โรงเรียนอนบุ าลวดั ลกู แกประชาชนทู ิศ สพป.กาญจนบุรี เขต 2
แบบอนมุ ัติหน่วยการจดั การเรยี นรู้
เสนอ รองผอู้ ำนวยการโรงเรยี นอนุบาลวดั ลกู แกประชาชนทู ศิ
เพื่อพจิ ารณาอนมุ ัติหน่วยการจัดการเรียนรู้ วิชา วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
รหสั วชิ า ว 15101
ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 5
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
( ลงชอื่ ).......................................................ผสู้ อน
( นางสาวภทั รฐิณีพร พงษ์วิสุวรรณ์ )
( ลงช่ือ ).......................................................ผสู้ อน
( นางสาวชดิ ชนก วนั ดี )
ความเห็นของหวั หนา้ กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
( ลงช่อื ) ......................................................
(นางสาวภัทรฐิณีพร พงษว์ สิ ุวรรณ์ )
ความเห็นฝ่ายบรหิ ารงานวชิ าการ
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
( ลงชอ่ื ) ......................................................
( นางสาวศรดุ า วีระสมัย )
หวั หนา้ วิชาการ
อนมุ ัติใชเ้ ปน็ แผนการจดั การเรยี นรู้ได้
ควรแก้ไข ปรบั ปรุงใหส้ มบรู ณ์กอ่ นนำไปใช้ ดังตอ่ ไปน้ี
..............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................
( ลงชื่อ ) ......................................................
( นางสาวจตุพร เชยสาคร )
รองผอู้ ำนวยการโรงเรยี นอนุบาลวัดลูกแกประชาชนูทิศ
โรงเรยี นอนบุ าลวดั ลกู แกประชาชนทู ศิ สพป.กาญจนบุรี เขต 2
หน่วยการจัดการเรียนรู้ท่ี 1
รหัสวิชา ว15101 รายวชิ าวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 5
ของ
นางสาวภทั รฐณิ พี ร พงษว์ สิ วุ รรณ์
นางสาวชดิ ชนก วันดี
โรงเรียนอนบุ าลวดั ลูกแกประชาชนทู ิศ
สำนกั งานเขตพน้ื ที่การศกึ ษาประถมศกึ ษากาญจนบุรี เขต 2
โรงเรียนอนบุ าลวดั ลกู แกประชาชนทู ิศ สพป.กาญจนบุรี เขต 2
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 1 ชวี ิตกบั สิ่งแวดล้อม
รหสั วชิ า ว 15101 ชอ่ื วิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
กลมุ่ สาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 5 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลาเรียน 12 ชั่วโมง
ผู้สอน นางสาวภัทรฐิณพี ร พงษว์ ิสวุ รรณ์ โรงเรียนอนบุ าลวดั ลูกแกประชาชนูทศิ
ข้ันที่ 1 กำหนดเปา้ หมายหลักของการเรียนรู้
มาตรฐานการเรียนรแู้ ละตัวชวี้ ัด
มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ว 1.1 เข้าใจความหลากหลายของระบบนิเวศ ความสัมพันธร์ ะหวา่ งสง่ิ ไม่มชี ีวิต
กบั สิ่งมชี ีวติ และความสัมพันธ์ระหวา่ งสิ่งมชี วี ติ กับส่ิงมชี วี ติ ตา่ ง ๆ ในระบบนิเวศ
การถ่ายทอดพลงั งาน การเปลย่ี นแปลงแทนทีใ่ นระบบนเิ วศ ความหมาย
ของประชากร ปัญหาและผลกระทบทม่ี ีต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิง่ แวดลอ้ ม
แนวทางในการอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติและการแกไ้ ขปัญหาสง่ิ แวดล้อม
รวมทัง้ นำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์
ตัวชวี้ ัด
ว 1.1 ป.5/1 บรรยายโครงสรา้ งและลักษณะของสิง่ มีชวี ิตท่ีเหมาะสมกบั การดำรงชีวติ
ซงึ่ เปน็ ผลมาจากการปรับตัวของสง่ิ มีชีวติ ในแตล่ ะแหล่งท่ีอยู่
ว 1.1 ป.5/2 อธบิ ายความสมั พนั ธร์ ะหว่างสง่ิ มีชีวิตกับสิง่ มชี วี ติ และความสมั พันธ์ระหวา่ ง
สง่ิ มชี วี ิตกบั ส่ิงไม่มีชีวิต เพ่ือประโยชน์ต่อการดำรงชวี ิต
ว 1.1 ป.5/3 เขยี นโซ่อาหารและระบุบทบาทหนา้ ที่ของส่งิ มีชวี ิตที่เปน็ ผู้ผลติ และผ้บู รโิ ภค
ในโซ่อาหาร
ว 1.1 ป.5/4 ตระหนักในคุณค่าของส่ิงแวดลอ้ มทม่ี ีต่อการดำรงชีวติ ของส่ิงมีชวี ิต โดยมีสว่ นรว่ ม
ในการดแู ลรกั ษาส่ิงแวดล้อม
ผลการเรียนรู้ของ ASEAN Curriculum Sourcebook
การแลกเปลีย่ นข้อมูลสารสนเทศสามารถนำไปสกู่ ารคน้ พบทส่ี ำคญั
โรงเรยี นอนบุ าลวดั ลกู แกประชาชนทู ิศ สพป.กาญจนบุรี เขต 2
ความรฝู้ ังแน่น ความเข้าใจทคี่ งทน (Enduring Understanding
นกั เรยี นเขา้ ใจวา่ สง่ิ มีชีวติ ทั้งพชื และสัตวม์ โี ครงสรา้ งและลักษณะที่เหมาะสมในแต่ละแหล่งท่ีอยู่
ซึ่งเปน็ ผลมาจากการปรบั ตัวของสง่ิ มีชวี ติ เพ่ือใหด้ ำรงชีวิตและอยรู่ อดได้ในแต่ละแหลง่ ทอ่ี ยู่ เชน่ ผั ก ต บ ช ว า
มีชอ่ งอากาศในกา้ นใบ ชว่ ยให้ลอยนํ้าได้ ต้นโกงกางทีข่ ึ้นอย่ใู นป่าชายเลนมรี ากคา้ํ จุน
ทำใหล้ ำตน้ ไม่ล้ม ปลามคี รีบชว่ ยในการเคล่อื นที่ในน้าํ
ในแหล่งที่อยหู่ นึ่ง ๆ ส่ิงมชี ีวติ จะมคี วามสัมพนั ธซ์ ่งึ กันและกนั และสัมพันธก์ ับสง่ิ ไม่มีชวี ิต
เพื่อประโยชน์ต่อการดำรงชีวิต เช่น ความสัมพันธ์กันด้านการกินกันเป็นอาหาร เป็นแหล่งท่ีอยู่อาศัย
หลบภยั และเล้ยี งดูลูกอ่อน ใช้อากาศในการหายใจ
สิง่ มชี ีวติ มกี ารกนิ กนั เป็นอาหาร โดยกินต่อกนั เป็นทอด ๆ ในรปู แบบของโซ่อาหาร ทำให้สามารถ ระบุ
บทบาทหน้าทข่ี องสง่ิ มีชีวิตเป็นผผู้ ลติ และผบู้ ริโภค
สาระการเรียนรู้
• พชื เปน็ สิง่ มชี วี ติ จึงมกี ารตอบสนองและปรับตวั ให้เขา้ กับส่งิ แวดล้อมรอบตัว
• พชื ในบริเวณตา่ ง ๆ ของโลกมีลกั ษณะของราก ลำต้น ใบ เมลด็ แตกต่างกนั เพ่ือช่วยใหม้ นั มีชีวิต
และเจริญเตบิ โตในที่ต่าง ๆ ได้
• ในท่แี หง้ แลง้ พชื ปรับตวั ให้เข้ากับส่ิงแวดลอ้ ม โดยมีขผี้ งึ้ เคลือบอยู่ท่ใี บและลำต้น
• พชื ทีอ่ าศยั อยู่ในทะเลทราย เปลีย่ นใบให้เป็นหนามแหลม เพ่อื ลดการคายน้ํา และมีลำต้นอวบ
เพ่อื เกบ็ น้ําไดม้ าก
• พชื ทอี่ าศยั อยู่ในนาํ้ มักมลี ำต้นอวบ หรอื มีสว่ นท่ีช่วยใหพ้ ืชลอยนํ้าได้
• พชื มโี ครงสรา้ งและลักษณะท่เี หมาะสมในแตล่ ะแหล่งที่อยู่ ซึง่ เปน็ ผลมาจากการปรับตวั ของส่ิงมชี ีวิต
เพ่ือใหด้ ำรงชีวิตและอยู่รอดไดใ้ นแต่ละแหลง่ ท่ีอยู่
• สตั วม์ ีโครงสรา้ งและลกั ษณะท่ีเหมาะสมในแต่ละแหล่งที่อยู่ ซึ่งเปน็ ผลมาจากการปรบั ตวั ของ
ส่งิ มชี วี ติ เพื่อให้ดำรงชีวิตและอยู่รอดไดใ้ นแต่ละแหลง่ ที่อยู่
• ระบบนิเวศ หมายถึง ความสัมพันธท์ กี่ ลุ่มสง่ิ มชี วี ติ ในแหล่งทีอ่ ย่อู าศัยเดียวกัน มีความสมั พนั ธ์
ซึง่ กันและกนั และมีความสัมพนั ธก์ ับสิง่ ไม่มชี ีวิตในแหล่งที่อย่นู น้ั
• แหล่งทอี่ ยู่ หมายถึง ลกั ษณะบรเิ วณทกี่ ลมุ่ สิ่งมชี ีวิตอาศยั อยู่
• กลมุ่ สิ่งมีชวี ติ ในแหลง่ ทอี่ ยู่ต่าง ๆ มีความสมั พนั ธก์ ันดา้ นการกนิ กันเป็นอาหาร และความสัมพันธ์กนั
ดา้ นเป็นแหล่งท่ีอยู่ หลบภัย และเล้ียงดูลกู อ่อน
• ในแหล่งทอ่ี ยู่หน่ึง ๆ ส่งิ มชี วี ติ จะมคี วามสมั พนั ธซ์ งึ่ กันและกนั และสัมพันธ์กบั ส่งิ ไมม่ ชี วี ิต
เพื่อประโยชน์ตอ่ การดำรงชวี ติ
• รปู แบบความสมั พนั ธ์ระหว่างส่ิงมชี ีวิตกบั สิ่งมีชวี ติ ไดแ้ ก่
โรงเรยี นอนบุ าลวดั ลกู แกประชาชนทู ิศ สพป.กาญจนบุรี เขต 2
1. ภาวะได้ประโยชน์รว่ มกนั คือ สิ่งมีชวี ิต 2 ชนิดอยู่ร่วมกนั ได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่ายและสามารถ
แยกจากกันได้
2. ภาวะพ่ึงพากนั คอื สิ่งมีชีวิต 2 ชนิดอยู่รว่ มกันได้ประโยชนท์ งั้ สองฝา่ ย แตไ่ ม่สามารถแยกจากกันได้
3. ภาวะองิ อาศัย คือ สง่ิ มีชวี ิต 2 ชนิดอยรู่ ่วมกันโดยทีฝ่ า่ ยหนงึ่ ได้ประโยชน์ สว่ นอีกฝ่ายไมไ่ ด้
หรอื ไมเ่ สียประโยชน์
4. ภาวะล่าเหยอ่ื คอื สงิ่ มีชีวติ 2 ชนดิ อยูร่ ว่ มกันโดยทฝี่ า่ ยหนง่ึ คอื ผู้ลา่ (ได้ประโยชน)์ แต่อีกฝา่ ยหนง่ึ
คือเหยอื่ (เสียประโยชน์)
5. ภาวะปรสิต คอื ส่ิงมีชีวิต 2 ชนดิ อยรู่ ว่ มกันโดยฝ่ายผอู้ าศัยได้ประโยชน์ ส่วนฝา่ ยผ้ถู กู อาศัย
เสียประโยชน์
• โซ่อาหาร (food chain) คือ กนิ ต่อกนั เป็นทอด ๆ ของสงิ่ มชี ีวิต
หลักการเขยี นโซอ่ าหาร นยิ มให้ผูถ้ กู กินอยทู่ างซา้ ยมอื และผ้กู ินอยูท่ างขวามอื ปลายหัวลกู ศร
ช้ไี ปทางผ้กู ิน
• สายใยอาหาร (food web) หมายถึง ความสัมพันธ์ของโซ่อาหารหลาย ๆ โซ่อาหารในธรรมชาติ
โซ่อาหารจะสัมพันธ์กนั อยา่ งซับซ้อนในรูปสายใยอาหาร
• การมีส่วนรว่ มในการดแู ลรกั ษาส่งิ แวดลอ้ ม
1. ชว่ ยกนั รักษาแหลง่ น้าํ ให้สะอาด เพื่อจะไดม้ นี ้าํ ไวใ้ ชต้ ่อไป
2. ช่วยกันคัดแยกขยะ และนำขยะทีย่ ังใชไ้ ด้อยกู่ ลบั มาใชใ้ หมเ่ ปน็ การรีไซเคลิ ขยะและกำจัดขยะ
อันตรายไดอ้ ย่างเหมาะสมและปลอดภัยต่อส่งิ แวดลอ้ ม
3. ทำการเกษตรตามทฤษฎแี นวใหม่ การใช้สารชวี ภาพในการกำจัดศตั รูพืช
4. ประหยัดพลังงานไฟฟ้า โดยถอดปลั๊กเครอ่ื งใช้ไฟฟ้าทกุ ชนดิ หลงั เลกิ ใชง้ าน
สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถน่ิ /อาเซียน
ดว้ ยเหตใุ ดการแลกเปลย่ี นสารสนเทศด้านวิทยาศาสตร์และแนวคิด ส่งเสริมการค้นพบ
สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น
1. ความสามารถในการสอื่ สาร
2. ความสามารถในการคดิ
3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
โรงเรียนอนบุ าลวดั ลกู แกประชาชนทู ศิ สพป.กาญจนบุรี เขต 2
คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
1. ใฝ่เรยี นรู้
2. มงุ่ มั่นในการทำงาน
3. มจี ติ สาธารณะคำถามสำคัญ
1. พชื ปรบั ตัวให้เข้ากับสง่ิ แวดลอ้ มได้อย่างไร
2. พชื ทะเลทรายปรบั ตวั ใหด้ ำรงชวี ติ อย่ไู ด้อย่างไร
3. พชื ปรบั ตวั ให้ดำรงชีวติ อยใู่ นน้ําได้อยา่ งไร
4. พชื มกี ารปรับตวั เพ่อื ให้สามารถเจรญิ เตบิ โตและดำรงชีวิตได้อยา่ งไร
5. สตั วม์ ีการปรบั ตวั อย่างไรเพือ่ ให้สามารถดำรงชวี ิตอยไู่ ด้
6. ส่งิ มชี ีวิตในท้องถน่ิ กับสง่ิ แวดลอ้ มมีความสัมพันธก์ นั อย่างไร
7. กลมุ่ สิ่งมีชวี ติ มคี วามสมั พันธก์ บั แหล่งทอ่ี ยใู่ นด้านต่าง ๆ อะไรบา้ ง
8. สง่ิ มีชีวติ กับสิง่ มีชีวิตมีความสัมพันธก์ นั อย่างไร
9. การกนิ กันของส่ิงมีชีวิตเม่ือเขียนเป็นโซอ่ าหารมีลักษณะอยา่ งไร
10. สายใยอาหารของส่งิ มีชีวิตมลี ักษณะอยา่ งไร
11. นักเรยี นมสี ่วนร่วมในการดูแลรกั ษาสิง่ แวดล้อมได้อยา่ งไรบา้ ง
คา่ นยิ มหลัก 12 ประการ 2 ความรบั ผิดชอบ ความมุ่งมัน่ อดทน
1 มคี วามสนใจใฝ่รู้ 4 ความรอบคอบ
3 ความมเี หตุผล 6 รว่ มแสดงความคิดเห็นและรับฟังความคดิ เหน็ ของผู้อื่น
5 ความซ่ือสตั ย์
ทกั ษะกระบวนการคิด 2 ทักษะการสำรวจ 3 ทกั ษะการจำแนกประเภท
1 ทกั ษะการสังเกต 5 ทักษะการอธบิ าย 6 ทกั ษะการวเิ คราะห์
4 ทกั ษะการเปรยี บเทยี บ
7 ทกั ษะการทดลอง
จดุ เนน้ สพฐ./สพป./ร.ร.
อา่ นคล่อง เขยี นคล่อง คดิ เลขคล่อง ทกั ษะการคดิ ขน้ั พ้ืนฐาน ทักษะชวี ิต การส่อื สารอย่างสร้างสรรค์
โรงเรยี นอนบุ าลวดั ลกู แกประชาชนทู ศิ สพป.กาญจนบุรี เขต 2
เปา้ หมายหลักในการพัฒนาของโรงเรยี นคุณภาพประจำตำบล
1. การพัฒนานักเรียนให้มีคุณภาพ มีทักษะชีวิตที่ดี นำความคิดและองค์ความรู้ ไปปรับใช้
ในชีวิตประจำวัน
2. มีสุขภาพกายและใจท่ีแข็งแรง เป็นคนดี มีจิตสาธารณะ และรักษ์สิ่งแวดล้อม มีความรู้ด้านภาษา
ทันเทคโนโลยคี ดิ วเิ คราะห์เป็น มีคณุ ธรรม และหา่ งไกลยาเสพตดิ
อัตลักษณ์โรงเรยี น
งามอยา่ งไทย
ขนั้ ท่ี 2 กำหนดหลกั ฐานหรอื รอ่ งรอยของการเรียนรู้
ภาระงาน : ชน้ิ งาน/การแสดงออกของผเู้ รียน
1. ภาพวาดและระบายสี การปรับตัวของพืชทะเลทราย
2. ภาพวาดและระบายสี การปรับตัวของพืชน้ําในทอ้ งถิน่
3. ภาพวาดและระบายสี การปรบั ตวั ของพืชในทอ้ งถน่ิ
4. ภาพวาดและระบายสี การปรับตัวของสัตวใ์ นท้องถิน่
5. สมดุ เล่มเล็ก ความสัมพนั ธข์ องกล่มุ ส่งิ มีชวี ิตกบั แหลง่ ทีอ่ ย่ใู นด้านต่าง ๆ
6. สมดุ ภาพ ความสมั พันธร์ ะหวา่ งสงิ่ มชี วี ิตกับส่ิงมชี วี ิต
7. เกมโซ่อาหารในท้องถิน่
8. เกมสายใยอาหารของระบบนเิ วศ
9. แผน่ พับ การมีส่วนร่วมในการดแู ลรกั ษาส่งิ มีชีวิตในท้องถิน่
การประเมินการเรียนรู้
1. ประเมินความรู้ เรื่อง การปรับตวั ของสงิ่ มชี ีวิตและความสัมพนั ธร์ ะหว่างกลมุ่ สง่ิ มีชวี ติ กบั สง่ิ แวดลอ้ ม (K)
ด้วยแบบทดสอบ
2. ประเมินการปฏิบัตกิ ารทำกจิ กรรมการทดลอง การสืบสอบข้อมูล (P) ด้วยแบบประเมิน
3. ประเมินชน้ิ งาน ภาพวาดและระบายสี การปรบั ตัวของพืชทะเลทราย
ภาพวาดและระบายสี การปรับตวั ของพชื นํ้าในท้องถ่ิน
ภาพวาดและระบายสี การปรบั ตัวของพืชในทอ้ งถ่นิ
ภาพวาดและระบายสี การปรับตวั ของสตั ว์ในท้องถิน่
สมุดเลม่ เล็ก ความสมั พันธข์ องกล่มุ สิ่งมชี ีวติ กับแหลง่ ทอี่ ยู่ในด้านตา่ ง ๆ
สมุดภาพ ความสัมพันธร์ ะหวา่ งสง่ิ มชี วี ิตกบั ส่ิงมีชวี ิต
เกมโซอ่ าหารในท้องถ่ิน
เกมสายใยอาหารของระบบนเิ วศ
โรงเรียนอนบุ าลวดั ลกู แกประชาชนทู ศิ สพป.กาญจนบุรี เขต 2
แผน่ พบั การมีสว่ นรว่ มในการดแู ลรกั ษาสิ่งมชี ีวติ ในทอ้ งถิ่น (P) ด้วยแบบประเมิน
4. ประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ด้านใฝเ่ รียนรู้ มุ่งม่นั ในการทำงาน มจี ิตสาธารณะ (A)
ดว้ ยแบบประเมนิ
แบบประเมินตามสภาพจรงิ (Rubrics)
แบบประเมนิ การปฏิบัติการทำกจิ กรรมการทดลอง
รายการการ ระดับคุณภาพ
ประเมนิ 4 3 2 1
1. การทำกจิ กรรม ทำกจิ กรรมการทดลอง ทำกจิ กรรมการทดลอง ทำกจิ กรรมการทดลอง ทำกิจกรรมการทดลอง
การทดลอง ตามวิธีการและ ตามวธิ กี ารและ ตามวิธีการและ ไม่ถกู ตอ้ งตามวธิ ีการ
ตามแผนท่ี ขัน้ ตอน ขนั้ ตอน ขนั้ ตอน และขั้นตอนท่ีกำหนด
กำหนด ท่ีกำหนดไวอ้ ย่าง ท่ีกำหนดไว้ดว้ ยตนเอง ท่ีกำหนดไว้ โดยมคี รู ไว้ ไมม่ ีการปรบั ปรุง
ถกู ต้องด้วยตนเอง มี มีการปรบั ปรุงแก้ไข หรอื ผอู้ ืน่ เป็นผแู้ นะนำ แก้ไข
การปรบั ปรุงแกไ้ ขเปน็ บา้ ง
ระยะ
2. การใช้อุปกรณ์ ใช้อุปกรณ์และ/หรอื ใชอ้ ปุ กรณแ์ ละ/หรือ ใช้อุปกรณ์และ/หรือ ใชอ้ ปุ กรณแ์ ละ/หรอื
และ/หรือ เคร่ืองมือในการทำ เครื่องมือในการทำ เครือ่ งมอื ในการทำ เครอื่ งมอื ในการทำ
เคร่ืองมอื กจิ กรรมการทดลอง กจิ กรรมการทดลอง กิจกรรมการทดลอง กจิ กรรมการทดลอง
ได้อยา่ งถกู ตอ้ ง ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง ได้อยา่ งถูกตอ้ ง โดยมี ไมถ่ ูกตอ้ ง และไมม่ ี
ตามหลักการปฏบิ ัติ ตามหลักการปฏิบัติ ครหู รอื ผ้อู นื่ เปน็ ผู้ ความคลอ่ งแคล่ว
และคลอ่ งแคล่ว แตไ่ ม่คลอ่ งแคล่ว แนะนำ ในการใช้
3. การบนั ทกึ ผล บันทกึ ผลเป็นระยะ บันทึกผลเป็นระยะ บนั ทึกผลเป็นระยะ บนั ทึกผลไมค่ รบ
การทำกจิ กรรม อย่างถูกต้อง มี อย่างถกู ต้อง มี แต่ไม่เป็นระเบยี บ ไมม่ กี ารระบหุ นว่ ย
การทดลอง ระเบยี บ ระเบยี บ ไม่มกี ารระบุหนว่ ย และไมเ่ ป็นไปตาม
มีการระบหุ นว่ ย มีการ มกี ารระบุหนว่ ย มีการ และไมม่ ีการอธบิ าย การทำกิจกรรม
อธิบายข้อมลู ให้เหน็ อธบิ ายข้อมลู ให้เห็นถงึ ข้อมูล การทดลอง
ความเช่อื มโยงเป็น ความสมั พนั ธเ์ ปน็ ไป ให้เหน็ ถงึ ความสัมพนั ธ์
ภาพรวม เป็นเหตเุ ปน็ ตามการทำกิจกรรม ของการทำกิจกรรม
ผล และเป็นไปตามการ การทดลอง การทดลอง
ทดลอง
โรงเรยี นอนบุ าลวดั ลกู แกประชาชนทู ิศ สพป.กาญจนบุรี เขต 2
รายการการ ระดบั คุณภาพ
ประเมิน 4 3 2 1
4. การจดั กระทำ จดั กระทำข้อมูล จดั กระทำขอ้ มลู จัดกระทำข้อมลู จัดกระทำขอ้ มลู อย่าง
ข้อมลู อยา่ งเป็นระบบ อยา่ งเป็นระบบ มกี าร อยา่ งเปน็ ระบบ ไมเ่ ป็นระบบ และมี
และการ มกี ารเชื่อมโยงใหเ้ ห็น จำแนกข้อมลู ให้เหน็ มกี ารยกตวั อย่าง การ
นำเสนอ เป็นภาพรวม และ ความสัมพันธ์ นำเสนอ เพ่ิมเตมิ นำเสนอไม่สื่อ
นำเสนอดว้ ยแบบตา่ ง ดว้ ยแบบต่าง ๆ ได้ ให้เข้าใจง่าย และ ความหมาย
ๆ อย่างชดั เจนถูกตอ้ ง แตย่ งั ไมช่ ัดเจน นำเสนอ และไม่ชดั เจน
ด้วยแบบต่าง ๆ
แต่ยังไม่ชัดเจน
และไม่ถูกตอ้ ง
5. การสรปุ ผล สรปุ ผลการทำกจิ กรรม สรปุ ผลการทำกจิ กรรม สรปุ ผลการทำกจิ กรรม สรุปผลการทำกิจกรรม
การทำกิจกรรม การทดลอง การทดลองไดถ้ ูกตอ้ ง การทดลองได้ โดยมีครู การทดลองตามความรู้
การทดลอง ได้อย่างถกู ตอ้ ง แต่ยังไม่ครอบคลุม หรอื ผูอ้ นื่ แนะนำบ้าง ทพ่ี อมีอยู่ โดยไมใ่ ช้
กระชับ ขอ้ มลู จึงสามารถสรุปได้ ข้อมลู จากการทำ
ชดั เจน และครอบคลมุ จากการวิเคราะห์ ถกู ต้อง กิจกรรม
ข้อมูลจากการ ทงั้ หมด การทดลอง
วเิ คราะห์
ทัง้ หมด
6. การดแู ลและการ ดแู ลอุปกรณ์และ/หรือ ดูแลอปุ กรณ์และ/หรือ ดแู ลอุปกรณแ์ ละ/หรือ ไม่ดูแลอปุ กรณแ์ ละ/
เก็บ เคร่ืองมือในการทำ เคร่อื งมือในการทำ เคร่ืองมือในการทำ หรอื เครื่องมือในการ
อปุ กรณ์และ/ กจิ กรรมการทดลอง กจิ กรรมการทดลอง กิจกรรมการทดลอง ทำ
หรอื และมีการทำความ และมีการทำความ มกี ารทำความสะอาด กจิ กรรมการทดลอง
เครอ่ื งมอื สะอาด สะอาด แตเ่ ก็บไม่ถูกตอ้ ง และไมส่ นใจทำความ
และเกบ็ อย่างถกู ตอ้ ง อย่างถูกต้อง ตอ้ งให้ครูหรือผอู้ ่นื สะอาด รวมทั้งเกบ็
ตามหลกั การ และ แตเ่ ก็บไมถ่ กู ตอ้ ง แนะนำ ไมถ่ ูกต้อง
แนะนำให้ผอู้ น่ื ดูแล
และเกบ็ รักษาได้
ถูกตอ้ ง
โรงเรยี นอนบุ าลวดั ลกู แกประชาชนทู ศิ สพป.กาญจนบุรี เขต 2
แบบประเมินการสบื สอบขอ้ มูล
รายการการ ระดบั คุณภาพ
ประเมิน 4 3 2 1
1. การวางแผน วางแผนที่จะคน้ คว้า วางแผนที่จะค้นควา้ วางแผนท่ีจะค้นควา้ ไมม่ ีการวางแผนทจ่ี ะ
คน้ คว้า ขอ้ มูลจากแหล่งการ ข้อมูล ข้อมูลจากแหลง่ การ ค้นควา้ ข้อมลู จาก
ขอ้ มูลจาก เรยี นรู้ทีห่ ลากหลาย จากแหลง่ การเรยี นรู้ เรยี นรู้ แหลง่ การเรียนรู้อยา่ ง
แหลง่ การเรยี นรู้ เช่ือถือได้และมีการ ทีห่ ลากหลาย และ โดยมคี รหู รอื ผ้อู นื่ เป็นระบบ
เช่ือมโยงให้เหน็ เปน็ เหมาะสม แนะนำบ้าง
ภาพรวม แสดงให้เห็น แต่ไม่มีการเชื่อมโยง
ถงึ ความสัมพันธข์ อง ให้เหน็ เป็นภาพรวม
วธิ กี ารทง้ั หมด
2. การเกบ็ รวบรวม เกบ็ รวบรวมข้อมลู เกบ็ รวบรวมข้อมูล เก็บรวบรวมข้อมูล เกบ็ รวบรวมข้อมูล
ข้อมูล ตามแผนท่กี ำหนด โดยคัดเลอื กและ/หรอื โดยไม่มีการคดั เลอื ก เปน็ ระยะ ขาดการ
ทกุ ประการ ประเมนิ ข้อมลู และ/หรอื ประเมนิ ประเมินเพอื่ คัดเลือก
ข้อมูล
3. การจัดกระทำ จดั กระทำขอ้ มูลอย่าง จัดกระทำข้อมลู จัดกระทำขอ้ มลู อยา่ ง จัดกระทำขอ้ มูลอยา่ ง
ขอ้ มูล เป็นระบบมกี าร อยา่ งเปน็ ระบบ มีการ เปน็ ระบบมกี าร ไม่เป็นระบบ และ
และการนำเสนอ เช่อื มโยงให้เหน็ เป็น จำแนกข้อมลู ให้เห็น ยกตวั อยา่ งเพ่ิมเตมิ นำเสนอไมส่ ื่อ
ภาพรวม และนำเสนอ ความสัมพนั ธ์ นำเสนอ ให้เข้าใจง่ายและ ความหมาย
ดว้ ยแบบต่าง ๆ อย่าง ดว้ ยแบบต่าง ๆ นำเสนอด้วยแบบตา่ ง ๆ และไม่ชดั เจน
ชดั เจนถูกต้อง ได้อย่างถูกตอ้ ง แตย่ งั ไมถ่ ูกตอ้ ง
4. การสรุปผล สรปุ ผลได้อยา่ งถกู ตอ้ ง สรุปผลได้อย่างกระชบั สรปุ ผลไดก้ ระชับ สรุปผลโดยไม่ใช้
กระชับ ชัดเจน และ แตย่ งั ไม่ชดั เจนและ กะทัดรดั แต่ไม่ชัดเจน ขอ้ มูล และไมถ่ ูกตอ้ ง
ครอบคลุม มีเหตุผล ไมค่ รอบคลมุ ขอ้ มูล
ท่อี ้างอิงจากการสืบ จากการวิเคราะห์
สอบได้ ทง้ั หมด
5. การเขยี นรายงาน เขียนรายงาน เขียนรายงาน เขียนรายงาน เขียนรายงานได้
ตรงตามจุดประสงค์ ตรงตามจดุ ประสงค์ โดยส่อื ความหมายได้ ตามตวั อยา่ ง แตใ่ ช้
ถกู ตอ้ งและชัดเจน อยา่ งถูกตอ้ งและ โดยมคี รหู รือผู้อนื่ ภาษา
และมกี ารเชอ่ื มโยง ชดั เจน แนะนำ ไมถ่ ูกตอ้ ง และไม่
ให้เหน็ เปน็ ภาพรวม แต่ขาดการเรยี บเรียง ชัดเจน
โรงเรียนอนบุ าลวดั ลกู แกประชาชนทู ศิ สพป.กาญจนบุรี เขต 2
แบบประเมนิ ช้นิ งาน การจัดกระทำและนำเสนอภาพวาดและระบายสี
รายการการ ระดับคณุ ภาพ
ประเมนิ
การจัดกระทำและ 4321
นำเสนอภาพวาด
และระบายสี วาดภาพและระบายสี วาดภาพและระบายสี วาดภาพและระบายสี วาดภาพและระบายสี
ได้สมั พันธก์ นั และ ไดส้ มั พันธ์กบั หัวขอ้ ได้ ได้
ถูกต้องตามหัวขอ้ เร่ือง เรอ่ื ง ตามหวั ข้อเรอื่ ง โดยมี แต่ไม่สอดคลอ้ งกับ
ทีก่ ำหนด มคี วามคิด ท่กี ำหนด มคี วามคดิ ครู หัวข้อเรื่องทีก่ ำหนด
สรา้ งสรรค์ มกี าร รเิ ริม่ หรือผ้อู ่ืนให้คำแนะนำ
เชื่อมโยงให้เห็น แตไ่ ม่มกี ารเชือ่ มโยง
เป็นภาพรวม ให้เห็นเป็นภาพรวม
แบบประเมินช้นิ งาน การจดั กระทำและนำเสนอสมุดเลม่ เลก็
รายการการ ระดบั คณุ ภาพ
ประเมนิ 4 3 2 1
การจดั กระทำและ จดั กระทำสมดุ เล่มเลก็ จัดกระทำสมดุ เล่มเล็ก จดั กระทำสมุดเลม่ เลก็ จัดกระทำสมุดเลม่ เลก็
นำเสนอสมดุ เล่มเลก็ อยา่ งเป็นระบบและ อย่างเป็นระบบมกี าร ได้ มีการยกตัวอยา่ ง อยา่ งไม่เปน็ ระบบและ
นำเสนอด้วยแบบท่ี จำแนกข้อมูลให้เหน็ เพม่ิ เติมและนำเสนอ นำเสนอไม่สือ่
ชัดเจน ถูกต้อง ความสมั พันธ์และ ดว้ ยแบบต่าง ๆ แต่ยัง ความหมายและไม่
ครอบคลมุ และมีการ นำเสนอด้วยแบบท่ี ไม่ครอบคลุม ชัดเจน
เชอื่ มโยงให้เหน็ เปน็ ครอบคลมุ
ภาพรวม
แบบประเมนิ ชิ้นงาน การจัดกระทำและนำเสนอสมุดภาพ
รายการการ ระดบั คุณภาพ
ประเมิน
การจดั กระทำและ 4 321
นำเสนอสมดุ ภาพ จดั กระทำสมุดภาพ
อย่างเป็นระบบและ จดั กระทำสมดุ ภาพ จดั กระทำสมุดภาพได้ จัดกระทำสมุดภาพ
นำเสนอด้วยแบบที่
ชดั เจน ถกู ตอ้ ง อยา่ งเป็นระบบมกี าร มีการยกตวั อย่าง อย่างไม่เป็นระบบ
ครอบคลุม และมกี าร
เช่ือมโยงให้เห็นเป็น จำแนกขอ้ มูลให้เห็น เพม่ิ เติมและนำเสนอ และนำเสนอ
ภาพรวม
ความสมั พนั ธ์และ ด้วยแบบต่าง ๆ แต่ยงั ไมส่ ่อื ความหมาย
นำเสนอด้วยแบบที่ ไม่ครอบคลุม และไมช่ ัดเจน
ครอบคลมุ
โรงเรยี นอนบุ าลวดั ลกู แกประชาชนทู ศิ สพป.กาญจนบุรี เขต 2
แบบประเมินชิ้นงาน การจดั กระทำและนำเสนอเกมโซอ่ าหาร
รายการการ ระดับคุณภาพ
ประเมิน
การจดั กระทำ 4321
และนำเสนอ
เกมโซอ่ าหาร รวบรวมขอ้ มลู รวบรวมขอ้ มลู รวบรวมขอ้ มลู รวบรวมขอ้ มลู
และจดั กระทำ และจดั กระทำ และจัดกระทำ และจดั กระทำ
เกมโซอ่ าหาร เกมโซ่อาหาร เกมโซอ่ าหารได้ เกมโซ่อาหาร
อย่างเปน็ ระบบ อย่างเปน็ ระบบ มกี ารยกตัวอย่าง อย่างไมเ่ ป็นระบบ
และนำเสนอดว้ ยแบบ มกี ารจำแนกขอ้ มลู เพิม่ เตมิ และนำเสนอ และนำเสนอ
ท่ชี ัดเจน ถกู ต้อง ให้เห็นความสมั พนั ธ์ ด้วยแบบตา่ ง ๆ ไม่ส่อื ความหมาย
ครอบคลุม และมกี าร และนำเสนอดว้ ยแบบ แต่ยังไม่ครอบคลมุ และไมช่ ัดเจน
เชื่อมโยงใหเ้ หน็ ท่ถี ูกตอ้ ง ครอบคลมุ
เปน็ ภาพรวม
แบบประเมินชน้ิ งาน การจัดกระทำและนำเสนอเกมสายใยอาหาร
รายการการ ระดบั คุณภาพ
ประเมิน
การจดั กระทำ 4321
และนำเสนอ
เกมสายใยอาหาร รวบรวมข้อมูล รวบรวมขอ้ มูล รวบรวมขอ้ มลู รวบรวมข้อมูล
และจดั กระทำ และจดั กระทำ และจดั กระทำ และจัดกระทำ
เกมสายใยอาหาร เกมสายใยอาหาร เกมสายใยอาหารได้ เกมสายใยอาหาร
อยา่ งเปน็ ระบบ อย่างเปน็ ระบบ มกี ารยกตัวอย่าง อยา่ งไม่เป็นระบบ
และนำเสนอด้วยแบบ มกี ารจำแนกข้อมลู เพ่ิมเติม และนำเสนอ และนำเสนอ
ทชี่ ดั เจน ถูกต้อง ให้เห็นความสัมพนั ธ์ ด้วยแบบตา่ ง ๆ ไมส่ อ่ื ความหมาย
ครอบคลุม และมีการ และนำเสนอด้วยแบบ แตย่ งั ไม่ครอบคลมุ และยังไมช่ ดั เจน
เช่อื มโยงให้เหน็ ทถี่ กู ตอ้ ง ครอบคลุม
เป็นภาพรวม
โรงเรยี นอนบุ าลวดั ลกู แกประชาชนทู ศิ สพป.กาญจนบุรี เขต 2
แบบประเมินช้ินงาน การจัดกระทำและนำเสนอแผน่ พบั
รายการการ ระดับคุณภาพ
ประเมิน
การจดั กระทำ 432 1
และนำเสนอ จดั กระทำแผ่นพบั
แผ่นพบั จัดกระทำแผ่นพบั จัดกระทำแผ่นพับ จัดกระทำแผน่ พับ อยา่ งไม่เป็นระบบ
และนำเสนอ
อยา่ งเปน็ ระบบ อย่างเปน็ ระบบ อยา่ งเป็นระบบ ไมส่ ่ือความหมาย
และไม่ชัดเจน
และนำเสนอด้วยแบบ มกี ารจำแนกขอ้ มูล มีการยกตวั อยา่ ง
ที่ชดั เจน ถูกตอ้ ง ใหเ้ หน็ ความสัมพนั ธ์ เพิ่มเติม
ครอบคลมุ และมีการ และนำเสนอด้วยแบบ ใหเ้ ข้าใจง่ายและ
เชือ่ มโยงให้เห็นเปน็ ทถ่ี กู ต้องครอบคลมุ นำเสนอด้วยแบบ
ภาพรวม ต่าง ๆ แตย่ งั ไม่
ครอบคลุม
โรงเรยี นอนบุ าลวดั ลกู แกประชาชนทู ิศ สพป.กาญจนบุรี เขต 2
แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
ใฝ่เรียนรู้
ตวั ชีว้ ดั ท่ี 4.1 ตงั้ ใจ เพียรพยายามในการเรียนและเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้
พฤติกรรมบง่ ชี้ ดเี ย่ยี ม (3) ดี (2) ผ่าน (1) ไม่ผ่าน (0)
4.1.1 ตง้ั ใจเรยี น ตง้ั ใจเรียน เอาใจใส่ ตง้ั ใจเรยี น เอาใจใส่ ต้งั ใจเรียน เอาใจใส่ ไม่ตง้ั ใจเรียน
4.1.2 เอาใจใส่ และมีความเพยี ร และมคี วามเพียร และมคี วามเพียร
และมคี วามเพียร พยายาม พยายาม พยายาม
พยายามในการเรยี นรู้ ในการเรยี นรู้ เข้ารว่ ม ในการเรียนรู้ เข้าร่วม ในการเรยี นรู้ เข้ารว่ ม
4.1.3 สนใจเข้ารว่ ม กิจกรรมการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ตา่ ง กิจกรรมการเรยี นรูต้ า่ ง
กจิ กรรมการเรียนรู้ ตา่ ง ๆเปน็ ประจำ ๆ บอ่ ยคร้ัง ๆ
ตา่ ง ๆ บางคร้ัง
ตัวชี้วดั ท่ี 4.2 แสวงหาความรู้จากแหล่งเรยี นรตู้ า่ ง ๆ ท้งั ภายในและภายนอกโรงเรียน
ด้วยการเลือกใช้สอื่ อยา่ งเหมาะสม บันทึกความรู้ วิเคราะห์ สรปุ เป็นองค์ความรู้
สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวนั ได้
พฤติกรรมบง่ ช้ี ดเี ยี่ยม (3) ดี (2) ผา่ น (1) ไมผ่ า่ น (0)
4.2.1 ศกึ ษาค้นควา้ ศึกษาค้นควา้ ศกึ ษาคน้ ควา้ ศกึ ษาค้นควา้ ไม่ศึกษาคน้ ควา้
หาความรจู้ ากหนงั สอื หาความรจู้ ากหนังสือ หาความรู้จากหนังสอื หาความรู้จากหนังสอื หาความรู้
เอกสาร สิ่งพิมพ์ เอกสาร สิ่งพิมพ์ เอกสาร สง่ิ พมิ พ์ เอกสาร สิง่ พิมพ์
ส่ือเทคโนโลยตี ่าง ๆ สือ่ เทคโนโลยตี า่ ง ๆ สอ่ื เทคโนโลยตี ่าง ๆ สอื่ เทคโนโลยีต่าง ๆ
แหล่งเรยี นรทู้ งั้ ภายใน แหลง่ เรยี นรทู้ ้ัง แหล่งเรียนร้ทู ง้ั แหลง่ เรียนรู้ทัง้ ภายใน
และภายนอกโรงเรยี น ภายใน ภายใน และภายนอกโรงเรยี น
และเลอื กใชส้ ่ือ และภายนอก และภายนอก มีการบันทึกความรู้
ได้อย่างเหมาะสม โรงเรยี น โรงเรยี น
4.2.2 บนั ทกึ ความรู้ เลือกใช้ส่ือไดอ้ ยา่ ง มกี ารบันทกึ ความรู้
วเิ คราะห์ ตรวจสอบ เหมาะสม มกี าร สรปุ เป็นองคค์ วามรู้
จากสิง่ ที่เรยี นรู้ บันทกึ นำเสนอและ
สรุปเปน็ องค์ความรู้ ความรู้ สรปุ เป็น แลกเปลี่ยนความรู้กบั
โรงเรยี นอนบุ าลวดั ลกู แกประชาชนทู ศิ สพป.กาญจนบุรี เขต 2
พฤติกรรมบง่ ช้ี ดเี ยี่ยม (3) ดี (2) ผ่าน (1) ไมผ่ า่ น (0)
4.2.3 แลกเปล่ียน องคค์ วามรู้ นำเสนอ ผอู้ นื่ ได้
เรียนรู้ และแลกเปลี่ยน
ดว้ ยวธิ ีการตา่ ง ๆ องคค์ วามร้ดู ้วย
และนำไปใช้ วิธกี าร
ในชีวิตประจำวนั ท่ีหลากหลาย
มุ่งม่ันในการทำงาน
ตัวช้วี ัดที่ 6.1 ตง้ั ใจและรับผิดชอบในการปฏิบัติหน้าท่กี ารงาน
พฤติกรรมบ่งชี้ ดเี ยีย่ ม (3) ดี (2) ผา่ น (1) ไมผ่ า่ น (0)
ตง้ั ใจและรบั ผดิ ชอบ ตง้ั ใจและรับผิดชอบ ไม่ตงั้ ใจปฏบิ ัติ
6.1.1 เอาใจใส่ต่อ ตัง้ ใจและรับผิดชอบ ในการปฏิบัตหิ นา้ ท่ี ในการปฏิบตั หิ น้าที่ หนา้ ทก่ี ารงาน
ท่ไี ดร้ ับมอบหมาย ที่ไดร้ ับมอบหมาย
การปฏบิ ตั หิ นา้ ที่ ในการปฏิบัติหน้าท่ี ใหส้ ำเรจ็ มีการ ใหส้ ำเรจ็
ปรบั ปรงุ
ท่ีได้รบั มอบหมาย ทไ่ี ด้รับมอบหมาย การทำงานใหด้ ีขึ้น
6.1.2 ตง้ั ใจและ ใหส้ ำเร็จ มกี าร
รบั ผิดชอบ ปรบั ปรุงและ
ในการทำงานให้ พัฒนาการทำงาน
สำเรจ็ ใหด้ ขี ้ึนด้วยตนเอง
6.1.3 ปรับปรุงและ
พฒั นาการทำงาน
ดว้ ยตนเอง
ตัวช้วี ดั ท่ี 6.2 ทำงานดว้ ยความเพยี รพยายามและอดทนเพ่ือให้งานสำเร็จตามเปา้ หมาย
พฤตกิ รรมบ่งชี้ ดเี ย่ียม (3) ดี (2) ผ่าน (1) ไมผ่ า่ น (0)
6.2.1 ทุ่มเททำงาน ทำงานด้วยความขยนั ทำงานด้วยความขยัน ทำงานดว้ ยความขยนั ไม่ขยัน อดทน
อดทน ไมย่ ่อทอ้ อดทน ไม่ยอ่ ทอ้ อดทน พยายามใหง้ าน พยายามให้งาน ในการทำงาน
ต่อปญั หาและ ตอ่ ปัญหาในการ สำเรจ็ ตามเปา้ หมาย สำเร็จตามเป้าหมาย
อุปสรรค ทำงาน พยายามให้ ช่นื ชมผลงานด้วย
ในการทำงาน งานสำเรจ็ ความ
6.2.2 พยายาม ตามเป้าหมาย ภาคภูมิใจ
แก้ปญั หาและ ชืน่ ชมผลงาน
โรงเรยี นอนบุ าลวดั ลกู แกประชาชนทู ิศ สพป.กาญจนบุรี เขต 2
พฤติกรรมบ่งชี้ ดเี ยี่ยม (3) ดี (2) ผ่าน (1) ไม่ผ่าน (0)
อุปสรรค ดว้ ยความภาคภมู ิใจ
ในการทำงานให้
สำเรจ็
6.2.3 ชื่นชมผลงาน
ดว้ ยความภาคภูมิใจ
มีจติ สาธารณะ
ตัวชีว้ ดั ท่ี 8.2 เขา้ ร่วมกิจกรรมที่เปน็ ประโยชน์ตอ่ โรงเรยี น ชุมชน และสงั คม
พฤติกรรมบง่ ชี้ ดีเย่ยี ม (3) ดี (2) ผา่ น (1) ไม่ผา่ น (0)
ไมส่ นใจดแู ล รักษา
8.2.1 ดูแล รักษา ดูแล รกั ษาทรพั ย์ ดแู ล รักษาทรพั ย์ ดูแล รักษาทรพั ย์ ทรพั ย์สมบัติ
และส่ิงแวดลอ้ ม
สาธารณสมบัติ สมบตั ิ สมบัติ ส่งิ แวดล้อม สมบัติ สิ่งแวดล้อม ของโรงเรียน
และสงิ่ แวดล้อม สง่ิ แวดล้อม ของหอ้ งเรยี น ของหอ้ งเรียน
ดว้ ยความเตม็ ใจ ของห้องเรยี น โรงเรียนเขา้ รว่ ม โรงเรยี น
8.2.2 เขา้ ร่วม โรงเรยี น ชุมชน เข้า กิจกรรม เข้ารว่ มกิจกรรม
กจิ กรรม รว่ มกจิ กรรม เพื่อสังคมและ เพ่ือสงั คมและ
ท่เี ป็นประโยชน์ เพือ่ สงั คมและ สาธารณประโยชน์ของ สาธารณประโยชน์
ต่อโรงเรียน ชมุ ชน สาธารณประโยชน์ของ โรงเรียน ของโรงเรียน
และสังคม โรงเรียน ดว้ ยความเตม็ ใจ
8.2.3 เขา้ ร่วม ดว้ ยความเตม็ ใจ
กิจกรรม
เพื่อแก้ปัญหา หรือ
ร่วมสร้างสง่ิ ทดี่ ีงาม
ของสว่ นรวม
ตามสถานการณ์
ที่เกดิ ขน้ึ ดว้ ยความ
กระตือรือรน้
โรงเรียนอนบุ าลวดั ลกู แกประชาชนทู ิศ สพป.กาญจนบุรี เขต 2
ข้นั ท่ี 3 การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนหรอื ประสบการณ์การเรียนรู้
การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้
1. การปรับตวั ของสงิ่ มีชวี ิต (5 ชั่วโมง)
•ข้•นั ส•ังเ•กต• ร•วบ•ร•วม•ข•้อม•ลู •(G•at•he•ri•ng•)
1. นักเรียนร่วมกนั สงั เกต สำรวจพืชรอบบรเิ วณโรงเรียน แล้วกระตุน้ นกั เรยี นเกิดความสงสยั
ดว้ ยกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ แลว้ รว่ มกนั ตอบคำถาม
2. นักเรียนสังเกตลกั ษณะของพชื นาํ้ ในท้องถ่นิ แล้วร่วมกนั ตอบคำถาม
3. นักเรยี นสงั เกตภาพจ้งิ จกเกาะผนงั จากน้ันสนทนาทบทวนความร้เู ดมิ เก่ียวกับการปรับตวั
ของสัตว์ แลว้ ร่วมกันตอบคำถามสำคญั กระต้นุ ความคิด
4. นักเรียนแบง่ กลุ่ม กลุ่มละ 4 คน คละเพศ และคละนกั เรยี นเกง่ ปานกลาง และออ่ น แต่ละกลุ่ม
ร่วมกันศึกษา วางแผน สบื สอบข้อมูลเก่ียวกับการปรับตวั ของส่งิ มีชีวิต เพื่อฝกึ ฝนตนเองให้เป็นผู้มีความรอู้ ย่าง
เข้าใจและมีทักษะจากแหล่งการเรยี นรู้ที่หลากหลาย จากนน้ั นำขอ้ มลู ทไ่ี ดม้ าแลกเปลี่ยนกนั
และตรวจสอบความถูกตอ้ ง
5. นักเรยี นแต่ละกลมุ่ รว่ มกันอย่างรวมพลงั ศึกษาวิธกี ารทำกิจกรรมท่ี 1.1 เรอ่ื ง ใบพืชท่แี ห้งแลง้
เกบ็ นํ้าไวไ้ ดอ้ ย่างไร กจิ กรรมที่ 1.2 เรอื่ ง การดำรงชีวิตของพืชทะเลทราย กิจกรรมที่ 1.3 เร่ือง การดำรงชวี ติ
ของพชื นํ้า และกจิ กรรมที่ 1.4 เรอ่ื ง การปรบั ตัวของสตั ว์ โดยอ่านออกเสียงดงั และพร้อมเพรียงกนั
6. นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มรว่ มกันอภิปรายกอ่ นทำกจิ กรรม ทำกิจกรรม และบนั ทึกผล
7. ผแู้ ทนนกั เรียนแต่ละกล่มุ นำเสนอผลการสบื สอบข้อมูล และผลการทำกิจกรรมหน้าชนั้ เรยี น
เพอ่ื ตรวจสอบความถกู ต้อง
•(ขG•้นั aค•tดิh•eวrิเ•iคnรg•า)ะ•ห์•แล•ะส•รุป• ค•วา•ม•รู้ •(P•ro•ces•si•ng•)
8. นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกันวเิ คราะห์และอภิปรายเกย่ี วกับผลการทำกิจกรรม โดยร่วมกนั
ตอบคำถามหลงั ทำกิจกรรม
9. นักเรียนรว่ มกนั สรุปผลการทำกิจกรรมและสรปุ สิ่งที่เข้าใจเปน็ ความรรู้ ่วมกนั เกยี่ วกบั
การปรับตัวของสิง่ มชี วี ติ วา่ พืชที่ขึน้ อยู่ในทะเลทรายปรับตวั ให้มีชีวิตอยู่ในทะเลทรายได้ โดยมีใบ
เป็นหนามและมีขี้ผึ้งเคลือบอยตู่ ามลำตน้ เพ่ือปอ้ งกนั การสญู เสียนำ้ ทางปากใบ ต้นกระบองเพชรปอ้ งกนั
การสญู เสียนำ้ ให้กบั ส่งิ แวดลอ้ ม โดยมีใบเปน็ หนามท่ีป้องกนั ไม่ใหล้ มมาสัมผัสที่ผิวของตน้ พชื
เพราะจะทำใหล้ ำต้นแห้ง เนอื่ งจากสญู เสยี เนือ้ ท่ีจากการสมั ผัส
โรงเรยี นอนบุ าลวดั ลกู แกประชาชนทู ิศ สพป.กาญจนบุรี เขต 2
- พืชทีอ่ าศัยอยู่ในนาํ้ ปรับตวั ให้มีชีวติ อยู่ในนาํ้ ได้ โดยการพัฒนารากพเิ ศษ ใบ และโครงสรา้ ง
อน่ื ๆ ท่ชี ่วยให้พืชไดร้ ับแก๊สออกซิเจน และแกส๊ คาร์บอนไดออกไซดท์ พ่ี ชื ตอ้ งการ
- สัตว์มโี ครงสร้างและลักษณะที่เหมาะสมในแต่ละแหล่งที่อยู่ ซึ่งเปน็ ผลมาจากการปรบั ตวั
ของสงิ่ มีชีวิต เพ่ือใหด้ ำรงชีวติ และอยู่รอดได้ในแต่ละแหล่งที่อยู่
• •ข้นั •ป•ฏิบ• ัต•แิ ล•ะส• ร•ุปค•ว•าม•รู้ห•ล•งั ก•าร•ปฏ• ิบ•ัต•ิ (A• p•ply•in•g•an•d•Co•ns•tr•uc•tin•g•th•e K• n•ow• le•dg•e)•
1•0•. นักเรียนแตล่ ะกล่มุ รว่ มกนั วางแผน ออกแบบ แลว้ หาภาพ หรือวาดภาพและระบายสกี ารปรบั ตัว
ของพชื ทะเลทราย จดั ทำเปน็ ช้ินงาน
11. นักเรยี นแต่ละกลุ่มร่วมกนั วางแผน ออกแบบ และนำผลการค้นคว้ามาจดั ทำเปน็ รายงาน
การดำรงชีวติ ของพชื ทีอ่ าศยั อยู่ในน้าํ
12. นักเรยี นแต่ละกลมุ่ รว่ มกนั วางแผน สำรวจพืชนา้ํ ในทอ้ งถิ่นท่มี ีการปรับตวั ใหเ้ ขา้ กับสิ่งแวดล้อม
เฉพาะทอ้ งถิน่ แลว้ หาภาพหรอื วาดภาพและระบายสี พรอ้ มระบุชือ่ พชื จัดทำเป็นชิ้นงาน
13. นักเรยี นแต่ละกลมุ่ ร่วมกันวางแผน สำรวจพืชในท้องถ่ินทม่ี ีการปรบั ตัวให้เขา้ กับสิง่ แวดล้อมเฉพาะ
ท้องถิน่ แลว้ หาภาพ หรือวาดภาพและระบายสี พร้อมระบชุ ื่อพชื จัดทำเป็นชิ้นงาน
14. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มร่วมกนั วางแผน ออกแบบ และนำผลการค้นควา้ มาจดั ทำเป็นรายงาน
การปรบั ตัวของสตั ว์
15. นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ รว่ มกนั วางแผน สำรวจสตั วใ์ นทอ้ งถนิ่ ทีม่ กี ารปรับตัวให้เข้ากบั สิ่งแวดล้อม
เฉพาะท้องถนิ่ ทส่ี นใจ แลว้ หาภาพหรือวาดภาพและระบายสี พรอ้ มระบชุ ่อื สัตวแ์ ละการปรับตวั
จดั ทำเป็นช้นิ งาน
16. นักเรยี นรว่ มกนั สรุปสิง่ ที่เขา้ ใจเปน็ ความรรู้ ว่ มกัน ดังน้ี
• พชื เปน็ สิ่งมีชวี ิต จึงมีการตอบสนองและปรับตวั ให้เขา้ กบั ส่ิงแวดลอ้ มรอบตวั
• พืชในบริเวณต่าง ๆ ของโลกมีลักษณะของราก ลำตน้ ใบ เมล็ด แตกต่างกนั เพ่อื ช่วยให้
มนั มชี วี ิตและเจริญเตบิ โตในที่ตา่ ง ๆ ได้
• ในทแ่ี ห้งแล้งพชื ปรับตวั ให้เขา้ กับสงิ่ แวดลอ้ ม โดยมีขผี้ ง้ึ เคลือบอยทู่ ่ใี บและลำต้น
• พชื ที่อาศยั อยู่ในทะเลทราย เปล่ียนใบใหเ้ ป็นหนามแหลม เพือ่ ลดการคายนํา้ และมลี ำต้นอวบ
เพื่อใหเ้ ก็บนา้ํ ได้มาก
• พชื ที่อาศัยอยู่ในนาํ้ มกั มลี ำตน้ อวบ หรอื มสี ่วนท่ีช่วยใหพ้ ชื ลอยน้ําได้
• พืชมโี ครงสรา้ งและลกั ษณะทเี่ หมาะสมในแตล่ ะแหลง่ ทอ่ี ยู่ ซงึ่ เป็นผลมาจากการปรับตัวของ
ส่งิ มชี วี ิต เพือ่ ให้ดำรงชีวติ และอยรู่ อดไดใ้ นแต่ละแหล่งทีอ่ ยู่
• สัตว์มีโครงสรา้ งและลกั ษณะท่ีเหมาะสมในแต่ละแหลง่ ทอ่ี ยู่ ซึง่ เป็นผลมาจากการปรบั ตัวของ
สง่ิ มชี ีวิต เพอ่ื ให้ดำรงชีวติ และอยรู่ อดไดใ้ นแต่ละแหล่งทอี่ ยู่
โรงเรียนอนบุ าลวดั ลกู แกประชาชนทู ศิ สพป.กาญจนบุรี เขต 2
• ข•้นั •สื่อ•ส•าร•แล•ะน•า•เสน• อ• (A• p•pl•yin•g•th•e•Co•m•m•un•ic•ati•on•S•ki•ll)•
17. ผู้แทนนกั เรยี นแต่ละกลมุ่ นำเสนอผลงาน โดยวิธีการต่าง ๆ ท่ีหลากหลาย เชน่ ออกมาเล่า
ใหเ้ พอ่ื น ๆ ฟงั เพอ่ื แลกเปลี่ยนเรียนรู้กนั แลว้ เพ่อื น ๆ ร่วมกันช่นื ชมและแสดงความคดิ เหน็ เพมิ่ เตมิ
18. นกั เรียนรว่ มกนั อภปิ รายสรุปเกยี่ วกบั วิธกี ารทำงานใหเ้ หน็ การคิดเชงิ ระบบและวธิ ีการทำงาน
ทมี่ ีแบบแผน
•ข้นั• ป•ระ•เม•นิ •เพ•อ่ื เ•พมิ่• ค•ุณ•ค่า•บร•ิก•าร•สัง•คม• แ•ละ•จ•ิตส•าธ•าร•ณ•ะ•(S•elf•-R•eg•ul•ati•ng•)
19. นักเรยี นรว่ มกนั คัดเลอื กผลงานทด่ี ีเด่นจดั ทำเปน็ นิทรรศการ หรือจัดแสดงผลงาน
และนำรายงานมอบให้ห้องวิทยาศาสตรข์ องโรงเรยี น และเพ่อื เป็นแหลง่ การเรียนร้ใู หน้ ักเรียนชนั้ อื่น ๆ
20. นกั เรยี นตรวจสอบหรอื ประเมินข้ันตอนตา่ ง ๆ ทเ่ี รยี นมาในวันนีม้ ีจุดเดน่ จุดบกพร่องอะไรบ้าง มี
ความสงสัย ความอยากรอู้ ยากเห็นในเร่ืองใด ให้ระบุ
21. นกั เรียนประเมนิ ตนเอง โดยเขียนแสดงความรู้สกึ หลงั การเรยี น ในประเดน็ ตอ่ ไปน้ี
• ส่ิงท่ีนักเรยี นได้เรียนรู้ในวันน้ีคอื อะไร
• นกั เรยี นมสี ว่ นรว่ มกิจกรรมในกลมุ่ มากน้อยเพียงใด
• เพอื่ นนกั เรียนในกลุ่มมีส่วนรว่ มกิจกรรมในกลุม่ มากนอ้ ยเพียงใด
• นักเรียนพงึ พอใจกบั การเรียนในวนั นี้หรอื ไม่ เพยี งใด
• นักเรยี นจะนำความรู้ที่ไดน้ ไี้ ปใช้ใหเ้ กดิ ประโยชน์แกต่ นเอง ครอบครวั และสงั คมท่วั ไป
ได้อยา่ งไร
จากน้นั แลกเปลย่ี นตรวจสอบขน้ั ตอนการทำงานทุกขั้นตอนว่าจะเพิม่ คณุ ค่าไปสู่สังคม
เกิดประโยชนต์ อ่ สังคมให้มากขนึ้ กวา่ เดิมในข้นั ตอนใดบ้าง สำหรบั การทำงานในครงั้ ตอ่ ไป
โรงเรียนอนบุ าลวดั ลกู แกประชาชนทู ศิ สพป.กาญจนบุรี เขต 2
2. ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งกล่มุ สง่ิ มชี วี ติ กับส่งิ แวดลอ้ ม (7 ชวั่ โมง)
•ข้•นั ส•ังเ•กต• ร•วบ•ร•วม•ข•้อม•ูล•(G•at•he•ri•ng•)
1. นกั เรยี นสงั เกตและรว่ มกันสนทนาเกย่ี วกับสง่ิ แวดลอ้ มรอบตวั เรา เพ่อื เป็นการกระตนุ้
ความสนใจของนักเรยี นเข้าส่บู ทเรยี นเรอ่ื ง ความสัมพันธ์ของกลมุ่ สิง่ มชี วี ิตกับส่งิ แวดลอ้ ม
2. ผู้แทนนักเรียน 2-3 คน ออกมาอธิบายความหมายของสิ่งแวดล้อม ตามประสบการณ์การเรียนรู้
เดิมของนักเรียน เพ่อื เป็นการทบทวนความรเู้ ดิม และเป็นการเชื่อมโยงความรเู้ ดิมเขา้ สู่ความรู้ใหม่
3. นักเรียนศกึ ษาวดี ิทศั นแ์ ละแผนภาพระบบนิเวศแบบต่าง ๆ แล้วร่วมกนั ตอบคำถามสำคัญ
4. นกั เรยี นสงั เกตสงิ่ มชี วี ิตในท้องถน่ิ ทม่ี คี วามสัมพันธ์กนั แลว้ กระตุ้นนกั เรียนเกิดความสงสัย
และต้องการหาคำตอบด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ โดยร่วมกันตอบคำถามสำคญั
5. นกั เรียนรว่ มกนั สนทนาเกี่ยวกบั โซ่อาหาร โดยสังเกตภาพ และตอบคำถามสำคญั
6. นกั เรียนดวู ีดทิ ศั นส์ ายใยอาหารในระบบนิเวศ และทบทวนความร้เู ดิมของนกั เรียน
โดยรว่ มกันตอบคำถามสำคญั
7. นักเรียนแบง่ กลุ่ม กลมุ่ ละ 4 คน คละเพศ และคละนักเรียนเกง่ ปานกลาง และอ่อน
แต่ละกลุ่มรว่ มกันอย่างรวมพลังศึกษาวธิ ีการทำกิจกรรมที่ 1.5 เร่ือง สำรวจสิง่ มชี วี ติ กบั สิ่งแวดล้อม
ในโรงเรียนของเรา กจิ กรรมที่ 1.6 เรือ่ ง ความสมั พนั ธ์ระหว่างสิง่ มชี วี ิตกบั สิ่งมีชวี ติ กจิ กรรมที่ 1.7
เรื่อง โซ่อาหาร และกิจกรรมท่ี 1.8 เร่ือง ใครกินใครเป็นอาหาร โดยอ่านออกเสียงดังและพร้อมเพรียงกัน
8. นักเรยี นแต่ละกลมุ่ ร่วมกนั แสดงความคิดเหน็ กอ่ นทำกิจกรรม โดยร่วมกันตอบคำถาม
ก่อนทำกจิ กรรม ร่วมกันอย่างรวมพลงั ทำกิจกรรม และบันทึกผล
9. ผ้แู ทนนักเรียนแต่ละกล่มุ นำเสนอผลการทำกิจกรรมหน้าช้นั เรยี น เพื่อตรวจสอบความถูกต้อง
• (ขนG•้นัักaคเ•tริดhยี •eวนrิเ•iคแnตรg•าล่ )ะะ•หก์•แลลุ่ม•ะรส่ว•มรุปก• นัค•ววเิา•คมร•ราู้ ะ•(หP•์แroล•cะeอs•ภsiปิ•ngร•)ายเกี่ยวกบั ผลการทำกิจกรรม โดยรว่ มกัน
10.
ตอบคำถามหลังทำกิจกรรม
11. นกั เรยี นร่วมกันสรปุ ผลการทำกจิ กรรมและสรุปส่ิงทเ่ี ขา้ ใจเป็นความรรู้ ่วมกันเก่ยี วกับความสมั พันธ์
ระหว่างกลุ่มสิ่งมีชีวิตกับส่ิงแวดล้อมว่า กลุ่มสิ่งมีชีวิตและสิ่งไม่มีชีวิตที่อยู่ในแหล่งที่อยู่อาศัยเดียวกันมี
ความสัมพันธก์ ัน
- ส่งิ มีชีวิตกบั สิ่งมีชีวติ มีความสัมพันธก์ นั ในลักษณะต่าง ๆ เช่น ภาวะการไดป้ ระโยชนร์ ่วมกัน
ภาวะพ่ึงพากัน ภาวะองิ อาศยั ภาวะลา่ เหยือ่ และภาวะปรสติ
- การกินตอ่ กันเปน็ ทอด ๆ ของส่ิงมีชีวิต เรียกวา่ โซ่อาหาร
- สงิ่ มชี ีวติ กับส่ิงมีชีวติ มีความสัมพนั ธก์ นั ในรปู ของโซอ่ าหารและสายใยอาหาร
โรงเรยี นอนบุ าลวดั ลกู แกประชาชนทู ศิ สพป.กาญจนบุรี เขต 2
• •ข้นั •ป•ฏิบ• ัต•ิแล•ะส• ร•ุปค•ว•าม•รู้ห•ล•งั ก•าร•ปฏ• บิ•ัต•ิ (A• p•ply•in•g•an•d•Co•ns•tr•uc•tin•g•th•e K• n•ow• le•dg•e)•
กับแหลง1่•ท2•อี่. ยนู่ตัก่าเรงยี ๆนแ(ตคล่ วะากมลสมุ่ัมรพ่วันมธก์กันันวดา้างนแกผานรกสืบินกสอนั บเปขน็ ้ออมาลู หเการี่ยวคกวับาคมวสาัมมพสันัมธพก์ นั ันธดข์ า้ อนงเกปลน็ ุม่ แสหิง่ ลม่งชี ทวี อ่ี ิตยู่
หลบภัย และเล้ียงดูลูกอ่อน) จากแหล่งการเรียนรู้ที่หลากหลาย แล้วออกแบบและจัดทำเป็นสมุดเล่มเล็ก
ความสมั พนั ธ์ของกลมุ่ ส่งิ มีชวี ติ กบั แหล่งทีอ่ ย่อู าศยั ในด้านต่าง ๆ จัดทำเป็นชิ้นงาน
13. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันวางแผน ออกแบบ แล้วหาภาพความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับ
สง่ิ มีชวี ิต จากสอื่ ตา่ ง ๆ ท้งั ทางอินเทอร์เนต็ หนังสือพิมพ์ นติ ยสาร จากนั้นนำภาพเหลา่ นัน้ มาจัดทำเป็น
สมุดภาพ จดั ทำเป็นชิน้ งาน
14. นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกันวางแผน สำรวจโซ่อาหารในทอ้ งถ่ิน แลว้ ออกแบบและประดิษฐ์
เกมโซอ่ าหาร โดยวาดภาพส่งิ มีชีวิตท่ีทำหน้าทเ่ี ป็นผ้ผู ลติ ผ้บู รโิ ภค และผู้สลายสารอินทรยี ์
ในโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ แล้วทดลองจบั คู่เรยี งลำดบั สงิ่ มีชวี ิตทมี่ ีการกินกันเป็นทอด ๆ จัดทำเป็นชน้ิ งาน
15. นกั เรียนแต่ละกลุม่ ร่วมกันวางแผน สำรวจสง่ิ มชี วี ิตในท้องถิ่นท่ีมคี วามสัมพนั ธ์กนั
แบบสายใยอาหาร แลว้ ออกแบบและประดิษฐเ์ กมสายใยอาหาร โดยวาดภาพส่งิ มชี ีวติ ในท้องถ่นิ
ท่มี ีความสัมพันธ์กันแบบสายใยอาหารในโปรแกรมคอมพิวเตอร์ แล้วทดลองโยงเส้นเขียนแผนภาพส่ิงมีชวี ิตใน
ทอ้ งถิน่ ท่มี ีความสมั พันธ์ของโซอ่ าหารหลาย ๆ โซ่อาหารในธรรมชาติ จัดทำเป็นชน้ิ งาน
16. นักเรียนเช่ือมโยงความรู้กับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยนักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกัน
วางแผนออกแบบและประดษิ ฐ์แผน่ พับการมีสว่ นร่วมในการดูแลรักษาส่ิงแวดล้อมในทอ้ งถ่ิน
จากวัสดุเหลือใช้ จดั ทำเปน็ ชิน้ งาน
17. นกั เรียนรว่ มกนั สรุปสง่ิ ท่ีเข้าใจเปน็ ความร้รู ว่ มกนั ดงั นี้
• ระบบนิเวศ หมายถึง ความสัมพนั ธ์ท่กี ลุ่มสง่ิ มีชีวติ ในแหล่งท่ีอย่อู าศยั เดียวกันมีความสัมพนั ธซ์ ่ึง
กนั และกนั และมคี วามสมั พันธท์ ี่กลุ่มสงิ่ ไม่มชี วี ติ ในแหล่งท่ีอยนู่ น้ั
• แหลง่ ทอ่ี ยู่ หมายถึง ลักษณะบรเิ วณทกี่ ล่มุ สง่ิ มชี วี ิตอาศัยอยู่
• กลุม่ ส่งิ มชี วี ติ ในแหล่งทอี่ ยู่ตา่ ง ๆ มคี วามสัมพนั ธ์กันดา้ นการกนิ กนั เป็นอาหาร
ด้านเป็นแหลง่ ทอ่ี ยู่ หลบภยั และเล้ยี งดลู ูกอ่อน
• ในแหล่งที่อยู่หนึ่ง ๆ สิ่งมีชีวิตจะมีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกันและสัมพันธ์กับส่ิงไม่มีชีวิต เพื่อ
ประโยชน์ตอ่ การดำรงชีวติ
• รปู แบบความสัมพันธร์ ะหวา่ งส่งิ มีชีวติ กบั สงิ่ มีชีวติ ไดแ้ ก่
1. ภาวะไดป้ ระโยชน์รว่ มกนั คอื สงิ่ มชี ีวติ 2 ชนดิ อยรู่ ว่ มกันไดป้ ระโยชน์ทัง้ สองฝา่ ย
และสามารถแยกออกจากกนั ได้
2. ภาวะพ่ึงพากัน คอื ส่ิงมีชีวิต 2 ชนิด อยู่ร่วมกันได้ประโยชน์ท้ังสองฝ่าย แต่ไม่สามารถแยก
จากกนั ได้
โรงเรียนอนบุ าลวดั ลกู แกประชาชนทู ศิ สพป.กาญจนบุรี เขต 2
3. ภาวะองิ อาศยั คือ สิง่ มีชีวติ 2 ชนดิ อยู่รว่ มกนั โดยที่ฝา่ ยหนึง่ ได้ประโยชน์
ส่วนอกี ฝา่ ยหน่ึงไมไ่ ด้หรือไม่เสียประโยชน์
4. ภาวะลา่ เหย่ือ คอื สิง่ มชี วี ติ 2 ชนดิ อยู่รว่ มกัน โดยทฝี่ า่ ยหนึ่งคือผู้ลา่ (ไดป้ ระโยชน)์
แต่อีกฝา่ ยหน่ึงคือเหย่ือ (เสยี ประโยชน)์
5. ภาวะปรสติ คอื ส่งิ มชี ีวติ 2 ชนิดอยูร่ ่วมกันโดยฝา่ ยผู้อาศยั ไดป้ ระโยชน์ สว่ นฝา่ ย
ผู้ถกู อาศัยเสียประโยชน์
• โซอ่ าหาร (food chain) คือ กนิ ตอ่ กนั เป็นทอด ๆ ของสิ่งมชี วี ิต หลกั การเขยี นโซอ่ าหาร
นยิ มให้ผู้ถกู กินอยทู่ างซ้ายมอื และผกู้ ินอยูท่ างขวามือ ปลายหัวลกู ศรช้ไี ปทางผกู้ นิ
• สายใยอาหาร (food web) หมายถงึ ความสมั พนั ธข์ องโซ่อาหารหลาย ๆ โซอ่ าหาร
ในธรรมชาติ โซอ่ าหารจะสัมพนั ธ์กนั อย่างซับซอ้ นในรปู สายใยอาหาร
• การมีสว่ นร่วมในการดูแลรกั ษาสิ่งแวดล้อม
1. ชว่ ยกนั รกั ษาแหลง่ นํ้าใหส้ ะอาด เพ่ือจะได้มนี า้ํ ไว้ใช้ตอ่ ไป
2. ชว่ ยกนั คัดแยกขยะ และนำขยะท่ียงั ใชไ้ ด้อยกู่ ลับมาใชใ้ หม่เปน็ การรีไซเคิลขยะและกำจัด
ขยะอันตรายได้อย่างเหมาะสมและปลอดภัยต่อสง่ิ แวดล้อม
3. ทำการเกษตรตามทฤษฎแี นวใหม่ การใช้สารชีวภาพในการกำจัดศัตรูพืช
4. ประหยัดพลังงานไฟฟา้ โดยถอดปลก๊ั เครอ่ื งใชไ้ ฟฟ้าทกุ ชนดิ หลงั เลกิ ใช้งาน
• ข•้นั •สื่อ•ส•าร•แล•ะน• า•เสน• อ• (A• p•pl•yin•g•th•e•Co•m•m•un•ic•ati•on•S•ki•ll)•
18. ผแู้ ทนนกั เรยี นแต่ละกลุ่มออกมาพดู และนำเสนอสมุดเลม่ เลก็ สมุดภาพ เกม และแผ่นพับ
หน้าชน้ั เรียน เพอื่ แลกเปลย่ี นเรียนรกู้ ัน เพ่ือน ๆ รว่ มกันตรวจสอบและแกไ้ ขให้ถูกตอ้ ง
19. นักเรียนรว่ มกนั อภิปรายสรปุ เกยี่ วกับวิธีการทำงานให้เห็นการคิดเชิงระบบและวิธีการทำงาน
ท่มี แี บบแผน
•ข้นั• ป•ระ•เม•นิ •เพ•ื่อเ•พมิ่• ค•ุณ•ค่า•บร•ิก•าร•สัง•คม• แ•ละ•จ•ติ ส•าธ•าร•ณ•ะ•(S•elf•-R•eg•ul•at•ing•)
20. นักเรียนนำสมุดเล่มเล็ก สมดุ ภาพ มอบให้หอ้ งวทิ ยาศาสตรข์ องโรงเรยี น เพอื่ เปน็ แหลง่ การเรียนรู้
สำหรับนกั เรียนชน้ั อ่ืน ๆ
21. นกั เรียนนำเกมโซอ่ าหารในทอ้ งถ่ิน และเกมสายใยอาหารในระบบนเิ วศไปออกแบบ
และจัดทำเป็นสือ่ การเรยี นการสอนโดยใช้โปรแกรมในคอมพิวเตอรข์ องโรงเรยี น เพอื่ ให้นักเรียนชน้ั อน่ื ๆ ได้
เลน่ เกม
โรงเรยี นอนบุ าลวดั ลกู แกประชาชนทู ิศ สพป.กาญจนบุรี เขต 2
22. นักเรยี นรว่ มกนั นำแผน่ พับไปแจกใหน้ ้องในโรงเรยี น เพ่อื ให้นำไปมอบใหผ้ ้ปู กครอง
หรอื นำไปแจกใหค้ นในทอ้ งถน่ิ
23. นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มร่วมกนั ทำกิจกรรมวทิ ยาศาสตร์สรา้ งสรรค์สู่ความเขา้ ใจอาเซียน ดงั น้ี
ทกุ ประเทศในกลุม่ สมาชิกอาเซียนลว้ นมีปัญหาขยะ เนอ่ื งจากการเพิม่ ข้ึนของจำนวนประชากร
ซึ่งเปน็ ปญั หาของโลก คอื ปญั หาขยะล้นโลก
นักเรียนเขยี นโปสเตอร์รณรงค์ลดขยะ โดยเปน็ ความร่วมมือของประชาชนทุกชาตใิ นกลุม่ ประเทศ
สมาชิกอาเซียน แล้วนำโปสเตอร์ไปตดิ ท่ปี ้ายประกาศของโรงเรยี นและทอ้ งถิ่น เพื่อให้ทุกคนตระหนกั และเหน็
คุณค่าของส่ิงแวดลอ้ มท่ีมีต่อการดำรงชวี ิต
24. นกั เรยี นตรวจสอบหรอื ประเมนิ ข้ันตอนตา่ ง ๆ ทเ่ี รียนมาในวนั นม้ี ีจดุ เด่น จุดบกพรอ่ งอะไรบ้าง มี
ความสงสัย ความอยากรูอ้ ยากเหน็ ในเรือ่ งใด ใหร้ ะบุ
25. นักเรยี นประเมนิ ตนเอง โดยเขียนแสดงความร้สู ึกหลังการเรยี น ในประเดน็ ต่อไปน้ี
• สง่ิ ที่นกั เรียนได้เรียนรู้ในวันนีค้ ืออะไร
• นกั เรยี นมสี ่วนร่วมกิจกรรมในกลุ่มมากนอ้ ยเพยี งใด
• เพ่ือนนกั เรียนในกลุ่มมีสว่ นรว่ มกิจกรรมในกลุ่มมากนอ้ ยเพยี งใด
• นกั เรียนพงึ พอใจกับการเรยี นในวนั นีห้ รอื ไม่ เพยี งใด
• นกั เรียนจะนำความร้ทู ไี่ ด้นไ้ี ปใชใ้ หเ้ กดิ ประโยชน์แก่ตนเอง ครอบครัว และสังคมทวั่ ไป
ไดอ้ ยา่ งไร
จากนน้ั แลกเปลยี่ นตรวจสอบขั้นตอนการทำงานทุกขัน้ ตอนว่าจะเพ่ิมคุณคา่ ไปสสู่ ังคม
เกิดประโยชน์ตอ่ สงั คมให้มากข้ึนกวา่ เดิมในข้นั ตอนใดบ้าง สำหรบั การทำงานในครัง้ ต่อไป
โรงเรยี นอนบุ าลวดั ลกู แกประชาชนทู ิศ สพป.กาญจนบุรี เขต 2
ส่ือการเรียนรู้/แหล่งการเรียนรู้
สือ่ /อุปกรณ์
1. หนงั สอื เรียน รายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 5
ของสถาบนั พัฒนาคณุ ภาพวชิ าการ (พว.)
2. แบบฝกึ หดั รายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 5
ของสถาบนั พัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.)
3. ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้พฒั นาการคิดวเิ คราะห์ รายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 5
ของสถาบันพัฒนาคณุ ภาพวิชาการ (พว.)
4. ภาพตำลึง
5. ภาพตน้ กระบองเพชร
6. ภาพต้นโกงกาง
7. ภาพบัว
8. ภาพผกั ตบชวา
9. ภาพบวั ในสระน้ำ
10. ภาพกวางในท่งุ หญ้า
11. ภาพนกในรงั บนตน้ ไม้
12. ภาพจงิ้ จกเกาะผนงั
13. ภาพไก่กบั หนอน
14. ภาพผงึ้ กับดอกไม้
15. ภาพกล้วยไม้กับตน้ ไม้
16. ภาพสัตวก์ นิ สตั ว์เป็นอาหาร และภาพสตั ว์ท่ีเปน็ เหยอ่ื
17. ภาพพืช หนู และงู
18. ภาพสนุ ัขจิง้ จอก
19. ภาพหญ้า
20. ภาพกระตา่ ย
21. ภาพปลาใหญ่
22. ภาพปลาเล็ก
23. ภาพนกกระยาง
24. ภาพพชื นา้ํ
25. แผนภาพสายใยอาหาร
26. วีดิทัศน์ พชื ในทะเลทราย
27. ต้นกระบองเพชร
28. ตน้ ผกั ตบชวา และต้นผกั บุ้ง
โรงเรียนอนบุ าลวดั ลกู แกประชาชนทู ศิ สพป.กาญจนบุรี เขต 2
29. ฟองนํา้ ขนาดเทา่ กัน 2 ก้อน
30. ถงุ พลาสตกิ ใส 1 ใบ
31. ยางรัด 1 เสน้
32. จานพลาสติกขนาดเท่ากนั 2 ใบ
33. กรรไกร 1 เล่ม
34. นา้ํ สำหรบั เทบนฟองน้าํ
35. แว่นขยาย 1 อัน
36. ไมเ้ มตร 1 อัน
37. กระดาษวัด pH 1 กล่อง
38. เทอรม์ อมิเตอร์ 1 อัน
39. กระดาษฟลิปชารต์
แหล่งการเรียนรู้
แหล่งการเรยี นรู้ท้ังภายในและภายนอกโรงเรียน
ช้นิ งานและภาระงาน
1. ใบงานที่ 1 เร่ือง ใบพชื ในท่ีแหง้ แลง้ เกบ็ น้ำไวไ้ ดอ้ ย่างไร
2. ใบงานท่ี 2 เร่ือง การดำรงชีวิตของพชื ทะเลทราย
3. ใบงานท่ี 3 เร่ือง การดำรงชีวติ ของพชื นำ้
4. ใบงานท่ี 4 เรื่อง การปรบั ตวั ของสตั ว์
5. ใบงานที่ 5 เร่อื ง สำรวจสิ่งมชี วี ติ กับสงิ่ แวดล้อมในโรงเรยี นของเรา
6. ใบงานที่ 6 เรอ่ื ง ความสมั พนั ธ์ระหว่างส่งิ มชี วี ติ กบั สง่ิ มชี วี ิต
7. ใบงานที่ 7 เรอ่ื ง โซ่อาหาร
8. ใบงานที่ 8 เรื่อง ใครกนิ ใครเป็นอาหาร
9. ใบกิจกรรม เรอ่ื ง ผลดขี องการปรับตัวของสตั ว์
โรงเรยี นอนบุ าลวดั ลกู แกประชาชนทู ิศ สพป.กาญจนบุรี เขต 2
แบบทดสอบก่อนเรยี น (Pre-Test) ได_้ ___________คะแนน
คะแนนเตม็ 10 คะแนน
ช่ือ ______________________________________________ เลขท่ี _______ ช้นั ______
นักเรยี นใชด้ ินสอระบายลงใน หนา้ คำตอบท่ีถูกตอ้ งใหเ้ ต็มวง
1. ตั๊กแตน A
ข้าวโพด แผนภาพ โซ่อาหาร
1. จากแผนภาพ โซ่อาหารขา้ งตน้ A ห หมายถงึ ขอ้ ใด
1 นก
2 ชา้ ง
3 กวาง
4 กระตา่ ย
2. กระป๋ องสเปรย์ ถ่านไฟฉาย หลอดไฟฟ้า
ควรคดั แยกและทง้ิ ลงในถงั ท่มี สี ัญลกั ษณ์ตามข้อใด เพ่อื ใหป้ ลอดภัยตอ่ สงิ่ มชี ีวิตและสง่ิ แวดล้อม
ในท้องถ่ิน
1
2
3
4
โรงเรยี นอนบุ าลวดั ลกู แกประชาชนทู ศิ สพป.กาญจนบุรี เขต 2
3. แมลงหวี่ แมงมุม
กล้วย ผงึ้ นก
หนอน
แผนภาพ สายใยอาหาร
จากแผนภาพ สายใยอาหารข้างต้น มจี ำนวนโซอ่ าหารท่สี ิ้นสุดที่นกจำนวนเทา่ ใด
13
24
35
46
4. ความสมั พันธ์ระหว่างสงิ่ มชี ีวติ ของฉลามกับเหาฉลามตรงกบั ขอ้ ใด
1 ภาวะการไดป้ ระโยชนร์ ว่ มกนั
2 ภาวะพ่งึ พากัน
3 ภาวะองิ อาศัย
4 ภาวะลา่ เหยื่อ
5. ขอ้ ใดเปน็ สาเหตทุ ส่ี ่งิ มีชวี ติ มกี ารปรบั ตัวใหเ้ ขา้ กับสิ่งแวดลอ้ ม
1 เพือ่ ใหส้ ง่ิ มชี ีวิตสูญพนั ธ์ุ
2 เพ่ือให้สง่ิ มีชวี ิตเจริญเติบโตไดร้ วดเร็ว
3 เพือ่ ให้สง่ิ มชี ีวติ สามารถดำรงชวี ติ อย่ไู ด้
4 เพื่อให้สงิ่ มชี ีวติ ชนดิ อ่ืนสังเกตเหน็ ไดง้ ่าย
6. สายใยอาหารมีความหมายตรงกับข้อใด
1 พืชสามารถสร้างอาหารเองได้
2 สตั ว์บางชนดิ เป็นท้ังผลู้ ่า และเหยอ่ื
3 โซอ่ าหารหลาย ๆ โซอ่ าหารท่ีมีความสมั พนั ธ์กัน
4 ความสัมพนั ธข์ องส่งิ มีชวี ติ ที่กนิ ตอ่ กนั เป็นทอด ๆ
7. ตน้ กระบองเพชรท่ีเจรญิ เตบิ โตในทะเลทรายมีการปรบั ตวั อย่างไร เพือ่ ใหส้ ามารถดำรงชีวิตอยไู่ ด้
1 เปลี่ยนใบเป็นหนามเพือ่ ลดการคายนํา้
2 เปลย่ี นดอกใหม้ ขี นาดใหญ่ขึ้นเพอ่ื รบั แสงแดด
3 เปล่ียนลำต้นเปน็ สีเขียวเพือ่ ลำเลยี งนาํ้ ได้มากขนึ้
4 เปลย่ี นรากให้เจรญิ ขนึ้ เหนือพ้ืนดินเพ่ือรบั อากาศไดเ้ พิ่มขึ้น
8. ข้อใดเปน็ ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งส่ิงมีชีวิตกับสิ่งแวดล้อม
โรงเรยี นอนบุ าลวดั ลกู แกประชาชนทู ศิ สพป.กาญจนบุรี เขต 2
1 เห็ดท่ีข้นึ บนขอนไม้ผุ
2 ลูกโป่งที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า
3 เปลอื กหอยทีอ่ ย่บู นชายหาด
4 หนังสือทีอ่ ยูใ่ นกระเป๋านักเรยี น
9. สิ่งมชี วี ิตในข้อใดเปน็ ความสัมพันธ์กนั แบบภาวะได้ประโยชน์รว่ มกัน
1 แมวและหนู
2 ผ้ึงและดอกไม้
3 กาฝากและต้นไม้
4 กล้วยไม้และตน้ ไม้
10. พชื ชนิดใดมีความสัมพนั ธก์ ับดนิ ในด้านเปน็ แหลง่ ทีอ่ ยอู่ าศัย
1 สาหรา่ ย
2 กลว้ ย
3 บัว
4 แหน
โรงเรียนอนบุ าลวดั ลกู แกประชาชนทู ิศ สพป.กาญจนบุรี เขต 2
ได_้ ___________คะแนน
แบบทดสอบหลังเรียน (Post-Test) คะแนนเตม็ 10 คะแนน
ชื่อ ________________________________________________ เลขท่ี ______ ชัน้ _____
นักเรียนใชด้ ินสอระบายลงใน หน้าคำตอบท่ถี กู ต้องใหเ้ ต็มวง
1. ขอ้ ใดเป็นสาเหตทุ ่สี ง่ิ มีชวี ิตมีการปรบั ตวั ใหเ้ ขา้ กบั ส่ิงแวดล้อม
1 เพือ่ ให้สิ่งมชี วี ติ สูญพนั ธุ์
2 เพอ่ื ให้สิ่งมชี วี ิตเจริญเติบโตไดร้ วดเร็ว
3 เพ่ือให้สงิ่ มีชีวติ สามารถดำรงชีวติ อยู่ได้
4 เพื่อให้สิง่ มีชวี ิตชนิดอน่ื สงั เกตเหน็ ไดง้ ่าย
2. ต้นกระบองเพชรทเ่ี จริญเตบิ โตในทะเลทรายมีการปรับตัวอยา่ งไร เพือ่ ให้สามารถดำรงชีวติ อยู่ได้
1 เปลย่ี นใบเป็นหนามเพื่อลดการคายน้ํา
2 เปล่ยี นดอกใหม้ ีขนาดใหญข่ ึ้นเพื่อรับแสงแดด
3 เปล่ียนลำต้นเปน็ สีเขยี วเพื่อลำเลียงน้ําได้มากข้ึน
4 เปลย่ี นรากให้เจริญขน้ึ เหนอื พ้นื ดนิ เพื่อรบั อากาศไดเ้ พ่มิ ขึ้น
3. พชื ชนิดใดมีความสมั พันธ์กับดนิ ในดา้ นเป็นแหลง่ ท่ีอยู่อาศยั
1 สาหร่าย
2 กล้วย
3 บวั
4 แหน
4. ข้อใดเป็นความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งสิง่ มชี ีวิตกับสง่ิ แวดล้อม
1 เห็ดที่ขึ้นบนขอนไม้ผุ
2 ลูกโป่งทล่ี อยอยู่บนท้องฟา้
3 เปลือกหอยท่อี ยบู่ นชายหาด
4 หนงั สือท่ีอยู่ในกระเปา๋ นกั เรียน
5. สิง่ มชี วี ติ ในขอ้ ใดเป็นความสัมพนั ธ์กันแบบภาวะได้ประโยชน์รว่ มกัน
1 แมวและหนู
2 ผง้ึ และดอกไม้
3 กาฝากและต้นไม้
4 กล้วยไม้และตน้ ไม้
โรงเรียนอนบุ าลวดั ลกู แกประชาชนทู ิศ สพป.กาญจนบุรี เขต 2
6. ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งสงิ่ มชี ีวติ ของฉลามกบั เหาฉลามตรงกับข้อใด
1 ภาวะการไดป้ ระโยชน์รว่ มกนั
2 ภาวะพ่ึงพากัน
3 ภาวะอิงอาศยั
4 ภาวะล่าเหย่ือ
7. ตก๊ั แตน A
ข้าวโพด
แผนภาพ โซ่อาหาร
1. จากแผนภาพ โซ่อาหารข้างต้น A ห หมายถงึ ข้อใด
1 นก
2 ชา้ ง
3 กวาง
4 กระตา่ ย
8.
แมลงหว่ี แมงมุม
กล้วย ผงึ้ นก
หนอน
แผนภาพ สายใยอาหาร
จากแผนภาพ สายใยอาหารขา้ งตน้ มีจำนวนโซ่อาหารท่สี น้ิ สดุ ทนี่ กจำนวนเท่าใด
13
24
35
46
9. สายใยอาหารมคี วามหมายตรงกบั ขอ้ ใด
1 พืชสามารถสร้างอาหารเองได้
2 สตั วบ์ างชนดิ เป็นท้งั ผูล้ ่า และเหยื่อ
3 โซอ่ าหารหลาย ๆ โซอ่ าหารทม่ี ีความสมั พันธก์ ัน
4 ความสัมพนั ธ์ของสิง่ มชี วี ิตที่กินตอ่ กันเป็นทอด ๆ
โรงเรยี นอนบุ าลวดั ลกู แกประชาชนทู ิศ สพป.กาญจนบุรี เขต 2
10. กระป๋ องสเปรย์ ถ่านไฟฉาย หลอดไฟฟ้า
ควรคดั แยกและท้ิงลงในถงั ทม่ี สี ญั ลกั ษณ์ตามขอ้ ใด เพ่อื ใหป้ ลอดภัยตอ่ สิ่งมชี วี ติ และสง่ิ แวดล้อม
ในทอ้ งถิ่น
1
2
3
4
โรงเรยี นอนบุ าลวดั ลกู แกประชาชนทู ิศ สพป.กาญจนบุรี เขต 2
เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน (Pre-Test)
1. 1 6. 3 2
2. 2 7. 1
3. 2 8. 1
4. 3 9. 2
5. 3
10.
เฉลยแบบทดสอบหลังเรียน (Post-Test)
1. 3 6. 3
2. 1 7. 1
3. 2 8. 2
4. 1 9. 3
5. 2 10. 2
โรงเรยี นอนบุ าลวดั ลกู แกประชาชนทู ิศ สพป.กาญจนบุรี เขต 2
แบบบนั ทึกสรุปผลการเรยี นรู้สำหรบั ผู้เรยี น
ชือ่ -นามสกุล _______________________________ เลขท่ี _________ ชน้ั ___________
วันท่ี _________________________ เดือน _______________________ พ.ศ. ___________
คำชี้แจง นักเรียนบันทึกสรุปผลการเรยี นรู้จากหน่วยการเรยี นรนู้ ี้
นกั เรียนยงั ไม่เขา้ ใจเร่ืองใดอกี บา้ ง นกั เรียนมคี วามรูส้ ึกอย่างไร นกั เรียนไดร้ บั ความรูเ้ ร่ืองใดบา้ งจาก
ทเี่ กี่ยวกบั หน่วยการเรียนรู้น้ี หลงั จากทเ่ี รียนหน่วยการเรียนรู้น้ีแลว้ หน่วยการเรียนรูน้ ้ี
ซ่ึงตอ้ งการให้ครูอธิบายเพมิ่ เติม
________________________________________ ________________________________________
________________________________________ ________________________________________ ________________________________________
________________________________________ ________________________________________ ________________________________________
________________________________________ ________________________________________ ________________________________________
________________________________________ ________________________________________ ________________________________________
________________________________________ ________________________________________ ________________________________________
________________________________________ ________________________________________ ________________________________________
________________________________________ ________________________________________ ________________________________________
________________________________________ ________________________________________ ________________________________________
________________________________________
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1
ชีวิตกบั ส่ิงแวดล้อม
นกั เรียนจะสามารถนาความรู้ความเขา้ ใจ ผลงานที่นกั เรียนชอบและตอ้ งการ นกั เรียนไดท้ ากิจกรรมอะไรบา้ ง
จากหน่วยการเรียนรูน้ ้ีไปใชป้ ระโยชน์ คัดเลือกเป็ นผลงานดีเด่นจาก ในหน่วยการเรียนรูน้ ้ี
ในชีวติ ประจาวนั ไดอ้ ยา่ งไรบา้ ง หน่วยการเรียนรู้น้ีคอื ผลงานใดบา้ ง
เพราะอะไร ________________________________________
________________________________________ ________________________________________
________________________________________ ________________________________________ ________________________________________
________________________________________ ________________________________________ ________________________________________
________________________________________ ________________________________________ ________________________________________
________________________________________ ________________________________________ ________________________________________
________________________________________ ________________________________________
โรงเรยี นอนบุ าลวดั ลกู แกประชาชนทู ิศ สพป.กาญจนบุรี เขต 2
โรงเรียนอนบุ าลวดั ลกู แกประชาชนทู ิศ สพป.กาญจนบุรี เขต 2