53
โมดลู 3
มาตรฐาน : การพฒั นาหลักสูตร การประกันคณุ ภาพ
และการบริหารจดั การ
ศาสตราจารย์ ดร.วิจติ ร ศรีสอา้ น
ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.ผดุงศักด์ิ สุขสอาด
และผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อาทิตย์ คณู ศรีสขุ
54
โมดลู 3
มาตรฐาน : การพฒั นาหลักสูตร การประกันคณุ ภาพ และการบริหารจดั การ
โดย ศาสตราจารย์ ดร.วิจิตร ศรสี อ้าน
ผ้ชู ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.ผดุงศกั ดิ์ สขุ สอาด
และผชู้ ่วยศาสตราจารย์ ดร.อาทิตย์ คูณศรสี ุข
1. หลักการและเหตุผล
โดยทั่วไปการจัดการศึกษาเป็นหน้าที่ของรัฐ โดยรัฐจัดเองหรือมอบหมายให้เอกชนจัด
ในรูปแบบต่าง ๆ ท้ังในระบบ นอกระบบ และตามอัธยาศัย รัฐจึงมีอานาจในการกาหนดนโยบาย
มาตรฐาน จัดสรรทรัพยากรอุดหนุน และติดตามตรวจสอบการจัดการศึกษาระดับต่าง ๆ ให้เป็น
ไปตามนโยบายและมาตรฐานท่ีกาหนด การศกึ ษาจงึ เป็น “กิจกรรมและกระบวนการสร้างความเจริญ
งอกงามแก่บคุ คลท้งั ด้าน ความเรอื งปัญญาและคณุ ธรรม มคี วามรู้ ทักษะ สมรรถนะและเจตคติในการ
เป็นพลเมืองดขี องประเทศชาติและประชาคมโลก”
การศึกษาทุกระดับไม่ว่าจะเป็นการศึกษาขั้นพื้นฐาน การอาชีวศึกษา และการอุดมศึกษา
จงึ ตอ้ งมุ่ง “สรา้ งคน” ให้มีท้งั “ความเป็นคน” (Manhood) และ “ความเป็นกาลังคน (Manpower)”
โดยการพฒั นาหลักสูตรและการสอนใหส้ อดคล้องกบั นโยบายและมาตรฐานของการศึกษาแต่ละระดับ
สาหรับประเทศไทยได้มีการจัดทายุทธศาสตร์ 20 ปี เพื่อพัฒนาประเทศไทยสู่ความเป็นประเทศไทย
4.0 ในยุทธศาสตร์ดังกล่าวได้กาหนดให้สถาบันอุดมศึกษามีหน้าท่ี “สร้างคน สร้างความรู้ และสร้าง
นวัตกรรม” เพื่อขับเคล่ือนประเทศไทยสู่ความเป็นประเทศในโลกท่ีหน่ึง ที่พลเมืองมีรายได้สูง แข่งขันได้
และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สถาบันอุดมศึกษาจึงต้องสรรหาวิธีการจัดการศึกษาที่จะช่วยสร้าง
“บัณฑิต” ท่ีมีความรู้ ทักษะ สมรรถนะ คุณลักษณะและเจตคติตรงกับความต้องการของผู้ใช้บัณฑิต
และใช้ประโยชน์ได้จริง เพื่อให้ประเทศไทยพึ่งตนเองในการพัฒนาได้และแข่งขันได้ในประชาคมโลก
รัฐจึงต้องกาหนดมาตรฐานกลางของหลักสตู รการศึกษาเพื่อการจัดการเรียนการสอน และการประกัน
คุณภาพการศึกษาแตล่ ะระดบั และประเภทการศกึ ษา
2. วัตถปุ ระสงค์เชิงพฤติกรรม
เพ่ือให้ผู้เข้ารับการศึกษาอบรมใช้สาระความรู้ในโมดูลน้ี ประยุกต์ไปสู่การทาหน้าท่ีกาหนด
มาตรฐานหลักสูตร การดาเนินงาน การปรับปรุง การออกแบบหลักสูตร การประเมินและการประกัน
คุณภาพ CWIE ระดับอุดมศึกษาให้สอดคล้องกับเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับอุดมศึกษาและ
CWIE แฟลตฟอร์ม
55
3. ผลลัพธก์ ารเรียนรู้และสมรรถนะที่พึงประสงค์
ผลลพั ธก์ ารเรยี นรู้ทาให้ผรู้ บั การศึกษาอบรมตามโมดูล 3 พงึ มที ักษะและสมรรถนะที่สามารถ
ใชใ้ นการดาเนนิ การ CWIE ในเรอื่ งตอ่ ไปนี้
1) กาหนดมาตรฐานหลักสูตรและการดาเนินงาน CWIE ท่ีสอดคล้องกับพระราชบัญญัติ
อดุ มศึกษา พ.ศ. 2562 เกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับอุดมศึกษาและ CWIE แฟลตฟอร์ม
2) ปรับปรุงหลักสูตร CWIE ระดับปริญญาท่ีใช้อยู่ใหส้ อดคลอ้ งกับเกณฑ์มาตรฐานหลักสตู ร
ระดับอุดมศกึ ษาและ CWIE แพลตฟอรม์
3) ออกแบบหลักสูตร CWIE ระดับปริญญาข้ึนใหม่ตามเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตร
ระดับอุดมศกึ ษาและ CWIE แฟลตฟอรม์
4) จัดให้มีการประกันคุณภาพการดาเนินงาน CWIE ของสถาบันอุดมศึกษาของตนเองและ
ที่เกี่ยวข้อง
5) ร่วมคดิ รว่ มทากับสถานประกอบการและพหุภาคอี ่ืนในการออกแบบ พัฒนาและประกัน
คุณภาพการดาเนนิ งาน CWIE
มาตรฐานการศึกษาแล ะเ กณ ฑ์ม าตรฐานหลั กสูตรร ะดั บอุ ดม ศึก ษาจึ ง เป็น กร อ บ แ ล ะ
แนวทางการพัฒนาหลักสูตร วิชาการและวิชาชีพระดับปริญญาเพ่ือการผลิตบัณฑิตตามยุทธศาสตร์
และนโยบายของประเทศ ในกรณีของประเทศไทยได้มีการกาหนดให้สหกิจศึกษาและการศึกษา
เชิงบูรณาการกับการทางาน (Cooperative and Work–Integrated Education : CWIE) เป็นส่วน
หน่ึงของหลักสูตรอุดมศึกษาระดับปริญญาตรีที่สถาบันอุดมศึกษาและสถานประกอบการร่วมกัน
ออกแบบและสร้างข้ึนตามเกณฑ์มาตรฐานหลกั สูตรระดับอุดมศึกษาท่ีใช้อยู่ในช่วงสามทศวรรษทผี่ ่าน
มา การพัฒนาหลักสูตรและการสอน CWIE จึงแบ่งเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงแรก พ.ศ. 2536-2545 และ
ช่วงท่สี อง พ.ศ. 2546-ปจั จบุ นั
4. หัวเรื่อง: สาระความรู้ – นาสู่การปฏบิ ัติ
สาระความรู้ที่เป็นพ้ืนฐานของการนาสู่การปฏิบัติเกี่ยวกับมาตรฐานและการพัฒนาหลักสูตร
CWIE ระดบั อุดมศกึ ษา ประกอบด้วย
1) มาตรฐานหลักสูตร การดาเนินงานและการประกันคุณภาพ CWIE ช่วงแรก (พ.ศ. 2536-
2545)
2) มาตรฐานหลกั สตู ร การดาเนินงานและการประกนั คุณภาพ CWIE ชว่ งท่ีสอง (พ.ศ. 2546-
ปจั จบุ ัน)
3) การประกันคุณภาพการดาเนินงานสหกจิ ศึกษาและการศึกษาเชิงบูรณาการกับการทางาน
(CWIE) ช่วงที่สอง (พ.ศ. 2546–ปจั จบุ นั )
56
4) ปจั จุบันและอนาคตของมาตรฐานการพัฒนาหลักสูตรและการประกนั คณุ ภาพ CWIE
4.1 มาตรฐานหลกั สูตร การดาเนินงานและการประกนั คุณภาพ CWIE ชว่ งแรก
(พ.ศ. 2536-2545)
การจัด CWIE ในช่ือของสหกิจศึกษา (Cooperative Education) เกิดข้ึนในประเทศ
ไทยท่ีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ในปี พ.ศ. 2536 เป็นหลักสูตรเสริมการจัดหลักสูตรระดับ
ปริญญาตรี 4 ปี สาหรบั วิชาการและวชิ าชีพดา้ นวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ เทคโนโลยกี ารเกษตร
และเทคโนโลยีสังคม จัดโดยอาศัยเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับอุดมศึกษาท่ีมีผลบังคับใชใ้ นระยะนั้น
ทั้งด้านปรัชญาและวัตถุประสงค์ ระบบการจัดการศึกษา โครงสร้างหลักสูตร และเกณฑ์การวัดผล
มีการกาหนดเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรสหกิจศึกษาเพิ่มเติม เพ่ือใช้เป็นกรอบการดาเนินงานโดยไม่ขดั
หรือแย้งกับเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับปริญญาตรีของทบวงมหาวิทยาลัยในขณะนั้น เป็นเกณฑ์
มาตรฐานขั้นตา่ ประกอบดว้ ย
1) ปรัชญาและวตั ถุประสงค์ของสหกจิ ศกึ ษา
เพ่ือส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพการผลิตบัณฑิตให้มีความพร้อมท่ีจะปฏิบัติงาน
ได้ทันที เมื่อสาเร็จการศึกษาและร่วมพัฒนาวิชาชีพอย่างต่อเนื่อง เป็นบัณฑิตที่รู้ชัดปฏิบัติได้
ในลักษณะของ Ready Graduate ซ่ึงมีท้ังความพร้อมในการทางาน (Employability) และ
การพฒั นาวชิ าชพี (Career Development) อย่างต่อเน่ือง
2) ระบบการจดั การศกึ ษา
ใช้ระบบไตรภาค โดยแต่ละปีการศึกษาแบ่งออกเป็น 3 ภาคการศึกษา โดย
1 ภาคการศึกษามีระยะเวลาศึกษาไม่น้อยกว่า 12 สัปดาห์ ท้ังนี้ เพื่อให้การจัดหลักสูตรสหกิจศึกษา
ของหลักสูตรตา่ ง ๆ ไมม่ ผี ลกระทบตอ่ เกณฑ์เดิมและจัดไดต้ ามวตั ถปุ ระสงคข์ องสหกจิ ศึกษา
3) การคิดหนว่ ยกิต
กาหนดให้การปฏิบัติงานจริงในสถานประกอบการ ไม่น้อยกว่า 45 ชั่วโมง/
ภาคการศกึ ษา มีค่าเท่ากบั 1 หน่วยกติ
4) โครงสร้างหลกั สูตร
จัดให้หลักสูตรสหกิจศึกษาเป็นส่วนของหมวดวิชาเฉพาะหรือหมวดวิชาเลือกเสรี
โดยมีการปฏิบัติงานจริงในสถานประกอบการเป็นเวลาไมน่ ้อยกวา่ 16 สัปดาหเ์ ต็มเวลา มีค่าเทา่ กับ 8
หน่วยกติ (6 หนว่ ยกิตทวภิ าค)
57
5) คณาจารย์และนักศกึ ษา
กาหนดให้คณาจารย์ประจาของสาขาวิชาต่าง ๆ ทาหน้าที่คณาจารย์นิเทศ
สหกิจศึกษาในสาขาวิชาที่กาหนดให้นักศึกษาปฏิบัติสหกิจศึกษา ส่วนนักศึกษาต้องศึกษาวิชาบังคับ
ต่าง ๆ ในหมวดวิชาศึกษาทั่วไปและหมวดวิชาเฉพาะครบหรือเกือบครบโดยมีคะแนนเฉล่ียสะสมไม่
นอ้ ยกวา่ 2.0 จากระบบ 4.0
6) สถานประกอบการ
กาหนดมาตรฐานขั้นต่าด้านความพร้อมของสถานประกอบการท่ีจะรับนักศึกษา
ไปปฏิบัติสหกิจศึกษาในด้านต่าง ๆ อาทิ มีนโยบายในการสนับสนุนการดาเนินงานสหกิจศึกษา
มีบุคลากรท่ีเก่ียวข้องท่ีจะทาหน้าที่นิเทศหรือสอนงาน มีงบประมาณและทรัพยากรสนับสนุน
มีกระบวนการเสนองานและการคัดเลือกนักศึกษา มีการเตรียมความพร้อมนักศึกษา มีการจัด
ประสบการณ์และงานท่ีเหมาะสม มีระบบและกระบวนการนิเทศสอนงานและการประเมินผล
การปฏิบตั ิงาน เปน็ ต้น
ในช่วงปี พ.ศ. 2536-2545 ซึ่งเป็นช่วง 10 ปีแรกของการนาสหกิจศึกษามาเป็นส่วน
หนึ่งของหลักสูตรระดับปริญญาตรีของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี และมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
ในฐานะมหาวิทยาลัยในกากับของรัฐสองแห่งแรกของประเทศไทย ทั้งสองมหาวิทยาลัยได้ร่วมกัน
พัฒนาการจัดสหกิจศึกษาตามเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรสหกิจศึกษาดังกล่าวข้างต้น ได้ผลดีสมความ
มุ่งหมาย หลักสตู รสหกิจศึกษามีอตั ราการได้งานสงู และมีคุณภาพเป็นทน่ี ่าพอใจของสถานประกอบการ
4.2 มาตรฐานหลักสูตร การดาเนินงานและการประกันคณุ ภาพ CWIE ชว่ งทส่ี อง
(พ.ศ. 2546-ปจั จุบัน)
ในปีพ.ศ. 2545-2547 ทบวงมหาวิทยาลัยในช่วงนั้นได้จัดสรรงบประมาณสนับสนุน
นักศึกษาสหกิจศึกษาของมหาวิทยาลัยของรัฐและเอกชนที่จัดสหกิจศึกษาตามรูปแบบของ
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีเป็นโครงการนาร่องเป็นเวลา 2 ปีงบประมาณ หลังจากนั้นได้จัดให้มี
การประเมินผลสัมฤทธขิ์ องโครงการนาร่อง ซึ่งมมี หาวทิ ยาลยั ประมาณ 60 แหง่ ทัง้ ของรัฐและเอกชน
เข้าร่วมโครงการดังกล่าว พบว่า แม้จะได้ผลดีระดับหน่ึง แต่ก็ยังมีปัญหาและอุปสรรคหลักในการ
ดาเนินงานสหกิจศึกษาของสถาบันอุดมศึกษาและสถานประกอบการ คือ บุคลากรที่เก่ียวข้องยังขาด
ความรู้ความเข้าใจในหลักและวิธีการจัดสหกิจศึ กษา ทาให้การดาเนินงานสหกิจศึกษา
ขาดประสิทธิภาพและไม่บรรลุผลท่ีดีเต็มตามวัตถุประสงค์ การกาหนดมาตรฐานและการดาเนินงาน
สหกิจศึกษาและการฝึกอบรมบุคลากรของสถาบันอุดมศึกษาและสถานประกอบการให้เข้าใจ เข้าถึง
และสามารถประยุกต์ไปใช้ในการจัดสหกิจศึกษาของแต่ละมหาวิทยาลัย จึงเป็นกลยุทธ์สาคัญในการ
สง่ เสรมิ การพัฒนาการดาเนนิ งานสหกจิ ศกึ ษาของประเทศไทย
58
สมาคมสหกิจศึกษาไทย (Thai Association for Cooperative Education: TACE)
ด้วยความสนับสนุนของสานักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา จึงรับหน้าที่เข้าร่วมประสานและ
ส่งเสริมการพัฒนามาตรฐานการดาเนินงานสหกิจศึกษาระดับอุดมศึกษาและจัดหลักสูตรการศึกษา
อบรมบุคลากรสหกิจศึกษาของสถาบันอุดมศึกษาและสถานประกอบการ ร่วมกับเครือข่ายพัฒนา
สหกิจศึกษาจวบจนปัจจุบนั
การจัดสหกิจศึกษาในช่วงเวลาดังกล่าวข้างต้น จัดตามมาตรฐานการดาเนินงาน
สหกิจศึกษาข้ันต่าในรูปแบบการจัดแยกระหว่างการเรียนรายวิชา ภาคทฤษฎีในสถาบันอุดมศึกษา
และภาคปฏิบัติในสถานประกอบการ ซึ่งจัดให้ทางานเป็นเวลา 16 สัปดาห์เต็มเวลา มีค่าเท่ากับ 8
หน่วยกิตไตรภาค (6 หน่วยกิตทวภิ าค) รวมการเตรยี มกอ่ นออกปฏบิ ัตสิ หกิจศึกษาเปน็ เวลา 30 ชัว่ โมง
หรือ 1 หนว่ ยกติ รวม 9 หน่วยกิตไตรภาค ดงั แผนภาพตอ่ ไปน้ี
ระบบการจดั สหกิจศกึ ษา
ก่อน ระหว่าง หลงั
16 สปั ดาห์
9 หน่วยกติ ไตรภาค
แผนภาพท่ี 3.1 ระบบการจัดสหกิจศึกษา
การพัฒนาหลักสูตรและการดาเนินงานสหกิจศึกษาและการศึกษาเชิงบูรณาการกับ
การทางาน (CWIE) ในประเทศไทย ในชว่ งแรกต้งั แต่ปี พ.ศ. 2536 ถึง พ.ศ. 2562 ยดึ เกณฑม์ าตรฐาน
หลักสูตรระดับอุดมศึกษาของประเทศไทยท่ีใช้อยู่ในระยะนั้นเป็นกรอบและ แนวทางการจัดและ
ดาเนินการเพื่อให้สอดคล้องกับปฏิทินการศึกษา จานวนหน่วยกิตที่กาหนดและจานวนปีการศึกษา
ในเกณฑม์ าตรฐานหลักสตู รไม่ได้กาหนดหมวดวชิ า CWIE ไวเ้ ป็นการเฉพาะ สถาบันอดุ มศึกษาที่จัดให้
มีหลักสูตรดังกล่าว กาหนดชว่ งเวลาและจานวนหนว่ ยกติ สาหรบั CWIE ตามที่เหน็ สมควร โดยเมอ่ื รวม
กับวิชาตามหลักสูตรในหมวดอื่น ๆ อาทิ วิชาศึกษาทั่วไป วิชาเฉพาะ และวิชาเลือกเสรีแล้วไม่ต่ากว่า
และสูงกว่าจานวนหน่วยกิตตามเกณฑ์หลักสูตรระดับอุดมศึกษากาหนด เม่ือเริ่มแรกท่ีมหาวิทยาลัย
เทคโนโลยีสุรนารีและต่อมาท่ีมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ซึ่งกาหนดระบบการศึกษาแบบไตรภาค
59
มีการศึกษาละ 3 ภาค สาหรับการศึกษาระดับปริญญาตรี 4 ปี ได้กาหนดให้ปฏิบัติ CWIE เต็มเวลา
เป็นเวลา 4 เดอื น หรือ 1 ภาคการศึกษา รวมช่วงหยุดระหว่างภาค ใหม้ ีคา่ เทา่ กบั 8 หน่วยกติ ไตรภาค
(6 หนว่ ยกติ ทวิภาค) นกั ศกึ ษาไปปฏบิ ัตงิ านในสถานประกอบการในระดับปีท่ี 4 หลงั จากไดศ้ ึกษาวิชา
ศึกษาทั่วไปและวิชาเฉพาะของสาขาวิชาเอกครบหรือเกือบครบแล้ว ในภาคการศึกษาท่ี 1 หรือภาค
การศึกษาท่ี 2 เพ่ือให้มีโอกาสเรียนอีก 1 ภาคการศึกษา เพ่ือให้ผลสะท้อนกลับก่อนจบ ในยุคเริ่มต้น
จึงเป็นเสมือนวิชาหน่ึงที่เป็นส่วนของหลักสูตรภายใต้เกณฑ์มา ตรฐานหลักสูตรระดับอุดม ศึก ษา
เช่นเดียวกับรายวิชาอื่น ๆ เป็นการเรียนรู้จากการไปทางานหลังจากการเรียนภาคทฤษฎีมามาก
พอทจ่ี ะนาไปประยกุ ต์ใช้ในการทางาน ทาใหม้ ีความรชู้ ดั และปฏิบัติได้
เมื่อได้มีการปรับปรุงเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับอุดมศึกษาในระยะต่อมาจนถึง
ฉบับ พ.ศ. 2558 ซึ่งมีผลบังคับใช้อยู่ในปัจจุบันทาให้การจัดหลักสูตรระดับปริญญามีความยืดหยุ่น
มากข้ึน ทั้งการขยายการจัด CWIE ยาวขึ้น และหลากหลายรูปแบบมากข้ึน ตามมาตรฐานส่งเสริม
โดยมรี ูปแบบการจดั หลกั สตู ร CWIE เปน็ 3 รูปแบบ ดังนี้
1) แบบแยก (Separation) เป็นการเรียนภาคทฤษฎีที่สถาบันอุดมศึกษาจนครบ
ตามกาหนด หลงั จากนั้นจงึ ไปปฏิบตั ิงานในสถานประกอบการตามระยะเวลาที่กาหนด
2) แบบคู่ขนาน (Parallel) เป็นการเรียนภาคทฤษฎีในสถาบันอุดมศึกษาสลับกับ
การไปปฏบิ ตั ิงานจรงิ ในสถานประกอบการตลอดระยะการเรียนในหลักสูตรน้นั ๆ
3) แบบผสม (Mix) เปน็ การเรยี นภาคทฤษฎีในสถาบนั อุดมศกึ ษาส่วนหนึง่ และเรียน
ภาคทฤษฎีพรอ้ มปฏบิ ัตงิ านจริงในสถานประกอบการอีกส่วนหนึง่
หลักสูตรท่ีเป็นกรณีตัวอย่าง ได้แก่ (1) การจัด “แบบแยก” ของมหาวิทยาลัย
เทคโนโลยีสุรนารี มหาวิทยาลัยกาฬสินธ์ุ และมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (2) การจัดแบบคู่ขนาน
ของมหาวิทยาลัย Baden-Wuerttemberg Cooperative State University ประเทศเยอรมนี และ
(3) การจัดแบบผสม “สมุยโมเดล” ของมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ และ “การประกอบการ
(Entrepreneurship)” ของมหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยสี รุ นารี
60
4.2.1 ตัวอย่างหลกั สูตร CWIE แบบแยก
1) ตัวอยา่ งท่ี 1 สุรนารโี มเดล (SUT Model)
สุรนารีโมเดล (SUT Model)
การดาเนินงานสหกจิ ศกึ ษาของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
1. ความเปน็ มา
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีต้ังข้ึนโดยมีหลักคิดสาคัญ คือ การมีส่วนร่วมขององค์กรผู้ใช้
บัณฑิตผ่านกลไกต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัยเพ่ือเพิ่มพูนความเข้มแข็งทางวิชาการและการตอบสนอง
ความต้องการขององค์กรผู้ใช้บัณฑิต (อมรวิชช์ นาครทรรพ, 2548) หลักคิดน้ีนาไปสู่การจัดการเรียน
การสอนด้วยรปู แบบสหกจิ ศึกษา เพอื่ ใหน้ กั ศกึ ษาได้ทดลองทางานจริงในสถานประกอบเป็นเวลานาน
พอสมควร ภายใต้การกากับควบคุมอย่างมีระบบ ในลักษณะท่ีเสมือนหนึ่งเป็นบุคลากรของ
สถานประกอบการจริง โดยงานทท่ี าต้องสอดคลอ้ งกับสาขาวชิ าเอกของนักศึกษา
มหาวิทยาลัยจึงเลือกใช้ระบบไตรภาคเพ่ือรองรับการจัดการเรียนการสอนท่ีมีสหกิจศึกษา
กล่าวคือ แต่ละปีการศึกษามี 3 ภาคการศึกษาท่ีมีระยะเวลาเท่า ๆ กัน โดยมีเวลาปิดภาคการศึกษา
เปน็ เวลาสัน้ ๆ ไมม่ ีปดิ ภาคฤดรู ้อนที่ยาวนาน ทาใหม้ ีจานวนภาคเรียนเหลือให้นักศึกษาไปปฏบิ ัติงาน
สหกิจศึกษาในสถานประกอบการได้
และเพือ่ ใหม้ หี นว่ ยงานเฉพาะท่ีทาหน้าทด่ี าเนินงานด้านสหกิจศึกษาและประสานงานระหว่าง
สถานประกอบการ สาขาวิชา และนักศึกษา มหาวิทยาลัยจงึ ได้ต้งั “โครงการสหกิจศึกษาและพัฒนา
อาชีพ” ขึ้นเพ่อื ให้บรกิ ารในลักษณะทเ่ี รียกวา่ “รวมบริการ ประสานภารกิจ” กล่าวคือ ดแู ลการจดั หา
งานและเตรียมความพร้อมให้แก่นักศึกษาทุกสาขาวิชา และประสานงานกับทุกสาขาวิชาเรื่อง
การนิเทศและประเมินผล เมื่อสถานประกอบการต้องการนักศึกษาจากสาขาวิชาใดก็ตามเพ่ือไป
ปฏิบัติงานสหกิจศึกษา ก็สามารถติดต่อมาท่ีโครงการสหกิจศึกษาฯ ท่ีเดียว ทาให้สะดวก คล่องตัว
และมีประสทิ ธภิ าพในการดาเนนิ การ (Sirijeerachai, 2009)
มหาวิทยาลัยได้ใช้การทาวิจัยสถาบันเพื่อประเมินและพัฒนารูปแบบของสหกิจศึกษา
อย่างต่อเน่ืองนับตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงปัจจุบัน โดยอาจแบ่งรูปแบบการดาเนินงานของหลักสูตร
สหกิจศึกษาตามรุ่นของนกั ศึกษาไดด้ งั นี้
61
2. หลักสตู รสหกจิ ศกึ ษาสาหรับนกั ศกึ ษาทเี่ ข้าเรยี นระหว่างปีการศกึ ษา 2536-2537
ในช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงเร่ิมทดลองใช้สหกิจศึกษา แต่ละภาคการศึกษามีความยาว 14
สัปดาห์ และปิดภาคเรียนประมาณ 7–10 วันเท่าน้ัน โดยกาหนดให้นักศึกษาสามารถเลือกเรียน
หลักสูตรสหกิจศึกษาหรือหลักสูตรทดแทนสหกิจศึกษาได้ นักศึกษาท่ีเลือกหลักสูตรสหกิจศึกษาต้อง
ไปปฏิบัตงิ านในสถานประกอบการจานวน 2 ภาคการศึกษาเมือ่ อยูช่ ้ันปที ี่ 3 และ/หรอื ชั้นปีท่ี 4 ข้นึ กับ
สาขาวิชากาหนด ส่วนนักศึกษาที่เลือกหลักสูตรทดแทนสหกิจศึกษาต้องเรียนวิชาเพิ่มเติมตามท่ี
สาขาวชิ ากาหนดจานวน 12 หน่วยกติ ท้ังน้ี นกั ศึกษาหลกั สตู รสหกจิ ศกึ ษาสามารถขอเปล่ยี นไปเรียน
ในหลักสูตรทดแทนสหกิจศึกษาได้ หากมีความจาเป็น (ธวัชชัย ทีฆชุณหเถียร และไพฑูรย์ นิยมนา,
2541)
3. หลกั สูตรสกจิ ศึกษาสาหรับนกั ศึกษาที่เขา้ เรียนระหว่างปกี ารศึกษา 2538-2539
จากการประเมินผลการดาเนินงานโครงการสหกิจศึกษาฯ ของปีการศึกษา 2538–2539
ท่ีนักศึกษารุ่นท่ี 1 (B36) และรุ่นที่ 2 (B37) ของมหาวิทยาลัยไปปฏิบัติงานสหกิจศึกษาได้ผล
ท่ีน่าพอใจอย่างย่ิง มหาวิทยาลัยจึงได้ปรับปรุงหลักสูตรสหกิจศึกษาจากเดมิ และเร่ิมใช้ในภาคเรียนที่
2/2540 ในประเดน็ ดังนี้ (ธวชั ชัย ทฆี ชุณหเถยี ร และ ไพฑรู ย์ นยิ มนา, 2543)
- ปรับลดหน่วยกิตวิชาสหกิจศึกษาลงเหลือ 9 หน่วยกิต เน่ืองจากสาขาวิชาในกลุ่ม
วศิ วกรรมศาสตรต์ ้องการหน่วยกติ วิชาการเพ่ิมอีก 3 หนว่ ยกิตเพื่อใหเ้ ปน็ ไปตามเกณฑข์ องสภาวศิ วกร
- ปรับลดจานวนสปั ดาห์ในแต่ละภาคการศึกษาจาก 14 สปั ดาห์เหลอื 13 สปั ดาห์ เนอื่ งจาก
เห็นวา่ เดิมทีระยะเวลาปดิ ภาคการศึกษาสัน้ ไป ทาให้การตรวจข้อสอบ ประเมนิ ผล และเตรียมการจัด
การเรียนการสอนในภาคการศึกษาถดั ไปเปน็ ไปอย่างเร่งรบี
- กาหนดให้นักศึกษาต้องไปปฏิบัติงานสหกิจศึกษาอย่างน้อย 1 ภาคการศึกษา โดยมี
ระยะเวลาปฏิบัติงานประมาณ 15-16 สัปดาห์ขึ้นกับระยะเวลาแต่ละภาคการศึกษา ส่งผลให้
ภาคเรียนสหกิจศึกษายาวกว่าภาคเรียนวิชาการที่มหาวิทยาลัย โดยภาคเรียนสหกิจศึกษาจะเริ่ม
ในชว่ งปิดภาคกอ่ นปฏบิ ตั งิ าน และไปจบในชว่ งปิดภาคหลงั ปฏิบัตงิ าน
- ยังอนุญาตให้นักศึกษาเลือกระหว่างหลักสูตรสหกิจศึกษากับหลักสูตรทดแทนสหกิจศึกษา
ได้
62
4. หลักสูตรสหกิจศกึ ษาสาหรบั นักศกึ ษาที่เขา้ เรยี นระหว่างปีการศกึ ษา 2540-2544
จากการประเมินผลการดาเนินงานของโครงการสหกิจศึกษาฯ ในระยะท่ีสองซึ่งเป็น
การประเมินกระบวนการในปีการศึกษา 2540 และประเมินผลผลิตท่ีเป็นการประเมินผลคุณภาพ
บณั ฑติ รุ่นท่ี 1 และ 2 ที่สาเร็จการศึกษาในปีการศึกษา 2539 และ 2540 มหาวทิ ยาลยั จงึ ได้ปรับปรุง
หลักสตู รสหกิจศกึ ษาในประเดน็ ดังน้ี (เทคโนธานี, 2549)
- กาหนดให้สหกิจศึกษาเป็นหลักสูตรบังคับในระดับปริญญาตรขี องทุกสานักวชิ า โดยให้มผี ล
กับนักศึกษาร่นุ ท่ีเขา้ ปีการศึกษา 2540 เปน็ ตน้ มา
- กาหนดให้นักศึกษาต้องไปปฏิบัติงานสหกิจศึกษาอย่างน้อย 1 ภาคการศึกษา โดยต้องมี
ระยะเวลาปฏิบัติงานไม่น้อยกว่า 16 สัปดาห์ โดยภาคเรียนสหกิจศึกษาจะเริ่มในช่วงปิดภาคก่อน
ปฏบิ ัติงาน และไปจบในชว่ งปิดภาคหลงั ปฏบิ ตั ิงาน
5. หลกั สูตรสหกิจศกึ ษาสาหรบั นกั ศึกษาทเ่ี ข้าเรียนต้งั แตป่ ีการศึกษา 2545 ถึงปัจจุบัน
มหาวิทยาลัยได้เปล่ียนแปลงรูปแบบการจัดอบรมเตรียมความพร้อมนักศึกษาก่อนออก
ปฏิบัติงานสหกิจศึกษา จากเดิมท่ีเป็นการจัดอบรมในวันและเวลาที่นักศึกษาสะดวก เปล่ียนเป็น
การเรยี นรายวชิ าเตรียมสหกิจศึกษา จานวน 1 หน่วยกติ ทีม่ ตี ารางเรยี นที่แน่นอน และเพอ่ื ให้หน่วยกิตรวม
ของหมวดวิชาสหกิจศึกษายังเป็น 9 หน่วยกิต จึงได้ปรับลดจานวนหน่วยกิตของรายวิชาสหกิจศึกษา
ที่นักศึกษาต้องลงทะเบียนเพ่ือไปปฏิบัติงานเหลือ 8 หน่วยกิต โดยเริ่มใช้ต้ังแต่ภาคการศึกษาที่
1/2548 กับนักศึกษารุ่นที่เข้าเรียนปีการศึกษา 2545 เป็นต้นมา (เทคโนธานี, 2549) และจาก
ความสาเร็จท่ีเป็นรูปธรรม มหาวิทยาลัยได้ปรับสถานภาพหน่วยงานจาก “โครงการสหกิจศึกษาและ
พัฒนาอาชพี ” เป็น “ศูนย์สหกิจศกึ ษาและพัฒนาอาชีพ” ในปี พ.ศ. 2551
6. กระบวนการเรยี นการสอน
มหาวทิ ยาลัยได้กาหนดกระบวนการไวด้ ังนี้
1. เพื่อจะสาเร็จการศึกษาได้ นักศึกษาต้องสอบผ่านหมวดวิชาสหกิจศึกษาอย่างน้อย 9
หน่วยกิต ซึ่งประกอบด้วยรายวิชาเตรียมสหกิจศึกษาจานวน 1 หน่วยกิต และรายวิชาสหกิจศึกษา 1
จานวน 8 หน่วยกิต กรณีที่นักศึกษาต้องการปฏิบัติงานสหกิจศึกษามากกว่า 1 ภาคเรียน ในแต่ละ
หลักสูตรจะมีวิชาสหกิจศึกษา 2 และ 3 ให้นักศึกษาเลือกเรียนได้ โดยในการประเมินผลรายวิชา
ในหมวดสหกิจศกึ ษาใช้ระดบั คะแนนตวั อักษรเป็น S (Satisfactory) กบั U (Unsatisfactory)
2. นักศกึ ษาต้องลงทะเบยี นเรียนรายวชิ าเตรียมสหกิจศึกษาตดิ กับภาคการศึกษาสหกิจศึกษา
โดยศูนย์สหกิจศึกษาและพัฒนาอาชีพของมหาวิทยาลัยเป็นหน่วยงานรับผิดชอบรายวิชา ซ่ึงเป็นการ
อบรมหัวข้อท่ีหลากหลายเพ่ือเตรียมความพร้อมในการทางานให้แก่นักศึกษา นักศึกษาท่ีลงทะเบียน
63
เรียนต้องมีคะแนนรวมไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของคะแนนท้ังหมดจึงจะสอบผ่านรายวิชาเตรียม
สหกิจศึกษา
3. ศูนย์สหกิจศึกษาและพัฒนาอาชีพทาหน้าท่ีจัดหางานสหกิจศึกษา แล้วเสนองานจาก
สถานประกอบให้ประธานคณาจารย์นิเทศของสาขาวิชาพิจารณารับรองคุณภาพ เฉพาะงานที่ผ่าน
การรับรองคุณภาพจะประกาศในระบบสหกิจศึกษาออนไลน์ของมหาวิทยาลัยให้นักศึกษาสามารถ
เขา้ ดูเพอ่ื เลอื กสมัครงาน
4. ก่อนนักศึกษาจะย่ืนใบสมัครงานผ่านระบบสหกิจศึกษาออนไลน์ ศูนย์สหกิจศึกษาและ
พัฒนาอาชีพจะจัดกิจกรรมให้นักศึกษาได้พบคณาจารย์นิเทศของสาขาวิชาเพื่อขอรับคาปรึกษา
ในการเลอื กสถานประกอบการ (เรยี กว่า กิจกรรม Matching)
5. นกั ศึกษาสามารถยน่ื ใบสมคั รงานไดต้ ามความสนใจครั้งละ 1 แห่ง โดยสถานประกอบการ
อาจคัดเลือกนักศึกษาจากใบสมัครหรืออาจจะสัมภาษณ์นักศึกษาด้วย ทั้งนี้ นักศึกษาท่ีไม่ได้รับ
คัดเลอื ก ตอ้ งสมคั รงานใหม่ จนกวา่ จะได้รับการตอบรบั จากสถานประกอบการ
6. นักศึกษาไปปฏิบัติงานสหกิจศึกษาท่ีสถานประกอบการตามเวลาการปฏิบัติงานของ
สถานประกอบการ เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 16 สัปดาห์อย่างต่อเน่ือง โดยมีสถานภาพเหมือนลูกจ้าง
ชัว่ คราวทตี่ อ้ งปฏิบตั ิตามกฎระเบยี บของสถานประกอบการ และมหาวิทยาลยั ไดจ้ ัดทาประกันสุขภาพ
และอบุ ตั ิเหตุใหแ้ กน่ ักศึกษาสหกิจศึกษาทุกคน
7. มีคณาจารย์นิเทศของสาขาวิชาทาหน้าทีต่ ิดตามความก้าวหนา้ การปฏบิ ตั งิ านของนักศึกษา
และไปนิเทศงานสหกิจศึกษา ณ สถานประกอบการขณะนกั ศึกษาปฏิบัติงานสหกิจศึกษาอย่างน้อย 1
คร้ัง และร่วมประเมนิ ผลการปฏบิ ตั งิ านของนักศึกษา
8. ในการประเมินผลการปฏิบัติงานสหกิจศึกษา นักศึกษาต้องมีคะแนนรวมไม่น้อยกว่า
ร้อยละ 60 ของคะแนนท้ังหมดจึงจะสอบผ่านรายวิชาสหกิจศึกษา โดยผู้นิเทศ (พนักงานที่ปรึกษา)
มีสว่ นร่วมในการประเมนิ ผลร้อยละ 50 ของคะแนนท้งั หมด
9. เม่ือนักศึกษาปฏิบัติงานครบตามระยะเวลากาหนดเสร็จส้ิน นักศึกษาต้องเข้าร่วมกิจกรรม
ปจั ฉิมนิเทศและกิจกรรมสัมมนาหลังกลับท่มี หาวิทยาลยั
7. ค่าเบ้ยี เลีย้ งและสวสั ดกิ ารจากสถานประกอบการ
ระหว่างปฏิบัติงานสหกิจศึกษา นักศึกษาสหกิจศึกษามีสถานภาพเหมือนลูกจ้างช่ัวคราวของ
สถานประกอบการ โดยได้รับค่าตอบแทนในอัตราท่ีสถานประกอบการกาหนด ซึ่งอัตราค่าตอบแทน
จะแตกต่างไปขน้ึ กบั ประเภท สถานที่ตัง้ และขนาดของสถานประกอบการ สาหรบั สถานประกอบการ
ท่ีเสนองานโดยไม่มีค่าตอบแทน มหาวิทยาลัยอาจพิจารณาอนุญาตให้นักศึกษาเลือกไปสหกิจศึกษา
ไดเ้ ม่อื
64
- งานมีคุณภาพตรงตามสาขาวชิ าชพี ของนกั ศึกษา
- มีสวสั ดกิ ารอ่ืนใหแ้ ก่นกั ศกึ ษา เช่น ที่พกั รถรบั สง่ อาหาร ชุดทางาน
- เป็นความประสงค์ของนักศึกษา โดยมีเหตุผลอันควร เช่น สถานประกอบการตั้งอยู่ใน
ภมู ิลาเนาของนกั ศึกษา หรอื นักศกึ ษาสนใจลักษณะงานท่ีสถานประกอบการเสนอ
8. โอกาสได้รับการเสนองานจากสถานประกอบการเพื่อใหน้ ักศกึ ษาเขา้ ทางานเป็นพนกั งานประจา
หลงั สาเร็จการศกึ ษา
มหาวิทยาลัยไม่ได้มีข้อตกลงกับสถานประกอบการเรื่องการรับนักศึกษาสหกิจศึกษาเป็น
พนักงานประจาหลงั การปฏิบัติงานสหกจิ ศกึ ษาเสร็จสน้ิ อยา่ งไรก็ตาม การสารวจข้อมูลจากนักศึกษา
ในกิจกรรมหลังกลับจากการปฏิบัติงานสหกิจศึกษาพบว่า ในปีการศึกษา 2561–2562 มีนักศึกษา
ท่ีไดร้ บั การเสนองานจากสถานประกอบการที่ตนเองปฏิบัติงานสหกจิ ศึกษาอยูร่ ะหว่างรอ้ ยละ 40–57
นอกจากน้ี ในการเสนองานสหกิจศึกษามีสถานประกอบการจานวนหน่ึงที่เสนอ “สวัสดิการ
สาหรับนักศึกษา” ในลักษณะที่จะคัดเลือกและบรรจุนักศึกษาเข้าเป็นพนักงานประจาเมื่อจบ
การปฏิบัติสหกิจศึกษา และจากที่มหาวิทยาลัยมีทางเลือกให้นักศึกษาไปปฏิบัติงานสหกิจศึกษา 2
ภาคการศึกษาต่อเน่ืองท่ีสถานประกอบการแห่งเดียว (เรียกว่า “สหกิจศึกษา 8 เดือน”) มีสถาน
ประกอบการท่ีเสนองานลักษณะน้ีจานวนหนึ่งท่ีเสนอ “สวัสดิการสาหรับนักศึกษา” เป็น “นับการ
ปฏบิ ตั ิงานสหกิจศกึ ษาเป็นชว่ งทดลองงานหากมกี ารบรรจุนักศกึ ษาเข้าเป็นพนักงาน”
9. ปจั จยั แห่งความสาเร็จ
จากการสารวจของสานักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ในปี 2553 พบว่า บณั ฑิต
ปริญญาตรีของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีมีอัตราการได้งานทาร้อยละ 85 และศึกษาต่อร้อยละ
11 ซึ่งถือเป็นอัตราสูงท่ีสุดของประเทศ (เดลินิวส์, 2557) นอกจากนี้ สหกิจศึกษาของมหาวิทยาลัย
เทคโนโลยีสุรนารียังได้รับการยอมรับให้เป็นต้นแบบของสหกิจศึกษาในประเทศไทย (Reinhard and
Pogrzeba, 2016) ซง่ึ ปัจจัยแห่งความสาเรจ็ ดังกลา่ ว ได้แก่
1. มีศูนย์สหกิจศึกษาและพัฒนาอาชีพ เป็นหน่วยงานกลางทาหน้าท่ีเตรียมความพร้อม
นักศกึ ษา จัดหางาน จดั สง่ นักศกึ ษาไปปฏิบตั งิ าน ประสานงานระหว่างนักศึกษา คณาจารย์ และสถาน
ประกอบการในการนิเทศงานและการประเมินผลการปฏิบัติงาน รวมทั้งให้บริการฐานข้อมูลสถาน
ประกอบการและคาปรึกษาแนะแนวอาชีพแก่นกั ศกึ ษาและบณั ฑิต
2. มนี กั ศกึ ษาไปปฏบิ ัตงิ านสหกิจศกึ ษาจานวนมากตลอดปี
3. สถานประกอบการได้รับนักศึกษาท่ีมีสมรรถนะเทียบเท่าหรือใกล้เคียงคนจบใหม่ ขณะท่ี
ค่าตอบแทนนักศึกษาต่ากว่าการจา้ งคนจบใหม่ เนื่องจากมหาวิทยาลัยตอ้ งการให้นักศึกษาสหกิจศึกษา
65
มีวุฒิภาวะและความรับผิดชอบเพื่อสร้างความไว้ใจและประทับใจ จึงกาหนดคุณสมบัติทางวิชาการ
และวชิ าชีพของนกั ศกึ ษา (เกรดเฉล่ียและวชิ าทีต่ ้องเรยี นผา่ น) ก่อนการสมคั รงานสหกจิ ศกึ ษา
4. มหาวทิ ยาลยั ไม่อนุญาตให้นักศึกษาลงทะเบียนวิชาอนื่ ในภาคเรียนสหกิจศึกษา นักศึกษา
จงึ มีเวลาทุ่มเทให้กับการปฏิบัติงานได้เต็มท่ี
5. ใชก้ ระบวนการเหมือนการสมัครงานจริง กลา่ วคือ นักศกึ ษาเลอื กสมัครงานตามความถนัด
และความสนใจโดยทราบรายละเอียดงานและรายละเอียดสถานประกอบการก่อนตัดสินใจเลือก
จึงส่งผลให้นักศึกษาท่ีถูกตอบรับมีแรงผลักดัน (Passion) ในการเรียนรู้และการปฏิบัติงาน
เพราะเปน็ งานทตี่ รงกับความปรารถนาของตนเอง
6. สถานประกอบการสามารถใช้เป็นช่องทางในการคัดเลือกพนักงานใหม่ เพราะนักศึกษา
สหกจิ ศึกษาเรยี นอยูช่ ัน้ ปีสดุ ท้ายของหลกั สตู ร
2) ตัวอย่างที่ 2 หลักสตู ร CWIE ปริญญาตรี ต้นแบบ คณะ
ท่มี า: คณะเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยกาฬสินธ์ุ
66
ะเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยกาฬสนิ ธุ์
67
หลักสูตรระดับปรญิ ญาตรี คณะเทคโนโลยกี ารเกษตร มหาวทิ ยาลยั กาฬสินธ์ุ
หลกั สตู ร วทิ ยาศาสตรบณั ฑิต สาขาวิชาสัตวศาสตร์ (วท.บ. สัตวศาสตร์)
แผนการจัดการเรียนการสอน
ภาคเรยี นที่ 1 ภาคเรยี นท่ี 2
ปีท่ี 1 เรยี นในมหาวิทยาลยั
ปีที่ 2 หมวดรายวชิ าศกึ ษาทวั่ ไป 30 หน่วยกิต
หมวดวิชาชพี เฉพาะ ตามชอ่ื ปริญญา (วท.บ.สตั วศาสตร)์ 50 หนว่ ยกิต
รวมท้ังสิน้ 80 หน่วยกติ
ปที ่ี 3 ปฏิบตั งิ านจรงิ ใน Workplace (ในพ้ืนท่ี) สถานประกอบการ ชมุ ชน
หน่วยงานราชการมหาวิทยาลัย + สอนเสรมิ เรียนวชิ าการแบบ Online
Module 1 Module 2
ปฏิบัติงานภาคสนาม (ตามความสนใจนักศึกษา)
(12 หนว่ ยกติ ) (15 หนว่ ยกิต)
ปที ี่ 4 ปฏิบตั ิงานจริงใน Workplace (บริษทั ท่ีจัดทา MOU) + อาจารยเ์ ปน็ ที่ปรกึ ษา
+ สอนเสริมเรยี นวิชาการแบบ Online
Module 3 Module 4
(ตามความสนใจนักศึกษา) Special Project (6 หน่วยกิต)
(15 หนว่ ยกิต) 1. Project 2. Seminar
1.1 หมวดวิชาศกึ ษาทวั่ ไป Gen Ed. 30 หนว่ ยกติ
1) กลมุ่ วิชาภาษาและการส่ือสาร 15 หน่วยกิต
2) กลุ่มวิชามนุษยศาสตร์ 3 หน่วยกติ
3) กล่มุ วิชาสังคมศาสตร์ 3 หน่วยกติ
4) กลุ่มวชิ าคณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 6 หนว่ ยกิต
5) กลมุ่ วิชากีฬาและนนั ทนาการ 3 หนว่ ยกิต
1.2 หมวดวิชาเฉพาะ 92 หน่วยกติ
1) กลุ่มวชิ าชพี พ้ืนฐาน 27 หน่วยกติ
2) กล่มุ วชิ าชีพบงั คับ 35 หน่วยกติ
3) กลมุ่ วชิ าชพี เลอื ก (CWIE) 12 หนว่ ยกิต
4) กลุ่มวชิ าฝึกประสบการณ์ (CWIE) 18 หนว่ ยกติ
1.3 วิชาเลือกเสรี 6 หนว่ ยกติ
รวม 128 หนว่ ยกติ
68
แนวทางการผลิตบณั ฑติ ที่มที ักษะพร้อมในการทางาน
ช้นั ปี การจดั ตารางเรียน Challenge
หลกั สูตรเดิม หลักสูตรใหม่ CWIE 1. Gen Ed. เปน็ Fundamental
ของ Soft Skill เพอื่ สร้าง นศ.
1. Gen Ed. 50% 1. Gen Ed. 50% ใหม้ ีสมรรถนะของ 21st
Century
สว่ นกลางสอน เน้นทฤษฎี ส่วนกลางสอน เพ่ิมชม.
2. ทาให้วิชา Gen Ed. เช่ือมกบั วชิ า
ไม่เช่อื มกับสาขาวิชา และ ปฏบิ ตั ิ เช่ือมกับ OBE สาขา ถงึ ระดบั กจิ กรรม
ปี 1 OBE ของสาขาวชิ า 3. ลดวิชาหลกั พื้นฐานในเชงิ ความรู้
ลง และเพิม่ เวลาปฏบิ ัติ และ
2. วิชาหลักพื้นฐาน 40% 2. วิชาหลกั พ้นื ฐาน 40% เรยี นรจู้ ากหน้างานจริง
3. วิชาหลกั ของสาขา 10% 3. วิชาหลกั ของสาขา 10% 1. กาหนด Outcome เชงิ
สมรรถนะเป็นเปา้ หมาย และจัด
*2, 3 เรียนมากเกินไป *2,3 ปรับให้ลดลง + เพิ่มวชิ า เรียนเปน็ Modular Program
โดยให้เนือ้ หาวชิ าเรียนมคี วาม
เชงิ สมรรถนะ และ เพม่ิ เวลาดู เชอ่ื มตอ่ สอดรบั กนั
งาน 2. Flexible เวลาเรยี นต่อสปั ดาห์
เพอื่ ใหไ้ ดเ้ ปา้ หมายสมรรถนะ
1. Gen Ed. 30% 1. Gen Ed. 30% เชน่ 12 ชม/สัปดาห์
2. วิชาหลกั พืน้ ฐาน 30% 2. วิชาหลักพนื้ ฐาน 30% 1. กาหนด Outcome เชิง
สมรรถนะ
3. วชิ าหลกั ของสาขา 40% 3. วชิ าหลกั ของสาขา 40%
2. จดั เรยี นเป็น Module
ปี 2 สอนตามตารางปกติ จัดตารางเรยี นให้บูรณาการ 3. ปฏบิ ัตงิ านในสถานประกอบการ
กนั ระดบั รายวชิ าและ โดย 1 เทอมทางาน 1-2 ท่ีให้ได้
สมรรถนะ
แผนการสอนรายวชิ า 4. อาจารยส์ อนเสรมิ วชิ าการแบบ
Online
เชือ่ มโยงกนั 1.นกั ศกึ ษาปฏบิ ัติงานในสถาน
ประกอบการ(4แบบ) 10 เดอื น
1. วิชาหลกั ของสาขา 100% 1. วิชาหลักของสาขา 100% 2. ปฏิบตั ใิ หไ้ ด้ความสามารถตาม
สมรรถนะท่ีกาหนด
เรยี นในห้องเรยี น และ 2. เรียนเปน็ Module 3. ทา Project โดยใชโ้ จทยป์ ญั หา
ของ Workplace และ นศ.,
หอ้ ง Lab 3. เรยี นใน Workplace: (ใน อาจารย์, Project Owner
ร่วมกันทา
ปี 3 พนื้ ท่ี)สถานประกอบการ, 4. อาจารย์สอนเสริมวชิ าการแบบ
Online
ชุมชน, หนว่ ยงานราชการ,
มหาวิทยาลยั
4. เสรมิ เรียนวชิ าการแบบ
Online
1. วชิ าหลักของสาขา 100% 1. วชิ าหลักของสาขา 100%
2. โครงการพิเศษ 2. โครงการพิเศษ
-เรยี นในหอ้ งเรียน และหอ้ ง Lab -เรียนใน Workplace
ปี 4 -ปรกึ ษาและสอบ Project -แกโ้ จทยป์ ัญหาในสถาน
ทมี่ หาวทิ ยาลยั ประกอบการ เปน็ Project
โดย นศ. อาจารย์ และ
Project Owner รว่ มกัน
และสอบท่ี Workplace
3. เสริมเรยี นวิชาการแบบ
Online
69
3) ตัวอย่างท่ี 3 หลักสตู ร AI and Innovation Engineering
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
หลักสตู ร AI and Innovation Engineering
ท่มี า: มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
70
ภาพรวมทั้งหลักสูตร 123 หน่วยกิต ในระยะเวลาเรียนทั้งสิ้น 4 ปี โดยมีการเรียนการสอน
โดยมหาวิทยาลัยและเอกชน (ภาคอุตสาหกรรม) ในสัดส่วนร้อยละ 50:50 หลักการทางวิชาการเป็น
สว่ นผสมระหว่าง IEEE/ACM Computer Engineering, Computer Science และ IT มีองค์ประกอบ
ของ hardware – 3 รายวิชา การส่ือสารเครือข่ายและระบบคลาวน์ 6 รายวิชา เน้นรายวิชาการ
ในส่วนของอัลกอริทึมและเทคนิคการโปรแกรม 24 รายวิชา และสุดท้ายส่วนของการประยุกต์ 3
รายวิชา โดยใน 120 หนว่ ยกิต ประกอบดว้ ย กลุ่มวิชาดงั นี้
1) วิชาแกน 18 หน่วยกิต ประกอบด้วยรายวิชาคณิตศาสตร์ (Math) และการคานวณ
(Computation)
2) วิชาเฉพาะ 36 หน่วยกิต ประกอบด้วย fundamental of AI, AI Programming,
Machine learning, visual computing, NLP, Cognition, speech-text recognition and synthesis,
computer vision, computer biology เป็นตน้
3) รายวชิ าท่วั ไป (General education) 18 หนว่ ยกติ ประกอบด้วย Artificial Intelligence
and Humanity, Ethics and policy issues in computing AI, Society and humanity และเลอื ก
4 รายวิชาจาก General education ท่ัวไปท่ีเปิดในมหาวทิ ยาลยั
4) รายวิชาการเลอื ก 51 หน่วยกติ ซงึ่ จะเรียน/ทางานในสถานประกอบการ (ใชก้ ารออกแบบ
วิชาร่วมกับสถานประกอบการ ซึ่งเป็นอิสระ ข้ึนกับรูปแบบของสถานประกอบการท่ีจะไปร่วมเรียน)
ตัวอย่างเช่น
4.1) AI in Smart city จะเลือกเรียน 1) รายวิชา Team work project (6 หน่วยกิต)
2) การออกแบบและพัฒนาเมืองรองด้วยเทคโนโลยี 3D (6 หน่วยกิต) 3) รายวิชาเสริมประสบการณ์
71
การชีวิตในสังคมและธรรมาภิบาล (12 หน่วยกิต) 4) ทักษะวิศวกรรม (6 หน่วยกิต) 5) Human-AI
interaction (12 หน่วยกติ ) และ 6) Perception and Language (9 หน่วยกติ )
4.2) AI in Smart Manufacturing (สามารถออกแบบให้สอดคลอ้ งร่วมกับอุตสาหกรรม
เฉพาะทาง)
4.3) AI in Healthcare (สามารถออกแบบให้สอดคล้องร่วมกับอุตสาหกรรม
เฉพาะทาง)
4.4) AI in Medicine (สามารถออกแบบใหส้ อดคล้องรว่ มกบั อุตสาหกรรมเฉพาะทาง)
4. 5) AI in Modern Agriculture and Food technology ( ส า ม า ร ถ อ อ ก แ บ บ
ให้สอดคล้องร่วมกบั อุตสาหกรรมเฉพาะทาง)
4.6) AI in 5G Co-creation modern communication (สามารถออกแบบใหส้ อดคล้อง
ร่วมกับอตุ สาหกรรมเฉพาะทาง)
72
4.2.2 ตัวอย่างหลกั สตู ร CWIE แบบคู่ขนาน
1) DHBW โมเดล มหาวิทยาลัย Baden-Wuerttemberg Cooperative
State University
DHBW โมเดล (DHBW Model)
มหาวิทยาลัย Baden-Wuerttemberg Cooperative State University
แผนภาพที่ 3.2 DHBW Model
ท่มี า: Baden-Wuerttemberg Cooperative State University
การศกึ ษาในหนงึ่ ภาคเรียน:
- เรยี นรูภ้ าคทฤษฎี ใน DHBW เป็นระยะเวลา 3 เดอื น
- เรียนร้ภู าคปฏบิ ตั ิ ในสถานประกอบการท่ีทาความร่วมมือ เปน็ ระยะเวลา 3 เดือน
โดยมีการเรียนรู้ภาคทฤษฎีสลับกับภาคปฏิบัติ ในทุกภาคเรียน เร่ิมตั้งแต่ภาคเรียนท่ี 1 ถึง
ภาคเรยี นที่ 6 ของหลักสตู ร
73
4.2.3 ตัวอย่างการจดั หลักสูตร CWIE แบบผสม
1) ตัวอย่างท่ี 1 สมยุ โมเดล (Samui Model)
สมุยโมเดล (Samui Model)
สาขาวชิ าอุตสาหกรรมการทอ่ งเท่ียวและการบริการ
สานักวชิ าการจดั การ มหาวทิ ยาลัยวลยั ลกั ษณ์
1. ประวัติความเป็นมา
สาขาวิชาอุตสาหกรรมการท่องเท่ียวและการบริการ สานักวิชาการจัดการ มหาวิทยาลัย
วลัยลักษณ์ ได้เปิดรับนักศึกษาต้ังแต่ปีการศึกษา 2542 โดยหลักสูตรกาหนดให้นักศึกษาเรียนวิชา
สหกิจศึกษา (8 หน่วยกิตไตรภาค) จานวน 1 ครง้ั เปน็ ระยะเวลา 16 สปั ดาหต์ อ่ เนื่องในภาคการศึกษา
ที่ 2 ชั้นปีที่ 4 ซ่ึงพบว่า ความรู้และประสบการณ์การทางานที่ได้รับจากการปฏิบัติสหกิจศึกษาเพียง
คร้ังเดียวไม่สามารถทาให้นักศึกษาเข้าใจถึงขอบเขตงานในสาขาวิชาชีพนี้ได้เพียงพอ ทาให้สาขาวิชา
ไมส่ ามารถผลิตบัณฑิตได้ตรงตามคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ของหลักสูตร นอกจากน้ี ยงั พบว่าบัณฑิต
บางคนเปลี่ยนเส้นทางอาชีพหรือหันหลังให้กับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และไปประกอบอาชีพอื่นหลัง
สาเรจ็ การศกึ ษาแทน
ปีการศึกษา 2549 สาขาวิชาได้ปรับหลักสูตรใหม่ เพ่ือแก้ปัญหาดังกล่าวด้วยการพัฒนา
หลักสูตรทางเลือกให้ผู้เรียนเลือกไปปฏิบัติสหกิจศึกษาจานวน 3 ครั้ง (24 หน่วยกิตไตรภาค)
ระยะเวลารวม 1 ปีการศึกษา หรือปฏิบัติสหกิจศึกษา (8 หน่วยกิตไตรภาค) จานวน 1 ครั้งร่วมกับ
เรียนวิชาโทอีก 16 หน่วยกิตไตรภาค พบว่า นักศึกษาที่เลือกไปปฏิบัติสหกิจศึกษาจานวน 3 ครั้ง
มีความเขา้ ใจในลกั ษณะงานและได้รบั การตอบรบั เข้าทางานจากโรงแรมในพ้ืนทท่ี ่ีไปปฏบิ ตั ิสหกิจศึกษา
มากข้ึน เมื่อเปรียบเทียบกับนักศึกษาที่เลือกไปปฏิบัติสหกิจศึกษาเพียงแค่คร้ังเดียว ดังน้ัน สาขาวิชา
จึงดาเนินการปรับปรุงหลักสูตรอีกครั้งในปีการศึกษา 2555 เป็นหลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต สาขา
อุตสาหกรรมทอ่ งเทย่ี ว โดยใชแ้ นวคดิ และกระบวนการจดั การการสอนภายใต้การเรยี นรเู้ ชิงบรู ณาการ
กบั การทางาน (Work-Integrated Learning: WIL) ดว้ ยการกาหนดแผนการเรียนทส่ี อดคล้องกับการ
พัฒนาทักษะและศักยภาพของนักศึกษาอย่างต่อเนื่อง ภายใต้แนวคิดเรียนในมหาวิทยาลัย 2 ปี และ
เรยี นร้นู อกหอ้ งเรยี นอีก 2 ปี
74
แผนภาพที่ 3.3 แผนการเรียนหลกั สตู รบริหารธรุ กจิ บัณฑิต สาขาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว
2. กระบวนการเรียนการสอน
1) ช้ันปีท่ี 1 ภาคการศึกษาท่ี 1 - 3 และชั้นปีท่ี 2 ภาคการศึกษาท่ี 1 เรียนกลุ่มรายวิชา
ศกึ ษาทั่วไปและเพ่มิ เตมิ รายวิชาของสาขาวิชาในมหาวทิ ยาลัย
2) ชัน้ ปีที่ 2 ภาคการศกึ ษาท่ี 2 จะเรยี นแบบการทางานเป็นฐาน (Work-Based Learning:
WBL) ท่ีเกาะสมุย ซ่ึงนักศึกษาทั้งหมดยังไม่มีความรู้พื้นฐานทางด้านโรงแรมและการท่องเท่ียว โดย
จดั เปน็ Block Course ในรายวชิ าพน้ื ฐานท่ียังไมจ่ าเป็นต้องใชท้ กั ษะวชิ าชพี โดยเรยี นในมหาวทิ ยาลัย
แบบ Intensive Course ประมาณ 2 สัปดาห์ สาหรับวิชาที่เหลือท่ีจาเป็นต้องใช้ทักษะนักศึกษาต้อง
เลือกตามความสนใจจะไปเรียนที่เกาะสมุย โดยนักศึกษาสามารถเลือกปฏิบัติงานและทางานใน 4
กลุ่มวิชาชีพเลอื ก ไดแ้ ก่
กลุ่มท่ี 1 ธุรกจิ จดั นาเท่ยี วและการเดินทาง
กล่มุ ที่ 2 การจัดการทรัพยากรการท่องเทยี่ ว
กลมุ่ ท่ี 3 ธรุ กจิ ที่พกั รีสอร์ท และสปา
กลมุ่ ที่ 4 ธุรกิจทัวรแ์ ละภตั ตาคาร
3) การเรียนท่ีเกาะสมุยเน้นการบรรยายควบคู่กับการลงมือปฏิบัติและการสาธิตอย่าง
เข้มข้น 1 สัปดาห์ก่อนลงมือทางานจริงในสถานประกอบการ ใช้อาจารย์ท้ังจากมหาวิทยาลัยและ
บุคลากรจากสถานประกอบการสอนร่วมกัน ระหว่างที่นักศึกษาปฏิบัติงานประมาณ 3 เดือนนั้น
นักศึกษาทุกคนต้องเข้าร่วม Workshop ซ่ึงจัดข้ึนทุก ๆ 2-3 สัปดาห์ โดยนางานท่ีปฏิบัติมานาเสนอ
วิเคราะห์ และแลกเปล่ียนร่วมกัน มีอาจารย์และผู้บริหารจากสถานประกอบการมาร่วมกิจกรรม
75
ดังกลา่ ว และเพ่มิ เตมิ ขอ้ มูลท่สี ามารถต่อยอดการเรยี นรู้ได้ ซ่ึงจะชว่ ยใหน้ ักศึกษาค้นหาตนเองในแต่ละ
สายงานอาชีพไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง
4) ชั้นปีท่ี 2 ภาคการศึกษาท่ี 3 จะแยกเรียนตามกลุ่มสาขาวิชาชีพที่นักศึกษาเลือก 4 กลุ่ม
ในมหาวิทยาลัย โดยนาประสบการณ์จากการเรียนแบบ WBL ในภาคการศึกษาที่ผ่านมาเป็นฐาน
ในการเรียนทางวิชาการ และมีการเตรียมความพรอ้ มเพือ่ ไปปฏิบตั ิสหกจิ ศึกษาครั้งที่ 1 - 3
5) ช้ันปีท่ี 3 ภาคการศึกษาที่ 1 เรียนวิชาการทางด้านบริหารธุรกิจและท่องเที่ยวและ
วชิ าชีพทนี่ กั ศึกษาเลอื กต่อเนือ่ งจากภาคการศึกษาท่ีผ่านมา
6) ช้ันปีที่ 3 ภาคการศึกษาท่ี 2 ปฏิบัติสหกิจศึกษาคร้ังท่ี 1 ท่ีเกาะภูเก็ต โดยจัดนักศึกษา
ลงพืน้ ทีแ่ บบ Area Base และนาแนวคิดของ WBL มาปรับใช้ ทาให้นักศกึ ษาได้รับมุมมองท่ีเปล่ียนไป
จากเกาะสมุยเน่ืองจากเกาะภูเก็ตมีการแข่งขันสูงและมีมาตรฐานที่สูงข้ึนกว่าเกาะสมุย ลักษณะ
งานสหกิจศึกษามุ่งเน้นการนาความรู้จากชั้นเรียนไปสู่การปฏิบัติ มีการนิเทศและอภิปรายร่วมกับ
นกั ศกึ ษา 8 คร้งั
7) ช้ันปีท่ี 3 ภาคการศึกษาที่ 3 จะเรียนแบบ WBL ที่เกาะสมุย เน้นวิชาชีพและการปฏิบตั ิ
ที่เข้มข้นยิ่งข้ึน โดยเรียนในมหาวิทยาลัยแบบ Intensive Course ก่อนประมาณ 4 - 6 สัปดาห์ ใน
กลุม่ วชิ าดา้ นการจัดการตามสาขาวชิ าชีพท่ีนกั ศกึ ษาเลอื ก
8) ชัน้ ปที ่ี 4 ภาคการศึกษาท่ี 1 ปฏบิ ตั สิ หกจิ ศึกษาครงั้ ท่ี 2 ต่อเนื่องจากการเรียนแบบ WBL
ในภาคการศึกษาท่ีผ่านมา โดยเน้นลักษณะงานท่ีมีความลุ่มลึกมากขึ้นในแต่ละสาขาวิชาชีพ
ของนักศึกษา คณาจารย์ในสาขาวิชาไปพบนักศึกษาเดือนละ 1 ครั้ง ด้วยการทา Workshop หรือ
สัมมนา ดังนั้น หากรวมเวลาท่ีนักศึกษาไปเรียนแบบ WBL ครั้งท่ี 1 คร้ังท่ี 2 และปฏิบัติสหกิจศึกษา
คร้ังท่ี 2 แล้วสามารถส่งนักศึกษาไปหมุนเวียนที่เกาะสมุยครบ 1 ปี ซึ่งในระยะยาวจะช่วยแก้ปัญหา
ดา้ นบคุ ลากรอย่างยั่งยนื ให้อตุ สาหกรรมท่องเท่ยี วเกาะสมยุ ไดร้ ะดับหนง่ึ
9) ช้ันปีท่ี 4 ภาคการศึกษาท่ี 2 เรียนที่มหาวิทยาลัยเน้นวิชาการเป็น Supervisor และ
รายวิชาทางดา้ นการจัดการ
10) ชั้นปีท่ี 4 ภาคการศึกษาที่ 3 ปฏิบัติสหกิจศึกษาครั้งท่ี 3 เน้นการเข้าสู่อาชีพหลังสาเร็จ
การศึกษา นักศึกษาสามารถเลือกลักษณะงานได้ตามความสนใจ การนิเทศงานสหกิจศึกษาคร้ังที่ 2
และ 3 จะไปนอ้ ยกวา่ คร้ังแรก เน่ืองจากนักศึกษามีวุฒภิ าวะและความรับผิดชอบเพิ่มมากขนึ้
3. การวัดประเมนิ ผล
1) การเรยี นในมหาวิทยาลยั ใชก้ ารประเมินผลตามเกณฑ์ของมหาวิทยาลยั ปกติ
2) การเรียนแบบ WBL ใช้สัดส่วนการให้คะแนนร้อยละ 60 จากอาจารย์ในมหาวิทยาลัย
และรอ้ ยละ 40 จากผลการทางานของนักศึกษา อาจารยท์ ร่ี ่วมทา Workshop รว่ มกับพ่เี ลยี้ งในสถาน
76
ประกอบการ โดย WBL ครั้งที่ 2 มีการประเมินผลเข้มข้นมากข้ึนด้วยการเพิ่มสัดส่วนคะแนน
ของพ่ีเลยี้ งในสถานประกอบการแต่ยังอยู่ในกรอบการประเมนิ ร้อยละ 40 เช่นเดมิ
3) การเรียนแบบสหกิจศึกษาใช้การประเมินตามมาตรฐานสหกิจศึกษาและเกณฑ์
การประเมินของมหาวิทยาลัย แต่เพ่ิมเติมการประเมินคะแนนอีกร้อยละ 15 ของรายวิชาท่ีเรียน
ในภาคการศึกษาทผี่ ่านมาเพื่อกระต้นุ ให้นกั ศกึ ษาเหน็ ความสาคัญของสหกิจศึกษามากยิง่ ขึน้
กล่าวโดยสรุป สมุยโมเดล เป็นรูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงบูรณาการกับการทางาน
โ ด ย เ ต รี ย ม พ ร้ อ ม ใ ห้ นั ก ศึ ก ษ า เ รี ย น รู้ ส ภ า พ แ ว ด ล้ อ ม จ ริ ง ใ น ก า ร พั ฒ น า ทั ก ษ ะ ท า ง สั ง ค ม
ภาษาต่างประเทศ การทางานเป็นทีม การปรับตัวและทัศนคติในการทางานเปิดโอกาสให้นักศึกษา
คน้ หาตัวตน ความถนัด ความชอบ และสายอาชพี เฉพาะในอตุ สาหกรรมการท่องเท่ียวและการบริการ
ภายใต้โครงการเรียนรู้โดยใช้การทางานเป็นฐาน ณ เกาะสมุย จังหวัดสุราษฏร์ธานี การจัดการเรียน
การสอนแบบน้จี งึ เปน็ กลไกที่สาคัญในการผลักดันใหน้ ักศึกษาพฒั นาศกั ยภาพและเกดิ การผลติ บัณฑิต
ร่วมกับผู้ประกอบการด้านการท่องเท่ียวและการโรงแรมอย่างเป็นรูปธรรมในพ้ืนที่เกาะสมุย มาอย่าง
ต่อเนื่อง ส่งผลให้บัณฑิตท่ีสาเร็จการศึกษาไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 ได้งานทาในพื้นที่เกาะสมุย จึงเป็น
ที่มาของคาว่า “สมุยโมเดล” (Samui Model) ซึ่งต่อมาได้รับการคัดเลือกให้เป็นตัวแทนหลักสูตร
ทางด้านการท่องเท่ียวและการโรงแรมของประเทศไทย เพื่อนาไปเปรียบเทียบกั บมาตรฐาน
สหกิจศึกษาและการเรียนรู้เชิงบูรณาการทางานของสหภาพยุโรป รวมทั้งการจัดงานประชุมวิชาการ
ระดับชาติด้านการเรียนรู้เชิงบูรณาการกับการทางาน คร้ังที่ 2 (The 2nd Work-Integrated
Learning National Conference) โดยมีกิจกรรมนาเสนอบทความวิจัยและผลงานวิชาการในวันที่
26 มีนาคม 2561 และต่อดว้ ยกจิ กรรมศึกษาดงู านภายใต้ Samui Model Sharing day ณ เกาะสมุย
จังหวัดสุราษฏร์ธานีในวันท่ี 27 - 28 มีนาคม 2561 นอกจากน้ี Prof. Karin Reinhard และ Anna
Pogrzeba ยังได้นาความสาเร็จนี้เขียนเป็นบทความวิชาการเรื่อง Comparative cooperative
education: Evaluating Thai models on work-integrated learning, using the German Duale
Hochschule Baden-Wuerttemberg model as a benchmark เผยแพร่อกี ดว้ ย
4. ปจั จยั แห่งความสาเร็จ
สาหรบั ปจั จัยแหง่ ความสาเร็จของสมยุ โมเดลเกิดจาก
1) มีการออกแบบหลักสูตรที่รองรับการผลิตบัณฑิตในกลุ่มอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวด้วย
การกาหนด Learning Outcomes ทตี่ ้องการให้เกดิ ข้ึนกบั ผเู้ รียน
2) มีเครอื ขา่ ยความร่วมมอื ทางวชิ าการเชิงพน้ื ที่ (Area-based) ทเ่ี ข้มแขง็
3) ใช้ Site Director เขา้ ประสานงานในพน้ื ที่ และกากบั ดูแลนกั ศกึ ษา
77
4) การเรียนควบคู่กับการทางานในสภาพแวดล้อมจริง หรือ Authentic Learning
Environment ในรายวชิ าท่เี น้นการทางาน (Work Based Learning : WBL)
5) ความเข้มแข็งของคณาจารย์และมีส่วนร่วมแบบเป็นทีม ด้วยความเสียสละและทุ่มเท
อย่างมาก
6) มีการให้ผลสะท้อนกลับแก่นักศึกษา โดยอาจารย์และผู้สอนจากสถานประกอบการ
ทีเ่ ป็นเสมอื นครูคนทส่ี องอยา่ งต่อเน่อื ง
7) ผ้บู รหิ ารทุกระดับสนบั สนนุ ให้มีความยดื หยุ่นในการจัดการศึกษา ท่ตี ้องวัดผล ประเมนิ ผล
รว่ มกับสถานประกอบการ
8) มีการนา WBL มาตอ่ ยอดจากสหกจิ ศึกษาให้เกดิ WIL ตลอดหลกั สตู รท่สี มบูรณ์
9) การกาหนดคุณลักษณะของงาน (Job Description) ท่ีสอดคล้องกับคาอธิบายรายวิชา
(Course Description) ได้อยา่ งกลมกลืน
78
2) ตัวอยา่ งที่ 2 หลกั สูตรวิชาโท ความเป็นผู้ประกอบการ
(Entrepreneurships)
หลักสตู รวชิ าโท ความเป็นผปู้ ระกอบการ (Entrepreneurships)
สานักวชิ าเทคโนโลยสี ังคม มหาวิทยาลยั เทคโนโลยสี รุ นารี
1. ความเป็นมา
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารไี ด้ประกาศท่ีจะเป็น Entrepreneurial University ในปี พ.ศ.
2558 และได้ทาบันทึกข้อตกลงกับกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการร่วมกันขับเคลื่อนให้
เป็นมหาวิทยาลัยแห่งการประกอบการ รวมทั้งได้มีการจัดต้ังสถานพัฒนาความเป็นผู้ประกอบการ
สาหรับนักศึกษา (Student Entrepreneurship Development Academy: SEDA) ในปี พ.ศ.
2559 โดยการ (1) Inspire (2) Nurture (3) Connect (4) Experiment และ (5) Evangelize the
Spirit of Entrepreneurship, Mindset, Ecosystem, New Venture and Innovation
โดยท่ีสานักวิชาเทคโนโลยีสังคมได้จัดให้มีหลักสูตรและการสอนด้านการประกอบการ
เป็นวิชาเอกหนึ่งในสาขาวิชาการจัดการอยู่แล้ว มหาวิทยาลัยจึงได้มอบหมายให้ SEDA และสานัก
วิชาเทคโนโลยีสังคมรว่ มกันพัฒนาหลักสูตรวิชาโทด้านการประกอบการ ระดับปริญญาตรีขึ้นใน พ.ศ.
2560 เพื่อเปิดให้นักศึกษาในสาขาวิชาต่าง ๆ ที่สามารถเลือกลงทะเบียนเรียนเป็นวิชาโท ยกเว้น
สาขาวิชาเฉพาะที่มีการจัดประสบการณ์วิชาชีพตามที่สภาวิชาชีพกาหนดและไม่มีหน่วยกิตเหลือ
พอทจี่ ะเรียนระดบั วิชาโท เนื่องจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีกาหนดให้นักศึกษาระดับปริญญาตรี
ทุกคนในสาขาวชิ าท่มี ิได้รับการยกเว้น จะต้องลงทะเบยี นไปปฏิบตั ิสหกจิ ศึกษาเป็นวชิ าบังคับ จานวน
9 หน่วยกิตไตรภาคเป็นวิชาบังคับ การพัฒนาหลักสูตรวิชาโทจึงเป็นหลักสูตรแบบแยกระหว่าง
รายวิชาท่ีต้องเรียนก่อน กับการไปปฏิบัติสหกิจศึกษาในสถานประกอบการหลังจากเรียนรายวิชา
ครบแล้วหรือการไปบ่มเพาะในสถานบ่มเพาะของมหาวิทยาลัยภายใต้การนิเทศของผู้ประกอบการ
และคณาจารย์นิเทศ
2. โครงสรา้ งของหลักสตู รและการเรยี นการสอน
หลักสูตรวิชาโทความเป็นผู้ประกอบการแบบสหกิจศึกษาประกอบการ ( Enterprise
Cooperative Education) หรอื การบ่มเพาะประกอบการ (Enterprise Incubation) กาหนดจานวน
หน่วยกิตไตรภาค 21 หน่วยกิต (15 หน่วยกิตทวิภาค) ประกอบด้วยกลุ่มวิชาบังคับ 8 หน่วยกิต
ไตรภาค ได้แก่ วิชาความเป็นผู้ประกอบการกับการสร้างธุรกิจใหม่ กลยุทธ์การเข้าสู่ตลาดสาหรับ
ผลิตภัณฑแ์ ละบริการนวัตกรรม แผนธุรกจิ และการจัดหาเงินทุน กลุ่มวิชาเลือกด้านการประกอบการ
79
ไม่น้อยกว่า 4 หน่วยกิตไตรภาค อาทิ นวัตกรรมแบบจาลองธุรกิจ การออกแบบผลิตภัณฑ์และ
บริการโลจิสติกส์ ผู้ประกอบการ ฯลฯ เป็นต้น และการปฏิบัติสหกิจศึกษาประกอบการหรือ
การบ่มเพาะประกอบการ 9 หนว่ ยกติ ไตรภาค ดงั ทีไ่ ด้แสดงไวโ้ ดยสงั เขปในแผนภาพดงั ต่อไปน้ี
แผนภาพท่ี 3.4 การปฏิบตั สิ หกิจศกึ ษาประกอบการหรือการบม่ เพาะประกอบการ
9 หนว่ ยกิตไตรภาค
3. การวัดและการประเมนิ ผล
1) การเรียนรายวิชาการประกอบการ วิชาศึกษาทั่วไป วิชาเฉพาะ และวิชาเลือกเสรีใช้การ
ประเมินผลตามเกณฑ์ของมหาวทิ ยาลัยทบ่ี งั คบั ใช้อยู่ปกติ
2) การปฏิบัติสหกิจศึกษาประกอบการหรือการบ่มเพาะประกอบการใช้การประเมินผลตาม
เกณฑข์ องมหาวทิ ยาลยั ท่ีบังคบั ใช้อยปู่ กติ
80
4.3 การประกันคณุ ภาพการดาเนนิ งานสหกิจศึกษาและการศกึ ษาเชิงบรู ณาการกับการ
ทางาน (CWIE) ช่วงท่สี อง (พ.ศ. 2546–ปจั จบุ ัน)
การประกันคุณภาพการดาเนินงานสหกิจศึกษาและการศึกษาเชิงบูรณาการกับ
การทางาน (CWIE) ตั้งแต่เร่ิมแรกจนถึงปัจจุบัน สถาบันอุดมศึกษาที่จัด CWIE ได้ดาเนินการประกัน
คุณภาพการดาเนินการตามตัวช้ีวัดที่ระบุไว้ในข้อกาหนดเก่ียวกับคุณลักษณะและคุณภาพที่พึง
ประสงค์ให้เกิดขึ้นในการดาเนินงาน CWIE เพ่ือใช้เป็นแนวทางในการประเมินคุณภาพการดาเนินการ
ตามมาตรฐานและการประกันคุณภาพการดาเนินงาน CWIE ใน 5 องคป์ ระกอบดงั น้ี
ตารางท่ี 3.1 องค์ประกอบการประเมินคุณภาพการดาเนินการตามมาตรฐาน CWIE
องค์ประกอบ นา้ หนัก
1. หลกั สูตร CWIE
1.1 มีระบบกลไกในการพฒั นาและบรหิ ารหลกั สูตร 10
2. การเรียนการสอน CWIE
2.1 มรี ะบบและกลไกในการสง่ เสรมิ การเรยี นการสอน 20
3. กระบวนการนิเทศการปฏบิ ัติงาน
3.1 ระดบั ความสาเรจ็ ของกระบวนการนเิ ทศ 20
4. ผลการปฏิบตั ิงาน CWIE ของนกั ศึกษา
4.1 ร้อยละของโครงการ/การปฏบิ ตั ิงานที่สถานประกอบการนาไปใชป้ ระโยชน์ 20
4.2 ร้อยละของนักศึกษาท่ีไดร้ ับการเสนองานจากสถานประกอบการ
ท่ีไปปฏบิ ตั งิ าน CWIE ถ้ามตี าแหนง่ งานว่าง 10
5. ความพงึ พอใจของผูเ้ กย่ี วข้องกบั การปฏบิ ตั ิ CWIE
5.1 ระดับความพงึ พอใจของนกั ศึกษา ผ้นู ิเทศ และคณาจารย์นเิ ทศ 20
รวมองคป์ ระกอบ 1 - 5 100
ทมี่ า: มาตรฐานและการประกนั คุณภาพการดาเนินงานสหกจิ ศึกษา สานกั งานคณะกรรมการ
การอดุ มศกึ ษาและสมาคมสหกจิ ศึกษาไทย, 2552
81
4.4 ปจั จุบนั และอนาคตของมาตรฐานการพฒั นาหลกั สูตร และการประกันคุณภาพ CWIE
1) ความสาคญั ของการจดั หลกั สตู ร CWIE
ในช่วงสามทศวรรษท่ีผ่านมา สถาบันอุดมศึกษาไทยได้จัดให้มีการพัฒนาหลักสูตร
CWIE ในช่ือของสหกิจศึกษา (Cooperative Education) เปน็ สว่ นหนึง่ ของหลกั สตู รระดับปรญิ ญาตรี
ในกลุ่มหลกั สูตรปริญญาตรีทางวิชาการและทางวชิ าชีพตามเกณฑ์มาตรฐานหลักสตู รระดับปรญิ ญาตรี
ท่ีมีผลบังคับใช้ในช่วงนนั้ จนกระท่ังมีการปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม ในปี พ.ศ. 2562 โดยการโอน
กิจการของสานักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา ไปยังกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย
และนวัตกรรม และมีการตราพระราชบัญญัติการอุดมศึกษา พ.ศ. 2562 ซึ่งกาหนดไว้ในมาตรา 35
ความว่า “สถาบนั อุดมศึกษาพึงสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานภาครฐั ภาคเอกชนและภาคอตุ สาหกรรม
เพื่อสนับสนุนการจัดการเรียนการสอนของสถาบันอุดมศึกษา เพ่ือให้ผู้เรียนได้เรียนรู้
โดยการปฏิบัติงานจริงและเพ่ือพัฒนาผู้เรียนให้มีความรู้ ทักษะ สมรรถนะและคุณลักษณะอ่ืน
ให้สอดคล้องกับความต้องการของประเทศ” บทบัญญัติมาตราน้ีเป็นการยืนยันความสาคัญและ
เป็นหลักและแนวทางการจัดหลักสูตรการศึกษาท่ีใช้ชื่อเป็นทางการว่า “สหกิจศึกษาและการศึกษา
เชิงบูรณาการกบั การทางาน (Cooperative and Work-Integrated Education : CWIE)” ตามประกาศ
CWIE Platform ของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ซึ่งองค์กรท้ังภาครัฐ
และเอกชนไดล้ งนามร่วมกนั ขบั เคลอ่ื น CWIE เม่อื วันท่ี 30 มกราคม 2563
สานักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมได้สนับสนุน
ให้สถาบันอุดมศึกษาจัด CWIE เพื่อพัฒนาสมรรถนะของนักศึกษาทั้งในส่วนฐานความรู้และระบบ
ความคิดในลักษณะสหวิทยาการและตรงกับความต้องการของประเทศในอนาคต และเป็นนักศึกษา
ที่สามารถปฏิบัติได้จริงและสามารถกากับการเรียนรู้ของตนเองได้ มีความพร้อมทั้งทักษะความรู้
ทักษะอาชีพ และทักษะชีวิตก่อนเข้าสู่ตลาดแรงงาน การเตรียมคนไทยสู่ศตวรรษท่ี 21 มุ่งเน้นให้มี
การเช่ือมโยงระบบการศึกษากับภาคปฏิบัติจริงในภาคธุรกิจ ซึ่งสอดคล้องกับพระราชบัญญัติ
การอุดมศกึ ษา พ.ศ. 2562 และแผนดา้ นการอุดมศกึ ษาเพ่ือผลิตและพัฒนากาลังคนของประเทศ พ.ศ.
2564-2570 กาหนดแนวทางในการยกระดบั คุณภาพการศึกษาและสมรรถนะของกาลงั คน
สานักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ได้จัดทา
แนวทางการส่งเสริมการจดั สหกิจศกึ ษาและการศกึ ษาเชิงบูรณาการกับการทางาน ภายใต้แพลตฟอร์ม
“Manpower Demand Driven Education Platform for Employability and Career Development
through Cooperative and Work- Integrated Education ( CWIE) : University- Workplace
Engagement” สาหรับใช้เป็นเครอื่ งมือในการขับเคลื่อนและส่งเสริมให้ สถาบันอุดมศึกษาและสถาน
ประกอบการจัด CWIE อย่างเป็นระบบและมีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับ โดยให้สถาบันอุดมศึกษาผนึก
กาลังกบั หนว่ ยงานภายนอก หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนและชุมชน ในการผลติ บณั ฑติ ทมี่ สี มรรถนะ
82
และคุณลักษณะพร้อมในการปฏิบัติงาน (Employability) และมีทักษะ (Skills) ที่ตรงตามความ
ตอ้ งการของตลาดงาน (Demand Driven) สามารถปฏบิ ัตงิ านได้จริง มงี านทาและสามารถเคล่อื นย้าย
ไปเรยี นและทางานในประเทศต่าง ๆ ท่วั โลก (Global Mobility)
สหกิจศึกษาและการศึกษาเชิงบูรณาการกับการทางาน (Cooperative and Work-
Integrated Education: CWIE) จึงเปน็ หนง่ึ ในกลไกการจัดการเรยี นการสอนทส่ี ถาบันอดุ มศึกษาและ
สถานประกอบการดาเนินการร่วมกันอย่างเป็นระบบ โดยให้นักศึกษาได้เรียนรู้ในสถาบันอุดมศึกษา
ควบคู่กับการปฏิบัติงานจริงในหน่วยงานภายนอก (Work-Based Learning) ในทุกรูปแบบ ที่ทาให้
นักศึกษามีสมรรถนะ [ความรู้ (Knowledge) ทักษะ (Skills) ทัศนคติ (Attitudes) และค่านิยม
(Values)] และคุณลักษณะตรงกับความต้องการของตลาดงานและพร้อมสู่โลกแห่งการทางานจริง
โดย CWIE เป็นคาท่ีครอบคลุมถึงสหกิจศึกษาและการศึกษาเชิงบูรณาการกับการทางาน ในรูปแบบ
ตา่ ง ๆ ทเี่ หมาะสมและสอดคล้องกับสาขาวชิ าการและวิชาชพี ระดับอุดมศกึ ษา
โดยสมาคมสหกิจศึกษาโลก ( World Association for Cooperative & Work-
Integrated Education: WACE) ได้จัดให้ภาคีสมาชิกจากประเทศต่าง ๆ ได้ลงนามในกฎบัตรสากล
ว่าด้วยสหกิจศึกษาและการศึกษาเชิงบูรณาการกับการทางาน (The Global Cooperative and
Work-Integrated Education Charter) เม่ือวันที่ 5 สิงหาคม 2562 เพ่ือแสดงเจตนารมณ์ในการ
ร่วมกันผลกั ดนั ใหอ้ ุดมศึกษาทว่ั โลกปรบั ทศิ ทางการเรยี นการสอนเปน็ การจดั หลักสตู ร CWIE เพอื่ สร้าง
บัณฑิตให้มีสมรรถนะพร้อมสู่โลกแห่งการทางานในโลกยุคใหม่และเคล่ือนย้ายไปเรียนและทางานใน
ประเทศต่าง ๆ และมีเป้าหมาย ให้นกั ศึกษาทกุ คนมโี อกาสเข้าถึงการไดร้ บั การศึกษาเชิงประสบการณ์
อยา่ งเท่าเทียมและมโี อกาสแลกเปลย่ี นการปฏิบัติงาน CWIE ในต่างประเทศมากยงิ่ ข้ึน
กระทรวงการอดุ มศึกษา วิทยาศาสตร์ วจิ ยั และนวัตกรรม (อว.)
CWIE โดยการเพิ่มจานวนนักศกึ ษา CWIE 2 เท่า ภายใน 5
การลงนามร่วมกนั ขับเคลอื่ น CWIE ขององคก์ าร Stakehol
PLAT
แผนภาพที่ 3.5 CWI
83
) ประกาศ CWIE Platform และเปา้ หมายการขับเคล่อื น
ปี ตงั้ แตป่ กี ารศกึ ษา 2563-2567 และไดม้ กี ารจดั ใหม้ ี
lders ทงั้ ภาครฐั ภาคเอกชน เมอ่ื 30 มกราคม 2563
FORM
IE Platform
แผนภาพที่ 3.6 เป้าหมายการขบั เคล
84
ล่อื น CWIE พ.ศ. 2563-2567
แผนภาพท่ี 3.7 ความหมายและ S
85
Stakeholder ของ CWIE
86
2) เกณฑ์มาตรฐานหลักสตู ร CWIE ในอนาคต
เกณฑ์มาตรฐานหลักสูตร CWIE ท่ีมีผลบังคับใช้ในปัจจุบัน คือเกณฑ์มาตรฐาน
หลักสูตรระดับอุดมศึกษา พ.ศ. 2558 การท่ีจะร่วมมือกันพัฒนาหลักสูตร CWIE ตามแนวทาง
ท่ีเสนอแนะไว้ในกฎหมายและ CWIE แพลตฟอร์มจาเป็นต้องมีการปรับปรุงเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตร
โดยเพ่ิมสาระสาคัญของหลักสูตร CWIE ทั้งในด้านจะเปิดทางให้จัด CWIE ได้ในทุกกลุ่มของหลักสูตร
ท้ังหลักสูตรทางวิชาการระดับปริญญาตรีปกติและแบบก้าวหน้า ปริญญาวิชาชีพแบบต่อเน่ืองและ
แบบก้าวหน้า ควรระบุการคิดหน่วยกิตในการปฏิบัติงานจริงในสถานประกอบการไม่น้อยกว่า 45
ชม./ภาคการศึกษา = 1 หน่วยกิต โครงสร้างหลักสูตร CWIE ควรระบุให้เป็นส่วนของวิชาเฉพาะ ไม่
น้อยกว่า 6 หน่วยกิตทวิภาค และควรส่งเสริมให้จัด CWIE ยาวข้ึนและมีจานวนหน่วยกิตมากข้ึน
สอดคลอ้ งกบั ลักษณะของสาขาวิชาที่ศึกษามากข้นึ
3) การพัฒนาหลักสูตร CWIE ในอนาคต
การพัฒนาหลักสูตร CWIE ในอนาคต ควรจัดให้มีรูปแบบที่หลากหลาย อาจเป็น
แบบโมดูล (Modular Curriculum) แบบฐานสมรรถนะ (Competency-Based) แบบฐานทักษะ
(Skill-Based) ที่สะท้อนประสบการณ์ทางานตามสายวิชาชีพ โดยการศึกษาวิเคราะห์เพื่อแก้ปัญหา
และปรบั ปรุงการทางาน และการวจิ ยั เพื่อนาผลไปใชแ้ กป้ ัญหาและพัฒนางานของสถานประกอบการ
4) การประกนั คณุ ภาพ CWIE ในอนาคต
สถาบันอุดมศึกษาจัดให้มีการประกันคุณภาพหลักสูตรและการดาเนินการตาม
มาตรฐานที่กาหนด โดยสถาบันอุดมศึกษาอาจกาหนดเกณฑ์การประกันคุณภาพการศึกษาให้มี
มาตรฐานท่ีสูงกว่ามาตรฐานที่กาหนดได้ โดยให้ถือว่าหลักสูตรสหกิจศึกษาและการศึกษาเชิงบูรณาการ
กับการทางานเป็นส่วนหน่งึ ของหลักสตู รระดับอดุ มศกึ ษา และเปน็ ส่วนหนึ่งของระบบประกนั คุณภาพ
การศกึ ษาภายในและภายนอกของสถาบันอุดมศึกษานัน้ ๆ การกาหนดประเด็นตัวช้วี ัดและค่าน้าหนัก
ในการประเมินควรครอบคลุมมิติสาคัญของการจัด CWIE อาทิ ระบบและกลไกการบริหารหลักสูตร
การนิเทศและการสอนงาน ผลการปฏิบัติงานของนักศึกษา ความพึงพอใจของนักศึกษา ผู้นิเทศ
คณาจารย์นเิ ทศ และการนาผลการวิเคราะหส์ ะท้อนคดิ ไปใช้ในการปรบั ปรุงงานของสถาบนั อุดมศึกษา
และสถานประกอบการ เป็นตน้
5) กรอบมาตรฐานหลักสตู รและการดาเนินงาน CWIE
ในช่วงเปลี่ยนผ่านเพื่อดาเนินการให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติการอุดมศึกษา
พ.ศ. 2562 และ CWIE แพลตฟอร์ม สานักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและ
นวัตกรรมจึงดาเนินการยกร่างกฎกระทรวงและปรับปรุงประกาศกระทรวงเพื่อพัฒนามาตรฐาน
หลกั สตู ร CWIE ใหเ้ หมาะสมยิง่ ขึ้น ซง่ึ อยใู่ นระหว่างการพจิ ารณาจากคณะอนุกรรมการดา้ นมาตรฐาน
การอุดมศึกษาที่เก่ียวข้อง โดยพิจารณากาหนดกรอบมาตรฐานหลักสูตรและการดาเนินงาน CWIE
87
ด้านมาตรฐานหลกั สูตร มาตรฐานการบริหารจัดการ และการประกนั คณุ ภาพ CWIE ในประเดน็ ตา่ ง ๆ
ดงั ต่อไปน้ี
5.1) มาตรฐานหลักสูตร
5.1.1) สอดคล้องกับเกณฑ์มาตรฐานหลักสตู รระดบั อดุ มศกึ ษาและกรอบ
มาตรฐานคุณวฒุ ริ ะดับอุดมศึกษาแหง่ ชาติ (TQF) ของกระทรวงการอดุ มศกึ ษา วิทยาศาสตร์ วิจยั
และนวัตกรรม
การจัดหลักสูตร CWIE สามารถจัดได้ในทุกหลักสูตรระดับอุดมศึกษา
ทัง้ หลักสตู รวิชาการและหลกั สูตรวิชาชีพหรือหลกั สตู รปฏิบตั ิการ
5.1.2) จานวนหนว่ ยกิตและระยะเวลาการปฏบิ ัติงานในระดบั ปริญญาตรี
จานวนหน่วยกิตของการไปปฏิบัติงานจริงในสถานประกอบการไม่
น้อยกว่า 6 หน่วยกิต ในหมวดวิชาเฉพาะ ทั้งน้ี 1 หน่วยกิต ต้องมีการปฏิบัติงานจริงไม่น้อยกว่า 45
ช่วั โมง
5.1.3) ออกแบบหลักสูตรทีเ่ นน้ สมรรถนะผู้เรยี น (Competency-Based
Curriculum) โดยความร่วมมือ (Co-design) ระหว่างสถาบนั อดุ มศกึ ษากับสถานประกอบการ
ประกอบด้วย
(1) กาหนด Output ท่ีเป็นผลลัพธ์ผู้เรียน (Learning Outcomes:
LO) เพื่อให้ผู้ที่จบหลักสูตร CWIE มีสมรรถนะพร้อมสู่โลกแห่งการทางานจริง (Hard Skill & Soft
Skill)
(2) กาหนด Input และ Process ที่จะนาไปสู่ Output ที่กาหนด
อาทิ เน้ือหาสาระ (Contents) รูปแบบการเรียนการสอน เคร่ืองมือ อุปกรณ์ และเทคโนโลยี
ประกอบการเรียน คุณสมบัติคณาจารย์นิเทศ คุณสมบัติผู้นิเทศ สัดส่วนการเรียนทฤษฎี/ปฏิบัติงาน
สถานท่เี รยี นทฤษฎี/ปฏบิ ัตงิ าน และการวัดผล
5.1.4) คุณสมบตั ิคณาจารย์นเิ ทศและผ้นู ิเทศ
(1) คุณสมบัตขิ องคณาจารยน์ เิ ทศ
(1.1) คณาจารย์นิเทศต้องมีประสบการณ์การสอนไม่น้อยกว่า 1
ภาคการศึกษา และผ่านการอบรมการนิเทศโดยหน่วยงานท่ีได้รับการรับรองจากสานักงาน
ปลัดกระทรวงการอุดมศกึ ษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมหรอื หนว่ ยงานท่ไี ด้รับอนญุ าต
(1.2) คณาจารย์นิเทศต้องเป็นคณาจารย์ประจาสาขาวิชาที่
นกั ศกึ ษาสังกดั อยู่
88
(2) คุณสมบัติของผู้นเิ ทศ
เป็นผู้มีคุณวุฒิไม่ต่ากว่าระดับปริญญาตรีในสาขาวิชาชีพเดียวกับ
นักศึกษาหรือใกล้เคียงหรือเป็นผู้มีความชานาญในสาขาวิชาชีพเดียวกับนักศึกษาไปปฏิบัติงาน และ
มีประสบการณ์ในการปฏิบัติงานในตาแหน่งท่ีทาหน้าที่นิเทศไม่น้อยกว่า 6 เดือน หรือผ่านการอบรม
หลักสูตรผู้นิเทศโดยหน่วยงานที่ได้รับการรับรองจากสานักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมหรือหนว่ ยงานท่ีไดร้ ับอนุญาต
5.1.5) การวัดและประเมินผลหลักสตู ร
(1) มีระบบและกลไกการวัดผลลพั ธ์นักศึกษาตามสมรรถนะท่ีกาหนด
ในขอ้ 5.1.3 (1)
(2) มีระบบการติดตามเพื่อปรับปรุงและพัฒนาอย่างต่อเน่ืองและ
สม่าเสมอใหเ้ กดิ ผลลพั ธน์ กั ศกึ ษาตามทกี่ าหนด
5.2) มาตรฐานการบริหารจัดการ
ตารางท่ี 3.2 มาตรฐานการบรหิ ารจดั การของสถาบนั อดุ มศึกษา
กระบวนการ มาตรฐานขั้นต่าท่ีพึงปฏบิ ัติ
1. ก่อนการปฏบิ ัติงาน 1) มนี โยบายหรือแผนการจัดหลกั สูตร CWIE พรอ้ มทรัพยากรสนับสนุน
2) สรา้ งความร้คู วามเขา้ ใจเก่ียวกับแนวคิด กระบวนการทางาน
มาตรฐานและประโยชนข์ อง CWIE ใหแ้ กผ่ ู้บรหิ าร บุคลากร เจา้ หน้าท่ี
และนักศกึ ษา ผ่านชอ่ งทางหลากหลาย อาทิ การจดั อบรม เว็บไซต์
คมู่ อื
3) มีระบบและกลไกแสวงหาความร่วมมือกับสถานประกอบการ
4) มรี ะบบสนับสนุน ประกอบดว้ ย การจัดต้งั หนว่ ยงานรบั ผิดชอบ
จัดระบบนเิ ทศให้คณาจารย์นเิ ทศทีย่ งั ไมม่ ีประสบการณก์ ารนเิ ทศ
จัดทาฐานขอ้ มูลเกยี่ วกับ CWIE มีระบบตดิ ตามประเมนิ ผล และการ
กาหนดภาระงานของผดู้ าเนินการด้าน CWIE
5) สถาบนั อดุ มศึกษาร่วมกับสถานประกอบการออกแบบกลไกการเรยี นรู้
(จดั ประสบการณก์ ารทางาน หรือการไปเรียนรู้จากการทางานที่เนน้
สมรรถนะนักศกึ ษา) และระบบการบรหิ ารจัดการ CWIE
6) ทาความตกลงกับสถานประกอบการใหน้ กั ศึกษาทีไ่ ปฏบิ ัตงิ านไดร้ บั
คา่ ตอบแทน หรือ สวสั ดกิ ารต่าง ๆ ตามความเหมาะสมและจาเปน็
89
ตารางท่ี 3.2 มาตรฐานการบรหิ ารจดั การของสถาบันอุดมศึกษา (ต่อ)
กระบวนการ มาตรฐานขั้นตา่ ท่พี งึ ปฏบิ ัติ
ตามลกั ษณะงาน อาทิ ท่ีพัก อาหาร รถรบั -ส่ง
7) มีการเตรียมความพรอ้ มของนกั ศึกษาดา้ นทฤษฎีทวั่ ไป วชิ าชีพ และ
ทักษะทางดา้ นภาษาที่จาเป็นต้องใช้ในการปฏบิ ตั ิงาน โดยใชเ้ วลา
ไม่น้อยกวา่ 30 ช่วั โมง (อาจจัดครั้งเดียวหรือหลายครง้ั )
8) จัดให้มกี ารปฐมนเิ ทศนักศึกษาก่อนไปปฏิบัตงิ านจรงิ
2. ระหวา่ งรอปฏิบตั งิ าน* 1. มีการนเิ ทศของคณาจารย์นิเทศ อยา่ งน้อย 1 ครั้ง และตอ้ งใช้เวลาใน
การนเิ ทศไม่น้อยกว่า 1 ช่วั โมงต่อคร้ัง
2. มีการตดิ ตามความก้าวหนา้ การพัฒนาสมรรถนะของนักศกึ ษา
จากการปฏิบัตงิ านระหว่างนกั ศกึ ษา คณาจารย์นเิ ทศและผ้นู เิ ทศ
และมกี ารปรบั ปรงุ ในกรณีทีน่ ักศกึ ษายงั ไมเ่ กิดสมรรถนะตามที่กาหนด
(Formative Assessment & Development)
3. หลงั การปฏบิ ัติงาน 1. ประเมนิ ผลการปฏบิ ตั งิ านของนักศึกษารว่ มกบั สถานประกอบการ
2. คณาจารย์นเิ ทศตรวจสาระและให้ข้อเสนอแนะในการเขียนรายงาน
การปฏบิ ัติงาน CWIE ให้กับนักศกึ ษาท่ีมาปฏิบัตงิ าน
3. จดั ใหม้ ีการแลกเปลย่ี นประสบการณร์ ะหว่างนักศึกษา CWIE กบั
นกั ศึกษารุ่นนอ้ ง คณาจารยน์ เิ ทศ คณาจารยส์ าขาวชิ า และอาจมี
ผนู้ ิเทศในสถานประกอบการรว่ มดว้ ยเพอื่ นาไปใชใ้ นการปรับปรงุ
หลกั สตู รและการดาเนนิ งาน CWIE
4. จัดกจิ กรรมในการพฒั นานักศกึ ษาเพ่มิ เตมิ
5. ส่งเสริมให้เกิดการยกระดบั ความร่วมมือ เพ่ือพัฒนาหลักสูตรการเรียน
การสอน CWIE และอ่นื ๆ ตามพนั ธกจิ ของสถาบันอุดมศึกษา
หมายเหตุ * ระหวา่ งการปฏบิ ัตงิ าน หมายถึง การลงมือปฏิบัตงิ านจริง ณ สถานประกอบการนัน้ ๆ
ไมร่ วมถงึ การไปศกึ ษาดูงาน
90
ตารางที่ 3.3 มาตรฐานการบรหิ ารจัดการของสถานประกอบการ
กระบวนการ มาตรฐานข้ันต่าทพ่ี ึงปฏิบัติ
1. ก่อนการปฏิบัติงาน 1. มนี โยบายหรอื แผนเกย่ี วกับการรบั นักศึกษาเขา้ ปฏิบัติงานพร้อม
ทรพั ยากรสนับสนนุ
2. สรา้ งความรคู้ วามเขา้ ใจเกี่ยวกับแนวคิด กระบวนการทางาน
มาตรฐานและประโยชน์ของ CWIE ใหแ้ กผ่ ู้บริหาร บคุ ลากรและ
เจา้ หน้าทข่ี องสถานประกอบการ
3. จดั ใหม้ ฐี านขอ้ มูลเกย่ี วกบั CWIE เพื่อประโยชนใ์ นการกาหนด
นโยบายและการบริหารจัดการ
4. รว่ มออกแบบหลกั สูตรทเี่ น้นสมรรถนะนกั ศึกษา และระบบบรหิ าร
จัดการกับสถาบนั อดุ มศึกษา
5. จดั ให้มีความพร้อมด้านสภาพแวดลอ้ ม อาชวี อนามยั และ
ความปลอดภยั ในการปฏบิ ตั งิ าน ระบบการรายงานตวั และระบบ
รายงานการปฏบิ ตั ิงาน รวมท้ังมเี ครื่องมือและเทคโนโลยที ่ีทนั สมยั
เพือ่ ให้นกั ศึกษาใช้ในการปฏิบัตงิ านอย่างเหมาะสม
6. จดั ใหน้ ักศกึ ษาที่มาปฏบิ ตั ิงานได้รบั ค่าตอบแทน หรอื สวสั ดิการ
ตา่ ง ๆ ตามความเหมาะสมและจาเป็นตามลักษณะงาน อาทิ ทพี่ ัก
อาหาร รถรับ-สง่
7. ปฐมนเิ ทศให้นกั ศึกษาทม่ี าปฏิบตั งิ านไดม้ ีความรคู้ วามเข้าใจ
เกยี่ วกับองค์กร กฎระเบียบ ข้อบงั คับ และวัฒนธรรมองค์กร
2. ระหวา่ งรอปฏิบตั ิงาน* 1. กาหนดภาระงาน/โครงงานทีต่ รงตามสาขาวชิ าชพี ของนกั ศึกษา
ทม่ี าปฏบิ ัตงิ าน
2. จดั ใหน้ ักศึกษาท่ีมาปฏิบตั งิ านเสมือนเป็นพนกั งานช่วั คราว
เตม็ เวลา
3. อบรมความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน
4. จัดใหม้ ีการแลกเปลย่ี นประสบการณ์ ปญั หา และแนวทาง
การปฏิบัตงิ านระหว่างนักศึกษา คณาจารย์นเิ ทศ และผนู้ ิเทศ
5. มกี ารติดตามความก้าวหนา้ การพัฒนาสมรรถนะของนกั ศกึ ษา
จากการปฏิบัตงิ าน ระหว่างนักศึกษา คณาจารยน์ ิเทศและผู้นิเทศ
และมกี ารปรบั ปรงุ ในกรณที ่นี ักศกึ ษายังไมเ่ กิดสมรรถนะ
ตามท่ีกาหนด (Formative Assessment & Development)
91
ตารางที่ 3.3 มาตรฐานการบริหารจัดการของสถานประกอบการ (ต่อ)
กระบวนการ มาตรฐานข้นั ต่าทพี่ ึงปฏิบตั ิ
3. หลงั การปฏบิ ตั งิ าน 1. จดั ใหม้ กี ารเสนอผลการปฏบิ ตั งิ านและประสบการณ์ที่ได้รบั
ของนักศึกษาต่อผู้นเิ ทศ พนกั งานในแผนกและผู้บรหิ าร
สถานประกอบการ
2. ผูน้ ิเทศตรวจสาระและให้ข้อเสนอแนะในการเขยี นรายงาน
การปฏบิ ตั งิ าน CWIE ให้กับนักศึกษาที่มาปฏบิ ตั งิ าน
3. ประเมินผลการปฏบิ ัติงานของนักศึกษาและรวบรวมข้อมลู
เพื่อนาเสนอต่อสถาบนั อดุ มศึกษาและองคก์ รของตนเอง
หมายเหตุ * ระหวา่ งการปฏบิ ัตงิ าน หมายถึง การลงมือปฏิบตั งิ านจรงิ ณ สถานประกอบการนนั้ ๆ
ไม่รวมถึงการไปศึกษาดูงาน
ตารางท่ี 3.4 มาตรฐานการบรหิ ารจดั การของนักศกึ ษา
กระบวนการ มาตรฐานข้ันต่าทพ่ี ึงปฏบิ ัติ
1. ก่อนการปฏบิ ตั ิงาน 1. ศกึ ษาข้อมลู ของสถานประกอบการทจ่ี ะไปปฏบิ ตั ิงาน
2. เลือกสถานประกอบการที่จะไปปฏิบตั งิ าน (ตามความสมคั รใจ)
3. จัดทาใบสมัครงานและประวัติ
4. เตรยี มความพร้อมดา้ นวชิ าการและทักษะดา้ นอารมณ์
ความสามารถ
ในการอยูร่ ่วมกับผูอ้ ่นื รวมไปถึงการพัฒนาตนเอง
5. จัดทาบันทึกความคาดหวังท่ีตอ้ งการก่อนปฏิบัตงิ าน (Expectation
from Working)
2. ระหวา่ งรอปฏิบตั งิ าน* 1. รายงานตวั ตอ่ ผนู้ ิเทศและหัวหนา้ แผนก ณ แผนกทีน่ ักศึกษา
ต้องปฏบิ ตั ิงาน
2. มาปฏิบตั ิงานเสมอื นเปน็ พนักงานชัว่ คราวเตม็ เวลา
3. ทารายงานประจาวัน/ประจาสัปดาห์ โดยแสดงความคิดเหน็ /
ความรู้สึกระหวา่ งการปฏิบตั ิงานในแบบการวเิ คราะห์สะท้อนคดิ
(Reflection on Working) ตามแบบฟอรม์ ท่กี าหนดไว้
(Reflection Template)
4. สง่ รายงานความก้าวหนา้ ต่อผนู้ ิเทศและคณาจารยน์ ิเทศ
ตามข้อตกลงรว่ มกัน
92
ตารางท่ี 3.4 มาตรฐานการบริหารจดั การของนกั ศึกษา (ต่อ)
กระบวนการ มาตรฐานข้ันตา่ ทีพ่ ึงปฏิบัติ
5. ส่ง (รา่ ง) รายงานฉบบั สมบูรณ์ให้คณาจารย์นิเทศและผู้นิเทศ
กอ่ นเสร็จสน้ิ การปฏิบัตงิ านและต้องแก้ไขตามท่คี ณาจารย์นเิ ทศ
และผู้นเิ ทศแนะนาใหเ้ รียบรอ้ ย
6. ประเมินคณาจารยน์ เิ ทศตามแบบประเมนิ ที่สถาบนั อดุ มศึกษา
กาหนด
3. หลังการปฏบิ ัติงาน 1. ส่งรายงานฉบับสมบูรณท์ ่ีได้รบั อนญุ าตให้เผยแพร่ได้
จากสถานประกอบการให้คณาจารย์นิเทศและผนู้ ิเทศ
2. นกั ศึกษาตอ้ งนาเสนอผลการปฏิบตั ิ CWIE ในการสัมมนาวชิ าการ
ระหว่างคณาจารยน์ ิเทศ นักศึกษา CWIE และนักศึกษา
ของแต่ละสาขาวชิ าหลังกลบั จากการปฏบิ ัติ CWIE
3. วเิ คราะห์ตนเองจากผลการประเมนิ ของผู้นิเทศในสถานประกอบการ
อาจารย์นเิ ทศ และหาแนวทางพฒั นาตนเอง
4. ทารายงานสรปุ ความคิดเห็น/ความรู้สึกในการปฏบิ ตั ิงานทงั้ หมด
ในแบบการวเิ คราะหส์ ะทอ้ นคิด (Reflection in Working)
ตามแบบฟอร์มทกี่ าหนด (Reflection Template) เพ่อื ทาการ
ประเมิน/วเิ คราะหพ์ ร้อมหาแนวทางการพฒั นาตนเอง
(Self-assessment & Development)
หมายเหตุ * ระหว่างการปฏิบัติงาน หมายถึง การลงมือปฏิบัติงานจริง ณ สถานประกอบการนั้น ๆ
ไมร่ วมถึงการไปศึกษาดงู าน
5.3) การประกนั คณุ ภาพการจดั หลักสตู รสหกจิ ศึกษาและการศึกษาเชิงบูรณาการ
กบั การทางาน
สถาบันอุดมศึกษาจัดให้มีการทาประกันคุณภาพหลักสูตรและการดาเนินการ
ตามมาตรฐานท่ีกาหนด โดยสถาบันอุดมศึกษาอาจกาหนดเกณฑ์การประกันคุณภาพให้มีมาตรฐาน
สูงกว่ามาตรฐานที่กาหนดได้ โดยให้ถือว่าหลักสูตรสหกิจศึกษาและการศึกษาเชิงบูรณาการกับ
การทางานเป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรระดับอุดมศึกษา และเป็นส่วนหนึ่งของระบบการประกัน
คุณภาพการศกึ ษาภายในและภายนอกของสถาบันอดุ มศึกษานน้ั ๆ
93
5. สอ่ื และเอกสารประกอบโมดูล
กระทรวงการอดุ มศึกษา วิทยาศาสตร์ วจิ ยั และนวัตกรรม [กระทรวง อว.]. (2563). พระราชบญั ญตั ิ
การอดุ มศกึ ษา พ.ศ. 2563. ใน รวมกฎหมาย อว. กรุงเทพมหานคร: สานกั นติ ิการ กระทรวง
อว.
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจยั และนวัตกรรม [กระทรวง อว.]. (2563). (ร่าง) กรอบ
มาตรฐานหลักสตู รและการดาเนินงานสหกจิ ศึกษาและการศกึ ษาเชงิ บูรณาการกบั การทางาน
(Cooperative and Work-Integrated Education Standards Framework).
กรงุ เทพมหานคร: กระทรวง อว.
เทคโนธานี. (2549). รายงานผลการวิจยั เรอื่ ง การสง่ เสริมการศกึ ษาระบบสหกิจศึกษา. มหาวิทยาลยั
เทคโนโลยีสุรนารี. นครราชสมี า: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยสี ุรนาร.ี
ธวัชชยั ทฆี ชณุ หเถียร และไพฑรู ย์ นิยมนา. (2541). ผลการดาเนนิ งานโครงการสหกจิ ศกึ ษาและ
พฒั นาอาชีพในหลกั สูตรระดับปรญิ ญาตรี ระยะที่ 1. นครราชสีมา: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี
สุรนารี.
ธวชั ชยั ทีฆชณุ หเถียร และไพฑรู ย์ นิยมนา. (2543). ผลการดาเนินงานโครงการสหกจิ ศึกษาและ
พัฒนาอาชีพในหลักสตู รระดับปริญญาตรี ระยะท่ี 2. นครราชสมี า: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี
สุรนารี.
มทส. ปลมื้ บณั ฑติ มงี านทาสงู สดุ ในประเทศ. (10 พฤศจิกายน 2557). เดลนิ ิวส์: ออนไลน์ สบื ค้นจาก
https://www.dailynews.co.th/education/279753
มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีสุรนารี, สานกั วชิ าเทคโนโลยสี งั คม. (2561). หลักสูตรวิชาโทความเปน็
ผ้ปู ระกอบการ (หลกั สตู รใหม่ พ.ศ. 2561) สาขาเทคโนโลยกี ารจัดการ. นครราชสีมา:
สานักวิชาเทคโนโลยสี งั คม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยสี ุรนารี.
สมาคมสหกจิ ศกึ ษาไทย. (2556). มาตรฐานและการประกันคุณภาพการดาเนินการสหกิจศึกษา.
นครราชสมี า: สมาคมสหกจิ ศึกษาไทย.
สานกั งานคณะกรรมการการอดุ มศึกษา [สกอ.]. (2560). เกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับอุดมศกึ ษา
พ.ศ. 2558. กรุงเทพมหานคร: สานกั มาตรฐานและประเมนิ ผลอุดมศึกษา สกอ.
สนุ ทร บุญแก้ว. (2558) WIL @Tourism & Hospitality Industry Program. เอกสารประชุม
เชงิ ปฏิบตั กิ าร:ตลาดนัดความรู้การปฏบิ ตั สิ หกจิ ศึกษาและการจดั การศึกษาเชิงบรู ณาการ
ในกลุม่ ประเทศอาเซียน โรงแรมบรุ ศี รภี ู บตู ิกโอเตล็ จงั หวดั สงขลา 15-16 ตลุ าคม 2558.
94
อมรวิชช์ นาครทรรพ. (2548). ทศวรรษแรกของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสรุ นารี : มหาวทิ ยาลยั
ในกากบั ของรัฐบาลแห่งแรกของประเทศไทย. นครราชสมี า: มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยสี รุ นารี.
Pinpetch, S. & T. Baum. Development of Cooperative Education in Tourism and
Hospitality Industry: Issues in the Context of Thailand. Thai Journal of
Cooperative Education 1(2): 21-42.
Reinhard, K. and A. Pogrzeba. 2016. Comparative cooperative education: Evaluating
Thai models on work-integrated learning, using the German Duale Hochschule
Baden-Wuerttemberg model as a benchmark. Asia-Pacific Journal of
Cooperative Education. 17(3): 227-247.
Sirijeerachai, G. (2009). Managing SUT cooperative education: Can it be the best
practice in Thailand?, Thai Journal of Cooperative Education, 1(1), 39-55.
Wace. (2019). The Global Cooperative and Work-Integrated Education Charter.