The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

1126.ฐาปนี ภูมิลา.แฟ้มสะสมผลงาน

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by thapanee0857569013, 2024-01-30 20:37:10

แฟ้มสะสมผลงาน

1126.ฐาปนี ภูมิลา.แฟ้มสะสมผลงาน

Keywords: แฟ้มสะสมผลงาน

แฟ้มปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา โรงเรียน อนุบาลอุดรธานี อำเภอ เมืองอุดรธานี จังหวัด อุดรธานี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 1 จัดทำโดย นางสาวฐาปนี ภูมิลา รหัส 63040111126 สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ทั่วไปและชีววิทยา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ปีการศึกษา 2566


คำนำ แฟ้มปฏิบัติการสอนในสถานศึกษานี้ ได้รวบรวมหลักฐานที่เกี่ยวกับการสอน วิชาวิทยาศาสตร์ระดับชั้น ประถมศึกษาปีที่ 3 ที่เกิดจาการวิเคราะห์สภาพการจัดการเรียนการสอน เพื่อวางแผนพัฒนาการเรียนการสอนให้มี ประสิทธิภาพ โดยทุกขั้นตอนได้คำปรึกษา และตรวจสอบดูแลอย่างใกล้ชิดจากผู้เชี่ยวชาญ ด้านต่างๆ เป็นอย่างดี แฟ้มปฏิบัติการสอนในสถานศึกษานี้ ประกอบด้วย ขั้นตอนการวิเคราะห์สภาพปัญหาการสอน การวางแผน การวัดผลและประเมินผลอย่างละเอียด ตัวอย่างเครื่องมือวัดผล และตัวอย่างชิ้นงานนักเรียน ซึ่งทุกชิ้นได้ผ่านการตรวจ สอบแล้ว เช่นเดียวกัน ขอขอบคุณนายพยัคฆพล รอดชมภูผู้อำนวยการสถานศึกษา โรงเรียนอนุบาลอุดรธานี คณะกรรมการพัฒนางาน วิชาการโรงเรียน ผู้เชี่ยวชาญทุกท่าน ตลอดจนผู้ที่มีส่วนร่วมในการให้กำลังใจในการจัดทำทุกขั้นตอน หวังเป็นอย่างยิ่งว่า สิ่งที่ดีงามเหล่านี้จะเป็นประโยชน์และผลดีต่อการพัฒนาผู้เรียน พัฒนาการเรียนการสอนและพัฒนาการศึกษาต่อไป ฐาปนี ภูมิลา นักศึกษาปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา สาขาวิชา วิทยาศาสตร์ทั่วไปและชีววิทยา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี


สารบัญ เรื่อง หน้า คำนำ สารบัญ ส่วนที่ 1 ข้อมูลทั่วไป 1 ส่วนที่ 2 ข้อมูลการพัฒนาตนเอง 13 ส่วนที่ 3 การปฏิบัติงานพิเศษ 43 ส่วนที่ 4 การปฏิบัติตอน 49 ภาคผนวก 53 แบบบันทึกข้อความใช้แผนการจัดการเรียนรู้ 66


ส่วนที่ 1 ข้อมูลทั่วไป ประวัติผู้จัดทำ ประวัติการศึกษา ประวัติสถานศึกษา 1


ชื่อ – สกุล นางสาวฐาปนี ภูมิลา ชื่อเล่น พิม หมู่โลหิต O เกิด 31 เดือนตุลาคม พ.ศ. 2544 รหัสนักศึกษา 63040111126 เบอร์โทรศัพท์ 0857569013 E-mail: thapanee0857569013@gmail.com สัญชาติไทย เชื้อชาติไทย ศาสนา พุทธ บิดาชื่อ นายพิริยะ ภูมิลา มารดาชื่อ นางจิราพร ภูมิลา อยู่ปัจจุบัน 278 หมู่ 15 บ้านปะโค ตำบลปะโค อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี 41370 ปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่ที่ สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ ทั่วไปและชีววิยา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี อาชีพที่อยากเป็นในอนาคต ครู อุปนิสัย ร่าเริง อดทน มีน้ำใจ คติประจำใจ ทำวันนี้ให้ดีที่สุด 2


ประถมศึกษา อนุบาล-ป.6 โรงเรียนบ้านปะโค จังหวัดอุดรธานี 2557 มัธยมศึกษา ม.1-ม.6 โรงเรียนสตรีราชินูทิศ จังหวัดอุดรธานี โปรแกรม วิทย์-คณิต 2562 ปริญญาตรี มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี สาขา วิทยาศาสตร์ทั่วไปและชีววิทยา คณะครุศาสตร์ จังหวัดอุดรธานี กำลังศึกษา 3


ข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ฝึกประสบการณ์วิชาชีพ ประวัติความเป็นมาของโรงเรียน โรงเรียนอนุบาลอุดรธานี ก่อตั้งเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2486 โดยใช้โรงเรียนสตรีฝึกหัดครู (วิทยาลัยอาชีวศึกษาอุดรธานีในปัจจุบัน)เป็นที่เรียน รับเฉพาะเด็กนักเรียนชั้นอนุบาล ต่อมาเมื่อ พ.ศ. 2490 ได้รับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 จนกระทั่ง พ.ศ. 2497 ได้จัดตั้งโรงเรียนในสถานที่ใหม่(สถานที่ ในปัจจุบัน) ในชื่อโรงเรียนอนุบาลอุดรธานี มีเนื้อที่ 11 ไร่ 1 งาน 83 ตารางวา โรงเรียนอนุบาล อุดรธานีเปิดสอนระดับการศึกษาปฐมวัย ถึง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 คำขวัญประจำโรงเรียน ปญฺญา สุวิชฺโช โหนฺติ (ผู้มีปัญญา และความรู้ดี เป็นผู้เจริญ) สีประจำโรงเรียน เขียว-ชมพู ตราประจำโรงเรียน 4


วิสัยทัศน์ / ปรัชญา โรงเรียนอนุบาลอุดรธานี ภายในปี พ.ศ. 2558 โรงเรียนอนุบาลอุดรธานี บริหารแบบมีส่วนร่วม เรียนรู้คู่ ไอซีที เน้นผู้เรียน เป็นสำคัญ สานฝันสู่ความเป็นเลิศทางวิชาการ มีคุณธรรม น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เทียบเคียงมาตรฐานสากล พันธกิจ / เป้าประสงค์ โรงเรียนอนุบาลอุดรธานี พันธกิจ 1. บริหารจัดการแบบมีส่วนร่วม เพื่อรองรับการกระจายอำนาจ 2. ส่งเสริมครูให้ปรับการเรียนเปลี่ยนการสอนใช้ไอซีที โดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ 3. ส่งเสริมพัฒนาวินัย คุณธรรม จริยธรรม บุคลากรภายในโรงเรียน 4. นำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงประยุกต์ใช้ในการพัฒนาการศึกษาของโรงเรียน 5. การปรับปรุงโครงสร้างหลักสูตรและเวลาเรียน เป้าหมาย 1. ครู ผู้ปกครองและผู้เกี่ยวข้องมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาของโรงเรียน 2. ครูจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญได้อย่างมีประสิทธิภาพ 3. ครูและนักเรียนใช้สื่อเทคโนโลยีและแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลายในการเรียนรู้ 4. ครูและนักเรียนมีคุณธรรม จริยธรรมและวินัยในตนเอง 5. นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจและนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงประยุกต์ใช้ 5


ลำดับ บุคลากร จำนวน 1. คณะผู้บริหาร 5 2. กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย 11 3. กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ 18 4. กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 30 5. กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม 12 6. กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา 4 7. กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ 10 8. กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ 18 9. กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ดนตรี นาฏศิลป์ 11 10. กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน 2 11. ทุกกลุ่มสาระ 33 12. ครูพี่เลี้ยง 16 รวม 170 ลำดับ บุคลากร จำนวน 1. พนักงานการเงินและบัญชี 1 2. พนักงานธุรการ 4 3. พยาบาล 1 4. นักการภารโรง 3 5. พนักงานดูแลรักษาสถานที่ 6 6. พนักงานรักษาความปลอดภัย 2 รวม 17 1. จำนวนบุคลากร 2. จำนวนนักการภารโรง/พนักงาน 6


ลำดับ นักเรียน จำนวน 1. ชั้นอนุบาล 2 239 2. ชั้นอนุบาล 3 268 3. ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 421 4. ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 432 5. ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 453 6. ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 506 7. ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 529 8. ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 543 รวม 3,391 ลำดับ นักศึกษาที่ปฏิบัติการสอน จำนวน 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย 6 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 4 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม 3 4 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา 2 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ 2 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ดนตรี นาฏศิลป์ 6 7 การศึกษาปฐมวัย 18 รวม 40 3. จำนวนนักเรียน 4. จำนวนนักศึกษาที่ปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา 7


อาคารเรียน พิเศษ 3 ชั้น ปีที่สร้าง 2525 (อาคาร 2) อาคารเรียน สปช.2/28 ปีที่สร้าง 2550 (อาคาร 6) อาคารเรียน สปช.101/26 ปีที่สร้าง 2525 (อาคาร 4) อาคารเรียน สปช.2/28 ปีที่สร้าง 2529 (อาคาร 1) 8


อาคารเรียน สปช.2/28 ปีที่สร้าง 2533 (อาคาร 4) อาคารเรียน 324ล.,324ล./ 41 ทรงไทย,หรือ 324 อื่นๆ ปีที่สร้าง 2566 (อาคาร 1) 9


10


11


12


ส่วนที่ 2 ข้อมูลการพัฒนาตนเองทางด้านวิชาชีพครู 13


สภาพการจัดการเรียนการสอน สภาพการจัดการเรียนรู้ของห้องเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 อาคาร 6 - ภายในห้องเรียน ห้องเรียนมีการจัดตกแต่งที่เหมาะสมกับการจัดการเรียนการสอน สะอาด สว่าง พื้นที่ เหมาะสม แต่ด้วยจำนวนนักเรียนที่มีจำนวนมาก ประมาณ 40 คนต่อห้อง ทำให้มีจำนวนโต๊ะในห้องจำนวน มาก พื้นที่เหลือจึงมีน้อย แต่มีการจัดโต๊ะเก้าอี้ที่เป็นระเบียบ มีมุมวิชาการส่งเสริมความรู้ มีการตกแต่งห้องให้ สดใส สวยงาม มีเครื่องใช้ และสิ่งอำนวยสะดวกต่างๆ ที่ส่งเสริมให้การเรียนรู้ของนักเรียนสะดวกขึ้น เช่น ไมค์โครโฟน ลำโพง โปรเจคเตอร์สมาร์ททีวี สื่อการเรียนรู้ - การจัดการเรียนการสอน ครูผู้สอนจัดการเรียนรู้เน้นให้นักเรียนเป็นศูนย์กลาง ให้นักเรียนเกิดทักษะ กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การคิดวิเคราะห์แก้ปัญหาที่เกิดขึ้น โดยภาพรวมนักเรียนมีความสนใจในการ เรียน สนใจกิจกรรม การทดลอง และฝักใฝ่ในการค้นหาความรู้ ภาพที่ การจัดการเรียนการสอนภายในห้องเรียน 14


วิเคราะห์สภาพปัญหาการจัดการเรียนการสอน เนื่องจากโรงเรียนอนุบาลอุดรธานีเป็นโรงเรียนขนาดใหญ่พิเศษ จำนวนนักเรียนต่อห้องมีจำนวนมาก ซึ่งการจัดการเรียนรู้ในรายวิชาวิทยาศาสตร์ที่มีกิจกรรมการทดลอง ส่งผลให้บางกิจกรรมอุปกรณ์ทาง วิทยาศาสตร์ไม่เพียงพอต่อจำนวนนักเรียน นักเรียนไม่ได้ลงมือปฏิบัติครบทุกคน ดังนั้นครูผู้สอนจึงหาแนว ทางการแก้ปัญหานี้ โดยหาอุปกรณ์ทดแทนหรืออุปกรณ์ที่สามารถหาได้ทั่วไปและสามารถใช้ในการทดลองได้ และวิธีต่อไป คือ ให้นักเรียนส่งตัวแทนมาทำการทดลองหน้าห้องเรียน แล้วนักเรียนคนที่เหลือสังเกตการ ทดลอง ผลการแก้ไขปัญหาปรากฏว่า นักเรียนเกิดการเรียนรู้ เข้าใจเนื้อหาและเข้าใจกิจกรรมการทดลอง และ นักเรียนได้ลงมือปฏิบัติ แต่มีปัญหาบางประการคือ ขณะที่เพื่อนบางกลุ่มกำลังทดลองอยู่หน้าห้อง บางกลุ่มไม่ สนใจการทดลอง พูดคุยกันตลอดเวลา ทำให้ตอนสรุปผลการทดลอง สรุปผลไม่ได้ ครูผู้สอนทำการแก้ไขปัญหา โดย ระหว่างการทดลองให้กลุ่มที่สังเกตตอบคำถามเป็นช่วงๆเพื่อกระตุ้นนักเรียนตลอดเวลา ผลปรากฏว่า นักเรียนสนใจการทดลองมากขึ้น ตอบคำถามได้และสามารถสรุปผลการทดลองได้ ภาพที่ การประยุกต์อุปกรณ์ที่หาได้ง่ายได้เข้ากับกิจกรรมการทดลอง 15


การวิเคราะห์ผู้เรียนรายบุคคล ตามหลักการและจุดมุ่งหมายของหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 และพระราชบัญญัติการศึกษ แห่งชาติ พ.ศ. 2542 ได้กำหนดเป้าหมายและทิศทางการปฏิรูปการศึกษากระบวนการเรียนรู้เพื่อพัฒนาคนไทย ให้ เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งร่างกาย จิตใจ สติปัญญา ความรู้ คู่คุณธรรม โดยมีหลักการสำคัญของการจัดการศึกษา ประกอบด้วย ผู้เรียนมีความสำคัญที่สุด ผู้เรียนทุกคนสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ ส่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถ พัฒนาตามธรรมชาติและเต็มตามศักยภาพ ดังนั้น ดังนั้น ครูผู้สอนซึ่งเป็นผู้มีบทบาทสำคัญเกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้ให้ผู้เรียนรู้จักแสวงหาความรู้ พัฒนา ตนเองคิดเองปฏิบัติเองเพื่อนำไปสู่การสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง ตามความพึงพอใจ ตามความถนัด ตามความสนใจ ของแต่ละบุคคลการวิเคราะห์ผู้เรียนเพื่อศึกษาผู้เรียนเป็นรายบุคคลจึงมีความจำเป็นและสำคัญมาก ผู้สอนจึงได้จัดทำ แบบวิเคราะห์ผู้เรียนเล่มนี้ขึ้นเพื่อวิเคราะห์ผู้เรียนเป็นรายบุคคลก่อนดำเนินการสอนในปีการศึกษา 2566 ข้อมูลจาก การศึกษาวิเคราะห์ผู้เรียนในครั้งนี้มีความสำคัญและเป็นประโยชน์ต่อการจัดการเรียนการสอนอย่างยิ่ง จากการวิเคราะห์ข้อมูลและประเมินผู้เรียนรายบุคคล พบว่า นักเรียนแต่ละคนมีความรู้ ความสามารถและ ความสนใจที่แตกต่างกัน ดังนั้นครูผู้สอนจึงจัดกระบวนการการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับนักเรียนทุกคน จัดการเรียนรู้แบบ Active Learning และเน้นการทำงานเป็นกลุ่มแต่ละกลุ่ม คละผู้เรียนออกเป็น เก่ง กลาง อ่อน ให้นักเรียนที่มีผลการ เรียนสูงดูแลนักเรียนที่มีผลการเรียนต่ำ ผลปรากฏว่า บรรยากาศในการจัดการเรียนการสอน สนุกสนาน มีความ ตื่นเต้น นักเรีนให้ความสนใจกับบทเรียนทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ ผลการเรียนของนักเรียนรายบุคลอยู่ในระดับดี และมีการพัฒนาการสูงขึ้น ภาพที่ บรรยากาศในการจัดการเรียนรู้ภายในห้องเรียน 16


ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลักสูตร แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ นี้ได้กำหนดสาระ การเรียนรู้ออกเป็น ๔ สาระ ได้แก่ สาระที่ ๑ วิทยาศาสตร์ชีวภาพ สาระที่ ๒ วิทยาศาสตร์กายภาพ สาระที่ ๓ วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ และสาระที่ ๔ เทคโนโลยีมี สาระเพิ่มเติม ๔ สาระ ได้แก่ สาระชีววิทยาสาระเคมีสาระฟิสิกส์และสาระโลกดาราศาสตร์และอวกาศซึ่งองค์ประกอบของ หลักสูตร ทั้งในด้านของเนื้อหา การจัดการเรียนการสอน และการวัดและประเมินผลการเรียนรู้นั้น มีความสำคัญอย่างยิ่งใน การวางรากฐานการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ของผู้เรียนในแต่ละระดับชั้น ให้มี ความต่อเนื่องเชื่อมโยงกัน ตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปี ที่ ๑ จนถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ สำหรับกลุ่มสาระ การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ได้กำหนดตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง ที่ ผู้เรียนจำเป็นต้องเรียน เป็นพื้นฐาน เพื่อให้สามารถนำความรู้นี้ไปใช้ในการดำรงชีวิตหรือศึกษาต่อในวิชาชีพที่ต้องใช้ วิทยาศาสตร์ได้โดยจัดเรียงลำดับความยากง่ายของเนื้อหาแต่ละสาระในแต่ละระดับชั้นให้มีการเชื่อมโยง ความรู้กับ กระบวนการเรียนรู้และการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนพัฒนาความคิด ทั้งความคิดเป็นเหตุเป็นผล คิด สร้างสรรค์ คิดวิเคราะห์วิจารณ์ มีทักษะที่สำคัญทั้งทักษะ กระบวนการทางวิทยาศาสตร์และทักษะในศตวรรษที่ ๒๑ ในการ ค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ ด้วยกระบวนการสืบเสาะหาความรู้สามารถแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ สามารถตัดสินใจ โดยใช้ ข้อมูล หลากหลายและประจักษ์พยานที่ตรวจสอบได้ เป้าหมายของวิทยาศาสตร์ ในการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์มุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้ค้นพบความรู้ด้วยตนเองมากที่สุด เพื่อให้ได้ทั้งกระบวนการและ ความรู้จากวิธีการสังเกต การสำรวจตรวจสอบ การทดลอง แล้วนำผลที่ได้ มาจัดระบบเป็นหลักการ แนวคิด และองค์ความรู้ การจัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์จึงมีเป้าหมายที่สำคัญ ดังนี้ 1. เพื่อให้เข้าใจหลักการ ทฤษฎีและกฎที่เป็นพื้นฐานในวิชาวิทยาศาสตร์ 2. เพื่อให้เข้าใจขอบเขตของธรรมชาติของวิชาวิทยาศาสตร์และข้อจำกัดในการศึกษา วิชาวิทยาศาสตร์ 3. เพื่อให้มีทักษะที่สำคัญในการศึกษาค้นคว้าและคิดค้นทางเทคโนโลยี 4. เพื่อให้ตระหนักถึงความสัมพันธ์ระหว่างวิชาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีมวลมนุษย์ และสภาพแวดล้อมในเชิงที่มีอิทธิพลและ ผลกระทบซึ่งกันและกัน 5. เพื่อนำความรู้ความเข้าใจ ในวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไปใช้ให้เกิดประโยชน์ ต่อสังคมและการดำรงชีวิต 6. เพื่อพัฒนากระบวนการคิดและจินตนาการ ความสามารถในการแก้ปัญหา และ การจัดการ ทักษะในการสื่อสาร และ ความสามารถในการตัดสินใจ 7. เพื่อให้เป็นผู้ที่มีจิตวิทยาศาสตร์ มีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมในการใช้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอย่างสร้างสรรค์ การวิเคราะห์หลักสูตร 17


จบชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 1. เข้าใจลักษณะทั่วไปของสิ่งมีชีวิตและการดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิตรอบตัว 2. เข้าใจลักษณะที่ปรากฏ ชนิดและสมบัติบางประการของวัสดุที่ใช้ทำวัตถุและการเปลี่ยนแปลงของวัสดุรอบตัว 3. เข้าใจการดึง การผลัก แรงแม่เหล็ก และผลของแรงที่มีต่อการเปลี่ยนแปลง การเคลื่อนที่ของวัตถุพลังงานไฟฟ้า และการ ผลิตไฟฟ้า การเกิดเสียง แสงและการมองเห็น 4. เข้าใจการปรากฏของดวงอาทิตย์ดวงจันทร์และดาว ปรากฏการณ์การขึ้นและตก ของดวงอาทิตย์การเกิดกลางวันกลางคืน การกำหนดทิศ ลักษณะของหิน การจำแนกชนิดดิน และการใช้ประโยชน์ลักษณะและความสำคัญของอากาศ การเกิดลม ประโยชน์และโทษของลม 5. ตั้งคำถามหรือกำหนดปัญหาเกี่ยวกับสิ่งที่จะเรียนรู้ตามที่กำหนดให้หรือตามความสนใจ สังเกต สำรวจตรวจสอบโดยใช้ เครื่องมืออย่างง่าย รวบรวมข้อมูล บันทึก และอธิบายผลการสำรวจ ตรวจสอบด้วยการเขียนหรือวาดภาพ และสื่อสารสิ่งที่ เรียนรู้ด้วยการเล่าเรื่อง หรือด้วยการแสดง ท่าทางเพื่อให้ผู้อื่นเข้าใจ 6. แก้ปัญหาอย่างง่ายโดยใช้ขั้นตอนการแก้ปัญหา มีทักษะในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเบื้องต้น รักษา ข้อมูลส่วนตัว 7. แสดงความกระตือรือร้น สนใจที่จะเรียนรู้มีความคิดสร้างสรรค์เกี่ยวกับเรื่อง ที่จะศึกษาตามที่กำหนดให้หรือตามความ สนใจ มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น และยอมรับฟัง ความคิดเห็นผู้อื่น 8. แสดงความรับผิดชอบด้วยการทำงานที่ได้รับมอบหมายอย่างมุ่งมั่น รอบคอบ ประหยัด ซื่อสัตย์จนงานลุล่วงเป็นผลสำเร็จ และทำงานร่วมกับผู้อื่นอย่างมีความสุข 9. ตระหนักถึงประโยชน์ของการใช้ความรู้และกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในการ ดำรงชีวิต ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม ทำ โครงงานหรือชิ้นงานตามที่กำหนดให้หรือตามความสนใจ คุณภาพผู้เรียน 18


19


20


เทอม 1 เทอม 2 21


สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ สาระที่ 1 วิทยาศาสตร์ชีวภาพ มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจสมบัติของสิ่งมีชีวิต หน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต การลําเลียงสารเข้า และออกจากเซลล์ ความสัมพันธ์ของโครงสร้างและหน้าที่ของระบบต่าง ๆ ของสัตว์และมนุษย์ที่ทำงานสัมพันธ์กัน ความสัมพันธ์ของโครงสร้างและหน้าที่ ของอวัยวะต่าง ๆ ของพืชที่ทำงานสัมพันธ์กัน รวมทั้งนําความรู้ ไปใช้ประโยชน์ สาระที่ 2 วิทยาศาสตร์กายภาพ มาตรฐาน ว 2.1 เข้าใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ ระหว่างสมบัติของ สสารกับโครงสร้างและแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติ ของการ เปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร การเกิดสารละลาย และการเกิด ปฏิกิริยาเคมี มาตรฐาน ว 2.2 เข้าใจธรรมชาติของแรงในชีวิตประจำวัน ผลของแรงที่กระทำต่อวัตถุ ลักษณะ การเคลื่อนที่แบบต่าง ๆ ของวัตถุรวมทั้งนําความรู้ไปใช้ประโยชน์ มาตรฐาน ว 2.3 เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปลี่ยนแปลงและการถ่ายโอนพลังงาน ปฏิสัมพันธ์ระหว่างสสาร และพลังงาน พลังงานในชีวิตประจำวัน ธรรมชาติ ของคลื่น ปรากฏการณ์ที่เกี่ยวข้องกับเสียง แสง และคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า รวมทั้ง นําความรู้ไปใช้ประโยชน์ สาระที่ ๓ วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ มาตรฐาน ว 3.1 เข้าใจองค์ประกอบ ลักษณะ กระบวนการเกิด และวิวัฒนาการของเอกภพ กาแล็กซีดาวฤกษ์และ ระบบสุริยะ รวมทั้งปฏิสัมพันธ์ภายในระบบสุริยะ ที่ส่งผลต่อสิ่งมีชีวิต และการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี อวกาศ 22


ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้ ว 2.1 ป.3/1 อธิบายว่าวัตถุประกอบขึ้นจากชิ้นส่วนย่อย ๆ ซึ่งสามารถแยกออกจากกันได้และ ประกอบกัน เป็นวัตถุชิ้นใหม่ได้โดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ ว 2.1 ป.3/2 อธิบายการเปลี่ยนแปลงของวัสดุเมื่อทำให้ ร้อนขึ้นหรือทำให้เย็นลง โดยใช้หลักฐาน เชิงประจักษ์ ว 2.2 ป.3/1 ระบุผลของแรงที่มีต่อการเปลี่ยนแปลงการเคลื่อนที่ของวัตถุจากหลักฐานเชิง ประจักษ์ ว 2.2 ป.3/2 เปรียบเทียบและยกตัวอย่างแรงสัมผัสและแรงไม่สัมผัสที่มีผลต่อการเคลื่อนที่ของ วัตถุโดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ ว 2.2 ป.3/3 จําแนกวัตถุโดยใช้การดึงดูดกับแม่เหล็กเป็นเกณฑ์จากหลักฐานเชิงประจักษ์ ว 2.2 ป.3/4 ระบุขั้วแม่เหล็กและพยากรณ์ผลที่เกิดขึ้นระหว่างขั้วแม่เหล็กเมื่อนํามาเข้าใกล้กัน จากหลักฐานเชิงประจักษ์ ว 2.3 ป.3/1 ยกตัวอย่างการเปลี่ยนพลังงานหนึ่งไปเป็นอีกพลังงานหนึ่งจากหลักฐานเชิงประจักษ์ ว 2.3 ป.3/2 บรรยายการทำงานของเครื่องกำเนิดไฟฟ้าและ ระบุแหล่งพลังงานในการผลิตไฟฟ้า จากข้อมูล ที่รวบรวมได้ ว 2.3 ป.3/3 ตระหนักในประโยชน์และโทษของไฟฟ้าโดยนําเสนอวิธีการใช้ไฟฟ้าอย่างประหยัด และปลอดภัย ว 3.1 ป.3/1 อธิบายแบบรูปเส้นทางการขึ้นและตก ของ ดวงอาทิตย์โดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ ว 3.1 ป.3/2 อธิบายสาเหตุการเกิดปรากฏการณ์การขึ้น และตกของดวงอาทิตย์การเกิดกลางวัน กลางคืน และการกำหนดทิศ โดยใช้แบบจําลอง ว 3.1 ป.3/3 ตระหนักถึงความสำคัญของดวงอาทิตย์โดยบรรยายประโยชน์ของดวงอาทิตย์ต่อ สิ่งมีชีวิต ว 3.2 ป.3/1 ระบุส่วนประกอบของอากาศบรรยายความสำคัญของอากาศ และผลกระทบของ มลพิษทาง อากาศต่อสิ่งมีชีวิต จากข้อมูลที่รวบรวมได้ ว 3.2 ป.3/2 ตระหนักถึงความสำคัญของอากาศ โดยนําเสนอ แนวทางการปฏิบัติตนในการลด การเกิดมลพิษ ทางอากาศ ว 3.3 ป.3/3 อธิบายการเกิดลมจากหลักฐานเชิงประจักษ์ ว 3.3 ป.3/4 บรรยายประโยชน์และโทษของลม จากข้อมูล ที่รวบรวมได้ 23


ตารางโครงสร้างหลักสูตร รายวิชา ว13101 วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตามหลักสูตรโรงเรียนอนุบาลอุดรธานี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่1 จำนวน 1 หน่วยกิต เวลา 40 ชั่วโมง หน่วยการเรียนรู้ ชื่อกิจกรรม ตัวชี้วัด เวลา (ชั่วโมง) น้ำหนัก คะแนน หน่วยที่ 1 การ เรียนรู้สิ่งต่างๆ รอบตัว บทที่ 1 เรียนรู้แบบนักวิทยาศาสตร์ เรื่องที่ 1 ทักษะการจัดกระทำและ สื่อ ความหมายข้อมูล กิจกรรมที่ 1 จัดกระทำและ สื่อ ความหมายข้อมูลได้อย่างไร เรื่องที่2 ทักษะการหาความสัมพันธ์ ระหว่างสเปซกับสเปซ และสเปซกับเวลา และ ทักษะการ สร้างแบบจำลอง กิจกรรมที่ 2.1 ความสัมพันธ์ ระหว่าง สเปซกับสเปซเป็นอย่างไร กิจกรรมที่ 2.2 ความสัมพันธ์ระหว่าง สเปซ กับเวลาเป็นอย่างไร กิจกรรมที่ 2.3 สร้าง แบบจำลอง อธิบาย กระบอกปริศนาได้อย่างไร เรื่องที่3 หลักฐานกับการสื่อสารทางวิทยาศาสตร์ กิจกรรมที่ 3 คำตอบที่น่าเชื่อถือเป็น อย่างไร กิจกรรมท้ายบทที่ 1 เรียนรู้แบบนักวิทยาศาสตร์ - 1 1 2 1 2 2 2 3 1 2 2 2 2 2 2 10 2 2 หน่วยที่ 2 อากาศและ ชีวิต ของสัตว์ บทที่ 1 อากาศและความสำคัญต่อสิ่งมีชีวิต เรื่องที่ 1 อากาศ กิจกรรมที่ 1.1 อากาศมีส่วนประกอบ อะไรบ้าง กิจกรรมที่ 1.2 ลดมลพิษทางอากาศได้ อย่างไร กิจกรรมที่ 1.3 ลมเกิดขึ้นได้อย่างไร กิจกรรมท้ายบทที่ 1 อากาศและความสำคัญต่อ สิ่งมีชีวิต ว 3.2 ป.3/1 ระบุส่วนประกอบของอากาศ บรรยายความสำคัญ ของ อากาศ และผลกระทบของ มลพิษทางอากาศต่อ สิ่งมีชีวิต จากข้อมูลที่รวบรวมได้ ว 3.2 ป.3/2 ตระหนักถึงความสำคัญของอากาศโดยนำเสนอแนว ทางการปฏิบัติตนในการลดการเกิดมลพิษทางอากาศ ว 3.2 ป.3/3 อธิบายการเกิดลมจาก หลักฐานเชิงประจักษ์ ว 3.2 ป.3/4 บรรยายประโยชน์และโทษ ของลมจากข้อมูลที่ รวบรวมได้ 1 1 3 3 4 1 2 2 3 3 10 2 24


บทที่ 2 การดำรงชีวิตของสัตว์ เรื่องที่ 1 สิ่งที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตและ การ ดำรงชีวิตของสัตว์และมนุษย์ กิจกรรมที่ 1.1 สัตว์ต้องการสิ่งใดใน การ เจริญเติบโตและการดำรงชีวิต กิจกรรมที่ 1.2 มนุษย์ต้องการสิ่งใด ใน การ เจริญเติบโตและการดำรงชีวิต เรื่องที่ 2 วัฏจักรชีวิตของสัตว์ กิจกรรมที่ 2 วัฏจักรชีวิตของสัตว์ เป็น อย่างไร กิจกรรมท้ายบทที่ 2 การดำรงชีวิตของสัตว์ ว1.2 ป.3/1 บรรยาย สิ่งที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต และ การเจริญเติบโตของมนุษย์และ สัตว์โดยใช้ข้อมูลที่รวบรวมได้ ว1.2 ป.3/2 ตระหนักถึงประโยชน์ของอาหาร น้ำ และอากาศโดยการดูแลตนเองและ สัตว์ให้ได้รับสิ่งเหล่านี้อย่างเหมาะสม ว1.2 ป.3/3 สร้างแบบจำลองที่บรรยายวัฏจักร ชีวิตของสัตว์และเปรียบเทียบวัฏจักร ชีวิตของสัตว์ บางชนิด ว1.2 ป.3/4 ตระหนักถึงคุณค่าของชีวิตสัตว์โดย ไม่ทำให้วัฏจักรชีวิตของสัตว์ เปลี่ยนแปลง 1 1 3 2 1 2 1 3 3 3 3 3 3 2 แบบทดสอบท้ายเล่ม 1 2 รวม 40 70 30 100 25


คำอธิบายรายวิชา รายวิชา ว13101 วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1 เวลาเรียน 40/ภาคเรียน เวลาเรียน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์ จำนวน 1 หน่วยกิต ศึกษา สืบค้นข้อมูล และวิเคราะห์ทักษะการจัดกระทำและสื่อความหมายข้อมูล ทักษะการหาความสัมพันธ์ระหว่าง สเปซกับสเปซและสเปซกับเวลา และทักษะการสร้างแบบจำลอง หลักฐานกับการสื่อสารทาง วิทยาศาสตร์ อากาศและ ความสำคัญต่อสิ่งมีชีวิต สิ่งที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตและการดำรงชีวิตของสัตว์และมนุษย์วัฏจักรชีวิตของสัตว์ โดยสามารถใช้กระบวนการสืบสอบ ทางวิทยาศาสตร์ในการแสวงหาความรู้ สร้างและใช้แบบจำลองทางความคิด สามารถใช้ ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ และกระบวนการออกแบบทางวิทยาศาสตร์เพื่อสร้างนวัตกรรมซึ่งเป็นผลงาน สิ่งประดิษฐ์ หรือวิธีการที่ใช้ แก้ปัญหา ในชีวิตประจำวัน ด้วยความตระหนัก และความรับผิดชอบต่อชุมชน สังคม และโลก เป็นผู้มีความรับผิดชอบต่อการทำงาน โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ รักใน ความมีเหตุผล กล้าพูด กล้าแสดงออก รับฟังความคิดเห็นและ ทำงานร่วมกับ ผู้อื่นได้อย่างสร้างสรรค์ ตัวชี้วัด ว1.2 ป.3/1 ป.3/2 ป.3/3 ป.3/4 ว 3.2 ป.3/1 ป.3/2 ป.3/3 ป.3/4 รวมทั้งหมด 8 จัวชี้วัด 26


ตารางโครงสร้างหลักสูตร รายวิชา ว13101 วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตามหลักสูตรโรงเรียนอนุบาลอุดรธานี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 2 จำนวน 1 หน่วยกิต เวลา 40 ชั่วโมง หน่วยการ เรียนรู้ ชื่อกิจกรรม เวลา (ชั่วโมง) ตัวชี้วัด หน่วยที่ 3 การ เปลี่ยนแปลง ของวัตถุและ วัสดุ บทที่ 1 การทำให้วัตถุและวัสดุเปลี่ยนแปลง เรื่องที่ 1 ถอดออก ประกอบใหม่ กิจกรรมที่ 1 การทำวัตถุชิ้นใหม่ จากวัตถุชิ้นเดิมได้ อย่างไร เรื่องที่2 ร้อนขึ้น เย็นลง กิจกรรมที่ 2 ความร้อนมีผลต่อ วัสดุอย่างไร กิจกรรมท้ายบทที่ 1 การทำให้วัตถุและวัสดุ เปลี่ยนแปลง 3 2 2 1 ว 2.1 ป. 3/1 อธิบายว่าวัตถุประกอบขึ้นจากชิ้น ส่วนย่อย ๆ ซึ่งสามารถแยกออกจากกันได้และ ประกอบกันเป็นวัตถุชิ้นใหม่ได้ โดยใช้ หลักฐานเชิง ประจักษ์ ว 2.1 ป.3/2 อธิบายการเปลี่ยนแปลงของวัสดุ เมื่อทำให้ ร้อนขึ้นหรือทำให้เย็นลง โดยใช้หลักฐานเชิง ประจักษ หน่วยที่ 4 แรง ในชีวิต ประจำวัน บทที่ 1 แรงสัมผัสและแรงไม่สัมผัส เรื่องที่ 1 แรงสัมผัสกับการเปลี่ยนแปลงการ เคลื่อนที่ของวัตถุ กิจกรรมที่ 1 แรงมีผลต่อการ เคลื่อนที่ของวัตถุ อย่างไร เรื่องที่ 2 แรงไม่สัมผัสกับการเปลี่ยนแปลง การ เคลื่อนที่ของวัตถุ กิจกรรมที่ 2.1 แรงแม่เหล็กเป็น อย่างไร กิจกรรมที่ 2.2 หาขั้วแม่เหล็กได้ อย่างไร กิจกรรมที่ 2.3 แรงระหว่างแม่เหล็กเป็นอย่างไร กิจกรรมท้ายบทที่ 1 แรงสัมผัสและ แรงไม่สัมผัส 3 2 3 2 2 1 ว 3.2 ป.3/1 ระบุผลของแรงที่มีต่อการเปลี่ยนแปลง การ เคลื่อนที่ของวัตถุจากหลักฐานเชิงประจักษ์ ว 3.2 ป.3/2 เปรียบเทียบและยกตัวอย่างแรง สัมผัสและ แรงไม่สัมผัสที่มีผลต่อ การเคลื่อนที่ของวัตถุ โดยใช้ หลักฐานเชิงประจักษ์ ว 3.2 ป.3/3 จำแนกวัตถุโดยใช้การดึงดูดกับแม่เหล็กเป็น เกณฑ์จากหลักฐาน เชิงประจักษ์ ว 3.2 ป.3/4 ระบุขั้วแม่เหล็กและพยากรณ์ผลที่ เกิดขึ้น ระหว่างขั้วแม่เหล็กเมื่อนำมา เข้าใกล้กันจาก หลักฐานเชิง ประจักษ์ 27


หน่วยที่ 5 พลังงานกับ ชีวิต บทที่ 1 ดวงอาทิตย์และปรากฏการณ์ของ โลก เรื่องที่ 1 ดวงอาทิตย์และโลก กิจกรรมที่ 1.1 การหมุนรอบตัวเอง ของโลกทำ ให้เกิดปรากฏการณ์ อะไรบ้าง กิจกรรมที่ 1.2 ดวงอาทิตย์สำคัญ อย่างไร กิจกรรมท้ายบทที่ 1 ดวงอาทิตย์และ ปรากฏการณ์ของโลก 3 3 2 1 ว 3.1 ป. 3/1 อธิบายแบบรูปเส้นทางการขึ้นและ ตก ของ ดวงอาทิตย์โดยใช้หลักฐาน เชิงประจักษ์ ว 3.1 ป. 3/2 อธิบายสาเหตุการเกิดปรากฏการณ์ การขึ้น และตกของดวงอาทิตย์ การ เกิดกลางวัน กลางคืน และการ กำหนดทิศ โดยใช้ แบบจำลอง ว 3.1 ป. 3/3 ตระหนักถึงความสำคัญของ ดวงอาทิตย์ โดย บรรยายประโยชน์ ของดวงอาทิตย์ต่อ สิ่งมีชีวิต บทที่ 2 พลังงานไฟฟ้า เรื่องที่ 1 พลังงานไฟฟ้ากับชีวิต กิจกรรมที่ 1.1 พลังงานหนึ่ง เปลี่ยนเป็น พลังงานอะไรได้บ้าง กิจกรรมที่ 1.2 ผลิตไฟฟ้าได้อย่างไร กิจกรรมที่ 1.3 วงจรไฟฟ้าอย่างง่าย กิจกรรมที่ 1.4 ใช้ไฟฟ้าอย่าง ประหยัดและ ปลอดภัยได้อย่างไร กิจกรรมท้ายบทที่ 1 พลังงานไฟฟ้า 2 2 2 2 2 ว 2.3 ป.3/1 ยกตัวอย่างการเปลี่ยนพลังงานหนึ่งไป เป็นอีก พลังงานหนึ่งจากหลักฐานเชิง ประจักษ์ ว 2.3 ป.3/2 บรรยายการทำงานของเครื่องกำเนิด ไฟฟ้า และระบุแหล่งพลังงานในการ ผลิตไฟฟ้าจาก ข้อมูลที่รวบรวมได้ ว 2.3 ป.3/3 ตระหนักในประโยชน์และโทษของ ไฟฟ้าโดย นำเสนอวิธีการใช้ไฟฟ้าอย่าง ประหยัดและ ปลอดภัย รวม 40 28


คำอธิบายรายวิชา รายวิชา ว13101 วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 2 เวลาเรียน 40/ภาคเรียน เวลาเรียน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์ จำนวน 1 หน่วยกิต ศึกษา สืบค้นข้อมูล และวิเคราะห์ส่วนประกอบของวัตถุและการเปลี่ยนแปลงของวัสดุเมื่อทำให้ร้อนขึ้นหรือทำให้เย็นลง แรงที่มีต่อการเปลี่ยนแปลงการเคลื่อนที่ของวัตถุแรงสัมผัสและแรงไม่สัมผัสที่มีผลต่อการเคลื่อนที่ของวัตถุ การดึงดูดระหว่าง แม่เหล็กกับวัตถุขั้วแม่เหล็ก การเปลี่ยนพลังงาน การทำงานของเครื่องกำเนิดไฟฟ้า เส้นทางการขึ้นและตกของดวงอาทิตย์การ เกิดกลางวันกลางคืนและการกำหนดทิศ ความสำคัญของดวงอาทิตย์ต่อสิ่งมีชีวิต โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์การสืบเสาะหาความรู้การสำรวจ ตรวจสอบ การสืบค้นข้อมูล การเปรียบเทียบ ข้อมูลจากหลักฐานเชิงประจักษ์และการอภิปราย เพื่อให้เกิดความรู้ความคิด ความเข้าใจ สามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้มี ความสามารถในการตัดสินใจ เป็นผู้มีความรับผิดชอบต่อการทำงาน โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ รักในความมีเหตุผล กล้าพูด กล้าแสดงออก รับฟังความคิดเห็นและ ทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างสร้างสรรค์ ตัวชี้วัด ว 2.1 ป.3/1 ป.3/2 ว 3.2 ป.3/1 ป.3/2 ป.3/3 ป.3/4 ว 3.1 ป.3/1 ป.3/2 ป.3/3 ว 2.3 ป.3/1 ป.3/2 ป.3/3 รวมทั้งหมด 12 จัวชี้วัด 29


เทอม 1 30


เทอม 2 31


32


33


34


35


36


37


38


39


40


41


ครูที่ปรึกษา ได้รับมอบหมายให้ดูแลนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/11 มีนักเรียนจำนวน 26 คน แบ่งออกเป็น ชาย 14 คน หญิง 12 คน มีหน้าที่ดังต่อไปนี้ 1. กำกับดูและความสะอาดภายในห้องเรียน 2. ดูแลการเข้าแถวตอนเช้าและเช็คชื่อ ลา ขาด สาย 3. ภาคเช้าพานักเรียน จดคำศัพท์พื้นฐาน 12 คำ และพาอ่าน 4. ภาคเที่ยงตักอาหารกลางวันและดูแลนักเรียนรับประมานอาหารบนห้องเรียน 5.ภาคบ่ายให้นักเรียนเขียนตามคำบอก 12 คำ ครูประจำวิชา ภาคเรียนที่ 1 -ได้รับมอบหมายสอนในรายวิชา วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ห้อง 3/7,3/8,3/9,3/10 9 ชั่วโมง/สัปดาห์ -ได้รับมอบหมายให้สอนรายวิชา ลูกเสือ-ยุวกาชาด 1 ชั่วโมง/สัปดาห์ ภาคเรียนที่ 2 -ได้รับมอบหมายสอนในรายวิชา วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ห้อง 3/7,3/8,3/9,3/10,3/11 10 ชั่วโมง/ สัปดาห์ -ได้รับมอบหมายสอนวิชา ลูกเสือ-ยุวกาชาด 1 ชั่วโมง/สัปดาห์ 42


ส่วนที่ 3 การปฏิบัติงานพิเศษ 43


ในการปฏิบัติงานพิเศษที่ได้รับมอบหมายนอกเหนือจากการสอนมีดังนี้ 1.ทำหน้าที่สอนในรายวิชา ลูกเสือ-ยุวกาชาดชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ทั้ง 2 ภาคเรียน 2. ทำหน้าที่เวรประจำหน้าโรงเรียน ทุกวันพฤหัสบดี เวลา 15:30 น – 16:30 น. 3. ทำหน้าที่คุมสอบในการวัดประเมินผล นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 4. ทำหน้าที่พิเศษตามคำสั่งของโรงเรียนในช่วงเวลา เทศกาลและกิจกรรมต่างๆ 44


45


Click to View FlipBook Version