กลุ่มกะลาแปรรูป ตำบล ท่าสาป

กลุ่มกะลาแปรรูป

ตำบลท่าสาป อำเภอเมือง จังหวัดยะลา

บริบทพื้นที่

ใ​นสมัยก่อนสะพานข้ามแม่น้ำปัตตาน
ียังไม่มี ชาวบ้านข้ามแม่น้ำโดยการใช้แพเป็น

พาหนะในการเดินทาง ซึ่งจะมีพวกกลุ่มอิทธิพล หนังตะลุง มโนราห์ หมอดู พวกกลุ่ม
เหล่านี้มีความเลื่อมใสทางไสยศาสตร์มาก เชื่อกันว่าเมื่อข้ามแพนี้แล้ว สิ่งศักดิ์ทั้ง
หลายจะเสื่อมลงทันที ไม่ขลังเหมือนเก่า และทางข้ามแพนี้จะมีสิ่งอาถรรพ์มากมาย จะ
สังเวยเอาชีวิตประชาชนปีละ 1 คน เป็นประจำทุกปี ชาวบ้านจึงเรียกว่า “ท่าสาป” บ้าน
ท่าสาป ได้มีการจัดตั้งเป็นหนึ่งตำบลในเมืองยะลาในปี พ.ศ.2390 ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ
ปัตตานี เป็นท่าเรือที่จะรับส่งสินค้า จากต้นน้ำคือบริเวณอำเภอเบตง อำเภอบันนังสตา

ตลอดจนเป็นจุดที่ล่องเรือสู่ปากน้ำปัตตานีด้วย

ประวัติของกลุ่ม

เดิมทางครอบครัวมีอาชีพกรีดยาง แต่ราคายางตกต่ำเลยหันมาขายน้ำอ้อย หลังจากนั้นลองผิด
ลองถูกหลายครั้ง และด้วยสภาพทางเศรษฐกิจตกต่ำทำให้ครอบครัวเกิดความคิดร่วมกันว่า ควรที่จะ
หาอาชีพเสริม เพื่อสร้างรายได้เพิ่มมากขึ้น จึงตัดสินใจเอากะลาที่เหลือจากการขายกะทิสด มา
แปรรูปทำเป็นสิ่งประดิษฐ์หรือเครื่องใช้ต่างๆ และด้วยทางสามีมีความถนัดทางด้านการประดิษฐ์จาก
เศษไม้ต่างๆ ได้นำกะลามาเเปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ และได้รับการตอบรับจากผู้คนเป็นจำนวน
มาก ทำให้มีคนรู้จักเพิ่มมากขึ้น และมีผู้ที่สนใจอยากร่วมกลุ่มด้วย จึงตัดสินใจ ตั้งกลุ่มแปรรูปโดยใช้
ชื่อว่า กะลาท่าสาป ตำบลท่าสาป อำเภอเมืองจังหวัดยะลา

หลังจากทางกลุ่มจัดตั้งมาเป็นเวลา 6 เดือน ได้มีผลิตภัณฑ์ออกจำหน่ายเป็นครั้งแรกในงาน
เทศกาลอาหารจานเด็ด 2560 เมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา ก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี มีประชาชนให้ความ
สนใจสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ เข้ามา โดยเฉพาะที่วางสบู่ กระถาง ที่เขี่ยบุหรี่ กระถางต้นไม้ เป็นต้น และทาง
กลุ่มกะลาได้ส่งออกสินค้าไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น มาเลเซีย และต่างจังหวัด จนถึงปัจจุบัน

กลุ่มเป้าหมาย

กลุ่มประชากรและกลุ่มตัวอย่างในการศึกษาครั้งนี้ สามารถจำแนกได้ ดังนี้

1. ประธานกลุ่มกะลาท่าสาปจำนวน 1 คน

2. สมาชิกกลุ่มกะลาท่าสาปจำนวน 14 คน



3. นายกเทศบาลตำบลท่าสาป 1 คน

การเก็บรวบรวมข้อมูล




เก็บรวบรวมข้อมูลโดยการศึกษาเก็บรวบรวมข้อมูลจากการศึกษาค้นคว้าข้อมูลจาก
เอกสารทางวิชาการเเละข้อมูลจากสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศและกระบวนการเก็บ

รวบรวมข้อมูลโดยการเก็บรวบรวมข้อมูลจากการสัมภาษณ์ โดยการเก็บรวบรวมข้อมูล
โดยใช้แบบสัมภาษณ์เป็นเครื่องในการเก็บข้อมูลดังกล่าว เป็นกระบวนการเก็บรวบรวม

ข้อมูลตามแนวทางตามกระบวนวิธีการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยสรุปดังนี้

1.เมื่อผู้ศึกษาได้สร้างแบบสัมภาษณ์และทำการตรวจส
อบแบบสัมภาษณ์เสร็จเรียบร้อยจะนำแบบสัมภาษณ์

ดังกล่าวไปสัมภาษณ์กลุ่มตัวอย่าง
2.เมื่อสัมภาษณ์แล้วผู้ศึกษาจะทำการตรวจสอบความเรียบร้อยของแบบสัมภาษณ์
ศึกษาและนำข้อมูลคำตอบที่สมบูรณ์ในแบบสัมภาษณ์ดังกล่าวที่สมบูรณ์ไปวิเคราะห์หาข้อมูลทางขั้น

ตอนเชิงคุณภาพต่อไป

การวิเคราะห์ข้อมูล
1.ผู้ศึกษานำข้อมูลจากการสัมภาษณ์ที่จัดลำดับค
วามสำคัญแล้วนำมาเปรียบเทียบความเหมือน

แตกต่างของแต่ละบุคคล และจัดลำดับความสำคัญและลักษณะของข้อมูล

2.นำข้อมูลจากการสัมภาษณ์ที่จัดลำดับข้อมูลความสำคัญแล้วนำมาเปรียบเทียบกับข้อมูลทางเอก


สารต่างๆที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นแนวคิดทฤษฎีผลงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อที่จะทราบถึงลักษณะที่
คล้ายคลึงกันและแตกต่างกันของข้อมูล

3.นำข้อมูลจากการสัมภาษณ์และจากการศึกษาต่างๆมาทำการวิเคราะห์ข้อมูลร่วมกันอย่างเป็น
ระบบและนำไปสู่การเชื่อมโยงข้อมูลเข้าด้วยการแสดงความสำคัญของข้อมูลได้ชัดเจนยิ่งขึ้นเพื่อ
สะดวกในการวิเคราะห์และเขียนรายงานข้อมูลที่ได้จากการศึกษาจะไม่ใช่ข้อมูลตัวเลขแต่จะเป็น
ข้อมูลเชิงพรรณนาที่มีรายละเอียดลึกและมีการอ้างถึงโดยตรงเกี่ยวกับที่มาของข้อมูลที่ได้จาก

การค้นคว้าหรือข้อมูลทางเอกสาร

ดังนั้น ข้อมูลเชิงคุณภาพที่ได้จากการตอบประเด็นสัมภาษณ์และ
ข้อมูลจากเอกสารต่างๆจะถูกนำมาวิเคราะห์และประมวลผลโดย
เชื่อมโยงความสัมพันธ์ ตามข้อเท็จจริงออกมาในลักษณะของการ

พรรณนานำไปสู่คำตอบในการ
ศึกษาและสรุปผลการศึกษา

ผลการดำเนินงาน

เป็นการศึกษาวิจัยเชิงพรรณนา ด้วยการสัมภาษณ์เชิงลึก จากผู้ให้ข้อมูลที่สำคัญคือ ประธาน กลุ่ม
กะลาท่าสาป จำนวน 1 คน และ นายกเทศบาลตำบลท่าสาป 1 คน โดยการสร้าง คำถามให้มีเนื้อหา
ครอบคลุมกับสิ่งที่ต้องการศึกษา ทั้งนี้ผู้ศึกษาได้เก็บข้อมูลจากคำถามการสัมภาษณ์แล้วมา ทำการ
วิเคราะห์ และแนวทางการพัฒนากลุ่มกะลาแปรรูปได้ดังนี้

1. แนวทางในการพัฒนาและต่อยอดสินค้าของกลุ่มกะลาแปรรูป

2. ผลิตภัณฑ์ ของกลุ่มกะลาแปรรูป การบริหาร ขยายการตลาด การพัฒนา การสร้าง
ผลิตภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์

ด้านคน ให้เป็นที่รู้จัก ใหม่ๆขึ้นมา

3. ปัญหาที่ต้องได้รับการแก้ไขของกลุ่มกะลาแปรรูป มากขึ้น

4 แนวทางการพัฒนากลุ่มกะลาแปรรูป มี 4 ด้าน

อภิปรายผลการศึกษา

จากการศึกษาแนวทางในการพัฒนากลุ่มกะลาท่าสาป กรณีศึกษากลุ่มกะลาแปรรูป ตำบล
ท่าสาป อำเภอเมือง จังหวัดยะลา มีทั้งหมด 4 ด้าน

1​ .การบริหารด้านคน กลุ่มแปรรูปกะลาท่าสาปมีการบริหารจัดการโดยการแบ่งหน้าที่ต่างๆอย่าง
ชัดเจนตามความถนัดของแต่ละบุคคล เช่น คนที่มีความรู้ความสามารถด้านการหาวัสดุอุปกรณ์ก็
จะมีหน้าที่หาวัสดุอุปกรณ์ในการทำผลิตภัณฑ์ต่างๆ ส่วนคนที่มีความรู้ความสามารถด้านการพูดก็
จะมีหน้าที่ประชาสัมพันธ์ และบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับการแปรรูปผลิตภัณฑ์กะลากับคนที่มาศึกษ
ดูงานหรือกับผู้ที่สนใจ ซึ่งจะสอดคล้องกับแนวคิด 4M ด้านบุคลากร ของ ถวิล จันทร์ชนะ (2534)
มีการส่งเสริมพัฒนาความรู้ความสามารถของพนักงานให้เกิดความเชี่ยวชาญอยู่ตลอดเวลา สร้าง
คนให้มีประสิทธิภาพมีความพร้อมต่อการทํางานและการเรียนรู้งานใหม่ๆ และยังสอดคล้องกับงาน
วิจัยของ จรินรัตน์ วรวงศ์พิทักษ์ และ ฟาริดา เอ็ลลาฮ (2563) ซึ่งรูปแบบการจัดการบริหารกลุ่ม
เช่น ด้านการบริหารคน หัวหน้ากลุ่มต้องมีภาวะผู้นำ ด้านเงิน มีการหาแหล่งเงินทุนจากภาครัฐมาส
นับสนุนพร้อมให้ความรู้ และยังสนับสนุนความรู้เกี่ยวกระบวนการเตรียมวัตถุดิบ ให้มีมาตรฐาน
และควบคุมคุณภาพได้

2. ขยายการตลาดให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น เพื่อให้กลุ่มเพิ่มรายได้ของกลุ่มให้มากขึ้นและเพื่อให้ผลิตภัณฑ์เป็น
ที่รู้จักมากขึ้นที่มุ่งไปสู่ผู้บริโภคเป็นสำคัญ มีการศึกษาความต้องการของกลุ่มเป้าหมายเพื่อผลิตหรือ
ปรับปรุงผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า และอีกทั้งยังให้ความสำคัญกับสินค้า OTOP ซึ่งเป็น
อีกทางหนึ่งที่จะเพิ่มรายได้และขยายการตลาดขึ้น และมีการโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้กับผู้บริโภคได้รับทราบ
โดยผ่านจากสื่อต่างๆ เช่น ใบปลิว โทรทัศน์ท้องถิ่น เป็นการตลาดยุคสมัยใหม่ ซึ่งจะสอดคล้องกับทฤษฎีการ
ตลาดของ ส.อ.ถนอม บริคุต (2557) และสอดคล้องกับทฤษฎีการขายของ อ.บรรจง รัตนเลิศ และ อ.สุด
เขต หนูรอด (2559) เป็นการตลาดที่มุ่งเน้นขายสินค้าและบริการ เพื่อกระตุ้นและตอบสนองการขายด้วยวิธี
การในลักษณะต่างๆ เช่น ลดแลกแจกแถม เพื่อให้ผู้บริโภคเกิดความสนใจและซื้อสินค้ามากขึ้น อีกทั้งยัง
สอดคล้องกับงานวิจัยของอัปสร อีซอ,ปวีณา เจะอารง ศุภมาศ รัตนพิพฒน์ และรอมซี แตมาสา (2563) ยัง
ให้ความสำคัญกับการซื้อสินค้า OTOP เป็นการขยายการตลาดอีกช่องทางหนึ่งของการจำหน่ายสินค้า
OTOP ให้มากขึ้นทุกรูปแบบ เพื่อเพิ่มโอกาสและช่องทางในการเข้าถึงผู้บริโภค และการตั้งราคาสิ้นค้าควรที่
จะกำหนดราคาสินค้าให้เหมาะสมกับตลาดด้วย

3. การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การพัฒนาผลิตภัณฑ์กะลาแปรรูปให้ มีความแข็งแรง
สวยงาม ได้สัดส่วนที่ถูกต้อง เพื่อประโยชน์ในการใช้สอยสร้างภาพพจน์ที่ดี และมี
ภาษาในการติดต่อสื่อสาร และทําให้เกิดผลความพึงพอใจจากผู้ซื้อสินค้า เพื่อให้กลุ่ม
เป็นที่รู้จักและมีรายได้มากขึ้น เพราะผลิตภัณฑ์มีความสำคัญในการที่จะให้มีรายได้
มากขึ้น และมีการจัดอบรมให้ความรู้เพิ่มเติมในการพัฒนารูป แบบผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ
ให้มีคุณภาพ และมาตรฐานที่ดีซึ่งจะสอดคล้องกับงานวิจัยของศมลพรรณ ภู่เล็ก
(2563) การพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่างๆจากกะลาเพื่อเพิ่มความสนใจของผู้บริโภคที่มีต่อ
ผลิตภัณฑ์ พบว่าสิ่งประดิษฐ์จากกะลาทำให้ผลิตภัณฑ์ มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ
ตัว ทั้งรูปร่าง ลักษณะของผลิตภัณฑ์ที่มีความโดดเด่นสวยงามมากขึ้น อีกทั้งยังใช้
วัตถุดิบที่มีในพื้นมาออกแบบให้เกิดผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องกับในยุคสมัยปัจจุบัน

4. การสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ๆขึ้นมา ปัจจุบันกลุ่มกะลาท่าสาปมีแนวทาง
ที่จะสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ๆขึ้น โดยที่กะลาเป็นวัตถุดิบหลักในการสร้างผลิต
ใหม่ๆ เพื่อให้เป็นจุดเด่นของกลุ่มและเพื่อตอบสนองความต้องของตลาด
และสร้างรายได้ให้กับกลุ่มมากขึ้น การสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ๆขึ้นมาเป็นสิ่ง
สำคัญอย่างหนึ่งต่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของกลุ่มต่างๆให้ก้าวไปข้าง
หน้าและเป็นที่รู้จกกันมากขึ้น ซึ่งจะสอดคล้องกับงานวิจัยของ ชลธิศ
ดาราวงษ์ (2560) การสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ เป็นการสร้างความยั่งยืนให้
กับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ซึ่งการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่นั้นถือว่าเป็นกระ
บวนการที่สำคัญอย่างมากต่อทุกธุรกิจ

ข้อเสนอแนะ

​1. ควรมีการสร้างการตลาดที่กว้างขึ้นเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับกลุ่มโดยการใช้สื่อออนไลน์ในการขยายตลาด
ของกลุ่มเปิดกว้างมากขึ้น
2​ . ควรมีการสนับสนุนให้เกิดระบบสวัสดิการหรือสนับสนุนด้านงบประมาณเพื่อรองรับกลุ่มวิสาหกิจกะลา
ท่าสาปให้มีบทบาท และสามารถพัฒนาตนเองในการบริหารจัดการกลุ่มในท้องถิ่นของนเอง และสามารถ
มีงบประมาณที่จะใช้จ่ายได้สะดวกมากขึ้นเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพมากขึ้น​
3. ควรมีการสร้างการมีสวนร่วมของคนในชุมชนโดยการจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้คนในชุมชนมีส่วนร่วม
ให้การพัฒนากลุ่มไปด้วยกัน เช่น จัดกิจกรรมอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการแปรรูปกะลาในรูปแบบต่างๆให้
คนในท้องถิ่นมีความเข้าใจในการแปรรูปผลิตภัณฑ์อีกทั้งยังสามารถสร้างอาชีพให้กับคนในชุมชนอีกด้วย
4. ควรมีการศึกษาข้อมูลของผู้บริโภค ว่าผู้บริโภคต้องการหรือสนใจผลิตภัณฑ์แบบไหน เพื่อพัฒนารูป
แบบผลิตภัณฑ์ใหม่ๆให้มากขึ้น

สมาชิกในกลุ่ม

1.นางสาวรุสมี สาแม รหัสนักศึกษา 406222004

2.นางสาวยาวาตี กะโด รหัสนักศึกษา 406222005

3.นางสาวโนร์ฮาลีซา ดอเล๊าะ รหัสนักศึกษา 406222029

4.นางสาวอาซือละห์ มะยายอ รหัสนักศึกษา 406222046