The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้.กฎหมายแรงงาน

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by sangwankrutee, 2021-11-17 23:09:28

plan

แผนการจัดการเรียนรู้.กฎหมายแรงงาน

แผนการจัดการเรียนรู้

รหัสวิชา 2001-1004 ชือ่ วิชา กฎหมายแรงงาน

หลักสตู รประกาศนยี บัตรวิชาชพี พทุ ธศักราช 2562
ประเภทวชิ าอตุ สาหรรม

โดย
นายสังวาร ทองมนั ปู

วทิ ยาลัยารอาชีพขนุ หาญ
ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 264

กฎหมายแรงงานและการประกันสังคม (2001-1006)
หลักสตู รประกาศนียบตั รวชิ าชพี (ปวช.) พุทธศกั ราช 2556
ของสำนักงานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา กระทรวงศึกษาธกิ าร

จุดประสงคร์ ายวชิ า เพ่ือให้
1. เขา้ ใจกฎหมายท่เี กีย่ วข้องกบั แรงงาน การคมุ้ ครองแรงงาน แรงงานสมั พนั ธ์ การประกนั สังคม
2. เข้าใจหลักการ วิธีการ ข้ันตอนการปฏิบัติตามกฎหมายทเี่ กี่ยวข้องกับแรงงาน
3. เพอื่ ให้มกี ิจนสิ ัยทด่ี ีและมีเจตคติที่ดีต่อกฎหมายทเี่ กีย่ วขอ้ งกับแรงงาน

สมรรถนะรายวชิ า
1. แสดงความรเู้ กย่ี วกับกฎหมายทเี่ ก่ยี วข้องกับแรงงาน
2. ปฏิบัติตามวิธกี าร ขน้ั ตอนปฏบิ ตั ิตามกฎหมายทเี่ ก่ียวขอ้ งกับแรงงาน

คำอธบิ ายรายวชิ า
ศกึ ษาเก่ียวกับกฎหมายท่ีเกีย่ วข้องกับแรงงาน การคมุ้ ครองแรงงาน แรงงานสัมพันธ์ การประกันสงั คม

กฎหมายอตุ สาหกรรม

2006 – 1006 โครงการสอน 1–0-1

กฎหมายแรงงาน

หน่วยท่ี / บท ช่ือหนว่ ย / บท จำนวนคาบ
1 จ้างแรงงาน 3
2 พระราชบัญญตั ิค้มุ ครองแรงงาน พ.ศ. 2541 (การใชแ้ รงงาน) 2
3 พระราชบญั ญัติคมุ้ ครองแรงงาน พ.ศ. 2541 (ค่าจา้ ง คา่ ชดเชย) 2
4 พระราชบญั ญัตคิ ุม้ ครองแรงงาน พ.ศ. 2541 (สวัสดกิ ารและบทกำหนดโทษทางอาญา) 1
5 พระราชบัญญัติเงินทดแทน 2
6 พระราชบญั ญัติประกันสังคม 2
7 พระราชบัญญตั ิแรงงานสัมพันธพ์ .ศ. 2518 3
8 กฎหมายวา่ ดว้ ยโรงงาน 1

รวม 16
สอบกลางภาค 1
สอบปลายภาค 1
รวมทั้งหมด 18

สปั ดาห์ วนั เดือน กำหนดการสอน หมายเหตุ
ที่ คาบท่ี รายการสอน
1-3 บนั ทกึ ตามปฏทิ นิ ใน
ตารางสอนท่ี 1 - 3 ลักษณะท่ัวไปของสัญญาจา้ งแรงงาน บทท่ี 1
สถานศึกษากำหนด - หน้าทข่ี องลูกจ้างทต่ี อ้ งทำงานให้แกน่ ายจา้ ง บทท่ี 2
- หนา้ ทขี่ องนายจา้ ง บทท่ี 3
4-5 - กำหนดเวลาการจา้ ง บทที่ 4
- สทิ ธิการเลิกจ้างของนายจา้ ง ตามประมวล
6-7 กฎหมายแพ่งและพาณชิ ย์
- ความระงับแห่งสญั ญาจา้ งแรงงาน
8
4 - 5 พระราชบญั ญตั ิคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 (การ
9 ใช้แรงงาน)
- ลกั ษณะพเิ ศษของกฎหมายคุ้มครองแรงงาน
- การใชแ้ รงงานทั่วไป
- การใช้แรงงานหญงิ
- การใชแ้ รงงานเดก็

6 - 7 พระราชบญั ญัตคิ ุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541
(ค้าจา้ ง คา่ ชดเชย)
- ค่าจ้างและค่าชดเชย
- คา่ ล่วงเวลาและคา่ ทำงานในวนั หยดุ
- ค่าชดเชย
- เหตทุ ี่นายจา้ งไม่ตอ้ งจา่ ยคา่ ชดเชย
- คา่ ชดเชยพิเศษ

8 พระราชบญั ญตั ิคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541
(สวัสดกิ ารและบทกำหนดโทษทางอาญา)
- คณะกรรมการค่าจ้าง
- สวัสดกิ าร
- ขอ้ บงั คบั เกย่ี วกบั การทำงาน
- การย่นื คำร้องและการพิจารณาคำรอ้ ง
- อำนาจหนา้ ท่ขี องพนกั งานตรวจแรงงาน
- บทกำหนดโทษทางอาญา

9 สอบกลางภาค

สัปดาห์ วันเดือน คาบที่ รายการสอน หมายเหตุ
ท่ี
10 - 11 พระราชบญั ญตั ิเงนิ ทดแทน บทที่ 5
10 - 11 - หลกั เกณฑก์ ารจ่ายเงินค่าฟน้ื ฟสู มรรถภาพใน
การทำงานของลกู จ้าง บทท่ี 6
12 - 13 - ขอ้ ปฏิบตั ิการจ่ายทดแทนของนายจา้ งหรอื บทท่ี 7
14 - 16 สำนักงานจา่ ยเงนิ
- กรณีศกึ ษาตวั อย่างเก่ียวกบั การจา่ ยเงนิ ทดแทน บทท่ี 8
17
12 - 13 พระราชบญั ญัติประกนั สงั คม 2
18 - เงนิ สมทบกองทนุ ประกนั สังคม 16 สัปดาห์
- ประโยชน์ทดแทน 1 สัปดาห์
- กองทนุ เงนิ ทดแทน 1 สปั ดาห์
18 สัปดาห์
14 - 16 พระราชบญั ญตั แิ รงงานสมั พนั ธพ์ .ศ. 2518
- องคก์ ารดา้ นแรงงานในพระราชบญั ญัตแิ รงงาน
สัมพันธ์ พ.ศ. 2518
- ข้อตกลงเกย่ี วกับสภาพการจา้ งและวธิ กี ารระงบั
ขอ้ พิพาท
- การกระทำอันไมเ่ ปน็ ธรรม

17 กฎหมายวา่ ด้วยโรงงาน
- ความหมาย ความสำคัญของกฎหมายวา่ ดว้ ย
โรงงาน
- หน้าท่ขี องผ้ปู ระกอบกจิ การในโรงงานตาม
พ.ร.บ. โรงงาน พ.ศ. 2535
- อำนาจหนา้ ทีข่ องพนักงานเจา้ หนา้ ทใี่ นบาง
ประการ
- พระราชบญั ญตั โิ รงงาน พ.ศ. 2535

18 สอบปลายภาค
รวม

สอบกลางภาค
สอบปลายภาค
รวมท้ังหมด

การประเมนิ ผลรายวิชา

1. วธิ ีการ

1.1 ประเมนิ ผลตามสภาพจริงในแตล่ ะบทเรยี น

1.2 ประเมินผลตามแบบประเมนิ ในแต่ละบทเรยี น

1.3 ประเมนิ ผลรวบยอดท้งั กลางภาคและปลายภาคเรียน

2. เกณฑผ์ า่ นรายวิชา

ตอ้ งผา่ นเกณฑ์ ประเมิน 50%

3. เกณฑ์ค่าระดับคะแนน

ช่วงคะแนน แบง่ ออกเปน็ 8 ชว่ ง

1) 0 - 49 ผลการเรยี น 0
1
2) 50 – 54 ผลการเรยี น 1.5
2
3) 55 – 59 ผลการเรียน 2.5
3
4) 60 – 64 ผลการเรยี น 3.5
4
5) 65 – 69 ผลการเรียน

6) 70 – 74 ผลการเรยี น

7) 75 – 79 ผลการเรียน

8) 80 – 100 ผลการเรยี น

ตารางกำหนดนำ้ หนกั คะแนน

คะแนนรายหน่วยและน้ำหนักคะแนน น้ำหนักคะแนน
พุทธพิ ิสัย
เลขท่ี
หน่วย คะแนนรายหน่วย
ความรู้ความจำ
ชอ่ื หน่วยเรียน ความเ ้ขาใจ
การนำไปใช้
สูงก ่วา
ัทกษะ ิพสัย

1 จา้ งแรงงาน 15 5 5 5 - -

2 พระราชบญั ญัติคมุ้ ครองแรงงาน พ.ศ. 2541 (การ 5 1 2 2 - -

ใชแ้ รงงาน) --

3 พระราชบญั ญตั ิค้มุ ครองแรงงาน พ.ศ. 2541 (คา้ 5 1 2 2 - -

จา้ ง คา่ ชดเชย) --

4 พระราชบญั ญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 (สวสั ดกิ าร 5 1 2 2 - -

และบทกำหนดโทษทางอาญา) --
5 พระราชบญั ญตั ิเงินทดแทน 10 2 4 4 - -
6 พระราชบัญญัติประกนั สังคม 10 2 4 4 - -
7 พระราชบัญญัติแรงงานสมั พันธพ์ .ศ. 2518 10 2 4 4 - -
8 กฎหมายว่าดว้ ยโรงงาน 10 2 4 4 - -

รวม 70 16 27 27 - -
ก คะแนนภาควิชาการ 70
ข คะแนนภาคผลงานท่มี อบหมาย 20
ค คะแนนภาคจติ พิสัย 10
100
รวมท้ังสนิ้

เคร่ืองมอื วัด

1) แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียน

พฤติกรรม เกณฑ์การประเมิน
ประจำ (2) บางคร้งั (1) ไมเ่ คย (0)

- การตรงตอ่ เวลา

- การแต่งกายถกู ระเบียบ

- การมีส่วนร่วม

- ความรบั ผิดชอบ

- การสรา้ งบรรยากาศที่ดี

เกณฑ์การประเมิน ผา่ นเกณฑ์ 50%

เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ ระดบั ดี

 ครูอาจารยอ์ าจให้นกั เรียนแตล่ ะคนทำรายงานค้นคว้าเน้ือหาสำคญั แต่หัวข้อของรายงานไมค่ วรจะซำ้ กนั

แลว้ ใหน้ ำมาส่งตามเวลาที่กำหนดไว้

2) แบบประเมินผลงาน

รายการประเมนิ ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1)

- เนือ้ หาถกู ต้อง

- รูปแบบสวยงาม

- มีความประณีตถกู แบบที่กำหนด

เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ ระดับดี

3) แบบประเมินผลการปฏิบตั งิ านกล่มุ

รายการพฤตกิ รรม ดีมาก (4) ปานกลาง(3) พอใช้ (2) ปรับปรงุ (1)

- การมีสว่ นรว่ ม ระดบั ดี
- มีความรบั ผดิ ชอบ
- สรา้ งบรรยากาศทีด่ ี
- การตรงต่อเวลา
- การมสี ัมมาคารวะ
- การมีความเชือ่ มั่นในตนเอง
เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ

แผนการจดั การเรียนรู้ บทท่ี 1

ชือ่ วชิ า กฎหมายแรงงาน (2001-1006) สอนครงั้ ที่ 1-3
ชอ่ื บท จ้างแรงงาน จำนวน 3 ช่วั โมง

รายการเรียนการสอน
1. ลกั ษณะทั่วไปของสัญญาจา้ งแรงงาน
2. หน้าทขี่ องลูกจา้ งที่ต้องทำงานใหแ้ ก่นายจ้าง
3. หน้าทข่ี องนายจา้ ง
4. กำหนดเวลาการจา้ ง
5. สทิ ธกิ ารเลกิ จ้างของนายจ้างตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
6. ความระงบั แหง่ สัญญาจ้างแรงงาน

ผลการเรยี นร้ทู ่คี าดหวงั
1. อธบิ ายถงึ ลกั ษณะของสญั ญาจ้างแรงงานได้
2. เขา้ ใจถงึ สิทธแิ ละหนา้ ท่ีของนายจ้างและลกู จ้างตามกฎหมายการจา้ งแรงงาน
3. เขา้ ใจถงึ เหตแุ หง่ สัญญาจ้างแรงงานเปน็ อันระงับได้
4. สามารถนำหลกั กฎหมายจ้างแรงงานไปสู่การปฏิบัตจิ รงิ ได้

สรุปเนอ้ื หาสำคญั
สัญญาจ้างแรงงานมีลักษณะเป็นสัญญาส่วนบุคคลเฉพาะระหว่างคู่สัญญาที่เรยี กว่านายจ้างและลกู จ้าง

โดยที่ลูกจา้ งตกลงจะทำงานให้แก่นายจ้าง และนายจ้างตกลงจะใหส้ ินจา้ งตลอดเวลาทีท่ ำงานให้
นายจ้างมีสิทธิจะบังคับบัญชาลูกจ้างได้ แต่ในขณะเดียวกันนายจ้างก็มีหน้าท่ีประการสำคัญ คือ

จา่ ยสนิ จ้างตามระยะเวลาท่ีลกู จา้ งทำงานให้
สิทธิของลูกจ้างน้ันนอกจากจะมีสิทธิตามท่ีบัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์แล้วยังมี

สิทธิตามกฎหมายอื่น ๆ เช่นกฎหมายแรงงาน
สัญญาจ้างแรงงานระงบั เม่ือส้นิ สดุ ระยะเวลาการจา้ งหรอื ระงบั โดยผลกฎหมาย
การจ้างทม่ี กี ำหนดเวลากับการจ้างทไ่ี มม่ กี ำหนดเวลามีผลทางกฎหมายต่างกัน

กิจกรรมการเรียนการสอน

กิจกรรมของครู กจิ กรรมของผเู้ รยี น คณุ ธรรมจรยิ ธรรมคณุ ลักษณะ

อนั พึงประสงค์

ขั้นเตรียม

1. ตรวจรายชือ่ ผ้เู รียนที่มาเข้าเรยี น - ผูเ้ รยี นฟังการเรยี กขานชือ่ 1. การแตง่ กายสุภาพเรยี บรอ้ ย

2. ตรวจการแต่งกาย 2. การมสี ัมมาคารวะ

3. อธบิ ายจดุ ประสงค์ของรายวชิ า - ผเู้ รยี นฟงั การบรรยาย 3. การมคี วามเชอ่ื มน่ั ในตนเอง

และบทเรียนหลักเกณฑก์ ารวัดผล คำอธบิ ายรายวิชาและผลการ 4. การตรงตอ่ เวลา

และประเมินผลในบทที่ 1 เรียนรทู้ ่ีคาดหวงั จดบนั ทึก 5. การกลา้ แสดงออก

4. ครูและผเู้ รยี นร่วมกนั สนทนา หลกั เกณฑ์การวัดผลประจำบท 6. ความรับผิดชอบ

เกย่ี วกับความหมายของจ้างแรงงาน และประเมินผล 7. มคี วามละเอยี ด รอบคอบ

5. ครซู กั ถามผ้เู รยี นเก่ยี วกบั จ้าง - แสดงความคิดเหน็

แรงงานตามความเข้าใจของผู้เรยี น

โดยท่ัวๆไปหรือที่ผเู้ รียนไดเ้ คยเรยี นรู้ - ตอบคำถาม

หรือเคยมปี ระสบการณม์ ากอ่ น

ขน้ั ดำเนนิ การ

1. นำเข้าสู่บทเรียนเก่ยี วกับจ้าง

แรงงาน ประกอบการใชส้ ือ่ Power

Point - ศกึ ษาจากส่ือ Power Point

2. อธิบายความหมายของจ้าง

แรงงาน - จดบนั ทึกยอ่ สาระสำคัญๆ

ยกตวั อย่าง จ้างแรงงาน

3. ต้ังปัญหาใหผ้ ู้เรียนตอบ - ตอบคำถามและซักถามข้อ

4. แบ่งกลมุ่ ผูเ้ รียนใหร้ ะดมความคดิ สงสยั

และดำเนนิ การอภิปรายตามกิจกรรม - แบง่ กลุ่มตามท่ีครูกำหนดและ

ในบทที่ 1 ที่เตรียมไวใ้ ห้ ดำเนินการระดมความคิดและ

ขั้นสรปุ อภิปรายตามกจิ กรรมท่ีกำหนด

1. สรปุ การอภิปราย

2. ตอบคำถามของผู้เรยี นทส่ี งสยั

3. มอบหมายงาน (ถา้ มี) - ฟงั ครูสรุปและซักถามเม่ือสงสัย

4. ประเมนิ ผลการเรยี นของผู้เรียน - ตั้งใจฟงั คำตอบ

ในบทท่ี 1 - จดบนั ทึกงานที่ไดร้ บั

5. บนั ทกึ ขอ้ มูลกจิ กรรมการเรยี น มอบหมาย

หลงั การสอน - ทำแบบประเมนิ ผลการเรียนรู้
- ขอดูผลการวดั ผลและ
ประเมินผล

สื่อการเรยี นการสอน
1. หนงั สอื เรียนวชิ ากฎหมายแรงงาน (2001–1006)
2. ภาพประกอบ
3. ใบเฉลยแบบประเมินผลการเรยี นรู้
4. PowerPoint

การวัดผลและประเมนิ ผล
1. วดั ตามจุดประสงคก์ ารเรียนรู้
2. วธิ วี ดั ผลและประเมินผล
- สังเกตการณ์มสี ่วนรว่ มในการทำกิจกรรม
- ประเมินตามสภาพจรงิ
- แบบประเมินผลการเรียนรู้
3. เกณฑก์ ารประเมินผล
- ผ่านเกณฑ์ 50%

ข้อเสนอแนะในการสอน ตอ้ งให้ผู้เรยี นมีส่วนร่วมในการเรียนการสอนโดย
1. ครู อาจารย์ มอบหมายงานใหท้ ำล่วงหนา้ ในสปั ดาหถ์ ัดไป

แบบประเมนิ ผลการปฏิบัตกิ ิจกรรม / ผลการปฏบิ ัติ บทที่ 1
ชอื่ ...................................................................สกลุ ...........................................................ระดับชนั้ ......................

ประเมนิ ตนเอง เพ่อื นประเมนิ

ดี พอใช้ ปรบั ปรุง ดี พอใช้ ปรับปรุง

ครปู ระเมิน

ดี
พอใช้
ปรับปรุง

ขอ้ เสนอแนะ
เมอ่ื ครูผสู้ อนได้ใหผ้ ู้เรียน และเพ่ือนประเมินแล้ว ควรรีบนำผลการประเมนิ ไปใส่ไว้ในใบใหค้ ะแนนท่ีได้

จัดเตรียมไว้แล้ว เพ่ือให้การประเมินผลไม่คลาดเคล่ือนและเร่งพัฒนาปรับปรุงผู้เรียนได้ในทันทีและเพื่อเป็น
ขอ้ มลู ในการประเมินผลเม่อื สิ้นภาคเรยี นตอ่ ไป

แผนการจัดการเรยี นรู้ บทที่ 2

ชือ่ วิชา กฎหมายแรงงาน (2001-1006) สอนครัง้ ท่ี 4-5
ชอื่ บท พระราชบัญญัตคิ ุ้มครองแรงงาน จำนวน 2 ชวั่ โมง

(การใชแ้ รงงาน)

รายการเรยี นการสอน
1. ลักษณะพิเศษของกฎหมายคุ้มครองแรงงาน
2. การใชแ้ รงงานท่วั ไป
3. การใชแ้ รงงานหญิง
4. การใช้แรงงานเดก็

ผลการเรียนรู้ท่ีคาดหวงั
1. รู้และเข้าใจการใชแ้ รงงานทัว่ ไปตามพระราชบัญญัติคมุ้ ครองแรงงาน พ.ศ. 2541
2. อธิบายสิทธิและหน้าท่ีของนายจ้าง ลูกจ้างระดับพ้ืนฐานทั่ว ๆ ไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครอง
แรงงาน พ.ศ. 2541
3. อธบิ ายการใชแ้ รงงานหญงิ และแรงงานเดก็
4. สามารถนำความรเู้ รอ่ื งการใช้แรงงานไปสู่การปฏบิ ตั ิจริงได้

สรปุ เนื้อหาสำคญั
การให้ความคุ้มครองแรงงานแก่ลูกจ้าง และการกำหนดความสัมพันธ์ระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง เป็น

ส่ิ ง ส ำ คั ญ ส ำ ห รั บ ก า ร ส ร้ า ง ส ร ร ค์ ค ว า ม เจ ริ ญ ก้ า ว ห น้ า ข อ งป ร ะ เท ศ เพื่ อ ให้ ก า ร ใช้ แ ร ง งา น เป็ น ไป โ ด ย
เหมาะสม และการแก้ไขข้อขัดแย้งระหว่างนายจ้างกับลูกจ้างให้เป็นไปโดยวิธีปรองดองและเป็นธรรม
แก่ทุกฝ่าย

ลักษณะพิเศษของกฎหมายคุ้มครองแรงงาน ถือว่าเป็นการกำหนดมาตรฐานข้ันต่ำที่นายจ้างพึง
ปฏิบัติต่อลูกจ้าง และใช้บังคับได้ระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง กฎหมายน้ีมีลักษณะพิเศษท่ีได้กำหนดโทษ ทาง
อาญาไว้ด้วย เป็นกฎหมายท่ีเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน นายจ้างลูกจ้างจะมาตกลงกันเป็น
อยา่ งอ่ืนไม่ได้

กฎหมายฉบับน้ีให้ความสำคัญจากความแตกต่างทางด้านสรีระระหว่างชายกับหญิงโดยเฉพาะความ
แขง็ แรงของรา่ งกาย และการมคี รรภข์ องเพศหญิงจึงไดร้ บั ความคุ้มครองเปน็ กรณพี ิเศษ

เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ท้ังร่างกายและจิตใจยังไม่เติบโตเต็มที่ไม่รู้จักรับผิดชอบและขาดความ
ระมัดระวงั กฎหมายจึงหา้ มมิใหผ้ ู้ใดจ้างโดยเด็ดขาด

กจิ กรรมการเรียนการสอน

กจิ กรรมของครู กจิ กรรมของผูเ้ รียน คุณธรรมจรยิ ธรรม

คุณลักษณะอันพึงประสงค์

ขน้ั เตรยี ม

1. ตรวจรายชอื่ ผ้เู รียนท่ีมาเข้าเรียน - ผูเ้ รยี นฟังการเรียกขานช่ือ 1. การแตง่ กายสภุ าพ

2. ตรวจการแตง่ กาย เรยี บร้อย

3. อธิบายจดุ ประสงคข์ องรายวชิ า - ผเู้ รียนฟังการบรรยาย คำอธิบาย 2. การมสี มั มาคารวะ

และบทเรยี นหลกั เกณฑ์การวัดผลและ รายวิชาและผลการเรียนรู้ท่ี 3. การมคี วามเชื่อมนั่ ใน

ประเมนิ ผลในบทที่ 2 คาดหวงั จดบันทกึ หลักเกณฑ์การ ตนเอง

4. ครูและผเู้ รียนร่วมกนั สนทนา วดั ผลประจำบทและประเมนิ ผล 4. การตรงตอ่ เวลา

เก่ยี วกับความหมายของ - แสดงความคิดเหน็ 5. การกลา้ แสดงออก

พระราชบญั ญัติคุม้ ครองแรงงาน (การ 6. ความรับผดิ ชอบ

ใช้แรงงาน) 7. มีความละเอยี ดรอบคอบ

5. ครซู ักถามผู้เรยี นเกยี่ วกับ - ตอบคำถาม

พระราชบญั ญัติคมุ้ ครองแรงงาน (การ

ใชแ้ รงงาน) ตามความเข้าใจของ

ผเู้ รียนโดยทั่วๆไปหรอื ท่ีผเู้ รียนได้เคย

เรยี นรู้หรอื เคยมีประสบการณ์มาก่อน

ข้ันดำเนินการ - ศกึ ษาจากสื่อ Power Point

1. นำเข้าส่บู ทเรียนเก่ียวกบั

พระราชบัญญตั ิคุ้มครองแรงงาน (การ

ใช้แรงงาน) ประกอบการใช้สื่อ - จดบันทกึ ย่อสาระสำคัญๆ

Power Point

2. อธบิ ายความหมายของ

พระราชบัญญัติคมุ้ ครองแรงงาน (การ

ใชแ้ รงงาน) ยกตวั อยา่ ง - ตอบคำถามและซักถามข้อสงสัย

พระราชบัญญตั ิคุ้มครองแรงงาน (การ - แบง่ กลมุ่ ตามที่ครกู ำหนดและ

ใชแ้ รงงาน) ดำเนนิ การระดมความคดิ และ

3. ตงั้ ปญั หาให้ผู้เรียนตอบ อภิปรายตามกิจกรรมท่ีกำหนด

4. แบ่งกลุ่มผเู้ รียนใหร้ ะดมความคิด

และดำเนนิ การอภิปรายตามกิจกรรม - ฟงั ครสู รุปและซักถามเม่ือสงสยั

ในบทที่ 2 - ตง้ั ใจฟงั คำตอบ

ท่เี ตรียมไว้ให้ - จดบนั ทึกงานท่ีได้รับมอบหมาย

ขัน้ สรุป - ทำแบบประเมนิ ผลการเรียนรู้

1. สรปุ การอภปิ ราย - ขอดูผลการวดั ผลและ

2. ตอบคำถามของผ้เู รยี นที่สงสัย ประเมินผล

3. มอบหมายงาน (ถ้ามี)

4. ประเมินผลการเรียนของผู้เรยี นใน

บทที่ 2

5. บนั ทึกขอ้ มูลกิจกรรมการเรยี นหลงั

การสอน

สอ่ื การเรยี นการสอน
1. หนังสือเรยี นวชิ ากฎหมายแรงงาน (2001–1006)
2. ภาพประกอบ
3. ใบเฉลยแบบประเมินผลการเรียนรู้
4. PowerPoint

การวดั ผลและประเมินผล
1. วดั ตามจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
2. วธิ วี ัดผลและประเมนิ ผล
- สงั เกตการณ์มสี ว่ นร่วมในการทำกิจกรรม
- ประเมินตามสภาพจริง
- แบบประเมินผลการเรยี นรู้
3. เกณฑ์การประเมนิ ผล
- ผ่านเกณฑ์ 50%

ขอ้ เสนอแนะในการสอน ต้องใหผ้ ูเ้ รยี นมสี ่วนร่วมในการเรยี นการสอนโดย
1. ครู อาจารย์ มอบหมายงานให้ทำล่วงหนา้ ในสัปดาห์ถดั ไป

แบบประเมนิ ผลการปฏิบตั กิ ิจกรรม / ผลการปฏบิ ัติ บทที่ 2
ชอื่ ...................................................................สกลุ ...........................................................ระดับชนั้ ......................

ประเมนิ ตนเอง เพื่อนประเมนิ

ดี พอใช้ ปรบั ปรุง ดี พอใช้ ปรับปรุง

ครปู ระเมนิ

ดี
พอใช้
ปรับปรุง

ขอ้ เสนอแนะ
เมอ่ื ครูผสู้ อนได้ใหผ้ ู้เรียน และเพ่ือนประเมินแล้ว ควรรีบนำผลการประเมินไปใส่ไวใ้ นใบใหค้ ะแนนท่ีได้

จัดเตรียมไว้แล้ว เพ่ือให้การประเมินผลไม่คลาดเคล่ือนและเร่งพัฒนาปรับปรุงผู้เรียนได้ในทันทีและเพื่อเป็น
ขอ้ มลู ในการประเมินผลเม่อื สิ้นภาคเรยี นตอ่ ไป

แผนการจดั การเรยี นรู้ บทท่ี 3

ชื่อวชิ า กฎหมายแรงงาน (2001-1006) สอนครั้งที่ 6-7
ช่ือบท พระราชบัญญตั ิคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 จำนวน 2 ชั่วโมง
(คา่ จ้าง ค่าชดเชย)

สาระการเรียนรู้
1. ค่าจา้ งและคา่ ชดเชย
2. คา่ ลว่ งเวลาและค่าทำงานในวันหยุด
3. คา่ ชดเชย
4. เหตทุ ่ีนายจ้างไมต่ ้องจา่ ยคา่ ชดเชย
5. คา่ ชดเชยพิเศษ

ผลการเรยี นรู้ที่คาดหวัง
1. อธิบายคา่ จ้าง คา่ ล่วงเวลาและค่าทำงานในวันหยุดได้
2. อธบิ ายคา่ ชดเชย เหตทุ นี่ ายจา้ งไมต่ ้องจา่ ยคา่ ชดเชยได้
3. อธิบายค่าชดเชยพิเศษได้
4. นำความร้คู วามเขา้ ใจเก่ยี วกบั คา่ จ้างและคา่ ชดเชยไปสู่การปฏบิ ัตจิ ริงได้

สรุปเน้ือหาสำคัญ
ลกู จา้ งมสิ ิทธิไดร้ ับค่าจ้างไมน่ อ้ ยกวา่ อตั ราค่าจ้างข้นั ตำ่
ลูกจ้างมีสิทธิได้รับค่าจ้างในวันหยุดประจำสัปดาห์ (ยกเว้นลูกจ้างรายวัน รายชั่วโมง หรือตามผลงาน

โดยคำนวณเป็นหนว่ ย) วนั หยดุ ตามประเพณีและวนั หยุดพกั ผ่อนประจำปีเท่ากับค่าจา้ งในวันทำงาน
ค่าชดเชย หมายถึง เงินที่นายจ้างจ่ายให้แก่ลูกจ้างเมื่อเลิกจ้าง นอกเหนือจากเงินประเภทอ่ืน ๆ ซ่ึง

นายจ้างตกลงจ่ายให้แก่ลูกจ้าง ค่าชดเชยนี้ นายจ้างจะต้องจ่ายเมื่อเลิกจ้างและเป็นการจ่ายนอกเหนือไปจาก
เงินประเภทอ่ืน ซึ่งนายจ้างตกลงจ่ายให้แก่ลูกจ้าง เพราะเม่ือลูกจ้างได้ทำงานกับนายจา้ งมาระยะหน่ึงแล้วหาก
จะต้องออกจากงานไปโดยไม่มีความผิด

ลูกจ้างคนใดท่ีมีกำหนดระยะเวลาการจ้างไว้แน่นอนและนายจ้างได้เลิกจ้างตามกำหนดเวลาน้ัน
นายจ้างไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย แต่ถ้านายจ้างเลิกจ้างก่อนครบกำหนดระยะเวลาหรือเลิกจ้างหลังกำหนด
ระยะเวลา นายจา้ งตอ้ งจ่ายคา่ ชดเชยให้

น า ย จ้ า ง ไม่ ต้ อ ง จ่ า ย ค่ า ช ด เช ย ให้ แ ก่ ลู ก จ้ า ง ซ่ึ ง เลิ ก จ้ า ง ใน ก ร ณี ห นึ่ ง ก ร ณี ใด ต า ม ที่ บั ญ ญั ติ ไว้ ใน
พระราชบัญญตั ิคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 มาตรา 119

กิจกรรมการเรยี นการสอน

กิจกรรมของครู กิจกรรมของผเู้ รยี น คณุ ธรรมจริยธรรม

คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์

ขัน้ เตรยี ม

1. ตรวจรายชอ่ื ผเู้ รียนท่มี าเข้าเรยี น - ผูเ้ รยี นฟังการเรียกขานชอ่ื 1. การแต่งกายสุภาพ

2. ตรวจการแตง่ กาย เรียบร้อย

3. อธบิ ายจดุ ประสงค์ของรายวิชา - ผเู้ รยี นฟงั การบรรยาย คำอธบิ าย 2. การมีสัมมาคารวะ

และบทเรยี นหลักเกณฑ์การวัดผล รายวิชาและผลการเรยี นรทู้ ่ี 3. การมคี วามเชอ่ื มน่ั ใน

และประเมนิ ผลในบทท่ี 3 คาดหวงั จดบันทึกหลักเกณฑ์การ ตนเอง

4. ครูและผู้เรียนรว่ มกนั สนทนา วดั ผลประจำบทและประเมนิ ผล 4. การตรงต่อเวลา

เกยี่ วกับความหมายของ 5. การกล้าแสดงออก

พระราชบญั ญตั ิคุ้มครองแรงงาน - แสดงความคิดเหน็ 6. ความรบั ผดิ ชอบ

พ.ศ. 2541 (คา่ จา้ ง ค่าชดเชย) 7. มีความละเอียดรอบคอบ

5. ครซู ักถามผเู้ รยี นเก่ยี วกับ

พระราชบญั ญัติคมุ้ ครองแรงงาน - ตอบคำถาม

พ.ศ. 2541 (คา่ จ้าง คา่ ชดเชย) ตาม

ความเขา้ ใจของผ้เู รียนโดยท่วั ๆ ไป

หรอื ที่ผูเ้ รียนไดเ้ คยเรียนร้หู รือเคยมี

ประสบการณ์มาก่อน

ขั้นดำเนินการ

1. นำเขา้ สบู่ ทเรยี นเกย่ี วกับ

พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน - ศึกษาจากสื่อ Power Point

พ.ศ. 2541 (คา่ จ้าง คา่ ชดเชย)

ประกอบการใช้ส่อื Power Point

2. อธิบายความหมายของการซ้ือ - จดบนั ทกึ ย่อสาระสำคญั ๆ

ขาย

ยกตัวอยา่ ง พระราชบัญญัตคิ ุ้มครอง

แรงงาน พ.ศ. 2541 (ค่าจ้าง - ตอบคำถามและซกั ถามข้อสงสัย

คา่ ชดเชย) - แบ่งกลมุ่ ตามท่ีครกู ำหนดและ

3. ตง้ั ปัญหาใหผ้ ้เู รียนตอบ ดำเนนิ การระดมความคิดและ

4. แบ่งกลุม่ ผเู้ รยี นให้ระดมความคิด อภปิ รายตามกจิ กรรมท่ีกำหนด

และดำเนินการอภิปรายตามกิจกรรม

ในบทที่ 3 ที่เตรียมไว้ให้

ข้นั สรุป - ฟงั ครูสรปุ และซักถามเมื่อสงสัย
1. สรุปการอภปิ ราย - ต้งั ใจฟงั คำตอบ
2. ตอบคำถามของผู้เรียนท่สี งสัย - จดบันทึกงานที่ไดร้ บั มอบหมาย
3. มอบหมายงาน (ถา้ มี) - ทำแบบประเมินผลการเรยี นรู้
4. ประเมินผลการเรียนของผู้เรียน
ในบทที่ .3.. - ขอดผู ลการวดั ผลและ
5. บันทึกขอ้ มูลกิจกรรมการเรยี น ประเมินผล
หลงั การสอน

ส่ือการเรียนการสอน
1. หนังสอื เรยี นวิชากฎหมายแรงงาน (2001–1006)
2. ภาพประกอบ
3. ใบเฉลยแบบประเมนิ ผลการเรียนรู้
4. PowerPoint

การวัดผลและประเมนิ ผล
1. วดั ตามจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
2. วิธวี ัดผลและประเมินผล
- สงั เกตการณ์มีสว่ นรว่ มในการทำกจิ กรรม
- ประเมนิ ตามสภาพจริง
- แบบประเมินผลการเรยี นรู้
3. เกณฑก์ ารประเมนิ ผล
- ผ่านเกณฑ์ 50%

ข้อเสนอแนะในการสอน ต้องให้ผเู้ รยี นมีส่วนร่วมในการเรยี นการสอนโดย
1. ครู อาจารย์ มอบหมายงานให้ทำลว่ งหนา้ ในสัปดาห์ถัดไป

แบบประเมนิ ผลการปฏิบัตกิ ิจกรรม / ผลการปฏิบตั ิ บทที่ 3
ชอื่ ...................................................................สกลุ ...........................................................ระดับชนั้ ......................

ประเมนิ ตนเอง เพื่อนประเมนิ

ดี พอใช้ ปรบั ปรุง ดี พอใช้ ปรับปรุง

ครปู ระเมนิ

ดี
พอใช้
ปรับปรุง

ขอ้ เสนอแนะ
เมอ่ื ครูผสู้ อนได้ใหผ้ ู้เรยี น และเพ่ือนประเมินแล้ว ควรรีบนำผลการประเมินไปใส่ไวใ้ นใบใหค้ ะแนนท่ีได้

จัดเตรียมไว้แล้ว เพื่อให้การประเมินผลไม่คลาดเคล่ือนและเร่งพัฒนาปรับปรุงผู้เรียนได้ในทันทีและเพื่อเป็น
ขอ้ มลู ในการประเมินผลเมือ่ สิ้นภาคเรียนตอ่ ไป

แผนการจัดการเรยี นรู้ บทท่ี 4

ช่ือวิชา กฎหมายแรงงาน (2001-1006) สอนครั้งท่ี 8
ช่ือบท พระราชบัญญตั คิ ุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 จำนวน 2 ช่ัวโมง
(สวัสดกิ ารและบทกำหนดโทษทางอาญา)

สาระการเรียนรู้
1. คณะกรรมการคา่ จา้ ง
2. สวสั ดิการ
3. ขอ้ บังคบั เกี่ยวกับการทำงาน
4. การยื่นคำร้องและการพิจารณาคำร้อง
5. อำนาจหน้าทขี่ องพนกั งานตรวจแรงงาน
6. บทกำหนดโทษทางอาญา

ผลการเรยี นรู้ท่คี าดหวัง
1. อธบิ ายบทบาทหน้าท่ขี องคณะกรรมการต่าง ๆ ตามทบี่ ญั ญัตไิ ว้ในพระราชบญั ญตั ิฉบบั นี้
2. เข้าใจการยื่นคำรอ้ ง การพจิ ารณาคำร้องและบทกำหนดโทษทางอาญาตามพระราชบัญญตั ฉิ บบั น้ี
3. สามารถนำความรคู้ วามเขา้ ใจไปปรบั ใช้ในการประกอบอาชีพได้

สรุปเน้ือหาสำคัญ
พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 ไดก้ ำหนดให้มีคณะกรรมการต่าง ๆ เช่น คณะกรรมการ

คา่ จา้ ง เพื่อกำหนดอตั ราค่าจา้ งขั้นตำ่ ที่นายจ้างจะต้องจ่ายให้แก่ลกู จา้ งไว้
คณะกรรมการสวสั ดิการแรงงาน เพือ่ ใหน้ ายจ้างจดั ให้มีสวัสดิการที่เป็นประโยชน์สำหรับลูกจา้ ง
คณะกรรมการความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงานเพ่ือให้นายจ้างจัด

มาตรฐานในดา้ นความปลอดภัยในสถานประกอบกิจการ เพ่ือให้ลกู จ้างได้ทำงานในสถานท่ีปลอดภัย และจัด
ให้มีข้อบังคับเก่ียวกับการทำงานต่าง ๆ รวมท้ังให้ความคุ้มครองว่า ลูกจ้างจะได้รับการปฏิบัติ อย่างเป็นธรรม
ไม่ถูกพักงานในระหว่างการสอบสวนในการถูกกล่าวหาจากนายจ้างว่าได้กระทำผิดให้สิทธิแก่ลูกจ้างในการย่ืน
คำร้องและการพิจารณาคำร้องของพนักงาน เจ้าหน้าท่ีด้วยเหตุที่นายจ้าง ฝ่าฝืนและไม่ปฏิบัติตามและมี
บทลงโทษทางอาญาในพระราชบญั ญัตฉิ บับนีด้ ้วย

กจิ กรรมของครู กิจกรรมการเรยี นการสอน คณุ ธรรมจริยธรรม
กิจกรรมของผเู้ รยี น คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
ขน้ั เตรียม
1. ตรวจรายช่อื ผู้เรยี นทมี่ าเข้าเรียน - ผูเ้ รยี นฟังการเรียกขานชอ่ื 1. การแต่งกายสุภาพ
2. ตรวจการแต่งกาย - ผเู้ รยี นฟงั การบรรยาย คำอธบิ าย เรียบร้อย
3. อธิบายจุดประสงค์ของรายวิชา รายวิชาและผลการเรยี นรู้ท่ี 2. การมีสัมมาคารวะ
และบทเรียนหลักเกณฑก์ ารวัดผล คาดหวงั จดบันทึกหลักเกณฑ์การ 3. การมคี วามเชอ่ื มน่ั ใน
และประเมินผลในบทท่ี 4 วดั ผลประจำบทและประเมนิ ผล ตนเอง
4. ครูและผเู้ รยี นร่วมกนั สนทนา - แสดงความคิดเหน็ 4. การตรงต่อเวลา
เกีย่ วกบั ความหมายของ พ.ร.บ 5. การกล้าแสดงออก
คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 - ตอบคำถาม 6. ความรบั ผดิ ชอบ
(สวัสดิการและบทกำหนดโทษทาง 7. มีความละเอียดรอบคอบ
อาญา) - ศึกษาจากสื่อ Power Point
5. ครูซกั ถามผูเ้ รยี นเกยี่ วกับ พ.ร.บ
คมุ้ ครองแรงงาน พ.ศ. 2541 - จดบนั ทกึ ย่อสาระสำคญั ๆ
(สวัสดิการและบทกำหนดโทษทาง
อาญา) ตามความเข้าใจของผ้เู รยี น - ตอบคำถามและซกั ถามข้อสงสัย
โดยทวั่ ๆไปหรอื ท่ผี เู้ รียนไดเ้ คยเรยี นรู้ - แบ่งกลมุ่ ตามท่ีครกู ำหนดและ
หรอื เคยมีประสบการณม์ าก่อน ดำเนนิ การระดมความคิดและ
ขน้ั ดำเนนิ การ อภปิ รายตามกจิ กรรมท่ีกำหนด
1. นำเข้าสู่บทเรยี นเกย่ี วกับ พ.ร.บ
คมุ้ ครองแรงงาน พ.ศ. 2541
(สวัสดกิ ารและบทกำหนดโทษทาง
อาญา) ประกอบการใชส้ ื่อ Power
Point
2. อธิบายความหมายของ พ.ร.บ
คมุ้ ครองแรงงาน พ.ศ. 2541
(สวสั ดกิ ารและบทกำหนดโทษทาง
อาญา)
ยกตวั อยา่ ง พ.ร.บค้มุ ครองแรงงาน
พ.ศ. 2541 (สวัสดิการและบท
กำหนดโทษทางอาญา)

3. ต้ังปญั หาใหผ้ เู้ รียนตอบ

4. แบ่งกล่มุ ผู้เรียนใหร้ ะดมความคิด

และดำเนนิ การอภปิ รายตามกิจกรรม - ฟงั ครูสรุปและซักถามเม่ือสงสยั

ในบทท่ี 4 ทเ่ี ตรียมไว้ให้ - ตัง้ ใจฟงั คำตอบ

ข้ันสรุป - จดบันทกึ งานที่ได้รับมอบหมาย

1. สรปุ การอภิปราย - ทำแบบประเมินผลการเรียนรู้

2. ตอบคำถามของผู้เรยี นที่สงสัย - ขอดผู ลการวัดผลและ

3. มอบหมายงาน (ถา้ มี) ประเมนิ ผล

4. ประเมนิ ผลการเรยี นของผู้เรียน

ในบทที่ 4

5. บันทึกข้อมลู กจิ กรรมการเรยี น

หลงั การสอน

ส่อื การเรยี นการสอน
1. หนงั สอื เรียนวิชากฎหมายแรงงาน (2001–1006)
2. ภาพประกอบ
3. ใบเฉลยแบบประเมนิ ผลการเรียนรู้
4. PowerPoint

การวัดผลและประเมินผล
1. วดั ตามจดุ ประสงค์การเรียนรู้
2. วิธวี ัดผลและประเมินผล
- สงั เกตการณ์มีสว่ นรว่ มในการทำกิจกรรม
- ประเมินตามสภาพจริง
- แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
3. เกณฑ์การประเมนิ ผล
- ผา่ นเกณฑ์ 50%

ข้อเสนอแนะในการสอน ต้องใหผ้ ูเ้ รยี นมสี ่วนร่วมในการเรียนการสอนโดย
1. ครู อาจารย์ มอบหมายงานใหท้ ำล่วงหนา้ ในสปั ดาห์ถดั ไป

แบบประเมนิ ผลการปฏิบัตกิ ิจกรรม / ผลการปฏบิ ัติ บทที่ 4
ชอื่ ...................................................................สกลุ ...........................................................ระดับชนั้ ......................

ประเมนิ ตนเอง เพื่อนประเมนิ

ดี พอใช้ ปรบั ปรุง ดี พอใช้ ปรับปรุง

ครปู ระเมนิ

ดี
พอใช้
ปรับปรุง

ขอ้ เสนอแนะ
เมอ่ื ครูผสู้ อนได้ใหผ้ ู้เรียน และเพ่ือนประเมินแล้ว ควรรีบนำผลการประเมินไปใส่ไวใ้ นใบใหค้ ะแนนท่ีได้

จัดเตรียมไว้แล้ว เพ่ือให้การประเมินผลไม่คลาดเคล่ือนและเร่งพัฒนาปรับปรุงผู้เรียนได้ในทันทีและเพื่อเป็น
ขอ้ มลู ในการประเมินผลเม่อื สิ้นภาคเรยี นตอ่ ไป

แผนการจัดการเรียนรู้ บทท่ี 5

ชอ่ื วชิ า กฎหมายแรงงาน (2001-1006) สอนคร้งั ที่ 10-11
ช่อื บท พระราชบัญญตั ิเงนิ ทดแทน จำนวน 2 ช่วั โมง

สาระการเรียนรู้
1. พระราชบญั ญตั ิเงนิ ทดแทน
2. หลักเกณฑก์ ารจา่ ยเงนิ คา่ ฟนื้ ฟูสมรรถภาพในการทำงานของลูกจา้ ง
3. ขอ้ ปฏบิ ัตกิ ารจ่ายทดแทนของนายจ้างหรือสำนกั งานจ่ายเงิน
4. กรณีศึกษาตวั อยา่ งเกย่ี วกบั การจ่ายเงนิ ทดแทน

ผลการเรยี นรทู้ ีค่ าดหวัง
1. อธบิ ายเงินทดแทนได้
2. รแู้ ละเข้าใจหลักเกณฑ์การจา่ ยเงินค่าฟ้นื ฟูสมรรถภาพและเงินค่าทดแทนได้
3. สามารถวิเคราะหก์ รณีศกึ ษาตัวอย่างเกย่ี วกบั การจ่ายเงินทดแทนได้
4. นำหลักกฎหมายไปสู่การปฏบิ ัตจิ รงิ ได้

สรุปเน้ือหาสำคัญ
ลูกจ้างประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย อันเนื่องมาจากการทำงานให้นายจ้าง นายจ้างจะต้องจัดให้

ลูกจ้างได้รับการรักษาพยาบาลทันที ตามความเหมาะสมแก่อันตรายหรือความเจ็บป่วยนั้น และให้นายจ้าง
จ่ายค่ารักษาพยาบาลเทา่ ที่จา่ ยจรงิ ตามความจำเปน็ แตไ่ ม่เกินอัตราทก่ี ำหนดไวใ้ นกฎกระทรวง

เม่อื ปรากฏวา่ ลกู จา้ งประสบอนั ตรายเจบ็ ป่วย หรือสญู หาย นายจ้างต้องแจ้งเหตุท่เี กิดข้นึ กับลกู จ้างต่อ
สำนักงานแห่งท้องที่ท่ีลูกจ้างทำงานอยู่ หรือท่ีนายจ้างมีภูมิลำเนาอยู่ ตามแบบต่อเลขาธิการภายใน 15 วัน
นบั แต่วันท่ีนายจ้างทราบเรอื่ ง

นายจ้างไม่ต้องจ่ายเงนิ ทดแทนในการประสบอนั ตรายหรือเจ็บป่วยของลูกจ้างเพราะเหตุอย่างใดอย่าง
หนึง่ คือ

1) ลูกจา้ งเสพของมึนเมาหรือสง่ิ เสพติดอนื่ จนไมส่ ามารถครองสตไิ ด้
2) ลกู จา้ งจงใจใหต้ นเองประสบอันตรายหรือยอมใหผ้ ้อู ื่นทำให้ตนประสบอันตราย

กิจกรรมการเรียนการสอน

กิจกรรมของครู กิจกรรมของผเู้ รียน คุณธรรมจรยิ ธรรม

คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์

ขนั้ เตรียม

1. ตรวจรายชอ่ื ผู้เรยี นทีม่ าเข้าเรียน - ผู้เรียนฟังการเรียกขานชือ่ 1. การแต่งกายสุภาพ

2. ตรวจการแตง่ กาย เรียบรอ้ ย

3. อธิบายจุดประสงคข์ องรายวิชา - ผู้เรยี นฟงั การบรรยาย คำอธิบาย 2. การมสี ัมมาคารวะ

และบทเรยี นหลักเกณฑก์ ารวัดผล รายวิชาและผลการเรยี นรทู้ ี่ 3. การมคี วามเชื่อมน่ั ใน

และประเมนิ ผลในบทที่ 5 คาดหวังจดบันทึกหลักเกณฑ์การ ตนเอง

4. ครูและผูเ้ รยี นร่วมกนั สนทนา วดั ผลประจำบทและประเมนิ ผล 4. การตรงตอ่ เวลา

เกี่ยวกับความหมายของ - แสดงความคดิ เห็น 5. การกลา้ แสดงออก

พระราชบัญญตั ิเงินทดแทน 6. ความรับผดิ ชอบ

5. ครูซกั ถามผู้เรยี นเกี่ยวกบั - ตอบคำถาม 7. มคี วามละเอยี ดรอบคอบ

พระราชบญั ญตั ิเงินทดแทนตาม

ความเขา้ ใจของผ้เู รยี นโดยทั่วๆไป

หรือท่ีผเู้ รยี นไดเ้ คยเรียนรหู้ รอื เคยมี

ประสบการณ์มาก่อน

ขน้ั ดำเนินการ

1. นำเข้าสูบ่ ทเรียนเก่ยี วกบั - ศึกษาจากส่ือ Power Point

พระราชบญั ญตั ิเงนิ ทดแทน

ประกอบการใช้สอื่ Power Point - จดบันทึกย่อสาระสำคัญๆ

2. อธบิ ายความหมายของ

พระราชบัญญัติเงินทดแทน

ยกตวั อยา่ ง พระราชบญั ญัติเงิน - ตอบคำถามและซักถามข้อสงสัย

ทดแทน - แบ่งกลุ่มตามท่ีครกู ำหนดและ

3. ตง้ั ปญั หาใหผ้ เู้ รียนตอบ ดำเนนิ การระดมความคิดและ

4. แบง่ กล่มุ ผู้เรยี นให้ระดมความคิด อภปิ รายตามกิจกรรมที่กำหนด

และดำเนินการอภิปรายตามกิจกรรม

ในบทที่ ..5.. ท่เี ตรยี มไวใ้ ห้

ขน้ั สรุป - ฟงั ครสู รปุ และซักถามเมื่อสงสยั

1. สรปุ การอภปิ ราย - ต้งั ใจฟังคำตอบ

2. ตอบคำถามของผู้เรยี นท่ีสงสัย - จดบันทึกงานท่ีได้รบั มอบหมาย

3. มอบหมายงาน (ถา้ มี) - ทำแบบประเมินผลการเรียนรู้

4. ประเมนิ ผลการเรยี นของผู้เรียน - ขอดูผลการวัดผลและ
ในบทที่ 5 ประเมินผล
5. บนั ทกึ ข้อมูลกิจกรรมการเรียน
หลังการสอน

ส่อื การเรียนการสอน
1. หนังสอื เรียนวชิ ากฎหมายแรงงาน (2001–1006)
2. ภาพประกอบ
3. ใบเฉลยแบบประเมนิ ผลการเรียนรู้
4. PowerPoint

การวดั ผลและประเมินผล
1. วดั ตามจดุ ประสงค์การเรียนรู้
2. วธิ วี ัดผลและประเมนิ ผล
- สงั เกตการณม์ ีสว่ นร่วมในการทำกจิ กรรม
- ประเมนิ ตามสภาพจริง
- แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
3. เกณฑ์การประเมินผล
- ผา่ นเกณฑ์ 50%

ขอ้ เสนอแนะในการสอน ตอ้ งใหผ้ ู้เรียนมีส่วนร่วมในการเรียนการสอนโดย
1. ครู อาจารย์ มอบหมายงานใหท้ ำลว่ งหนา้ ในสัปดาห์ถดั ไป

แบบประเมนิ ผลการปฏิบัตกิ ิจกรรม / ผลการปฏบิ ัติ บทที่ 5
ชอื่ ...................................................................สกลุ ...........................................................ระดับชัน้ ......................

ประเมนิ ตนเอง เพื่อนประเมนิ

ดี พอใช้ ปรบั ปรุง ดี พอใช้ ปรบั ปรุง

ครปู ระเมนิ

ดี
พอใช้
ปรับปรุง

ขอ้ เสนอแนะ
เมอ่ื ครูผสู้ อนได้ใหผ้ ู้เรียน และเพ่ือนประเมินแล้ว ควรรีบนำผลการประเมินไปใส่ไว้ในใบให้คะแนนทีไ่ ด้

จัดเตรียมไว้แล้ว เพ่ือให้การประเมินผลไม่คลาดเคล่ือนและเร่งพัฒนาปรับปรุงผู้เรียนได้ในทันทีและเพ่ือเป็น
ขอ้ มลู ในการประเมินผลเม่อื สิ้นภาคเรยี นตอ่ ไป

แผนการจัดการเรียนรู้ บทที่ 6

ชอ่ื วชิ า กฎหมายแรงงาน (2001-1006) สอนครง้ั ที่ 12-13
ชอื่ บท พระราชบัญญัตปิ ระกนั สงั คม จำนวน 2 ชั่วโมง

สาระการเรยี นรู้
1. พระราชบัญญตั ปิ ระกันสงั คม
2. เงินสมทบกองทนุ ประกันสงั คม
3. ประโยชน์ทดแทน
4. กองทุนเงนิ ทดแทน

ผลการเรยี นรู้ที่คาดหวัง
1. อธิบายพระราชบญั ญัติประกันสงั คมได้
2. อธิบายกองทุนเงินทดแทนได้
3. นำความร้คู วามเขา้ ใจไปสู่การปฏิบัตจิ ริงได้

สรุปเนอ้ื หาสำคญั
การประกันสังคมเป็นการสร้างหลักประกันในการดำรงชีวิตในกลุ่มของสมาชิกท่ีเข้าร่วมโครงการเพื่อ

รับผิดชอบในการเฉลี่ยความเส่ียงที่อาจเกิดขึ้นจาการป่วยเจ็บ คลอดบุตร ตาย ทุพพลภาพ สงเคราะห์บุตร
ชราภาพ และการว่างงาน เพ่อื ให้ไดร้ ับการรักษาพยาบาล และมีรายไดอ้ ย่างตอ่ เน่อื ง

พระราชกฤษฎีกาให้ใช้พระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533 บังคับแก่นายจ้างท่ีมีลูกจ้างต้ังแต่ 1
คนขึน้ ไป พ.ศ. 2545 มาตรา 3 บังคับไว้ว่า จะต้องยื่นขอข้ึนทะเบียนภายใน 30 วันและเม่ือลูกจ้างเพิ่มจะต้อง
ให้ลกู จา้ งใหมย่ น่ื ข้นึ ทะเบยี นหากยังไม่เคยมบี ตั รประกันสงั คมมาก่อน

กองทุนเงินทดแทนเป็นกองทุนตามพระราชบัญญัติเงินทดแทน พ.ศ. 2537 เพื่อเป็นทุนให้มีการจ่าย
ทดแทนแก่ลูกจ้างแทนนายจ้างเมื่อลูกจ้างประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยหรือถึงแก่ความตายหรือสูญหาย
เนื่องจากการทำงานให้นายจ้างซึ่งแตกต่างจากกองทุนประกันสังคม เช่น เหตุท่ีเกิดไม่จำเป็นต้องเน่ืองจากการ
ทำงานให้แก่นายจา้ ง เป็นต้น

กจิ กรรมการเรียนการสอน

กิจกรรมของครู กิจกรรมของผเู้ รยี น คุณธรรมจริยธรรม

คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์

ขั้นเตรยี ม

1. ตรวจรายชอ่ื ผเู้ รียนท่ีมาเข้าเรียน - ผเู้ รียนฟังการเรยี กขานช่ือ 1. การแตง่ กายสุภาพ

2. ตรวจการแต่งกาย เรียบรอ้ ย

3. อธิบายจดุ ประสงคข์ องรายวิชา - ผูเ้ รยี นฟังการบรรยาย คำอธิบาย 2. การมีสมั มาคารวะ

และบทเรียนหลกั เกณฑ์การวัดผล รายวิชาและผลการเรียนรทู้ ี่ 3. การมีความเช่อื มนั่ ใน

และประเมินผลในบทท่ี 6 คาดหวงั จดบนั ทกึ หลักเกณฑ์การ ตนเอง

4. ครูและผู้เรียนร่วมกนั สนทนา วดั ผลประจำบทและประเมินผล 4. การตรงต่อเวลา

เก่ยี วกับความหมายของ - แสดงความคิดเห็น 5. การกล้าแสดงออก

พระราชบญั ญตั ิประกนั สังคม 6. ความรบั ผิดชอบ

5. ครูซักถามผูเ้ รียนเกี่ยวกบั - ตอบคำถาม 7. มีความละเอียดรอบคอบ

พระราชบญั ญัติประกนั สังคม ตาม

ความเข้าใจของผเู้ รียนโดยทั่วๆไป

หรอื ทผี่ ู้เรยี นไดเ้ คยเรยี นรูห้ รอื เคยมี

ประสบการณ์มาก่อน

ข้นั ดำเนินการ

1. นำเข้าสู่บทเรียนเก่ียวกับ - ศึกษาจากส่ือ Power Point

พระราชบญั ญตั ิประกันสังคม

ประกอบการใช้สื่อ Power Point - จดบันทกึ ย่อสาระสำคัญๆ

2. อธบิ ายความหมายของ

พระราชบัญญัติประกันสงั คม

ยกตวั อย่าง พระราชบญั ญัติ

ประกันสังคม - ตอบคำถามและซกั ถามข้อสงสัย

3. ตง้ั ปญั หาให้ผู้เรียนตอบ - แบง่ กลุ่มตามที่ครกู ำหนดและ

4. แบ่งกลุ่มผูเ้ รยี นให้ระดมความคดิ ดำเนนิ การระดมความคดิ และ

และดำเนินการอภิปรายตามกิจกรรม อภปิ รายตามกจิ กรรมที่กำหนด

ในบทที่ ..6.. ท่เี ตรียมไวใ้ ห้

ข้นั สรุป

1. สรปุ การอภิปราย - ฟงั ครูสรปุ และซักถามเม่ือสงสัย

2. ตอบคำถามของผเู้ รียนทีส่ งสัย - ตั้งใจฟงั คำตอบ

3. มอบหมายงาน (ถา้ มี) - จดบนั ทกึ งานที่ได้รับมอบหมาย

4. ประเมนิ ผลการเรียนของผู้เรียน - ทำแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
ใน
บทที่ 6 - ขอดผู ลการวัดผลและ
5. บนั ทกึ ขอ้ มูลกจิ กรรมการเรียน ประเมนิ ผล
หลังการสอน

ส่อื การเรียนการสอน
1. หนังสอื เรียนวชิ ากฎหมายแรงงาน (2001–1006)
2. ภาพประกอบ
3. ใบเฉลยแบบประเมินผลการเรียนรู้
4. PowerPoint

การวัดผลและประเมนิ ผล
1. วัดตามจุดประสงค์การเรยี นรู้
2. วิธวี ดั ผลและประเมินผล
- สงั เกตการณม์ ีส่วนร่วมในการทำกจิ กรรม
- ประเมินตามสภาพจรงิ
- แบบประเมินผลการเรียนรู้
3. เกณฑก์ ารประเมนิ ผล
- ผา่ นเกณฑ์ 50%

ข้อเสนอแนะในการสอน ต้องให้ผ้เู รยี นมสี ่วนร่วมในการเรยี นการสอนโดย
1. ครู อาจารย์ มอบหมายงานใหท้ ำลว่ งหนา้ ในสปั ดาหถ์ ดั ไป

แบบประเมนิ ผลการปฏิบัตกิ ิจกรรม / ผลการปฏบิ ัติ บทที่ 6
ชอื่ ...................................................................สกลุ ...........................................................ระดับชัน้ ......................

ประเมนิ ตนเอง เพื่อนประเมนิ

ดี พอใช้ ปรบั ปรุง ดี พอใช้ ปรับปรงุ

ครปู ระเมนิ

ดี
พอใช้
ปรับปรุง

ขอ้ เสนอแนะ
เมอ่ื ครูผสู้ อนได้ใหผ้ ู้เรียน และเพ่ือนประเมินแล้ว ควรรีบนำผลการประเมินไปใส่ไวใ้ นใบให้คะแนนทไี่ ด้

จัดเตรียมไว้แล้ว เพ่ือให้การประเมินผลไม่คลาดเคล่ือนและเร่งพัฒนาปรับปรุงผู้เรียนได้ในทันทีและเพื่อเป็น
ขอ้ มลู ในการประเมินผลเม่อื สิ้นภาคเรยี นตอ่ ไป

แผนการจดั การเรียนรู้ บทที่ 7

ชื่อวชิ า กฎหมายแรงงาน (2001-1006) สอนครัง้ ท่ี 14-16
ชื่อบท พระราชบัญญัตแิ รงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518 จำนวน 3 ชวั่ โมง

สาระการเรียนรู้
1. องคก์ ารดา้ นแรงงานในพระราชบัญญตั ิแรงงานสัมพนั ธ์ พ.ศ. 2518
2. ขอ้ ตกลงเก่ยี วกับสภาพการจา้ งและวิธกี ารระงับข้อพิพาท
3. การกระทำอนั ไมเ่ ป็นธรรม

ผลการเรยี นรู้ทีค่ าดหวงั
1. อธิบายองคก์ ารด้านแรงงานในพระราชบญั ญตั แิ รงงานสมั พันธ์ พ.ศ. 2518ได้
2. อธบิ ายขอ้ ตกลงเกย่ี วกับสภาพการจา้ งและวธิ กี ารระงับข้อพิพาทได้
3. อธิบายการกระทำอันไม่เป็นธรรมได้
4. นำความรู้ความเขา้ ใจในกฎหมายฉบับนี้ไปส่กู ารปฏบิ ัตจิ ริงได้

สรปุ เนื้อหาสำคญั
พระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ ได้แบ่งองค์กรด้านแรงงานออกเป็น 3 ฝ่าย คือ องค์กรฝ่ายนายจ้าง

ได้แก่ สมาคมนายจา้ ง สหพนั ธ์นายจ้าง สภาองค์กรนายจา้ ง
องค์กรฝ่ายลูกจ้าง ได้แก่ สหภาพแรงงาน สหพันธแ์ รงงาน สภาองคก์ รลกู จ้าง คณะกรรมการลูกจ้าง
องค์กรฝ่ายกลาง ได้แก่ ผู้แทนของรัฐ ผู้แทนของนายจ้าง และผู้แทนของลูกจ้าง โดยเรียกว่า

คณะกรรมการแรงงานสัมพนั ธ์
กฎหมายกำหนดให้สถานประกอบการที่มีลูกจ้างต้ังแต่ยี่สิบคนขึ้นไป จัดให้มีข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพ

การจ้าง ข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างมีผลใช้บังคับภายในระยะเวลาที่นายจ้าง และลูกจ้างได้ตกลงกัน แต่
จะตกลงกนั ใหม้ ผี ลใชบ้ ังคบั เกนิ กวา่ สามปีไมไ่ ด้ ขอ้ ตกลงเก่ยี วกับสภาพการจา้ งให้ทำเปน็ หนังสือ

กิจกรรมการเรียนการสอน

กิจกรรมของครู กิจกรรมของผเู้ รียน คณุ ธรรมจริยธรรม

คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์

ขั้นเตรียม

1. ตรวจรายชอื่ ผู้เรียนท่ีมาเข้าเรียน - ผูเ้ รยี นฟังการเรียกขานชอ่ื 1. การแต่งกายสุภาพ

2. ตรวจการแตง่ กาย เรียบร้อย

3. อธิบายจดุ ประสงค์ของรายวชิ า - ผเู้ รยี นฟงั การบรรยาย คำอธบิ าย 2. การมีสัมมาคารวะ

และบทเรียนหลักเกณฑก์ ารวัดผล รายวิชาและผลการเรยี นรทู้ ี่ 3. การมคี วามเชอ่ื มน่ั ใน

และประเมนิ ผลในบทที่ 7 คาดหวงั จดบันทึกหลักเกณฑ์การ ตนเอง

4. ครูและผู้เรยี นร่วมกนั สนทนา วดั ผลประจำบทและประเมนิ ผล 4. การตรงต่อเวลา

เกยี่ วกับความหมายของ - แสดงความคิดเหน็ 5. การกล้าแสดงออก

พระราชบัญญัติแรงงานสมั พนั ธพ์ .ศ. 6. ความรบั ผดิ ชอบ

2518 7. มีความละเอียดรอบคอบ

5. ครซู ักถามผูเ้ รียนเกีย่ วกบั - ตอบคำถาม

พระราชบญั ญตั ิแรงงานสมั พนั ธ์พ.ศ.

2518 ตามความเขา้ ใจของผเู้ รียน

โดยทัว่ ๆไปหรือท่ีผ้เู รยี นเคยเรียนรู้

หรอื เคยมปี ระสบการณ์มากอ่ น

ขน้ั ดำเนนิ การ - ศึกษาจากสื่อ Power Point

1. นำเข้าสูบ่ ทเรียนเกี่ยวกบั

พระราชบัญญัติแรงงานสัมพนั ธพ์ .ศ.

2518 - จดบนั ทกึ ย่อสาระสำคญั ๆ

ประกอบการใชส้ ่อื Power Point

2. อธิบายความหมายของ

พระราชบัญญตั ิแรงงานสมั พนั ธ์พ.ศ.

2518 - ตอบคำถามและซกั ถามข้อสงสัย

ยกตัวอย่าง พระราชบญั ญัติแรงงาน - แบ่งกลมุ่ ตามท่ีครกู ำหนดและ

สมั พันธ์พ.ศ. 2518 ดำเนนิ การระดมความคิดและ

3. ตัง้ ปญั หาให้ผเู้ รยี นตอบ อภปิ รายตามกิจกรรมที่กำหนด

4. แบ่งกลมุ่ ผเู้ รียนใหร้ ะดมความคิด

และดำเนนิ การอภิปรายตามกิจกรรม

ในบทที่ 7 ท่เี ตรียมไวใ้ ห้

ขัน้ สรุป - ฟงั ครสู รปุ และซักถามเมื่อสงสัย
1. สรปุ การอภปิ ราย - ตัง้ ใจฟังคำตอบ
2. ตอบคำถามของผเู้ รียนทส่ี งสยั - จดบันทึกงานที่ได้รบั มอบหมาย
3. มอบหมายงาน (ถา้ มี) - ทำแบบประเมินผลการเรียนรู้
4. ประเมินผลการเรยี นของผู้เรียน
ใน - ขอดูผลการวดั ผลและ
บทที่ 7 ประเมนิ ผล
5. บนั ทึกขอ้ มูลกจิ กรรมการเรียน
หลงั การสอน

สอ่ื การเรียนการสอน
1. หนังสือเรยี นวิชากฎหมายแรงงาน (2001–1006)
2. ภาพประกอบ
3. ใบเฉลยแบบประเมนิ ผลการเรียนรู้
4. PowerPoint

การวดั ผลและประเมนิ ผล
1. วัดตามจดุ ประสงค์การเรยี นรู้
2. วธิ วี ดั ผลและประเมินผล
- สังเกตการณ์มีส่วนรว่ มในการทำกิจกรรม
- ประเมนิ ตามสภาพจรงิ
- แบบประเมินผลการเรียนรู้
3. เกณฑ์การประเมนิ ผล
- ผ่านเกณฑ์ 50%

ขอ้ เสนอแนะในการสอน ต้องให้ผูเ้ รยี นมสี ่วนร่วมในการเรยี นการสอนโดย
1. ครู อาจารย์ มอบหมายงานให้ทำลว่ งหนา้ ในสัปดาหถ์ ัดไป

แบบประเมนิ ผลการปฏิบัตกิ ิจกรรม / ผลการปฏบิ ัติ บทที่ 7
ชอื่ ...................................................................สกลุ ...........................................................ระดับชนั้ ......................

ประเมนิ ตนเอง เพื่อนประเมนิ

ดี พอใช้ ปรบั ปรุง ดี พอใช้ ปรับปรุง

ครปู ระเมนิ

ดี
พอใช้
ปรับปรุง

ขอ้ เสนอแนะ
เมอ่ื ครูผสู้ อนได้ใหผ้ ู้เรียน และเพ่ือนประเมินแล้ว ควรรีบนำผลการประเมินไปใส่ไว้ในใบใหค้ ะแนนท่ีได้

จัดเตรียมไว้แล้ว เพ่ือให้การประเมินผลไม่คลาดเคล่ือนและเร่งพัฒนาปรับปรุงผู้เรียนได้ในทันทีและเพื่อเป็น
ขอ้ มลู ในการประเมินผลเม่อื สิ้นภาคเรยี นตอ่ ไป

แผนการจดั การเรยี นรู้ บทที่ 8

ช่ือวิชา กฎหมายแรงงาน (2001-1006) สอนครัง้ ท่ี 17
ช่ือบท กฎหมายว่าดว้ ยโรงงาน จำนวน 1 ชัว่ โมง

สาระการเรยี นรู้
1. ความหมาย ความสำคญั ของกฎหมายว่าด้วยโรงงาน
2. หน้าทีข่ องผู้ประกอบกิจการในโรงงานตาม พ.ร.บ. โรงงาน พ.ศ. 2535
3. อำนาจหนา้ ที่ของพนกั งานเจา้ หน้าท่ีในบางประการ
4. พระราชบญั ญตั ิโรงงาน พ.ศ. 2535

ผลการเรยี นรู้ที่คาดหวงั
1. เมือ่ ศึกษาแลว้ นักเรยี นมีความสามารถดังนี้
2. รแู้ ละเขา้ ใจ พ.ร.บ. โรงงาน พ.ศ. 2535
3. นำหลักกฎหมายตามพระราชบัญญตั ิฉบบั น้ีไปสกู่ ารปฏบิ ตั ไิ ด้
4. กรอกแบบฟอร์มตา่ ง ๆ เกยี่ วกบั การจดทะเบียนตามกฎหมายนไ้ี ด้

สรุปเนอื้ หาสำคญั
กฎหมายว่าดว้ ยโรงงานปจั จบุ นั คือ พระราชบญั ญตั ิโรงงาน พ.ศ. 2535
ในกรณีที่ต้องมีการตรวจสอบโรงงานหรือเคร่ืองจักร เพื่อปฏิบัติตามพระราชบัญญัติน้ีอาจมีการ

กำหนดให้เอกชนเป็นผู้กำเนินการ และจัดทำรายงานผลการตรวจสอบแทนการปฏิบัติหน้าท่ีของพนักงาน
เจ้าหน้าทีก่ ไ็ ด้

การยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตและการให้ต่อใบอนุญาตให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธกี ารที่กำหนด
ในกฎกระทรวงห้ามมิให้ผู้รับใบอนุญาตขยายโรงงาน เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากผู้อนุญาตผู้รับใบอนุญาตซ่ึง
ประสงค์จะย้ายโรงงานไปยงั ทีอ่ ่นื ใหด้ ำเนนิ การเสมอื นการตง้ั โรงงานใหม่

ในกรณีท่ีห้างหุ้นส่วน บริษัท หรือนิติบุคคลอ่ืน กระทำความผิดตามพระราชบัญญัติน้ี กรรมการ
ผู้จัดการ หรือ บุคคลใดซึ่งรับผิดชอบในการกระอันเป็นความผิดน้ัน ต้องระวางโทษตามท่ีบัญญัติไว้ สำหรับ
ความผิดนัน้ ๆ ด้วยเว้นแต่จะพสิ ูจน์ได้วา่ การกระทำน้นั กระทำโดยตนมิไดร้ ู้เห็นหรือยนิ ยอมด้วย

กจิ กรรมการเรยี นการสอน

กิจกรรมของครู กจิ กรรมของผูเ้ รียน คณุ ธรรมจริยธรรม

คุณลักษณะอันพึงประสงค์

ข้นั เตรียม

1. ตรวจรายชอ่ื ผเู้ รียนที่มาเข้าเรียน - ผเู้ รียนฟังการเรยี กขานช่ือ 1. การแต่งกายสุภาพ

2. ตรวจการแตง่ กาย เรยี บรอ้ ย

3. อธิบายจดุ ประสงค์ของรายวชิ า - ผเู้ รยี นฟังการบรรยาย คำอธบิ าย 2. การมสี มั มาคารวะ

และบทเรียนหลกั เกณฑก์ ารวัดผล รายวิชาและผลการเรยี นรู้ที่ 3. การมีความเชื่อม่ันใน

และประเมินผลในบทที่ 8 คาดหวงั จดบนั ทกึ หลักเกณฑ์การ ตนเอง

4. ครูและผเู้ รียนร่วมกันสนทนา วดั ผลประจำบทและประเมนิ ผล 4. การตรงตอ่ เวลา

เกี่ยวกับความหมายของกฎหมายว่า - แสดงความคดิ เห็น 5. การกลา้ แสดงออก

ด้วยโรงงาน 6. ความรับผิดชอบ

5. ครูซกั ถามผเู้ รยี นเก่ยี วกบั - ตอบคำถาม 7. ความละเอียดรอบคอบ

กฎหมายว่าด้วยโรงงาน ตามความ

เขา้ ใจของผู้เรยี นโดยทว่ั ๆไปหรอื ท่ี

ผู้เรียนไดเ้ คยเรียนรหู้ รือเคยมี

ประสบการณ์มาก่อน

ขน้ั ดำเนนิ การ

1. นำเข้าส่บู ทเรียนเกี่ยวกบั

กฎหมายวา่ ด้วยโรงงาน

ประกอบการใชส้ อ่ื Power Point - ศึกษาจากส่ือ Power Point

2. อธิบายความหมายของกฎหมาย

วา่ ดว้ ยโรงงาน - จดบนั ทกึ ย่อสาระสำคญั ๆ

ยกตวั อย่าง กฎหมายวา่ ดว้ ยโรงงาน

3. ตั้งปญั หาให้ผเู้ รียนตอบ

4. แบ่งกลุ่มผู้เรยี นให้ระดมความคดิ - ตอบคำถามและซกั ถามข้อสงสยั

และดำเนนิ การอภิปรายตามกิจกรรม - แบง่ กลุ่มตามท่ีครูกำหนดและ

ในบทท่ี ..8.. ที่เตรยี มไว้ให้ ดำเนินการระดมความคดิ และ

ขัน้ สรปุ อภปิ รายตามกิจกรรมที่กำหนด

1. สรปุ การอภิปราย

2. ตอบคำถามของผเู้ รยี นทส่ี งสัย - ฟงั ครูสรปุ และซักถามเม่ือสงสัย

3. มอบหมายงาน (ถ้ามี) - ต้งั ใจฟงั คำตอบ

4. ประเมนิ ผลการเรียนของผู้เรยี น - จดบันทกึ งานท่ีได้รับมอบหมาย

ในบทท่ี 8 - ทำแบบประเมนิ ผลการเรียนรู้
5. บันทกึ ข้อมลู กิจกรรมการเรยี น - ขอดผู ลการวดั ผลและ
หลังการสอน ประเมินผล

สอื่ การเรยี นการสอน
1. หนงั สือเรยี นวชิ ากฎหมายแรงงาน (2001–1006)
2. ภาพประกอบ
3. ใบเฉลยแบบประเมินผลการเรยี นรู้
4. PowerPoint

การวดั ผลและประเมินผล
1. วัดตามจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
2. วิธวี ัดผลและประเมินผล
- สังเกตการณ์มสี ว่ นร่วมในการทำกิจกรรม
- ประเมนิ ตามสภาพจริง
- แบบประเมนิ ผลการเรียนรู้
3. เกณฑ์การประเมินผล
- ผ่านเกณฑ์ 50%

ข้อเสนอแนะในการสอน ตอ้ งใหผ้ เู้ รยี นมีส่วนรว่ มในการเรยี นการสอนโดย
1. ครู อาจารย์ มอบหมายงานใหท้ ำลว่ งหน้าในสปั ดาหถ์ ดั ไป

แบบประเมนิ ผลการปฏิบัตกิ ิจกรรม / ผลการปฏบิ ัติ บทท่ี 8
ชอื่ ...................................................................สกลุ ...........................................................ระดับชนั้ ......................

ประเมนิ ตนเอง เพื่อนประเมนิ

ดี พอใช้ ปรบั ปรุง ดี พอใช้ ปรับปรุง

ครปู ระเมนิ

ดี
พอใช้
ปรับปรุง

ขอ้ เสนอแนะ
เมอ่ื ครูผสู้ อนได้ใหผ้ ู้เรียน และเพ่ือนประเมินแล้ว ควรรีบนำผลการประเมินไปใส่ไวใ้ นใบใหค้ ะแนนท่ีได้

จัดเตรียมไว้แล้ว เพ่ือให้การประเมินผลไม่คลาดเคล่ือนและเร่งพัฒนาปรับปรุงผู้เรียนได้ในทันทีและเพื่อเป็น
ขอ้ มลู ในการประเมินผลเม่อื สิ้นภาคเรยี นตอ่ ไป


Click to View FlipBook Version