แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาไทย

การวเิ คราะหโ์ ครงสร้างหลักสตู รและแผนการจดั การเรยี นรู้
กลุม่ สาระวิชาภาษาไทย ระดบั ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 3

จัดทำแผนโดย
นางสาวสพุ ตั รา ฉางขา้ วไชย
รหสั ประจำตวั ผเู้ ข้าสอบ 130200195
ผู้เขา้ รบั การประเมนิ ความเหมาะสม ภาค ค วชิ าเอกภาษาไทย
ตำแหน่งครผู ู้ชว่ ย สงั กัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พื้นฐาน

เสนอตอ่
สำนักงานศึกษาธกิ ารจงั หวดั เชยี งราย

ตวั ช้วี ดั และสาระการเรียนรูแ้ กนกลาง
วิชาภาษาไทย ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 3
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

สาระและมาตรฐานการเรียนรู้

สาระที่ ๑ การอา่ น
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสรา้ งความรแู้ ละความคดิ เพื่อนำไปใช้ตัดสนิ ใจ แกป้ ญั หาในการ

ดำเนนิ ชวี ิตและมนี สิ ยั รักการอ่าน

สาระท่ี ๒ การเขียน
มาตรฐาน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขียน เขยี นสอ่ื สาร เขยี นเรียงความ ยอ่ ความ และเขยี นเรื่องราวในรปู แบบต่างๆ

เขียนรายงานข้อมลู สารสนเทศและรายงานการศึกษาคน้ คว้าอยา่ ง มีประสิทธภิ าพ

สาระท่ี ๓ การฟัง การดู และการพูด
มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลอื กฟงั และดูอย่างมวี ิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคดิ และความร้สู กึ

ในโอกาสตา่ งๆ อยา่ งมีวจิ ารณญาณและสร้างสรรค์

สาระท่ี ๔ หลักการใช้ภาษาไทย
มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและพลังของภาษา

ภูมิปญั ญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบัติของชาติ

สาระที่ ๕ วรรณคดแี ละวรรณกรรม
มาตรฐาน ท ๕.๑ เขา้ ใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอยา่ งเห็นคณุ ค่าและ

นำมาประยุกตใ์ ช้ในชีวติ จริง

สาระท่ี ๑ การอ่าน

มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอา่ นสรา้ งความรู้และความคดิ เพือ่ นำไปใช้ตัดสนิ ใจ แก้ปัญหา

ในการดำเนินชวี ิต และมนี สิ ัยรักการอ่าน

ช้นั ตวั ชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง

ม.๓ ๑. อา่ นออกเสยี งบทร้อยแก้ว และ  การอ่านออกเสียง ประกอบดว้ ย

บทร้อยกรองได้ถูกตอ้ งและ - บทรอ้ ยแกว้ ทีเ่ ปน็ บทความท่วั ไปและบทความปกิณกะ

เหมาะสมกบั เรื่องที่อ่าน - บทร้อยกรอง เชน่ กลอนบทละคร กลอนเสภา

กาพย์ยานี ๑๑ กาพยฉ์ บงั ๑๖ และโคลงสี่สภุ าพ

๒. ระบุความแตกต่างของคำที่มี  การอา่ นจบั ใจความจากสื่อตา่ งๆ เชน่

ความหมายโดยตรงและความหมาย - วรรณคดใี นบทเรียน

โดยนัย - ข่าวและเหตกุ ารณส์ ำคญั

๓. ระบใุ จความสำคัญและรายละเอยี ด - บทความ

ของข้อมูลทสี่ นบั สนนุ จาก - บันเทิงคดี

เรือ่ งทอ่ี า่ น - สารคดี

๔. อ่านเรื่องต่างๆ แล้วเขยี นกรอบ - สารคดเี ชงิ ประวัติ

แนวคิด ผงั ความคดิ บันทกึ - ตำนาน

ย่อความและรายงาน - งานเขียนเชิงสรา้ งสรรค์

๕. วเิ คราะห์ วิจารณ์ และประเมิน - เร่อื งราวจากบทเรียนในกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย

เรอื่ งที่อา่ นโดยใชก้ ลวธิ ี และกลุม่ สาระการเรียนร้อู ื่น

การเปรียบเทยี บเพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจ

ได้ดขี ึน้

๖. ประเมินความถูกต้องของขอ้ มลู

ท่ใี ช้สนบั สนนุ ในเร่ืองท่ีอา่ น

๗. วิจารณค์ วามสมเหตสุ มผล

การลำดับความ และความเป็นไปได้

ของเร่ือง

๘. วเิ คราะห์เพื่อแสดงความคิดเห็น

โตแ้ ย้งเกี่ยวกบั เรื่องท่ีอ่าน

๙. ตีความและประเมินคณุ คา่ และ  การอา่ นตามความสนใจ เชน่
แนวคิดที่ไดจ้ ากงานเขยี น - หนงั สอื อา่ นนอกเวลา
อยา่ งหลากหลายเพ่ือนำไปใช้ - หนังสืออา่ นตามความสนใจและตามวยั ของนักเรยี น
แก้ปัญหาในชีวติ - หนังสืออ่านท่ีครูและนักเรียนร่วมกนั กำหนด

๑๐. มีมารยาทในการอ่าน  มารยาทในการอา่ น

สาระที่ ๒ การเขียน

มาตรฐาน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขียนเขียนสื่อสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียนเรื่องราวในรูปแบบ

ตา่ ง ๆ เขยี นรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาคน้ ควา้ อย่างมีประสิทธภิ าพ

ช้ัน ตัวชวี้ ดั สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง

ม.๓ ๑. คดั ลายมอื ตัวบรรจงคร่ึงบรรทัด  การคัดลายมอื ตัวบรรจงคร่ึงบรรทัดตามรูปแบบ

การเขียนตัวอักษรไทย

๒. เขยี นขอ้ ความโดยใช้ถ้อยคำได้ถูกต้อง  การเขียนข้อความตามสถานการณแ์ ละโอกาสต่างๆ
ตามระดบั ภาษา เช่น
- คำอวยพรในโอกาสต่างๆ
- คำขวญั
- คำคม
- โฆษณา
- คติพจน์
- สุนทรพจน์

๓. เขยี นชีวประวตั หิ รืออัตชวี ประวตั ิ  การเขยี นอัตชีวประวตั หิ รือชีวประวตั ิ
โดยเล่าเหตุการณ์ ขอ้ คิดเห็น และ
ทศั นคตใิ นเรื่องตา่ งๆ  การเขยี นย่อความจากส่ือต่างๆ เชน่ นทิ าน ประวตั ิ
ตำนาน สารคดีทางวิชาการ พระราชดำรัส
๔. เขยี นยอ่ ความ พระบรมราโชวาท จดหมายราชการ

๕. เขยี นจดหมายกจิ ธุระ  การเขยี นจดหมายกจิ ธรุ ะ
- จดหมายเชญิ วทิ ยากร
๖. เขียนอธบิ าย ช้แี จง แสดงความคดิ เห็น - จดหมายขอความอนเุ คราะห์
และโต้แยง้ อย่างมีเหตผุ ล - จดหมายแสดงความขอบคุณ

๗. เขยี นวเิ คราะห์ วจิ ารณ์  การเขยี นอธิบาย ช้แี จง แสดงความคิดเห็น และโต้แย้ง
และแสดงความรู้ ความคิดเหน็ ในเร่ืองตา่ งๆ
หรอื โตแ้ ย้งในเรอ่ื งต่างๆ
 การเขยี นวิเคราะห์ วิจารณ์ และแสดงความรู้
ความคิดเหน็ หรอื โตแ้ ย้งจากสอื่ ต่างๆ เช่น
- บทโฆษณา
- บทความทางวชิ าการ

ชั้น ตัวชี้วดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง

ม.๓ ๘. กรอกแบบสมัครงานพรอ้ มเขยี น  การกรอกแบบสมัครงาน
บรรยายเก่ียวกบั ความรู้และทักษะ

ของตนเองท่ีเหมาะสมกับงาน

๙. เขียนรายงานการศึกษาคน้ ควา้ และ  การเขยี นรายงาน ได้แก่

โครงงาน - การเขยี นรายงานจากการศึกษาคน้ ควา้

- การเขยี นรายงานโครงงาน

๑๐. มีมารยาทในการเขยี น  มารยาทในการเขยี น

สาระท่ี ๓ การฟัง การดู และการพูด

มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลอื กฟังและดูอยา่ งมวี จิ ารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคดิ และความรสู้ ึก

ในโอกาสตา่ ง ๆ อย่างมีวิจารณญาณและสร้างสรรค์

ชน้ั ตัวชีว้ ัด สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง

ม.๓ ๑. แสดงความคิดเห็นและประเมินเร่ือง  การพูดแสดงความคดิ เหน็ และประเมินเรอ่ื ง

จากการฟงั และการดู จากการฟังและการดู

๒. วิเคราะหแ์ ละวิจารณ์เรื่องทฟ่ี ังและดู  การพูดวเิ คราะห์วจิ ารณ์จากเรอ่ื งที่ฟังและดู

เพอื่ นำขอ้ คดิ มาประยุกตใ์ ชใ้ น

การดำเนนิ ชวี ติ

๓. พูดรายงานเรอ่ื งหรือประเด็นทศี่ ึกษา  การพูดรายงานการศึกษาค้นคว้าเก่ียวกบั ภมู ปิ ัญญา

ค้นควา้ จากการฟงั การดู และ ทอ้ งถ่นิ

การสนทนา

๔. พูดในโอกาสตา่ งๆ ไดต้ รงตาม  การพูดในโอกาสตา่ งๆ เชน่

วัตถปุ ระสงค์ - การพดู โตว้ าที

- การอภปิ ราย

- การพูดยอวาที

๕. พดู โนม้ นา้ วโดยนำเสนอหลกั ฐาน  การพดู โนม้ น้าว

ตามลำดับเนือ้ หาอย่างมเี หตุผลและ

นา่ เชื่อถอื

๖. มมี ารยาทในการฟัง การดู และการพดู  มารยาทในการฟงั การดู และการพดู

สาระที่ ๔ หลกั การใช้ภาษาไทย

มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษาและพลังของภาษา

ภมู ิปัญญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบัติของชาติ

ชั้น ตวั ช้วี ัด สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง

ม.๓ ๑. จำแนกและใช้คำภาษาต่างประเทศ  คำท่ีมาจากภาษาต่างประเทศ

ที่ใช้ในภาษาไทย

๒. วเิ คราะห์โครงสร้างประโยคซับซ้อน  ประโยคซับซ้อน

ชั้น ตวั ชี้วดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง
๓. วเิ คราะห์ระดบั ภาษา  ระดับภาษา
๔. ใชค้ ำทบั ศพั ท์และศัพทบ์ ญั ญตั ิ  คำทบั ศัพท์
 คำศัพทบ์ ัญญตั ิ
ม.๓ ๕. อธบิ ายความหมายคำศัพท์  คำศัพท์ทางวิชาการและวิชาชีพ
ทางวชิ าการและวิชาชพี
 โคลงส่ีสภุ าพ
๖. แตง่ บทรอ้ ยกรอง

สาระที่ ๕ วรรณคดแี ละวรรณกรรม

มาตรฐาน ท ๕.๑ เขา้ ใจและแสดงความคดิ เหน็ วจิ ารณว์ รรณคดแี ละวรรณกรรมไทยอยา่ งเห็นคุณค่าและ

นำมาประยุกต์ใช้ในชีวติ จรงิ

ชนั้ ตัวช้ีวดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง

ม.๓ ๑. สรปุ เนอื้ หาวรรณคดี วรรณกรรม  วรรณคดี วรรณกรรม และวรรณกรรมท้องถน่ิ เก่ียวกบั

และวรรณกรรมทอ้ งถ่นิ ในระดับทย่ี าก - ศาสนา

ยิ่งขึ้น - ประเพณี

- พิธกี รรม

- สภุ าษิตคำสอน

- เหตุการณ์ในประวัตศิ าสตร์

- บันเทิงคดี

๒. วิเคราะหว์ ถิ ีไทยและคณุ ค่า  การวิเคราะหว์ ถิ ีไทย และคุณค่าจากวรรณคดแี ละ

จากวรรณคดีและวรรณกรรมท่ีอา่ น วรรณกรรม

๓. สรุปความรูแ้ ละขอ้ คดิ จากการอ่าน

เพอ่ื นำไปประยกุ ต์ใช้ในชวี ติ จรงิ

๔. ท่องจำและบอกคณุ ค่าบทอาขยาน  บทอาขยานและบทรอ้ ยกรองทมี่ ีคณุ ค่า

ตามท่กี ำหนด และบทร้อยกรอง - บทอาขยานตามท่ีกำหนด

ที่มคี ุณค่าตามความสนใจและ - บทรอ้ ยกรองตามความสนใจ

นำไปใช้อ้างอิง

คำอธิบายรายวิชาพ้ืนฐาน

ท๒๓๑๐๒ ภาษาไทย กลุม่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย
ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๓ ภาคเรยี นที่ ๒
เวลา ๖๐ ช่วั โมง/ภาคเรยี น
จำนวน ๑.๕ หนว่ ยกิต

ศึกษาหลักการวิเคราะห์ วิจารณ์ ความสมเหตุสมผลของเรื่องที่อ่าน แสดงความคิดเห็น ตีความ
ประเมินคุณค่าแนวคิดที่ได้จากการอ่านงานเขียน เพื่อนำไปใช้แก้ปัญหาในชีวิต เขียนวิจารณ์แสดงความรู้
ความคิดเห็น เขียนรายงาน โครงงาน กรอกแบบสมัครงาน ฝึกพูดในโอกาสต่าง ๆ พูดโน้มน้าวอย่างมีเหตุผล
และน่าเชื่อถือ ใช้คำทับศัพท์ ศัพท์บัญญัติ ศัพท์ทางวิชาการและวิชาชีพ แต่งโคลงสี่สุภาพ สรุปความรู้
ข้อคิดจากการอ่านวรรณคดีและวรรณกรรม เพื่อนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ท่องจำและบอกคุณค่าบทอาขยาน
และบทรอ้ ยกรองตามความสนใจและนำไปใช้อา้ งอิง

โดยใช้กระบวนการทางภาษา กระบวนการกลุ่มสัมพันธ์ จัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาความคิด เรียนรู้
แบบโครงงาน ให้รู้วิธีการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ วางแผน คิดวิเคราะห์ ประเมินผล ฝึกการเป็นผู้นำและ
ผ้ตู าม มีความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี สามารถสร้างองคค์ วามรู้ไปใชป้ ระโยชนใ์ นชีวิตประจำวนั

มีคุณธรรม จริยธรรม และมีมารยาทในการใช้ภาษา เป็นผู้มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ มีมารยาท
ในการอ่าน การเขยี น การฟัง การดู และการพดู เห็นคณุ คา่ ภาษาไทยซึง่ เป็นเอกลักษณ์ของชาติ รักชาติ ศาสน์
กษัตริย์ ซื่อสัตย์สุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งมั่นในการทำงาน รักความเป็นไทย และ
มีจิตสาธารณะเพื่อให้เกิดการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ ภาคภูมิใจในภาษาไทย และรักษาไว้เป็นสมบัติ
ของชาติ
ตวั ชว้ี ดั

ท ๑.๑ ม.๓/2 ,ม.๓/5 ,ม.๓/7 ,ม.๓/8 ,ม.๓/9 ,ม.๓/10
ท ๒.๑ ม.๓/1 ,ม.๓/2 ,ม.๓/7 ,ม.๓/8 ,ม.๓/9 ,ม.๓/10
ท ๓.๑ ม.๓/๓ ,ม.๓/4 ,ม.๓/5 ,ม.๓/6
ท ๔.๑ ม.๓/1 ,ม.๓/3 ,ม.๓/4 ,ม.๓/5 ,ม.๓/6
ท ๕.๑ ม.๓/๒ ,ม.๓/3 ,ม.๓/4
รวม 24 ตัวช้ีวัด

โครงสร้างรายวชิ าภาษาไทยพนื้ ฐาน
รหัสวชิ า ท๒๓๑๐2 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย
ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๓ ภาคเรยี นที่ 2 เวลา ๖๐ ชั่วโมง จำนวน ๑.๕ หนว่ ยกติ
อัตราสว่ นคะแนนระหว่างเรียน : กลางภาค : ปลายภาค ๗๐ : ๑๕ : ๑๕
อตั ราส่วนคะแนนความรู้ : ทกั ษะกระบวนการ : คุณลกั ษณะ ๓๐ : ๓๐ : ๑๐

หนว่ ย ช่อื หน่วยการ มาตรฐาน สาระสำคญั / เวลา นำ้ หนกั /
ที่ เรยี นรู้ การเรยี นร/ู้ ความคิดรวบยอด (ชวั่ โมง) สดั ส่วน
คะแนน
ตัวช้ีวดั

๑ เขยี น ท 2.1 ม.3/2 ก า ร เ ข ี ย น อ ธ ิ บ าย ค ือ ก า ร เ ข ียน 9 10

สร้างสรรค์ ม.3/3 เพื่ออธิบายเรื่องใดเรื่องหนึ่งให้ผู้อื่นทราบ

สมั พนั ธค์ วามรู้ ม.3/4 เช่น การอธิบายวิธีการใช้สิ่งของสิ่งหนึ่ง

ม.3/5 เป็นต้น

ม.3/8 การเขียนชี้แจง คือ การเขียนเพื่อชี้แจง

ม.3/10 เรื่องราวหรือเหตุการณ์ ขั้นตอน อย่างใด

อยา่ งหนึ่ง

การเขียนแสดงความคิดเห็น คื อ

งานที่เขียนแนะนำหรือแสดงความคิดเห็น

ต่อเรื่องใดเรื่องหนึ่ง โดยผู้เขียนต้องตั้งม่ัน

อยู่ในพื้นฐานข้อเท็จจริง กฎเกณฑ์ และ

เหตผุ ล

การเขียนรายงานจากการค้นคว้า คือ

การนำเสนอผลการศึกษาค้นคว้าทาง

วิชาการประเดน็ ใดประเด็นหนึ่งโดยนำเสนอ

ตามลำดับก่อนหลัง

การเขียนโครงงาน คือ การศึกษา

ค้นคว้าสิ่งที่ตนเองสนใจ ต้องการหาคำตอบ

หรือศึกษาหาความรู้อย่างลึกซึ้งโดยใช้

กระบวนการ วิธกี ารศึกษาทมี่ รี ะบบขน้ั ตอน

๒ พูดสือ่ ความรู้ ท 3.1 ม.3.3 การพูดในโอกาสต่าง ๆ คือ การพูด 10 10

ดูตามโอกาส ม.3/4 ในชีวิตประจำวัน นอกจากจะสื่อความรู้

ม.3/5 ความเข้าใจเรื่องราวต่าง ๆ แล้วยังต้อง

ม.3/6 สื่ออารมณ์ เช่นการพูดโต้วาที การพูด

อภิปราย การพูดยอวาที การพูดโน้มน้าว

และมารยาทในการฟงั การดู และการพูด

หนว่ ย ชอื่ หน่วยการ มาตรฐาน สาระสำคัญ/ เวลา นำ้ หนัก/
ที่ เรียนรู้ การเรยี นรู้/ ความคิดรวบยอด (ช่วั โมง) สดั ส่วน
คะแนน
ตวั ช้วี ดั

๓ อา่ น คดิ ท 1.1 ม.3/7 การวิเคราะห์วิจารณ์ส่ือต่าง ๆ ที่เราอ่าน 9 10

พินิจภาษา ม.3/8 ดู หรือฟังนั้นจะต้องมีหลักการวิเคราะห์

ม.3/9 ที่ถูกต้อง นอกจากนี้แล้ว จะต้องประเมิน

ม.3/10 ค ุ ณ ค ่ า จ า ก เ ร ื ่ อ ง ท ี ่ อ ่ า น ฟ ั ง แ ล ะ ดู

ท 3.1 ม.3/1 ซึ่งการประเมินคุณค่าของเรื่องที่อ่าน

ม.3/2 หมายถึง การตัดสินว่างานเขียนนั้นดี

ถกู ตอ้ ง มคี ณุ คา่ หรอื ไม่

๔ ลายมอื สือ่ สาร ท 2.1 ม.3/1 การคัดลายมือตัวบรรจงครึ่งบรรทัด คือ 10 10

ถอ้ ยความ ม.3/2 การเขียนตัวหนังสือตามแบบที่กำหนด

เหมาะสม ม.3/7 ซึ่งในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีรูปแบบ

ม.3/8 การคดั ลายมือตวั บรรจงคร่งึ บรรทดั ดังนี้

ม.3/9 1. แบบกระทรวงศกึ ษาธกิ าร

ม.3/10 2. แบบอาลักษณ์

3. แบบราชบัณฑิตยสถาน

(ตวั สารบรรณ)

การเขียนวิเคราะห์ วิจารณ์ คือ

กระบวนการเขียนที่ผูเ้ ขียนนำเสนอสารผ่าน

การพิจารณาแยกแยะข้อมูลแล้ววิเคราะห์

ข้อดี ข้อเสีย จุดเด่น จุดด้อย แล้วนำไป

ประเมนิ คา่ เพื่อนำไปใช้ในชีวติ จริงได้

การเขียนมีความสำคัญและจำเป็นต่อ

การสื่อสารในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะ

เกี่ยวกับอาชีพการติดต่อธุระต่าง ๆ

รวมไปถึงการเขียนจดหมายสมัครงาน

ซึ่งการเขียนใบสมัครงานนั้นจะต้องเขียน

ให้ตรงตามรูปแบบ และตรงตาม

วตั ถุประสงคข์ องตำแหนง่ ทีต่ นเองสมัคร

๕ ร้หู ลกั ท 4.1 ม.3/1 การยืมคำต่างประเทศมาใช้ในภาษาไทย 10 10

ประจักษ์ภาษา ม.3/3 ทำให้ภาษามีความเจริญงอกงามและมีคำใช้

ม.3/4 มากขึ้น ลักษณะเช่นนี้ไม่เป็นการเสียหาย

ม.3/5 ประการใด ทั้งนี้เพราะมีการติดต่อระหว่าง

หน่วย ช่ือหน่วยการ มาตรฐาน สาระสำคัญ/ เวลา น้ำหนัก/
ท่ี เรียนรู้ การเรยี นรู/้ ความคดิ รวบยอด (ช่วั โมง) สดั สว่ น
คะแนน
ตัวชวี้ ัด

ม.3/6 ประเทศทั้งการพูด การค้าและวิทยาการ

ตา่ ง ๆ มีการรับความรู้ซ่ึงกนั และกัน รวมท้ัง

การถ่ายทอดวัฒนธรรมและศาสนา จึงมี

คำภาษาต่างประเทศในภาษาไทย

หลายภาษา ได้แก่ ภาษาบาลี -สันสกฤต

ภาษาเขมร ภาษาจีน คำชวา-มาลายู

คำภาษาอังกฤษ คำภาษาญี่ปุ่น เป็นต้น

การแต่งบทร้อยกรอง คือ การเรียงร้อย

ถ้อยคำตามอกั ขระวธิ ที กี่ ำหนดให้ถูกต้อง

6 วรรณคดี ท 1.1 ม.3/1 วรรณคดี เรื่อง พระบรมราโชวาท 10 10

วรรณกรรม ท 2.1 ม.3/1 อิศรญาณภาษิต และบทพากย์เอราวัณ

เลศิ ลำ้ คณุ ค่า ท 3.1 ม.3/1 มีคุณค่าในด้านต่าง ๆ มากมาย เช่น

ม.3/2 คุณค่าทางศีลธรรม คุณค่าทางอารมณ์

ท.5.1 ม.3/2 คุณค่าทางวัฒนธรรม คุณคา่ ทางจินตนาการ

ม.3/3 คุณค่าในด้านวรรณศิลป์ คุณค่าในด้าน

ม.3/4 สภาพชีวิตสมัยบรรพบุรุษ เป็นต้น ทำให้ได้

ข้อคิด และ

ความรตู้ ่าง ๆ ในด้านการดำเนินชีวติ

ข ้ อ ค ิ ด ใ น ด ้ า น ก า ร ป ฏ ิ บ ั ต ิ ต ั ว เ ม ื ่ อ อ ยู่

รว่ มกบั สังคมต่าง ๆ ภายนอกตลอดไปจนถึง

ข ้ อ ค ิ ด ใ น ก า ร ด ำ เ น ิ น ช ี ว ิ ต ป ร ะ จ ำ วั น

เรื่องการดำเนินชีวิต ข้อคิดในด้าน

การปฏิบัติตัวเมื่ออยู่ร่วมกับสังคมต่าง ๆ

ภายนอก ตลอดไปจนถึงข้อคิดในการดำเนิน

ชีวิตประจำวนั

รวมระหว่างภาค ๕๘ ๗๐

กลางภาค ๑ ๑๕

ปลายภาค ๑ ๑๕

รวม ๖๐ ๑๐๐

การวางแผนการวัดและประเมินผล
ภาคเรียนท่ี ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖5
รหัสวชิ า ท๒3๑๐๒ รายวชิ า ภาษาไทย ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3

หนว่ ยการเรียนรู้/ วธิ ีการเกบ็ คะแนน ภาระ / ชนิ้ งาน ระยะเวลา
เนื้อหา สปั ดาห์ท่ี
๒ – ๑๙
๑. เขียนสร้างสรรค์ ๑. การเกบ็ คะแนนระหวา่ งภาค
๑๐
สมั พันธค์ วามรู้ (7๐ คะแนน) ๒๐

๒. พดู ส่ือความรู้ การประเมินผลระหวา่ งภาค

ดตู ามโอกาส คะแนนชิน้ งาน

๓. อา่ น คดิ พินจิ ภาษา • การสบื คน้ ข้อมลู 1. แบบทดสอบ 10
2. รายงาน 10
๔. ลายมอื ส่อื สาร • การปฏิบตั กิ จิ กรรม ไดแ้ ก่ 3. แบบฝึกหัด 10
4. ใบงาน 10
ถ้อยความเหมาะสม การวเิ คราะห์ วิจารณ์ 5. ผลงาน/ 30
ช้ินงาน
๕. รหู้ ลกั ประจักษภ์ าษา แสดงความคิดเห็น
6. วรรณคดี วรรณกรรม และการอา่ นออกเสยี ง
เลิศลำ้ คุณค่า
• ใบงาน

• แบบทดสอบ

• ผลงาน/ชิ้นงาน

๒. การประเมินผลกลางภาค (15 คะแนน)

๓. การประเมนิ ผลปลายภาค (15 คะแนน)

กำหนดการวดั และประเมินผล

ภาคเรียนที่ ๒ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๔

รหสั วิชา ท๒3๑๐๒ ช่ือรายวิชา ภาษาไทย ระดับชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 3

นำ้ หนัก/หนว่ ยกติ ๑.๕

ประเมนิ ผลระหวา่ งเรยี น : ปลายภาค ๗๐ : ๓๐ คะแนน

อตั ราสว่ นของความรู้ : ทักษะกระบวนการ : คุณลักษณะ 30 : 30 : ๑๐

คะแนนหนว่ ยการเรียนรู้/ตัวชี้วดั 70 คะแนน

ประเมนิ ผลกลางภาค 15 คะแนน

ประเมินผลปลายภาค 15 คะแนน

รายละเอยี ดของคะแนนหนว่ ยการเรยี นรู้/ตัวช้ีวดั

หน่วยการเรยี นร้/ู ผลการเรียนรู้ KP A รวม
2 10
๑. เขียนสร้างสรรค์ สมั พนั ธ์ความรู้ 35 1 10
1 10
๒. พูดส่อื ความรู้ ดูตามโอกาส 36 1 10
2 15
๓. อ่าน คดิ พนิ ิจภาษา 45 2 15
9 70
๔. ลายมือส่ือสาร ถ้อยความเหมาะสม 27

๕. รหู้ ลกั ประจักษภ์ าษา 58

6. วรรณคดี วรรณกรรมเลศิ ล้ำคุณค่า 58

รวม 22 39

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 6 วรรณค

รหสั วชิ า ท๒3๑๐๒ รายวิชา ภาษา

ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรยี

มาตรฐาน/ตัวช้ีวดั สาระสำคญั สาระการเรียนรู้

สาระการอา่ น วรรณคดี เรอื่ ง สมรรถนะสำค
ท 1.1 ม.3/1 พระบรมราโชวาท
อา่ นออกเสยี ง อิศรญาณภาษิต ของผู้เรียน
บทร้อยแก้ว และ และบทพากย์เอราวณั
บทรอ้ ยกรองไดถ้ ูกตอ้ ง มีคณุ คา่ ในด้านต่าง ๆ - การอา่ นบทรอ้ ยกรอง ๑. ความสามารถ
และเหมาะสม
กบั เร่ืองท่อี ่าน มากมาย เช่น - การคัดลายมือ ในการส่ือสาร
คุณค่าทางศลี ธรรม
สาระท่ี 2 การเขียน คณุ คา่ ทางอารมณ์ - แสดงความคิดเหน็ และ ๒. ความสามารถ
ท 2.1 ม.3/1 คณุ ค่าทางวัฒนธรรม
คณุ ค่าทางจินตนาการ ประเมนิ เรอื่ งจากการฟงั ในการคิด
คดั ลายมอื ตัวบรรจง คณุ คา่ ในดา้ นวรรณศิลป์
ครึง่ บรรทดั คณุ ค่าในด้านสภาพชีวติ และการดู ๓. ความสามารถ
สมยั บรรพบรุ ษุ เปน็ ต้น
สาระที่ 3 ทำให้ได้ข้อคิด และ - วเิ คราะห์และวจิ ารณ์ ในการใช้ทักษะช
การฟัง การดู ความรตู้ ่าง ๆ ในด้าน
และการพดู การดำเนินชวี ติ เรือ่ งทฟี่ งั และดูเพื่อ 4. ความสามารถ
ท 3.1 ม.3/1 ขอ้ คิดในดา้ นการปฏบิ ตั ิตัว
แสดงความคดิ เหน็ และ เมือ่ อยู่ร่วมกับสังคมตา่ ง ๆ นำข้อคดิ มาประยกุ ต์ใช้ ในการใชเ้ ทคโนโ
ประเมินเรือ่ งจากการฟงั ภายนอก ตลอดไปจนถงึ
ขอ้ คดิ ในการดำเนิน ในการดำเนนิ ชีวติ
และการดู
ชวี ติ ประจำวนั - วิเคราะหค์ ณุ ค่า

จากวรรณคดี

- สรุปความรู้และขอ้ คิด

จากการอา่ น

- ทอ่ งจำและบอกคณุ ค่า

บทอาขยาน

คดี วรรณกรรมเลิศลำ้ คณุ ค่า

าไทย กล่มุ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย

ยนท2่ี /2565 เวลา 10 ช่ัวโมง

นำไปสู่ ภาระงาน/ช้นิ งาน สือ่ /แหลง่ เรยี นรู้ แนวทาง การวดั และ
จัดกจิ กรรม ประเมินผล
คัญ คณุ ลกั ษณะ - ใบความรู้ การเรียนรู้
- หนังสอื วรรณคดี - ถามตอบ
อันพึงประสงค์ และวรรณกรรม - กิจกรรม -แบบ
ม.3 กลมุ่ ทดสอบ
ถ - นกั เรียนมีวนิ ยั - ใบงานเร่อื งพระบรม - สื่อPowerpoint - ระดม - ใบงาน
- สอ่ื อนิ เทอร์เน็ต ความคิด ประเมนิ
ปฏิบตั ติ าม ราโชวาท - กจิ กรรม ทกั ษะ
พัฒนา - ประเมิน
ถ ขอ้ ตกลง - ใบงานวิเคราะห์ตวั ความรู้ พฤติกรรม

กฎเกณฑ์ ละคร และวเิ คราะห์

ถ ระเบยี บของ คณุ คา่ เรอ่ื งพระบรม

ชวี ิต ครอบครัว ราโชวาท

ถ โรงเรียนและสงั คม - สรุปข้อคดิ เรือ่ ง

โลยี ได้ พระบรมราโชวาทเปน็

- มงุ่ มนั่ ใน แผนภาพความคดิ

การทำงาน - ใบงานเรื่องอิศรญาณ

- รกั ความเป็นไทย ภาษิต

- ใบงานวิเคราะหค์ ณุ คา่

เรอื่ งอศิ รญาณภาษติ

- ใบงานคน้ หาคำศพั ท์

น่ารู้ ในเรอื่ งอิศรญาณ

ภาษิต

- ใบงานเรื่องบทพากย์

เอราวณั

- คดั ลายมือบทพากย์

เอราวณั

มาตรฐาน/ตัวชี้วดั สาระสำคัญ สาระการเรยี นรู้

สมรรถนะสำค
ของผูเ้ รียน

ท 3.1 ม.3/2
วเิ คราะหแ์ ละวจิ ารณ์

เรื่องทฟ่ี งั และดู
เพื่อนำขอ้ คดิ
มาประยกุ ต์ใช้
ในการดำเนินชีวิต
สาระท่ี 5
วรรณคดีและ
วรรณกรรม
ท 5.1 ม.3/2
วิเคราะหว์ ถิ ไี ทยและ
คณุ ค่าจากวรรณคดีและ
วรรณกรรมท่อี ่าน
ท 5.1 ม.3/3
สรปุ ความรแู้ ละข้อคิด
จากการอ่าน เพอื่ นำไป
ประยุกต์ใช้ในชีวติ จรงิ
ท 5.1 ม.3/4
ท่องจำและบอกคุณคา่
บทอาขยาน
ตามท่กี ำหนดและ
บทรอ้ ยกรองทม่ี คี ณุ คา่
ตามความสนใจและ
นำไปใชอ้ ้างองิ

นำไปสู่ ภาระงาน/ชนิ้ งาน สือ่ /แหล่งเรียนรู้ แนวทาง การวัดและ
จัดกิจกรรม ประเมนิ ผล
คญั คณุ ลกั ษณะ - ท่องจำบทอาขยาน การเรยี นรู้
อันพึงประสงค์ บทหลกั เรือ่ ง บทพากย์
เอราวณั
- ทำPop Up
เรอ่ื งบทพากย์เอราวณั
และวเิ คราะหค์ ุณค่า
ในด้านต่างๆ

แผนการจัดการเรยี นรู้ ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ ๓
เวลา 4 ชัว่ โมง
กลุ่มสาระการเรยี นร้ภู าษาไทย เวลา 1 ชวั่ โมง
ช่ือหน่วยการเรียนรู้ที่ 6 วรรณคดี วรรณกรรมเลศิ ล้ำคณุ ค่า
เรอื่ ง บทพากย์เอราวัณ
ผ้สู อน นางสาวสุพตั รา ฉางข้าวไชย

สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้ ตวั ชวี้ ัด
สาระท่ี ๒ การเขยี น
มาตรฐาน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขียน เขยี นส่อื สาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียนเร่ืองราว
ในรูปแบบตา่ งๆ เขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศกึ ษาคน้ ควา้
อย่างมปี ระสิทธิภาพ
ตวั ชี้วัด ท 2.1 ม.3/1 คัดลายมือตัวบรรจงครงึ่ บรรทัด
สาระที่ 5 วรรณคดแี ละวรรณกรรม
มาตรฐาน ท 5.๑ เขา้ ใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณว์ รรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเหน็ คณุ คา่
และนำมาประยุกตใ์ ชใ้ นชีวติ จรงิ
ตัวชีว้ ดั ท 5.๑ ม.3/3 สรปุ ความร้แู ละข้อคดิ จากการอ่านเพอ่ื นำไปประยุกตใ์ ช้ในชีวิตจริง
ม.3/4 ทอ่ งจำและบอกคุณค่าบทอาขยานตามทกี่ ำหนดและบทร้อยกรองทมี่ ีคุณค่า
ตามความสนใจและนำไปใช้อ้างองิ

สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด (Concept)
บทพากย์เอราวัณเป็นตอนหนึ่งในวรรณคดีรามเกียรติ์ที่ใช้สำหรับประกอบการแสดงมหรสพ โดดเด่น

ทางด้านวรรณศิลป์ การใช้ถ้อยคำเพื่อพรรณนาตัวละคร และฉากในท้องเรื่อง ซึ่งทำให้พูดอ่านเกิดจินตภาพ
นอกจากนี้ยังปรากฏคุณค่าในด้านต่างๆ เช่น คุณค่าด้านเนื้อหา ด้านสังคมและวิถีไทย และให้ข้อคิด ผู้อ่าน
ควรอ่านอยา่ งพนิ จิ พิจารณาเพื่อสังเคราะห์ข้อคดิ ต่างๆท่ีจะนำไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจำวัน

จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรเู้ ชิงพฤตกิ รรม (Behavioral Objectives)

ดา้ นความรู้ (K-Knowledge)
๑. นกั เรยี นมีความรู้ความเขา้ ใจเร่ืองบทพากย์เอราวณั
๒. นกั เรียนสามารถตอบคำถามเร่ือง บทพากย์เอราวณั ได้อยา่ งถูกต้อง

ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P-Process)
๑. นักเรยี นคัดลายมือบทอาขยานบทหลัก เรื่อง บทพากยเ์ อราวัณไดอ้ ย่างบรรจง
๒. นักเรียนสามารถทอ่ งบทอาขยานบทหลัก เร่อื ง บทพากยเ์ อราวัณได้
๓. นกั เรยี นสามารถสรปุ ความรู้และขอ้ คดิ ท่ีได้จากวรรณคดีเรื่อง บทพากย์เอราวณั ได้

คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A-Attitude)
๑. นกั เรียนมวี นิ ัย ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบของครอบครวั โรงเรยี น
และสงั คมได้
๒. มุ่งมั่นในการทำงาน
3. รักความเปน็ ไทย

การบูรณาการหลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง
บูรณาการกบั หลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง ๓ คณุ ลกั ษณะ ๒ เง่อื นไข

ความพอประมาณ
นกั เรยี นศึกษาเนื้อหาเกย่ี วกบั เรอื่ ง บทพากย์เอราวณั ได้พอดกี ับความสนใจ

ความมเี หตุผล
นกั เรียนสามารถทอ่ งจำบทอาขยานบทหลกั เร่ือง บทพากยเ์ อราวัณไดถ้ ูกตอ้ ง

การมีภูมคิ ุม้ กนั ในตวั ท่ีดี
นักเรียนรู้นำความรู้เกยี่ วกับเรือ่ ง บทพากย์เอราวณั ไปประยุกตใ์ ช้ในชวี ติ ประจำวนั ได้

เง่อื นไขความรู้
นักเรยี นรจู้ ักใช้ความรเู้ ก่ียวกบั เรือ่ ง บทพากย์เอราวัณไดอ้ ยา่ งถูกต้องและเหมาะสม

เง่ือนไขคุณธรรม
- ความต้ังใจ
- การมีสว่ นรว่ ม
- การยอมรบั ฟังความคดิ เหน็
- ความมีวินัย
- ความรบั ผิดชอบ

สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น
๑. ความสามารถในการส่ือสาร
๒. ความสามารถในการคดิ
๓. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ
4. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

ภาระงาน/ชนิ้ งาน
๑. ใบงาน เรอื่ ง บทพากยเ์ อราวัณ
๒. ท่องจำบทอาขยานบทหลัก เร่อื ง บทพากยเ์ อราวัณ

สาระการเรียนรู้
๑. เรื่อง บทพากย์เอราวัณ
๒. ลักษณะคำประพันธ์

กจิ กรรมการเรยี นรู้
วธิ ีสอนแบบเนน้ กระบวนการ : กระบวนการปฏบิ ตั ิ

การจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอน
ขน้ั นำเข้าสู่บทเรยี น

๑. ครูให้นักเรียนเล่นเกม “ปริศนาภาพ” โดยการให้นักเรียนเปิดแผ่นป้าย สังเกตลักษณะของสิ่งทีอ่ ยู่
หลังแผ่นป้ายแล้วตอบคำถาม เพื่อกระตุ้นความสนใจให้นักเรียนมีความพร้อมที่จะเรียน ( Active Learning/
จติ ปญั ญาศกึ ษา)

2. ครูให้นักเรียนอ่านข้อความต่อไปนี้ แล้วร่วมกันอภิปราย แสดงความคิดเห็นว่าเป็นคำประพันธ์
ชนดิ ใด

อนิ ทรชิตบดิ เบือนกายนิ เหมือนองคอ์ มรนิ ทร์
ทรงคชเอราวณั เผือกผ่องผวิ พรรณ
เศยี รหนึ่งเจ็ดงา
ช้างนิมิตฤทธแิ รงแขง็ ขัน สระหนึง่ ยอ่ มมี
สสี งั ข์สะอาดโอฬาร์ ดอกหนึ่งแบ่งบาน
เจด็ องค์โสภา
สามสบิ สามเศยี รโสภา อีกเจด็ เยาวมาลย์
ดังเพชรรตั น์รูจี ชำเลืองหางตา
ทกุ เกศกุญชร
งาหน่งึ เจ็ดโบกขรณี
เจด็ กออบุ ลบันดาล

กอหน่งึ เจด็ ดอกดวงมาลย์
มีกลบี ได้เจ็ดกลีบผกา

กลีบหนึง่ มีเทพธดิ า
แน่งน้อยลำเพานงพาล

นางหนง่ึ ยอ่ มมบี ริวาร
ล้วนรปู นิรมิตมายา

จับระบำรำร่ายสา่ ยหา
ทำทดี ังเทพอัปสร

มวี มิ านแกว้ งามบวร
ดงั เวไชยันตอ์ มรนิ ทร์

๓. ครูแจ้งจุดประสงค์การเรียนรู้ให้นักเรียนทราบว่า ในชั่วโมงนี้นักเรียนจะได้เรียนรู้
เรอื่ ง บทพากยเ์ อราวัณ

ข้ันสอน
ขน้ั ท่ี 1 สังเกต รบั รู้
๔. ครูแจกใบความรู้ เรื่อง บทพากย์เอราวัณ ให้นักเรียนทุกคนได้ศึกษาไปพร้อมกัน (Active

Learning)
๕. ครูซกั ถามนกั เรยี นเกยี่ วกับบทเรยี นเพื่อเป็นการตรวจสอบความรู้ของนักเรียน (Active Learning)
๖. ครูอธิบายเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่อง บทพากย์เอราวัณโดยใช้ Power Point ในการนำเสนอความรู้

เพอื่ ใหน้ ักเรียนไดเ้ ข้าใจมากขึ้น (Active Learning/ Coaching & Mentoring)

ขั้นที่ 2 ทำตามแบบ
๗. ครูเปิดYoutube เรื่อง การอ่านทำนองเสนาะ บทพากย์เอราวัณให้นักเรียนฝึกการอ่าน
ทำนองเสนาะตาม(Active Learning/ Coaching & Mentoring)
8. ครูให้นักเรียนคัดลายมือและฝึกท่องจำบทอาขยานบทหลัก เรื่อง บทพากย์เอราวัณ เพื่อให้จดจำ
และเห็นภาพลกั ษณะของชา้ งเอราวัณได้ชัดเจนมากขน้ึ (Active Learning/ Coaching & Mentoring)
9. นักเรียนทำกิจกรรมโดยใช้ Kahoot! ในการทำแบบทดสอบ (Active Learning/ Coaching &
Mentoring)
ขัน้ ท่ี 3 ทำเองโดยไม่มีแบบ
10. นักเรียนทุกคนสามารถท่องจำบทอาขยานบทหลัก เรื่อง บทพากย์เอราวัณ โดยท่ีไม่ต้องดู
บทประพนั ธใ์ นใบความรู้ (Active Learning/ Coaching & Mentoring)
ขน้ั ที่ 4 ฝกึ ทำใหช้ ำนาญ
๑1. นักเรียนแต่ละคนมาสอบท่องบทอาขยานบทหลัก เรื่อง บทพากย์เอราวัณ เพื่อให้ครูเสนอแนะ
ข้อบกพร่อง แล้วให้นักเรียนแต่ละคนแก้ไขข้อบกพร่องตามข้อเสนอแนะจากครู โดยสามารถมาสอบได้
ในเวลาว่างถา้ สอบไมท่ ันในช่ัวโมงเรียน (Active Learning/ Coaching & Mentoring)
12. นักเรียนแต่ละคนทำใบงาน เรื่อง บทพากย์เอราวัณ เป็นการบ้าน แล้วนำมาส่งในชั่วโมงถัดไป
หรือสามารถทำใบงานออนไลนแ์ ลว้ ส่งได้(Active Learning)

ข้นั สรปุ
๑2. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปองค์ความรทู้ ่ีได้รบั จากการเรียนในชว่ั โมง (Active Learning)
13. ครูวัดผล ประเมินผลการจัดการเรียนรู้ของนักเรียนทั้งรายบุคคลและรายกลุ่มตามกระบวนการ

วัดผลประเมินผลที่สอดคล้องกับการเรียนการสอนตามสภาพจริง (Authentic Assessment) ทดสอบ
โดยการถามตอบ และสงั เกตพฤติกรรมขณะรว่ มกจิ กรรมตา่ ง ๆ

สือ่ /อุปกรณก์ ารเรียนรู้
๑. หนังสอื เรียนภาษาไทย ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 3
๒. ใบความรู้ เรอ่ื ง บทพากยเ์ อราวัณ
๓. สือ่ การสอนเร่อื ง บทพากย์เอราวัณ

แหลง่ การเรยี นรู้
- หอ้ งสมุด
- หอ้ งคอมพวิ เตอร์

การวัดผลและประเมนิ ผล

รายการประเมนิ วิธกี ารวดั ผล เครื่องมอื เกณฑ์
และประเมินผล
การวัดผลประเมินผล การวัดผลประเมนิ ผล

ดา้ นความรู้ - การถาม ตอบ - แบบประเมนิ ใบงาน อยู่ในระดับ ๖ คะแนน

๑. นักเรียนมคี วามรคู้ วามเขา้ ใจ - ใบงาน เร่อื งบทพากย์ ข้ึนไปหรืออยใู่ นระดับดี
เรื่อง บทพากย์เอราวณั เอราวัณ ขึน้ ไปถือว่าผ่านเกณฑ์
๒. นักเรียนสามารถตอบคำถาม
เรือ่ ง บทพากยเ์ อราวัณได้อย่าง
ถูกต้อง

ดา้ นทักษะ/กระบวนการ - ใบงาน เรือ่ งบทพากย์ - แบบประเมินใบงาน อยู่ในระดับ ๖ คะแนน

๑. นักเรยี นคดั ลายมือบทอาขยาน เอราวัณ - แบบประเมินการท่อง ข้ึนไปหรอื อยู่ในระดับดี
บทหลกั เร่ือง บทพากย์เอราวัณ - การท่องจำบท บทอาขยาน ขึ้นไปถอื วา่ ผ่านเกณฑ์
ไดอ้ ย่างบรรจง
อาขยานบทหลัก เรื่อง
๒. นักเรียนสามารถทอ่ ง

บทอาขยานบทหลัก บทพากยเ์ อราวัณ

เรอ่ื ง บทพากยเ์ อราวณั ได้

๓. นกั เรียนสามารถสรุปความรู้

และข้อคิดท่ไี ด้จากวรรณคดี

เร่อื ง บทพากย์เอราวัณได้

ด้านคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ - การสังเกตพฤติกรรม - แบบประเมินพฤติกรรม อยู่ในระดับ ๘ คะแนน

๑. นักเรียนมีวินัย ปฏิบัติตาม ขณะรว่ มกจิ กรรม รายกลุ่มขณะร่วมกิจ กรรม ขึ้นไป ถอื ว่าผา่ นเกณฑ์

ข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบของ ตา่ ง ๆ

ครอบครัว โรงเรยี นและสงั คมได้

๒. ม่งุ มน่ั ในการทำงาน

3. รกั ความเป็นไทย

กจิ กรรมเสนอแนะ/กิจกรรมต่อเนอ่ื ง
…………………………………………………………………………………………………………………………………………..………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………..…………..………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…………

ลงชื่อ..............................................................
(นางสาวสุพตั รา ฉางขา้ วไชย)

ตำแหน่ง..........................................................

ความเหน็ ของหัวหน้าสถานศกึ ษา/ผู้ที่ได้รับมอบหมาย

ความเห็นของหัวหนา้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ความเห็นของผ้บู รหิ าร/ผูท้ ไี่ ด้รับมอบหมาย

ไดท้ ำการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้แล้วมคี วามคิดเหน็ ดงั นี้ ได้ทำการตรวจแผนการจัดการเรยี นรู้แล้วมีความคิดเหน็ ดงั นี้

1. เป็นแผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 1. เป็นแผนการจัดการเรียนร้ทู ี่
 ดีมาก  ดีมาก
 ดี  ดี
 พอใช้  พอใช้
 ควรปรบั ปรุง  ควรปรบั ปรุง

2. การจัดกจิ กรรมได้นำเอากระบวนการเรยี นรู้ 2. การจัดกจิ กรรมไดน้ ำเอากระบวนการเรยี นรู้
 เนน้ ผู้เรยี นเป็นสำคญั มาใช้ในการสอนไดอ้ ย่าง  เนน้ ผูเ้ รียนเป็นสำคญั มาใชใ้ นการสอนได้อยา่ ง

เหมาะสม เหมาะสม
 ยงั ไม่เนน้ ผู้เรียนเป็นสำคัญควรปรับปรงุ พฒั นาตอ่ ไป  ยังไม่เนน้ ผูเ้ รยี นเปน็ สำคญั ควรปรบั ปรงุ พัฒนาต่อไป

3. เป็นแผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 3. เป็นแผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี
 นำไปใช้ได้จริง  นำไปใชไ้ ดจ้ รงิ
 ควรปรบั ปรงุ กอ่ นนำไปใช้  ควรปรับปรงุ ก่อนนำไปใช้

4. ขอ้ เสนอแนะอนื่ ๆ 4. ขอ้ เสนอแนะอน่ื ๆ

......................................................................................... ..............................................................................

......................................................................................... ..............................................................................

......................................................................................... ..............................................................................

......................................................................................... ..............................................................................

(ลงชือ่ ).......................................................... (ลงช่ือ)..........................................................
(.......................................................) (.......................................................)
หวั หน้ากลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย ผูอ้ ำนวยการโรงเรยี น/ผทู้ ี่ได้รบั มอบหมาย

บันทึกผลหลงั การจดั การเรยี นรู้
รหัส ท๒3๑๐๒ รายวชิ า ภาษาไทย

เร่ือง บทพากย์เอราวณั

1. สรุปผลการจัดการเรียนรู้

1. นกั เรียนจำนวน...............................คน

ผา่ นจุดประสงค์การเรียนร.ู้ ...............คน คิดเป็นร้อยละ.............................

ไม่ผา่ นจดุ ประสงค์การเรียนรู.้ ............คน คิดเป็นร้อยละ.............................

2. ผลการเรยี นรู้

2.1 ด้านความร(ู้ K)

........................................................................................................................ ......................................................

............................................................................................................................. .................................................

2.2 ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ(P)

............................................................................................................................. .................................................

..............................................................................................................................................................................

2.3 ดา้ นคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์

............................................................................................................................. .................................................

............................................................................................................................. .................................................

2.4 สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน(C)

............................................................................................................................. .................................................

..............................................................................................................................................................................

3. บรรยากาศการเรียนรู้

............................................................................................................................. .................................................

.................................................................................. ............................................................................................

4. การปรบั เปลยี่ นแผนการจดั การเรียนรู้ (ถ้ามี)

..................................................................................................................... .........................................................

............................................................................................................................. .................................................

5. ข้อคน้ พบด้านพฤติกรรมการสอน

............................................................................................................................. .................................................

..............................................................................................................................................................................

6. อ่ืนๆ

............................................................................................................................. .................................................

............................................................................................................................. .................................................

ลงช่อื .............................................
(นางสาวสุพตั รา ฉางขา้ วไชย)

ตำแหนง่ .........................................

............/............./..............

ปัญหา/สงิ่ ทพ่ี ฒั นา/แนวทางการแกไ้ ขหรือพัฒนา

ปญั หา/ส่ิงท่พี ัฒนา สาเหตุของปัญหา แนวทางการแกไ้ ข/ แนวทางการแก้ไข/ ผลการแก้ไข/พฒั นา

/สิ่งที่พัฒนา พฒั นา พฒั นา

ลงชื่อ.............................................
(นางสาวสุพัตรา ฉางข้าวไชย)

ตำแหนง่ .........................................

............/............./..............

แบบประเมนิ การท่องจำบทอาขยานบทหลัก เร่อื ง บทพากยเ์ อราวัณ

ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 3/..... จำนวน..........คน

รายการประเมนิ

ความ รวม ผลการประเมนิ
ถกู ตอ้ ง
ท่ี ช่ือ-สกลุ นำ้ เสยี ง

ชัดเจน
2 8 ๑๐ ผา่ น ไมผ่ า่ น

เกณฑก์ ารประเมนิ ได้คะแนนอยใู่ นระดับดหี รอื ได้ ๖ คะแนนข้ึนไปถือวา่ ผา่ น

ระดบั ๔ ดีมาก คะแนน ๘ – ๑๐ คะแนน

ระดบั ๓ ดี คะแนน ๖ – ๗ คะแนน ลงชอ่ื .................................................ผู้ประเมิน
............../............../............
ระดับ ๒ พอใช้ คะแนน ๓ – ๕ คะแนน

ระดบั ๑ ควรปรบั ปรุง คะแนน ๐ – ๒ คะแนน

แบบประเมนิ ใบงาน เรือ่ ง บทพากยเ์ อราวณั

ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3/..... จำนวน..........คน

รายการประเมนิ

ความ ผลการประเมนิ
ชดั เจน รวม
ที่ ชื่อ-สกลุ ส่งตรงเวลา ความ

ถูกตอ้ ง ผ่าน ไม่ผา่ น
2 8 ๑๐

เกณฑ์การประเมิน ได้คะแนนอยใู่ นระดบั ดหี รือได้ ๖ คะแนนข้นึ ไปถือวา่ ผา่ น

ระดบั ๔ ดมี าก คะแนน ๘ – ๑๐ คะแนน

ระดับ ๓ ดี คะแนน ๖ – ๗ คะแนน ลงชือ่ .................................................ผู้ประเมิน
............../............../............
ระดับ ๒ พอใช้ คะแนน ๓ – ๕ คะแนน

ระดบั ๑ ควรปรบั ปรุง คะแนน ๐ – ๒ คะแนน

แบบประเมินดา้ นความรูแ้ ละคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ การสงั เกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้

เรอ่ื ง บทพากยเ์ อราวณั

ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 3/..... จำนวน..............คน

ท่ี ชื่อ-สกลุ พฤตกิ รรม ความ การแสดง ความสนใจ รวม ผลการประเมิน
รบั ผิดชอบ ความเห็น ๑๐ ผ่าน ไม่ผา่ น

๓ ๓๔

เกณฑ์การประเมิน ไดค้ ะแนนอยูใ่ นระดับดีหรอื ได้ ๘ คะแนนขึน้ ไปถือว่าผ่าน

เกณฑ์ใหค้ ะแนนจากการสังเกตพฤติกรรมการเรยี นรู้

๔ คะแนน หมายถงึ ดีมาก

๓ คะแนน หมายถงึ ดี ลงชื่อ .................................................ผู้ประเมิน

๒ คะแนน หมายถงึ ปานกลาง ............../............../............

๑ คะแนน หมายถงึ ปรบั ปรงุ

บทพากยเ์ อราวัณ

คำชแ้ี จง : ให้นักเรยี นคัดลายมือดว้ ยตวั บรรจงคร่ึงบรรทัด พร้อมทง้ั ทอ่ งจำบทอาขยาน

อนิ ทรชติ บิดเบือนกายิน เหมอื นองคอ์ มรนิ ทร์ การอา่ นทำนองเสนาะ
ทรงคชเอราวัณ บทพากยเ์ อราวัณ

ช้างนิมติ ฤทธแิ รงแขง็ ขัน เผือกผอ่ งผวิ พรรณ

สสี งั ขส์ ะอาดโอฬาร์

สามสบิ สามเศยี รโสภา เศียรหน่งึ เจด็ งา

ดังเพชรรัตน์รูจี

งาหนึง่ เจด็ โบกขรณี สระหนง่ึ ย่อมมี

เจ็ดกออุบลบนั ดาล

กอหนึ่งเจ็ดดอกดวงมาลย์ ดอกหนึ่งแ บ่งบาน

มีกลบี ไดเ้ จ็ดกลีบผกา

กลบี หน่งึ มีเทพธดิ า เจด็ องคโ์ สภา

แน่งน้อยลำเพานงพาล

นางหนึง่ ย่อมมีบรวิ าร อกี เจ็ดเยาวมาลย์

ล้วนรปู นิรมติ มายา

จับระบำรำร่ายสา่ ยหา ชำเลืองหางตา

ทำทีดังเทพอปั สร

มวี มิ านแก้วงามบวร ทุกเกศกญุ ชร

ดังเวไชยนั ตอ์ มรนิ ทร์ (บทพากย์เอราวณั : พระบาทสมเด็จพระพทุ ธเลศิ หล้านภาลยั )

..................................................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................................................

ความรูเ้ ร่อื ง
บทพากย์เอราวณั