แผนการจัดการเรียนรู้
กลุ่ มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
วิชาภาษาไทย
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓
นางสาวสุกัญญา โนนน้อย
แผนการจดั การเรียนรู้
รายวชิ าภาษาไทย ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๓
จดั ทาโดย
นางสาวสุกญั ญา โนนน้อย รหสั นักศึกษา ๖๒๘๑๑๒๔๐๔๖
เสนอ
ผ้ชู ่วยศาสตราจารย์ ดร. พชั รีภรณ์ บางเขยี ว
แผนการจัดการเรียนรเู้ ล่มนเี้ ปน็ สว่ นหนึง่ ของรายวิชา วทิ ยาการจัดการเรียนรู้ (๑๑๙๐๓๐๑)
คณะมนษุ ยศาสตรแ์ ละสังคมศาสตร์ (หลักสตู รครศุ าสตร์) สาขาวชิ าภาษาไทย
มหาวิทยาลยั ราชภฏั บา้ นสมเดจ็ เจา้ พระยา
คานา
แผนการจดั การเรยี นรรู้ ายวิชาภาษาไทย ระดบั ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ ๓ จัดทาขึน้ เพ่ือใช้เปน็ แนวทางใน
การจัดการเรยี นการสอนท่เี น้นผ้เู รียนเปน็ สาคัญ ตามหลักสูตรแกนกลางข้นั พื้นฐานพทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑
แผนการจัดการเรียนรู้ประกอบไปด้วยเน้ือหาสาระดังต่อไปน้ี แผนการจัดการเรียนรู้รายปีซึ่ง
ประกอบด้วยมาตรฐานและตวั ชี้วัดกล่มุ สาระการเรียนรู้วิชาภาษาไทย แผนการจัดการเรียนรรู้ ายหน่วย ทงั้ หมด
๑ หน่วย แผนการจดั การเรยี นรู้ ประกอบด้วย หน่วยท่ี ๑ ไพเราะเสนห่ ์หา ซึง่ ในแตล่ ะแผนการจดั การเรียนรู้
ตามรูปแบบการจัดการเรียนรู้ท่ีหลากหลาย ซึ่งแต่ละรูปแบบมีวิธีการจัดการเรียนการสอนท่ีแตกต่างกัน
ทง้ั หมดนามาซึง่ การบรรลจุ ดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ นอกจากนีย้ งั มใี บงานและเกณฑก์ ารประเมินผล เพ่ือใชใ้ นการ
ประเมนิ ผลการเรียนรขู้ องนกั เรยี นแต่ละคนว่าหลังจากเสร็จสิน้ การเรียน นักเรียนมีความรู้ ความเขา้ ใจ เนือ้ หา
สาระมากน้อยเพยี งใด ผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ หรอื ไม่
ผจู้ ดั ทาขอขอบพระคณุ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. พชั รภี รณ์ บางเขยี วเปน็ อยา่ งย่งิ ทีใ่ ห้คาปรึกษาและ
คาแนะนาตลอดระยะเวลาการจัดทาแผนการจดั การเรยี นรู้ และหวังเปน็ อยา่ งยิ่งวา่ แผนการจดั การเรยี นรเู้ ลม่ น้ี
จะเป็นประโยชน์กับการจัดการเรียนรู้ในห้องเรียน ทาให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาการเรียนรู้ได้อย่างมี
ประสทิ ธภิ าพต่อไป
นางสาวสุกญั ญา โนนน้อย
ผู้จดั ทา
สารบญั หนา้
เร่อื ง ๑
๓
คานา ๔
สารบญั ๔
แผนการจดั การเรยี นรู้รายปี ๖
๘
๑. มาตรฐานการเรียนรู้และตัวช้วี ัด
๒. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ๑๒
๓. สาระสาคญั ๑๒
๔. สาระการเรียนรู้ ๑๒
๕. คาอธิบายรายวชิ า ๑๓
ตารางโครงสรา้ งรายวชิ า ๑๕
แผนการจัดการเรยี นรู้รายหน่วย หนว่ ยท่ี ๑ ไพเราะเสนห่ ห์ า ๑๕
๑. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชว้ี ัด ๑๖
๒. สาระสาคญั
๓. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
๔. กระบวนการจดั การเรียนรู้
๕. สื่อ / แหลง่ การเรยี นรู้
๖. กระบวนการวดั ผลและประเมนิ ผล
ใบงาน/แบบฝึกหัดและใบความร้ตู ่างๆ
๑
แผนการจดั การเรยี นรู้
สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย รายวชิ า วชิ าภาษาไทย
ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ ๓ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๔
ครูผูส้ อน นางสาวสกุ ญั ญา โนนน้อย เวลา ๑๒๐ ชัว่ โมง / ๓ หนว่ ยกิต
๑. มาตรฐานการเรียนรู้และตัวช้ีวดั
สาระที่ ๑ การอา่ น
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพอ่ื นาไปใชต้ ัดสินใจ แก้ปญั หาใน
การดาเนนิ ชีวิตและมนี ิสัยรักการอ่าน
สาระท่ี ๒ การเขยี น
มาตรฐาน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขยี นเขียนส่อื สาร เขยี นเรยี งความ ย่อความ และเขียนเรือ่ งราวใน
รปู แบบต่างๆ เขยี นรายงานขอ้ มูลสารสนเทศและรายงานการศกึ ษาคน้ ควา้ อย่าง มปี ระสิทธิภาพ
สาระท่ี ๓ การฟัง การดู และการพูด
มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด และ
ความรู้สกึ ในโอกาสตา่ งๆ อยา่ งมวี ิจารณญาณและสร้างสรรค์
สาระที่ ๔ หลักการใช้ภาษาไทย
มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและพลงั
ของภาษา ภูมิปญั ญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เปน็ สมบัตขิ องชาติ
สาระท่ี ๕ วรรณคดแี ละวรรณกรรม
มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็น
คณุ ค่าและนามาประยุกต์ใช้ในชวี ิตจรงิ
ตวั ชวี้ ดั
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพอ่ื นาไปใชต้ ัดสนิ ใจ แก้ปญั หาใน
การดาเนนิ ชีวิตและมีนิสัยรกั การอ่าน
ท ๑.๑ ม.๓/๑ อ่านออกเสยี งบทรอ้ ยแก้วและบทรอ้ ยกรองไดถ้ ูกต้องและเหมาะสมกับเรอ่ื งท่ีอา่ น
ท ๑.๑ ม.๓/๒ ระบคุ วามแตกตา่ งของคาทมี่ ีความหมายโดยตรงและความหมายโดยนยั
๒
ท ๑.๑ ม.๓/๓ ระบใุ จความสาคญั และรายละเอยี ดของขอ้ มูลท่สี นบั สนุนจากเรื่องท่ีอา่ น
ท ๑.๑ ม.๓/๔ อา่ นเรือ่ งตา่ งๆแลว้ เขียนกรอบแนวคดิ ผังความคดิ บนั ทึก ยอ่ ความ และรายงาน
ท ๑.๑ ม.๓/๕ วิเคราะห์ วจิ ารณ์ และประเมนิ เรื่อง ทอ่ี ่านโดยใชก้ ลวธิ กี ารเปรียบเทียบ เพื่อให้ผ้อู า่ น
เขา้ ใจไดด้ ขี นึ้
ท ๑.๑ ม.๓/๖ ประเมินความถูกตอ้ งของขอ้ มูล ท่ีใชส้ นบั สนุนในเร่อื งทีอ่ ่าน
ท ๑.๑ ม.๓/๗ วิจารณค์ วามสมเหตสุ มผล การลาดับความ และความเปน็ ไปไดข้ องเรื่อง
ท ๑.๑ ม.๓/๘ วิเคราะหเ์ พ่อื แสดงความคิดเห็น โต้แย้งเก่ยี วกบั เรือ่ งที่อา่ น
ท ๑.๑ ม.๓/๙ ตีความและประเมินคุณค่า และ แนวคิดที่ได้จากงานเขียนอย่าง หลากหลายเพ่ือ
นาไปใช้แก้ปญั หาในชวี ติ
ท ๑.๑ ม.๓/๑๐ มีมารยาทในการอ่าน
มาตรฐาน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขยี นเขียนสอื่ สาร เขียนเรยี งความ ย่อความ และเขยี นเรื่องราวใน
รูปแบบตา่ งๆ เขยี นรายงานข้อมลู สารสนเทศและรายงานการศึกษาคน้ คว้าอยา่ ง มีประสทิ ธิภาพ
ท ๒.๑ ม.๓/๑ คัดลายมือตัวบรรจงครงึ่ บรรทัด
ท ๒.๑ ม.๓/๒ เขียนข้อความโดยใช้ถ้อยคาไต้ถูกต้องตามระดบั ภาษา
ท ๒.๑ ม.๓/๓ เขียนชวี ประวัติหรอื อัตชีวประวัติโดยเล่าเหตกุ ารณ์ ข้อคิดเห็น และทัศนคตใิ นเรื่อง
ต่างๆ
ท ๒.๑ ม.๓/๔ เขยี นย่อความ
ท ๒.๑ ม.๓/๕ เขยี นจดหมายกจิ ธรุ ะ
ท ๒.๑ ม.๓/๖ เขียนอธิบาย ชีแ้ จง แสดงความคดิ เหน็ และโต้แย้งอยา่ งมีเหตุผล
ท ๒.๑ ม.๓/๗ เขยี นวเิ คราะห์ วจิ ารณ์ และแสดง ความรู้ ความคดิ เหน็ หรือโตแ้ ย้ง ในเร่อื งต่างๆ
ท ๒.๑ ม.๓/๘ กรอกแบบสมัครงานพร้อมเขียน บรรยายเก่ียวกับความรู้และทักษะ ของตนเองท่ี
เหมาะสมกับงาน
ท ๒.๑ ม.๓/๙ เขียนรายงานการศึกษาคน้ คว้า และ โครงงาน
ท ๒.๑ ม.๓/๑๐ มีมารยาทในการเขียน
มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดอู ย่างมีวิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด และ
ความรู้สกึ ในโอกาสต่างๆ อยา่ งมีวิจารณญาณและสรา้ งสรรค์
๓
ท ๓.๑ ม.๓/๑ แสดงความคิดเห็นและประเมนิ เรอ่ื งจากการฟงั และการดู
ท ๓.๑ ม.๓/๒ วิเคราะหแ์ ละวจิ ารณ์เร่ืองที่ฟงั และดู เพ่อื นาข้อคดิ มาประยกุ ตใ์ ชใ้ นการดาเนนิ ชีวติ
ท ๓.๑ ม.๓/๓ พดู รายงานเรือ่ งหรอื ประเดน็ ทศ่ี กึ ษาคน้ คว้าจากการฟงั การดู และการสนทนา
ท ๓.๑ ม.๓/๔ พูดในโอกาสตา่ งๆ ได้ตรงตามวัตถปุ ระสงค์
ท ๓.๑ ม๓/๕ พูดโนม้ นา้ วโดยนาเสนอหลักฐานตามลาดบั เนือ้ หาอยา่ งมเี หตผุ ลและนา่ เชือ่ ถือ
ท ๓.๑ ม.๓/๖ มมี ารยาทในการฟัง การดู และการพดู
มาตรฐาน ท ๔.๑ เขา้ ใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษาและพลัง
ของภาษา ภมู ิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบตั ิของชาติ
ท ๔.๑ ม.๓/๑ จาแนกและใช้คาภาษาตา่ งประเทศท่ีใช้ในภาษาไทย
ท ๔.๑ ม.๓/๒ วเิ คราะหโ์ ครงสร้างประโยคซบั ซ้อน
ท ๔.๑ ม.๓/๓ วเิ คราะหร์ ะดบั ภาษา
ท ๔.๑ ม.๓/๔ ใช้คาทับศพั ทแ์ ละศพั ทบ์ ญั ญตั ิ
ท ๔.๑ ม.๓/๕ อธบิ ายความหมายคาศพั ทท์ างวชิ าการ และวชิ าชพี
ท ๔.๑ ม.๓/๖ แตง่ บทรอ้ ยกรอง
มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็น
คุณค่าและนามาประยุกต์ใชใ้ นชีวติ จรงิ
ท ๕.๑ ม.๓/๑ สรปุ เนือ้ หาวรรณคดี วรรณกรรม และวรรณกรรมทอ้ งถ่ินในระดับท่ยี ากยิง่ ข้นึ
ท ๕.๑ ม.๓/๒ วเิ คราะหว์ ถิ ไี ทย และคุณค่าจากวรรณคดแี ละวรรณกรรมที่อา่ น
ท ๕.๑ ม.๓/๓ สรุปความร้แู ละข้อคิดจากการอา่ น เพือ่ นาไปประยกุ ต์ใช้ในชีวติ จรงิ
ท ๕.๑ ม.๓/๔ ท่องจาและบอกคุณค่าบทอาขยาน ตามที่กาหนด และบทร้อยกรองที่มี คุณค่าตาม
ความสนใจและนาไปใช้ อ้างองิ
๒. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
๒.๑ ความรู้ (K)
๑. นักเรยี นสามารถอธบิ ายหลักการจบั ใจความสาคัญจากเร่ืองทีอ่ า่ นได้ (K)
๔
๒.๒ ทักษะ (P)
๑. นักเรียนสามารถจบั ใจความสาคญั จากเรอื่ งท่อี า่ นได้ถกู ตอ้ ง (P)
๒.๓ จติ พสิ ัย (A)
๑. นักเรยี นแสดงความสนใจ แสดงความกระตือรือรน้ ในการอา่ น (A)
๒. นกั เรยี นเห็นความสาคัญของการจบั ใจความสาคัญจากเร่อื งทอ่ี า่ น (A)
๓. สาระสาคัญ
ภาษาไทยเป็นเอกลักษณ์ประจาชาติ เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมที่เป็นเอกภาพของคนในชาติให้มี
ความเปน็ ไทย เป็นเคร่ืองมือติดตอ่ สอื่ สารเพ่ือสรา้ งความเข้าใจและความสัมพนั ธ์ท่ดี ตี ่อกนั การสอนภาษาไทย
ในปจั จุบนั จงึ ได้เปลีย่ นแนวคิดไปจากเดมิ ไม่เน้นการอ่านออกเขียนไดเ้ พยี งอยา่ งเดยี ว แตจ่ ะเน้นการสอนภาษา
เพ่ือการสือ่ สารกับผู้อนื่ อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ ทาให้สามารถประกอบกิจธรุ ะ การงาน รวมถงึ แก้ปญั หาใน การ
ดารงชีวิตร่วมกันในสังคมได้อย่างสันติสุข ผู้เรียนสามารถแสวงหาความรู้ประสบการณ์จากแหล่งข้อมูล
สารสนเทศต่างๆ เพอ่ื พฒั นาความร้กู ระบวนการคดิ วเิ คราะหว์ ิจารณ์ และสร้างสรรค์ให้ทันตอ่ การเปลยี่ นแปลง
ทางสังคม ตลอดจนนาไปใชใ้ นการพฒั นาอาชพี ให้มคี วามม่ันคงทางเศรษฐกจิ นอกจากนี้ยงั เป็นสือ่ ท่ีแสดงภูมิ
ปัญญาของบรรพบุรุษด้วยวัฒนธรรมประเพณี และสุนทรียภาพ เป็นวรรณคดีและวรรณกรรมท่ีล้าค่า
ภาษาไทยจึงเปน็ สมบัตขิ องชาตทิ คี่ วรค่าแกก่ ารเรียนรู้เพอ่ื อนุรักษแ์ ละสืบสานให้คงอยตู่ ลอดไป
๔. สาระการเรียนรู้
ภาษาไทยเปน็ ทักษะทต่ี ้องฝึกฝนจนเกิดความชานาญในการใชภ้ าษาเพือ่ การส่ือสาร การเรียนรู้อย่าง
มปี ระสทิ ธภิ าพ และเพ่อื นาไปใชใ้ นชีวติ จรงิ
การอ่าน การอ่านออกเสียงคา ประโยค การอ่านบทร้อยแก้ว คาประพันธ์ชนดิ ต่างๆการอ่านในใจ
เพื่อสร้างความเขา้ ใจ และการคดิ วเิ คราะห์ สงั เคราะห์ความร้จู ากส่ิงทอ่ี ่าน เพอ่ื นาไปปรบั ใชใ้ นชวี ิตประจาวนั
การเขียน การเขียนสะกดตามอักขรวิธี การเขียนส่ือสาร โดยใช้ถ้อยคาและรูปแบบต่างๆของการ
เขียน ซึ่งรวมถึงการเขียนเรียงความ ย่อความ รายงานชนิดต่างๆ การเขียนตามจินตนาการวิเคราะห์วิจารณ์
และเขยี นเชิงสรา้ งสรรค์
การฟงั การดู และการพดู การฟังและดอู ย่างมีวิจารณญาณ การพูดแสดงความคิดเหน็ ความรสู้ กึ พูด
ลาดบั เรอื่ งราวตา่ งๆ อย่างเป็นเหตเุ ปน็ ผล การพดู ในโอกาสต่าง ทั้งเปน็ ทางการและไมเ่ ป็นทางการ และการพูด
เพื่อโนม้ นา้ วใจ
หลักการใช้ภาษาไทย ธรรมชาติและกฎเกณฑ์ของภาษาไทย การใช้ภาษาให้ถูกต้องเหมาะสมกับ
โอกาสและบคุ คล การแต่งบทประพันธป์ ระเภทตา่ งๆ และอิทธพิ ลของภาษาต่างประเทศในภาษาไทย
๕
วรรณคดีและวรรณกรรม วิเคราะห์วรรณคดีและวรรณกรรมเพื่อศกึ ษาข้อมูล แนวความคิดคุณค่า
ของงานประพันธ์ และความเพลิดเพลิน การเรยี นรู้และทาความเข้าใจบทเห่ บทร้องเลน่ ของเดก็ เพลงพื้นบ้านท่ี
เป็นภูมิปัญญาทมี่ ีคุณคา่ ของไทย ซ่ึงได้ถ่ายทอดความรู้สกึ นึกคดิ ค่านยิ ม ขนบธรรมเนียมประเพณี เรื่องราว
ของสังคมในอดตี และความงดงามของภาษา เพอ่ื ให้เกิดความซาบซึง้ และภูมิใจในบรรพบุรษุ ที่ได้ส่ังสมสืบทอด
มาจนถงึ ปัจจุบัน
๖
๕. คาอธบิ ายรายวชิ า
คาอธิบายรายวชิ า
กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย
ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๓ เวลา ๖๐ ชว่ั โมง จานวน ๑.๕ หน่วยกติ ภาคเรียนท่ี ๑
คาอธบิ ายรายวิชา
อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองให้ได้ถูกต้องเหมาะสมกับเรื่องที่อ่านและสามารถจับ
ใจความสาคัญ สามารถสร้างกรอบแนวคิดกรอบแนวคิดหรือผังความคิด และวิจารณ์เร่ืองที่อ่าน พร้อมทั้ง
อธิบายคาศพั ทแ์ ละคาทีม่ ีหลายความหมาย ในบริบทตา่ ง ๆ
เขียนบรรยาย ส่ือสาร เรียงความ ย่อความ คาขวัญ คาคม คาอวยพร เขียนอธิบายโฆษณา เขียน
แสดงความคิดเหน็ เขยี นจดหมาย
การพูดแสดงความคิดเห็นและประเมิน และสามารถพูดวิเคราะห์วิจารณ์จากเรื่องท่ีฟังที่ดู และ
สามารถพดู รายงานการศกึ ษาค้นควา้ เกี่ยวกับภูมปิ ญั ญาท้องถน่ิ
ศกึ ษาการสร้างคาไทย การนาภาษาต่างประเทศมาใช่ในภาษาไทย ประโยคสามญั ประโยคซับซอ้ น
การใช้ภาษาพดู และภาษาเขยี นของบคุ คลในวงการตา่ ง ๆ
มีความช่ืนชมและรักความเป็นไทย มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มีความมุ่งม่ันในการทางานด้วยความซ่ือสัตย์
สุจริต มีความเป็นอยู่อย่างพอเพียง มีจิตสาธารณะ มีความรัก หวงแหนและธารงไว้ซึ่ง ชาติ ศาสนา
พระมหากษัตรยิ ์
รหสั ตวั ชวี้ ัด
ท ๑.๑ ม.๓/๑ ม.๓/๒ ม.๓/๓ ม.๓/๔
ท ๒.๑ ม.๓/๑ ม.๓/๒ ม.๓/๓ ม.๓/๔ ม.๓/๕
ท ๓.๑ ม.๓/๑ ม.๓/๒ ม.๓/๓
ท ๔.๑ ม.๓/๑ ม.๓/๒ ม.๓/๓
ท ๕.๑ ม.๓/๑ ม.๓/๒
รวม ๑๗ ตวั ชว้ี ัด
๗
คาอธบิ ายรายวิชา
กลมุ่ สาระการเรียนรูภ้ าษาไทย
ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๓ เวลา ๖๐ ช่ัวโมง จานวน ๑.๕ หน่วยกติ ภาคเรยี นท่ี ๒
คาอธิบายรายวิชา
จากการอ่านตีความ ขยายความ คายากในเอกสารวชิ าการโดยพจิ ารณาจากบรบิ ท วเิ คราะห์วจิ ารณ์
งานเขยี น เปรียบเทียบถ่ายทอดความรู้ ความคิด ตรวจสอบ เลอื กอ่านหนังสอื และมมี ารยาทในการอา่ น
รายงาน โครงงาน คดั ลายมอื และมีมารยาทในการเขยี น
พดู ในโอกาสตา่ ง ๆ เล่าเรื่อง แสดงความคดิ เห็น ประเมินค่า รายงานประเดน็ ที่ศกึ ษาคันควา้ จาก
การฟงั การดู และการพูด
สามารถใช้ราชาศัพท์ถูกต้องตามฐานะของบุคคล ศึกษาประวัติและผลงานของบุคคล ภูมิปัญญา
ทอ้ งถ่ิน แตง่ บทรอ้ ยกรองประเภท กาพย์ กลอน โคลง เพลงพื้นบ้าน เพลงกลอ่ มเดก็
นาความรู้ ข้อคดิ ท่ไี ดจ้ ากการอ่านไปประยุกต์ใช้ในชวี ิตจริง ท่องจาบทอาขยานทก่ี าหนดและบทรอ้ ย
กรองท่สี นใจและมีความช่ืนชมและรักความเป็นไทย มวี นิ ัย ไฝเรียนรู้ มีความมุ่งม่ันในการทางานดว้ ยความชื่อ
สัตย์สุจริต มีความเป็นอยู่อย่างพอเพียง มีจิตสาธารณะ มีความรัก หวงแหนและธารงไว้ซ่ึง ชาติ ศาสนา
พระมหากษตั ริย์
รหสั ตัวช้ีวดั
ท ๑.๑ ม.๓/๕ ม.๓/๖ ม.๓/๗ ม.๓/๘ ม.๓/๙ ม.๓/๑๐
ท ๒.๑ ม.๓/๕ ม.๓/๖ ม.๓/๗ ม.๓/๘ ม.๓/๙ ม.๓/๑๐
ท ๓.๑ ม.๓/๔ ม.๓/๕ ม.๓/๖
ท ๔.๑ ม.๓/๔ ม.๓/๕ ม.๓/๖
ท ๕.๑ ม.๓/๓ ม.๓/๔
รวม ๒๐ ตวั ชวี้ ัด
๘
โครงสรา้ งรายวิชา
กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ ๓
จานวน ๑๒๐ ชวั่ โมง
หน่วย มาตรฐานการ สาระการเรยี นรู้ ชัว่ โมง นา้ หนกั
การเรียนรู้ท่ี ชอื่ หน่วย เรยี นรู้/ตัวชวี้ ัด ๑๐ คะแนน
๑ ไพเราะเสนห่ ห์ า ท ๑.๑ ม.๓/๑ - อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อย ๑๒
ม.๓/๒ ม.๓/๓ กรองได้ถกู ต้องและเหมาะสมกบั เรอ่ื งที่อ่าน
ม.๓/๔ - ระบุความแตกต่างของคาท่ีมีความหมาย ๑๑
โดยตรงและความหมายโดยนัย ๑๓
- ระบุใจความสาคัญและรายละเอียดของ
ขอ้ มลู ท่ีสนบั สนนุ จากเรื่องทอี่ ่าน
- อ่านเรอ่ื งต่างๆแล้วเขียนกรอบแนวคิด ผัง
ความคิด บนั ทกึ ยอ่ ความ และรายงาน
๒ ลายมอื ลายไทย ท ๒.๑ ม.๓/๑ - คัดลายมือตวั บรรจงครึง่ บรรทดั
ม.๓/๒ ม.๓/๓ - เขียนข้อความโดยใช้ถ้อยคาไต้ถกู ต้องตาม
ม.๓/๔ ม.๓/๕ ระดับภาษา
- เขียนชีวประวัติหรืออัตชีวประวัติโดยเล่า
เหตุการณ์ ข้อคิดเห็น และทัศนคติในเรื่อง
ตา่ งๆ
- เขียนย่อความ
- เขยี นจดหมายกจิ ธุระ
๓ พิศเพลิน ท ๓.๑ ม.๓/๑ - แสดงความคิดเห็นและประเมินเร่ืองจาก
เสนาะหา ม.๓/๒ ม.๓/๓ การฟงั และการดู
- วเิ คราะห์และวิจารณ์เรื่องที่ฟงั และดู เพื่อ
นาข้อคดิ มาประยุกต์ใช้ในการดาเนนิ ชวี ติ
- พูดรายงานเร่ืองหรือประเด็นที่ศึกษา
คน้ ควา้ จากการฟงั การดู และการสนทนา
๔ ภาษาพาสนกุ ท ๔.๑ ม.๓/๑ - จาแนกและใช้คาภาษาต่างประเทศท่ใี ช้ใน
ม.๓/๒ ม.๓/๓ ภาษาไทย
- วิเคราะห์โครงสรา้ งประโยคซบั ซอ้ น
- วิเคราะหร์ ะดบั ภาษา
๙
หน่วย มาตรฐานการ สาระการเรยี นรู้ ชวั่ โมง นา้ หนกั
การเรียนรทู้ ่ี ชื่อหนว่ ย เรียนรู้/ตวั ชวี้ ัด ๑๒ คะแนน
๑
๕ วรรณคดี ท ๕.๑ ม.๓/๑ - สรุปเน้ือหาวรรณคดี วรรณกรรม และ ๑
แสนสนกุ ม.๓/๒ วรรณกรรมทอ้ งถ่นิ ในระดับท่ียากย่ิงขึ้น ๑๐
๖
- วิเคราะห์วถิ ีไทย และคุณค่าจากวรรณคดี ๑๒
๗ และวรรณกรรมทอ่ี า่ น
สอบกลางภาคเรยี นท่ี ๑
สอบปลายภาคเรยี นท่ี ๑
อา่ นรอ้ ย ท ๑.๑ ม.๓/๕ - วิเคราะห์ วิจารณ์ และประเมนิ เรอ่ื ง ที่อ่าน
คลอ้ ยจา ม.๓/๖ ม.๓/๗ โดยใช้กลวิธีการเปรียบเทียบ เพ่ือให้ผู้อ่าน
ม.๓/๘ ม.๓/๙ เข้าใจไดด้ ขี น้ึ
ม.๓/๑๐ - ประเมินความถูกต้องของข้อมูล ท่ีใช้
สนับสนุนในเรื่องท่อี ่าน
- วจิ ารณ์ความสมเหตสุ มผล การลาดบั ความ
และความเป็นไปไดข้ องเร่อื ง
- วิเคราะห์เพื่อแสดงความคิดเห็น โต้แย้ง
เก่ยี วกับเรอื่ งทอ่ี า่ น
- ตคี วามและประเมนิ คุณค่า และ แนวคิดที่
ได้จากงานเขียนอย่าง หลากหลายเพื่อ
นาไปใช้แกป้ ัญหาในชีวิต
- มมี ารยาทในการอา่ น
เขยี นอยา่ งไรให้ ท ๒.๑ ม.๓/๕ - เขียนจดหมายกิจธรุ ะ
คนจา ม.๓/๖ ม.๓/๗ - เขียนอธิบาย ชี้แจง แสดงความคิดเห็น
ม.๓/๘ ม.๓/๙ และโต้แย้งอย่างมีเหตผุ ล
ม.๓/๑๐ - เขียนวิเคราะห์ วิจารณ์ และแสดง ความรู้
ความคดิ เห็น หรือโตแ้ ย้ง ในเรือ่ งต่างๆ
- กรอกแบบสมัครงานพร้อมเขียน บรรยาย
เกี่ยวกับความรู้และทักษะ ของตนเองท่ี
เหมาะสมกบั งาน
- เขียนรายงานการศึกษาค้นคว้า และ
โครงงาน
- มมี ารยาทในการเขียน
๑๐
หนว่ ย ชอื่ หน่วย มาตรฐานการ สาระการเรยี นรู้ ชว่ั โมง นา้ หนกั
การเรยี นรทู้ ่ี เปล่งเสียง เรียนรู้/ตวั ชีว้ ัด ๑๑ คะแนน
เสนาะหู
๘ ท ๓.๑ ม.๓/๔ - พูดในโอกาสตา่ งๆ ไดต้ รงตามวตั ถุประสงค์ ๑๓ ๑๐๐
ร้รู ักศพั ท์ไทย ม.๓/๕ ม.๓/๖ - พู ด โ น้ ม น้ า วโ ด ย น า เ ส น อ ห ลั ก ฐ า น ๑๒
๙ ต า ม ล า ดั บ เ นื้ อ ห า อ ย่ า ง มี เ ห ตุ ผ ล แ ล ะ
อาขยาน นา่ เช่อื ถือ ๑
๑๐ - มมี ารยาทในการฟงั การดู และการพดู
ท ๔.๑ ม.๓/๔ - ใช้คาทับศพั ทแ์ ละศพั ทบ์ ญั ญัติ
ม.๓/๕ ม.๓/๖ - อธิบายความหมายคาศัพท์ทางวิชาการ
และวิชาชีพ
- แต่งบทรอ้ ยกรอง
ท ๕.๑ ม.๓/๓ - สรุปความรู้และข้อคิดจากการอ่าน เพื่อ
ม.๓/๔ นาไปประยกุ ตใ์ ช้ในชีวติ จรงิ
- ทอ่ งจาและบอกคุณคา่ บทอาขยาน ตามท่ี
กาหนด และบทร้อยกรองท่ีมี คุณค่าตาม
ความสนใจและนาไปใช้ อา้ งองิ
สอบกลางภาคเรียนท่ี ๒
สอบปลายภาคเรยี นท่ี ๒ ๑
รวม ๑๒๐
๑๑
๑๒
แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ ๑
รหสั วชิ า ท ๒๓๑๐๑ รายวิชาภาษาไทย
ระดับชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๓ ภาคเรยี นที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๔
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ ๑ เรอ่ื ง การอา่ นจับใจความสาคัญ เวลา ๓ ชวั่ โมง
ช่อื ผูส้ อน นางสาวสุกญั ญา โนนน้อย
๑. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ช้วี ัด
๑.๑ มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสรา้ งความรแู้ ละความคดิ เพ่ือนาไปใช้ตดั สนิ ใจ แกป้ ัญหาใน
การดาเนนิ ชีวติ และมีนสิ ยั รกั การอา่ น
๑.๒ ตวั ชี้วดั ตามกลมุ่ สาระการเรยี นรู้
ท ๑.๑ ม.๓/๓ ระบใุ จความสาคัญและรายละเอียดของขอ้ มลู ที่สนับสนนุ จากเรอ่ื งที่อ่าน
ท ๑.๑ ม.๓/๑๐ มีมารยาทในการอ่าน
๒. สาระสาคญั
การอ่านเพอ่ื ค้นหาสาระสาคัญของเร่อื งที่อา่ นทาให้เขา้ ใจเรื่องไดด้ ีย่งิ ขึ้น และรบั สารได้ตรงกับความ
ต้องการของผู้สง่ สาร
๓. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ (จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม)
ด้านความรู้ (Knowledge)
๑. นกั เรียนสามารถอธบิ ายหลักการจบั ใจความสาคญั จากเรื่องท่ีอา่ นได้
ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (Process)
๑. นักเรียนสามารถแยกใจความหลกั และพลความไดอ้ ยา่ งครบถ้วน ถกู ต้อง
ด้านคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (Attitude)
๑. นักเรยี นแสดงความสนใจ แสดงความกระตือรือร้นในการอ่าน
๑๓
คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
๑. ซอื่ สตั ยส์ จุ ริต (๒.๑ , ๒.๒)
๒. มีวินัย (๓.๑)
๓. ใฝเ่ รียนรู้ (๔.๑ , ๔.๒)
๔. มุง่ ม่นั ในการทางาน (๖.๑ , ๖.๒)
๕. รักความเป็นไทย (๗.๑ , ๗.๒ , )
สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน
๑. ความสามารถในการสอื่ สาร (๑.๑ , ๑.๒ , ๑.๓ , ๑.๔)
๒. ความสามารถในการคดิ (๒.๒ , ๒.๔ , ๒.๕)
๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา (๓.๑ , ๓.๔ , ๓.๕)
๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต (๔.๑ , ๔.๒ , ๔.๓ , ๔.๔ , ๔.๕)
๔. กระบวนการจัดการเรยี นรู้
ช่ัวโมงที่ ๑
ขั้นนา
๑. คณุ ครรู ่วมสนทนากบั ผู้เรียนในเร่อื ง การอา่ นจับใจความสาคญั การอ่านบทความทวั่ ไปวา่ ผ้เู รียน
มีความคดิ เห็นอยา่ งไร และทราบหลักการ วธิ ีการอ่านจับใจความสาคญั หรอื ไม่อย่างไร ทบทวนความรู้ในเรื่อง
ของการอ่านจบั ใจความสาคัญ
ขน้ั กระบวนการเรยี นรู้
๒. ผเู้ รียนศกึ ษาเนอ้ื หาหัวข้อตา่ งๆ เรื่อง การอา่ นจับใจความสาคัญ จากสื่อ Power Point
๓. ผเู้ รียนฝึกทักษะกระบวนการคิดวิเคราะห์ การอ่านจบั ใจความสาคัญ จากตวั อย่างแบบฝึกทกั ษะ
โดยใหผ้ ้เู รียนมีสว่ นร่วมในการตอบคาถามและแสดงความคิดเหน็ (สมุ่ ถามผูเ้ รยี นรายบุคคล)
ขัน้ สรุป
๔. คุณครูและผู้เรียนร่วมกันสรุปเนื้อหาสาระการเรียนในคาบ ผู้เรียนและครูผู้สอนแลกเปล่ียน
ความรแู้ ละความคิดเหน็ ร่วมกนั
๑๔
ช่ัวโมงท่ี ๒
ขน้ั นา
๑. ผู้เรียนและผู้สอนร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับการอ่านจับใจความสาคัญ โดยคุณครูถามผู้เรียนว่า
สาระสาคัญของการอ่านจับใจความคืออะไร วิธกี ารหาพลความสามารถทาได้อย่างไรบ้าง (รว่ มกนั ตอบ)
ขั้นกระบวนการเรียนรู้
๒. ผู้เรยี นศกึ ษาตัวอย่างจากใบความรู้ เร่ือง การอา่ นจับใจความสาคญั
๓. ผู้เรียนระดมความคดิ ร่วมกนั เกยี่ วกบั การอา่ นจับใจความสาคญั (ไม่ตอ้ งแบง่ กลมุ่ ) เช่น
- ความหมายการอ่านจับใจความสาคญั
- วิธีการหาพลความ
- หลักและวิธกี ารหาใจความสาคัญของบทความ
ผู้เรียนนาเสนอสิ่งท่ีได้เรียนรู้และนามาวิเคราะห์ให้เพื่อนในห้องเรียนได้เรียนรู้ร่วมกัน โดย
อาสาสมัครตัวแทนพูดหนา้ ช้ันเรียน ๒ คน
ขน้ั สรุป
๔. ผู้เรียนและครูผู้สอนร่วมกันสรุปส่ิงที่เรียนในชั่วโมง และสรปุ สาระสาคญั ทีไ่ ดจ้ ากการเรียนเรอื่ ง
การอ่านจับใจความสาคญั จากน้ันผเู้ รียนทาใบงาน เรื่อง การอา่ นจับใจความสาคัญ (ส่งในคาบเรยี นถดั ไป)
ชั่วโมงที่ ๓
ขัน้ นา
๑. ผเู้ รียนและผูส้ อนร่วมกันสนทนาเกยี่ วกบั การอ่านจับใจความสาคัญ โดยการอภิปรายถึงบทความ
ทไ่ี ดน้ ามาศกึ ษาวา่ ผู้เรียนมีความเขา้ ใจมากน้อยเพียงใด (ส่มุ ถามจากเลขที่ ๓ คน)
ขน้ั กระบวนการเรยี นรู้
๒. ผูเ้ รยี นศึกษาการอ่านจับใจความสาคัญจากวรรณคดี เรอื่ ง พระอภยั มณี ตอน หนนี างผเี สอื้ สมุทร
จากหนังสอื เรยี นรายวิชาภาษาไทย ชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ ๓
๓. คุณครใู ห้ผู้เรียนเสนอแนวคิดทไี่ ด้เกี่ยวกับสาระสาคญั ของเรื่องท่ีศึกษา โดยเขียนความคิดทไี่ ด้ใส่
สมุดของตน
๑๕
๔. ผเู้ รยี นทาแบบทดสอบ (Google From) เรอื่ ง การอ่านจับใจความสาคัญ
ขน้ั สรุป
๕. คุณครูและผู้เรียนร่วมกันสรุปความรู้เรื่อง การอ่านจับใจความสาคัญจากวรรณคดี เร่ือง
พระอภยั มณี ตอน หนนี างผีเสอ้ื สมุทร
๕. ส่อื / แหลง่ การเรียนรู้
๑. แบบเรียนภาษาไทย ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๓
๒. ใบงาน
๓. สอ่ื ความรู้ Power Point เร่ือง การอ่านจบั ใจความสาคัญ
๔. ใบความรู้ เร่ือง การอ่านจบั ใจความสาคญั
๕. แบบทดสอบ (Google From) เรอ่ื ง การอา่ นจับใจความสาคญั
๖. กระบวนการวัดผลและประเมนิ ผล
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ วธิ วี ัด เครื่องมอื เกณฑ์การประเมิน
นัก เ รี ยน ส า มา ร ถอธิ บ า ย การทาใบงาน ใบงาน ร้อยละ ๖๐ ผา่ นเกณฑ์
หลักการจับใจความสาคัญ ร้อยละ ๖๐ ผา่ นเกณฑ์
จากเรอื่ งท่อี า่ นได้ (K) แบบทดสอบ รอ้ ยละ ๖๐ ผ่านเกณฑ์
(Google From)
นกั เรียนสามารถแยกใจความ การทาแบบทดสอบ
ห ลั ก แ ล ะ พ ล ค ว า ม ไ ด้ อ ย่ า ง แบบสงั เกต
ครบถว้ น ถกู ต้อง (P)
นั ก เ รี ย น แ ส ด ง ค ว า ม ส น ใ จ สังเกตพฤติกรรม
แสดงความกระตือรือร้นใน
การอา่ น (A)
๑๖
แบบฝกึ ทกั ษะ
เรือ่ ง การอ่านจบั ใจความสาคัญ
ชือ่ ……………………………………………………………………………………………………………………ช้ัน…………………………….เลขท…ี่ ………………………
คาช้ีแจง ให้นกั เรียนเขยี นอธิบายความหมายของการอ่านจบั ใจความสาคญั ตามความเขา้ ใจ
๑. การอา่ นจับใจความสาคัญ คือ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
๒. การอา่ นเพอื่ จบั ใจความหรือข้อคดิ ความคดิ สาคัญหลกั ของขอ้ ความแบ่งออกเป็น ๒ สว่ น คอื
๓. หลกั การอ่านจบั ใจความสาคัญได้แกอ่ ะไรบา้ ง จงอธบิ าย
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
๔. ออ้ ยเป็นพชื ทีป่ ลูกงา่ ย ทนทานต่อสภาพแวดล้อม เม่ือปลูกแลว้ สามารถเกบ็ เกย่ี วไดห้ ลายคร้ัง ทส่ี าคัญทส่ี ุด
คือออ้ ยมตี ลาดรบั ซื้อทแี่ นน่ อนหากเปน็ อ้อยท่ปี ลกู เพื่อสง่ ขายใหแ้ กโ่ รงงานน้าตาล ออ้ ยจึงเปน็ พืชใหค้ วามหวาน
ท่ีเกษตรกรนิยมปลูกกนั มาก ใจความสาคัญของบทความข้างตน้ คือ
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………..……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
๑๗
แบบสังเกตพฤติกรรมความสนใจ ความกระตือรือรน้ ในการอา่ น (แบบตรวจสอบรายการ)
แบบสงั เกตพฤติกรรมความสนใจ ความกระตอื รือร้นในการอ่าน ใช่ ไมใ่ ช่
๑. แสดงความสนใจในเรอื่ งทเี่ รยี น มีความกระตือรอื ร้น
๒. ไมพ่ ูดคุยหรอื เล่นกันกับเพือ่ นในขณะทค่ี รูสอน
๓. รว่ มตอบคาถามและแสดงความคดิ เห็น
๔. คน้ หาคาตอบด้วยตนเอง จากแหลง่ เรยี นรู้ต่างๆ
๕. ร่วมกิจกรรมด้วยความเต็มใจ โดยไมม่ ใี ครบงั คับ
รวมคะแนน
เกณฑก์ ารประเมิน
คะแนนต้งั แต่ ๓ คะแนนขน้ึ ไป ผา่ น
ใช่ = ๑ คะแนน
ไม่ใช่ = ๐ คะแนน
คะแนนตา่ กวา่ ๓ ไม่ผา่ น
๑๘
แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์
หน่วยท่ี ๑ เร่อื ง การอ่านจบั ใจความสาคัญ
วันที่…………………………………………………………...
ผ้ปู ระเมนิ ครูผสู้ อน
คาชี้แจง ใส่เครื่องหมาย ลงในชอ่ งระดับคะแนนตามความคิดเหน็
ซอื่ สตั ย์ มีวนิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ มงุ่ มนั่ ใน รกั ความ รวม
เลข ช่ือ – สกลุ สจุ ริต การทางาน เป็นไทย
ที่ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๑๕
๑
๒
๓
๔
๕
๖
๗
๘
๙
๑๐
เกณฑ์การใหค้ ะแนน
พฤตกิ รรมทป่ี ฏบิ ัตชิ ัดเจนและสม่าเสมอ ๓ คะแนน
คะแนน
พฤติกรรมทปี่ ฏบิ ตั ิชดั เจนและบอ่ ยคร้งั ๒ คะแนน
พฤตกิ รรมทปี่ ฏบิ ัติบางครั้ง ๑
หมายเหตุ เกณฑ์การผ่านร้อยละ ๖๐
๑๙
ความสามารถในการ ความสามารถใน ความสามารถใน ความสามารถในการใชท้ ักษะ สรุป ระดับ
เลข สือ่ สาร
การคิด การแกป้ ญั หา ชวี ิต คุณภาพ
ที่ ๑.๑ ๑.๒ ๑.๓ ๑.๔ ๒.๒ ๒.๔ ๒.๕ ๓.๑ ๓.๔ ๓.๕ ๔.๑ ๔.๒ ๔.๓ ๔.๔ ๔.๕
๑
๒
๓
๔
๕
๖
๗
๘
๙
๑๐
๒๐
แบบทดสอบ (Google From) เร่อื ง การอา่ นจบั ใจความสาคญั
เกณฑใ์ หค้ ะแนน แบบทดสอบ เรอ่ื ง การอ่านจับใจความสาคญั
จานวนข้อท่ีตอบถูก (ขอ้ ) คะแนน
๑ ๒
๒ ๔
๓ ๖
๔ ๘
๕ ๑๐
ร้อยละ ๖๐ ผา่ นเกณฑ์
๒๑
บนั ทกึ หลงั การสอน
ผลการจดั การเรยี นรู้.............................................................................................................................................
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
ปัญหาอปุ สรรค……………………………………………………………………………………………………………………………………..
ข้อเสนอแนะ /แนวทางแก้ไข………………………………………………………………………………………………………………….
ลงชื่อ…………................……………….ผสู้ อน
(นางสาวสกุ ัญญา โนนน้อย)
นกั ศึกษาฝกึ ประสบการณ์วชิ าชีพครู
ขอ้ คิดเหน็ /ข้อเสนอแนะของครูพเ่ี ลยี้ ง
- แผนการจัดการเรยี นรู้
มีองค์ประกอบการจดั ทาแผนครบถว้ นและตรงตามหลกั สตู ร
มรี ปู แบบการสอนทเ่ี น้นผู้เรยี นเป็นสาคญั
มีส่อื การสอนที่สอดคล้องกับเนอื้ หา
มีการวัดผลประเมนิ ผลท่ตี รงกบั ตัวช้วี ดั
มีการสง่ เสริมสมรรถนะและพฒั นาคุณลักษณะอนั พึงประสงค์
- ขอ้ แนะนา
อนื่ ๆ…………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
ลงชือ่ …………….……….…………ผู้ตรวจ
๒๒
ใบความรู้ เรอื่ ง การอ่านจับใจความสาคญั
การอ่านจับใจความสาคญั คือ การอ่านเพอ่ื จบั ใจความหรอื ข้อคดิ ความคดิ สาคัญหลักของข้อความ หรือ
เรอื่ งที่อ่าน เปน็ ขอ้ ความทค่ี ลมุ ขอ้ ความอน่ื ๆในยอ่ หนา้ หนงึ่ ๆไว้ท้ังหมด
สาระสาคัญ พลความ
หมายถึง ใจความท่ีสาคัญ และ ประโยคท่ีขยายความประโยค
เด่นทีส่ ดุ ในยอ่ หน้า เป็นแก่นของยอ่ หน้าท่ี ใจความสาคัญ เป็นใจความสนับสนุน
สามารถครอบคลุมเน้ือความในประโยค ใจความสาคัญให้ชัดเจนข้ึน เพอ่ื สนับสนุน
อื่นๆ ถา้ ตัดเน้อื ความของประโยคอ่ืนออก ความคิด ส่วนที่มิใช่ใจความสาคัญ และ
หมด หรือสามารถเป็นใจความหรือ มิใช่ใจความรอง แต่ช่วยขยายความให้
ประโยคเดี่ยวๆ ได้ โดยไม่ต้องมีประโยค มากขน้ึ คือ รายละเอียด
อื่นประกอบ
หลักการจบั ใจความสาคัญ
๑. ตั้งจดุ มุง่ หมายในการอ่านใหช้ ัดเจน
๒. อา่ นเร่ืองราวอย่างคร่าวๆ พอเขา้ ใจ และเก็บใจความสาคัญของแตล่ ะย่อหน้า
๓. เมอ่ื อา่ นจบให้ตง้ั คาถามตนเองว่า เรอื่ งท่อี ่าน มีใคร ทาอะไร ท่ไี หน เมอื่ ไหร่ อย่างไร
๔. นาสงิ่ ทีส่ รปุ ไดม้ าเรยี บเรียงใจความสาคญั ใหม่ ด้วยสานวนของตนเองเพ่ือใหเ้ กดิ ความสละสลวย
๒๓
ส่อื ความรู้ Power Point เรอื่ ง การอ่านจบั ใจความสาคญั
๒๔