๔. ครูอภปิ รายให้ความรทู้ ถ่ี ูกต้องแก่นักเรยี นในเรอ่ื ง
..สถานการณ์เสี่ยงต่อการตดิ สารเสพติด
..และทักษะชวี ติ เพื่อปอ้ งกนั และแกไ้ ขปญั หาสารเสพตดิ
ขน้ั สรุปและการประยกุ ต์
๕. นักเรียนแสดงความคิดเหน็ เป็นรายบุคคล
๖. ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั สรปุ ผลการอภิปราย
สือ่ และแหล่งการเรยี นรู้
๑. หนังสือเรียน วิชาการป้องกันตนเองจากภยั สงั คม ของสานกั พิมพเ์ อมพันธ์ จากัด
๒. ใบงาน
๓. สอ่ื PowerPoint วชิ า หน้าทพี่ ลเมอื งและศีลธรรม
๔. สอื่ หนังสอื พิมพ์
๕. คลิป วีดีโอ
หลักฐาน
๑. การตรวจใบงาน กจิ กรรม คาถาม
๒. การเชค็ ชอ่ื เข้าเรียน
๓. สมดุ
การวัดผลและการประเมินผล
วธิ ีวัดผล
๑. สังเกตพฤตกิ รรมรายบุคคล จากความคิดถามตอบ
๒. ตรวจใบงาน
๓. ตรวจแบบประเมินผลการเรยี นรู้
๔. การสงั เกตและประเมินพฤติกรรมด้านคณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
เครอ่ื งมือวัดผล
๑. แบบสงั เกตพฤติกรรมรายบคุ คล
๒. ใบงาน
๓. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ และแบบประเมินตนเอง
๔. แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครแู ละนักเรยี นรว่ มกัน
ประเมนิ
เกณฑก์ ารประเมินผล
๑. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤติกรรมรายบคุ คล ต้องไม่มีช่องปรับปรงุ
๒. ตอบคาถามใบงานได้ทุกใบงานจงึ จะถือวา่ ผ่านการประเมิน
๓. แบบประเมินผลการเรียนรู้ เกณฑ์ผ่าน คือ พอใช้ (๕-๖ คะแนน)
๔. แบบประเมินคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนข้ึนอยกู่ ับการ
ประเมนิ ตามสภาพจริง
กิจกรรมเสนอแนะ
ใหน้ กั เรียนทาบนั ทึกแนวทางการปอ้ งกนั ตนเองให้ห่างไกลจากยาเสพตดิ ลงในสมุด
แผนการจดั การเรยี นรู้แบบบูรณาการท่ี ๑๓ หน่วยท่ี ๑๐
รหสั วชิ า ๒๐๐๐–๑๖๐๔ วิชา การป้องกนั ตนเองจากภัยสงั คม สอนครัง้ ที่ ๒๕-๒๖
ช่ือหน่วย/เร่อื ง ทดสอบสมรรถภาพทางกาย จานวน ๒ ชว่ั โมง
จดุ ประสงคร์ ายวิชา
๓. เพื่อใหม้ เี จตคติทีด่ ีในการเสรมิ สร้างความสมบรู ณ์ทางกายโดยใช้กิจกรรมนนั ทนาการ
สมรรถนะรายวิชา
๒. ออกกาลังกายเพ่ือป้องกนั ตนเองโดยใชศ้ ลิ ปะการป้องกันตัวและเอาตัวรอด
สาระสาคญั
สมรรถภาพทางกาย (Physical Fitness) เป็นสภาวะของร่างกายที่จะบอกถึงการมีสุขภาพท่ีดี การมี
สมรรถภาพทางกายที่ดีจะทาให้สามารถทางานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ใช้เวลาว่างอย่างมีความสุข ไม่มีปัญหา
เก่ียวกับเร่ืองสุขภาพอันเน่ืองมาจากการขาดการออกกาลังกาย และส่งผลให้เกิดคุณภาพชีวิตท่ีดี เราควรเรียนรู้
เกี่ยวกับสมรรถภาพทางกาย ตระหนักถึงความสาคัญของการมีสมรรถภาพทางกายท่ีดี และมีการสร้างเสริม
สมรรถภาพทางกายซงื่ จะทาให้เกิดผลดตี อ่ สุขภาพ
ผลการเรยี นรูท้ ีค่ าดหวงั
๑. ตระหนักถึงความสาคัญของการสรา้ งเสริมสมรรถพาทางกาย
๒. ร้เู ขา้ ใจประเภทของสมรรถภาพทางกาย
๓. อธิบายวิธีทดสอบสมรรถภาพทางกายเพื่อสุขภาพ
๔. ทดสอบสมรรถภาพทางกายดว้ ยตนเองตามเกณฑ์มาตรฐาน
๕. มีการพฒั นาคุณธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ของผสู้ าเร็จการศึกษา
สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา ที่ครสู ามารถสงั เกตได้ขณะทาการสอนในเรื่อง
๑. ความมีมนุษยส์ ัมพันธ์ ๒. ความมวี ินยั
๓. ความรบั ผิดชอบ ๔. ความซอ่ื สัตยส์ ุจรติ
๕. ความเชือ่ มั่นในตนเอง ๖. การประหยัด
๗. ความสนใจใฝร่ ู้ ๘. การละเวน้ ส่งิ เสพตดิ และการพนัน
๙. ความรกั สามัคคี ๑๐. ความกตัญญูกตเวที
สาระการเรยี นรู้
ทดสอบสมรรถภาพทางกาย
๑. ความหมายและความสาคัญของการสรา้ งเสริมสมรรถภาพทางกาย
๒. ประเภทของสมรรถภาพทางกาย
(สาระที่ ๓ – ๔ ปฏิบตั ิในการเรียนครั้งต่อไป)
๓. วธิ ที ดสอบสมรรถภาพทางกายเพอ่ื สุขภาพ
๔. วธิ ีสรา้ งเสรมิ และปรับปรุงสมรรถภาพทางกายตามเกณฑม์ าตรฐาน
กิจกรรมการเรียนรู้
ขัน้ นาเขา้ สู่บทเรยี น
๔. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายถึง สมรรถภาพทางกายมีความสาคัญอย่างไร จะทาอย่างไรในการ
รักษาชีวิตให้อยู่รอดปลอดภัย ต้องดูแลและป้องกันสาเหตุต่างๆมากมาย ที่จะมาเป็นภัยต่อชีวิตของ
เรา ในที่น้ีเราจะกล่าวถึงสุขภาพร่างกาย หรือสมรรถภาพทางกายในการดาเนินชีวิต ได้อย่างมี
ประสิทธิภาพ สมรรถภาพจะดีได้ต้องรู้จักสร้างสมรรถภาพของตนเองโดยการออกกาลังกาย เราะ
สร้างสมรรถภาพทางกายของเราได้อย่างไร และมีวิธีการอย่างไร รวมถึงการวัดสมรรถภาพทางกาย
ของเราได้อยา่ งไร ในหน่วยนเ้ี ราจะมาเรยี นรูร้ ่วมกัน
๕. ครูและนกั เรียนรว่ มกนั คิดและให้ความสาคัญของสมรรถภาพทางกาย
ขน้ั สอน
๖. ครูอภปิ รายถึง
- ความหมายและความสาคัญของการสร้างเสรมิ สมรรถภาพทางกาย
- ประเภทของสมรรถภาพทางกาย
๗. นกั เรยี นร่วมกันทาความเข้าใจและเหน็ ความสาคัญเร่ืองของสมรรถภาพทางกายท่คี รูอภิปรายให้ฟงั
๘. ในสปั ดาห์หนา้ ให้นกั เรยี นเตรียมตวั ปฏิบัตริ ว่ มกนั ทดสอบสมรรถภาพทางกายด้วยตนเอง และดูผล
สมรรถภาพทางกายเปรยี บเทียบตามเกณฑ์มาตรฐาน
ข้นั สรุปและการประยกุ ต์
๙. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั สรปุ ผลการอภิปรายในเรื่องของสมรรถภาพทางกาย
๑๐.สปั ดาหห์ นา้ นกั เรยี นเตรยี มตัวแตง่ กายให้พร้อมในการเรยี นทดสอบสมรรถภาพทางกาย
ส่อื และแหล่งการเรยี นรู้
๑. หนังสือเรียน วิชาการป้องกันตนเองจากภยั สังคม ของสานกั พมิ พ์เอมพนั ธ์ จากัด
๒. ใบงาน
๓. สอ่ื PowerPoint วิชา การปอ้ งกันตนเองจากภยั สงั คม
หลกั ฐาน
๑. การตรวจใบงาน กจิ กรรม คาถาม
๒. การเชค็ ช่อื เข้าเรียน
๓. สมุด
การวัดผลและการประเมินผล
วิธีวดั ผล
๑. สังเกตพฤติกรรมรายบคุ คล
๒. ประเมินพฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลุ่ม
๓. สังเกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลมุ่
๔. ตรวจใบงาน
๕. การสงั เกตและประเมนิ พฤติกรรมดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
เคร่ืองมือวัดผล
๑. แบบสงั เกตพฤติกรรมรายบุคคล
๒. แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลมุ่ (โดยครู)
๓. แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลุ่ม (โดยนกั เรียน)
๔. ใบงาน
๕. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ และแบบประเมินตนเองจากหนังสอื การป้องกันตนเองจากภัยสงั คม
๖. แบบประเมินคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ โดยครแู ละนักเรยี นร่วมกนั
ประเมิน
เกณฑก์ ารประเมินผล
๑. เกณฑ์ผ่านการสังเกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล ต้องไมม่ ีชอ่ งปรับปรุง
๒. เกณฑ์ผ่านการประเมินพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่ม คอื ปานกลาง (๕๐ % ขึน้ ไป)
๓. เกณฑผ์ ่านการสังเกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุม่ คือ ปานกลาง (๕๐ % ข้นึ ไป)
๔. ตอบคาถามใบงานไดท้ กุ ใบงานจงึ จะถือวา่ ผ่านการประเมนิ
๕. แบบประเมินผลการเรยี นรู้ เกณฑ์ผา่ น คือ พอใช้ (๕-๖ คะแนน)
๖. แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คะแนนข้ึนอยู่กับการ
ประเมนิ ตามสภาพจริง
กิจกรรมเสนอแนะ
ให้นกั เรยี นบนั ทึกแนะนาวิธีการออกกาลงั กายงา่ ย ๆ ดว้ ยตนเอง ลงในสมุด
แผนการจดั การเรียนรแู้ บบบรู ณาการที่ ๑๔ หนว่ ยท่ี ๑๐
รหัสวิชา ๒๐๐๐–๑๖๐๔ วิชา การป้องกันตนเองจากภยั สงั คม สอนครงั้ ท่ี ๒๗-๒๘
ช่ือหน่วย/เร่ือง ทดสอบสมรรถภาพทางกาย จานวน ๒ ชวั่ โมง
จดุ ประสงค์รายวชิ า
๓. เพ่ือใหม้ เี จตคตทิ ด่ี ีในการเสรมิ สรา้ งความสมบูรณ์ทางกายโดยใช้กจิ กรรมนนั ทนาการ
สมรรถนะรายวิชา
๒. ออกกาลังกายเพ่อื ป้องกันตนเองโดยใช้ศิลปะการป้องกันตวั และเอาตวั รอด
สาระสาคัญ
สมรรถภาพทางกาย (Physical Fitness) เป็นสภาวะของร่างกายที่จะบอกถึงการมีสุขภาพท่ีดี การมี
สมรรถภาพทางกายที่ดีจะทาให้สามารถทางานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ใช้เวลาว่างอย่างมีความสุข ไม่มีปัญหา
เกี่ยวกับเรื่องสุขภาพอันเน่ืองมาจากการขาดการออกกาลังกาย และส่งผลให้เกิดคุณภาพชีวิตที่ดี เราควรเรียนรู้
เกี่ยวกับสมรรถภาพทางกาย ตระหนักถึงความสาคัญของการมีสมรรถภาพทางกายที่ดี และมีการสร้างเสริม
สมรรถภาพทางกายซ่ืงจะทาให้เกิดผลดตี ่อสุขภาพ
ผลการเรียนรูท้ ค่ี าดหวงั
๑. ตระหนักถึงความสาคัญของการสรา้ งเสริมสมรรภาพทางกาย
๒. ร้เู ขา้ ใจประเภทของสมรรถภาพทางกาย
๓. อธิบายวธิ ีทดสอบสมรรถภาพทางกายเพื่อสุขภาพ
๔. ทดสอบสมรรถภาพทางกายด้วยตนเองตามเกณฑ์มาตรฐาน
๕. มกี ารพฒั นาคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงคข์ องผสู้ าเร็จการศึกษา
สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ท่ีครูสามารถสงั เกตได้ขณะทาการสอนในเร่ือง
๑. ความมมี นุษย์สมั พันธ์ ๒. ความมวี นิ ยั
๓. ความรับผิดชอบ ๔. ความซอื่ สตั ย์สุจริต
๕. ความเชอ่ื มน่ั ในตนเอง ๖. การประหยดั
๗. ความสนใจใฝร่ ู้ ๘. การละเว้นสิง่ เสพติดและการพนัน
๙. ความรักสามัคคี ๑๐. ความกตัญญกู ตเวที
สาระการเรยี นรู้
ทดสอบสมรรถภาพทางกาย
๓. วธิ ีทดสอบสมรรถภาพทางกายเพอื่ สขุ ภาพ
๔. วธิ ีสรา้ งเสรมิ และปรบั ปรุงสมรรถภาพทางกายตามเกณฑ์มาตรฐาน
กิจกรรมการเรียนรู้
ขน้ั นาเขา้ สบู่ ทเรยี น
๑. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายถึง สมรรถภาพทางกายมีความสาคัญอย่างไรอย่าสรุป เพ่ิมเติม
จากการเรยี นในคร้งั ทแ่ี ล้ว
๒. นักเรียนสารวจตัวเองให้พรอ้ มที่จะไปปฏบิ ัตทิ ดสอบสมรรถภาพทางกายดว้ ยตนเอง
ขน้ั สอน
๓. ครอู ธิบายถึงวธิ กี ารทดสอบสมรรถภาพทางกายดว้ ยตนเองแต่ละฐาน
๔. นักเรยี นปฏบิ ัติการทดสอบสมรรถภาพตามฐานโดยครูคอยควบคุม
ฐานท่ี ๑ ความอดทนของระบบไหลเวียนเลือด (โดยการวิง่ ระยะทาง ๑๐๐๐ เมตร)
ฐานที่ ๒ ความแข็งแรงของกล้ามเน้ือ (ยนื กระโดดไกล)
ฐานท่ี ๓ ความอ่อนตัว หรอื ความยดื หยนุ่ (นง่ั งอตวั ไปด้านหน้า)
ฐานที่ ๔ องค์ประกอบของรา่ งกาย(ทดสอบค่าดชั นีมวลกาย)
ฐานที่ ๕ ความอดทนของกลา้ มเนื้อ (ลกุ นั่ง)
ขนั้ สรปุ และการประยุกต์
๕. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั สรปุ ผลการทดสอบสมรรถภาพทางกายเปรียบเทยี บกับเกณฑ์มาตรฐาน
๖. เม่ือนกั เรียนเปรียบเทียบแลว้ นักเรยี นจะร้ถู ึงสมรรถภาพของตนคนไหนต้องสร้างและดูแล
สมรรถภาพตนเองให้มสี ุขภาพดตี ามเกณฑ์
สอ่ื และแหล่งการเรียนรู้
๑. หนงั สือเรียน วิชาการป้องกันตนเองจากภยั สังคม ของสานักพมิ พเ์ อมพนั ธ์ จากดั
๒. ใบงาน
๓. เคร่ืองมือการทดสอบสมรรถภาพ
๔. เกณฑ์มาตรฐาน
๕. สื่อ PowerPoint วิชา การป้องกนั ตนเองจากภยั สังคม
หลกั ฐาน
๑. การตรวจใบงาน กจิ กรรม คาถาม
๒. การเชค็ ชื่อเข้าเรียน
๓. ผลสมรรถภาพทางกายเปน็ รายบุคคล
๔. สมดุ
การวดั ผลและการประเมนิ ผล
วธิ วี ัดผล
๑. ประเมินพฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกล่มุ
๒. สงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม
๓. ตรวจใบงาน
๔. การสงั เกตและประเมินพฤติกรรมดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอนั พงึ
ประสงค์
๕. สมรรถภาพทางกายของนักเรียน
เคร่อื งมือวดั ผล
๑. แบบสงั เกตพฤติกรรมรายบุคคล
๒. แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่ม (โดยครู)
๓. แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่ม (โดยนกั เรยี น)
๔. ใบงาน
๕. เครื่องมอื ทดสอบสมรรถภาพทางกาย
๖. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ และแบบประเมินตนเองจากหนังสอื การป้องกันตนเองจากภัยสังคม
๗. แบบประเมินคณุ ธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ โดยครูและนักเรยี น
ร่วมกันประเมิน
เกณฑ์การประเมินผล
๑. เกณฑผ์ ่านการสังเกตพฤติกรรมรายบคุ คล ต้องไม่มีช่องปรบั ปรุง
๒. เกณฑ์ผ่านการประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (๕๐ % ขน้ึ ไป)
๓. เกณฑ์ผา่ นการสังเกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกลมุ่ คือ ปานกลาง (๕๐ % ขน้ึ ไป)
๔. ตอบคาถามใบงานได้ทกุ ใบงานจงึ จะถือวา่ ผ่านการประเมิน
๕. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ เกณฑ์ผ่าน คอื พอใช้ (๕-๖ คะแนน)
๖. ผลการทดสอบสมรรถภาพทางกายนักเรียน เกณฑด์ ีและไม่ดี
๗. แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คะแนนขึ้นอยู่กับการ
ประเมนิ ตามสภาพจรงิ
กจิ กรรมเสนอแนะ
ให้นกั เรียนทาบนั ทึกผลการทดสอบสมรรถภาพทางกายลงในสมุด
แผนการจดั การเรียนรูแ้ บบบรู ณาการที่ ๑๕ หนว่ ยท่ี ๑๑
รหสั วิชา ๒๐๐๐–๑๖๐๔ วชิ า การป้องกันตนเองจากภยั สังคม สอนคร้งั ท่ี ๒๙ – ๓๐
ช่อื หนว่ ย/เร่อื ง กิจกรรมนันทนาการเพื่อเสริมสรา้ งการออกกาลงั กาย จานวน ๒ ชว่ั โมง
จดุ ประสงคร์ ายวชิ า
๓. เพอ่ื ให้มีเจตคตทิ ีด่ ีในการเสริมสร้างความสมบูรณ์ทางกายโดยใช้กิจกรรมนนั ทนาการ
สมรรถนะรายวิชา
๒. ออกกาลังกายเพ่ือป้องกันตนเองโดยใช้ศิลปะการป้องกนั ตัวและเอาตวั รอด
๓. ปฏบิ ตั โิ ครงงาน ออกแบบกิจกรรมนันทนาการ โดยประยุกตใ์ ชท้ า่ ทางจากศิลปะการปอ้ งกนั ตวั
สาระสาคัญ
นันทนาการ เป็นกิจกรรมท่ีบุคคลเข้าร่วมในเวลาว่างด้วยความสมัครใจ ก่อให้เกิดพัฒนาการทางด้านร่างกาย
อารมณ์ สังคม และสติปญั ญา เปา้ หมายคอื ใช้เวลาว่างใหม้ ีคณุ ค่าและเกดิ ประโยชน์
ผลการเรียนรู้ที่คาดหวงั
๑. บอกความหมายของนันทนาการได้
๒. บอกประโยชน์ของกจิ กรรมนันทนาการ
๓. บอกความสาคญั ของนันทนาการ
๔. บอกกิจกรรมนันทนาการในสถานศึกษา
๕. บอกกิจกรรมนันทนาการเพ่ือเสรมิ สร้างอารออกกาลังกาย
๖. ปฏิบัตเิ กมนันทนาการเพอ่ื เสริมสรา้ งการออกกาลงั กาย
๗. มีการพัฒนาคณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้สาเร็จการศกึ ษา
สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา ท่คี รูสามารถสังเกตได้ขณะทาการสอนในเรื่อง
๑. ความมีมนุษย์สมั พันธ์ ๒. ความมวี นิ ยั
๓. ความรับผดิ ชอบ ๔. ความซ่อื สัตยส์ จุ ริต
๕. ความเชือ่ ม่ันในตนเอง ๖. การประหยัด
๗. ความสนใจใฝร่ ู้ ๘. การละเว้นส่ิงเสพตดิ และการพนัน
๙. ความรักสามัคคี ๑๐. ความกตญั ญกู ตเวที
สาระการเรยี นรู้
กิจกรรมนนั ทนาการเพ่อื การเสรมิ สรา้ งการออกกาลังกาย
๑. ความหมายของนันทนาการ
๒. ประโยชนข์ องกจิ กรรมนนั ทนาการ
๓. ความสาคัญของนันทนาการ
๔. กิจกรรมนันทนาการเพ่อื เสริมสรา้ งการออกกาลังกาย
(สาระท่ี ๕ เรียนในคร้งั ต่อไป)
๕. เกมนันทนาการ
กิจกรรมการเรยี นรู้
ข้นั นาเขา้ สู่บทเรียน
๑. ครูสอบถามนักเรียนทาอะไรในยามวา่ ง ให้นกั เรยี นตอบเป็นรายบุคคล แลว้ รูส้ ึกอย่างไรไดอ้ ะไร
๒. ครแู นะนานักเรียนและส่งเสริมกิจกรรมนันทนาการของแตล่ ะบคุ คล
ข้นั สอน
๓. ครูอภิปราย ความหมายของนันทนาการ ประโยชน์ ความสาคัญของกิจกรรมนันทนาการและกิจกรรม
นันทนาการเพื่อเสริมสร้างการออกกาลังกาย
๔. ครูยกตัวอย่างกิจกรรมในสถานศึกษา วัตถุประสงค์ ประโยชน์ความจาเป็นในการจัดกิจกรรมใน
สถานศกึ ษา
๕. ครพู ูดถงึ กิจกรรมนันทนาการเพ่ือเสริมสร้างการออกาลังกาย กจิ กรรมกฬี า
ขันสรปุ และการประยุกต์
๖. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปกิจกรรมนันทนาการ ในสถานศึกษา กิจกรรมนันทนาการเพื่อเสริมสร้างการ
ออกกาลงั กาย
กีฬา
๗. ให้นักเรียนจับคู่กับเพื่อน และเลือกเกมนันทนาการ ท้ายหน่วย ๑ เกมมาบอกครูว่าในครั้งต่อไปนักเรียน
จะออกมานาเพ่ือนเล่นเกมนันทนาการในเร่ืองใด เพ่อื ไมใ่ ห้ซา้ กับเพอื่ น
สอื่ และแหล่งการเรียนรู้
๑. หนงั สือเรียน วิชาการป้องกันตนเองจากภยั สงั คม ของสานักพิมพ์เอมพันธ์
๒ เกมนนั ทนาการท้ายหน่วย
๔. แบบประเมนิ ตนเอง
๕. สอ่ื PowerPoint วิชา การปอ้ งกนั ตนเองจากภัยสังคม
หลกั ฐาน
๑. การตรวจใบงาน กิจกรรม คาถาม
๒. การเช็คชอ่ื เข้าเรยี น
๓. สมุด
การวดั ผลและการประเมนิ ผล
วิธวี ดั ผล
๑. สงั เกตพฤติกรรมรายบุคคล
๒. ประเมินพฤติกรรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกลุ่ม
๓. สงั เกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลมุ่
๔. ตรวจใบงาน
๖. การสงั เกตและประเมินพฤติกรรมด้านคณุ ธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
เครื่องมือวัดผล
๑. แบบสงั เกตพฤติกรรมรายบคุ คล
๒. แบบประเมินพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลมุ่ (โดยครู)
๓. แบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม (โดยนกั เรยี น)
๔. ใบงาน
๖. แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ โดยครูและนักเรยี นรว่ มกัน
ประเมนิ
เกณฑก์ ารประเมนิ ผล
๑. เกณฑผ์ า่ นการสังเกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล ต้องไมม่ ชี ่องปรับปรุง
๒. เกณฑ์ผา่ นการประเมินพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกิจกรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (๕๐ % ข้นึ ไป)
๓. เกณฑ์ผา่ นการสังเกตพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกลุ่ม คอื ปานกลาง (๕๐ % ข้นึ ไป)
๖. แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คะแนนขึ้นอยู่กับการประเมิน
ตามสภาพจรงิ
กิจกรรมเสนอแนะ
ใหน้ กั เรียนบันทึกประสบการณ์การเข้ารว่ มเกมนันทนาการลงในสมดุ
แผนการจัดการเรียนรแู้ บบบูรณาการที่ ๑๖ หน่วยที่ ๑๒
รหสั วิชา ๒๐๐๐–๑๖๐๔ วชิ า การปอ้ งกนั ตนเองจากภยั สงั คม สอนครัง้ ที่ ๓๓ – ๓๔
ชื่อหน่วย/เรอ่ื ง โครงงาน จานวน ๒ ช่วั โมง
จุดประสงคร์ ายวิชา
๓. เพือ่ ให้มีเจตคติทด่ี ีในการเสริมสร้างความสมบูรณท์ างกายโดยใชก้ จิ กรรมนนั ทนาการ
สมรรถนะรายวิชา
๒. ออกกาลังกายเพื่อป้องกันตนเองโดยใช้ศลิ ปะการป้องกันตวั และเอาตวั รอด
๓. ปฏิบตั ิโครงงาน ออกแบบกจิ กรรมนนั ทนาการ โดยประยุกตใ์ ช้ทา่ ทางจากศิลปะการป้องกันตวั
สาระสาคญั
สงั คมปจั จุบนั ล้วนเต็มไปด้วยอันตรายที่มองไมเ่ หน็ และไม่อาจทราบได้ว่าอนั ตรายเหลา่ น้ันจะเกิดขึ้น
เมื่อใด เราจงึ ควรรว่ มกันคดิ หาวธิ ีทชี่ ว่ ยใหต้ วั เรา และบุคคลอืน่ ๆ ในสังคม ปลอดภยั จากภัยตา่ ง ๆ ทเี่ กิดข้นึ
ผลการเรียนรทู้ ่คี าดหวงั
๑. เขียนเค้าโครงในการจดั ทาโครงงาน
๒. จัดทาโครงงาน
๓. เขียนรายงานสรุปการจัดทาโครงงาน
๔. มกี ารพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ของผูส้ าเร็จการศึกษา สานักงาน
คณะกรรมการการอาชวี ศึกษา ที่ครสู ามารถสังเกตได้ขณะทาการสอนในเรอ่ื ง
๑. ความมีมนุษยส์ ัมพนั ธ์ ๒. ความมีวินยั
๓. ความรับผดิ ชอบ ๔. ความซ่อื สัตยส์ ุจริต
๕. ความเชอื่ มั่นในตนเอง ๖. การประหยดั
๗. ความสนใจใฝร่ ู้ ๘. การละเว้นส่งิ เสพติดและการพนนั
๙. ความรกั สามัคคี ๑๐. ความกตัญญกู ตเวที
สาระการเรยี นรู้
๑. การจดั ทาเคา้ โครงในการจดั ทาโครงงาน
๒. การเขียนรายงาน
๓. รปู แบบเล่มรายงานของโครงงาน
กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้ันนาเขา้ สบู่ ทเรยี น
๑. ครใู หน้ ักเรียนยกตัวอยา่ งเกย่ี วกบั โครงงานทนี่ ักเรยี นเคยพบ
๒. ครูใหน้ ักเรยี นแสดงความคิดเก่ียวกบั โครงงานท่ีมีประโยชนต์ ่อบคุ คลในสังคม
ขั้นสอน
๓. ครูอธิบายการจัดทาเค้าโครงในการจดั ทาโครงงาน
๔. ครูแบ่งนักเรยี นออกเปน็ กลุ่ม ๆ ละประมาณ 5 คน แตล่ ะกลมุ่ จัดทาเค้าโครงในการจัดทาโครงงาน
๕. ครูใหแ้ ตล่ ะกลุ่มจัดทาโครงงาน โดยยกตวั อย่างหวั ข้อดังน้ี
- การเสรมิ สร้างสุขภาพดี ด้วยวถิ พี อเพยี ง
- การศกึ ษาวิธีการป้องกนั อนั ตรายต่อชวี ิตและทรัพย์สินที่จะเกดิ จากพวกมิจฉาชีพ
- การศึกษาวิเคราะห์อุบตั ิภัยท่เี กิดจากการจราจร
- การศึกษาวธิ ปี อ้ งกนั โรคและโทษทีเ่ กิดจากอาหาร
- ความตระหนักในปัญหาส่ิงแวดล้อมของผู้เรยี น
- ความรูค้ วามเข้าใจเรื่องสารเพสตดิ ของวัยรนุ่
- การผลติ ยารักษาโรคจากสมุนไพร
- ความกังวลใจของวัยรุ่นปจั จบุ ัน
- การศกึ ษาวธิ ีป้องกันโรคตดิ ต่อและโทษท่ีเกิดจากเพศสัมพันธ์
ขันสรปุ และการประยกุ ต์
๖. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ การจดั ทาโครงงาน
๗. ครมู อบหมายใหน้ ักเรียนแต่ละกลุม่ นาเสนอโครงงานในสัปดาหต์ อ่ ไป
สอ่ื และแหล่งการเรียนรู้
๑. หนงั สือเรยี น วิชาการป้องกันตนเองจากภยั สังคม ของสานักพิมพ์เอมพันธ์
๒ ตัวอย่างโครงงานท้ายหน่วย
๓. บันทึกความดี
๔. แบบประเมินตนเอง
๕. ส่อื PowerPoint วิชา การปอ้ งกันตนเองจากภัยสงั คม
หลักฐาน
๑. การตรวจใบงาน กิจกรรม คาถาม
๒. การเช็คชือ่ เข้าเรียน
การวดั ผลและการประเมนิ ผล
วิธีวดั ผล
๑. สงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล
๒. ประเมินพฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกลุ่ม
๓. สงั เกตพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลมุ่
๔. ตรวจใบงาน
๖. การสงั เกตและประเมนิ พฤติกรรมด้านคณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
๗. ตรวจบันทกึ ความดี
เครอ่ื งมอื วดั ผล
๑. แบบสงั เกตพฤติกรรมรายบคุ คล
๒. แบบประเมินพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรมกล่มุ (โดยครู)
๓. แบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม (โดยนกั เรยี น)
๔. ใบงาน
๖. แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ โดยครูและนักเรยี นรว่ มกัน
ประเมนิ
เกณฑ์การประเมินผล
๑. เกณฑ์ผา่ นการสังเกตพฤตกิ รรมรายบุคคล ต้องไม่มชี ่องปรับปรุง
๒. เกณฑผ์ ่านการประเมนิ พฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลมุ่ คือ ปานกลาง (๕๐ % ข้นึ ไป)
๓. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ คือ ปานกลาง (๕๐ % ข้ึนไป)
๖. แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คะแนนข้ึนอยู่กับการประเมิน
ตามสภาพจริง
กจิ กรรมเสนอแนะ
ใหน้ กั เรียนศึกษาโครงงานผ้อู ้ืนได้ทาไว้ และสะสมไว้ในห้องสมดุ โรงเรยี น
แผนการจดั การเรียนรู้แบบบูรณาการที่ ๑๗ หนว่ ยที่ -
รหัสวชิ า ๒๐๐๐–๑๖๐๔ วิชา การป้องกันตนเองจากภยั สังคม สอนคร้ังท่ี ๓๓ – ๓๔
ช่อื หน่วย/เร่อื ง นาเสนอโครงงาน จานวน ๒ ช่ัวโมง
จุดประสงค์รายวชิ า
๓. เพ่ือให้มเี จตคติทดี่ ีในการเสริมสรา้ งความสมบรู ณ์ทางกายโดยใชก้ ิจกรรมนนั ทนาการ
สมรรถนะรายวิชา
๒. ออกกาลังกายเพื่อป้องกนั ตนเองโดยใชศ้ ิลปะการป้องกันตัวและเอาตัวรอด
๓. ปฏบิ ัตโิ ครงงาน ออกแบบกิจกรรมนันทนาการ โดยประยกุ ตใ์ ชท้ า่ ทางจากศิลปะการป้องกนั ตัว
สาระสาคัญ
สงั คมปจั จบุ นั ลว้ นเตม็ ไปดว้ ยอันตรายท่ีมองไมเ่ ห็น และไม่อาจทราบไดว้ ่าอนั ตรายเหล่าน้นั จะเกิดขึน้
เมือ่ ใด เราจงึ ควรรว่ มกนั คดิ หาวิธที ชี่ ่วยใหต้ วั เรา และบคุ คลอน่ื ๆ ในสงั คม ปลอดภยั จากภัยตา่ ง ๆ ทเี่ กิดข้ึน
ผลการเรยี นรูท้ ่คี าดหวงั
๑. เขียนเค้าโครงในการจัดทาโครงงาน
๒. จดั ทาโครงงาน
๓. เขียนรายงานสรปุ การจดั ทาโครงงาน
๔. มีการพัฒนาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลักษณะอันพึงประสงคข์ องผู้สาเรจ็ การศกึ ษา สานกั งาน
คณะกรรมการการอาชีวศึกษา ทีค่ รูสามารถสงั เกตไดข้ ณะทาการสอนในเร่อื ง
๑. ความมีมนุษยส์ มั พนั ธ์ ๒. ความมวี ินยั
๓. ความรับผดิ ชอบ ๔. ความซ่อื สตั ย์สุจรติ
๕. ความเชอื่ มัน่ ในตนเอง ๖. การประหยัด
๗. ความสนใจใฝร่ ู้ ๘. การละเว้นส่งิ เสพติดและการพนนั
๙. ความรกั สามัคคี ๑๐. ความกตัญญกู ตเวที
สาระการเรยี นรู้
๑. การจดั ทาเคา้ โครงในการจดั ทาโครงงาน
๒. การเขยี นรายงาน
๓. รูปแบบเล่มรายงานของโครงงาน
กิจกรรมการเรยี นรู้
ขั้นนาเข้าสบู่ ทเรียน
๑. ครูทบทวนการจัดทาเคา้ โครงในการจัดทาโครงงาน และการเขยี นรายงาน ที่ได้เรยี นในสปั ดาห์ที่
ผ่านมา
๒. ครูสอบถามความพรอ้ มกานาเสนอโครงงานของแต่ละกลุ่ม
ขัน้ สอน
๓. ครูใหน้ ักเรียนแตล่ ะกลุ่มนาเสนอโครงงานหน้าชัน้ เรยี น
ขนั สรุปและการประยกุ ต์
๔. ครูและนกั เรยี นร่วมกันสรปุ โครงงานของแต่ละกลุ่ม
สอ่ื และแหล่งการเรียนรู้
๑. หนังสือเรียน วิชาการป้องกันตนเองจากภยั สงั คม ของสานักพิมพ์เอมพันธ์
๒ ตวั อยา่ งโครงงานทา้ ยหน่วย
๓. แบบประเมนิ ตนเอง
๔. ส่อื PowerPoint วชิ า การปอ้ งกันตนเองจากภยั สงั คม
หลักฐาน
๑. การตรวจใบงาน กิจกรรม คาถาม
๒. การเชค็ ชอ่ื เข้าเรียน
การวดั ผลและการประเมนิ ผล
วิธวี ดั ผล
๑. สงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล
๒. ประเมินพฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลมุ่
๓. สังเกตพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกิจกรรมกลุม่
๔. ตรวจใบงาน
๖. การสังเกตและประเมนิ พฤติกรรมดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคุณลักษณะอนั พึงประสงค์
เครือ่ งมือวดั ผล
๑. แบบสงั เกตพฤติกรรมรายบคุ คล
๒. แบบประเมินพฤติกรรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกลมุ่ (โดยครู)
๓. แบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม (โดยนกั เรียน)
๔. ใบงาน
๖. แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ โดยครูและนักเรียนรว่ มกัน
ประเมนิ
เกณฑ์การประเมินผล
๑. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล ต้องไม่มชี ่องปรบั ปรุง
๒. เกณฑ์ผ่านการประเมินพฤติกรรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (๕๐ % ขนึ้ ไป)
๓. เกณฑ์ผา่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (๕๐ % ข้ึนไป)
๖. แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คะแนนขึ้นอยู่กับการประเมิน
ตามสภาพจรงิ
กจิ กรรมเสนอแนะ
ให้นักเรยี นทบทวนโครงงานของกลุ่ม พร้อมรว่ มกันอภิปรายเสนอแนะ