Soft Power Food Film F Fashion estival Fighting
soft Powerความสามารถในการดีงดูดหรือสร้างการมีส่วน ร่วม เป็น ป็ การเผยเเพร่ทางวัฒนธรรม การเสริมสร้างค่านิยมทางการ เมมืองหรือนโยบายต่างประเทศเพื่อทำ ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหรือมี อธิพลเหนือความคิดของประชาชนและสังคมในประเทศอื่น สมาชิกในกลุ่มตระหนักถึงความสำ คัญเรื่องของวัตนธรรมที่มี ศักยภาพ5F อาหาร(Food) ภาพยนต์(Flim) การออกแบบ แฟชั่น(Fashion) ศิลปการป้อป้งกันตัวแบบไทย(Fighhting) และ เทศกาลประเพณีไทย(Festival) จึงได้มีการรวบรวมข้อมูลในรูปแบบ หนังซื้ออิเล็กทรอนิกส์(E-book) ขึ้นมาเพื่อให้ผู้อ่านสามารถนำ ความ รู้ไปใช้ประโยชน์ได้บ้างตามสมควร ขอขอบคุณ คุณครูพิสมัย สืบเลย คุณครูนพคุณ สืบเลย และ คุณครู สุภนิดา ทองอ่าง ที่กรุณนาให้ความรู้และคำ แนะนำ ในการ จัดทำ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์จนสำ เร็จลุล่วงด้วยดี คำ นำ นางสาว ศิวพร ดาษดา และคณะ 21 มิถุนายน 2567 ก
เรื่อง อาหารไทย(Food) 1 ภาพยนต์ไทย(Flim) 4 การออกแบบไทย(Fashion) 6 ศิปะการป้องกันตัวแบบไทย(Fighting) 8 เทศกาลและประเพณีไทย(Festival) 10 สารบัญ หน้า ข
ยกตัวอย่างอาหารภาคเหนือที่ขึ้นเหนือก็ต้องได้ไปกินเลยก็คงหนีไม่ พ้น "น้ำ พริกหนุ่มกับแคบหมู" น้ำ พริกหนุ่ม เป็นอาหารล้านนาที่รู้จักกัน มาช้านาน ไม่แน่ชัดว่าเริ่มมีการคิดค้นเมนูน้ำ พริกหนุ่มขึ้นมาเมื่อไหร่ เป็นน้ำ พริกที่มีลักษณะข้น พริกหนุ่ม คือ พริกชนิดหนึ่ง ชื่อสายพันธุ์ว่า "พริกหนุ่ม" พริกหนุ่มเป็นพริกที่มีความเผ็ดไม่มากเท่าพริกอื่นๆ ผล ของพริกหนุ่มไม่ว่าจะเป็นผลแก่หรือผลสุกก็จะมีลักษณะเป็นผลสีเขียว อาหารไทย(food) อาหารไทยมีมากมายหลากหลายเมนู ทั้ง ทั้ เป็นที่รู้จักโดยทั่วทั่ ไปและ อาจจะไม่เคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของเมนูนั้น นั้ ๆ มาก่อนเลยก็ได้ ยิ่งหากเป็นอาหารไทยทั้ง ทั้ 4 ภาคแล้ว…เหนือ กลาง อีสาน และใต้ ความอร่อยของแต่ละท้องถิ่นย่อมแตกต่างกันไปตามวัฒนธรรม และประเพณีแต่เก่าก่อน แล้วอาหารแต่ละภาคจะมีอะไรเด็ดๆบ้าง คุณจะรู้จักหรือเปล่า ไปดูกันเลย ภาคเหนือ 1
อีสานบ้านเฮา มาแล้วต้องได้กินคือ ตำ บักหุ่ง หรือ ส้มตำ นั่นนั่เอง เมนูส้มตำ นี้ มีต้น กำ เนิดไม่ชัดเจน แต่สันนิษฐานว่ามีที่มาที่ไปจากทางภาคอีสานของไทยราว ๆ 50 ปี ก่อนหน้านี้เท่านั้นนั้เพราะในช่วงสมัยดังกล่าวเป็นช่วงสงครามเวียดนาม มีการสร้าง สะพานมิตรภาพขึ้นเพื่อลำ เลียงยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ พร้อมทั้งทั้นำ เมล็ดพันธุ์มะละกอ มาปลูกทั้งทั้สองข้างทางของถนนมิตรภาพ ด้วยเหตุนี้มะละกอจึงเป็นพืชที่ปลูกทั่วทั่ ไป ในภาคอีสาน และด้วยภูมิปัญญาของชาวอีสานจึงได้คิดค้นอาหารรสแซ่บจาก มะละกอจานนี้ขึ้นมานั่นนั่เอง ด้วยความอร่อยและความแซ่บนี้เอง จึงทำ ให้เมนูส้มตำ มีคนนิยมรับประทานกันกระจายไปทั่วทั่ทุกภาคที่ไม่ใช่แค่ในภาคอีสานนั่นนั่เองค่ะ ภาคอีส อี าน อาหารภาคกลางที่ไทยเราต่างชาติมาก็รู้จักคงหนีไม่พ้นเมนู "ต้มยำ กุ้ง" ที่มาของต้มยำ กุ้งนั้นนั้ ไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัดว่าใครเป็นผู้คิดค้น แต่หลักฐานหนึ่งที่ปรากฏชัดเจนคือมีการบันทึกถึงเมนู “ต้มยำ ” มา ตั้งตั้แต่สมัยรัชกาลที่ 5 แต่เป็นต้มยำ ปลาต่าง ๆ ส่วนในตำ ราแม่ครัวหัว ป่าก์ (พ.ศ. 2451) โดยท่านผู้หญิงเปลี่ยน ภาสกรวงศ์ ซึ่งเป็นตำ รา อาหารอย่างเป็นทางการของไทยเล่มแรกได้ปรากฏชื่อเมนูต้มยำ เขมร หรือแกงนอกหม้อ แต่ก็หน้าตาไม่เหมือนต้มยำ กุ้งที่เรากินอยู่ใน ปัจจุบัน อีกทั้งทั้เมนูต้มยำ กุ้งนั้นนั้ถือเป็นเหมือนตัวแทนประเทศไทยที่ ชาวต่างชาติรู้จักอีกด้วย ภาคกลาง 2
ภาคใต้ อาหารประจำ ภาคใต้ที่ควรได้ไปลองไม่ต่างกันก็คือ คั่วกลิ้ง ลิ้ เมนู“คั่ว กลิ้ง ลิ้ ” เป็นอาหารชนิดหนึ่งที่มีรสเผ็ดร้อนจัดจ้าน มักรับประทานคู่กับ ผักสดหลากหลายชนิด และมีต้นกำ เนิดมาจากทางภาคใต้ คำ ว่าคั่วกลิ้ง ลิ้ นั้น นั้ หมายถึง การนำ เนื้อสัตว์มาคั่วกับเครื่องแกงเผ็ดจนแห้ง และ สามารถกลิ้ง ลิ้ไปกลิ้ง ลิ้ มาบนกระทะได้ ด้วยรสชาติที่อร่อยจัดจ้านนี้ ทำ ให้เป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายตามร้านข้าวแกง อย่างไรก็ดีการ ทำ เครื่องแกงสำ หรับคั่วกลิ้ง ลิ้ จัดว่าวุ่นวายพอสมควร เพราะมีวัตถุดิบ และเครื่องเทศค่อนข้างเยอะ “อาหารไทยทั้ง ทั้ 4 ภาคไม่มีภาคใดที่อร่อยและ รสชาติดีไปกว่ากัน ทั้ง ทั้ นี้ก็ขึ้นอยู่กับความชื่นชอบของ แต่ละคน หากได้ไปท่องเที่ยวในภาคใดก็น่าจะลองไป ชิมร้านอาหารเด็ดๆ ลือชื่อของจังหวัดหรือภาคนั้น นั้ ๆดู คุณก็ได้พบเจอกับความแปลกใหม่ ถือเป็นการเพิ่ม รสชาติให้กับชีวิตอีกด้วย" 3
เอ็มตัดสินใจดรอปเรียนตอนปีสี่ เพื่อมา เอาดีทางการแคสต์เกมแต่ทำ ยังไงก็ไม่รุ่งเอ็มเลยคิดว่าจะรวยด้วยการทำ งานสบายๆ แบบ มุ่ยลูกพี่ลูกน้อง ที่รับหน้าที่ดูแลอากงที่ป่วยระยะสุดท้าย จนกลายเป็นทายาทเพียงคนเดียวที่ได้รับมรดกเป็นบ้านราคากว่าสิบล้านภาพยนตร์ไทย(Flim)หลานม่าม่เส้นทางเศรษฐีอยู่ตรงหน้า เอ็มจึงอาสาไปดูแลอาม่าที่ตรวจพบว่าเป็นมะเร็ง และน่าจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกินปี โดยหวังว่าจะได้รับมรดกหลักล้านเช่นกันเมื่อหลานกับอาม่าที่อายุห่างกันกว่า 50 ปีต้องมาอยู่ร่วมกัน การต่อปากต่อคำ จึงเกิดขึ้นในทุกโมเมนต์แต่มันกลับเป็นช่วงเวลาที่ให้อาม่าลืมเหงาจากการเฝ้ารอลูกชายคนโต กู๋เคียง ลูกสาวคนกลางอย่าง แม่ของเอ็มและลูกชายคนเล็กอย่าง กู๋โส่ย ที่จะมาพร้อมหน้ากันตามเทศกาลต่างๆ เท่านั้นนั้ 4
เก้ง จิระ มะลิกุล และ วัน วรรณฤดี พงษ์สิ ษ์ สิ ทธิศักดิ์ 2 โปรดิวเซอร์มากฝีมือ ค่าย “จีดีเอช” เปิดใจบทภาพยนตร์เรื่อง “หลานม่า” ได้แรงบันดาลใจมาจาก “เป็ด” คนเขียนบท ที่ต้อง กลับไปดูแลอาม่าที่อายุต่างกันเกือบ 50 ปี เรื่องราวที่ดูเหมือน จะเรียบง่ายแต่กลับโดนใจ 2 โปรดิวเซอร์ เพราะมันคือการ บันทึกความผูกพันของครอบครัวใหญ่ที่นับวันจะหายไปจาก สังคมไทย หลานม่า ม่ ที่มาของหนังเรื่องนี้ ซึ่งก็มีหนังไทยหลายๆเรื่องที่ทำ มาจากเรื่องจริง และยังให้ ข้อคิดต่างๆนาๆมาให้พวกเรา 5
การออกแบบแฟชั่นชั่ ไทย (Fashion) 1.1 ชุดไทยบรมพิมาน คือ ชุดไทยพิธีตอนค่ำ ที่ใช้เข็มขัดใช้ผ้าไหมยก ดอกหรือยกทองมีเชิงหรือยกทั้ง ทั้ ตัวก็ได้ ตัวเสื้อและซิ่นตัดแบบติด กัน ซิ่นมีจีบข้างหน้าและมีชายพก ใช้เข็มขัดไทยคาดตัวเสื้อแขน ยาว คอกลม มีขอบตั้ง ตั้ ผ่าด้านหลัง หรือด้านหน้าก็ได้ ผ้าจีบยาว จรดข้อเท้า แบบนี้เหมาะสำ หรับผู้มีรูปร่างสูงบาง สำ หรับใช้ในงาน เต็มยศและครึ่งยศ เช่นงานอุทยานสโมสรหรืองานพระราชทาน เลี้ย ลี้ งอาหารอย่างเป็นทางการ ในคืนที่มีอากาศเย็น ใช้เครื่อง ประดับสวยงามตามสมควรผู้แต่งประดับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ 6
การออกแบบแฟชั่นชั่ ไทย (Fashion) 1.2 ชุดไทยเดิม เป็นเครื่องแต่งกายประจำ ชาติไทย มี ประวัติความเป็นมาและเอกลักษณ์อันยาวนาน โดย สามารถแต่งกายได้ทุกเพศทุกวัย โดยผู้ชายจะสวม เสื้อราชปะแตนหรือเสื้อพระราชทาน นุ่งโจง กระเบน และสวมรองเท้า ส่วนการแต่งกายของผู้ หญิงจะห่มสไบหรือสวมเสื้อปัด และนุ่งผ้าถุงหรือ โจงกระเบน 7
มวยไทย หรือ Thai Boxing เป็นศิลปะการป้องกัน ตัวแบบไทย ตกทอดเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่หยั่ง ยั่ ราก ลึกในประวัติศาสตร์ไทยมาอย่างยาวนาน โดยมวยไทย มีหลัก 5 ประการ คือ ประเพณี เกียรติยศ ความเคารพ ความยุติธรรม และความเป็นเลิศ คนไทยภาคภูมิใจใน มรดกทางวัฒนธรรมนี้มาก และพยายามจะส่งเสริมให้ เป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ พัฒนาศิลปะมวยไทยซึ่ง เป็นศิลปะการต่อสู้ประจำ ชาติไทยไปสู่ระดับสากล ศิลปะการต่อสู้แบบไทย (Fight) 8
เทศกาลสงกรานต์ถือเป็นซอฟต์พาวเวอร์ที่สำ คัญที่สุดอย่างหนึ่งของไทย สงกรานต์ถือเป็นวันขึ้นปีใหม่ทางจันทรคติของคนไทยนับจากอดีตถึงปัจจุบัน เนื่องจากเป็น วันและเวลาตั้งตั้ต้นปีใหม่ตามสรุยคติทั้งทั้ยังตรงกับช่วงหลังฤดูกาลเก็บเกี่ยวพืชพันธุ์ธัญญาหาร คนสมัยก่อนจึงคิดเทศกาลสงกรานต์ขึ้นมาเพื่อเป็นการพักผ่อนหลังเหน็ดเหนื่อยจากทำ งาน พร้อมกับทำ กิจกรรมการ “สาดน้ำ ” (อย่างสุภาพ) เพื่อคลายความร้อนในช่วงเดือนเมษายน นอกจากนี้ประเพณีสงกรานต์ยังมี “นางสงกรานต์“เทศกาลสงกรานต์ตามคติแบบไทย มี 3 วัน คือ 13 เมษายน เป็นวัน มหาสงกรานต์ 14 เมษายนเป็น “วันเนา” คือวันที่ถัดมาจากวัน มหาสงกรานต์ 1 วัน 15 เมษายน เป็น “วันเถลิงศก” หมายถึง วันขึ้นศกใหม่ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมสำ คัญคู่ประเพณีสงกรานต์ นำ โดย การ ”สรงน้ำ พระ” เสริมสิริมลคล รับขวัญวันปีใหม่ ไม่ว่าจะเป็นพระพุทธรูปที่บ้าน วัดวาอาราม หรือสถานที่ต่าง ๆ การ “ก่อ พระเจดีย์ทรา ขณะที่มิติความสัมพันธ์ด้านครอบครัวและญาติพี่น้อง ในช่วงสงกรานต์จะถือว่าเป็น “วันครอบครัว” (14 เมษายน) ที่สมาชิกส่วนใหญ่จะกลับมาเยี่ยมเยือนบ้านญาติผู้ใหญ่แล้วอยู่ กันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา มีการพบปะพูดคุยสังสรรค์ พร้อม “รดน้ำ ดำ หัว” ผู้ใหญ่ที่เคารพ นับถือ โดยเชื่อว่าเป็นการขอขมาลาโทษกับสิ่งที่เคยล่วงเกิน และเป็นการขอพรจากญาติ ผู้ใหญ่ให้ลูกหลานได้อยู่เย็นเป็นสุข ปัจจุบันเทศกาลสงกรานต์นอกจากจะมีกิจกรรมหลักคือการละเล่นสาดน้ำ อันสนุกสนานจนถูก ยกให้เป็น “Water Festival” ชื่อดังระดับโลกแล้ว งานสงกรานต์ในแต่ละภาค ในหลาย จังหวัดหลายพื้นที่ต่างก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่แตกต่างกันออกไป กลายเป็นแม่เหล็กดึงดูด ทางการท่องเที่ยวชั้นชั้ดี ควรอนุรักษ์สื ษ์ สื บสานประเพณีอันดีงามเหล่านี้ให้คงอยู่ไปตราบนานเท่านาน สมกับเป็น “มรดก ภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม” อันทรงคุณค่าคู่โลกของเรา เทศกาลและประเพณีไทย (Festival) สงกรานต์ 9
ประเพณีลอยกระทงเป็นประเพณีที่สำ คัญ เป็นเอกลักษณ์ของคน ไทย ที่สะท้อนวิถีชุมชนริมสายน้ำ ที่เป็นบ่อเกิดแห่งวัฒนธรรมอัน หลากหลาย นอกจากนี้ยังเป็นการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ทำ ให้ เกิดรายได้มาสูประชาชนและประเทศ มิติพิธีกรรมและประเพณี คือ การปฏิบัติอันดีงามของคนที่สืบทอด มาแต่สมัยโบราณ ในการนำ ดอกไม้ ธูปเทียนใส่ในกระทงลอยใน แม่น้ำ ในช่วงเวลาที่งดงามและเหมาะสม มิติศิลปหัตถกรรมจากภูมิปัญญาการประดิษฐ์กระทงที่มี เอกลักษณ์ของคนไทย เกิดการคิดค้นประดิษฐ์กระทงในรูปแบบ ต่าง ๆ ด้วยภูมิปัญญางานดอกไม้ ใบตอง เครื่องหอม และเกิดงาน สร้างสรรคนวัตกรรมใหม่ เช่น กระทงรักษาสิ่งแวดล้อมย่อยสลาย ง่าย นอกจากนี้ยังมีการปล่อยโคมลอยเชื่อกันว่าจะปล่อยทุกปล่อย โศก ประเพณีนี้สันนิษฐานว่าได้มาจากอินเดีย ตามความเชื่อในศาสนา พราหมณ์และศาสนาพุทธ ลัทธิพราหมณ์เชื่อว่า ลอยกระทงเพื่อบูชา แม่คงคาอันเป็นแม่น้ำ ศักดิ์สิ ดิ์ สิ ทธิ์ข ธิ์ องอินเดีย ประการหนึ่ง และเพื่อ บูชาพระผู้เป็นเจ้า คือ พระนารายณ์ซึ่งบรรทมสินธุ์อยู่กลางเกษีย ษี ร สมุทร อีกประการหนึ่ง ลอยกระทง 10
สมาชิก นาย ยศภัทร จันดีเมือง เลขที่4 นาย ปกรณ์ ดีวังวัพล เลขที่ 3 น.ส. นันทิชา สาสาย เลขที่ 17 น.ส. ศิวพร ดาษดา เลขที่ 28 น.ส. กอแก้ว พรมลา เลขที่ 41