คำนำ ก
ด้วยกระทรวงวัฒนธรรม มีนโยบายในการส่งเสริมพัฒนาแหล่งเรียนรู้ของชุมชน/
ท้องถ่ินในมิติทางวัฒนธรรม เพ่ือให้เป็นพ้ืนที่แห่งการศึกษาเรียนรู้ข้อมูลสารสนเทศ องค์ความรู้
และประสบการณ์ตามอัธยาศัย เป็นแหล่งเรียนรู้ตลอดชีวิต เสริมสร้างความรู้ ความคิดของคน
ทุกช่วงวัย ตลอดจนเกิดการอนุรักษ์สืบสานศิลปวัฒนธรรม มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ประเพณี
วถิ ชี ีวติ ทดี่ ีงาม ให้มคี วามยัง่ ยืนสืบตอ่ ไป
สานักงานวัฒนธรรมจังหวัดสุรินทร์ ได้ดาเนินสารวจเลือกแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรม
ชุมชนและห้องสมุดชุมชน ในมิติทางวัฒนธรรมที่มีศักยภาพและความพร้อม ประเภทละ 2 แห่ง
ให้เป็นพื้นท่ีแห่งการศึกษาเรียนรู้ข้อมูลสารสนเทศ องค์ความรู้ และประสบการณ์ตามอัธยาศัย
เปน็ แหล่งเรียนรตู้ ลอดชีวิตตลอดไป
สานักงานวัฒนธรรมจังหวดั สรุ ินทร์
สำรบญั ข
แหล่งเรียนร้ทู ำงวฒั นธรรมวดั ปำ่ อำเจียง หนำ้
แหล่งเรยี นรทู้ ำงวัฒนธรรมบ้ำนช่ำงปี่ 1
14
หอ้ งสมดุ ชุมชน หอสมดุ และเทคโนโลยสี ำรสนเทศ
มหำวทิ ยำลยั มหำจฬุ ำลงกรณรำชวทิ ยำลัย วทิ ยำเขตสุรนิ ทร์ 24
34
ห้องสมดุ ชุมชนโรงเรยี นบวรธรรมประยตุ วิทยำ
34
1
แหลง่ เรยี นร้ทู ำงวฒั นธรรมวดั ปำ่ อำเจียง
หมู่ที่ 14 ตำบลกระโพ อำเภอท่ำตูม จงั หวดั สรุ นิ ทร์
๑. กำรบรหิ ำรจดั กำร
1) การบรหิ ารจดั การในภาพรวม
วดั ป่าอาเจยี ง เป็นการนาภาษาถ่ิน (กวย ) มาต้ังช่ือวัดเพ่ือเป็นการอนุรักษ์มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม
ด้านภาษา และมีแนวคิดสร้างวัดคือ ช้างคู่กับพระพุทธศาสนา โดยนา “คชศาสตร์ชาวกูย” มาใช้ในการอนุรักษ์
วัฒนธรรมใหย้ ั่งยืน
ชมุ ชนในพื้นทีว่ ดั ปา่ อาเจียงส่วนมากเปน็ ชมุ ชนชาวกวยอาเจยี ง หรอื ชุมชนชาวกวยเลี้ยงช้าง มีการสืบสาน
วัฒนธรรม วิถีชวี ิตและภมู ิปญั ญาจากรุน่ ส่รู นุ่ เป็นเครอ่ื งหลอ่ หลอมสมาชิกในชุมชนให้เกิดความผูกพัน สามัคคี อบรมขัดเกลา
ให้มีทัศนคติความเช่ือท่ีสอดคล้องกัน ชาวบ้านมีวิถีชีวิตผูกพันระหว่างคนกับช้าง ช้างคือส่วนหน่ึงในครอบครัว
เพ่ือเป็นการรักษาและสืบทอดมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาวกวยอาเจียง จึงได้จัดกิจกรรมต่าง ๆ โดยมีช้าง
เข้ามาเก่ียวข้องขน้ึ มา เชน่ การสืบสานตานานหมอชา้ ง โดยการปะชหิ มอชา้ ง หรือเลื่อนขั้นหมอช้าง เป็นการสืบทอด
วฒั นธรรมทีห่ าดไู ด้ยาก กฐนิ ชา้ ง ซ่งึ ไดท้ าขบวนแหบ่ นเกวยี นประดับด้วยผ้าไหมอย่างสวยงาม แล้วให้ช้างเป็นผู้ดึง
ขบวนแห่กฐินร่วมกับชุมชน การบวชนาคบนหลังช้าง ตามประเพณีของชาวกวยเล้ียงช้าง การแสดงการราคล้อง
ช้าง ตามวิถีชีวิตของชาวกวยเลี้ยงช้างในอดีต รวมทั้ง “ซัดเต” ซึ่งเป็นพิธีแต่งงานแบบชาวกวย วัดป่าอาเจียง
เป็นแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรม ประกอบด้วย ศาลาเอราวัณ(ช้าง) สร้างศาลประกาใช้สาหรับประกอบพิธีกรรม
ต่างๆ ตามประเพณี สร้างสุสานช้าง พิพิธภัณฑ์วิถีชีวิตชาวกูย/กวย สร้างโรงทอผ้าไหมและโรงทากระดาษสา
จากมูลชา้ ง เป็นต้น
จากผลการดาเนินงานบริหารจัดการแหลง่ ทอ่ งเที่ยวทางวัฒนธรรม จงึ ทาใหว้ ัดปา่ อาเจยี งไดร้ ับรางวัลดีเด่น
ปี พ.ศ. ๒๕๖๒ จากกระทรวงวัฒนธรรม ด้านมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม คชศาสตร์ชาวกูย และได้รับรางวัล
จากหน่วยงานภาครฐั และเอกชนท้งั ในและตา่ งประเทศ ประกอบกบั ชมุ ชนบ้านหนองบัวซ่งึ อยู่ในพนื้ ทว่ี ัดปา่ อาเจียง
ได้รับคัดเลอื กใหเ้ ปน็ ต้นแบบชมุ ชนทอ่ งเทย่ี ว OTOP นวัตวิถี จังหวัดสรุ ินทร์ และได้รับคัดเลือกเป็นชุมชนคุณธรรม
นอ้ มนาหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง ขับเคลือ่ นดว้ ยพลงั บวรต้นแบบโดดเด่น จังหวัดสุรินทร์ ปี พ.ศ. 2563
ดังนน้ั วัดป่าอาเจยี งจึงถือว่าเป็นแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรมท่ีสาคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดสุรินทร์ที่เกี่ยวกับวิถีชีวิต
คนกับช้างทน่ี กั ท่องเท่ยี วนยิ มมาศึกษาดูงานเป็นประจาทกุ วัน
ศาลาเอราวณั ซมุ้ ประตูทางเข้าชา้ งคู่ สสุ านช้าง
2
๒) การบรหิ ารจัดการในรูปแบบคณะกรรมการ คณะทางานหรอื บุคคล
การบริหารจัดการแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรมวัดป่าอาเจียง เป็นการบริหารจัดการในรูปแบบ
ของคณะทางานมีหน้าท่ีในการขับเคลือ่ นการดาเนนิ งานของแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรม โดยมีพระครูสมุห์คาหาญ
ปัญญธโร เจ้าอาวาสวัดป่าอาเจียง เป็นที่ปรึกษา มีผู้นาชุมชน ปราชญ์ชาวบ้าน สถานศึกษา นักเล่าเร่ืองท้องถ่ิน
ร่วมเปน็ คณะทางานดังกลา่ ว
ภาพการประชมุ คณะทางาน
๓) การประชุมของคณะกรรมการ/คณะทางาน และมแี ผนการจัดกจิ กรรมประจาปี
ไ ด้ มีดา เนิน ก าร จัด ปร ะ ชุ มคณะ ทาง า น เพื่ อ ปรั บ ปรุ ง ทบทว น แผ น กิ จก ร ร มป ร ะ จา ปี
อยา่ งน้อย 4 เดือนคร้ัง ร่วมกับภาคีเครือข่ายทางวัฒนธรรม เช่น สานักงานวัฒนธรรมจังหวัดสุรินทร์ สมาคม
ท่องเที่ยวจังหวัดสุรินทร์ การท่องเท่ียวแห่งประเทศไทยจังหวัดสุรินทร์ สานักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดสุรินทร์
อาเภอ ชมรมชาวกูยแห่งประเทศไทย เป็นตน้
ภาพการประชุมรว่ มกับสานักงานวฒั นธรรมจงั หวดั สุรินทร์
๒. กำรระดมทรพั ยำกร
๑) การจดั หางบประมาณ
การจัดหางบประมาณเพ่ือบริหารจัดการแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรมวัดปา่ อาเจียง มีดงั น้ี
(1) การบรจิ าคร่วมทาบญุ ของนกั ทอ่ งเทย่ี ว จานวน 20,000 บาท
(2) การจาหนา่ ยผา้ ไหม จากโรงทอผา้ ผู้สงู อายุ จานวน 50,000 บาท
(3) การจาหน่ายของฝากท่รี ะลกึ จานวน 20,000 บาท
(4) การบริจาคร่วมสร้างศาลพระครูปะกาชา้ ง จานวน 100,000 บาท
รวมเป็นเงินท้ังสน้ิ 190,000 บาท
3
จาหน่ายสินคา้ ทร่ี ะลกึ บวงสรวงพระครูปะกาชา้ ง จาหนา่ ยชุดพนื้ บา้ น
๒) การสนบั สนนุ ทรพั ยากรทางการบริหารอนื่ ๆ อาทิ คน วัสดอุ ุปกรณ์
วัดปา่ อาเจยี ง เปน็ สถานที่สาคญั ของจงั หวดั สรุ นิ ทร์ มีหน่วยงานต่างๆ ร่วมบูรณาการการทางาน ดงั น้ี
(1) โครงการสืบสานงานบญุ วนั ชา้ งไทย จงั หวดั สุรินทร์ โดยสานกั งานวฒั นธรรมจงั หวัดสรุ นิ ทร์
งบประมาณ 15,000 บาท
(2) โครงการวถิ ชี มุ ชน คนรักษ์ช้าง สรา้ งชอ่ื ไทย จัดโดย สานกั งานวัฒนธรรมจงั หวดั สรุ นิ ทร์
งบประมาณ 300,000 บาท
(3) การส่งมอบผลงาน “บ้านคน บา้ นช้าง” ให้จงั หวดั สรุ ินทร์ โดย สานักงานศิลปวฒั นธรรม
ร่วมสมยั กระทรวงวฒั นธรรม งบประมาณ 300,000 บาท
(4 ) โครงการพัฒนาต่อยอดทุนทางวัฒนธรรมตามรอยศาสตร์พระราชาเพื่อชุมชนเข้มแข็งอย่างย่ังยืน
บวร On Tour ชุมชนคุณธรรมนอ้ มนาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ขับเคล่ือนด้วยพลังบวรต้นแบบจังหวัด
สุรินทร์ โครงการพัฒนาต่อยอดทุนทางวัฒนธรรม ตามรอยศาสตร์พระราชาเพื่อชุมชนเข้มแข็งอย่างย่ังยืน
( บวร On Tour) โดยสานักงานวฒั นธรรมจงั หวัดสรุ ินทร์ งบประมาณ 200,000 บาท
(5) นางสาวกัญจนา ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา และ นายประภัตร โพธสุธน
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีจิตเมตตามาช่วยเหลืออาหารช้างท่ีประสบปัญหาโรคระบาด
โควดิ รอบ 2 งบประมาณ 30,000 บาท
(6) การพัฒนายกระดับคุณภาพของโฮมสเตย์ บ้านหนองบัว จากผู้เชี่ยวชาญ อาจารย์ มหาวิทยาลัยราช
ภัฏสุรนิ ทรโ์ ดยการนาเอาวัสดทุ มี่ อี ยแู่ ลว้ ในชมุ ชน เอามาตกแตง่ ใหใ้ ชป้ ระโยชน์ได้หลากหลาย เช่น เอาใบตองมาทา
ท่ีใส่ช้อน ใส่แปรงสีฟัน ฝาครอบแก้วและอื่นๆอีกมากมาย และนาผ้าลายเอกลักษณ์มาปรับใช้ในตัวบ้าน
เพอ่ื สร้างความประทับใจแก่แขกผู้มาเยอื น งบประมาณ 50,000 บาท
( 7 ) ก า ร ถ่ า ย ท า ก า ร สั ม ผั ส วิ ถี ชี วิ ต ช า ว ก ว ย อ า เ จี ย ง บ้ า น ห น อ ง บั ว ณ วั ด ป่ า อ า เ จี ย ง
โดยการทอ่ งเท่ยี วแหง่ ประเทศไทย จังหวัดสรุ ินทร์ งบประมาณ 100,000 บาท
รวมเปน็ มูลค่าเงนิ ทั้ง 795,000 บาท
4
โครงการตอ่ ยอด บวร ออนทวั ร์ ร่วมรับมอบบ้านคนบา้ นช้าง” ถ่ายทาการสัมผัสวถิ ชี ีวิตชาวกวยอาเจียง
สานกั งานวัฒนธรรมจงั หวัดสรุ ินทร์
จากสานักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย การทอ่ งเท่ียวแหง่ ประเทศไทย (สุรนิ ทร์)
๓. ด้ำนอำคำรสถำนที่
๑) ท่ีต้งั และลกั ษณะอาคาร
วัดปา่ อาเจยี ง ตัง้ อยู่ในชุมชนบ้านหนองบวั หมู่ที่ 14 ตาบลกระโพ อาเภอทา่ ตมู จังหวดั สุรินทร์
วัดป่าอาเจียง จะมีเอกลักษณ์ที่บ่งบอกถึงชาวกวยเล้ียงช้าง เร่ิมตั้งแต่ประตูทางเข้าวัดจะพบช้างคู่มียอดฉัตร
อยู่ด้านบน ภายในวัดจะประกอบไปด้วย ศาลาเอราวัณ ท่ีถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ศึกษา เร่ืองราวช้าง
ในพระไตรปิฏก และเรื่องราวของช้างใน จ.สุรินทร์ ให้เห็นถึงวัฒนธรรมความผูกพันของชาวกวยคนเล้ียงช้าง
วิถีชีวิตของคนกับช้าง และพิพิธภัณฑ์ชาวกวย/กูย ที่ได้รวบรวมเครื่องมือเคร่ืองใช้ เครื่องทามาหากิน
ท่ใี ช้ในชวี ติ ประจาวนั ของชาวกยู และชาวช้าง งานประเพณตี ่าง ๆ ส่วนใตถ้ ุนดา้ นล่าง จะเป็นโรงทอผ้าไหมผู้สูงอายุ
และของฝากทร่ี ะลกึ สาหรบั ผมู้ าเย่ยี มชม
ศาลาเอราวณั พพิ ิธภณั ฑ์ชาวกวย/กูยและโรงทอผ้าผสู้ งู อายุ สสุ านชา้ ง
๒) การจดั บรรยากาศและส่ิงอานวยความสะดวก
ภายในบริเวณวัดป่าอาเจียง นักท่องเท่ียวสามารถเดินชมแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ ซึ่งไม่ไกลกันมากนัก
หรือจะน่ังช้างชมบรรยากาศมุมสูงรอบบริเวณวัดป่าอาเจียง มีการจัดทาทางลาดบริการสาหรับผู้พิการ ผู้สูงอายุ
มหี อ้ งนา้ และทจ่ี อดรถเพียงพอสาหรับนกั ทอ่ งเทย่ี ว
ทางเขา้ เปน็ ถนนคอนกรตี มที างลาดอานวยความสะดวก นง่ั ทอ่ งเท่ียวสามารถนัง่ ชา้ ง
สาหรับผู้พกิ ารและผสู้ ูงอายุ ชมแหลง่ เรียนรูไ้ ด้
5
๔. ด้ำนบุคลำกร
๑) จานวนบุคลากรผใู้ หบ้ ริการ
แหลง่ เรียนรูว้ ัฒนธรรมวัดปา่ อาเจยี ง มบี ุคลากร และปราชญ์ต่าง ๆถ่ายทอดความรู้ให้กบั นกั ท่องเที่ยว ดังนี้
(1) พระครูสมุหค์ าหาญ ปญั ญฺ าธโร เจ้าอาวาสวดั ปา่ อาเจียง ศาสตรช์ าวกูย/กวย
(2) นายธวัชชัย ศาลางาม ปราชญท์ ้องถ่ิน
(3) นายไพ ศาลางาม หมอชา้ ง
(4) นายตุ๋ย ศาลางาม หมอช้าง
(5) นางวรรณา ศาลางาม วทิ ยากรด้านการจัดการทอ่ งเทย่ี ว
พระครูสมค์ุ าหาญ ปัญญฺ าธโร นายธวชั ชัย ศาลางาม พอ่ ต๋ยุ ศาลางาม
เจ้าอาวาสวัดปา่ อาเจยี ง ปราชญ์ท้องถ่นิ หมอช้าง
๒) การพัฒนาความรูค้ วามสามารถบคุ ลากรผใู้ ห้บริการ
จากศักยภาพของ การบริหาร จัดการด้าน การท่อง เที่ยว เป็นแหล่งเรียนรู้ ทางวั ฒน ธร ร ม
ของจังหวัดสุรินทร์ ได้มีหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนต่าง ๆ เข้ามาสนับสนุนชุมชนให้มีการพัฒนา
ในดา้ นการบริหารจัดการ ดงั น้ี
(1) สานกั งานวัฒนธรรมจังหวัดสรุ ินทร์ ได้คัดเลือกชุมชนบ้านหนองบัว วัดป่าอาเจียง เป็นชุมชนคุณธรรม
น้อมนาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบ ได้สนับสนุนงบประมาณในการจัดอบรมการค้นหา
อตั ลักษณข์ องชมุ ชน
(2) สานักงานพัฒนาชุมชนอาเภอท่าตูมและจังหวัดสุรินทร์ จัดให้มีการอบรมเชิงปฏิบัติจริงเพ่ือพัฒนา
ตอ่ ยอดผลิตภณั ฑ์ สินคา้ และบรกิ าร
(3) องค์การบริหารส่วนตาบลกระโพ จัดอบรมให้มีการทาบล็อก แล้วข้ึนรูปโดยใช้เย่ือมูลช้างที่ป้ันแล้ว
นามาข้นึ รปู กบั บล็อคแลว้ ตกแตง่ เพ่อื ความสวยงาม
(4) สานักงานพัฒนาชุมชนอาเภอท่าตมู จัดอบรมให้กบั ชุมชนและศึกษาดงู านตามสถานทีต่ ่างจงั หวัด
(5) มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ มาอบรมให้ความรู้เร่ืองการนาเอาวัสดุท่ีมีอยู่แล้วนามาประยุกต์
ใช้ในกลมุ่ โฮมสเตย์ เชน่ เอาใบตองมาทาเป็นทว่ี างช้อน ทาฝาครอบแก้วพันแกว้ นา้
6
อบรมร่วมกับมหาวิทยาลัย การค้นหาอัตลักษณ์ของชุมชน อบรมการย้อมผา้ ไหมจากมลู ช้าง
ราชภฏั สรุ ินทร์ มาต่อยอดเป็นผลติ ภณั ฑ์ ร่วมกับ ร่วมกับสานักงานพัฒนาชุมชน
ส า นั ก ง า น วั ฒ น ธ ร ร ม จั ง ห วั ด อาเภอทา่ ตูม
สรุ นิ ทร์
5. ด้ำนกำรให้บริกำร
๑) การเปิดใหบ้ ริการ
แหลง่ เรยี นรูท้ างวัฒนธรรมวดั ป่าอาเจยี ง เปิดทกุ วันทาการ
จดั ทาศนู ย์ขอ้ มูล/ประสานงาน/อานวยความสะดวกบรกิ ารนกั ศกึ ษา /นกั ท่องเทีย่ วทั้งชาวไทยและชาวตา่ งชาติโดยมีเจา้ หน้าทีป่ ระจา
ศนู ยใ์ ห้คาแนะนาและอานวยความสะดวก
๒) การใหบ้ ริการดา้ นเทคโนโลยี
มีการนาเทคโนโลยสี ารสนเทศมาใช้ในชุมชน
(1) GIS (Geographic information system) หรือระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ ที่ทางานโดยการป้อน
ข้อมูลทางภูมศิ าสตร์ เชน่ ภาพแผนท่ี ภาพถ่ายผ่านดาวเทยี ม ตัวเลข ตวั อักษร ระยะทาง การปักหมดุ
(2) QR Code มาประยุกต์ใช้ได้หลากหลายรูปแบบ เช่น แสดง URL ของเว็บไซต์,ข้อความ,
เบอร์โทรศัพท์ และข้อมูลที่เป็นตัวอักษรได้อีกมากมาย ปัจจุบัน QR Code ถูกนาไปใช้ในหลายๆ ด้าน
เนอื่ งจากความรวดเร็ว ประหยดั พืน้ ท่ีโฆษณาทเี่ ป็นรายละเอียดเชิงลกึ
7
การใหบ้ รกิ ารดา้ นการคน้ หาแผนที่ดาวเทยี ม และการประชาสัมพันธผ์ า่ นช่องทางตา่ งๆ
ในการสืบค้นข้อมูล
๓) การถ่ายทอดและบรกิ ารองค์ความรู้
วดั ป่าอาเจยี ง ไดจ้ ดั ทาเพจเพ่ือประชาสัมพันธช์ อ่ งทางการทอ่ งเทยี่ วอีกทางหนงึ่ และมกี ารถา่ ยทอดความรู้
ภมู ิปญั ญาท้องถ่ินใหก้ บั หมอชา้ งรุ่นใหม่ เชน่ การทาพธิ ีปะชปิ ะชะหมอช้าง (บวชหมอช้างใหม)่ เป็น จดั ทาเพจ /
youtube เพ่ือสง่ เสริมแหล่งเรียนรู้ทางวฒั นธรรม
การประกอบพิธปี ะชปิ ะชะ มชี ่องyoutube ต่างๆ ทถี่ ่ายทาสารคดี
การเลือ่ นตาแหนง่ หมอช้าง วดั ปา่ อาเจยี ง ชมุ ชนชาวกวยเลีย้ งช้าง
มเี พจวดั ปา่ อาเจียงคอยประชาสัมพันธ์
กจิ กรรมตา่ ง ๆ
๔) จานวนผูเ้ ข้าใช้บรกิ าร (Walk in)
วัดป่าอาเจียง ได้มีนักท่องเที่ยว นักเรียน นักศึกษา สถานศึกษา และหน่วยงานต่าง ๆ เข้ามาใช้บริก าร
เปน็ ประจาทกุ วัน ประมาณวนั ละ 100 คน รวม 36,000 คน/ปี แต่เน่ืองปัจจุบันเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาด
ของโรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทาใหน้ กั ท่องเทีย่ วลดลงกวา่ เดมิ
มีนกั เรียน นักศกึ ษา ประชาชนเข้ามาศกึ ษาเรียนรู้เปน็ จานวนมาก
8
๕) จานวนผรู้ ับบรกิ าร (On line)
คณะทางานขับเคล่ือนสารสนเทศหมู่บ้านต้นแบบบ้านหนองบัว อาเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์
ดาเนินการดูแลระบบสารสนเทศบริการด้านการท่องเที่ยว การประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางเฟซบุ๊ค youtube
เพจต่าง ๆ ช่ือ Facebook Fanpage https://web.facebook.com/watpaarjeng/ ในรอบ 1 ปี มีผู้เข้าใช้
บริการต่อปี รวมจานวน 10,000 คน/ปี
จดั ทาเพจ youtube ประชาสัมพนั ธ์แหล่งเรียนรู้ทางวฒั นธรรมของวดั ป่าอาเจยี ง
๖) จานวนจดุ เรียนรู้และฐานการเรียนรู้
ภายในวัดป่าอาเจียงได้จัดทาฐานเรยี นรดู้ งั ตอ่ ไปนี้
(1) ศาลาเอราวัณ เป็นแหล่งเรียนรู้ศึกษา เรื่องราวช้างในพระไตรปิฏก และเรื่องราวของช้างใน
จงั หวดั สุรินทร์
(2) สสุ านช้าง แห่งเดียวในโลก ที่มีการการเก็บกระดูกช้างท้ังตัว มากกว่า 100 เชือก เพ่ือการศึกษาเรียนรู้
เกีย่ วกบั ประวัตศิ าสตรช์ าตไิ ทย ช้างนักรบคพู่ ระเจ้าแผน่ ดนิ เม่อื คร้ังออกรบในสมยั โบราณ
(3) พพิ ธิ ภัณฑว์ ิถชี วี ติ ชาวกวย เพื่อใหช้ มุ ชนนกั เรียนนักศกึ ษาท่สี นใจในชาตพิ นั ธ์ุกวย ได้รู้และเข้าใจรากเหง้า
ของชาวกวย จึงได้รวบรวมเคร่ืองมือเคร่ืองใช้ เคร่ืองทามาหากินที่ใช้ในชีวิตประจาวันของชาวกวยและชาวช้าง
มาเก็บรวบรวม และจัดสร้างพิพธิ ภณั ฑว์ ถิ ชี วี ติ ชาวกวย เพ่อื ให้คนรนุ่ หลังไดเ้ รยี นรแู้ ละตระหนกั ถงึ คณุ ค่าวัฒนธรรม
ท่ที รงคณุ ค่าหวงแหนมรดกภมู ปิ ัญญาของบรรพบุรุษ
(4) โรงเรียนผสู้ งู อายุบ้านหนองบวั ที่เป็นจุดการเรียนรูก้ ารทอผ้าพนื้ บ้านของชมุ ชนชาวกวย
(5) ศูนย์เรียนรกู้ ารผลติ กระดาษสา กระถางจากมูลชา้ ง
(6) ศาลาพระครปู ะกาช้าง เปน็ สถานท่ีเคารพบชู าของชาวกวยเลีย้ งช้าง
ศาลาเอราวณั สุสานชา้ ง พิพิธภัณฑช์ าวกยู และโรงทอผ้าผูส้ งู อายุ
9
๗) การบริการชุมชน
วัดป่าอาเจียง เป็นชุมชนชาวกวยเล้ียงช้าง ซ่ึงมีเอกลักษณ์ความโดดเด่นด้านวัฒนธรรม และเป็น
แหล่งเรียนรู้วัฒนธรรมของจังหวัดสุรินทร์ที่ได้รับการยอมรับจากหน่วยงานต่าง ๆ เป็นสถานที่จัดงาน
ของระดับจังหวดั ระดับประเทศ ดงั น้ี
(1) จดั งานร่วมกบั สานักงานวัฒนธรรมจงั หวดั สรุ ินทร์ จดั ทาโครงการสืบสานงานบญุ วนั ช้างไทย
จงั หวัดสุรินทร์
(2) จัดงานร่วมกับ สานกั งานวฒั นธรรมจงั หวดั สุรินทร์ จดั ทาโครงการวิถีชุมชน คนรักษช์ ้าง สร้างช่อื ไทย
(3) จดั งานรว่ มกบั สานักงานวัฒนธรรมจังหวัดสุรินทร์ จัดทาโครงการพัฒนาต่อยอดทุนทางวัฒนธรรมตาม
รอยศาสตร์พระราชาเพ่ือชุมชนเข้มแข็งอย่างย่ังยืน บวร On Tour ชุมชนคุณธรรมน้อมนาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ
พอเพยี ง ขับเคล่อื นด้วยพลงั บวรต้นแบบจงั หวัดสุรินทร์
(4) การพัฒนายกระดับคุณภาพของโฮมสเตย์ บ้านหนองบัว จากผู้เชี่ยวชาญ อาจารย์มหาวิทยาลัย
ราชภัฏสรุ ินทร์ โดยการนาเอาวสั ดุท่ีมีอยู่แล้วในชมุ ชน เอามาตกแต่งให้ใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย เช่น เอาใบตอง
มาทาที่ใส่ช้อน ใส่แปรงสีฟัน ฝาครอบแก้วและอื่นๆอีกมากมาย และนาผ้าลายเอกลักษณ์มาปรับใช้ในตัวบ้าน
เพือ่ สร้างความประทับใจแกแ่ ขกผมู้ าเยอื น
(5) รว่ มถ่ายการสมั ผสั วิถีชีวิตชาวกวยอาเจียงบ้านหนองบัว ณ วัดป่าอาเจียง โดย การท่องเท่ียวแห่ง
ประเทศไทย จังหวัดสรุ ินทร์
(6) มีโอกาสได้ต้อนรับ ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ นายอาเภอท่าตูม นายกอบจ. หัวหน้า
ส่วนราชการ คุณกฤษณะ ละไลและคณะ มาเย่ียมชมอารยะสถาปัตย์ ภายในวัดป่าอาเจียง ต่างได้รับคาชมจาก
คณะ ว่าสถานทีแ่ หง่ นี้เปน็ แหลง่ ท่องเท่ยี วทนี่ า่ ศึกษาคน้ ควา้ มากแหง่ หนงึ่ ในจังหวดั สรุ ินทร์
รว่ มจัดงานทาบุญวันชา้ งไทย ร่วมตอ้ นรบั คณะคุณกฤษณะ ละไล รว่ มยกระดับคณุ ภาพของโฮมเสตย์
และวิถีชุมชนคนรกั ษ์ช้าง สรา้ งช่ือไทย เยี่ยมชมอารยะสถาปัตยภ์ ายใน โดย มหาวิทยาลัยราชภัฎสุรินทร์
กบั กระทรวงวัฒนธรรม วดั ป่าอาเจียง
10
6. กำรมสี ว่ นรว่ มของชมุ ชนและภำคเี ครอื ข่ำย
๑) การมสี ว่ นรว่ ม
มีการประชุมร่วมกับผู้นาชุมชน กรรมการที่เกี่ยวข้องจากทุกภาคส่วน เครือข่ายท่ีเกี่ยวข้อง และประชาชน
ในพ้ืนท่ี เพ่ือจัดทาแผนชุมชน ร่วมกันกาหนดกิจกรรม/โครงการ แนวทางการขับเคล่ือนงานของแหล่งเรียนรู้
วฒั นธรรมวดั ป่าอาเจียง โดยได้นาทุนชมุ ชน ๕ ประเภท และทุนทางวัฒนธรรม ๘ เสน่ห์ มาสร้างมูลค่าเพ่ิมให้กับ
ชุมชน ซ่ึงทุนชุมชน ๕ ประเภท ได้แก่ ทุนมนุษย์ ทุนทางสังคม ทุนกายภาพ ทางธรรมชาติ และทุนการเงิน มา
ขับเคลอื่ น
๒) การสง่ เสรมิ ภมู ิปัญญาท้องถิ่นหรือปราชญ์ชาวบา้ น
เพื่อเป็นการรกั ษาและสบื ทอดมรกดภูมปิ ญั ญาทางวัฒนธรรมของชาวกวยอาเจียง จึงได้จัดกิจกรรมต่าง ๆ ข้ึนมา
เช่น การสืบสานตานานหมอช้าง โดยการปะชิหมอช้าง หรือเล่ือนข้ันหมอช้าง เป็นการสืบทอดวัฒนธรรม
ท่ีหาดูไดย้ าก กฐนิ ช้าง ซึง่ ได้ทาขบวนแห่บนเกวียนประดับด้วยผ้าไหมอย่างสวยงาม แล้วให้ช้างเป็นผู้ดึงขบวนแห่
กฐินร่วมกับชุมชน การบวชนาคบนหลังช้าง ตามประเพณีของชาวกวยเลี้ยงช้าง การแสดงการราคล้องช้าง
รามุดมัด หรือแกลมอล ตามวิถีชีวิตของชาวกวยเล้ียงช้างในอดีต รวมท้ัง ซัดเต ซ่ึงเป็นพิธีแต่งงานแบบชาวกวย
นอกจากนี้ ยังมีโรงทอผ้าผู้สูงอายุ ท่ีทอด้วยไหมบ้าน ตัดเป็นผ้าซ่ินซ่ึงเป็นเอกลักษณ์ของชาวกวยอาเจียง
สว่ นชายการแตง่ กายดว้ ยผา้ น่งุ โจงกระเบน เส้ือสดี าแถบแดง หญิงจะมีผา้ สไบสีแดง
พิธีการปะชิหมอช้าง การแต่งกายหมอชา้ ง การแสดงรามดุ มัด หรอื แกลมอล
เพ่ือเลือ่ นตาแหน่งหมอชา้ ง การแตง่ กายของชายและหญิง
ของชาวกวยอาเจยี ง
11
๗. กำรยอมรบั ของชุมชนและสงั คม
วั ด ป่ า อ า เ จี ย ง เ ป็ น แ ห ล่ ง เ รี ย น รู้ ท า ง วั ฒ น ธ ร ร ม ข อ ง ช า ว ก ว ย เ ลี้ ย ง ช้ า ง ข อ ง จั ง ห วั ด สุ ริ น ท ร์
ได้นาทุนชุมชนมาพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม เก่ียวกับวิถีชีวิตของคนกับช้าง อีกท้ังยังมี
ภูมิปัญญา ประเพณีวัฒนธรรมต่าง ๆ ที่แสดงถึงความสัมพันธ์ระหว่างคนกับช้างให้เห็น ได้อย่างชัดเจน
นอกจากนี้ วัดป่าอาเจียงยังเป็นสถานที่สาคัญ ที่ได้รวบรวมรวมข้อมูลเก่ียวกับช้าง และแสดงความสัมพันธ์
ของวิถีชีวิตของคนกับช้าง (วิถีชีวิตกวยอาเจียง) อีกท้ัง “ซัตเต” ยังเป็นสถานที่ดาเนินกิจกรรมส่งเสริมอาชีพ
ดา้ นการทอผา้ ไหม และการทากระดาษสาจากมูลช้าง จนไดร้ บั การคดั เลือกโครงการดเี ด่นในการส่งเสริมและรักษา
มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ประจาปี พ.ศ. ๒๕๖๒ โครงการคชศาสตร์ชาวกวยหรือคชศาสตร์กวยอาเจียง
จากกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม และได้รับคัดเลือกเป็นชุมชนคุณธรรมน้อมนาหลักปรัชญา
ของเศรษฐกจิ พอเพียง ขบั เคลือ่ นด้วยพลังบวรต้นแบบโดดเดน่ จงั หวดั สรุ ินทร์ ปี พ.ศ. 2563
รับรางวัลโครงการดเี ดน่ “คชศาสตรช์ าวกวย จดั ทาจดุ เช็คอิน โดยสานักงานวฒั นธรรม
หรอื คชศาสตรก์ วยอาเจียง) นายปรเมศวร์ จังหวัดสรุ นิ ทร์
งามพิเชษฐ์ ผู้ช่วยรฐั มนตรี
ประจากระทรวงวัฒนธรรม
๘. กำรเชอื่ มโยงเครือข่ำยแหล่งเรียนรู้
เสน้ ทำงทอ่ งเท่ียวภำยในชุมชนและแหลง่ ทอ่ งเที่ยวทำงวัฒนธรรมชุมชน เริ่มต้นจำกวัดป่ำอำเจียง
ชุมชนคณุ ธรรมบ้ำนหนองบัว บำ้ นตำกลำง บ้ำนตำทิพย์ ดังน้ี
8.1 วดั ป่าอาเจยี ง ศาสนสถานอนุรักษม์ รดกภมู ิปัญญาทางวฒั นธรรมของชาวกวยเลย้ี งช้าง ได้แก่
พพิ ิธภณั ฑ์ชาวกวย ศาลาครูปะกา ศาลาเอราวณั สุสานชา้ ง ระยะทาง (จากตวั จังหวัด-วดั ปา่ อาเจียง) ๕๗ กโิ ลเมตร
8.2 ชุมชนบ้านหนองบัว ครอบครัวเลย้ี งช้าง ระยะทาง ๕๐๐ เมตร
8.3 ศนู ย์คชศึกษา บ้านตากลาง ชมการแสดงของช้าง พิพิธภัณฑ์ช้าง และการแสดงช้างเล่นน้า
ระยะทาง ๑ กิโลเมตร
8.4 บา้ นตาทิพย์ อมุ้ ช้างอาบนา้ ระยะทาง ๑ กโิ ลเมตร
8.5 คชอาณาจักร ระยะทาง ๓ กิโลเมตร
12
อ ยู่ ใ ก ล้ เ คี ย ง กั บ ห น่ ว ย ง า น ท่ี กิจกรรมตักบาตรร่วมกับช้างกับ กิ จ ก ร ร ม อุ้ ม ช้ า ง อ า บ น้ า
อนุรักษ์ ช้ าง แล ะ ส นับ ส นุ น วิ ถี ชี วิ ต ช า ว ก ว ย เ ล้ี ย ง ช้ า ง ความผกู พนั ระหวา่ งคนกับช้าง
การท่องเที่ยวเก่ียวกับช้าง คือ ณ บา้ นหนองบวั
ศูนย์คชศึกษาหมู๋บ้านช้างบ้าน
ตากลาง
๙. ผลงำนดเี ด่นท่ีแหล่งเรยี นร้ไู ดร้ ับกำรยกยอ่ ง (ยอ้ นหลงั 5 ปี 2559 - 2564)
พ.ศ. 2564 จัดงานบญุ วนั ชา้ งไทย และวถิ ชี ุมชน คนรกั ษช์ ้าง สร้างชอื่ ไทย
ร่วมกบั สานกั งานศิลปวัฒนธรรมรว่ มสมัย กระทรวงวัฒนธรรม
พ.ศ. 2563 พระครูสมหุ ค์ าหาญ ปญั ฺญาธโร เจ้าอาวาสวัดป่าอาเจยี ง ได้รับคัดเลอื ก
เปน็ ผู้ทาคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา ประจาปี ๒๕๖๓
ประเภทส่งเสริมและอนรุ ักษ์วัฒนธรรมมรดกไทยทางพระพทุ ธศาสนา
พ.ศ.2563 ได้รับคัดเลอื ก 100 สุดยอด ชุมชนคณุ ธรรมน้อมนาหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง
ขับเคล่อื นด้วยพลังบวรต้นแบบจังหวัดสรุ นิ ทร์ ประจาปงี บประมาณ พ.ศ. 2563
พ.ศ. ๒๕๖๒ ได้รบั รางวัลโครงการดีเดน่ ในการสง่ เสริมและรักษามรดกภมู ิปญั ญาทางวฒั นธรรม
ประจาปี พ.ศ. ๒๕๖๒ โครงการคชศาสตรช์ าวกวยหรอื คชศาสตร์กวยอาเจยี ง
จากกรมสง่ เสริมวัฒนธรรม กระทรวงวฒั นธรรม
พ.ศ. ๒๕๖๐ ได้รับรางวัล“เหมราช” บคุ คลตน้ แบบแห่งปีผูท้ าคุณประโยชน์ด้านพุทธศาสนา
จาก หมอ่ มเจา้ มงคลเฉลิม ยคุ ล มูลนิธิ ดินดนี า้ ใส แห่งประเทศไทย
พ.ศ. ๒๕๖๐ ไดร้ บั Elephant Conservation Awards จาก World Buddhist Sangha
Youth at Pallakele, Sri Lanka
13
รับรางวลั โครงการดีเด่น“คชศาสตร์ชาวกวย พ ร ะ ค รู ส มุ ห์ ค า ห า ญ ปั ญฺ ญ า ธ โ ร บ้านหนองบัว ซึ่งเป็นชุมชนในเขต
หรือคชศาสตรก์ วยอาเจียง) นายปรเมศวร์ เจ้าอาวาสวัดป่าอาเจียง ได้รับคัดเลือก พ้ืนที่วัดป่าอาเจียง ได้รับคัดเลือก
งามพเิ ชษฐ์ ผูช้ ว่ ยรฐั มนตรี เปน็ ผทู้ าคุณประโยชนต์ อ่ ระพุทธศาสนา 100สุดยอด ชุมชนคุณธรรมน้อมนา
ประจากระทรวงวัฒนธรรม ประจาปี ๒๕๖๓ ประเภทส่งเสริม หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
แล ะอนุรักษ์วัฒนธรร มมร ดกไทย ขับเคล่ือนด้วยพลัง บวร ต้นแบบ
ทางพระพทุ ธศาสนา ประจาปงี บประมาณ พ.ศ. 2563
14
แหลง่ เรยี นรู้ทำงวัฒนธรรมบ้ำนช่ำงป่ี
ตำบลชำ่ งป่ี อำเภอศขี รภูมิ จงั หวดั สรุ นิ ทร์
๑. กำรบริหำรจัดกำร
๑) การบริหารจัดการในภาพรวม
ศูนย์การเรียนรู้บ้านช่างป่ี เป็นศูนย์การเรียนรู้ที่จัดทาข้ึนจากความร่วมมือของชุมชนบ้านช่างปี่
นาโดยนายชัยณงค์ ทองหล่อ อดตี ผใู้ หญ่บ้านชา่ งปี่ หมู่ท่ี 1 ซึ่งในระยะแรกเป็นศูนย์การเรียนรู้เกี่ยวกับวิถีชีวิต
ของชุมชนบ้านช่างป่ี และเป็นท่ีทาการนาแปลงใหญ่ ท่ีทาการสหกรณ์ทางการเกษตรอินทรีย์ช่างปี่ศรีสมบูรณ์
ที่ทาการคัดพันธุ์ข้าวอินทรีย์ ที่ทาการปุ๋ยอินทรีย์อัดเม็ด ท่ีทาการธนาคารหมู่บ้านตามแนวพระราชดาริ
และเป็นแหลง่ รวบรวมประวตั ิความเปน็ มาของชุมชนบ้านชา่ งปี่
บ้านช่างปี่ เป็นแหล่งจัดแสดงข้อมูลปราชญ์ชาวบ้านในชุมชนบ้านช่างปี่ การนากิจกรรมงานหัตถศิลป์
ดินเผาบ้านช่างป่ีมาจัดแสดงบริเวณศูนย์การเรียนรู้ เพ่ือสืบสานและอนุรักษ์การป้ันเคร่ืองป้ันดินเผาซึ่งมีมาตั้งแต่
โบราณนบั ๑,๐๐๐ ปี โดยมีหลักฐานการขุดพบเตาโบราณบริเวณใกล้เคียงกับปราสาทช่างป่ี มีการขุดพบภาชนะ
ดนิ เผาจานวนมากภายในชมุ ชนบา้ นชา่ งปี่ และได้เก็บรักษาไว้ท่พี พิ ิธภัณฑ์ชุมชนบ้านช่างปี่ นอกจากนั้นแล้วชุมชน
บ้านช่างป่ีมีปราสาทช่างปี่ ท่ีเป็นอโรคยาศาลาหน่ึงใน ๑๐๒ แห่ง ที่สร้างข้ึนโดยพระเจ้าชัยวรมันที่ ๗
แหง่ ราชอาณาจักรกัมพชู า จึงนับไดว้ า่ ชุมชนบ้านช่างปี่เป็นแหล่งเรียนรู้ทางด้านวัฒนธรรมและภูมิปัญญาที่สาคัญ
ของชาติ อันจะส่งผลต่อทัศนคติ ความเช่ือ ค่านิยม ก่อให้เกิดประเพณีและวัฒนธรรมท่ีดีงามของชุมชน และ
สังคมโดยรวมตอ่ ไป
ภาพปราสาทบา้ นช่างป่ี ภาพพพิ ธิ ภณั ฑช์ ุมชนบา้ นชา่ งป่ี ศูนยก์ ารเรียนร้บู ้านช่างปี่
๒) การบริหารจัดการในรปู แบบคณะกรรมการ คณะทางานหรือบคุ คล
ศูนยก์ ารเรียนรู้บ้านชา่ งป่ี มกี ารบรหิ ารในรปู ของคณะกรรมการโดยมคี ณะกรรมการภาคี ๔ ฝ่ายดงั นี้
๒.๑) ภาคผูน้ าชุมชน มคี ณะกรรมการจานวน 5 คน
๒.๒) ภาคประชาชน และปราชญ์ชุมชนบ้านชา่ งปี่ และบา้ นอ่างสมบรู ณ์ จานวน 8 คน ประกอบด้วย
- กลุ่มกิจกรรมเครื่องปนั้ ดนิ เผา
- กลุ่มกจิ กรรมทอผ้าไหมพื้นเมอื ง
- กลุม่ กิจกรรมผลิตข้าวอินทรีย์
- กล่มุ ผลิตปยุ๋ อนิ ทรยี อ์ ัดเม็ด
- กล่มุ คดั พนั ธุ์ข้าวบ้านช่างปี่
- กลมุ่ ขนมพืน้ ถน่ิ บ้านชา่ งป่ี
- กลมุ่ กิจกรรมสวนปา่ รกั ษโ์ ลก เพาะพันธุ์กลา้ ไม้
15
- กลุม่ ออมทรัพย์และธนาคารหม่บู า้ นตามแนวพระราชดาริ
๒.๓) ภาคเอกชน จานวน 2 คน
- กล่มุ ผปู้ ระกอบการบ้านพักโฮมสเตย์
- กลุม่ ผู้ผลิตขา้ วสารอนิ ทรีย์ช่างป่ศี รสี มบูรณ์
๒.๔) ภาครัฐ และองคก์ รศาสนา
- พฒั นาการอาเภอศีขรภมู ิ
- โรงเรยี นบ้านช่างปี่
- องค์การบริหารสว่ นตาบลช่างปี่
- วดั บา้ นช่างปี่
- พิพิธภัณฑสถานแห่งชาตสิ ุรินทร์
- มหาวทิ ยาลัยราชภฏั ุสรุ นิ ทร์
- มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลอีสาน
โดยมีการร่วมมอื กนั ในการพัฒนาศนู ยก์ ารเรยี นรู้ และมกี ารประชมุ ปรึกษาหารอื เป็นประจาทุก
เดอื น ตามภาระงาน และกิจกรรมท่ีจดั ข้ึน
ภาพการประชมุ วางแผนการดาเนินงาน
๓) การประชุมของคณะกรรมการ/คณะทางาน และมีแผนการจัดกิจกรรมประจาปี
การดาเนินงานของศนู ย์เรียนรูบ้ ้านชา่ งป่ี ไดม้ ีการประชุมของคณะกรรมการ /คณะทางาน และมแี ผนการ
ดาเนินงานเป็นประจาทุกปี โดยมีกิจกรรมที่สาคัญเกย่ี วกบั ประเพณแี ละวัฒนธรรมดังนี้
- กิจกรรมชมพระอาทติ ย์ลอดชอ่ งประตูปราสาทช่างปี่ (เดือนมนี าคม)
- กิจกรรมบวงสวงปราสาทช่างปี่ (เดือนเมษายน)
- ประเพณีเรือมตร๊ด (ราตรุษ) (เดอื นเมษายน)
- ประเพณีแซนโฎนตา (เดอื นกนั ยายน –ตลุ าคม)
- ประเพณีลอยกระทง (เดอื นพฤศจกิ ายน)
- กิจกรรมการท่องเท่ยี วนวัตวิถชี า่ งปี่-ศรีสมบรู ณ์ (ตลอดป)ี
- กจิ กรรมการท่องเที่ยวชุมชนคุณธรรมฯบ้านช่างป่ี (ตลอดปี)
- กจิ กรรมหตั ถศิลป์ดินเผาบา้ นชา่ งปี่ (ตลอดป)ี
ภาพกจิ กรรมแซนโฎนตา ภาพการบวงสรวงปราสาทชา่ งปี ภาพการชมพระอาทติ ยล์ อดช่องประตู
16
๒. กำรระดมทรัพยำกร
๑) การจัดหางบประมาณ
ศนู ย์การเรียนรู้วัฒนธรรมบ้านชา่ งปี่ ไดจ้ ดั หางบประมาณโดยการระดมทุน ดังน้ี
- งบประมาณจากการบรจิ าคของประชาชน จานวน 50,000 บาท
- งบประมาณจากหนว่ ยงานภาคเอกชนท่ีรว่ มสมทบจดั งานตะวันลอดช่อง ปราสาทชา่ งปี
จานวน 50,000 บาท
- งบประมาณสนบั สนุนจากภาครัฐ อาทิ สานกั งานวฒั นธรรมจงั หวัดสรุ ินทร์ สานกั งานพัฒนาชมุ ชน
จงั หวัดสรุ นิ ทร์ การท่องเทยี่ วแหง่ ประเทศไทยจังหวัดสุรนิ ทร์ จานวน 40,000 บาท
รวมเปน็ เงินทง้ั สิน้ 140,000 บำท
ภาพการสนบั สนุนงบประมาณ ภาพการจาหนา่ ยสินค้า ภาพการใหบ้ ริการแกน่ กั ท่องเที่ยว
๒) การสนบั สนุนทรพั ยากรทางการบริหารอ่ืนๆ อาทิ คน วัสดอุ ปุ กรณ์
ดา้ นบุคคล
- ผนู้ าชุมชน
- จิตอาสา /อาสาสมัคร
- มัคคเุ ทศกน์ ้อยจากโรงเรียนบา้ นข่างปี่ จานวน ๙ คน
- ผนู้ าทางศาสนา
- ไดร้ ับการสนบั สนนุ ดา้ นวิชาการจากมหาวทิ ยาลัยราชภฏั สรุ นิ ทร์ คิดมูลค่า 100,000 บาท
- ได้รบั การสนับสนุนเตาเผาเคร่อื งป้นั ดินเผาจากมหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลอีสาน (สรุ ินทร)์
คิดมลู ค่า 100,000 บาท
- ได้รับการสนบั สนนุ จากสานกั งานวฒั นธรรมจงั หวดั สุรินทร์ ดาเนนิ โครงการพัฒนาต่อยอดชุมชน
คณุ ธรรมนอ้ มนาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งบ้านชา่ งปี บวร On Tour 52,000
รวมเป็นเงินท้ังส้นิ 252,000 บำท
ภาพเคร่อื งปน้ั ดินเผา ภาพเตาเผาเครอื่ งปน้ั ดินเผา ภาพการสนับสนุนจากหน่วยงานภายนอก
17
๓. ดำ้ นอำคำรสถำนท่ี
๑) ทต่ี ้ังและลกั ษณะอาคาร มีที่ตั้งอยูใ่ นบริเวณทส่ี ะดวกต่อการเดนิ ทาง อยู่ใจกลางหมบู่ ้าน มีความพร้อม
ในการจัดกิจกรรมของชุมชน มีการจดั บริบทให้สะอาด มีการปรับปรุงภูมิทัศนท์ ้ังภายในและภายนอก และเอื้อ
ตอ่ การให้บริการ มกี ารประดับตกแต่งอาคารพ้ืนท่ีซึง่ สะท้อนเอกลกั ษณ์ของชมุ ชน มีป้ายบอกทางและแหลง่
เรยี นร้ตู ่าง ๆ อย่างชดั เจน
ภาพบรบิ ทภายนอกศูนย์เรยี นรู้ ภาพป้ายฐานการเรียนรู้ ภาพป้ายจดุ check in
๒) การจดั บรรยากาศและสิง่ อานวยความสะดวก
ศนู ย์การเรยี นรบู้ ้านชา่ งปี่มีการจัดบรรยากาศทเ่ี หมาะสมต่อการเรยี นรู้ กว้างขวาง และเปน็ สัดส่วน มสี ่ิงอานวย
ความสะดวก ได้แก่ มีการบริการอาหารสะอาดปลอดภัย มีการจัดรถรับส่งนักท่องเที่ ยว ห้องน้าสะอาด
มีท่ีจอดรถสะดวก ห้องประชุมมีเครื่องปรับอากาศ มีมุมการเรียนรู้ที่หลากหลาย สามารถแลกเปลี่ยนเรียนรู้
ได้เปน็ อย่างดี
ภาพการจัดรถบริการรับสง่ นกั ท่องเท่ียว ภาพอาหารพ้นื ถิน่ ภาพการต้อนรบั ทีอ่ บอุ่น
๔. ด้ำนบุคลำกร
๑) จานวนบคุ ลากรผใู้ หบ้ ริการตงั้ แตว่ นั จนั ทร์ –อาทติ ย์ เปดิ บรกิ ารทุกวัน มมี ัคคเุ ทศกน์ อ้ ย และการแสดง
นาฏศิลป์ ดนตรีไทยจากโรงเรยี นบ้านช่างปใี่ หบ้ ริการแก่คณะทวั ร์ นกั ท่องเทย่ี วท่ีมารับชมเปน็ กล่มุ และสามารถ
ถา่ ยทอดความร้ใู นศูนยก์ ารเรยี นรไู้ ด้เป็นอย่างดี ดงั น้ี
(1) มคั คุเทศก์นอ้ ย จากโรงเรยี นชา่ งปี่ จานวน 5 คน ประจาฐานปราสาทชา่ งป่ี และพพิ ธิ ภณั ฑช์ มุ ชน
บ้านช่างป่ี
(2) นายไพฑูรย์ พนิ ิจทรพั ย์ บคุ ลากรประจาฐานเรยี นรปู้ ้นั หม้อชา่ งปี่ และพพิ ิธภณั ฑบ์ ้านชา่ งป่ี
(3) นายสมบัติ มหาเจริญ บุคลากรประจาฐานเรียนรู้เตาเผาโบราณ
(4) นายสพุ จน์ งามพรอ้ ม ครูโรงเรียนบ้านชา่ งปี่ ประจาฐานเรียนรูป้ ราสาทบา้ นชา่ งป่ี
ภาพการให้บริการจากศนู ย์เรียนรู้ ภาพมคั คุเทศกน์ อ้ ยโรงเรียนบา้ นช่างป่ี การแสดงด้านนาฏศลิ ปข์ องนกั เรยี น
18
๒) การพฒั นาความรู้ความสามารถบคุ ลากรผู้ให้บริการ บุคลากรมีความรู้ ความสามารถและมีจิตอาสาท่ีจะมา
ปฏิบตั ิงานในศูนย์การเรยี นรู้ และมีกิจกรรมในการพัฒนาบุคลากรใหม้ คี วามรู้ ความเขา้ ใจในการให้บรกิ ารอยู่เสมอ
และตอ่ เนอ่ื ง ไดแ้ ก่ การศกึ ษาดูงาน การอบรม การสมั มนา มากกวา่ 2 ครงั้ /ปี ดังนี้
(1) โครงการสืบสานงานหัตถศิลป์ดินเผาบ้านช่างป่ี ระหว่างเดือน เมษายน - พฤษภาคม 2564
โดยมหาวิทยาลยั ราชภฏั ุสรุ ินทร์
(2) โครงการอบรมชุมชนคุณธรรมน้อมนาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงขับเคล่ือนด้วยพลังบวร
“บวร On Tour” โดยสานกั งานวฒั นธรรมจังหวดั สุรินทร์
(3) โครงการเผยแพร่ความร้ปู ระวัตศิ าสตร์ โบราณคดี และศิลปวัฒนธรรม ประจาปี พุทธศักราช 2564
โดย พพิ ธิ ภัณฑสถานแห่งชาตสิ ุรินทร์
ภาพการอบรมโครงการสืบสานงานหัตถศลิป์ ฯ ภาพการอบรมชุมชนคณุ ธรรมฯ ภาพการอบรมเผยแพร่ความรฯู้
5. ดำ้ นกำรให้บรกิ ำร
๑) การเปิดใหบ้ รกิ าร เปิดให้บรกิ ารทกุ วันไมม่ ีวนั หยุด หากมีความประสงค์เขา้ ชมเป็นคณะ กลุ่มสามารถ
โทรศัพทม์ าประสานงาน ดงั นี้
- นายเฉลียว ปิน่ เพชร ประธานกลมุ่ ฯ เบอรโ์ ทร 081-8786964
- นางนวลนรา ทองหลอ่ ปราชญ์ชาวบา้ น เบอรโ์ ทร 098-6576389
- นายไพฑูรย์ พินจิ ทรัพย์ ปราชญช์ าวบ้าน เบอรโ์ ทร 093-5658835
ภาพนายเฉลยี ว ป่ินเพชร ภาพนางนวลนรา ทองหลอ่ ภาพนายไพฑรู ย์ พนิ ิจทรัพย์
19
๒) การให้บรกิ ารด้านเทคโนโลยี
มีการให้บรกิ ารข้อมูลข่าวสารทางส่ืออนิ เทอรเ์ นต็ ทางช่องทาง Facebook , Line , youtube เป็นตน้
ภาพ Facebook ให้ขอ้ มลู ข่าวสารเก่ียวกับการท่องเที่ยว ภาพ Facebook ให้ข้อมูลข่าวสารเกีย่ วกับเครื่องป้ันดนิ เผา
https://www.facebook.com/NawatWithiSurinChangPi/
https://www.faceboฟok.com/photo/?fbid=1154707808306214&set=p.1154707808306214
๓) การถ่ายทอดและบริการองค์ความรู้
มเี วปไซต์ เฟซบกุ๊ ไลน์แอด ควิ อาร์โคท ยูทปู เพ่ือการประชาสมั พนั ธผ์ า่ นระบบออนไลน์ เพอื่ ให้ผู้ใช้บริการ
เขา้ ถึงง่าย มีการจดั นทิ รรศการเผยแพร่องคค์ วามรู้และเร่อื งราวต่าง ๆ ในท้องถนิ่ ชมุ ชน มีการจัดกิจกรรม
ถ่ายทอดความรู้ ภูมปิ ญั ญา และศิลปะการแสดง
ภาพกิจกรรมอบรมใหค้ วามร้แู กเ่ ยาวชน มัคคุเทศก์น้อยให้ความร้แู กน่ กั ท่องเท่ียว ภาพการต้อนรบั ใหค้ วามรู้แกผ่ ูม้ าเยอื น
๔) จานวนผ้เู ข้าใชบ้ รกิ าร (Walk in)
มีจานวนผเู้ ขา้ ใช้บริการตอ่ ปี มากกวา่ ๑,๐๐0 คน โดยจัดแสดงทีศ่ ูนย์การเรียนรู้บ้านชา่ งป่ี
การจัดนทิ รรศการหน่วยงานราชการ การเผยแพรเ่ คร่ืองป้ันดินเผาท่พี พิ ิธภณั ฑส์ ถานแหง่ ชาติสุรินทร์ เปน็ ตน้
ภาพการจัดกจิ กรรมดา้ นประเพณแี ละวัฒนธรรม ภาพอบรมเยาวชน ภาพจัดนิทรรศการตามหนว่ ยงานราชการ
20
๕) จานวนผรู้ ับบรกิ าร (On line)
มีผูใ้ ช้บริการในระบบออนไลน์ มากกวา่ 10,๐๐๐ คนตอ่ ปี ไดม้ ีการถ่ายทาสื่อและเผยแพร่
ทาง YouTube และถ่ายทารายการโทรทัศนช์ อ่ ง Thai PBS, ชอ่ ง NBT, ชอ่ ง 7 เป็นต้น
ภาพส่ือทางรายการโทรทัศน์ ภาพสอื่ ทาง Youtube, Facebook
ที่มา : https://www.facebook.com/watch/?v=1201820180265502
ทีม่ า : https://www.facebook.com/1553606334894637/videos/1554055774797358/
ทมี่ า : https://www.youtube.com/watch?v=nMTnZkDgDm4&t=8s
๖) จานวนจุดเรยี นร้แู ละฐานการเรียนรู้
มีจดุ เรยี นรู้และฐานการเรียนรู้ จานวนมากกวา่ ๑๐ ฐาน
ฐานการเรยี นรู้ท่ี 1 เครื่องป้ันดนิ เผา
ฐานการเรยี นรทู้ ี่ ๒ การทอผ้าไหม
ฐานการเรียนรทู้ ี่ ๓ เกษตรอินทรยี ์
ฐานการเรยี นรู้ท่ี ๔ อาหารพน้ื ถ่นิ
ฐานการเรียนรู้ท่ี ๕ สวนป่ารกั ษ์โลก
ฐานการเรียนร้ทู ี่ ๖ พิพธิ ภัณฑช์ ุมชน
ฐานการเรยี นรทู้ ี่ ๗ นาฏศลิ ป์ดนตรพี ้นื บา้ น
ฐานการเรียนรู้ท่ี ๘ การละเล่นเขมรโบราณ
ฐานการเรียนรูท้ ี่ ๙ ปราสาทช่างปี่
ฐานการเรยี นรูท้ ี่ ๑๐ ธรรมชาติอา่ งสมบรู ณ์
ฯลฯ
ภาพฐานเครือ่ งปนั้ ดินเผา นาฏศลิ ป์และดนตรีพน้ื บา้ น พิพธิ ภณั ฑ์ชมุ ชน
21
๗) การบริการชมุ ชน
ใหบ้ รกิ ารสถานท่ีชมุ ชนเพอ่ื จัดกจิ กรรม จานวนมากกวา่ ๕๐ ครั้ง ต่อปี เช่น จดั การประชุมของกลุ่ม
หน่วยงานต่าง ๆ การอบรม การสมั มนาของกลุ่มและส่วนราชการ
ภาพการจดั อบรมสมั มนา ภาพการใหบ้ รกิ ารชุมมชน ภาพการเปน็ ตัวแทนจงั หวัดจัด
นทิ รรศการ
6. กำรมสี ว่ นร่วมของชุมชนและภำคเี ครือขำ่ ย
๑) การมสี ว่ นร่วม
มีการบูรณาการดาเนินงานและการเรียนรู้รวมกับหน่วยงานองค์การต่าง ๆ ทั้งชุมชน ภาคีเครือข่าย
ทั้งหน่วยงานภาครัฐ เอกชน ชุมชน และหน่วยงานอ่ืนท่ีเก่ียวข้องตลอดเวลา อาทิเช่น พัฒนาชุมชน
มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ มหาวิทยาลัยราชมงคล พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสุรินทร์ ศูนย์คชศึกษา
การทอ่ งเท่ยี วฯ วฒั นธรรมจังหวดั สุรนิ ทร์ ฯลฯ มที าเนยี บแหลง่ การเรียนรู้ ภมู ิปญั ญาทอ้ งถิ่นของชุมชน
ร่ ว ม กิ จ ก ร ร ม กั บ ม ห า วิ ท ย า ลภั ยาพ ร่ว มกิ จ ก ร ร มกั บพิ พิธ ภั ณ ฑ์ส ถา น สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร
รว่ มกิจกรรมกับชุมชนบ้านช่างปี่
ราชภฏั สรุ ินทร์ แห่งชาติสรุ ินทร์
๒) การสง่ เสรมิ ภมู ิปัญญาท้องถ่ินหรอื ปราชญ์ชาวบา้ น
มกี ารเชญิ ภมู ิปญั ญาท้องถน่ิ หรือปราชญช์ าวบ้าน ร่วมเปน็ วทิ ยากร จานวน 70 ครง้ั ตอ่ ปี
ภาพภมู ิปัญญาดา้ นทอผ้าไหม ภาพภมู ปิ ัญญาดา้ นดนตรีนาฏศิลป์ ภาพภมู ิปัญญาด้านเครอ่ื งปน้ั ดินเผา
22
๗. กำรยอมรบั ของชุมชนและสังคม
มีการเผยแพร่ประชาสัมพนั ธ์แหลง่ เรียนรู้ โดยได้รบั เชิญไปเป็นวิทยากรเขา้ ศึกษาดูงานและแลกเปล่ียน
การบริหารจัดการแหล่งเรียนรู้ในจงั หวัดและต่างจังหวัด
ภาพนาเสนอผลงานทพ่ี ิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ ภาพสื่อมวลชนทกุ แขนงในจงั หวัดสุรนิ ทร์เข้าชม ปราชญ์ชมุ ขนได้รบั การ
ยอมรับ
๘. กำรเช่ือมโยงเครอื ขำ่ ยแหลง่ เรียนรู้
มีการเชือ่ มโยงเครอื ข่ายเรียนรู้กับภาคีตา่ ง ๆ อาทเิ ช่น มหาวิทยาลัยราชภฏั สรุ นิ ทร์ มหาวทิ ยาลัย
เทคโนโลยีราชมงคลวทิ ยาเขตสุรนิ ทร์ สานักงาพัฒนาชมุ ชนจงั หวัดสุรินทร์ สานักงานวฒั นธรรมจงั หวดั สรุ นิ ทร์
การท่องเทย่ี วแห่งประเทศไทย พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสุรินทร์ และหนว่ ยงานอืน่ ๆ
ภาพการเช่ือมโยงเครือข่าย ภาพสร้างเครือข่ายแหลง่ เรยี นรู้ ภาพขยายการเรียนรู้สชู่ าวตา่ งชาติ
๙. ผลงำนดีเดน่ ท่ีแหลง่ เรียนรูไ้ ดร้ บั กำรยกยอ่ ง (ยอ้ นหลัง 5 ปี 2559 - 2564)
๑. ชุมชนบ้านช่างปี่ได้มีโอกาสรับเสด็จ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
สยามบรมราชกุมารี และไดน้ ้อมเกล้าถวายเครือ่ งปัน้ ดินเผา
๒. ชุมชนบ้านช่างปี่ได้มีโอกาสต้อนรับผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ และผู้ว่าราชการจังหวัดอื่น ๆ
ในการเดินทางมาศึกษาดูงานทช่ี ุมชนบา้ นชา่ งป่ี
๓. ชุมชนบ้านช่างปี่ได้มีโอกาสได้เป็นส่วนหนึ่งในการผลิตสื่อโทรทัศน์ และเผยแพร่ความรู้
ทางดา้ นศิลปวัฒนธรรมอันดีงามเพ่อื ให้เป็นทีร่ ู้จกั ในวงกว้าง
4. ชุมชนบา้ นชา่ งปี่ ไดร้ บั คัดเลือกเปน็ ชุมชนคุณธรรมน้อมนาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบ
จังหวดั สรุ นิ ทร์
23
นางนวลนรา บอ่ ท่อง ตวั แทน ผู้วา่ ราชการจงั หวัดสุรินทร์ สานักงานวฒั นธรรมจงั หวดั สรุ นิ ทร์
สนบั สนุนป้ายชุมชนคุณธรรมฯ
กลุ่มเคร่อื งปั้นดนิ เผาบ้านช่างปี่ รว่ มจัดทาข้อมลู วตั ถโุ บราณ
ทูลเกลา้ ถวายเครอื่ งป้นั ดินเผาบา้ นช่างปี่
แด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจา้
กรมสมเด็จพระเทพรตั นราชสุดาฯ สยามบรมราชกมุ ารี
24
หอ้ งสมุดชมุ ชน หอสมดุ และเทคโนโลยสี ำรสนเทศ
มหำวทิ ยำลยั มหำจฬุ ำลงกรณรำชวทิ ยำลยั วทิ ยำเขตสรุ ินทร์
ตำบลนอกเมือง อำเภอเมอื งสุรนิ ทร์ จงั หวัดสุรินทร์
๑. กำรบรหิ ำรจัดกำร
๑) การบรหิ ารจัดการในภาพรวม
หอสมุดและเทคโนโลยีสำรสนเทศ มหำวิทยำลยั มหำจุฬำลงกรณรำชวิทยำลัย วทิ ยำเขตสุรนิ ทร์
ปรัชญา/วิสัยทัศน์/พันธกจิ
ปรชั ญำ
ปญญฺ า นราน รตน
ปัญญาเป็นรัตนะของคนทงั้ หลาย
ปณธิ ำน
“มุง่ เปน็ ศูนยก์ ลางการเรียนรู้ด้วยตนเอง ด้านพระพุทธศาสนา ศาสนาวิทยา ปรัชญา และสาขาวิชาท่ีเก่ียวข้อง
โดยอาศัยเทคโนโลยสี ารสนเทศทที่ ันสมยั ท้งั น้ีเพอ่ื สนบั สนนุ ความเปน็ เลศิ ทางวิชาการก้านพระพทุ ธศาสนา
และสรา้ งภูมปิ ญั ญาให้แกส่ งั คม”
วิสัยทัศน์
“มุ่งพัฒนาหอสมุด สานักหอสมุดและเทคโนโลยีสารสนเทศให้เป็นศูนย์กลางสารสนเทศด้านพระพุทธศาสนา
ศาสนาวิทยา ปรัชญา ชน้ั นาด้วยการบริการทีท่ ันสมัย รวดเร็ว ถูกต้อง แม่นยา ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศที่สามารถ
สืบค้นขอ้ มลู ได้อย่างกว้างขวาง ไรข้ อบเขต พร้อมบคุ ลกรท่ีมคี วามรู้ความสามารถมีจิตวญิ ญาณในการให้บรกิ าร”
พนั ธกจิ
“หอสมุด สานกั หอสมุดและเทคโนโลยีสารสนเทศ มภี ารกจิ หลักในการสนับสนุนการเรียนการสอนและการวิจัย
ของมหาวทิ ยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ซึ่งเป็นไปตามพันธกิจของมหาวิทยาลัย คือ การผลิตบัณฑิต วิจัย
และพัฒนาส่งเสริมพระพุทธศาสนาและบริการวิชาการแก่สังคมและทานุบารุง ศิลปวัฒนธรรมโดยใช้เทคโนโลยี
ท่ที ันสมัย”.
ท้ังน้ียังเปิดบรกิ ารใหน้ กั เรียน นกั ศกึ ษา ประชาชนในพ้นื ทีไ่ ดเ้ ขา้ มาสืบค้นขอ้ มูลอย่างท่ัวถงึ
หอสมุดและเทคโนโลยีสารสนาเทศ มหาวทิ ยาลัยมหาจฬุ าลงกรณราชวิทยาลัย วทิ ยาเขตสุรนิ ทร์
25
๒) การบริหารจดั การในรปู แบบคณะกรรมการ คณะทางานหรือบุคคล
หอสมุดและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลยั มหาจฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลัย วิทยาเขตสรุ ินทร์
ได้มกี ารจัดการแต่งตง้ั คณะกรรมการทางาน
แผนผังคณะกรรมการบริหารหอ้ งสมุดและเทคโนโลยสี ารสนเทศ
๓) การประชุมของคณะกรรมการ/คณะทางาน และมแี ผนการจัดกิจกรรมประจาปี
หอสมดุ และเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลยั วิทยาเขตสุรินทร์
ได้มกี ารจดั การแตง่ ตง้ั คณะกรรมการทางาน ดาเนินงานตามแผนกิจกรรมต่างๆ ตลอดท้ังปี
การประชมุ เพือ่ ปรับปรงุ พัฒนาหอ้ งสมุด
26
๒. กำรระดมทรัพยำกร
๑) การจัดหางบประมาณ
หอสมดุ และเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวทิ ยาลยั มหาจฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลัย วทิ ยาเขตสุรนิ ทร์ได้มกี ารขอ
งบประมาณการจดั สรรหนงั สอื วัสดุ อุปกรณป์ ระจาปี เป็นจานวนเงนิ 200,000 บาท
การบรหิ ารจดั การดาเนินการ จัดซือ้ วสั ดปุ ปุ กรณ์
๒) การสนบั สนุนทรพั ยากรทางการบริหารอ่ืนๆ อาทิ คน วัสดอุ ปุ กรณ์
หอสมุดและเทคโนโลยสี ารสนเทศ มหาวิทยาลัยมหาจฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลัย วิทยาเขตสรุ ินทร์ ดังน้ี
(1) ได้มีการรับบรจิ าคหนงั สอื จากชมุ ชน งบประมาณ 5,000 บาท
(2) ได้มกี ารรับบรจิ าคโตะ๊ เก้าอี้ จากศษิ ยเ์ ก่า มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลยั วิทยาเขต
สรุ ินทร์ งบประมาณ 20,000 บาท
รวมเปน็ เงนิ ทั้งสิ้น 25,000 บำท
ประชาชนในพื้นท่ีร่วมบริจาคหนงั สอื ศษิ ยเ์ กา่ ร่วมบริจาคโตะ๊ เก้าอีเ้ พ่ือดาเนนิ การใช้ประโยชน์ต่อไป
27
๓. ดำ้ นอำคำรสถำนท่ี
๑) ทีต่ ง้ั และลกั ษณะอาคาร
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตสุรินทร์ บ้านโคกพระเพอ หมู่ท่ี ๘ (ห้วยเสนง)
ตาบลนอกเมือง อาเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ มีบริเวณท่ีกว้างขวาง ร่มรื่น การเดินทางสะดวกสบาย
ไม่ไกลจากตวั อาเภอเมอื งสรุ นิ ทร์ มีวสั ดอุ ปุ กรณ์เทคโนโลยีครบครัน สามารถสืบคน้ ข้อมลู ไดท้ นั ที
อำคำร หอสมดุ และเทคโนโลยีสารสนเทศ (สมเด็จพระพุฒาจารย)์
ลกั ษณะอาคารมคี วามม่ันคง มเี จ้าหนา้ ทคี่ อยบรกิ ารใหค้ วามชว่ ยเหลอื ในการสืบคน้ ขอ้ มูล
๒) การจดั บรรยากาศและสิง่ อานวยความสะดวก
หอสมดุ และเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยมหาจฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลัย วทิ ยาเขตสรุ นิ ทร์ไดจ้ ัดบริบท
และส่ิงแวดล้อมที่สบาย
มีนา้ ดื่มบริการ มาน่ังคอยบรกิ ารอานวยความสะดวก และมสี ถานทีจ่ อดรถกวา้ งขวาง
๔. ดำ้ นบคุ ลำกร
๑) จานวนบคุ ลากรผู้ให้บรกิ าร
หอสมดุ และเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวทิ ยาลยั มหาจฬุ าลงกรณราชวิทยาลยั วิทยาเขตสุรนิ ทร์มีจานวน
บุคลากรผ้ใู ห้บริการ ๒ ทา่ น นางจารณุ ี นามวัฒน์ เจา้ หนา้ ทห่ี อ้ งสมุด นางสาวนิชาภา แกว้ ขาว นกั จัดการงาน
ทัว่ ไป
มเี จ้าหน้าทีค่ อยใหบ้ ริการ อานวยความสะดวกผทู้ ่มี าสืบค้นขอ้ มูล
28
๒) การพัฒนาความรคู้ วามสามารถบุคลากรผู้ให้บรกิ าร
มกี ารจัดอบรมบุคลากรใช้โปรแกรม matrix ระบบสืบคน้ ออนไลน์
โปรแกรม matrix ระบบสบื ค้นออนไลน์
5. ด้ำนกำรให้บรกิ ำร
๑) การเปดิ ใหบ้ ริการ
หอสมุดและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลยั วทิ ยาเขตสรุ ินทร์ เปดิ บรกิ าร
ยืม -คนื และระเบียนการใชห้ ้องคอมพิวเตอร์ เวลา 8.30 – 1๖.3๐ น. ในวันราชการ
ประชาชน นกั เรยี น นกั ศกึ ษา เข้ารบั บรกิ ารห้องสมดุ ของมหาลัยฯ
29
๒) การใหบ้ รกิ ารด้านเทคโนโลยี
เว็บไซต์ หอสมุดและเทคโนโลยีสารสนเทศ : https://lib-opac.mcu.ac.th/cgi-bin/koha/opac-
search.pl?branch_group_limit=branch%3A170000
ฐานข้อมูล วิทยานิพนธ์ : https://e-thesis.mcu.ac.th/
ฐานข้อมูลวิจยั “สบื คน้ งานวจิ ัยพระพทุ ธศาสนากับสหวทิ ยาการเพื่อพฒั นาจติ ใจและสังคม”:
http://www.mcuir.com/
ฐานขอ้ มลู วารสาร : http://www.ojs.mcu.ac.th/
คลังหนงั สอื E-book : http://ebook.mcu.ac.th/
บรกิ ารวชิ าการ ห้องปฏิบตั กิ ารคอมพวิ เตอร์ จานวน ๔๕ เครือ่ ง
อานวยความสะดวกการบรกิ ารดา้ นเทคโนโลยี มเี จ้าหนา้ ทใี ห้คาปรึกษาในการสืบคน้ ข้อมูล
30
๓) การถา่ ยทอดและบริการองคค์ วามรู้
หอสมุดและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวทิ ยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วทิ ยาเขตสรุ นิ ทร์
ได้จัดโครงการพัฒนาศกั ยภาพดา้ นการใชเ้ ทศโนโลยสี ารสนเทศ แก่ พระสงฆ์ นิสติ และประชาชนท่วั ไป
การอบรมให้กบั พระสงฆ์ นิสติ และประชาชนทว่ั ไป
๔) มกี ารจดั หมวดหมูห่ นังสือแบบทศนยิ มดิวอ้ี จานวน ๑๐ หมวด
หอสมุดและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลยั วิทยาเขตสุรนิ ทร์
ได้จัดตามหมวดหมูม่ าตรฐานตามทศนยิ มดวิ อ้ี
มีการจัดระบบหมวดหมหู่ นังสอื แบบทศนยิ มดวิ อี้ จานวน ๑๐ หมวด เพ่อื ความสะดวกใน
คน้ หาขอ้ มลู
๕) จานวนหนงั สือทใ่ี ห้บริการ
หอสมดุ และเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตสรุ นิ ทร์
มีจานวนหนังสือทั้งสน้ิ 40,369 เลม่
หนงั สือทีม่ ใี หบ้ รกิ าร
31
๖) การใหบ้ รกิ ารสิ่งพิมพ์ต่อเน่อื ง
หอสมุดและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยมหาจฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลัย วทิ ยาเขตสรุ นิ ทร์
มีส่งิ ตพี ิมพข์ องพิมพน์ ิตยสาร วารสาร ดงั น้ี วารสารวนมั ฎองแหรกพทุ ธศาสตรปรทิ รรศน์ (Journal of Buddhist
Studies Vanam Dongrak) บัณฑิตศกึ ษา มหาวิทยาลัยมหาจฬุ าลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตสุรินทร์ เป็น
วารสารวชิ าการ ราย 6 เดอื น (ปลี ะ 2 ฉบับ) คือ ฉบับท่ี 1 เดอื น มกราคม-มิถุนายน, ฉบับที่ 2 เดอื น กรกฎาคม –
ธนั วาคม
วารสารวนัมฎองแหรกพุทธศาสตรปริทรรศน์
๗) จานวนผู้รับบริการ (Walk in)
หอสมดุ และเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลยั มหาจฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลัย วิทยาเขตสรุ ินทร์
เฉลีย่ ตอ่ วนั 30 คน รวม 10,800 คน/ปี
ภาพนสิ ิต นกั เรียน นกั ศกึ ษา ประชาชน เขา้ มาใชบ้ ริการหอสมดุ และเทคโนโลยีสารสนเทศ
32
8) จานวนผู้รบั บริการ (On line)
หอสมุดและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลยั วทิ ยาเขตสุรินทร์
เฉลี่ยตอ่ วัน 100 คน รวม 36,000 คน/ปี
มีระบบสืบคน้ ออนไลน์บรกิ ารประชาชน
9) การบรกิ ารชุมชน
หอสมดุ และเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยมหาจฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลยั วิทยาเขตสุรนิ ทร์
มีประชาชนในชุมชนโคกกะเพอ เขา้ ใชบ้ ริการ เฉล่ีย 4-5 คน ต่อวนั
ภาพการบริการชุมชน
6. กำรยอมรบั ของชุมชนและสงั คม
หอสมุดและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตสรุ ินทร์
ไดบ้ รกิ ารวิชาการโดยใช้หอ้ งปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ จานวน ๔๕ เครือ่ งในการสบื ค้นข้อมลู และเป็นสถานที่
ประชาชน นักเรียน นกั ศกึ ษา หน่วยงานราชการไดเ้ ข้ามาใชบ้ ริการในการสืบค้นขอ้ มูล เช่น มหาวิทยาลัยราชภัฏ
สรุ นิ ทร์ ขอความอนุเคราะหส์ ถานทีใ่ นการจัดอบรมนกั ศึกษา
ภาพการเรียนรู้
33
7.ผลงำนดเี ดน่ ทห่ี ้องสมดุ ชมุ ชนได้รับกำรยกยอ่ ง (ย้อนหลัง 5 ปี 2559 - 2564)
หอสมุดและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวทิ ยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลัย วทิ ยาเขตสรุ นิ ทร์
ไดร้ ับการผ่านการตรวจประเมิน
34
ห้องสมดุ ชุมชนโรงเรยี นบวรธรรมประยุตวทิ ยา จงั หวดั สุรนิ ทร์
ตำในเมอื ง อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสรุ ินทร์
๑. กำรบริหำรจัดกำร
๑) การบริหารจดั การในภาพรวม
โรงเรียนบวรธรรมประยุตวิทยา ในโรงเรียนการกุศลของวัด ในพระพุทธศาสนา เดิมเป็นช่ือโรงเรียน
ปรยิ ตั ิบวรวทิ ยา โรงเรยี นปริยตั สิ ามัญ สงั กดั สานักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ในปี 2551 พระครูปริยัติธรรม
ประยุต (ฉตั ต์ สจั จวโร) เจ้าอาวาสวัดพรหมสุรินทร์ ผู้ริเร่ิมก่อตั้งโรงเรียนบวรธรรมประยุตวิทยา ได้ขอรับอนุญาต
มติเถรสมาคมขออนุญาตก่อตั้งโรงเรียนการกุศล โดยมีวัตถุประสงค์ คือเปิดให้โอกาสบุตร-หลาน ประชาชน พระ เณร
ที่อยู่ทั้งในและนอกชมชน ในเขตบริการวัดพรหมสุรินทร์ ท่ีขาดแคลนทุนทรัพย์และขาดโอกาสเข้ารับการศึกษา
จากสถาบนั การศึกษาของรฐั ไดเ้ ข้ามาศึกษาโดยไม่เสยี คา่ ใช้จา่ ยใดๆ ตอ่ มา
ในส่วนของการจดั สร้างหอ้ งสมดุ นั้น ไดร้ บั ความอนเุ คราะห์จากท่านเสนอ มูลศาสตร์ อดีตผู้ว่าราชการ
จังหวัดสุรินทร์ และคุณแม่ปล่ังศรี มูลศาสตร์ ภริยาของท่าน อดีตผู้อานวยการโรงเรียนสิรินธร ท่านได้บริจาค
ทรัพย์สินให้โรงเรียนเพ่ือจัดทาห้องสมุด พร้อมวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อให้บุตร -หลาน ประชาชน พระ เณร
ท่ีอยู่ท้งั ในและนอกชุมชน ในเขตบรกิ ารวัดพรหมสรุ นิ ทร์ ได้เข้ามาศกึ ษาหาความรู้
ปัจจุบัน ห้องสมุดชุมชนโรงเรียนบวรธรรมประยุตวิทยา ได้ให้บริการนักเรียน ประชาชน พระ เณร
ทีอ่ ยทู่ ้งั ในและนอกชมชน ในเขตบรกิ ารวัดพรหมสุรินทร์ ในการศึกษาหาความรู้ และใช้สื่อเทคโนโลยีสารสนเทศ
เปน็ แหล่งเรยี นรู้ที่สาคัญทีเ่ อือ้ ต่อการเรียนรู้
ห้องสมดุ โรงเรยี นบวรธรรมประยุตวิทยา
35
๒) การบริหารจดั การในรปู แบบคณะกรรมการ คณะทางานหรอื บุคคล
หอ้ งสมดุ ชมุ ชนโรงเรียนบวรธรรมประยตุ วทิ ยา ได้มีการจัดการแต่งต้ังคณะกรรมการทางาน โดยมีผู้บริหาร
คณะครู คณะกรรมการชุมชน รว่ มเปน็ คณะกรรมการด้วย
คณะกรรมการหอ้ งสมุดชมุ ชนโรงเรียนบวรธรรมประยุตวทิ ยา
๓) การประชมุ ของคณะกรรมการ/คณะทางาน และมีแผนการจัดกจิ กรรมประจาปี
หอ้ งสมุดชุมชนโรงเรยี นบวรธรรมประยตุ วทิ ยา ได้มีการจัดการแตง่ ตง้ั คณะกรรมการทางาน
ดาเนนิ งานตามแผนกจิ กรรมต่างๆ ตลอดท้ังปี
การประชุมเพ่ือปรบั ปรงุ พฒั นาหอ้ งสมุด
36
๒. กำรระดมทรพั ยำกร
๑) การจดั หางบประมาณ
ห้องสมุดชุมชนโรงเรียนบวรธรรมประยตุ วทิ ยา ไดม้ ีการของบประมาณการจัดสรรหนังสือ วัสดุ อปุ กรณ์
ประจาปี จากการบริจาคของประชาชน ภาครฐั ภาคเอกชน เป็นจานวนเงิน 50,000 บาท
การบริหารจดั การดาเนนิ การจดั ซ้อื วัสดุปปุ กรณ์ สมดุ หนังสอื
๒) การสนับสนนุ ทรัพยากรทางการบรหิ ารอนื่ ๆ อาทิ คน วัสดุอุปกรณ์
หอ้ งสมดุ ชุมชนโรงเรยี นบวรธรรมประยุตวทิ ยา ได้รับการสนับสนุน ดังน้ี
(1) ไดม้ กี ารรับบริจาคหนังสอื จากชุมชน งบประมาณ 2,000 บาท
(2) ไดม้ กี ารรบั บริจาคโต๊ะ เก้าอี้ คอมพวิ เตอร์ งบประมาณ 30,000 บาท
รวมเปน็ เงนิ ทง้ั ส้นิ 22,000 บำท
ศษิ ยเ์ กา่ ร่วมบรจิ าคโตะ๊ เกา้ อ้เี พอื่ ดาเนนิ การใชป้ ระโยชนต์ ่อไป
๓. ดำ้ นอำคำรสถำนท่ี
๑) ท่ตี ัง้ และลกั ษณะอาคาร
ห้องสมุดชุมชนโรงเรียนบวรธรรมประยุตวิทยา ต้ังอยู่เลขที่ 59/2 ถนนกรุงศรีนอก ตาบลในเมือง
อาเภอเมืองสรุ นิ ทร์ จังหวัดสุรนิ ทร์ รหัสไปรษณยี ์ 32000 โทรศัพท์ 044-515647 โทรสาร – อีเมล์ e-mail
[email protected]
ลกั ษณะอาคารมคี วามมั่นคง มเี จ้าหน้าท่คี อยบริการใหค้ วามช่วยเหลอื ในการสบื ค้นขอ้ มลู
37
๒) การจัดบรรยากาศและสง่ิ อานวยความสะดวก
ห้องสมุดชมุ ชนโรงเรยี นบวรธรรมประยุตวทิ ยา ไดจ้ ัดเตรยี มสถานที่สมุด หนังสือ คอมพิวเตอร์ไวบ้ รกิ ารแก่
ผู้รับบริการ จดั โต๊ะ เก้าอ้ี ม้านง่ั ไว้เพยี งพอ มีทจี่ อดรถ หอ้ งน้าไว้บริการ
อานวยความสะดวกโตะ๊ เก้าอา้ ม้านง่ั สาหรับผรู้ บั บริการและทจ่ี อดรถกว้างขวาง
4. ด้ำนบคุ ลำกร
๑) จานวนบุคลากรผใู้ ห้บริการ
ห้องสมุดชมุ ชนโรงเรยี นบวรธรรมประยตุ วทิ ยา มเี จ้าหน้าทบ่ี รกิ าร 2 ท่าน คือนางสาวชนดิ า เหมอื น
พร้อม นางสาวอาภสั รา วเิ ชยี รรมั ย์ เจา้ หนา้ ที่ห้องสมุด และนางพัชรินทร์ เทยี งดา ครูคอมพวิ เตอร์
มเี จา้ หนา้ ทีค่ อยให้บริการ อานวยความสะดวกผู้ทีม่ าสบื คน้ ขอ้ มลู
๒) การพัฒนาความรคู้ วามสามารถบคุ ลากรผ้ใู ห้บรกิ าร
มีการจัดอบรมบคุ ลากรใช้โปรแกรม ระบบสืบคน้ ออนไลน์ จดั อบรมนกั เรยี นเรยี นรรู้ ะบบสารสนเทศ
จัดอบรมนกั เรียน และเจ้าหน้าท่ี เกี่ยวกบั การใชร้ ะบบสารสนเทศ อนิ เตอร์เนต็
38
5. ดำ้ นกำรให้บริกำร
๑) การเปดิ ใหบ้ รกิ าร
หอ้ งสมุดชมุ ชนโรงเรยี นบวรธรรมประยตุ วทิ ยา เปิดบรกิ ารยืม -คืน และระเบียบการใชห้ ้องคอมพวิ เตอร์
เวลา 8.30 – 1๖.3๐ น. ในวันราชการ
ประชาชน นกั เรยี น นักศึกษา เข้ารับบริการห้องสมุด
๒) การให้บริการด้านเทคโนโลยี
หอ้ งสมดุ ชมุ ชนโรงเรยี นบวรธรรมประยุตวิทยา บรกิ ารวิชาการ ห้องปฏิบัตกิ ารคอมพิวเตอร์
จานวน 20 เครอื่ ง
อานวยความสะดวกการบรกิ ารดา้ นเทคโนโลยี มีเจ้าหน้าทใี ห้คาปรึกษาใน
การสืบคน้ ขอ้ มลู
๓) การถ่ายทอดและบริการองค์ความรู้
ห้องสมุดชุมชนโรงเรียนบวรธรรมประยุตวิทยา ดาเนนิ การจัดโครงการอบรมพฒั นาทักษะดา้ นคอมพวิ เตอร์
แก่ นักเรยี น เจา้ หน้าที่ และประชาชนทัว่ ไป
การอบรมใหก้ ับ นกั เรียน เจา้ หนา้ ที่ และประชาชนทว่ั ไป
39
๔) มีการจดั หมวดหมู่หนังสอื แบบทศนิยมดวิ อ้ี จานวน ๑๐ หมวด
หอ้ งสมุดชุมชนโรงเรยี นบวรธรรมประยตุ วทิ ยา ได้จัดตามหมวดหมู่มาตรฐานตามทศนิยมดิวอี้
0
มกี ารจดั ระบบหมวดหมหู่ นังสอื แบบทศนยิ มดิวอี้ จานวน ๑๐ หมวด เพื่อความสะดวกในค้นหาขอ้ มลู
๕) จานวนหนังสอื ทใี่ หบ้ ริการ
หอ้ งสมดุ ชุมชนโรงเรยี นบวรธรรมประยตุ วทิ ยา มจี านวนหนงั สอื ทั้งส้นิ 5,000 เลม่
หนังสอื ทมี่ ีใหบ้ รกิ าร
๖) การให้บริการสิ่งพิมพ์ต่อเนื่อง
หอ้ งสมุดชมุ ชนโรงเรยี นบวรธรรมประยุตวทิ ยา ได้มกี ารจัดทาวารสาร เดือนละ 1 ครั้ง
วารสารโรงเรยี นบวรธรรมประยุตวทิ ยา
40
๗) จานวนผู้รบั บริการ (Walk in)
หอ้ งสมดุ ชุมชนโรงเรียนบวรธรรมประยุตวทิ ยา มผี ้รู บั รกิ ารเฉล่ยี 20 คนตอ่ วัน รวม 7,200 คน/ปี
ภาพนสิ ติ นกั เรยี น เขา้ มาใช้บริการหอ้ งสมุด
8) จานวนผู้รบั บริการ (On line)
หอ้ งสมดุ ชุมชนโรงเรยี นบวรธรรมประยตุ วิทยา มีผเู้ ข้ารับบริการเฉลยี่ 30 คนตอ่ วนั รวม 10,800 คน/ปี
มรี ะบบสบื คน้ ออนไลน์บริการประชาชน
9) การบริการชุมชน
หอ้ งสมดุ ชมุ ชนโรงเรยี นบวรธรรมประยตุ วทิ ยา อยู่ในพืน้ ท่ีวดั พรหม เป็นสถานท่ีอานวยความสะดวก
ให้ส่วนราชการและชุมชนจัดกิจกรรม เช่นงานระเพณตี า่ ง ๆ งานสาคญั ทางพระพทุ ธศาสนา หรือการจัดประชุม
อบรม เปน็ ตน้
ภาพการบริการชุมชน/หนว่ ยงานตา่ งๆ
41
6. กำรยอมรับของชุมชนและสังคม
หอ้ งสมุดชมุ ชนโรงเรยี นบวรธรรมประยุตวิทยา ได้บริการวิชาการโดยใช้ห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์
จานวน 20 เครอ่ื งในการสืบคน้ ข้อมูล และเป็นสถานท่ีประชาชน นักเรียน นักศึกษา หน่วยงานราชการได้เข้ามา
ใช้บริการในการสืบค้นข้อมูล ทั้งน้ีบุคลากรได้รับเชิญเป็นวิทยากรการอบรมการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
และการจัดทาสอื่ นวตั กรรมให้กบั สถานศึกษาอน่ื ๆ
ภาพการเปน็ วทิ ยากร
7.ผลงำนดีเด่นท่ีห้องสมดุ ชุมชนได้รับกำรยกยอ่ ง (ย้อนหลงั 5 ปี 2559 - 2564)
นักเรยี นได้รบั รางวลั ชนะเลิศระดบั จังหวัด และระดับภาค การจัดทาหนงั สอื เลม่ เลก็
ภาพการรบั รางวัล
42
คณะทำงำน
จัดทำโดย สำนกั งำนวฒั นธรรมจังหวดั สรุ นิ ทร์
ทป่ี รกึ ษำ
นางสาววาสนา ไชยพรรณา วัฒนธรรมจังหวดั สุรินทร์
จัดทำโดย ผอู้ านวยการกล่มุ สง่ เสรมิ ศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม
1. นางสาวปรียากรณ์ ทะคาสอน
นักวิชาการวฒั นธรรมชานาญการ
2. นางณัฏฐ์ธมล ปุน่ โพธ์ิ นักวชิ าการวัฒนธรรมชานาญการ
3. นางสาวนดุ ีอร บุหลันเลย่ี มวงศ์ นักวชิ าการวัฒนธรรมชานาญการ
4. นางเรวดี หมายกล้า นกั วิชาการวัฒนธรรมชานาญการ
5. นายพบิ ูลย์ สุขอยู่ นกั วชิ าการวฒั นธรรมชานาญการ
6. นางกัลจนา แสงงาม นกั วชิ าการวัฒนธรรมชานาญการ
7. นางสาวอรอนงค์ จนั ทร์ศรี นกั วิชาการวฒั นธรรมชานาญการ
8. นางสาววีณา พ้ืนแสน
สนบั สนนุ ข้อมลู
1. พระครูสมหุ ค์ าหาญ ปัญฺญาธโร เจ้าอาวาสวดั ปา่ อาเจยี ง
2. นายสพุ จน์ งามพร้อม ครโู รงเรยี นบา้ นชา่ งป่ี
3. นายบดนิ ทร จนี เปยี นกั วชิ าการคอมพวิ เตอร์ มหาวทิ ยาลยั มหาจฬุ าลงกรณ ราชวิทยาลยั
วิทยาเขตสรุ นิ ทร์
4. คณะครโู รงเรียนบวรธรรมประยตุ วทิ ยา
43