The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รายงานการวิจัยออกแบบนวักรรมฟื้นฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by สพป.เลย 2, 2022-10-17 21:38:32

Learning Loss Report

รายงานการวิจัยออกแบบนวักรรมฟื้นฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้

45

1) นวัตกรรมฟื้นฟภู าวะถดถอยทางการเรยี นรรู้ ะดับหอ้ งเรยี นหรือนวตั กรรมครู
2) พฒั นาการด้านการเรียนรู้ (K S A) ของนักเรียนทแี่ สดงถึงความพร้อมในการเรียนรู้ในภาคเรียนที่ 2
ปกี ารศึกษา 2565 และ
3) ความพงึ พอใจของนกั เรยี น ผปู้ กครอง ผูบ้ รหิ ารสถานศึกษา และครูท่ีมตี อ่ การดำเนนิ งานฟ้ืนฟูภาวะ
ถดถอยทางการเรยี นรูข้ องนกั เรียน
การออกแบบและพฒั นาต้นแบบนวตั กรรมฟืน้ ฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ของนกั เรียนเพ่ือปอ้ งกนั การ
ตกหลน่ และออกกลางคันของนักเรียนระดบั โรงเรยี น แสดงดังภาพที่ 4.2

ภาพท่ี 4.2 ตน้ แบบนวัตกรรมฟ้ืนฟูภาวะถดถอยทางการเรยี นรู้ของนักเรยี นเพอ่ื ปอ้ งกันการตกหลน่
และออกกลางคันของนกั เรียนระดับโรงเรยี น

3. นวัตกรรมการฟืน้ ฟูภาวะถดถอยทางการเรยี นรู้ของนกั เรียนระดบั ห้องเรียน
นวัตกรรมฟ้ืนฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ของนักเรียนเพ่ือป้องกันการตกหล่นและออกกลางคันของ

นักเรียนระดับห้องเรียน ใช้แนวคิดเชิงระบบเป็นโมเดลในการขับเคล่ือการดำเนินงานเช่นเดียวกับในระดับเขต
และระดบั โรงเรยี นประกอบด้วย 3 องคป์ ระกอบ ดงั น้ี

2.1 องคป์ ระกอบท่ี 1 ปจั จัยนำเข้า (Input)
องค์ประกอบที่ 1 ปัจจัยนำเข้า (Input) ดำเนินการในระยะที่ 1 ของการวิจัย ได้แก่ การวิเคราะห์และ
สำรวจ ซึ่งมีกิจกรรมหลัก 3 กิจกรรม ท่ีครูต้องร่วมกันดำเนินการเป็นภาพรวมระดับโรงเรียนและห้องเรียนท่ี
ตนเองรับผดิ ชอบ ประกอบด้วย

46

1) ครูประจำชั้น ประจำวชิ าวินิจฉัยภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ของนักเรียนโดยพิจารณาสภาพปัญหา
ข้อจำกัด ความต้องการจำเป็นของนักเรียน และความสามารถทางวิชาการโดยอิงตัวช้ีวัดท่ีต้องรู้ของสำนักงาน
คณะกรรมการการศึกษาขัน้ พื้นฐาน และจัดกลุ่มนกั เรียนเปน็ 3 กลุ่ม คือ

กลมุ่ ที่ 1 กลมุ่ เสยี่ งออกกลางคัน เปน็ กลุ่มท่ีขาดเรียนบอ่ ยหรอื สือ่ สารลำบากหรือมีปญั หาดา้ นการเรยี น
ร้อู ยู่ก่อนแล้ว

กลมุ่ ที่ 2 กล่มุ ฟืน้ ฟู เป็นกลมุ่ ที่ผา่ นตวั ชี้วดั ทต่ี ้องรนู้ อ้ ยกวา่ รอ้ ยละ 50 และ
กล่มุ ท่ี 3 กลมุ่ สง่ เสรมิ เป็นกลมุ่ ท่ีผ่านตวั ชี้วัดท่ตี ้องรูม้ ากกว่าร้อยละ 50
2) ครูวิเคราะหค์ วามต้องการจำเปน็ ของนักเรียนแต่ละกลุ่มในหอ้ งเรียนของตนเองจากการวินิจฉัย
3) ครูสำรวจและค้นหาเดก็ ตกหล่นในเขตพ้นื ทบ่ี รกิ ารรว่ มกนั ทัง้ โรงเรยี น
2.2 องค์ประกอบท่ี 2 กระบวนการ (Process)
ครูดำเนินการออกแบบและพัฒนาต้นแบบนวัตกรรมฟื้นฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ของนักเรียน ใน
ห้องเรียนของตนเองโดยใช้กระบวนการคิดออกแบบ (Design Thinking) 5 ข้ัน ในการวิจัยระยะท่ี 2
ประกอบด้วย 1) ขั้นเข้าใจอารมณ์ความรู้สึก (Empathize) วิเคราะห์ ทำความเข้าใจกับปัญหาและความ
ต้องการของนกั เรียนแต่ละกลุ่ม 2) ขั้นการกำหนดปัญหา (Define) โดยตง้ั คำถามเพื่อนำไปส่แู นวทางแกป้ ัญหา
3) ขนั้ สรา้ งความคิด (Ideate) ระดมความคดิ แกป้ ัญหาจากทฤษฎที ่ีเกย่ี วข้อง 4) ขั้นสร้างต้นแบบ (Prototype)
ออกแบบตัวแทรกแซง และ 5) ขั้นการทดสอบ (Test) นำต้นแบบไปทดลองใช้ ซึ่งการใช้กระบวนการคิด
ออกแบบนี้ครูจะต้องทำความเข้าใจกับปัญหา ข้อจำกัด และความต้องการจำเป็นของนักเรียนอย่างเข้าใจ แล้
กำหนดวิธีการแก้ปัญหาให้สอดคล้องกับนักเรียนแต่ละคน ท่ีมีความยืดหยุ่นสามารถปรับเปล่ียนได้ตลอดเวลา
ท้งั น้มี กี รอบการดำเนินงาน 6 สว่ น ไดแ้ ก่ การออกแบบการฟ้นื ฟูระยะส้ัน การออกแบบการฟื้นฟรู ะยะยาว การ
เสริมสร้างสุขภาพจิต การประสานเครือข่ายและผู้เก่ียวข้อง การเสริมสร้างศักยภาพของตนเอง และการนิเทศ
ติดตาม ประเมินผล
1.3 องค์ประกอบที่ 3 ผลการดำเนินงาน (Output)
องค์ประกอบที่ 3 ผลการดำเนินงาน (Output) เป็นขั้นตอนท่ีครูตรวจสอบผลการทดลองใช้นวัตกรรม
ด้วยกระบวนการประเมนิ และสะท้อนคิด ซึ่งมีกจิ กรรมท่ีตอ้ งดำเนินการประกอบดว้ ยการประมนิ พัฒนาการของ
นักเรียนแต่ละกลุ่ม การทบทวนผลการทดลองใช้ต้นแบบด้วยกระบวนการ AAR ร่วมกับเพื่อนครูในโรงเรียน
และผู้บรหิ าร และการสอบถามความพึงพอใจของผู้เก่ียวข้อง ทงั้ นม้ี ีตัวชี้วัดความสำเร็จท่ีเปน็ ผลลัพธ์ท่ีคาดหวัง
ของโรงเรียน อยู่ 3 ประการ ได้แก่
1) นวตั กรรมฟื้นฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรรู้ ะดับหอ้ งเรียนหรือกลุม่ สาระการเรียนรู้
2) พฒั นาการด้านการเรียนรู้ (K S A) ของนักเรียนท่ีแสดงถึงความพร้อมในการเรียนรู้ในภาคเรียนที่ 2
ปีการศึกษา 2565 และ
3) ความพึงพอใจของนักเรียนและผู้ปกครอง ท่ีมีต่อการดำเนินงานฟื้นฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้
ของนักเรยี น

47
การออกแบบและพฒั นาต้นแบบนวัตกรรมฟ้นื ฟูภาวะถดถอยทางการเรยี นรูข้ องนกั เรยี นเพื่อป้องกนั การ
ตกหลน่ และออกกลางคนั ของนกั เรียนระดับโรงเรยี น แสดงดงั ภาพท่ี 4.3

ภาพท่ี 4.3 ต้นแบบนวตั กรรมฟ้นื ฟูภาวะถดถอยทางการเรยี นรขู้ องนักเรียนเพ่อื ปอ้ งกันการตกหล่น
และออกกลางคนั ของนกั เรียนระดับหอ้ งเรยี น

ตอนที่ 3 ผลการประเมนิ และการสะท้อนคดิ การฟนื้ ฟูภาวะถดถอยทางการเรียนร้ขู องนกั เรยี น
ผลการประเมินและการสะทอ้ นคิดการฟื้นฟภู าวะถดถอยทางการเรียนรู้ของนักเรียน แบ่งการนำเสนอ

ออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ ผลการดำเนินงานฟื้นฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ของนักเรียน ผลการประเมิน
พฒั นาการของนกั เรยี น และความพงึ พอใจของผู้เก่ียวขอ้ ง ดังนี้

1. ผลการดำเนินงานฟื้นฟภู าวะถดถอยทางการเรียนร้ขู องนักเรียน
การดำเนินการวิจยั ออกแบบนวตั กรรมฟื้นฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ของนักเรียนเพื่อป้องกันการตก

หล่นและออกกลางคันของนักเรียน สำนกั งานเขตพื้นทีก่ ารศึกษาประถมศกึ ษาเลย เขต 2 แสดงดังตารางที่ 4.3

48

ตารางที่ 4.3 ผลการดำเนินงานของโรงเรยี นในการฟนื้ ฟูภาวะถดถอยทางการเรยี นรู้ของนกั เรยี น

รายการ ทัง้ หมด จำนวน รอ้ ยละ

1. การเขา้ รว่ มดำเนินงานของโรงเรยี นในสังกดั 152 147 96.71

2. คุณภาพนวัตกรรมระดบั โรงเรียน 147 - -

2.1 ระดบั ดีเย่ยี ม - 46 31.29

2.2 คณภาพระดบั ดี - 101 68.71

3. คณุ ภาพนวัตกรรมระดับหอ้ งเรยี น 1,295 - -

3.1 ระดับดีเยยี่ ม - 216 16.68

3.2 คณภาพระดับดี - 1,079 83.32

จากตารางที่ 4.3 การดำเนินการวจิ ยั ออกแบบนวัตกรรมฟน้ื ฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรูข้ องนักเรยี น
เพ่ือป้องกันการตกหล่นและออกกลางคันของนักเรียน สำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 2
พบว่า มีจำนวนโรงเรียนที่ร่วมกระบวนการฟ้ืนฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ของนักเรียนทั้งส้ิน 147 โรงเรียน
คิดเป็น ร้อยละ 96.71 ของโรงเรียนทั้งหมด 152 โรง ซึ่งส่งผลให้เกิดนวัตกรรมท่ีมีคุณภาพระดับดีเย่ียมระดับ
โรงเรียน จำนวน 46 นวตั กรรม คดิ เป็นร้อยละ 31.08 ระดับดี จำนวน 101 คิดเป็นร้อยละ 68.71 และนวัตกรรม
ที่มีคุณภาพระดับดีเย่ียมระดับห้องเรียน จำนวน 216 นวัตกรรม คิดเป็นร้อยละ 16.68 ระดับดี จำนวน 1,079
คิดเป็นรอ้ ยละ 83.32

2. ผลการประเมินพฒั นาการของนกั เรียน
จากการประเมินและสะท้อนคิดของผู้ร่วมวิจัยจากกระบวนการทบทวนหลังการปฏิบัติงาน (AAR)

พบวา่ การดำเนินงานตามโปรแกรมฟ้ืนฟูการถดถอยทางการเรียนรู้ระยะส้ันของโรงเรยี น ซึ่งส่วนใหญ่เน้นด้าน
พฤติกรรมการมาเรียน สุขภาพจิต การเตรียมความพร้อมด้านวิชาการโดยเฉพาะวิชาภาษาไทย คณิตศาสตร์
ภาษาอังกฤษ จัดกิจกรรมฟืน้ ฟูในรูปแบบการจัดค่ายวิชาการ การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้เพอื่ เตรียมพืน้ ฐานด้าน
การอ่าน การเขียน และการคิดคำนวณ การจัดทำใบความรู้เพ่ือแจกให้นักเรียนได้ศึกษาก่อนการเปิดภาคเรียน
การออกเยี่ยมบ้านนักเรียน ร่วมกับการจัดการเรียนแบบ On hand โดยใช้เวลาในการจัดกิจกรรม 5-7 วัน
ในช่วงก่อนเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศกึ ษา 2565

ส่วนโปรแกรมฟน้ื ฟกู ารถดถอยทางการเรยี นรู้ระยะยาว เน้นวิชาภาษาไทย ภาษาองั กฤษ สงั คมศึกษา
ศาสนาและวัฒนธรรมและการงานอาชีพ และการส่งเสริมสุขภาพจิต โดยโรงเรียนได้กำหนดช่วงเวลาที่
ดำเนินการ ไดแ้ ก่ พักเท่ียง หลงั เลิกเรยี น จดั ชั่วโมงซ่อมเสรมิ ใชช้ วั่ โมงกิจกรรมฯ บริหารจดั การในชั่วโมงเรียน
ปกติ ซึง่ ในชว่ งพักเทย่ี ง ครูจดั กจิ กรรมการเรยี นรผู้ ่อนคลาย เรยี นปนเล่น เพลง เกม เล่านิทาน ศิลปะ การอ่าน
วันละ 5 นาที หลังเลิกเรียน ครูดำเนินการโดยใช้กิจกรรมกลุ่มแก้ปัญหาตามธรรมชาติ ของแต่ละวิชานักเรียน
รายบุคคลในแต่ละกลุ่มเสี่ยง ในชั่วโมงซ่อมเสริม ครูจะสอนในวิชาหรือเนื้อหาที่เข้าใจยาก เรียนในช่ัวโมงเรียน
ปกตไิ ม่ทัน ในช่ัวโมงกิจกรรม ครูดำเนนิ การโดยจดั กิจกรรมในเร่ืองท่ีนกั เรียนมีความสนใจ เชน่ การจัดกิจกรรม

49

การเรียนรูโ้ ดยการใช้ชีวิตประจำวันเป็นฐาน เป็นต้น นอกจากน้ียังมีการเสริมสร้างสุขภาพจิตของนักเรียนตาม
บริบทโรงเรียนโดยนักเรียนเลือกกิจกรรมตามความชอบและถนัดของตนเอง เช่น การทำอาหาร เล่นกีฬา เล่น
ดนตรี ศิลปะ ร้องเพลง ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข การสำรวจสิ่งแวดล้อมธรรมชาติ
กิจกรรมละเลน่ พืน้ บา้ น เป็นต้น

จากการดำเนินการดงั กลา่ วขา้ งต้นส่งผลให้พฒั นาการด้านความรู้ ทกั ษะ และคณุ ลกั ษณะที่พงึ ประสงค์
(K S A) ของนักเรียนทุกกลุ่มมีพัฒนาการเพ่ิมมากขึ้น ซึ่งครูและผู้บริหารสถานศึกษาได้สะท้อนจากการสังเกต
พฤติกรรมของนักเรียนที่โรงเรียน ปฏิสัมพันธ์ในห้องเรียน ได้แก่ การตอบคำถามของครูในห้องเรียน การส่ง
การบา้ น ร่วมกบั การประเมินการอา่ น การเขยี นที่แสดงให้เห็นพัฒนาการความพร้อมในการเรยี นท่ีมากข้ึน

3. ความพงึ พอใจของผู้เก่ยี วข้อง
จากการประเมินและสะท้อนคิดของผู้ร่วมวิจัยด้วยกระบวนการทบทวนหลังการปฏิบัติงาน (AAR)

พบว่า นักเรยี นมีความพึงพอใจในการดำเนนิ การฟื้นฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ ซึ่งผู้บรหิ ารสถานศึกษาและ
ครูได้สะทอ้ นว่า สถิติการมาเรียนของนักเรียนดีขึ้นกล่าวคือ จำนวนนักเรียนขาดเรียนลดลง นักเรียนมีความสุข
ในการเรียน ต้ังใจเรียนมากขึ้น พฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของนักเรียนลดลง นักเรียนอยากมาโรงเรียน และมี
พฤติกรรมการมาโรงเรียนแต่เช้า นอกจากนี้ผู้ปกครองก็มีความพึงพอใจในการดำเนินการฟ้ืนฟูภาวะถดถอย
ทางการเรียนรู้ของนักเรียน โดยเฉพาะด้านการอ่าน การเขียน พฤติกรรมการมาโรงเรียนอย่างมีความสุขของ
นักเรียน ส่วนผู้บริหารสถานศึกษาได้สะท้อนให้เห็นว่าการดำเนินงานในคร้ังน้ีมีกระบวนการท่ีเป็นระบบ ช่วย
กระตุ้นให้ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายตระหนักในปัญหาภาวะการถดถอยทางการเรียนรู้ของนักเรียนร่วมกัน ครูเห็น
ความสำคัญของการแกไ้ ขปัญหาอย่างจรงิ จงั และการดำเนินการขับเคล่อื นตามแนวทางของเขตพื้นที่การศึกษา
ส่งผลให้โรงเรียนมีวิธีดำเนินงานที่ชัดเจน มีเป้าหมายในการแก้ปัญหานักเรียนและกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้
ร่วมกัน สร้างและพัฒนานวัตกรรมเพื่อแก้ปัญหาภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ของนักเรียนอย่างสร้างสรรค์มาก
ยง่ิ ข้นึ ซ่งึ สะท้อนใหเ้ หน็ วา่ ผเู้ กยี่ วขอ้ งมีความพึงพอใจต่อการดำเนินงาน

50

บทที่ 5
สรุปผลการวิจัย อภิปรายผล และขอ้ เสนอแนะ

การวิจัยออกแบบนวตั กรรมฟื้นฟภู าวะถดถอยทางการเรียนรู้เพ่อื ป้องกันการตกหล่นและออกกลางคัน
ของนักเรยี นสำนักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 2 มีวัตถุประสงค์เพ่ือ 1) วินิจฉยั ภาวะถดถอย
ทางการเรียนรู้ของนักเรียนสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 2 และจัดกลุ่มนักเรียนตาม
สภาพปัญหาภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ และความต้องการจำเป็น 2) ออกแบบและพัฒนาต้นแบบนวัตกรรม
ฟื้นฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ของนักเรียนที่มีความเป็นไปได้ในการปฏิบัติของผู้เกี่ยวข้องในระยะสั้นและ
ระยะยาวที่สอดคล้องกับความต้องการจำเป็นของนักเรียนและบริบทโรงเรียนด้วยกระบวนการวิจัยออกแบบ
ทางการศึกษา 3) วิเคราะห์ผลการฟื้นฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ของนักเรียนสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ประถมศึกษาเลย เขต 2 เก็บรวบรวมข้อมูลแบบผสมผสานทั้งข้อมูลเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ เครื่องมือใน
การเก็บรวบรวมข้อมูล มีจำนวนทั้งสิ้น 5 ชุด ได้แก่ 1) แบบบันทึกการวินิจฉัยภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ของ
นักเรียน เป็นแบบสอบถามชนิดปลายเปิด 2) ชุดเครื่องมือประเมินความความเครียดและสุขภาพจิตของ
นักเรียน เป็นเครื่องมือมาตรฐานของกรมสุขภาพจิต 3) แบบบันทึกการออกแบบและพัฒนาตน้ แบบนวัตกรรม
ใชใ้ นการออกแบบนวัตกรรมฟ้นื ฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ของโรงเรยี น 4) ชดุ เครอ่ื งมอื การนเิ ทศ จำนวน 3
ฉบบั ได้แก่ แบบนิเทศ 1 ระยะสนั้ แบบนิเทศ 2 ระยะยาว (Online) แบบนิเทศ 3 ระยะยาว (Onsite) 5) แบบ
บันทึกการประเมินและสะท้อนคิด เป็นแบบสอบถามปลายเปิด ดำเนินการวิจัยในปีการศึกษา 2564-2565
กล่มุ เปา้ หมาย คือ โรงเรยี นในสงั กัดทุกโรงเรียนจำนวน 152 โรงเรียน วิเคราะหข์ ้อมลู เชิงปริมาณโดยใช้ความถ่ี
(Frequency) และร้อยละ (Percentage) ส่วนข้อมูลเชิงคุณภาพใช้การวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)
ซึ่งสามารถสรปุ อภปิ รายผลการวิจยั และเสนอแนะตามลำดับดังตอ่ ไปนี้

สรปุ ผลการวจิ ัย

จากการศึกษาการวิจัยออกแบบนวัตกรรมฟื้นฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้เพื่อป้องกันการตกหล่น
และออกกลางคันของนกั เรียนสำนักงานเขตพื้นทกี่ ารศกึ ษาประถมศึกษาเลย เขต 2 สรปุ ผลการวจิ ัยตามลำดับ
ของวตั ถุประสงค์ ดังนี้

1. วัตถุประสงค์ข้อที่ 1 เพื่อวินิจฉัยภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ของนักเรียนสำนักงานเขตพื้นที่
การศกึ ษาประถมศึกษาเลย เขต 2 และจดั กลมุ่ นักเรยี นตามสภาพปญั หาภาวะถดถอยทางการเรยี นรู้ และความ
ต้องการจำเป็น

1) ผลการวิเคราะห์และจัดกลุ่มนักเรียนตามสภาพภาวะถดถอยทางการเรียนรู้จำแนกรายอำเภอ
พบว่า ในภาพรวมนักเรียนส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มส่งเสริม รองลงมา คือ กลุ่มฟื้นฟู และกลุ่มที่มีจำนวน น้อยที่สดุ
คือ กลุ่มเสีย่ งออกกลางคนั หากพิจารณารายกลุ่ม พบว่า

51

(1) กล่มุ เสย่ี งออกกลางคนั มีจำนวนมากทสี่ ดุ ในอำเภอวังสะพงุ รองลงมา คอื อำเภอเอราวณั และ
อำเภอภูหลวง ตามลำดับ ส่วนอำเภอที่มีจำนวนนอ้ ยที่สุด คอื อำเภอภูกระดงึ

(2) กลุ่มฟื้นฟูมีจำนวนมากที่สุดในอำเภอหนองหิน รองลงมา คือ อำเภอเอราวัณ และ อำเภอ
วงั สะพุง ตามลำดบั ส่วนอำเภอท่ีมจี ำนวนนอ้ ยทสี่ ุด คือ อำเภอผาขาว

(3) กลุ่มส่งเสริมมีจำนวนมากที่สุดในอำเภอผาขาว รองลงมา คือ อำเภอภูหลวง และ อำเภอภู
กระดงึ ตามลำดับ สว่ นอำเภอทม่ี ีจำนวนน้อยทสี่ ุด คอื อำเภอหนองหิน

2) จากการวิเคราะห์และสำรวจสภาพปัญหา ข้อจำกัดและความต้องการจำเป็นของนักเรียน พบว่า
สภาพปัญหา ข้อจำกัดที่พบส่วนใหญ่เป็นปัญหาพื้นฐานที่สำคัญ และมีความต้องการจำเป็น ซึ่งนักเรียนที่มี
ปัญหาด้านการมาเรียนและความจำเป็นของครอบครัวมีความต้องการการเรียนที่ยืดหยุ่นตามความเหมาะสม
ตอ้ งการทุนการศึกษาสนับสนุน ด้านสขุ ภาพจิตนักเรียนตอ้ งการการจดั กิจกรรมการเรียนรทู้ ผี่ ่อนคลายท่ีสง่ เสรมิ
ให้นักเรียนมีความสุขในการเรียน มีกิจกรรมสร้างแรงจูงใจในการเรียนที่หลากหลาย ด้านการเรียนนักเรียน
ต้องการการฟื้นฟู ทบทวนทักษะการอ่าน การเขียน รวมทั้งทักษะการเรียนรู้อื่นที่เป็นพื้นฐานการเรียนใน
ระดับสูง นอกจากนี้ยังจำเป็นต้องเรียนรู้ด้านความฉลาดทางดิจิทัลเพื่อให้มีทักษะและภูมิคุ้มกันในการใช้
เทคโนโลยี ส่วนด้านความพิการนักเรียนจำเป็นต้องได้รับการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล ทั้งนี้ด้านยาเสพติด
จำเป็นตอ้ งประสานเครือขา่ ยผู้เกย่ี วข้องในการเฝา้ ระวังและป้องกนั ปญั หาไม่ให้กระทบตอ่ นักเรียน

2. วัตถุประสงค์ข้อที่ 2 เพื่อออกแบบและพัฒนาต้นแบบนวัตกรรมฟื้นฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้
ของนักเรียนที่มีความเป็นไปได้ในการปฏิบัติของผู้เกี่ยวข้องในระยะสั้นและระยะยาวที่สอดคล้องกับความ
ตอ้ งการจำเป็นของนกั เรยี นและบรบิ ทโรงเรียนดว้ ยกระบวนการวจิ ยั ออกแบบทางการศกึ ษา

ผลการออกแบบและพัฒนาต้นแบบนวัตกรรมฟื้นฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ของนักเรียน แบ่งเป็น
3 ระดบั ไดแ้ ก่

2.1 นวัตกรรมการฟน้ื ฟภู าวะถดถอยทางการเรยี นรขู้ องนักเรียนระดบั เขต
ใชแ้ นวคิดเชงิ ระบบเปน็ โมเดลในการขับเคล่ือนการดำเนินงานประกอบด้วย 3 องคป์ ระกอบ
องค์ประกอบที่ 1 ปัจจัยนำเข้า (Input) มีกิจกรรมหลัก 3 กิจกรรม ประกอบด้วย กิจกรรมที่ 1 การ
วินิจฉัยภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ของนักเรียนโดยพิจารณาจัดกลุ่มนักเรียนเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ 1 กลุ่ม
เสี่ยงออกกลางคัน กลุ่มที่ 2 กลุ่มฟื้นฟู และกลุ่มที่ 3 กลุ่มส่งเสริม กิจกรรมที่ 2 วิเคราะห์ความต้องการจำเป็น
ของนักเรยี นแต่ละกลุ่มจากการวินิจฉยั และกิจกรรมที่ 3 การสำรวจและค้นหาเด็กตกหลน่ ในเขตพน้ื ทบี่ ริการ
องค์ประกอบที่ 2 กระบวนการ (Process) ดำเนินการออกแบบและพัฒนาต้นแบบนวัตกรรมฟื้นฟู
ภาวะถดถอยทางการเรยี นรู้ของนักเรียนโดยใชก้ ระบวนการคิดออกแบบ (Design Thinking) 5 ขั้น ในการวิจยั
ระยะที่ 2 ประกอบดว้ ย 1) ขน้ั เข้าใจอารมณค์ วามรสู้ ึก (Empathize) 2) ขัน้ การกำหนดปญั หา (Define) 3) ขั้น
สร้างความคิด (Ideate) 4) ขน้ั สรา้ งต้นแบบ (Prototype) และ 5) ขนั้ การทดสอบ (Test)

52

องค์ประกอบที่ 3 ผลการดำเนินงาน (Outputตรวจสอบผลการดำเนินการทดลองใช้นวัตกรรมด้วย
กระบวนการประเมินและสะท้อนคิด ซึ่งดำเนินการประกอบด้วยการประมินพัฒนาการของนักเรียนแต่ละกลุ่ม
การทบทวนผลการทดลองใช้ต้นแบบ และการสอบถามความพงึ พอใจของผูเ้ กยี่ วขอ้ ง

2.2 นวัตกรรมการฟืน้ ฟูภาวะถดถอยทางการเรยี นรู้ของนกั เรียนระดบั โรงเรยี น
ใช้แนวคดิ เชงิ ระบบเป็นโมเดลในการขับเคลือ่ นการดำเนนิ งานประกอบดว้ ย 3 องคป์ ระกอบ ดงั นี้
องค์ประกอบท่ี 1 ปจั จยั นำเข้า (Input) มีกิจกรรมหลกั 3 กิจกรรม ท่ีผ้บู รหิ ารสถานศึกษาต้องทำความ
เข้าใจกับครูในโรงเรียน ประกอบด้วย กิจกรรมที่ 1) โรงเรียนวินิจฉัยภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ของนักเรียน
และจัดกลุ่มนักเรียนเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ 1 กลุ่มเสี่ยงออกกลางคัน กลุ่มที่ 2 กลุ่มฟื้นฟู และกลุ่มที่ 3 กลุ่ม
ส่งเสริม กิจกรรมที่ 2) โรงเรียนวิเคราะห์ความต้องการจำเป็นของนักเรียนแต่ละกลุ่มจากการวินิจฉัย และ
กจิ กรรมท่ี 3) โรงเรยี นสำรวจและค้นหาเด็กตกหลน่ ในเขตพืน้ ท่บี ริการ
องค์ประกอบที่ 2 กระบวนการ (Process) โรงเรียนดำเนินการออกแบบและพัฒนาตน้ แบบนวัตกรรม
ฟื้นฟภู าวะถดถอยทางการเรียนร้ขู องนกั เรียนโดยใช้กระบวนการคิดออกแบบ (Design Thinking) 5 ข้นั ในการ
วจิ ัยระยะท่ี 2 ประกอบดว้ ย 1) ขัน้ เข้าใจอารมณ์ความร้สู ึก (Empathize) 2) ข้นั การกำหนดปญั หา (Define) 3)
ขั้นสร้างความคิด (Ideate) 4) ขั้นสร้างต้นแบบ (Prototype) และ 5) ขั้นการทดสอบ (Test) นำต้นแบบไป
ทดลองใช้ ทั้งนี้มีกรอบการดำเนินงาน 6 ส่วน ได้แก่ การออกแบบการฟื้นฟูระยะสั้น การออกแบบการฟื้นฟู
ระยะยาว การเสรมิ สรา้ งสุขภาพจิต การประสานเครือข่ายและผู้เกี่ยวข้อง การเสริมสร้างศักยภาพครู และการ
นเิ ทศ ตดิ ตาม ประเมินผล
องค์ประกอบที่ 3 ผลการดำเนินงาน (Output) โรงเรียนตรวจสอบผลการดำเนินการทดลองใช้
นวัตกรรมด้วยกระบวนการประเมินและสะท้อนคิด ดำเนินการด้วยการประมินพัฒนาการของนักเรียนแต่ละ
กลุ่ม การทบทวนผลการทดลองใชต้ น้ แบบ และการสอบถามความพึงพอใจของผเู้ กีย่ วข้อง
2.3 นวัตกรรมการฟื้นฟภู าวะถดถอยทางการเรียนรู้ของนกั เรียนระดับหอ้ งเรียน
ใชแ้ นวคิดเชงิ ระบบเปน็ โมเดลในการขบั เคล่อื นการดำเนนิ งานประกอบดว้ ย 3 องคป์ ระกอบ ดังนี้
องค์ประกอบที่ 1 ปัจจัยนำเข้า (Input) มีกิจกรรมหลัก 3 กิจกรรม ที่ครูต้องร่วมกันดำเนินการเป็น
ภาพรวมระดับโรงเรยี นและหอ้ งเรยี นทตี่ นเองรับผดิ ชอบ ประกอบดว้ ย กจิ กรรมที่ 1) ครปู ระจำชน้ั ประจำวิชา
วินิจฉัยภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ของนักเรียน และจัดกลุ่มนักเรียนเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ 1 กลุ่มเสี่ยงออก
กลางคนั กล่มุ ท่ี 2 กลุ่มฟ้ืนฟู กลมุ่ ที่ 3 กลุ่มสง่ เสริม กิจกรรมที่ 2) ครูวิเคราะหค์ วามตอ้ งการจำเปน็ ของนักเรียน
แต่ละกลุ่มในห้องเรียนของตนเองจากการวินิจฉัย และกิจกรรมที่ 3) ครูสำรวจและค้นหาเด็กตกหล่นในเขต
พ้ืนท่ีบรกิ ารรว่ มกันท้งั โรงเรยี น
องค์ประกอบที่ 2 กระบวนการ (Process)ครูดำเนินการออกแบบและพัฒนาต้นแบบนวัตกรรมฟื้นฟู
ภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ของนักเรียนในห้องเรียนของตนเองโดยใช้กระบวนการคิดออกแบบ (Design
Thinking) 5 ขั้น ในการวิจัยระยะที่ 2 ประกอบด้วย 1) ขั้นเข้าใจอารมณ์ความรู้สึก (Empathize) 2) ขั้นการ
กำหนดปัญหา (Define) 3) ขั้นสร้างความคิด (Ideate) 4) ขั้นสร้างต้นแบบ (Prototype) และ 5) ขั้นการ
ทดสอบ (Test) นำต้นแบบไปทดลองใช้ ซ่งึ การใช้กระบวนการคิดออกแบบนีค้ รจู ะต้องทำความเขา้ ใจกับปัญหา

53

ข้อจำกัด และความต้องการจำเป็นของนักเรียนอย่างเข้าใจ แล้วกำหนดวิธีการแก้ปัญหาให้สอดคล้องกับ
นกั เรยี นแตล่ ะคน ท่มี ีความยืดหยุน่ สามารถปรับเปล่ียนได้ตลอดเวลา ท้ังนม้ี ีกรอบการดำเนนิ งาน 6 ส่วน ได้แก่
การออกแบบการฟื้นฟูระยะสั้น การออกแบบการฟื้นฟูระยะยาว การเสริมสร้างสุขภาพจิต การประสาน
เครือขา่ ยและผู้เกย่ี วข้อง การเสริมสร้างศกั ยภาพของตนเอง และการนิเทศ ตดิ ตาม ประเมินผล

องค์ประกอบที่ 3 ผลการดำเนินงาน (Output) ครูตรวจสอบผลการทดลองใช้นวัตกรรมด้วย
กระบวนการประเมินและสะท้อนคิด ซึ่งมีกิจกรรมที่ต้องดำเนินการประกอบด้วยการประมินพัฒนาการของ
นักเรียนแต่ละกลุ่ม การทบทวนผลการทดลองใช้ต้นแบบด้วยกระบวนการ AAR ร่วมกับเพื่อนครูในโรงเรียน
และผ้บู ริหาร และการสอบถามความพงึ พอใจของผูเ้ กีย่ วข้อง

3. วัตถุประสงค์ข้อที่ 3 เพื่อวิเคราะห์ผลการฟื้นฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ของนักเรียนสำนักงาน
เขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 2

การดำเนินการวิจัยออกแบบนวัตกรรมฟื้นฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ของนักเรียนเพื่อป้องกันการ
ตกหล่นและออกกลางคันของนักเรียน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 2 พบว่า มีจำนวน
โรงเรียนที่ร่วมกระบวนการฟื้นฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ของนักเรียนทั้งสิ้น 147 โรงเรียน ของโรงเรียน
ท้ังหมด 152 โรง ซ่งึ สง่ ผลให้เกดิ นวตั กรรมท่ีมีคุณภาพระดบั ดีเยย่ี มระดบั โรงเรยี น จำนวน 46 นวัตกรรม ระดับดี
จำนวน 101 นวัตกรรม และนวัตกรรมที่มีคุณภาพระดับดีเยี่ยมระดับห้องเรียน จำนวน 216 นวัตกรรม ระดับดี
จำนวน 1,079 นวัตกรรม ส่งผลให้พัฒนาการด้านความรู้ ทักษะ และคุณลักษณะที่พึงประสงค์ (K S A) ของ
นักเรยี นทกุ กลุ่มมพี ัฒนาการเพิม่ มากข้นึ ซงึ่ ครูและผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษาได้สะทอ้ นจากการสังเกตพฤติกรรมของ
นักเรียนทีโ่ รงเรียน ปฏิสัมพันธ์ในห้องเรียน ได้แก่ การตอบคำถามของครูในหอ้ งเรยี น การสง่ การบ้าน ร่วมกับ
การประเมินการอ่าน การเขียนที่แสดงให้เห็นพัฒนาการความพร้อมในการเรียนที่มากขึ้น นักเรียนมีความพึง
พอใจในการดำเนินการฟื้นฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ พิจารณาจากสถิติการมาเรียนของนักเรียนดีข้ึน
จำนวนนักเรียนขาดเรียนลดลง นักเรียนมีความสุขในการเรียน ตั้งใจเรียนมากขึ้น พฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์
ของนักเรียนลดลง นักเรียนอยากมาโรงเรียน และมีพฤติกรรมการมาโรงเรียนแต่เช้า นอกจากนี้ผู้ปกครองก็มี
ความพึงพอใจในการดำเนินการฟื้นฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ของนักเรียน โดยเฉพาะด้านการอ่าน การ
เขียน พฤติกรรมการมาโรงเรียนอย่างมีความสุขของนักเรยี น ส่วนผู้บริหารสถานศกึ ษาได้สะท้อนให้เห็นวา่ การ
ดำเนินงานในครั้งนี้มีกระบวนการที่เป็นระบบ ช่วยกระตุ้นให้ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายตระหนักในปัญหาภาวะการ
ถดถอยทางการเรียนรู้ของนักเรียนร่วมกัน ครูเห็นความสำคัญของการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง และการ
ดำเนินการขับเคลอ่ื นตามแนวทางของเขตพ้นื ที่การศึกษา ส่งผลให้โรงเรียนมวี ิธดี ำเนินงานท่ีชดั เจน มีเป้าหมาย
ในการแก้ปัญหานักเรียนและกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้ร่วมกัน สร้างและพัฒนานวัตกรรมเพื่อแก้ปัญหาภาวะ
ถดถอยทางการเรียนรขู้ องนักเรียนอย่างสรา้ งสรรค์มากยง่ิ ข้ึน ซงึ่ สะทอ้ นให้เห็นว่าผูเ้ กี่ยวขอ้ งมีความพงึ พอใจต่อ
การดำเนินงาน

54

อภปิ รายผลการวจิ ัย

การวิจัยออกแบบนวัตกรรมฟ้ืนฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้เพอื่ ป้องกันการตกหล่นและออกกลางคัน
ของนักเรียนสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 2 ผู้วิจัยมีประเด็นการอภิปรายผลตาม
วตั ถุประสงคก์ ารวิจยั ดงั นี้

1.วัตถุประสงค์ข้อที่ 1 เพื่อวินิจฉัยภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ของนักเรียนสำนักงานเขตพื้นท่ี
การศกึ ษาประถมศกึ ษาเลย เขต 2 และจดั กล่มุ นักเรียนตามสภาพปญั หาภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ และความ
ต้องการจำเปน็

1) ผลการวิเคราะห์และจัดกลุ่มนักเรียนตามสภาพภาวะถดถอยทางการเรียนรู้จำแนกรายอำเภอ
พบว่า ในภาพรวมนักเรียนส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มส่งเสริม ทั้งนี้อาจเป็นเพราะความสามารถในการเรียนรู้ของตัว
นักเรียน ทักษะการสอนรูปแบบออนแอร์ ออนไลน์ ออนแฮนด์ และออนดีมานของครู รวมถึงการเอาใจใส่ของ
ผู้ปกครอง ซึ่งสอดคล้องกับผลการศึกษาของสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ (2564)
รายงานว่าปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ของนักเรียน ซึ่งประกอบไปด้วย ความสามารถใน
การกำกับตนเองในการเรยี นรูข้ องตวั นกั เรยี นเอง ทกั ษะการสอนทางไกลของครู การสนับสนนุ ของพ่อแมใ่ นการ
ส่งเสริมการเรียนร้ทู างไกล และการจัดสภาพแวดลอ้ มเพอื่ การเรยี นรทู้ างไกล

2) จากการวิเคราะห์และสำรวจสภาพปัญหา ข้อจำกัดและความต้องการจำเป็นของนักเรียน พบว่า
สภาพปัญหา ข้อจำกัดที่พบส่วนใหญ่เป็นปัญหาพื้นฐานที่สำคัญ และมีความต้องการจำเป็น ซึ่งนักเรียนท่ี มี
ปัญหาด้านการมาเรียนและความจำเป็นของครอบครัวมีความต้องการการเรียนที่ยืดหยุ่นตามความเหมาะสม
ตอ้ งการทุนการศกึ ษาสนับสนนุ ด้านสขุ ภาพจิตนกั เรียนตอ้ งการการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ท่ีผ่อนคลายท่สี ่งเสรมิ
ใหน้ ักเรียนมคี วามสุขในการเรยี น มกี ิจกรรมสรา้ งแรงจงู ใจในการเรียนที่หลากหลาย ด้านการเรียนของนักเรียน
โดยสอดคล้องกับการศึกษาของ Fitzpatrick et al. (2020) ได้กล่าวถึงผู้กำหนดนโยบายควรจัดหาทรัพยากร
หรือฝึกอบรมครูเพอื่ ให้มีกลยุทธ์หรือเทคนคิ ในการสอนออนไลน์ และการใช้เทคโนโลยีกำหนดแนวทางที่ชัดเจน
ให้แก่ผู้สอนโดยเน้นความก้าวหน้า การประเมินที่ไม่เป็นทางการ การทดสอบที่สร้างโดยครู หลีกเลี่ยงการ
ทดสอบแบบมาตรฐาน การเยียวยาด้วยการสอนซ้ำ การให้ความสำคัญ กับทักษะพื้นฐานที่จำเป็น การสอนที่
ปรับเหมาะกับระดับความสามารถของผู้เรียนรายบุคคล การบูรณาการ หลักสูตรในรูปแบบทางการ ไม่เป็น
ทางการ หรือการจัดหลักสูตรแบบเร่งรัด เพื่อช่วยเหลือผู้เรียนในเนื้อหาที่มี ปัญหา และเตรียมความพร้อมให้
ก่อนเปดิ เรียน

2. วัตถุประสงค์ข้อที่ 2 เพื่อออกแบบและพัฒนาต้นแบบนวัตกรรมฟื้นฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้
ของนักเรียนที่มีความเป็นไปได้ในการปฏิบัติของผู้เกี่ยวข้องในระยะสั้นและระยะยาวที่สอดคล้องกับความ
ต้องการจำเปน็ ของนักเรียนและบริบทโรงเรยี นดว้ ยกระบวนการวจิ ยั ออกแบบทางการศึกษา

โดยต้นแบบนวัตกรรมการฟื้นฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ของนักเรียน 3 ระดับ ได้แก่ระดับเขต
ระดับโรงเรียน และระดับห้องเรียน ซึ่งใช้แนวคิดเชิงระบบเป็นโมเดลในการขับเคลื่อนการดำเนินงาน
ประกอบด้วย 3 องค์ประกอบคอื ปัจจัยนำเขา้ (Input) กระบวนการ (Process) และผลการดำเนนิ งาน (Output)

55

ทัง้ นม้ี กี รอบการดำเนินงาน 6 ส่วน ไดแ้ ก่ การออกแบบการฟนื้ ฟรู ะยะสัน้ การออกแบบการฟน้ื ฟรู ะยะยาว การ
เสริมสร้างสุขภาพจิต การประสานเครือข่ายและผู้เกี่ยวข้อง การเสริมสร้างศักยภาพครู และการนิเทศ ติดตาม
ประเมินผลบนพื้นฐานของการวิเคราะห์และจัดกลุ่มเด็กตามสภาพปัญหาและความต้องการจำเป็น ซึ่ง
สอดคล้องกับผลการศึกษาของ Kaffenberger (2021) ได้กล่าวถึงการสร้างโปรแกรมและฝึกอบรมครูให้
สามารถสร้างสรรค์การสอน อย่างต่อเนื่องได้ทันทีที่เปิดโรงเรียน ใช้วิธีการประเมินความก้าวหน้าในการระบุ
ระดับการเรียนรู้ของผู้เรียน ควรมีการนำเนื้อหาบางส่วนในขณะที่นักเรียนได้เรียนตอนโรงเรียนปิดมากล่าวถึง
ซ้ำอีกครั้งในระดับชั้นถัดไป และครูควรปรับวิธีการสอนให้สอดคล้องกับระดับความสามารถของนักเรียน
เช่นเดียวกับ UNESCO (2021a) ที่เสนอแนะโรงเรียนว่าควรใช้โปรแกรมฟื้นฟูสำหรับนักเรียนที่ประสบปัญหา
การเรียนซึ่งต้องการการสนับสนุนที่ ตรงจุด เพิ่มเติมพร้อมกับชั้นเรียนปกติ โปรแกรมน้ีออกแบบสำหรับ
นักเรียนที่ต้องการเนื้อหาระยะสั้นหรือการสนับสนุนทักษะเพื่อให้ประสบความสำเร็จในการเรียนในระบบ
ตามปกติ ได้แก่ (1) การปฏิบตั ใิ นชั้นเรียน (In-class interventions) โดยแยกนักเรยี นในช้ันเรียนออกเป็นกลุ่ม
เล็กๆ เพื่อสอนแต่ละกลุ่มแตกต่างกันตามทกั ษะและความรู้ของนักเรียน แนวทางนี้คล้ายกับการสอนแบบปรับ
เหมาะ ซึ่งจะประเมินทักษะและระดับความรู้ของนักเรียน จากนั้นจึงออกแบบโปรแกรมการเรียนแบบต่างๆ
สำหรบั นักเรียนท่มี ีผลการเรียนตำ่ กวา่ เพอ่ื น (2) การสอนแบบจุลภาค (Micro-teaching) การสอนแบบนใ้ี ชก้ ับ
นักเรียนกลุ่มเล็กๆ ทั้งในสถานท่ี (On-site) และทางออนไลน์ การสอนแบบจุลภาคมกั จะเน้นที่การเรียนรู้แบบ
จลุ ภาค ซ่ึงหมายถงึ การเรียนรู้ เน้ือหาขนาดเล็กในช่วงเวลาส้ันๆ กลยทุ ธก์ ารเรยี นรทู้ เี่ น้นนักเรียนเป็นศูนย์กลาง
นี้สามารถนำไปใช้ในโปรแกรม การสอนในระบบตามโครงสร้างเวลาเรียนหรอื โปรแกรมการเรียนรู้นอกระบบที่
นักเรียนต้องกำกับตนเองอย่าง ไม่เป็นทางการ ตัวอย่างของการสอนแบบจุลภาคคือการสอนแบบติว การสอน
แบบกลุ่มเล็กหรือแบบตัวต่อตัว (3) การสอนแบบภายนอก (Pull-out interventions) เป็นการสอนพิเศษ
เฉพาะและการสอนพิเศษ หลงั เลกิ เรียน เชน่ โปรแกรมการฟน้ื ฟกู ารอา่ นกับผู้เชี่ยวชาญดา้ นการอา่ น ซึ่งรวมถึง
การสอนพเิ ศษส่วนตัวดว้ ย

ทั้งนี้ ครูต้องดำเนินการประเมินการวินิจฉัยและประเมินความก้าวหน้าตามที่ระบุไว้ ครูมีบทบาท
สำคัญในการประเมินการสูญเสียการเรียนรู้ของนักเรียนและตัดสินใจ เลือกแนวทางการสอนที่เหมาะสมเพ่ือ
สนับสนุนการฟื้นฟูการเรียนรู้ของนักเรียน วิธีการแบบเดียวอาจไม่เหมาะสำหรับนักเรียนทุกคน ครูควรได้รับ
การฝึกอบรมเพิ่มเติม มีโอกาสในการพัฒนาวิชาชีพเพื่อช่วยในการดำเนินการวินิจฉัยและประเมินผลอย่าง
ต่อเนื่อง รวมถึงบูรณาการ SEL เข้ากับเนื้อหาวิชาการ ครูจะเป็นหลักในการส่งเสริมด้านอารมณ์และสังคมของ
นักเรยี น ตลอดจนระบุและส่งต่อนักเรยี นทีต่ ้องการบริการดา้ นสุขภาพจติ และจติ สังคมอยา่ งมอื อาชพี

3. วัตถุประสงค์ข้อที่ 3 เพื่อวิเคราะห์ผลการฟื้นฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ของนักเรียนสำนักงาน
เขตพืน้ ทีก่ ารศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 2

การวิจยั ออกแบบนวัตกรรมฟื้นฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรูข้ องนักเรียนเพื่อป้องกันการตกหล่นและ
ออกกลางคันของนักเรียน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 2 ครั้งนี้ และ พบว่า มีจำนวน
โรงเรียนที่ร่วมกระบวนการฟื้นฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ของนักเรียนทั้งสิ้น 147 โรงเรียน ของโรงเรียน
ท้งั หมด 152 โรง ซึ่งส่งผลให้เกิดนวัตกรรมทม่ี ีคุณภาพระดับดเี ย่ียมระดบั โรงเรยี น จำนวน 46 นวัตกรรม ระดับดี

56

จำนวน 101 นวัตกรรม และนวัตกรรมท่ีมีคุณภาพระดับดีเยี่ยมระดับห้องเรยี น จำนวน 216 นวัตกรรม ระดับดี
จำนวน 1,079 นวัตกรรม สอดคล้องกับ UNESCO (2021a) กล่าวว่า โรงเรียนควรวางแผนการปฏิบัติตาม
โปรแกรมโดยละเอยี ดเพื่อจัดการกบั การสญู เสยี การเรียนรู้และการฟืน้ ฟูชอ่ งวา่ งทางการเรยี น กจิ กรรมการเรยี น
การสอนและการบริหารอื่นๆ ควรได้รับการปรับโครงสร้างใหม่พร้อมกับขนาดห้องเรียน ผู้อำนวยการโรงเรียน
อาจพิจารณาสถานการณ์ต่างๆ แผนงาน และ วิธีการระดบั โรงเรียน เช่น การจัดกลุ่มผู้เรยี นตามความสามารถ
การจัดห้องเรยี นปกติร่วมกบั แนวทางแกไ้ ข อน่ื ๆ หรือแมแ้ ต่การรวมกจิ กรรมแบบตวั ตอ่ ตวั กับการจัดการเรียนรู้
ทางไกล ตามหลักการแล้วผูบ้ รหิ ารต้อง ใคร่ครวญถงึ วิธีที่จะปรับโรงเรียนให้เข้ากับความต้องการระยะยาวของ
นักเรียนให้ดีที่สุด มีการพัฒนากลยุทธ์การสื่อสาร ครู เจ้าหน้าที่ และครอบครัวควรมีการสื่อสารที่ชัดเจน
เกี่ยวกับแนวทางการฟ้ืนฟูการเรียนรู้ท่ีโรงเรียนนำมาใช้ ผู้บริหารโรงเรียนสามารถสำรวจช่องทางและ ขั้นตอน
ต่างๆ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีครอบครัวใดตกหล่นจากแผนของโรงเรียน สามารถกำหนดความคาดหวังท่ี ชัดเจน
เก่ยี วกบั บทบาทของทกุ คนในการฟื้นฟูและอัปเดตขอ้ มูลเปน็ ประจำ พฒั นากลไกการมสี ว่ นรว่ มทเ่ี หมาะสม โดย
ผู้บริหารโรงเรียนอาจพิจารณากลยุทธ์สำหรับนักเรียน ครู และครอบครัวเพื่อเชื่อมต่อกับโรงเรียนอีกครั้ง และ
สร้างกิจวัตรใหม่เพื่ออำนวยความสะดวกในกิจกรรมการเรียนรู้ ผู้เรียนและครอบครัวบางคนอาจไม่ตอบสนอง
ตอ่ การติดต่อ ดงั น้ันการคดิ คน้ กลไกในการเชื่อมตอ่ กบั โรงเรยี นจึงเป็นขนั้ ตอนแรกในการฟน้ื ฟูการเรยี นรู้ รวมถงึ
ความต้องการด้านวิชาการ ส่วนตัว และสังคมควรได้รับการฟื้นฟู สอดคล้องกับแนวคิดของวชิ ัย วงษ์ใหญ่ และ
มารุต พฒั ผล (2563) ไดเ้ สนอไวว้ า่ การร่วมกนั สร้างสรรค์นวัตกรรมทางการสอนและการเรยี นรู้ (co–creation
of teaching and learning) ระหว่างครูและผู้ปกครองของนักเรียนสามารถทำได้ 5 ขั้นตอนคือ 1) กระตุ้น
ความสนใจของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย 2) ร่วมกันวิเคราะห์ สังเคราะห์ และร่วมกันแสวงหาแนวคิด 3) แสวงหา
ความร่วมมือ 4) ร่วมกันพัฒนา และ 5) ร่วมกันขยายผลและแบ่งปัน นอกจากนี้โรงเรียนควรปรับแนวทาง
ระดับชาติให้เข้ากับบริบทของโรงเรียน โดยการมีส่วนร่วมของ ครูการระบุจุดแข็งของบุคลากรในโรงเรียนและ
ความต้องการในการพัฒนาวิชาชีพถือว่าเป็นจดุ เริม่ ต้นท่ีดี รวมถึงการสนบั สนุนและเสรมิ สร้างพลังอำนาจแก่ครู
ผู้บริหารมีบทบาทสำคัญในการทำให้มั่นใจว่าครู ได้รับการเตรียมพร้อมและได้รับการสนับสนุนอย่างดีในความ
พยายามดำเนินการตามโปรแกรมฟืน้ ฟภู าวะ ถดถอยทางการเรียนรูผ้ ูบ้ รหิ ารควรฟังความคิดเห็นของครเู ก่ยี วกบั
ความต้องการในการฝึกอบรม กระตุ้น และ สนับสนุนเครือข่ายเพื่อนและชุมชนของครูผู้สอน การใหแ้ นวทางที่
ชดั เจน การฝึกอบรม หรือแม้แตก่ ารสอ่ื สาร ความคาดหวงั ทชี่ ัดเจนเปน็ วธิ ีท่ีดใี นการสนบั สนุนครู

ซึง่ ส่งผลใหพ้ ฒั นาการดา้ นความรู้ ทกั ษะ และคณุ ลกั ษณะที่พึงประสงค์ (K S A) ของนักเรียนทุกกลุ่มมี
พัฒนาการเพิ่มมากขึ้น ซึ่งครูและผู้บริหารสถานศึกษาได้สะท้อนจากการสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนที่
โรงเรียน ปฏิสัมพันธ์ในห้องเรียน ได้แก่ การตอบคำถามของครูในห้องเรียน การส่งการบ้าน ร่วมกับการ
ประเมินการอ่าน การเขียนที่แสดงให้เห็นพัฒนาการความพร้อมในการเรียนท่ีมากขึ้น นักเรียนมีความพึงพอใจ
ในการดำเนินการฟื้นฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ ซึ่งผู้บริหารสถานศึกษาและครูได้สะท้อนว่า สถิติการมา
เรียนของนักเรียนดีขึ้นกล่าวคือ จำนวนนักเรียนขาดเรียนลดลง นักเรียนมีความสุขในการเรียน ตั้งใจเรียนมาก
ขึ้น พฤติกรรมทีไ่ ม่พึงประสงค์ของนักเรียนลดลง นักเรียนอยากมาโรงเรยี น และมีพฤติกรรมการมาโรงเรียนแต่
เช้า นอกจากนี้ผู้ปกครองก็มีความพึงพอใจในการดำเนินการฟื้นฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ของนักเรียน

57

โดยเฉพาะด้านการอ่าน การเขียน พฤติกรรมการมาโรงเรียนอย่างมีความสุขของนักเรียน ส่วนผู้บริหาร
สถานศึกษาได้สะท้อนให้เหน็ ว่าการดำเนินงานในคร้ังนีม้ ีกระบวนการที่เปน็ ระบบ ช่วยกระตุ้นให้ผู้เกีย่ วข้องทกุ
ฝ่ายตระหนักในปัญหาภาวะการถดถอยทางการเรียนรู้ของนักเรียนร่วมกัน ครูเห็นความสำคัญของการแก้ไข
ปัญหาอย่างจริงจัง และการดำเนินการขับเคลื่อนตามแนวทางของเขตพื้นที่การศึกษา ส่งผลให้โรงเรียนมีวิธี
ดำเนินงานที่ชัดเจน มีเป้าหมายในการแก้ปัญหานักเรียนและกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้ร่วมกัน สร้างและพัฒนา
นวัตกรรมเพ่ือแก้ปัญหาภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ของนกั เรยี นอย่างสร้างสรรค์มากยิ่งขึ้น ซ่ึงสะท้อนให้เห็นว่า
ผู้เกี่ยวข้องมีความพึงพอใจต่อการดำเนินงาน สอดคล้องกับผลการศึกษาของ Hanover Research (2020) ได้
รวบรวมกลยุทธ์ต่างๆ ในการฟื้นฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้และผลการศึกษาไว้ คือ ขยายระยะเวลาเรียน
และวัน (Extended School Periods and Days) อาศัยการใช้เวลาในการสอนเพิ่มเติมเพื่อจัดการกับการ
สูญเสียการเรียนรู้ ตัวอย่างเช่น นักเรียนเกรด 9 ใน Chicago Public Schools (IL) ที่ได้รับเวลาในการเรียน
คณิตศาสตร์เป็นสองเท่าพบว่าคะแนนการทดสอบพีชคณิตเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ผลลัพธ์ในระยะยาวที่ดีขน้ึ
และผลการเรียนยังเพิ่มขึ้นด้วย การแก้ปัญหาการสอน (Instructional Solutions) โดยทบทวนหลักสูตร
แนวตั้งและการทำงานร่วมกันข้ามระดับ (Vertical curricular review and cross-grade collaboration)
โดยครูต่างระดับชั้นต้องทำงานร่วมกันเพื่อทำความเข้าใจนักเรียนแต่ละคนว่า สิ่งที่เรียนรู้มีความเชื่อมโยงและ
สามารถปิดช่องว่างการเรียนรู้ที่สูญเสียไปในแต่ละระดับชั้นมากน้อยเพียงใด และครูจะเติมเต็มให้นักเรียนได้
อย่างไร ทั้งนี้โรงเรียนสามารถใช้กระบวนการชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) ในโรงเรียน การสอนติวหรือ
กวดวิชา (Tutoring) มีงานวิจัยส่วนหนึ่งรวมถึงการศึกษาวิจัยของฮาร์วาร์ด ปี 2016 พบว่า นักเรียนที่กำลังมี
ปัญหาในวิชาคณติ ศาสตรแ์ ละการอา่ นเมอื่ ไดร้ ับการสอนแบบตวั ตอ่ ตวั อยา่ งเข้ม (สามครง้ั ต่อสัปดาห์ 50 ชั่วโมง
ต่อภาคการศึกษา) สามารถปรับปรุงผลลัพธ์การเรียนรู้และชดเชยการสูญเสีย การเรียนรู้ของนักเรียนได้ ซึ่ง
สามารถดำเนินการได้รวดเร็วและใช้เวลาสั้น การใช้แผนการเรียนแบบรายบุคคล (Individualized Learning
Plans) ของกระทรวงศึกษาธกิ ารรัฐมชิ ิแกนได้สรุปหลกั การตา่ งๆ ทเ่ี ขตสามารถใช้เพ่ือสรา้ งแผนการเรียนรู้ เป็น
รายบุคคล รวมถึงการพัฒนาตารางเวลารายสัปดาห์และสื่อสารกับครอบครัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแผนการเรียนรู้
รายบคุ คล ชว่ ยใหเ้ ขตและโรงเรียนสามารถพฒั นาและใหก้ ารสนับสนนุ ความตอ้ งการทางวิชาการและทางสังคม
และ อารมณ์ที่ตรงเป้าหมาย

อีกรูปแบบหนึ่ง คือ การเพิ่มโปรแกรมการสอน (Additional Instructional Programs) ได้แก่
โปรแกรมหลังเลิกเรียน (After-School Programs) กรณีศึกษา Meriden Public Schools (CT) ร่วมมือกับ
YMCA และ Boys & Girls Club เพื่อเพิ่มการสอนหลังเลิกเรียน 100 นาที ที่โรงเรียน 3 แห่งในเขต ส่งผลให้
นกั เรียนจาก 2 ใน 3 โรงเรียนที่เขา้ รว่ มเห็นว่าคะแนนสอบของนกั เรยี นสูงขน้ึ กวา่ ค่าเฉลย่ี ของภาค สง่ ผลใหเ้ ขต
ขยายโครงการไปยังโรงเรียนประถมศึกษาอื่นเพ่ิมข้ึน ส่วนชมรมเร่งรัดการเรียนรู้ (Acceleration Academies)
การรว่ มกจิ กรรมของนกั เรยี นในชมรมยงั ส่งผลใหม้ พี ัฒนาการดา้ นคณติ ศาสตรแ์ ละการอ่าน ชมรมการเรง่ รัด คือ
“โปรแกรมการสอนแบบเน้นกลุ่มเป้าหมายที่เข้มข้นซึ่งสอนในช่วงพักร้อนโดยกลุ่มครูคุณภาพสูง ที่ผ่านการ
คัดเลือกมาอย่างดี” จากการศึกษาของลอว์เรนซ์ การใช้ Acceleration Academies ของ Public Schools
(MA) ผู้บริหารโรงเรียนได้คัดเลือกนักเรียนโดยอิงจากคะแนนการทดสอบ Massachusetts Comprehensive

58

Assessment System (MCAS) ที่ต่ำ และนักเรียนมีความตั้งใจที่จะเข้าเรียนซึ่งผลพบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการ
เรยี นวชิ าคณิตศาสตร์และผลสัมฤทธ์ิในการอ่านของนักเรยี นเพมิ่ ขนึ้

จากผลการวเิ คราะหผ์ ลการฟื้นฟภู าวะถดถอยทางการเรยี นรู้ของนักเรียนสำนักงานเขตพื้นท่ีการศึกษา
ประถมศึกษาเลย เขต 2 สอดคล้องกับผลการวิจัยดังกล่าวข้างต้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าการฟื้นฟูภาวะถดถอย
ทางการเรียนรู้ของนักเรียนส่งผลต่อพัฒนาการด้านความรู้ ทักษะ และคุณลักษณะที่พึงประสงค์ (K S A) ของ
นกั เรยี นในสังกดั

ขอ้ เสนอแนะ

1. ข้อเสนอแนะในการนำผลการวิจัยไปใช้
1.1 การวิจัยครั้งนี้ได้รูปแบบการฟื้นฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ของนักเรียนสำนักงานเขตพื้นท่ี

การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 2 ในระดับเขต ระดับโรงเรียนและระดับห้องเรียน ซึ่งโรงเรียนและเขตพื้นท่ี
สามารถดำเนินการฟื้นฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ของนักเรียนต่อในกรณีที่ยังพบว่านักเรียนยังไม่มีความ
พร้อมทางการเรียนรู้โดยดำเนินการตามรูปแบบเพื่อให้การแก้ปัญหาสอดคล้องกับปัญหาและความต้องการ
จำเป็นของนกั เรียน

1.2 ภาวะถดถอยทางการเรยี นรู้ของนกั เรยี นโดยเฉพาะกลุ่มที่ 1 กล่มุ เสี่ยงออกกลางคนั จำเป็นตอ้ งเฝ้า
ระวังและดำเนินการฟื้นฟูอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นการดำเนินการสำหรับนักเรียนกลุ่มน้ีจึงยังไม่สามารถหยุดได้
โรงเรยี นควรออกแบบโปรแกรมการเรียนรู้ท่มี คี วามเปน็ ไปไดใ้ นระยะยาว

2. ข้อเสนอแนะในการวจิ ัยครั้งต่อไป
2.1 การวิจัยครั้งนี้พบว่าปัจจัยที่ส่งผลต่อความสำเร็จในการดำเนินงานฟื้นฟูภาวะถดถอยทางการ

เรียนรู้ของนักเรียน คือ ผู้บริหารสถานศึกษาโดยเฉพาะความเป็นผู้นำทางวิชาการ ซึ่งจากการสะท้อน
ผลการวิจัยพบว่าการสร้างความเข้าใจกับคณะครูในโรงเรียนเป็นกระบวนการที่ผู้บริหารต้องสื่อสารให้ชัดเจน
และมีความสามารถในการวางแผนงานทั้งโรงเรียน ดังนั้นการเสริมสร้างภาวะผู้นำทางวิชาการของผู้บริหาร
โรงเรยี นจงึ เป็นประเด็นการวิจัยท่ีสำคัญที่ควรมีการพฒั นาต่อยอดในการวจิ ยั ครง้ั ต่อไป

2.2 ปัญหาที่สำคัญและค้นพบจากการวิจัยครั้งนี้คือนวัตกรรมการฟื้นฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้
ระดับชั้นเรียนยังไม่สามารถตอบสนองปัญหาของนักเรียนเป็นรายบุคคลได้ เนื่องจากความสามารถในการ
ออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ของครูยังมีข้อจำกัด ดังนั้นการวิจัยครั้งต่อไปควรเน้นการพัฒนาครูด้านการ
ออกแบบกิจกรรมการเรยี นรทู้ ี่สอดคล้องกับนกั เรียนเปน็ รายบุคคลอยา่ งสร้างสรรค์

2.3 จากการวิจัยครั้งนี้พบว่า การฟื้นฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ของนักเรียน เน้นการเพิ่มเวลา
เพื่อให้ได้จดั กิจกรรมเติมเต็มการเรยี นรู้ให้แก่นักเรียน ก่อใหเ้ กดิ ปัญหาตามมา คือ ภาระงานและเวลาเรยี นของ
นักเรียนและของครเู พิม่ มากขึ้น ซึ่งในระยะยาวอาจกอ่ ให้เกิดปัญหาในการดำเนินงาน ดังนั้นการวจิ ยั ครั้งต่อไป
จึงควรทดลองการปรับโครงสร้างเวลาเรียนและเนื้อหาการเรียนรู้แบบบูรณาการเพื่อใหเ้ ดก็ ไดเ้ รยี นรู้มากข้นึ แต่
ไม่ตอ้ งเพิ่มเวลาเรียนจะชว่ ยลดภาระงานของครแู ละนักเรยี นลงได้

รายการอ้างอิง

การเติบโตขององคก์ รโดย HR.(2565).แนวคดิ เกยี่ วกบั กระบวนการคดิ เชิงออกแบบ (Design
Thinking) .สืบคน้ เมอ่ื วนั ที่ 17 กันยายน 2565 จาก
https://th.hrnote.asia/orgdevelopment/190702-design-thinking/

นรรธพร จนั ทร์เฉล่ยี เสรบิ ุตร. (2564). มาตรการฟืน้ ฟูความรู้ถดถอยในเดก็ (Learning Loss). สืบค้นเมื่อ
22 กมุ ภาพนั ธ์ 2565 จาก https://www.starfishlabz.co

มหาวิทยาลัยเชยี งใหม.่ (2551). การจัดการเรยี นรแู้ บบบรู ณาการ. ขา่ วสารวชิ าการ. 11(พฤศจิกายน), 1-3.
มานติ ย์ อาษานอก. (2561). การบูรณาการการคดิ เชิงออกแบบเพือ่ พัฒนานวตั กรรมการจดั การ เรียนรู้.

วารสารเทคโนโลยแี ละสอ่ื สารการศกึ ษาคณะศึกษาศาสตรม์ หาวทิ ยาลยั มหาสารคาม, 1(1),6-12.
ยูนเิ ซฟ. (2564). พันธกิจประเทศไทย: ฟื้นฟกู ารศกึ ษาปกี ารศกึ ษา 2564. สบื คน้ เมื่อ 30 มีนาคม 2565

จาก https://www.unicef.org/thailand/media/8146/file/Mission%20
Recovering%20Education%20in%202021%20TH.pdf
สุวมิ ล วอ่ งวาณชิ . (2563). การวจิ ยั การออกแบบทางการศึกษา (Design Research in Education).
กรุงเทพฯ : สำนกั พมิ พ์แหง่ จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั .
สำนกั งานเลขาธกิ ารสภาการศกึ ษา. (2564). รายงานผลการศึกษาภาวะถดถอยทางการเรียนรขู องผเู้ รยี น
ระดับการศึกษาข้นั พ้นื ฐานในสถานการณโควิด-19: สภาพการณ บทเรียน และแนวทาง
การพัฒนาคณุ ภาพการเรยี นร.ู สบื ค้นเมอื่ 22 กมุ ภาพันธ์ 2565 จาก
http://www.onec.go.th/th.php/book/BookView/1932
สำนักงานเลขาธกิ ารสภาการศกึ ษา. (2564). แนวทางการฟื้นตัวทางการศึกษาจาก สถานการณ์ COVID-19
ทม่ี ีประสทิ ธิภาพและเสมอภาค. บริษัท เอส. บี. เค. การพิมพ์ จำกดั
สำนักงานเลขาธกิ ารสภาการศกึ ษา กระทรวงศกึ ษาธิการ. (2565). มาตรการฟน้ื ฟูภาวะถดถอย
ทางการเรยี นรู้. กรุงเทพฯ : กลุม่ พัฒนานโยบายดา้ นการเรยี นรู้ สำนักมาตรฐานการศกึ ษา
และพัฒนาการเรียนรู้.
วชิ ยั วงษใ์ หญ่ และ มารตุ พฒั ผล. (2563). การเรยี นรู้ร่วมกันสรา้ งสรรค์นวตั กรรม Co-Creation
Learning. กรุงเทพฯ : บณั ฑิตวิทยาลยั มหาวทิ ยาลัยศรีนครนิ ทรวโิ รฒ.
ศศมิ า สุขสวา่ ง. (2560). ความหมายของการคิดเชงิ ออกแบบ. สบื คน้ เมอ่ื 25 พฤศจิกายน 2563 จาก
https://doi.org/8-01-40.
Azevedo, J. P., Hasan, A., Goldemberg, D., Iqbal, S. A. and Geven, K. (2020). Simulating the
potential impacts of Covid-19 school closures on schooling and learning outcomes: a
set of global estimates. Policy Research Working Paper, No. 9284. Washington, DC
Bovill, C. (2020). Co-creation in learning and teaching: The case for a whole-class approach in
higher education. Higher Education, 79(6), 1023–1037.

60

Brown, T. (2008). Design Thinking. Harvard Business Review (2nd), 84-95
CECC. (2020). Contingency Plan for Education: Recommendations Approved by the

Council of Ministers of CECC. Retrieved on 22 February 2022 from
https://unesdoc.unesco.org/ark:/48223/pf0000377841.
Chatterjee Singh, N. and Duraiappah, A. K. (eds). (2020). Rethinking learning: a review of
social and emotional learning frameworks for education systems.
New Delhi, UNESCO MGIEP.
Department for Education (United Kingdom). (2021). National Tutoring Programme.
Retrieved on 22 February 2022 from https://nationaltutoring.org.uk. 19 Education
Endowment Foundation. (2021). One-to-one tuition. Teaching & Learning Toolkit.
Retrieved on 22 February 2022 from
https://educationendowmentfoundation.org.uk/evidence-summaries/teaching-
learning-toolkit/one-to-one-tuition.
Fitzpatrick, R., Korin, A., & Riggall, A. (2020). An international review of plans and actions
for school reopening. Berkshire: Education Development Trust.
Hanover Research. (2020). BEST PRACTICES FOR LEARNING LOSS RECOVERY. Retrieved on
22 February 2022 from https://wvde.us/wp-content/uploads/2021/02/Learning-Loss-
Recovery-Best-Practices.pdf.
Jeanne Liedtka. (2014). Perspective: Linking Design Thinking with Innovation Outcomes
through Cognitive Bias Reduction. J PROD INNOV MANAG Product Development &
Management Association, http://doi: 10.1111/jpim.12163, pp. 1-14.
Kaffenberger, M. (2021). Modelling the long-run learning impact of the COVID-19 learning shock:
actions to (more than) mitigate loss. International journal of educational
development, 81, 102326.
Kleinsmann, M., Valkenburg, R., & Sluijs, J. (2017). Capturing the value of design thinking in
different innovation practices. International Journal of Design,11(2), 25-40.
Murray Cox. (2016). DESIGN THINKING: LEARNING BY DOING. [Online]. Available from:
http://resource.tcdc.or.th/ebook/Design.Thingking.Learning.by.Doing.pdf?fbclid=I
wAR2uW0ePvwI1IHQ7CujNnZ4yAECjjFBX8O9Vv1LXqwLFBzSypt44H03aagU. [accessed
17 November 2020].
Petrowski, N., Cappa, C., Pereira, A., Mason, H. and Daban, R. A. (2020). Violence against
children during COVID-19: Assessing and understanding change in use of helplines.
Child Abuse & Neglect, Vol. 116, Part 2, No. 104757,

61

https://doi.org/10.1016/j.chiabu.2020.104757.
Schipper, T.M., van der Lans, R.M., de Vries, S., Goei, S.L. and van Veen, K. (2020). Becoming a

more adaptive teacher through collaborating in Lesson Study? Examining the
influence of Lesson Study on teachers’ adaptive teaching practices in mainstream
secondary education. Teaching and Teacher Education, Vol. 88, No. 102961.
https://doi.org/10.1016/j.tate.2019.102961.
Tada Ratchagit. (2019). กระบวนการคดิ เชิงออกแบบ (Design Thinking) เคร่อื งมอื สำคญั ของการ
สรา้ งความสำเรจ็ ให้องคก์ ร. [Online]. Available from: https://th.hrnote.asia/
orgdevelopment/190702-design-thinking. [accessed 19 November 2020].
TaRL. (2021). Teaching at the Right Level: Zambia. Retrieved on 22 February 2022 from
https://www.teachingattherightlevel.org/tarl-in-action/zambia-case-study/.
UN Women. (2020). COVID-19 and violence against women and girls: Addressing the
shadow pandemic. New York, UN Women.
UNESCO and Global Education Monitoring Report. (2021). Keeping girls in the picture
during and after the COVID-19 crisis: The latest facts on gender equality in
education. Retrieved on 22 February 2022 from
https://unesdoc.unesco.org/ark:/48223/pf0000375707.
UNESCO, UNICEF and The World Bank. (2020). Survey on National Education Responses to
COVID-19 School Closures, round 2. Retrieved on 22 February 2022 from
http://tcg.uis.unesco.org/survey-education-covid-school-closures/. UNESCO. (2020a).
COVID-19 response – Remediation: Helping students catch up on lost learning, with a
focus on closing equity gaps. Retrieved on 22 February 2022 from
https://en.unesco.org/sites/default/files/unesco-covid-19-response-toolkit-
remediation.pdf.
UNESCO. (2020b). Don't remediate, accelerate! Effective catch-up learning strategies:
evidence from the United States. Paris, UNESCO. Retrieved on 22 February 2022
from https://unesdoc.unesco.org/ark:/48223/pf0000374029.
UNESCO. (2020c). Global Education Monitoring Report – Gender Report: A new
generation: 25 years of efforts for gender equality in education. Paris, UNESCO.
Retrieved on 22 February 2022 from
https://en.unesco.org/gemreport/2020genderreport.

62

UNESCO. (2021a). UNESCO COVID-19 Education Response: Education Sector issue notes.
Retrieved on 22 February 2022 from
https://unesdoc.unesco.org/ark:/48223/pf0000377841

UNESCO. (2021b). One year into COVID: Prioritizing education recovery to avoid a
generational catastrophe. Retrieved on 22 February 2022 from
https://unesdoc.unesco.org/ark:/48223/pf0000376984/PDF/376984eng.pdf.multi.

USAID Zambia. (2021). Teaching at the Right Level. Lusaka, United States Agency for
International Development, Zambia Mission. Retrieved on 22 February 2022 from
https://unesdoc.unesco.org/ark:/48223/pf0000377841

VVOB. (2021a). Country Case: Cambodia. Design and Implementation of Catch-Up
Programs. Brussels, VVOB, Education for Development. Retrieved on 22 February
2022 from https://unesdoc.unesco.org/ark:/48223/pf0000377841.

VVOB. (2021b). Country Case: Zambia. Remedial Education and Mitigating Learning
Losses for Children in Grades 3,4 and 5, through the Teaching at the Right Level
(TaRL) Methodology. Retrieved on 22 February 2022 from
https://unesdoc.unesco.org/ark:/48223/pf0000377841.

WORKPOINT TODAY. (2564). กสศ. ยูนเิ ซฟ ศธ. จบั มอื ภาคี เปิดตัวโปรแกรมฟื้นฟูเรียนรถู้ ดถอย
ช่วยเดก็ หลุดจากระบบทกุ มิติในชว่ งโควดิ 19 สบื คน้ เม่อื 22 กุมภาพันธ์ 2565 จาก
https://workpointtoday.com/unicef-2/

ภาคผนวก

คำส่ัง

คำสง่ั สำนักงานเขตพ้นื ทก่ี ารศกึ ษาประถมศึกษาเลย เขต 2
ท่ี 65 / 2565

เรอื่ ง แต่งตั้งคณะกรรมการวจิ ยั ออกแบบนวัตกรรมฟน้ื ฟูภาวะถดถอยทางการเรยี นรู้
เพื่อปอ้ งกันการตกหลน่ และออกกลางคันของนักเรยี น
........................................

ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานได้ประกาศจุดเน้นตามนโยบาย “สพฐ.วิถีใหม่
วิถีคุณภาพ โดยใช้พื้นที่เป็นฐาน นวัตกรรมขับเคลื่อน” จำนวน 9 จุดเน้น เพื่อขับเคล่ือนคณุ ภาพการศกึ ษา ซ่ึง
ประเดน็ ทส่ี อดคล้องกบั บริบทของสำนักงานเขตพ้ืนทก่ี ารศึกษาประถมศึกษาเลยเขต 2 คือ ปัญหาภาวะถดถอย
ทางการเรียนรู้ (Learning Loss) สืบเนื่องจากการปิดเรียนในสถานการณ์โควิด-19 และลุกลาม มาจนถึง
ปัจจุบันที่ยังคงมีการระบาดและกระทบต่อการจัดการเรียนการสอนของโรงเรียนในสังกัด อันเป็นปัจจัยเสี่ยงท่ี
สำคัญที่จะทำให้เด็กตกหล่นและออกกลางคัน ดังนั้นจึงมีการออกแบบการวิจัยเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหา
ดังกลา่ ว สำนกั งานเขตพืน้ ท่ีการศกึ ษาประถมศึกษาเลย เขต ๒ จงึ แต่งต้งั คณะกรรมการวิจัย ดงั นี้

๑. คณะกรรมการท่ปี รกึ ษา ประกอบดว้ ย

๑.๑ นายประสิทธิ์ คำกิ่ง ผอ.สพป.ลย. ๒ ประธานกรรมการ

๑.๒ นายวัลลภ วบิ ลู ยก์ ูล รอง ผอ.สพป.ลย. ๒ รองประธานกรรมการ

๑.๓ นางสรญั ญา บดุ ดา รอง ผอ.สพป.ลย. ๒ กรรมการ

๑.๔ นางสภุ ญิ ญา วงษน์ าม รอง ผอ.สพป.ลย. ๒ กรรมการ

๑.5 นายมหทิ ธา พรหมลิ ผอ.กลมุ่ นเิ ทศฯ กรรมการ

๑.6 นางสรญั ญา ปานะสทุ ธิ ผอ.กล่มุ สง่ เสรมิ ฯ กรรมการ

๑.7 นางสาวกุลธดิ า สนธิมูล ปฏบิ ัติหนา้ ที่ ผอ.กลุ่มการศกึ ษาทางไกลฯ กรรมการ

๑.8 นางนันทนา สาระกิจจานนท์ ศกึ ษานิเทศก์ กรรมการ

๑.9 นายพานิชย์ ทันตาหะ ศึกษานเิ ทศก์ กรรมการ

๑.10 ประธานอำเภอทกุ อำเภอ กรรมการ

๑.11 ประธานกลุม่ พฒั นาคณุ ภาพการศกึ ษาทกุ กลุ่ม กรรมการ

๑.12 นางสาววนิดา สมิ พล ศึกษานเิ ทศก์ กรรมการและเลขานุการ

๑.๑3 นางจฑุ าพร โคตรสเี มอื ง ศกึ ษานเิ ทศก์ กรรมการและผชู้ ว่ ยเลขานกุ าร

64

มหี นา้ ที่ วางแผน ดำเนนิ งาน ให้คำปรกึ ษา อำนวยความสะดวกและใหค้ วามชว่ ยเหลือคณะกรรมการในการ
ดำเนินงานให้ดำเนินไปด้วยความเรยี บรอ้ ย

๒. คณะกรรมการดำเนนิ การวจิ ยั ระดบั สำนักงานเขตพ้ืนทีก่ ารศึกษา ประกอบดว้ ย

2.1 นางสริ สิ มถวิล สทิ ธสิ อน ผอ. โรงเรยี นบา้ นเอราวณั ประธานกรรมการ
รองประธานกรรมการ
2.2 นางสาวฐติ พฒั น์ สตางคจ์ ันทร์ ผอ. โรงเรยี นบา้ นนาววั โพนงาม รองประธานกรรมการ
กรรมการ
2.3 นายประกติ สิงหท์ อง ผอ. โรงเรียนเจียรวนนท์อุทศิ 4 กรรมการ
กรรมการ
2.4 นายสมพร ไชยแสง ผอ. โรงเรียนบา้ นโคกมน กรรมการ
กรรมการ
2.5 นายเด่นพงษ์ พลฉวี ผอ. โรงเรียนอนุบาลชมุ ชนภูกระดึง กรรมการ
กรรมการ
2.6 นายสรุ ิยันต์ สะท้าน ผอ. โรงเรียนบ้านนาอา่ งคำ กรรมการ
กรรมการ
2.7 นางวนาไพร ยอดพุทธ ผอ. โรงเรียนบา้ นวังแท่น กรรมการ
กรรมการ
2.8 นายสรุ ินทร์ แก้วบุตรดี ผอ. โรงเรยี นบ้านโนนสวรรค์ กรรมการ
กรรมการ
2.9 นายทติ ย์ณรงค์ มณีวฒั น์ ผอ. โรงเรียนบา้ นตาดขา่ กรรมการ
กรรมการ
2.10 นายธีรนาถ ธมั มนทธี นัฌชานนท์ ผอ. โรงเรียนบ้านเลยวังไสย์ กรรมการ
กรรมการ
2.11 นางสาวปณษิ ฐา แสงพนั ธ์ตา ผอ. โรงเรียนบา้ นห้วยเป้าเหนอื
กรรมการ
2.12 นายวฒุ ิชยั ดานะ ผอ. โรงเรยี นหวั ฝาย
กรรมการ
2.13 นายอนุวตั ร์ แสงวัน ผอ. โรงเรียนบา้ นซำไฮ
กรรมการ
2.14 นางจงกิต บตุ รเต ผอ. โรงเรียนชุมชนบา้ นหนองคัน
กรรมการ
2.15 นายศุภโชค ใครอบุ ล ผอ. โรงเรยี นบา้ นห้วยสเี สียด กรรมการ

2.16 นางสาวสุชาดา เคหงั ผอ. โรงเรียนบ้านนามลู ตนุ่ กรรมการ

2.17 นายเริงชยั อาญาเมือง ผอ. โรงเรยี นบา้ นอเี ลิศ กรรมการ

2.18 นายสรกฤช สงิ ห์งาม ผอ. โรงเรยี นบา้ นขอนแก่นโนนสวรรค์ กรรมการและเลขานุการ
กรรมการและผู้ชว่ ยเลขานกุ าร
2.19 นายสง่ พงศ์ บงแก้ว ผอ. โรงเรยี นบา้ นศรอี บุ ลพัฒนา กรรมการและผ้ชู ว่ ยเลขานกุ าร
2.20 นางสาวสชุ าดา แสงตาปนั ผอ. โรงเรียนบ้านนาลอ้ ม

2.21 นางสาวพิชญา สิงยะเมือง ผอ. โรงเรียนบา้ นกดุ ลนั นอ้ ยครี ี

2.22 นายกอ้ งนเรนทร์ พลซา ผอ. โรงเรยี นบ้านโคกสวา่ งป่าไม้งาม

2.23 นางเพญ็ ศรี แสนเภา ผอ. โรงเรียนบ้านหนองอีเกง้

2.24 นางณฐั กฤตา สอนสภุ าพ ผอ. โรงเรียนบ้านบงุ่ ตาขา่ ย
2.25 นายเกยี รติศกั ด์ิ นิพวงลา ผอ. โรงเรียนบ้านวังลานวังทอง

2.26 นางรศั มีเดือน บุตรทา้ ว รอง ผอ. โรงเรียนชมุ ชนหนองหิน

2.2๗ นายสุชาพจี นิภาดำรงค์ รอง ผอ. โรงเรยี นชุมชนบา้ นผานกเคา้

2.28 นางสาววนดิ า สมิ พล ศึกษานเิ ทศก์
2.29 นางสายชล เปา๋ สูงเนิน ผอ. โรงเรียนบ้านวังยาง
2.30 นางเบญจมาภรณ์ จันนา ผอ. โรงเรยี นบา้ นนาตาดสมสะอาด

มีหน้าท่ี วางแผนออกแบบการวจิ ยั สร้างเครอ่ื งมือ เกบ็ รวบรวมข้อมลู วเิ คราะห์ขอ้ มูล สรุปและเขียนรายงานการ
วิจัย ตลอดจนเผยแพร่ผลการวจิ ัย ส่งเสรมิ ให้เกิดการนำผลการวจิ ยั ไปใชป้ ระโยชน์

65

๓. คณะกรรมการโค้ชนักวิจยั ประกอบด้วย

3.1 นายมหิทธา พรหมลิ ผอ.กลุม่ นเิ ทศฯ ประธานกรรมการ
รองประธานกรรมการ
3.2 นางนันทนา สาระกจิ จานนท์ ศกึ ษานเิ ทศก์ กรรมการ
กรรมการ
3.3 นางสาวทัศนีย์ ฤทธิมนตรี ศกึ ษานเิ ทศก์ กรรมการ
กรรมการ
3.4 นายสันทวี ศรเี มือง ศกึ ษานเิ ทศก์ กรรมการ
กรรมการ
3.5 นายพานชิ ย์ ทนั ตาหะ ศึกษานิเทศก์ กรรมการ
กรรมการ
3.6 นางสาวศรีสนุ นั ท์ พมุ่ ไพจติ ร ศึกษานเิ ทศก์ กรรมการ
กรรมการ
3.7 นางนพลักษณ์ นานวน ศึกษานเิ ทศก์ กรรมการ
กรรมการและเลขานุการ
3.8 นางสาวธรี ะภาภรณ์ ดงอนนท์ ศึกษานิเทศก์

3.9 นางจรยิ า สวุ รรณศรี ศกึ ษานิเทศก์

3.10 นางสาวนันทนา พงทะวงษ์ ศึกษานเิ ทศก์

3.11 นางสาวสาวติ รี หล่มธรรมมา ศึกษานิเทศก์

3.12 นางสาวหงส์มณี ประสานทรพั ย์ ศกึ ษานิเทศก์

3.13 นางสาววนดิ า สิมพล ศกึ ษานเิ ทศก์

3.14 นางจุฑาพร โคตรสีเมือง ศกึ ษานิเทศก์

มหี น้าที่ เปน็ ที่ปรกึ ษา รวบรวมองคค์ วามร้แู ละใหค้ วามชว่ ยเหลอื ประสานงานการวจิ ยั การสร้างเคร่อื งมอื วจิ ยั
ตลอดจนให้คำปรกึ ษาในการลงพืน้ ที่เกบ็ รวบรวมข้อมลู และนเิ ทศ ติดตามในกลมุ่ พฒั นาคณุ ภาพการศกึ ษาทร่ี บั ผดิ ชอบ

4. คณะกรรมการวิจยั พน้ื ที่นำร่องแบบเข้ม ประกอบด้วย

4.1 นางสาวนวพร นัดทะยาย ครู โรงเรียนชุมชนหนองหนิ ประธานกรรมการ
รองประธานกรรมการ
4.2 นายอัศวนิ จนั วนั ครู โรงเรียนบา้ นตาดข่า กรรมการ
กรรมการ
4.3 นางสาวธาวนิ ี พลซา ครู โรงเรยี นบ้านท่งุ ใหญ่
4.4 นางสาวสุนิษา นขุ นุ ทด กรรมการ
ครู โรงเรยี นบา้ นทุ่งใหญ่
กรรมการ
4.5 นางสาวอภิญญา สิงห์สุวรรณ ครู โรงเรยี นชุมชนวงั สะพงุ
กรรมการ
4.6 นางปิยภรณ์ ศรีเมอื ง ครู โรงเรียนชมุ ชนวงั สะพุง กรรมการ

4.7 นางสาววรวลัญช์ วสิ ทิ ธพิ งค์ ครู โรงเรยี นผานาง-ผาเกง้ิ กรรมการ
4.8 นางธนชั พร บญุ ปนั กรรมการ
ครู โรงเรียนบา้ นตาดข่า
กรรมการ
4.9 นางสาววริศรา วงษศ์ รีแก้ว ครู โรงเรียนบา้ นหว้ ยเด่อื นอ้ ย
กรรมการและเลขานุการ
4.10 นางสาวธาวณิ ี สีขวาพา ครู โรงเรยี นบา้ นหว้ ยยาง

4.11 นายณฐั พงษ์ ระเวรี ครู โรงเรยี นบา้ นห้วยเดอื่ โคกสวา่ ง

4.12 นางยุพา ภมู ิพานิชย์ ครู โรงเรยี นบ้านโนนกกขา่

มหี น้าที่ วางแผนออกแบบการวจิ ยั สร้างเครอ่ื งมือ เกบ็ รวบรวมขอ้ มลู วเิ คราะห์ขอ้ มลู สรุปและเขียนรายงานการ
วิจัยรว่ มกับเครอื ขา่ ยทางวชิ าการคอื นักศกึ ษาอนิ โดนีเซยี และนกั ศกึ ษามหาวทิ ยาลยั มหามกฏราชวิทยาลัย วทิ ยาเขตศรี
ลา้ นช้าง ตลอดจนเผยแพร่ผลการวิจยั ส่งเสรมิ ให้เกดิ การนำผลการวจิ ยั ไปใชป้ ระโยชน์ในพื้นทโี่ รงเรียนตนเองและ
นกั วิจัยรว่ ม

66

5. คณะกรรมการฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ ประกอบด้วย

5.1 นายประกติ สิงห์ทอง ผอ. โรงเรยี นเจยี รวนนท์อุทศิ 4 ประธานกรรมการ
รองประธานกรรมการ
5.2 นายณฐั พล หมั่นขนั ครู โรงเรยี นชุมชนบา้ นหนองคัน กรรมการ
กรรมการ
5.3 นางสาวเนตรนภา แปลงลำดวน ครู โรงเรียนบ้านเอราวณั กรรมการ
กรรมการ
5.4 นางสาวชยาภา ทันดา ครู โรงเรียนบ้านขอนแก่นโนนสวรรค์ กรรมการ
กรรมการ
5.5 นางสวุ รรณี เกษสาลี ครู โรงเรยี นบา้ นโคกมน กรรมการและเลขานุการ

5.6 นางสาวนิภาวรรณ กลิน่ โยธา ครู โรงเรยี นบ้านนาอา่ งคำ

5.7 นายคเชนทร์ สาวิสัย ครู โรงเรยี นบา้ นตาดขา่

5.8 นายณฐั ชยั ปานชะเล ครู โรงเรยี นบ้านนาแปน

5.9 นางสาวเณศวณยี ์ อินทรช์ ยั ศรี ครู โรงเรียนบา้ นโนนกกข่า

มหี นา้ ท่ี อำนวยความสะดวก ช่วยเหลอื นักวจิ ัยจัดทำเครอ่ื งมอื การเก็บรวบรวมข้อมลู ออนไลน์ การนำเสนอข้อมลู
รวมถึงการเผยแพร่งานวจิ ัยผา่ นสอ่ื รปู แบบตา่ งๆ

6. คณะกรรมการฝ่ายการเงนิ ประกอบด้วย

6.๑ นางขวญั ใจ วายวุ ฒั นศิริ ผอ.กลมุ่ บริหารการเงนิ และสนิ ทรัพย์ ประธานกรรมการ

6.๒ นางสาวนนิ ภา คำชมภู นกั วิชาการเงินและบญั ชปี ฏบิ ัตกิ าร กรรมการ

6.๓ นางพริ ณุ สีหะวงศ์ นักวิชาการพสั ดุชำนาญการ กรรมการ

6.๔ นางสาวแสนสขุ วทุ ธนู นกั วิชาการเงนิ และบญั ชปี ฏิบตั กิ าร กรรมการ

6.5 นางวนดิ า ศรไี ตรภพ เจ้าพนกั งานการเงนิ และบัญชชี ำนาญงาน กรรมการ

6.6 นางฐติ มิ า วันทอง นักวชิ าการเงินและบัญชีชำนาญการพิเศษ กรรมการและเลขานกุ าร

มีหนา้ ที่ จดั ทำเอกสารการเงนิ และบญั ชี เบกิ จ่ายเงนิ งบประมาณใหถ้ กู ต้องตามระเบียบกฎหมาย

ให้คณะกรรมการที่ได้รับแต่งตั้ง ปฏิบัติงานให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการวิจัย บังเกิดผลสำเร็จ
และมีประสิทธิภาพ ตัง้ แตบ่ ัดนีเ้ ปน็ ต้นไปจนกวา่ จะเสร็จสน้ิ การวิจัย

สั่ง ณ วันที่ 1 เดือน มนี าคม พ.ศ. 2565

67

คำสงั่ สำนักงานเขตพ้ืนทกี่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษาเลย เขต 2
ที่ 226/ 2565

เร่ือง แต่งตง้ั คณะกรรมการนิเทศ ตดิ ตาม ประเมนิ และสะท้อนคิดการวิจยั ออกแบบนวัตกรรมฟน้ื ฟู
ภาวะถดถอยทางการเรียนรูเ้ พอื่ ป้องกันการตกหลน่ และออกกลางคนั ของนักเรยี น
........................................

ตามท่ีสำนกั งานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศกึ ษาเลย เขต 2 ได้ดำเนินการวิจัยออกแบบนวัตกรรม
ฟื้นฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้เพื่อป้องกันการตกหล่นและออกกลางคันของนักเรียนด้วยกระบวนการวิจัย
อิงการออกแบบ (Design Based Research) ระยะที่ 1 การวิเคราะห์และสำรวจ ในช่วงสิ้นปีการศึกษา 2564
ต่อเนื่องมาถึงการวิจัยระยะที่ 2 การออกแบบและพัฒนา และการวิจัยระยะที่ 3 การประเมินและสะท้อนคิด
ในภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2565 บดั นไี้ ดด้ ำเนนิ การวจิ ยั ในระยะที่ 2-3 ซง่ึ จำเปน็ ตอ้ งมกี ารนิเทศ ประเมิน
และสะท้อนผลการดำเนินงานดงั กล่าว

เพือ่ ใหก้ ารดำเนินงานบรรลุเป้าหมายและสนองนโยบาย “สพฐ.วิถใี หม่ วถิ คี ณุ ภาพ โดยใชพ้ นื้ ที่เป็น
ฐาน นวัตกรรมขับเคลื่อน” จำนวน 9 จุดเน้น และนโยบายเร่งด่วนของ สพฐ. (Quick Policy) สำนักงานเขต
พื้นท่กี ารศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 2 จงึ แตง่ ต้งั คณะกรรมการนเิ ทศ ตดิ ตาม ประเมินและสะทอ้ นคิดการวิจยั
ออกแบบนวัตกรรมฟื้นฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรเู้ พื่อปอ้ งกนั การตกหลน่ และออกกลางคันของนกั เรยี น ดังน้ี

๑. คณะกรรมการท่ปี รกึ ษา ประกอบดว้ ย

๑.๑ ผอู้ ำนวยการสำนักงานเขตพนื้ ทีก่ ารศกึ ษาประถมศึกษาเลย เขต 2 ประธานกรรมการ

๑.๒ นายวลั ลภ วบิ ลู ยก์ ูล รอง ผอ.สพป.ลย. ๒ รองประธานกรรมการ

๑.๓ นางสรัญญา บุดดา รอง ผอ.สพป.ลย. ๒ กรรมการ

๑.๔ นางสภุ ิญญา วงษ์นาม รอง ผอ.สพป.ลย. ๒ กรรมการ

๑.5 นายมหิทธา พรหมลิ ผอ.กลุ่มนิเทศฯ กรรมการ

๑.6 นางสรญั ญา ปานะสุทธิ ผอ.กลุ่มส่งเสรมิ ฯ กรรมการ

๑.7 นางสาวกลุ ธิดา สนธิมูล ปฏิบตั หิ น้าที่ ผอ.กลุ่มการศึกษาทางไกลฯ กรรมการ

๑.8 นางนันทนา สาระกจิ จานนท์ ศึกษานิเทศก์ กรรมการ

๑.9 นายพานิชย์ ทนั ตาหะ ศึกษานิเทศก์ กรรมการ

๑.10 ประธานอำเภอทกุ อำเภอ กรรมการ

๑.11 ประธานกล่มุ พัฒนาคณุ ภาพการศึกษาทกุ กลมุ่ กรรมการ

๑.12 นางสาววนิดา สมิ พล ศกึ ษานิเทศก์ กรรมการและเลขานกุ าร

๑.๑3 นางจฑุ าพร โคตรสเี มอื ง ศกึ ษานเิ ทศก์ กรรมการและผ้ชู ว่ ยเลขานกุ าร

มหี น้าท่ี วางแผน ดำเนนิ งาน ใหค้ ำปรึกษา อำนวยความสะดวกและใหค้ วามชว่ ยเหลอื คณะกรรมการในการ
ดำเนนิ งานให้ดำเนนิ ไปด้วยความเรียบร้อย

68

๒. คณะกรรมการนิเทศ ประเมินและสะทอ้ นคดิ ระดับอำเภอ ประกอบดว้ ย

2.1 อำเภอวังสะพงุ 1

1. นางสาวฐติ พัฒน์ สตางคจ์ ันทร์ ผอ. โรงเรยี นบา้ นนาววั โพนงาม ประธานกรรมการ
กรรมการ
2. นางวนาไพร ยอดพุทธ ผอ. โรงเรียนบ้านวงั แท่น กรรมการ
กรรมการ
3. นายเกยี รตศิ กั ดิ์ นิพวงลา ผอ. โรงเรยี นบ้านโนน กรรมการ
กรรมการ
4. นายมหิทธา พรหมลิ ศกึ ษานเิ ทศก์ กรรมการและเลขานุการ

5. นางสาวธรี ะภาภรณ์ ดงอนนท์ ศึกษานเิ ทศก์ ประธานกรรมการ
กรรมการ
6. นายสันทวี ศรีเมอื ง ศกึ ษานิเทศก์ กรรมการ
กรรมการ
7. นางณฐั กฤตา สอนสภุ าพ ผอ. โรงเรียนบา้ นบงุ่ ตาขา่ ย กรรมการ
กรรมการ
2.2 อำเภอวังสะพุง 2 ผอ. โรงเรียนเจียรวนนท์อุทศิ 4 กรรมการ
1. นายประกติ สงิ หท์ อง ผอ. โรงเรียนบ้านขอนแกน่ โนนสวรรค์ กรรมการและเลขานุการ
2. นายสรกฤช สิงห์งาม ผอ. โรงเรียนบา้ นโคกสวา่ งป่าไมง้ าม
3. นายกอ้ งนเรนทร์ พลซา ผอ. โรงเรยี นบ้านวงั สะพงุ ประธานกรรมการ
4. นายวินัย ไชยราช ผอ. โรงเรียนบา้ นน้ำค้อ กรรมการ
5. นางสาวพิชญาภคั สายปญั ญา ศึกษานิเทศก์ กรรมการ
6. นางสาวหงสม์ ณี ประสานทรพั ย์ ศกึ ษานิเทศก์ กรรมการ
7. นางจริยา สวุ รรณศรี ผอ. โรงเรียนบ้านกดุ ลนั น้อยคีรี กรรมการ
8. นางสาวพชิ ญา สิงยะเมอื ง กรรมการ
กรรมการและเลขานกุ าร
2.3 อำเภอภกู ระดึง ผอ. โรงเรียนบา้ นซำไฮ
1. นายอนุวัตร์ แสงวนั ผอ. โรงเรียนบ้านอเี ลศิ ประธานกรรมการ
2. นายเรงิ ชัย อาญาเมือง รอง ผอ. โรงเรยี นชมุ ชนบา้ นผานกเคา้ กรรมการ
3. นายสุชาพจี นิภาดำรงค์ รอง ผอ. โรงเรยี นอนุบาลชุมชนภกู ระดึง กรรมการ
4. นายมณเทียร จักรค์ ำ ศกึ ษานิเทศก์ กรรมการ
5. นายพานชิ ย์ ทันตาหะ ศกึ ษานเิ ทศก์ กรรมการ
6. นางสาววนดิ า สิมพล ผอ. โรงเรยี นบา้ นวงั ยาง กรรมการ
7. นางสายชล เปา๋ สูงเนิน กรรมการและเลขานุการ

2.4 อำเภอเอราวณั ผอ. โรงเรียนบ้านเอราวณั
1. นางสิริสมถวลิ สทิ ธิสอน ผอ. โรงเรยี นบ้านนาอา่ งคำ
2. นายสรุ ิยันต์ สะทา้ น ผอ. โรงเรียนโคกสงา่
3. นายเทวา โฮงคำอตุ ย์ ผอ. โรงเรยี นบ้านโนนสวรรค์
4. นายสรุ นิ ทร์ แกว้ บตุ รดี ผอ. โรงเรยี นบ้านผาสามยอด
5. นางสาวสวุ รี ยา โสศรี ศกึ ษานิเทศก์
6. นางนันทนา สาระกิจจานนท์ รอง ผอ.โรงเรียนบ้านเอราวัณ
7. นางลำดวน ศรีพรม

69

2.5 อำเภอหนองหนิ ผอ. โรงเรียนบ้านห้วยเป้าเหนือ ประธานกรรมการ
1. นางสาวปณิษฐา แสงพนั ธ์ตา ผอ. โรงเรียนบา้ นผาหวาย กรรมการ
2. นายประจกั ร์ ราชโส ผอ.โรงเรียนบ้านไรศ่ รอี ุบล กรรมการ
3. นายมติ รชยั พลชา ผอ.โรงเรียนบ้านเหลา่ ใหญ่ กรรมการ
4. นางวราลักษ์ คำมุงคุณ ศึกษานเิ ทศก์ กรรมการ
5. นางสาวศรสี ุนันท์ พมุ่ ไพจติ ร รอง ผอ. โรงเรียนชุมชนหนองหิน กรรมการและเลขานุการ
6. นางรัศมเี ดอื น บุตรทา้ ว

2.6 อำเภอผาขาว ผอ. โรงเรยี นหวั ฝาย ประธานกรรมการ
1. นายวุฒิชัย ดานะ ผอ. โรงเรยี นบ้านนาลอ้ ม กรรมการ
2. นางสาวสุชาดา แสงตาปัน ผอ. โรงเรยี นบา้ นแสนสขุ กรรมการ
3. นายศริ ิมงคล นวนมา ศกึ ษานิเทศก์ กรรมการ
4. นางสาวทศั นีย์ ฤทธิมนตรี ศึกษานิเทศก์ กรรมการ
5. นางสาวนันทนา พงทะวงษ์ ศกึ ษานเิ ทศก์ กรรมการ
6. นางสาวจฑุ าพร โคตรสเี มือง ผอ. โรงเรียนบา้ นโนนสวา่ งโสกนกไกน่ า กรรมการ
7. นายนิมิตต์ สุติยะวัน ผอ. โรงเรียนบา้ นนาตาดสมสะอาด กรรมการและเลขานกุ าร
8. นางเบญจมาภรณ์ จนั นา

2.7 อำเภอภูหลวง ผอ. โรงเรยี นชมุ ชนบา้ นหนองคนั ประธานกรรมการ
1. นางจงกิต บตุ รเต ผอ. โรงเรียนบา้ นหนองบวั กรรมการ
2. นายโยธนิ ผยุ ขนั ธ์ ผอ. โรงเรยี นบ้านนามลู ตนุ่ กรรมการ
3. นางสาวสุชาดา เคหงั ผอ. โรงเรยี นบ้านเลยวังไสย์ กรรมการ
4. นายธีรนาถ ธมั มนทีธนัฌชานนท์ ศกึ ษานิเทศก์ กรรมการ
5. นางนพรตั น์ นานวน ศกึ ษานเิ ทศก์ กรรมการ
6. นางสาวสาวิตรี หล่มธรรมมา ผอ. โรงเรียนบา้ นห้วยสีเสียด กรรมการและเลขานุการ
7. นายศุภโชค ใครอบุ ล

มหี นา้ ท่ี ดำเนินการนเิ ทศระดับอำเภอ ประสานงานการนเิ ทศ จัดกระทำและวเิ คราะหข์ ้อมลู การนิเทศท้งั
รูปแบบออนไลนแ์ ละออนไซต์ ประเมินและสะท้อนคิดระดับอำเภอและระดับเขตพ้นื ท่ีการศกึ ษา อำนวยความ
สะดวก เสนอแนะ และให้ความชว่ ยเหลือเจา้ หนา้ ท่บี นั ทึกขอ้ มลู การวิจยั และเจา้ หนา้ ท่เี ทคนิคทกุ ระยะ

3. คณะกรรมการฝา่ ยบนั ทกึ ขอ้ มลู ประกอบดว้ ย

3.1 นางสาวจินตนา อุทัยกลาง ครู โรงเรียนบ้านสวนปอ กรรมการอำเภอภูหลวง
3.2 นางมัทน์ชลุ ินทร์ ทิพยส์ วุ รรณ ครู โรงเรียนบ้านวังยาง กรรมการอำเภอภูกระดงึ
3.3 นางสาวมะลวิ รรณ จันทะมา ครู โรงเรยี นเจยี รวนนท์อทุ ิศ 3 กรรมการอำเภอผาขาว
3.4 นายเดชา สอนนวล ครู โรงเรียนบ้านโนนปอแดง กรรมการอำเภอผาขาว
3.5 นางสาวชยาภา ทนั ดา ครู โรงเรียนบ้านขอนแก่นโนนสวรรค์ กรรมการอำเภอวังสะพุง 2
3.6 นางสาววาสนา นามวงษา ครู โรงเรยี นบ้านปากปวน กรรมการอำเภอวังสะพุง 2
3.7 นางสาวรัตนาภรณ์ ทพิ ฤาตรี ครู โรงเรยี นบ้านวังแทน่ กรรมการอำเภอวังสะพงุ 1

70

3.8 นางสาวศภุ รตั น์ จรมิ า ครู โรงเรียนบ้านนาววั โพนงาม กรรมการอำเภอวงั สะพงุ 1
3.9 นางสาวรพริ ตั น์ แกว้ โวหาร เจ้าหน้าท่ธี ุรการ โรงเรยี นบ้านนาอ่างคำ กรรมการอำเภอเอราวณั
3.10 นางสาวนสุ รา สุขิตา เจา้ หนา้ ทธี่ ุรการ โรงเรียนโคกสงา่ กรรมการอำเภอเอราวณั
3.11 นางสาวนวพร นดั ทะยาย ครู โรงเรียนชุมชนหนองหนิ กรรมการอำเภอหนองหนิ
3.12 นายคเชนทร์ สาวิสัย ครู โรงเรยี นบา้ นตาดขา่ กรรมการอำเภอหนองหนิ

มีหน้าที่ บันทึกข้อมูลการวิจัยระยะที่ 1 ข้อมูลการนิเทศการวิจัยระยะที่ 2 และข้อมูลการประเมินและ
สะท้อนผลการวิจัยระยะที่ 3 ทั้งรูปแบบออนไลน์และเอกสาร ตลอดจนช่วยจัดทำข้อมูลผลการวิเคราะห์
รายงานการวจิ ัย เอกสารประชาสัมพันธ์ และเอกสารการวจิ ยั ทุกประเภท

4. คณะกรรมการฝา่ ยเทคนคิ ประกอบดว้ ย

4.1 นายณัฐพล หมั่นขัน ครู โรงเรียนชมุ ชนบา้ นหนองคัน กรรมการอำเภอภหู ลวง
กรรมการอำเภอภกู ระดึง
4.2 นายมาโนชณ์ โนนทิง ครู โรงเรยี นอนบุ าลชุมชนภกู ระดึง กรรมการอำเภอผาขาว
กรรมการอำเภอผาขาว
4.3 นายอลงกรณ์ ภงู ามดาว ครู โรงเรียนบา้ นดงนอ้ ย กรรมการอำเภอวงั สะพุง 2
กรรมการอำเภอวังสะพงุ 1
4.4 นางสาวขวญั ฤดี นาอดุ ม ครู โรงเรยี นบ้านนาตาดสมสะอาด กรรมการอำเภอวังสะพงุ 1
กรรมการอำเภอเอราวณั
4.5 นายยุทธพงศ์ ชั่งสงู ทรง ผอ.โรงเรียนบา้ นขอนยาง กรรมการอำเภอเอราวณั
กรรมการอำเภอหนองหิน
4.6 นายจตุพล ขยันทำ ครู โรงเรียนบ้านนาวัวโพนงาม

4.7 นางสาวสุคนธา ศรีเชยี งสา ครู โรงเรียนบ้านกุดแกศรสี งคราม

4.8 นายวสนั ต์ รุ่นศรี ครู โรงเรยี นบ้านเอราวัณ

4.9 นายนพรัตน์ กรงั สูงเนิน ครู โรงเรยี นบ้านเอราวัณ

4.10 นางสาวมาศสุภา วรรณข์ ามป้อม ครู โรงเรยี นบา้ นไร่ศรีอบุ ล

มหี นา้ ท่ี เตรียมวัสดุ อุปกรณ์ ระบบเสียง จดั เก็บภาพ ในการนิเทศตามรปู แบบทีค่ ณะกรรมการระดบั อำเภอ
กำหนด สร้างห้องประชุมเพื่อดำเนินการนิเทศออนไลน์ ส่งลิ้งค์ อำนวยความสะดวกแก่ผู้เข้าร่วมกระบวนการ
นิเทศ ตลอดจนแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างการนิเทศ และช่วยเหลือคณะกรรมการบันทึกข้อมูลหากมีการ
บนั ทกึ ผา่ นระบบออนไลน์ รวมถึงใหค้ วามช่วยเหลือด้านเทคนคิ แกค่ ณะกรรมการนเิ ทศระดบั อำเภอ

ให้คณะกรรมการที่ได้รับแต่งตั้ง ปฏิบัติงานให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการวิจัย บังเกิดผลสำเร็จ
และมปี ระสทิ ธิภาพ ตั้งแตบ่ ดั นี้เป็นต้นไปจนกวา่ จะเสรจ็ สิ้นการวิจยั

สั่ง ณ วนั ที่ 6 เดือน กรกฎาคม พ.ศ. 2565

71

รายนามผู้เช่ยี วชาญตรวจคณุ ภาพเครื่องมอื วจิ ัย

1) ดร.พิทยา แสงสวา่ ง อาจารยป์ ระจำภาควิชาบริหารการศกึ ษา

คณะศกึ ษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั นเรศวร

2) ดร.ภมู ิ พระรกั ษา รองผอู้ ำนวยการสำนกั งานเขตพื้นทก่ี ารศึกษา

ประถมศกึ ษาสมุทรปราการ เขต 1

3) ดร.อุทัย ปลีกลำ่ รองผู้อำนวยการสำนกั งานเขตพื้นที่การศกึ ษา

ประถมศกึ ษาอุตรดติ ถ์ เขต 2

4) นางสาววิภา พงษพ์ จิ ิตร ข้าราชการบำนาญ ศกึ ษานเิ ทศกเ์ ชีย่ วชาญ

สำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน

5) ดร.นันทนา สาระกิจจานนท์ ศกึ ษานเิ ทศก์ สำนักงานเขตพ้นื ท่ีการศกึ ษา

ประถมศกึ ษาเลย เขต 2

ชุดเคร่อื งมอื เกบ็
การวิจัยออกแบบนวตั กรรมฟืน้ ฟภู าวะถดถอยทางก

ของนักเรียนสำนกั งานเขตพืน้ ท่ีก

ฉบับท่ี 1 แบบบนั ทกึ การวนิ จิ ฉยั ภาวการณถ์ ดถ

โรงเรียน ......................................................................................... ชน้ั ...............

ที่ ชอ่ื -สกุล การจดั กล่มุ การเรียนรู้ ความเครยี

1 กล่มุ ท่ี 1 กลมุ่ ท่ี 2 กลมุ่ ที่ 3 มีปญั หา เฝ
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12

รวม (คน)

72

บรวบรวมข้อมลู
การเรยี นร้เู พอ่ื ปอ้ งกนั การตกหล่นและออกกลางคนั
การศึกษาประถมศกึ ษาเลย เขต 2

ถอยทางการเรียนรขู้ องนักเรียน (รายชัน้ เรียน)

... ผู้รบั ผดิ ชอบ ....................................................................................................

ยดและสุขภาพจิต ปญั หา/ขอ้ จำกัด ความตอ้ งการจำเป็น
ฝา้ ระวงั ไม่มีปญั หา

ฉบับที่ 2 แบบบนั ทกึ การวินิจฉัยภาวการณถ์ ดถ

โรงเรยี น .......................................................................... ผูบ้ รหิ ารสถานศึกษา ....

ท่ี ระดบั ชั้น การจดั กลุ่มการเรยี นรู้ ความเครยี

1 อนบุ าลปีท่ี 1 กลุ่มที่ 1 กลุม่ ท่ี 2 กลุม่ ที่ 3 มีปญั หา เฝ
2 อนุบาลปที ่ี 2
3 อนุบาลปที ่ี 3
4 ประถมศกึ ษาปีท่ี 1
5 ประถมศกึ ษาปีที่ 2
6 ประถมศึกษาปีที่ 3
7 ประถมศึกษาปีท่ี 4
8 ประถมศึกษาปีที่ 5
9 ประถมศึกษาปที ่ี 6
10 มัธยมศึกษาปที ี่ 1
11 มัธยมศึกษาปที ี่ 2
12 มัธยมศึกษาปที ่ี 3

รวม (คน)

73

ถอยทางการเรยี นร้ขู องนกั เรียน (รายโรงเรยี น)

....................................................................................... โทร. ..............................

ยดและสขุ ภาพจิต ปญั หา/ขอ้ จำกดั ความตอ้ งการจำเปน็
ฝา้ ระวัง ไมม่ ปี ญั หา

74

ฉบับท่ี 3 แบบประเมนิ ความเครยี ด (ST-5)

คำชีแ้ จง : ให้ประเมนิ อาการของตนเองในรอบ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา (รวมท้งั วันน)้ี โดยให้คะแนน 0 – 3 ทตี่ รงกบั
ความรสู้ กึ ของทา่ น

อาการหรอื ความรู้สกึ ที่เกดิ ขน้ึ ในระยะ 2 สปั ดาห์ทีผ่ ่านมา (0) (1) (2) (3)
แทบไมม่ ี เปน็ บางครงั้ บ่อยครง้ั เปน็ ประจำ
1. มปี ญั หาการนอน นอนไม่หลับ หรอื นอนมาก
2. มสี มาธิน้อยลง
3. หงดุ หงดิ กระวนกระวาย วา้ วนุ่ ใจ
4. ร้สู ึกเบ่ือหน่าย เซ็ง
5. ไมอ่ ยากพบปะผคู้ น

รวมคะแนน

การแปลผล
คะแนน 1 - 4 เครยี ดเล็กนอ้ ย
คะแนน 5 - 7 เครยี ดปานกลาง
คะแนน 8 – 9 เครยี ดมาก
คะแนน 10 - 15 เครยี ดมากทีส่ ดุ

75

ฉบับท่ี 4 แบบคดั กรองความกงั วลตอ่ โควดิ -19

คำชีแ้ จง : ในระยะเวลา 2 สปั ดาหท์ ผี่ า่ นมาท่านมคี วามคดิ และพฤติกรรมเหลา่ น้ีอยา่ งไรบ้าง ขอให้เลือกตอบ ในตวั เลือก
ทตี่ รงกับตวั ทา่ นมากทส่ี ดุ

อาการหรอื ความรสู้ กึ ที่เกดิ ขึน้ ในระยะ 2 สปั ดาหท์ ี่ผ่านมา (0) (1) (2) (3)
ไมม่ เี ลย
1. รู้สึกกงั วล ไมส่ บายใจกบั การทตี่ ้องออกไปนอกบา้ น มบี างวัน มีมากกว่า 7 วัน มแี ทบทุกวนั
2. รู้สกึ กงั วลกบั การเตรียมตวั เพอื่ ป้องกนั การตดิ เชอื้ ไวรสั โคโรนา
2019 (COVID-19) เช่น กกั ตุนอาหาร, หนา้ กาก เป็นตน้
3. นอนไม่หลับ / หรือมปี ญั หาการนอน เพราะคดิ เกี่ยวกับ เช้ือ
ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
4. คดิ ว่า เช้ือไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19) สง่ ผลตอ่ การ
ดำเนนิ ชวี ิตประจำวนั ของท่าน
5. คดิ ว่าทา่ นมโี อกาสตดิ เชอ้ื ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19)
มากเพียงใด

รวมคะแนน

การแปลผล มีความกังวลในระดับตำ่
คะแนน 5 - 6 มคี วามกังวลในระดับปานกลาง
คะแนน 7 - 11 มีความกังวลในระดับสูง
คะแนน 12 ข้ึนไป

76

ฉบับท่ี 5 แบบประเมนิ ภาวะซมึ เศรา้ ในวยั ร่นุ (ใช้กบั นกั เรียนมัธยมศกึ ษา)
คำช้ีแจง : ในช่วง 2 สปั ดาหท์ ี่ผ่านมา นกั เรยี นมอี าการตอ่ ไปน้บี อ่ ยแค่ไหน โปรดเลือกคำตอบท่ีตรงกบั ความรูส้ กึ ของ
นักเรยี นมากที่สุด

อาการหรอื ความรูส้ กึ ท่เี กดิ ข้ึนในระยะ 2 สปั ดาห์ทผี่ ่านมา (0) (1) (2) (3)
ไมม่ เี ลย
1. รู้สกึ ซึม เศรา้ หงุดหงดิ หรอื สิ้นหวัง มีบางวัน มมี ากกว่า 7 วัน มแี ทบทุกวัน
2. เบอื่ ไม่คอ่ ยสนใจหรอื ไมเ่ พลดิ เพลนิ เวลาทำสิง่ ตา่ งๆ
3. นอนหลับยาก รูส้ กึ งว่ งทัง้ วนั หรือนอนมากเกนิ ไป
4. ไมอ่ ยากอาหาร นำ้ หนกั ลด หรือทานมากกว่าปกติ
5. รสู้ ึกเหน่อื ยลา้ หรอื ไมค่ ่อยมพี ลัง
6. รู้สกึ แย่กบั ตวั เอง หรอื รูส้ ึกวา่ ตัวเองลม้ เหลว หรือทำใหต้ วั เอง
หรอื ครอบครัวผดิ หวงั
7. จดจ่อกบั สิ่งต่างๆ ได้ยาก เช่น ทำการบ้าน อา่ นหนังสอื หรือดู
โทรทศั น์
8. พดู หรือทำอะไรชา้ ลงมากจนคนอื่นสังเกตเห็นได้ หรอื ในทาง
ตรงกนั ขา้ มคือ กระสบั กระสา่ ยหรือกระวนกระวาย จนต้อง
เคลอื่ นไหวไปมามากกวา่ ปกติ
9. คดิ วา่ ถา้ ตายไปเสยี จะดกี วา่ หรอื คดิ จะทำรา้ ยตัวเอง ดว้ ยวิธใี ด
วธิ ีหนงึ่

รวมคะแนน

** ใน 1 เดอื นทีผ่ ่านมา มีช่วงทค่ี ณุ มีความคดิ อยากตาย หรือไม่อยากมีชวี ติ อยอู่ ย่างจรงิ จงั หรอื ไม่
ใช่ ไมใ่ ช่

**ตลอดชีวติ ทผี่ า่ นมา คณุ เคยพยายามทจี่ ะทำใหต้ วั เองตาย หรือลงมอื ฆา่ ตวั ตายหรือไม่
ใช่ ไมใ่ ช่

การแปลผล คะแนน 0 - 4 ไมม่ ีภาวะซึมเศรา้
คะแนน 5 - 9 มีภาวะซึมเศรา้ เล็กน้อย
คะแนน 10 – 14 มีภาวะซึมเศรา้ ปานกลาง
คะแนน 15 - 19 มีภาวะซึมเศรา้ มาก
คะแนน 20 – 27 มภี าวะซมึ เศรา้ รนุ แรง

หมายเหตุ : หากพบความเส่ียงต่อการคดิ ฆ่าตวั ตาย จากข้อ 9 หรอื 2 ข้อคำถามเพิ่ม ควรไดร้ บั การประเมนิ ความเสี่ยง
การฆา่ ตวั ตายและเฝา้ ระวงั การฆ่าตวั ตาย แมค้ ะแนนรวมจะไม่ถงึ เกณฑก์ ต็ าม

77

ฉบับที่ 6 แบบบนั ทกึ การออกแบบและพฒั นานวตั กรรมฟืน้ ฟูภาวะถดถอยทางการเรยี นรู้

คำชี้แจง ผู้บรหิ ารสถานศึกษาจัดกิจกรรม PLC กับคณะครูในโรงเรยี นเพอ่ื ออกแบบนวตั กรรมฟ้ืนฟูภาวะถดถอยทางการ
เรียนรู้ของนักเรียนโดยเรม่ิ จากการวเิ คราะหแ์ ละออกแบบนวัตกรรมระดับช้ันเรยี น แล้วจึงออกแบบนวัตกรรมระดบั
โรงเรียน

1. ข้นั เขา้ ใจอารมณค์ วามรสู้ ึก (Empathize) จดั กลุ่มปัญหาและความต้องการ

กลมุ่ นักเรยี น ปัญหา/ข้อจำกดั ความตอ้ งการจำเป็น
กลุ่มที่ 1 จำนวน.............คน
………………………………………………… …………………………………………………
………………………………………………… ………………………………………………… …………………………………………………
………………………………………………… ………………………………………………… …………………………………………………
กลมุ่ ท่ี 2 จำนวน.............คน
………………………………………………… …………………………………………………
………………………………………………… ………………………………………………… …………………………………………………
………………………………………………… ………………………………………………… …………………………………………………
กลุ่มท่ี 3 จำนวน.............คน
………………………………………………… …………………………………………………
………………………………………………… ………………………………………………… …………………………………………………
………………………………………………… ………………………………………………… …………………………………………………

2. ข้นั การกำหนดปญั หา (Define) ต้ังคำถามเพื่อนำไปสู่แนวทางแกป้ ัญหา

คำถามท่ี 1 .................................................................................................................................................................
คำถามท่ี 2 .................................................................................................................................................................
คำถามที่ 3 .................................................................................................................................................................
คำถามที่ 4 .................................................................................................................................................................
คำถามท่ี 5 .................................................................................................................................................................

3. ข้นั สร้างความคดิ (Ideate) ระดมความคิดแก้ปญั หาจากทฤษฎีท่ีเกยี่ วข้อง
3.1 โปรแกรมฟืน้ ฟรู ะยะสั้น
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................

78

3.2. โปรแกรมฟืน้ ฟรู ะยะยาว
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
3.3 การเสรมิ สรา้ งสุขภาพจติ
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
3.4 เครอื ขา่ ย ผูเ้ ก่ยี วข้องอน่ื ๆ
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
3.5 การเสรมิ สรา้ งศกั ยภาพครู
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
3.6 การนเิ ทศ ตดิ ตาม ประเมินผล
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................

4. ขนั้ สร้างต้นแบบ (Prototype) ออกแบบตัวแทรกแซง (สรุปโปรแกรมฟืน้ ฟภู าวะถดถอยทางการเรียนรรู้ ะดับชัน้
เรยี นและระดับโรงเรยี น)

....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................

5. ข้ันการทดสอบ (Test) นำตน้ แบบไปทดลองใช้ (อธบิ ายระยะเวลา ขน้ั ตอนการทดลองใช้ การประเมินความกา้ วหน้า
การนิเทศ การประเมินสรปุ )

....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................

แบบรายงานการออกแบบนวตั กรรมฟนื้ ฟูภาวะถดถ

โรงเรียน ......................................................................................... ชนั้ ................. ผ

ท่ี ชอื่ -สกลุ การจดั กลมุ่ การเรียนรู้ ความเครยี

1 กลุ่มที่ 1 กลุม่ ที่ 2 กล่มุ ท่ี 3 มปี ัญหา เฝ
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12

รวม (คน)

79

รายงาน 1 ครูรายงานผบู้ ริหารสถานศกึ ษา

ถอยทางการเรยี นรขู้ องนักเรียนระดับชนั้ เรียน

ผ้รู บั ผิดชอบ ....................................................................................................

ยดและสขุ ภาพจิต ปัญหา/ข้อจำกดั ความตอ้ งการจำเป็น โปรแกรมฟื้นฟภู าวะ
ฝา้ ระวงั ไม่มีปัญหา ถดถอยทางการเรียนรู้

แบบรายงานการออกแบบนวตั กรรมฟ้นื ฟภู าวะถดถ

โรงเรียน .......................................................................... ผูบ้ ริหารสถานศกึ ษา .........

ที่ ระดับชั้น การจดั กลุม่ การเรียนรู้ (คน) ความเครยี

1 อนบุ าลปีที่ 1 กลุม่ ที่ 1 กลมุ่ ที่ 2 กลมุ่ ที่ 3 มปี ญั หา เฝ
2 อนบุ าลปีท่ี 2
3 อนุบาลปที ่ี 3
4 ประถมศกึ ษาปที ี่ 1
5 ประถมศึกษาปที ี่ 2
6 ประถมศกึ ษาปีท่ี 3
7 ประถมศึกษาปที ่ี 4
8 ประถมศึกษาปที ่ี 5
9 ประถมศกึ ษาปที ี่ 6
10 มธั ยมศึกษาปีที่ 1
11 มธั ยมศึกษาปที ่ี 2
12 มธั ยมศกึ ษาปีที่ 3

รวม (คน)

รายละเอยี ดโปรแกรมฟน้ื ฟูภาวะถดถอยทางการเรียนร้ขู องโรงเรียน
………………………………………………………………………………………………………………………………

80

รายงาน 2 ผบู้ ริหารสถานศึกษารายงานเขต

ถอยทางการเรยี นรขู้ องนกั เรยี นระดับโรงเรียน

.................................................................................. โทร. ..............................

ยดและสุขภาพจติ ปัญหา/ขอ้ จำกดั ความตอ้ งการจำเป็น โปรแกรมฟืน้ ฟภู าวะ
ฝ้าระวัง ไมม่ ปี ัญหา ถดถอยทางการเรียนรู้

……………………………………………………………………………………………………………………

81

ฉบับที่ 7 แบบนเิ ทศ 1 ระยะส้นั

แบบนิเทศตดิ ตามความกา้ วหนา้ การวิจยั ออกแบบนวัตกรรมฟน้ื ฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้เพ่ือปอ้ งกนั

การตกหล่นและออกกลางคันของนกั เรียนสังกัด สพป.เลย 2

โรงเรยี น .................................................. กล่มุ ............................................................. อำเภอ .........................
1. การฟนื้ ฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ระยะส้ัน (ดำเนนิ การก่อนเปิดภาคเรียน)

 ยงั ไมด่ ำเนินการ และจะดำเนนิ การระหวา่ งวนั ที่ .................................................................
 ดำเนนิ การแลว้ ระหว่างวันที่ ...............................................................................................
2. วชิ าที่ดำเนินการฟื้นฟภู าวะถดถอยทางการเรียนรู้ระยะสน้ั
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
3. ระดบั ชัน้ ท่ดี ำเนินการฟื้นฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ระยะส้นั
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
4. จำนวนนักเรียนทไ่ี ด้รับการฟืน้ ฟภู าวะถดถอยทางการเรียนรู้ระยะสนั้ ..................... คน
5. ดำเนินการอย่างไร
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
6. การติดตามเดก็ ตกหล่น (เดก็ ในเขตพน้ื ที่บริการแตไ่ ม่เขา้ เรยี นในระบบการศกึ ษาใด)
6.1 ดำเนินการอย่างไร
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
6.2  พบเด็กตกหลน่ จำนวน ...................... คน  ไม่มีเด็กตกหล่น  ยงั ไม่ดำเนนิ การ
7. การรายงานความกา้ วหนา้ ครงั้ ที่ 1 (แบบรายงาน 2 ผู้บรหิ ารสถานศึกษารายงานเขต)
7.1  ดำเนนิ การแล้วเม่ือวันที่ ................................................................................

โดย  ส่งเป็นเอกสารมายงั เขต  ส่งออนไลน์ตามคิวอาร์โคด้  สง่ ในระบบ AMSS
7.2  ยังไม่ดำเนินการ และจะดำเนินการระหว่างวันที่ .................................................................

ช่องทางรายงานความก้าวหน้าระยะท่ี 1
https://forms.gle/xF32mZiiTxDzULMS7

ลงช่ือ......................................... ผรู้ ายงาน ลงช่อื .........................................ผู้บริหาร
(...............................................................) (...............................................................)

โทร. ....................................... โทร. .......................................

82

แบบนเิ ทศ 2 ระยะยาว (Online)

ฉบบั ท่ี 8
แบบนิเทศตดิ ตามความกา้ วหนา้ การวิจยั ออกแบบนวตั กรรมฟน้ื ฟภู าวะถดถอยทางการเรยี นรูเ้ พ่ือป้องกนั
การตกหล่นและออกกลางคันของนกั เรียนสงั กดั สพป.เลย 2 ระยะยาวผา่ นระบบออนไลน์ (ข้อมูลปกี ารศึกษา 2565)

ตอนท่ี 1 ข้อมลู พ้ืนฐานของโรงเรียน

โรงเรยี น .................................................. กลุ่ม ............................................................. อำเภอ .........................

การจัดกลุ่มการ ความเครียดและ

ท่ี ระดบั ช้ัน เรียนรู้ (คน) สขุ ภาพจิต (คน) ปัญหา/ขอ้ จำกดั ความตอ้ งการจำเปน็

กล่มุ กลมุ่ กลุม่ มี เฝ้า ไม่มี

ท่ี 1 ท่ี 2 ท่ี 3 ปัญหา ระวัง ปัญหา

1 อนบุ าลปีท่ี 1 ระบุเป็นภาพรวมของ ระบุเปน็ ภาพรวมของโรงเรยี น

2 อนบุ าลปที ่ี 2 โรงเรียน

3 อนบุ าลปีท่ี 3

4 ประถมศึกษาปีที่ 1

5 ประถมศกึ ษาปีท่ี 2

6 ประถมศึกษาปีที่ 3

7 ประถมศกึ ษาปที ่ี 4

8 ประถมศกึ ษาปที ่ี 5

9 ประถมศึกษาปีท่ี 6

10 มัธยมศึกษาปที ่ี 1

11 มัธยมศกึ ษาปีท่ี 2

12 มธั ยมศกึ ษาปีที่ 3

รวม (คน)

รายละเอียดโปรแกรมฟนื้ ฟภู าวะถดถอยทางการเรียนรูฯ้ ระยะยาวของโรงเรียน
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

83

สรุปต้นแบบนวัตกรรมฟื้นฟูภาวะถดถอยทางการเรยี นรฯู้ ของโรงเรยี น
คำช้ีแจง

องค์ประกอบของนวตั กรรมครอบคลุมเนือ้ หา 6 องค์ประกอบ (โรงเรียนสามารถเพ่ิมเติมองค์ประกอบได)้
พรอ้ มวาดโมเดลประกอบ ดงั นี้

1. โปรแกรมฟน้ื ฟรู ะยะสนั้
2. โปรแกรมฟ้นื ฟูระยะยาว
3. การเสรมิ สรา้ งสุขภาพจติ
4. การค้นหาเด็กตกหลน่
5. เครอื ขา่ ย ผ้เู กีย่ วขอ้ งอน่ื ๆ
6. การเสริมสรา้ งศกั ยภาพครู
7. การนเิ ทศ ตดิ ตาม ประเมินผล

ภาพโมเดล

84

ตอนที่ 2 การดำเนินงานฟ้ืนฟูภาวะถดถอยทางการเรยี นรู้ฯ ระยะยาว

1. ช่วงเวลาดำเนินการฟื้นฟภู าวะถดถอยทางการเรียนรู้ฯ ระยะยาว (เลือกไดม้ ากกว่า 1 ข้อ)

 1) พกั เทีย่ ง  2) หลังเลิกเรียน  3) จัดชัว่ โมงซ่อมเสรมิ

 4) ใชช้ ่ัวโมงกจิ กรรมฯ  5) บริหารจัดการในชว่ั โมงเรยี นปกติ  6) กจิ กรรมพิเศษวนั หยดุ

 7) ปรบั กจิ กรรมการเรียนรู้และตารางเรียนแบบบรู ณาการทง้ั ระบบ

 8) อื่นๆ โปรดระบุ ...................................................................................................................................................

2. วิชา ทักษะ คุณลกั ษณะหรือพฤตกิ รรมนกั เรียนทด่ี ำเนนิ การฟน้ื ฟภู าวะถดถอยทางการเรียนรู้ฯ ระยะยาว

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

3. ระดับช้ันทีด่ ำเนินการฟื้นฟภู าวะถดถอยทางการเรียนรู้ฯ ระยะยาว

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

4. จำนวนนักเรียนที่ได้รบั การฟืน้ ฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ฯ ระยะยาว ..................... คน

5. จำนวนเดก็ ตกหล่น ..................... คน

6. จำนวนเด็กออกกลางคัน ..................... คน

7. ดำเนินการอย่างไร

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

8. นวัตกรรมฟ้ืนฟูภาวะถดถอยทางการเรยี นรู้ฯ ระดบั ช้ันเรียนที่เปน็ แบบอย่างได้

ระดับชั้น วิชา ทกั ษะ คุณลักษณะหรือพฤติกรรม ชื่อเจ้าของนวตั กรรม ชือ่ โปรแกรมฟน้ื ฟูฯ
นักเรียนท่ดี ำเนินการฟื้นฟูฯ

1. ปฐมวัย

2. ป.1-3

3. ป. 4-6

4. ม.1-3

5. คละช้ัน

85

9. ประเมนิ การดำเนนิ งานฟนื้ ฟภู าวะถดถอยทางการเรียนรู้ฯ ของโรงเรยี น

ดเี ย่ยี ม (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรงุ (1)

 วิเคราะห์จัดกลุม่ นกั เรียน  วิเคราะหจ์ ัดกลุ่มนักเรียน  วเิ คราะหจ์ ดั กล่มุ นักเรยี น  วิเคราะหจ์ ดั กลมุ่ นักเรยี น

 ผูบ้ รหิ ารประชุมคณะครเู พ่อื  ผู้บรหิ ารประชมุ คณะครูเพือ่  ผูบ้ ริหารประชุมคณะครูเพอ่ื  ผูบ้ ริหารประชมุ คณะครเู พ่ือ

ออกแบบโปรแกรมฟ้ืนฟูฯของ ออกแบบโปรแกรมฟนื้ ฟฯู ของ ออกแบบโปรแกรมฟ้ืนฟฯู ของ ออกแบบโปรแกรมฟื้นฟูฯ ของ

โรงเรียน โรงเรียน โรงเรียน โรงเรียน

 ดำเนินการฟน้ื ฟูระยะส้ัน  ดำเนนิ การฟืน้ ฟูระยะส้ัน  ดำเนนิ การฟนื้ ฟรู ะยะสั้น  ดำเนินการฟื้นฟูระยะสนั้

 มีต้นแบบนวตั กรรมฟน้ื ฟภู าวะ  มตี น้ แบบนวัตกรรมฟน้ื ฟภู าวะ  มตี ้นแบบนวัตกรรมฟ้ืนฟภู าวะ  มีการดำเนินงานฟื้นฟรู ะยะ

ถดถอยฯ ทีส่ ร้างสรรค์ ถดถอยฯ ที่สร้างสรรค์ ถดถอยฯ ที่สร้างสรรค์ ยาวตามนโยบาย

 ถอดตน้ แบบเป็นภาพโมเดลได้  ถอดตน้ แบบเป็นภาพโมเดลได้  ถอดต้นแบบเปน็ ภาพโมเดลได้ * หรอื ปฏิบัติไดน้ ้อยกว่า 4

 ดำเนินการระยะยาวอย่างมี  ดำเนินการระยะยาวอย่างมี  มีการดำเนินงานฟนื้ ฟูระยะ รายการ

ประสิทธิภาพ ประสิทธภิ าพ ยาวตามนโยบาย

 นกั เรียนไดร้ บั การฟ้ืนฟูตามท่ี  นักเรียนไดร้ บั การฟน้ื ฟตู ามที่

โรงเรียนต้งั เป้าหมาย โรงเรียนต้ังเปา้ หมาย

 วธิ ดี ำเนินการเป็นแบบอยา่ งท่ี

ดีใหก้ บั โรงเรียนอืน่ ได้

สรปุ ระดบั คุณภาพของโรงเรียน  ดีเย่ยี ม (4)  ดี (3) พอใช้ (2)  ปรบั ปรงุ (1)

10. ขอ้ สรปุ ของคณะกรรมการนิเทศ
 เตรยี มรบั การนิเทศแบบ On site
 เตรยี มรว่ มการประเมนิ และสะทอ้ นคิดในเดอื นกนั ยายน 2565

ลงช่อื ......................................... ผูน้ เิ ทศ ลงช่อื .........................................ผูบ้ รหิ าร
(...............................................................) (...............................................................)

โทร. ....................................... โทร. .......................................
วนั ที.่ .........เดอื น ............. พ.ศ. ......... วนั ที.่ .........เดือน ............. พ.ศ. .........

86

แบบนเิ ทศ 3 ระยะยาว (Onsite)

ฉบับที่ 9
แบบนิเทศติดตามความกา้ วหน้าการวิจัยออกแบบนวตั กรรมฟ้ืนฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้เพ่ือป้องกนั
การตกหลน่ และออกกลางคันของนกั เรียนสังกัด สพป.เลย 2 ระยะยาวแบบ Onsite (ขอ้ มูลปีการศกึ ษา 2565)

ตอนที่ 1 ขอ้ มูลพ้ืนฐานของโรงเรียน

โรงเรยี น .................................................. กลุ่ม ............................................................. อำเภอ .........................

1. นวตั กรรมฟืน้ ฟภู าวะถดถอยทางการเรียนรู้ฯ ระดับชน้ั เรยี นทีเ่ ป็นแบบอย่างได้

ระดับช้ัน วชิ า ทกั ษะ คณุ ลกั ษณะหรอื พฤติกรรม ช่ือเจา้ ของนวตั กรรม ชอ่ื โปรแกรมฟ้ืนฟูฯ
นกั เรยี นทด่ี ำเนนิ การฟน้ื ฟูฯ

1. ปฐมวัย

2. ป.1-3

3. ป. 4-6

4. ม.1-3

5. คละช้ัน

ตอนที่ 2 การดำเนินงานฟ้ืนฟูภาวะถดถอยทางการเรยี นรู้ฯ ระยะยาว

ระดับปฐมวัย

1. ช่วงเวลาดำเนินการฟนื้ ฟูภาวะถดถอยทางการเรยี นรู้ระยะยาว (เลือกได้มากกว่า 1 ขอ้ )

 1) พักเทย่ี ง  2) หลังเลกิ เรยี น  3) จดั ชวั่ โมงซอ่ มเสรมิ

 4) ใชช้ ่ัวโมงกจิ กรรมฯ  5) บรหิ ารจัดการในชั่วโมงเรยี นปกติ  6) กิจกรรมพิเศษวนั หยุด

 7) ปรับกจิ กรรมการเรยี นรู้และตารางเรียนแบบบรู ณาการทัง้ ระบบ

 8) อ่ืนๆ โปรด

ระบุ ...................................................................................................................................................

2. ระดับช้ันท่ีดำเนินการฟ้ืนฟภู าวะถดถอยทางการเรียนรู้ระยะยาว

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

3. จำนวนนักเรียนท่ไี ดร้ ับการฟน้ื ฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ระยะยาว ..................... คน

4. ดำเนินการอย่างไร

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

5. ผลทเ่ี กิดกับนักเรียน (แยกอธิบายรายกลุ่ม)

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

87

ระดับ ป.1-3

1. ชว่ งเวลาดำเนนิ การฟ้ืนฟภู าวะถดถอยทางการเรยี นรู้ระยะยาว (เลอื กได้มากกวา่ 1 ข้อ)

 1) พักเทีย่ ง  2) หลังเลกิ เรยี น  3) จดั ช่วั โมงซอ่ มเสริม

 4) ใช้ช่ัวโมงกิจกรรมฯ  5) บริหารจดั การในช่วั โมงเรียนปกติ  6) กิจกรรมพิเศษวันหยุด

 7) ปรับกจิ กรรมการเรียนรู้และตารางเรียนแบบบูรณาการทัง้ ระบบ

 8) อน่ื ๆ โปรด

ระบุ ...................................................................................................................................................

2. ระดบั ชัน้ ท่ดี ำเนนิ การฟ้ืนฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ระยะยาว

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

3. จำนวนนกั เรียนทไ่ี ดร้ บั การฟ้ืนฟภู าวะถดถอยทางการเรียนรู้ระยะยาว ..................... คน

4. ดำเนินการอย่างไร

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

5. ผลทเี่ กิดกบั นักเรียน (แยกอธิบายรายกล่มุ )

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ระดับ ป.4-6

1. ชว่ งเวลาดำเนินการฟ้นื ฟภู าวะถดถอยทางการเรียนรู้ระยะยาว (เลอื กได้มากกวา่ 1 ข้อ)

 1) พกั เท่ียง  2) หลังเลิกเรยี น  3) จัดชั่วโมงซ่อมเสริม

 4) ใช้ช่ัวโมงกจิ กรรมฯ  5) บรหิ ารจัดการในชั่วโมงเรียนปกติ  6) กจิ กรรมพิเศษวนั หยุด

 7) ปรบั กิจกรรมการเรียนรแู้ ละตารางเรียนแบบบูรณาการทั้งระบบ

 8) อน่ื ๆ โปรด

ระบุ ...................................................................................................................................................

2. ระดับชน้ั ท่ีดำเนินการฟื้นฟภู าวะถดถอยทางการเรียนรู้ระยะยาว

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

3. จำนวนนักเรียนที่ไดร้ ับการฟ้นื ฟภู าวะถดถอยทางการเรียนรู้ระยะยาว ..................... คน

4. ดำเนนิ การอย่างไร

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

88

5. ผลทเ่ี กิดกับนักเรียน (แยกอธบิ ายรายกลุ่ม)

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

ระดบั ม.1-3

1. ช่วงเวลาดำเนินการฟ้นื ฟภู าวะถดถอยทางการเรยี นรู้ระยะยาว (เลือกไดม้ ากกว่า 1 ขอ้ )

 1) พักเท่ยี ง  2) หลงั เลิกเรียน  3) จัดชว่ั โมงซ่อมเสรมิ

 4) ใชช้ ั่วโมงกจิ กรรมฯ  5) บริหารจดั การในชว่ั โมงเรยี นปกติ  6) กิจกรรมพเิ ศษวันหยุด

 7) ปรบั กจิ กรรมการเรยี นรู้และตารางเรียนแบบบูรณาการท้ังระบบ

 8) อ่ืนๆ โปรด

ระบุ ...................................................................................................................................................

2. ระดับชัน้ ทดี่ ำเนนิ การฟื้นฟภู าวะถดถอยทางการเรียนรู้ระยะยาว

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

3. จำนวนนักเรียนทไ่ี ดร้ บั การฟื้นฟภู าวะถดถอยทางการเรียนรู้ระยะยาว ..................... คน

4. ดำเนนิ การอย่างไร

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

5. ผลที่เกิดกับนกั เรยี น (แยกอธิบายรายกลมุ่ )

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

คละช้ัน

1. ชว่ งเวลาดำเนินการฟื้นฟภู าวะถดถอยทางการเรียนรู้ระยะยาว (เลือกได้มากกว่า 1 ข้อ)

 1) พักเทีย่ ง  2) หลงั เลิกเรยี น  3) จดั ชว่ั โมงซอ่ มเสริม

 4) ใช้ช่ัวโมงกิจกรรมฯ  5) บริหารจัดการในช่ัวโมงเรยี นปกติ  6) กจิ กรรมพเิ ศษวันหยุด

 7) ปรบั กจิ กรรมการเรยี นรแู้ ละตารางเรียนแบบบูรณาการทั้งระบบ

 8) อ่นื ๆ โปรด

ระบุ ...................................................................................................................................................

2. ระดับช้ันทด่ี ำเนนิ การฟ้ืนฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ระยะยาว

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

3. จำนวนนกั เรียนทไ่ี ดร้ ับการฟ้ืนฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ระยะยาว ..................... คน

89

4. ดำเนนิ การอย่างไร
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
5. ผลท่เี กดิ กบั นักเรยี น (แยกอธบิ ายรายกลุ่ม)
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
นวตั กรรมฟน้ื ฟูระดบั โรงเรียนฯ

ดำเนนิ การปรบั ปรงุ จากข้อเสนอแนะของกรรมการนิเทศและการทบทวนปฏบิ ัติในโรงเรียน จึงไดน้ วัตกรรม
ดังนี้
1. รายละเอยี ดนวตั กรรม
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
2. ภาพโมเดล

ลงชือ่ ......................................... ผูน้ เิ ทศ ลงช่ือ.........................................ผู้บรหิ าร
(...............................................................) (...............................................................)

โทร. ....................................... โทร. .......................................
วันที.่ .........เดอื น ............. พ.ศ. ......... วนั ท.่ี .........เดอื น ............. พ.ศ. .........

90

แบบ 3 ประเมิน & สะท้อนคดิ

ฉบบั ที่ 10
แบบประเมนิ และสะทอ้ นคดิ การวจิ ยั ออกแบบนวตั กรรมฟ้นื ฟูภาวะถดถอยทางการเรียนร้เู พือ่ ปอ้ งกนั

การตกหล่นและออกกลางคนั ของนักเรยี นสังกัด สพป.เลย 2

ตอนที่ 1 ขอ้ มลู พน้ื ฐานของโรงเรียน

1. โรงเรยี น .................................................. กลมุ่ ............................................................. อำเภอ .........................

2. ประเมินการดำเนนิ งานฟ้ืนฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ของโรงเรยี น

ดีเย่ยี ม (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1)

 วิเคราะหจ์ ดั กลุ่มนักเรียน  วิเคราะห์จดั กลุ่มนกั เรียน  วิเคราะห์จัดกลุ่มนักเรียน  วเิ คราะห์จัดกลุ่มนกั เรยี น

 ผบู้ ริหารประชมุ คณะครูเพ่อื  ผู้บริหารประชุมคณะครูเพื่อ  ผู้บริหารประชมุ คณะครูเพ่ือ  ผู้บริหารประชุมคณะครูเพอื่

ออกแบบโปรแกรมฟนื้ ฟูฯของ ออกแบบโปรแกรมฟ้นื ฟูฯของ ออกแบบโปรแกรมฟื้นฟฯู ของ ออกแบบโปรแกรมฟนื้ ฟูฯ ของ

โรงเรียน โรงเรียน โรงเรียน โรงเรยี น

 ดำเนินการฟ้นื ฟรู ะยะส้นั  ดำเนนิ การฟ้ืนฟูระยะสั้น  ดำเนนิ การฟน้ื ฟรู ะยะส้นั  ดำเนินการฟ้นื ฟูระยะสัน้

 มีต้นแบบนวตั กรรมฟื้นฟภู าวะ  มีต้นแบบนวัตกรรมฟืน้ ฟภู าวะ  มีต้นแบบนวัตกรรมฟนื้ ฟภู าวะ  มกี ารดำเนนิ งานฟ้ืนฟูระยะ

ถดถอยฯ ทสี่ ร้างสรรค์ ถดถอยฯ ท่สี ร้างสรรค์ ถดถอยฯ ท่ีสร้างสรรค์ ยาวตามนโยบาย

 ถอดตน้ แบบเปน็ ภาพโมเดลได้  ถอดตน้ แบบเปน็ ภาพโมเดลได้  ถอดต้นแบบเป็นภาพโมเดลได้ * หรือปฏิบตั ิไดน้ ้อยกว่า 4

 ดำเนินการระยะยาวอยา่ งมี  ดำเนนิ การระยะยาวอยา่ งมี  มกี ารดำเนนิ งานฟ้นื ฟูระยะ รายการ

ประสทิ ธิภาพ ประสทิ ธิภาพ ยาวตามนโยบาย

 นักเรียนไดร้ ับการฟ้นื ฟตู ามที่  นกั เรียนได้รับการฟน้ื ฟูตามท่ี

โรงเรียนต้งั เป้าหมาย โรงเรยี นตง้ั เปา้ หมาย

 วิธดี ำเนินการเปน็ แบบอยา่ งท่ี

ดใี หก้ ับโรงเรียนอน่ื ได้

สรุประดับคณุ ภาพของโรงเรยี น  ดีเยีย่ ม (4)  ดี (3)  พอใช้ (2)  ปรับปรงุ (1)

3. สะทอ้ นผลการดำเนินงาน

3.1 โรงเรยี นพอใจกับการดำเนินงานฟ้ืนฟูภาวะถดถอยทางการเรยี นรูข้ องนกั เรยี น  ใช่  ไม่ใช่

3.2 นักเรยี นได้รับการฟื้นฟูใหม้ คี วามพรอ้ มในการเรียนอย่างแทจ้ รงิ  ใช่  ไมใ่ ช่

3.3 ผู้ปกครองและชมุ ชนพอใจกบั การดำเนนิ งานฟื้นฟูฯ ของโรงเรยี น  ใช่  ไม่ใช่

3.4 โรงเรยี นม่นั ใจในการจัดการเรียนร้เู พอ่ื พัฒนาคุณภาพนกั เรยี นหลงั การฟื้นฟู  ใช่  ไมใ่ ช่

3.5 ผลทีเ่ กดิ กับนักเรยี น (แยกอธบิ ายรายกล่มุ )

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

3.6 ส่ิงท่โี รงเรยี นปฏบิ ตั ไิ ด้ดแี ละภาคภมู ใิ จ

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..


Click to View FlipBook Version