พุทธศาสนสุภาษิต
ยํ ปูรํ สนฺตเมว ตํ
อ่านว่า
ยัง-ปู-รัง-สัน-ตะ-เม-วะ ตัง
แปลว่า
สิ่งใดเต็ม สิ่งนั้นเงียบ
ทุลฺลโภ องฺคสมฺปนฺโน
อ่านว่า
ทุน-ละ-โภ-อัง-คะ-สัม-ปัน-โน
แปลว่า
คนที่มีคุณสมบัติพร้อมทุกอย่าง
หาได้ยาก
สํวเร วิวรานิ จ
อ่านว่า
สัง-วะ-เร-วิ-วะ-รา-นิ-จะ
แปลว่า
พึงระวังตน ไม่ให้เสื่อมเสีย
กาตุ มนุสฺเสน ตถา มนุสฺสา
อ่านว่า
กา-ตุง-มะ-นุส-เส-นะ -ตะ-ถา-
มะ-นุส-สา
แปลว่า
จะทำให้ทุกคนเหมือนกันหมด
ไม่ได้
โสปิ ตาทิสโก โหติ
อ่านว่า
โส-ปิ-ตา-ทิ-สะ-โก-โห-ติ
แปลว่า
คบคนเช่นใด ก็เป็นคนเช่นนั้น
ทุกฺโข พาเลหิ สํวาโส
อ่านว่า
ทุก-โข-พา-เล-หิ-สัง-วา-โส
แปลว่า
การอยู่ร่วมกับคนพาล เป็นทุกข์
อตฺตานํ ทมยนฺติ ปณฺฑิตา
อ่านว่า
อัด-ตา-นัง-ทะ-มะ-ยัน-ติ -ปัณ-ฑิ-ตา
แปลว่า
บัณฑิต ย่อมฝึ กฝนตน
อตฺถํ คณฺหาติ ปณฺฑิโต
อ่านว่า
อัต-ถัง-คัน-หา-ติ-ปัน-ฑิ-โต
แปลว่า
บัณฑิต ย่อมถือเอาแต่สิ่งที่
เป็นประโยชน์
ปิโย จ ครุ ภาวนีโย
อ่านว่า
ปิ-โย-จะ-คะ-รุ-ภา-วะ-นี-โย
แปลว่า
ครู เป็นที่รักและเคารพของศิษย์
อตฺตา สุทนฺโต ปุริสสฺส โชติ
อ่านว่า
อัด-ตา-สุ-ทัน-โต-ปุ-ริ-สัด-สะ-โช-ติ
แปลว่า
ผู้ฝึ กตนดีแล้ว ย่อมเป็นแสงสว่าง
ของคน
สาธุ โข สิปฺปกํ นาม
อ่านว่า
สา-ธุ-โข-สิบ-ปะ-กัง-นา-มะ
แปลว่า
ขึ้นชื่อว่าศิลปวิทยา ดีทั้งนั้น
ทหโร เจปิ ปญฺญวา
อ่านว่า
ทะ-หะ-โร-เจ-ปิ-ปัญ-ญะ-วา
แปลว่า
เด็ก ถ้ามีปัญญาก็เป็นผู้ใหญ่ได้
กิจฺฉา วุตฺติ อสิปฺปสฺส
อ่านว่า
กิด-ฉา-วุด-ติ-อะ-สิบ-ปัด-สะ
แปลว่า
คนไม่มีความรู้ เป็นอยู่ลำบาก
นตฺถิ สนฺติปรํ สุขํ
อ่านว่า
นัต-ถิ-สัน-ติ-ปะ-รัง-สุ-ขัง
แปลว่า
สุขอื่นที่ยิ่งกว่าความสงบ ไม่มี
สติ สพฺพตฺถ ปตฺถิยา
อ่านว่า
สะ-ติ-สัพ-พัต-ถะ-ปัด-ถิ-ยา
แปลว่า
สติ จำเป็นต้องใช้ในทุกๆ ที่
อปฺเปน พหุเกน วา
อ่านว่า
อัป-เป-นะ-พะ-หุ-เก-นะ-วา
แปลว่า
พึงทำงานให้ได้อะไรบ้าง
ไม่มากก็น้อย
ขนฺติ หิตสุขาวหา
อ่านว่า
ขัน-ติ-หิ-ตะ-สุ-ขา-วะ-หา
แปลว่า
ความอดทน นำมาซึ่งประโยชน์สุข
ยถาวาที ตถาการี
อ่านว่า
ยะ-ถา-วา-ที-ตะ-ถา-กา-รี
แปลว่า
พูดอย่างใด ทำให้ได้อย่างนั้น
น ปเรสํ วิโลมานิ
อ่านว่า
นะ-ปะ-เร-สัง-วิ-โล-มา-นิ
แปลว่า
ไม่ควรใส่ใจคำแสลงหูของผู้อื่น
ปิยานํ อทสฺสนํ ทุกฺขํ
อ่านว่า
ปิ-ยา-นัง-อะ-ทัส-สะ-นัง -ทุก-ขัง
แปลว่า
การไม่พบคนที่รัก เป็นทุกข์
จัดทำโดย
ด.ญ.กัญญารัตน์ เสมอวงษ์ เลขท