4.3 ความผดิ ปกติ ระบบภมู คิ ุ้มกันมีความสําคญั อยา่ งมากตอ่ การดํารงชวี ติ
ของระบบภมู คิ ้มุ กัน ของมนุษย์ ชว่ ยต่อตา้ นหรือทําลายสิงแปลกปลอมต่าง ๆ ทจี ะ
เข้าสู่ร่างกาย แต่บางครังร่างกายอาจเกิดความผิดปกตขิ อง
ระบบภูมิคุ้มกนั ดงั นันจึงควรเรียนรถู้ งึ สาเหตุ การปองกัน
รวมทงั วธิ ีการปฏิบตั ิตนใหป้ ลอดภัย หรือสามารถดาํ รงชวี ติ อยู่
รว่ มกับความผิดปกตนิ ันได้
ความผดิ ปกตหิ รอื โรคทีเกียวขอ้ งกับความผดิ ปกติของ
ระบบภมู คิ ุ้มกนั มหี ลายโรค แตล่ ะโรคมีสาเหตุหรือปจจยั ที
ทาํ ใหเ้ กิดแตกต่างกนั โรคทีเกิดจากความผิดปกตขิ องระบบ
ภมู ิคุม้ กนั เชน่ โรคภมู ิแพ้ (allergy) โรคลปู ส (Lupus) หรือ
โรคเอสแอลอี (Systemic Lupus Erythematosus, SLE)
และโรคเอดส์ (Acquired Immunodeficiency Syndrome,
AIDS) เปนตน้
โรคภมู ิแพ้
เปนโรคทเี กิดจากระบบภมู ิคุ้มกนั ตอบสนองตอ่ แอนตเิ จนบางอย่างทไี ดร้ ับรนุ แรงเกินไป
เรยี กแอนตเิ จนทีทําใหเ้ กิดอาการแพ้ว่า สารกอ่ ภมู ิแพ้ (allergen) เช่น เกสรดอกไม้ ฝุน
สารบางชนิดในอาหาร เปนตน้
เมือสารก่อภูมิแพ้เขา้ สู่รา่ งกายเซลล์บีจะสรา้ งแอนติบอดีบางชนิดทีจาํ เพาะต่อสารก่อภมู แิ พ้นนั
และแอนตบิ อดนี ีไปเกาะทีผิวของเซลล์แมสต์ (mast cell) ซงึ อย่ตู ามเนือเยือตา่ ง ๆ เมอื ได้รับสาร
กอ่ ภมู ิแพ้ชนิดเดมิ อีกครัง จะกระตนุ้ ให้เซลล์แมสต์หลงั ฮิสตามนิ (histamine) ออกมาทาํ ให้เกิด
อาการแพ้ เชน่ ไอ จาม คันตา คันจมูก หรอื นําตาไหล แตใ่ นบางรายอาจมีอาการแพ้รุนแรง ทาํ ให้
กล้ามเนอื ทที างเดินหายใจหดตวั การหายใจตดิ ขดั หรือเกิดอาการบวมทัวรา่ งกายทาํ ให้ถงึ แกช่ ีวติ ได้
ซึงอาการแพ้สามารถแกไ้ ขไดโ้ ดยการใหย้ าแอนตฮิ ิสตามนิ (antihistamine)
โรคภูมิแพ้
นอกจากนเี ซลล์เม็ดเลอื ดขาวชนดิ เบโซฟล (basophil) ซงึ อย่ใู นกระแสเลือดสามารถสรา้ งและหลงั ฮิสตามนิ ตอบ
สนองตอ่ แอนตบิ อดีได้ ทําให้เกิดอาการแพ้ได้เชน่ เดยี วกบั เซลลแ์ มสต์ การปองกันและหลีกเลียงการเกดิ โรคภมู แิ พ้ คือ
หลกี เลยี งสารกอ่ ภมู ิแพ้ รกั ษาสุขภาพรา่ งกายให้แขง็ แรงอยู่เสมอ รับประทานอาหารทมี ปี ระโยชน์ ออกกาํ ลังกาย และ
พักผ่อนใหเ้ พียงพอ
โรคลปู ส หรอโรคเอสแอลอี
(Systemic Lupus Erythematosus; SLE)
เปนโรคในกลุ่มภมู ิคุ้มกนั ต้านตนเอง (autoimmune disease) เกดิ จากรา่ งกาย
สรา้ งแอนตบิ อดีหรือกระตุ้นเซลลท์ ีใหต้ ่อต้านและทําลายเนือเยอื หรือเซลลข์ องตนเองใน
ระบบต่าง ๆ เชน่ ระบบหมุนเวยี นเลือด ระบบประสาท ระบบขับถ่าย เปนตน้ อาการของ
โรคเอสแอลอบี างชนิดทพี บคอื มผี นื แดงทีใบหน้า มไี ข้ ปวดบริเวณข้อเนอื งจากการ
อกั เสบ ในผู้ปวยทีเปนโรคนีระบบประสาทส่วนกลางจะถกู ทาํ ลาย การทาํ งานของหัวใจ
และการทาํ งานของไตอาจล้มเหลวได้ การรกั ษาทําได้โดยรกั ษาตามความรุนแรงของ
อาการ และจาํ เปนตอ้ งได้รับการรกั ษาอยา่ งตอ่ เนอื งรวมทังปฏิบัตติ นอยา่ งถูกต้องตาม
คําแนะนาํ ของแพทยอ์ ย่างเคร่งครัด
โรคเอดส์
(acquired immunodeficiency syndrome, AIDS)
เปนโรคทีเกดิ จากภูมคิ ้มุ กนั บกพร่องจากการติดเชอื HIV (Human Immunodeficiency Virus)
ผ่านทางเลือดหรอื สารคัดหลัง เมือ HIV เข้าสู่รา่ งกายจะทาํ ลายกลไกการตอ่ ตา้ นหรอื ทาํ ลายสิงแปลก
ปลอมแบบจําเพาะ โดยเขา้ ไปเพิมจํานวนในเซลลท์ ีผู้ช่วย ทาํ ให้เซลล์เมด็ เลือดขาวชนดิ นี คอ่ ย ๆ ลด
จํานวนลง ส่งผลใหร้ ะบบภูมคิ ุ้มกันทํางานไมส่ มบูรณ์ รา่ งกายจึงมคี วามเสียงจากการติดเชือ หรือเสียง
ต่อการแทรกซอ้ นของโรคอนื ๆ ได้งา่ ย เช่น โรคปอดบวม วณั โรค เยอื หุม้ สมองอกั เสบ โรคเรมิ
โรคเชือราตามผิวหนงั หรอื ในช่องปาก โดยโรคแทรกซ้อนเหล่านีเปนสาเหตุหลักทที าํ ใหผ้ ปู้ วยเสียชวี ิต
การเพมิ จาํ นวนของ HIV ในเซลลท์ ผี ู้ช่วย
HIV เกาะทผี่ วิ เซลลท ีผชู ว ย HIV ปลอ ยสารพนั ธุกรรม
เขา ไปในเซลลท ผี ูชวย
HIV ใชอ งคป ระกอบของเซลลท ผี ชู ว ย
ในการสงั เคราะหส ารพันธกุ รรม
การเพมิ จํานวนของ HIV ในเซลล์ทีผู้ชว่ ย
HIV จําลองตัวเองได
จํานวนเพ่ิมมากข้ึน
HIV ทําลายเซลลท ีผชู ว ย HIV ท่สี รา งข้นึ ใหม
และแยกหลดุ ออกไปจากเซลลทผี ูชว ย เขาไปทําลายเซลลทีผชู วยอ่ืน ๆ
โรคเอดส์
(acquired immunodeficiency syndrome, AIDS)
เชือ HIV สามารถอยู่รอดภายนอกร่างกายไดใ้ นช่วงระยะเวลาหนงึ โดยอยใู่ นของเหลว เมือก หรือสารคัดหลงั โดย
เฉพาะทีผลติ จากระบบสืบพันธ์ุ การติดเชอื HIV ติดต่อไดห้ ลายทาง เชน่ การได้รบั เลอื ดหรือสารคดั หลงั การตดิ เชอื จาก
แมส่ ู่ลูกขณะตังครรภ์และการคลอดหรอื การใหน้ าํ นม การมีเพศสัมพันธ์โดยไมม่ กี ารปองกนั การใช้เข็มฉดี ยารว่ มกนั
ปจจบุ ันยังไม่มวี ัคซนี หรือยาชนดิ ใดทีรักษาการตดิ เชือ HIV ใหห้ ายขาดได้ ผู้ปวยตอ้ งดูแลสุขภาพใหแ้ ขง็ แรงอยู่เสมอ
รบั ประทานยาตา้ นเชอื เพือยบั ยังหรือหยุดการเพิมจํานวนของเชอื ไวรสั และปฏบิ ตั ิตามคําแนะนําของแพทย์อย่าง
เคร่งครดั
การไดรบั เลอื ด การถา ยทอดเช้อื HIV การมเี พศสมั พนั ธ การใชเ ข็มฉีดยารวมกนั
หรือสารคดั หลงั่ จากแมสูล กู โดยไมป องกัน