แบบสำรวจและจัดฐานข้อมูลมรดกภมู ิปัญญาทางวัฒนธรรม
ของสภาวัฒนธรรมจงั หวดั เพชรบรู ณ์
๑. ชอื่ รายการมรดกภูมิปัญญาทางวฒั นธรรม
ช่อื รายการ บงึ สามพนั
ชื่อเรยี กในท้องถ่ิน -
ชือ่ ภาษาอนื่ (ถา้ มี) -
๒. ประเภทมรดกภมู ิปัญญาทางวฒั นธรรม
รายการตวั แทนมรดกภมู ปิ ญั ญาทางวัฒนธรรม (มกี ารปฏิบตั อิ ย่างแพรห่ ลาย)
รายการมรดกภมู ปิ ญั ญาทางวัฒนธรรมที่ตอ้ งได้รับการส่งเสริมและรกั ษาอย่างเร่งดว่ น
(เส่ยี งต่อการสูญหาย)
๓. ลักษณะมรดกภูมิปัญญาทางวฒั นธรรม (ตอบได้มากกวา่ ๑ หัวขอ้ )
วรรณกรรมพนื้ บา้ นและภาษา
ศลิ ปะการแสดง
แนวปฏิบัตทิ างสงั คม พิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล
ความรูแ้ ละการปฏิบตั ิเกย่ี วกับธรรมชาตแิ ละจักรวาล
งานช่างฝมี ือดง้ั เดิม
การเลน่ พืน้ บ้าน กีฬาพืน้ บ้านและศลิ ปะการตอ่ ส้ปู ้องกันตัว
๔. ประวัติความเป็นมาและรายละเอยี ดมรดกภมู ปิ ัญญาทางวัฒนธรรม
ประวัติความเป็นมาอำเภอบึงสามพัน ตามที่ได้มีการบอกเล่าสืบต่อเป็นตำนานดังต่อไปนี้ โดยก่อน
ทจี่ ะเรยี กเป็นช่ืออำเภอบึงสามพนั คนท่ัวไปรู้จักบรเิ วณทตี่ ้ังของ อำเภอในช่ือของ" ซับสมอทอด " ซึ่งไม่ปรากฎหลักฐาน
แน่ชัดว่ามีการเรียกขานชื่อซับสมอทอดมานานเพียงใด เพราะบริเวณดังกล่าวนี้ยังไม่มีชุมชน
มาตั้งอยู่แต่ก่อน ด้วยเป็นสภาพของป่าดงดิบ มีความอุดมสมบูรณ์ และรกชัฏเป็นอย่างยิ่งประกอบไปด้วย
ไม้นานาพันธุ์ และเต็มไปด้วยสัตว์ป่าน้อยใหญ่มากมายหลายชนิด เช่น ช้าง เสือ กระทิง เก้ง กวาง เป็นต้น ซึ่งเป็น
ห้วงระยะเวลาก่อนปีพุทธศักราช 2484 โดยการเดินทางสัญจรไปมาในขณะนั้นลำบากเป็นอย่างมาก เพราะยังไม่มี
ถนนเป็นเพียงเส้นทางที่ลัดเลาะผ่านบริเวณป่าผ่านจากทางเหนือไป ทางใต้เท่านั้น ซึ่งปกติจะเป็นเส้นทางค้าขายของ
พ่อค้าโคกระบือในอดีตด้วยคือเป็นเส้นทาง สัญจรไปมาเป็นครั้งคราว อาทิเช่น นายกา ราษฎรจากภาคอีสาน
คือจังหวัดอุบลราชธานี เป็นพ่อค้าโคกระบือเรียกตามภาษาอีสานว่า " พ่อฮ้อยกา " ได้นำโคกระบือต้อนมาตามแนว
ถนนคชเสนีย์ ( คือถนนสายสระบุรี-หล่มสัก ในปัจจุบัน ซึ่งถนนคชเสนีย์เพิ่งจะมาสร้างในช่วงระยะเวลาประมาณ
ปีพุทธศักราช 2484 - 2489 หรือในสมัยสงครามโลกครัง้ ที่ 2 เป็นต้นมา ) เป็นเวลาอยู่หลายปี เพื่อนำมาขายให้กับ
ชาวจังหวัดเพชรบูรณ์ และชาวจังหวัดนครสวรรค์ บางครั้งยังนำไปขายถึงจังหวัดพิจิตร และพิษณุโลกอีกด้วย
จนกระทั่งปีพุทธศักราช 2494 นายกา นายทอง และครอบครัว รวม 4 ครัวเรือนได้พาครอบครัวมาตั้งรกรากเป็น
กลุ่มแรกโดยมาตั้งอยู่บริเวณซึ่ง เรียกว่าบ้านซับเกษตร ตำบลบึงสามพัน ในปัจจุบัน เพราะเห็นว่าเป็นแหล่งที่มีความ
อุดมสมบูรณ์มาก มดี ินดี และมีนำ้ ทา่ บรบิ ูรณ์ เหมาะสำหรบั ทำการเกษตรเปน็ อย่างยง่ิ หรือเรียกไดว้ า่ มี " ดินดำ น้ำชุม่ "
นนั่ เอง สว่ นสาเหตทุ ไี่ ด้ช่ือว่า " ซบั สมอทอด " เพราะวา่ มีต้นสมอใหญม่ ากอยู่ต้นหน่ึงข้ึนอยูท่ ่ีริมคลองซับสมอทอดพร้อม
กบั เอนลงไปในคลอง ดโู ดดเดน่ กวา่ ต้นไมอ้ ่นื ซ่ึงคลองนจี้ ะไหลจากทศิ ตะวนั ตกไปลงสู่บึงสามพัน
2
สมัยนั้นคลองมีความลึก มีน้ำใสสะอาด และมีต้นไม้ขึ้นอยู่ริมคลองอย่างหนาแน่น จนกระทั่งปีพุทธศักราช 2513 ต้น
สมอตน้ ดงั กล่าวไดถ้ ูกน้ำเซาะและได้ล้มลง จงึ เป็นตำนานของคำวา่ " ซับสมอทอด " ซ่ึงแปลเป็นภาษาอย่างงา่ ยวา่
" แหลง่ นำ้ ซึง่ มีตน้ สมอยืนต้นอยู่หรือทอดเอนอยู่ " ปจั จุบนั คลองซบั สมอทอดไดต้ ืน้ เขินข้ึนมาก สว่ นคำวา่ " บงึ สามพัน "
เป็นชือ่ เรยี กบึงแห่งหน่ึงซึ่งอยู่ห่างไปทางทิศตะวันออกเฉียงใตข้ องทีต่ ั้ง ที่ว่าการอำเภอบึงสามพันประมาณ 3 กิโลเมตร
โดยบึงสามพันมีขนาดความกว้างประมาณ 150 เมตร และมีความยามประมาณ 3 กิโลเมตร และมีลักษณะทอดตัว
จากทางทิศเหนือไปยังทิศใต้ บึงสามพันเมื่อก่อนนั้น (ก่อนปี พ.ศ. 2500) อุดมไปด้วยสัตว์น้ำนานาชนิด โดยเฉพาะ
มีจระเข้ชุกชุมมาก ประมาณกันว่าไม่ต่ำกว่า 3,000 ตัว ปัจจุบันยังมีหลักฐานยืนยันได้จากระดูกจระเข้จำนวนมาก
อยู่ที่วิหารวัดบึงสามพันล่าง บ้านบึงสามพันล่าง หมู่ที่ 5 ต.บึงสามพัน โดย ในสมัยก่อนตามแม่น้ำป่าสักผ่านจังหวัด
อ่างทอง ลพบุรี อำเภอชัยบาดาล อำเภอวิเชียรบุรี จนเข้าเขตอำเภอบึงสามพัน สามารถจับจระเข้ได้เป็นจำนวนมาก
ประมาณว่าจระเข้ในบึงมีมากกว่า 3,000 ตัวอีก สมกับคำล่ำลือกันว่าบึงสามพัน โดยถูกเรียกชื่อว่าเป็นบึงสามพันมา
นานแลว้ จนกระท่ังถูกนำใชม้ าเปน็ ชอ่ื ของอำเภอบงึ สามพันในปจั จุบนั
การคมนาคมในอำเภอบึงสามพัน ในสมัยที่ยังขึ้นอยู่กับอำเภอวิเชียรบุรี (ต่อมาอำเภอหนองไผ่แยกออกจาก
อำเภอวิเชียรบุรี ขณะนั้นอำเภอบึงสามพันจึงขึ้นอยู่กับตำบลบ้านโภชน์ อำเภอหนองไผ่ ตามมาด้วย) นั้น ทุรกันดาร
เป็นอย่างยิ่ง ถนนสายหลักคือถนนคชเสนีย์(คือถนนสายสระบุรี -หล่มสักในปัจจุบัน) ได้เริ่มดำเนิน
การสร้างในสมัยสงครามโลก ครั้งที่ 2 (ระหว่าง พ.ศ. 2484-2489) จอมพล ป. พิบูลสงคราม ตามแนวนโยบาย
ที่จะย้ายเมืองหลวง จากกรุงเทพมหานคร มายังจังหวัดเพชรบูรณ์ เนื่องจากมีสภาพทางภูมิศาสตร์
มีภูเขาล้อมรอบอยู่ถึงสามด้าน เว้นแต่ด้านทิศใต้เท่านั้นยากแก่การบุกรุกของข้าศึก ซึ่งถนนสายนี้ถือเป็นสายเอก
ของอำเภอบึงสามพนั ก่อนที่จะมถี นนสายวังพิกุล และสายจงั หวดั นครสวรรค์เชือ่ มกบั จังหวัดชยั ภมู ใิ นเวลาต่อมา
กลุ่มราษฎรที่เข้ามาอาศัยอยู่รุ่นแรก เริ่มตั่งแต่ครอบครัวนายกา ตั่งแต่ปีพุทธศักราช 2494 เป็นต้นมา
เริ่มมีราษฎรจากต่างจังหวัดข้างเคียงอพยพมามากขึ้นได้แก่ จังหวัดนครสวรรค์ พิจิตร ลพบุรี สระบุรี ชัยภูมิ
เป็นต้น ซึ่งพื้นที่ซับสมอทอดมีความอุดมสมบูรณ์ด้วยป่าไม้นานาพันธุ์และชุกชุมด้วย สัตว์ป่าและสัตว์น้ำ
จึงเป็นพ้ืนท่ีบกุ เบิก และหักล้างถางพงของราษฎรต่างพ้ืนที่ บางสว่ นมกั มีคดีติดตัวมา ตา่ งขนบธรรมเนยี มประเพณี ตา่ ง
ถือดีทำให้เกิดการแย่งที่ทำมาหากินและแย่งกันเป็นใหญ่ในหมู่บ้าน จึงตัดสินและลงเอยด้วยการฆ่ากันเป็นประจำ
ประมาณเดือนละ 4 ศพ ดังมีคำกล่าวมาแต่ก่อนว่า " อยากรวยให้ไปอยู่ที่ลำนารายณ์ อยากตายให้ไปอยู่
ท่ีซบั สมอทอด" สงิ่ ศักด์สิ ิทธ์ิทเ่ี คารพนบั ถือของชาวอำเภอบงึ สามพนั ซึ่งมปี ระวัติความเป็นมานา่ สนใจคือ พระพุทธรูป
" หลวงพ่อบึงสามพัน " โดยมีเรื่องเล่าต่อๆกันมาว่า วันหนึ่งราษฎรบ้านโภชน์กลุ่มหนึ่งมียายมอญรวมอยู่ด้วย
ได้พากันมาหาปลาที่บึงสามพัน (ซึ่งในขณะนั้นมีปลาชุกชุมมาก) โดยวิธีการยกยอ โดยยายมอญยกยอทั้งวัน
จนเหนด็ เหนอ่ื ยไม่ได้ปลาแม้แต่ตวั เดียวจึงเกิดความ ทอ้ แทใ้ จมองดูดวงอาทิตย์ก็บ่ายคล้อยลงทุกที ทันใดน้ันก็เกิดเหตุ
อัศจรรย์ขึ้น เพราะยอของยายมอญเกิดไปเกี่ยวกับวัตถุอะไรบางอย่างไม่ทราบได้และไม่สามารถยก
ยอขึ้นได้จึงให้เพื่อนบ้านหลายคนช่วยกันยกยอแต่ยกยออย่างไรก็ไม่ขึน้ เป็น เวลาหลายครั้ง ซึ่งช่วงแรกไม่มีใครกล้าดำ
นำ้ ลงไปดใู ต้น้ำเพราะขณะนั้นจระเข้ชุกชุมมาก แตใ่ นที่สุดเพ่ือนบ้านเห็นว่าไม่มีทางดึงข้ึนได้แน่จึงเส่ียงดำน้ำลงไปดูให้
แน่ใจและจะได้ปลดยอออกให้ จึงพบว่าวัตถุที่ติดยออยู่นั้นเป็นพระพุทธรูปสมัยเก่า แต่ถึงกระนั้น
ก็ยังไม่สามารถนำพระพุทธรูปขึ้นจากบึงได้ทั้งที่พระพุทธรูป องค์ไม่ใหญ่นัก จนต้ องทำบุญอธิษฐานจิตว่า
" จะเทิดทูลยิ่งชีวิต " จึงอัญเชิญขึ้นมาได้ปัจจุบันหลวงพ่อบึงสามพันประดิษฐานที่วัดบ้านโภชน์ อำเภอหนองไผ่
จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่วัดหนึ่ง และมีประวัติการปล้นพระพุทธรูปหลวงพ่อบึงสามพันขึ้นครั้งหนึ่ง
เมื่อปีพุทธศักราช 2504 พวกโจรได้บุกเข้ามาโจรกรรมหลวงพ่อบึงสามพัน หลวงพ่อคงเจ้าอาวาสวัดบ้านโภชน์ใน
ขณะนั้นเขา้ ขัดขวางจึงถกู พวกโจรทุบด้วย ฆอ้ น จนหลวงพอ่ คงสลบไป พวกโจรคิดวา่ หลวงพ่อคงตายแลว้
3
จึงหันกลับมาที่พระพุทธรูปหลวงพ่อบึงสามพันพากันอุ้มพระพุทธรูปหลวงพ่อบึง สามพันออกจากพระอุโบสถ
แต่พวกโจรไม่สามารถอุ้มหลวงพ่อบึงสามพันออกจากอุโบสถได้เพราะหลวงพ่อบึงสามพันได้แสดงปาฎิหารย์
ให้องค์ใหญก่ ว่าประตูพระอโุ บสถ (หลวงพอ่ บึงสามพันเปน็ พระ พุทธรูปปางสมาธิ ขนาดหน้าตักกว้าง 19 น้ิว สงู 31 น้ิว)
ต่อมาพวกโจรที่ปล้นวัดบ้านโภชน์คร้ังนั้น กเ็ กดิ ฆา่ ฟนั กันเองจนตายหมด และเมื่อถึงช่วงเวลาระหว่างเดือนเมษายน -
เดือนพฤษภาคมของทุกปีราษฎรบ้านโภชน์จะต้องนำองค์หลวงพ่อบึงสามพัน ออกมาให้ประชาชนได้กราบไหว้บูชา
และทำการสรงน้ำกัน โดยมคี วามเชื่อกนั ว่าถ้าได้นำหลวงพ่อบึงสามพันแห่และทำพธิ ีสรงน้ำกันจะทำให้ฝนตกต้องตาม
ฤดูกาล
ท่ตี ัง้ และอาณาเขต อำเภอบึงสามพันต้ังอยู่ทางตอนใต้ของจังหวัด มีอาณาเขตตดิ ต่อกับอำเภอข้างเคยี ง ดังน้ี
ทศิ เหนือ ติดต่อกับ อำเภอชนแดนและอำเภอหนองไผ่
ทศิ ตะวันออก ติดต่อกับ อำเภอภักดชี ุมพล (จังหวัดชยั ภมู )ิ
ทิศใต้ ติดต่อกับ อำเภอวเิ ชียรบรุ ี
ทิศตะวันตก ติดต่อกับ อำเภอไพศาลีและอำเภอหนองบัว (จังหวดั นครสวรรค์)
๕.พื้นทป่ี ฏิบัติมรดกภูมิปัญญาทางวฒั นธรรม(พื้นท่ีทปี่ รากฏหรอื ชุมชนที่มกี ารปฏบิ ตั ิมรดกภมู ิปญั ญาทางวัฒนธรรม)
อำเภอบึงสามพนั จงั หวดั เพชรบรู ณ์
15.794952286102317, 100.95111228090184
๖. คุณค่าและความสำคัญของมรดกภูมปิ ัญญาทางวัฒนธรรมในแต่ละระดับ
ระดบั ปจั เจกบุคคล
ระดบั ครอบครวั
ระดบั ชุมชนท้องถน่ิ
ระดบั จังหวดั
ระดับประเทศ
๗. รายชื่อผู้สืบทอด / ผ้คู รอง / ผูท้ มี่ สี ่วนเกีย่ วข้องหลกั ในปัจจบุ ัน
รายชือ่ บคุ คล/หัวหน้าคณะ/ อายุ/อาชีพ ทอี่ ยู่ (สถานท่ตี ิดต่อ) / หมายเลข
กลมุ่ /สมาคม/ชุมชน โทรศพั ท์
นายพิธพร วพิ ธิ กาญจน์ ประธานสภาวฒั นธรรม 385/5 หม่ทู ี่ 7 ตำบลบงึ สามพนั
อำเภอบงึ สามพนั อำเภอบงึ สามพัน จงั หวัดเพชรบรู ณ์ 67160
อายุ 49 ปี โทร. 063-4328878
4
๘. ปจั จุบนั รายการมรดกภูมิปัญญาทางวฒั นธรรมไดร้ ับการประกาศขน้ึ บัญชีในระดบั ใด
ยังไมเ่ คยไดร้ บั การประกาศขน้ึ บญั ชี (รายการสำรวจและจัดเก็บใหม่)
ระดบั จังหวัด (รายการเบ้ืองต้นมรดกภมู ิปัญญาทางวัฒนธรรม)
ระดบั ชาติ
ระดับนานาชาติ (ยูเนสโก)
๙. จากข้อ ๘ ควรจะเสนอรายการมรดกภมู ปิ ัญญาทางวฒั นธรรมใหไ้ ด้รบั การประกาศขึน้ บญั ชีในระดบั ใด
สำรวจและจดั เก็บเทา่ นั้น (ยงั ไม่ควรไดร้ ับการประกาศข้นึ บญั ชี)
ระดบั จังหวัด (รายการเบื้องต้นมรดกภมู ปิ ัญญาทางวัฒนธรรม)
ระดับชาติ
ระดบั นานาชาติ (ยเู นสโก)
๑๐. เอกสารอา้ งองิ และ/หรือผลงานท่ีเกยี่ วข้องในการส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม
https://district.cdd.go.th/buengsamphan/about-
us/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%
B4%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%
87%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%B2/
การสมั มนาหัวข้อ “เล่าอดีตบึงสามพนั ” ในโครงการอนุรกั ษว์ ัฒนธรรมอาหารการกนิ อยู่วถิ ีชุมชนคนบงึ สามพนั
วันท่ี 10 เมษายน 2565 ณ โรงเรียนศิริรตั น์วิทยา ตำบลวงั พิกุล อำเภอบึงสามพัน จังหวัดเพชรบรู ณ์ ประจำปี
พทุ ธศักราช 2565
1. นายสิน อินทร์ทอง อดีตกำนันตำบลซบั สมอทอด อำเภอบึงสามพัน
2. นายสมศักย์ ดีแปน้ รองประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอบึงสามพนั
3. นายสังยุทธ นามบรุ ี กำนันอำเภอบงึ สามพัน
4. นางสาวรณิตา นาคะบุตร กรรมการสภาวฒั นธรรมอำเภอบึงสามพัน
5. นายณรงค์ พงษ์ประยรู ปราชญ์ท้องถนิ่ เพชรบูรณ์อำเภอบึงสามพนั
6. นายคำบล อินทะสร้อย ปราชญ์ท้องถน่ิ เพชรบูรณ์อำเภอบึงสามพัน
7. นายนายวิเชียร แกว้ ไซเนยี ม ปราชญ์ท้องถิน่ เพชรบรู ณอ์ ำเภอบึงสามพัน
7. นางยุพิน ถิ่นทัพไทย ชาวบ้านผสู้ บื ทอดวัฒนธรรมอำเภอบึงสามพนั
5
๑๑. รปู ภาพ พร้อมคำอธิบายใตภ้ าพ จำนวน ๑๐ ภาพ
ภาพท่ี 1
เดมิ อำเภอบึงสามพนั เคยเปน็ ส่วนหน่ึงของอำเภอวเิ ชียรบรุ ีและแยกอำเภอออกมาได้แก่ หนองไผ่ ศรเี ทพ
และบงึ สามพนั จนเป็นคำพดู ตอ่ ๆกันวา่ บงึ สามพนั เปน็ หลานวิเชยี รบุรเี ปน็ ลูกของหนองไผ่ เป็นนอ้ งของบ้านโภชน์
ภาพท่ี 2
สว่ นหน่งึ ของราษฎรทีส่ ละแรงงานขุดสระท่ีบ้านหนองแจง ต.บ้านโพชน์ กิ่งอำเภอหนองไผ่
ปัจจบุ นั หนองแจง ยกฐานะเปน็ ตำบล ขน้ึ กบั อำเภอบึงสามพัน
6
ภาพที่ 3
การก่อสรา้ งถังน้ำสำรองสำหรับทำประปาหม่บู ้าน บา้ นหนองแจง อ.วิเชยี รบุรี ปัจจุบนั เป็นเขต อ.บึงสามพัน ประมาณ
พ.ศ. 2503
ภาพที่ 4
ท่านกำนันสิน อินทร์ทอง ปูชนียบุคคลอาวุโส ของซับสมอทอด ของอำเภอบึงสามพัน และของจังหวัด
เพชรบูรณ์ท่านกำนันสิน เจ้าของคำพูดว่า "บึงสามพัน เป็นลูกหนองไผ่ เป็นหลานวิเชียรบุรี เป็นน้องบ้านโภชน์" และ
"อยากรวย ไปลำนารายณ์ อยากตาย ไปสมอทอด" .. ท่านเป็นผู้เล่าเรื่องประวัติศาสตร์ความเป็นมา ความเชื่อและ
เรือ่ งราวต่าง ๆ ของอำเภอบึงสามพันอย่างแม่นยำและพรงั่ พรู อนั แสดงถึงความใส่ใจและรักท้องถ่ินเป็นอย่างมาก เช่น
เรื่อง บึงสามพัน สมอทอด การแบง่ พนื้ ที่การปกครอง หลวงพอ่ บึงสามพนั ฯลฯ
7
ภาพที่ 5
นางยพุ ิน ถนิ่ ทัพไทย ชาวบา้ นอำเภอบงึ สามพัน ซึ่งเป็นผู้นำเอาวฒั นธรรมหมอลำมาเผยแพร่
ในปี พ.ศ.2507 ซง่ึ เปน็ ผู้สบื ทอดวงดนตรีและศิลปินพ้ืนบ้านในอำเภอบงึ สามพนั
ภาพที่ 6
ผู้นำวัฒนธรรม ไตดำ (หรือที่คนสยามเรียกเขาว่า ไทยทรงดำหรือลาวโซ่ง) เป็นชาติพันธุ์ตระกูลไทหรือไต
ที่เคยมีดินแดนบ้านเมืองเป็นของตัวเอง ในบริเวณที่เคยถูกเรียกว่าแคว้นสิบสองจุไท ที่มีเมืองสำคัญคือ เมืองแถนหรือ
เดียนเบียนฟู ที่อยู่ทางตอนเหนือของเวียดนามติดกับลาวในปัจจุบัน ไตดำ มีอัตลักษณ์ที่งดงามหลายอย่างโดยเฉพาะ
เครื่องแต่งกายที่ใช้แต่สีดำ มีวัฒนธรรมประเพณี อาหาร และภาษาเป็นของตัวเอง โดยจะนับถือผีแถนเป็นใหญ่สูงสุด
และนับถือผีบรรพบุรุษ ไตดำได้อพยพและได้ถูกกวาดต้อนกระจายไปอยู่หลายพื้นที่ รวมทั้งถูกกวาดต้อนมาตั้งแต่
สมัยกรุงธนบุรี ให้มาอยู่ที่ เขาย้อย เพชรบุรี และก็ยังถูกกวาดต้อนลงมาอีกหลายครั้ง จากนั้น ไตดำ ก็ได้เคลื่อนย้าย
ไปอยู่อีกหลายแห่ง ทั้งภาคตะวันตก ภาคกลาง และภาคเหนือตอนล่าง รวมทั้งจังหวัดเพชรบูรณ์ด้วย
ซงึ่ ขณะน้มี ี 40 กว่าครอบครวั ท่บี า้ นลำตะคลอ้ ต.กันจุ อ.บงึ สามพัน
8
ภาพที่ 7
นายคำบล อินทะสรอ้ ย ปราชญท์ ้องถิ่นเพชรบูรณ์อำเภอบงึ สามพัน ปราชญด์ า้ นแนวปฏิบัติทางสงั คม พธิ กี รรม
และเทศกาล เป็นผู้ท่มี ีทกั ษะและความรเู้ ก่ยี วกบั ศาสนา เช่น การสวดมนตร์ การเทศน์ฯ ในพธิ ีตา่ ง
ภาพท่ี 8
นายวเิ ชยี ร แกว้ ไซเนยี ม ปราชญท์ อ้ งถน่ิ เพชรบูรณ์อำเภอบึงสามพัน ปราชญด์ า้ นความรู้และการปฏบิ ตั เิ ก่ียวกบั
ธรรมชาติและจักรวาล เปน็ ผู้มคี วามร้ใู นการจัดการระบบนิเวศเพ่ือการอนุรกั ษ์และการใชป้ ระโยชนอ์ ยา่ งย่ังยืน
9
ภาพท่ี 9
นางสาวรณติ า นาคะบตุ ร ผู้ชว่ ยคน้ หาวัฒนธรรมพ้นื ถน่ิ และผชู้ ่วยสืบทอดและเผยแพร่วัฒนธรรมของอำเภอบงึ สามพัน
ในนามกรรมการสภาวฒั นธรรมอำเภอบึงสามพัน
ภาพท่ี 10
ภาพบรรยากาศการสัมมนาหัวข้อ “เลา่ อดีตบึงสามพนั ”รวบรวมปชู นียบุคคลของอำเภอบึงสามพันในโครงการ
อนรุ ักษว์ ัฒนธรรมอาหารการกินอยู่วถิ ชี ุมชนคนบึงสามพัน วันท่ี 10 เมษายน 2565 ณ โรงเรียนศิริรตั นว์ ิทยา
ตำบลวังพกิ ุล อำเภอบึงสามพัน จงั หวดั เพชรบรู ณ์ ประจำปีพทุ ธศักราช 2565
10
12. ขอ้ อมูลภาพถ่าย ขอ้ มลู ภาพเคลือ่ นไหว หรอื ขอ้ มลู เสยี ง (ระบุประเภทของสื่อท่ีแนบไฟล์มาพร้อมคำอธบิ าย)
ขอ้ มูลภาพถ่าย ได้แก่ 10 ภาพ
ข้อมลู ภาพเคล่อื นไหว
ขอ้ มูลเสียง
13. ขอ้ มูลผสู้ ำรวจและจัดเก็บ
ชอ่ื – สกุล นางสาวณฐั ธยาน์ กางถิ่น
หนว่ ยงาน สภาวฒั นธรรมจงั หวัดเพชรบูรณ์
เลขที่ 999 อาคาร 2 ชนั้ 4 ตำบลสะเดียง อำเภอเมืองเพชรบรู ณ์
จังหวัดเพชรบรู ณ์ 67000
โทรศพั ท์ 096 179 3686
อีเมล์ [email protected]