หน่วยที่ 2 การดำรงพันธุ์ของสิ่งมีชีวิต 2

โรงเรยี นอนบุ าลวดั ลกู แกประชาชนทู ิศ สพป.กาญจนบุรี เขต 2

แบบอนมุ ัติหน่วยการจดั การเรยี นรู้

เสนอ รองผอู้ ำนวยการโรงเรยี นอนุบาลวดั ลกู แกประชาชนทู ศิ

เพื่อพจิ ารณาอนมุ ัติหน่วยการจัดการเรียนรู้ วิชา วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

รหสั วชิ า ว 15101
ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 5
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

( ลงชอื่ ).......................................................ผสู้ อน
( นางสาวภทั รฐิณีพร พงษ์วิสุวรรณ์ )

( ลงช่ือ ).......................................................ผสู้ อน
( นางสาวชดิ ชนก วนั ดี )

ความเห็นของหวั หนา้ กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

( ลงช่อื ) ......................................................
(นางสาวภัทรฐิณีพร พงษว์ สิ ุวรรณ์ )

ความเห็นฝ่ายบรหิ ารงานวชิ าการ

..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

( ลงชอ่ื ) ......................................................
( นางสาวศรดุ า วีระสมัย )
หวั หนา้ วิชาการ

 อนมุ ัติใชเ้ ปน็ แผนการจดั การเรยี นรู้ได้
 ควรแก้ไข ปรบั ปรุงใหส้ มบรู ณ์กอ่ นนำไปใช้ ดังตอ่ ไปน้ี

..............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................

( ลงชื่อ ) ......................................................
( นางสาวจตุพร เชยสาคร )

รองผอู้ ำนวยการโรงเรยี นอนุบาลวัดลูกแกประชาชนูทิศ

โรงเรยี นอนบุ าลวดั ลกู แกประชาชนทู ศิ สพป.กาญจนบุรี เขต 2

หน่วยการจัดการเรยี นรู้

รหัสวชิ า ว15101 รายวชิ าวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 5

ของ
นางสาวภทั รฐณิ พี ร พงษว์ ิสวุ รรณ์

นางสาวชดิ ชนก วนั ดี
โรงเรยี นอนบุ าลวัดลกู แกประชาชนูทิศ
สำนกั งานเขตพ้นื ท่กี ารศึกษาประถมศกึ ษากาญจนบุรี เขต 2

โรงเรยี นอนบุ าลวดั ลกู แกประชาชนทู ศิ สพป.กาญจนบุรี เขต 2

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2 การดำรงพนั ธ์ุของส่ิงมชี ีวิต
รหัสวชิ า ว 15101 ช่ือวชิ าวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 5 ภาคเรียนท่ี 1 เวลาเรยี น 10 ชวั่ โมง
ผู้สอน นางสาวภัทรฐณิ พี ร พงษ์วิสวุ รรณ์ โรงเรียนอนุบาลวดั ลูกแกประชาชนูทศิ

ข้ันที่ 1 กำหนดเปา้ หมายหลกั ของการเรยี นรู้
มาตรฐานการเรยี นรูแ้ ละตวั ช้วี ัด

มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ว 1.3 เข้าใจกระบวนการและความสำคญั ของการถ่ายทอดลักษณะทางพันธกุ รรม

สารพนั ธุกรรม การเปลย่ี นแปลงทางพันธกุ รรมทม่ี ผี ลต่อสิ่งมีชีวิต ความหลากหลาย
ทางชวี ภาพและวิวฒั นาการของสิ่งมีชวี ิต รวมทง้ั นำความรูไ้ ปใชป้ ระโยชน์
ตวั ชี้วัด
ว 1.3 ป.5/1 อธิบายลกั ษณะทางพนั ธุกรรมท่ีมกี ารถ่ายทอดจากพ่อแม่สลู่ กู ของพชื สัตว์

และมนุษย์
ว 1.3 ป.5/2 แสดงความอยากรู้อยากเหน็ โดยการถามคำถามเกยี่ วกับลักษณะที่คล้ายคลึงกนั

ของตนเองกับพอ่ แม่

ผลการเรียนรู้ของ ASEAN Curriculum Sourcebook
การแลกเปล่ยี นข้อมูลสารสนเทศสามารถนำไปสกู่ ารค้นพบที่สำคญั

ความรูฝ้ ังแนน่ ความเขา้ ใจทคี่ งทน (Enduring Understanding
นักเรยี นเขา้ ใจว่าส่ิงมีชวี ติ ท้งั พชื สัตว์ และมนษุ ย์ เม่อื โตเต็มทจ่ี ะมีการสืบพนั ธ์ุเพ่อื เพิม่ จำนวน

และดำรงพันธุ์ โดยลกู ที่เกิดมาจะไดร้ บั การถ่ายทอดลักษณะทางพันธกุ รรมจากพ่อแม่ ทำให้มีลักษณะ
ทางพนั ธกุ รรมท่เี ฉพาะแตกต่างจากสิง่ มชี วี ิตชนดิ อื่น

พืชมีการถา่ ยทอดลกั ษณะทางพันธุกรรม เช่น ลักษณะของใบ สี ดอก
สัตว์มกี ารถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม เช่น สขี น ลกั ษณะของขน ลักษณะของหู
มนษุ ยม์ ีการถา่ ยทอดลักษณะทางพันธกุ รรม เช่น เชิงผมทหี่ น้าผาก ลกั ย้ิม ลกั ษณะหนงั ตา การหอ่ ล้ิน
ลักษณะของตงิ่ หู

โรงเรยี นอนบุ าลวดั ลกู แกประชาชนทู ศิ สพป.กาญจนบุรี เขต 2

สาระการเรียนรู้

• พืชเมื่อโตเต็มท่ีจะมีการสืบพันธ์ุเพ่ือเพิ่มจำนวนและดำรงพันธุ์ โดยลูกท่ีเกิดมาจะได้รับการถ่ายทอด
ลักษณะทางพันธุกรรมจากพ่อแม่ ทำให้มีลักษณะทางพันธุกรรมท่ีเฉพาะ แตกต่างจากส่ิงมีชีวิต
ชนิดอนื่ พชื มกี ารถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม เชน่ ลกั ษณะของใบ สี ดอก

• สัตว์เม่ือโตเต็มที่จะมีการสืบพันธ์ุเพื่อเพ่ิมจำนวนและดำรงพันธ์ุ โดยลูกท่ีเกิดมาจะได้รับการถ่ายทอด
ลักษณะทางพันธุกรรมจากพ่อแม่ ทำให้มีลักษณะทางพันธุกรรมท่ีเฉพาะ แตกต่างจากสิ่งมีชีวิต
ชนิดอ่นื สัตวม์ กี ารถ่ายทอดลักษณะทางพนั ธกุ รรม เช่น สีขน ลกั ษณะของขน ลกั ษณะของหู

• มนุษย์เม่ือโตจะมีการสืบพันธุ์เพ่ือเพิ่มจำนวนและดำรงพันธุ์ โดยลูกท่ีเกิดมาจะได้รับการถ่ายทอด
ลักษณะทางพันธุกรรมจากพ่อแม่ ทำให้มีลักษณะทางพันธุกรรมท่ีเฉพาะ แตกต่างจากส่ิงมีชีวิต
ชนิดอ่ืน มนุษย์มีการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม เช่น เชิงผมที่หน้าผาก ลักยิ้ม ลักษณะหนังตา
การห่อล้นิ ลักษณะของต่ิงหู

• การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม คือ การถ่ายทอดลักษณะของพ่อแม่สู่ลูก เป็นการถ่ายทอด
ลักษณะบางอย่างของสงิ่ มชี วี ติ จากพอ่ และแมส่ ูล่ กู

• การถ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธกุ รรมของมนุษย์ สงั เกตไดจ้ ากลักษณะต่าง ๆ ของมนุษย์ ดังนี้

หนงั ตาช้นั เดียว หนงั ตาสองช้นั

รูปหนา้ เหล่ยี ม รูปหนา้ กลม หนงั ตา ตาสีดา ตาสีน้าตาล
รูปหนา้ สีตา
ตาสีฟ้า
จมูกโดง่

ลกั ษณะเสน้ ลักษณะทางพันธุกรรม จมูก จมูกแบน
ผม ของมนุษย์

ผมตรง ผมหยกั ศก

สีผม สีผิว

ผมสีดา ผมสีน้าตาล ผวิ ดา ผิวขาว

ตวั อย่างแผนภาพ ลักษณะทางพันธกุ รรมของมนษุ ย์

โรงเรยี นอนบุ าลวดั ลกู แกประชาชนทู ศิ สพป.กาญจนบุรี เขต 2

สาระการเรียนรู้ท้องถน่ิ /อาเซยี น
ด้วยเหตุใดการแลกเปลีย่ นสารสนเทศด้านวทิ ยาศาสตร์และแนวคดิ ส่งเสรมิ การค้นพบ

สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน
1. ความสามารถในการสอ่ื สาร
2. ความสามารถในการคดิ
3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา
4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ
5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
1. ใฝเ่ รียนรู้
2. มุง่ มั่นในการทำงาน
3. มีจติ สาธารณะ

คำถามสำคัญ
1. พืชปรับตัวใหเ้ ข้ากับสงิ่ แวดล้อมได้อย่างไร
2. พืชทะเลทรายปรับตัวให้ดำรงชวี ิตอยู่ไดอ้ ย่างไร
3. พชื ปรับตวั ใหด้ ำรงชวี ติ อยใู่ นนํ้าไดอ้ ย่างไร
4. พืชมกี ารปรบั ตวั เพอ่ื ให้สามารถเจรญิ เติบโตและดำรงชีวติ ได้อย่างไร
5. สัตวม์ กี ารปรบั ตัวอยา่ งไรเพ่ือให้สามารถดำรงชีวติ อยู่ได้
6. สงิ่ มีชวี ติ ในท้องถ่ินกบั ส่ิงแวดลอ้ มมีความสมั พันธก์ ันอย่างไร
7. กล่มุ สง่ิ มชี ีวิตมคี วามสมั พันธก์ บั แหลง่ ท่อี ยใู่ นด้านตา่ ง ๆ อะไรบา้ ง
8. สง่ิ มีชวี ิตกบั สงิ่ มชี วี ติ มีความสัมพนั ธ์กันอยา่ งไร
9. การกินกนั ของสิ่งมชี วี ติ เมื่อเขียนเป็นโซอ่ าหารมีลักษณะอยา่ งไร
10. สายใยอาหารของสิง่ มีชีวิตมลี กั ษณะอยา่ งไร
11. นกั เรยี นมสี ว่ นร่วมในการดแู ลรักษาสิง่ แวดล้อมได้อยา่ งไรบา้ ง

คุณลกั ษณะเดก็ ดศี รลี กู แก (โรงเรียนอนุบาลวัดลูกแกประชาชนูทศิ )
1. การมีจติ สำนกึ และร่วมกนั อนรุ กั ษ์สงิ่ แวดลอ้ ม
2. การเปน็ คนตรงตอ่ เวลา มีความรับผิดชอบ พดู จาสภุ าพ

โรงเรยี นอนบุ าลวดั ลกู แกประชาชนทู ศิ สพป.กาญจนบุรี เขต 2

คา่ นยิ มหลัก 12 ประการ 2 ความรบั ผิดชอบ ความมุ่งมัน่ อดทน
1 มคี วามสนใจใฝร่ ู้ 4 ความรอบคอบ
3 ความมเี หตุผล 6 ร่วมแสดงความคดิ เหน็ และรบั ฟงั ความคดิ เห็นของผ้อู น่ื
5 ความซื่อสัตย์
2 ทักษะการสำรวจ 3 ทักษะการจำแนกประเภท
ทกั ษะกระบวนการคิด 5 ทกั ษะการอธบิ าย 6 ทกั ษะการวิเคราะห์
1 ทกั ษะการสังเกต
4 ทักษะการเปรยี บเทยี บ
7 ทกั ษะการทดลอง

จดุ เน้นสพฐ./สพป./ร.ร.
อ่านคลอ่ ง เขียนคลอ่ ง คดิ เลขคล่อง ทักษะการคดิ ขน้ั พืน้ ฐาน ทกั ษะชีวติ การส่อื สารอยา่ งสร้างสรรค์

เป้าหมายหลกั ในการพัฒนาของโรงเรยี นคุณภาพประจำตำบล
1. การพัฒนานักเรียนให้มีคุณภาพ มีทักษะชีวิตที่ดี นำความคิดและองค์ความรู้ ไปปรับใช้

ในชีวิตประจำวัน
2. มีสุขภาพกายและใจท่ีแข็งแรง เป็นคนดี มีจิตสาธารณะ และรักษ์ส่ิงแวดล้อม มีความรู้ด้านภาษา

ทนั เทคโนโลยีคดิ วิเคราะหเ์ ป็น มคี ุณธรรม และหา่ งไกลยาเสพตดิ

อัตลกั ษณ์โรงเรยี น
งามอยา่ งไทย

คำถามสำคัญ
1. ลกั ษณะใดของพชื ท่ีเปน็ ลักษณะทางพนั ธกุ รรม
2. ลกั ษณะใดของสัตวท์ เ่ี ปน็ ลักษณะทางพนั ธุกรรม
3. ลักษณะใดของมนษุ ยท์ ่ีเป็นลักษณะทางพันธกุ รรม
4. ภาพใดเป็นแม่ลูกกัน
5. สัตวท์ ่อี อกลกู เปน็ ไข่ ลูกทีฟ่ ักออกมาจากไข่มลี กั ษณะเหมือนแมห่ รอื ไม่
6. ลักษณะทางพันธุกรรมของมนษุ ยท์ ่ถี ่ายทอดจากบรรพบุรษุ ไดแ้ กล่ ักษณะใดบ้าง

ขน้ั ที่ 2 กำหนดหลกั ฐานหรือร่องรอยของการเรียนรู้
ภาระงาน : ชิน้ งาน/การแสดงออกของผ้เู รยี น

1. ภาพวาดและระบายสี ลกั ษณะทางพันธกุ รรมของพืชที่ถ่ายทอดได้
2. ภาพวาดและระบายสี ลักษณะทางพนั ธกุ รรมของสัตวท์ ถี่ า่ ยทอดได้

โรงเรยี นอนบุ าลวดั ลกู แกประชาชนทู ศิ สพป.กาญจนบุรี เขต 2

3. แผน่ ภาพ ลกั ษณะทางพันธุกรรมของมนษุ ย์ที่ถ่ายทอดได้
4. ภาพวาดและระบายสี ส่งิ มชี วี ิตท่เี ป็นแม่และลกู
5. แผนภาพ การถ่ายทอดลกั ษณะทางพันธกุ รรมของครอบครัวของฉนั

การประเมินการเรียนรู้
1. ประเมนิ ความรู้ เรื่อง ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรมของพชื สัตว์ และมนษุ ย์ และลกั ษณะที่คล้ายคลงึ กนั
ของตนเองกบั พ่อแม่ (K) ด้วยแบบทดสอบ
2. ประเมินการปฏบิ ตั ิการทำกิจกรรม (P) ดว้ ยแบบประเมนิ
3. ประเมนิ ช้นิ งาน ภาพวาดและระบายสี ลักษณะทางพันธุกรรมของพชื ทถ่ี ่ายทอดได้
ภาพวาดและระบายสี ลักษณะทางพนั ธกุ รรมของสัตว์ทีถ่ ่ายทอดได้
แผ่นภาพ ลักษณะทางพนั ธกุ รรมของมนุษย์ท่ีถ่ายทอดได้
ภาพวาดและระบายสี สงิ่ มชี ีวิตทเ่ี ป็นแม่และลกู
แผนภาพ การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมของครอบครัวของฉัน (P)
ดว้ ยแบบประเมิน
4. ประเมินคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ดา้ นใฝ่เรียนรู้ มงุ่ มน่ั ในการทำงาน (A) ด้วยแบบประเมนิ

แบบประเมินตามสภาพจริง (Rubrics)
แบบประเมินการปฏิบตั ิการทำกจิ กรรม

รายการการประเมนิ ระดับคุณภาพ
1. การทำกิจกรรม
4321
ตามแผนท่กี ำหนด
ทำกิจกรรมตามวธิ ีการ ทำกจิ กรรมตามวธิ กี าร ทำกจิ กรรมตามวิธกี าร ทำกจิ กรรมไม่ถูกตอ้ ง
2. การบนั ทกึ ผล
การทำกิจกรรม และขั้นตอนที่กำหนดไว้ และขนั้ ตอนทก่ี ำหนดไว้ และขัน้ ตอนที่กำหนดไว้ ตามวิธกี ารและขั้นตอน

อย่างถกู ตอ้ งด้วยตนเอง ดว้ ยตนเอง มกี ารปรับปรุง โดยมีครหู รือผู้อ่นื ทกี่ ำหนดไว้ ไมม่ กี าร

มกี ารปรบั ปรงุ แกไ้ ขเป็น แก้ไขบ้าง เปน็ ผู้แนะนำ ปรับปรงุ แกไ้ ข

ระยะ

บนั ทกึ ผลเป็นระยะ บันทกึ ผลเป็นระยะอยา่ ง บันทึกผลเปน็ ระยะ บันทึกผลไม่ครบ

อย่างถกู ตอ้ ง มรี ะเบยี บ ถกู ตอ้ ง มีระเบียบ มกี าร แต่ไม่เป็นระเบยี บ ไม่มีการระบุหนว่ ย

มกี ารระบหุ น่วย มกี าร ระบุหน่วย มกี ารอธิบาย ไม่มกี ารระบุหน่วย และไมเ่ ป็นไปตาม

อธิบายข้อมลู ให้เหน็ ข้อมลู ใหเ้ ห็นถึง และไมม่ ีการอธิบายข้อมลู ให้ การทำกจิ กรรม

ความเชือ่ มโยงเป็นภาพรวม ความสมั พันธ์เป็นไปตาม เห็นถงึ ความสัมพนั ธ์ของ

เป็นเหตเุ ป็นผลและ การทำกิจกรรม การทำกจิ กรรม

เป็นไปตามการทำกิจกรรม

โรงเรยี นอนบุ าลวดั ลกู แกประชาชนทู ิศ สพป.กาญจนบุรี เขต 2

รายการการประเมิน 1 ระดับคุณภาพ 1
23

3. การจดั กระทำขอ้ มลู จดั กระทำขอ้ มูล จัดกระทำข้อมลู จัดกระทำข้อมลู จัดกระทำขอ้ มูลอย่าง

และการนำเสนอ อย่างเปน็ ระบบ อย่างเปน็ ระบบ มีการ อยา่ งเปน็ ระบบ ไมเ่ ป็นระบบ และมกี าร

มีการเช่ือมโยงให้เหน็ จำแนกข้อมลู ใหเ้ หน็ มกี ารยกตัวอย่างเพิม่ เติม นำเสนอไม่ส่ือความหมาย

เป็นภาพรวมและนำเสนอด้วยความสมั พนั ธ์ นำเสนอ ใหเ้ ข้าใจง่าย และนำเสนอ และไม่ชัดเจน

แบบต่าง ๆ อย่างชัดเจน ด้วยแบบตา่ ง ๆ ได้ ด้วยแบบต่าง ๆ

ถูกตอ้ ง แต่ยงั ไมช่ ัดเจน แต่ยงั ไมช่ ัดเจน

และไม่ถกู ตอ้ ง

4. การสรปุ ผล สรุปผลการทำกจิ กรรม สรปุ ผลการทำกิจกรรม สรปุ ผลการทำกจิ กรรมได้ สรุปผลการทำกิจกรรม

การทำกิจกรรม ได้อยา่ งถูกต้อง กระชับ ได้อยา่ งถกู ตอ้ ง แต่ยงั ไม่ โดยมีครูหรอื ผู้อ่ืน ตามความรทู้ ี่พอมีอยู่

ชัดเจน และครอบคลมุ ครอบคลมุ ข้อมลู แนะนำบา้ ง จงึ สามารถสรปุ โดยไมใ่ ช้ขอ้ มลู

ข้อมลู จากการวิเคราะห์ จากการวิเคราะหท์ ้งั หมด ไดถ้ ูกต้อง จากการทำกจิ กรรม

ทั้งหมด

แบบประเมนิ ชิ้นงาน การจดั กระทำและนำเสนอภาพวาดและระบายสี

รายการการประเมนิ 4 ระดบั คณุ ภาพ 1
32 วาดภาพและระบายสไี ด้
แต่ไม่สอดคลอ้ งกบั
การจดั กระทำและ วาดภาพและระบายสี วาดภาพและระบายสี วาดภาพและระบายสไี ด้ หวั ข้อเร่ืองท่ีกำหนด

นำเสนอภาพวาด ไดส้ ัมพันธ์กัน และ ได้สัมพนั ธก์ ับหัวขอ้ เร่ือง ตามหวั ข้อเรอื่ ง โดยมีครู

และระบายสี ถกู ตอ้ งตามหัวขอ้ เร่อื ง ที่กำหนด มคี วามคิดรเิ ริ่ม หรอื ผ้อู ่ืนให้คำแนะนำ

ทีก่ ำหนด มคี วามคิด แต่ไมม่ ีการเชอื่ มโยง

สรา้ งสรรค์ มกี ารเชอื่ มโยง ใหเ้ หน็ เปน็ ภาพรวม

ใหเ้ ห็น

เปน็ ภาพรวม

แบบประเมนิ ชิ้นงาน การจัดกระทำและนำเสนอแผ่นภาพ

รายการการประเมิน ระดบั คุณภาพ

การจดั กระทำและ 4321
นำเสนอแผ่นภาพ
จดั กระทำแผน่ ภาพ จัดกระทำแผ่นภาพ จดั กระทำแผน่ ภาพได้ตาม จัดกระทำแผ่นภาพได้

ไดส้ มั พันธก์ ัน และถกู ต้อง ไดส้ มั พันธ์กบั หัวข้อเร่ือง หวั ข้อเรอื่ ง แต่ไม่สอดคลอ้ งกับ

ตามหัวข้อเรอ่ื ง ทกี่ ำหนด มีความคดิ ริเริ่ม โดยมีครูหรอื ผอู้ ื่นให้ หัวขอ้ เรอ่ื งท่ีกำหนด

ทก่ี ำหนด มคี วามคดิ แตไ่ ม่มีการเชอ่ื มโยง คำแนะนำ

สรา้ งสรรค์ มีการเช่ือมโยง ใหเ้ หน็ เป็นภาพรวม

ใหเ้ ห็น

เป็นภาพรวม

โรงเรยี นอนบุ าลวดั ลกู แกประชาชนทู ิศ สพป.กาญจนบุรี เขต 2

แบบประเมินช้ินงาน การจดั กระทำและนำเสนอแผนภาพ

รายการการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ

การจดั กระทำและ 4 321
นำเสนอแผนภาพ จัดกระทำแผนภาพ
อยา่ งเปน็ ระบบ จดั กระทำแผนภาพ จดั กระทำแผนภาพได้ จัดกระทำแผนภาพ
และนำเสนอด้วยแบบ
ที่ชดั เจน ถูกต้อง อย่างเปน็ ระบบ มกี ารยกตวั อย่าง อย่างไม่เป็น
ครอบคลุม และมีการ
เชื่อมโยงให้เหน็ เป็น มกี ารจำแนกข้อมลู เพ่มิ เติม ระบบ และนำเสนอ
ภาพรวม
ให้เหน็ ความสัมพนั ธ์ และนำเสนอด้วยแบบ ไมส่ ่อื ความหมาย

และนำเสนอด้วยแบบ ต่าง ๆ แตย่ งั ไมค่ รอบคลมุ และไม่ชดั เจน

ท่ีครอบคลุม

แบบประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์

ใฝ่เรียนรู้
ตวั ชี้วดั ท่ี 4.1 ตั้งใจ เพยี รพยายามในการเรยี นและเขา้ ร่วมกจิ กรรมการเรียนรู้

พฤตกิ รรมบง่ ชี้ ดเี ยีย่ ม (3) ดี (2) ผา่ น (1) ไม่ผา่ น (0)

4.1.1 ต้งั ใจเรียน ตัง้ ใจเรยี น เอาใจใส่ ตงั้ ใจเรียน เอาใจใส่ ตงั้ ใจเรยี น เอาใจใส่ ไม่ตัง้ ใจเรยี น

4.1.2 เอาใจใส่ และมคี วามเพียรพยายาม และมคี วามเพยี รพยายาม และมคี วามเพียรพยายาม

และมคี วามเพียรพยายาม ในการเรยี นรู้ เข้ารว่ ม ในการเรยี นรู้ เขา้ ร่วม ในการเรยี นรู้ เขา้ ร่วม

ในการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ตา่ ง ๆ กจิ กรรมการเรยี นรูต้ ่าง ๆ กิจกรรมการเรยี นรู้ตา่ ง ๆ

4.1.3 สนใจเข้ารว่ ม เปน็ ประจำ บอ่ ยคร้ัง บางครงั้

กจิ กรรมการเรียนรู้ตา่ ง ๆ

ตวั ช้ีวัดที่ 4.2 แสวงหาความรู้จากแหลง่ เรียนรูต้ ่าง ๆ ท้ังภายในและภายนอกโรงเรยี น
ด้วยการเลือกใช้สอ่ื อยา่ งเหมาะสม บันทึกความรู้ วิเคราะห์ สรุปเปน็ องค์ความรู้
สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้

พฤติกรรมบง่ ชี้ ดเี ยยี่ ม (3) ดี (2) ผ่าน (1) ไม่ผ่าน (0)
ศึกษาคน้ ควา้ ศึกษาค้นควา้ ไม่ศึกษาค้นคว้า
4.2.1 ศกึ ษาคน้ คว้า ศกึ ษาคน้ คว้า หาความรจู้ ากหนงั สือ หาความร้จู ากหนังสอื หาความรู้
เอกสาร สิ่งพิมพ์ เอกสาร ส่ิงพิมพ์
หาความรจู้ ากหนงั สอื หาความรูจ้ ากหนังสอื ส่ือเทคโนโลยีตา่ ง ๆ ส่ือเทคโนโลยีตา่ ง ๆ
แหลง่ เรยี นรทู้ งั้ ภายใน แหลง่ เรยี นรู้ทั้งภายใน
เอกสาร ส่ิงพมิ พ์ เอกสาร ส่งิ พมิ พ์ และภายนอกโรงเรียน และภายนอกโรงเรยี น
มีการบันทึกความรู้ มีการบันทกึ ความรู้
สือ่ เทคโนโลยีตา่ ง ๆ สอ่ื เทคโนโลยตี า่ ง ๆ

แหล่งเรียนรู้ แหลง่ เรยี นรู้ท้ังภายใน

ทั้งภายในและภายนอก และภายนอกโรงเรียน

โรงเรียน และเลือกใช้สอ่ื เลือกใช้สือ่ ไดอ้ ย่าง

โรงเรยี นอนบุ าลวดั ลกู แกประชาชนทู ิศ สพป.กาญจนบุรี เขต 2

พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ดเี ยี่ยม (3) ดี (2) ผ่าน (1) ไม่ผ่าน (0)

ได้อยา่ งเหมาะสม เหมาะสม มกี ารบันทึก สรปุ เปน็ องคค์ วามรู้

4.2.2 บันทกึ ความรู้ ความรู้ สรุปเป็น นำเสนอและแลกเปลี่ยน

วเิ คราะห์ ตรวจสอบ องคค์ วามรู้ นำเสนอและ ความรู้กับผอู้ ืน่ ได้

จากสง่ิ ทีเ่ รียนรู้ แลกเปลย่ี น

สรปุ เป็นองคค์ วามรู้ องค์ความรดู้ ว้ ยวธิ ีการ

4.2.3 แลกเปลยี่ นเรยี นรู้ ทห่ี ลากหลาย

ดว้ ยวิธีการตา่ ง ๆ

และนำไปใช้

ในชีวิตประจำวนั

มุ่งมัน่ ในการทำงาน
ตัวชว้ี ัดที่ 6.1 ตั้งใจและรบั ผิดชอบในการปฏิบตั ิหน้าท่ีการงาน

พฤติกรรมบ่งชี้ ดีเย่ียม (3) ดี (2) ผา่ น (1) ไม่ผ่าน (0)
ตงั้ ใจและรบั ผิดชอบ ตัง้ ใจและรับผิดชอบ ไมต่ ้ังใจปฏิบัติ
6.1.1 เอาใจใสต่ อ่ ต้งั ใจและรบั ผิดชอบ ในการปฏิบัติหน้าที่ ในการปฏิบตั ิหนา้ ท่ี หน้าทก่ี ารงาน
ท่ไี ดร้ ับมอบหมาย ทไี่ ด้รับมอบหมาย
การปฏบิ ัติหนา้ ที่ ในการปฏิบัตหิ นา้ ที่ ใหส้ ำเร็จ มกี ารปรบั ปรงุ ให้สำเรจ็
การทำงานใหด้ ขี ้ึน
ท่ไี ด้รับมอบหมาย ทไี่ ด้รับมอบหมาย

6.1.2 ต้ังใจและ ใหส้ ำเรจ็ มีการปรบั ปรงุ

รับผดิ ชอบ และพัฒนาการทำงาน

ในการทำงานใหส้ ำเร็จ ให้ดขี นึ้ ด้วยตนเอง

6.1.3 ปรบั ปรงุ

และพฒั นาการทำงาน

ดว้ ยตนเอง

ตวั ชี้วัดที่ 6.2 ทำงานดว้ ยความเพียรพยายามและอดทนเพื่อใหง้ านสำเร็จตามเป้าหมาย

พฤติกรรมบง่ ช้ี ดีเยย่ี ม (3) ดี (2) ผา่ น (1) ไม่ผ่าน (0)
ทำงานด้วยความขยัน ไมข่ ยัน อดทน
6.2.1 ทุ่มเททำงาน ทำงานด้วยความขยัน ทำงานด้วยความขยัน พยายามใหง้ าน ในการทำงาน
สำเรจ็ ตามเป้าหมาย
อดทน ไม่ยอ่ ท้อ อดทน ไมย่ อ่ ทอ้ ตอ่ ปัญหา อดทน พยายามใหง้ าน

ต่อปญั หาและอุปสรรค ในการทำงาน พยายาม สำเร็จตามเป้าหมาย

ในการทำงาน ให้งานสำเร็จตาม ชืน่ ชมผลงานด้วยความ

6.2.2 พยายาม เปา้ หมาย ช่นื ชมผลงาน ภาคภูมใิ จ

แก้ปัญหาและอปุ สรรค ดว้ ยความภาคภมู ิใจ

ในการทำงานให้สำเร็จ

6.2.3 ชืน่ ชมผลงาน

ด้วยความภาคภูมิใจ

โรงเรยี นอนบุ าลวดั ลกู แกประชาชนทู ิศ สพป.กาญจนบุรี เขต 2

ขั้นท่ี 3 การจดั กิจกรรมการเรยี นการสอนหรอื ประสบการณก์ ารเรียนรู้
การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้

1. ลกั ษณะทางพนั ธุกรรมของพืช สตั ว์ และมนษุ ย์ (8 ช่ัวโมง)

•ข้•นั ส•ังเ•กต• ร•วบ•ร•วม•ข้•อม•ลู •(G•at•he•ri•ng•)

1. นักเรยี นสังเกต สำรวจ ตน้ ไมใ้ นสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนหรือสวนสาธารณะทอี่ ยู่ใกล้โรงเรยี น
แลว้ กระตุ้นนักเรยี นเกิดความสงสยั และต้องการหาคำตอบดว้ ยกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์
โดยร่วมกนั ตอบคำถามสำคญั

2. นักเรียนสังเกต สำรวจ สัตว์ชนดิ ตา่ ง ๆ ทอ่ี าศัยอยู่ในบริเวณบ้าน โรงเรียน หรือในท้องถ่นิ
แลว้ กระตนุ้ นกั เรยี นเกดิ ความสงสยั และตอ้ งการหาคำตอบด้วยกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ โดยรว่ มกนั ตอบ
คำถามสำคัญ

3. นกั เรียนสงั เกตภาพครอบครัวของชาวแอฟรกิ า (African) และครอบครวั ของชาวเอเชีย (Asian)
แล้วกระตนุ้ นกั เรยี นเกดิ ความสงสยั และต้องการหาคำตอบดว้ ยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ โดยร่วมกนั ตอบ
คำถามสำคญั

4. นกั เรยี นแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน คละเพศ และคละนกั เรียนเกง่ ปานกลาง และออ่ น แตล่ ะกลุม่
รว่ มกันอย่างรวมพลงั ศึกษาวิธีการทำกิจกรรมท่ี 2.1 เรื่อง สำรวจลกั ษณะทางพนั ธกุ รรมของพชื กิจกรรมท่ี 2.2
เรอ่ื ง สำรวจลกั ษณะทางพนั ธุกรรมของสัตว์ กจิ กรรมที่ 2.3 เร่อื ง สำรวจลักษณะทางพันธกุ รรมของมนษุ ย์
กจิ กรรมแม่กบั ลูก และกจิ กรรมสัตว์ออกลกู เปน็ ไข่ ลูกหน้าตาเหมือนใคร

5. นักเรียนแตล่ ะกลุ่มร่วมกันแสดงความคิดเห็นก่อนทำกิจกรรม โดยตอบคำถามกอ่ นทำกจิ กรรม
ร่วมกนั อยา่ งรวมพลังลงมอื ทำกจิ กรรมและบนั ทกึ ผล

6. ผแู้ ทนนักเรียนแตล่ ะกลุ่มนำเสนอผลการทำกิจกรรมหน้าช้ันเรียน เพอ่ื ตรวจสอบความถูกต้อง

•ข(G•้นั aค•tดิh•eวrิเ•iคnรg•า)ะ•ห์•แล•ะส•รุป• ค•วา•ม•รู้ •(P•ro•ces•si•ng•)

7. นักเรียนแต่ละกลมุ่ รว่ มกนั วิเคราะห์ และอภิปรายเก่ียวกับผลการทำกิจกรรม โดยร่วมกนั ตอบคำถาม
หลงั ทำกจิ กรรม

8. นกั เรยี นร่วมกนั สรปุ ผลการทำกิจกรรมและสรปุ สิ่งทีเ่ ข้าใจเป็นความรรู้ ่วมกนั เกี่ยวกบั ลกั ษณะ
ทางพนั ธกุ รรมของพืช สตั ว์ และมนษุ ยว์ า่ พชื แต่ละชนิดจะมีลักษณะเฉพาะที่แตกตา่ งไปจากพืชชนิดอื่น ๆ เช่น
ลำต้น ใบ ดอก และผล ซง่ึ ลักษณะดังกล่าวสามารถถ่ายทอดไปยงั รุ่นลกู ได้

โรงเรยี นอนบุ าลวดั ลกู แกประชาชนทู ิศ สพป.กาญจนบุรี เขต 2

- สัตว์แตล่ ะชนิดจะมลี ักษณะเฉพาะทแ่ี ตกต่างไปจากสตั ว์ชนดิ อืน่ ๆ เช่น ลักษณะของลำตวั ขา
และเท้า สขี น ซ่งึ ลักษณะดงั กล่าวสามารถถา่ ยทอดไปยงั รุ่นลกู ได้

- มนษุ ย์สามารถถ่ายทอดลักษณะทางพนั ธกุ รรมได้เชน่ เดียวกับพืชและสัตว์ ลักษณะทสี่ ามารถ
ถา่ ยทอดจากมนษุ ย์ รนุ่ พ่อแม่ไปยังรนุ่ ลูกได้ เชน่ รูปร่าง ลักษณะ ศีรษะ รปู หนา้ เสน้ ผม จมกู ปาก ลิ้น หู
ความสงู

• •ข้นั •ป•ฏิบ• ตั •ิแล•ะส• ร•ุปค•ว•าม•รู้ห•ล•ังก•าร•ปฏ• บิ•ตั •ิ (A• p•ply•in•g•an•d•Co•ns•tr•uc•tin•g•th•e K• n•ow• le•dg•e)•
•9.• นักเรียนแต่ละกลุม่ ร่วมกันวางแผน สำรวจ พชื ในท้องถ่นิ ท่ีร้จู กั และสนใจท่ีมีการสบื พันธุ์

เพอื่ เพิ่มจำนวนและดำรงพันธุ์ ซงึ่ มกี ารถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม แล้วออกแบบ และวาดภาพและระบาย
สี ลกั ษณะทางพันธกุ รรมที่ถ่ายทอดไดใ้ นทอ้ งถ่ิน แลว้ เขยี นช่ือพืช และลกั ษณะทางพันธุกรรม
จดั ทำเป็นชน้ิ งาน

10. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มรว่ มกนั วางแผน สำรวจ สตั วใ์ นทอ้ งถ่ินที่รจู้ กั และสนใจที่มีการสืบพันธ์ุ
เพอื่ เพิ่มจำนวนและดำรงพันธ์ุ ซงึ่ มีการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม แล้วออกแบบ และวาดภาพและระบาย
สี ลักษณะทางพันธกุ รรมของสัตวท์ ี่ถา่ ยทอดได้ในทอ้ งถน่ิ แลว้ เขยี นชอื่ สัตว์ และลกั ษณะ
ทางพนั ธกุ รรม จดั ทำเป็นชิ้นงาน

11. นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกันวางแผน สำรวจ ครอบครัวของคนในชนชาติตา่ ง ๆ ท่สี นใจ
แล้วออกแบบ และหาภาพลกั ษณะต่าง ๆ ของบุคคลในครอบครัวเดยี วกันของคนในชนชาติดงั กลา่ ว
จากแหล่งการเรียนรู้ทหี่ ลากหลาย แล้วเขยี นชอื่ ชนชาติ และลักษณะทางพนั ธกุ รรม จัดทำเป็นแผ่นภาพ จดั ทำ
เปน็ ช้ินงาน

12. นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ รว่ มกันวางแผน สำรวจ สิง่ มชี วี ิตในทอ้ งถ่นิ ที่สนใจ ทเ่ี ป็นแมแ่ ละลกู
แล้วออกแบบ และวาดภาพและระบายสี พรอ้ มระบชุ อื่ จัดทำเป็นช้ินงาน

13. นกั เรยี นรว่ มกนั สรุปสง่ิ ทเ่ี ขา้ ใจเป็นความรรู้ ่วมกนั ดังนี้
• พชื เมอื่ โตเตม็ ท่จี ะมีการสืบพันธ์ุเพือ่ เพ่ิมจำนวนและดำรงพันธ์ุ โดยลูกที่เกดิ มาจะไดร้ บั การ

ถ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรมจากพอ่ แม่ ทำใหม้ ีลกั ษณะทางพันธกุ รรมที่เฉพาะ แตกตา่ งจากสิ่งมีชีวิต
ชนิดอ่ืน พชื มกี ารถา่ ยทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรม เช่น ลกั ษณะของใบ สี ดอก

• สตั วเ์ มื่อโตเตม็ ท่ีจะมีการสบื พันธุ์เพื่อเพ่ิมจำนวนและดำรงพันธ์ุ โดยลกู ที่เกดิ มาจะไดร้ บั การ
ถ่ายทอดลักษณะทางพนั ธกุ รรมจากพ่อแม่ ทำให้มีลกั ษณะทางพนั ธุกรรมทีเ่ ฉพาะ แตกตา่ งจากส่งิ มีชวี ติ
ชนดิ อน่ื สตั ว์มกี ารถ่ายทอดลกั ษณะทางพันธกุ รรม เชน่ สีขน ลกั ษณะของขน ลกั ษณะของหู

• มนษุ ยเ์ มื่อโตเตม็ ท่ีจะมกี ารสืบพันธ์ุเพอ่ื เพ่ิมจำนวนและดำรงพันธุ์ โดยลูกทเี่ กดิ มาจะได้รับการ
ถา่ ยทอดลกั ษณะทางพันธกุ รรมจากพอ่ แม่ ทำให้มีลักษณะทางพันธุกรรมทเ่ี ฉพาะ แตกตา่ งจากส่งิ มีชีวติ ชนิด
อน่ื มนุษย์มีการถ่ายทอดลักษณะทางพันธกุ รรม เช่น เชิงผมท่ีหนา้ ผาก ลักยม้ิ ลักษณะหนงั ตา การหอ่ ลน้ิ ลกั ษณะ

โรงเรยี นอนบุ าลวดั ลกู แกประชาชนทู ศิ สพป.กาญจนบุรี เขต 2

ของตง่ิ หู ลักษณะเหล่าน้ที ำให้มนษุ ยม์ ีความแตกต่างไปจากชนิดอ่นื ๆ มนุษยม์ ีความหลากหลาย
ด้านชนชาติ มนุษย์แต่ละชนชาติจงึ มลี ักษณะทางพันธุกรรมทีแ่ ตกตา่ งหลากหลายด้วยเชน่ กนั

• การถ่ายทอดลกั ษณะทางพันธกุ รรม คือ การถ่ายทอดลักษณะของพ่อแม่สลู่ ูก เป็นการถ่ายทอด
ลักษณะบางอย่างของส่ิงมชี ีวิตจากพอ่ และแมส่ ู่ลกู

• ข•้นั •ส่ือ•ส•าร•แล•ะน• า•เสน• อ• (A• p•pl•yin•g•th•e•Co•m•m•un•ic•ati•on•S•ki•ll)•

14. ผู้แทนนกั เรียนแต่ละกลมุ่ ออกมาพูดและนำเสนอภาพวาดและระบายสี และแผน่ ภาพ
หน้าชน้ั เรียน เพือ่ แลกเปล่ยี นเรยี นรู้กัน เพ่ือน ๆ ร่วมกนั ตรวจสอบและแก้ไขให้ถกู ตอ้ ง

15. นักเรยี นรว่ มกนั อภปิ รายสรปุ เก่ียวกับวิธีการทำงานให้เหน็ การคิดเชิงระบบและวธิ ีการทำงาน
ทม่ี ีแบบแผน

•ข้นั• ป•ระ•เม•นิ •เพ•อ่ื เ•พม่ิ• ค•ุณ•ค่า•บร•ิก•าร•สัง•คม•แ•ละ•จ•ติ ส•าธ•าร•ณ•ะ •(S•elf•-R•eg•ul•ati•ng•)

16. นักเรยี นร่วมกนั คัดเลือกผลงานทดี่ ีเดน่ จัดทำเปน็ นิทรรศการ หรือจดั แสดงผลงาน หรือเผยแพร่ใน
เวบ็ ไซต์ หรอื เฟซบุ๊ก (facebook) ของโรงเรียน เพือ่ เป็นแหล่งการเรยี นร้ใู หน้ กั เรยี นชั้นอื่น ๆ

17. นกั เรยี นตรวจสอบหรอื ประเมนิ ข้นั ตอนต่าง ๆ ทเ่ี รียนมาในวนั นมี้ ีจุดเดน่ จดุ บกพร่องอะไรบ้าง มี
ความสงสัย ความอยากรูอ้ ยากเหน็ ในเรือ่ งใด ให้ระบุ

18. นกั เรยี นประเมนิ ตนเอง โดยเขยี นแสดงความรสู้ ึกหลงั การเรียน ในประเด็นตอ่ ไปนี้
• ส่งิ ทน่ี ักเรยี นได้เรยี นรใู้ นวันนค้ี อื อะไร
• นักเรียนมสี ว่ นร่วมกิจกรรมในกลุ่มมากน้อยเพียงใด
• เพอ่ื นนกั เรียนในกลมุ่ มสี ่วนร่วมกจิ กรรมในกลุม่ มากน้อยเพียงใด
• นกั เรยี นพงึ พอใจกับการเรยี นในวันนี้หรอื ไม่ เพียงใด
• นักเรียนจะนำความรทู้ ไ่ี ดน้ ไี้ ปใชใ้ ห้เกิดประโยชน์แก่ตนเอง ครอบครวั และสังคมทั่วไป
ได้อยา่ งไร
จากนนั้ แลกเปลี่ยนตรวจสอบข้ันตอนการทำงานทุกขั้นตอนวา่ จะเพิม่ คุณค่าไปสู่สงั คม

เกดิ ประโยชน์ต่อสังคมให้มากขึ้นกวา่ เดมิ ในขัน้ ตอนใดบ้าง สำหรับการทำงานในครัง้ ต่อไป

โรงเรยี นอนบุ าลวดั ลกู แกประชาชนทู ศิ สพป.กาญจนบุรี เขต 2

2. ลกั ษณะทค่ี ล้ายคลงึ กนั ของตนเองกับพอ่ แม่ (2 ชัว่ โมง)

•ข้•นั ส•ังเ•กต• ร•วบ•ร•วม•ข•้อม•ลู •(G•at•he•ri•ng•)

1. นกั เรียนสังเกตภาพสัตว์ที่เป็นแม่ ลูก (ยกตวั อยา่ งภาพสนุ ขั พ่อ แม่ ลกู ) ท่ีติดบนกระดาน
รว่ มกนั สนทนาทบทวนความรเู้ ดมิ เกยี่ วกบั การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม โดยร่วมกันตอบคำถามสำคัญ
กระต้นุ ความคิด

2. นักเรยี นแบง่ กล่มุ กลมุ่ ละ 4 คน คละเพศ และคละนักเรยี นเกง่ ปานกลาง และอ่อน แต่ละกล่มุ
รว่ มกันอยา่ งรวมพลังศึกษาวิธกี ารทำกจิ กรรมท่ี 2.4 เร่ือง ตรวจสอบลักษณะท่ีคล้ายคลึงกันของตัวฉัน
กับพอ่ แม่ และกจิ กรรม เรือ่ ง ตัวฉนั เองเหมือนใคร

3. นกั เรียนแต่ละกล่มุ รว่ มกนั แสดงความคดิ เห็นก่อนทำกิจกรรม โดยตอบคำถามก่อนทำกิจกรรม
ร่วมกันอยา่ งรวมพลังลงมอื ทำกจิ กรรมและบนั ทึกผล

4. ผูแ้ ทนนกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ นำเสนอผลการทำกิจกรรมหน้าช้ันเรยี น เมอื่ ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง

•ข(G•้นั aค•tดิh•eวrิเ•iคnรg•า)ะ•ห์•แล•ะส•รุป• ค•วา•ม•รู้ •(P•ro•ces•si•ng•)

5. นกั เรียนแต่ละกลุ่มรว่ มกนั วเิ คราะห์ และอภิปรายเกี่ยวกบั ผลการทำกิจกรรม โดยรว่ มกันตอบคำถาม
หลงั ทำกิจกรรม

6. นักเรยี นร่วมกนั สรปุ ผลการทำกจิ กรรมและสรปุ ส่งิ ที่เขา้ ใจเป็นความร้รู ว่ มกันเก่ยี วกบั ลักษณะ
ท่ีคล้ายคลงึ กันของตนเองกับพ่อแมว่ า่ ลกั ษณะท่สี ามารถถา่ ยทอดจากพ่อแม่มายงั ลกู ไดจ้ ัดเป็นลกั ษณะ
ทางพนั ธุกรรม เชน่ ความสูง สีผิว หนังตา ตง่ิ หู ลักยิม้ การหอ่ ลนิ้ เส้นผม บางลกั ษณะของเราท่ไี มป่ รากฏ
ในรุน่ พอ่ แม่ อาจเปน็ ลักษณะทางพันธุกรรมทีถ่ า่ ยทอดมาจากบรรพบุรษุ รุ่นปู่ย่า ตายาย ผ่านรนุ่ พอ่ แม่
จนมาถึงเรา

• •ข้นั •ป•ฏิบ• ตั •แิ ล•ะส• ร•ุปค•ว•าม•รู้ห•ล•งั ก•าร•ปฏ• ิบ•ัต•ิ (A• p•ply•in•g•an•d•Co•ns•tr•uc•tin•g•th•e K• n•ow• le•dg•e)•
•7•. นักเรยี นแตล่ ะคนวางแผน สำรวจ ลกั ษณะทางพนั ธุกรรมของครอบครวั นกั เรยี น แลว้

ออกแบบและเขียนแผนภาพ การถ่ายทอดลักษณะทางพันธกุ รรมของครอบครวั ของฉนั จดั ทำเปน็ ช้ินงาน
8. นกั เรยี นร่วมกนั สรปุ สง่ิ ที่เข้าใจเปน็ ความรรู้ ่วมกนั ดังน้ี
• การถา่ ยทอดลักษณะทางพันธกุ รรมของมนษุ ย์ สงั เกตได้จากลกั ษณะตา่ ง ๆ ของมนุษย์ ดงั นี้

โรงเรยี นอนบุ าลวดั ลกู แกประชาชนทู ศิ สพป.กาญจนบุรี เขต 2

หนงั ตาช้นั เดียว หนงั ตาสองช้นั

รูปหนา้ เหล่ียม รูปหนา้ กลม หนงั ตา ตาสีดา ตาสีน้าตาล
รูปหนา้ สีตา
ตาสีฟ้า
จมกู โดง่

ลกั ษณะเสน้ ลกั ษณะทางพนั ธุกรรม จมกู จมกู แบน
ผม ของมนุษย์

ผมตรง ผมหยกั ศก

สีผม สีผิว

ผมสีดา ผมสีน้าตาล ผวิ ดา ผวิ ขาว

• ข•้นั •ส่ือ•ส•าร•แล•ะน• า•เสน• อ• (A• p•pl•yin•g•th•e•Co•m•m•un•ic•ati•on•S•ki•ll)•

9. นักเรยี นออกมาพูดและนำเสนอแผนภาพ การถ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรมของครอบครัว
ของฉันหนา้ ช้ันเรยี น เพือ่ แลกเปล่ียนเรียนรู้กนั เพือ่ น ๆ รว่ มกนั ตรวจสอบและแกไ้ ขใหถ้ กู ตอ้ ง

10. นกั เรยี นร่วมกนั อภปิ รายสรุปเก่ยี วกับวิธีการทำงานใหเ้ หน็ การคิดเชงิ ระบบและวธิ ีการทำงาน
ท่ีมีแบบแผน

•ข้นั• ป•ระ•เม•นิ •เพ•่อื เ•พม่ิ• ค•ุณ•ค่า•บร•ิก•าร•สัง•คม•แ•ละ•จ•ิตส•าธ•าร•ณ•ะ•(S•elf•-R•eg•ul•ati•ng•)

11. นกั เรยี นรว่ มกนั คัดเลอื กผลงานทด่ี ีเดน่ จัดทำเป็นนิทรรศการ หรือจัดแสดงผลงาน หรอื เผยแพรใ่ น
เวบ็ ไซต์ หรอื เฟซบกุ๊ (facebook) ของโรงเรียน เพอื่ เปน็ แหลง่ การเรยี นรใู้ หน้ ักเรยี นชน้ั อนื่ ๆ

12. นกั เรียนร่วมกนั ทำกจิ กรรมวทิ ยาศาสตร์สรา้ งสรรค์สคู่ วามเขา้ ใจอาเซยี นเพิม่ เตมิ ดังน้ี
หาภาพหรือวาดภาพลกั ษณะของคนในประเทศอาเซียนจำนวน 5 ประเทศ เพื่อเปรียบเทยี บลกั ษณะต่าง ๆ
เชน่ ลักษณะหนงั ตา ลกั ษณะเส้นผม สีตา สีผิว โครงรปู หนา้ จากนน้ั นำมาจัดแสดงเปน็ มมุ อาเซยี นศึกษา

โรงเรยี นอนบุ าลวดั ลกู แกประชาชนทู ิศ สพป.กาญจนบุรี เขต 2

13. นักเรยี นตรวจสอบหรือประเมินขนั้ ตอนต่าง ๆ ทีเ่ รียนมาในวนั น้ีมีจุดเดน่ จดุ บกพรอ่ งอะไรบ้าง มี
ความสงสัย ความอยากรอู้ ยากเห็นในเรือ่ งใด ใหร้ ะบุ

14. นักเรียนประเมนิ ตนเอง โดยเขียนแสดงความรสู้ กึ หลังการเรยี น ในประเด็นตอ่ ไปนี้
• สงิ่ ที่นกั เรียนได้เรียนร้ใู นวันนี้คืออะไร
• นักเรียนมสี ่วนรว่ มกิจกรรมในกลมุ่ มากน้อยเพยี งใด
• เพอ่ื นนักเรียนในกลมุ่ มีสว่ นร่วมกจิ กรรมในกลุ่มมากน้อยเพียงใด
• นกั เรียนพงึ พอใจกับการเรยี นในวนั นห้ี รือไม่ เพยี งใด
• นกั เรียนจะนำความรู้ทีไ่ ด้นไ้ี ปใชใ้ หเ้ กิดประโยชน์แกต่ นเอง ครอบครัว และสงั คมทั่วไป
ไดอ้ ยา่ งไร
จากนนั้ แลกเปล่ียนตรวจสอบขนั้ ตอนการทำงานทุกข้ันตอนวา่ จะเพ่มิ คณุ คา่ ไปสู่สงั คม

เกิดประโยชนต์ ่อสังคมให้มากข้ึนกว่าเดมิ ในขั้นตอนใดบา้ ง สำหรับการทำงานในครั้งต่อไป

สือ่ การเรียนรู้/แหลง่ การเรยี นรู้
ส่ือ/อปุ กรณ์

1. หนงั สือเรียน รายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 5

ของสถาบันพฒั นาคณุ ภาพวชิ าการ (พว.)

2. แบบฝกึ หดั รายวชิ าพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 5

ของสถาบันพัฒนาคณุ ภาพวชิ าการ (พว.)

3. ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้พัฒนาการคิดวิเคราะห์ รายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 5

ของสถาบันพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.)

4. ตน้ ไม้ในสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนหรือสวนสาธารณะ

5. สตั ว์ชนดิ ตา่ ง ๆ ทอ่ี าศยั อยู่ในบริเวณบ้าน โรงเรียน หรอื ในท้องถ่นิ

6. ภาพครอบครวั ของชาวเอเชยี

7. ภาพครอบครวั ของชาวตะวนั ตก

8. ภาพครอบครัวของชาวอาหรบั

9. ภาพครอบครวั ของชาวแอฟรกิ นั

10. ภาพครอบครัวลกู ครง่ึ

11. ภาพแม่กระต่ายและลกู กระตา่ ย

12. ภาพสตั ว์ท่ีเป็นแม่ ลกู (ยกตวั อย่างภาพสนุ ขั พ่อ แม่ ลกู )

13. ภาพแมแ่ ละลกู 10 ภาพ

14. ภาพถ่ายเตม็ ตวั ของพ่อแม่ 2-3 ภาพ

15. แผนภาพวงจรชีวิตของไก่ 1 ภาพ

16. กระจกเงา 1 บาน

โรงเรยี นอนบุ าลวดั ลกู แกประชาชนทู ิศ สพป.กาญจนบุรี เขต 2

17. ไม้บรรทดั 2 อัน

18. สายวัด 2 เส้น

19. แว่นขยาย 2 อัน

แหลง่ การเรียนรู้

แหล่งการเรยี นรู้ทั้งภายในและภายนอกโรงเรยี น

ชิ้นงานและภาระงาน

1. ใบงานท่ี 9 เรอื่ ง สำรวจลักษณะทางพันธุกรรมของพืช

2. ใบงานท่ี 10 เรื่อง สำรวจลักษณะทางพันธุกรรมของสตั ว์

3. ใบงานที่ 11 เรือ่ ง สำรวจลกั ษณะทางพนั ธุกรรมของมนษุ ย์

4. ใบงานที่ 12 เรื่อง ตรวจสอบลักษณะที่คล้ายคลงึ กันของตัวฉนั กับพ่อแม่

5. ใบกิจกรรม เร่ือง แม่และลกู

6. ใบกจิ กรรม เร่อื ง สตั ว์ออกลูกเป็นไข่ ลกู หน้าตาเหมือนใคร

7. ใบกจิ กรรม เรอ่ื ง ตัวฉันเองเหมอื นใคร

โรงเรยี นอนบุ าลวดั ลกู แกประชาชนทู ศิ สพป.กาญจนบุรี เขต 2

แบบทดสอบก่อนเรียน (Pre-Test) ได_้ ___________คะแนน
คะแนนเต็ม 10 คะแนน

ชอ่ื ______________________________________________ เลขที่ _______ ชน้ั ______

นกั เรียนใช้ดนิ สอระบายลงใน หนา้ คำตอบที่ถูกต้องให้เตม็ วง
1. ลกั ษณะในข้อใดทีล่ ูกแมวได้รบั ถ่ายทอดจากพ่อและแม่

1 นํา้ หนกั
2 ความฉลาด
3 สีขน
4 นิสยั
2. ข้อใดกล่าวถูกตอ้ งเกยี่ วกับลักษณะทางพนั ธุกรรม
1 ลกู สาวจะไดร้ ับลกั ษณะทางพันธุกรรมจากแมเ่ ท่านนั้
2 ลกู ชายและลูกสาวมีโอกาสไดร้ ับลักษณะทางพันธกุ รรมจากปู่ยา่ ตายาย
3 ลักษณะการมีลกั ย้มิ ของพ่อไม่สามารถถ่ายทอดไปยงั ลกู สาวและลูกชาย
4 ลักษณะนิสัย อารมณ์ และพฤตกิ รรมจากพอ่ และแม่สามารถถ่ายทอดไปยงั ลูกได้
3. ลักษณะใดเปน็ ลกั ษณะทางพันธกุ รรมของชาวตะวนั ตกทเี่ ด่นชัดท่ีสุด
1 ผวิ สีดำ
2 ตาสดี ำ
3 ผมหยกิ สีดำ
4 จมกู โด่ง
4. ลักษณะใดไม่เป็นลักษณะทางพนั ธกุ รรมของสนุ ขั
1 สีขน
2 นิสยั
3 ขนาดใบหู
4 ความยาวของหาง
5. สมใจและสมชายเปน็ ครอบครวั ชาวจนี ท่ีมีหนังตาช้นั เดียวตั้งแตบ่ รรพบุรุษรุ่นป่ยู ่า ตายาย
แต่สมใจตัดสินใจทำศัลยกรรมตาสองชน้ั เม่ือแต่งงาน ลูกจะมีลกั ษณะของหนังตาตามข้อใด
1 หนังตาชน้ั เดียวขา้ งเดยี ว
2 หนังตาสองช้ันทั้งสองข้าง
3 หนังตาช้นั เดยี วทั้งสองขา้ ง
4 หนังตาช้นั เดยี วและสองชน้ั อยา่ งละข้าง

โรงเรยี นอนบุ าลวดั ลกู แกประชาชนทู ศิ สพป.กาญจนบุรี เขต 2

6. พ่อแมข่ องลกู นํา้ คอื ส่ิงมีชีวิตชนิดใด
1 ยงุ
2 ลูกน้ํา
3 แมลงปอ
4 ปลาหางนกยูง

7. ขอ้ ใดเป็นลักษณะทางพนั ธกุ รรมของต้นมะละกอ
1 ลำต้นเอียงเขา้ แสง
2 ใบมรี อยแมลงกัดกิน
3 ใบเปน็ สีเหลอื งปนนํา้ ตาล
4 ผลมีขนาดใหญ่ เมล็ดนอ้ ย

8. ขอ้ ความใดอธิบายถึงลูกววั ประหลาดมีสองหัวในตวั เดยี วกนั ไดถ้ ูกตอ้ ง
1 แม่ของลูกววั มสี องหัว
2 พ่อของลกู ววั มีสองหัว
3 พอ่ และแม่ของลกู วัวมีสองหวั
4 พอ่ และแมข่ องลูกวัวตา่ งกม็ หี ัวเดียว

9. ขอ้ ใดเปน็ ลกั ษณะทางพนั ธุกรรมทไ่ี ด้รบั มาจากพอ่ และแม่โดยตรง
1 ปานแดง
2 แผลเป็น
3 จมกู โดง่
4 สวิ

10. A. ผวิ ดำ จมกู โด่ง รปู หน้าเหลีย่ ม สขุ มุ พูดน้อย
B. ผิวขาว จมกู โดง่ รูปหนา้ กลม สภุ าพเรยี บรอ้ ย

ถา้ A และ B แตง่ งานกัน ลักษณะทางพนั ธุกรรมสามารถถา่ ยทอดไปยังลกู ได้ ยกเวน้ ข้อใด
1 ผวิ ดำ
2 จมกู โดง่
3 รูปหน้าเหล่ยี ม
4 สุขุมพดู นอ้ ย

โรงเรยี นอนบุ าลวดั ลกู แกประชาชนทู ศิ สพป.กาญจนบุรี เขต 2

แบบทดสอบหลงั เรยี น (Post-Test) ได_้ ___________คะแนน
คะแนนเต็ม 10 คะแนน
ชอื่ ________________________________________________ เลขที่ ______ ชนั้ _____

นกั เรียนใชด้ ินสอระบายลงใน หนา้ คำตอบทีถ่ ูกต้องให้เต็มวง

1. ลกั ษณะใดไม่เปน็ ลกั ษณะทางพนั ธุกรรมของสนุ ขั
1 สขี น
2 นิสัย
3 ขนาดใบหู
4 ความยาวของหาง

2. ขอ้ ใดเปน็ ลักษณะทางพันธุกรรมของต้นมะละกอ
1 ลำต้นเอียงเขา้ แสง
2 ใบมรี อยแมลงกัดกิน
3 ใบเป็นสเี หลอื งปนน้ําตาล
4 ผลมีขนาดใหญ่ เลก็ นอ้ ย

3. ข้อใดเปน็ ลักษณะทางพันธุกรรมที่ได้รบั มาจากพอ่ และแม่โดยตรง
1 ปานแดง
2 แผลเป็น
3 จมูกโด่ง
4 สิว

4. ลกั ษณะในขอ้ ใดทลี่ กู แมวได้รับถ่ายทอดจากพ่อและแม่
1 น้าํ หนกั
2 ความฉลาด
3 สขี น
4 นิสยั

5. A. ผวิ ดำ จมกู โด่ง รปู หน้าเหลีย่ ม สุขุมพูดน้อย
B. ผวิ ขาว จมูกโด่ง รปู หน้ากลม สภุ าพเรียบรอ้ ย

ถ้า A และ B แต่งงานกัน ลักษณะทางพนั ธกุ รรมสามารถถา่ ยทอดไปยงั ลกู ได้ ยกเวน้ ข้อใด
1 ผิวดำ
2 จมกู โด่ง
3 รูปหนา้ เหลย่ี ม
4 สขุ ุมพดู น้อย

โรงเรยี นอนบุ าลวดั ลกู แกประชาชนทู ศิ สพป.กาญจนบุรี เขต 2

6. ขอ้ ใดกล่าวถูกต้องเกีย่ วกับลักษณะทางพันธุกรรม
1 ลูกสาวจะไดร้ ับลกั ษณะทางพันธุกรรมจากแมเ่ ทา่ นัน้
2 ลูกชายและลูกสาวมีโอกาสไดร้ ับลกั ษณะทางพันธุกรรมจากปยู่ ่า ตายาย
3 ลักษณะการมีลักยิ้มของพอ่ ไม่สามารถถ่ายทอดไปยงั ลูกสาวและลกู ชาย
4 ลกั ษณะนสิ ัย อารมณ์ และพฤตกิ รรมจากพ่อและแม่สามารถถ่ายทอดไปยังลูกได้

7. ขอ้ ความใดอธิบายถึงลูกววั ประหลาดมีสองหัวในตวั เดยี วกนั ไดถ้ ูกต้อง
1 แมข่ องลกู วัวมีสองหวั
2 พอ่ ของลกู ววั มีสองหัว
3 พ่อและแม่ของลกู ววั มสี องหวั
4 พอ่ และแม่ของลูกววั ต่างกม็ ีหัวเดยี ว

8. พอ่ แมข่ องลกู น้าํ คอื สง่ิ มีชวี ิตชนิดใด
1 ยงุ
2 ลูกนาํ้
3 แมลงปอ
4 ปลาหางนกยงู

9. ลกั ษณะใดเป็นลักษณะทางพันธุกรรมของชาวตะวนั ตกท่ีเด่นชัดท่ีสุด
1 ผิวสีดำ
2 ตาสดี ำ
3 ผมหยกิ สีดำ
4 จมูกโดง่

10. สมใจและสมชายเป็นครอบครวั ชาวจนี ทีม่ หี นังตาช้ันเดยี วต้ังแต่บรรพบรุ ษุ รุ่นปูย่ ่า ตายาย
แต่สมใจตดั สินใจทำศลั ยกรรมตาสองชัน้ เม่ือแต่งงาน ลูกจะมีลกั ษณะของหนังตาตามข้อใด
1 หนงั ตาชัน้ เดยี วข้างเดยี ว
2 หนงั ตาสองชน้ั ทง้ั สองข้าง
3 หนังตาชัน้ เดยี วทัง้ สองข้าง
4 หนังตาชัน้ เดยี วและสองชัน้ อยา่ งละข้าง

โรงเรยี นอนบุ าลวดั ลกู แกประชาชนทู ิศ สพป.กาญจนบุรี เขต 2

เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน (Pre-Test)

1. 3 6. 1
2. 2 7. 4
3. 4 8. 4
4. 2 9. 3
5. 3 10. 4

เฉลยแบบทดสอบหลังเรียน (Post-Test)

1. 2 6. 2
2. 4 7. 4
3. 3 8. 1
4. 3 9. 4
5. 4 10. 3

โรงเรยี นอนบุ าลวดั ลกู แกประชาชนทู ศิ สพป.กาญจนบุรี เขต 2

แบบบนั ทึกสรปุ ผลการเรยี นรสู้ ำหรับผู้เรียน
ชื่อ-นามสกุล _______________________________ เลขที่ _________ ชนั้ ___________
วนั ท่ี _________________________ เดือน _______________________ พ.ศ. ___________
คำช้แี จง นกั เรยี นบันทกึ สรปุ ผลการเรียนรู้จากหนว่ ยการเรยี นรนู้ ี้

นกั เรียนยังไม่เข้าใจเร่ืองใดอกี บ้าง นักเรียนมคี วามร้สู กึ อย่างไร นักเรยี นไดร้ ับความรู้เรอ่ื งใดบ้าง
หลังจากทเ่ี รยี นหนว่ ยการเรยี นรู้น้ีแล้ว
ทีเ่ กีย่ วกบั หน่วยการเรยี นรนู้ ี้ จากหนว่ ยการเรยี นรู้น้ี
____________________________________
ซ่งึ ตอ้ งการให้ครอู ธบิ ายเพ่ิมเติม ____________________________________ ____________________________________
____________________________________ ____________________________________
____________________________________- ____________________________________ ____________________________________
____________________________________ ____________________________________
____________________________________ ____________________________________ ____________________________________
____________________________________ _____________________________________ ____________________________________
____________________________________ ____________________________________- _____________________________________-
____________________________________ ____ ____________________________________
_____________________________________ ____________________________________- ____________________________________
____ ____________________________________
___________________________________- ____________________________________- _____________________________________-
____ ____
____ ____________________________________-
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 ____
____________________________________- การดำรงพนั ธ์ุของส่งิ มชี วี ติ
นกั เรียนได้ทำกิจกรรมอะไรบ้าง
____ ผลงานที่นักเรยี นชอบและต้องการ
คัดเลือกเป็นผลงานดีเด่น ในหน่วยการเรยี นร้นู ้ี
____________________________________- จากหน่วยการเรยี นรู้นคี้ อื ผลงานใดบ้าง
เพราะอะไร ____________________________________
____ ____________________________________
____________________________________ ____________________________________
____________________________________- ____________________________________ _____________________________________
____________________________________ ____________________________________-
____ ____________________________________ ____________________________________
_____________________________________ ____________________________________
_น_ัก_เ_ร_ยี__น_จ__ะ_ส_า_ม__า_ร_ถ_น__ำ_ค__ว_า_ม_ร__ู้ค_ว_า_ม__เข__้า_ใ-จ ____________________________________
_จ_า_ก_หนว่ ยการเรียนรูน้ ้ไี ปใชป้ ระโยชน์ _____________________________________
_ใน__ช_วี__ติ _ป_ร__ะ_จ_ำ_ว__ัน_ไ_ด_อ้__ย_่า_ง_ไ_ร_บ__้า_ง________- ____________________________________-
____
________________________________________
____________________________________
____________________________________
_____________________________________
____________________________________
____________________________________
____________________________________
_____________________________________

โรงเรยี นอนบุ าลวดั ลกู แกประชาชนทู ิศ สพป.กาญจนบุรี เขต 2

โรงเรยี นอนบุ าลวดั ลกู แกประชาชนทู ิศ สพป.กาญจนบุรี เขต 2