ประวตั ฟิ ุตบอล
จัดทำโดย
นำยพฒั นสุข หวงั ผล
รหัสนักศึกษำ 63121890204
สำขำพลศึกษำปี ที่ 1
เสนอ
อำจำรย์ ดร.ทพิ เนตร ปำสำ
รำยงำมเล่มนีเ้ ป็ นส่วนหนึ่งของกำรศึกษำวชิ ำ
ภำคเรียนที่ 2 ปี กำรศึกษำ 2564
มหำวทิ ยำลยั รำชภัฎสุรินทร์
ก
คำนำ
รายงานเล่มน้ีเป็นส่วนหน่ึงของวชิ า สุขศกึ ษา จดั ทาเรื่องเกี่ยวกบั กีฬาฟุตบอล มีท้งั ประวตั ิความ
เป็นมา กติกาต่างๆ และอีกหลายๆอยา่ งท่ีเก่ียวกบั กีฬาฟุตบอล หากมีขอ้ ผดิ พลาดประการใดขอ
อภยั ณ ท่ีน้ี
พฒั นสุข หวงั ผล
03 กนั ยำยน 2564
ก
สำรบัญ
คานา............................................................................................................................................ก
สารบญั .........................................................................................................................................
เร่ือง หนา้
ประวตั ิกีฬาฟุตบอล......................................................................................................................1
ประวตั ิฟุตบอลในประเทศไทย………………………………………………………………………..2-8
กติกาฟุตบอล………………………………………………………………………………..9-17
ประโยชนข์ องการเล่นฟุตบอล...................................................................................................18
อา้ งอิง.........................................................................................................................................19
1
ประวตั ฟิ ุตบอลควำมเป็ นมำของฟุตบอล
ฟุตบอล (Football) หรือซอคเกอ้ ร์ (Soccer) เป็นกีฬาที่มีผสู้ นใจท่ีจะชมการแข่งขนั และเขา้ ร่วม
เล่นมากท่ีสุดในโลก ชนชาติใดเป็นผกู้ าเนิดกีฬาชนิดน้ีอยา่ งแทจ้ ริงน้นั ไม่อาจจะยนื ยนั ได้
แน่นอน เพราะแต่ละชนชาติต่างยนื ยนั วา่ เกิดจากประเทศของตน แต่ในประเทศฝรั่งเศสและ
ประเทศอิตาลี ไดม้ ีการละเล่นชนิดหน่ึงท่ีเรียกวา่ “ซูเลอ” (Soule) หรือจิโอโค เดล คาซิโอ
(Gioco Del Calcio) มีลกั ษณะการเล่นท่ีคลา้ ยคลึงกบั กีฬาฟุตบอลในปัจจุบนั ท้งั สองประเทศ
อาจจะถกเถียงกนั วา่ กีฬาฟุตบอลถือกาเนิดจากประเทศของตน อนั เป็นการหาขอ้ ยตุ ิไม่ได้ เพราะ
ขาดหลกั ฐานยนื ยนั อยา่ งแทจ้ ริง ดงั น้นั ประวตั ิของกีฬาฟุตบอลท่ีมีหลกั ฐานท่ีแทจ้ ริงสามารถจะ
อา้ งอิงได้ เพราะการเล่นท่ีมีกติกาการแข่งขนั ท่ีแน่นอน คือประเทศองั กฤษเพราะประเทศองั กฤษ
ต้งั สมาคมฟุตบอลในปี พ.ศ. 2406 และฟุตบอลอาชีพขององั กฤษเกิดข้ึนในปี พ.ศ. 2431
ววิ ฒั นาการ ดา้ นฟุตบอลจะเป็นไปพร้อมกบั ความเจริญกา้ วหนา้ ของมนุษยต์ ลอดมา ตน้ กาเนิด
กีฬาตะวนั ออกไกลจะไดร้ ับอิทธิพลมาจากสงครามคร้ังสาคญั ๆ เช่น สงครามพระเจา้ อเลก็ ซานเด
อร์มหาราช ไดน้ าเอา “แกลโล-โรมนั ” (Gello-Roman) พร้อมกีฬาต่างๆ เขา้ มาสู่เมืองกอล (Gaul)
อนั เป็นรากฐานส่วนหน่ึงของกีฬาฟุตบอลในอนาคต และการเล่นฮาร์ปาสตมั (Harpastum) ได้
ถูกดดั แปลงมาเป็นกีฬาซูเลอ
2
ประวตั ฟิ ุตบอลในประเทศไทย
ประวตั ิฟุตบอลไทย กีฬาฟุตบอลในประเทศไทย ไดม้ ีการเล่นต้งั แต่สมยั “พระบาทสมเดจ็ พระ
จุลจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั ” รัชกาลท่ี 5 แห่งกรุงรัตนโกสิทร์ เน่ืองจากสมยั รัชกาลท่ี 5 พระองคไ์ ดส้ ่ง
พระเจา้ ลูกยาเธอ พระเจา้ หลานยาเธอ และขา้ ราชบริพารไปศกึ ษาวชิ าการดา้ นต่างๆ ท่ีประเทศ
องั กฤษ และผทู้ ่ีนากีฬาฟุตบอลกลบั มายงั ประเทศไทยเป็นคนแรกคือ “เจา้ พระยาธรรมศกั ด์ิ
มนตรี (สนน่ั เทพหสั ดิน ณ อยธุ ยา)” หรือ ท่ีประชนชาวไทยมกั เรียกชื่อส้นั ๆวา่ “ครูเทพ” ซ่ึง
ท่านไดแ้ ต่งเพลงกราวกีฬาที่พร้อมไปดว้ ยเรื่องน้าใจนกั กีฬาอยา่ งแทจ้ ริง เช่ือกนั วา่ เพลงกราว
กีฬาที่ครูเทพแต่งไวน้ ้ีจะตอ้ งเป็น “เพลงอมตะ” และจะตอ้ งคงอยคู่ ู่ฟ้าไทย
3
ประวตั ฟิ ุตบอลไทย ต้งั แต่ พ.ศ. 2440 – 2451
เมื่อปี พ.ศ. 2454-2458 ครูเทพ หรือ เจา้ พระยาธรรมศกั ด์ิมนตรี (สนนั่ เทพหสั ดิน ณ อยธุ ยา)
ท่านไดด้ ารงตาแหน่งเป็นเสนาบดีกระทรวงธรรมการคร้ังแรก เม่ือท่านไดน้ าฟุตบอลเขา้ มาเล่น
ในประเทศไทยไดม้ ีเสียงวพิ ากษว์ ิจารณ์ต่างๆมากมาย โดยหลายคนกล่าววา่ ฟุตบอลเป็นกีฬาที่
ไม่เหมาะสมกบั ประเทศท่ีมีอากาศร้อน เหมาะสมกบั ประเทศท่ีมีอากาศหนาวมากกวา่ และเป็น
เกมที่ทาใหเ้ กิดอนั ตรายต่อผเู้ ล่นและผชู้ มไดง้ ่าย ซ่ึงขอ้ วจิ ารณ์ดงั กล่าวถา้ มองอยา่ งผวิ เผนิ อาจ
คลอ้ ยตามได้ แต่ภายหลงั ขอ้ กล่าวหาดงั กล่าวกไ็ ดค้ ่อยหมดไปจนกระทงั่ กลายเป็น กีฬายอดนิยม
ท่ีสุดของประชาชนชาวไทยและชาวโลกทวั่ ทุกมุมโลก ซ่ึง ววิ ฒั นาการฟุตบอลไทย ดงั กาลงั อยู่
ระหวา่ งปรับปรุงขอ้ มูลต่อไปน้ี
พ.ศ. 2440 รัชกาลท่ี 5 ไดเ้ สดจ็ นิวตั ิพระนคร กีฬาฟุตบอลไดร้ ับความสนใจมากข้ึนจาก
บรรดาขา้ ราชการบรรดาครูอาจารย์ ตลอดจนชาวองั กฤษในประเทศไทยและผสู้ นใจชาว
ไทยจานวนมากข้ึนเป็นลาดบั กอร์ปกบั ครูเทพท่านไดเ้ พยี รพยายามปลูกฝังการเล่น
ฟุตบอลในโรงเรียนอยา่ งจริงจงั และแพร่หลายมากในโอกาสต่อมา
พ.ศ. 2443 (รศ. 119) การแข่งขนั ฟุตบอลเป็นทางการคร้ังแรกของไทยไดเ้ กิดข้ึนเม่ือวนั
เสาร์ที่ 2 กมุ ภาพนั ธ์
พ.ศ. 2443 (รศ. 119) ณ สนามหลวง ซ่ึงเป็นสถานท่ีออกกาลงั กายและประกอบงานพธิ ี
ต่างๆการแข่งขนั ฟุตบอลคู่ประวตั ิศาสตร์ของไทย ระหวา่ ง “ชุดบางกอก” กบั “ชุดกรม
ศกึ ษาธิการ” จากกระทรวงธรรมการหรือเรียกชื่อการแข่งขนั คร้ังน้ีวา่ “การแข่งขนั
ฟุตบอลตามขอ้ บงั คบั ของแอสโซซิเอชนั่ ” เพราะสมยั ก่อนเรียกวา่ “แอสโซซิเอชนั่
ฟุตบอล” (ASSOCIATIONS FOOTBALL) สมยั ปัจจุบนั อาจเรียกไดว้ า่ “การแข่งขนั
ฟุตบอลของสมาคม” หรือ “ฟุตบอลสมาคม” ผลการแข่งขนั ฟุตบอลนดั พเิ ศษดงั กล่าว
ปรากฏวา่ “ชุดกรมศึกษาธิการ” เสมอกบั “ชุดบางกอก” 2-2 (คร่ึงแรก 1-0) ต่อมาครูเทพ
ท่านไดว้ างแผนการจดั การแข่งขนั ฟุตบอลนกั เรียนอยา่ งเป็นทางการพร้อมแปลกติกา
ฟุตบอลแบบสากลมาใชใ้ นการแข่งขนั ฟุตบอลนกั เรียนคร้ังน้ีดว้ ย
4
พ.ศ. 2444 (รศ. 120) หนงั สือวทิ ยาจารย์ เล่มที่ 1 ตอนท่ี 7 เดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2444 ได้
ตีพมิ พเ์ ผยแพร่เรื่องกติกาการแข่งขนั ฟุตบอลสากลและการแข่งขนั อยา่ งเป็นแบบแผน
สากล
การแข่งขนั ฟุตบอลนกั เรียนคร้ังแรกของประเทศไทยไดเ้ กิดข้ึนในปี พ.ศ. 2444 น้ี ผเู้ ขา้
แข่งขนั ตอ้ งเป็นนกั เรียนชายอายไุ ม่เกิน 20 ปี ใชว้ ธิ ีจดั การแข่งขนั แบบนอ็ กเอาต์ หรือ
แบบแพค้ ดั ออก (KNOCKOUT OR ELIMINATIONS) ภายใตก้ ารดาเนินการจดั การ
แข่งขนั ของ “กรมศึกษาธิการ” สาหรับทีมชนะเลิศติดต่อกนั 3 ปี จะไดร้ ับโล่รางวลั เป็น
กรรมสิ ทธ์ ิ
พ.ศ. 2448 (รศ. 124) เดือนพฤศจิกายน สามคั ยาจารย์ สมาคม ไดเ้ กิดข้ึนคร้ังแรกเป็นการ
แข่งขนั ฟุตบอลของบรรดาครูและสมาชิกครู โดยใชช้ ่ือวา่ “ฟุตบอลสามคั ยาจารย”์
พ.ศ. 2450-2452 (รศ. 126-128) ผตู้ ดั สินฟุตบอลชาวองั ช่ือ “มร.อี.เอส.สมิธ” อดีตนกั
ฟุตบอลอาชีพไดม้ าทาการตดั สินในประเทศไทย เป็นเวลา 2 ปี ทาใหค้ นไทยโดยเฉพาะ
ครู-อาจารย์ และผสู้ นใจไดเ้ รียนรู้กติกาและส่ิงใหม่ๆเพิ่มข้ึนมาก
พ.ศ. 2451 (รศ. 127) มีการจดั การแข่งขนั “เตะฟุตบอลไกล” คร้ังแรก
5
ประวตั ิฟุตบอลไทย ต้งั แต่ พ.ศ. 2452 – 2458
พ.ศ. 2452 (รศ. 128) พระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั รัชกาลท่ี 5 ไดท้ รง
สวรรคต เมื่อวนั ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2452 นบั เป็นการสูญเสียคร้ังยงิ่ ใหญ่ของผสู้ นบั สนุน
ฟุตบอลไทยในยคุ น้นั ซ่ึงต่อมาในปี น้ี กรมศึกษาธิการกไ็ ดป้ ระกาศใชว้ ธิ ีการแข่งขนั
“แบบพบกนั หมด” (ROUND ROBIN) แทนวธิ ีจดั การแข่งขนั แบบแพค้ ดั ออกสาหรับ
คะแนนท่ีใชน้ บั เป็นแบบของแคนาดา (CANADIAN SYSTEM) คือ ชนะ 2 คะแนน
เสมอ 1คะแนน แพ้ 0 คะแนน และยงั คงใชอ้ ยจู่ นถึงปัจจุบนั
ต่อมาพระบาทสมเดจ็ พระมงกฏุ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั รัชกาลท่ี 6 พระองคท์ รงมีความสนพระทยั
กีฬาฟุตบอลเป็นอยา่ งยง่ิ ถึงกบั ทรงกีฬาฟุตบอลเอง และทรงต้งั ทีมฟุตบอลส่วนพระองค์
เองชื่อทีม “เสือป่ า” และไดเ้ สดจ็ พระราช ดาเนินประทบั ทอดพระเนตรการแข่งขนั
ฟุตบอลเป็นพระราชกิจวตั รเสมอมา โดยเฉพาะมวยไทยพระองคท์ รงเคย ปลอมพระองค์
เป็นสามญั ชนข้ึนต่อยมวยไทยจนไดฉ้ ายาวา่ “พระเจา้ เสือป่ า” พระองคท์ ่านทรงพระ
ปรีชาสามารถมาก จนเป็นที่ยกยอ่ งของพสกนิกรทว่ั ไปจนตราบเท่าทุกวนั น้ี
จากพระราชกิจวตั รของพระองคร์ ัชกาลท่ี 6 ทางดา้ นฟุตบอลนบั ไดว้ า่ เป็นยคุ ทองของ
ไทยอยา่ งแทจ้ ริงอีกท้งั ยงั มีการเผยแพร่ข่าวสาร หนงั สือพิมพ์ และบทความต่างๆทางดา้ น
ฟุตบอลดงั กาลงั อยรู่ ะหวา่ งปรับปรุงขอ้ มูลต่อไปน้ี
พ.ศ. 2457 (รศ. 133) พระยาโอวาทวรกิจ” (แหมผลพนั ชิน) หรือนามปากกา “ครูทอง”
ไดเ้ ขียนบทความกีฬา “เรื่องจรรยาของผเู้ ล่นและผดู้ ูฟุตบอล” และ “คุณพระวรเวทย์
พสิ ิฐ” (วรเวทย์ ศิวะศริยานนท)์ ไดเ้ ขียนบทความกีฬา “เร่ืองการเล่นฟุตบอล” และ “พระ
ยาพาณิชศาสตร์วธิ าน” (อู๋ พรรธนะแพทย)์ ไดเ้ ขียนบทความกีฬาที่ประทบั ใจชาวไทย
อยา่ งยง่ิ “เรื่องอยา่ สาหรับนกั เลงฟุตบอล”
6
พ.ศ. 2458 (รศ. 134) ประชาชนชาวไทยสนใจกีฬาฟุตบอลอยา่ งกวา้ งขวาง เนื่องจาก
กรมศึกษาธิการไดพ้ ฒั นาวธิ ีการเล่น วธิ ีจดั การแข่งขนั การตดั สิน กติกาฟุตบอลที่สากล
ยอมรับ ตลอดจนระเบียบการแข่งขนั ที่รัดกมุ ยงิ่ ข้ึน และผใู้ หญ่ในวงการใหค้ วามสนใจ
อยา่ งแทจ้ ริงนบั ต้งั แต่พระองคร์ ัชกาลท่ี 6 เองลงมาถึงพระบรมวงศานุวงศจ์ นถึงสามญั
ชน และชาวต่างชาติ และในปี พ.ศ. 2458 จึงไดม้ ีการแข่งขนั ฟุตบอลประเภทสโมสรคร้ัง
แรกเป็นการชิงถว้ ยพระราชทานและเรียกชื่อการแข่งขนั ฟุตบอลประเภทน้ีวา่ “การ
แข่งขนั ฟุตบอลถว้ ยทองของหลวง” การแข่งขนั ฟุตบอลสโมสรน้ีเป็นการแข่งขนั
ระหวา่ ง ทหาร-ตารวจ-เสือป่ า ซ่ึงผเู้ ล่นจะตอ้ งมีอายเุ กินกวา่ ระดบั ทีมนกั เรียน นบั วา่ เป็น
การเพ่ิมประเภทการแข่งขนั ฟุตบอล
ราชกรีฑาสโมสร หรือสปอร์ตคลบั นบั ไดว้ า่ เป็นสโมสรแรกของไทยและเป็นศูนยร์ วม
ของชาวต่างประเทศในกรุงเทพฯ ซ่ึงยงั อยใู่ นปัจจุบนั และสโมสรสปอร์ตคลบั เป็น
ศนู ยก์ ลางของกีฬาหลายประเภท โดยเฉพาะกีฬาฟุตบอลไดม้ ีผเู้ ล่นระดบั ชาติจาก
ประเทศองั กฤษมาเขา้ ร่วมทีมอยหู่ ลายคน เช่น มร.เอ.พ.ี โคลปี . อาจารยโ์ รงเรียนราช
วทิ ยาลยั นบั ไดว้ า่ เป็นทีมฟุตบอลที่ดี มีความพร้อมมากท้งั ทางดา้ นผเู้ ล่น งบประมาณ
และสนามแข่งขนั มาตรฐาน จึงตอ้ งเป็นเจา้ ภาพใหท้ ีมต่างๆของไทยเรามาเยอื นอยเู่ สมอ
ทาใหว้ งการ ฟุตบอลไทย ในยคุ น้นั ไดพ้ ฒั นายงิ่ ข้ึน และรัชกาลที่ 6 ทรงสนพระทยั โดย
เสดจ็ มาเป็นองคป์ ระธานพระราชทานรางวลั เป็นพระราชกิจวตั ร ทาใหป้ ระชาชนเรียก
การแข่งขนั สมยั น้นั วา่ “ฟุตบอลหนา้ พระที่นง่ั ” และระหวา่ งพกั คร่ึงเวลามีการแสดง
“พวกฟุตบอลตลกหลวง” นบั เป็นพิธีชื่นชอบของปวงชนชาวไทยสมยั น้นั เป็นอยา่ งยง่ิ
และการแข่งขนั ฟุตบอลสโมสรคร้ังแรกน้ี มีทีมสมคั รเขา้ ร่วมแข่งขนั จานวน 12 ทีม ใช้
เวลาในการแข่งขนั 46 วนั (11 ก.ย.-27 ต.ค. 2458) จานวน 29 แมตช์ ณ สนามเสือป่ า
ถนนหนา้ พระลาน สวนดุสิต กรุงเทพมหานคร หรือสนามหนา้ กองอานวนการรักษา
ความปลอดภยั แห่งชาติปัจจุบนั พระองคร์ ัชกาลท่ี 6 ไดท้ รงโปรดเกลา้ แต่งต้งั
คณะกรรมการดาเนินการแข่งขนั นบั วา่ ฟุตบอลไทยมีระบบในการบริหารมานานนบั ถึง
72 ปี แลว้
7
สมำคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ควำมก้ำวหน้ำของ ววิ ฒั นำกำรฟุตบอลไทย อกี หนึ่ง
ข้นั
มีววิ ฒั นาการตามลาดบั ต่อไปน้ี
พ.ศ. 2459 พระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั ทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ต้งั สมาคม
ฟุตบอลแห่งสยามข้ึนเม่ือวนั ที่ 25 เมษายน พทุ ธศกั ราช 2459 และตราขอ้ บงั คบั ข้ึนใชใ้ นสนาม
ฟุตบอลแห่งสยามดว้ ยซ่ึงมีชื่อยอ่ วา่ ส.ฟ.ท. และเขียนเป็นภาษาองั กฤษวา่ “THE FOOTBALL
ASSOCIATION OF THAILAND UNDER THE PATRONAGE OF HIS MAJESTY THE
KING” ใชอ้ กั ษรยอ่ วา่ F.A.T. และสมาคมฯ จดั การแข่งขนั ถว้ ยใหญ่และถว้ ยนอ้ ยเป็นคร้ังแรกใน
ปี น้ีดว้ ย
พ.ศ. 2468 เป็นภาคีสมาชิกสมาพนั ธฟ์ ุตบอลระหวา่ งชาติ เม่ือวนั ที่ 23 มิถุนายน พทุ ธศกั ราช
2468
ชุดฟุตบอลเสือป่ าพรานหลวง ไดร้ ับถว้ ยของพระยาประสิทธ์ิศุภการ (เจา้ พระยารามราฆพ) ซ่ึง
เล่นกบั ชุดฟุตบอลกรมทหารรักษาวงั เม่ือ พ.ศ. 2459-2460 ไดร้ ับไวเ้ ป็นกรรมสิทธ์ิ โดยชนะ 2 ปี
ติดต่อกนั
ชุดฟุตบอลสโมสรกรมหรสพ ไดร้ ับพระราชทาน “ถว้ ยใหญ่” ของสมาคมฟุตบอลแห่งสยาม ใน
พระบรมราชูปถมั ภ์ เมื่อวนั ท่ี 30 กนั ยายน 2459
พ.ศ. 2499 การแกไ้ ขเพมิ่ เติมขอ้ บงั คบั คร้ังที่ 3 และเรียกวา่ ขอ้ บงั คบั ลกั ษณะปกครอง
สมาคมฟุตบอลฯ ไดส้ ิทธ์ิส่งทีมฟุตบอลชาติไทยเขา้ ร่วมการแข่งขนั “กีฬาโอลิมปิ ก” คร้ังท่ี 16
นบั เป็นคร้ังแรกท่ีประเทศไทยมีสิทธ์ิเขา้ ร่วมการแข่งขนั เมื่อวนั ที่ 26 พฤศจิกายน พุทธศกั ราช
2499 ณ นครเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย
พ.ศ. 2500 เป็นภาคีสมาชิกสมาพนั ธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย ซ่ึงมีช่ือยอ่ วา่ เอเอฟซี และเขียนเป็น
ภาษาองั กฤษวา่ “ASIAN FOOTBALL CONFEDERATION” ใชอ้ กั ษรยอ่ วา่ A.F.C.
พ.ศ. 2501 การแกไ้ ขเพม่ิ เติมขอ้ บงั คบั ลกั ษณะปกครอง คร้ังท่ี 4
พ.ศ. 2503 การแกไ้ ขเพมิ่ เติมขอ้ บงั คบั ลกั ษณะปกครอง คร้ังที่ 5
8
พ.ศ. 2504-ปัจจุบัน สมาคมฟุตบอลฯไดจ้ ดั การแข่งขนั ฟุตบอลถว้ ยนอ้ ย และถว้ ยใหญ่ ซ่ึง
ภายหลงั ไดจ้ ดั การแข่งขนั แบบเดียวกนั ของสมาคมฟุตบอลองั กฤษคือจดั เป็นประเภทถว้ ย
พระราชทาน ก, ข, ค, และ ง และยงั จดั การแข่งขนั ประเภทอื่นๆ อีกเช่น ฟุตบอลนกั เรียน
ฟุตบอลเตรียมอุดม ฟุตบอลอาชีวะ ฟุตบอลเยาวชนและอนุชน ฟุตบอลอุดมศึกษา ฟุตบอลเอฟเอ
คพั ฟุตบอลควสี ์ คพั ฟุตบอลคิงส์คพั เป็นตน้ ฯลฯ นอกจากน้ียงั ไดจ้ ดั การแข่งขนั และส่งทีมเขา้
ร่วมกบั ทีมนานาชาติมากมายจนถึงปัจจุบนั
พ.ศ. 2511 สมาคมฟุตบอลไดส้ ิทธ์ิส่งทีมฟุตบอลชาติไทยเขา้ ร่วมการแข่งขนั กีฬาโอลิมปิ กเป็น
คร้ังท่ี 2 เม่ือวนั ที่ 13 ตุลาคม พทุ ธศกั ราช 2511 ณ ประเทศเมก็ ซิโก
พ.ศ. 2514 การแกไ้ ขเพิ่มเติมขอ้ บงั คบั ลกั ษณะปกครอง คร้ังที่ 6 ชุดฟุตบอลทีมชาติไทย ชุดแรก
ที่เดินทางไปแข่งขนั “กีฬาโอลิมปิ ก” คร้ังที่ 16 ณ นครเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย เมื่อวนั ที่
26 พฤศจิกายน 2499
พ.ศ. 2531 สมาคมฟุตบอลฯ ไดม้ ีโครงการจดั การแข่งขนั ฟุตบอลภายในประเทศ รวมท้งั เชิญทีม
ต่างประเทศเขา้ ร่วมแข่งขนั และส่งทีมเขา้ ร่วมการแข่งขนั ในต่างประเทศตลอดปี
9
กตกิ ำฟุตบอล 17 ข้อในปัจจุบันมอี ะไรบ้ำง?
กฎข้อท่ี 1: สนำมฟุตบอล
สนามฟุตบอล
สนำม เป็นสนามหญา้ รูปสี่เหล่ียมผนื ผา้ ความกวา้ งต่าสุด 50 หลา สูงสุด 100 หลา ความยาวต่าสุด
100 หลา สูงสุด 130 หลา
เครื่องหมำยในสนำม เกิดจากเส้นตา่ ง ๆ โดยในแต่ละเส้นจะมีความกวา้ งไมเ่ กิน 5 นิ้ว ทาเป็น
สญั ลกั ษณ์ในสนาม ไดแ้ ก่
o เส้นเขตสนาม อยรู่ อบเขตสนาม ส่วนที่ส้นั เรียก เส้นประตู ส่วนที่ยาวเรียก เส้นขา้ ง
o เส้นแบ่งเขตแดน แบ่งสนามตามขวางเป็น 2 ส่วนเทา่ ๆ กนั
o จุดก่ึงกลางสนาม อยกู่ ่ึงกลางเส้นแบ่งเขตแดน มีวงกลมรัศมี 10 หลาลอ้ มรอบจุดไว้
o เส้นประตู เชื่อมระหวา่ งโคนเสาประตูท้งั 2 ฝั่ง
o เขตประตู คือพ้ืนที่ท่ีเกิดจากการลากเส้นจากเสาประตูท้งั 2 ฝ่ังต้งั ฉากกบั เส้นประตู เขา้ หา
สนามยาว 6 หลา แลว้ เชื่อมดว้ ยเส้นตรง
10
o เขตโทษ คือพ้ืนที่ท่ีเกิดจากการลากเส้นจากเสาประตูท้งั 2 ฝ่ังขนานกบั เส้นประตู ออกจาก
ประตูยาว 16.5 เมตร แลว้ ลากเส้นต้งั ฉากกบั เส้นประตู เขา้ หาสนามยาว 16.5 เมตร แลว้ เชื่อม
ดว้ ยเส้นตรง
o จุดโทษ อยใู่ นเขตโทษ ห่างจากเสาประตู 12 หลา มีการเขียนส่วนโคง้ นอกเขตโทษ รัศมีห่าง
จากจุดโทษ 10 หลา
o ประตู มีสีขาว ระยะห่างระหวา่ งเสาประตู 8 หลา คานสูงจากพ้นื 8 ฟุต มีการติดตาข่ายรองรับ
ลูก
o มุมธง อยทู่ ้งั 4 มุมของสนาม รัศมี 1 หลา
o เสาธง เป็นจุดศูนยก์ ลางของมุมธง ไวแ้ สดงเขตในการเตะมุม สูงไม่นอ้ ยกวา่ 1.5 เมตร ยอดไม่
แหลม ผกู ธงไวท้ ี่ยอด
กฎข้อที่ 2: ลกู ฟุตบอล
เป็นทรงกลม ทาจากหนงั หรือวสั ดุอ่ืนๆ มีความยดื หยนุ่ ตามความเหมาะสมท่ีไมเ่ ป็นอนั ตรายต่อผู้
เล่น เป็นฟุตบอลเบอร์ 5 มีเส้นรอบวงประมาณ 68-70 เซนติเมตร น้าหนกั ประมาณ 410-450 กรัม
กฎข้อท่ี 3: จำนวนผู้เล่น
จานวนผูเ้ ล่นแตล่ ะทีม ลงไดส้ ูงสุด 11 คน หน่ึงในน้นั เป็นผรู้ ักษาประตู และแต่ละทีมประกอบดว้ ยผู้
เล่นตวั จริงและตวั สารอง ผูเ้ ล่นตวั จริงจะเป็ นผเู้ ล่นชุดแรกที่ลงสนาม ส่วนผเู้ ล่นตวั สารองมีไวเ้ พื่อสับเปลี่ยน
กบั ผเู้ ล่นตวั จริงในกรณีที่ผเู้ ล่นตวั จริงไมส่ ามารถเล่นไดห้ รือกรณีอื่น ๆ ตามความเหมาะสมหรือตามแต่ดุลย
พนิ ิจของผจู้ ดั การทีม (โดยการแข่งขนั เพ่อื จุดประสงคใ์ นการควา้ แชมป์ จะเปลี่ยนได้ 3 คนเท่าน้นั และเมื่อ 18
มีนาคม 2559 ที่ผา่ นมา ฟี ฟ่ ามีมติเห็นชอบใหเ้ ปลี่ยนตวั สารองคนที่ 4 ไดใ้ นช่วงต่อเวลาพิเศษ แตถ่ า้ เป็นการ
แข่งขนั กระชบั มิตรหรือเฉลิมฉลองสร้างความสัมพนั ธ์จะมีการเปลี่ยนตวั ไม่จากดั ) ผเู้ ล่นตวั จริงท่ีลงสนาม
ตอ้ งมีไม่ต่ากวา่ 7 คน และไมเ่ กิน 11 คน และหน่ึงในน้นั จะตอ้ งมีผเู้ ล่นตาแหน่งผรู้ ักษาประตู 1 คน, ตวั
สารองสามารถมีไดไ้ มเ่ กิน 7 คน ถา้ เป็นการแข่งทว่ั ไป หรือเช่ือมความสัมพนั ธ์ สามารถกาหนดจานวนตวั
สารองได้ โดยตอ้ งแจง้ ใหก้ รรมการทราบก่อนการแขง่ ขนั
11
กฎข้อที่ 4: อปุ กรณ์กำรเล่น
ลกู ฟุตบอล (ตามกฎขอ้ 2) ใชส้ าหรับเล่น 1 ลูก และ เคร่ืองแบบของนักกฬี ำ ทีมท้งั 2 ทีมท่ีลงแขง่ ขนั
สมาชิกทุกคนในทีมยกเวน้ ผรู้ ักษาประตูจะตอ้ งใส่ชุดแข่งขนั สีเดียวกนั และท้งั 2 ทีมจะตอ้ งใส่ชุดแข่งท่ีมีสี
ตดั กนั อยา่ งชดั เจน จะใส่ชุดท่ีมีโทนสีคลา้ ยกนั ไมไ่ ด้ (เช่น ทีมหน่ึงใส่ชุดแขง่ สีขาว อีกทีมหน่ึงใส่ชุดแขง่ สี
เหลือง) ผรู้ ักษาประตูจะตอ้ งใส่ชุดแขง่ ท่ีมีสีไม่ซ้ากบั ผเู้ ล่นท้งั 2 ทีม และนกั กีฬาที่ทาการแข่งขนั จะตอ้ งใส่
รองเทา้ (ในปัจจุบนั ไมอ่ นุญาตใหน้ กั กีฬาใชเ้ ทา้ เปล่าในการเล่น)
กฎข้อท่ี 5: ผู้ตัดสิน
โดยกรรมการจะมีหนา้ ที่ดงั ต่อไปน้ี
ปฏิบตั ิตามกติกาขอ้ ควบคุมการแข่งขนั โดยมีผชู้ ่วยผตู้ ดั สิน กรรมการผตู้ ดั สินคนที่ 4 คอยใหค้ วาม
ร่วมมือช่วยเหลือตามความเหมาะสม
แน่ใจวา่ ลูกบอลทุกลูกทีใชใ้ นการแข่งขนั ถูกตอ้ งตามขอ้ กาหนดของกติกาขอ้ 2
แน่ใจวา่ อุปกรณ์ของผเู้ ล่นถูกตอ้ งตามขอ้ กาหนดของกติกาขอ้ 4
ทาหนา้ ที่รักษาเวลาการแขง่ ขนั และเขียนรายงานการแข่งขนั
พจิ ารณาการส่ังหยดุ การเล่น หยดุ การเล่นชวั่ คราว หรือยตุ ิการแขง่ ขนั (Suspends or Terminate the
Match) ทุกกรณีของการกระทาผดิ กติกาการแขง่ ขนั
พิจารณาการสง่ั หยดุ การเล่น หยดุ การเล่นชวั่ คราว หรือยตุ ิการแข่งขนั เนื่องจากมีส่ิงรบกวนจาก
ภายนอกทุกชนิดทาการรบกวนการแขง่ ขนั
สั่งหยดุ การเล่นถา้ ดุลยพนิ ิจของเขาเห็นวา่ ผูเ้ ล่นบาดเจบ็ หนกั และแน่ใจวา่ เคล่ือนยา้ ยออกจาก
สนามแข่งขนั ไปแลว้ ผเู้ ล่นที่บาดเจบ็ น้นั จะกลบั เขา้ ไปในสนามแขง่ ไดอ้ ีกเอภายหลงั การเริ่มเล่นใหม่
ไดเ้ ร่ิมเล่นไปแลว้ .
อนุญาตใหก้ ารเล่นดาเนินตอ่ ไปจนกวา่ ลูกบอลจะอยนู่ อกการเล่นถา้ เห็นวา่ ผเู้ ล่นบาดเจบ็ เพียงเลก็ นอ้ ย
แน่ใจวา่ ผเู้ ล่นที่มีเลือดไหลออกจากบาดแผลไดอ้ อกจากสนามแขน่ ขนั แลว้ และผเู้ ล่นน้นั จะกลบั ไป
เล่นใหมไ่ ดเ้ มื่อไดร้ ับสัญญาณจากผตู้ ดั สิน ซ่ึงตอ้ งพงึ พอใจแลว้ วา่ เลือดท่ีไหลออกมาน้นั ไดห้ ยดุ แลว้
อนุญาตใหก้ ารเล่นดาเนินตอ่ ไปเมื่อทีมที่ถูกกระทาผดิ จะเกิดประโยชน์จากการไดเ้ ปรียบ และถา้ การ
คาดคะเนในการใหไ้ ดเ้ ปรียบน้นั ไม่เป็นตามท่ีคาดไวใ้ นขณะน้นั การจะลงโทษตามความผดิ ท่ีเกิดข้ึน
แต่แรกน้นั
12
ลงโทษความผดิ ที่ร้ายแรงกวา่ ในกรณีท่ีผเู้ ล่นทาผดิ มากกวา่ 1 อยา่ ง ภายในเวลาเดียวกนั
ควบคุมระเบียบวนิ ยั โดยแสดงการตอ่ ตา้ นต่อผูเ้ ล่นที่กระทาผดิ ตอ้ งไดร้ ับการคาดโทษ และการให้
ออกจากการแข่งขนั เขาไม่ไดถ้ ูกบงั คบั วา่ ตอ้ งกระทาในทนั ทีทนั ใด แต่ตอ้ งทาทนั ทีลูกบอลอยนู่ อก
การเล่นแลว้
ทาหนา้ ท่ีแสดงการตอ่ ตา้ นเจา้ หนา้ ที่ทีมที่ขาดความรับผดิ ชอบในการควบคุมการประพฤติปฏิบตั ิ
ตนเองที่ดี และเขาอาจพิจารณาใหอ้ อกจากสนามแขง่ ขนั และบริเวณแวดลอ้ มในทนั ที
ปฏิบตั ิตามการช่วยเหลือของผชู้ ่วยผตู้ ดั สินตามเหตุการณ์ที่ตนเองมองไม่เห็น
แน่ใจวา่ ไมม่ ีบุคคลอ่ืน ๆ ท่ีไมไ่ ดร้ ับอนุญาตเขา้ ไปในสนามแขง่ ขนั
ใหท้ าการเริ่มเล่นไดห้ ยดุ ลง
เขียนรายงานการแขง่ ขนั เสนอต่อผทู้ ่ีมีอานาจหนา้ ท่ีท่ีไดแ้ ต่งต้งั ไว้ ซ่ึงรวบรวมขอ้ มูลที่เก่ียวกบั การ
ควบคุมระเบียบทุกอยา่ งท่ีกระทาต่อผเู้ ล่นและ /หรือเจา้ หนา้ ท่ีทีมและเหตุการณ์อื่น ๆ ทุกกรณีท่ี
เกิดข้ึนก่อนการแขง่ ขนั ระหวา่ งการแข่งขนั หรือภายหลงั การแขง่ ขนั
ผตู้ ดั สินจะมีสิทธ์ิใหใ้ บเหลืองหรือใบแดงตามความเหมาะสมตอ่ เมื่อผเู้ ล่นทาผเู้ ล่นฝ่ ายตรงขา้ มรุนแรง
หรือแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมตอ่ ผเู้ ล่นฝ่ ายตรงขา้ มหรือผตู้ ดั สินโดยตรงหรือกรณีอื่นๆแตอ่ ยา่ งใด
กฎข้อท่ี 6: ผู้ช่วยผู้ตดั สิน
ผชู้ ่วยผตู้ ดั สิน (assistant referee) มีหนา้ ที่ช่วยเหลือผตู้ ดั สินในการควบคุมการแขง่ ขนั ให้เป็นไปตาม
กติกาการแข่งขนั และในกรณีพิเศษผชู้ ่วยผตู้ ดั สินอาจเขา้ ไปในสนามไดเ้ พอ่ื ช่วยควบคุมระยะ 9.15 เมตร ถา้
ผชู้ ่วยผตู้ ดั สินเขา้ ไปเกี่ยวขอ้ งกบั การปฏิบตั ิหนา้ ท่ีของผตู้ ดั สินเกินสมควร หรือประพฤติตนไม่เหมาะสมผู้
ตดั สินสามารถปลดเขาออกจากหนา้ ที่ และเขียนรายงานเสนอต่อผมู้ ีอานาจหนา้ ท่ีท่ีไดร้ ับการแตง่ ต้งั ไว้
13
กฎข้อที่ 7: ระยะเวลำกำรแข่งขนั
ช่วงเวลาของการแขง่ ขนั (Periods of Play) การแข่งขนั แบ่งออกเป็ น 2 คร้ัง คร้ัง ละ 45 นาทีเท่ากนั
การรักษาเวลาเป็ นหนา้ ที่ของผรู้ ักษาเวลา ซ่ึงมีหนา้ ที่ตามท่ีกาหนดไวใ้ นกติกา 7ขอ้ ระยะเวลาของการ
แข่งขนั แตล่ ะคร่ึงเวลา อาจจะมีการเพ่มิ การเตะโทษ ณ จุดโทษ
เวลานอก (Time-out) ท้งั สองทีมมีสิทธ์ิขอเวลานอกเป็ นระยะเวลา 1 นาที ไดใ้ นแต่ละคร่ึงเวลา ภายใต้
เง่ือนไขดงั ต่อไปน้ี
1. ผฝู้ ึกสอนเทา่ น้นั ที่มีสิทธ์ิในการขอเวลานอก 1 นาที จากผรู้ ักษาเวลา
2. การขอเวลานอก 1 สามารถร้องขอไดต้ ลอดเวลา แต่จะใหเ้ วลานอก กต็ ่อเม่ือทีมไดเ้ ป็นฝ่ าย
ครอบครองบอล (ส่งลูกบอลเขา้ เล่น)
3. ผรู้ ักษาเวลาตอ้ งแสดงการอนุญาตสาหรับการขอเวลานอกของทีม เม่ือลูกบอลอยนู่ อกการเล่นโดย
การใชเ้ สียงสญั ญาณอ่ืน ๆ ที่แตกตา่ งจากเสียงสัญญาณนกหวดี ของผตู้ ดั สินท่ีใชอ้ ยู่
4. เม่ืออนุญาตใหเ้ ป็ นเวลานอก ผเู้ ล่นทุกคนตอ้ งรวมกนั อยใู่ นสนามแข่งขนั ถา้ ตอ้ งไดร้ ับคาแนะนา
จากเจา้ หนา้ ที่ทีม จะกระทาไดเ้ ฉพาะท่ีเส้นขา้ งบริเวณดา้ นหนา้ ท่ีนง่ั สารองของทีมตนเอง ผเู้ ล่นทุกคนตอ้ งไม่
ออกไปนอกสนามแข่งขนั เช่นเดียวกนั กบั เจา้ หนา้ ที่ทีมที่ตอ้ งใหค้ าแนะนาจะตอ้ งไม่เขา้ ไปในสนามแขง่ ขนั
5. ถา้ ทีมไม่ใชส้ ิทธ์ิในการขอเวลานอกในคร่ึงเวลาแรก จะไมส่ ามารถนาไปทดแทนในคร่ึงเวลาหลงั
ได้ พกั คร่ึงเวลา (Half - time Interval) การพกั คร่ึงเวลาตอ้ งไม่เกิน 15 นาที
ขอ้ ตกลง (Decisions)
1. ถา้ ไม่มีผรู้ ักษาเวลา ผฝู้ ึกสอนตอ้ งร้องขอเวลานอกไดจ้ ากผตู้ ดั สิน
2. ถา้ ระเบียบการแข่งขนั ระบุใหม้ ีการต่อเวลาพิเศษ ในกรณีที่การแข่งขนั ในเวลาปกติ ถา้ ผลการ
แขง่ ขนั จบลงดว้ ยการเสมอกนั การแขง่ ขนั ในระหวา่ งการตอ่ เวลาพเิ ศษของการแข่งขนั จะไมม่ ีการขอเวลา
นอก
14
กฎข้อที่ 8: กำรเริ่มต้นกำรแข่งขนั
1. เม่ือเริ่มเล่น ในการที่จะเลือกแดนหรือเลือกเตะเร่ิมเล่นก่อน ใหต้ ดั สินโดยการเส่ียงเหรียญ (โยน
หวั -กอ้ ย) ฝ่ ายที่ชนะการเสี่ยงเป็นผมู้ ีสิทธ์ิในการเลือกแดนหรือเลือกเตะ
2. เมื่อไดป้ ระตู การเล่นตอ้ งเร่ิมตน้ ใหม่ ในทานองเดียวกนั โดยผเู้ ล่นคนหน่ึงของฝ่ ายที่เสียประตู เป็น
ผเู้ ตะเร่ิมเล่น
3. เมื่อหมดคร่ึงเวลา การต้งั ตน้ เล่นใหมห่ ลงั จากไดห้ ยดุ พกั ระหวา่ งคร่ึงเวลาแลว้ ใหเ้ ปล่ียนแดนและ
ใหผ้ เู้ ล่นคนหน่ึงของชุดฝ่ ายตรงขา้ มท่ีมิไดเ้ ตะเร่ิมเล่นในตอนแรก เป็นผเู้ ตะเริ่มเล่น
กฎข้อที่ 9: บอลออกนอกสนำม
ลูกบอลจะอยนู่ อกการเล่นเมื่อ
1. ลูกบอลไดผ้ า่ นเส้นประตูหรือเส้นขา้ งไม่วา่ จะเป็นบนพ้ืนดินหรือในอากาศออกไปท้งั ลูก
2. ผตู้ ดั สินส่ังหยดุ การเล่นลูกบอลอยใู่ นการเล่น (Ball In Play) ลูกบอลอยใู่ นการเล่นตลอดเวลา
รวมท้งั ในขณะท่ีกระดอนจากเสาประตู คานประตู หรือธงมุมสนาม และเขา้ มาในสนามแข่งขนั
กฎข้อที่ 10: วธิ ีนับคะแนน
ถา้ ลูกฟุตบอลลอยขา้ มเส้นประตูเตม็ ใบ โดยการเล่นลูกที่ถูกกติกา (ไดแ้ ก่การใชเ้ ทา้ หรือศีรษะ) ถือวา่
ได้ 1 คะแนน (ในภาษาฟุตบอลเรียกวา่ 1 ประตู) อยา่ งไรก็ดี มกั มีคนเขา้ ใจผดิ วา่ การไดค้ ะแนน คือ การท่ีลูก
บอลสมั ผสั กบั ตาขา่ ยหลงั เส้นประตู ซ่ึงจริงๆ แลว้ ตาข่ายไม่มีส่วนเกี่ยวขอ้ งกบั กติกาฟุตบอล มีไวเ้ พ่ือรองรับ
ลูกบอลที่เขา้ ประตูแลว้ เท่าน้นั
15
กฎข้อท่ี 11: กำรลำ้ หน้ำ
1. ผเู้ ล่นจะอยใู่ นตาแหน่งล้าหนา้ ถา้ เขาอยใู่ กลเ้ ส้นประตูของคูต่ ่อสู้กวา่ ลูกบอล
2. ผเู้ ล่นจะถูกตดั สินใหเ้ ป็ นเล่นล้าหนา้ และจะถูกลงโทษ ถา้ ผตู้ ดั สินพจิ ารณาเห็นวา่ ขณะท่ีลูกโดน
หรือลูกเล่นโดยผูเ้ ล่นฝ่ ายเดียวกนั
3. ผเู้ ล่นจะยงั ไมถ่ ูกตดั สินวา่ ล้าหนา้ ถา้
เขาเพียงแต่อยใู่ นตาแหน่งล้าหนา้ เทา่ น้นั หรือ
เขาไดร้ ับลูกโดยตรงจากการเตะจากประตู การทุม่ จากเส้นขา้ ง การเตะจากมุม หรือ การปล่อยลูกจาก
มือโดยผตู้ ดั สิน
ถา้ ผเู้ ล่นถูกตดั สินใหเ้ ป็ นเล่นล้าหนา้ ผตู้ ดั สินจะใหค้ ูต่ ่อสู้ไดเ้ ตะโทษโดยออ้ ม ณ ที่ซ่ึงการละเมิดกติกา
ไดเ้ กิดข้ึน
กฎข้อท่ี 12: ฟำวล์
ผเู้ ล่นคนใดเจตนากระทาผดิ ขอ้ หน่ึงขอ้ ใดใน 9 ขอ้ ดงั ต่อไปน้ี
1. เตะ หรือ พยายามจะเตะคู่ตอ่ สู้
2. ขดั ขาคูต่ ่อสู้ คือทาหรือพยายามจะทาใหค้ ูต่ อ่ สู้ลม้ ลงดว้ ยการใชข้ า หรือดว้ ยการหมอบลงขา้ งหนา้
หรือขา้ งหลงั
3. กระโดดเขา้ หาคู่ตอ่ สู้
4. ชนคูต่ ่อสู้อยา่ งรุนแรง
5. ชนคู่ตอ่ สู้ขา้ งหลงั นอกจากคู่ต่อสู้น้นั เจตนากีดกนั
6. ทาร้าย หรือพยายามจะทาร้ายคู่ต่อสู้ หรือถ่มน้าลายรดคู่ต่อสู้
7. ฉุด ดึง คู่ต่อสู้
8. ผลกั ดนั คู่ตอ่ สู้
9. เล่นดว้ ยมือ คือ ทุบ ต่อย ปัด เตะลูกดว้ ยมือ หรือแขน
16
กฎข้อท่ี 13: ฟรีคกิ
การเตะฟรีคิกจะเกิดข้ึนต่อเม่ือผเู้ ล่นฝ่ ายตรงขา้ มทาฟาวลห์ รือล้าหนา้ ต้งั แตจ่ ุดท่ีทาฟาวลห์ รือตาแหน่ง
ล้าหนา้ โดยจะผูเ้ ล่นต้งั เตะลูกฟรีคิกตรงจุดที่ผเู้ ล่นฝ่ ายตรงขา้ มทาฟาวลห์ รือตาแหน่งล้าหนา้
กฎข้อท่ี 14: ลกู โทษหรือกำรยงิ จุดโทษ
การยงิ จุดโทษในเวลาการแข่งขนั จะเกิดข้ึนตอ่ เม่ือผูเ้ ล่นฝ่ ายตรงขา้ มทาฟาวลต์ ้งั แต่ในเขตโทษ การยงิ
ลูกโทษจะเป็นการใหผ้ เู้ ล่นยงิ ดวลตวั ต่อตวั กบั ผรู้ ักษาประตูโดยท่ีผูเ้ ล่นคนอ่ืนที่ไมไ่ ดม้ ีหนา้ ที่ยงิ จุดโทษหรือ
ไมใ่ ช่ผรู้ ักษาประตูที่จะตอ้ งเซฟจุดโทษจะตอ้ งอยบู่ ริเวณนอกเขตโทษจนกวา่ ผเู้ ล่นที่ยิงจุดโทษจะยงิ ประตูผู้
เล่นคนอ่ืนจึงจะมีสิทธ์ิวง่ิ ในเขตโทษได้
เม่ือต่อเวลาพเิ ศษ30นาทีแลว้ ไม่มีทีมทาประตูไดห้ รือเสมอจะทาการยงิ ลูกที่จุดโทษ โดยจะใชผ้ เู้ ล่นยงิ
สลบั กนั ฝ่ังละ5คนเมื่อยงิ ครบแลว้ ยงั หาผชู้ นะไมไ่ ดก้ ็จะยงิ ต่อไปจนมีผชู้ นะ โดยการยงิ ลูกจุดโทษน้นั เป็นวธิ ี
สุดทา้ ยท่ีหาทีมชนะ
กฎข้อท่ี 15: กำรท่มุ
การทุม่ ขณะแข่งขนั ลูกฟุตบอลไดอ้ อกเส้นขา้ งไปท้งั ลูก ไมว่ า่ จะกลิ้งไปบนพ้ืนสนามหรือลอยไปบน
อากาศก็ตาม ใหผ้ เู้ ล่นฝ่ ายตรงขา้ มเป็นฝ่ ายไดท้ ุ่ม
-เทา้ ท้งั สองขา้ งตอ้ งติดพ้ืนตลอดเวลาการทุม่
- ตอ้ งทุม่ ดว้ ยมือท้งั สอง ลูกบอลออกจากดา้ นหลงั ศีรษะ แขนท้งั สองขา้ งตึง " ตอ้ งผา่ นศีรษะไป
ขา้ งหนา้ อยา่ งต่อเนื่อง "
- ดา้ นหนา้ ของร่างกายหนั หนา้ เขา้ หาสนามดา้ นไหนใหท้ ุม่ ไปทางน้นั
- ยอ่ ทุม่ ได้ แต่หา้ มนง่ั ทุ่ม
- บอลออกเส้นขา้ ง ณ จุดใด ใหท้ ุม่ ณ จุดน้นั
- ณ จุดที่มือปล่อยบอล เทา้ หรือตวั ของผทู้ ุ่ม หา้ มห่างจากเส้นขา้ งเกิน หน่ึงเมตร
- ฝ่ ายรับตอ้ งยนื ห่างจากผทู้ ุ่ม ในสนามแขง่ ขนั อยา่ งนอ้ ย ๒ เมตร
17
- ทุม่ ทีเดียว โดยไม่สมั ผสั ผเู้ ล่นฝ่ ายใด ฝ่ ายหน่ึง ไม่ถือวา่ เป็ นประตู
- รับบอลจากการทุ่ม ไม่มีการล้าหนา้
- ทุม่ บอลคืนใหผ้ ูร้ ักษาประตู ผรู้ ักษาประตูใชม้ ือรับ ให้เตะลูกโทษโดยออ้ ม ณ จุดเกิดเหตุ ทนั ที
กฎข้อท่ี 16: โกลคกิ
คือ ลูกต้งั เตะจากเขตประตู โดยเม่ือลูกท้งั ลูกไดผ้ า่ นเส้นประตูออกไปนอกสนาม นอกจากจะผา่ นไป
ในระหวา่ งเสาประตูไมว่ า่ จะกลิ้งไปบนพ้นื สนามหรือลอยไปในอากาศก็ตาม โดยฝ่ ายรุกเป็นผถู้ ูกลูกน้นั เป็น
คร้ังสุดทา้ ย ใหผ้ รู้ ักษาประตูเตะจากในกรอบเขตประตู
กฎข้อท่ี 17: กำรเตะมมุ
เม่ือลูกท้งั ลูกไดผ้ า่ นเส้นประตูออกไปนอกสนาม นอกจากจะผา่ นไปในระหวา่ งเสาประตูไมว่ า่ จะกลิ้ง
ไปบนพ้นื สนามหรือลอยไปในอากาศกต็ าม โดยฝ่ ายรับเป็ นผถู้ ูกลูกน้นั เป็นคร้ังสุดทา้ ย ใหฝ้ ่ ายรุกนาลูกไป
วางเตะภายในเขตมุม ณ ธงมุมใกลก้ บั ท่ีลูกไดอ้ อกไปและตอ้ งไม่ทาใหค้ นั ธงเคลื่อนท่ี ในการเตะจากมุมน้ี ถา้
เตะทีเดียวลูกตรงเขา้ ประตูให้นบั วา่ ไดป้ ระตู ผเู้ ล่นฝ่ ายตรงขา้ มกบั ผเู้ ตะจากมุมน้นั จะเขา้ มาอยใู่ กลล้ ูกใน
ขณะท่ีผเู้ ตะกาลงั จะเตะลูกนอ้ ยกวา่ 10 หลา ไมไ่ ดเ้ วน้ เสียแตผ่ เู้ ตะจะไดเ้ ตะใหล้ ูกไปไดไ้ กลอยา่ งนอ้ ยเทา่ กบั
ระยะรอบวงของลูกจึงจะเล่นต่อไปได้ จะเล่นน้นั ซ้าอีกไม่ไดจ้ นกวา่ ลูกน้นั จะไดถ้ ูกหรือเล่นโดยผเู้ ล่นคนใด
คนหน่ึงเสียก่อน
18
ประโยชนจ์ ากการเล่นฟุตบอล สรุปไดป้ ระมาณ 8 ขอ้ ด้งั น้ี
1. เล่นฟุตบอล 15 นาที ลดพลงั งานสะสมได้ ประมาณ 200 กิโลแคลอรี
2. เล่นฟุตบอลเยยี วยา 5 โรคร้าย
– การเล่นฟุตบอลมีประโยชนใ์ นการรักษาโรคมากมาย เช่น มีหลกั ฐานแน่ชดั วา่ ผปู้ ่ วยโรคหืด
หอบจะดีข้ึนไดจ้ ากการออกกาลงั กาย
– โรคเบาหวาน มีผปู้ ่ วยจานวนมากที่ใชว้ ธิ ีการควบคุมอาหาร ควบคู่กบั การออกกาลงั กายอยา่ ง
สม่าเสมอ ทาใหร้ ะดบั น้าตาลลงมาสู่ปกติ จนไม่ตอ้ งฉีดยาอินซูลิน หรือกินยาลดระดบั น้าตาล
หรือถา้ ตอ้ งใชก้ เ็ ป็นจานวนที่นอ้ ยลง
– โรคความดนั โลหิตสูง การออกกาลงั กายจะช่วยใหห้ ลอดเลือดแดงมีความยดื หยนุ่ ดีข้ึน ความ
ดนั โลหิตลดลงได้
– โรคถุงลมโป่ งพอง เหนื่อยง่าย การออกกาลงั กาย ช่วยใหก้ ารทางานของระบบหวั ใจ การ
ไหลเวยี นโลหิต และระบบการหายใจดีข้ึน
– โรคไขมนั ในเลือดสูง การออกกาลงั กายจะช่วยลดปริมาณไขมนั ตวั เลว (LDL) และเพ่มิ ปริมาณ
ไขมนั ตวั ดี (HDL) ใหม้ ากข้ึน
3. เล่นฟุตบอลป้องกนั โรคกระดูกพรุน
4. เล่นฟุตบอลป้องกนั โรคหวั ใจและสมองขาดเลือด
5. เล่นฟุตบอลป้องกนั โรคความดนั โลหิตสูง
6. เล่นฟุตบอลป้องกนั โรคมะเร็งลาไสใ้ หญ่และเตา้ นม
7. เล่นฟุตบอลป้องกนั โรคซึมเศร้า อ่อนเพลียง่าย
8. เล่นฟุตบอลป้องกนั โรคอว้ น
19
อ้ำงองิ
https://palmppbb.wordpress.com/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B
8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%9F%E0%B8%B8%E0
%B8%95%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%A5/
https://www.educatepark.com/story/thai-football-history/
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%81
%E0%B8%B2%E0%B8%9F%E0%B8%B8%E0%B8%95%E0%B8%9A%E0%B8%
AD%E0%B8%A5
https://sites.google.com/site/exanatachai111/prayochn-khxng-kar-len-kila-futbxl