แนวทางการเขียนรายงานผลการทำโครงงานโดยใช้กระบวนการสืบเสาะของเด็กปฐมวัย ตามโครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย ปีการศึกษา 2565 (โดยเป็นวัฏจักรการสืบเสาะ 1 วงรอบขึ้นไป) ชื่อโครงงาน เรื่อง ดิน ผู้จัดทำโครงงาน นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 โรงเรียนบ้านคู สพป. พัทลุง เขต 2 ครูที่ปรึกษา นางสุรีรัตน์ รองเดช ระยะเวลาในการจัดทำ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 - 10 มีนาคม 2566 ที่มาของโครงงาน เนื่องจากนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 ได้ทำกิจกรรมในโครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย เรื่อง “ดิน ” เด็ก ๆ มีความสนใจในกิจกรรมนี้มาก เพราะคุณครูได้ พาเด็กออกมารดน้ำต้นไม้ที่ข้างอาคารเรียน หน้าห้องน้ำ น้องนิวซาน ถามคุณครูว่า “ทำไม เราไม่ลองเอาดินทรายและดินเหนียวมาลองปลูกผักบ้างละครับ ”จาก คำถามของน้องนิวซานคุณครู ได้นำนักเรียน เดินสำรวจรอบ ๆ บริเวณสนามเด็กเล่นและบริเวณหน้าเวที ซึ่งมีดินทราย และพื้นอิฐตัวหนอน จากนั้นคุณครูได้ให้นักเรียนสังเกตต้นไม้ ต้นหญ้าที่มี อยู่ในสนามเด็กเล่น และให้เด็ก ๆ ช่วยกันตอบ คำถามว่ามีต้นอะไรบ้าง จากนั้นครูได้นำนักเรียนไปสำรวจบริเวณด้านหลังและด้านข้างอาคารเรียน ซึ่งมีแปลงพืชผักสวน ครัว ที่ผู้อำนวยการโรงเรียน ได้ปลูกไว้ เมื่อสำรวจ และให้นักเรียนสังเกตลักษณะของดินที่ด้านข้างอาคารเรียน กับดินที่ สนามเด็ก เล่น ทำให้ เด็ก ๆ ได้รู้ว่าดินอะไรจะปลูกผักได้ดี และ ดินอะไร ทำให้เด็ก ๆ ได้สนุกกับการเล่นดิน ที่ หลากหลาย เด็ก ๆ สนใจและตั้งใจ ฟังครูอธิบาย และตั้งคำถาม อย่างสนุกสนาน ประสบการณ์เดิมเกี่ยวกับดินจากเด็ก ๆ น้องอัยด้า - ดินร่วนสามารถนำไปปลูกต้นไม้ ดอกไม้ ปลูกผักผักได้ด้วย น้องอันญา - ดินเหนียวนำไปทำเครื่องปั้นดินเผาได้ด้วย น้องอัสลาน - ดินทรายเอาไปสร้างบ้าน เอาไว้เล่นกับเพื่อนๆ น้องซัยนีน - ดินทราย เอามาทำการการทดลองก็ได้ คำถามที่เด็กอยากรู้เกี่ยวกับดินประเภทต่างๆ น้องบาซิล - ทำไมดินถึงไม่เหมือนกัน น้องฟารีซัน - ถ้าเราเอาดินมารวมกันจะเป็นอย่างไรคะ น้องนิวซาน - ดินเหนียวกับดินน้ำมันแตกต่างกันอย่างไร น้องบีบี - จะปลูกต้นไม้ในดินอะไรถึงจะโต น้องอัฟฎอน - มีอะไรอยู่ในดินบ้าง
สรุปคำถามที่เด็ก ๆ สงสัยอยากรู้เกี่ยวกับเรื่อง ดิน นี้ ได้แก่ 1. ทำไมดินถึงไม่เหมือนกัน 2. มีอะไรอยู่ในดินบ้าง 3. จะปลูกต้นไม้ในดินชนิดไหนต้นไม้ถึงจะโตและไม่ตาย 4. ถ้าเราเอาดินมารวมกันจะเป็นอย่างไร ขั้นที่ 1 ตั้งคำถามเกี่ยวกับปรากฏการณ์ธรรมชาติ ครูได้นำนักเรียนไปสำรวจบริเวณด้านหลังและด้านข้างโรงเรียน ซึ่งมีแปลงพืชผักสวนครัว ที่ผู้อำนวยการโรงเรียน ได้ปลูกไว้ เมื่อสำรวจ และให้นักเรียนสังเกตลักษณะของดินที่ด้านข้างอาคารเรียน กับดินที่สนามเด็กเล่น ทำให้ เด็ก ๆ ได้รู้ ว่าดินอะไรจะปลูกผักได้ดี และ ดินอะไร ทำให้เด็ก ๆ ได้ สนุกกับการเล่น ที่หลากหลาย เด็ก ๆ สนใจ และ ตั้งใจ ฟังครูอธิบาย และตั้งคำถาม อย่างสนุกสนาน เด็กสนทนาประสบการณ์เดิมจากการ สำรวจดินภายในบริเวณโรงเรียน สืบค้นความรู้จากห้องสมุด สนทนา ซักถามจากผู้ปกครอง จึงสามารถนำความรู้จากประสบการณ์เดิม มาใช้อย่างสนุกสนานใน การร่วมกิจกรรมกับเพื่อน ๆ และครู ประสบการณ์เดิมเกี่ยวกับดินจากเด็ก ๆ น้องอัยด้า - ดินร่วนสามารถนำไปปลูกต้นไม้ ดอกไม้ ปลูกผักผักได้ด้วย น้องอันญา - ดินเหนียวนำไปทำเครื่องปั้นดินเผาได้ด้วย น้องอัสลาน - ดินทรายเอาไปสร้างบ้าน เอาไว้เล่นกับเพื่อนๆ น้องซัยนีน - ดินทราย เอามาทำการการทดลองก็ได้ คำถามที่เด็กอยากรู้เกี่ยวกับดินประเภทต่างๆ น้องบาซิล - ทำไมดินถึงไม่เหมือนกัน น้องฟารีซัน - ถ้าเราเอาดินมารวมกันจะเป็นอย่างไรคะ น้องนิวซาน - ดินเหนียวกับดินน้ำมันแตกต่างกันอย่างไร น้องบีบี - จะปลูกต้นไม้ในดินอะไรถึงจะโต น้องอัฟฎอน - มีอะไรอยู่ในดินบ้าง คำถาม จะปลูกต้นไม้ในดินชนิดไหนต้นไม้ถึงจะโตและไม่ตาย
จากการตั้งคำถามของเด็กจึงสรุปลงในแผนที่ความคิด ได้ดังนี้ ดินร่วนใช้ปลูกต้นไม้ได้ ดินทรายเอามาสร้างบ้านได้ ความแตกต่างของดิน ดินมหัศจรรย์ ในดินมีอะไรบ้าง แต่ละประเภท ดินเหนียวนำมาปั้นเป็นรูปต่าง ๆได้ ถ้าเรานำดินมาทำการทดลอง การกักเก็บน้ำ จะเป็นอย่างไร จุดประสงค์ - เพื่อช่วยส่งเสริมให้นักเรียนเกิดการคิด สังเกต และสืบค้นข้อมูล - เพื่อให้นักเรียนได้รู้ว่าจะปลูกต้นไม้ในดินอะไร ต้นไม้ถึงจะโต - เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้เกี่ยวกับการทดลองการกักเก็บน้ำของดินแต่ละประเภท
ขั้นที่ 2 รวบรวมความคิดและข้อสันนิษฐาน เด็ก ๆ ค้นคว้าหาคำตอบจากแหล่งข้อมูลที่หลากหลายผ่านกิจกรรมที่ปฏิบัติจริง การสืบค้นจากห้องสมุด การทดลอง การแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพื่อให้เด็กได้รับประสบการณ์ตรงมากที่สุด - - - - - - - เด็ก ๆ สืบค้นข้อมูลจากอินเทอร์เนต
เด็ก ๆ สังเกตลักษณะ และส่วนประกอบ ของดินชนิดต่าง ๆ
ขั้นที่ 3 ทดสอบและปฏิบัติการสืบเสาะ เด็ก ๆ เดินดูผักสวนครัวที่ปลูกในบริเวณโรงเรียน เด็กช่วยกันรดน้ำผักบริเวณด้านข้างอาคารเรียน จากการสำรวจประโยชน์ของดินร่วน
การทดลองการกักเก็บน้ำของดินแต่ละประเภท จัดกิจกรรมการทดลอง ดังนี้ อุปกรณ์ในการทดลอง 1. ดินเหนียว ดินร่วน ดินทราย 2. บีกเกอร์ 3 ใบ 3. ช้อน 4. น้ำเปล่า 5. ถาดรองน้ำ 1. เด็กแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 5-6 คนพร้อมดูอุปกรณ์ในการทดลองร่วมกัน
2. เด็ก ๆ สังเกตและสัมผัสดินแต่ละประเภท ( สังเกต สี เนื้อดิน )
3. เด็ก ๆ ทดลองการกักเก็บน้ำโดยการตักดินแต่ละชนิดใส่ลงไปในแก้วและค่อยๆเทน้ำ ใส่ลงไปในแก้วแล้วช่วยกัน สังเกตความเปลี่ยนแปลง (
ขั้นที่ 4 สังเกตและบรรยาย เด็ก ๆ วาดรูปผลการทดลองการกักเก็บน้ำของดิน และชนิด ของดินจากการสังเกตและสัมผัสดินแต่ละประเภท .
ขั้นที่ 5 บันทึกข้อมูล
ขั้นที่ 6 สรุปและอภิปรายผล สรุป ผลการทดลองการกักเก็บน้ำของดินแต่ละประเภท น้องอัยด้า และเพื่อน ๆ ในห้องเรียนร่วมกันสรุปผลการทดลองการกักเก็บน้ำของดินแต่ละชนิด ผลของการทดลอง สรุปได้ คือ ชนิดของดิน ดินทราย ดินร่วน ดินเหนียว สี น้ำตาล ดำ ส้ม เนื้อดิน หยาบ , มีก้อนหิน มีซากสัตว์ ละเอียด การซึมผ่านของน้ำ เร็ว ปานกลาง ช้า การตกตะกอน เร็ว ปานกลาง ช้า การเกาะตัว น้อย ปานกลาง มาก การนำไปปลูกพืช เจริญเติบโตช้า , ตาย เจริญเติบโตช้า เจริญเติบโตช้า , ตาย สรุป ดินที่เหมาะสมกับการปลูกพืชมากที่สุด คือ ดินร่วน เพราะว่า ในเนื้อดินจะมีซากสัตว์และเมื่อนำไปปลูกพืช พืชจะไม่ ตาย แต่จะเจริญเติบโตช้า นำผักลงปลูกในดินร่วน
นำผักลงปลูกในดินร่วน
ผลการพัฒนาความสามารถของเด็กปฐมวัย 1. ผลการพัฒนาความสามารถพื้นฐาน 4 ด้าน ตามโครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย 1.1 ด้านการเรียนรู้ - เด็กรู้จักตั้งคำถามในสิ่งที่ตนสงสัย - เด็กได้เรียนรู้ถึงขั้นตอนของการทดลองการกักเก็บน้ำของดินแต่ละประเภทได้ - เด็กสามารถเรียนรู้ได้ว่าดินชนิดไหนที่เหมาะแก่การปลูกพืช - เด็กสามารถเรียนรู้ได้ว่าดินชนิดไหนที่กักเก็บน้ำได้ดีที่สุด 1.2 ด้านภาษา - เด็กสามารถบอกรายละเอียดของอุปกรณ์ที่ใช้ในการทดลองได้ - เด็กได้พูดและเล่า สิ่งที่สังเกตได้จากการทดลองเรื่องการกักเก็บน้ำของดินแต่ละประเภท 1.3 ด้านสังคม - เด็กเกิดทักษะกระบวนการทำงานกลุ่ม - เด็กรู้จักช่วยเหลือซึ่งกันและกัน 1.4 ด้านการเคลื่อนไหว - เด็กเคลื่อนไหว จับ หยิบอุปกรณ์ในการทดลองเรื่องดิน และลงมือปฏิบัติตามขั้นตอนการทดลองได้อย่าง คล่องแคล่ว สามารถใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 4 ในการสังเกตความเปลี่ยนแปลงของดิน ในระหว่างการทดลองการกักเก็บน้ำ ของดินแต่ละประเภทได้ 2. ผลการพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 2.1 ทักษะการสังเกต - เด็กสามารถสังเกตความเปลี่ยนแปลงของดิน ในระหว่างการทดลองการกักเก็บน้ำของดินแต่ละประเภท ว่าดิน ชนิดไหนกักเก็บน้ำได้ดีกว่ากัน 2.2 ทักษะการวัด - เด็กสามารถตักดินชนิดต่าง ๆ มาทำการทดลองได้ - เด็กสามารถกะปริมาณน้ำที่นำมาใช้ในการทดลองได้ 2.3 ทักษะการจำแนกประเภท - เด็กสามารถจำแนกดินออกเป็นชนิด ตามคุณลักษณะและส่วนประกอบ 2.4 ทักษะการคำนวณ - เด็กสามารถบอกได้ว่าต้องตักดินแต่ละชนิดและน้ำในปริมาณที่เท่ากัน - เด็กสามารถบอกได้ว่าต้องใช้เวลานานเท่าไหร่น้ำจะซึมผ่าน หรือตกตะกอน
2.5 ทักษะการพยากรณ์หรือการคาดคะเนคำตอบ - เด็กสามารถคาดคะเนคำตอบที่ตนเองคิดว่าดินจะกักเก็บน้ำไว้ได้ - เด็กสามารถคาดคะเนคำตอบที่ตนเองคิดว่าดินชนิดไหนที่นำไปปลูกผักได้ - เด็กสามารถคาดคะเนว่าต้องใช้เวลานานท่าไหร่น้ำจะซึมผ่าน หรือตกตะกอน 2.6 ทักษะการหาความสัมพันธ์ระหว่างสเปสกับสเปส และสเปสกับเวลา - เด็กบอกได้ว่าเมื่อวางดินที่ผสมกับน้ำ จะเกิดการซึมผ่าน - เด็กบอกได้ว่าเมื่อวางดินที่ผสมกับน้ำ เวลาผ่านไปจะเกิดการตกตะกอน 2.7 ทักษะการจัดกระทำและสื่อความหมายข้อมูล - เด็ก ๆ สามารถสรุปผลสิ่งที่สังเกตเห็นจากการเปลี่ยนแปลงของการทดลองเรื่องการกักเก็บน้ำของดินแต่ละ ประเภทและออกมานำเสนอหน้าชั้นเรียนให้เพื่อน ๆ ฟังได้ 2.8 ทักษะการลงความคิดเห็นจากข้อมูล - เด็กสามารถแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมโดยใช้ความคิดเห็นส่วนตัวว่าดินที่เหมาะแก่การปลูกพืช มีลักษณะอย่างไร
แนวทางการเขียนรายงานผลการทำโครงงานโดยใช้กระบวนการสืบเสาะของเด็กปฐมวัย ตามโครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย ปีการศึกษา 2565 (โดยเป็นวัฏจักรการสืบเสาะ 1 วงรอบขึ้นไป) ชื่อโครงงาน ใบอะไรกักน้ำไว้ได้ ผู้จัดทำโครงงาน นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 โรงเรียนบ้านคู สพป. พัทลุงเขต 2 ครูที่ปรึกษา นางระเบียบ เกื้อวงค์ ระยะเวลาในการจัดทำ วันที่ 8 – 10 กุมภาพันธ์ 2566 รวมเวลา 3 วัน ที่มาของโครงงาน ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนสำหรับเด็กปฐมวัยต้องใช้สื่อและกิจกรรมที่หลากหลายเพื่อให้เด็กเกิดการ เรียนรู้และได้รับประสบการณ์ตรง ในช่วงที่ครูจัดกิจกรรมการทดลองบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อยในเรื่องอากาศ (กักน้ำไว้ได้) เด็กๆสังเกตวัสดุที่นำมาทดลองในกิจกรรมกักน้ำไว้ได้นั้น มีกระดาษแข็ง แผ่นฟีมล์ ฟิวเจอร์บอร์ด เด็กตื่นเต้นกับการทดลอง และเมื่อสรุปผลการทดลองแล้วครูถามความคิดเห็นเด็กๆว่านอกจากวัสดุที่นำมาทดลองวันนี้เด็กๆคิดว่าเราวัสดุธรรมชาติที่ อยู่ใกล้ตัวเราอะไรสามารถกักน้ำไว้ได้บ้าง สรุปคำถามที่เด็กๆ สงสัยอยากรู้เกี่ยวกับเรื่อง ใบอะไรกักน้ำไว้ได้นี้ ได้แก่ 1. น้องพุฒินันท์ ผมคิดว่าใบไม้สามารถกักนำไว้ได้ 2. น้องภูริภัทร เราว่าน่าจะไม่ได้ 3. น้องอนัญญา น้องว่าใบตองกักน้ำได้ 4. น้องฮันนา แล้วเราจะเอาใบอะไรมาทดลองบ้าง 5. น้องอัสวีนา เราว่าเอาใบไม้ทุกอย่างในโรงเรียนมาทดลอง (ได้ที่มาของคำถามจากเหตุการณ์ สิ่งต่างๆรอบตัว หรือจากการจัดกิจกรรมในหน่วยปกติในห้องเรียน ฯลฯ ที่จะนำมาจัดทำ โครงงานที่ ซึ่งจะมีหลายคำถามที่เด็กอยากรู้ แล้วเลือกคำถามที่ดี เพื่อให้เด็กหาคำตอบด้วยตนเอง โดยใช้กระบวนการ สืบเสาะ) ขั้นที่ 1 ตั้งคำถามเกี่ยวกับปรากฏการณ์ธรรมชาติ น้องอัสวีนา เราว่าเอาใบไม้ทุกอย่างในโรงเรียนมาทดลอง (เป็นขั้นที่สรุปจากที่มาของโครงงาน เพื่อให้เห็นที่มาและการเลือกคำถาม 1 คำถาม ของเด็กที่นำไปสู่การสืบเสาะ) จุดประสงค์ 1. เพื่อให้เด็กทดลองและสังเกตการณ์กักน้ำของใบไม้ คำถาม น้องพุฒินันท์ ผมคิดว่าใบไม้สามารถกักนำไว้ได้
2. เพื่อให้เด็กสำรวจ สังเกตรูปร่างลักษณะของใบไม้ 3. เพื่อส่งเสริมทักษะกระบวนการเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์ 4. เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์ในเด็กปฐมวัย ขั้นที่ 2 รวบรวมความคิดและข้อสันนิษฐาน ครูนำเด็กๆสนทนาจากประสบการณ์เดิมจากกิจกรรมการทดลองเรื่อง “กักน้ำไว้ได้” แล้วจึงเกิดคำถาม น้องพันดี ถาม “ครูครับใบไม้กักน้ำได้ไหมครับ” น้องรุ้งนภา ถาม “แล้วใบอะไรจะกักน้ำได้คะ” ขั้นที่ 3 ทดสอบและปฏิบัติการสืบเสาะ จากนั้นครูจึงพาเด็กๆไปเรียนรู้ชื่อต้นไม้ใบไม้ต่างๆ ในโรงเรียนเพื่อเป็นข้อมูลพื้นฐาน ขั้นที่ 4 สังเกตและบรรยาย เด็กๆเก็บใบไม้ในบริเวณโรงเรียนแล้วนำตัวอย่างใบไม้มาวางรวมกันเพื่อคัดแยกตามขนาดและรูปร่างของใบไม้
ขั้นที่ 5 บันทึกข้อมูล เด็กๆแบ่งกลุ่มตามใบไม้ชนิดเดียวกัน ซึ่งใบไม้ที่ได้มีดังนี้ 1. ใบสบู่เลือด 2. ใบจิกนา
3. ใบมันปู 4. ใบเสาวรส 5. ใบมะม่วงหิมพานต์ 6. ใบสาวน้อยประแป้ง
7. ใบตอง 8. ใบกะหล่ำปลี 9. ใบเข็มอินเดีย 10. ใบข้าหลวงหลังลาย
ขั้นที่ 6 สรุปและอภิปรายผล เด็กๆ ทำการทดลองและทำการบันทึก
ผลการพัฒนาความสามารถของเด็กปฐมวัย 1. ผลการพัฒนาความสามารถพื้นฐาน 4 ด้าน ตามโครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย 1.1 ด้านการเรียนรู้ เด็กปฐมวัยได้รับการส่งเสริมการเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์ ได้แก่ เด็กได้สังเกต ได้ลงมือปฏิบัติการทดลองทำให้ เด็กๆมีความชอบและมีความสุขที่จะเรียนรู้ 1.2 ด้านภาษา เด็กมีความมั่งใจในการทดลอง กล้าคิด กล้าแสดงออกและมีความสุขที่ได้ลงมือปฏิบัติการทดลองด้วยตัวเอง มี ความภูมิใจในความสำเร็จของตัวเองและของเพื่อนเด็กทำการค้นคว้าทดลองเป็นขั้นเป็นตอน 1.3 ด้านสังคม เด็กเกิดทักษะกระบวนการทำงานกลุ่ม รู้จักการรอคอย รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น รู้จักช่วยเหลือแบ่งปัน ช่วยเหลือกันจนงานสำเร็จ 1.4 ด้านการเคลื่อนไหว เด็กๆได้ใช้กล้ามเนื้อมัดเล็กและกล้ามเนื้อมัดใหญ่และประสาทสัมผัสทั้ง 5 2. ผลการพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 2.1 ทักษะการสังเกต เด็กๆได้เปรียบเทียบใบไม้ที่นำมาทดลองกักน้ำ สังเกตการณ์กักน้ำของใบไม้แต่ละชนิด 2.2 ทักษะการวัด เด็กๆได้เปรียบเทียบขนาดความสั้น ความยาว และความกว้างของใบไม้โดยใช้ไม้บรรทัดในการวัดเพื่อหา ข้อมูล
2.3 ทักษะการจำแนกประเภท เด็กได้จำแนกขนาด รูปทรง ผิว ของใบไม้ 2.4 ทักษะการคำนวณ เด็กได้นับจำนวนใบไม้ที่กักน้ำได้และกักน้ำไม่ได้ 2.5 ทักษะการพยากรณ์หรือการคาดคะเนคำตอบ การทำนาย เด็กๆได้คาดเดาใบไม้ที่สามารถกักน้ำได้ 2.6 ทักษะการหาความสัมพันธ์ระหว่างสเปสกับสเปส และสเปสกับเวลา เด็กๆสามารถบอกได้ว่าใบไม้ที่กักน้ำไว้ได้คือใบเข็มอินเดียแต่ถ้าหากตัดแต่งใบเข็มอินเดียให้มีขนาดเล็กกว่า แก้วที่นำมาทดลอก็ไม่สามารกักน้ไว้ได้ และถ้าหากเก็บใบเข็มอินเดียมาวางทิ้งไว้จนเหี่ยวเฉาก็ไม่สามารกักน้ำไว้ได้เช่นกัน 2.7 ทักษะการจัดกระทำและสื่อความหมายข้อมูล ............................................................................................................................. ..................................................................... ..................................................................................................................................................................... ............................. 2.8 ทักษะการลงความคิดเห็นจากข้อมูล .............................................................................................................................................................................................. .... ............................................................................................................................. ..................................................................... สรุปโครงงาน เด็กและครูร่วมกันสรุปกิจกรรมและสนทนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ผลการทำงานของเด็ก หรือร่องรอยการหาคำตอบ
8. ผลที่เกิดจากผู้เรียน ผลการศึกษาค้นคว้า ทำให้เด็กๆทราบว่า
1. ใบเข็มอินเดียกักน้ำได้ 2. ใบไม้ที่กักน้ำได้ต้องมีผิวเรียบ ใบมัน มีความแข็งปานกลาง ตารางบันทึกผลการทดลอง ลำดับที่ ชื่อใบไม้ รูปร่างลักษณะ การกักน้ำ 1. ใบสบู่เลือด มีลักษณะเป็นรูปหัวใจ มีความอ่อนตัว ขอบใบหยัก ไม่ได้ 2. ใบจิกนา ผิวใบมัน รูปใบยาว ไม่ได้ 3. ใบมันปู ผิวหนา ใบลื่นเป็นมัน ไม่ได้ 4. ใบเสาวรส ปลายใบแหลมแยกเป็นสามแฉกมีขนอ่อนเป็นฝอย ไม่ได้ 5. ใบมะม่วงหิมพานต์ ใบหนาเกลี้ยงเหมือนแผ่นหนัง ไม่ได้ 6. ใบสาวน้อยประแป้ง ในมีลายจุด มีความแข็งปานกลาง ผิวมัน ไม่ได้ 7. ใบตอง ใบอ่อนเป็นเส้นตรง ผิวมัน ไม่ได้ 8. ใบกะหล่ำปลี เป็นรูพรุนคล้ายร่างแห ไม่ได้ 9. ใบเข็มอินเดีย ใบหนาและแข็ง ปลายใบแหลม ก้านใบสั้น ได้ 10. ใบข้าหลวงหลังลาย ใบยาวแหลมคล้ายหงอก ใบหนาแข็ง ไม่ได้