The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รายงานการอบรมเชิงปฏิบัติการการสร้างนวัตกรรมรูปแบบวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Yindee5047, 2024-07-01 10:58:34

รายงานการอบรมเชิงปฏิบัติการการสร้างนวัตกรรมรูปแบบวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice)

รายงานการอบรมเชิงปฏิบัติการการสร้างนวัตกรรมรูปแบบวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice)

ก คำนำ รายงานผลการดำเนินงานโครงการพัฒนาผู้บริหารและบุคลากรทางการศึกษาในตำบลสำนักแต้ว เรื่อง อบรมเชิงปฏิบัติการการสร้างนวัตกรรมรูปแบบวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) ฉบับนี้ จัดทำขึ้นเพื่อ พัฒนาครูให้มีความรู้เกี่ยวกับแนวทางการจัดทำแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) ส่งเสริมให้ครูผู้สอนนำ ความรู้ไปใช้ในการพัฒนานวัตกรรมการออกแบบกิจกรรมการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning เป็นแนวทาง การส่งเสริมการจัดทำวิจัยในชั้นเรียนส่งเสริมทักษะศตวรรษที่ 21 แก่ผู้เรียนและเพื่อเป็นแนวทางการส่งเสริมการ จัดทำ Best Practice การจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ขอขอบคุณผู้อำนวยการโรงเรียน ทุกท่าน และขอขอบคุณ คณะกรรมการดำเนินงานทุกฝ่ายที่เสียสละ เวลา กำลังกาย และกำลังใจ จนทำให้การประเมินโครงการครั้งนี้สำเร็จลุล่วงด้วยดี คณะผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ว่าเอกสารประเมินผลการดำเนินงานโครงการพัฒนาผู้บริหารและ บุคลากรทางการศึกษาในตำบลสำนักแต้วเรื่อง อบรมเชิงปฏิบัติการการสร้างนวัตกรรมรูปแบบวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) ฉบับนี้ จะสามารถเป็นข้อมูลในการพัฒนาโรงเรียนในเครือข่ายสถานศึกษาสำนักแต้วและ โรงเรียนในเครือข่ายอำเภอสะเดาที่สนใจอย่างเต็มรูปแบบต่อไป คณะผู้จัดทำ


ข สารบัญ เรื่อง หน้า คำนำ ก สารบัญ ข หลักการและเหตุผล 1 วัตถุประสงค์ 1 เป้าหมาย 2 งบประมาณ 2 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 2 สรุปผลโครงการพัฒนาผู้บริหารและบุคลากรทางการศึกษาในตำบลสำนักแต้ว 3 ภาคผนวก 8 - โครงการที่ได้รับอนุมัติ 9 - กำหนดการ การอบรมเชิงปฏิบัติการพัฒนาผู้บริหารและบุคลากรทางการศึกษา ในตำบลสำนักแต้วเรื่อง อบรมเชิงปฏิบัติการการสร้างนวัตกรรมรูปแบบ วิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) 13 - คำสั่งคณะกรรมการดำเนินโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการการพัฒนาผู้บริหาร และบุคลากรทางการศึกษาในตำบลสำนักแต้ว เรื่อง อบรมเชิงปฏิบัติการ การสร้างนวัตกรรมรูปแบบวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) 15 - หนังสือขอความอนุเคราะห์ใช้สถานที่ในการอบรม 20 - หนังสือขอเชิญเป็นวิทยากรในการอบรม 22 - หนังสือขอเรียนเชิญเป็นประธานในพิธีเปิดการอบรม 24 - หนังสือขอความอนุเคราะห์ลงนามในเกียรติบัตรการอบรม 26 - เอกสารการอบรม 28 - รายชื่อผู้เข้าร่วมโครงการ/ใบลงทะเบียน 43 - แบบประเมินความพึงพอใจ 52 - ภาพประกอบโครงการ 55


๑ สรุปผลโครงการพัฒนาผู้บริหารและบุคลากรทางการศึกษาในตำบลสำนักแต้ว เรื่อง อบรมเชิงปฏิบัติการการสร้างนวัตกรรมรูปแบบวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) ชื่อโครงการ โครงการพัฒนาผู้บริหารและบุคลากรทางการศึกษาในตำบลสำนักแต้ว ลักษณะของโครงการ โครงการใหม่ หน่วยงานที่รับผิดชอบ เครือข่ายสถานศึกษาสำนักแต้ว ระยะเวลา ปีงบประมาณ 2567 1. หลักการและเหตุผล พระราชบัญญัติการศึกษาแหงชาติ พ.ศ. 2542 และที่แกไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2545 ไดกำหนด แนวทางการจัดการศึกษาในหมวด 4 มาตรา24 (1) ครูตองฝกทักษะกระบวนการคิด การจัดการ การเผชิญสถาน การณและการประยุกตความรูมาใชเพื่อปองกันและแกไขปญหา จัดกิจกรรมใหผูเรียนไดเรียนรูจากประสบการณ จริง คิดเปน ทำเปน รักการอานและเกิดการใฝรูอยางตอเนื่อง และมาตรา24 (5) สถานศึกษาตองสงเสริม สนับสนุนใหผูสอน สามารถจัดบรรยากาศ สภาพแวดลอม สื่อการสอน และอำนวยความสะดวก หรือใหผูเรียนเกิด การเรียนรูและมีความรูรวมทั้งสามารถใชการวิจัยเปนสวน หนึ่งของการเรียนรูทั้งนี้ผูสอนและผูเรียนอาจเรียนรู ไปพรอมกัน จากสื่อการเรียนการสอน และแหลงวิทยาการ ประเภทตางๆ วิธีการปฏิบัติที่เป็นเลิศหรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า Best practice กำลังเป็นที่นิยมในการการศึกษาของ ประเทศไทย องค์กรทางการศึกษากำหนดให้มีการประกวด Best practice ในด้านต่างๆ การยกระดับผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียน การส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน และปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เป็นต้น ทั้งในระดับโรงเรียน ระดับ เครือข่ายโรงเรียน ระดับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ระดับภาคและระดับประเทศ ดังนั้นการดําเนินโครงการพัฒนาผู้บริหารและบุคลากรทางการศึกษาในตำบลสำนักแต้ว เพื่อส่งเสริมให้ องค์กรมีความพร้อมด้านมีระบบบริหารทีดี จะเป็นการ นําไปสู่ ่การพัฒนา องค์กร ให้เข้มแข็ง สามารถพัฒนา นักเรียนให้เป็นผลผลิตที่มีคุณภาพและเป็นการเสริมสร้างให้ผู้บริหารและบุคลากรทางการศึกษาได้รับการพัฒนา สามารถนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้มาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อวิชาชีพ องค์กร และงานราชการสืบต่อไป ๒. วัตถุประสงค์ 2.1เพื่อพัฒนาครูให้มีความรู้เกี่ยวกับแนวทางการจัดทำแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) 2.2เพื่อส่งเสริมให้ครูผู้สอนนำความรู้ไปใช้ในการพัฒนานวัตกรรมการออกแบบกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ แบบ Active Learning 2.3เพื่อเป็นแนวทางการส่งเสริมการจัดทำวิจัยในชั้นเรียนส่งเสริมทักษะศตวรรษที่ 21 แก่ผู้เรียน 2.4เพื่อเป็นแนวทางการส่งเสริมการจัดทำ Best Practice การจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning)


๒ ๓. เป้าหมาย 3.1 เชิงปริมาณ ผู้บริหารและบุคลากรทางการศึกษา ร้อยละ ๙0 ได้รับการส่งเสริม และพัฒนาศักยภาพ ในการ ปฏิบัติงาน มีความรู้และความเข้าใจแนวทางการจัดทำแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) ๓.๒ เชิงคุณภาพ ผู้บริหารและบุคลากรทางการศึกษามีความรู้ และมีศักยภาพในการปฏิบัติงาน 4. งบประมาณ งบประมาณสนับสนุนจากโรงเรียนในเครือข่ายสถานศึกษาสำนักแต้ว จำนวน ๒5,๐๐๐ บาท (สองหมื่น ห้าพันบาทถ้วน) 5.ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 5.1 ผู้บริหารและบุคลากรทางการศึกษาเครือข่ายสถานศึกษาสำนักแต้ว มีความรู้และความเข้าใจมีความรู้ และความเข้าใจแนวทางการจัดทำแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) 5.2ผู้บริหารและบุคลากรทางการศึกษานำความรู้ที่ได้รับไปพัฒนาศักยภาพในการปฏิบัติงาน 5.3ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องมีความพึงพอใจในโครงการ


๓ สรุปผลโครงการพัฒนาผู้บริหารและบุคลากรทางการศึกษาในตำบลสำนักแต้ว เรื่อง อบรมเชิงปฏิบัติการการสร้างนวัตกรรมรูปแบบวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) วันที่ 30 เดือน มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖7 ณ ห้องประชุมโรงเรียนสะเดา “ขรรค์ชัยกัมพลานนท์อนุสรณ์” อ.สะเดา จ.สงขลา ตอนที่ ๑ ข้อมูลพื้นฐานของผู้เข้าประชุม แสดงข้อมูลพื้นฐานของผู้เข้าประชุม จำแนกตามเพศ ตามตำแหน่ง และโรงเรียน ปรากฏดังตารางที่ ๑ ตารางที่ ๑ แสดงจำนวนและร้อยละของข้อมูลผู้เข้าร่วมโครงการ ข้อมูล จำนวน ร้อยละ เพศ ชาย 18 15.65 หญิง 97 84.35 รวม 115 100 ตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรียน 17 14.78 รองผู้อำนวยการโรงเรียน 3 2.6 ครูและบุคลากร 95 82.61 รวม 115 100 โรงเรียน โรงเรียนบ้านควนตานี 18 15.65 โรงเรียนบ้านม่วง 15 13.05 โรงเรียนบ้านน้ำลัด 14 12.17 โรงเรียนบ้านเกาะค่าง 11 9.66 โรงเรียนวัดห้วยคู 9 7.83 โรงเรียน ตชด.สื่อมวลชนกีฬา 4 3.48 โรงเรียนอื่นในเครือข่ายอำเภอสะเดา 44 38.26 รวม 115 100 ข้อมูลจากตารางที่ ๑ พบว่า มีผู้เข้าร่วมอบรม จำนวนทั้งสิ้น 115 คน ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง 97 คน คิด เป็นร้อยละ 84.35 เป็นคณะครูและบุคลากรจำนวน 95 คน คิดเป็นร้อยละ 82.61 และเป็นโรงเรียนใน เครือข่ายสถานศึกษาสำนักแต้ว จำนวน 71 คน คิดเป็นร้อยละ 61.74


๔ ตอนที่ 2 ความคิดเห็นเกี่ยวกับโครงการ แสดงความคิดเห็นระดับความพึงพอใจในการจัดโครงการ ปรากฏดังตารางที่ ๒ – 5 ดังนี้ ตารางที่ 2 แสดงระดับค่าเฉลี่ยความพึงพอใจของผู้เข้าร่วมประชุมเกี่ยวกับการจัดโครงการ ด้านวิทยากร เกณฑ์การพิจารณา ̅ S.D ระดับความคิดเห็น 1.การเตรียมตัวและความพร้อมของวิทยากร 4.88 0.32 ดีมาก 2.ความสามารถในการถ่ายทอด/สื่อสาร 4.88 0.32 ดีมาก 3.การเปิดโอกาสให้ซักถามและเเสดงความคิดเห็น 4.74 0.47 ดีมาก 4.การตอบคำถามได้ตรงประเด็นและชัดเจน 4.75 0.43 ดีมาก 5.เอกสารประกอบการบรรยายเหมาะสม 4.56 0.55 ดีมาก รวม 4.76 0.41 ดีมาก ข้อมูลจากตารางที่ ๒ พบว่า ผู้เข้าร่วมโครงการฯ มีระดับความพึงพอใจเกี่ยวกับการจัดโครงการ ด้าน วิทยากรโดยรวมอยู่ในระดับดีมาก (ค่าเฉลี่ย ๔.76) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ผู้เข้าร่วมโครงการฯ มีระดับ ความพึงพอใจอยู่ในระดับดีมาก (ค่าเฉลี่ย ๔.๕๑ – ๕.๐๐) 5 ข้อ เรียงลำดับจากมากไปน้อย คือ การเตรียมตัวและ ความพร้อมของวิทยากร , ความสามารถในการถ่ายทอด/สื่อสาร (ค่าเฉลี่ยเท่ากัน ๔.88) รองลงมา การตอบ คำถามได้ตรงประเด็นและชัดเจน (ค่าเฉลี่ย คือ ๔.75) รองลงมาคือการเปิดโอกาสให้ซักถามและเเสดงความ คิดเห็น (ค่าเฉลี่ย ๔.74) และเอกสารประกอบการบรรยายเหมาะสม (ค่าเฉลี่ย คือ ๔.56) ตามลำดับ ตารางที่ 3 แสดงระดับค่าเฉลี่ยความพึงพอใจของผู้เข้าร่วมประชุมเกี่ยวกับการจัดโครงการ ด้านสถานที่ / ระยะเวลา / อาหาร เกณฑ์การพิจารณา ̅ S.D ระดับความคิดเห็น 1.สถานที่สะอาดและมีความเหมาะสม 4.59 0.49 ดีมาก 2.ความพร้อมของอุปกรณ์โสตทัศนูปกรณ์ 4.81 0.39 ดีมาก 3.ระยะเวลาในการอบรมมีความเหมาะสม 4.31 0.75 ดี 4.อาหารมีความเหมาะสม 4.66 0.50 ดีมาก รวม 4.59 0.53 ดีมาก ข้อมูลจากตารางที่ 3 พบว่า ผู้เข้าร่วมโครงการฯ มีระดับความพึงพอใจเกี่ยวกับการจัดโครงการ ด้าน สถานที่/ระยะเวลา/อาหาร โดยรวมอยู่ในระดับดีมาก (ค่าเฉลี่ย ๔.59) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ผู้เข้าร่วม โครงการฯ มีระดับความพึงพอใจอยู่ในระดับดีมาก (ค่าเฉลี่ย ๔.๕๑ – ๕.๐๐) 3 ข้อ เรียงลำดับจากมากไปน้อย คือ ความพร้อมของอุปกรณ์โสตทัศนูปกรณ์(ค่าเฉลี่ย ๔.81) รองลงมาคืออาหารมีความเหมาะสม (ค่าเฉลี่ย คือ ๔.66)


๕ รองลงมาคือสถานที่สะอาดและมีความเหมาะสม (ค่าเฉลี่ย ๔.59) และเอกสารประกอบการบรรยายเหมาะสม (ค่าเฉลี่ย คือ ๔.56) ตามลำดับ ส่วนข้ออื่น ๆ มีระดับความพึงพอใจอยู่ในระดับดี (ค่าเฉลี่ย ๓.๕๑ – ๔.๕๐) ๑ ข้อ ตารางที่ 4 แสดงระดับค่าเฉลี่ยความพึงพอใจของผู้เข้าร่วมประชุมเกี่ยวกับการจัดโครงการ ด้านความรู้ ความ เข้าใจ เกณฑ์การพิจารณา ̅ S.D ระดับความคิดเห็น 1.ความรู้ความเข้าใจในเรื่องนี้ก่อนการอบรม 3.97 1.06 ดี 2.ความรู้ความเข้าใจในเรื่องนี้หลังการอบรม 4.59 0.52 ดีมาก รวม 4.28 0.79 ดี ข้อมูลจากตารางที่ 4 พบว่า ผู้เข้าร่วมโครงการฯ มีระดับความพึงพอใจเกี่ยวกับการจัดโครงการ ด้าน ความรู้ ความเข้าใจ โดยรวมอยู่ในระดับดี(ค่าเฉลี่ย ๔.28) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ผู้เข้าร่วมโครงการฯ มี ระดับความพึงพอใจอยู่ในระดับดีมาก (ค่าเฉลี่ย ๔.๕๑ – ๕.๐๐) คือ ความรู้ความเข้าใจในเรื่องนี้หลังการอบรม (ค่าเฉลี่ย ๔.59) ส่วนข้ออื่น ๆ มีระดับความพึงพอใจอยู่ในระดับดี (ค่าเฉลี่ย ๓.๕๑ – ๔.๕๐) ๑ ข้อ ตารางที่ 5 แสดงระดับค่าเฉลี่ยความพึงพอใจของผู้เข้าร่วมประชุมเกี่ยวกับการจัดโครงการ ด้านการนำความรู้ไป ใช้ เกณฑ์การพิจารณา ̅ S.D ระดับความคิดเห็น 1.สามารถนำความรู้ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้ในการ ปฏิบัติงาน 4.68 0.47 ดีมาก 2.สามารถนำความรู้ที่ได้ไปเผยเเพร่ได้ 4.56 0.50 ดีมาก 3.สามารถให้คำปรึกษากับเพื่อนร่วมงานได้ 4.50 0.56 ดี รวม 4.58 0.51 ดีมาก ข้อมูลจากตารางที่ 5 พบว่า ผู้เข้าร่วมโครงการฯ มีระดับความพึงพอใจเกี่ยวกับการจัดโครงการ ด้านการ นำความรู้ไปใช้โดยรวมอยู่ในระดับดีมาก (ค่าเฉลี่ย ๔.58) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ผู้เข้าร่วมโครงการฯ มี ระดับความพึงพอใจอยู่ในระดับดีมาก (ค่าเฉลี่ย ๔.๕๑ – ๕.๐๐) 2 ข้อ เรียงลำดับจากมากไปน้อย คือ สามารถนำ ความรู้ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงาน (ค่าเฉลี่ย ๔.68) รองลงมา คือ สามารถนำความรู้ที่ได้ไปเผยเเพร่ได้ (ค่าเฉลี่ย คือ ๔.56) ตามลำดับ ส่วนข้ออื่น ๆ มีระดับความพึงพอใจอยู่ในระดับดี (ค่าเฉลี่ย ๓.๕๑ – ๔.๕๐) ๑ ข้อ ตอนที่ ๓ ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะ 1. จัดอีกค่ะ 2. การอบรมสนุกไม่น่าเบื่อ


๖ 3. ควรให้มีการอบรมต่อเนื่องหลังจากไปดำเนินการที่ร.ร.แล้ว 4. วิทยากรมีความรู้ความสามารถบรรยายอบรมได้อย่างสนุกสนาน ไม่น่าเบื่อ 5. เป็นการอบรมที่ได้ความรู้ มีกิจกรรมให้ทำหลากหลาย น่าสนใจ 6. ทุกอย่างเรียบร้อย น่าสนใจ และดีมาก แต่ห้องน้ำในสถานที่อบรมยังไม่สะดวก และไม่สะอาดเท่าที่ควร 7. เป็นกิจกรรมที่น่าสนใจ 8. ควรจะเพิ่มระยะเวลาในการอบรมให้มากกว่านี้ 9. วิทยากรมีความรู้สามารถถ่ายทอดให้ครูได้อย่างมากมาย 10.ควรจัดอบรมสัก 2 วัน 11.ยกตัวอย่างผลงานทางวิชาการที่นำไปสู่ผลงานเชี่ยวชาญ ในระดับปฐมวัยหลายๆตัวอย่างนะคะ 12.ควรมีเวลาในการอบรมมากกว่านี้ 13.เพิ่มเวลาและเรื่องอบรม 14.ได้ความรู้เทคนิค และนำไปใช้ได้ 15.ขยายเวลา สัก 2 วัน 16.อยากให้มีการจัดกิจกรรมนี้ต่อไป 17.ควรอบรม 2 วัน เพื่อความเน้นของเนื้อหา เริ่ดมากค่ะ 18.ประทับใจ 19.เป็นกิจกรรมที่ดีค่ะ 20.กิจกรรมในการอบรมน่าสนใจ ทำให้ผู้เข้าอบรมตื่นตัใตลอดเวลา 21.ดีมากค่ะ 22.ควรเพิ่มเวลานะคะ 23.อยากให้จัดกิจกรรมอบรมแบบนี้ไปเรื่อยๆ 24.เป็นการอบรมที่ดีมาก อยากให้มีครั้งถัดไปค่ะ 25.น่าสนใจมากๆค่ะ 26.ควรเพิ่มเวลา เนื่องจากวิทยากรอบรมสนุกและสามารถนำความรู้ที่ได้ไปใช้ได้จริง 27.อยากให้ขยายระยะเวลาในการอบรมครั้งต่อไป 28.เป็นการอบรมที่ได้รับความรู้มากพอสมกับเวลา และเป็นการเรียนรู้ที่สนุกมากค่ะ 29.เป็นการอบรมที่ดีมาก 30.ดีมาก แต่ระยะเวลาน้อยไปหน่อย 31.กิจกรรมเยี่ยมค่ะ ขอให้จัดกิจกรรมดีๆแบบนี้ในโอกาสต่อไปค่ะ 32.เป็นกิจกรรมที่ดีมากค่ะ 33.วิทยากรสนุกมากค่ะ 34.เป็นกิจกรรมที่ดีมาก คุณครูสามารถนำความรู้ไปจัดการศึกษา 35.อยากให้มีการอบรมแบบนี้อีก 36.มีเวลาการอบรมมากกว่า 1วัน 37.วิทยากรให้ความรู้ดีมากค่ะ


๗ 38.ขอบคุณที่เปิดโอกาสให้เครือข่ายอื่นเข้าร่วมอบรมด้วย บรรยากาศอบอุ่น 39.ชอบการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ 40.ขอบคุณมากค่ะ 41.ดีมาก 42.เนื้อหาสมบูรณ์เข้าใจง่าย 43.เป็นการอบรมที่มีประโยชน์สามารถนำไปปรับประยุกต์ใช้กับกลุ่มสาระที่ตัวเองสอนได้ วิทยากรมีความรู้ ความสามารถและเป็นนักสร้างแรงบันดาลใจที่ดี ขอให้มีการจัดกิจกรรมดีๆแบบนี้อีกนะคะ 44.ขอบคุณที่จัดกิจกรรมดีๆแบบนี้ครับ 45.ขอบคุณที่จัดกิจกรรมดีๆค่ะ 46.อาหารพบเจอเศษดินในกล่องครูอีกคนค่ะ 47.ภาพรวมวันนี้ได้ความรู้นำปฏิบัติในการจัดการเรียนการสอนได้จริง 48.อยากให้เชิญวิทยากรคนนี้มาจัดอบรมอีก 49.อยากให้เพิ่มเวลาในการอบรมให้มากขึ้นค่ะ 50.วิทยากรสุดยอดมาก อาหารอร่อย สถานที่เหมาะสมเดินทางสะดวก 51.จัดเทอมละครั้งกำลังดี 52.อยากให้เพิ่มเวลาการอบรมเป็น 2 วันค่ะ


๘ ภาคผนวก 1. โครงการที่ได้รับอนุมัติ 2. กำหนดการ การอบรมเชิงปฏิบัติการพัฒนาผู้บริหารและบุคลากรทางการศึกษาในตำบลสำนัก แต้วเรื่อง อบรมเชิงปฏิบัติการการสร้างนวัตกรรมรูปแบบวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) 3. คำสั่งคณะกรรมการดำเนินโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการการพัฒนาผู้บริหารและบุคลากรทางการ ศึกษาในตำบลสำนักแต้ว เรื่อง อบรมเชิงปฏิบัติการการสร้างนวัตกรรมรูปแบบวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) 4. หนังสือขอความอนุเคราะห์ใช้สถานที่ในการอบรม 5. หนังสือขอเชิญเป็นวิทยากรในการอบรม 6. หนังสือขอเรียนเชิญเป็นประธานในพิธีเปิดการอบรม 7. หนังสือขอความอนุเคราะห์ลงนามในเกียรติบัตรการอบรม 8. เอกสารการอบรม 9. รายชื่อผู้เข้าร่วมโครงการ/ใบลงทะเบียน 10.แบบประเมินความพึงพอใจ 11.ภาพประกอบโครงการ


๙ โครงการที่ได้รับอนุมัติ


๑๐ ชื่อโครงการ โครงการพัฒนาผู้บริหารและบุคลากรทางการศึกษาในตำบลสำนักแต้ว ลักษณะของโครงการ โครงการใหม่ หน่วยงานที่รับผิดชอบ เครือข่ายสถานศึกษาสำนักแต้ว ผู้รับผิดชอบโครงการ โรงเรียนบ้านน้ำลัด ระยะเวลา ปีงบประมาณ 2567 สอดคล้องกับมาตรฐานการศึกษา มาตรฐานที่ ๒ กระบวนการบริหารและการจัดการ ประเด็นพิจารณาที่ 2.2 บริหารจัดการที่มีคุณภาพ 2.4 พัฒนาครูและบุคลาการให้มีความเชี่ยวชาย ทางวิชาชีพ มาตรฐานที่ 3 กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ประเด็นพิจารณาที่ 3.4 มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และให้ข้อมูลสะท้อน กลับ เพื่อพัฒนาและปรับปรุงการเรียนการสอน หลักการและเหตุผล พระราชบัญญัติการศึกษาแหงชาติ พ.ศ. 2542 และที่แกไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2545 ไดกำหนด แนวทางการจัดการศึกษาในหมวด 4 มาตรา24 (1) ครูตองฝกทักษะกระบวนการคิด การจัดการ การเผชิญสถาน การณและการประยุกตความรูมาใชเพื่อปองกันและแกไขปญหา จัดกิจกรรมใหผูเรียนไดเรียนรูจากประสบการณ จริง คิดเปน ทำเปน รักการอานและเกิดการใฝรูอยางตอเนื่อง และมาตรา24 (5) สถานศึกษาตองสงเสริม สนับสนุนใหผูสอน สามารถจัดบรรยากาศ สภาพแวดลอม สื่อการสอน และอำนวยความสะดวก หรือใหผูเรียนเกิด การเรียนรูและมีความรูรวมทั้งสามารถใชการวิจัยเปนสวน หนึ่งของการเรียนรูทั้งนี้ผูสอนและผูเรียนอาจเรียนรู ไปพรอมกัน จากสื่อการเรียนการสอน และแหลงวิทยาการ ประเภทตางๆ วิธีการปฏิบัติที่เป็นเลิศหรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า Best practice กำลังเป็นที่นิยมในการการศึกษาของ ประเทศไทย องค์กรทางการศึกษากำหนดให้มีการประกวด Best practice ในด้านต่างๆ การยกระดับผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียน การส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน และปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เป็นต้น ทั้งในระดับโรงเรียน ระดับ เครือข่ายโรงเรียน ระดับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ระดับภาคและระดับประเทศ ดังนั้นการดําเนินโครงการพัฒนาผู้บริหารและบุคลากรทางการศึกษาในตำบลสำนักแต้ว เพื่อส่งเสริมให้ องค์กรมีความพร้อมด้านมีระบบบริหารทีดี จะเป็นการ นําไปสู่ ่การพัฒนา องค์กร ให้เข้มแข็ง สามารถพัฒนา นักเรียนให้เป็นผลผลิตที่มีคุณภาพและเป็นการเสริมสร้างให้ผู้บริหารและบุคลากรทางการศึกษาได้รับการพัฒนา สามารถนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้มาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อวิชาชีพ องค์กร และงานราชการสืบต่อไป ๒. วัตถุประสงค์ 2.1เพื่อพัฒนาครูให้มีความรู้เกี่ยวกับแนวทางการจัดทำแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) 2.2เพื่อส่งเสริมให้ครูผู้สอนนำความรู้ไปใช้ในการพัฒนานวัตกรรมการออกแบบกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ แบบ Active Learning


๑๑ 2.3เพื่อเป็นแนวทางการส่งเสริมการจัดทำวิจัยในชั้นเรียนส่งเสริมทักษะศตวรรษที่ 21 แก่ผู้เรียน 2.4เพื่อเป็นแนวทางการส่งเสริมการจัดทำ Best Practice การจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ๓. เป้าหมาย ๓.๑ เชิงปริมาณ ผู้บริหารและบุคลากรทางการศึกษา ร้อยละ ๙0 ได้รับการส่งเสริม และพัฒนาศักยภาพในการปฏิบัติงาน มีความรู้และความเข้าใจแนวทางการจัดทำแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) ๓.๒ เชิงคุณภาพ ผู้บริหารและบุคลากรทางการศึกษามีความรู้ และมีศักยภาพในการปฏิบัติงาน ๔. วิธีดำเนินการและระยะเวลาดำเนินการ ที่ รายการ กิจกรรม ระยะเวลา ผู้รับผิดชอบ หมายเหตุ ๑. ประชุมคณะกรรมการเครือข่าย สถานศึกษาสำนักแต้ว และครูผู้รับผิดชอบ ของทุกโรงเรียนในเครือข่าย เพื่อกำหนด รายละเอียดกิจกรรมต่าง ๆ ในโครงการ ดังนี้ - อบรมเชิงปฏิบัติการ การสร้าง นวัตกรรมรูปแบบวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) พฤษภาคม ๒๕๖7 นางวรียา อีสเฮาะ ๒. เสนอโครงการเพื่อขออนุมัติ พฤษภาคม ๒๕๖7 นางวรียา อีสเฮาะ ๓. ติดต่อประสานงาน เพื่อจัดกิจกรรม พฤษภาคม ๒๕๖7 นางวรียา อีสเฮาะ ๔. ดำเนินการจัดกิจกรรม - กิจกรรมการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง “การสร้างนวัตกรรมรูปแบบวิธี ปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice)” มิถุนายน ๒๕๖7 นางวรียา อีสเฮาะ ๕. สรุปผลและรายงานผล มิถุนายน ๒๕๖7 นางวรียา อีสเฮาะ ๕. สถานที่ - ณ ห้องประชุมโรงเรียนสะเดา “ขรรค์ชัยกัมพลานนท์อนุสรณ” อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา


๑๒ ๖. งบประมาณ งบประมาณสนับสนุนจากโรงเรียนในเครือข่ายสถานศึกษาสำนักแต้ว จำนวน ๒5,๐๐๐ บาท (สองหมื่นห้าพันบาทถ้วน) ๗. การติดตามและประเมินผล ตัวชี้วัดความสำเร็จ วิธีประเมิน เครื่องมือประเมิน ๑. ผู้บริหารและบุคลากรทางการศึกษา มี ความรู้และความเข้าใจการมีความรู้และ ความเข้าใจแนวทางการจัดทำแนวปฏิบัติที่ เป็นเลิศ (Best Practice) ๒. ผู้บริหารและบุคลากรทางการศึกษา มีความรู้ เพื่อพัฒนาศักยภาพในการ ปฏิบัติงาน สอบถาม สอบถาม แบบสอบถาม แบบสอบถาม ๘. ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 8.1ผู้บริหารและบุคลากรทางการศึกษาเครือข่ายสถานศึกษาสำนักแต้ว มีความรู้และความเข้าใจมีความรู้ และความเข้าใจแนวทางการจัดทำแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) 8.2ผู้บริหารและบุคลากรทางการศึกษา นำความรู้ที่ได้รับไปพัฒนาศักยภาพในการปฏิบัติงาน 8.3ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องมีความพึงพอใจในโครงการ ลงชื่อ ผู้เสนอ/ผู้รับผิดชอบโครงการ ( นางวรียา อีสเฮาะ ) ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านน้ำลัด ลงชื่อ ผู้อนุมัติโครงการ ( นายสมคิด เพียรกิจ ) ประธานเครือข่ายสถานศึกษาสำนักแต้ว


๑๓ กำหนดการ การอบรมเชิงปฏิบัติการพัฒนาผู้บริหารและบุคลากรทางการศึกษา ในตำบลสำนักแต้วเรื่อง อบรมเชิงปฏิบัติการการสร้างนวัตกรรมรูปแบบ วิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice)


๑๔ ตารางการอบรมเชิงปฏิบัติการการสร้างนวัตกรรมรูปแบบวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) วันอาทิตย์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2567 ณ ห้องประชุมโรงเรียนสะเดา “ขรรค์ชัยกัมพลานนท์อนุสรณ์” อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา เวลา กิจกรรม ผู้รับผิดชอบ/ วิทยากร 08.00 - 08.30 น. ลงทะเบียน กรรมการดำเนินงาน 08.30 - 09.00 น. พิธีเปิดและบรรยายพิเศษ ประธาน/ผอ. 09.00 - 10.30 น. การออกแบบการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning และ การสร้างนวัตกรรมทางการศึกษาในโรงเรียน วิทยากร 10.30 - 10.45 น. พักรับประทานอาหารว่าง กรรมการดำเนินงาน 10.45 - 12.00 น. จากนวัตกรรมทางการศึกษาสู่การปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) วิทยากร 12.00 - 13.00 น. พักรับประทานอาหารกลางวัน กรรมการดำเนินงาน 13.00 - 14.30 น. จากนวัตกรรมทางการศึกษาสู่การปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) ต่อ วิทยากร 14.30 - 14.45 น. พักรับประทานอาหารว่าง กรรมการดำเนินงาน 14.45 - 16.30 น. นำเสนอผลการออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ และแนวทางการพัฒนาผลงานด้านการจัดการเรียนรู้ สู่ความก้าวหน้าทางวิชาชีพ วิทยากร 16.30 - 17.00 น. มอบเกียรติบัตรและพิธีปิด กรรมการดำเนินงาน หมายเหตุ: กำหนดการตามตารางอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม


๑๕ คำสั่งคณะกรรมการดำเนินโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการการพัฒนาผู้บริหารและ บุคลากรทางการศึกษาในตำบลสำนักแต้ว เรื่อง อบรมเชิงปฏิบัติการการสร้าง นวัตกรรมรูปแบบวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice)


๑๖ ประกาศเครือข่ายสถานศึกษาสำนักแต้ว เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการการจัดกิจกรรมการอบรมเชิงปฏิบัติการการสร้างนวัตกรรมรูปแบบวิธีปฏิบัติ ที่เป็นเลิศ (Best Practice) ........................................................................................................................... ด้วยเครือข่ายสถานศึกษาสำนักแต้ว อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาสงขลา เขต ๓ ได้มีการจัดกิจกรรมการอบรมเชิงปฏิบัติการการสร้างนวัตกรรมรูปแบบวิธีปฏิบัติที่เป็น เลิศ (Best Practice) ให้กับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาของเครือข่ายสถานศึกษาสำนักแต้ว โดยมี วัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา ของโรงเรียนในเครือข่ายสถานศึกษาสำนักแต้วให้มีคุณภาพตรงตาม มาตรฐานของกระทรวงศึกษาธิการ โดยจะมีจัดการอบรมในวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๗ ณ ห้องประชุม โรงเรียน สะเดา “ขรรค์ชัยกัมพลานนท์อนุสรณ์” อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา เพื่อให้การดำเนินกิจกรรมดังกล่าวเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ตามวัตถุประสงค์ เครือข่ายสถานศึกษา สำนักแต้ว จึงแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินการฝ่ายต่างๆ ดังนี้ ๑. คณะกรรมการฝ่ายอำนวยการ มีหน้าที่ อำนวยความสะดวก และให้คำปรึกษา ส่งเสริมสนับสนุน ให้ การดำเนินการ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ตามวัตถุประสงค์ ประกอบด้วย ๑.๑. นายสมคิด เพียรกิจ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านควนตานี ประธาน ๑.๒. นายอารมณ์ จันทคาม ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านเกาะค่าง กรรมการ ๑.๓. นางวิภารัตน์ เอี่ยววัฒนา ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านม่วง กรรมการ ๑.๔ นางสาวธนัญนพัช ทองพงศ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดห้วยคู กรรมการ ๑.๕ ร.ต.อ.บุญพา นวลปาน ครูใหญ่โรงเรียนตชด.สื่อมวลชนกีฬา กรรมการ ๑.๖. นางวรียา อีสเฮาะ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านน้ำลัด กรรมการและเลขานุการ ๑.๗. นางสาวจิราณัฏฐ์ ธรรมสุวรรณ์ ครูโรงเรียนบ้านน้ำลัด กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ ๒. คณะกรรมการฝ่ายเอกสารและรับลงทะเบียน มีหน้าที่ จัดเตรียมเอกสารการอบรม รับลงทะเบียน จัดทำป้ายชื่อวิทยากร และ จัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์สำหรับการอบรม ๒.๑ นางวรียา อีสเฮาะ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านน้ำลัด ประธาน ๒.๒ นายหัสวรรษ สุขประเสริฐ ครูโรงเรียนวัดห้วยคู กรรมการ ๒.๓ นางสาวอานีซ่า หีมเบ็ญแสละ เจ้าหน้าที่ธุรการโรงเรียนบ้านน้ำลัด กรรมการ ๒.๔ นางสาวกมลกานต์ แก้วนุ้ย เจ้าหน้าที่ธุรการโรงเรียนบ้านม่วง กรรมการ ๒.๕ นางสาวจตุพร สุขสีนวน เจ้าหน้าที่ธุรการโรงเรียนบ้านควนตานี กรรมการ


๑๗ ๒.๖ นางพิมพ์รดา วชิรบาล ครูโรงเรียนบ้านเกาะค่าง กรรมการ ๒.๗ นางสาวสุวรรณี สุจิตะพันธ์ ครูโรงเรียนวัดห้วยคู กรรมการ ๒.๑๐นางสาวจิราณัฏฐ์ ธรรมสุวรรณ์ ครูโรงเรียนบ้านน้ำลัด กรรมการและเลขานุการ ๓. คณะกรรมการฝ่ายอาหารและเครื่องดื่ม มีหน้าที่ ประสานงาน จัดเตรียม อาหารและเครื่องดื่มตามความ เหมาะสม ตลอดกิจกรรม ๓.๑. นางวรียา อีสเฮาะ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านน้ำลัด ประธาน ๓.๒. นางสุกัญญา โต๊ะเส็น ครูโรงเรียนบ้านน้ำลัด กรรมการ ๓.๓. นางสุกัญญา ศรีนะรัตน์ ครูโรงเรียนบ้านน้ำลัด กรรมการ ๓.๔. นางสาวสุรีย์พร ล่าบู ครูโรงเรียนบ้านน้ำลัด กรรมการ ๓.๕. นางสาวยินดี แดงรามัน ครูโรงเรียนบ้านน้ำลัด กรรมการ ๓.๖. นางสาวรัชนันต์ แดงเหมือน ครูโรงเรียนบ้านน้ำลัด กรรมการ ๓.๗. นางสาวเสาด๊ะ หมัดอะด้ำ ครูโรงเรียนบ้านน้ำลัด กรรมการ ๓.๘. นายต่วนอาบีดิง กูจิ ครูโรงเรียนบ้านน้ำลัด กรรมการ ๓.๙. นางยุพดี ชายสัน ครูโรงเรียนบ้านน้ำลัด กรรมการ ๓.๑๐ นางสาวลัยลา เหมมันต์ ครูโรงเรียนวัดห้วยคู กรรมการ ๓.๑๑. นางสาวจิราณัฏฐ์ ธรรมสุวรรณ์ ครูโรงเรียนบ้านน้ำลัด กรรมการและเลขานุการ 4. คณะกรรมการฝ่ายปฏิคม มีหน้าที่ ต้อนรับ อำนวยความสะดวก ผู้เข้าร่วมอบรมและวิทยากร ตลอดกิจกรรม ๔.๑. นางวิภารัตน์ เอี่ยววัฒนา ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านม่วง ประธาน ๔.๒. นางสาวธิดาภรณ์ ศรีสุวรรณ์ ครูโรงเรียนบ้านน้ำลัด กรรมการ ๔.๓. นางสาวเบญจมาศ ฉุ้นประดับ ครูโรงเรียนบ้านน้ำลัด กรรมการ ๔.๔. นางสาวนาสนีน บิลังโหลด ครูโรงเรียนบ้านเกาะค่าง กรรมการ 4.5 นางสาวสุภาพร รายา ครูโรงเรียนบ้านม่วง กรรมการ 4.6. นางสาวสุวรรณี สุจิตะพันธ์ ครูโรงเรียนวัดห้วยคู กรรมการ ๔.7. นางธนัชภัค เสถียรยุกต์ ครูโรงเรียนบ้านม่วง กรรมการและเลขานุการ ๕. คณะกรรมการฝ่ายพิธีการ มีหน้าที่ ประสานงาน เตรียมพิธีกร เตรียมข้อมูลและประวัติของวิทยากร ดำเนินการพิธีการตามกำหนดการและบันทึกภาพกิจกรรม ๕.๑. นางวิภารัตน์ เอี่ยววัฒนา ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านม่วง ประธาน ๕.๒. นางสาวสุภาพร รายา ครูโรงเรียนบ้านม่วง กรรมการ ๕.๓. นางธนัชภัค เสถียรยุกต์ ครูโรงเรียนบ้านม่วง กรรมการ ๕.๔. นางสาวรัตนาวดี ยอดสุวรรณ์ ครูโรงเรียนวัดห้วยคู กรรมการ ๕.๕. นายอัศวิน บินอาสัน ครูโรงเรียนบ้านน้ำลัด กรรมการ ๕.๖ นายเฉลิมพงษ์ ฉ้วนกลิ่น ครูโรงเรียนวัดห้วยคู กรรมการ


๑๘ ๕.๗ นางสาวธนัญญา โต๊ะเต๊ะ ครูโรงเรียนบ้านควนตานี กรรมการ ๕.๘ นายกฤตนันท์ สิริกรวิวรรธน์ ครูโรงเรียนบ้านม่วง กรรมการและเลขานุการ ๖. คณะกรรมการฝ่ายการเงิน มีหน้าที่ จัดทำบัญชีรายรับ – รายจ่าย ให้การสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ที่ จำเป็น เพื่อดำเนินกิจกรรม จัดทำรายงานสรุปต่อคณะกรรมการหลังเสร็จสิ้นกิจกรรม ประกอบด้วย ๖.๑. นางวิภารัตน์ เอี่ยววัฒนา ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านม่วง ประธาน ๖.๒. นางสาวพัชรา กาญจนเพ็ญ ครูโรงเรียนวัดห้วยคู กรรมการ ๖.๓. นางสุกัญญา ศรีนะรัตน์ ครูโรงเรียนบ้านน้ำลัด กรรมการ ๖.๔. นางสาวธนัญญา โต๊ะเต๊ะ ครูโรงเรียนบ้านควนตานี กรรมการ ๖.๕. นางจินตหรา หมาดหลี ครูโรงเรียนบ้านเกาะค่าง กรรมการ ๖.๖. นางสุนีย์ แสงจันทร์ ครูโรงเรียนบ้านม่วง กรรมการ ๖.๗. นางสาวลัยลา เหมมันต์ ครูโรงเรียนวัดห้วยคู กรรมการและเลขานุการ ๗. คณะกรรมการฝ่ายสถาน มีหน้าที่ ติดต่อ เตรียมสถานที่ และควบคุมเครื่องเสียง สำหรับการประชุม ประกอบด้วย ๗.๑.นางวิภารัตน์ เอี่ยววัฒนา ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านม่วง ประธาน ๗.๒ นายสมคิด เพียงกิจ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านควนตานี รองประธาน ๗.๓. นายอรุณ ยามาสา ครูโรงเรียนบ้านม่วง กรรมการ ๗.๔. นายต่วนอาบีดิง กูจิ ครูโรงเรียนบ้านน้ำลัด กรรมการ ๗.๕ นายกฤตนันท์ สิริกรวิวรรธน์ ครูโรงเรียนบ้านม่วง กรรมการและเลขานุการ ๘. คณะกรรมการฝ่ายบันทึกภาพ มีหน้าที่ บันทึกภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวตลอดการประชุม ประกอบด้วย ๘.๑.นายสมคิด เพียรกิจ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านควนตานี ประธาน ๘.๒ นางสาวพิรัญญา นามอาษา ครูโรงเรียนบ้านเกาะค่าง กรรมการ ๘.๓. นางสาวเบญจมาศ ฉุ้นประดับ ครูโรงเรียนบ้านน้ำลัด กรรมการ ๘.๔. นางสาวธิดาภรณ์ ศรีสุวรรณ ครูโรงเรียนบ้านน้ำลัด กรรมการ ๘.๕. นางสาววรัญญา ทองวงค์ ครูโรงเรียนบ้านม่วง กรรมการ ๘.๖. นางสาวฐนิชา หมัดยะมา ครูโรงเรียนบ้านควนตานี กรรมการและเลขานุการ ๙. คณะกรรมการฝ่ายเกียรติบัตร มีหน้าที่ จัดทำเกียรติบัตร เสนอต่อคณะกรรมการเครือข่าย ประกอบด้วย ๙.๑.นางวิภารัตน์ เอี่ยววัฒนา ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านน้ำลัด ประธาน ๙.๒. นางสาวกมลกานต์ แก้วนุ้ย เจ้าหน้าที่ธุรการโรงเรียนบ้านม่วง กรรมการ ๙.๓ นายกฤตนันท์ สิริกรวิวรรธน์ ครูโรงเรียนบ้านม่วง กรรมการและเลขานุการ


๑๙ ๑๐. คณะกรรมการฝ่ายประเมินผล มีหน้าที่ ดำเนินการประเมินผลและ สรุปรายงานผลการดำเนินการ จัดทำเอกสารเป็นรูปเล่ม เสนอต่อคณะกรรมการเครือข่าย ประกอบด้วย 10.๑ นางวรียา อีสเฮาะ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านน้ำลัด ประธาน 10.2 นางสาวยินดีแดงรามัน ครูโรงเรียนบ้านน้ำลัด กรรมการ 10.๓ นางสาวอานีซ่า หีมเบ็ญแสละ เจ้าหน้าที่ธุรการโรงเรียนบ้านน้ำลัด กรรมการ 10.4 นายกฤตนันท์สิริกรวิวรรธน์ ครูโรงเรียนบ้านม่วง กรรมการและเลขานุการ ให้ผู้ที่ได้รับแต่งตั้งตามประกาศนี้ ปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย สุจริต ยุติธรรม มีประสิทธิภาพ และเกิดผลดีต่อทางราชการ ทั้งนี้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ ๒๖ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๗ ลงชื่อ (นายสมคิด เพียรกิจ) ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านควนตานี ประธานเครือข่ายสถานศึกษาสำนักแต้ว


๒๐ หนังสือขอความอนุเคราะห์ใช้สถานที่ในการอบรม


๒๑ ที่ ศธ ๐๔๑๔๗.๑๔๖/๑๒๙ สำนักงานเครือข่ายสถานศึกษาสำนักแต้ว ๑/๑๙ ตำบลสำนักแต้ว อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ๙๐๑๒๐ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๗ เรื่อง ขอขอบคุณที่ให้ความอนุเคราะห์สถานที่อบรมเชิงปฏิบัติการ เรียน ผู้อำนวยการโรงเรียนสะเดา “ขรรค์ชัยกัมพลานนท์อนุสรณ์” ตามที่เครือข่ายสถานศึกษาสำนักแต้ว อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาสงขลา เขต ๓ ได้จัดกิจกรรมการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการการสร้างนวัตกรรมรูปแบบวิธีปฏิบัติที่เป็น เลิศ (Best Practice) ให้กับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาของเครือข่ายสถานศึกษาสำนักแต้ว จำนวน บุคลากร รวมทั้งสิ้น ๑๑๔ คน โดยมี วัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา ของโรงเรียนในเครือข่าย สถานศึกษาสำนักแต้วให้มีคุณภาพตรงตามมาตรฐานของกระทรวงศึกษาธิการ โดยจะมีจัดการอบรมในวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๗ ณ ห้องประชุม โรงเรียนสะเดา “ขรรค์ชัยกัมพลานนท์อนุสรณ์ ” อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา เวลา ๐๘.๓๐-๑๖.๓๐ น. นั้น ในการนี้เครือข่ายสถานศึกษาสำนักแต้วได้ดำเนินการเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้วตามวัตถุประสงค์ที่วางไว้ ขอขอบคุณโรงเรียนสะเดา “ขรรค์ชัยกัมพลานนท์อนุสรณ์”ที่ให้ความอนุเคราะห์สถานที่ห้องประชุมพร้อมอุปกรณ์ เครื่องเสียง เครื่องฉายโปรเจคเตอร์ โต๊ะและเก้าอี้ในครั้งนี้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความอนุเคราะห์จาก ท่านด้วยดีในโอกาสต่อไป จึงเรียนมาเพื่อทราบและขอขอบคณมา ณ โอกาสนี้ ขอแสดงความนับถือ (นายสมคิด เพียรกิจ) ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านควนตานี ประธานเครือข่ายสถานศึกษาสำนักแต้ว สำนักงานเครือข่าย โทร. ๐๗๔ – ๔๑๑๙๐๖


๒๒ หนังสือขอเชิญเป็นวิทยากรในการอบรม


๒๓ ที่ ศธ ๐๔๑๔๗.๑๔๖/๑๑๕ สำนักงานเครือข่ายสถานศึกษาสำนักแต้ว ๑/๑๙ ตำบลสำนักแต้ว อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ๙๐๑๒๐ ๒๐ มิถุนายน ๒๕๖๗ เรื่อง ขอเรียนเชิญเป็นวิทยากร เรียน ผู้อำนวยการโรงเรียนควนเนียงวิทยา สิ่งที่ส่งมาด้วย หนังสือตอบรับการเป็นวิทยากร จำนวน ๑ ฉบับ ด้วยเครือข่ายสถานศึกษาสำนักแต้ว อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาสงขลา เขต ๓ ได้มีการจัดกิจกรรมการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการการสร้างนวัตกรรมรูปแบบวิธีปฏิบัติที่ เป็นเลิศ (Best Practice) ให้กับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาของเครือข่ายสถานศึกษาสำนักแต้ว จำนวนบุคลากร รวมทั้งสิ้น ๘๐ คน โดยมี วัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา ของโรงเรียนในเครือข่าย สถานศึกษาสำนักแต้วให้มีคุณภาพตรงตามมาตรฐานของกระทรวงศึกษาธิการ โดยจะมีจัดการอบรมในวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๗ ณ ห้องประชุม โรงเรียนสะเดา “ขรรค์ชัยกัมพลานนท์อนุสรณ์” อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ในการนี้เครือข่ายสถานศึกษาสำนักแต้ว จึงขอเรียนเชิญนายวิสุทธิ์ คงกัลป์ตำแหน่งครูเชี่ยวชาญ (คศ.๔) โรงเรียนควนเนียงวิทยา จังหวัดสงขลา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา สงขลาสตูล ซึ่งเป็นผู้มีความรู้ ความสามารถและประสบการณ์ ในการสร้างนวัตกรรมรูปแบบวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Pracitce) มาเพื่อเป็น วิทยากรเพื่อดำเนินการบรรยายในหัวข้อตามวันและเวลา และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความอนุเคราะห์จากท่าน และขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้ จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ ขอแสดงความนับถือ (นายสมคิด เพียรกิจ) ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านควนตานี ประธานเครือข่ายสถานศึกษาสำนักแต้ว สำนักงานเครือข่าย โทร. ๐๗๔ – ๔๑๑๙๐๖


๒๔ หนังสือขอเรียนเชิญเป็นประธานในพิธีเปิดการเปิดอบรม


๒๕ ที่ ศธ ๐๔๑๔๗.๑๔๖/๑๑๗ สำนักงานเครือข่ายสถานศึกษาสำนักแต้ว ๑/๑๙ ตำบลสำนักแต้ว อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ๙๐๑๒๐ ๒๔ มิถุนายน ๒๕๖๗ เรื่อง ขอเรียนเชิญเป็นประธานเปิดงาน เรียน ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสงขลา เขต ๓ สิ่งที่ส่งมาด้วย ๑ ตารางการจัดอบรม จำนวน ๑ ฉบับ ด้วยเครือข่ายสถานศึกษาสำนักแต้ว อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาสงขลา เขต ๓ ได้มีการจัดกิจกรรมการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการการสร้างนวัตกรรมรูปแบบวิธีปฏิบัติที่ เป็นเลิศ (Best Practice) ให้กับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาของเครือข่ายสถานศึกษาสำนักแต้ว โดยมี วัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา ของโรงเรียนในเครือข่ายสถานศึกษาสำนักแต้วให้มีคุณภาพตรงตาม มาตรฐานของกระทรวงศึกษาธิการ โดยจะมีจัดการอบรมในอาทิตย์ที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๗ ณ ห้องประชุม โรงเรียนสะเดา “ขรรค์ชัยกัมพลานนท์อนุสรณ์” อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ในการนี้เครือข่ายสถานศึกษาสำนักแต้ว จึงขอเรียนเชิญท่านให้เกียรติเป็นประธานเปิดกิจกรรมการจัด อบรมเชิงปฏิบัติการฯ ในวันที่อาทิตย์ที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๗ เวลา ๐๘.๓๐ น. ณ ห้องประชุมโรงเรียนสะเดา “ขรรค์ชัยกัมพลานนท์อนุสรณ์” อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา ขอแสดงความนับถือ (นายสมคิด เพียรกิจ) ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านควนตานี ประธานเครือข่ายสถานศึกษาสำนักแต้ว สำนักงานเครือข่าย โทร. ๐๗๔ – ๔๑๑๙๐๖


๒๖ หนังสือขอความอนุเคราะห์ลงนามในเกียรติบัตรการอบรม


๒๗ ที่ ศธ ๐๔๑๔๗.๑๔๖/๑๑๘ สำนักงานเครือข่ายสถานศึกษาสำนักแต้ว ๑/๑๙ ตำบลสำนักแต้ว อำเภอสะเดา อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ๙๐๑๒๐ ๒๔ มิถุนายน ๒๕๖๗ เรื่อง ขอความอนุเคราะห์ลงนามในเกียรติบัตรการอบรมเชิงปฏิบัติการการสร้างนวัตกรรมรูปแบบวิธีปฏิบัติ ที่เป็น เลิศ (Best Practice) เรียน ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสงขลา เขต ๓ สิ่งที่ส่งมาด้วย ๑. โครงการ จำนวน ๑ ฉบับ ๒. เกียรติบัตรผู้เข้าอบรม จำนวน ๑๑๒ ฉบับ ด้วยเครือข่ายสถานศึกษาสำนักแต้ว อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาสงขลา เขต ๓ ได้มีการจัดกิจกรรมการอบรมเชิงปฏิบัติการการสร้างนวัตกรรมรูปแบบวิธีปฏิบัติที่เป็น เลิศ (Best Practice) ให้กับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาของเครือข่ายสถานศึกษาสำนักแต้ว โดยมี วัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา ของโรงเรียนในเครือข่ายสถานศึกษาสำนักแต้วให้มีคุณภาพตรงตาม มาตรฐานของกระทรวงศึกษาธิการ โดยจะมีจัดการอบรมในวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๗ ณ ห้องประชุม โรงเรียน สะเดา “ขรรค์ชัยกัมพลานนท์อนุสรณ์” อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลานั้น ในการนี้ เครือข่ายสถานศึกษาสำนักแต้ว ขอความอนุเคราะห์ท่าน ให้เกียรติลงนามในเกียรติบัตร การ อบรมเชิงปฏิบัติการการสร้างนวัตกรรมรูปแบบวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) ให้กับผู้เข้าร่วมอบรม เพื่อ ประโยชน์ต่อการพัฒนาวิชาชีพของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาข้าราชการในเครือข่ายสถานศึกษา สำนักแต้ว จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา และขอบคุณเป็นอย่างสูง มา ณ โอกาสนี้ ขอแสดงความนับถือ (นายสมคิด เพียรกิจ) ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านควนตานี ประธานเครือข่ายสถานศึกษาสำนักแต้ว สำนักงานเครือข่าย โทร. ๐๗๔ – ๔๑๑๙๐๖


๒๘ เอกสารการอบรม


๒๙ การสร้างและพัฒนานวัตกรรมในโรงเรียน ความหมายของนวัตกรรม “นวัตกรรม” หรือ “นวกรรม” มาจากคำภาษาอังกฤษว่า "Innovation" โดยคำว่า “นวัตกรรม” มาจากภาษาบาลีคือ นว + อตต + กรรม กล่าวคือ นว แปลว่า ใหม่ อัตต แปลว่า ตัวเอง และกรรม แปลว่า การกระทำ เมื่อรวมคำ นว มาสนธิกับ อัตต จึงเป็น นวัตต และเมื่อรวมคำ นวัตต มาสมาสกับ กรรม จึง เป็นคำว่า นวัตกรรม แปลว่า การกระทำที่ใหม่ของตนเองหรือ การกระทำของตนเองที่ใหม่ (เสาวณีย์ สิกขา บัณฑิต, 2528) ส่วนคำว่า "นวกรรม" ที่มีใช้กันมาแต่เดิม มีรากศัพท์มาจากคำว่า นว แปลว่า ใหม่ กรรม แปลว่า การกระทำ จึงแปลว่า การปฏิบัติหรือการกระทำใหม่ๆ ในความหมายโดยทั่วไปแล้ว สิ่งใหม่ๆ อาจ หมายถึง ความคิด วิธีปฏิบัติ วัตถุหรือสิ่งของที่ใหม่ ซึ่งยังไม่เป็นที่รู้จักมาก่อน คำว่า “นวกรรม” หรือ “นวัตกรรม” ความจริงแล้ว ก็เป็นคำ ๆ เดียวกันนั่นเอง เมื่อนวัตกรรมได้รับการยอมรับนำไปใช้จนเป็นปกติวิสัยแล้วไม่มีความรู้สึกว่าเป็นของใหม่อีกต่อไป นวัตกรรมนั้นจะกลายเป็นเทคโนโลยี ซึ่งอาจจะอยู่ในรูปแบบของอุปกรณ์วัสดุ (Hardware) วัสดุ (Software) และเทคนิควิธี (Techniques) ความสำคัญของนวัตกรรมการศึกษา นวัตกรรมมีความสำคัญต่อการศึกษาหลายประการ ทั้งนี้เนื่องจากในโลกยุคโลกาภิวัตน์ (Globalization) มีการเปลี่ยนแปลงในทุกด้านอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งความก้าวหน้าทั้งด้านเทคโนโลยี และสารสนเทศ การศึกษาจึงจำเป็นต้องมีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงจากระบบการศึกษาที่มีอยู่เดิม เพื่อให้ทันต่อ การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป อีกทั้งเพื่อแก้ไขปัญหาทางด้านการศึกษา บางอย่างที่เกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ การเปลี่ยนแปลงทางด้านการศึกษา จึงมีความจำเป็นต้องศึกษาเกี่ยวกับ นวัตกรรมการศึกษาที่จะนำมาใช้เพื่อแก้ไขปัญหาทางด้านการศึกษาในบางเรื่อง เช่น ปัญหาที่เกี่ยวเนื่องกับจำนวน ผู้เรียนที่มากขึ้น การสนองความแตกต่างระหว่างบุคคลของผู้เรียน การพัฒนาหลักสูตรให้ทันสมัย การผลิตและ พัฒนาสื่อใหม่ ๆ โดยเทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษา เพื่อตอบสนองการเรียนรู้ของมนุษย์ให้เพิ่มมากขึ้นโดยใช้ ระยะเวลาสั้นลง การใช้นวัตกรรมมาประยุกต์ในระบบการบริหารจัดการด้านการศึกษาก็มีส่วนช่วยให้การใช้ ทรัพยากรการเรียนรู้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ประเภทของนวัตกรรมทางการศึกษา 1. นวัตกรรมด้านการจัดการหลักสูตร 2. นวัตกรรมด้านการพัฒนาการเรียนการสอน 3. นวัตกรรมด้านการบริหารจัดการ 4. นวัตกรรมด้านการวัดและประเมินผล 5. นวัตกรรมด้านอื่นๆ เช่น สิ่งประดิษฐ์ เป็นต้น


๓๐ นวัตกรรมการเรียนการสอน ในการพัฒนาการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพ และเพื่อให้เกิดประสิทธิผลในบั้นปลายนั้นจำเป็น อย่างยิ่งที่ครู – อาจารย์ จะต้องพยายามค้นคว้าวิธีการใหม่ ๆ ที่ครู – อาจารย์คิดค้นขึ้นในรูปแบบต่าง ๆ นั้น คือ นวัตกรรมทางการศึกษานั้นเอง ความหมาย คำจำกัดความของคำว่า “นวัตกรรมทางการศึกษา” จึงหมายถึงสิ่งประดิษฐ์หรือวิธีการใหม่ ๆ หรือปรับปรุงของเก่าให้เหมาะสม โดยมีการทดลองหรือพัฒนาจนเป็นที่น่าเชื่อถือได้ว่าจะมีผลดีในทางปฏิบัติ สามารถนำไปใช้ในระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพ และถ้าส่งผลงานในลักษณะนี้ต้องมีเอกสารประกอบด้วย ความสำคัญ ความสำคัญของนวัตกรรมทางการศึกษา ก็คือ สามารถนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ในวงการศึกษา สรุปได้ ดังนี้ 1. เพื่อนำนวัตกรรมมาใช้แก้ปัญหาในเรื่องการเรียนการสอน เช่น 1.1 ปัญหาเรื่องวิธีการสอน ปัญหาที่มักพบอยู่เสมอ คือ ครูส่วนใหญ่ยังคงยึดรูปแบบการสอน แบบบรรยาย โดยมีครูเป็นศูนย์กลางมากกว่าการสอนในรูปแบบอื่น การสอนด้วยวิธีการแบบนี้ เป็นการสอนที่ขาดประสิทธิภาพและประสิทธิผลในบั้นปลาย เพราะนอกจากจะทำให้นักเรียน เกิดความเบื่อหน่าย ขาดความสนใจแล้ว ยังเป็นการปิดกั้นความคิด และสติปัญญาของผู้เรียน ให้อยู่ในขอบเขตจำกัดอีกด้วย 1.2 ปัญหาด้านเนื้อหาวิชา บางวิชาเนื้อหามาก และบางวิชามีเนื้อหาเป็นนามธรรมยากแก่การ เข้าใจ จึงจำเป็นจะต้องนำเทคนิคการสอนและสื่อมาช่วย 1.3 ปัญหาเรื่องอุปกรณ์การสอน บางเนื้อหามีสื่อการสอนเป็นจำนวนน้อยไม่เพียงพอต่อการ นำไปใช้ เพื่อทำให้นักเรียนเกิดความรู้ความเข้าใจในเนื้อหาวิชาได้ง่ายขึ้นจึงจำเป็นต้องมี การพัฒนาคิดค้นหาเทคนิควิธีการสอน และผลิตสื่อการสอนใหม่ ๆ เพื่อนำมาใช้ทำให้ การเรียนการสอนบรรลุเป้าหมายได้ 2. เพื่อนำนวัตกรรมไปใช้ในการพัฒนาการเรียนการสอน ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นและเป็นประโยชน์ ต่อการศึกษา โดยการนำสิ่งประดิษฐ์หรือแนวความคิดใหม่ ๆ ในการเรียนการสอนนั้นเผยแพร่ไปสู่ครู– อาจารย์ ท่านอื่น ๆ หรือเพื่อเป็นตัวอย่างอีกรูปแบบหนึ่งให้กับครู– อาจารย์ที่สอนในวิชาเดียวกัน ได้นำแนวความคิดไป ปรับปรุงใช้หรือผลิตสื่อการสอนใหม่ ๆ เพื่อนำมาใช้ในการพัฒนาการเรียนการสอนต่อไป ขั้นตอน 1. ขั้นเตรียมการและวางแผนในการจัดทำผลงาน จะต้องมีการ 1.1 กำหนดรูปแบบของผลงาน 1.2 กำหนดเป้าหมายและขอบข่ายของเนื้อหาวิชา 1.3 กำหนดเป้าหมายและขอบข่ายของเนื้อหาวิชา


๓๑ 2. ขั้นตอนการจัดทำผลงาน 2.1 นำหลักสูตร เนื้อหา และจุดประสงค์การเรียนรู้ในวิชานั้นเป็นหลักในการจัด 2.2 กำหนดโครงสร้างของผลงาน(ใช้ในภาคเรียนใดและแต่ละเรื่องจะจัดทำสื่อเป็นจำนวเท่าใด) 3. ขั้นทดลองนำผลงานไปใช้ เช่น 3.1 ทดลองกับกลุ่มตัวอย่าง 3.2 ควรมีการวิจัยสื่อที่จะนำไปทดลองใช้ เพื่อวัดประสิทธิภาพของสื่อที่ผลิตขึ้นว่าสามารถ นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อผู้เรียน ในด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเจตคติต่อการเรียน การสอนเพียงใด 3.3 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยนั้น ควรจัดทำให้สามารถวัดผลได้อย่างชัดเจน 4. ขั้นนำผลงานไปใช้ - ควรอธิบายกรรมวิธีในการนำไปใช้ได้อย่างละเอียดและเป็นขั้นตอน 5. ผลของการนำไปใช้ - อธิบายให้เห็นว่าสิ่งประดิษฐ์นั้น สามารถนำไปใช้ในการแก้ปัญหาหรือนำไปเพื่อพัฒนาการ เรียนการสอนได้อย่างไรบ้าง 6. ขั้นการเผยแพร่และสร้างการยอมรับ - เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันว่าสื่อนวัตกรรมที่ประดิษฐ์ขึ้นนั้นมีประโยชน์อย่างแท้จริงต่อการเรียน การสอน จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการเผยแพร่เพื่อให้เกิดการยอมรับในวงการศึกษาขั้นตอน นี้ควรอธิบายโดยละเอียดว่าได้มีการเผยแพร่ที่ใดหรือในลักษณะใดบ้าง โดยอาจแบ่งประเภทให้ เห็นชัดเจนว่า - การเผยแพร่ในโรงเรียน - การเผยแพร่แก่สาธารณะในวงการศึกษา รูปแบบนวัตกรรม นวัตกรรมสามารถจัดทำได้หลายรูปแบบ เช่น - แผนการสอน - ชุดการสอน - คู่มือครู - บทเรียนสำเร็จรูป - สไลด์ - ใบความรู้ ทุกรูปแบบต้องมีคู่มือในการใช้สื่อด้วย - สิ่งประดิษฐ์ต่าง ๆ - เกม - ฯลฯ


๓๒ เทคนิคในการจัดทำ 1. ในการผลิตสื่อการสอน ควรเน้นในเรื่องความประหยัดและให้เกิดประโยชน์ในการพัฒนาการ เรียนการสอน (ทำจริง – ใช้จริง – มีประโยชน์ต่อนักเรียนจริง) 2. ต้องมีคู่มือในการใช้สื่อและสิ่งประดิษฐ์ที่สามารถให้รายละเอียดในเรื่องต่าง ๆ - จุดประสงค์ในการสร้างสื่อ - วัสดุอุปกรณ์และค่าใช้จ่าย - รูปแบบที่ต้นแบบ - วิธีการทำ / ผลิต / ประดิษฐ์ - การทดลองใช้/ การปรับปรุงแก้ไข - ประโยชน์/ การนำไปใช้ - คุณภาพ / ประสิทธิภาพ / - หลักฐานการนำไปใช้ หลักการพิจารณานำนวัตกรรมมาใช้พัฒนาการเรียนรู้ การจะพิจารณานำนวัตกรรมมาใช้ในการพัฒนาการเรียนรู้ในวิชาหรือกลุ่มสาระการเรียนรู้ใดๆควรยึด หลักสำคัญ ดังนี้ 1) ตรงกับปัญหาหรือจุดพัฒนาของวิชานั้นเพียงใด 2) มีความสอดคล้องกับธรรมชาติวิชาหรือไม่ 3) สามารถนำไปใช้ในสถานการณ์จริงได้หรือไม่ 4) มีหลักฐานน่าเชื่อถือว่าเคยใช้ได้ผลดีมาแล้วหรือไม่ ประโยชน์ของนวัตกรรมทางการศึกษา 1) นักเรียนเรียนรู้ได้เร็วขึ้น 2) นักเรียนเข้าใจบทเรียนเป็นรูปธรรม 3) บรรยากาศการเรียนสนุกสนาน 4) บทเรียนน่าสนใจ 5) ลดเวลาในการสอน 6) ประหยัดค่าใช้จ่าย การออกแบบนวัตกรรม นวัตกรรมมีความสำคัญ การพิจารณาความสำคัญของนวัตกรรม ให้ดูที่เหตุผลความจำเป็นของปัญหา ถ้ามีข้อมูลแสดงว่านักเรียนส่วนใหญ่มีความบกพร่องในจุดประสงค์การเรียนใดๆ ที่มีผลกระทบร้ายแรงต่อการเรียน การสอนทั้งปัจจุบัน และมีแนวโน้มเกิดขึ้นในอนาคตก็สมควรสร้างนวัตกรรมนั้นๆ ได้ ในการออกแบบนวัตกรรมผู้ออกแบบควรกล่าวถึงส่วนต่างๆ ต่อไปนี้ 1) ชื่อนวัตกรรม 2) วัตถุประสงค์ของการใช้นวัตกรรม 3) ทฤษฎีหลักการที่ใช้ในการสร้างนวัตกรรม


๓๓ 4) ส่วนประกอบของนวัตกรรม 5) การนำนวัตกรรมไปใช้ การวางแผนพัฒนานวัตกรรม เป็นแนวคิดที่ผู้ออกแบบนวัตกรรมจะต้องถามตัวเองว่า จะสร้างนวัตกรรมอะไรจึงจะมีประสิทธิภาพ เพียงพอต่อการแก้ปัญหาจะไปค้นหาแหล่งอ้างอิงที่ไหนจะต้องสร้างกี่ชิ้นกี่ประเภท ใช้เทคนิคการสร้างอะไรบ้าง จะมีแนวการใช้นวัตกรรมอย่างไร ผู้ออกแบบนวัตกรรมควรวางแผนไว้3 ขั้นตอน 1) ขั้นพัฒนา ผู้ออกแบบนวัตกรรมต้องศึกษาแหล่งข้อมูลต่างๆ ของการพัฒนา คือ - ศึกษารายการนวัตกรรม และลักษณะเฉพาะของแต่ละนวัตกรรมตัวอย่างนวัตกรรม - ศึกษาหลักสูตรหลักการสอนรายวิชาต่างๆ เอกสารแนะนำ หลักการสอนต่างๆ ตัวอย่างแนวการ สอน แนวการจัดกิจกรรม - ศึกษาทบทวนทฤษฎีการสอน หลักจิตวิทยาการศึกษา - มีความริเริ่มสร้างสรรค์ด้วยตนเอง 2) ขั้นทดลองใช้ - หลังจากพัฒนานวัตกรรม 1 ชิ้น ผู้สอนควรนำไปทดลองสอน ระบุชั้น วิชา ทดสอบเก็บคะแนน และหลังการใช้นวัตกรรม 3) ขั้นประเมินผลและรายงาน หลังจากทดลอง ผู้ออกแบบนวัตกรรมได้นำนวัตกรรมไปทดลองใช้และเก็บคะแนนวิเคราะห์ผลการ ทดสอบ แสดงสถิติเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยก่อนการทดลองผู้ออกแบบนวัตกรรมเขียนรายงานผลการทดลองเผยแพร่ ให้ครู - อาจารย์อื่นๆ ทราบ อาจประกอบด้วย (1) แผนการสอนที่ใช้ทดลองนวัตกรรม (2) นวัตกรรมที่สร้าง หรือ พัฒนาขึ้น (3) คู่มือการใช้นวัตกรรม (4) แบบทดสอบ ก่อน - หลัง การใช้นวัตกรรม (5) รายงานผลการทดลอง การเขียนรายงานผลการพัฒนาสื่อ นวัตกรรมทางการศึกษา สื่อ นวัตกรรมทางการศึกษา ที่สร้างขึ้นมาเพื่อใช้ในการปฏิบัติงาน ไม่ว่าจะเป็นเอกสาร หนังสือ อิเล็กทรอนิกส์หรือสิ่งประดิษฐ์ต่าง ๆ เมื่อดำเนินการและได้นำไปใช้ในการจัดการเรียนการสอน ถ้าต้องการจะส่ง เป็นผลงานทางวิชาการ เพื่อเลื่อนวิทยฐานะ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเขียนรายงานเพื่อเผยแพร่ให้ผู้อื่นได้ทราบและ นำไปใช้ประโยชน์และรายงานที่จัดทำควรแสดงให้เห็นแนวคิดตั้งแต่เริ่มดำเนินการจนกระทั่งเสร็จสิ้นและแสดงให้ เห็นว่าสิ่งที่จัดทำควรมีประสิทธิภาพ การเขียนรายงานผลการพัฒนาสื่อ/นวัตกรรม มีลักษณะไม่แตกต่างจากการ เขียนรายงานการวิจัยแต่จะลดความเข้มข้นของการค้นคว้าผลงานวิจัยที่เกี่ยวข้องและความเข้มข้นทางสถิติที่ใช้ใน การวิเคราะห์ข้อมูล


๓๔ การเขียนรายงานควรมีลักษณะที่สำคัญ 4 ประการ คือ 1. มีความตรง คือในรายงานควรกล่าวชัดเจนถึงปัญหาที่ต้องการแก้ไข วัตถุประสงค์วิธีการที่จะบรรลุ วัตถุประสงค์และผลการบรรลุวัตถุประสงค์ 2. มีความชัดเจน คือ การเขียนต้องใช้ภาษาที่สื่อความหมาย 3. มีความสมบูรณ์คือมีข้อมูลครบถ้วนตั้งแต่เริ่มวิเคราะห์ปัญหาจนถึงผลการแก้ปัญหา 4. มีความถูกต้องตามความเป็นจริง คือข้อมูลจะต้องเชื่อถือได้และการนำเสนอข้อมูลต้องเป็นผลที่ได้ จากการวิเคราะห์จริง ๆ และมีความถูกต้อง รูปแบบการเขียนรายงานนวัตกรรมทางการศึกษา รูปแบบที่ 1 ตามรูปแบบของคุรุสภา(แบบหัวข้อเรียง) ประกอบด้วย 1) สภาพปัญหาก่อนการพัฒนา สภาพปัญหาที่ต้องแก้ไข เช่น พฤติกรรมผู้เรียน ครู ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง คุณภาพผู้เรียนในด้านที่ ต้องการพัฒนา ความพร้อม หรือข้อจำกัดของสถานศึกษา 2) การออกแบบนวัตกรรมเพื่อการพัฒนา กรอบแนวคิดในการพัฒนาที่แสดงให้เห็นความเชื่อมโยงสัมพันธ์ระหว่างปัญหา แนวคิด หลักการ และทฤษฎีที่ใช้ วิธีการพัฒนา และผลสำเร็จที่พึงประสงค์ 3) ขั้นตอนการดำเนินงานพัฒนา ลำดับขั้นตอนการดำเนินการพัฒนา และหาคุณภาพตั้งแต่เริ่มต้นจนจบกระบวนการพัฒนา นำสู่ ผลสำเร็จตามเป้าหมาย 4) ผลงานที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงาน ผลงานที่เป็นชิ้นงานนวัตกรรม และผลการใช้นวัตกรรมที่เกิดขึ้นกับผู้เรียน ครู ผู้บริหารสถานศึกษา ชุมชน หรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในด้านพฤติกรรม พัฒนาการ หรือการเรียนรู้ 5) สรุปสิ่งที่เรียนรู้และการปรับปรุงให้ดีขึ้น ข้อคิด ประสบการณ์ องค์ความรู้ที่ได้จากการพัฒนา รวมทั้งปัญหาที่เกิดและการแก้ไข ปรับปรุง พัฒนาผลงานนวัตกรรมให้ดีขึ้น 6) การขยายผลและเผยแพร่ผลการพัฒนา นำรูปแบบ วิธีการพัฒนาไปใช้กับกลุ่มเป้าหมายอื่นๆ ภายใต้บริบทเดียวกัน เผยแพร่ผลการพัฒนา ในรูปแบบต่างๆ สู่เพื่อนร่วมวิชาชีพ วิธีการ และผลการเผยแพร่นวัตกรรม 7) ข้อเสนอแนะและแนวทางการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ระบุข้อเสนอแนะ และแนวทางการพัฒนาที่เป็นผลสืบเนื่องจากข้อค้นพบ ผลกระทบที่เกิดจากการคิดค้น หรือผลงานนวัตกรรมในครั้งนี้


๓๕ 8) จุดเด่นหรือลักษณะพิเศษของผลงานนวัตกรรม ระบุรายละเอียดที่แสดงถึงจุดเด่น หรือลักษณะพิเศษของผลงานหนึ่งโรงเรียน หนึ่งนวัตกรรมที่ส่งเข้ารับ การคัดสรร เช่น ความแตกต่าง หรือความแปลกใหม่จากผลงานอื่นๆ รางวัลต่างๆ ที่เคยได้รับ หรือความโดด เด่นที่มี การพัฒนาต่อยอดนวัตกรรมนั้น เป็นต้น 9) บรรณานุกรม 10) รูปแบบที่ 2 แบบเชิงวิชาการ 5 บท ส่วนประกอบของการเขียนรายงานนวัตกรรม 5 แบบ ประกอบด้วย 1. ชื่อเรื่อง เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ผู้อ่านเกิดความเข้าใจในปัญหาและวิธีการพัฒนาได้ตรงกับผู้พัฒนา ชื่อเรื่องที่ดีควรจะดึงดูดความสนใจของผู้อื่น และสามารถวิเคราะห์ หาคุณลักษณะของตัวแปรที่ประสงค์จะศึกษา 2. ส่วนที่เป็นเนื้อหา แบ่งออกเป็น 5 บท ดังนี้ บทที่ 1 บทนำ บทนี้เป็นการนำเข้าสู่เนื้อหาของรายงาน ประกอบด้วยหัวข้อดังนี้ 1.1 ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา การเขียนควรกล่าวถึงลักษณะของปัญหาใน การจัดการเรียนการสอนที่รับผิดชอบโดยตรงในลักษณะความเรียง โดยกล่าวถึง - ลักษณะที่ปรากฏของปัญหา เช่น นักเรียนมีผลการเรียนรู้เป็นอย่างไร การเขียนอาจจะ มีหลักฐานประกอบ เช่น กราฟ แผนภูมิฯลฯ - สาเหตุของปัญหา ควรกล่าวถึงสิ่งที่อาจเป็นสาเหตุให้เกิดปัญหาโดยสาเหตุอาจมาจาก องค์ประกอบต่าง ๆ เช่น สาเหตุจากตัวนักเรียน สาเหตุจากครอบครัว สาเหตุจากเพื่อน สาเหตุจากสิ่งแวดล้อม ในชุมชน สาเหตุจากสิ่งแวดล้อมในโรงเรียน สาเหตุจากครู สาเหตุจากหลักสูตร ฯลฯ - แนวทางที่จะนำมาแก้ปัญหา กล่าวถึง แนวทางต่าง ๆ ที่จะสามารถใช้แก้ปัญหาได้ แต่ละแนวทางอาจอ้างอิงทฤษฎีหลักการหรือผลการวิจัยต่าง ๆ หรืออาจใช้ความคิดสร้างสรรค์หรือประสบการณ์ ส่วนตัวหลังจากระบุแนวทางในการแก้ปัญหาที่เป็นไปได้ต่าง ๆ แล้วก็เสนอว่าเลือกทางเลือกใดในการแก้ปัญหาที่ดี ที่สุด (หรือวิธีการนวัตกรรม) ที่เหมาะสมที่สุดซึ่งอาจใช้วิธีการหรือแนวทางหลายอย่างประกอบกัน เป็น “แนวทาง แก้ปัญหา” ที่ดีที่สุดก็ได้เช่น การสอนให้นักเรียนออกคำควบกล้ำ อาจจะจัดทำเป็นสื่อคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เพื่อนักเรียนจะได้ใช้ในการฝึกทั้งที่บ้านและที่โรงเรียนได้ 1.2 วัตถุประสงค์ การเขียนควรกล่าวถึงผลที่ต้องการได้รับหลังจากใช้นวัตกรรมนั้นแล้ว เช่น กล่าวถึงตัวนักเรียนว่าจะเพิ่มพูนความรู้ความเข้าใจ ความสามารถ ทักษะ เจตคติค่านิยมและศึกษานิสัยในแง่ ใดบ้าง นอกจากนั้นการเขียนหัวข้อนี้จะต้องคำนึงถึงลักษณะของปัญหาที่ได้กล่าวไว้ในหัวข้อ 1.1 ในบางครั้ง นวัตกรรมอาจไม่มีวัตถุประสงค์ที่จะแก้ปัญหาโดยตรง แต่ต้องเชื่อมโยงให้เห็นว่าจะนำไปสู่ผลกระทบลดสภาพ ปัญหาลงได้อย่างไร 1.3 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ การเขียนอาจกล่าวถึงผลที่คาดว่าจะได้รับหลังจากใช้ นวัตกรรมไปแล้ว ทั้งทางตรง ทางอ้อม ระยะสั้น และระยะยาว โดยจะต้องสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ 1.4 ขอบเขตของการศึกษา ควรระบุให้ชัดว่า นวัตกรรมที่พัฒนาขึ้นมานี้ใช้ในการจัดการ เรียนการสอนเมื่อใด เวลาใด ฯลฯ


๓๖ 1.5 คำนิยามศัพท์เฉพาะ การกำหนดคำนิยามศัพท์เฉพาะ เขียนขึ้นเพื่อให้ผู้อ่านได้เข้าใจ ตรงกับที่ผู้เขียนต้องการสื่อความหมาย และไม่ควรเขียนยาวมากนัก บทที่ 2 การพัฒนานวัตกรรม การตั้งชื่อบทนี้อาจตั้งชื่อให้ตรงกับนวัตกรรมที่พัฒนาก็ได้เช่น การพัฒนาสื่อคอมพิวเตอร์ช่วยสอน การเขียนบทนี้อาจประกอบด้วย หัวข้อดังต่อไปนี้ 2.1 แนวคิดทฤษฎีที่ใช้ การเขียนหัวข้อนี้ควรกล่าวถึง กรอบความคิดหรือแนวคิดทฤษฎี ที่นำมาใช้ในการสร้างนวัตกรรม เพื่อชี้นำให้เห็นว่านวัตกรรมที่สร้างมีความสำคัญ มีเหตุผล และมีความ เป็นไปได้สูง และมีผู้ที่เคยทำไว้แล้วหรือยัง ถ้ามีผู้เคยทำไว้แล้วผลการใช้เป็นอย่างไร 2.2 ขั้นตอนการดำเนินงาน เป็นการกล่าวถึงขั้นตอนในการผลิตนวัตกรรม ตั้งแต่เริ่ม ดำเนินการจนกระทั่งได้นวัตกรรม เช่น การวิเคราะห์หลักสูตร การออกแบบการจัดการเรียนรู้ฯลฯ อนึ่ง การเขียนในหัวข้อนี้ควรเขียนให้เห็นถึงความเพียรพยายามอุตสาหะของการคิดค้น พัฒนา สร้างนวัตกรรม ถ้า มีแหล่งอ้างอิง หรือแหล่งต้นแบบ หรือแหล่งช่วยเหลือแนะนำใด ๆ ที่ได้นำมาใช้จริง ก็ควรกล่าวไว้ให้ครบถ้วน 2.3 ผลงานหรือนวัตกรรมที่ได้ กล่าวถึงนวัตกรรมที่ได้หลังจากทำตามขั้นตอนต่าง ๆ 2.4 แนวทางการนำนวัตกรรมไปใช้ เป็นส่วนที่กล่าวถึงเทคนิควิธีการใช้นวัตกรรมใน สถานการณ์จริง เช่น การนำสื่อคอมพิวเตอร์ช่วยสอนไปใช้ในการจัดการเรียนการสอน บทที่ 3 การทดลองใช้นวัตกรรม การตั้งชื่อบทนี้อาจใช้ชื่อนวัตกรรมที่พัฒนา เช่น การทดลองใช้ สื่อคอมพิวเตอร์ช่วยสอน บทนี้เป็นการแสดงให้เห็นถึงประโยชน์ของนวัตกรรมที่สามารถนำไปใช้ได้ในสถานการณ์ จริง ว่าสามารถใช้ได้เพียงใด หัวข้อที่นำเสนอในบทนี้มีดังนี้ 3.1 รูปแบบการทดลอง การจะสรุปว่านวัตกรรมที่สร้างหรือพัฒนามีประสิทธิภาพเพียงใด มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องนำไปทดลองใช้และในการทดลองใช้อาจจะใช้กับนักเรียนกลุ่มเดียวหรือ 2 กลุ่มก็ได้ ขึ้นอยู่กับผู้พัฒนา 3.2 วิธีการทดลอง เป็นการเสนอข้อมูลเกี่ยวกับกระบวนการทดลองทั้งหมด ได้แก่ - ประชากร ขนาดของกลุ่มตัวอย่าง - การสุ่มตัวอย่าง - เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินและการสร้างเครื่องมือ (รวมถึงการหาคุณภาพของเครื่องมือ) - การใช้นวัตกรรม - การเก็บรวบรวมข้อมูล - สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล บทที่ 4 ผลการทดลองใช้นวัตกรรม การเสนอผลการทดลอง เป็นหลักฐานที่พิสูจน์ความสำเร็จ ของนวัตกรรมบางครั้งการเสนอผลอาจเป็นเพียงความคิดเห็น หรือความรู้สึกของผู้เกี่ยวข้องทั้งโดยตรงหรือ โดย อ้อม ผ่านการใช้แบบสอบถามหรืออาจจะเป็นการทดสอบ ซึ่งก็จะเป็นข้อมูลที่ยืนยันผลการทดลองใช้ได้การ นำเสนอผลการทดลองใช้อาจเสนอในรูปของการบรรยาย ตาราง แผนภูมิหรือกราฟประกอบการบรรยาย และ สาระที่นำเสนอจะต้องตอบวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ในบทที่ 1 ทุกข้อ บทที่ 5 สรุปผล อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ การเขียนบทนี้จะเป็นการสรุปผลจากบทที่ 1 – 4 มาเขียนย่อ ๆ ให้เห็นภาพรวมทั้งหมด โดยจะกล่าวถึง


๓๗ 5.1 สรุปผล เป็นการสรุปผลในเรื่อง การพัฒนานวัตกรรม ลักษณะของนวัตกรรม ที่พัฒนา การทดลองใช้และผลการทดลอง 5.2 อภิปรายผล เป็นการอภิปรายผลการใช้นวัตกรรมที่ได้นำเสนอในบทที่4 โดยชี้ให้เห็น ว่านวัตกรรมที่พัฒนาตรงตามวัตถุประสงค์ที่วางไว้เพียงใด มีอะไรที่เป็นจุดเด่น หรือมีข้อจำกัดอะไรบ้างที่ทำให้ผล การใช้นวัตกรรมไม่บรรลุตามวัตถุประสงค์ที่วางไว้ 5.3 ข้อเสนอแนะ เป็นการเสนอทั้งจุดเด่นและจุดด้อยของนวัตกรรมที่พัฒนา ไม่ว่าจะเป็น การสร้าง การวิจัยพัฒนาขั้นต่อไป ตลอดจนข้อเสนอแนะในการนำนวัตกรรมไปใช้ให้เกิดผลในการเรียนการสอน ต่อไป 3. ส่วนอ้างอิง การเขียนรายงานผลการพัฒนา นอกจากจะเขียนเนื้อเรื่องทั้ง 5 บทที่กล่าวแล้ว จะมีส่วนท้าย ซึ่งเป็นส่วนอ้างอิง ประกอบด้วย - บรรณานุกรม การเขียนบรรณานุกรม ต้องมีจำนวนหนังสือมากกว่าหรือเท่ากับจำนวน หนังสือที่กล่าวถึงในเล่ม และการเขียนให้ใช้ตามหลักของวิชาบรรณารักษ์ - ภาคผนวก อาจจะเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการประเมินนวัตกรรม


๓๘ ตัวอย่างหลักเกณฑ์การประกวดนวัตกรรมของ คุรุสภา การนำเสนอผลงาน “หนึ่งโรงเรียน หนึ่งนวัตกรรม” ประจำปี ๒๕๖๗ ๑. หน้าปก ประกอบด้วย ๑) ชื่อผลงานหนึ่งโรงเรียน หนึ่งนวัตกรรม ............................................................................................... ๒) ระยะเวลาดำเนินงานตั้งแต่ .................................................. ถึง ............................................. ........... ๓) การส่งผลงานหนึ่งโรงเรียน หนึ่งนวัตกรรม ( กรุณาระบุ √ ลงใน ที่ตรงกับผลงาน ) เป็นผลงานที่ไม่เคยส่งเข้ารับการคัดสรรกับคุรุสภา เป็นผลงานที่เคยส่งเข้ารับการคัดสรรกับคุรุสภา ปี ....... เรื่อง ........แต่ไม่ได้รับรางวัลของคุรุสภา เป็นผลงานที่เคยได้รับรางวัลของคุรุสภาและมีการนำมาพัฒนาเพิ่มเติม หรือต่อยอดนวัตกรรม (ต้องกรอกแบบ นร. ๒) ๔) ประเภทผลงานหนึ่งโรงเรียน หนึ่งนวัตกรรม ( กรุณาระบุ √ ลงใน ที่ตรงกับผลงาน) (เลือกได้เพียง ๑ ด้านเท่านั้น) การจัดการเรียนรู้ สื่อ เทคโนโลยี และสิ่งประดิษฐ์เพื่อการเรียนรู้ การบริหารและการจัดการสถานศึกษา การส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียนให้เต็มศักยภาพ การวัดและประเมินผล ๕) ข้อมูลสถานศึกษา ชื่อสถานศึกษา...................................................เลขที่…........................ถนน............................................. ตำบล/แขวง......................................อำเภอ/เขต .................................จังหวัด........................................... รหัสไปรษณีย์..……….…………..…..โทรศัพท์ .......................................โทรสาร.......................................... ๖) สังกัด ๑. สพป. .........................เขต........... ๒. สพม.... เขต .......... ๓. สอศ. ๔. สช. ๕. กทม. ๖. อปท. ............. ๗. กศน. ๘. ศูนย์การศึกษาพิเศษ ๙. อื่น ๆ (โปรดระบุ)............................... ๗) ผู้บริหารสถานศึกษา ชื่อผู้บริหารสถานศึกษา (นาย/นาง/นางสาว/อื่นๆ)............................... นามสกุล ....................................


๓๙ เลขบัตรประชาชน ............................ ตำแหน่ง...............................วิทยฐานะ................................... .......... โทรศัพท์เคลื่อนที่............................................E-mail : ……………………………………………………………………… ๘) คณะผู้ร่วมพัฒนาผลงานนวัตกรรม (ครู /นักเรียน/ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง จำนวนตามจริง ) ๘.๑) (ผู้ประสานงาน) (นาย/นาง/นางสาว/อื่นๆ)...................... นามสกุล ................................................. เลขบัตรประชาชน ...................... ตำแหน่ง...............................วิทยฐานะ........................................... โทรศัพท์เคลื่อนที่....................................E-mail : ……………………………………………………………………… ๘.๒) (นาย/นาง/นางสาว/อื่นๆ)............................ นามสกุล .................................................................... เลขบัตรประชาชน ............................ ตำแหน่ง........................วิทยฐานะ............................................. โทรศัพท์เคลื่อนที่...................................E-mail : ……………………………………………………………………… ๘.๓) (นาย/นาง/นางสาว/อื่นๆ)................................. นามสกุล ................................................................ เลขบัตรประชาชน ............................ ตำแหน่ง........................วิทยฐานะ............................................. โทรศัพท์เคลื่อนที่...................................E-mail : ……………………………………………………………………… ลงชื่อ .......................................................... (..........................................................) ผู้อำนวยการโรงเรียน..........................................


๔๐ ๒. บทสรุป นำเสนอเนื้อหามีความยาว ๑-๒ หน้ากระดาษ A4 โดยใช้ตัวอักษรแบบ TH SarabunPSKขนาดตัวอักษร 16pt โดย เสนอจุดเด่นของนวัตกรรมที่ส่งผลต่อการจัดการศึกษา และเป็นแบบอย่างได้ ๓. ความเป็นมาและความสำคัญ กล่าวถึงปัญหาและความจำเป็นที่ต้องพัฒนาผลงานหนึ่งโรงเรียน หนึ่งนวัตกรรมนั้น ๔. วัตถุประสงค์ ระบุวัตถุประสงค์ของการพัฒนานวัตกรรมอย่างชัดเจน และสอดคล้องกับผลงานนวัตกรรม ๕. กระบวนการพัฒนาผลงานหนึ่งโรงเรียน หนึ่งนวัตกรรม นำเสนอข้อมูลพร้อมรูปภาพ /แผนภาพ /สื่อ ที่แสดงให้เห็นถึงรายละเอียดของการพัฒนาผลงาน หนึ่งโรงเรียน หนึ่งนวัตกรรม การนำไปใช้จริง และผลที่เกิดขึ้นจริง ในหัวข้อต่อไปนี้ ๑) สภาพปัญหาก่อนการพัฒนา - สภาพปัญหาที่ต้องแก้ไขหรือข้อจำกัดที่ต้องการพัฒนา เช่น ผลลัพธ์การเรียนรู้ สมรรถนะ ศักยภาพ หรือพฤติกรรมผู้เรียน การจัดการเรียนรู้ของครู หรือปัญหาที่เกิดกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ๒) การออกแบบนวัตกรรมเพื่อการพัฒนา - กรอบแนวคิดในการพัฒนาที่แสดงให้เห็นความเชื่อมโยงสัมพันธ์ระหว่างปัญหา แนวคิด หลักการและ ทฤษฎีที่ใช้ วิธีการพัฒนา และผลสำเร็จที่พึงประสงค์ ๓) ขั้นตอนการดำเนินงานพัฒนา - ลำดับขั้นตอนการดำเนินการพัฒนา และหาคุณภาพตั้งแต่เริ่มต้นจนจบกระบวนการพัฒนา นำสู่ผลสำเร็จตามเป้าหมาย ๔) ผลงานที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงาน - ผลงานที่เป็นชิ้นงานนวัตกรรม และผลการใช้นวัตกรรมที่เกิดขึ้นกับผู้เรียน ครู ผู้บริหารสถานศึกษา ชุมชน หรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในด้านพฤติกรรม พัฒนาการ หรือ การเรียนรู้ ๕) สรุปสิ่งที่เรียนรู้และการปรับปรุงให้ดีขึ้น - ข้อคิด ประสบการณ์ องค์ความรู้ที่ได้จากการพัฒนา รวมทั้งปัญหาที่เกิดและการแก้ไข ปรับปรุงพัฒนา ผลงานนวัตกรรมให้ดีขึ้น ๖) การขยายผลและเผยแพร่ผลการพัฒนา - นำผลิตภัณฑ์ รูปแบบ หรือวิธีการพัฒนาไปใช้กับกลุ่มเป้าหมายอื่น ๆ ภายใต้บริบทเดียวกัน เผยแพร่ ผลการพัฒนาในรูปแบบต่าง ๆ สู่เพื่อนร่วมวิชาชีพ วิธีการ และผลการเผยแพร่นวัตกรรม


๔๑ ๖. ข้อเสนอแนะและแนวทางการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง - ระบุข้อเสนอแนะและแนวทางการพัฒนาที่เป็นผลสืบเนื่องจากข้อค้นพบ ผลกระทบที่เกิดจากการคิดค้น หรือพัฒนาผลงานนวัตกรรมในครั้งนี้ ๗. จุดเด่น หรือลักษณะพิเศษของผลงานนวัตกรรม - ระบุรายละเอียดที่แสดงถึงจุดเด่น หรือลักษณะพิเศษของผลงานหนึ่งโรงเรียน หนึ่งนวัตกรรมที่ส่งเข้ารับการ คัดสรร เช่น ความโดดเด่น ความแตกต่างหรือความแปลกใหม่จากผลงานอื่น ๆ รางวัลต่าง ๆ ที่เคยได้รับ ใน ระดับประเทศและระดับนานาชาติ ๘. บรรณานุกรม - ระบุรายการอ้างอิงที่ปรากฏอยู่ในเล่มรายงานผลงานนวัตกรรม และที่ใช้ในการศึกษาทั้งภายในประเทศ และ/ หรือต่างประเทศ โดยมีรูปแบบการเขียนที่ถูกต้องตามหลักการ ๙. ภาคผนวก (ถ้ามี) - เอกสาร หรือหลักฐานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับผลงานนวัตกรรม ๑๐. คลิปวิดีโอไม่เกิน ๑๕ นาที(ถ้ามี) แนบลิงก์คลิปวิดีโอที่นำเสนอรายละเอียดการใช้นวัตกรรม


๔๒ แบบนำเสนอผลงานหนึ่งโรงเรียน หนึ่งนวัตกรรม (กรณีผลงานที่ส่งเป็นการพัฒนาเพิ่มเติมหรือต่อยอดนวัตกรรมจากผลงานเดิม) ๑. ชื่อผลงานใหม่ (กรณีเปลี่ยนชื่อจากผลงานเดิม) …………………………………………………………………………… ๒. ชื่อผลงานเดิม ........................................................................................................................................ ๓. ปีที่ได้รับรางวัล …………………………………………………………… (กรณีได้รับรางวัลหลายปีให้ระบุปีล่าสุด) ๔. รางวัลที่ได้รับ เหรียญทอง เหรียญเงิน เหรียญทองแดง ๕. ผลงานระดับ ประเทศ ภูมิภาค ๖. ประเภทผลงานนวัตกรรม (ผลงานเดิม) การจัดกระบวนการเรียนรู้ การบริหารและจัดการสถานศึกษา การจัดการเรียนรู้ การส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียนให้เต็มศักยภาพ สิ่งประดิษฐ์ และสื่อ จิตวิทยา เทคโนโลยีการศึกษา และ Digital For Learning หลักสูตร เทคโนโลยีการศึกษา แหล่งเรียนรู้ ดิจิตัลเพื่อการเรียนรู้ การวัดและประเมินผล สื่อและเทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู้ อื่น ๆ .............................................................. สื่อ เทคโนโลยีและสิ่งประดิษฐ์เพื่อการเรียนรู้ ๗. สรุปสาระสำคัญ เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างผลงานเดิมกับผลงานใหม่ ผลงานเดิม ผลงานใหม่ ๑.กรอบแนวคิด ๒.ขั้นตอนการพัฒนา ๓.ผลที่เกิดขึ้น ๔.สิ่งที่ได้เรียนรู้ ลงชื่อ .......................................................... (..........................................................) ผู้อำนวยการโรงเรียน..........................................


๔๓ รายชื่อผู้เข้าร่วมโครงการ/ใบลงทะเบียน


๔๔


๔๕


๔๖


๔๗


Click to View FlipBook Version