The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แนวคิดเชิงคำนวณ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by s12737, 2022-08-05 00:54:23

แนวคิดเชิงคำนวณ

แนวคิดเชิงคำนวณ

แนวคดิ เชงิ คำนวน(Computational Thinking)

แนวคิดเชิงคำนวณมอี งค์ประกอบทสี่ ำคัญ 4 สว่ น ไดแ้ ก่

1. แนวคดิ กำรแยกยอ่ ย (Decomposition) กำรแตกปัญหำใหญอ่ อกเป็นปญั หำย่อย ให้ปญั หำน้นั มขี นำดเลก็ ลงเพอื่ ให้
สำมำรถจัดกำรปัญหำในแตล่ ะส่วนไดง้ ำ่ ยขน้ึ

2. แนวคิดกำรหำรปู แบบ (Pattern Recognition) กำรกำนดแบบแผนหรอื รูปแบบทีม่ ีลักษณะคล้ำยคลงึ กันจำกปัญหำ
แตล่ ะส่วนย่อยต่ำง ๆ กล่ำวคอื ปัญหำยอ่ ยแตล่ ะปัญหำนน้ั สำมำรถใชร้ ปู แบบในกำรแกป้ ัญหำท่คี ลำ้ ยคลึงกนั ได้

3. แนวคิดเชิงนำมธรรม (Abstraction) กำรหำแนวคิดเชิงนำมธรรมหรือแนวคดิ รวบยอดของปญั หำ ซึ่งเป็นกำรกำหนด
หลกั กำรทวั่ ไป มุ่งเน้นเฉพำะสว่ นท่ีสำคัญของปญั หำ โดยไม่สนใจรำยละเอยี ดทไ่ี ม่จำเป็น

4. แนวคิดกำรออกแบบขั้นตอนวิธี (Algorithm Design) กำรออกแบบลำดับข้ันตอนกำรแก้ปัญหำด้วยกำรใชแ้ นวคิดกำร
ออกแบบข้ันตอนวธิ ี เปน็ แนวคดิ ที่สำมำรถนำไปใชใ้ นกำรแกป้ ัญหำทมี่ ลี กั ษณะแบบเดยี วกนั ได้

แนวคดิ เชงิ คำนวณ (Computational Thinking)

เปน็ กระบวนกำรวิเครำะห์ปัญหำ เพือ่ ให้ได้แนวทำงหำคำตอบอยำ่ งเป็นข้ันตอนที่สำมำรถนำไปปฏิบตั ิได้โดยบุคคลหรอื
คอมพิวเตอรอ์ ยำ่ งถูกตอ้ ง กำรคดิ เชงิ คำนวณ เป็นกระบวนกำรแก้ปญั หำในหลำกหลำยลกั ษณะ เช่น กำรจดั ลำดบั เชิงตรรกศำสตร์
กำรวเิ ครำะหข์ อ้ มลู และกำรสร้ำงสรรค์วธิ แี กป้ ัญหำไปทีละขัน้ รวมทัง้ กำรยอ่ ยปัญหำทชี่ ว่ ยให้รบั มือกับปัญหำท่ีซบั ซ้อนหรือมี
ลักษณะเป็นคำถำมปลำยเปดิ ได้วิธีคิดเชิงคำนวณ จะช่วยทำใหป้ ัญหำท่ีซบั ซอ้ นเข้ำใจไดง้ ำ่ ยขน้ึ เปน็ ทกั ษะที่เปน็ ประโยชนอ์ ยำ่ งยงิ่
ต่อทุก ๆ สำขำวิชำ และทกุ เรอื่ งในชวี ิตประจำวนั ซ่ึงไม่ได้จำกดั อยู่เพียงกำรคดิ ให้เหมอื นคอมพวิ เตอรแ์ ตเ่ ปน็ กระบวนกำรคิด
แกป้ ัญหำของมนุษย์ เพ่ือสั่งใหค้ อมพวิ เตอร์ทำงำนและชว่ ยแกป้ ัญหำตำมท่ีเรำต้องกำรได้อย่ำงมปี ระสิทธภิ ำพ แนวคิดเชงิ คำนวณมี
องคป์ ระกอบทส่ี ำคญั 4 ส่วน ไดแ้ ก่ กำรแบง่ ปัญหำใหญ่เปน็ ปัญหำย่อย (Decomposition) กำรพจิ ำรณำรปู แบบ (Pattern
Recognition) กำรคดิ เชิงนำมธรรม (Abstraction) กำรออกแบบอัลกอรทิ ึม (Algorithm) ในบทเรียนน้ีจะกลำ่ วเพียง กำร

กำรแยกสว่ นประกอบ และกำรยอ่ ยปัญหำ (Decomposition)

แนวคดิ เชงิ คำนวณ (Computational Thinking) เปน็ กระบวนกำรวเิ ครำะหป์ ญั หำ เพอื่ ใหไ้ ด้แนวทำงหำคำตอบอย่ำงเป็น
ขนั้ ตอนที่สำมำรถนำไปปฏบิ ัติได้โดยบคุ คลหรอื คอมพิวเตอรอ์ ย่ำงถกู ตอ้ ง กำรคิดเชิงคำนวณ เปน็ กระบวนกำรแก้ปัญหำใน
หลำกหลำยลักษณะ เช่น กำรจดั ลำดับเชิงตรรกศำสตร์ กำร
วิเครำะห์ข้อมลู และกำรสร้ำงสรรคว์ ิธแี ก้ปัญหำไปทลี ะขั้น รวมท้งั กำรย่อยปญั หำท่ชี ่วยใหร้ ับมือกับปัญหำท่ซี ับซ้อนหรอื มลี กั ษณะ
เปน็ คำถำมปลำยเปิดได้วิธีคดิ เชิงคำนวณ จะช่วยทำใหป้ ัญหำทซี่ ับซอ้ นเข้ำใจได้ง่ำยขึน้ เป็นทักษะทีเ่ ป็นประโยชน์อยำ่ งย่ิงต่อทุก ๆ
สำขำวิชำ และทกุ เรอื่ งในชีวติ ประจำวันซงึ่ ไม่ไดจ้ ำกัดอยเพียงกำรคดิ ให้เหมือนคอมพิวเตอรแ์ ต่เปน็ กระบวนกำรคดิ แกป้ ัญหำของ
มนุษย์ เพ่ือส่งั ใหค้ อมพิวเตอรท์ ำงำนและชว่ ยแก้ปญั หำตำมที่เรำต้องกำรได้อย่ำงมีประสทิ ธภิ ำพ

แนวคิดเชิงคำนวณมีองคป์ ระกอบที่สำคญั 4 สว่ น ไดแ้ ก่ กำรแบ่งปญั หำใหญ่เปน็ ปญั หำย่อย (Decomposition) กำร
พิจำรณำรูปแบบ (Pattern Recognition) กำรคดิ เชงิ นำมธรรม (Abstraction) กำรออกแบบอัลกอรทิ มึ (Algorithm) ในบทเรยี น
นจ้ี ะกลำ่ วเพียง กำรแบง่ ปญั หำใหญ่เป็นปัญหำย่อย (Decomposition) เทำ่ นน้ั โดยมีรำยละเอียดดังนี้

กำรแบง่ ปัญหำใหญเ่ ปน็ ปญั หำย่อย (Decomposition)
เปน็ กำรแยกส่วนประกอบเป็นวธิ คี ิดรูปแบบหนงึ่ ของแนวคิดเชงิ คำนวณ เปน็ กำรพิจำรณำเพอ่ื แบ่งปัญหำหรอื งำนออกเป็น
ส่วนย่อย ทำใหส้ ำมำรถ จดั กำรกบั ปัญหำหรืองำนได้งำ่ ยขึ้น กำรแตกปญั หำที่ซบั ซ้อนให้เป็นปญั หำยอ่ ยทมี่ ีขนำดเล็กลงและซบั ซอ้ น
น้อยลง เพ่ือช่วยให้กำรวิเครำะห์และออกแบบวิธีกำรแก้ปญั หำทำไดง้ ำ่ ยขึน้ ในกำรเขยี นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เช่น กำรเขียน
โปรแกรมแยกเปน็ ส่วน ๆ แยกเป็นแพก็ เกจ แยกเปน็ โมดลู หรือมองเปน็ layer หรือกำรแบ่งปญั หำเม่อื จะแก้ไขอปุ กรณ์ เช่น กำร

แยกส่วนประกอบของพัดลม แบ่งเป็นใบพดั มอเตอร์ ตะแกรงหน้ำ ขอบตะแกรง ฝำครอบ ฐำนพดั ลม เป็นต้น หรือ กำรแยก
ส่วนประกอบของรถจักรยำน แบ่งเปน็ ลอ้ หน้ำ ล้อหลัง หลงั อำน โซ่ โชค๊ แฮนด์ มือเบรก เป็นตน้ ถำ้ มองใน

กำรแบง่ ปัญหำใหญเ่ ป็นปญั หำยอ่ ย (Decomposition)

เป็นการแยกสว่ นประกอบเป็นวิธีคดิ รูปแบบหนงึ่ ของแนวคดิ เชิงคานวณ เป็นการพิจารณาเพื่อ แบง่ ปัญหาหรืองาน
ออกเป็นสว่ นยอ่ ย ทาให้สามารถ จดั การกบั ปัญหาหรืองานได้งา่ ยขนึ ้ การแตกปัญหาท่ีซบั ซ้อนให้เป็นปัญหายอ่ ยท่ีมีขนาดเลก็
ลงและซบั ซอ้ นน้อยลง เพื่อช่วยให้กำรวเิ ครำะหแ์ ละออกแบบวธิ กี ำรแกป้ ญั หำทำไดง้ ่ำยขึ้น ในกำรเขยี นโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ เช่น
กำรเขียนโปรแกรมแยกเป็นสว่ น ๆ แยกเปน็ แพ็กเกจ แยกเป็นโมดูล หรอื มองเปน็ layer หรือกำรแบ่งปญั หำเมอื่ จะแก้ไขอปุ กรณ์
เชน่ กำรแยกสว่ นประกอบของพัดลม แบง่ เป็นใบพดั มอเตอร์ ตะแกรงหน้ำ ขอบตะแกรง ฝำครอบ ฐำนพัดลม เป็นตน้ หรือ กำร
แยกสว่ นประกอบของรถจกั รยำน แบ่งเป็น ลอ้ หน้ำ ลอ้ หลงั หลังอำน โซ่ โช๊ค แฮนด์ มือเบรก เป็นต้น ถำ้ มองในรำยละเอียดของล้อ
จกั รยำนจะเหน็ วำ่ ประกอบดว้ ย ยำงล้อ วงล้อ และซล่ี วด หรือถำ้ พิจำรณำชดุ ขับเคลื่อนกจ็ ะพบว่ำประกอบด้วยเฟือง โซ่ และ
บนั ได เป็นตน้

องคป์ ระกอบของจกั รยำน
กำรแก้ปัญหำท่ีมีควำมซบั ซอ้ นทำไดย้ ำก กำรแบ่งปัญหำใหญ่ให้เป็นปญั หำยอ่ ย ๆ ทำใหม้ คี วำมซบั ซ้อนของปัญหำลดลง ช่วยให้
กำรวเิ ครำะห์และพิจำรณำรำยละเอยี ดขอปัญหำทำไดอ้ ย่ำงถถี่ ว้ น ส่งผลใหส้ ำมำรถออกแบบข้ันตอนกำรแก้ปัญหำย่อยแต่ละปญั หำ

ไดง้ ่ำยข้ึน

กรณีตวั อยา่ งการแบง่ ปัญหาใหญ่เป็นปัญหายอ่ ย

1. รถของกวิน
กวิน เป็นคณุ ครูท่ีเดก็ ๆ รัก และกาลงั จะเดนิ ทางไปโรงเรียนในเช้าของวนั นี ้แตด่ ้วยกวนิ ไมส่ ามารถสตาร์ทรถยนต์คใู่ จท่ี

ใช้ทกุ วนั ให้ตดิ ได้ เน่ืองจากเกิดปัญหา 3 ปะการ ได้แก่ เม่ือคืนเปิดไฟในรถทิง้ ไว้ทงั้ คืนอาจจะทาให้แบตเตอรี่หมด หรือ ก่อนเข้า
บ้านเขาไมไ่ ด้เตมิ นา้ มนั ให้เตม็ ถงั อาจจะเป็นไปได้วา่ นา้ มนั ในถงั เชิงเพลงิ หมด หรืออาจจะเป็นปัญหาเคร่ืองยนต์ เม่ือกวนิ
ต้องการใช้แนวคดิ เชิงคานวณแก้ปัญหาทีเ่ กิดขนึ ้ กวนิ จะสามารถแก้ปัญหาด้วยการแบง่ ปัญหาใหญ่เป็นปัญหายอ่ ย ได้ดงั นี ้

กำรแบ่งปญั หำใหญเ่ ป็นปัญหำย่อย (Decomposition)

1. แบตเตอร่ีหมด

2. นำ้ มนั เช้ือเพลิงหมด
3. เคร่ืองยนต์มีปัญหำ

2. กำรพำจรวดไปดำวองั คำร
เปน็ กิจกรรมทจ่ี ะใหจ้ รวดเดินทำงไปดำวองั คำร โดยใช้ลูกศรในกำรเดนิ กำรหมุน เพ่อื ทำภำระกิจพชิ ิตดำว

อังคำรให้สำเร็จ เพ่อื ฝึกกระบวนกำรคิดเป็นข้ันตอนของผูเ้ รยี น และกระบวนกำรแก้ปัญหำ

ส่งจรวดไปดำวอังคำร
ในชีวิตประจำวันของเรำ เรำไมไ่ ด้ใหค้ ำแนะนำตำมทีก่ ล่ำวไวว้ ่ำ "เล้ียวขวำ ก้ำวไปขำ้ งหน้ำ กำ้ วไปขำ้ งหนำ้ อีก แล้วก้ำวเลย้ี ว
ขวำ" คนส่วนใหญจ่ ะบอกว่ำตรงไปท่ีดำวอังคำร แตเ่ มือ่ เขียนโปรแกรมจะต้องเจำะจงรำยละเอยี ดกำรเดินทำงไปดำวองั คำรมำกกวำ่
ปกติ เพรำะต้องบอกคอมพิวเตอร์วำ่ จะทำอย่ำงไรในแตล่ ะขนั้ ตอน นอกจำกน้กี ำรสัง่ ใหโ้ ปรแกรมทำงำนตำมทเี่ รำตอ้ งกำรโดยระบุ
รำยละเอียดแล้ว แทนที่จะพยำยำมแก้ไขปัญหำท้ังหมด จะเหน็ ได้ว่ำเกมสง่ จรวดไปดำวองั คำร ยงั มกี ำรแบ่งกำรเขยี นโปรแกรม
ออกเป็นสว่ นย่อย ๆ ทำใหง้ ำนมนี อ้ ยลง กจ็ ะสำมำรถทำใหถ้ ึงจุดหมำยไดอ้ ยำ่ งรวดเร็วขึ้น เชน่

กำรแบ่งปัญหำใหญ่เป็นปญั หำย่อย (Decomposition)

1. เดนิ ตรงไป 2 ชอ่ ง
2. เลี้ยวขวำ
3. เดินตรงไป 3 ช่อง

3. พดั ลม

นอกจำกกำรเขยี นโปรแกรมสง่ิ ของในชวี ติ ประจำวนั เช่น จะเรียนรู้ว่ำพัดลมทำงำนอย่ำงไร กใ็ หพ้ จิ ำรณำแยกชิ้นส่วนของพดั
ลมว่ำมอี ะไรบำ้ งและศึกษำทลี ะช้ิน
3. เดนิ ตรงไป 3 ชอ่ ง

3. พดั ลม

ตวั อย่ำง กำรแยกส้ินสว่ นพัดลม

กำรแบง่ ปญั หำใหญ่เปน็ ปัญหำยอ่ ย (Decomposition) ของพดั ลม

1. มอเตอรพ์ รอ้ มกะโหลกหลังและฐำนพัดลม
2. ตะแกรงหลัง
3. ใบพัด
4. ตะแกรงหนำ้

4. กำรเดินทำง

หำกจะเดนิ ทำงไปเท่ยี วหัวหนิ จะมีกำรวำงแผนเดนิ ทำงอยำ่ งไร ซง่ึ อำจแยกยอ่ ยวธิ เี ดนิ ทำงเปน็ 4 รูปแบบ เช่น ขบั รถไป
เอง นง่ั รถทวั ร์ นั่งรถตู้ หรือนงั่ รถไฟ จำกนั้นก็มำวิเครำะหถ์ ึงข้อดีข้อเสยี แตล่ ะวิธกี ำร

กำรเลอื กกำรเดินทำง
กำรแบง่ ปญั หำใหญเ่ ป็นปญั หำย่อย (Decomposition) ของพดั ลม

1. ขับรถไปเอง
2. น่งั รถทัวร์

3. นง่ั รถตู้
4. นงั่ รถไฟ

แนวคิดเชงิ คำนวณ ท่ีเกีย่ วขอ้ งกบั กำรแบ่งปญั หำใหญเ่ ป็นปญั หำยอ่ ย (Decomposition) นั้นเปน็ กำรแตกปญั หำท่ี
ซบั ซอ้ นให้เป็นปัญหำย่อยท่มี ีขนำดเล็กลงและซับซ้อนน้อยลง เพ่ือช่วยให้กำรวิเครำะหแ์ ละออกแบบวิธีกำรแก้ปัญหำทำไดง้ ่ำยข้ึน
ทำใหค้ ิดอยำ่ งเปน็ ระบบมำกยิง่ ข้ึน โดยผ่ำนกำรแยกยอ่ ยปัญหำตำ่ ง ๆ เน่ืองดว้ ยกระบวนงำนบำงกระบวนงำน มวี ิธีกำรทที่ ำงำน
อย่ำงเป็นขนั้ ตอน และมรี ะบบยอ่ ย จงึ มคี วำมจำเปน็ ที่ต้องแยกปัญหำน้นั ออกมำเปน็ สว่ นย่อย ๆ เพื่อสำมำรถศกึ ษำปัญหำของ
กระบวนกำรไดช้ ดั เจนย่งิ ขน้ึ

เปน็ กระบวนกำรวิเครำะหป์ ญั หำ เพื่อใหไ้ ดแ้ นวทำงหำคำตอบอย่ำงเปน็ ขั้นตอนท่สี ำมำรถนำไปปฏบิ ตั ิได้โดยบุคคลหรอื
คอมพวิ เตอร์อยำ่ งถกู ตอ้ ง กำรคิดเชิงคำนวณ เปน็ กระบวนกำรแกป้ ัญหำในหลำกหลำยลกั ษณะ เชน่ กำรจดั ลำดบั เชงิ ตรรกศำสตร์
กำรวิเครำะหข์ ้อมูล และกำรสรำ้ งสรรคว์ ธิ แี กป้ ญั หำไปทลี ะขัน้ รวมทง้ั กำรยอ่ ยปญั หำทีช่ ่วยใหร้ บั มือกับปัญหำทซี่ บั ซ้อนหรือมี
ลกั ษณะเป็นคำถำมปลำยเปิดได้วธิ คี ิดเชิงคำนวณ จะชว่ ยทำใหป้ ัญหำทซี่ ับซ้อนเข้ำใจได้งำ่ ยขึน้ เป็นทกั ษะท่ีเป็นประโยชนอ์ ย่ำงย่ิง
ตอ่ ทุก ๆ สำขำวิชำ และทุกเร่อื งในชีวติ ประจำวนั ซึง่ ไม่ไดจ้ ำกดั อยเู่ พียงกำรคิดให้เหมือนคอมพิวเตอรแ์ ตเ่ ปน็ กระบวนกำรคดิ
แกป้ ัญหำของมนุษย์ เพ่อื ส่ังใหค้ อมพวิ เตอร์ทำงำนและช่วยแก้ปญั หำตำมท่ีเรำต้องกำรได้อยำ่ งมีประสิทธภิ ำพ แนวคิดเชิงคำนวณมี
องคป์ ระกอบที่สำคญั 4 สว่ น ไดแ้ ก่ กำรแบง่ ปญั หำใหญ่เปน็ ปญั หำยอ่ ย (Decomposition) กำรพจิ ำรณำรปู แบบ (Pattern
Recognition) กำรคิดเชิงนำมธรรม (Abstraction) กำรออกแบบอลั กอรทิ มึ (Algorithm) ในบทเรียนนี้จะกลำ่ วเพียง กำร
ออกแบบอัลกอริทึม (Algorithm) เท่ำนัน้ โดยมีรำยละเอยี ดดังนี้

กำรออกแบบอัลกอริทึม (Algorithm)

เป็นกำรพฒั นำกระบวนกำรหำคำตอบให้เปน็ ขั้นตอนทีบ่ ุคคลหรอื คอมพิวเตอรส์ ำมำรถนำไปปฏิบัตติ ำมเพ่อื แกป้ ัญหำได้ อกี ทั้ง เป็น
กำรพัฒนำแนวทำงแกป้ ัญหำอย่ำงเป็นขน้ั เป็นตอน เพ่อื ดำเนนิ ตำมทลี ะขัน้ ตอนในกำรแกไ้ ขปัญหำ เช่น เม่ือเรำต้องกำรสั่ง
คอมพวิ เตอรใ์ ห้ทำงำนบำงอย่ำง เรำจะต้องเขยี นโปรแกรมคำสัง่ เพอื่ ใหค้ อมพิวเตอร์ทำงำนไปตำมขน้ั ตอน ตำมแนวทำงกำร

แกป้ ัญหำเพ่ือให้คอมพวิ เตอร์ทำงำนตอบสนองควำมตอ้ งกำรของเรำ วิธคี ิดน้ที ี่เรียกวำ่ วธิ คี ิดแบบอลั กอรทิ มึ คอมพวิ เตอรจ์ ะทำงำน
ไดด้ ีเพยี งใดนั้น ขึน้ อยู่กบั ชุดคำส่ังอลั กอริทมึ ที่เรำออกแบบให้มันทำงำนนนั่ เอง กำรออกแบบอลั กอริทมึ ยงั เปน็ ประโยชนต์ อ่ กำร
คำนวณ กำรประมวลผลขอ้ มูลและกำรวำงระบบอัตโนมตั ติ ำ่ ง ๆ

กำรนำอัลกอริทึมไปใชแ้ ก้ปญั หำ ไมจ่ ำกัดเฉพำะกำรเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ แตส่ ำมำรถใชก้ บั ปัญหำอ่นื ๆ ได้
เช่นเดยี วกนั เพื่อให้เกดิ กำรใช้ทรัพยำกรอย่ำงมปี ระโยชนส์ ูงสดุ ซง่ึ จำเปน็ ตอ้ งวำงแผนอย่ำงเปน็ ระบบ เปน็ ขั้นตอน จึงจำเป็นต้อง
อำศัยอลั กอรทิ ึม ด้วย เพือ่ ให้ทรำบถึงขั้นตอนต่ำง ๆ และสำมำรถตัดทอนข้นั ตอนทเ่ี กนิ ควำมจำเป็น อีกทัง้ ยงั สำมำรถปรับปรงุ และ
เพม่ิ เติมขั้นตอนใหม่ เข้ำไปได้ ช่วยลดควำมสบั สนขณะทำงำนดว้ ย อกี ท้งั ปญั หำบำงปัญหำอำจจะมีอัลกอรทิ มึ ในกำรแกป้ ัญหำได้
หลำยวิธี นอกจำกกำรเขยี นคำสัง่ ใหค้ อมพวิ เตอร์ทำงำนตำมลำดบั ขนั้ ตอนทีเ่ รำวำงไว้ ในชีวิตประจำวันมนุษย์ก็ล้วนมีแนวคดิ กำร
ออกแบบขน้ั ตอนในกำรแกไ้ ขปัญหำ ทำใหท้ รำบว่ำจะตอ้ งทำอะไรกอ่ นอะไรหลงั เช่น กำรแตง่ ตวั มำโรงเรียน กำรทำอำหำร กำร
ทำงำนในชีวิตประจำวัน กำรเดินทำง เปน็ ต้น

คณุ สมบตั ขิ องอัลกอรทิ มึ

1. มคี วำมถูกต้อง (correctness) ควำมถูกต้องเป็นคณุ สมบัติข้อแรกทส่ี ำคญั จะต้องพจิ ำรณำ ต้องได้ผลลัพธ์ทถี่ ูกต้อง ซึง่ ถำ้
ผลลพั ธท์ ไ่ี ดจ้ ำกอัลกอริทมึ ไมถ่ กู ต้อง จะถอื วำ่ ไม่ใช่อลั กอรทิ ึมที่ดี

2. ใชเ้ วลำในกำรปฏบิ ัตงิ ำนน้อยทส่ี ุด (efficiency) อลั กอริทึมที่ดีต้องใช้เวลำในกำรปฏบิ ัติงำนนอ้ ย มีข้ันตอนในกำร
ปฏิบตั ิงำนทีถ่ ูกต้อง

3. ตอ้ งมีลำดบั ขั้นตอนท่ชี ดั เจน ในกำรประมวลผลชดุ คำสัง่ ตำ่ ง ๆ ทถ่ี กู กำหนดด้วยกฎเกณฑ์ในกำรแก้ปญั หำของ
อัลกอรทิ มึ จะต้องประมวลผลเป็นลำดับตำมขัน้ ตอน เพรำะกำรแก้ปัญหำด้วยคอมพวิ เตอรจ์ ะต้อง มีลำดับข้ันตอนท่ีแน่นอน ซงึ่ แต่
ละขนั้ ตอนของอัลกอริทมึ จะตอ้ งทำหน้ำทอี่ ย่ำงชดั เจนและต่อเนื่องโดยกำรเริ่มต้นทำงำนแต่ละขัน้ ตอนมกี ำรรับและส่งขอ้ มูล
ตอ่ เนื่องกนั ไปจนสน้ิ สดุ กำรทำงำน ถ้ำลำดบั ไม่ดีอำจจะทำให้กำรประมวลผลผดิ พลำดได้
4. ใช้เน้ือที่ในหนว่ ยควำมจำนอ้ ยท่สี ุด เนอ้ื ที่ในหนว่ ยควำมจำจะถกู ใชส้ ำหรับเกบ็ คำ่ ของตัวแปร และเก็บคำสั่งที่ใชใ้ นกำรทำงำน
ดังน้นั ถำ้ อลั กอริทึมยำวเกินควำมจำเป็น จะทำให้ใชเ้ นอ้ื ทม่ี ำก และ ถำ้ มตี วั แปรมำกเกนิ ควำมจำเป็น กจ็ ะทำใหเ้ สยี เน้ือท่ีใน
หนว่ ยควำมจำไปดว้ ย
5. มคี วำมยืดหยนุ่ ในกำรใชง้ ำน

6. ใชเ้ วลำในกำรพัฒนำน้อยทีส่ ุด เม่ือนำอัลกอริทมึ ไปแปลงเปน็ โปรแกรมภำษำคอมพวิ เตอรแ์ ล้วจะต้องใช้เวลำนอ้ ยทีส่ ดุ

7. ง่ำยต่อกำรทำควำมเข้ำใจ (readability) อ่ำนงำ่ ยเขำ้ ใจลำดับข้ันตอนได้ง่ำย มคี วำมชัดเจนของขัน้ ตอน

เคร่อื งมือช่วยในกำรเขียนอัลกอรทิ ึม

กำรออกแบบอัลกอรทิ มึ เป็นแนวทำงในกำรเขียนโปรแกรม ชว่ ยใหก้ ำรเขียนโปรแกรมทำไดง้ ่ำยขึ้น ชว่ ยให้โปรแกรมมี
ขอ้ ผดิ พลำดนอ้ ยลง นอกจำกน้ยี งั ช่วยตรวจสอบกำรทำงำนของโปรแกรม ทำใหท้ รำบขั้นตอนกำรทำงำนของโปรแกรมไดอ้ ย่ำง
รวดเรว็ โดยไม่ตอ้ งดจู ำกโปรแกรมจริงในกำรเขยี นอัลกอริทึม มเี ครอ่ื งมือช่วยในกำรเขียนทน่ี ยิ มใช้ 3 แบบ คือ

1. บรรยำย (narrative description) เป็นกำรอธิบำยแบบใชภ้ ำษำทเี่ รำสอ่ื สำรกนั ท่ัวไป เป็นกำรแสดงขน้ั ตอนกำรทำงำน
ในลกั ษณะกำรบรรยำยเปน็ ข้อควำมด้วยภำษำพูดใด ๆ เช่น ภำษำไทย ภำษำอังกฤษ ภำษำญป่ี นุ่ หรือ ภำษำจีน เป็นต้น ขนึ้ อยกู่ ับ
ควำมถนดั ของผู้เขยี นอัลกอริทึม มกั เขียนบรรยำยข้ันตอนกำรทำงำนเป็นขอ้ ๆ เช่น กำรต้มบะหม่กี ่ึงสำเรจ็ รปู

1. เทนำ้ สะอำดใส่หมอ้ และตม้ น้ำจนเดือด

2. ฉีกซองและนำบะหมี่กึง่ สำเรจ็ รูปใส่ลงในหม้อ

3. เทเครอ่ื งปรุงลงในหม้อ

4. ปดิ ฝำ

5. รอประมำณ 3 นำที

6. เทใส่ชำมรบั ประทำนได้

2. ผังงำน (flowchart) เปน็ กำรใช้รปู ภำพสัญลกั ษณ์ แทนขั้นตอนกำรเขียนโปรแกรมชว่ ยลำดบั ขนั้ ตอนกำรทำงำนของ

โปรแกรม และสำมำรถนำไปเขยี นโปรแกรมไดอ้ ย่ำงถกู ต้อง ทำให้ตรวจสอบ และแกไ้ ขโปรแกรมได้งำ่ ย เมือ่ เกิดข้อผิดพลำดช่วยให้
กำรดดั แปลง แกไ้ ข ทำได้อยำ่ งสะดวกและรวดเร็ว ผอู้ ่นื สำมำรถศึกษำกำรทำงำนของโปรแกรมได้อยำ่ งง่ำย และรวดเร็ว มำกขน้ึ

3. รหัสเทียม (pseudo code) เปน็ กำรเขียนคำอธิบำยขนั้ ตอนกำรทำงำนของโปรแกรม โดยใช้ถอ้ ยคำผสมระหวำ่ ง

ภำษำองั กฤษและภำษำกำรเขียนโปรแกรมแบบโครงสร้ำง ซ่งึ จะช่วยใหผ้ ้เู ขียนโปรแกรมสำมำรถพัฒนำขน้ั ตอนตำ่ ง ๆ ใหเ้ ปน็
โปรแกรมได้งำ่ ยข้ึน สว่ นใหญ่มักใช้คำเฉพำะ (Reserve Word) ท่ีมีในภำษำกำรเขยี นโปรแกรมและมกั เขียนดว้ ยตัวอักษรตัวใหญ่
รหสั เทียมที่ดี จะตอ้ งมคี วำมชัดเจน สัน้ และได้ใจควำม ข้อมูลต่ำง ๆ ที่ใชจ้ ะถูกเขียนอยใู่ นรปู ของตวั แปร

กำรออกแบบอลั กอริทมึ ในแนวคิดเชงิ คำนวณจึงเปน็ กำรพัฒนำกระบวนกำรหำคำตอบให้เปน็ ข้นั ตอนทบ่ี คุ คลหรอื คอมพิวเตอร์
สำมำรถนำไปปฏิบัติตำมเพือ่ แก้ปัญหำได้ อัลกอริทมึ ท่ดี ี จะต้องมีควำมถกู ต้อง ตอ้ งมีลำดับขนั้ ตอนท่ชี ดั เจน มคี วำมยดื หยนุ่ ในกำร
ใชง้ ำน ใชเ้ วลำในกำรพัฒนำน้อย และงำ่ ยต่อกำรทำควำมเข้ำใจ เครือ่ งมอื ทีจ่ ะชว่ ยให้กำรเขียนอลั กอริทึมของโปรแกรมทำได้ง่ำยขน้ึ

กำรคดิ เชิงนำมธรรม (Abstraction)

เปน็ องค์ประกอบหนงึ่ ของแนวคิดเชงิ คำนวณ ซึ่งใช้กระบวนกำรคดั แยกคุณลกั ษณะทสี่ ำคัญออกจำกรำยละเอยี ดปลีกย่อย
ในปญั หำหรอื งำนท่ีกำลังพิจำรณำ เพอ่ื ใหไ้ ด้ข้อมลู ท่จี ำเป็นและเพียงพอในกำรแกป้ ัญหำ เป็นกำรแยกรำยละเอยี ดทส่ี ำคญั และ

จำเปน็ ตอ่ กำรแกป้ ญั หำออกจำกรำยละเอียดทไ่ี ม่จำเป็น ซ่งึ รวมไปถึงกำรแทนกลุ่มของปญั หำ ขั้นตอน หรือกระบวนกำรทม่ี ี
รำยละเอยี ดปลกี ยอ่ ยหลำยขั้นตอนด้วยขั้นตอนใหมเ่ พยี งข้นั ตอนเดียว โดยจะยกตวั อยำ่ งดงั น้ี

1. กำรคิดเชงิ นำมธรรมท่เี กี่ยวขอ้ กบั รปู ทรง
จำกรปู ภำพดังกล่ำวท่ีเกดิ จำกรูปทรงกลม ได้แก่ ลอ้ ผลส้ม ลูกบำสเก็ตบอล มลี กั ษณะเปน็ รูปทรงกลม กำรคิดเชงิ นำมธรรมนคี้ อื
รูปทรงกลม นอกจำก ล้อ ผลสม้ ลกู บำสเก็ตบอล ยังมวี ตั ถุอื่น ๆ อีกมำกมำยทมี่ ลี กั ษะเปน็ ทรงกล เช่น ฝำขวดน้ำดมื่ ฟุตบอล ลูก
ปิงปอง เหรียญ เป็นตน้

2. กำรคิดเชิงนำมธรรมทเ่ี กีย่ วขอ้ กับตัวอักษร

ในหนงั สือแบบเรยี นวิทยำกำรคำนวณ ของสถำบนั สง่ เสรมิ กำรสอนวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี ระดับชัน้ มัธยมศึกษำปที ่ี 1
ได้ยกตัวอย่ำงคำว่ำ Hello

Hello แต่ละตัวจะมรี ูปแบบที่แตกตำ่ งกนั ข้นึ อยู่กับประสบกำรณท์ ี่ผ้เู ขยี นแตล่ ะคนมี จำกตัวอย่ำงจะเหน็ รำยละเอียดทแี่ ตกต่ำงกนั
เชน่ สรี ปู แบบตวั อกั ษร อกั ษรตัวพิมพ์ใหญห่ รอื ตัวพมิ พเ์ ล็กและรำยละเอียดอื่น ๆเช่นกำรขีดเสน้ ใต้หรือกำรเอยี งของตัวอักษร โดย
รูปแบบท่ีแต่ละคนมีอยู่ ถำ้ จะถำ่ ยทอดใหผ้ อู้ ่นื รับรู้และเขำ้ ใจทุกอยำ่ งแทบจะเปน็ ไปไมไ่ ดแ้ ละอำจจะไม่มีควำมจำเปน็ ทผ่ี ้อู น่ื ตอ้ งรับรู้
รำยละเอียดท้ังหมด
ในทีน่ ี้หำกผู้รับข้อมูลตอ้ งกำรทรำบวำ่ คำนี้ประกอบไปด้วยอกั ขระใดบำ้ งโดยไม่สนใจประเภทของอกั ษรตวั พมิ พเ์ ล็กหรอื พิมพ์ใหญค่ ำ
ว่ำ Hello ทกุ ตัวในตำรำงตำ่ งกม็ ีองคป์ ระกอบเชงิ นำมธรรมเดียวกันคือเป็นคำทีป่ ระกอบดว้ ยอกั ขระ H e l l และ o แต่ในบำง
สถำนกำรณ์อำจสือ่ วำ่ ขอ้ มลู ดังกลำ่ วเปน็ เพียงอักขระภำษำอังกฤษหำ้ ตวั หรอื เปน็ คำภำษำอังกฤษเพยี งหนงึ่ คำ

3. กำรคิดเชิงนำมธรรมจำกเกมเลขฐำนสอง

กำรแสดงเลขฐำนสอง (เพยี งแค่ใช้ 0 และ 1) เปน็ แนวคดิ เชิงนำมธรรมท่ซี ่อนควำมซบั ซอ้ นของอปุ กรณ์
อเิ ล็กทรอนิกสแ์ ละฮำรด์ แวร์ภำยในคอมพวิ เตอร์ที่เกบ็ ข้อมลู ส่ิงที่เป็นนำมธรรมชว่ ยใหเ้ รำทำใหง้ ่ำยข้ึนเพรำะเรำ
สำมำรถลดทอนตอ่ รำยละเอียดท่เี รำไม่จำเป็นตอ้ งรู้ ในกรณนี ี้รำยละเอยี ดที่เรำสำมำรถละเว้นได้ ได้แก่ : อปุ กรณ์
คอมพิวเตอร์ เชน่ วงจรอเิ ล็กทรอนิกส์และแรงดนั ไฟฟ้ำในวงจร เพอ่ื จดั เก็บและย้ำยข้อมูล และฟิสกิ ส์เชงิ ซอ้ นและ
ทฤษฎีทำงคณติ ศำสตร์ทเ่ี กยี่ วกบั คอมพิวเตอร์ เรำไม่จำเปน็ ตอ้ งเขำ้ ใจวำ่ วงจรเหลำ่ นีท้ ำงำนอย่ำงไรเพื่อใชข้ อ้ มลู
และแสดงสงิ่ ต่ำง ๆ โดยใช้เลขฐำนสอง กำรใชเ้ ลขฐำนสองเป็นสิ่งทีเ่ ป็นนำมธรรมของวงจรเหล่ำนีแ้ ละชว่ ยให้เรำ
สำมำรถแทนตวั เลขทีท่ ำจำกบติ (0s และ 1s) เพือ่ ทำควำมเข้ำใจขอ้ มลู และแกไ้ ขปัญหำโดยไม่ต้องคดิ เกี่ยวกับสงิ่ ที่
เกดิ ข้นึ ภำยใตเ้ คร่อื งคอมพวิ เตอร์ เรำสำมำรถใชเ้ ลขฐำนสองเพือ่ แสดงขอ้ มูลทุกประเภททีเ่ กบ็ ไวใ้ นคอมพิวเตอร์
เม่อื เรำแสดงข้อมูลรูปแบบอนื่ ๆ (เช่น ตวั อกั ษรรูปภำพและเสียง) เรำยงั ใช้นำมธรรมเพรำะเรำซ่อนรำยละเอียด
ของตวั เลขไบนำร่ที ง้ั หมดท่อี ยดู่ ำ้ นลำ่ งและเพียงแคด่ ูขอ้ มลู ทง้ั หมด ขอ้ มลู ทกุ รูปแบบถกู แสดงเป็นตวั เลข สำหรบั
ข้อควำมที่เรำมตี ัวเลขสำหรับตวั อกั ษรแตล่ ะตัวสำหรบั ภำพทีเ่ รำใช้ตวั เลขสำหรับแตล่ ะสแี ละอนื่ ๆ เรำใชส้ ิ่งทเ่ี ป็น
นำมธรรมหลำยชน้ั กำรแปลงและเปน็ ตัวแทนของเลขฐำนสองโดยใชส้ ิง่ อน่ื ๆ นอกเหนอื จำก“ 1 และ 0 ”,“ ขำว
ดำ” และ“ ปิดและเปดิ ” หำกคณุ สำมำรถเปลี่ยนคำเชน่ "ดำ" และ "ขำว" ดว้ ย 0 และ 1 โดยท่ีผูเ้ รยี นไมต่ อ้ งกงั วล
เกยี่ วกบั ควำมแตกตำ่ งผู้เรยี นก็กำลงั ใช้สงิ่ ที่เปน็ แนวคิดเชงิ นำมธรรม
4. กำรคัดแยกรำยละเอียดปลีกย่อย

แผนภำพทั้งสองใหข้ อ้ มลู เกย่ี วกับสถำนีรถไฟฟ้ำและสถำนีเชื่อมต่อ แผนภำพด้ำนซำ้ ยมอื จะแสดงรำยละเอียดของ
สถำนี ช่ือสถำนนี้ และจดุ เชอ่ื มต่อสถำนี แผนภำพด้ำนขวำจะลดทอนรำยละเอียดของสถำนแี สดงเฉพำะข้อมลู
เส้นทำงและกำรเชอ่ื มตอ่ ของรถไฟฟำ้ ในกำรใช้แผนภำพทัง้ สอง หำกผใู้ ชต้ ้องกำรทรำบตำแหน่งของสถำนรี ถไฟฟำ้
แผนภำพด้ำนซำ้ ยมอื จะเหมำะสมกวำ่ แผนภำพขวำมือ แต่สำหรับผใู้ ชง้ ำนเพื่อกำรเดนิ ทำงในชีวติ ประจำวัน

แผนภำพด้ำนขวำมือจะเหมำะสมกวำ่ ดังนนั้ แบบจำลองที่ดีตอ้ งมรี ำยละเอียดทเี่ หมำะสมกับควำมตอ้ งกำรกำรใช้
งำนของผูใ้ ช้
5. กำรอธบิ ำยปัญหำโดยใช้รำยละเอยี ด และแบบซอ่ นรำยละเอียด

ปญั หำประกอบดว้ ยรำยละเอียดทห่ี ลำกหลำยโดยมที ั้งรำยละเอยี ดท่ีจำเปน็ และไมจ่ ำเป็นตอ่ กำรแก้ปัญหำ
กำรคดิ เชงิ นำมธรรมเป็นกำรคดั แยกรำยละเอยี ดทไ่ี มจ่ ำเปน็ ออกจำกปัญหำทีพ่ ิจำรณำอยู่ ทำให้สำมำรถเข้ำใจ
วิเครำะห์ และออกแบบวธิ ีกำรแก้ปญั หำในภำพรวมไดง้ ่ำยขึ้น กำรคิดเชิงนำมธรรมยังรวมถึงกำรซ่อนรำยละเอียด
โดยกำรแทนกลุ่มของปัญหำขน้ั ตอนและกระบวนกำรทมี่ ีรำยละเอียดปลกี ยอ่ ยหลำยขัน้ ตอน ให้เปน็ ขน้ั ตอนเดียว
เพอ่ื ใหส้ ำมำรถอธบิ ำยวิธีแก้ปัญหำไดก้ ระชบั ขึ้นดังตัวอยำ่ งต่อไปน้ี
กำรอธิบำยปัญหำโดยใชร้ ำยละเอียด

วำดตวั บ้ำนดว้ ยส่เี หลี่ยมจตั รุ สั สีเหลอื ง ขนำดดำ้ นละ 50 หน่วย ตง้ั อย่ตู ำแหน่งมุมล่ำงซ้ำยที่พิกัด (120,90)
ดำ้ นบนของส่ีเหลี่ยมวำดหลงั คำเป็นรปู สำมเหลี่ยมดำ้ นเท่ำสเี ขียวขนำดดำ้ นละ 50 หน่วย
กำรอธบิ ำยปญั หำแบบซ่อนรำยละเอียด

ขนำด 50 หน่วย ตัวบ้ำนสเี หลือง หลังคำสีเขียว ต้งั อย่ตู ำแหนง่ (120,90)
แนวคิดนำมธรรมจึงเป็นองค์ประกอบหน่ึงของแนวคดิ เชงิ คำนวณ ซ่ึงใช้กระบวนกำรคดั แยกคุณลกั ษณะทสี่ ำคัญออกจำก
รำยละเอียดปลกี ยอ่ ย ในปญั หำหรอื งำนท่กี ำลังพจิ ำรณำ เพอ่ื ใหไ้ ด้ขอ้ มลู ท่ีจำเปน็ และเพียงพอในกำรแก้ปญั หำ แนวคิดนำมธรรม
บำงอย่ำงอำจจะอยใู่ นรูปแบบของรูปรำ่ งหรอื รปู ทรง ควำมแตกตำ่ ง ควำมเหมือนรูปแบบอักขระ กำรแทนสญั ลักษณต์ ่ำง ๆ เชน่
กำรแทน 0 1 ของเลขฐำนสอง กำรคัดแยกรำยละเอยี ดปลกี ย่อยทไ่ี มจ่ ำเปน็ ตอ่ กำรตัดสินใจหรือกำรใช้งำน เช่น กำรใช้แผนที่ กำร
คำนวณระยะทำง กำรวำดแผนทกี ำรเดินทำงไป ณ จดุ หมำยใดจดุ หมำยหนึ่ง กำรเดินทำงด้วยรถไฟฟ้ำ หรือแม้แต่กำรอธิบำยปัญหำ
โดยใช้รำยละเอียดและแบบซอ่ นรำยละเอียด ลว้ นเป็นแนวคดิ เชิงนำมธรรมทอี่ ยู่ในชีวติ ประจำวนั ทั้งส้นิ

สะพำนเจ็ดแห่งของโคนิสเบริ ก์

กำรพิจำรณำรูปแบบ (Pattern Recognition)

เป็นกำรหำรปู แบบซ่งึ เป็นทักษะกำรหำควำมสมั พนั ธ์ท่ีเก่ียวข้อง แนวโน้ม และลักษณะ ท่วั ไปของส่ิงตำ่ ง ๆ โดยทวั่ ไปแลว้
ผู้เรียนจะเร่มิ พิจำรณำปญั หำหรอื สิ่งที่สนใจ จำกนนั้ อำจใช้ทักษะกำรแยกสว่ นประกอบทำให้ได้องค์ประกอบภำยในอืน่ ๆ แล้วจึงใช้
ทักษะกำรหำรปู แบบเพื่อสร้ำงควำมเข้ำใจระหว่ำงองค์ประกอบเหลำ่ นน้ั โดยพิจำรณำว่ำเคยพบปัญหำลกั ษณะน้ีมำก่อนหรอื ไม่

หำกมีรูปแบบของปัญหำที่คลำ้ ยกนั สำมำรถนำวธิ กี ำรแก้ปัญหำนัน้ มำประยกุ ต์ใช้ และพจิ ำรณำรปู แบบปัญหำย่อยซึ่งอยู่ภำยใน
ปญั หำเดยี วกนั ว่ำมสี ่วนใดท่เี หมือนกัน เพอื่ ใช้วธิ กี ำรแก้ปัญหำเดยี วกนั ได้ ทำใหจ้ ัดกำรกับปัญหำไดง้ ่ำยขึน้ และกำรทำงำนมี
ประสิทธภิ ำพเพ่ิมขึน้ เช่น ในสว่ นประกอบของจักรยำนผ้เู รียนจะพบว่ำระบบขับเคลื่อนประกอบด้วยเฟืองหน้ำ และเฟืองหลงั เช่อื ม
กันดว้ ยโซ่จักรยำนมีลักษณะเหมือนระบบรอก ดังนั้น ถำ้ นักเรยี นทรำบถงึ คณุ สมบัติกำรทดแรงของระบบรอกดังกล่ำว นกั เรียนกจ็ ะ
เขำ้ ใจกำรทดแรงของระบบขบั เคลื่อนของจักรยำน เช่นเดียวกนั ในกรณี กำรหำรูปแบบเกิดขน้ึ เมื่อผู้เรียนเปรยี บเทียบสง่ิ ทสี่ นใจกับ
ส่ิงอนื่ ทเี่ คยทรำบมำกอ่ น

เฟอื งหนำ้ และเฟืองหลงั

แบบรปู (Pattern)

เปน็ กำรแสดงควำมสัมพันธ์ของสงิ่ ต่ำง ๆ ทมี่ ีลักษณะสำคัญบำงอยำ่ งรว่ มกันอย่ำงมีเง่อื นไข ซึ่งสำมำรถอธบิ ำย
ควำมสัมพันธเ์ หล่ำนนั้ ได้โดยใชก้ ำรสงั เกต กำรวิเครำะห์ หำเหตผุ ลสนับสนุนจนไดบ้ ทสรปุ อนั เป็นท่ียอมรับได้ แบบรปู นบั เป็น
ปัจจัยพื้นฐำนอันหนง่ึ ในกำรชว่ ยคิดแกป้ ัญหำต่ำง ๆ ในชวี ติ ประจำวันโดยท่เี รำได้เคยพบเหน็ และได้ผำ่ นกำรใชก้ ระบวนกำรคิด
วิเครำะห์ด้วยเหตุดว้ ยผลกับแบบรปู ในลกั ษณะต่ำง ๆ กันมำแลว้ แบบรูปท่จี ะกลำ่ วถงึ นีเ้ ปน็ แบบรูปในลกั ษณะตำ่ ง ๆ เพอื่ ใหเ้ หน็
รูปแบบของกำรจดั ลำดบั และกำรกระทำซำ้ อย่ำงต่อเน่ืองเพ่ือจะไดใ้ ชก้ ำรสังเกต กำรวเิ ครำะห์ กำรให้เหตุผลในกำรบอก
ควำมสัมพันธ์ของ ส่ิงต่ำง ๆ ทพ่ี บเห็นได้อย่ำงถกู ต้องจนถงึ ขน้ั สรปุ เป็นกฎเกณฑ์

ควำมสัมพนั ธข์ องแบบรูป
โดยทว่ั ไปในคณิตศำสตรจ์ ะพบเหน็ กำรใช้แบบรูปในเรื่องของจำนวน รปู ภำพ รูป เรขำคณิตจำกแบบรูปของจำนวนเรำสำมำรถ
เขยี นแสดงควำมสัมพันธ์โดยใช้ตัวแปร และสมบตั ิของกำรเทำ่ กนั สรำ้ งสมกำรเพ่ือใชแ้ ก้ปัญหำได้ จำกเงอื่ นไขข้ำงตน้ สรปุ ได้วำ่
แบบรูปจึงเปน็ รูปร่ำง หรือลักษณะของสง่ิ ต่ำง ๆ ท่นี ำมำประกอบกันตำมควำมสมั พนั ธร์ ะหวำ่ งส่งิ เหลำ่ น้นั

ในทำงวทิ ยำกำรคำนวณ กำรหำรูปแบบจึงเปน็ กำรหำรปู แบบที่เหมอื นและแตกตำ่ งกันระหว่ำงสิง่ ของตำ่ ง ๆ ทสี่ นใจหลำยชนิ้ กำร
พจิ ำรณำรปู แบบนีจ้ ะช่วยระบุองคป์ ระกอบสำคัญรว่ มกนั ของสิ่งของเหล่ำนนั้ ไดซ้ ึ่งจะเปน็ พน้ื ฐำนในกำรสรำ้ งควำมเขำ้ ใจเชิง
นำมธรรม เช่น

เมำส์ จะเหน็ วำ่ เมำสน์ ัน้ มรี ูปลกั ษณ์ภำยนอกทแ่ี ตกตำ่ งกันออกไปแต่สังเกตได้วำ่ รปู แบบกำรใช้งำนน้นั เหมือนกนั คือสำมำรถ
บังคบั ตำแหน่งตัวชีไ้ ด้โดยกำรขยับเมำส์และใชก้ ดหรือสมั ผสั บนปุม่ เมำส์เพอ่ื กระทำกำรสิ่งใดส่ิงหนึง่ ตำมที่โปรแกรมไว้
นอกจำกกำรหำรปู แบบของส่งิ ของแล้ว นกั เรียนยงั สำมำรถหำรูปแบบทเี่ หมือนกนั ของปญั หำไดด้ ้วยลองพิจำรณำกำรค้นหำข้อมูล
ภำยใตส้ ถำนกำรณ์ต่อไปน้ี โรงเรียนแห่งหนง่ึ มีนกั เรยี นชน้ั ม.4 จำนวน 200 คน ครูไดน้ ำสมดุ กำรบำ้ นวิชำคณิตศำสตรม์ ำคนื
นกั เรียนตอ้ งกำรคน้ หำสมดุ ของตนเองจำกกองสมดุ นน้ั ในกำรค้นหำ อำจเริม่ จำกกำรพิจำรณำสมุดเล่มท่อี ยูบ่ นสดุ ถ้ำพบวำ่ เปน็
สมดุ ของตนเอง นกั เรยี นก็สำมำรถหยิบสมุดเลม่ นั้นแลว้ จบกระบวนกำรคน้ หำ ถำ้ ไมใ่ ช่ กต็ อ้ งคน้ หำในกองสมุดท่ีเหลือตอ่ ไปอีก 199
เลม่

สังเกตว่ำหลังจำกพิจำรณำสมดุ หน่งึ เล่มแลว้ ปัญหำทเี่ หลอื อยู่กค็ งเปน็ ปญั หำกำรคน้ หำสมดุ จำกกองสมุดกำรบำ้ นเชน่ เดมิ
แตม่ ีจำนวนสมดุ ในกองทต่ี ้องคน้ หำนอ้ ยลง นอกจำกนี้ เม่ือนกั เรียนพิจำรณำสมดุ เลม่ ต่อไปและพบว่ำไมใ่ ช้เลม่ ท่ตี ้องกำรอีก แม้ว่ำ
จำนวนสมดุ ในกองทตี่ ้องค้นหำจะลดลง แตป่ ัญหำทเี่ หลอื อย่กู ็ยังคงเป็นปญั หำทีม่ รี ูปแบบไม่แตกตำ่ งจำกปัญหำเดมิ เท่ำใดนัก ถ้ำใช้
แนวคิดแบบแยกองค์ประกอบ นกั เรยี นจะพบปัญหำกำรคน้ หำสมุดจำกกองสมุด 200 เลม่ นนั้ ประกอบด้วยปัญหำยอ่ ยๆ อีกหลำย
ปัญหำ คอื ปัญหำกำรหำสมดุ จำกกองสมุด 199 เล่ม ปญั หำกำรหำสมุดจำกกองสมุด 198 เลม่ ไปเรื่อยๆ เปน็ ตน้ และปญั หำย่อย
เหล่ำนร้ี ปู แบบทเี่ หมือนกนั โดยมีควำมแตกต่ำงกนั ทจ่ี ำนวนสมดุ เท่ำน้ัน
เมือ่ พบวำ่ ปัญหำมรี ปู ท่ีเหมือนกัน นักเรียนจะสำมำรถใชว้ ิธีกำรแบบเดียวกันในกำรแก้ปญั หำทง้ั หมดได้

ดงั น้นั กำรพิจำรณำรูปแบบ เปน็ กำรหำรูปแบบซ่งึ เปน็ ทกั ษะกำรหำควำมสมั พนั ธท์ ี่เกี่ยวข้อง แนวโน้ม และลกั ษณะ ท่วั ไปของ
สิ่งตำ่ ง ๆ กำรหำรปู แบบเพอื่ สร้ำงควำมเขำ้ ใจระหวำ่ งองค์ประกอบเหลำ่ น้นั เชน่ กำรจดั หมวดหมู่สตั ว์ท่ีคลำ้ ยคลึงกนั ให้อย่ใู นสปี
ชสี เ์ ดยี วกัน เพอ่ื ให้ง่ำยตอ่ กำรศกึ ษำ กำรหำพฤตกิ รรมกำรบรโิ ภคของคน ว่ำนยิ มซ้ืออะไร ช่วงเวลำไหน มรี ปู แบบพฤตกิ รรมซ้ำ ๆ
อะไรบำ้ ง ควำมสมั พนั ธ์ของเฟืองหน้ำ และเฟืองหลัง ของรถจกั รยำนทเ่ี ชอื่ มกันด้วยโซ่จักรยำนมีลักษณะเหมือนระบบรอก สงิ่ ของ
เช่นมำส์นัน้ มรี ูปลักษณ์ภำยนอกที่แตกต่ำงกนั ออกไปแต่สังเกตได้วำ่ รูปแบบกำรใช้งำนนั้นเหมือนกัน กำรเขยี นโปรแกรมทที่ ำซ้ำ ๆ
กันหลำย ๆ ครัง้ จะมลี ักษณะรปู แบบทีเ่ หมือนกัน รูปแบบของปัญหำทคี่ ลำ้ ยกันสำมำรถนำวธิ กี ำรแก้ปญั หำมำประยกุ ต์ใช้ เพ่ือใช้
วธิ ีกำรแก้ปัญหำเดยี วกันได้

กำรแยกสว่ นประกอบ และกำรย่อยปัญหำ (Decomposition)

แนวคดิ เชงิ คำนวณ (Computational Thinking) เปน็ กระบวนกำรวิเครำะห์ปญั หำ เพ่ือให้ได้แนวทำงหำคำตอบอย่ำงเป็น
ขัน้ ตอนทสี่ ำมำรถนำไปปฏิบตั ิได้โดยบุคคลหรอื คอมพิวเตอร์อย่ำงถกู ตอ้ ง กำรคดิ เชงิ คำนวณ เปน็ กระบวนกำรแกป้ ัญหำใน
หลำกหลำยลกั ษณะ เชน่ กำรจัดลำดบั เชงิ ตรรกศำสตร์ กำรวิเครำะหข์ อ้ มูล และกำรสร้ำงสรรคว์ ธิ แี ก้ปัญหำไปทลี ะขัน้ รวมทัง้ กำร
ย่อยปัญหำทีช่ ่วยใหร้ บั มือกบั ปญั หำท่ีซับซอ้ นหรือมลี ักษณะเปน็ คำถำมปลำยเปดิ ได้วิธคี ิดเชงิ คำนวณ จะชว่ ยทำให้ปัญหำทีซ่ บั ซอ้ น
เขำ้ ใจไดง้ ำ่ ยข้นึ เปน็ ทกั ษะท่เี ป็นประโยชน์อย่ำงยิง่ ตอ่ ทกุ ๆ สำขำวิชำ และทุกเรอ่ื งในชวี ิตประจำวนั ซ่ึงไม่ไดจ้ ำกดั อยเู่ พียงกำรคิดให้
เหมือนคอมพวิ เตอร์แต่เป็นกระบวนกำรคดิ แก้ปญั หำของมนุษย์ เพื่อสั่งให้คอมพวิ เตอร์ทำงำนและชว่ ยแกป้ ัญหำตำมทีเ่ รำตอ้ งกำร
ได้อยำ่ งมีประสิทธิภำพ

แนวคดิ เชงิ คำนวณมีองค์ประกอบที่สำคญั 4 สว่ น ไดแ้ ก่ กำรแบง่ ปญั หำใหญเ่ ปน็ ปญั หำยอ่ ย (Decomposition) กำรพจิ ำรณำ
รปู แบบ (Pattern Recognition) กำรคดิ เชิงนำมธรรม (Abstraction) กำรออกแบบอลั กอรทิ ึม (Algorithm) ในบทเรยี นนจี้ ะ
กลำ่ วเพยี ง กำรแบง่ ปัญหำใหญเ่ ป็นปัญหำย่อย (Decomposition) เทำ่ นน้ั โดยมรี ำยละเอียดดงั นี้

สว่ นท่ี 1 กำรแบ่งปัญหำใหญ่เปน็ ปัญหำยอ่ ย (Decomposition)

เปน็ กำรแยกส่วนประกอบเปน็ วิธีคิดรูปแบบหนงึ่ ของแนวคิดเชิงคำนวณ เป็นกำรพจิ ำรณำเพ่ือ แบง่ ปญั หำหรอื งำนออกเปน็
สว่ นยอ่ ย ทำใหส้ ำมำรถ จัดกำรกบั ปญั หำหรอื งำนไดง้ ำ่ ยขนึ้ กำรแตกปัญหำที่ซบั ซ้อนให้เป็นปญั หำยอ่ ยทมี่ ีขนำดเล็กลงและซบั ซ้อน
นอ้ ยลง เพอ่ื ชว่ ยให้กำรวิเครำะห์และออกแบบวิธีกำรแกป้ ัญหำทำได้ง่ำยขน้ึ ในกำรเขียนโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ เชน่ กำรเขียน
โปรแกรมแยกเป็นส่วน ๆ แยกเป็นแพก็ เกจ แยกเปน็ โมดลู หรอื มองเปน็ layer หรือกำรแบง่ ปัญหำเมอ่ื จะแก้ไขอุปกรณ์ เชน่ กำร
แยกส่วนประกอบของพัดลม แบ่งเป็นใบพัด มอเตอร์ ตะแกรงหน้ำ ขอบตะแกรง ฝำครอบ ฐำนพดั ลม เปน็ ต้น หรือ กำรแยก
สว่ นประกอบของรถจกั รยำน แบ่งเป็น ล้อหนำ้ ล้อหลงั หลงั อำน โซ่ โชค๊ แฮนด์ มือเบรก เป็นต้น ถำ้ มองในรำยละเอยี ดของลอ้
จักรยำนจะเห็น วำ่ ประกอบดว้ ย ยำงลอ้ วงล้อ และซ่ลี วด หรือถำ้ พิจำรณำชุด ขบั เคลอ่ื นก็จะพบว่ำประกอบดว้ ยเฟอื ง โซ่ และ
บนั ได เป็นต้น

ภำพที่ 1 แนวคิดเชิงคำนวณ

กรณศี ึกษำ

กรณีศึกษำทำงธรุ กจิ นำเสนอตัวอย่ำงผลงำนทปี่ ระสบควำมสำเร็จในอดตี เพื่อดงึ ดดู ธรุ กจิ ใหมๆ่ กรณีศกึ ษำเป็นรูปแบบเนือ้ หำท่ีมี
ประสทิ ธิภำพมำก ซ่ึง 73% ของลูกคำ้ จะอำ้ งอิงกรณีศกึ ษำก่อนทำกำรตัดสนิ ใจซ้ือแบบ B2B

กรณีศกึ ษำท่วั ไปเรม่ิ ตน้ ดว้ ยกำรอธบิ ำยเปำ้ หมำยของโครงกำร จำกนน้ั จะแสดงกำรดำเนินกำรของบรษิ ัทเพอื่ ใหบ้ รรลุเปำ้ หมำย โดย
นำเสนอขอ้ มลู เชิงคุณภำพและเชงิ ปรมิ ำณทแ่ี สดงใหเ้ ห็นถงึ ควำมสำเร็จที่วดั ผลได้ ควรเปน็ ในรปู แบบของรำยงำนที่ออกแบบมำ
อยำ่ งดหี รอื วดิ ีโอท่ีแชร์บนเว็บไซตข์ องบรษิ ทั ในรูปแบบสิ่งพิมพ์ หรือในช่องทำงโซเชียลมีเดยี

ขั้นตอนแรก

ตัดสนิ ใจตั้งแตเ่ น่นิ ๆ วำ่ คุณต้องกำรจะแสดงอะไรพรอ้ มกับกรณีศึกษำนแ้ี ละกรณีใดที่จะเปน็ เครื่องพิสูจน์คุณคำ่ ของบรษิ ทั
ของคณุ ได้ดที ่สี ุด โครงกำรนีจ้ ะสร้ำงแรงบันดำลใจให้ผคู้ นท่ที ำงำนร่วมกับคุณไดอ้ ยำ่ งไร เร่มิ ตน้ ดว้ ยเหตุผลทลี่ ูกค้ำจ้ำงบริษทั ของ
คุณ คุณถูกขอให้แก้ปญั หำอะไร

ทำกำรขออนุญำตและสัมภำษณ์

ตรวจสอบให้แน่ใจวำ่ ลูกค้ำสะดวกใจท่ีจะนำข้อมูลไปไวใ้ นกรณศี ึกษำของคุณ คณุ จะตอ้ งแชร์ข้อมลู นเี้ ปน็ แบบสำธำรณะ ดังน้ัน
กำรอนุมตั ิของลูกค้ำจึงเป็นส่งิ สำคญั ในขณะทคี่ ุณอยู่กบั ลูกคำ้ คุณอำจขอสัมภำษณห์ รอื คำรับรองเปน็ ลำยลกั ษณอ์ กั ษร อยำ่ ดเู บำ
คำพดู โดยตรงจำกลูกคำ้ ทม่ี ีควำมสุข ซง่ึ 95% ของผู้ซือ้ จะขึน้ อยกู่ ับกำรรีวิวก่อนทำกำรตดั สินใจซือ้

รวบรวมหลกั ฐำน

รวบรวมข้อมลู เชิงปรมิ ำณหรือกำรวจิ ยั เชงิ คุณภำพท่ีจะพิสจู นค์ วำมสำเรจ็ ของควำมรว่ มมือครั้งน้ี ไมว่ ่ำจะมำในรูปแบบของเงนิ
ท่ไี ด้รับมำ หนว่ ยทย่ี ำ้ ยไป หรอื กำรสร้ำงรอยยิม้ น่ันคือสง่ิ สำคญั คือตอ้ งแสดงผลลัพธ์ออกมำ

เลอื กสือ่ สำหรบั กรณีศกึ ษำ

วิธกี ำรนำเสนอเรื่องรำวควำมสำเร็จของคณุ ขึน้ อยูก่ บั ลกั ษณะธุรกจิ ของคณุ รวมถงึ เวลำและพลังงำนท่ีคุณยินดที จี่ ะทมุ่ เทให้

กรณศี กึ ษำสำหรบั เวบ็

ธรุ กิจจำนวนมำกเผยแพรก่ รณศี กึ ษำบนเว็บไซตข์ องตวั เอง เนอื่ งจำกบญั ชีของมือถือมสี ัดส่วนมำกกว่ำ 50% ของกำรเข้ำชม
เว็บ กำรใช้เว็บเพอ่ื สร้ำงกรณศี กึ ษำด้วยกำรออกแบบทตี่ อบสนองทนั ใจเพื่อให้เหมำะกับขนำดหนำ้ จอตำ่ งๆ จงึ เปน็ สงิ่ สำคญั เนอ้ื หำ
บนเวบ็ ยังใหค้ ุณรวมไฮเปอรล์ ิงก์ไปยงั บรกิ ำร หน้ำขอ้ มลู ติดตอ่ และตัวอยำ่ งอ่ืนๆ ของงำนทีผ่ ำ่ นมำ คณุ ยังสำมำรถเพิ่มเนือ้ หำกำร
เคล่ือนไหวในรปู แบบของภำพเคล่อื นไหวหรือวดิ ีโอท่รี ับรองแบบฝงั ได้

กรณศี กึ ษำสำหรบั กำรพมิ พ์

หำกคุณคดิ วำ่ ผทู้ ่มี ีโอกำสเป็นลกู คำ้ ตอ้ งกำรเรียนรเู้ ก่ียวกับคุณผำ่ นกรณศี ึกษำท่พี มิ พอ์ อกมำ คณุ สำมำรถปรบั เปลย่ี น
กรณศี กึ ษำทำงเว็บสำหรับกำรพมิ พแ์ ละเพ่ิมเป็นเวอร์ชัน PDF ที่ดำวนโ์ หลดได้ลงในเวบ็ ไซตข์ องคณุ

กรณศี กึ ษำสำหรบั วดิ โี อ

หำกคุณทำงำนในสื่อ หรือหำกเป็นฟุตเทจวดิ ีโอที่เกย่ี วขอ้ งกับงำนของคุณ คุณควรจะทำกำรสรำ้ งวิดีโอ หำกลูกค้ำของคุณยนิ ดที ่จี ะ
ใหส้ ัมภำษณ์ ใหบ้ นั ทกึ คำรับรองของลกู ค้ำและตดั ต่อเปน็ วิดีโอกรณีศกึ ษำทนี่ ่ำสนใจ
เคลด็ ลบั ในกำรเขยี นกรณศี กึ ษำท่ดี ี

บอกเลำ่ เร่ืองรำวดีๆ

ร่ำงเรอื่ งรำวและค้นหำส่วนที่นำ่ สนใจของกำรเลำ่ เรื่อง คณุ มีหนำ้ ทีท่ ำอะไรบ้ำง คณุ ทำไดอ้ ย่ำงไร คุณตอ้ งมคี วำมรเู้ บอื้ งต้น
เก่ยี วกบั อะไรบ้ำง เขำ้ ประเดน็ เพอ่ื ดงึ ดดู ผู้อำ่ นหรือผูช้ มใหเ้ ขำ้ มำแล้วดึงควำมสนใจของพวกเขำไว้
ใชภ้ ำพทด่ี งึ ดูดและชว่ ยบอกเล่ำเร่ืองรำว หลกี เล่ียงกำรนำเสนอสถิติทีพ่ น้ื ๆ มำกเกินไปหรือแผนภูมิและกรำฟทอี่ ่ำนยำก เพรำะจะ
ทำให้ผชู้ มของคุณเบ่ือหน่ำย อินโฟกรำฟิกสำมำรถแสดงขอ้ มูลในวิธที น่ี ่ำสนใจและทำให้เข้ำใจในจดุ ท่ีโซลชู นั ของคณุ เปน็ โซลชู นั ท่ดี ี
ทส่ี ดุ

เคล็ดลับในกำรเขียนกรณีศึกษำทีด่ ี

บอกเล่ำเรือ่ งรำวดีๆ
รำ่ งเร่อื งรำวและคน้ หำส่วนท่ีน่ำสนใจของกำรเล่ำเรอ่ื ง คุณมีหน้ำทท่ี ำอะไรบ้ำง คุณทำได้อยำ่ งไร คุณตอ้ งมคี วำมรเู้ บ้อื งต้น

เกีย่ วกบั อะไรบำ้ ง เขำ้ ประเดน็ เพื่อดงึ ดูดผอู้ ำ่ นหรือผู้ชมใหเ้ ข้ำมำแลว้ ดึงควำมสนใจของพวกเขำไว้
ใชภ้ ำพที่ดงึ ดูดและชว่ ยบอกเล่ำเรอ่ื งรำว หลีกเล่ียงกำรนำเสนอสถิตทิ พี่ น้ื ๆ มำกเกินไปหรอื แผนภมู ิและกรำฟท่อี ำ่ นยำก เพรำะจะ
ทำให้ผู้ชมของคณุ เบื่อหน่ำย อินโฟกรำฟกิ สำมำรถแสดงขอ้ มูลในวธิ ที ่ีนำ่ สนใจและทำให้เข้ำใจในจดุ ทีโ่ ซลูชันของคณุ เป็นโซลูชนั ทด่ี ี
ทสี่ ดุ

เนน้ ใหเ้ หน็ ผลลัพธข์ องคุณ

ใชอ้ งค์ประกอบกำรออกแบบเพ่อื ทำให้ควำมสำเรจ็ ท่ยี ิ่งใหญ่ของคณุ ดูโดดเด่น เชน่ เดยี วกบั ทคี่ ณุ ทำกบั ทุกรำยงำน เน้นใชส้ ี
และพน้ื ทส่ี ีขำว คำพูดที่มอี ทิ ธิพล และภำพตำ่ งๆ ที่สนับสนนุ กรณีของคุณ สำหรับกรณีศกึ ษำวิดโี อและเว็บ ให้ใชภ้ ำพเคล่อื นไหว
เพื่อดงึ ดดู ควำมสนใจไปทปี่ ระเดน็ ทีส่ ำคัญที่สุดของคุณ
เพิม่ คำกระต้นุ กำรตัดสินใจ
แนะนำใหผ้ ู้อ่ำนมีส่วนรว่ มกบั บริกำรของคณุ โดยอำจใช้ลิงก์หรอื หมำยเลขโทรศัพท์ที่เช่อื มตอ่ กับทมี ขำยของคุณ กระตุ้นให้เกิด
ควำมประทบั ใจทคี่ ุณสำมำรถทำใหพ้ วกเขำได้เหมอื นกบั ทคี่ ณุ ทำได้ในโครงกำรท่ีโดดเด่น

ตวั อย่ำงกรณีศกึ ษำ

แตล่ ะตวั อย่ำงตอ่ ไปนแ้ี สดงใหเ้ ห็นถึงวิธกี ำรของกรณีศึกษำท่ปี ระสบควำมสำเร็จ ประเภทของกรณีศึกษำและผลงำนที่สรำ้ งขึน้ ท่ี
ขบั เคล่อื นธรุ กจิ ใหมๆ่

กำรออกแบบโลโกข้ อง Philly Koji Co.

ในกรณศี ึกษำทเ่ี น้นกำรออกแบบนี้ นกั ออกแบบ James Viola ได้บอกเล่ำเร่อื งรำวของกำรสร้ำงเครอื่ งหมำยโลโกส้ ำหรบั
บริษทั ใหม่ Viola ได้ทำงำนร่วมกับเจำ้ ของธุรกจิ เพื่อจำกดั แนวควำมคิดให้แคบลงกอ่ นท่ีจะกำ้ วไปสู่ภำพร่ำง หลังจำกกำรเรม่ิ ต้นที่
ผิดพลำดไมก่ ี่

แอปจำหนำ่ ยต๋วั บนมือถือแบบเคลือ่ นที่

กรณศี กึ ษำบนเว็บนใ้ี ชข้ ้อควำม ภำพถำ่ ย ภำพวำดโครงร่ำง และภำพหน้ำจอได้อยำ่ งมปี ระสิทธิภำพ นำเสนอควำมท้ำทำย
อยำ่ งชัดเจน ครอบคลมุ กำรวิจยั โดยสังเขป แล้วจำกนนั้ จงึ จะแสดงผลงำน ตัง้ แตโ่ ครงร่ำงไปจนถงึ กำรออกแบบไปจนถงึ กำรยอมรับ
กำรพสิ ูจน์ควำมสำเร็จของโครงกำรนี้นน้ั ชัดเจนและวดั ผลได้โดยตรงจำกกำรใหค้ ะแนนของผใู้ ชแ้ อป

บล็อก Virgin Atlantic

กรณศี กึ ษำส่ีหนำ้ นี้มีเนอ้ื หำไม่ซับซอ้ นและโน้มน้ำวใจได้ ดว้ ยกำรถำ่ ยภำพไลฟ์สไตล์ กำรใช้สีหลกั ของแบรนด์ อินโฟกรำฟิกท่ี
อ่ำนง่ำย และคำพดู ทม่ี อี ิทธิพลจำกผทู้ ี่ถอื ผลประโยชน์ร่วม ทำให้กำรศกึ ษำนี้เป็นกรณที ่เี ชื่อถือได้เพรำะมีข้อมลู จริงมำสนับสนนุ

วดิ ีโอกำรรแี บรนด์ระดับโลกของ MTV Networks

กรณศี ึกษำนจ้ี ะรวมภำพเคล่ือนไหว ขอ้ ควำม และวิดโี อเพอ่ื นำเสนอ Mood Swing ท่ีเปน็ กำรรแี บรนด์ระดบั โลกที่ทำตำม
ควำมรสู้ ึก ด้วยวิดโี อเดียวท่ีมีควำมยำวสองนำทแี ละจดุ ข้อมลู เดียวทีเ่ น้นควำมสำเรจ็ (รำงวัล 2019 Clio) กรณศี กึ ษำนี้เปน็
กรณีศกึ ษำทต่ี รงประเด็น เป็นกำรนำเสนอทม่ี ีสีสันและมีชีวติ ชีวำอย่ำงมำกของ MTV ใหม่

สำนักงำนกำรท่องเทย่ี วแอรโิ ซน

กรณีศึกษำวดิ โี อควำมยำวสี่นำทีน้ที ำกำรจับคู่เสียงบรรยำยและดนตรีกบั รูปภำพทวิ ทศั นท์ ส่ี วยงำมของแอรโิ ซนำ คลปิ เชิง
กำรค้ำ และภำพป้ำยโฆษณำและโฆษณำสง่ิ พิมพ์ ผู้บรรยำยได้เห็นถงึ ควำมยำกลำบำกในกำรโปรโมตกำรท่องเที่ยวในชว่ งเวลำแห่ง
ควำมขัดแย้งในประเทศและภำวะทีเ่ ศรษฐกิจตกตำ่ และแสดงให้เห็นวำ่ หน่วยงำน Moses Inc. เอำชนะอุปสรรคเหลำ่ นัน้ ได้อย่ำงไร
ดว้ ยกำรใช้ Adobe Premiere Pro และ Photoshop อยำ่ งสรำ้ งสรรค์ พวกเขำได้เปลย่ี นป้ำยบอกทำงเป็นอนิ โฟกรำฟิกเพอื่ พสิ จู น์
ควำมสำเรจ็ ของตนเอง

พิพธิ ภัณฑ์สำธำรณะ Grand Rapids

กรณีศึกษำวดิ ีโอนแี้ สดงใหเ้ ห็นถงึ ควำมสำเร็จในกำรสร้ำงแอปมอื ถอื ทน่ี ำไปสู่กำรล่ำสมบตั ิในทุกๆ พพิ ิธภณั ฑ์ พนักงำนของ
พพิ ธิ ภณั ฑบ์ รรยำยวดิ ีโอและอธบิ ำยวำ่ เหตุใดโครงกำรจงึ ทำงำนไดผ้ ลดี และคำรับรองของผใู้ ชแ้ อปอำยสุ บิ สองปกี เ็ ปน็ จดุ พสิ จู นท์ ่ีไม่
เหมือนใคร


Click to View FlipBook Version