหวา่ งปฏบิ ัติหน้าท่ีตามแนวชายแดน พบเช้ือมาลาเรยี รอ้ ยละ 1.2
3.4 การตรวจยืนยันภาวะปลอดเช้ือมาลาเรียให้กับก�ำลังพลท่ีจะปฏิบัติภารกิจ UNMISS สวพท. ได้
สนบั สนนุ งานตรวจยนื ยนั การตดิ เชอื้ มาลาเรยี ดว้ ยวธิ ี Real-time PCR ตามมาตรฐานขององคก์ ารอนามยั โลก ใหก้ บั กองทพั บก
ในก�ำลังพล ร้อย.ช.ก่อสร้าง (ทางระดับ) ก่อนปฏิบัติภารกิจการรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ ในประเทศสาธารณรัฐ
เซาทซ์ ดู าน (United Nations Mission in South Sudan : UNMISS) จำ� นวน 283 นาย แผนกระบาดวทิ ยา กวจ.สวพท. สามารถ
ตรวจยืนยันและออกผลการตรวจ ภาวะปลอดเชอ้ื มาลาเรยี ของก�ำลงั พลทง้ั 283 นาย ไดภ้ ายใน 3 วนั ท�ำการ ซ่ึงเป็นผลงานท่ี
ยืนยันถึงการน�ำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรม ตอบสนองภารกิจของกองทัพบก ของ กองวิจัย สถาบันวิจัย
วทิ ยาศาสตรก์ ารแพทยท์ หาร ทเี่ ปน็ ทเ่ี ชอ่ื ถอื ผลงานในระดบั นานาชาติ สง่ ผลใหก้ ำ� ลงั พลกองทพั บก สามารถเขา้ ปฏบิ ตั ภิ ารกจิ
รกั ษาสนั ติภาพขององค์การสหประชาชาตไิ ด้
3.5 โครงการตน้ แบบกำ� จดั โรคไขม้ าลาเรยี เปน็ 0 ในหนว่ ยทหาร จากการเกบ็ ขอ้ มลู ของ แผนกระบาดวทิ ยา
ในปี 2561 ทพ่ี บวา่ พนื้ ทป่ี ฏบิ ตั กิ ารทางทหารตามแนวชายแดน ไทย-กมั พชู า ในเขตรบั ผดิ ชอบของกองกำ� ลงั สรุ นารี มกี ำ� ลงั พล
ตดิ เชอ้ื มาลาเรยี สงู สดุ จำ� นวน 342 นาย ซง่ึ แสดงวา่ พนื้ ทด่ี งั กลา่ วเปน็ พนื้ ทเี่ สยี่ งตอ่ การตดิ เชอ้ื มาลาเรยี สงู แผนกระบาดวทิ ยา
กองวิจัย สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์การแพทย์ทหาร จึงได้คัดเลือกพื้นท่ีนี้ให้เป็นพ้ืนที่ด�ำเนินโครงการ ต้นแบบก�ำจัดโรค
ไขม้ าลาเรยี เปน็ 0 ในหนว่ ยทหาร ตามมาตรการ 1-3-7 โดยดำ� เนนิ การจดั ตงั้ หอ้ งปฏบิ ตั กิ ารตรวจหาเชอ้ื มาลาเรยี สถาบนั วจิ ยั
วิทยาศาสตรก์ ารแพทยท์ หาร สว่ นหนา้ ที่ตอนพยาบาลและส่งกลบั กองกำ� ลังสุรนารี วัดภูมซิ รอล จังหวัดศรีสะเกษ จัดใหม้ ี
ก�ำลังพล แผนกระบาดวิทยา ที่มีความเชี่ยวชาญโรคไข้มาลาเรีย ประจ�ำห้องปฏิบัติการตลอดเวลาในช่วงท่ีคาดว่าจะมี
การระบาดของโรคสูง เข้าด�ำเนินกิจกรรมเชิงรุกด้วยการค้นหาผู้ติดเช้ือ รักษาพยาบาลทันทีเม่ือตรวจพบ ติดตามผู้ป่วยเพื่อ
รกั ษาใหห้ ายขาด เฝา้ ระวงั เพอ่ื นรว่ มฐานปฏบิ ตั กิ ารเดยี วกนั กบั ผปู้ ว่ ยทกุ นาย เนน้ ยำ�้ การปอ้ งกนั สว่ นบคุ คลจากการถกู ยงุ พาหะ

รายงานประจำ�ปี 2562 ANNUAL REPORT 2019 45

สถาบนั วจิ ัยวิทยาศาสตรก์ ารแพทยท์ หาร

ARMED FORCES RESEARCH INSTITUTE OF MEDICAL SCIENCES

น�ำโรคกัด ด้วยการทายาป้องกันแมลงพร้อมท้ังก�ำกับดูแลให้ก�ำลังพลนอนมุ้งส่วนบุคคลท่ีชุบด้วยสารเคมีทุก 6 เดือน อย่าง
เขม้ งวด ควบคมุ และกำ� จดั ยงุ พาหะโดยพน่ หมอกควนั รอบพน้ื ทพ่ี บโรค และพน่ สารเคมตี กคา้ งรอบทพี่ กั ภายใน 7 วนั หลงั พบ
ก�ำลังพลป่วยมาลาเรียในฐานปฏิบัติการน้ัน ๆ สร้างระบบการเฝ้าระวังเชิงรุกท่ีเข้มแข็งโดยรายงานการเกิดโรคมาลาเรีย
ตามแบบฟอรม์ รายงานการเกดิ โรคงานของกระทรวงสาธารณสขุ ขณะนแี้ ผนกระบาดวทิ ยา กำ� ลงั ดำ� เนนิ งานตามกระบวนการ
ดังกล่าวอยู่ในพ้ืนท่ี หากครบก�ำหนดตามเวลาท่ีวางไว้จะด�ำเนินการวิเคราะห์ข้อมูลต่อไป หากผลการด�ำเนินงานเป็นท่ีพอใจ
ต้นแบบดังกล่าวสามารถนำ� ไปใช้ด�ำเนินงานกำ� จดั มาลาเรยี ในพนื้ ทอ่ี ืน่ ๆ ไดต้ อ่ ไป

4. แผนกพยาธวิ ทิ ยา
แผนกพยาธวิ ทิ ยา กวจ.สวพท. รบั มอบภารกิจวจิ ัยพฒั นาวิธีการตรวจวนิ จิ ฉยั โรคติดเช้อื รคิ เคท็ เซยี น�ำผลงาน
วิจัยพัฒนามาให้บริการแก่ทหารและประชาชนท่ัวไป และสนับสนุนการด�ำเนินงานวิจัยเฝ้าระวังโรคของสถาบันฯ น�ำข้อมูล
ท่ไี ดจ้ ากงานบริการมาวิเคราะห์เป็นข้อมูลระบาดวทิ ยาของโรคไข้รคิ เคท็ เซียในประเทศไทย ศกึ ษาชนดิ เชื้อกอ่ โรค พน้ื ท่ี และ
หว้ งเวลาการเกดิ โรค เปน็ ตวั อยา่ งของงานบรกิ ารสงู่ านวจิ ยั (Service to research) และยงั มกี ารพฒั นาตอ่ ยอดสรา้ งแอนตเิ จน
โปรตนี สังเคราะห์ พัฒนาเทคนิคการตรวจแบบเรง่ ด่วนหลากรปู แบบ เป็น “พลวัตรของงานวิจัยสู่งานบรกิ าร และงานบรกิ าร
สู่งานวิจยั ” ทเ่ี กื้อหนนุ ซ่ึงกนั และกันทีม่ กี ารตอ่ ยอดอย่างไมม่ ีวนั หยุด
4.1 งานบริการตรวจวินิจฉัยโรคติดเช้ือริคเค็ทเซียทางห้องปฏิบัติการ ห้องปฏิบัติการตรวจวินิจฉัยโรค
ติดเชอ้ื รคิ เคท็ เซยี ได้พฒั นาจากงานวจิ ยั สู่งานบริการ มาตั้งแต่ ปี 2539 จนถึงปัจจบุ ัน ทใ่ี หบ้ รกิ ารตรวจโรคตดิ เชื้อริคเคท็ เซยี
ได้แก่ โรคสครับไทฟัส มิวรีนไทฟัส และโรคทิคไทฟัส ให้กับสถานพยาบาลและศูนย์แลปต่าง ๆ ท้ังภาครัฐและเอกชน
ในปีงบประมาณ 2562 รับตัวอย่างตรวจผู้ป่วยโรคไข้ไม่ทราบสาเหตุ จ�ำนวน 5,111 ราย ตรวจพบภูมิตอบสนองต่อโรค
สครบั ไทฟสั รอ้ ยละ 3.4 (174/5,111) พบภมู ติ อบสนองตอ่ โรคมวิ รนี ไทฟสั รอ้ ยละ 0.7 (33/5,184) และตรวจไมพ่ บภมู ติ อบสนอง
ตอ่ โรคทคิ ไทฟสั ผตู้ ดิ เชอ้ื กอ่ โรคสครบั ไทฟสั สว่ นใหญม่ ภี มู ลิ ำ� เนาอยใู่ นภาคกลาง ภาคตะวนั ออกและภาคเหนอื ตามลำ� ดบั สว่ น
ผูต้ ดิ เชอื้ มวิ รีนไทฟัสส่วนใหญ่มภี มู ลิ ำ� เนาอยใู่ นภาคกลาง
4.2 งานพฒั นาคุณภาพห้องปฏบิ ัตกิ ารโรคติดเช้ือรคิ เค็ทเซีย หอ้ งปฏิบัติการโรคติดเชื้อริคเค็ทเซีย ไดร้ ับ
การรับรองมาตรฐานสากล ISO 15189:2012 และ ISO15190:2003 จากส�ำนักมาตรฐานห้องปฏิบัติการ กรมวิทยาศาสตร์
การแพทย์ กระทรวงสาธารณสขุ หมายเลขทะเบียน 4147/2557 ต้งั แต่ 5 มถิ ุนายน 2557 ในปี 2562 หอ้ งปฏบิ ัติการโรคตดิ
เชอื้ ริคเคท็ เซยี ดำ� เนนิ การขอต่ออายุ และผา่ นการตรวจรบั รองมาตรฐาน ISO 15189:2012 และ ISO15190:2003 ต้ังแต่ 23
สิงหาคม 2561 – 22 สงิ หาคม 2563
4.3 งานบริการสู่ข้อมูลทางระบาดวิทยาข่าวกรองทางการแพทย์ ผลงานท่ีส�ำคัญของห้องปฏิบัติการ
โรคติดเชื้อริคเค็ทเซีย แผนกพยาธิวิทยา คือ การสนับสนุนงานส�ำรวจข่าวกรองทางการแพทย์ ในสัตว์รังโรคสครับไทฟัส
ในพน้ื ทฝ่ี กึ และพนื้ ทปี่ ฏบิ ตั กิ ารทางทหารตามแนวชายแดน เชน่ พนื้ ทฝ่ี กึ รว่ มหนว่ ยทหารรกั ษาพระองค/์ เหลา่ ทพั (กฝร.รอ.62)
พน้ื ทฝ่ี กึ ภาคสนาม ร.21 รอ. พน้ื ทฝี่ กึ คอบรา้ โกลด์ พนื้ ทช่ี ายแดนไทย-กมั พชู า และไทย-เมยี นมา โดยขอ้ มลู ทไี่ ดส้ ามารถนำ� มา
ประเมินความเส่ียงต่อการติดเช้อื โรคสครบั ไทฟัส ของก�ำลงั พลได้เปน็ อยา่ งดี ท�ำใหส้ ามารถวางแนวทางเวชกรรมป้องกนั โรค
ใหก้ ับกำ� ลงั พลระหว่างการฝกึ และหลงั การฝึก หรือระหวา่ งปฏบิ ัตหิ นา้ ทต่ี ามแนวชายแดนได้

5. เตรยี มพรอ้ มรับมอื โรคอบุ ตั ใิ หม่ อบุ ตั ซิ ำ้�
กองวจิ ยั สถาบนั วจิ ยั วทิ ยาศาสตรก์ ารแพทยท์ หาร เปน็ สว่ นปฏบิ ตั กิ ารหนง่ึ ของศนู ยค์ วามรว่ มมอื องคก์ ารอนามยั โลก
ส�ำหรบั โรคอบุ ตั ใิ หม่ อุบัตซิ ำ้� (WHO Collaborating Center for Emerging-Reemerging Infectious Diseases) มกี ารเตรยี ม
พรอ้ มรบั มอื โรคอบุ ตั ใิ หม่ อบุ ตั ซิ ำ้� ดว้ ยการพฒั นาศกั ยภาพขดี ความสามารถของบคุ คลากรในสงั กดั โดยการสง่ ฝกึ ศกึ ษาอบรม
เรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ที่ทันสมัยเป็นประจ�ำทุกปี พัฒนาห้องปฏิบัติการให้รองรับการสืบสวนโรคระบาด และมีห้องปฏิบัติการ
เคลอ่ื นท่ี (Mobile Medical Laboratory) ทสี่ ามารถปฏบิ ตั ภิ ารกจิ สนบั สนนุ การตอบโตค้ วบคมุ โรคระบาดในพนื้ ทที่ หาร ทพ่ี รอ้ ม
ออกปฏิบัติการภายใน 24 ช่ัวโมง เม่ือเกิดสถานการณ์ โดยมีขีดความเก็บสิ่งส่งตรวจในพื้นที่เกิดโรค และด�ำเนินการขนส่ง
ตัวอย่างอย่างปลอดภัย หรือท�ำการตรวจภูมิตอบสนองในเลือด ตรวจหาดีเอ็นเอของเช้ือก่อโรคได้ในพื้นท่ี และยังใช้ขีด

46 รายงานประจำ�ปี 2562 ANNUAL REPORT 2019

สถาบันวิจัยวทิ ยาศาสตรก์ ารแพทย์ทหาร

ARMED FORCES RESEARCH INSTITUTE OF MEDICAL SCIENCES

ความสามารถของบคุ ลากร องคค์ วามรทู้ มี่ อี ยฝู่ กึ อบรมใหก้ บั บคุ ลากรของสถาบนั วชิ าการตา่ ง ๆ ทงั้ ในประเทศ และตา่ งประเทศ
เพือ่ สร้างเครือข่ายเฝ้าระวงั รบั มอื โรคอุบตั ิใหม่ อบุ ตั ซิ ้ำ� ที่อาจเกดิ ข้ึนในอนาคต เชน่ ในกรณีการระบาดของโรคโควดิ -19 จาก
พน้ื ฐานการเตรยี มความพรอ้ มทางดา้ นบคุ ลากรและเครอ่ื งมอื หอ้ งปฏบิ ตั กิ าร ของ กวจ.สวพท. ทำ� ใหส้ ามามารถพฒั นาวธิ กี าร
ตรวจโรคโควดิ -19 ดว้ ยวธิ ที างอณชู วี โมเลกลุ ไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ ทนั เวลา จนเปน็ หอ้ งปฏบิ ตั กิ ารแหง่ แรกของกองทพั บก ทส่ี ามารถ
ให้บริการตรวจโรคโควดิ -19 ให้กบั ก�ำลังพลและประชาชนท่ัวไปได้ทันในชว่ งทเ่ี กิดการระบาดของโรค

6. ผลงานวจิ ยั ทบ. 4.0
กองวิจัย สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์การแพทย์ทหาร ร่วมมือกับ ส�ำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและ
ภูมสิ ารสนเทศ (องค์การมหาชน) พัฒนาข้อมูลองคค์ วามรูผ้ ลผลติ จากงานวิจัย มาเผยแพรน่ �ำเสนอสสู่ าธารณชนเพ่ือนำ� ไปใช้
ประโยชนไ์ ดส้ ะดวก กวา้ งขวาง ในรปู แบบ “ออนไลนแ์ อปพลเิ คชนั่ Thai Fever Risk Map” แสดงแผนทภ่ี มู สิ ารสนเทศพนื้ ที่
เสยี่ งตอ่ การตดิ เชอ้ื โรคไขน้ ำ� โดยแมลงในประเทศไทย ทที่ หาร และประชาชนทว่ั ไปสามารถนำ� ไปใชเ้ วชกรรมปอ้ งกนั ตนเองได้
เมอื่ ตอ้ งเขา้ ปฏบิ ตั งิ านในพนื้ ที่ เพยี งดาวน์ โหลดแอปพลเิ คชน่ั Thai Fever Risk Map มาไวบ้ นสมารท์ โฟนของตวั เอง แลว้ คลกิ
ไปดใู นบรเิ วณที่อยากรู้ จะเข้าถึงขอ้ มลู แมลงพาหะน�ำโรคพร้อมค�ำแนะนำ� วิธปี ้องกันตนไดใ้ นทนั ที

7. การศกึ ษาดงู านและการฝึกประสบการณท์ ำ� งานของนกั ศกึ ษา ณ กวจ.สวพท.
1) แพทยป์ ระจำ� บา้ นตอ่ ยอด สาขาวชิ าโรคตดิ เชอ้ื เดก็ สมาคมโรคตดิ เชอื้ ในเดก็ แหง่ ประเทศไทย เขา้ ศกึ ษาดงู าน
กวจ.สวพท. 5 คน ระหว่างวนั ที่ 1 - 15 มนี าคม 2562
2) แพทย์จากสถาบันเวชศาสตร์ป้องกันศึกษา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เข้าศึกษาดูงาน กวจ.
สวพท. ระหวา่ งวนั ท่ี 25 กมุ ภาพันธ์ - 22 มีนาคม 2562
3) นักศึกษาปริญญาตรี สาขาจุลชีววิทยาและปรสิตวิทยา คณะวิทยาศาสตร์การแพทย์ มหาวิทยาลัยนเรศวร
2 คน เข้าฝึกประสบการณ์ ห้องปฏบิ ัตกิ ารโรคติดเชื้อรคิ เค็ทเซยี และหอ้ งปฏบิ ตั ิการอณชู วี วิทยา ระหว่างวันที่ 11 ธนั วาคม
2561 - 29 มนี าคม 2562
4) นักศึกษาปริญญาตรี ภาควิชาจุลชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ 3 คน เข้าฝึก
ประสบการณ์ หอ้ งปฏบิ ตั กิ ารโรคตดิ เชอ้ื รคิ เคท็ เซยี และหอ้ งปฏบิ ตั กิ ารอณชู วี วทิ ยา ระหวา่ งวนั ที่ 27 พฤษภาคม - 26 กรกฏาคม
2562
5) นกั ศกึ ษาปรญิ ญาตรี สาขาจลุ ชวี วทิ ยา คณะวทิ ยาศาสตร์ จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั 3 คน เขา้ ฝกึ ประสบการณ์
หอ้ งวิทยาการภมู ิคมุ้ กนั วทิ ยา ระหว่างวันท่ี 3 มถิ ุนายน - 31 กรกฎาคม 2562
6) นักศึกษาปริญญาตรี สาขาจุลชีววิทยาอุตสาหกรรม คณะวิทยาศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า
เจ้าคุณทหารลาดกระบัง 2 คน เข้าฝึกประสบการณ์ ห้องปฏิบัติการโรคติดเช้ือริคเค็ทเซีย และห้องปฏิบัติการอณูชีววิทยา
ระหวา่ งวันท่ี 3 มิถนุ ายน - 31 กรกฎาคม 2562
7) นกั ศกึ ษาปรญิ ญาตรี สาขาชวี วทิ ยา คณะวทิ ยาศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ศรนี ครนิ ทรวโิ รฒ 2 คน เขา้ ฝกึ ประสบการณ์
หอ้ งปฏิบตั ิการโรคติดเช้อื รคิ เคท็ เซยี และห้องปฏิบตั กิ ารอณูชีววทิ ยา ระหวา่ งวนั ที่ 3 มถิ นุ ายน - 31 กรกฎาคม 2562
8) นักศึกษาปริญญาตรี สาขาจุลชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์การแพทย์ มหาวิทยาลัยพะเยา 2 คน เข้าฝึก
ประสบการณ์ ห้องปฏิบตั ิการโรคติดเชอ้ื รคิ เค็ทเซีย และหอ้ งปฏบิ ตั ิการอณชู วี วทิ ยา ระหวา่ งวันที่ 7 มกราคม - 29 มนี าคม
2562

8. การเผยแพรผ่ ลงานวจิ ยั
8.1 ผลงานตพี มิ พ์
1) Tabprasit S, Cheunchitra T, Horthongkham N, Kantakamalakul W, Karnasuta C, and Sutthent R.
Neutralization activity pattern of recent hiv-1 infection in young thai men, 1999-2013. The Southeast Asian Journal
of Tropical Medicine and Public Health 2019; 49 (6): 975-99150: 6 November 2018.

รายงานประจ�ำ ปี 2562 ANNUAL REPORT 2019 47

สถาบันวจิ ัยวทิ ยาศาสตรก์ ารแพทย์ทหาร

ARMED FORCES RESEARCH INSTITUTE OF MEDICAL SCIENCES

2) Amornrat Sanprick, Thanapon Yooyen, Wuttikon Rodkvamtook. Survey of Rickettsia spp. and Orientia
tsutsugamushi Pathogens Found in Animal Vectors (Ticks, Fleas, Chiggers) in Bangkaew District, Phatthalung
Province, Thailand. Korean J Parasitol Vol. 57, No. 2: 1-7, April 2019 https://doi.org/10.3347/kjp.2019.57.2.1
3) Nutchanart Sea-liang, Amornpun SereemaspunID, Kanitha Patarakul, Jariyanart Gaywee, Wuttikon
Rodkvamtook, Nattachai Srisawat, Supaporn Wacharaplusadee, Thiravat Hemachudha, Development of multiplex
PCR for neglected infectious diseases. PLOS Neglected Tropical Diseases 8 July 2019.
4) Soraya Sangjan, Silawun Ampol, Sutchana Tabprasit, Navin Horthongkham, Thippawan Chuenchitra,
Pattama Ekpo, Wannee Kantakamalakul, Common antibody dependent cell mediated cytotoxicity (ADCC) antibody
epitopes of HIV-1 CRF01_AE Env and Gag in early HIV-1 infected individuals, Asian Pacific Journal of Allergy and
Immunology (Asian Pac J Allergy Immunol) DOI 10.12932/AP-101017-0177 (Online)
5) Nithinart Chaitaveep, Piraporn Utachee, Suchana Tabprasit, Thippawan Chuenchitra, Masanori
Kameoka. Comparison of antibody-dependent cellular cytotoxicity activity elicited in recent and chronic HIV-1 infected
Thai individuals. The Southeast Asian Journal of Tropical Medicine and Public Health 2019; 50: 4 July 2019.
8.2 การน�ำเสนอผลงานวจิ ยั
1) ผลงานเร่ือง “การใช้ “สวพท.-นวมินทราชินีโมเดล” ในการเวชกรรมป้องกันก�ำลังพลจากโรคท่ีมีในพื้นท่ี
การฝึก จว.ชลบุรแี ละพ้นื ที่ปฏิบัตกิ ารทางทหารตามแนวชายแดน จว.ตาก” น�ำเสนอในรปู แบบ เล่มรายงานผลการวิจัย โดย
พ.อ. วฒุ ิกรณ์ รอดความทกุ ข์ เสนอ สมาคมแพทยท์ หารแห่งประเทศไทยในพระบรมราชปู ถมั ภ์ ประจำ� ปี 2561
2) Gaywee J, Aung HT, Rodkvamtook W, Thant M, Suksawas Y, Soe K, Siriwatthanakul K, Boonsom
V, Kramyoo M, Nirattsai T, Hlaing TM, and Imwattana P. Thailand-Myanmar medical corps: mil-mil close partnership
in fighting against rickettsia diseases. 2nd ASEAN Military Medicine Conference, Yangon, Myanmar, 17-21 February
2019. (Poster presentation)
3) Aung HT, Siriwatthanakul K, Rodkvamtook W, Thant M, Soe K, Kramyoo M, Gaywee J, and Hlaing
TM. Molecular survey for arthropod vectors of rickettsiae in the Republic of the Union of Myanmar. 2nd ASEAN
Military Medicine Conference, Yangon, Myanmar, 17-21 February 2019. (Poster presentation)
4) Thant M, Rodkvamtook W, Soe K, Aung HT, Somsri M, Somsri K, Kramyoo M, Gaywee J, and
Hlaing TM. Sero-survey for scrub typhus infection in febrile patients in the Republic of the Union of Myanmar. 26th
Myanmar Military Medicine Conference, Yangon, Myanmar, 20-22 February 2019. (Podium presentation)
5) Rodkvamtook W, Aung HT, Suksawas Y, Nirattsai T, Boonsom V, Gaywee J, Hlaing TM, and
Imwattana P. Mil-mil experience sharing in outbreak investigation of scrub typhus. 26th Myanmar Military Medicine
Conference, Yangon, Myanmar, 20-22 February 2019. (Podium presentation)
6) Aung HT, Siriwatthanakul K, Rodkvamtook W, Thant M, Soe K, Kramyoo M, Gaywee J, and Hlaing
TM. Molecular survey for arthropod vectors of rickettsiae in the Republic of the Union of Myanmar. 26th Myanmar
Military Medicine Conference, Yangon, Myanmar, 20-22 February 2019. (Poster presentation)
7) Gaywee J, Aung HT, Rodkvamtook W, Thant M, Siriwatthanakul K, Soe K, Somsri M, Timhaiphon
C, Suksawas Y, Somsri K, Boonsom V, Kramyoo, M, Nirattsai T, Hlaing TM, and Imwattana P. Thailand-Myanmar
mil-mil collaborative surveillance program for rickettsiosis. 30th Meeting of American Society for Rickettsiology, Santa
Fe, New Mexico, USA, 8-11 June 2019. (Poster presentation)

48 รายงานประจำ�ปี 2562 ANNUAL REPORT 2019

สถาบนั วิจยั วิทยาศาสตร์การแพทยท์ หาร

ARMED FORCES RESEARCH INSTITUTE OF MEDICAL SCIENCES

กองวเิ คราะห์

ภารกิจ
วเิ คราะหว์ ิจยั โรคไม่ตดิ เช้อื และโรคตดิ เชอื้ ทีม่ คี วามส�ำคัญตอ่ การปฏิบัตกิ ารทางทหารและความม่นั คงของชาติ

การแบ่งส่วนราชการและหน้าท่ี

1. แผนกชวี เคมี
มีหน้าที่ในการวิเคราะห์ วิจัย ปัญหาสุขภาพก�ำลังพล ส่งเสริมสุขภาพก�ำลังพล โดยการตรวจร่างกายทั่วไป
ตรวจเลือดและปัสสาวะ ให้ความรู้เบื้องต้นและข้อมูลข่าวสารทางการแพทย์ ศึกษาวิจัยด้านการสร้างเสริมสุขภาพก�ำลังพล
เพ่อื ใชเ้ ปน็ แนวทางในการป้องกนั และแก้ไขอย่างเป็นรปู ธรรม

2. แผนกยาเสพตดิ และพิษวิทยา
มีหน้าที่ศึกษา วิจัย พัฒนางานวิเคราะห์สารเสพติด ให้ทันสมัยและทันต่อเทคโนโลยีที่มีการน�ำสารชนิดใหม่ๆ
มาใชส้ นบั สนนุ การตรวจวเิ คราะห์สารเสพติดใหโ้ ทษแก่หนว่ ยทหารและหน่วยงานตา่ ง ๆ เผยแพรค่ วามรู้เก่ียวกับสารเสพตดิ
ให้โทษ ตลอดจนให้การศึกษา อบรม ด้านการตรวจวเิ คราะห์สารเสพตดิ ให้โทษแกห่ นว่ ยทหารทีร่ ้องขอ เพ่อื ปอ้ งกันการแพร่
ระบาดของสารเสพติดในประเทศ

3. แผนกผลิตและควบคมุ มาตรฐาน
มหี น้าทใ่ี นการศึกษา วิจยั และพัฒนางานวเิ คราะห์สารพิษและปจั จยั ต่าง ๆ ในสง่ิ แวดลอ้ มในทต่ี งั้ หนว่ ยทหาร
ใหค้ วามรแู้ ละขอ้ เสนอแนะเกยี่ วกบั ปญั หามลพษิ ในสง่ิ แวดลอ้ มทมี่ ผี ลกระทบตอ่ สขุ ภาพของกำ� ลงั พล เปน็ การดำ� เนนิ งานในเชงิ
เวชศาสตร์ป้องกนั และอาชีวอนามยั สิ่งแวดลอ้ ม

4. แผนกสัตวท์ ดลอง
มหี นา้ ทศ่ี ึกษา วจิ ัย และพัฒนาเทคนิคทางหอ้ งปฏิบัตกิ ารโดยการใชส้ ัตวท์ ดลอง เพ่ืองานวิจัยทางวิทยาศาสตร์
การแพทย์ โดยมุ่งเน้นโรคท่ีเป็นปัญหาต่อสุขภาพทหาร ได้แก่ การศึกษาโรคสัตว์ติดต่อสู่คน และการทดสอบยาและวัสดุ
ทางการแพทย์ การศกึ ษาด้านเภสัชจลนศาสตร์ การเพาะเล้ยี งเชื้อเพ่ือพัฒนาชดุ ตรวจวนิ จิ ฉัยโรค เป็นตน้
 

บทสรุปผบู้ รหิ าร ปงี บประมาณ 2562 (Executive Summary Fiscal Year 2019)

ผลการดำ� เนนิ งาน

1. กองวิเคราะห์
1.1 การพัฒนาระบบสารสนเทศการบริหารจดั การข้อมูลการบรกิ ารตรวจวเิ คราะหท์ างหอ้ งปฏิบตั ิการ
กองวิเคราะห์ ไดร้ บั การสนับสนนุ งบประมาณจากคา่ ธรรมเนียมการวจิ ัย กรมแพทย์ทหารบก เพือ่ พฒั นาระบบ
สารสนเทศการบรหิ ารจดั การขอ้ มลู ในการบรกิ ารตรวจวเิ คราะหท์ างหอ้ งปฏบิ ตั กิ ารของกองวเิ คราะห์ พรอ้ มทงั้ ขอ้ มลู การบรหิ าร
ทรพั ยากรดา้ นครภุ ณั ฑ์ วสั ดสุ นิ้ เปลอื ง และคา่ ตอบแทนการปฏบิ ตั งิ านนอกเวลาของกำ� ลงั พล ในลกั ษณะ Web base Application
ผ่านระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต (http://www.afrims.go.th/analysis/) เพื่อให้มีการบันทึกข้อมูลจุดเดียว (single entry)
ช่วยให้มีการรวบรวมข้อมูล มีการจัดเก็บท่ีดี มีการประมวลและการแสดงผลข้อมูลบริการตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการ
ที่มีความถูกต้อง ค้นหาข้อมูลรวดเร็ว และมีระบบกํากับ ติดตาม ประเมินผลการบริการตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการ
ใหเ้ ชอื่ มโยงกบั ผลผลติ หรอื ผลลพั ธข์ องการดำ� เนนิ งานอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ โดยมรี ะบบปอ้ งกนั การเขา้ ถงึ เฉพาะผทู้ ไ่ี ดร้ บั อนญุ าต
เทา่ นน้ั ขณะน้ี แผนกตา่ งๆ เรม่ิ ใชโ้ ปรแกรมนท้ี พี่ ฒั นาขนึ้ ตงั้ แตก่ ารบนั ทกึ ขอ้ มลู ผใู้ ชบ้ รกิ าร ไปจนถงึ การรายงานผลการตรวจ

รายงานประจ�ำ ปี 2562 ANNUAL REPORT 2019 49

สถาบันวจิ ยั วทิ ยาศาสตร์การแพทย์ทหาร

ARMED FORCES RESEARCH INSTITUTE OF MEDICAL SCIENCES

วเิ คราะห์ ทงั้ นี้ ในแตล่ ะการบรกิ ารตรวจวเิ คราะห์ มรี ปู แบบการทำ� งานเฉพาะทเ่ี หมาะสมกบั การปฏบิ ตั งิ านของการบรกิ ารตรวจ
ทแ่ี ตกตา่ งกนั ออกไป ไดแ้ ก่ การบรกิ ารตรวจวเิ คราะหน์ ำ้� การบรกิ ารตรวจรา่ งกายประจำ� ปี และการบรกิ ารตรวจสารเสพตดิ

1.2 การวจิ ยั พัฒนาแผน่ แปะเข็มขนาดไมโครเมตร (Microneedle)
ในปี 2562 กองวิเคราะห์ ได้ด�ำเนินการศึกษาวิจัยเร่ือง “การศึกษาความปลอดภัยและความทนในการใช้
แผน่ แปะเขม็ ขนาดไมโครเมตรในผใู้ หญไ่ ทย” (Safety and Tolerability of Microneedle Patch Using in Thai Adults) รว่ มกบั
ศูนยน์ าโนเทคโนโลยแี ห่งชาติ (NANOTEC) สำ� นักงานพฒั นาวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ โดยเป็น หนงึ่ ใน Product
Highlight ทสี่ ำ� คญั ตามนโยบาย ดว้ ยแผน่ แปะเขม็ ขนาดไมโครเมตรถกู นำ� มาใชใ้ นการบรหิ ารยาผา่ นทางผวิ หนงั มาไดร้ ะยะหนง่ึ
แล้ว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดการบริหารยาจากทางอ่ืนๆ ในการลดหรือเพิ่มผลของการเปล่ียนแปลงคุณสมบัติของยา
การตอบสนองของยาจากระบบภูมิคุ้มกันของมนุษย์ เข็มขนาดไมโครเมตรสามารถน�ำยาหรือสารออกฤทธ์ิเข้าสู่ผิวหนังหรือ
กระแสเลือดโดยตรง ซึ่งจะเหมาะกับยาหรือสถานการณ์บางอย่างที่ผู้รับยาสะดวกท่ีจะบริหารยาได้ด้วยตัวเอง เข็มขนาด
ไมโครเมตรท่ีท�ำการศึกษาน้ีท�ำจากวัสดุโพลีเมทิลเมทาคริเลต ซึ่งเป็นวัสดุมาตรฐานที่ใช้ในผู้ป่วยทั่วไปอยู่แล้ว เช่น ข้อเข่า
ขอ้ สะโพกเทยี ม คณะผวู้ จิ ยั ไดน้ ำ� วสั ดโุ พลเี มทลิ เมทาครเิ ลตมาขนึ้ รปู เปน็ เขม็ ขนาดไมโครเมตรบนแผน่ ผา้ เขม็ ขนาดไมโครเมตร
มคี วามยาวทสี่ ามารถแทงผ่านผวิ หนงั ชนั้ หนังกำ� พรา้ และผวิ ช้ันหนงั แทข้ องมนษุ ย์ได้ และจะเปน็ ช่องทางหนงึ่ ของการบริหาร
ยาหรอื วคั ซนี เขา้ สรู่ า่ งกายของมนษุ ย์ การศกึ ษาครงั้ นม้ี วี ตั ถปุ ระสงคเ์ พอ่ื ศกึ ษาความปลอดภยั ของแผน่ แปะเขม็ ขนาดไมโครเมตร
ในมนุษย์ และเพ่ือประเมินปฏิกิริยาระคายเคืองต่อผิวหนังมนุษย์ของแผ่นแปะเข็มขนาดไมโครเมตร การด�ำเนินงาน ได้ท�ำ
การศึกษาในอาสาสมัครจ�ำนวน 60 คน จำ� แนกเป็นเพศชาย 30 คน เพศหญิง 30 คน โดยแบง่ เปน็ 3 กลมุ่ กลุ่มละ 20 คน
กลมุ่ ท่ี 1 ตดิ แผน่ แปะเขม็ เปน็ ระยะเวลา 24 ชวั่ โมง กลมุ่ ที่ 2 ตดิ แผน่ แปะเขม็ เปน็ ระยะเวลา 48 ชว่ั โมง กลมุ่ ที่ 3 ตดิ แผน่ แปะเขม็
เปน็ ระยะเวลา 72 ชัว่ โมง ผลการศึกษาพบวา่ อาสาสมคั รสว่ นนอ้ ยเกดิ อาการไม่พงึ ประสงค์ คอื มีอาการคนั เลก็ นอ้ ยบริเวณ
ทแี่ ปะเขม็ ไมพ่ บอาการไมพ่ งึ ประสงคช์ นดิ รนุ แรง อาสาสมคั ร 2 คนมอี าการปวดปานกลาง โดยใหร้ ะดบั ความรนุ แรงของอาการ
ปวด (pain score) 4 จาก10 ทเี่ หลอื มอี าการปวดเลก็ นอ้ ยหรอื ไมร่ สู้ กึ ปวด ไมพ่ บการตดิ เชอ้ื การแพ้ การเกดิ รอยแผลเปน็ หรอื
ความเสียหายต่อเส้นประสาทและเส้นเลือด สรุปผลการศึกษาได้ว่า แผ่นแปะเข็มขนาดไมโครเมตรมีความปลอดภัยและ
อบุ ัติการณข์ องการเกดิ ปฏกิ ิรยิ าเฉพาะทีต่ ำ�่

2. แผนกชีวเคมี

2.1 โครงการบรกิ ารตรวจสุขภาพประจ�ำปกี �ำลังพล ทบ. ณ ท่ีตง้ั หน่วยในเขต กทม.และปริมณฑล
แผนกชวี เคมี กองวเิ คราะห์ สถาบนั วจิ ยั วทิ ยาศาสตรก์ ารแพทยท์ หาร ไดด้ ำ� เนนิ งานโครงการบรกิ ารตรวจสขุ ภาพ
ประจำ� ปกี ำ� ลงั พลกองทพั บก ณ ทต่ี งั้ หนว่ ย ในเขตกรงุ เทพมหานครและปรมิ ณฑล ปงี บประมาณ 2561 สรปุ ผลไดค้ อื มกี ำ� ลงั พล
ที่เข้ารับการตรวจสุขภาพฯ จ�ำนวน 15,692 นาย แบ่งเป็นเพศชายร้อยละ 79.0 และเพศหญิงร้อยละ 21.0 โดยมีอายุต้ังแต่
35 ปี ข้ึนไปรอ้ ยละ 66.1 และมอี ายุเฉล่ยี 41 ป ี
ขอ้ มูลจากผลการตรวจร่างกายทว่ั ไปพบวา่ 1) กำ� ลงั พลมปี ญั หาภาวะอ้วนลงพุง (เส้นรอบเอวชาย ≥ 90 ซม.,
หญิง ≥ 80 ซม.) รอ้ ยละ 32.4 แบ่งเปน็ เพศชาย รอ้ ยละ 29.6 เพศหญงิ ร้อยละ 42.8 2) ภาวะอ้วน (ดชั นมี วลกาย ≥ 25 กก./
ตร.ม.) รอ้ ยละ 43.3 และ 3) ความดนั โลหิตสูง (≥ 140/90 มม.ปรอท) ร้อยละ 15.1 ส�ำหรับผลการตรวจทางหอ้ งปฏิบัติการของ
กำ� ลังพลที่มอี ายตุ งั้ แต่ 35 ปขี ึน้ ไป ปัญหาท่ีพบมากเรยี งตามลำ� ดบั ความชุก คือ ระดับไขมัน Total Cholesterol ในเลือดสูง (≥
200 มก./ดล.) ร้อยละ 58.7 ระดบั ไขมัน Triglyceride ในเลือดสงู (≥ 150 มก./ดล.) รอ้ ยละ 38.6 และระดบั น�้ำตาลในเลือดสงู
(≥ 126 มก./ดล.) ร้อยละ 10.0 จากผลการส�ำรวจพฤติกรรมเส่ียงทางสุขภาพของก�ำลังพลกองทัพบก พบว่า 1) ก�ำลังพล
ออกก�ำลังกายยังไม่ถงึ เกณฑ์มาตรฐาน (นอ้ ยกว่า 150 นาทตี อ่ สัปดาห์) รอ้ ยละ 29.5 2) สูบบหุ ร่ี ร้อยละ 26.5 และ 3) บริโภค
เคร่อื งดื่มแอลกอฮอล์เปน็ ประจำ� รอ้ ยละ 3.0

2.2 งานพัฒนาระบบคณุ ภาพห้องปฏบิ ัตกิ าร
2.2.1 ห้องปฏิบัติการตรวจวิเคราะห์จุลทรรศนศาสตร์คลินิก และห้องปฏิบัติการเคมีคลินิก แผนกชีวเคมี

50 รายงานประจำ�ปี 2562 ANNUAL REPORT 2019

สถาบันวิจัยวทิ ยาศาสตรก์ ารแพทย์ทหาร

ARMED FORCES RESEARCH INSTITUTE OF MEDICAL SCIENCES

ได้รับการรับรองคุณภาพห้องปฏิบัติการตามมาตรฐาน ISO 15189:2012 และ ISO 15190:2003 จากส�ำนักมาตรฐาน
ห้องปฏิบตั กิ ารอยา่ งตอ่ เน่ืองในปี 2562
2.2.2 มีการทบทวนคู่มือการเก็บและส่งตรวจตัวอย่างทางห้องปฏิบัติการของแผนกชีวเคมี ประกอบด้วย
ห้องปฏิบัตกิ ารเคมคี ลนิ ิก ห้องปฏบิ ัติการโลหิตวทิ ยา และหอ้ งปฏบิ ตั ิการตรวจวิเคราะหจ์ ุลทรรศนศาสตรค์ ลินกิ
2.2.3 การประชมุ ชแ้ี จงผูใ้ ชบ้ รกิ ารห้องปฏบิ ัติการแผนกชีวเคมีประจ�ำปี 2562 จัดขึน้ ในวันท่ี 13 ก.ย. 2562
ณ หอ้ งพินทุโยธนิ สวพท. มีผ้เู ขา้ รว่ มประชุมจ�ำนวนท้งั ส้นิ 53 นาย โดยความพึงพอใจในภาพรวมของการประชุมอยู่ในระดบั
ดีมาก
2.2.4 จัดท�ำเอกสารคุณภาพ วิธีการปฏิบัติงานห้องปฏิบัติการโลหิตวิทยา เพ่ือเตรียมการขอขยาย
การรบั รองคุณภาพหอ้ งปฏิบัตกิ ารตามมาตรฐาน ISO 15189:2012 ในปี 2563

2.3 โครงการวจิ ัย
พ.ต.หญงิ พอฤทัย กฤตกิ านารา นำ� เสนอโครงการขอรับการสนับสนนุ งบประมาณ วท.กห. “โครงการพฒั นา
ระบบข้อมูลสารสนเทศทางสขุ ภาพสู่การส่ือสารและส่งเสริมสขุ ภาพกำ� ลงั พลกองทัพบก”

2.4 งานสนับสนุนการตรวจสขุ ภาพประจำ� ปี ในปี 2562
2.4.1 การตรวจสขุ ภาพประจำ� ปี หลกั สตู รวทิ ยาลยั การทพั บก เมอ่ื วนั ที่ 2 และ 5 ต.ค.2561 จำ� นวน 170 นาย
2.4.2 การสนับสนนุ การตรวจวเิ คราะหป์ ัสสาวะ นักเรียนช่างฝีมือ เม่ือวันที่ 11 และ 14 มี.ค.2562 จำ� นวน
1,055 นาย
2.4.3 การตรวจสขุ ภาพประจ�ำปี หลกั สตู รประจ�ำ รร.เสนาธิการทหารบก เม่อื วันท่ี 18 ก.ค.2562 จ�ำนวน
166 นาย
2.4.4 การสนบั สนนุ เจา้ หนา้ ทเี่ จาะเลอื ด การตรวจสขุ ภาพประจำ� ปขี า้ ราชบรพิ าร หว้ งเดอื น ส.ค.-ก.ย.2562
ณ โรงพยาบาลพระมงกฎุ เกล้า

3. แผนกผลติ และควบคมุ มาตรฐาน

3.1 โครงการเฝา้ ตรวจคณุ ภาพนำ�้ ในทตี่ งั้ หนว่ ยทหาร พนื้ ทก่ี องทพั ภาคที่ 3 ไดเ้ ขา้ ตรวจคณุ ภาพนำ�้ ในพนื้ ท่ี
หน่วยทหารและโรงพยาบาลกองทัพบกในพื้นท่ีกองทัพภาคท่ี 3 จ�ำนวนท้ังหมด 311 ตัวอย่าง พบว่า น้�ำอุปโภค-น�้ำบริโภค
266 ตัวอย่าง ผา่ นเกณฑ์มาตรฐาน 208 ตัวอยา่ ง และไมผ่ า่ นเกณฑม์ าตรฐาน 58 ตัวอยา่ ง สาเหตทุ ไ่ี ม่ผ่านเกณฑ์สว่ นใหญ่
เกิดจากปริมาณสารคลอรีนตกค้างในน�้ำประปาต�่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน ส่วนน�้ำเสีย-น�้ำทิ้ง จ�ำนวน 45 ตัวอย่าง ผ่านเกณฑ์
มาตรฐาน 11 ตัวอย่าง และไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน 34 ตัวอย่าง สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากค่า BOD สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน
ซึ่งไดด้ ำ� เนนิ การรายงานผลการตรวจ และชแี้ จงสาเหตใุ ห้กบั หน่วยรบั บริการเพอ่ื ด�ำเนนิ การแกไ้ ขต่อไป

3.2 งานบรกิ ารตรวจคณุ ภาพนำ�้ ไดใ้ หบ้ รกิ ารตรวจคณุ ภาพนำ้� แกห่ นว่ ยงานตา่ ง ๆ เชน่ โรงเรยี นเตรยี มทหาร
หนว่ ยวจิ ยั ฝา่ ยสหรฐั ฯ โรงพยาบาลพระมงกฎุ เกลา้ ฯลฯ รวมจำ� นวนทงั้ สนิ้ 188 ตวั อยา่ ง แบง่ เปน็ นำ้� อปุ โภค-นำ้� บรโิ ภค จำ� นวน
147 ตวั อยา่ ง และนำ้� เสยี -นำ�้ ทงิ้ จำ� นวน 41 ตวั อยา่ ง ผลการดำ� เนนิ งาน พบวา่ นำ�้ อปุ โภค-บรโิ ภค ผา่ นเกณฑม์ าตรฐาน จำ� นวน
90 ตวั อย่าง และนำ้� เสยี -น�้ำท้ิง ผ่านเกณฑม์ าตรฐาน จำ� นวน 21 ตัวอยา่ ง

3.3 งานอาชีวอนามัยและความปลอดภยั ภายในโรงงานอุตสาหกรรมทหาร
3.3.1 การตรวจวัดคุณภาพส่ิงแวดล้อมภายใน โรงพยาบาลค่ายสุรสิงหนาท จว.สระแก้ว
ผลการด�ำเนนิ งาน พบว่า ความสวา่ งของแสง และปรมิ าณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ไม่อย่ใู นเกณฑม์ าตรฐาน
3.3.2 การตรวจวดั คณุ ภาพสง่ิ แวดลอ้ มภายใน กรซย.ศซส.สพ.ทบ. จว.นครราชสมี า ผลการดำ� เนนิ งาน
พบวา่ สารอนิ ทรยี ร์ ะเหยงา่ ย ความชน้ื สมั พทั ธ์ ความดงั ของเสยี ง ปรมิ าณกา๊ ซคารบ์ อนไดออกไซด์ ลมระบายอากาศ อณุ หภมู ิ
ความสวา่ งของแสง และปรมิ าณฝุ่น ไม่อยใู่ นเกณฑม์ าตรฐาน
3.3.3 การตรวจวัดคุณภาพส่ิงแวดล้อมภายใน กรมพลาธิการทหารบก ผลการด�ำเนินงาน พบว่า

รายงานประจำ�ปี 2562 ANNUAL REPORT 2019 51

สถาบันวิจยั วิทยาศาสตรก์ ารแพทยท์ หาร

ARMED FORCES RESEARCH INSTITUTE OF MEDICAL SCIENCES

ความสวา่ งของแสง จลุ ชพี ในอากาศ ความชนื้ สมั พัทธ์ ลมระบายอากาศ ปริมาณก๊าซคารบ์ อนไดออกไซด์ และอุณหภูมิ ไม่อยู่
ในเกณฑ์มาตรฐาน
3.3.4 การตรวจวดั คณุ ภาพส่งิ แวดลอ้ มภายใน กองโรงงานวตั ถุระเบดิ ศูนย์อุตสาหการสรรพาวุธ
กรมสรรพาวธุ ทหารบก จว.อยธุ ยา ผลการดำ� เนนิ งาน พบวา่ ความสวา่ งของแสง ลมระบายอากาศ ความชนื้ สมั พทั ธ์ ปรมิ าณ
ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และความดังของเสียง ไมอ่ ย่ใู นเกณฑม์ าตรฐาน
3.3.5 การตรวจวัดคุณภาพส่ิงแวดล้อมภายใน กองโรงงานผลิตชนวนระเบิด ศูนย์อุตสาหการ
สรรพาวธุ กรมสรรพาวธุ ทหารบก จว.อยธุ ยา ผลการดำ� เนนิ งาน พบวา่ ความสวา่ งของแสง ลมระบายอากาศ ความชนื้ สมั พทั ธ์
และอุณหภมู ิ ไม่อยใู่ นเกณฑม์ าตรฐาน
3.3.6 การตรวจวัดคุณภาพสิ่งแวดล้อมภายใน กองซ่อมเคร่ืองมือสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ และ
โรงซ่อมเรดาร์ กรมการทหารส่อื สาร ผลการด�ำเนินงาน พบว่า อณุ หภมู ิ ความชืน้ สมั พทั ธ์ และความสวา่ งของแสง ไม่อยู่
ในเกณฑ์มาตรฐาน
3.3.7 การตรวจวัดคุณภาพส่ิงแวดล้อมภายใน โรงงานเภสัชกรรมทหาร ศูนย์การอุตสาหกรรม
ปอ้ งกนั ประเทศและพลงั งานทหาร ผลการดำ� เนนิ งาน พบวา่ ความสวา่ งของแสง สารอนิ ทรยี ร์ ะเหยงา่ ย และความดงั ของเสยี ง
ไมอ่ ยใู่ นเกณฑม์ าตรฐาน

3.4 งานสนบั สนนุ การตรวจด้านอาชีวอนามัย
3.4.1 การตรวจวดั คณุ ภาพสิง่ แวดล้อมภายใน สถาบนั วิจัยวทิ ยาศาสตรก์ ารแพทย์ทหาร (สวพท.)

ผลการด�ำเนินงาน พบวา่ ปรมิ าณฝ่นุ PM2.5 และลมระบายอากาศ ไม่อยใู่ นเกณฑม์ าตรฐาน
3.4.2 การตรวจวัดคุณภาพส่ิงแวดล้อมภายใน กองพยาธิวิทยา รพ.รร.6 ผลการด�ำเนินงาน พบว่า
ปริมาณฝุน่ PM2.5 หอ้ งเจาะเลือด (เคานเ์ ตอรช์ �ำระเงิน) ไมอ่ ยู่ในเกณฑม์ าตรฐาน
3.4.3 การตรวจวัดคณุ ภาพสงิ่ แวดล้อมภายใน บก.ทบ. ผลการด�ำเนินงาน พบวา่ ปรมิ าณฝุ่น PM2.5
ไมอ่ ย่ใู นเกณฑ์มาตรฐาน
3.4.4 การตรวจวัดคุณภาพสิ่งแวดล้อมภายใน กองพันเสนารักษ์ที่ 1 กองพลที่ 1 รักษาพระองค์
ผลการดำ� เนนิ งาน พบวา่ ปรมิ าณกา๊ ซคารบ์ อนไดออกไซด์ อณุ หภมู ิ ความสวา่ งของแสง และลมระบายอากาศ ไมอ่ ยใู่ นเกณฑ์
มาตรฐาน
3.4.5 การตรวจวัดคุณภาพสิ่งแวดล้อมภายใน กรมแพทย์ทหารบก ผลการด�ำเนินงาน พบว่า
ความสว่างของแสง ความชืน้ สมั พัทธ์ ลมระบายอากาศ และปรมิ าณกา๊ ซคาร์บอนไดออกไซด์ ไมอ่ ย่ใู นเกณฑ์มาตรฐาน
3.4.6 หอ้ งปฏบิ ัตกิ าร สวพท. จากโครงการ ISO 15189 ผลการดำ� เนนิ งาน พบวา่ อุณหภูมิ ลมระบาย
อากาศ ความสวา่ งของแสง และปริมาณกา๊ ซคาร์บอนไดออกไซด์ ไม่อยู่ในเกณฑม์ าตรฐาน

4. แผนกยาเสพตดิ

4.1 โครงการเฝ้าตรวจสารเสพติดให้โทษในทหาร (Drug Abuse Surveillance) ด�ำเนินการตรวจหา
สารเสพตดิ ใหโ้ ทษประเภท เมทแอมเฟตามนี กญั ชา และมอรฟ์ นี ในปสั สาวะของ ทหารกองประจำ� การ ผลดั ที่ 2/61 และทหาร
กองประจำ� การ ผลดั ที่ 1/62 สังกดั หนว่ ยสว่ นกลางและหน่วยใน พ้นื ทีก่ องทพั ภาคท่ี 1 จำ� นวน 12 หนว่ ย ยอดกำ� ลงั พลเขา้ รบั
การตรวจท้ังสน้ิ 2,371 นาย พบว่า มีอตั ราการใช้ สารเสพตดิ ประเภทเมทแอมเฟตามีน รอ้ ยละ 1.73 (41 นาย) กญั ชา รอ้ ยละ
3.5 (83 นาย) และมอรฟ์ นี รอ้ ยละ 0.21 (5 นาย) จากผลการตรวจหาสารเสพตดิ พบวา่ สารเสพตดิ ประเภท เมทแอมเฟตามนี
กญั ชาและมอรฟ์ นี มแี นวโนม้ ลดลงเม่อื เทยี บกบั ปกี อ่ น

4.2 โครงการหน่วยทหารสีขาว ด�ำเนินการตรวจสารเสพติดประเภท เมทแอมเฟตามีน กัญชา และมอร์ฟีน
ในปัสสาวะของก�ำลังพล กองทัพบกที่ต้องสงสัย ได้แก่ ทหารประจ�ำการ พนักงานราชการ และลูกจ้าง จ�ำนวน 14 หน่วย
ยอดก�ำลังพล เข้ารับการตรวจท้ังส้ิน 348 นาย พบว่า มีอัตราการใช้สารเสพติดประเภทเมทแอมเฟตามีน ร้อยละ 5.17
(18 นาย) กญั ชา รอ้ ยละ 0.57 (2 นาย) และมอรฟ์ นี รอ้ ยละ 0.29 (1 นาย) ผลการตรวจ พบวา่ สารเสพตดิ ประเภท เมทแอมเฟตามนี

52 รายงานประจำ�ปี 2562 ANNUAL REPORT 2019

สถาบันวจิ ัยวทิ ยาศาสตร์การแพทยท์ หาร

ARMED FORCES RESEARCH INSTITUTE OF MEDICAL SCIENCES

มีแนวโน้มเพิ่มข้ึน กัญชาและมอร์ฟีนมีแนวโน้มลดลง จากผลการตรวจดังกล่าว ท�ำให้มี มาตรการเน้นย�้ำให้หน่วยทหารและ
หน่วยฝึกทุกหน่วยเฝ้าระวังพฤติกรรมของก�ำลังพลท่ีต้องสงสัยอย่างต่อเน่ืองและให้มีการตรวจซ�้ำเพ่ือเป็นการเฝ้าระวังมิให้มี
การแพรร่ ะบาดของสารเสพติดในหน่วยทหาร

4.3 งานบริการห้องปฏิบัติการตรวจวิเคราะห์สารเสพติด ด�ำเนินการตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะของ
ผู้สมัครเข้าโรงเรยี นนักเรยี นทหาร และหน่วยงานอ่นื ๆ จ�ำนวน 8 หน่วย จ�ำนวน 5,554 ตัวอย่าง รายละเอียดดงั นี้
4.3.1 ตรวจหาสารเสพตดิ ในปสั สาวะของผสู้ อบผา่ นภาควชิ าการ หลกั สตู รนกั เรยี นนายสบิ ทหารบก จำ� นวน
3,991 ตวั อย่าง ตรวจพบ สารเสพติดประเภทเมทแอมเฟตามนี 19 ราย คดิ เป็นรอ้ ยละ 0.48
4.3.2 ตรวจหาสารเสพตดิ ในปสั สาวะของผสู้ อบผา่ นภาควชิ าการ หลกั สตู รนกั เรยี นโรงเรยี นชา่ งฝมี อื ทหาร
จ�ำนวน 1,055 ตัวอย่าง ตรวจไม่พบสารเสพติดประเภทเมทแอมเฟตามนี
4.3.3 ตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะของผู้สอบผ่านภาควิชาการ หลักสูตรนักเรียนพยาบาล วิทยาลัย
พยาบาลกองทัพบก จำ� นวน 272 ตวั อยา่ ง ตรวจไมพ่ บสารเสพติดประเภทเมทแอมเฟตามีนและมอรฟ์ ีน
4.3.4 ตรวจหาสารเสพตดิ ในปสั สาวะของเจา้ หนา้ ทใี่ นหนว่ ยงาน โรงพยาบาลสวนเบญจกติ เิ ฉลมิ พระเกยี รติ
84 พรรษา องค์การค้าของส�ำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.)
กองบญั ชาการตำ� รวจราชองครกั ษใ์ นพระองค์ กองบญั ชาการถวายความปลอดภยั รกั ษาพระองค์ และ สถาบนั วจิ ยั วทิ ยาศาสตร์
การแพทย์ทหาร (ฝ่ายสหรัฐฯ) จ�ำนวน 236 ตัวอยา่ ง ตรวจไม่พบสารเสพติดประเภทเมทแอมเฟตามีนและมอรฟ์ ีน

4.4 งานพัฒนาระบบคุณภาพห้องปฏิบัติการ ห้องปฏิบัติการยาเสพติดและพิษวิทยาผ่านการรับรอง
ความสามารถตามมาตรฐาน ISO 15189: 2012 ตามขอ้ ก�ำหนดและเงื่อนไขการรบั รองความสามารถหอ้ งปฏิบัติการทดสอบ
ด้านการแพทย์และสาธารณสุขของส�ำนักมาตรฐานห้องปฏิบัติการ ในรายการการตรวจเบ้ืองต้นของการทดสอบสารเสพติด
ประเภท เมทแอมเฟตามนี กญั ชา มอรฟ์ นี และการตรวจยนื ยนั ของการทดสอบสารเสพตดิ ประเภทเมทแอมเฟตามนี และ ISO
15190: 2003 ดา้ นความปลอดภยั ของหอ้ งปฏิบตั ิการทางการแพทย์

4.5 โครงการวิจัย
โครงการพัฒนาศักยภาพการตรวจวิเคราะห์สารสกัดจากกัญชาทางห้องปฏิบัติการ โดยมี ร.อ.หญิง สุมาลี
ผาจันทร์ เป็นหวั หน้าโครงการวิจยั อยู่ในระหว่างการพฒั นาวิธกี ารตรวจวเิ คราะห์

5. แผนกสัตว์ทดลอง

5.1 งานส�ำรวจโรคเลปโตสไปโรสิส
5.1.1 การสำ� รวจหาเชอื้ เลปโตสไปราในพืน้ ที่เสย่ี งรอบแปลงนาสาธิตการเกษตร รร.จปร
ในห้วงเดือน ต.ค.61 และ ก.ค.62 ผสท.กวค.สวพท. ให้ความร่วมมือ รพ.รร.จปร. ในการส�ำรวจหาเช้ือ
เลปโตสไปราในพื้นที่เส่ียงรอบๆ แปลงนาสาธิตการเกษตร รร.จปร. จว.นครนายก เพ่ือเป็นการถวายความปลอดภัยทาง
การแพทย์แด่ พล.อ.หญิง สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซ่ึงเสด็จ
แปลงนาสาธติ การเกษตร รร.จปร. เพอื่ ทรงปลกู ข้าว และทรงเกยี่ วขา้ ว ผลการด�ำเนนิ งาน ดักหนูได้ 3 ตัว เก็บตัวอย่างนำ้� 37
ตัวอย่าง เก็บตัวอย่างดินในแปลงนา 42 ตัวอย่าง น�ำตัวอย่างท้ังหมดมาเพาะแยกเชื้อเลปโตสไปรา พบเชื้อเลปโตสไปร่า
ชนิดก่อโรคจากไตหนู 1 ตวั อยา่ ง และเช้อื เลปโตสไปราชนิดไมก่ ่อโรคในตัวอยา่ งดนิ 1 ตัวอย่าง และตวั อยา่ งน้ำ� 2 ตวั อย่าง
5.1.2 งานส�ำรวจโรคเลปโตสไปโรสสิ ณ พื้นท่ีตามแผนการฝึกรว่ มฯ จว.ลพบรุ ี
ในห้วงเดือน ธ.ค.61 ผสท.กวค.สวพท. วางแผนการปฏิบัติงาน เพ่ือเข้าส�ำรวจ เก็บตัวอย่างดิน น�้ำ และ
สตั วพ์ าหะนำ� โรคเลปโตสไปโรสสิ ในบรเิ วณพน้ื ทส่ี ำ� คญั ของการฝกึ จำ� นวน 9 พนื้ ไดแ้ ก่ โรงพยาบาลอานนั ทมหดิ ล บา้ นโคกตมู
บ้านดีลังบ้านห้วยบง บ้านด�ำรงบุล เข่ือนป่าสักชลสิทธ์ิ บ้านหนองบัว บ้านเขาพระ และศูนย์ฝึกทางยุทธวิธีกองทัพบก
อ.ชัยบาดาล โดยได้ตัวอยา่ งไตหนู 97 ตัวอยา่ ง ตวั อยา่ งดนิ 25 ตัวอย่าง และนำ้� 28 ตวั อยา่ ง ซึ่งผลการตรวจหาเชือ้ โดยวธิ ี
การเพาะแยกเชื้อด้วยอาหารเลี้ยงเช้ือ EMJH พบเชื้อเลปโตสไปรา จากตัวอย่าง หนู 2 ตัวอย่าง ส่วนตัวอย่างดิน และน้�ำ
ไม่พบเช้ือเลปโตสไปรา

รายงานประจำ�ปี 2562 ANNUAL REPORT 2019 53

สถาบันวิจยั วิทยาศาสตรก์ ารแพทย์ทหาร

ARMED FORCES RESEARCH INSTITUTE OF MEDICAL SCIENCES

5.1.3 การศกึ ษาอบุ ตั กิ ารณข์ องโรคเลปโตสไปโรสสิ ใน โค กระบอื และสนุ ขั ในพนื้ ทจ่ี งั หวดั ศรสี ะเกษ
และจังหวัดนครศรธี รรมราช
ในห้วงเดือน มี.ค. 62 ผสท.กวค.สวพท. ร่วมกับแผนกกีฏวิทยา สวพท. (ฝ่ายสหรัฐฯ) ด�ำเนินการศึกษา
อัตราการติดเชื้อเลปโตสไปร่าและชนิดซีโรวาร์ของเชื้อเลปโตสไปร่าในปศุสัตว์ และสัตว์เลี้ยงในพ้ืนท่ี อ.ลานสกา อ.ท่าศาลา
และอ.เมอื ง จงั หวดั นครศรธี รรมราช เพอ่ื นำ� ขอ้ มลู มาเปน็ แนวทางในการวางแผนปอ้ งกนั โรคเลปโตสไปโรสสิ ในอนาคต ทมี วจิ ยั
ไดด้ ำ� เนนิ การเก็บตวั อย่างเลอื ด และปสั สาวะจากสุนขั 29 ตวั แมว 30 ตวั และโค 32 ตัว ผลการศึกษาพบเชื้อเลปโตสไปร่า
เฉพาะในตวั อย่างปัสสาวะของสุนขั จ�ำนวน 2 ตวั อยา่ ง
5.1.4 การสำ� รวจโรคเลปโตสไปโรสสิ ในสนุ ขั ทหารในพน้ื ทขี่ องหนว่ ยขนึ้ ตรงของกรมการสตั วท์ หารบก
เปน็ โครงการวจิ ยั รว่ มกบั กองวทิ ยาการ กรมการสตั วท์ หารบก และศนู ยก์ ารสนุ ขั ทหาร กรมการสตั วท์ หารบก
ไดร้ บั ทนุ วจิ ยั จาก ทนุ ท่านผหู้ ญงิ วริ ะยา ชวกลุ ฯ และไดร้ บั อนมุ ตั กิ ารพจิ ารณาดา้ นจรรยาบรรณการใชส้ ตั ว์ จากคณะกรรมการ
กำ� กับดแู ลการเลย้ี งสัตวแ์ ละใช้สตั วเ์ พ่ืองานทางวทิ ยาศาสตร์การแพทย์ ของ สวพท. รหสั โครการ ARAC 2/60 โครงการวจิ ัย
นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาอัตราติดเชื้อและสายพันธุ์ของเชื้อเลปโตสไปราในสุนัขทหาร ท่ีปฏิบัติหน้าท่ีภายในบริเวณพื้นท่ี
ปฏิบตั ิการทางทหาร ศูนย์การสนุ ขั ทหาร และกองพนั สนุ ขั ทหาร โดยการตรวจหาแอนตบิ อดตี ่อเชือ้ เลปโตสไปรา ด้วยเทคนคิ
Microscopic Agglutination test (MAT) ท�ำการเก็บตวั อยา่ งเลอื ดจากสนุ ขั จ�ำนวน 120 ตัว และตวั อย่างดิน และน้�ำ ภายใน
บริเวณ ศูนย์การสนุ ัขทหารจ�ำนวน 20 ตัวอย่าง โดยทำ� การตรวจหาระดบั ภมู คิ มุ้ กันต่อเชื้อเลปโตสไปราในเลือดทหารด้วยวธิ ี
Microscopic Agglutination test (MAT) พบวา่ สนุ ัขทหาร มีระดบั ภูมคิ มุ้ กันตอ่ เชื้อเลปโตสไปรา มากกวา่ 1:50 คิดเป็นรอ้ ยละ
64.17 โดยซโี รวาร์ ท่พี บมากที่สุด คอื Leptospira shermani รอ้ ยละ 56.7 รองลงมา คอื L. ranarum ร้อยละ 50 และพบว่า
ในกล่มุ ตัวอยา่ ง 120 ตัวอย่าง พบการตดิ เชอื้ ร่วมของซีโรวารท์ งั้ 2 ถงึ ร้อยละ 42.5 ซงึ่ โดยปกติแล้ว ซโี รวารท์ ้ัง 2 น้ี จะเป็น
ซีโรวาร์ที่มักพบใน โค และ กระบือ ในประเทศไทย แต่ยังไม่เคยมีการส�ำรวจพบเช้ือซีโรวาร์นี้ในสุนัข ในขณะท่ีภูมิคุ้มกัน
ตอ่ เชอื้ เลปโตสไปราทม่ี อี ยใู่ นวคั ซนี ปอ้ งกนั โรคเลปโตสไปโรสสิ กลบั พบในระดบั ตำ�่ มากซงึ่ ไมเ่ พยี งพอตอ่ การปอ้ งกนั โรคในสนุ ขั
ได้ ตวั อยา่ งดนิ และน�้ำ ภายในศนู ยก์ ารสนุ ขั ทหาร จ�ำนวน 20 ตวั อย่าง เมอ่ื นำ� มาเพาะแยกเชือ้ ดว้ ยอาหารเลีย้ งเชอ้ื EMJH
และตรวจยืนยันด้วย วิธี PCR พบเช้ือเลปโตสไปรา ชนิด ไม่ก่อโรค (non-pathogenic) จ�ำนวน 2 ตัวอย่าง ทางทีมวิจัยได้
น�ำเสนอผลการศกึ ษาใหแ้ ก่ มลู นธิ ฯิ และกรมการสตั วท์ หารบก เปน็ ท่ีเรียบร้อยแลว้ จะเป็นประโยชน์ต่อการปอ้ งกันโรคเลปโต
สไปโรสสิ ในสนุ ขั ทหารก�ำลังพลและสัตวท์ างทหารตอ่ ไปในอนาคต

6. การฝึกประสบการณ์นกั ศกึ ษาฝกึ งาน ณ กวค.สวพท.
ในปงี บประมาณ 2562 มนี กั ศึกษามาฝึกประสบการณ์วิชาชพี ทแี่ ผนกผลิตและควบคมุ มาตรฐาน จ�ำนวนทั้งสน้ิ
14 นาย โดยมรี ายละเอียด ดงั นี้
1. นักศึกษาระดบั ปรญิ ญาตรี สาขาวชิ าเทคโนโลยชี ีวผลิตภัณฑ์ สาขาชีววทิ ยาประยุกต์ คณะวิทยาศาสตร์ และ
ศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน นครราชสีมา จ�ำนวน 2 นาย ฝึกประสบการณ์ด้านอาชีวอนามัยและ
ความปลอดภัย โดยแผนกผลติ และควบคุมมาตรฐาน กวค.สวพท. ระหวา่ งวนั ที่ 1 เมษายน - 31 พฤษภาคม 2562
2. นกั ศกึ ษาระดบั ปรญิ ญาตรี สาขาจลุ ชวี วทิ ยา คณะวทิ ยาศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ทกั ษณิ วทิ ยาเขตพทั ลงุ จำ� นวน
1 นาย ฝึกประสบการณ์ด้านอาชีวอนามยั และความปลอดภัย โดยแผนกผลติ และควบคมุ มาตรฐาน กวค.สวพท. ระหวา่ งวันที่
1 พฤษภาคม - 14 มิถุนายน 2562
3. นักศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาเคมีอุตสาหกรรม คณะวิทยาศาสตร์ประยุกต์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี
พระจอมเกลา้ พระนครเหนอื จำ� นวน 4 นาย ฝกึ ประสบการณด์ า้ นอาชวี อนามยั และความปลอดภยั โดยแผนกผลติ และควบคมุ
มาตรฐาน กวค.สวพท. ระหว่างวันท่ี 2 พฤษภาคม - 14 มถิ ุนายน 2562
4. นักศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาเทคโนโลยีชีวภาพ คณะวิทยาศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า
เจ้าคุณทหารลาดกระบัง จ�ำนวน 3 นาย ฝึกประสบการณ์ด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย โดยแผนกผลิตและควบคุม
มาตรฐาน กวค.สวพท. ระหว่างวันท่ี 3 มถิ นุ ายน - 31 กรกฎาคม 2562

54 รายงานประจำ�ปี 2562 ANNUAL REPORT 2019

สถาบันวจิ ยั วิทยาศาสตร์การแพทย์ทหาร

ARMED FORCES RESEARCH INSTITUTE OF MEDICAL SCIENCES

5. นักศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาเคมี คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทา
จำ� นวน 2 นาย ฝกึ ประสบการณด์ า้ นอาชวี อนามยั และความปลอดภยั โดยแผนกผลติ และควบคมุ มาตรฐาน กวค.สวพท. ระหวา่ ง
วนั ที่ 3 มถิ ุนายน - 2 สิงหาคม 2562
6. นกั ศึกษาระดบั ปริญญาตรี สาขาวทิ ยาศาสตร์การแพทย์ คณะวทิ ยาศาสตร์การแพทย์ มหาวิทยาลยั นเรศวร
จำ� นวน 2 นาย ฝกึ ประสบการณด์ า้ นอาชวี อนามยั และความปลอดภยั โดยแผนกผลติ และควบคมุ มาตรฐาน กวค.สวพท. ระหวา่ ง
วนั ที่ 24 มถิ ุนายน - 11 ตลุ าคม 2562

7. การเผยแพรผ่ ลงาน

7.1 ผลงานตีพิมพ์
1) Techawiwattanaboon T, Barnier-Quer C, Palaga T, Jacquet A, Collin N, Sangjun N, Komanee P,
Piboonpocanun S and Patarakul K. 2019. Reduced Renal Colonization and Enhanced Protection by Leptospiral
Factor H Binding Proteins as a Multisubunit Vaccine Against Leptospirosis in Hamsters. Vaccines. Aug 22; 7(3)
2) Srikawnawan W., Thakerngpol K., Parichatikanond P., Phulsuksombati D., Sangjun N., Pilakasiri C.
Keeratikunakorn K. and Pilakasiri K. 2019. Hamster Lung Infected with Leptospira interrogans: Ultrastructural Study.
Siriraj Med J. 71 (Suppl 1): 145-152.
3) Chaipunko S., Phulsuksombati D., Sangjun N., Roongruangchai J., Pilakasiri C., Pudgerd A.,
Koedpuech K., Keeratikunakorn K. and Pilakasiri K. 2019. Leptospiral Antigen Localization in the Infected Gastrocnemius
Muscle with Leptospira interrogans Serovar Pyrogenes. Siriraj Med J. 71 (Suppl 1): 153-159.
4) Ruxsanawet K., Thakrerngpol K., Parichatikanond P., Phulsuksombati D., Sangjun N., Pilakasiri C.,
Hipkaeo W., Koedpuech K., and Pilakasiri K. 2019. Degenerative Ultrastructural Changes of Infected Hamster
Gastrocnemius Muscle with Leptospira interrogans, Serovar Pyrogenes. Siriraj Med J. 71 (Suppl 1): 160-169.

7.2 การนำ� เสนอผลงานวจิ ยั
1) ผลงานเร่อื ง “Immunogenicity of Multicomponent Vaccines Containing Leptospiral Factor H-binding
Proteins in Hamsters” นำ� เสนอในรปู แบบ Poster Presentation โดย พ.ท. นพดล แสงจนั ทร์ และ พ.ต.ภทั ร กอมณี ในงาน
ประชมุ วชิ าการโรงพยาบาลพระมงกฎุ เกล้า คร้ังที่ 46 ระหว่าง 20-22 พฤศจิกายน 2561
2) ผลงานเรอ่ื ง “Leptospirosis and One Health Approach (in Animal Aspect)” น�ำเสนอโดย พ.ท. นพดล
แสงจนั ทร์ และ พ.ต.ภทั ร กอมณี รว่ มกบั ทมี วจิ ยั แผนกกฏี วทิ ยา สวพท. (ฝา่ ยสหรฐั ฯ) และ สำ� นกั งานปศสุ ตั ว์ จงั หวดั ศรสี ะเกษ
ในการประชุมวชิ าการโรคเลปโตสไปโรสสิ ประจำ� ปี 2562 ณ โรงแรมธรรมรินทรธ์ นา จงั หวัดตรัง ระหวา่ ง 5-6 มถิ ุนายน 2562
3) ผลงานเร่อื ง “การให้วคั ซีนชนิดซับยูนติ LigAc ร่วมกบั แอดจูแวนด์ LMQ ทางกล้ามเน้อื ปอ้ งกนั พยาธสิ ภาพ
ที่ไตของแฮมสเตอร์ที่ติดเช้ือเลปโตสไปราสายพันธุ์ก่อโรค” น�ำเสนอโดย พ.ท. นพดล แสงจันทร์ และ พ.ต.ภัทร กอมณี
ร่วมกับทีมวิจัยภาควิชาจุลชีววิทยา คณะแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในการประชุมวิชาการโรคเลปโตสไปโรสิส
ประจ�ำปี 2562 ณ โรงแรมธรรมรินทรธ์ นา จงั หวดั ตรงั ระหวา่ ง 5-6 มถิ ุนายน 2562

รายงานประจำ�ปี 2562 ANNUAL REPORT 2019 55

สถาบันวิจัยวทิ ยาศาสตรก์ ารแพทย์ทหาร

ARMED FORCES RESEARCH INSTITUTE OF MEDICAL SCIENCES

56 รายงานประจำ�ปี 2562 ANNUAL REPORT 2019



สถาบนั วิจัยวทิ ยาศาสตรก์ ารแพทยท์ หาร

ARMED FORCES RESEARCH INSTITUTE OF MEDICAL SCIENCES

การใช้ “สวพท.-นวมินทราชินีโมเดล” ในการเวชกรรมป้องกันก�ำลังพลจากโรค
ท่ีมีในพ้ืนท่ีการฝึก จว.ชลบุรี และพื้นที่ปฏิบัติการทางทหารตามแนวชายแดน
จว.ตาก

วฒุ กิ รณ์ รอดความทกุ ข์ จรยิ าณาฏ เกวี ดรณุ ี อเุ ทนนาม มณรี ตั น์ สมศร นฤพน คตุ ตะสงิ คี
ยทุ ธพงษ์ สดุ สวาท กมลวรรณ ศิริวฒั นกลุ วรี ะ บุญโสม ชัยยะ จันทรช์ ู และ ปราโมทย์ อ่มิ วฒั นา

สถาบนั วจิ ยั วิทยาศาตรก์ ารแพทย์ทหาร

บทคดั ย่อ

การด�ำเนินกิจกรรมในครั้งนี้เป็นการให้ความรู้เรื่องโรคติดต่อท่ีมีในพื้นท่ีฝึกและพ้ืนที่ปฏิบัติการทางทหารตามแนว
ชายแดน โดยวธิ กี ารบรรยายและแจกแผ่นพับ พรอ้ มทง้ั แจกจ่ายยาทาป้องกนั แมลงให้กับกำ� ลังพล จำ� นวน 2 หนว่ ย คอื ร.21
รอ. จว.ชลบรุ ี และ ร.14 จว.ตาก โดยในกลมุ่ ก�ำลังพล ร.21 รอ. ไดด้ �ำเนนิ การให้ความรู้เรอ่ื งโรคสครับไทฟัสก่อนออกฝกึ ภาค
สนาม ประจ�ำปี 2559 ใน อ.ศรรี าชา จว.ชลบรุ ี ซ่ึงเปน็ พน้ื ท่เี สีย่ งสงู ต่อการติดเชอ้ื กอ่ โรคสครบั ไทฟสั พรอ้ มท้งั แจกจา่ ยยาทา
ปอ้ งกนั แมลงใหก้ ำ� ลงั พลนำ� ไปใชร้ ะหวา่ งฝกึ ผลการดำ� เนนิ กจิ กรรม มกี ำ� ลงั พล ร.21 รอ. เขา้ รว่ มทง้ั หมด 420 นาย การวเิ คราะห์
แบบสอบถาม พบว่า กอ่ นด�ำเนนิ กิจกรรมมีกำ� ลงั พล ตอบว่ารู้จกั โรคสครับไทฟัส รอ้ ยละ 21.3 หลงั การจัดกิจกรรมมีก�ำลงั พล
ตอบวา่ รจู้ ักโรคสครับไทฟัส รอ้ ยละ 95.9 กำ� ลังพลมีความคิดเหน็ ว่ากิจกรรมมีประโยชน์ ร้อยละ 98.3 และก�ำลังพลมคี วามคดิ
เห็นว่าควรจัดกิจกรรมให้ความรู้กับทหารรุ่นน้องก่อนออกฝึกภาคสนามในปีต่อไป ร้อยละ 99.4 การส�ำรวจสัตว์รังโรคสครับ
ไทฟสั ในพน้ื ทฝี่ กึ พบหนตู ดิ เชอ้ื กอ่ โรคสครบั ไทฟสั รอ้ ยละ 90.9 ซง่ึ แสดงวา่ พน้ื ทฝี่ กึ มคี วามเสย่ี งสงู ตอ่ การตดิ เชอื้ กอ่ โรคสครบั
ไทฟัส การเฝ้าระวังโรคหลังก�ำลังพลกลับจากการฝึก พบว่า ไม่มีก�ำลังพลป่วยด้วยโรคสครับไทฟัส หลังฝึกภาคสนามใน
อ.ศรีราชา จว.ชลบรุ ี ประจำ� ปี 2559 สำ� หรบั การจัดกจิ กรรมในก�ำลังพล ร.14 จว.ตาก ได้ดำ� เนินการ ใหค้ วามรู้เรื่องโรคสครบั
ไทฟสั และโรคมาลาเรยี กอ่ นก�ำลังพลออกปฏบิ ตั ิหน้าท่ีตามแนวชายแดน ไทย - เมียนมา จว.ตาก ประจำ� ปีงบประมาณ 2560
พร้อมทั้งแจกจ่ายยาทาป้องกันแมลงให้ก�ำลังพลน�ำไปใช้ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ผลการด�ำเนินการ มีก�ำลังพล ร.14 เข้าร่วม
ทั้งหมด 226 นาย การวเิ คราะหแ์ บบสอบถาม พบวา่ กอ่ นจดั กจิ กรรมมีกำ� ลังพลตอบว่ารู้จักโรคสครับไทฟสั ร้อยละ 11.9 หลัง
การจดั กิจกรรมมีกำ� ลังพลตอบว่ารู้จกั โรคสครับไทฟัส ร้อยละ 100 ส�ำหรบั โรคมาลาเรยี มกี �ำลงั พลตอบถูกว่าเชื้อสาเหตุของ
โรคมาลาเรยี คอื เชอื้ พลาสโมเดยี ม รอ้ ยละ 82.1 และตอบถกู วา่ ยงุ กน้ ปลอ่ งเปน็ พาหะนำ� โรค รอ้ ยละ 97.2 การสอบถามเกยี่ วกบั
ความพึงพอใจในการจัดกิจกรรม มีก�ำลังพลตอบว่ากิจกรรมการให้ความรู้เรื่องโรคติดต่อตามแนวชายแดนก่อนก�ำลังพล
ออกปฏบิ ัตหิ น้าท่ีมีประโยชน์ ร้อยละ 100 มกี �ำลงั พลตอบว่าสามารถนำ� ความรู้จากการอบรมไปใชป้ อ้ งกันโรคระหว่างปฏบิ ตั ิ
หนา้ ทต่ี ามแนวชายแดนได้ รอ้ ยละ 100 และเหน็ ควรใหม้ กี ารจดั กจิ กรรมใหก้ บั กำ� ลงั พลกอ่ นออกปฏบิ ตั หิ นา้ ทตี่ ามแนวชายแดน
ในปีต่อไป ร้อยละ 100 การส�ำรวจสัตว์รังโรคสครับไทฟัสในพ้ืนท่ีปฏิบัติการทางทหารตามแนวชายแดน จว.ตาก พบหนู
ติดเช้อื กอ่ โรคสครับไทฟัส ร้อยละ 12.5 การเฝ้าระวังโรคสครบั ไทฟสั และโรคมาลาเรยี ระหว่างกำ� ลังพล ร.14 ปฏิบัตหิ นา้ ที่
ตามแนวชายแดน จว.ตาก พบว่า ไมม่ ีกำ� ลงั พลปว่ ยด้วยโรคสครบั ไทฟัสและโรคมาลาเรีย

รายงานสมาคมแพทยท์ หารแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชปู ถัมภ์ ประจ�ำปี 2561

รายงานประจ�ำ ปี 2562 ANNUAL REPORT 2019 59

สถาบนั วจิ ัยวทิ ยาศาสตรก์ ารแพทยท์ หาร

ARMED FORCES RESEARCH INSTITUTE OF MEDICAL SCIENCES

การเดินส�ำรวจและตรวจวัดอาชีวอนามัย ความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม
โรงพยาบาลคา่ ยสรุ สิงหนาท

มนสั วี ทองศฤงคลี วิระ ทองพมุ่ มานพ ภู่ยนิ ดี ปยิ าภัสร์ ยงั รอด คณุ ากร คณา ดวงพร พลู สขุ สมบัติ
และ อรรถสิทธ์ิ ประดิษฐ์พรกลู

สถาบนั วจิ ัยวิทยาศาสตรก์ ารแพทย์ทหาร

รายงานความกา้ วหน้า

โรงพยาบาลค่ายสุรสิงหนาทมีหน้าที่หลักในการให้การบริการทางการแพทย์แก่ก�ำลังพลทหาร ครอบครัว และ
ประชาชนทวั่ ไป รวมถงึ ใหก้ ารสง่ เสรมิ สขุ ภาพ ปอ้ งกนั โรค และพฒั นาคณุ ภาพอยา่ งตอ่ เนอื่ งในพนื้ ทจ่ี งั หวดั สระแกว้ รพ.คา่ ยฯ
มนี โยบายดา้ นความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทำ� งาน โดยมกี ารตรวจวดั ลา่ สดุ เมอื่ ปี พ.ศ.2557 ซงึ่ เปน็
ระยะเวลานานพอสมควร การจดั การสภาพแวดลอ้ มภายในสถานทท่ี �ำงานไมไ่ ดม้ าตรฐานนั้น ตัวอย่างเชน่ แสงสว่างไม่เพียง
พอ จุลชีพในอากาศสงู และการระบายอากาศที่ไม่ดี เหลา่ นอี้ าจส่งผลใหผ้ ้ปู ฏบิ ตั ิงานในสถานทท่ี �ำงานเกิดการเจ็บปว่ ย ดังนนั้
การจดั สภาวะแวดลอ้ มทเี่ หมาะสม จะป้องกันและลดภาวะเจ็บป่วยจากการท�ำงานได้ ดงั น้ัน แผนกผลติ และควบคุมมาตรฐาน
กองวเิ คราะห์ สถาบนั วจิ ยั วทิ ยาศาสตรก์ ารแพทยท์ หาร (ผผค.กวค.สวพท.) จงึ ไดท้ ำ� การสำ� รวจและตรวจวดั คณุ ภาพสงิ่ แวดลอ้ ม
ภายใน รพ.คา่ ยฯ เพอ่ื สง่ เสรมิ สขุ ลกั ษณะ ทเี่ หมาะสมของสงิ่ แวดลอ้ มในสถานทท่ี ำ� งาน และเปน็ การสง่ เสรมิ สขุ ภาพของกำ� ลงั พล
โดยดำ� เนนิ การสำ� รวจและตรวจวดั คุณภาพสงิ่ แวดล้อมตามส่งิ แวดล้อมและปัจจัยคุกคามต่าง ๆ ดังน้ี

1. ปัจจัยคุกคามทางสารเคมีในอากาศ ได้แก่ สารอินทรีย์ระเหยง่าย ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ และก๊าซ
คาร์บอนไดออกไซด์ และปรมิ าณฝุ่นรวม

2. ปจั จยั คกุ คามทางกายภาพ ไดแ้ ก่ อณุ หภมู ิ ความชนื้ สมั พทั ธ์ ความสวา่ งของแสง ความดงั ของเสยี ง และลมระบาย
อากาศ

3. ปัจจัยคุกคามทางชีวภาพ ได้แก่ เชือ้ รา และแบคทเี รีย
4. ปจั จัยคุกคามทางการยศาสตร์
5. ปัจจยั คกุ คามทางอุบตั ิเหตุ
6. ปจั จยั คุกคามทางด้านอารมณ์/จติ สงั คม
7. ความปลอดภยั ดา้ นอคั คีภยั
จากการเดนิ ส�ำรวจและตรวจวัด รพ.คา่ ยฯ พบว่า มปี จั จยั สิง่ คุกคามท่ตี ้องดำ� เนนิ การปรับเปลีย่ นแกไ้ ข ประกอบดว้ ย
ด้านกายภาพ ด้านคุณภาพอากาศ ด้านอุบัติเหตุ ด้านการยศาสตร์ และด้านชีวภาพ โดยมีรายละเอียดของสิ่งคุกคามใน
แต่ละด้านเพียงเล็กน้อย แต่ในภาพรวมด้านส่ิงแวดล้อม งานด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย มีความปลอดภัยดี
โดยเฉพาะดา้ นอคั คภี ยั ทม่ี กี ารบรหิ ารจดั การทดี่ ี ดงั นน้ั มเี พยี งบางจดุ ทจ่ี ะตอ้ งปรบั ปรงุ เพม่ิ เตมิ โดย ผผค.ฯ ไดใ้ หข้ อ้ เสนอแนะ
เพอ่ื ให้ได้ดำ� เนินการแก้ไขตอ่ ไป

60 รายงานประจำ�ปี 2562 ANNUAL REPORT 2019

สถาบนั วจิ ยั วทิ ยาศาสตรก์ ารแพทย์ทหาร

ARMED FORCES RESEARCH INSTITUTE OF MEDICAL SCIENCES

การตรวจวัดคุณภาพส่ิงแวดล้อมภายใน กองโรงงานซ่อมสร้างยุทโธปกรณ์
สายสรรพาวธุ ศูนย์ซ่อมสร้างสิ่งอปุ กรณ์สายสรรพาวุธ กรมสรรพาวธุ ทหารบก

มนสั วี ทองศฤงคลี วชั รภสั ร์ มณีฉาย วริ ะ ทองพมุ่ มานพ ภู่ยินดี ปยิ าภัสร์ ยังรอด คณุ ากร คณา
และ ดวงพร พลู สขุ สมบตั ิ

สถาบนั วิจัยวิทยาศาสตร์การแพทย์ทหาร

รายงานความกา้ วหนา้

ปจั จบุ นั มคี วามเจรญิ กา้ วหนา้ ทางดา้ นเทคโนโลยเี ปน็ อยา่ งมาก ประกอบกบั มอี ปุ กรณอ์ ำ� นวยความสะดวกทที่ นั สมยั
มาใช้ในสถานที่ท�ำงานมากข้ึน อุปกรณ์บางประเภทมีส่วนประกอบของสารเคมี ทำ� ให้มีโอกาสเกิดความเป็นพิษต่อร่างกาย
รวมถงึ การจดั การสภาพแวดลอ้ มภายในสถานทที่ ำ� งานไมไ่ ดม้ าตรฐาน ซงึ่ สง่ิ เหลา่ นส้ี ง่ ผลใหผ้ ปู้ ฏบิ ตั งิ านในสถานทที่ ำ� งานเกดิ
การเจ็บปว่ ยได้ ดังน้ันจึงควรจดั สภาวะแวดลอ้ มทเ่ี หมาะสมแกก่ ารท�ำงาน เพือ่ ปอ้ งกันและลดภาวะเจ็บปว่ ยจากการทำ� งาน

แผนกผลติ และควบคมุ มาตรฐาน กองวิเคราะห์ สถาบนั วิจยั วิทยาศาสตรก์ ารแพทยท์ หาร (ผผค.กวค.สวพท.) จึงได้
ท�ำการส�ำรวจและตรวจวัดคุณภาพส่ิงแวดล้อมภายในสถานที่ท�ำงาน กองโรงงานซ่อมสร้างยุทโธปกรณ์ สายสรรพาวุธ
ศูนย์ซอ่ มสรา้ งส่งิ อุปกรณส์ ายสรรพาวธุ กรมสรรพาวุธทหารบก (กรซย.ศซส.สพ.ทบ.) โดยมวี ตั ถุประสงค์ ดงั นี้

1. เพ่ือตดิ ตามตรวจสอบดา้ นสภาพแวดล้อม อาชีวอนามยั และความปลอดภัยในการท�ำงาน
2. เพ่ือเปน็ แนวทางในการปอ้ งกัน และลดมลภาวะท่อี าจกอ่ ให้เกดิ ผลกระทบตอ่ คุณภาพสง่ิ แวดล้อมภายในสถานท่ี
ท�ำงาน และพืน้ ทโ่ี ดยรอบ
3. เพอื่ สง่ เสรมิ สขุ ลกั ษณะทเ่ี หมาะสมของสง่ิ แวดลอ้ มในสถานทปี่ ฏบิ ตั งิ าน และเปน็ การสง่ เสรมิ สขุ ภาพของกำ� ลงั พล
ใหม้ ีสขุ ภาพแขง็ แรง
โดย ผผค.ฯ ไดด้ ำ� เนนิ การตรวจวดั คณุ ภาพสงิ่ แวดลอ้ ม 2 พน้ื ที่ ประกอบดว้ ย โรงงานซอ่ มสรา้ งยานยนต์ทหาร และ
โรงงานอาวุธและเครื่องควบคุมการยิง ตรวจวัดท้ังหมด 3 ด้าน ดังน้ี
1. ด้านกายภาพ: อุณหภูมิ ความช้ืนสัมพัทธ์ ความดังของเสียง ลมระบายอากาศ และความสว่างของแสง
2. ด้านปริมาณสารเคมีในอากาศ: ปริมาณฝุ่นรวม และสารอินทรีย์ระเหยง่ายรวม
3. ด้านปริมาณก๊าซในอากาศ: ปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และปริมาณก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์
ผลการตรวจวัดคุณภาพส่ิงแวดล้อมภายในโรงงานซ่อมสร้างยานยนต์ทหาร ปัญหาที่พบ ได้แก่ ความสว่าง
ของแสงไม่เพียงพอต่อการปฏิบัติงาน อุณหภูมิสูง ความชื้นสัมพัทธ์สูง สารอนิ ทรยี ร์ ะเหยงา่ ยสงู ความดงั ของเสยี งสงู กา๊ ซ
คารบ์ อนไดออกไซดส์ งู ลมระบายอากาศตำ่� และปรมิ าณฝนุ่ รวมสงู สำ� หรบั โรงงานอาวธุ และเครอื่ งควบคมุ การยงิ ปญั หาทพ่ี บไดแ้ ก่
ความสวา่ งของแสงไมเ่ พยี งพอตอ่ การปฏบิ ตั งิ าน ปรมิ าณฝนุ่ รวมสงู และกา๊ ซคารบ์ อนไดออกไซดส์ งู
ซงึ่ การตรวจวดั คณุ ภาพสง่ิ แวดลอ้ มภายใน กรซย.ศซส.สพ.ทบ. เปน็ การเฝา้ ระวงั ปญั หาสขุ ภาพของกำ� ลงั พลจากมลพษิ
เพอ่ื คณุ ภาพทด่ี ขี องผปู้ ฏบิ ตั งิ าน ทงั้ นหี้ าก กรซย.ศซส.สพ.ทบ. ไดด้ ำ� เนนิ การปรบั ปรงุ ตามขอ้ เสนอแนะ เหน็ ควรตรวจวดั คณุ ภาพ
สง่ิ แวดลอ้ ม อกี ครง้ั เพอ่ื ใหอ้ ยใู่ นเกณฑม์ าตรฐาน

รายงานประจ�ำ ปี 2562 ANNUAL REPORT 2019 61

สถาบนั วจิ ัยวทิ ยาศาสตร์การแพทย์ทหาร

ARMED FORCES RESEARCH INSTITUTE OF MEDICAL SCIENCES

การตรวจวัดคุณภาพสง่ิ แวดล้อมภายในสถานท่ีทำ� งาน กรมแพทยท์ หารบก

มนสั วี ทองศฤงคลี วชั รภสั ร์ มณฉี าย วิระ ทองพมุ่ มานพ ภยู่ นิ ดี ปิยาภสั ร์ ยงั รอด คณุ ากร คณา
และ ดวงพร พูลสขุ สมบัติ

สถาบนั วจิ ยั วิทยาศาสตร์การแพทย์ทหาร

รายงานความก้าวหน้า

ในโลกปัจจุบันมีความเจริญก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีเพิ่มข้ึนเป็นอย่างมาก มีการพัฒนาอุปกรณ์เครื่องจักรเพื่อ
อำ� นวยความสะดวก รวมทงั้ สภาพแวดลอ้ มทางกายภาพตอ่ สถานทท่ี ำ� งานไมไ่ ดม้ าตรฐาน เชน่ แสงสวา่ งทไ่ี มเ่ พยี งพอ อณุ หภมู ิ
ไมอ่ ยใู่ นเกณฑม์ าตรฐาน และการระบายอากาศไมด่ ี เปน็ ตน้ ปจั จยั เหลา่ นส้ี ง่ ผลตอ่ สขุ ภาพของบคุ ลากรในสถานทท่ี ำ� งาน ทำ� ให้
เกิดอาการเจ็บป่วยอย่างเรื้อรังและประสิทธิภาพการท�ำงานลดลง ดังน้ันจึงควรจัดสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมแก่การท�ำงาน
เพื่อลดภาระเจบ็ ป่วยจากการท�ำงาน

แผนกผลติ และควบคุมมาตรฐาน กองวิเคราะห์ สถาบนั วิจยั วทิ ยาศาสตรก์ ารแพทย์ทหาร (ผผค.กวค.สวพท.) จงึ ได้
ท�ำการส�ำรวจและตรวจวดั คณุ ภาพสงิ่ แวดล้อมภายในสถานท่ที ำ� งาน กรมแพทย์ทหารบก โดยมีวัตถุประสงค์ ดังน้ี

1. เพ่อื ตดิ ตามตรวจสอบด้านสภาพแวดล้อม อาชีวอนามัยและความปลอดภยั ในการท�ำงาน
2. เพือ่ เปน็ แนวทางในการป้องกัน และลดมลภาวะทอ่ี าจกอ่ ใหเ้ กิดผลกระทบต่อคณุ ภาพสง่ิ แวดล้อมภายในสถานท่ี
ทำ� งาน และพน้ื ทโี่ ดยรอบ
3. เพอื่ สง่ เสรมิ สขุ ลกั ษณะทเ่ี หมาะสมของสงิ่ แวดลอ้ มในสถานทป่ี ฏบิ ตั งิ าน และเปน็ การสง่ เสรมิ สขุ ภาพของกำ� ลงั พล
ให้มีสุขภาพแขง็ แรง
โดย ผผค.ฯ ได้ด�ำเนินการตรวจวัดคุณภาพสิ่งแวดล้อมภายในสถานที่ท�ำงาน กรมแพทย์ทหารบก ประกอบด้วย
บก.พบ. โรงเรยี นเสนารกั ษ์ กองคลังแพทย์/คลงั ยา กองทนั ตกรรม กองรอ้ ยบริการ (รอ้ ย.บร.พบ.) กองบริการ (กบร.พบ.) และ
หน่วยเวชกรรมปอ้ งกนั กองทพั บก (นวป.ทบ.) โดยดำ� เนนิ การตรวจวัดคณุ ภาพสิ่งแวดลอ้ ม 2 ดา้ น ไดแ้ ก่
1. ดา้ นกายภาพ: อณุ หภูมิ ความช้ืนสัมพทั ธ์ ความดังของเสยี ง ลมระบายอากาศ และความสว่างของแสง
2. ด้านปรมิ าณก๊าซในอากาศ: ปริมาณกา๊ ซคาร์บอนมอนอกไซด์ และปริมาณก๊าซคารบ์ อนไดออกไซด์
จากผลการตรวจวัดคณุ ภาพสงิ่ แวดลอ้ ม ปัญหาท่ีพบของแตล่ ะพื้นท่มี ดี งั น้ี
- บก.พบ. พบแสงสวา่ งไมเ่ พยี งพอ ความชนื้ สมั พทั ธส์ งู ลมระบายอากาศตำ�่ และปรมิ าณกา๊ ซคารบ์ อนไดออกไซดส์ งู
- โรงเรียนเสนารักษ์ พบแสงสวา่ งไมเ่ พียงพอ และความชื้นสัมพัทธส์ ูง
- กองคลงั แพทย/์ คลงั ยา กองทนั ตแพทย์ และรอ้ ย.บร.พบ. พบแสงสวา่ งไมเ่ พยี งพอ และลมระบายอากาศตำ่�
- หนว่ ยเวชกรรมปอ้ งกนั กองทพั บก พบแสงสวา่ งไมเ่ พยี งพอ ลมระบายอากาศตำ่� และความชนื้ สมั พทั ธส์ งู
ซ่ึงการตรวจวัดคุณภาพสิ่งแวดล้อมภายในสถานที่ท�ำงานของกรมแพทย์ทหารบก เป็นการเฝ้าระวังปัญหาสุขภาพ
ของกำ� ลงั พลจากสิง่ แวดล้อมในสถานที่ท�ำงาน เพอ่ื คณุ ภาพท่ีดีของผู้ปฏิบัติงาน ท้งั นี้ หากกรมแพทย์ทหารบก ไดด้ �ำเนนิ การ
ปรบั ปรงุ ตามขอ้ เสนอแนะ เหน็ ควรตรวจวัดคุณภาพส่ิงแวดลอ้ มอีกคร้ังเพอ่ื ใหอ้ ยใู่ นเกณฑม์ าตรฐาน

62 รายงานประจ�ำ ปี 2562 ANNUAL REPORT 2019

สถาบนั วิจัยวิทยาศาสตรก์ ารแพทยท์ หาร

ARMED FORCES RESEARCH INSTITUTE OF MEDICAL SCIENCES

การตรวจวดั คณุ ภาพสงิ่ แวดลอ้ มภายในสถานทที่ ำ� งาน กองซอ่ มเครอ่ื งมอื สอื่ สาร-
อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ กรมการทหารส่ือสาร

มนสั วี ทองศฤงคลี วชั รภัสร์ มณีฉาย วริ ะ ทองพุ่ม มานพ ภยู่ ินดี ปิยาภัสร์ ยงั รอด คณุ ากร คณา
และ ดวงพร พลู สุขสมบตั ิ

สถาบนั วิจัยวทิ ยาศาสตรก์ ารแพทยท์ หาร

รายงานความกา้ วหน้า

ในโลกปัจจุบันมีความเจริญก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีเพ่ิมข้ึนเป็นอย่างมาก มีการพัฒนาอุปกรณ์เครื่องจักรเพ่ือ
อำ� นวยความสะดวก รวมทง้ั สภาพแวดลอ้ มทางกายภาพตอ่ สถานทท่ี ำ� งานไมไ่ ดม้ าตรฐาน เชน่ แสงสวา่ งทไี่ มเ่ พยี งพอ อณุ หภมู ิ
ไม่อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน และการระบายอากาศไม่ดี เป็นต้น ปัจจัยเหล่าน้ีส่งผลต่อสุขภาพของบุคลากรในสถานที่ท�ำงาน
ท�ำให้เกิดอาการเจ็บป่วยอย่างเร้ือรังและประสิทธิภาพการท�ำงานลดลง ดังน้ันจึงควรจัดสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมแก่
การทำ� งาน เพอื่ ลดภาระเจบ็ ปว่ ยจากการท�ำงาน

แผนกผลิตและควบคมุ มาตรฐาน กองวิเคราะห์ สถาบันวจิ ยั วทิ ยาศาสตร์การแพทย์ทหาร (ผผค.กวค.สวพท.) จึงได้
ทำ� การสำ� รวจและตรวจวัดคุณภาพสง่ิ แวดล้อมภายในสถานทที่ �ำงาน กองซอ่ มเคร่ืองมือสอื่ สาร-อิเล็กทรอนกิ ส์ กรมการทหาร
ส่อื สาร โดยมวี ตั ถุประสงค์ ดงั น้ี

1. เพอ่ื ตดิ ตามตรวจสอบด้านสภาพแวดล้อม อาชวี อนามยั และความปลอดภัยในการทำ� งาน
2. เพ่อื เป็นแนวทางในการปอ้ งกัน และลดมลภาวะที่อาจก่อใหเ้ กิดผลกระทบต่อคณุ ภาพสิ่งแวดลอ้ มภายในสถานท่ี
ท�ำงาน และพื้นทโี่ ดยรอบ
3. เพ่ือส่งเสริมสุขลักษณะที่เหมาะสมของสิ่งแวดล้อมในสถานที่ปฏิบัติงาน และเป็นการส่งเสริมสุขภาพของก�ำลัง
พลใหม้ ีสุขภาพแข็งแรง
โดย ผผค.ฯ ไดด้ ำ� เนนิ การตรวจวดั คณุ ภาพสง่ิ แวดลอ้ ม 2 พน้ื ที่ ประกอบดว้ ย กองซอ่ มเครอื่ งมอื สอื่ สารอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์
และโรงซ่อมเรดาร์ กรมการทหารสื่อสาร โดยด�ำเนินการตรวจวดั คณุ ภาพสิ่งแวดลอ้ ม 3 ด้าน ไดแ้ ก่
1. ด้านกายภาพ: อุณหภูมิ ความช้ืนสมั พทั ธ์ ความดงั ของเสียง ลมระบายอากาศ และความสว่างของแสง
2. ดา้ นปรมิ าณก๊าซในอากาศ: ปริมาณกา๊ ซคาร์บอนมอนอกไซด์ และปริมาณกา๊ ซคารบ์ อนไดออกไซด์
3. ปรมิ าณสารเคมใี นอากาศ: สารอินทรีย์ระเหยง่าย และฝนุ่ ละอองขนาดเล็ก
จากผลการตรวจวัด ปัญหาที่พบของกองซ่อมเครอื่ งมอื ส่ือสารอิเล็กทรอนิกส์ กรมการทหารสอ่ื สาร ไดแ้ ก่ แสงสวา่ ง
ไม่เพยี งพอ อณุ หภูมิไม่เหมาะสมตอ่ การท�ำงาน การเก็บสารกมั มนั ตรังสโี คบอลต-์ 60 ไม่เหมาะสม และขาดการตรวจสอบดแู ล
อปุ กรณด์ บั เพลงิ ในสว่ นของโรงซอ่ มเรดาร์ กรมการทหารสอื่ สาร ปญั หาทพ่ี บ ไดแ้ ก่ แสงสวา่ งไมเ่ พยี งพอ อณุ หภมู ไิ มเ่ หมาะสม
ต่อการท�ำงาน และความช้ืนสัมพัทธ์สูง ซ่ึงการตรวจวัดคุณภาพสิ่งแวดล้อมภายในสถานที่ท�ำงานกองซ่อมเครื่องมือส่ือสาร
อิเลก็ ทรอนิกส์ และโรงซอ่ มเรดาร์ กรมการทหารสอื่ สาร เปน็ การเฝ้าระวังปญั หาสขุ ภาพของกำ� ลงั พลจากมลพษิ เพ่อื คุณภาพ
ที่ดีของผปู้ ฏบิ ตั งิ าน ผผค.ฯ ได้แสนอแนะวิธีการแกไ้ ขแลว้ หากกรมการทหารสื่อสาร ได้ด�ำเนินการปรบั ปรุงตามข้อเสนอแนะ
เห็นควรตรวจวัดคณุ ภาพสิง่ แวดล้อมอีกครง้ั เพื่อใหอ้ ยู่ในเกณฑม์ าตรฐาน

รายงานประจ�ำ ปี 2562 ANNUAL REPORT 2019 63

สถาบนั วิจยั วิทยาศาสตร์การแพทยท์ หาร

ARMED FORCES RESEARCH INSTITUTE OF MEDICAL SCIENCES

การตรวจวดั คณุ ภาพสง่ิ แวดลอ้ มภายในสถานทท่ี ำ� งานกองโรงงานผลติ วตั ถรุ ะเบดิ
ศนู ยอ์ ุตสาหการสรรพาวธุ กรมสรรพาวธุ ทหารบก

มนสั วี ทองศฤงคลี วัชรภสั ร์ มณีฉาย วริ ะ ทองพมุ่ มานพ ภู่ยนิ ดี ปิยาภสั ร์ ยงั รอด คุณากร คณา
และ ดวงพร พูลสขุ สมบัติ

สถาบนั วิจัยวทิ ยาศาสตรก์ ารแพทยท์ หาร

รายงานความก้าวหน้า

ปจั จบุ นั มคี วามเจรญิ กา้ วหนา้ ทางดา้ นเทคโนโลยเี ปน็ อยา่ งมาก ประกอบกบั มอี ปุ กรณอ์ ำ� นวยความสะดวกทท่ี นั สมยั
มาใช้ในสถานที่ท�ำงานมากขึ้น อุปกรณ์บางประเภทมีส่วนประกอบของสารเคมี ทำ� ให้มีโอกาสเกิดความเป็นพิษต่อร่างกาย
รวมถงึ การจดั การสภาพแวดลอ้ มภายในสถานทที่ ำ� งานไมไ่ ดม้ าตรฐาน ซง่ึ สงิ่ เหลา่ นสี้ ง่ ผลใหผ้ ปู้ ฏบิ ตั งิ านในสถานทที่ ำ� งานเกดิ
การเจ็บปว่ ยได้ ดังนัน้ จึงควรจดั สภาวะแวดล้อมท่ีเหมาะสมแก่การท�ำงาน เพ่ือป้องกันและลดภาวะเจบ็ ป่วยจากการทำ� งาน
แผนกผลิตและควบคุมมาตรฐาน กองวเิ คราะห์ สถาบนั วิจัยวทิ ยาศาสตร์การแพทย์ทหาร (ผผค.กวค.สวพท.) จงึ ได้
ทำ� การสำ� รวจและตรวจวดั คณุ ภาพสง่ิ แวดลอ้ มภายในกองโรงงานวตั ถรุ ะเบดิ ศนู ยอ์ ตุ สาหการสรรพาวธุ กรมสรรพาวธุ ทหารบก
โดยมวี ตั ถปุ ระสงค์ดังน้ี
1. เพ่อื ตดิ ตามตรวจสอบดา้ นสภาพแวดลอ้ ม อาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการท�ำงาน
2. เพอ่ื เป็นแนวทางในการป้องกัน และลดมลภาวะทีอ่ าจกอ่ ให้เกดิ ผลกระทบต่อคุณภาพส่ิงแวดล้อมภายในสถานที่
ท�ำงาน และพน้ื ทีโ่ ดยรอบ
3. เพอ่ื สง่ เสรมิ สขุ ลกั ษณะทเี่ หมาะสมของสง่ิ แวดลอ้ มในสถานทป่ี ฏบิ ตั งิ าน และเปน็ การสง่ เสรมิ สขุ ภาพของกำ� ลงั พล
ใหม้ ีสขุ ภาพแขง็ แรง
โดยดำ� เนินการตรวจวัดคุณภาพส่ิงแวดล้อม ดงั น้ี
1. สารเคมใี นอากาศ ได้แก่ สารอนิ ทรยี ์ระเหยง่าย และปริมาณฝุน่ รวม
2. ทางกายภาพ ไดแ้ ก่ อณุ หภมู ิ ความชน้ื สัมพัทธ์ ความสวา่ งของแสง ความดงั ของเสยี ง และลมระบายอากาศ
3. ปรมิ าณกา๊ ซในอากาศ ไดแ้ ก่ ก๊าซคารบ์ อนมอนอกไซด์ และก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
จากการที่ได้ด�ำเนินการตรวจวัดคุณภาพส่ิงแวดล้อมภายในกองโรงงานผลิตวัตถุระเบิด ศูนย์อุตสาหการสรรพาวุธ
กรมสรรพาวุธทหารบก ปัญหาท่ีพบ ได้แก่ ความสว่างของแสงไม่เพียงพอต่อการปฏิบัติงาน ลมระบายอากาศต่�ำ
ความช้ืนสัมพัทธ์สูง ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สูง และความดังของเสียงสูง ซ่ึงการตรวจวัดคุณภาพส่ิงแวดล้อมภายในกอง
โรงงานผลิตวัตถุระเบิดฯ เป็นการเฝ้าระวังปัญหาสุขภาพของก�ำลังพลจากมลพิษเพื่อคุณภาพที่ดีของผู้ปฏิบัติงาน ท้ังนี้หาก
กองโรงงานผลิตวัตถุระเบิดฯ ไดด้ ำ� เนนิ การปรบั ปรงุ ตามขอ้ เสนอแนะ เหน็ ควรตรวจวดั คณุ ภาพสงิ่ แวดลอ้ มอกี ครง้ั เพอ่ื ใหอ้ ยู่
ในเกณฑม์ าตรฐาน

64 รายงานประจำ�ปี 2562 ANNUAL REPORT 2019

สถาบันวิจยั วทิ ยาศาสตรก์ ารแพทยท์ หาร

ARMED FORCES RESEARCH INSTITUTE OF MEDICAL SCIENCES

การตรวจวดั คณุ ภาพสง่ิ แวดลอ้ มภายในสถานทที่ ำ� งานและโรงงานอตุ สาหกรรมทหาร
กรมพลาธกิ ารทหารบก

มนสั วี ทองศฤงคลี วริ ะ ทองพมุ่ มานพ ภยู่ นิ ดี ปยิ าภสั ร์ ยงั รอด คณุ ากร คณา และ ดวงพร พลู สขุ สมบตั ิ

สถาบนั วจิ ยั วทิ ยาศาสตรก์ ารแพทยท์ หาร

รายงานความกา้ วหนา้

ในโลกปจั จบุ นั มคี วามเจรญิ กา้ วหนา้ ทางดา้ นเทคโนโลยเี พม่ิ ขนึ้ เปน็ อยา่ งมาก มกี ารพฒั นาอปุ กรณเ์ ครอ่ื งจกั รเพอ่ื อำ� นวย
ความสะดวก รวมทง้ั สภาพแวดลอ้ มทางกายภาพตอ่ สถานทที่ ำ� งานไมไ่ ดม้ าตรฐาน เชน่ แสงสวา่ งทไ่ี มเ่ พยี งพอ อณุ หภมู ไิ มอ่ ยใู่ นเกณฑ์
มาตรฐาน และการระบายอากาศไมด่ ี เปน็ ตน้ ปจั จยั เหลา่ นส้ี ง่ ผลตอ่ สขุ ภาพของบคุ ลากรในสถานทท่ี ำ� งาน ทำ� ใหเ้ กดิ อาการเจบ็ ปว่ ย
อยา่ งเรอื้ รงั และประสทิ ธภิ าพการทำ� งานลดลง ดงั นนั้ จงึ ควรจดั สภาพแวดลอ้ มใหเ้ หมาะสมแกก่ ารทำ� งาน เพอ่ื ลดภาระเจบ็ ปว่ ยจาก
การทำ� งาน
แผนกผลติ และควบคมุ มาตรฐาน กองวเิ คราะห์ สถาบนั วจิ ยั วทิ ยาศาสตรก์ ารแพทยท์ หาร (ผผค.กวค.สวพท.) จงึ ไดท้ ำ� การ
สำ� รวจและตรวจวดั คณุ ภาพสง่ิ แวดลอ้ มภายในสถานทท่ี ำ� งานและโรงงานอตุ สาหกรรมทหารกรมพลาธกิ ารทหารบกโดยมวี ตั ถปุ ระสงค์
ดงั น้ี
1. เพอ่ื ตดิ ตามตรวจสอบดา้ นสภาพแวดลอ้ ม อาชวี อนามยั และความปลอดภยั ในการทำ� งาน
2. เพอ่ื เปน็ แนวทางในการปอ้ งกนั และลดมลภาวะทอ่ี าจกอ่ ใหเ้ กดิ ผลกระทบตอ่ คณุ ภาพสงิ่ แวดลอ้ มภายในสถานทที่ ำ� งาน
และพนื้ ทโ่ี ดยรอบ
3. เพอ่ื สง่ เสรมิ สขุ ลกั ษณะทเ่ี หมาะสมของสง่ิ แวดลอ้ มในสถานทป่ี ฏบิ ตั งิ าน และเปน็ การสง่ เสรมิ สขุ ภาพของกำ� ลงั พลใหม้ ี
สขุ ภาพแขง็ แรง
โดย ผผค.ฯ ไดด้ ำ� เนนิ การตรวจวดั คณุ ภาพสง่ิ แวดลอ้ ม 4 พน้ื ที่ ประกอบดว้ ย โรงงานผลติ เครอ่ื งแตง่ กายทหาร อาคาร
สำ� นกั งานกองนำ�้ มนั เชอ้ื เพลงิ อาคารสำ� นกั งานกองยกกระบตั ร และคลงั เกบ็ สป.กยบ.พธ.ทบ. โดยดำ� เนนิ การตรวจวดั คณุ ภาพ
สง่ิ แวดลอ้ ม 4 ดา้ น ไดแ้ ก่
1. ดา้ นกายภาพ: อณุ หภมู ิ ความชนื้ สมั พทั ธ์ ความดงั ของเสยี ง ลมระบายอากาศ และความสวา่ งของแสง
2. ดา้ นปรมิ าณกา๊ ซในอากาศ: ปรมิ าณกา๊ ซคารบ์ อนมอนอกไซด์ และปรมิ าณกา๊ ซคารบ์ อนไดออกไซด์
3. ปรมิ าณสารเคมใี นอากาศ: สารอนิ ทรยี ร์ ะเหยงา่ ย และฝนุ่ ละอองขนาดเลก็
4. ปรมิ าณจลุ ชพี ในอากาศ: ราและแบคทเี รยี
จากผลการตรวจวดั คณุ ภาพสงิ่ แวดลอ้ ม ปญั หาทพี่ บมดี งั นี้
- โรงงานผลติ เครอ่ื งแตง่ กายทหาร พบแสงสวา่ งไมเ่ พยี งพอ จลุ ชพี ในอากาศสงู และความชน้ื สมั พทั ธส์ งู
- กองนำ้� มนั เชอื้ เพลงิ พธ.ทบ. พบแสงสวา่ งไมเ่ พยี งพอ ปรมิ าณกา๊ ซคารบ์ อนไดออกไซดส์ งู และลมระบายอากาศตำ่�
- กองยกกระบตั ร และคลงั สป.ทหาร พธ.ทบ. พบแสงสวา่ งไมเ่ พยี งพอ ปรมิ าณกา๊ ซคารบ์ อนไดออกไซดส์ งู ลมระบาย
อากาศตำ�่ จลุ ชพี ในอากาศสงู และอณุ หภมู สิ งู
ซ่ึงการตรวจวัดคุณภาพส่ิงแวดล้อมภายในโรงงานอุตสาหกรรมทหาร และสถานที่ท�ำงาน กรมพลาธิการทหารบก
เปน็ การเฝา้ ระวงั ปญั หาสขุ ภาพของกำ� ลงั พลจากมลพษิ เพอ่ื คณุ ภาพทด่ี ขี องผปู้ ฏบิ ตั งิ าน ทงั้ น้ี ผผค.ฯ ไดใ้ หค้ ำ� แนะนำ� ในการแกไ้ ข
หากกรมพลาธกิ ารทหารบก ไดด้ ำ� เนนิ การปรบั ปรงุ ตามขอ้ เสนอแนะ เหน็ ควรตรวจวดั คณุ ภาพสงิ่ แวดลอ้ มอกี ครงั้ เพอ่ื ใหอ้ ยใู่ นเกณฑ์
มาตรฐาน

รายงานประจ�ำ ปี 2562 ANNUAL REPORT 2019 65

สถาบันวจิ ัยวทิ ยาศาสตรก์ ารแพทยท์ หาร

ARMED FORCES RESEARCH INSTITUTE OF MEDICAL SCIENCES

การตดิ อาวธุ ตอ่ สโู้ รคไขม้ าลาเรยี สำ� หรบั กำ� ลงั พลทปี่ ฏบิ ตั หิ นา้ ทภ่ี าคสนามในพน้ื ที่
ระบาดตามแนวชายแดน

ดรุณี อุเทนนาม ขวญั อนงค์ ยังพะกลู นฤพน คุตตะสงิ คี มิญช์ คร้ามอยู่ ไชยยะ จันทรช์ ู
อัศราวุธ บญุ เชยี งมา วฒุ กิ รณ์ รอดความทกุ ข์ และ จริยาณาฏ เกวี

สถาบนั วิจัยวทิ ยาศาสตรก์ ารแพทยท์ หาร

ความเปน็ มา

โรคไขม้ าลาเรยี ยงั ปญั หาท่สี ำ� คญั ในพนื้ ท่ีตามแนวชายแดนประเทศไทย ปี 2561 พืน้ ทป่ี ฏบิ ตั ิการทางทหารตามแนว
ชายแดนไทย-กัมพูชา ในความรับผิดชอบของกองก�ำลังสุรนารี มีก�ำลังพลติดเช้ือมาลาเรียสูงสุด 342 นาย เป็นเช้ือพลาส
โมเดียมไวแวกซ์ 295 นาย พลาสโมเดียมฟัลชปิ ารัม 32 นาย ติดเชือ้ รว่ ม 15 นาย สถาบันวิจัยวิทยาศาสตรก์ ารแพทย์ทหาร
ท�ำโครงการเสริมสร้างความพร้อมต่อสู้โรคไข้มาลาเรีย ส�ำหรับก�ำลังพลท่ีปฏิบัติงานในพ้ืนที่ระบาดตามแนวชายแดน โดยมี
กลยุทธ์ให้ความรู้เกี่ยวกับโรคไข้มาลาเรีย การสร้างวิทยากรในพื้นที่ ฝึกอบรมการใช้ชุดตรวจเร่งด่วนตรวจหาเช้ือมาลาเรีย
ใหก้ บั ทหารเสนารกั ษ์ ดำ� เนนิ งานในหว้ งเดอื นตลุ าคม และเมษายน เปน็ หว้ งการสบั เปลยี่ นกำ� ลงั พลผลดั ใหมเ่ ขา้ สพู่ น้ื ทปี่ ฏบิ ตั กิ าร
ของ กองกำ� ลังสุรนารี ทีเ่ ปน็ พ้นื ที่เส่ยี งตอ่ การ ติดเช้ือมาลาเรียสงู

การด�ำเนนิ งาน

ฝึกอบรมให้ความรู้เก่ียวกับโรคไข้มาลาเรียให้แก่ก�ำลังพล ฝึกอบรมการใช้ชุดตรวจเร่งด่วนตรวจหาเช้ือมาลาเรีย
ใหก้ บั ทหารเสนารกั ษ์ ในหว้ งท่ี 1 คือ มีนาคม หว้ งที่ 2 คอื กนั ยายน 2562 ณ กรมทหารราบท่ี 6 จังหวัดอบุ ลราชธานี โดยมี
ตวั ชว้ี ดั 3 หวั ขอ้ คอื การประเมนิ ความรขู้ องกำ� ลงั พลทเ่ี ขา้ รว่ มโครงการใหม้ คี วามรเู้ รอ่ื งโรคไขม้ าลาเรยี เพมิ่ ขนึ้ หลงั จากทผี่ า่ น
การเข้ารว่ มอบรมในโครงการอยา่ งนอ้ ย 1 ระดบั กำ� หนดเปา้ หมาย ร้อยละ 75 และความพงึ พอใจของกำ� ลงั พลที่มีต่อโครงการ
ระดับดีถงึ ดมี าก กำ� หนดเป้าหมายร้อยละ 80

ผลการด�ำเนนิ งาน

การประเมินผล ห้วงท่ี 1 ก�ำลงั พลจำ� นวน 300 นาย หว้ งที่ 2 ก�ำลังพลจ�ำนวน 350 นาย ท่ีเขา้ รว่ มอบรมในโครงการ

มคี วามร้เู ร่อื งโรคไขม้ าลาเรยี เพ่มิ ข้ึนอย่างนอ้ ย 1 ระดบั รอ้ ยละ 78.33 และร้อยละ 82.00 ตามลำ� ดับ (ดงั ตารางท่ี 1) มีความ
พงึ พอใจตอ่ โครงการ ระดับดถี ึงดมี าก รอ้ ยละ 87.75 และ ร้อยละ 86.21 ตามล�ำดับ (ดงั ตารางท่ี 2)

ตารางท่ี 1 ร้อยละระดบั ความร้เู รื่องโรคไข้มาลาเรยี ทเ่ี พ่มิ ข้นึ ของก�ำลงั พลทีเ่ ขา้ รว่ มโครงการฯ

ระดับความรเู้ ร่ืองโรคมาลาเรีย เป้าหมาย ผลการดำ� เนินงาน ผลการดำ� เนนิ งาน
(รอ้ ยละ) ห้วงที่ 1 (ร้อยละ) ห้วงที่ 2 (ร้อยละ)

ก�ำลังพลทเ่ี ข้าร่วมโครงการมีระดบั คะแนนความรู้ 75.00 78.33 82.00
เรือ่ งโรคไข้มาลาเรยี หลังการอบรมมากกว่าคะแนน
กอ่ นการอบรมอย่างนอ้ ย 1 ระดบั

66 รายงานประจ�ำ ปี 2562 ANNUAL REPORT 2019

สถาบนั วจิ ัยวทิ ยาศาสตร์การแพทย์ทหาร

ARMED FORCES RESEARCH INSTITUTE OF MEDICAL SCIENCES

ตารางที่ 2 ร้อยละความพึงพอใจของก�ำลงั พลทีเ่ ขา้ รว่ มโครงการฯ ระดบั ดถี งึ ดมี าก

ล�ำดบั ความพึงพอใจ เปา้ หมาย ระดับ ผลการดำ� เนนิ งาน ผลการดำ� เนนิ งาน

(ร้อยละ) ห้วงท่ี 1 (ร้อยละ) ห้วงที่ 2 (รอ้ ยละ)

1 ด้านวทิ ยากร 80.00 ระดบั ดีถงึ ดมี าก 84.67 86.29

2 ดา้ นสถานที/่ ระยะเวลา/อาหารฯ 80.00 ระดับดีถึงดมี าก 89.00 86.28

3 ด้านความรคู้ วามเข้าใจ 80.00 ระดบั ดีถงึ ดมี าก 89.00 85.14

4 ดา้ นการนำ� ความรู้ไปใช้ 80.00 ระดบั ดีถงึ ดมี าก 88.33 87.14

ตารางท่ี 3 รอ้ ยละของการติดเชอื้ มาลาเรยี รายใหม่ในก�ำลังพลท่เี ขา้ ร่วมโครงการฯ

หวั ขอ้ เป้าหมายไม่เกนิ (ร้อยละ) ผลการด�ำเนินงาน (ร้อยละ)
10.00 1.20
การตรวจพบเชอื้ มาลาเรียรายใหมใ่ นกำ� ลงั พล
ท่ีเข้ารว่ มโครงการฯ

สรุปผลการดำ� เนินงาน

กำ� ลงั พลเขา้ รว่ มอบรมในโครงการ จำ� นวน 650 นาย กำ� ลงั พลมคี วามรเู้ รอื่ งโรคไขม้ าลาเรยี เพมิ่ ขน้ึ อยา่ งนอ้ ย 1 ระดบั
ร้อยละ 80.16 และมคี วามพึงพอใจต่อโครงการ ระดับดถี งึ ดมี าก รอ้ ยละ 86.98 ผลการตรวจเลือดก�ำลังพลพบเช้อื มาลาเรยี
หลังจากการเขา้ ร่วมอบรมในโครงการ พบรอ้ ยละ 1.2

รายงานประจ�ำ ปี 2562 ANNUAL REPORT 2019 67

สถาบนั วิจัยวทิ ยาศาสตรก์ ารแพทย์ทหาร

ARMED FORCES RESEARCH INSTITUTE OF MEDICAL SCIENCES

การบรกิ ารตรวจวนิ จิ ฉยั โรคตดิ เชอ้ื รคิ เคท็ เซยี ดว้ ยวธิ ีIndirectImmunofluorescence
Assay (IFA) แผนกพยาธวิ ทิ ยา กองวจิ ยั สถาบนั วจิ ยั วทิ ยาศาสตรก์ ารแพทยท์ หาร

สุชชนา แทบประสิทธ1์ิ มณีรตั น์ สมศรี วรี ะ บุญโสม1 เกยี รติศักด์ิ สมศรี ชนกนรรณ ทิมใหผ้ ล
วฒุ ิกรณ์ รอดความทุกข1์ และ จริยาณาฏ เกว1ี

1สถาบนั วจิ ยั วทิ ยาศาสตรก์ ารแพทย์ทหาร
2หน่วยวจิ ัยฝ่ายสหรัฐอเมรกิ า สถาบนั วจิ ัยวิทยาศาสตรก์ ารแพทยท์ หาร

รายงานความก้าวหน้า

แผนกพยาธิวิทยา กองวิจัย สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์การแพทย์ทหาร (สวพท.) เปิดให้บริการตรวจวินิจฉัยโรค
ตดิ เชอ้ื รคิ เคท็ เซยี ดว้ ยวธิ ี Indirect Immunofluorescence Assay (IFA) ซงึ่ เปน็ การตรวจระดบั ภมู คิ มุ้ กนั ชนดิ Immunoglobulin
M (IgM) และ Immunoglobulin G (IgG) ต่อเช้ือโรคในน้�ำเหลือง สวพท. ให้บริการตรวจวินิจฉัยโรคให้แก่ผู้ป่วยกลุ่มไข้
ไม่ทราบสาเหตุทั้งจากสถานพยาบาลของรัฐบาล สถานพยาบาลของเอกชน และห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ของเอกชน
ห้องปฏิบัติการสามารถตรวจระดับภูมิตอบสนองชนิด IgM IgG ต่อเชื้อแบคทีเรียก่อโรคสครับไทฟัส (Scrub typhus),
โรคมวิ รีนไทฟัส (Murine typhus), โรคทคิ ไทฟัส (Tick typhus) ซ่งึ จดั อยู่ในกลมุ่ โรคติดเชื้อจากสตั วส์ ู่คนท่ีมสี ัตวพ์ าหะนำ� โรค
เชน่ ไรออ่ น (Chigger), หมดั (Flea), เหบ็ (Tick) ตามลำ� ดบั อาการและการแสดงของโรคมกั พบหลงั จากถกู สตั วพ์ าหะนำ� โรคกดั
หรอื เกาบรเิ วณทหี่ มดั เหบ็ กดั ระยะฟกั ตวั ใชเ้ วลา 5 – 14 วนั การตดิ เชอ้ื สมั พนั ธก์ บั การเดนิ ทางเขา้ ไปในพนื้ ทเ่ี สย่ี ง หรอื พน้ื ทท่ี ี่
มีการระบาดของโรค อาการแสดงที่พบได้แก่ ไข้ ปวดศีรษะ มีผื่นแดงตามร่างกาย โดยเฉพาะในร่มผ้า คล่ืนไส้อาเจียน
ปวดกล้ามเน้ือ ซ่ึงอาการเหลา่ นม่ี ีความความคล้ายคลึงกับโรคติดเชอ้ื อน่ื ๆ เช่น โรคฉ่หี นู โรคไข้เลอื ดออก โรคไขห้ วัดใหญ่
ดังนั้นในการวินิจฉัยโรคจึงจ�ำเป็นต้องใช้การตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อยืนยันการวินิจฉัยโรค แผนกพยาธิวิทยา กองวิจัย
สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์การแพทย์ทหาร จึงพัฒนาคุณภาพการบริการให้ได้มาตรฐาน และได้รับการรับรองมาตรฐาน
ISO15189:2012 และ ISO15190:2003 ในปี พ.ศ. 2557 และคงคุณภาพการบริการทางห้องปฏิบตั ิการอยา่ งตอ่ เน่อื งในการ
ไดร้ บั การรบั รองมาตรฐานจากสำ� นกั มาตรฐานหอ้ งปฏบิ ตั กิ าร กรมวทิ ยาศาสตรก์ ารแพทย์ กระทรวงสาธารณสขุ อยา่ งตอ่ เนอื่ ง
5 ปี

ผลการด�ำเนินการวิจัย

ในปงี บประมาณ 2562 หอ้ งปฏบิ ตั กิ ารโรคตดิ เชอื้ รคิ เคท็ เซยี ใหบ้ รกิ ารตรวจวนิ จิ ฉยั โรคตดิ เชอ้ื รคิ เคท็ เซยี ใหแ้ ก่ สถาน
พยาบาลของรัฐบาล สถานพยาบาลของเอกชน และห้องปฏิบัติการทางการแพทย์อื่น ๆ จ�ำนวน 17 แห่ง จ�ำนวนตัวอย่าง
น้�ำเหลืองท่ีได้รับ 5,111 ตัวอย่าง ตรวจพบการติดเช้ือโรคสครับไทฟัส 169 ตัวอย่าง คิดเป็นร้อยละ 3.30 พบการติดเชื้อ
โรคมวิ รนั ไทฟสั 39 ตวั อยา่ ง คดิ เปน็ รอ้ ยละ 0.76 และไมพ่ บการตดิ เชอ้ื โรคทคิ ไทฟสั ในจำ� นวนสงิ่ สงตรวจทง้ั หมด การกระจายตวั
ของโรคในกลมุ่ นมี้ กี ารกระจายตวั ทว่ั ทกุ ภมู ภิ าคของประเทศไทย โดยพบมากในภาคกลาง ภาคเหนอื ภาคใต้ ภาคตะวนั ออก
ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื และภาคตะวนั ตก ตามล�ำดับ

68 รายงานประจ�ำ ปี 2562 ANNUAL REPORT 2019

สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์การแพทย์ทหาร

ARMED FORCES RESEARCH INSTITUTE OF MEDICAL SCIENCES

การเฝา้ ตรวจหาสารเสพติดให้โทษ ประจำ� ปี 2562

ดรณุ ี อุเทนนาม สุมาลี ผาจันทร์ จริ วฒั น์ เมอื งโคมพัส อาทติ ย์ แสงสวา่ ง พรเกษม รักษาเคน
คุณากร คณา และ ดวงพร พูลสุขสมบตั ิ

สถาบันวิจัยวิทยาศาสตรก์ ารแพทย์ทหาร

รายงานความก้าวหน้า

ยาเสพติดเป็นภัยคุกคามต่อความม่ันคงของชาติ ท่ีมีผลร้ายแรงต่อสุขภาพพลานามัยของผู้เสพทั้งทางร่างกายและ
จติ ใจ ทำ� ใหม้ ผี ลกระทบอยา่ งรา้ ยแรงตอ่ ความสงบสขุ ของครอบครวั และสงั คม เปน็ ตน้ เหตสุ ำ� คญั ของการกอ่ อาชญากรรม การ
บ่อนท�ำลายความมั่นคงของชาติ การสูญเสียทางเศรษฐกิจ ตลอดจนเป็นอุปสรรคส�ำคัญต่อการพัฒนาประเทศ กองทัพบก
ตระหนักถงึ ปัญหาน้ตี ลอดมา จงึ ก�ำหนดใหม้ ีระเบียบ คำ� ส่งั และคำ� ชี้แจงต่าง ๆ เก่ียวกบั การปอ้ งกันและปราบปรามยาเสพตดิ
ให้โทษในกองทพั บก โดยเฉพาะคำ� ส่ังกองทพั บกที่ 94/2524 เรื่องการป้องกนั และปราบปรามยาเสพตดิ ใหโ้ ทษ ข้อ 3.10 “ให้
มีการตรวจสุขภาพหรือการตรวจปัสสาวะของทหาร และบุคคลพลเรือนที่พักอาศัยอยู่ในเขตทหารเป็นคร้ังคราวตามความ
จ�ำเป็น โดยเฉพาะอย่างย่ิงทหารกองประจ�ำการซ่ึงได้รับเข้าหน่วย จะต้องด�ำเนินการตรวจสุขภาพภายในก�ำหนดหน่ึงเดือน
หากปรากฏว่าผู้ใดติดยาเสพติดให้โทษ ก็ให้ด�ำเนินการส่งตัวไปรักษาพยาบาลโดยด่วนต่อไป” สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์
การแพทยท์ หาร ไดร้ ับมอบหมายจากกรมแพทยท์ หารบก ให้เป็นหน่วยหลักในการวเิ คราะห์ วิจยั เกย่ี วกับสารเสพตดิ ให้โทษ
ทุกประเภท จงึ ได้ด�ำเนินงานการเฝ้าตรวจหาสารเสพติดใหโ้ ทษมาตงั้ แตป่ ี พ.ศ. 2531 เพอ่ื เฝ้าระวังมิใหม้ กี ารแพร่ระบาดของ
สารเสพตดิ ใหโ้ ทษรา้ ยแรงเขา้ มาในหนว่ ยทหาร ดว้ ยการเกบ็ ตวั อยา่ งปสั สาวะของทหารกองประจำ� การ สงั กดั หนว่ ยสว่ นกลาง
และหน่วยในพื้นที่กองทพั ภาคท่ี 1 เพอื่ ตรวจหาสารเสพติดประเภท เมทแอมเฟตามนี กัญชา และมอรฟ์ ีน

ผลการดำ� เนินงานในปงี บประมาณ 2562

กราฟ แสดงผลรอ้ ยละของชนิดสารเสพตดิ ที่ตรวจพบในทหารกองประจ�ำการ ปงี บประมาณ 2554 – 2562

รายงานประจำ�ปี 2562 ANNUAL REPORT 2019 69

สถาบนั วิจัยวิทยาศาสตรก์ ารแพทย์ทหาร

ARMED FORCES RESEARCH INSTITUTE OF MEDICAL SCIENCES

ในปี 2562 มีการเฝ้าตรวจหาสารเสพติดให้โทษในปัสสาวะของทหารกองประจ�ำการ โดยตรวจคัดกรองเบ้ืองต้น
(Screening test) ด้วยวธิ ี Immunochromatography จำ� นวน 12 หน่วย ยอดก�ำลงั พลเข้ารบั การตรวจทง้ั สน้ิ 2,371 นาย และ
ตรวจยืนยัน (Confirmatory test) ด้วยวิธี Gas chromatograph/Mass spectrometry (GC/MS) พบสารเสพติดประเภท
เมทแอมเฟตามนี 1.7 % (41/2,371) กญั ชา 3.5 % (83/2,371) และมอรฟ์ นี 0.2 % (5/2,371)

ผลการตรวจหาสารเสพติดในปี 2562 พบวา่ สารเสพตดิ ประเภท เมทแอมเฟตามนี กญั ชา และมอร์ฟนี มีแนวโน้ม
เพ่ิมขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับปี 2561 จากผลการตรวจพบดังกล่าวท�ำให้มีมาตรการเน้นย้�ำให้หน่วยฝึกทุกหน่วยเฝ้าระวัง
พฤติกรรมของทหารกองประจ�ำการอย่างต่อเน่ืองและให้มีการตรวจซ�้ำหลังจากกลับจากภูมิล�ำเนา และตามนโยบายของ
กองทพั บกใหห้ นว่ ยทหารทกุ หนว่ ยดำ� เนนิ โครงการหนว่ ยทหารสขี าวอยา่ งตอ่ เนอื่ ง เพอ่ื เปน็ การปอ้ งปรามไมใ่ หย้ าเสพตดิ เขา้ มา
แพร่ระบาดในหนว่ ยทหาร

70 รายงานประจ�ำ ปี 2562 ANNUAL REPORT 2019

สถาบนั วจิ ัยวทิ ยาศาสตร์การแพทย์ทหาร

ARMED FORCES RESEARCH INSTITUTE OF MEDICAL SCIENCES

การเฝา้ ระวังโรคท่ีเป็นอปุ สรรคตอ่ การปฏบิ ัตกิ ารทางทหาร

ดรุณี อุเทนนาม ขวัญอนงค์ ยังพะกูล นฤพน คุตตะสิงคี มิญช์ คร้ามอยู่ ไชยยะ จันทรช์ ู
และ อศั ราวุฒิ บญุ เชียงมา

สถาบนั วิจัยวทิ ยาศาสตร์การแพทย์ทหาร

รายงานความก้าวหน้า

โครงการเฝ้าระวังโรคที่เป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติการทางทหาร ได้ด�ำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลการเจ็บป่วยของ
ทหารทปี่ ฏบิ ตั ิงาน ทั้งในที่ต้ังปกติ และตามแนวชายแดนท้ัง 4 กองทพั ภาค อย่างตอ่ เนอื่ ง เพอ่ื เปน็ แนวทางในการเฝ้าระวงั
ควบคมุ และปอ้ งกนั โรคในพน้ื ทป่ี ฏบิ ตั กิ ารทางทหาร โดยหนว่ ยทเี่ ขา้ รว่ มโครงการเฝา้ ระวงั ฯ จะรายงานการเจบ็ ปว่ ยของกำ� ลงั
พลตามแบบฟอร์ม สง่ มาท่ี สวพท. เป็นประจ�ำทุกเดือน

ผลการดำ� เนนิ งานในปงี บประมาณ 2562

ตารางท่ี 1 เปรยี บเทยี บจำ� นวนผปู้ ว่ ยรายงานจากหนว่ ยในพน้ื ท่ี 3 กองทพั ภาค จำ� นวน 10 หนว่ ย ระหวา่ งปงี ป.61 และปงี ป.62

หน่วย ปงี บฯ 61 ปงี บฯ 62
(ต.ค.60 - ก.ย.61) (ต.ค.61 - ก.ย.62)

ทภ.1 - กกล.สุรสหี ์ 00
- กกล.บรู พา 159 335
- กรม.ทพ.12 00
- กรม.ทพ.14 1,096 931
- ฉก.ลาดหญ้า 00

ทภ.2 - กกล.สุรนารี 191 207
- ฉก.ทพ.26 718 578

ทภ.3 - ฉก.ร.17 125 123
- ช.พัน.4 183 104
- ม.พนั .15 346 292

รวม 2,818 2,570

สรุปผลการด�ำเนนิ งาน

ในห้วงปีงบประมาณ 2562 จากหนว่ ยในพื้นท่ี 3 กองทพั ภาค จ�ำนวน 10 หน่วยงาน พบวา่ โรคท่เี ป็นอุปสรรคต่อการ
ปฏบิ ตั กิ ารทางทหาร ทที่ ำ� ใหก้ ำ� ลงั พลตอ้ งดำ� เนนิ การรกั ษา หรอื ขอยารบั ประทานจากหนว่ ยแพทยใ์ นพนื้ ท่ี ตามรายงานทส่ี ง่ มา
ไดแ้ ก่ ไขห้ วดั 510 นาย อาการปวดกระดกู และขอ้ 408 นาย โรคมาลาเรยี 205 นาย ปวดศรี ษะ 170 นาย โรคกระเพาะ 141 นาย

รายงานประจ�ำ ปี 2562 ANNUAL REPORT 2019 71

สถาบันวิจยั วิทยาศาสตร์การแพทย์ทหาร

ARMED FORCES RESEARCH INSTITUTE OF MEDICAL SCIENCES

และ โรคผิวหนัง 90 นาย (ตารางที่ 2) โรคที่ก�ำลังพลเจ็บป่วยมากท่ีสุด 5 ล�ำดับแรกใน ทภ.1 ได้แก่ ไข้หวัด 248 นาย
ปวดศรี ษะ 107 นาย ความดันโลหิตสงู 92 นาย ปวดกระดกู และข้อ 88 นาย และโรคกระเพาะ 83 นาย ตามลำ� ดับ (แผนภูมิ
ท่ี 1) ทภ.2 ไดแ้ ก่ ปวดกระดกู และขอ้ 256 นาย ไข้หวัด 194 นาย ไข้มาลาเรีย 201 นาย โรคผิวหนงั 79 นาย และปวดศีรษะ
58 นาย ตามลำ� ดับ (แผนภมู ิที่ 2) ทภ.3 ได้แก่ ไขห้ วดั 125 นาย ปวดกระดกู และขอ้ 44 นาย โรคกระเพาะ 43 นาย ปวดศรี ษะ
36 นาย และ ความดนั โลหิตสงู 23 นาย ตามลำ� ดบั (แผนภูมทิ ี่ 3)

ตารางที่ 2 ขอ้ มลู การเจบ็ ปว่ ยของกำ� ลงั พล 3 กองทพั ภาค จำ� นวน 10 หนว่ ย (กกล.บรู พา กรม ทพ.12 กกล.สรุ สหี ์ กรม ทพ.14
ฉก.ลาดหญ้า กกล.สรุ นารี กรม.ทพ.26 ฉก.ร.17 ช.พนั 4 และ ม.2 พัน.15)

ลำ�ดับ อาการแสดงของโรค และโรค จำ�นวน (นาย) หมายเหตุ

1 ไขห้ วัด 510
2 โรคอ่นื ๆ 416
3 ปวดกระดูกและขอ้ 408
4 โรคมาลาเรยี 205
5 ปวดศรีษะ 170
6 โรคกระเพาะ 141
7 ผิวหนัง 90
8 ความดันโลหติ สูง 83
9 ท้องร่วงเฉียบพลัน 77
10 แมลงสัตว์กัดตอ่ ย 61
11 ปวดฟัน 55
12 แผลอักเสบติดเช้ือ 52
13 ปวดทอ้ ง 30
14 อบุ ัติเหตุ 28
15 อาหารเป็นพิษ 17
16 ไข้ไม่ทราบสาเหตุ 11
17 ตับอกั เสบ 8
18 รดิ สดี วง 8
19 วณั โรค 4
20 โรคไต 3
21 ไส้เลือ่ น 1
22 โรคบดิ 1

72 รายงานประจำ�ปี 2562 ANNUAL REPORT 2019

สถาบันวจิ ัยวิทยาศาสตรก์ ารแพทย์ทหาร
ARMED FORCES RESEARCH INSTITUTอEาหOาFรMเปED็ นICพAิษL 1SC7IENCESตบั อักเสบ 7
อบุ ัติเหตุ 8 รดิ สิดวง 7 1
แผลอักเสบติดเชอ้ื 38 ปวดทอ ง 25 วณั โรค 4 1

ปวดฟนั 43 อาหารเป็ นพิษ 17 ตับอักเสบ 7 ไสเล่อื น 1
รดิ สิดวง 7
แแผมลลองักสเัตสวบกตัดิดตเชอ้อื ย3582 อุบตั ิเหตุ 8 ไขหวณัวัดโร2ค254
ปวดทอ ง 25
ทอ งรปววงดเฉฟียนั บ4พ3ลนั 47 ไสเ ลื่อน 1

แมลงสตั วก ัดตอ ย 52 ไขห วัด 225 150
ความดันโลหติ สูง 66
ทอ งรว งเฉียบพลนั 47

ความดนั โผลิวหหิตนสังูง166 ปวดศรษี ะ 86 ปวดกระดูกและขอ 129 150

โรคกระเพาะ 58 ปวดศรษี ะ 86 ปวดกระดกู และขอ 129
ผวิ หนัง 1
โรคมาลาเรยี 4
โรคกระเพาะ 58

โรคมาลาเรยี 4

*โรคอน่ื ๆ คือขอยาเวชกรรมป้องกัน ปวดกล้ามเน้ือ สภาวะเครยี ด

แผนภูมิท่ี 1 ข้อมูลรายงานการเจบ็ ป่วยของก�ำลังพลกองทพั ภาคท่ี 1 ในปงี บประมาณ 2562

แมลงสัตวก ัดตอ ย 3 ปวดฟน 10 แผลอกั เสบตดิ เชือ้ 13 ปวดทอง 1 อุบตั ิเหตุ 14 2
แผลอกั เสบติดเชอ้ื 13 รดิ สิดวง 1 ไขไ มทราบสาเหตุ 11 2
ทอ งรว งเฉียบพลัน 24 โรคไต 1
โรคมาลาเรยี 201 ปวดทอง 1 อบุ ตั เิ หตุ 14
แมลงสัตวก ดั ตอ ย 3 ปวดฟน 10 ริดสิดวง 1 ไขไหขวไมดั ท 1ร9า4บสาเหตุ 11 โรคไต 1
ผวิ หนัง 79 133
ไขหวดั 194
โทรอคงกรรวะงเเพฉาียะบ5พ3ลัน 24

ผวิ หนัง 79
ปวดศรษี ะ 58
โรคกระเพาะ 53

ปวดกระดูกและขอ 256 133

ปวดศรษี ะ 58

โรคมาลาเรยี 201

ปวดกระดกู และขอ 256

*โรคอ่นื ๆ คอื ขอยาเวชกรรมป้องกัน โรคเครียด
แผนภมู ิที่ 2 ขอ้ มูลรายงานการเจบ็ ป่วยของก�ำลงั พลกองทัพภาคที่ 2 ในปีงบประมาณ 2562

รายงานประจำ�ปี 2562 ANNUAL REPORT 2019 73

สถาบนั วจิ ัยวทิ ยาศาสตร์การแพทยท์ หาร

ARMED FORCES RESEARCH INSTITUTE OF MEDICAL SCIENCES

แมลงสัตวกดั ตอ ย 6 ปวดทอง 4 ตบั อกั เสบ 1 อบุ ัตเิ หตุ 6 3
ทองรวงเฉียบพลัน 6 แผลอักเสบติดเชอ้ื 1 โรคไต 1 โรคบดิ 1

ความดันโลหิตสูง 17 ปวดฟน 2
ผวิ หนงั 10
ไขหวดั 91
โรคกระเพาะ 30

ปวดศรษี ะ 26

โรคอนื่ ๆ 133

ปวดกระดกู และขอ 23

*โรคอน่ื ๆ คือขอยาเวชกรรมปอ้ งกัน โรคเครยี ด
แผนภมู ิท่ี 3 ข้อมลู รายงานการเจ็บป่วยของก�ำลังพลกองทัพภาคท่ี 3 ในปีงบประมาณ 2562

74 รายงานประจำ�ปี 2562 ANNUAL REPORT 2019

สถาบันวิจัยวทิ ยาศาสตรก์ ารแพทยท์ หาร

ARMED FORCES RESEARCH INSTITUTE OF MEDICAL SCIENCES

การเฝา้ ระวังโรคมาลาเรียสำ� หรับทหารท่ีปฏิบตั ภิ ารกจิ ตามแนวชายแดน

ดรุณี อเุ ทนนาม ขวญั อนงค์ ยงั พะกูล นฤพน คตุ ตะสงิ คี มญิ ช์ คร้ามอยู่ ไชยยะ จันทร์ชู
อัศราวฒุ ิ บุญเชยี งมา วุฒกิ รณ์ รอดความทกุ ข์ และ จริยาณาฏ เกวี

สถาบันวิจยั วทิ ยาศาสตร์การแพทย์ทหาร

ความเป็นมา

โรคมาลาเรยี เปน็ ปญั หาสำ� คญั ดา้ นสาธารณสขุ และยงั คงเปน็ อปุ สรรคตอ่ การปฏบิ ตั กิ ารทางทหาร ตามแนวชายแดน

สถาบันวจิ ัยวทิ ยาศาสตร์การแพทยท์ หาร ไดด้ ำ� เนินการเฝา้ ระวังโรคมาลาเรยี ในทหารทป่ี ฏิบตั หิ น้าที่ตามแนวชายแดน ต้ังแต่

ปี พ.ศ.2538 เพอ่ื ตดิ ตามสถานการณก์ ารเจบ็ ปว่ ย เฝา้ ระวงั เชงิ รกุ และควบคมุ การระบาดของโรคมาลาเรยี ในกำ� ลงั พลทป่ี ฏบิ ตั ิ
ภารกิจในพน้ื ท่ีระบาดของโรคมาลาเรียตามแนวชายแดนไทย - เมยี นมาร์: กกล.สรุ สหี ์ กกล.นเรศวร กกล.ผาเมอื ง กกล.
เทพสตรี และแนวชายแดนไทย - กมั พูชา: กกล.บรู พา (จว.ส.ก.) กกล.สรุ นารี อย่างตอ่ เนื่องมาโดยตลอด

การดำ� เนินงาน

ค้นหาก�ำลังพลที่ป่วยด้วยโรคมาลาเรียเชิงรุก เพ่ือหาผู้ติดเชื้อ ให้การรักษา ตัดวงจรการระบาดของโรค โดยการ
เจาะเลอื ดปลายนว้ิ และตรวจดว้ ยวธิ มี าตรฐานภายใตก้ ลอ้ งจลุ ทรรศนเ์ พอ่ื ประเมนิ การตดิ เชอื้ มาลาเรยี ทกุ 2 - 3 เดอื น ลดการแพร่
ระบาดของโรค และติดตามรวบรวมข้อมูลการเจ็บป่วยด้วยโรคมาลาเรียของก�ำลังพล จากการบันทึกรายงานในหน่วยทหาร
และหนว่ ยงานสาธารณสขุ ไดแ้ กห่ นว่ ยควบคมุ โรคนำ� โดยแมลง (นคม.) โรงพยาบาลในพน้ื ทเี่ พอื่ ใหไ้ ดข้ อ้ มลู ครอบคลมุ ทง้ั หมด
การอบรมใหค้ วามรเู้ กย่ี วกบั โรคและการปอ้ งกนั ตนเองจากโรคไขม้ าลาเรยี สำ� หรบั กำ� ลงั พลทเ่ี ขา้ ปฏบิ ตั ภิ ารกจิ ในพน้ื ทที่ มี่ อี ตั รา
การตดิ เช้ือสูง

ผลการดำ� เนินงานในปงี บประมาณ 2562

ผลการค้นหากำ� ลังพลทป่ี ่วยดว้ ยโรคมาลาเรียเชิงรกุ (Active surveillance) ตรวจพบผูต้ ดิ เชอ้ื มาลาเรีย แจ้งหนว่ ยใน
พน้ื ที่ สง่ รกั ษาตามสายการสง่ กลบั ผปู้ ว่ ยเจบ็ เพอ่ื ลดการแพรร่ ะบาดของโรคมาลาเรยี ใน 4 กองทพั ภาค มยี อดเจาะเลอื ด 7,131
ราย ตรวจพบเชือ้ มาลาเรีย พลาสโมเดียมฟัลชิปารัม (Plasmodium falciparum) 4 ราย พลาสโมเดยี มไวแวกซ์ (Plasmodium
vivax) 17 ราย และพลาสโมเดียมฟัลชิปารมั รว่ มกับพลาสโมเดยี มไวแวกซ์ 1 ราย (ตารางที่ 1)

ตารางที่ 1 สรุปผลการปฏบิ ัตงิ านมาลาเรียเชงิ รกุ (Active surveillance) ปงี บประมาณ 2562

ลำ�ดบั หนว่ ย ทภ. จำ�นวนครง้ั จำ�นวนยอดเจาะเลอื ด ตรวจผลเชื้อ

1. กกล.สุรสีห์ 1 1 228 0

2. กกล.บรู พา 1 1 625 0

3. กกล.สรุ นารี 2 3 4,515 22 (PF 4, PV 17, PV+PF 1)

4. กกล.ผาเมอื ง 3 1 790 0

5. กกล.นเรศวร 3 2 802 0

6. กกล.เทพสตรี 4 1 171 0

รวม 9 7,131 22 (PF 4, PV 17, PV+PF 1)

รายงานประจ�ำ ปี 2562 ANNUAL REPORT 2019 75

สถาบันวิจัยวิทยาศาสตรก์ ารแพทยท์ หาร

ARMED FORCES RESEARCH INSTITUTE OF MEDICAL SCIENCES

แนวชายแดนไทย - กมั พูชา

ในพื้นท่กี องก�ำลงั สุรนารี (จังหวดั สุรินทร์ ศรีสะเกษ และจงั หวดั อบุ ลราชธานี) ดำ� เนินการเจาะเลอื ดก�ำลงั พลตรวจหา
เช้อื ทัง้ หมด 4,515 ราย พบผู้ติดเชื้อ 22 ราย แยกเปน็ พลาสโมเดยี มฟัลชปิ ารมั (P. falciparum) 4 ราย พลาสโมเดียมไวแวกซ์
(P. vivax) 17 ราย และพลาสโมเดยี มฟลั ชปิ ารมั ร่วมกับพลาสโมเดียมไวแวกซ์ (Mix) 1 ราย และจากการเกบ็ ข้อมูลผู้ป่วย
ตงั้ แต่ ต.ค.61 ถงึ ก.ย.62 พบผปู้ ว่ ยมาลาเรยี 146 ราย แยกเปน็ พลาสโมเดยี มฟลั ชปิ ารมั (P. falciparum) 17 ราย พลาสโมเดยี ม
ไวแวกซ์ (P. vivax) 117 ราย และพลาสโมเดียมฟัลชิปารัมร่วมกับพลาสโมเดียมไวแวกซ์ (Mix) 12 ราย คิดเป็นอัตรา
การตดิ เชอื้ 3.21% เมอื่ เปรยี บเทยี บกบั พลเรอื นพนื้ ทจ่ี งั หวดั ศรสี ะเกษ มผี ตู้ ดิ เชอ้ื มาลาเรยี จำ� นวน 386 ราย (ลดลงจากปี 2561
มีผ้ปู ว่ ยจ�ำนวน 813 ราย) และจงั หวัดอบุ ลราชธานี มผี ตู้ ดิ เช้อื มาลาเรีย จำ� นวน 235 ราย (ลดลงจากปี 2561 มผี ปู้ ่วย 448 ราย)
(ตารางท่ี 2) และ (แผนภมู ทิ ี่ 1)
ในพน้ื ทีก่ องกำ� ลังบูรพา ดำ� เนนิ การเจาะเลอื ด 625 ราย ไม่พบผ้ตู ดิ เชื้อมาลาเรีย

ตารางที่ 2 สถติ ิผ้ปู ว่ ยมาลาเรียในทหารทปี่ ฏิบตั งิ านตามแนวชายแดนไทย - กมั พชู า พน้ื ที่ กกล.สรุ นารี

หนว่ ย ปงี บประมาณ PV PF Mix Total
กกล.สุรนารี
ปี 2558 138 43 104 285
(ราย) ปี 2559 60 46 80 186
ปี 2560 95 28 19 142
ปี 2561 295 32 15 342
ปี 2562 117 17 12 146

1000

800

จํานวนผปวย ( ) 600

400

200

0 2553 2554 2555 2556 2557 2558 2559 2560 2561 2562 ปง บประมาณ
2552 44 8 89 31 104 80 19 15 12
891 366 338 479 242 138 60 95 295 117
M ix 2 5 23 70 55 82 60 43 46 28 32 17
PV 563
PF 211

แผนภูมทิ ่ี 1 ขอ้ มูลผู้ป่วยมาลาเรยี ทหารทป่ี ฏบิ ตั ิงานในพืน้ ที่ชายแดน พืน้ ที่ กกล.สรุ นารี (จว.บุรรี ัมย์ จว.สรุ นิ ทร์
จว.ศรีสะเกษ และจว.อบุ ลราชธาน)ี ปงี บประมาณ 2552 - 2562

76 รายงานประจำ�ปี 2562 ANNUAL REPORT 2019

สถาบันวจิ ยั วทิ ยาศาสตร์การแพทยท์ หาร

ARMED FORCES RESEARCH INSTITUTE OF MEDICAL SCIENCES

300

250

จํานวนผ ปวยมาลาเรีย (ราย ) 200

150

100

50

0
ต . ค . พ . ย . ธ . ค . ม . ค . ก . พ . มี . ค . เม . ย . พ . ค . มิ . ย . ก . ค . ส . ค . ก . ย .

งป . 55 78 144 83 51 38 41 36 61 89 97 31 31

งป . 56 59 221 265 132 63 44 45 44 47 48 29 19

งป . 57 29 68 46 32 7 17 9 38 50 28 8 1

งป . 58 26 65 43 17 11 19 16 9 18 20 22 19

งป . 59 37 41 47 33 15 4 3 0 2 2 2 0

งป . 60 4 8 5 11 5 3 2 21 38 22 18 5

งป . 61 29 22 18 18 13 13 15 32 67 67 27 21

งป . 62 39 53 19 12 5 9 2 1 2 3 1 0

** ใชช้ ุดตรวจ SD Malaria Ag P.f/Pan ทีแ่ ยกได้เฉพาะตดิ เชือ้ PF และเชือ้ ไม่ใช้ PF ทอี่ าจมีการคลาดเคลือ่ นในการอา่ น

แผนภมู ิท่ี 2 สถติ ขิ ้อมูลผูป้ ่วยมาลาเรยี ทหารทป่ี ฏบิ ตั งิ านในพ้นื ทีช่ ายแดน พืน้ ท่ี กกล.สุรนารี ปงี บประมาณ 2555 - 2562

จาก (แผนภมู ทิ ่ี 2) พบผ้ปู ว่ ยมาลาเรยี ในทหารทป่ี ฏบิ ัตงิ านตามแนวชายแดน สงู ในสองช่วงคือ ช่วงเดอื น ต.ค.- ธ.ค.
และชว่ งเดอื น มิ.ย.- ส.ค. ของทุกปี ซ่ึงเป็นชว่ งหลังจากกำ� ลังพลใหม่เขา้ พื้นที่ ซึ่งก�ำลงั พลใหม่เหลา่ นีเ้ ป็นก�ำลังนอกพนื้ ท่ีเสย่ี ง
ตอ่ โรคมาลาเรีย แล้วเข้ามาในพืน้ ทเ่ี สย่ี งต่อการแพร่ระบาดของโรค

แนวชายแดนไทย - เมยี นมาร์

ในพื้นทีจ่ งั หวดั เชียงราย จงั หวัดเชยี งใหม่ จงั หวัดแมฮ่ อ่ งสอน จงั หวดั ตาก จังหวดั กาญจนบุรี จังหวดั ราชบุรี จงั หวัด
เพชรบรุ ี จงั หวัดประจวบคีรขี ันธ์ จงั หวดั ระนอง และจังหวัดชุมพร ยอดเจาะเลอื ดตรวจท้งั หมด 1,991 ราย ตรวจไม่พบผตู้ ดิ
เช้อื มาลาเรีย จากการเก็บรวบรวมขอ้ มลู พบการตดิ เช้อื มาลาเรียในกำ� ลังพล กกล.นเรศวร 4 ราย กกล.สรุ สีห์ 8 ราย และ กกล.
เทพสตรี 2 ราย (ตารางที่ 3)

รายงานประจำ�ปี 2562 ANNUAL REPORT 2019 77

สถาบันวจิ ัยวทิ ยาศาสตร์การแพทยท์ หาร

ARMED FORCES RESEARCH INSTITUTE OF MEDICAL SCIENCES

ตารางท่ี 3 สถติ ผิ ูป้ ว่ ยมาลาเรยี ทหารทปี่ ฏบิ ัตงิ านตามแนวชายแดนไทย - เมียนมาร์ ต้ังแต่ปีงบประมาณ 2559 - 2562

หน่วย ปงี บประมาณ PV PF Mix PM PK Total

กกล.นเรศวร ปี 2559 2 2000 4

ปี 2560 4 0000 4

ปี 2561 5 1000 6

ปี 2562 4 0000 4

กกล.สรุ สีห์ ปี 2559 0 0000 0

ปี 2560 0 0100 1

ปี 2561 3 1000 4

ปี 2562 3 5000 8

กกล.เทพสตรี ปี 2562 0 0011 2

สรุปผลการด�ำเนนิ งาน

โรคมาลาเรียในพนื้ ทีช่ ายแดนไทย - กัมพชู า ยงั คงเป็นปัญหาตอ่ การปฏิบตั กิ ารทางทหาร จากการดำ� เนินการ
เจาะเลือดตรวจหาเชอ้ื มาลาเรยี ยังพบผตู้ ิดเชอ้ื ตลอดห้วงเวลาทเ่ี ฝา้ ระวัง สว่ นแนวชายแดนไทย - เมยี นมาร์ ไม่พบว่ามีปญั หา
เนอ่ื งจากไม่พบผู้ตดิ เชอ้ื แตก่ ย็ งั ดำ� เนนิ การเฝา้ ระวงั ตอ่ ไป พร้อมกับได้ด�ำเนนิ การให้ค�ำแนะน�ำ อบรมเรอ่ื งการป้องกนั ตนเอง
และการควบคุมโรคแก่หน่วยทหารในพื้นท่ี ท�ำการฝึกอบรมเพ่ิมขีดความสามารถในการเจาะเลือดตรวจหามาลาเรียและ
การรักษามาลาเรีย ให้กับนายสิบเสนารักษ์ในพื้นท่ีห่างไกลท่ีมีความเส่ียงต่อการติดเช้ือสูง พร้อมทั้งสนับสนุนชุดเจาะเลือด
ชุดตรวจหาเชื้อมาลาเรีย ยารักษา ให้สามารถท�ำการเจาะเลือดตรวจหาเชื้อมาลาเรีย และให้การรักษาได้ระดับหน่ึง ก่อนจะ
ดำ� เนนิ การสง่ ตอ่ เขา้ รบั การรกั ษาในโรงพยาบาล เพอ่ื เปน็ การควบคมุ โรคและลดอตั ราการสญู เสยี ของกำ� ลงั พล รวมถงึ สนบั สนนุ
ชุดตรวจหาเช้อื มาลาเรีย ในพื้นท่เี ส่ียงต่อการแพรร่ ะบาดของเชอื้ มาลาเรียสงู และในที่หา่ งไกล หนทางยากลำ� บากที่รถยนต์
เข้าไม่ถึง

78 รายงานประจำ�ปี 2562 ANNUAL REPORT 2019

สถาบันวิจยั วิทยาศาสตรก์ ารแพทย์ทหาร

ARMED FORCES RESEARCH INSTITUTE OF MEDICAL SCIENCES

การศกึ ษาความชกุ ตอ่ โรคตดิ เชอื้ ทางเพศสมั พนั ธจ์ ากเชอ้ื Herpes Simplex virus,
Human Papilloma virus, Hepatitis A, B and C viruses จากตัวอยา่ งน�้ำเหลือง
ของทหารกองประจ�ำการกองทัพบกในปี 2556

สุชชนา แทบประสิทธิ์1 กมลวรรณ ศิริวัฒนกุล1 ลดาภรณ์ โพธิทัต2 Dilara Islam2 John M. Crawford2
ทพิ ยว์ รรณ ชน่ื จติ ร1 และ จริยาณาฏ เกว1ี

1สถาบนั วจิ ยั วทิ ยาศาสตร์การแพทยท์ หาร
2หน่วยวิจัยฝา่ ยสหรัฐอเมรกิ า สถาบนั วิจยั วิทยาศาสตร์การแพทยท์ หาร

รายงานความกา้ วหนา้

โครงการวิจัยน้ีท�ำการศึกษาแบบตัดขวาง (cross-sectional) ต่อความชุกของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในทหาร
กองประจ�ำการ กองทพั บก โดยท�ำการศกึ ษา และวิเคราะหข์ อ้ มูลจากตัวอย่างน้�ำเหลืองที่เกบ็ ในปี พ.ศ.2556 นำ้� เหลอื งจะถกู
สมุ่ อยา่ งอสิ ระทง้ั หมด 1,000 ตวั อยา่ ง โดยกระจายการสมุ่ ใหเ้ ปน็ สดั สว่ นเดยี วกนั กบั ตวั อยา่ งทง้ั หมดทเี่ กบ็ ไวจ้ ากทกุ ๆ จงั หวดั
ของประเทศไทย (77 จงั หวดั ) จากนนั้ ขอ้ มลู ดา้ นประชากรของตวั อยา่ งคอื อายุ, ระดับการศกึ ษา, สถานะภาพสมรส, อาชีพ,
จงั หวดั ท่ีเกดิ , จงั หวัดท่ีอาศัยปจั จุบัน, ลักษณะบริเวณทอี่ ย่อู าศยั (นอกเมอื ง/ในเมอื ง) จะน�ำมาวเิ คราะห์ร่วมกับผลของระดับ
ภมู ิคุ้มกนั เพื่ออธบิ ายความชกุ ของการติดเช้ือทางเพศสัมพนั ธ์ ไดแ้ ก่ Herpes Simplex virus (HSV), human papillomavirus
(HPV), Hepatitis A virus (HAV), Hepatitis B virus (HBV), และ Hepatitis C virus (HCV) ซึ่งเชอ้ื HSV, HPV และ HBV
นน้ั อยใู่ นกลมุ่ 8 เชอื้ หลกั ของการตดิ เชอื้ โรคทางเพศสมั พนั ธ์ โดยการศกึ ษานที้ ำ� การหาความชกุ ตอ่ โรคตดิ เชอื้ ทางเพศสมั พนั ธ์
จากตัวอย่างน้�ำเหลืองของทหารกองประจ�ำการ ร่วมกับการวิเคราะห์ข้อมูลด้านประชากรเพื่อหาปัจจัยที่มีความเก่ียวข้องกับ
การไดร้ ับเชอ้ื

ผลการดำ� เนินการวจิ ัย

คณะผู้วจิ ยั ไดด้ �ำเนนิ การทดสอบหาความชุกต่อโรคติดเชอื้ ทางเพศสมั พนั ธ์เสรจ็ สิ้น 4 โรค จากท้งั หมด 5 โรค โดย
ผลทางหอ้ งปฏบิ ตั กิ ารพบความชกุ ตอ่ โรคตดิ เชอ้ื ทางเพศสมั พนั ธใ์ นตวั อยา่ งนำ�้ เหลอื งทงั้ หมด 1,000 ตวั อยา่ ง มดี งั ตอ่ ไปน้ี โรค
Hepatitis A virus (HAV) รอ้ ยละ 88.5, Herpes Simplex Virus-1 (HSV-1) ร้อยละ 63.3, Herpes Simplex Virus-2 (HSV-2)
ร้อยละ 7.4, Human Papilloma Virus (HPV) รอ้ ยละ 47 และ Hepatitis C virus (HCV) รอ้ ยละ 0.7 ขณะนคี้ ณะผวู้ จิ ยั ได้
ทำ� การทดสอบหาความชุกต่อโรค Hepatitis B Virus (HBV) โดยพบว่ารอ้ ยละ 15 ของกล่มุ ประชากรตัวอย่าง มีแอนติบอดท้ี ี่
จำ� เพาะตอ่ Hepatitis B core antigen และกำ� ลงั ดำ� เนนิ การตรวจหาแอนตบิ อดท้ี จ่ี ำ� เพาะตอ่ Hepatitis B surface antigen ตอ่ ไป
นอกจากนี้คณะผวู้ ิจยั ได้ทำ� การวเิ คราะห์ผลความชกุ ของโรค Human Papilloma Virus (HPV) รว่ มกับข้อมลู สถติ ิประชากร
พบวา่ มีความสัมพนั ธ์กบั ภมู ภิ าคทีก่ ลุม่ ตวั ประชากรอย่างอาศัยอยู่ ซึง่ พบมากท่สี ุดทางภาคใต้ รอ้ ยละ 65.5 และพบน้อยทส่ี ุด
ทางภาคเหนอื รอ้ ยละ 30 อย่างไรกต็ ามความชุกของโรคดังกล่าวนไี้ ม่พบความสมั พันธ์ตอ่ ระดับการศึกษา, สถานภาพสมรส
และ ลักษณะพื้นท่อี ยอู่ าศยั (เมอื งหรอื ชนบท)

การศกึ ษาในขน้ั ตอนตอ่ ไป ผลทไ่ี ด้การทดลองท้งั หมดทางห้องปฏิบัติการ ทางผวู้ จิ ัยจะนำ� ไปวิเคราะห์ร่วมกับข้อมลู
สถิติประชากรด้วยโปรแกรมทางสถิติ เพื่อศึกษาถึงปัจจัยที่มีผลเก่ียวข้องต่อการสัมผัสโรคติดเช้ือทางเพศสัมพันธ์ท้ัง 5 โรค
ในกลุ่มตัวอย่าง

รายงานประจำ�ปี 2562 ANNUAL REPORT 2019 79

สถาบันวจิ ัยวิทยาศาสตร์การแพทยท์ หาร

ARMED FORCES RESEARCH INSTITUTE OF MEDICAL SCIENCES

การศึกษาย้อนหลังเพื่อหาระดบั ความชกุ ของโรคไข้เลอื ดออกเดงกแี ละซิกา จาก
ตัวอยา่ งนำ�้ เหลอื งของทหารกองประจำ� การกองทพั บกไทย

กรองกาญจน์ สายพิณ1 John M. Crawford2 Dilara Islam2 กมลวรรณ ศิรวิ ัฒนกุล1 นาตยา รวมทรพั ย2์
วชั รี โยคะนิตย1์ สุชชนา แทบประสิทธ1ิ์ สจุ ิตรา สุขวิทย1์ ทิพย์วรรณ ช่ืนจติ ร1 และ จริยาณาฏ เกว1ี

1สถาบันวจิ ยั วิทยาศาสตร์การแพทย์ทหาร
2หนว่ ยวิจัยฝา่ ยสหรัฐอเมรกิ า สถาบันวจิ ัยวทิ ยาศาสตร์การแพทยท์ หาร

รายงานความก้าวหน้า

โรคติดต่อนำ� โดยแมลง (Vector-borne infectious diseases) เช่น โรคติดเช้อื จากไวรสั เดงกี และไวรัสซิกา พบการ
แพรเ่ ชอ้ื โดยยงุ ทต่ี ดิ เชอื้ ไวรสั ทง้ั นโี้ รคตดิ ตอ่ นำ� โดยแมลงเปน็ สาเหตหุ นงึ่ ในการกอ่ โรคตดิ เชอ้ื ซงึ่ พบอตั ราการตดิ เชอื้ สงู ถงึ 17%
ของโรคตดิ เชอื้ ทง้ั หมด การศกึ ษานมี้ จี ดุ ประสงคเ์ พอื่ ประเมนิ ความชกุ ของระดบั ภมู คิ มุ้ กนั ตอ่ ไวรสั เดงกี และไวรสั ซกิ า ในพน้ื ท่ี
ภาคตะวันออก 7 จงั หวัด ไดแ้ ก่ จังหวดั ฉะเชิงเทรา, จันทบุร,ี ชลบุรี, ปราจีนบรุ ี, ระยอง, สระแก้ว และตราด ซึ่งเปน็ พื้นท่มี ี
การจัดการฝึกร่วมในโครงการ Cobra Gold กับกองทัพสหรัฐอเมริกา โดยท�ำการตรวจวัดค่าภูมิคุ้มกันชนิด IgM และ IgG
จากตัวอย่างน�้ำเหลอื งทหารกองประจ�ำการกองทพั บกปี พ.ศ.2547, 2551 และ 2555 (รวมช่วงระยะเวลา 8 ปี) เพื่อใหเ้ ห็นถึง
แนวโน้มของระดับความชุกต่อโรคติดเชื้อเดงกี และซิกาในประเทศไทยซ่งึ ยงั ไม่มีการทำ� ศึกษาในประชากรทว่ั ไป

ผลการดำ� เนนิ การวิจัย

ผลการทดสอบหาค่าภูมิค้มุ กันจ�ำเพาะชนดิ IgM และ IgG ต่อเชอื้ ไวรสั ซกิ า ดว้ ยชุดตรวจของบริษัท EUROIMMUN
ซึ่งจำ� เพาะกบั ส่วน NS1 antigen ของไวรสั ซกิ า โดยจะสรา้ งกราฟมาตรฐาน (standard calibration curve) เพอื่ นำ� มาคำ� นวณ
ค่าความเข้มข้นของระดับภมู คิ มุ้ กนั ในตวั อย่างทท่ี �ำการทดสอบ โดยชดุ ตรวจนม้ี คี ่าความไว (sensitivity) ของชุดตรวจ IgM ที่
86% และ IgG ที่ 76% ค่าความจำ� เพาะ (specificity) ของชุดตรวจ IgM ท่ี 98% และ IgG ที่ 100% ผลการทดสอบพบว่า
จากตวั อยา่ งนำ้� เหลอื ง 3,000 ตวั อยา่ ง มผี ลบวกตอ่ ของภมู คิ มุ้ กนั จำ� เพาะชนดิ IgM ตอ่ เชอื้ ไวรสั ซกิ า จำ� นวน 6 ตวั อยา่ ง คดิ เปน็
ร้อยละ 0.2, ผลคลมุ เครือ จ�ำนวน 2 ตวั อยา่ ง หรอื คิดเปน็ ร้อยละ 0.06 และ ผลลบจ�ำนวน 2,992 ตวั อยา่ ง หรอื คิดเปน็ ร้อยละ
99.74 และ ผลบวกตอ่ ของภมู คิ มุ้ กนั จำ� เพาะชนดิ IgG ตอ่ เชอื้ ไวรสั ซกิ า จำ� นวน 802 ตวั อยา่ ง คดิ เปน็ รอ้ ยละ 26.8, ผลคลมุ เครอื
จ�ำนวน 214 ตวั อย่าง หรือคดิ เป็นร้อยละ 7.1 และ ผลลบจ�ำนวน 1,984 ตวั อย่าง หรือคดิ เปน็ ร้อยละ 66.1 สว่ นการทดสอบ
ภมู คิ ุ้มกันตอ่ ไวรัสเดงกตี อ่ ภูมคิ ุม้ กันชนดิ IgM พบผลบวกจ�ำนวน 123 ตัวอยา่ ง คิดเปน็ รอ้ ยละ 4.1, ผลคลุมเครือ จำ� นวน 39
ตวั อยา่ ง หรอื คดิ เปน็ รอ้ ยละ 1.3 และ ผลลบจำ� นวน 2,838 ตวั อย่าง หรอื คดิ เป็นรอ้ ยละ 94.6

แผนการดำ� เนนิ งานวจิ ัย

ด�ำเนนิ การทดสอบหาคา่ ภมู คิ มุ้ กันจ�ำเพาะชนดิ IgG ตอ่ เชอ้ื ไวรัสเดงกี จากตวั อย่างนำ้� เหลือง 3,000 ตัวอยา่ ง เพื่อ
นำ� ผลการศกึ ษามาวิเคราะหร์ ่วมกนั กบั ขอ้ มูลด้านประชากรต่อไป

สรปุ ผลการดำ� เนนิ งาน

จากการศึกษาพบความชุกของโรคติดเช้ือไวรัสซิกาในพืน้ ทภี่ าคตะวันออก (7 จงั หวดั ) ซ่งึ เป็นพื้นทมี่ กี ารจดั การฝกึ
รว่ มกบั กองทพั สหรฐั โดยมคี วามชุกในการตดิ เชอื้ ไวรัสซิกาในพนื้ ทร่ี อ้ ยละ 26.8 และทำ� ด�ำเนนิ การศึกษาความชุกของโรคตดิ
เชือ้ จากไวรสั เดงกตี ่อไป

80 รายงานประจำ�ปี 2562 ANNUAL REPORT 2019

สถาบันวจิ ยั วทิ ยาศาสตรก์ ารแพทยท์ หาร

ARMED FORCES RESEARCH INSTITUTE OF MEDICAL SCIENCES

การส�ำรวจพื้นท่ีฝึกภาคสนามร่วมทหารรักษาพระองค์/เหล่าทัพ ประจ�ำปี 2562
ในพืน้ ท่ี อ.เมอื ง และ อ.พัฒนานิคม จว.ลพบรุ ี

วุฒิกรณ์ รอดความทกุ ข์ จริยาณาฏ เกวี ดรุณี อุเทนนาม มณีรัตน์ สมศรี นฤพน คตุ ตะสิงคี
มญิ ช์ คร้ามอยู่ ยทุ ธพงษ์ สุดสวาท กมลวรรณ ศิรวิ ฒั นกลุ วรี ะ บุญโสม และ ปราโมทย์ อ่มิ วัฒนา

สถาบนั วจิ ยั วิทยาศาตร์การแพทยท์ หาร

รายงานความก้าวหน้า

การฝึกภาคสนามร่วมของทหารรกั ษาพระองค์/เหลา่ ทพั ประจำ� ปี 2562 มีกำ� หนดการฝกึ ในเดือน กุมภาพนั ธ์ 2562
ในพนื้ ท่ี อ.เมอื ง และ อ.พฒั นานิคม จว.ลพบุรี ท่ีครอบคลมุ พื้นท่ี ต.ดีลัง ต.โคกสลงุ ต.หนองบัว ต.พัฒนานิคม และ ต.โคกตมู
โดยจะมจี �ำนวนทหารรกั ษาพระองค/์ เหลา่ ทัพ ประมาณ 5,000 นาย เขา้ ฝึกภาคสนามร่วมในครั้งนี้ สถาบันวิจยั วทิ ยาศาสตร์
การแพทย์ทหาร (สวพท.) ได้รบั ค�ำส่งั จาก กรมแพทยท์ หารบก โดย กยข.พบ. ใหเ้ ขา้ สำ� รวจพ้ืนทีฝ่ ึกภาคสนามร่วมของทหาร
รักษาพระองค์/เหลา่ ทพั ประจำ� ปี 2562 เพ่ือหาข่าวกรองทางการแพทย์ ด้านโรคไข้น�ำโดยแมลงในพืน้ ทฝ่ี ึก สำ� หรบั น�ำมาใช้
เวชกรรมป้องกนั โรคให้กบั ก�ำลงั พลระหวา่ งฝึก สวพท. ไดเ้ ขา้ ไปดำ� เนนิ การ ระหว่างวนั ท่ี 17 – 23 ธันวาคม 2562 โดยมีการ
ด�ำเนนิ กจิ กรรมเพ่ือใหไ้ ดม้ าซ่ึงข่าวกรองทางการแพทยข์ องโรคไข้น�ำโดยแมลงในพนื้ ที่ ดังตอ่ ไปน้ี

วิธดี �ำเนินการ

1. สำ� รวจข้อมูลโรคที่มีในพ้ืนท่ีฝึกจากข้อมูลของสถานพยาบาลในพื้นที่ฝึก เช่น โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพต�ำบล
เพอื่ รวบรามขอ้ มลู การเจบ็ ปว่ ยของประชาชนทอ่ี าศยั อยใู่ นพน้ื ทฝ่ี กึ วา่ มโี รคไขน้ ำ� โดยแมลงและภยั คกุ คามอนื่ ๆ ทก่ี ำ� ลงั คกุ คาม
สุขภาพของประชาชนในพนื้ ท่ีในขณะน้นั ท่ีสามารถติดต่อมาสู่ทหารระหวา่ งฝกึ ได้ วา่ ในพ้ืนท่ฝี กึ มีโรคอะไรบ้าง

2. ส�ำรวจพาหะน�ำโรค เชน่ ยุง เห็บ หมัด เหา และ ไรปา่ ทจ่ี บั จากสตั ว์รังโรคในพืน้ ที่ มาตรวจทางหอ้ งปฏิบตั กิ าร
ดว้ ยวธิ ีทางอณชู วี โมเลกลุ เพ่อื ตรวจหาเช้ือกอ่ โรคท่เี ปน็ ภัยคุกคามตอ่ การปฏบิ ัติการทางทหาร

3. จบั สตั ว์ฟนั แทะพาหะนำ� โรคและแหลง่ รงั โรค เชน่ หนู กระรอก กระแต ในพืน้ ทฝี่ ึกมาตรวจทางห้องปฏิบัติการ
เพอ่ื หาอัตราการติดเชื้อโรคสัตวส์ ู่คนในสตั วฟนั แทะเหลา่ น้ัน

ผลการดำ� เนินงานในปงี บประมาณ 2562

1. ข้อมูลจากสถานพยาบาลในพืน้ ท่ีฝึก
ผลการศึกษาข้อมูลจากสถานพยาบาลในพ้ืนท่ีฝึก เพื่อหาข้อมูลการเจ็บป่วยของประชาชนท่ีอาศัยอยู่ในพ้ืนท่ีฝึกว่า

มีโรคไข้น�ำโดยแมลงและภัยคุกคามอื่น ๆ ที่คุกคามสุขภาพของประชาชนในพื้นท่ีอยู่ในขณะนั้นท่ีสามารถติดต่อมาสู่ทหาร
ระหว่างฝึก ผลการดำ� เนินการพบว่า โรคท่ีก�ำลงั เป็นปญั หาอยใู่ นพืน้ ท่ฝี ึกทหารร่วม ทม.รอ. อ.พฒั นานคิ ม จว.ลพบุรี อยู่ คอื
โรคไขเ้ ลอื ดออกเดง็ ก่ี โดยพบวา่ เปน็ โรคตดิ ตอ่ นำ� โดยแมลงอนั ดบั 1 ในพนื้ ที่ ต.ดลี งั ต.โคกสลงุ ต.หนองบวั และ ต.พฒั นานคิ ม
อ.พฒั นานคิ ม และ ต.โคกตมู อ.เมอื ง จว.ลพบรุ ี และโรคตดิ ตอ่ อนั ดบั 2 ทพี่ บในพนื้ ทท่ี ม่ี แี มลงเกยี่ วขอ้ งทางออ้ ม คอื โรคอจุ จาระ
ร่วงเฉยี บพลนั ที่มีแมลงวันน�ำเชื้อโรคอุจจาระรว่ งเฉยี บพลนั มาแพร่ระบาดในทหารได้โดยง่าย (ตารางที่ 1)

นอกเหนือจากโรคติดต่อน�ำโดยแมลงแล้ว ภัยคุกคามจากสภาพแวดล้อมในพ้ืนท่ี ก็เป็นภัยคุกคามอีกกลุ่มหน่ึงที่
สามารถสรา้ งความเจบ็ ปว่ ยใหก้ บั กำ� ลงั พลได้ คอื สภาพของนำ้� ทข่ี งั อยใู่ นพน้ื ท่ี ทท่ี หารอาจเหยยี มยำ่� ขณะฝกึ ปนเปอ้ื นสารเคมี
หากทหารท่ีร่วมฝึกมีแผลก็จะท�ำให้เกิดการอักเสบจากสารเคมีท่ีอยู่ในน้�ำเหล่าน้ัน อันจะส่งผลให้ทหารติดเช้ือได้ และมีภัย
คุกคามจากสตั ว์มีพษิ ทมี่ ใี นพนื้ ที่ ฝกึ ภาคสนาม คือ งูกะปะ และแมงมมุ พิษ ทอ่ี าจกัดทหารทีอ่ อกฝกึ ได้ ซ่ึงสถานพยาบาลใน
พ้นื ที่ เคยพบวา่ ประชาชนทอ่ี าศัยอยู่ในพ้ืนทฝ่ี ึก เคยถูกสัตว์มีพษิ 2 ชนดิ น้ีกัด

รายงานประจำ�ปี 2562 ANNUAL REPORT 2019 81

สถาบันวจิ ยั วทิ ยาศาสตร์การแพทยท์ หาร

ARMED FORCES RESEARCH INSTITUTE OF MEDICAL SCIENCES

ตารางที่ 1 ขอ้ มลู ข่าวกรองการแพทย์ที่ได้จากสถานพยาบาลในพ้ืนทีฝ่ ึก

อ�ำเภอ จังหวดั ลพบุรี โรคติดต่อทพ่ี บมากสดุ ในพนื้ ท่ี
พัฒนานคิ ม ต�ำบล
ดีลัง 1. ไขเ้ ลอื ดออกเดง็ ก่ี
เมือง 2. โรคอุจจาระร่วงเฉยี บพลนั
โคกสลุง
พฒั นานิคม 1. โรคอุจจาระรว่ งเฉยี บพลัน
หนองบวั 2. ไขเ้ ลอื ดออกเดง็ กี่

2. ขอ้ มลู จากการสำ� รวจพาหะนำ� โรค ยงุ เหบ็ หมดั ไรปา่ เพอ่ื ศกึ ษาสายพนั ธแ์ุ ละตรวจทางหอ้ งปฏบิ ตั กิ ารเพอ่ื ตรวจหา
เชอื้ ก่อโรคด้วยวิธที างอณชู วี โมเลกุล

2.1 ผลการจับยงุ พาหะน�ำโรคในพ้ืนท่ี

จบั ยงุ ในพ้ืนทีฝ่ ึกเพ่ือตรวจสอบสายพนั ธย์ ุง พบวา่ ตรวจพบยุงในพ้นื ท่ีฝกึ ทั้งหมด 3 สายพันธุ์ คอื ยุงลาย Aedes

นำ� โรคไขเ้ ลอื ดออกโดย สายพนั ธ์ุ Aedes albopictus พบใน ต. โคกตมู ต.หนองบว้ และ ต.พฒั นานคิ ม สายพนั ธ์ุ Aedes aegypti

พบใน ต.หนองบว้ ยงุ รำ� คาญ Culex นำ� โรคไข้สมองอักเสบ สายพนั ธุ์ Culex gelidus พบใน ต.โคกตูม ต.ดลี งั ต.หนองบว้

และ ต.พฒั นานิคม สายพนั ธุ์ Culex fuscocephala พบใน ต.โคกตูม ต.หนองบว้ และ ต.พฒั นานคิ ม และยุงแมนโซเนยี

Mansonia นำ� โรคเท้าช้าง สายพนั ธ์ุ Mansonia uniformis พบใน ต.โคกตมู ต.ดลี งั ต.หนองบ้ว และ ต.พัฒนานิคม สายพันธ์ุ
Mansonia Indiana ต.โคกตูม ต.ดีลงั และ ต.พัฒนานคิ ม (ตารางที่ 2 )

ตารางท่ี 2 ชนิดของยงุ พาหะที่ตรวจพบในพนื้ ท่กี ารฝกึ ทหารรว่ ม ทม.รอ. จว.ลพบรุ ี

จังหวดั ลพบรุ ี ชนิดของยงุ พาหะหลกั ที่พบ

อำ� เภอ ตำ� บล ยุงลาย Aedes ยงุ กน้ ปลอ่ ง ยงุ ร�ำคาญ Culex ยุงแมนโซเนยี
นำ� โรคไขเ้ ลอื ดออก Anopheles นำ� โรค Mansonia

นำ� โรคไขม้ าลาเรยี ไข้สมองอกั เสบ น�ำโรคเท้าชา้ ง

เมอื ง โคกตูม Aedes albopictus - Culex gelidus Mansonia uniformis
Culex fuscocephala Mansonia indiana

พัฒนานคิ ม ดีลงั - - Culex gelidus Mansonia uniformis
Mansonia indiana

หนองบัว Aedes albopictus - Culex gelidus Mansonia uniformis
Aedes aegypti Culex fuscocephala
Culex tritaeniorhynchus

พฒั นานิคม Aedes albopictus - Culex gelidus Mansonia uniformis
Culex fuscocephala Mansonia indiana
Culex tritaeniorhynchus

82 รายงานประจ�ำ ปี 2562 ANNUAL REPORT 2019

สถาบันวิจยั วิทยาศาสตรก์ ารแพทย์ทหาร

ARMED FORCES RESEARCH INSTITUTE OF MEDICAL SCIENCES

2.2 ผลการตรวจหาเช้ือไวรัสเดงกใ่ี นยงุ สายพนั ธ์ุ Aedes ดว้ ยวิธีทางอณชู วี โมเลกุล
ตรวจหาเชอื้ ไวรสั เดงกี่ เช้ือกอ่ โรคไข้เลือดออก จากยุงสายพันธ์ุ Aedes ทจ่ี ับได้จากพ้ืนพน้ื ท่ฝี ึกด้วยวธิ ที างอณชู วี
โมเลกุล ณ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์การแพทย์ทหาร ผลการด�ำเนินการ พบว่า ตรวจไม่พบเชื้อไวรัสเดงกี่จากยุงสายพันธุ์
Aedes ที่จบั ได้จากพ้ืนทีฝ่ ึกในทุกพืน้ ที่ (ตารางท่ี 3)

ตารางที่ 3 ผลการตรวจหาดเี อน็ เอของเชอื้ กอ่ โรคไข้ ในยงุ ลายพาหะโรคไขเ้ ลอื ดออกเดง็ ก่ี ทางหอ้ งปฏบิ ตั กิ าร โดยสถาบนั วจิ ยั
วทิ ยาศาสตร์การแพทยท์ หาร

จังหวัดลพบุรี ผลการตรวจหาดเี อ็นเอของเช้ือกอ่ โรคไข้

อำ� เภอ ต�ำบล ยุงลาย Aedes ยงุ ก้นปลอ้ ง ยงุ ร�ำคาญ Culex ยุงแมนโซเนีย
นำ� โรคไข้เลอื ดออก Anopheles น�ำโรค Mansonia
นำ� โรคไข้มาลาเรยี ไข้สมองอกั เสบ นำ� โรคเท้าชา้ ง

เมือง โคกตมู ตรวจไมพ่ บเชอ้ื เด็งกีไ่ วรสั ไม่ได้ตรวจ ไมไ่ ดต้ รวจ ไมไ่ ดต้ รวจ

พัฒนานิคม ดีลงั ตรวจไมพ่ บเชือ้ เดง็ ก่ีไวรสั ไมไ่ ด้ตรวจ ไม่ไดต้ รวจ ไม่ไดต้ รวจ

หนองบวั ตรวจไมพ่ บเชอ้ื เดง็ กไ่ี วรสั ไมไ่ ด้ตรวจ ไมไ่ ดต้ รวจ ไม่ไดต้ รวจ

พฒั นานิคม ตรวจไม่พบเชือ้ เดง็ กไ่ี วรสั ไมไ่ ด้ตรวจ ไมไ่ ด้ตรวจ ไมไ่ ด้ตรวจ

2.3 ผลการตรวจหาเชือ้ รคิ เค็ทเซยี ใน เหบ็ หมัด ด้วยวิธีทางอณชู วี โมเลกุล
ตรวจหาเช้ือริคเค็ทเซยี จาก เห็บ หมัด และเหา ที่จบั ได้จากพื้นพ้นื ท่ีฝกึ ด้วยวธิ ีทางอณชู ีวโมเลกลุ ณ สถาบนั วิจัย

วิทยาศาสตร์การแพทย์ทหาร ผลการด�ำเนนิ การ พบวา่ ตรวจพบเชื้อก่อโรคไขร้ ิคเคท็ เซียจากสัตว์พาหะดงั กลา่ ว ร้อยละ 50
และตรวจพบเช้อื ริคเค็ทเซียในพ้ืนทฝี่ ึกทุกพน้ื ท่ี (ตารางท่ี 4)

ตารางท่ี 4 ผลการตรวจหาดเี อน็ เอของเชอื้ กอ่ โรคไข้รคิ เคท็ เซยี ในพาหะโรคทางหอ้ งปฏิบตั ิการโดยสถาบนั วิจัยวทิ ยาศาสตร์
การแพทยท์ หาร

จงั หวดั ลพบรุ ี ผลการตรวจหาดีเอ็นเอของเชอ้ื กอ่ โรคไขร้ ิคเคท็ เซีย

อำ� เภอ ต�ำบล เห็บ หมดั เหา

เมอื ง โคกตูม ตรวจพบเช้ือริคเค็ทเซีย ตรวจพบเชื้อรคิ เคท็ เซยี ตรวจพบเชอ้ื รคิ เคท็ เซยี
พัฒนานคิ ม ดลี ัง ตรวจพบเชอ้ื รคิ เค็ทเซยี ตรวจพบเชอื้ ริคเค็ทเซีย ตรวจพบเชื้อรคิ เค็ทเซีย
หนองบัว ตรวจพบเชื้อรคิ เค็ทเซยี ตรวจพบเชอื้ รคิ เค็ทเซยี ตรวจพบเชื้อริคเค็ทเซีย
พัฒนานคิ ม ตรวจพบเชื้อริคเค็ทเซยี ตรวจพบเชื้อริคเคท็ เซยี ตรวจพบเช้อื ริคเค็ทเซีย

โคกสลุง ตรวจพบเชื้อริคเคท็ เซยี ตรวจพบเชอ้ื รคิ เคท็ เซีย ตรวจพบเชื้อริคเค็ทเซีย

2.4 ผลการตรวจหาภูมติ อบสนองต่อเชื้อก่อโรคสครับไทฟสั จากหนู ดว้ ยวิธีทางน้ำ� เหลอื งวทิ ยา
ตรวจหาภมู ิตอบสนองต่อเช้อื กอ่ โรคสครับไทฟัสจากหนู ทจี่ บั ไดจ้ ากพื้นท่ฝี ึกด้วยวธิ ี Indirect Immunofluorescent

assay (IFA) ผลการดำ� เนนิ การ พบว่า ไมพ่ บภมู ิตอบสนองตอ่ เช้ือกอ่ โรคสครับไทฟัสจากหนูทจ่ี บั ได้จากพ้นื ทีฝ่ กึ

รายงานประจำ�ปี 2562 ANNUAL REPORT 2019 83

สถาบันวิจยั วทิ ยาศาสตรก์ ารแพทย์ทหาร

ARMED FORCES RESEARCH INSTITUTE OF MEDICAL SCIENCES

ขอ้ พิจารณาและข้อเสนอแนะ

1. กรณีของโรคไข้เลอื ดออกเด็งกี่
ขอ้ พจิ ารณา ขอ้ มลู จากสถานพยาบาลในพน้ื ที่ ทพี่ บวา่ ประชาชนทอี่ าศยั อยใู่ นพน้ื ทฝี่ กึ มกี ารเจบ็ ปว่ ยดว้ ยโรคไขเ้ ลอื ด
ออกเด็งกี่ เป็นจ�ำนวนมากในทกุ พืน้ ที่ และ สวพท. สามารถตรวจพบยุงพาหะนำ� โรคไข้เลือดออกเดง็ ก่ี ในพ้ืนทีฝ่ ึก แสดงว่า
พ้ืนท่ีฝึกภาคสนามร่วมทหารรักษาพระองค์/เหล่าทัพ ใน อ.เมือง และ อ.พัฒนานิคม จว.ลพบุรี ในคร้ังน้ีมีความเสี่ยงต่อ
การตดิ โรคไขเ้ ลือดออกเด็งกี่สูงที่ก�ำลงั พลท่ีออกฝึกมีโอกาสติดเชือ้ โรคดังกล่าวได้
ข้อเสนอแนะ ควรแนะน�ำให้ทหารที่ออกฝึกภาคสนามในครั้งนี้ป้องกันตัวเองไม่ให้ถูกยุงกัด ควรมีการแจกจ่ายยา
ทากนั ยงุ ใหท้ หารใชป้ อ้ งกนั ยงุ กดั ระหวา่ งฝกึ ควรประสานเจา้ หนา้ ทป่ี อ้ งกนั ควบคมุ โรคตดิ ตอ่ นำ� โดยแมลง ใหช้ ว่ ยพน่ ยาปอ้ งกนั
ยงุ บรเิ วณรอบฐานปฏบิ ตั กิ ารเพอื่ ลดจำ� นวนยงุ ทม่ี ใี นพน้ื ทล่ี ง เพราะจากการตรวจทางหอ้ งปฏบิ ตั กิ าร ดว้ ยวธิ ที างอณชู วี โมเลกลุ
ของสวพท. พบว่ายุงลายในพื้นท่ีมีอัตราการติดเชื้อไวรัสเด็งกี่น้อยมาก หากมีการควบจ�ำนวนยุงให้น้อยลงหรือป้องกันตัว
ไมใ่ หย้ งุ กดั กม็ โี อกาสทจี่ ะทำ� ใหป้ ลอดภยั จากโรคไขเ้ ลอื ดออกเดง็ กไี่ ด้ และหากทหารทอ่ี อกฝกึ หรอื กำ� ลงั ฝกึ มอี าการปว่ ยดว้ ยไข้
ไม่ทราบสาเหตุ เช่น เปน็ ไข้ ปวดศรษี ะรนุ แรง ปวดเมือ่ ยตามตวั ควรแจง้ ให้แพทย์ทที่ ำ� การรกั ษาพยาบาลทราบว่าก่อนปว่ ย
ได้ออกฝกึ ภาคสนามในพืน้ ท่ีทม่ี ีประชาชนปว่ ยด้วยโรคไขเ้ ลือดออกเด็งกี่ สูงมาก
2. กรณโี รคอจุ จาระรว่ งเฉยี บพลนั
ขอ้ พจิ ารณา ขอ้ มลู จากสถานพยาบาลในพน้ื ท่ี ทพ่ี บวา่ ประชาชนทอี่ าศยั อยใู่ นพนื้ ทฝ่ี กึ มกี ารเจบ็ ปว่ ยดว้ ยโรคอจุ จาระ
ร่วงเฉียบพลันเป็นจ�ำนวนมากในทุกพื้นท่ีนั้น แสดงว่าพ้ืนท่ีฝึกภาคสนามร่วมของทหารรักษาพระองค์/เหล่าทัพ ในครั้งนี้
ก�ำลงั พลมีความเสย่ี งต่อการติดเชอ้ื โรคอุจจาระร่วงเฉียบพลันระหว่างฝึกได้
ข้อเสนอแนะ ควรแนะนำ� ใหท้ หารท่ีออกฝึกภาคสนามในครงั้ น้ี ทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ และป้องกนั ไมใ่ ห้แมลงวนั
ตอมอาหารทป่ี รงุ ไวส้ ำ� หรบั รบั ประทาน และใหห้ นว่ ยแพทยเ์ ตรยี มยาแกโ้ รคทอ้ งรว่ งเฉยี บพลนั และผงเกลอื แร่ สำ� หรบั ใชร้ ะหวา่ งฝกึ
3. กรณตี รวจพบสัตว์มพี ิษในพื้นท่ี
ขอ้ พจิ ารณา มปี ระวตั ปิ ระชาชนทอี่ าศยั อยใู่ นพน้ื ฝกึ บา้ นดลี งั เคยถกู แมงมมุ มพี ษิ กดั จนตอ้ งเขา้ รบั การรกั ษาพยาบาล
โดยมีลักษณะแผลบวมแดง คัน แสบร้อน รู้สึกชาหรือเจ็บคล้ายเข็มท่ิม หากก�ำลังพลมีอาการดังกล่าว อาจสันนิษฐานได้ว่า
กำ� ลงั พลอาจถกู แมงมมุ พษิ กดั นอกจากแมงมมุ มพี ษิ แลว้ เจา้ หนา้ ที่ รพ.สต. ในพนื้ ทไ่ี ดแ้ นะนำ� ใหท้ หารทอ่ี อกฝกึ ในครงั้ นรี้ ะมดั ระวงั
งูกะปะและงูเห่า ท่มี ีอยู่ในพ้นื ท่ีด้วยเชน่ กัน
ข้อเสนอแนะ ควรแนะน�ำให้ทหารที่ออกฝึกภาคสนามในคร้ังนี้รู้จักกับแมงมุมพิษท่ีมีอยู่ในพื้นท่ี และควรให้ทหาร
หลกี เลยื่ งการเขา้ ไปในพน้ื ท่ี ทเี่ ปน็ แหลง่ ทอ่ี ยอู่ าศยั ของแมงมมุ พษิ หรอื หากหลกี เลยี่ งไมไ่ ดค้ วรระมดั ระวงั ตวั เปน็ พเิ ศษในพนื้ ท่ี
บา้ นดีลงั หากมีความร้สู ึกว่าโดนแมงมมุ พษิ กดั ใหร้ บี แจง้ แพทยท์ หารให้ทราบโดยทนั ที สำ� หรับกรณขี อง งูกะปะและงูเห่า ทม่ี ี
อยใู่ นพนื้ ทน่ี นั้ หนว่ ยแพทยป์ ระจำ� การฝกึ ควรเตรยี มเซรมุ่ แกพ้ ษิ งดู งั กลา่ วไวใ้ หพ้ รอ้ มเพอ่ื รองรบั สถานการณฉ์ กุ เฉนิ กรณที หาร
โดนงดู ังกลา่ วกดั ระหวา่ งฝึก
4. กรณตี รวจพบเห็บ หมดั เหา ในพน้ื ท่ตี ิดเชื้อรคิ เคท็ เซีย
ข้อพิจารณา ผลจากการตรวจทางหอ้ งปฏิบัติการ ด้วยวิธอี ณชู วี โมเลกลุ ของ เหบ็ หมดั เหา ทจ่ี ับจากพื้นที่ฝกึ ของ
สวพท. ทพี่ บวา่ สตั วพ์ าหะนำ� โรคดงั กลา่ วมกี ารตดิ เชอ้ื รคิ เคท็ เซยี รอ้ ยละ 50 แสดงวา่ ทหารทอี่ อกฝกึ มโี อกาสตดิ เชอ้ื โรครคิ เคท็
เซียได้ หากถกู เหบ็ หมัด และเหา กดั
ขอ้ เสนอแนะ ควรแนะนำ� ใหท้ หารทอี่ อกฝกึ ภาคสนามในครง้ั นห้ี ลกี เลยี่ งการสมั ผสั กบั สตั วเ์ ลยี้ งในพน้ื ท่ี ทม่ี เี หบ็ หมดั
และเหา เกาะอยู่ ซ่งึ อาจท�ำใหส้ ัตว์พาหะนำ� โรคดังกลา่ วกัดได้ ในระหวา่ งทำ� การฝึกควรให้ทหารทายาป้องกันแมลงทีส่ ามารถ
ปอ้ งกัน เห็บ หมดั เหา และไรป่ากัดได้ และหากทหารทอี่ อกฝกึ หรือกำ� ลังฝกึ มอี าการปว่ ยดว้ ยไขไ้ มท่ ราบสาเหตุ เช่น เป็นไข้
ปวดศรีษะรุนแรง ปวดเม่ือยตามตัว ควรแจ้งให้แพทย์ที่ท�ำการรักษาพยาบาลทราบว่าก่อนป่วยได้ออกฝึกภาคสนามในพ้ืนที่
ทต่ี รวจพบการติดเช้อื โรครคิ เค็ทเซยี ในสตั ว์พาหะน�ำโรคสูง

84 รายงานประจ�ำ ปี 2562 ANNUAL REPORT 2019

สถาบนั วิจัยวทิ ยาศาสตรก์ ารแพทยท์ หาร

ARMED FORCES RESEARCH INSTITUTE OF MEDICAL SCIENCES

การสำ� รวจและตรวจวดั คณุ ภาพสงิ่ แวดลอ้ มภายในโรงงานเภสชั กรรมทหาร ศนู ย์
การอุตสาหกรรมป้องกนั ประเทศและพลงั งานทหาร

มนัสวี ทองศฤงคลี วชั รภัสร์ มณฉี าย วิระ ทองพมุ่ มานพ ภยู่ นิ ดี ปิยาภสั ร์ ยังรอด คุณากร คณา
และ ดวงพร พลู สุขสมบัติ

สถาบนั วจิ ัยวทิ ยาศาสตรก์ ารแพทย์ทหาร

รายงานความกา้ วหน้า

ปจั จบุ นั มคี วามเจรญิ กา้ วหนา้ ทางดา้ นเทคโนโลยเี ปน็ อยา่ งมาก ประกอบกบั มอี ปุ กรณอ์ ำ� นวยความสะดวกทท่ี นั สมยั
มาใช้ในสถานท่ีท�ำงานมากข้ึน อุปกรณ์บางประเภทมีส่วนประกอบของสารเคมี ทำ� ให้มีโอกาสเกิดความเป็นพิษต่อร่างกาย
รวมถงึ การจดั การสภาพแวดลอ้ มภายในสถานทที่ ำ� งานไมไ่ ดม้ าตรฐาน ซง่ึ สงิ่ เหลา่ นส้ี ง่ ผลใหผ้ ปู้ ฏบิ ตั งิ านในสถานทที่ ำ� งานเกดิ
การเจ็บป่วยได้ ดังนั้นจึงควรจัดสภาวะแวดล้อมท่ีเหมาะสมแก่การท�ำงาน เพ่ือป้องกันและลดภาวะเจ็บป่วยจากการท�ำงาน
แผนกผลิตและควบคุมมาตรฐาน กองวิเคราะห์ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์การแพทย์ทหาร (ผผค.กวค.สวพท.) จึงได้ท�ำการ
สำ� รวจและตรวจวัดคุณภาพสิ่งแวดลอ้ มภายในโรงงานเภสัชกรรมทหารฯ ทง้ั หมด 11 พื้นท่ี ประกอบดว้ ย แผนกยาฉีด หอ้ ง
วตั ถอุ นั ตราย คลังเกบ็ วตั ถอุ นั ตราย คลงั เก็บวัสดุการบรรจุ ช้นั 1-2 ห้องสำ� นกั งาน ชน้ั 7 แผนกควบคมุ คุณภาพ (QC) ชน้ั 6
ห้องปฏิบตั ิการเคมี ช้นั 6 แผนกวิจยั และพัฒนา (R&D) ช้นั 6 พืน้ ทผี่ ลติ ยา ชั้น 1-5 หอ้ ง Dust Collector และบอ่ บ�ำบัดน้ำ� เสีย
เพอ่ื สง่ เสรมิ สขุ ลกั ษณะ ทเ่ี หมาะสมของสง่ิ แวดลอ้ มในสถานทที่ ำ� งาน และเปน็ การสง่ เสรมิ สขุ ภาพของกำ� ลงั พล โดยดำ� เนนิ การ
ตรวจวัดคุณภาพสิ่งแวดลอ้ ม ดงั นี้
1. สารเคมีในอากาศ ได้แก่ สารอินทรียร์ ะเหยง่าย และปรมิ าณฝุน่ รวม
2. ทางกายภาพ ได้แก่ อณุ หภูมิ ความชื้นสัมพัทธ์ ความสว่างของแสง ความดงั ของเสยี ง และลมระบายอากาศ
3. ปรมิ าณกา๊ ซในอากาศ ได้แก่ กา๊ ซคาร์บอนมอนอกไซด์ และก๊าซคารบ์ อนไดออกไซด์
จากผลการตรวจวัดคุณภาพสิ่งแวดล้อม ปัญหาท่ีพบภายในห้องวัตถุอันตราย คลังเก็บวัตถุอันตราย คลังเก็บวัสดุ
การบรรจุ ช้นั 1 หอ้ งสำ� นักงาน ชน้ั 7 และแผนกวจิ ยั และพฒั นา ได้แก่ แสงสว่างไม่เพยี งพอตอ่ การปฏิบตั งิ าน ในสว่ นของคลงั
เกบ็ วัสดกุ ารบรรจุ ชั้น 2 ปัญหาท่ีพบ ไดแ้ ก่ แสงสวา่ งไมเ่ พยี งพอตอ่ การปฏิบัตงิ าน และลมระบายอากาศตำ�่ แผนกควบคุม
คุณภาพ (QC) หอ้ งปฏบิ ัตกิ ารทางเคมี ช้นั 6 ปัญหาท่พี บ ได้แก่ แสงสวา่ งไม่เพียงพอต่อการปฏิบตั ิงาน และพบสารอนิ ทรยี ์
ระเหยง่ายสงู ส�ำหรับพนื้ ที่ผลิตยา ชัน้ 5 และพื้นทผี่ ลิตยา ชัน้ 2 ปัญหาทพี่ บ ไดแ้ ก่ สารอินทรยี ร์ ะเหยงา่ ย และความดังของ
เสยี งสงู พน้ื ทผ่ี ลติ ยา ชน้ั 4 ปญั หาทพ่ี บ ไดแ้ ก่ แสงสวา่ งไมเ่ พยี งพอตอ่ การปฏบิ ตั งิ าน และความดงั ของเสยี งสงู และพนื้ ทผ่ี ลติ ยา
ช้นั 1 ปญั หาที่พบ ไดแ้ ก่ สารอินทรยี ์ระเหยงา่ ยสูง ความดงั ของเสยี งสงู และแสงสวา่ งไมเ่ พยี งพอต่อการปฏบิ ตั ิงาน
ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ผลการตรวจวัดไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานนั้น แผนกผลิตและควบคุมมาตรฐานได้ให้ข้อเสนอแนะ
เพื่อใหไ้ ดด้ ำ� เนินการแกไ้ ขต่อไป

รายงานประจำ�ปี 2562 ANNUAL REPORT 2019 85

สถาบนั วจิ ยั วทิ ยาศาสตรก์ ารแพทยท์ หาร

ARMED FORCES RESEARCH INSTITUTE OF MEDICAL SCIENCES

การส�ำรวจสภาวะสุขภาพและพฤติกรรมเสี่ยงของก�ำลังพลกองทัพบกในเขต
กรุงเทพมหานครและปรมิ ณฑล ประจำ� ปี 2562

พอฤทยั กฤตกิ านารา ลาวลั ย์ อเนกฤทธ์ิ สกุ ญั ญา ลาภโต พมิ ลรตั น์ สนธิ สำ� เนยี ง ศรโี พธิ์ สชุ าดา พมุ่ ไชย
กรวฒั น์ สใี ส กลว้ ยไม้ ศรวี ไิ ลย์ ชลดิ า แวงวรรณ นติ ยิ า อศั วกิ ลุ คณุ ากร คณา และ ดวงพร พลู สขุ สมบตั ิ

สถาบนั วจิ ยั วทิ ยาศาสตรก์ ารแพทยท์ หาร

รายงานความกา้ วหน้า

แผนกชีวเคมี กองวิเคราะห์ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์การแพทย์ทหาร ได้ด�ำเนินงานโครงการบริการตรวจสุขภาพ
ประจ�ำปีก�ำลังพลกองทัพบก ณ ท่ีต้ังหน่วย ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ปีงบประมาณ 2562 ซึ่งมีก�ำลังพลท่ี
เข้ารับการตรวจสุขภาพประจ�ำปี จ�ำนวน 15,692 นาย ส่วนใหญ่เป็นเพศชาย (ร้อยละ 79.0) และมีอายุเฉลี่ย 41.0 ปี
โดยแบ่งกลุ่มอายุตั้งแต่ 35 ปีข้ึนไปร้อยละ 66.1 และอายุน้อยกว่า 35 ปีร้อยละ 33.9
ข้อมูลจากผลการตรวจร่างกายท่ัวไปพบว่า ก�ำลังพลมีปัญหาภาวะอ้วนลงพุง (เส้นรอบเอวชาย ≥ 90 ซม., หญิง ≥
80 ซม.) ร้อยละ 44.2 ภาวะอ้วน (ดัชนีมวลกาย ≥ 25 กก./ตร.ม.) ร้อยละ 43.3 และความดันโลหิตสูง (≥ 140/90 มม.ปรอท)
ร้อยละ 15.1 เม่ือวิเคราะห์เปรียบเทียบแบ่งตามกลุ่มอายุพบว่า ปัญหาสุขภาพดังกล่าวมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในกลุ่มก�ำลังพลท่ี
มีอายุมากขึ้น (ภาพที่ 1)

ร อยละ 55.7

60.0 49.1 49.1 47.9 47.0 < 30 ป
43.8 43.3 31-40 ป
50.0 44.2 32.9 41-50 ป
>50 ป
40.0 ภาวะอว น รวม

30.0 27.3 25.9
20.0
18.7 15.1

10.0 8.7
3.6

0.0 ระดบั ความดนั โลหิตสูง
ภาวะอว นลงพุง

ภาพที่ 1 ร้อยละของปัญหาสุขภาพจากการตรวจร่างกายทว่ั ไปจ�ำแนกตามกลมุ่ อายุ
ภาพท่ี 1 รอ ยละของปญหาสุขภาพจากการตรวจรางกายทั่วไปจาํ แนกตามกลมุ อายุ

สำ� หรบั ผลการตรวจทางหอ้ งปฏบิ ตั กิ ารของกำ� ลงั พลทมี่ อี ายตุ งั้ แต่ 35 ปขี นึ้ ไป พบวา่ มปี จั จยั เสยี่ งทำ� ใหเ้ กดิ โรคไมต่ ดิ ตอ่

เรอื้ รงั ทสี่ ำ� คญั ไดแ้ ก่ ภาวะไขมนั ในเลอื ดสงู โรคเบาหวาน เปน็ ตน้ โดยปญั หาทพ่ี บมากเรยี งตามลำ� ดบั ความชกุ คอื ระดบั ไขมนั

Total Cholesterol ในเลอื ดสงู (≥ 200 มก./ดล.) รอ้ ยละ 58.7, ระดบั ไขมนั Triglyceride ในเลอื ดสงู (≥ 150 มก./ดล.) รอ้ ยละ

38.6 และระดบั นำ�้ ตาลในเลอื ดสงู (≥ 126 มก./ดล.) รอ้ ยละ 10.0 ซง่ึ ปญั หาดงั กลา่ วจะพบในกำ� ลงั พลชายมากกวา่ กำ� ลงั หญงิ
(ภาพที่ 2)

86 รายงานประจำ�ปี 2562 ANNUAL REPORT 2019

สถาบันวจิ ยั วทิ ยาศาสตร์การแพทยท์ หาร

ARMED FORCES RESEARCH INSTITUTE OF MEDICAL SCIENCES

ระดับนํ้าตาลในเลือด > 126 mg/dL 11.2 43.7 ชาย
ระดับ Triglyceride ในเลือด > 150 mg/dL 6.2 38.6 หญิง
2562
10

21.8

ระดับ Cholesterol ในเลือด > 200 mg/dL 59

57.8
58.7

0 20 40 60 รอยละ

ภาพที่ 2 ร้อยละของระดับไขมันและน�้ำตาลในเลือดทผ่ี ดิ ปกติจากการตรวจทางห้องปฏิบัติการ

ผลการสำ� รวจพฤตกิ รรมเสยี่ งทางสขุ ภาพของกำ� ลงั พลกองทพั บกชใ้ี หเ้ หน็ วา่ กำ� ลงั พล รอ้ ยละ 29.5 มกี ารออกกำ� ลงั กาย
ยังไมถ่ ึงเกณฑ์มาตรฐาน (น้อยกวา่ 150 นาที ต่อสปั ดาห)์ สูบบหุ ร่ี ร้อยละ 26.5 และบรโิ ภคเคร่อื งดมื่ แอลกอฮอล์เป็นประจ�ำ
ร้อยละ 3.0 (ภาพที่ 3)

ดมื่ เครื่องด่ืมแอลกอฮอลเปนประจาํ 3

สบู บุหรี่ 26.5

ออกกาํ ลังกายนอยกวา 15 นาที ตอสัปดาห 29.5

0 10 20 30 รอยละ

ภาพท่ี 3 รอ้ ยละพฤติกรรมเสี่ยงทางสขุ ภาพของกำ�ลงั พลกองทัพบก

จากขอ้ มลู ข้างต้นสรปุ ไดว้ า่ ปญั หาสุขภาพทส่ี ำ� คัญที่สดุ ของก�ำลงั พลกองทพั บก คอื ระดบั ไขมนั ในเลอื ดผดิ ปกติ รอง
ลงมาได้แก่ ภาวะอ้วนลงพุง ภาวะอ้วน มีความดันโลหิตสูง และเบาหวาน ตามล�ำดับ ซึ่งในขั้นต้นได้ให้ค�ำแนะน�ำส�ำหรับ
การปฏบิ ตั ติ นเพอื่ ลดปจั จยั /พฤตกิ รรมเสยี่ ง ตลอดจนวธิ กี ารปอ้ งกนั โรคตา่ ง ๆ ทมี่ แี นวโนม้ จะเกดิ ขนึ้ ไดใ้ นเอกสารการรายงาน
ผลตรวจสขุ ภาพประจำ� ปขี องกำ� ลงั พลเปน็ รายบคุ คลแลว้ อยา่ งไรกต็ ามผบู้ งั คบั บญั ชาควรใหค้ วามสำ� คญั เรอื่ งการดแู ลสขุ ภาพของ
กำ� ลงั พล โดยการจัดกจิ กรรมสรา้ งเสริมสขุ ภาพ เชน่ การรณรงค์ ลด ละ เลิกบหุ ร-่ี สรุ า และสง่ เสรมิ การออกก�ำลงั กาย เปน็ ตน้
เพอ่ื ให้กำ� ลังพลกองทพั บกมสี ขุ ภาพดแี ละมคี ุณภาพชีวิตทีด่ ขี ึ้น

รายงานประจ�ำ ปี 2562 ANNUAL REPORT 2019 87

สถาบันวจิ ัยวทิ ยาศาสตรก์ ารแพทย์ทหาร

ARMED FORCES RESEARCH INSTITUTE OF MEDICAL SCIENCES

โครงการพฒั นาศกั ยภาพการตรวจวเิ คราะหส์ ารสกดั จากกญั ชา ทางหอ้ งปฏบิ ตั กิ าร

สมุ าลี ผาจันทร์ ดรุณี อุเทนนาม อาทิตย์ แสงสวา่ ง คณุ ากร คณา และ ดวงพร พูลสุขสมบัติ

แผนกยาเสพตดิ และพษิ วทิ ยา กองวิเคราะห์ สถาบันวจิ ัยวทิ ยาศาสตรก์ ารแพทยท์ หาร
บทนำ� : กญั ชา จดั เปน็ พชื สมนุ ไพรทมี่ กี ารนำ� มาใชป้ ระโยชนท์ างการแพทยม์ าอยา่ งยาวนาน โดยในกญั ชามสี ารสำ� คญั คอื สาร
แคนนาบินอยด์ (cannabinoids) ซึง่ มี Tetrahydrocannabinol (THC) และ cannabidiol (CBD) เปน็ สารสำ� คัญและมบี ทบาท
ในการน�ำมาใช้ทางการแพทย์ ในปัจจุบันประเทศไทยเร่ิมมีการน�ำกัญชามาใช้ในต�ำรับยาแผนไทยและมีแนวโน้มน�ำสารสกัด
จากกัญชามาใช้ในรูปแบบยาแผนปัจจุบนั
วตั ถุประสงค:์ เพอื่ ตรวจวเิ คราะหห์ าสารส�ำคัญในสารสกัดจากกัญชาและสนบั สนนุ การวจิ ยั ทางการแพทย์
วธิ ดี �ำเนินการวจิ ยั : รูปแบบการวจิ ัยเปน็ การสบื ค้นข้อมูลและทบทวนวรรณกรรมจากฐานข้อมูล ScienceDirect และ United
Nations publication โดยทำ� การสบื ค้นตงั้ แตเ่ ดอื นสงิ หาคม 2562 และท�ำการตรวจวิเคราะหเ์ ชิงคณุ ภาพด้วยวธิ มี าตรฐานทาง
หอ้ งปฏบิ ัติการโดยใชส้ ารมาตรฐาน THC และ CBD
ผลการวจิ ัย: จากการสบื ค้นขอ้ มูลและทบทวนวรรณกรรม สามารถด�ำเนินการตรวจวเิ คราะหห์ าสารส�ำคญั ในกัญชาทางห้อง
ปฏิบัตกิ ารดว้ ยด้วยวิธีมาตรฐานก่อนนำ� ไปใชใ้ นการแพทย์ แผนปจั จบุ ัน
สรปุ ผลการวจิ ยั : กญั ชา จดั เปน็ พชื ทมี่ ปี ระโยชนท์ างการแพทย์ ซงึ่ มหี ลกั ฐานทางวชิ าการสนบั สนนุ สำ� หรบั การวจิ ยั นเ้ี ปน็ การ
ตรวจวเิ คราะหเ์ ชงิ คณุ ภาพในระดบั หอ้ งปฏบิ ตั กิ าร เพอ่ื รองรบั การนำ� ไปใชท้ างการแพทย์ จงึ ควรมกี ารศกึ ษาการตรวจวเิ คราะห์
เชิงปริมาณต่อไป เพ่ือให้เปน็ ไปตามขอ้ กำ� หนดของส�ำนกั งานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสขุ

88 รายงานประจ�ำ ปี 2562 ANNUAL REPORT 2019

สถาบนั วจิ ยั วทิ ยาศาสตรก์ ารแพทยท์ หาร

ARMED FORCES RESEARCH INSTITUTE OF MEDICAL SCIENCES

โครงการหน่วยทหารสขี าว ประจำ� ปี 2562

ดรณุ ี อเุ ทนนาม สุมาลี ผาจันทร์ จิรวัฒน์ เมอื งโคมพสั อาทิตย์ แสงสว่าง พรเกษม รักษาเคน
คุณากร คณา และ ดวงพร พูลสขุ สมบัติ

สถาบันวิจัยวทิ ยาศาสตรก์ ารแพทยท์ หาร

รายงานความก้าวหนา้

ผบ.ทบ.ได้อนุมัติให้ด�ำเนินโครงการหน่วยทหารสีขาว เพ่ือป้องกันและแก้ไขไม่ให้ก�ำลังพลของกองทัพบกและ
ครอบครัวเขา้ ไปยงุ่ เกยี่ วกับยาเสพตดิ เม่อื วนั ที่ 24 พฤศจิกายน 2552 จงึ ได้มกี ารจดั ตงั้ ศูนย์อ�ำนวยการพลังแผน่ ดินเอาชนะ
ยาเสพตดิ กองทพั บก บรู ณาการแก้ไขปัญหายาเสพตดิ อย่างเปน็ ระบบตามยุทธศาสตร์ “พลงั แผ่นดินเอาชนะยาเสพติด” ของ
รัฐบาล โดยให้หนว่ ยขนึ้ ตรงกองทพั บกแต่งตัง้ เจ้าหน้าที่ภายในหนว่ ย หรอื ก�ำหนดให้หนว่ ยรองปฏิบตั ิหนา้ ทีใ่ นการปฏิบัตกิ าร
พลงั แผน่ ดนิ เอาชนะยาเสพตดิ ในหนว่ ย โดยใหผ้ บู้ งั คบั หนว่ ยขน้ึ ตรงกองทพั บกนน้ั ๆ หรอื ผทู้ ไ่ี ดร้ บั มอบหมายเปน็ ผรู้ บั ผดิ ชอบ
ตามคำ� สั่งกองทพั บก (เฉพาะ) ท่ี 34/34 ลง 30 กนั ยายน 2554 เพ่ือทำ� หน้าทวี่ างแผน อำ� นวยการ ประสานงาน สัง่ การ กำ� กับ
ดูแลการปฏิบัติของหน่วยขึ้นตรงในหน่วยนั้น การปฏิบัติการต่อสู้เพ่ือเอาชนะยาเสพติดรวมท้ังการบำ� บัดรักษาและฟื้นฟู
สมรรถภาพผ้ตู ิดยาเสพตดิ ตลอดจนอบรม จดั กิจกรรม โครงการกวดขนั ดแู ลกำ� ลังพลและครอบครวั ไม่ให้มสี ่วนเกีย่ วข้องกบั
ยาเสพติดทกุ รูปแบบ และเรง่ รัดใหพ้ ้ืนที่ของกองทพั บกปลอดยาเสพตดิ

สถาบนั วจิ ยั วทิ ยาศาสตรก์ ารแพทยท์ หารไดป้ ฏบิ ตั กิ ารเชงิ รกุ ตรวจปสั สาวะหาสารเสพตดิ ประเภทเมทแอมเฟตามนี กญั ชา และ
มอรฟ์ ีน ใหแ้ ก่ ทหารประจ�ำการ พนักงานราชการ และลูกจา้ งสวพท. และกองทัพบก ท้งั ยงั มกี ารเผยแพร่ข้อมูลถึงโทษและ
อันตรายของยาเสพติด ก�ำหนดช่องทางแจ้งเบาะแสเกี่ยวข้องกับยาเสพติดในรูปของสื่อท่ีเป็นโปสเตอร์ แผ่นพับ ป้ายและ
วีดิทศั น์ยาเสพตดิ ตงั้ จุดตรวจยานพาหนะทุกคันทเ่ี ข้ามาในสวพท. และผู้มาติดตอ่ ต้องไดร้ ับอนญุ าตใหผ้ ่าน เขา้ -ออก มีการ
จดั กจิ กรรมวนั ต่อตา้ นยาเสพติดในวันที่ 26 มถิ นุ ายน ของทกุ ปี

ผลการด�ำเนินงานในปีงบประมาณ 2562

กราฟ แสดงผลร้อยละของชนิดสารเสพติดที่ตรวจพบใน ทหารประจ�ำการ พนักงานราชการ และลูกจ้าง ของกองทัพบก
ปีงบประมาณ 2554-2562

ในปี 2562 ได้สนับสนุนโครงการหน่วยทหารสีขาว จ�ำนวน 14 หน่วย 348 ราย ตรวจพบสารเสพติดประเภท
เมทแอมเฟตามนี 5.2 % (18/348) กญั ชา 0.6 % (2/348) และมอรฟ์ นี 0.3 % (1/348) จากผลการตรวจ พบว่า สารเสพตดิ
ประเภทเมทแอมเฟตามนี กัญชา และมอรฟ์ นี มีแนวโน้มเพิม่ ขึน้ เมื่อเปรียบเทยี บกับปี 2561 ดงั นนั้ โครงการหนว่ ยทหารสีขาว
จึงถอื เป็นมาตรการหนึง่ ในการป้องกันการแพรร่ ะบาดของยาเสพติดในก�ำลงั พลของกองทพั บก

รายงานประจำ�ปี 2562 ANNUAL REPORT 2019 89

สถาบนั วจิ ยั วิทยาศาสตร์การแพทยท์ หาร

ARMED FORCES RESEARCH INSTITUTE OF MEDICAL SCIENCES

งานเฝ้าตรวจคุณภาพนำ�้ ในทีต่ งั้ หนว่ ยทหาร 2562

สมรรถ ปรกี ลาง มนัสวี ทองศฤงคลี วริ ะ ทองพุ่ม มานพ ภู่ยินดี ปยิ าภัสร์ ยังรอด คณุ ากร คณา
และ ดวงพร พูลสุขสมบตั ิ

สถาบันวิจัยวทิ ยาศาสตร์การแพทยท์ หาร

รายงานความกา้ วหน้า

น�้ำเป็นปัจจัยหน่ึงที่ส�ำคัญส�ำหรับการด�ำรงชีวิต มนุษย์ใช้น�้ำทั้งการอุปโภคและบริโภค การที่มนุษย์ได้ใช้น�้ำสะอาด
ปราศจากเชื้อโรคและสารพิษจึงเป็นปัจจัยที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพให้ร่างกายแข็งแรง และปราศจากโรคต่าง ๆ สถาบันวิจัย
วทิ ยาศาสตรก์ ารแพทยท์ หาร โดยแผนกผลติ และควบคมุ มาตรฐาน กองวเิ คราะหเ์ ลง็ เหน็ ความสำ� คญั น้ี จงึ ดำ� เนนิ งาน เฝา้ ตรวจ
คุณภาพน�้ำในท่ีต้ังหน่วยทหารทุกปี เพ่ือให้ก�ำลังพลกองทัพบกและครอบครัวได้มีน้�ำอุปโภค-บริโภคที่สะอาด ถูกสุขอนามัย
เปน็ การสง่ เสรมิ สขุ ภาพของกำ� ลงั พลใหแ้ ขง็ แรง นอกจากนย้ี งั ทำ� การตรวจวดั คณุ ภาพนำ�้ เสยี -นำ้� ทง้ิ ของโรงพยาบาลทหารบก
เพื่อใหน้ �ำ้ เสีย-น�ำ้ ท้งิ หลงั ผ่านระบบบ�ำบดั น้�ำเสยี ของโรงพยาบาลอย่ใู นเกณฑม์ าตรฐาน ก่อนปล่อยลงสู่แหลง่ นำ้� ธรรมชาตแิ ละ
สิ่งแวดลอ้ ม

ในวงรอบปี 2562 แผนกผลิตและควบคุมมาตรฐานท�ำการเฝ้าตรวจคุณภาพน�้ำในที่ต้ังหน่วยทหาร พ้ืนที่กองทัพ
ภาคที่ 3 โดยท�ำการสำ� รวจและเก็บตวั อยา่ งน�้ำ ทงั้ น�ำ้ อปุ โภค-บรโิ ภคและนำ�้ เสีย-น�้ำทิ้ง เพือ่ นำ� มาตรวจวเิ คราะห์คณุ ภาพนำ�้
จากหน่วยทหาร โรงพยาบาลค่ายทหาร และหน่วยทหารสว่ นกลางในพน้ื ทกี่ องทพั ภาคที่ 3 รวม 10 จังหวัด ไดแ้ ก่ จว.ตาก
จว.ล�ำปาง จว.พะเยา จว.เชียงราย จว.เชียงใหม่ จว.น่าน จว.เพชรบูรณ์ จว.นครสวรรค์ จว.พิษณุโลก และ จว.อุตรดิตถ์
รวมหน่วยรบั การสนับสนนุ ตรวจวิเคราะห์คุณภาพน�ำ้ ทัง้ ส้ิน 80 หนว่ ย จำ� นวนตวั อยา่ งน�ำ้ 311 ตวั อย่าง แบ่งเป็น นำ�้ อุปโภค-
บรโิ ภค 266 ตวั อยา่ ง และน�้ำเสยี -นำ้� ท้ิง 45 ตัวอยา่ ง ผลการวิเคราะห์คณุ ภาพนำ้� อุปโภค-บริโภคเปรยี บเทยี บกับคา่ มาตรฐาน
ของน�ำ้ อปุ โภค บรโิ ภค และนำ�้ ประปา หรอื นำ้� บาดาลที่บรโิ ภคได้ ของสำ� นกั งานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม กระทรวง
อตุ สาหกรรม (มอก.257) และมาตรฐานคณุ ภาพนำ�้ ในแหลง่ นำ้� ผวิ ดนิ ตามประกาศคณะกรรมการสง่ิ แวดลอ้ มแหง่ ชาติ ฉบบั ที่ 8
(พ.ศ.2538) ส�ำหรับผลการวิเคราะห์คุณภาพน้�ำเสีย-น้�ำทิ้งเปรียบเทียบกับค่ามาตรฐานควบคุมการระบายน�้ำท้ิงจากอาคาร
ประเภท ก. ตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม เรอื่ ง ก�ำหนดมาตรฐานควบคุมการระบายนำ้� ทิ้ง จาก
อาคารบางประเภทและบางขนาดตามประกาศในราชกิจจานเุ บกษา เลม่ 22 ตอน 125 ง หน้า 4 ลงวันที่ 29 ธนั วาคม 2548

ผลการตรวจวเิ คราะหค์ ณุ ภาพน�้ำพบว่า น้�ำอุปโภค-บรโิ ภค อยใู่ นเกณฑม์ าตรฐาน 208 ตวั อยา่ ง คดิ เปน็ ร้อยละ 78.2
ไมอ่ ย่ใู นเกณฑม์ าตรฐาน 58 ตวั อย่าง คิดเปน็ ร้อยละ 21.8 ปญั หาที่พบมาก คอื สีและความขนุ่ ของน้�ำไมผ่ า่ นเกณฑ์มาตรฐาน
พบโคลฟิ อร์มแบคทเี รียในบางตัวอย่าง และคา่ คลอรนี ตกค้างในนำ้� ประปาต�่ำกว่าเกณฑม์ าตรฐาน ส่วนน�้ำท้งิ หลังผ่านระบบ
บ�ำบัดนำ�้ เสียของโรงพยาบาลค่ายฯ ผา่ นเกณฑม์ าตรฐานท้งั หมด

จากการส�ำรวจพื้นทีพ่ บว่า หน่วยทหารบางหนว่ ยไมม่ ีระบบการจดั การดูแลเคร่อื งกรองนำ้� ตามวงรอบ ซึ่งอาจสง่ ผล
ใหค้ ณุ ภาพนำ�้ ไมผ่ า่ นเกณฑม์ าตรฐาน แผนกผลติ และควบคมุ มาตรฐานจงึ ใหค้ ำ� แนะนำ� ในการดแู ลรกั ษาและการใชง้ านทถ่ี กู วธิ ี
ของเคร่ืองกรองน้�ำในเบื้องต้น ส่วนของตัวอย่างน้�ำที่ผลการตรวจวิเคราะห์ไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานได้ให้ข้อเสนอแนะในการ
ปรับปรงุ แกไ้ ขแกห่ น่วยเวชกรรมป้องกนั ในพน้ื ท่ี นอกจากนีย้ งั ให้การสนบั สนุนการตรวจตดิ ตามหลงั ทำ� การแก้ไขอีกด้วย

90 รายงานประจ�ำ ปี 2562 ANNUAL REPORT 2019


Click to View FlipBook Version