1
รายงานการสมั มนา
การจดั การเรยี นรรู้ ะดับประถมศกึ ษาในศตวรรษท่ี 21
(Management of Elementary Education in the 21 st Century)
จดั ทำโดย
นางสาวจันทิมา เกตุละ รหัสนักศกึ ษา 62031280168
นางสาวมณรี ัตน์ แซ่ลี รหสั นกั ศึกษา 62031280181
นางสาวสิริยากร คีรีคำรณ รหัสนักศกึ ษา 62031280183
นางสาวกมลรตั น์ วิโจทุจ รหัสนกั ศกึ ษา 62031280195
นายกลา้ ณรงค์ แซต่ ง้ั รหสั นักศึกษา 62031280196
กลมุ่ เรียน 03 สาขาวชิ าการประถมศกึ ษา
รายงานการสมั มนาฉบบั บน้ี เปน็ ส่วนหนง่ึ ของรายวิชาวจิ ยั และสมั มนาปัญหาในช้นั
เรยี นระดับประถมศึกษา (1104903)
ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2564
มหาวิทยาลัยราชภฏั อตุ รดติ ถ์
ก
คำนำ
สัมมนาเรอื่ ง การจดั การเรียนรู้ระดบั ประถมศกึ ษาในศตวรรษที่ 21 เปน็ ส่วนหนง่ึ ของรายวิชาวจิ ัยและ
สัมมนาปัญหาในชั้นเรียนระดับประถมศึกษา รหัสวิชา 1104903 ของนักศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ อาจารย์ที่ปรึกษา ผศ.ดร.อิสระ ทับสีสด โดยสัมมนาเล่มนี้ได้
ศกึ ษาเกยี่ วกบั การการจดั การเรยี นรูใ้ นระดับประถมศึกษาในศตวรรษท่ี 21
ผู้สมั มนาหวงั เปน็ อย่างยงิ่ ว่ารายงานการสัมมนาเล่มนี้จะเป็นประโยชน์และสามารถนําผลในการศึกษา
เป็นแนวทางในการสร้างการความรู้ความเข้าใจ ทัศนคติที่ดี ต่อการจัดการเรียนรู้ให้กับผู้เรียนในระดับช้ัน
ประถมศกึ ษา และเกิดประโยชน์สงู สดุ หากพบข้อผดิ พลาดประการใด ผู้วจิ ัยของอภยั มา ณ โอกาสนี้ ดว้ ย
ผู้จัดทำ
สารบญั ข
เรอื่ ง หนา้ ที่
คำนำ ก
สารบัญ ข
บทคัดย่อ ค
หวั ข้อท่ี 1 ทักษะการเรยี นรูแ้ ละนวัตกรรม
1
การสอื่ สารและความร่วมมือ 1
ความคดิ สรา้ งสรรค์และนวตั กรรม 2
นวตั กรรมการศึกษา 2
ประเภทของนวตั กรรมการศึกษา 2
นวัตกรรมด้านสอ่ื การสอน 3
ทกั ษะแหง่ ศตวรรษท่ี 21 5
การจัดการเรียนรใู้ นระดบั ประถมศึกษา 5
แนวทางการจดั ประสบการณ์ 5
หอ้ งเรียนในศตวรรษที่ 21
หวั ข้อที่ 2 ทกั ษะดา้ นสารสนเทศสือ่ เทคโนโลยี 7
การรู้เท่าทันสื่อการเรียนรู้ 7
5 องคป์ ระกอบของการรู้เท่าทนั สือ่ ท่ีเรา
ตอ้ งมี 8
การรู้ทันเทคโนโลยี 8
กฎหมายเกย่ี วกับคอมพวิ เตอร์และการ
กระทำความผดิ ทางคอมพิวเตอร์ 10
บรรณานุกรม
ค
ชอ่ื สัมมนา การจัดการเรยี นรรู้ ะดบั ประถมศึกษาในศตวรรษท่ี 21
ผ้จู ดั ทำ
นางสาวจนั ทมิ า เกตลุ ะ
อาจารยท์ ่ีปรึกษา
ปีการศกึ ษา นางสาวมณีรัตน์ แซ่ลี
นางสาวสิริยากร คีรีคำรณ
นางสาวกมลรตั น์ วิโจทจุ
นายกลา้ ณรงค์ แซต่ ง้ั
ผศ.ดร. อิสระ ทบั สีสด
2565
บทคัดย่อ
การสัมมนาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ในการศึกษาและสัมมนา เก่ียวกับเรื่อง การจัดการเรียนรู้สำหรับ
ประถมศกึ ษาในศตวรรษท่ี 21 โดยมีหัวขอ้ หลกั คือ 1.ทกั ษะการเรยี นรู้และนวัตกรรม 2.ทักษะด้านสารสนเทศ
สื่อเทคโนโลยี โดยมีหัวข้อรอง หัวข้อรองข้อที่ 1 1.1 การสื่อสารและความร่วมมือ 1.2 ความคิดสร้างสรรค์
และนวัตกรรม 1.3 ทักษแห่งศตวรรค์ที่ 21 หัวข้อรองที่ 2 2.1 การรู้เท่าทันสื่อการเรียนรู้ 2.2 การรู้ทัน
เทคโนโลยี
การสัมมนาครั้งนี้ผู้จัดทำต้องการศึกษาเกี่ยวกับเรื่อง การจัดการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ที่ส่งผลต่อ
การเรียนการสอนของนักเรียนไมว่ า่ จะเป็นสื่อการเรยี นท่ีมีอธิพลต่อตัวนกั เรียน เทคโนโลยที ่ีมีผลต่อตัวนักเรียน
โดยผู้จัดทำได้เห็นถึงปัญหา ที่กล่าวมาข้างต้น ผู้จัดทำจึงได้ศึกษา และหาข้อมูล และเอกสารที่เกี่ยวข้องมา
ประกอบในการสัมมนาครั้งนน้ี
๑
หวั ข้อที่ 1
ทกั ษะการเรียนร้แู ละนวัตกรรม
การส่อื สารและความร่วมมือ
ความเจริญกา้ วหนา้ ของเทคโนโลยีดิจิตอล และเทคโนโลยกี ารสอ่ื สาร ทำให้โลกศตวรรษที่ 21 ตอ้ งการ
ทักษะของการสือ่ สารและความร่วมมือท่กี ว้างขวางและลึกซึ้ง ดังน้ี
1. ทักษะในการสื่อสารอย่างชัดเจน ตงั้ แตก่ ารเรยี บเรยี งความคดิ และมมุ มอง (idea) สอื่ สาร
เข้าใจง่าย ในหลายแบบ ทั้งการพูด เขียน และกิริยาท่าทาง การฟังอย่างมีประสิทธิภาพ นำไป
ถ่ายทอดสื่อสาร ความหมายและความรู้ แสดงคุณค่า ทัศนคติ และความตั้งใจ การสื่อสารเพื่อการ
บรรลุเปา้ หมายการทำงาน การส่ือสารดว้ ยหลากหลายภาษาและสภาพแวดล้อมทห่ี ลากหลายอย่างได้ผล
2. ทักษะความร่วมมือกับผู้อื่น ตั้งแต่การทำงานให้ได้ผลราบรื่นที่เคารพและให้เกียรติ
ผู้ร่วมงาน มีความยืดหยุ่นและช่วยเหลือประนีประนอมเพื่อการบรรลุเป้าหมายร่วมกัน มีความ
รบั ผดิ ชอบร่วมกบั ผรู้ ว่ มงาน และเหน็ คณุ คา่ ของบทบาทของผู้รว่ มงาน
ความคดิ สร้างสรรค์และนวตั กรรม
1. การคิดอย่างสร้างสรรค์ ที่ใช้เทคนิคสร้างมุมมองอย่างหลากหลาย มีการสร้างมุมมองท่ี
แปลกใหม่อาจเป็นการปรับปรุงพัฒนาเพียงเล็กน้อย หรือทำใหม่ที่แหวกแนวโดนสิ้นเชิง
ที่เปิดกว้างในความคิดเห็นที่ร่วมกันสร้างความเข้าใจ ปรับปรุง วิเคราะห์ และประเมิน มุมมอง
เพือ่ พฒั นาความเข้าใจเกี่ยวกบั ความคดิ อยา่ งสร้างสรรค์
ความคดิ สรา้ งสรรคเ์ ชิงนวตั กรรม คือ หลักการคดิ ในบริบทเดียวกนั และการทจ่ี ะให้
องค ์ กรเก ิ ดการพ ั ฒนาอย ่ างต ่ อเน ื่ องและเต ิบโตอย ่างม ี ประสิ ทธ ิภาพได ้ น ั ้ นนอกจากความคิ ดสร ้ างสรรค์
และความคิดเชงิ นวตั กรรมแลว้ ยังมอี กี หน่งึ ความคดิ ทีต่ ้องใช้ควบคไู่ ปดว้ ย น่นั กค็ อื ความคิดเชิงบวก
การเป็นคนคิดบวก (Positive Thinking) คือ ทำให้สุขภาพจิตของเราดี มองโลก
ทั้งใบสดใสและมีแสงสว่าง แนวคิดนี้ไม่ได้มีคุณค่าเฉพาะการใช้ชีวิตประจำวันทั่วไปเท่านั้น แต่มี
ความสำคัญกับการทำงานด้วยเช่นกัน การทำงานที่รวมเข้ากับความคิดเชิงบวกจะช่วยให้คนทำงาน
ก้าวผา่ นอปุ สรรคไปได้อย่างง่ายดาย จนบางคร้งั เราจะรู้สึกวา่ ปญั หาต่าง ๆ อย่กู ับเราไมน่ าน เดี๋ยวมัน
กจ็ ะหายไป นั่นเป็นเพราะเรามที ศั นคตเิ ชิงบวกนัน้ เอง
2. การทำงานร่วมกับผู้อื่นอย่างสร้างสรรค์ ในการพัฒนา ลงมือปฏิบัติ และสื่อสารมุมมอง
ใหม่กับผู้อืน่ อยูเ่ สมอ มีการเปิดใจและตอบสนองมมุ มองใหม่ ๆ รับฟังข้อคิดเห็น และ ร่วมประเมินผล
งานจากกลุ่มคณะทำงาน เพื่อนำไปปรับปรุงพัฒนา มีการทำงานด้วยแนวคิด หรือวิธีการใหม่ ๆ และ
เขา้ ใจขอ้ จำกดั ของโลกในการยอมรับมุมมองใหม่ และให้มองความล้มเหลวเป็นโอกาสการเรยี นรู้
3. การประยกุ ต์สนู่ วัตกรรม ที่มีการลงมอื ปฏบิ ัติตามความคิดสร้างสรรค์ให้ได้ผลสำเร็จท่ีเป็น
รปู ธรรม
๒
นวตั กรรมการศึกษา
ความหมายของการพัฒนานวตั กรรมการศกึ ษา
นวตกรรม หรอื นวกรรม มาจากคาว่า "นว" หมายถึง ใหม่ และ "กรรม" หมายถึง การกระทำ
เมื่อนำรวมกัน เป็น นวกรรม หรือ นวัตกรรม จึงหมายถึง การกระทำใหม่ ๆ หรือการพัฒนาดัดแปลง
จากสิ่งใดๆแล้วทำให้ดขี ึ้น และเมื่อมาใช้ในวงการศึกษาจึงเรยี กวา่ "นวัตกรรมการศึกษา " การพัฒนา
นวัตกรรมการศึกษา(Educational Innovation) จึงหมายถึง การกระทำใหม่ การสร้างใหม่ หรือการ
พัฒนาดัดแปลงจากสิ่งใด ๆแล้วทำให้การศึกษาหรือการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนเกิดผลการ
เปล่ยี นแปลงในการเรียนรู้ เกิดการเรียนรู้อย่างรวดเร็ว มแี รงจูงใจในการเรียน ทำใหเ้ กิดประสิทธิภาพ
และประสิทธิผลสูงสุดกับผเู้ รยี น
ดังนัน้ นวตั กรรมการศึกษาจงึ ประกอบดว้ ยองคป์ ระกอบ 3 ประการคือ
1. สิ่งท่ีทำขนึ้ ใหม่ หรอื ปรับใหม่
2. เป็นทีน่ า่ เช่อื ถอื
3. มีประสิทธิภาพ
ประเภทของนวัตกรรมการศึกษา
นวัตกรรมที่นำมาใช้ในทางการศึกษา ทั้งการกระทำใหม่ใดๆ การสร้างสิ่งใหม่ๆ รวมทั้งการ
พฒั นาดดั แปลงจากส่ิงใดๆ เพ่ือใชใ้ นการเรยี นการสอน แบง่ เป็น 5 ประเภท คอื
1. นวัตกรรมด้านสือ่ การสอน
2. นวัตกรรมดา้ นวธิ กี ารจดั การเรียนการสอน
3. นวตั กรรมทางด้านหลกั สตู ร
4. นวัตกรรมด้านการวดั และการประเมนิ ผล
5. นวัตกรรมดา้ นการบริหารจดั การ
นวัตกรรมด้านส่ือการสอน เช่น บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน บทเรียนการ์ตูน บทเรียน CD /NCD
ชดุ เรยี นรู้ดว้ ยตนเอง บทเรยี นเครือขา่ ย หนงั สืออ่านเพม่ิ เติม แบบฝกึ ความพร้อม ฯลฯแนวทางการพัฒนาส่ือท่ี
นามาใช้ในการเรยี นการสอน เชน่
การพัฒนาบทเรียนคอมพวิ เตอร์ชว่ ยสอน เรื่องการคณู สาหรบั นักเรียนชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 4
• การพัฒนาชุดการเรียนรู้ด้วยตนเอง เรื่องระบบนิเวศ สำหรับนักเรียน
ชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี 4
• การพัฒนาสื่อประสมเพื่อใช้ในการสอนดนตรี-นาฎศิลป์ ชุดราวงมาตรฐาน
ระดับชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 6
๓
• การพัฒนาหนังสืออ่านเพิ่มเติมสาระพระพุทธศาสนา เรื่อง หลักธรรมทาง
พระพทุ ธศาสนา สำหรบั นกั เรยี นชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 2
• การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยโครงงานวิทยาศาสตร์ เรื่องสิ่งมีชีวิต
สำหรับนกั เรยี นช้นั ประถมศึกษาปีที่ 6
ทักษะแห่งศตวรรษท่ี 21
วจิ ารณ์ พานชิ (2555: 16-21) ไดก้ ล่าวถงึ ทกั ษะเพ่ือการดำรงชีวิตในศตวรรษท่ี 21 ดังนี้
สาระวิชาก็มีความสำคัญ แต่ไม่เพียงพอสำหรับการเรียนรู้เพื่อมีชีวิตในโลกยุคศตวรรษที่ ๒๑ ปัจจุบัน
การเรียนรู้สาระวิชา ควรเป็นการเรียนจากการค้นคว้าเองของศิษย์ โดยครูช่วยแนะนำ และช่วย
ออกแบบกจิ กรรมทชี่ ว่ ยใหน้ กั เรียนแตล่ ะคนสามารถประเมินความกา้ วหนา้ ของการเรียนร้ขู องตนเองได้
สาระวชิ าหลัก (Core Subjects) ประกอบด้วย
• ภาษาแม่ และภาษาสำคญั ของโลก
• ศลิ ปะ
• คณติ ศาสตร์
• การปกครองและหน้าท่พี ลเมอื ง
• เศรษฐศาสตร์
• วิทยาศาสตร์
• ภมู ิศาสตร์
• ประวตั ศิ าสตร์
โดยวิชาแกนหลกั นี้จะนำมาสู่การกำหนดเปน็ กรอบแนวคิดและยทุ ธศาสตร์สำคัญต่อการจัดการ
เรียนรู้ในเนื้อหาเชิงสหวิทยาการ (Interdisciplinary) หรือหัวข้อสำหรับศตวรรษที่ 21 โดยการส่งเสริมความ
เข้าใจในเนอื้ หาวิชาแกนหลกั และสอดแทรกทกั ษะแห่งศตวรรษที่ 21 เข้าไปในทุกวิชาแกนหลัก ดังนี้
ทกั ษะแห่งศตวรรษที่ 21
• ความรูเ้ ก่ียวกบั โลก
• ความรู้เก่ยี วกับการเงิน เศรษฐศาสตร์ ธุรกิจ และการเปน็ ผ้ปู ระกอบการ
• ความรู้ด้านการเปน็ พลเมืองที่ดี
• ความร้ดู ้านสขุ ภาพ
• ความรู้ดา้ นสิ่งแวดลอ้ ม
ทักษะดา้ นการเรียนรู้และนวัตกรรม จะเปน็ ตัวกำหนดความพร้อมของนักเรียนเข้าส่โู ลกการทำงานท่ีมี
ความซบั ซ้อนมากขนึ้ ในปัจจุบนั ไดแ้ ก่
➢ ความรเิ ริม่ สร้างสรรค์และนวัตกรรม
➢ การคิดอย่างมีวิจารณญาณและการแกป้ ญั หา
➢ การสอื่ สารและการรว่ มมือ
๔
ทักษะด้านสารสนเทศ สื่อ และเทคโนโลยี เนือ่ งด้วยในปัจจบุ ันมกี ารเผยแพรข่ อ้ มูลข่าวสารผา่ นทางส่ือ
และเทคโนโลยีมากมาย ผู้เรียนจึงต้องมีความสามารถในการแสดงทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณและ
ปฏิบัตงิ านได้หลากหลาย โดยอาศยั ความรู้ในหลายดา้ น ดงั นี้
➢ ความรู้ดา้ นสารสนเทศ
➢ ความรูเ้ ก่ยี วกับสอ่ื
➢ ความรูด้ ้านเทคโนโลยี
ทักษะด้านชีวิตและอาชีพ ในการดำรงชีวิตและทำงานในยุคปัจจุบันให้ประสบความสำเร็จ นักเรียน
จะต้องพัฒนาทกั ษะชวี ิตท่สี ำคญั ดงั ตอ่ ไปนี้
• ความยืดหยุน่ และการปรบั ตวั
• การริเริม่ สร้างสรรค์และเปน็ ตัวของตวั เอง
• ทกั ษะสงั คมและสังคมข้ามวฒั นธรรม
• การเป็นผู้สร้างหรือผู้ผลิต และความรับผิดชอบเช่ือถอื ได้
• ภาวะผ้นู ำและความรบั ผิดชอบ
ทกั ษะของคนในศตวรรษที่ 21 ทที่ ุกคนจะต้องเรียนรตู้ ลอดชวี ิต คอื การเรียนรู้ 3R x 7C
3R คือ (อ่านออก), (เขียนได)้ , และ (คิดเลขเปน็ )
7C คอื 1. ทักษะดา้ นการคดิ อย่างมีวจิ ารณญาณ และทักษะในการแกป้ ญั หา
2. ทักษะดา้ นการสรา้ งสรรค์ และนวตั กรรม
3. ทกั ษะด้านความเข้าใจความต่างวฒั นธรรม ตา่ งกระบวนทศั น์
4. ทักษะด้านความรว่ มมือ การทำงานเป็นทมี และภาวะผู้นำ
5. ทกั ษะด้านการสื่อสารสารสนเทศ และรเู้ ท่าทนั สือ่
6. ทักษะดา้ นคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ่ื สาร
7. ทักษะอาชพี และทกั ษะการเรยี นรู้
แนวคิดทักษะแห่งอนาคตใหม่: การเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 และกรอบแนวคิดเพื่อการเรียนรู้ใน
ศตวรรษที่ 21
การเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 เป็นการกำหนดแนวทางยุทธศาสตร์ในการจัดการเรียนรู้ โดย
ร่วมกันสรา้ งรูปแบบและแนวปฏบิ ัติในการเสริมสร้างประสิทธิภาพของการจดั การเรียนรู้ในศตวรรษที่
21 โดยเน้นที่องค์ความรู้ ทักษะ ความเชี่ยวชาญและสมรรถนะที่เกิดกับตัวผู้เรียน เพื่อใช้ในการ
ดำรงชีวิตในสังคมแห่งความเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน โดยจะอ้างถึงรูปแบบ (Model) ที่พัฒนามาจาก
เครือข่ายองค์กรความร่วมมอื เพื่อทักษะแห่งการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ที่มีชื่อย่อว่า เครือข่าย P21
ซงึ่ ไดพ้ ัฒนากรอบแนวคดิ เพอ่ื การเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 โดยผสมผสานองคค์ วามรู้ ทกั ษะเฉพาะด้าน
ความชำนาญการและความรู้เท่าทันด้านต่างๆ เข้าด้วยกัน เพื่อความสำเร็จของผู้เรียนทั้งด้านการ
ทำงานและการดำเนินชีวติ
๕
การจดั การเรียนรู้ในระดบั ประถมศึกษา
เป็นการศึกษาพื้นฐานที่มุ่งพัฒนาให้ผู้เรียนมีความสามารถ พัฒนาคุณภาพชีวิต พร้อมที่จะทำ
ประโยชน์แก่สังคม ตามบทบาทหน้าที่ของตนเอง โดยให้ผู้เรียนมีความรู้และทักษะพื้นฐานในการดำรงชีวิตใน
การจัดการศึกษาตามหลักสูตร มงุ่ ปลกู ฝงั ให้ผเู้ รียนมคี ุณลักษณะดังตอ่ ไปน้ี
- มีทักษะพ้นื ฐานในการเรียนรู้ คงสภาพ อ่านออก เขยี นได้ และคิดคำนวณได้
- มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ เกีย่ วกบั ตนเอง ธรรมชาติแวดลอ้ ม และการเปลย่ี นแปลง ของสังคม
- สามารถปฏิบัตติ น ในการรกั ษาสขุ ภาพ อนามัย ของตนเอง และครอบครัว
- สามารถวิเคราะห์สาเหตุ และเสนอแนวทาง แก้ไขปัญหา ที่เกิดขึ้น กับตนเอง และ
ครอบครัว ไดอ้ ยา่ งมีเหตผุ ล ดว้ ยทกั ษะ กระบวนการ ทางวิทยาศาสตร์
- มคี วามภมู ิใจ ในความเป็นไทย มีนสิ ัย ไมเ่ ห็นแก่ตวั ไม่เอาเปรียบผู้อื่น และอยู่รวม กับผู้อ่ืน
ได้ อย่างมคี วามสขุ
- มีนสิ ยั รกั การอ่าน และใฝ่หาความรู้ อยเู่ สมอ
- มคี วามรู้ และทกั ษะพน้ื ฐาน ในการทำงาน มนี สิ ัยรกั การทำงานและสามารถทำงานร่วมกับผอู้ น่ื ได้
- มีความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับสภาพ และการเปลี่ยนแปลง ของสังคม ในบ้าน และชุมชน
สามารถปฏิบตั ิตน ตามบทบาท และหน้าที่ ในฐานะสมาชิกทด่ี ี ของบา้ น และชุมชน ตลอดจน อนรุ ักษ์
และพฒั นาสง่ิ แวดล้อม ศาสนา ศลิ ปะ วัฒนธรรม ในชมุ ชน รอบๆบ้าน
แนวทางการจดั ประสบการณ์
ให้การจดั ประสบการณ์และกิจกรรมบรรลตุ ามจุงมุ่งหมาย จงึ มกี ารกำหนดแนวทางการจัดดงั นี้
1. สง่ เสริมพัฒนาการของผูเ้ รยี นอยา่ งต่อเนอ่ื ง
2. จดั ประสบการณ์ใหส้ อดคล้องกบั จติ วิทยาพฒั นาการและการเรยี นรขู้ องเด็ก
3. ยิดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง โดยสนองความต้องการ ความสนใจและความแตกต่างระหว่าง
บคุ คลและเปดิ โอกาสให้กบั ผ้เู รียน โดยมีครูสนับสนุนอำนวยความสะดวก และเรียนรู้กับผูเ้ รยี น
4. จดั สภาพแวดล้อมท่ีเออื้ ต่อการเรยี นรู้ เพ่ือใหผ้ เู้ รยี นรสู้ กึ มคี วามสขุ และสนกุ กบั การเรยี น
5. จัดการประเมินพัฒนาการให้เป็นกระบวนการอย่างต่อเนื่องและเป็นส่วนหนึ่งของการจัด
ประสบการณ์
ห้องเรียนในศตวรรษที่ 21
ในห้องเรียนในศตวรรษที่ 21 จะเน้นไปที่ผู้เรยี นเปน็ ศูนย์กลางและครูก็เป็นศูนย์กลางเช่นเดียวกันแต่
ครูจะไม่ทำหน้าที่เป็นเพียงผู้บรรยายอีกต่อไป แต่ทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยความสะดวกในการเรียนรู้ โดยที่
นกั เรียนกำลังเรียนรผู้ า่ นการลงมอื ทำ และครทู ำหน้าท่เี หมือนผู้ฝกึ สอน ช่วยนักเรียนโดยใหน้ กั เรยี นเปน็ ผูล้ งมือ
๖
ทำเองอีกทั้งห้องเรียนในศตวรรษที่21 การเรียนการสอนสามารถกำหนดเวลาการเรียนรู้ ที่ยืดหยุ่นเพื่อ
ตอบสนองความต้องการของนักเรียน และเป้าหมาย การเรียนรู้ที่ปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม และด้วย
เทคโนโลยีการสื่อสารที่ทันสมัย สะดวก ต่อการเข้าถึง และการใช้งานที่ไม่จำกัดเวลาและสถานที่ การจัด การ
เรียนรู้จงึ ไม่ควรจำกัดอยู่แค่ความรู้ในชั้นเรยี น นกั เรียนสามารถ เช่อื มโยงห้องเรียนไปสโู ลกภายนอกได้อย่างไร้
ขดี จำกัด
๗
หัวข้อที่ 2
ทกั ษะดา้ นสารสนเทศ สื่อเทคโนโลยี
การร้เู ทา่ ทันสอ่ื การเรียนรู้
การรู้เท่าทันสื่อ คือ การที่เราไม่หลงเชื่อเนื้อหาที่ได้อ่าน ได้ยิน ได้ฟัง แต่สามารถคิด วิเคราะห์
สงสัย และรู้จักตั้งคำถามว่า สิ่งนั้นจริงหรือไม่จริง ใครเป็นคนให้ข้อมูลเขาต้องการสื่ออะไร หรือมี
จดุ มงุ่ หมายแอบแฝงหรอื ไม่
5 องคป์ ระกอบของการรเู้ ท่าทนั สอ่ื ที่เราต้องมี ไดแ้ ก่
1. การเปดิ รับสอ่ื
การเปิดรับการเข้าใจการวิเคราะห์สื่อสื่อสื่อคือ การรู้เท่าทันการเปิดรับสื่อของ
ประสาทสัมผัส หู ตา จมูก ลิ้น สัมผัสของเรา ซึ่งเมื่อเปิดรับแล้วสมองจะสั่งการให้คิดและ
ปรุงแต่งให้เกิดอารมณ์ต่างๆตามมา การรู้เท่าทันสื่อในขั้นของการรับรู้อารมณ์ตนเองจึงเป็น
สิ่งสำคัญที่ต้องแยกความคิดและอารมณ์ออกจากกัน และความคิดจะทำให้เรารบั รู้ความจรงิ
ว่า“อะไรเปน็ สิง่ ท่สี ื่อสร้างข้นึ ”เปน็ ต้น
2. การวิเคราะหส์ ่อื
คอื การแยกแยะองคป์ ระกอบในการนำเสนอของส่อื ว่ามวี ัตถปุ ระสงค์อะไร
3. การเข้าใจส่อื
คือ การตีความสื่อหลังจากเปิดรับสื่อไปแล้ว เพื่อทำความเข้าใจในสิ่งที่สื่อนำเสนอ
ซึ่งผู้รับสารแต่ละคนก็จะมีความเข้าใจสื่อได้ไม่เหมือนกันตีความไปคนละแบบ ขึ้นอยู่กับ
ประสบการณ์ พื้นฐานการศึกษาคุณสมบัติในการเรียนรู้ ตลอดจนการรับรู้ข้อมูลของแต่ละ
บคุ คลท่ไี ม่เทา่ กันมากอ่ น
4.การประเมนิ คา่
หลังการวิเคราะห์และทำความเข้าใจสื่อแล้ว เราควรประเมินค่าสิ่งที่สื่อนำสนอว่ามี
คุณภาพและคณุ คา่ มากน้อยเพยี งใด ไมว่ ่าจะเป็นดา้ นเนอ้ื หา วิธีนำเสนอเทคนคิ ท่ีใช้ เป็นตน้
5.การใชส้ อ่ื ให้เกิดประโยชน์
แม้เราจะสามารถวิเคราะห์ เข้าใจ และประเมินค่าสื่อได้ แต่เราไม่สามารถออกไป
จากโลกของส่อื ได้ ดังนน้ั เราจึงจำเปน็ ตอ้ งปฏบิ ตั ิดังน้ี คือ
- นำส่งิ ทเ่ี ราวเิ คราะห์ไปใช้ประโยชน์
- เลอื กรับสื่อเป็น
- สามารถสง่ สารตอ่ ได้
- มีปฏิกริ ิยาตอบกลบั สือ่ ได้
๘
การรทู้ นั เทคโนโลยี
การรู้เท่าทันเทคโนโลยี คือ การรู้จักเทคโนโลยีตามความเป็นจริงทั้งคุณและโทษ
เป็นความสามารถในการเลือกและใช้เทคโนโลยีด้านต่างๆ และมีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี
เพื่อการพัฒนาตนเองและสังคม ในด้านการเรียนรู้ การสื่อสาร การทำงาน การแก้ปัญหาอย่าง
สร้างสรรค์ ถูกตอ้ ง เหมาะสม และมคี ุณธรรม สาระสำคัญของการศึกษาเทคโนโลยี จงึ มใิ ช่แค่การรู้จัก
ทำและรู้จักใช้อุปกรณ์เทคโนโลยตี า่ งๆ แตอ่ ยทู่ ่ีการพฒั นาความใฝส่ รา้ งสรรค์ ความคดิ สร้างสรรค์ และ
ฝมี อื สรา้ งสรรค์ ใฝ่ปรารถนาท่ีจะแกป้ ัญหาและทำให้เกดิ ประโยชนส์ ขุ แกช่ ีวิตและสงั คม
การใช้เทคโนโลยีอย่างรู้เท่าทัน คือ ในชีวิตประจำวันของเรา เทคโนโลยีสารสนเทศมี
บทบาทกับการดำเนนิ ชีวติ ในปัจจุบนั เป็นอยา่ งมาก ในขณะท่ใี นทกุ ๆ วันเทคโนโลยมี กี ารเปลี่ยนแปลง
ตลอดเวลา เราเองก็ต้องเรียนรู้และปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี อย่างไรก็ตาม
เทคโนโลยีนั้นมีท้ังคณุ ประโยชน์และโทษในเวลาเดยี วกนั เพ่อื ให้เรามีความรู้และสามารถใช้เทคโนโลยี
ได้อย่างมปี ระโยชน์และปลอดภยั กจ็ ำเป็นทจ่ี ะตอ้ งมคี วามรเู้ กย่ี วกับความร้ทู างดา้ นต่าง ๆ ตอ่ ไปนี้
1. การรเู้ ท่าทนั สื่อ
2. แนวทางการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภัยและมจี รยิ ธรรม
3. การรกั ษาข้อมลู ส่วนตัว
4. การรับมอื การคกุ คามทางออนไลน์
5. ลิขสิทธแ์ิ ละความเปน็ เจา้ ของผลงาน
กฎหมายเกย่ี วกบั คอมพิวเตอร์และการกระทำความผิดทางคอมพวิ เตอร์
ในหนังสอื รู้เทา่ ทันส่อื โดยศนู ย์เรียนร้สู ขุ ภาวะ สำนกั งานกองทุนสนับสนนุ การสร้างเสรมิ
สขุ ภาพ (สสส.) ไดร้ ะบุถึง 5 องค์ประกอบของการรู้เทา่ ททันที่ทท่ี ุกๆคนต้องมี ซ่ึงได้แก่
1. การเปดิ รับส่ือ คือ การเปิดรบั สอ่ื ดว้ ยประสาทสมั ผสั ท้ัง 5 เพื่อรบั รถู้ งึ ภาพรวม
ทั้งหมดของสื่อ
2. การวิเคราะห์ส่อื คือ การแยกแยะองค์ประกอบต่าง ๆ ในการนำเสนอของสื่อ
เหลา่ นั้นวา่ มีวัตถปุ ระสงคเ์ พ่ืออะไร
3. การเขา้ ใจสือ่ คือ การตีความส่อื หลังจากเปดิ รับส่ือไปแลว้ เพอ่ื ทำความเข้าใจใน
สิ่งทีส่ อ่ื นำเสนอ
4. การประเมินคา่ คอื การประเมินค่าสง่ิ ทส่ี ่อื นำสนอว่ามีคุณภาพและคุณคา่ มาก
น้อยเพียงใด
5. การใช้สอื่ ให้เกดิ ประโยชน์ คอื การนำส่งิ ทีเ่ ราวเิ คราะห์ไปใชป้ ระโยชน์ เลอื กรับ
ส่อื เปน็ สามารถสง่ สารต่อและมีปฏิกิริยาตอบกลับสอ่ื อย่างเหมาะสมได้
๙
เด็กในวัยประถมศึกษาและมัธยมศึกษา หรือ เด็ก Gen Z เติบโตขึ้นมาโดยถูกเลี้ยงดูอยู่ภายใต้
สภาพแวดล้อมที่ล้อมรอบด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล สารสนเทศและสื่ออิเล็กทรอนิกส์ทั้งจากที่บ้านและโรงเรียน
ส่งผลให้สื่อออนไลน์เข้ามามีอิทธิพลอย่างมากต่อการเรียนรู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเรียนรู้ในช่วงระหว่างและ
หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ที่ส่งผลให้เกิดการเปลีย่ นแปลงในทกุ ๆ ด้านอย่างรวดเรว็
เด็กๆ ที่จะเติบโตเป็นพลเมืองในสังคมที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลานั้นจึงจำเป็นที่จะต้อ งรู้เท่าทันสื่อ
สารสนเทศ และดิจิทัล สามารถเข้าถึงสารสนเทศผ่านสื่อและเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างปลอดภัย การเลือกรับ
วิเคราะห์ ประเมิน และนำข้อมูลที่ได้รับไปใช้ในทางสร้างสรรค์ เกิดประโยชน์ต่อตนเองและสังคมมากที่สุด
และชั้นเรียนเปน็ สถานทเี่ หมาะสมท่ีสดุ ท่ีจะชว่ ยพฒั นาสมรรถนะการรเู้ ทา่ ทนั สื่อ สารสนเทศและดิจทิ ัล (MIDL)
เพ่อื สร้างความเปน็ พลเมืองให้กับผเู้ รียน
๑๐
บรรณานุกรม
วิจารณ์ พานิช. (2555). องค์แห่งการเรียนร้แู ละการจดั การความรู้ . พิมพ์ครง้ั ที่ 2. กรุงเทพฯ :
ตถาตาพบั บลิเคชนั .
วุทธศิ กั ดิ์โภชนุกลู . (2550). กระบวนการทางนวตั กรรม
ไสว ฟักขาว. (2561 ). ทกั ษะแห่งศตวรรษท่ี 21 (21st Century Skills).
http://mcscdata.info/creativity
https://sites.google.com/site/ppvilawan21/thaksa-haeng-stwrrs-thi-21
http://www.kids.ru.ac.th/elementary_t01.asp
https://www.lri.co.th/knowledge_detail.php?knowledge_id=281
https://www.thaihealth.or.th/Content/39558-5
https://sites.google.com/site/tongkonmai/