The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

โครงงาน ผักบุ้งไร้ดิน

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by dlict, 2023-08-30 00:27:41

โครงงาน ผักบุ้งไร้ดิน

โครงงาน ผักบุ้งไร้ดิน

1 ชื่อโครงงาน ผักบุ้งไร้ดิน ผู้จัดท าโครงงาน นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 โรงเรียนบ้านทุ่งคลองควาย ครูที่ปรึกษา นางสาวเกษณี ชัยนวล ระยะเวลาในการจัดท า วันที่ 23 มกราคม 2566 – 16 กุมภาพันธ์2566 ที่มาของโครงงาน เนื่องจากในช่วงกิจกรรมการทดลองกักเก็บน ้าไว้ได้ มีเด็ก ๆ กลุ่มหนึ่ง ท้าน ้าหกเลอะเทอะในห้องเรียน เพื่อนรีบไปหาไม้ถูพื น แต่หาไม่เจอ คุณครูจึงรีบบอกให้เด็ก ๆ ไปช่วยกันหาวัสดุอะไรก็ได้มาเช็ดน ้าที่หกบนพื นก่อน เพราะกลัวเด็ก ๆจะลื่นล้ม มีเด็กๆหลายคนช่วยกันหาวัสดุที่จะมาเช็ดน ้า บางคนก็เอาผ้าเช็ดมือที่แขวนอยู่ เอา กระดาษที่ใช้แล้วบ้าง และเอาฟองน ้าล้างจานมาเช็ดบ้าง และมีน้องอันปันเกิดค้าถามว่า ท้าไมผ้าจึงเช็ดน ้าได้ดีกว่า และแห้งเร็วกว่ากระดาษและฟองน ้า ท้าให้เด็กหลาย ๆคนเกิดความสนใจและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับวัสดุที่ น้ามาซับน ้า คุณครูและเด็ก ๆ จึงท้าการส้ารวจว่ามีวัสดุอะไรบ้างที่น้ามาเช็ดน ้าได้ เด็กๆช่วยกันหาวัสดุมาเช็ดน ้าในห้องเรียน ครู : เด็กๆได้วัสดุอะไรมาเช็ดน ้าที่หกบนพื นบ้างคะ น้องมังกร : ผมเอาผ้าเช็ดมือที่แขวนอยู่มาเช็ดครับ เพราะเห็นมีหลายผืน น้องน ้าผึ ง : หนูก็เอาผ้าเช็ดมือที่แขวนอยู่มาเช็ดด้วยคะ น้องญาดา : หนูใช้ฟองน ้าที่ครูล้างจานคะ ครู : เช็ดด้วยผ้า น ้าบนพื นแห้งดีไหมคะ แล้วฟองน ้าละคะ เช็ดแล้วเป็นยังไงบ้าง น้องอันปัน : ใช้ฟองน ้าเช็ด น ้าก็แห้งคะ แต่พื นก็ยังลื่นๆ คะ ต้องรออีกสักพักถึงจะแห้งคะ น้องมินิ : ที่บ้านหนู เห็นแม่ใช้กระดาษทิชชู่เช็ดน ้าที่หกบนโต๊ะคะ ครู : แล้วเด็ก ๆคิดว่ามีอะไรอีกบ้างคะ ที่พอจะน้ามาเช็ดน ้าได้


2 คุณครูและเด็ก ๆ จึงท้าการส้ารวจว่ามีวัสดุอะไรบ้างที่น้ามาเช็ดน ้าได้ เมื่อเด็ก ๆไม่มีค้าถามเกี่ยวกับวัสดุที่เช็ดน ้าหรือดูดซับน ้าได้ ครูและเด็ก ๆ จึงร่วมกันสรุปค้าถาม ที่เด็กอยากรู้โดยใช้แผ่นชาร์ท ที่ครูได้จดบันทึกซึ่งได้ค้าถามที่เด็ก ๆ อยากรู้ทั งหมด 6 ค้าถาม เด็ก ๆ ท้าการส้ารวจวัสดุที่น้ามาเช็ดน ้า ครู : จากที่เด็กๆไปส้ารวจ เด็กๆเจอวัสดุอะไรบ้างคะ ที่พอจะเช็ดน ้าหรือดูดซับน ้าได้ น้องโชกุน : ผมเห็นแม่ครัวเอาผ้าเก่าๆ มาเช็ดน ้าบนโต๊ะในครัวครับ น้องแตงโม : เราเอาส้าลีเช็ดแผลมาเช็ดน ้าได้ไหมคะ หนูว่าน่าจะซับน ้าได้คะ น้องญาดา : กระดาษทิชชู่แผ่นใหญ่ก็เช็ดได้ใช่ไหมคะ แต่จะเปื่อยง่ายคะ น้องมังกร : ถุงพลาสติกเช็ดน ้าได้มั ยคะ น้องอันปัน : ใช้ฟองน ้าเช็ด น่าจะแห้งเหมือนเราเอาผ้ามาเช็ดนะคะ น้องมินิ : กระดาษหนังสือพิมพ์ เช็ดน ้าได้เหมือนฟองน ้าใช่ไหมคะ น้องอันปัน : แต่หนูเคยเห็นในยูทูป เขาเอาส้าลีและผ้าไปปลูกผักได้ใช่ไหมคะ น้องเติล : ผ้า กับ ส้าลี และฟองน ้า อะไรเช็ดน ้าได้แห้งเร็วที่สุด ผมว่าต้องเป็นผ้าครับ


3 ขั้นที่ 1 ตั้งค าถามที่เกี่ยวกับปรากฏการณ์ธรรมชาติ จากการที่เด็ก ๆไปส้ารวจหาวัสดุที่ดูดซับน ้าได้ ในบริเวณห้องเรียนและในโรงเรียน เด็กหลายคน สังเกตเห็นว่ามีวัสดุหลายชนิดที่น้ามาเช็ดน ้าได้ จึงเกิดความสนใจที่จะทดลองดูว่าวัสดุอะไรบ้างน้ามาเช็ดน ้าได้และ ดูดซับน ้าได้ดีที่สุด และมีค้าถามจากเด็ก ๆ ดังนี ค้าถามที่ 1 ส้าลีเช็ดแผลมาเช็ดน ้าได้ไหมคะ ค้าถามที่ 2 วัสดุใดดูดซับน ้าได้ดีที่สุด ค้าถามที่ 3 วัสดุที่เช็ดน ้าได้ น้าไปท้าอะไรได้อีกบ้าง ค้าถามที่ 4 วัสดุแบบใดเช็ดน ้าที่หกเลอะเทอะได้แห้งและสะอาดมากกว่ากัน ค้าถามที่ 5 วัสดุที่ดูดซับน ้าชนิดไหนสามารถน้ามาปลูกพืชได้ดีที่สุด ค้าถามที่ 6 ถุงพลาสติกน้ามาเช็ดน ้าได้ไหม จากค้าถามที่เด็ก ๆ อยากรู้ 6 ค้าถาม เด็กและครูสนทนาเพื่อเลือกค้าถามที่จะน้ามาส้ารวจ ตรวจสอบโดยการให้เหตุผลประกอบ ซึ่งเด็ก ๆ เลือกค้าถามที่ 2 วัสดุใดดูดซับน ้าได้ดีที่สุด เพราะเด็ก ๆจะได้รู้ว่า วัสดุแต่ละชนิดมีคุณสมบัติในการดูดซับน ้าเป็นอย่างไรบ้าง โดยให้เด็ก ๆกลับไปสังเกต ส้ารวจ และสอบถามจาก ผู้ปกครองที่บ้านของตนเองว่ามีวัสดุอะไรบ้างที่พอจะเช็ดน ้าหรือดูดซับน ้าได้ดีที่สุด และอีกค้าถามที่เด็ก ๆ เลือก คือ ค้าถามที่ 5 วัสดุที่ดูดซับน ้าชนิดไหนสามารถน้ามาปลูกพืชได้ดีที่สุด เพราะเด็กๆ ได้ช่วยกันคิดหาวัสดุอุปกรณ์ และวิธีการปลูกพืชในวัสดุที่ดูดซับน ้าได้ โดยไม่ต้องใช้ดินแต่จะใช้วัสดุต่างๆหลายชนิดที่สามารถดูดซับน ้าได้ เพื่อ เป็นการศึกษาการเจริญเติบโตของพืชว่าปลูกในวัสดุชนิดใด จะดีที่สุด สรุปค้าถามที่นักเรียนต้องการน้ามาหาค้าตอบ คือ 1.วัสดุใดดูดซับน ้าได้ดีที่สุด 2.วัสดุที่ดูดซับน ้าชนิดไหนสามารถน้ามาปลูกพืชได้ดีที่สุด โดยจะท้าการส้ารวจตรวจสอบ ค้าถามที่ 1 คือ “วัสดุใดดูดซับน ้าได้ดีที่สุด ” เด็ก ๆ สังเกตการดูดซับน ้าของวัสดุ


4 จุดประสงค์ เพื่อศึกษาคุณสมบัติการดูดซับน้ าของวัสดุ ขั้นที่ 2 รวบรวมความคิดและข้อสันนิษฐาน (23 มกราคม 2566) เด็กและครูสนทนาร่วมกัน โดยครูใช้ค้าถามกระตุ้นให้เด็ก ๆ เล่าประสบการณ์หรือความรู้เดิมของตน เกี่ยวกับวัสดุที่เด็กๆ เคยน้ามาเช็ดน ้าและคุณสมบัติการดูดซับน ้าของวัสดุแต่ละชนิดว่าเป็นอย่างไรบ้าง ครู : เด็ก ๆ คิดว่ามีวัสดุใดบ้างคะที่เราเอามาเช็ดน ้าได้แห้งดีที่สุดคะ น้องญาดา : ผ้าคะ ที่บ้านหนูแม่เอาผ้าเช็ดตัวที่ไม่ใช้แล้ว มาไว้เช็ดน ้าบนโต๊ะทานข้าวคะ น้องเติ ล : ผ้าครับ เพราะผ้าดูดซับน ้าได้ดี เช็ดน ้าแล้วพื นแห้งสะอาดด้วย น้องอันปัน : กระดาษทิชชู่เปียกคะ เพราะที่บ้านหนู แม่จะเอามาเช็ดก้นให้น้องคะ น้องแตงโม : กระดาษสมุดเก่า ๆ ก็เช็ดน ้าได้นะคะ พี่หนูก็เคยเอามาเช็ดน ้าที่พื นคะ น้องไข่มุก : ส้าลี คะ เพราะหนูเห็นหมอที่อนามัยเขาเอาส้าลีแช่น ้าแล้วเอาไปล้างแผลให้พ่อหนูคะ น้องมินิ : ส้าลี คะ เพราะส้าลีดูดซับน ้าได้ดีคะ เช็ดน ้าแป้บเดียวน ้าก็แห้งเลยคะ น้องฟาร์ม : แต่ผมว่า ฟองน ้าครับ เพราะพ่อเคยเอามาล้างรถได้สะอาดมาก น้องน ้าผึ ง : ฟองน ้าคะ แม่หนูเอาฟองน ้าไปล้างจานตอนขายก๋วยเตี๋ยวคะ มีฟองเยอะมาก ครูจดค้าถามที่เด็กๆสงสัย เกี่ยวกับวัสดุที่ดูดซับน ้าได้ ตัวแทนนักเรียนตั งค้าถาม ค าถามที่ 1 วัสดุใดดูดซับน้ าได้ดีที่สุด


5 ครูจึงชวนเด็กๆสนทนาต่อว่าวัสดุที่เด็กๆพูดมานั น มีลักษณะเป็นอย่างไรบ้างคะ เหมือนหรือแตกต่าง กันอย่างไร รวมทั งได้ทบทวนค้าถามที่เด็กอยากรู้คือ“วัสดุใดดูดซับน ้าได้ดีที่สุด” ให้เด็กสันนิษฐานค้าตอบโดยแบ่ง นักเรียนออกเป็นกลุ่มๆ ละ 4 คน โดยครูใช้ค้าถามให้เด็กๆ แต่ละกลุ่มร่วมกันคิดและตกลงกันว่ากลุ่มของตนเองจะ สันนิษฐานค้าตอบว่าอย่างไร และให้แต่ละกลุ่มน้าเสนอ ครูเขียนการสันนิษฐานลงในกระดาษชาร์ท กลุ่มที่ 1 สันนิษฐานว่า ฟองน ้า : ดูดซับน ้าได้ดีที่สุด เพราะบางและเบา กลุ่มที่ 2 สันนิษฐานว่า ผ้า : ดูดซับน ้าได้ดีที่สุด เพราะเช็ดน ้าได้แห้งเร็วและพื นสะอาด กลุ่มที่ 3 สันนิษฐานว่า ส้าลี : ดูดซับน ้าได้ดีที่สุด เพราะเบาและนุ่ม เมื่อจุ่มในน ้าจะดูดน ้าเร็วและจมในน ้า ตัวแทนกลุ่มเสนอความคิดเห็น และข้อสันนิษฐานของกลุ่ม การสันนิษฐานค้าตอบของแต่ละกลุ่ม


6 ขั้นที่ 3 ทดสอบและปฎิบัติการสืบเสาะ ครูสนทนากับเด็กๆ โดยใช้ค้าถาม “เด็กๆมีวิธีการหาค้าตอบโดยวิธีใดบ้างคะ ถึงจะทราบว่าวัสดุแต่ละชนิด มีคุณสมบัติและมีลักษณะเป็นอย่างไร” กลุ่มที่ 1 บอกว่า ส้ารวจในห้องเรียนและถามครูในโรงเรียน ครู : ถ้านักเรียนจ้าสิ่งที่คุณครูเล่าให้ฟังไม่ได้ นักเรียนจะท้าอย่างไรคะ น้องอันปัน : ให้คุณครูช่วยถ่ายรูปมาให้ และจดใส่กระดาษมาด้วยคะ น้องญาดา : วาดภาพระบายสีและมาเล่าให้เพื่อนฟังคะ กลุ่มที่ 2 บอกว่า สืบค้นข้อมูลจากห้องสมุดและดูจากอินเตอร์เน็ตในห้องคอมพิวเตอร์ ครู : ถ้าหนูได้ดูรูปภาพมา แต่เขียนหรืออ่านหนังสือไม่ออก หนูจะท้าอย่างไรได้บ้างคะ น้องฟาร์ม : ยืมหนังสือจากห้องสมุดมาครับ แล้วมาเล่าให้เพื่อนๆฟังในห้อง น้องมังกร : ขอคุณครูในห้องคอม ๆให้ปริ นท์ภาพให้ครับ น้องแตงโม : วาดภาพระบายสีแล้วเอามาให้เพื่อน ๆ ดูคะ


7 เด็กๆและครูร่วมกันสรุปวิธีการหาค้าตอบว่า วัสดุที่ดูดซับน ้ามีอะไรบ้างและ“วัสดุใดดูดซับน ้าได้ดีที่สุด” ดังนี 1. ส้ารวจในห้องเรียนและถามครูในโรงเรียน 2. สืบค้นข้อมูลจากห้องสมุดและดูจากอินเตอร์เน็ตห้องคอมพิวเตอร์ 3. สอบถามจากผู้ปกครองที่บ้าน ให้เด็กออกแบบวิธีการบันทึกและน้าเสนองาน โดยถามเด็กว่า เมื่อเราได้รับความรู้เรื่องวัสดุที่ดูดซับน ้า ได้มีอะไรบ้างและ“วัสดุใดดูดซับน ้าได้ดีที่สุด” เด็กมีวิธีบันทึกผลอย่างไรบ้างและจะน้าความรู้ที่ได้นั นไปให้คนอื่นมี ความรู้ด้วย จะท้าอย่างไร กลุ่มที่ 3 บอกว่า สอบถามจากผู้ปกครองที่บ้าน ครู : ถ้าหนูจ้าเรื่องที่พ่อแม่เล่าให้ฟังไม่ได้ จะท้าอย่างไรคะ น้องเติ ล : หนูให้แม่เขียนใส่กระดาษมาครับ ว่ามีวัสดุอะไรบ้างที่ดูดซับน ้าได้ดี น้องน ้าผึ ง : หนูวาดรูปและระบายสีมาให้เพื่อนดูคะ น้องญาดา : หนูจะน้าวัสดุจากบ้านมาให้เพื่อนๆ ดู คะ น้องมังกร : วาดรูประบายสีแล้วน้าผลงานไปติดหน้าห้องให้เพื่อนๆ ดูครับ น้องญาดา : เล่าให้คุณครูฟัง แล้วให้ครูจดให้คะ น้องอันปัน : น้าข้อมูลที่ครูจดมาให้ ไปเล่าให้เพื่อนฟัง น้องเติ ล : ถ่ายภาพแล้วปริ นออกมาโชว์ให้เพื่อนดูครับ น้องไข่มุก : ให้วาดภาพและเขียนชื่อวัสดุว่ามีอะไรบ้างคะ น้องเติ ล : น้าวัสดุของจริงมาให้เพื่อนๆ ดูก็ได้ครับ


8 ขั้นที่ 4 สังเกตและบรรยาย ต่อ (25 มกราคม 2566) จากกลุ่มที่ 1 เด็กๆไปหาค้าตอบโดยส้ารวจวัสดุในห้องเรียนและสอบถามครูในโรงเรียนเกี่ยวกับคุณสมบัติ ของวัสดุที่ดูดซับน ้าได้ว่ามีลักษณะเป็นอย่างไรบ้าง โดยได้ตกลงกันว่าจะศึกษาเกี่ยวกับวัสดุที่ดูดซับน ้าได้ คือ ส าลี เด็กๆ ช่วยกันแสดงความคิดเห็น คือ ส าลีจะมีลักษณะ นุ่ม เบา บาง มีสีขาวๆ มีลักษณะกลมๆ รีๆ บางชนิดมีแบบ แผ่นสีเหลี่ยม มีฝุ่นละอองเล็กน้อย มีเส้นใยเล็กๆ ใช้ท้าความสะอาดแผลได้ ใช้ท้าความสะอาดใบหน้าเช็ด เครื่องส้าอางได้ที่ส้าคัญดูดซับน ้าได้ดีและเร็ว และมีการน้าไปเพาะปลูกเมล็ดพืชได้ด้วย เด็กและครูสรุปตามวิธีการที่เด็กๆร่วมกันออกแบบ โดยครูเขียนไว้บนแผ่นชาร์ท เด็กน้าความรู้ที่ได้จาการส้ารวจและ สอบถามครูในโรงเรียนเล่าให้เพื่อนฟัง สรุปความรู้ที่ได้จากการส้ารวจ และสอบถามครูในโรงเรียน


9 จากกลุ่มที่ 2 เด็กๆไปหาความรู้จากหนังสือในห้องสมุดและดูอินเตอร์เน็ต ศึกษาเกี่ยวกับคุณสมบัติของ วัสดุที่ดูดซับน ้าได้ว่ามีลักษณะเป็นอย่างไรบ้าง โดยได้ศึกษาเกี่ยวกับวัสดุที่ดูดซับน ้าได้ คือ ฟองน้ า เด็กๆ ช่วยกัน แสดงความคิดเห็น คือ ฟองน้ า จะมีลักษณะ อ่อนนุ่ม น ้าหนักเบา มีหลายสี หลายขนาด มีเล็ก กลาง ใหญ่ มี ลักษณะรูปร่างกลมๆ มีที่เป็นสี่เหลี่ยม มีรูเล็กมากๆ ใช้ล้างท้าความสะอาดรถได้ล้างจานก็ได้มีฟองเยอะ ท้า รองเท้าฟองน ้าได้ ที่ส้าคัญดูดซับน ้าได้ดี และมีการน้าไปเพาะปลูกเมล็ดพืชได้ จากกลุ่มที่ 3 เด็กๆไปหาความรู้สอบถามจากผู้ปกครองที่บ้าน ศึกษาเกี่ยวกับคุณสมบัติของวัสดุที่ดูดซับ น ้าได้ว่ามีลักษณะเป็นอย่างไรบ้าง โดยได้ศึกษาเกี่ยวกับวัสดุที่ดูดซับน ้าได้ คือ ผ้า จะมีลักษณะ นุ่มนิ่ม น ้าหนักเบา มีหลายสี หลายขนาด มีรูเล็กๆ มีขนนุ่มๆ มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยม น้ามาตัดเย็บเสื อผ้าเครื่องนุ่งห่มได้ ใช้ส้าหรับ เช็ดตัวเช็ดเหงื่อได้แห้งเร็ว น้าไปซักแล้วน้ากลับมาใช้อีกได้ ประดิษฐ์เป็นตุ๊กตา ของเล่นได้ ไม่อันตรายต่อเด็กๆ ที่ ส้าคัญดูดซับน ้าได้ดีและแห้งเร็ว และมีการน้าไปเพาะปลูกเมล็ดพืชได้ เด็กน้าความรู้จากห้องสมุดและดูจาก อินเตอร์เน็ตมาเล่าให้เพื่อนฟัง เด็กน้าความรู้จากการสอบถาม ผู้ปกครองมาเล่าให้เพื่อนฟัง สรุปความรู้ที่ได้จากการห้องสมุด และดูจากอินเตอร์เน็ต สรุปความรู้จากการสอบถาม ผู้ปกครองที่บ้าน


10 วัสดุ คุณสมบัติ ประโยชน์ ตัวอย่างสิ่งของที่ท้ามาจาก วัสดุต่าง ๆ 1.ฟองน ้า -ดูดซับน้ าได้ดีมาก -อ่อนนุ่มมากๆ น ้าหนัก เบา -มีรูเล็ก ๆ -ยืดหยุ่นได้ -ใช้ส้าหรับล้างจาน ล้าง รถได้ -ช่วยท้าให้เกิดฟองได้ มากขึ น -ใช้เพาะเมล็ดพืชได้ 2.ผ้า -ดูดซับน้ าได้ดี - มีความอ่อนนุ่ม -คงทนต่อการใช้งาน -ระบายความชื นได้ดี -ใช้เช็ดเหงื่อ เช็ดน ้า -มีขน มีรูเล็กๆ -น้าไปตัดเย็บเสื อผ้า เครื่องแต่งกาย เครื่องนุ่งห่ม ฯ ได้ -ใช้ท้ากระเป๋าใส่ของต่าง ๆ ได้ -ใช้เพาะเมล็ดพืชได้ 3.ส้าลี -มีสีขาว ๆ นุ่มๆ -น ้าหนักเบา -มีแบบก้อนกลมๆเล็กๆ และแบบสี่เหลี่ยม - ดูดซับน้ าได้ดี -ใช้ล้างแผล ท้าความ สะอาดแผลได้ -ใช้ท้าความสะอาด -ล้างเครื่องส้าอาง -ใช้เพาะเมล็ดพืชได้ เด็กๆและครูช่วยกันสรุปความรู้ วัสดุทั ง 3 ชนิด มีฟองน ้า ผ้าและส้าลี มีคุณสมบัติที่เหมือนกัน คือ มี ความอ่อนนุ่ม เช็ดน ้าได้แห้งเร็ว และดูดซับน ้าได้ดี สรุปความรู้จากการสังเกตคุณสมบัติและลักษณะของวัสดุต่าง ๆ คือ ฟองน้ า ผ้า และส าลี


11 ขั้นที่ 4 สังเกตและบรรยาย ต่อ (26 มกราคม 2566) เด็ก ๆ ท้าการทดลองการดูดซับน ้าของวัสดุคือ ฟองน ้า ผ้าและส้าลี ว่าวัสดุชนิดใดโดซับน ้าได้ดีที่สุด โดย ท้าการทดลองน้าวัสดุทั ง 3 ชนิด ไปแช่น ้าสีไว้ในเหยือก เป็นเวลา 1 คืน เมื่อครบเวลา แล้วคีบเอาวัสดุในเหยือก ออกให้หมดแล้วมาสังเกตว่าน ้าสีในเหยือกของวัสดุชนิดใดเหลือปริมาณน ้าอยู่น้อยที่สุด ก็แสดงว่าวัสดุชนิดนั นมี คุณสมบัติการดูดซับน ้าได้ดีที่สุด - กลุ่ม 1. มี น ้าสี 1 ขวด เหยือกน ้า ฟองน ้าตัดเป็นชิ นเล็กๆ 1 เหยือก - กลุ่ม 2. มี น ้าสี 1 ขวด เหยือกน ้า ผ้าที่ตัดเป็นชิ นเล็กๆ 1 เหยือก - กลุ่ม 3. มี น ้าสี 1 ขวด เหยือกน ้า ส้าลีก้อนเล็กๆ 1 เหยือก วัสดุอุปกรณ์ ในการทดลองการดูดซับน้ าของวัสดุ


12 1.เด็กๆแต่ละกลุ่มรับอุปกรณ์เทน ้าสีลงในเหยือกจนหมดขวด (ปริมาณน ้าสีในเหยือก 700 มิลลิลิตร) 2. เด็กๆน้าวัสดุของแต่ละกลุ่ม คือ ฟองน ้า ผ้าและส้าลี จุ่มลงไปในเหยือกน ้าที่มีน ้าสีอยู่จนหมด 3. สังเกตการดูดซับน ้าของวัสดุแต่ละชนิดว่าเป็นอย่างไรบ้างและร่วมกันแสดงความคิดเห็น 4. ให้เด็ก ๆ ท้าการสังเกตวัสดุในวันต่อไป โดยทิ งการทดลองไว้ 1 คืน ฟองน ้า ผ้า ส้าลี ขั้นตอนการทดลอง


13 ขั้นที่ 4 สังเกตและบรรยาย ต่อ (27 มกราคม 2566) 5. เมื่อครบเวลาที่ก้าหนด แต่ละกลุ่มน้าวัสดุออกจากเหยือกน ้าจนหมด ฟองน ้า ผ้า ส้าลี


14 ขั้นที่ 5 บันทึกข้อมูล (27 มกราคม 2566) แต่ละกลุ่มบันทึกผลตามวิธีการที่ออกแบบไว้ คือ คือ สังเกตวัสดุที่ท้าการทดลองไว้ เด็กโชว์ผลงาน และ วาดรูปผลงานของกลุ่มตนเอง กลุ่มฟองน้ า 1.เด็กๆสังเกตวัสดุที่ท้าการทดลองไว้ 2. เด็กโชว์ผลงาน 3.วาดรูปผลงานของกลุ่ม ตนเอง กลุ่มผ้า 1.เด็กๆสังเกตวัสดุที่ท้าการทดลองไว้ 2. เด็กโชว์ผลงาน 3. วาดรูปผลงานของกลุ่ม ตนเอง กลุ่มส าลี 1. เด็กๆสังเกตวัสดุที่ท้าการทดลองไว้ 2.เด็กโชว์ผลงาน 3.วาดรูปผลงานของกลุ่ม ตนเอง


15 ขั้นที่ 6 สรุปผลและอภิปรายผล (27 มกราคม 2566) เด็กและครูร่วมกันสนทนาถึงค้าถามที่เด็กอยากรู้อีกครั ง “วัสดุใดดูดซับน ้าได้ดีที่สุด” ให้เด็กทบทวนโดย การให้เด็กออกมาเล่าว่า เด็ก ๆ หาค้าตอบได้โดยวิธีการอย่างไร และได้ผลการศึกษาอย่างไร โดยใช้ภาพตารางก่อน การทดลอง ระหว่างการทดลอง และหลังการทดลองให้เด็กๆ ดู ฟองน ้า ผ้า ส้าลี ฟองน ้า ผ้า ส้าลี ฟองน ้า ผ้า ส้าลี ภาพระดับน ้าสีในเหยือก ก่อนการทดลอง ภาพระดับน ้าสีและวัสดุเมื่อท้าการทดลองจุ่มวัสดุลงไปในเหยือก เป็นเวลา 1 คืน ภาพระดับน ้าสีที่เหลือในเหยือก หลังจากคีบวัสดุออกแล้ว


16 ตาราง สรุปผลการทดลอง วัสดุที่ท าการทดลอง สรุปผล ปริมาณน้ าทีเหลือ 1.ส้าลี ดูดซับน ้าได้ดีที่สุด เพราะน ้าสีเหลือน้อยที่สุด เหลือปริมาณน ้า 150 มม. 2.ผ้า ดูดซับน ้าได้ล้าดับที่ 2 เพราะน ้าสีเหลือน้อยรองลงมา เหลือปริมาณน ้า 300 มม. 3.ฟองน ้า ดูดซับน ้าได้น้อยที่สุด เพราะน ้าสีเหลือเยอะที่สุด เหลือปริมาณน ้า 400 มม. ครู : จากการที่เด็ก ๆ ร่วมกันหาค้าตอบ “วัสดุใดดูดซับน ้าได้ดีที่สุด” สรุป เด็กๆตอบว่า ส าลีดูดซับน ้าได้ ดีที่สุด สังเกตได้จากปริมาณน ้าสีที่เหลือในเหยือกน้อยที่สุด รองลงมาคือผ้า และฟองน้ า เพราะฟองน ้าดูดซับน ้าได้ น้อยที่สุด สังเกตได้จากปริมาณน ้าสีที่เหลือในเหยือกมากที่สุด นอกจากนี ครูได้ถามเด็กๆเพิ่มเติมว่า จากการที่พวกเราปฏิบัติกิจกรรมจนได้ค้าตอบว่า“วัสดุใดดูดซับน ้าได้ ดีที่สุด” เด็ก ๆยังมีค้าถามที่อยากรู้อีกหรือไม่ หรือคนใดสนใจอยากถามอะไรเพิ่มเติมอีกบ้างเกี่ยวกับวัสดุต่างๆ น้องเติ ล : วัสดุที่ดูดซับน ้าได้ เราน้าไปท้าอะไรอีกได้บ้างครับ น้องมินิ : เราปลูกพืชในวัสดุที่ดูดซับน ้า แทนการปลูกพืชในดินได้มั ยคะ น้องอันปัน : เราเอาส้าลีที่แช่น ้า ไปปลูกต้นอะไรได้บ้างคะ น้องมังกร : เราปลูกพืชในวัสดุชนิดใดแล้วจะโตเร็วที่สุดครับ


17 ผลการพัฒนาความสามารถของเด็กปฐมวัย 1. ผลการพัฒนาความสามารถพื นฐาน 5 ด้าน 1.1 ด้านการเรียนรู้ - เด็กสามารถเล่าและบอกวิธีการหาค้าตอบของตนเองได้ - เด็กได้เรียนรู้เรื่อง คุณสมบัติการดูดซับน ้าของวัสดุต่างๆว่าเหมือนหรือแตกต่างกัน - เด็กได้เรียนรู้ขั นตอนและลงมือปฏิบัติการทดลองการดูดซับน ้าของวัสดุ 1.2 ด้านภาษา - เด็กมีพัฒนาการด้านภาษาจากการสนทนาโต้ตอบแสดงความคิดเห็นความรู้ของตนเอง - ทักษะด้านภาษาจากการพูด บรรยาย เล่า สิ่งที่สังเกต - ทักษะด้านภาษาจากการวาดภาพ เล่า เพื่อสื่อสารเรื่องราวให้ผู้อื่นเข้าใจได้ 1.3 ด้านสังคม - เด็กสามารถท้างานกลุ่มร่วมกับผู้อื่นได้ - เด็กแสดงความคิดเห็นของตนเองและยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น - เด็กเคารพกติกาและปฏิบัติตามข้อตกลงของห้องเรียนและของสมาชิกในกลุ่ม 1.4 ด้านการเคลื่อนไหวและทักษะการรับรู้ประสาทสัมผัส - เด็กเคลื่อนไหวหยิบจับวัสดุอุปกรณ์ การเดินส้ารวจ การลงมือปฏิบัติได้อย่างคล่องแคล่ว - เด็กสามารถใช้ประสาทสัมผัสในการสังเกตด้วยตนเองจนได้ข้อมูลที่ชัดเจน 1.5 ด้านอารมณ์และจิตใจ - เด็กๆมีความสุข สนุกสนานเมื่อได้ท้ากิจกรรมร่วมกับเพื่อนๆ - เด็กๆมีความมั่นใจ กล้าแสดงออก 2. ผลการพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 2.1 ทักษะการสังเกต - การบอกลักษณะสิ่งที่สังเกตด้วยประสาทสัมผัสต่างๆเช่น หยิบ จับ สัมผัส สังเกตลักษณะ ของวัสดุหลายๆชนิด 2.2 ทักษะการจ้าแนก - จ้าแนกลักษณะของวัสดุความเหมือน ความต่าง ขนาด ปริมาณของวัสดุ อุปกรณ์ - เปรียบเทียบและจ้าแนกสิ่งที่สันนิษฐานกับผลการศึกษา 2.3 ทักษะการพยากรณ์หรือการคาดคะเนค้าตอบ - เด็กสามารถคาดคะเนค้าตอบที่คิดว่าวัสดุมีลักษณะอย่างไรและคุณสมบัติการดูดซับน ้าของวัสดุ แต่ละชนิดเป็นอย่างไร เหมือนหรือแตกต่างกัน 2.4 ทักษะการจัดกระท้าสื่อความหมายข้อมูล - เด็กสามารถสรุปผลสิ่งที่สังเกตโดยการวาดภาพผลสรุปของวัสดุแต่ละชนิดและเล่าเรื่องให้ครูฟัง แล้วน้าเสนอหน้าชั นเรียนให้เพื่อน ๆ ฟังได้ 2.5 ทักษะการลงความคิดเห็นจากข้อมูล - เด็กสามารถให้เหตุผลเพิ่มเติมโดยใช้ความคิดเห็น ประสบการณ์เดิมแสดงความคิดเห็นต่างๆได้


18 ขั้นที่ 1 ตั้งค าถามเกี่ยวกับปรากฏการณ์ธรรมชาติ จากการที่เด็ก ๆได้เรียนรู้เรื่อง“วัสดุใดดูดซับน้ าได้ดีที่สุด”และได้ค้าตอบว่า ส้าลีดูดซับน ้าได้ดีที่สุด รองลงมาคือ ผ้า และล้าดับสุดท้าย คือฟองน ้า ที่ดูดซับน ้าได้น้อยที่สุด และมีเด็กบางคนมีค้าถามต่อเนื่องว่า ครูจึงถามเด็ก ๆ ว่าคนอื่น ๆ ละคะ อยากรู้เรื่องอื่นอีกไหมคะ เด็ก ๆ ส่วนใหญ่บอกว่า หนูเคยเห็นใน อินเตอร์เน็ต เขาจะชอบปลูกพืชในภาชนะที่มีน ้า โดยไม่ต้องปลูกบนดิน และไม่ท้าให้สกปรกด้วย หนูอยากลอง ปลูกพืชบ้างคะ เราน่าจะลองปลูกพืชในวัสดุอื่นได้ โดยที่ไม่ต้องใช้ดินคะ ครูจึงแนะน้าชักชวนเด็ก ๆ ไปท้าการสังเกตการปลูกผักบุ้งในดินก่อน เพื่อจะได้เห็นถึงความแตกต่าง ระหว่างของการปลูกผักบุ้งในดินธรรมชาติและการปลูกผักบุ้งในวัสดุอื่นๆ ค าถามที่ 2 วัสดุที่ดูดซับน้ าชนิดไหนสามารถน ามาปลูกพืชได้ดีที่สุด น้องอันปัน : ท้าไมผ้า ส้าลีและฟองน ้าจึงเช็ดน ้าได้เหมือนกัน น้องเติ ล : ส้าลีและผ้า เมื่อเปียกน ้า ท้าไมมีน ้าหนักมากกว่าฟองน ้า น้องญาดา : วัสดุที่ดูดซับน ้าได้ เราน้าไปท้าอะไรได้อีกบ้าง น้องมังกร : เราปลูกพืชในวัสดุทั ง 3 ชนิดนี ได้หรือไม่ โดยที่เราไม่ต้องปลูกพืชบนดิน เด็ก ๆ สังเกตดูแปลงผักบุ้งที่ปลูกด้วยดิน


19 หลังจากที่ไปสังเกตการปลูกผักบุ้งด้วยดิน เด็กๆร่วมกันแสดงความคิดเห็นว่าเป็นอย่างไรบ้างและจึงตกลง กันว่าจะทดลองปลูกผักบุ้งในวัสดุที่ดูดซับน ้าได้ทั ง 3 ชนิด คือ ฟองน ้า ผ้าและส้าลี เพื่อดูว่า วัสดุที่ดูดซับน้ าชนิด ไหนสามารถน ามาปลูกพืชได้ดีที่สุด จุดประสงค์ เพื่อศึกษาการเจริญเติบโตของพืชที่ปลูกด้วยวัสดุที่ดูดซับน ้าได้ ทั ง 3 ชนิด ตัวแปรที่ศึกษา ตัวแปรต้น คือ วัสดุที่ดูดซับน ้า คือ ฟองน ้า ผ้า ส้าลี ตัวแปรตาม คือ การเจริญเติบโตของพืช ตัวแปรควบคุม คือ ปริมาณเมล็ดพืช(เมล็ดผักบุ้ง) ปริมาณน ้า ขนาดภาชนะ ขนาดของวัสดุ ขั นที่ 2 รวบรวมความคิดและข้อสันนิษฐาน (30 มกราคม 2566) เด็กและครูร่วมกันสนทนา โดยครูใช้ค้าถามกระตุ้นให้เด็กเล่าประสบการณ์เดิมเกี่ยวกับวัสดุที่ดูดซับน ้าได้ ให้เด็กร่วมกันสันนิษฐานค้าตอบ โดยครูใช้ค้าถาม “เด็ก ๆ คิดว่าเราสามารถปลูกผักหรือพืชอะไร ได้บ้าง และปลูกด้วยวัสดุใดได้ดีที่สุด - ปลูกผักบุ้ง ในฟองน ้าคะ เพราะฟองน ้าดูดซับน ้า ได้ดี ต้นผักบุ้งน่าจะโตเร็วที่สุด - ปลูกผักบุ้งในผ้า เพราะผ้า ดูดซับน ้า ได้ดี เปียกนาน ไม่แห้งเร็ว คิดว่าต้นผักบุ้งน่าจะสวยที่สุด - ปลูกผักบุ้งในส้าลี เพราะส้าลีดูดซับน ้าได้เร็วและนานที่สุด ต้นผักบุ้งน่าจะโตเร็วและสวยที่สุด ครู : เด็ก ๆ คิดว่าเรามีวิธีการปลูกพืชแบบไหนบ้างคะ และต้องใช้วัสดุอะไรบ้าง น้องเติ ล : ที่บ้านผม แม่จะปลูกผักในล้อยางรถยนต์ครับ ใส่ดินและปุ๋ยคอกด้วย น้องอันปัน : หนูเคยเห็นยายปลูกผักบุ้งใส่ตะกร้าคะ ใส่เปลือกมะพร้าวที่สับเป็นชิ นเล็กๆด้วย น้องมังกร : ปลูกผักในตะกร้าที่เป็นรูๆ หรือปลูกด้วยกะละมังเก่าๆ ก็ได้ครับ น้องน ้าผึ ง : บางคนเขาปลูกด้วยฟองน้าคะ หนูเคยเห็นในโทรทัศน์ น้องมินิ : ป้าหนูเขาขายขนมจีน เขาปลูกถั่วงอกใน ผ้าสีขาว บางๆคะ ไม่ต้องใช้ดินเลยคะ น้องฟาร์ม : แม่เคยปลูกผักบุ้งในตะกร้าเล็กๆครับ บอกให้พี่ช่วยรดน ้าทุกวันด้วย เด็กเสนอการสันนิษฐานค้าตอบ การสันนิษฐานค้าตอบของเด็ก


20 เด็ก ๆ ศึกษาข้อมูลขั นตอนการปลูกผักบุ้งในวัสดุที่ดูดซับน ้าทางอินเตอร์เน็ต เด็ก ๆ ศึกษาข้อมูลขั นตอนการปลูกผักบุ้งในวัสดุที่ดูดซับน ้าได้ ทางอินเตอร์เน็ตอีกครั ง ก่อนจะท้าการทดลองการปลูกผักบุ้งด้วยตนเอง


21 ขั นที่ 3 ทดสอบและปฏิบัติการสืบเสาะ (31 มกราคม 2566) ครูสนทนากับเด็ก โดยใช้ค้าถาม “เด็กๆมีวิธีการหาค้าตอบอย่างไรถึงจะทราบว่า ต้นผักบุ้งเจริญเติบโต ในวัสดุใดดีที่สุด” ทุกคนร่วมสรุป ตกลงกันว่าจะทดลองปลูกผักบุ้งในวัสดุที่ดูดซับน ้าได้ 3 ชนิด คือ ฟองน ้า ผ้า และส้าลี เด็กๆและครูร่วมกันสรุปวัสดุและขั นตอนในการปลูกต้นผักบุ้ง โดยครูเขียนบันทึกที่แผ่นชาร์ท ดังนี ครู : เราจะลองปลูกผักบุ้งในวัสดุอะไรได้บ้างนะคะ โดยที่ไม่ใช้ดิน น้องเติ ล : ปลูกในฟองน ้าและส้าลีครับ รดน ้าให้เปียกเยอะๆ น้องมินิ : ปลูกในผ้าก็ได้คะ เอาผ้าแช่น ้าให้เปียกก่อน น้องอันปัน : เมื่อผักบุ้งโต เราจะเอาผักบุ้งไปผัดด้วย น้องมังกร : เราต้องเอาเมล็ดผักบุ้ง ไปปลูกที่ผ้าเปียกๆ มันถึงจะงอก ครู : เด็กๆมีวิธีหรือขั นตอนในการปลูกผักบุ้งอย่างไรบ้างคะ น้องญาดา : เอาผ้า ส้าลี และฟองน ้า ไปแช่ในน ้าก่อน แล้วเอาเมล็ดผักบุ้งไปปลูกคะ น้องแตงโม : เราต้องรดน ้าให้ผักบุ้งตอนเช้าๆ ทุกวันคะ น้องไข่มุก : เราเอาส้าลีที่เปียกน ้าใส่ในตะกร้าแล้วเอาปลูกผักบุ้งได้ ครู : เราจะเอาตะกร้าแบบไหนคะ จึงจะเหมาะในการปลูกผักบุ้ง น้องญาดา : ต้องใช้ตะกร้าที่มีรูเยอะ ๆคะ ขนาดใหญ่ ๆ จะได้ปลูกผักบุ้งได้หลายต้น น้องมังกร : ใช้ตะกร้าใส่ขนมจีนเล็กๆ ก็ได้ น้องเติ ล : เราต้องเอาเมล็ดผักบุ้งไปแช่น ้าไว้ก่อนแล้วจึงจะน้ามาปลูกจะท้าให้ผักบุ้งงอกเร็วด้วย น้องอันปัน : ผักบุ้งเอาไปผัดกับไข่ อร่อยคะ ครู รดน ้าวันละกี่ครั งและรดน ้าตอนไหนบ้างคะ น้องมินิ : รดน ้าตอนเช้า ทุกวันคะ น้องญาดา : ใช้บัวรดน ้าอันเล็ก ๆ จะได้ไม่หนักหรือเราเอาน ้าใส่ขวดเจาะรูที่ฝาขวด ใช้รดน ้าก็ได้ ครู : แล้วจะรู้ได้อย่างไรคะ ว่าต้นผักบุ้งเจริญเติบโตได้แค่ไหน น้องมังกร : เราต้องสังเกตทุกวันว่าผักบุ้งอกกี่ต้นแล้ว และเมล็ดที่ยังไม่งอกกี่ต้น น้องเติ ล : ดูว่าต้นผักบุ้งสูงแค่ไหน บางต้นก็เล็ก บางต้นก็ใหญ่ไม่เท่ากัน น้องน ้าผึ ง : วาดรูปต้นผักบุ้งคะในตะกร้า และระบายสีด้วย


22 กลุ่มที่ 1 วัสดุที่ใช้ ฟองน ้า วัสดุอุปกรณ์ 1.ฟองน ้า 2.เมล็ดผักบุ้งที่แช่น ้าไว้แล้ว 1 คืน 3.ตะกร้าแบบมีรูโปร่งๆ 4.ถาดรองน ้า 5.บัวรดน ้า 6.น ้าเปล่า ขั้นตอนการปลูก 1.น้าวัสดุฟองน ้า มาจัดใส่ในตะกร้าที่มีรูโปร่งๆ ที่เตรียมไว้ แล้วรดน ้าให้เปียกชุ่มเยอะๆ จ้านวน 3 บัวรดน ้า ขนาดเล็ก 2.น้าเมล็ดผักบุ้งที่แช่น ้าไว้แล้วจ้านวน 1 คืน น้ามาจัดวางให้เป็นแถว ๆละ 5 เม็ด จ้านวน 4 แถว โดยให้ เว้นระยะห่างช่องงว่างเท่า ๆ กัน 3.เมื่อท้าการจัดวางเพาะเมล็ดผักบุ้งเสร็จแล้ว ให้รดน ้าอีกครั งจ้านวน น ้า 1 บัวรดน ้า 4.ในช่วง 2 วันแรก ให้วางตะกร้าเมล็ดผักบุ้งในที่ร่มไม่ควรน้าไปตากแดดก่อน รอให้รากเมล็ดผักบุ้งเริ่มงอก ก่อน 5.ท้าการรดน ้าทุกวันในตอนเช้า วันละ 1 ครั ง จ้านวนน ้า 1 บัวรดน ้า (บัวขนาดเล็ก) 6.ในช่วงวันที่ 3 เป็นต้นไป ให้น้าตะกร้าที่เพาะเมล็ดผักบุ้งออกมาวางที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก มีแสงแดด แต่ไม่ควรวางในที่มีแสงแดดจ้าเกินไป 7.ท้าการสังเกตและบันทึกผลการเจริญเติบโตของต้นผักบุ้งในวัสดุต่างๆ ทุก ๆ 3 วัน 8.บันทึกผลโดยการใช้ไม้บรรทัดวัดความสูงและจดบันทึกการเจริญเติบโตของต้นผักบุ้ง 9.วาดรูประบายสีต้นผักบุ้งของแต่ละกลุ่ม สรุป วัสดุและขั นตอนการปลูก


23 กลุ่มที่ 2 วัสดุที่ใช้ ผ้า วัสดุอุปกรณ์ 1.ผ้า 2.เมล็ดผักบุ้งที่แช่น ้าไว้แล้ว 1 คืน 3.ตะกร้าแบบมีรูโปร่งๆ 4.ถาดรองน ้า 5.บัวรดน ้า 6.น ้าเปล่า ขั้นตอนการปลูก 1.น้าวัสดุผ้ามาจัดวางในตะกร้าที่มีรูโปร่งๆ ที่เตรียมไว้แล้วรดน ้าให้ชุ่มน ้าเยอะๆจ้านวน 3 บัวรดน ้า ขนาดเล็ก 2.น้าเมล็ดผักบุ้งที่แช่น ้าไว้แล้วจ้านวน 1 คืน น้ามาจัดวางให้เป็นแถว ๆละ 5 เม็ด จ้านวน 4 แถว โดยให้ เว้นระยะห่างช่องว่างเท่า ๆ กัน 3.เมื่อท้าการจัดวางเพาะเมล็ดผักบุ้งเสร็จแล้ว ให้รดน ้าอีกครั ง จ้านวน น ้า 1 บัวรดน ้า 4.ในช่วง 2 วันแรก ให้วางตะกร้าเมล็ดผักบุ้ง ในที่ร่มไม่ควรน้าไปตากแดดก่อนรอให้รากเมล็ดผักบุ้งเริ่มงอก ก่อน 5.ท้าการรดน ้าทุกวันในตอนเช้า วันละ 1 ครั ง จ้านวนน ้า 1 บัวรดน ้า (บัวขนาดเล็ก) 6.ในช่วงวันที่ 3 เป็นต้นไปให้น้าตะกร้าที่เพาะเมล็ดผักบุ้งออกมาวางที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก มีแสงแดด แต่ไม่ควรวางในที่มีแสงแดดจ้าเกินไป 7.ท้าการสังเกตและบันทึกผลการเจริญเติบโตของต้นผักบุ้งในวัสดุต่างๆ ทุก ๆ 3 วัน 8.บันทึกผลโดยการใช้ไม้บรรทัดวัดความสูงและจดบันทึกการเจริญเติบโตของต้นผักบุ้ง 9.วาดรูประบายสีต้นผักบุ้งของแต่ละกลุ่ม สรุป วัสดุและขั นตอนการปลูก


24 กลุ่มที่ 3 วัสดุที่ใช้ ส้าลี วัสดุอุปกรณ์ 1.ส้าลี 2.เมล็ดผักบุ้งที่แช่น ้าไว้แล้ว 1 คืน 3.ตะกร้าแบบมีรูโปร่งๆ 4.ถาดรองน ้า 5.บัวรดน ้า 6.น ้าเปล่า ขั้นตอนการปลูก 1.น้าวัสดุ ส้าลีมาจัดในตะกร้าที่มีรูโปร่งๆ ที่เตรียมไว้แล้วรดน ้าให้ชุ่มน ้าเยอะๆจ้านวน 3 บัวรดน ้า ขนาดเล็ก 2.น้าเมล็ดผักบุ้งที่แช่น ้าไว้แล้วจ้านวน 1 คืน น้ามาจัดวางให้เป็นแถว ๆละ 5 เม็ด จ้านวน 4 แถว โดยให้ เว้นระยะห่างช่องว่างเท่า ๆ กัน 3.เมื่อท้าการจัดวางเพาะเมล็ดผักบุ้งเสร็จแล้ว ให้รดน ้าอีกครั งจ้านวน น ้า 1 บัวรดน ้า 4.ในช่วง 2 วันแรกให้วางตะกร้าเมล็ดผักบุ้งในที่ร่มไม่ควรน้าไปตากแดดก่อนรอให้รากเมล็ดผักบุ้งเริ่มงอก ก่อน 5.ท้าการรดน ้าทุกวันในตอนเช้า วันละ 1 ครั ง จ้านวนน ้า 1 บัวรดน ้า (บัวขนาดเล็ก) 6.ในช่วงวันที่ 3 เป็นต้นไปให้น้าตะกร้าที่เพาะเมล็ดผักบุ้งออกมาวางที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก มีแสงแดด แต่ไม่ควรวางในที่มีแสงแดดจ้าเกินไป 7. ท้าการสังเกตและบันทึกผลการเจริญเติบโตของต้นผักบุ้งในวัสดุต่างๆ ทุก ๆ 3 วัน 8.บันทึกผลโดยการใช้ไม้บรรทัดวัดความสูงและจดบันทึกการเจริญเติบโตของต้นผักบุ้ง 9.วาดรูประบายสีต้นผักบุ้งของแต่ละกลุ่ม สรุป วัสดุและขั นตอนการปลูก


25 ขั นที่ 3 ทดสอบและปฏิบัติการสืบเสาะ (ต่อ) ( 1 กุมภาพันธ์ 2566) เด็กแบ่งกลุ่มจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์และปฏิบัติการควบคุมตัวแปร คือ ใช้ตะกร้าที่มีรูโปร่งๆ มีถาดส้าหรับ รองน ้า ใช้บัวรดน ้าและใส่ปริมาณน ้าที่เท่ากันและใช้วัสดุ ฟองน ้า ผ้า และส้าลี ด้วยขนาดและความหนาที่เท่ากัน ทั ง 3 ชนิดและจัดวางวัสดุลงในตะกร้าทั ง 3 ชนิด เด็กร่วมกันออกแบบวิธีบันทึกผล และน้าเสนอผลงาน โดยครูถามเด็ก ๆ ว่า “เด็กจะทราบได้อย่างไรว่า ต้นผักบุ้งในตะกร้าที่ปลูกด้วยวัสดุที่ดูดซับน ้าได้ทั ง 3 ชนิด ตะกร้าไหนจะเจริญเติบโตได้ดีที่สุด เด็กๆ ช่วยกันคิดวิธีบันทึกผลการเจริญเติบโตของต้นผักบุ้งในตะกร้าวัสดุทั ง 3 ชนิด โดยใช้เวลา การปลูกต้นผักบุ้งเป็นเวลา 15 วัน ซึ่งจะท้าการสังเกต วัดความสูง สังเกตการงอก นับจ้านวนใบ และ บันทึกผล ทุกๆ 3 วัน เป็นเวลา 5 ครั ง ครั งที่ 1 วันที่ 3 สังเกตการงอกราก นับจ้านวนต้นที่เริ่มงอก บันทึกผลโดยการวาดภาพ ครั งที่ 2 วันที่ 7 สังเกตการงอกราก นับจ้านวนต้นที่เริ่มงอก บันทึกผลวัดความสูงของล้าต้น วาดภาพ ครั งที่ 3 วันที่ 10 สังเกตการงอกราก นับจ้านวนต้นที่เริ่มงอก บันทึกผลวัดความสูงของล้าต้น วาดภาพ ครั งที่ 4 วันที่ 13 สังเกตการงอกราก นับจ้านวนต้นที่เริ่มงอก บันทึกผลวัดความสูงของล้าต้น วาดภาพ ครั งที่ 5 วันที่ 16 สังเกตการงอกราก นับจ้านวนต้นที่เริ่มงอก บันทึกผลวัดความสูงของล้าต้น วาดภาพ น้องเติ ล : ไปสังเกตดูบ่อย ๆและรดน ้าทุกวัน ครู : กี่วันจึงจะสังเกต และใช้เวลาสังเกตกี่ครั ง น้องมินิ : สังเกตทุก ๆ 3 วัน สังเกต 5 ครั ง น้องมังกร : เราต้องวัดความสูงของต้นผักบุ้งด้วย น้องอันปัน : นับจ้านวนต้นที่งอก ว่ามีกี่ต้นและไม่งอกกี่ต้น ครู : เราสังเกตจากอะไร และจะรู้ได้อย่างไรว่าผักบุ้งเจริญเติบโต น้องเติ ล : วัดความยาว ความสูงของล้าต้น และสังเกตจ้านวนใบของผักบุ้ง เด็กๆ เสนอวิธีการหาค้าตอบ


26 ขั นที่ 3 ทดสอบและปฏิบัติการสืบเสาะ (ต่อ) ( 1 กุมภาพันธ์ 2566) เด็กและครูช่วยกันเตรียมวัสดุอุปกรณ์เพื่อท้าการปลูกผักบุ้งในตะกร้าที่มีวัสดุดูดซับน ้าได้ คือ ฟองน ้า ผ้า และส้าลี ซึ่งจะใช้ตะกร้าตามกลุ่มสี และปฏิบัติการปลูกตามขั นตอนที่ออกแบบไว้ 1. เด็ก ๆ เตรียมวัสดุอุปกรณ์ในการปลูกผักบุ้ง 2.เด็ก ๆ จัดฟองน ้าลงในตะกร้า 3.รดน ้าลงบนฟองน ้าให้เปียกชุ่ม 4.ท้าการปลูกเมล็ดผักบุ้งลงในวัสดุที่เตรียมไว้ 5.ท้าการสังเกตเมื่อปลูกผักบุ้งเสร็จแล้ว เด็ก ๆท้าการปลูกผักบุ้งตามขั นตอนที่วางแผนไว้ กลุ่มที่1 วัสดุอุปกรณ์ 1.ฟองน ้า 2.เมล็ดผักบุ้ง 3.ตะกร้าแบบมีรูโปร่งๆ 4.ถาดรองน ้า 5. บัวรดน ้า 6. น ้าเปล่า


27 1.เด็ก ๆ เตรียมวัสดุอุปกรณ์ในการปลูกผักบุ้ง 2.เด็ก ๆจัดผ้าลงในตะกร้า 3.รดน ้าลงบนผ้าให้เปียกชุ่ม 4.ท้าการปลูกเมล็ดผักบุ้งลงในวัสดุที่เตรียมไว้ 5.ท้าการสังเกตเมื่อปลูกผักบุ้งเสร็จแล้ว เด็ก ๆท้าการปลูกผักบุ้งตามขั นตอนที่วางแผนไว้ กลุ่มที่2 วัสดุอุปกรณ์ 1.ผ้า 2.เมล็ดผักบุ้ง 3.ตะกร้าแบบมีรูโปร่งๆ 4.ถาดรอง 5. บัวรดน ้า 6. น ้าเปล่า


28 1.เด็ก ๆ เตรียมวัสดุอุปกรณ์ในการปลูกผักบุ้ง 2.เด็ก ๆจัดวางส้าลีลงในตะกร้า 3.รดน ้าลงบนส้าลีให้เปียกชุ่ม 4.ปลูกเมล็ดผักบุ้งลงในวัสดุที่เตรียมไว้ 5.ท้าการสังเกตเมื่อปลูกผักบุ้งเสร็จแล้ว เด็ก ๆท้าการปลูกผักบุ้งตามขั นตอนที่วางแผนไว้ กลุ่มที่3 วัสดุอุปกรณ์ 1.ส้าลี 2.เมล็ดผักบุ้ง 3.ตะกร้าแบบมีรูโปร่งๆ 4.ถาดรอง 5. บัวรดน ้า 6.น ้าเปล่า


29 ข้นัที่4 สังเกตและบรรยายและข้นัที่5 บนัทึกขอ้มูล เด็กๆ แต่ละกลุ่มสังเกตผักบุ้งที่ปลูกในวัสดุต่าง ๆ ของกลุ่มตัวเองและของกลุ่มเพื่อน ๆ หลังจากท้าการ ปลูกได้ 3 วัน ว่าเป็นอย่างไรบ้าง เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไรและวาดภาพจากสิ่งที่สังเกตได้และแต่ละกลุ่มท้า การวัดความสูงของล้าต้น สังเกตการเจริญเติบโต สังเกตเมล็ด สี ใบ ราก ลักษณะของล้าต้นตามที่ได้ออกแบบไว้ ตารางการสังเกตและบันทึกการเจริญเติบโตของต้นผักบุ้ง ครั งที่ 1 วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566 ครั งที่ 2 วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2566 ครั งที่ 3 วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2566 ครั งที่ 4 วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566 ครั งที่ 5 วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2566 ผักบุ้งที่เด็ก ๆ ท้าการปลูกเสร็จแล้วในวัสดุทั ง 3 ชนิด เด็ก ๆ สังเกตและบันทึกผลการเจริญเติบโตของต้นผักบุ้งในวัสดุทั ง 3 ชนิด


30 ข้นัที่4 สังเกตและบรรยายและข้นัที่5 บนัทึกขอ้มูล ( 3 กุมภาพันธ์ 2566) การสังเกตและบันทึกผลการเจริญเติบโตของต้นผักบุ้ง (ครั งที่ 1 3 ก.พ 2566) วัสดุที่ใช้ปลูก ภาพการสังเกตและบันทึกผล ต้นผักบุ้ง สังเกตและบรรยาย ลักษณะ สี ราก เมล็ด ล้าต้น ใบ ขนาด ความสูง สังเกตครั งที่1 ปลูกผักบุ้งใน ฟองน ้า - เมล็ดยังไม่เริ่มงอกราก - เมล็ดมีลักษณะกลมๆ รี - เมล็ดมีเปลือกมีสีด้า สีน ้าตาล สังเกตครั งที่1 ปลูกผักบุ้งใน ผ้า - เมล็ดยังไม่เริ่มงอกราก - เมล็ดมีลักษณะกลมๆ รี - เมล็ดมีเปลือกมีสีด้า สีน ้าตาล สังเกตครั งที่1 ปลูกผักบุ้งใน ส้าลี - เมล็ดยังไม่เริ่มงอกราก - เมล็ดมีลักษณะกลมๆ รีๆ - เมล็ดมีเปลือกมีสีด้า สีน ้าตาล


31 การสังเกตและบันทึกผลการเจริญเติบโตของต้นผักบุ้ง (ครั งที่ 2 7 ก.พ 2566) วัสดุที่ใช้ปลูก ภาพการสังเกตและบันทึกผล ต้นผักบุ้ง สังเกตและบรรยาย ลักษณะ เมล็ด ราก ล้าต้น ใบ สี ขนาด สังเกตครั งที่2 ปลูกผักบุ้งใน ฟองน ้า -เมล็ดผักบุ้งจะงอกราก แทงลึกลง ไปในฟองน ้า ล้าต้นจะตั งตรง ต้นที่ สูงที่สุดขนาด 4 ซม. -มีต้นงอกเกินฟองน ้ามาแล้ว 7 ต้น มีใบคู่ 2ใบ สีเขียวอ่อนๆ - ที่เหลือยังเป็นต้นที่ก้าลังจะโผล่ ออกมา สังเกตครั งที่2 ปลูกผักบุ้งใน ผ้า -เมล็ดผักบุ้งจะงอกรากออกมายาวๆ สีขาวอ่อนๆ -เริ่มมีใบเป็นสีเขียวอ่อน ยังมี เปลือกเมล็ดสีด้าติดอยู่ที่ส่วนบนสุด - ล้าต้นจะนอนราบ ต้นที่ยาวที่สุด ที่สุดขนาด 5 ซม. -มีต้นงอกยาว แล้ว 10 ต้น - ที่เหลือยังเป็นเมล็ดที่มีรากสั นๆ สังเกตครั งที่2 ปลูกผักบุ้งใน ส้าลี -เมล็ดผักบุ้งจะงอกรากออกมายาวๆ สีขาว สีเหลืองอ่อนๆ -เริ่มมีใบเป็นสีเขียวอ่อน ยังมี เปลือกเมล็ดสีด้าติดอยู่ที่ส่วนบนสุด - ล้าต้นจะเริ่มตั งตรง ต้นที่ยาวที่สุด ที่สุดขนาด 5 ซม. -มีต้นงอกยาว แล้ว 8 ต้น - ที่เหลือยังเป็นเมล็ดที่มีรากสั นๆ


32 การสังเกตและบันทึกผลการเจริญเติบโตของต้นผักบุ้ง (ครั งที่ 3 10 ก.พ 2566) วัสดุที่ใช้ปลูก ภาพการสังเกตและบันทึกผล ต้นผักบุ้ง สังเกตและบรรยาย ลักษณะ เมล็ด ราก ล้าต้น ใบ สี ขนาด สังเกตครั งที่3 ปลูกผักบุ้งใน ฟองน ้า -เมล็ดผักบุ้งจะงอกราก แทงลึกลงไป ในฟองน ้า ล้าต้นจะตั งตรง มีต้นที่ สูงที่สุดขนาด 7 ซม. -มีต้นงอกเกินฟองน ้ามาแล้ว9 ต้น มี ใบคู่ 2ใบ -มีใบโตขึ น ยาวขึ นมี ใบคู่2 ใบสีเขียว อ่อน และเริ่มสีเขียวเข้ม สังเกตครั งที่3 ปลูกผักบุ้งใน ผ้า -เมล็ดผักบุ้งจะงอกรากออกมายาวๆ สีขาวอ่อนๆ -เริ่มมีใบเป็นสีเขียวอ่อน ยังมีเปลือก เมล็ดสีด้าติดอยู่ที่ส่วนบนสุด - ล้าต้นจะนอนราบ ไม่ตั งตรง ต้นที่ ยาวที่สุดที่สุดขนาด 8 ซม. -มีต้นงอกยาว แล้ว 11 ต้น สังเกตครั งที่3 ปลูกผักบุ้งใน ส้าลี -เมล็ดผักบุ้งจะงอกรากออกมายาวๆ สีเขียวอ่อน ๆ -เริ่มมีใบเป็นสีเขียวอ่อน และสีเขียว เข้ม ยังมีเปลือกเมล็ดสีด้าติดอยู่ที่ ส่วนบนสุด - ล้าต้นจะเริ่มตั งตรงบางต้น ต้นที่ ยาวที่สุดที่สุดขนาด 8 ซม. -มีต้นงอกยาว แล้ว 11 ต้น


33 การสังเกตและบันทึกผลการเจริญเติบโตของต้นผักบุ้ง (ครั งที่ 4 13 ก.พ 2566) วัสดุที่ใช้ปลูก ภาพการสังเกตและบันทึกผลต้น ผักบุ้ง สังเกตและบรรยาย ลักษณะ เมล็ด ราก ล้าต้น ใบ สี ขนาด สังเกตครั งที่4 ปลูกผักบุ้งใน ฟองน ้า -เมล็ดผักบุ้งจะงอกรากแทงลึกลงไป ในฟองน ้า ล้าต้นจะตั งตรง มีต้นที่ สูงที่สุดขนาด 13 ซม. -มีต้นงอกเกินฟองน ้ามาแล้ว 11 ต้น มีใบคู่ 2ใบ -มีใบโตขึ น ยาวขึ น ใบมีสีเขียวอ่อน และเริ่มสีเขียวเข้ม สังเกตครั งที่4 ปลูกผักบุ้งใน ผ้า -เมล็ดผักบุ้งจะงอกราก ไม่แทงลง ไปในผ้า แต่ล้าต้นจะเอน ยาวนอน ราบ ไม่ตั งตรง มีต้นที่สูงที่สุดขนาด 14 ซม. -มีต้นงอกมาแล้ว13 ต้น มีใบคู่ 2ใบ -มีใบโตขึ น ยาวขึ นมี ใบสีเขียวอ่อน ล้าต้นสีเขียวอ่อน สังเกตครั งที่4 ปลูกผักบุ้งใน ส้าลี -เมล็ดผักบุ้งจะงอกราก แทงไม่ลึก ลงไปในส้าลีบางต้นล้าต้นจะเอน ราบ ไม่ตั งตรง มีต้นที่สูงที่สุดขนาด 14 ซม.และบางต้นจะเน่า เปื่อย -มีต้นงอกมาแล้ว12 ต้น มีใบคู่ 2ใบ -มีใบโตขึ น ยาวขึ น ใบสีเขียวอ่อน และเริ่มเขียวเข้ม


34 การสังเกตและบันทึกผลการเจริญเติบโตของต้นผักบุ้ง ( ครั งที่ 5 16 ก.พ. 2566) วัสดุที่ใช้ปลูก ภาพการสังเกตและบันทึกผลต้น ผักบุ้ง สังเกตและบรรยาย ลักษณะ เมล็ด ราก ล้าต้น ใบ สี ขนาด สังเกตครั งที่5 ปลูกผักบุ้งใน ฟองน ้า -เมล็ดผักบุ้งจะงอกราก แทงลึกลงไป ในฟองน ้า ล้าต้นจะตั งตรง มีต้นที่ สูงที่สุดขนาด 14 ซม. -มีต้นงอกเกินฟองน ้ามาแล้ว 15 ต้น ใบสีเขียวเข้ม และเขียวอ่อน -มีใบโตขึ น ยาวขึ นมี ใบคู่2 ใบ -ตอนเช้าเมื่อยังไม่รดน ้า ฟองน ้าจะ เริ่มแห้ง ไม่ค่อยชุ่มชื น สังเกตครั งที่5 ปลูกผักบุ้งใน ผ้า -เมล็ดผักบุ้งจะงอกราก ลอยอยู่บน ผ้า ล้าต้นจะเอน ยาว ไม่ตั งตรง มีต้น ที่สูงที่สุดขนาด 15 ซม. -มีต้นงอก มาแล้ว 15 ต้น มีใบคู่ 2ใบ -มีใบโตขึ น สีเขียวเข้ม ใบยาวขึ น -ตอนเช้าเมื่อยังไม่รดน ้า ผ้าจะยัง เปียกๆ ยังมีความชุ่มชื น สังเกตครั งที่5 ปลูกผักบุ้งใน ส้าลี -เมล็ดผักบุ้งจะงอกราก แทงลึกลงไป ในฟองน ้า ล้าต้นจะตั งตรง มีต้นที่ สูงที่สุดขนาด 16 ซม. -มีต้นงอกเลยมาแล้ว 16 ต้น มีใบคู่ 2ใบ -มีใบโตขึ น ยาวขึ นมี ใบสีเขียวเข้ม -ตอนเช้าเมื่อยังไม่รดน ้า ส้าลีจะยัง เปียกๆ นุ่ม ยังมีความชุ่มชื นเยอะ


35 ภาพต้นผักบุ้งที่ปลูกในวัสดุที่ดูดซับน ้าได้ ภาพต้นผักบุ้งที่ปลูกในวัสดุที่ดูดซับน ้าได้ เด็กๆน้าเสนอผลงานให้เพื่อนๆดู ภาพต้นผักบุ้งที่ปลูกในวัสดุที่ดูดซับน ้าได้ เด็กๆน้าเสนอผลงานให้เพื่อนๆดู เด็กๆน้าเสนอผลงานให้เพื่อนๆดู เด็กๆ บันทึกการวาดภาพต้นผักบุ้งของตนเอง


36 ครั้งที่ /วันที่ วัสดุที่ดูดซับน้ าได้ เด็ก ๆ บันทึก ข้อมูลโดยการ วาดรูป ฟองน้ า ผ้า ส าลี ครั งที่ 1 3 ก.พ. 2566 ครั งที่ 2 7 ก.พ. 2566 ครั งที่ 3 10 ก.พ. 2566 ครั งที่ 4 13 ก.พ. 2566 ครั งที่ 5 16 ก.พ. 2566 ตารางบันทึกผลการเจริญเติบโตของพืชในวัสดุที่ดูดน้ าได้ เป็นเวลาจ านวน 5 ครั้ง


37 ขั นที่ 6 สรุปและอภิปรายผล (17 กุมภาพันธ์ 2566) เด็กและครูร่วมสนทนาถึงค้าถามที่เด็กอยากรู้ “วัสดุที่ดูดซับน้ าชนิดไหนสามารถน ามาปลูกพืชได้ดีที่สุด” ครูให้เด็กทบทวน โดยการให้เด็กออกมาเล่าวิธีการหาค้าตอบว่าได้มาอย่างไรและผลการทดลองเป็นอย่างไร โดยครู ร่วมกับเด็กสรุปค้าถามที่เด็กๆ อยากรู้อีกครั ง 1.วัสดุใดดูดซับน ้าได้ดีที่สุด 2.วัสดุที่ดูดซับน ้าชนิดไหนสามารถน้ามาปลูกพืชได้ดีที่สุด เด็กๆร่วมกันลงความเห็น สรุป ว่าจากการสังเกตการเจริญเติบโตของต้นผักบุ้ง ในครั งสุดท้าย การปลูก พืชในวัสดุที่ดูดซับน้าได้ดีที่สุด คือ ส าลี เป็นเพราะว่า ส าลีมีการดูดซับน ้าได้นานและดีที่สุด และยังคงเปียกชุ่ม น ้าได้นานกว่าวัสดุชนิดอื่น และต้นผักบุ้งก็เจริญเติบโตได้ดี งอกจ้านวน 16 ต้น และล้าต้นสูง ยาว ล้าต้นจะตั งตรง และเอนเอียงในบางต้น ล้าดับที่ 2 คือ ฟองน ้า ผลการทดลองพบว่า ต้นผักบุ้งที่ปลูกด้วยฟองน ้า งอกจ้านวน 15 ต้น และไม่งอก 5 ต้น และต้นที่งอกจากการสังเกตและวัดความสูงจะเห็นว่าต้นผักบุ้งล้าต้นจะตั งตรง ไม่เอนเอียง เป็นเพราะราก สามารถจะแทงลึกลงไปในฟองน ้าได้ แต่เมื่อจับสัมผัสดูพบว่าฟองน ้าจะแห้งเร็ว การดูดซับน ้าจะน้อยกว่าส้าลี และล้าดับสุดท้าย คือ ผ้า ผลการทดลองพบว่า ผ้า มีการดูดซับน ้าได้น้อยกว่าส้าลีและแห้งเร็วกว่าส้าลี แต่ยังคงเปียกชุ่มน ้าบ้างนิดหน่อยและต้นผักบุ้งก็เจริญเติบโตได้ดี งอกจ้านวน 15 ต้น ล้าต้นสูง ยาว จะตั งตรงและ เอนเอียงบ้างในบางต้น ครูสนทนาต่อเนื่องให้เด็กๆ เปรียบเทียบสิ่งที่สันนิษฐานค้าตอบกับผลการศึกษา ว่าตรงกันหรือไม่ โดยครู อ่านสิ่งที่เด็กสันนิษฐานค้าตอบไว้ให้ฟัง เด็กๆกลุ่ม ส าลีบอกว่าตรงคะ พืชเจริญเติบโตได้ดีที่สุด ล้าต้นสูงและงอก เยอะคะ เพราะส้าลีดูดซับน ้าได้ดีและนานที่สุด ครูจึงถามนักเรียนต่อไปว่า “นักเรียนคิดว่าท้าไมพืชจึงเจริญเติบโตในวัสดุที่ดูดซับน ้าได้” เด็กบางคน ตอบว่า เพราะพืชต้องการน ้าในการเจริญเติบโต และพืชต้องการอากาศหายใจ ต้องอยู่ที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก ผลการพัฒนาความสามารถของเด็กปฐมวัย 1. ผลการพัฒนาความสามารถพื นฐาน 4 ด้าน 1.1 ด้านการเรียนรู้ - เด็ก ๆ สามารถเล่าและบอกวิธีการหาค้าตอบของตนเองได้ - เด็ก ๆ ได้เรียนรู้เรื่อง การเจริญเติบโตของพืชที่ปลูกในวัสดุต่างๆที่ดูดซับน ้าได้ - เด็กได้เรียนรู้คุณสมบัติของวัสดุว่ามีความแตกต่างกัน 1.2 ด้านภาษา - เด็กมีพัฒนาการด้านภาษาจากการสนทนา โต้ตอบแสดงความคิดเห็น - ทักษะด้านภาษาจากการพูด บรรยาย เล่า สื่อสารที่ตนเองสังเกตเห็นให้ผู้อื่นฟังเข้าใจ - ทักษะด้านภาษาจากการเล่าเรื่องที่วาดภาพ เพื่อสื่อสารให้ผู้อื่นเห็นภาพ


38 1.3 ด้านสังคม - เด็กสามารถท้างานร่วมกันเป็นกลุ่มกับผู้อื่นได้ - เด็กแสดงความคิดเห็นของตนเองและยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น - เด็กเคารพกติกาและปฏิบัติตามข้อตกลงของห้องเรียนและของกลุ่ม 1.4 ด้านการเคลื่อนไหวและทักษะการรับรู้ประสาทสัมผัส - เด็กเคลื่อนไหวหยิบจับวัสดุอุปกรณ์ในการทดลอง การเดินส้ารวจ การลงมือปฏิบัติได้ อย่างคล่องแคล่ว - เด็กสามารถใช้ประสาทสัมผัสในการสังเกตด้วยตนเองจนได้ข้อมูลที่ชัดเจน 1.5 ด้านอารมณ์และจิตใจ - เด็กมีความสุข สนุกสนานเมื่อได้ท้ากิจกรรมร่วมกับผู้อื่น - เด็กมีความมั่นใจกล้าแสดงออก เมื่อได้พูดคุย 2. ผลการพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 2.1 ทักษะการสังเกต - การบอกลักษณะสิ่งที่สังเกตด้วยประสาทสัมผัสต่าง ๆ เช่น หยิบ จับ สัมผัสวัสดุอุปกรณ์ ในการทดลอง -การสังเกตการเจริญเติบโตของพืชที่ปลูกในวัสดุต่างๆ ตามระยะเวลาที่วางแผนกันไว้ 2.2 ทักษะการจ้าแนกประเภท - จ้าแนกลักษณะวัสดุที่ดูดซับน ้าได้แต่ละชนิด - เปรียบเทียบและจ้าแนกสิ่งที่สันนิษฐานกับผลการศึกษา 2.3 ทักษะการพยากรณ์หรือการคาดคะเนค้าตอบ - เด็กสามารถคาดคะเนค้าตอบที่คิดว่าพืชเจริญเติบโตในวัสดุชนิดใดดีที่สุด 2.4 ทักษะการจัดกระท้าสื่อความหมายข้อมูล - เด็กสามารถสรุปผลสิ่งที่สังเกตโดยการวาดภาพต้นผักบุ้งที่ปลูกในวัสดุต่างๆ/ที่ดูดซับน ้าได้ - เขียนชื่อวัสดุชนิดต่าง ๆได้ เล่าเรื่องให้ครูฟังแล้วน้าเสนอหน้าชั นเรียนให้เพื่อน ๆ ฟังได้ 2.5 ทักษะการลงความคิดเห็นขากข้อมูล - เด็กสามารถให้เหตุผลเพิ่มเติมโดยใช้ความคิดเห็นส่วนตัว และประสบการณ์เดิมแสดงความ คิดเห็นต่าง ๆ ได้ 2.6 ทักษะการทดลอง - เด็กสามารถออกแบบร่วมกันก้าหนดขั นตอนในการทดลองปลูกพืชใช้วัสดุต่างชนิดที่ดูดซับน ้าได้ ว่าต้องท้าอย่างไรและใช้วัสดุอุปกรณ์อะไรบ้าง - เด็กสามารถปฏิบัติตามขั นตอนที่ก้าหนดได้ - เด็กสามารถบันทึกผลการทดลองวิธีการปลูกพืชในวัสดุที่ดูดซับน ้าได้


Click to View FlipBook Version