The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แบบเรียนวิชาภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by kanokwan yodkhum, 2021-02-21 12:48:00

คำยืมที่มาจากภาษาต่างประเทศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒

แบบเรียนวิชาภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒

หนงั สอื คำที่ยืมมาจากภาษาต่างประเทศ ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 2 เลม่ น้ี ผูเ้ ขยี นเขียนขน้ึ เน่ืองจากเหน็ ว่า
คำยืมจากภาษาตา่ งประเทศในภาษาไทยมีความสำคญั เปน็ อยา่ งมากต่อคนไทย เน่อื งจากประเทศไทยนำคำยืม
มาใช้ในชีวิตประจำวัน แต่ไม่ทราบว่ามาจากภาษาใด เราทุกคนจึงควรศึกษาแต่ละคำให้ลึกซึ้งและเข้าใจอย่าง
แท้จริง

เนื้อหาในหนังสือเล่มนี้ประกอบไปด้วย คำยืมจากภาษาต่างประเทศในภาษาไทยที่มาภาษาจีน
ภาษาเขมร ภาษาอังกฤษ ภาษาฝรั่งเศส ภาษาชวา และภาษาญี่ปุ่น ซึ่งผู้เขียนได้รวบรวมเอกสารและ
แหล่งข้อมูลต่าง ๆ แล้วนำมาเรียบเรียงตามลำดับความยากง่ายและความสัมพันธ์ที่เกี่ยงข้องกับเนื้อหา
หลักการสังเกตคำยืมแต่ละภาษาเพื่อทำให้และเกิดความเข้าใจในเนื้อหามากยิ่งขึ้น ทำให้คำยืมในภาษาไทย
ไมใ่ ช่เร่ืองยากอีกต่อไป

ผู้เขียนหวังว่าหนังสือ คำที่ยืมมาจากภาษาต่างประเทศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เล่มนี้ จะช่วยอำนวย
ความสะดวกและเป็นประโยชน์แก่ครูผู้สอน นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 และผู้ที่สนใจในการใช้คำยืม
จากภาษาต่างประเทศในภาษาไทยตามความสมควร

เรียบเรียงโดย
กนกวรรณ ยอดขำ

(นางสาวกนกวรรณ ยอดขำ)

เรื่อง หนา้

แบบทดสอบก่อนเรยี น.........................................................................................................................1
บทท่ี 1 คำยืมนา่ รู้...............................................................................................................................2

คํายืมท่มี าจากภาษาจนี ในภาษาไทย..............................................................................................2
คาํ ยืมทมี่ าจากภาษาเขมรในภาษาไทย…........................................................................................3
แบบฝกึ หัดท้ายบท.........................................................................................................................6
บทที่ 2 คำยืมชวนคดิ .........................................................................................................................7
คาํ ยืมท่มี าจากภาษาองั กฤษในภาษาไทย.......................................................................................7
คาํ ยืมทม่ี าจากภาษาฝรั่งเศสในภาษาไทย.......................................................................................9
แบบฝกึ หัดท้ายบท........................................................................................................................10
บทท่ี 3 คำยมื ช่วยจำ.........................................................................................................................11
คํายืมท่มี าจากภาษาชวาในภาษาไทย............................................................................................11
คํายมื ทม่ี าจากภาษาญป่ี ุ่นในภาษาไทย..........................................................................................12
แบบฝกึ หัดท้ายบท........................................................................................................................14
แบบทดสอบหลงั เรยี น.......................................................................................................................15
เอกสารอ้างองิ …................................................................................................................................16

หนังสือ คำที่ยืมมาจากภาษาตา่ งประเทศ ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 2 ผู้เขียนจัดทำขึ้นเพือ่ ใช้เป็นแบบเรยี น
เพื่อประกอบการจัดการเรียนการสอนให้นักเรียนเกิดทักษะในจำแนกคำยืมที่มาจากแต่ละประเทศ
ประกอบด้วย จดุ ประสงค์การสรา้ งแบบเรียน คาํ ชแ้ี จงสำหรบั ครู และคาํ ช้แี จงสำหรับนักเรยี น ดังน้ี

จุดประสงค์การสรา้ งแบบเรยี น

๑. ใชเ้ ป็นสอื่ ประกอบการจัดการเรยี นรู้ วิชาภาษาไทยชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 2 เรอ่ื ง คำทยี่ มื มาจาก
ภาษาตา่ งประเทศ

๒. เพ่อื ช่วยเหลอื นักเรยี นท่ีมปี ญั หาการเรียนรู้เฉพาะเรอ่ื ง เชน่ คำท่ียมื มาจากภาษาตา่ งประเทศ
ในภาษาไทย เขา้ ใจหลกั การสงั เกต และตวั อยา่ งคำจากประเทศต่าง ๆ เป็นตน้

คําช้ีแจงสำหรบั ครู

๑. ครูควรศึกษามาตรฐานการเรียนรู้สาระการเรียนรู้และจุดประสงค์การเรียนรู้ของหลักสูตร
สถานศกึ ษากลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ช้ันประถมศึกษาปี ที่ 2 ใหล้ ะเอียดครบถ้วน

๒. ครูใชห้ นงั สอื เล่มน้ี ประกอบการสอนเรอ่ื ง คำทยี่ มื มาจากภาษาตา่ งประเทศ และสอดคล้องกบั
แผนการสอน

3. ครูใหน้ ักเรียนทำแบบทดสอบกอ่ นเรียนและหลงั เรยี นโดยยึดหนงั สอื เลม่ นเี้ ป็นหลกั

๔. ครสู อนเนอื้ หาแตล่ ะบทพรอ้ มใหท้ ำแบบฝึกหัดหลังเรยี นทกุ ครั้งท่ีจบบทเรียน

คาํ ช้ีแจงสำหรบั นักเรยี น

๑. แบบเรยี นเล่มน้ี นกั เรยี นสามารถนำไปอา่ นทบทวนหลงั เรยี นจบ

๒. นักเรียนศึกษาตัวอย่างและทำความเข้าใจจากการทำแบบฝึกหัด และแบบทดสอบก่อนเรียนและ
แบบทดสอบหลงั เรียน

3. นักเรยี นทำแบบทดสอบหลังเรียน หลงั จากทำแบบฝกึ หดั ครบทุกบท

1 แบบทดสอบกอ่ นเรยี น

ให้นักเรียนใส่เครื่องหมาย √ ในช่องว่างหน้าคำตอบที่ถูกต้อง และใส่เครื่องหมาย × ในช่องว่างหน้า
ข้อท่ไี มถ่ ูกต้อง

1. ภาษาไทยมีการยืมคำจากภาษาต่างประเทศ ได้แก่ ภาษาจีน ภาษาเขมร ภาษาอังกฤษ
ภาษาฝรง่ั เศส ภาษาชวา ภาษาพมา่ เปน็ ต้น
2. คำส่วนใหญม่ ักมเี สยี งหรอื รูปวรรณยุกต์ตรีและจตั วา
3. คำทย่ี มื มาจากภาษาจนี สว่ นใหญ่จะเก่ียวกับอาหาร การค้า ธรุ กิจ และคำทีใ่ ช้ในชีวติ ประจำวนั
4. กระบอง ก๋วยเต๋ียว กระเพาะ กงั วล เพลิง เปน็ คำทีย่ ืมมาจากภาษาเขมรทงั้ หมด
5. เก้าอ้ี จบั ฉ่าย เฉากว๊ ย ซาลาเปา ตะหลวิ สำเนา เปน็ คำทย่ี ืมมาจากภาษาจนี ท้งั หมด
6. คำทยี่ มื มาจากภาษาเขมรส่วนใหญ่มกั จะสะกดดว้ ยพยญั ชนะ จ ร ล ญ ส มกั จะไมใ่ ช้รูปวรรณยุกต์
กำกับ
7. คำที่ยืมมาจากภาษาเขมรจะนิยมใช้พยัญชนะตรงตามมาตรา นิยมเติมหนา้ เพ่ือให้เกดิ คำใหม่ และ
จะใชค้ ำเตมิ กลางเพอ่ื ใหเ้ กิดคำใหม่เชน่ กนั
8. คำที่ยืมมาจากภาษาอังกฤษส่วนใหญ่เป็นคำพยางค์เดียวอาจมีการตัดบางคำออกให้คำสั้นลง
แต่ความหมายคงเดมิ เป็นคำทบั ศัพท์ และมีการใช้เสยี งพยัญชนะควบ เช่น ดร บร บล ฟร ฟล ทร
9. การต์ นู แกส๊ คริสต์มาส ไดนาโม ไดโนเสาร์ ครมี คลอรนี เป็นคำที่ยมื มาจากภาษาอังกฤษทง้ั หมด
10. ไทยได้รับอทิ ธิพลจากภาษาเขมรจากการค้า การสงคราม การเมอื ง และวัฒนธรรม
11. ภาษาชวาที่ไทยยืมมาใช้ส่วนมาก เป็นภาษาเขียน ซึ่งรับมาจากวรรณคดี เรื่อง อิเหนา
เป็นส่วนใหญ่ ถ้อยคำภาษาเหล่านี้ใช้สื่อสารในวรรณคดี และในบทร้อยกรองต่าง ๆ มากกว่า
คำที่นำมาใช้สอื่ สารในชีวติ ประจำวัน
12. คำพ้ืนฐานของภาษาชวาสว่ นใหญเ่ ป็นคำ ๒ พยางคห์ รือมากกว่า ไม่มเี สยี งพยัญชนะควบกล้ำและ
คำทอ่ี อกเสยี งประสมสระอะพยางค์หนา้ แล้วแทรกเสียง “ร” ควบกล้ำ
13. กรชิ การะบหุ นงิ ดาหลงั ซ่าโบะ ตนุ าหงัน โนรี ถนน เป็นคำทย่ี ืมมาจากภาษาชวาท้ังหมด
14. คาํ ภาษาพม่าแพร่เขา้ มาในภาษาไทย ทางด้านการสงคราม การค้าขายและทางด้าน
ศลิ ปวฒั นธรรม
15. กะปิ เพกา ดาบ จวน ส่วย เชลย กากี เป็นคำท่ยี ืมมาจากภาษาพม่าทั้งหมด
16. คำที่มี ข และ ผ นำไม่ประวสิ รรชนยี ์ มักมาจากภาษาจนี
17. คำทใี่ ช้เปน็ คำราชาศพั ท์ในภาษาไทย มกั มาจากภาษาชวา
18. คำยืมจากภาษาองั กฤษโดยวิธกี ารทับศัพทม์ ีจำนวนมาก
19. ฝร่ังเศสเปน็ ชาติยโุ รปทเ่ี ขา้ มาติดตอ่ คา้ ขายกับไทยตัง้ แต่สมยั อยุธยา ภาษาไทยจงึ มคี ํายมื ทมี่ า
จากภาษาฝรงั่ เศสอยเู่ ป็นจำนวนมาก
20. สาเหตุที่ภาษาต่างประเทศเข้ามาปะปนในภาษาไทย ได้แก่ สภาพภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์
ศาสนา การค้าขาย วรรณคดี ความสัมพนั ธท์ างดา้ นวัฒนธรรมและประเพณี เปน็ ต้น

บทที่ 1 คำยืมน่ารู้ 2

1. คํายมื ทีม่ าจากภาษาจนี ในภาษาไทย

ไทยกับจีนมีความสัมพันธ์กันตั้งแต่ภาษาไทย ไทยกับจีนมีความสัมพันธ์กันตั้งแต่สมัยสุโขทัย
ในสมัยพ่อขุนรามคําแหงมหาราชพระองค์โปรดเกล้าฯ ให้นําช่างจีนเข้ามาทำเครื่องถ้วยชาม เรียกว่า
“ชามสังคโลก ซึ่งมีเสียงเพ้ียนมาจาก “สวรรคโลก” คนไทยและคนจีนจึงมีการติดต่อสื่อสารกันมานาน
จนนำภาษาจนี มาใช้ ส่วนใหญเ่ ปน็ ภาษาแตจ้ ๋วิ และภาษาฮกเกย้ี น โดยคําภาษาจนี ทีน่ ำมาใชใ้ นภาษาไทย

1.1 หลักการสังเกตคำภาษาไทยทมี่ าจากภาษาจีน
นำมาเป็นชื่ออาหารการกิน เช่น ก๋วยเตี๋ยว เต้าทึง แป๊ะซะ เฉาก๊วย จับฉ่าย เป็นต้นเป็นคำที่เกี่ยวกบั
สิ่งของเครื่องใช้ที่เรารับมาจากชาวจีน เช่น ตะหลิว ตึก เก้าอี้ เก๋ง ฮวงซุ้ยเป็นคำที่เกี่ยวกับการค้าและ
การจัดระบบทางการค้า เช่น เจ๋ง บ๋วย หุ้น ห้าง โสหุ้ย เป็นต้นเป็นคำที่ใช้วรรณยุกต์ตรี จัตวา เป็นส่วนมาก
เชน่ กว๋ ยจ๊ับ กุย๊ เก๊ เกก๊ ก๋ง ตุ๋น เป็นตน้

1.2 วธิ ีนำคำยมื ภาษาจีนมาใช้ในภาษาไทย
ไทยนำคำภาษาจีนมาใช้ โดยมากไทยเลียนเสียงจีนได้ใกล้เคียงกว่าชาติอื่น ๆ เช่น เกาเหลา ตั้งฉ่าย
เต้าทึง เต้าหู้ เต้าฮวย บะฉ่อ พะโล้ แฮ่กึ้น เป็นต้น มีบางคำที่นำมาตัดทอนและเปลี่ยนเสียง เช่น เตี้ยะหลิว
ตะหลิว บะ๊ หม่ี บะหม่ี ปุง้ กี ปุ้งก๋ี

1.3 ตัวอย่างคํายมื ที่มาจากภาษาจนี ในภาษาไทย

คำ ความหมาย
ค่าใช้จา่ ย
โสหุ้ย ขายเพอื่ หวังกําไร
เซ็งล้ี การชาํ ระเงนิ
เฉง่ คนเลว นักเลง
กยุ๊ อาหารชนดิ หนึ่งเป็นเสน้ ๆ
บะหมี่ คนรบั จา้ งทำงานหนัก (หาบหาม)
จับกัง อาหารชนิดหนงึ่ (แปง้ หอ่ หมสู ับ)
เกย๊ี ว เงนิ สมนาคุณ
แตะ๊ เอีย คนจนี ทมี่ ฐี านะดี
เจ้าสวั , เถา้ แก่ ปู่
ก๋ง พวก, ประเทศ
กก๊ เครอื่ งปรุงรส
ซีอิ๊ว ผักชนดิ หนึ่ง
ตง้ั โอ๋ บริษทั
กงสี ผักชนดิ หนึ่ง
กยุ ชา่ ย

3 คำ ความหมาย
ถ่ัวเหลอื งหมักเกลอื
เตา้ เจยี้ ว ชอ่ื ขนมหวาน
เต้าสว่ น ชอ่ื ขนมหวาน
เตา้ ฮวย ช่อื อาหารแบบจนี
เย็นตาโฟ ชอ่ื อาหารชนิดหนึ่ง
เปาะเป๊ยี ะ ชอ่ื อาหารแบบจนี
ฮ่อยจอ๊ เครอื่ งสานชนิดหนึ่ง
บงุ้ กี่ ช่อื อาหารคาว
บะ๊ จ่าง ชื่ออาหารชนิดหน่ึง
แปะซะ เครือ่ งหมายการค้า
ยห่ี อ้ โชคดี
เฮง

จะเหน็ วา่ คำทย่ี มื มาจากภาษาจนี ส่วนใหญม่ ักมเี สยี งหรือรปู วรรณยกุ ต์ตรแี ละจตั วา ซง่ึ มี
พยญั ชนะตน้ เป็นอักษรกลางและคำสว่ นใหญจ่ ะประสมดว้ ยสระเสียงส้ัน เชน่ เอยี ะ อวั ะ โดยคำท่ีรับมาใช้ส่วน
ใหญจ่ ะเกยี่ วกับอาหาร การคา้ ธรุ กจิ และคำที่ใชใ้ นชีวิตประจำวนั

2. คาํ ยืมทม่ี าจากภาษาเขมรในภาษาไทย

เขมรกับไทยมีพรมแดนท่ีอยู่ติดกันและมีการถ่ายทอด วัฒนธรรมและภาษากันมานาน ทั้งทางด้าน
การค้า การเมือง การสงคราม ศาสนา วัฒนธรรมและ พิธีกรรม ซึ่งทำให้มีคําภาษาเขมรอยู่ในภาษาไทยทั้ง
คาํ สามัญและราชาศพั ท์ เชน่

2.1 หลักการสังเกตคำภาษาไทยท่ีมาจากภาษาเขมร

2.1.1 มักจะสะกดดว้ ย จ ญ ร ล เช่น

ตรวจ เผดจ็ เสด็จ เสร็จ โสรจสรง ดจุ เดจ็ อาจ ควาญ จัญไร เจริญ ชาญ บญั ชา ผจญ เพ็ญ
ราญ รําคาญ รหาญ ลาญ สรรเสริญ สราญ หาญ อัญเชิญ อัญขยม กำธร ขจร จาร ตระการ สรร ดล กังวล
กำนล กำนัล กำราล ขาล ตำบล ทลู มลทนิ มวล เมิล สรวล จรัส ตรัส เป็นตน้

2.1.2 มกั เป็นคำควบกล้ำ และอักษรนำ เช่น

กระยา กราบ ขจี ขนง ขนน ขมัง ขลาด ขลงั เขนย ขมอง เขมา่ เขลา โขมด โขลน ฉนวน
ฉนา ฉบง ฉบับ ฉลอง ฉลาด เฉลียว ฉลู ฉะเชิงเทรา เฉลย เฉลา เฉนียน เฉลียง เฉวียน โฉนด ชไม เชลง เชวง
ตระโบม ตระโมจ ตรุษ ถนน ถนิม แถง โถง ทรง ทรวง ประกายพรึก ประดุจ ประนม ปรัก ปราศ โปรด ผกา
ผงร ผนวช ผอบ ผลาญ เผดยี ง ไผท พนม เพรง เพราะ พลุก เพลง เพลา เพลิง พเยีย ไพร เพนียด ไพล มนมิ นา
เลบง สงบ สงดั สงวน สดบั สนม สนับ สนาม สนกุ สบง สรง สไบ สรวม สลา เสด็จ เสนง่ เสงย่ี ม เสนียด แสดง
แสวง เป็นตน้

4

2.1.3 มกั ใช้ บงั บนั บำ นำหนา้ คำที่มีสองพยางค์ เชน่
- บงั เชน่ บังคบั บังคม บงั เหียน บงั เกิด บังคล บังอาจ
- บัน เช่น บันได บนั โดย บนั เดิน บันดาล บันลอื
- บำ เช่น บำเพญ็ บำบัด บำเหน็จ บำบวง

2.1.4 คำเขมรสว่ นมากใช้เปน็ ราชาศพั ท์ เช่น
ขนง ขนอง เขนย เสวย บรรทม เสด็จ โปรด เปน็ ตน้
2.1.5 มกั แผลงคำได้ เช่น

- ข แผลงเปน็ กระ เชน่

ขจาย - กระจาย ขจอก - กระจอก แขส - กระแส

ขทง – กระทง ขดาน - กระดาน ขจดั - กระจัด

ขมอ่ ม - กระหมอ่ ม ขโดง - กระโดง เขทย - กระเทย

- ผ แผลงเป็น ประ และ บรร เชน่

ผจง - ประจง,บรรจง ผทบั - ประทับ ผจบ - ประจบ บรรจบ

ผทม - ประทม,บรรทม ผชมุ - ประชมุ ผสาน - ประสาน

ผสม - ประสม, บรรสม เผดยี ง - ประเดยี ง ผสบ - ประสบ

เผชญิ - ประเชญิ เผดิม – ประเดิม ผดุง - ประดงุ

ลาญ - ผลาญ, ประลาญ ผจาน - ประจาน ผอบ - ประอบ

ผกาย - ประกาย ผจัญ – ประจญั ผจญ - ประจญ

2.1.6 เปน็ ศพั ท์พยางคเ์ ดียว ที่ต้องแปลความหมาย เชน่

ขาล แข ควร จง จอง จาร ชวด เฌอ ดล เดนิ โดย ทรวง ทลู เทา เนา นวล โปรด
เพญ็ เพลงิ มาศ เมิล แมก เรยี ม เลอ เลิศ ศก ศอ สบ สรร สรวง เสาะ แสะ อวย เปน็ ตน้

2.2 วธิ ีนำคำยืมภาษาเขมรมาใชใ้ นภาษาไทย
2.2.1 ยมื มาใช้โดยตรง เชน่ กระดาน กระท่อม กะทิ บัง โปรด ผกา เป็นต้น

2.2.2 ยืมเอาคำที่แผลงแล้วมาใช้ เชน่ กงั วล บำบดั แผนก ผจญั

2.2.3 ยืมทั้งคำเดิมและคำที่แผลงแล้วมาใช้ เช่น เกิด-กำเนิด ขลัง-กำลัง เดิน-ดำเนิน
ตรา-ตำรา บวช-ผนวช เป็นตน้

2.2.4 ใช้เป็นคำสามญั ท่ัวไป เช่น ขนุน เจริญ ฉงน ถนอม สงบ เป็นตน้

2.2.5 ใชเ้ ปน็ คำในวรรณคดี เช่น ขจี เชวง เมลิ สดำ สลา เปน็ ต้น

5

2.3 ตัวอยา่ งคาํ ยืมที่มาจากภาษาเขมรในภาษาไทย

คำ ความหมาย
หล่ังน้ำ (หลังทำบญุ )
กรวดน้ำ หนว่ ยงานราชการแผนกใหญ่
กระทรวง เช่ียวชาญ
ชำนาญ ลักษณนามเรยี กหนังสอื
ฉบบั กระจาย
กำจาย การไหว้
บงั คม เรง่ รีบ
ขมขี มนั ต่อสู้, สรู้ บ, สงคราม
ผจญ การน่งั สมาธิ
แพนงเชงิ ขอ้ ความหรอื ภาพที่ผลติ ซำ้ จากตน้ ฉบับ
สำเนา เขญ็ ใจ
กรอ ขบั ไล่
กำจดั ฟุ้งไป
ขจร คิ้ว
ขนง หมอนอิง
ขนน แต่ง
เชลง ขาด
เดจ็ ใจ
แด ถนน
ถนน พรานธนู
ขมงั ไป
เทา อยู่
เนา นอน
ผทม ภเู ขา
พนม พวงดอกไม้
พเยยี เวลาเชา้ มดื
พระหาม ไฟ
เพลิง

จะเหน็ วา่ คำท่ียืมมาจากภาษาเขมรส่วนใหญม่ ักจะสะกดดว้ ยพยญั ชนะ จ ร ล ญ ส มกั จะไม่
ใช้รูปวรรณยุกต์กำกับ เป็นคำพยางค์เดียวที่ต้องแปลความหมายและเป็นคำที่ใช้พยัญชนะควบกล้ำ อักษรนำ
นอกจากนี้ คำส่วนใหญ่มักข้ึนต้นด้วยคำว่า บัง, บัน, บำ, บรร, ประ คำที่ยืมมาจากเขมรจะนิยมใช้พยัญชนะ
ไม่ตรงตามมาตรา นิยมเตมิ หน้าเพอ่ื ให้เกดิ คำใหม่ และจะใชค้ ำเติมกลางเพ่ือใหเ้ กดิ คำใหมเ่ ช่นกนั

6

แบบฝกึ หัดท้ายบท
เรอ่ื ง ฝึกแตง่ ประโยคจากคำยมื ภาษาต่างประเทศ

คำช้ีแจง ให้นกั เรียนแต่งประโยคโดยใช้คำยืมจากภาษาจีนและภาษาเขมรมา 5 ประโยคใหถ้ กู ตอ้ ง

1. ……………………………………………………………………………………………………
2. .………………………………………………………………………………………………….
3. ………………………………………………………………………………………………….
4. …………………………………………………………………………………………………..
5. …………………………………………………………………………………………………..

7

บทท่ี 2 คำยืมชวนคดิ

1. คาํ ยืมท่มี าจากภาษาองั กฤษในภาษาไทย

การติดต่อค้าขายการทูตกับชาติตะวันตกตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา จนในสมัยปัจจุบันที่ผู้คนทั่วโลก

มีการสื่อสารกันอย่างไร้พรมแดน ดังนั้น ภาษาไทยจึงรับเอาภาษาอังกฤษเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของภาษา

ซ่ึงคาํ ยืมจากภาษาอังกฤษสามารถใช้ ส่ือสารกนั อย่างแพร่หลาย

1.1 หลกั การสังเกตคำภาษาไทยที่มาจากองั กฤษ

การทับศัพท์ โดยการถ่ายเสียงและถอดตัวอักษร คำยืมจากภาษาอังกฤษโดยวิธีการทับศัพท์มีจำนวน

มาก คำบางคำราชบัณฑิตยสถานได้บัญญัติศัพท์เป็นคำไทยแล้ว แต่คนไทยนิยมใช้คำทับศัพท์มากกวา่ เพราะ

เขา้ ใจงา่ ย สอ่ื สารได้ชัดเจน เชน่

คำภาษาอังกฤษ คำทบั ศพั ท์

game เกม

graph กราฟ

cartoon การ์ตนู

clinic คลินิก

quota โควตา

dinosaur ไดโนเสาร์

technology เทคโนโลยี

การบัญญัติศัพท์ เป็นวิธีการยืมคำ โดยรับเอาเฉพาะความคิดเกี่ยวกับเรื่องนั้นมาแล้วสร้างคำขึ้นใหม่

ซึ่งมีเสียงแตกต่างไปจากคำเดิม โดยเฉพาะศัพท์ทางวิชาการจะใช้วิธีการนี้มาก ผู้ที่มีหน้าที่บัญญัติศัพท์

ภาษาไทยแทนคำภาษาอังกฤษ คอื ราชบัณฑติ ยสถาน เชน่

คำภาษาองั กฤษ คำบญั ญตั ศิ ัพท์

airport สนามบิน

globalization โลกาภิวัตน์

science วิทยาศาสตร์

telephone โทรศพั ท์

reform ปฏริ ปู

การแปลศัพท์ วิธีการนี้จะต้องใช้วิธีการคิดแปลเป็นคำภาษาไทยให้มีความหมายตรงกับคำใน

ภาษาอังกฤษ แลว้ นำคำน้นั มาใชส้ อื่ สารในภาษาไทยต่อไป ดังตัวอย่าง เช่น

คำภาษาอังกฤษ คำบญั ญัตศิ ัพท์

blackboard กระดานดำ

enjoy สนกุ

handbook หนังสือคู่มอื

school โรงเรยี น

8

1.2 วธิ ีนำคำยืมภาษาองั กฤษมาใช้ในภาษาไทย

1.2.1 ลากเข้าความ เปน็ วธิ กี ารของคนสมัยก่อน ท่ยี ังไม่คุน้ เคยกับภาษาองั กฤษ จงึ ลากเสียง

และความหมายเขา้ หาเสียงทตี่ นค้นุ เคย เช่น

คำภาษาองั กฤษ คำทบั ศพั ท์

Europe อหี รอบ

Jasus Court shoes คัตชู

Coffee กาแฟ

Uniform ยนู ฟี อร์ม

Lemonade น้ำมะเนด็

Croton โกสน

Foot path ฟุตบาท

1.2.2 การตัดคาํ หมายความว่าคําภาษาองั กฤษมีหลายพยางค์ ไทยนำมาใชโ้ ดยการตัด

บางพยางค์ออกทำใหค้ าํ สั้นลงแต่ยงั ไดค้ วามเหมอื นเดมิ เชน่

คำภาษาองั กฤษ คำทบั ศพั ท์

Basketball บาส

Football บอล

Microphone ไมค์

Psychology ไชโค

Public House ผบั

Comment เมน้ ท์

Automatic ออโต้

1.3 ตัวอย่างคาํ ยมื ทมี่ าจากภาษาอังกฤษในภาษาไทย

คำ ความหมาย

แบงก์ ธนบัตร , ธนาคาร

โอเค ตกลง

แฟชั่น สมัยนยิ ม

แท็กซ่ี รถยนตส์ าธารณะ

ฮัลโหล สวสั ดี (มกั ใชเ้ มือ่ รับโทรศัพท์)

กโิ ลกรม มาตราชัง่ นำ้ หนกั

ฟุตบอล ชอื่ กีฬาชนิดหนึง่

คอมพิวเตอร์ เครือ่ งอเิ ล็กทรอนกิ ส์

เซอรเ์ วย์ สำรวจ

มอเตอร์ไซค์ ยานพาหนะชนิดหนง่ึ

จะเหน็ วา่ คำทย่ี มื มาจากภาษาองั กฤษส่วนใหญ่เปน็ คำหลายพยางค์อาจมกี ารตัดบางคำออกให้คำสนั้ ลง

แตค่ วามหมายคงเดิมเป็นคำทับศพั ท์ และมีการใชเ้ สียงพยญั ชนะควบ เช่น ดร บร บล ฟร ฟล

9

2. คาํ ยมื ทม่ี าจากภาษาฝร่ังเศสในภาษาไทย

ฝรั่งเศสเป็นชาติยุโรปที่เข้ามาติดต่อค้าขายกับไทยตั้งแต่สมัยอยุธยา ภาษาไทยจึงมีคํายืมที่มาจาก
ภาษาฝรั่งเศสอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งชาวฝรั่งเศสได้เข้ามาสู่ประเทศไทยใน พ.ศ. 2205 โดยมองซิเออร์
เดอลา มอตต์ ลังแบรต์ สังฆราชแห่งเบริทในคณะสอนศาสนาโรมันคาธอลิกของฝรั่งเศส และมีนักสอนศาสนา
เข้ามาเรื่อย ๆ ต่อมาได้มีการตั้งโรงเรียนและสร้างโรงสวดขึ้น ใน พ.ศ. 2223 บริษัทอินเดียตะวันออกของ
ฝรัง่ เศส ไดส้ ง่ เรือเข้ามาทำการค้าขายกับประเทศไทย ในปี พ.ศ. 2527 ไทยส่งราชทตู คณะท่ี 2 ออกไปเจริญ
สัมพันธไมตรกี ับพระเจ้าหลยุ สท์ ี่ 14 และในปี พ.ศ. 2528 ฝรั่งเศสได้ส่งเชอวาลิเอร์เดอโชมองค์ เป็นราชทตู
มาเกลี้ยกล่อมให้สมเด็จพระนารายณ์เปลี่ยนศาสนามานับถือศาสนาคริสต์ แต่ก็ไร้ผลอย่างไรก็ตามพระองค์
ก็มิได้ทรงขัดขวาง ถ้าหากประชาชนชาวไทยจะหันไปเข้ารีตนับถือศาสนาคริสต์ การที่ชาวไทยได้มี
ความสัมพันธ์กับชาวฝรั่งเศสตั้งแต่ครั้งนั้นจนกระทั่งสมัยปัจจุบัน ทำให้มีคํายืมที่มาจากภาษาฝรั่งเศสจำนวน
หนึ่งท่เี ข้ามาใชแ้ พร่หลายอยใู่ นภาษาไทย

ตัวอยา่ งคาํ ยืมที่มาจากภาษาฝรัง่ เศสในภาษาไทย

คำ ความหมาย
กโิ ยตนี (Guillotine) เครอ่ื งมอื ประหารชวี ิตแบบหน่งึ
กาเฟอนี (Cafeine) สารเคมีท่ีมฤี ทธ์อิ ยา่ งแรงต่อหัวใจ มีในใบชาและเมล็ดกาแฟ
กาสิโน (Casino) สถานการพนนั ขนาดใหญ่
คอนแวนต์ (Couvent) สำนักชใี นครสิ ตศ์ าสนา
กงสลุ (Consul) พนกั งานดูแลผล ประโยชนข์ องรฐั บาล
อาวัล (Aval) การรบั ประกันการใชเ้ งินตามตัวเงิน
ปาร์เกต์ (Parquet) ไมอ้ ัดสำหรับปูพนื้ พื้น
รูจ (Rouge) สที าปากแก้ม
มองซเิ ออร์ (Monsieur) นาย (คํานําหนา้ ชื่อ)
โดม (Dome) หลังคารปู คร่ึงวงกลมควำ่
คาเฟ่ (Cafe) สถานบรกิ ารขายชากาแฟ เครื่องดมื่ ตา่ ง ๆ
ครวั ซองต์ (Croissant) ขนมชนิดหนง่ึ
กิโล (Kilo) จำนวนพนั
กรัม (Gramme) หน่วยนำ้ หนักชนิดหน่งึ
เปตอง (Petanque) กฬี ากลางแจ้งชนิดหนึ่ง เล่นโดยการโยนลูกเหลก็ กลม ๆ
โชเฟอร์ (Chauffeur) คนขับรถยนต์
ชฟี อง (Chiffon) ผ้าชนิดหนึ่งเนื้อนม่ิ บางเบา
บฟุ เฟต์ (Buffet) อาหารทบี่ รกิ ารตัวเอง
เมตร (Metre) มาตราวัดความยาว
เซนตเิ มตร (Centimetre) มาตรวัดความยาว
ลติ ร (Litre) มาตราตวงจำนวนหน่ึง
เรสเตอรองต์ (Restaurant) ภัตตาคาร
บาทหลวง (Pretre) นกั บวชศาสนาคริสต์

10

แบบฝึกหัดทา้ ยบท
เรอ่ื ง ฝึกแต่งประโยคจากคำยืมภาษาต่างประเทศ

คำช้แี จง ให้นักเรยี นนำคำทีก่ ำหนด เขยี นลงในตารางใหถ้ กู ต้อง

กราฟ การ์ตูน กิ๊บ กลูโคส กัปตัน ไดนาโม ไดโนเสาร์ ครีม คลอรีน คอนกรีต คลินิก คอนเสิร์ต คอมพิวเตอร์ คุกกี้
เคเบลิ กาแฟ กาเฟอนี กิโยตนิ กโิ ลกรมั กิโลลติ ร โก้เก๋ เชมเปญ โชเฟอร์ คปู อง เปตอง ปารเ์ กต์ คาเฟ่ ครวั ซองท์

คาํ ยืมทีม่ าจากภาษาอังกฤษในภาษาไทย ........................................................................................
คํายมื ทีม่ าจากภาษาฝรัง่ เศสในภาษาไทย ........................................................................................
........................................................................................
........................................................................................
........................................................................................
........................................................................................
........................................................................................
........................................................................................

........................................................................................
........................................................................................
........................................................................................
........................................................................................
........................................................................................
........................................................................................
........................................................................................
........................................................................................

11

บทที่ 3 คำยืมชว่ ยจำ

1. คาํ ยมื ทีม่ าจากภาษาชวาในภาษาไทย

ดินแดนชวาและไทยมีความสัมพันธ์กันมาแต่โบราณ การติดต่อค้าขายและการเผยแผ่ศาสนาและ
วัฒนธรรมทำให้คนไทยรับเอาภาษาชวามาใช้ในภาษาไทยด้วย เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
ทรงพระราชนิพนธ์บทละครเรื่อง “อิเหนา” จนได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ทำให้คนไทยคุ้นเคยกับช่ือ
ตวั ละคร และช่ือเรียกตา่ ง ๆ ตามทป่ี รากฏในเร่ือง คาํ ยืมจากภาษาชวาจึงเป็นทรี่ จู้ ักแพรห่ ลายในประเทศไทย

1.1 วธิ นี ำคำยมื ภาษาชวามาใช้ในภาษาไทย
1.1.1 ใชใ้ นการแต่งคำประพันธ์ เช่น บหุ รง บหุ ลัน ระตู ปาหนัน ตนุ าหงัน เป็นตน้

1.1.2 ใชส้ ื่อสารในชีวติ ประจำวนั เช่น กลั ปังหา กุญแจ กระดงั งา ซ่าหริม่ ประทดั เป็นต้น

1.1.3 นำมาใชใ้ นความหมายคงเดมิ เช่น ทุเรยี น น้อยหน่า บุหลัน เป็นตน้

1.2 ตวั อย่างคาํ ยืมท่ีมาจากภาษาชวาในภาษาไทย

คำ ความหมาย
กรชิ มดี ปลายแหลม มี 2 คม
การะบหุ นิง ดอกแก้ว
ดาหลงั คนเชิดหนงั
ซา่ โบะ ผา้ หม่
ตุนาหงัน หม้นั
บุหงา ดอกไม้
ปะหนนั ดอกลำเจยี ก
ปนั จุเหร็จ โจรปา่
มะงมุ มะงาหรา เท่ียวป่า, อาการทด่ี ั้นด้นเดินไปโดยไม่ร้ทู ิศทาง
ประไหมสุหรี (Permaisuri) ตำแหน่งพระมเหสที ี่ 1
จาํ ปาดะ (Charmpedak) ชอื่ ตน้ ไมล้ กั ษณะคล้ายขนนุ
ป้นั เหนง่ (Pending) เขม็ ขดั
กดิ าหยนั (Bendaharawan) มหาดเลก็
พนั ตู (Bantu , Banteras) ชว่ ยเหลอื , ตอ่ สู้
โนรี (Nuri) นกแก้ว
สะตาหมนั (Taman) สวนดอกไม้
สะการะ (Sakar) ดอกไม้
กุหนงุ (Gunung) ภูเขา
ยหิ วา (Jiwa) ดวงใจ
บุหรง (Burung) นก

12

คำ ความหมาย
ระเด่น (Baden) โอรสธิดาของกษตั รยิ เ์ มอื งใหญ่
อเิ หนา ชายหนุม่ ,พระยพุ ราช
กะหลาป๋า (Kelapa,Kalapa) ชอ่ื เมอื งในเกาะชวา ปจั จุบันคอื จารก์ าตา
ระตู เจา้ เมอื งน้อย
ละงดิ (Langit) ฟ้า,ชน้ั เทวดา
ละลดั (Lalat) แมลงวนั
ตุนาหงัน (Tunangan) คู่หมัน้
ลสุ า (Lusa) วนั มะรืน
ยาหยี (Yayi) น้อง,ท่ีรัก
ยาหดั (Jahat) ชั่วไม่ด,ี หยาบ
ปะการงั , การงั (Karang) ชอ่ื สัตว์ทะเลไมม่ กี ระดูกสันหลัง
ดาหลัง (Dalang) ผเู้ ชดิ ห่นุ หรอื นายหนัง
สงั คาตา พ่อ
ยาหยงั ชนะศัตรู
สาหรี น่ารัก,ดี
สะการะตาหรา ดอกกรรณกิ าร์
บุหลนั (Bulan) พระจนั ทร์
อากุง (Agung) เขาใหญ่

จะเห็นว่าคำพื้นฐานของภาษาชวาส่วนใหญ่เป็นคำ ๒ พยางค์หรือมากกว่า ไม่มีเสียงพยัญชนะ
ควบกล้ำและคำทอ่ี อกเสยี งประสมสระอะพยางคห์ นา้ แลว้ แทรกเสยี ง “ร” ควบกล้ำ

2. คาํ ยืมที่มาจากภาษาญ่ปี นุ่ ในภาษาไทย

ญี่ปุ่นและไทยเริ่มติดต่อกันอย่างเป็นทางการในรัชสมัยสมเด็จพระเอกาทศรถกั บญี่ปุ่นทูลขอปืนใหญ่
กบั ไมห้ อมของทางอง 49 โชกุนอเิ ยยาสไุ ดม้ สี าสน์ มาถวายสมเดจ็ พระเอกาทศรถพร้อมด้วยดาบญีป่ นุ่ 10 เล่ม
และเกราะ 3 ญ่ปี ่นุ ทลู ขอปืนใหญ่กบั ไมห้ อมของทางอยุธยาแลกเปล่ียน หลังจากนั้นไมน่ านทางญ่ีปุน่ ก็ประกาศ
ให้สำเภาไทยไปทำการค้าขายยงั ประเทศญี่ปุ่นไดโ้ ดยเสรี ญี่ปุ่นกับไทยมีความสัมพันธ์กันโดยลำดับ จนกระทง่ั
ถึงสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นเข้ามายดึ ครองประเทศไทยอยู่ระยะหนึง่ ดังจากมหาสงครามเป็นต้นมาไทย
ก็มีการติดต่อทางการค้ากับประเทศญี่ปุ่นมากกว่าประเทศอื่น ๆ สัมพันธ์กันมาเป็นเวลานานนี้เองเป็นเหตุให้
คนไทยรับภาษาญี่ปุ่นมาใช้จำนวนหนง่ึ

13

ตวั อย่างคํายืมที่มาจากภาษาญปี่ ่นุ ในภาษาไทย

คำ ความหมาย
เสื้อชดุ ประจำชาตญิ ่ีปนุ่
กโิ มโน หญงิ ตอ้ นรบั หญงิ ให้บริการ
เกอิชา ทหารหน่วยกลา้ ตายของญ่ปี นุ่
คามคิ าเช่ ศิลปะการต่อสดู้ ้วยสันหรอื นว้ิ มอื
คาราเต้ ศิลปะการต่อสดู้ ้วยดาบไม้
เค็นโด้ ทหารอาชพี ใช้ดาบเป็นอาวธุ
ซามไู ร มวยปล้ำญีป่ ุน่
ซโู ม เส้ือคลุมแบบญีป่ ุ่นวชิ าการตอ่ สปู้ อ้ งกนั ตัวแบบหน่งึ
ปิยามา่ วชิ าการตอ่ สู้ปอ้ งกนั ตวั แบบหน่ึง
ยโู ด วิชายดื หยุ่นปอ้ งกนั ตวั อีกแบบหนึง่
โยชิวารา วชิ ายืดหยนุ่ ปอ้ งกันตวั อกี แบบหนงึ่
ยิวยติ สู สุรากลน่ั จากขา้ ว ประมาณ 11-14 ดกี รี
สาเกะ,สาเก ช่อื อาหารชนดิ หน่ึง
สุกยี ากี้ การฆ่าตวั ตายดว้ ยวธิ คี วา้ นทอ้ งตวั เอง
ฮาราคีรี การฆ่าตวั ตายดว้ ยวธิ คี วา้ นทอ้ งตวั เอง
ฮาริ-ฮาริ ภาชนะใสอ่ าหาร
ปิน่ โต ผ้านุ่งคลา้ ยผา้ ขาวมา้
หกั ขะมา้ ขา้ วป้ัน
ซูชิ ปลาดิบ
ซาซิมิ

14

แบบฝกึ หัดทา้ ยบท
เร่อื ง ฝึกแตง่ ประโยคจากคำยืมภาษาตา่ งประเทศ

คำชี้แจง ใหน้ กั เรียนนำคำที่กำหนด เขยี นลงในตารางใหถ้ ูกตอ้ ง

เกอิชา กิโมโน คามิคาเซ่ ตนุ าหงนั โนรี บหุ งา ปะหนัน ปนั จเุ หร็จ มะงมุ มะงาหรา คาราเต้
เคนโด้ ซามไู ร ซโู ม่ ซากุระ เทมปรุ ะ ฟจู ิ สุกย้ี าก้ี ยโู ด กรชิ การะบหุ นิง ดาหลัง ซา่ โบะ

คํายมื ที่มาจากภาษาชวาในภาษาไทย ........................................................................................
........................................................................................
........................................................................................
........................................................................................
........................................................................................
........................................................................................
........................................................................................
........................................................................................

คาํ ยืมท่ีมาจากภาษาญปี่ ุ่นในภาษาไทย ........................................................................................
........................................................................................
........................................................................................
........................................................................................
........................................................................................
........................................................................................
........................................................................................
........................................................................................

15 แบบทดสอบหลังเรยี น

ใหน้ กั เรยี นใส่เครือ่ งหมาย √ ในชอ่ งว่างหนา้ คำตอบท่ีถกู ตอ้ ง และใสเ่ คร่อื งหมาย × ในชอ่ งวา่ งหน้าข้อ
ทีไ่ มถ่ ูกตอ้ ง

1. คำส่วนใหญ่มกั มีเสยี งหรือรปู วรรณยุกต์ตรแี ละจตั วา
2. ภาษาไทยมีการยืมคำจากภาษาต่างประเทศ ได้แก่ ภาษาจีน ภาษาเขมร ภาษาอังกฤษ
ภาษาฝรง่ั เศส ภาษาชวา ภาษาพมา่ เป็นต้น
3. กระบอง กว๋ ยเตีย๋ ว กระเพาะ กังวล เพลิง เป็นคำทีย่ ืมมาจากภาษาเขมรท้ังหมด
4. คำที่ยืมมาจากภาษาจนี ส่วนใหญจ่ ะเกยี่ วกับอาหาร การค้า ธุรกจิ และคำท่ใี ชใ้ นชวี ติ ประจำวนั
5. คำทย่ี ืมมาจากภาษาเขมรส่วนใหญม่ ักจะสะกดด้วยพยญั ชนะ จ ร ล ญ ส มักจะไมใ่ ช้รูปวรรณยุกต์
กำกับ
6. เกา้ อี้ จับฉ่าย เฉาก๊วย ซาลาเปา ตะหลิว สำเนา เปน็ คำทย่ี มื มาจากภาษาจนี ทัง้ หมด
7. คำที่ยืมมาจากภาษาอังกฤษส่วนใหญ่เป็นคำพยางค์เดียวอาจมีการตัดบางคำออกให้คำสั้นลง
แต่ความหมายคงเดมิ เปน็ คำทับศัพท์ และมีการใชเ้ สยี งพยญั ชนะควบ เช่น ดร บร บล ฟร ฟล ทร
8. คำที่ยืมมาจากภาษาเขมรจะนยิ มใช้พยัญชนะตรงตามมาตรา นิยมเติมหน้าเพ่ือให้เกิดคำใหม่ และ
จะใชค้ ำเติมกลางเพ่อื ใหเ้ กดิ คำใหมเ่ ช่นกัน
9. ไทยไดร้ ับอิทธิพลจากภาษาเขมรจากการค้า การสงคราม การเมอื ง และวฒั นธรรม
10. การต์ ูน แกส๊ ครสิ ตม์ าส ไดนาโม ไดโนเสาร์ ครีม คลอรนี เป็นคำท่ียมื มาจากภาษาองั กฤษท้งั หมด
11. ภาษาชวาที่ไทยยืมมาใช้ส่วนมาก เป็นภาษาเขียน ซึ่งรับมาจากวรรณคดี เรื่อง อิเหนา
เป็นส่วนใหญ่ ถ้อยคำภาษาเหล่านี้ใช้สื่อสารในวรรณคดี และในบทร้อยกรองต่าง ๆ มากกว่า
คำทนี่ ำมาใช้ส่ือสารในชวี ิตประจำวนั
12. คำพน้ื ฐานของภาษาชวาสว่ นใหญเ่ ป็นคำ ๒ พยางค์หรอื มากกวา่ ไม่มีเสยี งพยญั ชนะควบกล้ำและ
คำทอี่ อกเสยี งประสมสระอะพยางค์หนา้ แลว้ แทรกเสียง “ร” ควบกลำ้
13. กะปิ เพกา ดาบ จวน ส่วย เชลย กากี เปน็ คำท่ียมื มาจากภาษาพมา่ ท้งั หมด
14. สาเหตุที่ภาษาต่างประเทศเข้ามาปะปนในภาษาไทย ได้แก่ สภาพภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์
ศาสนา การค้าขาย วรรณคดี ความสัมพนั ธท์ างด้านวัฒนธรรมและประเพณี เป็นตน้
15. กรชิ การะบหุ นงิ ดาหลงั ซ่าโบะ ตุนาหงนั โนรี ถนน เป็นคำท่ียืมมาจากภาษาชวาท้ังหมด
16. คำยืมจากภาษาอังกฤษโดยวิธกี ารทบั ศัพท์มจี ำนวนมาก
17. คำท่ีใชเ้ ปน็ คำราชาศัพท์ในภาษาไทย มกั มาจากภาษาชวา
18. คำท่มี ี ข และ ผ นำไม่ประวิสรรชนีย์ มักมาจากภาษาจีน
19. ฝรั่งเศสเปน็ ชาติยโุ รปทเ่ี ข้ามาติดต่อค้าขายกับไทยตัง้ แต่สมยั อยธุ ยา ภาษาไทยจึงมคี าํ ยืมท่มี า
จากภาษาฝรัง่ เศสอย่เู ปน็ จำนวนมาก
20. คาํ ภาษาพม่าแพร่เข้ามาในภาษาไทย ทางดา้ นการสงคราม การค้าขายและทางดา้ น
ศลิ ปวัฒนธรรม

16

เอกสารอา้ งอิง

กำชัย ทองหลอ่ .(2556).หลกั ภาษาไทย.กรงุ เทพฯ : อมรการพิมพ.์
จงชยั เจนหตั ถการกจิ .(2560).หนงั สอื ประกอบการเรียนการสอนวิชาหกั ภาษาไทย.(พิมพ์คร้งั ท่ี 14).

กรงุ เทพฯ : ธนาเพรส.
วเิ ชียร เกษประทมุ .(2558).หลักภาษาไทย ฉบับสมบรู ณ.์ กรงุ เทพฯ : พ.ศ.พฒั นา.
สำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพ้นื ฐาน.(2551).หนังสือเรยี นรายวิชาพน้ื ฐานภาษาไทย หลกั ภาษา

และการใชภ้ าษา ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 2. กรุงเทพฯ : อักษรเจรญิ ทศั น.์






Click to View FlipBook Version