The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by วรัญญา วงค์ตาโสม, 2022-09-03 15:51:21

E-Book

E-Book

ชนิดของคำในภาษาไทย

นายรัชนาท รักษาพล นักศึกษาชั้นปีที่ ๓ คณะครุศาสตร์ สาขาวิชาการประถมศึกษา



คำนำ

ชุดใบความรู้เรื่องคำนามและคำสรรพนามราย รายวิชาภาษาไทย
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ซึ่งภายในเล่มจะประกอบไปด้วย

แนวทางการสอน ใบความรู้และใบงานเกี่ยวกับเรื่องคํานาม
คําสรรพนามและคำกริยา

จัดทําขึ้นเพื่อเป็นสื่อกลางในการวิจัยในชั้นเรียน เรื่อง การพัฒนา
ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาไทย เรื่อง ชนิดของคำ ตามรูปแบบการ
สอนแบบสร้างองค์ความรู้ร่วมกับสื่อบทเรียนอิเล็กทรอนิกส์ (E-BOOK)
สำหรับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยยึดหลักการและสาระการเรียนรู้ตาม

หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551
(ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย

นายรัชนาท รักษาพล
นักศึกษาชั้นปีที่ ๓ คณะครุศาสตร์

สาขาวิชาการประถมศึกษา
ผู้จัดทำ



สารบัญ

เรื่อง หน้า
คำนำ ก
สารบัญ ข
ใบความรู้ ๑
๑-๖
คำนาม ๗-๑๑
คำสรรพนาม ๑๒-๑๕
คำกริยา ๑๖
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ



คำนาม

คือ คำที่ใช้เรียกชื่อคน สัตว์ สิ่งของ สถานที่ รวมทั้งส่ิงมีชีวิต
และไม่มีชีวิต ทั้งที่เป็นรูปธรรม และนามธรรม เช่น เด็ก พ่อ แม่

นก ช้าง บ้าน โรงเรียน ความดี ความรัก



คํานามแบ่งเป็น ๕ ชนิด ดังนี้

๑. สามานยนาม
คือ คำนามที่ใช้เรียกชื่อทั่วไปไม่เฉพาะเจาะจง เช่น พ่อ แม่ รถยนต์
ขนม ทหาร ตำรวจ ครู คน ประเทศ รัฐบาล ฯลฯ

ตัวอย่างเช่น
-นักเรียนอ่านหนังสือ

-แม่ซื้อผลไม้ในตลาด

๒.วิสามานยนาม

คือ นามที่เป็นชื่อเฉพาะของคน สัตว์ สิ่งของ สถานที่ เช่น ครูสมศรี
ประเทศไทย วันจันทร์ จังหวัดสกลนคร โรงเรียนโรงเรียนบ้านดง
ขุมข้าว (คุรุราษฎร์รังสรรค์ 2) ฯลฯ

ตัวอย่างเช่น
-โรงเรียนโรงเรียนโรงเรียนบ้านดงขุมข้าว (คุรุราษฎร์รังสรรค์ 2)
ตั้งอยู่ในจังหวัดสกลนคร

- เด็กหญิงส้มได้รับรางวัลเรียนดีเยี่ยม



๓. ลักษณะนาม
คือ คํานามที่ใช้บอกลักษณะของนามหรือกริยาเพื่อบอกขนาด รูปร่าง
สัณฐาน ปริมาณ เช่น ตัว ด้าม เม็ด ฯลฯ

ตัวอย่างเช่น
- ฟันน้ำนมน้องหัก ๒ ซี่

- บ้านหลังนี้ทาสีสวยมาก
๔. สมุหนาม

คือ คำนามที่บอกหมวดหมู่ของนามทั่วไปและนามเฉพาะเพื่อบอกถึงลักษณะที่
รวมกันเป็นหมู่เป็นพวกเช่นฝูง โขลง กอง กลุ่ม คณะ ฯลฯ

ตัวอย่างเช่น
-ฝูงนกบินออกหาอาหารในเวลาเช้าตรู่

- กองทหารรักษาการณ์อยู่ตลอดเวลา



๕. อาการนาม
คือ คำนามที่บอกกิริยาอาการหรือความปรากฏเป็นต่างซึ่งมีคำว่า "การ"
"ความ" นําหน้า

ตัวอย่างเช่น
-การเดินทางในครั้งนี้ปลอดภัยเป็นอย่างยิ่ง

-ความรักทําให้คนตาบอค

"ความ " ใช้นําหน้าคำวิเศษณ์และคำกริยาเกี่ยวกับจิตใจ
เช่น ความดี ความรัก ความสวย ความเจริญ ความสุข

ความคิด ความฝัน ความเข้าใจ ฯลฯ




"การ" ใช้นําหน้าคํากริยาเช่น การเดิน การวิ่ง การพูด
การเจรจา การอ่าน การทํางาน การกิน ฯลฯ

ใบงานที่ ๑
เรื่อง คำนาม

คำชี้แจง ให้นักเรียนอ่านคำที่กำหนดให้ แล้วเขียนในช่องว่างให้ถูกต้อง

ท่าน ชิงช้า พระพุทธรูป กระผม
พระองค์ ต้นแอปเปิ้ล ดิฉัน คุณ
ปลั๊กไฟ เรือดำน้ำ ข้าพเจ้า
เกาะล้าน รถไฟฟ้า โควิด-19
อาตมา เธอ

คำนาม

ชื่อ..........................................................สกุล...............................................ชั้น...................เลขที่................

ใบงานที่ ๒
เรื่อง คำนาม

ตอนที่ ๑ ให้ระบุว่าคํานามต่อไปนี้เป็นคำนามทั่วไป (สามานยนาม) หรือคำนามชี้เฉพาะ (วิสามานยนาม)

รถยนต์ ญี่ปุ่น
ครูกาญจนา หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
มะม่วงเขียวเสวย
วัดพระธาตุดอยสุเทพ ปลาทับทิม
สุนทรภู่ สะพาน
ไอโฟน โรงแรม
พลเอกประยุทธ์ ดอกไม้
เขื่อนสิริกิตติ์

ตอนที่ ๒ ให้ระบุคำลักษณนามของคำนามต่อไปนี้ให้ถูกต้อง โดยเขียนไปวางในช่องว่างให้ถูกต้อง

ฟอง สาย ตัว รูป แท่ง ด้าม เชือก หลัง เม็ด คัน
เลา ปาก ลำ แผ่น ผล ตน ใบ เรือน เส้น ฉบับ

กระดาษ สุนัข เรือ

มะม่วง ดินสอ ไข่

ขลุ่ย,ปี่ ช้าง พระสงฆ์

แห,สวิง ผี รถจักรยานยนต์

รถยนต์ จดหมาย จาน

ตอนที่ ๓ ให้นักเรียนเติมคำสมุหนามในช่องว่างให้ถูกต้อง

ฝูง ชมรม คณะ รัฐบาล กอง บริษัท กลุ่ม

๑. ................................ นักฟุตบอลกําลังอบอุ่นร่างกายก่อนแข่งขัน
๒. ผู้อำนวยการโรงเรียนเรียก.................ครูประชุม
๓. ครูคิตตี้จัดตั้ง.....................sing a song สําหรับคนที่ชอบร้องเพลง
๕๔. .....ใ..น...ป.่..า..ล.ึ.ก...ม.ี.........................แ...ม.่..ค.้.า..ปลิรงะอทยู้่วจงำหนนว้นาตมลากาดสดเหตุเพราะขึ้นราคาค่าเช่าที่ขายของ

ตอนที่ ๔ ให้เลือกเติมคำว่า การ และ ความ หน้าคำที่กำหนดให้เป็นคำนามอาการนามที่ถูกต้อง

๑. ....................รัก ๖. .....................รู้
๒. ..................เรียน ๗. ....................ยากจน
๓. .................ทำงาน ๘. .....................อดทน
๔. ...................พร้อม ๙. .....................กิน
๕. .................ขับถ่าย ๑o. ....................ประมาท

ชื่อ..........................................................สกุล...............................................ชั้น...................เลขที่................



คำสรรพนาม

คำสรรพนาม คือ คำที่ใช้แทนคำนาม ที่กล่าวมาแล้ว แบ่งได้ ๖ ชนิด ดังนี้

๑. บุรุษสรรพนาม คือ คำสรรพนามที่ใช้เรียกบุคคล
แบ่งได้ ๓ ลักษณะ ได้แก่
- บุรุษที่ ๑ แทนผู้พูด
- บุรุษที่ ๒ แทนผู้ฟัง
- บุรุษที่ ๓ แทนผู้ที่ถูกกล่าวถึง



๒. ปฤจฉาสรรพนาม คือ คำสรรพนามที่ใช้แสดงคำถาม มักใช้คำว่า
ใคร อะไร ที่ไหน

๓. วิภาคสรรพนาม คือ คำสรรพนามที่ใช้ชี้ซ้ำหรือแยกส่วนคำนาม
ที่อยู่ด้านหน้า มักใช้คำว่า ต่าง บ้าง กัน

๔. อนิยมสรรพนาม คือ คำสรรพนามที่ใช้คำแสดงคำถามมาแทนคำนาม
โดยไม่กำหนดชี้เฉพาะและไม่ถือว่าเป็นประโยคคำถาม



๕. นิยมสรรพนาม คือ คำสรรพนามที่ใช้แทนคำนามเพื่อบอกระยะ
ใกล้-ไกล มักใช้คำว่า นี่ นั่น โน่น

๖. ประพันธสรรพนาม คือ คำสรรพนามที่ใช้แทนคำนามด้านหน้า
เพื่อเชื่อมกับอีกประโยคหนึ่งให้ต่อเนื่องกัน มักใช้คำว่า ผู้ ที่ ซึ่ง อัน

หน้าที่ของคำสรรพนาม

๑. เป็นประธานในภาคประธานของประโยค
๒. เป็นกรรมในภาคแสดงของประโยค
๓. เป็นบทขยายในภาคประธานและภาคแสดงของประโยค
ข้อสังเกต คำสรรพนามที่ทำหน้าที่เป็นบทขยายของประโยค
มักจะอยู่หลังกริยา เป็น อยู่ คือ
๔. เป็นคำเชื่อมในประโยคซ้อน โดยใช้ประพันธสรรพนามเชื่อม
ประโยคให้มีความต่อเนื่องกัน

ใบงานที่ ๓
เรื่อง คำสรรพนาม

คำชี้แจง : พิจารณาคำสีแดงในประโยคแล้วเติมชนิดของคำสรรพนามในช่องงว่างให้ถูกต้อง

บุรุษสรรพนาม อนิยมสรรพนาม




ปฤจฉาสรรพนาม นิยมสรรพนาม




วิภาคสรรพนาม ประพันธสรรพนาม

๑. พวกเราอยากชวนหนูดีมาช่วยทำงาน .............................................................................
๒. ใครชอบกินขนมจีนน้ำยาปักษ์ใต้บ้าง ............................................................................
๓. นี่เป็นกระเป๋าที่สุดาชอบที่สุด .............................................................................
๔. นักเรียนแต่ละกลุ่มต่างทำงานที่ได้รับมอบหมาย .............................................................................
๕. ใครๆก็ดีใจที่เธอไปเรียนต่อต่างประเทศ .............................................................................
๖. ใครเป็นผู้คิดประดิษฐ์หลอดไฟ ............................................................................
๗. นักเรียนบ้างก็เล่นซ่อนหาบ้างก็เล่นมอญซ่อนผ้า ..............................................................................
๘. เขาจะทําอะไรก็เรื่องของเขา ...............................................................................
๙. นี่คือพี่สาวและน้องสาวของฉัน .............................................................................
๑๐. ฉันจะไปเล่นตะกร้อกับเพื่อนๆ .............................................................................

ชื่อ..........................................................สกุล...............................................ชั้น...................เลขที่................

ใบงานที่ ๔
เรื่อง คำสรรพนาม

คําชี้เเจง : ให้นักเรียนเขียน ในคําที่เป็นคําสรรพนามให้ถูกต้อง

ผม กิน พระ ฉัน อยู่ ดิฉัน ตํารวจ คุณ

เธอ ใต้เท้า บ้าน ท่าน กระผม คุณครู ข้าพเจ้า

เก้าอี้ เรา พระ พ่อ ข้าพระพุทธเจ้า ภูเขา อาตมา

โจร หม่อมฉัน โรงเรียน เกล้ากระหม่อม พัดลม ที่

ซึ่ง อัน ผู้ เขา ขนม จดหมาย นี่ เสื้อ ตะกร้า

กระจก นั่น หมู ความรัก โน่น หวี เพลง โอ้ย อุ๊ย

มัน โทรศัพท์ ท่าน ปากกา นายก ใครๆ เเมว

สมอง สุนัข อะไรๆ เเม่นํ้า หนังสือ ไหนๆ ต่าง

บ้าง ร้อน กัน หนาว ใคร ไหน ติ๊กต๊อก

ผู้ใด อยากได้ หมอนข้าง กรรไกร หูฟัง สิ่งใด กระดาษ

ต้นจําปา มะม่วง ผู้ใด เเก้วนํ้า เเม่ พระองค์

ชื่อ ........................................................... สกุล .............................................................. ชั้น ........................ เลขที่ .....................

๑๒

คำกริยา

คำกริยา คือ คำที่แสดงการกระทำของภาคประธาน
แบ่งได้ ๔ ชนิด ได้แก่





๑. อกรรมกริยา คือ คำกริยาที่มีความหมายสมบูรณ์ ไม่ต้องมีกรรมมารับ

๒. สกรรมกริยา คือ คำกริยาที่ต้องมีกรรมมารับความหมายจึงจะสมบูรณ์

๓. กริยานุเคราะห์ หรือกริยาช่วย คือ คำที่วางไว้หน้าคำกริยา
เพื่อเสริมกริยาให้มีความหมายชัดเจนขึ้น

๑๓

๔. วิกตรรถกริยา คือ คำกริยาที่มีความหมายไม่สมบูรณ์ ต้องใช้ส่วนเติมเต็ม
ได้แก่ คำนาม คำสรรพนาม หรือคำวิเศษณ์มาขยายให้มีใจความสมบูรณ์

ข้อสังเกต คำกริยาที่ต้องมีส่วนเติมเต็ม ได้แก่ เป็น เหมือน คล้าย เท่า
คือ มี เกิด ปรากฏ

หน้าที่ของคำกริยา
๑. เป็นกริยาหลักในภาคแสดงของประโยค
๒. เป็นบทขยายกริยาหลักในภาคแสดงของประโยค

ใบงานที่ ๕
เรื่อง คํากริยา

คําชี้เเจง : ตอนที่ ๑ ให้ักเรียนเขียนเครื่องหมาย ✔ ลงใน หน้าคําที่เป็นคํากริยา

กระโดด กระหาย ธรรมชาติ นอนหลับ
ปรุงอาหาร นักเรียน ร้องไห้ สมบูรณ์

คําชี้เเจง : ตอนที่ ๒ ให้นักเรียนเขียนชนิดของคํากริยาที่ขีดเส้นใต้ในประโยค

๑. คุณพ่อปิดประตูอย่างเเรง _______________________
๒. คุณยายเย็บกระทง _______________________
๓. ภูเขาถล่มเมื่อวานนี้ _______________________
๔. ข้าวเป็นอาหารหลักของคนไทย _______________________
๕. น้องกระโดดยาง _______________________
๖. นักกีฑาวิ่งรอบสนาม _______________________

ชื่อ ........................................................... สกุล .............................................................. ชั้น ........................ เลขที่ .....................

ใบงานที่ ๖
เรื่อง คํากริยา

คําชี้เเจง : ให้นักเรียนเลือกคํากริยาที่กําหนดเติมลงใน ให้ถูกต้อง
เเละเขียนชนิดของคํากริยานั้น

สอน อ่าน ว่องไว ตื่นเต้น เป็น

1. เขา มากเมื่อได้รับจดหมายจากเเดนไกล
ชนิดของคํากริยา คือ

2. ภูริ น้องเสมอให้ตั้งใจเเละรับผิดชอบในการทํางาน

ชนิดของคํากริยา คือ

3. เด็กในวันนี้ ทรัพยากรบุคคลที่สําคัยของชาติในวันหน้า

ชนิดของคํากริยา คือ

4. เราควร หนังสือพิมพ์ ให้สมํ่าเสมอจนเป็นนิสัย

ชนิดของคํากริยา คือ

5. ลูกจ้างร้านนี้ ทุกคน

ชนิดของคํากริยา คือ

ชื่อ ........................................................... สกุล .............................................................. ชั้น ........................ เลขที่ .....................

๑๖

ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ

๑. นักเรียนสามารถวิเคราะห์และอธิบายเกี่ยวกับคำนาม
คำสรรพนามและคำกริยาได้





๒. นักเรียนสามรถจำแนกประเภทคำนาม คำสรรพนามและ
คำกริยาได้





๓. นักเรียนสามารถสื่อสารภาษาไทยโดยการใช้คำนาม
คำสรรพนามและคำกริยาได้

ขอบคุณครับ


Click to View FlipBook Version