The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รวมประวัติความเป็นมาของวรรณกรรมแต่ละท้องถิ่น ที่มีอยู่ในประเทศไทยจากอดีตสู่ปัจุบัน

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Tidaporn Sanguanboon, 2022-02-09 04:24:51

วรรณกรรมท้องถิ่น 4 ภาค

รวมประวัติความเป็นมาของวรรณกรรมแต่ละท้องถิ่น ที่มีอยู่ในประเทศไทยจากอดีตสู่ปัจุบัน

Keywords: วรรณกรรมท้องถิ่น

วรรณกรรมท้องถิ่น

4 ภาค

นางสาวธิดาภรณ์ สงวนบุญ
รหัสประจำตัว ๐๐๖ สาขาวิชาภาษาไทย
คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์

คำนำ

วรรณกรรมท้องถิ่น 4 ภาค เล่มนี้ เป็นเรื่องราวของวรรณกรรมที่มีอยู่ทั้งในอดีตและปัจจุบัน เป็นมรดกที่ตกทอดมา
อย่างยาวนาน ที่ตัวของวรรณกรรมแสดงให้เห็นถึงแหล่งข้อมูลทางประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่า สภาพชีวิตความเป็นอยู่
ของคนในอดีต รวมถึงการถ่ายทอดเรื่องราวขนบธรรมเนียมประเพณี และการสอดแทรกหลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา
เรื่องของความเชื่อที่เน้นการทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เพื่อให้ได้ตระหนักถึงดำรงตนภายใต้หลักพระพุทธศาสนาซึ่งเป็นพื้นฐาน
ในการดำรงชีวิตอย่างสงบสุข วรรณกรรมมีคุณค่าต่อทั้งชีวิตความเป็นอยู่ของมนุษย์ มอบทั้งความรู้ รวมทั้งให้ข้อคิดในการ
ดำรงชีวิต จนกระทั่งนำไปศึกษารวมทั้งประยุกต์ใช้ประกอบอาชีพ

ธิดาภรณ์ สงวนบุญ
ผู้จัดทำ

สารบัญ

01 วรรณกรรมท้องถิ่นภาคเหนือ

06 วรรณกรรมท้องถิ่นภาคอีสาน




09 วรรณกรรมท้องถิ่นภาคกลาง

13 วรรณกรรมท้องถิ่นภาคใต้

1

ว ร ร ณ ก ร ร ม ท้ อ ง ถิ่ น
ภาคเหนื อ

เป็นอีกหนึ่งวรรณกรรมที่มีการถ่ายทอดมาอย่าง สำหรับทางภาคเหนือนิยมใช้บทร้อยกรอง ในการเรียง
ยาวนาน ตั้งแต่สมัยพญาเม็งราย ก่อนยุครัตนโกสินทร์ ร้อยถ้อยคำที่สอดคล้อง และอิงสำเนียงภาษาท้องถิ่น
เสียอีก มีการค้นพบวรรณกรรมอันทรงคุณค่า จนมีการ เพื่อให้สามารถออกเสียงเป็นทำนองอย่างไพเราะ ซึ่ง
ถ่ายทอดมาถึงยุคปัจจุบัน โดยวรรณกรรมท้องถิ่นภาคนี้ เป็นรูปแบบคำประพันธ์ในการแต่งวรรณกรรมที่เป็น
มีการบันทึกเรื่องราวในอดีตของคนท้องถิ่น ซึ่งมีประเภท เอกลักษณ์แตกต่างจากวรรณกรรมท้องถิ่นในภาคอื่น
ของวรรณกรรม 2 ประเภท คือ โดยส่วนใหญ่เนื้อหาของวรรณกรรมทางภาคเหนือ จะ
คล้ายคลึงกับวรรณกรรมของทางภาคอีสาน คือ มุ่ง
การถ่ายทอดด้วยปากเปล่าเป็นการบอกเล่าหรือ เน้นเรื่องราวทางศาสนา
การขับร้อง
การเขียนเป็นลายลักษณ์อักษร
ได้แก่ คำกลอนบันทึกทางประวัติศาสตร์ นิทานหรือตำรา
ความรู้ต่างๆ โดยใช้ภาษาท้องถิ่นในการจดบันทึก มีรูป
แบบการประพันธ์ด้วยภาษาท้องถิ่นที่สวยงาม

2

โดยนิทานที่ได้รับความนิยมในการมาใช้ประพันธ์วรรณกรรมนั้นก็คือนิทานชาดกและวรรณกรรมคำสอน ส่วน
ใหญ่เนื้อหาจะมุ่งสอนจริยธรรมให้กับสังคม โดยยึดหลักภายใต้หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ควบคู่กับการให้
ความบันเทิงแก่ผู้อ่านและอีกหนึ่งลักษณะวรรณกรรมภาคเหนือ ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากก็คือ

การบรรยายชีวิตและเรื่องราวของชาวบ้านท้องถิ่นในรูปแบบละครพื้นบ้าน และเหตุการณ์
ภายในครอบครัวที่มีทั้งสุข ทุกข์ และปัญหาต่าง ๆ

พร้อมทั้งคำสอนคติธรรมแนวคิดในการแก้ปัญหา ทำให้เรามองเห็นข้อมูลหนึ่ง อย่างที่ถูกถ่ายทอดลงใน
วรรณกรรมภาคเหนือก็คือ

การสะท้อนวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ดีงามของทางภาคเหนือ

รวมถึงการเล่าเรื่องราวต่างๆ ภายในเนื้อหาของวรรณกรรม ทำให้เรามองเห็นภูมิประเทศทางภาคเหนือในช่วง
เวลานั้น รวมถึงชีวิตความเป็นอยู่ ค่านิยม และประเพณีอันดีงามในอดีต ที่สามารถสะท้อนความเป็นอยู่ของคน
ภาคเหนือในยุคนั้นได้เป็นอย่างดี

3

คุณค่าของวรรณกรรมภาคเหนือ

เนื้อหาภายในวรรณกรรมภาคเหนือ เรียกได้ว่าเปี่ยม ซึ่งเป็นมรดกอันทรงคุณค่าที่คนไทยและคนท้องถิ่น
ไปด้วยคุณค่าทางมรดกวัฒนธรรมที่ควรศึกษาไว้ให้ ควรอนุรักษ์ไว้ โดยคุณค่าของวรรณกรรมยังสามารถใช้
คนรุ่นหลัง เนื่องจากภายในงานเขียนที่รังสรรค์ออก สอนคนในยุคปัจจุบันได้อย่างร่วมสมัย หากเราปฏิบัติ
มาด้วยภาษาที่สวยงาม รวมทั้งการบันทึกข้อมูลใน และทำความเข้าใจในวรรณกรรมท้องถิ่นของภาคนี้
อดีต ให้เราได้ทราบถึงความเป็นอยู่ และความเชื่อ เชื่อได้ว่าสภาพสังคมในยุคปัจจุบันนี้จะเต็มไปด้วย
ของคนยุคนั้น รวมทั้งการสอดแทรกหลักคำสอนทาง ความสงบสุขและรู้จักการเข้าสังคมที่ดีช่วยลดปัญหา
พระพุทธศาสนาที่ดีงาม เพื่อให้สังคมสามารถอยู่ร่วม ต่างๆทางสังคมที่เกิดขึ้นในปัจจุบันได้อย่างยอดเยี่ยม
กันได้อย่างสงบสุข โดยภายในวรรณกรรมท้องถิ่น
ภาคเหนือ มักมีการสอดแทรกคติเตือนใจ เพื่อสอนให้
คนเป็นคนดีมีการใช้ภาษาด้วยถ้อยคำที่สวยงาม รวม
ถึงท่วงทำนองของบทเพลงและบทกวี ที่สอดคล้อง
กันอย่างลงตัว รวมทั้งหลักคำสอนและการถ่ายทอด
ปรัชญาทางศาสนา ซึ่งเป็นจุดศูนย์รวมจิตใจของ
ประชาชนให้ยึดเหนี่ยวไว้เป็นเครื่องมือในการดำรง
ชีวิต ทำให้ผู้ที่ได้รับฟังและอ่านวรรณกรรมชนิดนี้
สามารถเพิ่มพูนความรู้และมีหลักการแนวทางในการ
ดำรงชีวิต

ตัวอย่าง วรรณกรรมท้องถิ่นภาคเหนือ

นิราศหริภุญชัย เป็นวรรณกรรมที่คาดว่า มีการแต่ง
ขึ้นในช่วงเวลา พ.ศ. 2000 - 2060 เป็นผลงานของ
นักกวีในราชสำนักของเชียงใหม่ ที่มีการบรรยาย
ข้อมูลในระหว่างการเดินทาง เพื่อไปนมัสการพระ
ธาตุหริภุญชัยในจังหวัดลำพูน

ในระหว่างทางที่มีการเดินทางนั้น ทางนักกวีได้ใช้
พาหนะเป็นขบวนเกวียนจากทางเชียงใหม่ และมีการ
ผ่านสถานที่สำคัญต่างๆ ซึ่งมีความสำคัญทาง
ประวัติศาสตร์ เช่น

4

วัดพระสิงห์ วัดศรีเกิด วัดชัยพระเกียรติ ศาลพญามังราย
ประตูเชียงใหม่ วัดพร
ะธาตุคำ เวียงกุมกาม

วัดพระสิงห์ วัดศรีเกิด

วัดชัยพระเกียรติ ศาลพญามังราย

ประตูเชียงใหม่ วัดพระธาตุคำ

เวียงกุมกาม

เมื่อเดินทางมาถึงเมืองลำพูน ได้พักในบริเวณวัดพระยืน 1 คืน หลังจากนั้น จึงเดินทางกลับเมืองเชียงใหม่ ซึ่งตลอดทาง
นักกวีนอกจากจะมีการพรรณนาถึงความสวยงามสองข้างทางแล้ว ยังจดบันทึกการเดินทางเกี่ยวกับสถานที่ต่าง ๆ ยัง
ใช้ภาษาในการพรรณนาถึงนาง.. อันเป็นที่รักได้อย่างไพเราะ

5

โคลงอมรา เป็นวรรณกรรมท้องถิ่นทางภาค โคลงพระลอสอนโลก เป็นวรรณกรรมที่ถูก
เหนือที่แต่งด้วยการใช้โคลงสี่สุภาพ เป็น ประพันธ์ขึ้นโดยเนื้อหาของบทประพันธ์ให้
เรื่องราวเกี่ยวกับความรักโดยจุดเด่นของของ ความสำคัญเกี่ยวกับคำสอนที่ควรปฏิบัติของ
ธรรมดาคือการเลือกใช้ภาษาในการแสดง เหล่าขุนนางและการดำรงชีวิติเพื่อนำไปใช้
ความรู้สึกเกี่ยวกับความรักและการ ปฏิบัติตนโดยใช้โครงสี่สุภาพในการประพันธ์
พรรณนาเกี่ยวกับความรักและนางอันเป็น มีทั้งหมด 71 บท
ที่รักได้อย่างสวยงาม
โคลงเจ้าวิทูรสอนหลาน เป็น
โคลงนพบุรีกำสรวล เป็นวรรณกรรมที่ถูก วรรณกรรมประเภทคำสอนที่ถูกแต่งขึ้น
แต่งขึ้นโดยใช้โครงสี่สุภาพจำนวน 149 บท เพื่อใช้เป็นข้อมูลให้กับการปฏิบัติตน
โดยเนื้อหาภายในกล่าวถึงประวัติศาสตร์ ของเหล่าเจ้านายซึ่งเนื้อหามีการแต่งใช้
ของล้านนาในช่วงยุคพ.ศ. 2317 – 2318 ซึ่ง โครงสี่สลับกับโคลงสอง จำนวน 258
ช่วงนั้นเป็นช่วงที่เกิดเหตุการณ์รบกัน บท เป็นอีกหนึ่งงานที่ใช้ภาษาได้อย่าง
ระหว่างล้านนากับพม่าและมีกองทัพไทย สละสลวยและสอดแทรกการดำรงตนที่
ยกทัพขึ้นมาช่วยในการรบ โดยผู้แต่งบท ดีของคนในอดีต
วรรณกรรมนี้ได้เขียนขึ้นเพื่อถวายแด่
กษัตริย์เชียงใหม่ วรรณกรรมท้องถิ่นภาคเหนือ เป็นที่เป็น
แหล่งข้อมูลทางประวัติศาสตร์อันทรง
โคลงค่าวริร่ำถ้อยเมืองพิงค์ เป็นอีกหนึ่ง คุณค่า ที่ถูกสืบทอดกันมาอย่างยาวนาน
วรรณกรรมอันทรงคุณค่าทางภาคเหนือที่ ทำให้เราสามารถเข้าใจช่วงเวลาของ
มีการประพันธ์ขึ้นโดยกล่าวถึงเมือง การเมือง การปกครอง ทางภาคเหนือเป็น
เชียงใหม่ในยุคที่ตกเป็นเมืองขึ้นของทาง อย่างดี โดยข้อมูลในเนื้อหา เน้นถ่ายทอด
พม่าและอยู่ภายใต้การปกครองของทาง ถึงการดำรงตน ให้เป็นประโยชน์ต่อสังคม
พม่าจนถึงสมัยของพระเจ้ากาวิละซึ่งเป็น และมีการใช้หลักพระพุทธศาสนาเข้ามา ใน
ผู้กอบกู้เอกราชและยังพูดถึงข้อมูลทาง การการขัดเกลาจิตใจของคนในยุคนั้น รวม
ประวัติศาสตร์ในช่วงเจ้าเจ็ดตนปกครอง ทั้งการบันทึกข้อมูลประวัติศาสตร์ไว้ให้คน
เมือง เป็นอีกหนึ่งข้อมูลทาง รุ่นหลังได้ศึกษาต่อไป
ประวัติศาสตร์ของทางล้านนาอันทรง
คุณค่าที่ถูกบันทึกไว้ในโครงกลอน

6

ว ร ร ณ ก ร ร ม ท้ อ ง ถิ่ น
ภาคอี สาน

มรดกทางวัฒนธรรมของภาคอีสานโดยเฉพาะ หากทางเราเดินทางไปพื้นที่ภาคอีสานจะได้สัมผัส
วรรณกรรมท้องถิ่นภาคอีสาน เป็นงานเขียนที่สะท้อน สำเนียงการพูดภาษาอีสานที่แตกต่างกัน ทำให้
ความเป็นอยู่สภาพสังคมในอดีตที่ผ่านมา โดย วรรณกรรมท้องถิ่นในแต่ละพื้นที่ของภาคอีสานมี
วรรณกรรมส่วนใหญ่ของทางภาคอีสานจะเน้นไปในเรื่อง ความแตกต่างกันออกไป หากเราค้นคว้าลงลึกไปอีก
เกี่ยวกับศาสนารวมถึงความเชื่อ ซึ่งภูมิภาคแห่งนี้ จะพบว่าในอดีตที่ผ่านมาอาณาจักรล้านช้างและ
ประชาชนมักจะมีความเชื่อมั่นในสิ่งศักดิ์สิทธิ์และ อาณาจักรล้านนาทางเชียงใหม่ในสมัยราชวงศ์มังราย
พระพุทธศาสนา จึงทำให้มีการถ่ายทอดมาสู่วรรณกรรม มีความสัมพันธ์กันแล้วจะมีการติดต่อปฏิสัมพันธ์ที่ดี
ท้องถิ่นภาคอีสาน ระหว่างสองดินแดนโดยเป็นช่วงที่วรรณกรรมพุทธ
สำหรับในส่วนของวรรณกรรมนั้นเนื่องจากภาษาท้องถิ่น ศาสนาของทางล้านนามีความเจริญรุ่งเรืองเป็นอย่าง
ถูกแบ่งได้ 3 กลุ่มใหญ่ คือ มากจนทำให้วรรณกรรมได้ถูกนำไปแพร่ในอาณาจักร
ล้านช้างซึ่งคือบริเวณพื้นที่ดินแดนทางภาคอีสานใน
กลุ่มวัฒนธรรมไทย-ลาว ปัจจุบัน ทำให้เราพบว่าวรรณกรรมทางภาคอีสาน
กลุ่มวัฒนธรรมเขมร-ส่วย (กูย) จำนวนมากมีเนื้อหาที่คล้ายกันกับวรรณกรรมทางภาค
กลุ่มวัฒนธรรมไทยโคราช หรือไทยเบิ้ง เหนือรวมทั้งตัวอักษรการที่คล้ายคลึงกัน

ลักษณะความโดดเด่นของวรรณกรรมท้องถิ่นภาคอีสาน

ในส่วนใหญ่วรรณกรรมท้องถิ่นภาคอีสานจะมีการมุ่งเน้นประพันธ์ขึ้นในเชิงพระพุทธศาสนาจึงทำให้เราได้เห็น
วรรณกรรมท้องถิ่นภาคอีสานมีความเกี่ยวพันกับศาสนาพุทธ ซึ่งการแต่งวรรณกรรมของคนทางภาคอีสานนิยม
โยงเรื่องราวเกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนา

7SOCIAL PSYCHOLOGY   |    72

น่าเสียดายกับ...ไร้การเก็บรักษาวรรณกรรม

หากเทียบแล้วพื้นที่ภาคอีสานเป็นอีกหนึ่งจุดที่มีการผลิตวรรณกรรมท้องถิ่นออกมาเป็นจำนวนมากแต่ด้วยระยะ
เวลาแต่การเก็บรักษา รวมทั้งการเห็นคุณค่าของวรรณกรรมทำให้เรื่องสูญหายไปตามกาลเวลาซึ่งเป็นที่น่า
เสียดายเป็นอย่างมากเพราะวรรณกรรมดีๆของทางภาคอีสานส่วนใหญ่จะถูกเก็บไว้ในบริเวณสถานที่สำคัญแต่
ไม่มีผู้ดูแลหรือถ่ายทอดต่อ ทำให้ทิ้งทั้งต้นฉบับและวรรณกรรมท้องถิ่นอีสานถูกแต่งขึ้นและถูกปล่อยปละละเลย
จนสูญหายไปจำนวนมาก

ถึงแม้ต่อมาในปี พ.ศ 2542 มีการบรรจุให้เป็นวาระแห่งชาติเพื่อให้ชุมชนและสังคมอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น
เพื่อเป็นการสืบสานวรรณกรรมท้องถิ่นโดยผู้คนในพื้นสนใจในการเรียนวรรณกรรมอย่างจริงจังจนเพื่อป้องกัน
โอกาสสูญหายไปอย่างถาวร

สำหรับวรรณกรรมท้องถิ่นภาคอีสานเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่น่าเป็นห่วงอย่างมากเนื่องจากลักษณะพื้นฐานของคน
ทางภาคอีสานมักไม่จดบันทึกเรื่องราวต่างๆ แต่จะใช้การจำและเล่าสืบต่อกันมา โดยผู้ที่จะมีโอกาสได้เรียน
หนังสือมักเป็นผู้ชายที่ทำการบวชเรียนและมีการจดบันทึกลงใบลาน

โดยธรรมชาติของผู้หญิงมักนิยมชมมหรสพและจดจำเรื่องราวต่าง ๆ แทนการ
บันทึก ส่งผลให้วรรณกรรมท้องถิ่นภาคอีสานไม่มีลักษณะการบันทึกที่ชัดเจน

เหมือนเช่นวรรณกรรมท้องถิ่นในภาคอื่นๆ

รวมทั้งการใช้ภาษาภาคกลางที่เข้ามามีบทบาทสำคัญจึงทำให้ภาษาอีสานกลายเป็นภาษาที่พูดกันน้อยลงในหมู่คน
รุ่นใหม่ เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้การถ่ายทอดผ่านวรรณกรรมท้องถิ่นภาคอีสานเกิดภาวะถดถอยและลดน้อยลง
จึงไม่มีคนรุ่นใหม่ให้ความสนใจด้านนี้อย่างจริงจัง จึงเป็นที่น่าเสียดายว่ามรดกทางวัฒนธรรมของทางภาคอีสานจะ
หายไป

ตัวอย่าง วรรณกรรมท้องถิ่นภาคอีสาน

ท้าวฮุ่งและท้าวเจือง เป็นหนึ่งในวรรณกรรมท้องถิ่น
ภาคอีสานที่ได้รับความนิยมโดยเป็นการพูดถึงการเมือง
การปกครองกษัตริย์ในอดีตในการปกครองบ้านเมือง
นอกจากนี้ในวรรณกรรมยังพูดถึงประเพณีและความ
เชื่อในการนับถือผีของทางภาคอีสานสอดแทรกอยู่ใน
วรรณกรรม

8

จำปาสี่ต้น วรรณกรรมเรื่องนี้มีการจารึกบนใบลาน พญาคำกอง อีกหนึ่งวรรณกรรมทางภาค
ด้วยอักษรไทยน้อยเป็นนิทานเลียนแบบชาดก หาก อีสานซึ่งเป็นประเภทนิทานแฝงคติธรรมโดย
เรามีโอกาสไปตามโบสถ์เก่าแก่ของทางภาคอีสานจะ ไม่ปรากฏว่าใครเป็นผู้แต่งและเริ่มมีการแต่ง
มีโอกาสเห็นภาพจิตรกรรมฝาผนังของนิทานชาดก ตั้งแต่ในสมัยไหน โดยภายในวรรณกรรม
เรื่องนี้เป็นอีกหนึ่งวรรณกรรมที่ในการสอดแทรก เรื่องนี้จะเป็นการประมวลความรู้ จารีต
เรื่องราวเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาไว้คอยเตือนสติ ประเพณี รวมถึงความเชื่อในท้องถิ่นและค่า
และสอนใจให้กับผู้อ่านมีเรื่องกันทำดีละเว้นความชั่ว นิยมความเชื่อในพระพุทธศาสนานำร้อย
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งวรรณกรรมชั้นเอกของทาง เรียงเนื้อเรื่องได้อย่างสละสลวย
ภาคอีสาน

วรรณกรรมท้องถิ่นภาคอีสาน เป็นอีกหนึ่งคุณค่าและเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่ควรสืบสานให้คง อยู่ไปอีก
ยาวนาน แต่อีกหนึ่งปัญหาที่เป็นเรื่องยากของการรักษาไว้นั่นก็คือ..

วรรณกรรมท้องถิ่นภาคอีสานมักไม่บันทึกไว้ว่าใครเป็นผู้แต่งหรือมีการแต่งขึ้นในปี
ไหน

มักเป็นการถ่ายทอดข้อมูลแบบปากต่อปาก การไม่มีการจดบันทึกทำให้โอกาสที่จะสูญหาย เหลือไว้เพียง
วรรณกรรมบางเรื่องที่มีการจดไว้ในบันทึกใบลานเท่านั้น ซึ่งต้องยอมรับว่า วรรณกรรมท้องถิ่นภาคอีสาน เป็น
อีกหนึ่งวรรณกรรมที่ทรงคุณค่าเพราะนอกจากจะเป็นการถ่ายทอดเรื่องราวขนบธรรมเนียมประเพณีและมียังมี
การสอดแทรกหลักคำสอนทางพระพุทธศาสนาและความเชื่อเน้นการทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เพื่อให้ได้ตระหนักถึง
ดำรงตนภายใต้หลักพระพุทธศาสนาซึ่งเป็นพื้นฐานในการดำรงชีวิตอย่างสงบสุข

9

ว ร ร ณ ก ร ร ม ท้ อ ง ถิ่ น
ภาคกลาง

วรรณกรรม เป็นการบันทึกเรื่องราวโดย หากเราได้อ่าน วรรณกรรมท้องถิ่นของทางภาคกลาง
ถ่ายทอดเป็นลายลักษณ์อักษรโดยแต่ละ จะทำให้เราทราบได้ว่าในยุคหนึ่งความเป็นอยู่ของคนภาค
ภูมิภาคจะมีลักษณะการเขียนที่แตกต่างกัน กลางมีความสุข สดใสและสนุกสนาน ถูกถ่ายทอดออกมา
โดยจะสะท้อนถึงสภาพความเป็นอยู่ รวม อยู่ภายในวรรณกรรม ซึ่งประเภทของวรรณกรรมท้องถิ่น
ถึงการใช้ภาษาที่โดดเด่นของแต่ละภูมิภาค ภาคกลางนั้นจะถูกแบ่งออกเป็นประเภทต่างๆ เช่น
แต่ในวันนี้เราจะพามาสัมผัสกับ
วรรณกรรมท้องถิ่นภาคกลาง ซึ่งเป็นอีก วรรณกรรมประเภทกลอนสวดที่มีการประพันธ์ด้วย
หนึ่งภูมิภาคที่มีงานเขียนที่โดดเด่นเพราะ กาพย์ยานี
เราจะสังเกตได้จากวรรณกรรมแต่ละชิ้น ฉบังและสุรางคนางค์ ในบางครั้งเรียกว่าคำกาพย์
งานของทางภาคกลาง จะมีการบ่งบอกถึง เพราะในบางช่วงเวลาประชาชนจะมีการเข้าวัดทำบุญใน
ความสนุกสนานและความอุดมสมบูรณ์ของ วันพระและวันสำคัญทางศาสนาเพื่อถือศีลอุโบสถ เมื่อเสร็จ
อาหารการกินรวมถึงธรรมชาติที่สมบูรณ์ พิธีจะทำการฟังสวด หรือหนังสือนิทานที่มีการอ่าน
วรรณกรรมประเภทนิทานที่มีทำนองไพเราะเสนาะหูเพื่อให้
ประชาชนได้เพลิดเพลินกับคติธรรม สำหรับวรรณกรรม
ประเภทกลอนสวดที่มีชื่อเสียงเช่น สังข์ศิลป์ชัย โสนน้อย
เรือนงาม

10

ประเภทบทละครนอก

ซึ่งเป็นวรรณกรรมที่มาในการประพันธ์ออกมาเป็นตอนๆเพื่อใช้ในการเล่นละคร โดยการเล่นละครนอกเป็นการแสดง

พื้นบ้านที่ได้รับความนิยมในสมัยอยุธยาจนถึงยุครัตนโกสินทร์ตอนต้น พร้อมทั้งอย่างแพร่กระจายไปในชีวิตประจำวัน
ของชาวบ้านตามพื้นที่ต่างๆในภาคกลาง
วรรณกรรมประเภทบทละครนอกที่ได้รับความนิยมในยุคนั้น เช่น นิทานชาดกที่มีคติสอนใจอย่างเรื่อง พิกุลทอง
มโนราห์ โม่งป่า พิมพ์สวรรค์ พิณสุริยวงศ์ สุวรรณศิลป์ สุวรรณหงส์ และโสวัต สำหรับละครนอกที่ได้รับความนิยมใน
ยุครัตนโกสินทร์เป็นบทพระราชนิพนธ์ละครนอกในรัชกาลที่ 2เช่น ไชยเชษฐ์ ไกรทอง คาวี สังข์ทอง

ประเภทกลอนนิทาน

โดยส่วนใหญ่มักจะมีการประพันธ์จนจบเรื่องแตกต่างจากบทละครนอกที่นิยมแบ่งเป็นตอนๆ โดยวรรณกรรมท้องถิ่น

ภาคกลางประเภทกลอนนิทานเป็นที่แพร่หลายมากในสมัยรัชกาลที่ 5 ถึงรัชกาลที่ 6 เพราะเป็นยุคที่โรงพิมพ์มีความ
เจริญรุ่งเรืองและประชาชนในยุคนั้นนิยมซื้อหนังสือกลอนนิทานมาอ่าน

ทำให้เราได้ทราบข้อมูลในยุคนั้นวัฒนธรรมของคนท้องถิ่นภาคกลาง
ลดการนั่งชมมหรสพเปลี่ยนมาเป็นการอ่านหนังสือ

11

ประเภทกลอนแหล่

ซึ่เป็นการอ่านทำนองเสนาะที่ใช้เสียงขึ้นลงได้อย่างไพเราะ มีการร้องเพลงเป็นจังหวะโดยส่วนใหญ่จะใช้วิธีจดจำ

บทกลอนแหล่ โดยไม่มีการบันทึกไว้ นอกเหนือจากกลอนแหล่ จากสิ่งที่มีข้อมูลมายังสามารถเปลี่ยนบรรยากาศและ
สร้างความเพลิดเพลินใจให้กับผู้ฟัง

โดยกรณีของกลอนแหล่ ถือเป็นสิ่งเดียวที่พระภิกษุสามารถทำได้โดย
ไม่ผิดศีล

เราจึงมักพบเห็นการแหล่ให้พรโดยพระภิกษุสงฆ์เพื่อเป็นการดึงดูดความสนใจให้แก่ญาติโยมรวมทั้งเป็นการสอน
ธรรมะไปในตัว

ตัวอย่าง วรรณกรรมท้องถิ่นภาคกลางที่ยังคงได้รับความนิยม



พิกุลทอง เป็นวรรณกรรมที่ได้รับความนิยมนำมาในการเล่นละครนอก
ในช่วงสมัยอยุธยาและเรายังได้ค้นพบว่าต้นฉบับตัวเขียนของ
วรรณกรรมเรื่องนี้ รอดพ้นจากการถูกทำลายในช่วงที่เสียกรุงโดยตัว
ต้นฉบับตัวเขียนถูกเก็บรักษาไว้อย่างดีที่หอสมุดแห่งชาติและได้ถูก
บันทึกอยู่ในสมุดข่อยสีขาว ใช้ตัวหมึกสีดำ โดยมีลายมือในการบันทึก
เรื่องพิกุลทองว่าเป็นหมู่กลอนบทละคร โดยเนื้อหาของเรื่องพิกุลทอง
เป็นเรื่องราวการผจญภัยที่รวบรัดตัดตอน อาจจะใช้ภาษาไม่สละสลวย
มากนักแปลเพราะมุ่งเน้นการประพันธ์ขึ้นเพื่อใช้ในการเล่นละครเท่านั้น

12

สังข์ศิลป์ชัย เป็นวรรณกรรมชั้นยอดอีกหนึ่ง ปลาบู่ทอง เป็นอีกหนึ่งวรรณกรรมท้องถิ่น
เรื่องของไทยและลาว โดยเรื่องนี้ได้ประพันธ์ ภาคกลางที่ยังคงได้รับความนิยมมาจนถึง
ขึ้นโดยเจ้าปางแห่งเมืองหนองบัวลุ่มภู (ชื่อ ปัจจุบันได้มีการเล่าเรื่องผ่านบทร้อยแก้ว
เดิม) ภายในเรื่องมีการใช้สำนวนที่สวยงาม และร้อยกรองที่มีการประพันธ์สำนวนได้
ไพเราะและมีความหมายถึงแม้ในบางบทจะ อย่างไพเราะ สำหรับงานเขียนยังมีการสอด
ใช้ถ้อยคำที่ไม่สุภาพเพื่อแสดงออกถึงความ แทรกเรื่องความดีและความกตัญญูอยู่
โกรธแค้นของตัวละครแต่ภาษาที่ใช้ในการ ภายในบทวรรณกรรม พร้อมการนำความ
ถ่ายทอดกลับมีความสละสลวย โดยหนังสือ เชื่อทางพระพุทธศาสนาเข้ามามีส่วนเพื่อ
เล่มนี้มีการให้ความรู้ทั้งทางโลกและทาง เป็นคำสอนให้กับผู้อ่าน ต้องยอมรับเรื่อง
ธรรมอย่างละเอียด เนื่องจากผู้แต่งมีความรู้ ปลาบู่ทองเป็นอีกหนึ่งวรรณกรรมที่ได้รับ
ในการใช้ภาษาบาลีและสันสกฤต รวมถึง ความนิยมและมีการนำมาสร้างละครทาง
ประเพณีโบราณทางศาสนาจึงถูกการกรอง โทรทัศน์อยู่บ่อยครั้ง รวมทั้งมีการตีพิมพ์
ความรู้และความคิดลงในบทประพันธ์ได้เป็น ผ่านสื่อสิ่งพิมพ์จนถึงทุกวันนี้ จึงทำให้สังคม
อย่างดี ไทยมีความคุ้นเคยวรรณกรรมท้องถิ่นภาค
กลางเรื่องปลาบู่ทองเป็นอย่างดี

วรรณกรรมท้องถิ่นภาคกลาง นอกจากจะทำให้เรามีความรู้ความเข้าใจในยุคสมัยที่
ผ่านมารวมถึงขนบธรรมเนียมประเพณีของทางภาคกลางแล้วยังทำให้เราได้เสพ

งานศิลป์ผ่านตัวอักษรที่คนในอดีตสร้างสรรค์ผลงานไว้

13

ว ร ร ณ ก ร ร ม ท้ อ ง ถิ่ น
ภ า ค ใ ต้

ประเพณีและวัฒนธรรมท้องถิ่นทางภาคใต้ ในอดีตยังคง สำหรับการสร้างสรรค์ผลงาน วรรณกรรมท้องถิ่นภาค
มีการซึมซับเรื่องราวพระพุทธศาสนาเข้ามาเกี่ยวข้องใน ใต้ นั้นส่วนใหญ่ มักได้รับอิทธิพลมาจากวรรณกรรม
วิถีชีวิต ทำให้เราสามารถเห็นหลักคำสอนทางพระพุทธ พื้นบ้านของทางภาคกลาง โดยบางเรื่องมีการคัดลอก
ศาสนา ถูกนำไปใช้ในการสร้างสรรค์ผลงานวรรณกรรม ข้อมูลมาจากต้นฉบับ และนำมาปรับปรุงพร้อมปรับ
ท้องถิ่นภาคใต้ และเรายังมีโอกาสได้ทราบถึง ข้อมูล เปลี่ยนเนื้อหา โดยใช้ภาษาท้องถิ่นในการประพันธ์
วัฒนธรรมพื้นบ้านผ่านเรื่องราววรรณกรรม รวมทั้งชีวิต วรรณกรรมขึ้นใหม่ เช่น เรื่อง อุณรุท รามเกียรติ์
ความเป็นอยู่และการปฏิบัติตนของคนยุคนั้น ผ่านหนังสือ เราจึงเห็นข้อมูลของวรรณกรรมท้องถิ่นภาคใต้ มีความ
ตัวอักษร รวมทั้งการผสมผสานความเชื่อพิธีกรรมพื้น คล้ายคลึง ใกล้เคียงกับวรรณกรรมของทางภาคกลาง
บ้านไว้ในวรรณกรรม คล้ายกับบทละครนอกและนิทานพื้นบ้าน ที่ได้รับ
ความนิยมในท้องถิ่นทางภาคกลาง

14

คุณค่าเชิงมรดกทางวัฒนธรรมภายในวรรณกรรมท้องถิ่นภาคใต้

1.วรรณกรรมที่ได้รับอิทธิพลจากวรรณกรรมท้องถิ่นภาคกลาง
โดยการคัดลอกจากต้นฉบับวรรณกรรมภาคกลางนำมาเปลี่ยนแปลงเนื้อเรื่องแต่ยังคงยังคงฉันทลักษณ์เดียวกับ
ต้นฉบับและมีสำนวนภาษาท้องถิ่น ยกตัวอย่างเช่น สุบินกุมาร จันทโครพ พระรถเสนคำกาพย์ รามเกียรติ์ อุณรุท ลัก
ษณวงศ์
2. วรรณกรรมที่ทำการสร้างสรรค์ขึ้นมาใหม่
เกิดจากากรสร้างสรรโดยนักกวีพื้นบ้านทางภาคใต้ ที่นำโครงเรื่องจากนิทานท้องถิ่น
หรือโครงเรื่องจากนิทานภาคกลาง มาประพันธ์ขึ้นใหม่ด้วยภาษาท้องถิ่น ยกตัวอย่าง สัปดนคำกาพย์ พระวรเนตรคำ
กาพย์ สังข์ทองคำกาพย์ ชาลวันคำกาพย์สุวรรณสิน พระแสงสุริยฉายคำกาพย์
3. วรรณกรรมในรูปแบบตำราต่างๆ
ยกตัวอย่าง ตำราดูลักษณะสัตว์ ตำราดูลักษณะสตรี ตำราโชคชะตาราศี ตำรายา แบบเรียนที่คัดลอกมาจากภาคกลาง
เช่น จินดามณี

ถึงแม้ว่าวรรณกรรมท้องถิ่นภาคใต้ จะได้รับอิทธิพลมาจากวัฒนธรรมวรรณกรรมพื้นบ้านทางภาคกลาง

แต่ภายในวรรณกรรมยังคงสอดแทรกสภาพภูมิศาสตร์ สภาพสังคม ของชุมชนท้อง
ถิ่นภาคใต้ตอนล่าง

ที่มีความเชื่อในหลักพระพุทธศาสนา รวมทั้งความเชื่อแบบดั้งเดิมของชาวมลายู ที่มีการผสมผสานกันอย่างลงตัว
สามารถสะท้อนตัวตนที่แท้จริงของวัฒนธรรมภาคใต้ ที่มักมีปฏิสัมพันธ์ของคนไทยในท้องถิ่นได้เป็นอย่างดี รวมทั้งการ
ถ่ายทอดความเชื่อพิธีกรรมต่าง ๆ ที่ได้รับอิทธิพลบริเวณภาคใต้อย่างกว้างขวาง ทำให้การอ่านวรรณกรรมท้องถิ่นภาค
ใต้ เราจะได้สัมผัสไปกับวิถีชีวิตการดำรงชีวิตความเชื่อรวมถึงความรู้ทางตำรับยาและจุดภูมิศาสตร์ของทางภาคใต้ใน
อดีตได้ เป็นอีกหนึ่งคุณค่าที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่คนรุ่นหลังควรสืบสานและรักษาไว้เพื่อให้คงอยู่ต่อไปในภายภาค
หน้า เป็นการรักษาวัฒนธรรมของคนภาคใต้ให้รักและห่วงแหนวัฒนธรรมท้องถิ่นของทางภาคใต้จากการถ่ายทอด
ภายในวรรณกรรมท้องถิ่น

15

ตัวอย่าง วรรณกรรมรณท้องถิ่นภาคใต้


ตำนานนางโภควดี เป็นวรรณกรรมท้องถิ่นเกี่ยวกับ ตำนานการสร้างโลกและจักรวาล ที่อาศัยเค้ามูลจากความเชื่อทาง

ศาสนาพราหมณ์ ผสมผสานกับคติความเชื่อทางพุทธศาสนา ความเชื่อท้องถิ่น โดยเป็นวรรณกรรมที่แพร่หลายเป็น
ลายลักษณ์อักษร ในหนังสือบุดหรือสมุดข่อย ซึ่งมีอยู่ว่า

ตำนานสร้างโลกและจักรวาลเรื่อง นางโภควดี ซึ่งกล่าวถึงการเสียสละร่างกายของ
นาง เพื่อพลีบูชาให้เกิดเป็นสิ่งธรรมชาติต่างๆ อันเป็นประโยชน์ต่อสัตว์โลกทั้งปวง

เป็นพระคุณอันยิ่งใหญ่ที่ทำให้นางโภควดีมีความสำคัญยิ่งต่อมนุษย์ โดยเฉพาะชาวภาคใต้ เมื่อมีการมงคล หรือการจัด
พิธีบวงสรวงพระภูมิ ผู้ประกอบพิธีต้องอัญเชิญและบูชานางด้วยผู้หนึ่ง บรรดาศิลปินพื้นบ้าน เช่น หนังตะลุง มโนราห์
ซึ่งต้องปลูกโรงแสดงขึ้นเป็นการเฉพาะ
ก่อนการแสดงต้องเบิกโรงขอที่ตั้งโรงจากพระภูมิ และจากนางโภควดีเสียก่อน ทั้งนี้ด้วยความเชื่อว่าจะเกิดเป็นมงคล
ปลอดจากภยันตรายทั้งปวง คติความเชื่อนี้ปัจจุบันยังคงยึดถือกันอย่างเหนียวแน่นของชาวบ้านอันเป็นชาวไทยพุทธใน
ภาคใต้

ตำนานนางเลือดขาว เป็นตำนานพื้นบ้านภาคใต้
ที่แพร่หลายในหลายจังหวัดในฝั่งทะเลตะวัน
ออก คือ พัทลุง สงขลา นครศรีธรรมราช และฝั่ง
ตะวันตกหรือฝั่งทะเลอันดามัน เช่น ตรัง ภูเก็ต
รวมทั้งที่เกาะลังกาวี ไทรบุรี ประเทศมาเลย์เซีย
ด้วย

16

ตำพระสุธนมโนห์รา นิทานพื้นบ้านเรื่องพระสุ
ธนมโนห์รา-ภาคใต้ มีทั้งประเภท มุขปาฐะและ
ลายลักษณ์ (หนังสือบุด) ที่แต่งเป็นคำกาพย์ มี
หลายสำนวน ตัวอย่าง มโนราหรานิบาต วัด
มัชฌิมาวาส จังหวัดสงขลา นอกจากแพร่หลาย
ในไทยแล้วยังแพร่หลายในประเทศเพื่อนบ้าน
อีกด้วย

นอกจากนี้ วรรณกรรมต่างๆของภาคใต้จะถูกจดบันทึกไว้ใน หนังสือบุด โดยเป็นการจดบันทึกเรื่องราวต่างๆ ไม่ว่าจะ
เป็นวรรณกรรมประเภทศาสนา เช่น หนังสือ นิทานชาดก นิทานประโลมโลก พงศาวดาร ตำนาน ตำราดูลักษณะเรือ
ตำรับยาและคาถาอาคม ถูกบันทึกไว้ในหนังสือบุด
ซึ่งมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ในการบันทึกองค์ความรู้ และเรื่องราวต่างๆ ในอดีต ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายเป็นอย่างมาก
เพราะหนังสือบุดหลายเล่ม ถูกทำลาย สูญหาย แต่ยังคงมีหลงเหลืออยู่ในพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติชุมพร

วรรณกรรมท้องถิ่นภาคใต้ เป็นอีกหนึ่งคุณค่ามรดกวัฒนธรรมที่ควรรักษาไว้ ถึงแม้ในประเทศไทยจะมีหลายภูมิภาค
แต่ในทุกส่วนล้วนแล้วแต่มีวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง รวมถึงวรรณกรรมภาคใต้ที่มีการถ่ายทอดความเชื่อ
ทางพระพุทธศาสนา และความเป็นอยู่ของคนในพื้นที่ในอดีต โดยสะท้อนออกมาผ่านลายลักษณ์อักษร ในการจด
บันทึกลงในสมุดข่อยหรือหนังสือบุด

ถึงแม้ว่าในช่วงเวลาหนึ่งจะเกิดปัญหาทางการเมืองส่งผลทำให้หนังสือและเรื่องราววรรณกรรมหลายเล่มถูกกลืนหาย
ไปตามกาลเวลา เราก็ได้แต่หวังว่าคนรุ่นใหม่จะทำการสืบทอดมรดกอันทรงคุณค่าเช่นนี้สืบต่อไปเพื่อให้คนรุ่นหลังได้
เข้าใจและตระหนักถึงคุณค่าดีงามของงานศิลป์ชิ้นนี้

บรรณนุกรม

danusorn. (2561). [ออนไลน์]. วรรณกรรมท้องถิ่นภาคเหนือ.
เข้าถึงได้จาก https://pleutil.net/ (วันที่ค้นข้อมูล : 7 กุมภาพันธ์ 2565).

danusorn. (2561). [ออนไลน์]. วรรณกรรมท้องถิ่นภาคอีสาน.
เข้าถึงได้จาก https://pleutil.net/ (วันที่ค้นข้อมูล : 7 กุมภาพันธ์ 2565).

danusorn. (2561). [ออนไลน์]. วรรณกรรมท้องถิ่นภาคกลาง.
เข้าถึงได้จาก https://pleutil.net/ (วันที่ค้นข้อมูล : 8 กุมภาพันธ์ 2565).

danusorn. (2561). [ออนไลน์]. วรรณกรรมท้องถิ่นภาคใต้.
เข้าถึงได้จาก https://pleutil.net/ (วันที่ค้นข้อมูล : 8 กุมภาพันธ์ 2565).


Click to View FlipBook Version