The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

โครงการสอนวิชาสังคมศึกษา ป.6

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by saowalak.b, 2022-10-14 10:25:38

โครงการสอนวิชาสังคมศึกษา ป.6

โครงการสอนวิชาสังคมศึกษา ป.6

Keywords: โครงการสอนวิชาสังคม

โครงการสอน

กลุ่มสาระการเรยี นรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม
รายวชิ า สังคมศึกษา

ระดับช้ันประถมศึกษาปที ่ี 6

จดั ทาโดย
นางสาวเสาวลักษณ์ บัวคา
รหสั ประจาตวั นกั ศึกษา 6113120021 สาขาวิชาสังคมศึกษา
ฝกึ ทีโ่ รงเรียนจา่ การบญุ
อาเภอเมือง จังหวดั พิษณุโลก

คณะครศุ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั พิบลู สงคราม
ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2565

การวิเคราะห์หลักสตู รกลมุ่ สาระการเรียนรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม

หลักสตู รกล่มุ สาระการเรียนรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม รายวชิ า สังคมศึกษา
จังหวัดพษิ ณโุ ลก
ชอ่ื สถานศึกษา โรงเรยี นจา่ การบญุ อาเภอเมอื ง
ระดบั ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 6
ชือ่ -นามสกลุ ผู้สอน นางสาวเสาวลักษณ์ บัวคา

*******************************************************************************************************

ขน้ั ที่ 1 การวิเคราะห์ความสัมพนั ธ์ระหว่างมาตรฐานการเรยี นรกู้ ลุ่มสาระกับตัวช้ีวดั ช้ันป/ี ตัวชวี้ ดั รายภาค

กลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ิชาสงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม ระดับประถมศกึ ษาปีท่ี 6

สาระท่ี 1 ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม

มาตรฐานการเรยี นรู้กลมุ่ สาระ ตวั ช้ีวัดชนั้ ปี / ตวั ช้ีวดั รายภาค

มาตรฐาน ส 1.1 รู้และเข้าใจประวัติ 1. วเิ คราะหค์ วามสาคัญของพระพุทธศาสนาในฐานะเปน็ ศาสนา

คว า ม สา คั ญ ศ า ส ดา ห ลัก ธ ร รม ข อ ง ประจาชาติหรอื ความสาคญั ของศาสนาที่ตนนบั ถอื

พระพุทธศาสนาหรือศาสนาที่ตนนับถือและ 2. สรปุ พทุ ธประวัตติ งั้ แตป่ ลงอายสุ ังขารจนถงึ สงั เวชนยี สถาน

ศาสนาอ่ืน มีศรัทธาที่ถูกต้อง ยึดมั่น และ หรือประวัติศาสดาทตี่ นนบั ถอื ตามท่ีกาหนด

ปฏิบัติตามหลักธรรม เพื่ออยู่ร่วมกันอย่าง 3. เหน็ คุณคา่ และประพฤติตนตามแบบอย่างการดาเนินชีวติ และ

สนั ติสขุ ขอ้ คดิ จากประวตั ิสาวก ชาดก เร่อื งเล่าและศาสนกิ ชนตวั อยา่ ง

ตามทกี่ าหนด

4. วิเคราะหค์ วามสาคัญและเคารพพระรัตนตรัย ปฏิบัติตาม

ไตรสกิ ขาและหลักธรรมโอวาท 3 ในพระพทุ ธศาสนา หรอื

หลกั ธรรมของศาสนาที่ตนนบั ถอื ตามท่กี าหนด

5. ช่นื ชมการทาความดขี องบุคคลในประเทศตามหลักศาสนา

พร้อมทง้ั บอกแนวปฏบิ ัตใิ นการดาเนนิ ชวี ิต

6. เห็นคุณค่าและสวดมนต์ แผ่เมตตา และบริหารจิต

เจริญปญั ญา มสี ตทิ ี่เปน็ พืน้ ฐานของสมาธใิ นพระพุทธศาสนา

หรอื การพัฒนาจิตตามแนวทางของศาสนาทต่ี นนบั ถือตามที่

กาหนด

7. ปฏิบัติตนตามหลกั ธรรมของศาสนาที่ตนนบั ถอื เพื่อแก้ปญั หา

อบายมุขและสิ่งเสพตดิ

8. อธบิ ายหลักธรรมสาคัญของศาสนาอื่น ๆ โดยสังเขป

9. อธิบายลกั ษณะสาคญั ของศาสนพิธี พธิ กี รรมของศาสนาอนื่ ๆ

และปฏบิ ตั ติ นได้อย่างเหมาะสม เมอ่ื ตอ้ งเขา้ รว่ มพิธี

มาตรฐาน ส 1.2 เข้าใจ ตระหนักและปฏิบัติ 1. อธิบายความรู้เกี่ยวกับสถานที่ต่าง ๆ ในศาสนสถานและ
ตนเป็นศาสนิกชนที่ดี และธารงรักษา ปฏบิ ัติตนได้อย่างเหมาะสม
พระพทุ ธศาสนาหรอื ศาสนาทตี่ นนบั ถอื 2. มมี รรยาทของความเป็นศาสนกิ ชนทด่ี ีตามทก่ี าหนด

3. อธิบายประโยชนข์ องการเขา้ รว่ มในศาสนพิธี พธิ ีกรรม
และกิจกรรมในวันสาคญั ทางศาสนาตามทกี่ าหนดและ
ปฏบิ ตั ติ นไดถ้ ูกต้อง

4. แสดงตนเป็นพทุ ธมามกะหรอื แสดงตนเปน็ ศาสนิกชนของ
ศาสนาทีต่ นนบั ถือ

สาระท่ี 2 หนา้ ท่พี ลเมือง วัฒนธรรม และการดาเนินชวี ิตในสังคม

มาตรฐานการเรยี นร้กู ลุม่ สาระ ตวั ชวี้ ดั ชั้นปี / ตัวชว้ี ัดรายภาค

มาตรฐาน ส 2.1 เข้าใจและปฏิบัติตนตาม 1. ปฏบิ ตั ิตามกฎหมายทเี่ กย่ี วขอ้ งกบั ชีวิตประจาวันของครอบครัว

หน้าท่ีของการเป็นพลเมืองดี มีค่านิยมท่ีดี และชมุ ชน

งาม และธารงรักษาประเพณีและวัฒนธรรม 2. วิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมตามกาลเวลาและธารง

ไทย ดารงชีวิตอยู่ร่วมกันในสังคมไทย และ รักษาวฒั นธรรมอันดีงาม

สังคมโลกอย่างสันตสิ ขุ 3. แสดงออกถึงมารยาทไทยไดเ้ หมาะสมถูกกาลเทศะ

4. อธิบายคุณค่าทางวัฒนธรรมท่ีแตกต่างกันระหว่างกลุ่มคนใน

สงั คมไทย

5. ตดิ ตามข้อมลู ขา่ วสาร เหตกุ ารณ์ต่าง ๆ ในชีวติ ประจาวันเลือก

รบั และใชข้ ้อมลู ขา่ วสารในการเรยี นร้ไู ดเ้ หมาะสม

มาตรฐาน ส 2.2 เข้าใจระบบการเมืองการ 1. เปรียบเทียบบทบาท หน้าท่ีขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ปกครองในสังคมปัจจุบัน ยึดม่ัน ศรัทธา และรฐั บาล
และธารงรักษา ไว้ซึ่งการปกครองระบอบ 2. มีส่วนรว่ มในกิจกรรมตา่ ง ๆ ท่สี ง่ เสรมิ ประชาธิปไตยในท้องถ่ิน
ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็น และประเทศ
ประมขุ 3. อภิปรายบทบาท ความสาคัญในการใช้สิทธิออกเสียงเลือกต้ัง

ตามระบอบประชาธปิ ไตย

ขน้ั ท่ี 2 การวิเคราะห์ความสัมพนั ธ์ระหว่างสาระการเรยี นรชู้ ่วงช้นั กับสาระการเรยี นรู้แกนกลาง

กลุม่ สาระการเรียนรู้วิชาสังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม ระดบั ประถมศึกษาปที ่ี 6

สาระที่ 1 ศาสนา ศลี ธรรม จรยิ ธรรม

มาตรฐาน ส 1.1 รูแ้ ละเข้าใจประวัติความสาคัญ ศาสดา หลกั ธรรมของพระพทุ ธศาสนาหรอื ศาสนาท่ีตนนับ

ถือและศาสนาอื่น มศี รัทธาท่ีถกู ต้อง ยึดมน่ั และปฏิบตั ิตามหลักธรรม เพ่อื อยรู่ ่วมกันอย่างสนั ติสขุ

ตวั ช้ีวัดช้นั ปี / ตวั ชวี้ ัดรายภาค สาระการเรยี นร้แู กนกลาง

1. วิเคราะห์ความสาคัญของพระพุทธศาสนาในฐานะ  พระพุทธศาสนาในฐานะที่เป็นศาสนาประจาชาติ เช่น
เป็นศาสนาประจาชาติหรือความสาคัญของศาสนาที่ เป็นเอกลักษณ์ของชาติไทย เป็นรากฐานและมรดก
ตนนับถือ
ทางวัฒนธรรมไทย เป็นศูนย์รวมจิตใจและเป็นหลัก

ในการพฒั นาชาตไิ ทย

2. สรุปพุทธประวัติต้ังแต่ปลงอายุสังขารจนถึง  สรปุ พุทธประวตั ิ (ทบทวน)
สังเวชนียสถานหรือประวัติศาสดาที่ตนนับถือตามที่ - ปลงอายสุ ังขาร
กาหนด - ปจั ฉมิ สาวก

- ปรินพิ พาน
- การถวายพระเพลิง
- แจกพระบรมสารรี ิกธาตุ
- สงั เวชนียสถาน 4

3. เห็นคุณค่าและประพฤติตนตามแบบอย่างการ  พทุ ธสาวก พุทธสาวิกา
ดาเนินชีวิตและข้อคิดจากประวัติสาวก ชาดก - พระราธะ
เร่อื งเล่า และศาสนิกชนตวั อยา่ งตามที่กาหนด
 ชาดก

- ทีฆีตโิ กสลชาดก

- สัพพทาฐชิ าดก

 ศาสนกิ ชนตัวอยา่ ง

- พ่อขุนรามคาแหงมหาราช

- สมเดจ็ พระมหาสมณเจา้ กรมพระปรมานุชติ ชิโนรส

4. วิเคราะห์ความสาคัญและเคารพพระรัตนตรัย  พระรัตนตรยั
ปฏิบัติตามไตรสิกขาและหลักธรรมโอวาท 3 ใน : ศรทั ธา 4
พระพทุ ธศาสนา หรือหลกั ธรรมของศาสนาที่ตนนับถือ - พระพุทธ
ตามท่กี าหนด
: พุทธกิจ 4

- พระธรรม

: อรยิ สจั 4

: หลักกรรม

- พระสงฆ์

 ไตรสิกขา

- ศลี สมาธิ ปัญญา

ตวั ชว้ี ัดช้นั ปี / ตัวชวี้ ดั รายภาค สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง

 โอวาท 3
- ไมท่ าชว่ั
: เบญจศลี
: อบายมขุ 6
: อกุศลมลู 3
: ทาความดี
: เบญจธรรม
: กุศลมูล 3
: พละ 4
: คารวะ 6
: กตัญญูกตเวทตี ่อพระมหากษตั ริย์
: มงคล 38
มีวนิ ัย
การงานไมม่ โี ทษ
ไมป่ ระมาทในธรรม
- ทาจิตใจใหบ้ ริสุทธิ(์ บรหิ ารจติ และเจรญิ ปญั ญา)

 พุทธศาสนสภุ าษิต
- สจฺเจน กิตตฺ ึ ปปโฺ ปติ
คนจะได้เกียรตดิ ว้ ยสจั จะ
- ยถาวาที ตถาการี
พูดเชน่ ไร ทาเชน่ นัน้

5. ชน่ื ชมการทาความดีของบคุ คลในประเทศตามหลัก  ตวั อยา่ งการกระทาความดีของบุคคลในประเทศ
ศาสนาพรอ้ มท้งั บอกแนวปฏบิ ัตใิ นการดาเนินชีวิต

6. เห็นคุณค่าและสวดมนต์ แผ่เมตตาและบริหารจิต  สวดมนต์ไหว้พระ สรรเสริญคุณพระรัตนตรัย และ
เจริญปัญญา มีสติที่เป็นพ้ืนฐานของสมาธิ ใน แผ่เมตตา
พระพุทธศาสนาหรือการพัฒนาจิตตามแนวทางของ - รู้ความหมายของสตสิ มั ปชัญญะ สมาธิ และปัญญา
ศาสนาท่ตี นนับถือตามที่กาหนด
- รู้วิธีปฏิบัติและประโยชน์ของการบริหารจิตและ

เจรญิ ปญั ญา

- ฝกึ การยนื การเดนิ การน่ัง และการนอนอยา่ งมสี ติ

- ฝกึ การกาหนดรู้ ความรสู้ กึ เม่ือตาเหน็ รปู หูฟังเสียง

จมูกดมกล่ิน ล้ินลิ้มรส กายสัมผัส ส่ิงที่มากระทบใจ

รับรู้ธรรมารมณ์

- ฝกึ ให้มีสมาธใิ นการฟงั การอ่าน การถาม การคดิ

และการเขยี น

7. ปฏิบัติตนตามหลักธรรมของศาสนาที่ตนนับถือ  หลกั ธรรม : อรยิ สจั 4 หลกั กรรม
เพอื่ แก้ปญั หาอบายมขุ และสิ่งเสพติด
 โอวาท 3 : เบญจศลี -เบญจธรรม อบายมุข 6

อกศุ ลมูล 3 กุศลมลู 3

ตวั ชว้ี ดั ชั้นปี / ตัวชีว้ ดั รายภาค สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง

8. อธิบายหลักธรรมสาคัญของศาสนาอื่น ๆ โดย  หลักธรรมสาคญั ของศาสนาตา่ งๆ
สังเขป - พระพุทธศาสนา : อรยิ สจั 4 โอวาท 3 ฯลฯ

- ศาสนาอิสลาม : หลักศรทั ธา หลักปฏิบัติ

หลกั จริยธรรม

- คริสตศ์ าสนา : บญั ญตั ิ 10 ประการ

9. อธิบายลักษณะสาคัญของศาสนพิธี พิธีกรรมของ  ศาสนพธิ ขี องศาสนาต่างๆ
ศาสนาอื่น ๆ และปฏบิ ตั ติ นไดอ้ ยา่ งเหมาะสม เมื่อต้อง - พระพุทธศาสนา
เขา้ รว่ มพิธี
: ศาสนพธิ ีทีเ่ ปน็ พทุ ธบัญญัติ เชน่ บรรพชา อุปสมบท

: ศาสนพธิ ที ีเ่ ก่ียวเนื่องกบั พระพุทธศาสนา เช่น ทาบุญ

เนื่องในวันสาคัญทางศาสนา

: ศาสนาอสิ ลาม เช่น การละหมาด การถือศีลอด

การบาเพ็ญฮัจญ์ ฯลฯ

: คริสต์ศาสนา เช่น ศลี ล้างบาป ศลี อภัยบาป ศลี กาลัง

ศลี มหาสนิท ฯลฯ

: ศาสนาฮินดู เช่น พธิ ศี ราทธ์ พธิ ีบูชาเทวดา

กลุม่ สาระการเรยี นรู้วชิ าสงั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ระดับประถมศกึ ษาปีที่ 6

สาระที่ 1 ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม

มาตรฐาน ส 1.2 เขา้ ใจ ตระหนกั และปฏบิ ัติตนเปน็ ศาสนิกชนท่ีดี และธารงรกั ษาพระพุทธศาสนาหรอื ศาสนา

ทต่ี นนับถือ

ตัวช้ีวดั ช้ันปี / ตัวชี้วดั รายภาค สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง

1. อธิบายความรู้เกี่ยวกับสถานท่ีต่าง ๆ ใน  ความรู้เบ้ืองต้นเก่ียวกับสถานที่ต่างๆ ภายในวัด เช่น
ศาสนสถาน และปฏิบัตติ นได้อยา่ งเหมาะสม
เขตพทุ ธาวาส สังฆาวาส

 การปฏบิ ตั ติ นท่เี หมาะสมภายในวัด

2. มีมรรยาทของความเป็นศาสนิกชนท่ีดีตามที่  มรรยาทของศาสนิกชน
กาหนด
- การถวายของแกพ่ ระภิกษุ

- การปฏบิ ตั ิตนในขณะฟงั ธรรม

- การปฏิบัติตนตามแนวทางของพทุ ธศาสนกิ ชน

เพ่อื ประโยชน์ตอ่ ศาสนา

3. อธิบายประโยชน์ของการเข้าร่วมในศาสนพิธี  ทบทวนการอาราธนาศีล อาราธนาธรรม และ
พิธีกรรม และกิจกรรมในวันสาคัญทางศาสนาตามที่ อาราธนาพระปรติ ร
กาหนด และปฏิบัติตนได้ถกู ตอ้ ง
 พธิ ีทอดผ้าป่า

 พิธที อดกฐนิ

 ระเบยี บพธิ ีในการทาบุญงานอวมงคล

 การปฏิบัติตนที่ถูกต้องในศาสนพิธี พิธีกรรม และ

วันสาคัญทางศาสนา เช่น วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา

วนั อัฐมบี ูชา วันอาสาฬหบูชา วนั ธรรมสวนะ

 ประโยชน์ของการเข้าร่วมในศาสนพิธี พิธีกรรม และ

วันสาคญั ทางศาสนา

4. แสดงตนเป็นพุทธมามกะหรือแสดงตนเป็น  การแสดงตนเปน็ พุทธมามกะ
ศาสนกิ ชนของศาสนาทต่ี นนับถอื
- ขั้นเตรียมการ

- ข้ันพธิ กี าร

กลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ชิ าสงั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ระดบั ประถมศึกษาปีท่ี 6

สาระท่ี 2 หน้าท่ีพลเมือง วัฒนธรรม และการดาเนนิ ชวี ติ ในสังคม

มาตรฐาน ส 2.1 เข้าใจและปฏบิ ตั ติ นตามหน้าท่ีของการเปน็ พลเมืองดี มีค่านิยมท่ดี ีงาม และธารงรักษา

ประเพณแี ละวัฒนธรรมไทย ดารงชวี ิตอยรู่ ว่ มกันในสงั คมไทย และ สงั คมโลกอย่างสันติสขุ

ตัวช้ีวัดช้นั ปี / ตัวช้ีวัดรายภาค สาระการเรียนรู้แกนกลาง

1. ปฏิบัติตามกฎหมายท่ีเกี่ยวข้องกับชีวิตประจาวัน  กฎหมายทเ่ี กย่ี วข้องกบั ชวี ติ ประจาวัน เช่น
ของครอบครัวและชุมชน
- กฎหมายจราจร

- กฎหมายทะเบียนราษฎร

- กฎหมายยาเสพติดใหโ้ ทษ

- เทศบญั ญัติ ข้อบัญญตั ิ อบต. อบจ.

 ประโยชนข์ องการปฏิบัติตนตามกฎหมายดงั กลา่ ว

2. วิเคราะห์การเปล่ียนแปลงวัฒนธรรมตามกาลเวลา  ความหมายและประเภทของวฒั นธรรม
และธารงรักษาวัฒนธรรมอนั ดงี าม
 การเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมตามกาลเวลาท่ีมีผลต่อ

ตนเองและสังคมไทย

 แนวทางการธารงรักษาวฒั นธรรมไทย

3. แสดงออกถึงมารยาทไทยไดเ้ หมาะสม ถกู กาลเทศะ  ความหมายและสาคัญของมารยาทไทย

 มารยาทไทยและมารยาทสังคม เช่น การแสดงความ
เคารพ การยืน การเดิน การนั่ง การนอน การรับของ
ส่งของ การรับประทานอาหาร การแสดงกิริยาอาการ
การทกั ทาย การสนทนา การใชค้ าพดู

4. อธิบายคุณค่าทางวัฒนธรรมท่ีแตกต่างกันระหว่าง  ประโยชนแ์ ละคุณคา่ ทางวฒั นธรรม
กลุ่มคนในสงั คมไทย
 ความแตกต่างทางวัฒนธรรมระหว่างกลุ่มคนภาค

ตา่ งๆ ในสังคมไทย

 แนวทางการรักษาวัฒนธรรม

5. ตดิ ตามข้อมลู ข่าวสาร เหตกุ ารณต์ ่างๆ ใน  แหล่งข้อมูล ข่าวสาร เหตุการณ์ต่าง ๆ เช่น จากวิทยุ
ชีวติ ประจาวัน เลอื กรบั และใชข้ อ้ มูล ขา่ วสารในการ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ แหล่งข่าวต่าง ๆ จากหอ
เรียนร้ไู ดเ้ หมาะสม จดหมายเหตุ สถานการณจ์ ริง หรือ จดหมายเหตุ

 ประโยชน์จากการติดตามข้อมูล ข่าวสาร เหตุการณ์
ตา่ งๆ

 หลักการเลือกรับและใช้ข้อมูล ข่าวสารจากสื่อต่างๆ
รวมท้งั สื่อทไี่ ร้พรมแดน

กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ชิ าสงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ระดับประถมศกึ ษาปที ี่ 6

สาระท่ี 2 หน้าทีพ่ ลเมือง วัฒนธรรม และการดาเนนิ ชีวิตในสงั คม

มาตรฐาน ส 2.2 เข้าใจระบบการเมืองการปกครองในสังคมปัจจุบัน ยึดมั่น ศรัทธาและธารงรักษา

ไว้ซึง่ การปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอนั มีพระมหากษัตรยิ ์ทรงเป็นประมขุ

ตัวชว้ี ดั ชนั้ ปี / ตัวชี้วัดรายภาค สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง

1. เปรียบเทียบบทบาท หน้าที่ขององค์กรปกครอง  บทบาท หน้าท่ี ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและ
สว่ นท้องถนิ่ และรัฐบาล
รัฐบาล

2. มีสว่ นร่วมในกจิ กรรมตา่ ง ๆ ท่ีสง่ เสรมิ  กิจกรรมตา่ ง ๆ เพอื่ ส่งเสรมิ ประชาธิปไตย ในท้องถ่ิน
ประชาธิปไตย ในท้องถน่ิ และประเทศ และประเทศ

3. อภิปรายบทบาท ความสาคัญในการใช้สิทธิออก  การมีส่วนในการออกกฎหมาย ระเบยี บ กติกา
เสยี งเลอื กตงั้ ตามระบอบประชาธิปไตย
การเลือกตงั้

 สอดส่องดูแลผู้มีพฤติกรรมการกระทาผิดการเลือกตั้ง

และแจ้งตอ่ เจา้ หน้าทผี่ ้รู บั ผิดชอบ

 ตรวจสอบคุณสมบัติ

 การใชส้ ิทธอิ อกเสียงเลือกต้ังตามระบอบ

ประชาธิปไตย

ข้นั ท่ี 3 การวิเคราะห์ความสัมพนั ธ์ระหว่าง ตวั ช้ีวัด กบั ความรู้/ทักษะ/คุณลักษณะฯ

กลุม่ สาระการเรียนรูว้ ชิ าสงั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ระดบั ประถมศึกษาปที ี่ 6

สาระที่ 1 ศาสนา ศีลธรรม จรยิ ธรรม

มาตรฐาน ส 1.1 ร้แู ละเขา้ ใจประวัติความสาคัญ ศาสดา หลักธรรมของพระพทุ ธศาสนาหรือศาสนาทตี่ นนับ

ถอื และศาสนาอน่ื มีศรัทธาท่ีถกู ต้อง ยดึ มั่น และปฏิบตั ิตามหลักธรรม เพ่ืออย่รู ว่ มกันอย่างสนั ตสิ ขุ

ตวั ชว้ี ดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง

1. วิเคราะห์ ความรู้ ทักษะ/กระบวนการ คุณลักษณะฯ
ความสาคัญของ
พระพทุ ธศาสนาใน 1. ความสาคัญของ 1. ทักษะในการคิด 1. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์
ฐานะเป็นศาสนา พระพทุ ธศาสนา
ประจาชาติหรือ วิเคราะห์ การคิดอย่างมี 2. ใฝเ่ รยี นรู้
ความสาคญั ของ
ศาสนาทีต่ นนับถือ วจิ ารณญาณและการคิด 3. รกั ความเปน็ ไทย

แก้ไขปัญหา

2. ทักษะการส่ือสารและ

การรเู้ ทา่ ทนั สอื่

3. ทักษะความร่วมมือ

การทางานเป็นทีม และ

ภาวะผนู้ า

2. สรปุ พทุ ธประวตั ิ 1. พุทธประวตั ิ 1. ทกั ษะในการคิด 1. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์

ตัง้ แตป่ ลงอายสุ ังขาร - ปลงอายสุ งั ขาร วิเคราะห์ การคิดอย่างมี 2. ใฝเ่ รียนรู้

จนถงึ สงั เวชนียสถาน - ปัจฉมิ สาวก วิจารณญาณและการคิด 3. รกั ความเปน็ ไทย

หรือประวัตศิ าสดาท่ี - ปรนิ ิพพาน แก้ไขปัญหา

ตนนับถอื ตามท่ี - การถวายพระเพลิง 2. ทักษะการสื่อสารและ

กาหนด - แจกพระบรมสารีรกิ ธาติ การร้เู ท่าทนั สือ่

- สงั เวชนยี สถาน 4 3. ทักษะความรว่ มมือ

การทางานเปน็ ทมี และ

ภาวะผู้นา

3. เหน็ คุณคา่ และ 1. พทุ ธสาวก : พระราธะ 1. ทักษะในการคดิ 1. รกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์

ประพฤติตนตาม 2. ชาดก : ทีฆตี ิโกสลชาดกและ วิเคราะห์ การคิดอยา่ งมี 2. ใฝเ่ รียนรู้

แบบอย่างการดาเนนิ สัพพทาฐชิ าดก วจิ ารณญาณและการคิด 3. รกั ความเป็นไทย

ชีวิตและข้อคิดจาก 3. พทุ ธศาสนกิ ชนตัวอยา่ ง : แก้ไขปญั หา

ประวัติสาวก ชาดก พ่อขุนรามคาแหงมหาราช 2. ทักษะการสื่อสารและ

เรื่องเล่าและศาสนิก- และสมเดจ็ พระมหาสมณ การรเู้ ทา่ ทนั สือ่

ชนตัวอยา่ งตามท่ี เจ้ากรมพระปรมานชุ ติ ชโิ นรส 3. ทักษะความร่วมมือ

กาหนด การทางานเปน็ ทมี และ

ภาวะผนู้ า

ตวั ชี้วัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง

ความรู้ ทักษะ/กระบวนการ คุณลกั ษณะฯ

4. วิเคราะห์ 1. พระรตั นตรยั 1. ทักษะในการคดิ 1. รกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์

ความสาคัญและ 2. ไตรสิกขา วิเคราะห์ การคิดอยา่ งมี 2. ใฝเ่ รยี นรู้

เคารพพระรัตนตรัย 3. โอวาท 3 วจิ ารณญาณและการคิด 3. รกั ความเปน็ ไทย

ปฏบิ ัตติ ามไตรสิกขา 4. พทุ ธศาสนสภุ าษิต แก้ไขปัญหา

และหลักธรรมโอวาท 2. ทักษะการส่ือสารและ

3 ในพระพทุ ธศาสนา การรูเ้ ท่าทันสื่อ

หรอื หลักธรรมของ 3. ทักษะความรว่ มมอื

ศาสนาทต่ี นนับถือ การทางานเป็นทีม และ

ตามที่กาหนด ภาวะผนู้ า

5. ชน่ื ชมการทา 1. การปฏบิ ตั ติ นตามหลักธรรม 1. ทกั ษะในการคิด 1. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์
ความดขี องบคุ คลใน ทางพระพุทธศาสนา
ประเทศตามหลัก วเิ คราะห์ การคิดอย่างมี 2. ใฝ่เรียนรู้
ศาสนา พร้อมทง้ั
บอกแนวปฏบิ ัติใน วจิ ารณญาณและการคิด 3. รักความเป็นไทย
การดาเนนิ ชีวติ
แก้ไขปัญหา

2. ทักษะการส่ือสารและ

การรู้เท่าทันสือ่

3. ทกั ษะความรว่ มมือ

การทางานเป็นทีม และ

ภาวะผนู้ า

6. เหน็ คุณค่าและ 1. การสวดมนต์ไหว้พระ 1. ทกั ษะในการคดิ 1. รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์

สวดมนต์ แผเ่ มตตา สรรเสริญคณุ พระรตั นตรยั วิเคราะห์ การคิดอยา่ งมี 2. ใฝ่เรียนรู้

และบริหารจิต เจรญิ และแผเ่ มตตา วจิ ารณญาณและการคิด 3. รกั ความเปน็ ไทย

ปัญญา มีสตทิ ่เี ป็น 2.การพัฒนาจิตตามแนวทาง แก้ไขปญั หา

พ้นื ฐานของสมาธิใน พระพุทธศาสนา 2. ทักษะการส่ือสารและ

พระพทุ ธศาสนา การรู้เทา่ ทันสื่อ

หรือการพัฒนาจิต 3. ทกั ษะความรว่ มมอื

ตามแนวทางของ การทางานเปน็ ทมี และ

ศาสนาที่ตนนบั ถือ ภาวะผนู้ า

ตามที่กาหนด

7. ปฏิบตั ติ นตาม 1. หลักธรรม : อรยิ สจั 4 1. ทักษะในการคดิ 1. รกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์
หลักธรรมของ หลกั กรรม
ศาสนาทตี่ นนับถือ วเิ คราะห์ การคิดอยา่ งมี 2. ใฝเ่ รียนรู้
เพอ่ื แก้ปัญหา 2. โอวาท 3 : เบญจศลี -
อบายมุขและ เบญจธรรม อบายมุข 6 วจิ ารณญาณและการคิด 3. รักความเปน็ ไทย
ส่ิงเสพติด อกุศลมูล 3 กุศลมูล 3
แก้ไขปญั หา

2. ทักษะการสื่อสารและ

การรู้เทา่ ทนั สอ่ื

3. ทกั ษะความร่วมมือ

การทางานเปน็ ทีม

ตวั ชว้ี ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง

8. อธบิ ายหลกั ธรรม ความรู้ ทักษะ/กระบวนการ คณุ ลักษณะฯ
สาคญั ของศาสนา
อื่น ๆ โดยสงั เขป 1. หลักธรรมสาคัญของศาสนา 1. ทกั ษะในการคดิ 1. รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์
2. ใฝ่เรียนรู้
ต่างๆ วเิ คราะห์ การคิดอย่างมี 3. รักความเป็นไทย

- พระพุทธศาสนา : วิจารณญาณและการคิด

อรยิ สัจ 4 โอวาท 3 ฯลฯ แก้ไขปัญหา

- ศาสนาอิสลาม : หลกั 2. ทักษะการสื่อสารและ

ศรทั ธา หลักปฏบิ ัติ การรเู้ ทา่ ทันสื่อ

หลักจรยิ ธรรม 3. ทักษะความร่วมมือ

- คริสตศ์ าสนา : บัญญัติ การทางานเป็นทีม และ

10 ประการ ภาวะผนู้ า

9. อธบิ ายลักษณะ 1. ศาสดาของศาสนาต่าง ๆ 1. ทกั ษะในการคิด 1. รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์

สาคัญของศาสนพิธี 2. ศาสนพธิ ีของศาสนาตา่ งๆ วเิ คราะห์ การคิดอย่างมี 2. ใฝ่เรยี นรู้

พธิ ีกรรมของศาสนา - พระพุทธศาสนา วจิ ารณญาณและการคิด 3. รกั ความเปน็ ไทย

อืน่ ๆ และปฏบิ ัติ : ศาสนพธิ ีท่ีเปน็ พทุ ธบัญญัติ แก้ไขปัญหา

ตนไดอ้ ย่างเหมาะสม เช่น บรรพชา อุปสมบท 2. ทักษะการสื่อสารและ

เมอ่ื ต้องเข้ารว่ มพธิ ี : ศาสนพธิ ีท่เี กีย่ วเนือ่ งกบั การรู้เทา่ ทนั ส่ือ

พระพุทธศาสนา เชน่ 3. ทกั ษะความรว่ มมือ

ทาบญุ เนื่องในวันสาคญั ทาง การทางานเปน็ ทีม และ

ศาสนา ภาวะผู้นา

: ศาสนาอสิ ลาม เช่น การ

ละหมาด การถือศีลอด

การบาเพญ็ ฮัจญ์ ฯลฯ

: คริสต์ศาสนา เช่น ศีลล้าง

บาป ศีลอภยั บาป ศีลกาลัง

ศลี มหาสนิท ฯลฯ

: ศาสนาฮนิ ดู เช่น พิธศี ราทธ์

พธิ บี ูชาเทวดา

กล่มุ สาระการเรียนรวู้ ชิ าสังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม ระดบั ประถมศึกษาปีที่ 6

สาระท่ี 1 ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม

มาตรฐาน ส 1.2 เข้าใจ ตระหนักและปฏิบัติตนเป็นศาสนิกชนทีด่ ี และธารงรกั ษาพระพุทธศาสนาหรอื ศาสนา

ท่ตี นนับถือ

ตวั ช้ีวดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง

1. อธบิ ายความรู้ ความรู้ ทกั ษะ/กระบวนการ คณุ ลกั ษณะฯ
เกย่ี วกับสถานท่ีต่าง ๆ
ในศาสนสถานและ 1. หนา้ ทช่ี าวพทุ ธ 1. ทกั ษะในการคดิ 1. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์
ปฏบิ ัตติ นได้อย่าง
เหมาะสม - ความร้เู บื้องต้นเกยี่ วกับ วิเคราะห์ การคิดอย่างมี 2. ใฝ่เรยี นรู้

สถานที่ต่างๆ ภายในวัด วิจารณญาณและการคิด 3. รักความเป็นไทย

เช่น เขตพทุ ธาวาส แก้ไขปัญหา

สงั ฆาวาส 2. ทักษะการส่ือสารและ

- การปฏบิ ัติตนท่ีเหมาะสม การรูเ้ ทา่ ทันส่ือ

ภายในวดั 3. ทักษะความร่วมมือ

การทางานเปน็ ทมี และ

ภาวะผูน้ า

2. มีมรรยาทของ 1. มรรยาทชาวพุทธ 1. ทกั ษะในการคิด 1. รกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์
ความเปน็ ศาสนิกชนที่
ดตี ามที่กาหนด - การถวายของแก่พระภิกษุ วเิ คราะห์ การคิดอยา่ งมี 2. ใฝเ่ รียนรู้

- การปฏิบัติตนในขณะฟัง วิจารณญาณและการคิด 3. รักความเป็นไทย

ธรรม แก้ไขปัญหา

- การปฏิบัติตนตามแนวทาง 2. ทักษะการส่ือสารและ

ของพุทธศาสนิกชน การรเู้ ท่าทันสือ่

เพอ่ื ประโยชนต์ อ่ ศาสนา 3. ทักษะความร่วมมือ

การทางานเปน็ ทมี และ

ภาวะผู้นา

3. อธิบายประโยชน์ 1. วนั สาคัญทาง 1. ทักษะในการคิด 1. รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์
ของการเขา้ รว่ มใน
ศาสนพธิ ี พิธีกรรม พระพทุ ธศาสนา วิเคราะห์ การคิดอยา่ งมี 2. ใฝเ่ รยี นรู้
และกจิ กรรมในวนั
สาคัญทางศาสนา 2. ศาสนพธิ ี วิจารณญาณและการคิด 3. รักความเป็นไทย
ตามท่กี าหนดและ
ปฏบิ ัตติ นได้ถูกตอ้ ง - ทบทวนการอาราธนาศลี แก้ไขปญั หา
2. ทักษะการส่ือสารและ
อาราธนาธรรม และ
การรู้เท่าทนั สื่อ
อาราธนาพระปรติ ร
3. ทักษะความร่วมมือ
- พธิ ีทอดผา้ ปา่
การทางานเปน็ ทมี และ
- พธิ ีทอดกฐนิ
- ระเบียบพิธีในการทาบุญ ภาวะผ้นู า

งานอวมงคล

ตวั ช้ีวัด สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง

4. แสดงตนเปน็ ความรู้ ทกั ษะ/กระบวนการ คณุ ลักษณะฯ
พทุ ธมามกะหรือแสดง
ตนเป็นศาสนกิ ชนของ 1. การแสดงตนเปน็ 1. ทกั ษะในการคิด 1. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์
ศาสนาทีต่ นนับถือ พุทธมามกะ
- ขนั้ เตรียมการ วิเคราะห์ การคิดอยา่ งมี 2. ใฝ่เรียนรู้
- ขัน้ พธิ ีการ
วิจารณญาณและการคิด 3. รกั ความเปน็ ไทย

แก้ไขปญั หา

2. ทักษะการสื่อสารและ

การรูเ้ ท่าทนั สอ่ื

3. ทกั ษะความรว่ มมอื

การทางานเป็นทมี และ

ภาวะผนู้ า

กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ชิ าสงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ระดบั ประถมศึกษาปีท่ี 6

สาระท่ี 2 หนา้ ท่ีพลเมือง วัฒนธรรม และการดาเนินชวี ิตในสังคม

มาตรฐาน ส 2.1 เขา้ ใจและปฏบิ ตั ติ นตามหน้าท่ีของการเปน็ พลเมอื งดี มคี ่านิยมทีด่ ีงาม และธารงรกั ษา

ประเพณีและวัฒนธรรมไทย ดารงชวี ติ อยรู่ ่วมกนั ในสงั คมไทย และ สังคมโลกอย่างสนั ติสุข

ตวั ชว้ี ดั สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง

1. ปฏบิ ตั ิตาม ความรู้ ทักษะ/กระบวนการ คุณลกั ษณะฯ
กฎหมายที่เก่ียวข้อง
กบั ชวี ิตประจาวัน 1. ก ฎ ห ม าย ที่ เ ก่ีย ว ข้อ ง กั บ 1.ทกั ษะในการคิด 1. มวี ินยั
ของครอบครวั และ
ชุมชน ชีวิตประจาวัน เชน่ วเิ คราะห์ การคิดอยา่ งมี 2. ใฝเ่ รยี นรู้

- กฎหมายจราจร วจิ ารณญาณและการคิด 3. มงุ่ ม่ันในการทางาน

- กฎหมายทะเบยี นราษฎร แก้ไขปญั หา

- กฎหมายยาเสพตดิ ใหโ้ ทษ 2. ทักษะการสื่อสารและ

- เทศบญั ญตั ิ ข้อบญั ญัติ การรเู้ ทา่ ทันสอ่ื

อบต. อบจ. 3. ทักษะความร่วมมือ

2. ประโยชน์ของการปฏิบัติตน การทางานเป็นทีม และ

ตามกฎหมายดังกลา่ ว ภาวะผ้นู า

2. วิเคราะหก์ าร 1. ความหมายและประเภทของ 1. ทกั ษะในการคดิ 1. มีวนิ ัย

เปลย่ี นแปลง วฒั นธรรม วิเคราะห์ การคิดอยา่ งมี 2. ใฝเ่ รยี นรู้

วฒั นธรรมตาม 2. การเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรม วจิ ารณญาณและการคิด 3. ม่งุ ม่ันในการทางาน

กาลเวลาและธารง ตามกาลเวลาที่มีผลต่อตนเอง แก้ไขปัญหา

รกั ษาวัฒนธรรมอนั ดี และสงั คมไทย 2. ทักษะการส่ือสารและ

งาม 3. แนวทางการธารงรักษา การรู้เทา่ ทันสอ่ื

วฒั นธรรมไทย 3. ทักษะความรว่ มมอื

การทางานเป็นทมี และ

ภาวะผ้นู า

3. แสดงออกถึง 1. ความหมายและสาคัญของ 1. ทกั ษะในการคิด 1. มีวินัย
มารยาทไทยได้
เหมาะสม ถูก มารยาทไทย วิเคราะห์ การคิดอย่างมี 2. ใฝเ่ รยี นรู้
กาลเทศะ
2. มารยาทไทยและมารยาท วิจารณญาณและการคิด 3. มุ่งมน่ั ในการทางาน

สังคม เช่น การแสดงความ แก้ไขปญั หา

เคารพ การยนื การเดิน การนั่ง 2. ทกั ษะการสอ่ื สารและ

การนอน การรับของ ส่งของ การร้เู ทา่ ทนั ส่ือ

การรับประทานอาหาร การ 3. ทักษะความร่วมมือ

แสดงกิริยาอาการ การทักทาย การทางานเป็นทีม และ

การสนทนา การใชค้ าพูด ภาวะผู้นา

ตัวชี้วัด สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง

ความรู้ ทกั ษะ/กระบวนการ คณุ ลกั ษณะฯ

4. อธิบายคุณค่าทาง 1. ประโยชนแ์ ละคุณค่าทาง 1. ทกั ษะในการคดิ 1. มีวินยั

วัฒนธรรมท่แี ตกตา่ ง วฒั นธรรม วิเคราะห์ การคิดอยา่ งมี 2. ใฝเ่ รียนรู้

กนั ระหว่างกลุ่มคน 2. ความแตกต่างทางวัฒนธรรม วจิ ารณญาณและการคิด 3. มุง่ ม่ันในการทางาน

ในสังคมไทย ระหว่างกลุ่มคนภาคต่างๆ ใน แก้ไขปญั หา

สงั คมไทย 2. ทักษะการสอื่ สารและ

3. แนวทางการรกั ษาวฒั นธรรม การรู้เท่าทนั สื่อ

3. ทกั ษะความรว่ มมือ

การทางานเปน็ ทีม และ

ภาวะผนู้ า

5. ตดิ ตามข้อมูล 1. แหล่งขอ้ มลู ข่าวสาร 1. ทกั ษะในการคดิ 1. มีวนิ ัย

ขา่ วสาร เหตุการณ์ เหตกุ ารณ์ตา่ ง ๆ เช่น จากวทิ ยุ วิเคราะห์ การคิดอย่างมี 2. ใฝเ่ รยี นรู้

ต่างๆ ใน โทรทศั น์ หนงั สือพมิ พ์ แหล่ง วจิ ารณญาณและการคิด 3. มุ่งมน่ั ในการทางาน

ชีวิตประจาวัน เลอื ก ข่าวตา่ งๆจากหอจดหมายเหตุ แก้ไขปัญหา

รบั และใช้ข้อมูล สถานการณจ์ ริง หรือจดหมาย- 2. ทกั ษะการส่อื สารและ

ขา่ วสารในการเรยี นรู้ เหตุ การรเู้ ท่าทันส่ือ

ไดเ้ หมาะสม 2. ประโยชน์จากการติดตาม 3. ทักษะความรว่ มมือ

ข้อมลู ข่าวสาร เหตุการณต์ ่างๆ การทางานเปน็ ทีม และ

3.หลักการเลือกรับ และ ใช้ ภาวะผ้นู า

ข้อมูล ข่าวสารจากสื่อต่างๆ

รวมทง้ั สอ่ื ท่ีไร้พรมแดน

กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ิชาสังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม ระดบั ประถมศกึ ษาปีท่ี 6

สาระที่ 2 หน้าทีพ่ ลเมือง วัฒนธรรม และการดาเนินชีวิตในสงั คม

มาตรฐาน ส 2.2 เข้าใจระบบการเมืองการปกครองในสังคมปัจจุบัน ยึดม่ัน ศรัทธาและธารงรักษา

ไวซ้ ่งึ การปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอันมพี ระมหากษตั รยิ ์ทรงเป็นประมขุ

ตัวชว้ี ดั สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง

ความรู้ ทกั ษะ/กระบวนการ คณุ ลกั ษณะฯ

1. ปฏบิ ัตติ าม 1. บทบาท หน้าท่ี ขององค์กร 1.ทกั ษะในการคดิ 1. มีวินยั

กฎหมายทีเ่ กี่ยวข้อง ปกครองสว่ นท้องถน่ิ และรัฐบาล วิเคราะห์ การคิดอย่างมี 2. ใฝ่เรียนรู้

กบั ชีวติ ประจาวนั วิจารณญาณและการคิด 3. มุ่งมั่นในการทางาน

ของครอบครัวและ แก้ไขปญั หา

ชุมชน 2. ทักษะการส่ือสารและ

การรเู้ ท่าทนั สื่อ

3. ทักษะความร่วมมือ

การทางานเป็นทีม และ

ภาวะผู้นา

2. มสี ว่ นร่วมใน 1. กิจกรรมต่าง ๆ เพ่ือส่งเสริม 1. ทกั ษะในการคดิ 1. มวี ินัย

กิจกรรมต่าง ๆ ทสี่ ง่ ประชาธิปไตย ในท้องถ่ินและ วิเคราะห์ การคิดอยา่ งมี 2. ใฝ่เรียนรู้

เสริประชาธิปไตย ใน ประเทศ วิจารณญาณและการคิด 3. มุง่ ม่ันในการทางาน

ท้องถิน่ และประเทศ แก้ไขปญั หา

2. ทักษะการสื่อสารและ

การร้เู ทา่ ทนั สือ่

3. ทักษะความร่วมมอื

การทางานเป็นทีม และ

ภาวะผนู้ า

3. อภิปรายบทบาท 1. การมสี ว่ นในการออก 1. ทักษะในการคดิ 1. มวี นิ ัย

ความสาคญั ในการใช้ กฎหมาย ระเบยี บ กติกา วิเคราะห์ การคิดอย่างมี 2. ใฝเ่ รยี นรู้

สทิ ธอิ อกเสยี ง การเลือกตั้ง วจิ ารณญาณและการคิด 3. มุ่งม่ันในการทางาน

เลือกตงั้ ตามระบอบ 2. สอดสอ่ งดแู ลผูม้ ีพฤติกรรม แกไ้ ขปัญหา

ประชาธิปไตย การกระทาผิดการเลอื กตงั้ 2. ทักษะการสอื่ สารและ

และแจ้งต่อเจา้ หนา้ ท่ี การรเู้ ท่าทนั ส่ือ

ผรู้ ับผดิ ชอบ 3. ทกั ษะความร่วมมือ

3. ตรวจสอบคณุ สมบตั ิ การทางานเปน็ ทีม และ

4. การใช้สิทธิออกเสียงเลือกตั้ง ภาวะผนู้ า

ตามระบอบประชาธิปไตย

ขนั้ ที่ 4 การจดั ทาคาอธบิ ายรายวชิ า

คาอธิบายรายวิชา
รายวิชา สังคมศึกษา กลมุ่ สาระการเรยี นร้สู งั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 6

จานวน 40 ชวั่ โมง / ภาคเรยี น จานวน 2 ชวั่ โมง/สัปดาห์

ศึกษาและลงมือปฏิบัติในเร่ือง วิเคราะห์ความสาคัญของพระพุทธศาสนาในฐานะเป็นศาสนาประจา
ชาติหรือความสาคัญของศาสนาที่ตนนับถือ สรุปพุทธประวัติตั้งแต่ปลงอายุสังขารจนถึงสังเวชนีย-สถาน หรือ
ประวตั ศิ าสดาทตี่ นนับถือตามทีก่ าหนด เห็นคณุ ค่าและประพฤตติ นตามแบบอยา่ งการดาเนินชีวิตและข้อคิดจาก
ประวตั ิสาวก ชาดก เร่ืองเล่า และศาสนกิ ชนตวั อย่างตามทก่ี าหนด วิเคราะห์ความสาคญั และเคารพพระรัตนตรยั
ปฏิบัติตามไตรสิกขาและหลักธรรมโอวาท 3 ในพระพุทธศาสนาหรือหลักธรรมของศาสนาที่ตนนับถือตามที่
กาหนด ช่ืนชมการทาความดขี องบคุ คลในประเทศตามหลกั ศาสนาพร้อมบอกแนวปฏิบัติในการดาเนินชีวิต เห็น
คุณค่าและสวดมนตแ์ ผเ่ มตตา และบริหารจิตเจริญปัญญา มีสติท่ีเป็นพื้นฐานของสมาธิในพระพุทธศาสนา หรือ
การพฒั นาจติ ตามแนวทางของศาสนาที่ตนนับถือตามที่กาหนด ปฏิบัติตนตามหลักธรรมของศาสนาท่ีตนนับถือ
เพอ่ื แก้ปญั หาอบายมุขและสงิ่ เสพติด อธิบายหลักธรรมสาคัญของศาสนาอ่นื ๆ โดยสังเขป อธิบายลักษณะสาคญั
ของศาสนพิธี พิธีกรรมของศาสนาอื่น ๆ และปฏิบัติตนได้อย่างเหมาะสม เมื่อต้องเข้าร่วมพิธี อธิบาย ความรู้
เก่ียวกับสถานท่ีต่าง ๆ ในศาสนสถานและปฏิบัติตนได้อย่างเหมาะสม มีมรรยาทของความเป็นศาสนิกชนท่ีดี
ตามทก่ี าหนด อธิบายประโยชน์ของการเขา้ ร่วมในศาสนพธิ ี พธิ ีกรรม และกิจกรรมในวันสาคัญทางศาสนาตามท่ี
กาหนด และปฏิบัตติ นไดถ้ กู ตอ้ ง แสดงตนเป็นพทุ ธมามกะ หรือแสดงตนเป็นศาสนกิ ชนของศาสนาทตี่ นนบั ถอื
ศึกษาหลกั การ แนวทางปฏิบตั ิในเร่ือง ปฏบิ ัติตามกฎหมายทีเ่ กยี่ วข้องกับชีวติ ประจาวนั ของครอบครวั และชมุ ชน
วิเคราะห์การเปลีย่ นแปลงวัฒนธรรมตามกาลเวลาและธารงรักษาวัฒนธรรมอันดีงาม แสดงออกถึงมารยาทไทย
ไดเ้ หมาะสมถูกกาลเทศะ อธิบายคุณค่าทางวัฒนธรรมที่แตกต่างกันระหว่างกลุ่มคนในสังคมไทย ติดตามข้อมูล
ขา่ วสารเหตุการณ์ต่าง ๆ ในชีวิตประจาวนั เลือกรับและใชข้ อ้ มูลข่าวสารในการเรียนรู้ได้เหมาะสม เปรียบเทียบ
บทบาท หนา้ ท่ีขององคก์ รปกครองสว่ นท้องถิ่นและรฐั บาล มีส่วนรว่ มในกิจกรรมต่าง ๆ ที่ส่งเสริมประชาธิปไตย
ในท้องถ่ินและประเทศ อภปิ รายบทบาท ความสาคัญในการใช้สทิ ธิออกเสยี งเลอื กตงั้ ตามระบอบประชาธิปไตย

โดยให้ผูเ้ รยี นฝกึ การสังเกต ตอบคาถามเชงิ วิเคราะหแ์ ละสรปุ ความรู้ที่ได้เปน็ แผนภาพความคดิ
กระตุ้นให้แสดงความคิดเห็นอย่างหลากหลาย เพ่ือให้ผู้เรียนร่วมกันหาแนวทางปฏิบัติที่ถูกต้อง เหมาะสม
ส่งเสรมิ การทางานกลุม่ เพอ่ื พฒั นาทักษะทางสังคม นาไปส่กู ารยอมรับและเห็นคุณค่าของตนเองและผูอ้ ่นื

เพ่ือให้ผู้เรียนเข้าใจและตระหนักถึงการปฏิบัติตนในฐานะที่เป็นส่วนหน่ึงของสังคมประชาธิปไตย
ปฏิบัติตนตามหลักศาสนาท่ีตนนับถือ มีแนวคิดท่ีเหมาะสมในการดาเนินชีวิตอย่างพอเพียง และมีความเข้าใจ
สภาพภมู ศิ าสตรร์ อบตัว เลอื กใชแ้ ละอนรุ ักษส์ ่งิ แวดลอ้ มอยา่ งย่ังยนื

มาตรฐานและตวั ชีว้ ดั
ส 1.1 ป.6/1, ป.6/2, ป.6/3, ป.6/4, ป.6/5, ป.6/6, ป.6/7, ป.6/8, ป.6/9
ส 1.2 ป.6/1, ป.6/2, ป.6/3, ป.6/4
ส 2.1 ป.6/1, ป.6/2, ป.6/3, ป.6/4, ป.6/5
ส 2.2 ป.6/1, ป.6/2, ป.6/3

รวมทั้งหมด 21 ตัวช้ีวัด

ข้ันท่ี 5 การจดั ทาโครงสรา้ งรายวชิ า

โครงสร้างรายวชิ าสงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม
ระดับชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 6 เวลาเรียน 40 ชวั่ โมง จานวน 1 หนว่ ยกติ

ลาดบั ชือ่ หน่วยการ ชื่อเร่อื ง มาตรฐาน สาระสาคัญ เวลา น้าหนัก
ที่ เรียนรู้ การเรยี นร้/ู (ชั่วโมง) คะแนน

ตัวชีว้ ัด 1

1 ความสาคัญ ความสาคญั ของ ส 1.1 ป.6/1 ความสาคญั ของพระพทุ ธศาสนา 1
พระพุทธศาสนาเป็นรากฐานของ
ของพระพทุ ธ- พระพุทธศาสนา
วั ฒ น ธ ร ร ม ไ ท ย ก่ อ ใ ห้ เ กิ ด
ศาสนาและ
เอกลักษณ์ที่สาคัญของชาติและ
พุทธประวัติ
เปน็ แนวปฏบิ ัตใิ นการพฒั นาชาติ

ไทย

พระพทุ ธศาสนามคี วามสาคัญ

1. พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาที่

คนไทยส่วนใหญน่ บั ถอื

2. พระพุทธศาสนาเปน็

เอกลักษณข์ องชาติ

3. พระพุทธศาสนาเป็นรากฐาน

ทางวัฒนธรรมไทย

4. พระพุทธศาสนาเป็นศูนย์รวม

จิตใจ

5. พระพุทธศาสนาเป็นมรดก

ทางวฒั นธรรมไทย

6.พระพุทธศาสนาเป็นหลักใน

การพัฒนาชาตไิ ทย

2 พุทธประวตั ิ : 1 ส 1.1 ป.6/2 พุทธประวัติ เป็นเร่ืองราวที่ 1 1

เกย่ี วกับประวัติของพระพุทธเจ้า

การเรียนรู้ประวัติความเป็นมา

และความสาคัญของพระศาสดา

ผู้ก่อตั้งศาสนาจะเป็นการทาให้

พุทธศาสนิกชนเกิดศรัทธา และ

ปฏิบัติตามหลักธรรมเพ่ือการอยู่

รว่ มกันอย่างสันติสุข

ปลงอายุสงั ขาร

เป็นเร่ืองราวที่เกี่ยวกับประวัติ

ของพระพุทธเจ้า ก่อนเสด็จดับ

ขันธปรนิ พิ พาน ที่ทรงประทบั อยู่

ท่ีเวฬุวคาม เมืองไพศาลี ท่ี

ในช่วงระหว่างเข้าพรรษาทรง

พระประชวร

ปัจฉิมสาวก

เป็นเร่ืองราวท่ีเก่ียวกบั สุภัทท-

ลาดับ ช่อื หน่วยการ ช่อื เรอ่ื ง มาตรฐาน สาระสาคัญ เวลา น้าหนัก
ท่ี เรยี นรู้ การเรียนร้/ู (ชว่ั โมง) คะแนน
ปรพิ าชก ซ่งึ เปน็ สาวกองค์
ตวั ชว้ี ดั สุดทา้ ยท่ไี ด้รับการอปุ สมบทจาก
พระพทุ ธเจ้า
ปรินิพพาน
เป็นเร่ืองราวท่ีเกี่ยวกับประวัติ
พระพุทธเจ้า เมื่อพระพุทธเจ้า
ทรงสถาปนาพระพุทธศาสนาจน
ม่ันคง พระพุทธเจ้าจึงเสด็จดับ
ขันธปรินิพพาน ณ สาลวโน-
ทยาน

3 พุทธประวตั ิ : 2 ส 1.1 ป.6/2 การถวายพระเพลงิ 1 1
4 สังเวชนยี สถาน เป็นเร่ืองราวหลังจากพระพุทธ-
เจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพานแล้ว
เจ้ามัลลกษัตริย์และเหล่าพุทธ
บริษัท ต่างถือดอกไม้ของหอม

กนั มาบูชาพระพุทธสรรี ะ
แจกพระบรมสารีริกธาตุ
เปน็ เรื่องราวหลังจากทถี่ วายพระ
เพลิงพระพุทธสรีระแล้ว ทาการ
แบง่ พระบรมสารีรกิ ธาตุ

ส 1.1 ป.6/2 สังเวชนียสถาน 4 ตาบล เป็น 1 1
สถานที่ท่ีเก่ียวข้องกับประวัติ
ของพระพทุ ธเจา้ 4 แหง่ ทพี่ ุทธ-
ศาสนิกชนควรเรียนรู้เพ่ือสืบ
ทอดพระพุทธศาสนาตอ่ ไปไดแ้ ก่
1. สถานที่ประสูติ พระพุทธเจ้า
ประสูติ ในวันเพ็ญข้ึน 15 ค่า
เดือน 6 ท่ีใต้ร่มไม้รังหรือต้น
สาละ คอื ลมุ พนิ วี ัน
2. สถานท่ีตรัสรู้ พระพุทธเจ้า
ตรสั รใู้ นวันเพ็ญขึ้น 15 ค่า เดือน
6 ณ ใต้ตน้ พระศรีมหา-โพธ์ิรมิ ฝัง่
แม่นา้ เนรญั ชรา คือ พุทธคยา

3. สถานที่ทรงแสดงปฐมเทศนา
ครั้งแรกแก่ปัญจวัคคีย์ทั้ง 5 ใน
วนั เพญ็ ขึน้ 15 คา่ เดือน 8 ธรรม
ที่ทรงแสดงคือ ธัมมจักกัปปวัตน
สตู ร สถานที่ คอื ธมั เมกขสถูป

ลาดบั ช่ือหน่วยการ ชือ่ เรอื่ ง มาตรฐาน สาระสาคญั เวลา น้าหนกั
ท่ี เรยี นรู้ การเรยี นรู/้ (ชั่วโมง) คะแนน
4. สถานท่ปี รนิ พิ พาน
5 พุทธสาวก พุทธสาวก ตัวชี้วัด เป็นสถานที่ท่ี พระพุทธเจ้าเสด็จ 1 2
ชาดก และ : พระราธะ ดบั ขนั ธปรนิ ิพพาน ในวันเพญ็ ขึ้น
พทุ ธศาสนิกชน ส 1.1 ป.6/3 15 ค่า เดือน 6 ใต้ต้นสาละ ณ 1 2
ตัวอย่าง สาลวโนทยาน
ส 1.1 ป.6/3
6 ชาดก : พุทธสาวกเป็นบุคคลสาคัญใน
ทีฆีติโกสลชาดก การเผยแผ่พระพุทธศาสนา มี
และสพั พทาฐิ แบบอยา่ งการดาเนินชีวติ ทใี่ หค้ ติ
ชาดก ข้อคิดเตือนใจแก่พุทธศาสนิกชน
ท่ัวไปในการนามาประยุกต์ใช้ใน
ชวี ิตประจาวนั
พระราธะ (ผู้วา่ งา่ ย สอนงา่ ย)
เปน็ เรื่องราวที่เก่ียวกับพระราธะ
ที่ได้รับโอวาทของพระสารีบุตร
และนาไปปฏิบัติอย่างอ่อนน้อม
เป็นผู้ท่ีว่าง่าย สอนง่าย เช่ือฟัง
ด้ ว ย ค ว า ม เ ค า ร พ จ น ไ ด้ บ ร ร ลุ
ธรรมเปน็ พระอรหันต์

ชาดก เป็นเรื่องราวการทาความ
ดีของพระพุทธเจ้าในอดีตชาติ
และมขี ้อคดิ ท่สี ามารถนามาเปน็
แบบอยา่ งในการดาเนินชีวิตได้
ทีฆีตโิ กสลชาดก
เป็นเรื่องราวการทาความดีของ
พระพุทธเจ้าในอดีตชาติ เมื่อใน
อดีตกาลท่ีพระพุทธเจ้าทรงเป็น
พระเจา้ ทฆี ตี ิโกสลราช และได้ทา
ความดี โดยการรู้จักให้อภัย เชื่อ
ฟังคาสั่งสอนของบดิ า
มารดา และมีสติยับยั้งช่ังใจใน
การทาบาปทาให้ชวี ติ มีความสขุ
สพั พทาฐิชาดก
เป็นเรื่องราวการทาความดีของ
พระพุทธเจ้าในอดีตชาติ เม่ือใน
อดีตกาลท่ีพระพุทธเจ้าทรงเป็น
พราหมณ์ปุโรหิตผู้หน่ึงที่รู้มนตร์
วเิ ศษ ท่ีเรยี กว่า “ปฐวีวิชยั ”
ซ่ึงเป็นมนตร์กล่อมใจผู้อ่ืนให้
หลงเชือ่ ในคาสัง่

ลาดับ ชอื่ หน่วยการ ชอ่ื เรอื่ ง มาตรฐาน สาระสาคญั เวลา นา้ หนกั
ท่ี เรยี นรู้ การเรยี นรู้/ (ชว่ั โมง) คะแนน

ตัวช้วี ัด

7 พทุ ธศาสนิกชน ส 1.1 ป.6/3 พุทธศาสนิกชนตัวอย่าง เป็น 1 2

ตวั อย่าง : บุคคลท่ีมีคุณธรรมจริยธรรมเป็น

พอ่ ขนุ รามคาแหง แบบอย่างการดาเนินชีวิต ข้อคิด

มหาราช ท่ี ไ ด้ จ า ก ก า ร ด า เ นิ น ชี วิ ต ข อ ง

และสมเดจ็ พระ พุทธศาสนิกชนตัวอย่าง น้ัน

มหาสมณเจา้ สามารถนาไปเป็นแบบอย่างใน

กรมพระปรมานุ การพฒั นาตนเองและสังคม

ชติ นิโนรส เพื่อการอยรู่ ่วมกันอยา่ งสนั ตสิ ุข

พ่อขุนรามคาแหงมหาราช

ในด้านพระพุทธศาสนาพระองค์

ทรงเป็นแบบอย่างในการเป็น

องค์อุปถมั ภพ์ ระพทุ ธศาสนาและ

เป็นผู้ที่ประพฤติตามหลักธรรม

ในพระพุทธศาสนา รวมทั้ง

ส่ ง เ ส ริ ม ใ ห้ ป ร ะ ช า ช น ข อ ง

พ ร ะ อ ง ค์ อ ยู่ ใ น ศี ล แ ล ะ ป ฏิ บั ติ

ธรรมตลอดรัชกาลของพระองค์

สมเด็จพระมหาสมณเจ้า

กรมพระปรมานุชิตชิโนรส

เป็นสมเด็จพระสังฆราชพระองค์

ที่ 7 ของกรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่ง

เป็นพระราชวงศ์พระองค์แรก

ท่ีได้รับการสถาปนาเป็นสมเด็จ

พระมหาสมณเจ้าและสมเด็จ

พระสังฆราช และพระองค์ทรง

เป็นแบบอย่างในการใฝ่เรียนรู้

ขยันหาความรู้ และส่งเสริม

พระพุทธศาสนา

8 หลกั ธรรมทาง พระรัตนตรยั ส 1.1 ป.6/4 พระรัตนตรัยเป็นส่ิงยึดเหน่ียว 1 2
พระพุทธ- จิตใจของพุทธศาสนิกชน เพราะ
ศาสนา ไดย้ ดึ ถือเป็นแนวทางการปฏิบตั ิ

ในการดาเนินชีวติ ใหห้ ่างไกลจาก
ค ว า ม ชั่ ว แ ล ะ พ บ กั บ ค ว า ม สุ ข
อยา่ งแทจ้ รงิ
พระรัตนตรัย หมายถึง แก้วอัน

ประเสรฐิ 3 ประการ ได้แก่
1. พระพุทธ คือ พระพุทธเจ้า
ศาสดาของพระพทุ ธศาสนา เป็น
ผู้ค้นพบหลักธรรมและเผยแผ่ให้

ลาดับ ชือ่ หน่วยการ ชือ่ เร่ือง มาตรฐาน สาระสาคญั เวลา น้าหนกั
ท่ี เรียนรู้ การเรยี นร/ู้ (ชว่ั โมง) คะแนน
ผูอ้ ่ืนรู้ตาม
ตัวชี้วดั 2. พระธรรม คือ หลักธรรมคา
สอนของพระพทุ ธเจ้า
3. พระสงฆ์ คือ ผู้ท่ีอุปสมบท
เป็นพระภกิ ษุในพระพุทธศาสนา
ปฏบิ ัติตามหลกั ธรรมคาสอนของ
พระพุทธเจ้า เผยแผ่และ สืบ
ทอดพระพุทธศาสนา

9 ไตรสิกขา ส 1.1 ป.6/4 ไตรสิกขา เป็นหลักธรรมที่ช่วย 1 1

ฝึกอบรมกาย วาจา ใจ เพ่ือให้

เกิดศีล สมาธิ ปัญญา อันเป็น

หลักในการพัฒนาตนเองและ

สังคม เพ่อื ใหเ้ กิดความสงบสขุ

ไตรสิกขาเป็นหลักธรรมท่ีมี 3

ประการ

1. ศลี (สีลสกิ ขา) คือ

ก า ร ส า ร ว ม ก า ย แ ล ะ ว า จ า ใ ห้

เรยี บร้อย ไม่ทาผดิ กฎขอ้ ห้าม

2. สมาธิ (จติ ตสิกขา) คอื

การควบคุมจิตใจของตนให้สงบ

มุ่งมั่น โดยมีสติรู้สึกตัวอยู่เสมอ

ว่ากาลงั ทาอะไรอยู่

3.ปัญญา (ปญั ญาสิกขา) คือ การ

รู้จริงตามสิ่งที่ทา และการได้รู้

เห็นความจรงิ ทท่ี านน้ั ด้วยปญั ญา

10 โอวาท 3 : ส 1.1 ป.6/4 โอวาท 3 เป็นหลักธรรมซ่ึงเป็น 1 1

การไมท่ าความช่วั หัวใจของพระพุทธศาสนา

(เบญจศลี ได้แก่ การไม่ทาความชั่ว การทา

อบายมขุ 6 และ ความดี การทาจิตใจให้บริสุทธ์ิ

อกศุ ลมลู 3) การไมท่ าความชวั่ คือ

การปฏิบัติที่งดเว้นจากความช่ัว

ท้ั ง ท า ง ก า ย ว า จ า แ ล ะ ใ จ

หลักธรรมท่ีเก่ียวกับการไม่ทา

ความช่ัว เชน่

เบญจศีล หรือ ศีล 5 คอื

ขอ้ ห้ามเพื่อไมใ่ หท้ าความชัว่

มี 5 ประการ

1. งดเวน้ จากการฆา่ สัตว์

ลาดับ ช่อื หน่วยการ ชือ่ เรื่อง มาตรฐาน สาระสาคัญ เวลา น้าหนัก
ที่ เรียนรู้ การเรียนรู/้ (ช่วั โมง) คะแนน
2. งดเวน้ จากการลกั ทรพั ย์
ตัวชว้ี ดั 3. งดเวน้ จากการประพฤตผิ ดิ
ในกาม
4. งดเวน้ จากการพูดเท็จ
5. งดเวน้ จากการเสพของมึนเมา
หรือสารเสพติด
อบายมุข 6 คือเหตุที่จะนาไปสู่
ความเสอื่ มเสยี เกียรติยศ และ
ชอื่ เสยี ง เปน็ สง่ิ ท่ีไม่ควรทา
มี 6 ประการ
1. ติดสรุ าและสารเสพติด
2. เที่ยวกลางคนื
3. เท่ียวดกู ารละเลน่
4. เลน่ การพนนั
5. คบคนชัว่ เปน็ มติ ร
6. เกียจครา้ นการทางาน
อกุศลมูล 3 คือ รากเหง้าของ
ความชวั่ ต้นเหตุที่จะนาไปสู่
การทาความชว่ั มี 3 ประการ
1. โลภะ คือ ความโลภ ความ
อยากได้ของคนอื่นมาเป็นของ
ตนเอง
2. โทสะ คือ ความโกรธ ความ
พยาบาท ความคดิ ประทษุ รา้ ย
3. โมหะ คือ ความล่มุ หลง ความ
มัวเมา ความประมาท

11 โอวาท 3 : ส 1.1 ป.6/4 โอวาท 3 เป็นหลักธรรมซ่ึงเป็น 1 1
หัวใจของพระพุทธศาสนา
การทาความดี ได้แก่ การไม่ทาความชั่ว การทา
(เบญจธรรม ความดี การทาจิตใจให้บริสุทธิ์
กุศลมลู 3 และ การทาความดี คือ
พละ 4) การทาความดีท้ังทางกาย วาจา
และใจ เป็นหลักธรรมท่ีเกี่ยวกับ
การทาความดมี หี ลายหลกั ธรรม
เบญจธรรม คือ ข้อธรรมที่ควร
ปฏิบัติ มี 5 ประการ ไดแ้ ก่
1. เมตตา มีความคิดปรารถนา
ให้ผูอ้ ่ืนมีความสขุ
2. สัมมาอาชีวะ การประกอบ

ลาดบั ชือ่ หน่วยการ ช่อื เรื่อง มาตรฐาน สาระสาคัญ เวลา น้าหนกั
ท่ี เรียนรู้ การเรยี นรู/้ (ชว่ั โมง) คะแนน
อาชีพสจุ ริต
ตัวชี้วดั 3. กามสังวร ความสารวมระวัง
พอใจในคูค่ รองของตน
4. สจั จะ ความซอ่ื สตั ย์ ซอื่ ตรง
5. สติสัมปชญั ญะ ความมีสตริ ตู้ ัว
อยเู่ สมอ ระมัดระวงั ตนเอง
กุศลมูล 3 คือ รากเหง้าของ
ความดี มี 3 ประการ ไดแ้ ก่
1. อโลภะ คอื ความไมโ่ ลภ
2. อโทสะ คือ ความไม่โกรธ
3. อโมหะ คอื ความรอบรู้
พละ 4 คือ ธรรมทเ่ี ปน็ พลัง
ทาให้ดาเนินชวี ติ ดว้ ยความม่นั ใจ
ไม่หวนั่ ไหวตอ่ ภัยตา่ ง ๆ ได้แก่
1. ปัญญาพละ คือ มีปัญญาเป็น
กาลังในการใชแ้ ยกแยะ
2. วริ ิยพละ คือ มีความขยัน
3. อนวชั ชพละ คอื มคี วามสุจริต
เปน็ พลงั
4. สังคหพละ คือ การช่วยเหลือ
เกอื้ กลู กนั

12 โอวาท 3 : ส 1.1 ป.6/4 โอวาท 3 เป็นหลักธรรมซึ่งเป็น 1 1

การทาความดี หวั ใจของพระพุทธศาสนา

(คารวะ 6 กตญั ญู ได้แก่ การไม่ทาความชั่ว การทา

กตเวทีต่อ ความดี การทาจติ ใจให้บรสิ ทุ ธ์ิ

พระมหากษัตรยิ ์ การทาความดี คอื

และมงคล 38) การทาความดีท้ังทางกาย วาจา

และใจ เป็นหลักธรรมท่ีเก่ียวกับ

การทาความดีมีหลายหลักธรรม

คารวะ 6 คือ การแสดงความ

เคารพ เป็นสิ่งสาคัญท่ีจะต้อง

ปฏบิ ัติมี 6 ประการ

1. ความเคารพในพระพทุ ธเจ้า

2. ความเคารพในพระธรรม

3. ความเคารพในพระสงฆ์

4. ความเคารพในการศกึ ษา

5. ความเคารพในความ

ไม่ประมาท

6. ความเคารพในการปฏิสันถาร

ลาดบั ช่ือหน่วยการ ช่ือเร่อื ง มาตรฐาน สาระสาคญั เวลา น้าหนกั
ที่ เรียนรู้ การเรียนร/ู้ (ช่ัวโมง) คะแนน
กตญั ญกู ตเวทตี ่อพระมหา-
ตวั ช้วี ดั กษัตริย์ พระมหากษัตริย์ไทยนับ
แต่อดีตจนถึงปัจจุบันได้ปกป้อง
บ้านเมือง และปกครองประเทศ
ด้วยหลักทศพิธราชธรรมทาให้
ประชาชนอยู่ดีมีสุข แม้ปัจจุบัน
จะปกครองดว้ ยระบอบประชา-
ธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรง
เปน็ ประมุข ก็ยังมีบทบาทในการ
บาบดั ทุกข์ บารงุ สขุ
ของประชาชน
มงคล 38 เป็นแนวทางที่ทาให้
บรรลุถงึ ความเจรญิ ของชวี ติ
มี 38 ป ร ะ ก า ร ซึ่ ง ใ น ท่ี น้ี
กาหนดใหศ้ กึ ษา 3 ประการ
ได้แก่ ความมีวินัย การงานไม่มี
โทษ ไมป่ ระมาทในธรรม

13 โอวาท 3 : ส 1.1 ป.6/4 โอวาท 3 เป็นหลักธรรมซ่ึงเป็น 1 1
การทาจิตใจให้ หัวใจของพระพทุ ธศาสนา
บริสุทธิ์ ได้แก่ การไม่ทาความชั่ว การทา

14 พุทธศาสน- ความดี การทาจติ ใจใหบ้ รสิ ทุ ธ์ิ
สภุ าษติ การทาจิตใจใหบ้ รสิ ุทธิ์ คอื
การฝึกจิตให้เกิดสมาธิ สารวม
กาย และวาจาโดยการไม่คิดร้าย

ต่อผอู้ ืน่ ไม่โกรธง่าย ไม่โมโหง่าย
ไมค่ ดิ แค้นผูท้ ีท่ าส่ิงท่ีไม่ดีตอ่ ตน
การทาจิตใจให้ผ่องใส เป็นการ
ฝกึ ใหเ้ กิดความรู้ ความคดิ รู้จัก

แก้ปัญหา เพื่อให้เกิดสมาธิ
ปฏิบัติได้โดยการบริหารจิตและ
เจรญิ ปญั ญา ซง่ึ เป็นสิง่ จาเป็นต่อ
การดาเนนิ ชีวติ

ส 1.1 ป.6/4 พุทธศาสนสุภาษิตเป็นคาสอน 1 1
ท า ง พ ร ะ พุ ท ธ ศ า ส น า ที่ ใ ห้ ค ติ

สอนใจ พทุ ธศาสนกิ ชนควรนาไป
ปฏิบัติหรือนาไปเป็นหลักในการ
ดาเนินชีวิตเพ่ือการอยู่ร่วมกัน
อยา่ งสงบสุข

ลาดับ ช่ือหน่วยการ ชอ่ื เร่อื ง มาตรฐาน สาระสาคญั เวลา นา้ หนกั
ท่ี เรยี นรู้ การเรียนร/ู้ (ช่วั โมง) คะแนน
- สจฺเจน กิตฺตึ ปปฺโปติ
ตวั ชี้วดั คนจะไดเ้ กยี รตดิ ว้ ยสัจจะ
คือ การเป็นคนมีสัจจะ มีความ
จริงใจ ถ้าปฏิบัติตามนี้ได้ก็จะ
ได้รับการยกย่องชืน่ ชม
- ยถาวาที ตถาการี
พดู เช่นไร ทาเชน่ นนั้
คอื การเป็นคนซ่อื สัตย์ รกั ษา
คาพดู รกั ษาคามน่ั สัญญา จะ
ทาให้ได้รับการยกย่องสรรเสริญ
จากผู้อ่ืน

15 การปฏิบตั ิตนตาม ส 1.1 ป6/5, หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา 1 2

หลกั ธรรมทาง ส 1.1 ป.6/7 ส่งเสริมให้ผู้ปฏิบัติเป็นคนดี การ

พระพทุ ธ- นาหลักธรรมคาสอนทางพระ-

ศาสนา พุทธศาสนามาปฏิบัติจะทาให้มี

ความสขุ และเจริญก้าวหนา้

ตัวอย่างการกระทาความดีของ

บุคคลในประเทศ

พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทร-

มหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงเป็น

แบบอย่างในการกระทาความดี

และทรงปฏิบัติพระองค์เป็นผู้นา

ทนี่ าหลักคาสอนของพระพุทธ-

ศาสนามาปฏิบัติ ที่เรียกว่า

ทศพิธราชธรรมจึงได้รับการนับ

ถือและยกย่องเป็นปูชนียบคุ คล

ท่ีควรเคารพนบั ถือ

16 หนา้ ที่และ หนา้ ทชี่ าวพทุ ธ:1 ส 1.2 ป.6/1 การมีความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับ 1 1

มรรยาทชาว- สถานที่ต่าง ๆ ภายในวัด และ

พทุ ธ การปฏิบัติที่เหมาะสมภายในวัด

เป็นหน้าที่ท่ีชาวพุทธทุกคนควร

ปฏิบัติ เพื่อรักษาและสืบทอด

พระพุทธศาสนาให้คงอยตู่ อ่ ไป

ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับสถานที่

ต่าง ๆ ภายในวัด ซึ่งวัดเป็น

ศู น ย์ ก ล า ง ใ น ก า ร ป ร ะ ก อ บ

ศาสนกจิ และเป็นที่อยู่อาศยั ของ

พระสงฆ์ รวมไปถึงเป็นที่ที่ชาว

ลาดับ ชื่อหน่วยการ ชอื่ เร่อื ง มาตรฐาน สาระสาคัญ เวลา นา้ หนกั
ท่ี เรยี นรู้ การเรยี นรู้/ (ช่วั โมง) คะแนน
พุทธจะได้มาร่วมกันทากิจกรรม
ตัวชว้ี ัด ทางศาสนา โดยบริเวณวดั แบ่ง
เป็น 2 ส่วน คือ เขตพุทธาวาส
และเขตสงั ฆาวาส
การปฏิบัติตนท่ีเหมาะสมภายใน
วดั คอื ควรช่วยกันดแู ลบารงุ
รักษาวัด โดยไม่ทาความสกปรก
ให้แก่วัด สารวมกิริยามารยาท
ไม่ส่งเสียงดังภายในวัดและควร
แต่งกายด้วยชุดทส่ี ภุ าพ

17 หน้าที่ชาวพุทธ:2 ส 1.2 ป.6/4 การแสดงตนเป็นพุทธมามกะ 1 2

เป็นการแสดงตนว่าเป็นผู้ปฏิบัติ

ตามหลักธรรมทางพระพุทธ-

ศาสนา ซึง่ ผู้ที่นบั ถือพระพทุ ธ-

ศาสนาเมื่อถึงวัยอันเหมาะสม

จะต้องแสดงตนเป็นพุทธมามกะ

โดยทาพิธีประกาศตนว่า เป็นผู้

นับถือพระพุทธศาสนา โดยยึด

เอาพระรัตนตรัย คือ พระพุทธ

พระธรรม พระสงฆ์ เปน็ ทีพ่ ง่ึ

ทร่ี ะลกึ

18 มรรยาทชาวพทุ ธ ส 1.2 ป.6/2 มรรยาทชาวพทุ ธ เปน็ การปฏิบัติ 1 3

ตนที่แสดงถึงความดีงาม สุภาพ

เรียบร้อยท้ังกาย วาจา และใจ

เป็นส่วนหน่ึงของการเสริมสร้าง

ให้เกิดความสงบสุขแก่ตนเอง

และสงั คม

การถวายของแด่พระภกิ ษุ

เรียกว่า ประเคน ส่ิงที่ถวายต้อง

เหมาะสมและจาเป็นสาหรับการ

ดารงชีวิตของพระภิกษุ เช่น

เคร่ืองนุ่งห่ม อาหาร และยา

รักษาโรค ซ่งึ จะต้องทาด้วยความ

เคารพ ตั้งใจ

การปฏบิ ตั ติ นในขณะฟังธรรม

การฟงั ธรรมหรอื การฟงั เทศน์

เป็นส่ิงท่ีปฏิบัติในงานต่าง ๆ ที่มี

พธิ ีกรรมทางศาสนาเข้ามาเกี่ยว-

ลาดบั ช่ือหน่วยการ ช่ือเร่ือง มาตรฐาน สาระสาคญั เวลา นา้ หนัก
ที่ เรียนรู้ การเรียนรู/้ (ชวั่ โมง) คะแนน
ข้อง ซึ่งการฟังธรรมถือเป็นการ
ตัวชวี้ ดั สรา้ งบญุ ดว้ ย

19 การบริหารจติ การสวดมนตไ์ หว้ ส 1.1 ป.6/6 การสวดมนต์ไหว้พระเป็นการ 1 2

และเจรญิ พระ สรรเสริญ แสดงความเคารพต่อพระ -

ปญั ญา คณุ พระรตั นตรัย รั ต น ต รั ย แ ล ะ เ ป็ น กิ จ ก ร ร ม ท่ี

และแผเ่ มตตา พุ ท ธ ศ า ส นิ ก ช น พึ ง ป ฏิ บั ติ ใ ห้

พร้อมทั้งทางกาย วาจา และใจ

เพ่ือใหเ้ ป็นการเสริมสร้าง

สติปัญญา อบรมจติ ใหป้ ระณตี มี

คุณธรรม

การแผ่เมตตา เป็นการส่งความ

ปรารถนาดีให้แก่ผู้อื่น และการ

แผ่เมตตาแสดงให้เห็นถึงการมี

ความเมตตากรณุ าต่อผูอ้ นื่

ซึ่งเป็นลักษณะนิสัยของพทุ ธ-

ศาสนิกชน

20 การพฒั นาจิตตาม ส 1.1 ป.6/6 การบริหารจิตและเจริญปัญญา 1 1

แนวทาง เป็นการพัฒนาจิตตามแนวทาง

พระพทุ ธศาสนา : พระพุทธศาสนา โดยการต้ังม่ัน

1 ทาจติ ใจให้สงบ ทาใหเ้ กิดสติ

สมั ปชญั ญะ สมาธิ และปัญญา

วิธีปฏิบัติตนในการบริหารจิต

และเจริญปัญญา คือ วิธีการฝึก

บริหารจิต เป็นการตั้งใจทาส่ิง

หนึ่งส่ิงใดได้ด้วยความเอาใจใส่

มุ่งม่ันทาให้สาเร็จ และการฝึก

บริหารจิตเจริญปัญญาเบื้องต้น

มีหลายวิธีตามความถนัดของแต่

ละคน เชน่ การกาหนด

ลมหายใจเข้า-ออก การต้ังใจ

เพ่งเล็งไปที่ส่ิงใดส่ิงหนึ่ง การ

ตั้งใจมน่ั หรือการสวดมนต์

21 การพัฒนาจิตตาม ส 1.1 ป.6/6 การบริหารจิตและเจริญปัญญา 1 1

แนวทาง เป็นการพัฒนาจิตตามแนวทาง

พระพทุ ธศาสนา : พระพุทธศาสนา โดยการต้ังมั่น

2 ทาจิตใจใหส้ งบ ทาใหเ้ กิดสติ

สมั ปชัญญะ สมาธิ และปญั ญา

การฝึกการยืน การเดิน การน่ัง

ลาดับ ช่อื หน่วยการ ชือ่ เรื่อง มาตรฐาน สาระสาคญั เวลา น้าหนกั
ท่ี เรียนรู้ การเรียนร้/ู (ชว่ั โมง) คะแนน
และการนอนอย่างมีสติ เป็นวิธี
ตวั ชว้ี ดั ฝึกสติโดยใช้วิธีการยืน การเดิน
การนง่ั การนอน ซง่ึ เป็น
อิริยาบถท่ีใช้ในชีวิตประจาวัน ท่ี
จะทาให้มีสติ รู้จักระมัดระวังตัว
มีความรอบคอบในการทางาน
การฝกึ กาหนดร้คู วามรู้สึกทางตา
หู จมูก ล้นิ กาย และใจ เป็น
การฝึกกาหนดรู้ประสาทสัมผัสที่
จะทาให้ชวี ติ มแี ตค่ วามสขุ
และเกิดประโยชน์ต่อผู้ฝึกปฏิบัติ
ทาให้ไม่ประมาทในการดาเนิน
ชีวิต มีสติอยู่กับตัวตลอดเวลา
สามารถแยกแยะเลือกรับเอาแต่
สงิ่ ท่ีดมี ปี ระโยชน์ได้

22 วันสาคัญทาง วนั สาคัญทาง ส 1.2 ป.6/3 วันสาคัญทางพระพุทธศาสนา 1 1
พระพทุ ธ พระพทุ ธศาสนา เป็นวันท่มี เี หตุการณ์สาคญั เกิด
ศาสนาและ ข้ึนในสมัยพุทธกาล เหตุการณ์
ศาสนพธิ ี ดังกล่าวเก่ียวข้องกับพระพุทธ

พระธรรม พระสงฆ์ในฐานะที่
เป็นพุทธศาสนิกชนควรยึดถือ
เอาวนั สาคญั เหล่าน้นี ้อมระลึกถึง
คุ ณ ข อง พ ร ะ รั ต น ต รั ย โ ด ย

ร่วมกันประกอบพิธีกรรมเพื่อ
เปน็ การบูชา และนอ้ มนาหลกั
ธรรมท่เี กิดข้นึ ในวันสาคัญเหล่า
นนั้ ไปใช้ในชวี ิตประจาวันได้

วันมาฆบูชา
ตรงกับวันข้นึ 15 ค่า เดือน 3
เป็นวันทีเ่ กดิ สิง่ มหัศจรรย์ข้ึน
4 ประการ เรียกวา่ จาตรุ งค-

สันนบิ าต คอื
1. พระสงฆ์ 1,250 องค์ มา
ประชุมกันโดยมิได้นดั หมาย
2. พระสงฆ์เหล่านั้นล้วนเป็น

พระอรหนั ต์ทัง้ สนิ้
3. พระสงฆ์ทัง้ หมดเป็นเอหิภิกขุ-
อุปสมั ปทา
4. พระพุทธเจ้าทรงแสดงโอวาท-

ลาดบั ชื่อหน่วยการ ช่อื เรื่อง มาตรฐาน สาระสาคัญ เวลา นา้ หนกั
ที่ เรียนรู้ การเรยี นร้/ู (ชัว่ โมง) คะแนน
ปาตโิ มกข์อนั เปน็ หลกั ธรรมสูง-
ตัวช้วี ัด สดุ ในทางพระพทุ ธศาสนา
วันวสิ าขบชู า
ตรงกับวันข้ึน15ค่า เดือน 6เป็น
วนั ประสูติ ตรสั รู้ ปรินพิ พานของ
พระพุทธ เจ้า เกิ ดขึ้นในวั น
เดียวกัน แต่ต่างปีกัน หลักธรรม
ท่ีเก่ียวข้องและควรนาไปปฏิบัติ
คอื ความกตัญญู อรยิ สัจ 4
และความไม่ประมาท
วนั อฐั มีบชู า
ตรงกับวันข้ึนแรม 8 ค่า เดือน 6
เป็นวันคล้ายวันถวายพระเพลิง
พระพุทธสรีระของพระพทุ ธเจา้
ที่เมืองกุสินาราหลังพระพุทธเจ้า
ปรินพิ พานไปแล้ว 7 วันและได้มี
การแบง่ พระบรมสารีรกิ ธาตุให้
กบั กษตั รยิ เ์ มืองตา่ ง ๆ
วันอาสาฬหบูชา
ตรงกับวันข้ึน 15 ค่า เดือน 8
เป็นวันที่พระพุทธเจ้าแสดงปฐม
เทศนาชื่อ ธัมมจักกัปปวัตนสูตร
จนมีพระรัตนตรัยครบองค์สาม
คอื พระพทุ ธ พระธรรม และ
พระสงฆ์เกิดข้ึนครัง้ แรก
วนั เข้าพรรษา
เป็นวนั ทีพ่ ระสงฆ์นัน้ เร่มิ อยู่
จาพรรษาตลอด 3 เดือน ในฤดู
ฝน ตั้งแต่วันแรม 1 ค่า เดือน 8
จนถึงวนั ขนึ้ 15 ค่า เดอื น 11
วันพระ (วันธรรมสวนะ)
จะมี 4 วนั ใน 1 เดือน คอื
วันข้ึน 8 ค่า วันขึ้น 15 ค่า และ
วันแรม 8 ค่า วันแรม 15 ค่า
ของทุกเดือน เป็นวันท่ีพระภิกษุ
ประชุมกัน เพ่ือสนทนาธรรม
และแสดงธรรมแก่ประชาชน
พุ ท ธ ศ า ส นิ ก ช น จึ ง ถื อ เ อ า วั น
ดังกล่าวเปน็ วนั ฟงั ธรรม

ลาดับ ชื่อหน่วยการ ชอื่ เร่อื ง มาตรฐาน สาระสาคญั เวลา นา้ หนัก
ท่ี เรยี นรู้ การเรียนร/ู้ (ชั่วโมง) คะแนน
ศาสนพิธี คือ พิธีกรรมทาง
23 ศาสนพิธี ตัวชีว้ ดั พระพุทธศาสนา ท่ีถือปฏิบัติจน 1 3
เป็นท่ียอมรับสืบต่อกันมา การ
ส 1.2 ป.6/3 ประกอบพธิ กี รรมทางพระพทุ ธ-
ศาสนา พุทธศาสนิกชนควร
ปฏิบัติตนให้ถูกต้องตามแบบ
แผนท่ีมีมาแต่ดั้งเดิม เช่น การ
อาราธนาศลี อาราธนาธรรม
และอาราธนาพระปริตร
การปฏิบัติตนท่ีถูกต้องในศาสน-
พธิ ี พธิ ีกรรม
1. ควรไปถึงสถานท่ีประกอบพิธี
กอ่ นท่พี ธิ ีจะเร่มิ
2. ให้ความเคารพต่อศาสนพิธี
และพิธกี รรมนนั้
3. ขณ ะอยู่ใ นพิ ธีก รร มค ว ร
สารวมกิรยิ ามารยาท
4. แต่งกายให้สุภาพ เหมาะสม
กบั สถานท่ี และพิธกี รรม
5. ปฏิบัติตนตามหลักศาสนพิธี
ใหถ้ กู ต้อง เหมาะสม

24 ศาสนาตา่ งๆ ประวตั ศิ าสดา ส 1.2 ป.6/8 ศาสดา คือ ผู้ประกาศและเผย 1 1

ในประเทศไทย ของศาสนาตา่ ง ๆ แผ่ศาสนา การศึกษาประวัติ

ศาสดาของศาสนาต่าง ๆ จะทา

ใหเ้ ขา้ ใจประวัติความเป็นมาของ

ศาสนาต่าง ๆ มากยงิ่ ข้ึน

ศาสดาของพระพุทธศาสนา คือ

พระพุทธเจ้า มีพระนามเดิมว่า

เจ้าชายสิทธัตถะ พระองค์ทรง

เสดจ็ ออกผนวช เมอื่ พระชนมายุ

29 พรรษา ในคืนที่พระโอรส

ประสูติ หลงั จากเสด็จออกผนวช

พระองค์ทรงบาเพ็ญเพียรด้วย

วิธีการต่าง ๆเป็นเวลา 6 ปี จึง

ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ในวันขึน้ 15 ค่า เดือน 6

ศาสดาของศาสนาอิสลาม คือ

มุฮัมมัด เป็นชาวอาหรับ ท่าน

เกิดที่นครมักกะฮ์ ประเทศ

ลาดับ ช่อื หน่วยการ ชื่อเร่ือง มาตรฐาน สาระสาคญั เวลา นา้ หนกั
ที่ เรยี นรู้ การเรยี นร้/ู (ชัว่ โมง) คะแนน
ซาอุดีอาระเบีย ในคืนหนึ่งของ
ตัวชีว้ ัด เดอื นเราะมะฎอน กาเบรียล
ทูตของพระเจ้า คือ อัลลอฮ์ ได้
นาโองการของพระเจ้า มา
ประทานแก่มุฮัมมัดท่านจึงได้นา
คาสอนเหล่านี้มาเผยแผ่จนเกิด
เปน็ ศาสนาอสิ ลามขึน้
ศาสดาของศาสนาคริสต์ คือ
พระเยซู ซ่ึงเป็นชาวยิวเมื่ออายุ
30 ปี ท่านได้พบนักบุญโยฮัน
และได้รับศีลล้างบาปหลังจาก
นั้นท่านได้ประกาศศาสนาใหม่
คือศาสนาครสิ ต์ และเช่อื ว่า พระ
เยซูเป็นบุตรของพระเจ้าท่ีเสด็จ
มายังโลกมนุษย์เพื่อช่วยมนุษย์
ใหพ้ น้ จากการทาบาป
ศา ส น า พร า หม ณ์ -ฮิ น ดู เป็ น
ศาสนาท่ีไม่มีศาสดา แต่นับถือ
เทพเจ้า 3 องค์ คือ พระพรหม
พระวิษณุ พระศิวะ รวมเรียกว่า
ตรีมรู ติ
ศาสนาสิกข์มศี าสดา คือ ครุ ุ รวม
ทั้งหมด 10 องค์ ศาสดาองค์ที่
นบั ว่าสาคญั ท่สี ุด คอื
คุรุนานัก ท่านเป็นชาวฮินดู อยู่
ในวรรณะพราหมณ์

25 หลกั ธรรมสาคัญ ส 1.2 ป.6/8 หลักธรรมของศาสนาทุกศาสนา 1 3

ของศาสนา สอนให้กระทาความดี ละเว้น

ตา่ ง ๆ ความชั่ว ศาสนิกชนควรศึกษา

เรียนรู้ เพ่ือนามาประยุกต์ใช้ใน

การพัฒนาคน บาเพ็ญประโยชน์

ต่อสังคม สิ่งแวดล้อม เพ่ือการ

อยูร่ ่วมกันอยา่ งสนั ตสิ ขุ

พระพุทธศาสนามีหลักธรรมคา

สอน ทคี่ วรนาไปปฏบิ ัติ เช่น

โอวาท 3 คือ คาสอนท่ีเป็นหัวใจ

ข อ ง พ ร ะ พุ ท ธ ศ า ส น า มี 3

ประการ ได้แก่ การไม่ทาความ

ช่ัว การทาความดี และการทา

ลาดบั ชือ่ หน่วยการ ชื่อเรอื่ ง มาตรฐาน สาระสาคัญ เวลา น้าหนัก
ท่ี เรยี นรู้ การเรียนร้/ู (ช่ัวโมง) คะแนน
จิตใจใหผ้ ่องใส
ตัวชว้ี ัด อริยสัจ 4คือหลักความจริงสูงสุด
ที่เป็นกระบวนการของเหตุและ
ผลที่จะนาไปสู่การพ้นทุกข์ ที่
ประกอบด้วย ทุกข์ สมุทัย นิโรธ
มรรค
หลักคาสอนของศาสนาอิสลาม
มี 2 ประการ คือ หลักศรัทธา 6
และหลักปฏิบัติ 5 ประการ
หลักคาสอนของศาสนาคริสต์
คือ ต้องมคี วามศรัทธาต่อ
พระเยซู และจงรักเพอ่ื นบ้าน
เพื่อนมนุษย์เหมือนรักตัวเอง
และหลักคาสอนในศาสนาคริสต์
คือ บัญญัติ 10 ประการ หลัก
ความรกั และหลกั ตรเี อกานภุ าพ
หลักคาสอนในศาสนาพราหมณ์-
ฮิ น ดู ไ ด้ แ ก่ ห ลั ก ธ ร ร ม 10
ประการ และหลกั อาศรม 4
หลักคาสอนในศาสนาสิกข์สอน
ใ ห้ ทุ ก ค น ด า ร ง ชี วิ ต อ ย่ า ง มี
ความสขุ มีสุขภาพท่แี ขง็ แรง

26 ศาสนพิธขี อง ส 1.2 ป.6/9 ศาสนพิธีของศาสนาต่าง ๆ เป็น 1 2
ศาสนาตา่ ง ๆ พิธีทางศาสนาที่ปฏิบัติสืบต่อกัน
มา จ น เ ป็น ข น บ ธ รร มเ นีย ม
ป ร ะ เ พ ณี แ ล ะ เ อ ก ลั ก ษ ณ์ ข อ ง
ศาสนาน้ัน ๆ บุคคลท่ัวไปควร
เรี ย น รู้ เพ่ื อ ป ฏิ บั ติ ต่ อกั น ไ ด้
ถูกตอ้ ง กอ่ ให้เกิดความสงบสุข
ในสงั คม
พิธีกรรมในพระพุทธศาสนามีอยู่
หลายพิธีกรรมด้วยกัน สามารถ
จาแนกเปน็ 2 ประเภท ได้แก่
1. ศาสนพิธีที่เป็นพุทธบัญญัติ
เปน็ พิธกี รรมทพี่ ระพุทธองคท์ รง
อนุญาตให้ปฏิบัติหรือกระทาขึ้น
เช่น พิธบี รรพชา พธิ ีอปุ สมบท
พธิ ที อดผ้ากฐนิ พิธที อดผ้าป่า
2. ศาสนพิธีท่ีเก่ียวเน่ืองกับ

ลาดับ ชื่อหน่วยการ ช่ือเร่ือง มาตรฐาน สาระสาคัญ เวลา นา้ หนกั
ที่ เรยี นรู้ การเรียนรู/้ (ช่วั โมง) คะแนน
พระพุทธศาสนา เป็นพิธีกรรม
ตวั ชีว้ ดั หรือศาสนพิธีท่ีเกี่ยวเนื่องกับ
พระพุทธศาสนา เช่น พิธีกรรม
ในวนั สาคัญทางพระพทุ ธศาสนา
ศาสนพิธีในศาสนาอิสลามจะ
ปรากฏอยู่ในหลักปฏิบัติ 5 ซึ่ง
เป็นส่ิงที่ชาวมุสลิม ต้องปฏิบัติ
พิธีท่ีสาคัญคือการละหมาด การ
ถือศีลอด การประกอบพิธฮี ัจญ์
พิ ธี ก ร ร ม ท า ง ศ า ส น า ค ริ ส ต์ ที่
สาคัญ หรือพิธีรบั ศีลศักดิ์สิทธ์ิ
พิธีสาคัญ เช่น ศีลล้างบาปหรือ
พิธีศีลจุ่ม ศีลอภัยบาป ศีลกาลัง
ศีลมหาสนิท ศีลเจิมคนไข้ ศีล
สมรส ศลี บวช
ศาสนาพราหมณ์-ฮินดูจะมพี ธิ ี
กรรมท่ีสาคัญ เช่น หลักปฏิบัติ
เกี่ยวกับวรรณะที่เก่ียวกับการ
แต่งงาน อาหารการกินอาชีพ ที่
อยู่ พิธีสังสการ พิธีศราทธ์ พิธี
บูชาเทวดา
พิธกี รรมทส่ี าคัญของศาสนาสิกข์
เช่น พิธีสังคัต พิธีรับคนเข้าสู่
ศาสนาสิกข์ พิธีปาหลุ

27 กฎหมาย ความหมายและ ส 2.1 ป.6/1 กฎหมาย คือ ข้อบังคับที่รัฐ 1 1
พื้นฐานที่ ความสาคญั ของ จัดทาข้ึนเพ่ือใช้ในการบริหาร
เกี่ยวข้องกับ กฎหมาย และบังคับบุคคลให้ปฏิบัติตาม
ชวี ิตประจาวนั
กฎหมาย จะใช้บังคับกับบุคคล
ทุกคนท่ีอยู่ภายในประเทศ และ
ใช้ได้ทุกเวลา ทุกสถานท่ี ผู้ท่ีทา
ผิดกฎหมาย จะมีบทลงโทษที่

ชัดเจน
ความสาคัญของกฎหมาย
1. เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย
ในสงั คม

2. เพ่ือควบคุมการกระทาของ
บุคคลในสังคมให้อยู่ในระเบียบ
แบบแผนทดี่ ีงาม
3. เพ่ือรักษาความสะอาดของ

ลาดับ ชือ่ หน่วยการ ชอื่ เร่อื ง มาตรฐาน สาระสาคัญ เวลา น้าหนัก
ท่ี เรยี นรู้ การเรยี นร/ู้ (ชัว่ โมง) คะแนน
บ้านเมอื ง
ตวั ชวี้ ดั 4. เพ่ือรักษาชีวิตและทรัพย์สิน
ของประชาชน
5. เพ่ือรักษาสิง่ แวดล้อม

28 กฎหมายสาคัญท่ี ส 2.1 ป.6/1 การปฏิบัติตนตามกฎหมายท่ี 1 1

เกีย่ วข้องกบั เกี่ยวข้องกับชีวิตประจาวัน เป็น

ชวี ิตประจาวนั : 1 การปฏิบัติตนตามหน้าท่ีของการ

เปน็ พลเมอื งดี ทาใหด้ ารงชวี ติ อยู่

รว่ มกนั ในสังคมอยา่ งสงบสขุ

กฎหมายสาคัญท่ีเกี่ยวข้องกับ

ชีวติ ประจาวัน เช่น

กฎหมายจราจร

คือ พระราชบัญญัติจราจรทาง-

บก พ.ศ. 2552 การประกาศใช้

พระราชบัญญัติน้ีเพื่อลดปัญหา

อบุ ตั ิเหตจุ ากการใช้รถใช้ถนนอัน

เป็นเหตุให้เกิดอันตรายต่อชีวิต

และทรัพยส์ นิ

กฎหมายทะเบียนราษฎร

คือ กฎหมายท่ีเกี่ยวกับทะเบียน

คนเกิด คนตาย ทะเบียนบ้าน

กฎหมายทะเบยี นราษฎร ทเี่ กีย่ ว

ข้องกับการดาเนนิ ชวี ิต

กฎหมายสารเสพติดให้โทษ

พระราชบัญญัติสารเสพติดให้

โทษ พ.ศ. 2522 แบ่งสารเสพตดิ

ใหโ้ ทษเป็น 5 ประเภท

1. สารเสพติดให้โทษประเภท1

เป็นสารเสพติดให้โทษชนิดร้าย-

แรงท่สี าคัญ เช่น เฮโรอีนยาบา้

2. สารเสพติดให้โทษประเภท2

เปน็ สารเสพตดิ ให้โทษท่ัวไป

ทส่ี าคญั เช่น ใบโคคา โคเคอนี

3. สารเสพติดให้โทษประเภท3

เป็ น ส า ร เ ส พ ติ ด ใ ห้ โ ท ษ ท่ี มี

ลกั ษณะเปน็ ตารับยา เช่น

ยานา้ แกไ้ อผสม โคเคอนี

4. สารเสพติดให้โทษประเภท4

เปน็ สารเคมที ใ่ี ช้ในการผลิต

ลาดบั ชอื่ หน่วยการ ชอื่ เรอ่ื ง มาตรฐาน สาระสาคัญ เวลา นา้ หนัก
ที่ เรยี นรู้ การเรียนรู้/ (ช่ัวโมง) คะแนน
ส า ร เ ส พ ติ ด ใ ห้ โ ท ษ ป ร ะ เ ภ ท 1
ตัวช้ีวดั หรอื 2
5. สารเสพติดให้โทษประเภท5
เป็นสารเสพติดให้โทษทไ่ี ม่เขา้ อยู่
ในประเภท 1 ถงึ 4 เชน่ กญั ชา

29 กฎหมายสาคัญที่ ส 2.1 ป.6/1 การปฏิบัติตนตามกฎหมายที่ 1 1

เกีย่ วขอ้ งกับ เกี่ยวข้องกับชีวิตประจาวัน เป็น

ชวี ติ ประจาวนั : 2 การปฏบิ ตั ติ นตามหน้าที่ของการ

เป็นพลเมอื งดี ทาให้ดารงชวี ิตอยู่

รว่ มกันในสงั คมอย่างสงบสขุ

กฎหมายสาคัญที่เก่ียวข้องกับ

ชวี ติ ประจาวนั เช่น

กฎหมายทอ้ งถน่ิ

คือ กฎหมายท่ีองค์กรปกครอง

ส่วนท้องถน่ิ ของไทยมี4 ประเภท

ได้แก่ เทศบาล องคก์ าร

บริหารส่วนจังหวัด องค์การ

บริหารส่วนตาบล และองค์กร

ปกครองส่วนท้องถ่ินรูปแบบ

พิเศษ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร

และเมืองพัทยาองค์กรปกครอง

ส่วนท้องถ่ินของไทย มีอานาจ

ออกกฎหมายเพื่อนามาใช้ในการ

บรหิ ารท้องถน่ิ ของตนเองได้

30 ข้อมูลขา่ วสาร ขอ้ มลู ข่าวสาร ส 2.1 ป.6/5 ก า ร ติ ด ต า ม ข้ อ มู ล ข่ า ว ส า ร 1 1
ในชวี ิต เหตุการณ์ในชีวิตประจาวันจาก
ประจาวนั แหล่งข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ การ
เลือกรับและใช้ข้อมูลข่าวสารใน
การเรยี นรูไ้ ด้เหมาะสม ทาใหเ้ กิด
การพัฒนาตนเองและสงั คม
ข้อมูลข่าวสาร คือ ส่ิงที่สื่อสาร
ความหมายใหร้ เู้ ร่ืองราวข้อเท็จ
จริงที่เกิดขึ้นมา ซึ่งอาจจะเป็น

เร่ืองของบุคคล สัตว์ สิ่งของ
สถ า น ที่ โ ด ย ได้ จั ด ทา ไ ว้ ใ น
รูปแบบของเอกสาร หนังสือ
แผนผัง แผนที่ ภาพวาด ภาพ-
ถ่าย ฟิล์ม การบันทึก ภาพหรือ

ลาดับ ช่อื หน่วยการ ชอื่ เรอื่ ง มาตรฐาน สาระสาคัญ เวลา น้าหนัก
ที่ เรยี นรู้ การเรียนรู/้ (ชั่วโมง) คะแนน
เสียง หรือการบันทึกโดยเคร่ือง
ตัวชีว้ ัด คอมพิวเตอร์ ข้อมูลข่าวสารมี
ความสาคัญต่อการดาเนินชีวิต
ของคนในยุคปัจจุบัน เพราะทา
ให้ทราบข้อมูลเกี่ยวกับเร่ืองราว
ต่าง ๆ ท่เี กดิ ขึ้น ทาใหเ้ ปน็ คนทนั
ตอ่ เหตุการณ์ และปรับตัวเข้ากับ
สถานการณ์ตา่ ง ๆ ได้ทนั

31 ประโยชน์ของการ ส 2.1 ป.6/5 ก า ร ติ ด ต า ม ข้ อ มู ล ข่ า ว ส า ร 1 2

ติดตามขอ้ มลู เหตุการณ์ในชีวิตประจาวันจาก

ข่าวสาร และการ แหล่งข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ การ

เลอื กรับและใช้ เลือกรับและใช้ข้อมูลข่าวสารใน

ขอ้ มลู ข่าวสารที่ การเรยี นรู้ได้เหมาะสม ทาให้เกิด

เหมาะสม การพฒั นาตนเองและสังคม

ประโยชน์ของการติดตามข้อมูล

ข่าวสาร

1. เพ่ือป้องกันเหตุที่จะเกิดขึ้น

ลว่ งหนา้

2. เพอ่ื พฒั นาความรู้ความ

สามารถอย่างตอ่ เนื่อง

3. เพ่ือรับมือกับสถานการณ์

ประจาวันได้

4. เพอ่ื การศกึ ษาค้นคว้าส่ิงใหม่

5. เพอื่ การวางแผนพฒั นา

ก า ร เ ลื อ ก รั บ แ ล ะ ใ ช้ ข้ อ มู ล

ข่าวสารที่เหมาะและมีวิธีการ

นาเสนอที่หลากหลาย สิ่งสาคัญ

ท่คี วรนามาพจิ ารณาในการเลือก

รับและใช้ข้อมูลข่าวสาร เช่น

ความถูกตอ้ งและความน่าเชื่อถือ

ของข้อมลู ข่าวสาร ความทันสมัย

ความชัดเจน ความเหมาะสม

และจรยิ ธรรม

32 การเมืองการ บทบาทและ ส 2.2 ป.6/1 การปกครองสว่ นท้องถ่นิ เป็นการ 1 1

ปกครองของ หน้าท่ีขององค์กร กระจายอานาจการปกครองใน

ไทย ปกครองสว่ น ระบอบประชาธปิ ไตยจากรัฐบาล

ทอ้ งถ่ิน สู่องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน

ประชาชนในท้องถ่ินมีส่วนร่วม

ลาดบั ช่อื หน่วยการ ชือ่ เร่อื ง มาตรฐาน สาระสาคัญ เวลา น้าหนกั
ท่ี เรียนรู้ การเรียนร/ู้ (ช่ัวโมง) คะแนน
ในกิจกรรมการเมอื งการปกครอง
ตัวช้วี ดั ท า ใ ห้ก า ร ป ก ค ร อง ร ะ บ อ บ
ประชาธปิ ไตยอนั มีพระมหา-
กษัตริย์ทรงเป็นประมุขมีความ
ม่ันคงย่ิงข้นึ
องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน คือ
องค์กรท่ีทาหน้าท่ีบริหารงานใน
ท้องถ่นิ และมีผู้แทนท่ีมาจากการ
เลอื กตัง้ ของประชาชนในท้องถิ่น
เขา้ มาทาหนา้ ทีบ่ รหิ ารงานภาย
ในพน้ื ที่

33 บทบาทและ ส 2.2 ป.6/1 รฐั บาลเป็นคณะบุคคลท่ีประชา- 1 2

หน้าท่ีของรฐั บาล ชนเลอื กต้ัง เพ่ือทาหน้าที่บริหาร

ประเทศ โดยนายกรัฐมนตรีและ

คณะรัฐมนตรเี ป็นผบู้ ริหาร

พัฒนา และแก้ไขปัญหาต่าง ๆ

ของประเทศ ให้เป็นไปตาม

นโยบายของรัฐบาล โดยประเทศ

ไ ท ย มี ก า ร จั ด ร ะ เ บี ย บ บ ริ ห า ร

ราชการแผ่นดนิ แบ่งออกเปน็ 3

รูปแบบ คือ การบริหารราชการ

ส่วนกลาง การบริหารราชการ

ส่วนภูมิภาค และการบริหาร

ราชการส่วนท้องถน่ิ

34 การส่งเสรมิ ส 2.2 ป.6/2 การส่งเสริมประชาธิปไตยใน 1 2

ประชาธิปไตยใน ท้องถิ่นและประเทศ เป็นการ

ทอ้ งถน่ิ และ สง่ เสรมิ โดยการพัฒนาการศึกษา

ประเทศ ใ ห้ ป ร ะ ช า ช น เ ข้ า ใ จ บ ท บ า ท

หน้าที่ การมีส่วนร่วมในการ

ปกครองระบอบประชาธิปไตย

อย่างแท้จริง เป็นผลต่อการ

พัฒนาของประเทศทาให้เกิดการ

พัฒนาอย่างต่อเนื่องและเป็น

ระบบ

35 บทบาทและ ส 2.2 ป.6/3 ก า ร เ ลื อ ก ต้ั ง ใ น ร ะ บ อ บ 1 1

ความสาคญั ใน ประชาธิปไตย เป็นการแสดงถึง

การใชส้ ิทธอิ อก การมีส่วนร่วมของประชาชนใน

เสยี งเลอื กตัง้ ตาม การบริหารพัฒนาประเทศ โดย

ลาดับ ช่ือหน่วยการ ช่ือเรอ่ื ง มาตรฐาน สาระสาคัญ เวลา นา้ หนกั
ท่ี เรยี นรู้ การเรยี นร้/ู (ชั่วโมง) คะแนน
การลงมติออกเสียงสนับสนุนให้
ตวั ชี้วัด ตัวแทนเข้าไปทาหน้าที่บริหาร
พฒั นาประเทศ
ระบอบ
ประชาธิปไตย

36 วัฒนธรรมและ วฒั นธรรมไทย : ส 2.1 ป.6/2 วัฒนธรรมเปน็ มรดกทางสงั คม ท่ี 1 1
มารยาทไทย 1 แสดงความเป็นเอกลักษณ์ของ
สังคมและชาติ ความเป็นชาติ
ไทยจะดารงอยู่ได้เพราะคนไทย
เห็นคุณค่าของวัฒนธรรมไทยท่ี
แสดงให้เห็นถึงเอกลักษณ์ของ
ความเปน็ ไทย
วัฒนธรรม คือ ส่ิงท่ีแสดงให้เห็น
ถึงแบบแผนการดาเนนิ ชีวติ ของ
คนในสังคมที่ปฏิบัติสืบทอดต่อ
กันมาจนถงึ ปัจจบุ ัน
ประเภทของวัฒนธรรม

1. คติธรรม เป็นส่ิงท่ีสมาชิกใน
สังคมนามาใช้เป็นหลักในการ
ดาเนนิ ชวี ติ เก่ยี วกบั คุณธรรม
จริยธรรมเช่น ความซื่อสัตย์
ความเมตตากรุณา
2. วัตถธุ รรม เป็นส่งิ ทป่ี ระดิษฐ์
คิดค้นข้ึนเพ่ือนามาใช้ประโยชน์
ในชวี ติ ประจาวนั เชน่ บ้าน รถ
3. นติ ิธรรม เปน็ ส่ิงท่ีกาหนดข้ึน
เพื่อให้สั งคมเกิด ความเป็ น
ระเบียบเรยี บรอ้ ยมคี วามปลอด-
ภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เช่น
การเคารพกฎหมาย
4. สหธรรม เป็นสิ่งทแี่ สดง
ให้เห็นถึงแนวทางปฏิบัติในการ
อ ยู่ ร่ ว ม กั บ ผู้ อื่ น ใ น สั ง ค ม เ ช่ น
จารีต ประเพณี

37 วฒั นธรรมไทย : ส 2.1 ป.6/2 ม นุ ษ ย์ ไ ด้ มี ก า ร ส ร้ า ง ส ร ร ค์ 1 1
2 วัฒนธรรมต่าง ๆ ขึ้นเพ่ือใช้ใน
การดาเนินชีวิตวัฒนธรรมต่าง ๆ
จึงมีการเปลี่ยนแปลงไปตาม
กาลเวลา วัฒนธรรมดั้งเดมิ ที่
ไม่สอดคล้องกับการดาเนินชีวิต

ลาดับ ชื่อหน่วยการ ชอื่ เรือ่ ง มาตรฐาน สาระสาคญั เวลา นา้ หนกั
ท่ี เรียนรู้ การเรยี นรู/้ (ชั่วโมง) คะแนน
จ ะ ถู ก ล ะ เ ล ย แ ล ะ ป รั บ ป รุ ง
ตัวชว้ี ัด เปลี่ยนแปลงเพื่อให้เหมาะสม
และสอดคล้องกับการดาเนิน
ชี วิ ต ข อ ง ค น ใ น ยุ ค ปั จ จุ บั น ซ่ึ ง
สาเหตสุ าคญั ของการเปลี่ยน
แปลงวฒั นธรรม มาจากความ
ก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยี การแพร่กระจายทาง
วฒั นธรรม เปน็ ตน้
แนวทางการธารงรกั ษา
วัฒนธรรมไทย เช่น การส่งเสริม
การแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม
ระหวา่ งชมุ ชนตา่ ง ๆ การรณรงค์
เพื่อสร้างความรู้และความเข้าใจ
ให้แก่ประชาชน และการรวบ
รวมวัฒนธรรมท้องถิ่นท่ีกระจัด
กระจายอยู่ในท้องถ่ินให้มาอยู่ใน
แหลง่ เดยี วกนั เปน็ ต้น

38 มารยาทไทย : 1 ส 2.1 ป.6/3 มารยาทไทยเป็นเอกลักษณ์ 1 2

สาคัญท่ีแสดงให้เห็นถึงความ

เจริญงอกงามทางด้านวัฒนธรรม

ไทย สร้างความรักความสามัคคี

และการให้ความเคารพต่อกันใน

สังคม

มารยาทไทยที่สาคัญ ได้แก่ การ

แสดงความเคารพ การยืน การ

เดิน การน่ัง การนอน การรับ

ของ สง่ ของ

39 มารยาทไทย : 2 ส 2.1 ป.6/3 มารยาทไทยเป็นเอกลักษณ์ 1 2

สาคัญที่แสดงให้เห็นถึงความ

เจรญิ งอกงามทางด้านวัฒนธรรม

ไทย สร้างความรักความสามัคคี

และการให้ความเคารพต่อกันใน

สังคม

มารยาทไทยท่ีสาคัญ ได้แก่ การ

แสดงความเคารพ การยืน การ

เดิน การน่ัง การนอน การรับ

ของ ส่งของ การรับประทาน

อาหาร การแสดงกิริยาอาการ

ลาดับ ชอ่ื หน่วยการ ชื่อเรือ่ ง มาตรฐาน สาระสาคัญ เวลา นา้ หนกั
ท่ี เรยี นรู้ การเรยี นรู/้ (ช่วั โมง) คะแนน

ตวั ชี้วดั

40 วัฒนธรรมท้องถนิ่ ส 2.1 ป.6/4 การยอมรับความหลากหลาย 1 1

ทางวัฒนธรรม นาไปสู่การสร้าง

สนั ติภาพ สร้างบุคคลในชาติให้มี

จิ ต ใ จ ที่ ดี ง า ม แ ล ะ ร่ า ง ก า ย ท่ี

สมบรู ณ์ ส่งเสริมให้มีการยอมรับ

นบั ถอื และการร่วมมือกนั

ในแต่ละทอ้ งถิ่นจะมีวัฒนธรรมท่ี

แตกต่างกันไป ขน้ึ อยู่กับสภาพ

แวดลอ้ มและลกั ษณะทางกาย

ภาพของแตล่ ะท้องถน่ิ วัฒนธรรม

ท่ีแตกต่างกันของแต่ละท้องถิ่น

ได้แก่ การใชภ้ าษาถิ่น การรบั -

ประทานอาหาร

รวมตลอดภาคเรยี นที่ 1 40 60


Click to View FlipBook Version