กรมการศาสนา
กระทรวงวฒั นธรรม
www.dra.go.th
ระเบยี บกรมการศาสนา
ว่าดว้ ยศนู ยศ์ ึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์
พ.ศ. ๒๕๖๒
ส�ำ นกั พฒั นาคุณธรรมจรยิ ธรรม กลมุ่ สง่ เสริมเครือขา่ ยคุณธรรมจรยิ ธรรม
โทร. ๐ ๒๒๐๙ ๓๗๒๘ โทรสาร ๐ ๒๒๐๒ ๙๖๓๔
www.dra.go.th
Email: [email protected]
ระเบยี บกรมการศาสนา
ว่าดว้ ยศนู ยศ์ ึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทติ ย์ พ.ศ. ๒๕๖๒
ผู้จัดพมิ พ์ : กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม
ปที ่พี มิ พ์ : พ.ศ. ๒๕๖๒
จ�ำนวนพิมพ์ : ๕,๐๐๐ เลม่
ท่ปี รึกษา อธิบดกี รมการศาสนา
นายกติ ติพนั ธ์ พานสุวรรณ รองอธิบดกี รมการศาสนา
นางศรีนวล ลภั กิตโร ผ้อู �ำนวยการสำ� นักพัฒนาคณุ ธรรมจรยิ ธรรม
นายส�ำรวย นกั การเรยี น ผู้อำ� นวยการกองศาสนูปถัมภ์
นายพูลศักด์ิ สุขทรัพย์ทวผี ล เลขานกุ ารกรมการศาสนา
นางสุรยี ์ เกาศล ท่ีปรึกษากรมการศาสนา
นายมานสั ทารตั น์ใจ ทป่ี รกึ ษากรมการศาสนา
นายชวลติ ศิรภิ ริ มย์ ท่ปี รึกษากรมการศาสนา
นางสาวพไิ ล จิรไกรศิริ
คณะท�ำงาน ผอู้ �ำนวยการกลุ่มสง่ เสรมิ เครือข่ายคณุ ธรรมจริยธรรม
นายธนพล พรมสวุ งษ์ นกั วิชาการศาสนาปฏบิ ตั ิการ
นายเอกสิทธิ์ คล้ายแดง นกั วชิ าการศาสนาปฏบิ ัตกิ าร
นางสาวปรยี า เพ็ชรแตม้ ทอง เจา้ หนา้ ทีบ่ นั ทกึ ขอ้ มลู
นางสาวรวิวรรณ กุลแก้ว เจ้าหน้าที่วิเคราะหโ์ ครงการ
นายนนทวฒั น์ วรศรี เจา้ หน้าท่ีวิเคราะห์โครงการ
นายสิทธิพล พลู สวัสด์ิ
พิมพท์ ่ี : บริษทั ร�ำไทยเพรส จ�ำกัด
เลขที่ ๑๑๑/๙๓-๙๕ แขวงถนนนครไชยศรี เขตดสุ ิต กรงุ เทพมหานคร ๑๐๓๐๐
โทรศพั ท์ ๐-๒๖๖๙-๐๓๐๐-๔
โทรสาร ๐-๒๒๔๓-๕๘๗๐
ค�ำน�ำ
กรมการศาสนา กระทรวงวฒั นธรรม ได้กำ� หนดใหโ้ ครงการศนู ยศ์ กึ ษาพระพุทธศาสนาวนั อาทิตย์
เป็นโครงการสำ� คัญที่สนองนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงวัฒนธรรม ในการสง่ เสริมและพฒั นาคณุ ภาพ
ชีวิตของประชาชน และส่งเสริมให้ศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ เป็นศูนย์กลางการจัดกิจกรรม
ของชุมชนด้วยพลังบวร (บ้าน วัด โรงเรียน) เป็นการสร้าง “สังคมคุณธรรม” ด้วยหลักธรรมทางศาสนา
ผสานดว้ ยกจิ กรรมสง่ เสรมิ คณุ ธรรมจรยิ ธรรม กจิ กรรมทางสถาบนั พระมหากษตั รยิ ์ กจิ กรรมเกยี่ วกบั ประเพณี
วัฒนธรรมไทย รวมทั้งให้เด็ก เยาวชน และประชาชน มีความม่ันคงในคุณธรรม ร่วมสร้างสรรค์ชุมชน
ให้สงบรม่ เยน็ เปน็ พลงั ส่งเสรมิ สถาบนั หลักของชาติทม่ี ัน่ คงและยั่งยืน
กรมการศาสนา ประกาศใช้ระเบียบกรมการศาสนาว่าด้วยศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์
พ.ศ. ๒๕๖๒ และประกาศกรมการศาสนา เร่ือง การจัดต้ังชั้นเรียนและหลักสูตรการเรียนการสอนของ
ศูนยศ์ กึ ษาพระพุทธศาสนาวนั อาทติ ย์ พ.ศ. ๒๕๖๒ มีวัตถปุ ระสงคเ์ พือ่ ให้การด�ำเนนิ งานพัฒนาศูนยศ์ ึกษา
พระพทุ ธศาสนาวนั อาทติ ยเ์ ปน็ ไปอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ เสรมิ สรา้ งใหศ้ นู ยฯ์ เกดิ ความเขม้ แขง็ สรา้ งอตั ลกั ษณ์
เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เกิดความเหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน เพื่อให้เกิดการรับรู้
เกี่ยวกับระเบียบและประกาศฯ ดังกล่าว จึงได้จัดพิมพ์หนังสือระเบียบกรมการศาสนาว่าด้วยศูนย์ศึกษา
พระพทุ ธศาสนาวนั อาทติ ย์ พ.ศ. ๒๕๖๒ ขน้ึ โดยรวบรวมรายละเอียดต่าง ๆ ท่ีเกย่ี วข้องไว้
หวังเป็นอย่างย่ิงว่า หนังสือเล่มนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้เก่ียวข้องในการด�ำเนินงานโครงการ
ศูนยศ์ กึ ษาพระพุทธศาสนาวนั อาทติ ยใ์ หเ้ กิดความเข้มแขง็ และมีประสิทธิภาพสบื ไป
(นายกติ ติพนั ธ์ พานสุวรรณ)
อธบิ ดีกรมการศาสนา
สารบญั หน้า
๑
๗
ค�ำน�ำ ๗
๑๑
ศูนย์ศกึ ษาพระพทุ ธศาสนาวันอาทติ ย์ ๑๕
- ความเปน็ มา ๑๗
- ความส�ำคญั ๒๐
- คุณคา่ ของศูนย์ศึกษาพระพทุ ธศาสนาวันอาทติ ย ์
- ประโยชน์ของศนู ยศ์ ึกษาพระพุทธศาสนาวนั อาทิตยท์ ่มี ตี ่อชุมชน ๒๒
- ศูนยศ์ ึกษาพระพทุ ธศาสนาวนั อาทิตย์ :
ศนู ย์กลางการเสรมิ สร้างชมุ ชนคุณธรรมด้วยพลงั บวร ๒๓
- การขอจดั ต้ังศนู ยศ์ ึกษาพระพทุ ธศาสนาวันอาทิตย์
ในความอปุ ถัมภ์ของกรมการศาสนา ๒๔
- แผนภูมิขนั้ ตอนการขอจดั ตั้งเป็นศูนยศ์ กึ ษาพระพทุ ธศาสนาวนั อาทิตย ์
ในความอุปถัมภ์ของกรมการศาสนา (ในกรงุ เทพมหานคร) ๒๗
- แผนภูมขิ ั้นตอนการขอจัดตงั้ เป็นศนู ย์ศึกษาพระพทุ ธศาสนาวันอาทติ ย์ ๓๕
ในความอปุ ถมั ภ์ของกรมการศาสนา (ในจงั หวดั อน่ื )
๔๑
ระเบยี บกรมการศาสนาวา่ ดว้ ยศูนยศ์ กึ ษาพระพุทธศาสนาวนั อาทติ ย์ พ.ศ. ๒๕๖๒ ๔๕
๔๕
ประกาศกรมการศาสนา เร่อื ง การจดั ชัน้ เรียนและหลกั สตู รการเรียนการสอน ๔๙
ของศนู ย์ศึกษาพระพทุ ธศาสนาวันอาทติ ย์
๕๐
แบบค�ำขอจดทะเบยี นศนู ยศ์ ึกษาพระพทุ ธศาสนาวนั อาทิตย์ : ในกรุงเทพมหานคร
- แบบ ศพอ.๒ (แบบรายงานจ�ำนวนผู้เรียนทส่ี อบผา่ นธรรมศึกษา)
- แบบ ศพอ.๓ (แบบรายงานข้อมลู ศนู ย์ศกึ ษาพระพุทธศาสนาวันอาทติ ย)์
- แบบ ศพอ.๕ (รายชือ่ ผเู้ รียน/ผู้สอน/ประชาชนทีเ่ ข้ารว่ มกจิ กรรมในศูนยศ์ ึกษา
พระพทุ ธศาสนาวันอาทติ ย์)
- แบบฟอร์มแผนพฒั นา ศพอ.
หนา้
แบบค�ำขอจดทะเบียนศูนย์ศกึ ษาพระพุทธศาสนาวันอาทติ ย์ : ในจังหวัดอ่ืน ๕๓
- แบบ ศพอ.๑ (แบบรายงานการจดั สรรเงนิ อดุ หนนุ ศูนยศ์ กึ ษาพระพทุ ธศาสนาวนั อาทติ ย)์ ๕๗
- แบบ ศพอ.๒ (แบบรายงานจ�ำนวนผู้เรยี นท่สี อบผ่านธรรมศกึ ษา) ๕๘
- แบบ ศพอ.๓ (แบบรายงานข้อมูลศนู ยศ์ ึกษาพระพทุ ธศาสนาวันอาทติ ย์) ๕๙
- แบบ ศพอ.๔ (แบบสรปุ ข้อมลู ศนู ย์ศึกษาพระพทุ ธศาสนาวนั อาทติ ย์) ๖๒
- แบบ ศพอ.๕ (รายชื่อผเู้ รียน/ผูส้ อน/ประชาชนที่เขา้ รว่ มกิจกรรมในศูนยศ์ กึ ษา ๖๓
พระพทุ ธศาสนาวันอาทติ ย)์
- แบบ มฐ.๑ (แบบประเมินมาตรฐานศูนย์ศกึ ษาพระพทุ ธศาสนาวันอาทติ ย์) ๖๔
- แบบ มฐ.๒ (แบบรายงานผลการประเมนิ มาตรฐานศนู ย์ศกึ ษาพระพุทธศาสนาวันอาทติ ย์) ๖๖
- แบบรายงานภาคคณะสงฆ์ (แบบรายงานผลการด�ำเนนิ งานของเจา้ คณะจงั หวดั ) ๗๐
- แบบฟอรม์ แผนพัฒนา ศพอ. ๗๑
ศนู ยศ์ กึ ษาพระพทุ ธศาสนาวันอาทติ ย์
ศนู ย์ศกึ ษาพระพุทธศาสนาวันอาทติ ย์
ความเปน็ มา
กอ่ ตัง้ ขน้ึ ครงั้ แรกท่ปี ระเทศศรลี ังกา โดยพนั เอก เฮนรี สตีล ออลคอตต์ ชาวอเมรกิ า ซง่ึ ปรารถนา
จะช่วยพุทธศาสนิกชนชาวลังกาต่อสู้กับนักเผยแพร่ศาสนาคริสต์ และนโยบายเกี่ยวกับศาสนาของรัฐบาล
อาณานิคมของอังกฤษ โดยจัดต้งั เมอ่ื พ.ศ. ๒๔๒๘ เป็นช่วงระยะเวลาที่พระพุทธศาสนาในประเทศศรีลงั กา
ก�ำลังอยู่ในภาวะอันตรายอย่างยิ่ง การจัดต้ังโรงเรียนพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ของประเทศศรีลังกา
มวี ตั ถุประสงคส์ ำ� คัญ ๒ ประการ คอื ๑) เพื่อพนื้ ฟูพระพุทธศาสนา ๒) เพื่อต่อต้านนักเผยแพร่ศาสนาครสิ ต์
ที่เข้ามาเผยแพร่ศาสนา โรงเรียนท่ีจัดตั้งข้ึนมีลักษณะเป็นสถาบันอาสา คือ คณะครูและอาจารย์ท�ำงาน
โดยไม่มีค่าตอบแทนใดๆ มีทั้งฆราวาสและพระภิกษุ ผู้ทรงคุณวุฒิทางการศึกษาและศาสนาซึ่งอยู่ภายใต้
การด�ำเนินงานของสมาคมยุวพุทธ ปัจจุบันโรงเรียนพุทธศาสนาวันอาทิตย์ในศรีลังกาเจริญแพร่หลายมาก
มีโรงเรียนพุทธศาสนาวันอาทิตย์เกือบทุกหมู่บ้านและเกือบทุกวัด หลักสูตรที่ใช้เรียนมี ๔ ระดับ คือ
ระดับชัน้ ต้น ชัน้ กลาง ชนั้ ปลายและชน้ั สงู
การเขา้ มาของโรงเรยี นพทุ ธศาสนาวนั อาทติ ยใ์ นประเทศไทย เรมิ่ ตงั้ แตป่ ี พ.ศ. ๒๔๘๘ ซง่ึ เปน็ การ
ส่งเสริมศีลธรรมในโรงเรียนเป็นหลัก เป็นช่วงระยะเวลาสงครามโลกครั้งที่ ๒ สภาพสังคมไทยขณะน้ัน
ได้รบั ผลกระทบจากการเปล่ียนแปลงทกุ ๆ ด้าน เชน่ ทางดา้ นสังคม ดา้ นเศรษฐกิจ การเมือง และวฒั นธรรม
โดยเฉพาะในด้านวัฒนธรรม การเข้ามาของวัฒนธรรมบางอย่างที่ขัดกับสังคมไทย ท�ำให้มีความคิดเห็นว่า
ความประพฤติของเด็กไทยผิดเพ้ียนไปจากวัฒนธรรมเดิม รัฐบาลขณะนั้นเล็งเห็นถึงปัญหาความมั่นคง
ของประเทศจากลัทธิคอมมิวนิสต์ ซ่ึงอาจท�ำให้เด็กและเยาวชนถูกชักจูงได้ง่าย กระทรวงศึกษาธิการจึงต้ัง
คณะกรรมการแกไ้ ขศลี ธรรมทเ่ี สอ่ื มทราม พ.ศ. ๒๔๙๖-๒๕๐๐ ขน้ึ เพอ่ื ทำ� หนา้ ทสี่ อดสอ่ งดแู ลความประพฤติ
ของขา้ ราชการ และสง่ เสรมิ เผยแพรพ่ ระพทุ ธศาสนาแกเ่ ดก็ ทง้ั ในดา้ นการสอนและการปฏบิ ตั ิ โดยกำ� หนดให้
กรมสามัญศึกษาจัดแบบไหว้สวดมนต์มาตรฐาน เพื่อให้เป็นแบบเดียวกันทุกโรงเรียนและให้การนิมนต์พระ
มาเทศนใ์ หน้ กั เรยี นฟงั เดอื นละครง้ั โดยคำ� นงึ ถงึ ความเหมาะสมกบั วยั ของเดก็ (สวุ มิ ล เอกอรุ ,ุ ๒๕๔๐ : ๕๐-๕๑)
ศนู ย์ศกึ ษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ เร่มิ จดั ตั้งขึ้นครั้งแรกในประเทศศรลี งั กา จากน้นั ไดข้ ยาย
ไปยงั ประเทศอน่ื ทม่ี พี ระภกิ ษชุ าวลงั กาไปจดั ตงั้ สำ� หรบั ประเทศไทย ศนู ยศ์ กึ ษาพระพทุ ธศาสนาวนั อาทติ ย์
เร่ิมก�ำเนิดข้ึนเมื่อประมาณ ปี พ.ศ. ๒๔๙๖-๒๕๐๐ โดยพระพิมลธรรม (อาจ อาสภมหาเถร) สังฆมนตรี
วา่ การองคก์ ารปกครอง (สมยั พระราชบญั ญตั กิ ารปกครองคณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๔๘๔) อธิบดีสงฆ์ (เจา้ อาวาส)
วดั มหาธาตยุ วุ ราชรงั สฤษฎ ิ์ องคท์ ตุ ยิ สภานายกมหาวทิ ยาลยั มหาจฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลยั ในพระบรมราชปู ถมั ภ์
กรมการศาสนา กระทรวงวฒั นธรรม 7
ซ่ึงมีสมณศักดิ์สุดท้ายที่ สมเด็จพระพุฒาจารย์ ได้เดินทางไปดูกิจการพระพุทธศาสนาที่ประเทศพม่าและ
ศรลี งั กา เหน็ พระสงฆใ์ นประเทศพมา่ และศรลี งั กาจดั ระเบยี บการสอนศลี ธรรมแกเ่ ดก็ และเยาวชนไดผ้ ลดมี าก
และจดั การสอนเฉพาะวนั อาทติ ย์ เมอ่ื ทา่ นเดนิ ทางกลบั มาประเทศไทย จงึ ไดป้ รารภถงึ การสอนศลี ธรรมของ
พระสงฆใ์ นประเทศพมา่ และศรลี งั กาแกพ่ ระเจา้ หนา้ ทบี่ รหิ ารและพระนสิ ติ ของมหาจฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลยั
และมีดำ� ริวา่ “โรงเรยี นพุทธศาสนาวันอาทิตย์ สมควรจะไดจ้ ดั ให้มขี น้ึ ในประเทศไทยบา้ ง เพราะว่าเด็ก
และเยาวชนมีความสนใจในพระพุทธศาสนาอยู่แล้ว ซึ่งจะท�ำให้เป็นก�ำลังส�ำคัญของพระพุทธศาสนา
ตอ่ ไป และยงั เปน็ การสง่ เสรมิ ในดา้ นการเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนาอกี ประการหนง่ึ อกี ทง้ั เปน็ การใหโ้ อกาส
แกเ่ ดก็ และเยาวชนไดศ้ กึ ษา และรจู้ กั หลกั ธรรมในพระพทุ ธศาสนาไดถ้ กู ตอ้ งตามสมควรแกว่ ยั ของตน”
ประกอบกับในสมัยน้ัน พระเจ้าหน้าท่ีและพระนิสิตของมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ได้น�ำบุตรหลาน
ของข้าราชการ พ่อค้า และประชาชนท่ัวไป ท่ีสนใจมาฟังบรรยาย ฝึกสมาธิในวันอาทิตย์ ซึ่งพากันวิ่งเล่น
บรเิ วณลานอโศกวดั มหาธาตฯุ มาเลา่ นทิ านและสอนธรรมะ นอกจากนน้ั ทางโรงเรยี นและมหาวทิ ยาลยั ตา่ งๆ
ได้อาราธนาพระสงฆ์ดังกล่าวไปสอนธรรมะ อบรมศีลธรรมแก่นักเรียนและนักศึกษาอีกด้วย ดังน้ัน
พระเจา้ หนา้ ทแ่ี ละพระนสิ ติ มหาจฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลยั จงึ ดำ� เนนิ การขอเสนออนมุ ตั ติ อ่ ทางสภามหาวทิ ยาลยั
เพ่ือเปิดสอนโรงเรียนพุทธศาสนาวันอาทิตย์ข้ึน ได้รับอนุมัติให้เปิดท�ำการสอนเมื่อวันที่ ๑๓ กรกฎาคม
พ.ศ. ๒๕๐๑ จึงนับได้ว่าเป็นโรงเรียนพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์แห่งแรกในประเทศไทย หลังจากนั้น
ก็ไดร้ ับความสนใจ มกี ารจดั ต้งั ขยายไปยังวดั ตา่ งๆ ท่ัวประเทศ
ต่อมา ทางราชการจึงได้พิจารณาเห็นว่า สภาพสังคมไทยก�ำลังเปล่ียนแปลงไปจากสังคม
เกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ประชาชนส่วนใหญ่ต่างก็มุ่งแต่จะประกอบภารกิจเก่ียวกับอาชีพ
การงานที่รัดตัว โดยไม่มีเวลาสนใจเข้าวัดปฏิบัติธรรมหรือประพฤติตนในฐานะเป็นพุทธศาสนิกชนท่ีดี
เด็กและเยาวชนท่เี กิดมาในครอบครวั ชาวพุทธ จึงขาดแบบอยา่ งทดี่ ีในการประพฤติปฏิบัตติ นตามหลกั ของ
พระพุทธศาสนา ดังนน้ั หากทางราชการสนับสนุนใหว้ ัดในฐานะที่เปน็ ศนู ย์กลางของชมุ ชนได้จดั ตงั้ โรงเรียน
พระพทุ ธศาสนาวนั อาทติ ยข์ น้ึ โดยเนน้ ใหพ้ ระสงฆเ์ ปน็ ผอู้ บรมสง่ั สอน กจ็ ะเปน็ การสง่ เสรมิ ใหเ้ ดก็ และเยาวชน
ไดร้ บั การอบรมปลกู ฝงั คณุ ธรรมจรยิ ธรรมตง้ั แตว่ ยั การศกึ ษา และไดใ้ ชเ้ วลาวา่ งจากวนั หยดุ การศกึ ษา ไดศ้ กึ ษา
หลักธรรมทางพระพทุ ธศาสนาและน�ำไปประพฤติปฏบิ ตั ิในชีวิตประจำ� วนั ไดถ้ ูกตอ้ งตามสมควรแก่วัย ท้งั ยงั
เป็นการส่งเสริมและสนับสนุนให้วัดมีบทบาทในการปฏิบัติภารกิจด้านการศึกษาสงเคราะห์และเสริมสร้าง
ความสมั พันธ์ระหวา่ งบ้าน วดั และโรงเรยี น ใหเ้ ปน็ เอกลักษณข์ องวถิ ชี วี ติ ในสงั คมไทยตลอดไป
ด้วยเหตุนี้ กรมการศาสนาในฐานะเป็นหน่วยงานของรัฐที่มีหน้าท่ีด้านการรับสนองงาน
การพระศาสนา โดยเฉพาะพระพุทธศาสนาท่ีต้องท�ำนุบ�ำรุงส่งเสริมเป็นพิเศษในฐานะท่ีเป็นศาสนาประจ�ำ
ชาติไทยมาต้งั แต่บรรพกาล จงึ ได้จดั ตง้ั โครงการสง่ เสริมการศึกษาศูนยศ์ ึกษาพระพทุ ธศาสนาวนั อาทิตย์
ตั้งแต่ปีงบประมาณ ๒๕๒๐ เป็นต้นมา โดยในระยะแรกได้จัดสรรงบประมาณอุดหนุนวัดต่างๆ ที่เปิด
8 ระเบียบกรมการศาสนาว่าด้วยศูนย์ศึกษาพระพทุ ธศาสนาวันอาทติ ย์ พ.ศ. ๒๕๖๒
ดำ� เนนิ การโรงเรยี นพระพทุ ธศาสนาวนั อาทติ ยด์ ว้ ยงบประมาณทจี่ ำ� กดั และไดเ้ หน็ ความสำ� คญั ของการเผยแผ่
ปลูกฝังศีลธรรมแก่เด็กและเยาวชนในรูปแบบการศึกษาสงเคราะห์ โดยการจัดต้ังโรงเรียนพระพุทธศาสนา
วันอาทิตย์ เพื่อสอนวิชาพระพุทธศาสนาข้ึนในวัดท่ีด�ำเนินการโดยพระสงฆ์ยิ่งขึ้น จึงได้เสนอโครงการ
ส่งเสริมต่อรัฐบาลเพื่อให้ได้รับงบประมาณสนับสนุนมากขึ้น ซึ่งรัฐบาลทุกสมัยก็ได้เห็นความส�ำคัญของ
งานดา้ นนว้ี า่ เปน็ การด�ำเนนิ งานพฒั นาคณุ ธรรมจรยิ ธรรมสปู่ ระชาชนทม่ี เี ดก็ และเยาวชนเปน็ เปา้ หมาย
ทสี่ �ำคญั ยิ่ง จงึ ไดม้ ีนโยบายส่งเสริมสนบั สนนุ ด้านงบประมาณอย่างตอ่ เนอื่ งทกุ ปี
ในปี พ.ศ. ๒๕๒๓ เพื่อให้เป็นเอกลักษณ์เฉพาะทางและสอดคล้องกับระเบียบทางราชการ
โรงเรียนพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ทั่วประเทศได้เปล่ียนช่ือจากค�ำว่า “โรงเรียน” เป็น “ศูนย์ศึกษา”
จึงมีชื่อเป็นทางการมาจนปัจจุบันน้ีว่า “ศูนย์ศึกษา” จึงมีชื่อเป็นทางการมาจนปัจจุบันน้ีว่า “ศูนย์ศึกษา
พระพุทธศาสนาวนั อาทิตย”์ และก�ำหนดใหใ้ ช้อกั ษรย่อวา่ “ศพอ.”
นบั ตงั้ แตน่ นั้ มา ศนู ยศ์ กึ ษาพระพทุ ธศาสนาวนั อาทติ ยก์ ไ็ ดเ้ จรญิ แพรห่ ลาย เพม่ิ จำ� นวนขนึ้ ตามลำ� ดบั
อีกทั้งใน ปี พ.ศ. ๒๕๓๐ อันเป็นปีที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช
บรมนาถบพติ ร ทรงเจรญิ พระชนมพรรษาครบ ๕ รอบ นักษัตร ๖๐ พรรษา คณะสงฆ์และกรมการศาสนา
ได้สนับสนุนให้วัดท่ัวประเทศเปิดศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ โดยก�ำหนดเป้าหมายให้ได้จ�ำนวน
๖๑ ศนู ย ์ เพอ่ื นอ้ มเกลา้ ฯ ถวายเปน็ พระราชกศุ ลและเฉลมิ พระเกยี รตแิ ดพ่ ระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธเิ บศร
มหาภมู พิ ลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พ.ศ. ๒๕๓๔
เพ่ือให้การด�ำเนินงานของศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ ในความอุปถัมภ์ของ
กรมการศาสนาเปน็ ไปโดยสะดวก รวดเรว็ มเี อกภาพและมปี ระสทิ ธภิ าพ กรมการศาสนาจงึ ไดอ้ อกระเบยี บ
กรมการศาสนาวา่ ดว้ ยศนู ยศ์ กึ ษาพระพทุ ธศาสนาวนั อาทติ ย์ พ.ศ. ๒๕๓๔ ใชเ้ ปน็ แนวทางในการด�ำเนนิ งาน
โดยประกาศใช้เม่ือวันท่ี ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๓๔ ต่อมาเม่ือวันท่ี ๑๗ กันยายน พ.ศ. ๒๕๓๔ เพ่ือให้
เป็นไปตามความในข้อ ๑๗ แห่งระเบียบกรมการศาสนาว่าด้วยศูนย์ศึกษา พระพุทธศาสนาวันอาทิตย์
พ.ศ. ๒๕๓๔ และเพ่ือให้การด�ำเนินงานของศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ทั่วประเทศเป็นไป
อย่างมีเอกภาพ โดยมีส�ำนักงานกลางเป็นศูนย์ประสาน ควบคุม ดูแล และส่งเสริมการจัดการศึกษา
การพัฒนาบุคลากร การก�ำหนดและพัฒนาปรับปรุงหลักสูตร การจัดท�ำคู่มือครูและการผลิตส่ือการเรียน
การสอนสำ� หรบั ใชใ้ นศนู ยศ์ กึ ษาพระพทุ ธศาสนาวนั อาทติ ย์ (ตอ่ มาไดป้ รบั ปรงุ เปน็ ระเบยี บกรมการศาสนา
วา่ ดว้ ยศนู ยศ์ กึ ษาพระพทุ ธศาสนาวนั อาทติ ย์ พ.ศ. ๒๕๔๗ โดยประกาศใชเ้ มอ่ื วนั ที่ ๓๐ กนั ยายน ๒๕๔๗
และระเบียบกรมการศาสนาวา่ ด้วยศูนย์ศกึ ษาพระพุทธศาสนาวันอาทติ ย์ พ.ศ. ๒๕๕๐ ประกาศใช้เมอ่ื
วันท่ี ๒๕ มิถุนายน ๒๕๕๐ และล่าสุดกรมการศาสนาได้ประกาศใช้ระเบียบกรมการศาสนาว่าด้วย
ศูนยศ์ ึกษาพระพุทธศาสนาวนั อาทติ ย์ พ.ศ.๒๕๖๒ เมือ่ วนั ท่ี ๕ สงิ หาคม ๒๕๖๒ )
กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม 9
กรมการศาสนาได้ประกาศต้ังส�ำนักงานบริหารการศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์
แหง่ ประเทศไทย (ก�ำหนดใชอ้ กั ษรยอ่ วา่ สพท.) พรอ้ มทงั้ ประกาศแตง่ ตงั้ คณะกรรมการบรหิ าร ซง่ึ มสี มเดจ็
พระพุฒาจารย์ (เก่ียว อุปเสณมหาเถร) เจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร กรรมการมหาเถรสมาคม
เป็นประธานกรรมการในคราวเดียวกันด้วย โดยมีหน้าที่ในการพิจารณาก�ำหนดนโยบาย แผนงาน และ
โครงการเกี่ยวกับแนวทางพัฒนาการศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ข้ึนต่อมหาเถรสมาคม และให้
มีส�ำนักงานต้ังอยู่ท่ีอาคารเฉลิมพระเกียรติ ส.ว. ชั้น ๒ ของโรงเรียนพระปริยัติธรรมวัดอนงคาราม
เขตคลองสาน กรงุ เทพมหานคร พรอ้ มทง้ั ประกาศแตง่ ตงั้ พระปรยิ ตั กิ จิ โกศล (ขมิ อสิ สฺ รธมโฺ ม) ผชู้ ว่ ยเจา้ อาวาส
วดั อนงคาราม เป็นเลขาธิการ พระครอู ุดมธรรมวาที (สำ� ราญ อคฺควโร) ผ้ชู ่วยเจ้าอาวาสวดั ประยรุ วงศาวาส
เป็นรองเลขาธิการ และพระมหาบัว ปิยวณฺโณ วัดอนงคาราม เป็นเลขานุการส�ำนักงาน โดยนอกจากจะ
แบง่ ส่วนงานเป็นส�ำนกั งานเลขานุการ ฝ่ายวิชาการ ฝ่ายประชาสมั พนั ธ์ และฝ่ายพสั ดุแลว้ ยังกำ� หนดให้มี
ส�ำนักงานศูนย์กลางระดับหัวหน้าท�ำหน้าที่ประสานงานการด�ำเนินงานของศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนา
วนั อาทติ ย์ ทงั้ ในสว่ นกลางและสว่ นภมู ภิ าคตามเขตการปกครองคณะสงฆ์ จำ� นวน ๔ แหง่ คอื (๑) ศนู ยห์ นา้ กลาง
ต้งั อยทู่ ว่ี ัดประยรุ วงศาวาส กรงุ เทพมหานคร มพี ระครอู ดุ มธรรมวาที เปน็ ประธานศูนย์ (๒) ศนู ย์หนเหนอื
ตั้งอยู่ท่ีวัดพระสิงห์วรมหาวิหาร จังหวัดเชียงใหม่ มีพระธรรมสิทธาจารย์ เป็นประธานศูนย์ (๓) ศูนย์หน
ตะวันออก ต้ังอยู่ที่วัดมหาวนาราม จังหวัดอุบลราชธานี มีพระราชกิตติรังษี เป็นประธานศูนย์ และ
(๔) ศูนย์หนใต้ ต้ังอยู่ท่ีวัดแจ้ง จังหวัดนครศรีธรรมราช มีพระเทพปัญญาสุธี เป็นประธานศูนย์ โดยให้
ฝ่ายการศึกษาสงเคราะห์ กองศาสนศึกษา กรมการศาสนา (ปัจจุบันเป็นส�ำนักพัฒนาคุณธรรมจริยธรรม
กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม) มีหน้าที่ดูแลและรับผิดชอบสนองงานส�ำนักงานบริหารการศึกษา
พระพุทธศาสนาวนั อาทิตย์แหง่ ประเทศไทย ตามควรแกก่ รณี
การเปิดศูนย์การเรียนการสอนในวันอาทิตย์ได้เล็งเห็นปัญหาด้านสังคมโดยเฉพาะการขาด
คุณธรรม จริยธรรม ในสังคมไทยนับเป็นปัญหาระดับชาติ เน่ืองจากบ้านเมืองและบริบทของสังคมไทย
เปลี่ยนไปอย่างเด่นชัด ดังนั้น การสร้างความเข้มแข็งของชุมชนและส่งเสริมบทบาทของครอบครัวและ
ชมุ ชน ให้มีส่วนรว่ มในการพฒั นาสงั คมไทยใหเ้ ป็นสังคมท่ีมสี นั ตสิ ุขอยา่ งยัง่ ยืน จึงเป็นเรือ่ งทท่ี กุ ฝา่ ยตา่ งให้
ความสำ� คัญร่วมพฒั นาสงั คมโดยเฉพาะในระดับชุมชน ทอ้ งถ่ิน
ดงั นน้ั การนำ� ศาสนากบั การพฒั นาเยาวชนไทยใหเ้ ปน็ คนด ี มคี ณุ ธรรมและจรยิ ธรรมทพี่ งึ ปรารถนา
ในสังคม จะเป็นการวางรากฐานให้กับเด็กเยาวชนไทยอย่างแท้จริง ตามความคาดหวังของทุกภาคส่วน
ของสังคม และเนื่องจากความเปล่ียนแปลงของชุมชนไทยเป็นสังคมการเรียนรู้ บทบาทขององค์กรในชมุ ชน
มีส่วนส�ำคัญในการส่งเสริมให้เกิดชุมชนแห่งการเรียนรู้ วัดมีบทบาทท่ีเก่ียวข้องกับวิถีชีวิตของคนไทย
วดั คอื ศนู ยร์ วมจติ ใจของคนไทย และศนู ยศ์ กึ ษาพระพทุ ธศาสนาวนั อาทติ ย ์ เปน็ องคก์ รทางพระพทุ ธศาสนา
หน่ึงในชุมชนที่พระสงฆ์ร่วมกับชุมชน จัดต้ังข้ึนให้เป็นแหล่งปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมแก่เด็ก เยาวชน
และประชาชน มีความใกล้ชิดพระพทุ ธศาสนา
10 ระเบยี บกรมการศาสนาวา่ ด้วยศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทติ ย์ พ.ศ. ๒๕๖๒
การมแี หลง่ พฒั นาศลี ธรรม คณุ ธรรมและจรยิ ธรรมของชมุ ชน ในรปู แบบศนู ยศ์ กึ ษาพระพทุ ธศาสนา
วันอาทิตย์นี้ นับเป็นโครงการส�ำคัญท่ีดีย่ิงอย่างหนึ่งในสังคมปัจจุบัน เพราะสามารถชักน�ำเด็ก เยาวชน
และประชาชนเข้าสู่ร่มเงาพระพุทธศาสนาเพื่อเข้ามาการศึกษาอบรมบ่มนิสัย และสร้างจิตส�ำนึกให้เห็น
คุณค่าของพระพุทธศาสนาแต่แรกเริ่ม เป็นวิธีการในรูปแบบหนึ่ง ที่ได้รักษาพระพุทธศาสนาให้ด�ำรงมั่นคง
อยไู่ ดต้ งั้ แตอ่ ดตี จนปจั จบุ นั โดยไดส้ ง่ เสรมิ และสนบั สนนุ การดำ� เนนิ การศนู ยศ์ กึ ษาพระพทุ ธศาสนาวนั อาทติ ย์
ซ่ึงวัดเป็นทุนทางสังคมและเป็นฐานที่ส�ำคัญของการพัฒนาชุมชนท่ีสามารถหล่อหลอมบุคคลให้เกิด
การพัฒนาให้เป็นคนดีมีคุณธรรม โดยเฉพาะศูนย์ฯ ได้มีกระบวนการ วิธีการ และการขับเคล่ือนศีลธรรม
โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ผ่านกระบวนการเรียนการสอนวิชาพระพุทธศาสนา กิจกรรม
ทางพระพุทธศาสนา ในชุมชน วัดจึงได้ท�ำหน้าที่อย่างเข้มแข็ง โดยเปิดพื้นท่ีวัดให้เป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้
ของเด็ก เยาวชน และประชาชน ในนามศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นการบริหารจัดการ
ในลักษณะการบูรณาการงานในพ้นื ที่ ชมุ ชน การมีสว่ นรว่ ม แหลง่ จดั กจิ กรรมทางพระพุทธศาสนา ส่งเสรมิ
สนับสนุนกิจกรรม/งาน/โครงการที่ด�ำเนินการอยู่แล้วให้ด�ำรงอยู่อย่างยั่งยืน โดยความเชื่อมโยงการบริหาร
จัดการระหว่างบา้ น ชมุ ชน วดั และโรงเรียน ซงึ่ โครงการศนู ย์ศึกษาพระพทุ ธศาสนาวนั อาทติ ย์เป็นโครงการ
ส�ำคัญในการขับเคลื่อนศีลธรรม คุณธรรมและจริยธรรมในชุมชน ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยภาครัฐ
ภาคเอกชนและชุมชนมีส่วนร่วมในการพัฒนาศูนย์ฯ ให้ชุมชนมีจิตตระหนักเป็นเจ้าของศูนย์ฯ ของชุมชน
เปน็ แหล่งจัดกิจกรรมทางพระพทุ ธศาสนาในชมุ ชน เกิดความสามคั คี ร่วมมือร่วมใจของคนในชมุ ชน
ความส�ำคัญ
ศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ (ศพอ.) เป็นองค์กรทางพระพุทธศาสนาหน่ึงในชุมชนที่
พระสงฆ์ได้จัดต้ังขึ้นเพื่อเป็นแหล่งบ่มเพาะปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมให้แก่เด็ก เยาวชนและประชาชน
เป็นเสมือนสถาบันพัฒนาคุณภาพชีวิตของเด็กเยาวชนและประชาชน ซ่ึงศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนา
วันอาทิตย์ได้รับการส่งเสริมให้มีบทบาทเพ่ิมขึ้นทุกปีเพื่อให้สอดคล้องกับบริบทของสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป
โดยไดร้ ับความรว่ มมือเป็นอย่างดยี ่งิ จากภาคคณะสงฆ์ ภาครัฐ และภาคเอกชนในพน้ื ที่ ได้ให้ความรว่ มมือ
ในการพัฒนา ศพอ. ให้มีคุณภาพ ท�ำให้ ศพอ. มีบทบาทในการพัฒนาชุมชน โดยมีส�ำนักงานวัฒนธรรม
จงั หวดั เปน็ หนว่ ยงานปฏบิ ตั ใิ นพนื้ ทที่ ดี่ แู ลเอาใจใสแ่ ละมสี ว่ นผลกั ดนั และพฒั นาศนู ยศ์ กึ ษาพระพทุ ธศาสนา
วนั อาทติ ยม์ าอย่างตอ่ เนือ่ ง
กระทรวงวฒั นธรรม โดยกรมการศาสนามนี โยบายทจ่ี ะบรู ณาการงานในพนื้ ท ่ี โดยใหศ้ นู ยศ์ กึ ษา
พระพทุ ธศาสนาวนั อาทติ ย์ (ศพอ.) เปน็ แหลง่ พฒั นาคณุ ภาพชวี ติ ของชมุ ชน ทเี่ ปน็ รากฐานของชมุ ชนคณุ ธรรม
ทจี่ ะนำ� หลกั ธรรมคำ� สอนใหท้ กุ กลมุ่ เปน็ รปู ธรรม และรว่ มกบั ทกุ ภาคสว่ นขบั เคลอ่ื นงานพน้ื ที่ มแี นวคดิ ในการ
พฒั นาส่งเสริมสนับสนุนใหศ้ นู ยศ์ กึ ษาพระพุทธศาสนาวันอาทติ ย์ เปน็ ศพอ. ท่มี ีศักยภาพและความพรอ้ ม
ท่ีจะเป็นผู้น�ำในการพัฒนาชุมชนให้เป็น “ชุมชนคุณธรรม” อย่างต่อเน่ืองอันจะเสริมสร้างความเข้มแข็ง
กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม 11
ของชุมชน โดยใชม้ ิติทางศาสนา บนพ้นื ฐานของความสัมพนั ธ์ระหว่างวดั บ้าน (ชมุ ชน) โรงเรียน ใหอ้ ย่คู กู่ ับ
สังคมไทย ท�ำให้ ศพอ. เพือ่ การพัฒนาท่ยี ง่ั ยนื ของชาติ ตามนโยบายและยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปีของรฐั บาล
ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพคนตลอดช่วงชีวิต เป็นการยกระดับการศึกษาและการเรียนรู้ให้มี
คุณภาพเทา่ เทียมและท่ัวถึง โดยปลูกฝังระเบียบวนิ ัย คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ มท่ีพึงประสงค์ เสรมิ สร้าง
ให้คนมีสุขภาวะที่ดี และการสร้างความอยู่ดีมีสุขของครอบครัวไทย ภายใต้การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน
ในการสง่ เสรมิ
การปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมแก่เด็กและเยาวชนของชาติ สามารถเป็นตัวจักรใหญ่ท่ีส�ำคัญ
ในการขบั เคลอ่ื นความเจรญิ กา้ วหนา้ ของประเทศไทย ในยคุ ไทยแลนด์ ๔.๐ ไดเ้ ปน็ อยา่ งดี เนอ่ื งจากนโยบาย
ที่เน้นการพัฒนาประเทศด้วยความรู้ด้านเทคโนโลยี เกิดเป็นนวัตกรรมใหม่ๆ ส่งเสริมทักษะการสื่อสาร
ในสงั คมโลกตามบรบิ ททีเ่ ปล่ยี นไป และรู้เทา่ ทันเทคโนโลยี ท่ีเข้ามามีอทิ ธิพลต่อการดำ� เนนิ ชวี ิตในปัจจบุ นั
แตส่ ง่ิ สำ� คญั ยง่ิ กวา่ ในการพฒั นาคนคอื การปลกู ฝงั ใหเ้ กดิ คณุ ธรรม รผู้ ดิ ชอบชว่ั ดี รหู้ นา้ ทใี่ นการเปน็ พลเมอื ง
ท่ีดีของชาติ ต่อสังคม และครอบครัว การปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมที่พึงประสงค์ ๔ ประการ ดังกล่าว
จึงเป็นการนำ� พาชาติให้เจรญิ รุง่ เรอื ง มน่ั คง ม่ังคัง่ อยา่ งยง่ั ยนื ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง และ
วิถีวัฒนธรรมไทย จนสามารถน�ำไปพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น สร้างคุณประโยชน์ต่อประเทศชาติโดยรวม
ดังนี้
๑. ศพอ. เป็นศูนย์การเรยี นรูท้ างพระพุทธศาสนาของชุมชน
๑.๑ ศูนย์ “ธรรมศึกษา” เพื่อบ่มเพาะให้ผู้เรียนเป็นคนดีมีคุณธรรม เน้น “ความรู้
คคู่ ณุ ธรรม”โดยเปดิ สอน“ธรรมศกึ ษา”ชนั้ ตรีชนั้ โทและชน้ั เอกมคี รผู สู้ อนทงั้ พระภกิ ษแุ ละฆราวาสทม่ี คี วามรู้
ความสามารถในการจัดการเรียนการสอนตามหลักสูตรธรรมศึกษาของแม่กองธรรมสนามหลวง ซ่ึงมี
๓ ภาค ได้แก่ (๑) ภาควิชาบังคับทางพระพุทธศาสนา (๒) ภาควิชาเลือก มีการสอนเสริมวิชาสามัญ
เช่น วิชาคณติ ศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ และภาษาตา่ งประเทศ เปน็ ตน้ และวชิ าเลอื กพิเศษตามความสนใจ เชน่
ดนตรีไทย ร�ำไทย ท�ำดอกไมป้ ระดษิ ฐ์ ศิลปะ ฯลฯ และ (๓) ภาคกิจกรรมพัฒนาผเู้ รยี น เช่น กจิ กรรมทาง
พระพทุ ธศาสนา กิจกรรมทางสถาบนั พระมหากษัตรยิ ์ กจิ กรรมเรียนรตู้ ามศาสตรพ์ ระราชา ฯลฯ
๑.๒ ศูนย์เรียนรู้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยพัฒนาปรับปรุงสถานท่ีในวัด
ให้เป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ และเผยแพร่องค์ความรู้เก่ียวกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและ
การเรียนรู้ตามรอยพระยุคลบาท ในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช
บรมนาถบพิตร เพ่ือพัฒนาคนในชุมชนให้ด�ำรงชีพด้วยความพอเพียงอย่างต่อเนื่องจนเห็นคุณค่าและ
เกดิ ศรัทธา รจู้ ักความพอเพียง รจู้ ักการใชช้ ีวิตอยา่ งสมดุลทงั้ ด้านเศรษฐกจิ ดา้ นสงั คม และด้านสงิ่ แวดล้อม
รู้จักอยู่ร่วมกับผู้อื่น เอื้อเฟื้อ เผื่อแผ่ แบ่งปัน มีจิตส�ำนึกรักษ์ส่ิงแวดล้อม และเห็นคุณค่าของวัฒนธรรม
ค่านิยมความเป็นไทย ท�ำให้ชุมชนมีความเข้มแข็งและย่ังยืนโดยบูรณาการการท�ำงานและประสาน
12 ระเบียบกรมการศาสนาวา่ ดว้ ยศูนยศ์ ึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ พ.ศ. ๒๕๖๒
ความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายในพื้นที่ โดยทุกศูนย์ต้องเช่ือมโยงการเรียนรู้ต่อกันอย่างเป็นรูปธรรม และ
มีส่วนร่วมในการขับเคล่ือนการด�ำเนินงานตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงให้กับผู้ท่ีมีความสนใจ
ในกลมุ่ ตา่ งๆ อย่างกว้างขวาง
๒. ศพอ. เปน็ ศนู ย์กลางจดั กิจกรรมของชุมชน
เป็นศูนย์กลางจัดกิจกรรมของชุมชน โดยเป็นศูนย์กลางในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาและ
ศิลปวัฒนธรรมของชุมชนที่มีบทบาทในการจัดกิจกรรมในรูปแบบท่ีหลากหลาย เพื่อสร้างการรับรู้ให้กับ
ทุกภาคส่วนในพ้ืนท่ี เช่น จัดกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา พัฒนาคุณธรรมจริยธรรม สร้างภูมิคุ้มกันทาง
ศลี ธรรม จดั กจิ กรรมทางวฒั นธรรมธำ� รงไวซ้ งึ่ ขนบธรรมเนยี มประเพณที างวฒั นธรรมทดี่ งี าม จดั กจิ กรรมทาง
สถาบันพระมหากษัตริย์เสริมสร้างความจงรักภักดี จัดกิจกรรมจิตอาสาจากความร่วมมือของทุกภาคส่วน
ในชุมชน เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ในด้านศาสนา ด้านหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและด้านการรักษา
สืบสานวัฒนธรรมไทย เปน็ การพฒั นาคุณภาพชวี ิตของเด็ก เยาวชนและประชาชนในทกุ ช่วงวัยให้เปน็ คนดี
มีคุณธรรม มปี ญั ญาและมคี วามสุข และมคี วามสมานฉันท์สามัคคีภายในชมุ ชน
๓. ศพอ. เป็นศนู ยพ์ ัฒนาอาชีพของชมุ ชน
เปดิ บรกิ ารเปน็ ศนู ยฝ์ กึ อาชพี ใชเ้ ปน็ ทฝ่ี กึ อบรมอาชพี แกเ่ ดก็ เยาวชน ผปู้ กครอง และประชาชน
ในชุมชนท่ีต้องการพฒั นาวิชาชพี เช่น งานบรกิ าร งานชา่ งต่างๆ ชา่ งตดั ผม ช่างเยบ็ ผา้ ชา่ งปูน ชา่ งเชื่อม
งานจกั สาน งานผลติ สนิ คา้ เพอื่ ใชห้ รอื ทำ� ธรุ กจิ การคา้ มกี ารนำ� ทนุ ทางวฒั นธรรมในทอ้ งถนิ่ มาผลติ เปน็ สนิ คา้
ทม่ี อี ตั ลกั ษณแ์ ตกตา่ งตามวถิ วี ฒั นธรรมและภมู ศิ าสตรข์ องแตล่ ะภาคแตล่ ะชมุ ชน เพอ่ื สรา้ งงาน สรา้ งรายได้
ให้ทุกคนในชุมชนมีงานท�ำอย่างทั่วถึง ยกระดับมาตรฐานความเป็นอยู่ให้สูงข้ึน และช่วยพัฒนาเศรษฐกิจ
ชุมชนให้ดีขน้ึ
๔. ศพอ. เป็นศูนย์ตน้ แบบแหลง่ แลกเปลย่ี นเรยี นรู้ของชุมชน
ศพอ.ต้นแบบ จะเปน็ แหลง่ แลกเปลยี่ นเรยี นรขู้ องชมุ ชนทสี่ �ำคญั โดยจะมีความพรอ้ มในดา้ น
ตา่ งๆ โดยเฉพาะการเปน็ “ชมุ ชนคณุ ธรรมตน้ แบบ” ทเี่ ปดิ กวา้ งใหช้ มุ ชนอน่ื ๆ ไดม้ าศกึ ษาดงู าน เยย่ี มเยยี น
แลกเปล่ยี นความรแู้ ละประสบการณ์ ศพอ. ต้นแบบ น้จี ะคณุ ลกั ษณะพเิ ศษ คือ มีความสมั พันธท์ ดี่ ภี ายใน
ชุมชนมีการพึ่งพาอาศัยกัน มีความสามัคคี มีผู้น�ำชุมชนที่เข้มแข็ง คนในชุมชนให้ความร่วมมือในการ
ดำ� เนนิ งานพฒั นาชมุ ชนคณุ ธรรมอยา่ งเตม็ ทม่ี ภี าคเี ครอื ขา่ ยในการดำ� เนนิ งาน “บวร” ไดแ้ ก่ วดั บา้ น โรงเรยี น
และหน่วยงานภาครัฐในพน้ื ท่ี ฯลฯ ท่ีเขม้ แข็ง เน้นการพัฒนาที่ยั่งยืนและการมีส่วนร่วมในทกุ ภาคสว่ น และ
ทุกครัวเรือนโดยจัดกิจกรรมในมิติต่างๆ ที่สามารถเป็นแบบอย่างให้กับชุมชนอ่ืนได้ศึกษา เพ่ือน�ำไปพัฒนา
ชมุ ชนตนเองใหเ้ ปน็ ชุมชนคณุ ธรรม เปน็ การขยายผลสู่ชมุ ชนอน่ื ๆ ตอ่ ไป
กรมการศาสนา กระทรวงวฒั นธรรม 13
คุณคา่ ของศูนย์ศกึ ษาพระพุทธศาสนาวันอาทติ ย์
๑. ช่วยแก้ไขปัญหาสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ เน่ืองจากการค้นพบตัวเลขของปัญหา
เยาวชนไทยในขณะน้ีเกิดวิกฤตคุณธรรมจริยธรรมอย่างมาก และนับวันจะทวีความรุนแรงขึ้น สร้างความ
ยุ่งยากให้แก่สังคมไทย หากไม่ได้รับการเยียวยาแก้ไขในทันที ปัญหาดังกล่าวจะลุกลามขยายไปสู่เยาวชน
ในวงกวา้ งจนยากทจี่ ะแกไ้ ขอนั จะสง่ ผลกระทบตอ่ คณุ ภาพเยาวชนไทยในอนาคต กรมการศาสนาไดส้ นบั สนนุ
ให้การด�ำเนินการในศูนย์ฯ มีศักยภาพใช้หลักธรรมทางศาสนาไปเยียวยาจิตใจของเด็กและเยาวชน
และมีจ�ำนวนที่มากพอ เพ่ือให้เป็นศูนย์กลางในการแก้ปัญหาด้านคุณธรรมของเยาวชนและประชาชน
ในชมุ ชนทส่ี มั ผัสได้และสามารถประเมินผลงานท่เี ปน็ รูปธรรมได้
๒. ชว่ ยสรา้ งภมู คิ มุ้ กนั ทด่ี ใี หก้ บั เยาวชนและประชาชนทวั่ ประเทศ โดยใหศ้ นู ยฯ์ เปน็ ฐานของ
ชุมชนที่มั่นคงและเข้มแข็ง ในการปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมให้กับเด็กและเยาวชนต้ังแต่เยาว์วัย ซ่ึงเป็นท่ี
ประจักษ์ได้และยังเป็นการด�ำเนินงานที่สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ท่ีมุ่งเน้นพัฒนาคนให้เป็นคนดี
มีคณุ ธรรม ยึดหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
๓. ช่วยฟื้นฟูความเข้มแข็งของวัดในอดีตให้กลับคืนสู่สังคม โดยมีความมุ่งหวังท่ีจะพลิกฟื้น
บทบาทของวัดให้เป็นฐานปฏิบัติการ เน่ืองจากวัดในอดีตมีบทบาทมากมายที่ค�้ำชูสังคมไทยให้ด�ำรงอยู่
อย่างมั่นคง วัดเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของชุมชน และมีบทบาทต่อคนในชุมชนนับตั้งแต่เกิดจนกระท่ังตาย
กลา่ วคอื วดั เปน็ ทพี่ งึ่ ทางจติ ใจของชาวบา้ น มพี ระสงฆเ์ ปน็ ผนู้ ำ� ชาวบา้ น คอยใหค้ ำ� ปรกึ ษาสง่ั สอน วดั ยงั เปน็
ทป่ี ระกอบพธิ กี รรมตา่ งๆ ทผ่ี กู พนั กบั วถิ ชี วี ติ ของทกุ คนในชว่ งเวลาตา่ งๆ ของชวี ติ เปน็ แหลง่ อบรมทางปญั ญา
ให้แก่เด็ก เป็นแหล่งรวมสรรพวิชาการความรู้ทั้งมวล เป็นศูนย์รวมศิลปะและวัฒนธรรม เป็นพิพิธภัณฑ์
เป็นรมณียสถานเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ เป็นที่ให้บริการด้านฌาปนกิจ เป็นสถานที่ชุมนุมพบปะสังสรรค์
จากความส�ำคัญของวัดในอดีตท่ีมีจ�ำนวนมากน้ี กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม จ�ำเป็นต้อง
ค้นหาและฟื้นฟูส่ิงดีๆ ในอดีตโดยเฉพาะสิ่งดีในวัดให้คืนกลับมาสู่สังคมไทย โดยพลิกฟื้นบทบาทของ
วดั ทดี่ งี ามในอดตี ทเี่ หมาะสมและเขา้ กบั สถานการณข์ องสงั คมปจั จบุ นั ใหก้ ลบั คนื สชู่ มุ ชน โดยมศี นู ยศ์ กึ ษา
พระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ ท�ำหน้าท่ีต่างๆ เช่น เป็นศูนย์กลางชุมชน เป็นศูนย์จัดกิจกรรมของชุมชน
เปน็ ศนู ยฝ์ กึ อาชพี ของชมุ ชน เปน็ ศนู ยเ์ กบ็ รวบรวมมรดกและวฒั นธรรมไทย เปน็ เสมอื นพพิ ธิ ภณั ฑข์ องชมุ ชน
ทม่ี คี า่ ตอ่ จติ ใจ เปน็ แหลง่ ทอ่ งเทยี่ วของชมุ ชน เปน็ ศนู ยก์ ารเรยี นรทู้ างพระพทุ ธศาสนาของชมุ ชน เพอื่ ปลกู ฝงั
คุณธรรมจริยธรรมแก่เด็กเยาวชนและประชาชนทุกกลุ่มอาชีพ ให้เข้าถึงหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา
และสามารถนำ� ไปใช้ในการพัฒนาคณุ ภาพชีวติ ของตนเองให้ดีข้นึ
กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม 15
๔. ชว่ ยพฒั นาชมุ ชนใหเ้ ขม้ แขง็ จากการมสี ว่ นรว่ มของทกุ ภาคสว่ น ศนู ยศ์ กึ ษาพระพทุ ธศาสนา
วนั อาทติ ย ์ เปน็ ศนู ยท์ เ่ี ปดิ โอกาสใหท้ กุ ภาคสว่ นของสงั คมไดม้ สี ว่ นรว่ มกำ� หนดนโยบายในการบรหิ ารจดั การ
ร่วมด�ำเนินกิจกรรม รวมทั้งร่วมตรวจสอบในทุกระดับด้วยคนในชุมชนเองเพ่ือ “ท�ำให้คนไทยมีความสุข
อยา่ งยง่ั ยนื ” โดยยดึ แผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาตเิ ปน็ เขม็ ทศิ ในการทำ� งาน ซง่ึ รฐั บาลไดว้ างกรอบ
ทศิ ทางการพฒั นาประเทศมงุ่ สคู่ วาม “มนั่ คงมงั่ คง่ั และยงั่ ยนื ” โดยการนำ� “ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง”
มาเป็นแนวทางในการพัฒนาและบริหารประเทศ เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างย่ังยืนและสมดุลในทุกมิติ
ท้ังเศรษฐกิจและสังคม บนพ้ืนฐานการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในสังคม เน้นพัฒนาคุณธรรมจริยธรรม
และการสร้างจติ ส�ำนึกสาธารณะ ส่กู ารเป็นสังคมแหง่ ปญั ญา
๕. ชว่ ยสง่ เสรมิ ใหเ้ กดิ การเรยี นรดู้ ว้ ยตนเองตามแนวปฏริ ปู การศกึ ษา ศนู ยศ์ กึ ษาพระพทุ ธศาสนา
วนั อาทติ ย ์ เปน็ ศนู ยก์ ารเรยี นการสอนทม่ี หี ลกั สตู รเฉพาะของตนเอง สง่ เสรมิ การเรยี นรคู้ คู่ ณุ ธรรม และสง่ เสรมิ
การใช้เวลาอย่างสร้างสรรค์ ให้เรียนรู้ด้วยตนเองอย่างต่อเน่ือง และเป็นหลักสูตรที่มีความยืดหยุ่น
สนองความต้องการของผู้เรียน ชุมชน สังคม และประเทศชาติ เพ่ือมุ่งหวังต่อยอดและเติมเต็มความเป็น
มนุษย์ ที่เน้นความหลากหลายในการเรียนการสอน สร้างโอกาส สร้างทางเลือกส�ำหรับคนหลายกลุ่ม
ในทางการศึกษาอย่างเท่าเทียม ตามโอกาสและความสนใจ เพ่ือพัฒนาคุณภาพชีวิตและสร้างสรรค์สังคม
กับท้งั มคี วามสอดคล้องกับการศึกษาในระบบโรงเรยี นและการจัดการศึกษาของคณะสงฆไ์ ทย ทเี่ นน้ พฒั นา
ผูเ้ รยี นให้เป็นคนดี มคี วามสขุ บนพ้ืนฐานแห่งหลกั ธรรมทางพระพุทธศาสนา ใหม้ คี วามรู้ ในศิลปวัฒนธรรม
ตลอดจนขนบธรรมเนยี มประเพณที ด่ี งี ามของไทย ปลกู ฝงั ใหผ้ เู้ รยี นมคี ณุ ลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค ์ และมคี วาม
ภาคภูมิใจในความเป็นไทย มีความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ และยึดม่ัน
ในการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอนั มพี ระมหากษัตรยิ ์ทรงเปน็ พระประมุข
๖. ช่วยปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ของชุมชนให้ทันต่อการเปล่ียนแปลงในยุคโลกาภิวัตน์
โดยไดม้ กี ารปรบั บทบาทใหมข่ องศนู ยฯ์ ใหท้ นั ตอ่ การเปลย่ี นแปลง มคี วามทนั สมยั และสอดคลอ้ งกบั วถิ ชี วี ติ
ของคนในสังคมไทยในยุคโลกาภิวัตน์ท่ีไร้พรมแดน ทุกส่ิงทุกอย่างมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
การปรับเปล่ียนกระบวนทัศน์ การท�ำงานในศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ ให้ทันต่อการ
เปล่ียนแปลง โดยการใช้ไอทีในการแสวงหาความรู้จากโลกอินเทอร์เน็ต พร้อมไปกับการสร้างกระแส
กระตุ้นเร้าให้ทุกภาคส่วนเกิดความภาคภูมิใจในภูมิปัญญาไทย โดยมีศูนย์ฯ ท�ำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการ
พัฒนาชมุ ชนทั้งดา้ นจิตใจและด้านเศรษฐกจิ ชุมชน ซึง่ จะเปน็ พลงั มหาศาลท่ีจะขับเคลอ่ื นเช่อื มโยงกิจกรรม
การพัฒนาในทกุ มติ ิสชู่ มุ ชน สร้างครอบครวั อบอ่นุ ชุมชนเขม้ แข็ง ประเทศชาติมน่ั คง
16 ระเบยี บกรมการศาสนาว่าด้วยศูนย์ศึกษาพระพทุ ธศาสนาวันอาทติ ย์ พ.ศ. ๒๕๖๒
๗. ช่วยน�ำทุนทางสังคมมาใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างคุ้มค่าและร่วมฟื้นฟูวิถีไทย โดยให้ศูนย์
ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ในวัด ซึ่งเป็นทุนทางสังคมที่มีคุณค่าและเข้มแข็งของไทย มาเป็นฐานใน
การพฒั นาคณุ ธรรมจรยิ ธรรมประชาชน มพี ระภกิ ษสุ งฆผ์ ซู้ ง่ึ ไดร้ บั ความเคารพนบั ถอื เปน็ ผนู้ ำ� ในการพฒั นา
ชมุ ชน ซง่ึ จะชว่ ยลดชอ่ งวา่ งระหวา่ งวฒั นธรรมตะวนั ตกกบั วฒั นธรรมตะวนั ออก ใหม้ คี วามสมดลุ ตามวถิ ไี ทย
ศนู ยศ์ กึ ษาพระพทุ ธศาสนาวนั อาทติ ยจ์ ะเปน็ แหลง่ ฟน้ื ฟอู ารยธรรมของไทยทเ่ี คยรงุ่ เรอื งในอดตี ใหก้ ลบั คนื สู่
ชุมชนท้องถ่ิน เพ่ือให้ชุมชนได้รู้จักตัวตนของตนเองมากข้ึน รวมทั้งส่งเสริมให้มีการยึดถือตามหลักทฤษฎี
เศรษฐกิจพอเพียง ให้เกิดความสมดลุ ตามวถิ ไี ทย
ประโยชนข์ องศนู ย์ศกึ ษาพระพทุ ธศาสนาวนั อาทิตยท์ ่ีมีตอ่ ชุมชน
๑. พัฒนาเดก็ เยาวชนและประชาชนให้มปี ญั ญาและคณุ ธรรม
ส่งเสริมให้เด็กเยาวชนและประชาชนได้รับการปลูกฝังและพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม
จากศนู ยก์ ารเรยี นรู้ “ธรรมศกึ ษา”เสรมิ สรา้ งความสามคั คดี ว้ ยกจิ กรรมสง่ เสรมิ คณุ ธรรม
จริยธรรม
ช่วยให้เด็ก เยาวชนและประชาชนได้รับการฝึกอบรมเพิ่มพูนความรู้และทักษะในด้าน
ต่างๆ อยา่ งสม่�ำเสมอ
ช่วยท�ำให้เด็กเยาวชนผู้เรียนมีความเข้าใจในวิชาท่ีเรียนในโรงเรียนมากขึ้นจาก
การสอนเสริม
ส่งเสริมให้เด็กแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง ฝึกการท�ำงานเป็นหมู่ เคารพในสิทธิ
และฟังความคิดเห็นของผู้อ่ืน ส่งเสริมเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ช่วยให้
การถา่ ยทอดความร้มู ปี ระสิทธิภาพยิ่งขน้ึ
เสริมสร้างให้เกิดการเรียนรู้ในการท�ำงาน การบริหารจัดการศูนย์ฯ และแก้ไขปัญหา
ในชมุ ชน
ก่อเกิดประโยชน์ทางปัญญา คือ สร้างการเรียนรู้ตลอดชีวิตและอนุรักษ์และพัฒนา
ศักยภาพปญั ญาของเดก็ และเยาวชน
ก่อเกิดประโยชน์ทางกาย คือ เสริมสร้างสุขภาวะทางกาย สนับสนุนบริการสุขภาพ
ส่คู รอบครัว ส่งเสรมิ ดา้ นโภชนาการ ฯลฯ
กอ่ เกดิ ประโยชนท์ างจติ คือ สนบั สนุนความเป็นอิสระ พฒั นาความเช่อื ม่นั /ความภมู ิใจ
กรมการศาสนา กระทรวงวฒั นธรรม 17
๒. เปน็ แหล่งเรยี นรู้ของชุมชนทห่ี ลากหลาย
เป็นศนู ย์กลางของการพฒั นาคณุ ธรรมจรยิ ธรรมของประเทศไทย
เป็นศูนย์แลกเปล่ียนความรู้ความเข้าใจของชุมชนที่จะน�ำไปสู่การพัฒนาชุมชน
อย่างต่อเนือ่ ง
เปน็ แหลง่ สบื คน้ หาความรไู้ ดต้ ลอดเวลา บรกิ ารการเรยี นรทู้ ม่ี ผี ลตอ่ การเปลยี่ นแปลงชวี ติ
ของคนในชมุ ชน
เปน็ ศนู ยก์ ารเรยี นรทู้ างประวตั ศิ าสตรแ์ ละพระพทุ ธศาสนาของชมุ ชน และเปน็ ศนู ยก์ ลาง
ของชุมชนในการจัดกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา ให้เด็ก เยาวชน และประชาชน
ทกุ ระดบั ไดเ้ ขา้ วดั เพอื่ เรยี นรพู้ ระพทุ ธศาสนา ประวตั ศิ าสตร์ ศลิ ปวฒั นธรรม ดว้ ยตนเอง
ตามอัธยาศัยและสามารถเขา้ ร่วมกจิ กรรมได้หลากหลายตามความสนใจ
เป็นขุมทรัพย์ทางปัญญาและเป็นศูนย์กลางการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในรูปแบบต่างๆ
เพือ่ พัฒนาเด็ก เยาวชนและประชาชนในชุมชน
เป็นการกระจายแหล่งบริการทางการศึกษา ข้อมูลข่าวสารแก่ชุมชนให้ครอบคลุมทั่วถึง
ทกุ พืน้ ท่ีมากยง่ิ ข้นึ
เป็นศนู ย์รวมของการยกระดบั การศึกษา เพอื่ พัฒนาคณุ ภาพชีวิต
เป็นแหล่งบริการชุมชนในการจัดกิจกรรมต่างๆ ที่สอดคล้องกับความต้องการของ
ประชาชน กลมกลืนกับวิถีชีวิตของชุมชนทันต่อความ เปล่ียนแปลงในยุคโลกาภิวัตน์
ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในยุคโลกาภิวัตน์ ก่อให้เกิดสังคมการเรียนรู้และการพึ่งพา
ตนเอง รวมทงั้ เสริมสร้างวิถีชีวิตทเ่ี ปน็ ประชาธิปไตย
๓. เป็นฐานพัฒนาเศรษฐกจิ ชมุ ชน
สร้างความมนั่ ใจเพ่มิ ศกั ยภาพ และยกระดับฐานะของชุมชนให้มคี วามเขม้ แขง็ สามารถ
พ่ึงพาตนเองได้ โดยการฝึกอาชพี เสรมิ ตามความสนใจ
สรา้ งมลู ค่าเพิ่มให้กบั สินคา้ ทีเ่ ป็นมรดกทางวัฒนธรรม ให้มกี ารพฒั นาต่อยอดใหต้ รงตาม
รสนยิ มของตลาด น�ำไปสู่การพัฒนาทย่ี ัง่ ยนื ของสนิ ค้าพนื้ บ้านไทย
ส่งเสริมและพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน ฟื้นฟูการอาชีพพื้นบ้านของชุมชนให้มีเอกลักษณ์
เฉพาะถ่ิน แสวงหาความสนใจรว่ มสคู่ วามเข้มแขง็ ในอนาคต
ส่งเสริมการรวมกลุ่มอาชีพตามความสนใจ อันเป็นปัจจัยที่ท�ำให้ชุมชนเข้มแข็งและ
พง่ึ ตนเองได้
ส่งเสริมการสร้างอาชีพและรายได้ จากภาคบริการพ้ืนบ้าน เช่น นวดแผนไทย
การอบสมุนไพร การทำ� ผลติ ภณั ฑ์สนิ้ คา้ ตา่ งๆ ให้เป็นกิจกรรมในครอบครวั และชมุ ชน
18 ระเบียบกรมการศาสนาวา่ ด้วยศูนยศ์ ึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ พ.ศ. ๒๕๖๒
๔. เป็นสายใยเช่ือมสัมพันธ์ชมุ ชน
เสริมสร้างการเรียนรู้ให้แก่ผู้ปกครองและชุมชนท่ีเข้าร่วมกิจกรรมในศูนย์ศึกษา
พระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ ท�ำให้เกิดความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างบุคลากรท่ีเกี่ยวข้อง
ในทกุ ระดับ
ก่อให้เกิดการประสานความร่วมมือระหว่างวัด บ้าน และโรงเรียน อันจะเป็นแหล่ง
รวมคนในชมุ ชน และเปน็ แหลง่ เรยี นรทู้ เี่ กดิ จากพน้ื ฐานของความรว่ มมอื ของคนในชมุ ชน
เองอย่างแท้จริง เน่ืองจากศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์เป็นของชุมชน
ที่จัดดำ� เนินการโดยชมุ ชน โรงเรยี น และวดั
เป็นศูนย์กลางการประสานงานระหว่างภาครัฐและเอกชนในการใช้ทรัพยากรร่วมกัน
ในชมุ ชน
กอ่ ใหเ้ กดิ ความสมั พนั ธอ์ นั ดรี ะหวา่ งคนในชมุ ชนกบั หนว่ ยราชการตา่ งๆ เชน่ กรมการศาสนา
กรมส่งเสรมิ การปกครองท้องถ่ิน องคก์ ารบรหิ ารส่วนจงั หวดั เทศบาล ทุกแหง่ ไดใ้ หก้ าร
สนับสนุนศูนย์ฯ เพื่อท�ำหน้าที่ในการส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมของท้องถิ่น โดยมีการ
จัดทำ� เป็นยุทธศาสตร์สง่ เสรมิ พัฒนาชมุ ชนบนพ้ืนฐานของวฒั นธรรมและศาสนา เพอ่ื ให้
ชุมชนท้องถ่ินมีความเข้มแข็ง มีความสามัคคี ยึดมั่นในหลักจริยธรรม คุณธรรมและ
หลักประชาธปิ ไตย
กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม 19
ศนู ย์ศกึ ษาพระพทุ ธศาสนาวันอาทติ ย์ :
ศนู ย์กลางการเสรมิ สร้างชุมชนคุณธรรมดว้ ยพลงั บวร
กรมการศาสนาไดเ้ หน็ ความสำ� คญั ของพลงั บวร (บา้ น วดั โรงเรยี น) ซงึ่ เปน็ สถาบนั ทอ่ี ยคู่ สู่ งั คมไทย
มายาวนานและเป็นทุนมรดกทางสังคมที่มีบทบาทมากในชุมชน ให้เข้ามามีบทบาทในการพัฒนาและ
บริหารจัดการศูนยศ์ กึ ษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ในชุมชนของตน โดยอาศัยกระบวนการมีสว่ นรว่ มของ
ทุกฝ่ายในชุมชน ให้เข้ามามีส่วนร่วมคิด ร่วมวางแผน ร่วมลงมือท�ำและร่วมกันประเมินผล ซึ่งจะท�ำให้
ทุกฝ่ายรู้สึกถึงความเป็นเจ้าของศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ ท่ีเป็นศูนย์แห่งการเรียนรู้ร่วมกัน
(Learning Society)
บ้าน สถาบันครอบครัวหรือคนในชุมชน ให้การสนับสนุน ศพอ. ในวัดให้ท�ำหน้าที่ถ่ายทอด
วัฒนธรรมขัดเกลาเด็กให้เป็นสมาชิกท่ีดีของสังคมหรือเข้าร่วมจัดกิจกรรมทางศาสนา/วัฒนธรรม ร่วมเป็น
จิตอาสาบำ� เพญ็ ประโยชนใ์ นวัด/ในชมุ ชน ฯลฯ
วัด หรือ ศพอ. เป็นแหล่งขัดเกลาบ่มเพาะศีลธรรม/สืบสานวัฒนธรรมและเป็นศูนย์รวมจิตใจ
ของชมุ ชนทำ� หนา้ ทสี่ อนธรรมศกึ ษา จดั กจิ กรรมทางศาสนา/วฒั นธรรม เชญิ ชวนคนในชมุ ชนรว่ มเปน็ สมาชกิ
ของ ศพอ. ตลอดท้ังเป็นศูนย์รวมจิตใจของประชาชนในชุมชน ซ่ึงมีส่วนท�ำให้ปัญหาของชุมชนลดน้อยลง
ประชาชนในชุมชนมีความสามัคคีปรองดองและอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข รวมท้ังท�ำให้เกิดความเป็น
ปึกแผ่นมนั่ คงของสงั คม
โรงเรียน หรือสถาบันการศึกษา ท�ำหน้าท่ีถ่ายทอดให้ความรู้ ฝึกทักษะอาชีพ ขัดเกลาและ
ถ่ายทอดทางวัฒนธรรม ตามความต้องการของสังคม รวมทั้งสอนธรรมศึกษาในโรงเรียน ร่วมจัดกิจกรรม
ในวัดหรือ ศพอ. โดยน�ำนักเรียนไปวัด ปฏิบัติศาสนกิจในวันธรรมสวนะ ฟังเทศน์ ท�ำบุญ น�ำนักเรียน
ทำ� กิจกรรมบำ� เพญ็ ประโยชน์ทวี่ ดั ฯลฯ
พลังบวร (บ้าน วัด โรงเรียน) จึงเป็นพลังท่ีส�ำคัญในสังคมท่ีจะสามารถน�ำมาเป็นกลไก
ในการพัฒนาและสร้างชุมชนให้เข้มแข็ง ก่อให้เกิดกระบวนการสร้างสังคมคุณธรรมอย่างย่ังยืนในทุกพื้นที่
โดยให้ท�ำหน้าท่ีเป็นแกนกลางในการพัฒนา ร่วมวางแผน ด�ำเนินการพัฒนาให้เป็นชุมชนคุณธรรม
โดยโรงเรียนมีบทบาทในการสร้างเยาวชนให้เป็นสมาชิกที่ดีของสังคม ให้สามารถด�ำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้
อยา่ งมคี วามสขุ ขณะเดยี วกนั ชมุ ชนกม็ บี ทบาทและความสำ� คญั ตอ่ การจดั การศกึ ษาของโรงเรยี น ทง้ั ในแงข่ อง
การเป็นแหล่งเรียนรู้มรดกทางวัฒนธรรม ประเพณี ค่านิยมของสังคม และวัดก็มีบทบาทหน้าท่ีที่จะให้
การอบรมกล่อมเกลาสมาชกิ ในชุมชน
20 ระเบยี บกรมการศาสนาว่าด้วยศนู ยศ์ ึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ พ.ศ. ๒๕๖๒
ดังนั้น หากการประสานการท�ำงานของสามประสาน คือ บ้าน-วัด-โรงเรียน มีความเข้มแข็ง
และมีประสิทธิภาพ จะท�ำให้เกิดชุมชนคุณธรรมท่ีเป็นรูปธรรมมากย่ิงข้ึน โดยมีเป้าหมายให้เร่ิมด�ำเนินการ
เฉพาะ ศพอ. ในพื้นที่ท่ีมีความพร้อม มีศักยภาพ และมีพระสงฆ์ เจ้าอาวาส หรือผู้บริหารศูนย์ที่มี
ความต้งั ใจทีจ่ ะเปน็ ผนู้ ำ� ในการบริหารจัดการ ศพอ. ร่วมกับผู้บริหารโรงเรยี น/สถานศึกษาฯ และคนในพื้นท่ี
รว่ มสรา้ ง “ชมุ ชนคุณธรรม” ท่มี ีศูนยศ์ กึ ษาพระพุทธศาสนาวนั อาทิตยเ์ ปน็ ศนู ยก์ ลาง ให้เกดิ ขน้ึ ในทกุ พ้นื ที่
ทว่ั ไทย
กรมการศาสนา กระทรวงวฒั นธรรม 21
การขอจัดต้งั ศนู ยศ์ ึกษาพระพทุ ธศาสนาวันอาทิตย์
ในความอปุ ถัมภ์ของกรมการศาสนา
การจดั ตง้ั
ให้จัดตง้ั ท่ีวดั มลู นธิ ิ สมาคม สถานศกึ ษา หนว่ ยงานของรฐั ซงึ่ มีสถานทตี่ งั้ อยู่ใกลบ้ ริเวณหมบู่ ้าน
หรอื ชมุ ชน โดยมีหลกั เกณฑ์ ดงั น้ี
๑. เป็นศูนย์การเรียนรู้ทางพระพุทธศาสนาและส่งเสริมกิจกรรมคุณธรรมจริยธรรม และ
วฒั นธรรมประเพณไี ทยใหแ้ ก่เดก็ เยาวชนและประชาชนในชุมชน
๒. มคี ณะกรรมการบรหิ ารศนู ยศ์ ึกษาพระพทุ ธศาสนาวนั อาทิตย์ ประกอบด้วย
ผ้อู ำ� นวยการศนู ย์ เปน็ ประธานกรรมการ
รองผูอ้ ำ� นวยการศูนย์ ไม่เกินสองรูป/คน เปน็ รองประธานกรรมการ
กรรมการผู้ทรงคุณวุฒ ิ ไมเ่ กินหา้ รูป/คน
เลขานุการ หนง่ึ รปู /คน
ผูช้ ว่ ยเลขานุการ หนง่ึ รูป/คน
๓. มคี รูผูส้ อนเพยี งพอกับจ�ำนวนผูเ้ รียน ในอัตราครผู สู้ อน ๑ รปู /คน ตอ่ ผูเ้ รียนไมเ่ กิน ๔๐ คน
๔. มีสถานท่ีเรียน สถานท่ีจัดกิจกรรมเพ่ือส่งเสริมศีลธรรมคุณธรรมจริยธรรมเหมาะสมและ
เพียงพอกับจ�ำนวนผู้เรยี น
ข้นั ตอนการขอจดั ตง้ั
๑. ให้วดั มูลนิธิ สมาคม สถานศึกษา หนว่ ยงานของรฐั ทม่ี คี วามประสงค์จะขอจดั ต้งั ศูนยศ์ ึกษา
พระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ ท่ีอยู่ในความอุปถัมภ์ของกรมการศาสนา ย่ืนค�ำขอจดทะเบียนต่ออธิบดี
กรมการศาสนาตามแบบคำ� ขอจดทะเบยี นท่ีกรมการศาสนากำ� หนด ดงั น้ี
(๑) ในกรงุ เทพมหานคร ใหย้ น่ื คำ� ขอจดทะเบยี น ณ กรมการศาสนา โดยไดร้ บั ความเหน็ ชอบ
จากเจา้ คณะแขวง เจา้ คณะเขต และเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร
(๒) ในจังหวัดอื่น ให้ย่ืนค�ำขอจดทะเบียน ณ ส�ำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด โดยได้รับ
ความเห็นชอบจากเจ้าคณะต�ำบล เจ้าคณะอ�ำเภอ เจ้าคณะจังหวัด นายอ�ำเภอ วัฒนธรรมจังหวัด และ
ผู้ว่าราชการจังหวดั
๒. อธบิ ดกี รมการศาสนา ออกประกาศและหนังสือรบั รองการจัดตัง้ ศูนยศ์ กึ ษาพระพทุ ธศาสนา
วนั อาทติ ย์ ตามแบบทก่ี รมการศาสนากำ� หนด โดยสำ� นกั งานวฒั นธรรมจงั หวดั จดั ทำ� ทะเบยี นการจดั ตง้ั ไวเ้ ปน็
หลกั ฐาน
22 ระเบยี บกรมการศาสนาว่าดว้ ยศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวนั อาทิตย์ พ.ศ. ๒๕๖๒
แผนภมู ขิ น้ั ตอนการขอจดั ตง้ั เปน็ ศนู ยศ์ กึ ษาพระพทุ ธศาสนาวนั อาทติ ย์
ในความอปุ ถมั ภข์ องกรมการศาสนา (ในกรุงเทพมหานคร)
ผูม้ คี วามประสงค์ กรมการศาสนา
กรอกแบบคำ�ขอจดทะเบียน แจง้ ให้ผู้แจง้ ความประสงค์ทราบ
(ขอรับแบบฟอรม์ ทกี่ รมการศาสนา)
ขอความเหน็ ชอบจากเจ้าคณะแขวง กรมการศาสนา
ขอความเหน็ ชอบจากเจา้ คณะเขต จดั ทำ�ทะเบียนการจดั ตงั้ ไว้เปน็ หลกั ฐาน
ขอความเหน็ ชอบจาก กรมการศาสนา
เจ้าคณะกรุงเทพมหานคร ออกประกาศและหนงั สือรบั รองการจดั ตั้ง
ย่นื แบบคำ�ขอท่กี รมการศาสนา อธิบดีกรมการศาสนา
พิจารณาให้ความเห็นชอบ
กรมการศาสนา กระทรวงวฒั นธรรม 23
แผนภมู ขิ นั้ ตอนการขอจดั ตงั้ เปน็ ศนู ยศ์ กึ ษาพระพทุ ธศาสนาวนั อาทติ ย์
ในความอปุ ถัมภข์ องกรมการศาสนา (ในจงั หวัดอื่น)
ผู้มคี วามประสงค์
กรอกแบบคำ�ขอจดทะเบยี น
(ขอรับแบบฟอรม์ ท่ีสำ�นกั งานวฒั นธรรมจงั หวดั )
ขอความเหน็ ชอบจากเจ้าคณะตำ�บล สำ�นักงานวัฒนธรรมจงั หวัด
ขอความเห็นชอบจากเจ้าคณะอำ�เภอ แจ้งใหผ้ ูแ้ จง้ ความประสงคท์ ราบ
ขอความเหน็ ชอบจากเจา้ คณะจังหวัด
สำ�นักงานวัฒนธรรม
ขอความเหน็ ชอบจากนายอำ�เภอ จงั หวดั จดั ทำ�ทะเบยี นการจัดตง้ั ไว้เป็นหลักฐาน
กรมการศาสนาสง่ ประกาศและหนงั สือรับรอง
การจัดตั้งไปท่ีสำ�นกั งานวัฒนธรรมจังหวัด
ยน่ื แบบคำ�ขอท่ีสำ�นักงานวัฒนธรรมจงั หวดั กรมการศาสนาพิจารณา
วัฒนธรรมจังหวดั พจิ ารณาใหค้ วามเห็นชอบ ออกประกาศและหนังสอื รบั รองการจดั ตั้ง
วัฒนธรรมจังหวดั เสนอผวู้ า่ ราชการจังหวัด วฒั นธรรมจังหวดั
พจิ ารณาให้ความเห็นชอบ สง่ คำ�ขอจดทะเบียนมาที่กรมการศาสนา
24 ระเบยี บกรมการศาสนาว่าด้วยศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวนั อาทติ ย์ พ.ศ. ๒๕๖๒
ระเบียบกรมการศาสนา
วา่ ดว้ ยศนู ยศ์ กึ ษาพระพุทธศาสนาวนั อาทติ ย์
พ.ศ. ๒๕๖๒
ระเบยี บกรมการศาสนาว่าดว้ ยศนู ยศ์ กึ ษาพระพุทธศาสนาวันอาทติ ย์ พ.ศ. ๒๕๖๒
โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงระเบียบกรมการศาสนาว่าด้วยศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนา
วันอาทติ ย์ พ.ศ. ๒๕๕๐ และระเบยี บกรมการศาสนาว่าดว้ ยศนู ย์ศกึ ษาพระพทุ ธศาสนาวนั อาทติ ย์ (ฉบับท่ี ๒)
พ.ศ. ๒๕๖๐ เพอื่ ใหก้ ารดำ� เนนิ งานพฒั นาศนู ยศ์ กึ ษาพระพทุ ธศาสนาวนั พระอาทติ ยเ์ ปน็ ไปอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ
เสรมิ สรา้ งใหศ้ นู ยศ์ กึ ษาพระพทุ ธศาสนาวนั อาทติ ยเ์ กดิ ความเขม้ แขง็ สรา้ งอตั ลกั ษณเ์ ปน็ ไปในทศิ ทางเดยี วกนั
เกดิ ความเหมาะสมกบั สถานการณ์ปัจจุบัน
อาศัยอ�ำนาจตามความในมาตรา ๓๒ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน
พ.ศ. ๒๕๓๔ ที่แก้ไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๔๕
ประกอบกับมติที่ประชุมคณะท�ำงานปรับปรุงระเบียบกรมการศาสนาว่าด้วยศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนา
วนั อาทิตย์ พ.ศ. ๒๕๕๐ และที่แกไ้ ขเพม่ิ เติม เหน็ ชอบให้มกี ารแกไ้ ขระเบียบดังกล่าว อธบิ ดีกรมการศาสนา
จึงวางระเบยี บไว้ ดังตอ่ ไปนี้
ข้อ ๑ ระเบียบน้ีเรียกว่า “ระเบียบกรมการศาสนาว่าด้วยศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนา
วนั อาทิตย์ พ.ศ. ๒๕๖๒”
ข้อ ๒ ระเบียบน้ใี ห้ใชบ้ งั คับตง้ั แต่วันถัดจากวันประกาศเปน็ ต้นไป
ข้อ ๓ ใหย้ กเลิก
(๑) ระเบียบกรมการศาสนาว่าด้วยศนู ย์ศกึ ษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ พ.ศ. ๒๕๕๐
(๒) ระเบียบกรมการศาสนาว่าด้วยศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ (ฉบับท่ี ๒)
พ.ศ. ๒๕๖๐
บรรดาระเบียบ ข้อบังคับ ค�ำส่ัง และประกาศอ่ืนใดในส่วนที่ก�ำหนดไว้แล้วในระเบียบน้ี
หรอื ซึง่ ขดั หรอื แย้งกบั ระเบยี บนี้ ใหใ้ ชร้ ะเบยี บน้ีแทน
ขอ้ ๔ ในระเบยี บนี้
“ศนู ยศ์ กึ ษาพระพุทธศาสนาวนั อาทิตย์” หมายความว่า ศนู ย์การเรยี นรทู้ างพระพทุ ธศาสนา
และจดั กิจกรรมส่งเสริมคุณธรรมจรยิ ธรรม หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งของชุมชน ศูนยก์ ารเรียนรู้
การเผยแผอ่ บรมปลกู ฝงั ศลี ธรรมทางพระพทุ ธศาสนาและวฒั นธรรมไทยอนั ดงี ามแกเ่ ดก็ เยาวชนและประชาชน
ท่ีไดจ้ ดั ตัง้ ขนึ้ ตามระเบยี บนี้ มีชือ่ ย่อวา่ “ศพอ.”
“คณะกรรมการบรหิ ารศนู ย”์ หมายความวา่ คณะกรรมการบรหิ ารศนู ยศ์ กึ ษาพระพทุ ธศาสนา
วนั อาทติ ย์
“ผู้อ�ำนวยการศนู ย์” หมายความว่า ผูอ้ �ำนวยการศูนยศ์ ึกษาพระพทุ ธศาสนาวันอาทิตย์
กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม 27
-๒-
“ครผู สู้ อน” หมายความวา่ ผทู้ ำ� หนา้ ทค่ี รหู รอื อาจารยท์ ที่ ำ� การสอนในศนู ยศ์ กึ ษาพระพทุ ธศาสนา
วันอาทิตย์ ท้งั พระสงฆแ์ ละฆราวาส
“ผู้เรยี น” หมายความว่า ผูท้ ศ่ี กึ ษาเล่าเรียนในศูนยศ์ ึกษาพระพทุ ธศาสนาวนั อาทิตย์
“อธิบด”ี หมายความว่า อธิบดกี รมการศาสนา
ขอ้ ๕ ใหอ้ ธบิ ดเี ปน็ ผรู้ กั ษาการตามระเบยี บน้ี และใหม้ อี ำ� นาจออก ประกาศ ขอ้ บงั คบั คำ� สง่ั
หรือหลักเกณฑ์ รวมท้ังตีความและวินิจฉัยปัญหา เพื่อปฏิบัติการให้เป็นไปตามระเบียบน้ี ได้เท่าท่ีไม่ขัด
หรอื แยง้ กบั ระเบยี บนี้
หมวด ๑
การจัดตั้งและการด�ำเนินงาน
ขอ้ ๖ ศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ที่อยู่ในความอุปถัมภ์ของกรมการศาสนา
ใหจ้ ัดตั้งทวี่ ดั มูลนธิ ิ สมาคม สถานศึกษา หน่วยงานของรัฐ ซึง่ มีสถานทตี่ งั้ อยู่ใกลบ้ ริเวณหมบู่ า้ นหรือชุมชน
โดยมีหลกั เกณฑ์ ดังน้ี
(๑) เป็นศูนย์การเรียนรู้ทางพระพุทธศาสนาและส่งเสริมกิจกรรมคุณธรรมจริยธรรม
และวฒั นธรรมประเพณีไทยให้แกเ่ ดก็ เยาวชนและประชาชนในชุมชน
(๒) มีคณะกรรมการบรหิ ารศูนย์
(๓) มคี รผู สู้ อนเพยี งพอกบั จำ� นวนผเู้ รยี น ในอตั ราครผู สู้ อน ๑ รปู /คน ตอ่ ผเู้ รยี นไมเ่ กนิ ๔๐ คน
(๔) มีสถานที่เรียน สถานท่ีจัดกิจกรรมเพ่ือส่งเสริมศีลธรรมคุณธรรมจริยธรรมเหมาะสม
และเพยี งพอกับจ�ำนวนผูเ้ รยี น
ข้อ ๗ ให้วัด มลู นธิ ิ สมาคม สถานศึกษา หน่วยงานของรฐั ทมี่ ีความประสงค์จะขอจดั ตัง้
ศนู ยศ์ กึ ษาพระพทุ ธศาสนาวนั อาทติ ย์ ทอ่ี ยใู่ นความอปุ ถมั ภข์ องกรมการศาสนา ยนื่ คำ� ขอจดทะเบยี นตอ่ อธบิ ดี
ตามแบบคำ� ขอจดทะเบยี นทีก่ รมการศาสนากำ� หนด ดงั น้ี
(๑) ในกรงุ เทพมหานคร ใหย้ นื่ คำ� ขอจดทะเบยี น ณ กรมการศาสนา โดยไดร้ บั ความเหน็ ชอบ
จากเจา้ คณะแขวง เจ้าคณะเขต และเจ้าคณะกรงุ เทพมหานคร
(๒) ในจงั หวดั อน่ื ใหย้ น่ื คำ� ขอจดทะเบยี นณสำ� นกั งานวฒั นธรรมจงั หวดั โดยไดร้ บั ความเหน็ ชอบ
จากเจ้าคณะตำ� บล เจ้าคณะอ�ำเภอ เจา้ คณะจงั หวัด นายอำ� เภอ วฒั นธรรมจังหวัด และผู้ว่าราชการจงั หวัด
ให้อธิบดีออกประกาศและหนังสือรับรองการจัดต้ังศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์
ตามแบบทีก่ รมการศาสนาก�ำหนด โดยส�ำนักงานวัฒนธรรมจงั หวัดจัดทำ� ทะเบียนการจัดตง้ั ไว้เป็นหลกั ฐาน
ข้อ ๘ ใหเ้ จา้ อาวาสหรอื ผบู้ รหิ ารทมี่ อี ำ� นาจของหนว่ ยงานของรฐั สถานศกึ ษา มลู นธิ ิ สมาคม
เป็นผู้อ�ำนวยการศูนย์ ท้ังน้ีให้รวมถึงพระสงฆ์ท่ีได้รับมอบหมายจากเจ้าอาวาสหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจาก
ผู้บริหารท่มี อี ำ� นาจนน้ั ดว้ ย
28 ระเบียบกรมการศาสนาวา่ ดว้ ยศูนยศ์ ึกษาพระพทุ ธศาสนาวนั อาทิตย์ พ.ศ. ๒๕๖๒
-๓-
ขอ้ ๙ ผู้อ�ำนวยการศนู ย์ มอี �ำนาจหน้าท่ี ดังต่อไปนี้
(๑) บรหิ ารงานของศนู ยศ์ กึ ษาพระพทุ ธศาสนาวนั อาทติ ยใ์ หเ้ ปน็ ไปตามนโยบายวตั ถปุ ระสงค์
และระเบยี บของกรมการศาสนา
(๒) แต่งตง้ั พระสงฆห์ รือฆราวาสเป็นคณะกรรมการบริหารศนู ย์ ตามข้อ ๑๐
(๓) แต่งต้งั ทปี่ รึกษาของคณะกรรมการบรหิ ารศนู ย์
(๔) บรรจุ แต่งต้ัง ถอดถอน ครูผู้สอน และเจ้าหน้าท่ี รวมท้ังด�ำเนินการบริหารงานบุคคล
ของศูนย์ศกึ ษาพระพทุ ธศาสนาวันอาทติ ย์
ขอ้ ๑๐ ให้มีคณะกรรมการบริหารศูนย์คณะหนึ่ง เรียกว่า “คณะกรรมการบริหารศูนย์
ศึกษาพระพุทธศาสนาวนั อาทิตย”์ ประกอบด้วย ผู้อำ� นวยการศนู ย์ เปน็ ประธานกรรมการ รองผู้อ�ำนวยการ
ศูนย์ จ�ำนวนไม่เกินสองรูป/คน เป็นรองประธานกรรมการ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ จ�ำนวนไม่เกินห้ารูป/คน
เลขานกุ าร จ�ำนวนหนงึ่ รูป/คน และผู้ช่วยเลขานุการ จ�ำนวนหนึ่งรูป/คน
ข้อ ๑๑ คณะกรรมการบรหิ ารศนู ย์ มีอำ� นาจหนา้ ท่ี ดงั ต่อไปนี้
(๑) ให้ค�ำปรึกษา แนะน�ำ และควบคุมดูแลการด�ำเนินงานของศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนา
วนั อาทิตย์
(๒) แตง่ ตง้ั อนุกรรมการตามทเ่ี ห็นสมควร
ข้อ ๑๒ ให้กรรมการบริหารศูนย์อยูใ่ นต�ำแหนง่ คราวละสปี่ ี
ในกรณีทีก่ รรมการพ้นจากตำ� แหน่งตามวาระ แตย่ งั มิไดแ้ ต่งต้งั กรรมการใหม่ให้กรรมการนัน้
ปฏิบตั ิหนา้ ท่ไี ปพลางก่อนจนกวา่ จะได้แต่งตั้งกรรมการใหม่
กรรมการซ่งึ พ้นจากตำ� แหน่งตามวาระอาจได้รับแตง่ ต้ังอกี ได้
ขอ้ ๑๓ นอกจากการพ้นจากต�ำแหน่งตามวาระ กรรมการบริหารศูนย์พ้นจากต�ำแหน่ง
ในกรณีดงั ต่อไปนี้
(๑) มรณภาพหรือถงึ แกก่ รรม
(๒) ลาออก
(๓) เปน็ บคุ คลล้มละลาย
(๔) เปน็ คนไรค้ วามสามารถหรือคนเสมอื นไรค้ วามสามารถ
(๕) คณะกรรมการบริหารศูนยม์ ีมตใิ ห้พน้ จากตำ� แหน่ง
ข้อ ๑๔ ในกรณีท่ีกรรมการบริหารศูนย์ว่างลงตามข้อ ๑๓ ให้ผู้อ�ำนวยการศูนย์แต่งตั้ง
กรรมการบริหารศูนย์แทนต�ำแหน่งที่ว่างลง และให้ผู้ท่ีได้รับการแต่งตั้ง อยู่ในต�ำแหน่งเท่าวาระท่ีเหลืออยู่
ของผทู้ ี่ตนแทน
กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม 29
-๔-
ข้อ ๑๕ การประชุมของคณะกรรมการบริหารศูนย์ ต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่า
ก่ึงหนง่ึ ของกรรมการท้งั หมด จึงเป็นองค์ประชุม
ในการประชมุ คณะกรรมการบรหิ ารศนู ย์ ถา้ ประธานกรรมการไมม่ าประชมุ หรอื ไมอ่ าจปฏบิ ตั ิ
หนา้ ทไ่ี ด้ ใหร้ องประธานกรรมการคนใดคนหนง่ึ เปน็ ประธานในทป่ี ระชมุ ถา้ ประธานกรรมการและรองประธาน
กรรมการไมม่ าประชมุ หรอื ไมอ่ าจปฏบิ ตั หิ นา้ ทไ่ี ด้ ใหก้ รรมการทมี่ าประชมุ เลอื กกรรมการคนหนงึ่ เปน็ ประธาน
ในทีป่ ระชมุ
การวินิจฉัยช้ีขาดของท่ีประชุมให้ถือเสียงข้างมาก กรรมการคนหน่ึงให้มีเสียงหน่ึงในการ
ลงคะแนน ถา้ คะแนนเสยี งเท่ากันให้ประธานในทีป่ ระชุมออกเสียงเพม่ิ ขน้ึ อีกหนงึ่ เสยี งเปน็ เสียงชีข้ าด
ข้อ ๑๖ การประชุมของคณะกรรมการบริหารศูนย์จะต้องมีการประชุม อย่างน้อยปีละ
สองครง้ั
ขอ้ ๑๗ คณะกรรมการบริหารศูนย์จะแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ เพ่ือพิจารณาหรือปฏิบัติ
อย่างใดอยา่ งหนึ่งตามทคี่ ณะกรรมการบริหารศูนย์มอบหมายก็ได้ และให้นำ� ความในขอ้ ๑๒ ข้อ ๑๓ ขอ้ ๑๔
และข้อ ๑๕ มาบังคบั ใช้โดยอนโุ ลม
ขอ้ ๑๘ ผอู้ ำ� นวยการศนู ยอ์ าจตง้ั ทป่ี รกึ ษา โดยความเหน็ ชอบของคณะกรรมการบรหิ ารศนู ย์
มหี น้าทีใ่ หค้ ำ� แนะนำ� ในการดำ� เนนิ งานของศูนย์ศึกษาพระพทุ ธศาสนาวันอาทติ ย์
ขอ้ ๑๙ ใหส้ ำ� นกั พฒั นาคณุ ธรรมจรยิ ธรรม ทำ� หนา้ ทเ่ี ปน็ ศนู ยก์ ลางประสานนโยบาย แผนงาน
และความร่วมมือด้านวิชาการการเรียนรู้การเผยแผ่การอบรมปลูกฝังศีลธรรมทางพระพุทธศาสนา รวมท้ัง
สนับสนุนการด�ำเนินงานกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ ในภารกิจของ
กรมการศาสนา
หมวด ๒
การจดั ชั้นเรียนและหลักสูตรการเรียนการสอน
ขอ้ ๒๐ การจดั ชนั้ เรยี นและหลกั สตู รการเรยี นการสอน ใหเ้ ปน็ ไปตามประกาศของกรมการ
ศาสนา
ข้อ ๒๑ ใหม้ ีการพฒั นา ส่งเสรมิ สนบั สนนุ งานวิชาการและสื่อการเรยี นการสอน
ข้อ ๒๒ ให้จัดการเรียนการสอนใหส้ อดคล้องกับหลักสูตรการเรียนการสอน สงั คม
และทอ้ งถิน่ นนั้ ๆ อย่างหลากหลาย
30 ระเบยี บกรมการศาสนาวา่ ด้วยศนู ยศ์ ึกษาพระพทุ ธศาสนาวันอาทติ ย์ พ.ศ. ๒๕๖๒
-๕-
หมวด ๓
การประเมินผล
ข้อ ๒๓ ใหศ้ ูนยศ์ กึ ษาพระพทุ ธศาสนาวนั อาทิตย์ เปิดสอนในวนั อาทิตย์ หรอื วนั อ่นื ตามท่ี
คณะกรรมการบริหารศูนย์เห็นสมควร โดยให้เป็นไปตามความเหมาะสมของท้องถ่ิน ท�ำการสอนวิชาบังคับ
สัปดาห์ละไม่น้อยกว่าสามชั่วโมง รวมเวลาตลอดปีการศึกษาไม่น้อยกว่าแปดสิบช่ัวโมง และจัดกิจกรรม
วันสำ� คญั ทางพระพุทธศาสนา วนั ส�ำคัญทางสถาบันพระมหากษตั รยิ ์ วันส�ำคญั ตามขนบธรรมเนยี มประเพณี
และวัฒนธรรมไทย ตลอดปีการศึกษาไมน่ ้อยกว่าห้ากจิ กรรม
ขอ้ ๒๔ ให้ศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ ท�ำการประเมินผลการศึกษาของผู้เรียน
ประจ�ำปี
ขอ้ ๒๕ ให้อธิบดรี ว่ มกับผูอ้ ำ� นวยการศนู ย์ ออกวฒุ ิบัตรตามแบบที่กรมการศาสนาก�ำหนด
ให้แก่ผู้จบการศึกษาตามหลักสูตรแต่ละช้ัน และให้ศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์จัดท�ำทะเบียน
ไวเ้ ปน็ หลกั ฐาน
หมวด ๔
เบด็ เตล็ด
ขอ้ ๒๖ ให้ศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ ที่ได้รับจดทะเบียนไว้แล้วตามข้อ ๗
ตอ้ งรายงานผลการดำ� เนนิ งานประจ�ำปีตามแบบทก่ี รมการศาสนาก�ำหนด ภายในเดอื นสิงหาคมของทกุ ปี
ในกรงุ เทพมหานครใหร้ ายงานตอ่ อธิบดี ในจังหวดั อ่นื ให้รายงานตอ่ วฒั นธรรมจังหวดั
ขอ้ ๒๗ ศนู ยศ์ กึ ษาพระพทุ ธศาสนาวนั อาทติ ยแ์ หง่ ใดไมม่ กี ารเรยี นการสอน หรอื จดั กจิ กรรม
ส่งเสริมศีลธรรมคุณธรรมจริยธรรม หรือพักการเรียนการสอนติดต่อกันเป็นระยะเวลาสามปี โดยไม่มีเหตุ
อนั ควร ใหศ้ นู ย์ศกึ ษาพระพทุ ธศาสนาวนั อาทติ ย์แหง่ น้ันส้ินสดุ จากการอปุ ถมั ภ์ของกรมการศาสนา
ข้อ ๒๘ ศนู ยศ์ กึ ษาพระพทุ ธศาสนาวนั อาทติ ยท์ ไ่ี ดร้ บั การจดทะเบยี นจดั ตง้ั ผดู้ ำ� รงตำ� แหนง่
ผอู้ �ำนวยการศูนย์ รวมท้งั คณะกรรมการบริหารศูนย์ ทีป่ รึกษา หรอื ผู้ช่วยเลขานุการ ทไี่ ดร้ ับการแต่งตั้งจาก
ผู้อ�ำนวยการศูนย์ ตามระเบียบกรมการศาสนาว่าด้วยศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ พ.ศ. ๒๕๕๐
และระเบยี บกรมการศาสนาว่าด้วยศนู ย์ศกึ ษาพระพทุ ธศาสนาวนั อาทติ ย์ (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๖๐ ใหถ้ ือวา่
เป็นศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ ผู้อ�ำนวยการศูนย์ คณะกรรมการบริหารศูนย์ และท่ีปรึกษา
ตามระเบียบนี้
ขอ้ ๒๙ ค�ำขอจดทะเบียนท่ีได้ย่ืนไว้ก่อนวันที่ระเบียบน้ีมีผลใช้บังคับและยังอยู่ในระหว่าง
การพิจารณา ให้อยู่ในบังคับของระเบียบกรมการศาสนาว่าด้วยศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์
พ.ศ. ๒๕๕๐ และระเบยี บกรมการศาสนาวา่ ดว้ ยศนู ยศ์ กึ ษาพระพทุ ธศาสนาวนั อาทติ ย์ (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๐
แล้วแต่กรณี ตอ่ ไปจนกวา่ จะด�ำเนนิ การแล้วเสรจ็
กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม 31
-๖-
ข้อ ๓๐ การใดท่ีด�ำเนินการอยู่ก่อนวันที่ระเบียบนี้ใช้บังคับให้ด�ำเนินการต่อไปได้ตาม
ความเหมาะสมและความจำ� เปน็ โดยไมเ่ สียหายแกร่ าชการ
ประกาศ ณ วนั ท ่ี สงิ หาคม พ.ศ. ๒๕๖๒
32 ระเบยี บกรมการศาสนาว่าด้วยศูนย์ศกึ ษาพระพทุ ธศาสนาวันอาทติ ย์ พ.ศ. ๒๕๖๒
ประกาศกรมการศาสนา
เรือ่ ง การจัดชน้ั เรยี นและหลักสูตรการเรยี นการสอน
ของศนู ยศ์ กึ ษาพระพุทธศาสนาวนั อาทติ ย์
กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม 35
36 ระเบยี บกรมการศาสนาวา่ ด้วยศนู ยศ์ ึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทติ ย์ พ.ศ. ๒๕๖๒
กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม 37
แบบค�ำขอจดทะเบยี น
ศนู ยศ์ กึ ษาพระพทุ ธศาสนาวนั อาทติ ย์
ในกรงุ เทพมหานคร
กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม 41
42 ระเบยี บกรมการศาสนาวา่ ด้วยศนู ยศ์ ึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทติ ย์ พ.ศ. ๒๕๖๒
กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม 43
44 ระเบยี บกรมการศาสนาวา่ ด้วยศนู ยศ์ ึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทติ ย์ พ.ศ. ๒๕๖๒
กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม 45
46 ระเบยี บกรมการศาสนาวา่ ด้วยศนู ยศ์ ึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทติ ย์ พ.ศ. ๒๕๖๒