The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รวมเล่มโอเน็ต65

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by สพป.เลย 2, 2023-05-01 00:04:56

รวมเล่มโอเน็ต65

รวมเล่มโอเน็ต65

รายงานผล การทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (Ordinary National Education Test : O-NET) ปีการศึกษา 2565 กลุ่มนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการจัดการศึกษา ส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 2 ส านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สพป.เลย 2 เอกสารหมายเลข 4/2566


ก คำนำ การทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (Ordinary National Education Test : O-NET) ซึ่งจัดสอบให้กับนักเรียนที่กำลังศึกษาในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยศูนย์สอบ แต่ละแห่งต้องมีการบริหารการทดสอบ ให้เป็นมาตรฐานเพื่อการประกันคุณภาพว่า ระบบการบริหารการ ทดสอบมีความชัดเจน สามารถปฏิบัติได้จริงมีคุณภาพเป็นที่ยอมรับและเชื่อถือได้ในระดับชาติและระดับ นานาชาติศูนย์สอบสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลยเขต 2ได้ดำเนินการบริหารจัดการสอบ นักเรียน กลุ่มเป้าหมายโรงเรียนในสังกัดตามมาตรฐานการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติรายงานผลการทดสอบทาง การศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ปีการศึกษา 2565 ได้วิเคราะห์ผลการทดสอบในระดับเขตพื้นที่ การศึกษาทั้งในภาพรวม 4 กลุ่มสาระการเรียนรู้ระดับเขตพื้นที่การศึกษา กลุ่มพัฒนาคุณภาพการศึกษาทั้ง 20 กลุ่ม เพื่อได้สารสนเทศที่เป็นประโยชน์ต่อผู้บริหารการศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษา ครูบุคลากรทางการศึกษา และผู้เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษาในอันที่จะนำไปใช้ในการตรวจสอบ ทบทวนพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ขอขอบคุณโรงเรียนที่เป็นสนามสอบ ผู้บริหารสถานศึกษา ครูบุคลากรทางการศึกษาและผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายที่ ให้ความร่วมมือในการดำเนินการจัดการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ปีการศึกษา 2565 ด้วยความโปร่งใส ได้มาตรฐานการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติซึ่งได้สารสนเทศทางการสอบที่สามารถสะท้อน คุณภาพการจัดการเรียนรู้ของสถานศึกษาได้อย่างแท้จริงมีความน่าเชื่อถือและให้สถานศึกษา และหน่วยงานที่ เกี่ยวข้องนำไปใช้วางแผนและกำหนดแนวทางในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาต่อไป ขอขอบคุณคณะครู นักเรียนและผู้บริหารโรงเรียนทุกท่าน ที่ให้ความสำคัญกับการทดสอบทางการศึกษา ระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ในครั้งนี้ ขอขอบคุณคณะศึกษานิเทศก์ และบุคลากรในเขตพื้นที่การศึกษา ทุกท่านที่ได้ให้การสนับสนุนสำหรับการประเมินเพื่อเป็นฐานในการพัฒนาคุณภาพให้เป็นไปตามมาตรฐาน การศึกษาที่วางไว้ กลุ่มนิเทศติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษา


สารบัญ หน้าที่ คำนำ ก บทคัดย่อ ข สารบัญ ง สารบัญตาราง ฉ บทที่ 1 บทนำ 1 1.1 ความเป็นมาและความสำคัญ 1 1.2 วัตถุประสงค์ 2 1.3 กลุ่มเป้าหมาย 2 1.4 ขอบข่ายของการศึกษา 2 1.5 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 3 บทที่ 2 เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 4 2.1 แนวคิดเกี่ยวกับการวัดและประเมินผลทางการศึกษา 4 2.2 แนวคิดการประเมินผลการจัดการเรียนการสอน 8 2.3 แนวคิดเกี่ยวกับการประเมินคุณภาพการศึกษา 10 บทที่ 3 วิธีดำเนินการวิจัย 14 3.1 กลุ่มเป้าหมายของการศึกษา 14 3.2 เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา 14 3.3 การเก็บรวบรวมข้อมูล 14 3.4 การวิเคราะห์ข้อมูลและสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล 15


จ สารบัญ (ต่อ) บทที่ 4 ผลการวิเคราะห์ข้อมูล 16 4.1 ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O – NET) ปีการศึกษา 2565 นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่6 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3ของโรงเรียนในสังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลยเขต 2 16 4.2 ผลการเปรียบเทียบผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ปีการศึกษา 2565ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่6 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 2 17 4.3 ผลการวิเคราะห์ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ประจำปีการศึกษา 2565 ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่6 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 2 โดยจำแนกตามสาระการเรียนรู้ 22 บทที่ 5 สรุปผลการวิจัย อภิปรายผลและข้อเสนอแนะ 30 5.1 สรุปผลการศึกษา 30 5.2 อภิปรายผลการศึกษา 34 5.3 ข้อเสนอแนะ 36 บรรณานุกรม 38 ภาคผนวก 40 ภาคผนวก ก รายงานผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 41 ภาคผนวก ข รายงานผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 46 ภาคผนวก ค ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน ป.6 51 ภาคผนวก ง ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน ม.3 81 คณะกรรมการจัดทำเอกสาร 98


ฉ สารบัญตาราง ตารางที่ หน้า 1 ผลการทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ปีการศึกษา 2565 นักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่6 ของโรงเรียน ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาเลย เขต 2 16 2 ผลการทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ประจำปีการศึกษา 2565 นักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาเลย เขต 2 17 3 ผลการทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ปีการศึกษา 2565 นักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ของโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาเลย เขต 2 (เปรียบเทียบกับระดับสังกัด/ระดับประเทศ) 17 4 ผลการทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ปีการศึกษา 2565 นักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่3 ของโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาเลย เขต 2 (เปรียบเทียบกับระดับสังกัด/ระดับประเทศ) 18 5 ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน ปีการศึกษา 2565 นักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่6 ของโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาเลย เขต 2(เปรียบเทียบกับปีการศึกษา 2564) 20 6 ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน ปีการศึกษา 2565 นักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่3 ของโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาเลย เขต 2 (เปรียบเทียบกับปีการศึกษา 2564) 21 7 ตารางแสดงผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ปีการศึกษา 2565 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โดยจำแนกตาม สาระการเรียนรู้ 22 8 ตารางแสดงผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ปีการศึกษา 2565 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โดยจำแนกตาม สาระการเรียนรู้ 23


ช สารบัญตาราง (ต่อ) ตารางที่ หน้า 9 ตารางแสดงผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ปีการศึกษา 2565 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โดยจำแนกตาม สาระการเรียนรู้ 24 10 ตารางแสดงผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ปีการศึกษา 2565 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) โดยจำแนกตาม สาระการเรียนรู้ 25 11 ตารางแสดงผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ปีการศึกษา 2565 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โดยจำแนกตาม สาระการเรียนรู้ 26 12 ตารางแสดงผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ปีการศึกษา 2565 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โดยจำแนกตาม สาระการเรียนรู้ 27 13 ตารางแสดงผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ปีการศึกษา 2565 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โดยจำแนกตาม สาระการเรียนรู้ 28 14 ตารางแสดงผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ปีการศึกษา 2565 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) โดยจำแนกตาม สาระการเรียนรู้ 29


บทที่ 1 บทนำ 1.1 ความเป็นมาและความสำคัญ พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พุทธศักราช 2542 มาตรา 47 กำหนดให้มีระบบการประกัน คุณภาพการศึกษาเพื่อพัฒนาคุณภาพ และมาตรฐานการศึกษาในทุกระดับและมาตรา 48 ให้หน่วยงานต้น สังกัด และสถานศึกษาจัดให้มีระบบการประกันคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษาและให้ถือว่าเป็นการ ประกันคุณภาพภายใน เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการบริหารการศึกษาที่ต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยมีการจัดทำรายงานประจำปีเสนอต่อหน่วยงานต้นสังกัด หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปสู่การพัฒนา คุณภาพและมาตรฐานการศึกษา และเพื่อรองรับการประกันคุณภาพภายนอก การประเมินคุณภาพการศึกษา ระดับชาติขั้นพื้นฐานจึงเป็นกระบวนการ วิธีการ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่จะเป็นตัวบ่งชี้ถึงผลสำเร็จในการจัดการ ศึกษา ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญส่วนหนึ่งในการประกันคุณภาพภายใน ซึ่งหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้น พื้นฐาน พุทธศักราช 2551 จึงกำหนดแนวทางการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ เพื่อให้ได้ข้อมูลสารสนเทศ ที่แสดงพัฒนาการ ความก้าวหน้าและความสำเร็จทางการเรียนของผู้เรียน ผู้เรียนจะต้องได้รับการพัฒนาและ ประเมินตามตัวชี้วัดเพื่อให้บรรลุมาตรฐานการเรียนรู้ สะท้อนสมรรถนะสำคัญ และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ของผู้เรียน ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักในการประเมินผลการเรียนรู้เป็นกระบวนการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนโดยใช้ผล การประเมินเป็นข้อมูลและสารสนเทศที่แสดงพัฒนาการ ความก้าวหน้าและความสำเร็จทางการเรียนของ ผู้เรียนตลอดจนข้อมูลที่ได้จากการประเมินจะนำไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพของผู้เรียน และคุณภาพการ จัดการศึกษาของสถานศึกษาแต่ละแห่งและเพื่อเป็นข้อมูลสารสนเทศรองรับบริบทของการประเมินภายนอก สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ(องค์การมหาชน) ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่จัดการ ทดสอบความรู้ทางการศึกษาของชาติทุกระดับ สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน) มีเป้าหมายที่จะจัดการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET : Ordinary National Educational Test) ตามความสมัครใจของผู้เรียน ใน 4 กลุ่มสาระการเรียนรู้ของแต่ละช่วงชั้น (ประถมศึกษาปีที่ 6 และมัธยมศึกษาปีที่ 3 ในปีการศึกษา 2565 ได้แก่ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิชา ภาษาไทย คณิตศาสตร์วิทยาศาสตร์และภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) เพื่อเป็นข้อมูลหนึ่งในการ รายงานคุณภาพการศึกษาตามมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน มาตรฐานที่ 1 คุณภาพของผู้เรียน 1.1 ผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการของผู้เรียน และสะท้อนให้เห็นถึงมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน มาตรฐานที่ 3 กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ให้กับสถานศึกษา เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาการศึกษาสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 2 ในฐานะศูนย์สอบ (O–NET: Ordinary National Educational Test) ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และมัธยมศึกษาปีที่ 3 จึงได้จัดทำรายงานผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET :


2 Ordinary National Educational Test) ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา2565 สำหรับเป็นข้อมูลสารสนเทศของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 2 ต่อไป 1.2 วัตถุประสงค์ 1.2.1 เพื่อศึกษาผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ปีการศึกษา 2565 นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3ของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาเลย เขต 2 1.2.2 เพื่อเปรียบเทียบผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ปีการศึกษา 2565ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขต พื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 2 1.2.3 เพื่อวิเคราะห์ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ปีการศึกษา 2565 ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 2 โดยจำแนกตามสาระการเรียนรู้ 1.3 กลุ่มเป้าหมาย นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ประจำปีการศึกษา 2565จำนวน 1,621 คน จำนวน 150 โรงเรียน และนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ประจำปีการศึกษา 2565 จำนวน 566 คน จำนวน 46 โรงเรียน (หมายเหตุ : จำนวนนักเรียนและโรงเรียนที่ทำการทดสอบ คือโรงเรียนที่แจ้งความประสงค์รับการ ทดสอบ) 1.4 ขอบข่ายของการศึกษา การดำเนินการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน ปีการศึกษา 2565ของสำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 2 ในครั้งนี้มีขอบข่ายการศึกษา ดังนี้ 1.4.1 ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน ปีการศึกษา 2565สำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 2 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ประสงค์รับการทดสอบจำนวน 1,621 คน จาก 150 โรงเรียน ในวันที่ 11กุมภาพันธ์2566 จำนวน 4 วิชา ได้แก่ ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) 1.4.2 ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน ปีการศึกษา 2565 ของสำนักงานเขต พื้นที่การศึกษาประถมเลย เขต 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ประสงค์รับการทดสอบจำนวน 566 คน จาก 46 โรงเรียน ในวันที่ 12 กุมภาพันธ์2565 จำนวน 4 วิชา ได้แก่ ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ)


3 1.5 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 1.5.1 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 2 มีข้อมูลผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เพื่อจะได้นำผลการประเมินไปใช้ประกอบ การพิจารณาในการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนและคุณภาพมาตรฐานการศึกษา 1.5.2 เป็นตัวบ่งชี้ในการกำกับ ติดตาม และควบคุมคุณภาพการจัดการศึกษาของสำนักงานเขต พื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 2 เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่องอันเป็นส่วนหนึ่งของการประกัน คุณภาพภายใน 1.5.3 ได้ข้อมูลสารสนเทศย้อนกลับ สำหรับใช้ในกระบวนการตัดสินใจและกำหนดแผนพัฒนา คุณภาพการศึกษาในระดับเขตพื้นที่การศึกษาและระดับสถานศึกษา 1.5.4 ได้ข้อมูลพื้นฐานด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สำหรับเปรียบเทียบความก้าวหน้าของการ จัดการศึกษาของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 2


4 บทที่ 2 เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง รายงานผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ปีการศึกษา 2565 ของ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 2 ในครั้งนี้ ผู้ศึกษาได้ศึกษาค้นคว้าแนวคิด ทฤษฎีจาก เอกสาร งานวิจัยตลอดจน บทความทางการศึกษาเพื่อกำหนดเป็นกรอบการดำเนินงานนำเสนอในประเด็น ต่างๆตามลำดับ ดังนี้ 2.1 แนวคิดเกี่ยวกับการวัดและประเมินผลทางการศึกษา 2.2 แนวคิดการประเมินผลการจัดการเรียนการสอน 2.3 แนวคิดเกี่ยวกับการประเมินคุณภาพการศึกษา 2.1 แนวคิดเกี่ยวกับการวัดและประเมินผลทางการศึกษา 2.1.1 แนวคิดเกี่ยวกับการวัดและประเมินผลทางการศึกษา ความหมายของการวัดและประเมินผลทางการศึกษา การประเมินผลทางการศึกษานั้น ในระยะแรกของวิทยาการประเมินของประเทศไทย ใช้คำว่าประเมินผล ที่มาจากคำว่า Evaluation นอกจากนั้นการประเมินในปัจจุบันมีการใช้คำอื่นๆ เช่น คำว่า Assessment หรือ Appraisal อาจมีความแตกต่างกันซึ่งอย่างไรก็ตามการวัดและประเมินผลทางการศึกษานั้น เป็นกระบวนการที่มีระบบแบบแผนเพื่อที่จะตัดสินใจเกี่ยวกับผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนว่าเป็นไปตาม จุดมุ่งหมายมากน้อยเพียงใด การวัดและประเมินผลจะบอกทั้งปริมาณและคุณภาพร่วมด้วยการตัดสินใจ ทางคุณค่าของพฤติกรรมต่างๆ ใน 2 ความหมาย คือ การลงข้อสรุป ตีราคาพฤติกรรมของนักเรียน ในแง่ ปริมาณโดยใช้การตัดสินใจ และเป็นการตีราคาพฤติกรรมของนักเรียนในแง่คุณภาพโดยการเก็บรวบรวม ข้อมูลหลักฐานด้วยวิธีอื่นๆ ที่ไม่ใช่วัดด้วยเครื่องมือวัดเชิงปริมาณและใช้การตัดสินใจเชิงคุณภาพ ซึ่งที่กล่าวนี้ เรียกว่า Evaluation คือการพิจารณา ตรวจสอบคุณค่าของสิ่งที่ประเมิน (วาสนา ประวาลพฤกษ์, 2544:16) จากข้อเสนอในการประเมินผลการเรียนรู้ตามแนวของการปฏิรูปการศึกษาตามพระราชบัญญัติการศึกษา แห่งชาติพุทธศักราช 2542 จากรายงานการวิจัยของ ศิริชัย กาญจนวาสี (2543:7- 8) กล่าวว่า การวัดและ ประเมินผลการเรียนรู้ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนการสอนที่ครูผู้สอนจะต้องกระทำอย่างต่อเนื่องทั้ง ก่อนเรียน ระหว่างเรียน และหลังเสร็จสิ้นการเรียนการสอน โดยจะต้องครอบคลุมทั้งด้านความรู้ทักษะ ลักษณะนิสัย และคุณธรรม โดยเน้นการพัฒนาผู้เรียนเป็นสำคัญและต้องตอบสนองต่อเป้าหมายการ เรียนรู้ระดับบุคคลสถานศึกษา ชุมชนและประเทศรวมทั้งมีความเป็นสากลระดับนานาชาติซึ่งการประเมิน ลักษณะนี้จะเป็นลักษณะการประเมิน ที่เรียกว่า Assessment แต่สำหรับการประเมินบุคลากร ที่ไม่เกี่ยวกับ การให้การศึกษาและเป็นการประเมินที่เน้นคุณภาพการปฏิบัติงานเป็นสำคัญมีเป้าหมายเพื่อการตรวจสอบ ให้รางวัลหรือปรับปรุงแก้ไขการปฏิบัติงานนั้น เรียกว่า Appraisal


5 ดังนั้นการวัดและประเมินผลคุณภาพผู้เรียนในครั้งนี้จึงเป็นการประเมินในลักษณะ Evaluation ซึ่งเป็นกระบวนการที่ชี้ให้เห็นว่าการจัดการศึกษาได้บรรลุจุดมุ่งหมายที่ระบุไว้ในหลักสูตรและการ สอน หรือไม่ จุดมุ่งหมายทางการศึกษาที่สำคัญคือความต้องการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของมนุษย์ซึ่ง หมายถึง การเปลี่ยนพฤติกรรมของนักเรียนให้เป็นไปในทางพึงปรารถนาการประเมินผลจึงเป็นกระบวนการที่ กำหนดว่ามีการเปลี่ยนพฤติกรรมเกิดขึ้นเพียงใด ซึ่งจุดมุ่งหมายสำคัญของการประเมิน สรุปได้คือเพื่อตัดสินว่า เป้าหมายของการศึกษาที่ได้กำหนดไว้ในรูปของจุดมุ่งหมายเชิงพฤติกรรมนั้นประสบความสำเร็จหรือไม่ ส่วนใดที่ประสบความสำเร็จเก็บไว้ ส่วนใดที่ไม่ประสบความสำเร็จให้ทำการปรับปรุงแก้ไขหรือตัดทิ้งและ นอกจากนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อประเมินความก้าวหน้าทางการศึกษา ในอันที่จะช่วยให้เข้าใจปัญหาและความ ต้องการทางการศึกษาได้และเพื่อใช้ข้อมูลนั้นเป็นแนวทางในการที่จะปรับปรุงนโยบายทางการศึกษาที่คนส่วน ใหญ่เห็นด้วยได้ 2.1.2 หลักของการวัดและประเมินผลทางการศึกษา การที่จะทำให้การวัดและประเมินผลทางการศึกษาเป็นไปอย่างถูกต้องมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับจิตวิทยาการเรียนรู้นั้น ได้มีผู้เสนอแนะไว้หลายประการซึ่งควรแก่การยึดเป็นหลักในการปฏิบัติ ได้แก่ ต้องทำการวัดให้ตรงกับจุดมุ่งหมาย เพราะการวัดและประเมินผลการศึกษาเป็นกระบวนการตรวจสอบ ว่าการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่ได้จัดให้กับผู้เรียนนั้น ผู้เรียนสามารถบรรลุตามจุดมุ่งหมายมาก น้อยเพียงใดดังนั้นการวัดและการประเมินผลแต่ละครั้งจึงต้องมีจุดมุ่งหมายที่แน่นอน ในการวัดและในการ สอนก็ต้องยึดหลักสูตรเป็นหลักในการวิเคราะห์หลักสูตร แล้วจึงตั้งจุดมุ่งหมายและวัดให้ตรงกับจุดมุ่งหมาย หากการวัดแต่ละครั้งไม่ตรงกับจุดมุ่งหมายที่จะวัดผลของการวัดก็จะไม่มีความหมาย แต่ก่อให้เกิดความ ผิดพลาดในการนำผลการวัดไปใช้ความผิดพลาดในการวัดไม่ตรงกับจุดมุ่งหมาย ได้แก่การไม่ศึกษาหรือ นิยามคุณลักษณะที่ต้องการจะวัดให้ชัดเจน บางครั้งผู้วัดไม่เข้าใจสิ่งที่จะวัดให้แจ่มแจ้งชัดเจนเพียงพอ หรือเข้าใจในสิ่งที่วัดผิดทำให้วัดได้ไม่ตรงกับจุดมุ่งหมายที่ผู้วัดต้องการจะวัดข้อมูลที่ได้จากการวัดไม่สามารถ แปลความหมายได้อย่างมั่นใจ ดังนั้นเพื่อให้การวัดตรงกับจุดมุ่งหมายที่จะวัดและเป็นรูปธรรม ผู้วัดควร นิยามหรือให้ความหมายคุณลักษณะที่จะวัดให้ชัดเจนก่อน อีกทั้งใช้เครื่องมือไม่สอดคล้องกับสิ่งที่ต้องการ จะวัด เนื่องจากเครื่องมือที่ใช้ในการวัดมีหลายชนิด เช่น แบบทดสอบ แบบสังเกต แบบสอบถาม เป็นต้น ซึ่งเครื่องมือแต่ละชนิดมีลักษณะและคุณสมบัติกับการวัดคุณลักษณะที่ต่างกันออกไป หากเลือกใช้เครื่องมือ ไม่เหมาะสมกับคุณลักษณะที่ต้องการจะวัด ข้อมูลจากผลการวัดย่อมมีความเชื่อถือได้น้อยอันจะ ก่อให้เกิดความคลาดเคลื่อนในการวัดและประเมินผลตามไปด้วย นอกจากนี้หากวัดได้ไม่ครบถ้วน ในทาง การศึกษาคุณลักษณะหนึ่งๆอาจมีองค์ประกอบหลายอย่างการวัดผลจึงจำเป็นต้องทำให้ครอบคลุมทุกส่วน ของคุณลักษณะนั้นๆ หากวัดเพียงบางส่วนหรือด้านใดด้านหนึ่ง หรือหลายด้านแต่ไม่ครอบคลุมย่อมทำให้ผล การวัดนั้นคลาดเคลื่อนและการประเมินผลก็คลาดเคลื่อนตามไปด้วยดังนั้นเพื่อให้การวัดผลสมบูรณ์มากที่สุด ควรใช้เครื่องมือหลายชนิดช่วยด้วยเพราะไม่มีเครื่องมือชนิดใดที่วัดผลได้ครบถ้วน และหากเลือกกลุ่ม ตัวอย่างที่จะวัดไม่เหมาะสม การวัดเลือกกลุ่มตัวอย่างในที่นี้หมายถึง กลุ่มตัวอย่างของเนื้อหาและพฤติกรรม


6 ที่ต้องการจะวัด หากเลือกตัวอย่างของเนื้อหาและพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เช่น เลือกเอารายละเอียด ปลีกย่อยมากเกินไปแทนที่จะใช้สาระหลักขององค์ประกอบนั้นๆ ผลการวัดที่ได้ย่อมไม่ถูกต้องตามจุด มุ่งหมายที่จะวัดและการแปลความหมายของผลการประเมิน ย่อมขาดความเชื่อถือ และอีกประเด็นที่ทำ ให้การประเมินได้ข้อมูลที่มีคุณค่าคือการใช้เครื่องมือที่มีคุณภาพแม้ว่าเราจะมีจุดประสงค์ในการวัดที่ ชัดเจน เลือกเครื่องมือได้สอดคล้องกับจุดประสงค์แล้วก็ตาม แต่หากเครื่องมือขาดคุณภาพ ผลการวัดก็ขาด คุณภาพตามไปด้วย และเมื่อนำผลการวัดไปประเมินผล ผลการประเมินย่อมมีโอกาสผิดพลาดได้ดังนั้นเพื่อ ให้ผลของการวัดมีความเชื่อถือได้จึงควรเลือกเครื่องมือที่มีคุณภาพ และคำนึงถึงความยุติธรรมความยุติธรรม เป็นคุณธรรมที่สำคัญประการหนึ่งของผู้ที่ทำหน้าที่ประเมินผล เป็นสิ่งที่ครูต้องคำนึงถึงทุกครั้งที่ทำการวัด และประเมินผลการศึกษากล่าวคือจะต้องวัดและประเมินผลด้วยใจเป็นกลางไม่ลำเอียงหรืออคติ ตัดสินตาม หลักวิชา เช่น การตรวจสอบข้อสอบโดยใช้หลักเกณฑ์เดียวกัน จัดกระทำ ให้ผู้ถูกวัดอยู่ภายใต้สถานการณ์ เดียวกันตัดสินการวัดโดยใช้หลักเกณฑ์เดียวกันเป็นต้น หากการดำเนินการขั้นใดขั้นหนึ่งขาดความยุติธรรม แล้วก็ย่อมส่งผลให้การวัดผลและประเมินผลขาดความเชื่อถือตามไปด้วยสำหรับการแปลผลให้ถูกต้องการวัด และประเมินผลการศึกษามีเป้าหมายเพื่อนำผลไปใช้อธิบายหรือเปรียบเทียบกันในคุณลักษณะนั้นๆ ดังนั้น การแปลผลที่ได้จะต้องพิจารณาให้รอบคอบก่อนที่จะลงสรุปโดยคำนึงหลักเกณฑ์และวิธีการแปล ความหมายเป็นสำคัญ พิจารณาตามหลักตรรกวิทยาความสอดคล้องกับหลักเกณฑ์ของการประเมินในครั้งนั้น ว่าเป็นแบบอิงเกณฑ์หรืออิงกลุ่มนอกจากนั้นครูจำเป็นต้องมีความรู้ในมาตราวัดและสถิติที่นำมาใช้ด้วย ดังนั้นเมื่อได้ผลจากการประเมินแล้วควรใช้ผลของการวัดและการประเมินให้คุ้มค่าการวัด และประเมินผล แต่ละครั้งเป็นงานที่ต้องลงทุนทั้งในด้านพลังความคิดกำลังกาย เวลา และงบประมาณ เพื่อให้สามารถวัดผลตามหลักวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้หากผลการวัดที่ครูทำนำมาเพียงตัดสินได้ตกให้ผู้เรียน เท่านั้นนับว่าเป็นการลงทุนที่ไม่คุ้มค่า เพราะผลของการวัดและประเมินสามารถนำมาใช้ประโยชน์อย่าง อื่นได้อีก เช่น ใช้สำหรับวินิจฉัยข้อบกพร่องในการเรียนรู้ของผู้เรียน เพื่อปรับปรุงและพัฒนาการเรียนรู้ ของผู้เรียนเป็นข้อมูลสำหรับการปรับปรุงและพัฒนาการสอนของครูเป็นข้อมูลสำหรับแนะแนวผู้เรียน และผู้ปกครองและเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาความดีความชอบของครูหรือปรับปรุงการบริหารงานใน โรงเรียนเป็นต้น (จิตติมาภรณ์ สีหะวงษ์, 2549) 2.1.3 จุดมุ่งหมายของการวัดและประเมินผลทางการศึกษา กล่าวได้ว่าการวัดและประเมินผลเกี่ยวข้องกับกระบวนการเรียนการสอนตลอดเวลาซึ่ง จุดมุ่งหมายของการประเมินนั้น ไม่ใช่เฉพาะการนำผลการวัดไปตัดสินการได้-ตก หรือใครควรจะได้เกรด อะไรเท่านั้น แต่ควรนำผลการประเมินนั้นไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการศึกษาในหลายๆ ลักษณะ อาทิ -การวัดและประเมินผลเพื่อค้นและพัฒนาสมรรถภาพของนักเรียน หมายถึง การวัดและ ประเมินผลเพื่อดูว่านักเรียนบกพร่องหรือไม่เข้าใจเรื่องใด ตอนใดแล้วครูพยายามสอนให้นักเรียนเกิด ความรู้ มีความเจริญงอกงามตามศักยภาพของตน จุดมุ่งหมายข้อนี้สำคัญมากหรืออาจกล่าวได้ว่าเป็นปรัชญา การวัดผลการศึกษา


7 - การวัดและประเมินผลเพื่อจัดตำแหน่ง (Placement) การประเมินผลแบบนี้เพื่อเปรียบเทียบ ตนเองกับคนอื่นๆโดยอาศัยกลุ่มเป็นเกณฑ์ว่าใครเด่น ด้อย ใครได้อันดับที่ 1 ใครสอบได้ตก หรือใครควรได้ เกรดอะไร เป็นต้น การประเมินผลวิธีนี้เหมาะสำหรับการตัดสินผลการเรียนแบบอิงกลุ่ม หรือการคัดเลือกคน เข้าทำงาน - การวัดและประเมินผลเพื่อวินิจฉัย (Diagnostic) เป็นการประเมินผลที่มีจุดมุ่งหมาย เพื่อหาความบกพร่องของนักเรียนว่าวิชาที่เรียนนั้น มีจุดบกพร่องตอนใด เพื่อที่จะได้นำไปปรับปรุงแก้ไข ซ่อมเสริมส่วนที่ขาดหายไปให้ดียิ่งขึ้นซึ่งในกระบวนการเรียนการสอนเรียกว่าการวัดผลย่อย (Formative Measurement) - การวัดและประเมินผลเพื่อเปรียบเทียบ (Assessment) เป็นการประเมินผลเพื่อเปรียบเทียบ ตนเองหรือเพื่อดูความงอกงามของเด็กแต่ละคนในช่วงเวลาที่ต่างกันว่า เจริญงอกงามเพิ่มขึ้นกว่าเดิมเพียงใด เช่น การเปรียบเทียบผลก่อนเรียน (Pre-Test) และหลังเรียน (Post-Test) - การวัดและประเมินผลเพื่อพยากรณ์ (Prediction) เป็นการประเมินผลเพื่อทำนาย อนาคตต่อไปว่าจะเป็นอย่างไร นั้นคือ เมื่อนักเรียนคนใดคนหนึ่งสอบแล้วสามารถรู้อนาคตได้เลยว่าถ้าการเรียน ของนักเรียนอยู่ในลักษณะนี้ต่อไปแล้วการเรียนจะประสบผลสำเร็จหรือไม่ ซึ่งสามารถนำไปใช้ในเรื่องการ แนะแนวการศึกษาว่านักเรียน ควรเรียนสาขาใด หรืออาชีพใดจึงจะเรียนได้สำเร็จ แบบทดสอบที่ใช้วัด จุดมุ่งหมายข้อนี้ ได้แก่แบบทดสอบวัดความถนัด (Aptitude Test)แบบทดสอบวัดเชาว์ปัญญา (Intelligence Test) เป็นต้น -การวัดและประเมินผลเพื่อประเมินผล (Evaluation) เป็นการนำผลที่ได้จากการวัดไป เปรียบเทียบกับเกณฑ์ที่กำหนดไว้เพื่อตัดสินสรุปให้คุณค่าของการศึกษาหลักสูตรหรือ เครื่องมือที่ใช้ใน การวัดผลว่าเหมาะสมหรือไม่ และควรปรับปรุงแก้ไขอย่างไร จะอย่างไรก็ตาม การวัดและการประเมินผลแต่ละครั้ง อาจกำหนดจุดมุ่งหมายในการ ประเมินผลไว้หลายข้อทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ดำเนินการนั่นเอง 2.1.4 ประโยชน์ของการวัดและประเมินผลทางการศึกษา การวัดและการประเมินผลทางการศึกษา มีประโยชน์ต่อกระบวนการเรียนการสอนเป็น อย่างยิ่ง เพราะว่าเป็นเครื่องมืออย่างหนึ่งในการตัดสินใจของครู ผู้บริหารและนักการศึกษา ซึ่งพอจะสรุป ประโยชน์ในด้านต่างๆ ดังนี้ (อนันต์ศรีโสภา, 2535) - ประโยชน์ต่อครู ช่วยให้ทราบเกี่ยวกับพฤติกรรมเบื้องต้นของนักเรียน ครูก็จะว่านักเรียน มีความรู้พื้นฐานพร้อมที่จะเรียนในบทเรียนต่อไปหรือไม่ถ้าหากว่านักเรียนคนใดยังไม่พร้อมครูก็จะหาทาง สอนซ่อมเสริม นอกจากนั้นยังช่วยให้ครูปรับปรุงเทคนิคการสอนให้เหมาะสมและมีประสิทธิภาพอีกด้วย - ประโยชน์ต่อนักเรียนช่วยให้นักเรียนรู้ว่าตนเองเก่งหรืออ่อนวิชาใด ความสามารถของตน อยู่ในระดับใด เพื่อที่จะได้ปรังปรุงตนเอง ตลอดจนแก้ไขข้อบกพร่องทางการเรียนของตนให้ดียิ่งขึ้น


8 - ประโยชน์ต่อการแนะแนว ช่วยให้แนะแนวการเลือกวิชาเรียน การศึกษาต่อการเลือก ประกอบอาชีพของนักเรียน ให้สอดคล้องเหมาะสมกับความรู้ความสามารถและบุคลิกภาพตลอดจนช่วย ให้สามารถแก้ปัญหาทางจิตวิทยา อารมณ์ สังคมและบุคลิกภาพต่างๆ ของนักเรียน - ประโยชน์ต่อการบริหาร ช่วยในการวางแผนการเรียนการสอน ตลอดจนการบริหาร โรงเรียนช่วยให้ทราบว่าปีต่อไปจะวางแผนงานโรงเรียนอย่างไร เช่น การจัดครูเข้าสอน การส่งเสริมเด็กที่ เรียนดีการปรับปรุงรายวิชาของโรงเรียนให้ดีขึ้น เป็นต้น นอกจากนั้นแล้วยังมีประโยชน์ต่อการคัดเลือก บุคคลเข้าทำงานให้ตำแหน่งต่างๆ ตามความเหมาะสม - ประโยชน์ต่อการวิจัยช่วยวินิจฉัยข้อบกพร่องในการบริหารงานของโรงเรียนการสอนของครู และข้อบกพร่องของนักเรียน นอกจากนั้นยังนำไปสู่การวิจัยการทดลองต่างๆ อันจะเป็นประโยชน์ต่อการศึกษา - ประโยชน์ต่อการปกครองช่วยให้ทราบว่าเด็กในปกครองของตนนั้น มีความเจริญงอกงาม เป็นอย่างไร เพื่อเตรียมการสนับสนุนในการเรียนต่อตลอดจนเลือกอาชีพของเด็ก และนอกจากนี้แอนเดอร์สันและบอล (Anderson and Ball อ้างถึงใน นิศา ชูโต, 2538 : 12-13) ได้กล่าวถึงประโยชน์ของการประเมินไว้ดังนี้ - ช่วยในการตัดสินใจก่อนเริ่มดำเนินงาน ค้นหาความต้องการทดสอบแนวความคิดด้าน เทคนิคและแหล่งทุนและความเป็นไปได้ในการดำเนินงาน - ช่วยสำหรับตัดสินใจว่าควรจะขยาย ดำเนินการต่อ หรือยุติการดำเนินงาน -ช่วยในการตัดสินใจเกี่ยวกับการปรับปรุง และเปลี่ยนแปลงการดำเนินงานในแง่มุมใด หรือจุดใดจุดหนึ่งในช่วงระยะเวลาที่กำลังดำเนินงานอยู่ ในส่วนที่เกี่ยวโยงกับวัตถุประสงค์ บุคลากร หรือ ระบบการให้บริการ - เพื่อเป็นประจักษ์พยานและเป็นเครื่องมือในการหาการสนับสนุนเกี่ยวกับโครงการ ด้านสาธารณชน การเมือง การเงิน และด้านวิชาชีพ - เพื่อช่วยส่งเสริมให้เกิดความเข้าใจ และความรู้พื้นฐานในกระบวนการพัฒนาสังคมในด้าน วิทยาการทางสังคมวิทยา จิตวิทยา และอื่นๆ นอกเหนือไปจากการให้ความรู้ข้อเท็จจริงและความเข้าใจ เฉพาะที่เกี่ยวกับการดำเนินงาน 2.2 แนวคิดการประเมินผลการจัดการเรียนการสอน การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ในปัจจุบัน ยึดหลักการกระจายอำนาจให้โรงเรียน/สถานศึกษา ดังนั้นสถานศึกษาจำต้องกำหนด ระเบียบ/แนวปฏิบัติเพื่อการวัดและประเมินของตนเอง โดยอาศัย "หลักการ/ข้อกำหนดสำคัญบางประการ" ที่ส่วนกลางกำหนดให้เพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ทั่วประเทศ แต่ทั้งนี้ไม่มีการออกระเบียบการวัดและประเมินผลโดยตรงไปจากส่วนกลาง (กระทรวงศึกษาธิการ) เพื่อให้ โรงเรียน/สถานศึกษาใช้มาตรฐานการเรียนรู้ที่กำหนดในหลักสูตรแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้เป็นทั้ง เป้าหมายในการพัฒนาผู้เรียนและเป็นหลักเทียบเคียงเพื่อการประเมิน นอกจากนี้การประเมินมุ่งเน้นการ


9 ปรับปรุงพัฒนาผู้เรียนให้มีความก้าวหน้าในการเรียนรู้เป็นประเด็นหลักและยังมุ่งให้ผู้เรียนได้พัฒนาเต็ม ตามศักยภาพ รวมทั้งยังได้กำหนดให้มีการเทียบโอนผลการเรียนในระหว่างระบบการจัดการศึกษาต่างๆ (การศึกษาในระบบ นอกระบบและตามอัธยาศัย ตามมาตรา 15 แห่งพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542) เพื่อเปิดโอกาสทางการศึกษาให้แก่ผู้เรียน (บุญชู ชลัษเฐียร, 2549) แนวทางการประเมินผลการเรียนของโรงเรียน/สถานศึกษาเป็นผู้รับผิดชอบในการ ประเมินผล การเรียนรู้ของผู้เรียน โรงเรียน/สถานศึกษาจำเป็นต้องวางระบบงานด้านการประเมินผลกำหนดรูปแบบ การวัดและประเมินผลของตนเองด้วยกระบวนการให้ทุกฝ่ายได้มีส่วนร่วมเพื่อเป็นมาตรฐานในการ ปฏิบัติของบุคคลากรทุกคน ที่เกี่ยวข้องกระบวนการนี้นำไปสู่การสร้างความมั่นใจ การยอมรับเกี่ยวกับการ ดำเนินงานรวมทั้งคุณภาพของผลการประเมินที่ได้ หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานในปัจจุบันเป็นหลักสูตรอิงมาตรฐาน ดังนั้นมาตรฐานการเรียนรู้ ที่กำหนดในหลักสูตรในแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้จึงนำมาใช้เป็นหลักในการจัดการเรียนรู้ เป็นหลักในการ เทียบเคียงสำหรับประเมิน และเป็นตัวกลางบอกให้รู้ความก้าวหน้าพัฒนาการของผู้เรียนการรายงานผลการ ประเมินจึงควรจัดทำในรูปแบบของการรายงานความก้าวหน้าในการเรียนรู้และระดับสัมฤทธิ์ผลของ ผู้เรียนในลักษณะเป็นคำอธิบายเชิงคุณภาพ ที่เชื่อมโยงกับมาตรฐานการเรียนรู้ซึ่งจะทำให้รู้ว่าผู้เรียน มี ความก้าวหน้าในการเรียนรู้หรือมีความสำเร็จเพียงใด รู้สิ่งใดทำอะไรได้ข้อมูลผลการประเมินที่ได้จะต้อง นำมาใช้อธิบายภาพผลสัมฤทธิ์ที่เกิดแก่ผู้เรียน ได้อย่างถูกต้องน่าเชื่อถือ ดังนั้นการประเมินจำต้องใช้เครื่องมือ และวิธีการเก็บรวบรวม ข้อมูล วิธีการหลากหลาย อาทิ การประเมินทักษะการปฏิบัติโครงงาน แฟ้มผลงาน แบบฝึกหัด ด้วยการสังเกต สัมภาษณ์ ตรวจผลงาน ฯลฯ นอกเหนือจากการใช้แบบทดสอบข้อเขียน ที่ใช้กันอย่างกว้างขว้างขณะนี้ เพื่อให้ผู้เรียนที่อาจใช้วิธีการ เรียนรู้และวิธีแสดงออกซึ่งความสามารถซึ่งแตกต่างกัน ได้มีโอกาสแสดงความรู้ความสามารถในเรื่องนั้นๆ ได้ตามศักยภาพของตน ส่งผลให้สามารถประเมินความรู้ความสามารถของผู้เรียนได้แม่นยำ และครอบคลุม ผลสัมฤทธิ์ที่เกิดขึ้นทุกด้าน ซึ่งข้อกำหนดการวัดและการประเมินผลการเรียนรู้ตามหลักสูตรใหม่นั้น คือ ภาระ รับผิดชอบด้านการวัดและประเมินผลการเรียนตามหลักสูตรที่จำเป็นต้องดำเนินการประกอบ ด้วยการวัด และประเมินระดับชั้นเรียน ระดับสถานศึกษาและระดับชาติระดับชั้นเรียนมีจุดมุ่งหมายเพื่อดูความก้าวหน้า ด้านความรู้ ทักษะพัฒนาการและคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของผู้เรียนรายบุคคล ผลที่ได้จะเป็นประโยชน์ ต่อการแก้ปัญหาในการเรียนช่วยเหลือผู้เรียนหรือส่งเสริมผู้เรียน ระดับสถานศึกษานั้น มีจุดมุ่งหมายเพื่อ สรุปผลการเรียนรู้ของผู้เรียนว่ามีผลสัมฤทธิ์ระดับใด เป็นไปตามที่คาดหวังหรือไม่ เมื่อสิ้นภาคเรียน/ปีการ ศึกษา/จบช่วงนั้น เพื่อการตัดสินผลการเรียนรายวิชาการ เลื่อนช่วงชั้นหรือให้การรับรองส่วนระดับชาติ การประเมินคุณภาพระดับชาติมีจุดมุ่งหมายให้เป็นกระบวนการที่สร้างความมั่นใจด้านคุณภาพการศึกษา ทั้งนี้เพราะข้อมูลที่ได้มาคือตัวบ่งชี้คุณภาพการศึกษาของชาติในภาพรวมดังนั้นข้อมูลจะนำไปใช้วางแผน พัฒนาคุณภาพการศึกษา ในระดับพื้นที่และระดับสถานศึกษารวมทั้งใช้ประกอบการตัดสินใจในด้าน นโยบายจึงกำหนดให้เป็นหน้าที่ของสถานศึกษาพึงจะต้องจัดให้ผู้เรียนในชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ประถม


10 ศึกษาปีที่ 6 มัธยมศึกษาปีที่ 3 มัธยมศึกษาปีที่6เข้ารับการประเมิน ข้อมูลจากการประเมินระดับชาตินี้ไม่เพียง เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาคุณภาพการศึกษาในภาพรวมของประเทศดังกล่าวข้างต้นแต่ยังเป็นประโยชน์ ต่อผู้เรียนในการพัฒนาตนเองโดยตรงอีกด้วย เกณฑ์การประเมินเพื่อตัดสินผลการเรียนให้ผู้เรียนผ่านช่วงชั้นหนึ่งๆและจบหลักสูตรการศึกษา ขั้นพื้นฐาน ประกอบด้วยผลการเรียนตามกลุ่มสาระการเรียนรู้8 กลุ่ม ผลการประเมิน การอ่าน การคิดวิเคราะห์ การเขียนคุณลักษณะที่พึงประสงค์และการเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนตามเกณฑ์ ที่สถานศึกษา กำหนดผลการประเมินที่ได้ไม่ว่าจะเป็นการประเมินในระดับใดล้วนเป็นข้อมูลที่มีค่าต่อการพัฒนาคุณภาพ การศึกษาทั้งสิ้น ดังนั้นเพื่อให้ได้ผลการประเมินที่มีคุณค่าต่อการพัฒนาอย่างแท้จริง ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายพึงได้ ยอมรับแนวคิดวัฒนธรรมการทำงานที่ถือว่าการประเมินเป็นกระบวนการพัฒนาไปสู่สิ่งที่ดีกว่าเมื่อยอมรับ แล้วย่อมง่ายในการปฏิบัติผู้บริหารสถานศึกษาพึงส่งเสริมให้ผู้สอนทำหน้าที่หลักในการดำเนินกิจกรรม การประเมินร่วมกับผู้เกี่ยวข้องอื่นและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียโดยตรง เช่น ผู้เรียน ผู้ปกครอง ชุมชนอย่าง ใกล้ชิดทั้งการให้ข้อมูลเพื่อการประเมินการเป็นผู้ร่วมประเมิน และใช้ข้อมูลการประเมินอย่างคุ้มค่าสำหรับ ตัวผู้เรียนเองต้องมีหน้าที่และจำเป็นต้องแสดงออกซึ่งความรู้ความสามารถอย่างเต็มที่ เพื่อให้ผลการประเมิน สะท้อนความสามารถที่แท้จริงของตนการประเมินผลการเรียนตามหลักสูตรใหม่ ที่แม้มีกรอบความคิดรูปแบบ และบริบทที่เปลี่ยนแปลงไปแต่ก็เชื่อว่ารูปแบบและวิธีการประเมินที่ได้กล่าวมานี้จะเป็นเครื่องมือหนึ่งที่ ช่วยเหลือผู้ปฏิบัติการประเมินและผู้ใช้ผลการประเมิน ให้ปฏิบัติภาระรับผิดชอบงานของตนได้ผลเป็นอย่างดี 2.3 แนวคิดเกี่ยวกับการประเมินคุณภาพการศึกษา การบริหารจัดการศึกษา ทั้งด้านการจัดการเรียนการสอน การตัดสินผลการเรียน และการ อนุมัติการจบหลักสูตรของผู้เรียนให้แก่สถานศึกษานั้น กระทรวงศึกษาธิการพึงต้องใช้มาตรการควบคุม และรักษาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษาต่างๆ ทั่วประเทศซึ่งมีความหลากหลายทั้งในด้านปัจจัย ความพร้อมหรือกระบวนการดำเนินงานให้ได้คุณภาพตามาตรฐานที่กำหนดไว้นี้เป็นเครื่องประกันความมั่นใจ ในคุณภาพการศึกษาที่จัดให้แก่ประชาชนในฐานะเป็นผู้รับบริการการศึกษาและเป็นการแสดงความรับผิดชอบ ต่อพันธกิจการจัดการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการที่จำเป็นต้องรายงานให้สาธารณชนรับทราบว่าคุณภาพ การศึกษาของผู้เรียนอยู่ในระดับใด กอปร.กับพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติพ.ศ. 2542 กำหนดให้กระจายอำนาจการบริหาร และการจัดการศึกษาทั้งด้านวิชาการ งบประมาณ การบริหารงานบุคคล และการบริหารทั่วไป ลงสู่เขต พื้นที่การศึกษาและสถานศึกษาโดยตรง (มาตรา 39) โดยกำหนดให้กระทรวงฯ ทำหน้าที่กำกับ ดูแลและ ติดตามตรวจสอบและประเมินผลการจัดการศึกษา (มาตรา 31) ซึ่งก่อให้เกิดปัจจัยและความเปลี่ยนแปลง ใหม่ๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อการบริหารจัดการการศึกษา ด้วยประการเช่นนี้การประเมินคุณภาพการศึกษาหรือการทดสอบแห่งชาติจึงเป็นกลไกสำคัญต่อ การบริหารจัดการของกระทรวงฯเพราะไม่เพียงเป็นมาตรการควบคุม และพัฒนาคุณภาพมาตรฐานการ


11 ศึกษาระดับชาติ ที่สร้างความมั่นใจต่อคุณภาพการศึกษาแล้ว ยังเป็นกระบวนการเข้าถึงข้อมูลของสภาพ การจัดการศึกษาที่แท้จริง ข้อมูลนี้นำมาใช้วางแผนพัฒนาคุณภาพ กำหนดนโยบาย และการตัดสินใจได้อีก ประการหนึ่งด้วย นี่คือคำตอบว่าการประเมินคุณภาพการศึกษาจำเป็นอย่างยิ่ง (บุญชู ชลัษเฐียร,2549) 2.3.1 การประเมินคุณภาพการศึกษาในต่างประเทศ ในขณะที่การปฏิรูปการศึกษาเป็นหนึ่งในกระแสหลักของโลกาภิวัฒน์การประเมิน มาตรฐานการศึกษาระดับประเทศโดยใช้แบบทดสอบมาตรฐานได้เกิดขึ้นในประเทศส่วนใหญ่ในโลก ยกเว้นบางประเทศ เช่น Iceland Sweden ที่มีกระแสต่อต้านการตรวจสอบควบคุมการจัดการศึกษา จากส่วนกลาง ซึ่งจากการศึกษาเอกสารจาก Websites ของหน่วยงานที่รับผิดชอบการประเมินระดับชาติ ของประเทศต่างๆ เช่น สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย และสิงคโปร์ พบว่ามีการประเมิน 2 รูปแบบใหญ่ๆ คือ (สำนักทดสอบทางการศึกษา, 2546:5–13) 2.3.1.1 การประเมินระดับชาติที่ไม่มีผลต่อการตัดสินผลการเรียนของผู้เรียนเป้าหมายของ การประเมินแบบนี้ คือการได้ข้อมูลเกี่ยวกับคุณภาพการศึกษาของชาติในลักษณะภาพรวม ผลการประเมิน สามารถแสดงให้เห็นคุณภาพการศึกษา ณ เวลาที่ประเมินและแสดงแนวโน้มในระยะยาว โดยการวิเคราะห์ เปรียบเทียบตัวอย่างของการประเมินแบบนี้ ได้แก่ National Assessment of Educational Progress (NAEP) ของสหรัฐอเมริกา และ Qualifications and Curriculum Authority’s (QCE) National Tests ของสหราชอาณาจักร แต่ QCE และ NAEP ก็มีความแตกต่างที่สำคัญ คือ NAEP เป็นการสอบเฉพาะผู้ที่ เป็นกลุ่มตัวอย่าง ส่วน QCE เป็นการสอบสำหรับนักเรียนทุกคนที่มีอายุครบ 7 ปี 11 ปีและ 14 ปี ผลการ สอบของ QCE จึงสามารถใช้แสดงผลสัมฤทธิ์ระดับรายบุคคลได้ ซึ่งเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์อย่างยิ่งต่อ ตัวผู้เรียน ครูผู้สอนและผู้ปกครองที่จะร่วมพัฒนาคุณภาพผู้เรียนแต่ละคน 2.3.1.2 การประเมินระดับชาติเพื่อตัดสินผลการเรียนของผู้เรียนระดับตัวประโยคต่างๆ เช่น การสอบ O-Level และ A-Level ของสหราชอาณาจักร การสอบ Higher School Certificate ในรัฐ New South Wales ประเทศ Australia และการสอบ Primary School leaving Examination (PSLE), General Certificate of Education (GNE) N-Level, GNE O–Level และ GNE A-Level ของสิงคโปร์การ ประเมินรูปแบบนี้ แม้จะเกิดในประเทศที่จัดการศึกษาแบบกระจายอำนาจแต่รัฐยังสงวนไว้ซึ่งอำนาจการ ประเมินผลและการตัดสินผลการเรียนของผู้เรียนในระดับที่เป็นตัวประโยค แต่อย่างไรก็ตามก็ได้มีการนำ ข้อมูลจากการประเมินในรูปแบบนี้ไปเป็นตัวบ่งชี้คุณภาพการศึกษาของชาติได้อย่างน่าเชื่อถือ ประเทศสหรัฐอเมริกา และสหราชอาณาจักรมีการประเมินทั้งสองแบบดำเนินการควบคู่ กันไปและเป็นอิสระต่อกัน การประเมิน NAEP เป็นโครงการของรัฐบาลกลาง และไม่มีผลต่อการได้ตกของ ผู้เรียน แต่ก็มีหลายรัฐที่มีการจัดสอบระดับชาติเพื่อตัดสินผลการเรียนของผู้เรียน เรียกว่า Exit examination เช่น California และ South Carolina เป็นต้น


12 การประเมินระดับชาติในประเทศสหรัฐอเมริกามีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงไปเป็นแบบ National Test ของ QCE ประเทศอังกฤษ โดยประธานาธิบดี Clinton ได้เสนอให้มีการประเมินผู้เรียน ทุกคนในระดับ Grade 4 ในวิชา Reading และระดับ Grade 8 ในวิชาคณิตศาสตร์ โดยอ้างเหตุผลว่า การประเมินโดยวิธีการสุ่มตัวอย่างจะให้ภาพในระดับหน่วยที่ใหญ่ เช่น ภูมิภาค รัฐและประเทศ แต่ไม่ได้ ให้ข้อมูลที่จะเป็นประโยชน์สำหรับการพัฒนาผู้เรียนเป็นรายบุคคล และประธานาธิบดี George W. Bushก็ได้ ให้นโยบายในทิศทางเดียวกัน คือ ได้เสนอนโยบายด้านการศึกษาชื่อ No Child Left Behind ซึ่งต่อมาได้ กลายเป็นกฎหมายการศึกษา ชื่อ The No Child Left Behind Act ซึ่งกำหนดให้1) ให้มลรัฐทั้งหลายและ สถานศึกษาของรัฐ จัดสอบนักเรียนตั้งแต่ Grade 3– 8 ในวิชาการอ่านและคณิตศาสตร์ทุกๆ ปีโดยใช้แบบ ทดสอบที่สร้างจากข้อสอบของรัฐที่มีอยู่หรือพัฒนาขึ้นมาใหม่โดยเริ่มดำเนินการภายใน 3 ปี 2) ให้รัฐบาลกลาง (Federal Government) จัดงบประมาณสนับสนุนการพัฒนาแบบทดสอบของมลรัฐต่างๆ 3) ห้ามมิให้ มีการจัดสอบ National Test ที่รัฐบาลกลางเป็นผู้ดำเนินการหรือให้การสนับสนุน และ 4) ให้มลรัฐต่างๆ สามารถยืดหยุ่นในการเลือกที่จะรับการประเมินโดยโครงการ MAEP หรือโครงการอื่นๆ ที่มีมาตรฐาน ทางเทคนิคและวิชาการที่เป็นที่ยอมรับโดยทั่วไป ในเรื่อง NationalTest นี้ ได้มีนักวิชาการแสดงความคิดเห็นทั้งในเชิงเห็นด้วยและคัดค้าน พร้อมทั้งได้ให้ข้อเสนอแนะและทางเลือกต่างๆ Jones ตั้งข้อสงสัยว่า National Test จะสอดคล้องกับการ ปฏิรูปการศึกษาที่กำลังดำเนินอยู่หรือไม่ และแสดงความกังวลว่าการทำ National Test อาจมีผลลบต่อ โครงการ NAEP ซึ่ง Jones เห็นว่าดำเนินการได้ผลดี เป็นที่น่าพอใจอยู่แล้ว ในขณะที่ Davey เห็นว่า การประเมินระดับชาติเท่าที่เป็นอยู่ไม่ว่าจะเป็น NAEP หรือการสอบ SAT มีข้อบกพร่องคือ NAEP หรือ การสอบ SAT มีข้อบกพร่องคือ NAEP ประเมินเพียงไม่กี่วิชาในหลักสูตรแต่ละครั้งส่วน SAT วัดเฉพาะความ ถนัดทางการเรียน ไม่ได้วัดตามจุดประสงค์การเรียนรู้ตามหลักสูตร และทั้ง NAEP และ SAT ไม่ได้สอบ ผู้เรียนทุกคนจึงไม่สามารถนำผลไปใช้เพื่อพัฒนาในระดับสถานศึกษาและผู้เรียนได้ดังนั้น Davey จึงเห็น ด้วยกับการให้มีระบบ National Test และได้เสนอความคิดเห็นว่าระบบ National Test ที่ดีควรมีลักษณะ ต่อไปนี้คือ 1) ทำให้สามารถเปรียบเทียบผลระหว่างสถานศึกษา ภูมิภาค และรัฐได้อย่างสมเหตุสมผล 2) ประเมินทั้งผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการตามหลักสูตรและความถนัดทางการเรียน 3) การส่งเสริมและกระตุ้นให้ สถานศึกษาให้ความสนใจอย่างจริงจังในการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ที่สำคัญที่หลักสูตรกำหนด 4) สามารถใช้ ผลการประเมินให้เป็นประโยชน์ทั้งในระดับชาติระดับสถานศึกษาและระดับผู้เรียนเป็นรายบุคคลและ ประการสุดท้าย5) สร้างแรงจูงใจกระตุ้นและท้าทายให้ผู้เรียนทุกคน ตั้งใจใฝ่หาผลสัมฤทธิ์ 2.3.2 การประเมินคุณภาพการศึกษาสำหรับประเทศไทย เมื่อพิจารณาพัฒนาการด้านการวัดและประเมินผลในวงการศึกษาของไทย และข้อกำหนด ในพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติเกี่ยวกับการตัดสินผลการเรียนซึ่งให้เป็นอำนาจหน้าที่ของสถานศึกษา ดังนั้นการประเมินผลระดับชาติในรูปการสอบ O-Level, A-Level ในประเทศอังกฤษ หรือการสอบ Exit Examination ในบางมลรัฐในประเทศสหรัฐอเมริกาคงเป็นทางเลือกที่เป็นไปไม่ได้สำหรับรูปแบบที่กระทรวง


13 ศึกษาธิการใช้อยู่ในปัจจุบัน ค่อนข้างคล้ายคลึงกับNAEP ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีจุดอ่อนตามที่ Davey ได้กล่าวไว้นอกจากนี้กรมวิชาการ ได้ทำการศึกษา วิเคราะห์และประเมินรูปแบบการทำ National Testซึ่งสามารถสรุปออกมาได้ 3 ทางเลือกใหญ่ๆ แต่ละทางเลือกต่างก็มีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันและ มีข้อเสนอแนะไว้ดังนี้ 2.3.2.1 ข้อดีของการประเมิน - จะเป็นแบบสมัครใจ ใครต้องการประเมินก็สมัครได้ใครไม่สมัครก็ได้ไม่ผิดกฎ - มีสิ่งจูงใจในการร่วมประเมิน คือ เมื่อเด็กเข้าร่วมการประเมิน หากคะแนนดี ผ่านเกณฑ์ ก็จะมีชื่อเสียงทั้งเด็กและโรงเรียน หากคะแนนไม่ดี ไม่ผ่านเกณฑ์ โรงเรียนก็จะได้รับเงินช่วยเหลือ หรือการ ช่วยเหลือจากรัฐเพื่อนำไปปรับปรุงและพัฒนาให้ผ่านเกณฑ์ให้ได้ - ประเมินก่อนจบช่วงชั้น (G4, G8) เพื่อให้มีเวลากลับไปแก้ไขจุดบกพร่องและพัฒนาเด็ก ได้ในเวลาที่เหลือของการเรียนในช่วงนั้นๆ - ประเมินวิชาพื้นฐานเท่านั้น โดยวิชาที่เอามาทำการประเมิน เช่น วิชาการอ่าน โดยระบุ ชัดเจน เพราะการอ่านจะสะท้อนให้เห็นถึงจุดเน้นของวิชาและรวมถึงความสามารถของตัวผู้เรียนด้วย และจะไม่ประเมินวิชารวมๆโดยไร้จุดหมาย และในการสอบ NT จะประเมินเฉพาะการอ่าน การเขียน เท่านั้น เพราะคนจำนวนมากไม่สามารถประเมินได้หมดเช่น การฟังการพูด จะให้เป็นหน้าที่ของโรง เรียนใน การประเมิน 2.3.2.2 ข้อจำกัดของการประเมิน - วัดได้อย่างจำกัด กล่าวคือ ข้อสอบจะเป็นแบบปรนัย ให้ผู้เขียนเลือกตอบ อันเป็นการ จำกัดคำตอบของผู้เรียนทำให้ประเมินความสามารถทั้งหมดของผู้เรียนไม่ได้ ควรจะนำรูปแบบการ ประเมินแบบอื่นมาเสริม เพื่อให้เป็นการประเมินระดับชาติที่สมบูรณ์ - ใช้งบประมาณในการจัดการประเมินมาก เพราะต้องประเมินคนจำนวนมาก - บางครั้งข้อสอบอาจยากเกินไป ไม่ตรงกับมาตรฐานของผู้เรียน 2.3.2.3 ข้อเสนอแนะของการประเมิน -ควรดูผลการปฏิบัติงาน ดูว่าผู้เรียนได้เรียนรู้อะไรบ้าง ทำอะไรบ้าง มีพัฒนาการอย่างไร แล้วจะได้นำไปพัฒนาตัวผู้เรียนได้ - ผลการทดสอบจะต้องนำกลับไปเป็นส่วนสำคัญในการกำหนดนโยบายการศึกษาชาติ


14 บทที่ 3 วิธีดำเนินการ รายงานการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ปีการศึกษา 2565 ของ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 2 ในครั้งนี้ มีขั้นตอนวิธีดำเนินการ ได้แก่ 3.1 กลุ่มเป้าหมายของการศึกษา 3.2 เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา 3.3 การเก็บรวบรวมข้อมูล 3.4 การวิเคราะห์ข้อมูลและสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล 3.1 กลุ่มเป้าหมายของการศึกษา กลุ่มเป้าหมายของการศึกษาผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน ปีการศึกษา 2565 ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 2 ประกอบด้วย นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ประจำปีการศึกษา 2565จำนวน 1,621 คน จำนวน 150 โรงเรียน และนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ประจำปีการศึกษา 2565จำนวน 566 คน จำนวน 46 โรงเรียน (หมายเหตุ : จำนวนนักเรียนและโรงเรียนที่ทำการทดสอบ คือโรงเรียนที่แจ้งความประสงค์รับการ ทดสอบ) 3.2 เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา เครื่องมือที่ใช้ในการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน ปีการศึกษา 2565ของสำนักงาน เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 2 ครั้งนี้เป็นแบบทดสอบมาตรฐานของสถาบันทดสอบ ทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน) จำนวน 4 กลุ่มสาระการเรียนรู้โดยลักษณะของการทดสอบ ทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET: Ordinary National Educational Test) ปีการศึกษา 2565 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ตามมาตรฐานการเรียนรู้หลักสูตรแกนกลางการศึกษา ขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ครอบคลุม 4กลุ่มสาระการเรียนรู้ ซึ่งเป็นแบบทดสอบปรนัยแบบเลือกตอบ (Multiple Choice) 4 ตัวเลือก ปรนัยแบบจับคู่คำตอบ และแบบอัตนัยตามลักษณะ ของแบบทดสอบ หลากหลายประเภท โดยมีสาระการเรียนรู้ที่ได้จะต้องทำการทดสอบจำนวน 4กลุ่มสาระการเรียนรู้ ได้แก่ ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์และภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) 3.3 การเก็บรวบรวมข้อมูล เพื่อให้การเก็บรวบรวมข้อมูลของการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน ปีการศึกษา 2565ครั้งนี้ดำเนินการตามมาตรการการจัดสอบที่ถูกต้องของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 2 มีมาตรฐานและได้ข้อมูลที่มีคุณภาพจึงได้ดำเนินการตามขั้นตอน ดังนี้


15 3.3.1 กลุ่มพัฒนาคุณภาพการศึกษาเสนอรายชื่อกรรมการกำกับห้องสอบ ของแต่ละสนามสอบ (1 กลุ่มพัฒนาคุณภาพการศึกษา ต่อ 1 สนามสอบ แยกเป็น 2ระดับ) มีหัวหน้าสนามสอบ กรรมการกลาง ผู้ประสานงานประจำสนามสอบ เจ้าหน้าที่และตัวแทนศูนย์สอบ เพื่อประสานงานการจัดสอบให้มีคุณภาพ และกรรมการคุมสอบจากครูประจำการ 2 คน ต่อ 1 ห้องสอบ โดยให้สลับครูคุมสอบต่างโรงเรียน ทั้ง 2 คน 3.3.2 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 2 แต่งตั้งคณะกรรมการ และจัด ประชุมชี้แจงแนวปฏิบัติและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการกำกับห้องสอบ โดยดำเนินการสอบตาม ตารางสอบและวิธีการตามคู่มือ ให้เป็นไปตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการปฏิบัติของ ผู้กำกับการสอบ พ.ศ.2548 3.3.3 ดำเนินการจัดสอบพร้อมกันทั้งเขตพื้นที่การศึกษา โดยคณะศึกษานิเทศก์ผู้อำนวยการ โรงเรียนในสังกัด เป็นตัวแทนศูนย์สอบ กำกับ ติดตาม การดำเนินการจัดสอบของแต่ละสนามสอบโดย ผู้อำนวยการกลุ่มต่างๆ ในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาเลย เขต 2 และผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 2 3.3.4 คณะกรรมการประมวลผลวิเคราะห์และสรุปผลการทดสอบตามวัตถุประสงค์ของการศึกษา 3.4 การวิเคราะห์ข้อมูลและสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูลครั้งนี้หาค่าสถิติพื้นฐาน ได้แก่ ใช้การแจงนับความถี่แล้วคำนวณหาค่าร้อยละ (Percentage, ค่าเฉลี่ย ( X ) โดยมีสถิติที่ใช้เพื่อหาค่าต่างๆ ดังนี้ 3.4.1 ค่าเฉลี่ยเลขคณิต (mean) โดยคำนวณจากสูตร (บุญชม ศรีสะอาด, 2545: 102) N X X = เมื่อ X แทน ค่าเฉลี่ยของคะแนน X แทน ผลรวมของคะแนนทั้งหมด N แทน จำนวนคนทั้งหมด


16 บทที่ 4 ผลการศึกษา รายงานผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาเลย เขต 2 มีวัตถุประสงค์เพื่อ ศึกษาผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ปีการศึกษา 2565 นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ของโรงเรียนในสังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 2 เพื่อเปรียบเทียบผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้น พื้นฐาน (O–NET) ปีการศึกษา 2565ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3ของโรงเรียนใน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลยเขต 2และเพื่อวิเคราะห์ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติ ขั้นพื้นฐาน (O–NET) ปีการศึกษา 2565ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่6 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3ของโรงเรียน ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 2 โดยจำแนกตามสาระการเรียนรู้ มีกลุ่มเป้าหมาย คือ นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ประจำปีการศึกษา 2565จำนวน 1,621 คน จำนวน 150 โรงเรียน และ นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ประจำปีการศึกษา 2565 จำนวน 566 คน จำนวน 46 โรงเรียน (หมายเหตุ : จำนวนนักเรียนและโรงเรียนที่ทำการทดสอบ คือโรงเรียนที่แจ้งความประสงค์รับการทดสอบ) สำหรับผลการศึกษาของการรายงานผลการทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน ผู้ศึกษามีรายละเอียดของผล การศึกษาดังนี้ 4.1 ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ปีการศึกษา 2565 นักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่6 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3ของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถม ศึกษา เลย เขต 2 4.2 ผลการเปรียบเทียบผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ปีการศึกษา 2565 ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาเลย เขต 2 4.3 ผลการวิเคราะห์ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ปีการศึกษา 2565 ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3ของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาเลย เขต 2 โดยจำแนกตามสาระการเรียนรู้ 4.1 ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ปีการศึกษา 2565 นักเรียนชั้นประถม ศึกษาปีที่6 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่3 ของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 2 ตารางที่ 1 ผลการทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ปีการศึกษา 2565 นักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่6 ของโรงเรียน ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 2 วิชา/ประเภท ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษ เฉลี่ยรวม คะแนนเฉลี่ย ระดับเขตพื้นที่ 48.16 22.64 34.04 28.93 33.44


17 ตารางที่ 2 ผลการทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ปีการศึกษา 2565 นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 2 วิชา/ประเภท ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษ เฉลี่ยรวม คะแนนเฉลี่ย ระดับเขตพื้นที่ 46.67 20.59 29.70 26.31 30.82 4.2 ผลการเปรียบเทียบผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ปีการศึกษา 2565 ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 2 ตารางที่ 3 ผลการทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ปีการศึกษา 2565 นักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่6 ของโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 2 (เปรียบเทียบกับระดับสังกัด/ระดับประเทศ) วิชา/ประเภท ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษ เฉลี่ยรวม ระดับเขตพื้นที่ 48.16 22.64 34.04 28.93 33.44 ระดับ สพฐ. 52.80 26.52 37.90 33.57 37.70 ระดับประเทศ 53.89 28.06 39.34 37.62 39.73 จากตารางที่ 3 พบว่า ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ปีการศึกษา 2565 นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่6 ของโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 2 มีคะแนน เฉลี่ยในภาพรวมต่ำกว่าคะแนนเฉลี่ยในภาพรวมระดับสังกัด (สพฐ.) แสดงได้ ดังแผนภูมิที่ 1 แผนภูมิที่ 1 แสดงผลการเปรียบเทียบผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ปีการศึกษา 2565 ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 (เปรียบเทียบกับระดับสังกัด(สพฐ.)/ ระดับประเทศ)


18 เมื่อพิจารณาเปรียบเทียบผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ปีการศึกษา 2565 นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลยเขต 2กับระดับสังกัด (สพฐ.) พบว่า ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ปีการศึกษา 2565 นักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่ 6 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 2 มีคะแนนเฉลี่ยต่ำกว่าระดับสังกัด (สพฐ.) โดยมี ผลต่าง -4.26(คะแนนเฉลี่ยระดับเขตพื้นที่การศึกษา = 33.44, คะแนนเฉลี่ยระดับสังกัด (สพฐ.) = 37.70) เมื่อ พิจารณาคะแนนในแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้พบว่า กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ต่ำกว่าระดับ สพฐ. –4.64 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ต่ำกว่าระดับ สพฐ. –3.88กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ต่ำกว่าระดับ สพฐ. –3.86 และกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (อังกฤษ) ต่ำกว่าระดับ สพฐ. –4.64 ผลการเปรียบเทียบผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ปีการศึกษา 2565 นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 2กับระดับประเทศ พบว่า ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ประจำปีการศึกษา 2565 นักเรียนชั้น ประถมศึกษาปีที่ 6 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 2 มีคะแนนเฉลี่ยต่ำกว่า ระดับประเทศ โดยมีผลต่าง -6.29(คะแนนเฉลี่ยระดับเขตพื้นที่การศึกษา = 33.44, คะแนนเฉลี่ยระดับประเทศ = 39.73) เมื่อทำการพิจารณาคะแนนในแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ พบว่า กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ต่ำกว่า ระดับประเทศ -5.73 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ต่ำกว่าระดับประเทศ -5.42 กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ ต่ำกว่าระดับประเทศ -5.30 และกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (อังกฤษ) ต่ำกว่า ระดับประเทศ -8.69 ตารางที่ 4 ผลการทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ปีการศึกษา 2565 นักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่3 ของโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 2 (เปรียบเทียบกับระดับสังกัด(สพฐ.)/ระดับประเทศ) วิชา/ประเภท ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษ เฉลี่ยรวม ระดับเขตพื้นที่ 46.67 20.59 29.70 26.31 30.82 ระดับ สพฐ. 53.91 24.66 33.67 31.75 35.99 ระดับประเทศ 52.95 24.39 33.32 32.05 35.67 จากตารางที่ 4 พบว่า ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ปีการศึกษา 2565 นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ของโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 2 มีคะแนน เฉลี่ยในภาพรวมต่ำกว่าคะแนนเฉลี่ยในภาพรวมระดับสังกัด (สพฐ.) และระดับประเทศ แสดงได้ดัง แผนภูมิที่ 2


19 แผนภูมิที่ 2 แสดงผลการเปรียบเทียบผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ปีการศึกษา 2565 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 (เปรียบเทียบกับระดับสังกัด(สพฐ.)/ ระดับประเทศ) เมื่อพิจารณาเปรียบเทียบผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ปีการศึกษา 2565 นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 2กับระดับสังกัด (สพฐ.) พบว่า ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ปีการศึกษา 2565 นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 2 มีคะแนนเฉลี่ยต่ำกว่าระดับสังกัด (สพฐ.) โดยมีผลต่าง -5.17 (คะแนนเฉลี่ยระดับเขตพื้นที่การศึกษา = 30.82, คะแนนเฉลี่ยระดับสังกัด (สพฐ.) = 35.99) เมื่อทำการ พิจารณาคะแนนในแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ พบว่า กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ต่ำกว่าระดับ สพฐ. -7.24 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ต่ำกว่าระดับ สพฐ. -4.07 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ต่ำกว่าระดับ สพฐ. -3.97 และกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (อังกฤษ) ต่ำกว่าระดับ สพฐ. -5.44 ผลการเปรียบเทียบผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ปีการศึกษา 2565 นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 2กับระดับประเทศ พบว่า ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ปีการศึกษา 2565 นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 2 มีค่า เฉลี่ยต่ำกว่าระดับประเทศโดยมีผลต่าง -4.85 (คะแนน เฉลี่ยระดับเขตพื้นที่การศึกษา = 30.82, คะแนนเฉลี่ยระดับประเทศ = 35.67) เมื่อทำการพิจารณาคะแนนในแต่ ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ พบว่า กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ต่ำกว่าระดับประเทศ -6.28 กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ ต่ำกว่าระดับประเทศ-3.80 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ต่ำกว่าระดับประเทศ -3.62และกลุ่ม สาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (อังกฤษ) ต่ำกว่าระดับประเทศ -5.44


20 ตารางที่ 5 แสดงผลการเปรียบเทียบคะแนนเฉลี่ยผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ปีการศึกษา 2564กับคะแนนเฉลี่ยผลการทดสอบทางการศึกษา ระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ปีการศึกษา 2565ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 2 วิชา/ประเภท ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษ เฉลี่ยรวม ปีการศึกษา 2564 45.10 32.08 30.36 29.59 34.28 ปีการศึกษา 2565 48.16 22.64 34.04 28.93 33.44 ผลต่าง 3.06 -9.44 +3.68 -0.66 -0.84 แปลผล เพิ่มขึ้น ลดลง เพิ่มขึ้น ลดลง ลดลง จากตารางที่ 5 พบว่า พบว่า คะแนนเฉลี่ยของผลการทดสอบทางการศึกษาขั้นพื้นฐาน (O–NET) ปีการศึกษา 2565 นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ในภาพรวม มีคะแนนเฉลี่ย 33.44 โดยมีคะแนนเฉลี่ยลดลง 0.84 จากปีการศึกษา 2564ซึ่งมีคะแนนเฉลี่ย 34.28 เมื่อพิจารณาในแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ พบว่า กลุ่มสาระ การเรียนรู้ภาษาไทยมีคะแนนเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 3.06 วิทยาศาสตร์ มีคะแนนเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 3.68 ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) มีคะแนนเฉลี่ยลดลง 0.66 และคณิตศาสตร์ มีคะแนนเฉลี่ยลดลง 9.44 จากปีการศึกษา 2564 แสดงได้ดัง แผนภูมิที่3 แผนภูมิที่ 3 แสดงผลการเปรียบเทียบผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ปีการศึกษา 2565ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 (เปรียบเทียบกับปีการศึกษา 2564)


21 ตารางที่ 6 ผลการเปรียบเทียบคะแนนเฉลี่ยผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ปีการศึกษา 2564กับคะแนนเฉลี่ยผลการทดสอบทางการศึกษา ระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ปีการศึกษา 2565ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 2 วิชา/ประเภท ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษ เฉลี่ยรวม ปีการศึกษา 2564 42.52 19.72 28.52 25.39 29.04 ปีการศึกษา 2565 46.67 20.59 29.70 26.31 30.82 ผลต่าง +4.15 +0.87 +1.18 +0.92 +1.78 แปลผล เพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้น จากตารางที่ 6 พบว่า คะแนนเฉลี่ยของผลการทดสอบทางการศึกษาขั้นพื้นฐาน (O–NET) ปีการศึกษา 2565 นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ในภาพรวม มีคะแนนเฉลี่ย 30.82 โดยมีคะแนนเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 1.78 จากปีการศึกษา 2564 ซึ่งมีคะแนนเฉลี่ย 29.04 เมื่อพิจารณาในแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ พบว่า ทุกกลุ่ม สาระการเรียนรู้มีคะแนนเฉลี่ยเพิ่มขึ้น โดยกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยมีคะแนนเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 4.15คณิตศาสตร์ มีคะแนนเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 0.87 วิทยาศาสตร์ มีคะแนนเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 1.18 และภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) มีคะแนนเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 0.92 จากปีการศึกษา 2564 แสดงได้ดัง แผนภูมิที่ 4 แผนภูมิที่ 4 แสดงผลการเปรียบเทียบผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ปีการศึกษา 2565 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 (เปรียบเทียบกับปีการศึกษา 2564)


22 4.3 ผลการวิเคราะห์ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ปีการศึกษา 2565 ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 2 โดยจำแนกตามสาระการเรียนรู้ 4.3.1 ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 4.3.1.1 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ตารางที่ 7 ตารางแสดงผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ปีการศึกษา 2565 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โดยจำแนกตามสาระการเรียนรู้ (เปรียบเทียบกับระดับประเทศ) สาระการเรียนรู้ คะแนนเต็ม คะแนนเฉลี่ยระดับเขต พื้นที่ คะแนนเฉลี่ยระดับประเทศ การอ่าน 100 54.55 59.36 การเขียน 100 54.96 59.36 การฟัง การดู และการพูด 100 53.86 63.61 หลักการใช้ภาษา 100 31.65 37.85 วรรณคดี และวรรณกรรม 100 46.82 52.58 จากตารางที่ 7 พบว่า ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ปีการศึกษา 2565 ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เมื่อทำการพิจารณาตามสาระการเรียนรู้ และเปรียบเทียบกับผลการทดสอบระดับประเทศ มีลำดับสาระการเรียนรู้ที่มีความจำเป็นต้องพัฒนาอย่างเร่งด่วน ตามลำดับ ดังนี้ 1. สาระ การฟัง การดูและการพูด 2. สาระ หลักการใช้ภาษาไทย 3. สาระ วรรณคดี และวรรณกรรม 4. สาระ การอ่าน 5. สาระ เขียน แสดงได้ดัง แผนภูมิที่ 5 แผนภูมิที่ 5 แสดงผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ปีการศึกษา 2565 ชั้นประถมศึกษาปีที่6 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โดยจำแนกตามสาระการเรียนรู้(เปรียบเทียบ กับระดับประเทศ)


23 4.3.1.2 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ตารางที่ 8 ตารางแสดงผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ปีการศึกษา 2565 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โดยจำแนกตามสาระการเรียนรู้ (เปรียบเทียบกับระดับประเทศ) สาระการเรียนรู้ คะแนนเต็ม คะแนนเฉลี่ยระดับเขต พื้นที่ คะแนนเฉลี่ย ระดับประเทศ จำนวนและพีชคณิต 100 24.15 32.08 การวัดและเรขาคณิต 100 25.00 28.22 สถิติและความน่าจะเป็น 100 10.61 13.77 จากตารางที่ 8 พบว่า ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ปีการศึกษา 2565 ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เมื่อทำการพิจารณาตามสาระการเรียนรู้ และเปรียบเทียบกับผลการทดสอบระดับประเทศ มีลำดับสาระการเรียนรู้ที่มีความจำเป็นต้องพัฒนาอย่าง เร่งด่วนตามลำดับ ดังนี้ 1. สาระจำนวนและพีชคณิต 2. สาระการวัดและเรขาคณิต 3. สาระสถิติและความน่าจะเป็น แสดงได้ดัง แผนภูมิที่ 6 แผนภูมิที่ 6 แสดงผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ปีการศึกษา 2565 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยจำแนกตามสาระการเรียนรู้(เปรียบเทียบกับ ระดับประเทศ)


24 4.3.1.3 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ตารางที่ 9 ตารางแสดงผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ปีการศึกษา 2565 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โดยจำแนกตามสาระการเรียนรู้ (เปรียบเทียบกับระดับประเทศ) สาระการเรียนรู้ คะแนนเต็ม คะแนนเฉลี่ยระดับเขต พื้นที่ คะแนนเฉลี่ย ระดับประเทศ วิทยาศาสตร์ชีวภาพ 100 30.31 32.96 วิทยาศาสตร์กายภาพ 100 33.59 39.00 วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ 100 41.25 48.24 เทคโนโลยี 100 25.46 31.40 จากตารางที่ 9 พบว่า ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ปีการศึกษา 2565 ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เมื่อทำการพิจารณาตามสาระการเรียนรู้ และเปรียบเทียบกับผลการทดสอบระดับประเทศ มีลำดับสาระการเรียนรู้ที่มีความจำเป็นต้องพัฒนาอย่าง เร่งด่วนตามลำดับ ดังนี้ 1. สาระ วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ 2. สาระ เทคโนโลยี 3. สาระ วิทยาศาสตร์กายภาพ 4. สาระ วิทยาศาสตร์ชีวภาพ แสดงได้ดัง แผนภูมิที่ 7 แผนภูมิที่ 7 แสดงผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ประจำปีการศึกษา 2565 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โดยจำแนกตามสาระการเรียนรู้(เปรียบเทียบกับ ระดับประเทศ)


25 4.3.1.4 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ตารางที่ 10ตารางแสดงผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ปีการศึกษา 2565 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) โดยจำแนกตาม สาระการเรียนรู้(เปรียบเทียบกับระดับประเทศ) สาระการเรียนรู้ คะแนนเต็ม คะแนนเฉลี่ยระดับเขต พื้นที่ คะแนนเฉลี่ย ระดับประเทศ ภาษาเพื่อการสื่อสาร 100 28.90 37.56 ภาษาและวัฒนธรรม 100 29.86 41.11 ภาษากับความสัมพันธ์กับ ชุมชน และโลก 100 27.67 32.73 จากตารางที่ 9 พบว่า ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ปีการศึกษา 2565 ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) เมื่อทำการพิจารณา ตามสาระการเรียนรู้ และเปรียบเทียบกับผลการทดสอบระดับประเทศ มีลำดับสาระการเรียนรู้ที่มีความ จำเป็นต้องพัฒนาอย่างเร่งด่วนตามลำดับ ดังนี้ 1. สาระ ภาษาและวัฒนธรรม 2. สาระ ภาษาเพื่อการสื่อสาร 3. สาระ ภาษากับความสัมพันธ์กับ ชุมชนและโลก แสดงได้ดัง แผนภูมิที่ 8 แผนภูมิที่ 8 แสดงผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ประจำปีการศึกษา 2565 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) โดยจำแนกตามสาระ การเรียนรู้(เปรียบเทียบกับระดับประเทศ)


26 4.3.2 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 4.3.2.1 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ตารางที่ 11ตารางแสดงผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ปีการศึกษา 2565 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โดยจำแนกตามสาระการเรียนรู้ (เปรียบเทียบกับระดับประเทศ) สาระการเรียนรู้ คะแนนเต็ม คะแนนเฉลี่ยระดับเขต พื้นที่ คะแนนเฉลี่ย ระดับประเทศ การอ่าน 100 51.35 58.47 การเขียน 100 45.77 52.47 การฟัง การดู และการพูด 100 53.71 60.58 หลักการใช้ภาษา 100 37.60 40.10 วรรณคดี และวรรณกรรม 100 49.29 57.91 จากตารางที่ 11 พบว่า ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ปีการศึกษา 2565 ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เมื่อทำการพิจารณาตามสาระการเรียนรู้ และ เปรียบเทียบกับผลการทดสอบระดับประเทศ มีลำดับสาระการเรียนรู้ที่มีความจำเป็นต้องพัฒนาอย่างเร่งด่วน ตามลำดับ ดังนี้ 1. สาระ วรรณคดีและวรรณกรรม 2. สาระ การอ่าน 3. สาระ การฟัง การดู และการพูด 4. สาระ การเขียน 5. สาระ หลักการใช้ภาษาไทย แสดงได้ดัง แผนภูมิที่ 9 แผนภูมิที่ 9 แสดงผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ปีการศึกษา 2565 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โดยจำแนกตามสาระการเรียนรู้(เปรียบเทียบกับ ระดับประเทศ)


27 4.3.2.2 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ตารางที่ 12ตารางแสดงผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ปีการศึกษา 2565 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โดยจำแนกตามสาระการเรียนรู้ (เปรียบเทียบกับระดับประเทศ) สาระการเรียนรู้ คะแนนเต็ม คะแนนเฉลี่ยระดับเขต พื้นที่ คะแนนเฉลี่ย ระดับประเทศ จำนวนและพีชคณิต 100 21.83 27.06 การวัดและเรขาคณิต 100 19.28 21.86 สถิติและความน่าจะเป็น 100 19.48 21.37 จากตารางที่ 12 พบว่า ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ปีการศึกษา 2565 ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เมื่อทำการพิจารณาตามสาระการเรียนรู้ และเปรียบเทียบกับผลการทดสอบระดับประเทศ มีลำดับสาระการเรียนรู้ที่มีความจำเป็นต้องพัฒนาอย่าง เร่งด่วนตามลำดับ ดังนี้ 1. สาระ จำนวนและพีชคณิต 2. สาระ การวัดและเรขาคณิต 3. สาระ สถิติและความน่าจะเป็น แสดงได้ดัง แผนภูมิที่ 10 แผนภูมิที่ 10 แสดงผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ปีการศึกษา 2565 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยจำแนกตามสาระการเรียนรู้(เปรียบเทียบ กับระดับประเทศ)


28 4.3.2.3 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ตารางที่ 13ตารางแสดงผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ปีการศึกษา 2565 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โดยจำแนกตามสาระการเรียนรู้ (เปรียบเทียบกับระดับประเทศ) สาระการเรียนรู้ คะแนนเต็ม คะแนนเฉลี่ยระดับเขต พื้นที่ คะแนนเฉลี่ย ระดับประเทศ วิทยาศาสตร์ชีวภาพ 100 26.96 29.65 วิทยาศาสตร์กายภาพ 100 28.21 32.28 วิทยาศาสตร์โลก และ อวกาศ 100 36.48 40.90 เทคโนโลยี 100 26.28 28.78 จากตารางที่ 13 พบว่า ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ปีการศึกษา 2565 ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เมื่อทำการพิจารณาตามสาระการเรียนรู้ และ เปรียบเทียบกับผลการทดสอบระดับประเทศ มีลำดับสาระการเรียนรู้ที่มีความจำเป็นต้องพัฒนาอย่างเร่งด่วน ตามลำดับ ดังนี้ 1. สาระ วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ 2. สาระ วิทยาศาสตร์กายภาพ 3. สาระ วิทยาศาสตร์ชีวภาพ 4. สาระ เทคโนโลยี แสดงได้ดัง แผนภูมิที่ 11 แผนภูมิที่ 11 แสดงผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ปีการศึกษา 2565 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โดยจำแนกตามสาระการเรียนรู้(เปรียบเทียบ กับระดับประเทศ)


29 4.3.2.4 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ตารางที่ 14ตารางแสดงผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ปีการศึกษา 2565 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) โดยจำแนกตามสาระ การเรียนรู้(เปรียบเทียบกับระดับประเทศ) สาระการเรียนรู้ คะแนนเต็ม คะแนนเฉลี่ยระดับเขต พื้นที่ คะแนนเฉลี่ย ระดับประเทศ ภาษาเพื่อการสื่อสาร 100 26.02 31.55 ภาษาและวัฒนธรรม 100 27.59 34.25 จากตารางที่ 14 พบว่า ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ปีการศึกษา 2565 ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่3กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) เมื่อทำการพิจารณาตาม สาระการเรียนรู้ และเปรียบเทียบกับผลการทดสอบระดับประเทศ มีลำดับสาระการเรียนรู้ที่มีความจำเป็นต้อง พัฒนาอย่างเร่งด่วนตามลำดับ ดังนี้ 1. สาระ ภาษาและวัฒนธรรม 2. สาระ ภาษาเพื่อการสื่อสาร แสดงได้ดัง แผนภูมิที่ 12 แผนภูมิที่ 12 แสดงผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ปีการศึกษา 2565 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) โดยจำแนกตาม สาระการเรียนรู้(เปรียบเทียบกับระดับประเทศ)


30 บทที่ 5 สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ รายงานผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET)สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาเลย เขต 2 มีวัตถุประสงค์เพื่อ ศึกษาผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ประจำปีการศึกษา 2565 นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ของโรงเรียน ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 2 เพื่อเปรียบเทียบผลการทดสอบทางการ ศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ปีการศึกษา 2565 ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 2 และเพื่อ วิเคราะห์ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ปีการศึกษา 2565ของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่6 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3ของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถม ศึกษาเลย เขต 2 โดยจำแนกตามสาระการเรียนรู้ มีกลุ่มเป้าหมายคือ นักเรียนระดับชั้นประถม ศึกษาปี ที่ 6 ประจำปีการศึกษา 2565จำนวน 1,621 คน จำนวน 150โรงเรียน และนักเรียนระดับชั้นมัธยม ศึกษา ปีที่ 3 ประจำปีการศึกษา 2565 จำนวน 566 คน จำนวน 46 โรงเรียน ผู้ศึกษาได้ทำการสรุปผล การศึกษาตามละเอียดดังนี้ 5.1 สรุปผลการศึกษา 5.2 อภิปรายผลการศึกษา 5.3 ข้อเสนอแนะและแนวทางการนำไปใช้ 5.1 สรุปผลการศึกษา 5.1.1 ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ปีการศึกษา 2565 นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่6 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่3 ของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การ ศึกษาประถมศึกษาเลยเขต 2 ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ปีการศึกษา 2565 มีคะแนนเฉลี่ยในภาพรวมมีคะแนนเฉลี่ย 33.44 โดยมีคะแนนเฉลี่ย 4 กลุ่มสาระการ เรียนรู้ดังนี้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย มีคะแนนเฉลี่ย 48.16 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ มีคะแนนเฉลี่ย 22.64 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ มีคะแนนเฉลี่ย 34.04 และกลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) มีคะแนนเฉลี่ย 28.93 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ปีการศึกษา 2565 มีคะแนนเฉลี่ยในภาพรวมมีคะแนนเฉลี่ย 30.82 โดยมีคะแนนเฉลี่ย 4 กลุ่มสาระการ เรียนรู้ดังนี้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย มีคะแนนเฉลี่ย 46.67 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์


31 มีคะแนนเฉลี่ย 20.59 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ มีคะแนนเฉลี่ย29.70 และกลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) มีคะแนนเฉลี่ย 26.31 5.1.2 ผลการเปรียบเทียบผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ปีการศึกษา2565 ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่6 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ของโรงเรียนในสังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 2 5.1.2.1 เปรียบเทียบกับระดับสังกัด สพฐ. และระดับประเทศ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีคะแนนเฉลี่ยในภาพรวมของผลการทดสอบทางการศึกษา ระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ประจำปีการศึกษา 2565ต่ำกว่าคะแนนเฉลี่ยในภาพรวมระดับสังกัด (สพฐ.) แลระดับประเทศ โดยมีรายละเอียดดังนี้ ผลการเปรียบเทียบผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ประจำปีการศึกษา2565 นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่6สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต2กับระดับสังกัด (สพฐ.) พบว่า ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ปีการศึกษา 2565 นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 2 มีคะแนนเฉลี่ยต่ำกว่าระดับสังกัด (สพฐ.) โดยมีผลต่าง -4.26(คะแนนเฉลี่ยระดับเขตพื้นที่การศึกษา = 33.44, คะแนนเฉลี่ยระดับสังกัด (สพฐ.) = 37.70) เมื่อ พิจารณาคะแนนในแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ พบว่า กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ต่ำกว่าระดับ สพฐ. –4.64 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ต่ำกว่าระดับ สพฐ. –3.88 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ต่ำกว่าระดับ สพฐ. –3.86 และกลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ (อังกฤษ) ต่ำกว่าระดับ สพฐ. –4.64 ผลการเปรียบเทียบผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ปีการศึกษา 2565 นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 2 กับระดับประเทศ พบว่า ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ประจำปีการศึกษา 2565 นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลยเขต 2 มีคะแนนเฉลี่ยต่ำ กว่าระดับประเทศ โดยมีผลต่าง -6.29 (คะแนนเฉลี่ยระดับเขตพื้นที่การศึกษา = 33.44, คะแนนเฉลี่ย ระดับประเทศ = 39.73) เมื่อทำการพิจารณาคะแนนในแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ พบว่า กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย ต่ำกว่าระดับประเทศ -5.73 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ต่ำกว่าระดับประเทศ -5.42 กลุ่มสาระ การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ต่ำกว่าระดับประเทศ -5.30 และกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (อังกฤษ) ต่ำ กว่าระดับประเทศ -8.69 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีคะแนนเฉลี่ยในภาพรวมของผลการทดสอบทางการศึกษา ระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ประจำปีการศึกษา 2565ต่ำกว่าคะแนนเฉลี่ยในภาพรวมระดับสังกัด (สพฐ.) และระดับประเทศ โดยมีรายละเอียดดังนี้


32 ผลการเปรียบเทียบผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ปีการศึกษา 2565 นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 2 กับระดับสังกัด (สพฐ.) พบว่า ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ปีการศึกษา 2565 นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 2 มีคะแนน เฉลี่ยต่ำกว่าระดับสังกัด (สพฐ.) โดยมีผลต่าง -5.17 (คะแนนเฉลี่ยระดับเขตพื้นที่การศึกษา = 30.82, คะแนนเฉลี่ยระดับสังกัด (สพฐ.) = 35.99) เมื่อทำการพิจารณาคะแนนในแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ พบว่า กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ต่ำกว่าระดับ สพฐ. -7.24 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ต่ำกว่า ระดับ สพฐ. -4.07 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ต่ำกว่าระดับ สพฐ. -3.97 และกลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ (อังกฤษ) ต่ำกว่าระดับ สพฐ. -5.44 ผลการเปรียบเทียบผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ปีการศึกษา 2565 นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 2 กับ ระดับประเทศ พบว่า ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ปีการศึกษา 2565 นักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 2 มีค่า เฉลี่ยต่ำกว่า ระดับประเทศ โดยมีผลต่าง -4.85 (คะแนนเฉลี่ยระดับเขตพื้นที่การศึกษา = 30.82, คะแนนเฉลี่ยระดับประเทศ = 35.67) เมื่อทำการพิจารณาคะแนนในแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ พบว่า กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ต่ำกว่า ระดับประเทศ -6.28 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ต่ำกว่าระดับประเทศ -3.80 กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ ต่ำกว่าระดับประเทศ -3.62 และกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (อังกฤษ) ต่ำกว่า ระดับประเทศ -5.44 5.1.2.2 เปรียบเทียบกับปีการศึกษา 2564 ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ปีการศึกษา 2565ของโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลยเขต2 มีคะแนนเฉลี่ยใน ภาพรวมลดลง จากปีการศึกษา 2564 โดยมีผลต่างที่ -0.84 (คะแนนเฉลี่ยเขตพื้นที่การศึกษา 2565 = 33.44, คะแนนเฉลี่ยเขตพื้นที่การศึกษา 2564 = 34.28) เมื่อพิจารณาในแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ พบว่า กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยมีคะแนนเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 3.06 วิทยาศาสตร์ มีคะแนนเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 3.68 ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) มีคะแนนเฉลี่ยลดลง 0.66 และคณิตศาสตร์ มีคะแนนเฉลี่ยลดลง 9.44 จากปีการศึกษา 2564 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ปีการศึกษา 2565 นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ของโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา เลยเขต 2 มีคะแนนเฉลี่ยในภาพรวมเพิ่มขึ้น 1.78 จากปีการศึกษา 2564 (คะแนนเฉลี่ยเขตพื้นที่การศึกษา 2565 = 30.82, คะแนนเฉลี่ยเขตพื้นที่การศึกษา 2564 = 29.04) เมื่อพิจารณาในแต่ละกลุ่มสาระการ เรียนรู้ พบว่า ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้มีคะแนนเฉลี่ยเพิ่มขึ้น โดยกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยมีคะแนน


33 เฉลี่ยเพิ่มขึ้น 4.15 คณิตศาสตร์มีคะแนนเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 0.87 วิทยาศาสตร์ มีคะแนนเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 1.18 และ ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) มีคะแนนเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 0.92 จากปีการศึกษา 2564 5.1.3 ผลการวิเคราะห์ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ปีการศึกษา 2565 ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่6 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ของโรงเรียนในสังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 2 โดยจำแนกตามสาระการเรียนรู้ 5.1.3.1 ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย มีสาระที่มีความจำเป็นต้องพัฒนาอย่างเร่งด่วน ดังนี้ 1) สาระ การฟัง การดู และการพูด 2) สาระ หลักการใช้ภาษาไทย 3) สาระ วรรณคดี และวรรณกรรม 4) สาระ การอ่าน 5) สาระ เขียน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ มีสาระที่มีความจำเป็นต้องพัฒนาอย่างเร่งด่วน ดังนี้ 1) สาระจำนวนและพีชคณิต 2) สาระการวัดและเรขาคณิต 3) สาระสถิติและความน่าจะเป็น กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ มีสาระที่มีความจำเป็นต้องพัฒนาอย่างเร่งด่วน ดังนี้ 1) สาระ วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ 2) สาระ เทคโนโลยี 3) สาระ วิทยาศาสตร์กายภาพ 4) สาระ วิทยาศาสตร์ชีวภาพ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) มีสาระที่มีความจำเป็นต้อง พัฒนาอย่างเร่งด่วน ดังนี้ 1) สาระ ภาษาและวัฒนธรรม 2) สาระ ภาษาเพื่อการสื่อสาร 3) สาระ ภาษากับความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก 5.1.3.2 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย มีสาระที่มีความจำเป็นต้องพัฒนาอย่างเร่งด่วน ดังนี้ 1) สาระ วรรณคดีและวรรณกรรม


34 2) สาระ การอ่าน 3) สาระ การฟัง การดู และการพูด 4) สาระ การเขียน 5) สาระ หลักการใช้ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ มีสาระที่มีความจำเป็นต้องพัฒนาอย่างเร่งด่วน ดังนี้ 1) สาระ จำนวนและพีชคณิต 2) สาระ การวัดและเรขาคณิต 3) สาระ สถิติและความน่าจะเป็น กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ มีสาระที่มีความจำเป็นต้องพัฒนาอย่างเร่งด่วน ดังนี้ 1) สาระ วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ 2) สาระ วิทยาศาสตร์กายภาพ 3) สาระ วิทยาศาสตร์ชีวภาพ 4) สาระ เทคโนโลยี กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) มีสาระที่มีความจำเป็นต้อง พัฒนาอย่างเร่งด่วน ดังนี้ 1) สาระ ภาษาและวัฒนธรรม 2) สาระ ภาษาเพื่อการสื่อสาร 5.2 อภิปรายผลการศึกษา ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ปีการศึกษา 2565 นักเรียนชั้น ประถมศึกษาปีที่ 6 ของโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 2 มีคะแนนเฉลี่ย ในภาพรวมต่ำกว่าคะแนนเฉลี่ยในภาพรวมระดับสังกัด (สพฐ.) และระดับ ประเทศ ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐานระดับชั้นประถมศึกษาปีที่6 ปีการศึกษา 2565 ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 2 เมื่อเปรียบเทียบกับผลการทดสอบทางการศึกษา ระดับชาติขั้นพื้นฐาน ปีการศึกษา 2564โดยภาพรวมมีคะแนนเฉลี่ยลดลง เมื่อทำการพิจารณาคะแนนในแต่ ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ พบว่า กลุ่มสาระการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยและกลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์มีคะแนนเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจากปีการศึกษา2564ส่วนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ คณิตศาสตร์มีคะแนนเฉลี่ยลดลง เมื่อเปรียบเทียบผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐานชั้น ประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา2565กับผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐานของสังกัด (สพฐ.) และระดับประเทศ พบว่า มีคะแนนเฉลี่ยต่ำกว่า สังกัด (สพฐ.) และระดับประเทศและทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้


35 ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O–NET) ปีการศึกษา 2565 นักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 3 ของโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลยเขต 2 มีคะแนนเฉลี่ยใน ภาพรวมต่ำกว่าคะแนนเฉลี่ยในภาพรวมระดับสังกัด (สพฐ.) และระดับประเทศ ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐานระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2565 ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 2 เมื่อเปรียบเทียบกับผลการทดสอบทางการ ศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน ปีการศึกษา 2564 โดยภาพรวมมีคะแนนเฉลี่ยเพิ่มขึ้น เมื่อพิจารณารายกลุ่ม สาระการเรียนรู้พบว่า ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้มีคะแนนเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจากปีการศึกษา 2564 เมื่อเปรียบเทียบ ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐานระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2565กับผลการ ทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐานของสังกัด (สพฐ.) และระดับประเทศ พบว่า มีคะแนนเฉลี่ยต่ำกว่า สังกัด (สพฐ.) และระดับประเทศ ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ จากผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐานปีการศึกษา 2565 ของนักเรียนในสังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลยเขต 2 ระดับประถมศึกษาปีที่ 6 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีคะแนนเฉลี่ยในภาพรวมต่ำกว่าคะแนนเฉลี่ยในภาพรวมระดับสังกัด (สพฐ.) และระดับประเทศ รวมถึง ระดับประถมศึกษาปีที่ 6 คะแนนเฉลี่ยในภาพรวมลดลงจากปีการศึกษาที่ผ่านมาเล็กน้อย ทั้งนี้สอดคล้อง กับผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ระดับประถมศึกษาปีที่ 6 ระดับประเทศ ซึ่งมีผลการทดสอบลดลงเช่นเดียวกัน ทั้งนี้อาจเป็นเพราะผู้เรียนมีภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ในช่วงการ แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid - 19) ซึ่งมีระเวลายาวนานถึง 2 ปี ทำให้เกิดผลกระทบต่อ การจัดการเรียนการสอน ซึ่งต้องจัดการเรียนการสอนในรูปแบบออนไลน์ หรือรูปแบบอื่นที่ไม่ใช่รูปแบบ Onsite เด็กบางคนขาดอุปกรณ์หรือสื่อ หรือขาดความเอาใจใส่ติดตามจากผู้ปกครองที่จะช่วยสนับสนุนให้ เกิดการเรียนรู้จากรูปแบบการเรียนการสอนดังกล่าว ทำให้กระทบถึงผลของการพัฒนาคุณภาพของผู้เรียน จึงเป็นผลทำให้ผลการทดสอบลดลง ทั้งนี้สอดคล้องกับรายงานการวิจัยการออกแบบนวัตกรรมฟื้นฟูภาวะ ถดถอยทางการเรียนรู้ เพื่อป้องกันการตกหล่นออกกลางคันของนักเรียนสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาเลย เขต 2 (หน้า 40 : 2565) พบว่า สภาพปัญหา ข้อจำกัดด้านพัฒนาการทางการเรียนรู้ ได้แก่ การเรียนรู้ช้า สมาธิสั้น มีปัญหาการอ่าน การเขียน การคิดเลข การแก้โจทย์ปัญหา ขาดทักษะการฟัง การใช้ภาษาเพื่อการสื่อสาร ซึ่งเป็นปัญหาพื้นฐานที่สำคัญ นอกจากนี้ยังมีปัญหาด้านการมาโรงเรียน นักเรียนขาดเรียนบ่อย ไม่อยากมาโรงเรียน ปัญหาด้านความจำเป็นของครอบครัว ได้แก่ ความยากจน การ อยู่อาศัยกับญาติที่ขาดความพร้อม ไม่ได้รับการดูแลเอาใจใส่จากผู้ปกครอง การย้ายติดตามผู้ปกครอง ปัญหาด้านสุขภาพจิต ได้แก่ ความเครียด ขาดความเชื่อมั่นในตนเอง ไม่กล้าแสดงออก ขาดความ กระตือรือร้นและแรงจูงใจในการเรียน ปัญหาพฤติกรรมที่ได้รับผลกระทบจากการขาดความรู้ทาง เทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Literacy) ได้แก่ การติดเกม ติดโทรศัพท์ดังนั้นหากการจัดกิจกรรมการเรียนการ สอนในสภาพปัจจุบันที่อาจไม่เพียงพอสำหรับการพัฒนาทักษะต่างๆ ของนักเรียนย่อมเป็นปัจจัยหลักของ ผลเชิงประจักษ์ที่กล่าวมา


36 ส่วนผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐานปีการศึกษา 2565ของนักเรียนในสังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลยเขต 2 ระดับประถมศึกษาปีที่ 6 ในกลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย และกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ มีคะแนนเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจากปีการศึกษา 2564 และระดับ มัธยมศึกษาปีที่ 3 ในทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ที่มีคะแนนเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจากปีการศึกษา 2564 นั้น เนื่องจาก สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลยเขต 2 ให้ความสำคัญในการยกระดับผลการทดสอบทาง การศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน ด้วยการจัดทำโครงการและแต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนการนำผล ประเมินไปใช้วางแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา และการวัดและประเมินผลในชั้นเรียนเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ ของผู้เรียน (Assessment for Learning) โดยใช้รูปแบบ UPDATE Model ในการขับเคลื่อน ได้จัดการอบรม เชิงปฏิบัติการ “การยกผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ชี้จุด ชี้เป้า RT, NT และ O-NET” เพื่อให้ผู้บริหารสถานศึกษา ครูตลอดจนบุคลกรที่เกี่ยวข้อง ได้มีการวิเคราะห์ผลและศึกษา Test Blueprints ของการทดสอบทางการ การศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ในปีการศึกษาที่ผ่านมาและนำไปใช้วางแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา ทั้งนี้ได้มีการนิเทศติดตามเป็น 4 ระยะ ซึ่งนิเทศการศึกษาตามกระบวนการนิเทศแบบชี้แนะ (Coaching) ดังนี้ ระยะที่ 1 มอบนโยบาย ระยะที่ 2 ติดตามการนำนโยบายลงสู่การปฏิบัติ ระยะที่ 3 ติดตามนโยบาย 4 พ (2 เพิ่ม 2 พัฒน์)ข้อ 4 พัฒนาคุณภาพผู้เรียนสู่สากล ระยะที่ 4 ประเมินผลนโยบาย ข้อ 4 พัฒนาคุณภาพ ผู้เรียนสู่สากลและจากการนิเทศ กำกับ ติดตาม พบว่า (1) โรงเรียนมีความตระหนักและให้ความสำคัญในการ เข้าร่วมการทดสอบทางการการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ทุกโรงเรียนคิดเป็นร้อยละ 100 (2) โรงเรียนมีการบริหารจัดการยกผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นระบบ มีการสร้างนวัตกรรมในการยกระดับผล การทดสอบระดับชาติและมีการดำเนินกิจกรรมในทุกๆ ด้านเพื่อเป็นการเสริมสร้าง กระตุ้น พัฒนาคุณภาพ การจัดการศึกษา อาทิเช่น การพัฒนาโรงเรียนแกนนำการจัดการเรียนรู้แบบ Active learning การจัดการ เรียนรู้คณิตศาสตร์แบบ Pro Active พัฒนาครูด้านวิทยาศาสตร์คำนวณ วิทยาศาสตร์พลังสิบ จัดกิจกรรมการ เรียนรู้แบบสืบเสาะในโครงการบ้านวิทยาศาสตร์น้อย เป็นต้น สร้างแรงบันดาลใจให้กับนักเรียนด้วยการ นำเสนอวีดีทัศน์โรงเรียนที่มีการแข่งขันสูงเพื่อให้นักเรียนอยากเข้าเรียนและมุ่งมั่นตั้งใจในการทำข้อสอบ นำ นักเรียนเข้าร่วมเวทีการแข่งขันอัจฉริยภาพวิทาศาสตร์และคณิตศาสตร์ และการแข่งขันวิชาการนานาชาติ เป็นต้น 5.3 ข้อเสนอแนะ 5.3.1 ข้อเสนอแนะเพื่อการพัฒนา 5.3.1.1 ระดับชั้นเรียน ครูผู้สอนควรค้นหาสาเหตุที่ทำให้คุณภาพของนักเรียนของตน ไม่เป็นที่น่าพอใจ โดยนำข้อมูลจากผลการทดสอบเป็นฐานในการกำหนดแผนการจัดการเรียนรู้และ สร้างนวัตกรรมที่มุ่งปรับปรุง แก้ไขและพัฒนาคุณภาพอย่างมีทิศทาง และมากไปกว่านั้นควรจะเป็นการ ส่งเสริมให้นักเรียนกลุ่มเก่งได้รับการพัฒนาได้สูงสุดตามศักยภาพ


37 5.3.1.2 ระดับสถานศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษาควรระดมทรัพยากร เพื่อสร้างการมีส่วน ร่วมจากทุกฝ่ายโดยวิเคราะห์จุดแข็งและจุดพัฒนาของตนจากข้อมูลการประเมินคุณภาพนักเรียนเพื่อ สะท้อนผลให้ผู้เกี่ยวข้องได้ตระหนักในการสร้างความเข้มแข็งเชิงวิชาการในระดับท้องถิ่น อาทิ การส่งเสริมการพัฒนาหลักสูตรท้องถิ่น เน้นการอ่าน การเขียนและการส่งเสริมการอ่านเชิงวิเคราะห์และ การอ่านอย่าง มีวิจารณญาณ 5.3.1.3 ระดับเขตพื้นที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ควรตระหนักถึงความสำคัญของคุณภาพ นักเรียนในทุกด้านและทุกสมรรถภาพของนักเรียน โดยกำหนดนโยบายในการส่งเสริมและยกระดับ คุณภาพอย่างจริงจัง และควรมีการนิเทศ ติดตามและประเมินผลอย่างต่อเนื่อง 5.3.2 ข้อเสนอแนะเพื่อการศึกษาเพิ่มเติม 5.3.2.1 ควรศึกษาถึงปัจจัยที่ส่งผลต่อคุณภาพของนักเรียนทั้งปัจจัยเชิงบวกและลบในการ บริหารจัดการความรู้เพื่อถอดรหัสบทเรียน สกัดความรู้อันจะนำสู่การปฏิบัติการพัฒนาคุณภาพที่มี ประสิทธิภาพ 5.3.2.2 ควรศึกษาระดับการพัฒนาคุณภาพของนักเรียนในแต่ละโรงเรียนจากผลการทดสอบ คุณภาพในปีที่ผ่านมาเพื่อเปรียบเทียบความก้าวหน้าของการจัดการศึกษา จะทำให้ได้มาซึ่งแผนปฏิบัติ การสำหรับการพัฒนาของโรงเรียน 5.3.2.3 ควรศึกษาเชิงพัฒนา เพื่อยกระดับคุณภาพผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนให้ สูงขึ้นโดยใช้ข้อมูลที่ได้เป็นฐานในการจัดการส่งเสริมและพัฒนา


39 บรรณานุกรม กลุ่มงานผลิตและพัฒนาเครื่องมือวัดและประเมินผล,สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ(องค์การมหาชน), รายงานข้อค้นพบจากากรทดสอบ O-NET ด้วยรูปแบบข้อสอบอัตนัยการใช้ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3, กรุงเทพมหานคร, 2564 คณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ,สำนักงาน. พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 และที่แก้ไข เพิ่มเติม (ฉบับที่ 1) พ.ศ.2545. กรุงเทพมหานคร : สำนักงานคณะกรรมการการศึกษา แห่งชาติ, 2546. จิตติมาภรณ์ สีหะวงษ์. หลักการวัดและประเมินผลการศึกษา. http://www.sskru.ac.th //index.html, 2549. ชอบ ลีชอ. นัยพาดพิงที่มีต่อการวัดและประเมินผลในบริบทของพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ. กรุงเทพมหานคร : สำนักทดสอบทางการศึกษา, 2547. ทดสอบทางการศึกษา,สำนัก.การประเมินคุณภาพการศึกษาระดับชาติ (National Test) กรุงเทพมหานคร : สำนักทดสอบทางการศึกษา, 2546. นิศา ชูโต. http : // www.ranongculture.com/downloads/ranong culture5.doc.2538. นิเทศและพัฒนามาตรฐานการศึกษา,สำนัก. แนวการวัดและประเมินผลในชั้นเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์, 2545. บุญชม ศรีสะอาด. การวิจัยเบื้องต้น. พิมพ์ครั้งที่ 7. กรุงเทพฯ : สุวีริยาสาส์น, 25-27, 2546. . วิทยาการวิจัย. มหาสารคาม : มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ มหาสารคาม, 2532. วาโร เพ็งสวัสดิ์. การประเมินผลการเรียน. สกลนคร : มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร,2542. วาสนา ประวาลพฤกษ์. คู่มือการอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาบุคลากรทางการศึกษา. กรุงเทพมหานคร : เดอะมาสเตอร์กรุ๊ป แมเนจเม้นท์ จำกัด, 2544. ศรีลักษณ์ ผลวัฒนา. การพัฒนานวัตกรรมสื่อการเรียนรู้แบบหน่วยสมบูรณ์แบบที่เน้นการเรียนรู้ แบบกระตือรือร้น. กรุงเทพมหานคร : แม็ค, 2548. ศิริชัย กาญจนวาสี. รายงานการวิจัย เรื่อง การประเมินการเรียนรู้ : ข้อเสนอเชิงนโยบาย. กรุงเทพมหานคร : สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ, 2543. สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ(องค์การมหาชน), สถาบัน. รายงานประจำปีพ.ศ. 2564. รายงานผลการดำเนินงานของ สทศ. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564,กรุงเทพมหานคร,2564. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 2,สำนักงาน. รายงานผลการทดสอบ ทาง การศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน ปีการศึกษา 2564.กรุงเทพมหานคร, 2565.


39 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 2,รายงานการวิจัยการออกแบบนวัตกรรมฟื้นฟู ภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ เพื่อป้องกันการตกหล่นออกกลางคันของนักเรียนสำนักงาน เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 2 (หน้า 40 : 2565), 2565 บุญชูชลัษเฐียร. การทดสอบแห่งชาติ : ก้าวสำคัญของคุณภาพการศึกษา. http: //web.udru.ac.th/t-pnetwork/text07.html, 2549. ยุทธนา เฉลิมชัย. อย่าทำให้เป็นประตูที่ปิดตาย : การประเมินผล http://www.thaihomeschool.com/creangden2.htm, 2549.


ภาคผนวก


41 ภาคผนวก ก รายงานผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ปีการศึกษา 2565 ฉบับที่ 5 ค่าสถิติแยกตามสาระการเรียนรู้สำหรับเขตพื้นที่การศึกษา (ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6)


หนาน 1/4 เขต สพป.เลยเขต 2 สสงกดสสสสนสกงสนคณะกรรมกสรกสรศศกษสขขนพส พนฐสนข ฉบสบท 5 - ททคคสสถตถแยกตสมสสระกสรเรถ ทยนรรรสสสหรสบเขตพพนทขกสรศททศกษส ชขสนประถมศศกษสปทททท6 ปทกสรศศกษส 2565 รสยงสนผลกสรทดสอบทสงกสรศศกษสระดบชสตสขถขนพส พนฐสนข (O-NET) วชสถ : ภสษสไทย (61) (Mode) ฐสนนถยม (Median) มสธยฐสน (Min.) คะแนนตสทสสสด (Max.) คะแนนสรงสสด (S.D.) สควนเบททยงเบนมสตรฐสน (Mean) คะแนนเฉลยทท จสสนวน ระดบส ผรรเขรสสอบ ปรนสย อตนส สย รวม ปรนสย อตนส สย รวม ปรนสย อตนส สย รวม ปรนสย อตนส สย รวม รวม รวม ระดบเขตพพ ดพนททท 1,621 37.63 10.53 48.16 13.79 3.45 15.71 76.00 18.50 90.50 0.00 0.00 4.00 48.00 43.75* ระดบสดงกดดด 364,544 41.76 11.03 52.80 14.27 3.37 16.14 80.00 20.00 100.00 0.00 0.00 0.00 53.00 52.50 ระดบประเทศ ด 564,292 42.84 11.06 53.89 14.49 3.46 16.44 80.00 20.00 100.00 0.00 0.00 0.00 54.75 56.75 * : มทคคาฐานนนยมมากกวาค 1 คคา คคสสถถตถจสสแนกตสมระดบส สสระกสรเรทยนรรรคะแนนเตตม เขตพพนททท ขสสงกดส ประเทศ Mean S.D. Mean S.D. Mean S.D. การอคาน 100.00 54.55 24.79 58.19 24.15 59.36 24.20 การเขทยน 100.00 54.96 18.45 58.81 18.03 59.36 18.29 การฟดงการดดและการพดด 100.00 53.86 31.33 61.91 31.55 63.61 31.32 หลกการใช ด ภาษาไทย น 100.00 31.65 19.38 36.48 20.59 37.85 21.02 วรรณคดทและวรรณกรรม 100.00 46.82 31.58 51.52 32.05 52.58 32.09 สาระการเรทยนรดนทททเขตพพพนทททควรเรคงพฒนาเนด พทองจากคะแนนเฉลททยของเขตพพพนทททตทากวตาคะแนนเฉลค ททยระดบประเทศได ดแกน ค 1.) สาระการฟดงการดดและการพดด 2.) สาระ หลกการใช ด ภาษาไทย น 3.) สาระวรรณคดทและวรรณกรรม 4.) สาระการอคาน 5.) สาระการเขทยน วนทด ทท 29/03/2023 07:01:24


หนาน 2/4 เขต สพป.เลยเขต 2 สสงกดสสสสนสกงสนคณะกรรมกสรกสรศศกษสขขนพส พนฐสนข ฉบสบท 5 - ททคคสสถตถแยกตสมสสระกสรเรถ ทยนรรรสสสหรสบเขตพพนทขกสรศททศกษส ชขสนประถมศศกษสปทททท6 ปทกสรศศกษส 2565 รสยงสนผลกสรทดสอบทสงกสรศศกษสระดบชสตสขถขนพส พนฐสนข (O-NET) วชสถ : ภสษสองกฤษส (63) คะแนนสรงสสด จสสนวนผรรเขรสสอบ คะแนนเฉลยทท คะแนนตสทสสสด มสธยฐสน ฐสนนถยม มสตรฐสน (S.D.) สควนเบททยงเบน (Mean) (Max.) (Min.) (Median) (Mode) ระดบส ระดบเขตพพ ดพนททท 1,620 28.93 11.01 93.75 3.13 28.13 25.00 ระดบสดงกดดด 364,465 33.57 15.93 100.00 0.00 31.25 28.13 ระดบประเทศ ด 564,173 37.62 20.01 100.00 0.00 31.25 28.13 คคสสถถตถจสสแนกตสมระดบส สสระกสรเรทยนรรรคะแนนเตตม เขตพพนททท ขสสงกดส ประเทศ Mean S.D. Mean S.D. Mean S.D. ภาษาเพพทอการสพทอสาร 100.00 28.90 12.03 33.33 16.79 37.56 21.05 ภาษาและวฒนธรรมด 100.00 29.86 20.78 37.00 25.36 41.11 27.27 ภาษากบความสดมพด นธธก ดบด 27.67 23.15 24.18 26.60 ชชมชนและโลก 100.00 29.72 32.73 สาระการเรทยนรดนทททเขตพพพนทททควรเรคงพฒนาเนด พทองจากคะแนนเฉลททยของเขตพพพนทททตทากวตาคะแนนเฉลค ททยระดบประเทศได ดแกน ค 1.) สาระ ภาษาและวฒนธรรมด 2.) สาระ ภาษาเพพทอการสพทอสาร 3.) สาระ ภาษากบความสดมพด นธธก ดบชดชมชนและโลก วนทด ทท 29/03/2023 07:01:24


หนาน 3/4 เขต สพป.เลยเขต 2 สสงกดสสสสนสกงสนคณะกรรมกสรกสรศศกษสขขนพส พนฐสนข ฉบสบท 5 - ททคคสสถตถแยกตสมสสระกสรเรถ ทยนรรรสสสหรสบเขตพพนทขกสรศททศกษส ชขสนประถมศศกษสปทททท6 ปทกสรศศกษส 2565 รสยงสนผลกสรทดสอบทสงกสรศศกษสระดบชสตสขถขนพส พนฐสนข (O-NET) วชสถ : คณตศสสตรถ ร (64) คะแนนสรงสสด จสสนวนผรรเขรสสอบ คะแนนเฉลยทท คะแนนตสทสสสด มสธยฐสน ฐสนนถยม มสตรฐสน (S.D.) สควนเบททยงเบน (Mean) (Max.) (Min.) (Median) (Mode) ระดบส ระดบเขตพพ ดพนททท 1,619 22.64 13.28 93.50 0.00 19.50 13.00 ระดบสดงกดดด 364,438 26.52 16.00 100.00 0.00 26.00 19.50 ระดบประเทศ ด 564,125 28.06 17.34 100.00 0.00 26.00 19.50 คคสสถถตถจสสแนกตสมระดบส สสระกสรเรทยนรรรคะแนนเตตม เขตพพนททท ขสสงกดส ประเทศ Mean S.D. Mean S.D. Mean S.D. จานวนและพทชคณ ต นต 100.00 24.15 18.85 30.20 22.19 32.08 23.55 การวดและเรขาคณด นต 100.00 25.00 17.90 27.09 19.06 28.22 19.77 สถนตนและความนคาจะเปปน 100.00 10.61 21.01 12.23 23.90 13.77 25.58 สาระการเรทยนรดนทททเขตพพพนทททควรเรคงพฒนาเนด พทองจากคะแนนเฉลททยของเขตพพพนทททตทากวตาคะแนนเฉลค ททยระดบประเทศได ดแกน ค 1.) สาระจานวนและพทชคณ ต นต 2.) สาระการวดและเรขาคณด นต 3.) สาระ สถนตนและความนคาจะเปปน วนทด ทท 29/03/2023 07:01:24


Click to View FlipBook Version