การทำทำทำทำบุบุ บุญบุ ตัตั ตั ก ตั กบาตรไทหล่ล่ ล่ ม ล่ ม สัสัสั ก สั กการะพระพุพุ พุ ท พุ ทธรูรู รู ป รู ปปางถวายพระเพลิลิ ลิงลิ ฟัฟัฟังฟัธรรมะเทศนา สวดมนตร์ร์ ร์ไร์ หว้ว้ ว้ พ ว้ พระ รัรั รั ก รั กษาศีศีศี ล ศี ล เวีวี วียวีนเทีที ทียทีนด้ด้ ด้ ว ด้ วยดอกมณฑาทิทิ ทิ พ ทิ พย์ย์ย์ย์ มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมเมือง "เพชบุระ" ณ วัวั วั ด วั ดทุ่ทุ่ทุ่งทุ่ ธงไชย ตำตำตำตำบลหล่ล่ ล่ มล่ มเก่ก่ ก่ า ก่ า อำอำอำอำเภอหล่ล่ ล่ มล่ มเก่ก่ ก่ า ก่ า จัจั จังจั หวัวั วั ด วั ดเพชรบูบู บู ร บู รณ์ณ์ ณ์ณ์ วันอัฏฐมีบูชา ถือเป็นวันสำ คัญในพระพุทธศาสนาวันหนึ่ง ตรงกับวันแรม ๘ ค่ำ เดือนวิสาขะ (เดือน ๖ ของไทย) คือ วันถวายพระเพลิง พระพุทธสรีระของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า (หลังเสด็จดับขันธปรินิพพานได้ ๘ วัน) แต่จุดไฟเท่าไหร่ก็ไม่ติด จนกระทั่ง พระมหากัสสปะที่เพิ่ง ทราบข่าว การปรินิพพาน ได้เดินทางมาถึง จึงยื่นพระบาททั้ง ๒ ข้าง ออกมาจากโลง เพื่อให้พระมหากัสสปะกราบเป็นครั้งสุดท้าย จากนั้นไฟก็ติด ขึ้นมาเองและทำ การถวายพระเพลิงได้ และมีมณฑาทิพย์ โปรยลงมาจากฟ้า ตอนพระเพลิงจุดติดขึ้นมา วัด วั ทุ่งทุ่ ธงไขย หมู่ที่มู่ ที่ ๑๑ ตำ บลหล่ม ล่ เก่า ก่ อำ เภอหล่ม ล่ เก่า ก่ จังจั หวัด วั เพชรบูร บู ณ์ เป็นป็ วัด วั แห่งห่ เดียดี วในจังจั หวัด วั เพชรบูร บู ณ์ที่ณ์มีที่ พ มี ระพุท พุ ธรูป รู ปางถวายพระเพลิงลิ ขององค์สค์ มเด็จ ด็ พระสัม สั มาสัม สั พุท พุ ธเจ้า จ้ ประดิษ ดิ ฐานอยู่ ณ วัด วั แห่งห่ นี้ด้ นี้ ว ด้ ยความยึด ยึมั่น มั่ และศรัท รั ธาในพระพุท พุ ธศาสนาของชาวอำ เภอหล่ม ล่ เก่า ก่ เมื่อ มื่ ใกล้ถึ ล้งถึ วัน วั อัฏ อั ฐมีบู มีช บู า จะเวียวีนมาบรรจบในแต่ล ต่ ะปี ชาวอำ เภอหล่ม ล่ เก่า ก่ ผู้เผู้ฒ่า ฒ่ ผู้แผู้ก่ทั้ ก่ งทั้ หลาย ตลอดจนพุท พุ ธศาสนิก นิชน ส่ว ส่ นราชการทุกทุ ภาคส่ว ส่ น ผู้เผู้ลื่อ ลื่ มใสศรัท รั ธา และยึด ยึ มั่น มั่ ในพระพุท พุ ธศาสนา จะนัด นั แนะกัน กั มาปรึก รึ ษาหารือ รื เพื่อ พื่ กำ หนดการจัด จังานเพื่อ พื่ น้อ น้ มรำ ลึก ลึ ถึงถึ องค์สค์ มเด็จ ด็ พระสัม สั มาสัม สั พุท พุ ธเจ้า จ้ โดยได้ร่ ด้ ว ร่ มใจสามัค มั คีกั คีน กั จัด จัให้มี ห้มี การประกอบพิธีพิ ก ธี รรมทางพระพุท พุ ธศาสนาเพื่อ พื่ ถวายเป็นป็ พุท พุ ธบูช บู า อาทิเ ทิช่น ช่ วันอัฎฐมีบูชา เป็นประเพณีอันดีงามที่มีความสำ คัญทางจิตใจ และถือเป็นเอกลักษณ์แห่งชาวพุทธศาสนิกชนชาวหล่มเก่า ที่ยังคงน้อมรำ ถึงถึง องค์สค์ มเด็จ ด็ พระสัม สั มาสัม สั พุท พุ ธเจ้า จ้ และยึด ยึมั่น มั่ ในพระพุท พุ ธศาสนา โดยพิธีพิ ก ธี รรมทางศาสนาในวัน วั อัฏ อั ฐมีบู มีช บู าดังดั กล่า ล่ วนี้ ได้จั ด้ ด จัให้มี ห้ ขึ้ มีนขึ้ ครั้งรั้ แรก เมื่อ มื่ ปี พ.ศ. ๒๕๕๘ เป็นประเพณีที่ท้องถิ่นได้ปฏิบัติสืบทอดติดต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ด้านแนวปฏิบัติทางสังคม พิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล จัดทำ โดย นางสาวณัฐธยาน์ กางถิ่น เจ้าหน้าที่มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม
แบบสำรวจและจัดฐานข้อมูลมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ของสภาวัฒนธรรมจังหวัดเพชรบูรณ์ ๑. ชื่อรายการมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ชื่อรายการ วันอัฐมีบูชา ชื่อเรียกในท้องถิ่น - ชื่อภาษาอื่น (ถ้ามี) - ๒. ประเภทมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม รายการตัวแทนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม (มีการปฏิบัติอย่างแพร่หลาย) รายการมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่ต้องได้รับการส่งเสริมและรักษาอย่างเร่งด่วน (เสี่ยงต่อการสูญหาย) ๓. ลักษณะมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม (ตอบได้มากกว่า ๑ หัวข้อ) วรรณกรรมพื้นบ้านและภาษา ศิลปะการแสดง แนวปฏิบัติทางสังคม พิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล ความรู้และการปฏิบัติเกี่ยวกับธรรมชาติและจักรวาล งานช่างฝีมือดั้งเดิม การเล่นพื้นบ้าน กีฬาพื้นบ้านและศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัว ๔. ประวัติความเป็นมาและรายละเอียดมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ความเป็นมา วันอัฏฐมีบูชา คือวันถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า (หลังเสด็จ ขับขันธปรินิพพานได้ ๘ วัน) ถือเป็นวันสำคัญในพระพุทธศาสนาวันหนึ่ง ตรงกับวันแรม ๘ ค่ำ เดือนวิสาขะ (เดือน ๖ ของไทย) นอกจากนั้น วันนี้ยังเป็นวันคล้ายวันที่พระนางสิริมหามายา องค์พระพุทธมารดา สิ้นพระชนม์ (หลังประสูติ) และเป็นวันคล้ายที่พระพุทธองค์เสวยวิมุตติสุขตลอด ๗ วัน (หลังตรัสรู้) อีกด้วย พิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพมีขึ้นเมื่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้เสด็จปรินิพพาน ใต้ตันสาละในราตรี ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ ไปแล้ว ๘ วัน โดยพวกเจ้ามัลลกษัตริย์จัดบูชาด้วยของหอม ดอกไม้ และ เครื่องดนตรีทุกชนิด ที่มีอยู่ในเมืองกุสินาราตลอด ๗ วัน แล้วให้เจ้ามัลละระดับหัวหน้า ๘ คน สรงเกล้า นุ่งห่มผ้าใหม่ อัญเชิญพระสรีระไปทางทิศตะวันออกของพระนคร เพื่อถวายพระเพลิง พวกเจ้ามัลละถามถึงวิธี ปฏิบัติพระสรีระกับพระอานนท์เถระ แล้วทำตามคำของพระเถระนั้น คือ ห่อพระสรีระด้วยผ้าใหม่แล้ว ซับด้วยสำลี แลัวใช้ผ้าใหม่ห่อทับอีก ทำเช่นนี้จนหมดผ้า ๕0๐ คู่ แล้วเชิญลงในรางเหล็กที่เติมด้วยน้ำมัน แล้วทำจิตกาธานด้วยดอกไม้จันทน์ และของหอมทุกชนิด จากนั้นอัญเชิญพวกเจ้ามัลละระดับหัวหน้า ๔ คน สระสรงเกล้าและนุ่งห่มผ้าใหม่ พยายามจุดไฟที่เชิงตะกอน แต่ก็ไม่อาจให้ไฟติดได้ จึงสอบถามสาเหตุ พระอนุรุทธะ พระเถระ แจ้งว่า "เพราะเทวดามีความประสงค์ให้รอพระมหากัสสปะ และภิกษุหมู่ใหญ่ ๕00 รูป ผู้กำลังเดินทางมาเพื่อถวายบังคมพระบาทเสียก่อน ไฟก็จะลุกไหม้" ก็เทวดาเหล่านั้น เคยเป็นโยมอุปัฏฐากของ พระเถระ และพระสาวกผู้ใหญ่มาก่อน จึงไม่ยินดีที่ไม่เห็นพระมหากัสสปะอยู่ในพิธีและเมื่อภิกษุหมู่ ๕๐๐ รูป โดยมีพระมหากัสสปะเป็นประธาน เดินทางมาพร้อมกัน ณ มกุฎพันธนเจดีย์แห่งกรุงกุสินารา ที่ถวายพระเพลิง แล้ว ไฟจึงลุกโชนขึ้นเองโดยไม่ต้องมีใครมาจุด หลังจากพระเพลิงเผาไหม้พระพุทธสรีระดับมอดลงแล้ว บรรดา กษัตริย์มัลละทั้งหลาย จึงได้ทำพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุทั้งหมด ใส่ลงในหีบทอง
-2- แล้วนำไปรักษาไว้ภายในนครกุสินารา ส่วนเครื่องบริขารต่าง ๆ ของพระพุทธเจ้า ได้มีการอัญเชิญ ไปประดิษฐานยังสถานที่ต่างๆ อาทิ ผ้าไตรจีวร อัญเชิญไปประดิษฐานที่แคว้นคันธาระ บาตรอัญเชิญไป ประดิษฐานที่เมืองปาตลีบุตร เป็นตัน และเมื่อบรรดากษัตริย์จากแคว้นต่างๆ ได้ทราบว่าพระพุทธเจ้าได้เสด็จ ดับขันธปรินิพพานที่นครกุสินารา จึงได้ส่งตัวแทนไปขอแบ่งพระบรมสารีริกธาตุเพื่อนำกลับมาสักการะยังแคว้น ของตนแต่ก็ถูกกษัตริย์มัลละปฏิเสธ จึงทำให้ทั้งสองฝ่ายขัดแย้งและเตรียมทำสงครามกัน แต่ในที่สุดเหตุการณ์ก็ มิได้บานปลาย เนื่องจากโทณพราหมณ์ได้เข้ามาเป็นตัวกลางเจรจาไกล่เกลี่ยเพื่อยุติความขัดแย้ง โดยเสนอให้ แบ่งพระบรมสารีริกธาตุออกเป็น ๘ ส่วนเท่าๆ กัน ซึ่งกษัตริย์แต่ละเมืองทรงสร้างเจดีย์ที่บรรจุพระบรม สารีริกธาตุ ตามเมืองต่างๆ ดังนี้ 1. กษัตริย์ลิจฉวี ทรงสร้างเจดีย์บรรจุไว้ที่เมืองเวสาลี 2. กษัตริย์ศากยะ ทรงสร้างเจดีย์บรรจุไว้ที่เมืองกบิลพัสดุ์ 3. กษัตริย์ถูสิยะ ทรงสร้างเจดีย์บรรจุไว้ที่เมืองอัลลกัปปะ 4. กษัตริย์โกสิยะ ทรงสร้างเจดีย์บรรจุไว้ที่เมืองรามคาม 4. มหาพราหมณ์ สร้างเจดีย์บรรจุไว้ที่เมืองเวฏฐทีปกะ 6. กษัตริย์มัลละแห่งเมืองปาวา ทรงสร้างเจดีย์บรรจุไว้ที่เมืองปาวา ๗. พระเจ้าอชาตศัตรู ทรงสร้างเจดีย์บรรจุไว้ที่เมืองราชคฤห์ . 8. มัลลกษัตริย์แห่งกุสินารา ทรงสร้างเจดีย์บรรจุไว้ที่เมืองกุสินารา ๙. กษัตริย์เมืองโมริยะ ทรงสร้างสถูปบรรจุพระอังคาร (อังคารสถูป) ที่เมืองปีปผลิวัน ๑๐.โทณพราหมณ์ สร้างสถูปบรรจุทะนานตวงพระบรมสารีริธาตุที่เมืองกุสินารา (ทะนานตวงพระบรมสารีริกธาตุแจก , คำว่า ตุมพะ แปลว่า ทะนาน , บางทีเรียกสถูปนี้ว่า ตุ๋มพสถูป) สำหรับ กรณีของกษัตริย์เมืองโมริยะนั้น ได้ส่งผู้แทนมาหลังจากที่โทณพราหมณ์แบ่งพระบรมสารีริกธาตุให้ทั้ง ๘ เมือง ไปแล้ว จึงได้อัญเชิญพระอังคารไปแทน ส่วนโทณพราหมณ์ ก็ได้สร้างสถูปบรรจุทะนาน ที่ใช้สำหรับตวง พระบรมสารีริกธาตุสำหรับตนเอง และผู้คนได้สักการะดังที่ได้กล่าว วันอัฏฐมีบูชา ตรงกับวันแรม ๘ ค่ำ เดือน ๖ เป็นวันที่มีเหตุการณ์สำคัญทางพระพุทธศาสนา ถือเป็นวันที่ตรงกับวันถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระ เป็นวันที่ชาวพุทธมีความโศกเศร้าเสียใจอย่างยิ่ง และสูญเสียพระบรมสรีระแห่งองค์พระบรมศาสดา ซึ่งเป็นที่เคารพสักกระอย่างสูง จึงเป็นวันที่ควรแสดง ธรรมสังเวชและระลึกถึงพระพุทธคุณให้สำเร็จเป็นพุทธานุสสติภาวนามัยกุศล วันอัฏฐมีบูชา เป็นวันสำคัญที่ชาวพุทธควรตระหนักถึง "ความไม่เที่ยงของชีวิต" การเกิด แก่ เจ็บ และ ตาย ล้วนเป็นสิ่งธรรมดาที่คู่กับมนุษย์ ไม่เว้นแม้แต่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า สัจธรรมเหล่านี้จึงเป็นสิ่งที่ไม่มี ใครหนีพ้น ดังนั้น การใช้ชีวิตในแต่ละวัน จึงควรยึดหลัก "สุจริต ๓" ในการปฏิบัติตน ได้แก่ กายสุจริต วจีสุจริต และมโนสุจริต หมายถึง การประพฤติดีทั้งทางกาย วาจา และใจ อยู่ในทำนองคลองธรรม ไม่สร้างความเดือน ร้อนแก่ผู้อื่นนั่นเอง วัดทุ่งธงไขย หมู่ที่ ๑๑ ตำบลหล่มเก่า อำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นวัดแห่งเดียวในจังหวัดเพชรบูรณ์ที่ มีพระพุทธรูปปางถวายพระเพลิงขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ประดิษฐานอยู่ ณ วัดแห่งนี้ด้วยความยึด มั่นและศรัทธาในพระพุทธศาสนาของชาวอำเภอหล่มเก่า เมื่อใกล้ถึงวันแรม ๘ ค่ำเดือน 6 หรือที่เรียกกันว่าวันอัฏฐมีบูชา จะเวียนมาบรรจบในแต่ละปี ชาวอำเภอหล่มเก่า กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้เฒ่าผู้แก่ ทั้งหลาย คณะสงฆ์อำเภอหล่มเก่า สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเพชรบูรณ์ สภาวัฒนธรรมจังหวัดเพชรบูรณ์ องค์การบริหารส่วนตำบลหล่มเก่า ตลอดจนพุทธศาสนิกชนทุกภาคส่วนผู้เลื่อมใสศรัทธาและยึดมั่นใน พระพุทธศาสนาจะนัดแนะกันมาปรึกษาหารือกำหนดการจัดงาน เพื่อน้อมรำลึกถึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัม พุทธเจ้าโดยได้ร่วมใจสามัคคีกันจัดให้มีการประกอบพิธีกรรมทางพระพุทธศาสนาในวันแรม ๘ ค่ำ เดือน ๖
-3- ถวายเป็นพุทธบูชา เช่น การทำบุญตักบาตร การถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์ สวดมนต์ไหว้พระ รักษาศีล ฟังพระธรรมเทศนา การเวียนเทียน เป็นต้น โดยพิธีกรรมทางศาสนาในวันอัฏฐมีบูชาดังกล่าวนี้ ได้จัดให้มีขึ้น ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๕๘ เป็นประเพณีที่ท้องถิ่นได้ปฏิบัติสืบทอดติดต่อกันมาจนถึงปัจจุบันรวมเป็น ระยะเวลาหลายปี ประเพณีวันอัฎฐมีบูชา เป็นประเพณีอันดีงามที่มีความสำคัญทางจิตใจ และถือเป็นเอกลักษณ์แห่งชาว พุทธศาสนิกชนชาวหล่มเก่า ที่ยังคงน้อมรำถึงภึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และยึดมั่นในพระพุทธศาสนา ควรค่าแก่การสืบทอดสู่ลุกหลานและอยู่คู่แผ่นดินไทยสืบไป ๕. พื้นที่ปฏิบัติมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม (พื้นที่ที่ปรากฏหรือชุมชนที่มีการปฏิบัติมรดกภูมิปัญญา ทางวัฒนธรรม) V6R9+G7Q วัดทุ่งธงชัย ตำบลหล่มเก่า อำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ 67120 16.891521627496456, 101.218272064807 ๖. คุณค่าและความสำคัญของมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมในแต่ละระดับ ระดับปัจเจกบุคคล ระดับครอบครัว ระดับชุมชนท้องถิ่น ระดับประเทศ 7. รายชื่อผู้สืบทอด / ผู้ครอง / ผู้ที่เกี่ยวข้องหลักในปัจจุบัน รายขื่อบุคคล/หัวหน้าคณะ/ กลุ่ม/สมาคม/ชุมชน อายุ/อาชีพ ที่อยู่ (สถานที่ติดต่อ) / หมายเลข โทรศัพท์ พระสมศักดิ์ วชิรญาโณ 65 ปี เจ้าอาวาสวัดทุ่งธงไชย วัดทุ่งธงไชย ตำบลหล่มเก่า อำเภอ หล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ 67120 นายชัยณรงค์ พันธุ์จงกล นายกองค์การบริหารส่วนตำบล ส่วนตำบลหล่มเก่า องค์การบริหารส่วนตำบลส่วนตำบล หล่มเก่า ตำบลหล่มเก่า จังหวัด เพชรบูรณ์ 67120 โทร. 056 747 024 8. ปัจจุบันรายงานมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมได้รับการประกาศขึ้นบัญชีในระดับใด ยังไม่เคยได้รับการประกาศขึ้นบัญชี (รายการสำรวจและจัดเก็บใหม่) ระดับจังหวัด (รายการเบื้องต้นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม) ระดับชาติ ระดับนานาชาติ(ยูเนสโก) 9. จากข้อ 8 ควรจะเสนอรายการมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมได้รับการประกาศขึ้นบัญชีในระดับใด สำรวจและจัดเก็บเท่านั้น (ยังไม่ควรได้รับการประกาศขึ้นบัญชี) ระดับจังหวัด (รายการเบื้องต้นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม) ระดับชาติ ระดับนานชาติ (ยูเนสโก)
-4- 10. เอกสารอ้างอิงและ/หรือผลงานที่เกี่ยวข้องในการส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ระเบียบวาระการประชุมคณะกรรมการพิจารณาการจัดงานประเพณีขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ครั้งที่ 3/2566 เรื่องพิจารณา : พิจารณาการจัดงานประเพณีวันอัฏฐมีบูชา ขององค์การบริหารส่วนตำบล หล่มเก่า ในวันพุธที่ 3 พฤษภาคม 2566 เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุมสำนักงานส่งเสริมการปกครอง ท้องถิ่นจังหวัดเพชรบูรณ์ 11. รูปภาพ พร้อมคำอธิบายใต้ภาพจำนวน 10 ภาพ ภาพที่ 1 ภาพที่ 2 ภาพที่ 3 ภาพที่ 1 – 3 การประกอบพิธีทางศาสนางานประเพณีวันอัฏฐมีบูชา
-5- ภาพที่ 4 ภาพที่ 5 ภาพที่ 6 ภาพที่ 7 ภาพที่ 8 ภาพที่ 4 - 8 กิจกรรมเวียนเทียนระลึกพระพุทธคุณให้สำเร็จเป็นพุทธานุสสติของพระสัมมาสัมพุมธเจ้า “พระพุทธรูปปางถวายพระเพลิง” หลังจากพิธีทางศาสนาจะเป็นการเวียนเทียนวันอัฏฐมีบูชา วัดทุ่งธงไชย อำเภอหล่มเก่า จังหวัด เพชรบูรณ์ จะมีกิจกรรมเวียนเทียน ซึ่งจะเวียนเทียนในช่วงเช้า โดยใช้ธูปเทียนและดอกไม้ทั่วไป แต่ปัจจุบันมี การรณรงค์ให้ใช้ดอกมณฑาทิพย์ประกอบการเวียนเทียน เพื่อให้เป็นเอกลักษณ์ของงานวันอัฏฐมีบูชา วัดทุ่งธงไชย
-6- ภาพที่ 9 ภาพที่ 10 ภาพที่ 11 ภาพที่ 12 ภาพที่ 9 - 12 กิจกรรมการทำบุญตักบาตรแบบวัฒนธรรมพื้นบ้านย้อนยุค คือ การแต่งกายชุดผ้าพื้นเมือง ปูสาน ตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง
-7- 12. ข้ออมูลภาพถ่าย ข้อมูลภาพเคลื่อนไหว หรือข้อมูลเสียง (ระบุประเภทของสื่อที่แนบไฟล์มาพร้อม คำอธิบาย) ข้อมูลภาพถ่าย ได้แก่ 12 ภาพ ข้อมูลภาพเคลื่อนไหว - ข้อมูลเสียง – 13. ข้อมูลผู้สำรวจและจัดเก็บ ชื่อ – สกุล นางสาวณัฐธยาน์ กางถิ่น หน่วยงาน สภาวัฒนธรรมจังหวัดเพชรบูรณ์ เลขที่ 999 อาคาร 2 ชั้น 4 ตำบลสะเดียง อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ จังหวัดเพชรบูรณ์ 67000 โทรศัพท์ 096 179 3686 อีเมล์ [email protected]