การพัฒนา 7Q ส่คู วามสำเรจ็ ในชวี ิตและการงาน
การพฒั นา 7Q ส่คู วามสำเรจ็ ในชวี ติ และการงาน ก
การจดั การความรู้
(Knowledge Management : KM)
เร่อื ง
การพฒั นา 7Q ส่คู วามสำเร็จในชวี ิตและการงาน
โดย สำนักงานสง่ เสรมิ และสนบั สนุนวชิ าการ 9
กระทรวงการพฒั นาสังคมและความมนั่ คงของมนษุ ย์
การพัฒนา 7Q สู่ความสำเรจ็ ในชีวิตและการงาน ข
คำนำ
การจัดการความรู้ (Knowledge Management : KM) เรื่อง การพัฒนา 7Q
สู่ความสำเร็จในชีวิตและการงาน เป็นกิจกรรมตามโครงการศูนย์บริการวิชาการพัฒนาสังคม
และจัดสวัสดิการสังคม ประจำปี พ.ศ.2564 ซ่ึงดำเนินการโดยสำนักงานส่งเสริมและสนับสนุน
วิชาการ 9 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความม่ันคงของมนุษย์ โดยเป็นการ การรวบรวม
สร้าง จัดระเบียบ แลกเปลี่ยน และประยุกต์ใช้ความรู้ในองค์กร โดยพัฒนาระบบจากข้อมูล
ไปสู่สารสนเทศ เพื่อให้เกิดความรู้และปัญญา รวมทั้งเพ่ือประโยชน์ในการนำไปใช้และเกิดการ
เรียนรู้ภายในองค์กร ภายใต้การดำเนินการ 7 กระบวนการ คือ การบ่งช้ีความรู้ การสร้าง
และแสวงหาความรู้ การประมวลและกล่ันกรองความรู้ การจัดความรู้ให้เป็นระบบ การเข้าถึง
ความรู้ การแลกเปลี่ยนแบ่งปันความรู้ การเรียนรู้ เพ่ือส่งเสริมให้มีการนำความรู้ไปใช้เพื่อเกิด
การเรยี นรใู้ นองค์กรและเกิดองค์ความรู้ใหม่
ขอขอบคุณทุกความคิด ทุกการแลกเปล่ียน การแบ่งปันความรู้ และการเรียนรู้
จากทีมงานกลุ่มการวิจัยและการพัฒนาระบบเครือข่าย สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุน
วิชาการ 9 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ทุกท่าน ที่เป็นกำลังสำคัญ
ในการขับเคล่อื นพลังการทำงาน ก่อเกิดพฒั นางานด้านการพัฒนาสังคมและจัดสวัสดิการสังคม
ส่งผลต่อวิธีคิด วิธีการทำงาน รวมไปถึงการเสริมสร้างนวัตกรรมทางสังคม ด้วยการจัดการ
ความรู้ ส่งผลให้บุคลากรเกิดการพัฒนาการเรียนรู้ เกิดชุมชนการเรียนรู้ ความรู้ขององค์กร
เปน็ องค์กรเป็นองค์กรแหง่ การเรียนรตู้ ่อไป
สำนักงานส่งเสริมและสนับสนนุ วชิ าการ 9
กรกฎาคม 2564
การพัฒนา 7Q สคู่ วามสำเร็จในชวี ิตและการงาน 5ค
บทสรุปผู้บริหาร
การพัฒ นา 7Q สู่ความสำเร็จในชีวิตและการงาน เป็นความสำคัญ
ในการพัฒนาการทำงานของบุคคลในยุคดิจิตอล ซึ่งบุคลากรส่วนใหญ่ต้องมีการปรับตัวให้ทัน
ต่อเทคโนโลยี รวมไปถึงปรับตัวในการทำงานให้ราบร่ืน ลดความเครียด และมีความสุข
ในการทำงาน การจดั การความร้ขู องสำนกั งานส่งเสริมและสนบั สนุนวิชาการ 9 ภายใต้โครงการ
ศูนย์บริการวิชาการพัฒนาสังคมและการจัดสวัสดิการสังคม จึงได้จัดให้มีการจัดการความรู้
เรื่อง “การพัฒนา 7Q สู่ความสำเร็จในชีวิตและการงาน” นำไปสู่การ Change for All โดยมี
วัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างให้บุคลากรในสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่น คง
ของมนุษย์ ได้เสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ แลกเปลี่ยน เรียนรู้ แนวทางและเทคนิค
ในการสร้างความฉลาดทางอารมณ์ รวมถึง 7Q ในการแก้ไขปัญหา การฟันฝ่าอุปสรรค
และความยากลำบากในชีวติ และการทำงาน มคี วามอดทน สามารถควบคุมอารมณ์ เสริมสร้าง
ทัศนคติเชิงบวก ทำงานร่วมกับผู้อ่ืนอย่างมีความสุข พร้อมสร้างความรับผิดชอบท่ีเกิดจาก
ตนเอง นำหน่วยงานพิชิตเป้าหมายตามแผนที่วางไว้ได้อย่างสัมฤทธ์ิผล ตามภารกิจ
ในการสงเคราะห์ ช่วยเหลอื รวมถึงส่งเสรมิ และพฒั นากล่มุ เปา้ หมายในทกุ ช่วงวยั
สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 9 ได้ดำเนินการภายใต้กระบวนการการ
จัดการความรู้โดยมีข้ันตอน การเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ กระบวนการการจัดการความรู้
(Knowledge Management : KM) การจัดทำเค้าโครงการดำเนินการจัดทำความรู้ ใน
ประเด็นการบ่งช้ีความรู้ การสร้างและแสวงหาความรู้ เพื่อการจัดทำความรู้ และการจัดทำ
แผนปฏิบัตกิ ารและกจิ กรรมการดำเนนิ การจัดทำความรู้
นอกจากน้ียังมีกิจกรรมในการรวบรวมองค์ความรู้เก่ียวกับการพัฒนา 7Q
สู่ความสำเร็จในชีวิตและการงาน ในส่ือดิจิตอล พร้อมทั้งพัฒนาให้เป็นระบบและนำความรู้น้ัน
ขับเคลอื่ นสู่การปฏบิ ัติ โดยบูรณาการการดำเนินงานรว่ มกับกิจกรรมการเพ่ิมความรู้และทักษะ
ด้านการจัดบริการแก่บุคลากร โดยได้จัดโครงการ การอบรม “การพัฒนา 7Q สู่ความสำเร็จ
ในชีวิตและการงาน” Change for All โดยกิจกรรมน้ีเป็นหลักสูตรตามความต้องการของพื้นท่ี
รับผิดชอบ ซ่ึงสำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 9 ได้จัดทำแบบสำรวจความต้องการ
ในการรับการเพิ่มความรู้ทักษะด้านการจัดบริการ (ผ่านระบบ Google Form) เพื่อให้
สอดคล้องกับภารกิจการพัฒนาบุคลากรของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความม่ันคง
ของมนษุ ย์ อันจะนำไปส่กู ารพัฒนาประสทิ ธิภาพของบุคลากร เกิดประสิทธผิ ลต่อการพัฒนางาน
การพัฒนา 7Q สู่ความสำเรจ็ ในชวี ติ และการงาน 5ง
ด้านการพัฒนาสังคมในทุกด้าน มีการประมวลกล่ันกรองความรู้ การจัดความรู้ให้เป็นระบบ
การเข้าถึงความรู้ การแลกเปลี่ยนแบ่งปันความรู้ การส่งเสริมการเรียนรู้ การสรุปบทเรียน
การดำเนินงานการบูรณาการการจัดการความรู้ การขับเคลอื่ นการดำเนนิ งานการนำการจัดการ
ความรู้ไปใช้ประโยชน์ การจัดทำรายงานการจัดการความรู้ รูปเล่มองค์ความรู้ รวมถึง
การรายงานความกา้ วหนา้ การดำเนนิ งาน
จากการศึกษา พบว่า 7Q หรือ ความฉลาด/ความสามารถ ทั้ง 7 คือ กลไก
ของปัญญาจักขาดตัวใดตัวหนึ่งไปไม่ได้ ความฉลาด/ความสามารถ ทั้ง 7 ประกอบด้วย
เรอ่ื งตา่ งๆ ดังนี้
IQ (Intelligence Quotient) เป็นความฉลาดในการใช้เหตุผล การเช่ือมโยง
การรู้ความสมั พนั ธ์ของสิง่ ต่างๆ การคำนวณ
EQ (Emotional Quotient) เป็นความฉลาดทางอารมณ์ คือความสามารถ
ในการควบคุมอารมณข์ องตัวเองได้ มสี ติรบั รู้และเข้าใจอารมณ์ของตวั เองได้ ปล่อยวางอารมณ์ได้
ไมเ่ กบ็ กด ปรบั อารมณ์ใหแ้ จ่มใสได้ รอคอยได้ คดิ เอาใจเขามาใสใ่ จเรา
CQ (Creativity Quotient) ความฉลาดในการริเริ่มสร้างสรรค์ คือการคิด
แบบใหม่ๆ เมื่อคิดวิธีใหม่ ผลลัพธ์ใหม่ๆก็จะเกิดขึ้น การนำส่ิงเดิมๆ มาผสมกัน ผสานกัน
แยกจากกัน นำมาตอ่ กนั มองดว้ ยเหล่ียมมุมใหม่อาจจะได้ส่งิ ใหม่ๆ เกิดขึ้น การคอ่ ยๆ คิดนอกกรอบ
ก็อาจจะได้แนวทางใหม่ๆ
MQ (Moral Quotient) ความฉลาดทางศลี ธรรม จรยิ ธรรม คอื มีความประพฤตดิ ี
รู้จักผิดชอบ มคี วามซ่ือสตั ย์ รับผิดชอบ มี จริยธรรม ไมเ่ ล่นแงด่ า้ นกฎหมาย
PQ (Physical or Play Quotient) การใช้ร่างกายอย่างฉลาด ร่างกายเรา
คือส่ิงมีค่า PQ จะทำให้คุณ “เลือก” ใช้ร่างกายเก่ง ถ้าใช้ร่างกาย อย่างฉลาดคุณจะสุขภาพดี
ข้ึน จิตใจดีขึ้น สมองดีขึ้น กาย/จิต/สมอง นี้มีความสัมพันธ์กัน ใช้ร่างกายอย่างฉลาดส่งผล
กระทบต่อส่งิ อ่นื ๆ ดว้ ย
AQ (Adversity Quotient) ความฉลาดเมื่อประสบปัญหา คนเราเมื่อเจอปัญหา
แล้วจะฮึดสู้ หรือ ห่อเห่ียว มีสติมากข้ึนหรือสติแตกเมื่อมีปัญหา วัดกันตรง AQ คนท่ีมี AQ สูง
จะมีมุมมองว่าปัญหาเป็นส่ิงท่ีต้องเจออยู่แลว้ ในเส้นทางสู่ความสำเร็จ ปัญหามีไว้ให้แก้ไข ไม่ได้
มีไว้ใหก้ ลุม้ ใจ ปญั หามโี อกาสอยขู่ า้ งใน ยอมรบั วา่ มีปญั หาแตไ่ ม่ยอมแพ้ต่อปัญหา
การพฒั นา 7Q สู่ความสำเร็จในชวี ิตและการงาน 5จ
SQ (Social Quotient) คือความฉลาดทางสังคมท่ีจะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับผู้อื่น
เพราะมนุษย์ไม่สามารถอยูค่ นเดียวได้ ต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกัน คดิ เอาใจเขามาใส่ใจเราได้ มีน้ำใจ
เออ้ื อาทร
คนมีปัญญา จะมีองค์ประกอบของ 7Q มาอย่างครบถ้วน ซ่ึงแต่ละ Q อาจจะ
ไม่ต้องสู่การพัฒนาทั้ง 7Q อย่างสม่ำเสมอ จะทำให้เป็นผู้มีปัญญาสูง และส่งผลเป็นความ
รุ่ ง เรื อ ง ใน ชี วิ ต อ ย่ า ง ต่ อ เน่ื อ ง เพ ร า ะ ค ว า ม ฉ ล า ด ข อ ง ค น ๆ ห น่ึ ง ไม่ ได้ มี แ ค่ เรื่ อ ง ส ติ ปั ญ ญ า
และอารมณ์เท่านั้น ดังน้ันจึงควรพัฒนาให้ครบทุกๆด้าน เพ่ือให้ใช้ชีวิตได้อย่างสมดุลสามารถ
ปรับตัวให้ทันต่อเทคโนโลยี รวมไปถึงปรับตัวในการทำงานให้ราบร่ืน ลดความเครียด
และมีความสุขในการทำงาน ย่ิงไปกว่าน้ัน การใช้ 7Q ในการแก้ไขปัญหา การฟันฝ่าอุปสรรค
และความยากลำบากในชีวิต และการทำงาน มีความอดทน สามารถควบคุมอารมณ์ เสริมสรา้ ง
ทัศนคติเชิงบวก ทำงานร่วมกับผู้อ่ืนอย่างมีความสุข พร้อมสร้างความรับผิดชอบท่ีเกิดจาก
ตนเอง นำหน่วยงานพิชิตเป้าหมายตามแผนที่วางไว้ได้อย่างสัมฤทธิ์ผล ตามภารกิจ
ในการสงเคราะห์ ช่วยเหลือ รวมถึงส่งเสริมและพัฒนากลุ่มเป้าหมายในทุกช่วงวัยได้อ ย่าง
มีประสิทธิภาพในยุคชีวิตวิถีใหม่ หรือ New Normal ได้ต่อไป
การพฒั นา 7Q ส่คู วามสำเร็จในชีวติ และการงาน 5ฉ
สารบัญ
เรอ่ื ง หน้า
1. คำนำ ก
2. บทสรุปผู้บรหิ าร ข
3. สารบัญ ฉ
4. ความเป็นมาของการจัดการความรู้ (Knowledge Management : KM) 1
เรอื่ ง “การพฒั นา 7Q สูค่ วามสำเรจ็ ในชีวิตและการงาน” 3
5. การจัดการความรู้ (Knowledge Management : KM) 4
6. ตารางแผนการจัดการความรู้ (KM Action Plan) 7
7. ความฉลาดของเด็กยุคใหมไ่ ม่ได้มแี ค่ IQ และEQ แตม่ ีถงึ 7Q 11
8. การผสานพลังกนั ของ “ความฉลาดทงั้ 7” 14
9. เปดิ 7 ข้นั สรา้ งความฉลาด 7 ด้าน เพอ่ื ความสุขในชวี ติ 16
10. เรียนรู้เก่ียวกับความฉลาดทางอารมณ์และความสำคัญท่ีมีต่อสถานที่
22
ทำงานยคุ ใหม่ 25
11. IQ EQ AQ MQและSQ สำหรับนกั บริหาร 27
12. เติมไฟในการทำงาน
ภาคผนวก
การพฒั นา 7Q สูค่ วามสำเร็จในชวี ิตและการงาน 1
ความเป็นมาของการจดั การความรู้ (Knowledge Management : KM)
เรอื่ ง “การพฒั นา 7Q สคู่ วามสำเร็จในชีวิตและการงาน”
สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 9 (สสว. 9) เป็นส่วนราชการส่วนกลาง
ที่ตั้งอยู่ในส่วนภูมิภาค สังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคง
ของมนุษย์ ซึ่งจัดต้ังขึ้นตามกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการ ตาม พ.ร.บ. ปรับปรุงกระทรวง
ทบวง กรม (ฉบับที่ 14) พ.ศ. 2558 โดยมีอำนาจหน้าที่ตามกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการ
สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงการพฒั นาสงั คมและความมั่นคงของมนุษย์ พ.ศ. 2559 ดังนี้
1) พัฒนางานด้านวิชาการเก่ียวกับการพัฒนาสังคมและความม่ันคงของมนุษย์ให้สอดคล้อง
กับพ้ืนท่ีและกลุ่มเป้าหมาย 2) ส่งเสริมและสนับสนุนงานด้านวิชาการ องค์ความรู้ ข้อมูล
สารสนเทศ ให้คำปรึกษาแนะนำแก่หน่วยงานบริการทุกกลุ่มเป้าหมายในพ้ืนที่ให้บริการ
ในความรับผิดชอบของกระทรวง รวมท้ัง องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน หน่วยงานท่ีเกี่ยวข้อง
องค์กรภาคเอกชนและประชาชน 3) ศึกษาวิเคราะห์สถานการณ์และสภาพแวดล้อม
เพ่ือคาดการณ์แนวโน้มของสถานการณ์ทางสังคมและผลกระทบ รวมทั้งให้ข้อเสนอแนะ
การพัฒนาสังคมและจัดทำยุทธศาสตร์ในพื้นท่ีกลุ่มจังหวัด 4) สนับสนุนการนิเทศงาน ติดตาม
ประเมินผลการดำเนนิ งานเชงิ วิชาการตามนโยบายและภารกิจของกระทรวงในพน้ื ที่กลมุ่ จังหวัด
ซึ่งสำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 9 ได้ดำเนินการขับเคลื่อนงานตามภารกิจดังกล่าว
ในพ้ืนที่ 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ได้แก่ เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แม่ฮ่องสอน เชียงราย
พะเยา แพร่ น่าน และเป็นกลไกในการขับเคล่ือนภารกิจของกระทรวงการพัฒนาสังคม
และความมั่นคงของมนุษย์ เพ่ือสร้างภูมิคุ้มกันและส่งเสริมโอกาสทางสังคมบนพ้ืนฐาน
แห่งความพอเพียงและเสริมประสิทธิภาพทางสังคม ในลักษณะการพัฒนาศักยภาพและสร้าง
เครือข่ายท่ีตอบสนองยุทธศาสตร์ชาติ ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12
รว ม ท้ั งเป็ น ห น่ ว ย เค ลื่ อ น ท่ี ทางวิ ชาการพั ฒนาสั งคมบริ การแก่ หน่ วยงานในความรั บผิ ดชอบ
ของกระทรวงฯ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคีเครือข่ายและประชาชน และพัฒนาแหล่งเรียนรู้
เป็นองค์กรต้นแบบด้านการพัฒนาสังคมและจัดสวสั ดกิ ารสังคม เพ่ือแลกเปลี่ยนความรู้ ส่งผลให้
เกดิ การปรบั เปลยี่ นวธิ ีการทำงาน ทง้ั มติ ิเชงิ พน้ื ท่ี เชงิ ประเดน็ และเชิงกล่มุ เป้าหมาย
สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 9 ให้ความสำคัญกับการเตรียม
ความพร้อมด้านระบบบริหารจัดการข้อมูล ทรัพยากรและบุคลากร เพื่อให้เป็นศูนย์บริการ
วิชาการ ดา้ นการพัฒนาสงั คมและจัดสวัสดกิ ารสังคม รวมทง้ั เสรมิ สรา้ งนวัตกรรมทางสงั คม
การพัฒนา 7Q สคู่ วามสำเร็จในชวี ติ และการงาน 52
ที่เหมาะสมกับพ้ืนที่ เป็นศูนย์รวมการให้บริการคำปรึกษาทางวิชาการท่ีครบวงจร และเป็น
ห น่ ว ย เชิ ง รุ ก ใ น ก า ร ส่ ง เส ริ ม แ ล ะ ส นั บ ส นุ น วิ ช า ก า ร ใ ห้ ก า ร ป ฏิ บั ติ ง า น ข อ ง ห น่ ว ย ง า น
ในความรับผิดชอบของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความม่ันคงของมนุษย์ ท้องถิ่น ชุมชน
และภาคีเครือข่ายที่เก่ียวข้องให้เกิดการขับเคล่ือนงานท่ีได้มาตรฐาน มีประสิทธิภาพ
และเหมาะสมกับสภาพพ้ืนที่ รวมทั้ง ส่งเสริมให้เกิดการเรยี นรู้ตลอดชีวิตและมีส่วนร่วมในการ
พัฒนาสังคม โดยในปี 2564 สสว. 9 ได้ดำเนินการโครงการศูนย์บริการวิชาการพัฒนาสังคม
และจัดสวัสดิการสังคม ประจำปี 2564 มีวัตถุประสงค์เพ่ือเป็นศูนย์บริการงานวิชาการ
ศูนย์พัฒนาศักยภาพคน ด้านการพัฒนาสังคมและการจัดสวัสดิการสังคมท่ีเหมาะสมกับบริบท
พ้ืนที่ รวมท้ังหน่วยเคลื่อนที่ทางวิชาการเพื่อให้บริการแก่หน่วยงานบริการทุกกลุ่มเป้าหมาย
ในความรับผิดชอบของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความม่ันคงของมนุษย์และภาคีเครื อข่าย
ท่เี กยี่ วข้อง และกล่มุ เปา้ หมาย คือหน่วยงานในสงั กัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความม่ันคง
ของมนุษย์ และภาคีเครือข่ายที่เก่ียวข้องในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ประกอบด้วย
วิธีการดำเนินงานโดยการรวบรวม สร้าง จัดระเบียบ แลกเปลี่ยนและประยุกต์ให้ความรู้
ในองค์กร ภาคีเครือข่าย ร่วมกับการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศ เพ่ือให้เกิดการถ่ายทอด
ความรแู้ ละปัญญา ในพนื้ ทร่ี บั ผิดชอบของ สสว. 9
โดยมีข้ันตอนการดำเนินงานการจัดการความรู้ (Knowledge Management: KM)
คือ การจัดทำแผนปฏิบัติการกิจกรรมการจัดการความรู้ เริ่มจากการเริมสร้างความรู้ความ
เข้าใจกระบวนการการจัดการความรู้ ให้กับทีมงาน เพื่อสร้างความรู้เก่ียวกับการจัดทำ
(Knowledge Management: KM) การจัดทำเค้าโครงการดำเนินการจัดทำความรู้
ในประเด็นการบ่งช้ีความรู้ การสร้างและแสวงหาความรู้ เพ่ือการจัดทำความรู้ และการจัดทำ
แผนปฏิบัติการและกิจกรรมการดำเนินการจัดทำความรู้ และกิจกรรมในการรวบรวมองค์
ความรู้ เพ่ือ พัฒนาให้เป็นระบบและนำความรู้นั้นขับเคล่ือนการปฏิบัติงาน การประมวล
กล่ันกรองความรู้ การจัดความรู้ให้เป็นระบบ การเข้าถึงความรู้ การแลกเปล่ียนแบ่งปันความรู้
การส่งเสริมการเรียนรู้ การสรุปบทเรียนการดำเนินงาน การขับเคลื่อนการดำเนินงานการนำ
การจัดการความรู้ไปใช้ประโยชน์ การจัดทำรายงานการจัดการความรู้ รูปเล่มองค์ความรู้
การเผยแพร่องคค์ วามรู้ รวมถงึ การรายงานความก้าวหน้าการดำเนนิ งาน
การพฒั นา 7Q สู่ความสำเรจ็ ในชวี ติ และการงาน 53
การจดั การความรู้ (Knowledge Management : KM)
คือ การรวบรวม สร้าง จัดระเบียบ แลกเปล่ียน และประยุกต์ใช้ความรู้ในองค์กร
โดยพฒั นาระบบจากข้อมูล ไปสู่สารสนเทศ เพื่อใหเ้ กิดความรู้และปัญญา รวมท้ังเพื่อประโยชน์
ในการนำไปใช้และเกดิ การเรียนรู้ภายในองค์กร
การดำเนนิ การจัดการความรู้ (KM Process)
1. การบง่ ช้ีความรู้ (ความรู้หลกั คือ อะไร อยู่ที่ไหน ยังขาดอะไร)
2. การสร้างและแสวงหาความรู้ (จะหามาไดอ้ ย่างไร สรา้ งได้อยา่ งไร)
3. การประมวลและกลน่ั กรองความรู้ (ปรับปรงุ เนอ้ื หา ภาษา และรูปแบบขอ้ มลู )
4. การจดั ความรู้ให้เปน็ ระบบ (จัดหมวดหมู่และเก็บเป็นระบบ)
5. การเข้าถงึ ความรู้ (กำหนดวธิ ีการเขา้ ถงึ ความรทู้ จ่ี ดั เก็บไว้)
6. การแลกเปลี่ยนแบ่งปันความรู้ (กำหนดวิธีการและช่องทางการถ่ายทอด
ความรู้)
7. การเรียนรู้ (ส่งเสริมให้มีการนำความรู้ไปใช้เพื่อเกิดการเรียนรู้ในองค์กร :
เกดิ องค์ความรใู้ หม่)
ผ่านการดำเนินการจัดการความรู้ Change Management Process ด้วยการ
ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ทำให้คนในองค์กรอยากเป็นท้ังผู้ให้และผู้รับความรู้ มีการส่ือสาร
ให้ทุกคนเข้าใจ มีกระบวนการ เครื่องมือ การให้ความรู้เรื่องการจัดการความรู้ การวัดผล
การดำเนินการตามแผน ผลผลิตและผลลัพธ์ที่ได้ รวมถึงการยกย่อง ชมเชย ให้รางวัล เพ่ือเป็น
แรงจูงใจให้คนในองค์กรสนใจการจัดการความรู้ เพ่ือพัฒนาคน พัฒนางาน และพัฒนาองค์กร
ส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ของงานดีข้ึน หรือได้นวัตกรรมใหม่ บุคลากรเกิดการพัฒนาการเรียนรู้
เกิดชุมชนการเรียนรู้ ความรู้ขององค์กร มีการจัดระบบและส่ังสมไว้พร้อมที่จะนำไปใช้
ประโยชน์ ส่อู งค์กรเป็นองค์กรแหง่ การเรียนรู้
การพัฒนา 7Q ส่คู วามสำเรจ็ ในชวี ิตและการงาน 5 4
ตารางแผนการจัดการความรู้ (KM Action Plan) : กระบวนการจัดการความรู้ (KM Process)
เรื่อง “การพัฒนา 7Q สคู่ วามสำเรจ็ ในชีวิตและการงาน”
โดย ทีมงานกลุ่มการวิจัยและการพฒั นาระบบเครอื ขา่ ย
สำนักงานสง่ เสริมและสนับสนุนวิชาการ 9
หัวขอ้ /ขอ้ มลู
ที่ กระบวนการ กิจกรรม/วธิ กี ารสู่ ระยะเวลา ในการสบื คน้ ผู้รบั ผิดชอบ หมายเหตุ
ความสำเรจ็ ดำเนนิ การ ขอ้ มลู -
เพม่ิ เติม
1 การบ่งช้คี วามรู้ ก า ร ป ร ะ ชุ ม ช้ี แ จ ง แ น ว 4 ม ก ร า ค ม - -ทีมงานกลุ่ม
ท างการด ำเนิ น งาน การ 2564 ณ การวจิ ัยและ
จดั การความรู้ (Knowledge ห้ อ ง ป ร ะ ชุ ม การพัฒนา
Management : KM) สสว.9 ระบบ
- การจัดทำเค้าโครงการ เครอื ขา่ ย
จดั การความรู้ ในประเดน็
1. การบ่งชี้ความรู้ (ความรู้
หลัก คือ อะไร อยู่ที่ไหน ยัง
ขาดอะไร)
2. การสร้างและแสวงหา
ความรู้ (จะหามาได้อย่างไร
สร้างไดอ้ ย่างไร)
- การจัดทำ แผนปฏิบัติการ
และกิจกรรมการดำเนินงาน
การจดั การความรู้
- การนำเสนอแลกเปล่ียน
ข้อมูล เร่ือง การขับเคล่ือน
การดำเนินงานการจัดการ
ความรู้
การพฒั นา 7Q ส่คู วามสำเรจ็ ในชวี ติ และการงาน 55
หัวข้อ/ขอ้ มูล
ท่ี กระบวนการ กจิ กรรม/วิธกี ารสู่ ระยะเวลา ในการสบื คน้ ผรู้ ับผดิ ชอบ หมายเหตุ
ความสำเรจ็ ดำเนินการ ข้อมลู
เพ่ิมเติม
2 การสร้างและ - การศึกษาข้อมูล ความรู้ท่ี -ม ก ร า ค ม - 1. การพฒั นา -ทีมงานกลมุ่ -กลุ่มเป้า
แสวงหาความรู้ เก่ียวข้องกับ “การพัฒนา มนี าคม 2564 EQ สู่ การวิจัยและ หมาย
7Q สู่ความสำเร็จในชีวิต ความสำเร็จ การพฒั นา หนว่ ยงาน
และการงาน” ในชีวิต ระบบ พม.
-การจัดประชุม เร่ือง “การ - 5 มี น า ค ม เครอื ข่าย หน่วยละ 1
พัฒนา EQ สู่ความสำเร็จใน 2564 2. การพฒั นา คนและ
ชีวิต”จากผู้มีประสบการณ์ 7Q สู่ จนท.สสว.9
โดย ดร.ณัฐวัฒน์ ล่องทอง ความสำเร็จ รวม 70 คน
จากค ณ ะมนุ ษ ยศ าส ตร์ ในชวี ติ และ
มหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่ การงาน -กลุม่ เป้า
- การจัดประชุมทางไกล หมาย
ออน ไลน์ ถ่ายท อด องค์ -3 0 มี น า ค ม หนว่ ยงาน
ความรู้ “การพัฒนา 7Q สู่ 2564 พม.จำนวน
ความสำเร็จในชีวิตและการ 100 คน
งาน”จากผู้มีประสบการณ์
โดย ดร.ณัฐวัฒน์ ล่องทอง
จากค ณ ะมนุ ษ ยศ าส ตร์
มหาวิทยาลยั เชยี งใหม่
3 การประมวล - ก า ร ป ร ะ ม ว ล แ ล ะ
และกลั่นกรอง กลั่นกรองการจัดการความรู้
ความรู้ “ ก า ร พั ฒ น า 7 Q สู่
ความสำเร็จในชีวิตและการ
งาน”
-ก า ร จั ด ท ำ แ ล ะ ป รั บ ป รุ ง
เนอื้ หาข้อมูล
การพฒั นา 7Q ส่คู วามสำเรจ็ ในชีวติ และการงาน 56
หัวขอ้ /ขอ้ มลู
ท่ี กระบวนการ กิจกรรม/วิธีการสู่ ระยะเวลา ในการสบื ค้น ผู้รับผดิ ชอบ หมายเหตุ
ความสำเรจ็ ดำเนนิ การ ข้อมูล -
4 ก า ร จั ด ก า ร -
ค ว า ม รู้ ให้ เป็ น เพ่ิมเตมิ -
ระบบ
-การออกแบบรูปแบบการ เ ม ษ า ย น - - -ทีมงานกลุ่ม -
5 ก า ร เ ข้ า ถึ ง
ความรู้ จดั เก็บข้อมลู เชน่ การจัดทำ พ ฤ ษ ภ า ค ม - การวิจัยและ
6 ก า ร แ บ่ ง ปั น เป็ น ห นั ง สื อ E-book/ 2564 ก า ร พั ฒ น า
และ
แ ล ก เป ล่ี ย น Website ระบ บ
ความรู้
-ก า ร จั ด ข้ อ มู ล ใ ห้ เป็ น เครือขา่ ย
7 การเรยี นรู้/การ
ขยายผล หมวดหมู่
-กิจกรรมการจัดช่องทาง ก ร ก ฎ า ค ม - -ทีมงานกลุ่ม
เผยแพร่ความรู้ โดยการจัด 2564 การวิจัยและ
ประชาสัมพันธ์ทาง Social ก า ร พั ฒ น า
Media เช่น เวบ็ ไซต์ เฟสบ๊คุ ระบ บ
และเอกสารเผยแพร่ความรู้ เครอื ขา่ ย
- การสรุปแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ก รก ฎ าค ม – - -ทีมงานกลุ่ม
“ ก า ร พั ฒ น า 7 Q สู่ สิงหาคม 2564 การวิจัยและ
ความสำเร็จในชีวิตและการ ก า ร พั ฒ น า
งาน” กลมุ่ เปา้ หมาย ระบ บ
- ก า ร ขั บ เค ลื่ อ น ก า ร -เครือข่ายพ้ืนท่ี เครอื ข่าย
ด ำ เนิ น งา น ก า ร น ำ ก า ร ต.ตน้ แบบ
จั ด ก า ร ค ว า ม รู้ ( KM : -ทีมOne Home
Knowledge Management)
ไปใช้ประโยชน์
- ส่งเสริมหน่วยงาน One ก รก ฎ าค ม – - -ทีมงานกลุ่ม
Home นำองค์ความรู้ “การ สิงหาคม 2564 การวิจัยและ
พัฒนา 7Q สู่ความสำเร็จใน ก า ร พั ฒ น า
ชีวิตและการงาน” ไปขยาย ระบ บ
ผลในหนว่ ยงาน เครือขา่ ย
การพฒั นา 7Q สคู่ วามสำเร็จในชีวิตและการงาน 57
ความฉลาดของเด็กยุคใหม่ไม่ได้มีแค่ IQ และ EQ แต่มีถึง 7Q
“เพราะความฉลาดของคนๆ หนง่ึ ไม่ได้มีแค่เร่ืองสติปญั ญาและอารมณ์เท่าน้ัน
ดงั นัน้ จึงควรพฒั นาให้ครบทุกๆ ด้าน เพ่ือใหใ้ ช้ชีวติ ได้อย่างสมดุล”
เช่ือว่าหลายท่านคงคุ้นหูและรู้จักกันดีกับ IQ ความฉลาดทางสติปัญญา และ EQ
ความฉลาดทางอารมณ์ ที่เรามักปลูกฝังให้ลูกๆ มีสองสิ่งน้ีควบคู่กันไปเพ่ือลูกจะได้ดำรงชีวิต
อยา่ งมคี วามสุขและประสบความสำเรจ็ ในอนาคต
หากแต่เท่าน้ันอาจยังไม่พอ ทักษะต่างๆที่ต้องปลูกฝังให้ลูกน้ันยังมีอีกหลากด้าน
ทีต่ ้องให้ความสำคญั ไม่แพ้กัน
7Q ทักษะของเดก็ ยคุ ใหม่ ย่ิงรไู้ ว้ย่งิ เป็นประโยชน์
1. IQ (Intelligence Quotient) คือ ความฉลาดทางสติปัญญา เป็นความสามารถ
ในการคิดวิเคราะห์ การคำนวณ การเช่ือมโยง การใช้เหตุผล แม้หลายคนจะเชื่อว่า IQ นั้น
เป็นเร่ืองของกรรมพันธุ์ แต่หากเด็กๆ ได้รับการฝึกฝนทางความคิด ร่วมกับการได้อยู่ใน
สภาพแวดล้อมท่เี หมาะสม ไดร้ ับโภชนาการที่ดี ก็สามารถพัฒนา IQ ได้
การพฒั นา 7Q สูค่ วามสำเร็จในชีวิตและการงาน 58
2. EQ (Emotional Quotient) คือ ความฉลาดทางอารมณ์ เป็นความสามารถ
ในการรับรู้ เข้าใจอารมณ์ตัวเองและผู้อื่น สามารถปรับตวั เขา้ กับสังคมและสถานการณ์รอบข้าง
ได้ดี เห็นคุณค่าและเชื่อม่ันในตนเอง ความรู้สึกและอารมณ์เหล่านี้ต้องอาศัยการสอนและ
การปลูกฝังของพ่อแมอ่ ย่างมาก
3. CQ (Creativity Quotient) เรื่อง Creative thinking คือการท่ีเด็กมีความคิด
สรา้ งสรรค์ มจี ินตนาการ หรอื แนวคิดใหม่ๆ เช่น การเลน่ งานศลิ ปะ การประดษิ ฐ์คดิ ค้น พ่อแม่
สามารถช่วยให้เด็กมี CQ ได้ ด้วยการเปิดโอกาสให้เขาเล่นอย่างอิสระ ส่งเสริมการเล่นท่ีใช้
จนิ ตนาการ เช่น ทำศิลปะ การหยิบจับของใกล้ตวั มาเปน็ ของเล่น หรอื การเล่านิทานแล้วให้เด็ก
ต่อเตมิ เรื่องเอง
การพฒั นา 7Q สูค่ วามสำเรจ็ ในชวี ิตและการงาน 59
4. MQ (Moral Quotient) คือความสามารถทางศีลธรรมจริยธรรม หมายถึง
การท่ีเด็กมีความประพฤติดี รู้ว่าอะไรควรทำหรือไม่ควรทำ ซึ่งเป็นส่ิงที่พ่อแม่ควรให้
ความสำคัญอย่างมาก เพราะจะเป็นเหมือนอาวุธทางปัญญาที่จะช่วยให้ลูกนำไปใช้ประกอบ
การพิจารณาในการจะทำส่ิงใดส่ิงหนึ่งเม่ือเขาเติบโตขึ้น โดย MQ น้ันต้องพ่อแม่ต้องทำให้เด็ก
เห็นอยา่ งสมำ่ เสมอดว้ ยจงึ จะไดผ้ ลดีทส่ี ดุ
5. PQ (Play Quotient) คือ ความฉลาดที่เกิดจากการเล่น เพราะการเล่นนั้น
สามารถพัฒนาทักษะความสามารถเด็กได้หลายด้าน ทั้งทางร่างกาย ความเฉลียวฉลาด
ความคิดสร้างสรรค์ ไม่ว่าจะเป็นของเล่นเสริมทักษะ หรือการเล่นกับพ่อแม่ เช่น การขี่คอ
เล่นจ๊ะเอ๋ นิทานใหฟ้ งั ลว้ นชว่ ยเตมิ เตม็ ลูกได้ท้ังสิ้น
การพัฒนา 7Q สูค่ วามสำเร็จในชวี ติ และการงาน 510
6. AQ (Adversity Quotient) คือ ความฉลาดในการแก้ปัญหา มีความยืดหยุ่น
สามารถปรับตัวในการเผชิญปัญหาได้ดี และพยายามเอาชนะความยากลำบากด้วยตัวเอง
ดงั น้ันวิธีการฝึก AQ พ่อแม่ต้องให้โอกาสเด็กๆ เผชิญกับปญั หาและหาทางแก้ปัญหาด้วยตัวเอง
ตัง้ แต่เลก็ ๆ ไม่ควรใจออ่ นและยอมตามใจเพ่ือชว่ ยลกู แกป้ ัญหางา่ ยๆ ตงั้ แต่เขายงั เด็ก
7. SQ (Social Quotient) คือ ความฉลาดทางสังคม การใช้ชีวิตร่วมกับผู้อ่ืนได้
อย่างมีความสุข ปรับตัวเข้าหาผู้อ่ืนได้ วิธีการฝึก SQ คือ พยายามให้เด็กได้มีโอกาสเล่น
กบั เพื่อนๆ ในวัยเดียวกัน ทำกิจกรรมกลุ่ม หรือฝึกทำงานกับเพอ่ื น คบเพ่ือนหลากหลาย ซึ่งจะ
ช่วยเสรมิ สรา้ งทกั ษะการปรบั ตวั ไดง้ ่ายขน้ึ
การจะพัฒนาเด็กให้เติบโตได้อย่างเต็มศักยภาพของเขา พ่อแม่ผู้ปกครอง
ควรส่งเสริมท้ัง 7Q ควบคู่กันไป แต่อย่าลืมว่าเด็กๆ ก็มีโลกและความสนุกในแบบของเขา
พ่อแม่ต้องไม่คาดหวังและกดดันลูกจนเกินไป มิเช่นนั้นจากความรักความหวังดีอาจกลายเป็น
ความทรงจำท่ไี ม่ดีต่อลกู ๆ ได้งา่ ยๆ
การพัฒนา 7Q สู่ความสำเร็จในชวี ติ และการงาน 5 11
การผสานพลงั กันของ “ความฉลาดทั้ง 7”
ปญั ญาคือ การรวมพลงั กนั ของ “ความฉลาดท้งั 7”
ตวั อย่าง “คนฉลาด"เปรียบเทียบกบั "คนมีปญั ญา”
คนฉลาดคดิ แก้ปัญหาได้ทุกอย่าง คนมปี ัญญาคิดป้องกันปญั หา
คนฉลาดได้อย่างเสยี อย่าง คนมีปัญญาได้ทุกอยา่ ง แต่รวู้ า่ มันจะไดไ้ มพ่ รอ้ มกัน
คนฉลาดใช้เงินเก่งและหาเงินเก่ง คนมีปัญญาใช้เงินไปกับส่ิงเพ่ิมมูลค่า แสวงหา
Passive income
คนฉลาดจบี ใครกต็ ดิ คนมีปญั ญาจบี คนเดียวท่เี ขาจะรกั ไปชวั่ ชีวิต
คนฉลาดทมุ่ เท คนมีปญั ญาสมดุลชวี ิตด้านตา่ งๆ
คนฉลาดมีสมบตั ิมากมาย คนมปี ัญญาใช้สมบตั ทิ มี่ อี ยา่ งคุ้มคา่ ทุกอณู
คนฉลาดสรา้ งตัวตนเปน็ คนมีปญั ญาละตวั ตนเปน็ ...
...ยงั มีอกี หลายอย่างท่ีคนฉลาดและคนมีปัญญาคิดตา่ งกนั ...จากตวั อย่างที่กล่าวมา ...
คนฉลาดกับคนมีปัญญามีความแตกต่างกันในการ “มองภาพรวมของชีวิต”
และ “ความลึก” ในการคิด การที่จะเปลี่ยนตัวเองจากการเป็น “คนฉลาด” ให้กลายเป็น
“คนมปี ญั ญา” นน้ั ต้องทำโดยการ “ผสานพลงั ความฉลาดทงั้ 7”
ความฉลาดทั้ง 7 คอื กลไกของปัญญา ขาดตัวใดตัวหนึ่งไมไ่ ด้
ความฉลาดทัง้ 7 ประกอบดว้ ยเรอื่ งต่างๆ ดงั น้ี
IQ EQ CQ AQ MQ PQ SQ ถา้ มารวมพลังกนั เมอ่ื ไหร่ ปัญญามาทันที
IQ (Intelligence Quotient) ความฉลาดในการใชเ้ หตุผล การเช่อื มโยง การรู้
ความสมั พันธ์ของส่ิงต่างๆ การคำนวณ
แนวทางการพัฒนา IQ ในชีวิตประจำวันนั้น ทำโดยการลองตัดสินใจส่ิงต่างๆ
โดยใช้หลักเหตุผลเป็นหลัก พยายามแยกอารมณ์ออกไป นอกจากนี้การเล่นเกมส์หา
ความสัมพันธ์ เกมสค์ วามจำ การคำนวณเลขง่ายๆแต่คิดเร็ว การเล่นหมากรุก ก็เป็นการพัฒนา
IQ อกี ดว้ ย
EQ (Emotional Quotient) ความฉลาดทางอารมณ์ คือความสามารถในการ
ติดเบรกควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ “ช่างแม่ง ช่างมึง ช่างมันได้” มีสติรับรูแ้ ละเข้าใจอารมณ์
ของตัวเองได้ ปล่อยวางอารมณ์ลบๆได้ ท้ิงอารมณ์ลบๆได้ ไม่เก็บกดไว้รอวันระเบิด
ปรบั อารมณใ์ หแ้ จ่มใสได้ รอคอยได้ คิดเอาใจเขามาใส่ใจเรา
การพฒั นา 7Q สคู่ วามสำเรจ็ ในชีวติ และการงาน 512
แนวทางการพัฒนา EQ นั้น คือเอาหมั่นสังเกตสภาพอารมณ์ของตัวเอง การฝึก
สติทำให้เรา “เห็น” อารมณ์ของตัวเองไดง้ ่ายข้ึน พอเหน็ แล้ว เราก็เข้าบรหิ ารจัดการได้ กำหนด
ทิศทางได้ นักบริหารอารมณ์มือใหม่แรกๆ อาจจะบริหารได้ไม่ดีนัก แต่บริหารบ่อยๆ จะชำนาญเอง
นอกจากนี้ การเล่นเกมส์ค้นหา “เพชรในตม” คือพยายามคิดหาข้อดีหน่ึงส่ิง ในเรื่องร้ายๆ
ท่ีเจอ เมื่อเล่นเกมส์นี้บ่อยๆ ก็ทำให้ EQ สูงขึ้นได้ จะเป็นคนคิดเชิงบวกมากขึ้น เห็นโอกาส
ในอุปสรรคงา่ ยขน้ึ
CQ (Creativity Quotient) ความฉลาดในการริเริ่มสร้างสรรค์ คือการคิด
แบบใหม่ๆ เม่ือคิดวิธีใหม่ ผลลัพธ์ใหม่ๆก็จะเกิดข้ึน การนำสิ่งเดิมๆ มาผสมกัน ผสานกัน
แยกจากกัน นำมาตอ่ กนั มองด้วยเหลี่ยมมุมใหม่อาจจะได้สง่ิ ใหม่ๆ เกิดข้ึน การคอ่ ยๆ คิดนอกกรอบ
กอ็ าจจะไดแ้ นวทางใหมๆ่
แนวทางการพัฒนา CQ นั้นทำได้ต้ังแต่ การฝึกวาดรูปลงสี การเดินทาง
ด้วยเส้นทางใหม่ๆ การท่องเที่ยวในสถานที่ใหม่ๆ การฝึกเขียนตัวหนังสือด้วยมือข้างท่ีไม่ถนัด
การเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ นอกเหนือจากงานที่ทำอยู่ การลองคิดอะไรแปลกๆ แผลงๆ ดู การฝึก
เลน่ ดนตรี ก็เปน็ การฝึกพัฒนาความคดิ สร้างสรรคไ์ ดด้ ี
MQ (Moral Quotient) ความฉลาดทางศีลธรรม จริยธรรม คือมีความ
ประพฤติดี รู้จกั ผดิ ชอบ มีความซอ่ื สัตย์ รับผิดชอบ มี จริยธรรม ไม่เลน่ แง่ด้านกฎหมาย คน IQ สูง
หรือ คิวอ่ืนๆ สูง เช่น CQ EQ สูง ชีวิตไปจบลงในคุกเยอะมาก ต้องมายากจนยามแก่เฒ่า
หรือไปได้ไม่ไกลเท่าที่ใจหวัง เสียชื่อเสียงยามบ้ันปลายชีวิต เพราะขาด MQ คนที่เก่งพอๆ กัน
คนที่มี MQ สูงกว่าจะไปไดไ้ กลกว่า เกบ็ กนิ ประโยชนไ์ ดช้ วั่ ชีวติ
แนวทางการพัฒนา MQ ทำโดยการ “จด” และ “จำ” ศีลธรรมและขอ้ กฎหมาย
ที่จำเป็นให้ได้ และต้องนำไป “ทำ” และ “ซึม” คือ เอาไปทำเอาไปปฏิบัติจนซึมลึกเข้าไป
ในจิตใต้สำนึก สุดท้ายแล้วจิตใต้สำนึกน้ีเองท่ีจะทำให้คุณละอายต่อเรื่องผิดศีลธรรม เป็นการ
เพิ่ม MQ โดยอตั โนมัติ “คนดฝี นื ใจยามทำชวั่ คนชว่ั ฝืนใจยามทำดี”
PQ (Physical or Play Quotient ) การใช้ร่างกายอย่างฉลาด ร่างกายเรา
คือสิ่งมีค่า PQ จะทำให้คุณ “เลือก” ใช้ร่างกายเก่งการเลือกระหว่างการออกกำลังกายยกเวท
หรือ ยกแก้วเหล้า การเลือกระหว่างการรักเดียวใจเดียว กับ มั่วไปเร่ือยๆ การเลือกระหว่าง
ตื่นมาออกกำลังกายตอนเช้า หรือ ต่ืนเช้าไปเขา้ คิวโรงพยาบาลยามสุขภาพยำ่ แย่ การเลือกงาน
อดิเรกระหว่างการขับรถซิ่งให้เร็ว หรือเร็วด้วยการว่ิงสองขาของตัวเอง การทำงานจนดึกด่ืน
แล้วตื่นสายๆ หรือ นอนเร็วๆ แล้วต่ืนเช้ามืดมาทำต่อ การเลือกเล่นเกมส์ท่ีรุนแรง หรือเกมส์
การพัฒนา 7Q สคู่ วามสำเรจ็ ในชีวิตและการงาน 5 13
ที่พัฒนาสมอง พัฒนาอารมณ์ พัฒนาน้ำใจนักกีฬาทั้งหมดนี้คือสง่ิ ที่เป็นตัวตัดสนิ การใช้ร่างกาย
อย่างฉลาดของคุณเอง ถ้าใช้ร่างกาย อย่างฉลาดคุณจะสุขภาพดีขึ้น จิตใจดีขึ้น สมองดีขึ้น
กาย/จติ /สมอง น้ีมีความสมั พันธก์ ัน ใช้ร่างกายอยา่ งฉลาดส่งผลกระทบต่อสิ่งอนื่ ๆ ดว้ ย
AQ (Adversity Quotient) ความฉลาดเม่ือประสบปัญหา คนเราเม่ือเจอ
ปัญหาแล้วจะฮึด หรือ เห่ียว มีสติมากขึ้นหรือสติแตกเม่ือมีปัญหา วัดกันตรง AQ คนท่ีมี AQ สูง
จะมมี ุมมองวา่ ปัญหาเป็นสงิ่ ที่ต้องเจออยู่แล้วในเส้นทางสู่ความสำเรจ็ ปัญหามไี ว้ใหแ้ ก้ไม่ไดม้ ีไว้
ให้กลุ้ม ปัญหามีโอกาสอยู่ข้างใน ปัญหาที่ไม่ทำให้ตาย จะทำให้คุณแกร่งข้ึน เขาจะแก้ปัญหา
จนวนิ าทสี ดุ ท้าย ไม่กลวั ปญั หาแตก่ ไ็ มแ่ ส่หาปญั หา ยอมรับวา่ มปี ญั หาแตไ่ ม่ยอมแพต้ ่อปญั หา
แนวการพัฒนา AQ น้ัน คือการลองมองปัญหาอย่างเป็นมิตรมากขึ้น มองว่า
เป็นสิ่งท่ีต้องเจอกันบ้าง เน้นท่ีการต้ังสติให้ได้ยามเมื่อเจอปัญหา สติมาปัญญามี แก้ปัญหา
อย่างมีปัญญาบ่อยๆ ยิ่งแก้ยิ่งเก่ง แก้จนวินาทีสุดท้าย แก้ได้ไม่ได้ค่อยว่ากัน สู้ยิบตาไว้ก่อน
เนน้ การคดิ ป้องกันปญั หาแตถ่ ้ายงั มปี ัญหาอีกก็พรอ้ มสู้ คดิ แบบนี้ AQ จะพฒั นาข้นึ
SQ (Social Quotient) คือความฉลาดทางสังคมท่ีจะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับผู้อื่น
เพราะมนษุ ย์ไม่สามารถอยคู่ นเดยี วได้ ตอ้ งพึ่งพาอาศัยซึ่งกัน คิดเอาใจเขามาใส่ใจเราได้ มีน้ำใจ
เอื้ออาทรคนที่มีเพื่อนดีๆเยอะไปได้ไกล ไม่หัวเดียวกระเทียมลีบคนน่าคบคือคนแบบไหน..
การเป็นคนจริงใจ มีจุดยืนแน่ชัด ไม่มีลับลมคมใน เป็นคนดีจากจิตใจ ล้นออกมาเป็นมารยาท
ท่ีดี มีน้ำใจตามสมควร แต่มีเร่ือยๆ สุภาพกับคนที่ตำแหน่งใหญ่กว่าและเล็กกว่าอย่างเท่าเทียม
อภัยคืออภัยไม่เจ้าคิดเจ้าแค้นคำไหนคำนั้น ไม่พูดมากไปจนดูกลวง หรือน้อยไปจนดูมีลับลมคมใน
จดจำชื่อและตำแหน่งคนให้ได้ ไม่เสียมารยาททักเร่ืองรูปร่างหน้าตา กล้าตอบรับ และตอบ
ปฏิเสธคน (อย่างสุภาพ)...คนแบบน้เี หมอื นแมเ่ หล็กดงึ ดดู คนดๆี สงั คมดๆี เขาหาเขา..
คนมีปัญญา จะพก 7Q มาอย่างครบถ้วน ซึ่งแต่ละ Q อาจจะไม่ต้องสูงปร๊ีดก็ได้
ขอแค่อยู่ใน “ข้ันดี” หรือ “ใช้ได้” ก็พอ ถ้ามากันครบทีม คนๆนั้นจะกลายเป็นคนมีปัญญา
ทันทีขอให้มี “สติ” ตรวจสอบว่า ทั้ง 7Q มาครบและผสานพลังกันอย่างดี สนุกกับการพัฒนา
ท้ัง 7Q อยู่เรื่อยๆ ทุกท่านก็จะกลายเป็นผู้มีปัญญาสูง และยิ่งเวลาผ่านไป ปัญญาของท่าน
กจ็ ะยงิ่ สงู มากข้ึนเรอื่ ยๆ ส่งผลเป็นความร่งุ เร่ืองในชวี ติ อย่างต่อเนอ่ื งแนน่ อน
การพฒั นา 7Q สูค่ วามสำเร็จในชีวติ และการงาน 514
เปิด 7 ข้นั สรา้ งความฉลาด 7 ด้าน เพ่ือความสขุ ในชีวติ
เพราะการเรียนรู้ ไม่ได้มีอยู่แค่ในห้องเรียนเท่าน้ัน มนุษย์เราจึงต้องเรียนรู้วิธีการ
ปรับตัวใช้ชีวิต สร้างความสมดุลในการอยู่ร่วมกันในสังคม ความฉลาด 7 ด้าน (7Q) เพื่อสร้าง
การเรียนรู้สร้างความเข้าใจและสามารถดึงศักยภาพของตัวเองออกมาใช้ได้อย่างเกิดประสิทธิภาพ
โดยความฉลาด 7 ดา้ น (7Q) มดี งั นี้
1. IQ : Intelligent Quotient
ความฉลาดทางเชาวนป์ ญั ญา ความสามารถในเชิงวิชาการ อาทิ การคดิ วิเคราะห์
คำนวณ ความจำ และการใชเ้ หตุผล สามารถเสริมสร้าง IQ ได้โดยการเลือกรบั ประทานอาหาร
ให้ครบ 5 หมู่ เน้นทานอาหารที่มีส่วนช่วยในการบำรุงระบบประสาทและสมอง ออกกำลังกาย
เป็นประจำ พักผ่อนให้เพียงพอ ทำจิตให้ปลอดโปร่ง หมั่นศึกษาหาความรู้เพ่ิมเติม และเปิด
รบั สิง่ ใหม่ๆ อย่เู สมอ ก็จะช่วยเสริมสรา้ งในสว่ นนี้
2. EQ : Emotional Quotient
ความฉลาดทางอารมณ์ ความสามารถในการรับรู้และเข้าใจในอารมณ์ความรู้สึก
ของตนเองและผู้อื่น การควบคุมอารมณ์ ความสามารถยับยั้งช่ังใจ และแสดงออกถึงอารมณ์
ต่างๆ ออกมาได้อย่างเหมาะสม สามารถเสริมสรา้ ง EQ ได้โดยการฝึกสมาธิ ปฏิบัตติ นตามหลัก
พรหมวิหาร 4 รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา ทำจิตใจให้ผ่องใส มองโลกในแง่ดี รักษากฎระเบียบ
มีความรับผิดชอบตอ่ สังคม จะช่วยเสริมสรา้ งในส่วนนี้
3. AQ : Adversity Quotient
ความฉลาดในการแก้ไขปัญหา สามารถปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ได้เป็นอย่างดี
มีความยืดหยุ่นในการรับมือกับปัญ ห าที่เข้ามา สามารถเสริมสร้าง AQ ได้โดยการ
เปิดประสบการณ์แปลกใหม่ที่ตนเองไม่เคยทำมาก่อน เช่น การปีนเขา เข้าคอร์สศึกษาหา
การพัฒนา 7Q ส่คู วามสำเรจ็ ในชีวิตและการงาน 515
ความรู้ ผจญภัย แคมป์ป้ิง เพ่ือฝึกทักษะในการช่วยเหลือตัวเอง และเรียนรู้ท่ีจะเอาชนะ
ความยากลำบากหลากหลายรูปแบบนนั่ เอง
4. CQ : Creativity Quotient
ความฉลาดในการสร้างสรรค์ การมีจินตนาการกว้างไกล มีความคิดแปลกใหม่
ไม่ซ้ำใคร สามารถเสริมสร้าง CQ ได้โดยการวาดรูป เขียนหนังสือ แต่งเพลง ทำงานศิลปะ
หยิบจับของใช้ใกล้ตัวมาต่อยอด ดัดแปลง หาวิธีประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด หรือเป็น
การประดิษฐข์ องใช้สไตล์ D.I.Y. ก็ได้ ช่วยสง่ เสรมิ จนิ ตนาการด้วย
5. MQ : Moral Quotient
ความฉลาดดา้ นจริยธรรม ศีลธรรม มีความประพฤตดิ ี มีความรับผิดชอบ ซอ่ื สัตย์
ตอ่ ตนเอง คนรอบข้าง และสงั คม รู้จักวางตัวอยู่ในขนบธรรมเนียมอนั ดีงาม สามารถเสริมสร้าง
MQ ได้โดยการปฏิบตั ติ นตามหลกั ศาสนา รู้จักกล่าวคำขอโทษเม่อื ตนเองทำผิด ประพฤติปฏิบตั ิ
ชอบ ไมท่ ำใหผ้ ้อู ืน่ เดอื ดรอ้ น
6. PQ : Play Quotient
ความฉลาดด้านการเล่น หรือพัฒนาการทางด้านร่างกาย ความรู้ที่มาจาก
ประสบการณ์ในการสัมผัสเรียนรู้ทุกส่ิงรอบตัว สามารถเสริมสร้าง PQ ได้โดยการฝึกใจ
ใหป้ ลอ่ ยวาง เปดิ ใจให้กว้างรับประสบการณใ์ หม่ๆ ทดลองเล่น ลองทำ เรียนรู้สงิ่ ใหมๆ่ ท่ีตนเอง
ไม่เคยลองทำบ้าง ไม่จำกัดกรอบการเล่นว่ามีไว้สำหรับเด็กเล็กเท่านั้น เพราะการเล่นช่วยให้
คนทกุ ชว่ งวยั ผอ่ นคลายได้เชน่ กัน
7. SQ : Social Quotient
ความฉลาดด้านการเข้าสังคม ทักษะในการใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่น เพราะมนุษย์
เป็นสัตว์สงั คม ไม่สามารถดำรงชวี ิตอยูเ่ พียงลำพังได้ ต้องอาศยั การพึง่ พากันและกัน เปน็ เหตุให้
มนุษย์ต้องอยู่รวมกันเป็นสังคม สามารถเสริมสร้าง SQ ได้โดยการฝึกทำงานเป็นกลุ่ม
แบ่งหน้าท่ีรับผิดชอบอย่างเท่าเทียม ไม่ก้าวก่ายซ่ึงกันและกัน ฝึกมารยาทข้ันพ้ืนฐาน ยอมรับ
และเข้าใจในความแตกตา่ ง
ที่มา : https://undubzapp.com/
#LearnEducation #LearningSolutionForAll
การพฒั นา 7Q สคู่ วามสำเร็จในชวี ติ และการงาน 516
เรยี นรู้เก่ียวกบั ความฉลาดทางอารมณ์และ
ความสำคัญท่มี ตี อ่ สถานที่ทำงานยุคใหม่
ความฉลาดทางอารมณค์ ืออะไร
ความฉลาดทางอารมณ์เป็นแนวคิดท่ีเกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1990 ซึ่งเป็นหัวข้อ
การอภิปรายเชิงวิชาการ และได้รับแรงผลักดันอย่างรวดเร็วให้เป็นส่วนสำคัญของจิตวิทยา
ธุรกิจและการศึกษาการเปล่ียนแปลงในท่ีทำงาน โดยท่ัวไปจะเรียกกันว่า EQ (ความฉลาด
ทางอารมณ์) ซ่ึงเป็นสิ่งทค่ี ู่กันกับ IQ (ความฉลาดทางสติปัญญา) พนักงานที่มี EQ สงู จะมีความ
ยืดหยุ่น ปรับตัวได้ มีแรงผลักดัน และสร้างผลงานได้มากกว่า EQ มีความสำคัญมากกว่า
หรือเท่ากับ Hard Skill และคุณวุฒิอธิบายง่ายๆ คือ ความฉลาดทางอารมณ์หมายถึง
ความสามารถในการตีความ เข้าใจ และจัดการอารมณ์ของทั้งตัวเองและคนรอบข้างได้
เป็นเรื่องของการควบคุมสติอารมณ์ภายใต้ความกดดัน การช่วยให้ผู้อื่นรู้สึกสบายใจ และการ
เข้าใจว่าพฤติกรรมของคุณส่งผลกระทบต่อคนแวดล้อมของคุณได้อย่างไร ในขณะท่ี IQ
มีเป้าหมายเพื่อวัดความสามารถทางสติปัญญา แต่ความฉลาดทางอารมณ์ฝังอยู่ในพฤติกรรม
ของเรา ซึ่งในตอนแรกอาจจะดูเป็นนามธรรมหรือไม่มีกฎเกณฑ์ใดๆ แต่จิตใจของเราเป็นระบบ
และสิ่งสำคัญคือการปฏิบัติดูแลจิตใจเหมือนกับการดูแลระบบ ในฐานะมนุษย์ เรามีความ
ตระหนักรู้ในการจัดการ ปรับเปล่ียน และปรับปรุงระบบ เพื่อให้ระบบทำงานได้อย่างดีท่ีสุด
และการดำเนินการดังกล่าวสามารถและควรนำไปใช้กับสุขภาวะทางอารมณ์ของเราเอง
บุคคลหน่ึงอาจมีความเช่ียวชาญที่จำเป็นทั้งหมดสำหรับงาน แต่ถ้าไม่สามารถส่ือสารได้ภายในทีม
และไมส่ ามารถควบคุมอารมณข์ องตวั เองได้ จะสง่ ผลเสยี ตอ่ คุณภาพของงาน
วิธกี ารเพมิ่ ความฉลาดทางอารมณ์
มนุษย์ทุกคนมีความฉลาดทางอารมณ์ การมีความฉลาดทางอารมณ์สูงเป็นเพียง
การรู้วิธีท่ีจะนำมาใช้และเพิ่มความฉลาดน้ันจากการทำงานอย่างอย่างครอบคลุมของ Daniel
Goleman นักวิทยาศาสตร์ด้านพฤติกรรม ในการศึกษาและกำหนดลักษณะของความฉลาด
ทางอารมณ์ เขาได้สรุปทกั ษะหลกั 5 ประการที่ต้องไดร้ บั การปลกู ฝังเพอ่ื ใหม้ ี EQ สงู ดังนี้
การพฒั นา 7Q สูค่ วามสำเรจ็ ในชีวิตและการงาน 517
1. ความตระหนกั ร้ใู นตนเอง
ข้ันตอนแรกสู่ความฉลาดทางอารมณ์ท่ีสมบูรณ์ คือการเข้าใจอารมณ์ของคุณเอง
เราทุกคนมีประสบการณ์และแสดงออกถึงสถานะทางอารมณ์ต่างๆ ในรูปแบบท่ีแตกต่างกัน
และยิ่งคุณเข้าใจวิธีการจัดการกับอารมณ์ได้เองมากข้ึน คุณยิ่งเข้าใจถึงมุมมองของผู้คนท่ีอยู่
รอบตัวคุณได้ดีข้ึน ท้ังนี้การตระหนักรู้ในตนเองไม่ใช่เพียงการตระหนักรู้ทางอารมณ์ แต่ยัง
เกี่ยวข้องกับการทำความเข้าใจความแตกต่างของตัวตน พฤติกรรม และทัศนคติของคุณ
ด้วย การตระหนักรู้ในตนเองเป็นเร่ืองของการรู้ว่าคนอื่นมองคุณและตอบสนองต่อคุณอย่างไร
และเป็นเรอื่ งของการรู้วา่ การกระทำของคุณส่งผลต่อคนแวดล้อมของคณุ อย่างไรนน่ั คือสง่ิ ท่ีเรา
เรียกว่าการตระหนักรู้ในตนเองตามมุมมองของผู้อ่ืน เป็นการรับรู้ว่าผู้อ่ืนมองคุณอย่างไร
ซึ่งไม่ได้หมายถึงการเป็นกังวลมากเกินไปว่าผู้คนมองคุณอย่างไร แต่เป็นความสามารถ
ในการประเมนิ อยา่ งเป็นกลางและรบั ร้วู ่าคนอ่ืนมองคุณอย่างไรและเข้าใจว่าทำไมจงึ เป็นเช่นนนั้
ดังน้ันคุณจะตระหนักรู้ในตนเองได้อย่างไรอารมณ์อาจดูเหมือนเป็นสิ่งที่อยู่ในใจ
เท่านั้น แต่ในความเป็นจริงเราสามารถรับรู้และแสดงอารมณ์ออกมาทางกายได้ ซ่ึงเราเรียกว่า
การตระหนักรู้ในตนเองตามมุมมองของตนเองยกตัวอย่างเช่น เมื่อคุณโกรธ คุณอาจรู้สึกว่า
“เลือดสูบฉีด” เม่ือคุณกังวล คุณอาจรู้สึก “มวนท้อง” หรือรู้สึกตัวสั่น เมื่อคุณมีความสุข
คุณอาจรู้สึกตัวเบาและมีพลังมากข้ึน หากคุณสามารถจดจำข้อบ่งช้ีทางกายภาพเหล่าน้ี
ในตัวคุณเองได้ และทำความเข้าใจว่าส่ิงเหล่าน้ีเกิดขึ้นเม่ือใดและเพราะอะไร คุณจะสามารถ
เข้าใจ คาดการณ์ และจัดการกับอารมณ์ของคุณได้ดีขึ้น ความรู้สึกหลายอย่างเป็นการสะท้อน
ตัวตนของคุณ ให้ใช้เวลาสักครู่เพื่อหยุดและถามตัวเองว่าคุณรู้สึกอย่างไรและถามตัวเองว่า
คุณมีส่วนร่วมอย่างไรในที่ทำงานของคุณ หากคุณรู้สึกว่าเกิดความขัดแย้งหรือการส่ือสาร
ผิดพลาดภายในทีมของคุณ ให้ประเมินสาเหตุท่ีเป็นไปได้ และดูว่ามีส่ิงใดที่คุณพูดหรือกำลังทำ
อยู่ที่อาจทำให้ยังคงมีปัญหาอยู่อย่างต่อเน่ือง ให้ความสนใจกับความคิดและความรู้สึกของคุณ
และพยายามทำความเข้าใจว่าสถานการณ์ที่แตกต่างกันอาจส่งผลกับคุณหรือกระตุ้นปฏิกิริยา
ทางอารมณ์ได้ ในขณะที่คุณทำงาน ให้ถามว่าคุณจะสร้างผลงานได้เหมือนกันในยามที่คุณรู้สึก
ท้อแท้กับในยามท่ีคุณมีความสุขหรือไม่ และต้ังเป้าหมายเพื่อให้รู้ว่าความคิดของคุณส่งผลต่อ
ประสิทธภิ าพในการทำงานและความสามารถในการสร้างผลงานของคุณอย่างไร สัญชาตญาณ
มีความเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับความฉลาดทางอารมณ์ สัญชาตญาณเป็นเรื่องของการรับรู้
สถานการณ์ของเรา และเราสามารถใช้สัญชาตญาณเพ่ือทำความเข้าใจความรู้สึกที่แท้จริง
ของตนเอง นั่นไม่ได้เป็นการบอกว่าคุณควรทำตามสัญชาตญาณของคุณตลอดเวลาหรือไม่ควร
การพัฒนา 7Q ส่คู วามสำเรจ็ ในชีวิตและการงาน 518
สนใจสัญชาติญาณของคุณเลย แต่คุณควรรับรู้และตรวจสอบเพ่ือให้เข้าใจมุมมองและอารมณ์
ของคุณเองได้ดีข้ึนการตระหนักรู้ในตนเองยังหมายถึงการรู้จุดแข็งและจดุ อ่อนของคุณ และอยู่บน
พื้นฐานของความจริงเก่ียวกับความสามารถของคุณ การรู้จุดอ่อนของคุณเป็นข้ันตอนแรก
ในการเอาชนะจุดอ่อนเหล่านั้น ในขณะที่การรู้จุดแข็งของคุณช่วยสร้างแรงจูงใจและสุขภาวะ
ท่ัวไป
2. การควบคมุ ตนเอง
เม่ือคุณรู้วิธีจดจำและแยกแยะอารมณ์ของคุณได้แล้ว คุณจะเริ่มจัดการ
กับอารมณ์เหล่าน้ันได้ หากคุณยอมให้อารมณ์เข้ามาครอบงำการทำงาน คุณอาจจะทำงาน
ไมไ่ ด้เตม็ ความสามารถ การควบคุมตนเองหมายถึงการไมย่ อมให้ตัวเองติดอยู่กับปัจจัยภายนอก
แต่ยอมให้ตัวเองมีสมาธิกับงานที่กำลังทำเราทุกคนมีความคิดและความคิดเห็นของตัวเอง
แต่สิ่งสำคัญคือการรู้ว่าจะแสดงความคิดและความคิดเห็นเหล่าน้ันในที่ทำงานได้อย่างไร
และเม่ือใด หากคุณไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของคุณได้ อาจทำให้คนอื่นมองว่าคุณ
ไม่น่าเช่ือถือหรือเป็นคนท่ีมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม นั่นไม่ได้หมายความว่าคุณไม่ควรแสดงออก
หรือเปิดเผยความรู้สึกของคุณ แต่การจัดการตนเองหมายถึงการรับมือกับอารมณ์ของคุณ
อยา่ งเหมาะสม เปน็ มืออาชพี และมีสติ
วธิ กี ารควบคุมตนเอง
หลีกเล่ียงการตัดสินใจอย่างหุนหันพลันแล่นและการกระทำท่ีไม่มีการวางแผน
การคิดก่อนที่จะลงมือทำเป็นส่วนสำคัญของการควบคุมตนเอง ให้พิจารณาว่าการกระทำ
หรือคำพูดของคุณอาจสง่ ผลกระทบต่อคนแวดล้อมและทมี ของคณุ อย่างไร และถามว่าคุณกำลัง
ส่ือสารความคิดของคณุ ในรปู แบบทสี่ รา้ งสรรค์และมีประสิทธิภาพที่สดุ หรอื ไม่
การควบคุมตนเองเป็นสิ่งท่ีจะช่วยคุณในท่ที ำงานอย่างแน่นอน แต่คุณยังสามารถ
และควรนำเทคนิคท่ีอยู่เบ้ืองหลังมาใช้นอกเวลางานด้วย การมีความกระตือรือร้นและมีงาน
อดิเรกนอกจากการทำงาน การนอนหลับพักผ่อนอย่างเต็มที่ ตลอดจนการหาวิธีปลดปล่อย
ความโกรธหรือความหงุดหงิดได้อย่างปลอดภัยและเป็นประโยชน์ ล้วนมีความสำคัญต่อการ
ควบคุมอารมณ์ของคุณ และทำให้พลังงานของคุณมีความสมดุล เพ่ือท่ีคุณจะไม่นำความรู้สึก
เชงิ ลบมาใชใ้ นท่ีทำงานเครื่องมือและเทคนิคทอ่ี ยู่เบ้ืองหลังการควบคุมตนเองเหมือนกันกับส่งิ ที่
ปฏิบัติในการบำบัดทางความคิดและพฤติกรรม (Cognitive Behavioral Therapy: CBT)
ซ่ึงได้รับออกแบบมาเพื่อช่วยให้เราจัดการปัญหาของตนเองได้โดยการปรับกระบวนก ารคิด
การพัฒนา 7Q ส่คู วามสำเร็จในชีวติ และการงาน 519
และพฤติกรรมของเรา CBT มักใช้ในการรักษาความเจ็บป่วยทางจิตและความผิดปกติทางอารมณ์
แต่สามารถนำเทคนิคและทักษะท่ีสอนไปใช้เพื่อช่วยในการควบคุมตนเองได้อย่างแน่นอน
เทคนิคหลักบางสว่ น ได้แก่
- การแยกย่อยปัญหาและข้อกังวลของคุณ ถ้าคุณยอมให้ปัญหาเล็กๆ น้อยๆ
จำนวนมากมารวมกนั เป็นปญั หาใหญ่ การแกป้ ญั หากจ็ ะยง่ิ เป็นเร่อื งยากมาก
- การแยกแยะระหว่างปัญหาที่สามารถแก้ไขได้และปัญหาที่คุณไม่สามารถ
ควบคุมได้ และมสี มาธกิ บั การใชพ้ ลงั งานของคุณในสง่ิ ทีค่ ุณสามารถแก้ไขได้
- การให้เวลาเป็นการเฉพาะเพ่ือจัดการกับปัญหาที่เฉพาะเจาะจง และการพยายาม
อย่างเต็มที่เพื่อไม่ให้นึกถึงปัญหาจนกว่าจะถึงเวลาท่ีกำหนด ไม่ใช่ปล่อยให้ปัญหากลายเป็น
ภาระของคุณตลอดทงั้ วัน
- การฝึกการมีสติ ใช้เวลาเพื่อให้มีสมาธิกับการหายใจและแยกตัวเองออกจาก
ปัญหาของคณุ
- การถอยมามองปญั หาที่คุณเผชิญจากมุมมองของคนนอก
- การจดบันทึกความรู้สึกของคุณ ซ่ึงจะช่วยให้เห็นปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม
และกลั่นกรองปัญหาท่ีคลุมเครือ รวมถึงหาวิธีแก้ปัญหาที่สามารถดำเนินการได้หากคุณรู้สึก
ผิดหวงั หงุดหงดิ หรือมีอารมณ์เชิงลบมากเกินไป ให้ดำเนินการเพ่ือบรรเทาความรู้สึกเหล่านั้น
และเปิดใจกับเพ่ือนร่วมงานเก่ียวกับประสบการณ์ของคุณการฝึกฝนการควบคุมตนเองจะช่วย
ให้คุณปรับตัวได้ดีขึ้นในสถานท่ีทำงานและจะช่วยให้คุณมีสมาธิอยู่เสมอ หากคุณจัดการ
และจัดลำดับความสำคัญของปัญหาทางอารมณ์ได้ คุณจะสามารถจัดการและจัดลำดับ
ความสำคัญของภาระงานได้เชน่ กัน
3. แรงจูงใจ
แรงจูงใจภายใน หมายถึง ผู้ท่ีกำหนดและไล่ตามเป้าหมายเพื่อให้บรรลุผลสำเร็จ
ส่วนตัว ซึ่งไม่ใช่แรงจูงใจท่ีเกิดจากเงินทอง ช่ือเสียง หรือการประสบความสำเร็จ แต่เป็น
แรงจูงใจท่ีเกิดจากความหลงใหลและความพึงพอใจส่วนตัวการมีความซื่อสัตย์ต่อตำแหน่ง
หน้าท่ีของคุณและรู้ว่าการทำงานหนักของคุณไม่ได้มีเงินเป็นแรงผลักดัน แต่เป็นความ
ทะเยอทะยานส่วนตัว จะชว่ ยให้คุณทำงานได้ดขี ึ้นและสร้างผลงานที่มีคุณภาพมากขึ้น แนน่ อน
วา่ ความมุ่งมั่นเพ่ือให้ได้รับการช่ืนชมและการประสบความสำเร็จทางการเงินไม่ใช่เรื่องผิดปกติ
แต่ถ้าน่ันคือเหตุผลท้ังหมดท่ีคุณทำงาน คุณอาจไม่เคยรู้สึกพึงพอใจกับชีวิตการทำงาน
การพัฒนา 7Q สูค่ วามสำเร็จในชีวิตและการงาน 520
อย่างแท้จริง คุณไม่ควรทำงานหนักเพ่ือเอาใจเจ้านายและลูกค้าของคุณ แต่คุณควรมุ่งม่ัน
เพ่อื ความสำเรจ็ สว่ นตวั ท่ยี ิ่งใหญก่ วา่ นั้น โดยการเป็นคนท่มี คี วามฉลาดทางอารมณ์
วธิ กี ารรักษาแรงจงู ใจในการทำงาน
หากคุณกำลังพยายามหาแรงบันดาลใจในการทำงาน ให้ถามตัวเองว่าจริงๆ แล้ว
คณุ กำลงั มองหาอะไรในตำแหน่งและอาชพี การงานของคุณ แล้วถามตัวเองจนกวา่ จะได้คำตอบ
ท่ีชัดเจน หาสิ่งที่เป็นแรงผลักดันคุณ ส่ิงท่ีคุณต้องการเป็นในอนาคต และสิ่งที่คุณต้องทำ
เพ่ือไปให้ถึงจุดนั้น ตั้งเป้าหมายที่ท้าทาย และสมจริงซึ่งจะช่วยให้ความหลงใหลและความ
ปรารถนาส่วนตัวของคณุ เปน็ จริง เพือ่ ใหค้ ุณรู้วิธี และเหตผุ ลท่ีคณุ ทำงานเพอื่ ตัวเอง แม้ในขณะที่
คุณกำลังทำงานเพื่อคนอ่ืน การต้ังเป้าหมายเป็นประจำเป็นวิธีท่ียอดเยี่ยม เพื่อกระตุ้นให้เกิด
แรงบันดาลใจและส่งเสริมความสามารถในการสร้างผลงาน มีสมาธิกับการใช้พลังงานของคุณ
ในส่วนของงานที่คุณชอบ และให้เหตุผลกับตัวเองเพ่ือทำความเข้าใจว่าส่วนของงานท่ีคุณ
ไม่ชอบอาจมีความจำเป็นเพ่ือให้คุณทำในส่วนท่ีคุณชอบ ใช้แง่มุมของงานท่ีคุณชอบเพ่ือสร้าง
แรงบันดาลใจให้คุณในด้านอื่นๆ ถามตัวเองวา่ ทำไมคุณถึงสนุกกับแง่มุมเหล่าน้นั และทำไมคุณ
ถึงไม่ชอบงานส่วนอื่นๆ หากคุณรู้สึกไม่ประสบความสำเร็จโดยสิ้นเชิงและหมดไฟในการ
ทำงาน อาจถึงเวลาตอ้ งแจ้งใหห้ ัวหน้าของคุณทราบเก่ยี วกับเรอื่ งน้ี หากคุณไม่มีความสุขในการ
ทำงาน นั่นไม่ใช่เรื่องแย่สำหรับคุณเท่านั้น แต่ยังไม่ดีสำหรับหัวหน้าของคุณอีกด้วย ดังน้ัน
อย่ากลั ว ท่ีจะจัดการกับ ข้อกังว ล ด้วยการเผ ชิญ ห น้าโด ยตรงแรงจูงใจเป็ นที่ ส่ ง ต่อถึงกันได้
ความกระตือรือร้น การมองโลกในแง่ดี และการมีสติของคุณจะสะท้อนไปยังคนแวดล้อม
และจะช่วยสรา้ งทท่ี ำงานเชิงบวกท่ขี บั เคลอื่ นด้วยความหลงใหล ไม่ใช่ด้วยเงินค่าจ้าง
4. ความเข้าใจและเห็นใจผู้อ่ืน
ความฉลาดทางอารมณ์ไม่เพียงเก่ียวข้องกับการทำความเข้าใจตัวเองเท่านั้น
แต่ยังเป็นการพยายามทำความเข้าใจอารมณ์ของผู้อื่นด้วย แทนท่ีจะละเลยหรือไม่ให้
ความสำคัญกับอารมณ์หรือความคิดเห็นของคนอื่นหากคุณไม่เห็นด้วยกับพวกเขา ให้พยายาม
ดูสิ่งต่างๆ จากมุมมองของคนเหล่านั้น ฟังและปล่อยให้พวกเขาแสดงออก แล้วพยายามเรียนรู้
จากการโต้ตอบของคุณ เม่ือพูดถึงการจัดการความขัดแย้ง ความเข้าใจและเห็นใจผู้อ่ืน
คือส่ิงสำคัญท่ีสุดการมีความฉลาดทางอารมณ์สูง หมายถึง การมีความสามารถในการรับรู้
และเรียนร้จู ากความผิดพลาดในอดีตและเข้าใจมุมมองที่แตกต่างกัน คุณไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย
กับทุกส่ิงท่ีเพื่อนร่วมงานคนหน่ึงพูดหรือทำ แต่อย่างน้อยคุณควรพยายามทำความเข้าใจ
การพฒั นา 7Q สคู่ วามสำเรจ็ ในชวี ิตและการงาน 521
อารมณ์ของผู้อื่น เพื่อท่ีคุณจะช่วยให้พวกเขาจัดการกับอารมณ์ของตนเองได้มีความเห็นอกเห็นใจ
ต่อสมาชิกในทีมของคุณ ฟังพวกเขา และโตต้ อบอย่างสร้างสรรค์ ความก้าวร้าวหรือการละเลย
จะเป็นอุปสรรคต่อการส่ือสารและความสบายใจภายในที่ทำงานของคุณ ซ่ึงอาจส่งผลเสีย
ต่อการทำงานและความเป็นผนู้ ำของคณุ
5. ทักษะทางสังคม
การมีความตระหนักรู้ทางสังคมที่แข็งแกร่งเป็นส่วนพ้ืนฐานของการจัดการ
ความสัมพันธ์ และ EQ การมีความฉลาดทางสังคมเป็นมากกว่าเพียงการเป็นมิตรและการใช้
อโี มจหิ น้ายิ้ม (แม้จะช่วยได้จริง) แต่เป็นเร่ืองเกีย่ วกับการเขา้ ถึงได้ การมีส่วนร่วม ความโปร่งใส
และการแน่ใจว่าคนที่คุณโต้ตอบด้วยรู้สึกสบายใจและมีคนรับฟังหลีกเลี่ยงการเป็นผู้ฟัง
ที่เพิกเฉยในการสนทนา คุณต้องแน่ใจว่ามีส่วนร่วม มีการสบตา เป็นผู้มีความกระตือรือร้น
ในการพูดคุย และแสดงให้เห็นว่าคุณมีความสนใจอย่างแท้จริงและเต็มใจท่ีจะรับรู้ ได้รับ
ความไว้วางใจจากเพื่อนร่วมงานของคุณผ่านความซื่อตรงและความเห็นอกเห็นใจของคุณ
รวมถึงเป็นผู้มีความคิดเชิงบวกและมีความเมตตา พยายามระวังภาษากายทั้งของคุณและของ
ผู้อื่น การมีทักษะด้านมนุษยสัมพันธ์ที่ดี หมายถึง การมีความสามารถในการ “เข้าใจความรู้สึก
นึกคิดของผู้อ่ืน” และเข้าใจส่ิงท่ีเหมาะสมและไม่เหมาะสมโดยท่ีไม่มีใครพูดอะไรออกมา
เม่ือพูดถึงความเข้าใจและเห็นใจผู้อื่นและทักษะทางสังคม ส่ิงสำคัญคือการจำข้ันตอนต่างๆ
เหลา่ นี้
- ฟังเพ่ือนรว่ มงานของคุณ
- อยา่ ขดั จงั หวะผูอ้ ่ืน
- ต้องแนใ่ จว่าขอ้ คิดเห็นของคุณสรา้ งสรรคเ์ สมอ
- เปิดใจและจริงใจ และสนับสนนุ ใหผ้ อู้ ื่นทำแบบเดยี วกนั
- รับรู้เม่อื คุณหรอื สมาชิกในทีมรสู้ กึ หมดไฟในการทำงานและดำเนนิ การแกไ้ ข
- อทุ ิศเวลาให้กบั กจิ กรรมทางสังคม
การสื่อสารคือกญุ แจสำคญั
ที ม ที่ รู้ วิ ธี ก า ร สื่ อ ส า ร แ ล ะ ท ำ ค ว า ม เข้ า ใ จ ซ่ึ ง กั น แ ล ะ กั น จ ะ ท ำ ง า น ได้ ดี ข้ึ น
อย่างแน่นอน และทักษะที่เราได้กล่าวถึงข้างต้นล้วนเก่ียวกับการส่ือสารที่ชัดเจน ท้ังกับทีม
ข อ งคุ ณ แ ล ะ กั บ ตั ว คุ ณ เอ ง ก าร สื่ อ ส า ร ที่ ล่ื น ไห ล เป็ น สิ่ งจ ำ เป็ น ไม่ ว่ าคุ ณ จ ะ ท ำงา น ร่ ว ม กั น
ในที่ทำงานเดียวกันหรือทำงานร่วมกันจากระยะไกล การใช้เทคนิคและเคร่ืองมือต่างๆ
การพัฒนา 7Q สคู่ วามสำเรจ็ ในชวี ิตและการงาน 522
เช่น Dropbox Paper เพ่ืออำนวยความสะดวกในการสื่อสารอย่างเปิดเผยและการให้
ข้อคิดเห็นโดยตรง จะช่วยในการพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ เพราะจะช่วยให้คุณจัดการ
งานของคณุ และทำงานร่วมกับทีมของคุณได้อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพทที่ ำงานทมี่ ที ักษะความฉลาด
ทางอารมณ์ท่ีแข็งแกร่งจะได้ประสิทธิผลมากกว่า มีแรงผลักดันมากกว่า และมีสภาพแวดล้อม
ที่ดีและมีความสุขมากกว่า คุณไม่จำเป็นต้องเป็นเพื่อนสนิทกับเพื่อนร่วมงานทุกคน แต่การ
ทำความเข้าใจเพื่อนร่วมงานของคุณว่าพวกเขาคิดอย่างไร และการรู้ว่าคนอื่นมองพฤติกรรม
และการกระทำของคุณอย่างไร จะสรา้ งความแตกต่างเป็นอยา่ งมาก การทำงานท่ีมคี วามฉลาด
ทางอารมณ์ หมายถึง การไม่ยอมให้อารมณ์ของคุณมารบกวนคุณภาพงานหรือความสัมพันธ์
กับทีมของคุณ ซึ่งหมายความถึงการรู้วิธีการใช้ประโยชน์จากจุดแข็งของคุณ การรู้และเอาชนะ
จุดอ่อนของคุณ คนที่มีความฉลาดทางอารมณ์อย่างแท้จริงจะไม่เพิกเฉยต่อปัญหา
หรือความรู้สึกด้านลบ แต่จะเผชิญหน้ากับปัญหาตามความเป็นจริง EQ สูงในท่ีทำงาน
มีความสำคัญมากกว่าหรือเท่ากับ IQ การฝึกฝนและการพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์จะช่วย
ให้คุณเพิ่มความม่ันใจในตนเอง การควบคุมตนเอง ทักษะในการตัดสินใจ และสุขภาพจิต
โดยรวม
สง่ เสรมิ การสอื่ สารอยา่ งเปดิ เผย
https://www.dropbox.com/th_TH/business/resources/emotional-intelligence
ความฉลาดทางอารมณ์ (Emotional Intelligence) โดย ภญ.ธันยพร จารุไพศาล
IQ EQ AQ MQและSQ สำหรับนักบริหาร
IQ EQ AQ MQและSQ ตัวอักษรย่อภาษาอังกฤษเหล่าน้ี มักมีผู้สนใจ อีกทั้ง
ต้องการท่ีจะทราบความหมายว่าหมายความว่าอย่างไรและสำหรับผู้ท่ีเป็นนักบริหารตัวอักษร
ย่อภาษาองั กฤษเหล่านี้เปน็ เรอ่ื งทคี่ วรจะศึกษาและทำความเข้าใจ
IQ ย่อมาจาก Intelligence Quotient หมายถึง ความฉลาดความสามารถ
ทางเชาว์ปัญญา ซ่ึงถูกถ่ายทอดทางพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อมเป็นปัจจัยที่คอยส่งเสริม
เชาว์ปัญญาเป็นสิ่งที่เป็นนามธรรมจับต้องไม่ได้ แต่สามารถแสดงออกโดยผ่านพฤติกรรมต่างๆ
ของบุคคลสำหรับการวัดไอคิว เราสามารถวัดได้จากแบบทดสอบหรือเคร่ืองมือ
ท่ีนักวิทยาศาสตร์คิดค้นโดยมีการแบ่งออกเป็นทักษะต่างๆคือทักษะด้านคณิตศาสตร์ ทักษะ
การพัฒนา 7Q ส่คู วามสำเร็จในชวี ติ และการงาน 523
ด้านการคิด ทักษะด้านความจำ ทักษะด้านการใช้ภาษา ทักษะด้านความเร็วในการคำนวณ
ต่างเป็นต้นปัจจัยต่างๆ ท่ีส่งผลกระทบต่อสมองหรือการพัฒนาไอคิว เช่น การขาดสารอาหาร
ท่ีจำเป็นต่อร่างกายและสมอง ความเครียด ความกดดัน ขาดการออกกำลังกาย ขาดการ
พักผ่อน ขาดการฝึกฝนการใช้ความคิด การมองตนเองในด้านลบ การใช้สารยาเสพติดต่างๆ
การเลี้ยงดู การอบรมภายในครอบครัวเป็นตน้
นักบริหารที่มีไอควิ ท่สี ูง มักได้เปรียบนกั บริหารที่มีไอควิ ทต่ี ่ำ เพราะนักบริหารที่มี
ไอคิวท่ีสูง มักคิดได้ไวกว่า,ตัดสินใจแก้ปัญหาต่างๆได้ดีกว่า,เรียนรู้งานหรือส่ิงต่างๆ ได้เร็วกว่า
เปน็ ต้น
EQ ย่อมาจาก Emotional Quotient หมายถึง เชาว์อารมณ์ หรือความฉลาด
ทางอารมณ์ คือ การรู้จักเรียนรู้ความรู้สึกอารมณ์ของตนเองและผู้อ่ืน อีกทั้งสามารถบริหาร
จัดการกับอารมณ์ต่างๆได้ มีงานวิจัยออกมาหลายชิ้นพบว่า บางคนมี IQ ที่สูง มีความฉลาด
ทางสติปัญ ญ า แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต ก็เน่ืองมาจากการขาด EQ เช่น
นักวิทยาศาสตร์ระดับโลกหลายๆคน มีความฉลาดทางปัญญาระดับอัจฉริยะ แต่ครอบครัว
แตกแยก ภรรยาขอเลิกหรอื ทำงานรว่ มกนั คนอ่ืนๆ ไมไ่ ด้ เป็นตน้
ดังน้ันการเป็นนักบริหารท่ีประสบความสำเร็จควรมีทักษะด้าน EQ ให้มาก
เนื่องจากการทำงานภายในองค์กรมักจะต้องทำงานร่วมกันกับคน นักบริหารที่สามารถปรับ
อารมณ์ของตนเองและเรียนรู้อารมณ์ของผู้อ่ืนมักจะประสบความสำเร็จในการทำงานต่ างๆ
ได้เป็นอย่างดี
AQ ย่อมาจาก Adversity Quotient หมายถึง ความสามารถในการฝันฝ่า
อปุ สรรคปัญหาต่างๆ ทั้งตอ้ งมีความอดทน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ ร่างกาย จิตใจ เพื่อที่จะบรรลุ
ถึงเป้าหมายที่วางเอาไว้ตัวอย่างเช่นนักไต่เขา3คนคนท่ี 1 เมื่อเห็นภูเขาสูงๆ แล้ว ปฏิเสธ
ไม่อยากท่ีจะปีนเพราะกลัวเหนื่อย ท้ังๆ ที่ตนเองก็สามารถปีนขึ้นได้ เราเรียกนักไต่เขาคนน้ีว่า
“Quitters” หรือ ผู้ท่ีไม่ยอมเดินทางหรือหยุดเดินทางเมื่อเจอปัญหาอุปสรรคมีลักษณะ
ของการหลบเล่ียงคนที่ 2 เมื่อปีนเขาไปได้สักครึ่งทาง บ่นว่าเหนื่อยแล้วหยุดพักตั้งเต้นท์
แล้วไม่ยอมปีนต่อ สำหรับลักษณะของคนท่ี 2 เม่ืออยู่ภายในองค์กรมักไม่ชอบทำตนให้เด่นเกิน
หน้าใคร เราเรียกนักไต่เขาคนน้ีว่า “Campers” หรือผู้หยุดพักพิงเม่ือได้ท่ีเหมาะ คนท่ี 3
จะพยายามปีนให้ไปถึงจุดสูงสุดบนยอดเขา เป็นนักปีนเขาที่อุทิศตนไม่หยุดย้ัง ชอบความ
ท้าทาย มีแรงจูงใจ มีวินัย เม่ือปีนถึงจุดสูงสุดบนยอดเขา มักจะพูดกับตัวเองและผู้คนรอบข้าง
ว่า “ มเี ขาลูกไหนท่ีสูงกวา่ น้ีให้ปีนอีกไหม” เราเรียกนักไต่เขาคนนี้ว่า“Climbers”หรือผู้ทร่ี ุกไป
การพฒั นา 7Q สคู่ วามสำเรจ็ ในชวี ิตและการงาน 524
ข้างหน้าไม่หยุดยั้งเม่ือท่านเป็นนักบริหาร ท่านลองสำรวจตัวท่านเองหรือลูกน้องของท่านว่า
ตัวท่านเองหรอื ลกู นอ้ งมีลักษณะเหมือนนกั ปีนเขาคนใด เพราะถา้ หากทา่ นเหมือนกับนักปนี เขา
คนท่ี 1 และคนที่ 2 ท่านมีโอกาสเป็นผู้แพ้มากกว่าผู้ทช่ี นะ แตถ่ ้าหากท่านหรือลูกน้องของท่าน
มีลักษณะเหมือนนักปีนเขาคนที่ 3 ท่านและลูกน้องคนนั้นๆ มีโอกาสในการเป็นผู้ชนะมากกว่า
ผพู้ า่ ยแพ้
MQ ย่ อ ม าจ าก ค ำว่ า “Moral Oral Quotient” ห ม าย ถึ ง ค ว าม ฉ ล าด
ทางจริยธรรม ศีลธรรม หากว่าผู้ใดท่ีมี MQ สูง คนๆ น้ันก็จะมีลักษณะท่ีรู้จักให้อภัย
ลดความเห็นแก่ตัว มีความซื่อสัตย์สุจริต ซ่ึงสังคมไทยเรามีปัญหามาก ในเรื่องของ MQ จึงเกิด
การทุจริต คอรปั ชั่น ในองค์กร หน่วยงานต่างๆ มากมายข้ึนในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นวงการ
การเมือง วงการข้าราชการระดบั สงู วงการธรุ กิจตา่ งๆ เป็นต้น
การจะปลูกฝังเรื่องของ MQ เป็นเร่ืองยากเพราะต้องปลุกฝังต้ังแต่เด็ก โดยการสอน
การอบรมอีกทั้งผู้ใหญ่ควรประพฤติปฏิบัติให้เป็นแบบอย่างท่ีดีด้วยMQ สำหรับนักบริหาร
ถ้าหากว่านักบริหารท่านใดมี MQ สูง มักจะได้รับการยกย่อง ความน่าเช่ือถือ ความไว้วางใจ
มากกวา่ นกั บรหิ ารที่มี MQ ตำ่
SQ ย่อมาจากคำว่า Social Quotient หมายถึง ความฉลาดทางสังคม
เป็นความสามารถในการปรับตัวในการเข้าสังคมได้ดี เป็นบุคคลท่ีมีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี มีทักษะ
ในการพดู จายมิ้ แย้มแจม่ ใสมีบคุ ลกิ ภาพทด่ี ี
ดังนั้นการเป็นนักบริหารท่ีประสบความสำเร็จควรมีทักษะด้าน SQ เนื่องจาก
การทำงานบริหารเรามีความจำเป็นจะต้องมีการบริหารคนใช้คนทำงาน แทนเราอีกท้ังต้องมี
การพบปะผู้คนท่ีมากมายเพื่อการสร้างโอกาสในด้านธุรกิจอีกด้วย ดังคำกล่าวของสุภาษิตจีน
ทกี่ ล่าวไว้วา่ “นกไมม่ ีขนคนไมม่ เี พ่อื นขน้ึ สทู่ ส่ี งู ได้ยาก”
โดยสรุป IQ EQ AQ MQ และ SQ กระผมเช่ือว่าพวกเราทุกๆ คนมี แต่มีความ
แตกต่างกันหรือมีไม่เท่ากัน ซึ่งในความคิดเห็นส่วนตัวของกระผม นักบริหารที่ประสบ
ความสำเร็จ ควรจะต้องมี IQ EQ AQ MQ และ SQ ที่มีสัดส่วนท่ีมีความสมดุลกัน ไม่มีตัวไหน
ที่มากเกินไปหรือน้อยเกินไป การเดินทางสายกลางจึงเป็นสิ่งท่ีเหมาะสมดังคำสอน
ของพระพุทธเจา้ ในทางพทุ ธศาสนา คอื ไมต่ ึงจนเกนิ ไป หรอื ไมห่ ย่อนจนเกนิ ไป
การพัฒนา 7Q สคู่ วามสำเรจ็ ในชีวติ และการงาน 525
เตมิ ไฟในการทำงาน
เพิ่มมิตร พิชิตโอกาส คนที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน มักมีองค์ประกอบ
หลายอย่าง แต่มีองค์ประกอบท่ีสำคญั องค์ประกอบหนึ่ง คือ เร่ืองของการมีเพ่ือนมาก การรู้จัก
คนมากๆ เพราะการรู้จักคนมากๆ คือโอกาสในการทำงานหรือการทำธุรกิจ ดังจะเห็นได้จาก
หลายๆ คนมักไปอบรม ไปเรียนต่อ ไปสัมมนา ไปทำกิจกรรมต่างๆ เช่น เล่นกีฬา การไปร่วม
ทำบุญ การเข้าชมรม สมาคม สโมสร ฯลฯ ก็เพ่ือท่ีจะได้มีโอกาสรู้จักคนให้มากข้ึน
ผูกมิตร พิชิตงาน หลายคนมีเพื่อนมาก แต่เมื่อคบไปนานๆ เพื่อนก็ลดน้อยลง จึงหันไปหามิตร
ใหม่ๆ อยู่เรื่อยๆ สาเหตุหน่ึงที่ทำให้คนไม่อยากจะคบเราก็คือ การที่ไม่รู้จักผูกมิตรนั้นเอง
เทคนิคของการผูกมิตรมีอยู่หลายเทคนิค เช่น การชม เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่ง
เม่อื ปรากฏกับผู้ใด ผคู้ นก็มกั จะชนื่ ชอบคนๆ น้ัน ย้ิม เม่อื เรายม้ิ บอ่ ยๆ ยิ้มมากๆ ผู้คนกม็ ักท่ีจะ
อยากคบกับเรา อยากเข้ามาทักทายเรา พูดจาดี มีปิยวาจา คนท่ีพูดแล้ว เกิดประโยชน์
พูดในด้านดีๆ ไม่พูดหยาบคาย ไม่พูดประชด ไม่พูดให้ร้ายใครผู้คนมักจะชื่นชอบ มีมนุษย์สัมพันธ์
บคุ คลที่มีมนุษยส์ ัมพันธ์มกั มีเพ่ือนมาก เพราะคนท่มี ีมนุษย์สัมพันธ์ มักเป็นท่ีเข้าใจคนอน่ื ๆ ได้ดี
เป็นต้น ลดการโต้เถียง เพ่ือพิชิตมิตร การโต้เถียง หากว่าหลีกเลี่ยงได้ก็ควรหลีกเลี่ยง
เพราะการโต้เถียง มักทำให้มิตรภาพขาดลง เพราะน้อยคนนัก ท่ีจะโต้เถียงกันอย่างสงบ ไม่ใช้
อารมณ์ในการโต้เถียง อีกท้ังหากพวกเราลองสังเกตดู เม่ือเราโต้เถียงคนอ่ืนๆ ชนะบ่อยๆ เข้า
เพื่อนของเรากม็ ักจะลดน้อยลงหรอื หนจี ากเราไปเพ่ิมงาน โดยการรู้จกั บรหิ ารเวลา เม่ือเรารู้จัก
บริหารเวลา ปริมาณงานของเราก็จะเพ่ิมมากขึ้น คุณภาพของงานของเราก็จะดีข้ึน เรามีเวลา
เหลือที่จะทำกิจกรรมอ่ืนๆ ได้มากย่ิงขึ้นความเครียดความกดดันก็จะลดลงฝึกคิด ฝึกตัดสินใจ
การทำงาน การใช้ชีวิต เราต้องยอมรับกันว่า เราไม่สามารถหลีกหนีการตัดสินใจไปได้เลย
ยิ่งถา้ หากพวกเราเปน็ นักบรหิ าร การตดั สินใจกม็ กั จะมากขึน้ เป็นลำดับไป
เทคนิคการตัดสินใจท่ีดี เราควรท่ีจะต้องหาข้อมูลให้มากขึ้น เราควรหาทางเลือก
ให้มากข้ึน เราควรพิจารณาข้อดีข้อเสียของแต่ละทางเลือก แล้วค่อยตัดสินใจ การตัดสินใจ
ของเราก็จะดีกว่าเดิมเป็นอันมาก ความผิดพลาดก็จะลดน้อยลงหัดกล่าวคำว่า “ขอบคุณ”
คำเพียงสองคำ สามารถสร้างความประทับใจแก่ผู้ฟังเป็นอันมาก เพราะคนที่คอยให้ความ
ช่วยเหลือเรา เขาอยากได้ยินคำๆ น้ี ซึ่งการกล่าวคำว่า “ขอบคุณ” ที่ดีเราจำเป็นจะต้องมอง
หน้าคนที่เราต้องการ “ขอบคุณ” ในขณะที่พูด ควรขอบคุณด้วยความจริงใจและควรฝึกใช้
อย่างสม่ำเสมอควรฟัง มากกว่าพูด ในการสนทนากัน เราควรที่จะเป็นผู้ฟังมากกว่าเป็นผู้พูด
การพฒั นา 7Q สูค่ วามสำเร็จในชวี ติ และการงาน 526
ธรรมชาติสร้างหูมาสองข้าง แต่สร้างปากมาแค่หนึ่งปาก ฉะนั้น ธรรมชาตคิ งต้องการให้เราได้มี
โอกาสฟังมากๆ แต่ในการสนทนากนั พวกเรามกั ชอบทำในสง่ิ ที่ตรงกนั ข้ามคอื ชอบพดู มากกว่า
ชอบฟัง อีกท้งั บางคนพูดมากจนไมเ่ ปิดโอกาสใหค้ ู่สนทนาไดพ้ ูดเลยกม็ ี เข้ากับเจา้ นายได้เปน็ ต่อ
พวกเราคงเคยได้ยินมาว่า กฎของการทำงานข้อที่หน่ึง คือ เจ้านายถูกต้องเสมอ กฎข้อท่ีสอง
หากเจ้านายผดิ ลองกลับไปดขู ้อท่หี นึ่งใหม่
ฉะน้ัน ในการทำงานร่วมกันในองค์กร หากผู้ใดต้องการความก้าวหน้า เร่ืองของ
ความสัมพันธ์ระหว่างตนเองกับเจ้านายเป็นสิ่งท่ีควรท่ีจะพิจารณา และสิ่งท่ีสำคัญท่ีสุด
จงหางานท่ีตนเองรัก แล้วท่านจะประสบความสำเร็จ ความรักมีอนุภาพท่ียิ่งใหญ่ พวกเรา
ส่วนใหญ่มักทำงานเพ่ือเงิน ส่ิงที่ได้รับก็คือ ความเบื่อหน่าย ความท้อแท้ การขาดความ
กระตือรือร้นในการทำงาน ก็จะเกิดขึ้นเม่ือเราได้ทำงานไประยะหนึ่ง แต่ตรงกันข้าม หากว่า
เรามีความรักในงานที่ตนเองทำ เราก็จะมีความขยันทำงาน เราก็จะเกิดความสุขในการทำงาน
ทำงานได้ทั้งวัน ไม่เกิดความเบ่ือหน่าย นักเขียนหลายท่าน สามารถเขียนหนังสือได้หลายเล่ม
ทั้งๆ ที่อยู่ในเรือนจำหรืออยู่ในคุก โดยเขียนหนังสืออย่างมีความสุข นักวิทยาศาสตร์ระดับโลก
หลายคน ทำงานอย่ใู นหอ้ งเล็กๆได้ทัง้ วันท้ังคนื อยา่ งมคี วามสขุ เปน็ ต้น
เติมไฟในการทำงานโดย..ดร.สทุ ธิชัย ปัญญโรจน์ www.drsuthichai.com
การพัฒนา 7Q สู่ความสำเร็จในชวี ิตและการงาน 527
ภาคผนวก
การพฒั นา 7Q สู่ความสำเรจ็ ในชวี ติ และการงาน 5
การพฒั นา 7Q ส่คู วามสำเรจ็ ในชีวิตและการงาน
การพัฒนา 7Q สู่ความสำเร็จในชีวิตและการงาน 5
การพัฒนา 7Q สู่ความสำเร็จในชีวิตและการงาน 5
การพฒั นา 7Q สู่ความสำเรจ็ ในชีวติ และการงาน 5
เอกสารอา้ งองิ
ธนั ยพร จารไุ พศาล.(2564). ความฉลาดทางอารมณ์ (Emotional Intelligence). สบื คน้ เมอื่
10 พฤษภาคม 2564 , จากhttps://dropbox.com/th_TH/business/resources/
emotional-intelligence.
สทุ ธิชยั ปญั ญาโรจน์ .(2560). IQ EQ AQ CQ PQ และSQ ในการพัฒนาตนเอง. สบื ค้นเมื่อ
1 พฤษภาคม 2564,จาก www.drsuthichai.com.
HELLO! Education.ความฉลาดของเด็กยุคใหม่ ไมไ่ ด้มีแค่ IQและ EQ แต่มถี ึง 7Q.สบื คน้
เมือ่ วันท่ี 18 พฤษภาคม 2564,จากhttps://th.hellomagazine.com/education/know-
7q-of-children/.
LearnEducation. 7Q ความฉลาด 7 ด้านเพื่อความสุขในชวี ิต. สบื คน้ เม่อื วนั ที่ 1 พฤษภาคม
2564,จาก https://undubzapp.com/.
trueplookpanya .(2564).เปิด 7 ข้ันสร้างความฉลาด 7 ดา้ น เพื่อความสุขในชีวติ .สืบคน้ เมอ่ื
8 พฤษภาคม 2564, จาก https://www.aksorn.com/iq-eq-mq.
การพฒั นา 7Q สู่ความสำเร็จในชีวติ และการงาน 5
การจดั การความรู้ (Knowledge Management : KM)
เร่อื ง “การพฒั นา 7Q สคู่ วามสำเรจ็ ในชีวติ และการงาน”
เจา้ ของและผูจ้ ัดพิมพ์ :
สำนักงานส่งเสรมิ และสนับสนนุ วชิ าการ 9
บรเิ วณศูนยร์ าชการจังหวดั เชียงใหม่ ถนนโชตนา
ตำบลชา้ งเผือก อำเภอเมืองเชยี งใหม่
จังหวัดเชียงใหม่ 50300
โทรศพั ท์ 053-112485-6 โทรสาร 053-112491
Email: [email protected] เวป็ ไซต์ [email protected]
ทีป่ รึกษาโครงการ :
นายธนู ธแิ ก้ว ผ้อู ำนวยการสำนักงานสง่ เสรมิ และสนบั สนนุ วชิ าการ 9
นางสาวอัจฉรา สใุ จ นกั พฒั นาสังคมชำนาญการพเิ ศษ
คณะทำงาน :
สำนักงานสง่ เสริมและสนบั สนุนวิชาการ 9
นางพรรครนิ อุดมวฒั นานันท์ นกั พัฒนาสงั คมชำนาญการ
นางสาวณชิ รัตน์ ยานะ เจา้ พนกั งานพัฒนาสังคมปฏบิ ัติงาน
นางสาวแคทรยิ า ฆววี งศ์ นกั พฒั นาสังคม
นางสาวจรี าวรรณ แกว้ ธรรมานุกลู พนักงานระบบคอมพวิ เตอร์
ปก-รูปเล่ม :
นางสาวแคทรยิ า ฆววี งศ์ นกั พัฒนาสังคม
นางสาวจีราวรรณ แก้วธรรมานุกลู พนักงานระบบคอมพวิ เตอร์
การพฒั นา 7Q สคู่ วามสำเร็จในชวี ิตและการงาน 5
การจัดการความรู้
สง่ ผลให้บคุ ลากรเกดิ การพัฒนาการเรยี นรู้
เกดิ ชมุ ชนการเรยี นรู้
ความรูข้ ององคก์ ร
เป็นองค์กรเป็นองค์กรแห่งการเรยี นรู้
การพัฒนา 7Q สู่ความสำเร็จในชีวิตและการงาน 5