รายงานการศึกษาความต้องการรับการนิเทศการศึกษา ของโรงเรียนในสังกัดเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา พัทลุง เขต ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๕ กลุ่มงานนิเทศ ติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษา ส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพัทลุง เขต ๑ ส านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
คำนำ การพัฒนาคุณภาพโรงเรียนนั้น ประเด็นสำคัญอยู่ที่การพัฒนาให้ตรงกับสภาพความต้องการ และการแก้ปัญหาที่เป็นปัญหาที่แท้จริงของโรงเรียนนั้นๆ ดังนั้นการกำหนดจุดที่ต้องพัฒนา หรือการแก้ปัญหาต้องเกิดจากความร่วมมือของบุคลากรในโรงเรียน ซึ่งเป็นผู้ที่อยู่กับปัญหาหรือมอง ภาพการพัฒนาที่ต้องการให้เกิดขึ้นได้อย่างแท้จริง การกำหนดกระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการพัฒนาจึงต้องเริ่มตั้งแต่การวิเคราะห์สภาพความต้องการ สภาพปัญหา กำหนดเป้าหมาย การพัฒนา กำหนดวิธีการพัฒนา และร่วมกันสรุปถึงผลที่เกิด เพื่อนำไปวางแผนพัฒนางานต่อไป การทำงานจึงต้องอาศัยผู้นำหรือทีมผู้นำในโรงเรียนที่เป็นที่ยอมรับของบุคลากรในโรงเรียน ให้เป็นผู้นำในการพัฒนางาน และต้องการมีการดำเนินงานอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง จึงจะเห็น ผลสำเร็จตามเป้าหมาย กลุ่มงานนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการจัดการศึกษา ตระหนักถึงความสำคัญ ของสภาพการทำงานข้างต้น และให้ความสำคัญกับกระบวนการทำงานเพื่อพัฒนาคุณภาพงาน วิชาการ ซึ่งถือเป็นหัวใจหลักสำคัญของการดำเนินงานในโรงเรียน และเห็นว่าการทำงาน โดยทีมบุคลากรในโรงเรียนจะสามารถพัฒนาและแก้ปัญหาการทำงานได้ตรงมากที่สุด เพื่อพัฒนา ระบบการนิเทศภายในโรงเรียนให้มีความเข้มแข็ง และดำเนินการได้โดยทีมผู้นิเทศภายใน รูปแบบการนิเทศภายในนี้จะเน้นที่การพัฒนาตนเอง และการขยายเครือข่ายการทำงานทั้งในและนอก โรงเรียนหวังเป็นอย่างยิ่งว่ารายงานการศึกษาความต้องการการรับการนิเทศการศึกษาของโรงเรียนใน สังกัดเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพัทลุง เขต 1 ปีการศึกษา 2565 เล่มนี้ จะช่วยให้การดำเนินงาน พัฒนาระบบการนิเทศภายในของโรงเรียนให้มีความเข้มแข็งและบรรลุตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ กลุ่มงานนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการจัดการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพัทลุง เขต 1
สารบัญ หน้า 1. บทที่ 1 บททนำ 1 2. บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง 4 3. บทที่ 3 วิธีดำเนินการศึกษา 14 4. บทที่ 4 ผลการวิเคราะห์ข้อมูล 16 5. บทที่ 5 สรุปผลการศึกษา 18 6. บรรณานุกรม 20 7. ภาคผนวก 22
1 บทที่ 1 บทนำ ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพัทลุง เขต 1 เป็นหน่วยงานทางการศึกษา สังกัดสำนักงานคณ ะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ ได้จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติบริหาร ราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ.2546 และประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง การกำหนดและแก้ไข เปลี่ยนแปลงเขตพื้นที่การศึกษา เป็นเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ตั้งแต่วันที่ 17 สิงหาคม 2553 มีภารกิจ ในการกำกับ ดูแล ประสาน สนับสนุนการจัดการศึกษาในเขตพื้นที่การศึกษา ให้ประชากรวัยเรียน ได้รับการศึกษา อย่างทั่วถึงเสมอภาคเท่าเทียม มีคุณภาพมีความรู้สู่คุณธรรม และจริยธรรม นำไปสู่ การเตรียม ความพร้อมให้สอดคล้องกับการแข่งขันของประเทศ โดยมีทิศทางการจัดการศึกษาที่ตอบสนอง ต่อนโยบายของรัฐบาล กระทรวงศึกษาธิการ และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เขตพื้นที่การศึกษามีการบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วม โดยองค์คณะบุคคล เพื่อให้เขตพื้นที่การศึกษา มีระบบการตรวจสอบติดตาม และประเมินประสิทธิภาพและประสิทธิผล การจัดการศึกษาให้ สอดคล้องกับ หลักการจัดการศึกษา แนวการจัดการศึกษา และคุณภาพมาตรฐานการศึกษา ตลอดจน นโยบ ายของ สำนักงานคณ ะกรรมการการศึกษ าขั้นพื้นฐาน และกระท รวงศึกษ าธิก าร ตามพระราชบัญญัติระเบียบ บริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. 2546มาตรา 20 วรรค 3 กำหนดบทบาทหน้าที่คณะกรรมการ การติดตาม ตรวจสอบ ประเมินผล และนิทศการศึกษาของเขต พื้นที่การศึกษา โดยมีอำนาจหน้าที่ใน การศึกษา วิเคราะห์ วิจัย นิเทศ ติดตาม และประเมินผล การบริหาร และการดำเนินการ โดยมุ่งผลสัมฤทธิ์ของหน่วยงาน และสถานศึกษาในสังกัดเขตพื้นที่ การศึกษา เพื่อเตรียมการรับการนิเทศ ติดตามและ ประเมินผลจากหน่วยงานภายนอก (สำนักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน, 2546 : 11 - 14) การนิเทศการศึกษา เป็นกระบวนการที่สำคัญอย่างยิ่ง ต่อการเพิ่มประสิทธิภาพการพัฒนา สถานศึกษา ในเขตพื้นที่การศึกษา ที่ต้องพัฒนาให้สอดคล้องกับสภาพการณ์ปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลง อยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกระจายอำนาจการบริหาร และการจัดการศึกษาที่มุ่งสู่ การพัฒนาคุณภาพผู้เรียนซึ่ง เกิดจากความร่วมมือระหว่างผู้นิเทศและผู้รับการนิเทศ เพื่อพัฒนา คุณภาพการจัดประสบการณ์การเรียนรู้มีกระบวนการเกี่ยวข้องอยู่ 3 กระบวนการ ที่ต้องทำงาน ประสานสัมพันธ์ เสริมสร้างซึ่งกันและกันทั้ง กระบวนการบริหาร กระบวนการนิเทศการศึกษา และ กระบวนการเรียนการสอน สำหรับกระบวนการ นิเทศการศึกษาจะช่วยให้ครูและผู้บริหาร เกิดการ พัฒนาตามมาตรฐานวิชาชีพ เพื่อการพัฒนาคุณภาพ ทำนองเดียวกันกระบวนการนิทศการศึกษา ซึ่งเป็นการทำงนของศึกษานิเทศก์ตามมาตร วิชาชีพในการช่วยเหลือ สนับสนุน ส่งเสริมให้ครูสามารถ ปฏิบัติงานจนสำเร็จบรรลุวัตถุประสงค์ได้มาตรฐาน ที่ต้องการสอดคล้องกับนโยบายการดำเนินงาน ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายมีความพึงพอใจ ส่งผลให้ผู้เรียนเกิด เรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งการนิเทศ การศึกษาเป็นกระบวนการในการแนะนำสามารถจัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการนิเทศการศึกษานั้น อยู่บนหลักการของประชาธิปไตย ได้แก่การเคารพซึ่งกันและกันระหว่าง ผู้นิเทศและผู้รับการนิเทศ การนิเทศการศึกษาจัดขึ้น เพื่อปรับปรุงการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้ดี ยิ่งขึ้น ในการปรับปรุงการจัดกิจกรรมการเรียนรู้จะสำเร็จได้ผลดีเพียงไรนั้น ย่อมขึ้นอยู่กับทักษะ และความสามารถของผู้นิเทศที่ทำงานร่วมกับครูตลอดจนเทคนิคและวิธีการต่างๆ ที่ผู้นิเทศนำมาใช้ใน การนิเทศการศึกษา เพื่อให้ครูได้มีโอกาสศึกษาค้นคว้างานที่จะต้องทำด้วยตนเอง เพื่อให้เกิดความ
2 เจริญงอกงามยิ่งขึ้น เมื่อได้เรียนรู้และมีความเจริญงอกงามแล้วย่อมจะได้รู้จัก ปรับปรุงงานด้านการ เรียนการสอนให้ได้ผลดียิ่งขึ้น การนิเทศการศึกษามิใช่เน้นการปรับปรุงตัวครู โดยเห็นว่าครูยังทำ หน้าที่ไม่สมบูรณ์ในการสร้างความเจริญงอกงามให้แก่ผู้เรียน หากแต่ให้ความสำคัญไปถึงนโยบาย การศึกษาจุดประสงค์ของการให้การศึกษา การพิจารณ าความเหมาะสมของหลักสูตรที่ใช้ วัสดุอุปกรณ์การสอนและวิธีสอนของครู สิ่งแวดล้อมของครู และผู้เรียนในขณะที่เรียน ตลอดจน ปัญหาด้านต่างๆที่มีในส่วนตัวครู และผู้เรียน ซึ่งสิ่งเหล่านี้อยู่ในขอบเขตของการนิเทศการศึกษาทั้งสิ้น (อัญชลี ธรรมะวิธีกุล, 2562 : ออนไลน์) สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพัทลุง เขต 1 โดยคณะกรรมการติดตาม ตรวจสอบ ประเมินผลและนิเทศการศึกษา เห็นความสำคัญและความจำเป็นในการพัฒนาคุณภาพ ของการจัด การศึกษา ของโรงเรียนในสังกัด ให้มีคุณภาพและประสิทธิภาพสูงขึ้น และสอดคล้องกับ กระบวนการนิเทศ การศึกษา กลุ่มนิเทศติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษา จึงได้ศึกษาความ ต้องการรับการนิเทศ การศึกษาของโรงเรียน ในสังกัดเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพัทลุง เขต 1 เพื่อนำไปใช้เป็นกรอบแนวทางในการนิเทศการศึกษาโรงเรียนในสังกัด ที่ตรงกับความต้องการของ ผู้รับการนิเทศการศึกษา วัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาความต้องการรับการนิเทศการศึกษาของผู้บริหารสถานศึกษาโรงเรียนในสังกัดเขต พื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพัทลุงเขต 1 ขอบเขตการศึกษา การศึกษาความต้องการรับการนิเทศการศึกษาของผู้บริหารสถานศึกษาโรงเรียนในสังกัดเขต พื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพัทลุง เขต 1 ได้กำหนดเป้าหมายของการศึกษาความต้องการรับการ นิเทศการศึกษาไว้ดังนี้ 1. เป้าหมายการศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษาสังกัดเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพัทลุงเขต 1 จำนวน 116โรงเรียน 2. ขอบข่ายด้านเครื่องมือ แบบสอบถามความต้องการรับการนิเทศการศึกษาของผู้บริหารสถานศึกษา 3. ระยะเวลาในการดำเนินการศึกษา ปีการศึกษา 2565 (1 มีนาคม 2565 - 30 มีนาคม 2566)
3 นิยามศัพท์เฉพาะ 1. การนิเทศการศึกษา หมายถึง การพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา การพัฒนากระบวนการ เรียนรู้การพัฒนาสื่อนวัตกรรม การวัดและการประเมินผล การเทียบโอนผลการเรียน การวิจัย เพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา การนิเทศภายใน ระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน การกำหนด มาตรฐานการศึกษา การจัดแผนพัฒนาการจัดการศึกษาของสถานศึกษา การจัดระบบการบริหาร สารสนเทศ การติดตามตรวจสอบ การประเมินคุณภาพภายใน การจัดทำรายงาน และการประเมิน โครงการ 2. ความต้องการ หมายถึงความรู้สึกหรือความต้องการของบุคคลที่มีต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ที่ ต้องการ ให้บุคคลอื่นตอบสนองความต้องการให้แก่บุคคลนั้น เพื่อก่อให้เกิดการพัฒนาตนเองแต่ความ ต้องการของ แต่ละบุคคลย่อมมีความแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับค่านิยมและประสบการณ์ที่ได้รับ 3. ผู้บริหารสถานศึกษา หมายถึง ผู้บริหารสถานโรงเรียนในสังกัดเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาพัทลุง เขต 1 ปีการศึกษา 2565
4 บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง รายงานการศึกษาความต้องการรับการนิเทศการศึกษาของโรงเรียน ในสังกัดเขตพื้นที่ การศึกษาประถมศึกษาพัทลุง เขต 1 ผู้ศึกษาได้ศึกษาเอกสารที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ 1. ความหมายของการนิเทศการศึกษา 2. จุดมุ่งหมายของการนิเทศการศึกษา 3. ความสำคัญของการนิเทศการศึกษา 4. หลักการนิเทศการศึกษา 5. กระบวนการนิเทศการศึกษา 6. รูปแบบการนิเทศการศึกษา 1. ความหมายของการนิเทศการศึกษา มีนักการศึกษาหลายท่าน ได้ให้ความหมายของการนิเทศการศึกษา ไว้ดังนี้ สุทธนู ศรีไสย์ (2549 : 1) กล่าวว่า การนิเทศการศึกษามีส่วนสำคัญอย่างมากต่อการเพิ่ม ประสิทธิภาพให้กับโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งครูซึ่งเป็นผู้สอนหลักในระบบ โรงเรียน ส ำห รับความหม ายของก ารนิเทศก ารศึกษ า ตั้งแต่อดีตจนกระทั้งถึงปัจจุบัน ได้มีการเปลี่ยนแปลงหรือจุดเน้นที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละยุคสมัย อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนแปลง แต่ละยุคนั้นมีจุดหมายตรงกัน นั้นก็คือ ต้องการปรับปรุงการสอนของครูให้มีคุณภาพมากขึ้น อัญชลี ธรรมะวีระกุล (2552 : 2) กล่าวว่า การนิเทศการศึกษา เป็นกระบวนการพัฒนาครู เพื่อให้ครูปรับปรุง และพัฒนาการจัดกกระบวนการเรียนรู้เพื่อให้การจัดการศึกษาบรรลุจุดมุ่งหมาย ที่วางไว้ กลิคแมน (Glickman. 1990 : 6) ให้ความคิดเกี่ยวกับการนิเทศว่า เป็นแนวความคิดที่ เกี่ยวกับงานและหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการปรับปรุงการเรียนการสอน ซึ่งเป็นการสอนในเรื่องหลักสูตร การจัดครูเข้าสอน การจัดสื่อการสอน สิ่งอำนวยความสะดวก การเตรียมและพัฒนาครู รวมทั้งการ ประเมินผลการเรียนการสอน แฮริส (Haris.1 985 : 13) ให้ความหมายไว้ว่า การนิเทศการศึกษา หมายถึง สิ่งที่บุคลากรใน สถานศึกษากระทำต่อบุคคลหรือสิ่งหนึ่งสิ่งใด โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจะคงไว้หรือเปลี่ยนแปลง ปรับปรุงการดำเนินการเรียนการสอนในสถานศึกษา มุ่งให้เกิดประสิทธิภาพในการเรียนการสอนเป็น สำคัญ สรุปได้ว่า การนิเทศการศึกษา เป็นระบบหนึ่งของระบบจัดการ และบริหารสถานศึกษา กระบวนการปรับปรุงการเรียนการสอน การชี้แนะให้ความช่วยเหลือ และร่วมมือกับครูรวมทั้งบุคคล ที่เกี่ยวข้องในการจัดการศึกษา ความต้องการความสำร็จตามเป้าหมายของการจัดการศึกษา คือคุณภาพผู้เรียน
5 2. จุดมุ่งหมายของการนิเทศการศึกษา การดำเนินการนิเทศการศึกษานั้น จำเป็นต้องมีจุดมุ่งหมายให้ผู้ปฏิบัติการนิเทศได้ทราบถึง แนวทางการดำเนินงาน เพื่อให้งานเป็นไปในทิศทางที่พึ่งประสงค์ สำหรับจุดมุ่งหมายของการนิเทศ การศึกษา มีนักการศึกษาหลายท่านได้กล่าวไว้ ดังนี้ สำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ (2541 : 4) ได้กล่าวว่า จุดมุ่งหมายของ งานนิเทศการศึกษาไว้ ดังนี้ 1. เพื่อส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษา ของโรงเรียนในความรับผิดชอบ 2. เพื่อแก้ปัญหาให้ความช่วยเหลือและให้คำปรึกษาแก่ผู้บริหาร ครูผู้สอนและบุคลากร 3. เพื่อพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีรูปแบบการเรียนการสอน การจัดการเรียนการสอนตาม หลักสูตรให้มีประสิทธิภาพ ตลอดจนพัฒนาหลักสูตรและสื่อการเรียนการสอนให้เหมาะสมและ สอดคล้องกับความต้องการของท้องถิ่น 4.เพื่อพัฒนาบุคลากรในโรงเรียนให้มีความรู้และประสบการณ์อันจำเป็นในการจัดการเรียน การสอนและสามารถแก้ปัญหาที่จะเกิดขึ้น จากการดำเนินงานดังกล่าวได้รวมทั้งให้มีขวัญและกำลังใจ ในการดำเนินงานตามบทบาทหน้าที่ ให้บรรลุวัตถุประสงค์ ปรียาพร วงศ์อนุตรโรน์ (2548 : 20) ได้กล่าวว่า ความมุ่งหมายของการนิเทศการสอนเป็น การมุ่งปรับปรุง และพัฒนาการเรียนการสอนในโรงเรียนไว้ ดังนี้ 1. พัฒนาวิชาชีพครู เป็นการให้ข้อมูลแก่ครูด้านการสอน เพื่อใช้เป็นแนวทางใน การปรับปรุง การสอน 2. พัฒนาคุณภาพนักเรียน เป็นการปรับปรุงคุณภาพการเรียนการสอน และส่งเสริม ประสิทธิภาพงานวิชาการในโรงเรียน 3. สร้างขวัญและกำลังใจแก่บุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการนิเทศการสอน 4. สร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างบุคคลที่เกี่ยวข้องในการทำงานร่วมกัน กรมวิชาการ (2543 : 9) ได้กล่าวว่า ความมุ่งหมายของการนิเทศการศึกษา ไว้ดังนี้ 1. เพื่อให้สถานศึกษา มีศักยภาพในการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียนให้สอดคล้อง ตามมาตรฐานหลักสูตร ระดับต่างๆ ให้เป็นไปตามแนว่ทางของพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 2. เพื่อให้สถานศึกษาสามารถบริหาร และการจัดการเรียนรู้ได้คล่องตัวยิ่งขึ้น 3. เพื่อพัฒนาหลักสูตรการเรียนรู้ให้มีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับความต้องการของชุมชน สังคม ทันต่อการเปลี่ยนแปลงทุกด้าน 4. เพื่อให้บุคลากรในสถานศึกษาได้พัฒนา เพิ่มพูนความรู้ ทักษะ และประสบการณ์ในการจัด กิจกรรมการเรียนรู้ และปฏิบัติงาน ตลอดจนความก้าวหน้าในวิชาชีพ 5. เพื่อส่งเสริมให้โรงเรียน ปฏิรูปการบริหาร โดยให้ทุกคนมีส่วนร่วมคิด ร่วมทำ มีส่วน ตัดสินใจและส่วนร่วม รับผิดชอบ ชื่นชมในผลงาน 6. เพื่อให้เกิดการประสานงาน และความร่วมมือ ในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา ระหว่าง ผู้เกี่ยวข้อง ทั้งหลาย ได้แก่ ชุมชน สังคม วัฒนธรรม วิชาชีพต่างๆ
6 จากจุดมุ่งหมายของการนิเทศการศึกษาสรุปได้ว่า การนิเทศการศึกษามีจุดมุ่งหมาย เพื่อพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษา ทั้งพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาให้มีความรู้ ความสามารถมีทักษะและประสบการณ์ในการพัฒนาการเรียนการสอน ให้สอดคล้องกับความ ต้องการของท้องถิ่น ตลอดจนการสร้างขวัญกำลังใจให้แก่ครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้เกิดความ พึงพอใจในการปฏิบัติงานส่งผลต่อการเรียนการสอน หรือพัฒนางานที่มีประสิทธิภาพและเกิด ประสิทธิผลสูงสุด 3.ความสำคัญของการนิเทศการศึกษา ความสำคัญของการนิเทศการศึกษา มีนักการศึกษาหลายท่าน ได้กล่าวถึงไว้ ดังนี้ สุทธนู สรไสย์ (2599 : ได้กล่าวว่า ความสำคัญของการนิเทศการศึกษาไว้ ดังนี้ 1. การนิเทศช่วยให้ครูมีความเชื่อมั่นในตนเอง 2. การนิเทศสนับสนุนให้ครูสามารถประเมินผลการทำงานได้ด้วยตนเอง 3. การนิเทศช่วยให้ครูแลกเปลี่ยนประสบการณ์ซึ่งกันและกัน 4. การนิเทศช่วยกระตุ้นให้ครูให้มีการวางแผนจัดทำจุดมุ่งมาย และแนวปฏิบัติไปพร้อมกัน 5. การนิเทศจะเป็นกระบวนการที่ท้าทายความสามารถของครูให้มีความคิดเชิงนามธรรม ธีระพงษ์ ศรีโพธิ์ (2549 : ออนไลน์)ได้กล่าวว่า การนิเทศการศึกษา เป็นกระบวนการที่สำคัญ อย่างยิ่ง ต่อการเพิ่มประสิทธิภาพการพัฒนาสถานศึกษา ในเขตพื้นที่การศึกษาที่ต้องพัฒนา ให้สอดคล้องกับสภาพการณ์ปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกระจาย อำนาจการบริหารและการจัดการศึกษา ที่มุ่งสู่การพัฒนาคุณภาพผู้เรียน อันเกิดจากความร่วมมือ ระหว่างผู้นิเทศและผู้รับการนิเทศ เพื่อพัฒนาคุณภาพการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ ที่เกี่ยวข้องอยู่ 3 กระบวนการที่ต้องทำงานประสานสัมพันธ์ เสริมสร้างซึ่งกันและกัน ทั้งกระบวนการบริหาร กระบวนการนิเทศการศึกษา และกระบวนการเรียนการสอน สำหรับกระบวนการนิเทศการศึกษาจะ ช่วยให้ครูและผู้บริหารเกิดการพัฒนาตามมาตรฐานวิชาชีพ เพื่อการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนในทำนอง เดียวกัน กระบวนการนิเทศการศึกษา จึงเป็นการทำงานของศึกษานิเทศก็ตามมาตรฐานวิชาชีพ ในการช่วยเหลือ สนับสนุน ส่งเสริมให้ครูสามารถปฏิบัติงานจนสำเร็จ บรรลุวัตถุประสงค์ได้มาตรฐาน ที่ต้องการ สอดคล้องกับนโยบาย การดำเนินงาน ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายมีความพึงพ่อใจ อันส่งผลให้ ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ สิทธิพร นิยมศรีสมศักดิ์ (2546 : 19) ได้กล่าวว่า การนิเทศการศึกษา คือ การช่วยเหลือ บุคลากรทางการศึกษา โดยเฉพาะครูผู้สอนให้ปฏิบัติงานอย่างมีความสุขและมีประสิทธิผล ปัจจุบัน การนิเทศการศึกษา มีความจำเป็นเพราะเหตุปัจจัยทางด้านการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมทาง การศึกษา หรือการจัดการเรียนการสอนตามหลักวิชาชีพครู จากความสำคัญของการนิเทศการศึกษาดังกล่าว สรุปได้ว่า การนิเทศการศึกษามีความ จำเป็นอย่างยิ่ง เพราะการพัฒนาคุณภาพการศึกษาจะต้องอาศัยกระบวนการบริหาร กระบวนการ เรียนการสอนและกระบวนการนิเทศการศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษาและศึกษานิเทศก์จำเป็นที่ต้อง นิเทศครูให้สามารถพัฒนาเทคนิควิธีสอนที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้ครูผู้สอนนำไปจัดกิจกรรมการเรียน การสอนให้ผู้เรียนมีคุณภาพตามมาตรฐานที่กำหนด
7 4.หลักการนิเทศการศึกษา หลักการนิเทศการศึกษา มีนักการศึกษาหลายท่านได้กล่าวถึงไว้ ดังนี้ สำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ (2542 : 15) ได้กล่าวว่า หลักการนิเทศ การศึกษาต้องอาศัยหลักการในการปฏิบัติงานเพื่อให้การดำเนินงานบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้การ นิเทศการศึกษาต้องอาศัยหลักการ ไว้ดังนี้ 1. การนิเทศการศึกษาต้องเป็นประชาธิปไตย 2. การนิเทศการศึกษาต้องพัฒนาบุคลากร และเทคนิควิซีโดยมุ่งเน้นคุณภาพของนักเรียน เป็นสำคัญ 3. การนิเทศการศึกษาต้องมีการวางเผนทำงานร่วมกันเป็นระบบ โดยเน้นกระบวนการกลุ่ม มากกว่ารายบุคคล 4. การนิเทศการศึกษาต้องสร้างขวัญกำลังใจแก่ครู สุทธนู ศรีไสย์ (2549 : 55) ได้กล่าวว่า หลักการนิเทศการศึกษา ไว้ดังนี้ 1. การนิเทศที่มีประสิทธิภาพ ควรจะตอบสนองต่อการพัฒนาครูให้เป็นไปตามลำดับขั้นตอน ครูแต่ละคนไม่จำเป็นต้องมีแรงจูงใจหรือมีแนวคิดเหมือนกันทุกคน นอกจากนี้การนิเทศไม่ควร ช่วยเหลือกลุ่มครูให้มีลักษณะเดียวกันทุกกลุ่ม 2. การนิเทศที่มีประสิทธิภาพนั้น จะต้องตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตในวัยผู้ใหญ่ ของครู การกระตุ้นให้ครูมีความกระตือรือร้นและรับผิดชอบเพิ่มขึ้น ควรกระทำอย่างต่อเนื่อง สม่ำเสมอ ทั้งนี้เพื่อให้ครูได้มีความรู้สึกที่ดีต่อวิชาชีพ ชัด บุญญา (2550 : ออนไลน์) ได้กล่าวว่า หลักการนิเทศดั้งเดิมมาผสมผสานกับแนวคิดการ ประกันคุณภาพการศึกษา แนวคิดที่เกี่ยวกับหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน แนวคิดว่าด้วยมาตรฐาน วิชาชีพครูและระดับคุณภาพครู ผู้บริหาร หลักการนิเทศในยุคใหม่ที่ควร๊จะเป็น ไว้ดังนี้ 1. การนิเทศการศึกษาจะต้องเคารพความแตกต่างระหว่างบุคคล เป็นความร่วมมือ ร่วมใจ ในการดำเนินงาน ใช้ความรู้ความสามารถในการปฏิบัติงาน เพื่อให้งานนั้นบรรลุเป้าหมาย 2. การนิเทศการศึกษา มุ่งให้ครูรู้จักวิธีคิดค้นการทำงนด้วยตนอง มีความสามารถในการนำ ตนเอง และสามารถตัดสินปัญหาของตนเองได้ 3. การนิเทศการศึกษา ควรเป็นการแสวงหาความสามารถพิเศษของแต่ละบุคคลแล้วเปิด โอกาสให้ได้แสดงออก และพัฒนาความสามารถเหล่านั้นอย่างเต็มที่ 4. การนิเทศที่ดีจะต้องสร้างบรรยากาศที่เป็นกันเอง ยั่วยุและสร้างความเข้าใจอันดีต่อกัน และต้องทำให้ครูรู้สึกว่าจะช่วยให้เขาพบวิธีที่ดีกว่าในการทำงานเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ 5. การนิเทศการศึกษาควรเป็นไปอย่างง่ายๆ ไม่มีพิธีรีตอง จากหลักการนิเทศการศึกษาดังกล่าว สรุปได้ว่าหลักการนิเทศการศึกษา เป็นเทคนิควิธีการ ของผู้นิเทศที่ต้องด ำเนินก ารกระท ำ เพื่ อให้ผู้ รับการนิเทศยอมรับเพื่อน ำไปสู่เป้ าหม าย คือวัตถุประสงค์ของการนิเทศเพื่อพัฒนาครูได้พัฒนาคุณภาพของนักเรียนเป็นสำคัญ
8 5.กระบวนการนิเทศการศึกษา กระบวนการนิเทศการศึกษา เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างครูและบุคลากรทางการศึกษา เพื่อให้ได้มาซึ่งผลสัมฤทธิ์สูงสุดของผู้เรียน ได้มีนักการศึกษาหลายท่านกล่าวถึง ไว้ดังนี้ สำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ (2541 : 7 -8 ) ได้กล่าวว่า กระบวนการ นิเทศการศึกษา ยึดวิธีการทางวิทยาศาสตร์ ประกอบด้วย 5 ขั้นตอน ดังนี้ ขั้นที่ 1 การศึกษาสภาพปัจจุบันปัญหาและความต้องการ ขั้นที่ 2 การวางแผนและกำหนดทางเลือก ขั้นที่ 3 การสร้างสื่อ เครื่องมือและวิธีการ ขั้นที่ 4 การปฏิบัติการนิเทศ ขั้นที่ 5 การประเมินผลและรายงานผล ในแต่ละขั้นตอนของกระบวนการนิเทศการศึกษา มีแนวทางดำเนินการนิเทศ ดังนี้ 1. การศึกษาสภาพปัจจุบันปัญหา และความต้องการพัฒนา เป็นการศึกษาข้อมูลของผู้รับ การนิเทศ โดยใช้เครื่องมือต่าง เ เช่น แบบสำรวจ แบบสอบถาม แบบประเมินตนเอง ศึกษาจากผล การดำเนินการ เช่น ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน การจัดทำแผนการสอน การจัดทำธุรการห้องเรียน ผลงานครูผลงานนักเรียน เป็นต้น 2. การวางแผนและกำหนดทางเลือก 2.1 พิจารณาความสัมพันธ์ของจุดพัฒนากับการนิเทศ ว่าจุดพัฒนาสอดคล้องกับปัญหา โดยรวมเฉพาะที่ เทคนิควิธีที่ควรนำมาใช้ ทรัพยากรที่มีและศักยภาพของผู้นิเทศ 2.2 กำหนดทางเลือก 2.3 วางแผนการนิเทศร่วมกับผู้รับการนิเทศ 3. การสร้างสื่อเครื่องมือและพัฒนาวิธีการแสวงหาสื่อเครื่องมือตามที่วางแผนไว้โดยการ จัดหาจัดทำตามความเหมาะสม 4. ปฏิบัติการนิเทศการศึกษาเป็นการปฏิบัติการนิเทศตามแผนที่วางไว้ 5. การประเมินผลและรายงานผล 5.1 ศึกษาการเปลี่ยนแปลงการพัฒนาของผู้รับการนิเทศ 5.2 ศึกษาผลงานของผู้รับการนิเทศ 5.3 ใช้เครื่องมือประเมินตามวัตถุประสงค์ของการนิเทศ 5.4 วิเคราะห์ สังเคราะห์ข้อมูล 5.5 สรุป รายงานผลและเผยแพร่ผลงานการนิเทศ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเชียงใหม่ เขต 4 (2550 : ออนไลน์) ได้กล่าวว่ากระบวนการ นิเทศการศึกษาประกอบด้วยขั้นตอนสำคัญ 4 ขั้นตอน ดังนี้ 1. การวางแผน (Plan : P) เป็นขั้นตอนแรกของกระบวนการนิเทศการศึกษา เป็น การ ดำเนินงานที่มีเป้าหมาย จะศึกษาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการนิเทศการศึกษาและกำหนดแนวทางการ นิเทศการศึกษาในโรงเรียน การจัดเตรียมเครื่องมือสำหรับการนิทศและการแจ้งปฏิทิน การนิเทศให้ โรงเรียนและผู้เกี่ยวข้องทราบ โดยที่ทุกกิจกรรมของขั้นตอนนี้ เน้นการมีส่วนร่วมความต่อเนื่องและ การเรียนรู้ของบุคลากร
9 2. การปฏิบัติตามแผน (D0 : 0) เป็นขั้นตอนการนำแผนการนิเทศการศึกษาที่กำหนดไว้ สู่การปฏิบัติ มีเป้าหมายสำคัญคือ ประเมินตรวจสอบและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพื่อพัฒนาคุณภาพการ จัดการศึกษา ตลอดจนรายงานผลการนิเทศให้ผู้เกี่ยวข้องทราบ ในขั้นตอนนี้ประกอบด้วย กิจกรรม ย่อย คือ พบปะผู้บริหารโรงเรียนหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย เพื่อชี้แจงวัตถุประสงค์และขออนุญาตเยี่ยม การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน รวมทั้งกิจกรรมอื่นๆ ตลอดจนขออนุญาตทดสอบนักเรียนในขณะ ปฏิบัติการนิเทศ ผู้นิเทศและผู้รับกรนิเทศจะเรียนรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่องที่นิเทศ ร่วมกัน เน้นการสร้างสัมพันธภาพที่ดีต่อผู้รับการนิเทศ หลังจากที่ได้ปฏิบัติหน้าที่นิเทศตามขอบข่าย งานที่กำหนดแล้วผู้นิเทศจะพบปะผู้บริหารโรงเรียนเพื่อสรุปผลการนิเทศและในบางโรงเรียนบริหาร โรงเรียนอาจให้ผู้นิเทศได้จัดประชุมชี้แจงคณะครูเพื่อทำความเข้าใจ และรับทราบการจัดการศึกษา ของโรงเรียน ผลที่ได้รับจากการจัดกิจกรรมนี้ ผู้บริหารโรงเรียนและผู้รับการนิเทศได้รับทราบผลการ ดำเนินงานของกิจกรรมที่ได้รับการนิเทศตลอดจนแลกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อพัฒนาการดำเนินงาน กิจกรรมที่ได้รับมอบหมาย 3. การประเมินและตรวจสอบ (Check : C) เป็นขั้นตอนต่อเนื่องจากการปฏิบัติตามแผน (DO : D) เป้าหมายสำคัญของกิจกรมุ่งสะท้อนให้เห็นสภาพการจัดการศึกษาของโรงเรียนตาม ขอบข่ายงานที่กำหนดไว้ในแผนการนิเทศความเหมาะสมของกระบวนการนิเทศการศึกษาว่าจุดเด่น จุดด้อยควรปรับปรุง เพื่อใช้ข้อมูลการพัฒนาหรือแก้ไขปัญหาในการวางแผนการนิเทศต่อไป การ ดำเนินงานในขั้นตอนนี้ ประกอบด้วยกิจกรรมที่สำคัญ คือ การประชุมสรุปผลการนิเทศตาม แผนปฏิบัติการนิเทศการศึกษา และกิจกรรมการเขียนรายงานการนิเทศการศึกษา ผลที่ได้รับจากการ จัดกิจกรรม ผู้นิเทศทุกคนได้รับทราบสภาพการจัด การศึกษาของโรงเรียนในภาพรวม ตลอดจนได้ รับทราบจุดควรปรับปรุงของการจัดการศึกษารวมทั้งกระบวนการนิเทศการศึกษาที่กำหนดขึ้นได้ ข้อมูลสารสนเทศที่มีความสำคัญต่อการวางแผนการนิเทศ 4. การนำผลการประเมินไปใช้ประโยชน์ (Action : A) เป็นขั้นตอนสุดท้ายของกระบวนการ นิเทศการศึกษา ก่อนที่จะวนกลับเข้าสู่วงจรของกระบวนการพัฒนาการนิเทศการศึกษาวงจรใหม่ ในขั้นตอนนี้มุ่งเน้นการนำข้อค้นพบจากขั้นตอนที่ 3 มาใช้เป็นข้อมูลสำคัญในการพัฒนากระบวนการ เรียนการสอน กระบวนการบริหาร และกระบวนการนิเทศ เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องของการพัฒนา งานและประสิทธิภาพของการพัฒนากิจกรรมสำคัญของขั้นตอนนี้คือ การประชุมระดมพลังสมองของ ผู้นิเทศ เพื่อเสนอแนวทางการแก้ปัญหาที่ประสบหรือแนวทางการพัฒนางานที่ดำเนินการให้มีคุณภาพ น่าพอใจยิ่งขึ้นดังนั้น จุดเน้นสำคัญของกิจกรรมคือ การเลือกทางเลือกที่เหมาะสมและเป็นไปได้บน ข้อจำกัดที่มีอยู่ให้เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาการศึกษา ผลที่ได้รับจากการจัดกิจกรรมในขั้นตอนนี้ ทำให้กิจกรรมที่กำหนดขึ้นนั้นสอดคล้องกับปัญหาความต้องการของผู้นิเทศและโรงเรียนเช่น การปรับ เครื่องมือนิเทศในแผนปฏิบัติการนิเทศ จัดเวทีวิชาการ การจัดทำเครื่องมือนิเทศโรงเรียนในโครงการ ต่าง ๆ เป็นต้น
10 กระบวนการพัฒนาการนิเทศการศึกษา เสนอเป็นแผนภูมิได้ ดังนี้
11 สุมน อมรวิวัฒน์ (2547 : 7 - 11)ได้กล่าวว่า กระบวนการนิเทศแบบกัลยาณมิตรนิเทศ ประกอบด้วยกระบวนการสำคัญ 5 ขั้นตอน ดังนี้ 1. กัลยาณมิตรนิทศเน้นการนิทศคน ไม่ใช่นิเทศกระดาษ ผู้นิเทศจะต้องให้คพูดคุยกับผู้รับ การนิเทศ เช่น สนทนาเป็นกลุ่มหรือในลักษณะทั้งที่เป็นทางการ และไม่เป็นทางการ ซึ่งจะได้แนว ทางแก้ไขปัญหาได้มากกว่าการนิเทศกระดาษ 2. กัลยาณมิตรนิเทศเป็นกระบวนการให้ใจและร่วมใจการนิเทศจะไม่ประสบผลสำเร็จ ถ้าไม่ได้ใจของเขา ฉะนั้นหน้าที่ของผู้นิเทศคือทำอย่างไรจะให้ผู้รับการนิเทศมีใจหรือทำอย่างไรจะได้ ใจเขามา การทำงานก็จะได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี 3. กัลยาณมิตรนิเทศเริ่มต้นที่ศรัทธา งานที่ทำต้องเป็นกระบวนการทางบวก คือ ยอมรับการ สนับสนุนกัน เกื้อกูลกันสร้างความไว้วางใจสร้างความเชื่อมั่นและสร้างรอยยิ้มให้แก่กัน 4. กระบวนการกัลยาณมิตรนิเทศ ต้องเน้นการสร้างสังคมการเรียนรู้ยึดหลักความแตกต่าง ระหว่างบุคคล เคารพยอมรับในความสามารถของบุคคลอื่นใช้วิธีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และ ประสบการณ์กัน ผู้นิเทศที่ชาญฉลาดจะพยายามค้นหาว่าครูแต่ละคนเขามีดีอะไรแล้วใช้สิ่งที่เขาดีมา แลกเปลี่ยนประสบการณ์ซึ่งกันและกันทำให้เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ 5. กระบวนการกัลยาณมิตรนิเทศ มาจากฐานปัญญาธรรม ฐานเมตตาธรรมและฐานความ เป็นจริงในชีวิต ถ้าขาดฐานใดฐานหนึ่งกัลยาณมิตรจะไม่เกิด ฐานที่ 1 ปัญญาธรรม คือฐานความรู้ ผู้นิเทศจะต้องตื่นตัวในการที่จะแสวงหาความรู้มีการ บริหารจัดการความรู้แก่ผู้รับการนิเทศด้วยวิธีการต่าง ๆ ฐานที่ 2 เมตตาธรรม คือฐานความรัก พยายามกระจายงาน พยายามทำตนให้มีชีวิตชีวา พยายามสร้างมนุษยสัมพันธ์ที่ดี ฐานที่ 3 ฐานความเป็นจริงในชีวิต เป็นฐานทางวัฒนธรรมผู้นิเทศจะต้องเข้าใจวัฒนธรรมของ แต่ละคน ไม่ว่าจะมีใครมาจากไหนเมื่อมาอยู่ร่วมกันแล้วทำอย่างไรถึงจะหลอมรวมวัฒนธรรมกันได้มี ความสามารถที่จะสร้างเป็นวัฒนธรรมองค์กรได้ จากหลักการกระบวนการนิเทศดังกล่าวสรุปได้ว่า เป็นการปฏิบัติกิจกรรมการนิเทศการศึกษา ของศึกษานิเทศก์ หรือผู้ทำหน้าที่นิเทศที่ต้องอาศัยขั้นตอนในการดำเนินงานเพื่อให้เกิดความร่วมมือ กันอย่างเป็นระบบ และขั้นตอน นักวิชาการส่วนใหญ่มีความเห็นที่สอดคล้องกันในการให้ความสำคัญ ของประเด็นการวางแผน การนำแผนไปปฏิบัติ และการประเมินผลการดำเนินการนิเทศการนิเทศ การศึกษาจะต้องอาศัยกระบวนการขั้นตอนการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องเป็นระบบ จนบรรลุ วัตถุประสงค์ของการนิเทศในเรื่องนั้น ๆ 6. รูปแบบการนิเทศการศึกษา รูปแบบการนิเทศการศึกษาเป็นลักษณะของกิจกรรม กระบวนการ ขั้นตอนการดำเนินงาน การส่งเสริมแนะนำช่วยเหลือ เพื่อให้ผู้รับการนิเทศสามารถนำความรู้ไปใช้ในการพัฒนางาน ซึ่งรูปแบบการนิเทศที่นิยมใช้ในปัจจุบันมีหลายวิธีโดยแต่ละวิธีมีเทคนิค ขั้นตอนในการดำเนินงาน แตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ เป้าหมาย ปัญหาหรือสภาพแวดล้อมที่ ผู้นิเทศเลือกนำไปใช้ ให้สอดคล้องเหมาะสมกับการนิเทศ ซึ่งมีนักการศึกษากล่าวไว้ ดังนี้
12 สำนักงานงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ (2542 : 4-7) ได้กล่าวว่ารูปแบบของ การนิเทศการศึกษา มี 4 รูปแบบ ดังนี้ 1.การนิเทศทางตรง คือกระบวนการทำงานร่วมกันระหว่าง ผู้นิเทศกับผู้รับการนิเทศเพื่อ ปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของผู้รับการนิเทศในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา โดยมีหลักปฏิบัติ คือ ต้องถูกต้องตามหลักวิชาการ มีจุดมุ่งหมายชัดเจนประเมินผลได้ด้วยตนเอง มีการวางแผนอย่างเป็นระบบ บรรยากาศเป็นประชาธิปไตย เป็นกระบวนการส่งเสริม สร้างสรรค์ มุ่งส่งเสริมบำรุงขวัญ และมุ่งเน้นการทำงานเป็นทีมมากกว่าแบ่งแยกเป็นรายบุคคล เป็นการพัฒนา วิซาชีพประสมประสานกับความสัมพันธ์ระหว่างส่วนบุคคล ส่งเสริม และพัฒนาครูตมความนัด และ ตามความสามารถควรเริ่มต้นจากสภาพการณ์ปัจจุบันที่กำลังเผชิญอยู่ ใช้วิธีการนิเทศอย่างง่ายๆ ไม่ ต้องมีพิธีการและควรใช้เครื่องมือและกลวิธีง่ายๆ 2.การนิเทศ 100% หมายถึง การนิเทศอย่างทั่วถึงต่อเนื่อง และมีคุณภาพ กล่าวคือ ความ ทั่วถึงคือการที่โรงเรียนทุกโรงเรียนได้รับการนิเทศ ความต่อเนื่องคือ การที่ผู้นิเทศกำหนดจุดพัฒนา โรงเรียนและปฏิบัติงานร่วมกันจนบรรลุเป้าหมายเป็นระยะๆ ความมีคุณภาพคือ การนำเทคนิค วิธีการนวัตกรรมาใช้ในการปฏิบัติการนิเทศอย่างมีคุณภาพ สามารถพัฒนาจุดต่างๆ ได้ตามเป้าหมาย โดยมีหลักปฏิบัติ คุณภาพการศึกษาจะเกิดขึ้นได้ต้องประกอบด้วยกระบวนการสำคัญ 3 ประการ คือ บวนการบริหาร กระบวนการเรียนการสอนและกระบวนการนิเทศการศึกษาโดยให้ผู้บริหารถือเป็น ภารกิจและหน้าที่ในการปฏิบัติ และสนับสนุนให้มีการนิเทศการศึกษา 3.การนิเทศทางกล หมายถึง การนิเทศการศึกษาที่ผู้นิเทศและผู้รับการนิเทศไม่สามารถ ปฏิสัมพันธ์กันได้โดยตรงต้องอาศัยสื่อต่างๆ เช่น เอกสารสิ่งพิมพ์ วิทยุกระจายเสี่ยง โทรพิมพ์ เป็นสื่อกลางในการถ่ายทอดเนื้อหาสาระในการนิเทศการศึกษา โดยมีหลักปฏิบัติคือต้องอาศัยสื่อต่างๆ ในการนิเทศ และต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ 4.การนิเทศภายใน หมายถึง การส่งสริมสนับสนุนช่วยเหลือให้ครูในโรงเรียนได้ประสบ ผลสำเร็จในการปฏิบัติงานภารกิจหลัก คือ การสอนหรือสร้างเสริมพัฒนาการของนักเรียนทุกด้านทั้ง ด้านร่างกาย สติปัญญา จิตใจ อารมณ์และสังคม ให้เต็มตามวัยและตามศักยภาพโดยความร่วมมือของ บุคลากรในโรงเรียน โดยมีหลักปฏิบัติ คือ จะต้องสอดคล้องกับความต้องการจำเป็นในการพัฒนาของ ครูของโรงเรียน และสอดคล้องกับระดับพัฒนาการของครู โดยผู้บริหารจะต้องเปิดโอกาสให้คณะครู ในโรงเรียนมีส่วนรวมดำเนินการ อารมณ์ ฉนวนจิตร (2543 : 65) ได้กล่าวว่า รูปแบบการนิเทศแบบคลินิก ตามรูปแบบของ โกลด์แฮมเมอร์ (Goldhammer) ประกอบด้วย 5 ขั้นตอน ดังนี้ 1. การประชุมปรึกษาก่อนการสังเกตการณ์สอน ซึ่งเป็นพื้นฐานของความเข้าใจและตกลง ร่วมกันระหว่างครูและผู้นิเทศ เกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอน 2. การสังเกตการณ์สอน ผู้นิเทศจะดำเนินการสังเกตพฤติกรรมการสอนจริงของครู 3. การวิเคราะห์ข้อมูล และกำหนดวิธีการประชุมคือ รวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการสอนให้ เป็นแบบหมวดหมู่ เป็นระบบเพื่อนำมาวิเคราะห์ ในชั้นตอนนี้ครูและศึกษานิเทศก์จะร่วมกันคิดและ วางแผนขั้นตอนของการประชุมนิเทศด้วย 4. การประชุมนิเทศ เป็นการให้ข้อมูลป้อนกลับเกี่ยวกับพฤติกรรมการสอนของครู 5. การประชุมวิเคราะห์พฤติกรรมการนิเทศ เป็นการเปิดโอกาสให้ครู และผู้นิเทศที่มีส่วนที่ บกพร่องสมควรปรับปรุงแก้ไข โดยที่ครูมีส่วนร่วมรับผิดชอบที่จะให้ข้อมูลย้อนกลับเกี่ยวกับพฤติกรรมนิเทศ
13 ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษาภาคเหนือ (2549 : ออนไลน์) ได้กล่าวว่า รูปแบบ การนิเทศแบบคลินิก ตามแนวคิดของเบล์ลอนและฮัฟฟ์ มีอยู่ 4 วัฏภาค วัฏภาคที่ 1 การประชุมปรึกษาก่อนการสังเกตการสอน วัฏภาคที่ 2 การสังเกตการสอน วัฏภาคที่ 3 การประชุมปรึกษาหลังการสังเกตการสอน วัฏภาคที่ 4 การวัดผลและประเมินผลพฤติกรรมการสอน จากแนวคิดเรื่องรูปแบบการนิเทศการศึกษาดังกล่าวสรุปได้ว่า เป็นการใช้เทคนิควิธีการ การใช้สื่อเครื่องมือหรือนวัตกรรมต่าง1 ที่จะช่วยให้การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน มีประสิทธิภาพ ยิ่งขึ้นความสำเร็จในการเลือกรูปแบบเทคนิควิธีการนิเทศการศึกษาขึ้นอยู่กับความสามารถของผู้นิเทศ เทคนิควิธีการ รูปแบบการนิเทศ กิจกรรมการนิเทศ และเครื่องมือที่ใช้ในการนิเทศ
14 บทที่ 3 วิธีดำเนินการศึกษา รายงานการศึกษาความต้องการรับการนิเทศการศึกษาของโรงเรียน ในสังกัดเขตพื้นที่ การศึกษาประถมศึกษาพัทลุง เขต 1 ครั้งนี้ ผู้ศึกษาได้นำเสนอวิธีการศึกษาตามขั้นตอน ดังนี้ 1. ประชากรที่ใช้ในการศึกษา 2. เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา 3. การสร้างและหาประสิทธิภาพของเครื่องมือ 4. เก็บรวบรวมข้อมูล 5. การวิเคราะห์ข้อมูล 6. สถิติในการวิเคราะห์ข้อมูล 1.ประชากรที่ใช้ในการศึกษา ประชากรที่ผู้ศึกษาดำเนินการศึกษา ประกอบด้วยผู้บริหารสถานศึกษา ในสังกัดเขตพื้นที่ การศึกษาประถมศึกษาพัทลุง เขต 1 ปีการศึกษา 2556 ที่ตอบแบบสอบถาม ปรากฏ ตามตาราง 1 ตาราง 1 แสดงจำนวนประชากรที่ตอบแบบสอบถาม ที่ ประชากร จำนวน/คน 1 ผู้บริหารสถานศึกษา 116 2. เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา เครื่องมือที่ใช้ในการสอบถาม ประกอบด้วย แบบสอบถามความความต้องการรับการนิเทศ การศึกษาของผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 12 ข้อ 3. การสร้างและหาประสิทธิภาพของเครื่องมือ การหาประสิทธิภาพของเครื่องมือในการสอบถาม ดำเนินการ ดังนี้ 1. ศึกษาเอกสารที่เกี่ยวข้องกับขอบข่ายภาระงานของโรงเรียน 2. ศึกษาเอกสารเกี่ยวข้องกับการนิเทศการศึกษา 3. สร้างแบบสอบถามความต้องการรับการนิเทศของผู้บริหารสถานศึกษา 4. นำแบบสอบถามให้ศึกษานิเทศก์ ผู้บริหารสถานศึกษา และครูผู้สอนอย่างละ 3 คน ตรวจสอบความถูกต้อง ครอบคลุมภาระงานของโรงเรียน นำมาปรับปรุงตามข้อเสนอแนะ 5.จัดทำแบบสอบถามฉบับสมบูรณ์พร้อมใช้
15 4.การเก็บรวบรวมข้อมูล ในการเก็บรวบรวมข้อมูลในการศึกษาครั้งนี้ ดำเนินการดังนี้ 1. ส่งแบบสอบถามให้โรงเรียนตามจำนวนผู้บริหาร ในช่องส่งหนังสือให้โรงเรียน 2. โรงเรียนส่งแบบสอบถามกลับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ภายในเวลาที่กำหนด 3. นำแบบสอบถามที่กรอกข้อมูลครบถ้วนและถูกต้องมาทำการวิเคราะห์ข้อมูล 5.การวิเคราะห์ข้อมูล การวิเคราะห์ความต้องการรับการนิเทศของผู้บริหารสถานศึกษาและครูผู้สอน โดยวิเคราะห์ สรุปความต้องการแล้วแปรผลแต่ละข้อ โดยใช้กณฑ์ในการแปลความหมาย (สมบูรณ์ สุริยวงค์, สมจิตรา เรื่องศรี และเพ็ญศรี เศรษฐวงค์, ๒๕๔๓ : ๑๑๖) ค่เฉลี่ยและระดับคุณภาพ ดังนี้ ๔.๕0 - ๕.00 มีความต้องการรับการนิเทศมากที่สุด ๓.๕๐ - ๔.๔๙ มีความต้องการรับการนิเทศมาก ๒.๕0 - ๓.๔๙ มีความต้องการรับการนิเทศปานกลาง ๑.๕0 - ๒.๔๙ มีความต้องการรับการนิเทศน้อย ๑.๐๐ - ๑.๔๙ มีความต้องการรับการนิเทศน้อยที่สุด 6. สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูลรายงานฉบับนี้ ประกอบด้วยค่าสถิติ ดังต่อไปนี้ การหาค่าเฉลี่ย (Arithmetic Mean) โดยใช้สูตร (พิสณุ ฟองศรี, 2549:154) คือ ค่าเฉลี่ยของข้อมูลทั้งหมด ∑X คือ ผลรวมของข้อมูลทั้งหมด N คือ จำนวนข้อมูลทั้งหมด
16 บทที่ 4 ผลการวิเคราะห์ข้อมูล รายงานการศึกษาความต้องการรับการนิเทศการศึกษาของโรงเรียน ในสังกัดเขตพื้นที่ การศึกษาประถมศึกษาพัทลุง เขต 1 ครั้งนี้ ผู้ศึกษาได้นำเสนอผล การวิเคราะห์ข้อมูลตามลำดับ ดังนี้ ผลการวิเคราะห์ข้อมูล รายงานการศึกษาครั้งนี้ ผู้ศึกษานำเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูลและการแปรผลการวิเคราะห์ ข้อมูล ตามลำดับ ดังนี้ 1. การวิเคราะห์ข้อมูลความต้องการรับการนิเทศการศึกษาของผู้บริหารสถานศึกษาในสังกัด เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพัทลุง เขต 1 2. ข้อเสนอแนะของผู้บริหารสถานศึกษา ตารางที่ 2 แสดงค่าเฉลี่ย และระดับความต้องการรับการนิเทศการศึกษาของผู้บริหาร สถานศึกษา ข้อที่ ประเด็นที่ต้องการรับการนิเทศ ผู้บริหาร ( N = 116 ) Mean S.D. แปลผล 1 การพัฒนาหลักสูตร 3.69 0.91 มาก 2 การจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) 3.97 0.97 มาก 3 การจัดทำสื่อการสอน 4.06 0.94 มาก 4 การศึกษาพิเศษ/การจัดการศึกษาเรียนรวม 3.52 0.94 มาก 5 การวัดและการประเมินผล 3.82 0.92 มาก 6 การสร้างสื่อเทคโนโลยีดิจิทัล 4.03 0.80 มาก 7 ทักษะอาชีพ 3.78 0.92 มาก 8 การจัดกิจกรรมพัฒนาการอ่านการเขียนภาษาไทย 4.11 0.91 มาก 9 การจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน 4.10 0.87 มาก 10 การนิเทศภายในสถานศึกษา 3.72 0.87 มาก 11 การจัดทำสื่อการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ 3.91 0.87 มาก 12 การพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ 4.01 0.86 มาก เฉลี่ย 3.89 0.90 มาก
17 จากตารางที่ 2 พบว่าผู้บริหารสถานศึกษา ต้องการรับการนิเทศโดยภาพรวม ( = 3.89) ระดับมาก เมื่อพิจารณาแต่ละรายการ พบว่า ผู้บริหารสถานศึกษาต้องการจัดกิจกรรมพัฒนาการอ่าน การเขียนภาษาไทย ( = 4.11) มากที่สุด รองลงมาเป็น การจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน ( = 4.11) และการจัดทำสื่อการสอน ( = 4.06 ) ตามลำดับ ข้อที่ ประเด็นที่ต้องการรับการนิเทศ ผู้บริหาร ( N = 116 ) Mean S.D. แปลผล 1 การพัฒนาหลักสูตร 3.69 0.91 มาก 2 การจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) 3.97 0.97 มาก 3 การจัดทำสื่อการสอน 4.06 0.94 มาก 4 การศึกษาพิเศษ/การจัดการศึกษาเรียนรวม 3.52 0.94 มาก 5 การวัดและการประเมินผล 3.82 0.92 มาก 6 การสร้างสื่อเทคโนโลยีดิจิทัล 4.03 0.80 มาก 7 ทักษะอาชีพ 3.78 0.92 มาก 8 การจัดกิจกรรมพัฒนาการอ่านการเขียนภาษาไทย 4.11 0.91 มาก 9 การจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน 4.10 0.87 มาก 10 การนิเทศภายในสถานศึกษา 3.72 0.87 มาก 3.20 3.40 3.60 3.80 4.00 4.20 การพัฒนาหลักสูตร การจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) การจัดท าสื่อการสอน การศึกษาพิเศษ/การจัดการศึกษาเรียนรวม การวัดและการประเมินผล การสร้างสื่อเทคโนโลยีดิจิทัล ทักษะอาชีพ การจัดกิจกรรมพัฒนาการอ่านการเขียน… การจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน การนิเทศภายในสถานศึกษา การจัดท าสื่อการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้… การพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ
18 บทที่ 5 สรุปผลการศึกษา รายงานการศึกษาครั้งนี้ เป็นรายงานความต้องการรับการนิเทศการศึกษาของโรงเรียนใน สังกัดเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพัทลุง เขต 1 ครั้งนี้ ผู้ศึกษาได้นำเสนอวิธีการศึกษาตามขั้นตอน ดังนี้ วัตถุประสงค์ของการศึกษา เพื่อศึกษาความต้องการรับการนิเทศการศึกษาของโรงเรียนในสังกัดเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาพัทลุงเขต 1 ประชากรที่ใช้ในการศึกษา ประชากรที่ผู้ศึกษาดำเนินการศึกษา คือ ผู้บริหารสถานศึกษาในสังกัดเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาพัทลุง เขต 1 ปีการศึกษา 2565 จากโรงเรียนจำนวน 116 โรง เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา แบบสอบถามความความต้องการรับการนิเทศการศึกษาของผู้บริหารสถานศึกษา การเก็บรวบรวมข้อมูล ในการเก็บรวบรวมข้อมูลในการศึกษาครั้งนี้ ดำเนินการดังนี้ 1. ส่งแบบสอบถามให้โรงเรียนตามจำนวนผู้บริหาร ในช่องส่งหนังสือให้โรงเรียน 2. โรงเรียนส่งแบบสอบถามกลับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ภายในเวลาที่กำหนด 3. นำแบบสอบถามที่กรอกข้อมูลครบถ้วนและถูกต้องมาทำการวิเคราะห์ข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูล การวิเคราะห์ความต้องการรับการนิเทศของผู้บริหารสถานศึกษาและครูผู้สอน โดยวิเคราะห์ สรุปความต้องการแล้วแปรผลแต่ละข้อ โดยใช้กณฑ์ในการแปลความหมาย (สมบูรณ์ สุริยวงค์, สมจิตรา เรื่องศรี และเพ็ญศรี เศรษฐวงค์, ๒๕๔๓ : ๑๑๖) ค่เฉลี่ยและระดับคุณภาพ ดังนี้ ๔.๕0 - ๕.00 มีความต้องการรับการนิเทศมากที่สุด ๓.๕๐ - ๔.๔๙ มีความต้องการรับการนิเทศมาก ๒.๕0 - ๓.๔๙ มีความต้องการรับการนิเทศปานกลาง ๑.๕0 - ๒.๔๙ มีความต้องการรับการนิเทศน้อย ๑.๐๐ - ๑.๔๙ มีความต้องการรับการนิเทศน้อยที่สุด
19 สรุปผลการวิเคราะห์ข้อมูล การศึกษาครั้งนี้ ผู้ศึกษานำเสนอการสรุปผลการวิเคราะห์ข้อมูล พบว่า ต้องการรับการนิเทศ โดยภาพรวม ระดับมาก เมื่อพิจารณาแต่ละรายการ พบว่า ผู้บริหารสถานศึกษาต้องการจัดกิจกรรม พัฒนาการอ่านการเขียนภาษาไทย มากที่สุด รองลงมาเป็น การจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน และการจัดทำสื่อการสอน ตามลำดับ ข้อเสนอแนะในการนำผลการศึกษาไปใช้ ในการศึกษาความต้องการรับการนิเทศของผู้บริหารสถานศึกษา ในสังกัดเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาพัทลุง เขต 1 มีข้อเสนอแนะเพื่อนำผลการศึกษาไปใช้ ดังนี้ ผู้บริหารสถานศึกษา ประธานเครือข่ายโรงเรียน ศึกษานิเทศก์ และผู้เกี่ยวข้องกับการจัด การศึกษา สังกัดเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพัทลุง เขต 1 ควรศึกษา และนำผลการศึกษาครั้งนี้ ไปใช้ในการพัฒนาข้าราชการครู ระดับเครือข่ายโรงเรียน และระดับเขตพื้นที่การศึกษา ให้ตรงกับ ความต้องการรับการนิเทศของโรงเรียนต่อไป
20 บรรณานุกรม กรองทอง จิรเดชากุล. คู่มือการนิเทศภายในโรงเรียน. กรุงเทพมหานคร : ธารอักษร,2550. เขตพื้นที่การศึกษาเชียงใหม่ เขต 4, สำนักงาน. กรอบแนวคิดการพัฒนากระบวนการนิเทศ การศึกษาของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเชียงใหม่ เขต 4. [ออนไลน์). เข้าถึงได้ จาก http://www.geocities.com/sboonmunt/document/model_sup.htm (วันที่ค้น ข้อมูล : 12 มีนาคม 2552), 2550. คณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ,สำนักงาน. ชุดฝึกอบรมด้วยตนเองการนิเทศภายใน โรงเรียนประถมศึกษาอย่างเป็นระบบ. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว, 2541. ______,สำนักงาน. รายงานการดำเนินการนิเทศ 100 %. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์คุรุสภา ลาดพร้าว, 2542. คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน,สำนักงาน.ระทรวงศึกษาธิการ. รายงานผลการดำเนินการ โครงการพัฒนาบุคลากรเพื่อเข้าสู่ตำแหน่งสายงานบริหารในสถานศึกษาปิ้งบ ประมาณ 2546. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์, 2546. ฉวีวรรณ พันวัน. การนิเทศภายในโรงเรียนมัธยมศึกษา เขตพื้นที่การศึกษาลำพูน เขต ๒. กลุ่ม นิเทศติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาลำพูน เขต ๒, ๒๕๕๒.(อัดสำเนา) ชัด บุญญ า. หลักการแนวคิดในการนิเทศการศึกษายุคใหม่. [ออนไลน์], เข้าถึงได้จาก http://www.nitesonline.net/warasan/8_chat.doc(วันที่ค้นข้อมูล : 20 มีนาคม 2557), 2550. ธี ร ะพงษ์ ศ รีโพ ธิ์ . ค ว าม ส ำคั ญ ข องก า รนิ เท ศ ก า รศึ กษ า . [อ อนไล น์ ]. เข้ าถึงได้ จ า ก http://chalor.igetweb.com/index.php?mo=148newsid=58644(วันที่ค้22 มีน าคม 2557), 2549. นิพนธ์ มนัส. การพัฒนาบุคลากรเกี่ยวกับการนิเทศภายในโรงเรียนบ้านโนนแฝก อำเภอ เดชอุดม จังหวัดอุบลราชธานี.ปริญญานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต สาขาการบริหาร การศึกษา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, ๒๕๔๖. ปรียาพร วงศ์อนุตรโรงน์. การนิเทศการสอน. กรุงเทพมหานคร : ศูนย์สื่อส่งเสริมกรุงเทพ, 2548. พิสณุ ฟองศรี. วิจัยทางการศึกษา. กรุงเทพมหานคร : เทียมฝ้าการพิมพ์, 2549. วัชรา เล่าเรียนดี. การนิเทศการสอน.ภาควิชาหลักสูตรและวิธีสอน มหาวิทยาลัยศิลปากร นครปฐม, ๒๕๕๖. วิชาการ,กรม. แนวทางการนิเทศช่วยเหลือโรงเรียน ปฏิรูปการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง. กรุงเทพมหานคร นครปฐม, ๒๕๕๖. : โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว, 2543. ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวภาคเหนือ, ศูนย์. ทฤษฎีการนิเทศแบบคลินิก. ออนไลน์)เข้าถึงได้จาก http://www.nsd.go.th/agriculture/clinicup/thearyclinicsuper/theorysupcldoc (วันที่ค้นข้อมูล : 15 มีนาคม 2557), 2549. สมบูรณ์ สุริวงศ์,สมจิตรา เรืองศรี และ เพ็ญศรี เศรษวงศ์. ระเบียบวิธีวิจัยทางการศึกษา. กรุงเทพฯ: ศูนย์ส่งเสริมวิชาการ, 2543.
21 สิทธิพร นิยมศรีสมศักดิ์. หลักการนิเทศการศึกษา. กรุงเทพมหานคร,2546. สุทธนู ศรีไสย์. หลักการนิเทศการศึกษา. พิมพ์ครั้งที่ 4.กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์แห่งจุฬา ลงกรณ์ มหาวิทยาลัย, 2549. สุมน อมรวิวัฒน์. กัลยาณมิตรนิเทศสำหรับผู้บริหารกลยุทธ์ในการนิเทศเพื่อสร้างโรงเรียนให้ เข้มแข็ง. สำนักนโยบายและแผนการศึกษา สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. กรุงเทพมหานคร : ห้างหุ้นส่วนจำกัดภาพพิมพ์, 2547. อัญชลี ธรรมะวิธีกุล. ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการนิเทศการศึกษา. (ออนไลน์,.เข้าถึงได้จาก http://panchalee.wordpress.com/2009/03/30/supervision(วั น ที่ ค้ น ข้ อ มู ล : 25 มีนาคม 2557), 2552. อารมณ์ ฉนวนจิตร. การนิเทศการสอนประสบการณ์ภาคสนามในการนิเทศการสอน. กรุงเทพมหานคร : มหาวิทยาลัยรามคำแหง, 2543. Glickman,C.D.(1990), Supervision of Intrution. 2 nd ed. U.S.A. : Allyn and Bacon. Harris B.M (1985). Supervisory Behavior in Education. Englewood Cliffs, N J : Prentice - Hall.
22 ภาคผนวก
23 แบบสำรวจความต้องการรับการนิเทศการจัดการศึกษาและการจัดการเรียนการสอน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพัทลุง เขต 1 คำชี้แจง 1. แบบสำรวจฉบับนี้มีจุดประสงค์เพื่อทราบความต้องการในการรับการนิเทศของครูผู้สอนใน โรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพัทลุง เขต 1 2. แบบสำรวจฉบับนี้สำรวจเกี่ยวกับความต้องการในการรับการนิเทสของครูผู้สอนใน โรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพัทลุง เขต 1 เป็นแบบมาตราส่วนประมาณ ค่า (Rating scale) 5 ระดับ โดยให้ผู้ตอบแบบสำรวจตามประเด็นให้ตรงกับระดับความต้องการของท่านว่ามีความ ต้องการในระดับใดตามเกณฑ์ต่อไปนี้ 5 หมายถึง มีความต้องการในระดับมากที่สุด 4 หมายถึง มีความต้องการในระดับมาก 3 หมายถึง มีความต้องการในระดับปานกลาง 2 หมายถึง มีความต้องการในระดับน้อย 1 หมายถึง มีความต้องการในระดับน้อยที่สุด
24
25 ผลการวิเคราะห์แบบสำรวจความต้องการรับการนิเทศการจัดการศึกษาและการจัดการเรียนการสอน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพัทลุง เขต 1 ผลรายข้อ ผลการวิเคราะห์แบบสำรวจความต้องการรับการนิเทศการจัดการศึกษาและการจัดการเรียนการ สอน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพัทลุง เขต 1 ในภาพรวม ผลการวิเคราะห์ ภาพรวม คะแนนรวม 4765 ค่าเฉลี่ย 3.89 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.70 C.V.(%) 18.08 ผลการวิเคราะห์ ข้อที่ 1 ข้อที่ 2 ข้อที่ 3 ข้อที่ 4 ข้อที่ 5 ข้อที่ 6 ข้อที่ 7 ข้อที่ 8 ข้อที่ 9 ข้อที่ 10 ข้อที่ 11 ข้อที่ 12 จำนวนคน 102 102 102 102 102 102 102 102 102 102 102 102 คะแนนรวม 376 405 414 359 390 411 386 419 418 379 399 409 คะแนนต่ำสุด 1 1 1 1 1 1 1 1 1 1 1 1 คะแนนสูงสุด 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 5 ค่าเฉลี่ย 3.69 3.97 4.06 3.52 3.82 4.03 3.78 4.11 4.10 3.72 3.91 4.01 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.91 0.97 0.94 0.94 0.92 0.80 0.92 0.91 0.87 0.87 0.87 0.86 C.V.(%) 24.73 24.41 23.21 26.74 23.97 19.90 24.28 22.18 21.31 23.46 22.21 21.49
26 ผลการวิเคราะห์คุณภาพเครื่องมือวิจัย วิเคราะห์คุณภาพ เครื่องมือ ข้อที่ 1 ข้อที่ 2 ข้อที่ 3 ข้อที่ 4 ข้อที่ 5 ข้อที่ 6 ข้อที่ 7 ข้อที่ 8 ข้อที่ 9 ข้อที่ 10 ข้อที่ 11 ข้อที่ 12 ค่าอำนาจจำแนก 0.75 0.74 0.78 0.62 0.71 0.75 0.70 0.76 0.81 0.74 0.78 0.69 Sig 0.00 0.00 0.00 0.00 0.00 0.00 0.00 0.00 0.00 0.00 0.00 0.00 แปลผล yes yes yes yes yes yes yes yes yes yes yes yes ค่าความเชื่อมั่น มีค่าเท่ากับ หมายเหตุ : ค่าอำนาจจำแนกแบบ Item Total Correlation ค่าความเชื่อมั่นแบบสัมประสิทธิ์แอลฟา 0.9423
27
28
29 คณะผู้จัดทำ คณะที่ปรึกษา ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพัทลุง เขต 1 นายวุฒิไกร เลื่อนแป้น รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพัทลุง เขต 1 นายศิริศักดิ์ วัฒนศิริ รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพัทลุง เขต 1 นางสาวจิตรลดาทองคำ รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพัทลุง เขต 1 ผู้อำนวยการกลุ่มนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการจัดการศึกษา คณะผู้จัดทำ นางนวพร จตุรพัฒนานันท์ ศึกษานิเทศก์ นางมนภัสสร์ มากจันทร์ ศึกษานิเทศก์ นางเนาวรัตน์ ปานเพชร ศึกษานิเทศก์